แผนการจัดการเรียนรู้วิชาวิชวลเบสิคเบื้องต้น

แผนการจดั การเรยี นรู้มงุ่ เน้นสมรรถนะ บูรณาการคุณธรรม จรยิ ธรรม และหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง หลักสูตรประกาศนียบตั รวิชาชพี พทุ ธศักราช 2562 จดั ทำโดย นายพรพทิ กั ษ์ ศรีแกว้ วทิ ยาลยั อาชวี ศึกษาสุรนิ ทร์ สำนกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา กระทรวงศึกษาธกิ าร

ก หลักสูตรรายวชิ า รายวชิ าวิชวลเบสิคดอตเน็ตเบ้ืองตน้ รหสั วชิ า 20903 - 1005 ทฤษฎี 1 ปฏบิ ัติ 2 หน่วยกติ 2 จดุ ประสงค์รายวชิ า 1. เขา้ ใจเกีย่ วกับปฏิบัติการเขยี นวิชวลเบสิคเบอ้ื งตน้ 2. สามารถเขียนเขียนวชิ วลเบสคิ เบอ้ื งต้นไดต้ ามหลกั การ 3. คณุ ธรรม จรยิ ธรรม และคา่ นิยมที่ดใี นการเขยี นเขยี นวชิ วลเบสิคเบื้องตน้ สมรรถนะรายวิชา 1. แสดงความรู้เก่ียวกบั การเขียนเขียนวชิ วลเบสิคเบอ้ื งต้น 2. เขยี นเขยี นวชิ วลเบสิคเบื้องต้นไดต้ ามหลักการ คำอธบิ ายรายวชิ า ศึกษาและปฏิบัติการเขียนเขียนวิชวลเบสิคเบื้องต้น การติดตั้งโปรแกรม การตัง้ ค่าสภาพแวดล้อม โครงสร้างพื้นฐาน (Program Structure) ไวยากรณ์ (Syntax) ประเภทข้อมูล (Data Type) ตัวแปร (Variables) ค่าคงที่ (Constants) คำสั่ง (Statements) ไดเรคทีฟ (Directives) ตัวดำเนินการ (Operator) การวนรอบ (Loops) ขอ้ ความ (Strings) วนั เวลา (Date and Time) อาเรย์ (Array) คอลเลคชนั่ (Collections) ฟังก์ชั่น (Functions) ซับ (Subs) คลาส (Classes) ออบเจ็กต์ (Objects) การตรวจสอบความผิดพลาด (Exceptions) เครื่องมือพื้นฐาน (Basic Controls) ไดอะลอกบ็อก (Dialog Boxes) การประยุกต์ใช้ฟอร์ม (Advanced Froms) เหตุการณ์ (Events) ตัวอย่างการเขียนวิชวลเบสิคเบื้องต้น และปฏิบัติการเขียน โปรแกรมขนาดเลก็ คำอธิบายรายวชิ า (ปรบั ปรุง) ศึกษาและปฏิบัติการเขียนเขียนวิชวลเบสิคเบื้องต้น การติดตั้งโปรแกรม การตั้งค่าสภาพแวดล้อม โครงสร้างพื้นฐาน (Program Structure) ไวยากรณ์ (Syntax) ประเภทข้อมูล (Data Type) ตัวแปร (Variables) ค่าคงที่ (Constants) คำสั่ง (Statements) ไดเรคทีฟ (Directives) ตัวดำเนินการ (Operator) การวนรอบ (Loops) ขอ้ ความ (Strings) วนั เวลา (Date and Time) อาเรย์ (Array) คอลเลคชนั่ (Collections) ฟังก์ชั่น (Functions) ซับ (Subs) คลาส (Classes) ออบเจ็กต์ (Objects) การตรวจสอบความผิดพลาด (Exceptions) เครื่องมือพื้นฐาน (Basic Controls) ไดอะลอกบ็อก (Dialog Boxes) การประยุกต์ใช้ฟอร์ม (Advanced Froms) เหตุการณ์ (Events) ตัวอย่างการเขียนวิชวลเบสิคเบื้องต้น และปฏิบัติการเขียน โปรแกรมขนาดเลก็ ปฏิบัติงานเนื้อหาพัฒนาการเขียนโปรแกรม แผนภาพโปรแกรมแต่ละประเภท การแบ่งกลุ่มตามยุค ภาษาคอมพิวเตอร์ Flow Chart , Pseudo Cde , Flow Chart การตัดเกรด การสร้าง Form Application , Form Label , Form TextBox , Form Button , Form CheckBox , Form ListBox การกำหนดตัวแปร

Operator โปรแกรมสำหรับคำนวณค่านายหน้าจากการขายสินค้า โปรแกรมร้านกาแฟ โปรแกรม Log in โปรแกรมคิดค่าส่วนลดแมวนำ้ โปรแกรมร้านขายลูกหมา โปรแกรมคิดเงินทอน

ข ตารางวิเคราะหห์ นว่ ยการเรยี น วชิ าวชิ วลเบสคิ ดอตเนต็ เบื้องต้น รหัสวชิ า 20903 - 1005 ท-ป-น 2-2-3 จำนวนช่วั โมงสอน 4 ชัว่ โมง/สปั ดาห์ ระดบั ช้ัน ปวช. คำอธิบายรายวิชา ชือ่ หน่วยการเรียนรู้ ศึกษาและปฏิบัติการเขียนเขียนวิชวลเบสิ 1. แนวคิดในการพฒั นาโปรแกรม คเบื้องต้น การติดตั้งโปรแกรม การตั้งค่าสภาพแวดล้อม 2. องค์ประกอบของโปรแกรม โครงสร้างพื้นฐาน (Program Structure) ไวยากรณ์ ภาษาคอมพวิ เตอร์ ( Syntax) ป ร ะ เ ภ ท ข ้ อ ม ู ล ( Data Type) ต ั ว แ ป ร 3. ขนั้ ตอนการแก้ปัญหา (Variables) ค่าคงท่ี (Constants) คำสั่ง (Statements) 4. โปรแกรม Visual Basic ไดเรคทีฟ (Directives) ตัวดำเนินการ (Operator) การ 5. กระบวนการเขยี นโปรแกรม วนรอบ (Loops) ข้อความ (Strings) วันเวลา (Date and 6. คำส่งั ควบคุมการทำงานของโปรแกรม Time) อาเรย์ (Array) คอลเลคช่ัน (Collections) ฟังก์ชนั่ 7. การพฒั นาโปรแกรมทางธุรกิจอย่างง่าย (Functions) ซับ (Subs) คลาส (Classes) ออบเจ็กต์ (Objects) การตรวจสอบความผิดพลาด (Exceptions) เครื่องมือพื้นฐาน (Basic Controls) ไดอะลอกบ็อก (Dialog Boxes) การประยุกต์ใช้ฟอร์ม (Advanced Froms) เหตุการณ์ (Events) ตัวอย่างการเขียนวชิ วลเบสิ คเบือ้ งตน้ และปฏิบัติการเขยี นโปรแกรมขนาดเลก็ ปฏิบัติงานเนื้อหาพัฒนาการเขียนโปรแกรม แผนภาพโปรแกรมแต่ละประเภท การแบ่งกลุ่มตามยุค ภาษาคอมพิวเตอร์ Flow Chart , Pseudo Cde , Flow Chart การตัดเกรด การสร้าง Form Application , Form Label , Form TextBox , Form Button , Form CheckBox , Form ListBox ก า ร ก ำ ห น ด ต ั ว แ ป ร Operator โปรแกรมสำหรับคำนวณค่านายหน้าจากการ ขายสินค้า โปรแกรมร้านกาแฟ โปรแกรม Log in โปรแกรมคิดค่าส่วนลดแมวน้ำ โปรแกรมร้านขายลูกหมา โปรแกรมคิดเงนิ ทอน

ค ตารางวเิ คราะห์หลักสูตรรายวชิ า รายวชิ าวิชวลเบสคิ ดอตเนต็ เบ้ืองตน้ รหัสวชิ า 20903 - 1005 ความสอดคล้องระหวา่ งเนื้อหากบั คำอธิบายรายวิชา จุดประสงค์รายวชิ า และสมรรถนะรายวชิ า ความสอดคล้องกับหลกั สูตรรายวชิ า หนว่ ยการ ชื่อหนว่ ยการเรยี นรู้ คำอธิบายรายวิชา จดุ ประสงค์ สมรรถนะ เรียนรทู้ ี่ รายวิชา รายวิชา 123 1 2 1 แนวคดิ ในการพฒั นาโปรแกรม ศกึ ษาและปฏบิ ัตเิ ก่ยี วกับแนวคดิ ในการ      พัฒนาโปรแกรม 2 องค์ประกอบของโปรแกรม องค์ประกอบของโปรแกรม    ภาษาคอมพวิ เตอร์ ภาษาคอมพิวเตอร์ 3 ขั้นตอนการแก้ปญั หา ขัน้ ตอนการแกไ้ ขปัญหา (Algorithm)      4 โปรแกรม Visual Basic ใช้เครอื่ งมือกราฟกิ โหมดเพอื่ การพัฒนา      โปรแกรมไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ มปี ระสิทธิภาพ และสร้างเปน็ ชิน้ งานจากโครงงานขนาด เล็ก 5 กระบวนการเขยี นโปรแกรม กระบวนการเขียนโปรแกรม    6 คำส่งั ควบคุมการทำงานของ คำส่ังควบคมุ การทำงานของโปรแกรม      โปรแกรม 7 การพฒั นาโปรแกรมทางธุรกิจ การพฒั นาโปรแกรมทางธุรกจิ อย่างง่าย      อย่างงา่ ย โดยใช้เครอ่ื งมือกราฟกิ โหมดเพื่อการ พฒั นาโปรแกรมไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว มีประสิทธภิ าพและสรา้ งเป็นชิน้ งานจาก โครงงานขนาดเล็ก

ง แหล่งขอ้ มลู ในการวิเคราะห์หลักสูตร รายวชิ าวิชวลเบสิคดอตเนต็ เบือ้ งตน้ รหสั วิชา 20903 - 1005 ท-ป-น 1-2-2 จำนวนชั่วโมงสอน 3 ช่ัวโมง/สัปดาห์ ระดบั ช้ัน ปวช. หนว่ ยท่ี ชอื่ หน่วย จำนวน ที่มา 1 แนวคดิ ในการพฒั นาโปรแกรม ชั่วโมง A B C D E 2 องค์ประกอบของโปรแกรม ภาษาคอมพิวเตอร์ 8   3 ขั้นตอนการแก้ปัญหา 4 โปรแกรม Visual Basic 8   5 กระบวนการเขยี นโปรแกรม 6 คำสง่ั ควบคมุ การทำงานของโปรแกรม 8   7 การพฒั นาโปรแกรมทางธรุ กจิ อยา่ งงา่ ย 12    12    12    12    รวม 72 หมายเหตุ A = คำอธบิ ายรายวิชา B = ตำรา/เอกสาร C = ผู้เช่ียวชาญ D = ประสบการณ์ E = สถานประกอบการ/ผชู้ ำนาญการ

จ กำหนดการสอน/หน่วยการเรียนรู้ หน่วยท่ี ช่ือหนว่ ยการเรียนรู้ จำนวนชั่วโมง สปั ดาหท์ ี่ 1 แนวคดิ ในการพฒั นาโปรแกรม 6 1-2 2 องค์ประกอบของโปรแกรมภาษาคอมพวิ เตอร์ 6 3-4 3 ข้ันตอนการแก้ปญั หา 6 5-6 4 โปรแกรม Visual Basic 9 7-9 5 กระบวนการเขยี นโปรแกรม 9 10 - 12 6 คำสง่ั ควบคุมการทำงานของโปรแกรม 9 13 - 15 7 การพฒั นาโปรแกรมทางธรุ กจิ อยา่ งง่าย 9 16 - 18

ฉ หน่วยการเรยี นรู้ สมรรถนะประจำหนว่ ย กิจกรรมการเรยี นรู้ และแนวทางการประเมิน แนวทางการประเมนิ หนว่ ย รายการสอน สมรรถนะ กจิ กรรมการเรียนรู้ ทดสอบความ ู้ร ท่ี ประจำหนว่ ย ประเมินการป ิฏบั ิตงาน ประเมินผลงาน ประเมินพฤ ิตกรม อ่ืน ๆ (ระบุ) พฤ ิตกรรม 1 แนวคิดในการพฒั นา แสดงความรู้แนวคิดใน บรรยาย,แบบฝกึ หัด,  โปรแกรม การพฒั นาโปรแกรม มอบหมายงาน,ใบงาน  2 องค์ประกอบของ บอกองค์ประกอบของ บรรยาย,แบบฝึกหัด,   โปรแกรม โปรแกรม มอบหมายงาน,ใบงาน   ภาษาคอมพิวเตอร์ ภาษาคอมพวิ เตอร์  3 ขนั้ ตอนการแก้ปัญหา อธบิ ายขั้นตอนการ บรรยาย,แบบฝกึ หดั , แกป้ ัญหา มอบหมายงาน,ใบงาน 4 โปรแกรม Visual ใชโ้ ปรแกรม Visual บรรยาย,แบบฝกึ หดั , Basic Basic มอบหมายงาน,ใบงาน 5 กระบวนการเขียน อธบิ ายกระบวนการเขียน บรรยาย,แบบฝกึ หดั , โปรแกรม โปรแกรม มอบหมายงาน,ใบงาน 6 คำสง่ั ควบคุมการ เขยี นคำสัง่ ควบคุมการ บรรยาย,แบบฝกึ หัด, ทำงานของโปรแกรม ทำงานของโปรแกรม มอบหมายงาน,ใบงาน 7 การพฒั นาโปรแกรม พัฒนาโปรแกรมทาง บรรยาย,แบบฝึกหัด, ทางธุรกิจอยา่ งง่าย ธรุ กจิ อย่างง่าย มอบหมายงาน,ใบงาน

ช ตารางวิเคราะหห์ ลักสูตรเชิงพฤตกิ รรม รายวิชาวิชวลเบสิคดอตเนต็ เบื้องตน้ รหสั วชิ า 20903 - 1005 หน่วยกิต 3 ระดับประกาศนยี บตั รวิชาชพี ช้ันสงู พุทธิพสิ ัย พฤตกิ รรม ความ ู้ร ช่อื หนว่ ย ความ เนข้ำาไใปจใช้ ิวเคราะห์ ประเมิน ่คา ทักษะพิ ัสย ิจตพิสัย รวม ้รอยละ ลำดับ จคำวานมวสนำ ่ัช ัควโญมง จำนวน ้ขอสอบ 1.แนวคดิ ในการพฒั นาโปรแกรม 8 8 8 8 10 42 13.21 5 68 2.องค์ประกอบของโปรแกรม 999 8 10 45 14.15 3 68 ภาษาคอมพวิ เตอร์ 8 10 45 14.15 3 68 3.ขัน้ ตอนการแก้ปัญหา 999 10 10 50 15.72 1 9 10 9 10 46 14.47 2 99 4.โปรแกรม Visual Basic 10 10 10 9 10 44 13.84 4 98 5.กระบวนการเขยี นโปรแกรม 9 9 9 6.คำส่งั ควบคมุ การทำงานของ 889 โปรแกรม 7.การพัฒนาโปรแกรมทางธุรกจิ 8 9 10 9 10 46 14.47 2 9 9 อยา่ งง่าย รวม 61 62 64 61 70 318 100 54 60 41 ลำดับความสำคัญ 432 หมายเหตุ นำ้ หนักคะแนนความสำคัญ มากท่ีสุด 9 - 10 มาก 7-8 ปานกลาง 4-6 0-1 นอ้ ย 2 - 3 นอ้ ยทส่ี ดุ จำนวนช่วั โมงสอน = น้ำหนกั หนว่ ย X นำ้ หนักหน่วย จำนวนชวั่ โมงรวม จำนวนชั่วโมงสอน = น้ำหนกั ช่ัวโมงสอนนXำ้ หจำนนักวรนวมข้อสอบรวม จำนวนช่วั โมงสอนรวม

ซ การวดั ผลและการประเมนิ ผล เกณฑก์ ารวัดผลประเมนิ ผล 20 คะแนน 1. สดั ส่วนการให้คะแนน (คะแนนเตม็ 100 คะแนน) 60 คะแนน 1.1 คะแนนระหว่างภาค 80 คะแนน ประกอบดว้ ย 20 คะแนน 1.1.1 คะแนนคุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1.1.2 คะแนนการประเมินผลตามสภาพจริง 1.2 คะแนนปลายภาค 2. การตดั สินผลการเรยี น ใชแ้ บบองิ เกณฑ์ 80 - 100 คะแนน เกรด 4 คะแนนระหวา่ ง 75 - 79 คะแนน เกรด 3.5 คะแนนระหวา่ ง 70 - 74 คะแนน เกรด 3 คะแนนระหวา่ ง 65 - 69 คะแนน เกรด 2.5 คะแนนระหว่าง 60 - 64 คะแนน เกรด 2 คะแนนระหวา่ ง 55 - 54 คะแนน เกรด 1.5 คะแนนระหว่าง 50 - 54 คะแนน เกรด 1 คะแนนระหว่าง 0 - 49 คะแนน เกรด 0 คะแนนระหวา่ ง

ฒ แผนจดั การเรียนการสอนเพอ่ื ประเมนิ พฤติกรรมผเู้ รยี นอาชวี ศึกษา ตามค่านิยมหลกั ของคนไทย 12 ประการ วิทยาลยั อาชวี ศกึ ษาสรุ ินทร์ รายวชิ าวชิ วลเบสิคดอตเนต็ เบอ้ื งตน้ รหสั วชิ า 20903 - 1005 ทฤษฎี 1 ปฏิบัติ 2 หน่วยกิต 2 รายการประเมิน พฤติกรรมทแ่ี สดงออก พฤติกรรม ประจำหนว่ ยท่ี ท่จี ะวดั 1. มคี วามรกั ชาติ 1.1 รว่ มกจิ กรรมเขา้ แถว ยนื ตรงเคารพธงชาติ ร้อง  1-7 ศาสนา เพลงชาติ พระมหากษตั ริย์ 1.2 ร่วมกิจกรรมวนั สำคญั ทางศาสนาที่ตนนับถือ  1-7 1.3 ร่วมกิจกรรมวนั สำคญั ที่เกย่ี วกบั การเทดิ ทูนสถาบัน  1-7 พระมหากษัตริย์ 2. ซือ่ สัตย์ เสียสละ 2.1 ประพฤติ ปฏบิ ัติตนตามความเปน็ จริง ที่แสดงถึง อดทน การยดึ ม่นั ในความถูกตอ้ ง ยอมรับผลการกระทำของ  1-7 ตนเองและผอู้ ืน่ 2.2 เสียสละกำลังกาย ทรัพย์ สตปิ ญั ญา ในการ  1-7 ชว่ ยเหลือผอู้ ่นื และสงั คม 2.3 ควบคมุ ตนเองเม่อื ประสบความยากลำบากและไม่  1-7 กอ่ ให้เกิดความเสียหาย 3. กตญั ญูตอ่ พอ่ แม่ 3.1 รู้จกั บญุ คณุ พ่อแม่ผู้ปกครองครบู าอาจารย์และผูม้ ี  1-7 ผูป้ กครอง ครบู าอาจารย์ พระคุณ 3.2 เอาใจใส่ ดูแลชว่ ยเหลอื ภารกจิ การงาน ปฏิบัตติ น  1-7 ตามคำสง่ั สอนท่ีถูกต้องและเหมาะสม 3.3 ตอบแทนบญุ คุณของพ่อแม่ ผู้ปกครอง ครูบา  1-7 อาจารย์และผมู้ ีพระคณุ 4. ใฝ่หาความรู้ หม่ัน 4.1 แสวงหาความรู้ท้งั ทางตรงและทางอ้อม  1-7 ศกึ ษา เล่าเรยี น ทงั้ 4.2 มุง่ ม่ันต้งั ใจเพยี รพยายามในการศกึ ษาและ  1-7 ทางตรงและทางอ้อม ปฏิบตั งิ าน 4.3 แกป้ ญั หาและพฒั นาส่ิงใหม่ ๆ จนบรรลุผลสำเรจ็  1-7 5. รักษาวฒั นธรรม 5.1 เขา้ รว่ มโครงการหรอื กจิ กรรมท่ีเป็นไทย  1-7 ประเพณีไทย อันงดงาม 5.2 ภาคภูมิใจในความเป็นไทย  1-7 5.3 อนุรักษ์สืบทอดวฒั นธรรมและประเพณีไทยอัน  1-7 งดงาม

ญ รายการประเมนิ พฤตกิ รรมทีแ่ สดงออก พฤตกิ รรม ประจำหนว่ ยท่ี ทีจ่ ะวัด 6. มีศลี ธรรม รักษา 6.1 ประพฤตติ นตามหลักศลี ธรรมอนั ดงี าม  1-7 ความสัตย์ หวังดตี อ่ ผูอ้ ่นื 6.2 ปฏบิ ตั ิโดยยึดตามกตกิ าข้อตกลง/กฎ/ระเบียบของ  1-7 เผอ่ื แผ่และแบ่งปนั สถานศกึ ษา 6.3 หวังดี โอบอ้อมอารีชว่ ยเหลือผู้อ่ืนตามโอกาส  1 - 7 6.4 ให้ แบง่ ปนั เอือ้ เฟ้อื และชว่ ยเหลือผู้อื่น  1-7 7. เข้าใจเรยี นรกู้ ารเปน็ 7.1 เขา้ ร่วมกิจกรรมเก่ียวกบั ประชาธปิ ไตย อนั มี  1-7 ประชาธปิ ไตย อันมี พระมหากษัตรยิ ์ทรงเป็นประมขุ พระมหากษัตริยท์ รงเป็น 7.2 เคารพสิทธิของผอู้ ่นื  1-7 ประมุขทถ่ี กู ตอ้ ง 7.3 ปฏิบตั ิตนตามระบอบประชาธิปไตยอนั มี  1-7 พระมหากษัตริย์ทรงเปน็ ประมขุ 8. มรี ะเบยี บ วนิ ัย 8.1 ตรงตอ่ เวลา  1-7 เคารพกฎหมาย ผนู้ อ้ ย 8.2 ประพฤตติ รงตามคำสั่งหรือขอ้ บงั คบั ของ  1-7 รู้จกั เคารพผ้ใู หญ่ สถานศกึ ษา 8.3 เคารพและนอบนอ้ มต่อผู้ใหญ่  1-7 9. มสี ติ รู้ตวั รู้คิด ร้ทู ำ 9.1 คดิ ดี พูดดี ทำดี  1-7 รปู้ ฏบิ ตั ิ ตามพระราช 9.2 สภุ าพ เรียบร้อย ออ่ นนอ้ มถอ่ มตน ตาม  1-7 ดำรัสของพระบาทสมเดจ็ สถานภาพและกาลเทศะ พระเจา้ อย่หู วั ฯ 9.3 รอบคอบเหมาะสมกับวัยสถานการณ์และบทบาท  1-7 ของตนเองตามแนวพระราชดำรสั ฯ 10. รจู้ ักดำรงตนอยโู่ ดย 10.1 ใชว้ สั ดถุ ูกตอ้ งพอเพยี งและเหมาะสม กบั งาน  1 - 7 ใชห้ ลักปรชั ญาของ เศรษฐกจิ พอเพยี งตามพระ 10.2 เก็บออมถนอมใช้ทรพั ยส์ นิ สง่ิ ของให้เกิด  1-7 ราชดำรสั ของ ประโยชนค์ ุม้ ค่า พระบาทสมเดจ็ พระ 10.3 ปฏิบัติตามท่ีได้รบั มอบหมายสำเร็จตามกำหนด เจ้าอยู่หัวฯ รู้จกั อดออมไว้ โดยคำนึงถงึ ความปลอดภยั ของตนเองและผ้อู ่นื ใช้เมอ่ื ยามจำเปน็ มไี วพ้ อ กินพอใช้ ถา้ เหลอื ก็  1-7 แจกจา่ ยจำหน่ายและ พรอ้ มที่จะขยายกจิ การ เมอื่ มคี วามพรอ้ มเมื่อมี ภมู คิ มุ้ กนั ทด่ี ี

ฎ รายการประเมิน พฤติกรรมที่แสดงออก พฤติกรรม ประจำหน่วยท่ี ท่ีจะวัด 1-7 11. มีความเข็มแข็งทั้ง 11.1 ดแู ล รกั ษาสุขภาพรา่ งกายตามสุขอนามัย 1-7 รา่ ยกาย และจิตใจไม่ยอม 11.2 ไมเ่ ก่ยี วข้องกับอบายมุข  1-7 แพ้ต่ออำนาจฝา่ ยต่ำหรือ 11.3 ไมน่ ำทรัพย์สนิ ของผู้อนื่ เป็นของตนเอง  กิเลส มีความละอายเกรง 11.4 หลกี เล่ยี งแหลง่ ม่ัวสมุ  1-7 กลัวตอ่ บาปตามหลกั ของ  1-7 ศาสนา  1-7 12. คำนงึ ถึงผลประโยชน์ 12.1 มีจิตอาสา อุทศิ ตนเพือ่ ประโยชน์ตอ่ สงั คมและ ของสว่ นรวมและของชาติ สว่ นรวม  มากกวา่ ผลประโยชน์ของ 12.2 เสียสละความสขุ สว่ นตน เพื่อทำประโยชน์แก่ ตนเอง ผู้อ่นื

ฏ แผนจัดการเรยี นการสอนเพอ่ื ประเมินพฤตกิ รรมผเู้ รียนอาชีวศกึ ษา สมรรถนะข้ามสายงาน จำนวน 10 คะแนน วิทยาลยั อาชวี ศกึ ษาสุรินทร์ รายวชิ าวชิ วลเบสิคดอตเน็ตเบือ้ งต้น รหสั วิชา 20903 - 1005 ทฤษฎี 1 ปฏิบัติ 2 หน่วยกิต 2 รายการประเมนิ พฤติกรรมท่แี สดงออก พฤติกรรม ประจำหนว่ ยท่ี วนิ ยั ในตนเอง ทีจ่ ะวัด 1. วนิ ยั ในตนเอง 2.1 ทักษะการสือ่ สาร(Communication 2. ความสามารถในการ Skills)  1-9 ส่อื สาร 2.2 ความฉลาดรูท้ างดจิ ิทัล(Digital (Communication Technology)  1-9 Skills) และการใช้ Digital Technology) การทำงานเปน็ ทมี (Team Work)  1-9 3. การทำงานเปน็ ทีม (Team Work) ความยนื หยุ่นและความสามารถในการปรับตวั  1-9 4. ความยืนหยุน่ และ ความสามารถในการ การคิดสร้างสรรค์  1-9 ปรับตัว  1-9 5. การคิดสรา้ งสรรค์

แผนการจัดการเรยี นรู้มุ่งเน้นสมรรถนะ หนว่ ยท่ี 1 ชอื่ หน่วย แนวคิดในการพัฒนาโปรแกรม สอนครั้งที่ 1 ชว่ั โมงรวม 6 ชือ่ เรอ่ื ง แนวคิดในการพฒั นาโปรแกรม จำนวนชว่ั โมง 3 1. สาระสำคญั การศึกษาวิชานีเ้ ปน็ วชิ าทเ่ี น้นผู้เรยี นเปน็ สำคัญ เพ่ือปลกู ฝังใหพ้ ฒั นาตนเองเขา้ สู่อาชีพอยา่ ง สม่ำเสมอ และนำไปประยกุ ตก์ บั การใช้คอมพิวเตอร์เพอื่ วางแผนใชใ้ นการทำงานสำหรับชีวิตประจำวันต่อไป และยังเป็นการใหผ้ เู้ รยี นได้มโี อกาสฝกึ ทกั ษะความชำนาญการเรียนรู้ด้านความรู้ ความสามารถเพ่ือมีสว่ นรว่ ม ในการเรยี นอย่างเต็มท่ีในการฝึกทักษะการปฏิบัติจรงิ เพ่ือพัฒนาทักษะ ความรู้ และความสามารถรวมท้ัง สตปิ ัญญาเพื่อแกป้ ัญหาได้ ผ้เู รยี นวชิ านนี้ อกจากจะไดค้ วามร้ทู ีถ่ ูกตอ้ งแลว้ ยงั สามารถนำไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นงาน เพ่ือเปน็ เครอ่ื งมือทส่ี ำคญั ในการเพิ่มประสทิ ธิภาพของงาน และสามารถแก้ปญั หาในชวี ติ ประจำวันอกี ด้วย 2. สมรรถนะประจำหน่วย 2.1 แสดงความรู้เก่ยี วกับหลกั การพฒั นาโปรแกรม ขน้ั ตอนการแก้ไขปัญหา(Algorithm) และ กระบวนการเขยี นโปรแกรม 2.2 เขียนโปรแกรมโดยใช้เครอ่ื งมือกราฟกิ โหมด 3. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 3.1 ดา้ นความรู้ 3.1.1 อธบิ ายของการเขียนโปรแกรม ได้ 3.1.2 อธบิ ายหลักการพฒั นาโปรแกรม ได้ 3.2 ด้านทกั ษะ นักเรยี นมีความรู้ ทักษะพน้ื ฐานเกี่ยวแนวคิดในการพัฒนาโปรแกรมและมีทศั นคติท่ดี ี 3.3 คุณลักษณะท่ีพึงประสงค์ (อ้างอิง จากค่านิยมหลกั ของคนไทย 12 ประการ) 3.3.1 เขา้ เรียนตรงเวลา 3.3.2 แต่งกายตามระเบียบการปฏิบตั ิงาน 3.3.3 ผลงานประณีตเรียบร้อย 3.3.4 ปดิ เคร่อื งคอมพวิ เตอรเ์ มอื่ เลิกใช้งาน 3.3.5 มีน้ำใจช่วยเหลือผูอ้ นื่ และการปฏบิ ัติงานรว่ มกับผอู้ ื่น 4. เน้ือหาสาระการเรียนรู้ 4.1 ความหมายของการเขียนโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ 4.2 หลักการพฒั นาการเขยี นโปรแกรม

2 5. กิจกรรมการเรยี นการสอน ครแู จง้ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ การวัดผลประเมินผล ขอ้ ตกลงขณะเรียน และใหน้ กั เรียนทำ แบบทดสอบกอ่ นเรียน 5.1 ขน้ั นำเข้าสูบ่ ทเรยี น 5.1.1 ผสู้ อนจัดเตรยี มเอกสาร พร้อมกบั แนะนำรายวชิ า วธิ ีการให้คะแนนและวิธกี ารเรยี นเรื่อง แนวคิดในการพัฒนาโปรแกรม 5.1.2 ผสู้ อนแจง้ จุดประสงคก์ ารเรียนของหนว่ ยเรยี นท่ี 1 และขอให้ผ้เู รียนร่วมกนั ทำกจิ กรรม การเรียนการสอน 5.1.3 ผสู้ อนให้ผเู้ รียนแสดงความรู้ โดยตง้ั คำถามวา่ แนวคดิ ในการพฒั นาโปรแกรมมีหลักการ อยา่ งไรพรอ้ มใหเ้ หตุผลประกอบ 5.2 ขัน้ สอน 5.2.1 ผสู้ อนทดสอบความรู้ความเข้าใจเกย่ี วกับความรู้เบื้องตน้ เกีย่ วกับแนวคดิ ในการพฒั นา โปรแกรม โดยใหผ้ ู้เรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรียน 5.2.2 ผู้สอนอธบิ ายเนือ้ หาเกีย่ วกับบทเรียนวชิ า การเขยี นโปรแกรมโดยใชเ้ ครอื่ งมอื กราฟกิ โหมด หน่วยที่ 1 เรือ่ ง แนวคดิ ในการพัฒนาโปรแกรมและใหผ้ ู้เรียนศึกษาเอกสารประกอบการสอน หน่วยที่ 1 5.2.3 ผสู้ อนและผู้เรยี นรว่ มกนั อธิบายพร้อมยกตวั อย่างถึงแนวคดิ ในการพัฒนาโปรแกรมตามท่ี ได้ศกึ ษาจากบทเรยี นคอมพวิ เตอร์ชว่ ยสอน 5.3 ข้ันประกอบกิจกรรมการเรยี น 5.3.1 ผ้สู อนให้ผเู้ รยี นทำแบบฝึกหัดทา้ ยบทที่ 1 5.3.2 ผสู้ อนให้ผเู้ รยี นแบง่ กลมุ่ ๆ ละเท่า ๆ กันทำการศกึ ษาเรื่อง 5.4 กลยทุ ธใ์ นการจดั การเรยี นรู้ 5.4.1 ครูใหเ้ พือ่ นช่วยเพ่อื น ใหน้ กั เรยี นกลมุ่ เกง่ และปานกลาง อยู่กับกลุ่มนักเรยี นท่เี รียนออ่ น ช่วยกันทำความเข้าใจในเนอื้ หา 5.4.2 สอนแบบ Active Learning โดยใชเ้ ครือ่ งมือบนอินเทอรเ์ น็ต http://www.linoit.com สอบถามนกั เรียนวา่ นกั เรยี นอยากไดห้ อ้ งเรยี นอยา่ งไรเรียนแลว้ มคี วามสขุ แสดงความคดิ เห็นแตล่ ะคน เพื่อ เปน็ การกระตุ้นเตรยี มความพร้อมในการเรียน 5.5 ขั้นสรุป 5.5.1 ผู้สอนและผู้เรียนร่วมกนั สรุปเน้ือหาที่ไดเ้ รียนใหม้ ีความเข้าใจในทิศทางเดียวกัน 5.5.2 ผสู้ อนให้ผเู้ รยี นศกึ ษาเพิ่มเติมนอกหอ้ งเรียน ดว้ ยบทเรยี นคอมพิวเตอร์ช่วยสอนที่จัดทำข้นึ 5.6 ขน้ั ทดสอบหลังเรียน นักเรียนทำใบกจิ กรรมที่ 1 และแบบทดสอบหลงั เรยี น 6. สื่อการเรยี นร/ู้ แหล่งการเรยี นรู้ 6.1 สื่อสิ่งพมิ พ์ 6.1.1 หนงั สือการเขียนโปรแกรมโดยใชเ้ ครื่องมือกราฟิกโหมด สำนักพมิ พ์เอมพันธ์จำกดั 6.1.2 แบบทดสอบก่อนเรยี น เร่อื ง แนวคดิ ในการพฒั นาโปรแกรม 6.1.3 ใบกจิ กรรมท่ี 1 เรอื่ ง ความร้คู ่คู ุณธรรม 6.1.4 แบบทดสอบหลังเรยี น เรอ่ื ง แนวคดิ ในการพัฒนาโปรแกรม

3 6.2 สือ่ โสตทัศน์ 6.2.1 Powerpoint เร่อื ง แนวคดิ ในการพฒั นาโปรแกรม 6.2.2 เครื่องฉายโปรเจคเตอร์ 6.2.3 เคร่ืองคอมพิวเตอร์แบบพกพา (Notebook) 6.3 อืน่ ๆ (โปรดระบ)ุ

4 7. การบูรณาการ/ความสัมพนั ธก์ บั วชิ าอืน่ 7.1 การบูรณาการสะเตม็ ศกึ ษา S: Science T: Technology E: Engineering M: Mathematics • การค้นหาข้อมูล • ใช้อินเทอรเ์ น็ตสืบคน้ วธิ ีการคน้ หาข้อมูลใน 6 • คำนวณเวลาในการ คัดเลือกหรือคดั ข้อมลู ขนั้ ตอน สืบค้นขอ้ มูล แยกข้อมูลในสงิ่ • ใชเ้ ทคโนโลยี • การกำหนดหวั ขอ้ ต่างๆท่อี ยรู่ อบตัว ออกแบบสือ่ โฆษณา • การเลอื กแหล่งข้อมลู เรา ผลติ ภัณฑ์อาหาร • การเตรียมอปุ กรณ์ • ใช้เทคโนโลยใี นการ • การคน้ หาและรวบรวม นำเสนอผลงาน ขอ้ มูล • การพิจารณา • การสรปุ ผล

5 8. การบูรณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงสกู่ ารจดั การเรยี นรู้ 8.1 ผูส้ อน ใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ตอ่ ไปน้ี 3 ห่วง ความพอประมาณ ความมีเหตผุ ล การสร้างภูมิคุ้มกนั ในตัว ประเด็น - ต้องการใหผ้ เู้ รยี นรเู้ รื่อง - เนอื้ หาสอดคล้องกับ ความหมายของคอมพวิ เตอร์ - สรปุ เนือ้ หาให้อา่ นเข้าใจ เนื้อหา สมรรถนะ ตวั ชีว้ ดั เหมาะสม องค์ประกอบ และสารสนเทศ ง่ายมภี าพประกอบเนื้อหา - แนวคิดในการ กับเวลาทีก่ ำหนดและวัย - เรียงเนื้อหาตามลำดบั การ พฒั นาโปรแกรม ของผู้เรยี น - จดั การเรยี นรูไ้ ด้ครบถว้ น เรียนรู้ - กำหนดเวลาในแตล่ ะ ตามทอ่ี อกแบบไว้ - จดั การเรียนรู้ไดค้ รบถว้ น เวลา กิจกรรมเหมาะสมกับกิจกรรม ตามท่อี อกแบบไว้ 4 ชั่วโมง และวยั ของผเู้ รียน - ต้องการให้ผเู้ รยี นปฏิบัติ - กำหนดเวลาในแตล่ ะ กิจกรรมอยา่ งทัว่ ถึงตาม กจิ กรรมไว้เกินจรงิ เล็กน้อย การจัดกิจกรรม - แบ่งกลุม่ ผู้เรยี นให้พอดกี บั ความสามารถ เพือ่ รองรับการเปลี่ยนแปลง จำนวนนกั เรยี น - เพอื่ ต้องการให้ผ้เู รียนเกดิ การ ท่ีอาจเกดิ ระหวา่ งจดั - กำหนดกจิ กรรมการเรียนรู้ เรยี นรตู้ ามเปา้ หมายทก่ี ำหนด กจิ กรรม เหมาะสมกับเวลาทกี่ ำหนด - ผู้เรยี นนำความรไู้ ป - แบ่งกลุม่ คละ - มอบหมายภาระงานและ ประยุกต์ใชก้ ับภาระงานได้ ความสามารถของนกั เรยี น ชนิ้ งานเหมาะสมกับ - รับฟงั ความคดิ เห็น และ - เตรยี มชุดคำถามให้พรอ้ ม ความสามารถผ้เู รยี นและ วิเคราะห์ วิจารณ์อยา่ งมเี หตผุ ล ตามลำดับกจิ กรรมการเรยี น สอดคล้องกับเปา้ หมายการ - สังเกตพฤติกรรมและให้ เรยี นรู้ ความชว่ ยเหลอื เม่อื นกั เรียน มปี ญั หา - ฝกึ การคน้ ควา้ หาความรู้ จากเพอ่ื น และระบบ อินเทอร์เนต็ เพ่ือแก้ปญั หาในแบบฝกึ ปฏิบัติ และใบงาน

6 3 ห่วง ความพอประมาณ ความมเี หตุผล การสรา้ งภมู ิคุ้มกันในตัว ประเด็น - ต้องการให้ผเู้ รยี นปฏิบัติ การจดั กิจกรรม - แบ่งกลุม่ ผู้เรยี นให้พอดกี บั กิจกรรมอย่างทว่ั ถงึ ตาม - แบง่ กล่มุ คละ จำนวนนักเรยี น ความสามารถ ความสามารถของนักเรียน สื่อ/อุปกรณ์ - กำหนดกิจกรรมการเรยี นรู้ - เพ่อื ต้องการให้ผ้เู รยี นเกดิ การ - เตรียมชุดคำถามใหพ้ รอ้ ม เหมาะสมกับเวลาที่กำหนด เรียนรตู้ ามเป้าหมายทก่ี ำหนด ตามลำดับกจิ กรรมการเรยี น แหล่งเรียนร/ู้ - มอบหมายภาระงานและ - ผเู้ รียนนำความรู้ไป - สังเกตพฤติกรรมและให้ ฐานการเรยี นรู้ ชิน้ งานเหมาะสมกบั ประยุกต์ใช้กับภาระงานได้ ความช่วยเหลอื เมือ่ นกั เรียน ความสามารถผ้เู รียนและ - รับฟังความคิดเห็น และ มีปัญหา สอดคล้องกบั เปา้ หมายการ วิเคราะห์ วิจารณอ์ ย่างมเี หตุผล - ฝึกการค้นคว้าหาความรู้ เรยี นรู้ จากเพื่อน และระบบ - ตอ้ งการให้นักเรียนได้ปฏบิ ัติ อนิ เทอร์เน็ต - จำนวนใบความรู้ ใบงาน กจิ กรรมไดจ้ รงิ ตามจุดประสงค์ เพื่อแก้ปญั หาในแบบฝกึ และวัสดุอุปกรณ์ เหมาะสม การเรียนรูท้ ี่กำหนดไว้ ปฏบิ ตั ิ และใบงาน กบั กจิ กรรม และปริมาณ - เตรียมส่อื อปุ กรณใ์ ห้พร้อม เพยี งพอกับจำนวนนกั เรยี น - ต้องการใหน้ ักเรียนใชว้ สั ดุ กอ่ นการจัดกิจกรรม -ตรวจความพร้อมของเคร่ือง อุปกรณ์ท่ีมคี วามพร้อมใน - มีลำดับขั้นตอนการใช้ส่อื คอมพิวเตอรก์ อ่ นเรยี น และ ห้องปฏบิ ตั ิการ มาปฏิบัติการ และจัดเกบ็ อยา่ งเป็นระบบ ปดิ เครื่อง ทดลองตามตวั ชวี้ ดั - มคี วามชำนาญในการใช้ -เก็บเกา้ อี้น่งั ใหเ้ รยี บร้อยหลัง สอื่ อุปกรณ์ เลิกเรยี น เพือ่ ความเรียบร้อย และประหยดั - เตรยี มหอ้ งปฏบิ ัติการ - หอ้ งปฏบิ ัติการคอมพวิ เตอร์ คอมพิวเตอร์ใหพ้ รอ้ มกอ่ น เหมาะสมกับกจิ กรรมท่ี การทดลอง กำหนด

7 3 ห่วง ความพอประมาณ ความมีเหตผุ ล การสรา้ งภูมิคุ้มกันในตัว ประเด็น - จัดทำแบบประเมนิ ผลงาน - ตอ้ งการประเมินผลการเรยี นรู้ - วางแผนการวดั / การประเมนิ ผล และประเมินพฤติกรรมได้ เหมาะสมกับเป้าหมายการ เรียนรู้ ตามเปา้ หมายทกี่ ำหนด ประเมินผลตามข้นั ตอนของ กิจกรรม - แบบประเมินผลมกี าร ตรวจสอบความเทยี่ งตรงใน การวัดตามตัวชว้ี ัด เง่ือนไขความรทู้ ค่ี รูตอ้ งมกี อ่ นสอน 3. หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง 1. ความหมายคอมพิวเตอร์และสารสนเทศ 4. จติ วิทยาในการสอน 2. การใชค้ อมพิวเตอร์ 3. มีความยุตธิ รรม เงื่อนไขคณุ ธรรมของครู 4. ตรงต่อเวลา 1. มีความรกั เมตตาศษิ ย์ 2. มีความรบั ผดิ ชอบ 8.2 คณุ ลกั ษณะอยู่อยา่ งพอเพยี งทเ่ี กิดกบั ผเู้ รยี น พอประมาณ มีเหตผุ ล มภี มู คิ ุม้ กนั ในตวั ท่ีดี 1. นกั เรียนกำหนดหน้าท่ขี องสมาชกิ 1. นกั เรียนนำข้อมูลการหา 1. วางแผนการทำงานกลุม่ อย่าง ภายในกล่มุ ได้เหมาะสมกับศักยภาพของ คำตอบมาวิเคราะหไ์ ด้อย่าง ละเอยี ดเป็นข้ันตอน แต่ละคน เปน็ เหตุเป็นผลเพือ่ อธิบาย 2. เตรยี มวสั ดุอุปกรณ์การทดลองได้ 2. นกั เรียนใช้วสั ดอุ ุปกรณใ์ นการทดลอง สรปุ เนอื้ หาสาระ ครบถ้วน และตรงตามกจิ กรรมการ ได้เหมาะสมกับกิจกรรมการทดของ 2. นกั เรียนสามารถนำข้อมลู ทดลอง 3. นกั เรยี นสามารถหาคำตอบได้ มาตอบคำถามไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง 3. ศกึ ษาวิธีการทำใบงานอยา่ ง สอดคล้องกบั อุปกรณท์ ม่ี ี รอบคอบ เงือ่ นไขความรู้ 1. ความหมายของการเขยี นโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ 2. หลักการพฒั นาการเขียนโปรแกรม เงือ่ นไขคณุ ธรรม 1. ความสามัคคีในกลมุ่ 2. ความรับผดิ ชอบ 3. แบง่ ปันและเอ้อื เฟอ้ื เผอ่ื แผ่

8 สง่ ผลต่อความสมดลุ ม่นั คง ยัง่ ยืนใน 4 มิติ ดังน้ี ด้าน สมดุลและพร้อมรับการเปลีย่ นแปลงในดา้ นต่างๆ องคป์ ระกอบ วัตถุ สังคม สิ่งแวดลอ้ ม วัฒนธรรม - มีความรูเ้ กี่ยวกบั ความรู้ - ความรูใ้ นการสบื คน้ - มีความรใู้ นการจดั แบง่ - มีความร้ใู นการดแู ล คอมพิวเตอรใ์ นการ ประยุกต์ใชใ้ น ขอ้ มูลจากคอมพวิ เตอร์ หนา้ ท่ภี ายในกลมุ่ ได้อยา่ ง รักษาความสะอาดการ กจิ กรรมในทอ้ งถน่ิ อย่างถกู ต้อง เหมาะสม จัดการขยะอย่าง ใชเ้ ทคโนโลยใี น ชวี ติ ประจำวันได้ - มีความรูใ้ นการปฏิบตั ิตน ถกู ตอ้ งของ - ตระหนกั ถึงคุณค่า ที่จะทำงานร่วมกบั ผอู้ น่ื ห้องปฏิบัติการ ของเทคโนโลยี คอมพิวเตอร์ ทกั ษะ - มีทักษะในการใชว้ ัสดุ - ทำงานรว่ มกนั ภายใน - รักษาความสะอาด อปุ กรณ์อย่างปลอดภยั กลุม่ ตามทไ่ี ด้รับมอบหมาย ของห้องปฏิบัติการ และประหยดั จนสำเร็จและมีความสุข คอมพิวเตอร์ในการ สบื คน้ ขอ้ มุล คา่ นยิ ม - เหน็ ความสำคญั ของการ - มีความรบั ผิดชอบตอ่ การ - มจี ิตสำนึกในการ ใช้วัสดุอุปกรณ์ในการ ทำงานของกลมุ่ รักษาสภาพแวดล้อม สืบค้นขอ้ มูลอย่างประหยดั - ยอมรบั ความคิดเหน็ ซ่งึ ของหอ้ งปฏิบตั ิการ คุม้ ค่า กนั และกันมีความเสยี สละ คอมพวิ เตอร๋ใหส้ ะอาด อดทน เปน็ ระเบยี บ 9. การวัดและประเมนิ ผล รายการประเมนิ วธิ ีการ เคร่อื งมอื ทใ่ี ช้ เกณฑก์ ารประเมนิ ผา่ น - การทดสอบก่อนเรยี น การทดสอบ แบบทดสอบก่อนเรียน จำนวน 10 ขอ้ ได้ระดับ 2 ขน้ึ ไป การประเมนิ ระหวา่ งเรยี น การสังเกต แบบประเมินพฤติกรรม ตอบคำถามทุกขอ้ การซกั ถาม การเรียน ไดร้ ะดบั 2 ขึ้นไป การทำแบบฝกึ ปฏิบัติ ตง้ั คำถามให้ครอบคลมุ จดุ ประสงค์ ตอบถกู 8 ข้อขึ้นไป การประเมินหลงั เรียน การทดสอบ แบบฝึกหดั และใบ กิจกรรมที่ 1 แบบทดสอบหลังเรียน จำนวน 10 ขอ้

9 10. บันทึกหลงั สอน 10.1 ผลการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ 10.1.1 เน้ือหาสอดคล้องกับจุดประสงค์เชิงพฤติกรรม 10.1.2 สามารถนำไปใช้ปฏบิ ตั กิ ารสอนไดค้ รบตามกระบวนการเรยี นการสอน 10.1.3 เวลาท่ีกำหนดไว้ในแผนการสอนมีความเหมาะสม 10.2 ผลการเรยี นรู้ของนักเรียน นกั ศึกษา 10.2.1 นักศึกษาสว่ นใหญม่ คี วามสนใจใฝ่รู้ เขา้ ใจในบทเรียน อภปิ รายตอบคำถามในกลมุ่ และ รว่ มกนั ปฏบิ ัตใิ บงานทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย 10.2.2 นักศกึ ษากระตือรอื รน้ และรบั ผิดชอบในการทำงานกลุม่ เพอ่ื ใหง้ านสำเร็จทันเวลาที่ กำหนด 10.2.3 นักศึกษาเลือกสามารถนำความรไู้ ปใช้ได้จริงในชีวติ ประจำวนั 10.3 แนวทางการพฒั นาคณุ ภาพการเรียนรู้ นกั เรยี นสามารถนำความรทู้ ี่ได้จากการเรยี นรู้ในหนว่ ยนไี้ ปประยุกต์ใช้ในชวี ติ ประจำวนั และ เช่อื มโยงกับวิชาชพี ไดอ้ ย่างเหมาะสม

10 แบบฝกึ หัดหน่วยท่ี 1 เร่อื ง กระบวนการและโครงสรา้ งการทํางานของเว็บไซต์ จงตอบคำถามต่อไปน้ใิ ห้มใี จความสมบรู ณ์ 1. จงบอกความหมายอินเทอรเ์ นต็ มาพอเขา้ ใจ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. จงอธบิ ายการทำงานของอินเทอรเ์ น็ต มาพอเข้าใจ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. จงบอกถงึ บรกิ ารตา่ งๆ บนอนิ เทอร์เนต็ มาพอเขา้ ใจ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. จงบอกความหมายของเว็บ มาพอเข้าใจ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 5. จงบอกความหมายของ URL มาพอเขา้ ใจ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 6. จงบอกประโยชนข์ องเว็บ มาพอเขา้ ใจ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 7. จงอธบิ ายการทำงานของเวบ็ มาพอเขา้ ใจ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 8. จงบอกความหมายของการสร้างเวบ็ ไซต์ดว้ ยภาษา HTML มาพอเขา้ ใจ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 9. จงบอกความหมายของการสรา้ งเวบ็ ไซต์ดว้ ยโปรแกรมสำเรจ็ รูป มาพอเข้าใจ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 10. จงบอกความหมายของการสรา้ งเว็บไซตด์ ้วยโปรแกรมระบบ CMS มาพอเขา้ ใจ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

11 ใบกจิ กรรมที่ 1 เรื่องความรู่คู่คณุ ธรรม จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม 1. อธบิ ายความสำคัญของคุณธรรม จรยิ ธรรมกบั การดำเนินชีวติ ได้ ( สำนกั งาน ป.ป.ช.) 2. ประยุกตใ์ ช้คณุ ธรรม จริยธรรมในการดำเนินชีวิตได้ (จาก สำนักงาน ป.ป.ช.) คำชีแ้ จง ผเู้ รยี นศกึ ษาบทกลอน “ความรู้คูค่ ุณธรรม” แลว้ ตอบคำถามต่อไปน้ี เมื่อความรู้ ยอดเย่ียม สูงเทียมเมฆ แต่คณุ ธรรม ต่ำเฉก ยอดหญ้าน่ัน อาจเสกสรา้ ง มจิ ฉา สารพัน ดว้ ยจติ อนั ไรอ้ าย ในโลกา แม้คุณธรรม สงู เยย่ี ม ถึงเทยี มเมฆ แต่ความรู้ ต่ำเฉก เช่นยอดหญา้ ย่อมเป็นเหยอ่ื ทรชน จนอุรา ดว้ ยปัญญา ออ่ นดอ้ ย น่าน้อยใจ หากความรู้ สูงล้ำ คุณธรรมเลิศ แสนประเสริฐ กอปรกจิ วนิ จิ ฉัย จะพฒั นา ประชาราษฎร์ ทง้ั ชาตไิ ทย ต้องฝึกให้ ความรู้ คูค่ ุณธรรม” ผู้ประพันธ์ : ศาสตราจารย์อำไพ สุจรติ กุล

12 คำถามผเู้ รียนตอบคำถามตอ่ ไปน้ีให้สมบรู ณ์ที่สุด 1.ผูเ้ รียนคดิ วา่ คุณธรรม จรยิ ธรรม มีความจำเป็นหรอื ไมท่ จ่ี ะนำมาใช้ในการดำเนนิ ชวี ติ ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. 2.ผเู้ รียนคิดว่าถา้ ทกุ คนแสวงหาแต่ความร้เู พยี งอย่างเดียวจะเกิดอะไรขน้ึ ในสังคม ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. 3.ถา้ คนสว่ นมากแสวงหาแต่ทางธรรมเพยี งอยา่ งเดยี วผูเ้ รียนคดิ วา่ จะเกิดอะไรข้ึนในสงั คม ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. 4.สง่ิ ที่ดีที่สดุ ในการดำเนนิ ชีวิตทุกคนต้องแสวงหาส่ิงใดจงึ จะมชี วี ติ ท่ีประเสริฐสุด ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................

13 5.ให้ผู้เรียนคิดหาแนวทางในการปลกู ฝงั คุณธรรม จรยิ ธรรม โดยเติมข้อความในตารางทก่ี ำหนด ไว้ใหส้ มบรู ณท์ ี่สดุ บ้าน สถานศึกษา 1............................................................... 1............................................................... 2............................................................... 2............................................................... 3................................................................ 3................................................................ แนวทางการปลูกฝังคณุ ธรรม จริยธรรม สถานที่ทํางาน ชมุ ชน/สังคม 1....................................................... 1.............................................................. 2....................................................... 2.............................................................. 3....................................................... 3...............................................................

14 แผนการจดั การเรียนรูม้ ุ่งเน้นสมรรถนะ หนว่ ยท่ี 1 ชอื่ หนว่ ย แนวคดิ ในการพฒั นาโปรแกรม สอนครั้งท่ี 2 ชว่ั โมงรวม 6 ช่ือเร่อื ง แนวคดิ ในการพัฒนาโปรแกรม จำนวนชั่วโมง 3 1. สาระสำคญั เคร่ืองคอมพิวเตอร์เริ่มเข้ามามีบทบาทในชวี ิตและการทำงานของคนในประเทศไทยตง้ั แต่ พ.ศ. 2524 ซึ่งเครื่องคอมพิวเตอร์ทำงานโดยใช้หนว่ ยประมวลผลกลาง (ซีพียู 8088) และไม่สามารถทำงานด้วยตนเองได้ ต้องมีโปรแกรมคำสั่ง หรือชุดคำสั่งทีช่ ่วยให้คอมพิวเตอร์ทำงานได้ตามความต้องการของผู้ใช้ ชุดคำสั่งท่ีส่งั ให้ คอมพิวเตอร์ทำงาน หรอื เรียกว่า “โปรแกรมคอมพิวเตอร์” นั้นเร่ิมตั้งแต่ชุดคำส่ังของระบบปฏิบัติการโดยทำ หน้าที่เป็นตัวกลางในการติดต่อผู้ใช้กับการทำงานของคอมพวิ เตอรโ์ ปรแกรมสำเร็จรูปต่างๆ เป็นชุดคำส่ังที่ใช้ ในการทำงานเฉพาะงาน ซึ่งแตกต่างกันไปแลว้ แต่งานนั้นๆ โปรแกรมคอมพวิ เตอร์จงึ มีความสำคัญมากในการ ทำงานของคอมพิวเตอร์ การพัฒนาโปรแกรมให้คอมพิวเตอร์สามารถทำงานไดต้ ามความตอ้ งการถือเป็นหัวใจ หลกั ในการพัฒนาคอมพวิ เตอรใ์ หท้ ำงานตามความต้องการของผู้ใชไ้ ด้มากทสี่ ุด 2. สมรรถนะประจำหนว่ ย 2.1 แสดงความรู้เก่ยี วกับหลักการพัฒนาโปรแกรม ขั้นตอนการแก้ไขปญั หา(Algorithm) และ กระบวนการเขยี นโปรแกรม 2.2 เขยี นโปรแกรมโดยใช้เครอื่ งมือกราฟกิ โหมด 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ดา้ นความรู้ อธบิ ายหลกั การออกแบบและพัฒนาโปรแกรมโดยใช้เคร่ืองมอื กราฟกิ โหมดได้ 3.2 ด้านทักษะ นกั เรยี นมคี วามรู้ ทักษะพื้นฐานเก่ยี วแนวคดิ ในการพฒั นาโปรแกรมและมีทัศนคตทิ ี่ดี 3.3 คุณลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ (อ้างอิง จากคา่ นยิ มหลกั ของคนไทย 12 ประการ) 3.3.1 เขา้ เรียนตรงเวลา 3.3.2 แต่งกายตามระเบยี บการปฏิบตั งิ าน 3.3.3 ผลงานประณีตเรียบรอ้ ย 3.3.4 ปดิ เครื่องคอมพิวเตอร์เมอ่ื เลกิ ใช้งาน 3.3.5 มนี ้ำใจช่วยเหลือผอู้ นื่ และการปฏบิ ัติงานรว่ มกับผู้อน่ื 4. เน้อื หาสาระการเรยี นรู้ 4.1 ความหมายของการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ 4.2 หลักการพัฒนาการเขียนโปรแกรม

15 5. กจิ กรรมการเรียนการสอน ครแู จง้ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ การวดั ผลประเมินผล ขอ้ ตกลงขณะเรียน และใหน้ กั เรยี นทำ แบบทดสอบกอ่ นเรียน 5.1 ขั้นนำเขา้ สู่บทเรียน 5.1.1 ผู้สอนจดั เตรยี มเอกสาร พร้อมกบั แนะนำรายวชิ า วธิ กี ารใหค้ ะแนนและวธิ ีการเรยี นเรอื่ ง แนวคิดในการพัฒนาโปรแกรม 5.1.2 ผู้สอนแจง้ จุดประสงค์การเรยี นของหน่วยเรยี นที่ 1 และขอให้ผู้เรียนร่วมกันทำกิจกรรม การเรียนการสอน 5.1.3 ผสู้ อนให้ผู้เรียนแสดงความรู้ โดยตัง้ คำถามวา่ แนวคิดในการพัฒนาโปรแกรมมีหลกั การ อยา่ งไรพรอ้ มใหเ้ หตผุ ลประกอบ 5.2 ขน้ั สอน 5.2.1 ผสู้ อนทดสอบความรู้ความเข้าใจเกีย่ วกบั ความรูเ้ บือ้ งต้นเกีย่ วกับแนวคิดในการพฒั นา โปรแกรม โดยใหผ้ ู้เรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรียน 5.2.2 ผู้สอนอธิบายเนือ้ หาเก่ยี วกับบทเรยี นวิชา การเขยี นโปรแกรมโดยใช้เครื่องมอื กราฟิกโหมด หนว่ ยที่ 1 เร่อื ง แนวคิดในการพัฒนาโปรแกรมและใหผ้ ้เู รียนศึกษาเอกสารประกอบการสอน หนว่ ยที่ 1 5.2.3 ผสู้ อนและผู้เรยี นรว่ มกนั อธิบายพร้อมยกตวั อย่างถงึ แนวคิดในการพัฒนาโปรแกรมตามท่ี ได้ศกึ ษาจากบทเรียนคอมพวิ เตอรช์ ว่ ยสอน 5.3 ขั้นประกอบกิจกรรมการเรียน 5.3.1 ผสู้ อนให้ผเู้ รยี นทำใบงานท่ี 1 5.3.2 ผู้สอนให้ผู้เรียนแบง่ กล่มุ ๆ ละเทา่ ๆ กนั ทำการศกึ ษาเรื่อง 5.4 กลยทุ ธใ์ นการจดั การเรียนรู้ 5.4.1 ครูให้เพ่ือนชว่ ยเพือ่ น ให้นักเรยี นกล่มุ เกง่ และปานกลาง อยู่กับกล่มุ นักเรยี นท่เี รียนอ่อน ช่วยกันทำความเข้าใจในเนื้อหา 5.4.2 สอนแบบ Active Learning โดยใช้เครื่องมือบนอนิ เทอรเ์ นต็ http://www.linoit.com สอบถามนักเรียนว่า นักเรียนอยากได้หอ้ งเรียนอยา่ งไรเรยี นแล้วมคี วามสุข แสดงความคดิ เห็นแต่ละคน เพอื่ เปน็ การกระตนุ้ เตรยี มความพรอ้ มในการเรยี น 5.5 ข้ันสรปุ 5.5.1 ผสู้ อนและผู้เรยี นร่วมกันสรุปเนือ้ หาทีไ่ ดเ้ รยี นให้มีความเข้าใจในทิศทางเดียวกัน 5.5.2 ผูส้ อนให้ผเู้ รียนศกึ ษาเพม่ิ เติมนอกหอ้ งเรยี น ดว้ ยบทเรียนคอมพวิ เตอรช์ ว่ ยสอนที่จดั ทำข้นึ 5.6 ขั้นทดสอบหลังเรียน นักเรียนทำใบงานท่ี 1และแบบทดสอบหลังเรยี น

16 6. สอื่ การเรยี นรู้/แหล่งการเรียนรู้ 6.1 ส่ือส่งิ พิมพ์ 6.1.1 หนงั สอื การเขยี นโปรแกรมโดยใชเ้ ครื่องมอื กราฟิกโหมด สำนกั พมิ พเ์ อมพนั ธจ์ ำกัด 6.1.2 แบบทดสอบก่อนเรยี น เรื่อง แนวคิดในการพฒั นาโปรแกรม 6.1.3 ใบงานท่ี 1 6.1.4 แบบทดสอบหลงั เรยี น เรื่อง แนวคดิ ในการพัฒนาโปรแกรม 6.2 สือ่ โสตทศั น์ 6.2.1 Powerpoint เร่อื ง แนวคดิ ในการพฒั นาโปรแกรม 6.2.2 เครอ่ื งฉายโปรเจคเตอร์ 6.2.3 เคร่อื งคอมพวิ เตอรแ์ บบพกพา (Notebook) 6.3 อ่ืนๆ (โปรดระบ)ุ

17 7. การบูรณาการ/ความสัมพนั ธ์กบั วชิ าอื่น 7.1 การบูรณาการสะเตม็ ศกึ ษา S: Science T: Technology E: Engineering M: Mathematics • การคน้ หาข้อมูล • ใชอ้ นิ เทอร์เน็ตสืบคน้ วธิ ีการค้นหาขอ้ มลู ใน 6 • คำนวณเวลาในการ คัดเลอื กหรอื คดั ข้อมูล ข้นั ตอน สบื คน้ ข้อมูล แยกข้อมูลในสงิ่ • ใชเ้ ทคโนโลยี • การกำหนดหัวขอ้ ตา่ งๆท่ีอยรู่ อบตวั ออกแบบสือ่ โฆษณา • การเลือกแหล่งข้อมูล เรา ผลิตภัณฑ์อาหาร • การเตรียมอุปกรณ์ • ใช้เทคโนโลยใี นการ • การคน้ หาและรวบรวม นำเสนอผลงาน ขอ้ มลู • การพจิ ารณา • การสรุปผล

18 8. การบรู ณาการหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งส่กู ารจัดการเรียนรู้ 8.1 ผู้สอน ใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงในการจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอน ตอ่ ไปน้ี 3 ห่วง ความพอประมาณ ความมเี หตุผล การสร้างภมู ิค้มุ กนั ในตวั ประเดน็ - ตอ้ งการใหผ้ ู้เรียนร้เู รื่อง - เนอ้ื หาสอดคลอ้ งกับ ความหมายของคอมพวิ เตอร์ - สรปุ เนื้อหาให้อา่ นเข้าใจ เนอ้ื หา สมรรถนะ ตวั ชว้ี ัด เหมาะสม องค์ประกอบ และสารสนเทศ งา่ ยมภี าพประกอบเนอื้ หา - แนวคดิ ในการ กบั เวลาทีก่ ำหนดและวยั - เรียงเนือ้ หาตามลำดับการ พัฒนาโปรแกรม ของผเู้ รยี น - จดั การเรยี นรู้ไดค้ รบถ้วน เรยี นรู้ - กำหนดเวลาในแตล่ ะ ตามท่อี อกแบบไว้ - จัดการเรียนร้ไู ด้ครบถ้วน เวลา กจิ กรรมเหมาะสมกบั กจิ กรรม ตามที่ออกแบบไว้ 4 ชัว่ โมง และวัยของผูเ้ รียน - ต้องการใหผ้ ูเ้ รียนปฏบิ ัติ - กำหนดเวลาในแตล่ ะ กจิ กรรมอย่างทั่วถงึ ตาม กจิ กรรมไว้เกนิ จรงิ เล็กน้อย การจัดกิจกรรม - แบง่ กลุ่มผู้เรยี นใหพ้ อดีกับ ความสามารถ เพอ่ื รองรบั การเปลย่ี นแปลง จำนวนนกั เรยี น - เพ่ือตอ้ งการใหผ้ ูเ้ รียนเกิดการ ท่อี าจเกดิ ระหว่างจดั - กำหนดกจิ กรรมการเรียนรู้ เรียนรู้ตามเป้าหมายท่กี ำหนด กจิ กรรม เหมาะสมกับเวลาทกี่ ำหนด - ผเู้ รยี นนำความรไู้ ป - แบ่งกลุม่ คละ - มอบหมายภาระงานและ ประยุกตใ์ ชก้ ับภาระงานได้ ความสามารถของนกั เรยี น ช้ินงานเหมาะสมกับ - รับฟงั ความคิดเห็น และ - เตรียมชุดคำถามให้พรอ้ ม ความสามารถผู้เรียนและ วิเคราะห์ วิจารณอ์ ย่างมเี หตุผล ตามลำดบั กจิ กรรมการเรยี น สอดคลอ้ งกับเปา้ หมายการ - สงั เกตพฤติกรรมและให้ เรียนรู้ ความชว่ ยเหลอื เมอ่ื นักเรยี น มีปัญหา - ฝึกการค้นควา้ หาความรู้ จากเพื่อน และระบบ อนิ เทอรเ์ น็ต เพอ่ื แกป้ ญั หาในแบบฝกึ ปฏิบตั ิ และใบงาน

19 3 ห่วง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสร้างภูมิค้มุ กนั ในตวั ประเดน็ - ตอ้ งการให้ผูเ้ รียนปฏิบัติ การจัดกิจกรรม - แบ่งกล่มุ ผู้เรยี นใหพ้ อดีกับ กิจกรรมอยา่ งทั่วถงึ ตาม - แบ่งกลุ่มคละ จำนวนนกั เรียน ความสามารถ ความสามารถของนกั เรียน สื่อ/อุปกรณ์ - กำหนดกิจกรรมการเรยี นรู้ - เพื่อตอ้ งการใหผ้ ้เู รียนเกดิ การ - เตรยี มชุดคำถามใหพ้ ร้อม เหมาะสมกบั เวลาทกี่ ำหนด เรยี นรู้ตามเปา้ หมายท่ีกำหนด ตามลำดบั กิจกรรมการเรียน แหล่งเรยี นร/ู้ - มอบหมายภาระงานและ - ผเู้ รียนนำความรไู้ ป - สงั เกตพฤติกรรมและให้ ฐานการเรียนรู้ ช้นิ งานเหมาะสมกบั ประยุกตใ์ ช้กับภาระงานได้ ความชว่ ยเหลอื เมอ่ื นกั เรียน ความสามารถผ้เู รียนและ - รับฟังความคดิ เหน็ และ มีปัญหา สอดคลอ้ งกับเป้าหมายการ วเิ คราะห์ วิจารณอ์ ยา่ งมเี หตผุ ล - ฝกึ การคน้ คว้าหาความรู้ เรียนรู้ จากเพอ่ื น และระบบ - ตอ้ งการใหน้ ักเรียนไดป้ ฏิบัติ อินเทอร์เนต็ - จำนวนใบความรู้ ใบงาน กิจกรรมได้จรงิ ตามจดุ ประสงค์ เพ่อื แกป้ ัญหาในแบบฝกึ และวสั ดอุ ุปกรณ์ เหมาะสม การเรียนรู้ทก่ี ำหนดไว้ ปฏบิ ัติ และใบงาน กับกจิ กรรม และปรมิ าณ - เตรยี มส่อื อุปกรณ์ให้พรอ้ ม เพียงพอกับจำนวนนกั เรียน - ตอ้ งการให้นักเรยี นใช้วสั ดุ กอ่ นการจัดกิจกรรม -ตรวจความพรอ้ มของเคร่อื ง อุปกรณ์ทมี่ ีความพรอ้ มใน - มีลำดับขั้นตอนการใช้สอ่ื คอมพวิ เตอรก์ ่อนเรียน และ ห้องปฏิบัตกิ าร มาปฏิบัติการ และจัดเก็บอย่างเป็นระบบ ปิดเครื่อง ทดลองตามตัวช้วี ดั - มีความชำนาญในการใช้ -เกบ็ เกา้ อี้นัง่ ให้เรียบรอ้ ยหลัง ส่อื อปุ กรณ์ เลกิ เรยี น เพ่ือความเรยี บรอ้ ย และประหยัด - เตรียมห้องปฏิบัติการ - ห้องปฏบิ ัติการคอมพวิ เตอร์ คอมพิวเตอรใ์ หพ้ ร้อมก่อน เหมาะสมกบั กิจกรรมที่ การทดลอง กำหนด

20 3 ห่วง ความพอประมาณ ความมเี หตผุ ล การสร้างภมู ิคุ้มกันในตวั ประเดน็ - จดั ทำแบบประเมินผลงาน - ต้องการประเมนิ ผลการเรียนรู้ - วางแผนการวดั / การประเมนิ ผล และประเมนิ พฤติกรรมได้ เหมาะสมกบั เป้าหมายการ เรียนรู้ ตามเป้าหมายที่กำหนด ประเมนิ ผลตามขัน้ ตอนของ กิจกรรม - แบบประเมินผลมกี าร ตรวจสอบความเทีย่ งตรงใน การวัดตามตัวช้วี ดั เงือ่ นไขความรูท้ ่คี รูตอ้ งมีกอ่ นสอน 3. หลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง 1. ความหมายคอมพิวเตอร์และสารสนเทศ 4. จติ วทิ ยาในการสอน 2. การใชค้ อมพิวเตอร์ 3. มีความยตุ ธิ รรม เงอ่ื นไขคุณธรรมของครู 4. ตรงตอ่ เวลา 1. มคี วามรักเมตตาศษิ ย์ 2. มคี วามรับผดิ ชอบ 8.2 คุณลกั ษณะอยูอ่ ยา่ งพอเพียงทเ่ี กดิ กับผูเ้ รยี น พอประมาณ มีเหตผุ ล มภี มู ิคุ้มกนั ในตวั ทีด่ ี 1. นกั เรียนกำหนดหน้าท่ีของสมาชกิ 1. นักเรียนนำขอ้ มลู การหา 1. วางแผนการทำงานกลมุ่ อย่าง ภายในกลุ่มได้เหมาะสมกบั ศกั ยภาพของ คำตอบมาวิเคราะห์ไดอ้ ย่าง ละเอียดเป็นขน้ั ตอน แตล่ ะคน เปน็ เหตเุ ปน็ ผลเพ่ืออธิบาย 2. เตรียมวัสดุอุปกรณ์การทดลองได้ 2. นกั เรยี นใชว้ ัสดุอุปกรณใ์ นการทดลอง สรปุ เนอ้ื หาสาระ ครบถ้วน และตรงตามกิจกรรมการ ได้เหมาะสมกบั กจิ กรรมการทดของ 2. นกั เรียนสามารถนำข้อมลู ทดลอง 3. นกั เรียนสามารถหาคำตอบได้ มาตอบคำถามได้อย่างถูกตอ้ ง 3. ศกึ ษาวิธกี ารทำใบงานอย่าง สอดคล้องกบั อปุ กรณ์ที่มี รอบคอบ เง่อื นไขความรู้ 1. ความหมายของการเขยี นโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ 2. หลักการพฒั นาการเขียนโปรแกรม เงอื่ นไขคณุ ธรรม 1. ความสามัคคีในกลมุ่ 2. ความรับผดิ ชอบ 3. แบ่งปนั และเอ้อื เฟื้อเผ่ือแผ่

21 สง่ ผลต่อความสมดุล มนั่ คง ย่ังยนื ใน 4 มิติ ดังนี้ ดา้ น สมดลุ และพร้อมรับการเปล่ียนแปลงในด้านตา่ งๆ องค์ประกอบ วัตถุ สังคม สงิ่ แวดล้อม วฒั นธรรม - มีความรเู้ กี่ยวกบั ความรู้ - ความรใู้ นการสืบค้น - มคี วามรู้ในการจดั แบง่ - มคี วามรู้ในการดูแล คอมพิวเตอรใ์ นการ ประยกุ ต์ใชใ้ น ข้อมูลจากคอมพวิ เตอร์ หนา้ ที่ภายในกลมุ่ ได้อย่าง รักษาความสะอาดการ กิจกรรมในทอ้ งถน่ิ อยา่ งถกู ตอ้ ง เหมาะสม จัดการขยะอยา่ ง ใช้เทคโนโลยใี น ชวี ิตประจำวนั ได้ - มคี วามรใู้ นการปฏบิ ตั ิตน ถูกต้องของ - ตระหนกั ถงึ คุณคา่ ทจ่ี ะทำงานร่วมกับผู้อ่นื หอ้ งปฏิบัตกิ าร ของเทคโนโลยี คอมพิวเตอร์ ทักษะ - มีทักษะในการใชว้ สั ดุ - ทำงานร่วมกนั ภายใน - รกั ษาความสะอาด อุปกรณอ์ ยา่ งปลอดภัย กลมุ่ ตามทไ่ี ด้รับมอบหมาย ของหอ้ งปฏบิ ัตกิ าร และประหยัด จนสำเรจ็ และมีความสุข คอมพิวเตอร์ในการ สืบคน้ ข้อมุล ค่านยิ ม - เห็นความสำคัญของการ - มคี วามรบั ผดิ ชอบต่อการ - มจี ติ สำนึกในการ ใชว้ สั ดุอุปกรณใ์ นการ ทำงานของกลุ่ม รักษาสภาพแวดลอ้ ม สืบคน้ ข้อมลู อย่างประหยดั - ยอมรบั ความคิดเหน็ ซ่งึ ของหอ้ งปฏบิ ตั ิการ คมุ้ คา่ กันและกันมคี วามเสยี สละ คอมพวิ เตอร๋ใหส้ ะอาด อดทน เปน็ ระเบยี บ 9. การวัดและประเมนิ ผล รายการประเมนิ วิธีการ เคร่อื งมอื ทีใ่ ช้ เกณฑก์ ารประเมนิ ผ่าน - การทดสอบก่อนเรยี น การทดสอบ แบบทดสอบก่อนเรยี น จำนวน 10 ขอ้ ได้ระดับ 2 ขนึ้ ไป การประเมนิ ระหว่างเรยี น การสงั เกต แบบประเมนิ พฤตกิ รรม ตอบคำถามทุกขอ้ การซักถาม การเรยี น ไดร้ ะดบั 2 ข้นึ ไป การทำแบบฝกึ ปฏบิ ัติ ตง้ั คำถามให้ครอบคลมุ ตอบถกู 8 ขอ้ ขึ้นไป การประเมนิ หลงั เรยี น การทดสอบ จุดประสงค์ ใบงานที่ 1 แบบทดสอบหลงั เรียน จำนวน 10 ขอ้

22 10. บนั ทกึ หลงั สอน 10.1 ผลการใชแ้ ผนการจัดการเรยี นรู้ 10.1.1 เนอ้ื หาสอดคลอ้ งกบั จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม 10.1.2 สามารถนำไปใช้ปฏิบตั ิการสอนไดค้ รบตามกระบวนการเรยี นการสอน 10.1.3 เวลาทก่ี ำหนดไว้ในแผนการสอนมีความเหมาะสม 10.2 ผลการเรยี นรู้ของนกั เรียน นกั ศกึ ษา 10.2.1 นักศึกษาส่วนใหญ่มคี วามสนใจใฝ่รู้ เขา้ ใจในบทเรยี น อภปิ รายตอบคำถามในกลมุ่ และ รว่ มกันปฏบิ ตั ใิ บงานที่ไดร้ บั มอบหมาย 10.2.2 นักศึกษากระตือรอื ร้นและรับผดิ ชอบในการทำงานกล่มุ เพอ่ื ให้งานสำเรจ็ ทันเวลาที่ กำหนด 10.2.3 นกั ศึกษาเลือกสามารถนำความรู้ไปใชไ้ ด้จริงในชีวิตประจำวัน 10.3 แนวทางการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ นักเรยี นสามารถนำความรทู้ ี่ไดจ้ ากการเรียนร้ใู นหนว่ ยน้ีไปประยุกตใ์ ชใ้ นชีวิตประจำวัน และ เชือ่ มโยงกบั วชิ าชีพไดอ้ ยา่ งเหมาะสม

23 ใบงานท่ี 1 เรอ่ื ง กระบวนการและโครงสร้างการทํางานของเวบ็ ไซต์ บอกหลกั การพฒั นาโปรแกรม โดยแสดงเป็นแผนภูมิขน้ั ตอนหรอื วธิ กี ารพฒั นาโปรแกรมตามขน้ั ตอน ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

24 แผนการจดั การเรียนรู้มุ่งเนน้ สมรรถนะ หน่วยท่ี 2 ชื่อหน่วย องค์ประกอบของโปรแกรมภาษาคอมพวิ เตอร์ สอนครั้งที่ 3 ชั่วโมงรวม 6 ชอ่ื เรอ่ื ง องค์ประกอบของโปรแกรมภาษาคอมพิวเตอร์ จำนวนชั่วโมง 3 1. สาระสำคัญ ในการออกแบบและพฒั นาโปรแกรมคอมพวิ เตอร์เพ่ือให้สามารถตอบสนองความต้องการของผูใ้ ช้ได้ นนั้ ผ้พู ัฒนาโปรแกรมตอ้ งมคี วามรู้และความเขา้ ใจเก่ียวกับองค์ประกอบของโปรแกรมภาษาคอมพิวเตอร์ก่อน เนื้อหาในหน่วยนี้จะประกอบด้วยความรู้เกี่ยวกับโปรแกรมคอมพิวเตอร์แบบต่างๆ ระดับของ ภาษาคอมพิวเตอร์ และโครงสรา้ งของขอ้ มูลในโปรแกรมคอมพิวเตอร์ 2. สมรรถนะประจำหน่วย 2.1 แสดงความรูเ้ กี่ยวกบั หลักการพัฒนาโปรแกรม ขนั้ ตอนการแก้ไขปัญหา(Algorithm) และ กระบวนการเขียนโปรแกรม 2.2 เขียนโปรแกรมโดยใชเ้ คร่ืองมือกราฟิกโหมด 3. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 3.1 ด้านความรู้ อธบิ ายระดบั ของภาษาคอมพวิ เตอร์ได้ 3.2 ดา้ นทักษะ นักเรียนมีความรู้ ทกั ษะพน้ื ฐานเก่ยี วองค์ประกอบของโปรแกรมภาษาคอมพิวเตอร์และมี ทศั นคติทดี่ ี 3.3 คุณลกั ษณะที่พงึ ประสงค์ (อ้างองิ จากค่านิยมหลกั ของคนไทย 12 ประการ) 3.3.1 เขา้ เรยี นตรงเวลา 3.3.2 แตง่ กายตามระเบยี บการปฏิบตั งิ าน 3.3.3 ผลงานประณตี เรียบรอ้ ย 3.3.4 ปดิ เคร่อื งคอมพิวเตอรเ์ มอ่ื เลกิ ใชง้ าน 3.3.5 มนี ้ำใจชว่ ยเหลอื ผู้อนื่ และการปฏิบัติงานรว่ มกับผอู้ ่นื 4. เนอ้ื หาสาระการเรยี นรู้ 4.1 ซอฟตแ์ วร์ระบบ 4.2 ซอฟตแ์ วร์ประยุกต์

25 5. กิจกรรมการเรียนการสอน ครแู จง้ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ การวดั ผลประเมนิ ผล ขอ้ ตกลงขณะเรยี น และให้นักเรยี นทำ แบบทดสอบกอ่ นเรียน 5.1 ขัน้ นำเขา้ สู่บทเรียน 5.1.1 ผูส้ อนจดั เตรียมเอกสาร พรอ้ มกบั แนะนำรายวชิ า วิธกี ารใหค้ ะแนนและวธิ ีการเรยี นเรื่อง องคป์ ระกอบของโปรแกรมภาษาคอมพิวเตอร์ 5.1.2 ผู้สอนแจง้ จุดประสงคก์ ารเรียนของหนว่ ยเรยี นที่ 2 และขอให้ผู้เรยี นรว่ มกันทำกิจกรรม การเรียนการสอน 5.1.3 ผู้สอนให้ผู้เรยี นแสดงความรู้ โดยตั้งคำถามวา่ องคป์ ระกอบของโปรแกรม ภาษาคอมพวิ เตอร์มหี ลักการอย่างไรพร้อมใหเ้ หตุผลประกอบ 5.2 ขน้ั สอน 5.2.1 ผูส้ อนทดสอบความรู้ความเข้าใจเก่ยี วกับความรู้เบอ้ื งต้นเกี่ยวกบั องค์ประกอบของ โปรแกรมภาษาคอมพิวเตอร์ โดยให้ผเู้ รยี นทำแบบทดสอบก่อนเรยี น 5.2.2 ผสู้ อนอธิบายเนอื้ หาเก่ียวกบั บทเรียนวิชา การเขยี นโปรแกรมโดยใชเ้ ครือ่ งมอื กราฟิกโหมด หน่วยท่ี 2 เรือ่ ง องคป์ ระกอบของโปรแกรมภาษาคอมพวิ เตอร์และให้ผู้เรียนศกึ ษาเอกสารประกอบการสอน หนว่ ยที่ 2 5.2.3 ผสู้ อนและผูเ้ รียนรว่ มกนั อธบิ ายพรอ้ มยกตวั อย่างถึงองคป์ ระกอบของโปรแกรม ภาษาคอมพิวเตอร์ตามทีไ่ ดศ้ กึ ษาจากบทเรยี นคอมพิวเตอร์ช่วยสอน 5.3 ข้ันประกอบกิจกรรมการเรยี น 5.3.1 ผสู้ อนให้ผ้เู รยี นทำใบงานที่ 2.1 , 2.2 5.3.2 ผู้สอนให้ผู้เรียนแบง่ กลมุ่ ๆ ละเทา่ ๆ กนั ทำการศึกษาเรอ่ื ง 5.4 กลยทุ ธ์ในการจัดการเรยี นรู้ 5.4.1 ครูใหเ้ พอ่ื นชว่ ยเพอ่ื น ให้นกั เรยี นกลุ่มเก่งและปานกลาง อย่กู ับกลุม่ นักเรยี นทีเ่ รยี นออ่ น ชว่ ยกันทำความเข้าใจในเนื้อหา 5.4.2 สอนแบบ Active Learning โดยใช้เคร่อื งมอื บนอนิ เทอร์เนต็ http://www.linoit.com สอบถามนักเรียนวา่ นักเรยี นอยากได้หอ้ งเรียนอยา่ งไรเรยี นแลว้ มคี วามสุข แสดงความคิดเห็นแต่ละคน เพื่อ เป็นการกระตนุ้ เตรยี มความพร้อมในการเรียน 5.5 ขั้นสรุป 5.5.1 ผสู้ อนและผู้เรียนรว่ มกันสรปุ เนอื้ หาท่ไี ด้เรยี นใหม้ คี วามเขา้ ใจในทิศทางเดียวกนั 5.5.2 ผู้สอนให้ผู้เรยี นศกึ ษาเพ่ิมเติมนอกห้องเรียน ดว้ ยบทเรยี นคอมพิวเตอรช์ ่วยสอนที่จัดทำขน้ึ 5.6 ขน้ั ทดสอบหลงั เรียน นักเรยี นทำใบงานท่ี 2.1 , 2.2 และแบบทดสอบหลังเรยี น

26 6. สอื่ การเรียนร/ู้ แหล่งการเรยี นรู้ 6.1 สอ่ื ส่ิงพิมพ์ 6.1.1 หนังสือการเขียนโปรแกรมโดยใช้เคร่ืองมือกราฟิกโหมด สำนกั พิมพเ์ อมพันธจ์ ำกดั 6.1.2 แบบทดสอบก่อนเรียน เรอ่ื ง องคป์ ระกอบของโปรแกรมภาษาคอมพิวเตอร์ 6.1.3 ใบงานที่ 2.1 , 2.2 6.1.4 แบบทดสอบหลงั เรียน เรอ่ื ง องค์ประกอบของโปรแกรมภาษาคอมพวิ เตอร์ 6.2 ส่อื โสตทัศน์ 6.2.1 Powerpoint เรื่อง องค์ประกอบของโปรแกรมภาษาคอมพวิ เตอร์ 6.2.2 เคร่ืองฉายโปรเจคเตอร์ 6.2.3 เครือ่ งคอมพวิ เตอรแ์ บบพกพา (Notebook) 6.3 อน่ื ๆ (โปรดระบุ)

27 7. การบรู ณาการ/ความสมั พนั ธก์ ับวชิ าอน่ื 7.1 การบรู ณาการสะเต็มศึกษา S: Science T: Technology E: Engineering M: Mathematics • การค้นหาขอ้ มูล • ใชอ้ นิ เทอร์เนต็ สบื ค้น วิธีการค้นหาขอ้ มลู ใน 6 • คำนวณเวลาในการ คดั เลอื กหรือคดั ขอ้ มลู ขน้ั ตอน สบื คน้ ข้อมูล แยกข้อมูลในส่ิง • ใช้เทคโนโลยี • การกำหนดหัวขอ้ ตา่ งๆท่อี ยู่รอบตัว ออกแบบสอื่ โฆษณา • การเลือกแหล่งข้อมูล เรา ผลติ ภัณฑ์อาหาร • การเตรียมอุปกรณ์ • ใช้เทคโนโลยใี นการ • การคน้ หาและรวบรวม นำเสนอผลงาน ข้อมูล • การพจิ ารณา • การสรุปผล

28 8. การบูรณาการหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งสูก่ ารจดั การเรยี นรู้ 8.1 ผสู้ อน ใชห้ ลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งในการจัดกจิ กรรมการเรียนการสอน ต่อไปน้ี 3 ห่วง ความพอประมาณ ความมเี หตุผล การสรา้ งภูมิคุม้ กันในตวั ประเด็น เนอ้ื หา - เนอื้ หาสอดคล้องกับ - ต้องการใหผ้ ้เู รียนรเู้ รื่อง - สรปุ เน้ือหาให้อา่ นเขา้ ใจ - องคป์ ระกอบ สมรรถนะ ตวั ชีว้ ัด เหมาะสม ความหมายของคอมพวิ เตอร์ งา่ ยมีภาพประกอบเนอ้ื หา ของโปรแกรม กับเวลาทก่ี ำหนดและวยั องค์ประกอบ และสารสนเทศ - เรยี งเนอ้ื หาตามลำดับการ ภาษาคอมพวิ เตอร์ ของผ้เู รยี น เรยี นรู้ เวลา - กำหนดเวลาในแตล่ ะ - จดั การเรียนรูไ้ ด้ครบถ้วน - จัดการเรียนรู้ไดค้ รบถ้วน 4 ชั่วโมง กิจกรรมเหมาะสมกับกจิ กรรม ตามที่ออกแบบไว้ ตามที่ออกแบบไว้ และวัยของผู้เรยี น - กำหนดเวลาในแตล่ ะ กจิ กรรมไว้เกินจรงิ เลก็ นอ้ ย เพอื่ รองรบั การเปลย่ี นแปลง ท่ีอาจเกิดระหว่างจดั กจิ กรรม การจัดกิจกรรม - แบง่ กล่มุ ผู้เรยี นให้พอดกี ับ - ตอ้ งการใหผ้ ้เู รยี นปฏบิ ัติ - แบ่งกลมุ่ คละ จำนวนนักเรยี น กจิ กรรมอยา่ งท่วั ถงึ ตาม ความสามารถของนกั เรียน - กำหนดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ความสามารถ - เตรียมชุดคำถามใหพ้ รอ้ ม เหมาะสมกับเวลาที่กำหนด - เพอ่ื ตอ้ งการใหผ้ ูเ้ รียนเกดิ การ ตามลำดบั กิจกรรมการเรียน - มอบหมายภาระงานและ เรยี นรู้ตามเป้าหมายที่กำหนด - สังเกตพฤติกรรมและให้ ชิน้ งานเหมาะสมกบั - ผูเ้ รียนนำความรไู้ ป ความช่วยเหลอื เม่อื นักเรยี น ความสามารถผู้เรียนและ ประยกุ ตใ์ ช้กบั ภาระงานได้ มปี ัญหา สอดคล้องกับเปา้ หมายการ - รับฟังความคิดเหน็ และ - ฝึกการค้นควา้ หาความรู้ เรยี นรู้ วเิ คราะห์ วิจารณอ์ ยา่ งมเี หตผุ ล จากเพือ่ น และระบบ อนิ เทอรเ์ น็ต เพื่อแก้ปัญหาในแบบฝึก ปฏิบตั ิ และใบงาน

29 3 ห่วง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสร้างภูมิคุ้มกนั ในตวั ประเดน็ - ตอ้ งการให้ผูเ้ รียนปฏิบัติ การจัดกิจกรรม - แบ่งกล่มุ ผู้เรยี นใหพ้ อดีกับ กิจกรรมอยา่ งทั่วถงึ ตาม - แบ่งกลุ่มคละ จำนวนนกั เรียน ความสามารถ ความสามารถของนกั เรียน สื่อ/อุปกรณ์ - กำหนดกิจกรรมการเรยี นรู้ - เพื่อตอ้ งการใหผ้ ้เู รียนเกดิ การ - เตรยี มชุดคำถามใหพ้ ร้อม เหมาะสมกบั เวลาทกี่ ำหนด เรยี นรู้ตามเปา้ หมายท่ีกำหนด ตามลำดบั กิจกรรมการเรียน แหล่งเรยี นร/ู้ - มอบหมายภาระงานและ - ผเู้ รียนนำความรไู้ ป - สงั เกตพฤติกรรมและให้ ฐานการเรียนรู้ ช้นิ งานเหมาะสมกบั ประยุกตใ์ ช้กับภาระงานได้ ความชว่ ยเหลอื เมอ่ื นกั เรียน ความสามารถผ้เู รียนและ - รับฟังความคดิ เหน็ และ มีปัญหา สอดคลอ้ งกับเป้าหมายการ วเิ คราะห์ วิจารณอ์ ยา่ งมเี หตผุ ล - ฝกึ การคน้ คว้าหาความรู้ เรียนรู้ จากเพอ่ื น และระบบ - ตอ้ งการใหน้ ักเรียนไดป้ ฏิบัติ อินเทอร์เนต็ - จำนวนใบความรู้ ใบงาน กิจกรรมได้จรงิ ตามจดุ ประสงค์ เพ่อื แกป้ ัญหาในแบบฝกึ และวสั ดอุ ุปกรณ์ เหมาะสม การเรียนรู้ทก่ี ำหนดไว้ ปฏบิ ัติ และใบงาน กับกจิ กรรม และปรมิ าณ - เตรยี มส่อื อุปกรณ์ให้พรอ้ ม เพียงพอกับจำนวนนกั เรียน - ตอ้ งการให้นักเรยี นใช้วสั ดุ กอ่ นการจัดกิจกรรม -ตรวจความพรอ้ มของเคร่อื ง อุปกรณ์ทมี่ ีความพรอ้ มใน - มีลำดับขั้นตอนการใช้สอ่ื คอมพวิ เตอรก์ ่อนเรียน และ ห้องปฏิบัตกิ าร มาปฏิบัติการ และจัดเก็บอย่างเป็นระบบ ปิดเครื่อง ทดลองตามตัวช้วี ดั - มีความชำนาญในการใช้ -เกบ็ เกา้ อี้นัง่ ให้เรียบรอ้ ยหลัง ส่อื อปุ กรณ์ เลกิ เรยี น เพ่ือความเรยี บรอ้ ย และประหยัด - เตรียมห้องปฏิบัติการ - ห้องปฏบิ ัติการคอมพวิ เตอร์ คอมพิวเตอรใ์ หพ้ ร้อมก่อน เหมาะสมกบั กิจกรรมที่ การทดลอง กำหนด

30 3 ห่วง ความพอประมาณ ความมเี หตุผล การสรา้ งภูมิคมุ้ กนั ในตัว ประเดน็ - จัดทำแบบประเมนิ ผลงาน - ต้องการประเมนิ ผลการเรียนรู้ - วางแผนการวดั / การประเมินผล และประเมินพฤตกิ รรมได้ เหมาะสมกับเป้าหมายการ เรียนรู้ ตามเปา้ หมายท่ีกำหนด ประเมินผลตามขน้ั ตอนของ กิจกรรม - แบบประเมินผลมีการ ตรวจสอบความเทยี่ งตรงใน การวัดตามตัวช้ีวัด เง่อื นไขความร้ทู ีค่ รูต้องมีก่อนสอน 3. มีความยุตธิ รรม 1. ซอฟตแ์ วร์ระบบ 4. ตรงตอ่ เวลา 2. ซอฟต์แวร์ประยกุ ต์ เงอ่ื นไขคุณธรรมของครู 1. มคี วามรักเมตตาศษิ ย์ 2. มคี วามรบั ผดิ ชอบ 8.2 คณุ ลักษณะอยอู่ ย่างพอเพยี งทเี่ กดิ กับผเู้ รยี น พอประมาณ มเี หตุผล มีภมู ิคุ้มกนั ในตวั ทด่ี ี 1. นกั เรียนกำหนดหนา้ ทข่ี องสมาชกิ 1. นกั เรียนนำขอ้ มูลการหา 1. วางแผนการทำงานกลุม่ อย่าง ภายในกลมุ่ ได้เหมาะสมกับศกั ยภาพของ คำตอบมาวิเคราะห์ได้อย่าง ละเอยี ดเปน็ ข้ันตอน แตล่ ะคน เป็นเหตุเปน็ ผลเพือ่ อธิบาย 2. เตรียมวสั ดอุ ุปกรณ์การทดลองได้ 2. นักเรียนใชว้ ัสดอุ ุปกรณใ์ นการทดลอง สรุปเนือ้ หาสาระ ครบถว้ น และตรงตามกิจกรรมการ ได้เหมาะสมกับกจิ กรรมการทดของ 2. นกั เรียนสามารถนำข้อมลู ทดลอง 3. นกั เรยี นสามารถหาคำตอบได้ มาตอบคำถามไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง 3. ศึกษาวิธีการทำใบงานอยา่ ง สอดคลอ้ งกับอุปกรณ์ท่ีมี รอบคอบ เงอ่ื นไขความรู้ 1. ซอฟต์แวรร์ ะบบ 2. ซอฟตแ์ วร์ประยกุ ต์ เงือ่ นไขคุณธรรม 1. ความสามัคคีในกลุ่ม 2. ความรับผิดชอบ 3. แบง่ ปันและเอ้อื เฟือ้ เผอ่ื แผ่

31 สง่ ผลต่อความสมดุล ม่นั คง ยั่งยนื ใน 4 มิติ ดังนี้ ด้าน สมดุลและพรอ้ มรบั การเปล่ียนแปลงในดา้ นต่างๆ องคป์ ระกอบ วัตถุ สังคม สิง่ แวดลอ้ ม วัฒนธรรม - มีความรเู้ กยี่ วกบั ความรู้ - ความรูใ้ นการสืบค้น - มคี วามร้ใู นการจดั แบง่ - มคี วามร้ใู นการดูแล คอมพิวเตอร์ในการ ประยุกตใ์ ช้ใน ขอ้ มลู จากคอมพิวเตอร์ หนา้ ทภ่ี ายในกลมุ่ ไดอ้ ยา่ ง รกั ษาความสะอาดการ กิจกรรมในทอ้ งถิ่น อยา่ งถกู ต้อง เหมาะสม จัดการขยะอย่าง ใชเ้ ทคโนโลยใี น ชีวติ ประจำวนั ได้ - มีความรู้ในการปฏบิ ัติตน ถกู ตอ้ งของ - ตระหนกั ถึงคุณคา่ ท่จี ะทำงานรว่ มกับผู้อ่นื ห้องปฏิบัติการ ของเทคโนโลยี คอมพิวเตอร์ ทักษะ - มที กั ษะในการใช้วัสดุ - ทำงานรว่ มกันภายใน - รักษาความสะอาด อุปกรณ์อยา่ งปลอดภัย กลุ่มตามทไ่ี ด้รับมอบหมาย ของห้องปฏบิ ัติการ และประหยัด จนสำเรจ็ และมีความสุข คอมพวิ เตอร์ในการ สบื ค้นข้อมุล ค่านยิ ม - เหน็ ความสำคัญของการ - มีความรบั ผิดชอบตอ่ การ - มีจิตสำนึกในการ ใช้วัสดุอุปกรณ์ในการ ทำงานของกลุ่ม รกั ษาสภาพแวดลอ้ ม สบื ค้นข้อมลู อย่างประหยดั - ยอมรับความคิดเหน็ ซ่ึง ของห้องปฏิบตั กิ าร คมุ้ คา่ กันและกันมคี วามเสียสละ คอมพิวเตอร๋ใหส้ ะอาด อดทน เปน็ ระเบยี บ 9. การวัดและประเมนิ ผล รายการประเมนิ วธิ ีการ เครอ่ื งมอื ที่ใช้ เกณฑก์ ารประเมนิ ผา่ น - การทดสอบกอ่ นเรยี น การทดสอบ แบบทดสอบก่อนเรยี น จำนวน 10 ขอ้ ไดร้ ะดบั 2 ขึน้ ไป การประเมินระหวา่ งเรียน การสงั เกต แบบประเมินพฤติกรรม ตอบคำถามทกุ ขอ้ การซกั ถาม การเรียน ไดร้ ะดบั 2 ขน้ึ ไป การทำแบบฝึกปฏิบตั ิ ตงั้ คำถามใหค้ รอบคลมุ ตอบถกู 8 ขอ้ ข้ึนไป การประเมินหลงั เรยี น การทดสอบ จุดประสงค์ ใบงานท่ี 2.1 , 2.2 แบบทดสอบหลงั เรียน จำนวน 10 ข้อ

32 10. บนั ทกึ หลงั สอน 10.1 ผลการใชแ้ ผนการจัดการเรยี นรู้ 10.1.1 เนอ้ื หาสอดคลอ้ งกบั จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม 10.1.2 สามารถนำไปใช้ปฏิบตั ิการสอนไดค้ รบตามกระบวนการเรยี นการสอน 10.1.3 เวลาทก่ี ำหนดไว้ในแผนการสอนมีความเหมาะสม 10.2 ผลการเรยี นรู้ของนกั เรียน นกั ศกึ ษา 10.2.1 นักศึกษาส่วนใหญ่มคี วามสนใจใฝ่รู้ เขา้ ใจในบทเรยี น อภปิ รายตอบคำถามในกลมุ่ และ รว่ มกันปฏบิ ตั ใิ บงานทไี่ ดร้ บั มอบหมาย 10.2.2 นักศึกษากระตือรอื ร้นและรับผดิ ชอบในการทำงานกล่มุ เพอ่ื ให้งานสำเรจ็ ทันเวลาที่ กำหนด 10.2.3 นกั ศึกษาเลอื กสามารถนำความรู้ไปใชไ้ ด้จริงในชีวิตประจำวัน 10.3 แนวทางการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ นักเรยี นสามารถนำความรทู้ ี่ไดจ้ ากการเรียนร้ใู นหนว่ ยน้ีไปประยุกตใ์ ช้ในชีวิตประจำวนั และ เชือ่ มโยงกบั วชิ าชีพไดอ้ ยา่ งเหมาะสม

33 ใบงานที่ 2.1 เร่ือง ความร้เู กี่ยวกับโปรแกรมแตล่ ะประเภท ให้นกั เรียนแสดงความรเู้ กยี่ วกบั โปรแกรมแต่ละประเภท และนำมาอภปิ รายให้เหน็ ถึงขอ้ แตกต่างของประเภท โปรแกรม ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………