Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หลักสูตรสมรรถนะ

หลักสูตรสมรรถนะ

Published by สุเมธ สร้อยฟ้า, 2021-12-14 14:04:19

Description: 1687-file

Search

Read the Text Version

ภาคผนวก ข. การประชุมทำ�ความเขา้ ใจแนวทางการนำ�สมรรถนะส่กู ารพฒั นาผูเ้ รียน และการวางแผนการทดลอง ณ โรงเรยี นเทศบาล 4 เพาะช�ำ จ.นครราชสีมา วนั ท ่ี 24 กรกฎาคม 2561 270รายงานผลการวจิ ยั และพัฒนากรอบสมรรถนะผู้เรียน ระดบั ประถมศึกษาตอนต้นสำ�หรบั หลกั สตู รการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน

ภาคผนวก ข. การประชมุ ทำ�ความเขา้ ใจแนวทางการนำ�สมรรถนะสกู่ ารพัฒนาผเู้ รียน และการวางแผนการทดลอง ณ ห้องประชมุ สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง อ.ฝาง จ.เชยี งใหม่ ระหว่างวันที่ 27 – 28 กรกฎาคม 2561 271รายงานผลการวิจยั และพัฒนากรอบสมรรถนะผู้เรยี น ระดบั ประถมศึกษาตอนต้นส�ำ หรบั หลักสตู รการศกึ ษาข้ันพื้นฐาน

ภาคผนวก ข. การติดตามผลการทำ�งาน และเติมเตม็ หนนุ เสรมิ เติมความรู้ แลกเปลีย่ นความคิด โรงเรียนสาธติ มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณฯ์ ระหวา่ งวนั ท่ี 1 - 2 สิงหาคม 2561 272รายงานผลการวจิ ยั และพัฒนากรอบสมรรถนะผเู้ รียน ระดับประถมศกึ ษาตอนต้นสำ�หรบั หลักสตู รการศกึ ษาขั้นพื้นฐาน

ภาคผนวก ข. การติดตามผลการทำ�งาน และเติมเต็ม หนนุ เสรมิ เตมิ ความรู้ แลกเปล่ยี นความคดิ โรงเรยี นบา้ นขอบดง้ จ.เชยี งใหม่ ระหวา่ งวนั ท่ี 6 - 7 กนั ยายน 2561 273รายงานผลการวจิ ยั และพฒั นากรอบสมรรถนะผเู้ รียน ระดบั ประถมศกึ ษาตอนต้นส�ำ หรับหลกั สตู รการศึกษาข้นั พื้นฐาน

ภาคผนวก ข. การตดิ ตามผลการท�ำ งาน และเติมเต็ม หนุนเสรมิ เตมิ ความรู้ แลกเปลีย่ นความคิด โรงเรยี นเทพศิรนิ ทร์ 9 โครงการหลวงในพระบรมราชูปถัมภ์ จ.เชยี งใหม่ ระหวา่ งวนั ที่ 6 - 7 กนั ยายน 2561 274รายงานผลการวิจัยและพัฒนากรอบสมรรถนะผเู้ รียน ระดับประถมศกึ ษาตอนต้นสำ�หรบั หลกั สตู รการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน

ภาคผนวก ข. การประชุมสนทนากล่มุ Focus Group ณ ศนู ย์ฝกึ ประสบการณ์วชิ าชพี มหาวิทยาลัยราชภฏั วไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถมั ภ์ วนั ที่ 22 กนั ยายน 2561 275รายงานผลการวิจัยและพฒั นากรอบสมรรถนะผเู้ รยี น ระดบั ประถมศกึ ษาตอนตน้ ส�ำ หรบั หลกั สตู รการศึกษาขัน้ พนื้ ฐาน



ภาคผนวก ภาคผนวก ค. ตวั อยา่ งแผนการจัด การเรียนรฐู้ านสมรรถนะ

ภาคผนวก ค. 2561ตัวอย่างแผนการจดั การเรียนรู้ จากโรงเรยี นสาธิตราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถมั ภ์ กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 5 แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 2 เรอ่ื ง 5 เวลา ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 3 หัวขอ้ การอ่านเวลาเป็นช่วั โมงและนาท ี จ�ำ นวน 1 คาบ ผสู้ อน นางสาวสุชาดา กะจะเดมิ 1. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 2.1 เขา้ ใจพ้นื ฐานเก่ียวกับการวัด วัดและคาดคะเนขนาดของสิง่ ท ี่ ตอ้ งการวดั 2. ตัวชีว้ ัด/ผลการเรยี นรู้ ค 2.1 ป.3/4 บอกเวลาบนหนา้ ปัดนาฬกิ า (ชว่ ง 5 นาท)ี อา่ นและเขียนบอกเวลา โดยใชจ้ ดุ ค 6.1 ป.1-3/1, ป.1-3/3 - ป.1-3/5 3. สมรรถนะ สมรรถนะหลักพ้ืนฐาน สมรรถนะคณติ ศาสตร์ในชวี ติ ประจ�ำ วัน สมรรถนะทวั่ ไป สมรรถนะการท�ำ งานแบบรวมพลงั เปน็ ทมี และมภี าวะผนู้ �ำ สมรรถนะทวั่ ไป สมรรถนะภาษาไทยเพ่อื การสือ่ สาร สมรรถนะทว่ั ไป สมรรถนะการสืบสอบทางวิทยาศาสตร์และจิตวทิ ยาศาสตร์ สมรรถนะทว่ั ไป สมรรถนะทักษะการคิดขนั้ สงู และนวตั กรรม 4. สาระสำ�คัญ (Concept) นาฬกิ าเปน็ เครื่องมือทีใ่ ช้บอกเวลา เข็มสน้ั บอกเวลาเปน็ ชวั่ โมง เข็มยาวบอกเวลาเปน็ นาที 5. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อ่านเวลาเปน็ ชัว่ โมงและนาทีบนหน้าปดั นาฬิกาทีก่ �ำ หนดใหไ้ ด้ 6. สาระการเรยี นรู้ (Content) บอกเวลาเป็นนาฬกิ าและนาที (ชว่ ง 5 นาท)ี 278รายงานผลการวจิ ัยและพัฒนากรอบสมรรถนะผูเ้ รียน ระดบั ประถมศึกษาตอนตน้ สำ�หรับหลกั สูตรการศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน

ภาคผนวก ค. 7. กิจกรรมการเรยี นการสอน กิจกรรมการเรยี นรู้ เวลา สมรรถนะ ข้นั ที่ 1 Gathering 15 สมรรถนะภาษาไทยเพื่อการสื่อสาร 1. นกั เรียนตอบคำ�ถามกระต้นุ ความคดิ - ฟงั พดู อา่ น และเขียน ค�ำ ศัพทท์ เี่ ก่ียวขอ้ ง 2. ครูให้นักเรียนร้องเพลงนาฬิกา โดยครู กับคณิตศาสตร์ แนวคิดและกระบวนการ รอ้ งน�ำ แลว้ ใหน้ กั เรยี นรอ้ งตามพรอ้ ม ๆ กนั ทางคณติ ศาสตร์ และค�ำ ทวั่ ไปทมี่ คี วามหมาย 3. ครูสุ่มนักเรียนบอกถึงส่วนประกอบของ เฉพาะในบรบิ ททางคณติ ศาสตร์ นาฬิกาว่ามีอะไรบ้าง และใช้บอกเวลา - ใชภ้ าษาในการถา่ ยทอดความคดิ และแบบแผน อยา่ งไร ทางคณติ ศาสตร์ 4. ครูอธิบายเชื่อมโยงถึงความสัมพันธ์ของ - พดู อภปิ ราย แสดงความคดิ ความเหน็ เกย่ี วกบั การบอกเวลาของเขม็ สนั้ กบั เข็มยาว ความคดิ ทางคณิตศาสตร์ - ใช้ภาษาไทยในการสร้างและตีความข้อมูล ทเี่ กี่ยวขอ้ งกับคณิตศาสตร์ สมรรถนะคณติ ศาสตรใ์ นชวี ติ ประจำ�วนั - แกป้ ญั หาหรอื ท�ำ ความเขา้ ใจกบั สถานการณต์ า่ ง ๆ ที่เก่ียวข้องกับคณิตศาสตร์ โดยใช้ความรู้ ทางคณิตศาสตร์ท่ีเรียนมา โดยคำ�นึงถึง กระบวนการในการแก้ปัญหาและคำ�นึงถึง ความสมเหตุสมผลของคำ�ตอบที่ได้ - อธบิ าย น�ำ เสนอ ขอ้ มลู เชงิ ปรมิ าณ และความ คดิ ทางคณติ ศาสตรเ์ พอื่ สอ่ื สารใหผ้ อู้ นื่ เขา้ ใจ โดยใช้ ศพั ท์ สญั ลกั ษณ์ แผนภมู ิ แผนภาพอยา่ ง งา่ ย ๆ รวมทง้ั บอกความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งภาษา ในชวี ติ ประจ�ำ วนั กบั ภาษา และสญั ลกั ษณท์ าง คณติ ศาสตรไ์ ดอ้ ยา่ งหลากหลายและเหมาะสม กับเนอ้ื หาและสถานการณ์ 279รายงานผลการวิจัยและพัฒนากรอบสมรรถนะผู้เรียน ระดับประถมศึกษาตอนตน้ ส�ำ หรบั หลักสตู รการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน

ภาคผนวก ค. กิจกรรมการเรียนรู้ เวลา สมรรถนะ ข้ันที่ 2 Processing 35 สมรรถนะภาษาไทยเพอ่ื การสอ่ื สาร 1. นกั เรยี นแบ่งกลุ่ม กล่มุ ละ 4-5 คน ร่วมกัน - ฟังพูดอ่าน และเขียน คำ�ศัพท์ท่ีเก่ียวข้อง ศึกษาความรู้เรือ่ ง ทบทวนการบอกเวลา : กับคณิตศาสตร์ แนวคิดและกระบวนการ การอ่านเวลาเป็นช่ัวโมงและนาที จาก ทางคณติ ศาสตร์ และค�ำ ทว่ั ไปทม่ี คี วามหมาย หนังสอื เรียน เฉพาะในบรบิ ททางคณติ ศาสตร์ 2. สมาชิกแต่ละคนในกลุ่มร่วมกันอภิปราย - ใชภ้ าษาในการถา่ ยทอดความคดิ และแบบแผน แลกเปลย่ี นความรคู้ วามเข้าใจกัน ทางคณิตศาสตร์ 3. ครูอธิบายเกี่ยวกับการเดินของเข็มยาว - พดู อภปิ ราย แสดงความคดิ ความเหน็ เกย่ี วกบั พร้อมทั้งใช้นาฬิกาจำ�ลองประกอบการ ความคิดทางคณติ ศาสตร์ อธิบายว่า เข็มยาวเดินไป 1 ช่องใหญ่ สมรรถนะการสืบสอบทางวทิ ยาศาสตร์และ ใช้เวลา 5 นาที เดนิ ไป 2 ชอ่ งใหญ่ ใช้เวลา จิตวทิ ยาศาสตร์ 10 นาที จนเดินไป 12 ช่องใหญ่ ใชเ้ วลา - สบื สอบมโนทศั นท์ างคณติ ศาสตร์ ทส่ี นบั สนนุ 60 นาที ดว้ ยมโนทัศนเ์ ชิงประจักษ์ 4. ครอู ธบิ ายใหน้ กั เรยี นเขา้ ใจวา่ เมอื่ เขม็ ยาว - รวบรวมข้อมูล และจำ�แนกข้อมูลเกี่ยวกับ เดินไป 12 ช่องใหญ่ เข็มสัน้ จะเดนิ ไป 1 ตวั เลขท่ีพบเหน็ ในชวี ติ ประจ�ำ วัน ชอ่ งใหญ่ ซงึ่ ใชเ้ วลาเทา่ กัน สมรรถนะการท�ำ งานแบบรวมพลงั เป็นทมี 5. ครยู กตวั อยา่ งการเดนิ ของเขม็ ยาวเพมิ่ เตมิ และมภี าวะผนู้ �ำ อีก 3 - 5 ตัวอยา่ ง แลว้ ใหน้ ักเรียนตอบว่า - ปฏิบัติงานร่วมกันแบบร่วมมือร่วมพลัง เป็นเวลาเท่าไรจนนักเรียนเข้าใจ เพื่อเรียนรู้ และพัฒนาทักษะกระบวนการ ทางคณิตศาสตร์และนำ�กระบวนการ คณิตศาสตร์ไปใช้ 280รายงานผลการวิจยั และพฒั นากรอบสมรรถนะผเู้ รียน ระดบั ประถมศกึ ษาตอนตน้ สำ�หรบั หลักสูตรการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน

ภาคผนวก ค. กจิ กรรมการเรยี นรู้ เวลา สมรรถนะ ขน้ั ท่ี 3 Applying 1 10 สมรรถนะทักษะการคดิ ขน้ั สงู และนวัตกรรม 1. ครขู อตัวแทนนกั เรยี น 2 - 3 คน บอกเวลา - วิเคราะห์วิพากษ์และประเมินข้อมูลทาง คณิตศาสตร์โดยเฉพาะข้อมูลท่ีเป็นจำ�นวน เปน็ ชว่ั โมงและนาทจี ากนาฬกิ าจ�ำ ลองทค่ี รู ให้เหตุผล ตลอดจนการส่ือสาร สื่อความ ก�ำ หนดวา่ เขม็ สน้ั หรอื เขม็ ยาวเดนิ ไปกชี่ อ่ ง หมายทางคณิตศาสตร์ตามท่ีตนเองมีความ บอกเวลาเปน็ เทา่ ไร เข้าใจและให้ความเห็น 2. นักเรียนทุกคนทำ�ใบงานที่ 6.2 เรื่อง - ตัดสินใจหาข้อสรุปทางคณิตศาสตร์บน การอา่ นเวลาเป็นชว่ั โมงและนาที รากฐานของการเช่อื มโยงความรตู้ า่ ง ๆ ทาง 3. ครเู ลือกตวั แทนนักเรียน 2 - 3 คน เฉลย คณิตศาสตรอ์ ย่างรอบด้าน คำ�ตอบในใบงานหน้าชั้นเรียน ครูชมเชย - ลงมอื แกป้ ญั หาดว้ ยตนเองอยา่ งเปน็ ขนั้ ตอน นักเรียนท่ีทำ�ได้ถูกต้อง ให้กำ�ลังใจและ และเปน็ ระบบโดยใชค้ วามรทู้ างคณติ ศาสตร์ แนะนำ�นกั เรยี นท่ียังมีขอ้ บกพรอ่ งอยู่ หรือความรู้เก่ียวกับสถิติความน่าจะเป็น 4. นักเรียนทำ�กิจกรรมฝึกฝนทักษะเรื่อง ชว่ ยในการตดั สนิ ใจลงมอื แกป้ ญั หาในขน้ั ตอน ทบทวนการบอกเวลา : การอ่านเวลาเปน็ ต่าง ๆ ชั่วโมงและนาที ข้อ 2 จากหนังสือเรียน เปน็ การบา้ น แลว้ นำ�มาส่งครใู นวันถัดไป สมรรถนะการทำ�งานแบบรวมพลัง เป็นทีม และมภี าวะผูน้ ำ� 5. นักเรยี นตอบคำ�ถามกระตุ้นความคดิ - ปฏิบตั ิงานรว่ มกันแบบรว่ มมือร่วมพลัง เพือ่ เรียนรู้ และพัฒนาทักษะกระบวนการทาง คณติ ศาสตรแ์ ละน�ำ กระบวนการคณติ ศาสตร์ ไปใช้ สมรรถนะคณิตศาสตรใ์ นชีวิตประจ�ำ วัน - แกป้ ญั หาหรอื ท�ำ ความเขา้ ใจกบั สถานการณ์ ตา่ ง ๆ ทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั คณติ ศาสตร์ โดยใชค้ วามรู้ ทางคณิตศาสตร์ท่ีเรียนมา โดยคำ�นึงถึง กระบวนการในการแก้ปัญหาและคำ�นึงถึง ความสมเหตสุ มผลของค�ำ ตอบทไี่ ด้ - อธบิ าย น�ำ เสนอ ขอ้ มลู เชงิ ปรมิ าณ และความคดิ ทางคณิตศาสตร์เพ่ือสื่อสารให้ผู้อ่ืนเข้าใจ โดยใช้ ศพั ท์ สญั ลกั ษณ์ แผนภมู ิ แผนภาพอยา่ ง งา่ ย ๆ รวมทงั้ บอกความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งภาษา ในชวี ติ ประจ�ำ วนั กบั ภาษา และสญั ลกั ษณท์ าง คณติ ศาสตรไ์ ดอ้ ยา่ งหลากหลายและเหมาะสม กบั เนือ้ หาและสถานการณ์ 281รายงานผลการวจิ ยั และพัฒนากรอบสมรรถนะผ้เู รียน ระดับประถมศึกษาตอนต้นสำ�หรบั หลักสูตรการศึกษาขนั้ พื้นฐาน

ภาคผนวก ค. กจิ กรรมการเรียนรู้ เวลา สมรรถนะ ข้นั ท่ี 4 Applying 2 30 สมรรถนะภาษาไทยเพ่ือการสอื่ สาร 1. ครเู ลือกตัวแทนนักเรียน 2 - 3 คน เฉลย - ฟงั พูด อ่าน และเขยี น ค�ำ ศพั ท์ท่ีเก่ยี วข้อง คำ�ตอบในใบงานหน้าชั้นเรียน ครูชมเชย กับคณิตศาสตร์ แนวคิดและกระบวนการ นักเรียนท่ีทำ�ได้ถูกต้อง ให้กำ�ลังใจและ ทางคณติ ศาสตร์ และค�ำ ทวั่ ไปทม่ี คี วามหมาย แนะนำ�นกั เรียนท่ยี งั มีขอ้ บกพร่องอยู่ เฉพาะในบรบิ ททางคณติ ศาสตร์ 2. นักเรียนทำ�กิจกรรมฝึกฝนทักษะเร่ือง - ใช้ภาษาไทยในการถ่ายทอดความคิด และ ทบทวนการบอกเวลา : การอา่ นเวลาเปน็ แบบแผนทางคณิตศาสตร์ ช่ัวโมงและนาที ข้อ 2 จากหนังสือเรียน - พดู อภปิ ราย แสดงความคดิ ความเหน็ เกยี่ วกบั เปน็ การบ้าน แล้วน�ำ มาสง่ ครูในวนั ถดั ไป ความคิดทางคณิตศาสตร์ 3. นกั เรยี นตอบค�ำ ถามกระต้นุ ความคิด - ใช้แบบจำ�ลองภาษาและสัญลักษณ์ทาง คณิตศาสตร์ในการสื่อสาร ส่ือความหมาย และการน�ำ เสนอ สมรรถนะคณิตศาสตร์ในชีวติ ประจำ�วนั - แกป้ ญั หาหรอื ท�ำ ความเขา้ ใจกบั สถานการณ์ ตา่ ง ๆ ทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั คณติ ศาสตร์ โดยใชค้ วามรู้ ทางคณิตศาสตร์ที่เรียนมา โดยคำ�นึงถึง กระบวนการในการแก้ปัญหาและคำ�นึงถึง ความสมเหตสุ มผลของคำ�ตอบท่ีได้ - อธบิ าย น�ำ เสนอ ขอ้ มลู เชงิ ปรมิ าณ และความคดิ ทางคณิตศาสตร์เพ่ือสื่อสารให้ผู้อ่ืนเข้าใจ โดยใช้ ศพั ท์ สญั ลกั ษณ์ แผนภมู ิ แผนภาพอยา่ ง งา่ ย ๆ รวมทง้ั บอกความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งภาษา ในชวี ติ ประจ�ำ วนั กบั ภาษา และสญั ลกั ษณท์ าง คณติ ศาสตรไ์ ดอ้ ยา่ งหลากหลายและเหมาะสม กับเนื้อหาและสถานการณ์ 282รายงานผลการวิจัยและพัฒนากรอบสมรรถนะผเู้ รยี น ระดับประถมศกึ ษาตอนต้นส�ำ หรับหลักสตู รการศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน

ภาคผนวก ค. กจิ กรรมการเรียนรู้ เวลา สมรรถนะ ขั้นท่ี 5 Self – Regulating 30 สมรรถนะภาษาไทยเพ่ือการสอ่ื สาร ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เก่ียวกับ - ฟังพูดอ่าน และเขียน คำ�ศัพท์ท่ีเกี่ยวข้องกับ การอ่านเวลาเป็นชั่วโมงและนาทีบนหน้าปัด นาฬกิ า คณิตศาสตร์ แนวคิดและกระบวนการทาง คณติ ศาสตร์ และค�ำ ทวั่ ไปทมี่ คี วามหมายเฉพาะ ในบรบิ ททางคณิตศาสตร์ - ใชภ้ าษาในการถา่ ยทอดความคดิ และแบบแผน ทางคณติ ศาสตร์ - พดู อภิปราย แสดงความคดิ ความเห็นเก่ยี วกับ ความคิดทางคณิตศาสตร์ - ใช้ภาษาไทยในการสร้างและตีความข้อมูล ทเ่ี ก่ยี วขอ้ งกบั คณติ ศาสตร์ - ใชแ้ บบจ�ำ ลองภาษาและสญั ลกั ษณท์ างคณติ ศาสตร์ ในการสอื่ สาร สอ่ื ความหมาย และการน�ำ เสนอ สมรรถนะทักษะการคิดขัน้ สงู และนวัตกรรม - วเิ คราะหว์ พิ ากษแ์ ละประเมนิ ขอ้ มลู ทางคณติ ศาสตร์ โดยเฉพาะขอ้ มลู ทเ่ี ปน็ จ�ำ นวนใหเ้ หตผุ ล ตลอดจน การสื่อสารส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์ ตามท่ตี นเองมีความเขา้ ใจและให้ความเหน็ - ตดั สนิ ใจหาขอ้ สรปุ ทางคณติ ศาสตรบ์ นรากฐาน ของการเชอื่ มโยงความรตู้ า่ ง ๆ ทางคณติ ศาสตร์ อย่างรอบดา้ น สมรรถนะคณติ ศาสตรใ์ นชวี ิตประจ�ำ วนั - แกป้ ญั หาหรอื ท�ำ ความเขา้ ใจกบั สถานการณต์ า่ ง ๆ ท่ีเก่ียวข้องกับคณิตศาสตร์ โดยใช้ความรู้ทาง คณติ ศาสตรท์ เ่ี รยี นมา โดยค�ำ นงึ ถงึ กระบวนการ ในการแกป้ ญั หาและค�ำ นงึ ถงึ ความสมเหตสุ มผล ของคำ�ตอบทไี่ ด้ - อธบิ าย น�ำ เสนอ ขอ้ มลู เชงิ ปรมิ าณ และความคดิ ทางคณติ ศาสตรเ์ พอ่ื สอื่ สารใหผ้ อู้ น่ื เขา้ ใจโดยใช้ ศพั ท์ สัญลกั ษณ์ แผนภมู ิ แผนภาพอยา่ งง่าย ๆ รวมท้ังบอกความสัมพันธ์ระหว่างภาษาใน ชีวิตประจำ�วันกับภาษา และสัญลักษณ์ทาง คณติ ศาสตร์ไดอ้ ย่างหลากหลายและเหมาะสม กบั เนอื้ หาและสถานการณ์ 283รายงานผลการวจิ ยั และพฒั นากรอบสมรรถนะผเู้ รียน ระดับประถมศกึ ษาตอนต้นสำ�หรบั หลกั สตู รการศกึ ษาขนั้ พื้นฐาน

ภาคผนวก ค. 8. สอ่ื การเรยี นรู้ หรอื แหลง่ การเรียนรู้ 1) หนังสือเรียน คณิตศาสตร์ ป.3 2) เพลงนาฬกิ า 3) นาฬิกาจำ�ลอง 4) ใบงานท่ี 6.2 เรื่อง การอา่ นเวลาเปน็ ช่วั โมงและนาที 9. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ วิธีการ เครือ่ งมอื เกณฑ์ ตรวจใบงานที่ 6.2 ใบงานท่ี 6.2 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ สังเกตพฤติกรรมการทำ�งานราย แบบสังเกตพฤติกรรมการ ระดับคณุ ภาพ 2 บคุ คล ทำ�งานรายบุคคล ผ่านเกณฑ์ สังเกตพฤตกิ รรมการทำ�งานกลุ่ม แบบสังเกตพฤติกรรมการ ระดบั คุณภาพ 2 ท�ำ งานกลมุ่ ผ่านเกณฑ์ สังเกตความมีวนิ ัย ใฝเ่ รียนรู้ แบบประเมินคุณลักษณะอัน ระดบั คุณภาพ 2 และมุ่งมน่ั ในการท�ำ งาน พึงประสงค์ ผา่ นเกณฑ์ 284รายงานผลการวิจยั และพัฒนากรอบสมรรถนะผูเ้ รยี น ระดับประถมศกึ ษาตอนต้นส�ำ หรบั หลักสตู รการศกึ ษาขน้ั พืน้ ฐาน

ภาคผนวก ค. ใบงานท่ี 6.2 คำ�ช้แี จง ใหน้ ักเรียนดูรปู นาฬิกา แล้วตอบคำ�ถาม 1. บนหน้าปดั นาฬกิ าเขม็ สนั้ ชี้ที่ตวั เลขใด และเขม็ ยาวชีท้ ีต่ วั เลขใด ตอบ 2. ถ้าในเวลาตอ่ มา เข็มยาวเดนิ ไปจนชที้ เ่ี ลข 4 แสดงวา่ ใชเ้ วลากี่นาที ตอบ 3. ถา้ ในเวลาตอ่ มา เข็มยาวเดินไปจนชี้ทีเ่ ลข 9 แสดงวา่ ใชเ้ วลากีน่ าที ตอบ 4. ถ้าในเวลาตอ่ มา เขม็ ยาวเดินไปจนช้ีทีเ่ ลข 10 แสดงวา่ ใชเ้ วลากี่นาที ตอบ 5. ถ้าในเวลาต่อมา เขม็ ยาวเดินไปจนชท้ี ่เี ลข 12 แสดงว่าใชเ้ วลากี่นาที ตอบ 6. ถา้ ในเวลาต่อมา เขม็ สั้นเดนิ ไปจนชท้ี ่ีเลข 9 และเข็มยาวชี้ที่เลข 12 แสดงว่าใช้เวลาก่ีชั่วโมง ตอบ 7. ถ้าในเวลาต่อมา เข็มส้นั เดินไปจนชีท้ เี่ ลข 11 และเขม็ ยาวชีท้ เ่ี ลข 12 แสดงว่าใช้เวลากี่ชว่ั โมง ตอบ 8. ถา้ ในเวลาต่อมา เข็มสนั้ เดินไปจนชท้ี ี่เลข 2 และเขม็ ยาวช้ีท่ีเลข 12 แสดงวา่ ใชเ้ วลากี่ชว่ั โมง ตอบ 285รายงานผลการวิจยั และพฒั นากรอบสมรรถนะผเู้ รียน ระดบั ประถมศกึ ษาตอนต้นส�ำ หรับหลักสตู รการศึกษาข้นั พืน้ ฐาน

ภาคผนวก ค. ตัวอยา่ งแผนการจัดการเรียนรู้ จากโรงเรยี นวดั ปลกู ศรัทธา กรงุ เทพมหานคร แผนการออกแบบการจดั การเรยี นรู้เนน้ สมรรถนะ ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 3 ช่อื หน่วย หมปู่ ่ากับถ้ําขนุ นํา้ นางนอน ระยะเวลาในการสอน 2 สปั ดาห์ กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย วิทยาศาสตร ์ สังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม ภาษาตา่ งประเทศ ประเดน็ ส�ำ คญั การถอดรหสั ความร้เู หตุการณห์ มู่ป่า 13 ชวี ิตติดถํ้า สมรรถนะหลกั ภาษาไทยเพ่อื การสอื่ สาร ข้อ 1 อา่ นค�ำ หรอื ขอ้ ความ หรอื ใชค้ วามรปู้ ระสบการณเ์ ดมิ เขา้ ใจและยอมรบั ว่าคนอ่ืนอาจคิดไม่เหมือนตนเองและนำ�ข้อมูลไปประยุกต์ใช้ใน ชวี ติ ประจ�ำ วนั ข้อ 2 การฟังดอู า่ นและอ่านข้อความหรอื แบบเรยี นไดอ้ ยา่ งถูกต้อง ข้อ 3 ผเู้ ลา่ เรอ่ื งและตอบค�ำ ถามไดต้ รงความหมายอยา่ งมเี หตผุ ลตามกาลเทศะ กิจกรรมส�ำ คญั กิจกรรมการอ่านหมปู า่ - มอี ่านออกเสียง - อ่านแล้วสรปุ ความ - ตอนที่ครูแจกภาพทีมฟุตบอลหมูป่าอะคาเดมีให้นักเรียนพูดสนทนา และทำ�งานกลุ่ม เร่ืองการถามตอบเก่ียวกับเร่ืองเน้ือเร่ืองทีมหมูป่า ติดถา้ํ หลวง ท 1.1 ป.3/1 การอา่ นออกเสียงข้อความไดค้ ล่อง สาระการเรียนรู้ การสืบสอบทางวิทยาศาสตรแ์ ละจิตวิทยาศาสตร์ สมรรถนะหลัก ขอ้ 4 การแสดงความคดิ เห็นสนับสนุนหรือคดั ค้านอยา่ งมเี หตผุ ล กิจกรรมท่คี รกู �ำ หนดใหน้ ักเรียนแสดงความคดิ เห็น เหน็ ด้วยหรอื คดั ค้าน ท 1.1 ป.3/3 การตง้ั ค�ำ ถามและตอบค�ำ ถามเชิงเหตุผลในเรื่องทอี่ า่ น กจิ กรรมส�ำ คญั ท 1.1 ป.3/4 การเขียนคาดคะเนเหตกุ ารณ์ สาระการเรียนร้ ู ภาษาองั กฤษเพอ่ื การสื่อสาร ขอ้ 5 สามารถใชค้ �ำ ศพั ทว์ ลสี น้ั ๆ และส�ำ นวนในการสอ่ื สารในชวี ติ ประจ�ำ วนั ได้ สมรรถนะหลกั กิจกรรมคำ�ถามของครู ให้นักเรียนคาดคะเนเหตุการณ์ว่าถ้าทีมหมูป่า ไมม่ คี วามรูภ้ าษาอังกฤษ การสนทนาวนั นัน้ จะเป็นอย่างไร กิจกรรมส�ำ คัญ กจิ กรรมดูคลปิ วีดิโอหมปู ่าแลว้ เรยี นรู้ประโยคทีใ่ ชใ้ นชีวติ ประจำ�วัน 286รายงานผลการวจิ ยั และพฒั นากรอบสมรรถนะผ้เู รียน ระดับประถมศึกษาตอนต้นส�ำ หรับหลักสูตรการศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน

ภาคผนวก ค. สาระการเรียนรู้ ต 1.2 ป.3/1 การพูดโต้ตอบคำ�ส้ัน ๆวลีส้ันๆสำ�นวนในการสื่อสารชีวิต ประจ�ำ วัน สมรรถนะหลกั คณิตศาสตรใ์ ช้ในชีวติ ประจำ�วัน ข้อ 1 การแก้ปัญหาหรือทำ�ความเข้าใจกับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เก่ียวข้อง กับคณิตศาสตร์อย่างมเี หตุผล กจิ กรรมส�ำ คัญ กิจกรรมการเรียนเรื่อง หมปู ่าตอนลำ�เลียงหมปู า่ ออกจากถํา้ สาระการเรียนรู้ ค 2.2 ป.3/1 การแก้ปัญหาโจทย์เวลา สมรรถนะหลกั ข้อ 5 คดิ เลขอย่างคล่องว่องไวแมน่ ย�ำ กจิ กรรมสำ�คัญ กิจกรรมการท�ำ เลข กอ่ นทจี่ ะใหโ้ จทย์ปัญหา สาระการเรยี นร ู้ ค 1.2 ป.3/1 การบวกลบคูณหารระคนจำ�นวนนับไม่เกินหน่ึงแสนและ ศนู ยพ์ รอ้ มตระหนกั ถึงเหตผุ ล สมรรถนะหลัก การท�ำ งานแบบรวมพลงั เปน็ ทีม ขอ้ 1 ท�ำ งานตามหนา้ ทีบ่ ทบาทผู้นำ�และสมาชกิ ข้อ 2 ประสานความคดิ ปรบั ตัวท�ำ งานอยา่ งมคี วามสุข กิจกรรมส�ำ คัญ กจิ กรรมการอา่ นเรอื่ งหมปู า่ และการเรยี นเร่ืองชนดิ ของค�ำ ใน เนอ้ื เร่ืองหมปู ่า สาระการเรียนรู้ ท 1.1 ป.3/1 อา่ นออกเสียงอยา่ งคล่องถูกต้อง สมรรถนะหลัก ภาษาองั กฤษเพือ่ การสื่อสาร ข้อ 6 การสามารถจดจำ�และใช้คำ�ศัพท์ได้ตามระดับท่ีกำ�หนดเป็นวลี เก่ียวกบั สถานการณช์ วี ติ ประจ�ำ วนั กจิ กรรมสำ�คัญ กิจกรรมการเข้ากลมุ่ ท่ตี อ้ งอา่ นประโยคสัน้ ๆ เพ่อื ตามหากลุม่ ตนเอง สาระการเรยี นรู ้ ท 4.1 ป.3/2 การระบชุ นิดของคำ�และบอกหนา้ ทข่ี องคำ� สมรรถนะหลกั ภาษาองั กฤษเพื่อการสื่อสาร ข้อ 2 การเขา้ ใจและโต้ตอบกบั ผู้พูดผู้สนทนาได้โดยใช้ส�ำ นวนง่ายๆ กิจกรรมสำ�คญั กิจกรรมสนทนาในเกมเร่อื งอาหาร สาระการเรียนร ู้ - 287รายงานผลการวิจัยและพัฒนากรอบสมรรถนะผเู้ รียน ระดับประถมศึกษาตอนตน้ สำ�หรับหลกั สตู รการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน

ภาคผนวก ค. สมรรถนะหลัก ภาษาอังกฤษเพื่อการสือ่ สาร ขอ้ 2 การเข้าใจและโต้ตอบกับผู้พดู ผู้สนทนาไดโ้ ดยใช้ส�ำ นวนงา่ ย ๆ กิจกรรมส�ำ คญั กิจกรรมสนทนาในเกมเร่ืองอาหาร สาระการเรยี นร ู้ ต 1.2 ป.3/1 การพดู โตต้ อบดว้ ยการสนทนางา่ ย ๆ ในการสือ่ สารระหวา่ ง บคุ คล ต 1.2 ป.3/2 บอกความตอ้ งการง่าย ๆ ของตนตามแบบท่ฟี ัง สมรรถนะหลัก ภาษาไทยเพื่อการส่ือสาร ข้อ 3 การพูดเล่าเร่ืองและตอบคำ�ถามได้ตรงความหมายชัดเจนมีเหตุผล ถูกกาลเทศะ กจิ กรรมการทบทวนเร่ืองหมูป่าและการแสดงความคิดเหน็ ในการ กจิ กรรมสำ�คัญ ตอบคำ�ถามของครูกบั นักเรยี น ท 3.1 ป.3/4 การพูดแสดงความคิดเห็นและความรสู้ กึ สาระการเรยี นร ู้ สมรรถนะหลัก การสบื สอบทางวทิ ยาศาสตร์และจติ วทิ ยาศาสตร์ ข้อ 4 การแสดงความคิดเห็นสนับสนุนหรือคัดค้านด้วยหลักฐาน เชิงประจักษอ์ ย่างมีเหตผุ ลกล้าพูดกล้ารับฟังความคิดเหน็ กจิ กรรมส�ำ คัญ กิจกรรมการแสดงความคิดเห็นในเร่ืองนักเรียนเห็นด้วยหรือไม่ว่า ภาษาอังกฤษมคี วาม สำ�คัญ เพราะอะไร สาระการเรยี นร้ ู ท 3.1 ป.3/4 การพูดแสดงความคิดเหน็ และความรสู้ กึ สมรรถนะหลัก ภาษาอังกฤษเพอื่ การสื่อสาร ขอ้ 4 ฟังหรืออ่านเข้าใจค�ำ ศัพท์ วลี ประโยคสั้น ๆ รวมถึงค�ำ สั่งทใ่ี ช้บอ่ ย ๆ ทง้ั การพดู และการเขียน กิจกรรมส�ำ คัญ กิจกรรมการดูวิดีโอและสนทนา ตอบคำ�ถาม (ตอนนี้ให้ครูต่างชาติ ช่วยสอน) และนักเรียนสามารถทำ�ใบงานการแปลความหมายโดย ตามความเขา้ ใจของตนเอง สาระการเรียนรู้ - สมรรถนะหลกั การทำ�งานแบบรวมพลัง เป็นทีมและมีภาวะผนู้ �ำ ข้อ 1 ทำ�งานร่วมกันตามบทบาทปฏิบัติหนาที่ผู้นำ� และสมาชิกกลุ่มมี ความรับผิดชอบเพอ่ื บรรลุตามเปา้ หมาย กจิ กรรมสำ�คญั กจิ กรรมการท�ำ งานเป็นกลุ่มในระหวา่ งเรียน สาระการเรียนร้ ู - 288รายงานผลการวจิ ัยและพัฒนากรอบสมรรถนะผูเ้ รยี น ระดบั ประถมศกึ ษาตอนตน้ ส�ำ หรับหลกั สตู รการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน

สมรรถนะหลัก ภาคผนวก ค. ภาษาไทยเพ่อื การสอ่ื สาร กิจกรรมส�ำ คัญ ข้อ 4 เปน็ การสอ่ื สารในรูปแบบตา่ ง ๆ โดยบอกความตอ้ งการโดยค�ำ นึงถงึ สาระการเรยี นรู้ ความรสู้ ึกผู้อนื่ สมรรถนะหลัก กิจกรรมการตอบคำ�ถามของคร ู ท 2.1 ป.3/2 การเขยี นบรรยายเก่ยี วกบั สงิ่ ใดสง่ิ หนึง่ ไดช้ ดั เจน ทักษะการคิดขน้ั สงู และนวตั กรรม กจิ กรรมส�ำ คญั ข้อ 1 ฟังอ่านข้อความเรื่องราวส้ัน ๆ และสามารถสรุปความและแสดง สาระการเรยี นรู้ ความคดิ เหน็ ได้ กิจกรรมการแบง่ กลุ่มและการแสดงความคิดเหน็ สมรรถนะหลกั ท 3.1 ป.3/4 การพดู แสดงความคิดเห็นและความรสู้ ึกจากเรอื่ งทฟ่ี งั และดู การรเู้ ทา่ ทันสอ่ื สารสนเทศและดจิ ทิ ัล กจิ กรรมส�ำ คัญ ข้อ 3 สามารถตดั สนิ ใจเชอื่ หรือไมเ่ ชือ่ (รู้ทนั ส่อื ) ข้อ 4 สามารถเลือกประโยชน์จากสอื่ มาใชใ้ นชีวติ ประจำ�วัน สาระการเรียนรู้ กิจกรรมที่ครูใช้คำ�ถามเรื่องที่เช่ือเร่ืองสวดมนต์สามารถช่วยทีมหมูป่า ปดิ ทำ�ไดจ้ รงิ หรอื ไมแ่ ละการดูภาพถา่ ยทมี หมปู า่ และกิจกรรมกลุ่ม ท 1.1 ป.3/6 สรุปความรู้ และข้อคดิ จากเร่ืองที่อ่านเพือ่ นำ�ไปใชใ้ ชีวติ ประจ�ำ วนั ส 1.1 ป.3/3 ชนื่ ชมบอกแผนการด�ำ เนินชีวิตขอ้ คดิ จากตัวอยา่ งที่ก�ำ หนด สมรรถนะหลัก ส 1.1 ป.3/6 การเห็นคณุ ค่าของการสวดมนต์และนั่งสมาธิ ภาษาไทยเพื่อการสอื่ สาร ข้อ 1 อ่านคำ�หรือข้อความหรือใช้ความรู้ประสบการณ์เดิม เข้าใจ กจิ กรรมสำ�คัญ และยอมรับว่าคนอ่ืนอาจคิดไม่เหมือนตนเองและนำ�ข้อมูลไปประยุกต์ใช้ ในชวี ิตประจำ�วนั สาระการเรียนร้ ู กิจกรรมนักเรียนอ่านเร่ืองหมูป่าแล้วสามารถนำ�ข้อมูลดี ๆ ที่ตนเอง ชอบมาเป็นขอ้ คดิ ในชวี ติ ประจ�ำ วนั - 289รายงานผลการวจิ ยั และพัฒนากรอบสมรรถนะผ้เู รียน ระดบั ประถมศกึ ษาตอนต้นส�ำ หรับหลักสตู รการศกึ ษาขนั้ พื้นฐาน

สมรรถนะหลกั ภาคผนวก ค. กิจกรรมสำ�คัญ ทกั ษะชวี ติ และความเจริญแหง่ ตน ขอ้ 1 การรู้จักตนเองบอกสิ่งทต่ี นเองทำ�ไดห้ รอื ไม่ได้ ครูให้นักเรียนพูดถึงจิตอาสาในเรื่องหมูป่าแล้วถามความสามารถ สาระการเรยี นรู้ ของนักเรียนว่าถ้านักเรียนไปช่วยในเหตุการณ์ครั้งน้ีจะสามารถทำ�อะไร สมรรถนะหลกั ไดบ้ ้าง - การสบื สอบทางวิทยาศาสตร์และจติ วทิ ยาศาสตร์ กจิ กรรมส�ำ คญั ข้อ 1 การตรวจสอบข้อมูลเพื่อตอบคำ�ถามที่สงสัย แยกแยะข้อมูลและ สาระการเรียนรู้ นำ�เสนอข้อมลู ท่ีตนเองเขา้ ใจ และสรปุ ดว้ ยแผนภาพ กิจกรรมตอนทนี่ ักเรียนได้สิง่ ของแล้วน�ำ มาจ�ำ แนกประเภทของวัสดุ ว 3.1 ป.3/1 สมรรถนะหลกั การจำ�แนกชนิดและคุณสมบัติของวัสดุ ส่วนประกอบของของใช้และ ของเล่น การรู้เท่าทนั สารสนเทศและดจิ ทิ ลั กิจกรรมส�ำ คญั ขอ้ 4 การเลือกเนื้อหาทมี่ ปี ระโยชนจ์ ากสอ่ื มาใช้ในชวี ติ ประจำ�วัน สาระการเรยี นรู้ ใหเ้ กิดประโยชน์แกต่ น กจิ กรรมการสนทนาเรื่องสรปุ ขอ้ คิดจากเรื่องหมปู ่า ส 1.1 ป.3/3 ช่ืนชมและออกแบบการดำ�เนินชีวิตและข้อคิดจากเรื่อง ทกี่ �ำ หนดให้อ่าน 290รายงานผลการวิจยั และพัฒนากรอบสมรรถนะผเู้ รียน ระดบั ประถมศกึ ษาตอนต้นสำ�หรบั หลักสูตรการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน

ภาคผนวก ค. ตัวอย่างแผนการจัดการเรยี นรู้ โรงเรยี นอนบุ าลหนูน้อย จ.สุราษฎร์ธานี แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 1 หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 4 ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 2 อ12101 ภาษาอังกฤษ กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ เรือ่ ง At the wildlife park เวลา 8 ชว่ั โมง 1. มาตรฐานการเรียนรู/้ ตัวช้วี ัด มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องท่ีฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดง ความคิดเห็นอยา่ งมเี หตผุ ล ตัวช้ีวดั ป.2/2 , ป.2/3 , ป.2/4 มาตรฐาน ต. 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรม ของเจ้าของภาษากับภาษาและวัฒนธรรมไทย และนำ�มาใช้อย่างถูกต้อง และเหมาะสมตวั ชีว้ ัด ป.2/1 2. สาระการเรียนรู้ 2.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง 2.1.1 การอา่ นออกเสยี งค�ำ ประโยคจะตอ้ งรจู้ กั ตวั อกั ษร สระ ค�ำ นงึ ถงึ การเนน้ เสยี งหนกั -เบา เสียงสูง-ตํ่า เสียงตน้ และเสียงทา้ ยซง่ึ เปน็ ลักษณะเฉพาะของภาษาองั กฤษท่ีแตกต่างจากภาษาไทย 2.1.2 การฟัง พูด อ่าน และเขียนเก่ียวกับสัตว์ปา่ ชนิดตา่ ง ๆ 2.1.3 การสนทนาเกยี่ วความสามารถโดยใชป้ ระโยคถาม-ตอบ เชน่ It can swim. It can’t fly. Can it run? Yes, No. และสามารถเขียนประโยคคำ�ถามไดถ้ ูกตอ้ งตามหลกั ไวยากรณ์ 2.2 สาระการเรียนรสู้ ำ�คัญ ค�ำ ศพั ทเ์ กี่ยวกับสัตวป์ ่า และการใชป้ ระโยคบอกเล่า ค�ำ ถาม และปฏเิ สธทีใ่ ช้ can 2.3 สาระการเรียนรทู้ ้องถิน่ 3. สมรรถนะ 3.1 สมรรถนะท่ี 4 ภาษาองั กฤษเพ่ือการส่อื สาร สมรรถนะย่อยท่ี 4.1 4.2 4.4 4.5 4.6 3.2 สมรรถนะท่ี 5 ทักษะชวี ิตและความเจรญิ แห่งตน สมรรถนะย่อยท่ี 5.7 291รายงานผลการวิจยั และพฒั นากรอบสมรรถนะผู้เรยี น ระดับประถมศึกษาตอนตน้ สำ�หรับหลักสตู รการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน

ภาคผนวก ค. 4. จุดประสงค์การเรียนรู้ เม่อื เรยี นจบหนว่ ยน้นี กั เรยี น 4.1 สามารถอ่านออกเสียงคำ�ได้ถูกต้องตามหลักการโดยเน้นเสียงหนัก-เบา พยัญชนะต้นคำ� พยญั ชนะท้ายคำ�และเสียงสงู ตํา่ 4.2 สามารถเลอื กภาพสัตวท์ ี่มคี วามหมายตรงกบั คำ� กลมุ่ คำ�และประโยคได้ 4.3 สามารถอ่านและเขยี นค�ำ ศัพทเ์ กย่ี วกับสัตวป์ ่าได้ 4.4 สามารถฟังและตอบค�ำ ถามโดยใช้ Can ได้ 4.5 มีปฏิสัมพันธ์ทด่ี กี ับเพื่อน และมองโลกในแง่บวก กิจกรรมการเรยี นรู้ ช่ัวโมงท่ี 1 ขน้ั น�ำ เข้าสบู่ ทเรียน 1. ครูกลา่ วทักทายนักเรียน แลว้ ถามวา่ ใครเคยไปเท่ียวสวนสตั ว์บ้าง จากนนั้ ให้นกั เรยี นชว่ ยกนั บอกชอื่ สัตวท์ ี่เคยเห็นเปน็ ภาษาองั กฤษ (สม. 4.5 4.6) 2. ครูบอกขอบข่าย และจุดประสงค์ในการเรียนหน่วยนี้ ว่าเราจะเรียนรู้เกี่ยวกับสัตว์ป่า โดย นกั เรียนจะไดฝ้ ึกทักษะการ ฟัง พดู อา่ น เขียน ขน้ั กิจกรรมการเรียนรู้ 3. ครูให้นักเรียนฟังเร่ืองเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสวนสัตว์ (ในแผ่นซีดี) แล้วในทุกคนหา ภาพสัตว์ท่ไี ดย้ ินจากเนือ้ เรอื่ ง (ต 2.2 ป. 2/2 สม. 4.1) Flo Can you guess the animal ? It’s brown. Bing A monkey ! Flo Yes. Fred Can you guess the animal ? It’s got four legs. Flo Er… a crocodile ? Fred No, it’s black and white. Flo A zebra ? Fred Yes. Bing OK. Titch. It’s grey. Titch Umm… Bing It’s big. Titch A dolphin? Bing Yes! Well done. Poppy OK. It’s brown. It’s small. It’s got two legs. 292รายงานผลการวิจัยและพฒั นากรอบสมรรถนะผู้เรยี น ระดบั ประถมศกึ ษาตอนต้นส�ำ หรับหลักสูตรการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน

ภาคผนวก ค. Fred I know, a bat. Poppy Yes. Mitch My turn. It’s black and white. Titch I know, a zebra. Mitch No, listen. It’s got two legs. Titch Easy! A penguin. Titch My turn. It’s brown. It’s got four legs. Flo It’s a lion. Titch Yes, it a lion. Bing My turn. It’s green. It’s long. Flo A snake, a snake! Bing No, listen….It’s got four legs. Flo Mmm…a crocodile? Bing Yes! Poppy My turn. It’s big. It’s got four legs. It’s orange and white. Mitch It’s a giraffe! Poppy Yes, Mitch. That’s right. Fred It’s green, red, yellow and blue. Poppy Easy! A parrot. 4. เม่ือนักเรียนฟังเน้ือเรื่องจบแล้ว ครูสุ่มนักเรียนทีละคนให้บอกว่าบัตรภาพสัตว์ที่ครูชูให้ดู เรียกเป็นภาษาองั กฤษว่าอยา่ งไร (ต 1.1 ป.2/2 ป2/3 สม. 4.1 4.2 4.4 4.6) 5. เม่ือครูประเมินว่านักเรียนรู้ช่ือสัตว์ป่าแล้ว ครูให้นักเรียนอ่านบทกลอนเกี่ยวกับสัตว์ป่า (ต 1.1 ป.2/2 สม 4.1 4.4) Walk like a penguin, Fly like a bat, Run like a zebra, Stretch like a cat, Swim like a dolphin, Slide like a snake, Talk like a parrot, Count to eight…1,2,3,4,5,6,7,8……จากน้ันครใู ห้นกั เรียนทอ่ งกลอนพร้อมกนั ทั้งห้อง 293รายงานผลการวจิ ัยและพัฒนากรอบสมรรถนะผูเ้ รียน ระดบั ประถมศกึ ษาตอนตน้ ส�ำ หรบั หลักสตู รการศกึ ษาข้นั พ้ืนฐาน

ภาคผนวก ค. 6. เมอ่ื นกั เรยี นทอ่ งกลอนไดค้ ลอ่ งแลว้ ครใู หน้ กั เรยี นออกแบบทา่ ทางการเคลอื่ นไหวของสตั วป์ า่ แต่ละชนดิ ใหส้ อดคล้องกับเนือ้ หาคำ�กลอน (นักเรยี นแสดงท่าทางประกอบ) (สม 5.7) 7. ครูและนักเรยี นรว่ มกนั บอกช่ือค�ำ ศัพท์เก่ียวกบั สัตวป์ า่ ที่ไดเ้ รียนรู้ในวนั น้ี 8. นักเรียนทำ�แบบฝึกหัดเกี่ยวกับการฟัง โดยนักเรียนจะต้องเติมหมายเลขให้ตรงกับภาพสัตว์ จากนนั้ ให้นักเรียนระบอุ วัยวะทสี่ ตั ว์แตล่ ะชนดิ มี และเขียนโดยนำ�ชือ่ สัตวม์ าใส่ให้ตรงกบั ภาพสัตว์ ข้นั สรุป 9. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ สง่ิ ทไี่ ดเ้ รยี นรใู้ นวนั นเี้ กยี่ วกบั ชอ่ื สตั ว์ เสยี งรอ้ งขอสตั ว์ และอวยั วะ ทมี่ ี ผลการดำ�เนนิ การสอน / ปัญหา / อปุ สรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………................................……… ชัว่ โมงที่ 2 ข้นั นำ�เข้าสู่บทเรยี น 1. ครูกล่าวทักทายนักเรียนและทบทวนคำ�ศัพท์เก่ียวกับสัตว์ป่าท่ีได้เรียนในชั่วโมงที่ผ่านมา โดยใช้บัตรภาพรูปสัตว์ถามนักเรียน จากนั้นให้นักเรียนทุกคนช่วยกันตอบ และสุ่มนักเรียนบางคน บอกชือ่ สัตว์ (ต 1.1 ป.2/3 สม. 4.1 4.5 4.6) 2. ครูช้ีแจงรายละเอียดเกี่ยวกับเนื้อหาที่จะเรียนในวันน้ีว่า เก่ียวกับสัตว์ป่าซ่ึงนักเรียนจะได้ฝึก ทักษะการฟัง พูด อา่ น เขียนผา่ นเหตกุ ารณ์ท่เี กิดขนึ้ ในสถานทแี่ ห่งหนง่ึ ขน้ั กิจกรรมการเรียนรู้ 3. ครใู หน้ กั เรยี นดภู าพเกยี่ วกบั เหตกุ ารณใ์ นหนงั สอื เรยี น และลองเดาวา่ เหตกุ ารณน์ เ้ี กดิ ขน้ึ ทไ่ี หน และเกดิ ข้ึนอยา่ งไรบา้ ง 4. ครูให้นักเรียนฟังเรื่องเก่ียวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นท่ีสวนสัตว์ จากน้ันครูและนักเรียนร่วมกัน เล่าเรือ่ งท่ไี ดจ้ ากการฟงั โดยเรียงลำ�ดับเหตุการณท์ ่เี กดิ กอ่ น-หลัง และจบอย่างไร (ต 1.1 ป.2/2 2/3 2/4 สม. 4.2) 5. ครูให้นักเรียนหารายละเอียดบทสนทนาจากเร่ืองแล้วเติมตัวเลขให้ตรงกันกับเหตุการณ์ ในภาพ และพดู ประโยคทตี่ รงกับภาพเหตุการณ์ (ต 1.1 ป. 2/3 สม. 4.5) 294รายงานผลการวิจัยและพฒั นากรอบสมรรถนะผเู้ รยี น ระดับประถมศกึ ษาตอนตน้ สำ�หรบั หลักสตู รการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน

ภาคผนวก ค. 1. Narrator : The children are at the wildlife park. Mitch : Let’s play again ! I can climb. It can jump. It’s brown. It can’t fly. What is it ? 2. Fred : Is it a bat ? 3. Titch : I know ! It’s a monkey. Can you talk ? 4. Titch : Monkey. Can you talk like me ? and you run and walk like me ? Can you jump and climb a tree ? 5. Narrator : Oh,dear ! Mr.Fixit is in trouble. Poppy : and Bing. What is that ? 6. Titch : It’s red… and green… and yello. Fred : Can it fly ? Is it a parrot ? 7. Titch : and Mitch No ! It’s Mr. Fixit . Flo : poor Mr. Fixit. Fred : look in the kit. 8. Narrator : The children Mr. Fixit. Poppy : That’s better. Mr.Fixit : Thank you. 6. ครูให้นักเรียนฟังเรื่องเกี่ยวกับสวนสัตว์อีกครั้งและให้นักเรียนแสดงตามท่าทางประกอบเร่ือง (สม.5.7) ขัน้ สรปุ 7. ครูกับนักเรียนร่วมกันสรุปส่ิงท่ีได้เรียนรู้ในวันน้ีเกี่ยวกับท่าทางและการเคล่ือนไหวของสัตว์ ชนิดต่างๆ ผลการด�ำ เนนิ การสอน / ปญั หา / อปุ สรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… 295รายงานผลการวจิ ยั และพัฒนากรอบสมรรถนะผเู้ รยี น ระดบั ประถมศึกษาตอนต้นส�ำ หรับหลักสตู รการศึกษาข้นั พน้ื ฐาน

ภาคผนวก ค. ชั่วโมงที่ 3 ขนั้ นำ�เข้าสบู่ ทเรยี น 1. ครูกลา่ วทักทายนกั เรียน ทบทวนคำ�ศพั ทเ์ กีย่ วกบั สัตวป์ ่าโดยทอ่ งเป็นบทกลอน 2. ครชู แี้ จงรายละเอยี ดเกยี่ วกบั เนอ้ื หาทจ่ี ะเรยี นในวนั น้ี ซงึ่ นกั เรยี นจะไดฝ้ กึ การใชป้ ระโยคบอกเลา่ ปฏิเสธ และค�ำ ถามเกยี่ วกับสงิ่ ท่ีสตั วป์ ่าสามารถท�ำ ได้ ขนั้ กิจกรรมการเรยี นรู้ 3. ครอู ธบิ ายเรอื่ ง การใช้ can โดยเขยี นตวั อยา่ งเปน็ ประโยคบอกเลา่ จากสตั วแ์ ตล่ ะชนดิ ทน่ี กั เรยี น ไดเ้ รยี นมา เช่น monkey – It can run . It can climb a tree. Parrot – It can fly. It can walk. จากน้นั ให้นักเรยี นชว่ ยกนั ยกตวั อย่างประโยคเก่ยี วกับสง่ิ ทสี่ ัตว์สามารถทำ�ได้ (สม. 4.2 4.4) 4. เมอื่ ครปู ระเมนิ วา่ นกั เรยี นทกุ คนมคี วามเขา้ ใจเรอ่ื งการใช้ can แลว้ ครอู ธบิ ายเพม่ิ เตมิ เกย่ี วกบั การใช้ cannot (can’t) เปน็ การบอกวา่ ประธานไมส่ ามารถจะท�ำ สงิ่ นนั้ ๆ ได้ จากนนั้ ครเู ขยี นตวั อยา่ ง ประโยคบนกระดาน และใหน้ ักเรยี นอา่ นร่วมกัน เช่น Snake It can’t run, It can’t fly. Lion It can’t fly ครูอธิบายการใช้ can’t จากนั้นให้นักเรียนแต่ละคนช่วยกันคิดและบอกประโยคเก่ียวกับ ส่ิงที่สัตว์ไม่สามารถทำ�ได้คนละ 1 ประโยค โดยคุณครูเดินไปท่ัวห้องและพยายามกระตุ้นนักเรียน ท่ีขาดความมั่นใจ หรือไม่มีส่วนร่วมในการเรียนให้แสดงความคิดเห็น หากประเมินว่านักเรียน ยังไม่เขา้ คุณครูอธิบายซา้ํ อีกครงั้ (ต 1.1 ป.2/2 2/3 2/4 สม. 4.2) 5. ครอู ธบิ ายเพิ่มเติมการใช้ can เพอ่ื ถามคำ�ถามว่า ประธานสามารถท�ำ ไดห้ รือไม่หากประธาน สามารถทำ�ได้จะตอบ Yes หากประธานไม่สามารถทำ�ไดจ้ ะตอบ No ตวั อยา่ ง ภาพ zebra Can it swim ตอบ No Can it run ตอบ Yes จากนนั้ ให้นกั เรยี นฟังค�ำ ถามจากซีดี แล้วตอบเป็นภาษาองั กฤษว่าเป็นสัตว์ชนิดใด ค�ำ ถาม : Can it swim? - Yes. Can it run? - No. Can it climb a tree? - No. Can it fly? - Yes. คำ�ตอบ : (it ‘s a bat.) ค�ำ ถาม : Can it swim? - Yes. Can it run? - Yes. Can it climb a tree? - No. Can it fly? - No. 296รายงานผลการวิจยั และพฒั นากรอบสมรรถนะผู้เรียน ระดับประถมศึกษาตอนต้นส�ำ หรบั หลักสูตรการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน

ภาคผนวก ค. คำ�ตอบ : (it ‘s a giraffe.) คำ�ถาม : Can it swim? - Yes. Can it run? - No. Can it climb a tree? - Yes. Can it fly? - No. ค�ำ ตอบ : (it ‘s a snake.) (ต 1.1 ป.2/4 สม. 4.2) 6. จากน้นั ครใู หน้ ักเรียนทำ�แบบฝึกการฟงั เรือ่ งเกยี่ วกับ นก 2 ชนิดคอื parrot และ penguin โดยเนอ้ื เรอื่ งจะอธบิ ายสง่ิ ทนี่ กทง้ั 2 ชนดิ ท�ำ ไดแ้ ละไมส่ ามารถท�ำ ไดเ้ ปน็ ภาษาองั กฤษ และใหน้ กั เรยี น บอกวา่ เป็นนกชนิดใด 7. เม่ือประเมินว่านักเรียนมีความเข้าใจแล้วครูให้นักเรียนทำ�แบบฝึกหัดเพ่ิมเติมเกี่ยวกับความ สามารถของสัตว์ (การใช้ can) โดยให้นักเรียนเลือกวงกลมล้อมรอบภาพสัตว์ให้ถูกต้อง (ต 1.1 ป.2/3) ค�ำ ถาม : Can it fly? - Yes. คำ�ตอบ : It’s a bat. คำ�ถาม : Can it swim? - No. ค�ำ ตอบ : It’s a parrot. คำ�ถาม : Can it run? - No. ค�ำ ตอบ : It’s a dolphin. ค�ำ ถาม : Can it swim? - Yes. ค�ำ ตอบ : It’s a penguin. ค�ำ ถาม : Can it climb a tree? - Yes. คำ�ตอบ : It’s a monkey. ค�ำ ถาม : Can it climb a tree? - No. คำ�ตอบ : It’s a giraffe. คำ�ถาม : Can it run? - Yes. ค�ำ ตอบ : It’s a lion. คำ�ถาม : Can it fly? - No. คำ�ตอบ : It’s a crocodile. ขั้นสรปุ 8. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรปุ สง่ิ ทไ่ี ดเ้ รียนรู้เกยี่ วกับการใช้ can ในประโยคบอกเลา่ ประโยค ปฏิเสธ และประโยคคำ�ถาม 297รายงานผลการวิจัยและพัฒนากรอบสมรรถนะผ้เู รียน ระดับประถมศกึ ษาตอนต้นส�ำ หรับหลกั สูตรการศึกษาข้ันพนื้ ฐาน

ภาคผนวก ค. ผลการด�ำ เนินการสอน / ปัญหา / อปุ สรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ชวั่ โมงท่ี 4 ข้ันน�ำ เข้าสบู่ ทเรยี น 1. ครกู ลา่ วทกั ทายนกั เรยี น และทบทวนเกย่ี วกบั สตั วป์ า่ จากนน้ั ทบทวนเรอ่ื งการถามโดยใช้ Can it….? การตอบคำ�ถาม Yes. / No. 2. ครูแจ้งรายละเอียดเก่ียวกับเนื้อหาท่ีจะเรียนในวันนี้ โดยนักเรียนจะได้ร้องเพลงที่เก่ียวกับ ความสามารถตา่ ง ๆ ของสตั วแ์ ตล่ ะชนดิ ทแ่ี ตกตา่ งกนั ซง่ึ นกั เรยี นไดร้ จู้ กั สตั วป์ า่ ในชว่ั โมงทผี่ า่ นมาแลว้ นกั เรยี นจะได้ฝึกการฟัง พดู อ่านและเขยี น ขั้นกจิ กรรมการเรียนรู้ 3. ครใู หน้ กั เรยี นดภู าพในหนงั สอื เรยี น และรว่ มกนั สงั เกตลกั ษณะพฤตกิ รรมของสตั วแ์ ตล่ ะชนดิ ก่อนที่จะไปรอ้ งเพลง 4. เมื่อนักเรยี นดูภาพแลว้ ครูใหน้ กั เรยี นชว่ ยกันอ่านเนือ้ เพลง 5. เมอื่ นักเรียนอา่ นเน้ือเพลงถูกต้องแลว้ ครเู ปิดเพลงใหน้ ักเรียนฟัง 6. นักเรยี นร่วมร้องเพลงเกยี่ วกับสัตว์ป่า (สม. 4.4 5.7) The monkey says Now all watch me The monkey says Look carefully. Can you do this? Can you do this? I can, I can’t We all can play! Who’s the monkey now? 5. เมอ่ื นกั เรยี นรอ้ งเพลงไดค้ ลอ่ งแคลว่ แลว้ ครใู หน้ กั เรยี นทกุ คนออกแบบทา่ ทางการเคลอ่ื นไหว ของสัตว์ปา่ ใหส้ อดคล้องกบั เนอ้ื เพลงทีไ่ ด้จากการฟัง (นกั เรียนแสดงทา่ ทางประกอบ) (สม. 5.7) 298รายงานผลการวิจยั และพฒั นากรอบสมรรถนะผู้เรียน ระดบั ประถมศกึ ษาตอนต้นสำ�หรบั หลักสูตรการศกึ ษาข้นั พนื้ ฐาน

ภาคผนวก ค. ขัน้ สรุป 6. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันสรุปเนอ้ื หาเกย่ี วกับเนอื้ หาของเพลงท่ีรอ้ ง และการบอกลกั ษณะของ สตั ว์ปา่ แตล่ ะชนิด ผลการดำ�เนนิ การสอน / ปัญหา / อปุ สรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ชว่ั โมงท่ี 5 ข้นั นำ�เข้าสบู่ ทเรยี น 1. ครกู ล่าวทกั ทายนกั เรยี น แลว้ ถามนักเรียนว่าใครเคยวาดรปู สัตวช์ นิดใดบ้าง โดยให้นักเรยี น บอกช่อื สตั วเ์ ป็นภาษาอังกฤษ 2. ครูแจ้งรายละเอียดเก่ียวกับเรอ่ื งทีจ่ ะเรยี นในวันนี้ ว่าจะเรยี นรเู้ กย่ี วกับอวยั วะของนก ขั้นกิจกรรมการเรยี นรู้ 3. ครอู ธบิ ายวา่ นกมอี วยั วะอะไรบา้ ง นกั เรยี นดภู าพประกอบ พรอ้ มออกเสยี งชอ่ื อวยั วะ (head, body, wings, tail, eye, feathers and beak) (ต 1.1 ป.2/2 2/3) 4. จากนั้นครูให้นักเรียนฟังเรื่องท่ีเกี่ยวกับข้ันตอนการวาดรูปนก (ในแผ่นซีดี) แลว้ หาคำ�ศพั ท์และรูปภาพ Can you draw a parrot? Listen. Start like this: draw a body, the head, the wings and the tail. Then draw the feather, the beak and the eye. Then color the feather red and green. Then color the beak, the face and the eye. ค�ำ ตอบ d, b, c, a 5. ครูสุ่มนักเรียนออกมาวาดรูปนกบนกระดาน โดยฟังคำ�สั่งจากครูและเพ่ือน โดยครจู ะพูดยกตัวอย่างเช่น draw the body จากนน้ั ครสู ุ่มให้นกั เรียนบางคนบอกให้เพือ่ นวาดรูป นก draw the…. 6. ครูให้นักเรียนอ่านประโยคท่ีเกี่ยวกับการบอกลักษณะของนกแก้ว ซ่ึงมีสีสัน ทแ่ี ตกตา่ งกันออกไปแลว้ หารูปภาพจากนน้ั ให้นกั เรยี นนำ�ตวั อกั ษร a-d เตมิ ทา้ ยประโยค 299รายงานผลการวิจัยและพฒั นากรอบสมรรถนะผู้เรยี น ระดบั ประถมศกึ ษาตอนต้นสำ�หรับหลักสูตรการศึกษาข้นั พื้นฐาน

ภาคผนวก ค. ขั้นสรปุ 7. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ ความรทู้ ไี่ ดใ้ นวนั นีโ้ ดยใหน้ กั เรยี นทำ�แบบฝกึ หดั เขยี นบอกอวยั วะ สว่ นต่าง ๆ ของนก แลว้ สรปุ การขนั้ ตอนการวาดรปู ผลการด�ำ เนินการสอน / ปญั หา / อุปสรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ชั่วโมงที่ 6 ขั้นนำ�เขา้ สู่บทเรียน 1. ครกู ลา่ วทกั ทายนกั เรยี น ครทู บทวนค�ำ ศพั ทโ์ ดยใหน้ กั เรยี นดบู ตั รภาพทเี่ กยี่ วกบั อวยั วะตา่ ง ๆ ของนก ไดแ้ ก่ head, tail, body, wings, feather and beak และให้นักเรียนพดู ออกเสยี ง จากน้นั ครูทบทวนข้ันตอนการวาดรูปของนก 2. ครชู แ้ี จงรายละเอียดกิจกรรมที่จะให้นักเรียนทำ�ในวันน้ี ซ่ึงเกีย่ วกับการวาดรูป ขัน้ กิจกรรมการเรียนรู้ 3. ครูแจกใบงาน My penguin คนละ 1 ใบงาน แลว้ ใหน้ ักเรียนวาด penguin และระบายสี ตามขั้นตอนการวาดรปู ทเี่ รียนในชวั่ โมงท่ี 5 (สม. 5.7) 4. เมอื่ นกั เรยี นวาดรปู ระบายสเี สรจ็ เรยี บรอ้ ยแลว้ ครใู หน้ กั เรยี นเขยี นบอกลกั ษณะของ penguin ของตนเอง เช่น - My penguin has got……, it’s got a black and white body. จากนั้นครใู หน้ กั เรียนฝกึ พูดกับเพ่ือนทเี่ ป็นค่ขู องตนเอง 5. เม่ือครูประเมินว่านักเรียนพูดได้แล้ว จากน้ันครูให้นักเรียนนำ�เสนอผลงานของตนเอง หนา้ ชน้ั เรียนจากใบงาน My penguin ขน้ั สรปุ 6. ครูและนักเรียนร่วมกนั สรุปส่งิ ทีไ่ ดเ้ รยี นรจู้ ากกจิ กรรมในวนั น้ี ผลการด�ำ เนนิ การสอน / ปญั หา / อปุ สรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… 300รายงานผลการวจิ ัยและพัฒนากรอบสมรรถนะผเู้ รยี น ระดับประถมศึกษาตอนตน้ ส�ำ หรบั หลกั สตู รการศกึ ษาข้นั พ้ืนฐาน

ภาคผนวก ค. ชั่วโมงที่ 7 ขัน้ น�ำ เขา้ สูบ่ ทเรยี น 1. คณุ ครกู ลา่ วทักทายนกั เรยี นแลว้ ทบทวนคำ�ศพั ท์เกีย่ วกบั สัตวป์ ่า จากน้ันช้ีแจงรายละเอยี ด เกี่ยวกับเนอ้ื หาทีจ่ ะเรยี นในวนั น้ี โดยนักเรียนจะฝกึ การอา่ นออกเสียงค�ำ ในระบบ phonics การตอบ คำ�ถาม ขน้ั กจิ กรรมการเรียนรู้ 2. ครูให้นกั เรียนอา่ นประโยคต่าง ๆ ดงั นี้ - Look at my monkey. It’s got a baby and a head - Now it’s got a face and ear. - Now it’s got arm and legs. - And now it’s finished! จากน้ันใหน้ กั เรียนเตมิ ตวั เลขให้ตรงกบั ความหมาย 3. จากนนั้ ครฝู กึ การออกเสยี ง (p และ g) โดยใหน้ กั เรยี นฟงั (ในแผน่ ซดี )ี ซงึ่ คณุ ครจู ะใชเ้ ทคนคิ การฝกึ ออกเสียงแบบค�ำ ศัพทม์ ีดงั น้ี phonic parrot penguin picture orange giraffe juggle (ต 1.1 ป.2/2) A parrot? A penguin? A penguin? A parrot? Is it picture of a penguin? or a picture of a parrot? The orange giraffe can juggle and jump. The orange giraffe can juggle and jump. The orange giraffe can juggle and jump. 4. เมื่อนักเรียนออกเสียงคำ�ศัพท์ท่ีขึ้นต้นด้วย P และ Q ได้ถูกต้องแล้ว คุณครูให้นักเรียน ดูภาพสัตว์ ให้นักเรียนบอกชื่อสัตว์แต่ละชนิดเป็นภาษาอังกฤษ ให้นักเรียนเลือกสัตว์ 1 ชนิด โดยบอกวา่ It can………. I can’t………… 5. จากน้ันให้นักเรียนอ่านตัวอย่างประโยคท่ีกำ�หนดให้ It can swim, It’s got a tail, It’s gray and white. I know! It’s a dolphin 6. เมือ่ คณุ ครูอธิบายเน้ือหาแลว้ คุณครใู หน้ กั เรยี นฟงั เรื่อง (แผน่ ซีด)ี และใหน้ กั เรยี นหาว่าเป็น สตั วช์ นิดใด (บอกเปน็ ตวั เลข) Boy : It can swim. It’s got a tail. It’s gray and white. Girl : I know! It’s a dolphin (8) Boy : Yes! your turn. Girl : It can run. It’s yellow. It’s got four leg. 301รายงานผลการวจิ ยั และพัฒนากรอบสมรรถนะผู้เรยี น ระดบั ประถมศึกษาตอนต้นสำ�หรับหลักสูตรการศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน

ภาคผนวก ค. Boy : I know! It’s a lion. (4) Girl : Yes! your turn. Boy : It can run. It’s got four leg. It’s black and white. Girl : I know! It’s a zebra. (3) Boy : Right! 7. เมื่อนกั เรียนฟังจาก (แผ่นซดี ี) แล้วคณุ ครูตง้ั ค�ำ ถามถามนกั เรยี นเพ่ิมเตมิ - It can run. It’s four legs. It’s grey and white. The answer is a rabbit.(1) - It can’t swim. It’s has long body. It’s brown, yellow and white. the answer is snake.(7) ขนั้ สรปุ 8. คุณครูและนกั เรยี นรว่ มกนั สรุปความร้ทู ไ่ี ด้เรียนในวันน้ี เกีย่ วกบั การอา่ นออกเสยี งคำ� และ การบอกลกั ษณะ ความสามารถของสตั วแ์ ตล่ ะชนิดทแี่ ตกต่างกนั ออกไป ผลการดำ�เนินการสอน / ปญั หา / อปุ สรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ชัว่ โมงที่ 8 ขัน้ นำ�เขา้ ส่บู ทเรยี น 1. คุณครูกลา่ วทักทายนกั เรียน ครทู บทวนความรเู้ ดมิ เรอ่ื ง can 2. ครูชี้แจงรายละเอยี ดเน้ือหาท่ีจะเรียนในวนั นี้ ขัน้ กิจกรรมการเรยี นรู้ 3. คณุ ครใู หน้ กั เรยี นดคู �ำ ในตารางทก่ี �ำ หนดมาให้ (หนงั สอื ) แลว้ ถามนกั เรยี นวา่ มคี �ำ วา่ อะไรบา้ ง (run, fly, swim, climb a tree) หลังจากนั้นถามชื่อสตั ว์ที่กำ�หนดมาใหว้ า่ มีสตั วช์ นิดใดบ้าง (zebra, dolphin, snake, penguin) 4. ครอู ธบิ ายขนั้ ตอนการท�ำ แบบฝกึ หดั จากนน้ั ใหน้ กั เรยี นฟงั เรอื่ ง (แผน่ ซดี )ี แลว้ ท�ำ แบบฝกึ หดั (จากเรือ่ งให้นกั เรียนกาถกู หรอื ผิด แลว้ บอกชอื่ สตั ว์) 1. Girl : Can it run? Boy : No. Girl : Can it fly? Boy : No. Girl : Can it swim? Boy: Yes. Girl : Can it climb a tree? Boy : Yes. 302รายงานผลการวิจัยและพัฒนากรอบสมรรถนะผูเ้ รียน ระดับประถมศึกษาตอนต้นสำ�หรับหลกั สตู รการศึกษาข้นั พืน้ ฐาน

ภาคผนวก ค. 2. Boy : Can it climb a tree? Girl : No. Boy : Can it fly? Girl : No. Boy : Can it run? Girl : Yes. Boy : Can it swim? Girl : yes. 3. Girl : Can it fly? Boy : No. Girl : Can it swim? Boy : Yes. Girl : Can it climb a tree? Boy : No. Girl : Can it run? Boy : No. 4. Boy : Can it swim? Girl : Yes. Boy : Can it fly? Girl : No. Boy : Can it run? Girl : Yes. Boy : Can it climb a tree? Girl : No. 5. เมอื่ นกั เรยี นฟงั และเขยี นชอ่ื สตั วแ์ ลว้ คณุ ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั พดู คยุ เกยี่ วกบั สตั วแ์ ละความ สามารถของสตั ว์ เช่น Number 1 is a snake. It can’t run (x), It can’t swim (x), It can climb a tree. 6. จากน้ันคุณครูใหน้ ักเรยี นท�ำ แบบฝึกหดั โดยใหน้ กั เรียนเลือกประโยคในกลอ่ งข้อความ (It’s yellow and brown. It can run. It can fly. It’s a giraffe. It’s a parrot. It’s red yellow and green. It can fly. it can’t swim. มาเติมให้ตรงกับภาพสตั ว์ parrot และ giraffe 7. เมอ่ื นกั เรยี นเลอื กประโยคไปเตมิ แลว้ ใหน้ กั เรยี นระบายสภี าพสตั วใ์ หต้ รงกบั ทนี่ กั เรยี นเขยี น ประโยค 8. คุณครูให้นักเรียนดูภาพ คุณครูถามนักเรียนว่าเป็นสัตว์ชนิดใด ให้นักเรียนบอกเป็นภาษา องั กฤษมีอวยั วะสว่ นใดบ้าง ให้นกั เรียนอ่านประโยคแลว้ เตมิ ตวั เลขให้ตรงกบั ภาพ ขั้นสรุป 9. คุณครูให้นกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ เรอ่ื งท่เี รยี นในวนั น้ี ผลการด�ำ เนินการสอน / ปญั หา / อุปสรรค ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 303รายงานผลการวจิ ยั และพัฒนากรอบสมรรถนะผ้เู รียน ระดับประถมศึกษาตอนตน้ สำ�หรบั หลักสตู รการศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐาน

ภาคผนวก ค. 5. การวัดและประเมินผล 5.1 ประเมินทกั ษะการ ฟัง พดู อา่ น เขยี น - ประเมนิ การฟังจากในหนังสอื แบบฝึก Activitybook 2 - ประเมินการพูด จากการสนทนากับครูและเพื่อนในระหว่างการเรียนและการนำ�เสนอ ใบงาน My penguin - ประเมนิ การอ่าน จากเน้ือเร่อื ง At the wildlife park - ประเมินการเขยี น จากการท�ำ แบบฝกึ หัด Activitybook 2 6. สือ่ /แหลง่ การเรียนรู้ 6.1 ส่อื การเรียนรู้ - หนังสอื Incredible Classbook 2 และ Incredible Activitybook 2 - บัตรภาพ - ซดี ี 6.2 แหล่งการเรยี นรู้ - หอ้ งกิจกรรมการเรยี นรู้ ตวั อย่างแผนการจดั การเรียนรจู้ ากโรงเรียนบ้านขอบด้ง จ.เชียงใหม่ แบบแผนในการออกแบบการเรยี นร้ฐู านสมรรถนะ ระดับชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 3 ชอื่ หนว่ ย ยาเสพติด ระยะเวลาในการสอน 2 สปั ดาห์ บรู ณาการสาระ กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ งั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม กลมุ่ สาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตร ์ กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ขุ ศึกษาและพลศกึ ษา กลมุ่ สาระการเรียนร้กู ารงานอาชพี และเทคโนโลยี และกลุ่มสาระการเรียนรศู้ ิลปะ ประเด็นส�ำ คัญปัจจบุ นั สมรรถนะหลัก คำ�ถามส�ำ คัญ สาระความรใู้ นศาสตร์ (Current Local/ (Core Competencies) (Key Questions) สาขาต่าง ๆ National & Global Issues) (Subject/Discipline Area) ยาเสพตดิ  ภาษาไทยเพอ่ื การสื่อสาร  รู้จักและปกป้องตนเอง  กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษา  การสบื สอบทางวทิ ยาศาสตร์ จากยาเสพตดิ ไทย และจติ วทิ ยาศาสตร์  ยาเสพตดิ หมายถงึ อะไร  กลุ่มสาระการเรียนรู้  การรู้เทา่ ทันส่อื สารสนเทศ  นักเรียนรู้ประวัติความ สังคมศึกษา ศาสนา และ และดจิ ทิ ลั เป็นมาของยาเสพติด วฒั นธรรม  การเป็นพลเมืองท่ีเข้มแข็ง/ หรอื ไม่ อย่างไร  กลุ่มสาระการเรียนรู้ ตน่ื รูท้ ี่มสี ำ�นกึ สากล  ยาเสพตดิ มกี ีป่ ระเภท วิทยาศาสตร์  การท�ำ งานแบบรวมพลงั เปน็  โทษของยาเสพตดิ มอี ะไร  กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ขุ ศกึ ษา ทีม และมภี าวะผู้น�ำ บา้ ง และพลศึกษา  ทักษะชีวิตและความเจริญ  นกั เรยี นจะมวี ธิ ปี อ้ งกนั ตวั  กลมุ่ สาระการเรยี นรกู้ ารงาน แห่งตน เองจากยาเสพตดิ อยา่ งไร อาชีพและเทคโนโลยี  ทักษะการคิดขั้นสูง และ  นกั เรยี นจะปกปอ้ งชมุ ชน  กลมุ่ สาระการเรียนรู้ศิลปะ นวัตกรรม จากยาเสพตดิ อย่างไร 304รายงานผลการวิจยั และพัฒนากรอบสมรรถนะผ้เู รยี น ระดับประถมศึกษาตอนตน้ สำ�หรับหลกั สตู รการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน

ภาคผนวก ค. ผลการเรียนรู้ ประสบการณก์ ารเรียนรู้เสนอแนะ เน้อื หาสาระ (CONTENT) (LEARNING OUTCOME /SPECIFIC (SUGGESTED LEARNING EXPERIENCE) COMPETENCIES) ภาษาไทยเพ่อื การสื่อสาร ตอนที่ 1 ยาเสพตดิ และการปอ้ งกันตัวเองจาก ความรู้ Knowledge ยาเสพติด (ระยะเวลา 10 ช่วั โมง) คําถามสําคญั 1. ดูภาพยนตรส์ ั้น และ ทําความเขา้ ใจ  ดูภาพยนตร์สัน้ เรอ่ื ง คดิ ผดิ คิดใหม่ กลุม่ สาระการเรียนรูภ้ าษาไทย โดยใช้ประสบการณเ์ ดมิ เกย่ี วกบั คํา  เด็ก ๆ เห็นอะไรจากการชมภาพยนตร์สั้น (ท 1.1 ป.3/2 ป.3/3 ป.3/5 ท 2.1 ป.3/2) และประโยคเพอ่ื ใหต้ นมคี วามรคู้ วาม เร่ือง “คิดผิด คดิ ใหม”่ กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ งั คมศกึ ษา ศาสนา เขา้ ใจผอู้ น่ื เพลิดเพลินจากการฟงั ดู  เดก็ ๆ คดิ วา่ ปญั หาทเ่ี กดิ ขนึ้ ในภาพยนตรส์ นั้ และวฒั นธรรม คิดพิจารณาก่อนตัดสินใจเชื่อส่ิงท่ี เรอื่ งนเ้ี กิดจากอะไร (ส 2.1 ป.3/2) ได้รบั รู้  นกั เรียนรู้จักยาเสพติดหรอื ไมอ่ ยา่ งไร กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ 2. พูด เล่าเรื่อง และตอบคําถามหลัง  นกั เรียนสบื คน้ ข้อมูลยาเสพติด (ว 3.1 ป.3/2) จากการดภู าพยนตรส์ น้ั ไดต้ รงความ  ยาเสพติดหมายถึง กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและ หมาย ชดั เจน มเี หตผุ ล ถกู กาลเทศะ  นกั เรยี นร้ปู ระวัติความเป็นมาของยาเสพตดิ พลศึกษา มมี ารยาท และ ถกู ตอ้ งตามอกั ขรวธิ ี หรอื ไม่ อยา่ งไร (พ 5.1 ป.3/1) จากแบบแผนท่ีถูกต้องและสร้าง  ยาเสพติดมกี ีป่ ระเภท กลมุ่ สาระการเรยี นรกู้ ารงานอาชพี และ ประโยค ใหม่ ๆ ทีย่ ากขึน้ อย่างคอ่ ย  โทษของยาเสพติดมอี ะไรบา้ ง เทคโนโลยี เปน็ ค่อยไป  นกั เรียนจะมวี ธิ ปี อ้ งกันตวั เองจากยาเสพตดิ (ง 1.1 ป.3/1) 3. ใชภ้ าษาเชญิ ชวนใหช้ มุ ชนเหน็ ถงึ โทษ อย่างไร กลมุ่ สาระการเรียนร้ศู ิลปะ ของยาเสพตดิ โดยการ ใชป้ ระสบการณ์  นกั เรยี นจะปกปอ้ งชมุ ชนจากยาเสพตดิ อยา่ งไร (ศ 1.1 ป.3/10) และความรู้ทีไ่ ดร้ บั จากการเรยี น ตง้ั คาํ ถามและตอบคาํ ถามจากภาพยนตร์ 4. พูด อ่าน และเขียนภาษาไทยด้วย สนั้ เร่ืองคิดผิดคิดใหม่ ความสนกุ และภมู ิใจ โดย ใช้ความรู้ การสบื ค้นข้อมลู เก่ยี วกับยาเสพติด ทม่ี อี ยเู่ ดมิ ในการพดู อา่ น และเขยี น บอกความหมาย ประวตั ิ ประเภท โทษ เพอ่ื เพมิ่ ประสบการณท์ างภาษาและ และการป้องกนั ตวั จากยาเสพตดิ ความมัน่ ใจ ตงั้ คาํ ถามและตอบคาํ ถามจากเรอื่ งทอ่ี า่ น การสือ่ สารอย่างชาญฉลาด การสืบสอบทางวิทยาศาสตร์และ จติ วิทยาศาสตร์ 1. ตงั้ คาํ ถามสาํ คญั เกย่ี วกบั เรอื่ งทเ่ี รยี น ไดอ้ ยา่ งมเี หตผุ ลและ สมั พนั ธก์ บั เรอ่ื ง ทีเ่ รียน 2. วางแผนในการหาข้อมูล เพ่ือตอบ คําถามท่ีสงสัย 3. นาํ เสนอผลการจดั กระทาํ ขอ้ มลู เปน็ ทเ่ี ขา้ ใจ อภปิ รายผล และสรปุ ผลดว้ ย แผนภาพประกอบขอ้ ความ 4. ออกแบบปา้ ยรณรงค์ โดยใชค้ วามรู้ พนื้ ฐานดว้ ยความ พยายาม และมงุ่ มน่ั ผ่านขั้นตอนการระบุวัสดุอุปกรณ์ ทเ่ี หมาะสม 305รายงานผลการวจิ ัยและพัฒนากรอบสมรรถนะผเู้ รียน ระดบั ประถมศึกษาตอนต้นสำ�หรบั หลักสูตรการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน

ภาคผนวก ค. ผลการเรยี นรู้ ประสบการณก์ ารเรยี นรูเ้ สนอแนะ เนอ้ื หาสาระ (CONTENT) (LEARNING OUTCOME /SPECIFIC (SUGGESTED LEARNING EXPERIENCE) COMPETENCIES) การรเู้ ทา่ ทันส่ือ สารสนเทศ และดิจิทลั ตอนที่ 2 ทําปา้ ยรณรงคป์ อ้ งกนั ยาเสพตดิ ทักษะ Skills 1. เลอื กเน้ือหาท่ีมปี ระโยชนท์ ไ่ี ด้จาก (ระยะเวลา 6 ช่วั โมง) กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย สอ่ื สารสนเทศ ไปใช้ในชวี ิตประจําวัน คําถามสําคัญ (ท 3.1 ป.3/1 ป.3/2 ป.3/3 ใหเ้ กิดประโยชนก์ บั ตนเอง และ  วางแผนการทาํ ปา้ ยรณรงคป์ อ้ งกนั ยาเสพตดิ ป.3/4 ป.3/5 ป.3/6 ท 4.1 ป.3/5) ครอบครวั  นาํ ความร้จู ากการเรยี นมาสรปุ ส่งิ ทจี่ ะเขยี น กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา 2. เลอื กข้อมูล สร้างขอ้ มูล สรา้ งสือ่ ในแบบ ลงในป้ายรณรงค์ ศาสนา และวฒั นธรรม ฉบับของตนเองได้ แลว้ ส่อื สารโดยคาํ นงึ  ออกแบบปา้ ยรณรงค์ปอ้ งกันยาเสพตดิ (ส 2.1 ป.3/1) ผลที่เกดิ ขึ้นตอ่ ตนเองและผอู้ นื่  จดั ทาํ ป้ายรณรงค์ป้องกันยาเสพตดิ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ (ว 8.1 ป.3/2 ป.3/2 ป.3/3 ตอนที่ 3 รณรงค์ปอ้ งกันยาเสพตดิ (ระยะเวลา ป.3/6 ป.3/8) การเปน็ พลเมอื งทเี่ ขม้ แขง็ /ตนื่ รทู้ ม่ี สี ํานกึ สากล 2 ชว่ั โมง) กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ขุ ศกึ ษาและ 1. ปฏบิ ตั ติ ามบทบาทและหนา้ ทท่ี ร่ี บั ผดิ ชอบ  คาํ ถามสาํ คัญ พลศกึ ษา ต่อครอบครวั ชนั้ เรยี น โรงเรยี น และ  นกั เรียนจะมีสว่ นรว่ มปกป้องคนในชมุ ชน (พ 5.1 ป.3/2) ชมุ ชนได้อยา่ งเหมาะสม ในฐานะที่เป็น จากปญั หายาเสพติดอย่างไรบ้าง กลมุ่ สาระการเรยี นรกู้ ารงานอาชพี สมาชิกของชุมชน  เดินรณรงคป์ อ้ งกนั ยาเสพตดิ และนาํ ป้ายที่ และเทคโนโลยี 2. รว่ มกบั ผอู้ ืน่ แสวงหาทางออกอย่างเปน็ จัดทาํ ขึ้นติดไวท้ ีก่ ระดานความรู้ในโรงเรยี น (ง 1.1 ป.3/2 ง 2.1 ป.3/1 ง 3.1 เหตุเปน็ ผล เมื่อเผชิญกบั ปญั หา ความ และชมุ ชน ป.3/1) ขัดแยง้ หรอื มคี วามเหน็ ไม่ตรงกัน กลุ่มสาระการเรียนรศู้ ลิ ปะ 3. มสี ่วนร่วมในกิจกรรมจิตอาสา หรอื (ศ 1.1 ป.3/6) แกไ้ ขปญั หาสว่ นรวมทเ่ี หมาะสมตามวยั  แต่งบทความรณรงค์ต่อต้าน ยาเสพติด การทํางานแบบรวมพลัง เป็นทมี การวดั และประเมนิ ผล (ระยะเวลา 2 ชั่วโมง)  ออกแบบป้ายรณรงค์ และ และมีภาวะผู้นํา  นักเรยี นได้รับความร้แู ละประสบการณ์อะไร เลอื กใช้วัสดุท่เี หมาะสม 1. ใหข้ ้อมลู แลกเปลย่ี นความคิดกาํ หนด บ้างจากการเรยี นและทํากิจกรรมหน่วย  จดั ทาํ และตกแตง่ ปา้ ยรณรงค์ เปา้ หมายรว่ มกนั ทาํ งานรว่ มกันตาม บรู ณาการยาเสพติด ตอ่ ตา้ นยาเสพติด บทบาทท่ไี ดร้ ับมอบหมายท้ังการ  การคิด การออกแบบ และ เปน็ ผ้นู ําจูง ใจใหผ้ ้อู ่นื ปฏิบัติงานตาม การวางแผนการทํางาน เป้าหมาย และปฏิบตั หิ นา้ ที่ในฐานะ  การคิดสร้างสรรค์ สมาชิกกลุ่มด้วยความรบั ผิดชอบ  การทาํ งานร่วมกบั ผอู้ ื่น อย่างไวว้ างใจกัน เพอ่ื บรรลุ เป้าหมาย  การใชค้ าํ ถามและตอบคาํ ถาม ทกี่ ําหนดรว่ มกัน  การสอื่ สารใหผ้ อู้ นื่ เขา้ ใจอยา่ ง 2. รับฟังความคดิ เห็นอย่างต้ังใจ เพื่อให้ ชาญฉลาด เกดิ ความเขา้ ใจอยา่ งแทจ้ รงิ  การเปน็ ผนู้ าํ ผตู้ ามและเคารพ 3. ประสานความคดิ ปรับตัว สรา้ งความ ผู้อนื่ เขา้ ใจเพอื่ ความสุขใน การทํางาน เล่น เจตคต/ิ คณุ ลกั ษณะ (attribute/ และอยรู่ ่วมกัน attitude) กลุม่ สาระการเรียนรูภ้ าษาไทย (ท 1.1 ป.3/9 ท 2.1 ป.3/6 ท 3.1 ป.3/6 ท 4.1 ป.3/6) กลมุ่ สาระการเรยี นรกู้ ารงานอาชพี และเทคโนโลยี 306รายงานผลการวจิ ยั และพัฒนากรอบสมรรถนะผเู้ รยี น ระดบั ประถมศึกษาตอนต้นสำ�หรับหลกั สตู รการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน

ภาคผนวก ค. ผลการเรียนรู้ ประสบการณก์ ารเรียนรูเ้ สนอแนะ เน้อื หาสาระ (CONTENT) (LEARNING OUTCOME /SPECIFIC (SUGGESTED LEARNING EXPERIENCE) เนื้อหาสาระเสนอแนะ Suggested content COMPETENCIES) การวัดและประเมินผลเสนอแนะ Suggested Assessment Formative สงั เกต สมั ภาษณ์ ต้ังค�ำ ถามเพอ่ื ทดสอบความรู้ ความเขา้ ใจ ระหวา่ งการทำ�งานในแตล่ ะขน้ั ตอน เพ่ือแก้ปัญหา กระตุ้น และต่อยอดความรู้ ความเข้าใจของนักเรียน ทักษะการคิดข้ันสูง และ นวตั กรรม ทักษะชวี ติ และความเจริญแห่งตน การทำ�งานแบบรวมพลัง เป็นทีม และมภี าวะผ้นู �ำ การเป็นพลเมอื งทีเ่ ข้มแขง็ /ต่ืนรูท้ ี่มสี ำ�นกึ สากล Summative 1. สะทอ้ นคิด และสะทอ้ นผลเพอื่ ประเมินการทำ�งาน และผลงาน โดยระบสุ ิง่ ที่ท�ำ ไดด้ ี ส่ิงที่ ควรพฒั นา พร้อมหลกั ฐานอ้างอิง หรือเหตกุ ารณท์ เี่ กดิ ขนึ้ จริงจากกระบวนการท�ำ งานของตนเอง และกล่มุ 2. ท�ำ ปา้ ยรณรงคป์ อ้ งกนั ยาเสพตดิ โดยใชป้ ระสบการณแ์ ละความรทู้ ไ่ี ดร้ บั จากการเรยี นหนว่ ย การเรียนรู้ของตนมาประกอบ และนำ�ปา้ ยที่ท�ำ ขน้ึ มาเผยแพร่ใหแ้ กช่ ุมชน แหลง่ การเรียนร้เู สนอแนะ Suggested Resource - คลปิ วิดีโอจากอนิ เทอร์เนต็ - ภาพยนตร์เรือ่ งสน้ั “คดิ ผิดคดิ ใหม่” - บคุ ลากรในโรงเรียน - สง่ิ แวดลอ้ มในโรงเรยี น สมรรถนะของผู้เรยี น - ภาษาไทยเพอ่ื การสื่อสาร - การสืบสอบทางวิทยาศาสตรแ์ ละจิตวทิ ยาศาสตร์ - การรู้เท่าทนั สื่อ สารสนเทศ และดิจทิ ลั - การเปน็ พลเมืองทีเ่ ข้มแขง็ /ตน่ื รูท้ ่ีมีส่วนรว่ มและสํานกึ สากล - การทํางานแบบรวมพลงั เป็นทมี และมีภาวะผ้นู ํา - ทกั ษะชวี ิตและความเจริญแห่งตน - ทกั ษะการคิดขัน้ สูง และนวัตกรรม ตวั ชวี้ ัด ท 1.1 ป.3/2 อธิบายความหมายของคําและขอ้ ความทอ่ี ่าน ท 1.1 ป.3/3 ต้งั คําถามและตอบคําถามเชิงเหตผุ ลเกย่ี วกับเร่ืองทีอ่ า่ น ท 1.1 ป.3/2 สรุปความรแู้ ละข้อคิดจากเรื่องทอี่ ่านเพอื่ นําไปใชใ้ นชวี ติ ประจําวัน ท 3.1 ป.3/1 เลา่ รายละเอยี ดเกี่ยวกบั เรอื่ งท่ฟี ังและดูทัง้ ทีเ่ ป็นความรูแ้ ละความบนั เทิง ท 3.1 ป.3/2 บอกสาระสําคญั จากการฟงั และการดู ท 3.1 ป.3/3 ต้งั คําถามและตอบคําถามเก่ียวกับเรือ่ งที่ฟงั และดู 307รายงานผลการวิจัยและพัฒนากรอบสมรรถนะผู้เรียน ระดับประถมศกึ ษาตอนตน้ สำ�หรับหลกั สูตรการศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน

ภาคผนวก ค. ท 3.1 ป.3/4 พูดแสดงความคิดเหน็ และแสดงความรูส้ ึกจากเรอ่ื งทีฟ่ ังและดู ท 3.1 ป.3/5 พดู สอ่ื สารได้ชัดเจนตรงตามวัตถปุ ระสงค์ ท 3.1 ป.3/6 มมี ารยาทในการฟงั การดู และการพดู ท 4.1 ป.3/5 แตง่ คําคลอ้ งจองและคําขวัญ ส 2.1 ป.3/1 สรุปประโยชน์และปฏิบัติตนตามประเพณีและวัฒนธรรมในครอบครัวและ ทอ้ งถน่ิ ส 21 ป.3/2 บอกพฤตกิ รรมการดําเนินชีวติ ของตนเองและผ้อู ่นื ทอี่ ยใู่ นกระแสวฒั นธรรม ท่หี ลากหลาย ว 3.1 ป.3/2 อธิบายการใชป้ ระโยชน์ของวสั ดแุ ตล่ ะชนิด ว 8.1 ป.3/1 ต้งั คําถามเกี่ยวกบั เร่อื งท่จี ะศกึ ษาตามทก่ี ําหนดให้และความสนใจ ว 8.1 ป.3/2 วางแผนการสังเกต เสนอวิธสี ํารวจตรวจสอบ ศกึ ษาคน้ คว้า โดยใชค้ วามคิด ของตนเอง ของกลมุ่ และคาดการณส์ ่งิ ท่ีจะพบจากการสํารวจตรวจสอบ ว 8.1 ป.3/3 เลอื กใชว้ สั ดอุ ปุ กรณ์ เครอ่ื งมอื ทเี่ หมาะสมในการสํารวจตรวจสอบ และบนั ทกึ ข้อมูล ว 8.1 ป.3/6 แสดงความคิดเหน็ และรวบรวมขอ้ มลู จากกล่มุ นําไปส่กู ารสร้างความรู้ ว 8.1 ป.3/8 นําเสนอจัดแสดงผลงานโดยอธิบายด้วยวาจา และเขียนแสดงกระบวนการ และผลของงานให้ ผู้อนื่ เขา้ ใจ พ 5.1 ป.3/1 ปฏบิ ัติตนเพ่อื ความปลอดภยั ในชวี ิต พ 5.1 ป.3/2 แสดงวิธีขอความช่วยเหลอื จากบุคคลและแหลง่ ต่าง ๆ เม่อื เกิดเหตรุ า้ ย ง 1.1 ป.3/1 อธิบายวิธีการและประโยชน์การทํางานเพ่ือช่วยเหลือตนเอง ครอบครัว และส่วนรวม ง 1.1 ป.3/2 ใชว้ สั ดุ อุปกรณแ์ ละเคร่ืองมือตรงกบั ลกั ษณะงาน ง 1.1 ป.3/3 ทํางานอย่างเป็นขั้นตอนตามกระบวนการทํางานด้วยความสะอาด ความรอบคอบและอนุรักษ์สิง่ แวดลอ้ ม ง 2.1 ป.3/1 สร้างของเลน่ ของใช้อยา่ งง่ายโดยกําหนดปญั หาหรือความตอ้ งการ รวบรวม ขอ้ มูล ออกแบบ โดยถา่ ยทอดความคิดเป็นภาพรา่ ง 2 มิติ ลงมือสร้างและ ประเมนิ ผล ง 3.1 ป.3/1 ค้นหาข้อมลู อย่างมีขนั้ ตอนและนําเสนอขอ้ มลู ในลกั ษณะตา่ ง ๆ ศ 1.1 ป.3/6 วาดภาพถ่ายทอดความคิดความรู้สึกจากเหตุการณ์ชีวิตจริง โดยใช้เส้น รูปร่าง รปู ทรง สี และพ้ืนผิว ศ 1.1 ป.3/8 ระบสุ ง่ิ ทีช่ ่ืนชมและสงิ่ ทคี่ วรปรับปรงุ ในงานทัศนศลิ ปข์ องตนเอง ศ 1.1 ป.3/10 บรรยายลักษณะรูปร่าง รูปทรง ในงานการออกแบบส่ิงต่าง ๆ ท่ีมีในบ้าน และโรงเรยี น 308รายงานผลการวิจยั และพัฒนากรอบสมรรถนะผ้เู รียน ระดบั ประถมศึกษาตอนตน้ ส�ำ หรบั หลักสูตรการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน

ภาคผนวก ค. ตัวอยา่ งแผนการจดั การเรียนรู้ จากโรงเรยี นเทพศริ ินทร์ 9 โครงการหลวง ในพระบรมราชปู ถัมภ์ แบบแผนในการออกแบบการเรียนรเู้ นน้ สมรรถนะระดับชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 3 ชอ่ื หน่วย ฉลาดซื้อ ฉลาดใช้ ระยะเวลาในการสอน : 2 สปั ดาห์ (8-10 คาบ) บูรณาการสาระ กลมุ่ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย คณิตศาสตร์ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม การงานอาชีพและเทคโนโลยีกลุม่ สาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา ศิลปะ ประเดน็ สําคัญปจั จุบนั สมรรถนะหลกั คําถามสําคญั สาระความรใู้ นศาสตร์ (Current Local/ (Core Competencies) (Key Questions) สาขาตา่ ง ๆ Nation&global issues) (Subject/Discipline Area) การรบั ประทานอาหารและการ • ภาษาไทยเพอ่ื การสือ่ สาร • เราควรรับประทานอาหาร • กลมุ่ สาระภาษาไทย ซอ้ื ของทไี่ มม่ ีประโยชน์ • คณิตศาสตร์ในชวี ติ ประจาํ วัน ก่อนมาโรงเรียนหรือไม่ • กล่มุ สาระคณิตศาสตร์ • ทักษะชีวิตและความเจริญ เพราะเหตใุ ด • กลมุ่ สาระสงั คมศกึ ษา ศาสนา แห่งตน • เพราะอะไร ในแต่ละวัน และวฒั นธรรม • ทักษะอาชีพและการเป็น เราต้องรับประทานอาหาร • กลุ่มสาระการเรยี นร้ศู ลิ ปะ ผูป้ ระกอบการ ให้ครบทงั้ 3 มื้อ • กลมุ่ สาระการงานอาชพี และ • การทํางานแบบรวมพลัง • อาหารหรือขนมท่ีนักเรียน เทคโนโลยี เปน็ ทมี และมีภาวะผูน้ าํ ชอบรับประทานคืออะไร • กลุ่มสาระสุขศึกษาและ • การใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการ มีส่วนประกอบอะไรบา้ ง พลศึกษา สอ่ื สาร • ชมคลิปอาหารหลกั 5 หมู่ • กลมุ่ สาระภาษาต่างประเทศ • ทักษะการคิดข้ันสูงและ • นกั เรยี นมหี ลกั ในการเลอื กซอื้ • กล่มุ สาระภาษาไทย นวตั กรรม อาหารหรือขนมอย่างไรจึง • กลมุ่ สาระคณิตศาสตร์ • พลเมืองท่ีเข็มแข็ง/ตื่นรู้ที่มี จะเกดิ ประโยชนต์ อ่ รา่ งกาย • กลมุ่ สาระสงั คมศกึ ษา ศาสนา สาํ นกึ สากล • นกั เรยี นไดร้ บั เงนิ มาโรงเรยี น และวฒั นธรรม • การสบื สอบทางวทิ ยาศาสตร์และ วันละก่ีบาท • กล่มุ สาระการเรยี นรศู้ ิลปะ จติ วิทยาศาสตร์ • หากเงินเหลือในแต่ละวัน • กลมุ่ สาระการงานอาชพี และ • การรู้เท่าทันสื่อสารสนเทศ จะทาํ อยา่ งไร เทคโนโลยี และดจิ ิทลั • ชมคลิปการ์ตูนเศรษฐกิจ • กลุ่มสาระสุขศึกษาและ พอเพยี ง พลศกึ ษา • นักเรียนจะปรับพฤติกรรม • กลมุ่ สาระภาษาต่างประเทศ การใชจ้ า่ ยอยา่ งไรใหเ้ หมาะ สมและคุ้มคา่ กับตนเอง • นักเรียนรู้จักบันทึกรายรับ- รายจ่ายหรือไม่ เหตุใดต้อง ทาํ บนั ทกึ รายรับ-รายจ่าย • บันทึกรายรับ-รายจ่าย มีประโยชนอ์ ยา่ งไร 309รายงานผลการวิจยั และพัฒนากรอบสมรรถนะผ้เู รียน ระดับประถมศกึ ษาตอนตน้ ส�ำ หรับหลกั สูตรการศกึ ษาข้ันพนื้ ฐาน

ภาคผนวก ค. ผลการเรียนรู้ ประสบการณก์ ารเรียนรเู้ สนอแนะ เนือ้ หาสาระ (Learning outcome/ (Suggested Learning Experience) (Content) specific competencies) ตอนท่ี 1 รบั ประทานอยา่ งไรใหม้ ปี ระโยชน์ ความรู้ Knowledge ภาษาไทยเพอื่ การส่ือสาร (ระยะเวลา 1 สปั ดาห์) กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย 1. พูด เล่าเร่ืองและตอบคําถามได้ คําถามสําคัญ: (ท 2.1 ป.3/3 ท 3.1 ป.3/4 ป.3/5) ตรงความหมาย ชัดเจน มีเหตุผล • เราควรรบั ประทานอาหารกอ่ นมาโรงเรยี น กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ถกู กาลเทศะ มมี ารยาทและถกู ตอ้ งตาม (ค 2.2 ป.3/1 ป.3/2) อักขรวิธีจากแบบแผนท่ีถูกต้องและ หรอื ไม่ เพราะเหตใุ ด กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ งั คมศกึ ษา ศาสนา สร้างประโยคใหมๆ่ ท่ี ยากขนึ้ อยา่ ง • เพราะอะไร ในแตล่ ะวนั เราตอ้ ง และวฒั นธรรม ค่อยเปน็ ค่อยไป • รับประทานอาหารให้ครบทง้ั 3 มอื้ (ส 3.1 ป.3/1 ป.3/2) 2. พูด อ่านและเขียนภาษาไทยด้วย • อาหารหรอื ขนมทน่ี กั เรยี นชอบรบั ประทาน กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศ ความสนุกและภูมิใจ โดยใช้ความรู้ (ต 1.1 ป.3/1) เพม่ิ ในการพดู อา่ นและเขยี นเพอื่ เพมิ่ คอื อะไร มสี ว่ นประกอบอะไรบ้าง กลมุ่ สาระการเรยี นรกู้ ารงานอาชพี และ ประสบการณ์ทางภาษาและความ • กระตนุ้ ความสนใจของผเู้ รยี นดว้ ยการให้ เทคโนโลยี มั่นใจ (ง 1.1 ป.3/1) คณติ ศาสตรใ์ นชวี ิต ประจําวนั นกั เรยี นดภู าพอาหาร/ขนม/เครอ่ื งดมื่ ที่ กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา 1. คดิ ในใจอยา่ งคลอ่ งแคลว่ วอ่ งไว แมน่ ยาํ มีขายทว่ั ไปตามรา้ นคา้ หรือร้านอาหาร (พ 1.1 ป.3/3 พ 4.1 ในการบวก ลบ คณู หาร รวมทั้งคิด • ครใู หน้ ักเรยี นบอกชื่ออาหาร ขนมและ ป.3/2) กลุ่มสาระการเรยี นรู้ศิลปะ หาวิธีการแก้ปัญหาและคําตอบที่ เครื่องดื่มในภาพโดยบอกเป็นคําศัพท์ (ศ 1.1 ป.3/1) หลากหลายจากสถานการณท์ กี่ าํ หนดให้ ภาษาอังกฤษ ฝึกอ่านช่ืออาหารและ ภาษาอังกฤษเพื่อการสอื่ สาร เขียนลงในใบงานที่ครแู จกให้ 1. ฟงั หรอื อา่ นเขา้ ใจคาํ ศพั ท์ วลี ประโยค • ใหน้ กั เรยี นเขยี นบอกชอ่ื อาหาร ขนมและ สั้น ๆ รวมไปถึงคําส่ังท่ีใช้บ่อย ๆ เคร่ืองด่ืมท่ีตนชอบ พร้อมบอกเหตุผล ในสถานการณ์ที่คุ้นเคยไม่ว่าจะเป็น ที่ชอบ และสว่ นประกอบของอาหารลง ภาษาพดู และภาษาเขยี น ในใบงานท่ีครูแจกให้ 2. สามารถใช้คําศัพท์ วลีสั้น ๆ และ สํานวนที่ใช้ในการสื่อสารเรื่องราว ในชวี ติ ประจาํ วนั เพอื่ สอื่ สาร บรรยาย ข้อมูลส่วนบุคคล สี ตัวเลขพื้นฐาน สงิ่ ของพน้ื ฐาน กจิ วตั ร ประจาํ วนั ฯลฯ ทกั ษะอาชพี และการเปน็ ผปู้ ระกอบการ หลักการเลือกซือ้ • การรบั ประทานอาหารทมี่ ปี ระโยชน์ 1. ใช้เงนิ อย่างพอดี มีเหตุผล มกี ารเก็บ คําถามสาํ คญั : • หลกั ในการเลือกซือ้ อาหาร • นกั เรยี นมหี ลกั ในการเลอื กซอื้ อาหารหรอื • เงิน ออมอย่างเหมาะสม • การส่ือสารทม่ี ีประสิทธิภาพ ทักษะชีวติ และความเจรญิ แหง่ ตน ขนมอยา่ งไรใหเ้ กดิ ประโยชนต์ อ่ รา่ งกาย • การบันทึกรายรับ-รายจ่าย 1. เลือกกินเลอื กใชอ้ ย่างพอดีและ • ครูให้นักเรียนทบทวนชื่ออาหาร ขนม • การเกบ็ ออม • ภาษาไทยมาตรฐาน มปี ระโยชน์กบั ตน เคร่ืองด่ืม เป็นภาษาไทยกลาง ภาษา • ภาษาถ่นิ 2. กาํ หนดเปา้ หมายในการทาํ งานตา่ ง ๆ องั กฤษ และภาษาท้องถ่นิ • คาํ ภาษาตา่ งประเทศทใ่ี ชใ้ นภาษาไทย • ให้นักเรียนจับคู่ตามความพอใจและ ในชีวิต ประจําวัน และดําเนินงาน แสดงบทบาทสมมตผิ ลดั เปลยี่ นกนั เปน็ จนสาํ เร็จ ผู้ซ้อื และผู้ขาย โดยใชบ้ ทสนทนาส้นั ๆ การรูเ้ ท่าทันสอ่ื สารสนเทศและดจิ ิทัล เป็นภาษาไทยกลางและภาษาอังกฤษ 1. ร้จู ักและเลือกใช้เคร่อื งมือและแหลง่ ภาษาท้องถิ่นโดยใชว้ ธิ ีการจับฉลาก สอ่ื สารสารสนเทศ ในการสบื คน้ เขา้ ถงึ ขอ้ มลู ทตี่ อ้ งการอยา่ งเหมาะสมกบั วยั 310รายงานผลการวิจัยและพัฒนากรอบสมรรถนะผ้เู รียน ระดับประถมศกึ ษาตอนตน้ ส�ำ หรับหลกั สูตรการศึกษาขัน้ พน้ื ฐาน

ภาคผนวก ค. ผลการเรยี นรู้ ประสบการณก์ ารเรยี นร้เู สนอแนะ เนือ้ หาสาระ (Learning outcome/ (Suggested Learning Experience) (Content) specific competencies) • แบ่งกลุ่มนักเรียนออกเป็น 5 กลุ่ม ๆ ทักษะ (Skill) ทักษะการคิดขั้นสูงและนวัตกรรม กลุม่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย 1. ชแี้ จงเหตผุ ลการตดั สนิ ใจในเรอื่ งตา่ ง ๆ ละ 4-5 คน (ท 2.1 ป.3/1 ป.3/3 ท 3.1 ป.3/2 ป. ชีวิตประจําวันของตน และบอกได้ • ครเู ปดิ คลปิ การต์ นู “อาหารหลกั 5 หม”ู่ 3/3 ป.3/4 ท 4.1 ป.3/6) วา่ การตดั สนิ ใจของตนมคี วามเหมาะสม กลมุ่ สาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ (ค 2.2 อย่างไร ใหน้ กั เรยี นดแู ลว้ ตงั้ คาํ ถามใหน้ กั เรยี นตอบ ป.3/1 ป.3/2 ป.3/3) การเป็นพลเมืองที่เข้มแข็ง/ต่ืนรู้ท่ีมี • นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันสรุปเร่ือง กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ งั คมศกึ ษา ศาสนา สํานึกสากล และวฒั นธรรม 1. ปฏิบัติตามบทบาทและหน้าท่ี “อาหารทมี่ ปี ระโยชน”์ พรอ้ มออกแบบ (ส 3.1 ป.3/1 ป.3/2 ) ที่รับผิดชอบต่อครอบครัว ชั้นเรียน และเขยี นเชญิ ชวนให้ ทกุ คนรบั ประทาน กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศ โรงเรยี นและชมุ ชนไดอ้ ยา่ งเหมาะสม อาหารทีม่ ปี ระโยชน์ลงในกระดาษที่ครู (ต 1.2 ป.3/1 ป.3/3 ) ในฐานะ เป็นสมาชิกของชมุ ชนน้นั แจกให้และตกแต่งใหส้ วยงาม กลมุ่ สาระการเรยี นรกู้ ารงานอาชพี และ การทํางานแบบรวมพลัง เป็นทีมและ • นาํ ผลงาน “อาหารที่มปี ระโยชน” ตดิ เทคโนโลยี มภี าวะผู้นํา บอร์ด ผลงานเพ่ือเผยแพรใ่ หบ้ คุ คลอน่ื (ง 3.1 ป.3/1) 1. ให้ข้อมูล แลกเปลี่ยนความคิด ไดอ้ า่ นและนาํ เสนอหนา้ เสาธง กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา กาํ หนดเปา้ หมายรว่ มกนั ทาํ งานรว่ มกนั ตอนที่ 2 รคู้ ดิ รูอ้ อม (พ 4.1 ป.3/3) ตามบทบาทท่ีได้รับมอบหมาย (ระยะเวลา 1 สปั ดาห)์ • เขียนบนั ทกึ ทงั้ การเปน็ ผนู้ าํ จงู ใจใหผ้ อู้ น่ื ปฏบิ ตั งิ าน คาํ ถามสาํ คัญ : • การทํางานร่วมกับผู้อื่น ตามเปา้ หมาย และปฏบิ ตั หิ นา้ ทใี่ นฐานะ • นกั เรียนไดเ้ งนิ มาโรงเรยี นวันละกีบ่ าท • ระดมความคิด ร่วมมือกันออกแบบ สมาชิกกลุ่มด้วยความรับผิดชอบ • หากเงินเหลือในแตล่ ะวนั จะทาํ อยา่ งไร และวางแผน อย่างไว้ใจกัน เพื่อบรรลุเป้าหมาย • นกั เรยี นนาํ เสนอความคดิ เหน็ ของตนเองวา่ • พดู สอ่ื สาร สนทนา ทกี่ าํ หนดรว่ มกัน หากมเี งนิ เหลอื จะทาํ อยา่ งไร โดยครเู ขยี น • การคดิ วเิ คราะห์เชื่อมโยงขอ้ มลู 2. รบั ฟงั ความคดิ เหน็ ของผอู้ น่ื อยา่ งตง้ั ใจ คาํ ตอบของ นกั เรยี นทกุ คนบนกระดาน เจตคติ/คุณลักษณะ (Attitude/ เพอ่ื ให้เกิดความเขา้ ใจอยา่ งแทจ้ รงิ • แบง่ กลุ่มนักเรียน กลุม่ ละ 4 คน Attibute) 3. ประสานความคดิ ปรบั ตวั สรา้ งความ • ให้นักเรียนเล่นเกม “การคิดเงิน” ครู กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย เขา้ ใจเพอ่ื ความสขุ ในการทาํ งาน เลน่ กําหนดโจทย์ปัญหาแล้วให้สมาชิกใน (ท 2.1 ป.3/6 ท.3.1 ป.3/5) และอยู่ร่วมกัน กลุ่มร่วมกันคิดหาคําตอบ โดยทําใน กลมุ่ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ การสืบสอบทางวิทยาศาสตร์และ ใบงานทคี่ รแู จกใหแ้ ละใหค้ ะแนนเปน็ กลมุ่ (ค 1.2 ป.3/1 ป.3/2) จติ วิทยาศาสตร์ • ครูเฉลยคําตอบบนกระดานทีละข้อ กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ งั คมศกึ ษา ศาสนา 1. ตงั้ คาํ ถามสาํ คญั เกยี่ วกบั ปรากฏการณ์ ให้แต่ละกลุ่มตรวจสอบความถูกต้อง และวัฒนธรรม ตา่ ง ๆ ทพี่ บในชวี ติ ประจาํ วนั วางแผน ของงานในกลุ่มตนเอง เมื่อตอบถูก (ส 1.2 ป.3/1 ป.3/2) ตรวจสอบข้อมูล เพื่อตอบคําถาม ให้คะแนนขอ้ ละ 1 คะแนน กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศ ที่สงสัย เลือกและใช้วัสดุอุปกรณ์ ค�ำ ถามส�ำ คัญ (ต 1.2 ป.3/1 ป.3/3) และเครื่องมือ ในการสํารวจตรวจ • นกั เรยี นรจู้ กั บนั ทกึ รายรบั -รายจา่ ยหรอื ไม่ กลมุ่ สาระการเรยี นรกู้ ารงานอาชพี และ สอบอย่างง่าย แยกแยะข้อมูล • ครสู อบถามนกั เรยี นวา่ นกั เรยี นรจู้ กั บนั ทกึ เทคโนโลยี และจัดกลุ่ม เปรียบเทียบข้อมูลได้ รายรบั -รายจา่ ยหรอื ไม่ และบนั ทกึ รายรบั - (ง 3.1 ป.3/1) อย่างถูกต้อง นําเสนอผลผลการจัด รายจา่ ยมีประโยชน์อยา่ งไร กมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ขุ ศกึ ษาและพละศกึ ษา กระทําข้อมูลเป็นที่เข้าใจ อภิปราย • นักเรียนช่วยกันบอกประโยชน์และ (พ 4.1 ป.3/1) ผลการสาํ รวจ ตรวจสอบดว้ ยหลกั ฐาน ความสำ�คญั ของบนั ทึกรายรับ-รายจ่าย เชิงประจักษ์และสรุปผลด้วย • ครนู �ำ ใบงาน/รปู เลม่ บนั ทกึ รายรบั -รายจา่ ย แผนภาพประกอบข้อความ มาใหน้ กั เรยี นพจิ ารณาและสงั เกตการณ์ บันทึกรบั จา่ ย 311รายงานผลการวิจัยและพัฒนากรอบสมรรถนะผูเ้ รยี น ระดับประถมศกึ ษาตอนตน้ ส�ำ หรบั หลักสตู รการศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน

ภาคผนวก ค. ผลการเรยี นรู้ ประสบการณก์ ารเรยี นรูเ้ สนอแนะ เน้อื หาสาระ (Learning outcome/ (Suggested Learning Experience) (Content) specific competencies) • เหน็ คณุ คา่ และมที กั ษะในการสรา้ ง เสรมิ สขุ ภาพของตนและครอบครวั • ครนู �ำ ใบงาน/รปู เลม่ บนั ทกึ รายรบั -รายจา่ ย • เห็นคุณค่าของการใชจ้ ่ายเงิน มาใหน้ กั เรยี นพจิ ารณาและสงั เกตการณ์ • ตระหนกั ถงึ ความจ�ำ เปน็ ในการเลอื ก บันทกึ รบั จ่าย ซ้ือสนิ ค้าและบริการ • ตระหนักถึงความสำ�คัญของการ • แบ่งกลุ่มนักเรียนออกเป็น 7 กลุ่ม ๆ เก็บออม ละ 3 คนแลว้ ฝกึ ใหน้ กั เรยี นบนั ทกึ รายรบั - • ภมู ใิ จในภมู ิปญั ญาทางภาษาไทย รายจา่ ยตามรายการทคี่ รูก�ำ หนดให้ เนื้อหาสาระเสนอแนะ (Suggested • ใหน้ กั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ รว่ มกนั เขยี นบนั ทกึ content) รายรบั -รายจา่ ย โดยก�ำ หนดรายการเอง • การรับประทานอาหารท่มี ปี ระโยชน์ เป็นเวลา 3 วัน • การเกบ็ ออม • นักเรียนแต่ละกลุ่มนำ�เสนอผลงาน หนา้ ชัน้ เรียน การวัดและประเมินผลสมรรถนะ (Suggested Assessment) (วิธีการ เครอ่ื งมอื เกณฑ์ ในการวัดและประเมนิ ผล) Formative : สงั เกต สัมภาษณ์ ตง้ั คำ�ถามเพื่อทดสอบความรู้ ความเข้าใจ ระหวา่ งการทำ�งานในแตล่ ะ ข้ันตอนเพ่ือแกไ้ ข กระตุน้ และต่อยอดความรู้ ความเข้าใจของนักเรียน ทักษะชวี ิตและความเจริญแหง่ ตน การทำ�งานแบบรวมพลัง เป็นทมี และมภี าวะผู้น�ำ Summative : 1. สะทอ้ นคดิ และสะทอ้ นผลเพอื่ ประเมนิ การท�ำ งานและผลงานโดยระบสุ งิ่ ทท่ี �ำ ไดด้ แี ละ ส่ิงท่ีควรพัฒนาพร้อมอ้างอิงหลักฐานหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงจากกระบวนการ ทำ�งานของตนเองและกล่มุ 2. เขียนเชิญชวนใหพ้ ี่ ๆ นอ้ ง ๆ รับประทานอาหารที่มปี ระโยชนโ์ ดยใช้ประสบการณ์ และความรทู้ ไ่ี ด้รบั จากการเรียนในหนว่ ยการเรียนนข้ี องตนมาประกอบ แหล่งเรียนรทู้ ่เี สนอแนะ (Suggested Resource) • รา้ นคา้ • หอ้ งสมุด 312รายงานผลการวิจัยและพัฒนากรอบสมรรถนะผเู้ รยี น ระดบั ประถมศกึ ษาตอนต้นส�ำ หรับหลกั สตู รการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน

ภาคผนวก ค. ตัวอยา่ งแผนการจัดการเรยี นรู้ จากโรงเรยี นเทศบาล 4 (เพาะชำ�) จ.นครราชสีมา กล่มุ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 2 ภาคเรียนท่ี 1 1. มาตรฐานการเรียนรู้ ท 1.1 ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนำ�ไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหา ในการด�ำ เนนิ ชีวติ และมนี สิ ยั รักการอ่าน ท 2.1 ใช้กระบวนการเขียน เขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนเรื่องราว ในรูปแบบต่าง ๆ เขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศกึ ษาคน้ คว้าอยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ ท 3.1 สามารถเลือกฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด และความรสู้ ึกในโอกาสตา่ ง ๆ อย่างมีวิจารณญาณและสร้างสรรค์ ท 4.1 เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษา และพลงั ของภาษา ภูมปิ ัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบตั ขิ องชาติ 2. ตวั ชี้วดั / ผลการเรยี นรู้ / ผลการเรียนร้ทู ่คี าดหวงั ท 1.1 ป.2/1 อ่านออกเสียงคำ� คำ�คล้องจอง ข้อความ และบทร้อยกรองง่าย ๆ ไดถ้ กู ต้อง ท 2.1 ป.2/2 คัดลายมือตวั บรรจงเตม็ บรรทดั ท 3.1 ป.2/6 พูดสอ่ื สารได้ชดั เจนตามวัตถุประสงค์ ท 3.1 ป.2/7 มมี ารยาทในการฟัง การดู และการพูด ท 4.1 ป.2/2 เขยี นสะกดคำ�และบอกความหมายของค�ำ สมรรถนะ ภาษาไทยเพอื่ การสอื่ สาร สมรรถนะหลักพน้ื ฐาน คณติ ศาสตรใ์ นชีวติ ประจ�ำ วนั สมรรถนะหลักพื้นฐาน การเป็นพลเมอื งทเ่ี ขม้ แข็ง/ตื่นรทู้ ี่มสี �ำ นึกสากล สมรรถนะหลักทั่วไป การท�ำ งานแบบรว่ มพลัง เปน็ ทีม และมภี าวะผนู้ �ำ สมรรถนะหลกั ทวั่ ไป ทกั ษะการคดิ ข้นั สูง และนวตั กรรม สมรรถนะหลักทั่วไป 313รายงานผลการวิจยั และพัฒนากรอบสมรรถนะผเู้ รยี น ระดับประถมศึกษาตอนต้นส�ำ หรับหลักสตู รการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน

ภาคผนวก ค. 1. ภาษาไทยเพอ่ื การส่ือสาร (Thai Language for Communication) 1.1 ฟัง ดู และอ่านเขยี น ค�ำ ควบกล้าํ จากภาพประกอบทีพ่ บเห็นในส่ิงแวดลอ้ มรอบตัว ได้ อยา่ งคลอ่ งแคลว่ ถกู ต้อง 1.2 ฟงั ดู และอา่ นค�ำ ควบกล้ําในสอื่ ต่างๆ อย่างหลากหลายไดอ้ ย่างถูกต้องและสนุกสนาน 2. คณติ ศาสตรใ์ นชวี ิตประจำ�วัน (Mathematics In Everday Life) 2.1 ออกแบบรูปแบบขนาดตัวอักษร คำ�ควบกลาํ้ การเขียนคำ� ออกแบบบตั รคำ� ขนาดของ บัตรคำ� สี รูปรา่ งของบตั รคำ� 3. การสบื สอบทางวทิ ยาศาสตรแ์ ละจติ วทิ ยาศาสตร์ (Scientific inquiry and Scientific Mind) 3.1 แยกแยะข้อมูลและจดั กลุ่ม เปรียบเทยี บขอ้ มูลได้ถูกตอ้ ง น�ำ เสนอผลการจัดท�ำ ขอ้ มูล เป็นท่เี ข้าใจ 4. การเป็นพลเมืองที่มสี ว่ นรว่ ม และสำ�นึกสากล (Active Citizen and Global Mindedness) 4.1 ปฎิบัติตามบทบาทและหน้าที่ท่ีรับผิดชอบต่อชั้นเรียนได้อย่างเหมาะสม ในฐานะเปน็ สามชกิ ของชมุ ชนน้นั 4.2 อยรู่ ่วมกนั อย่างเอ้อื อาทร รกั ษาสทิ ธขิ องตนเอง โดยเคารพและไม่ละเมิดสทิ ธขิ องผู้อน่ื 4.3 อยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างพ่ึงพาอาศัยกันท้ังผู้ท่ีอยู่ในชั้นเรียนด้วยความเข้าใจ ในความแตกตา่ งในดา้ นอายุ เพศ ความถนดั ฐานะ และบทบาทหน้าท่ี 4.4 รว่ มกบั ผอู้ น่ื แสวงหาทางออกอยา่ งเปน็ เหตเุ ปน็ ผล เมอ่ื เผชญิ หนา้ กบั ปญั หา ความขดั แยง้ หรือมคี วามเหน็ ไมต่ รงกัน 4.5 มีสว่ นรว่ มในการกำ�หนดกตกิ า ปฏิบตั ติ ามกตกิ าในหอ้ งเรียน เพอ่ื การอยรู่ ่วมกันอย่าง มคี วามสุข 5. การท�ำ งานแบบรวมพลงั เปน็ ทมี และมภี าวะผนู้ �ำ (Collaboration Teamwork & Leadership) 5.1 ให้ข้อมูล แลกเปล่ียนความคดิ ก�ำ หนดเปา้ หมายร่วมกนั ทำ�งานรว่ มกนั ตามบทบาทท่ี ไดร้ ับมอบหมาย ทั้งการเปน็ ผู้นำ�จูงใจใหผ้ อู้ ่ืนปฏบิ ตั ิตามเป้าหมาย และปฏิบัตหิ นา้ ที่ในฐานะสมาชกิ กล่มุ ดว้ ยความรบั ผิดชอบ อย่างไว้วางใจกัน เพอ่ื บรรลเุ ป้าหมายที่กำ�หนดรว่ มกัน 5.2 รบั ฟงั ความคดิ เหน็ ของผอู้ นื่ อยา่ งตง้ั ใจ เพ่ือให้เกิดความเข้าใจอย่างแทจ้ รงิ 5.3 ประสานความคดิ ปรบั ตวั สรา้ งความเขา้ ใจเพอ่ื ความสขุ ในการท�ำ งาน เลน่ และอยรู่ ว่ มกนั 6. ทักษะชวี ิตความเจรญิ แหง่ ตน (Life Skills & Personal Growth) 6.1 กำ�หนดเป้าหมายในการท�ำ งานตา่ งๆ ในชวี ติ ประจ�ำ วันและดำ�เนนิ งานจนสำ�เรจ็ 6.2 มปี ฏสิ มั พนั ธ์ทด่ี ีกบั ผอู้ นื่ ยิม้ แย้มแจ่มใส มองโลกในแง่บวก 7. ทกั ษะการคิดข้ันสงู และนวัตกรรม (Higher Order Thinking Skills and Innovation) 7.1 สามารถคดิ คลอ่ ง คิดหลากหลาย เกย่ี วกับค�ำ ควบกลา้ํ ร ล ว ในสิง่ ตา่ ง ๆ ทอี่ ย่รู อบตัว จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ นักเรียนสามารถร่วมกัน ฟัง คิด อ่าน สังเกต แยกแยะคำ�ท่ีเป็นคำ�ควบกลํ้าที่พบ ในสิ่งแวดลอ้ มรอบตวั และน�ำ ค�ำ ควบกลํ้าไปใช้ในการอา่ น เขยี นและสะกดคำ� 314รายงานผลการวิจัยและพัฒนากรอบสมรรถนะผ้เู รียน ระดับประถมศึกษาตอนต้นสำ�หรบั หลกั สูตรการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน

ภาคผนวก ค. กิจกรรมการเรียนรชู้ ั่วโมงท่ี 1 กจิ กรรมการเรยี นรู้ เวลา สอดคล้องกับสมรรถนะ 1. นกั เรียนร้องเพลงค�ำ ควบกลํา้ 5 ทักษะชวี ติ และการเจริญแห่งตน - มสี มาธิ เปดิ ใจ จติ ใจ จดจอ่ พรอ้ มกบั รบั การเรยี นรู้ ท�ำ จติ ใจ ใหเ้ ขม้ แขง็ ร่าเรงิ แจ่มใสอยู่เสมอ สามารถ นอ้ มน�ำ หลกั ศาสนาทย่ี ดึ ถอื มาเปน็ เครอื่ งยดึ เหนย่ี ว ในการเรยี นรู้ 2. นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็น 3 กลุ่ม 10 ทกั ษะการท�ำ งานแบบรวมพลงั เปน็ ทมี และมภี าวะผนู้ �ำ กลมุ่ ละเทา่ ๆ กนั เลอื กหัวหนา้ กลมุ่ - แลกเปลี่ยนเรียนรู้ แบ่งปันความคิด ความเต็มใจ และรองหัวหน้ากลมุ่ เพอ่ื สนบั สนุน สง่ เสริมให้เปา้ หมาย ทักษะภาษาด้านการสือ่ สาร 3. นกั เรยี นชว่ ยกนั เปรยี บเทยี บ ค�ำ ควบกลาํ้ 15 - แลกเปลยี่ นและถา่ ยทอดขอ้ มูล ความรู้ ความร้สู ึก บนกระดานด�ำ ของแตล่ ะกลมุ่ วา่ กลมุ่ ใด นกึ คดิ โดยใชค้ วามรทู้ างหลกั ภาษาและการใชภ้ าษา เขียนถูก เขียนผิด ได้คะแนนมาก ร่วมกับประสบการณ์ของตนตามวัย ผ่านการคิด ได้คะแนนนอ้ ย วเิ คราะห์ ไตรต่ รองและแกป้ ญั หา อยา่ งมสี ติ เทา่ ทนั และสร้างสรรค์ ทักษะการคดิ ข้นั สูงและนวัตกรรม 4. ครูตั้งคำ�ถาม กระตุ้นเก่ียวกับคะแนน 30 - คิดพจิ ารณาเรื่องตา่ ง ๆ โดยมีข้อมลู เกี่ยวกับเรอื่ ง ของแตล่ ะกลุม่ ว่า กลุ่มทเี่ ขยี นผดิ ขาด นั้นอย่างพอเพยี ง อะไร กลมุ่ ทีไ่ ดค้ ะแนนนอ้ ยขาดอะไร - สามารถวิเคราะห์ วพิ ากษ์ และประเมินขอ้ มูลและ เหตผุ ล สามารถสรปุ ความเขา้ ใจ และใหค้ วามเห็น ในเรือ่ งนั้น ๆ 315รายงานผลการวจิ ยั และพฒั นากรอบสมรรถนะผูเ้ รียน ระดบั ประถมศกึ ษาตอนตน้ ส�ำ หรับหลกั สตู รการศกึ ษาขั้นพืน้ ฐาน

ภาคผนวก ค. กจิ กรรมการเรียนรชู้ ว่ั โมงท่ี 2 กจิ กรรมการจดั การเรยี นรู้ เวลา สอดคล้องกบั สมรรถนะ 1. นักเรียนช่วยกันออกแบบ 30 ทักษะการคิดข้ันสูงและนวัตกรรม บัตรคำ� คำ�ควบกลํ้า - ลงมอื แก้ปญั หาด้วยตนเอง และร่วมมอื กบั ผ้อู ื่นในการแกป้ ัญหาอยา่ งเปน็ ระบบ - ใช้วจิ ารณญาณ มกี ารตัดสินใจเรอื่ งตา่ ง ๆ บนฐานข้อมูล เหตุผล หลักฐาน รวมท้งั การพจิ ารณาอย่างรอบดา้ น เหมาะสมรวม ความเชือ่ และบรรทัดฐาน - คิดพิจารณาเรือ่ งตา่ ง ๆ โดยมขี ้อมลู เก่ยี วข้องกับเร่อื งนั้นอยา่ งเพียงพอ สามารถ วิเคราะห์ วิพากษ์ และประเมิน - ข้อมูลและเหตุผล สามารถสรุปความเข้าใจ และให้ความเห็นในเรือ่ งนัน้ ๆ 2. นักเรียนช่วยกันวางแผน 20 ทกั ษะการท�ำ งานแบบรวมพลัง เปน็ ทีมและ การทำ�งานตามลำ�ดับข้ันตอน มีภาวะผนู้ ำ� โดยมหี วั หนา้ กลมุ่ รองหวั หนา้ กลมุ่ - แลกเปลี่ยน แบง่ ปันความคดิ ความเต็มใจ กำ�หนดวัสดุอุปกรณ์ ต่าง ๆ เพอื่ สนับสนนุ สง่ เสรมิ ให้บรรลเุ ปา้ หมายท่ี ในการจัดทำ�บตั รค�ำ ควบกล้ํา กำ�หนดร่วมกัน - รบั ฟงั ความคดิ เหน็ อยา่ งตั้งใจ เพ่อื ใหเ้ กดิ ความเขา้ ใจอยา่ งถ่องแท้ 316รายงานผลการวิจยั และพัฒนากรอบสมรรถนะผู้เรยี น ระดับประถมศึกษาตอนต้นส�ำ หรบั หลกั สตู รการศึกษาขัน้ พื้นฐาน

ภาคผนวก ค. กิจกกรมการเรยี นรู้ ชว่ั โมงท่ี 3-4 กจิ กรรมการจัดการเรยี นรู้ เวลา สอดคลอ้ งกบั สมรรถนะ 1. นกั เรียนชว่ ยกันลงมือปฏบิ ัติ 2 คณติ ศาสตรใ์ นชีวติ ประจ�ำ วัน จัดทำ� บัตรค�ำ ควบกล้ํา - เรยี นรู้ สัญลกั ษณ์ และรปู แบบผ่านการ อ่าน และการเขียนโดยใช้ภาษาไทย - ใชแ้ นวคดิ และความคิดรวบยอดทาง คณติ ศาสตร์ สัญลกั ษณ์ หลกั คณิตศาสตร์ รปู ทรงเรขาคณติ ในการออกแบบงาน ศลิ ปะ ทกั ษะการคิดข้นั สูงและนวัตกรรม - ลงมือแก้ปัญหาดว้ ยตนเอง และร่วมมือกบั ผอู้ ื่น ในการแกป้ ัญหาอยา่ งเป็นระบบ - ใช้วจิ ารณญาณ มกี ารตดั สนิ ใจเรื่องต่าง ๆ บนฐานขอ้ มูล เหตผุ ล หลักฐาน รวมทั้ง การพจิ ารณาอยา่ งรอบคอบดา้ นเหมาะสม รวมทั้งความเชอื่ และบรรทดั ฐานสงั คมและ วัฒนธรรม - คิดพจิ ารณาเรอ่ื งต่าง ๆ โดยมขี ้อมลู เกย่ี วขอ้ งกับเรอื่ งนัน้ อย่างพอเพยี ง สามารถคดิ วิเคราะห์ วพิ ากษ์ และประเมิน ข้อมลู และเหตุผล สามารถสรุปความเข้าใจ และให้ความเหน็ ในเรือ่ งน้นั ๆ 317รายงานผลการวจิ ยั และพัฒนากรอบสมรรถนะผู้เรียน ระดับประถมศกึ ษาตอนต้นสำ�หรับหลักสตู รการศกึ ษาขั้นพ้นื ฐาน

ภาคผนวก ค. การวดั ผลและประเมินผล สงิ่ ท่ตี ้องการวดั วธิ ีการวัด เครื่องมอื เกณฑป์ ระเมนิ 1. กำ�หนดเป้าหมายในการทำ� สงั เกต แบบสังเกตการณ์ บตั รคำ� ค�ำ ควบกลา้ํ ตอบคำ�ถาม 2. สืบค้นหาความรู้เก่ียวกับการ ตรวจแบบันทึก แบบบนั ทกึ ผลการปฏิบัติ ค�ำ บตั รค�ำ คำ�ควบกล้ํา งานรายกล่มุ 3. ประเมินความเป็นไปได้ของ สังเกตการ แบบสังเกตการณ์ งานที่ท�ำ ตอบคำ�ถาม ตอบค�ำ ถาม 4. วางแผนการท�ำ บตั รค�ำ ควบกลา้ํ ตรวจผลงาน แบบประเมินผลงาน อย่างเป็นข้นั ตอน 5. ประมาณตนให้อยู่ในทางสาย สงั เกต แบบสังเกตการ กลาง (ความพอประมาณ ) ตอบคำ�ถาม 6. คาดคะเนความเสี่ยงในการทำ� สงั เกตการ แบบสังเกตการ บตั รค�ำ คำ�บวบกลํ้า ตอบค�ำ ถาม ตอบค�ำ ถาม 7. การทำ�บัตรคำ�ใช้เพื่อบริโภค สงั เกตการ เกณฑป์ ระเมิน และจดั จ�ำ หน่ายได้ (คุณธรรม) ปฏิบตั งิ าน การปฏิบตั ิงาน 8. ประเมินตนเองและนำ�มา ตรวจแผนผัง เกณฑ์ประเมนิ ปรบั ปรุง ความคดิ แผนความคิด 318รายงานผลการวจิ ัยและพฒั นากรอบสมรรถนะผู้เรยี น ระดับประถมศึกษาตอนต้นส�ำ หรบั หลักสูตรการศึกษาขน้ั พื้นฐาน

ภาคผนวก ภาคผนวก ง. รายช่อื ผ้รู ว่ มงานในโครงการวจิ ัยและพัฒนา กรอบสมรรถนะผ้เู รียนระดบั ประถมศกึ ษาตอนตน้ สำ�หรับหลกั สูตรการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook