Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หลักสูตรสาระการเรียนรู้ภาษาไทย 2565

หลักสูตรสาระการเรียนรู้ภาษาไทย 2565

Published by Guset User, 2022-08-16 05:02:59

Description: หลักสูตรสาระการเรียนรู้ภาษาไทย 2565

Search

Read the Text Version

๑ หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นอนุบาลกระสัง พทุ ธศกั ราช 2565 ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน 2551 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย สานกั งานเขตพ้ืนท่กี ารศึกษาประถมศึกษาบรุ ีรมั ย์ เขต 2 สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพืน้ ฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร หลกั สตู รกลมุ่ สาระการเรียนนรภู้ าษาไทย โรงเรยี นอนบุ าลกระสงั สพป.บุรีรัมย์ เขต ๒

๒ ประกาศโรงเรียนอนุบาลกระสัง เรื่อง ใหใ้ ช้หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนอนุบาลกระสัง พุทธศักราช ๒๕๖5 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ (ปรับปรุง พทุ ธศักราช (2565) ................................................................................................................. โรงเรียนอนุบาลกระสัง สานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษาบรุ ีรมั ย์ เขต ๒ ได้ดาเนินการ พัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนอนุบาลกระสัง (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ตามหลักสูตร (2563 แกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช2551 (ปรับปรุง พุทธศักราช (256๑ และเอกสารประกอบ หลกั สตู รข้นึ เพ่ือใช้เป็นกรอบและทศิ ทางในการจดั กจิ กรรมการเรียนการสอนของโรงเรียนอนุบาลกระสัง โดยโรงเรยี นได้จัดทาและพฒั นาหลกั สูตรตามแนวคิดหลักสูตรอิงมาตรฐาน คอื กาหนดมาตรฐาน การเรียนรู้เป็นเป้าหมายในการพัฒนาผู้เรียน เพ่ือให้ผู้เรียนมีคุณภาพตามมาตรฐานการเรียนรู้ที่กาหนดใน หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน มุ่งพัฒนาผู้เรียนทุกคนให้มีความสมดุลทั้งด้านร่างกาย ความรู้ คณุ ธรรม มจี ิตสานกึ ในความเปน็ พลเมอื งไทยและพลโลก ยึดมนั่ ในการปกครองตามระบอบประชาธปิ ไตย อันมี พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีความรู้และทักษะพื้นฐาน รวมทั้งเจตคติที่จาเป็นต่อการศึกษาต่อ การ ประกอบอาชีพ และการศึกษาตลอดชีวิต โดยมุ่งเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญบนพื้นฐานความเช่ือว่าทุกคนสามารถ เรยี นรแู้ ละพฒั นาตนเองไดต้ ามศักยภาพ ทั้งนี้หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนอนุบาลกระสัง ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการ สถานศกึ ษาขัน้ พนื้ ฐานเมอ่ื วนั ท่ี 17 พฤษภาคม ๒๕๖5 จึงประกาศให้ใช้หลกั สูตรโรงเรยี นต้งั แตบ่ ดั นีเ้ ปน็ ตน้ ไป ประกาศ ณ วันท่ี 19 เดือน พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖5 ( นายอภชิ าติ เรอื งจนิ ดาวลยั ) ประธานคณะกรรมการสถานศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน ( นายสมชาย ไกรศุทธกิ านต์ ) ผู้อานวยการโรงเรียนอนุบาลกระสงั หลักสตู รกลมุ่ สาระการเรียนนรูภ้ าษาไทย โรงเรียนอนุบาลกระสัง สพป.บรุ ีรมั ย์ เขต ๒

๓ คานา หลกั สตู รโรงเรียนอนบุ าลกระสัง พทุ ธศักราช 2565 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ไดจ้ ัดทาขน้ึ ตามแนวทางที่กาหนดไวใ้ นหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช 2551 และเป็นไปตามมาตรา 27 วรรคสอง แหง่ พระราชบัญญัตกิ ารศกึ ษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และทีแ่ ก้ไขเพ่ิมเติม (ฉบบั ที่ 2) พ.ศ. 2545 ซง่ึ กาหนดใหส้ ถานศึกษามีหนา้ ทจี่ ัดทาสาระของ หลกั สูตรสถานศึกษาตามหลักการ จดุ หมายของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้ืนฐานกาหนด เพอ่ื ตอบสนองตอ่ ความต้องการในสว่ นที่เกยี่ วกับสภาพปญั หาในชมุ ชนและสงั คม ภูมิปญั ญาท้องถ่นิ คุณลกั ษณะท่ี พึงประสงค์ เพ่ือให้เยาวชนเป็นสมาชกิ ทดี่ ีของครอบครวั ชุมชน สังคมและประเทศชาติ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ในหลกั สูตรโรงเรยี นอนบุ าลกระสงั พทุ ธศักราช 2565 ตามหลักสตู ร แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ฉบับน้ี ประกอบด้วย ความสาคัญ คุณภาพผเู้ รียน โครงสรา้ งเวลาเรียน สาระมาตรฐานการเรยี นรู้ ตวั ชว้ี ัดรายปี คาอธิบายรายวชิ า การจดั หน่วยการเรียนรู้ แนว ทางการจดั การเรยี นรู้ การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ ส่ือการเรียน แหล่งเรียนรู้ ซึง่ ทางโรงเรยี นได้กาหนด ไว้ในสาระการเรยี นรูค้ ณิตศาสตร์ในหลักสตู รโรงเรยี นอนบุ าลกระสงั พุทธศักราช 2565 ตามหลักสูตร แกนกลางการศึกษาขน้ั พื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551 ฉบับนี้ เพอื่ ใหผ้ ทู้ ่เี กย่ี วข้องไดเ้ ข้าใจ และสามารถนาไปใช้ ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งและบรรลุผลตามท่ีต้องการ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ในหลกั สูตรโรงเรยี นอนบุ าลกระสัง พุทธศักราช 2565 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน พุทธศักราช 2551 ฉบบั น้ี สาเร็จลุล่วงไปด้วยดกี ด็ ว้ ยความ ร่วมมอื จากคณะกรรมการสถานศึกษาข้นั พื้นฐานของโรงเรียน ผูป้ กครองนักเรียน คณะครแู ละผ้ทู ี่มสี ว่ น เก่ยี วข้องทกุ ภาคส่วนท่ีมสี ่วนร่วมดาเนนิ การ ทางโรงเรียนจึงขอขอบพระคุณท่านมา ณ โอกาสนี้ หลักสูตรกลมุ่ สาระการเรียนนรู้ภาษาไทย โรงเรียนอนุบาลกระสงั สพป.บรุ ีรัมย์ เขต ๒

๔ สารบญั เรือ่ ง หน้า สว่ นท่ี 1 ความนา……………………………………………………………………………………………………………3 ส่วนที่ 2 โครงสร้างหลกั สูตรสถานศึกษา……………………………………………………………………………18 สว่ นที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย คณุ ภาพผู้เรยี น……………………………………………………………………………………………43 โครงสร้างเวลาเรยี น…………………………………………………………………………………….45 สาระมาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ช้ีวดั ชนั้ ปี ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 1………………………………………………………………………………….46 ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 2……………………………………………………………….…………........59 ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 3............................................................................................ 70 ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 4............................................................................................ 82 ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 5........................................................................................... 93 ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 6.........................................................................................104 ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1........................................................................................... 113 ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 2………………………………………………………………….…….……….126 ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 3……………………………………………………………………......………140 แนวการจดั การเรียนรู้…………………………………………………………………………………...……..153 การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้…………………………………………………..………………….…. 154 สอื่ การเรยี นรู้ แหล่งเรยี นรู้……………………………………………………………………..…………..…157 ภาคผนวก ก. คาอธธิ านศัพท์……………………………………………………………………………………….………….158 ข. คาส่งั แต่งตัง้ คณะอนุกรรมการกลุม่ สาระการเรียนรู้…………………………………….………….166 หลกั สตู รกลมุ่ สาระการเรียนนรูภ้ าษาไทย โรงเรยี นอนบุ าลกระสงั สพป.บรุ ีรัมย์ เขต ๒

๕ สว่ นท่ี ๑ ความนา หลักสูตรกลมุ่ สาระการเรียนนรู้ภาษาไทย โรงเรยี นอนบุ าลกระสงั สพป.บรุ ีรมั ย์ เขต ๒

๖ ส่วนที่ 1 ความนา พระราชบัญญตั ิการศึกษาแหง่ ชาติ พทุ ธศกั ราช ๒๕๔๒ แกไ้ ขเพม่ิ เติม (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๔๕ มาตรา ๒๗ วรรค ๒ ไดก้ าหนดใหส้ ถานศกึ ษาขั้นพืน้ ฐานมหี นา้ ทีจ่ ัดทาสาระของหลักสตู รในสว่ นท่เี กย่ี วกับสภาพปัญหา ในชุมชนและสงั คม ภมู ิปัญญาท้องถ่ิน คณุ ลกั ษณะที่พึงประสงค์ เพ่อื เป็นสมาชิกที่ดีของครอบครวั ชมุ ชน สังคม และประเทศชาติ กระทรวงศึกษาธกิ ารได้มีคาสงั่ ให้ใชห้ ลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ในโรงเรยี นทัว่ ไป โดยปกี ารศึกษา ๒๕๕๓ ใหโ้ รงเรยี นทั่วไปใชห้ ลักสตู รแกนกลาง การศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐานพุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ในชั้นประถมศึกษาปี ท่ี ๑ – ๖ สานกั งานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศกึ ษาบุรรี มั ย์ เขต ๒ ไดก้ าหนดเปา้ หมายและจดุ เน้น ในการ พัฒนาผูเ้ รยี น โดยมุ่งพัฒนาทักษะการอ่าน ใช้ประโยชนจ์ ากการอ่านเปน็ เหน็ คุณค่า และรักการอา่ น มงุ่ ส่งเสริมการศกึ ษาเรียนรู้ตามแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง มุง่ ส่งเสริม ให้เกดิ ความตระหนกั ใน วัฒนธรรมประเพณี มุ่งพฒั นาองค์ความรู้ ประยุกต์ภูมิปญั ญาท้องถนิ่ มงุ่ ส่งเสริมการใชค้ วามหลากหลาย ทางภาษาและวัฒนธรรม สร้างความเขา้ ใจอนั ดตี ่อกนั อยรู่ ่วมกันอย่างเป็นสขุ กระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศใช้มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ช้วี ดั กลมุ่ สาระการเรยี นร้คู ณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ และสาระภมู ิศาสตรใ์ นกลุม่ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ.๒๕๖๐) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ ตามคาส่ังกระทรวงศึกษาธกิ าร ท่ี สพฐ. ๑๒๓๙/๒๕๖๐ ลงวนั ที่ ๗ สงิ หาคม ๒๕๖๐ และคาส่งั สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน ที่ ๓๐/๒๕๖๑ ลงวันท่ี ๕ มกราคม ๒๕๖๑ ให้เปลี่ยนแปลงมาตรฐานการเรยี นรูแ้ ละตวั ชว้ี ัด กล่มุ สาระการ เรียนรู้คณติ ศาสตร์และวทิ ยาศาสตร์ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) โดยมคี าสั่งใหโ้ รงเรยี นดาเนินการใชห้ ลักสูตร ในปีการศึกษา ๒๕๖๑ โดยใหใ้ ชใ้ นช้นั ประถมศึกษาปที ่ี ๑ และ ๔ ต้ังแต่ปีการศกึ ษา ๒๕๖๑ และใช้ใน ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ และ ๕ ต้งั แตป่ กี ารศึกษา ๒๕๖๒ และในปีการศึกษา ๒๕๖๓ ใหใ้ ชค้ รบทุกระดบั ชั้น ซงึ่ จัดใหเ้ ป็นหลกั สตู รแกนกลางของประเทศ โรงเรียนอนุบาลกระสงั สานักงานเขตพน้ื ทก่ี ารศึกษาประถมศึกษาบรุ รี ัมย์ เขต ๒ ได้ดาเนินการจัดทา หลกั สูตรโรงเรยี นอนุบาลกระสัง พุทธศักราช ๒๕๖๓ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้ืนฐานพุทธศักราช ๒๕๕๑ โดยปรับวสิ ัยทศั น์ พันธกจิ เป้าประสงค์ อตั ลักษณ์ เอกลักษณ์ จดุ เนน้ ปรับหลกั สตู รใหส้ อดคลอ้ งกับ หลักสตู รอาเซยี น เศรษฐกิจพอเพยี ง การลดเวลาเรยี น เพ่มิ เวลารู้ และแผนการศึกษาแห่งชาติ ปี พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๗๙ และปรบั ตามประกาศกระทรวงศกึ ษาธิการ เร่อื ง การบรหิ ารจัดการเวลาเรยี น ภาษาองั กฤษ ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี ๑-๓ ในสถานศึกษาโดยการปรบั โครงสรา้ งหลักสูตรสถานศกึ ษาและเวลา เรียนให้เหมาะสมกับการปฏริ ปู การศึกษา ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพนื้ ฐานพุทธศกั ราช ๒๕๕๑ โรงเรยี นอนบุ าลกระสัง จึงได้ทาการปรับปรงุ หลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๖๓ ในกลุ่มสาระการเรียนรูค้ ณติ ศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ และสาระภมู ศิ าสตร์ในกลุ่มสาระการเรยี นรู้สังคม ศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม กลมุ่ สาระการเรียนรู้การงานอาชีพ และปรบั ปรงุ ปี ๒๕๖๕ โดยจัดเพิ่มรายวชิ า เพิ่มเติม หลกั สตู รตา้ นทจุ ริตศึกษา ในรายวิชา การป้องกนั การทจุ รติ เพอ่ื นาไปใชป้ ระโยชนแ์ ละเปน็ กรอบใน การวางแผนและพัฒนาหลกั สูตรของสถานศึกษาและจัดการเรยี นการสอน โดยมีเปา้ หมายในการพฒั นา คณุ ภาพผู้เรียน ให้มีกระบวนการนาหลกั สตู รไปสู่การปฏบิ ัติ โดยมกี ารกาหนดวิสัยทัศน์ จดุ หมาย สมรรถนะ หลักสูตรกลมุ่ สาระการเรียนนรูภ้ าษาไทย โรงเรยี นอนุบาลกระสงั สพป.บรุ รี มั ย์ เขต ๒

๗ สาคัญของผเู้ รยี น คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ช้ีวดั โครงสรา้ งเวลาเรียน ตลอดจนเกณฑ์การวดั ประเมินผลใหม้ ีความสอดคลอ้ งกับมาตรฐานการเรยี นรู้ เปดิ โอกาสให้โรงเรยี นสามารถ กาหนดทศิ ทางในการจัดทาหลกั สตู รการเรยี นการสอนในแตล่ ะระดับตามความพร้อมและจุดเนน้ โดยมีกรอบ แกนกลางเป็นแนวทางที่ชดั เจนเพอ่ื ตอบสนองนโยบายไทยแลนด์ ๔.๐ มคี วามพร้อมในการก้าวสสู่ งั คม คณุ ภาพ มีความร้อู ย่างแทจ้ ริง และมีทกั ษะในศตวรรษท่ี ๒๑ มาตรฐานการเรียนรแู้ ละตวั ชีว้ ดั ทีก่ าหนดไวใ้ นเอกสารนี้ ช่วยทาใหห้ น่วยงานทีเ่ กย่ี วข้อง ในทกุ ระดับ เหน็ ผลคาดหวงั ทตี่ อ้ งการในการพฒั นาการเรียนรู้ของผู้เรียนท่ีชดั เจนตลอดแนว ซึ่งจะสามารถชว่ ยให้ หนว่ ยงานท่เี กี่ยวข้องในระดับท้องถ่นิ และสถานศึกษารว่ มกันพฒั นาหลักสูตรได้อยา่ งมนั่ ใจ ทาใหก้ ารจัดทา หลักสูตรในระดบั สถานศกึ ษามีคุณภาพและมีความเปน็ เอกภาพย่ิงขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้เกิดความชดั เจนเรอ่ื งการ วดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ และชว่ ยแกป้ ัญหาการเทียบโอนระหวา่ งสถานศึกษา โดยกาหนดจดุ หมาย และ มาตรฐานการเรยี นรูเ้ ป็นเปา้ หมายและกรอบทศิ ทางในการพฒั นาคณุ ภาพผ้เู รยี นมีพัฒนาการเตม็ ตามศักยภาพ มีคณุ ภาพและมที กั ษะการเรยี นรใู้ นศตวรรษท่ี ๒๑ เพื่อใหส้ อดคล้องกับนโยบายและเป้าหมายของสานกั งาน คณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน และเพื่อใชเ้ ป็นกรอบและทศิ ทางในการจดั การเรยี นการสอน และเพื่อให้ กระบวนการนาหลักสตู รไปสู่การปฏิบัตอิ ยา่ งมีประสิทธิภาพ รวมท้ังร่วมกันรับผิดชอบและทางานร่วมกันอย่าง เปน็ ระบบ โดยจดั ทาและพัฒนาหลักสตู รตามแนวคิดหลักสูตรองิ มาตรฐาน คือ กาหนดมาตรฐานการเรยี นรู้ เปน็ เป้าหมายในการพฒั นาผ้เู รียน เพือ่ ให้ผู้เรียนมีคุณภาพตามมาตรฐานการเรยี นรู้ที่กาหนด ในหลักสตู ร แกนกลางการศึกษาขัน้ พื้นฐาน มงุ่ พฒั นาผู้เรียนทกุ คนในด้านรา่ งกาย ความรู้ คุณธรรม มจี ิตสานึกในความ เป็นพลเมืองไทยและพลโลก ยึดมน่ั ในการปกครองตามระบอบประชาธปิ ไตยอนั มีพระมหากษตั ริยท์ รงเปน็ ประมขุ มีความรแู้ ละทกั ษะพนื้ ฐาน รวมทั้ง เจตคติ ทจี่ าเป็นตอ่ การศึกษาต่อ การประกอบอาชีพและ การศกึ ษาตลอดชีวติ โดยมุ่งเน้นผเู้ รียนเปน็ สาคัญบนพน้ื ฐานความเช่ือว่า ทุกคนสามารถเรียนรแู้ ละพฒั นา ตนเองได้เต็มตามศักยภาพ (นายอภชิ าติ เรืองจินดาวลยั ) ประธานคณะกรรมการสถานศึกษาข้ันพื้นฐาน โรงเรยี นอนบุ าลกระสัง หลักสูตรกลมุ่ สาระการเรยี นนรู้ภาษาไทย โรงเรยี นอนบุ าลกระสัง สพป.บรุ รี มั ย์ เขต ๒

๘ ความสาคญั ของหลักสตู รสถานศกึ ษา หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนอนุบาลกระสงั พุทธศักราช 256๕ ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน พุทธศักราช 2551 มีความสาคญั ในการพฒั นาผูเ้ รยี นให้มคี ุณภาพตามมาตรฐานการเรยี นรู้ ตวั ช้วี ัด และคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ตามท่ีกาหนดไวเ้ ปน็ แนวทางใหผ้ ู้บริหารสถานศึกษา ครู อาจารย์ ตลอดจน ผู้เกีย่ วข้องกับการจัดการศึกษาของสถานศึกษา ในการจัดมวลประสบการณ์ใหแ้ กผ่ ้เู รยี นได้พฒั นาให้บรรลถุ งึ คุณภาพตามมาตรฐานในการพัฒนาเยาวชน ของชาติ นอกเหนอื จากการใชเ้ ป็นแนวทาง หรือขอ้ กาหนดใน การจดั การศึกษาของสถานศึกษายงั เปน็ หลักสูตร ทม่ี ีจดุ มงุ่ หมายใหค้ รอบครวั ชมุ ชน องค์กรในทอ้ งถนิ่ ทง้ั ภาครัฐและเอกชนเข้ารว่ มจดั การศึกษาของสถานศึกษา โดยมีแนวทางสาคัญท่สี ถานศกึ ษากาหนดไว้ใน หลักสตู รสถานศึกษา ดังน้ี 1. หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนอนบุ าลกระสงั พทุ ธศักราช 256๕ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษา ขน้ั พืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 มุ่งพฒั นาใหผ้ ูเ้ รยี นเกดิ ความสนุกสนานและความเพลิดเพลนิ ในการเรยี นรเู้ ปรยี บเสมือนเป็นวธิ สี รา้ งกาลังใจ และเรา้ ให้เกิดความก้าวหน้าแก่ผเู้ รยี นให้มากที่สดุ มคี วามรู้สูงสุด ผเู้ รียนทกุ คนมีความเขม้ แข็ง ความสนใจ มปี ระสบการณ์ และความมน่ั ใจ เรียนและทางาน อย่างเปน็ อสิ ระและร่วมใจกัน มีทักษะในการอา่ นออกเขียนได้ คิดเลขเปน็ ร้ขู ้อมูลสารสนเทศ และเทคโนโลยี สอื่ สาร สง่ เสรมิ จิตใจที่อยากรู้อยากเห็น และมกี ระบวนการคดิ อย่างมีเหตผุ ล 2. หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนอนบุ าลกระสงั พุทธศักราช 256๕ ตามหลกั สูตรแกนกลาง การศกึ ษาขน้ั พืน้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 ส่งเสริมการพัฒนาดา้ นจิตวญิ ญาณ จรยิ ธรรม สงั คม และ วัฒนธรรม พัฒนาหลักการในการจาแนกระหว่างถูกและผิด เข้าใจและศรัทธาในความเชือ่ ของตน ความเชือ่ และวฒั นธรรมทแ่ี ตกต่างกนั พัฒนาหลักคุณธรรมและความอสิ ระของผเู้ รียน และช่วยให้เป็นพลเมอื งทมี่ ีความ รบั ผดิ ชอบ สามารถชว่ ยพฒั นาสงั คมใหเ้ ป็นธรรมขน้ึ มีความเสมอภาค พฒั นาความตระหนัก เขา้ ใจ และ ยอมรบั สภาพแวดล้อมทต่ี นดารงชวี ิตอยู่ ยดึ มั่นในข้อตกลงรว่ มกันต่อการพัฒนาที่ยัง่ ยนื ทงั้ ในระดับส่วนตน ระดบั ท้องถนิ่ ระดับชาติ และระดบั โลก สรา้ งให้ผเู้ รียนมีความพร้อมในการเปน็ ผบู้ รโิ ภคท่ตี ัดสินใจแบบมี ข้อมลู เปน็ อสิ ระ และมีความรบั ผิดชอบ ลกั ษณะของหลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นอนบุ าลกระสัง พุทธศกั ราช 25๖๕ ตามหลักสตู รแกนกลาง การศกึ ษาขั้นพ้นื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรยี นอนุบาลกระสัง พทุ ธศักราช 256๕ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษา ขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 เปน็ หลกั สตู รที่สถานศึกษาไดพ้ ัฒนาขึ้นเพือ่ พัฒนาผู้เรยี นในระดับ ประถมศกึ ษา และมัธยมศกึ ษาตอนต้น โดยยดึ องคป์ ระกอบหลกั สาคญั 3 สว่ นคือ หลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน พุทธศักราช 2551 สาระการเรียนร้ทู ้องถิน่ และสาระสาคัญทีส่ ถานศึกษาพัฒนา เพ่มิ เติม เปน็ กรอบในการจัดทารายละเอยี ดเพ่ือใหเ้ ปน็ ไปตามมาตรฐานการศกึ ษาขน้ั พื้นฐานที่กาหนด เหมาะสมกับสภาพชมุ ชนและท้องถนิ่ และจดุ เน้นของสถานศกึ ษา โดยหลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นอนบุ าล กระสัง พุทธศกั ราช 256๕ ที่พัฒนาข้นึ มีลักษณะของหลกั สูตร ดังนี้ 1. เป็นหลักสตู รเฉพาะของสถานศึกษาโรงเรียนอนุบาลกระสัง สาหรับจัดการศึกษาในหลกั สูตร แกนกลางการศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน จดั ระดับการศกึ ษาเป็น 2 ระดับ คือ ระดับประถมศกึ ษา (ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 1 – 6) และ ระดับมัธยมศกึ ษาตอนตน้ (ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 1 – 3) 2. มคี วามเปน็ เอกภาพ หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนอนุบาลกระสงั พุทธศกั ราช 256๕ หลักสูตรกลมุ่ สาระการเรียนนรภู้ าษาไทย โรงเรียนอนุบาลกระสัง สพป.บรุ ีรมั ย์ เขต ๒

๙ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551 เปน็ หลกั สตู รของสถานศกึ ษาสาหรบั ให้ ครูผสู้ อนนาไปจดั การเรยี นรูไ้ ดอ้ ย่างหลากหลาย โดยกาหนดให้ 2.1 มสี าระการเรยี นรู้ท่สี ถานศึกษาใช้เปน็ หลักเพ่ือสร้างพื้นฐานการคิด การเรยี นรู้ และการ แกป้ ัญหา ประกอบด้วย ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ และสังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม 2.2 มีสาระการเรียนรูท้ เี่ สรมิ สร้างความเปน็ มนุษย์ ศักยภาพการคดิ และการทางาน ประกอบดว้ ย สุขศึกษาและพลศึกษา ศิลปะ การงานอาชีพ และภาษาอังกฤษ 2.3 มีสาระการเรยี นรเู้ พ่ิมเติม โดยจัดทาเปน็ รายวชิ าเพมิ่ เติมตามความเหมาะสมและสอดคล้อง กับโครงสร้างเวลาเรียน สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถ่นิ ความตอ้ งการของผูเ้ รียน และบรบิ ทของสถานศึกษา 2.4 มกี ิจกรรมพฒั นาผู้เรียน เพอ่ื พฒั นาผ้เู รียนท้ังด้านร่างกาย จติ ใจ สตปิ ัญญา อารมณ์ และ สงั คม เสริมสร้างการเรยี นรู้นอกจากสาระการเรียนรู้ 8 กล่มุ และการพัฒนาตนตามศักยภาพ 2.5 มกี ารกาหนดมาตรฐานของสถานศกึ ษาท่สี อดคล้องกับมาตรฐานระดับต่าง ๆ เพ่อื เป็น เป้าหมายของการพัฒนาคุณภาพการศกึ ษาของสถานศึกษา จัดทารายละเอยี ดสาระการเรียนรู้ และจดั กระบวนการเรียนรู้ใหส้ อดคล้องกบั สภาพในชุมชน สังคม และภูมิปญั ญาท้องถ่ิน 3. มมี าตรฐานการเรียนร้เู ป็นเปา้ หมายสาคัญของการพฒั นาคุณภาพผเู้ รยี น หลกั สตู รสถานศกึ ษา โรงเรียนอนุบาลกระสงั พทุ ธศักราช 256๕ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 เป็นหลักสูตรท่ีมมี าตรฐานเปน็ ตัวกาหนดเกี่ยวกับคุณลักษณะท่ีพึงประสงค์ของผู้เรียน เพอื่ เป็นแนวทาง ในการประกันคุณภาพการศึกษา โดยมกี ารกาหนดมาตรฐานไว้ดังน้ี 3.1 มาตรฐานหลักสตู ร เป็นมาตรฐานด้านผเู้ รียนหรือผลผลติ ของหลักสูตรสถานศึกษา อนั เกดิ จากการได้รับการอบรมสงั่ สอนตามโครงสร้างของหลกั สตู รท้ังหมดใชเ้ ปน็ แนวทางในการตรวจสอบคุณภาพ โดยรวมของการจัดการศึกษาตามหลักสูตรในทุกระดับ และสถานศึกษาต้องใชส้ าหรับการประเมินตนเองเพ่อื จดั ทารายงานประจาปตี ามบทบญั ญตั ิในพระราชบญั ญัติการศกึ ษา นอกจากนี้ยังเป็นแนวทางในการกาหนด แนวปฏิบัตใิ นการส่งเสริม กากับ ติดตาม ดูแล และปรบั ปรุงคุณภาพ เพ่ือใหไ้ ด้ตามมาตรฐานทก่ี าหนด 3.2 มตี ัวชวี้ ัดชน้ั ปีเปน็ เปา้ หมายระบสุ ง่ิ ที่นกั เรียนพงึ รูแ้ ละปฏิบัตไิ ด้ รวมทัง้ คณุ ลกั ษณะของผู้เรยี น ในแต่ละระดบั ชัน้ ซ่งึ สะท้อนถึงมาตรฐานการเรยี นรู้ มีความเฉพาะเจาะจง และมีความเป็นรูปธรรม นาไปใชใ้ น การกาหนดเนื้อหา จัดทาหน่วยการเรียนรู้ จัดการเรียนการสอน และเป็นเกณฑ์สาคัญสาหรบั การวัด ประเมินผลเพ่ือตรวจสอบคุณภาพผเู้ รยี น ตรวจสอบพัฒนาการผเู้ รยี น ความรู้ ทกั ษะ กระบวนการ คุณธรรม จริยธรรมและคา่ นิยมอนั พงึ ประสงค์ และเปน็ หลักในการเทยี บโอนความรู้และประสบการณจ์ าก การศกึ ษาในระบบ นอกระบบ และตามอัธยาศัย 3.3 มีความเปน็ สากล ความเป็นสากลของหลกั สตู รสถานศึกษา คอื มุง่ ให้ผ้เู รียนมีความรู้ ความสามารถในเรอ่ื งเทคโนโลยีสารสนเทศ ภาษาองั กฤษ การจัดการสิง่ แวดล้อม ภมู ปิ ัญญาท้องถิ่น มีคุณลักษณะท่ีจาเปน็ ในการอย่ใู นสงั คมได้แก่ ความซื่อสตั ย์ ความรับผิดชอบ การตรงต่อเวลา การเสยี สละ การเอ้ือเฟื้อโดยอยู่บนพืน้ ฐานของความพอดีระหว่างการเป็นผูน้ า และผู้ตาม การทางานเปน็ ทมี และการ ทางานตามลาพังการแข่งขัน การรจู้ ักพอ และการรว่ มมือกนั เพ่ือสงั คม วิทยาการสมัยใหม่ และภมู ิปัญญา ทอ้ งถนิ่ การรับวฒั นธรรมต่างประเทศ และการอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยการฝึกฝนทกั ษะเฉพาะทาง และการบรู ณาการในลักษณะที่เปน็ องค์รวม 4. มีความยดื หยนุ่ หลากหลาย หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนอนุบาลกระสงั เปน็ หลักสูตรที่ สถานศกึ ษาจดั ทารายละเอียดตา่ ง ๆ ข้นึ เอง โดยยดึ โครงสรา้ งหลกั ทีก่ าหนดไวใ้ นหลกั สูตรแกนกลางการศึกษา ขนั้ พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 เป็นขอบขา่ ยในการจดั ทา จงึ ทาใหห้ ลักสูตรของสถานศึกษามีความยดื หยนุ่ หลักสูตรกลมุ่ สาระการเรียนนรู้ภาษาไทย โรงเรยี นอนบุ าลกระสัง สพป.บุรรี ัมย์ เขต ๒

๑๐ หลากหลาย สอดคลอ้ งกบั สภาพปัญหา และความต้องการของทอ้ งถ่ิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งมคี วามเหมาะสมกับ ตัวผูเ้ รยี น 5. การวัดและประเมนิ ผลเน้นหลกั การพน้ื ฐานสองประการคือการประเมนิ เพ่ือพัฒนาผูเ้ รียนและเพ่ือ ตดั สินผลการเรยี น โดยผู้เรียนต้องไดร้ บั การพัฒนาและประเมินตามตวั ชีว้ ัดเพื่อให้บรรลุตามมาตรฐานการ เรียนรู้ สะท้อนสมรรถนะสาคัญ และคุณลักษณะอันพึงประสงคข์ องผู้เรียนเป็นเปา้ หมายหลักในการวัดและ ประเมนิ ผลการเรยี นรู้ในทุกระดับไมว่ ่าจะเปน็ ระดับชั้นเรยี น ระดับสถานศึกษา ระดบั เขตพ้นื ท่ีการศึกษา และระดบั ชาติ การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ เปน็ กระบวนการพัฒนาคุณภาพผู้เรยี น และใช้ผลการ ประเมนิ เป็นขอ้ มลู และสารสนเทศท่แี สดงพัฒนาการ ความก้าวหน้า และความสาเร็จทางการเรยี นของผูเ้ รยี น ตลอดจนข้อมูลที่เปน็ ประโยชน์ต่อการส่งเสริมให้ผู้เรยี นเกดิ การพัฒนาและเรยี นรูอ้ ย่างเต็มตามศักยภาพ วิสยั ทศั น์ สานักงานเขตพนื้ ทก่ี ารศกึ ษาประถมศกึ ษาบุรีรมั ย์ เขต 2 “ยึดหลักธรรมาภบิ าล เสริมสร้างแรงบันดาลใจ ใหค้ รแู ละบุคลากรทางการศกึ ษาเปน็ ผนู้ าแห่ง การเรียนรู้ สผู่ ู้เรียนคุณภาพ” พันธกิจ 1. จดั การศึกษาเพื่อเสรมิ สร้างความมัน่ คงของสถาบนั หลักของชาติและการปกครองในระบอบ ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษตั รยิ ท์ รงเป็นประมุข 2. พฒั นาผู้เรยี นให้มีความสามารถความเป็นเลิศทางวชิ าการเพอ่ื สร้างขดี ความสามารถในการ แข่งขัน 3. พัฒนาศกั ยภาพและคุณภาพผเู้ รียนให้มสี มรรถนะตามหลกั สตู รและคุณลกั ษณะ ในศตวรรษที่ 21 4. สร้างโอกาส ความเสมอภาค ลดความเหล่อื มล้ า ใหผ้ ้เู รียนทกุ คนได้รับบรกิ ารทางการศกึ ษา อยา่ งทั่วถึงและเทา่ เทยี ม 5. พฒั นาผู้บรหิ าร ครู และบคุ ลากรทางการศึกษาใหเ้ ปน็ มืออาชีพ 6. จัดการศกึ ษาเพ่ือพัฒนาคุณภาพชีวติ ท่ีเป็นมิตรกบั สิ่งแวดล้อม ยดึ หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจ พอเพยี ง และเป้าหมายการพัฒนาทีย่ งั่ ยนื (Sustainable Development Goals: SDGs) 7. ปรับสมดลุ และพัฒนาระบบการบรหิ ารจัดการศึกษาทุกระดบั และจัดการศึกษาโดยใช้ เทคโนโลยดี จิ ิทลั (Digital Technology) เพ่ือพฒั นาม่งุ สู่ Thailand 4.0 เปา้ ประสงค์ 1. ผูเ้ รยี นมีความรกั ในสถาบันหลกั ของชาติ และยดึ ม่ันการปกครองระบอบประชาธิปไตย อนั มีพระมหากษัตริย์ทรงเปน็ ประมขุ มีทศั นคติที่ถกู ต้องต่อบ้านเมือง มหี ลักคดิ ทีถ่ ูกต้อง และเป็นพลเมอื งดี ของชาติ มีคณุ ธรรม จริยธรรม มีคา่ นยิ มทพี่ งึ ประสงค์ มจี ติ สาธารณะ รบั ผิดชอบต่อสงั คมและผอู้ ่นื ซือ่ สตั ย์ สจุ ริต มัธยสั ถ์ อดออม โอบอ้อมอารี มวี นิ ัย รกั ษาศีลธรรม 2. ผู้เรียนทีม่ คี วามสามารถพิเศษด้านวทิ ยาศาสตร์ คณติ ศาสตร์ ศิลปะ ดนตรี กฬี า ภาษา และอื่น ๆ ได้รับการพฒั นาอย่างเตม็ ตามศกั ยภาพ 3. ผูเ้ รียนเปน็ บคุ คลแห่งการเรียนรู้ คดิ รเิ ริ่มและสรา้ งสรรค์นวตั กรรม มีความรู้ มีทักษะ มีสมรรถนะตามหลักสตู ร และคุณลักษณะของผู้เรยี นในศตวรรษท่ี 21 มีสขุ ภาวะท่ีเหมาะสมตามวยั มคี วามสามารถในการพึ่งพาตนเอง ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง และการเป็นพลเมือง พลโลก หลกั สตู รกลมุ่ สาระการเรียนนรภู้ าษาไทย โรงเรยี นอนุบาลกระสัง สพป.บุรีรัมย์ เขต ๒

๑๑ ทด่ี ี (Global Citizen) พรอ้ มก้าวสสู่ ากล นาไปสกู่ ารสรา้ งความสามารถในการแข่งขันของประเทศ 4. ผ้เู รยี นทีม่ คี วามต้องการจาเป็นพิเศษ (ผพู้ ิการ) กลุ่มชาติพันธุ์ กลมุ่ ผ้ดู อ้ ยโอกาส และกลมุ่ ท่อี ยู่ ในพน้ื ทหี่ า่ งไกลทรุ กนั ดาร ได้รบั การศึกษาอย่างทวั่ ถึง เท่าเทยี ม และมีคณุ ภาพ 5. ผบู้ รหิ าร ครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษาเปน็ บคุ คลแห่งการเรียนรู้ มคี วามรู้ และจรรยาบรรณ ตามมาตรฐานวชิ าชพี 6. สถานศึกษาจดั การศึกษาเพือ่ การบรรลเุ ปา้ หมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) และสร้างเสริมคุณภาพชีวติ ท่ีเปน็ มติ รกับสิง่ แวดลอ้ ม ตามหลักปรชั ญา ของเศรษฐกิจพอเพียง 7. สานักงานเขตพ้นื ทก่ี ารศึกษาและสถานศึกษา มีสมดลุ ในการบรหิ ารจดั การเชงิ บรู ณาการ มกี ารกากบั ติดตาม ประเมินผล มีระบบขอ้ มลู สารสนเทศ ทม่ี ีประสิทธภิ าพ และการรายงานผลอย่างเปน็ ระบบ ใชง้ านวิจยั เทคโนโลยีและนวัตกรรม ในการขบั เคลื่อนคณุ ภาพการศกึ ษา กลยทุ ธ์ กลยุทธท์ ี่ 1 ดา้ นการจัดการศึกษาเพื่อความมน่ั คงของมนุษย์และของชาติ กลยุทธท์ ี่ 2 ดา้ นการจดั การศึกษาเพื่อเพ่ิมความสามารถในการแขง่ ขันของประเทศ กลยุทธ์ที่ 3 ดา้ นการพฒั นาและเสรมิ สรา้ งศักยภาพทรัพยากรมนษุ ย์ กลยทุ ธท์ ี่ 4 ด้านการสรา้ งโอกาสในการเข้าถงึ บรกิ ารการศึกษาที่มีคณุ ภาพ มมี าตรฐาน และลดความเหลื่อมล้าทางการศึกษา กลยุทธท์ ่ี 5 ดา้ นการจัดการศึกษาเพอื่ พัฒนาคุณภาพชวี ติ ท่ีเป็นมิตรกับสิง่ แวดล้อม กลยุทธท์ ่ี 6 ดา้ นการปรบั สมดลุ และพัฒนาระบบการบริหารจัดการศึกษา นโยบายการจดั การศกึ ษา ๑. พัฒนาคุณภาพ ยกระดบั ผลสัมฤทธท์ิ างการเรียนของผู้เรียน ใหม้ ีทกั ษะทจ่ี าเปน็ ในศตวรรษที่ ๒๑ ๒. เสรมิ สรา้ ง รักษาวัฒนธรรม และพัฒนาองค์กร ดว้ ยหลักธรรมมาภบิ าล ๓. สนบั สนุนและสง่ เสริมการมสี ่วนร่วมในการจัดการศึกษา และร่วมรับผิดชอบด้วยการบริหารแบบ CBM 4.1 และการสร้างเครือขา่ ยการทางาน ๔. เสริมสรา้ งและพฒั นาระบบข้อมลู สารสนเทศ เทคโนโลยี สอื่ และนวัตกรรมในการบรหิ ารจดั การศกึ ษา ๕. สง่ เสริมการนาหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงเปน็ ฐานในการพัฒนาคนให้มีคุณภาพ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม และการดาเนนิ ชีวติ อย่างมีความสขุ หลกั สตู รกลมุ่ สาระการเรียนนรภู้ าษาไทย โรงเรยี นอนบุ าลกระสงั สพป.บรุ ีรมั ย์ เขต ๒

๑๒ วสิ ยั ทัศน์ พนั ธกจิ เป้าประสงค์ อัตลักษณ์ และเอกลักษณ์ของโรงเรียนอนบุ าลกระสัง วิสัยทัศน์ โรงเรียนอนุบาลกระสงั เป็นโรงเรียนคุณภาพของชมุ ชน มงุ่ พฒั นาผ้เู รยี นใหม้ ีทักษะ การเรยี นรใู้ นศตวรรษที่ 21 มคี วามรคู้ ู่คณุ ธรรม นอ้ มนาหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง พันธกิจ 1. พฒั นาหลักสูตรสถานศึกษาแบบมีส่วนรว่ ม จดั การเรยี นรู้ให้กา้ วทันตอ่ การเปลย่ี นแปลง 2. พัฒนาผู้เรียนให้มีความรูต้ ามมาตรฐานการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน และมที กั ษะการเรียนรูใ้ นศตวรรษ ที่ 21 3. พัฒนาผเู้ รยี นให้มี คณุ ธรรม จริยธรรม สานึกความเปน็ ไทย ใส่ใจส่งิ แวดลอ้ มและรบั ผิดชอบตอ่ สังคม 4. พฒั นานักเรียนให้มีทักษะอาชีพตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง 5. ส่งเสรมิ สนับสนนุ ครูและบุคลากรทางการศึกษาใหม้ ีมาตรฐานตามมาตรฐานวชิ าชีพครู 6. พฒั นาระบบบรหิ ารจัดการใหท้ ันสมยั มีประสิทธภิ าพเหมาะสมกับบริบทของโรงเรียน โดยการ มสี ว่ นร่วมของทุกภาคสว่ นในการจดั การศึกษา เปา้ ประสงค์ 1. โรงเรยี นมีหลกั สตู รสถานศกึ ษาทีส่ ง่ เสรมิ ทางด้านวิชาการ อาชีพ เพ่ือตอบสนองความถนดั และ ความต้องการของผ้เู รียน ชมุ ชน และสงั คม 2. ผเู้ รียนทกุ คนมีความรู้ตามมาตรฐานการศึกษาข้ันพนื้ ฐาน และมีทกั ษะการเรยี นรใู้ นศตวรรษท่ี 21 3. ผเู้ รยี นทกุ คนมีคุณธรรม จริยธรรม สานึกความเปน็ ไทย ใส่ใจส่งิ แวดล้อม และรบั ผดิ ชอบตอ่ สังคม 4. ผเู้ รียนทุกคนไดร้ ับการส่งเสริมทักษะทางด้านอาชีพตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 5. ครูและบุคลากรทางการศกึ ษามมี าตรฐานตามมาตรฐานวชิ าชพี 6. โรงเรียนมีระบบบริหารจัดการทีท่ นั สมัยและมีประสทิ ธภิ าพ กลยทุ ธ์ กลยทุ ธท์ ี่ 1 : พฒั นาหลกั สูตรและกระบวนการจดั การเรยี นรใู้ หต้ อบสนองความถนัดและความตอ้ งการ ของผเู้ รียนและชุมชน กลยทุ ธ์ที่ 2 :พัฒนาผ้เู รียนให้มคี ุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาและมีทักษะการเรยี นรู้ ในศตวรรษที่ 21 กลยุทธ์ท่ี 3 :สนบั สนนุ และส่งเสริมให้ผ้เู รียนมคี ุณธรรม จรยิ ธรรม ใส่ใจสิง่ แวดลอ้ ม ดาเนินชีวติ และมที ักษะอาชพี ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง กลยทุ ธ์ที่ 4 : พัฒนาศกั ยภาพครูและบุคลากรทางการศึกษาสมู่ าตรฐานวิชาชพี กลยุทธ์ท่ี 5 : พฒั นาระบบบริหารจดั การใหม้ ีประสทิ ธภิ าพกา้ วหนา้ ทนั เทคโนโลยี หลักสตู รกลมุ่ สาระการเรียนนรภู้ าษาไทย โรงเรียนอนุบาลกระสัง สพป.บรุ ีรัมย์ เขต ๒

๑๓ จุดเนน้ 1) ผ้เู รียนมีคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ตามหลักสูตรและคา่ นิยมพื้นฐาน 12 ประการ ของคนไทย 2) ระดบั ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนทกุ กลมุ่ สาระเพม่ิ ข้นึ 3) ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศในการจดั การศกึ ษาและแสวงหาความรู้ 4) พฒั นาระบบประกันการคุณภาพภายในทเ่ี ขม้ แข็งและมีคุณภาพ 5) พัฒนารปู แบบการปฏิบัตงิ านของบุคลากรทุกคน 6) สร้างเครือข่ายความรว่ มมือการพัฒนาการศึกษาและการให้บริการ 7) สรา้ งความสัมพนั ธท์ ่ีดกี ับชุมชนและท้องถิน่ อัตลักษณ์ ซ่อื สตั ย์ มีวินยั ใฝ่เรยี นรู้ เอกลักษณ์ เสริมสรา้ งวนิ ัย ใฝ่คณุ ธรรม นอ้ มนาศาสตร์พระราชา แนวทางการพฒั นาคณุ ภาพการจดั การศกึ ษาของโรงเรียน 1. จัดการศึกษาปฐมวยั ให้ได้รับมาตรฐานการพฒั นาดา้ นกาย จติ ใจ อารมณ์ สงั คม และสตปิ ญั ญา 2. จัดการศกึ ษาข้นั พื้นฐาน (ระดบั ประถมศึกษา และมัธยมศึกษาตอนต้น) ใหไ้ ด้คุณภาพตาม มาตรฐานการศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน ปณธิ าน “สร้างนักเรยี นเป็นคนดี เนน้ คุณภาพการศกึ ษา” มาตรฐานการศกึ ษาของโรงเรียน ประกอบดว้ ย 3 มาตรฐาน คือ มาตรฐานท่ี 1 คุณภาพของผูเ้ รยี น 1.1 ผลสมั ฤทธ์ิทางวิชาการของผูเ้ รยี น 1.2 คณุ ลกั ษณะท่ีพงึ ประสงค์ของผเู้ รยี น มาตรฐานท่ี 2 กระบวนการบริหารและการจดั การ มาตรฐานที่ 3 กระบวนการจดั การเรียนการสอนท่เี น้นผูเ้ รียนเป็นสาคญั ซง่ึ แตล่ ะมาตรฐานมรี ายละเอียด ดงั น้ี มาตรฐานท่ี 1 คณุ ภาพผเู้ รยี น 1.1 ผลสัมฤทธ์ิทางวชิ าการของผ้เู รียน 1) มคี วามสามารถในการอ่าน การเขียน การสื่อสาร และการคิดคานวณ 2) มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ คิดอย่างมีวิจารณญาณ อภิปรายแลกเปลย่ี น ความคิดเหน็ และแก้ปัญหา 3) มคี วามสามารถในการสรา้ งนวตั กรรม หลักสตู รกลมุ่ สาระการเรยี นนร้ภู าษาไทย โรงเรียนอนุบาลกระสงั สพป.บุรรี ัมย์ เขต ๒

๑๔ 4) มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สาร 5) มีผลสัมฤทธิ์ในการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร 6) มีความรู้ ทักษะพืน้ ฐาน และเจตคติที่ดตี อ่ งานอาชีพ 1.2 คุณลักษณะท่ีพงึ ประสงค์ของผเู้ รียน 1) การมีวนิ ัย มีความรบั ผดิ ชอบ มีความซ่ือสตั ย์ ตามท่สี ถานศกึ ษากาหนด 2) ภมู ิใจในบุรรี มั ยแ์ ละความเปน็ ไทย 3) การยอมรับที่จะอยรู่ ่วมกนั บนความแตกตา่ งและหลากหลาย 4) สุขภาวะทางรา่ งกายและจิตสงั คม มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบริหารและการจดั การ 2.1 มเี ป้าหมายวิสยั ทศั น์และพันธกิจที่สถานศกึ ษากาหนดชัดเจน 2.2 มีระบบบรหิ ารจัดการคุณภาพของสถานศึกษา 2.3 ดาเนินงานพฒั นาวชิ าการที่เน้นคุณภาพผู้เรียนรอบด้านตามหลักสตู รสถานศึกษาและ ทกุ กลมุ่ เป้าหมาย 2.4 พัฒนาครแู ละบุคลากรทางใหม้ คี วามเช่ยี วชาญทางวิชาชพี 2.5 จัดสภาพแวดลอ้ มทางกายภาพและสงั คมทีเ่ อื้อต่อการจดั การเรียนรูอ้ ยา่ งมคี ุณภาพ 2.6 จัดระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศเพื่อสนับสนนุ การบริหารจดั การและการจัดการเรยี นรู้ มาตรฐานที่ 3 กระบวนการจดั การเรยี นการสอนทีเ่ น้นผู้เรียนเป็นสาคัญ 3.1 จดั การเรียนร้ผู า่ นกระบวนการคิดและปฏิบตั จิ ริงและสามารถนาไปประยุกตใ์ ช้ในชวี ติ ได้ 3.2 ใช้ส่อื เทคโนโลยสี ารสนเทศ และแหล่งเรยี นรู้ทเ่ี อื้อต่อการเรียนรู้ 3.3 มีการบริหารจัดการชน้ั เรยี นเชิงบวก 3.4 ตรวจสอบและประเมนิ ผู้เรียนอย่างเปน็ ระบบ และนาผลมาพัฒนาผู้เรยี น 3.5 มกี ารแลกเปล่ียนเรยี นร้แู ละใหข้ ้อมลู สะท้อนกลับเพ่ือพัฒนาและปรับปรุงการจดั การ เรยี นรู้ การจดั การและการบรหิ ารโรงเรยี นไดด้ าเนนิ งานโดยบุคคล 3 ฝ่าย ไดแ้ ก่ ผู้บริหารโรงเรยี น บุคลากร ในโรงเรียน และคณะกรรมการสถานศกึ ษาขัน้ พนื้ ฐาน รว่ มกันประชมุ วางแผน โดยมีขั้นตอนการบริหารและมี ภารกจิ หลักแบ่งออกเปน็ 4 ฝา่ ย โดยมผี ู้รับผิดชอบแต่ละฝา่ ยงาน ดังนี้ 1. ฝ่ายบรหิ ารงานวชิ าการ นางสาลนิ ี กุลวงษ์ เป็นหวั หน้าฝา่ ยงาน 2. ฝ่ายบริหารงานบคุ คล นางจันทริฐา หงษ์วิชา เปน็ หัวหน้าฝา่ ยงาน 3. ฝา่ ยบริหารงบประมาณ นางผกามาศ ไชยฐินนต์ เปน็ หวั หน้าฝ่ายงาน 4. ฝ่ายงานบริหารทว่ั ไป นางสุภารตั น์ ทองเกล้ียง เปน็ หัวหนา้ ฝ่ายงาน ในแต่ละฝ่ายงานมีคณะทางาน โดยพจิ ารณาตามความรู้-ความสามารถและให้คณะครเู ป็นผมู้ สี ว่ นร่วม ในการแตง่ ต้ังทุกฝา่ ยงาน โดยมีแผนภูมกิ ารบรหิ ารงานรวมทั้งมคี าสั่งมอบหมายงานในแต่ละฝา่ ยงานอย่าง ชัดเจนตลอดจนมปี ฏิทนิ การปฏบิ ัติงานเป็นรูปธรรมสง่ ผลดตี อ่ ผู้เรยี น โดยกาหนดเป้าหมายคุณภาพผ้เู รียนซงึ่ เปน็ ผลผลิตหลักของโรงเรียนให้มปี ระสทิ ธผิ ลเกดิ ประสทิ ธภิ าพและไดม้ าตรฐาน หลกั สตู รกลมุ่ สาระการเรียนนรู้ภาษาไทย โรงเรียนอนุบาลกระสงั สพป.บุรรี มั ย์ เขต ๒

๑๕ สมรรถนะสาคัญของผูเ้ รยี น และคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ในการพัฒนาผูเ้ รยี นตามหลักสตู รสถานศึกษาโรงเรียนอนุบาลกระสงั พุทธศักราช 25๖5 ตาม หลักสตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 มุง่ เน้นพัฒนาผู้เรยี นให้มีคณุ ภาพตามมาตรฐาน ทก่ี าหนด ซง่ึ จะช่วยให้ผ้เู รียนเกดิ สมรรถนะสาคญั และคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ดงั นี้ สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรยี นอนุบาลกระสงั พทุ ธศักราช 25๖๕ ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษา ขั้นพ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551 มุ่งใหผ้ เู้ รยี นเกดิ สมรรถนะสาคญั 5 ประการ ดังน้ี 1. ความสามารถในการสื่อสาร เป็นความสามารถในการรับและสง่ สาร มีวฒั นธรรมในการใชภ้ าษา ถ่ายทอดความคิด ความรู้ความเข้าใจ ความรูส้ ึก และทัศนะของตนเองเพอื่ แลกเปล่ยี นข้อมูลขา่ วสารและ ประสบการณ์อันจะเปน็ ประโยชน์ตอ่ การพัฒนาตนเองและสงั คม รวมทงั้ การเจรจาต่อรองเพื่อขจัดและลด ปัญหาความขดั แย้งตา่ ง ๆ การเลือกรบั หรอื ไม่รบั ข้อมลู ข่าวสารด้วยหลักเหตุผลและความถกู ต้อง ตลอดจนการ เลือกใช้วธิ กี ารสือ่ สาร ท่ีมปี ระสทิ ธภิ าพโดยคานงึ ถึงผลกระทบท่มี ีต่อตนเองและสงั คม 2. ความสามารถในการคดิ เปน็ ความสามารถในการคดิ วิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคดิ อยา่ ง สร้างสรรค์ การคดิ อย่างมีวจิ ารณญาณ และการคดิ เป็นระบบ เพอื่ นาไปสกู่ ารสร้างองค์ความรูห้ รือสารสนเทศ เพ่ือการตดั สนิ ใจเกย่ี วกับตนเองและสงั คมได้อยา่ งเหมาะสม 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา เป็นความสามารถในการแก้ปญั หาและอปุ สรรคต่าง ๆ ทเี่ ผชญิ ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสมบนพื้นฐานของหลกั เหตผุ ล คณุ ธรรมและข้อมูลสารสนเทศ เข้าใจ ความสัมพันธแ์ ละการเปลี่ยนแปลงของเหตกุ ารณต์ า่ ง ๆ ในสังคม แสวงหาความรู้ ประยุกตค์ วามรู้ มาใช้ในการป้องกนั และแก้ไขปัญหาและมีการตัดสินใจทีม่ ีประสิทธิภาพโดยคานงึ ถงึ ผลกระทบ ท่เี กดิ ขนึ้ ต่อตนเอง สงั คมและสิง่ แวดลอ้ ม 4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต เปน็ ความสามารถในการนากระบวนการตา่ ง ๆ ไปใช้ในการ ดาเนินชีวติ ประจาวนั การเรยี นร้ดู ว้ ยตนเอง การเรยี นรู้อย่างต่อเน่ือง การทางาน และการอยูร่ ว่ มกนั ในสังคม ดว้ ยการสรา้ งเสรมิ ความสมั พันธอ์ นั ดีระหวา่ งบคุ คล การจดั การปัญหาและความขดั แย้งต่าง ๆ อย่างเหมาะสม การปรับตวั ใหท้ ันกับการเปล่ยี นแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อม และการรู้จักหลีกเลี่ยงพฤติกรรมไมพ่ ึง ประสงค์ท่สี ่งผลกระทบตอ่ ตนเองและผู้อน่ื 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยีเป็นความสามารถในการเลอื กและใชเ้ ทคโนโลยดี า้ นต่างๆ และมี ทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพ่อื การพฒั นาตนเองและสงั คม ในด้านการเรียนรู้ การส่อื สาร การทางาน การแกป้ ัญหาอย่างสรา้ งสรรค์ ถูกตอ้ งเหมาะสม และมคี ุณธรรม คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนอนุบาลกระสัง พุทธศักราช 25๖5 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษา ขน้ั พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 มุง่ พัฒนาผู้เรียนให้มีคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ เพ่ือให้สามารถอยู่ร่วมกับ ผู้อน่ื ในสงั คมได้อยา่ งมีความสุข ในฐานะเป็นพลเมอื งไทยและพลโลก ดงั น้ี 1. รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ หลกั สูตรกลมุ่ สาระการเรยี นนรู้ภาษาไทย โรงเรียนอนุบาลกระสัง สพป.บุรีรัมย์ เขต ๒

๑๖ 2. ซอ่ื สตั ยส์ จุ ริต 3. มีวินัย 4. ใฝเ่ รียนรู้ 5. อยูอ่ ย่างพอเพียง 6. มุง่ ม่นั ในการทางาน 7. รักความเป็นไทย 8. มีจติ สาธารณะ บริบทของโรงเรียนอนุบาลกระสัง โรงเรียนอนุบาลกระสงั (โรงเรียนบา้ นกระสงั ) ต้งั อยู่ ณ เลขท่ี 1 หมู่ 16 ถนนเทศบาล 6 ตาบล กระสัง อาเภอกระสงั จงั หวัดบุรรี มั ย์ รหัสไปรษณีย์ 31160 สงั กดั สานักงานเขตพื้นท่กี ารศึกษาประถมศึกษา บุรรี มั ย์ เขต 2 สานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพนื้ ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ ก่อตั้งเมอื่ วันที่ 9 ตลุ าคม พุทธศกั ราช 2477 ใชช้ ่อื ว่า โรงเรยี นประชาบาลบ้านกระสงั ตาบลสองช้นั สังกัดกรมสามัญ กระทรวงศกึ ษาธิการ คณะกรรมผู้ริเรมิ่ ในการจัดตั้งให้มโี รงเรียนนี้ขน้ึ มา คือ คณะกรรมการอาเภอเมอื งบุรรี ัมย์ พ.ศ. 2477 เปดิ ทาการสอนตงั้ แตช่ ั้นประถมศึกษาปีท่ี 1-4 มีหมบู่ า้ นในเขตบริการ คือ หมูท่ ่ี 1 บ้าน กระสงั หมู่ที่ 2 บา้ นน้อย โดยอาศยั ศาลาการเปรียญวัดท่าสว่างเปน็ ทีเ่ ลา่ เรยี นชั่วคราว ซงึ่ ตั้งอยู่ ณ ท่ีตั้งวัดท่า สว่างในปจั จุบนั พ.ศ. 2488 ไดย้ า้ ยสถานทเ่ี ล่าเรยี นมาจดั ตั้ง ณ ที่ดนิ ธรณสี งฆ์วัดทา่ สวา่ ง ในเนอ้ื ที่ 29 ไร่ 2 งาน 39 ตารางวา และไดม้ ีการเปลี่ยนช่อื โรงเรยี นเป็น โรงเรียนประชาบาลบ้านกระสัง ตาบลกระสงั พ.ศ. 2499 ทางราชการใหเ้ ปดิ ทาการสอนถึงชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 3 พ.ศ. 2504 เปลี่ยนจากการจัดการเรียนการสอนชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 1-3 เปน็ การจัดการศกึ ษา ระดับช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 1-7 พ.ศ. 2509 ทางราชการได้โอนให้ไปขึ้นตรงต่อ องค์การบริหารส่วนจงั หวัด กระทรวงมหาดไทย และเปล่ียนชื่อเปน็ โรงเรยี นบ้านกระสงั โดยใช้อักษรย่อ คือ ก.บ.ร.1 พ.ศ. 2521 ทางราชการไดย้ ุบชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 7 ให้จัดการเรียนการสอนจากชนั้ ประถมศึกษา ปที ี่ 1-6 เทา่ นั้น พ.ศ. 2523 ทางราชการโอนให้ข้ึนตรงต่อ สานักงานคณะกรรมการการประถมศกึ ษาแหง่ ชาติ กระทรวงศกึ ษาธิการ พ.ศ. 2526 ทางราชการอนุญาตให้เปดิ ทาการสอนชน้ั อนุบาลศกึ ษา พ.ศ. 2540 ทางราชการอนุญาตใหเ้ ปิดรับนักเรยี นชั้นอนุบาล 3 ขวบ จานวน 2 ห้องเรียน และขยายโอกาสทางการศึกษา โดยจดั การศกึ ษาถึงระดับชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 3 พ.ศ. 2542 ทางราชการใหเ้ ปลี่ยนช่ือโรงเรียน จากโรงเรยี นประชาบาลบา้ นกระสงั เปน็ โรงเรยี น อนุบาลกระสงั ซง่ึ เปน็ โรงเรียนเครอื ข่ายสหวิทยาเขตมหามงคล พ.ศ. 2546 ทางราชการได้โอนไปสงั กัดสานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน กระทรวง ศึกษาธิการ เปิดสอนหลกั สตู รการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน ต้งั แตช่ ั้นประถมศึกษาปีที่ 1 – ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 พ.ศ. 2551 โรงเรียน เป็นแกนนาการใชห้ ลักสูตรสถานศึกษาขนั้ พนื้ ฐาน พุทธศักราช 2550 หลักสูตรกลมุ่ สาระการเรียนนร้ภู าษาไทย โรงเรียนอนบุ าลกระสัง สพป.บุรรี มั ย์ เขต ๒

๑๗ ภารกิจของสถานศกึ ษา (ภารกิจตามกฎหมาย) โรงเรียนอนบุ าลกระสัง มภี ารกจิ ในการดาเนินการจดั การศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน คือ 1. การจัดการศกึ ษาปฐมวยั กาหนดให้มีหลกั สูตรการศกึ ษาปฐมวัยเปน็ การเฉพาะ มจี ดุ มุ่งหมายเพื่อ เปน็ การเสรมิ สร้างพฒั นาการและเตรียมผ้เู รียนให้มีความพรอ้ มในการเขา้ เรยี นชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 1 2. การจดั การศึกษาการศึกษาข้ันพ้นื ฐาน เป็นการจัดการศึกษาโดยใช้หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรยี น อนุบาลกระสัง พุทธศักราช 2551 โดยยดึ ตามหลกั สตู รแกนกลางของสานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้น พืน้ ฐาน พุทธศักราช 2551 มกี ารจัดการศกึ ษา 2 ระดบั คอื ระดับประถมศึกษา และระดบั มธั ยมศึกษา ตอนต้น สภาพทว่ั ไป โรงเรยี นอนุบาลกระสัง มีเนื้อท่ี 29 ไร่ 2 งาน 39 ตารางวา (เป็นทขี่ องวดั ท่าสวา่ ง) เปิดทาการสอน 3 ระดับ คอื ระดับอนุบาลศกึ ษา ระดับประถมศึกษา และมัธยมศึกษาตอนตน้ มีอาคารเรียนจานวน 7 หลงั อาคารห้องประชุมจานวน 1 หลัง อาคารอเนกประสงค์ จานวน 2 หลัง ลานอเนกประสงค์ จานวน 2 แหง่ ห้องน้า-หอ้ งส้วม จานวน 7 แห่ง มไี ฟฟ้าให้แสงสว่างในห้องเรียนอยา่ งเพยี งพอ มีนา้ ประปาใช้สะดวกสบาย มี รัว้ รอบโรงเรียน ทศิ เหนือ ติดกบั ที่ธรณีสงฆ์ของวัดทา่ สวา่ ง ทิศใต้ ติดกับ เขตรางรถไฟสายอบุ ลราชธานี-กรุงเทพฯ ทิศตะวันออก ตดิ กบั ชมุ ชนตลาดเหนือ ท่ีธรณีสงฆ์ของวัดท่าสว่าง ทิศตะวันตก ติดกบั บา้ นเรอื นของชมุ ชนหมู่ท่ี 16 ซง่ึ ต้ังอย่ใู นทธี่ รณีสงฆ์ของวัดทา่ สวา่ ง สภาพชมุ ชน 1. สภาพชมุ ชนรอบบริเวณโรงเรียนมลี ักษณะหมบู่ ้านขนาดใหญ่ มปี ระชากรประมาณ 6,050 คน บรเิ วณใกลเ้ คยี งโดยรอบโรงเรียนไดแ้ ก่ ชุมชนหมู่ท่ี 15 และชมุ ชนหมทู่ ี่ 16 อาชพี หลกั ของชมุ ชน คือ รบั จ้าง ทานา ค้าขาย รับราชการ ส่วนใหญ่นบั ถือศาสนาพทุ ธ ประเพณี / ศิลปวฒั นธรรมทอ้ งถ่นิ ทเี่ ป็นท่ีรู้จักโดยทั่วไป คอื แซนโดนตา ลอยกระทง การเทศน์มหาชาติ 2. ผปู้ กครองส่วนใหญ่จบการศกึ ษาระดบั ประถมศกึ ษา อาชพี หลกั คือ เกษตรกรรม ฐานะทาง เศรษฐกิจปานกลาง / รายไดเ้ ฉลีย่ ต่อครอบครัว ต่อปี 20,000 บาท จานวนคนเฉลย่ี ต่อครอบครัว 4-6 คน 3. โอกาสของสถานศึกษากับความรว่ มมอื ในด้านต่าง ๆ ของชุมชน คือ อยู่ใกล้แหลง่ เรียนรู้ อยู่ใกลว้ ัด สถานทรี่ าชการ ไดร้ ับการส่งเสรมิ สนับสนนุ จากชมุ ชน ผูน้ าชมุ ชน องคก์ รปกครองสว่ นท้องถน่ิ เห็นความสาคัญ ของการศึกษา ขอ้ จากดั ของสถานศึกษากับความร่วมมือของชมุ ชน คือ ผปู้ กครองประกอบอาชีพหลากหลายมฐี านะ เศรษฐกิจยากจน ถึงปานกลาง กลุ่มทีม่ ฐี านะยากจนบางครั้งทาให้เกิดปญั หานักเรยี นขาดเรียน เน่ืองจาก ผปู้ กครองตอ้ งอพยพไปทางานท่ตี ่างถนิ่ ท้ิงลูกหลานให้อยู่ในความดูแลของปู่ ยา่ ตา ยาย หรอื ผ้สู ูงอายุ ทาให้ การดูแลไมส่ มบรู ณ์เท่าทค่ี วรส่งผลใหพ้ ฤติกรรมเบยี่ งเบนและมผี ลสมั ฤทธ์ทิ างการเรยี นต่า หลกั สูตรกลมุ่ สาระการเรยี นนรู้ภาษาไทย โรงเรียนอนุบาลกระสงั สพป.บุรีรมั ย์ เขต ๒

๑๘ ความสนใจดา้ นการศึกษาชองชุมชน ถึงแมใ้ นอดตี ทผ่ี า่ นมาประชาชนยงั ไมเ่ หน็ ความสาคญั ของการศกึ ษาไมย่ อมส่งบุตรหลานเขา้ โรงเรียน เพราะต้องนาไปใช้แรงงานในการประกอบอาชพี เป็นส่วนใหญ่ แตใ่ นปจั จบุ นั ประชากรเร่ิมเห็นความสาคญั ทาง การศกึ ษามากข้นึ เพราะทางโรงเรยี นได้เปดิ ขยายโอกาสทางการศึกษา ต้องการให้บุตรหลานได้มีความรู้มาก ขนึ้ และถ้ามีโอกาสกจ็ ะส่งบตุ รหลานได้เรยี นสงู ขึ้นแต่ยังไม่ให้ความสาคญั ในการเข้าไปมีส่วนร่วมในการจดั การศึกษาโดยเฉพาะการให้การสนบั สนุนปัจจัยทม่ี สี ่วนในการลงทนุ ด้านการจัดการศึกษาทัง้ น้อี าจจะมีสาเหตุ มาจากฐานะความเปน็ อย่ทู ี่ยังยากจนอยู่ สภาพการคมนาคม ระยะทางจากโรงเรยี นอนบุ าลกระสงั ถึงทเี่ ทศบาลตาบลกระสงั ระยะทาง 400 เมตร จากโรงเรียนอนบุ าลกระสงั ถึงสานักงานเขตพน้ื ท่ีการศึกษาบรุ รี ัมยเ์ ขต 2 ระยะทาง 47กิโลเมตร จากโรงเรยี นอนุบาลกระสงั ถึงจังหวดั บุรรี มั ย์ระยะทาง 30 กโิ ลเมตร ตราสญั ลักษณ์ของโรงเรยี นอนบุ าลกระสงั ดอกบัว หมายถึง ดอกไม้ท่ีมีความหมายในทางพทุ ธศาสนา ซ่งึ เปรียบเสมือนกับการเรียนรู้ เหมือน ดอกบวั ประเภทตา่ ง ๆ ที่กาลังจะบานปร่มิ น้า ซึ่งหมายถึงเด็ก ๆ เม่ือไดร้ บั ฟงั คาส่งั สอนอบรมพรอ้ มทง้ั สื่อการ สอนต่าง ๆ ประกอบแล้วน้นั เดก็ ๆ ก็พรอ้ มทีจ่ ะเขา้ ใจและนาไปปฏบิ ตั ิได้เป็นอยา่ งดี สีประจาโรงเรยี นแสด – ขาว สีแสด หมายถึงความสดใสร่าเริงความมีชีวิตชีวา ความเจริญงอกงามของนักเรียนโรงเรยี นอนบุ าล กระสัง สีขาว หมายถึงนักเรียนโรงเรียนอนุบาลกระสัง ทกุ คนเป็นเยาวชนทีม่ คี ุณธรรมจรยิ ธรรมมวี ัฒนธรรม ท้ังกายวาจาใจมจี รรยามารยาทงามเสยี สละมีน้าใจอนรุ ักษ์ความเป็นไทยพฒั นาตนให้เป็นคนดีแกส่ ังคมและ ประเทศชาตสิ ืบไป หลักสตู รกลมุ่ สาระการเรียนนรู้ภาษาไทย โรงเรยี นอนบุ าลกระสัง สพป.บรุ ีรัมย์ เขต ๒

๑๙ คาขวญั โรงเรยี นอนุบาลกระสัง “เรียนดี กฬี าเด่น เนน้ วินัย ใฝส่ ะอาด มาดคุณธรรม นาประชาธปิ ไตย” โรงเรียนอนุบาลกระสังได้กาหนดคาขวญั ของโรงเรยี นข้นึ มาเพอื่ เป็นแนวทางในการจัดการศึกษาเพ่ือ มงุ่ หวังใหน้ กั เรยี นมีคณุ ลกั ษณะท่ีพงึ ประสงค์ตามปรัชญาและมงุ่ หวังทจี่ ะสรา้ งคนให้มีความรคู้ คู่ ุณธรรมเพื่อคา้ จนุ สงั คมเรมิ่ ตงั้ แต่การสรา้ งค่านิยมให้เป็นสังคมไทยและให้ระลกึ ถึงความเปน็ ไทย เรียนดี หน้าท่ขี องนักเรียนคือการเรยี นนกั เรียนมผี ลการเรยี นที่ดซี ่ึงจะดีได้นั้นจะต้องเป็นคนมหี วั ใจ ของนักปราชญ์ “ สุ จิ ปุ ลิ ” สุ สุ ตะ ฟังรู้จักรบั ฟังและฟังอยา่ งมวี ิจารณญาณ จิ จิต ตะ เอาจติ ใจจดจ่อมีความตงั้ ใจสมา่ เสมอ ปุ ปจุ ฉา ถามเม่ือไมแ่ จม่ แจ้งย่อมมีการซกั ถามเพื่อให้ได้ความแจม่ แจ้งและเสริมสร้างปญั ญา ของตน ลิ ลิขิตเขยี นการจดบนั ทึกเป็นสิง่ จาเปน็ ในการเรยี นทุกอย่างเปน็ หลักประกันในการที่จะทาให้ ไม่ลมื ในภายหน้าสามารถนามาคน้ ควา้ ทบทวนไดด้ งั น้ันเม่อื ทุกคนมหี วั ใจนกั ปราชญย์ อ่ มที่จะทาให้การเรยี นดี กีฬาเดน่ การกีฬาถือว่าเป็นกิจกรรมทีจ่ ะสรา้ งให้นักเรียนเปน็ คนที่มสี ขุ ภาพแขง็ แรงทง้ั สุขภาพกายและ สุขภาพจิตทงั้ ยงั สรา้ งคนใหเ้ ป็นคนที่มนี ้าใจนักกีฬารจู้ กั การแพ้ชนะและการใหอ้ ภัยซ่งึ กนั และกนั ท้ังยังสามารถ สร้างช่อื เสียงให้กับตนเองและสถาบนั อีกด้วย เน้นวนิ ยั การมวี ินยั เปน็ นโยบายของโรงเรียน โดยเฉพาะวนิ ยั ในตนเอง ใหม้ คี วามรับผิดชอบทั้งต่อ ตนเอง ครอบครัว ชมุ ชนและสังคม ปฏบิ ัติตามกฎระเบยี บของโรงเรยี น ตลอดจนกฎระเบยี บของสังคม มี ความประพฤติและมารยาทดี สามารถดาเนินชีวติ กบั ผู้อ่ืนอยา่ งมีความสุข ใฝ่สะอาด การจัดสภาพแวดล้อมให้สะอาด สวยงาม นา่ ดู นา่ อยู่ น่ามอง เออื้ ต่อการเรยี นรูข้ องนกั เรยี น ทงั้ ภายในและภายนอกห้องเรียน โดยเนน้ ใหโ้ รงเรยี นสะอาดรม่ ร่ืนและสภาพแวดลอ้ มท่ีดีต่อสุขภาพของ นักเรยี น มาดคุณธรรม ความดีงามที่จะทาให้ผูถ้ ือปฏบิ ตั ิ มีเกียรติ มีศักด์ิศรี มีความสง่างาม ท้ังกายและท้ังใจ นาประชาธปิ ไตย เป็นแบบอยา่ งในการนาความรูท้ ี่ได้ไปเผยแพร่แก่ชุมชน ปรชั ญาของโรงเรียน สุวิชาโน ภว โหติ ผู้ร้ดู ี เปน็ ผเู้ จริญ อกั ษรย่อ “ อ.กส.” หลักสูตรกลมุ่ สาระการเรียนนร้ภู าษาไทย โรงเรียนอนุบาลกระสงั สพป.บรุ รี ัมย์ เขต ๒

๒๐ สว่ นท่ี ๒ โครงสรา้ งหลกั สูตรสถานศกึ ษา หลกั สูตรกลมุ่ สาระการเรยี นนรภู้ าษาไทย โรงเรียนอนบุ าลกระสงั สพป.บรุ รี มั ย์ เขต ๒

๒๑ สว่ นท่ี ๒ โครงสรา้ งหลักสตู รสถานศึกษา โครงสร้างหลักสตู รสถานศึกษาโรงเรียนอนุบาลกระสงั หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนอนุบาลกระสงั พุทธศักราช 256๕ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษา ขนั้ พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ไดก้ าหนดโครงสร้างของหลกั สูตรสถานศกึ ษา เพ่ือให้ผู้สอน และผู้ทีเ่ ก่ยี วขอ้ ง ในการจัดการเรียนรู้ตามหลักสตู รของสถานศกึ ษามีแนวปฏิบตั ิ ดังนี้ 1. ระดบั การศกึ ษา กาหนดหลกั สูตรเป็น 2 ระดบั ตามโครงสร้างของหลกั สูตรแกนกลางการศึกษา ขั้นพื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551 และตามภารกจิ หลักของการจดั การเรยี นการสอนในระดับประถมศกึ ษาและ มัธยมศึกษาตอนตน้ ของสถานศึกษา ดังน้ี 1.1 ระดับประถมศึกษา (ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 1 – 6) การศึกษาระดับนเ้ี ป็นชว่ งแรก ของการศึกษาภาคบังคับ มงุ่ เนน้ ทกั ษะพน้ื ฐานด้านการอา่ น การเขียน การคิดคานวณ ทักษะการคิดพืน้ ฐาน การติดต่อสื่อสาร กระบวนการเรียนรทู้ างสงั คม และพื้นฐานความเปน็ มนษุ ย์ การพัฒนาคณุ ภาพชวี ติ อย่าง สมบรู ณแ์ ละสมดลุ ทงั้ ในดา้ นร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ สงั คม และวฒั นธรรม โดยเนน้ จัดการเรยี นรู้แบบ บรู ณาการ 2.2 ระดับมธั ยมศึกษาตอนตน้ (ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1 – 3) เปน็ ช่วงสดุ ทา้ ยของการศึกษาภาค บังคบั มุ่งเนน้ ให้ผเู้ รียนไดส้ ารวจความถนดั และความสนใจของตนเอง สง่ เสริมการพัฒนาบุคลิกภาพสว่ นตน มี ทักษะในการคิดวิจารณญาณ คดิ สร้างสรรค์ และคิดแก้ปญั หา มที ักษะในการดาเนินชีวติ มที กั ษะการใช้ เทคโนโลยีเพอื่ เปน็ เคร่ืองมอื ในการเรยี นรู้ มีความรบั ผิดชอบตอ่ สังคม มคี วามสมดลุ ท้งั ด้านความรู้ ความคิด ความดงี าม และมีความภูมิใจในความเปน็ ไทย ตลอดจนใช้เป็นพ้นื ฐานในการประกอบอาชีพหรือการศกึ ษาต่อ 2. สาระการเรียนรู้ สาระการเรยี นรใู้ นหลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นอนุบาลกระสัง พุทธศักราช 25๖๕ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551 ไดก้ าหนดไว้ในหลกั สตู ร ประกอบดว้ ยองค์ความรู้ ทักษะหรอื กระบวนการเรียนรู้ และคณุ ลักษณะหรือคา่ นิยม คุณธรรม จริยธรรมของ ผเู้ รียน 8 กลุม่ คือ 2.1 ภาษาไทย 2.2 คณิตศาสตร์ 2.3 วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 2.4 สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม 2.5 สุขศกึ ษาและพลศึกษา 2.6 ศิลปะ 2.7 การงานอาชีพ 2.8 ภาษาองั กฤษ 3. กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี น กิจกรรมพัฒนาผ้เู รยี น มุ่งใหผ้ ู้เรยี นไดพ้ ฒั นาตนเองตามศักยภาพ พัฒนา อยา่ งรอบดา้ นเพอ่ื ความเปน็ มนษุ ยท์ ่ีสมบูรณ์ ทั้งรา่ งกาย สติปญั ญา อารมณ์ และสงั คม เสรมิ สรา้ งให้เป็นผูม้ ี ศลี ธรรม จริยธรรม มรี ะเบยี บวนิ ัย ปลกู ฝังและสรา้ งจติ สานึกของการทาประโยชนเ์ พื่อสังคม สามารถจัดการ ตนเองได้ และอยู่ร่วมกับผู้อน่ื อย่างมีความสขุ แบ่งเปน็ 3 ลักษณะ ดังนี้ หลักสูตรกลมุ่ สาระการเรียนนรู้ภาษาไทย โรงเรียนอนุบาลกระสงั สพป.บรุ ีรมั ย์ เขต ๒

๒๒ 3.1 กิจกรรมแนะแนว เปน็ กจิ กรรมทีส่ ่งเสรมิ และพัฒนาผูเ้ รียนใหร้ ู้จกั ตนเอง รรู้ ักษส์ ง่ิ แวดล้อม สามารถคดิ ตัดสินใจ คิดแก้ปัญหา กาหนดเปา้ หมาย วางแผนชวี ิตทงั้ ด้านการเรียน และ อาชีพ สามารถปรบั ตนได้อยา่ งเหมาะสม นอกจากนยี้ ังช่วยให้ครูรจู้ กั และเข้าใจผเู้ รยี น ท้ังยงั เปน็ กจิ กรรมที่ ชว่ ยเหลอื และให้คาปรึกษาแก่ผปู้ กครองในการมีสว่ นร่วมพัฒนาผเู้ รียน 3.2 กิจกรรมนกั เรียน เป็นกจิ กรรมท่ีมุ่งพฒั นาความมีระเบยี บวนิ ยั ความเปน็ ผู้นาผูต้ ามที่ดี ความ รับผดิ ชอบ การทางานร่วมกัน การรจู้ กั แกป้ ัญหา การตัดสนิ ใจท่เี หมาะสม ความมเี หตผุ ล การชว่ ยเหลือแบ่งปัน กัน เอ้ืออาทร และสมานฉันท์ โดยจัดใหส้ อดคล้องกบั ความสามารถ ความถนดั และความสนใจของผเู้ รยี น ให้ ไดป้ ฏบิ ตั ิด้วยตนเองในทุกขน้ั ตอน ได้แก่ การศกึ ษาวเิ คราะหว์ างแผน ปฏิบตั ิตามแผน ประเมนิ และปรับปรุง การทางาน เน้นการทางานร่วมกันเปน็ กลุ่ม ตามความเหมาะสมและสอดคล้องกับวุฒภิ าวะของผเู้ รียน บรบิ ท ของสถานศึกษาและท้องถิ่นกิจกรรมนักเรียนในหลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นอนุบาลกระสัง พทุ ธศักราช 25๖ 5 ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ประกอบดว้ ย 3.2.1 กิจกรรมลูกเสือ - เนตรนารี 3.2.2 กิจกรรมชมุ นมุ 3.3 กจิ กรรมเพอ่ื สังคมและสาธารณประโยชน์ เป็นกิจกรรมทส่ี ง่ เสรมิ ให้ผูเ้ รยี นบาเพ็ญตนให้ เปน็ ประโยชนต์ อ่ สงั คม ชุมชน และท้องถิ่นตามความสนใจในลกั ษณะอาสาสมัคร เพื่อแสดงถึงความรับผดิ ชอบ ความดงี าม ความเสียสละต่อสังคม มจี ติ สาธารณะ 4. เวลาเรยี น หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรยี นอนบุ าลกระสัง พทุ ธศักราช 25๖5 ตามหลักสตู ร แกนกลางการศึกษาขนั้ พื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ได้กาหนดกรอบโครงสรา้ งเวลาเรยี นข้นั ต่าสาหรับกลุ่ม สาระการเรียนรู้ 8 กลมุ่ และกิจกรรมพฒั นาผ้เู รียน ซ่ึงผสู้ อนสามารถเพิ่มเติมไดต้ ามความพรอ้ มและจุดเนน้ ของ สถานศึกษา โดยสามารถปรับให้เหมาะสมตามบรบิ ทของสถานศึกษาและสภาพของผู้เรยี น ดังน้ี 1. ระดับช้ันประถมศึกษา (ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 1 – 6) ใหจ้ ดั เวลาเรียนเปน็ รายปี โดยมเี วลา เรยี นวนั ละ ไมเ่ กนิ 5 ชั่วโมง 2. ระดับช้นั มัธยมศึกษาตอนต้น (ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 1 – 3) ให้จัดเวลาเรียนเปน็ รายภาค มเี วลาเรียน วนั ละไม่เกนิ 6 ชวั่ โมง คดิ น้าหนักของรายวชิ าท่ีเรียนเป็นหนว่ ยกิต ใชเ้ กณฑ์ 40 ชวั่ โมงต่อภาคเรียนมีค่าน้าหนกั วิชา เทา่ กบั 1 หนว่ ยกิต (นก.) หลกั สูตรกลมุ่ สาระการเรียนนร้ภู าษาไทย โรงเรยี นอนุบาลกระสงั สพป.บรุ ีรัมย์ เขต ๒

๒๓ โครงสรา้ งเวลาเรียน หลักสูตรโรงเรยี นอนบุ าลกระสงั พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๕ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ กาหนดโครงสรา้ งเวลาเรียน ดงั นี้ เวลาเรียน(ชวั่ โมง/ปี) กลุ่มสาระการเรียนร/ู้ กิจกรรม ระดับประถมศกึ ษา กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ป. ๑ ป. ๒ ป. ๓ ป. ๔ ป. ๕ ป. ๖ ภาษาไทย คณติ ศาสตร์ ๒๐๐ ๒๐๐ ๒๐๐ ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๖๐ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ๒๐๐ ๒๐๐ ๒๐๐ ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๖๐ สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ประวัติศาสตร์ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ สุขศกึ ษาและพลศึกษา ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ศิลปะ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ การงานอาชีพ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ภาษาต่างประเทศ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๒๐๐ ๒๐๐ ๒๐๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ รวมเวลาเรียน (พืน้ ฐาน) ๘๔๐ ๘๔๐ ๘๔๐ ๘๔๐ ๘๔๐ ๘๔๐ รายวชิ าเพิ่มเติม ๔0 ๔0 ๔0 ๔0 ๔0 ๔0 40 40 40 ภาษาพาเพลิน ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ การป้องกนั การทจุ ริต 40 40 การงานอาชพี ๑๒๐ 40 40 40 ภาษาอังกฤษเพื่อการส่ือสาร ๔๐ 40 40 40 ภาษาไทยน่ารู้ ๔๐ 40 ๑๒๐ ๑๒๐ กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๔๐ ๔๐ กจิ กรรมแนะแนว ๓๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ กิจกรรมลูกเสือ/เนตรนารี ๑๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ กิจกรรมนกั เรียน ๒๐๐ ๓๐ ๓๐ - กิจกรรมชุมนมุ ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๑๐ ๑๐ - กิจกรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์ ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๒๐๐ ๒๐๐ กิจกรรมลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ ๒๐๐ ๒๐๐ ๒๐๐ รวมเวลาเรยี นท้งั หมด ๑,๒๐๐ ช่ัวโมง/ปี จานวนช่ัวโมงทจี่ ัดให้นกั เรียนระดับประถมศึกษา ( ป.๑-ป.๓ ) เรยี นท้ังปเี ทา่ กับ๑,๒๐๐ชวั่ โมง ระดบั ชน้ั ประถมศึกษา ( ป.๔-ป.๖ ) เทา่ กับ๑,๒๐๐ชัว่ โมงแผนการเรียนรู้/จุดเนน้ การพฒั นาผ้เู รียนท่ีต้องการ เน้นเป็นพเิ ศษคือกล่มุ สาระการเรียนรู้ทักษะภาษาไทย คณิตศาสตร์ เพอื่ พัฒนาการอ่านออกเขียนได้ทกั ษะ หลกั สูตรกลมุ่ สาระการเรยี นนรภู้ าษาไทย โรงเรยี นอนบุ าลกระสงั สพป.บรุ รี ัมย์ เขต ๒

๒๔ กระบวนการทางคณติ ศาสตร์ คดิ วเิ คราะห์คิดสงั เคราะห์คดิ สรา้ งสรรคท์ ด่ี ีมปี ระโยชนม์ คี วามสนใจใฝร่ ู้ใฝเ่ รยี น โดยจัด การเรยี นการสอนและวัดผลประเมินผลเปน็ รายปี สาหรับนักเรียนช้ันประถมศึกษาปที ี่ ๑-๖ นนั้ จากการประเมนิ ผลระดับโรงเรียน ระดับท้องถน่ิ และ ระดบั ชาติ คณะกรรมการบริหารหลกั สตู ร คณะกรรมการสถานศกึ ษาข้ันพื้นฐาน มีมตริ ่วมกันใหจ้ ัดทาโครงการ สอนเสริมประสบการณ์พเิ ศษเพอ่ื เพ่มิ ศกั ยภาพนกั เรียนจานวนช่วั โมง ๘๐ ชัว่ โมง ตั้งแต่ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ -๖ โดยไมน่ าคะแนนและระดบั ผลการเรียน ในรายวชิ าสอนเสรมิ ไปคดิ รวมและตัดสนิ การเลอื่ นชั้นของ นกั เรียน ในโครงสรา้ งของหลักสูตรโรงเรยี นอนุบาลกระสัง พุทธศกั ราช ๒๕๖๕ มรี ายวชิ าและจานวนช่วั โมง ดังนี้ โครงการสอนเสริมประสบการณพ์ ิเศษเพอื่ เพิม่ ศักยภาพนักเรยี น ชัน้ ป.๑-๓ จานวน ๒ ชัว่ โมง / สัปดาห์ ๑. วชิ า ภาษาไทยคดิ วิเคราะห์ จานวน ๑ ช่วั โมง ๑ ชั่วโมง ๒. วิชา คณิตศาสตร์ จานวน โครงการสอนเสรมิ ประสบการณ์พิเศษเพ่อื เพิ่มศกั ยภาพนักเรียน ช้ัน ป.๔-๖ จานวน ๓ ชั่วโมง / สัปดาห์ ๑. วชิ า ภาษาองั กฤษเพ่ือการสื่อสาร จานวน ๑ ช่วั โมง ๑ ชั่วโมง ๒. วชิ า ภาษาไทยนา่ รู้ จานวน ๑ ชั่วโมง ๓. วชิ า คณิตศาสตร์ จานวน โครงสรา้ งหลักสตู รชัน้ ปี เป็นโครงสรา้ งทแ่ี สดงรายละเอียดเวลาเรยี นของรายวิชาพื้นฐาน รายวชิ า / กิจกรรม เพ่มิ เติมและกจิ กรรมพัฒนาผู้เรียนในแตล่ ะช้ันปี หมายเหตุ รายวิชาหน้าที่พลเมอื งบูรณาการกบั รายวิชาสังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม หลักสตู รกลมุ่ สาระการเรียนนรภู้ าษาไทย โรงเรียนอนบุ าลกระสัง สพป.บุรรี มั ย์ เขต ๒

๒๕ โครงสร้างเวลาเรียน หลกั สูตรโรงเรียนอนบุ าลกระสงั พุทธศกั ราช ๒๕๖๕ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนต้น กลุ่มสาระการเรียนร้/ู กจิ กรรม เวลาเรยี นระดับมัธยมศกึ ษาตอนตน้ ม. 3 ม. 1 ม. 2 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย 1๒๐ (๓.0 นก.) 1๔0 (๓.0 นก.) 1๒0 (๓.0 นก.) คณติ ศาสตร์ 120 (3.0 นก.) 120 (3.0 นก.) 120 (3.0 นก.) วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 120 (3.0 นก.) 120 (3.0 นก.) 120 (3.0 นก.) วิทยาการคานวณ 40 (1.0 นก.) 40 (1.0 นก.) 40 (1.0 นก.) สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม 120 (3.0 นก.) 120 (3.0 นก.) 120 (3.0 นก.) ประวัตศิ าสตร์ 40 (1.0 นก.) 40 (1.0 นก.) 40 (1.0 นก.) สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา 80 (2.0 นก.) 80 (2.0 นก.) 80 (2.0 นก.) ศลิ ปะ 80 (2.0 นก.) 80 (2.0 นก.) 80 (2.0 นก.) การงานอาชีพ 80 (2.0 นก.) 80 (2.0 นก.) 80 (2.0 นก.) ภาษาตา่ งประเทศ 120 (3.0 นก.) 120 (3.0 นก.) 120 (3.0 นก.) รวมเวลาเรยี น (พ้ืนฐาน) 880 (23.0 นก.) 880 (23.0 นก.) 880 (23.0 นก.) รายวชิ าเพิ่มเตมิ 200 (5.0 นก.) 200 (5.0 นก.) 200 (5.0 นก.) การป้องกันการทจุ รติ 40 (1.0 นก.) 40 (1.0 นก.) 40 (1.0 นก.) งานเกษตร ๘๐ (๒.0 นก.) ๘๐ (๒.๐นก.) ๘๐ (๒.๐นก.) คณิตศาสตร์ ๘๐ (๒.0 นก.) ๘๐ (๒.๐นก.) ๘๐ (๒.๐นก.) ภาษาไทย ๘๐ (๒.0 นก.) ๘๐ (๒.๐นก.) ๘๐ (๒.๐นก.) ภาษาอังกฤษ ๘๐ (๒.0 นก.) ๘๐ (๒.๐นก.) ๘๐ (๒.๐นก.) งานประดิษฐ์ 40 (1.0 นก.) 40 (1.0 นก.) 40 (1.0 นก.) การปลูกหัวผกั กาด 40 (1.0 นก.) 40 (1.0 นก.) 40 (1.0 นก.) การแปรรปู อาหาร(หวั ผักกาด) 40 (1.0 นก.) 40 (1.0 นก.) 40 (1.0 นก.) การหมกั หวั ผกั กาด 40 (1.0 นก.) 40 (1.0 นก.) 40 (1.0 นก.) การออกแบบและบรรจุผลิตภัณฑ์ 40 (1.0 นก.) 40 (1.0 นก.) 40 (1.0 นก.) การขายออนไลน์ 40 (1.0 นก.) 40 (1.0 นก.) 40 (1.0 นก.) การปลูกผัก 40 (1.0 นก.) 40 (1.0 นก.) 40 (1.0 นก.) กิจกรรมพฒั นาผู้เรียน ๓20 ๓20 ๓20 1. กิจกรรมแนะแนว 40 40 40 2. ลูกเสอื – เนตรนารี 40 40 40 3. กิจกรรมชมุ นมุ ๓0 ๓0 ๓0 4. กิจกรรมเพื่อสังคม ฯ ๑0 ๑0 ๑0 ๕. กจิ กรรมลดเวลาเรยี น เพ่ิมเวลารู้ ๒๐๐ ๒๐๐ ๒๐๐ รวมเวลาเรียนทง้ั หมด 1,๓20 1,๓20 1,๓20 หลักสูตรกลมุ่ สาระการเรียนนร้ภู าษาไทย โรงเรียนอนบุ าลกระสงั สพป.บรุ ีรมั ย์ เขต ๒

โครงสร้างหลกั สตู รชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ ๒๖ โรงเรยี นอนุบาลกระสัง เวลาเรียน รหัส กลมุ่ สาระการเรยี นรู/้ กิจกรรม (ชม./ป)ี (๘๔๐) รายวชิ าพน้ื ฐาน ๒๐๐ ท๑๑๑๐๑ ภาษาไทย ๑ ๒๐๐ ค๑๑๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๑ ว๑๑๑๐๑ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ๑ ๔๐ ส๑๑๑๐๑ สงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ๑ ๔๐ ส๑๑๑๐๒ ประวตั ิศาสตร์ ๑ ๔๐ พ๑๑๑๐๑ สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ๑ ๔๐ ศ๑๑๑๐๑ ศิลปะ ๑ ๔๐ ง๑๑๑๐๑ การงานอาชพี ๑ ๔๐ อ๑๑๑๐๑ ภาษาอังกฤษ ๑ ๒๐๐ รายวชิ าเพมิ่ เติม ๘๐ ท๑๑๒๐๑ ภาษาพาเพลนิ ๑ ๔๐ ส๑๑๒๐๑ การปอ้ งกนั การทจุ ริต 1 ๔๐ กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น (๑๒๐) ๔๐ กิจกรรมแนะแนว กิจกรรมนักเรยี น ๔๐ ๓๐ • ลูกเสอื เนตรนารี ๑๐ ๑๖๐ • ชุมนุม ๑,๒๐๐ กิจกรรมเพือ่ สงั คมและสาธารณะประโยชน์ กิจกรรมลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ ช่ัวโมง รวมเวลาเรยี นทง้ั สิน้ ช่ัวโมง โครงการสอนเสรมิ ประสบการณพ์ เิ ศษเพอื่ เพ่ิมศักยภาพนักเรียน ชั้น ป.๑ – ๓ จานวน ๒ ช่ัวโมง / สปั ดาห์ ๑. วชิ า ภาษาไทยคดิ วเิ คราะห์ จานวน ๑ ๒. วชิ า คณิตศาสตร์ จานวน ๑ ๓. รายวิชาหน้าท่ีพลเมืองบูรณาการกับรายวิชาสงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม หลักสตู รกลมุ่ สาระการเรียนนรภู้ าษาไทย โรงเรียนอนุบาลกระสัง สพป.บุรรี มั ย์ เขต ๒

๒๗ โครงสรา้ งหลกั สตู รชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๒ เวลาเรียน โรงเรียนอนบุ าลกระสัง (ชม./ป)ี (๘๔๐) รหัส กลุ่มสาระการเรยี นร/ู้ กจิ กรรม ๒๐๐ ๒๐๐ รายวชิ าพนื้ ฐาน ท๑๒๑๐๑ ภาษาไทย ๒ ๔๐ ค๑๒๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๒ ๔๐ ว๑๒๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๒ ๔๐ ส๑๒๑๐๑ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ๒ ๔๐ ส๑๒๑๐๒ ประวัตศิ าสตร์ ๒ ๔๐ พ๑๒๑๐๑ สุขศึกษาและพลศึกษา ๒ ๔๐ ศ๑๒๑๐๑ ศลิ ปะ ๒ ๒๐๐ ง๑๒๑๐๑ การงานอาชีพ ๒ ๘๐ อ๑๒๑๐๑ ภาษาอังกฤษ ๒ ๔๐ รายวชิ าเพ่ิมเติม ๔๐ ท๑๒๒๐๑ ภาษาพาเพลนิ ๒ (๑๒๐) ส๑๒๒๐๑ การป้องกนั การทุจริต ๒ ๔๐ กจิ กรรมพัฒนาผ้เู รียน ๔๐ กิจกรรมแนะแนว ๓๐ กจิ กรรมนักเรียน ๑๐ • ลูกเสอื เนตรนารี ๑๖๐ ๑,๒๐๐ • ชมุ นุม กิจกรรมเพ่อื สงั คมและสาธารณะประโยชน์ กจิ กรรมลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ รวมเวลาเรยี นทั้งส้ิน โครงการสอนเสริมประสบการณ์พเิ ศษเพ่ือเพิ่มศกั ยภาพนักเรียน ชั้น ป.๑ – ๓ จานวน ๒ ชว่ั โมง / สปั ดาห์ ๑. วิชา ภาษาไทยคดิ วิเคราะห์ จานวน ๑ ชัว่ โมง ช่ัวโมง ๒. วชิ า คณิตศาสตร์ จานวน ๑ ๓. รายวิชาหนา้ ทีพ่ ลเมอื งบูรณาการกบั รายวชิ าสงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม หลกั สูตรกลมุ่ สาระการเรียนนร้ภู าษาไทย โรงเรยี นอนบุ าลกระสัง สพป.บรุ ีรมั ย์ เขต ๒

๒๘ โครงสรา้ งหลักสตู รชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๓ เวลาเรียน โรงเรียนอนบุ าลกระสัง (ชม./ป)ี (๘๔๐) รหัส กลมุ่ สาระการเรยี นร/ู้ กจิ กรรม ๒๐๐ ๒๐๐ รายวชิ าพน้ื ฐาน ท๑๓๑๐๑ ภาษาไทย ๓ ๔๐ ค๑๓๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๓ ๔๐ ว๑๓๑๐๑ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๓ ๔๐ ส๑๓๑๐๑ สงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ๓ ๔๐ ส๑๓๑๐๒ ประวตั ิศาสตร์ ๓ ๔๐ พ๑๓๑๐๑ สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ๓ ๔๐ ศ๑๓๑๐๑ ศลิ ปะ ๓ ๒๐๐ ง๑๓๑๐๑ การงานอาชพี ๓ ๘๐ อ๑๓๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๓ ๔๐ รายวชิ าเพมิ่ เติม ๔๐ ท๑๓๒๐๑ ภาษาพาเพลิน ๓ (๑๒๐) ส๑๓๒๐๑ การปอ้ งกนั การทุจริต ๓ ๔๐ กจิ กรรมพฒั นาผ้เู รียน ๔๐ กิจกรรมแนะแนว ๓๐ กจิ กรรมนักเรียน ๑๐ • ลูกเสือเนตรนารี ๑๖๐ ๑,๒๐๐ • ชุมนมุ กจิ กรรมเพ่อื สงั คมและสาธารณะประโยชน์ กิจกรรมลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ รวมเวลาเรยี นท้ังสิน้ โครงการสอนเสรมิ ประสบการณพ์ เิ ศษเพอื่ เพิ่มศกั ยภาพนักเรยี น ชั้น ป.๑ – ๓ จานวน ๒ ชวั่ โมง / สัปดาห์ ๑. วชิ า ภาษาไทยคดิ วเิ คราะห์ จานวน ๑ ชัว่ โมง ช่ัวโมง ๒. วชิ า คณิตศาสตร์ จานวน ๑ ๓. รายวิชาหน้าท่ีพลเมืองบรู ณาการกับรายวชิ าสังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม หลกั สตู รกลมุ่ สาระการเรียนนร้ภู าษาไทย โรงเรยี นอนุบาลกระสัง สพป.บรุ ีรมั ย์ เขต ๒

๒๙ โครงสร้างหลกั สตู รชัน้ ประถมศึกษาปีที่ ๔ เวลาเรยี น โรงเรียนอนุบาลกระสัง (ชม./ป)ี (๘๔๐) รหสั กลมุ่ สาระการเรยี นร/ู้ กจิ กรรม ๑๖๐ ๑๖๐ รายวิชาพื้นฐาน ท๑๔๑๐๑ ภาษาไทย ๔ ๘๐ ค๑๔๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๔ ๘๐ ว๑๔๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๔ ๔๐ ส๑๔๑๐๑ สงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ๔ ๘๐ ส๑๔๑๐๒ ประวัตศิ าสตร์ ๔ ๘๐ พ๑๔๑๐๑ สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ๔ ๘๐ ศ๑๔๑๐๑ ศิลปะ ๔ ๘๐ ง๑๔๑๐๑ การงานอาชพี ๔ ๘๐ อ๑๔๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๔ ๔๐ รายวิชาเพ่มิ เติม ๔๐ ง๑๔๒๐๑ การงานอาชพี ๔ ๔๐ ส๑๔๒๐๑ การปอ้ งกนั การทุจริต ๔ ๔๐ อ๑๔๒๐๑ ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ๔ (๑๒๐) ท๑๔๒๐๑ ภาษาไทยนา่ รู้ ๔ ๔๐ กจิ กรรมพฒั นาผูเ้ รยี น ๔๐ กจิ กรรมแนะแนว ๓๐ กิจกรรมนักเรียน ๑๐ • ลูกเสอื เนตรนารี ๑๖๐ ๑,๒๐๐ • ชมุ นมุ กจิ กรรมเพือ่ สงั คมและสาธารณะประโยชน์ กิจกรรมลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ รวมเวลาเรยี นทัง้ สน้ิ โครงการสอนเสริมประสบการณพ์ ิเศษเพ่อื เพ่ิมศกั ยภาพนักเรียน ช้นั ป.๔-๖ จานวน ๓ ช่ัวโมง / สัปดาห์ ๑. วชิ า ภาษาไทยคดิ วเิ คราะห์ จานวน ๒ ช่ัวโมง ช่วั โมง ๒. วชิ า คณติ ศาสตร์ จานวน ๑ ๓. รายวิชาหน้าที่พลเมืองบูรณาการกับรายวิชาสงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม หลกั สูตรกลมุ่ สาระการเรยี นนรภู้ าษาไทย โรงเรยี นอนุบาลกระสัง สพป.บรุ รี มั ย์ เขต ๒

๓๐ โครงสรา้ งหลักสตู รชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๕ เวลาเรยี น โรงเรยี นอนบุ าลกระสัง (ชม./ป)ี (๘๔๐) รหสั กล่มุ สาระการเรยี นร้/ู กจิ กรรม ๑๖๐ ๑๖๐ รายวิชาพื้นฐาน ท๑๕๑๐๑ ภาษาไทย ๕ ๘๐ ค๑๕๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๕ ๘๐ ว๑๕๑๐๑ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ๕ ๔๐ ส๑๕๑๐๑ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ๕ ๘๐ ส๑๕๑๐๒ ประวัตศิ าสตร์ ๕ ๘๐ พ๑๕๑๐๑ สุขศึกษาและพลศึกษา ๕ ๘๐ ศ๑๕๑๐๑ ศลิ ปะ ๕ ๘๐ ง๑๕๑๐๑ การงานอาชพี ๕ ๘๐ อ๑๕๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๕ ๔๐ รายวิชาเพ่มิ เติม ๔๐ ง๑๕๒๐๑ การงานอาชพี ๕ ๔๐ ส๑๕๒๐๑ การป้องกนั การทุจรติ ๕ ๔๐ อ๑๕๒๐๑ ภาษาองั กฤษเพ่ือการสื่อสาร ๕ (๑๒๐) ท๑๕๒๐๑ ภาษาไทยน่ารู้ ๕ ๔๐ กจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี น ๔๐ กจิ กรรมแนะแนว ๓๐ กจิ กรรมนักเรยี น ๑๐ • ลูกเสอื เนตรนารี ๑๖๐ ๑,๒๐๐ • ชมุ นมุ กจิ กรรมเพอ่ื สังคมและสาธารณะประโยชน์ กิจกรรมลดเวลาเรยี นเพิ่มเวลารู้ รวมเวลาเรยี นท้งั สนิ้ โครงการสอนเสริมประสบการณ์พิเศษเพ่ือเพ่มิ ศกั ยภาพนักเรียน ช้นั ป.๔-๖ จานวน ๓ ชว่ั โมง / สัปดาห์ ๑. วชิ า ภาษาไทยคดิ วเิ คราะห์ จานวน ๒ ช่ัวโมง ชั่วโมง ๒. วชิ า คณติ ศาสตร์ จานวน ๑ ๓. รายวิชาหน้าที่พลเมืองบูรณาการกบั รายวชิ าสงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม หลกั สตู รกลมุ่ สาระการเรียนนรภู้ าษาไทย โรงเรียนอนุบาลกระสงั สพป.บุรรี มั ย์ เขต ๒

