Opportunities (O) • จากการขยายตวั ของเครือขา่ ยส่ือสารความเร็วสูงไรส้ าย 5G สง่ ผลให้ ผูบ้ ริโภคมีแนวโนม้ เช่ือมตอ่ อินเทอร์เน็ต และเขา้ ถึงเครือขา่ ยสงั คมออนไลน์ ไดง้ า่ ยและบอ่ ยข้ึน • เน่ืองจากเครือขา่ ยสงั คมออนไลน์ยงั คงเป็นชอ่ งทางทางการตลาดรูปแบบ ใหมข่ องธุรกิจในไทย จึงยงั คงมีคูแ่ ขง่ ท่ีใชช้ อ่ งทางดงั กลา่ วในปริมาณไมม่ าก นัก จึงนับเป็นโอกาสท่ีดีสาหรบั ผูป้ ระกอบการท่ีสามารถจะเขา้ มาพฒั นา ชอ่ งทางทางการตลาดท่ีเขา้ ถึงและสรา้ งฐานสมาชิกไดก้ อ่ น พรอ้ มทงั้ สรา้ ง ความไดเ้ ปรียบในส่ือดิจิทลั ยุคใหมน่ ้ี
Threats (T) • เทคโนโลยีและรูปแบบพฤติกรรมของผูบ้ ริโภคในการใชง้ านเครือขา่ ยสังคม ออนไลน์มีการเปล่ียนแปลงอย่างรวดเร็ ว ทาให้ผูป้ ระกอบการท่ีข าด ประสบการณ์ดา้ นการตลาดท่ีสอดรับกบั พฤติกรรมท่ีเปล่ียนแปลงไปของ ผูบ้ ริโภค ไมส่ ามารถตามกระแสความตอ้ งการของตลาดไดท้ นั ทาใหเ้ ขา้ ถึง ลูกคา้ ไดช้ า้ กวา่ คูแ่ ขง่ • ตอ้ งอาศยั บุคลากรท่ีมีประสบการณ์และความเช่ียวชาญเฉพาะดา้ น ซ่ึงมี จานวนไมเ่ พียงพอตอ่ ความตอ้ งการท่ีเพ่ิมสูงข้ึนในปัจจุบนั หรือมีตน้ ทุนคา่ จา้ ง แรงงานท่ ีสูง
ขอ้ พึงระวงั ในการทาการตลาดผ่านสื่อสงั คมออนไลน์ 1. ไมค่ วรมุง่ การขายสินคา้ หรือบริการมากจนเกินไป 2. รูข้ อ้ จากดั ของตนเอง 3. ตอบปัญหาลูกคา้ อยา่ งทนั ทว่ งที
การสรา้ งแบรนดใ์ หเ้ กิดความนิยม 1. สรา้ งสญั ลกั ษณต์ วั แทน สินคา้ บริการ สถานท่ี คน องคก์ ร (ทงั้ โลโก้ และ สโลแกน) 2. สรา้ งคุณคา่ ความประทบั ใจใหก้ บั สญั ลกั ษณ์ (เม่ือไดเ้ ห็นแลว้ อยากใหร้ ูส้ ึกอยา่ งไร) 3. ทาการตลาดสินคา้ โดยผา่ นแบรนด์ 4. ทาใหก้ ลุม่ เป้าหมายไดร้ บั รูใ้ นทางท่ีดี 5. ตอกยา้ ความรูส้ ึกท่ีดีใหก้ บั แบรนด์ 6. ตรวจวดั ความรูส้ ึกของกลุม่ เป้าหมายกบั แบรนดท์ ่ีสรา้ งข้ึน 7. สรา้ งสว่ นขยายของแบรนดเ์ พ่ิมเพ่ือสรา้ งความรูส้ ึกใหมๆ่ ใหก้ บั กลุม่ เป้าหมาย 8. ป้องกนั ไมใ่ หแ้ บรนดม์ ีช่ือเสียงในทางท่ีไมด่ ีและปรับปรุงใหแ้ บรนดม์ ีการตอกยา้ คุณคา่ ใน รูปแบบใหมๆ่ 9. เม่ือมีสินคา้ ใหมบ่ ริการใหมต่ อ้ งทาใหม้ ีความรูส้ ึกท่ีกลมกลืนกบั แบรนดเ์ ดิมใหไ้ ด้ 10. นาแบรนดเ์ ขา้ สูก่ ลุม่ เป้าหมายใหม่ หรือ ตลาดใหม่ (โดยใชฐ้ านเกา่ เป็นตวั สนับสนุน)
การวางแผนใชส้ ่ือเพ่ือการสรา้ งพลงั ส่แู บรนดด์ ว้ ยการโฆษณา 1. การกาหนดกลุม่ เป้าหมาย 2. การเลือกส่ือ 2.1 Above the Line Activity (ATL) • โทรทศั น์ • นิตยสาร • หนังสือพิมพ์ • วิทยุ 2.2 Below-the-Line Activity (BTL)
ขน้ั ตอนกระบวนทาใหเ้ กิดการซ้ือ (Purchase Process) มีดงั ตอ่ ไปน้ี • จุดกระตุน้ • จุดสมั ผสั ณ จุดการกระตุน้ • จุดสมั ผสั ณ จุดพิจารณา • จุดสมั ผสั การคน้ หาขอ้ มูล • จุดสมั ผสั ณ จุดประสบการณ์ • ควรจะมองหรือนึกออกนอกกรอบของ Purchase Process
การส่งเสริมการตลาด (Promotion) เป็นสว่ นประสมทาง การตลาด (Marketing Mix) ซ่ึงองคก์ รใชเ้ พ่ือแจง้ ขา่ วสารและจูงใจตลาด เก่ียวกบั ผลิตภณั ฑแ์ ละบริการขององคก์ รซ่ึงตอ้ งอาศยั กระบวนการติดตอ่ ส่ือสาร ขอ้ มูลระหวา่ งผูข้ ายและผูซ้ ้ือเพ่ือสรา้ งทศั นคติและพฤติกรรมการซ้ือ
ความสาคญั ของการส่งเสริมการตลาด • ระยะทางระหวา่ งผูผ้ ลิตและผูบ้ ริโภคอยูห่ า่ งไกลกนั และจานวนลูกคา้ ท่ีคาดหวงั ก็มี จานวนเพ่ ิมข้ ึน • การติดตอ่ ส่ือสารไปยงั ผูบ้ ริโภคน้นั ไมเ่ พียงพอ จาเป็นตอ้ งติดตอ่ ส่ือสารโดยผา่ นคน กลาง โดยตอ้ งใหข้ อ้ มูลแกค่ นกลาง แลว้ คนกลางจะตอ้ งสง่ เสริมไปยงั ผูบ้ ริโภคอีก ตอ่ • เน่ืองจากการแขง่ ขนั ท่ีรุนแรงข้ึนไมว่ า่ จะเป็นการเสนอผลิตภณั ฑเ์ พ่ือสนองความ ตอ้ งการพ้ืนฐานหรือสนองความตอ้ งการดา้ นจิตวิทยาของลูกคา้ จะทาใหล้ ูกคา้ มี ทางเลือกในการซ้ือสินคา้ มากย่ิงข้ึน • การสง่ เสริมการตลาดจะมีความจาเป็นมากในภาวะเศรษฐกิจตกต่าเน่ืองจากในชว่ ง นนั้ ไมม่ ีปัญหาดา้ นผลิตภณั ฑ์ หรือชอ่ งทางการจดั จาหน่ายและราคาสินคา้ ยงั คง เดิม แตบ่ ุคคลขาดอานาจซ้ือ
วตั ถปุ ระสงคข์ องการส่งเสริมการตลาด กระตนุ้ ความตอ้ งการซ้ือของลกู คา้ (Demand) ซ่ึงมี 2 ลกั ษณะคือ • สง่ เสริมหรือสนบั สนุนทศั นคติเดิมท่ีดีอยูแ่ ลว้ ไปสูพ่ ฤติกรรมการซ้ือ • เปล่ียนแปลงทศั นคติและพฤติกรรมการซ้ือของตลาดเป้าหมาย วตั ถุประสงคพ์ ้ืนฐานในการส่งเสริมการตลาด มี 3 ประการคือ • เพ่ือแจง้ ขา่ วสาร (To Inform) อาจเป็นการแนะนาสินคา้ ใหมห่ รืออธิบายลกั ษณะใหม่ ของผลิตภณั ฑห์ รือช้ีแจงขอ้ เท็จจริงเก่ียวกบั ผลิตภณั ฑ์ • เพ่ือจูงใจ (To Persude) เป็นการช้ีจุดเดน่ ของสินคา้ เพ่ือกระตุน้ ใหล้ ูกคา้ เกิดความ ตอ้ งการและเกิดการตดั สินใจซ้ือ เชน่ เป๊ ปซ่ี ใชส้ โลแกนวา่ รสชาติของคนรุ่นใหม่ • เพ่ือเตือนความจา (To Remind) เป็นการสง่ เสริมใหล้ ูกคา้ ระลึกถึงสินคา้ นน้ั อยูเ่ สมอ
ปัญหาพ้ืนฐานของการเลือกใชก้ ลยุทธก์ ารส่งเสริมการตลาด เม่ือใดท่ีควรใชก้ ารขายโดยพนกั งานขายเป็ นหลกั ➢ เม่ือบริษทั มีเงินทุนไมเ่ พียงพอ ➢ เม่ือตลาดอยูร่ วมกลุม่ กนั ➢ เม่ือบุคลิกภาพของพนักงานขาย จะชว่ ยสรา้ งการยอมรับในผลิตภณั ฑ์ ➢ เม่ือสินคา้ มีราคาตอ่ หน่วยสูง ➢ สินคา้ ตอ้ งอาศยั การสาธิต ➢ เม่ือตอ้ งมีการสนองความตอ้ งการของลูกคา้ แตล่ ะคนไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ➢ เป็นการขายท่ีเก่ียวกบั การนาสินคา้ เกา่ มาเปล่ียน
เม่ือใดท่ีควรใชก้ ารโฆษณาเป็ นหลกั ➢ ตอ้ งเป็นการโฆษณาเพ่ือกระตุน้ ความตอ้ งการขนั้ พ้ืนฐานอยูแ่ ลว้ โฆษณาจะไมไ่ ดผ้ ลถา้ คนไมม่ ีความตอ้ งการ ➢ สินคา้ ท่ีโฆษณาตอ้ งเปิดโอกาสใหส้ รา้ งความแตกตา่ งในสินคา้ ได้ เชน่ รถยนตห์ รือเคร่ืองสาอาง จะทาการโฆษณาไดง้ า่ ยกวา่ เกลือหรือน้าตาล ➢ ผลิตภณั ฑน์ ั้นควรมีคุณภาพท่ีซอ่ นเรน้ อยู่ ➢ ผลิตภณั ฑน์ ้ันควรมีแรงจูงใจดา้ นเหตุผลหรือดา้ นอารมณ์ ➢ บริษทั ตอ้ งมีเงินทุนในการโฆษณาท่ีเพียงพอ
เม่ือใดควรใชก้ ารส่งเสริมการตลาดท่ีมุ่งที่ผูค้ า้ ปลีก o ผูค้ า้ ปลีกรูต้ ลาดดีกวา่ ผูผ้ ลิต o ผลิตภณั ฑส์ ามารถวดั คุณภาพได้ ณ จุดซ้ือและมีมาตรฐานสูง ซ่ึงตอ้ ง อาศยั ผูข้ ายในการจดั แสดงสินคา้ เพ่ือใหผ้ ลิตภณั ฑน์ ้ัน เกิดการซ้ือกะทนั หนั o ผูค้ า้ ปลีกมีช่ือเสียงดีกวา่ ผูผ้ ลิต
เม่ือใดควรใชก้ ารโฆษณาร่วมกนั ระหว่างผูผ้ ลิตและผูค้ า้ ปลีก ➢ ตอ้ งระบุช่ือและท่ีอยูข่ องผูจ้ าหน่ายสินคา้ ของเขาในการโฆษณา ซ่ึงจะ เกิดข้ึนเม่ือผูผ้ ลิตมีการเลือกใชน้ โยบายการจดั จาหน่ายแบบเลือกสรร (Selective Distribution) หรือแบบผูกขาด (Exclusive Distribution) ➢ เม่ือผูผ้ ลิตตอ้ งการใหพ้ อ่ คา้ ปลีกกลา่ วถึงสินคา้ ของผูผ้ ลิตในการโฆษณาของ พอ่ คา้ ปลีกโดยผูผ้ ลิตจะชว่ ยออกคา่ โฆษณาของพอ่ คา้ ปลีก ➢ เม่ือพอ่ คา้ ปลีกตอ้ งการเนน้ ช่ือสินคา้ ของผูผ้ ลิตในการโฆษณาและจดั แสดง สินคา้ ของเขาเพราะเห็นวา่ ช่ือของผูผ้ ลิตมีความสาคญั ตอ่ การสง่ เสริม
เม่ือใดผูผ้ ลิตควรใชก้ ลยุทธก์ ารส่งเสริมการตลาด ➢ แบบกลยุทธผ์ ลกั ➢ แบบกลยุทธด์ ึง
การประชาสมั พนั ธ์ (Public relations ) หมายถึง การ ส่ือสารความคิดเห็น ขา่ วสาร ขอ้ เท็จจริงตา่ งๆ ไปสูก่ ลุม่ ประชาชน เป็น การเสริมสร้างความสัมพนั ธ์และความเขา้ ใจอนั ดีระหว่างหน่วยงาน องคก์ าร สถาบนั กบั กลุม่ ประชาชนเป้าหมายและประชาชนท่ีเก่ียวขอ้ ง เพ่ือหวงั ผลในความร่วมมือสนับสนุนจากประชาชน
การประชาสมั พนั ธ์ (Public relations )แบง่ ตามลกั ษณะงาน ได้2 ประเภท คือ 1. การประชาสมั พนั ธภ์ ายใน (Internal Public Relations) คือ การสรา้ งความ เขา้ ใจและความสมั พนั ธอ์ นั ดีกบั กลุม่ บุคคลภายในสถาบนั เอง ใหเ้ กิดมีความรักใครกลมเกลียว สามคั คีกนั รวมทง้ั ดา้ นการเสริมสรา้ งขวญั และความรกั ใครผูกพนั จงรักภกั ดี (Loyalty) ตอ่ หน่วยงาน 2. การประชาสมั พนั ธภ์ ายนอก (External Public Relations) คือ การสรา้ งความ เขา้ ใจและความสมั พนั ธอ์ นั ดีกบั ประชาชนภายนอกกลุม่ ตา่ ง ๆ อนั ไดแ้ กป่ ระชาชนทว่ั ไป และ ประชาชนท่ีองคก์ ารสถาบนั เก่ียวขอ้ ง เพ่ือใหก้ ลุม่ ประชาชนเหลา่ น้ีเกิดความรู้ ความเขา้ ใจใน ตวั สถาบนั และใหค้ วามร่วมมือแกส่ ถาบนั ดว้ ยดี
หน่วยท่ี7 ขอ้ บงั คบั และกฎหมาย การสรา้ งตราสินคา้
เคร่ืองหมายการคา้ (Trade Mark) หมายถึง เคร่ืองหมาย หรื อสัญลกั ษณ์หรื อตราท่ีใชก้ บั สินคา้ หรื อบริการ ซ่ึงเคร่ื องหมายท่ีให้ ความคุม้ ครองตาม พระราชบญั ญตั ิเคร่ืองหมายการคา้ พ.ศ. 2534 แกไ้ ข เพ่ิมเติมโดยพระราชบญั ญตั ิเคร่ืองหมายการคา้ (ฉบบั ท่ี 2) พ.ศ.2543 มี 4 ประเภท ดงั ตอ่ ไปน้ี 1. เคร่ืองหมายการคา้ (Trade Mark) 2. เคร่ืองหมายบริการ (Service Mark) 3. เคร่ืองหมายรบั รอง (Certification Mark) 4. เคร่ืองหมายร่วม (Collective Mark)
Brand หมายถึง ความประทบั ใจโดยรวมของสินคา้ และการบริการ แบรนดเ์ ป็นส่ิงท่ีจบั ตอ้ งไมไ่ ดแ้ ตอ่ ธิบายได้ ใหค้ วามความรู้สึกและความหมายท่ี ดี ทาใหผ้ ูบ้ ริโภคยอมจา่ ยแพง เพ่ือใหต้ วั เองไดแ้ บรนดท์ ่ีตวั เองพึงใจ
ประเภทของเคร่ืองหมายการคา้ 1. เครื่องหมายการคา้ Trade Mark 2. เครื่องหมายบริการ Service Mark คือ เคร่ืองหมายท่ีใชเ้ ป็นท่ีหมายเก่ียวขอ้ งกบั คือ เคร่ืองหมายท่ีใชเ้ ป็นท่ีหมายหรือเก่ียวขอ้ ง สินคา้ เพ่ือแสดงวา่ สินคา้ ท่ี ใชเ้ คร่ืองหมายน้ัน กับ บ ริ ก า ร เ พ่ื อ แ ส ด ง ว่า บ ริ ก า ร ท่ี ใ ช้ แตกตา่ งกบั สินคา้ ท่ีใชเ้ คร่ืองหมายการคา้ เคร่ื องหมายนั้นแตกต่างกับบริ การท่ี ใช้ ของบุคคลอ่ ืน เคร่ืองหมาย บริการของบุคคลอ่ืน
3. เครื่องหมายรบั รอง (Certification Mark) คือ เคร่ืองหมายท่ีเจา้ ของเคร่ืองหมายรบั รองใชเ้ ป็น 4. เครื่องหมายร่วม (Collective Mark) ท่ีหมายหรือเก่ียวขอ้ งกบั สินคา้ และบริการของ บุคคลอ่ืน เพ่ือเป็นการรับรองคุณภาพของสินคา้ คือ เคร่ืองหมายการคา้ หรือเคร่ืองหมายบริการ หรื อบริ การน้ัน ท่ีใชโ้ ดยบริษทั หรือวิสาหกิจในกลุม่ เดียวกนั หรือโดยสมาชิกของสมาคม กลุม่ บุคคล หรือ องคก์ รอ่ืนใดของรฐั หรือเอกชน
ลิขสิทธ์ิ (Copyright ) เป็ นสิทธิทางกฎหมายท่ีกฎหมายของประเทศ หน่ึง ๆ สรา้ งข้ึนซ่ึงใหส้ ิทธิแตผ่ ูเ้ ดียว (exclusive right) แกผ่ ูส้ รา้ งสรรคง์ าน ตน้ ฉบบั ในการใช้ ซ่ึงปกติมีเวลาจากดั สิทธิแตผ่ ูเ้ ดียวน้ี มิไดเ้ ด็ดขาด แตถ่ ูก จากดั โดยขอ้ จากดั และขอ้ ยกเวน้ ของกฎหมายลิขสิทธ์ิ ซ่ึงรวมถึงการใช้ ลิขสิทธ์ิของผูอ้ ่ืนโดยชอบธรรม ลิขสิทธ์ิเป็ นทรัพยส์ ินทางปัญญารูปแบบ หน่ึง ซ่ึงใชไ้ ดก้ บั การนาเสนองานสรา้ งสรรคใ์ ด ๆ ลิขสิทธ์ิมกั แบง่ กนั ในหมู่ ผูป้ ระพนั ธห์ ลายคน ซ่ึงแตล่ ะคนถือชุดสิทธิในการใชห้ รื ออนุ ญาตใหใ้ ช้ (license) งานนั้น ซ่ึงบุคคลเหลา่ น้ีเรียกวา่ ผูท้ รงสิทธิ (rights holder) สิทธิ เหลา่ น้ีมกั รวมการทาซา้ การควบคุมเหนื องานดดั แปลง การจาหน่าย การ แสดงสาธารณะ และ \"สิทธิทางศีลธรรม\"
การคุม้ ครองลิขสิทธ์ิตามกฎหมายไทย กาหนดใหม้ ีอายุการคุม้ ครอง 50 ปี นับตงั้ แตผ่ ูส้ รา้ งสรรคผ์ ลงานเสียชีวิต กรณีเจา้ ของเป็นนิติบุคคลเร่ิมนับ อายุตง้ั แตผ่ ลงานถูกสรา้ งข้ึนมานับไปอีก 50 ปี หรือเร่ิมนับเม่ือมีการโฆษณา เป็นครั้งแรก แลว้ แตว่ า่ อยา่ งไหนจะเกิดทีหลงั แตก่ ารโฆษณาครั้งแรกน้ันจะตอ้ ง เกิดข้ึนภายใน 50 ปี นับตง้ั แตม่ ีการสรา้ งสรรคผ์ ลงานนั้นข้ึนมา ถา้ พน้ 50 ปีไป แลว้ โดยท่ียงั ไมไ่ ดม้ ีการโฆษณา ถือวา่ ลิขสิทธ์ิหมดอายุ โดยท่ีการโฆษณาใน ภายหลงั จะไมม่ ีผลตอ่ การนับตอ่ อายุลิขสิทธ์ิอีก การโฆษณาน้ีจะตอ้ งเป็นการ โฆษณาโดยความยินยอมของเจา้ ของลิขสิทธ์ิดว้ ย จึงจะนับเป็นการโฆษณาคร้งั แรกท่ีใหเ้ ร่ิมนับอายุลิขสิทธ์ิได้
ปัญหาการละเมิดลิขสิทธ์ิ ในประเทศไทย พบสินคา้ ละเมิดลิขสิทธ์ิคอ่ นขา้ งแพร่หลาย ไ ม่ว่า จ ะ เ ป็ น ซี ดี เ พ ล ง ( มัก เ ป็ น ซี ดี ร ว ม ไ ฟ ล์เ พ ล ง ประเภท MP3) วีซีดีและดีวีดีภาพยนตร์ ทงั้ ภาพยนตร์ไทยและ ตา่ งประเทศ รวมไปถึง ซอฟตแ์ วร์ เกม และโปรแกรมประยุกต์ ตา่ ง ๆ โดยสถานท่ีท่ีมีปัญหาเร่ื องการจาหน่ายสินคา้ ละเมิด ลิขสิทธ์ิมาก ไดแ้ ก่ พนั ธุท์ ิพยพ์ ลาซา่ , คลองถม, เซียร์ รังสิต , ตะวนั นาเป็นตน้
การจดทะเบียนพาณิชย์ ตามพระราชบญั ญตั ิทะเบียนพาณิชย์ 1. ผูม้ ีหนา้ ที่จดทะเบียนพาณิชย์ 1.1 บุคคลธรรมดาคนเดียว (กิจการเจา้ ของคนเดียว) 1.2 หา้ งหุน้ สว่ นสามญั 1.3 นิติบุคคลท่ีตง้ั ข้ึนตามกฎหมายตา่ งประเทศท่ีมาตงั้ สานักงานสาขาใน ประเทศไทย 1.4 หา้ งหุน้ สว่ นสามญั นิติบุคคล หา้ งหุน้ สว่ นจากดั 1.5 บริษทั จากดั บริษทั มหาชนจากดั โดยบคุ คลตาม 1.1-1.5 ตอ้ งประกอบกิจการคา้ ซึ่งเป็ นพาณิชย กิจตามที่รฐั มนตรีว่าการกระทรวงพาณิชยก์ าหนด
2. กิจการคา้ ที่เป็ นพาณิชยกิจท่ีตอ้ งจดทะเบียนพาณิชย์ 2.1 บคุ คลธรรมดา (กิจการเจา้ ของคนเดียว) หา้ งหุน้ สว่ นสามญั และนิติ บุคคลท่ีตง้ั ข้ึนตามกฎหมายตา่ งประเทศท่ีมาตงั้ สานักงานสาขาในประเทศไทย 2.2 หา้ งหนุ้ ส่วนสามญั นิติบุคคล หา้ งหุน้ สว่ นจากดั บริษทั จากดั และ บริษทั มหาชนจากดั
3. พาณิชยกิจที่ไดร้ บั การยกเวน้ ไม่ตอ้ งจดทะเบียนพาณิชย์ ไดแ้ ก่ 3.1 การคา้ เร่ การคา้ แผงลอย 3.2 พาณิชยกิจเพ่ือการบารุงศาสนาหรือเพ่ือการกุศล 3.3 พาณิชยกิจของนิติบุคคลซ่ึงไดม้ ีพระราชบญั ญตั ิ หรือพระราช กฤษฎีกาจดั ตง้ั ข้ึน 3.4 พาณิชยกิจของกระทรวง ทบวง กรม 3.5 พาณิชยกิจของมูลนิธิ สมาคม สหกรณ์ 3.6 พาณิชยกิจของกลุม่ เกษตรกรท่ีไดจ้ ดทะเบียนตาม ปว.141 ลง วนั ท่ี 1 พฤษภาคม 2515
4. เอกสารที่ใชใ้ นการจดทะเบียนพาณิชย์ รายละเอียดเอกสารประกอบคาขอจดทะเบียน สามารถ Download แบบพิมพไ์ ปใชใ้ นการจดทะเบียนไดท้ ่ี www.dbd.go.th /ดาวนแ์ บบฟอรม์ / ทะเบียนพาณิชย์ หรือขอรบั แบบพิมพไ์ ดท้ ่ี 1. สานักงานเศรษฐกิจการคลงั กรุงเทพมหานคร 2. สานักงานเขตทุกเขต 3. เทศบาล 4. องคก์ ารบริหารสว่ นตาบล 5. เมืองพทั ยา
5. สถานท่ีจดทะเบียน 5.1 ในเขตกรงุ เทพมหานคร ย่ืนจดทะเบียนพาณิชย์ ไดท้ ่ี : (1) สานักงานเศรษฐกิจการคลงั สานักการคลงั กรุงเทพมหานคร รับจด ทะเบียนพาณิชยกิจของผูป้ ระกอบพาณิชยกิจ ท่ีมีสานักงานแหง่ ใหญต่ ง้ั อยูใ่ นเขต กรุงเทพมหานคร (2) ฝ่ายปกครอง สานักงานเขตทุกแหง่ รับจดทะเบียนพาณิชยกิจของผู้ ประกอบพาณิชยกิจ ท่ีมีสานักงานแหง่ ใหญต่ งั้ อยูใ่ นทอ้ งท่ีของเขตน้ัน 5.2 ในภมู ิภาค ย่ืนจดทะเบียนไดท้ ่ี : เทศบาล องคก์ ารบริหารสว่ นตาบล หรือเมืองพทั ยา รับจดทะเบียนพาณิชยข์ องผูป้ ระกอบพาณิชยกิจท่ีมีสานักงานแหง่ ใหญต่ งั้ อยูใ่ นทอ้ งท่ีเทศบาล องคก์ ารบริหารสว่ นตาบล หรือเมืองพทั ยาแลว้ แตก่ รณี
6. กาหนดระยะเวลาการจดทะเบียนพาณิชย์ 6.1 จดทะเบียนพาณิชยต์ งั้ ใหม่ ตอ้ งจดทะเบียนภายใน 30 วนั นับแตว่ นั เร่ิม ประกอบพาณิชยกิจ 6.2 การเปล่ียนแปลงรายการจดทะเบียน ตอ้ งจดทะเบียนภายใน 30 วนั นับแต่ วนั ท่ีมีการเปล่ียนแปลง 6.3 เลิกประกอบพาณิชยกิจ ตอ้ งจดทะเบียนภายใน 30 วนั นับแตว่ นั ท่ีเลิก ประกอบพาณิชยกิจ 6.4 ใบทะเบียนพาณิชยส์ ูญหายตอ้ งย่ืนขอใบแทนภายใน 30 วนั นับแตว่ นั สูญหาย
7. หนา้ ท่ีของผูป้ ระกอบพาณิชยกิจ 7.1 ตอ้ งขอจดทะเบียนตอ่ นายทะเบียนภายใน 30 วนั นับแตว่ นั ท่ี เร่ิมประกอบ เปล่ียนแปลง หรือ เลิกกิจการ 7.2 ตอ้ งแสดงใบทะเบียนพาณิชยห์ รื อใบแทนใบทะเบียนพาณิชยไ์ ว้ ณ สานักงานในท่ีเปิดเผย และเห็นไดง้ า่ ย 7.3 ตอ้ งจดั ใหม้ ีป้ายช่ือท่ีใชใ้ นการประกอบพาณิชยกิจไวห้ น้าสานักงานแห่งใหญ่และ สานักงานสาขาโดย เปิดเผยภายในเวลา 30 วนั นับแตว่ นั ท่ีจดทะเบียนพาณิชย์ ป้ายช่ือใหเ้ ขียนเป็น อกั ษรไทย อา่ นงา่ ยและชดั เจน จะมีอกั ษร ตา่ งประเทศในป้ายช่ือดว้ ยก็ได้ และจะตอ้ งตรงกบั ช่ือท่ี จดทะเบียนไว้ หากเป็นสานกั งานสาขาจะตอ้ งมีคาวา่ \"สาขา\" ไวด้ ว้ ย 7.4 ตอ้ งย่ืนคาขอใบแทนใบทะเบียนพาณิชย์ ภายใน 30 วนั นบั แตว่ นั ท่ีสูญหาย หรือชารุด 7.5 ตอ้ งไปใหข้ อ้ เท็จจริงเก่ียวกบั รายการจดทะเบียนตามคาสง่ั ของนายทะเบียน 7.6 ตอ้ งอานวยความสะดวกแกน่ ายทะเบียนและพนกั งานเจา้ หนา้ ท่ี ซ่ึงเขา้ ทาการตรวจสอบใน สานักงานของผูป้ ระกอบกิจการ
8. บทกาหนดโทษ 8.1 ประกอบพาณิชยกิจโดยไมจ่ ดทะเบียน แสดงรายการเท็จ ไมย่ อมใหถ้ อ้ ยคา ไมย่ อมให้ พนกั งานเจา้ หนา้ ท่ีเขา้ ไปตรวจสอบในสานกั งาน มีความผิดตอ้ งระวางโทษปรับไมเ่ กิน 2,000 บาท กรณีไมจ่ ดทะเบียนอนั เป็นความผิด ตอ่ เน่ือง ปรับอีกวนั ละไมเ่ กิน 100 บาท จนกวา่ จะได้ ปฏิบตั ิใหเ้ ป็นไปตามพระราชบญั ญตั ิ 8.2 ถา้ ใบทะเบียนพาณิชยส์ ูญหายไมย่ ่ืนคารอ้ งขอใบรบั แทน หรือไมแ่ สดงใบทะเบียนพาณิชย์ ไวท้ ่ีสานกั งาน ท่ีเห็นไดง้ า่ ย ไมจ่ ดั ทาป้ายช่ือ มีความผิดปรับไมเ่ กิน 200 บาท และถา้ เป็นความผิด ตอ่ เน่ือง ปรบั อกี วนั ละไมเ่ กิน 20 บาท จนกวา่ จะไดป้ ฏิบตั ิใหถ้ ูกตอ้ ง 8.3 ผูป้ ระกอบพาณิชยกิจซ่ึงกระทาการฉอ้ โกงประชาชน ปนสินคา้ โดยเจตนาทุจริต ปลอม สินคา้ หรือกระทาการทุจริตอ่ืนใดอยา่ งรา้ ยแรงในการประกอบกิจการจะถูกถอนใบทะเบียน พาณิชย์ เม่ือถูกสง่ั ถอนใบทะเบียน พาณิชยแ์ ลว้ จะประกอบกิจการตอ่ ไปไมไ่ ด้ เวน้ แต่ รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงพาณิชยจ์ ะสง่ั ใหร้ ับจดทะเบียนพาณิชยใ์ หม่ 8.4 ผูป้ ระกอบพาณิชยกิจท่ีถูกสง่ั ถอนใบทะเบียนพาณิชยแ์ ลว้ ยงั ฝ่าฝืนประกอบพาณิชยกิจ ตอ่ ไป มีความผิดตอ้ งระวางโทษปรับไมเ่ กินหน่ึงหม่ืนบาท หรือจาคุกไมเ่ กินหน่ึงปีหรือทงั้ ปรบั ทง้ั จา
9. ค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนพาณิชย์ การขอดาเนินการตาม พ.ร.บ. ทะเบียนพาณิชยฯ์ จะตอ้ งเสียคา่ ธรรมเนียมตาม ประเภทของการดาเนินการดงั ตอ่ ไปน้ี 9.1 จดทะเบียนพาณิชยต์ ง้ั ใหม่ 50 บาท 9.2 จดทะเบียนเปล่ียนแปลงรายการจดทะเบียน คร้ังละ 20 บาท 9.3 จดทะเบียนเลิกประกอบพาณิชยกิจ 20 บาท 9.4 ขอใหอ้ อกใบแทนใบทะเบียนพาณิชย์ ฉบบั ละ 30 บาท 9.5 ขอตรวจเอกสารของผูป้ ระกอบพาณิชยกิจรายหน่ึง ครงั้ ละ 20 บาท 9.6 ขอใหเ้ จา้ หน้าท่ีคดั สาเนาและรับรองสาเนาเอกสารของผูป้ ระกอบ พาณิชยกิจ ฉบบั ละ 30 บาท (หน่ึงคาขอ คิดเป็น หน่ึงฉบบั )
ประโยชนข์ องการจดทะเบียนเคร่ืองหมายการคา้ 1. เคร่ืองหมายการคา้ ท่ีจดทะเบียนแลว้ จะมีอายุการคุม้ ครอง 10 ปี เม่ือ ครบกาหนดสามารถตอ่ อายุไดค้ รงั้ ละ 10 ปี 2. มีสิทธ์ิเพียงผูเ้ ดียวในการใชช้ ่ือสินคา้ หลงั จากไดร้ บั การจดทะเบียนแลว้ 3. ผูจ้ ดทะเบียนมีสิทธิในการทาสญั ญาอนุญาตหรือโอนสิทธิ ใหผ้ ูอ้ ่ืนใช้ เคร่ ื องหมายการคา้ 4. มีสิทธิฟ้องรอ้ งและเรียกคา่ เสียหายได้ ในกรณีท่ีมีผูล้ ะเมิดสิทธิใน เคร่ืองหมายการคา้ ท่ีไดร้ ับการจดทะเบียน
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236