บทท่ี 15 ในกการาใรหเตบ้ รรกิยี แามกรคค่ ทวนาางขมส้าพขุมภรเพ้อาพศม SfeorrvTicraenIsmgpelnedmeernPteaotpiolen พว.พนิ ทสุ ร เกตวุ งศา กฤตมิ า สมทิ ธพ์ิ ล รนี า่ จนั ทรอ์ �ำ นวยสขุ มลู นธิ เิ อเชยี แปซฟิ คิ ทรานสเ์ จนเดอร์ เนตเวริ ค์ (APTN) ดร.พญ.นติ ยา ภานภุ าค
บทน�ำ ในบทท่ี 1 ไดม้ กี ารกลา่ วถงึ หลกั การและความส�ำ คญั ในการใหบ้ รกิ ารดา้ นสขุ ภาพแกค่ นขา้ มเพศ โดยเฉพาะ อย่างย่งิ ในส่วนของการเตรียมความพร้อมในด้านทัศนคติและความละเอียดอ่อนในการให้บริการของบุคลากรและ เจา้ หนา้ ทท่ี เ่ี กย่ี วขอ้ ง ซง่ึ ถอื เปน็ สว่ นหนง่ึ ของการเตรยี มความพรอ้ มของหนว่ ยงานหรอื องคก์ รท่ใี หบ้ รกิ ารทางสขุ ภาพแก่ คนขา้ มเพศควรจดั ใหม้ กี ารอบรมแกบ่ คุ ลากร เพอ่ื ใหม้ คี วามรคู้ วามเขา้ ใจประเดน็ ตา่ ง ๆ ทไ่ี ดก้ ลา่ วไวแ้ ลว้ ในบทนจ้ี ะกลา่ วถงึ การเตรยี มความพรอ้ มในประเดน็ อน่ื ๆ ส�ำ หรบั องคก์ รหรอื สถานพยาบาลในการเตรยี มการ กอ่ นทจ่ี ะเปดิ ใหบ้ รกิ ารสขุ ภาพแกค่ นขา้ มเพศ ซง่ึ การจดั รปู แบบการใหบ้ รกิ ารทเ่ี หมาะสมเปน็ สง่ิ ส�ำ คญั การจดั การบรกิ าร ทส่ี รา้ งบรรยากาศแหง่ การยอมรบั และเปน็ มติ รแกค่ นขา้ มเพศ นอกจากจะชว่ ยเสรมิ สรา้ งความสมั พนั ธอ์ นั ดรี ะหวา่ งผู้ ใหบ้ รกิ ารและผรู้ บั บรกิ ารแลว้ ยงั มสี ว่ นชว่ ยท�ำ ใหผ้ มู้ ารบั บรกิ ารคงอยู่ในระบบการดแู ลรกั ษาตอ่ ไป1 การเตรยี มความพรอ้ มในการใหบ้ รกิ ารดา้ นสขุ ภาพแกค่ นขา้ มเพศมขี อ้ ควรพจิ ารณา 5 หวั ขอ้ หลกั ดงั น้ี 176 บทท่ี 15 การเตรยี มความพรอ้ มในการใหบ้ รกิ ารทางสุขภาพแก่คนข้ามเพศ
1. การเตรียมความพร้อมส�ำ หรบั เจา้ หนา้ ท่ี 15ในคลนิ ิกหรอื สถานพยาบาล ผู้ใหบ้ รกิ ารควรมกี ารจดั ฝกึ อบรมเพอ่ื สรา้ งความรคู้ วามเขา้ ใจเรอ่ื งความหลากหลายทางเพศและความละเอยี ด ออ่ นในการใหบ้ รกิ ารดา้ นสขุ ภาพแกค่ นขา้ มเพศใหก้ บั เจา้ หนา้ ท่ี เพอ่ื สรา้ งทศั นคตทิ ถ่ี กู ตอ้ งบนพน้ื ฐานของความเขา้ ใจ เพอ่ื ใหเ้ จา้ หนา้ ทส่ี ามารถใหบ้ รกิ ารผรู้ บั บรกิ ารคนขา้ มเพศไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ปราศจากการตตี ราและเลอื กปฏบิ ตั ดิ ว้ ย เหตแุ หง่ อตั ลกั ษณท์ างเพศ ท้ังน้ีควรมีการจัดการฝึกอบรมให้กับเจ้าหน้าท่ีในสถานบริการท่ีมีส่วนเก่ียวข้องท้ังหมด ท้ังในส่วนท่ีต้อง พบปะและใหบ้ รกิ ารดา้ นสขุ ภาพโดยตรง รวมไปถงึ เจา้ หนา้ ทท่ี อ่ี าจเกย่ี วขอ้ งในการใหบ้ รกิ ารดา้ นอน่ื เชน่ เจา้ หนา้ ท่ี รักษาความปลอดภัย เจ้าหน้าท่ดี ูแลความสะอาดในอาคาร เป็นต้น เน่อื งจากเจ้าหน้าท่ที ุกคนล้วนมีโอกาสในการ มีปฏิสัมพันธ์กับผ้มู ารับบริการ ซ่งึ ล้วนแล้วแต่มีผลกับคุณภาพของการให้บริการท้งั ส้นิ การจัดอบรมน้คี วรจัดให้มี เปน็ ประจ�ำ ทกุ ปี หรอื ปรบั ตามความเหมาะสมเพอ่ื พฒั นาความรคู้ วามเขา้ ใจใหก้ บั เจา้ หนา้ ท่ีใหท้ นั ตอ่ เหตกุ ารณห์ รอื องคค์ วามรู้ใหม่ ๆ อยเู่ สมอ (เนอ้ื หาหลกั ในการฝกึ อบรมอบรมบคุ ลากรสามารถศกึ ษาไดจ้ ากบทท่ี 1) บทท่ี 15 การเตรียมความพร้อมในการใหบ้ รกิ ารทางสุขภาพแกค่ นข้ามเพศ 177
2. ก ารเตรยี มความพร้อม 15เรื่องชุดบรกิ ารและสถานท่ี ในการจดั เตรยี มความพรอ้ มเรอ่ื งชดุ บรกิ ารทางดา้ นสขุ ภาพทจ่ี ะใหบ้ รกิ ารแกค่ นขา้ มเพศ ส�ำ หรบั สถานบรกิ าร ทม่ี คี วามพรอ้ มอยแู่ ลว้ สามารถจดั ชดุ บรกิ ารไดต้ ามความเหมาะสม อยา่ งไรกต็ ามเพอ่ื ใหท้ ราบถงึ ความตอ้ งการบรกิ าร ทางสุขภาพอย่างแท้จริงจากชุมชน สถานบริการสามารถจัดการประชุมเพ่ือหารือร่วมกับชุมชนถึงชุดบริการและ รูปแบบการบริการท่ชี ุมชนต้องการ สำ�หรับสถานบริการท่มี ีทรัพยากรจำ�กัดก็สามารถจัดชุดบริการท่มี ีความจำ�เป็น เฉพาะในพน้ื ทน่ี น้ั ๆ ในการเตรียมการเร่ืองสถานท่ีในการให้บริการด้านสุขภาพแก่คนข้ามเพศน้ัน นอกจากจะต้องคำ�นึงถึงกฎ ข้อบังคับต่าง ๆ ในการจัดเตรียมสถานท่ีสำ�หรับการให้บริการสุขภาพท่ัวไปตามระเบียบของรัฐแล้ว ผู้ให้บริการ ควรค�ำ นงึ ถงึ สง่ิ ตอ่ ไปน้ี 1. ค วรจัดและตกแต่งสถานท่ีให้มีความสอดคล้องกับอัตลักษณ์ทางเพศของคนข้ามเพศ เพ่อื สร้างความร้สู ึก ยอมรบั และสบายใจใหแ้ กผ่ รู้ บั บรกิ าร1 2. สอ่ื ประชาสมั พนั ธต์ า่ ง ๆ ในสถานบรกิ าร ควรมคี วามเฉพาะเจาะจงและครอบคลมุ อตั ลกั ษณท์ างเพศของ ผมู้ ารบั บรกิ ารคนขา้ มเพศ1 (รปู ท่ี 1) ยาเป๊ป (PEP) ส�าคัญกับหญิงข้ามเพศอย่างไร ยาเป๊ป (PEP) คืออะไร ยาเป๊ปต้องกินอยา่ งไร ยาเปป็ กินได้บอ่ ยแค่ไหน รบั ยาเปป๊ ไดท้ กุ ครงั้ หลงั มพี ฤตกิ รรมเสยี่ งตอ่ การตดิ เชอื้ เป๊ป (PEP): Post-Exposure Prophylaxis คือ ยาต้านไวรสั กนิ ทกุ วัน วนั ละ 2 เม็ด ตดิ ตอ่ กันเปน็ เวลา 28 วัน และ เอชไอวี อย่างไรก็ตามหากคุณมีพฤตกิ รรมเสยี่ งบ่อยๆ เอชไอวีแบบฉุกเฉิน เพอ่ื ปอ้ งกนั การติดเช้ือเอชไอวีหลังการ กอ่ นเรม่ิ รบั ยาผทู้ จ่ี ะรบั ยาจะตอ้ งไดร้ บั ตรวจหาการตดิ เชอื้ การรับเพรพ็ อาจจะเปน็ ทางเลือกที่เหมาะส�าหรบั คณุ สัมผสั เช้อื หรอื หลงั จากการมีพฤติกรรมเสี่ยงในการสัมผสั เอชไอวเี พอื่ ใหแ้ นใ่ จวา่ ผลเลอื ดเปน็ ลบกอ่ นทกุ ครง้ั หลงั จาก มากกว่า เชือ้ เอชไอวี กินยาเป๊ปครบ 28 วัน ผูร้ ับยาจะต้องเข้ามาตรวจเลือด เพอื่ ให้ทราบสถานะของผลเลอื ดหลังจากที่ไดร้ บั ยาเป๊ป รบั ยาเป็ปได้ที่ไหนบ้าง ยาเปป๊ ส�าคัญอย่างไร? หากคุณประสบเหตุการณ์หรือพฤติกรรมทีเ่ สยี่ งตอ่ การ ผลขา้ งเคียงของยาเปป๊ ติดเชอ้ื เอชไอวี คณุ สามารถไปตดิ ตอ่ ขอรบั ยาเป๊ปโดยเรว็ หากคณุ มพี ฤติกรรมเสีย่ ง หรอื ไดร้ บั ปัจจัยเส่ยี งต่อการ ทส่ี ุดไดท้ ่โี รงพยาบาลหรอื คลนิ กิ ใกลบ้ ้าน หรอื สามารถ สัมผัสเช้ือเอชไอวี การรับยาเป๊ปเป็นอีกทางเลือกหนึง่ ใน ผ้รู ับยาบางรายอาจเกิดอาการปวดศรี ษะ คลืน่ ไส้ เขา้ มารับบริการได้ท่ี คลินิกสุขภาพชุมชนแทนเจอรนี การปอ้ งกนั ไม่ใหต้ ดิ เชือ้ เอชไอวี อาเจยี น ทอ้ งเสีย นอนไม่หลบั แต่อาการจะเกิดข้ึนเฉพาะ ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย ชว่ งแรกหรือสปั ดาห์แรกท่ีรับยา และจากนน้ั อาการจะ ค่อยๆ ดีขึ้นในสัปดาห์ถดั ไป ผูท้ ่ีมคี ่นู อนอยู่รว่ มกบั เชอ้ื เอชไอวที ยี่ งั ไม่รักษา ด้วยยาต้านไวรัสเอชไอวีหรือยังตรวจพบเชื้อ ยาเปป๊ เหมาะกับใครบ้าง หากกินเพรพ็ อยู่แล้ว PrEP ไวรัสเอชไอวีในกระแสเลอื ด จะต้องมารบั ยาเป๊ปอกี ไหม เหมาะกบั ทกุ คนทมี่ พี ฤตกิ รรมเสย่ี งตอ่ การสมั ผสั เชอื้ เอชไอวี หรอื ผทู้ ป่ี ระสบกบั เหตกุ ารณท์ ไี่ มค่ าดคดิ เชน่ ถงุ ยางอนามยั หากคณุ กนิ เพรพ็ (Pre-Exposure Prophylaxis) อยแู่ ลว้ แตก หลดุ หรือคูน่ อนของคุณไมใ่ ส่ถุงยางอนามัยขณะมี คณุ ไมจ่ า� เปน็ ตอ้ งมารบั ยาเปป๊ อกี เนอื่ งจากเพรพ็ นน้ั เพศสมั พนั ธ์ ผทู้ ป่ี ระสบเหตกุ ารณด์ งั กลา่ วตอ้ งมารบั ยาเปป๊ สามารถปอ้ งกนั การตดิ เชอ้ื เอชไอวไี ดเ้ กอื บ 100% อยแู่ ลว้ ใหเ้ รว็ ทสี่ ดุ หรอื ภายในเวลา 72 ชว่ั โมง! หลงั มคี วามเสยี่ ง การใช้สารเสพตดิ แบบฉีดหรอื พฤติกรรมเสี่ยง การใชเ้ ขม็ ฉีดยารว่ มกับผ้อู น่ื การมเี พศสมั พันธ์แบบสอดใส่ทางชอ่ งคลอด ช่องคลอดใหม่ ทวารหนกั โดยไมส่ วมถุงยาง อนามยั รปู ท่ี 1:PEP brochure AUG2020.indd 1 8/13/20 7:49 AM ตวั อยา่ งสอ่ื ประชาสมั พนั ธ์ในคลนิ กิ สขุ ภาพชมุ ขนแทนเจอรนี 178 บทที่ 15 การเตรียมความพรอ้ มในการให้บรกิ ารทางสขุ ภาพแก่คนขา้ มเพศ
3. หอ้ งตรวจหรอื หอ้ งใหค้ �ำ ปรกึ ษา ควรมคี วามเปน็ สว่ นตวั เพอ่ื สรา้ งความมน่ั ใจใหก้ บั ผรู้ บั บรกิ าร1 4. ค วรมีห้องนำ้�รวมหรือห้องนำ้�ท่ีเปิดกว้างสำ�หรับผู้รับบริการคนข้ามเพศหรือผู้มีความหลากหลายทางเพศ (รปู ท่ี 2) เพอ่ื ใหผ้ รู้ บั บรกิ ารสามารถเลอื กใช้ไดต้ ามความเหมาะสม1 และควรมกี ารดแู ลรกั ษาความปลอดภยั ในการใชห้ อ้ งน�ำ้ ใหก้ บั ผมู้ ารบั บรกิ ารทกุ คน ALL GENDER RESTROOM รปู ท่ี 2: สญั ลกั ษณห์ อ้ งน�ำ้ ทอ่ี อกแบบมาเพอ่ื ทกุ คนโดยไมแ่ บง่ แยกเพศ 5. ควรจดั ตง้ั กลอ่ งรบั ความคดิ เหน็ เพอ่ื รบั ฟงั ความคดิ เหน็ หรอื การรอ้ งเรยี นจากผมู้ ารบั บรกิ ารในจดุ ทส่ี ามารถ เหน็ ไดช้ ดั หรอื อาจเปดิ ใหผ้ รู้ บั บรกิ ารแสดงความคดิ เหน็ ผา่ นชอ่ งทางออนไลน์ บทท่ี 15 การเตรียมความพร้อมในการให้บริการทางสุขภาพแก่คนขา้ มเพศ 179
3. การเตรียมความพร้อมเรอ่ื งเวชระเบยี น 15และระบบการเก็บขอ้ มูล เน่อื งจากในประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายรับรองเพศสภาพ ผ้รู ับบริการท่เี ป็นคนข้ามเพศจึงยังต้องใช้คำ�นำ� หนา้ นามตามเพศก�ำ เนดิ ในบตั รประชาชน ซง่ึ มกั ไมต่ รงกบั อตั ลกั ษณแ์ ละการแสดงออกทางเพศของตน น�ำ มาสคู่ วาม อดึ อดั ใจในการเขา้ รบั บรกิ ารในสถานบรกิ ารสขุ ภาพ ซง่ึ ตอ้ งใชบ้ ตั รประชาชนในการลงทะเบยี น เพอ่ื สรา้ งบรรยากาศ แหง่ การยอมรบั และใหค้ วามส�ำ คญั ตอ่ ความละเอยี ดออ่ นในเรอ่ื งความหลากหลายทางเพศ ผู้ใหบ้ รกิ ารพงึ พจิ ารณาการ จดั ระบบเวชระเบยี นและแบบฟอรม์ ตา่ ง ๆ ดงั น้ี 1. ระบบเวชระเบยี นและแบบฟอรม์ ตา่ ง ๆ เชน่ การออกบตั รผรู้ บั บรกิ าร ใบรายงานผลการตรวจ ใบสง่ ตวั และใบนดั ควรมตี วั เลอื กในการใชค้ �ำ น�ำ หนา้ นามโดยใหผ้ รู้ บั บรกิ ารมสี ทิ ธเ์ิ ลอื กใชค้ �ำ น�ำ หนา้ นามตามอตั ลกั ษณข์ องตน ในกรณขี องประเทศไทยซง่ึ ยงั ไมม่ กี ฎหมายรบั รองเพศควรมคี �ำ วา่ “คณุ ” เปน็ ตวั เลอื กดว้ ย เนอ่ื งจากสามารถใช้ไดก้ บั คนทกุ อตั ลกั ษณท์ างเพศ 2. ค�ำ ถามในสว่ นของประวตั สิ ว่ นตวั ทง้ั ในการใหบ้ รกิ ารตามปกตหิ รอื ในการท�ำ วจิ ยั นอกจากจะมคี �ำ ถาม เรอ่ื งเพศก�ำ เนดิ แลว้ ควรมคี �ำ ถามเรอ่ื งอตั ลกั ษณท์ างเพศดว้ ย จากรายงานในประเทศสหรฐั อเมรกิ าพบวา่ การเพม่ิ ค�ำ ถาม เรอ่ื งอตั ลกั ษณท์ างเพศชว่ ยใหส้ ามารถเกบ็ ขอ้ มลู จากผรู้ บั บรกิ ารไดถ้ กู ตอ้ งแมน่ ย�ำ มากขน้ึ และชว่ ยใหส้ ามารถแยกกลมุ่ ประชากรของผรู้ บั บรกิ ารหรอื ผเู้ ขา้ รว่ มในโครงการวจิ ยั ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง2 (รปู ท่ี 3) 180 บทท่ี 15 การเตรยี มความพร้อมในการให้บริการทางสขุ ภาพแก่คนข้ามเพศ
Demographic Background (Sticker) Initial(ช่ือยอ่ ) __ __ Client number __ __ __ __ __ __ __ __ ACID (รหัสคลีนิคนิรนาม) __ __ __ __ __ __ __ UID (รหสั คลินิก) P__ __-__ __ __ __ __ Date of visit (วนั ทีม่ ารับบริการ) __/__/__ Visit ⎕⎕⎕ Page 1 of 2 Client data (ข้อมูลผู้รับบริการ) Demographic Background Record (บันทกึ ) Sex assigned at birth (เพศกาเนิด) Male (ชาย) Female (หญิง) Intersex (มีเพศสรีระท้งั ชายและหญิง) Gender Identity (อตั ลกั ษณ์ทางเพศหรือเพศที่คุณรับรู)้ 1. Questioning (ไม่แน่ใจ/ยงั ไม่สามารถระบุได)้ 2. Male (ชาย) 3. Female (หญิง) 4. Transgender woman (หญิงขา้ มเพศ) 5. Transgender man (ชายขา้ มเพศ) 6. Gay man (เกย)์ 7. Lesbian (เลสเบ้ียน) 8. Gender variance/non-binary (ไมอ่ ยใู่ นกรอบเพศชายหญงิ ) 9. Prefer not to disclose/decline to state (ไมต่ อ้ งการระบุ/ไมข่ อตอบ) รป(Cู กuทาrรr่ีeศ3nึกt:ษeตาdทuวั cี่กอaายtลioา่ งัnงศแึกบษบาอฟยอ)ู่ รม์ ท่ีใช้ในคลนิ กิ สขุ ภาพชมุ ชนแทน01เ..จNLอooรwnนีeer(ไthมa่ไnดpศ้ rึกimษaาr)y school (นอ้ ยกวา่ ประถมศึกษา) 2. Primary school (ประถมศึกษา) 3. หากตอ้ งจะมกี ารสง่ เอกสาร โดยการสง่3.ไปJuรniษorณhigยี hห์ scรhอoื oฝl (ามกธั ยขมอ้ศึกคษวาตาอมนทตน้า)งโทรศพั ท์ ใหส้ อบถามผรู้ บั บรกิ าร วา่ ประสงคจ์ ะใหร้ ะบชุ อ่ื วา่ อยา่ งไร1 4. Senior high school/Vocational certificate (มธั ยมศึกษาตอนปลาย/ปวช.) 5. High vocational certificate/Diploma (ปวส./อนุปริญญา) 6. Bachelor’s degree (ปริญญาตรี) 7. Master’s degree or higher(ปริญญาโทหรือสูงกวา่ ) 8. Not prefer to answer (ไม่ขอตอบ) Tangerine_Case Report Form_Version Number 4.0_Dated 1 March 2020 181 บทที่ 15 การเตรยี มความพรอ้ มในการให้บริการทางสุขภาพแก่คนขา้ มเพศ
154. การมีส่วนรว่ มจากชมุ ชน การมสี ว่ นรว่ มจากชมุ ชนถอื เปน็ อกี สว่ นทส่ี �ำ คญั มากในการพฒั นาคณุ ภาพของบรกิ ารดา้ นสขุ ภาพ3 สถานบรกิ าร หรือองค์กรท่เี ก่ยี วข้องควรพิจารณาให้การมีส่วนร่วมจากชุมชนเป็นอีกกลไกสำ�คัญหน่งึ ในการพัฒนาการปฏิบัติงาน ในสถานบรกิ ารของตน ทง้ั นก้ี ารสรา้ งการมสี ว่ นรว่ มจากชมุ ชนสามารถท�ำ ไดด้ ว้ ยวธิ กี ารตอ่ ไปน้ี ผู้ใหบ้ รกิ ารพงึ ระลกึ วา่ กระบวนการในการใหบ้ รกิ ารสขุ ภาพแกค่ นขา้ มเพศนน้ั ประกอบไปดว้ ยความรว่ มมอื จาก หลายฝา่ ยทเ่ี กย่ี วขอ้ ง การสรา้ งเครอื ขา่ ยและระบบในการสง่ ตอ่ จงึ เปน็ สง่ิ ส�ำ คญั ในการอ�ำ นวยความสะดวกและเพม่ิ การเขา้ ถงึ บรกิ ารสขุ ภาพแกค่ นขา้ มเพศใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพยง่ิ ขน้ึ 1. การจดั ประชมุ เพอ่ื หารอื และรบั ฟงั เสยี งจากชมุ ชน สถานบรกิ ารหรอื องคก์ รทเ่ี กย่ี วขอ้ งสามารถจดั ประชมุ เพอ่ื หารอื และรบั ฟงั เสยี งจากชมุ ชนได้ในทกุ ขน้ั ตอนของ การใหบ้ รกิ าร ตง้ั แตเ่ รม่ิ ตน้ จดั ตง้ั สถานบรกิ าร ตลอดไปจนถงึ ขน้ั ตอนของการวดั ผล ตามความเหมาะสมของบรบิ ท และทรพั ยากรทม่ี ีในแตล่ ะพน้ื ท่ี การแลกเปลย่ี นและแบง่ ปนั ประสบการณร์ วมถงึ ความรแู้ ละเทคโนโลยี ในการใหบ้ รกิ ารสขุ ภาพแกค่ นขา้ มเพศ ระหวา่ งตวั บคุ ลากรหรอื องคก์ ร ถอื เปน็ สง่ิ ส�ำ คญั ในการพฒั นาทกั ษะและความรขู้ องผู้ใหบ้ รกิ าร จงึ ควรจดั ใหม้ กี ารประชมุ เพอ่ื อบรมหรอื แลกเปลย่ี นความรแู้ ละประสบการณด์ งั กลา่ วอยา่ งสม�ำ่ เสมอ 2. การจดั ตง้ั คณะกรรมการทป่ี รกึ ษาชมุ ชนคนขา้ มเพศ การจดั ตง้ั คณะกรรมการทป่ี รกึ ษาชมุ ชนคนขา้ มเพศเปน็ อกี หนง่ึ กลไกลส�ำ คญั ทผ่ี ู้ใหบ้ รกิ ารพงึ พจิ ารณาในการ สรา้ งการมสี ว่ นรว่ มจากชมุ ชน โดยมวี ตั ถปุ ระสงคห์ ลกั เพอ่ื ใหค้ �ำ แนะน�ำ และใหค้ วามเหน็ เกย่ี วกบั แนวทางในการท�ำ งาน กบั ชมุ ชนคนขา้ มเพศ ทค่ี รอบคลมุ ในสว่ นของงานวจิ ยั การใหบ้ รกิ าร การใหค้ วามรู้ รวมไปถงึ การรณรงคเ์ ชงิ นโยบาย เพอ่ื พฒั นาคณุ ภาพของการใหบ้ รกิ ารสขุ ภาพแกค่ นขา้ มเพศ และเปน็ หนง่ึ ในชอ่ งทางการรบั ฟงั เสยี งและความเหน็ จาก ชมุ ชนเพอ่ื ตอบสนองความตอ้ งการในหลากหลายมติ ิ ซง่ึ จะน�ำ ไปสกู่ ารบรรลเุ ปา้ หมายแหง่ การมสี ขุ ภาวะทด่ี ขี องคนขา้ ม เพศในประเทศไทย 182 บทที่ 15 การเตรียมความพร้อมในการใหบ้ ริการทางสุขภาพแก่คนขา้ มเพศ
ความเช่ียวชาญเฉพาะด้านของคณะกรรมการท่ีปรึกษาชุมชนคนข้ามเพศ ควรประกอบไปด้วย 8 ด้าน ดงั ตอ่ ไปน้ี (อนง่ึ คณะกรรมการอาจไมจ่ �ำ เปน็ ตอ้ งเปน็ คนขา้ มเพศทง้ั หมด) 1. การสอ่ื สารสาธารณะ 2. การรณรงคเ์ ชงิ นโยบาย 3. งานวชิ าการและงานวจิ ยั 4. กฎหมายและสทิ ธมิ นษุ ยชน 5. สขุ ภาวะทางเพศและเอชไอวี 6. การระดมทนุ และการสรา้ งเครอื ขา่ ย 7. ผเู้ ชย่ี วชาญดา้ นเดก็ เยาวชน และผสู้ งู อายุ 8. องคก์ รชมุ ชน บทบาทหนา้ ทค่ี วามรบั ผดิ ชอบของคณะกรรมการทป่ี รกึ ษาชมุ ชนคนขา้ มเพศ • ให้คำ�แนะนำ�และให้ความคิดเห็นเก่ียวกับแนวทางในการปฏิบัติงานท่ีเก่ียวข้องกับคนข้ามเพศแก่ ผู้ใหบ้ รกิ ารในสถาบนั หรอื องคก์ รทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั การใหบ้ รกิ าร • ต ดิ ตามและดแู ลใหก้ ารด�ำ เนนิ การใหบ้ รกิ าร การท�ำ วจิ ยั การใหค้ วามรคู้ วามเขา้ ใจ รวมไปถงึ การรณรงค์ เชงิ นโยบาย เปน็ ไปโดยยดึ หลกั จรยิ ธรรมสากลและเคารพศกั ดศ์ิ รคี วามเปน็ มนษุ ย์ • ประสานงานและให้ข้อมูลกับชุมชนและสาธารณะ เพ่อื ทำ�ให้เกิดการมีส่วนร่วมของภาคประชาสังคม ตลอดจนการขยายผลการท�ำ งานหรอื การน�ำ ผลวจิ ยั ไปใชป้ ระโยชนต์ อ่ ไป • สนบั สนนุ เพอ่ื ใหเ้ กดิ การด�ำ เนนิ งานเพอ่ื การสง่ เสรมิ สขุ ภาวะทด่ี ขี องชมุ ชนคนขา้ มเพศ ระยะเวลาในการปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ี วาระในการด�ำ รงต�ำ แหนง่ ของคณะกรรมการอาจขน้ึ อยกู่ บั ขอ้ ตกลงภายในขององคก์ รหรอื สถานบรกิ ารนน้ั ๆ ตามบรบิ ททแ่ี ตกตา่ งกนั ไปในแตล่ ะพน้ื ท่ี โดยเมอ่ื ครบวาระทก่ี �ำ หนดอาจมกี ระบวนการในการคดั สรรคณะกรรมการ ชดุ ใหมเ่ พอ่ื เขา้ มาด�ำ รงต�ำ แหนง่ แทนต�ำ แหนง่ ทว่ี า่ งลงตอ่ ไป โครงสรา้ งของคณะกรรมการ คณะกรรมการทง้ั หมดจะท�ำ การเลอื กต�ำ แหนง่ ประธาน, รองประธานคนท่ี 1, รองประธานคนท่ี 2, เลขานกุ าร, ผชู้ ว่ ยเลขานกุ าร และกรรมการ โดยประธานจะท�ำ หนา้ ทด่ี �ำ เนนิ การประชมุ ในกรณที ป่ี ระธานไมส่ ามารถปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ี ได้ รองประธานคนใดคนหนง่ึ จะปฏบิ ตั หิ นา้ ทแ่ี ทน ทง้ั นส้ี ามารถปรบั เปลย่ี นไดต้ ามปรบิ ทของแตล่ ะพน้ื ทห่ี รอื ตามท่ี ตกลงกนั ภายในองคก์ รหรอื สถานบรกิ าร บทที่ 15 การเตรียมความพรอ้ มในการใหบ้ ริการทางสขุ ภาพแกค่ นข้ามเพศ 183
การสอ่ื สารและการประสานงาน เพอ่ื ใหก้ ารสอ่ื สารและการประสานงานระหวา่ งคณะกรรมการทป่ี รกึ ษาชมุ ชนกบั สถานบรกิ ารหรอื องคก์ รเปน็ ไปอยา่ งราบรน่ื และทนั ตอ่ เหตกุ ารณ์ การสอ่ื สารอาจเปน็ ไปในรปู แบบเฉพาะบคุ คลตามความเชย่ี วชาญในแตล่ ะเรอ่ื ง ซง่ึ อาจจดั ใหม้ กี ารประชมุ รว่ มกนั เพอ่ื แลกเปลย่ี นในประเดน็ ตา่ ง ๆ ทกุ 3 เดอื น หรอื ตามความเหมาะสม สถานะของกรรมการ เพอ่ื ความโปรง่ ใสในการด�ำ เนนิ การ คณะกรรมการทป่ี รกึ ษาชมุ ชนควรควรเปน็ ต�ำ แหนง่ ทท่ี �ำ โดยสมคั รใจและ อาจไมไ่ ดร้ บั คา่ ตอบแทน อยา่ งไรกต็ ามองคก์ รหรอื สถานบรกิ ารควรเปน็ ผรู้ บั ผดิ ชอบคา่ ใชจ้ า่ ยส�ำ หรบั การจดั ประชมุ รวมไปถงึ คา่ เดนิ ทาง คา่ ทพ่ี กั และอาจมคี า่ เบย้ี เลย้ี งตามโอกาส โดยยดึ ตามนโยบายขององคก์ ร อนง่ึ ในปจั จบุ นั เทคโนโลยีในการสอ่ื สารมปี ระสทิ ธภิ าพสงู และมชี อ่ งทางในการสอ่ื สารใหเ้ ลอื กใชห้ ลายชอ่ งทาง สถานบรกิ ารและองคก์ รทเ่ี กย่ี วขอ้ งอาจพจิ ารณาน�ำ เทคโนโลยีในการสอ่ื สารมาใช้ในการเชอ่ื มโยงการมสี ว่ นรว่ มจากชมุ ชน ผา่ นชอ่ งทางตา่ ง ๆ ไดต้ ามความเหมาะสม 184 บทท่ี 15 การเตรยี มความพรอ้ มในการให้บรกิ ารทางสุขภาพแกค่ นขา้ มเพศ
5. การวดั ผลคุณภาพ 15 ของการให้บรกิ าร การวดั ผลคณุ ภาพของการใหบ้ รกิ ารเปน็ สง่ิ ส�ำ คญั ทผ่ี ู้ใหบ้ รกิ ารพงึ พจิ ารณาในการเตรยี มความพรอ้ มในการให้ บรกิ ารสขุ ภาพแกค่ นขา้ มเพศ การวดั ผลคณุ ภาพของการใหบ้ รกิ ารอาจท�ำ ไดห้ ลายวธิ ดี งั น้ี 1. การวดั ผลคณุ ภาพของการใหบ้ รกิ ารโดยผู้ใหบ้ รกิ ารเปน็ ผวู้ ดั ผลดว้ ยตนเอง ผู้ใหบ้ รกิ ารสามารถใชร้ ะบบการวดั ผลทม่ี อี ยเู่ ดมิ หรอื ออกแบบขน้ึ ใหมเ่ พอ่ื วดั ผลคณุ ภาพของการใหบ้ รกิ ารดว้ ย ตนเองเปน็ การภายใน 2. การวดั ผลคณุ ภาพของการใหบ้ รกิ ารโดยความรว่ มมอื กบั องคก์ รภายนอก ผู้ใหบ้ รกิ ารอาจรว่ มมอื กบั องคก์ รภายนอกทม่ี คี วามเชย่ี วชาญพเิ ศษโดยน�ำ ระบบหรอื เครอ่ื งมอื วดั ผลจากองคก์ ร ภายนอกมาใชว้ ดั ผลคณุ ภาพของการใหบ้ รกิ ารตามความเหมาะสม 3. การวดั ผลคณุ ภาพของการใหบ้ รกิ ารโดยการมสี ว่ นรว่ มจากชมุ ชน ผ้ใู หบ้ รกิ ารสามารถสรา้ งการมสี ว่ นรว่ มในการวดั ผลคณุ ภาพของการใหบ้ รกิ ารจากชมุ ชนโดยอาจจดั การประชมุ เพอ่ื รบั ฟงั เสยี งจากชมุ ชนหรอื ท�ำ งานรว่ มกบั คณะกรรมการชมุ ชนดงั ทก่ี ลา่ วไวแ้ ลว้ ขา้ งตน้ เพอ่ื รบั ฟงั ความคดิ เหน็ และขอ้ เสนอแนะในการพฒั นาคณุ ภาพของการใหบ้ รกิ ารจากชมุ ชนซง่ึ เปน็ ผรู้ บั บรกิ ารโดยตรง 4. การวดั ผลคณุ ภาพของการใหบ้ รกิ ารโดยใชห้ ลายวธิ รี วมกนั ผ้ใู หบ้ รกิ ารสามารถพจิ ารณาวธิ กี ารวดั ผลคณุ ภาพของการใหบ้ รกิ ารไดม้ ากกวา่ หนง่ึ วธิ ตี ามทก่ี ลา่ วไวข้ า้ งตน้ โดย สามารถพจิ ารณาตามความเหมาะสมของบรบิ ทและทรพั ยากรทม่ี อี ยู่ บทท่ี 15 การเตรยี มความพร้อมในการใหบ้ ริการทางสขุ ภาพแก่คนขา้ มเพศ 185
สรุป การเตรียมความพร้อมก่อนการเปิดให้บริการทางสุขภาพแก่คนข้ามเพศเป็นส่งิ สำ�คัญ อย่างไรก็ตามสถาน บริการในแต่ละแห่งย่อมมีบริบท ทรัพยากร และความพร้อม รวมไปถึงความต้องการของชุมชนท่ีแตกต่างกัน การจดั การใหบ้ รกิ ารจงึ ไมจ่ �ำ เปน็ ตอ้ งมบี รกิ ารพรอ้ มทกุ ดา้ น แตค่ วรเนน้ ใหม้ กี ารบรกิ ารทจ่ี �ำ เปน็ เรง่ ดว่ น และมรี ะบบ การวดั ผลคณุ ภาพของการใหบ้ รกิ ารตามความตอ้ งการของชมุ ชนในพน้ื ทน่ี น้ั ๆ อยา่ งแทจ้ รงิ คณุ สมบตั ทิ ด่ี ขี องผู้ใหบ้ รกิ ารสขุ ภาพแกค่ นขา้ มเพศ 1. เปน็ ผฟู้ งั ทด่ี แี ละรบั ฟงั ดว้ ยความเขา้ ใจ 2. ปฏบิ ตั หิ นา้ ทด่ี ว้ ยความเปน็ มอื อาชพี และไมต่ ดั สนิ 3. เขา้ ใจและเคารพในหลกั สทิ ธมิ นษุ ยชน 4. ใหบ้ รกิ าร ใหข้ อ้ มลู ท�ำ การสง่ ตอ่ และชว่ ยเหลอื ดว้ ยความจรงิ ใจ 5. ไมห่ ยดุ เรยี นรเู้ รอ่ื งสขุ ภาพของคนขา้ มเพศ 186 บทท่ี 15 การเตรยี มความพร้อมในการใหบ้ ริการทางสขุ ภาพแก่คนขา้ มเพศ
เอกสารอ้างอิง 1. NIAID Division of AIDS, Cross-Network Transgender Working Group. Creating a Gender-Affirming HIV Research Environment: In-person Training Tool (English). National Institute of Allergy and Infectious Disease (NIAID), NIH. 2. Mulatu M, Wang G, Zhang H, Song W, Wan C, Gilford J, editors. HIV Testing, Seropositivity, and Linkage to Care among Transgender Persons in CDC-Funded Testing Sites in the United States, 2012-2013 (abstract ID 1559). 2015 National HIV Prevention Conference; 2015; Atlanta GA: Centers for Disease Control and Prevention (CDC). 3. Communityengagementforquality,integrated,people-centredandresilienthealthservices.Availablefrom:https://www.who. int/servicedeliverysafety/areas/qhc/community-engagement/en/#:~:text=In%20essence%2C%20community%20engagment %20recognizes,resilient%20health%20systems%20and%20communities. บทท่ี 15 การเตรียมความพรอ้ มในการให้บริการทางสขุ ภาพแก่คนขา้ มเพศ 187
บทที่ 16 คนข้ามแลเพสะวศังัฒคในมนบธกรริบฎรทหมขมไทอายยง Social, LegaTrlaannsdgeCnudlteurraPel oPeprlespiencTthivaeilsanodn เจษฎา แตส้ มบตั ิ ผศ.ดร.รณภมู ิ สามคั คคี ารมย์ มลู นธิ เิ อเชยี แปซฟิ คิ ทรานสเ์ จนเดอร์ เนตเวริ ค์ (APTN)
1. เพราะโลกใบน้ี 16ไม่ได้มีแค่ผหู้ ญิงและผ้ชู าย จากระบบความเชอ่ื การใหค้ วามหมายเรอ่ื งเพศในสงั คมไทยโดยทว่ั ไปนน้ั ผกู ยดึ โยงกบั เพศทางสรรี ะทพ่ี จิ ารณา จากอวยั วะเพศ คอื มเี พยี ง 2 เพศ ไดแ้ ก่ เพศชายและเพศหญงิ และไดก้ �ำ หนดบทบาททางเพศของบคุ คลทเ่ี กดิ มา ตามเพศสภาพนน้ั คอื จะตอ้ งมวี ถิ ชี วี ติ ทางเพศเปน็ ไปตามบรรทดั ฐานทส่ี งั คมก�ำ หนดไว้ ผา่ นกระบวนการเรยี นรเู้ รอ่ื ง การใหค้ ณุ คา่ ความเปน็ หญงิ เปน็ ชายวา่ ผหู้ ญงิ และผชู้ ายนน้ั ควรกระท�ำ และไมค่ วรกระท�ำ เรอ่ื งใด โดยเฉพาะเรอ่ื งเพศ เชน่ ผหู้ ญงิ ควรจะรกั สวยรกั งาม ออ่ นหวาน เรยี บรอ้ ย เปน็ แมศ่ รเี รอื น และผชู้ ายควรจะเปน็ ผนู้ �ำ กลา้ หาญ เขม้ แขง็ และเปน็ หวั หนา้ ครอบครวั เปน็ ตน้ ความเช่อื เร่อื งความเป็นหญิงเป็นชายตามท่สี ังคมคาดหวังน้นั ปรากฏอยู่ในสถาบันทางสังคมต่าง ๆ เช่น สถาบนั ครอบครวั สถาบนั การศกึ ษา สถาบนั การแพทยส์ าธารณสขุ สถาบนั ศาสนา และสถาบนั กฎหมาย เปน็ ตน้ ซ่ึงสถาบันเหล่าน้ีทำ�หน้าท่ีผลิตซำ้�ชุดความคิดความเช่ือเร่ืองเพศดังกล่าว ส่งผลให้คนส่วนใหญ่ในสังคมเช่ือและ ยอมรบั วา่ เพศของมนษุ ยน์ น้ั มเี พยี ง 2 เพศ คอื ชายและหญงิ เทา่ นน้ั อกี ทง้ั ยงั ใหค้ ณุ คา่ วา่ เปน็ สง่ิ ทด่ี งี าม ถกู ตอ้ ง และเหมาะสม สอดคลอ้ งกบั บทความของ ผศ.ดร.มาดี ลม่ิ สกลุ 1 เกย่ี วกบั ความรเู้ รอ่ื งเพศวถิ ี ซง่ึ ไดส้ ะทอ้ นวา่ ความรู้ แบบวทิ ยาศาสตร์ไดช้ น้ี �ำ ใหเ้ หน็ ความเปน็ ปกตขิ องเพศภาคบงั คบั ของมนษุ ย์ในสงั คมนน้ั มี 2 เพศ คอื เพศชายและ เพศหญงิ ซง่ึ ความแตกตา่ งอยบู่ นฐานของความแตกตา่ งทางชวี ภาพหรอื ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม การเจรญิ พนั ธ์ุ และ การสบื พนั ธข์ุ องมนษุ ย์ อนั น�ำ ไปสอู่ ดุ มการณค์ วามแตกตา่ งทางบทบาททางเพศ สง่ ผลใหเ้ พศวถิ ขี องมนษุ ยถ์ กู อธบิ าย และให้ความหมายท่ีสอดคล้องกันบนฐานความสัมพันธ์ของอวัยวะเพศและบทบาททางเพศ เพศวิถีจึงถูกอธิบาย บนฐานของความสัมพันธ์แบบคู่ตรงข้าม โดยถือว่าความสัมพันธ์ระหว่างเพศตรงข้ามเป็นเร่ืองปกติ (รักต่างเพศ) เปน็ ธรรมชาติ และชอบธรรม ในขณะทก่ี ารมเี พศวถิ ีในทางตรงกนั ขา้ ม กลบั ถกู อธบิ ายและใหค้ วามหมายวา่ เปน็ เรอ่ื ง ผดิ ปกติ โดยน�ำ เอาคณุ สมบตั ทิ างเพศสรรี ะมาตดั สนิ ให้ไดจ้ �ำ ประเภทของความผดิ ปกตติ า่ ง ๆ เชน่ ความวติ ถาร ความ เบย่ี งเบน และความผดิ ปกติ เปน็ ตน้ 190 บทท่ี 16 คนขา้ มเพศในบริบทของ สงั คม กฎหมาย และวฒั นธรรมไทย
6 2. ความหลากหลาย 16ของนยิ ามคนข้ามเพศ ในศาสตรส์ าขาตา่ ง ๆ เชน่ สงั คมศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ และแพทยศาสตร์ มกี ารใหน้ ยิ ามความหมายค�ำ วา่ “กะเทย” ซง่ึ บง่ บอกถงึ ตวั ตนและวถิ ชี วี ติ ทม่ี คี วามหลากหลายแตกตา่ งกนั ไป เชน่ กะเทย หมายถงึ คนทม่ี อี วยั วะเพศทง้ั ชายและหญงิ , คนทม่ี จี ติ ใจและกรยิ าอาการตรงขา้ มเพศของตน, ผลไม้ ทเ่ี มลด็ ลบี เชน่ ล�ำ ไย2 กะเทย และ/หรอื สาวประเภทสอง และ/หรอื ผหู้ ญงิ ขา้ มเพศ คอื “ผทู้ เ่ี กดิ มาในสรรี ะของเพศชาย แตแ่ สดง ตวั ตนทางเพศตรงกนั ขา้ มกบั เพศของตนเอง และไมต่ รงตามความคาดหวงั ของสงั คม”3 กะเทย หรอื สาวประเภทสอง ในความเขา้ ใจของคนทว่ั ไป คอื ผชู้ ายทม่ี จี ติ ใจ และความประพฤตเิ หมอื น ผหู้ ญงิ 4 กะเทย คอื ชายทม่ี รี า่ งกายเปน็ ชายเตม็ ตวั มอี วยั วะเพศเหมอื นผชู้ ายธรรมดาทกุ อยา่ ง แตม่ คี วามรสู้ กึ นกึ คดิ เปน็ หญงิ และคดิ วา่ ตวั เองเปน็ หญงิ 5 จากการนยิ ามความหมายดงั กลา่ วของนกั วชิ าการ แพทย์ และนกั ภาษาศาสตร์ จะสะทอ้ นลกั ษณะรว่ ม คอื เพศชายทม่ี จี ติ ใจและแสดงออกในลักษณะผหู้ ญงิ ซง่ึ ในปัจจุบนั มกี ารสรา้ งคำ�ต่าง ๆ เพ่อื นยิ ามชวี ิตตวั ตนของคน กลมุ่ น้ี เชน่ คนขา้ มเพศ และ/หรอื ผหู้ ญงิ ขา้ มเพศ และ/หรอื สตรขี า้ มเพศ เปน็ ตน้ อยา่ งไรกต็ ามในปจั จบุ นั คนขา้ ม เพศไมไ่ ดม้ แี คเ่ พยี งการขา้ มเพศสภาพจากชายมาเปน็ หญงิ เทา่ นน้ั ยงั มกี ารขา้ มเพศสภาพจากหญงิ มาเปน็ ชาย หรอื ท่ีรู้จักกันคือ “ผู้ชายข้ามเพศ” ซ่ึงแนวทางต้นแบบการให้บริการสุขภาพท่ีครอบคลุมแก่บุคคลข้ามเพศและชุมชน ขา้ มเพศในภมู ภิ าคเอเชยี และแปซฟิ กิ 6 ได้ใหค้ �ำ นยิ ามไวด้ งั น้ี ขา้ มเพศ/บคุ คลขา้ มเพศ หมายถงึ บคุ คลผรู้ ะบเุ พศของตนในทางทแ่ี ตกตา่ งจากเพศซง่ึ ไดถ้ กู ก�ำ หนดให้ ณ แรกเกดิ คนกลมุ่ นอ้ี าจมกี ารแสดงออกถงึ ตวั ตนแตกตา่ งไปจากบทบาททางเพศทถ่ี กู คาดหวงั จากเพศทถ่ี กู ก�ำ หนดเมอ่ื แรกเกดิ บคุ คลขา้ มเพศมกั ระบเุ พศของตนในลกั ษณะทม่ี คี วามจ�ำ เพาะในบรบิ ทของทอ้ งถน่ิ สงั คม วฒั นธรรม ศาสนา และจติ วญิ ญาณ บทที่ 16 คนข้ามเพศในบรบิ ทของ สงั คม กฎหมาย และวฒั นธรรมไทย 191
ผหู้ ญงิ ขา้ มเพศ หมายถงึ บคุ คลขา้ มเพศซง่ึ ระบเุ พศของตนเปน็ เพศหญงิ (บคุ คลซง่ึ เพศถกู ก�ำ หนด ณ แรกเกดิ วา่ เปน็ เพศชาย แตร่ ะบเุ พศของตนเปน็ เพศหญงิ ) ค�ำ ยอ่ ภาษาองั กฤษคอื MtF (Male to Female) ผชู้ ายขา้ มเพศ หมายถงึ บคุ คลขา้ มเพศซง่ึ ระบเุ พศของตนเปน็ เพศชาย(บคุ คลซง่ึ เพศถกู ก�ำ หนด ณ แรกเกดิ วา่ เปน็ เพศหญงิ แตร่ ะบเุ พศของตนเปน็ เพศชาย) ค�ำ ยอ่ ภาษาองั กฤษ FtM (Female to Male) ในขณะทบ่ี คุ คลทร่ี ะบเุ พศของตนเองหรอื มอี ตั ลกั ษณท์ างเพศแบบเดยี วกบั เพศก�ำ เนดิ มคี �ำ เรยี กในภาษาองั กฤษ วา่ Cisgender อยา่ งไรกต็ ามค�ำ เรยี กตา่ ง ๆ นน้ั มวี วิ ฒั นาการไปตามยคุ สมยั ค�ำ ทเ่ี ปน็ ทร่ี จู้ กั และนยิ มใช้ในปจั จบุ นั กอ็ าจพฒั นา หรอื เปลย่ี นแปลงไปสคู่ �ำ ใหม่ในอนาคต โดยในข้อกำ�หนดคณะกรรมการส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคมแห่งชาติว่าด้วยการกำ�หนดบุคคลหรือกลุ่ม บคุ คลเปา้ หมายเปน็ ผรู้ บั บรกิ ารสวสั ดกิ ารสงั คม พ.ศ. 2555 ไดก้ �ำ หนดบคุ คลหรอื กลมุ่ บคุ คลเปา้ หมายเปน็ ผรู้ บั บรกิ าร สวสั ดกิ ารสงั คมไว้ ไดน้ ยิ ามความหมายของคนขา้ มเพศ คอื ผทู้ ม่ี ปี ระสบการณก์ ารแสดงออกทางเพศไมส่ อดคลอ้ งกบั เพศก�ำ เนดิ และเพศภาวะทเ่ี ปน็ ความคาดหวงั ทางสงั คม แตเ่ ปน็ ความรสู้ กึ เฉพาะในแตล่ ะบคุ คล อนง่ึ คนขา้ มเพศ มที ง้ั จากชายเปน็ หญงิ เชน่ กะเทย สาวประเภทสอง หรอื ผหู้ ญงิ ขา้ มเพศ เปน็ ตน้ และจากหญงิ เปน็ ชาย เชน่ ทอม ชาย ขา้ มเพศ รวมถงึ ผทู้ น่ี ยิ ามตนเองวา่ ไม่ใชท่ ง้ั หญงิ ทง้ั ชาย การนิยามความหมายท่ีหลากหลายน้ันทำ�ให้เห็นถึงวิธีคิดเร่ืองเพศสภาพท่ีมีความเปล่ียนแปลงไปในแต่ละ ยคุ สมยั และพลวตั รของภาษาไทย แต่ในการน�ำ ไปใชเ้ พอ่ื เรยี กกลมุ่ คนดงั กลา่ วจ�ำ เปน็ ตอ้ งค�ำ นงึ ถงึ ความละเอยี ดออ่ น เพราะคนข้ามเพศแต่ละคนน้นั มีประสบการณ์ท่แี ตกต่างกัน เช่น กล่มุ สาวประเภทสองในพ้นื ท่พี ัทยานิยมให้เรียก ตนเองวา่ “สาวประเภทสอง” มากกวา่ ค�ำ วา่ “กะเทย” เพราะรสู้ กึ วา่ ค�ำ วา่ กะเทยนน้ั มนี ยั ยะเชงิ ลบและอคตทิ างเพศ ในขณะท่ีกลุ่มคนข้ามเพศในเมือง เป็นชนช้ันกลางน้ันเรียกตนเองว่าเป็น “ผู้หญิงข้ามเพศ” ซ่ึงแตกต่างจาก นักกิจกรรมและนักสิทธิมนุษยชนท่ีมักจะเรียกตนเองว่า “กะเทย” เพราะเป็นการสร้างและให้ความหมายใหม่ใน เชงิ บวก และเปน็ การตอ่ สเู้ ชงิ ภาษา เพอ่ื แสดงใหเ้ หน็ วา่ ในสงั คมไมไ่ ดม้ เี พยี งหญงิ และชายเทา่ นน้ั แตย่ งั มเี พศสภาพอน่ื ๆ ดว้ ย ดงั นน้ั หากจะตอ้ งนยิ ามกลมุ่ คนขา้ มเพศใหถ้ ามถงึ ความตอ้ งการของคนขา้ มเพศเปน็ ส�ำ คญั 192 บทที่ 16 คนข้ามเพศในบริบทของ สงั คม กฎหมาย และวฒั นธรรมไทย
3. ส ถานการณข์ องคนข้ามเพศ 16ในประเทศไทย ส�ำ นกั งานสถติ แิ หง่ ชาติ ระบจุ �ำ นวนประชากรจากการทะเบยี นจ�ำ แนกตามอายุ เพศ จงั หวดั อ�ำ เภอ และเขต การปกครอง ปี พ.ศ. 2561 พบวา่ มจี �ำ นวนประชากรรวมทง้ั หมดจ�ำ นวน 66,413,979 คน โดยแบง่ เพศเปน็ ชาย จ�ำ นวน 32,556,271 คน และเปน็ หญงิ จ�ำ นวน 33,857,708 คน ซง่ึ ขอ้ มลู ขา้ งตน้ เปน็ การส�ำ รวจโดยดจู ากเพศก�ำ เนดิ ซง่ึ ใน อดตี ทผ่ี า่ นมาไมม่ จี �ำ นวนตวั เลขคนขา้ มเพศทถ่ี กู เกบ็ ขอ้ มลู อยา่ งเปน็ ระบบโดยรฐั แตก่ ม็ บี างหนว่ ยงานของรฐั ทท่ี �ำ การ รวบรวมขอ้ มลู จากการด�ำ เนนิ โครงการดา้ นสขุ ภาพของกระทรวงสาธารณสขุ โดยในปี พ.ศ. 2555 คาดการณว์ า่ จะมี คนท่ีใชช้ วี ติ เปน็ หญงิ ขา้ มเพศอยปู่ ระมาณ 200,000 คนทว่ั ประเทศ7 ผนวกกบั การเกบ็ ขอ้ มลู ของกองการสสั ดี หนว่ ย บญั ชาการรกั ษาดนิ แดน กระทรวงกลาโหม กรณคี นขา้ มเพศเขา้ รบั การตรวจเลอื กทหารกองประจ�ำ การ ซง่ึ มกี ารจดั ขน้ึ ในทกุ ๆ ปี หรอื ทเ่ี รารจู้ กั คอื “การเกณฑท์ หาร” นน้ั กะเทย สาวประเภทสอง ผหู้ ญงิ ขา้ มเพศ ทอ่ี ายคุ รบ 21 ปี บรบิ รู ณต์ อ้ งเขา้ สกู่ ระบวนการตรวจเลอื กทหารกองประจ�ำ การ โดยจะไดร้ บั การยกเวน้ ภายใตเ้ งอ่ื นไข คอื 1. มกี ารเปลย่ี นรา่ งกายทถ่ี าวร คอื ศลั ยกรรมเปลย่ี นเพศ 2. มกี ารเปลย่ี นแปลงรา่ งกายบางสว่ น เชน่ หนา้ อก 3. ไมไ่ ดม้ กี ารเปลย่ี นแปลงรา่ งกายแตม่ จี ติ ใจเปน็ ผหู้ ญงิ และถกู จดั ใหเ้ ปน็ บคุ คลจ�ำ พวกท่ี2 ภาวะเพศสภาพ ไมต่ รงกบั เพศก�ำ เนดิ การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู จ�ำ นวนคนขา้ มเพศทเ่ี ขา้ สกู่ ระบวนการเลอื กทหารกองประจ�ำ การ ตง้ั แตป่ ี พ.ศ. 2556 จนถงึ พ.ศ. 2562 พบวา่ มจี �ำ นวนคนขา้ มเพศทง้ั สน้ิ 29,608 คน ดงั แสดงในตารางท่ี 1 ตารางท่ี 1 จ�ำ นวนคนขา้ มเพศทเ่ี ขา้ สกู่ ระบวนการตรวจเลอื กทหารกองประจ�ำ การในปี พ.ศ. 2556-2562 การตรวจเลอื กทหารกองประจ�ำ การ (ป)ี จ�ำ นวนคนขา้ มเพศ (คน) พ.ศ. 2556 6,328 2,623 พ.ศ. 2557 4,210 พ.ศ. 2558 4,309 พ.ศ. 2559 4,130 พ.ศ. 2560 4,684 พ.ศ. 2561 3,324 พ.ศ. 2562 (ทม่ี า: หนงั สอื กห 0462.11/199 และ กห 0462/548 หนว่ ยบญั ชาการรกั ษาดนิ แดน) บทที่ 16 คนข้ามเพศในบรบิ ทของ สังคม กฎหมาย และวฒั นธรรมไทย 193
อย่างไรก็ตามข้อมูลดังกล่าวแสดงให้เห็นเฉพาะจำ�นวนคนข้ามเพศจากชายเป็นหญิงเท่าน้ัน ส่วนจำ�นวน ประชากรชายขา้ มเพศนน้ั ยงั ไมไ่ ดม้ กี ารเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู โดยหนว่ ยงานของรฐั แตอ่ ยา่ งใด ในขณะท่ีสถานการณ์ความรุนแรงท่ีเกิดข้ึนกับคนข้ามเพศเพ่ิมข้ึน จากผลการศึกษาวิจัยของมูลนิธิเพ่ือ สทิ ธแิ ละความเปน็ ธรรมทางเพศ ในโครงการเพศวถิ ที ห่ี ลากหลายในความหมายของครอบครวั พบวา่ คนขา้ มเพศ รอ้ ยละ 38 ถกู กระท�ำ ความรนุ แรงในเชงิ โครงสรา้ งสงั คมและวฒั นธรรม โดยพน้ื ทท่ี ม่ี กี ารกระท�ำ ความรนุ แรงมากทส่ี ดุ คอื สถาบนั ครอบครวั รองลงมาเปน็ สถาบนั การศกึ ษา และสดุ ทา้ ยคอื ทท่ี �ำ งาน รปู แบบความรนุ แรงทพ่ี บมากทส่ี ดุ คอื ความรนุ แรงทางวาจา อาทเิ ชน่ การดา่ ทอ่ พดู จาเสยี ดสี ประชดประชนั โดยพาดพงิ อตั ลกั ษณท์ างเพศ รองลงมา เป็นความรุนแรงทางด้านร่างกาย การคุกคาม และล่วงละเมิดทางเพศ8 ซ่ึงสถานการณ์น้ีมีแนวโน้มท่ีเป็นทิศทาง เดยี วกนั กบั การศกึ ษาในระดบั นานาชาติ จากรายงานการวจิ ยั ของสหภาพคนขา้ มเพศยโุ รป (Transgender Europe, TGEU) ภายใต้โครงการการติดตามการสังหารคนข้ามเพศท่ีพบว่าคนข้ามเพศน้ันถูกฆ่าสังหารทุก ๆ 72 ช่ัวโมง ทว่ั โลก ซง่ึ เปน็ ผลมาจากความเกลยี ดชงั ดว้ ยเหตแุ หง่ ความแตกตา่ งทางเพศ9 194 บทท่ี 16 คนข้ามเพศในบริบทของ สังคม กฎหมาย และวฒั นธรรมไทย
4. ค นขา้ มเพศ 16 ในครอบครวั ไทย ในปัจจุบันสิทธิของเด็กและเยาวชนกลายเป็นวาระสากลท่ที ่วั โลกต่างให้การยอมรับในความสำ�คัญ ถือเป็น จดุ รวมความสนใจของทง้ั ในระดบั ครอบครวั จนถงึ สงั คมวงกวา้ ง โดยถอื วา่ เดก็ และเยาวชนทกุ คนทเ่ี กดิ มาลว้ นมคี วาม ตอ้ งการในดา้ นตา่ ง ๆ ทค่ี วรไดร้ บั การตอบสนองอยา่ งเหมาะสมและอยภู่ ายใตป้ ระโยชนส์ งู สดุ ไมว่ า่ จะเปน็ การไดร้ บั การเลย้ี งดจู ากครอบครวั อยา่ งค�ำ นงึ ถงึ คณุ คา่ และศกั ดศ์ิ รคี วามเปน็ มนษุ ย์ ตอ้ งไดร้ บั การปฏบิ ตั ิในฐานะทเ่ี ปน็ มนษุ ย์ คนหนง่ึ ไมม่ กี ารดถู กู เหยยี ดหยามและเลอื กปฏบิ ตั อิ นั เนอ่ื งมาจากความแตกตา่ งทางเพศ และตอ้ งไดร้ บั การปกปอ้ ง คมุ้ ครองจากการใชค้ วามรนุ แรงไมว่ า่ จะเปน็ รปู แบบใด ๆ เพอ่ื ใหเ้ ดก็ และเยาวชนทม่ี คี วามหลากหลายทางเพศอยู่ใน สงั คมอยา่ งมคี วามสขุ และเตบิ โตเปน็ คนดแี ละมคี ณุ ภาพของสงั คม สถานการณเ์ ดก็ และเยาวชนทม่ี คี วามหลากหลายทางเพศในสงั คมไทยตอ้ งเผชญิ กบั กบั ภาวะความเปราะบาง คือ ความเข้าใจและมายาคติเก่ียวกับความหลากหลายทางเพศในเชิงลบ ซ่ึงส่งผลให้เด็กและเยาวชนเหล่าน้ีถูก กระทำ�ความรุนแรงท้งั ทางด้านร่างกาย วาจา และจิตใจ จากสังคมและครอบครัวอันเน่อื งมาจากการเกลียดกลัว คนทม่ี ีความหลากหลายทางเพศ10 สง่ิ เหล่าน้สี ง่ ผลกระทบต่อเดก็ และเยาวชนทม่ี คี วามหลากหลายทางเพศทางด้าน รา่ งกาย คอื บาดเจบ็ จนถงึ ขน้ั เสยี ชวี ติ และดา้ นจติ ใจ คอื ภาวะเครยี ด โรคซมึ เศรา้ การท�ำ รา้ ยตนเอง หรอื การ ฆา่ ตวั ตาย11 สอดคลอ้ งกบั รายงานการศกึ ษาเรอ่ื ง Being LGBT in Asia: Thailand Country Report12 ซง่ึ สะทอ้ น ใหเ้ หน็ ภาวะความรนุ แรงทก่ี ลมุ่ ความหลากหลายทางเพศตอ้ งเผชญิ และไมเ่ พยี งแคก่ ารถกู กระท�ำ ความรนุ แรงทางดา้ น รา่ งกาย วาจา จติ ใจ แตย่ งั รวมถงึ ความรนุ แรงทางเพศ คอื การทก่ี ลมุ่ เยาวชนทม่ี คี วามหลากหลายทางเพศขาดการ สนบั สนนุ จากสมาชกิ ในครอบครวั สง่ ผลใหเ้ กดิ การถกู ลว่ งละเมดิ หรอื ขม่ เหงได้ ในหลายกรณขี องเดก็ ทเ่ี ปน็ กะเทยซง่ึ ถกู บดิ าของตวั เองท�ำ รา้ ยและดา่ ทอ ถกู ลงโทษเนอ่ื งจากท�ำ ตวั อรชรออ้ นแอน้ เหมอื นเดก็ ผหู้ ญงิ หรอื ถกู บบี บงั คบั ให้ ออกจากบา้ น เพราะท�ำ ใหช้ อ่ื เสยี งของวงศต์ ระกลู เสอ่ื มเสยี ส�ำ หรบั เยาวชนทเ่ี ปน็ เลสเบย้ี นนน้ั กม็ คี วามเสย่ี งตอ่ การ ถกู สมาชกิ ในครอบครวั ของตนเองขม่ ขนื เพอ่ื เปน็ การแก้ใหห้ ายจากการชอบผหู้ ญงิ ดว้ ยกนั ผลพวงจากการไมย่ อมรบั และสนบั สนนุ บตุ รหลานทม่ี คี วามหลากหลายเพศในครอบครวั สง่ ผลกระทบตอ่ เดก็ โดยทำ�ให้เด็กขาดความม่ันใจ ไม่มีความเข้มแข็งทางจิตใจ เม่ือต้องเผชิญกับสังคมภายนอก หรือการเติบโตใน อนาคต ทำ�ให้เด็กไม่สามารถจะจัดการกับปัญหาเก่ยี วกับอัตลักษณ์ทางเพศของตนเอง รวมท้งั ไม่สามารถคิดและ ตดั สนิ ใจเรอ่ื งอน่ื ๆ ในชวี ติ ได้ ดว้ ยเหตนุ จ้ี งึ ท�ำ ใหเ้ ดก็ และเยาวชนทม่ี คี วามหลากหลายทางเพศจ�ำ นวนหนง่ึ เลอื กท่ี จะไม่เปิดเผยอัตลักษณ์ทางเพศของตน แต่จะเปิดเผยเม่อื ตนเองโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ท้งั น้มี ีสาเหตุมาจากความกลัว บทที่ 16 คนขา้ มเพศในบริบทของ สงั คม กฎหมาย และวฒั นธรรมไทย 195
การถูกปฏิเสธ และปฏิกิริยาการการตอบสนองต่อการเปิดเผยตัวตนในเชิงลบ สอดคล้องกับการศึกษาของ Ryan CQ13 ท่ีพบว่าเม่ือครอบครัวไม่ได้สร้างความหวาดกลัวกับอัตลักษณ์หรือรสนิยมทางเพศของเด็ก เด็กท่ีมีความ หลากหลายทางเพศจะไมร่ สู้ กึ วา่ ถกู ปฏเิ สธ หรอื มปี ฏกิ ริ ยิ าในเชงิ ลบจากครอบครวั และคนรอบขา้ ง อนั เนอ่ื งมาจากอตั ลกั ษณแ์ ละรสนยิ มทางเพศของตนเอง จากผลการศกึ ษาขา้ งตน้ ท�ำ ใหเ้ หน็ วา่ สถาบนั ครอบครวั ภายใตบ้ รบิ ทของสงั คมไทยนน้ั ยงั คงขาดความเขา้ ใจและ ความความรู้ในมติ ขิ องความหลากหลายทางเพศ ทง้ั นค้ี รอบครวั เปน็ สถาบนั พน้ื ฐานในการสง่ เสรมิ และพฒั นาศกั ยภาพ ของเดก็ และเยาวชนใหเ้ ตบิ โตอยา่ งมสี ขุ ภาวะทด่ี ี ครอบครวั ทย่ี อมรบั และสนบั สนนุ อตั ลกั ษณท์ างเพศของบตุ รหลานมี ผลตอ่ การสรา้ งบคุ ลกิ ภาพทม่ี คี วามมน่ั ใจ กลา้ คดิ และกลา้ ตดั สนิ ใจในเรอ่ื งตา่ ง ๆ ของชวี ติ 14 ครอบครวั ทม่ี บี ตุ รหลานทม่ี คี วามหลากหลายทางเพศตอ้ งมคี วามรคู้ วามเขา้ ใจเกย่ี วกบั ความหลากหลายทางเพศ เพราะครอบครวั เปน็ พน้ื ฐานของแหลง่ ขอ้ มลู ตา่ ง ๆ ครอบครวั พอ่ แม่ และผปู้ กครองทไ่ี มม่ คี วามเขา้ ใจ จะมองวา่ การ ดแู ลเดก็ ทม่ี คี วามหลากหลายทางเพศไมจ่ �ำ เปน็ ตอ้ งอาศยั ความรเู้ ฉพาะ เมอ่ื เดก็ มคี วามตอ้ งการทจ่ี ะเปลย่ี นแปลงสรรี ะ ของตนเอง เชน่ การใชฮ้ อรโ์ มนเพศหญงิ การผา่ ตดั แปลงเพศ จงึ ไมไ่ ดร้ บั ค�ำ แนะน�ำ ขอ้ มลู ในมติ ขิ องสขุ ภาพทถ่ี กู ตอ้ ง ท�ำ ใหเ้ ดก็ ตอ้ งเรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง เรยี นรจู้ ากรนุ่ พม่ี คี วามหลากหลายทางเพศ หรอื ขอ้ มลู ทม่ี กี ารแบง่ ปนั ประสบการณบ์ น สงั คมออนไลน1์ 5 ซง่ึ สง่ิ เหลา่ นเ้ี ปน็ ภาวะความเปราะบางทจ่ี ะท�ำ ใหเ้ ดก็ และเยาวชนไดร้ บั ขอ้ มลู ในมติ สิ ขุ ภาพทบ่ี ดิ เบอื น และอาจจะสง่ ผลกระทบตอ่ รา่ งกายทง้ั ในระยะสน้ั และระยะยาว 196 บทที่ 16 คนขา้ มเพศในบรบิ ทของ สงั คม กฎหมาย และวัฒนธรรมไทย
5. คนขา้ มเพศในส่อื 16 ส่อื โทรทัศน์และหนังสือพิมพ์ในปัจจุบันได้เลือกหยิบยกเอามุมมองเร่อื งเพศภาวะและเพศวิถีในหลากหลาย แง่มุมมาดึงดูดความสนใจของผ้ชู ม ซ่งึ เป็นกลวิธีท่สี อดคล้องไปกับวิถีทางของระบบทุนนิยม16 ส่อื จึงมีส่วนสำ�คัญ อยา่ งยง่ิ ในการก�ำ กบั ควบคมุ ใหผ้ คู้ นแสดงออกทางเพศและมพี ฤตกิ รรมทางเพศในแบบทแ่ี ตกตา่ งกนั ไป17 บคุ คลทม่ี ี ความหลากหลายทางเพศ(LGBTIs) จงึ เปน็ กลมุ่ ทส่ี อ่ื ใหค้ วามสนใจและมกั มกี ารน�ำ เสนอขา่ วมากขน้ึ อยา่ งเหน็ ไดช้ ดั นบั ตง้ั แตป่ ี พ.ศ. 2547 เปน็ ตน้ มา แตพ่ บวา่ การน�ำ เสนอสว่ นใหญม่ กั เปน็ ขา่ วในเชงิ ลอ้ เลยี นมากกวา่ 18 นอกจากนผ้ี ลจากการน�ำ เสนอของสอ่ื ไดส้ ง่ ผลตอ่ บคุ คลทม่ี คี วามหลากหลายทางเพศในหลายระดบั กลา่ วคอื ใน ระดบั บคุ คล พบวา่ กลมุ่ หญงิ ขา้ มเพศสว่ นใหญย่ งั จ�ำ เปน็ ตอ้ งเขา้ รบั การตรวจเลอื กทหารกองเกนิ ตามพระราชบญั ญตั ิ รับราชการทหาร พ.ศ. 259719 ส่งผลให้หญิงข้ามเพศทุกคนท่ีมีสัญชาติไทยจำ�เป็นต้องผ่านกระบวนการดังกล่าว ด้วยเหตุท่มี ีเพศ ณ แรกเกิดและเอกสารทางราชการกำ�หนดว่าเป็นเพศชายตามกฎหมาย ซ่งึ ขัดแย้งกับเพศภาวะ การแสดงออก และรปู ลกั ษณท์ ม่ี กี ารปรบั เปลย่ี นเปน็ ผหู้ ญงิ จงึ ไดร้ บั ความสนใจจากคนในสงั คมและสอ่ื เปน็ จ�ำ นวนมาก โดยเฉพาะสอ่ื โทรทศั นแ์ ละหนงั สอื พมิ พ์ ผลจากการน�ำ เสนอขา่ วดงั กลา่ วไดท้ �ำ ใหเ้ กดิ การวพิ ากษว์ จิ ารณ์ และเรยี กรอ้ ง ใหเ้ กดิ การปรบั เปลย่ี นการน�ำ เสนอตามมาบอ่ ยครง้ั เนอ้ื หาสว่ นหนง่ึ ของการใหส้ มั ภาษณร์ ายการเผชญิ หนา้ สถานโี ทรทศั นช์ อ่ งสปรงิ นวิ ส์ โดยคณุ เจษฎา แตส้ มบตั ิ นกั ขับเคลอ่ื นทางสงั คมในประเด็นสทิ ธขิ องกะเทยหรือสาวประเภทสอง จากมลู นิธเิ พ่อื นกะเทยเพ่อื สิทธิมนุษยชน20 สะทอ้ นวา่ “การน�ำ เสนอของสอ่ื ทง้ั ทวี แี ละหนงั สอื พมิ พม์ กั ละเมดิ สทิ ธคิ วามเปน็ สว่ นตวั ในการเปดิ เผยค�ำ น�ำ หนา้ นาม ใหค้ วามส�ำ คญั กบั ความสวย ความเปน็ หญงิ หรอื แมแ้ ตก่ ารปรบั เปลย่ี นรา่ งกาย เชน่ การศลั ยกรรมหนา้ อก การแปลงเพศ แตก่ ลบั ละเลยเนอ้ื หาส�ำ คญั ของการเกณฑท์ หารถงึ การกระท�ำ ตามกฎหมายของพลเมอื งไทยหรอื ขน้ั ตอนตา่ ง ๆ ท่ี เออ้ื อ�ำ นวยหรอื เปน็ อปุ สรรคกบั การเขา้ ตรวจเลอื กของคนเปน็ กะเทย สง่ิ เหลา่ นท้ี �ำ ใหพ้ วกเราเครยี ด ทกุ ข์ใจ และท�ำ ทกุ วถิ ที างให้ไมต่ อ้ งเขา้ รบั การตรวจเลอื ก หลายคนตอ้ งถกู ละเมดิ สทิ ธิ ถกู ลว่ งละเมดิ ทางเพศ จนบางคนถงึ ขน้ั คดิ สน้ั อยากฆา่ ตวั ตายกม็ ”ี ในระดบั ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งบคุ คล พบวา่ การน�ำ เสนอภาพลกั ษณข์ องผมู้ คี วามหลากหลายทางเพศในสอ่ื ซง่ึ 197 ประกอบดว้ ย หญงิ รกั หญงิ ชายรกั ชาย บคุ คลรกั สองเพศ บคุ คลขา้ มเพศ บคุ คลสองเพศ และผู้ไมน่ ยิ ามเพศมกั เปน็ ไปในดา้ นลบ โดยปราศจากความเขา้ ใจทถ่ี กู ตอ้ งชดั เจนเกย่ี วกบั เพศวถิ ี อตั ลกั ษณท์ างเพศ และการแสดงออกทางเพศ ของกลมุ่ บคุ คลดงั กลา่ ว สง่ ผลตอ่ การเกดิ อคติ ความเกลยี ดชงั การเลอื กปฏบิ ตั ิ การละเมดิ สทิ ธมิ นษุ ยชน และผลกั ผมู้ คี วามหลากหลายทางเพศใหก้ ลายเปน็ กลมุ่ คนชายขอบในวงกวา้ ง21 ดว้ ยเหตนุ จ้ี งึ ไดม้ กี ารพฒั นาคมู่ อื การน�ำ เสนอ ของสอ่ื ในเรอ่ื งความหลากหลายทางเพศ ส�ำ หรบั ผปู้ ฏบิ ตั งิ านสอ่ื และเครอื ขา่ ยผบู้ รโิ ภคสอ่ื 22 เพอ่ื ใชเ้ ปน็ แนวทางของ องคก์ รสอ่ื มวลชนในการน�ำ เสนอเรอ่ื งความหลากหลายทางเพศใหล้ ะเอยี ดออ่ นและเคารพสทิ ธทิ างเพศมากยง่ิ ขน้ึ โดย มเี นอ้ื หาหลกั ทม่ี งุ่ เนน้ การสรา้ งความเขา้ ใจและน�ำ เสนอค�ำ เรยี กบคุ คลทม่ี คี วามหลากหลายทางเพศทถ่ี กู ตอ้ ง บทท่ี 16 คนขา้ มเพศในบริบทของ สังคม กฎหมาย และวฒั นธรรมไทย
6. คนข้ามเพศ 16 ในกฎหมายไทย “มนษุ ยท์ กุ คนเกดิ มาพรอ้ มเสรภี าพและดว้ ยศกั ดศ์ิ รแี ละสทิ ธเิ สมอภาคกนั ไมว่ า่ จะมวี ถิ ที างเพศและ อตั ลกั ษณท์ างเพศแบบใด ยอ่ มมสี ทิ ธมิ นษุ ยชนอยา่ งครบถว้ นสมบรู ณเ์ ชน่ เดยี วกนั ” หลกั การยอกยาการต์ า ขอ้ ท่ี 123 การพิทักษ์รับรองและคุ้มครองทางกฎหมายท่ีเก่ียวข้องกับคนข้ามเพศ และบุคคลท่ีมีความหลากหลาย ทางเพศนน้ั จะมกี ฎหมาย 3 เรอ่ื งทเ่ี กย่ี วขอ้ ง คอื 1. กฎหมายวา่ ดว้ ยการหา้ มการเลอื กปฏบิ ตั ดิ ว้ ยเหตคุ วามแตกตา่ งทางเพศ 2. รา่ งกฎหมายสมรสทเ่ี ทา่ เทยี ม (กฎหมายแตง่ งาน) 3. รา่ งกฎหมายรบั รองอตั ลกั ษณท์ างเพศสภาพ (Legal Gender Recognition) โดยในปัจจุบันกฎหมายท่มี ีผลบังคับใช้แล้ว และส่งผลต่อการค้มุ ครองสิทธิของบุคคลท่มี ีความหลากหลาย ทางเพศมเี พยี งฉบบั เดยี ว คอื พรบ.ความเทา่ เทยี มระหวา่ งเพศ พ.ศ. 2558 โดยมาตราสาม บญั ญตั ไิ วว้ า่ “การเลอื ก ปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศ” หมายความว่า การกระทําหรือไม่กระทําการใด อันเป็นการแบ่งแยก กีดกัน หรอื จาํ กดั สทิ ธปิ ระโยชน์ใด ๆ ไมว่ า่ ทางตรงหรอื ทางออ้ ม โดยปราศจากความชอบธรรม เพราะเหตทุ บ่ี คุ คลนน้ั เปน็ เพศชายหรอื เพศหญงิ หรอื มกี ารแสดงออกทแ่ี ตกตา่ งจากเพศโดยกาํ เนดิ แตก่ ฎหมายนก้ี ย็ งั ไมไ่ ด้ใหส้ ทิ ธใิ นการสมรส และการเลือกใช้อัตลักษณ์ท่แี ตกต่างจากเพศโดยกำ�เนิด ซ่งึ ในประเทศไทย องค์กรภาคประชาสังคมท่ที ำ�งานด้าน ความเปน็ ธรรมทางเพศ สทิ ธทิ างเพศ และหนว่ ยงานภาครฐั ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง มคี วามพยายามในการขบั เคลอ่ื นเพอ่ื ผลกั ดนั ร่างกฎหมายสมรสท่ีเท่าเทียม และร่างกฎหมายรับรองอัตลักษณ์ทางเพศสภาพให้เกิดข้ึนและมีผลบังใช้โดยเร็ว เพอ่ื ใหบ้ รรลเุ ป้าหมายของการรบั รองทางกฎหมายในการใช้ชีวติ ของบคุ คลท่มี คี วามหลากหลายทางเพศ ซง่ึ เป็นอกี หนง่ึ ปจั จยั ทางสงั คมทเ่ี ปน็ ตวั ก�ำ หนดสขุ ภาพของคนกลมุ่ น้ี 198 บทท่ี 16 คนขา้ มเพศในบรบิ ทของ สงั คม กฎหมาย และวัฒนธรรมไทย
6 7. คนข้ามเพศกบั สิทธิ 16ในการจดั ตง้ั ครอบครวั ตามหลกั การสทิ ธมิ นษุ ยชนสากล สทิ ธใิ นการกอ่ ตง้ั ครอบครวั เปน็ สทิ ธขิ น้ั พน้ื ฐานของมนษุ ย์ ไมว่ า่ จะเปน็ การ ก่อต้ังครอบครัวในรูปแบบครอบครัวตามธรรมชาติ หรือการก่อต้ังครอบครัวบุญธรรม ซ่ึงสิทธิดังกล่าวได้รับการ รบั รองไวอ้ ยา่ งชดั เจนทง้ั ตามกฎหมายภายในและกฎหมายระหวา่ งประเทศ เชน่ ในตราสารระหวา่ งประเทศดา้ นสทิ ธิ มนษุ ยชนทไ่ี ทยเปน็ ภาคี ไดแ้ ก่ ปฏญิ ญาสากลวา่ ดว้ ยสทิ ธมิ นษุ ยชน ค.ศ. 1948, กตกิ าระหวา่ งประเทศวา่ ดว้ ยสทิ ธิ พลเมอื งและสทิ ธทิ างการเมอื ง ค.ศ. 1966, กตกิ าระหวา่ งประเทศวา่ ดว้ ยสทิ ธทิ างเศรษฐกจิ สงั คม และวฒั นธรรม ค.ศ. 1966 และในหลกั การยอกยาการต์ า ขอ้ 2423 ทร่ี ะบไุ วช้ ดั เจนวา่ “มนุษย์ทุกคนมีสิทธิในการสร้างครอบครัว โดยไม่ข้ึนกับวิถีทางเพศและอัตลักษณ์ทางเพศ ครอบครัวมี หลากหลายรปู แบบ หา้ มมิใหค้ รอบครวั ใดตกเปน็ เหยอ่ื ของการเลอื กปฏบิ ตั จิ ากสาเหตแุ หง่ วถิ ที างเพศหรอื อตั ลกั ษณ์ ทางเพศ จากสมาชกิ คนหนง่ึ คนใดในครอบครวั รฐั จกั : ใชม้ าตรการทางนติ บิ ญั ญตั ิ ทางปกครอง และอน่ื ๆ ทจ่ี �ำ เปน็ เพอ่ื รองรบั สทิ ธใิ นการสรา้ งครอบครวั รวมท้ังให้มีโอกาสในการอุปการะบุตรบุญธรรม หรือการต้ังครรภ์โดยใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ช่วย (รวมถึง การผสมเทยี ม) โดยไมถ่ กู เลอื กปฏบิ ตั จิ ากสาเหตแุ หง่ วถิ ที างเพศ และอตั ลกั ษณท์ างเพศ” นอกจากน้ี การศกึ ษารปู แบบความตอ้ งการของการใชช้ วี ติ คขู่ องบคุ คลหลากหลายทางเพศ จาก 4 ภมู ภิ าค ของประเทศไทย9 พบว่ากล่มุ บุคคลหลากหลายทางเพศมีความต้องการท่จี ะได้รับความค้มุ ครองด้านกฎหมายมาก ท่สี ุด เพราะค่ขู องบุคคลหลากหลายทางเพศ ยังไม่สามารถเข้าถึงสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ในฐานะค่ชู ีวิตได้เหมือน ค่รู ักต่างเพศ เช่น สิทธิในการลดหย่อนภาษี หรือสิทธิในการทำ�สัญญาประกันชีวิต, การคำ้�ประกัน หรือการขอ สนิ เชอ่ื รว่ มกนั ได้ บทที่ 16 คนขา้ มเพศในบริบทของ สงั คม กฎหมาย และวฒั นธรรมไทย 199
ในกรณคี ตู่ า่ งเพศทไ่ี มไ่ ดจ้ ดทะเบยี นสมรส ถงึ แมว้ า่ กฎหมายจะไมไ่ ดเ้ ขยี นไวโ้ ดยตรงวา่ การท�ำ สญั ญาเหลา่ น้ี จะต้องเป็นสามีภรรยาตามกฎหมาย แต่ในทางปฏิบัติบริษัทประกันชีวิตสามารถยอมรับทำ�การธุรกรรมให้ได้ โดยอาจจะพจิ ารณาวา่ มรี ายชอ่ื อยู่ในทะเบยี นบา้ นรว่ มกนั แต่ในกรณขี องคชู่ วี ติ หลากหลายทางเพศนน้ั ไมส่ ามารถท�ำ เช่นน้ไี ด้ เพราะกฎหมายเก่ยี วกับการรับทำ�ประกัน จะไม่ยอมให้ทำ�ประกัน ในกรณีท่ยี กทรัพย์สินให้คนอ่นื ท่ไี ม่ใช่ ญาติ สว่ นธนาคารกเ็ ชอ่ื ถอื การค�ำ้ ประกนั การขอสนิ เชอ่ื หรอื การกรู้ ว่ มของคนทเ่ี ปน็ ญาตกิ นั มากกวา่ คนทไ่ี มม่ คี วาม สมั พนั ธ์ใด ๆ ตามกฎหมาย ดงั นน้ั คชู่ วี ติ หลากหลายทางเพศจงึ ไมส่ ามารถท�ำ ธรุ กรรมเหลา่ นไ้ี ด้ เพราะคสู่ ญั ญา อกี ฝา่ ยจะไมย่ อมรบั หรอื สทิ ธใิ นรบั สวสั ดกิ ารการรกั ษาพยาบาล ในคสู่ มรสตา่ งเพศทจ่ี ดทะเบยี นนน้ั หากฝา่ ยหนง่ึ ฝา่ ยใดรบั ราชการ คสู่ มรสกจ็ ะมสี ทิ ธไิ ดร้ บั สวสั ดกิ ารรกั ษา พยาบาลด้วย รวมถงึ สิทธปิ ระโยชนข์ องประกันสงั คม แตค่ ่ชู วี ติ หลากหลายทางเพศจะไมส่ ามารถได้รบั สทิ ธิเหล่าน้ี ใหแ้ กค่ ขู่ องตนไดเ้ ลย และนน่ั กร็ วมไปถงึ สวสั ดกิ ารอน่ื ๆ เชน่ ทพ่ี กั อาศยั , เงนิ ทนุ เพอ่ื การศกึ ษา, สทิ ธกิ ารลาตดิ ตาม คสู่ มรส, สทิ ธกิ ารตดิ ตามคสู่ มรสไปท�ำ งานตา่ งประเทศ ฯลฯ การขับเคล่อื นเพ่อื ให้เกิดการรับรองสิทธิในการจัดต้งั ครอบครัวและการสมรสในปัจจุบันน้นั มี 2 แนวทาง แนวทางแรก คือ การร่างกฎหมาย พระราชบัญญัติค่ชู ีวิต ซ่งึ เป็นการเสนอกฎหมายใหม่ แต่ด้วยเน้อื หาของร่าง กฎหมายดังกล่าวยังมีความท้าทายและถกเถียงกันในสังคมถึงการนำ�ไปใช้ในการค้มุ ครอง โดยเฉพาะอย่างย่งิ เร่อื ง นยิ าม “คชู่ วี ติ ” กบั “คสู่ มรส” ทแ่ี ตกตา่ งกนั อกี ทง้ั ยงั ไมไ่ ดร้ บั รองสทิ ธบิ างประการทส่ี �ำ คญั เชน่ การรบั บตุ รบญุ ธรรม โดยใหอ้ �ำ นาจปกครองรว่ มกนั แนวทางการเสนอกฎหมายดงั กลา่ ว อาจจะท�ำ ใหเ้ กดิ การเลอื กปฏบิ ตั ทิ างออ้ ม และ อาจขดั ตอ่ พระราชบญั ญตั คิ วามเทา่ เทยี มระหวา่ งเพศ พ.ศ. 2558; แนวทางท่ี 2 คอื การเสนอแก้ไขบทบญั ญตั แิ หง่ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ มาตรา 1448 พระราชบัญญัติจดทะเบียนครอบครัวพุทธศักราช 2478 ท่ีกำ�หนดให้ชายและหญิงเท่าน้ันท่ีสามารถสมรสกันได้ ทำ�ให้บุคคลท่ีมีความหลากหลายทางเพศไม่สามารถ จดทะเบยี นสมรสและจดั ตง้ั ครอบครวั รวมถงึ ไมไ่ ดร้ บั การคมุ้ ครองภายใตก้ ฎหมายดงั กลา่ ว 200 บทท่ี 16 คนขา้ มเพศในบรบิ ทของ สงั คม กฎหมาย และวัฒนธรรมไทย
8. คนขา้ มเพศกบั สิทธิ 16ในการรบั รองอัตลกั ษณท์ างเพศสภาพ การรบั รองอตั ลกั ษณท์ างเพศสภาพส�ำ หรบั คนขา้ มเพศ(GenderRecognition) หรอื ทส่ี งั คมสว่ นใหญร่ บั รกู้ นั ก็ คอื การเปลย่ี นค�ำ น�ำ หนา้ นาม เปน็ เรอ่ื งทไ่ี ดร้ บั การพจิ ารณาและออกเปน็ กฎหมายในหลายประเทศ โดยในบางประเทศ ไมจ่ �ำ กดั สทิ ธกิ ารเปลย่ี นแปลงขอ้ มลู เพศในขอ้ มลู ทะเบยี นราษฎร์ ไดแ้ ก่ องั กฤษ, สวเี ดน, เนเธอรแ์ ลนด,์ สหรฐั อเมรกิ า, แคนาดา, บราซลิ , อารเ์ จนตนิ า่ สว่ นบางประเทศใหส้ ทิ ธใิ นการเปลย่ี นแปลงขอ้ มลู ในขอ้ มลู ทะเบยี นราษฎรเ์ ฉพาะบคุ คล ทผ่ี า่ ตดั แปลงเพศแลว้ เทา่ นน้ั สำ�หรับบริบทของประเทศไทย เพ่ือสะท้อนให้เห็นว่าประเทศไทยเป็นประเทศท่ีมีการยอมรับในความ หลากหลายในเชิงโครงสร้างของสังคมและวัฒนธรรม ท่พี ร้อมจะปรับเปล่ยี นกฎหมายให้สอดคล้อง เหมาะสมกับ บริบทสังคมท่ีเปล่ียนแปลงไป และเป็นการสร้างความเท่าเทียมให้กับทุกเพศ ทางนิด้าโพลจึงได้ออกแบบสำ�รวจ ความเหน็ เรอ่ื ง “สงั คมไทยคดิ อยา่ งไรกบั เพศท่ี 3” ระหวา่ งวนั ท่ี 30-31 ก.ค. 62 จากประชาชนทม่ี อี ายุ 15 ปี ขน้ึ ไป ท่วั ประเทศกระจายทุกระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ จำ�นวน 1,259 คน เก่ยี วกับความคิดเห็นของต่อการ เพม่ิ ทางเลอื กในการกรอกขอ้ มลู ดา้ นเพศของเอกสารราชการทกุ ชนดิ ใหม้ คี �ำ วา่ “เพศท่ี 3” หรอื “เพศทางเลอื ก” นอกเหนอื ไปจากเพศชายและเพศหญงิ โดยพบวา่ ประชาชนสว่ นใหญ่ รอ้ ยละ 65.59 ระบวุ า่ เหน็ ดว้ ย เพราะจะได้ เป็นการระบุให้ชัดเจน และเป็นการเพ่ิมตัวเลือกให้สามารถระบุเพศได้ตรงกับเพศท่ีอยากจะเป็นจริง ๆ สะท้อน ใหเ้ หน็ วา่ คนในสงั คมตา่ งเหน็ พอ้ งกบั การมรี า่ งกฎหมายดงั กลา่ ว การรับรองอัตลักษณ์ทางเพศสภาพ ไม่ได้เป็น “สิทธิพิเศษ” ท่ีให้กับคนข้ามเพศ แต่เป็นการคุ้มครอง สง่ เสรมิ สทิ ธบิ นพน้ื ฐานความเปน็ มนษุ ยท์ ม่ี คี วามสอดคลอ้ งกบั “ตวั ตนทางเพศ” ทไ่ี มส่ อดคลอ้ งกบั ขอ้ มลู ทางทะเบยี น ราษฎร์ ทเ่ี ปน็ ปจั จยั ส�ำ คญั ในการสรา้ งความเปราะบางทางสขุ ภาพ สงั คม และคณุ ภาพชวี ติ ของคนขา้ มเพศ อนั น�ำ ไป สผู่ ลลพั ธข์ องปญั หาตา่ ง ๆ ทม่ี าตามมาในการด�ำ รงชวี ติ ยกตวั อยา่ งเชน่ ในการแสดงบตั รประจ�ำ ตวั ประชาชนหรอื หนงั สอื เดนิ ทางแกเ่ จา้ หนา้ ท่ี คนขา้ มเพศจ�ำ นวนมากถกู ปฏเิ สธในการเขา้ ประเทศ เนอ่ื งจากอตั ลกั ษณท์ างเพศและค�ำ น�ำ หนา้ นามในเอกสารเดนิ ทางไมส่ อดคลอ้ งกนั หรอื ประเดน็ เรอ่ื งค�ำ น�ำ หนา้ นาม การขาดกฎหมายการเปลย่ี นแปลงขอ้ มลู เพศในขอ้ มลู ทะเบยี นราษฎร์ หรอื กฎหมายการรบั รองอตั ลกั ษณท์ างเพศสภาพ ท�ำ ใหเ้ กดิ ตอ่ คนขา้ มเพศปญั หาในการ รบั เขา้ ท�ำ งาน เนอ่ื งจากค�ำ น�ำ หนา้ นามไมต่ รงกบั เพศสภาพ จงึ ท�ำ ใหถ้ กู ปฏเิ สธในการจา้ งงาน เปน็ ตน้ 7 บทท่ี 16 คนขา้ มเพศในบริบทของ สงั คม กฎหมาย และวัฒนธรรมไทย 201
ความกังวลของกระแสสังคมไทยต่อกฎหมายการรับรองอัตลักษณ์ทางเพศสภาพของคนข้ามเพศน้ัน ยังคงมีอยู่ เน่อื งจากสังคมบางส่วนท่ีไม่เห็นด้วยกับกฎหมายดังกล่าว เพราะมองว่าหากมีการเปล่ียนแปลงข้อมูล ในทะเบยี นราษฎร์ของคนขา้ มเพศ คนท่มี ีความหลากหลายทางเพศ อาจจะนำ�ค�ำ น�ำ หน้านามเหล่าน้นั ไปใช้ในการ หลบเล่ยี งอาชญากรรม หรือหลอกลวง ซง่ึ สง่ิ เหลา่ น้สี ะท้อนใหเ้ ห็นอคตทิ างเพศ การเกลียดกลวั คนขา้ มเพศ และ คนท่มี ีความหลากหลายทางเพศ แต่ในข้อเท็จจริงน้นั คนข้ามเพศและคนท่มี ีความหลากหลายทางเพศ ไม่ใช่ผ้ทู ่ี กระท�ำ ผดิ กฎหมายทกุ คน และการกระท�ำ ผดิ นน้ั ไมไ่ ดข้ น้ึ อยกู่ บั ความเปน็ เพศใดเพศหนง่ึ อกี ทง้ั กระบวนการสบื คน้ หา ผกู้ ระท�ำ ความผดิ สามารถคน้ หาไดจ้ ากการพสิ จู นอ์ ตั ลกั ษณบ์ คุ คลอน่ื ๆ เชน่ ลายนว้ิ มอื (Finger Print) การเปรยี บ เทยี บสารพนั ธกุ รรม (DNA Identification) หรอื การตรวจสภาพฟนั (Dental Status) เปน็ ตน้ ซง่ึ ตา่ งจากในหลาย ๆ ประเทศทม่ี กี ฎหมายการรบั รองอตั ลกั ษณท์ างเพศสภาพทพ่ี บวา่ มคี วามวติ กกงั วลของกระแสสงั คมนอ้ ยมาก12 ในท้ายท่ีสุด การรับรองอัตลักษณ์ทางเพศสภาพมีความจำ�เป็นต้องคำ�นึงถึงผลกระทบท่ีจะเกิดข้ึนกับผู้ท่ี เกย่ี วขอ้ ง การสรา้ งรา่ งกฎหมายนต้ี อ้ งเปน็ กฎหมายทส่ี รา้ งความเปน็ ธรรม และไมส่ รา้ งใหเ้ กดิ แบง่ แยก หรอื กดี กนั หรอื เอ้อื ประโยชน์เพียงแค่กล่มุ ใดกล่มุ หน่งึ โดยหลักท่สี ำ�คัญคือต้องให้การค้มุ ครองทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน มิเช่นน้นั กฎหมายนน้ั จะกอ่ ใหเ้ กดิ การเลอื กปฏบิ ตั ิ และน�ำ ไปสกู่ ารสรา้ งความเหลอ่ื มล�ำ้ ในสงั คม กลอ่ งท่ี 1 แนวทางทต่ี อ้ งด�ำ เนนิ การเพอ่ื ใหบ้ รรลเุ ปา้ หมายในการพฒั นาและสง่ เสรมิ คณุ ภาพชวี ติ คนขา้ มเพศ ภาคสขุ ภาพ 1. ระบบสาธารณสุขต้องให้ความสำ�คัญกับปัจจัยทางสังคมท่ีเป็นตัวกำ�หนดผลลัพธ์ทางสุขภาพ อาทิเช่น การยอมรับตัวตนทางเพศสภาพ การลดอคตทิ างเพศ และสทิ ธทิ างกฎหมาย ซง่ึ เปน็ ปจั จยั ส�ำ คญั ทท่ี �ำ ใหผ้ ลลพั ธท์ างดา้ นสขุ ภาพของผู้ใชบ้ รกิ ารดขี น้ึ ไมน่ อ้ ยไปกวา่ ปจั จยั ทาง ชวี ภาพ 2. นโยบายและกฎระเบยี บตอ้ งมกี ารปรบั เปลย่ี นใหก้ า้ วทนั ตอ่ ความเปลย่ี นแปลงของเพศวถิ ขี องคนในสงั คม 3. บคุ ลากรดา้ นสาธารณสขุ ทกุ ระดบั ตอ้ งเรยี นรแู้ ละสรา้ งการยอมรบั เรอ่ื งเพศสภาพและเพศวถิ ขี องคนในสงั คม เพอ่ื ชว่ ยลดและขจดั อคตทิ อ่ี าจ แฝงอยอู่ ยา่ งไมร่ ตู้ วั อนั จะท�ำ ใหก้ ารใหบ้ รกิ ารสขุ ภาพนน้ั มกี ารค�ำ นงึ ถงึ ละเอยี ดออ่ นตอ่ ความเปราะบางของผู้ใชบ้ รกิ ารมากขน้ึ ภาคประชาสงั คม 1. สรา้ งเครอื ขา่ ยทเ่ี ขม้ แขง็ และเปน็ รปู ธรรมในการสรา้ งองคค์ วามรทู้ เ่ี ปน็ ระบบ เพอ่ื ใหเ้ กดิ การน�ำ องคค์ วามรนู้ น้ั ไปใช้ในการชน้ี �ำ แนวทางการแก้ไข ปอ้ งกนั ปญั หาสขุ ภาพ และสง่ เสรมิ สขุ ภาพของคนขา้ มเพศได้ 2. ด �ำ เนนิ งานรว่ มกบั ภาคสว่ นวชิ าการ ผนู้ �ำ ภาครฐั และเอกชน และภาคการเมอื งในการออกแบบนโยบาย และวาระทางสงั คมในการผลกั ดนั ให้ รฐั เขา้ มามบี ทบาทส�ำ คญั ในการปรบั เปลย่ี นระบบบรกิ ารและสวสั ดกิ ารในการคมุ้ ครองสทิ ธมิ นษุ ยชนของคนขา้ มเพศ 3. ด�ำ เนนิ การรว่ มกนั กบั สอ่ื สารมวลชน ในการเสนอแนะตอ่ ภาครฐั ภาคเอกชน และภาคการเมอื ง ผา่ นขอ้ มลู องคค์ วามรู้ และหลกั ฐานเชงิ ประจกั ษเ์ พอ่ื ใหเ้ กดิ การเปลย่ี นแปลงบนพน้ื ฐานความตอ้ งการทจ่ี �ำ เปน็ ของคนขา้ มเพศ 202 บทท่ี 16 คนข้ามเพศในบริบทของ สงั คม กฎหมาย และวฒั นธรรมไทย
กลอ่ งท่ี 2 ข้อเสนอแนะสำ�หรับคนข้ามเพศท่ีประสบปัญหาทางกฎหมาย หรือการเข้าไม่ถึงสิทธิด้านต่าง ๆ ใน ประเทศไทย 1. ตระหนกั รถู้ งึ สทิ ธมิ นษุ ยชนตามบทบญั ญตั ริ ฐั ธรรมนญู สทิ ธผิ ปู้ ว่ ย สทิ ธผิ บู้ รโิ ภค สทิ ธใิ นการศกึ ษา สทิ ธใิ นการใชช้ วี ติ และแสดงออก สทิ ธใิ น การเขา้ ถงึ กระบวนการยตุ ธิ รรม สทิ ธใิ นการเขา้ ถงึ ขอ้ มลู ของรฐั สทิ ธใิ นเนอ้ื ตวั รา่ งกาย และสทิ ธทิ างเพศและอนามยั การเจรญิ พนั ธ์ุ ซง่ึ มอี ยู่ใน แหลง่ ขอ้ มลู ภาครฐั องคก์ รพฒั นาเอกชน หรอื องคก์ รอสิ ระตามรฐั ธรรมนญู เชน่ ส�ำ นกั งานคณะกรรมการสทิ ธมิ นษุ ยชน ผตู้ รวจการแผน่ ดนิ ของรฐั สภา ส�ำ นกั นายกรฐั มนตรี แพทยสภา เปน็ ตน้ 2. ห ากถกู กระท�ำ การใด ๆ ทค่ี าดวา่ จะเสยี หายตอ่ สทิ ธิ ควรจะบนั ทกึ รายละเอยี ดของเหตกุ ารณน์ น้ั ทนั ที ในรปู แบบทส่ี ามารถแสดงตอ่ ผทู้ เ่ี กย่ี วขอ้ ง ได้ เชน่ รปู ถา่ ย คลปิ เสยี ง หรอื วดี โี อ เปน็ ตน้ โดยมรี ายละเอยี ดดงั น้ี คอื วนั เวลา สถานท่ี ผกู้ ระท�ำ ผถู้ กู กระท�ำ พยานหลกั ฐานตา่ ง ๆ ความรสู้ กึ และความเสยี หาย หรอื คาดวา่ จะเสยี หาย 3. ในกรณที เ่ี กดิ เหตกุ ารณค์ วามรนุ แรงเกดิ ขน้ึ ซง่ึ อาจจะกระทบตอ่ รา่ งกายหรอื ทรพั ยส์ นิ ตอ้ งท�ำ ทกุ วถิ ที างเพอ่ื ใหอ้ อกไปจากสถานการณน์ น้ั โดย เรว็ หรอื หากมคี วามยากล�ำ บากในการออกจากสถานการณน์ น้ั ๆ ตอ้ งรอ้ งขอความชว่ ยเหลอื จากบคุ คลอน่ื ในทนั ที 4. หากเกดิ เหตกุ ารณท์ จ่ี �ำ เปน็ ตอ้ งอาศยั ผเู้ ชย่ี วชาญในการใหค้ วามชว่ ยเหลอื เชน่ การถกู ลว่ งละเมดิ ทางเพศ ควรรบี ไปพบผเู้ ชย่ี วชาญท่ีใกลท้ ส่ี ดุ (เชน่ แพทย์ ต�ำ รวจ) โดยเรว็ เพอ่ื ใหด้ �ำ เนนิ การใหค้ วามชว่ ยเหลอื อยา่ งทนั ทว่ งที 5. ในกรณที ส่ี ามารถแสวงหาชอ่ งทางการเขา้ ถงึ กระบวนการยตุ ริ รม และความชว่ ยเหลอื ทางสงั คม ไดเ้ อง ควรน�ำ บนั ทกึ และพยานหลกั ฐานเขา้ รอ้ งเรยี นตอ่ หนว่ ยงานทร่ี บั ผดิ ชอบโดยเรว็ 6. ในกรณที ต่ี อ้ งการความชว่ ยเหลอื ในการเขา้ ถงึ ความยตุ ธิ รรม หรอื ความชว่ ยเหลอื ทางสงั คม สามารถศกึ ษาขอ้ มลู ไดจ้ ากหนว่ ยงานทม่ี อี �ำ นาจ หนา้ ท่ี เชน่ คณะกรรมการวนิ จิ ฉยั การเลอื กปฏบิ ตั ทิ ไ่ี มเ่ ปน็ ธรรมระหวา่ งเพศ คณะกรรมการสทิ ธมิ นษุ ยชน เจา้ หนา้ ทต่ี �ำ รวจ ศาลปกครอง คณะกรรมการคมุ้ ครองผบู้ รโิ ภค แพทยสภา หรอื สภาวชิ าชพี สาขาตา่ ง ๆ เปน็ ตน้ รายละเอยี ดเรอ่ื งหนว่ ยงานทเ่ี กย่ี วขอ้ งส�ำ หรบั การปกปอ้ งและพทิ กั ษส์ ทิ ธขิ องคนขา้ มเพศ อยู่ในภาคผนวก บทท่ี 16 คนขา้ มเพศในบริบทของ สังคม กฎหมาย และวัฒนธรรมไทย 203
เอกสารอา้ งองิ 1. ม าดี ล่มิ สกุล. ความรกู้ ับเพศวถิ ี. In: พาชน่ื ธชย, บุญมงคล พมล, editors. รายงานการประชุมประจำ�ปเี พศวถิ ีในสงั คมไทย ครัง้ ที่ 1 : หวั ข้อ : วพิ ากษอ์ งคค์ วามรูแ้ ละธรรมเนยี มปฏิบัตเิ รือ่ งเพศวถิ ีศึกษาในสงั คมไทย. กรงุ เทพฯ: เจรญิ ดีการพมิ พ์; 2551. 2. ราชบณั ฑิตยสถาน. พจนานกุ รมฉบบั ราชบณั ฑติ ยสถาน พ.ศ. 2542. กรงุ เทพฯ: นานมีบคุ๊ ส์พบั ลิเคชนั่ ส์; 2546. 3. สทิ ธิพนั ธ์ บญุ ญาภสิ มภาร, รณภมู ิ สามัคคคี ารมย,์ พมิ พวลั ย์ บุญมงคล. ชวี ติ ตวั ตน และเรือ่ งเพศของสาวประเภทสอง. กรงุ เทพฯ: มลู นิธิสรา้ ง ความเขา้ ใจเรื่องสุขภาพผู้หญิง (สคส.); 2551. 4. วารณุ ี แสงกาญจนวนิช. ‘ตดั ทิง้ ’ ชวี ติ จรงิ ของสาวประเภทสอง. พมิ พ์ครั้งท่ี 1. กรงุ เทพฯ: สรา้ งสรรคบ์ คุ๊ ส;์ 2548. 5. สพุ ร เกดิ สวา่ ง. ชายรกั ชาย. กรุงเทพฯ: สมาคมอนามยั การเจรญิ พนั ธุ์เพ่ือพัฒนาคุณภาพชีวติ แห่งประเทศไทย; 2546. 6. Health Policy Project, Asia Pacific Transgender Network, United Nations Development Programme. 2015. แนวทางต้นแบบการให้ บริการสขุ ภาพท่ีครอบคลมุ แกบ่ ุคคลขา้ มเพศและชุมชนขา้ มเพศในภมู ิภาคเอเชียและแปซฟิ ิก (Blueprint for the Provision of Comprehensive Care for Trans People and Trans Communities). Washington, DC: Futures Group, Health Policy Project. 7. รณภมู ิ สามัคคีคารมย,์ อจั ฉราภรณ์ ทองแฉลม้ . ปัญหาและความตอ้ งการของกะเทยหรอื สาวประเภทสองจากการขาดการรบั รองเพศสภาพทาง กฎหมายของไทย. วารสารคณุ ภาพชีวิตกับกฎหมาย. 2560:77-88. 8. รัตนวัฒน์ จันทรอ์ ำ�นวยสขุ , Balzer C, LaGata C. การเคารพคนขา้ มเพศเปรยี บเทียบกับการเกลยี ดกลัวคนข้ามเพศ: ประสบการณท์ างสังคม ของคนข้ามเพศในประเทศไทย; 2558. 9. รณภูมิ สามัคคคี ารมย์, เจษฎา แต้สมบตั ิ. เรอ่ื งเลา่ ชวี ิตสีรงุ้ . อนั ธฌิ า แสงชยั , ดาราณี ทองศริ ิ, บรรณาธิการ. กรุงเทพฯ: มูลนิธเิ พื่อสิทธิความ เป็นธรรมทางเพศ, มลู นิธธิ ีรนาถ กาญจนอกั ษร; 2556. 10. Trans Murder Monitoring 2015: Transgender Europe (TGEU); 2015 [Available from: https://tgeu.org/tmm-idahot-update-2015/. 11. Review of implementation of comprehensive sexuality education in Thailand: UNESCO Bangkok; 2016 [Available from: https:// bangkok.unesco.org/content/unesco-bangkok. 12. Being LGBT in Asia: Thailand Country Report: USAID; 2014 [Available from: https://www.usaid.gov/documents/1861/being-lgbt- asia-thailand-country-report. 13. Ryan CQ, Acceptance F. Supportive families, healthy children: helping families with lesbian, gay, bisexual, and transgender children; 2009. 14. เครอื ข่ายเพ่อื นกะเทยไทย. แนวปฏบิ ัติส�ำ หรับครอบครวั ท่มี ลี กู หลานเป็นกะเทย. กรงุ เทพฯ: มูลนิธสิ รา้ งความเขา้ ใจเรื่องสุขภาพผหู้ ญงิ (สคส.); 2558. 15. รายงานการประชมุ เชงิ ปฏิบัติการเรือ่ งระบบสขุ ภาพอย่างรอบด้านในประเทศไทย. มูลนธิ เิ ครือขา่ ยเพื่อนกะเทยไทยเพ่ือสทิ ธมิ นุษยชน; 2560. 16. รุจน์ โกมลบตุ ร และมาเรียม วิสาสระธนา. เร่ืองเพศและเพศสัมพันธ์ท่ปี ลอดภัยในหนงั สือพิมพ์ไทย. กรงุ เทพฯ: จูน พบั ลิชช่ิง จำ�กัด; 2548. 17. Brown JD. Mass media influences on sexuality. J Sex Res. 2002;39(1):42-5. 18. กลุ ภา วจนสาระ. มเี รอื่ งเพศแบบไหนในหอ้ งสมดุ และขา่ ว: หนงั สอื เอกสารวชิ าการ ขา่ ว และบทความในฐานขอ้ มลู สขุ ภาวะทางเพศ: สถาบนั วจิ ยั ประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล, มูลนิธิสร้างความเข้าใจเรอ่ื งสุขภาพผู้หญงิ (สคส.); 2551. 19. พระราชบญั ญตั ริ ับราชการทหาร พ.ศ. 2497. สำ�นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา. 20. เผชิญหน้า 6/4/59 : “กะเทยเกณฑ์ทหาร “ ความจรงิ อีกด้าน ทีส่ ังคมตอ้ งร้.ู SpringNews; 2559. [Available from: https://www.youtube. com/watch?v=-fY7kvpEly4&feature=youtu.be. 21. กงั วาฬ ฟองแก้ว, และคณะ. ส่อื เพื่อการเปลยี่ นแปลง: การท�ำ งานรว่ มกับส่อื ในประเดน็ เพศวิถี อตั ลักษณท์ างเพศสถานะ การแสดงออกและ ลักษณะทางเพศในประเทศไทย; 2560. 22. คมู่ อื การปฏบิ ัติงานสื่อในการนำ�เสนอประเด็นความหลากหลายทางเพศ. กรงุ เทพฯ: มลู นธิ ิเครอื ข่ายเพอื่ นกะเทยเพือ่ สิทธิมนษุ ยชน; 2563. 23. ไพศาล ลิขติ ปรชี ากลุ . หลกั การยอกยาการต์ า วา่ ดว้ ยการใชก้ ฎหมายสิทธิมนษุ ยชนระหวา่ งประเทศในประเดน็ วถิ ที างเพศและอัตลกั ษณท์ างเพศ (The Yogyakarta principles : The application of international human rights law in relation to sexual orientation and gender identity). กรุงเทพฯ: สำ�นกั งานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาต;ิ 2551. Available from: http://library.nhrc.or.th/ulib/document/ Fulltext/F05590.pdf. 204 บทท่ี 16 คนขา้ มเพศในบริบทของ สังคม กฎหมาย และวฒั นธรรมไทย
ภาคผนวก Appendix ตารางท่ี 1: สรปุ ยาฮอร์โมนท่ีใช้ในคนขา้ มเพศวยั ผู้ใหญ่ การใชฮ้ อร์โมนในผหู้ ญงิ ขา้ มเพศวยั ผู้ใหญ่ การใชฮ้ อร์โมนในผชู้ ายขา้ มเพศวยั ผู้ใหญ่ 1. ฮอร์โมนเอสตราดอิ อล (estradiol) ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน (testosterone) • เอสตราดอิ อล ชนดิ รบั ประทาน • Testosterone enanthate - สามารถใช้17β-estradiol หรอื ใชเ้ ปน็ estradiolval- - เปน็ ฮอรโ์ มนทถ่ี กู ใชม้ ากทส่ี ดุ เนอ่ื งจากราคาจ�ำ หนา่ ย erate กไ็ ด้(estradiolvalerate จะถกู เปลย่ี นแปลง ในประเทศไทยไมส่ งู ไปเปน็ 17β-estradiol ในรา่ งกาย ทล่ี �ำ ไสแ้ ละตบั ) - ขนาดยาทใ่ี ช้ คอื 100-200 มลิ ลกิ รมั ฉดี เขา้ ใตผ้ วิ หนงั ขนาดยาแนะน�ำ คอื 2-6 มลิ ลกิ รมั /วนั หรอื เขา้ กลา้ มเนอ้ื ทกุ 2 สปั ดาห์ หรอื ลดขนาดยาลง - ไมแ่ นะน�ำ ให้ใชเ้ อสโตรเจนทอ่ี ยู่ในยาคมุ ก�ำ เนดิ ชนดิ ครง่ึ หนง่ึ แตฉ่ ดี เปน็ ทกุ 1 สปั ดาห์ เมด็ แบบรบั ประทาน (ethinyl estradiol) ในผหู้ ญงิ • Testosterone undecanoate ขา้ มเพศ เนอ่ื งจากมรี ายงานวา่ เพม่ิ ความเสย่ี งตอ่ การ - ขนาด 1,000 มลิ ลกิ รมั ฉดี ทกุ 12 สปั ดาห์ เกดิ ภาวะแทรกซอ้ นทส่ี �ำ คญั คอื โรคหลอดเลอื ดด�ำ อดุ • 1 % Testosterone gel ตนั สงู กวา่ การใช้ 17β-estradiol อยา่ งมนี ยั ส�ำ คญั - เจลทาผวิ หนงั ทาวนั ละหนง่ึ ครง้ั ขนาดยาทแ่ี นะน�ำ โดยเฉพาะในผหู้ ญงิ ขา้ มเพศทอ่ี ายมุ ากกวา่ 40 ปี คอื 50-100 มลิ ลกิ รมั /วนั - มีข้อควรระวัง หากใช้ conjugated equine • Testosterone transdermal patch estrogens และ conjugated estrogens - แบบแผน่ แปะ ขนาดทแ่ี นะน�ำ 2.5-7.5 มลิ ลกิ รมั /วนั เน่ืองจากอาจมีความเส่ียงต่อการเกิดหลอดเลือด (ไมม่ จี �ำ หนา่ ยในประเทศไทย) ดำ�อุดตันสูงกว่าการใช้ 17β-estradiol โดย • การให้เทสโทสเตอโรนทุกแบบ ให้ทำ�การปรับขนาด เฉพาะในผู้หญิงข้ามเพศท่ีอายุมากกว่า 40 ปี ของยาตามผลของเทสโทสเตอโรนในเลือด (total (ในปจั จบุ นั ประเทศไทยไมม่ ี conjugated equine testosterone) โดยมเี ปา้ หมายใหม้ รี ะดบั เทสโทสเตอ estrogens ทผ่ี ลติ จากปสั สาวะมา้ จ�ำ หนา่ ยแลว้ แต่ โรนประมาณ 400 -700 นาโนกรมั /เดซลิ ติ ร ยังคงมี conjugated estrogen ท่ีผลิตจากพืช • ไม่แนะนำ�ให้ใช้เทสโทสเตอโรนชนิดรับประทานท่ีมี จ�ำ หนา่ ย แตเ่ ปน็ ยาทม่ี กี ารศกึ ษาทางคลนิ กิ ไมม่ าก alkylation ทค่ี ารบ์ อนอะตอมต�ำ แหนง่ ท่ี 17 เนอ่ื งจาก จงึ ไมไ่ ดร้ บั ความนยิ ม) อาจสง่ ผลตอ่ ตบั อกี ทง้ั ยงั มกี ารดดู ซมึ ทไ่ี มแ่ นน่ อน ภาคผนวก 205
ตารางท่ี 1 (ตอ่ ) : สรปุ ยาฮอร์โมนท่ีใช้ในคนขา้ มเพศวยั ผู้ใหญ่ การใชฮ้ อร์โมนในผหู้ ญงิ ขา้ มเพศวยั ผู้ใหญ่ การใชฮ้ อร์โมนในผชู้ ายขา้ มเพศวยั ผู้ใหญ่ • เอสตราดอิ อล ชนดิ ผา่ นทางผวิ หนงั - 17β-estradiol ชนดิ แผน่ แปะ 25-200 ไมโครกรมั / 24 ชว่ั โมง (1/2-4 แผน่ ) เปลย่ี นแผน่ แปะทกุ 3.5 วนั (สปั ดาหล์ ะ 2 ครง้ั ) - 0.06% 17β-estradiol ชนดิ เจล ใช้ 2.5-10 กรมั /วนั ทาวนั ละหนง่ึ ครง้ั • เอสตราดอิ อล ชนดิ ฉดี - ยาท่ใี ช้ คอื estradiol valerate หรอื cypionate - ขนาด 5-30 มลิ ลกิ รมั ทกุ 2 สปั ดาห์ หรอื - ขนาด 2-10 มลิ ลกิ รมั ทกุ 1 สปั ดาห์ - หมายเหตุ: ยาฉีดเอสตราดิออล ไม่มีใช้ใน โรงพยาบาลทว่ั ไป • การใหเ้ อสตราดอิ อลทกุ แบบ ใหท้ �ำ การปรบั ขนาดของ ยาตามผลของระดับฮอร์โมนเอสตราดิออลในเลือด โดยมี เปา้ หมายคอื ระดบั เอสตราดอิ อลอยใู่ นชว่ ง100-200 พโิ คกรมั / มลิ ลลิ ติ ร 2. ยาตา้ นฮอร์โมนเพศชาย (anti-androgens) • ทางเลอื กหลกั - Spironolactone ขนาด100-300 มลิ ลกิ รมั /วนั หรอื - C yproteroneacetate ขนาด25-50 มลิ ลกิ รมั /วนั • ทางเลอื กรอง - GnRHagonist ขนาด3.75 มลิ ลกิ รมั ฉดี ทกุ 1 เดอื น หรอื ขนาด 11.25 มลิ ลกิ รมั ฉดี ทกุ 3 เดอื น (ไมน่ ยิ ม เนอ่ื งจากยาราคาสงู และกดฮอรโ์ มนเพศลงในระดบั ต�ำ่ มาก) • เปา้ หมายในการกดการท�ำ งานของฮอรโ์ มนจากอณั ฑะ ดว้ ยยาตา้ นฮอรโ์ มนเพศชาย คอื ท�ำ ใหร้ ะดบั เทสโทสเตอโรน ในเลอื ด(totaltestosterone) ต�ำ่ กวา่ 50 นาโนกรมั /เดซลิ ติ ร 206 ภาคผนวก
