Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หน่วยที่ 2 สิ่งมีชีวิต

หน่วยที่ 2 สิ่งมีชีวิต

Published by kroofontutor1, 2022-08-26 00:51:46

Description: หน่วยที่ 2 สิ่งมีชีวิต

Search

Read the Text Version

รายการประเมนิ ผลการประเมิน เลขที่ ชื่อ-สกุล คววามสามารถในการสื่อสาร รวมคะแนน ความสามารถในการคิด ผ่าน ไมผ่ า่ น ความสามารถในการแ ้ก ัปญหา 4 4 4 คะแนน x น้ำหนกั (5) (5) (5) (60) 17 เดก็ หญิงณภาภัช พุทธปวน 18 เด็กหญงิ กรรณิกา แก้วคำ 19 เด็กหญงิ ปวันพัสตร์ เขยี วเจริญ 20 เด็กหญงิ จริ ัชยา ใจพิงค์ 21 เดก็ หญิงอมรรัตน์ อรุณเรอื งศิรเิ ลศิ 22 เดก็ หญิงปุณยวีร์ ยะบญุ ธง 23 เด็กหญงิ ธัญญาศิริ แฝงเวียง 24 เดก็ หญิงชาตญิ าดา มาแดงสาย 25 เดก็ หญงิ เอมกิ า ศรบี ญุ ยัง 26 เด็กหญงิ ชุติกาญจน์ ชายสัก 27 เด็กหญิงณฐั ศศิ ตยิ ายน 28 เด็กหญงิ ดาลียา ชวลติ เรืองรอง 29 เดก็ หญงิ ศศินภิ า หน่อแนวอ้าย 30 เด็กหญิงพยิ ดา สวุ รรณมา 31 เดก็ หญิงดุจเดือน เคนเครือ 32 เด็กหญงิ กฤตพร เรือนทราย 33 เด็กหญิงชนกานต์ มะโนเพญ็ 34 เด็กหญิงภคั จริ า ใจอ้าย 35 เด็กหญงิ รักษอร ย้มิ นาค 36 เด็กหญงิ ชญานษิ ฐศ์ า ใสสอาด 37 เด็กหญงิ ภัทราภรณ์ สุวรรณมงคล 38 เด็กหญิงปาณณนาถ อ่องสมบูรณ์ 39 เดก็ หญิงพรหมนำ้ มนต์ ปินทรายมูล

รายการประเมนิ ผลการประเมิน เลขท่ี ช่ือ-สกลุ คววามสามารถในการสื่อสาร รวมคะแนน ความสามารถในการคิด ผา่ น ไมผ่ า่ น ความสามารถในการแ ้ก ัปญหา 4 44 คะแนน x น้ำหนกั (60) (5) (5) (5) 40 เดก็ หญิงวัฒนวดี มั่นกลน่ิ เกณฑก์ ารตัดสนิ คะแนน 49 - 60 หมายถงึ ดีมาก คะแนน 37 - 48 หมายถงึ ดี คะแนน 26 - 36 หมายถึง พอใช้ คะแนน 0 - 25 หมายถงึ ปรบั ปรงุ เกณฑ์การผา่ น ต้ังแต่ระดับดีขึ้นไป ลงชือ่ …………………………………………… (นางสาวสายฝน ตะ๊ วนั นา) ผปู้ ระเมนิ

เกณฑก์ ารประเมินทักษะแหง่ ศตวรรษท่ี 21 ทักษะแหง่ ระดบั คะแนน นำ้ หนกั 5 ศตวรรษที่ 21 3 2 1 5 การส่ือสาร (C4) สามารถนำเสนอข้อมลู สามารถนำเสนอข้อมลู สามารถนำเสนอข้อมลู 5 จากการอภปิ ราย จากการอภปิ ราย จากการอภปิ ราย เกีย่ วกบั การจำแนกกลมุ่ เกีย่ วกบั การจำแนกกลมุ่ เกี่ยวกับการจำแนกกลุม่ สัตวม์ กี ระดูกสันหลังโดย สตั วม์ กี ระดูกสันหลงั โดย สตั วม์ ีกระดกู สันหลงั โดย ใช้ลกั ษณะเฉพาะที่ ใชล้ ักษณะเฉพาะท่ี ใช้ลักษณะเฉพาะท่ี สงั เกตได้เปน็ เกณฑ์ได้ สงั เกตได้เปน็ เกณฑ์ได้ สงั เกตไดเ้ ป็นเกณฑ์ได้ อยา่ งถูกตอ้ งด้วยตนเอง อย่างถกู ตอ้ ง จากการ ถกู ตอ้ งบางส่วน แมว้ า่ ช้แี นะของครูหรือผู้อื่น จะไดร้ บั คำชี้แนะจากครู หรอื ผู้อืน่ ความร่วมมือ (C5) สามารถทำงานรว่ มกบั สามารถทำงานรว่ มกับ สามารถทำงานร่วมกับ ผอู้ ่ืนในการสังเกต การ ผอู้ น่ื ในการสังเกต การ ผู้อนื่ ได้ในบางคร้ังท่ที ำ นำเสนอ และการแสดง นำเสนอ และการแสดง กจิ กรรม แมว้ า่ จะได้ ความคิดเห็น เพ่อื ความคิดเหน็ เพือ่ รบั คำช้แี นะจากครูหรือ จำแนกกลุ่มสตั วม์ ี จำแนกกลมุ่ สัตว์มี ผูอ้ ืน่ กระดกู สนั หลงั ตาม กระดกู สนั หลงั ตาม ลักษณะเฉพาะทส่ี ังเกต ลกั ษณะเฉพาะทส่ี ังเกต ได้เปน็ เกณฑ์ รวมทั้ง ได้เปน็ เกณฑ์ รวมทงั้ ยอมรบั ความคดิ เห็นของ ยอมรับความคดิ เห็นของ ผู้อนื่ ต้งั แต่เรมิ่ ต้นจน ผอู้ ื่นได้ จากการชี้แนะ สำเรจ็ ของครูหรือผ้อู ่ืน การใชเ้ ทคโนโลยี สามารถlบค้นขอ้ มลู ทาง สามารถสบื ค้นขอ้ มลู สามารถสืบค้นขอ้ มลู สารสนเทศและการ อนิ เทอร์เน็ตเกยี่ วกับ ทางอินเทอร์เน็ต ทางอินเทอร์เนต็ สือ่ สาร (C6) ตัวอยา่ งชือ่ สตั วม์ ีกระดกู เก่ยี วกบั ตัวอย่างช่ือชอื่ เกยี่ วกบั ตวั อย่างช่ือช่ือ สนั หลงั ในกลมุ่ ตา่ งๆ ได้ สัตวม์ กี ระดูกสันหลงั ใน สัตวม์ กี ระดูกสันหลงั ใน ถูกตอ้ ง ด้วยตนเอง กลุ่มต่างๆ ไดถ้ ูกต้อง กลุ่มต่างๆ ได้ถูกต้อง จากการชแ้ี นะของครู บางส่วน แม้ว่าจะได้ หรอื ผู้อ่นื รับคำช้ีแนะจากครูหรือ ผอู้ ื่น

เกณฑก์ ารตัดสนิ คะแนน 36 – 45 หมายถึง ดมี าก ดี คะแนน 31 - 35 หมายถึง พอใช้ ปรบั ปรงุ คะแนน 27 - 30 หมายถึง คะแนน 0 - 26 หมายถึง เกณฑ์การผา่ น ตง้ั แตร่ ะดบั ดีขึน้ ไป

แบบประเมนิ ทักษะแหง่ ศตวรรษที่ 21 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 2 สงิ่ มชี วี ิต บทที่ 1 สิ่งมีชวี ิตรอบตวั เร่ือง เราจำแนกสัตวม์ ีกระดูกสันหลังได้อยา่ งไร คำชแ้ี จง : แบบประเมินฉบบั น้ีเป็นการประเมนิ ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 โดยการประเมินพฤติกรรมทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 ตามระดับคะแนนผเู้ รียนลงในช่องรายการประเมนิ ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 4/5 รายการประเมนิ ผลการประเมนิ เลขที่ ช่อื -สกุล การส่ือสาร (C4) รวม ความร่วม ืมอ (C5) คะแนน การใ ้ชเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร (C6) ผา่ น ไม่ผา่ น 3 3 3 คะแนน x นำ้ หนกั (5) (5) (5) (45) 1 เดก็ ชายเมธาวชิ ย์ มาสัก 2 เดก็ ชายตรภี พ วฒุ ธิ รรมกุล 3 เดก็ ชายพัฒนรัฐ พยคั ฆันตร 4 เด็กชายกลวชั ร ปกติ 5 เดก็ ชายปกรณ์ บญุ มา 6 เด็กชายอทิ ธพิ ล ปิงชยั 7 เด็กชายเปย่ี มสุข หมืน่ สขุ 8 เดก็ ชายณฎั ฐากร จนิ ายะ 9 เด็กชายบุญวีร์ วไิ ลสง่ากลุ 10 เด็กชายสริ วิชญ์ วฒั นาพันธ์ุ 11 เด็กชายชิษณพุ งศ์ สสุ มวงค์ 12 เดก็ ชายพรี ะพงษ์ ปกุ เจรญิ 13 เดก็ ชายธติ ิวุฒิ เชาว์แล่น

รายการประเมิน ผลการประเมนิ เลขที่ ชอ่ื -สกุล การส่ือสาร (C4) รวม ความร่วม ืมอ (C5) คะแนน การใ ้ชเทคโนโล ียสารสนเทศและการส่ือสาร (C6) ผา่ น ไมผ่ า่ น 3 3 3 คะแนน x นำ้ หนัก (5) (5) (5) (45) 14 เด็กชายศจั นันท์ กนั แดง 15 เด็กชายวชิรวิทย์ ขวัญเขียว 16 เดก็ หญงิ กมลฉัตร มงั่ มูล 17 เดก็ หญิงณภาภชั พุทธปวน 18 เดก็ หญิงกรรณิกา แก้วคำ 19 เดก็ หญิงปวันพสั ตร์ เขียวเจรญิ 20 เดก็ หญงิ จิรชั ยา ใจพงิ ค์ 21 เด็กหญิงอมรรัตน์ อรุณเรืองศิริเลศิ 22 เด็กหญงิ ปุณยวีร์ ยะบุญธง 23 เด็กหญงิ ธัญญาศิริ แฝงเวยี ง 24 เดก็ หญิงชาตญิ าดา มาแดงสาย 25 เดก็ หญงิ เอมิกา ศรบี ญุ ยัง 26 เด็กหญงิ ชุติกาญจน์ ชายสัก 27 เด็กหญิงณฐั ศศิ ตยิ ายน 28 เด็กหญิงดาลียา ชวลติ เรืองรอง 29 เด็กหญงิ ศศินิภา หนอ่ แนวอ้าย 30 เด็กหญงิ พยิ ดา สุวรรณมา 31 เดก็ หญงิ ดจุ เดอื น เคนเครือ 32 เด็กหญิงกฤตพร เรอื นทราย 33 เด็กหญงิ ชนกานต์ มะโนเพ็ญ

รายการประเมนิ ผลการประเมิน เลขที่ ชือ่ -สกุล การส่ือสาร (C4) รวม ความร่วม ืมอ (C5) คะแนน การใ ้ชเทคโนโล ียสารสนเทศและการส่ือสาร (C6) ผ่าน ไมผ่ า่ น 3 3 3 คะแนน x น้ำหนกั (5) (5) (5) (45) 34 เดก็ หญงิ ภคั จิรา ใจอา้ ย 35 เดก็ หญงิ รักษอร ย้มิ นาค 36 เดก็ หญงิ ชญานษิ ฐ์ศา ใสสอาด 37 เด็กหญิงภัทราภรณ์ สวุ รรณมงคล 38 เดก็ หญงิ ปาณณนาถ ออ่ งสมบูรณ์ 39 เด็กหญิงพรหมน้ำมนต์ ปินทรายมูล 40 เดก็ หญิงวฒั นวดี มน่ั กลน่ิ เกณฑก์ ารตดั สิน คะแนน 36 – 45 หมายถงึ ดมี าก คะแนน 31 - 35 หมายถึง ดี คะแนน 27 - 30 หมายถึง พอใช้ คะแนน 0 - 26 หมายถึง ปรบั ปรงุ เกณฑก์ ารผา่ น ต้งั แต่ระดบั ดขี นึ้ ไป ลงชื่อ …………………………………………… (นางสาวสายฝน ต๊ะวันนา) ผู้ประเมนิ

13. บนั ทึกผลหลงั การจดั การเรยี นรู้ 13.1 ด้านความรู้ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 13.2 ด้านทกั ษะกระบวนการ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 13.3 ดา้ นเจตคติ คา่ นยิ ม คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 13.4 ด้านคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 13.5 ดา้ นสมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 14.6 ปัญหา อปุ สรรค และแนวทางแกไ้ ข ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 13.6 ขอ้ เสนอแนะ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ ……………………………………… (นางสาวสายฝน ต๊ะวันนา) ครผู ู้สอน