๓๑ โครงสรา้ งหลกั สตู รช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี ๖ เวลาเรยี น โรงเรยี นอนุบาลกระสัง (ชม./ป)ี (๘๔๐) รหัส กลุ่มสาระการเรยี นรู้/กจิ กรรม ๑๖๐ ๑๖๐ รายวชิ าพนื้ ฐาน ท๑๖๑๐๑ ภาษาไทย ๖ ๘๐ ค๑๖๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๖ ๘๐ ว๑๖๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๖ ๔๐ ส๑๖๑๐๑ สงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ๖ ๘๐ ส๑๖๑๐๒ ประวตั ิศาสตร์ ๖ ๘๐ พ๑๖๑๐๑ สุขศกึ ษาและพลศึกษา ๖ ๘๐ ศ๑๖๑๐๑ ศิลปะ ๖ ๘๐ ง๑๖๑๐๑ การงานอาชีพ ๖ ๘๐ อ๑๖๑๐๑ ภาษาอังกฤษ ๖ ๔๐ รายวิชาเพ่ิมเติม ๔๐ ง๑๖๒๐๑ การงานอาชพี ๖ ๔๐ ส๑๖๒๐๑ การปอ้ งกนั การทจุ ริต ๖ ๔๐ อ๑๖๒๐๑ ภาษาองั กฤษเพื่อการส่ือสาร ๖ (๑๒๐) ท๑๖๒๐๑ ภาษาไทยน่ารู้ ๖ ๔๐ กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี น ๔๐ กจิ กรรมแนะแนว ๓๐ กิจกรรมนักเรยี น ๑๐ • ลกู เสอื เนตรนารี ๑๖๐ ๑,๒๐๐ • ชุมนุม กจิ กรรมเพอื่ สังคมและสาธารณะประโยชน์ ๑ กจิ กรรมลดเวลาเรยี นเพ่ิมเวลารู้ รวมเวลาเรียนทัง้ สิ้น โครงการสอนเสรมิ ประสบการณ์พิเศษเพอื่ เพมิ่ ศักยภาพนักเรียน ชั้น ป.๔ – ๖ จานวน ๓ ช่วั โมง / สัปดาห์ ๑. วิชา ภาษาไทยคดิ วเิ คราะห์ จานวน ๒ ช่ัวโมง ช่วั โมง ๒. วชิ า คณิตศาสตร์ จานวน ๑ ๓. รายวิชาหนา้ ทพ่ี ลเมอื งบูรณาการกบั รายวชิ าสังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม หลักสตู รกลมุ่ สาระการเรียนนร้ภู าษาไทย โรงเรียนอนบุ าลกระสัง สพป.บรุ รี มั ย์ เขต ๒

๓๒ โครงสร้างหลักสตู รสถานศึกษา ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนตน้ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ภาคเรยี นท่ี ๒ รายวชิ า/กจิ กรรม เวลาเรียน รายวชิ า/กจิ กรรม เวลาเรียน (หนว่ ยกิต/ชม.) (หนว่ ยกติ /ชม.) รายวิชาพน้ื ฐาน ๑๑ (๔๔๐) รายวชิ าพน้ื ฐาน ๑๑ (๔๔๐) ท๒๑๑๐๑ ภาษาไทย ๑ ค๒๑๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๑ ๑.๕ (๖๐) ท๒๑๑๐๒ ภาษาไทย ๒ ๑.๕ (๖๐) ว๒๑๑๐๑ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ๑ ๑.๕ (๖๐) ค๒๑๑๐๒ คณติ ศาสตร์ ๒ ๑.๕ (๖๐) ว๒๑๑๐๒ วิทยาการคานวณ ๑ ๑.๕ (๖๐) ว๒๑๑๐๓ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ๒ ๑.๕ (๖๐) ส๒๑๑๐๑ สังคมศึกษา ๑ ๐.๕ (๒๐) ว๒๑๑๐๔ วทิ ยาการคานวณ ๒ ๐.๕ (๒๐) ส๒๑๑๐๒ ประวัตศิ าสตร์ ๑ ๑.๕ (๖๐) ส๒๑๑๐๓ สังคมศกึ ษา ๒ ๑.๕ (๖๐) พ๒๑๑๐๑ สขุ ศกึ ษาและพละศึกษา ๑ ๐.๕ (๒๐) ส๒๑๑๐๔ ประวัติศาสตร์ ๒ ๐.๕ (๒๐) ศ๒๑๑๐๑ ศลิ ปะ ๑ ๑.๐ (๔๐) พ๒๑๑๐๒ สุขศกึ ษาและพละศกึ ษา ๒ ๑.๐ (๔๐) ง๒๑๑๐๑ การงานอาชพี ๑ ๑.๐ (๔๐) ศ๒๑๑๐๒ ศลิ ปะ ๒ ๑.๐ (๔๐) อ๒๑๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๑ ๑.๐ (๔๐) ง๒๑๑๐๒ การงานอาชีพ ๒ ๑.๐ (๔๐) รายวิชาเพิ่มเติม ๑.๕ (๖๐) อ๒๑๑๐๒ ภาษาอังกฤษ ๒ ๑.๕ (๖๐) ส๒๑๒๐๑ การปอ้ งกันการทจุ รติ ๑ ๒.๕ (๑๐๐) รายวิชาเพ่ิมเตมิ ๒.๕ (๑๐๐) ง๒๑๒๐๑ งานประดิษฐ์ ๑ ๐.๕ (๒๐) ส๒๑๒๐๒ การป้องกันการทุจรติ ๒ ๐.๕ (๒๐) ง๒๑๒๐๓ การปลูกหวั ผักกาด ๐.๕ (๒๐) ง๒๑๒๐๒ งานประดิษฐ์ ๒ ๐.๕ (๒๐) กจิ กรรมพฒั นาผูเ้ รียน ๑.๐ (๔๐) ง๒๑๒๐๔ การแปรรปู อาหาร (หัวผักกาด) ๑.๐ (๔๐) ๑. แนะแนว กิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น ๒. ลกู เสอื -เนตรนารี ๖๐ ๑. แนะแนว ๖๐ ๓. กิจกรรมชมุ นุม ๒๐ ๒. ลกู เสอื -เนตรนารี ๒๐ ๔. กิจกรรมเพ่ือสังคมและสาธารณะ ๒๐ ๓. กจิ กรรมชุมนุม ๒๐ ประโยชน์ ๑๕ ๔. กิจกรรมเพ่อื สงั คมและสาธารณะ ๑๕ กิจกรรมลดเวลาเรียนเพม่ิ เวลารู้ ๕ ประโยชน์ ๕ กิจกรรมลดเวลาเรียนเพม่ิ เวลารู้ รวมเวลาเรยี นภาค ๑ ๑๐๐ ๑๐๐ ๗๐๐ รวมเวลาเรยี นภาค ๒ ๗๐๐ *หมายเหตุ - ผเู้ รยี นทากจิ กรรมเพ่ือสงั คมและสาธารณประโยชนใ์ นกจิ กรรมลกู เสือ-เนตรนารแี ละชมุ นุม - รายวิชาหนา้ ทพ่ี ลเมืองบรู ณาการกบั รายวชิ าสงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม หลกั สูตรกลมุ่ สาระการเรียนนรูภ้ าษาไทย โรงเรยี นอนบุ าลกระสงั สพป.บุรรี ัมย์ เขต ๒

๓๓ โครงสรา้ งหลกั สตู รสถานศึกษา ระดับมัธยมศกึ ษาตอนตน้ ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๒ ภาคเรียนท่ี ๑ ภาคเรียนท่ี ๒ รายวชิ า/กจิ กรรม เวลาเรียน รายวิชา/กจิ กรรม เวลาเรียน (หน่วยกติ /ชม.) (หนว่ ยกติ /ชม.) รายวิชาพน้ื ฐาน ๑๑ (๔๔๐) รายวชิ าพืน้ ฐาน ๑๑ (๔๔๐) ท๒๒๑๐๑ ภาษาไทย ๓ ๑.๕ (๖๐) ท๒๒๑๐๒ ภาษาไทย ๔ ๑.๕ (๖๐) ค๒๒๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๓ ๑.๕ (๖๐) ค๒๒๑๐๒ คณติ ศาสตร์ ๔ ๑.๕ (๖๐) ว๒๒๑๐๑ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๓ ๑.๕ (๖๐) ว๒๒๑๐๓ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ๔ ๑.๕ (๖๐) ว๒๒๑๐๒ วทิ ยาการคานวณ ๓ ๐.๕ (๒๐) ว๒๒๑๐๔ วทิ ยาการคานวณ ๔ ๐.๕ (๒๐) ส๒๒๑๐๑ สงั คมศกึ ษา ๓ ๒.๐ (๘๐) ส๒๒๑๐๓ สงั คมศกึ ษา ๔ ๒.๐ (๘๐) ส๒๒๑๐๒ ประวัตศิ าสตร์ ๓ ๐.๕ (๒๐) ส๒๒๑๐๔ ประวตั ิศาสตร์ ๔ ๐.๕ (๒๐) พ๒๒๑๐๑ สุขศึกษาและพลศึกษา ๓ ๑.๐ (๔๐) พ๒๒๑๐๒ สุขศกึ ษาและพลศึกษา ๔ ๑.๐ (๔๐) ศ๒๒๑๐๑ ศลิ ปะ ๓ ๑.๐ (๔๐) ศ๒๒๑๐๒ ศลิ ปะ ๔ ๑.๐ (๔๐) ง๒๒๑๐๑ การงานอาชีพ ๓ ๑.๐ (๔๐) ง๒๒๑๐๓ การงานอาชีพ ๔ ๑.๐ (๔๐) อ๒๒๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๓ ๑.๕ (๖๐) อ๒๒๑๐๒ ภาษาอังกฤษ ๔ ๑.๕ (๖๐) รายวชิ าเพิม่ เตมิ ๒.๕ (๑๐๐) รายวชิ าเพมิ่ เตมิ ๒.๕ (๑๐๐) ส๒๒๒๐๑ การปอ้ งกนั การทุจรติ ๓ ๐.๕ (๒๐) ส๒๒๒๐๒ การปอ้ งกนั การทุจรติ ๔ ๐.๕ (๒๐) ง๒๒๒๐๑ งานประดิษฐ์ (ใบตอง) ๐.๕ (๒๐) ง๒๒๒๐๒ งานประดษิ ฐ(์ กระถางต้นไม)้ ๐.๕ (๒๐) ง๒๒๒๐๓ การหมักหวั ผักกาด ๑.๐ (๔๐) ง๒๒๒๐๔ การบรรจผุ ลิตภณั ฑ์ ๑.๐ (๔๐) กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน กจิ กรรมพฒั นาผ้เู รียน ๑. แนะแนว ๖๐ ๑. แนะแนว ๖๐ ๒. ลกู เสอื -เนตรนารี ๒๐ ๒. ลกู เสอื -เนตรนารี ๒๐ ๓. กิจกรรมชมุ นุม ๒๐ ๓. กิจกรรมชมุ นมุ ๒๐ ๔. กจิ กรรมเพอ่ื สงั คมและสาธารณะ ๑๕ ๔. กจิ กรรมเพอื่ สังคมและสาธารณะ ๑๕ ประโยชน์ ประโยชน์ กจิ กรรมลดเวลาเรียนเพม่ิ เวลารู้ ๕ กิจกรรมลดเวลาเรยี นเพมิ่ เวลารู้ ๕ รวมเวลาเรียนภาค ๑ รวมเวลาเรยี นภาค ๒ ๑๐๐ ๑๐๐ ๗๐๐ ๗๐๐ *หมายเหตุ - ผ้เู รยี นทากจิ กรรมเพ่อื สงั คมและสาธารณประโยชน์ในกิจกรรมลกู เสอื -เนตรนารแี ละชุมนมุ - รายวชิ าหนา้ ท่พี ลเมอื งบรู ณาการกบั รายวชิ าสงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม หลักสตู รกลมุ่ สาระการเรยี นนร้ภู าษาไทย โรงเรียนอนุบาลกระสัง สพป.บรุ ีรมั ย์ เขต ๒

๓๔ โครงสร้างหลักสตู รสถานศึกษา ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนต้น ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี ๓ ภาคเรียนที่ ๑ ภาคเรยี นที่ ๒ รายวชิ า/กจิ กรรม เวลาเรยี น รายวิชา/กจิ กรรม เวลาเรยี น (หนว่ ยกติ /ชม.) (หนว่ ยกิต/ชม.) รายวชิ าพ้ืนฐาน ๑๑ (๔๔๐) รายวิชาพ้ืนฐาน ๑๑ (๔๔๐) ท๒๓๑๐๑ ภาษาไทย ๕ ค๒๓๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๕ ๑.๕ (๖๐) ท๒๓๑๐๒ ภาษาไทย ๖ ๑.๕ (๖๐) ว๒๓๑๐๑ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ๕ ๑.๕ (๖๐) ค๒๓๑๐๒ คณติ ศาสตร์ ๖ ๑.๕ (๖๐) ว๒๓๑๐๒ วิทยาการคานวณ ๕ ๑.๕ (๖๐) ว๒๓๑๐๓ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๖ ๑.๕ (๖๐) ส๒๓๑๐๑ สงั คมศึกษา ๕ ๐.๕ (๒๐) ว๒๓๑๐๔ วิทยาการคานวณ ๖ ๐.๕ (๒๐) ส๒๓๑๐๒ ประวัตศิ าสตร์ ๕ ๒.๐ (๘๐) ส๒๓๑๐๓ สังคมศกึ ษา ๖ ๒.๐ (๘๐) พ๒๓๑๐๑ สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ๕ ๐.๕ (๒๐) ส๒๓๑๐๔ ประวตั ิศาสตร์ ๖ ๐.๕ (๒๐) ศ๒๓๑๐๑ ศลิ ปะ ๕ ๑.๐ (๔๐) พ๒๓๑๐๒ สุขศึกษาและพลศกึ ษา ๖ ๑.๐ (๔๐) ง๒๓๑๐๑ การงานอาชพี ๕ ๑.๐ (๔๐) ศ๒๓๑๐๒ ศิลปะ ๖ ๑.๐ (๔๐) อ๒๓๑๐๑ ภาษาอังกฤษ ๕ ๑.๐ (๔๐) ง๒๓๑๐๓ การงานอาชีพ ๖ ๑.๐ (๔๐) รายวิชาเพิม่ เตมิ ๑.๕ (๖๐) อ๒๓๑๐๒ ภาษาอังกฤษ ๖ ๑.๕ (๖๐) ส๒๓๒๐๑ การป้องกันการทุจรติ ๕ ๒.๕ (๑๐๐) รายวชิ าเพิม่ เตมิ ๒.๕ (๑๐๐) ง๒๓๒๐๑ งานประดิษฐ์ (เยบ็ ผา้ ) ๐.๕ (๒๐) ส๒๒๒๐๒ การป้องกนั การทุจรติ ๖ ๐.๕ (๒๐) ง๒๓๒๐๓ การขายออนไลน์ ๐.๕ (๒๐) ง๒๒๒๐๒ งานประดิษฐ์ (เหรียญโปรยทาน) ๐.๕ (๒๐) กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียน ๑.๐ (๔๐) ง๒๓๒๐๔ การปลูกผกั ๑.๐ (๔๐) ๑. แนะแนว กจิ กรรมพฒั นาผ้เู รียน ๒. ลูกเสือ-เนตรนารี ๖๐ ๑. แนะแนว ๖๐ ๓. กจิ กรรมชมุ นมุ ๒๐ ๒. ลูกเสอื -เนตรนารี ๒๐ ๔. กจิ กรรมเพ่อื สงั คมและสาธารณะ ๒๐ ๓. กิจกรรมชุมนมุ ๒๐ ประโยชน์ ๑๕ ๔. กิจกรรมเพอ่ื สังคมและสาธารณะ ๑๕ กิจกรรมลดเวลาเรียนเพม่ิ เวลารู้ ประโยชน์ ๕ รวมเวลาเรียนภาค ๑ ๕ กจิ กรรมลดเวลาเรยี นเพม่ิ เวลารู้ รวมเวลาเรียนภาค ๒ ๑๐๐ ๑๐๐ ๗๐๐ ๗๐๐ *หมายเหตุ - ผูเ้ รยี นทากิจกรรมเพือ่ สังคมและสาธารณประโยชน์ในกิจกรรมลูกเสือ-เนตรนารแี ละชมุ นมุ - รายวชิ าหนา้ ทีพ่ ลเมอื งบูรณาการกบั รายวชิ าสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม หลกั สูตรกลมุ่ สาระการเรียนนรู้ภาษาไทย โรงเรียนอนบุ าลกระสัง สพป.บรุ รี มั ย์ เขต ๒

๓๕ รายวิชาของโรงเรียนอนุบาลกระสัง รายวชิ าพนื้ ฐานและเพิ่มเตมิ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ระดบั ประถมศึกษา รายวชิ าพื้นฐาน จานวน ๒๐๐ ชวั่ โมง ท๑๑๑๐๑ ภาษาไทย ๑ จานวน ๒๐๐ ชวั่ โมง ท๑๒๑๐๑ ภาษาไทย ๒ จานวน ๒๐๐ ชว่ั โมง ท๑๓๑๐๑ ภาษาไทย ๓ จานวน ๑๖๐ ชว่ั โมง ท๑๔๑๐๑ ภาษาไทย ๔ จานวน ๑๖๐ ชวั่ โมง ท๑๕๑๐๑ ภาษาไทย ๕ จานวน ๑๖๐ ชวั่ โมง ท๑๖๑๐๑ ภาษาไทย ๖ จานวน ๔๐ ชว่ั โมง รายวิชาเพิม่ เติม จานวน ๔๐ ชว่ั โมง ท๑๑๒๐๑ ภาษาพาเพลนิ ๑ จานวน ๔๐ ชว่ั โมง ท๑๒๒๐๑ ภาษาพาเพลิน ๒ จานวน ๔๐ ช่วั โมง ท๑๓๒๐๑ ภาษาพาเพลนิ ๓ จานวน ๔๐ ช่ัวโมง ท๑๔๒๐๑ ภาษาไทยน่ารู้ ๔ จานวน ๔๐ ช่วั โมง ท๑๕๒๐๑ ภาษาไทยน่ารู้ ๕ ท๑๖๒๐๑ ภาษาไทยนา่ รู้ ๖ ระดับมัธยมศึกษา รายวชิ าพนื้ ฐาน จานวน ๖๐ ชั่วโมง ๑.๕ หน่วยกติ ท๒๑๑๐๑ ภาษาไทย ๑ จานวน ๖๐ ช่วั โมง ๑.๕ หน่วยกติ ท๒๑๑๐๒ ภาษาไทย ๒ จานวน ๖๐ ช่วั โมง ๑.๕ หนว่ ยกติ ท๒๒๑๐๑ ภาษาไทย ๓ จานวน ๖๐ ชว่ั โมง ๑.๕ หน่วยกิต ท๒๒๑๐๒ ภาษาไทย ๔ จานวน ๖๐ ชวั่ โมง ๑.๕ หน่วยกิต ท๒๓๑๐๑ ภาษาไทย ๕ จานวน ๖๐ ชว่ั โมง ๑.๕ หนว่ ยกิต ท๒๓๑๐๒ ภาษาไทย ๖ จานวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หน่วยกิต รายวิชาเพม่ิ เติม จานวน ๔๐ ชั่วโมง ๑.๐ หนว่ ยกิต ท๒๑๒๐๑ ภาษาไทย ๑ จานวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หนว่ ยกติ ท๒๑๒๐๒ ภาษาไทย ๒ จานวน ๔๐ ชั่วโมง ๑.๐ หน่วยกิต ท๒๒๒๐๑ ภาษาไทย ๓ จานวน ๔๐ ชั่วโมง ๑.๐ หน่วยกติ ท๒๒๒๐๒ ภาษาไทย ๔ จานวน ๔๐ ช่วั โมง ๑.๐ หนว่ ยกติ ท๒๓๒๐๑ ภาษาไทย ๕ ท๒๓๒๐๒ ภาษาไทย ๖ หลักสตู รกลมุ่ สาระการเรยี นนรภู้ าษาไทย โรงเรยี นอนบุ าลกระสงั สพป.บุรีรมั ย์ เขต ๒

๓๖ รายวิชาพนื้ ฐานและเพ่ิมเติม กล่มุ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ ระดับประถมศึกษา รายวชิ าพ้นื ฐาน จานวน ๒๐๐ ชว่ั โมง ค๑๑๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๑ จานวน ๒๐๐ ชว่ั โมง ค๑๒๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๒ จานวน ๒๐๐ ชวั่ โมง ค๑๓๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๓ จานวน ๑๖๐ ชวั่ โมง ค๑๔๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๔ จานวน ๑๖๐ ชวั่ โมง ค๑๕๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๕ จานวน ๑๖๐ ชว่ั โมง ค๑๖๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๖ ระดับมธั ยมศึกษาตอนต้น รายวิชาพ้ืนฐาน จานวน ๖๐ ช่ัวโมง ๑.๕ หนว่ ยกติ ค๒๑๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๑ จานวน ๖๐ ช่ัวโมง ๑.๕ หน่วยกติ ค๒๑๑๐๒ คณิตศาสตร์ ๒ จานวน ๖๐ ชว่ั โมง ๑.๕ หน่วยกิต ค๒๒๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๓ จานวน ๖๐ ชว่ั โมง ๑.๕ หนว่ ยกิต ค๒๒๑๐๒ คณิตศาสตร์ ๔ จานวน ๖๐ ชว่ั โมง ๑.๕ หน่วยกิต ค๒๓๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๕ จานวน ๖๐ ชว่ั โมง ๑.๕ หนว่ ยกิต ค๒๓๑๐๒ คณิตศาสตร์ ๖ รายวชิ าเพ่มิ เติม จานวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หน่วยกติ ค๒๑๒๐๑ คณติ ศาสตร์ ๑ จานวน ๔๐ ชัว่ โมง ๑.๐ หน่วยกติ ค๒๑๒๐๒ คณิตศาสตร์ ๒ จานวน ๔๐ ชัว่ โมง ๑.๐ หน่วยกิต ค๒๒๒๐๑ คณติ ศาสตร์ ๓ จานวน ๔๐ ชวั่ โมง ๑.๐ หนว่ ยกิต ค๒๒๒๐๒ คณติ ศาสตร์ ๔ จานวน ๔๐ ชั่วโมง ๑.๐ หน่วยกิต ค๒๓๒๐๑ คณิตศาสตร์ ๕ จานวน ๔๐ ชัว่ โมง ๑.๐ หนว่ ยกิต ค๒๓๒๐๒ คณติ ศาสตร์ ๖ **************** หลักสตู รกลมุ่ สาระการเรียนนรู้ภาษาไทย โรงเรียนอนุบาลกระสงั สพป.บุรีรัมย์ เขต ๒

๓๗ รายวชิ าพ้ืนฐานและเพิ่มเตมิ กล่มุ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ระดับประถมศกึ ษา รายวิชาพน้ื ฐาน จานวน ๔๐ ชว่ั โมง ว๑๑๑๐๑ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ๑ จานวน ๔๐ ชว่ั โมง ว๑๒๑๐๑ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ๒ จานวน ๔๐ ชวั่ โมง ว๑๓๑๐๑ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ๓ จานวน ๘๐ ชั่วโมง ว๑๔๑๐๑ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ๔ จานวน ๘๐ ชั่วโมง ว๑๕๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๕ จานวน ๘๐ ชั่วโมง ว๑๖๑๐๑ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ๖ ระดบั มธั ยมศึกษาตอนต้น รายวิชาพื้นฐาน จานวน ๖๐ ชว่ั โมง ๑.๕ หน่วยกติ ว๒๑๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๑ จานวน ๖๐ ชว่ั โมง ๑.๕ หนว่ ยกิต ว๒๑๑๐๓ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ๒ จานวน ๖๐ ชั่วโมง ๑.๕ หน่วยกิต ว๒๒๑๐๑ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ๓ จานวน ๖๐ ชวั่ โมง ๑.๕ หนว่ ยกิต ว๒๒๑๐๓ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ๔ จานวน ๖๐ ชว่ั โมง ๑.๕ หนว่ ยกติ ว๒๓๑๐๑ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ๕ จานวน ๖๐ ชวั่ โมง ๑.๕ หนว่ ยกติ ว๒๓๑๐๓ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ๖ รายวิชาพน้ื ฐาน จานวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หนว่ ยกติ ว๒๑๑๐๒ วิทยาการคานวณ ๑ จานวน ๔๐ ชวั่ โมง ๑.๐ หน่วยกิต ว๒๑๑๐๔ วิทยาการคานวณ ๒ จานวน ๔๐ ชั่วโมง ๑.๐ หน่วยกติ ว๒๒๑๐๒ วิทยาการคานวณ ๓ จานวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หนว่ ยกติ ว๒๒๑๐๔ วิทยาการคานวณ ๔ จานวน ๔๐ ชั่วโมง ๑.๐ หน่วยกติ ว๒๓๑๐๒ วิทยาการคานวณ ๕ จานวน ๔๐ ชั่วโมง ๑.๐ หน่วยกิต ว๒๓๑๐๔ วิทยาการคานวณ ๖ **************** หลักสูตรกลมุ่ สาระการเรยี นนรู้ภาษาไทย โรงเรยี นอนบุ าลกระสัง สพป.บรุ รี มั ย์ เขต ๒

๓๘ รายวชิ าพ้ืนฐานและเพิ่มเติม กล่มุ สาระการเรียนรู้สังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม ระดบั ประถมศึกษา รายวชิ าพ้นื ฐาน จานวน ๔๐ ชวั่ โมง ส๑๑๑๐๑ สังคมศกึ ษาฯ ๑ จานวน ๔๐ ชวั่ โมง ส๑๒๑๐๑ สงั คมศึกษาฯ ๒ จานวน ๔๐ ชว่ั โมง ส๑๓๑๐๑ สงั คมศึกษาฯ ๓ จานวน ๘๐ ชวั่ โมง ส๑๔๑๐๑ สังคมศึกษาฯ ๔ จานวน ๘๐ ชว่ั โมง ส๑๕๑๐๑ สงั คมศึกษาฯ ๕ จานวน ๘๐ ชว่ั โมง ส๑๖๑๐๑ สงั คมศกึ ษาฯ ๖ จานวน ๔๐ ชว่ั โมง ส๑๑๑๐๒ ประวัตศิ าสตร์ ๑ จานวน ๔๐ ชวั่ โมง ส๑๒๑๐๒ ประวัติศาสตร์ ๒ จานวน ๔๐ ชว่ั โมง ส๑๓๑๐๒ ประวัติศาสตร์ ๓ จานวน ๔๐ ชวั่ โมง ส๑๔๑๐๒ ประวัตศิ าสตร์ ๔ จานวน ๔๐ ชวั่ โมง ส๑๕๑๐๒ ประวัติศาสตร์ ๕ จานวน ๔๐ ชว่ั โมง ส๑๖๑๐๒ ประวัตศิ าสตร์ ๖ รายวิชาเพมิ่ เติม จานวน ๔๐ ชัว่ โมง ส๑๑๒๐๑ การปอ้ งกนั การทุจริต ๑ จานวน ๔๐ ชัว่ โมง ส๑๒๒๐๑ การป้องกนั การทุจริต ๒ จานวน ๔๐ ชั่วโมง ส๑๓๒๐๑ การปอ้ งกันการทุจริต ๓ จานวน ๔๐ ชว่ั โมง ส๑๔๒๐๑ การป้องกนั การทุจรติ ๔ จานวน ๔๐ ช่ัวโมง ส๑๕๒๐๑ การป้องกันการทุจรติ ๕ จานวน ๔๐ ชัว่ โมง ส๑๖๒๐๑ การปอ้ งกันการทุจรติ ๖ หลกั สูตรกลมุ่ สาระการเรียนนรู้ภาษาไทย โรงเรยี นอนุบาลกระสงั สพป.บุรรี มั ย์ เขต ๒

๓๙ รายวชิ าพนื้ ฐานและเพิ่มเตมิ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ระดับมัธยมศกึ ษาตอนตน้ รายวิชาพื้นฐาน จานวน ๖๐ ชั่วโมง ๑.๕ หน่วยกติ ส๒๑๑๐๑ สงั คมศกึ ษาฯ ๑ จานวน ๖๐ ชว่ั โมง ๑.๕ หน่วยกติ ส๒๑๑๐๓ สังคมศึกษาฯ ๒ จานวน ๖๐ ชว่ั โมง ๑.๕ หน่วยกติ ส๒๒๑๐๑ สงั คมศึกษาฯ ๓ จานวน ๖๐ ช่วั โมง ๑.๕ หนว่ ยกติ ส๒๒๑๐๓ สงั คมศึกษาฯ ๔ จานวน ๖๐ ช่ัวโมง ๑.๕ หนว่ ยกติ ส๒๓๑๐๑ สังคมศึกษาฯ ๕ จานวน ๖๐ ชว่ั โมง ๑.๕ หน่วยกติ ส๒๓๑๐๓ สังคมศกึ ษาฯ ๖ จานวน ๒๐ ชั่วโมง ๐.๕ หน่วยกิต ส๒๑๑๐๒ ประวตั ิศาสตร์ ๑ จานวน ๒๐ ชั่วโมง ๐.๕ หน่วยกิต ส๒๑๑๐๔ ประวัติศาสตร์ ๒ จานวน ๒๐ ชว่ั โมง ๐.๕ หน่วยกิต ส๒๒๑๐๒ ประวตั ิศาสตร์ ๓ จานวน ๒๐ ชวั่ โมง ๐.๕ หนว่ ยกิต ส๒๒๑๐๔ ประวตั ิศาสตร์ ๔ จานวน ๒๐ ชว่ั โมง ๐.๕ หน่วยกิต ส๒๓๑๐๒ ประวัตศิ าสตร์ ๕ จานวน ๒๐ ชว่ั โมง ๐.๕ หนว่ ยกิต ส๒๓๑๐๔ ประวัตศิ าสตร์ ๖ รายวชิ าเพิ่มเติม จานวน ๖๐ ชั่วโมง ๑.๕ หน่วยกิต ส๒๑๒๐๑ การปอ้ งกนั การทุจริต ๑ จานวน ๖๐ ชว่ั โมง ๑.๕ หน่วยกิต ส๒๑๒๐๒ การป้องกันการทุจริต ๒ จานวน ๖๐ ชว่ั โมง ๑.๕ หนว่ ยกิต ส๒๒๒๐๑ การป้องกนั การทุจรติ ๓ จานวน ๖๐ ชั่วโมง ๑.๕ หนว่ ยกิต ส๒๒๒๐๒ การป้องกนั การทุจรติ ๔ จานวน ๖๐ ชั่วโมง ๑.๕ หน่วยกติ ส๒๓๒๐๑ การปอ้ งกันการทุจริต ๕ จานวน ๖๐ ชั่วโมง ๑.๕ หนว่ ยกิต ส๒๓๒๐๒ การปอ้ งกันการทุจริต ๖ **************** หลักสตู รกลมุ่ สาระการเรยี นนรภู้ าษาไทย โรงเรยี นอนบุ าลกระสัง สพป.บรุ รี มั ย์ เขต ๒

๔๐ รายวชิ าพ้นื ฐานและเพ่ิมเตมิ กลมุ่ สาระการเรียนรู้สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา ระดับประถมศึกษา รายวชิ าพน้ื ฐาน จานวน ๔๐ ช่วั โมง พ๑๑๑๐๑ สุขศกึ ษาฯ ๑ จานวน ๔๐ ชว่ั โมง พ๑๒๑๐๑ สขุ ศึกษาฯ ๒ จานวน ๔๐ ชวั่ โมง พ๑๓๑๐๑ สุขศกึ ษาฯ ๓ จานวน ๘๐ ชวั่ โมง พ๑๔๑๐๑ สุขศึกษาฯ ๔ จานวน ๘๐ ชว่ั โมง พ๑๕๑๐๑ สุขศกึ ษาฯ ๕ จานวน ๘๐ ชว่ั โมง พ๑๖๑๐๑ สุขศึกษาฯ ๖ ระดบั มัธยมศึกษาตอนตน้ รายวิชาพน้ื ฐาน จานวน ๔๐ ช่ัวโมง ๑.๐ หน่วยกิต พ๒๑๑๐๑ สขุ ศึกษาฯ ๑ จานวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หนว่ ยกติ พ๒๑๑๐๒ สขุ ศกึ ษาฯ ๒ จานวน ๔๐ ชั่วโมง ๑.๐ หน่วยกติ พ๒๒๑๐๑ สุขศึกษาฯ ๓ จานวน ๔๐ ช่ัวโมง ๑.๐ หนว่ ยกติ พ๒๒๑๐๒ สขุ ศึกษาฯ ๔ จานวน ๔๐ ช่วั โมง ๑.๐ หน่วยกติ พ๒๓๑๐๑ สุขศึกษาฯ ๕ จานวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หนว่ ยกติ พ๒๓๑๐๒ สขุ ศกึ ษาฯ ๖ **************** หลกั สูตรกลมุ่ สาระการเรียนนรู้ภาษาไทย โรงเรียนอนบุ าลกระสัง สพป.บรุ ีรัมย์ เขต ๒

๔๑ รายวิชาพื้นฐานและเพิ่มเติม กล่มุ สาระการเรียนรศู้ ิลปะ ระดับประถมศึกษา รายวชิ าพ้ืนฐาน จานวน ๔๐ ชวั่ โมง ศ๑๑๑๐๑ ศลิ ปะ ๑ จานวน ๔๐ ชว่ั โมง ศ๑๒๑๐๑ ศิลปะ ๒ จานวน ๔๐ ชวั่ โมง ศ๑๓๑๐๑ ศิลปะ ๓ จานวน ๘๐ ชั่วโมง ศ๑๔๑๐๑ ศิลปะ ๔ จานวน ๘๐ ชว่ั โมง ศ๑๕๑๐๑ ศิลปะ ๕ จานวน ๘๐ ชั่วโมง ศ๑๖๑๐๑ ศิลปะ ๖ ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ รายวิชาพนื้ ฐาน จานวน ๔๐ ช่วั โมง ๑.๐ หนว่ ยกติ ศ๒๑๑๐๑ ศลิ ปะ ๑ จานวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หน่วยกิต ศ๒๑๑๐๒ ศิลปะ ๒ จานวน ๔๐ ชั่วโมง ๑.๐ หนว่ ยกิต ศ๒๒๑๐๑ ศลิ ปะ ๓ จานวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หน่วยกติ ศ๒๒๑๐๒ ศิลปะ ๔ จานวน ๔๐ ช่ัวโมง ๑.๐ หนว่ ยกติ ศ๒๓๑๐๑ ศิลปะ ๕ จานวน ๔๐ ชั่วโมง ๑.๐ หนว่ ยกิต ศ๒๓๑๐๒ ศิลปะ ๖ **************** หลกั สตู รกลมุ่ สาระการเรยี นนรู้ภาษาไทย โรงเรียนอนุบาลกระสงั สพป.บรุ ีรัมย์ เขต ๒

๔๒ รายวิชาพ้นื ฐานและเพิ่มเตมิ กล่มุ สาระการเรียนร้กู ารงานอาชีพ ระดบั ประถมศึกษา รายวิชาพ้ืนฐาน ง๑๑๑๐๑ การงานอาชีพ ๑ จานวน ๔๐ ชว่ั โมง ง๑๒๑๐๑ การงานอาชีพ ๒ จานวน ๔๐ ชว่ั โมง ง๑๓๑๐๑ การงานอาชพี ๓ จานวน ๔๐ ช่วั โมง ง๑๔๑๐๑ การงานอาชพี ๔ จานวน ๘๐ ชั่วโมง ง๑๕๑๐๑ การงานอาชีพ ๕ จานวน ๘๐ ชั่วโมง ง๑๖๑๐๑ การงานอาชีพ ๖ จานวน ๘๐ ชั่วโมง รายวชิ าเพม่ิ เติม ง๑๔๒๐๑ การงานอาชพี ๔ จานวน ๔๐ ชั่วโมง ง๑๕๒๐๑ การงานอาชพี ๕ จานวน ๔๐ ชั่วโมง ง๑๖๒๐๑ การงานอาชีพ ๖ จานวน ๔๐ ชั่วโมง ระดับมธั ยมศึกษาตอนต้น รายวชิ าพ้นื ฐาน ง๒๑๑๐๑ การงานอาชีพ ๑ จานวน ๔๐ ชั่วโมง ๑.๐ หน่วยกติ ง๒๑๑๐๒ การงานอาชพี ๒ จานวน ๔๐ ชั่วโมง ๑.๐ หน่วยกติ ง๒๒๑๐๑ การงานอาชีพ ๓ จานวน ๔๐ ชั่วโมง ๑.๐ หนว่ ยกติ ง๒๒๑๐๒ การงานอาชพี ๔ จานวน ๔๐ ชั่วโมง ๑.๐ หนว่ ยกติ ง๒๓๑๐๑ การงานอาชพี ๕ จานวน ๔๐ ชั่วโมง ๑.๐ หนว่ ยกติ ง๒๓๑๐๒ การงานอาชีพ ๖ จานวน ๔๐ ชั่วโมง ๑.๐ หนว่ ยกติ รายวชิ าเพม่ิ เติม ง๒๑๒๐๑ งานประดษิ ฐ์ ๑ จานวน ๒๐ ชว่ั โมง ๐.๕ หน่วยกิต ง๒๑๒๐๒ งานประดษิ ฐ์ ๒ จานวน ๒๐ ชว่ั โมง ๐.๕ หน่วยกิต ง๒๒๒๐๑ งานประดษิ ฐ์ (ใบตอง) จานวน ๒๐ ชว่ั โมง ๐.๕ หนว่ ยกิต ง๒๒๒๐๒ งานประดษิ ฐ์ (กระถางต้นไม้) จานวน ๒๐ ชว่ั โมง ๐.๕ หนว่ ยกิต ง๒๓๒๐๑ งานประดิษฐ์ (เย็บผา้ ) จานวน ๒๐ ชั่วโมง ๐.๕ หน่วยกิต ง๒๓๒๐๒ งานประดิษฐ์ (เหรยี ญโปรยทาน) จานวน ๒๐ ช่ัวโมง ๐.๕ หน่วยกติ ง๒๑๒๐๓ การปลูกหัวผกั กาด จานวน ๔๐ ชั่วโมง ๑.๐ หนว่ ยกติ ง๒๑๒๐๔ การแปรรปู อาหาร (หัวผกั กาด) จานวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หน่วยกติ ง๒๒๒๐๓ การหมกั หวั ผักกาด จานวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หนว่ ยกิต ง๒๒๒๐๔ การบรรจผุ ลติ ภัณฑ์ จานวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หนว่ ยกติ ง๒๓๒๐๓ การขายออนไลน์ จานวน ๔๐ ชั่วโมง ๑.๐ หนว่ ยกติ ง๒๓๒๐๔ การปลกู ผัก จานวน ๔๐ ชัว่ โมง ๑.๐ หน่วยกติ หลักสตู รกลมุ่ สาระการเรยี นนรภู้ าษาไทย โรงเรยี นอนุบาลกระสงั สพป.บรุ รี ัมย์ เขต ๒

๔๓ ง๒๑๒๐๕ งานเกษตร จานวน ๔๐ ช่วั โมง ๑.๐ หนว่ ยกิต ง๒๑๒๐๖ งานเกษตร จานวน ๔๐ ชั่วโมง ๑.๐ หนว่ ยกิต ง๒๒๒๐๕ งานเกษตร จานวน ๔๐ ชั่วโมง ๑.๐ หนว่ ยกิต ง๒๒๒๐๖ งานเกษตร จานวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หน่วยกติ ง๒๓๒๐๕ งานเกษตร จานวน ๔๐ ชว่ั โมง ๑.๐ หน่วยกติ ง๒๓๒๐๖ งานเกษตร จานวน ๔๐ ชั่วโมง ๑.๐ หน่วยกิต **************** รายวิชาพ้นื ฐานและเพิ่มเติม กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ระดบั ประถมศกึ ษา รายวิชาพ้ืนฐาน จานวน ๒๐๐ ชว่ั โมง อ๑๑๑๐๑ ภาษาอังกฤษ ๑ จานวน ๒๐๐ ชวั่ โมง อ๑๒๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๒ จานวน ๒๐๐ ชว่ั โมง อ๑๓๑๐๑ ภาษาอังกฤษ ๓ จานวน ๘๐ ชวั่ โมง อ๑๔๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๔ จานวน ๘๐ ชวั่ โมง อ๑๕๑๐๑ ภาษาอังกฤษ ๕ จานวน ๘๐ ชวั่ โมง อ๑๖๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๖ รายวิชาเพิ่มเติม จานวน ๔๐ ชั่วโมง อ1๔201 ภาษาอังกฤษเพ่ือการสอื่ สาร จานวน ๔๐ ชว่ั โมง อ1๕201 ภาษาอังกฤษเพอื่ การสือ่ สาร จานวน ๔๐ ชว่ั โมง อ1๖201 ภาษาองั กฤษเพื่อการส่ือสาร รายวชิ าพน้ื ฐาน ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนต้น อ๒๑๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๑ อ๒๑๑๐๒ ภาษาอังกฤษ ๒ จานวน ๖๐ ชั่วโมง ๑.๕ หนว่ ยกติ อ๒๒๑๐๒ ภาษาอังกฤษ ๓ จานวน ๖๐ ชวั่ โมง ๑.๕ หน่วยกติ อ๒๒๑๐๒ ภาษาองั กฤษ ๔ จานวน ๖๐ ช่ัวโมง ๑.๕ หนว่ ยกติ อ๒๓๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๕ จานวน ๖๐ ชั่วโมง ๑.๕ หนว่ ยกติ อ๒๓๑๐๒ ภาษาอังกฤษ ๖ จานวน ๖๐ ช่ัวโมง ๑.๕ หน่วยกติ จานวน ๖๐ ช่ัวโมง ๑.๕ หนว่ ยกติ รายวชิ าเพ่ิมเติม อ21201 ภาษาอังกฤษ ๑ จานวน ๔๐ ชวั่ โมง ๑.๐ หน่วยกติ อ2120๒ ภาษาอังกฤษ ๒ จานวน ๔๐ ช่ัวโมง ๑.๐ หน่วยกติ อ2๒201 ภาษาองั กฤษ ๓ จานวน ๔๐ ชั่วโมง ๑.๐ หน่วยกติ อ2๒20๒ ภาษาอังกฤษ ๔ จานวน ๔๐ ช่วั โมง ๑.๐ หนว่ ยกติ อ23201 ภาษาองั กฤษ ๕ จานวน ๔๐ ชั่วโมง ๑.๐ หน่วยกิต หลักสูตรกลมุ่ สาระการเรียนนร้ภู าษาไทย โรงเรียนอนุบาลกระสัง สพป.บุรีรมั ย์ เขต ๒

๔๔ อ2320๒ ภาษาอังกฤษ ๖ จานวน ๔๐ ช่วั โมง ๑.๐ หนว่ ยกติ **************** สาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย 1. ความนา ทาไมตอ้ งเรียนภาษาไทย ภาษาไทยเป็นเอกลักษณ์ของชาติเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมอันก่อให้เกิดความเป็นเอกภาพและ เสริมสร้างบุคลิกภาพของคนในชาติให้มีความเป็นไทย เป็นเคร่ืองมือในการติดต่อส่ือสารเพ่ือสร้าง ความเข้าใจและความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ทาให้สามารถประกอบกิจธุระ การงาน และดารงชีวิตร่วมกัน ใน สังคมประชาธิปไตยได้อย่างสันติสุข และเป็นเคร่ืองมือในการแสวงหาความรู้ ประสบการณ์จากแหล่งข้อมูล สารสนเทศต่าง ๆ เพ่ือพัฒนาความรู้ พัฒนากระบวนการคิดวิเคราะห์ วิจารณ์ และสร้างสรรค์ให้ทันต่อการ เปลย่ี นแปลงทางสังคม และความก้าวหนา้ ทางวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี ตลอดจนนาไปใช้ในการพฒั นาอาชีพให้ มีความมั่นคงทางเศรษฐกิจนอกจากนี้ยังเป็นสื่อแสดงภูมิปัญญาของบรรพบุรุษด้านวัฒนธรรม ประเพณี และสนุ ทรียภาพ เป็นสมบตั ิลา้ คา่ ควรแกก่ ารเรยี นรู้ อนรุ กั ษ์ และสืบสาน ใหค้ งอย่คู ่ชู าติไทยตลอดไป เรียนร้อู ะไรในภาษาไทย ภาษาไทยเป็นทักษะท่ตี ้องฝึกฝนจนเกิดความชานาญในการใช้ภาษาเพ่ือการสือ่ สาร การเรยี นรอู้ ยา่ งมี ประสทิ ธภิ าพ และเพื่อนาไปใชใ้ นชวี ิตจริง • การอ่าน การอ่านออกเสียงคา ประโยค การอ่านบทร้อยแก้ว คาประพันธ์ชนิดต่างๆ การอ่านในใจเพ่ือสร้างความเข้าใจ และการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ความรู้จากสิ่งที่อ่าน เพื่อนาไป ปรบั ใช้ในชวี ิตประจาวัน • การเขยี น การเขียนสะกดตามอกั ขรวิธี การเขียนสือ่ สาร โดยใช้ถ้อยคาและรปู แบบต่างๆ ของ การเขียน ซ่ึงรวมถึงการเขียนเรียงความ ย่อความ รายงานชนิดต่างๆ การเขียนตามจินตนาการ วิเคราะห์ วิจารณ์ และเขยี นเชงิ สรา้ งสรรค์ • การฟัง การดู และการพูด การฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณ การพูดแสดงความคิดเห็น ความรสู้ กึ พูดลาดบั เรือ่ งราวตา่ ง ๆ อยา่ งเป็นเหตเุ ปน็ ผล การพดู ในโอกาสต่าง ๆ ท้ังเปน็ ทางการและ ไม่เป็น ทางการ และการพูดเพอื่ โนม้ นา้ วใจ • หลกั การใช้ภาษาไทย ธรรมชาติและกฎเกณฑ์ของภาษาไทย การใช้ภาษาใหถ้ ูกต้องเหมาะสมกับ โอกาสและบคุ คล การแตง่ บทประพันธ์ประเภทต่าง ๆ และอิทธพิ ลของภาษาต่างประเทศในภาษาไทย • วรรณคดีและวรรณกรรม วิเคราะห์วรรณคดีและวรรณกรรมเพื่อศึกษาข้อมูล แนวความคิด คุณคา่ ของงานประพันธ์ และความเพลดิ เพลนิ การเรียนรู้และทาความเข้าใจบทเห่ บทร้องเล่นของเด็ก เพลง พ้ืนบ้านที่เป็นภูมิปัญญาท่ีมีคุณค่าของไทย ซ่ึงได้ถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิด ค่านิยม ขนบธรรมเนียมประเพณี เร่ืองราวของสังคมในอดีต และความงดงามของภาษา เพ่ือให้เกิดความซาบซึ้งและภูมิใจ ในบรรพบรุ ษุ ท่ีได้สงั่ สมสบื ทอดมาจนถึงปจั จบุ นั หลกั สตู รกลมุ่ สาระการเรยี นนรูภ้ าษาไทย โรงเรยี นอนุบาลกระสัง สพป.บรุ ีรัมย์ เขต ๒

๔๕ 2. คุณภาพผ้เู รยี น 2.1 จบชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 3 • อ่านออกเสียงคา คาคล้องจอง ข้อความ เร่ืองสั้น ๆ และบทร้อยกรองง่าย ๆ ได้ถูกต้อง คล่องแคล่ว เข้าใจความหมายของคาและข้อความท่ีอ่าน ต้ังคาถามเชิงเหตุผล ลาดับเหตุการณ์ คาดคะเน เหตุการณ์ สรุปความรู้ข้อคิดจากเรื่องท่ีอ่าน ปฏิบัติตามคาส่ัง คาอธิบายจากเร่ืองท่ี อ่านได้ เข้าใจ ความหมายของข้อมูลจากแผนภาพ แผนท่ี และแผนภูมิ อ่านหนังสืออย่างสม่าเสมอ และ มีมารยาทในการอ่าน • มีทักษะในการคัดลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทัด เขียนบรรยาย บันทึกประจาวัน เขียน จดหมายลาครู เขียนเรือ่ งเก่ียวกบั ประสบการณ์ เขยี นเรื่องตามจินตนาการและมีมารยาทในการเขียน • เล่ารายละเอียดและบอกสาระสาคัญ ตั้งคาถาม ตอบคาถาม รวมท้ังพูดแสดงความคิด ความรสู้ ึกเกยี่ วกับเร่ืองที่ฟงั และดู พดู ส่ือสารเลา่ ประสบการณ์และพดู แนะนา หรือพูดเชญิ ชวนใหผ้ ู้อ่ืนปฏิบัติ ตาม และมมี ารยาทในการฟงั ดู และพูด • สะกดคาและเข้าใจความหมายของคา ความแตกต่างของคาและพยางค์ หน้าที่ของคา ในประโยค มีทักษะการใช้พจนานุกรมในการค้นหาความหมายของคา แต่งประโยคง่าย ๆ แต่งคาคล้องจอง แตง่ คาขวญั และเลอื กใช้ภาษาไทยมาตรฐานและภาษาถน่ิ ไดเ้ หมาะสมกบั กาลเทศะ • เข้าใจและสามารถสรุปข้อคิดที่ได้จากการอ่านวรรณคดีและวรรณกรรมเพื่อนาไปใช้ใน ชีวิตประจาวัน แสดงความคิดเห็นจากวรรณคดีท่ีอ่าน รู้จักเพลงพ้ืนบ้าน เพลงกล่อมเด็ก ซึ่งเป็นวัฒนธรรม ของท้องถ่ิน ร้องบทร้องเล่นสาหรับเด็กในท้องถิ่น ท่องจาบทอาขยานและบทร้อยกรองที่มีคุณค่าตามความ สนใจได้ 2.2 จบชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 6 • อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองเป็นทานองเสนาะได้ถูกต้อง อธิบายความหมาย โดยตรงและความหมายโดยนัยของคา ประโยค ข้อความ สานวนโวหาร จากเร่ืองท่ีอ่าน เข้าใจคาแนะนา คาอธิบายในคู่มือต่าง ๆ แยกแยะข้อคิดเห็นและข้อเท็จจริง รวมทั้งจับใจความสาคัญของเร่ืองท่ีอ่านและนา ความร้คู วามคิดจากเรอื่ งท่อี า่ นไปตดั สินใจแกป้ ญั หาในการดาเนนิ ชวี ิตได้ มมี ารยาทและมีนิสยั รักการอ่าน และ เหน็ คณุ คา่ ส่งิ ท่อี ่าน • มีทักษะในการคัดลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทัดและครึ่งบรรทัด เขียนสะกดคา แต่งประโยค และเขียนข้อความ ตลอดจนเขียนส่อื สารโดยใชถ้ อ้ ยคาชัดเจนเหมาะสม ใชแ้ ผนภาพ โครงเรอื่ งและแผนภาพ ความคดิ เพือ่ พฒั นางานเขียน เขียนเรยี งความ ย่อความ จดหมายส่วนตัว กรอกแบบรายการต่าง ๆ เขยี น แสดงความรู้สึกและความคิดเหน็ เขยี นเรือ่ งตามจินตนาการอย่างสร้างสรรค์ และมีมารยาทในการเขยี น • พูดแสดงความรู้ ความคิดเก่ียวกับเรื่องท่ีฟังและดู เล่าเรื่องย่อหรือสรุปจากเร่ืองที่ฟังและดู ตั้งคาถาม ตอบคาถามจากเร่ืองท่ีฟังและดู รวมท้ังประเมินความน่าเช่ือถือจากการฟังและดูโฆษณาอย่างมี หลักสูตรกลมุ่ สาระการเรียนนรู้ภาษาไทย โรงเรียนอนุบาลกระสงั สพป.บรุ รี มั ย์ เขต ๒

๔๖ เหตุผล พูดตามลาดับขั้นตอนเรื่องต่าง ๆ อย่างชัดเจน พูดรายงานหรือประเด็นค้นคว้าจากการฟัง การดู การสนทนา และพดู โน้มน้าวได้อยา่ งมเี หตผุ ล รวมทัง้ มีมารยาทในการดแู ละพูด • สะกดคาและเข้าใจความหมายของคา สานวน คาพังเพยและสุภาษิต รู้และเข้าใจ ชนิด และหน้าท่ีของคาในประโยค ชนิดของประโยค และคาภาษาต่างประเทศในภาษาไทย ใช้คาราชาศัพท์และ คาสุภาพได้อย่างเหมาะสม แต่งประโยค แตง่ บทรอ้ ยกรองประเภทกลอนส่ี กลอนสุภาพ และ กาพยย์ านี 11 • เข้าใจและเห็นคุณค่าวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่าน เล่านิทานพ้ืนบ้าน ร้องเพลงพ้ืนบ้าน ของทอ้ งถ่ิน นาข้อคดิ เหน็ จากเรือ่ งที่อา่ นไปประยุกต์ใชใ้ นชวี ิตจริง และท่องจาบทอาขยานตามทกี่ าหนดได้ 2.3 จบชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 • อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองเป็นทานองเสนาะได้ถูกต้อง เข้าใจความหมาย โดยตรงและความหมายโดยนัย จับใจความสาคัญและรายละเอียดของส่ิงที่อ่าน แสดงความคิดเห็นและข้อ โต้แย้งเก่ียวกับเร่ืองที่อ่าน และเขียนกรอบแนวคิด ผังความคิด ย่อความ เขียนรายงานจากส่ิงที่อ่านได้ วิเคราะห์ วิจารณ์ อย่างมีเหตุผล ลาดับความอย่างมีข้ันตอนและความเป็นไปได้ของเรื่องท่ีอ่าน รวมท้ัง ประเมินความถูกต้องของข้อมูลท่ีใช้สนับสนนุ จากเร่ืองท่ีอ่าน • เขยี นส่อื สารด้วยลายมือที่อา่ นง่ายชดั เจน ใชถ้ อ้ ยคาได้ถกู ต้องเหมาะสมตามระดับภาษาเขียน คาขวัญ คาคม คาอวยพรในโอกาสต่างๆ โฆษณา คติพจน์ สุนทรพจน์ ชีวประวัติ อัตชีวประวัติและ ประสบการณ์ต่างๆ เขียนย่อความ จดหมายกิจธุระ แบบกรอกสมัครงาน เขียนวิเคราะห์ วิจารณ์ และแสดง ความรคู้ วามคิดหรอื โต้แยง้ อย่างมเี หตุผล ตลอดจนเขียนรายงานการศกึ ษาคน้ ควา้ และเขยี นโครงงาน • พูดแสดงความคิดเห็น วิเคราะห์ วิจารณ์ ประเมินสิ่งท่ีได้จากการฟังและดู นาข้อคิดไป ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวัน พูดรายงานเร่ืองหรือประเด็นที่ได้จากการศึกษาค้นคว้าอย่างเป็นระบบ มศี ลิ ปะในการพูด พดู ในโอกาสต่างๆ ได้ตรงตามวตั ถุประสงค์ และพดู โนม้ นา้ วอย่างมีเหตุผลนา่ เช่ือถือ รวมทัง้ มีมารยาทในการฟัง ดู และพดู • เข้าใจและใช้คาราชาศัพท์ คาบาลีสันสกฤต คาภาษาต่างประเทศอื่นๆ คาทับศัพท์ และ ศัพท์บัญญัติในภาษาไทย วิเคราะห์ความแตกต่างในภาษาพูด ภาษาเขียน โครงสรา้ งของประโยครวม ประโยค ซ้อน ลักษณะภาษาท่ีเป็นทางการ ก่ึงทางการและไม่เป็นทางการ และแต่งบทร้อยกรองประเภทกลอนสุภาพ กาพย์ และโคลงส่สี ุภาพ • สรปุ เน้อื หาวรรณคดแี ละวรรณกรรมที่อา่ น วิเคราะหต์ ัวละครสาคัญ วิถชี ีวติ ไทย และคุณค่าท่ี ได้รับจากวรรณคดวี รรณกรรมและบทอาขยาน พร้อมทัง้ สรปุ ความรูข้ อ้ คดิ เพือ่ นาไปประยุกตใ์ ชใ้ นชีวิตจริง หลักสูตรกลมุ่ สาระการเรียนนรู้ภาษาไทย โรงเรียนอนุบาลกระสงั สพป.บุรรี ัมย์ เขต ๒

๔๗ 3. โครงสรา้ งเวลาเรยี น ระดบั ชัน้ เวลาเรียน รวม ป.1 รายวชิ าพ้นื ฐาน รายวิชาเพ่ิมเติม 200 ป.2 200 ป.3 200 - 200 ป.4 200 - 160 ป.5 200 - 160 ป.6 160 - 160 รวม 160 - 1,080 ม.1 160 - 120 ม.2 120 ม.3 1,080 - 120 รวม 360 รวมท้ังสน้ิ 120 - 1,440 120 - 120 - 360 - 1,440 - หลกั สตู รกลมุ่ สาระการเรยี นนรภู้ าษาไทย โรงเรยี นอนบุ าลกระสัง สพป.บุรีรมั ย์ เขต ๒

๔๘ 4. สาระมาตรฐานการเรยี นรู้และตัวช้วี ัดช้นั ปี ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 1 ตัวชว้ี ัดและสาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระท่ี 1 การอา่ น มาตรฐาน ท 1.1 ใช้กระบวนการอา่ นสร้างความรแู้ ละความคดิ เพื่อนาไปใช้ตดั สนิ ใจ แกป้ ญั หาในการ ดาเนนิ ชวี ติ และมนี สิ ยั รักการอา่ น ชน้ั ตวั ช้ีวัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ป.1 ท 1.1 ป.1/1 อ่านออกเสียงคา คาคล้องจอง  การอ่านออกเสยี งและบอกความหมาย และข้อความสัน้ ๆ ของคา คาคล้องจอง และข้อความท่ี ท 1.1 ป.1/2 บอกความหมายของคา และ ประกอบด้วย คาพื้นฐาน คอื คาที่ใชใ้ น ข้อความที่อ่าน ชวี ติ ประจาวัน ไมน่ ้อยกวา่ 600 คา รวมทัง้ คาที่ใชเ้ รยี นรใู้ น กลมุ่ สาระการ เรียนรอู้ น่ื ประกอบดว้ ย - คาท่ีมรี ูปวรรณยกุ ต์และไมม่ ีรูป วรรณยกุ ต์ - คาท่ีมีตัวสะกดตรงตามมาตราและไม่ ตรงตามมาตรา - คาที่มีพยัญชนะควบกลา้ - คาทีม่ อี ักษรนา ป.1 ท 1.1 ป.1/3 ตอบคาถามเก่ียวกบั เรือ่ งท่ีอา่ น  การอา่ นจบั ใจความจากสื่อต่าง ๆ เช่น ท 1.1 ป.1/4 เล่าเรื่องยอ่ จากเร่ืองท่ีอา่ น - นิทาน ท 1.1 ป.1/5 คาดคะเนเหตุการณ์จากเร่อื งท่ี - เรือ่ งสั้น ๆ อ่าน - บทร้องเลน่ และบทเพลง - เรื่องราวจากบทเรยี นในกลุ่มสาระการ เรยี นรู้ภาษาไทยและกลุ่มสาระการ เรยี นรู้อ่นื ท 1.1 ป.1/6 อ่านหนังสือตามความสนใจ  การอา่ นหนังสอื ตามความสนใจ เช่น อยา่ งสมา่ เสมอและนาเสนอเรื่องท่ีอา่ น - หนงั สอื ทนี่ กั เรียนสนใจและเหมาะสม กับวัย - หนงั สอื ท่คี รแู ละนักเรยี นกาหนด รว่ มกนั หลักสตู รกลมุ่ สาระการเรยี นนร้ภู าษาไทย โรงเรยี นอนุบาลกระสัง สพป.บุรรี มั ย์ เขต ๒

๔๙ ช้ัน ตวั ชวี้ ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ท 1.1 ป.1/7 บอกความหมายของ เครอ่ื งหมาย หรอื สญั ลักษณ์สาคัญทม่ี ักพบ  การอา่ นเครื่องหมายหรอื สญั ลักษณ์ เหน็ ในชีวติ ประจาวัน ประกอบดว้ ย - เคร่ืองหมายสญั ลกั ษณ์ต่างๆ ท่พี บเหน็ ท 1.1 ป.1/8 มีมารยาท ในการอ่าน ในชวี ติ ประจาวนั - เครื่องหมายแสดงความปลอดภยั และ แสดงอันตราย  มารยาทในการอา่ น เชน่ - ไม่อา่ นเสียงดังรบกวนผู้อ่ืน - ไมเ่ ลน่ กนั ขณะทีอ่ ่าน - ไมท่ าลายหนงั สอื สาระที่ 2 การเขียน มาตรฐาน ท 2.1 ใช้กระบวนการเขยี นเขยี นสือ่ สาร เขยี นเรียงความ ยอ่ ความ และเขียนเรอื่ งราวในรูปแบบ ต่าง ๆ เขยี นรายงานขอ้ มูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นคว้าอยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ ช้นั ตัวช้ีวัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ป.1 ท 2.1 ป.1/1 คดั ลายมือตัวบรรจงเตม็  การคัดลายมือตัวบรรจงเตม็ บรรทดั ตาม บรรทัด รูปแบบการเขยี นตัวอักษรไทย ท 2.1 ป.1/2 เขยี นสื่อสารด้วยคาและ ประโยคง่าย ๆ  การเขยี นสื่อสาร - คาท่ีใชใ้ นชวี ิตประจาวัน ท 2.1 ป.1/3 มีมารยาทในการเขยี น - คาพนื้ ฐานในบทเรยี น - คาคลอ้ งจอง - ประโยคงา่ ยๆ  มารยาทในการเขยี น เชน่ - เขยี นให้อ่านง่าย สะอาด ไม่ขีดฆ่า - ไมข่ ดี เขียนในท่สี าธารณะ - ใช้ภาษาเขยี นเหมาะสมกบั เวลา สถานที่ และ บคุ คล หลักสูตรกลมุ่ สาระการเรียนนรู้ภาษาไทย โรงเรียนอนุบาลกระสงั สพป.บรุ ีรัมย์ เขต ๒

๕๐ สาระที่ 3 การฟงั การดู และการพดู มาตรฐาน ท 3.1 สามารถเลอื กฟังและดอู ย่างมวี จิ ารณญาณ และพดู แสดงความรู้ ความคดิ และความรู้สึกใน โอกาสต่าง ๆ อยา่ งมวี ิจารณญาณและสรา้ งสรรค์ ช้ัน ตวั ชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ป.1 ท 3.1 ป.1/1 ฟังคาแนะนา คาสงั่ งา่ ย  การฟงั และปฏบิ ัตติ ามคาแนะนา คาสั่งง่าย ๆ ๆ และปฏบิ ัติตาม  การจบั ใจความและพูดแสดงความคดิ เหน็ ท 3.1 ป.1/2 ตอบคาถามและเล่าเรอื่ ง ความรู้สึกจากเร่ืองท่ีฟงั และดู ท้ังทเี่ ป็นความรู้และ ทฟ่ี งั และดู ทัง้ ทีเ่ ป็นความรู้และความ ความบนั เทงิ เชน่ บันเทิง - เร่ืองเลา่ และสารคดสี าหรับเดก็ ท 3.1 ป.1/3 พูดแสดงความคดิ เหน็ - นิทาน - การ์ตนู - เรือ่ งขบขนั และความรสู้ กึ จากเรื่องที่ฟงั และดู ท 3.1 ป.1/4 พูดสื่อสารไดต้ าม  การพดู ส่ือสารในชวี ติ ประจาวนั เช่น วัตถปุ ระสงค์ - การแนะนาตนเอง - การขอความชว่ ยเหลือ ท 3.1 ป.1/5 มมี ารยาทในการฟัง การ - การกล่าวคาขอบคุณ ดู และการพดู - การกลา่ วคาขอโทษ  มารยาทในการฟัง เช่น - ตงั้ ใจฟงั ตามองผู้พูด - ไม่รบกวนผู้อ่นื ขณะทีฟ่ ัง - ไม่ควรนาอาหารหรือเคร่ืองดม่ื ไปรบั ประทาน ขณะทฟี่ ัง - ให้เกียรตผิ ู้พูดด้วยการปรบมอื - ไม่พดู สอดแทรกขณะทฟ่ี งั  มารยาทในการดู เชน่ - ต้งั ใจดู - ไม่ส่งเสยี งดงั หรือแสดงอาการรบกวนสมาธขิ อง ผูอ้ น่ื  มารยาทในการพูด เช่น - ใชถ้ อ้ ยคาและกริ ิยาทส่ี ภุ าพเหมาะสมกับกาลเทศะ - ใช้น้าเสียงน่มุ นวล - ไมพ่ ดู สอดแทรกในขณะทผี่ ู้อนื่ กาลงั พูด หลกั สูตรกลมุ่ สาระการเรยี นนรภู้ าษาไทย โรงเรียนอนุบาลกระสงั สพป.บรุ รี ัมย์ เขต ๒


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook