ให้ฉันได้ไปพบกับคนท�ำงานเพื่อสังคม “ตัวจริง” ผู้มีพลังอย่างมากในการ สร้างความเปล่ยี นแปลงใหเ้ กิดขึ้นกบั นักวิจยั หนา้ ใหมค่ นนี้ ขอขอบคุณ รศ. ดร. ลือชัย ศรีเงินยวง อาจารย์คนส�ำคัญท่ีสอนให้ฉัน รู้จักค�ำว่า “กระบวนทัศน์” และการวิจัยเชิงคุณภาพอย่างลึกซึ้ง บทเรียน ตลอด 10 วันท่ีได้รับจากอาจารย์ช่วยปรับมุมมองการเข้าใจมนุษย์ และมี สว่ นชว่ ยอยา่ งยง่ิ เมอื่ ไปท�ำงานจรงิ ในภาคสนาม ขอบคณุ อาจารยท์ ส่ี อนให้ รู้จักนิยามการท�ำงานวิจัยท่ีว่า “การวิจัยท่ีแท้ต้องท�ำให้พ้นทุกข์” และขอ ขอบคุณที่อาจารย์ช่วยอ่านงานเขียนของลูกศิษย์คนน้ี พร้อมท้ังให้ข้อเสนอ ด้วยความเอาใจใส่อยา่ งย่งิ นอกจากนี้ฉันยังอยากขอบคุณพื้นท่ีทั้งสาม ได้แก่ มูลนิธิบ้านครูน�้ำ ชมุ ชนโคกสลงุ และกลมุ่ ทราเวลล ์ ในฐานะครคู นสำ� คญั ทช่ี ว่ ยใหก้ ารเดนิ ทาง คร้ังนี้ไปได้ไกลกว่าทฉี่ ันคาดคิด และมีพลังมากกว่าที่ฉันเคยคาดฝัน สุดท้ายน้ีคงไม่มีถ้อยค�ำใดจะสรุปบทเรียนท่ีฉันได้รับจากการเดินทาง ครงั้ นไี้ ดช้ ดั เจนและหมดจดไปกวา่ ค�ำกลา่ วทว่ี า่ “คนทกุ คนมเี มลด็ พนั ธช์ุ นดิ หนึ่งอยู่ในตัว เรียกว่า ‘ความดีงาม’ เมล็ดพันธุ์ชนิดน้ีเม่ือได้รับแดด รับน�้ำ และไดป้ ยุ๋ ทด่ี ี ในเวลาและสถานทท่ี เี่ หมาะสม มนั จะเรมิ่ หยงั่ ราก แตกหนอ่ และเติบโตกลายเป็นต้นไม้ใหญ่ที่จะสร้างเมล็ดพันธุ์ต่อๆ ไปอีกไม่รู้จักจบ ส้ิน” (ลงุ ริน, 24 กมุ ภาพันธ์ 25601) 1 เวทีการนำ�เสนอผลงานวิจัยโครงการ “การถอดบทเรียนกระบวนการพัฒนาและ สร้างความเข้มแข็งของพ้ืนที่ผ่านภาวะการนำ�ร่วม” ณ พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านไทยเบิ้ง โคกสลุง อ. พฒั นานคิ ม จ. ลพบรุ ี บทเรยี นการน�ำ รว่ มจากผขู้ ับเคลือ่ นสังคม 301
สะท้อนเส้นทางการลงพื้นท่ี วาสนา ศรีปรชั ญาอนันต์ 15 เมษายน 2560 การได้ท�ำงานร่วมกับนักวิจัยอีก 3 คน และผู้ประสานงานวิชาการ โครงการผู้น�ำแห่งอนาคต การได้ลงพ้ืนที่ท้ัง 3 แห่ง การได้เข้าร่วมเวที เครือข่ายภาวะการน�ำเพ่ือการขับเคล่ือนสังคม (Leadership for Social Facilitation) รนุ่ ท ี่ 3 และการสะทอ้ นคดิ โดยมอี าจารยเ์ ปล้ิ เปน็ โคช้ ทง้ั หมด นี้ชว่ ยเปดิ โลกทัศน์ใหแ้ กฉ่ นั เปน็ อยา่ งย่งิ หากมองย้อนกลับไป เส้นทางการเดินทางของฉันในฐานะนักวิจัยเร่ิม ต้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2559 เมื่ออาจารย์อ้อชักชวนให้ฉันซ่ึงสนใจ เรื่องการเรียนร้ใู นพิพธิ ภัณฑ์ เข้ามาร่วมท�ำงานลงพื้นท่ีกบั พ่ีเต้ย แท็ป และ แต้ว เน่ืองจากหนึ่งในพื้นที่ที่ท�ำงานร่วมกับโครงการผู้นำ� ฯ มายาวนานคือ พิพิธภัณฑ์พ้ืนบ้านไทยเบิ้ง โคกสลุง แม้ไม่เคยมีประสบการณ์ลงชุมชนใน ประเทศไทยมากอ่ นและไมเ่ คยทำ� งานรว่ มกบั นกั วจิ ยั ทง้ั สาม แตฉ่ นั กต็ กปาก รบั คำ� โดยไมล่ งั เล และรสู้ กึ มน่ั ใจวา่ จะสามารถเรยี นรแู้ ละทำ� งานเปน็ ทมี กบั ทกุ คนไดด้ ี เพราะพเ่ี ตย้ ผเู้ ปรยี บเสมอื นพใ่ี หญใ่ นทมี และเปน็ หวั หนา้ โครงการ วิจัยนี้คุยกับพวกเราท้ังสามคนต้ังแต่ต้นว่า เหตุที่โครงการผู้น�ำฯ ชักชวน อาจารยซ์ งึ่ มาจากตา่ งสาขาใหม้ ารวมตวั กนั ลงพน้ื ทก่ี เ็ พราะอยากไดม้ มุ มอง 302 ใจคน ชมุ ชน การเปล่ยี นแปลง
ใหม่ๆ จากคนนอก ดังน้ันแต่ละคนก็ท�ำในส่ิงที่ตัวเองท�ำได้ แต่ท่ีส�ำคัญคือ การเปดิ ใจเรยี นรูแ้ ละทำ� ความรจู้ ักกับคนท�ำงานขบั เคล่อื นเหลา่ น้ ี เมอื่ รวม ทีมครบแล้ว เราจึงตกลงกันว่าจะพยายามลงพื้นท่ีร่วมกันเพ่ือจะได้แลก เปล่ยี นมุมมองซ่ึงกนั และกัน โจทย์ที่ได้รับคือการลงพื้นที่ 3 แห่งเพ่ือถอดบทเรียนกระบวนการท�ำ งานขบั เคลอ่ื นสงั คม โดยโครงการผนู้ �ำฯ เลอื กไวแ้ ลว้ 2 พนื้ ท ี่ ไดแ้ ก ่ มลู นธิ ิ บา้ นครนู ้ำ� กบั ชมุ ชนโคกสลงุ และมกี ารเสนอชอ่ื ศานนทใ์ หแ้ กท่ มี เราจงึ เรม่ิ จากการเขา้ ไปคยุ กบั ศานนทเ์ กยี่ วกบั งานเพอื่ สงั คมทเ่ี ขากำ� ลงั ทำ� อย ู่ และพบ วา่ Once Again Hostel กบั ทราเวลลม์ กี ารทำ� งานบางอยา่ งทบั ซอ้ นกนั อยู่ พวกเราสนใจการท�ำงานของทราเวลล์กับชุมชนน�ำร่องทั้งส่ีเป็นพิเศษ จึง เลอื กมงุ่ เนน้ ไปยงั กลมุ่ ทราเวลลม์ ากกวา่ ตวั บคุ คลอยา่ งศานนทห์ รอื โฮสเทล อยา่ งไรกด็ ี ตอนแรกมเี หตทุ ท่ี ำ� ใหท้ างโครงการฯ ลงั เลเกย่ี วกบั ทราเวลล ์ แต่ ฉันยืนยันว่าจะลงพ้ืนท่ีศึกษาทราเวลล์ เพราะทุกคนในทีมวิจัยเห็นพ้องกัน ว่าทราเวลล์แตกต่างจากสองพ้ืนที่แรกอย่างชัดเจน น่าจะท�ำให้ได้เห็นการ ท�ำงานและวิธีคิดอีกแบบหนึ่งในการท�ำงานขับเคล่ือนสังคม โดยเฉพาะวิธี คิดผา่ นมุมมองคนรนุ่ ใหม ่ เราจึงตดั สนิ ใจหยุดอยู่ท่ที ราเวลล์ หลังจากลงพื้นท่ีครบทั้งสามแห่งแล้วจึงมาคุยกันเร่ืองกระบวนการ ท�ำงานวา่ ใครจะดูแลรับผิดชอบสว่ นใดเป็นหลกั เม่ือดูจากความสนใจและ ความเหมาะสมในการทำ� งานเชงิ ลกึ กบั แตล่ ะพน้ื ท ่ี พเี่ ตย้ จงึ กลายเปน็ ผดู้ แู ล พน้ื ทม่ี ลู นธิ บิ า้ นครนู ำ้� แทป็ ดแู ลพน้ื ทโ่ี คกสลงุ ฉนั ดทู มี ทราเวลล ์ ขณะทแี่ ตว้ ท�ำหน้าที่มองภาพรวมและสังเคราะห์ข้อมูลท้ังหมด แม้กระนั้น เมื่อไรที่มี โอกาส พวกเราก็ยังคงลงพ้ืนที่ด้วยกัน ท้ังทีมบ้าง สองสามคนบ้าง และน�ำ ประเด็นทพ่ี บเห็นในพน้ื ท่มี าพดู คยุ กันเสมอ ระหวา่ งการลงพน้ื ทไ่ี ปทำ� ความรจู้ กั กบั คนทำ� งานขบั เคลอื่ น ฉนั รสู้ กึ ทงึ่ ในความเป็นธรรมชาติของพ่ีเต้ยและแท็ปเป็นอย่างมาก รู้สึกว่าทั้งสองคน บทเรียนการน�ำ ร่วมจากผูข้ บั เคล่ือนสงั คม 303
พูดภาษาเดียวกันกับคนพ้ืนที่ มีความซาบซ้ึงในวิถีชีวิตและการท�ำงานของ คนเหล่าน้ีจริงๆ จนเหมือนพวกเขาเป็นคนในพ้ืนท่ีน้ัน สังเกตได้จากท่ีครู น้�ำเคยเปรยชวนพ่ีเต้ยให้มาท�ำงานด้วยกัน หรือลุงอ้น ป้าแดง และพ่อมืด ต้อนรับขับสู้แท็ปเหมือนเป็นลูกหลาน ส่วนแต้วนั้นแม้จะไม่ได้ดูแลพื้นที่ ใดเป็นหลัก แต่ก็ลงทุกพื้นท่ีอย่างสม่�ำเสมอ และพูดคุยกับทุกคนได้อย่าง กลมกลนื ชนดิ ทว่ี า่ สามารถแฝงตวั เขา้ ไปในหมบู่ า้ นฝง่ั พมา่ เพอ่ื ดวู ถิ ชี วี ติ เดก็ ทม่ี ลู นธิ บิ า้ นครนู ำ้� ใหค้ วามชว่ ยเหลอื นอกจากนน้ั นกั วจิ ยั แตล่ ะคนยงั แสดง ถึงความ “อิน” และความเข้าใจเกี่ยวกับพื้นท่ีท่ีตนเองดูแลได้อย่างลึกซ้ึง มี การวเิ คราะหเ์ ปรยี บเปรยพน้ื ทเ่ี ปน็ ดนตรแี ตล่ ะประเภท อนั เปน็ การเชอ่ื มโยง สิ่งท่ีตนได้เรียนรู้ใหม่เข้ากับสาขาวิชาท่ีตนเชี่ยวชาญ ขณะท่ีแต้วต้องรับบท หนกั ในการวเิ คราะหภ์ าพรวมทงั้ สามพนื้ ทใี่ หเ้ ชอ่ื มโยงกบั แนวคดิ การนำ� แบบ ตา่ งๆ จนออกมาเปน็ โมเดลการขบั เคล่อื นสงั คมผ่านภาวะการนำ� ร่วม อีกคนหนึ่งที่ขาดไม่ได้ในการท�ำงานวิจัยครั้งน้ีคือ “กก” หรือ กานน คมุ พป์ ระพนั ธ์ ผปู้ ระสานงานวชิ าการโครงการผนู้ �ำฯ ทลี่ งพนื้ ทรี่ ว่ มกบั พวก เราอยเู่ สมอ กกมกั รบั บทฝา่ ยคา้ นคอยตง้ั ค�ำถามใหพ้ วกเรากลบั มาคดิ อยา่ ง ถี่ถ้วนว่ามันเป็นอย่างน้ันจริงหรือ ซ่ึงเป็นการช่วยสะท้อนคิดจากมุมมองที่ แตกต่าง การทำ� งานในชว่ งระยะเวลากวา่ 8 เดอื นทำ� ใหฉ้ นั รจู้ กั พเี่ ตย้ แทป็ แตว้ และกก มากขึ้น ได้เห็นการตีความและการมองโลกด้วยแง่มุมใหม่ๆ จาก ฐานความคิดอันแตกต่างหลากหลาย และเมื่อเราถามกันเองว่าการท�ำงาน ของพวกเราเป็นภาวะการน�ำร่วมหรือไม่ ค�ำตอบที่เห็นตรงกันคือ ใช่ เรา ทำ� งานกนั อยา่ งนำ� รว่ ม ดว้ ยความเคารพ รบั ฟงั ความคดิ เหน็ กนั และกนั แบง่ ปนั ขอ้ มลู พดู คยุ แลกเปลย่ี น และถามความคดิ เหน็ จากแตล่ ะคนกอ่ นตดั สนิ ใจเสมอ หลายครั้งหลายหนฉันเห็นความคล้ายคลึงระหว่างกระบวนการ ท�ำงานในทีมนักวิจัยกับทีมทราเวลล์ ซ่ึงอาจเป็นเพราะเรามีลักษณะบาง 304 ใจคน ชมุ ชน การเปล่ียนแปลง
อย่างใกล้เคียงกัน เช่น กลุ่มมีขนาดกะทัดรัด ความเช่ียวชาญหลากหลาย อายุไล่เล่ียกัน การเคารพซึ่งกันและกัน และการเปิดใจรับฟัง จึงท�ำให้การ พูดคยุ และแลกเปล่ยี นขอ้ มลู เปน็ ไปโดยงา่ ย ฉนั ไดเ้ รยี นรหู้ ลายสงิ่ หลายอยา่ งจากเหลา่ คนท�ำงานขบั เคลอื่ นในพนื้ ท่ี แต่สิ่งส�ำคัญท่ีสุดคือการได้เห็นความเป็นมนุษย์และความจริงใจในการ ท�ำงาน คนจ�ำนวนมากมองว่าคนไร้สัญชาติไม่ควรได้รับสิทธิใดๆ ใน ประเทศไทย แตห่ ากเรามองเขาเปน็ มนษุ ยด์ งั ทที่ มี ครนู ำ้� มองเดก็ ทกุ คน เรา จะเหน็ เหมอื นกนั วา่ เดก็ ไรส้ ญั ชาตเิ หลา่ นค้ี วรมโี อกาสเขา้ ถงึ สทิ ธขิ นั้ พน้ื ฐาน ทุกด้านเชน่ เดียวกับเดก็ ไทย หากเรามองว่าคนในชมุ ชนป้อมมหากาฬเป็น มนษุ ยท์ มี่ คี วามรสู้ กึ นกึ คดิ เปน็ คนกรงุ เทพฯ ไมต่ า่ งจากคนกรงุ เทพฯ ในพน้ื ท่ี อื่นๆ อย่างที่ทราเวลล์เช่ือม่ัน เราอาจรับฟังข้อเสนอแนะ ข้อคิดเห็น และ เชญิ ชวนใหพ้ วกเขาเขา้ มามสี ว่ นรว่ มในการวางแผนจดั การพนื้ ทแี่ ละอนาคต กรงุ เทพฯ มากกวา่ น ้ี โดยมพี วกเขารวมอยใู่ นภาพอนาคตของกรงุ เทพฯ ดว้ ย แกนนำ� ทง้ั สามพนื้ ทแี่ สดงใหเ้ ราเหน็ วา่ พวกเขาตอ้ งฝา่ ฟนั อปุ สรรคและ ข้อท้าทายอันหลากหลาย รวมท้ังต้องใช้ความพยายามอย่างย่ิงยวดในการ ทำ� งานขบั เคลอ่ื น เชน่ การขอความรว่ มมอื จากคนในชมุ ชนใหส้ ง่ ลกู หลานเขา้ มาเป็นส่วนหนึ่งในการท�ำงาน การสร้างความเปล่ียนแปลงให้เกิดข้ึนผ่าน การชักชวนกลุ่มโฮมสเตย์ให้เข้าร่วมการพัฒนาชุมชนโคกสลุง การให้คนใน ชุมชนเข้าร่วมเป็นผู้ระบุปัญหา ความต้องการ และแนวทางแก้ไขปัญหา จากมมุ มองคนในเพอื่ ใหเ้ กดิ การพฒั นาอยา่ งยงั่ ยนื เหลา่ นลี้ ว้ นเกดิ จากความ จริงใจในการท�ำงานและความปรารถนาจะเห็นสังคมเปล่ียนแปลงไปใน ทางทด่ี ขี ้ึน อีกส่ิงหนึ่งซ่ึงส�ำคัญไม่แพ้กันคือความกล้าลงมือท�ำ ทุกคร้ังที่ลงพ้ืนท่ี ไปคุยกับน้องๆ กลุ่มทราเวลล ์ ฉันรู้สึกว่าได้รับพลังกลับมาอย่างล้นหลาม พวกเขาฝันอยากท�ำให้กรุงเทพฯ กลายเป็นเมืองน่าอยู่ส�ำหรับ “คน” เป็น บทเรยี นการน�ำ ร่วมจากผขู้ บั เคลอื่ นสังคม 305
เมืองที่มีเรื่องราวและเสน่ห์ทางวัฒนธรรม ท้ังหมดนี้เป็นภาพท่ีย่ิงใหญ่ เหลอื เกนิ แตพ่ วกเขากลา้ คดิ และกลา้ ลงมอื ทำ� ไปทลี ะกา้ ว สงิ่ ไหนเกนิ กำ� ลงั ก็มองหาเครือข่ายเพ่ือมาช่วยต่อเติมภาพนั้นให้เป็นจริง ฉันซึ่งมีฝันแต่ยัง ปิดกั้นตนเองด้วยเง่ือนไขต่างๆ รู้สึกชื่นชมความกล้าของพวกเขาเป็นอย่าง มาก พวกเขาเรม่ิ จดุ ประกายใหฉ้ นั คน้ หาความกลา้ ภายในตนเองเพอื่ ท�ำตาม ความฝันเล็กๆ ฉันคงเอาแต่คิดไม่ได้แล้ว และต้องเร่ิมลงมือท�ำอะไรสัก อย่างแล้วละ นอกเหนอื จากบทเรยี นทไี่ ดร้ บั จากการทำ� งานโดยตรง ยงั มเี รอื่ งราวใน อกี หลายหว้ งเวลาทป่ี ระทบั อยใู่ นความทรงจำ� เชน่ เมอ่ื พวกเราไดน้ งั่ ทา้ ยรถ กระบะครูน�้ำ ล้อมวงกินข้าวด้วยกันบนเสื่อข้างริมน�้ำโขง นอนรวมกันใน พพิ ธิ ภณั ฑ ์ เปน็ ลกู มอื ชว่ ยพอ่ มดื ท�ำกบั ขา้ ว ชมการแสดงละครชาตรี สมั ผสั เสน่ห์ของบ้านไม้โบราณและวิถีความเป็นอยู่แบบดั้งเดิมท่ีชุมชนป้อม มหากาฬ ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นประสบการณ์ระหว่างทางอันมีคุณค่าที่ ฉนั จะไมม่ วี นั ลมื สดุ ทา้ ยนฉี้ นั รสู้ กึ โชคดเี ปน็ อยา่ งยง่ิ ทไี่ ดร้ บั โอกาสใหเ้ ขา้ รว่ มเวทเี ครอื ขา่ ย ภาวะการน�ำเพอ่ื การขบั เคลอ่ื นสงั คม โดยมอี าจารยป์ ระชา หตุ านวุ ตั ร และ คุณณัฐฬส วังวิญญู เป็นผู้แนะแนวทางการเปิดพ้ืนที่ปลอดภัยเพื่อการแลก เปลยี่ น การดำ� ดง่ิ เพอ่ื คน้ หาทกุ ขใ์ นใจ การรบั ฟงั เสยี งตา่ งๆ ของตนเอง และ การก้าวข้ามความกลัว การฝึกฝนเหล่าน้ีท�ำให้ฉันเร่ิมเห็นบางสิ่งที่ขับ เคล่ือนความรู้สึกนึกคิดและการกระท�ำ เร่ิมเข้าใจว่าการเท่าทันความคิด ตนเองมีประโยชน์ในการด�ำรงชีวิต รวมท้ังการตัดสินใจเกี่ยวกับตนเองและ ผู้อ่ืนอย่างไร แต่ฉันคงต้องฝึกอีกมากกว่าจะรู้เท่าทันและไม่ตกเป็นทาส ความคดิ ตนเองได ้ กอ่ นจะปดิ โครงการวจิ ยั อาจารยเ์ ปล้ิ ยงั ใหโ้ อกาสพวกเราไดส้ ะทอ้ นคดิ เกย่ี วกบั กระบวนการทำ� งานครงั้ น ้ี อาจารยเ์ ปล้ิ พาฉนั ยอ้ นไปใหเ้ หน็ ปมทเี่ ปน็ 306 ใจคน ชมุ ชน การเปลีย่ นแปลง
ตัวก�ำหนดความรู้สึกนึกคิดและการกระทำ� ต่างๆ ได้ชัดเจนขึ้นไปอีก ซึ่งใน ชีวิตทเ่ี ต็มไปดว้ ยความรบี ร้อน ฉนั ไมไ่ ดส้ นใจจะเข้าไปท�ำความเข้าใจกับสงิ่ เหลา่ นนี้ กั หรอื บางครง้ั มนั อาจจะเปน็ ทกุ ขอ์ นั ใหญห่ ลวงทฉี่ นั ไมอ่ ยากหนั ไป มองเทา่ ไร แตเ่ วทแี ละกระบวนการเหลา่ นไี้ ดม้ อบเครอื่ งมอื อนั เปรยี บเสมอื น กระจกให้ฉันได้ลองมองเพ่อื กลับมาเข้าใจและดูแลตนเองมากขนึ้ ขอบคุณอาจารย์อ้อ อาจารย์อั๋น อาจารย์เปิ้ล อาจารย์แต้ว อาจารย์ เต้ย อาจารย์แท็ป กก อาจารย์ประชา พ่ีณัฐฬส พ่ีทุเรียน พ่ีปุ้ย ศา ลี่ มัย เนย เม แวน ปอ แบงค์ ครูน้�ำ ครูอ้วน อู๊ด ชาฟิว ภัลลพ พ่อมืด พี่มุ่ย ลุง อ้น ป้าแดง ครูเสือ ผู้พัน น้อย เนตร เนกข์ ป๊า แม่ และคุณยาย ที่ช่วยให้ ฉนั ได้เติบโตจากการเดนิ ทางครั้งน ้ี ขอบคุณค่ะ บทเรียนการนำ�รว่ มจากผขู้ ับเคลอื่ นสงั คม 307
เพราะไมร่ ู้ ไมถ่ นัด ไม่คนุ้ เคย จงึ พยายาม เพราะผคู้ นทห่ี ลากหลาย จึงเรียนรู้ เพราะเครอื่ งมอื ท่ไี ด้มา จงึ เตมิ เตม็ เพราะตระหนกั รตู้ นเอง จงึ เปล่ียนแปลง ฐติ ิกาญจน ์ อศั ตรกุล 16 เมษายน 2560 สำ� หรบั ฉนั แลว้ แนวคดิ ทวี่ า่ การเรยี นรจู้ ะเกดิ ขน้ึ เมอ่ื กา้ วออกมาจากพนื้ ที่ คุ้นเคยสะดวกสบายมีส่วนส�ำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงตัวเองในคร้ังนี้มาก นี่เป็นงานวิจัยชิ้นแรกที่ได้ท�ำเมื่อเข้ามาอยู่ในที่ท�ำงานใหม่ มีเพื่อนร่วมทีม หนา้ ใหม ่ และฉนั กไ็ มร่ เู้ รอ่ื งเกย่ี วกบั ผนู้ ำ� เลย ไมถ่ นดั และไมเ่ คยทำ� งานถอด บทเรยี น คนุ้ เคยแตก่ บั งานวจิ ยั เชงิ ปรมิ าณ จงึ รสู้ กึ แปลกใจวา่ เหตใุ ดจงึ ไดร้ บั เลือกเข้าร่วมโครงการน้ี แต่ขณะเดียวกันก็คิดว่าเป็นเร่ืองท้าทายที่อยาก เอาชนะใหไ้ ด ้ เพราะเชอื่ วา่ การออกจากพนื้ ทคี่ นุ้ เคยและการพยายามทำ� งาน ให้ลุล่วงไปได้ด้วยดีจะท�ำให้ได้เรียนรู้วิธีการใหม่ๆ ท่ีใช้มองและท�ำความ เข้าใจส่งิ ตา่ งๆ 308 ใจคน ชุมชน การเปลีย่ นแปลง
คร้ังแรกๆ ที่ลงพ้ืนท่ีทั้งสามแห่ง ฉันต้ังธงไว้เลยว่าจะต้องไปถามไป สมั ภาษณป์ ระเดน็ ใดบา้ งโดยใชแ้ นวทางทเ่ี รยี นและเคยทำ� มาเพอ่ื ใหไ้ ดข้ อ้ มลู ตรงตามประเด็นท่ีตั้งไว้ แน่นอนว่าฉันรู้สึกพอใจกับข้อมูลที่ได้มาคร้ังนั้น ทว่าเหมือนโชคชะตาน�ำพาความท้าทายมาให้อีกรอบเมื่อต้องสอนวิชา กระบวนการและการจัดการความเปล่ียนแปลง วิชานี้เป็นเร่ืองเก่ียวกับ ภาวะภายในตนเอง ซงึ่ เปน็ สง่ิ ทฉี่ นั รสู้ กึ วา่ หา่ งไกลจากความเขา้ ใจของตวั เอง มาก แต่โชคดีว่ามีอาจารย์เปิ้ลและอาจารย์อั๋นคอยประกบอยู่ เลยรู้สึก เหมือนไดเ้ ข้าไปเปน็ ผ้เู รยี นร่วมกบั นักศกึ ษาดว้ ย เครื่องมืออย่างหน่ึงที่ได้มาระหว่างการจัดกระบวนการเรียนรู้ในชั้น เรียน และเป็นส่ิงส�ำคัญท่ีช่วยเติมเต็มการเรียนรู้ในพ้ืนที่คร้ังนี้คือ “การฟัง อย่างลึกซ้ึง” ฉันลองน�ำเครื่องมือนี้มาใช้ในการลงพื้นท่ีคร้ังต่อมา โดย เปลย่ี นจากการพยายามตง้ั ค�ำถามเพอื่ หาค�ำตอบ เปน็ การเปดิ ประเดน็ แลว้ ชวนคุยเพ่ือให้แหล่งข้อมูลมีโอกาสเล่าเรื่องตัวเองมากข้ึน ช่วงแรกๆ ท่ี พยายามฟังอย่างเดียวโดยไม่ขัด ไม่ตัดสิน ฉันรู้สึกอึดอัดเพราะอยากถาม ต่อ และมักคิดตามว่าท�ำไมจึงเป็นอย่างนี้ ท�ำไมไม่เป็นอย่างน้ัน ในหัวเกิด ความสงสยั วา่ การตง้ั ค�ำถามใหน้ อ้ ยเปน็ วธิ ที ถ่ี กู ตอ้ งแลว้ หรอื ไม่ แตอ่ กี ความ คิดก็บอกตัวเองว่าต้องเชื่อม่ันในค�ำสอนของผู้รู้ท่ีว่าให้ฟังมากๆ หลังจาก ทดลองใช้เคร่ืองมือนี้หลายๆ คร้ัง ผลลัพธ์ท่ีได้ท�ำให้รู้สึกว่าคนในพื้นที่เปิด ใจให้ฉันมากข้ึน พวกเขามีเร่ืองเล่าให้ฟังมากมาย และหลายเรื่องเป็น ประเด็นท่ีคาดไม่ถึง ท�ำให้ฉันได้ข้อมูลเพ่ิมขึ้นและรู้สึกเข้าถึงพ้ืนท่ีมากขึ้น การได้ฟังเร่ืองราว ประสบการณ์ และความรู้สึกนึกคิดจากผู้คนเหล่า นย้ี งั เปดิ โลกใหไ้ ดท้ ำ� ความรจู้ กั กบั วธิ คี ดิ หลายแบบทฉี่ นั เคยไมเ่ ชอ่ื มนั่ ไดเ้ หน็ คนทคี่ ดิ และทำ� ตา่ งจากฉนั ซง่ึ หลายเรอ่ื งมคี วามนา่ ทงึ่ แบบทฉี่ นั ไมเ่ คยสมั ผสั มาก่อน เช่น ครูน�้ำตัดสินใจลาออกจากงานประจำ� เพ่ือมาท�ำงานช่วยเหลือ เด็ก พ่อมืดหักดิบเลิกเหล้าเพื่อมุ่งท�ำงานพัฒนาคน กลุ่มทราเวลล์กล้าคิด บทเรยี นการน�ำ ร่วมจากผู้ขับเคลอ่ื นสงั คม 309
กลา้ ทำ� ในสงิ่ ทต่ี นเองฝนั พวกเขาทำ� งานดว้ ยหวั ใจจรงิ ๆ โดยไมต่ อ้ งโฆษณา วา่ ตวั เองดอี ยา่ งไร ฉนั เคยเชอ่ื มาตลอด 30 ปวี า่ มนษุ ยเ์ กดิ มาเปรยี บเหมอื น ผ้าด�ำท่ีต้องให้สังคมขัดเกลาช�ำระล้างจึงจะขาวข้ึน แต่คนท�ำงานขับเคลื่อน พ้ืนที่กลุ่มน้ีเช่ือว่ามนุษย์เกิดมาเหมือนผ้าขาว พวกเขาเห็นคุณค่าและ ศักยภาพในตัวมนุษย์ทุกคน ตอนแรกฉันไม่เข้าใจนักว่าท�ำไมตัวเองจึงคิด แบบนี้ จนกระท่ังต่อมาได้เข้าร่วมเวทีอบรมของโครงการผู้นำ� แห่งอนาคต และท�ำงานร่วมกับทีมวิจัย จึงมองเห็นท่ีมาที่ไปของวิธีคิดดังกล่าว ส่งผล ใหก้ ารลงพน้ื ทท่ี กุ ครงั้ หลงั จากนนั้ ฉนั สามารถซมึ ซบั อารมณค์ วามรสู้ กึ ผอู้ นื่ ไดม้ ากขึน้ และได้รับพลงั บวกกลับมาเสมอ เมื่อท�ำวิจัยไปสักพักก็ถูกส่งตัวไปอบรมในเวทีเครือข่ายภาวะการน�ำ เพื่อการขับเคลื่อนสังคม (Leadership for Social Facilitation) รุ่น 3 ตอนนั้นรู้สึกดีใจเพราะคาดหวังว่าการอบรมจะท�ำให้เข้าใจวิถีและทิศทาง โครงการผู้น�ำแห่งอนาคตมากข้ึน ซึ่งน่าจะช่วยให้คุยกับผู้น�ำในพ้ืนท่ีรู้เร่ือง มากขนึ้ แตป่ รากฏวา่ ฉนั กลบั ไดเ้ ครอ่ื งมอื สำ� หรบั การใครค่ รวญตนเองทช่ี ว่ ย ให้ฉันเดินทางเข้าไปยังโลกภายในตัวเอง...โลกท่ีฉันไม่เคยเข้าไปสัมผัสมา กอ่ นเพราะมเี กราะกำ� บังท่ฉี ันสรา้ งเอาไว้ ฉนั ใชเ้ ครอื่ งมอื นม้ี ายอ้ นคดิ ใครค่ รวญวา่ เหตใุ ดตวั เองจงึ ชอบตง้ั ค�ำถาม กบั การทำ� งานของคนในพน้ื ท ่ี จนไดค้ ำ� ตอบวา่ คงเพราะตวั เองเกดิ และเตบิ โต มาในสังคมเมือง ในครอบครัวท่ีเน้นการใช้ฐานหัวหรือฐานคิดมากกว่าฐาน กายกับฐานใจ มีวิถีชีวิตเหมือนครอบครัวส่วนใหญ่ในเมืองท่ีคาดหวังให้ลูก มหี นา้ ทหี่ ลกั คอื เรยี นหนงั สอื เพอื่ สอบเขา้ มหาวทิ ยาลยั ชนั้ นำ� เรยี นจบมาได้ งานดี มีอนาคตมั่นคง ฉันไม่อยากเดินตามเส้นทางน้ันเลย หลายครั้งจึง เลือกด้อื เงียบไป แต่บางทกี ไ็ มเ่ งียบเพราะมนั แสดงออกมาทางผลการเรยี น วา่ ฉนั ไดล้ ำ� ดบั ทา้ ยๆ ของหอ้ งเสมอ ครอบครวั เราไมค่ อ่ ยพดู คยุ กนั แบบเปดิ เผยความรู้สึกมากนัก มักใช้เหตุผลเป็นหลักมากกว่า ฉันเคยคิดว่าคนที่ 310 ใจคน ชมุ ชน การเปลยี่ นแปลง
แสดงความรสู้ กึ มากๆ เปน็ คนออ่ นแอ คดิ มาตลอดวา่ ตวั เองจะมคี ณุ คา่ ไดก้ ็ เม่ือแสดงให้คนท่ีเรารักเห็นว่าเรามีศักยภาพในการท�ำงาน นั่นจึงท�ำให้ฉัน เปน็ คนตงั้ ใจทำ� งาน มคี วามรบั ผดิ ชอบ เพราะอยากใหง้ านสำ� เรจ็ และอยาก ได้ความรักจากพวกเขา วิธีคิดเช่นน้ีท�ำให้ฉันมีนิสัยไม่ค่อยยืดหยุ่น เพราะ มัวแตม่ ุ่งไปยงั ความส�ำเรจ็ เพอ่ื เอาไปแลกกบั ความรักนนั้ การได้ท�ำงานร่วมกับทีมวิจัยน้ีท�ำให้ความคิดหลายอย่างเปล่ียนไป เพราะนอกจากความต่างทางสาขาวิชาที่เรียนมาซึ่งส่งผลให้ได้เรียนรู้เร่ือง ราวต่างๆ ในแง่มุมแตกต่างไปจากเดิมแล้ว ยังมีความต่างท่ีพวกเรามักน�ำ มาใช้พูดกันเล่นๆ ต้ังแต่เร่ิมท�ำงานร่วมกันใหม่ๆ โดยต้ังฉายาให้พี่เต้ยเป็น เจา้ พอ่ “สายโรแมนตกิ ” ดว้ ยความเปน็ ศลิ ปนิ ผมู้ องโลกสวยงาม สว่ นฉนั จดั อยู่ใน “สายดาร์ก” เพราะช่วงแรกชอบต้ังค�ำถามกับการท�ำงานของผู้น�ำใน พน้ื ทอี่ ยบู่ อ่ ยๆ จนดเู หมอื นจะมองโลกมดื บอดไปเกอื บทกุ เรอื่ ง พอทำ� งาน ไปเรื่อยๆ จึงเร่ิมเข้าใจว่าจริงๆ ที่มองว่าพ่ีเต้ยโรแมนติกเพราะเขามีความ ละเอยี ดลกึ ซง้ึ ในการมองความเปน็ มนษุ ยต์ า่ งหาก สว่ นฉนั เองทม่ี องโลกเชน่ นกี้ เ็ พราะเลอื กมองภาพกวา้ งจนบางครง้ั หลงลมื การมองมนษุ ยจ์ รงิ ๆ ฉนั มี ชุดความเชอื่ ทถี่ กู กรอบสงั คมแบบทนุ นิยมครอบไว้โดยไมร่ ู้ตัว จนกระทง่ั ไดเ้ รยี นรกู้ บั อาจารยป์ ระชา หตุ านวุ ตั ร ในเวทเี ครอื ขา่ ยภาวะ การน�ำฯ อาจารย์กล่าวว่าระบบทุนนิยมทำ� ให้คนรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่าจนต้อง เติมเตม็ ดว้ ยวตั ถุหรอื ความรู้ตลอดเวลา ทง้ั ทจี่ รงิ ๆ มนุษยเ์ กดิ มางดงามอยู่ แลว้ ถอ้ ยคำ� ของอาจารยป์ ระชาทำ� ใหฉ้ นั หยดุ นงิ่ ไปสกั พกั แลว้ ตระหนกั ถงึ กรอบวิธีคิดเดิมๆ ของตัวเอง ต้ังแต่การชอบตั้งค�ำถามกับการท�ำงานของ คนในพน้ื ท ่ี จนถงึ การพยายามวงิ่ หาสง่ิ ภายนอกมาเตมิ เตม็ เพราะมองไมเ่ หน็ คุณค่าในตัวเองมากพอจะท�ำให้รู้สึกศรัทธาความเป็นมนุษย์ในตัวผู้อื่น ความตระหนกั รดู้ งั กลา่ วสง่ ผลใหฉ้ นั เรม่ิ หนั กลบั มาใหค้ วามสำ� คญั เรอ่ื งความ สมั พนั ธก์ บั คนรอบขา้ งมากขนึ้ มคี วามยดื หยนุ่ ในการทำ� งานมากกวา่ เดมิ ไว้ บทเรยี นการน�ำ รว่ มจากผ้ขู ับเคลอ่ื นสงั คม 311
วางใจให้คนอื่นเข้ามาแตะเรื่องภายใน เร่ืองอารมณ์ความรู้สึกมากข้ึน และ กล้ามองมนุษย์อย่างละเอียดและเชื่อมัน่ ในศกั ยภาพของพวกเขาดูบ้าง หลายครั้งเวลาเห็นไผ่ทำ� งาน ฉันรู้สึกท่ึงกับความมุ่งมั่นตั้งใจท่ีไผ่มีต่อ งานมาก ไผเ่ ปน็ คนกระตอื รือรน้ ในการทำ� งานและมคี วามสุขกบั สิ่งทีต่ วั เอง ท�ำ เวลาคุยกับสมาชิกทราเวลล์หรือเข้าไปร่วมสังเกตการณ์กิจกรรมที่ ทราเวลลจ์ ดั ฉนั สงั เกตเหน็ ประกายตาของไผว่ า่ เหมอื นเดก็ ๆ ทสี่ นกุ กบั การ ได้ไปเท่ียวหรือได้ของเล่นใหม่ มันท�ำให้บางคร้ังฉันรู้สึกอยากมีประกายตา แบบน้ันบ้างเวลามองเรื่องใดเร่ืองหนึ่ง อีกส่ิงในตัวไผ่ที่ฉันรู้สึกอัศจรรย์ใจ มากคือการเห็นประโยชน์ส่วนรวม ไผ่ทุ่มเทและรับผิดชอบกับงานกลุ่ม มากกว่างานเดยี่ วเสมอ ยงั มอี กี คนทดี่ เู หมอื นโอนออ่ นไปกบั ทกุ คนทไี่ ดพ้ บเจอ ถา้ เปรยี บพเี่ ตย้ เป็นเสมือนเจ้าพ่อสายโรแมนติก แท็ปก็คงเปรียบได้กับมือขวาของพ่ีเต้ย ฉนั ประทบั ใจในความออ่ นนอ้ มถอ่ มตนทแ่ี ทป็ มตี อ่ ธรรมชาตแิ ละมนษุ ยม์ าก แท็ปเป็นคนละเอียดอ่อนและลึกซ้ึงกับประเด็นเร่ืองความเป็นมนุษย์ ใน สายตาเรา แทป็ มกั จะเป็นห่วงความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งเพอื่ นทกุ คน แม้พวกเราจะมีความแตกต่างกันในหลายแง่มุม แต่เราเหมือนกันตรง ทเี่ ปน็ คนงา่ ยๆ ไมเ่ รอื่ งมาก จงึ ทำ� ใหก้ ารลงพน้ื ทแ่ี ตล่ ะครงั้ มบี รรยากาศแบบ สบายๆ ไปไหนไปกัน พวกเราเคยตั้งค�ำถามกันว่า “การท�ำงานในทีมเรา เป็นน�ำร่วมหรือไม่” ฉันมองว่าถ้ากระบวนการน�ำร่วมก่อให้เกิดการเปล่ียน แปลงท้ังในระดับบุคคล องค์กร และสังคม การเปล่ียนแปลงท่ีเกิดข้ึนกับ พวกเราก็คงเปน็ ส่ิงยืนยันค�ำตอบได้ สุดท้ายน้ี ฉันอยากขอบคุณจักรวาลท่ีจัดสรรให้พวกเราทุกคนมารวม ตัวกันอย่างถูกที่ถูกเวลา ขอบคุณผู้น�ำและผู้คนในทุกพ้ืนที่ท่ีมั่นคงกับส่ิงท่ี ตนเองก�ำลังท�ำอยู่ และขอบคุณกัลยาณมิตรทุกคนท่ีท�ำให้ฉันเติบโตไป อกี ก้าว 312 ใจคน ชมุ ชน การเปล่ยี นแปลง
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312