หน่วยการเรียนรู้ที่ 8 การพูดในโอกาสต่างๆ เร่ืองท่ี 4 การพูดโต้วาทแี ละยอวาที (2) คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อนั พงึ ประสงคด์ ้าน 4321 5.4 ไม่เอาเปรยี บผอู้ ่นื และไมท่ าใหผ้ ูอ้ ่นื เดอื ดรอ้ น พรอ้ มใหอ้ ภยั เมอ่ื ผอู้ ่นื 6. มุ่งมนั่ ในการ กระทาผดิ พลาด ทางาน 5.5 วางแผนการเรยี น การทางานและการใชช้ วี ติ ประจาวนั บนพน้ื ฐาน 7. รกั ความเป็นไทย ของความรู้ ขอ้ มลู ขา่ วสาร 8. มีจิตสาธารณะ 5.6 รูเ้ ท่าทนั การเปลย่ี นแปลง ทางสงั คม และสภาพแวดลอ้ ม ยอมรบั และปรบั ตวั อยรู่ ว่ มกบั ผูอ้ ่นื ไดอ้ ยา่ งมคี วามสขุ 6.1 มคี วามตงั้ ใจและพยายามในการทางานทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย 6.2 มคี วามอดทนและไม่ทอ้ แทต้ อ่ อุปสรรคเพอ่ื ใหง้ านสาเรจ็ 7.1 มจี ติ สานึกในการอนุรกั ษว์ ฒั นธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย 7.2 เหน็ คุณค่าและปฏบิ ตั ติ นตามวฒั นธรรมไทย 8.1 รูจ้ กั ช่วยพอ่ แม่ ผูป้ กครอง และครทู างาน 8.2 อาสาทางาน ชว่ ยคดิ ช่วยทา และแบ่งปันสงิ่ ของ และช่วยแกป้ ัญหา ใหผ้ ูอ้ น่ื 8.3 ดแู ล รกั ษาทรพั ยส์ นิ ของหอ้ งเรยี น โรงเรยี น ชมุ ชน 8.4 เขา้ ร่วมกจิ กรรมเพอ่ื สงั คมและสาธารณประโยชน์ของโรงเรยี นและชุมชน ลงช่อื ....................................................ผปู้ ระเมนิ ................ /................ /................ เกณฑ์การให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 3 คะแนน 191 - 108 ดมี าก ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 73 - 90 ดี ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 54 - 72 พอใช้ ต่ากวา่ 54 ปรบั ปรงุ 465 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ที่ 8 การพดู ในโอกาสต่างๆ เร่ืองที่ 4 การพดู โต้วาทแี ละยอวาที (2) แบบบนั ทึกหลงั หน่วยการเรยี นรู้ ตอนที่ 1 นกั เรยี นมคี วามรูค้ วามสามารถตามมาตรฐานการเรยี นรูแ้ ละตวั ชว้ี ดั ของหน่วยการเรยี นรู้ ต่อไปน้ี ท 3.1 (ม.3/4, ม.3/5, ม.3/6) ดา้ นความรู้ (จานวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ) ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ดา้ นอน่ื ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนักเรยี นเป็นรายบุคคล (ถ้าม)ี ) สรปุ ผลจากการประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) ประจาหน่วยการเรยี นรู้ ระดบั คณุ ภาพดีมาก จานวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ระดบั คณุ ภาพดี จานวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ระดบั คณุ ภาพพอใช้ จานวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ระดบั คุณภาพปรบั ปรงุ จานวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ปัญหา/อุปสรรค แนวทางการแกไ้ ข ความเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศึกษาหรือผทู้ ี่ไดร้ บั มอบหมาย ) ขอ้ เสนอแนะ ลงช่อื ( ตาแหน่ง 466 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 8 การพดู ในโอกาสต่างๆ เร่ืองที่ 4 การพูดโต้วาทีและยอวาที (2) ตอนท่ี 2 การตรวจสอบคณุ ภาพนักเรยี นเพ่อื เตรียมความพร้อมรองรบั การประเมินคณุ ภาพภายนอก ร้อยละ ระดบั การศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน (ด้านคณุ ภาพผ้เู รยี น) มาตรฐานที่ 1 ผเู้ รียนมสี ุขภาวะทดี่ แี ละมีสุนทรียภาพ 1.1 มสี ุขนิสยั ในการดูแลสุขภาพและออกกาลงั กายสมา่ เสมอ 1.2 มนี ้าหนกั สว่ นสงู และมสี มรรถภาพทางกายตามเกณฑม์ าตรฐาน 1.3 ป้องกนั ตนเองจากสงิ่ เสพตดิ ใหโ้ ทษและหลกี เลยี่ งตนเองจากสภาวะทเี่ สยี่ งต่อความรุนแรง โรค ภยั อบุ ตั เิ หตุ และปัญหาทางเพศ 1.4 เหน็ คณุ ค่าในตนเอง มคี วามมนั่ ใจ กลา้ แสดงออกอยา่ งเหมาะสม 1.5 มมี นุษยสมั พนั ธท์ ดี่ แี ละใหเ้ กยี รตผิ อู้ นื่ 1.6 สรา้ งผลงานจากการเขา้ ร่วมกจิ กรรมดา้ นศลิ ปะ ดนตร/ี นาฏศลิ ป์ กฬี า/นนั ทนาการตามจนิ ตนาการ มาตรฐานที่ 2 ผเู้ รยี นมคี ณุ ธรรม จริยธรรม และคา่ นิยมทีพ่ งึ ประสงค์ 2.1 มคี ุณลกั ษณะทพี่ งึ ประสงค์ตามหลกั สูตร 2.2 เอ้อื อาทรผอู้ นื่ และกตญั ญกู ตเวทตี ่อผมู้ พี ระคณุ 2.3 ยอมรบั ความคดิ และวฒั นธรรมทแี่ ตกตา่ ง 2.4 ตระหนัก รคู้ ณุ คา่ รว่ มอนุรกั ษแ์ ละพฒั นาสงิ่ แวดลอ้ ม มาตรฐานที่ 3 ผ้เู รยี นมีทกั ษะในการแสวงหาความร้ดู ว้ ยตนเอง รกั เรียนรู้ และพฒั นาตนเองอย่างต่อเนือ่ ง 3.1 มนี ิสยั รกั การอ่านและแสวงหาความรูด้ ว้ ยตนเองจากหอ้ งสมุด แหล่งเรยี นรู้ และสอื่ ต่างๆ รอบตวั 3.2 มที กั ษะในการอ่าน ฟัง ดู พูด เขยี น และตงั้ คาถามเพอื่ คน้ ควา้ หาความรเู้ พมิ่ เตมิ 3.3 เรยี นรรู้ ว่ มกนั เป็นกลมุ่ แลกเปลยี่ นความคดิ เหน็ เพอื่ การเรยี นรูร้ ะหวา่ งกนั 3.4 ใชเ้ ทคโนโลยใี นการเรยี นรแู้ ละนาเสนอผลงาน มาตรฐานที่ 4 ผ้เู รยี นมีความสามารถในการคิดอยา่ งเป็นระบบ คิดสรา้ งสรรค์ ตดั สินใจแก้ปัญหา ได้อยา่ งมีสติสมเหตุสมผล 4.1 สรปุ ความคดิ จากเรอื่ งทอี่ ่าน ฟัง และดู และสอื่ สารโดยการพดู หรอื เขยี นตามความคดิ ของตนเอง 4.2 นาเสนอวธิ คี ดิ วธิ แี ก้ปัญหาดว้ ยภาษาหรอื วธิ กี ารของตนเอง 4.3 กาหนดเป้าหมาย คาดการณ์ ตดั สนิ ใจแก้ปัญหาโดยมเี หตุผลประกอบ 4.4 มคี วามคดิ รเิ รมิ่ และสรา้ งสรรคผ์ ลงานดว้ ยความภาคภมู ใิ จ มาตรฐานที่ 5 ผเู้ รยี นมคี วามรแู้ ละทกั ษะทีจ่ าเป็นตามหลกั สตู ร 5.1 ผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี นเฉลยี่ แตล่ ะกลมุ่ สาระเป็นไปตามเกณฑ์ 5.2 ผลการประเมนิ สมรรถนะสาคญั ตามหลกั สูตรเป็นไปตามเกณฑ์ 5.3 ผลการประเมนิ การอา่ น คดิ วเิ คราะห์ และเขยี นเป็นไปตามเกณฑ์ 5.4 ผลการทดสอบระดบั ชาตเิ ป็นไปตามเกณฑ์ มาตรฐานที่ 6 ผ้เู รียนมีทกั ษะในการทางาน รกั การทางาน สามารถทางานร่วมกบั ผ้อู ืน่ ได้ และมเี จตคติทีด่ ี ต่ออาชีพสุจริต 6.1 วางแผนการทางานและดาเนนิ การจนสาเรจ็ 6.2 ทางานอยา่ งมคี วามสุข มุง่ มนั่ พฒั นางาน และภมู ใิ จในผลงานของตนเอง 6.3 ทางานร่วมกบั ผอู้ นื่ ได้ 6.4 มคี วามรสู้ กึ ทดี่ ตี อ่ อาชพี สุจรติ และหาความรเู้ กยี่ วกบั อาชพี ทตี่ นเองสนใจ 467 หลกั ภาษาฯ ม.3
9หน่วยการเรียนรู้ท่ี การใช้คาในภาษาไทย 4เวลา ชวั่ โมง 1 มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตวั ชี้วดั ท 4.1 ม.3/1 จาแนกและใชค้ าภาษาตา่ งประเทศทใี่ ชใ้ นภาษาไทย ใชค้ าทบั ศพั ท์และศพั ทบ์ ญั ญตั ิ ม.3/4 อธบิ ายความหมายคาศพั ท์ทางวชิ าการและวชิ าชพี ม.3/5 2 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การศกึ ษาเร่อื งการใชค้ าในภาษาไทย จะช่วยใหจ้ าแนกและใช้คาภาษาตา่ งประเทศทใ่ี ชใ้ นภาษาไทย ใชค้ าทบั ศพั ทแ์ ละศพั ทบ์ ญั ญตั ิไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง และสามารถอธบิ ายความหมายของคาศพั ทท์ างวชิ าการและ วชิ าชพี 3 สาระการเรยี นรู้ 3.1 สาระการเรียนร้แู กนกลาง 1) คาทม่ี าจากภาษาตา่ งประเทศ 2) คาทบั ศพั ท์ 3) คาศพั ทบ์ ญั ญตั ิ 4) คาศพั ทท์ างวชิ าการและวชิ าชพี 3.2 สาระการเรียนรทู้ ้องถิน่ (พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา) 4 สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น 2) ทกั ษะการจาแนกประเภท 4) ทกั ษะการนาความรไู้ ปใช้ 4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร 4.2 ความสามารถในการคิด 1) ทกั ษะการสารวจคน้ หา 3) ทกั ษะการเปรยี บเทยี บ 4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต 468 หลกั ภาษาฯ ม.3
5 คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มวี นิ ยั 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มุง่ มนั่ ในการทางาน 4. รกั ความเป็นไทย 6 ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) สมดุ รวบรวมคาทใ่ี ชใ้ นภาษาไทย 7 การวดั และการประเมินผล 7.1 การประเมินกอ่ นเรยี น - ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 9 เรอ่ื ง การใชค้ าในภาษาไทย 7.2 การประเมินระหว่างการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ 1) ตรวจใบงานท่ี 9.1 เร่อื ง คาทม่ี าจากภาษาต่างประเทศ 2) ตรวจใบงานท่ี 9.2 เรอ่ื ง การใชค้ าทบั ศพั ทแ์ ละศพั ทบ์ ญั ญตั ิ 3) ตรวจใบงานท่ี 9.3 เร่อื ง ศพั ทว์ ชิ าการและศพั ทว์ ชิ าชพี 4) ตรวจแบบบนั ทกึ การอา่ น 5) ประเมนิ การนาเสนอผลงาน 6) สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล 7) สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม 8) สงั เกตคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 7.3 การประเมินหลงั เรียน - ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 9 เรอ่ื ง การใชค้ าในภาษาไทย 7.4 การประเมินช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) - ตรวจสมุดรวบรวมคาทใ่ี ชใ้ นภาษาไทย 8 กิจกรรมการเรียนรู้ นักเรยี นทาแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 9 469 หลกั ภาษาฯ ม.3
เร่ืองที่ 1 คาภาษาต่างประเทศในภาษาไทย 1 ชวั่ โมง วิธีสอนโดยการจดั การเรยี นร้แู บบรว่ มมือ : เทคนิคการต่อเรื่องราว (Jigsaw) ขนั้ นาเข้าส่บู ทเรียน ครูใหน้ กั เรยี นช่วยกนั ยกตวั อย่างป้ายช่อื รา้ นคา้ ในทอ้ งถนิ่ ของนักเรยี น แลว้ ใหร้ ่วมกนั วเิ คราะหท์ ม่ี าของ ภาษาทต่ี งั้ ช่อื รา้ นคา้ ขนั้ สอน 1. ครูแบ่งนกั เรยี นเป็นกลุม่ กลุ่มละ 5 คน คละกนั ตามความสามารถ แลว้ ใหแ้ ตล่ ะคนภายในกลมุ่ กาหนด หมายเลขประจาตวั เป็นหมายเลข 1-5 ซง่ึ เรยี กว่า กลมุ่ บา้ น 2. ครูใหส้ มาชกิ ทม่ี หี มายเลขเดยี วกนั มารวมกนั เป็นกลมุ่ ใหม่ เรยี กว่า กลุ่มผเู้ ชย่ี วชาญ แลว้ ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ ศกึ ษา ความรเู้ ร่อื ง คาภาษาต่างประเทศในภาษาไทย จากหนังสอื เรยี น ดงั น้ี - กล่มุ หมายเลข 1 ศกึ ษาเร่อื ง คาทย่ี มื มาจากภาษาบาล-ี สนั สกฤต - กลมุ่ หมายเลข 2 ศกึ ษาเรอ่ื ง คาทย่ี มื มาจากภาษาเขมร - กลุ่มหมายเลข 3 ศกึ ษาเร่อื ง คาทย่ี มื มาจากภาษาจนี - กลุ่มหมายเลข 4 ศกึ ษาเร่อื ง คาทย่ี มื มาจากภาษาชวา มลายู - กลุ่มหมายเลข 5 ศกึ ษาเรอ่ื ง คาทย่ี มื มาจากภาษาองั กฤษ 3. เม่อื นกั เรยี นกลุ่มผู้เช่ยี วชาญศกึ ษาความรู้จนมคี วามเขา้ ใจแล้ว ให้แยกย้ายกนั กลบั ไปยงั กลมุ่ บา้ น จากนนั้ ผลดั กนั อธบิ ายความรตู้ ามทต่ี นไดศ้ กึ ษามาใหส้ มาชกิ ในกลมุ่ บา้ นฟัง จนสมาชกิ ทุกคนในกลุ่มบา้ น มคี วามเขา้ ใจในเร่อื ง คาภาษาตา่ งประเทศในภาษาไทย 4. นกั เรยี นแตล่ ะคนทาใบงานท่ี 9.1 เร่อื ง คาท่ีมาจากภาษาต่างประเทศ เสรจ็ แลว้ นาสง่ ครตู รวจ ขนั้ สรปุ นกั เรยี นรว่ มกนั สรุปความรเู้ รอ่ื ง คาภาษาต่างประเทศในภาษาไทย 470 หลกั ภาษาฯ ม.3
เรอื่ งท่ี 2 การใช้คาทบั ศพั ทแ์ ละศพั ท์บญั ญตั ิต่างๆ 2 ชวั่ โมง วิธีสอนแบบ สืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E) ขนั้ ท่ี 1 กระต้นุ ความสนใจ (Engage) ครูสนทนากบั นกั เรยี นเกย่ี วกบั การใชค้ าทบั ศพั ทใ์ นสมยั ทไ่ี ทยเรม่ิ มคี วามสมั พนั ธก์ บั ต่างชาติ จากนนั้ ให้ นักเรยี นรว่ มกนั แสดงความคดิ เหน็ เกยี่ วกบั คาทบั ศพั ทท์ ใ่ี ชใ้ นสมยั ปัจจุบนั พรอ้ มยกตวั อยา่ งประกอบ ขนั้ ท่ี 2 สารวจคน้ หา (Explore) นกั เรยี นศกึ ษาความรูเ้ รอ่ื ง การใชค้ าทบั ศพั ทแ์ ละศพั ทบ์ ญั ญตั ติ า่ งๆ จากหนงั สอื เรยี น และแหล่งขอ้ มูล สารสนเทศ ขนั้ ท่ี 3 อธิบายความรู้ (Explain) นกั เรยี นร่วมกนั อภปิ รายความรเู้ รอ่ื ง การใชค้ าทบั ศพั ทแ์ ละศพั ทบ์ ญั ญตั ติ า่ งๆ ขนั้ ท่ี 4 ขยายความเข้าใจ (Expand) นักเรยี นทาใบงานท่ี 9.2 เร่อื ง การใช้คาทบั ศพั ทแ์ ละศพั ทบ์ ญั ญตั ิ เสรจ็ แลว้ ใหต้ วั แทนนกั เรยี นเกบ็ รวบรวมใบงานสง่ ครูตรวจ ขนั้ ที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluate) ครูตรวจใบงานท่ี 9.2 และใหค้ าแนะนาในการแกไ้ ขปรบั ปรุงผลงาน จากนนั้ นักเรยี นรว่ มกนั สรปุ ความรูเ้ รอ่ื ง การใชค้ าทบั ศพั ทแ์ ละศพั ทบ์ ญั ญตั ิตา่ งๆ 471 หลกั ภาษาฯ ม.3
เร่ืองที่ 3 คาศพั ทท์ างวิชาการและวิชาชีพ 1 ชวั่ โมง วิธีสอนโดยการจดั การเรียนรแู้ บบรว่ มมือ : เทคนิคแบง่ ปันความสาเรจ็ ขนั้ นาเข้าสบู่ ทเรียน ครูสนทนากบั นกั เรยี นเกย่ี วกบั การประกอบวชิ าชพี ตา่ งๆ แลว้ ใหน้ ักเรยี นร่วมกนั แสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั คาศพั ทท์ ใ่ี ชใ้ นวชิ าชพี ตา่ งๆ ขนั้ สอน 1. นักเรยี นรวมกลุ่มเดมิ (จากเรอ่ื งท่ี 1) แลว้ ใหแ้ ตล่ ะกล่มุ ศกึ ษาความรูเ้ ร่อื ง ศพั ทว์ ชิ าการและศพั ทว์ ชิ าชพี จากหอ้ งสมดุ และแหลง่ ขอ้ มูลสารสนเทศ 2. ครูและนกั เรยี นรว่ มกนั อภปิ รายความรูเ้ รอ่ื ง ศพั ทท์ างวชิ าการและศพั ทว์ ชิ าชพี จากนนั้ ใหน้ กั เรยี นแต่ละคน ทาใบงานท่ี 9.3 เร่อื ง ศพั ท์วิชาการและศพั ทว์ ิชาชีพ เสรจ็ แลว้ ใหต้ รวจความถูกตอ้ งกอ่ นนาสง่ ครูตรวจ 3. ครูตรวจใบงานท่ี 9.3 แลว้ นาคะแนนของสมาชกิ ทกุ คนในกลมุ่ มารวมกนั เป็นคะแนนกลมุ่ จากนนั้ ประกาศ ชมเชยกลุ่มทม่ี คี ะแนนเฉลย่ี สงู สดุ และกลุม่ ทไ่ี ดค้ ะแนนรองลงมา เพอ่ื เป็นการเสรมิ กาลงั ใจ ขนั้ สรปุ นกั เรยี นและครูร่วมกนั สรปุ ความรูเ้ รอ่ื ง ศพั ทท์ างวชิ าการและศพั ทว์ ชิ าชพี พรอ้ มกบั แนะแนวทางในการใช้ ใหถ้ ูกตอ้ งและเหมาะสม ครมู อบหมายให้นักเรยี นทาสมดุ รวบรวมคาที่ใช้ในภาษาไทย โดยแบ่งเร่อื งที่รวบรวมออกเป็น 3 กลมุ่ คือ คาภาษาต่างประเทศที่ใช้ในภาษาไทย คาทบั ศพั ท์และศพั ทบ์ ญั ญตั ิ คาศพั ท์ทาง วิชาการและวิชาชีพ โดยใหค้ รอบคลุมประเดน็ ตามทกี่ าหนด นกั เรียนทาแบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 9 472 หลกั ภาษาฯ ม.3
9 ส่ือ/แหล่งการเรยี นรู้ 9.1 สือ่ การเรยี นรู้ 1) หนังสอื เรยี น ภาษาไทย : หลกั ภาษาและการใชภ้ าษา ม.3 2) ใบงานท่ี 9.1 เร่อื ง คาทม่ี าจากภาษาต่างประเทศ 3) ใบงานท่ี 9.2 เรอ่ื ง การใชค้ าทบั ศพั ทแ์ ละศพั ทบ์ ญั ญตั ิ 4) ใบงานท่ี 9.3 เรอ่ื ง ศพั ทว์ ชิ าการและศพั ทว์ ชิ าชพี 9.2 แหลง่ การเรียนรู้ 1) หอ้ งสมุด 2) แหล่งขอ้ มลู สารสนเทศ - http://rirs3.royin.go.th/coinages/webcoinage.php - http://www.royin.go.th/th/knowledge/detail.php?ID=1377 - http://www.royin.go.th/th/knowledge/content-list.php?ID=41 - http://www.oknation.net/blog/print.php?id=480569 - http://www.krama6.su.ac.th/activity/activity07.htm - http://www.ipesp.ac.th/learning/thai/chapter3-4.html - http://www.maceducation.com/e-knowledge/2421105100/15.htm 473 หลกั ภาษาฯ ม.3
การประเมินช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) แบบประเมินสมดุ รวบรวมคาที่ใช้ในภาษาไทย รายการประเมิน ดมี าก (4) คาอธิบายระดบั คณุ ภาพ / ระดบั คะแนน ปรบั ปรงุ (1) ดี (3) พอใช้ (2) 1. การจาแนกและ จาแนกและใชค้ า จาแนกและใชค้ า จาแนกและใชค้ า จาแนกและใชค้ า ใช้คาภาษา ต่างประเทศที่ใช้ ภาษาตา่ งประเทศทใี่ ช้ ภาษาต่างประเทศทใี่ ช้ ภาษาต่างประเทศทใ่ี ช้ ภาษาตา่ งประเทศทใี่ ช้ ในภาษาไทย ในภาษาไทยไดถ้ ูกตอ้ ง ในภาษาไทยไดถ้ ูกตอ้ ง ในภาษาไทยไดถ้ ูกต้อง ในภาษาไทยไดถ้ ูกต้อง 5 ภาษา 4 ภาษา 3 ภาษา 2 ภาษา 2. การใช้คาทบั ศพั ท์ ใชค้ าทบั ศพั ท์และศพั ท์ ใชค้ าทบั ศพั ทแ์ ละศพั ท์ ใชค้ าทบั ศพั ท์และศพั ท์ ใชค้ าทบั ศพั ทแ์ ละศพั ท์ และศพั ท์บญั ญตั ิ บญั ญตั ไิ ดถ้ ูกต้อง บญั ญตั ไิ ดถ้ ูกตอ้ ง บญั ญตั ไิ ดถ้ ูกตอ้ ง บญั ญตั ไิ ม่ถกู ตอ้ ง เป็นส่วนใหญ่ เป็นบางส่วน 3. การอธิบาย อธบิ ายความหมาย อธบิ ายความหมาย อธบิ ายความหมาย อธบิ ายความหมาย ความหมาย คาศพั ท์ทางวชิ าการ คาศพั ท์ทางวชิ าการ คาศพั ทท์ างวชิ าการ คาศพั ทท์ างวชิ าการ คาศพั ทท์ าง และวชิ าชพี ไดถ้ ูกตอ้ ง และวชิ าชพี ไดถ้ กู ต้อง และวชิ าชพี ไดถ้ กู ตอ้ ง และวชิ าชพี ไม่ถกู ต้อง วิชาการและ ชดั เจน ชดั เจนเป็นสว่ นใหญ่ ชดั เจนเป็นบางสว่ น วิชาชีพ เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ ช่วงคะแนน 11 - 12 9 - 10 6-8 ต่ากวา่ 6 ระดบั คณุ ภาพ ดมี าก ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ 474 หลกั ภาษาฯ ม.3
แบบทดสอบก่อนเรยี น หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 9 คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเลอื กคาตอบท่ถี ูกต้องท่สี ุดเพียงขอ้ เดยี ว 1. คาทเี่ กย่ี วขอ้ งกบั อาหารการกนิ มกั จะยมื มาจากภาษาใด 6. คาภาษาชวาเขา้ มาในภาษาไทยพรอ้ มกบั วรรณคดเี รอ่ื งใด ก. ภาษาจนี ก. รามเกยี รติ์ ข. ภาษาเขมร ข. ระเดน่ ลนั ได ค. ภาษาองั กฤษ ค. ลลิ ติ เพชรมงกฎุ ง. ภาษาชวา-มลายู ง. ดาหลงั และอเิ หนา 2. คาวา่ “เมตตา วญิ ญาณ” ยมื มาจากภาษาใด 7. ขอ้ ใดเป็นลกั ษณะเด่นของภาษาชวา-มลายู ก. เขมร ก. เป็นคาโดด ข. บาลี ข. ใชร้ ูปวรรณยุกต์เอก โท ค. ชวา ค. ไมม่ เี สยี งพยญั ชนะควบกลา้ ง. สนั สกฤต ง. เป็นคาทแ่ี สดงถงึ วฒั นธรรมประเพณี 3. คาในขอ้ ใดยมื มาจากภาษาสนั สกฤตทกุ คา 8. คายมื ทมี่ าจากภาษาองั กฤษเรมิ่ เขา้ มาในสมยั ใด ก. กฬี า บรรทดั พรรณนา ก. รชั กาลที่ 1 ข. กรฑี า อชั ฌาสยั สมทุ ร ข. รชั กาลท่ี 2 ค. ศษิ ย์ พฤกษา เคราะห์ ค. รชั กาลท่ี 3-4 ง. พาณชิ ย์ มธั ยมศกึ ษา ปราชญ์ ง. รชั กาลที่ 4-6 4. คาในขอ้ ใดเป็นคาภาษาเขมร 9. คาทบั ศพั ท์มลี กั ษณะอย่างไร ก. เพลงิ ก. ยมื มาปรบั เปลย่ี นความหมาย ข. เพชร ข. ยมื มาใชโ้ ดยไม่มกี ารปรบั ปรุงแกไ้ ข ค. มรกต ค. ยมื มาปรบั เปลยี่ นโครงสรา้ งของคา ง. บรู ณะ ง. ยมื มาปรบั เปลยี่ นวธิ กี ารออกเสยี ง 5. ขอ้ ใดเป็นลกั ษณะของคาภาษาจนี ทใ่ี ชใ้ นภาษาไทย 10. ศพั ทบ์ ญั ญตั คิ ดิ ขน้ึ มาใชแ้ ทนคาศพั ท์ในภาษาใด ก. สว่ นใหญเ่ ป็นเสยี งสามญั ก. ภาษาองั กฤษ ข. ไม่มตี วั สะกดแต่นยิ มผสมดว้ ยสระเสยี งยาว ข. ภาษาบาล-ี สนั สกฤต ค. พยญั ชนะตน้ เป็นอกั ษรกลางมากกวา่ อกั ษรอน่ื ค. ภาษาชวา-มลายู ง. สว่ นใหญ่เป็นคาพยางคเ์ ดยี ว ไทยนามาสรา้ งคาใหม่ ง. ภาษาจนี และองั กฤษ เป็นคาประสม 475 หลกั ภาษาฯ ม.3
11. ศพั ทบ์ ญั ญตั ใิ ชค้ าในภาษาใดมาประกอบขน้ึ เป็นคาใหม่ 14. ขอ้ ใดเป็นศพั ท์บญั ญตั ทิ างวรรณคดี ก. ภาษาองั กฤษ ก. รฐั กนั ชน ข. ภาษาบาล-ี สนั สกฤต ข. การเสยี ดสี ค. ภาษาชวา-มลายู ค. เสยี งเสยี ดแทรก ง. ภาษาจนี และองั กฤษ ง. ความสงู คลน่ื เสยี ง 12. คาในขอ้ ใดเป็นศพั ทบ์ ญั ญตั ิ 15. ขอ้ ใดไม่ใช่คาศพั ท์ในวงวชิ าชพี ธุรกจิ การขาย ก. โบนัส ข. ไดโนเสาร์ ก. คอมพวิ เตอร์ โน้ตบุก๊ ค. วฒั นธรรม ข. เบรกอเี วน เยยี รล์ รี วี วิ ง. กรรมการ ค. ควอเตอร์ โปรเจก็ เซล ง. ซพั พลายเออร์ ออรเ์ ดอร์ 13. ขอ้ ใดเป็นศพั ทบ์ ญั ญตั ทิ างคณิตศาสตร์ ก. รหสั แท่ง ทวเิ สถยี ร ข. อนุกรม การแปลงผนั ค. สมั ปทาน ค่าผา่ นทาง ง. การแฝงนยั การผูกขาด มฐ. ท 4.1 ม.3/1,4,5 ไดค้ ะแนน คะแนนเต็ม 15 เฉลย 1. ก 2. ข 3. ค 4. ก 5. ค 6. ง 7. ค 8. ง 9. ข 10. ก 11. ข 12. ค 13. ข 14. ข 15. ก 476 หลกั ภาษาฯ ม.3
แบบทดสอบหลังเรยี น หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 9 คาชี้แจง ใหน้ ักเรยี นเลือกคาตอบท่ถี ูกต้องท่สี ุดเพียงขอ้ เดยี ว 1. คาในขอ้ ใดเป็นคาภาษาเขมร 6. คายมื ทมี่ าจากภาษาองั กฤษเรมิ่ เขา้ มาในสมยั ใด ก. เพลงิ ก. รชั กาลท่ี 1 ข. เพชร ข. รชั กาลท่ี 2 ค. มรกต ค. รชั กาลที่ 3-4 ง. บรู ณะ ง. รชั กาลที่ 4-6 2. คาในขอ้ ใดยมื มาจากภาษาสนั สกฤตทกุ คา 7. คาภาษาชวาเขา้ มาในภาษาไทยพรอ้ มกบั วรรณคดเี รอ่ื งใด ก. กรฑี า อชั ฌาสยั สมุทร ก. ดาหลงั และอเิ หนา ข. กฬี า บรรทดั พรรณนา ข. ลลิ ติ เพชรมงกฎุ ค. ศษิ ย์ พฤกษา เคราะห์ ค. ระเด่นลนั ได ง. พาณิชย์ มธั ยมศกึ ษา ปราชญ์ ง. รามเกยี รติ์ 3. ขอ้ ใดเป็นลกั ษณะของคาภาษาจนี ทใี่ ชใ้ นภาษาไทย 8. คาทบั ศพั ท์มลี กั ษณะอยา่ งไร ก. สว่ นใหญเ่ ป็นเสยี งสามญั ก. ยมื มาปรบั เปลย่ี นความหมาย ข. ไม่มตี วั สะกดแตน่ ิยมผสมดว้ ยสระเสยี งยาว ข. ยมื มาปรบั เปลยี่ นวธิ กี ารออกเสยี ง ค. พยญั ชนะตน้ เป็นอกั ษรกลางมากกวา่ อกั ษรอน่ื ค. ยมื มาปรบั เปลย่ี นโครงสรา้ งของคา ง. ส่วนใหญเ่ ป็นคาพยางคเ์ ดยี ว ไทยนามาสรา้ งคาใหม่ ง. ยมื มาใชโ้ ดยไม่มกี ารปรบั ปรงุ แกไ้ ข เป็นคาประสม 9. ศพั ท์บญั ญตั คิ ดิ ขน้ึ มาใชแ้ ทนคาศพั ท์ในภาษาใด 4. คาวา่ “เมตตา วญิ ญาณ” ยมื มาจากภาษาใด ก. ภาษาองั กฤษ ก. บาลี ข. ภาษาชวา-มลายู ข. ชวา ค. ภาษาบาล-ี สนั สกฤต ค. เขมร ง. ภาษาจนี และองั กฤษ ง. สนั สกฤต 10. ขอ้ ใดเป็นลกั ษณะเด่นของภาษาชวา-มลายู 5. คาทเี่ กย่ี วขอ้ งกบั อาหารการกนิ มกั จะยมื มาจากภาษาใด ก. เป็นคาโดด ก. ภาษาชวา-มลายู ข. ใชร้ ปู วรรณยุกต์เอก โท ข. ภาษาองั กฤษ ค. ไมม่ เี สยี งพยญั ชนะควบกล้า ค. ภาษาเขมร ง. เป็นคาทแี่ สดงถงึ วฒั นธรรมประเพณี ง. ภาษาจนี 477 หลกั ภาษาฯ ม.3
11. คาในขอ้ ใดเป็นศพั ทบ์ ญั ญตั ิ 14. ขอ้ ใดเป็นศพั ท์บญั ญตั ทิ างคณติ ศาสตร์ ก. โบนัส ก. รหสั แท่ง ทวเิ สถยี ร ข. กรรมการ ข. สมั ปทาน ค่าผา่ นทาง ค. ไดโนเสาร์ ค. อนุกรม การแปลงผนั ง. วฒั นธรรม ง. การแฝงนยั การผกู ขาด 12. ขอ้ ใดเป็นศพั ท์บญั ญตั ทิ างวรรณคดี 15. ศพั ทบ์ ญั ญตั ใิ ชค้ าในภาษาใดมาประกอบขน้ึ เป็นคาใหม่ ก. รฐั กนั ชน ก. ภาษาบาล-ี สนั สกฤต ข. การเสยี ดสี ข. ภาษาจนี และองั กฤษ ค. เสยี งเสยี ดแทรก ค. ภาษาชวา-มลายู ง. ความสงู คลน่ื เสยี ง ง. ภาษาองั กฤษ 13. ขอ้ ใดไม่ใช่คาศพั ท์ในวงวชิ าชพี ธรุ กจิ การขาย ก. ซพั พลายเออร์ ออรเ์ ดอร์ ข. เบรกอเี วน เยยี รล์ รี วี วิ ค. ควอเตอร์ โปรเจก็ เซล ง. คอมพวิ เตอร์ โนต้ บุก๊ มฐ. ท 4.1 ม.3/1,4,5 ได้คะแนน คะแนนเตม็ 15 เฉลย 1. ก 2. ค 3. ค 4. ก 5. ง 6. ง 7. ก 8. ง 9. ก 10. ค 11. ง 12. ข 13. ง 14. ค 15. ก 478 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ที่ 9 การใช้คาในภาษาไทย 1 ชวั่ โมง เรื่องที่ 1 คำภำษำต่ำงประเทศในภำษำไทย แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 1 คาภาษาต่างประเทศ ในภาษาไทย 1 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การศกึ ษาเรอ่ื งการใชค้ าในภาษาไทย จะตอ้ งจาแนกและใชค้ าภาษาตา่ งประเทศทใ่ี ชใ้ นภาษาไทยใหถ้ ูกตอ้ ง 2 ตวั ช้ีวดั /จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 2.1 ตวั ช้ีวดั ท 4.1 ม.3/1 จาแนกและใชค้ าภาษาต่างประเทศทใ่ี ชใ้ นภาษาไทย 2.2 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ - จาแนกและใชค้ าภาษาตา่ งประเทศทใ่ี ชใ้ นภาษาไทยได้ 3 สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรียนร้แู กนกลาง - คาทม่ี าจากภาษาต่างประเทศ 3.2 สาระการเรียนร้ทู ้องถิน่ (พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา) 4 สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น 4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร 4.2 ความสามารถในการคิด 1) ทกั ษะการจาแนกประเภท 2) ทกั ษะการเปรยี บเทยี บ 4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต 5 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. มวี นิ ยั 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มุง่ มนั่ ในการทางาน 4. รกั ความเป็นไทย 479 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ที่ 9 การใช้คาในภาษาไทย เร่ืองที่ 1 คำภำษำต่ำงประเทศในภำษำไทย 6 กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. นักเรยี นทาแบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 9 คคู่ ิด...ค 2. ครูสนทนากบั นกั เรยี นเกยี่ วกบั ป้ายชอ่ื รา้ นคา้ ในทอ้ งถน่ิ ของนกั เรยี น แลว้ ใหน้ กั เรยี นช่วยกนั ยกตวั อยา่ ง 3. นกั เรยี นร่วมกนั วเิ คราะหช์ ่อื รา้ นคา้ วา่ เป็นคาทม่ี าจากภาษาใดบา้ ง และชว่ ยกนั บอกทม่ี าของภาษานนั้ ๆ ในภาษาไทย 4. นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ • การที่เรานาคาภาษาต่างประเทศเข้ามาใช้ จะเกิดผลอย่างไรต่อภาษาไทย (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดลุ ยพนิ จิ ของครูผสู้ อน) 5. ครแู บ่งนกั เรยี นเป็นกลุม่ กลุ่มละ 5 คน คละกนั ตามความสามารถ คอื เกง่ ปานกลางคอ่ นขา้ งเก่ง ปานกลางค่อนขา้ งอ่อน และออ่ น แลว้ ใหแ้ ตล่ ะคนภายในกลุ่มกาหนดหมายเลขประจาตวั เป็นหมายเลข 1-5 ซงึ่ เรยี กวา่ กลุม่ บา้ น 6. ครใู หส้ มาชกิ ทม่ี หี มายเลขเดยี วกนั มารวมกนั เป็นกลุ่มใหม่ เรยี กว่า กลมุ่ ผเู้ ชย่ี วชาญ แลว้ ใหแ้ ตล่ ะกลุม่ ศกึ ษาความรเู้ รอ่ื ง คาภาษาตา่ งประเทศในภาษาไทย จากหนงั สอื เรยี น หอ้ งสมดุ และแหล่งขอ้ มลู สารสนเทศ ดงั น้ี - กลมุ่ หมายเลข 1 ศกึ ษาเร่อื ง คาทย่ี มื มาจากภาษาบาล-ี สนั สกฤต - กลมุ่ หมายเลข 2 ศกึ ษาเรอ่ื ง คาทย่ี มื มาจากภาษาเขมร - กลมุ่ หมายเลข 3 ศกึ ษาเรอ่ื ง คาทย่ี มื มาจากภาษาจนี - กลมุ่ หมายเลข 4 ศกึ ษาเร่อื ง คาทย่ี มื มาจากภาษาชวา มลายู - กลมุ่ หมายเลข 5 ศกึ ษาเร่อื ง คาทย่ี มื มาจากภาษาองั กฤษ 7. เมอ่ื นกั เรยี นกลุ่มผูเ้ ช่ยี วชาญศกึ ษาความรูจ้ นมคี วามเขา้ ใจแลว้ ให้บนั ทกึ ความรู้ลงในแบบบนั ทกึ การอ่าน จากนัน้ แยกยา้ ยกนั กลบั ไปยงั กลุม่ บา้ น 8. สมาชกิ ผลดั กนั อธบิ ายความรตู้ ามทต่ี นไดศ้ กึ ษามาใหส้ มาชกิ ในกลมุ่ บา้ นฟัง ตามลาดบั หมายเลข 1-5 จนครบ และมคี วามรูค้ วามเขา้ ใจในเรอ่ื งคาภาษาตา่ งประเทศในภาษาไทย 9. นกั เรยี นแต่ละคนทาใบงานที่ 9.1 เรื่อง คาท่ีมาจากภาษาต่างประเทศ เสรจ็ แลว้ นาสง่ ครตู รวจ 10. นกั เรยี นร่วมกนั สรปุ ความรเู้ รอ่ื ง คาภาษาต่างประเทศในภาษาไทย ตามประเดน็ ความรู้ ดงั น้ี 1) หลกั การสงั เกตคาทม่ี าจากภาษาตา่ งประเทศ 2) หลกั การใชค้ าภาษาตา่ งประเทศในภาษาไทย 11. นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ ขอ้ 1-2 1) นกั เรียนคิดวา่ คาท่ียืมมาจากภาษาต่างประเทศ เรายมื ภาษาใดมาใช้มากที่สดุ เพราะเหตุใด (ภาษาบาล-ี สนั สกฤต เพราะเป็นภาษาทเี่ ขา้ มาพรอ้ มกบั ศาสนา) 2) ปัจจุบนั เรายมื ศพั ทป์ ระเภทใด เขา้ มาใช้มากท่ีสุด (ศพั ทท์ เี่ กยี่ วกบั เทคโนโลย)ี 480 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 9 การใช้คาในภาษาไทย เร่ืองที่ 1 คำภำษำต่ำงประเทศในภำษำไทย 7 การวดั และประเมินผล วิธีการ เครอ่ื งมือ เกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 9 แบบทดสอบกอ่ นเรยี น หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 9 (ประเมนิ ตามสภาพจรงิ ) ตรวจใบงานที่ 9.1 ใบงานที่ 9.1 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ตรวจแบบบนั ทกึ การอ่าน แบบบนั ทกึ การอ่าน ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สงั เกตความมวี นิ ัย ใฝ่เรยี นรู้ มงุ่ มนั่ ในการทางาน แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ และรกั ความเป็นไทย 8 ส่ือ/แหล่งการเรยี นรู้ 8.1 สือ่ การเรียนรู้ 1) หนังสอื เรยี น ภาษาไทย : หลกั ภาษาและการใชภ้ าษา ม.3 2) ใบงานท่ี 9.1 เร่อื ง คาทม่ี าจากภาษาต่างประเทศ 8.2 แหลง่ การเรยี นรู้ 1) หอ้ งสมุด 2) แหล่งขอ้ มูลสารสนเทศ - http://www.royin.go.th/th/knowledge/detail.php?ID=1377 - http://www.oknation.net/blog/print.php?id=480569 481 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 9 การใช้คาในภาษาไทย เรื่องท่ี 1 คำภำษำต่ำงประเทศในภำษำไทย ใบงานที่ 9.1 คาท่ีมาจากภาษาต่างประเทศ ตอนท่ี 1 คาชีแ้ จง ใหน้ ักเรยี นเขยี นตวั อยา่ งคาทม่ี าจากภาษาต่างประเทศ ภาษาละ 10 คา ลงในตาราง คาท่ีมาจาก ตวั อยา่ งคาศพั ท์ ภาษาบาล-ี สนั สกฤต ภาษาเขมร ภาษาจนี ภาษาชวา-มลายู ภาษาองั กฤษ (พจิ ารณาตามคาตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดุลยพนิ ิจของครูผสู้ อน) ตอนที่ 2 คาชีแ้ จง ใหน้ ักเรยี นตอบคาถามตอ่ ไปน้ี 1. คาทม่ี าจากภาษาเขมร มหี ลกั การสงั เกตอยา่ งไร คาทมี่ าจากภาษาเขมรมหี ลกั การสงั เกต ดงั น้ี 1) มกั เป็นภาษาคาโดด 2) มลี กั ษณะการสะกดไม่ตรงกบั ภาษาไทย 3) เป็นคาทไี่ มม่ รี ูปวรรณยุกต์ 4) เป็นคาแผลง 5) มกั นามาใชเ้ ป็นคาราชาศพั ท์ 2. ภาษาบาลสี นั -สกฤตเขา้ มาในภาษาไทยไดอ้ ยา่ งไร ภาษาบาล-ี สนั สกฤตเขา้ มาพรอ้ มกบั การเขา้ มาคา้ ขายของชาวอนิ เดยี นอกจากจะนาสนิ คา้ มาขายแลว้ พ่อคา้ ชาวอนิ เดยี ยงั ไดน้ าศาสนาและวฒั นธรรมเขา้ มาดว้ ย ภาษาบาลเี ป็นภาษาทใี่ ชใ้ นพระพุทธศาสนา ภาษา สนั สกฤตเป็นภาษาทใี่ ชใ้ นศาสนาพราหมณ์จงึ เขา้ มาในภาษาไทยดว้ ย 482 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 9 การใช้คาในภาษาไทย เรื่องท่ี 1 คำภำษำต่ำงประเทศในภำษำไทย 3. ภาษาจนี ทน่ี ามาใชใ้ นภาษาไทย มลี กั ษณะอยา่ งไร ภาษาจนี ในภาษาไทยมลี กั ษณะ ดงั น้ี 1) เป็นคาทมี่ เี สยี งวรรณยุกต์ตรหี รอื จตั วา 2) เป็นคาทผี่ สมดว้ ยสระเสยี งสนั้ เอยี ะ และ อวั ะ 3) เป็นคาทมี่ พี ยญั ชนะต้นเป็นอกั ษรกลางมากกว่าพยญั ชนะต้นอนื่ ๆ 4. ภาษาชวา-มลายู เขา้ มาในภาษาไทยในสมยั ใด พรอ้ มกบั วรรณคดเี ร่อื งใด ภาษาชวา-มลายู เขา้ มาในภาษาไทยในสมยั กรุงศรอี ยุธยาตอนปลาย พรอ้ มกบั วรรณคดเี รอื่ งดาหลัง และอเิ หนา 5. คาทย่ี มื มาจากภาษาองั กฤษเขา้ มาใชใ้ นภาษาไทย มขี อ้ สงั เกตอย่างไร คาทยี่ มื มาจากภาษาองั กฤษเขา้ มาใชใ้ นภาษาไทยมขี อ้ สงั เกต ดงั น้ี 1) เป็นคาทมี่ หี ลายพยางค์ 2) ไมม่ กี ารเปลยี่ นแปลงรูปไวยากรณ์ 3) มเี สยี งพยญั ชนะทไี่ มม่ รี ะบบเสยี งในภาษาไทย 483 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 9 การใช้คาในภาษาไทย เรื่องท่ี 1 คำภำษำต่ำงประเทศในภำษำไทย ใบงานที่ 9.1 คาท่ีมาจากภาษาต่างประเทศ ตอนที่ 1 คาชีแ้ จง ใหน้ ักเรยี นเขยี นตวั อยา่ งคาทม่ี าจากภาษาต่างประเทศ ภาษาละ 10 คา ลงในตาราง คาท่ีมาจาก ตวั อยา่ งคาศพั ท์ ภาษาบาล-ี สนั สกฤต ภาษาเขมร ภาษาจนี ภาษาชวา-มลายู ภาษาองั กฤษ (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดุลยพนิ ิจของครูผสู้ อน) ตอนที่ 2 คาชี้แจง ใหน้ ักเรยี นตอบคาถามตอ่ ไปน้ี 1. คาทม่ี าจากภาษาเขมร มหี ลกั การสงั เกตอย่างไร คาทมี่ าจากภาษาเขมรมหี ลกั การสงั เกต ดงั น้ี 1) มกั เป็นภาษาคาโดด 2) มลี กั ษณะการสะกดไมต่ รงกบั ภาษาไทย 3) เป็นคาทไี่ มม่ รี ูปวรรณยุกต์ 4) เป็นคาแผลง 5) มกั นามาใชเ้ ป็นคาราชาศพั ท์ 2. ภาษาบาลสี นั -สกฤตเขา้ มาในภาษาไทยไดอ้ ยา่ งไร ภาษาบาล-ี สนั สกฤตเขา้ มาพรอ้ มกบั การเขา้ มาคา้ ขายของชาวอนิ เดยี นอกจากจะนาสนิ คา้ มาขายแลว้ พ่อคา้ ชาวอนิ เดยี ยงั ไดน้ าศาสนาและวฒั นธรรมเขา้ มาดว้ ย ภาษาบาลเี ป็นภาษาทใี่ ชใ้ นพระพุทธศาสนา ภาษา สนั สกฤตเป็นภาษาทใี่ ชใ้ นศาสนาพราหมณ์จงึ เขา้ มาในภาษาไทยดว้ ย 484 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 9 การใช้คาในภาษาไทย เรื่องท่ี 1 คำภำษำต่ำงประเทศในภำษำไทย 3. ภาษาจนี ทน่ี ามาใชใ้ นภาษาไทย มลี กั ษณะอยา่ งไร ภาษาจนี ในภาษาไทยมลี กั ษณะ ดงั น้ี 1) เป็นคาทมี่ เี สยี งวรรณยุกต์ตรหี รอื จตั วา 2) เป็นคาทผี่ สมดว้ ยสระเสยี งสนั้ เอยี ะ และ อวั ะ 3) เป็นคาทมี่ พี ยญั ชนะต้นเป็นอกั ษรกลางมากกว่าพยญั ชนะต้นอนื่ ๆ 4. ภาษาชวา-มลายู เขา้ มาในภาษาไทยในสมยั ใด พรอ้ มกบั วรรณคดเี ร่อื งใด ภาษาชวา-มลายู เขา้ มาในภาษาไทยในสมยั กรุงศรอี ยุธยาตอนปลาย พรอ้ มกบั วรรณคดเี รอื่ งดาหลงั และอเิ หนา 5. คาทย่ี มื มาจากภาษาองั กฤษเขา้ มาใชใ้ นภาษาไทย มขี อ้ สงั เกตอย่างไร คาทยี่ มื มาจากภาษาองั กฤษเขา้ มาใชใ้ นภาษาไทยมขี อ้ สงั เกต ดงั น้ี 1) เป็นคาทมี่ หี ลายพยางค์ 2) ไมม่ กี ารเปลยี่ นแปลงรูปไวยากรณ์ 3) มเี สยี งพยญั ชนะทไี่ มม่ รี ะบบเสยี งในภาษาไทย 485 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 9 การใช้คาในภาษาไทย แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน เรื่องท่ี 1 คำภำษำต่ำงประเทศในภำษำไทย ดา้ นความรู้ ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ดา้ นอน่ื ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนักเรยี นเป็นรายบคุ คล (ถ้าม)ี ) ปัญหา/อุปสรรค แนวทางการแกไ้ ข ความเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศกึ ษาหรือผทู้ ่ีได้รบั มอบหมาย ขอ้ เสนอแนะ ลงชอ่ื ) ( ตาแหน่ง 486 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ที่ 9 การใช้คาในภาษาไทย 1 ชวั่ โมง เร่ืองที่ 2 การใช้คาทับศพั ท์และศัพท์บญั ญตั ิต่างๆ แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 2 การใช้คาทบั ศพั ทแ์ ละ ศพั ทบ์ ญั ญตั ิต่างๆ (1) 1 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การศกึ ษาเร่อื งการใชค้ าในภาษาไทย จะช่วยใหส้ ามารถใชค้ าทบั ศพั ทแ์ ละศพั ทบ์ ญั ญตั ติ ่างๆ ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง 2 ตวั ชี้วดั /จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 2.1 ตวั ช้ีวดั ท 4.1 ม.3/4 ใชค้ าทบั ศพั ทแ์ ละศพั ทบ์ ญั ญตั ิ 2.2 จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ - ใชค้ าทบั ศพั ทแ์ ละศพั ทบ์ ญั ญตั ิได้ 3 สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรยี นร้แู กนกลาง 1) คาทบั ศพั ท์ 2) คาศพั ทบ์ ญั ญตั ิ 3.2 สาระการเรียนร้ทู ้องถิน่ (พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา) 4 สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน 4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร 4.2 ความสามารถในการคิด 1) ทกั ษะการสารวจคน้ หา 2) ทกั ษะการนาความรไู้ ปใช้ 4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต 5 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 2. ใฝ่เรยี นรู้ 4. รกั ความเป็นไทย 1. มวี นิ ยั 3. มงุ่ มนั่ ในการทางาน 487 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ที่ 9 การใช้คาในภาษาไทย เร่ืองที่ 2 การใช้คาทบั ศพั ท์และศพั ท์บัญญตั ิต่างๆ 6 กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. ครูสนทนากบั นกั เรยี นเกยี่ วกบั การใชค้ าทบั ศพั ทใ์ นสมยั ทไ่ี ทยเรมิ่ มคี วามสมั พนั ธก์ บั ตา่ งชาติ เม่อื ต่างชาตใิ ชค้ าทไ่ี มม่ ใี นภาษาไทย เรากจ็ ะพดู ทบั ศพั ทใ์ นภาษาของเขา เชน่ - มาดาม ไทยใช้ แมด่ า - เทเลกราฟ ไทยใช้ ตะแลบแกรบ ค่คู ิด...ค 2. นกั เรยี นร่วมกนั แสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั คาทบั ศพั ทท์ ใ่ี ชใ้ นสมยั ปัจจบุ นั พรอ้ มยกตวั อยา่ งประกอบ 3. นกั เรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ ขอ้ 1-2 1) การใช้คาทบั ศพั ท์เป็นความเจริญทางภาษาหรอื ความเส่อื มของภาษา เพราะเหตใุ ด (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดลุ ยพนิ จิ ของครผู สู้ อน) 2) นกั เรียนคิดวา่ มคี วามจาเป็นหรือไมท่ ี่จะต้องบญั ญตั ิศพั ท์อ่ืน โดยใช้ภาษาอน่ื ขนึ้ มาแทน คาภาษาองั กฤษท่ีมอี ยูแ่ ล้ว (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดลุ ยพนิ ิจของครูผสู้ อน) 4. นกั เรยี นศกึ ษาความรูเ้ รอ่ื ง การใชค้ าทบั ศพั ทแ์ ละศพั ทบ์ ญั ญตั ติ า่ งๆ จากหนงั สอื เรยี น และแหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ 5. นักเรยี นร่วมกนั อภปิ รายความรเู้ รอ่ื ง การใชค้ าทบั ศพั ทแ์ ละศพั ทบ์ ญั ญตั ติ า่ งๆ 6. นกั เรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ นกั เรียนคิดวา่ ในสงั คมปัจจุบนั การใช้คาทบั ศพั ทแ์ ละการบญั ญตั ิศพั ท์ วิธีการใด มีความจาเป็นมากกว่ากนั เพราะเหตุใด (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดลุ ยพนิ ิจของครผู สู้ อน) 7 การวดั และประเมินผล วิธีการ เครื่องมอื เกณฑ์ สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตความมวี นิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ มุ่งมนั่ ในการทางาน แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ และรกั ความเป็นไทย 8 ส่ือ/แหล่งการเรยี นรู้ 8.1 สอื่ การเรยี นรู้ - หนงั สอื เรยี น ภาษาไทย : หลกั ภาษาและการใชภ้ าษา ม.3 8.2 แหล่งการเรยี นรู้ แหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ - http://www.royin.go.th/th/knowledge/content-list.php?ID=41 - http://www.krama6.su.ac.th/activity/activity07.htm - http://www.ipesp.ac.th/learning/thai/chapter3-4.html 488 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 9 การใช้คาในภาษาไทย แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน เร่ืองที่ 2 การใช้คาทบั ศัพท์และศพั ท์บัญญัติต่างๆ ดา้ นความรู้ ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ดา้ นอน่ื ๆ (พฤตกิ รรมเด่น หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนักเรยี นเป็นรายบคุ คล (ถ้าม)ี ) ปัญหา/อปุ สรรค แนวทางการแกไ้ ข ความเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศกึ ษาหรือผทู้ ่ีได้รบั มอบหมาย ขอ้ เสนอแนะ ลงชอ่ื ) ( ตาแหน่ง 489 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ที่ 9 การใช้คาในภาษาไทย 1 ชวั่ โมง เร่ืองที่ 2 การใช้คาทับศพั ท์และศัพท์บญั ญตั ิต่างๆ แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 3 การใช้คาทบั ศพั ทแ์ ละ ศพั ทบ์ ญั ญตั ิต่างๆ (2) 1 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การศกึ ษาเร่อื งการใชค้ าในภาษาไทย จะช่วยใหส้ ามารถใชค้ าทบั ศพั ทแ์ ละศพั ทบ์ ญั ญตั ติ ่างๆ ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง 2 ตวั ชี้วดั /จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 2.1 ตวั ช้ีวดั ท 4.1 ม.3/4 ใชค้ าทบั ศพั ทแ์ ละศพั ทบ์ ญั ญตั ิ 2.2 จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ - ใชค้ าทบั ศพั ทแ์ ละศพั ทบ์ ญั ญตั ิได้ 3 สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรยี นร้แู กนกลาง 1) คาทบั ศพั ท์ 2) คาศพั ทบ์ ญั ญตั ิ 3.2 สาระการเรียนร้ทู ้องถิน่ (พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา) 4 สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน 4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร 4.2 ความสามารถในการคิด 1) ทกั ษะการสารวจคน้ หา 2) ทกั ษะการนาความรไู้ ปใช้ 4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต 5 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 2. ใฝ่เรยี นรู้ 4. รกั ความเป็นไทย 1. มวี นิ ยั 3. มงุ่ มนั่ ในการทางาน 490 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 9 การใช้คาในภาษาไทย เร่ืองท่ี 2 การใช้คาทบั ศัพท์และศัพท์บัญญตั ิต่างๆ 6 กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. นกั เรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ นักเรยี นคิดว่า ศพั ทบ์ ญั ญตั ิเขา้ ใจงา่ ยหรือเขา้ ใจยากกวา่ คาทบั ศพั ท์ เพราะเหตใุ ด (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดุลยพนิ จิ ของครูผสู้ อน) 2. ครสู มุ่ เลอื กตวั แทนนกั เรยี นบอกคาศพั ทบ์ ญั ญตั ปิ ระเภทตา่ งๆ เพอ่ื เป็นการตรวจสอบความรคู้ วามเขา้ ใจ 3. นกั เรยี นทาใบงานที่ 9.2 เรอื่ ง การใช้คาทบั ศพั ท์และศพั ท์บญั ญตั ิ 4. ครูสุ่มเรยี กนักเรยี น 1-2 คน ออกมานาเสนอใบงานท่ี 9.2 จากนนั้ ตวั แทนนกั เรยี นเกบ็ รวบรวมใบงาน สง่ ครตู รวจ 5. ครูตรวจใบงานท่ี 9.2 และใหค้ าแนะนาในการแกไ้ ขปรบั ปรงุ ผลงาน จากนนั้ ใหน้ กั เรยี นร่วมกนั สรปุ หลกั การใชค้ าทบั ศพั ทแ์ ละศพั ทบ์ ญั ญตั ติ ่างๆ 7 การวดั และประเมินผล วิธีการ เครอ่ื งมือ เกณฑ์ ตรวจใบงานที่ 9.2 ใบงานที่ 9.2 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตความมวี นิ ัย ใฝ่เรยี นรู้ มงุ่ มนั่ ในการทางาน แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ และรกั ความเป็นไทย 8 ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 8.1 สอื่ การเรียนรู้ 1) หนังสอื เรยี น ภาษาไทย : หลกั ภาษาและการใชภ้ าษา ม.3 2) ใบงานท่ี 9.2 เรอ่ื ง การใชค้ าทบั ศพั ทแ์ ละศพั ทบ์ ญั ญตั ิ 8.2 แหล่งการเรียนรู้ แหล่งขอ้ มลู สารสนเทศ - http://www.royin.go.th/th/knowledge/content-list.php?ID=41 - http://www.krama6.su.ac.th/activity/activity07.htm - http://www.ipesp.ac.th/learning/thai/chapter3-4.html 491 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 9 การใช้คาในภาษาไทย เร่ืองท่ี 2 การใช้คาทบั ศัพท์และศพั ท์บญั ญตั ิต่างๆ ใบงานท่ี 9.2 การใช้คาทบั ศพั ท์และศพั ทบ์ ญั ญตั ิ ตอนท่ี 1 คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นตอบคาถามตอ่ ไปน้ี 1. เพราะเหตุใด จงึ ตอ้ งใชค้ าทบั ศพั ท์ ในภาษาไทยไม่มคี าทคี่ วามหมายตรงกบั คาทตี่ ้องการสอื่ สาร จงึ ตอ้ งยมื คาในภาษาต่างประเทศมาใช้ โดยไม่มกี ารปรบั เปลยี่ นหรอื แกไ้ ข 2. คาศพั ทบ์ ญั ญตั ิ หมายถงึ อะไร คาในภาษาไทยทคี่ ดิ ข้นึ ใชแ้ ทนศพั ทภ์ าษาองั กฤษดว้ ยการประกอบขน้ึ จากคาในภาษาบาลี-สนั สกฤตผา่ นการ พจิ ารณาของผเู้ ชยี่ วชาญแลว้ จงึ ประกาศใช้ 3. การบญั ญตั ศิ พั ทข์ น้ึ มาใชใ้ นภาษาไทยเกดิ ขน้ึ ในสมยั ใด การบญั ญตั ศิ พั ท์ข้นึ มาใชใ้ นภาษาไทยเกดิ ขน้ึ ในสมยั พระบาทสมเดจ็ พระจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั (รชั กาลที่4) 4. คาศพั ทบ์ ญั ญตั ปิ ระกอบขน้ึ มาจากคาในภาษาใด ศพั ท์บญั ญตั ิ ประกอบข้นึ มาจากภาษาบาลี สนั สกฤต 5. คาทบั ศพั ท์ และคาศพั ทบ์ ญั ญตั ิ มแี นวทางในการใชอ้ ยา่ งไรใหถ้ กู ตอ้ งและเหมาะสม (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดุลยพนิ ิจของครผู สู้ อน) 492 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 9 การใช้คาในภาษาไทย เร่ืองท่ี 2 การใช้คาทับศัพท์และศพั ท์บัญญัติต่างๆ ตอนท่ี 2 คาชี้แจง ใหน้ ักเรยี นปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตามทก่ี าหนด 1. ยกตวั อยา่ งคาทบั ศพั ทป์ ระเภทละ 5 คา ลงในตาราง (ตวั อยา่ ง) ประเภทของคาทบั ศพั ท์ ตวั อย่างคาศพั ท์ อาหาร กฬี า-ดนตรี เคก้ สลดั ชสี ไอศกรมี แซนดว์ ชิ เคร่อื งใช้ สกี สเกต็ กอล์ฟ กตี าร์ เปยี โน โซฟา โนต้ บ๊กุ ไมโครโฟน คอมพวิ เตอร์ คตั เตอร์ 2. ยกตวั อยา่ งคาศพั ทบ์ ญั ญตั ทิ ส่ี รา้ งโดยวธิ ตี า่ งๆ วธิ ลี ะ 5 คา ลงในตาราง (ตวั อย่าง) ประเภทของคาศพั ท์บญั ญตั ิ ตวั อยา่ งคาศพั ท์ ศพั ทบ์ ญั ญตั ทิ ส่ี รา้ งจาก จุดยนื (stand point) ปีแสง (light year) ตวั แปร (variable) คาไทยแท้ ดนิ เปร้ยี ว (acid soil) น้าแขง็ แหง้ (dry ice) ตลาดมดื (black market) ศพั ทบ์ ญั ญตั ทิ ส่ี รา้ งจาก กจิ กรรม (activity) ทฤษฎี (theory) สดมภ์ (column) คาบาล-ี สนั สกฤต มลพษิ (pollution) เสรนี ยิ ม (liberalism) นิทรรศการ (exhibition) ศพั ทบ์ ญั ญตั ทิ ส่ี รา้ งจาก ครมี (cream) โซฟา (sofa) โบนสั (bonus) แฟชนั่ (fashion) การใชค้ าภาษาตา่ งประเทศทบั ศพั ท์ ซเี มนต์ (cement) คอมพวิ เตอร์ (computer) (พจิ ารณาตามคาตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดลุ ยพนิ ิจของครูผสู้ อน) 493 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 9 การใช้คาในภาษาไทย เร่ืองที่ 2 การใช้คาทับศพั ท์และศพั ท์บัญญัติต่างๆ ใบงานที่ 9.2 การใช้คาทบั ศพั ทแ์ ละศพั ท์บญั ญตั ิ ตอนที่ 1 คาชี้แจง ใหน้ ักเรยี นตอบคาถามตอ่ ไปน้ี 1. เพราะเหตใุ ด จงึ ตอ้ งใชค้ าทบั ศพั ท์ ในภาษาไทยไม่มคี าทคี่ วามหมายตรงกบั คาทีต่ อ้ งการสอื่ สาร จงึ ตอ้ งยมื คาในภาษาตา่ งประเทศมาใช้ โดยไม่มกี ารปรบั เปลยี่ นหรอื แกไ้ ข 2. คาศพั ทบ์ ญั ญตั ิ หมายถงึ อะไร คาในภาษาไทยทคี่ ดิ ข้นึ ใชแ้ ทนศพั ท์ภาษาองั กฤษด้วยการประกอบข้นึ จากคาในภาษาบาลี-สนั สกฤตผา่ นการ พจิ ารณาของผเู้ ชยี่ วชาญแลว้ จงึ ประกาศใช้ 3. การบญั ญตั ศิ พั ทข์ น้ึ มาใชใ้ นภาษาไทยเกดิ ขน้ึ ในสมยั ใด การบญั ญตั ศิ พั ท์ขน้ึ มาใชใ้ นภาษาไทยเกดิ ข้นึ ในสมยั พระบาทสมเดจ็ พระจอมเกลา้ เจา้ อย่หู วั (รชั กาลที่4) 4. คาศพั ทบ์ ญั ญตั ปิ ระกอบขน้ึ มาจากคาในภาษาใด ศพั ทบ์ ญั ญตั ิ ประกอบข้นึ มาจากคาในภาษาบาล-ี สนั สกฤต 5. คาทบั ศพั ท์ และคาศพั ทบ์ ญั ญตั ิ มแี นวทางในการใชอ้ ย่างไรใหถ้ กู ตอ้ งและเหมาะสม (พจิ ารณาตามคาตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ยู่ในดุลยพนิ ิจของครูผสู้ อน) 494 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 9 การใช้คาในภาษาไทย เร่ืองท่ี 2 การใช้คาทบั ศพั ท์และศัพท์บญั ญัติต่างๆ ตอนท่ี 2 คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตามทก่ี าหนด 1. ยกตวั อยา่ งคาทบั ศพั ทป์ ระเภทละ 5 คา ลงในตาราง (ตวั อยา่ ง) ประเภทของคาทบั ศพั ท์ ตวั อย่างคาศพั ท์ อาหาร กฬี า-ดนตรี เคก้ สลดั ชสี ไอศกรมี แซนดว์ ชิ เคร่อื งใช้ สกี สเกต็ กอล์ฟ กตี าร์ เปยี โน โซฟา โนต้ บ๊กุ ไมโครโฟน คอมพวิ เตอร์ คตั เตอร์ 2. ยกตวั อยา่ งคาศพั ทบ์ ญั ญตั ทิ ส่ี รา้ งโดยวธิ ตี ่างๆ วธิ ลี ะ 5 คา ลงในตาราง (ตวั อยา่ ง) ประเภทของคาศพั ทบ์ ญั ญตั ิ ตวั อยา่ งคาศพั ท์ ศพั ทบ์ ญั ญตั ทิ ส่ี รา้ งจาก จดุ ยนื (stand point) ปีแสง (light year) ตวั แปร (variable) คาไทยแท้ ดนิ เปร้ยี ว (acid soil) น้าแขง็ แหง้ (dry ice) ตลาดมดื (black market) ศพั ทบ์ ญั ญตั ทิ ส่ี รา้ งจาก กจิ กรรม (activity) ทฤษฎี (theory) สดมภ์ (column) คาบาล-ี สนั สกฤต มลพษิ (pollution) เสรนี ยิ ม (liberalism) นิทรรศการ (exhibition) ศพั ทบ์ ญั ญตั ทิ ส่ี รา้ งจาก ครมี (cream) โซฟา (sofa) โบนสั (bonus) แฟชนั่ (fashion) การใชค้ าภาษาตา่ งประเทศทบั ศพั ท์ ซเี มนต์ (cement) คอมพวิ เตอร์ (computer) (พจิ ารณาตามคาตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดลุ ยพนิ ิจของครูผสู้ อน) 495 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 9 การใช้คาในภาษาไทย แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน เร่ืองที่ 2 การใช้คาทบั ศัพท์และศพั ท์บัญญัติต่างๆ ดา้ นความรู้ ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ดา้ นอน่ื ๆ (พฤตกิ รรมเด่น หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนักเรยี นเป็นรายบคุ คล (ถ้าม)ี ) ปัญหา/อปุ สรรค แนวทางการแกไ้ ข ความเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศกึ ษาหรือผทู้ ่ีได้รบั มอบหมาย ขอ้ เสนอแนะ ลงชอ่ื ) ( ตาแหน่ง 496 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 9 การใช้คาในภาษาไทย 1 ชวั่ โมง เรื่องท่ี 3 คำศัพท์ทำงวชิ ำกำรและวชิ ำชีพ แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 4 คาศพั ท์ทางวิชาการ และวิชาชีพ 1 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การศกึ ษาเร่อื งการใชค้ าในภาษาไทย จะชว่ ยให้อธบิ ายความหมายของคาศพั ทท์ างวชิ าการและวชิ าชพี ไดถ้ ูกตอ้ ง 2 ตวั ช้ีวดั /จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 2.1 ตวั ช้ีวดั ท 4.1 ม.3/5 อธบิ ายความหมายคาศพั ทท์ างวชิ าการและวชิ าชพี 2.2 จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ - อธบิ ายความหมายคาศพั ทท์ างวชิ าการและวชิ าชพี ได้ 3 สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรียนรแู้ กนกลาง - คาศพั ทท์ างวชิ าการและวชิ าชพี 3.2 สาระการเรียนรทู้ ้องถิน่ (พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา) 4 สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน 4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร 4.2 ความสามารถในการคิด 1) ทกั ษะการสารวจคน้ หา 2) ทกั ษะการนาความรไู้ ปใช้ 4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต 5 คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 2. ใฝ่เรยี นรู้ 4. รกั ความเป็นไทย 1. มวี นิ ัย 3. มุง่ มนั่ ในการทางาน 497 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ที่ 9 การใช้คาในภาษาไทย เรื่องท่ี 3 คำศพั ท์ทำงวิชำกำรและวชิ ำชีพ 6 กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ครูสนทนากบั นกั เรยี นเกย่ี วกบั การประกอบวชิ าชพี ต่างๆ แลว้ ใหน้ ักเรยี นรว่ มกนั แสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั คาศพั ทท์ ใ่ี ชใ้ นวชิ าชพี ตา่ งๆ 2. นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ นักเรยี นคิดว่า ผ้ทู ี่ประกอบอาชีพต่างกนั ใช้ภาษาต่างกนั หรือไม่ อยา่ งไร (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยู่ในดุลยพนิ จิ ของครูผสู้ อน) 3. นกั เรยี นรวมกลุ่มเดมิ (จากแผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 1) แลว้ ให้แตล่ ะกลุม่ ศกึ ษาความรูเ้ รอ่ื ง ศพั ทท์ าง วชิ าการและศพั ทว์ ชิ าชพี จากหอ้ งสมดุ และแหล่งขอ้ มูลสารสนเทศ 4. ครูและนักเรยี นรว่ มกนั อภปิ รายความรูเ้ รอ่ื ง ศพั ทท์ างวชิ าการและศพั ทว์ ชิ าชพี โดยครูเปิดโอกาส ใหม้ กี ารซกั ถามจนเขา้ ใจกระจ่างชดั เจน 5. นักเรยี นแตล่ ะคนทาใบงานที่ 9.3 เร่อื ง ศพั ทว์ ิชาการและศพั ทว์ ิชาชีพ เสรจ็ แลว้ ใหต้ รวจความถกู ตอ้ ง กอ่ นนาส่งครตู รวจ 6. ครูตรวจใบงานท่ี 9.3 แลว้ นาคะแนนของสมาชกิ ทกุ คนในกลมุ่ มารวมกนั เป็นคะแนนกลมุ่ จากนนั้ ประกาศชมเชยกลุ่มทม่ี คี ะแนนเฉลย่ี สงู สุดและกลุ่มทไ่ี ดค้ ะแนนรองลงมา เพ่อื เป็นการเสรมิ กาลงั ใจ 7. นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ ถา้ ประกอบอาชีพอยา่ งใดอยา่ งหน่ึง นักเรียนคิดว่า มคี วามจาเป็นท่ีจะต้องร้คู าศพั ท์ ของผทู้ ี่ประกอบอาชีพอื่นหรือไม่ เพราะเหตใุ ด (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยู่ในดุลยพนิ จิ ของครผู สู้ อน) 8. นักเรยี นและครรู ่วมกนั สรปุ ความรู้เร่อื ง ศพั ทท์ างวชิ าการและศพั ทว์ ชิ าชพี พรอ้ มกบั แนะแนวทางในการ ใชใ้ หถ้ ูกตอ้ งและเหมาะสม 9. นกั เรยี นทาแบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 9 ครมู อบหมายให้นักเรียนทาสมุดรวบรวมคาท่ีใช้ในภาษาไทย โดยแบ่งเรอื่ งที่รวบรวม ออกเป็น 3 กลมุ่ คอื คาภาษาต่างประเทศท่ีใช้ในภาษาไทย คาทบั ศพั ท์และศพั ทบ์ ญั ญตั ิ คาศพั ท์ทางวิชาการและวิชาชีพ โดยใหค้ รอบคลุมประเดน็ ตามทกี่ าหนด ดงั น้ี 1) การจาแนกและใชค้ าภาษาตา่ งประเทศทใี่ ชใ้ นภาษาไทย 2) การใชค้ าทบั ศพั ทแ์ ละศพั ทบ์ ญั ญตั ิ 3) การอธบิ ายความหมายคาศพั ทท์ างวชิ าการและวชิ าชพี 498 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 9 การใช้คาในภาษาไทย เร่ืองท่ี 3 คำศัพท์ทำงวิชำกำรและวิชำชีพ 7 การวดั และประเมินผล วิธีการ เคร่ืองมือ เกณฑ์ ตรวจใบงานที่ 9.3 ใบงานที่ 9.3 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ ประเมนิ การนาเสนอผลงาน แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตความมวี นิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ มงุ่ มนั่ ในการทางาน แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ และรกั ความเป็นไทย ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 9 แบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 9 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ตรวจสมดุ รวบรวมคาทใ่ี ชใ้ นภาษาไทย แบบประเมนิ สมดุ รวบรวมคาทใ่ี ชใ้ น ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ ภาษาไทย 8 ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 8.1 สอื่ การเรียนรู้ - ใบงานท่ี 9.3 เร่อื ง ศพั ทว์ ชิ าการและศพั ทว์ ชิ าชพี 8.2 แหลง่ การเรยี นรู้ 1) หอ้ งสมดุ 2) แหล่งขอ้ มูลสารสนเทศ - http://www.maceducation.com/e-knowledge/2421105100/15.htm - http://rirs3.royin.go.th/coinages/webcoinage.php 499 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 9 การใช้คาในภาษาไทย เรื่องท่ี 3 คำศพั ท์ทำงวชิ ำกำรและวิชำชีพ การประเมินช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) แบบประเมินสมุดรวบรวมคาท่ีใช้ในภาษาไทย ลาดบั ที่ รายการประเมิน ระดบั คะแนน 1 432 1 การจาแนกและใชค้ าภาษาต่างประเทศทใ่ี ชใ้ น ภาษาไทย 2 การใชค้ าทบั ศพั ทแ์ ละศพั ทบ์ ญั ญตั ิ 3 การอธบิ ายความหมายคาศพั ทท์ างวชิ าการและ วชิ าชพี รวม ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............../.................../................ เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ดมี าก = 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ดี = 3 คะแนน 11 - 12 ดมี าก พอใช้ = 2 คะแนน 9 - 10 ดี ปรบั ปรงุ = 1 คะแนน 6 - 8 พอใช้ ต่ากว่า 6 ปรบั ปรงุ 500 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 9 การใช้คาในภาษาไทย เร่ืองที่ 3 คำศัพท์ทำงวชิ ำกำรและวิชำชีพ ใบงานที่ 9.3 ศพั ท์วิชาการและศพั ทว์ ิชาชีพ คาชีแ้ จง ใหน้ กั เรยี นยกตวั อยา่ งศพั ทว์ ชิ าการและศพั ทว์ ชิ าชพี ประเภทละ 4 คา ลงในตารางทก่ี าหนด (ตวั อย่าง) ประเภทของอาชีพ ตวั อย่างคาศพั ท์ ศพั ทเ์ กย่ี วกบั เทคโนโลยสี ารสนเทศ ศพั ทเ์ กยี่ วกบั ศกึ ษาศาสตร์ ศพั ทเ์ กยี่ วกบั รฐั ศาสตร์ ศพั ทเ์ กยี่ วกบั นิตศิ าสตร์ ศพั ทเ์ กยี่ วกบั แพทยศาสตร์ ศพั ทเ์ กย่ี วกบั นาฏศลิ ป์ ศพั ทเ์ กย่ี วกบั ดนตรี ศพั ทเ์ กยี่ วกบั กฬี า ศพั ทเ์ กยี่ วกบั การโฆษณา ศพั ทเ์ กยี่ วกบั โหราศาสตร์ (พจิ ารณาตามคาตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ยู่ในดุลยพนิ จิ ของครูผสู้ อน) 501 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 9 การใช้คาในภาษาไทย เร่ืองที่ 3 คำศัพท์ทำงวชิ ำกำรและวิชำชีพ ใบงานที่ 9.3 ศพั ทว์ ิชาการและศพั ทว์ ิชาชีพ คาชีแ้ จง ใหน้ กั เรยี นยกตวั อยา่ งศพั ทว์ ชิ าการและศพั ทว์ ชิ าชพี ประเภทละ 4 คา ลงในตารางทก่ี าหนด (ตวั อย่าง) ประเภทของอาชีพ ตวั อย่างคาศพั ท์ ศพั ทเ์ กย่ี วกบั เทคโนโลยสี ารสนเทศ ศพั ทเ์ กยี่ วกบั ศกึ ษาศาสตร์ ศพั ทเ์ กยี่ วกบั รฐั ศาสตร์ ศพั ทเ์ กยี่ วกบั นิตศิ าสตร์ ศพั ทเ์ กยี่ วกบั แพทยศาสตร์ ศพั ทเ์ กย่ี วกบั นาฏศลิ ป์ ศพั ทเ์ กย่ี วกบั ดนตรี ศพั ทเ์ กยี่ วกบั กฬี า ศพั ทเ์ กยี่ วกบั การโฆษณา ศพั ทเ์ กยี่ วกบั โหราศาสตร์ (พจิ ารณาตามคาตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ยู่ในดลุ ยพนิ ิจของครูผสู้ อน) 502 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 9 การใช้คาในภาษาไทย แบบบนั ทึกหลงั แผนการสอน เร่ืองท่ี 3 คำศัพท์ทำงวิชำกำรและวิชำชีพ ดา้ นความรู้ ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ดา้ นอน่ื ๆ (พฤตกิ รรมเด่น หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนักเรยี นเป็นรายบคุ คล (ถ้าม)ี ) ปัญหา/อุปสรรค แนวทางการแกไ้ ข ความเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศกึ ษาหรือผทู้ ่ีได้รบั มอบหมาย ขอ้ เสนอแนะ ลงชอ่ื ) ( ตาแหน่ง 503 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 9 การใช้คาในภาษาไทย เรื่องที่ 3 คำศพั ท์ทำงวชิ ำกำรและวชิ ำชีพ ช่อื หนงั สอื ราคา ช่อื ผูแ้ ต่ง แบบบนั ทึกการอ่าน สานกั พมิ พ์ สถานทพ่ี มิ พ์ จานวนหนา้ บาท อา่ นวนั ท่ี เดอื น นามปากกา ปีทพี่ มิ พ์ พ.ศ. เวลา 1. สาระสาคญั ของเรอ่ื ง 2. วเิ คราะหข์ อ้ คดิ /ประโยชน์ทไ่ี ดจ้ ากเร่อื งทอ่ี ่าน 3. สง่ิ ทส่ี ามารถนาไปประยุกตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจาวนั 4. ขอ้ เสนอแนะของครู ลงชอ่ื นกั เรยี น ลงช่อื ผปู้ กครอง ( )( ) ลงช่อื ครผู สู้ อน () เกณฑก์ ารให้คะแนน ผลงานมขี ้อบกพรอ่ งเป็นสว่ นใหญ่ ให้ 2 คะแนน ผลงานมีความสมบรู ณ์ชดั เจน ให้ 4 คะแนน ผลงานมขี ้อบกพร่องเพยี งเลก็ น้อย ให้ 3 คะแนน ผลงานมขี ้อบกพรอ่ งมาก ให้ 1 คะแนน 504 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ที่ 9 การใช้คาในภาษาไทย เรื่องท่ี 3 คำศพั ท์ทำงวิชำกำรและวชิ ำชีพ แบบประเมิน การนาเสนอผลงาน คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน ประเมนิ การนาเสนอผลงานของนกั เรยี นตามรายการทก่ี าหนด แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน ลาดบั ที่ รายการประเมิน 4 ระดบั คะแนน 1 32 1 ความถกู ตอ้ งของเนอ้ื หา 2 ความคดิ สรา้ งสรรค์ 3 วธิ กี ารนาเสนอผลงาน 4 การนาไปใชป้ ระโยชน์ 5 การตรงตอ่ เวลา รวม ลงชอ่ื ....................................................ผปู้ ระเมนิ ................ /................ /................ เกณฑ์การให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสมบรู ณ์ชดั เจน ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมขี อ้ บกพรอ่ งบางสว่ น ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี าก ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมขี อ้ บกพรอ่ งเป็นส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมขี อ้ บกพร่องมาก ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้ ต่ากวา่ 10 ปรบั ปรงุ 505 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 9 การใช้คาในภาษาไทย เรื่องท่ี 3 คำศพั ท์ทำงวชิ ำกำรและวิชำชีพ แบบสงั เกตพฤติกรรม การทางานรายบุคคล คาชี้แจง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ ง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน ลาดบั ชื่อ-สกลุ ความมวี ินัย ความมีน้าใจ การรบั ฟัง การแสดง การตรงต่อ รวม ท่ี ของผ้รู บั การประเมิน เอือ้ เฟื้ อ ความคิดเหน็ ความคิดเหน็ เวลา 20 เสียสละ คะแนน 43214321432143214321 ลงชอ่ื ....................................................ผปู้ ระเมนิ ................ /................ /................ เกณฑ์การให้คะแนน เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี าก ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้ ต่ากว่า 10 ปรบั ปรงุ 506 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 9 การใช้คาในภาษาไทย เร่ืองที่ 3 คำศพั ท์ทำงวชิ ำกำรและวชิ ำชีพ แบบสงั เกตพฤติกรรม การทางานกลุ่ม คาชี้แจง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน ลาดบั ชื่อ-สกลุ ความ การแสดง การรบั ฟัง ความตงั้ ใจ การแกไ้ ข รวม ท่ี ของผ้รู บั การประเมิน รว่ มมือกนั ความคิดเหน็ ความคิดเหน็ ทางาน ปัญหา/หรอื 20 ทากิจกรรม ปรบั ปรงุ คะแนน ผลงานกลมุ่ 4321 432 1 43 2 14321 432 1 ลงชอ่ื ....................................................ผปู้ ระเมนิ ................ /................ /................ เกณฑ์การให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 3 คะแนน 18 - 20 ดมี าก ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 14 - 17 ดี ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 10 - 13 พอใช้ ต่ากวา่ 10 ปรบั ปรงุ 507 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ที่ 9 การใช้คาในภาษาไทย เร่ืองท่ี 3 คำศัพท์ทำงวิชำกำรและวิชำชีพ แบบประเมิน คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คาชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อนั พึงประสงคด์ า้ น 4321 1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเม่อื ไดย้ นิ เพลงชาติ รอ้ งเพลงชาตไิ ด้ และอธบิ ายความหมาย ของเพลงชาติ กษตั ริย์ 1.2 ปฏบิ ตั ติ นตามสทิ ธแิ ละหนา้ ทขี่ องพลเมอื งดี 2. ซ่ือสตั ย์ สจุ ริต 1.3 ใหค้ วามรว่ มมอื ร่วมใจ ในการทากจิ กรรมกบั สมาชกิ ในโรงเรยี นและ 3. มีวินัย ชุมชน รบั ผิดชอบ 1.4 เขา้ ร่วมกจิ กรรมและมสี ่วนร่วมในการจดั กจิ กรรมทสี่ ร้างความสามคั คี 4. ใฝ่เรยี นรู้ ปรองดอง และเป็นประโยชน์ต่อโรงเรยี น ชุมชน และสงั คม ช่นื ชมความ 5. อย่อู ย่างพอเพยี ง เป็นชาตไิ ทย 1.5 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางศาสนาทตี่ นนบั ถอื ปฏบิ ตั ติ นตามหลกั ของศาสนา อยา่ งสมา่ เสมอ เป็นแบบอยา่ งทด่ี ขี องศาสนิกชน 1.6 เขา้ ร่วมกจิ กรรมและมสี ่วนร่วมในการจดั กจิ กรรมทเี่ ก่ยี วขอ้ งกบั สถาบนั พระมหากษตั รยิ ต์ ามท่โี รงเรยี นและชมุ ชนจดั ขน้ึ ช่นื ชมในพระราชกรณียกิจ พระปรชี าสามารถของพระมหากษตั รยิ แ์ ละพระราชวงศ์ 2.1 ใหข้ อ้ มลู ทถี่ กู ต้อง และเป็นจรงิ 2.2 ปฏบิ ตั ใิ นสง่ิ ทถ่ี กู ต้อง ละอาย และเกรงกลวั ทจี่ ะกระทาความผดิ ทาตาม สญั ญาทตี่ นใหไ้ วก้ บั เพ่อื น พ่อแม่ หรอื ผูป้ กครอง และครู เป็นแบบอย่าง ทด่ี ดี า้ นความซอ่ื สตั ย์ 2.3 ปฏบิ ตั ติ นตอ่ ผูอ้ ่นื ดว้ ยความซอ่ื ตรง ไมห่ าประโยชน์ในทางทไี่ ม่ถูกต้อง และเป็นแบบอย่างทด่ี แี กเ่ พอ่ื นดา้ นความซอ่ื สตั ย์ 3.1 ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของครอบครวั และโรงเรยี น ไมล่ ะเมดิ สทิ ธขิ องผูอ้ น่ื ตรงต่อเวลาในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม ตา่ งๆ ในชวี ติ ประจาวนั และรบั ผดิ ชอบในการทางาน 4.1 แสวงหาขอ้ มลู จากแหลง่ การเรยี นรูต้ า่ งๆ 4.2 มกี ารจดบนั ทึกความรูอ้ ยา่ งเป็นระบบ 4.3 สรปุ ความรูไ้ ดอ้ ย่างมเี หตุผล 5.1 ใชท้ รพั ยส์ นิ ของตนเอง เช่น สง่ิ ของ เครอ่ื งใช้ ฯลฯ อยา่ งประหยดั คมุ้ คา่ และเกบ็ รกั ษาดูแลอย่างดี และใชเ้ วลาอยา่ งเหมาะสม 5.2 ใชท้ รพั ยากรของสว่ นรวมอย่างประหยดั คมุ้ ค่า และเกบ็ รกั ษาดูแล อย่างดี 5.3 ปฏบิ ตั ติ นและตดั สนิ ใจดว้ ยความรอบคอบ มเี หตผุ ล 508 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ที่ 9 การใช้คาในภาษาไทย เรื่องที่ 3 คำศพั ท์ทำงวิชำกำรและวชิ ำชีพ คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อนั พึงประสงคด์ า้ น 4321 5.4 ไมเ่ อาเปรยี บผอู้ น่ื และไมท่ าใหผ้ ูอ้ น่ื เดอื ดรอ้ น พรอ้ มใหอ้ ภยั เม่อื ผอู้ น่ื 6. มงุ่ มนั่ ในการ กระทาผดิ พลาด ทางาน 5.5 วางแผนการเรยี น การทางานและการใชช้ วี ติ ประจาวนั บนพน้ื ฐาน 7. รกั ความเป็นไทย ของความรู้ ขอ้ มลู ข่าวสาร 8. มจี ิตสาธารณะ 5.6 รูเ้ ทา่ ทนั การเปลยี่ นแปลง ทางสงั คม และสภาพแวดลอ้ ม ยอมรบั และปรบั ตวั อยรู่ ว่ มกบั ผูอ้ น่ื ไดอ้ ยา่ งมคี วามสุข 6.1 มคี วามตงั้ ใจและพยายามในการทางานทไี่ ดร้ บั มอบหมาย 6.2 มคี วามอดทนและไม่ทอ้ แทต้ อ่ อปุ สรรคเพอ่ื ใหง้ านสาเรจ็ 7.1 มจี ติ สานึกในการอนุรกั ษว์ ฒั นธรรมและภูมปิ ัญญาไทย 7.2 เหน็ คณุ ค่าและปฏบิ ตั ติ นตามวฒั นธรรมไทย 8.1 รูจ้ กั ช่วยพอ่ แม่ ผูป้ กครอง และครทู างาน 8.2 อาสาทางาน ช่วยคดิ ชว่ ยทา และแบ่งปันสง่ิ ของ และช่วยแกป้ ัญหา ใหผ้ ูอ้ น่ื 8.3 ดแู ล รกั ษาทรพั ยส์ นิ ของหอ้ งเรยี น โรงเรยี น ชุมชน 8.4 เขา้ รว่ มกจิ กรรมเพ่อื สงั คมและสาธารณประโยชน์ของโรงเรยี นและชุมชน ลงช่อื ....................................................ผปู้ ระเมนิ ................ /................ /................ เกณฑ์การให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 3 คะแนน 191 - 108 ดมี าก ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 73 - 90 ดี ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ ให้ 1 คะแนน 54 - 72 พอใช้ ต่ากว่า 54 ปรบั ปรงุ 509 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ที่ 9 การใช้คาในภาษาไทย เร่ืองที่ 3 คำศพั ท์ทำงวชิ ำกำรและวชิ ำชีพ แบบบนั ทึกหลงั หน่วยการเรยี นรู้ ตอนที่ 1 นกั เรยี นมคี วามรูค้ วามสามารถตามมาตรฐานการเรยี นรูแ้ ละตวั ชว้ี ดั ของหน่วยการเรยี นรู้ ตอ่ ไปน้ี ท 4.1 (ม.3/1, ม.3/4, ม.3/5) ดา้ นความรู้ (จานวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ) ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ดา้ นอน่ื ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนักเรยี นเป็นรายบุคคล (ถ้าม)ี ) สรปุ ผลจากการประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) ประจาหน่วยการเรยี นรู้ ระดบั คุณภาพดมี าก จานวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ระดบั คณุ ภาพดี จานวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ระดบั คุณภาพพอใช้ จานวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ระดบั คุณภาพปรบั ปรงุ จานวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ปัญหา/อปุ สรรค แนวทางการแกไ้ ข ความเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศึกษาหรือผทู้ ี่ไดร้ บั มอบหมาย ) ขอ้ เสนอแนะ ลงช่อื ( ตาแหน่ง 510 หลกั ภาษาฯ ม.3
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 9 การใช้คาในภาษาไทย เรื่องท่ี 3 คำศัพท์ทำงวชิ ำกำรและวชิ ำชีพ ตอนท่ี 2 การตรวจสอบคณุ ภาพนักเรียนเพือ่ เตรียมความพรอ้ มรองรบั การประเมินคณุ ภาพภายนอก รอ้ ยละ ระดบั การศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐาน (ดา้ นคณุ ภาพผเู้ รียน) มาตรฐานที่ 1 ผ้เู รยี นมีสุขภาวะทดี่ ีและมีสุนทรยี ภาพ 1.1 มสี ุขนสิ ยั ในการดแู ลสุขภาพและออกกาลงั กายสมา่ เสมอ 1.2 มนี ้าหนัก ส่วนสูง และมสี มรรถภาพทางกายตามเกณฑ์มาตรฐาน 1.3 ป้องกนั ตนเองจากสงิ่ เสพตดิ ใหโ้ ทษและหลีกเลยี่ งตนเองจากสภาวะทเี่ สยี่ งต่อความรุนแรง โรค ภยั อบุ ตั เิ หตุ และปัญหาทางเพศ 1.4 เหน็ คุณค่าในตนเอง มคี วามมนั่ ใจ กลา้ แสดงออกอยา่ งเหมาะสม 1.5 มมี นุษยสมั พนั ธ์ทดี่ แี ละใหเ้ กยี รตผิ อู้ นื่ 1.6 สรา้ งผลงานจากการเขา้ ร่วมกจิ กรรมดา้ นศลิ ปะ ดนตร/ี นาฏศลิ ป์ กฬี า/นันทนาการตามจนิ ตนาการ มาตรฐานที่ 2 ผ้เู รยี นมคี ณุ ธรรม จริยธรรม และค่านิยมทีพ่ ึงประสงค์ 2.1 มคี ุณลกั ษณะทพี่ งึ ประสงค์ตามหลกั สตู ร 2.2 เอ้อื อาทรผอู้ นื่ และกตญั ญูกตเวทตี ่อผมู้ พี ระคณุ 2.3 ยอมรบั ความคดิ และวฒั นธรรมทแี่ ตกตา่ ง 2.4 ตระหนัก รคู้ ุณคา่ รว่ มอนุรกั ษ์และพฒั นาสงิ่ แวดลอ้ ม มาตรฐานที่ 3 ผ้เู รียนมีทกั ษะในการแสวงหาความร้ดู ้วยตนเอง รกั เรยี นรู้ และพฒั นาตนเองอยา่ งต่อเนือ่ ง 3.1 มนี สิ ยั รกั การอา่ นและแสวงหาความรดู้ ว้ ยตนเองจากหอ้ งสมดุ แหล่งเรยี นรู้ และสอื่ ตา่ งๆ รอบตวั 3.2 มที กั ษะในการอ่าน ฟัง ดู พูด เขยี น และตงั้ คาถามเพอื่ คน้ ควา้ หาความรเู้ พมิ่ เตมิ 3.3 เรยี นรรู้ ว่ มกนั เป็นกลุ่ม แลกเปลยี่ นความคดิ เหน็ เพอื่ การเรยี นรู้ระหวา่ งกนั 3.4 ใชเ้ ทคโนโลยใี นการเรยี นรแู้ ละนาเสนอผลงาน มาตรฐานที่ 4 ผ้เู รยี นมคี วามสามารถในการคิดอย่างเป็นระบบ คิดสร้างสรรค์ ตดั สินใจแกป้ ัญหา ไดอ้ ยา่ งมีสติสมเหตสุ มผล 4.1 สรุปความคดิ จากเรอื่ งทอี่ ่าน ฟัง และดู และสอื่ สารโดยการพูดหรอื เขยี นตามความคดิ ของตนเอง 4.2 นาเสนอวธิ คี ดิ วธิ แี ก้ปัญหาดว้ ยภาษาหรอื วธิ กี ารของตนเอง 4.3 กาหนดเป้าหมาย คาดการณ์ ตดั สนิ ใจแก้ปัญหาโดยมเี หตุผลประกอบ 4.4 มคี วามคดิ รเิ รมิ่ และสรา้ งสรรคผ์ ลงานดว้ ยความภาคภูมใิ จ มาตรฐานที่ 5 ผ้เู รยี นมีความรแู้ ละทกั ษะทีจ่ าเป็นตามหลกั สูตร 5.1 ผลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี นเฉลยี่ แตล่ ะกลุม่ สาระเป็นไปตามเกณฑ์ 5.2 ผลการประเมนิ สมรรถนะสาคญั ตามหลกั สตู รเป็นไปตามเกณฑ์ 5.3 ผลการประเมนิ การอ่าน คดิ วเิ คราะห์ และเขยี นเป็นไปตามเกณฑ์ 5.4 ผลการทดสอบระดบั ชาตเิ ป็นไปตามเกณฑ์ มาตรฐานที่ 6 ผเู้ รยี นมีทกั ษะในการทางาน รกั การทางาน สามารถทางานร่วมกบั ผ้อู นื่ ได้ และมเี จตคติทีด่ ี ต่ออาชีพสจุ ริต 6.1 วางแผนการทางานและดาเนนิ การจนสาเรจ็ 6.2 ทางานอยา่ งมคี วามสขุ มุง่ มนั่ พฒั นางาน และภูมใิ จในผลงานของตนเอง 6.3 ทางานร่วมกบั ผอู้ นื่ ได้ 6.4 มคี วามรสู้ กึ ทดี่ ตี อ่ อาชพี สจุ รติ และหาความรเู้ กยี่ วกบั อาชพี ทตี่ นเองสนใจ 511 หลกั ภาษาฯ ม.3
10หน่วยการเรียนรู้ท่ี การวิเคราะหภ์ าษา 3เวลา ชวั่ โมง 1 มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตวั ชี้วดั ท 4.1 ม.3/2 วเิ คราะหโ์ ครงสรา้ งประโยคซบั ซอ้ น ม.3/3 วเิ คราะหร์ ะดบั ภาษา 2 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การศกึ ษาหลกั ภาษาไทยตอ้ งสามารถวเิ คราะหโ์ ครงสรา้ งประโยคซบั ซอ้ น เพอ่ื สรา้ งประโยคท่สี ละสลวย ส่อื ความหมายไดช้ ดั เจน และวเิ คราะหร์ ะดบั ภาษาทใ่ี ชใ้ นการส่อื สารไดถ้ ูกตอ้ งและเหมาะสม 3 สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรียนรแู้ กนกลาง 1) ประโยคซบั ซอ้ น 2) ระดบั ภาษา 3.2 สาระการเรียนร้ทู ้องถิน่ (พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา) 4 สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน 4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร 4.2 ความสามารถในการคิด 1) ทกั ษะการสรุปลงความคดิ เหน็ 2) ทกั ษะการวเิ คราะห์ 4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต 5 คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มวี นิ ยั 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มงุ่ มนั่ ในการทางาน 512 หลกั ภาษาฯ ม.3
6 ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) การเขยี นเรยี งความ เรอ่ื ง ประเพณีไทย 7 การวดั และการประเมินผล 7.1 การประเมินกอ่ นเรียน - ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 10 เร่อื ง การวเิ คราะหภ์ าษา 7.2 การประเมินระหว่างการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ 1) ตรวจใบงานท่ี 10.1 เรอ่ื ง การวเิ คราะหโ์ ครงสรา้ งประโยคซบั ซอ้ น 2) ตรวจใบงานท่ี 10.2 เร่อื ง การวเิ คราะหร์ ะดบั ภาษา 3) ตรวจแบบบนั ทกึ การอ่าน 4) ประเมนิ การนาเสนอผลงาน 5) สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล 6) สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม 7) สงั เกตคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 7.3 การประเมินหลงั เรียน - ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 10 เรอ่ื ง การวเิ คราะหภ์ าษา 7.4 การประเมินช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) - ตรวจการเขยี นเรยี งความ เรอ่ื ง ประเพณไี ทย 8 กิจกรรมการเรยี นรู้ นกั เรยี นทาแบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 10 513 หลกั ภาษาฯ ม.3
เรอื่ งที่ 1 การวิเคราะห์โครงสรา้ งของประโยค 2 ชวั่ โมง ซบั ซ้อน วิธีสอนแบบ สืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E) ขนั้ ท่ี 1 กระต้นุ ความสนใจ (Engage) ครูสนทนากบั นกั เรยี นเกย่ี วกบั ชนดิ ของประโยค จากนนั้ ใหน้ กั เรยี นรว่ มกนั อภปิ รายถงึ ประโยชนข์ องการเรยี น เร่อื ง ประโยค ขนั้ ท่ี 2 สารวจค้นหา (Explore) 1. ครูแบง่ นักเรยี นเป็นกลมุ่ กลมุ่ ละ 6 คน คละกนั ตามความสามารถ แลว้ ใหแ้ ต่ละคนกาหนดหมายเลข ประจาตวั ใหส้ มาชกิ ภายในกลมุ่ เป็นหมายเลข 1-6 เรยี กว่า กลมุ่ บา้ น 2. ครใู หส้ มาชกิ ทม่ี หี มายเลขเดยี วกนั มารวมกนั เป็นกลุม่ ใหม่ เรยี กว่า กลุ่มผเู้ ชย่ี วชาญ แลว้ ใหแ้ ตล่ ะกลุม่ ศกึ ษา ความรูเ้ ร่อื ง การวเิ คราะหโ์ ครงสรา้ งของประโยคซบั ซอ้ น จากหนงั สอื เรยี น ดงั น้ี - กลมุ่ หมายเลข 1 ศกึ ษาเร่อื ง ประโยคสามญั - กลมุ่ หมายเลข 2 ศกึ ษาเรอ่ื ง ประโยคซอ้ น - กล่มุ หมายเลข 3 ศกึ ษาเรอ่ื ง ประโยครวม - กล่มุ หมายเลข 4 ศกึ ษาเร่อื ง ประโยคสามญั ทซ่ี บั ซอ้ น - กลมุ่ หมายเลข 5 ศกึ ษาเรอ่ื ง ประโยครวมทซ่ี บั ซอ้ น - กล่มุ หมายเลข 6 ศกึ ษาเร่อื ง ประโยคซอ้ นทซ่ี บั ซอ้ น ขนั้ ท่ี 3 อธิบายความรู้ (Explain) นกั เรยี นกลุ่มผเู้ ชย่ี วชาญศกึ ษาความรจู้ นมคี วามเขา้ ใจแลว้ ใหแ้ ยกยา้ ยกนั กลบั ไปยงั กลุ่มบา้ น แลว้ ผลดั กนั อธบิ ายความรตู้ ามทต่ี นไดศ้ กึ ษามาใหส้ มาชกิ ในกลุ่มบา้ นฟังจนมคี วามเขา้ ใจทถ่ี กู ตอ้ ง ขนั้ ท่ี 4 ขยายความเขา้ ใจ (Expand) 1. ครใู หน้ กั เรยี นแต่ละกลมุ่ ชว่ ยกนั วเิ คราะหโ์ ครงสรา้ งของประโยคซบั ซอ้ น ตามทค่ี รกู าหนด 2. นักเรยี นแต่ละกลมุ่ สรุปผลการวเิ คราะหโ์ ครงสรา้ งของประโยคซบั ซอ้ น ตามทค่ี รกู าหนด แลว้ รายงานผล พรอ้ มอธบิ ายประกอบ 3. นักเรยี นแต่ละคนทาใบงานท่ี 10.1 เรอื่ ง การวิเคราะหโ์ ครงสรา้ งประโยคซบั ซ้อน ขนั้ ที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluate) นกั เรยี นและครรู ่วมกนั เฉลยคาตอบในใบงานท่ี 10.1 และสรุปหลกั การวเิ คราะหโ์ ครงสรา้ งประโยคซบั ซอ้ น 514 หลกั ภาษาฯ ม.3
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267