ตารางท่ี 2: ฮอร์โมนเอสโตรเจนและเทสโทสเตอโรนส�ำ หรบั ใช้ในคนขา้ มเพศทม่ี ีในประเทศไทย ชนดิ ของยา ชอ่ื การคา้ ฮอร์โมนเอสโตรเจน (estrogen) เอสตราดอิ อลเดย่ี ว ชนดิ รบั ประทาน Estrofem • 17β-estradiol hemihydrate • Estradiol valerate Progynova เอสโตรเจนชนดิ รบั ประทานอน่ื ๆ (ไมแ่ นะน�ำ ) Premarin • C onjugated equine estrogen (ปจั จบุ นั ไมม่ จี �ำ หนา่ ยในประเทศไทย) • Conjugated estrogen Estromon • Ethinyl estradiol ทผ่ี สมอยู่ในยาคมุ ก�ำ เนดิ ชนดิ ฮอรโ์ มนรวม ยาคมุ ก�ำ เนดิ ในหลากหลายชอ่ื การคา้ เอสตราดอิ อล ชนดิ ผา่ นทางผวิ หนงั • 17β-estradiol ชนดิ แผน่ แปะ 50 ไมโครกรมั /24 ชว่ั โมง Climara • 0.06% 17β-estradiol ชนดิ เจลชนดิ หลอดและขวดปม๊ั Oestrogel (หลอด), Oestrodose (ขวดปม๊ั ) • 0.1% 17β-estradiol ชนดิ เจลแบบเปน็ ซอง Divigel เอสตราดอิ อลชนดิ ฉดี Progynon • Estradiol valerate (ยาฉดี เอสตราดอิ อล ไมม่ ีใช้ในโรงพยาบาลทว่ั ไป) ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน (testosterone) Testoviron Nebido • Testosterone enanthate ชนดิ ฉดี Andriol • Testosterone undecanoate ชนดิ ฉดี Androgel • Testosterone undecanoate ชนดิ รบั ประทาน Androderm (ไมแ่ นะน�ำ ให้ใช้ในชายขา้ มเพศ) • 1 % Testosterone gel เจลทาผวิ หนงั • Testosterone transdermal patch แบบแผน่ แปะ (ไมม่ จี �ำ หนา่ ยในโรงพยาบาล) ภาคผนวก 207
ตารางท่ี 3: เกณฑป์ ระเมนิ กอ่ นเขา้ รบั การผา่ ตดั เพอ่ื การขา้ มเพศในประเทศไทย การวนิ จิ ฉยั ใบรบั รอง อายตุ ง้ั แต่ ลงนาม ไมม่ โี รค ไดร้ บั ผา่ นการใช้ gender จาก 18 ปี ในเอกสาร ทางกาย ฮอร์โมน ชวี ติ เปน็ dysphoria ขน้ึ ไป* ยนิ ยอม หรอื จติ เวช ขา้ มเพศ เพศตรง จติ แพทย์ ผา่ ตดั ได้ ทร่ี นุ แรง อยา่ งนอ้ ย ขา้ มตลอด หรอื ควบคมุ 12 เดอื น เวลาอยา่ ง ไมไ่ ด้ นอ้ ย 12 แนะน�ำ เดอื น การผา่ ตดั จากชายเปน็ หญงิ (ไมบ่ งั คบั ) ✔ • การเสรมิ หนา้ อก ✔ ✔✔✔ ✔ (breast augmentation) ✔ • การสรา้ งชอ่ งคลอดใหม่ ✔ 2 ใบ ✔ ✔ ✔ (vaginoplasty) • การตดั อณั ฑะ ✔ 2 ใบ ✔ ✔ ✔ (orchiectomy) • การผา่ ตดั ลดขนาดกระเดอื ก ✔ ✔✔✔ (thyroid chondroplasty) • การปรบั เปลย่ี นใบหนา้ และ ✔ ✔✔ ✔ ล�ำ ตวั ใหม้ คี วามเปน็ หญงิ (facial and body feminizing surgery) การผา่ ตดั จากหญงิ เปน็ ชาย • การตดั หนา้ อก (male chest contouring: subcutaneous mastectomy/breast ✔ 1 ใบ ✔ ✔ ✔ amputation) • การผา่ ตดั มดลกู , ปกี มดลกู และ รงั ไข่ (hysterectomy and ✔ 2 ใบ ✔ ✔ ✔ ✔ salpingo-oophorectomy) • การสรา้ งอวยั วะเพศชาย ✔ 2 ใบ ✔ ✔ ✔ ✔ ✔ (metoidioplasty/ phalloplasty) • การสรา้ งถงุ อณั ฑะ ✔ ✔✔ ✔ (scrotoplasty) • การปรบั เปลย่ี นใบหนา้ และ ✔ ✔✔✔ ล�ำ ตวั ใหม้ คี วามเปน็ ชาย (facial and body masculinizing surgery) *กรณที ผ่ี รู้ บั บรกิ ารมอี ายตุ ง้ั แต่ 18 ปี แตย่ งั ไมถ่ งึ 20 ปี ตอ้ งไดร้ บั ความยนิ ยอมจากผู้ใชอ้ �ำ นาจปกครองรว่ มดว้ ย 208 ภาคผนวก
Transwomen No faRcitsokrs YES No GAT5Hy > = YES No GAT5Hy > = YES No screening Biennisatlamrtaamtm50ogram AnnMuasaimtnladcmriltcionaagicttreaa3dlm5exifam AAnnnnuuassattllaaMcrrlttainaamicttma43lo00egxraamm แผนภมู ทิ ่ี 1: แนวทางการตรวจคดั กรองโรคมะเรง็ เตา้ นมส�ำ หรบั ผหู้ ญงิ ขา้ มเพศ หมายเหต:ุ Risk factors ไดแ้ ก่ BRCA1/BRCA2 gene mutation carrier หรอื เปน็ Klinefelter’s syndrome หรอื มญี าตสิ ายตรง (พอ่ /แม่ พ/่ี นอ้ ง ลกู ) เปน็ มะเรง็ เตา้ นม; GAHT: Gender-Affirming Hormone Treatment Transmen No faRcitsokrs YES No suTrogpery YES No suTrogpery YES AnnuastlaMrtaamtm4o0gram No Mastectomy YES AAnnnsuntsauatalratclrlbtainrtaeict2aa53s-lt03eM0xaRmI No Mastectomy YES Anacnxhuiellaasltecwxliaanimlcl,al แผนภมู ทิ ่ี 2: แนวทางการตรวจคดั กรองโรคมะเรง็ เตา้ นมส�ำ หรบั ผชู้ ายขา้ มเพศ หมายเหต:ุ Risk factors เชน่ BRCA1/BRCA2 gene mutation carrier, Li Fraumeni syndrome, Cowden syndrome หรอื มญี าตสิ ายตรง (พอ่ /แม่ พ/่ี นอ้ ง ลกู ) เปน็ มะเรง็ เตา้ นม; Top surgery: การตดั หนา้ อก; Mastectomy: การตดั หนา้ อกแบบเหลอื เนอ้ื เตา้ นมอยนู่ อ้ ย ภาคผนวก 209
แนวปฏบิ ตั เิ มอ่ื เผชญิ สถานการณค์ วามรนุ แรงหรอื ถกู เลอื กปฏบิ ตั ดิ ว้ ยเหตแุ หง่ ความแตกตา่ งทางเพศสภาพ 1. ตง้ั สตเิ พอ่ื จดจ�ำ รายละเอยี ดเหตกุ ารณท์ เ่ี กดิ ขน้ึ เชน่ ลกั ษณะรปู พรรณสณั ฐานของผกู้ ระท�ำ ชว่ งเวลา รายละเอยี ด การกระท�ำ เชน่ ค�ำ พดู การกระท�ำ เปน็ ตน้ 2. ไมต่ อบโตด้ ว้ ยความรนุ แรงทกุ รปู แบบ 3. ออกจากพน้ื ท่ี สถานทท่ี เ่ี กดิ เหตุ 4. กรณตี อ้ งการความชว่ ยเหลอื ฉกุ เฉนิ ตดิ ตอ่ ศนู ยช์ ว่ ยเหลอื สงั คม สายดว่ น 1300 และศนู ยด์ �ำ รงธรรม สายดว่ น 1567 5. เขยี นบนั ทกึ เหตกุ ารณท์ เ่ี กดิ ขน้ึ จากความทรงจ�ำ ใคร ท�ำ อะไร ทไ่ี หน อยา่ งไร สง่ ผลกระทบหรอื ท�ำ ใหเ้ ราเสยี หาย อยา่ งไร 6. ป ระเมนิ ตนเองวา่ ตอ้ งการปกปอ้ งและพทิ กั ษส์ ทิ ธขิ องตนเองหรอื ไม่ (ทง้ั นอ้ี าจจะเผชญิ ทง้ั แรงสนบั สนนุ และแรง เสยี ดทานทเ่ี กดิ ขน้ึ ไดจ้ ากสงั คมและคนรอบขา้ ง) หากตอ้ งการปกปอ้ งและพทิ กั ษส์ ทิ ธขิ องตนเองใหต้ ดิ ตอ่ หนว่ ย งานทเ่ี กย่ี วขอ้ ง ดง้ั น้ี • ส�ำ นกั งานคณะกรรมการสทิ ธิ โทรศพั ทส์ ายดว่ น 1377 หรอื 0-2141-3978-83 (เวลาราชการ 08.30 - 16.30 น.) เขียนจดหมายส่งไปท่:ี สำ�นักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธนั วาคม 2550 อาคารรฐั ประศาสนภกั ดี (อาคารบ)ี ชน้ั 6-7 เลขท่ี 120 หมทู่ ่ี 3 ถ.แจง้ วฒั นะ แขวง ทงุ่ สองหอ้ ง เขตหลกั ส่ี กรงุ เทพฯ 10210 โทรสาร: หมายเลข 0-2143-9578 ดว้ ยวาจา: โดยไปทส่ี �ำ นกั งานคณะกรรมการสทิ ธมิ นษุ ยชนแหง่ ชาติ สง่ ขอ้ ความผา่ นสอ่ื อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ (e-mail): [email protected] สง่ เรอ่ื งรอ้ งเรยี นทางเวบ็ ไซต:์ http://demo7.softdebut.com/Complaints/Online-complaints.aspx ) • กรมคมุ้ ครองสทิ ธแิ ละเสรภี าพ กระทรวงยตุ ธิ รรม สายดว่ นยตุ ธิ รรม 1111 กด 77 โทรสาร 02-143-9681 ทอ่ี ย:ู่ เลขท่ี 120 ชน้ั 3 ศนู ยร์ าชการเฉลมิ พระเกยี รติ 80 พรรษาฯ อาคารราชบรุ ี ดเิ รกฤทธ์ิ (อาคาร เอ) หมู่ 3 ถ.แจง้ วฒั นะ แขวงทงุ่ สองหอ้ ง เขตหลกั ส่ี กรงุ เทพฯ 10210 เวบ็ ไซต:์ http://www.rlpd.go.th/ • พระราชบญั ญตั คิ วามเทา่ เทยี ม พ.ศ. 2558 โทรศพั ท์ 02-642-7742, 45 โทรสาร 02-642-7770 เขยี นจดหมายสง่ ไปท:่ี กรมกจิ การสตรแี ละสถาบนั ครอบครวั (สค.) เลขท่ี 255 บรเิ วณสถานสงเคราะหเ์ ดก็ หญงิ บา้ นราชวถิ ี ถ.ราชวถิ ี แขวงทงุ่ พญาไท เขตราชเทวี กรงุ เทพฯ 10400 สง่ ขอ้ ความผา่ นสอ่ื อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ (e-mail): [email protected] เวบ็ ไซต:์ http://www.dwf.go.th/ 210 ภาคผนวก
รายชอ่ื สถานบรกิ ารท่ีใหบ้ รกิ ารดา้ นสขุ ภาพกบั คนขา้ มเพศ สถานใหบ้ รกิ ารของรฐั 1. คลนิ กิ สขุ ภาพเพศ โรงพยาบาลจฬุ าลงกรณ์ สภากาชาดไทย 2. คลนิ กิ บรู ณาการสขุ ภาพครอบครวั โรงพยาบาลจฬุ าลงกรณ์ สภากาชาดไทย 3. คลนิ กิ เพศหลากหลาย (Gen V Clinic) โรงพยาบาลรามาธบิ ดี สถานใหบ้ รกิ ารภาคประชาสงั คม 1. คลนิ กิ สขุ ภาพชมุ ชนแทนเจอรนี 2. คลนิ กิ เทคนคิ การแพทยฟ์ า้ สรี งุ้ รามค�ำ แหง 3. คลนิ กิ เทคนคิ การแพทยฟ์ า้ สรี งุ้ หาดใหญ่ 4. คลนิ กิ เทคนคิ การแพทยฟ์ า้ สรี งุ้ อบุ ลราชธานี 5. บา้ นสขุ ภาพสวงิ กรงุ เทพฯ 6. บา้ นสขุ ภาพสวงิ พทั ยา 7. คลนิ กิ เทคนคิ การแพทยเ์ อม็ พลสั เชยี งใหม่ 8. คลนิ กิ เทคนคิ การแพทยเ์ อม็ พลสั เชยี งราย ภาคผนวก 211
แบบประเมนิ ความพรอ้ มเบอ้ื งตน้ ในการใหบ้ รกิ ารทางสขุ ภาพแกค่ นขา้ มเพศ ทา่ นสามารถใชต้ วั อยา่ งแบบประเมนิ ความพรอ้ มนเ้ี พอ่ื ส�ำ รวจความพรอ้ มในการใหบ้ รกิ ารทางสขุ ภาพแกค่ นขา้ มเพศ ในสถานบรกิ ารของทา่ น แบบประเมนิ ความพรอ้ มเบอ้ื งตน้ ในการใหบ้ รกิ ารทางสขุ ภาพแกค่ นขา้ มเพศส�ำ หรบั องคก์ รชมุ ชน ภายใตโ้ ครงการ Tangerine Academy for Transgender Health หวั ขอ้ ใสเ่ ครอ่ื งหมายถกู หมายเหตุ หากมคี วามพรอ้ ม 1. ท า่ นมรี ายการชดุ บรกิ ารสขุ ภาพส�ำ หรบั คนขา้ มเพศแลว้ หรอื ไม่ 2. การใหบ้ รกิ ารเจาะเลอื ดและการตรวจในหอ้ งปฏบิ ตั กิ ารในสถาน บรกิ ารของทา่ นผา่ นการรบั รองคณุ ภาพแลว้ หรอื ไม่ 3. หากทา่ นสง่ ตวั อยา่ งสง่ิ สง่ ตรวจไปหอ้ งตรวจปฏบิ ตั กิ ารภายนอก ทา่ นมอี ปุ กรณใ์ นการจดั เกบ็ สง่ิ สง่ ตรวจทไ่ี ดม้ าตรฐานแลว้ หรอื ไม่ 4. เจา้ หนา้ ทห่ี รอื บคุ ลากรทเ่ี กย่ี วขอ้ งในสถานบรกิ ารของทา่ นไดผ้ า่ น การอบรมเรอ่ื งความละเอยี ดออ่ นในการใหบ้ รกิ ารทางสขุ ภาพแก่ คนขา้ มเพศแลว้ หรอื ไม่ 5. เจา้ หนา้ ทห่ี รอื บคุ ลากรทเ่ี กย่ี วขอ้ งในสถานบรกิ ารของทา่ นไดร้ บั การอบรมเรอ่ื งการเกบ็ และบรหิ ารจดั การขอ้ มลู ผรู้ บั บรกิ ารแลว้ หรอื ไม่ 6. เจ้าหน้าท่ีหรือบุคลากรท่ีเก่ียวข้องในสถานบริการของท่านได้ ผา่ นการฝกึ การใหบ้ รกิ ารในสถานการณส์ มมตุ หิ รอื มกี ารเตรยี ม ขน้ั ตอนในการใหบ้ รกิ ารในจดุ ตา่ ง ๆ แลว้ หรอื ไม่ 7. มกี ารจดั ตง้ั คณะกรรมการทป่ี รกึ ษาชมุ ชนคนขา้ มเพศและเตรยี ม การในการด�ำ เนนิ การวดั ผลคณุ ภาพการใหบ้ รกิ ารแลว้ หรอื ไม่ 212 ภาคผนวก
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244