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 8 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รหัสวชิ า ว 14101 วิชา วทิ ยาศาสตรพ์ นื้ ฐาน ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศกึ ษา 2565 หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 2 สง่ิ มชี ีวติ บทที่ 1 สงิ่ มีชีวิตรอบตัว เรื่อง เราจำแนกพืชไดอ้ ยา่ งไร เวลา 2 ชั่วโมง ชือ่ ผสู้ อน นางสาวสายฝน ตะ๊ วันนา โรงเรียนอนุบาลลำพนู วันทีส่ อน ………………………………………… 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ว 1.3 เข้าใจกระบวนการและความสำคัญของการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม สารพนั ธุกรรม การเปลี่ยนแปลงทางพนั ธุกรรมท่มี ผี ลตอ่ สิ่งมีชีวติ ความหลากหลายทางชวี ภาพและวิวัฒนาการ ของสิง่ มชี ีวติ รวมทงั้ นำความรู้ไปใช้ประโยชน์ ตวั ชวี้ ดั ว 1.3 ป. 4/2 จำแนกพืชออกเป็นพชื ดอกและพชื ไมม่ ีดอก โดยใช้การมดี อกเปน็ เกณฑ์ โดยใช้ขอ้ มูลท่ี รวบรวมได้ 2. สาระสำคญั สิ่งมีชีวิตมหี ลายชนิดซงึ่ มลี ักษณะบางอย่างเหมือนกนั และแตกตา่ งกนั ซ่งึ สามารถนำมาใช้เป็นเกณฑ์ ในการจำแนกสิ่งมีชีวิตออกเป็นกลุ่มพืช กลุ่มสัตว์ และกลุ่มที่ไม่ใช่พืชและสัตว์ ในกลุ่มพืชและกลุ่มสัตว์ ยงั สามารถจัดเปน็ กล่มุ ย่อยไดอ้ ีกข้นึ อยู่กบั เกณฑท์ ี่ใช้ 3. จุดประสงค์การเรยี นรู้ ด้านความรู้ (K) - สามารถอธิบายลักษณะของพชื มีดอกและพชื ไม่มดี อกได้ - สามารถยกตัวอยา่ งของพืชมีดอกและพชื ไมม่ ีดอกได้ ด้านทกั ษะกระบวนการ (P) - สามารถสังเกตและจำแนกพืชดอกและพชื ไมม่ ดี อก โดยใช้การมีดอกเปน็ เกณฑ์ได้ ดา้ นคณุ ลกั ษณะทีพ่ ึงประสงค์ (A) - นกั เรยี นมคี วามสนใจใฝเ่ รียนรู้ 4. สาระการเรียนรู้ การจำแนกพชื สามารถใช้การมดี อกเปน็ เกณฑ์ในการจำแนกได้เปน็ พชื ดอกและพชื ไม่มีดอก

5. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน  ความสามารถในการส่อื สาร  ความสามารถในการคิด  ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 6. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์  มวี ินัย  ใฝเ่ รียนรู้  มงุ่ มนั่ ในการทำงาน 7. ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์  ทกั ษะการสงั เกต (S1)  ทกั ษะการจำแนกประเภท (S4)  ทักษะการจัดกระทำและสื่อความหมายข้อมูล (S6)  ทกั ษะการลงความเหน็ จากข้อมูล S8)  ทักษะการตีความหมายข้อมลู และการลงข้อสรปุ ข้อมูล (S13) 8. กิจกรรมบูรณาการแนวคดิ การจดั การเรยี นรู้ในศตวรรษท่ี 21  การส่ือสาร (C4)  ความรว่ มมอื (C5)  ความใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร (C6) 9. ชนิ้ งาน/ภาระงาน 9.1 ภาระงาน: แบบบันทึกกจิ กรรมที่ 1.4 เราจำแนกพืชไดอ้ ยา่ งไร (ในหนงั สอื แบบบันทึกกจิ กรรมรายวิชา พืน้ ฐาน วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี เล่ม 1 ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 4 หน้าท่ี 56-60)

10. กิจกรรมการเรยี นรู้ วิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) 10.1 ข้นั นำเข้าส่บู ทเรียน (Engagement) 1. ครูทบทวนความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับส่วนต่าง ๆ ของพืช โดยนำภาพพืชจำนวน 5 ชนิด ได้แก่ เฟิน ดาวเรอื ง ตะไคร้ มะม่วง ตำลงึ ตดิ ไวบ้ นกระดาน และมบี ตั รคำช่ือส่วนต่าง ๆ ของพชื เพือ่ ให้นักเรียนนำ บัตรคำไปติดลงบนภาพพืช จากน้นั ใช้แนวคำถามดังต่อไปน้ี ภาพท่ี 1 เฟิน ภาพที่ 2 ดอกดาวเรือง ภาพที่ 3 ตะไคร้ (ทมี่ าภาพที่ 1: https://sites.google.com/site/kingdomplantae109/fi-lam-the-x-ro-fi-ta) (ท่มี าภาพท่ี 2: http://namwan2222.blogspot.com/2018/09/blog-post_12.html) (ทม่ี าภาพท่ี 3: https://health.kapook.com/view101762.html) ภาพท่ี 4 ดอกมะม่วง ภาพที่ 5 ดอกตำลงึ (ท่มี าภาพที่ 4: https://sites.google.com/site/riderorganic/bangkhab-mamwng-xxkdxk) (ทีม่ าภาพที่ 5: https://sites.google.com/site/mygalaxysky/talung) ครู: พชื แตล่ ะชนดิ มีส่วนประกอบอะไรบ้าง? (แนวคำตอบ: ราก ลำตน้ ใบ ดอก ผล) ครู: พชื ทงั้ 6 ชนิดน้ี มีส่วนต่าง ๆ ครบทกุ สว่ นหรือไม่? (แนวคำตอบ: คำตอบขึน้ อยูก่ บั ภาพพืชทนี่ ักเรียนสงั เกต เช่น เฟิน มสี ว่ นประกอบไมค่ รบ คือ ไม่มีด อก และผล ดาวเรอื ง มสี ว่ นประกอบไม่ครบ คือ ไมม่ ผี ล ตะไคร้ มสี ว่ นประกอบไม่ครบ คือ ไม่มดี อก และผล มะมว่ ง มีสว่ นประกอบครบ)

ครู: ถา้ ตอ้ งการจำแนกพชื 5 ชนดิ น้ี ออกเปน็ กลมุ่ จะจำแนกได้กี่กลุ่ม อะไรบา้ ง? (แนวคำตอบ: ตอบตามความคดิ เห็นของนกั เรียน) คร:ู ใช้เกณฑใ์ ดในการจำแนกพชื ทง้ั 5 ชนิด? (แนวคำตอบ: ตอบตามความคดิ เห็นของนกั เรยี น) 2. ครนู ำเขา้ ส่บู ทเรียนโดยการถามคำถาม เพอื่ กระตุ้นให้นักเรยี นสนใจ โดยให้นกั เรียนดูภาพ ดงั ตอ่ ไปน้ี ภาพที่ 6 ดอกทานตะวัน (ท่ีมา: https://www.tcs-mart.com/product/sunflower-oil/) คร:ู จากภาพคอื ดอกอะไร? (แนวคำตอบ: ดอกทานตะวนั ) ครู: ดอกทานตะวนั จัดเป็นสิ่งมีชวี ติ หรือไม่? (แนวคำตอบ: เปน็ สิง่ มชี ีวิต) คร:ู ดอกทานตะวนั เปน็ ส่ิงมีชวี ติ กลุ่มใด? (แนวคำตอบ: กล่มุ พืช) ครู: สง่ิ มีชีวิตกลมุ่ พืชมลี กั ษณะอย่างไร? (แนวคำตอบ: หายใจได้ สรา้ งอาหารเองได้ และเคลื่อนไหวได้ แต่เคล่อื นทไ่ี มไ่ ด)้ คร:ู ให้นักเรยี นยกตัวอยา่ งพชื ทีน่ กั เรียนเห็นในชวี ติ ประจำวัน? (แนวคำตอบ: ตอบตามความคิดเห็นของนกั เรยี น) คร:ู กลุ่มส่ิงมีชวี ิตกลุม่ พชื ท่เี ราเหน็ ทุกวันนี้ นักเรียนสามารถจำแนกออกเปน็ กลุ่มไดห้ รือไม่? (แนวคำตอบ: ได้) คร:ู นกั เรยี นสามารถจำแนกพชื ออกเปน็ กลุ่มใดได้บา้ ง? (แนวคำตอบ: ตอบตามความคิดเห็นของนักเรียน) 3. ครูพดู เชือ่ มโยงและนำไปสกู่ ารทดลอง

10.2 ขน้ั สำรวจและค้นหา (Exploration) 1. ครูให้นักเรียนแบง่ กลมุ่ กลุ่มละ 5-6 คน ปฏิบตั กิ จิ กรรมและช้แี จงกจิ กรรมท่ี 1.4 เรอ่ื ง เราจำแนกพืช ไดอ้ ย่างไร ดงั นี้ จุดประสงค์ 1) สังเกต สืบค้นขอ้ มลู และบอกสว่ นต่าง ๆ ของพชื 2) จำแนกพชื ออกเปน็ กลุ่ม โดยใชก้ ารมีดอกเปน็ เกณฑ์ วสั ดุและอุปกรณ์ 1) บตั รภาพพืชชนดิ ต่าง ๆ 2) แว่นขยาย วธิ กี ารดำเนินกิจกรรม 1) สังเกตสว่ นต่าง ๆ ของพืชจากบัตรภาพ ออกแบบตารางและบนั ทึกผล 2) ร่วมกันสืบค้นขอ้ มูลเพิ่มเติมเกยี่ วกบั ส่วนตา่ ง ๆ ของพืช บันทึกผลลงในตาราง 3) ร่วมกนั อภปิ รายและจำแนกพืชออกเปน็ กลมุ่ ตามเกณฑท์ ่กี ลุ่มกำหนด บนั ทกึ ผล และนำเสนอ 4) รว่ มกนั อภิปรายและจดั กล่มุ พชื ตามเกณฑ์การมดี อก บันทึกผล และนำเสนอในรปู แบบทีน่ า่ สนใจ 2. ครใู ห้เวลานักเรยี นทำกิจกรรม และบันทึกผลการทดลองลงในใบบนั ทกึ กจิ กรรมท่ี 1.4 10.3 ขนั้ อภปิ รายและลงขอ้ สรปุ (Explanation) 1. ครูให้นักเรียนนำเสนอผลการทำกิจกรรม จากนั้นครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายโดยใช้คำถาม ดังต่อไปน้ี ครู: พชื ท่ีนักเรยี นสงั เกตมลี ักษณะเหมือนหรือแตกตา่ งกัน อย่างไร? (แนวคำตอบ: นักเรียนตอบตามข้อมูลที่ค้นพบได้จริง เช่น พืชทุกชนิดมีอวัยวะเหมือนกัน แต่มีลักษณะของอวัยวะแตกต่างกัน เช่น ใบพืชบางชนิดมีเสน้ ใบเป็นร่างแห บางชนิดมีเส้นใบไม่เป็นรา่ งแห และพืชบางชนิดมผี ลบางชนิดไมม่ ีผล พืชบางชนิดตน้ ใหญ่ บางชนิดต้นเลก็ ) คร:ู นักเรียนใช้เกณฑ์ใดบ้างในการจดั กล่มุ พืช? (แนวคำตอบ: เช่น การมใี บ มผี ล มดี อกหรือ ลักษณะของใบ ขนาดของต้น) ครู: เกณฑ์ต่าง ๆ ที่นักเรียนกำหนดขึ้นสามารถจำแนกพืชออกเป็นกลุม่ ไดเ้ หมือนหรือแตกตา่ งกนั เพราะเหตใุ ด? (แนวคำตอบ: แตกต่างกัน เพราะเม่ือใช้เกณฑท์ ่ตี า่ งกนั ทำให้จำแนกพืชออกเปน็ กลุ่มได้แตกต่างกัน) ครู: เมื่อใช้การมีดอกเปน็ เกณฑ์ จะจัดกลมุ่ พชื ไดเ้ ปน็ ก่ีกลุ่ม อะไรบา้ ง? (แนวคำตอบ: เมอ่ื ใชก้ ารมีดอกเป็นเกณฑ์ จะจดั กลมุ่ พชื ไดเ้ ปน็ 2 กล่มุ คือ กลุ่มพชื ดอกและกลุ่มพืช ไมม่ ดี อก) ครู: จากกจิ กรรมพชื ทีม่ ีดอก ไดแ้ กอ่ ะไรบา้ ง (แนวการตอบ: มะพร้าว เข็ม กหุ ลาบ ลำไย) คร:ู จากกจิ กรรมพชื ทไี่ มม่ ีดอก ได้แกอ่ ะไรบ้าง (แนวการตอบ: สนสองใบ ปรง มอส เฟนิ )

2. ครูยกตัวอย่างพืชไม่มีดอกอื่น ๆ ที่นอกเหนือจากกิจกรรม เพื่อเป็นการเพิ่มข้อมูลให้แก่นักเรียน ได้รู้จักพชื ทหี่ ลากหลายขึน้ ภาพที่ 7 เห็ด ภาพท่ี 8 สาหรา่ ย ภาพที่ 9 ตะไคร้ (ทีม่ าภาพท่ี 7: https://pxhere.com/th/photo/178035) (ทมี่ าภาพที่ 8: https://today.line.me/th/pc/article/) (ทีม่ าภาพท่ี 9: https://health.kapook.com/view101762.html) 3. ร่วมกันอภิปรายและลงข้อสรุปว่าพืชแต่ละชนิดมีลักษณะภายนอกบางอย่างที่เหมื อนกัน และบางอย่างที่แตกต่างกัน เราสามารถนาลักษณะเหล่านี้ มาใช้เป็นเกณฑ์ในการจำแนกกลุ่มพืชได้ ซง่ึ หากใช้การมดี อกเป็นเกณฑ์ จะจำแนกพชื ไดเ้ ปน็ พชื ดอกและพชื ไมม่ ีดอก 10.4 ขนั้ ขยายความรู้ (Elaboration) 1. ครอู ธบิ ายเพม่ิ เตมิ เกยี่ วกับการสบื พันธ์ุของพชื มดี อกและพืชไม่มดี อก ครู: การสืบพันธุ์ของพืชมีดอก พืชมีดอกจะอาศัยดอกในการสืบพันธุ์ เรียกว่า การสืบพันธุ์ แบบอาศยั เพศ คร:ู การสืบพันธข์ุ องพชื ไมม่ ีดอก พืชไมม่ ดี อก เปน็ พชื ทม่ี สี ว่ นประกอบไมค่ รบถว้ นเหมือนกับพืชดอก ที่สำคัญคือ พืชไม่มีดอกทุกชนิดจะไม่มีดอก จึงไม่สามารถสืบพันธุ์โดยใช้เมล็ดได้ พืชไม่มีดอกมกี ารสบื พันธุ์ โดยไม่ตอ้ งอาศยั เพศ ดงั นี้ คร:ู 1) การแบง่ เซลล์ เป็นการสืบพนั ธขุ์ องพืชเซลล์เดียว พชื ไรด้ อกทีส่ บื พนั ธ์ุโดยการแบง่ เซลล์ ไดแ้ ก่ สาหรา่ ย ตะไครน่ ้ำ และแบคทเี รีย

ครู: 2) การแตกหน่อ คือ การแตกหน่อของพืชไร้ดอก คือ การงอกเซลล์ใหม่ออกมาจากลำต้นเดิม ในลกั ษณะทีพ่ อง หรอื ปดู ออกมาข้าง ๆ เมอ่ื เซลล์ใหม่ที่งอกออกมาเจริญเติบโตเต็มที่ กจ็ ะหลดุ ออกไป ครู: 3) การใช้สปอร์ สปอร์เป็นละอองเล็ก ๆ คล้ายฝุ่นที่พืชไร้ดอกหลายชนิดสร้างขึ้น เพือ่ ใชใ้ นการสบื พนั ธุ์ สปอรข์ องพืชไรด้ อกแตล่ ะชนิดมจี ำนวนมาก เมอื่ สปอร์เจรญิ เตบิ โตเต็มท่ี จะรว่ งหรอื ปลิว งอกเปน็ พชื ใหม่ได้ ครู: 4) การงอกใหม่ เช่น สาหร่าย เป็นสิ่งที่มีประโยชน์มาก ภายในเซลล์สาหร่ายทุกชนิดจะมี สารสีเขียวเรียกว่า คลอโรฟิลล์ จึงสร้างอาหารได้โดยการสังเคราะห์แสง สาหร่ายพบได้ทั่วไปทั้งในน้ำจืด และนำ้ เคม็ มหี ลายขนาดต้งั แต่เซลลเ์ ดียวจนกระท่ังมองเหมือนพืชข้นั สงู ท่ัวไป 2. นักเรียนร่วมกันอภิปรายคำตอบใน ฉันรู้อะไร โดยครูอาจเพ่ิมเติมคำถามในการอภิปรายเพ่ือใหไ้ ด้ แนวคำตอบทถี่ กู ตอ้ ง คร:ู ส่วนต่าง ๆ ของพชื ทพ่ี บในพชื ทกุ ชนดิ มีอะไรบา้ ง? (แนวคำตอบ: ราก ลำต้น ใบ (พืชบางชนิดไม่มีรากที่แท้จริง แต่มีส่วนที่คล้ายรากและทำหน้าท่ี เหมอื นรากเรยี กวา่ รากเทียม)) ครู: ส่วนใดของพชื ทมี่ ีพชื อาจมีแตกต่างกนั ? (แนวคำตอบ: ดอก และผล) ครู: ผลการจำแนกพืชโดยใช้เกณฑ์ที่กลุ่มกำหนดและใช้เกณฑ์การมีดอกเหมือนหรือแตกต่างกัน อย่างไร? (แนวคำตอบ: คำตอบขึ้นอยู่กับการทำกิจกรรมของนักเรียน เช่น เหมือนกัน เพราะกลุ่มกำหนด เกณฑ์การมีดอก หรอื แตกต่างกัน เพราะกล่มุ ใช้เกณฑ์การมีผล ทำใหจ้ ำแนกพชื ออกเปน็ กลุ่มได้แตกต่างกัน และรายช่อื พชื ในกล่มุ ทีจ่ ำแนกกแ็ ตกตา่ งกนั ด้วย) ครู: จากกจิ กรรมนี้ ค้นพบอะไรบา้ งเกี่ยวกับการจำแนกพชื ? (แนวคำตอบ: พืชแต่ละชนิดมีลักษณะภายนอกบางอย่างที่เหมือนกันและบางอย่างที่แตกต่างกัน สามารถนำลักษณะเหล่านี้มาใช้เป็นเกณฑ์ในการจำแนกพืชออกเป็นกลุ่มได้ ซึ่งถ้าใช้การมีดอกเป็นเกณฑ์ จะจำแนกพชื ได้เปน็ กลุ่มพืชดอกและกล่มุ พชื ไม่มีดอก) ครู: จากสิ่งที่ค้นพบ สรปุ ได้ว่าอย่างไร (แนวคำตอบ: ถา้ ใชก้ ารมีดอกเปน็ เกณฑ์ จะจำแนกพืชไดเ้ ป็นพชื ดอกและพืชไมม่ ีดอก) 3. ครูใหน้ ักเรียนทำใบงานที่ 4 เรอ่ื ง การจำแนกพชื และแบบฝึกหดั ทา้ ยบทที่ 1 เรอ่ื งสง่ิ มีชวี ิตรอบตัว

10.5 ขน้ั ประเมนิ ผล (Evaluation) 1. ครใู ห้นักเรียนแต่ละคนพิจารณาวา่ จากหัวข้อท่ีเรยี นและการปฏิบัติกิจกรรมนนั้ นักเรียนมีจุดใดบ้าง ที่ยงั ไมเ่ ข้าใจหรือยังมขี อ้ สงสัย ถามมีครชู ว่ ยอธบิ ายเพิม่ เติมให้นกั เรยี นเข้าใจ 2. ครทู ดสอบความเข้าของนกั เรยี นโดยใชค้ ำถาม 3. สังเกตพฤตกิ รรมในระหวา่ งปฏิบัตกิ จิ กรรมการทดลอง 4. ตรวจใบบันทกึ ผลการทดลองท่ี 1.4 เร่อื ง เราจำแนกพชื ไดอ้ ยา่ งไร 11. ส่ือการเรยี นรู้/แหลง่ เรียนรู้ 11.1 ส่ือการเรียนรู้ - หนังสอื เรียนรายวชิ าพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 4 เล่ม 1 หน้าท่ี 65-68 - แบบบนั ทึกกจิ กรรมท่ี 1.4 เราจำแนกพชื ไดอ้ ย่างไร (ในหนังสอื แบบบันทกึ กิจกรรม รายวชิ าพ้นื ฐาน วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี เลม่ 1 ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 4 หน้าท่ี 56-60) - สอ่ื นำเสนอ PowerPoint เรอื่ ง เราจำแนกพืชได้อยา่ งไร 11.2 แหล่งเรยี นรู้ - ห้องสมุดโรงเรียน - ห้องปฏิบตั ิการทางวิทยาศาสตร์ 12. การวัดผลและการประเมนิ ผลการเรียนรู้ 12.1 การวดั ผล การวัดผลและ รายการ เครื่องมอื การวัด วธิ กี ารวัด เกณฑก์ ารประเมิน การประเมนิ ผล ประเมนิ ด้านความรู้ (K) 1. นักเรยี น แบบบันทึก ตรวจแบบบันทึก - ได้คะแนนอยูใ่ นเกณฑ์ ส า ม า ร ถ อ ธ ิ บ าย กจิ กรรมท่ี 1.4 กจิ กรรมที่ 1.4 ระดบั ดขี นึ้ ไป ลักษณะของพืชมี เราจำแนกพืชได้ เราจำแนกพชื ได้อยา่ งไร ดอกและพืชไม่มี อยา่ งไร ดอกได้ 2. นกั เรยี นสามารถ ยกตัวอย่างของพืช มีดอกและพืชไม่มี ดอกได้

การวัดผลและ รายการ เคร่ืองมือการวดั วิธีการวดั เกณฑ์การประเมนิ การประเมนิ ผล ประเมิน ไดค้ ะแนนอยู่ในเกณฑ์ ด้านทักษะ แบบประเมินทักษะ สงั เกตทักษะ ระดบั ดขี ้ึนไป กระบวนการ (P) นกั เรยี นสามารถ กระบวนการทาง กระบวนการทาง จำแนกพชื มีดอก วทิ ยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ได้คะแนนอยใู่ นเกณฑ์ ด้านคุณลกั ษณะ และพืชไมม่ ีดอกได้ ระดับดขี นึ้ ไป อนั พึงประสงค์ แบบประเมิน สังเกตพฤตกิ รรม 1. ซ่อื สตั ย์สจุ ริต คุณลักษณะ นกั เรียนด้าน 2. มีวินัย อันพงึ ประสงค์ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 3. ใฝเ่ รยี นรู้ 4. มงุ่ มน่ั ในการ ทำงาน สมรรถนะสำคัญ 1. ความสามารถใน - แบบประเมนิ สงั เกตพฤตกิ รรม ได้คะแนนอยใู่ นเกณฑ์ ของผู้เรยี น นกั เรยี นขณะปฏบิ ัติ ระดบั ดีขึน้ ไป การสื่อสาร สมรรถนะของ กจิ กรรม ไดค้ ะแนนอย่ใู นเกณฑ์ 2. ความสามารถใน ผูเ้ รยี น ระดบั ดขี ึ้นไป การคิด 3. ความสามารถใน การแกป้ ญั หา ทกั ษะแห่งศตวรรษ 1. การสื่อสาร แบบประเมินทักษะ การสังเกตพฤตกิ รรม ท่ี 21 แหง่ ศตวรรษที่ 21 นกั เรียนขณะปฏิบัติ 2. ความร่วมมือ กจิ กรรม 3. การใชเ้ ทคโนโลยี สารสนเทศและการ สื่อสาร

12.2 เกณฑ์การประเมินผล เกณฑก์ ารประเมินแบบบนั ทึกกิจกรรม ประเดน็ ระดบั คะแนน นำ้ หนัก 1 การประเมนิ 4 3 2 เน้อื หาสาระของ 5 ผลงานไม่ถกู ต้อง 1. ความถูกต้อง เน้ือหาสาระของ เนอ้ื หาสาระของ เนอ้ื หาสาระของ เปน็ สว่ นใหญ่ การนำเสนอไม่ 3 ของเนือ้ หา ผลงานถกู ตอ้ ง ผลงานถูกต้อง ผลงานถูกตอ้ ง เป็นไปตามเกณฑ์ ครบถ้วน เป็นส่วนใหญ่ บางประเดน็ ผลงานไม่มีความ 2 เป็นระเบยี บ 2. รปู แบบ การนำเสนอ การนำเสนอ การนำเสนอ น่าสนใจและ ถูกตอ้ งเป็นส่วน ถูกต้องบางส่วน เหมาะสมกับ ใหญ่ สถานการณ์ 3. ความเปน็ ผลงานมีความ ผลงานสว่ นใหญ่ ผลงานมี ระเบียบ เปน็ ระเบยี บ มีข้อบกพร่อง ข้อบกพร่อง บางสว่ น เกณฑ์การตดั สิน คะแนน 33 - 40 หมายถึง ดีมาก คะแนน 25 - 32 หมายถึง ดี คะแนน 17 - 24 หมายถงึ พอใช้ คะแนน 10 - 16 หมายถงึ ปรับปรงุ เกณฑ์การผา่ น ต้ังแตร่ ะดบั ดขี ้นึ ไป

แบบประเมินแบบบันทกึ กิจกรรม ผลการประเมนิ หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 2 สง่ิ มชี ีวติ บทท่ี 1 สง่ิ มีชีวติ รอบตวั เรอ่ื ง เราจำแนกพชื ไดอ้ ยา่ งไร คำชแ้ี จง : แบบประเมินฉบบั น้ีเปน็ การประเมนิ แบบบันทึกกิจกรรม โดยการประเมินระดับคะแนนลงในช่องคะแนน ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 4/5 รายการประเมิน เลขท่ี ช่อื -สกลุ ความ ูถกต้องของเนื้อหา รวมคะแนน รูปบบ ผ่าน ไมผ่ ่าน 1 เดก็ ชายเมธาวชิ ย์ มาสัก ความเ ็ปนระเ ีบยบ 2 เดก็ ชายตรภี พ วุฒิธรรมกลุ 3 เด็กชายพฒั นรัฐ พยคั ฆันตร 4 4 4 คะแนน x น้ำหนกั 4 เด็กชายกลวัชร ปกติ 5 เด็กชายปกรณ์ บญุ มา (5) (3) (2) (40) 6 เด็กชายอิทธพิ ล ปงิ ชยั 7 เดก็ ชายเป่ยี มสุข หม่นื สุข 8 เดก็ ชายณัฎฐากร จนิ ายะ 9 เดก็ ชายบญุ วีร์ วไิ ลสงา่ กุล 10 เดก็ ชายสิรวิชญ์ วฒั นาพนั ธ์ุ 11 เดก็ ชายชษิ ณพุ งศ์ สุสมวงค์ 12 เดก็ ชายพีระพงษ์ ปุกเจริญ 13 เด็กชายธิตวิ ุฒิ เชาวแ์ ล่น 14 เดก็ ชายศัจนันท์ กนั แดง 15 เด็กชายวชิรวิทย์ ขวญั เขียว 16 เด็กหญิงกมลฉัตร มง่ั มูล 17 เด็กหญิงณภาภชั พุทธปวน

รายการประเมนิ ผลการประเมนิ เลขที่ ชอ่ื -สกุล ความ ูถกต้องของเนื้อหา รวมคะแนน รูปบบ ผ่าน ไม่ผา่ น ความเ ็ปนระเ ีบยบ 4 4 4 คะแนน x น้ำหนัก (5) (3) (2) (40) 18 เดก็ หญิงกรรณิกา แก้วคำ 19 เด็กหญงิ ปวันพสั ตร์ เขยี วเจรญิ 20 เดก็ หญงิ จิรชั ยา ใจพิงค์ 21 เด็กหญงิ อมรรัตน์ อรุณเรืองศิริเลิศ 22 เดก็ หญิงปุณยวีร์ ยะบญุ ธง 23 เดก็ หญิงธัญญาศิริ แฝงเวียง 24 เดก็ หญงิ ชาตญิ าดา มาแดงสาย 25 เด็กหญิงเอมิกา ศรบี ุญยงั 26 เด็กหญงิ ชตุ ิกาญจน์ ชายสกั 27 เด็กหญิงณัฐศศิ ติยายน 28 เดก็ หญงิ ดาลยี า ชวลติ เรืองรอง 29 เดก็ หญิงศศินิภา หนอ่ แนวอ้าย 30 เดก็ หญงิ พยิ ดา สวุ รรณมา 31 เด็กหญงิ ดจุ เดือน เคนเครือ 32 เดก็ หญิงกฤตพร เรอื นทราย 33 เดก็ หญิงชนกานต์ มะโนเพญ็ 34 เด็กหญงิ ภัคจิรา ใจอ้าย 35 เดก็ หญิงรักษอร ย้ิมนาค 36 เดก็ หญงิ ชญานษิ ฐศ์ า ใสสอาด 37 เด็กหญิงภัทราภรณ์ สวุ รรณมงคล 38 เด็กหญงิ ปาณณนาถ ออ่ งสมบรู ณ์ 39 เด็กหญงิ พรหมนำ้ มนต์ ปนิ ทรายมูล 40 เด็กหญิงวฒั นวดี มั่นกลนิ่

เกณฑ์การตัดสิน คะแนน 33 - 40 หมายถงึ ดีมาก คะแนน 25 - 32 หมายถงึ ดี คะแนน 17 - 24 หมายถึง พอใช้ คะแนน 10 - 16 หมายถึง ปรับปรงุ เกณฑก์ ารผ่าน ต้งั แตร่ ะดบั ดขี น้ึ ไป ลงชอ่ื …………………………………………… (นางสาวสายฝน ตะ๊ วันนา) ผ้ปู ระเมนิ

เกณฑ์การประเมนิ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ทักษะกระบวนการ ระดบั คะแนน นำ้ หนกั 5 ทางวทิ ยาศาสตร์ 3 2 1 5 การสังเกต (S1) สามารถใช้ประสาท สามารถใช้ประสาท สามารถใช้ประสาท 5 สัมผัสเก็บรายละเอยี ด- สัมผสั เก็บรายละเอียด- สมั ผัสเก็บรายละเอียด- ข้อมูลและบรรยาย ข้อมลู และบรรยาย ข้อมลู และบรรยาย เกีย่ วกบั ลกั ษณะสว่ น เกย่ี วกบั ลกั ษณะส่วน เกย่ี วกับลักษณะส่วน ต่างๆ ของพชื ได้ดว้ ย ต่างๆ ของพชื จากการ ตา่ งๆ ของพชื ได้ ตนเอง โดยไม่เพิม่ ความ ชี้แนะจากครูหรือผู้อ่นื บางส่วน แม้วา่ จะได้ คดิ เห็น หรอื มีการเพิ่มเติมความ รับคำชแี้ นะจากครูหรือ คดิ เหน็ ผอู้ ่ืน กาจำแนกประเภท สามารถจำแนกพืช โดย สามารถจำแนกพชื โดย สามารถจำแนกพืช โดย (S4) ใช้เกณฑท์ ี่กลุ่มกำหนด ใช้เกณฑท์ ี่กลมุ่ กำหนด ใช้เกณฑ์ที่กลุ่มกำหนด และเกณฑ์การมดี อก และเกณฑ์การมีดอก และเกณฑ์การมีดอก ออกเป็นกล่มุ พืชมดี อก ออกเปน็ กลุม่ พืชมดี อก ออกเปน็ กลมุ่ พชื มดี อก และกลมุ่ พืชไมม่ ดี อก ได้ และกลุ่มพืชไมม่ ดี อก ได้ และกลุ่มพชื ไม่มีดอก ได้ อย่างถกู ตอ้ ง ตามเกณฑ์ อยา่ งถกู ตอ้ ง จากการ อย่างถกู ต้องบางสว่ น ทกี่ ำหนด ดว้ ยตนเอง ชี้แนะจากครหู รือผู้อื่น แมว้ า่ จะไดร้ บั คำชแ้ี นะ จากครหู รือผู้อื่น การจดั กระทำและ สามารถนำเสนอข้อมูลท่ี สามารถนำเสนอข้อมลู ที่ สามารถนำเสนอข้อมูลท่ี สื่อความหมาย ไดจ้ ากการสังเกตและ ไดจ้ ากการสังเกตและ ไดจ้ ากการสังเกตและ ขอ้ มลู (S6) การสืบคน้ ข้อมลู การสืบค้นขอ้ มลู การสืบค้นข้อมลู เกี่ยวกบั ลกั ษณะของพชื เกยี่ วกบั ลกั ษณะของพชื เกี่ยวกับลกั ษณะของพชื มาจำแนกพืชออกเปน้ มาจำแนกพืชออกเป้น มาจำแนกพชื ออกเป้น พืชดอก และพชื ไม่มี พชื ดอก และพชื ไมม่ ี พืชดอก และพืชไม่มี ดอก และนำผลการ ดอก และนำผลการ ดอก และนำผลการ จำแนกมาจดั กระทำใน จำแนกมาจัดกระทำใน จำแนกมาจัดกระทำใน รูปแบบต่างๆ และสอื่ ให้ รูปแบบต่างๆ และส่ือให้ รปู แบบต่างๆ และส่อื ให้ ผอู้ ่นื เข้าใจผลการ ผอู้ นื่ เข้าใจผลการ ผู้อ่นื เขา้ ใจผลการ จำแนกพืช ไดด้ ว้ ย จำแนกพชื ได้ จากการ จำแนกพืชแม้วา่ จะได้ ตนเอง ชีแ้ นะของครูหรือผู้อื่น บางสว่ นรับคำชแ้ี นะจาก ครูหรือผอู้ น่ื

ทกั ษะกระบวนการ ระดบั คะแนน นำ้ หนัก 5 ทางวทิ ยาศาสตร์ 3 2 1 5 การทดลอง (S8) สามารถลงความเห็น สามารถลงความเห็น สามารถลงความเหน็ จากขอ้ มลู ไดว้ า่ สามารถ จากข้อมลู ได้ว่า สามารถ จากข้อมูลได้ว่า สามารถ จำแนกพืช โดยใช้เกณฑ์ จำแนกพืช โดยใช้เกณฑ์ จำแนกพชื โดยใชเ้ กณฑ์ การมดี อก ออกเปฯ้ กล่มุ การมดี อก ออกเป้ฯกลุ่ม การมีดอก ออกเป้ฯกลุ่ม พืชดอกและกลุม่ พชื ไมม่ ี พืชดอกและกลมุ่ พชื ไม่มี พืชดอกและกลุ่มพชื ไมม่ ี ดอก ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง ดอก ได้อยา่ งถกู ตอ้ ง ดอก ได้ถูกตอ้ งบางสว่ น และชดั เจนได้ด้วย และชัดเจน จากการ แม้วา่ จะได้รบั คำช้ีแนะ ตนเอง ช้แี นะของครูหรือผ้อู ่ืน จากครูหรือผอู้ ื่น การตคี วามหมาย สามารถตีความหมาย สามารถตีความหมาย สามารถตคี วามหมาย ขอ้ มลู และลง ข้อมูลท่ีได้จากการ ขอ้ มูลทไ่ี ด้จากการ ขอ้ มูลทไ่ี ดจ้ ากการ ขอ้ สรุป (S13) สังเกตและการสืบค้น สงั เกตและการสืบคน้ สงั เกตและการสืบคน้ ขอ้ มูลไดว้ ่าพืชทที ง้ั พืชที่ ข้อมลู ไดว้ า่ พืชทที ้ังพืชท่ี ข้อมูลไดว้ า่ พชื ทที ้งั พืชที่ มดี อกและไมม่ ดี อก และ มีดอกและไม่มดี อก และ มดี อกและไม่มดี อก และ ลงข้อสรุปไดว้ ่า สามารถ ลงข้อสรุปได้ว่า สามารถ ลงข้อสรุปไดว้ ่า สามารถ จำแนกพืชโดยใชก้ ารมี จำแนกพชื โดยใชก้ ารมี จำแนกพืชโดยใช้การมี ดอกเปน็ เกณฑ์ ออกได้ ดอกเปน็ เกณฑ์ ออกได้ ดอกเป็นเกณฑ์ ออกได้ เปน็ กลุ่มพืชมีดอกและ เปน็ กล่มุ พืชมีดอกและ เปน็ กลุ่มพชื มดี อกและ กลุ่มพชื ไม่มดี อกได้ดว้ ย กลุม่ พชื ไมม่ ดี อก จาก กลุม่ พชื ไมม่ ดี อกได้ ตนเอง การชแี้ นะของครูหรือ บางส่วน แม้ว่าจะได้ ผู้อนื่ รับคำช้ีแนะจากครูหรือ ผูอ้ น่ื เกณฑ์การตดั สนิ คะแนน 60 - 75 หมายถึง ดีมาก คะแนน 52 - 59 หมายถึง ดี คะแนน 38 - 51 หมายถงึ พอใช้ คะแนน 0 - 37 หมายถึง ปรับปรงุ เกณฑ์การผา่ น ตงั้ แต่ระดบั ดขี ้นึ ไป

แบบประเมินทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 2 สง่ิ มีชีวติ บทท่ี 1 สิ่งมชี ีวติ รอบตวั เร่ือง เราจำแนกพชื ไดอ้ ยา่ งไร คำชแี้ จง : แบบประเมินฉบับนี้เป็นการประเมินทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ โดยการประเมนิ พฤตกิ รรมทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ระดบั คะแนนลงในช่องรายการประเมิน ตามความเป็นจรงิ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 4/5 รายการประเมนิ ผลการประเมนิ เลขที่ ชื่อ-สกุล การสังเกต (S1) รวมคะแนน การจำแนกประเภท (S4) ผา่ น ไม่ผ่าน การ ัจดกระทำและส่ือความหมาย ้ขอ ูมล(S6) การลงความเ ็หนจาก ้ขอ ูมล (S8) การตีความหมาย ้ขอ ูมลและลง ้ขอสรุป (S13) 3 3 3 3 3 คะแนน x น้ำหนัก (5) (5) (5) (5) (5) (75) 1 เดก็ ชายเมธาวิชย์ มาสัก 2 เด็กชายตรภี พ วฒุ ธิ รรมกลุ 3 เด็กชายพัฒนรัฐ พยัคฆนั ตร 4 เดก็ ชายกลวชั ร ปกติ 5 เดก็ ชายปกรณ์ บญุ มา 6 เด็กชายอิทธิพล ปงิ ชยั 7 เดก็ ชายเปี่ยมสขุ หม่ืนสุข 8 เด็กชายณัฎฐากร จินายะ 9 เด็กชายบุญวีร์ วไิ ลสงา่ กลุ 10 เด็กชายสริ วิชญ์ วฒั นาพนั ธุ์ 11 เด็กชายชษิ ณพุ งศ์ สสุ มวงค์ 12 เดก็ ชายพรี ะพงษ์ ปุกเจริญ 13 เด็กชายธติ วิ ุฒิ เชาว์แลน่

รายการประเมนิ ผลการประเมิน เลขที่ ชอ่ื -สกลุ การสังเกต (S1) รวมคะแนน การจำแนกประเภท (S4) ผ่าน ไมผ่ ่าน การ ัจดกระทำและส่ือความหมาย ้ขอ ูมล(S6) การลงความเ ็หนจาก ้ขอ ูมล (S8) การตีความหมาย ้ขอ ูมลและลง ้ขอสรุป (S13) 3 3 3 3 3 คะแนน x น้ำหนัก (5) (5) (5) (5) (5) (75) 14 เด็กชายศจั นนั ท์ กนั แดง 15 เด็กชายวชริ วิทย์ ขวัญเขยี ว 16 เดก็ หญงิ กมลฉัตร ม่งั มูล 17 เด็กหญิงณภาภัช พทุ ธปวน 18 เด็กหญิงกรรณิกา แกว้ คำ 19 เดก็ หญงิ ปวนั พสั ตร์ เขยี วเจรญิ 20 เดก็ หญงิ จริ ชั ยา ใจพงิ ค์ 21 เด็กหญิงอมรรัตน์ อรณุ เรอื งศิรเิ ลิศ 22 เดก็ หญงิ ปุณยวีร์ ยะบุญธง 23 เดก็ หญงิ ธัญญาศิริ แฝงเวยี ง 24 เด็กหญงิ ชาติญาดา มาแดงสาย 25 เด็กหญงิ เอมกิ า ศรีบญุ ยัง 26 เด็กหญิงชุตกิ าญจน์ ชายสัก 27 เดก็ หญงิ ณฐั ศศิ ติยายน 28 เด็กหญงิ ดาลยี า ชวลิตเรืองรอง 29 เด็กหญงิ ศศนิ ภิ า หนอ่ แนวอ้าย 30 เด็กหญงิ พิยดา สวุ รรณมา 31 เดก็ หญงิ ดจุ เดือน เคนเครอื 32 เดก็ หญงิ กฤตพร เรอื นทราย 33 เดก็ หญิงชนกานต์ มะโนเพญ็ 34 เด็กหญงิ ภัคจริ า ใจอา้ ย

รายการประเมิน ผลการประเมนิ เลขที่ ชอ่ื -สกุล การสังเกต (S1) รวมคะแนน การจำแนกประเภท (S4) ผา่ น ไม่ผ่าน การ ัจดกระทำและส่ือความหมาย ้ขอ ูมล(S6) การลงความเ ็หนจาก ้ขอ ูมล (S8) การตีความหมาย ้ขอ ูมลและลง ้ขอสรุป (S13) 3 3 3 3 3 คะแนน x น้ำหนกั (5) (5) (5) (5) (5) (75) 35 เด็กหญิงรกั ษอร ยมิ้ นาค 36 เด็กหญงิ ชญานษิ ฐศ์ า ใสสอาด 37 เดก็ หญงิ ภัทราภรณ์ สวุ รรณมงคล 38 เด็กหญงิ ปาณณนาถ ออ่ งสมบรู ณ์ 39 เดก็ หญงิ พรหมนำ้ มนต์ ปินทรายมูล 40 เด็กหญงิ วัฒนวดี มั่นกลน่ิ เกณฑก์ ารตดั สิน คะแนน 60 - 75 หมายถงึ ดมี าก คะแนน 52 - 59 หมายถึง ดี คะแนน 38 - 51 หมายถึง พอใช้ คะแนน 0 - 37 หมายถึง ปรับปรุง เกณฑก์ ารผ่าน ตงั้ แต่ระดับดีขนึ้ ไป ลงชื่อ …………………………………………… (นางสาวสายฝน ต๊ะวันนา) ผปู้ ระเมิน

เกณฑ์การประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ประเดน็ ระดับคะแนน น้ำหนกั 5 การประเมิน 4 3 2 1 ประพฤติตนโดย 5 ซอื่ สัตย์สจุ ริต ประพฤติตนโดย ประพฤติตนโดย ประพฤตติ นโดย ไม่เกรงกลัวต่อ การกระทำผดิ เกรงกลัวต่อการ เกรงกลวั ตอ่ การ เกรงกลัวต่อการ ปฏิบตั ติ นตาม กระทำผิดและไม่ กระทำผดิ และไม่ กระทำผิดและไม่ ข้อตกลง กฎเกณฑ์ มพี ฤตกิ รรมนำ มพี ฤตกิ รรมนำ มพี ฤติกรรมนำ ระเบียบ ข้อบังคบั ของ สิง่ ของและ ส่ิงของและ สง่ิ ของและ โรงเรยี น ผลงานของผูอ้ ่ืน ผลงานของผอู้ ืน่ ผลงานของผู้อ่นื มาเป็นของ มาเปน็ ของ มาเป็นของ ตนเอง ปฏิบัติ ตนเอง ปฏิบตั ิ ตนเอง ตนตอ่ ผู้อนื่ ด้วย ตนต่อผ้อู ืน่ ด้วย ความซือ่ ตรงเปน็ ความซ่ือตรง แบบอยา่ งท่ดี ี ด้านความ ซื่อสตั ย์ มวี นิ ัย -ปฏบิ ตั ิตนตาม ปฏบิ ัติตนตาม ปฏบิ ตั ติ นตาม ขอ้ ตกลง ขอ้ ตกลง ข้อตกลง กฎเกณฑ์ กฎเกณฑ์ กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ระเบยี บ ระเบียบ ขอ้ บงั คับของ ขอ้ บงั คับของ ข้อบังคับของ โรงเรียน และ ไม่ โรงเรยี น ตรงตอ่ โรงเรียน ตรงตอ่ ละเมดิ สทิ ธขิ อง เวลาในการ เวลาในการ ผ้อู ืน่ ปฏบิ ัติกจิ กรรม ปฏบิ ัตกิ จิ กรรม -ตรงต่อเวลาใน และรบั ผดิ ชอบ การปฏิบตั ิ ในการทำงาน กิจกรรมและ รับผิดชอบในการ ทำงาน

ประเด็น ระดบั คะแนน นำ้ หนกั 5 การประเมิน 4 3 2 1 5 ใฝ่เรียนรู้ เข้าเรยี นตรงเวลา เขา้ เรียนตรงเวลา เข้าเรยี นตรงเวลา ไม่ตง้ั ใจเรยี น ตงั้ ใจเรียน เอาใจ ต้งั ใจเรยี น เอาใจ ต้งั ใจเรยี น เอาใจ ไม่ศกึ ษาค้นคว้า ใสใ่ นการเรยี น ใสใ่ นการเรียน ใส่ในการเรยี น หาความรู้ และมีสว่ นรว่ มใน และมสี ่วนร่วมใน และมสี ่วนรว่ มใน การเรียนรู้ และ การเรยี นรู้ และ การเรียนรู้ และ เขา้ รว่ มกิจกรรม เข้ารว่ มกิจกรรม เข้าร่วมกิจกรรม การเรยี นรู้ต่างๆ การเรยี นรตู้ า่ งๆ การเรียนรตู้ ่างๆ ทง้ั ภายในและ บ่อยครั้ง เป็นบางครงั้ ภายนอกโรงเรยี น เป็นประจำ มุ่งมนั่ ในการ ตงั้ ใจและ ตง้ั ใจและ ตงั้ ใจและ ต้ังใจปฏบิ ตั ิ ทำงาน รับผิดชอบในการ รบั ผิดชอบในการ รับผดิ ชอบในการ หน้าทก่ี ารงาน ปฏิบัตหิ นา้ ท่ีท่ี ปฏิบตั ิหน้าท่ีที่ ปฏิบตั หิ น้าท่ีที่ ไดร้ ับมอบหมาย ได้รับมอบหมาย ไดร้ บั มอบหมาย ให้สำเร็จ มกี าร ให้สำเร็จ มีการ ใหส้ ำเร็จ ปรับปรงุ และ ปรับปรุงและ พัฒนาการ พัฒนาการ ทำงานให้ดีข้นึ ทำงานให้ดขี ึ้น ภายในเวลาที่ กำหนด เกณฑก์ ารตัดสนิ คะแนน 65 - 80 หมายถึง ดมี าก คะแนน 50 - 64 หมายถงึ ดี คะแนน 35 - 49 หมายถึง พอใช้ คะแนน 0 - 34 หมายถงึ ปรบั ปรุง เกณฑก์ ารผ่าน ตงั้ แตร่ ะดบั ดขี ึ้นไป

แบบประเมินคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 2 สง่ิ มีชีวติ บทที่ 1 ส่งิ มชี วี ติ รอบตัว เร่ือง เราจำแนกพืชไดอ้ ย่างไร คำช้ีแจง : แบบประเมนิ ฉบับนี้เป็นการประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ โดยการประเมนิ พฤติกรรมคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ลงในช่องรายการประเมนิ ตามความเป็นจรงิ ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 4/5 รายการประเมิน ผลการประเมิน ซื่อสัต ์ยสุจริต ีมวิ ันย ใ ่ฝเรียนรู้ ุ่มง ่ัมนในการทำงาน เลขท่ี ชอื่ -สกุล รวมคะแนน 1 เด็กชายเมธาวิชย์ มาสัก ผ่าน ไมผ่ ่าน 2 เด็กชายตรภี พ วุฒธิ รรมกลุ 3 เดก็ ชายพัฒนรัฐ พยคั ฆันตร 4 4 4 4 คะแนน x น้ำหนัก 4 เดก็ ชายกลวัชร ปกติ (5) (5) (5) (5) (80) 5 เดก็ ชายปกรณ์ บุญมา 6 เดก็ ชายอทิ ธิพล ปงิ ชยั 7 เด็กชายเปยี่ มสขุ หมื่นสขุ 8 เดก็ ชายณัฎฐากร จินายะ 9 เดก็ ชายบุญวีร์ วไิ ลสงา่ กลุ 10 เด็กชายสิรวิชญ์ วัฒนาพนั ธ์ุ 11 เดก็ ชายชิษณพุ งศ์ สสุ มวงค์ 12 เดก็ ชายพรี ะพงษ์ ปกุ เจรญิ 13 เดก็ ชายธติ ิวฒุ ิ เชาวแ์ ล่น 14 เดก็ ชายศัจนันท์ กนั แดง 15 เดก็ ชายวชิรวิทย์ ขวัญเขยี ว 16 เดก็ หญงิ กมลฉตั ร มั่งมลู 17 เดก็ หญงิ ณภาภชั พทุ ธปวน 18 เดก็ หญิงกรรณิกา แก้วคำ

รายการประเมิน ผลการประเมิน ซื่อสัต ์ยสุจริต ีมวิ ันย ใ ่ฝเรียนรู้ ุ่มง ่ัมนในการทำงาน เลขที่ ชือ่ -สกุล รวมคะแนน 19 เด็กหญิงปวันพัสตร์ เขยี วเจรญิ ผ่าน ไมผ่ า่ น 20 เด็กหญิงจริ ชั ยา ใจพงิ ค์ 21 เดก็ หญงิ อมรรตั น์ อรณุ เรืองศิริเลิศ 4 4 4 4 คะแนน x น้ำหนกั 22 เดก็ หญิงปุณยวีร์ ยะบุญธง (5) (5) (5) (5) (80) 23 เดก็ หญิงธัญญาศิริ แฝงเวยี ง 24 เดก็ หญงิ ชาติญาดา มาแดงสาย 25 เดก็ หญิงเอมิกา ศรบี ญุ ยัง 26 เดก็ หญงิ ชตุ ิกาญจน์ ชายสัก 27 เด็กหญิงณัฐศศิ ตยิ ายน 28 เด็กหญิงดาลียา ชวลติ เรืองรอง 29 เดก็ หญิงศศนิ ภิ า หน่อแนวอ้าย 30 เดก็ หญงิ พิยดา สุวรรณมา 31 เดก็ หญงิ ดจุ เดือน เคนเครอื 32 เด็กหญงิ กฤตพร เรอื นทราย 33 เด็กหญงิ ชนกานต์ มะโนเพ็ญ 34 เด็กหญงิ ภัคจิรา ใจอ้าย 35 เด็กหญงิ รักษอร ย้ิมนาค 36 เด็กหญิงชญานษิ ฐศ์ า ใสสอาด 37 เด็กหญิงภัทราภรณ์ สวุ รรณมงคล 38 เดก็ หญงิ ปาณณนาถ อ่องสมบูรณ์ 39 เดก็ หญงิ พรหมนำ้ มนต์ ปนิ ทรายมูล 40 เด็กหญิงวัฒนวดี มน่ั กล่ิน

เกณฑ์การตดั สนิ คะแนน 65 - 80 หมายถึง ดีมาก คะแนน 50 - 64 หมายถงึ ดี คะแนน 35 - 49 หมายถงึ พอใช้ คะแนน 0 - 34 หมายถงึ ปรับปรงุ เกณฑก์ ารผา่ น ตั้งแตร่ ะดับดขี น้ึ ไป ลงชอ่ื …………………………………………… (นางสาวสายฝน ตะ๊ วันนา) ผ้ปู ระเมนิ

เกณฑก์ ารประเมนิ สมรรถนะของผเู้ รยี น ประเด็น ระดับคะแนน นำ้ หนัก การประเมนิ 4 3 2 1 1. ใชภ้ าษาในการพดู ใช้ภาษาในการพูด ใช้ภาษาในการพดู ใชภ้ าษาในการพดู 5 ความสามารถ และเขยี นไดอ้ ย่าง และเขยี นไดอ้ ยา่ ง และเขยี นได้อยา่ ง และเขยี นไม่ ในการสื่อสาร เหมาะสมเลือกรับ เหมาะสมเลือกรับ เหมาะสมเลือกรบั เหมาะสมเลือกรบั ข่าวสารด้วยหลกั ขา่ วสารดว้ ยหลกั ข่าวสารดว้ ยหลกั ข่าวสารดว้ ยหลกั เหตุผลและความ เหตผุ ลและความ เหตุผลและความ เหตผุ ลและความ ถูกตอ้ งและมีวธิ ีการ ถูกต้องและมวี ธิ ีการ ถกู ต้องเป็นบางคร้ัง ถูกตอ้ งและคอย สื่อสารที่มี สื่อสารทมี่ ี และมีวิธีการสื่อสาร แนะนำเปฯ้ ส่วน ประสิทธภิ าพโดย ประสิทธภิ าพไม่ ทีม่ ีไม่คำนงึ ถึงผู้อ่นื ใหญ่ คำนงึ ถึงผลกระทบ คอ่ ยคำนึงถงึ ตอ่ ผู้อืน่ ผลกระทบตอ่ ผู้อ่ืน 2. เรียบเรยี งและจดั ทำ เรียบเรียงและจดั ทำ เรยี บเรียงและจดั ทำ เรียบเรียงและจัดทำ 5 ความสามารถ ขอ้ มลู เปน็ องค์ ขอ้ มลู เป็นองค์ ขอ้ มลู เปน็ องค์ ขอ้ มูลเป็นองค์ ในการคิด ความรเู้ ป็นขั้นตอน ความรู้เป็นขั้นตอน ความรู้เปน็ ขนั้ ตอน ความร้เู ป็นขัน้ ตอน ไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง ได้อยา่ งถูกตอ้ งเปน็ ไดเ้ ป็นบางส่วน ได้แต่ตอ้ งคอย สว่ นใหญ่ แนะนำเปน็ สว่ น ใหญ่ 3. มีการวางแผนใน มีการวางแผนใน มกี ารวางแผนใน สามารถวาง 5 ความสามารถ การแกป้ ัญหาอย่าง การแก้ปัญหาอย่าง การแก้ปัญหาอย่าง แผนการแกป้ ัญหา ในการแกป้ ัญหา เป็นขัน้ ตอนและ เป็นขัน้ ตอนและ เป็นข้ันตอนและ ไดแ้ ต่ตอ้ งคอย ปฏบิ ัติตามแผนที่ ปฏิบตั ิตามแผนที่ ปฏิบัตติ ามแผนที่ แนะนำเปน็ ส่วน กำหนดไวท้ กุ กำหนดไวต้ าม กำหนดไวเ้ ป็น ใหญ่ ขั้นตอน ขั้นตอนเปน็ ส่วน บางส่วน ใหญ่ เกณฑก์ ารตดั สนิ คะแนน 49 - 60 หมายถึง ดีมาก คะแนน 37 - 48 หมายถงึ ดี คะแนน 26 - 36 หมายถึง พอใช้ คะแนน 0 - 25 หมายถึง ปรับปรงุ เกณฑก์ ารผา่ น ตั้งแต่ระดับดขี ึ้นไป

แบบประเมนิ สมรรถนะของผ้เู รยี น ผลการประเมนิ หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 2 สง่ิ มีชีวติ บทที่ 1 ส่งิ มีชีวิตรอบตัว เรอื่ ง เราจำแนกพชื ไดอ้ ยา่ งไร คำชแี้ จง : แบบประเมินฉบับนี้เป็นการประเมินสมรรถนะของผู้เรยี น โดยการประเมินระดบั คะแนนสมรรถนะของผเู้ รียนลงในช่องรายการประเมิน ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 4/5 รายการประเมิน เลขท่ี ชอ่ื -สกลุ คววามสามารถในการสื่อสาร รวมคะแนน ความสามารถในการคิด ผา่ น ไมผ่ า่ น 1 เด็กชายเมธาวชิ ย์ มาสัก ความสามารถในการแ ้ก ัปญหา 2 เด็กชายตรีภพ วฒุ ิธรรมกลุ 3 เด็กชายพัฒนรัฐ พยัคฆันตร 4 4 4 คะแนน x น้ำหนัก 4 เด็กชายกลวัชร ปกติ 5 เดก็ ชายปกรณ์ บญุ มา (5) (5) (5) (60) 6 เดก็ ชายอทิ ธพิ ล ปงิ ชยั 7 เดก็ ชายเปย่ี มสขุ หม่นื สขุ 8 เด็กชายณฎั ฐากร จินายะ 9 เด็กชายบุญวีร์ วไิ ลสง่ากลุ 10 เดก็ ชายสิรวิชญ์ วัฒนาพันธ์ุ 11 เด็กชายชษิ ณพุ งศ์ สสุ มวงค์ 12 เด็กชายพรี ะพงษ์ ปกุ เจริญ 13 เดก็ ชายธิตวิ ุฒิ เชาว์แลน่ 14 เด็กชายศัจนนั ท์ กันแดง 15 เดก็ ชายวชริ วิทย์ ขวญั เขียว 16 เดก็ หญงิ กมลฉัตร มง่ั มลู

รายการประเมนิ ผลการประเมิน เลขที่ ชื่อ-สกุล คววามสามารถในการสื่อสาร รวมคะแนน ความสามารถในการคิด ผ่าน ไมผ่ า่ น ความสามารถในการแ ้ก ัปญหา 4 4 4 คะแนน x น้ำหนกั (5) (5) (5) (60) 17 เดก็ หญิงณภาภัช พุทธปวน 18 เด็กหญงิ กรรณิกา แก้วคำ 19 เด็กหญงิ ปวันพัสตร์ เขยี วเจริญ 20 เด็กหญงิ จริ ัชยา ใจพิงค์ 21 เดก็ หญิงอมรรัตน์ อรุณเรอื งศิรเิ ลศิ 22 เดก็ หญิงปุณยวีร์ ยะบญุ ธง 23 เด็กหญงิ ธัญญาศิริ แฝงเวียง 24 เดก็ หญิงชาตญิ าดา มาแดงสาย 25 เดก็ หญงิ เอมกิ า ศรบี ญุ ยัง 26 เด็กหญงิ ชุติกาญจน์ ชายสัก 27 เด็กหญิงณฐั ศศิ ตยิ ายน 28 เด็กหญงิ ดาลียา ชวลติ เรืองรอง 29 เดก็ หญงิ ศศินภิ า หน่อแนวอ้าย 30 เด็กหญิงพยิ ดา สวุ รรณมา 31 เดก็ หญิงดุจเดือน เคนเครือ 32 เด็กหญงิ กฤตพร เรือนทราย 33 เด็กหญิงชนกานต์ มะโนเพญ็ 34 เด็กหญิงภคั จริ า ใจอ้าย 35 เด็กหญงิ รักษอร ย้มิ นาค 36 เด็กหญงิ ชญานษิ ฐศ์ า ใสสอาด 37 เด็กหญงิ ภัทราภรณ์ สุวรรณมงคล 38 เด็กหญิงปาณณนาถ อ่องสมบูรณ์ 39 เดก็ หญิงพรหมนำ้ มนต์ ปินทรายมูล

รายการประเมนิ ผลการประเมิน เลขท่ี ช่ือ-สกลุ คววามสามารถในการสื่อสาร รวมคะแนน ความสามารถในการคิด ผา่ น ไมผ่ า่ น ความสามารถในการแ ้ก ัปญหา 4 44 คะแนน x น้ำหนกั (60) (5) (5) (5) 40 เดก็ หญิงวัฒนวดี มั่นกลน่ิ เกณฑก์ ารตัดสนิ คะแนน 49 - 60 หมายถงึ ดีมาก คะแนน 37 - 48 หมายถงึ ดี คะแนน 26 - 36 หมายถึง พอใช้ คะแนน 0 - 25 หมายถงึ ปรบั ปรงุ เกณฑ์การผา่ น ต้ังแต่ระดับดีขึ้นไป ลงชือ่ …………………………………………… (นางสาวสายฝน ตะ๊ วนั นา) ผปู้ ระเมนิ

เกณฑ์การประเมนิ ทกั ษะแห่งศตวรรษที่ 21 ทักษะแหง่ ระดับคะแนน นำ้ หนัก 5 ศตวรรษท่ี 21 3 2 1 5 การส่ือสาร (C4) สามารถนำเสนอข้อมลู สามารถนำเสนอข้อมลู สามารถนำเสนอข้อมูล 5 จากการอภปิ ราย จากการอภิปราย จากการอภปิ ราย เก่ียวกบั การจำแนกพืช เก่ยี วกบั การจำแนกพืช เกีย่ วกบั การจำแนกพชื โดยใช้เกณฑ์การมีดอก โดยใช้เกณฑ์การมดี อก โดยใช้เกณฑก์ ารมดี อก ออกเปน็ พืชมีดอกและ ออกเป็นพชื มดี อกและ ออกเป็นพชื มดี อกและ พืชไมม่ ีดอกได้อย่าง พชื ไมม่ ดี อกไดอ้ ย่าง พืชไม่มดี อกได้ถูกตอ้ ง ถูกต้อง ด้วยตนเอง ถูกต้อง จากการช้ีแนะ บางสว่ น แมว้ า่ จะได้ ของครหู รือผู้อน่ื รบั คำชี้แนะจากครูหรือ ผู้อน่ื ความร่วมมือ (C5) สามารถทำงานรว่ มกับ สามารถทำงานรว่ มกับ สามารถทำงานร่วมกบั ผอู้ นื่ ในการสงั เกต การ ผอู้ ื่นในการสงั เกต การ ผอู้ ื่นไดใ้ นบางครั้งทีท่ ำ นำเสนอ และการแสดง นำเสนอ และการแสดง กิจกรรม ความคิดเหน็ เพอื่ จำแนก ความคิดเห็นเพ่อื จำแนก พชื โดยใช้เกณฑก์ ารมี พืช โดยใชเ้ กณฑก์ ารมี ดอกออกเป็นกลมุ่ พืช ดอกออกเปน็ กล่มุ พืช ดอกและกล่มุ พืชไม่มี ดอกและกลมุ่ พืชไม่มี ดอก รวมท้ังยอมรบั ดอก รวมทั้งยอมรับ ความคดิ เห็นของผ้อู ่นื ความคิดเหน็ ของผอู้ ่ืนได้ ตง้ั แตเ่ ร่ิมตน้ จนสำเรจ็ จากการชี้แนะของครู หรือผู้อน่ื การใชเ้ ทคโนโลยี สามารถสบื คน้ ข้อมลู สามารถสบื ค้นข้อมูล สามารถสบื คน้ ข้อมลู สารสนเทศและการ ทางอนิ เทอรเ์ นต็ ทางอินเทอรเ์ น็ต ทางอินเทอร์เนต็ ส่อื สาร (C6) เกีย่ วกับลกั ษณธส่วน เก่ยี วกบั ลักษณธส่วน เกี่ยวกับลักษณธส่วน ต่างๆ ของพชื ได้อย่าง ต่างๆ ของพืชไดอ้ ยา่ ง ต่างๆ ของพืชได้อยา่ ง ถูกตอ้ งไดด้ ้วยตนเอง ถูกตอ้ ง จากการช้แี นะ ถูกตอ้ งบางสว่ น แม้ว่า ของครหู รอื ผูอ้ ่ืน จะไดร้ บั คำชีแ้ นะจากครู หรอื ผู้อืน่

เกณฑก์ ารตัดสนิ คะแนน 36 – 45 หมายถึง ดมี าก ดี คะแนน 31 - 35 หมายถึง พอใช้ ปรบั ปรงุ คะแนน 27 - 30 หมายถึง คะแนน 0 - 26 หมายถึง เกณฑ์การผา่ น ตง้ั แตร่ ะดบั ดีขึน้ ไป

แบบประเมินทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 สงิ่ มชี วี ิต บทที่ 1 ส่งิ มชี วี ิตรอบตัว เรื่อง เราจำแนกพชื ได้อย่างไร คำชี้แจง : แบบประเมินฉบับนี้เปน็ การประเมินทักษะแหง่ ศตวรรษที่ 21 โดยการประเมินพฤตกิ รรมทักษะแหง่ ศตวรรษท่ี 21 ตามระดับคะแนนผู้เรยี นลงในช่องรายการประเมนิ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 4/5 รายการประเมิน ผลการประเมนิ เลขท่ี ชือ่ -สกลุ การส่ือสาร (C4) รวม ความร่วม ืมอ (C5) คะแนน การใ ้ชเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร (C6) ผา่ น ไม่ผ่าน 3 3 3 คะแนน x น้ำหนัก (5) (5) (5) (45) 1 เดก็ ชายเมธาวชิ ย์ มาสัก 2 เด็กชายตรีภพ วฒุ ิธรรมกลุ 3 เดก็ ชายพฒั นรัฐ พยคั ฆันตร 4 เด็กชายกลวชั ร ปกติ 5 เด็กชายปกรณ์ บุญมา 6 เดก็ ชายอิทธิพล ปิงชัย 7 เด็กชายเปี่ยมสขุ หมนื่ สุข 8 เดก็ ชายณัฎฐากร จินายะ 9 เด็กชายบุญวีร์ วไิ ลสง่ากุล 10 เด็กชายสริ วิชญ์ วฒั นาพนั ธ์ุ 11 เด็กชายชิษณุพงศ์ สุสมวงค์ 12 เด็กชายพรี ะพงษ์ ปุกเจริญ 13 เด็กชายธิติวุฒิ เชาวแ์ ล่น

รายการประเมิน ผลการประเมนิ เลขที่ ชอ่ื -สกุล การส่ือสาร (C4) รวม ความร่วม ืมอ (C5) คะแนน การใ ้ชเทคโนโล ียสารสนเทศและการส่ือสาร (C6) ผา่ น ไมผ่ า่ น 3 3 3 คะแนน x นำ้ หนัก (5) (5) (5) (45) 14 เด็กชายศจั นันท์ กนั แดง 15 เด็กชายวชิรวิทย์ ขวัญเขียว 16 เดก็ หญงิ กมลฉัตร มงั่ มูล 17 เดก็ หญิงณภาภชั พุทธปวน 18 เดก็ หญิงกรรณิกา แก้วคำ 19 เดก็ หญิงปวันพสั ตร์ เขียวเจรญิ 20 เดก็ หญงิ จิรชั ยา ใจพงิ ค์ 21 เด็กหญิงอมรรัตน์ อรุณเรืองศิริเลศิ 22 เด็กหญงิ ปุณยวีร์ ยะบุญธง 23 เด็กหญงิ ธัญญาศิริ แฝงเวยี ง 24 เดก็ หญิงชาตญิ าดา มาแดงสาย 25 เดก็ หญงิ เอมิกา ศรบี ญุ ยัง 26 เด็กหญงิ ชุติกาญจน์ ชายสัก 27 เด็กหญิงณฐั ศศิ ตยิ ายน 28 เด็กหญิงดาลียา ชวลติ เรืองรอง 29 เด็กหญงิ ศศินิภา หนอ่ แนวอ้าย 30 เด็กหญงิ พยิ ดา สุวรรณมา 31 เดก็ หญงิ ดจุ เดอื น เคนเครือ 32 เด็กหญิงกฤตพร เรอื นทราย 33 เด็กหญงิ ชนกานต์ มะโนเพ็ญ

รายการประเมนิ ผลการประเมิน เลขที่ ชือ่ -สกุล การส่ือสาร (C4) รวม ความร่วม ืมอ (C5) คะแนน การใ ้ชเทคโนโล ียสารสนเทศและการส่ือสาร (C6) ผ่าน ไมผ่ า่ น 3 3 3 คะแนน x น้ำหนกั (5) (5) (5) (45) 34 เดก็ หญงิ ภคั จิรา ใจอา้ ย 35 เดก็ หญงิ รักษอร ย้มิ นาค 36 เดก็ หญงิ ชญานษิ ฐ์ศา ใสสอาด 37 เด็กหญิงภัทราภรณ์ สวุ รรณมงคล 38 เดก็ หญงิ ปาณณนาถ ออ่ งสมบูรณ์ 39 เด็กหญิงพรหมน้ำมนต์ ปินทรายมูล 40 เดก็ หญิงวฒั นวดี มน่ั กลน่ิ เกณฑก์ ารตดั สิน คะแนน 36 – 45 หมายถงึ ดมี าก คะแนน 31 - 35 หมายถึง ดี คะแนน 27 - 30 หมายถึง พอใช้ คะแนน 0 - 26 หมายถึง ปรบั ปรงุ เกณฑก์ ารผา่ น ต้งั แต่ระดบั ดขี นึ้ ไป ลงชื่อ …………………………………………… (นางสาวสายฝน ต๊ะวันนา) ผู้ประเมนิ

13. บนั ทึกผลหลงั การจดั การเรยี นรู้ 13.1 ด้านความรู้ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 13.2 ด้านทกั ษะกระบวนการ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 13.3 ดา้ นเจตคติ คา่ นยิ ม คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 13.4 ด้านคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 13.5 ดา้ นสมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 14.6 ปัญหา อปุ สรรค และแนวทางแกไ้ ข ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 13.6 ขอ้ เสนอแนะ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ ……………………………………… (นางสาวสายฝน ต๊ะวันนา) ครผู ู้สอน

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 9 กลุม่ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รหัสวชิ า ว 14101 วชิ า วิทยาศาสตรพ์ นื้ ฐาน ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 4 ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2565 หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 2 สง่ิ มีชีวิต บทท่ี 2 สว่ นตา่ งๆของพืชมดี อก เรอ่ื ง รากและลำต้นของพชื ทำหนา้ ทอ่ี ะไร เวลา 3 ช่ัวโมง ชื่อผสู้ อน นางสาวสายฝน ต๊ะวนั นา โรงเรียนอนุบาลลำพนู วนั ทสี่ อน ………………………………………… 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจสมบัติของสิ่งมีชีวิต หน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต การลำเลียงสารผ่านเซลล์ ความสัมพนั ธข์ องโครงสรา้ ง และหน้าท่ขี องระบบต่าง ๆ ของสัตวแ์ ละมนษุ ย์ท่ที ำงานสัมพนั ธ์กนั ความสัมพันธ์ ของโครงสรา้ ง และหน้าทขี่ องอวัยวะต่าง ๆ ของพชื ทที่ ำงานสมั พนั ธก์ ัน รวมทัง้ นำความรไู้ ปใช้ประโยชน์ ตัวช้วี ัด ว 1.2 ป. 4/1 บรรยายหน้าทข่ี องราก ลำต้น ใบ และดอก ของพชื ดอกโดยใชข้ อ้ มลู ทีร่ วบรวมได้ 2. สาระสำคญั พชื ดอกประกอบดว้ ยราก ลำตน้ ใบและดอก โดยแต่ละสว่ นมหี นา้ ทแ่ี ตกตา่ งกนั 3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ดา้ นความรู้ (K) - สามารถอธิบายหน้าท่ขี องรากและลำต้นของพืชได้ ด้านทกั ษะกระบวนการ (P) - สามารถทำการทดลอง เรอ่ื งรากและลำตน้ ของพชื ทำหนา้ ที่อะไรได้ ด้านคณุ ลักษณะทพ่ี ึงประสงค์ (A) - นกั เรยี นมีความสนใจใฝ่เรยี นรู้ 4. สาระการเรยี นรู้ ส่วนต่าง ๆ ของพืชดอกทำหน้าที่แตกต่างกัน ดังน้ี - รากทำหนา้ ท่ดี ูดนำ้ และแร่ธาตขุ น้ึ ไปยงั ลำต้น - ลำตน้ ทำหนา้ ที่ลำเลียงน้ำตอ่ ไปยงั สว่ นต่าง ๆ ของพืช - ใบทำหน้าที่สรา้ งอาหาร อาหารทพ่ี ชื สร้างขึ้นคอื นำ้ ตาลซงึ่ จะเปลีย่ นเป็นแปง้ - ดอกทำหน้าที่สืบพันธ์ุ ประกอบด้วยส่วนประกอบต่าง ๆ ได้แก่ กลีบเลี้ยง กลีบดอก เกสรเพศผู้ และเกสรเพศเมยี ซ่ึงส่วนประกอบแต่ละส่วนของดอก ทำหน้าทีแ่ ตกตา่ งกนั

5. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน  ความสามารถในการส่ือสาร  ความสามารถในการคดิ 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์  ซ่ือสัตย์สุจริต  ใฝ่เรียนรู้  มุ่งมั่นในการทำงาน 7. ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์  ทกั ษะการสังเกต (S1)  ทักษะการจดั กระทำ และส่ือความหมาย (S6)  ทกั ษะการลงความเห็นจากข้อมลู (S8) 8. กิจกรรมบรู ณาการแนวคดิ การจัดการเรยี นรใู้ นศตวรรษท่ี 21  การสื่อสาร (C4)  ความร่วมมอื (C5) 9. ชน้ิ งาน/ภาระงาน 9.1 ภาระงาน: แบบบันทึกกิจกรรมที่ 1.1 รากและลำต้นของพชื ทำหน้าทีอ่ ะไร (ในหนงั สือแบบบนั ทึกกจิ กรรม รายวิชาพ้ืนฐาน วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี เล่ม 1 ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 หน้าท่ี 68-73) 10. กิจกรรมการเรยี นรู้ วิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) 10.1 ตรวจสอบความรู้ก่อนเรยี น 1. สำรวจความรู้ก่อนเรียนเกี่ยวกับส่วนต่าง ๆ ของพืชดอก โดยตอบคำถามต่อไปนี้ลงใน แบบบันทึกกิจกรรม

ราก ลำต้น ใบ และดอกมีหนา้ ทอ่ี ะไร ใบ ทำหน้าที่ สร้างอาหารโดย ดอก การสังเคราะหด์ ้วยแสง ทำหน้าท่ี สบื พันธ์ุ ลำต้น ราก ทำหนา้ ท่ี ชกู งิ่ ก้าน ใบ ทำหน้าที่ ดูดนำ้ และแร่ ดอก ผล ลำเลยี งน้ำ ธาตอุ าหาร และอาหาร ธาตุ อาหารท่ีพชื สร้างขึ้นคอื อะไร นำ้ ตาล 10.2 ขั้นนำเข้าสูบ่ ทเรยี น (Engagement) 1. ครูตรวจสอบความรู้เดิมเก่ยี วกบั พืช โดยให้นักเรียนดูภาพ ดงั ต่อไปนี้ และให้นักเรยี นตอบคำถาม ภาพที่ 1 กาบหอยแครง (ท่มี า: http://www.sogoodseeds.com/category/7/venus-fly-trap) ครู: พชื แตกต่างจากสตั ว์อยา่ งไร? (แนวคำตอบ: พืชเคล่อื นทไี่ ม่ไดแ้ ต่สตั ว์ เคลอื่ นที่ได้ พืชสร้างอาหารเองได้ แต่สัตวส์ รา้ งอาหาร ไมไ่ ด้) ครู: สว่ นใดของพืชทมี่ ีหน้าทีส่ รา้ งอาหาร? (แนวคำตอบ: ใบ) ครู: ใบของพืชสรา้ งอาหารโดยใชก้ ระบวนการใด? (แนวคำตอบ: การสงั เคราะหด์ ้วยแสง) คร:ู นอกจากใบแลว้ ส่วนอ่นื ๆ ของพืชมหี นา้ ที่อะไรบา้ ง? (แนวคำตอบ: รากมีหนา้ ทยี่ ึดลำต้นและดูดน้ำ ลำตน้ มหี นา้ ทีช่ ูก่งิ กา้ น ใบ ดอกมีหนา้ ทสี่ ืบพันธุ์)

คร:ู ถ้าพชื ไมม่ ีราก ลำต้น ใบ ดอก พชื จะดำรงชีวติ อย่ไู ดห้ รือไม่ เพราะอะไร? (แนวคำตอบ: ไมไ่ ด้ เพราะดดู นำ้ ไมไ่ ด้ สรา้ งอาหารไมไ่ ด้ สบื พันธ์ุไม่ได)้ คร:ู นกั เรยี นคิดว่าราก ลำตน้ ใบ ดอก ทำหน้าทีอ่ ะไรเพอ่ื ให้พชื ดำรงชีวติ อยู่ได้? (แนวคำตอบ: นกั เรยี นตอบตามความเข้าใจ) คร:ู จากภาพนกั เรียนรู้จกั หรอื ไม่วา่ เป็นภาพอะไร? (แนวคำตอบ: ต้นว่านกาบหอยแครงกำลังจะกินแมลง) ครู: ถ้าต้นกาบหอยแครงเจริญเติบโตอยู่ในบริเวณที่ขาดแคลนธาตุอาหารต้นกาบหอยแครง จะดำรงชีวติ อยูไ่ ดห้ รือไม่ เพราะเหตใุ ด? (แนวคำตอบ: ดำรงชีวิตอยไู่ ด้ เพราะตน้ กาบหอยแครงมีใบท่ใี ชจ้ ับแมลงเพื่อมายอ่ ยสลาย และอาศัย ธาตอุ าหารจากตวั แมลงน้นั ได)้ ครู: ธาตุอาหารของพืชคืออะไร? (แนวคำตอบ: นักเรียนตอบตามความเข้าใจ และครูให้ความรู้เพิ่มเติมว่า ธาตุอาหารพืช คือ ธาตุที่อยู่ในดิน เช่น ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม ซึ่งมีประโยชน์ทำให้พืชเจริญเติบโตได้อย่างปกติ ไม่เปน็ โรค) ครู: ต้นกาบหอยแครงมใี บหรอื ไม่? (แนวคำตอบ: ม)ี ครู: ใบของตน้ กาบหอยแครงมลี ักษณะอยา่ งไร? (แนวคำตอบ: มีแผ่นใบ 2 แผน่ ทข่ี อบใบมีเส้นคลา้ ยหวี แผ่นใบทัง้ สอง สามารถประกบกนั ได้) ครู: รูห้ รือยังวา่ ต้นกาบหอยแครงใช้ส่วนใดในการจับแมลง? (แนวคำตอบ: ใบ) คร:ู รหู้ รอื ยังว่าเพราะเหตุใดต้นกาบหอยแครงตอ้ งจบั แมลง? (แนวคำตอบ: เพราะตอ้ งการธาตอุ าหารมาใชใ้ นการเจริญเตบิ โต ใหเ้ ปน็ ไปอย่างปกต)ิ ครู: ใบของต้นกาบหอยแครงสรา้ งอาหารไดห้ รือไม่ เพราะเหตใุ ด? (แนวคำตอบ: ได้ เพราะมสี ีเขียว)

2. ครูนำเข้าสู่บทเรียนโดยการให้นักเรียนดูวีดิทัศน์ แปลงร่างผัดกาดเปลี่ยนสี และใช้ถามคำถาม เพ่อื กระตนุ้ ใหน้ กั เรียนสนใจ ภาพที่ 2 ผักกาดเปลย่ี นสี (ทม่ี า: https://www.youtube.com/watch?v=fDN9CcdaA-U) ครู: จากวีดิทศั นน์ ักเรียนเหน็ อะไรทเ่ี กิดขึ้นกบั ผักกาด? (แนวการตอบ: ผัดกาดเกดิ การเปล่ยี นส)ี คร:ู แล้วผกั กาดเกดิ การเปลย่ี นสไี ดอ้ ย่างไร? (แนวการตอบ: ผกั กาดดดู น้ำสีข้นึ ไป) คร:ู แลว้ ส่วนใดของผักกาดทใ่ี ช้ดดู น้ำสขี ้ึนไป? (แนวการตอบ: ราก) ครู: แล้วต้นพชื โดยทั่วไป ดดู นำ้ ทางไหน? (แนวการตอบ: ราก) ครู: พอรากดูดนำ้ ข้นึ ไปแล้ว นำ้ ไปเลีย้ งส่วนต่าง ๆ ของพชื ได้อยา่ งไร? (แนวการตอบ: ไม่ทราบหรือตามความคดิ เหน็ ของนักเรียน) 3. ครพู ูดเชอ่ื มโยงไปสูก่ ารทดลองเพ่ือคน้ หาคำตอบ 10.3 ขนั้ สำรวจและคน้ หา (Exploration) 1. ครใู หน้ กั เรียนแบ่งกลุ่ม กล่มุ ละ 5-6 คน ปฏบิ ัตกิ ิจกรรมและช้ีแจงกิจกรรมที่ 1.1 เรอื่ งรากและลำต้น ของพชื ทำหน้าทอี่ ะไร ดงั น้ี จดุ ประสงค์ สงั เกต บรรยายลักษณะและหนา้ ทข่ี องรากและลำตน้ ของพชื ดอก วสั ดุและอุปกรณ์ 1) มดี โกน 1 เลม่ 2) แว่นขยาย 1-2 อัน 3) ตน้ เทียน 1 ตน้ 4) ดินสอสี 1 กล่อง 5) นำ้ สีแดง 150 ลูกบาศกเ์ ซนติเมตร 6) แกว้ นำ้ หรอื ภาชนะใส 1 ใบ

วธิ กี ารดำเนินกิจกรรม 1) ล้างต้นเทียนและรากให้สะอาด สังเกตลักษณะภายนอกของรากและลำต้นของต้นเทียน อยา่ งละเอยี ด บันทึกผล 2) คาดคะเนและบนั ทกึ ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เมื่อแชร่ ากและลำตน้ ของต้นเทียนในนำ้ สีแดง บันทกึ ผล 3) ทำกิจกรรมเพื่อตรวจสอบการคาดคะเน โดยสังเกตการเปลี่ยนแปลงของต้นเทียน หลังแช่ ในนำ้ สีแดงเปน็ เวลา 30 นาทแี ละ 1 ชั่วโมง บนั ทึกผล 4) เมื่อครบ 1 ชั่วโมง ตัดรากและลำต้นของต้นเทียนตามขวางและตามยาว และใช้แว่นขยาย สังเกตลักษณะภายในรากและลำตน้ ของตน้ เทยี น บนั ทกึ ผล 5) รว่ มกนั อภิปรายเกี่ยวกบั ส่งิ ทีส่ ังเกตได้ในข้อ 4 และอธบิ ายหน้าทข่ี องรากและลำตน้ นำเสนอ 2. ครใู ห้เวลานักเรียนทำการทดลอง และบันทกึ ผลการทดลองลงในใบบนั ทึกกจิ กรรมที่ 1.1 10.4 ขน้ั อภปิ รายและลงขอ้ สรุป (Explanation) ครูให้นักเรียนนำเสนอผลการทำกิจกรรม จากนั้นครูและนักเรียนร่วมกันอภิปราย โดยใช้คำถาม ดงั ต่อไปน้ี ครู: กอ่ นนำต้นเทยี นแชใ่ นน้ำสีแดง รากและลำต้นมลี ักษณะอย่างไร? (แนวคำตอบ: รากมีสีขาว ประกอบด้วยเสน้ จำนวนมาก ส่วนลำต้นมลี ักษณะเปน็ ทรงกระบอกตรง สเี ขียวใส) ครู: เมอ่ื นำตน้ เทียนไปแชน่ ้ำสแี ดง เกดิ การเปล่ยี นแปลงอย่างไร? (แนวคำตอบ: น้ำสีแดงเคลื่อนที่เข้าสู่ต้นเทียนผ่านทางราก เคลื่อนที่ต่ อไปที่ลำต้น และลำเลียง ขนึ้ ไปจนถึงใบและดอก ซึ่งจะเหน็ เปน็ เสน้ สีแดงยาวติดต่อกัน)

คร:ู การเปล่ยี นแปลงของต้นเทียนหลงั จากแชน่ ำ้ สแี ดงเป็นไปตามท่ีคาดคะเนหรือไม่ อย่างไร? (แนวคำตอบ: นักเรียนตอบตามการคาดคะเนและผลจากการสังเกต เช่น เป็นไปตามที่คาดคะเน คือเมื่อแช่ตน้ เทียนในนำ้ สีแดง น้ำสแี ดงจะเคลื่อนทเี่ ขา้ สู่รากและเคลื่อนทจี่ ากรากผ่านลำต้นขนึ้ ไปยงั ส่วนอื่น ๆ ของตน้ เทียน) ครู: เมอ่ื ตัดรากและลำตน้ ตามขวาง นักเรยี นสังเกตเห็นอะไร? (แนวคำตอบ: สังเกตเห็นว่ารากมสี ่วนที่ติดสแี ดงเปน็ กลุ่มอยู่บรเิ วณส่วนกลางของราก ส่วนลำตน้ จะมสี ่วนท่ีติดสีแดงเข้มเป็นกลมุ่ ๆ เรียงเป็นวงรอบลำตน้ ) ครู: เมื่อตดั รากและลำต้นตามยาว นกั เรยี นสังเกตเหน็ อะไร? (แนวคำตอบ: สงั เกตเหน็ ว่ารากมสี ว่ นท่ีติดสแี ดงเปน็ เส้นยาวขนึ้ ไปจนถงึ ลำต้น สว่ นลำต้น มีส่วนทตี่ ิด สีแดงเปน็ เส้นยาวตลอดความยาวของลำต้น และมสี ่วนทีแ่ ยกเข้าส่กู ่ิงและใบ) ครู: สีแดงทีต่ ดิ เป็นเส้นยาวในรากและลำตน้ คอื อะไร? (แนวคำตอบ: นำ้ สีแดง) ครู: นำ้ สแี ดงน่าจะแทนสิง่ ใดในดนิ ? (แนวคำตอบ: น้ำและธาตุอาหารในดนิ ) คร:ู สรุปไดว้ า่ รากและลำต้นทำหนา้ ทอ่ี ะไร? (แนวคำตอบ: รากทำหน้าที่ดูดน้ำและธาตุอาหารจากดิน ส่วนลำต้นทำหน้าที่ลำเลียงน้ำ และธาตุอาหาร ไปยังสว่ นตา่ ง ๆ ของพชื ) คร:ู พชื มีทศิ ทางในการลำเลยี งนำ้ และธาตอุ าหารไปในทศิ ทางใด? (แนวคำตอบ: การลำเลยี งน้ำและธาตุอาหารมีทิศทางจากดา้ นลา่ งขึ้นสูด่ ้านบน) 10.5 ขน้ั ขยายความรู้ (Elaboration) 1. ครอู ธิบายเพ่มิ เตมิ เกี่ยวกบั รากและลำต้นของพืช ภาพที่ 3 รากพชื (ทีม่ า: https://sites.google.com/site/kruscifun/plantstructure/root) ครู: ราก คือ อวัยวะที่เป็นส่วนประกอบของพืชที่ไม่มีคลอโรฟิลล์ ไม่มีข้อ ปล้อง ตา และใบ รากเจริญเติบโตตามแรงดึงดูดของโลกลงสู่ดิน มีขนาดและความยาวแตกต่างกัน รากของพืชมีหลายชนิด รากพืชจะมขี นเสน้ เลก็ ๆ อยบู่ ริเวณทถี่ ดั ข้นึ มาจากปลายราก เรียกวา่ ขนราก ซ่ึงเป็นการเพิม่ พืน้ ท่ีในการสัมผัส

กับดนิ และน้ำในดนิ ทำใหพ้ ืชดูดน้ำเขา้ สรู่ ากได้มากขึ้น และส่วนท่ตี ดิ สแี ดงในรากและลำตน้ คอื ท่อลำเลียงน้ำ หรือไซเล็ม (Xylem) ซ่งึ เป็นกลุม่ เซลลท์ ่เี รียงตอ่ กนั เป็นท่อจากรากไปสู่ส่วนอน่ื ๆ ทั่วลำตน้ คร:ู หนา้ ทข่ี องราก มดี ังน้ี 1) ยึดลำตน้ ให้ติดกับพ้ืนดิน 2) ดูดน้ำและธาตุอาหารที่ละลายน้ำจากดิน แล้วลำเลียงขึ้นไปยังส่วนต่าง ๆ ของพืช โดยผา่ นทางลำตน้ หรอื กง่ิ ภาพท่ี 4 ลำตน้ พืช (ทม่ี า: https://pxhere.com/th/photo/1425973) ครู: ลำต้น คือ อวัยวะของพืชที่โดยทั่วไปเจริญอยู่เหนือพื้นดินต่อจากราก มีขนาด รูปร่าง และลกั ษณะแตกต่างกันไป ลำตน้ มีทั้งลำต้นอยู่เหนอื ดนิ และใต้ดนิ ครู: หนา้ ท่ีของลำต้น มีดังนี้ 1) เป็นแกนช่วยพยุงอวัยวะต่าง ๆ ได้แก่ กิ่ง ใบ ดอก ผล และเมล็ด ช่วยให้ใบกางออก รบั แสงแดด เพ่อื ประโยชนใ์ นการสร้างอาหาร โดยวิธกี ารสังเคราะหด์ ว้ ยแสง 2) เปน็ ทางลำเลียงน้ำและแร่ธาตุท่รี ากดดู ขน้ึ มาสง่ ตอ่ ไปยังใบและสว่ นต่าง ๆ ของพชื 3) เป็นทางลำเลียงอาหารทใ่ี บสร้างขึ้น ส่งผา่ นลำต้นไปยังรากและส่วนอื่น ๆ ภาพท่ี 5 การลำเลียงนำ้ และแร่ธาตุของพืช (ทมี่ า: https://sites.google.com/site/606150602knkphr/bth-thi-2)

ครู: การลำเลียงน้ำและแร่ธาตุของพืช พืชได้รับน้ำและแร่ธาตุจากดิน โดยน้ำและแร่ธาตุ จะถูกลำเลยี งจากรากและลำตน้ ไปส่ใู บนนั้ ทอ่ และเนือ้ เยอื่ ทล่ี ำเลยี งน้ำและแรธ่ าตุ เรยี กวา่ ไซเล็ม เปน็ เน้ือเยื่อ ที่ประกอบด้วยเซลล์ที่ตายแล้วเรียงต่อกัน โดยที่เนื้อเยื่อตอนปลายที่เป็นรอยต่อระหว่างเซลล์สลายตัวไป ทำใหไ้ ซเลม็ มลี กั ษณะเปน็ ทอ่ กลวงตลอดต้งั แต่รากไปจนถงึ ใบ 2. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายและลงข้อสรุปว่า รากของพืชมีหน้าที่ดูดน้ำและธาตุอาหาร และลำเลยี งไปยงั ลำตน้ ลำตน้ ของพชื มีหน้าท่ีลำเลียงนำ้ และธาตอุ าหารข้นึ ไปยังส่วนอนื่ ๆ ของพชื 3. ครูให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายคำตอบใน ฉันรู้อะไร โดยครูอาจใช้คำถามเพิ่มเติมในการ อภิปราย เพื่อให้ได้แนวคำตอบทีถ่ ูกต้อง ครู: ลกั ษณะภายนอกของรากและลำตน้ ของตน้ เทยี นเหมือนหรือแตกต่างกนั อยา่ งไร? (แนวคำตอบ: แตกต่างกัน รากมีสีขาว ลักษณะเป็นเส้นที่โคนจะกว้างกว่าส่วนปลาย แต่ลำต้น มีสเี ขยี ว ลกั ษณะกลมยาว) ครู: เมื่อแช่ต้นเทียนในน้ำสแี ดง การเปลี่ยนแปลงที่เกิดข้ึนเหมือนหรือแตกตา่ งจากการคาดคะเน อย่างไร? (แนวคำตอบ: นักเรียนตอบตามการคาดคะเนและผลจากการสังเกต เช่น เป็นไปตามที่คาดคะเน คือ เมื่อแช่ต้นเทียนในน้ำสีแดง น้ำสีแดงจะเคลื่อนที่เข้าสู่รากและเคลื่อนที่จากรากผ่านลำต้นขึ้นไปยัง สว่ นอืน่ ๆ) คร:ู ต้นเทียนมีการเปลีย่ นแปลงแตกตา่ งกันอย่างไร เมอื่ แช่ในน้ำสแี ดงผ่านไป 30 นาที และ 1 ชัว่ โมง ตามลำดบั ? (แนวคำตอบ: แตกตา่ งกัน เพราะเมอื่ แช่น้ำสีแดง 1 ชวั่ โมง จะเห็นว่าเสน้ สีแดงในลำต้นเพ่ิมมากข้ึน และไลส่ ูงขึ้นจนถึงใบ) คร:ู นำ้ และสีแดงเปรียบไดก้ ับสงิ่ ใด? (แนวคำตอบ: นำ้ และธาตอุ าหาร) ครู: เพราะเหตุใด รากและลำตน้ ของตน้ เทียนจงึ เกดิ การเปลยี่ นแปลงเมื่อแช่ในน้ำสแี ดง? (แนวคำตอบ: เพราะรากดูดน้ำสีแดงเข้าภายใน และลำเลียงต่อไปยังลำต้น และลำต้นลำเลียง ขึ้นไปยงั สว่ นตา่ ง ๆ จึงเหน็ ว่าภายในรากและลำตน้ มีเส้นสีแดง) คร:ู ลักษณะภายในของรากและลำตน้ ของต้นเทียนเปน็ อย่างไร จงึ ทำใหต้ น้ เทียนมกี ารเปล่ียนแปลง เมอ่ื แชใ่ นนำ้ สแี ดง? (แนวคำตอบ: ภายในรากและลำต้นจะมีท่อลำเลยี งน้ำ ซ่งึ เปน็ ทอ่ ยาวจากรากไปสู่ส่วนต่าง ๆ ของพืช ซง่ึ เป็นทางผา่ นของน้ำสีแดงข้ึนไปยังส่วนต่าง ๆ ของตน้ เทียน) คร:ู รากและลำตน้ มหี นา้ ที่อะไร รู้ไดอ้ ย่างไร? (แนวคำตอบ: รากของพืชมีหน้าที่ดูดน้ำและธาตุอาหาร และลำเลียงไปยังลำต้น ลำต้นของพืช มหี นา้ ที่ ลำเลียงน้ำและธาตุอาหารข้นึ ไปยังส่วนต่าง ๆ ของพืช รไู้ ดจ้ ากการสังเกตการเคล่ือนท่ีของน้ำสีแดง จากรากผา่ นลำตน้ ไปสใู่ บ)


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook