Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore พระผู้เจริญพร้อม

พระผู้เจริญพร้อม

Description: พระผู้เจริญพร้อม

Search

Read the Text Version

คำสอนของเจา้ พระคุณสมเด็จฯ หากนอ้ มใจไปพจิ ารณาโดยแยบคายก็จะเกิดปญั ญา นำไปสู่ความเขา้ ใจในตนเองและผู้อนื่ สามารถคลค่ี ลายปัญหาชีวิตของตนเอง เปน็ การยกระดบั จิตใหส้ งู ย่งิ ข้ึน จนเช่อื มโยงไปสกู่ ารเขา้ ใจความหมายท่แี ทจ้ รงิ ของชวี ิต

สมเดจ็ พระญาณสงั วร สมเดจ็ พระสงั ฆราช สกลมหาสงั ฆปริณายก

พระผเู้ จรญิ พรอ้ ม สมเด็จพระญาณสังวร สมเดจ็ พระสงั ฆราช สกลมหาสงั ฆปรณิ ายก พิมพ์ครั้งแรก ตุลาคม ๒๕๕๒ – กรงุ เทพฯ จำนวน ๑๕,๐๐๐ เลม่ มหาวทิ ยาลัยมหามกฏุ ราชวิทยาลยั จดั พมิ พ์น้อมถวายสมเดจ็ พระญาณสังวร สมเดจ็ พระสังฆราช สกลมหาสงั ฆปรณิ ายก ในงานฉลองพระชันษา ๙๖ ปี วนั ที่ ๓ ตลุ าคม ๒๕๕๒ ขอ้ มลู ทางบรรณานกุ รมของสำนกั หอสมุดแหง่ ชาต ิ อจั ฉราวดี สตอ็ คมันน์. พระผู้เจริญพร้อม สมเดจ็ พระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสงั ฆปรณิ ายก.-- กรงุ เทพฯ : สำนกั เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช, ๒๕๕๒ ๒๗๒ หนา้ . ๑. สมเด็จพระญาณสงั วร สมเดจ็ พระสงั ฆราช (เจริญ สวุ ฑฺฒโน), ๒๔๕๖ I. ชลุ พี ร วริ ยิ ะวงศช์ ัย, II. ศริ ิวรรณ สุขวเิ ศษ, ผูแ้ ตง่ รว่ ม. III. ชื่อเรือ่ ง. ISBN 978-074-235-112-0 คณะทำงานฝา่ ยสงฆ์ บรรณาธิการอำนวยการ พระ ดร. อนิล ธมฺมสากิโย บรรณาธิการวิชาการ รศ. สุเชาวน์ พลอยชุม กองบรรณาธิการ พระมหาไฉน จิตฺตสุทโธ พระครูสังฆสิทธิกร (อิริค สิริภทฺโท) ประสานงานกองบรรณาธิการ พระไกรวสิ ุทธิ์ ิตวิสุทธฺ ิ (รณขันธ)์ คณะทำงานอาสาสมคั ร บรรณาธิการบริหาร ชุลพี ร วิริยะวงศ์ชยั บรรณาธกิ ารอาวุโส อจั ฉราวดี สต็อคมันน์ บรรณาธิการสร้างสรรค์และ ศิลปกรรม พีรพงศ์ พงษ์ประภาพันธ์ บริษัท 1000 PONIES จำกัด ออกแบบและรูปเล่ม อุดมลักษณ์ สภาพ ดูแลและจัดเก็บภาพต้นฉบับ นิตยา อนิวรรตน์ชน ภาพปก พลอยฉาย อนุรัตน์ ภาพประกอบลายเส้น จักรกริช เรืองรัศมีชัย ภาพประกอบสีน้ำมัน รุจิพัฒน์ สุวรรณสัย สร้างสรรค์ลวดลายศิลปะ พลชัย ทองประดิษฐ กองบรรณาธิการ ศิรวิ รรณ สุขวเิ ศษ โชติกา คงเพชรสถติ ย์ ชตุ ิมา อนวิ รรตนช์ น ประสานงานกองบรรณาธกิ าร พารณี เจยี รเกยี รติ พสิ จู น์อักษร อุดม ตันตติ ้องตา จงจิต อนนั ตคูศรี ใจบุญ ขนุ ทรง ผรู้ ่วมสนับสนนุ โครงการ อลิศา ริมดสุ ิต ผู้จัดการฝา่ ยผลติ เฉลิมพล นำ้ เต้าทอง พ มิ พ์ที่ : บรษิ ัท ศริ วิ ัฒนา อนิ เตอร์พร้ินท์ จำกดั (มหาชน) ๑๒๕ ซอยจันทน์ ๓๒ ถนนจันทน์ แขวงท่งุ วดั ดอน เขตสาทร กทม. ๑๐๑๒๐ โทร. ๐-๒๖๗๕-๕๖๐๐ บริษัท ผลิตภัณฑ์กระดาษไทย จำกดั สนบั สนนุ กระดาษบางสว่ น * ห้ามคัดลอกตัดตอนหรือนำไปพิมพ์โดยไม่ได้รับอนุญาต หากท่านประสงค์พิมพ์แจกเป็นธรรมบรรณาการ โปรดติดตอ่ ขออนุญาต เจ้าของลขิ สทิ ธิ์ : สำนกั เลขานกุ ารสมเดจ็ พระสงั ฆราช วัดบวรนิเวศวิหาร ๒๔๘ ถนนพระสเุ มรุ แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กรงุ เทพมหานคร ๑๐๒๐๐ โทร. ๐-๒๒๘๐-๘๒๐๒ โทรสาร. ๐-๒๒๘๐-๐๓๔๓ อีเมล : [email protected] Dhammaintrend รว่ มเผยแพรแ่ ละแบง่ ปันเป็ นธรรมทาน Buddha-Chapter Title.indd 2-3

“ผูเ้ จรญิ ด”ี ...พระผู้ “เจริญ” พร้อม จากเด็กชายเจริญ คชวัตร ผู้มีพลานามัยอ่อนแอ ต้องบวชเณรแก้บน ...มาเปน็ พระเปรยี ญธรรมในฉายา “สุวฑฒฺ โน” (ผ้เู จรญิ ดี) กา้ วหน้าทางธรรมและ การปกครองสงฆเ์ ป็นลำดบั จนกระทงั่ ไดร้ บั การสถาปนาเป็น “สมเดจ็ พระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก” สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ ๑๙ ของประเทศไทย ...๙๖ ปีที่ผ่านมาในพระชนม์ชีพ มีเรื่องน่าสนใจมากมายท่ีสะท้อนให้เห็นถึง พระปฏิปทาและพระจรยิ าวตั รอนั งดงามในทุกดา้ นของพระองคท์ ่าน ซงึ่ ผทู้ ่เี คยอ่าน หรือศึกษาพระประวตั อิ ยา่ งถ่ถี ว้ นย่อมจะประจกั ษแ์ ก่ใจ ถึงกระน้ัน ผู้ใกล้ชิดพระองค์ท่านก็ยังรู้สึกว่า มีบางแง่มุมในพระประวัติท่ีมี คุณค่าแกก่ ารเรียนรู้ แตย่ งั ไมม่ ีใครนำมาบอกเล่าสสู่ าธารณชน และหากยังคงท้ิงไว้ จนกระท่ังผู้มีส่วนรู้เห็นในเรื่องราวอันเป็นส่วนหน่ึงของพระประวัติล้มหายตายจากไป เรอ่ื งราวอันทรงคณุ ค่าเหล่าน้นั ก็จะสูญหายไปอย่างน่าเสียดายและนา่ เสยี ใจ คณะผูเ้ รียบเรียงหนงั สือ “พระผูเ้ จริญพรอ้ ม” นีจ้ งึ ได้อทุ ิศกำลงั กาย กำลงั ใจ และกำลังสติปัญญา ช่วยกันสืบหาและรวบรวมข้อมูลต่างๆ จากบุคคลผู้เก่ียวข้อง ในแต่ละช่วงชีวิตของเจ้าพระคุณสมเด็จฯ จากทุกท่ีทุกแห่งเท่าท่ีจะสามารถสืบสาว ไปถึง แล้วนำมาร้อยเรียงบอกเล่าถึงพระประวัติ เสนอต่อท่านผู้อ่านเท่าที่ สติปญั ญาจะทำได้ โดยม่งุ หวังว่าจะเกดิ ประโยชน์แก่ผ้อู ่านทกุ ทา่ นอยา่ งคมุ้ คา่ แก่เวลา พร้อมกันน้ียังได้รวบรวมภาพของพระองค์ท่านตั้งแต่ครั้งยังทรงพระเยาว์ พระกรณียกิจต่างๆ รวมทั้งบุคคลผู้ใกล้ชิดและเก่ียวข้อง มาคัดสรรจัดเรียงและ จดั พิมพ์เป็นหนงั สอื ภาพสี่สีทง้ั เล่มอกี เล่มหน่ึง เพอื่ ใหเ้ ห็นกนั เตม็ ตา ใหช้ ่ืนชมกันได้ เตม็ ท่ี โดยใช้ชื่อหนงั สือว่า ”พระของประชาชน” คณะผู้เรียบเรียงหนังสือเล่มนี้ ขอน้อมถวายกุศลผลบุญอันจะพึงเกิดจาก หนังสือนี้ เป็นเคร่ืองสักการบูชาพระคุณแด่เจ้าพระคุณสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ขอทรงเจริญพระชนมายุย่ิงยืนนาน เสด็จสถติ เป็นธงธรรมและธงชยั ของพุทธบรษิ ัททัง้ ปวงตลอดไป คณะผู้เรยี บเรียง 11/6/09 10:23:40 AM

สารบัญ ๑ ผเู้ จริญพร้อม ๙ เด็กชายเจรญิ คชวตั ร ดรณุ วยั ในบ้านเกิด กับความสนกุ ในวยั เดก็ ๒ ชวี ติ ทห่ี ล่อเลย้ี งดว้ ยพระธรรม สรู่ ่มกาสาวพสั ตร์ เสน้ ทางจากวัดเทวสงั ฆาราม ถงึ วดั เสนหา ๔๑ และเขา้ กรงุ เทพฯ มาบวชเรยี นทวี่ ัดบวรนิเวศวหิ าร ๓ พระผู้รกั การศกึ ษา รำ่ เรียนดว้ ยอุตสาหะ ทงั้ วิชาปรยิ ัตธิ รรม ภาษา ๖๙ และการปฏิบัตกิ รรมฐาน ๔ พระวิริยะเพื่อพระศาสนา คือครูผู้สอนธรรมของพระพทุ ธเจ้า แกพ่ ระภกิ ษสุ งฆ์ ๙๕ และคฤหัสถ์ ทง้ั ชาวไทยและชาวตา่ งประเทศ ๕ กลน่ิ หอมทีฟ่ งุ้ ขจรสสู่ ากล ๑๓๕ เผยแผแ่ ละวางรากฐานพระพุทธศาสนาในตา่ งประเทศ 4 พระผเู้ จรญิ พรอ้ ม Buddha-Chapter Title.indd 4-5

๖ เสาหลกั แหง่ บวรพระพทุ ธศาสนา ๑๖๑ สถาปนาเปน็ สมเด็จพระสงั ฆราชพระองค์ท่ี ๑๙ กับพระกรณียกิจในฐานะผเู้ ป็นหลกั แห่งธรรม ๗ พระอัจฉรยิ ภาพ ๑๘๕ พระนพิ นธเ์ พือ่ พระพุทธศาสนากว่ารอ้ ยชิน้ งาน และพระภารกจิ ในการกอ่ สร้างและปฏสิ ังขรณเ์ พ่อื สนองคุณ บรู พคณาจารยแ์ ละสมเด็จพระบรุ พมหากษตั รยิ าธิราชเจา้ อีกมากมาย ๘ พระจรยิ าวัตร ๒๑๕ พระกจิ วตั รใน ๒๔ ช่วั โมง สะทอ้ นพระอปุ นสิ ยั และปฏิปทาทเ่ี ปน็ แบบอยา่ งอันดีงาม ๙ พระเมตตาบารมี ๒๔๓ เมตตาทีป่ ลกู ในใจคนทกุ หม่เู หลา่ ด้วยทรงเปน็ “พระของประชาชน” พระผ้เู จริญพรอ้ ม 5 11/6/09 10:23:41 AM

Buddha-Chapter Title.indd 6-7

11/6/09 10:23:44 AM

“...ชีวิตคนคนหนึง่ ที่ร่งุ เรืองสวา่ งดว้ ยอานุภาพของความดี คือ จดุ หนึ่งแหง่ ความรม่ เยน็ ของบ้านเรือน ของประเทศชาติ ถา้ หลายๆ ชวี ิตดำรงอยู่ดว้ ยความดี ความรม่ เยน็ เป็นสุขย่อมกวา้ งขวางออกไป และความรม่ เยน็ เป็นสุขนั้น เกิดข้ึนท่ีไหน ย่อมขบั ไล่ความทกุ ขค์ วามร้อนทน่ี น้ั ใหบ้ างเบา ถึงหมดสิ้นไปกย็ ังได้...” จากเรือ่ ง มนุษย์นนั้ เปน็ ผู้มบี ุญทีส่ ดุ หนังสอื “อำนาจอันย่ิงใหญแ่ ห่งกรรม พทุ โธโลยี” 8 พระผู้เจริญพร้อม Buddha-Chapter 1.indd 8-9

ผ้เู จริญพรอ้ ม ถนนปากแพรก ตำบลบ้านเหนือ จังหวดั กาญจนบุรี... เอก้ อีเ๊ อ้ก เอ้ก...เอก้ อ๊ีเอก้ เอ้ก...เอ้กอ๊เี อก้ เอก้ ฝูงไก่พากันโก่งคอขันดังทอดต่อกันเป็นระยะ ขับไล่ความสงัดแห่ง คนื พระจนั ทรเ์ ส้ียว วันใหม่จะเริม่ ตน้ แล้ว ดวงอาทิตย์กำลงั ทอดวง อีกไม่ นานแสงแรกแห่งวนั จะปรากฏ ช่วงเวลาปลายฝนต้นหนาวเชน่ นี้ อากาศหวั รงุ่ เย็นสดช่นื พวกเดก็ ยัง คงนอนหลับกันอุตุอยู่ใต้ผ้าห่มอุ่น ตายายปู่ย่าพ่ีป้าน้าอาค่อยๆ ทยอยตื่น ก่อฟืนไฟหุงข้าวหาปลา เตรียมอาหารเช้าใส่บาตรอันเป็นกิจวัตรแรก ของชาวบา้ นส่วนใหญ่ในละแวกนี ้ สว่ นคนในบา้ นคชวตั รและบา้ นรุง่ สวา่ งก็กำลงั ชุลมนุ แทบจะไม่มีใคร ได้นอน ด้วยว่าเม่ือคืนแม่กิมน้อยเจ็บท้องต้ังแต่หัวค่ำ แม่หมอตำแย ถกู ตามตัวมากลางดกึ เพอ่ื ทำคลอดใหแ้ ม่กิมนอ้ ย พระผเู้ จริญพรอ้ ม 9 11/6/09 10:29:46 AM

ประสตู กิ าลแหง่ สงั ฆราชา วนั แสงสอ่ งใจพทุ ธมามกะท้งั แผ่นดนิ แม่กิมน้อย เกิดในตระกูลรุ่งสว่าง พบรักและแต่งงานกับนายน้อย คชวตั ร พอแตง่ งานแม่กมิ นอ้ ยก็ย้ายไปอยูก่ ับสามีทบี่ า้ นคชวตั ร ซ่งึ ตงั้ อยู่ ใกลเ้ รยี งเคียงกัน เดินเพยี งไม่กก่ี า้ วก็ถงึ แลว้ เมื่อแม่กิมน้อยท้องแก่ใกล้คลอด ธรรมเนียมของตระกูลรุ่งสว่าง เมื่อลกู สาวทอ้ งแก่ ก็จะกลบั บ้านมาเตรียมคลอดท่ีบ้านเดิม ทีน่ ี่มีหอ้ งหับ เตรียมสำหรับเป็นห้องคลอด มีข้าวของเคร่ืองใช้พร้อมหมด ไม่ว่าจะข่ือ สำหรับผูกแขวนเชือก เพ่ือไว้จับเหนี่ยวยึดเวลาเบ่งคลอด กระด้งสำหรับ เด็กแรกเกิด มีกระดานไฟท่ีจัดทำเฉพาะสำหรับเวลาอยู่ไฟ เรียกว่าทุก อย่างพร้อมสรรพ อีกทั้งยังเป็นห้องท่ีมีที่ทางเหมาะสำหรับแม่ลูกอ่อน ด้วย มเี ปลสะดึงเตรียมไว้ใช้สำหรับเดก็ ออ่ น เป็นเปลท่ีทำจากต้นไม้ใหญ่ ผ่าครึ่งออกแบบให้มีลักษณะมั่นคงไม่โยกเยกเวลาไกว ลูกหลานเหลน โหลนในตระกลู นจี้ งึ ต่างเติบโตกันทีน่ ี่มาแลว้ ทัง้ น้นั ... ควันไฟขาวขุ่นลอยข้ึนจากเตาฟืน น้ำร้อนในหม้อดินเดือดปุดๆ แมห่ มอตำแยเหลาไม้ไผจ่ นคมกรบิ เสรจ็ แล้ว เพื่อเตรียมไว้สำหรบั ตัดสาย สะดอื ของทารก คนทตี่ ่นื เตน้ ท่ีสุดตอนน้ี คงจะไมม่ ีใครเกนิ นายนอ้ ยผกู้ ำลงั จะเปน็ พ่อ ครงั้ แรกในชวี ิต ส่วนอีกคนคือแม่กิมเฮง พี่สาวคนโตของแม่กิมน้อยท่ีคอยอยู่ใกล้ๆ นอ้ งสาวไม่หา่ ง แมจ้ ะชว่ ยหยิบจบั ทำอะไรได้ไม่มากเท่าคนอ่ืน ด้วยดวงตา ท่ีมองไม่เห็นท้ังสองข้าง แต่น้ำเสียงนุ่มนวลอ่อนโยนอันเต็มเปี่ยมไปด้วย ความรักทีม่ ีตอ่ นอ้ งและหลานคนแรกทกี่ ำลังจะเกิดกช็ ่วยใหอ้ นุ่ ใจไดม้ ากโข 10 พระผ้เู จริญพร้อม Buddha-Chapter 1.indd 10-11

วันศกุ ร์ที่ ๓ เดอื นตลุ าคม พ.ศ. ๒๔๕๖ ในรชั สมัยพระบาทสมเด็จ พระมงกุฎเกลา้ เจา้ อยู่หัว รชั กาลท่ี ๖ กอ่ นอรุณรุง่ ประมาณตีสเี่ ศษ ขึ้นสค่ี ่ำ เดือนสิบเอด็ ปฉี ลู เสียงร้องของทารกดังแผดจ้า ลมหายใจแรกของชีวิตใหม่ได้เร่ิมขึ้น ลูกชายคนแรกของนายน้อยและนางกิมน้อย คชวัตร ลืมตาดูโลก แม่กิมนอ้ ยมองดลู ูกชายตัวกระจริ ดิ หลบั ตาพริ้มนอนแนบอก น้ำตาปีติสขุ รินไหล เมือ่ ความรกั ของแมท่ ่ีมีตอ่ ลกู น้ันเบ่งบาน วันนี้ถือเป็นวันแห่งความสุขของครอบครัวคชวัตรและครอบครัว รุ่งสว่างโดยแท้ ...เสียงระฆังดังเหง่งหง่างลอยมาจากวัดเทวสังฆาราม (วัดเหนือ) ไดเ้ วลารวมจิตของหมูพ่ ระสงฆ์เพ่ือทำวตั รเชา้ เสียงสวดมนตด์ งั ชัดกังวาน อยา่ งสงบเยน็ อยู่ในโบสถเ์ กา่ แก่ทสี่ รา้ งขึน้ ตั้งแต่สมยั รชั กาลที่ ๓ ในเวลานน้ั ใครเลยจะคาดคดิ วา่ อกี ๗๕ ปตี อ่ มา การถือกำเนดิ ของ ทารกชายในเช้ามืดวันน้ี จะเป็นวันแห่งประวัติศาสตร์ วันท่ีเป็นดังแสง ส่องใจของเหลา่ พุทธมามกะทัง้ แผน่ ดิน ...สังฆราชาประสตู ิแลว้ ... สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (สุวฑฺฒนมหาเถร) สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ ๑๙ พระผู้ทรงดำรง สมณศกั ด์นิ ้ียาวนานทส่ี ดุ ในกรงุ รตั นโกสินทร์ พระชนก “น้อย” เด็กชายเจริญ คชวัตร เป็นพระนามเดิมของเจ้าพระคุณสมเด็จฯ พระชนกและพระชนนีเลือกชื่อนี้ ด้วยความรักและความปรารถนาให้ ลกู ชายคนโตเป็นผ้เู จริญพร้อมในทกุ ดา้ น พระผู้เจรญิ พรอ้ ม 11 11/6/09 10:29:46 AM

เจ้าพระคุณสมเด็จฯ ทรงอยู่ใกล้ชิดกับพระชนกได้เพียง ๙ ปี พระ ชนกกไ็ ดจ้ ากไปดว้ ยโรคเน้ือร้าย ถงึ แก่กรรมเม่ืออายไุ ดเ้ พียง ๓๘ ปี พระ ชนกในความทรงจำของเจ้าพระคณุ สมเด็จฯ จงึ รางเลอื นนัก ...พระชนกน้อยเกดิ เมอื่ วนั จนั ทร์ ข้ึน ๑๓ ค่ำ เดอื นย่ี ปวี อก ตรงกบั วนั ท่ี ๒๙ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๔๒๗ ได้เรียนหนังสือ อุปสมบทเป็นพระภิกษุอยู่ ๒ พรรษา ในสำนัก พระครูสงิ คบิ รุ คณาจารย์ (สดุ ) เจา้ อาวาสวดั เหนอื ซึ่งเป็นอาคนเลก็ ของ พระชนกและเป็นปู่ของเจ้าพระคุณสมเด็จฯ เมื่อพระชนกลาสิกขาแล้ว ได้เข้ารับราชการ เริ่มด้วยตำแหน่งเสมียนสังกัดกระทรวงมหาดไทย ประจำอยูเ่ มอื งกาญจนบุรี ตามประวัติพระชนกเป็นคนเรียบร้อย ต้ังใจทำงานอยู่ในกฎระเบียบ วินยั โดยเครง่ ครดั เรม่ิ รับราชการเป็นเสมยี นอำเภอเมืองกาญจนบุรี เม่ือ พ.ศ. ๒๔๔๕ เป็นผ้ทู ่รี งั้ ปลัดขวา เมอื่ พ.ศ. ๒๔๕๑ ...ต่อมาไปตรวจราชการท้องท่ี จนป่วยหนักต้องลาออกจากราชการ แต่ด้วยคุณงามความดีท่ีเคยรับราชการมา เมื่อหายป่วยแล้วพระชนกจึง สามารถกลบั เข้ารบั ราชการใหม่ได ้ พระชนกพบรกั แตง่ งานกับพระชนนี ปี พ.ศ. ๒๔๕๔ พอแต่งงานได้ ๒ ปี มีบุตรชายคนโต คือเจ้าพระคุณสมเด็จฯ ปีถัดมาเจ้าพระคุณ สมเดจ็ ฯ เจรญิ พระชนมายไุ ด้ ๑ ปี หน้าที่การงานของพระชนกกก็ า้ วหนา้ ขึ้นตามลำดบั ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นปลดั ขวาอำเภอวังขนาย ด้วยพ้ืนนิสัยของพระชนกเป็นคนรักชาติรักแผ่นดินเกิดย่ิงชีพ เม่ือ พระบาทสมเด็จพระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อยูห่ วั โปรดเกล้าฯ ใหป้ ระกาศรบั อาสา สมัครสมาชิกเสือป่าเพ่ือทรงส่งเสริมความเข้มแข็งให้แก่ประชาชนในการ ชว่ ยทหารป้องกนั ภยั อันอาจเกดิ ขนึ้ แกป่ ระเทศชาติ 12 พระผเู้ จรญิ พรอ้ ม Buddha-Chapter 1.indd 12-13

พระชนกได้ร่วมเป็นอาสาสมัครครั้งน้ี และรับการฝึกปฏิบัติ ถ้าเป็น เวลาสงคราม ต้องชว่ ยรักษาบา้ นเมอื ง ปะทะตา้ นทานหนว่ งเหนีย่ วข้าศกึ ไว้ เพ่ือให้กองทหารยกไปทัน รักษาด่านและช่วยกองทหารขัดตาทัพในท่ีบางแห่ง รกั ษาการตดิ ต่อและบรรเทาภารกจิ ของกองทหาร รวมทัง้ ช่วยลาดตระเวน สืบขา่ ว แม้ในยามท่บี า้ นเมอื งสงบเรียบร้อย เสอื ปา่ กร็ วมพลกันดูแลสงั คม ให้สงบสขุ เชน่ ช่วยเหลือประชาชนในยามเกดิ เพลิงไหม้ น้ำทว่ ม เปน็ ต้น ความภูมิใจในชีวิตอีกครั้งหน่ึงของพระชนก คือมีโอกาสได้ร่วมฝึก ซ้อมรบเสือป่ากับพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยมีการฝึก การประลองยุทธ์ คร้ังนั้นมีการฝึกเสือป่าโดยเดินทางไกลจากค่ายหลวง พระราชวังสนามจันทร์ จงั หวดั นครปฐม ไปจนถงึ เจดียย์ ุทธหตั ถี จงั หวดั สพุ รรณบรุ ี และเลยไปถึงกาญจนบุรดี ้วย และในศกเดยี วกันนนั้ เอง สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชริ - ญาณวโรรส (พระองค์เจ้ามนุษยนาคมานพ มนุสฺสนาโค) ได้เสด็จตรวจ การคณะสงฆ์ จงั หวดั กาญจนบรุ ี ขณะประทบั ท่วี ดั เหนือ โปรดให้ชาวบา้ น ขา้ ราชการ นำบุตรหลานเขา้ เฝ้า พระชนกไดจ้ ูงมือนอ้ ยๆ ของเจ้าพระคณุ สมเดจ็ ฯ ลกู ชายแสนรัก ซึ่งขณะนน้ั อายเุ พียง ๒ ขวบ เพ่ือเข้าเฝา้ สมเดจ็ พระสมณเจา้ ฯ ณ เหตุการณ์นัน้ ทางพระพทุ ธศาสนาถือวา่ ไมม่ ีเหตบุ งั เอิญ ทุกอย่าง เป็นไปตามเหตปุ จั จยั ...สมเด็จพระสมณเจ้าฯ ผู้เป็นราชาแห่งพระสงฆ์ ได้พบกับ เด็กชายน้อยๆ ผู้ซึ่งจะได้เป็นองค์สังฆราชาในอนาคต พระผู้เป็นเลิศ ทั้งความเป็นนักปริยัติและปฏิบัติ และความเป็นนักปกครองผู้มีจิตใจ ท่ีเป่ียมดว้ ยความเมตตา ตำแหน่งสุดทา้ ยในชวี ติ ราชการของพระชนกน้ัน ท่านได้ย้าย พระผเู้ จรญิ พรอ้ ม 13 11/6/09 10:29:47 AM

ครอบครัว พระชนนี พร้อมด้วยเด็กชายจำเนียรและเด็กชายสมุทร น้องชายของเจ้าพระคุณสมเด็จฯ ท้ังสองคน ไปรับตำแหน่งเป็น ปลัดอำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม ในคร้ังนั้นท่านเจ้าพระคุณ สมเด็จฯ ไม่ได้ติดตามไปด้วย คงยังอยู่กับป้ากิมเฮง พ่ีสาวของพระชนนี ผู้ซ่งึ เลี้ยงดเู จา้ พระคณุ สมเด็จฯ ตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ ต่อมาครอบครัวคชวัตรจำเป็นต้องตัดสินใจกลับบ้าน เนื่องจาก พระชนกป่วยหนักอีกครั้งด้วยโรคเน้ือร้าย ต้องกลับมารักษาตัวที่บ้านเกิด และสิ้นบุญในที่สดุ ต้องจำใจจากลกู นอ้ ยๆ ทั้งสามคนไปโดยปลอ่ ยใหอ้ ยู่ ในความอุปการะของภรยิ าผู้เป็นทีร่ กั ดว้ ยไม่อาจหนพี น้ กฎของธรรมชาติ เพราะชวี ติ ทุกชวี ติ ล้วนอยู่ในกฎแห่งความเปน็ อนิจจงั พระชนนี “น้อย” พระชนนกี ิมน้อย คชวัตร เปน็ ลูกสาวคนที่สองของพอ่ เฮงเล็ก แซต่ นั๊ และแมท่ องคำ มีพ่นี ้องแมเ่ ดยี วกนั สองคนคอื ปา้ กิมเฮงและพระชนนี ปีใดไม่ปรากฏพ่อเฮงเล็กเสียชีวิต แม่ทองคำได้แต่งงานใหม่กับพ่อสุข ร่งุ สวา่ ง พระชนนีน้อยมีนอ้ งชายคลานตามกันมาอกี ๔ คน ชอื่ นายเสยี ม นายเติม นายแถม และนายทองดี พระชนนีเกิดเมื่อวันจันทร์ในคืนเดือนแรม ๖ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีจอ ตรงกับวนั ที่ ๑๘ ตลุ าคม พ.ศ. ๒๔๒๙ ที่ตำบลบ้านเหนือ พระชนกกับพระชนนีเติบโตมาในหมู่บ้านเดียวกัน เห็นกันต้ังแต่ ยังเป็นเดก็ มีวยั ที่ไล่เลย่ี กัน อายหุ า่ งกนั เพียงแคส่ องปี ชอื่ “กมิ น้อย” เปน็ ชือ่ ทีพ่ ่อแม่เรียกกนั มาตงั้ แตเ่ ด็ก กิมน้อยแปลวา่ เข็มน้อย คำวา่ “กิม” ได้มาจากภาษาญวน แปลว่า เข็ม พระชนนีแต่งงานกบั พระชนกขณะทพ่ี ระชนนีอายุ ๒๕ ปี ซงึ่ ถอื ว่า 14 พระผเู้ จริญพร้อม Buddha-Chapter 1.indd 14-15

ป้ายบ้านรุ่งสวา่ งในอดีต ถนนปากแพรก หนา้ บา้ นรงุ่ สว่าง น้าชายทั้งส่ี คอื (จากซา้ ย) เสียม เติม แถม ทองด ี พระผูเ้ จริญพร้อม 15 11/6/09 10:29:48 AM

สขุ รุ่งสวา่ ง คุณตาของ งานศพป้าเฮง้ เจ้าพระคณุ สมเดจ็ ฯ สามเณรเจริญกบั เพื่อนเณรและนอ้ งชายท้ังสองคน 16 พระผ้เู จริญพรอ้ ม Buddha-Chapter 1.indd 16-17

แตง่ งานช้ามากในสมัยนนั้ ตามที่พบในสมุดบันทึกของพระชนกพบว่า พระชนนีได้ใช้ชื่อว่า “แดงแก้ว” ตอนแต่งงาน แต่ไม่ปรากฏว่ามีใครเรียกชื่อน้ีอีก คาดว่าคง เปลี่ยนกลบั มาใชก้ ิมนอ้ ยหรอื เรยี กสั้นๆ วา่ “นอ้ ย” ทั้งพระชนกและพระชนนีจึงมีชื่อเดียวกัน ชาวบ้านเรียกกันว่า “พ่อนอ้ ย” “แมน่ ้อย” ส่วนชอื่ “แม่เนาะ” เป็นช่อื ทีล่ ูกชายสามคนรวมท้ัง หลานๆ เรียกกันจนติดปาก พระชนนเี กิดมาในชว่ งเวลาที่ครอบครวั ตกอับ จงึ ต้องชว่ ยบดิ ามารดา ทำงานเลี้ยงชีพแต่เด็ก ซ้ำยังเคราะห์ร้ายประสบอัคคีภัยไหม้บ้านถึง ๓ ครง้ั ๓ ครา เมื่อมีครอบครัวของท่านเอง ก็ทำงานปรนนิบัติสามีและลูก ต้อง เดินทางไปมาระหว่างกาญจนบุรีกับสมุทรสงคราม เพราะสามีไปเป็น ปลัดอำเภออยู่ที่น่ัน การเดินทางสมัยนั้นต้องใช้เรือ จึงมีเหตุให้คร้ังหน่ึง เรือโดยสารล่ม ท่านต้องอุ้มลูกชายคนเล็กกระเสือกกระสนขึ้นจากน้ำ เกือบเอาชวี ติ ไมร่ อด วิบากกรรมชีวิตคงเปิดทางสู่ศรัทธาในพระพุทธศาสนาอย่างม่ันคง พระชนนีปฏิบัติกรรมฐานมาตั้งแต่ปฐมวัย ก่อนนอนจะต้องสวดมนต์ไหว้ พระเปน็ ประจำ พระชนนีอ่านเขียนภาษาไทยได้เล็กน้อย แต่มีฝีมือด้านอ่ืน อีกทั้ง เป็นคนขยันข้ึนช่ือ ละเอียด พิถีพิถัน เน้นการประหยัด สันโดษในการ บริโภค รู้จักขอบเขตในการใช้ส่ิงของ คำนึงถึงคุณค่าของส่ิงของท่ีได้มา และใช้สง่ิ ของนนั้ ๆ อย่างเตม็ ประโยชน ์ ท่านไม่เคยปล่อยเวลาให้เปล่าดาย ...กลางวันท่านรับจ้างเย็บผ้า สมยั นั้นยงั ใชจ้ ักรถบี ฝีมือสวยประณตี นกั รบั จ้างเยบ็ ทกุ แบบ ทงั้ เสอ้ื พระผเู้ จรญิ พรอ้ ม 17 11/6/09 10:29:49 AM

คอกลม คอแหลม คอปก แขนสัน้ แขนยาว ถา้ มีเศษผา้ เหลือกเ็ กบ็ ไว้ใช้ ประโยชน์ อย่างเช่น เย็บเส้ือให้ลูกชายใส่ เรียกว่าในพอศอน้ันใครๆ ก็ ต้องมีเสื้อผ้าฝีมือพระชนนีเย็บกันทั้งนั้น ค่าเย็บเส้ือก็ไม่แพง ราคาตัวละ สิบสตางค์เท่านนั้ พระชนนียังมีฝีมือในการทำขนมอีกด้วย มือว่างเม่ือไรท่านก็จะกวน ทอฟฟ่ีเกบ็ ใส่โหลไว้ขาย ทอฟฟตี่ ำรบั น้ี สมัยน้ีไมเ่ ห็นท่ีไหน เปน็ ทอฟฟที่ ี่ ทำจากน้ำตาลอ้อยและมะพร้าว เคี่ยวกวนในกระทะใบบัวใบใหญ่ เคี่ยว ไปจนเหนียวข้นได้ที่ เทใสร่ างไม้ยาวๆ ทำทีหน่ึงเป็นสบิ ๆ ราง ผง่ึ ลมจน ได้ที่ แลว้ ใช้มดี เซาะ มาดงึ ให้เปน็ เส้น แลว้ ตดั เปน็ ท่อนๆ หอ่ ด้วยกระดาษ แก้วสารพัดสี ทั้ง...สีแดง เขียว เหลือง น้ำเงิน อร่อยหวานมันและ หอมกรนุ่ ดว้ ยเทยี นอบ เปน็ ท่ีตดิ อกตดิ ใจของเด็กๆ โดยเฉพาะเจ้าพระคุณ สมเด็จฯ พระองคโ์ ปรดมาก ขนมขายดีท่ีทำเม่ือไรก็ขายหมดยังมีอีก เช่น ลอดช่องน้ำกะทิ กล้วยหักมุกเชื่อม น้ำเช่ือมใสแจ๋วเหมือนแก้ว พอตกเย็นท่านก็ขาย เตา้ ทงึ ร้อนๆ ด้วยชีวิตท่ีพบแต่ความยากลำบาก จึงทำให้ท่านมีความเจียมตน ประหยดั และถถี่ ้วนในการใช้จา่ ย มกี ารจ่ายคลอ่ งอยู่เพยี ง ๒ อยา่ ง คอื ทำบุญ กบั “ให้ลกู ” ... พระชนนีน้อยเปน็ แม่ผู้ประเสรฐิ เสยี สละความสุขสว่ นตวั ทง้ั มวลเพื่อ ทะนุถนอมดูแลลูกน้อยทั้งสามอย่างเต็มหัวใจและความสามารถ อะไรที่ ทำให้ลูกได้ไม่เคยรีรอ ท้ังชีวิตทุ่มเทให้กับลูก สมกับเป็นมารดาผู้ให้ กำเนิดชีวิต ประพฤติตนสมกับเป็นพระอรหันต์ของลูกที่ลูกสามารถ ก้มกราบด้วยใจรกั และเทดิ ทนู 18 พระผ้เู จริญพร้อม Buddha-Chapter 1.indd 18-19

พระชนนีน้อยเสียชีวิตลงด้วยโรคชราเมื่ออายุได้ ๗๙ ปีในปี พ.ศ. ๒๕๐๘ ท่ีจงั หวัดกาญจนบุร ี สาแหรกแหง่ ชีวติ แม้เจา้ พระคุณสมเดจ็ ฯ และครอบครวั จะตั้งรกรากอย่ทู เ่ี มอื งกาญจน์ แต่บรรพบุรุษมาจากสี่ทิศทางด้วยกัน จากบันทึกพบว่า พระชนกน้อย มเี ช้ือสายมาจากกรงุ เกา่ ทางหน่ึง จากปกั ษ์ใตท้ างหนึง่ พระชนกเป็นบตุ รนายเล็กและนางแดงอ่มิ เป็นหลานป่หู ลานย่าหลวง พิพิธภักดี (ต้นสกุล “คชวัตร”) และนางจีน ผู้เป็นหลานของท้าวเทพ กระษัตรีและเป็นทายาทตระกูล ณ ตะกว่ั ทุง่ ตามท่ีเล่ากันมานั้น หลวงพิพิธภักดีเป็นชาวกรุงเก่า เข้ามารับ ราชการในกรุงเทพฯ แต่ไดอ้ อกไปเปน็ ผชู้ ว่ ยราชการอยทู่ ่เี มืองไชยา และ เป็นผู้หน่ึงท่ีพระบาทสมเด็จพระน่ังเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ ทรงพระ กรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ให้ไปคมุ เชลยท่เี มอื งพระตะบอง แต่เดิมน้ันหลวงพิพิธภักดีมีภริยาชาวเมืองไชยา ๒ คน ช่ือทับและ นุ่น และได้ภริยาชาวเมืองพุมเรียงอีก ๑ คน ช่ือ แต้ม ต่อมาเมื่อคร้ัง พวกแขกยกเขา้ มาตเี มืองไทร เมืองตรัง เมอื งสงขลา เมอื่ พ.ศ. ๒๓๘๑ พระบาทสมเด็จพระน่ังเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พระยาศรีพิพัฒน์เป็นแม่ทัพยกออกไปปราบปราม หลวงพิพิธภักดีได้ไป ในราชการทัพคร้งั นัน้ ด้วย และไปไดภ้ ริยาชือ่ จนี ซึ่งเปน็ ธิดาของพระยา ปลดั เมืองตะก่ัวทุ่ง (สน) เป็นหลานสาวพระตะกัว่ ทุ่ง หรอื พระยาโลหภมู ิ พิสัย (ขนุ ดำ ชาวเมืองนครศรธี รรมราช) มีเร่ืองราวดงั ท่บี ันทกึ ไว้ในจดหมายหลวงอุดมสมบตั ิว่า หลวงพิพิธภกั ดี ได้พาจีนภริยาจากตะกวั่ ทงุ่ มาตัง้ ครอบครัวอยู่ในกรงุ เทพฯ ไดร้ บั ภรยิ าเดมิ พระผเู้ จรญิ พรอ้ ม 19 11/6/09 10:29:49 AM

20 พระผ้เู จริญพรอ้ ม Buddha-Chapter 1.indd 20-21

พระผู้เจริญพร้อม 21 11/6/09 10:29:50 AM

กมิ นอ้ ย คชวตั ร พระชนนี น้อย คชวตั ร พระชนก ปา้ กิมเฮง ช่ือ แต้ม จากพุมเรียงมาอยู่ด้วย เล่ากันมาว่า หลวงพิพิธภักดีเป็นคนดุ เมื่อรับราชการเป็นผู้ช่วยราชการเมืองไชยา เคยเฆ่ียนนักโทษตายท้ังคา เป็นเหตุให้หลวงพิพิธภักดีสลดใจลาออกจากราชการ แต่บ้างก็บอกว่า การต้องออกจากราชการเพราะมีความที่เกี่ยวกับนางจีนหลานสาว พระตะก่ัวทุ่ง ด้วยว่านางจีนเป็นคนสวยจนเป็นท่ีร่ำลือ หลวงพิพิธภักดี เมื่อได้พบนางจนี กเ็ กิดต้องใจ จงึ พานางจนี ไปเป็นภริยา ทำให้หลวงพิพธิ ภักดอี ยู่ท่เี ดมิ ไม่ได้ ตอ้ งพานางจนี หนีไปกรุงเทพฯ 22 พระผ้เู จรญิ พรอ้ ม Buddha-Chapter 1.indd 22-23

ประจวบกับเวลาน้ันพ่ีชายของหลวงพิพิธภักดีเป็นพระพิชัยสงคราม เจ้าเมอื งศรสี วัสดิ์ กาญจนบรุ ี และพระยาประสทิ ธิสงคราม (ขำ) เจา้ เมือง กาญจนบุรี ก็เป็นอาของหลวงพิพิธภักดี จะด้วยเหตุน้ีหรือไม่ ไม่ปรากฏ ในบันทึก ท่ีทำให้หลวงพิพิธภักดีพาภริยาท้ังสองย้ายจากกรุงเทพฯ ไปต้งั ครอบครัวอยู่ทเ่ี มืองกาญจนบุร ี เม่ือหลวงพิพิธภักดีปักหลักอยู่ท่ีเมืองกาญจนบุรีแล้ว พระพิชัย สงครามอยากให้หลวงพิพิธภักดีกลับเข้ารับราชการอีก แต่ท่านก็ไม่กลับ มาใช้ชีวิตแบบเดิมแล้ว ขอสมัครใจเล้ียงครอบครัวด้วยอาชีพทำนา มีฐานะมน่ั คงตอ่ มา ส่วนพระชนนีน้อย มีเช้ือสายบรรพชนทางญวนและจีน บรรพชน สายญวนนั้นเข้ามาในเมืองไทยในสมัยรัชกาลที่ ๓ เม่ือครั้งเจ้าพระยา บดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ยกทพั ไปปราบจลาจลเมอื งญวน เล่ากนั ใน พ่ีน้องในสกุลว่า ครอบครัวของพระชนนีทางสายบิดาเป็นเช้ือพระวงศ์ ของญวน พออพยพเข้ามาเมืองไทยได้รับพระเมตตาจากรัชกาลท่ี ๓ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ญวนพวกท่ีนับถือพระพุทธศาสนาไปอยู่ที่ เมืองกาญจนบุรี เม่ือปลายปีมะเมีย พ.ศ. ๒๓๗๒ เพ่ือรักษาป้อมเมือง ส่วนบรรพชนสายจีนทางมารดาของพระชนนีนั้นโดยสารเรือสำเภามา จากเมืองจีน เรือมาแตกก่อนจะถึงฝั่งไทย แต่ก็รอดชีวิตมาขึ้นฝ่ังเมือง ไทยได้ และไปตัง้ หลกั ปักฐานทำการคา้ อย่ทู ่ถี นนปากแพรก เมืองกาญจน์ มาถงึ ทุกวันน ี้ ดรณุ วัยในแผน่ ดนิ ปิตุภูมิ แม้ปัจจบุ ันสถานท่ปี ระสูติของเจ้าพระคุณสมเดจ็ ฯ ได้ถูกรือ้ สรา้ งใหม่ แล้ว แต่บ้านใหม่กย็ ังคงต้งั อยู่บนผืนแผ่นดินเดิม เวลาทที่ า่ นเจ้าพระคณุ พระผ้เู จรญิ พร้อม 23 11/6/09 10:29:51 AM

สมเด็จฯ เสด็จกลับเย่ยี มบ้าน พระองคเ์ คยตรัสกบั นายจำเนียรนอ้ งชายวา่ “จำเนยี ร จำบ้านเกิดเราได้ไหม ทนี่ ่ีจำไม่ได้แลว้ ” (ทรงแทนพระองคเ์ อง วา่ ท่ีนี่) บ้านเก่าที่พระองค์ประสูติและเติบโตมาน้ันสร้างมาแล้วกว่าร้อยปี ไม่พบภาพท่ีบันทึกบ้านเดิม แต่คนเก่าคนแก่ในตระกูลก็ยังพอช่วยกันเล่า ปะตดิ ปะตอ่ ให้ได้เห็นภาพบา้ นในบรรยากาศเดมิ ๆ ว่า ...เจ้าพระคุณสมเด็จฯ ทรงเติบโตมาในบ้านไม้ทรงไทย หลังคามุง กระเบื้องว่าว มีชานเรือนกว้างให้น่ังเล่นนอนเล่นเอกเขนก บ้านหลังนี้ เป็นบ้านชั้นเดียว หน้าต่างทุกบานมีลูกกรงไม้สร้างติดไว้ พ้ืนบ้านปูด้วย ไม้กระดานแผ่นหนาใหญ่และหนักมากจนไม่ต้องตอกตะปู ส่วนความ กวา้ งกก็ วา้ งขนาดพวกเดก็ ตอ้ งวง่ิ โกง้ โคง้ ถไู มแ้ ตล่ ะแผน่ สามรอบจงึ จะเสรจ็ ...ลักษณะบ้านสร้างเป็นแนวยาว มีการแยกสัดส่วนพื้นที่ใช้สอยด้วย การยกพนื้ ลดหลั่นกนั โดยค่อยๆ ลดระดบั บริเวณหน้าบา้ นมีใต้ถนุ สงู จาก พนื้ ไม่ถงึ เมตร ชว่ งสงู ทสี่ ดุ ของใต้ถุนกส็ ูงพอแคพ่ วกเด็กลอดเขา้ ไปวงิ่ เล่น ได้ ส่วนผู้ใหญ่ตอ้ งกม้ หวั จึงจะลอดได ้ ...หลังบ้านตั้งขนานไปตามลำน้ำแควน้อย ส่วนหน้าบ้านซึ่งอยู่ติดกับ ถนนปากแพรกเปิดเป็นหอ้ งแถวเพอื่ ทำการค้า ถนนปากแพรกเป็นศูนย์กลางความเจริญมาตั้งแต่สมัยพระบาท สมเดจ็ พระนง่ั เกล้าเจ้าอยู่หวั รัชกาลที่ ๓ เป็นจุดทแ่ี มน่ ำ้ แควน้อยไหลมา บรรจบกันกับแม่น้ำแควใหญ่ เป็นถนนสายหลักที่เลียบริมแม่น้ำ เป็นจุด ชุมนุมการคา้ ของพอ่ คา้ แม่ค้าทอ่ี าศยั อย่ทู ี่น่ี และยงั มพี ่อค้าเร่จากใกลแ้ ละ ไกลมาขายด้วย ถนนปากแพรกเป็นแหล่งรวมจับจ่ายซื้อขายข้าวของนานาสารพัน มีถนนกว้างประมาณ ๑๐ ศอก ท้ังสองข้างทางก้ันรั้วด้วยไม้รวกสูงๆ 24 พระผเู้ จริญพร้อม Buddha-Chapter 1.indd 24-25

อุบาสิกาเทศน-์ อุบาสกิ าทรพั ย์ ณ ตะกั่วทุ่ง ขายของอยู่ในเรือน การค้าในตลาดยุคนั้นอยู่ในมือของผู้มีเช้ือสายญวน เป็นสว่ นใหญ่ ขายของกินของใช้ ถว้ ยชาม เคร่อื งหนัง ยาสบู เครือ่ งยา จีน และมีของป่าหายาก อย่างสมุนไพร เคร่ืองเทศ อีกทั้งยังมีไม้รวก ไม้ซุง ไม้สัก ที่ใส่เรือล่องแม่น้ำมาขายจากอำเภอไกลๆ แถวศรีสวัสดิ์ ทองผาภูมิ สังขละบุรี แต่ไม่ว่าพ่อค้าแม่ขายจะขายอะไรกัน ต่างก็ต้อง ล่องเรอื มาขน้ึ กนั ท่ีท่าเมืองปากแพรกน้ีท้งั น้นั บ้านเกิดของครอบครัวเจ้าพระคุณสมเด็จฯ จึงถือว่าตั้งอยู่บน ทำเลทอง สะดวกตอ่ การทำมาคา้ ขาย ถงึ แม้ครอบครัวของพระองค์ พระผเู้ จรญิ พร้อม 25 11/6/09 10:29:51 AM

ต้องขาดเสาหลักไป แต่ก็เป็นครอบครัวใหญ่อยู่ด้วยกันหลายคน มีความ ลำบากขัดสนอยู่บ้าง แต่ครอบครัวของพระองค์ก็มีความขยันขันแข็ง และดูแลช่วยเหลือกัน... บ้านเป็นแบบห้องแถวเรียงติดกันสามส่ีห้อง ห้องหน่ึงแบ่งเป็น ร้านเย็บผ้าของพระชนนี ที่เหลือแบ่งเป็นร้านขายของชำทุกชนิด น้ำตาล กะปิ นำ้ ปลา ขา้ วสาร ขา้ วของไมต่ อ้ งซอ้ื กนิ อยกู่ นั ในครอบครวั ...มโี รงสี ท่ีสมัยนั้นยังรับจ้างสีข้าวด้วยมือ มีทั้งครกตำมือและครกกระเด่ือง รับ ขา้ วเปลือกมาสี ทำทุกขน้ั ตอนจนเสร็จเป็นข้าวสาร ชีวิตในครอบครัวดำเนินไปด้วยความเรียบง่าย สมถะ มัธยัสถ ์ รู้จักกิน รู้จักใช้ รู้จักอดออม ทุกคนต่างช่วยกันทำมาหาเก็บ จึงทำให้ ฐานะการเงินของครอบครัวมนั่ คงขน้ึ เรอ่ื ยๆ ตามลำดับ ส่วนในเรื่องหลักทางใจ ครอบครัวของเจ้าพระคุณสมเด็จฯ แม้ขาด พระชนก แต่ก็ไม่ได้ใช้ชีวิตโดดเดี่ยวเพียงลำพังส่ีคนแม่ลูก พระองค์ทรง เพือ่ นๆ จำเนยี รและสมุทร 26 พระผ้เู จรญิ พร้อม Buddha-Chapter 1.indd 26-27

เติบโตท่ามกลางความกลมเกลียวรักใคร่ของญาติพี่น้องทั้งฝ่ายพระชนก และพระชนนี อยู่กันเป็นกลุ่มก้อนแบบไม่แยกเรือนใครเป็นเรือนใคร ทำอะไรก็ถึงกันหมด แกงหม้อหน่ึงแบ่งกันได้หลายครัวเรือน แบ่งปัน เก้ือกูล ดูแลกัน เอื้อเฟื้อเผ่ือแผ่ ทุกคนเป็นส่วนหน่ึงของกันและกันโดย ไมอ่ าจแบง่ แยก พสี่ าวคนโตอยา่ งป้ากิมเฮง หรือป้าเฮง้ ของหลานๆ เป็นหัวเร่ยี วหัวแรง สำคัญในการดูแลหลานเพ่ือช่วยแบ่งเบาภาระมาจากน้องสาวท่ีมีงานทำ รัดตวั ในตอนกลางวนั และยังมลี กู ชายเล็กๆ อกี สองคนทีต่ อ้ งดแู ล แมจ้ ะตาบอดทง้ั สองขา้ ง ปา้ เฮง้ กย็ งั รบั อาสาดแู ลเจา้ พระคณุ สมเดจ็ ฯ มาตั้งแต่เยาว์วัย ประหนึ่งว่าขอมาเลี้ยงเป็นลูกชาย จนเป็นท่ีรู้ว่าเจ้าพระคุณ สมเด็จฯ เป็นหลานรักของป้าเฮ้ง ป้าเฮ้งเลี้ยงดูพระองค์อย่างทะนุถนอม พระองค์ทรงตดิ ปา้ เฮง้ มาก กลางคนื ก็นอนกับป้า ตนื่ นอนกต็ ่นื พร้อมปา้ ป้าเฮ้งเป็นคนใจเย็น เรียบร้อย พูดจาน่ิมนวลเป็นนิสัย ขยันไม่แพ้ พระชนนแี ละพนี่ อ้ งคนอื่นๆ ทา่ นทำงานในบา้ นทกุ อย่าง สงู้ านทัง้ งานเบา งานหนัก ไม่เว้นแม้งานในโรงสีข้าว ซ้อมข้าวหรือตำข้าว เก็บพลูเก็บ หมากขาย ทำได้ท้ังน้ัน หรือแม้แต่งานละเอียดประณีตอย่างเย็บผ้า ปา้ เฮง้ กเ็ ยบ็ ได้เรยี บร้อย แตท่ ี่ลกู หลานทงึ่ ก็คอื เรือ่ งเงนิ ๆ ทองๆ ไม่มีใคร หลอกป้าเฮ้งได้ ธนบัตรสิบ ย่ีสิบ หรือร้อย คนตาบอดอย่างป้าเฮ้งก็ สามารถคา้ ขายหยิบจบั ทอนเงินได้อย่างคลอ่ งแคล่วราวกับตาเห็น ส่วนเรื่องดวงตาของป้าเฮ้งท่ีมองไม่เห็นนั้น เล่ากันในครอบครัวว่า เป็นเพราะป้าเฮ้งไม่ยอมไปปลูกฝี ด้วยค่าปลูกฝีสมัยนั้นต้องเสียเงินถึง หน่งึ บาท ถอื วา่ เป็นราคาทส่ี งู ปา้ เฮง้ จงึ ตัดใจเกบ็ เงินจำนวนนี้ไว้ใช้ในสว่ น ที่คิดว่าจำเป็นมากกว่าการปลูกฝี ซึ่งเงินก็ไม่ได้ไปใช้ที่ไหน นอกจาก กนั ไว้ใช้ในครอบครัว วา่ กันวา่ เหตนุ ี้แหละท่ีเปน็ ผลทำให้ดวงตาท้ังสอง พระผเู้ จรญิ พร้อม 27 11/6/09 10:29:52 AM

ขา้ งของป้าเฮง้ คอ่ ยๆ มดื มัวลง (แมจ้ ะไมเ่ ป็นเหตเุ ปน็ ผลในทางการแพทย์ ปัจจุบนั ) ความเสียสละของป้าเฮ้งเป็นที่ซาบซึ้งใจในหมู่พี่น้อง ด้วยความรักที่ ป้าเฮ้งมีต่อครอบครัว ประกอบกับป้าไม่ได้แต่งงาน เวลาท้ังชีวิตที่มี จึงทุ่มเทดูแลพ่อแม่ เป็นหลักค้ำจุนให้น้องสาวน้องชายทั้งห้าคนรวมทั้ง หลานๆ ด้วย ป้าเฮ้งจึงเปน็ ร่มโพธริ์ ่มไทรของทุกคน ความรักที่ป้าเฮ้งมีต่อครอบครัวญาติพี่น้องน้ัน ทำให้พี่น้องทุกคน พร้อมท่ีจะทำทุกอย่างเพื่อตอบแทนป้าเฮ้งทันทีท่ีมีโอกาส ไม่ว่าจะเป็น เรื่องการดูแลข้าวของเครื่องใช้หรือเส้ือผ้าของป้าเฮ้ง น้องชายท่ีชื่อนาย เตมิ ก็เปน็ ผู้ซกั ผา้ ใหท้ ุกชนิ้ หาบนำ้ จากแม่นำ้ ใหอ้ าบ และอกี สารพดั อะไร ทีส่ ามารถทำไดก้ อ็ ยากทำให้โดยไม่เหน็ แก่เหนื่อย ที่ใดมีความรัก ความเอื้ออาทร ณ ที่น้ันย่อมเป็นความพร้อมท่ีดี ในการบ่มเพาะจิตใจให้เจริญงอกงาม และท่ีแห่งนี้ส่ังสมให้เจ้าพระคุณ สมเด็จฯ ทรงมีพื้นใจท่ีดีงาม รู้จักการเก้ือกูลกันและกัน ด้วยคนท่ีอยู่ รว่ มกันต้องพง่ึ พาอาศัยไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ไมโ่ ดยตรงก็โดยออ้ ม ... ช่วงหัวค่ำ หลังจากรับประทานข้าวเย็นกันอ่ิม อาบน้ำอาบท่ากัน สบายตัว หากปลอดฝน ก็จะเป็นเวลาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันอีกคร้ัง ลูกเด็กเล็กแดง รวมทั้งเจ้าพระคุณสมเด็จฯ ด้วย ต่างพากันหิ้วเมาะ (เบาะ) มาน่งั เล่นนอนเลน่ ดูดาว ชมแสงจันทรก์ นั ไปตามธรรมชาติ เวลารวมตัวกันในช่วงหัวค่ำกับบรรยากาศธรรมดาท่ีแสนอุ่นใจเช่นน้ี เป็นเวลาหน่ึงที่ทั้งพระชนนี ป้าเฮ้ง และผู้ใหญ่ในบ้านมักใช้อบรมบ่มนิสัย ลูกหลานเพ่ือปลูกฝังให้ลูกหลานมีจิตใจดีงามมั่นคง คำสอนเหล่าน้ีเป็น คำสอนของครอบครัวท่ลี ูกหลานจำจนขนึ้ ใจ 28 พระผ้เู จรญิ พร้อม Buddha-Chapter 1.indd 28-29

...มีสติ มีน้ำใจ มีเมตตากรุณาต่อทุกคน โดยเฉพาะกับผู้ด้อยกว่า อย่าดถู ูกคน... ...ทำความดีไว้ ไม่ต้องหวังผลตอบแทน ความดีทำแล้วมีความสุข คนใกลๆ้ กม็ คี วามสุข... ...ร้จู ักกาลเทศะ รจู้ ักเดก็ ร้จู กั ผู้ใหญ่ ไม่ล่วงล้ำกำ้ เกนิ ไมห่ ยาบคาย ลบหลู่ ทง้ั กายวาจาใจ รักษากิริยามารยาทเมอ่ื อยูต่ อ่ หน้าผู้ใหญ.่ .. ...อย่าเกเร อย่าทำให้ใครเดอื ดร้อน อยา่ ดื้อ อยา่ คดโกงใคร... ...จงซอ่ื สตั ย์ รจู้ ักอ่อนนอ้ มถอ่ มตน รู้จักคุณคน รู้จกั ตอบแทน... คนไทยโบราณเป็นคนรักชาติรักสกุล จะพยายามไม่ทำให้ชื่อสกุล เสียหาย อีกทั้งยังพยายามสร้างช่ือให้วงศ์ตระกูลด้วย ครอบครัวของ เจ้าพระคุณสมเด็จฯ ก็เช่นเดียวกัน มีความนับถือในสายเลือดท่ีดีของ บรรพบุรุษ ส่ิงที่ผู้ใหญ่กำชับและเฝ้าย้ำเตือนลูกหลานอยู่เสมอคือ อย่าทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงเกียรติยศของบรรพบุรุษที่ได้สั่งสมความดี ในแผน่ ดนิ น้ีมาแล้วหลายชัว่ อายุคน ควรถนอมรักษาไว้ และแลกได้แมก้ ับ ทรพั ยส์ นิ จำนวนมาก คำสอนของครอบครัวแทรกซึมอยู่ในการดำเนินชีวิต ทั้งจากคำพูด ท่ีต้ังใจสอนตรงๆ และจากการที่ผู้ใหญ่ประพฤติปฏิบัติโดยใช้ทั้งชีวิต เปน็ เยย่ี งให้เห็น เฉกเชน่ นีว้ ิถชี ีวิตเจ้าพระคณุ สมเด็จฯ ท่ีเติบโตท่ามกลาง ความเต็มพร้อมในความดีงาม เป็นแบบอย่างของชีวิตท่ีมีคุณธรรม ของความเป็นคนท่ีแท้ใหเ้ จริญรอยตาม ความสนุกในวยั เด็ก ในวัยเด็ก ชีวิตประจำวันของเจ้าพระคุณสมเด็จฯ มักเกี่ยวล้อไปกับ วิถชี วี ิตของปา้ เฮง้ เวลาป้าเฮง้ ทำอะไร เจา้ พระคุณสมเด็จฯ ก็มักจะทำบา้ ง พระผเู้ จริญพรอ้ ม 29 11/6/09 10:29:52 AM

พระองคม์ ักทรงอยู่ใกล้ๆไม่ไกลหไู กลตาป้าเฮ้ง ทุกวันป้าเฮ้งจะเริ่มต้นชีวิตพร้อมเสียงไก่...พอป้าต่ืน เจ้าพระคุณ สมเด็จฯ ก็จะไม่บรรทมต่อ ในสมัยนั้นยังไม่มีไฟฟ้าใช้ พอป้าเฮ้งรู้ว่า หลานต่ืน ก็จะให้จุดเทียนไขหนึ่งเล่มเพื่อใช้เป็นแสงสว่างให้หลาน เป็น ดงั นี้ทกุ วนั ป้าเฮ้งเร่ิมกิจวัตรประจำวันของตน... หลานชายก็น่ังเล่นมองแสง เทียนไป ไมด่ ้ือไม่ซน ...การได้นั่งมองแสงเทียนสว่างริบหรี่พลิ้วไหวตามแรงลมนั้น เป็นส่ิง ทพ่ี ระองคโ์ ปรดจนกลายเปน็ กิจวตั รในระหวา่ งคอยแสงตะวันขน้ึ ฟา้ ทุกเช้าหน้าบ้านมีที่มีทางจัดโต๊ะเตรียมไว้สำหรับตั้งของใส่บาตร โดยเฉพาะ รอคอยพระจากวดั เหนือมารบั บณิ ฑบาต พอได้อรุณ ...พระสงฆ์ร่วมยี่สิบรูปจะเดินผ่านหน้าบ้านทุกวัน แต่สิ่ง โปรดปรานของเด็กๆ ท่ีเรียกรอยย้ิมได้ทุกเช้า คือการได้เรียกทักทาย ...เจ้านวล หมาไทยพันทาง ลูกศิษย์วัดตัวพิเศษท่ีคอยคาบปิ่นโตตาม หลวงพ่อวดั เหนือมาทกุ วนั คนบ้านนี้ใจบุญสุนทานมีศรัทธามนั่ คงในพระพุทธศาสนาอยา่ งถกู ต้อง ไปบำเพญ็ กุศลตามเทศกาลตา่ งๆ ไปฟงั เทศน์ฟังธรรม โดยเฉพาะตอนมี การเทศน์ชาดกในช่วงเขา้ พรรษา เจา้ พระคุณสมเดจ็ ฯ จะตดิ พระทยั มาก เร่งปา้ ให้ไปวดั บอกว่า “ไปฟงั นิทาน” ... หากเทียบกับเด็กอ่ืนแล้ว เจ้าพระคุณสมเด็จฯ จะทรงดูแตกต่าง อยู่มาก เม่ือคนในครอบครัวมองย้อนกลับไปก็พากันพูดเหมือนกันว่า พระองคท์ รงเป็นพระมาตง้ั แตเ่ ยาวว์ ยั แล้ว เร่ืองเล่นสนุกในวัยเยาว์ของพระองค์คือ การสมมุติบทบาทพระองค์ 30 พระผเู้ จรญิ พร้อม Buddha-Chapter 1.indd 30-31

เป็นพระสงฆ์ อุปกรณ์ของเล่นก็เป็นสิ่งของใกล้ตัวท้ังน้ัน ไม่ต้องเสียเงิน ซอื้ หาจากที่ไหน ...ผ้าขาวม้าของน้าเตมิ สมมุติเป็นสบงจีวร เล่นจุดธูป จุดเทยี น และ เดินบิณฑบาต กะเกณฑ์น้องๆ มาเล่นใส่บาตรพระ ใบลานตำราโบราณ ของน้าเสียมมาทำเป็นคัมภีร์เทศน์เล็กๆ พัดยศขนาดย่อม ตามท่ีเห็นคือ พัดของหลวงพ่อดีท่ีวัดเหนือคร้ังนั้น ใบไม้เป็นตาลปัตร ครกตำข้าว จินตนาการเปน็ ธรรมาสน์ ...พระองค์มักน่ังเด่นสงบอยู่บนครกตำข้าว มีผ้าขาวม้าผ้าพาดไหล่ ถอื ใบลานน่ังเทศน์ คำท่เี ทศน์กจ็ ดจำมาจากตอนตามปา้ ไปวดั น้าเสียมเล่าให้ลูกหลานฟังว่า ตอนนั้นเจ้าพระคุณสมเด็จฯ ม ี พระชันษาสักสี่ห้าปีเห็นจะได้ พระองค์ชวนน้าเสียมเล่นด้วย แต่ น้าเสียมบอกกับพระองค์ว่า “กินข้าวนะ น้าจะรีบไปช่วยแม่ (พระชนนี) ทำงาน” ความเป็นเด็กจึงติดเล่น ทำให้พระองค์อิดออดจนขอต่อรอง “นา้ ทิดฟงั ทน่ี เ่ี ทศนก์ อ่ นนะ แลว้ จะกิน” ไม่ว่าจะพูดอย่างไร พระองค์ก็ไม่ยอมเคี้ยวข้าวแม้จะเป็นข้าวกับ เน้ือเค็มทอดของโปรดก็ตาม พระองค์ยังอมข้าวไว้ ต้องเล่นเทศน์ก่อน ถงึ จะเสวยขา้ วหมดได้ นอกจากโปรดเล่นเป็นพระน่ังเทศน์อยู่บนครกเป็นนิจแล้ว พระองค์ ยงั โปรดเลน่ สมมุติถวายผา้ ปา่ ถวายกฐนิ เกบ็ หนิ มาทำภูเขา มีถำ้ สร้าง เจดีย์เล็กบนยอดเขา และพับรูปยมบาลเล็กๆ ด้วยกระดาษแบบพิธี ทิ้งกระจาด ตามทเี่ คยทอดพระเนตรท่วี ัดญวน ... สิ่งทเี่ จา้ พระคุณสมเด็จฯ โปรดมากอกี อย่างหน่ึง ซงึ่ ก็ไม่ไดแ้ ตกตา่ งจาก เด็กคนอ่ืนๆ ที่มีบา้ นอย่รู ิมแม่น้ำ น่นั คอื การไดเ้ ล่นน้ำและกระโดดนำ้ เล่น พระผู้เจริญพรอ้ ม 31 11/6/09 10:29:52 AM

โดยเฉพาะกระโดดน้ำท่ีท่าน้ำบรเิ วณหน้าตกึ ตาเด๋ว ตึกสูงใหญ่ของพ่อค้า ชาวญวนทม่ี ฐี านะม่งั ค่งั ในสมัยนน้ั ริมแม่น้ำแควนอ้ ยสมัยท่ียังไม่สร้างเขื่อน สายน้ำยังไม่เปล่ียนทิศทาง แม่น้ำแควน้อยในสมัยที่พระองค์ยังทรงเป็นเยาว์วัย มีหาดทรายขาวทอด ยาวโผล่พ้นแม่น้ำ เป็นทัศนียภาพที่สวยงามนัก และไม่ว่าแดดจะร่ม หรือ แดดจะเปร้ยี งกต็ าม การลงเล่นนำ้ กน็ ำความสนุกเยน็ ชื่นใจมาให้ นา้ ทองดี นอ้ งชายคนสดุ ทอ้ งของพระชนนี อายไุ ม่หา่ งจากเจา้ พระคณุ สมเด็จฯ มากนัก ไล่เล่ียแค่ ๗ ปี น้าทองดีจึงเป็นดังพี่ชายและเพื่อน คนหนึ่ง ความสนุกของน้าหลานคู่น้ี คือ การได้พากันข่ีคอเล่นน้ำ ขล่ี ่องมาจากทา่ นำ้ วัดเหนือมาขึ้นทีท่ ่าน้ำหลังบ้าน ระยะทางเกือบกโิ ลเมตร เห็นจะได้ สนุกซนเต็มท่ีตามประสา ไม่คิดถึงอันตรายจากกระแสน้ำ พอพวกผู้ใหญ่รู้เข้า น้าทองดีก็โดนตีใหญ่ ส่วนพระองค์ทรงไม่โดนด้วย แตถ่ ูกส่ังห้ามไม่ให้ไปขคี่ อเล่นน้ำแบบนั้นกนั อกี ... ในบางคืนท่ีนอกชานจะมีการเล่นหลอกผีกัน ย่ิงถ้าคืนไหนเป็น เดือนมืด มีลมแรงพัดอู้จนเปลวไฟในตะเกียงดับ ฝูงหมาพากันกระโชก เห่าใบไม้กระพือไหว การหลอกผีกันย่ิงเข้มข้น แรงลมจะลอดขึ้นมาตาม รูร่องระหวา่ งแผ่นไม้กระดานทป่ี ูพ้นื ไว้ตอ่ กันไมส่ นิท เนอ่ื งจากการเลือ่ ยไม้ สมัยก่อนจะไม่ตัดไม้ตรงๆ เหมือนสมัยนี้ พวกเด็กๆ ก็กลัวว่าผีจะขึ้นมา ตามรูร่องกระดาน ...การเล่นหลอกผนี นั้ เป็นเรือ่ งทพี่ วกเด็กๆ ทัง้ สนุกท้ังกลัว...เจา้ พระคณุ สมเด็จฯ ทรงมีจิตใจที่แตกต่างจากเด็กอื่นๆ ครั้งใดท่ีเล่นผีหลอกกัน ทุกคนพากันหวีดร้องกอดกันกลม พระองค์ท่านผู้ทรงเป็นหลานชายคนโต ก็ไม่ได้ทรงเข้าร่วมวงกลัวด้วย ได้แต่ประทับอมย้ิมดูพวกน้องๆ เล่น 32 พระผ้เู จรญิ พร้อม Buddha-Chapter 1.indd 32-33

ผีหลอกกันอย่างสนกุ สนานเฮฮา ม้อื อรอ่ ย อาหารบ้านเกิด ครอบครัวเจ้าพระคณุ สมเดจ็ ฯ กเ็ หมอื นกับบ้านของคนในชนบทท่ัวไป ที่จะปลกู ตน้ ไม้ พชื ผักสวนครวั รวมทง้ั สมนุ ไพรตา่ งๆ ไว้ในบ้าน และแม้ ความทรงจำคร้ังเมื่อเยาว์วัยของเจ้าพระคุณสมเด็จฯ ไม่แม่นยำแล้ว กต็ าม แตม่ สี ิง่ หนง่ึ ท่ีพระองคย์ งั ทรงคุน้ และไม่เคยลืม น่นั คอื ต้นไม้ท่ีปลูก อยูบ่ ริเวณลานบา้ น... พระองค์เคยรับสั่งกับน้องชายว่า “จำเนียร ที่น่ีจำได้ว่าบ้านของเรา ปลูกต้นดีปลี กับต้นมะรมุ ” ต้นดีปลีกับต้นมะรุม เป็นต้นไม้ท่ีมีสรรพคุณมาก ดีปลีใช้เป็นยาได้ หลายอย่าง เช่น บำรุงธาตุ แก้จุกเสียด ส่วนมะรุมกินได้ต้ังแต่ใบ ไปจนถงึ ราก ใช้ถอนพิษไข้ไปจนถึงป้องกันมะเร็ง นอกจากน้ีดีปลียังให้รสชาติเผ็ดร้อนและเป็นส่วนผสมที่ขาดไม่ได้ใน เคร่ืองแกงสูตรเมอื งกาญจน์ คนกาญจนบุรีภูมิใจมากกับความอร่อยของอาหารบ้านเกิด ทุกอย่าง ต้องถงึ เครื่อง อรอ่ ยเต็มรส แบบไมย่ งั้ มือ ไม่หวงของ เจ้าพระคุณสมเด็จฯ โปรดเสวยแกงป่าแบบเมืองกาญจน์ ไม่โปรด แกงกะทิ แตโ่ ปรดแกงป่าปลา เผ็ดนอ้ ยๆ รสอยา่ หวานจัด เตม็ สูตรอยา่ ง พื้นบ้าน ผัดเคร่ืองแกงกับน้ำมันหมู ใส่น้ำนิดหน่อย แล้วใส่มะเขือ จะเป็น มะเขือขนื่ หรอื มะเขอื จานก็ได้ คนร่นุ หลังไมค่ ่อยร้จู กั มะเขอื จานลกั ษณะ กลมแป้นใหญ่ประมาณผลส้ม  มีทั้งผลสีม่วงและสีขาว เป็นมะเขือพันธุ์ พื้นบา้ นทอี่ รอ่ ยมาก สว่ นมะรมุ กเ็ ปน็ ของอรอ่ ยค่คู รัว ช่วงตน้ ฤดูหนาว ทั้งฝกั ยอด ใบ พระผู้เจรญิ พรอ้ ม 33 11/6/09 10:29:53 AM

และดอกออกเต็มต้น เก็บไปลวกรับประทานกับน้ำพริก แต่ถ้าเป็น น้ำพริกกะปิพระองค์โปรดมากกว่า แต่ต้องรสไม่หวานจัด ไม่เผ็ดนัก ออกเค็มๆ มพี ริก กระเทียม กะปิ ไม่ใส่ก้งุ แห้ง ตำแบบบ้านนอก ท่านโปรด เสวยแกล้มกบั ปลาทู ฝักมะรุมนำมาแกงสม้ ก็อร่อยเข้ากัน มะรุมต้องเป็นแบบไมป่ อกเปลือก ส่วนพรกิ แกงโขลกเอง ไม่ซื้อเหมอื นสมัยน้ี ทกุ อย่างใหม่สด พรกิ ขี้หนสู ด โขลกรวมกับหัวหอม กะปิ แกงกับปลาเนื้อแข็ง อย่างปลากด ปลาคัง หรือปลาเล็กปลาน้อยท่ีหามาได้จากแม่น้ำหลังบ้าน แกงส้ม...อาหาร ประจำบ้าน ของที่ทำบ่อยแต่ไม่เบ่ือ แกงส้มใส่มันเทศ ผักปัง ดอกแค หรอื ใบกะเพรา เป็นของที่พระองคโ์ ปรดทัง้ สิน้ คนสมัยก่อนอยู่กับความเป็นจริง ดำเนินชีวิตอย่างสอดคล้อง กลมกลืนตามธรรมชาติแวดล้อมได้มากกว่าสมัยน้ีนัก เวลาทำกับข้าวจะ หาผักตามฤดูกาลมาใช้ต้มยำทำแกง อย่างช่วงเดือนตุลาคมไปจนถึง ปีใหม่กต็ อ้ งเหด็ โคน อาหารพเิ ศษของบา้ น รับประทานกันปลี ะคร้งั ความอดุ มสมบูรณ์ของกาญจนบรุ ี มเี ทือกเขา มปี า่ มีพรรณไมน้ านา ชนิด อากาศท่ีเปลี่ยนแปลงเร็ว ฤดูร้อนกลางวันจะร้อนมาก แต่พอ ตกเวลากลางคืนอากาศกห็ นาวเยน็ เหมือนฤดหู นาว จากสภาพอากาศเชน่ น้ี ทำให้เห็ดโคนออกดอกสะพรั่ง เริ่มทะยอยผุดพ้นดินต้ังแต่เดือนตุลาคม เหด็ โคนเมอื งกาญจน์ลือชอื่ มากวา่ กรบุ กรอบ อร่อย ทุกคนในบ้านชอบรับประทานเห็ดโคน มีวิธีทำง่ายๆ แต่ใช้เวลา ได้เห็ดโคนมาก็จะขูดเอาดินที่ติดอยู่ล้างออกให้หมด นำไปเคล้ากับเกลือ นำไปต้มโดยไม่ต้องใส่น้ำ น้ำหวานของเห็ดจะออกมาเอง บางทีทำเป็น เห็ดโคนยำ ซอยหัวหอมแดง บบี น้ำมะนาวใสพ่ ริกขีห้ นสู วน หรือทำเปน็ หลน ทำขา้ วต้มเหด็ โคน ทำแกงเลียง กอ็ ร่อยได้ไมซ่ ำ้ 34 พระผู้เจรญิ พร้อม Buddha-Chapter 1.indd 34-35

ความอร่อยที่ไหนจะเทียมอาหารบ้านเกิด อาหารพ้ืนบ้านท่ีพระองค์ ทรงคนุ้ เคยมาตงั้ แต่วยั เยาว์ ไปโรงเรยี น วัดเหนอื เปน็ วัดทีเ่ จา้ พระคุณสมเด็จฯ ทรงมักคุ้นเปน็ อย่างดี ด้วยท้ัง พระชนก พระชนนี ปา้ เฮ้ง รวมทัง้ ญาตพิ ่นี อ้ งตา่ งไปช่วยงานวดั อยู่เนืองๆ เจา้ พระคุณสมเดจ็ ฯ ได้ตดิ สอยห้อยตามไปด้วยเป็นประจำ เช้าวันนั้น การไปวัดของเจ้าพระคุณสมเด็จฯ ไม่เหมือนวันไหนๆ เพราะเป็นวันพิเศษ โรงเรียนประชาบาลวัดเทวสังฆารามเปิดเทอมวัน แรก เดก็ ชายเจรญิ วยั ๘ ขวบ ไดส้ มัครเขา้ เรยี นช้นั ประถมปที ี่ ๑ หอ้ งเรียนในสมัยนน้ั ใช้ศาลาใหญข่ องวดั เหนือเปน็ ทีเ่ รยี น บรรยากาศ โล่งโปร่งสบายกลมกลนื กับธรรมชาติ มตี น้ ไม้ใหญอ่ ย่างตน้ มะขาม สมอ พเิ ภก มะขวดิ สารภี พกิ ลุ ให้รม่ เงา ภายในบริเวณลานวดั เตียนสะอาด พระองค์ทรงเป็นเด็กเรียนเก่ง รู้ว่าเด็กควรมีหน้าท่ีศึกษาเล่าเรียน และทำหน้าท่ีของพระองค์อย่างดีที่สุดตั้งแต่เริ่มเรียน สละเวลาที่จะ ได้เที่ยวได้เล่น ได้สนุกสนานเพลิดเพลิน เพื่อมีเวลาศึกษาเล่าเรียนให้ มากขึ้น ผลลัพธ์ก็คือ ทรงมีผลการเรียนดีมาโดยตลอด จนเรียนจบช้ัน ประถมปที ี่ ๓ ซึ่งขณะนนั้ เทียบเทา่ กบั จบช่วงชั้นประถมศึกษา พอเรียนจบชั้นประถมเป็นช่วงที่ต้องตัดสินใจเลือกว่าจะเรียนต่อที่ เดิม ซ่งึ เพิง่ ได้รับอนมุ ัติใหเ้ ปดิ เรียนช้ันประถมปีที่ ๔ เปน็ ปแี รก หรือจะ ไปเรียนต่อที่วัดไชยชุมพลชนะสงคราม (วัดใต้) โรงเรียนประจำจังหวัด ระดบั มาตรฐานและมีการเรยี นการสอนภาษาอังกฤษ ณ วันนั้นกับทางเลือกที่ต้องตัดสินใจ ไม่มีสองมือของพระชนกที่ คอยจูงพระองค์ให้เดนิ เหมือนเดมิ แล้ว เหลอื เพียงแต่พระชนนแี ละปา้ พระผ้เู จรญิ พรอ้ ม 35 11/6/09 10:29:53 AM

ผเู้ ป็นหลักวางฐานใจให้พระองค์เดนิ ตอ่ ไปอย่างม่ันคง ในท่ีสุดเจ้าพระคุณสมเด็จฯ ทรงตกลงใจปักหลักเรียนต่อที่วัดเหนือ ด้วยปัจจัยหลายอย่าง ท้ังความคุ้นเคยท่ีมีต่อครูบาอาจารย์และสถานที่ เดิมที่อาจให้ความอบอุ่นใจต่อพระองค์ได้มากกว่าไปเรียนตามเพ่ือนท่ี ขณะนั้นนิยมเรยี นตอ่ กนั ท่ีวดั ใต้ ในระหว่างน้ีเจ้าพระคุณสมเด็จฯ ได้สมัครเป็นสมาชิกอนุกาชาดและ ลูกเสือ สอบวิชาลูกเสือได้เป็นลูกเสือเอกตอนอายุ ๑๒ ปี ในปี พ.ศ. ๒๔๖๘ โดยต้องผ่านการฝึกซ้อมรบ วิธีการฝึกคล้ายกับการฝึกทหารแต่ ใช้ไม้พลองแทนปืน แผนการฝึกน้ีจดั เตรยี มข้ึนสำหรบั ส่งผผู้ ่านการฝกึ ในฐานะเป็นลูกเสอื จากจังหวัดกาญจนบุรี ไปร่วมซ้อมรบกับพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า เจา้ อยูห่ ัว พรอ้ มคณะเสอื ป่าทน่ี ครปฐม และบ้านโปง่ แต่พระบาทสมเด็จ พระมงกุฎเกล้าอยู่หัว เสด็จสวรรคตเสียก่อน หมายกำหนดการนี้จึง ยกเลิกไป ระหว่างเป็นนักเรียนอยู่ท่ีวัดเหนือ มีเจ้านายช้ันสูงหลายพระองค์ เช่น สมเด็จพระราชปิตุลาบรมพงศาภิมุข เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ ์ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช เป็นต้น ได้เสด็จประพาสวัดเหนือ พระองคท์ รงมโี อกาสเข้าเฝ้าและรบั เสด็จทกุ ครง้ั เจ้าพระคุณสมเด็จฯ เคยตรัสเล่าว่า พระองค์ในช่วงเริ่มวัยรุ่นโปรด การขม่ี ้า และมีนสิ ยั ไมด่ ีบา้ ง เชน่ เลีย้ งปลากัด ชนไก่ หัดดืม่ สุราบา้ ง มี เรื่องชกต่อยกับเพ่ือนบ้าง เพราะพระองค์ถูกเพ่ือนรังแกจนรู้สึก ทนไม่ไหวต้องลุกขึ้นสู้ เจ้าพระคุณสมเด็จฯ ชวนเพ่ือนที่ชอบทางชกต่อย ไปรว่ มด้วย ตะลุมบอนจนไดแ้ ผลเลก็ ๆ นอ้ ยๆ กลบั มา แต่ในที่สดุ ตามไปจบั มือคืนดแี ละเป็นเพ่อื นที่ดีต่อกัน 36 พระผู้เจรญิ พร้อม Buddha-Chapter 1.indd 36-37

อย่างไรก็ดี ภาพความทรงจำที่คนในครอบครัวมีต่อพระองค์และ เลา่ ตอ่ กนั ใหล้ ูกให้หลานฟงั ก็คอื เจา้ พระคณุ สมเด็จฯ ทรงเป็นเด็กชายท่ีมี จริยาวัตรงดงามฝังจิตฝังใจของคนในตระกูล แม้อยู่ในวัยเยาว์แต่กิริยา ทกุ อย่างบง่ บอกถงึ ความสำรวม ผา่ นการคิดดี พดู ดี ทำดี และพยายาม มีสติตั้งใจทำความดีอยู่เสมอ สำหรับคนในครอบครัวแล้ว พระองค์จึง เปน็ ยง่ิ กว่าแบบอยา่ ง เป็นยิ่งกวา่ ความภมู ิใจของทกุ คนในตระกลู อจั ฉราวดี สต็อคมนั น์ : เร่อื ง พระผูเ้ จรญิ พร้อม 37 11/6/09 10:29:57 AM

วัดถาวรวรารามหรือวดั ญวน หน้าโรงเรยี นวดั ใต้ 38 พระผ้เู จริญพรอ้ ม Buddha-Chapter 1.indd 38-39

วัดถาวรวรารามหรอื วดั ญวน พระผู้เจรญิ พรอ้ ม 39 11/6/09 10:29:58 AM

“...การบวช ยอ่ มเปน็ โอกาสให้ไดบ้ ำเพญ็ กศุ ลอยา่ งสูง... แตจ่ ะได้บุญกศุ ลเพียงไรนั้น ย่อมแล้วแตท่ างทป่ี ฏิบัต ิ และความสามารถในการปฏิบัติ เมอื่ ได้ทางที่ถูกและสามารถปฏบิ ัตไิ ปในทางนั้น ได้จนถงึ ท่สี ดุ ก็ยอ่ มจะประสบผล ทสี่ ุดของการบวชไดอ้ ย่างแน่นอน ดงั เชน่ สมเด็จพระบรมศาสดาของเราทัง้ หลาย และพทุ ธสาวกท้งั หลาย...” จากเร่ืองบวชดี ในหนังสอื “พระประวัตสิ มเดจ็ พระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรณิ ายก ทร่ี ะลกึ การฉลองพระชนมายุ ๘๐ พรรษา“ 40 พระผเู้ จริญพร้อม Buddha-Chapter 2.indd 40-41

ชวี ิตท่ีหลอ่ เล้ียงดว้ ยพระธรรม ด้วยศรัทธาในพระพุทธศาสนาอย่างม่ันคง ไม่กวัดแกว่งซัดส่ายหรือ สงสัยในบาปบุญคุณโทษ เช่ือมั่นในเรื่องกรรม ถือนำเอาพระศาสนา มาอยู่ในชีวิตจิตใจ จึงเป็นเร่ืองปกติที่เวลาพระชนนีและป้าเฮ้งไปวัด ไมว่ ่าจะครั้งใดมักพาเด็กๆ ไปดว้ ยเสมอ การพาลูกไปวัดเป็นวิถีหนึ่งที่คนไทยโบราณสอนลูกให้ซึมทราบ พระพทุ ธศาสนาเข้าไปอยู่ในจติ ใจ มีชวี ติ ท่อี ยู่ใกลค้ ำสอนของพระพทุ ธองค์ เพ่ือเก็บสั่งสมไว้วันละเล็กละน้อย เพราะรู้ว่าส่ิงน้ีคือต้นทุนชีวิตท่ีไม่ สามารถสร้างได้เพียงวันเดียว เนื่องว่าพระพุทธศาสนาเป็นสิ่งที่ว่าด้วย ความจริงแห่งชีวิต เป็นความจำเป็นสูงสุดในการเรียนรู้ของผู้ท่ีหวังจะฝึก อบรมใจตนเองให้อยู่กับความเป็นธรรมดาของธรรมชาตไิ ดอ้ ยา่ งไมข่ ดั แย้ง วดั กบั ชีวติ น่าสังเกตวา่ ในละแวกบ้านของเจ้าพระคณุ สมเด็จฯ นั้น มวี ดั สำคญั ๆ อย่ถู ึงสามวดั ทิศเหนือมีวัดเหนือกบั วดั ญวน ทางทิศใตม้ ีวดั ใต้ ทั้งสามวัดน้ี พระผูเ้ จรญิ พรอ้ ม 41 11/6/09 10:31:45 AM

สามเณรเจริญ 42 พระผู้เจริญพรอ้ ม Buddha-Chapter 2.indd 42-43

เป็นวัดที่เก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองทั้งส้ิน และเป็นพระอารามหลวงถึงสองวัด สถานท่ีเกิดและเติบโตของเจ้าพระคุณสมเด็จฯ จึงปูพ้ืนฐานความพร้อม ให้พระองค์สง่ั สมความรูท้ างธรรม ...วัดเหนือ ดเู ป็นวัดท่พี ระองค์ใกลช้ ดิ ทสี่ ดุ อยหู่ ่างจากบา้ นแคส่ ามส่ี ร้อยเมตร พระชนกเคยบวชอยู่วัดนี้ และปู่ช่ือพระครูสิงคิบุรคณาจารย์ (สุด) เป็นเจ้าอาวาสองค์ที่ ๘ คุณย่าชีทรัพย์ แม่ของคุณป้าชีเทศน์ ณ ตะกั่วทุ่ง ก็บวชชีอยู่ที่วัดเหนือ โดยอาศัยปฏิบัติธรรมในกุฏิอยู่ริมแม่น้ำ ทางด้านทิศใต้ของวัด ก่อนที่จะไปต้ังสำนักชีท่ีวัดต้นแซะ จังหวัดภูเก็ต จนมชี าวบา้ นเลือ่ มใสเปน็ จำนวนมาก วัดเหนือเป็นพระอารามหลวงและเป็นวัดเก่าแก่วัดหนึ่งของจังหวัด กาญจนบุรี อยู่ริมฝ่ังแม่น้ำศรีสวัสดิ์ ไม่มีบันทึกว่าสร้างเมื่อใด แต่มี ประวตั ิเล่าตอ่ กันว่า ...ตอนกรุงศรีอยุธยาแตก พม่ากวาดต้อนผู้คนรวมท้ังทรัพย์สิน ผ่านกาญจนบุรีไปยังประเทศพม่า ครั้งน้ันสมภารเสี่ยงยังเป็นสามเณร และบา้ นเดมิ อยูก่ าญจนบุรี ก็โดนกวาดตอ้ นไปยังพมา่ พรอ้ มโยมมารดาดว้ ย และตอ้ งตดิ อยู่ในประเทศพมา่ จนถึงเวลาอุปสมบทเป็นพระภกิ ษ ุ ...ต่อมาท่านคิดถึงบ้านเกิดมากจึงชวนเพ่ือนคนไทยอีกห้าหกคน ปลอมตัวเป็นคนมอญแอบหนีเข้ามาทางกาญจนบุรี ก่อนมาโยมมารดาได้ บอกทฝ่ี งั ทรพั ยส์ ินไวท้ ่บี ้านเก่า เล่ากันว่า พอสมภารเสี่ยงได้นำทรัพย์สินออกจากท่ีซ่อนได้ ท่านก็มี ความมุ่งม่ันและศรัทธาท่ีแรงกล้าต่อพระพุทธศาสนา จะนำทรัพย์สินของ โยมแม่มาสร้างวัด แต่ท่านก็พบว่าบ้านเดิมได้เปล่ียนไปมาก มีการย้าย เมืองกาญจนบุรีไปตง้ั ที่ปากแพรก ทา่ นจึงไม่สรา้ งวดั ที่บา้ นเดมิ ดว้ ยมองวา่ ท่ปี ากแพรกเจริญรุ่งเรอื ง เป็นทีช่ มุ นมุ ชน จงึ ตกลงใจสรา้ งวดั ทป่ี ากแพรก พระผเู้ จริญพร้อม 43 11/6/09 10:31:46 AM

เพื่อผู้คนจะได้ไปวัดสะดวก วัดเหนือมีท่านเป็นเจ้าอาวาสองค์แรก และ พากนั เรยี กท่านว่า สมภารเส่ียง ส่วนวัดญวนหรือวัดถาวรวราราม เป็นวัดฝ่ายอนัมนิกาย ลัทธิ มหายาน มีชื่อตามภาษาญวนว่า “วัดคั้นถ่อตื่อ” ตั้งอยู่ทางทิศเหนือ ของวัดเหนือ สร้างข้ึนในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ ซง่ึ เป็นช่วงเวลาเดียวกับท่ีบรรพบรุ ุษของเจา้ พระคุณสมเด็จฯ อพยพเข้ามาต้ังรกรากอยู่ท่ีบ้านเหนือ คนญวนเป็นคนรักเชื้อสายตัวเอง มาก แคม่ แี ซเ่ ดียวกนั อยทู่ ี่ไหนก็จะดแู ลกนั พอมีดำริจะสร้างวดั ญวน ชาว ญวนก็ช่วยกันคนละไม้คนละมือ ระดมทั้งความคิด แรงกาย แรงทรัพย์ ช่วยกันเต็มทจ่ี นสำเรจ็ เป็นทพ่ี ึง่ และศูนย์รวมจิตใจของชาวญวนผู้พลดั ถิน่ บา้ นเจา้ พระคุณสมเด็จฯ อยหู่ ่างจากวดั ญวนประมาณห้าหกร้อยเมตร เดิมทีวัดน้ีมีเจดีย์บรรพบุรุษของเจ้าพระคุณสมเด็จฯ โดยอยู่บริเวณ หอระฆงั พระชนนแี ละปา้ เฮง้ จึงมากราบไหวบ้ รรพบรุ ษุ สมำ่ เสมอ ส่วนงาน ประเพณตี ่างๆ กม็ ามิไดข้ าด ในสมัยเด็กๆ เจ้าพระคุณสมเด็จฯ โปรดวิ่งเล่นอยู่ที่วัดญวนบ่อยๆ พระองค์จึงผูกพันกับท่ีนี่ไม่น้อย ตอนเป็นนักเรียนอยู่วัดเหนือ พระองค์ มักเสด็จมาท่ีวัดญวน ตอนนั้นวัดญวนกับวัดเหนือก้ันร้ัวด้วยต้นไม้ท้ังต้น เรยี งเปน็ แนว “...ตรงข้างหลังวัดญวนเป็นสุสาน ที่น่ีตอนยังเรียนหนังสือท ่ี วัดเหนือ เดินมาเที่ยวบ่อยๆ มากับสัปเหร่อ เจออะไรต่อมิอะไรแปลกๆ บางทีก็เจอศพพวกผู้ร้ายท่ีทางบ้านเมืองเขาจับมาแขวนคอ ตอนน้ัน ไมก่ ลัว เพราะมากบั สปั เหร่อเขามีวชิ า...” ส่วนอีกวัดท่ีอยู่ท้ายถนนชื่อวัดไชยชุมพลชนะสงคราม หรือวัดใต้ เป็นพระอารามหลวง วัดใต้เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองเช่นกัน เชื่อว่าวัดนี้ได้เร่ิม 44 พระผ้เู จริญพร้อม Buddha-Chapter 2.indd 44-45

ทรงฉายพระรปู ร่วมกบั คณะกรรมการและเจ้าหน้าทีก่ องตำรา มหามกฏุ ราชวทิ ยาลยั เม่ือคร้งั เปน็ พระมหาเจริญ (แถวยนื หลงั สดุ องคท์ ่ี ๒ จากซ้าย) พ.ศ. ๒๔๘๒ ก่อสร้างราวสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ต้ังอยู่ริมฝั่งแม่น้ำแม่กลอง หาประวัติแน่ชัดไม่ได้ แต่เล่าต่อกันมาว่า พระยาตาแดงเป็นผู้สร้าง วัดนี้เป็นวัดสำคัญทางประวัติศาสตร์ ทัพไทยท่ียกออกไปต่อสู้ทัพพม่า จะตอ้ งมาพกั ที่นี ่ ไทยกับพม่าเคยรบกันทจี่ ังหวดั กาญจนบุรสี องครง้ั คอื พ.ศ. ๒๓๒๘ ชนะพม่าทล่ี าดหญ้า และ พ.ศ. ๒๓๒๙ ชนะพมา่ ทที่ า่ ดินแดง ในการรบ ชนะท้ังสองคร้งั ไดป้ ระชุมพลที่วัดน้ี จงึ ไดช้ ่อื วา่ “วดั ไชยชุมพลชนะสงคราม” เจา้ พระคณุ สมเด็จฯ เมือ่ ยงั เยาว์เคยไปวัดใตเ้ พอ่ื กราบหลวงปูเ่ ปล่ียน อินทฺสโร (พระวิสทุ ธริ ังษี) ครงั้ นั้นหลวงปู่ได้เจิมกระหม่อมให้ รวมทงั้ ให้ ศลี ให้พร และเคยทักเจา้ พระคณุ สมเดจ็ ฯ ว่า “โตข้นึ จะได้เปน็ ใหญ่เปน็ โต” หลวงปู่เปลี่ยน เป็นเกจิอาจารย์ดัง และชาวบ้านเคารพรักท่านมาก พระผู้เจริญพรอ้ ม 45 11/6/09 10:31:47 AM

วดั เทวสงั ฆาราม สามเณรพรรษาแรกๆ พระมหาเจริญ 46 พระผู้เจริญพร้อม Buddha-Chapter 2.indd 46-47

ในชว่ งสงครามโลกครงั้ ทส่ี อง มีเร่อื งรกู้ ันทว่ั วา่ เวลาที่ทหารฝ่ายพันธมิตร ทิ้งระเบิดเพ่ือทำลายสะพานข้ามแม่น้ำแคว บางครั้งลูกระเบิดก็ลอยมา ตกในชมุ ชนใกล้วัดใต้ ผ้คู นต่างหลบเข้ามาในวัดด้วยรวู้ า่ ปลอดภยั เพราะ หลวงปู่เปลี่ยนมีคาถาปัดเป่าลูกระเบิดให้ตกลงในแม่น้ำ ทำให้ทุกคน ปลอดภัย …. สามวัดสำคัญของปากแพรกนี้ มีส่วนในการหล่อหลอมเจ้าพระคุณ สมเด็จฯ ให้เติบโตอย่างมีธรรมเป็นเคร่ืองหล่อเลี้ยง ส่ังสมศรัทธา ที่ถูกต้องในการนำไปสู่การมีพระรัตนตรัยเป็นท่ีพึ่ง พึ่งพระพุทธเจ้า เป็นผู้บอกทางให้ พ่ึงพระธรรมเป็นทางเดิน พึ่งพระสงฆ์เป็นผู้เดินนำ และพ่ึงตนเองในการปฏบิ ัตทิ ัง้ ปวง ด้วยวา่ พระพทุ ธศาสนาประเสริฐเลิศล้ำ ไม่มีใดเสมอ... สู่รม่ กาสาวพสั ตร์ เจ้าพระคุณสมเด็จฯ อยู่กับป้าไม่เคยห่าง นอกจากต้องไปแรมคืน เวลาเขา้ คา่ ยลกู เสือบ้างเป็นบางครง้ั เทา่ นัน้ “คืนน้เี ป็นคนื สดุ ทา้ ยท่จี ะอยูด่ ้วยกัน” ปา้ เฮ้งพูดกบั เจ้าพระคุณสมเดจ็ ฯ ดว้ ยความอาลยั ดว้ ยว่าหลานชายจะบรรพชาเปน็ สามเณรในวนั รุ่งข้นึ คำสนทนาในวันน้ัน ป้าเฮ้งไม่รู้เลยว่าสิ่งท่ีได้พูดกับหลานชายจะเป็น ความจริงในเวลาต่อมา หลังจากบรรพชาเป็นสามเณรแล้ว เจ้าพระคุณ สมเด็จฯ ทรงใช้ชีวิตพรหมจรรย์นับจากนั้น และไม่เคยกลับไปค้างคืนท่ี บ้านป้าอีกเลย แสงจนั ทร์คืนนัน้ จงึ นบั เป็นแสงสดุ ทา้ ยของชวี ิตทางโลก การท่พี ระชนนีและป้าตดั สินใจใหเ้ จา้ พระคุณสมเด็จฯ บรรพชาตั้งแต่ ยังเล็กนั้น ด้วยเหตุที่ประชวรบ่อย และมีคร้ังหน่ึงพระอาการหนัก พระผูเ้ จรญิ พรอ้ ม 47 11/6/09 10:31:49 AM

จนคิดว่าอาจถึงแก่ชีวิต ด้วยความรักท่ีมีต่อเลือดในอก พระชนนีบนบาน ศาลกล่าวต่อส่งิ ศักดสิ์ ทิ ธิ์ ...ขอให้ลูกชายหายเจ็บไข้ ถ้าลูกหายจะให้บวช... คร้นั แล้วเจา้ พระคุณสมเด็จฯ ทรงแขง็ แรงขน้ึ ตามลำดบั พรอ้ มๆ กบั เรียนจบช้ันประถมปีท่ี ๕ ท่ีโรงเรียนประชาบาลวัดเทวสังฆาราม ใน ระหว่างนั้นก็เป็นอีกหน่ึงช่วงชีวิตท่ีเจ้าพระคุณสมเด็จฯ ทรงต้องตัดสิน พระทัยเลอื กทางชีวติ ด้วยวา่ ตอนนั้นที่โรงเรียนไม่มชี ั้นเรียนใหเ้ รียนต่อแล้ว แต่แลว้ เหตุปจั จยั ถงึ พรอ้ ม นา้ ชายสองคนจะอปุ สมบทในปนี ี้ พระชนนี ป้าเฮ้ง ปรึกษากันในครอบครัว และตกลงใจให้เจ้าพระคุณสมเด็จฯ บรรพชาพร้อมกับน้าชายเสียทีเดียว และเมื่อเอ่ยถามความสมัครใจ พระองค์กไ็ มท่ รงคัดคา้ น เจา้ พระคณุ สมเด็จฯ ทรงบรรพชาในตน้ พรรษา ปี พ.ศ. ๒๔๖๙ เมอื่ พระชนั ษาเขา้ ๑๔ ปี มีหลวงพ่อดีหรอื พระครอู ดลุ ยสมณกิจ เจา้ อาวาส วัดเหนือ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูนิวิฐสมาจาร เจ้าอาวาสวัดศรีอุปลาราม หรอื “หลวงพ่อวดั หนองบวั ” เป็นพระอาจารย์ใหส้ รณะและศีล เมอ่ื บรรพชาเป็นสามเณรแลว้ เจ้าพระคุณสมเดจ็ ฯ กจ็ ำพรรษาอยู่ท่ี วัดเหนอื บรรยากาศในวันบรรพชาของเจ้าพระคณุ สมเด็จฯ มผี ูเ้ ฒา่ ผู้แกเ่ ลา่ ให้ ลกู หลานฟังตอ่ ๆ กันมาว่า ...วันที่สามเณรเจริญบรรพชาน้ัน พระองค์ทรงขี่ม้าสีขาว ร้ิวขบวน แห่นาคผ่านตลาดบ้านเหนือและมุ่งไปยังวัดเหนือ ..สาธุชนที่เห็นยกมือ อนโุ มทนา... การบรรพชาเปน็ สามเณรของเจ้าพระคณุ สมเด็จฯ ในวนั นั้น นำความสุข ความปลม้ื ปีตมิ าสูห่ ัวใจของพระชนนี ปา้ เฮง้ และญาตพิ นี่ ้องอยา่ งท่สี ดุ 48 พระผเู้ จริญพรอ้ ม Buddha-Chapter 2.indd 48-49

วดั เสนหา นครปฐม พระสาสนโสภณ ที่จงั หวัดกาญจนบรุ ี เจา้ พระคุณสมเดจ็ ฯ ในปี พ.ศ. ๒๕๐๑ ฉายพระรปู กับพระเปรียญ สำนักเรียนวัดบวรนเิ วศฯ พ.ศ. ๒๔๘๒ พระผ้เู จรญิ พรอ้ ม 49 11/6/09 10:31:50 AM


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook