Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หลักสูตรภาษาอังกฤษ ปรับปรุง ๖๕

หลักสูตรภาษาอังกฤษ ปรับปรุง ๖๕

Published by Guset User, 2022-08-16 04:19:18

Description: หลักสูตรภาษาอังกฤษ ปรับปรุง ๖๕

Search

Read the Text Version

๔๖  คน้ ควา้ รวบรวม และสรุปขอ้ มลู /ข้อเท็จจรงิ ที่เก่ยี วข้องกับกลุ่มสาระการเรยี นรู้อื่นจากแหลง่ การเรียนรู้ และนาเสนอด้วยการพูดและการเขียน  ใชภ้ าษาสอื่ สารในสถานการณ์จริง/สถานการณจ์ าลองที่เกิดข้นึ ในห้องเรียน สถานศึกษา ชุมชน และสงั คม  ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการสืบค้น/ค้นคว้า รวบรวม และสรปุ ความร/ู้ ขอ้ มลู ตา่ งๆ จากส่อื และแหลง่ การเรียนรู้ต่างๆ ในการศกึ ษาต่อและประกอบอาชีพ เผยแพร่/ประชาสมั พันธ์ข้อมูล ขา่ วสาร ของโรงเรยี น ชุมชน และทอ้ งถ่ิน เปน็ ภาษาต่างประเทศ  มที ักษะการใช้ภาษาตา่ งประเทศ (เน้นการฟงั -พดู -อา่ น-เขียน) สื่อสารตามหวั เรื่องเกย่ี วกับตนเอง ครอบครวั โรงเรียน สง่ิ แวดลอ้ ม อาหาร เครอ่ื งด่มื เวลาวา่ งและนนั ทนาการ สุขภาพและสวสั ดกิ าร การซือ้ -ขาย ลมฟ้าอากาศ การศกึ ษาและอาชีพ การเดนิ ทางทอ่ งเทย่ี ว การบรกิ าร สถานที่ ภาษา และวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ภายในวงคาศัพท์ประมาณ ๒,๑๐๐-๒,๒๕๐ คา (คาศัพทท์ ่ีเปน็ นามธรรมมากข้นึ ) ใช้ประโยคผสม และประโยคซบั ซอ้ น (Complex Sentences) สอื่ ความหมายตามบริบทต่างๆ ในการสนทนาท้ังทีเ่ ปน็ ทางการ และไม่เป็นทางการ หลกั สูตรกลุม่ สาระการเรียนรูภ้ าษาตา่ งประเทศ (ภาษาอังกฤษ) โรงเรียนอนุบาลกระสัง สพป.บุรีรัมย์ เขต ๒

๔๗ ส่วนท่ี ๔ มาตรฐานการเรียนรู้ ตวั ชวี้ ดั และสาระการเรยี นรแู้ กนกลาง หลกั สูตรกลมุ่ สาระการเรียนรูภ้ าษาตา่ งประเทศ (ภาษาอังกฤษ) โรงเรยี นอนุบาลกระสงั สพป.บรุ รี มั ย์ เขต ๒

๔๘ มาตรฐานการเรียนรู้ ตวั ชี้วัดและสาระการเรียนรูแ้ กนกลาง สาระที่ ๑ ภาษาเพื่อการสือ่ สาร มาตรฐาน ต ๑.๑ เข้าใจและตีความเร่ืองที่ฟงั และอ่านจากสอ่ื ประเภทต่างๆ และแสดงความคดิ เห็น อยา่ งมเี หตุผล ชนั้ ตวั ชวี้ ัด สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง ป.๑ ๑. ปฏบิ ัตติ ามคาสัง่ งา่ ยๆ ทฟ่ี ัง คาสั่งท่ใี ชใ้ นหอ้ งเรียน เช่น Stand up./Sit down./ Listen./ Repeat./Quiet!/ Stop! etc. ๒. ระบตุ ัวอกั ษรและเสียง อา่ นออก ตวั อกั ษร (letter names) เสยี งตวั อกั ษรและสระ เสียงและสะกดคาง่ายๆ ถูกต้องตาม (letter sounds) และการสะกดคา หลักการอ่าน หลกั การอา่ นออกเสียง เช่น - การออกเสียงพยญั ชนะต้นคาและพยัญชนะท้ายคา - การออกเสยี งเน้นหนัก-เบา (stress)ในคาและ กลุม่ คา - การออกเสยี งตามระดบั เสียงสูง-ต่า (intonation) ในประโยค ๓. เลอื กภาพตรงตามความหมาย คา กลมุ่ คา และความหมาย เกี่ยวกบั ตนเอง ของคาและกล่มุ คาท่ฟี งั ครอบครัว โรงเรยี น ส่ิงแวดลอ้ มใกล้ตัว อาหาร เครอื่ งดมื่ และนันทนาการ ภายในวงคาศพั ท์ ประมาณ ๑๕๐-๒๐๐ คา (คาศัพท์ทเ่ี ป็นรูปธรรรม) ๔. ตอบคาถามจากการฟงั เร่อื ง บทอา่ นเกยี่ วกับเรอื่ งใกล้ตวั หรือนทิ านทม่ี ี ใกลต้ วั ภาพประกอบประโยคคาถามและคาตอบ - Yes/No Question เช่น Is it a/an..? Yes, it is./No, it is not. etc. - Wh-Question เชน่ What is it? It is a/an... etc. ป.๒ ๑. ปฏิบัติตามคาส่งั และคาขอรอ้ ง คาส่งั และคาขอรอ้ งทใ่ี ชใ้ นหอ้ งเรยี น ง่าย ๆ ที่ฟงั - คาสง่ั เชน่ Show me a/an.../ Open your book. Don’t talk in class. etc. - คาขอร้อง เชน่ Please come here./ Come here, please. Don’t make a loud noise, please./ Please don’t make a loud noise. etc. หลักสูตรกลุ่มสาระการเรยี นร้ภู าษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) โรงเรียนอนุบาลกระสัง สพป.บรุ รี ัมย์ เขต ๒

๔๙ ช้นั ตวั ชวี้ ดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง ๒.ระบุตัวอกั ษรและเสยี ง อ่านออก ตวั อกั ษร เสียงตัวอักษรและสระ การสะกดคา และ เสยี งคา สะกดคา และอ่านประโยค ประโยค หลักการอ่านออกเสยี ง เชน่ งา่ ยๆ ถกู ต้องตามหลกั การอา่ น - การออกเสียงพยัญชนะตน้ คาและพยญั ชนะท้ายคา - การออกเสียงเนน้ หนกั -เบา ในคาและกลุ่มคา - การออกเสยี งตามระดบั เสยี งสูง-ตา่ ในประโยค ๓. เลือกภาพตรงตามความหมายของ คา กลุม่ คา ประโยคเดี่ยว (simple sentence) และ คา กล่มุ คา และประโยคทฟี่ ัง ความหมาย เกยี่ วกับตนเอง ครอบครวั โรงเรยี น ส่งิ แวดล้อมใกล้ตัว อาหาร เครอ่ื งดืม่ และนันทนาการ เป็นวงคาศัพท์สะสมประมาณ ๒๕๐-๓๐๐ คา (คาศพั ทท์ ่ี เป็นรูปธรรรม) ๔. ตอบคาถามจากการฟงั ประโยค ประโยค บทสนทนา หรอื นทิ านทมี่ ภี าพประกอบ บทสนทนา หรอื นิทานง่ายๆ ที่มภี าพ ประโยคคาถามและคาตอบ - Yes/No Question เช่น ประกอบ Is this/that a/an..? Yes, it is./No, it isn’t.etc. - Wh-Question เชน่ What is this/that/it? This/that/It is a/an… How many…? There is/are… Where is the…? It is in/on/under… etc. ป.๓ ๑. ปฏบิ ัติตามคาสั่ง และคาขอรอ้ งท่ี คาส่ังและคาขอรอ้ งทใ่ี ช้ในหอ้ งเรยี น ฟงั หรืออ่าน - คาส่งั เชน่ Give me a/an.../Draw and color thepicture./ Put a/an…in/on/under a/an…/ Don’t eat in class. etc. - คาขอร้อง เช่น Please take a queue./ Take a queue, please./Don’t make a loud noise, please./Please don’t make a loud noise./ Can you help me, please? etc. ๒. อ่านออกเสียงคา สะกดคา อ่าน คา กลุ่มคา ประโยคเดี่ยว และบทพูดเข้าจงั หวะและการ กลมุ่ คา ประโยค และบทพดู เขา้ สะกดคาการใชพ้ จนานุกรมหลักการอา่ นออกเสียง เช่น จังหวะ (chant) ง่ายๆ ถกู ต้องตาม - การออกเสียงพยัญชนะตน้ คาและพยัญชนะท้ายคา หลักการอา่ น - การออกเสยี งเน้นหนัก-เบา ในคาและกลมุ่ คา - การออกเสียงตามระดับเสยี งสูง-ต่า ในประโยค หลกั สตู รกลุม่ สาระการเรียนรภู้ าษาตา่ งประเทศ (ภาษาอังกฤษ) โรงเรยี นอนุบาลกระสัง สพป.บรุ ีรมั ย์ เขต ๒

๕๐ ช้ัน ตัวชีว้ ดั สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง ๓. เลอื ก/ระบภุ าพ หรอื สญั ลักษณ์ กล่มุ คา ประโยคเดีย่ ว สญั ลกั ษณ์ และความหมายเกยี่ วกับ ตรงตามความหมายของกล่มุ คาและ ตนเอง ครอบครวั โรงเรยี น สงิ่ แวดล้อมใกลต้ ัว อาหาร ประโยคทีฟ่ งั เครอ่ื งดม่ื และนันทนาการ เปน็ วงคาศัพทส์ ะสมประมาณ ๓๕๐-๔๕๐ คา (คาศพั ทท์ ีเ่ ปน็ รปู ธรรรม) ๔. ตอบคาถามจากการฟังหรอื อา่ น ประโยค บทสนทนา หรือนทิ านทีม่ ีภาพประกอบ ประโยค บทสนทนา หรือนิทาน ประโยคคาถามและคาตอบ งา่ ยๆ - Yes/No Question เชน่ Is/Are/Can…? Yes,…is/are/can./No,…isn’t/aren’t/can’t.etc. - Wh-Question เช่นWhat is this/that/it? This/that/It is a/an…How many…? There is/are…Where is/are…? It is in/on/under… They areetc. ป.๔ ๑. ปฏบิ ตั ิตามคาสงั่ คาขอร้อง และ คาสง่ั และคาขอร้องที่ใช้ในห้องเรยี น และคาแนะนาในการ คาแนะนา (instructions) งา่ ยๆ ที่ฟงั เลน่ เกม การวาดภาพ หรอื การทาอาหารและเครอื่ งดม่ื หรืออา่ น - คาสงั่ เชน่ Look at the…/here/over there./ Say itagain./ Read and draw./ Put a/an…in/on/under a/an…/ Don’t go over there. etc. - คาขอรอ้ ง เชน่ Please take a queue./ Take a queue, please./ Can you help me, please? etc. - คาแนะนา เชน่ You should read everyday./Think before you speak./ คาศพั ท์ที่ ใชใ้ นการเลน่ เกม Start./ My turn./ Your turn./ Roll the dice./ Count the number./ Finish./ คาบอกลาดบั ขน้ั ตอน First,... Second,… Then,… Finally,... etc. ๒. อ่านออกเสียงคา สะกดคา อ่าน คา กลมุ่ คา ประโยค ขอ้ ความ บทพดู เขา้ จังหวะ กลมุ่ คาประโยค ข้อความงา่ ยๆ และการสะกดคา การใชพ้ จนานุกรม และบทพูดเขา้ จังหวะถกู ตอ้ งตาม หลักการอา่ นออกเสยี ง เชน่ หลกั การอา่ น - การออกเสียงพยญั ชนะต้นคาและพยญั ชนะทา้ ยคา - การออกเสียงเน้นหนกั -เบา ในคาและกลมุ่ คา - การออกเสยี งตามระดบั เสียงสงู -ตา่ ในประโยค หลักสูตรกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) โรงเรียนอนุบาลกระสงั สพป.บรุ รี ัมย์ เขต ๒

๕๑ ชน้ั ตัวชว้ี ัด สาระการเรียนร้แู กนกลาง ๓. เลอื ก/ระบุภาพ หรอื สัญลกั ษณ์หรอื กลุม่ คา ประโยคเดยี่ ว สัญลักษณ์ เครือ่ งหมาย เครือ่ งหมายตรงตามความหมายของ และความหมาย เกี่ยวกบั ตนเอง ครอบครัว โรงเรยี น ประโยคและขอ้ ความสน้ั ๆ ทฟ่ี ังหรือ สิง่ แวดลอ้ ม อาหาร เครอ่ื งดื่ม เวลาวา่ งและนันทนาการ อ่าน สขุ ภาพและสวสั ดกิ าร การซื้อ –ขาย และลมฟา้ อากาศ และเปน็ วงคาศัพท์สะสมประมาณ ๕๕๐-๗๐๐ คา (คาศพั ท์ทีเ่ ปน็ รปู ธรรมและนามธรรม) ๔. ตอบคาถามจากการฟังและอา่ น ประโยค บทสนทนา นทิ านทม่ี ภี าพประกอบคาถาม ประโยค บทสนทนา และนทิ านงา่ ยๆ เก่ยี วกับใจความสาคญั ของเร่ือง เช่น ใคร ทาอะไร ท่ไี หน - Yes/No Question เช่นIs/Are/Can…? Yes,…is/are/can./No,…isn’t/aren’t/can’t. Do/Does/Can/Is/Are...? Yes/No… etc. - Wh-Question เชน่ Who is/are…? He/She is…/They are…What…?/Where…? It is …/They are…What...doing? …is/am/are… etc. - Or-Question เช่นIs this/it a/an...or a/an…? It is a/an… etc. ป.๕ ๑. ปฏบิ ตั ติ ามคาสัง่ คาขอรอ้ ง และ คาส่งั และคาขอร้องท่ีใช้ในหอ้ งเรยี น ภาษาทา่ ทาง คาแนะนาง่ายๆ ทฟ่ี งั และอา่ น และคาแนะนาในการเล่นเกม การวาดภาพ หรอื การ ทาอาหารและเครอื่ งดม่ื - คาสั่ง เชน่ Look at the…/here/over there./ Say itagain./ Read and draw./ Put a/an…in/on/ undera/an…/ Don’t go over there. etc. -คาขอร้อง เชน่ Please take a queue./ Take a queue, please./ Can/Could you help me, please? etc. - คาแนะนา เชน่ You should read everyday./ Think before you speak./ คาศพั ทท์ ใ่ี ช้ในการ เล่นเกม Start./ My turn./ Your turn./ Roll the dice./ Count the number./ Finish./ คาบอกลาดับ ข้นั ตอน First,… Second,… Next,… Then,… Finally,… etc. หลกั สูตรกลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาตา่ งประเทศ (ภาษาอังกฤษ) โรงเรียนอนุบาลกระสัง สพป.บุรีรมั ย์ เขต ๒

๕๒ ช้นั ตัวชว้ี ดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ๒. อา่ นออกเสยี งประโยค ขอ้ ความ ประโยค ขอ้ ความ และบทกลอน การใช้พจนานุกรม และบทกลอนสน้ั ๆ ถูกตอ้ งตาม หลกั การอ่านออกเสยี ง เช่น หลักการอ่าน - การออกเสยี งพยัญชนะตน้ คาและพยัญชนะท้ายคา - การออกเสยี งเนน้ หนัก-เบา ในคาและกลมุ่ คา - การออกเสยี งตามระดบั เสียงสงู -ต่า ในประโยค - การออกเสียงเช่อื มโยง (linking sound) ในขอ้ ความ - การออกเสียงบทกลอนตามจังหวะ ๓. ระบ/ุ วาดภาพ สญั ลักษณ์ กล่มุ คา ประโยคผสม ข้อความ สัญลกั ษณ์ เครื่องหมาย หรือเครือ่ งหมายตรงตามความหมาย และความหมายเกีย่ วกบั ตนเอง ครอบครัว โรงเรยี น ของประโยคและข้อความสั้นๆ ที่ฟงั สง่ิ แวดล้อม อาหาร เคร่ืองดมื่ เวลาวา่ งและนันทนาการ หรืออ่าน สขุ ภาพและสวสั ดกิ าร การซื้อ-ขาย และลมฟา้ อากาศ และเป็นวงคาศพั ท์ สะสมประมาณ ๗๕๐-๙๕๐ คา (คาศัพท์ทเี่ ป็นรูปธรรมและนามธรรม) ๔. บอกใจความสาคญั ประโยค บทสนทนา นทิ าน หรือเรื่องสน้ั ๆ และตอบคาถามจากการฟงั คาถามเก่ยี วกับใจความสาคญั ของเรื่อง เชน่ ใคร และอ่านบทสนทนา และนทิ านง่ายๆ ทาอะไร ทีไ่ หน เมือ่ ไร หรือเร่อื งส้ันๆ - Yes/No Question เช่นIs/Are/Can…? Yes,…is/are/can./ No,…isn’t/aren’t/can’t. Do/Does/Can/Is/Are...? Yes/No… etc. - Wh-Question เช่น Who is/are…? He/She is…/They are… What…?/Where…? It is …/They are… What...doing? …is/am/are… etc. - Or-Question เช่น Is this/it a/an...or a/an…? It is a/an… etc. หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) โรงเรียนอนบุ าลกระสงั สพป.บรุ รี ัมย์ เขต ๒

๕๓ ชน้ั ตวั ชว้ี ัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ป.๖ ๑. ปฏิบตั ิตามคาสง่ั คาขอร้อง และ คาส่ัง คาขอร้อง ภาษาทา่ ทาง และคาแนะนาในการเลน่ เกม คาแนะนาท่ีฟังและอ่าน การวาดภาพ การทาอาหารและเครื่องด่มื และการประดิษฐ์ - คาสงั่ เช่น Look at the…/here/over there./ Say itagain./ Read and draw./ Put a/an…in/on/under a/an…/ Don’t go over there. etc. - คาขอรอ้ ง เชน่ Please look up the meaning in a dictionary./ Look up the meaning in a dictionary, please./ Can/Could you help me, please? etc. - คาแนะนา เชน่ You should read everyday./ Think before you speak./ คาศัพทท์ ใ่ี ชใ้ นการ เลน่ เกม Start./ My turn./ Your turn./ Roll the dice./ Count the number./ Finish./คาบอกลาดับ ขัน้ ตอน First,… Second,… Next,… Then,… Finally,… etc. ๒. อ่านออกเสียงขอ้ ความ นิทาน ข้อความ นทิ าน และบทกลอน การใชพ้ จนานุกรม และบทกลอนส้ันๆ ถูกตอ้ งตาม หลกั การอ่านออกเสียง เช่น หลกั การอ่าน - การออกเสียงพยญั ชนะต้นคาและพยญั ชนะทา้ ยคา - การออกเสยี งเน้นหนกั -เบา ในคาและกลุม่ คา - การออกเสียงตามระดับเสียงสงู -ตา่ ในประโยค - การออกเสียงเช่ือมโยง (linking sound) ในข้อความ - การออกเสียงบทกลอนตามจังหวะ ๓. เลอื ก/ระบุประโยค หรอื ข้อความ ประโยค หรือขอ้ ความ สญั ลกั ษณ์ เครือ่ งหมาย สั้นๆ ตรงตามภาพ สัญลกั ษณ์ หรอื และความหมายเกยี่ วกบั ตนเอง ครอบครวั โรงเรียน เครอ่ื งหมายทอ่ี า่ น ส่ิงแวดลอ้ ม อาหาร เคร่อื งด่ืม เวลาวา่ งและ นนั ทนาการ สขุ ภาพและสวัสดกิ าร การซ้ือ -ขาย และลมฟา้ อากาศ และเป็นวงคาศพั ท์สะสม ประมาณ ๑,๐๕๐-๑,๒๐๐ คา (คาศพั ท์ทเี่ ปน็ รปู ธรรมและนามธรรม) หลกั สตู รกล่มุ สาระการเรียนรูภ้ าษาตา่ งประเทศ (ภาษาอังกฤษ) โรงเรียนอนุบาลกระสงั สพป.บุรีรัมย์ เขต ๒

๕๔ ชน้ั ตัวชวี้ ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ป.๖ ๔. บอกใจความสาคัญและ ประโยค บทสนทนา นทิ าน หรือเรอื่ งเล่า ตอบ คาถามเกย่ี วกับใจความสาคญั ของเรือ่ ง เชน่ ใคร คาถามจากการฟังและอา่ นบท ทาอะไร ท่ีไหน เมื่อไร อยา่ งไร ทาไม สนทนา นิทานงา่ ยๆ และเรอื่ ง - Yes/No Question เช่น Is/Are/Can…? เล่า Yes,…is/are/can./ No,…isn’t/aren’t/can’t. Do/Does/Can/Is/ Are...? Yes/No… etc. - Wh-Question เชน่ Who is/are…? He/She is…/They are…What…?/Where…? It is …/They are…What...doing? …is/am/are… etc. - Or-Question เช่นIs this/it a/an...or a/an…? It is a/an…Is/Are/Was/Were/Did…or…? etc. ม. ๑ ๑. ปฏิบัติตามคาสัง่ คาขอรอ้ ง คาสัง่ คาขอรอ้ ง คาแนะนา และคาช้ีแจงในการทาอาหารและ คาแนะนา และคาชแ้ี จงงา่ ยๆ เครื่องด่ืม การประดิษฐ์ การใชย้ า/ สลากยา การบอกทศิ ทาง ทฟ่ี ังและอ่าน ปา้ ยประกาศต่างๆ หรอื การใชอ้ ุปกรณ์ - คาส่ัง เช่น Look at the…/here/over there./ Say it again/ Read and draw./ Put a/an…in/on/under a/an…/ Go to the window and open it./ Take out the book, open on page ๑๗ and read it./ Don’t go over there./ Don’t be late. etc. - คาขอรอ้ ง เชน่ Please look up the meaning in a dictionary./ Look up the meaning in a dictionary, please./ Can/Could you help me, please?/ Excuse me, could you …? etc. - คาแนะนา เชน่ You should read everyday./ Think before you speak./ คาศพั ท์ท่ีใชใ้ นการเล่นเกม Start./ My turn./ Your turn./ Roll the dice./ Count the number./ Finish. etc. - คาสันธาน (conjunction) เช่น and/but/or - ตัวเชอ่ื ม (connective words) เชน่ First,… Second,…Third,… Next,… Then,… Finally,… etc. หลกั สูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) โรงเรียนอนุบาลกระสงั สพป.บุรีรมั ย์ เขต ๒

๕๕ ชน้ั ตัวชว้ี ัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ๒. อ่านออกเสียงขอ้ ความ ขอ้ ความ นิทาน และบทร้อยกรอง การใช้พจนานกุ รม นิทาน และบทรอ้ ยกรอง หลักการอ่านออกเสยี ง เชน่ (poem) สนั้ ๆ ถูกต้องตาม - การออกเสียงพยญั ชนะต้นคาและพยญั ชนะท้ายคา หลกั การอ่าน - การออกเสยี งเนน้ หนกั -เบา ในคาและกลมุ่ คา - การออกเสยี งตามระดับเสยี งสงู -ตา่ ในประโยค ๓. เลอื ก/ระบปุ ระโยคและ - การแบง่ วรรคตอนในการอ่าน ข้อความใหส้ มั พนั ธ์กับสื่อ - การอ่านบทร้อยกรองตามจังหวะ ที่ไม่ใชค่ วามเรยี ง ประโยค หรือข้อความ และความหมายเกี่ยวกบั ตนเอง ครอบครัว (non-text information) โรงเรียน ส่ิงแวดล้อม อาหาร เครอ่ื งดม่ื เวลาวา่ งและนนั ทนาการ ท่ีอา่ น สขุ ภาพและสวสั ดิการ การซอ้ื -ขาย ลมฟ้าอากาศ การศึกษาและ อาชพี การเดนิ ทางท่องเท่ยี ว การบรกิ าร สถานท่ี ภาษา และ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี เป็นวงคาศัพทส์ ะสมประมาณ ๑,๔๐๐-๑,๕๕๐ คา (คาศพั ทท์ เ่ี ปน็ รปู ธรรมและนามธรรม) การตีความ/ถา่ ยโอนข้อมูลให้สัมพันธก์ ับสอื่ ที่ไม่ใช่ความเรยี ง เช่น สัญลกั ษณ์ เครอ่ื งหมาย กราฟ แผนภมู ิ ตาราง ภาพสตั ว์ สง่ิ ของ บุคคล สถานทต่ี ่างๆ โดยใช้ Comparison of adjectives/ adverbs/ Contrast : but, although/ Quantity words เช่น many/ much/ a lot of/ lots of/ some/ any/ a few/ few/ a little/ little etc. ๔. ระบุหัวข้อเรื่อง (topic) -บทสนทนา นิทาน เรอื่ งสน้ั และเร่อื งจากสื่อประเภทต่างๆ เชน่ ใจความสาคญั (main idea) หนังสือพมิ พ์ วารสาร วิทยุ โทรทัศน์ เวบ็ ไซด์ และตอบคาถามจากการฟัง -การจบั ใจความสาคญั เชน่ หวั ข้อเรอ่ื ง ใจความสาคญั รายละเอียด และอา่ นบทสนทนา นทิ าน สนบั สนุน และเรื่องสนั้ -คาถามเกยี่ วกับใจความสาคญั ของเรอ่ื ง เชน่ ใคร ทาอะไร ท่ไี หน เม่อื ไร อยา่ งไร ทาไม ใชห่ รือไม่ - Yes/No Question - Wh-Question - Or-Question etc. - Tenses : present simple/ present continuous/ past simple/ future simple etc. - Simple sentence/ Compound sentence หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ (ภาษาอังกฤษ) โรงเรยี นอนุบาลกระสัง สพป.บรุ รี ัมย์ เขต ๒

๕๖ ชัน้ ตัวช้วี ดั สาระการเรยี นร้แู กนกลาง ม.๒ ๑. ปฏบิ ัตติ ามคาขอรอ้ ง คาขอรอ้ ง คาแนะนา คาชแ้ี จง และคาอธิบาย เช่น คาแนะนา คาชแี้ จง การทาอาหารและเครอ่ื งดม่ื การประดษิ ฐ์ และคาอธิบายงา่ ยๆ ท่ีฟัง การใชย้ า/สลากยา การบอกทศิ ทาง การใชอ้ ุปกรณ์ และอ่าน - Passive Voice ทใ่ี ชใ้ นโครงสรา้ งประโยคงา่ ยๆ เช่น is/are + Past Participle - คาสนั ธาน (conjunction) เชน่ and/ but/ or/ before/ after etc. - ตวั เช่อื ม (connective words) เช่น First,… Second,… Third,… Fourth,… Finally,… etc. ๒. อา่ นออกเสยี งข้อความ ขอ้ ความ ขา่ ว ประกาศ และบทรอ้ ยกรอง การใชพ้ จนานกุ รม ขา่ ว ประกาศ และบทร้อย หลกั การอา่ นออกเสยี ง เชน่ กรองสนั้ ๆ ถกู ตอ้ งตาม - การออกเสียงพยญั ชนะตน้ คาและพยญั ชนะทา้ ยคา หลกั การอ่าน - การออกเสยี งเน้นหนกั -เบา ในคาและกลมุ่ คา - การออกเสยี งตามระดบั เสียงสงู -ตา่ ในประโยค - การออกเสยี งเชื่อมโยงในข้อความ - การแบ่งวรรคตอนในการอา่ น - การอา่ นบทร้อยกรองตามจงั หวะ ๓. ระบ/ุ เขียนประโยค และ ประโยค หรอื ขอ้ ความ และความหมายเกยี่ วกับตนเอง ครอบครัว ขอ้ ความ ใหส้ ัมพนั ธ์กับส่ือที่ โรงเรียน ส่ิงแวดลอ้ ม อาหาร เคร่ืองดม่ื เวลาว่างและนันทนาการ ไม่ใชค่ วามเรยี ง รูปแบบ ต่างๆ สขุ ภาพและสวสั ดิการ การซ้อื -ขาย ลมฟา้ อากาศ การศึกษาและ ทอี่ า่ น อาชพี การเดนิ ทางทอ่ งเท่ียว การบรกิ าร สถานที่ ภาษา และ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี เปน็ วงคาศัพท์สะสมประมาณ ๑,๗๕๐-๑,๙๐๐ คา (คาศพั ทท์ ี่เป็น รูปธรรมและนามธรรม) การตีความ/ถ่ายโอนข้อมลู ใหส้ มั พนั ธก์ บั ส่ือทีไ่ ม่ใชค่ วามเรยี ง เช่น สัญลักษณ์ เคร่อื งหมาย กราฟ แผนภูมิ แผนผงั ตาราง ภาพสตั ว์ ส่งิ ของ บุคคล สถานทต่ี ่างๆ โดยใช้ Comparison of adjectives/ adverbs/ Contrast: but, although/ Quantity words เชน่ many/ much/ a lot of/ lots of/ some/ any/ a few/ few/ a little/ little etc. หลกั สูตรกล่มุ สาระการเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศ (ภาษาอังกฤษ) โรงเรียนอนบุ าลกระสัง สพป.บรุ ีรัมย์ เขต ๒

๕๗ ช้นั ตวั ชี้วัด สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง ๔. เลือกหัวข้อเรื่อง บทสนทนา นทิ าน เร่ืองสั้น และเรื่องจากสื่อประเภทตา่ งๆ เชน่ ใจความสาคญั หนงั สือพมิ พ์ วารสาร วิทยุ โทรทัศน์ เวบ็ ไซด์ การจับใจความสาคญั บอกรายละเอียดสนับสนนุ เชน่ หวั ขอ้ เร่ือง ใจความสาคญั รายละเอยี ดสนบั สนุน (supporting detail) และ คาถามเกยี่ วกบั ใจความสาคญั ของเรื่อง เช่น ใคร แสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั ทาอะไร ท่ีไหน เม่อื ไร อย่างไร ทาไม ใชห่ รอื ไม่ เร่ืองท่ีฟังและอ่าน - Yes/No Question - Wh-Question - Or-Question etc. พร้อมท้งั ให้เหตุผลและ ประโยคทใ่ี ช้ในการแสดงความคดิ เหน็ การใหเ้ หตผุ ล และการ ยกตัวอยา่ งงา่ ยๆ ประกอบ ยกตวั อยา่ ง เช่น I think…/ I feel…/ I believe… - คาสันธาน (conjunctions) and/ but/ or/ because/ so/ before/after - ตัวเชอื่ ม (connective words) First,… Next,… After,… Then,… Finally,… etc. - Tenses: present simple/ present continuous/ present perfect/ past simple/ future tense etc. - Simple sentence/Compound sentence ม.๓ ๑. ปฏบิ ัตติ ามคาขอร้อง คาขอร้อง คาแนะนา คาช้แี จง และคาอธบิ าย ในการประดษิ ฐ์ การ คาแนะนา บอกทศิ ทาง ป้ายประกาศตา่ งๆ การใช้อปุ กรณ์ คาชีแ้ จง และคาอธบิ ายท่ี - Passive Voice ทใ่ี ช้ในโครงสร้างประโยคง่ายๆ เช่น is/are + ฟงั และอ่าน past partciple - คาสนั ธาน (conjunction) เช่น and/ but/ or/ before/ after/ because etc. - ตัวเชื่อม (connective words) เชน่ First,… Second,…Third,… Fourth,… Next,… Then,… Finally,… etc. ๒. อ่านออกเสยี งข้อความ ข้อความ ข่าว โฆษณา และบทรอ้ ยกรอง การใชพ้ จนานกุ รม ขา่ ว โฆษณา และบทรอ้ ย หลักการอ่านออกเสียง เช่น กรองสัน้ ๆ ถูกตอ้ งตาม - การออกเสียงพยัญชนะต้นคาและพยัญชนะท้ายคา สระเสียงส้นั หลกั การอ่าน สระเสยี งยาว สระประสม - การออกเสียงเน้นหนกั -เบา ในคาและกลมุ่ คา - การออกเสยี งตามระดับเสียงสูง-ตา่ ในประโยค - การออกเสียงเช่อื มโยงในข้อความ - การแบง่ วรรคตอนในการอ่าน - การอา่ นบทร้อยกรองตามจังหวะ หลกั สตู รกล่มุ สาระการเรียนรภู้ าษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) โรงเรียนอนุบาลกระสัง สพป.บุรีรัมย์ เขต ๒

๕๘ ช้นั ตัวชีว้ ดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง ๓. ระบแุ ละเขยี นส่อื ที่ ประโยค ข้อความ และความหมายเกย่ี วกบั ตนเอง ครอบครัว โรงเรียน ไม่ใชค่ วามเรียง รปู แบบต่างๆ สงิ่ แวดล้อม อาหาร เครื่องด่มื เวลาวา่ งและนันทนาการ สุขภาพและ ให้สมั พันธก์ ับประโยค และ สวสั ดกิ าร การซอ้ื -ขาย ลมฟา้ อากาศ การศึกษาและอาชีพ การ ข้อความท่ีฟังหรืออา่ น เดนิ ทางท่องเที่ยว การบรกิ าร สถานท่ี ภาษา และวทิ ยาศาสตร์และ เทคโนโลยี เปน็ วงคาศัพท์สะสมประมาณ ๑,๔๐๐-๑,๕๕๐ คา (คาศัพท์ ทเ่ี ปน็ รูปธรรมและนามธรรม) การตคี วาม/ถา่ ยโอนขอ้ มลู ให้ สมั พันธก์ บั สือ่ ที่ไมใ่ ชค่ วามเรยี ง เช่น สัญลกั ษณ์ เครอื่ งหมาย กราฟ แผนภูมิ ตาราง ภาพสัตว์ สงิ่ ของ บคุ คล สถานทีต่ ่างๆ โดยใช้ Comparison of adjectives/ adverbs/ Contrast : but, although/ Quantity words เชน่ many/ much/ a lot of/ lots of/ some/ any /a few/ few/ a little/ little etc. ๔. เลอื ก/ระบุหัวขอ้ เรือ่ ง การจับใจความสาคัญ เช่น หัวข้อเรือ่ ง ใจความสาคญั รายละเอยี ด ใจความสาคญั สนบั สนุน จากสื่อสงิ่ พมิ พแ์ ละส่อื อเิ ล็กทรอนิกส์ เชน่ หนงั สือพมิ พ์ รายละเอียดสนับสนนุ วารสาร วิทยุ โทรทศั น์ เว็บไซด์บนอนิ เทอร์เน็ตคาถามเกยี่ วกบั และแสดงความคดิ เหน็ ใจความสาคญั ของเรอื่ ง เชน่ ใคร ทาอะไร ทไี่ หน เมื่อไร อย่างไร เกยี่ วกบั เรือ่ งที่ฟังและอ่าน ทาไม ใชห่ รือไม่ จากส่อื ประเภทตา่ งๆ - Yes/No Question, Wh-Question, - Or-Question etc. พรอ้ มทั้งให้เหตุผลและ ประโยคที่ใช้ในการแสดงความคิดเหน็ การใหเ้ หตุผลและการ ยกตัวอย่างประกอบ ยกตวั อย่าง เชน่ I think…/ I feel…/ I believe…/ I agree/disagree…/ I don’t believe…/ I have no idea… - if clauses - so…that/such…that - คาสนั ธาน (conjunctions) and/ but/ or/ because/ so/ before/ after etc. - Infinitive pronouns :some/ any/ someone/ anyone/ everyone/ one/ ones etc. - Tenses : present simple/ present continuous/ present perfect/ past simple/ future tense etc. - Simple sentence/ Compound sentence/ Complex sentence หลกั สตู รกลุ่มสาระการเรียนรูภ้ าษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) โรงเรยี นอนบุ าลกระสงั สพป.บรุ ีรมั ย์ เขต ๒

๕๙ สาระท่ี ๑ ภาษาเพ่อื การส่ือสาร มาตรฐาน ต ๑.๒ มที ักษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความร้สู ึก และความคิดเหน็ อย่างมีประสิทธภิ าพ ช้นั ตัวชว้ี ัด สาระการเรยี นร้แู กนกลาง ป.๑ ๑. พดู โตต้ อบด้วยคาส้นั ๆ บทสนทนาทใ่ี ชใ้ นการทกั ทาย กล่าวลา ขอบคณุ ขอโทษ และ งา่ ยๆ ในการสอื่ สาร ประโยค/ขอ้ ความท่ีใชแ้ นะนาตนเอง ระหวา่ งบคุ คลตามแบบ เชน่ Hi/ Hello/ Good morning/ Good afternoon/ ที่ฟัง Good evening/ I am…/ Goodbye./ Bye./ Thank you./ I am sorry. etc. ๒. ใชค้ าสัง่ ง่ายๆ ตามแบบ คาสงั่ ทใี่ ชใ้ นหอ้ งเรยี น ท่ฟี ัง ๓. บอกความต้องการ คาศัพท์ สานวน และประโยคท่ใี ชบ้ อกความ งา่ ยๆ ของตนเองตามแบบ ตอ้ งการ เชน่ I want…/Please,… etc. ทฟ่ี งั ๔. พดู ขอและให้ข้อมลู คาศัพท์ สานวน และประโยคท่ใี ช้ขอและให้ขอ้ มลู งา่ ยๆ เก่ยี วกบั ตนเองตาม เก่ยี วกบั ตนเอง เชน่ What’s your name?/ My name แบบทฟี่ ัง is…/ I am…/ How are you?/ I am fine. etc. ป.๒ ๑. พดู โต้ตอบดว้ ยคาส้ันๆ บทสนทนาทใ่ี ช้ในการทักทาย กลา่ วลา ขอบคุณ งา่ ยๆ ในการสอ่ื สาร ขอโทษ และประโยค/ขอ้ ความท่ีใช้แนะนาตนเอง ระหวา่ งบุคคลตามแบบ เชน่ Hi/ Hello/ Good morning/ Good afternoon/ ทีฟ่ ัง Good evening/ How are you?/ I’m fine./ I am… / Goodbye./ Bye./ Thank you./ I am sorry. etc. ๒. ใช้คาสงั่ และคาขอร้อง คาสง่ั และคาขอร้องที่ใชใ้ นหอ้ งเรยี น ง่ายๆ ตามแบบทีฟ่ ัง ๓. บอกความตอ้ งการ คาศัพท์ สานวน และประโยคท่ใี ชบ้ อกความ ง่ายๆ ของตนเองตามแบบ ต้องการ เชน่ I want…/ Please,… etc. ที่ฟงั ๔. พูดขอและใหข้ ้อมูล คาศัพท์ สานวน และประโยคท่ีใชข้ อและใหข้ อ้ มูล งา่ ยๆ เกีย่ วกบั ตนเองตาม เกยี่ วกบั ตนเอง เชน่ What’s your name?/ My name แบบทีฟ่ งั is…/ I am…/ How are you?/ I am fine. etc. หลกั สตู รกลุ่มสาระการเรียนรูภ้ าษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) โรงเรียนอนบุ าลกระสัง สพป.บุรีรมั ย์ เขต ๒

๖๐ ช้นั ตัวช้วี ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ป.๓ ๑. พดู โต้ตอบดว้ ยคาส้นั ๆ บทสนทนาทใ่ี ชใ้ นการทกั ทาย กลา่ วลา ขอบคณุ งา่ ยๆ ในการสอ่ื สารระหวา่ ง ขอโทษ และประโยค/ข้อความทีใ่ ช้แนะนาตนเอง บคุ คลตามแบบทฟี่ งั เช่น Hi/ Hello/ Good morning/ Good afternoon/ Good evening/ I am sorry./ How are you? I’m fine.Thank you. And you?/ Nice to see you./ Nice to see you too./ Goodbye./Bye./ See you soon/ later./ Thanks./ Thank you./ Thank you very much./ You’re welcome. etc. ๒ .ใช้คาส่งั และคาขอร้อง คาส่งั และคาขอรอ้ งทใี่ ช้ในหอ้ งเรียน ง่ายๆ ตามแบบทฟี่ ัง ๓. บอกความตอ้ งการงา่ ยๆ คาศพั ท์ สานวน และประโยคท่ีใชบ้ อกความต้องการ ของตนเองตามแบบท่ฟี ัง เชน่ Please,…/ May I go out?/ May I come in? etc. ๔. พูดขอและให้ข้อมลู ง่ายๆ คาศัพท์ สานวน และประโยคทีใ่ ชข้ อและให้ขอ้ มลู เกย่ี วกบั ตนเองและเพือ่ น เกี่ยวกบั ตนเอง และเพือ่ น เชน่ ตามแบบทฟี่ งั What’s your name? My name is… How are you? I am fine. What time is it? It is one o’clock. What is this? It is a/an… How many…are there? There is a/an…/There are… Who is…? He/She is… etc. ๕. บอกความรสู้ ึกของตนเอง คาและประโยคท่ีใช้แสดงความรู้สกึ เชน่ ดใี จ เกย่ี วกบั สิ่งตา่ งๆ ใกล้ตวั หรอื เสยี ใจ ชอบไมช่ อบ เช่น Yeah!/ Great!/ Cool!/ กิจกรรมตา่ งๆ ตามแบบที่ฟงั I’m happy./ I like cats./ I don’t like snakes. etc. ป.๔ ๑. พดู /เขียนโตต้ อบในการ บทสนทนาทใ่ี ชใ้ นการทักทาย กล่าวลา ขอบคุณ ขอโทษ การพูด สอื่ สารระหวา่ งบุคคล แทรกอย่างสภุ าพ ประโยค/ ข้อความท่ใี ช้แนะนาตนเอง เพอื่ น และบคุ คลใกลต้ ัว และสานวนการตอบรบั เช่น Hi/Hello/Good morning/Good afternoon/Good evening/ I am sorry./How are you?/I’m fine. Thank you. And you?/ Hello.I am… Hello,…I am… This is my sister.Her name is… Hello,…/Nice to see you. Nice to see you too. หลกั สตู รกลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) โรงเรียนอนุบาลกระสงั สพป.บรุ รี ัมย์ เขต ๒

๖๑ ช้ัน ตวั ช้วี ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง Goodbye./ Bye./See you soon/later./ Thanks./Thank you./Thank you very much./You’re welcome./It’s O.K. etc. ๒ .ใช้คาสั่ง คาขอร้อง และคา คาส่ัง คาขอร้อง และคาขออนญุ าตทใี่ ช้ใน ขออนญุ าตง่ายๆ หอ้ งเรยี น ๓. พดู /เขยี นแสดงความ คาศพั ท์ สานวน และประโยคทใี่ ชแ้ สดงความ ต้องการของตนเอง และขอ ตอ้ งการและขอความช่วยเหลือในสถานการณ์ต่างๆ ความชว่ ยเหลอื ในสถานการณ์ เชน่ I want …/ Please…/ May…?/ I need your งา่ ยๆ help./ Please help me./ Help me! etc. ๔. พูด/เขยี นเพอื่ ขอและให้ คาศัพท์ สานวน และประโยคทีใ่ ช้ขอและใหข้ ้อมลู ข้อมูลเกีย่ วกับตนเอง เพ่ือน เกี่ยวกบั ตนเอง สิ่งใกล้ตัว เพอื่ น และครอบครัว และครอบครัว เช่นWhat’s your name? My name is… What time is it? It is one o’clock. What is this? It is a/an… How many…are there? There is a/an…/There are… Where is the…? It is in/on/under…etc. ๕. พดู แสดงความรู้สึกของ คาและประโยคที่ใชแ้ สดงความรู้สกึ เชน่ ดใี จ ตนเองเกย่ี วกบั เรอ่ื งต่างๆ เสียใจ ชอบ ไมช่ อบ รัก ไมร่ กั เชน่ ใกล้ตัว และกจิ กรรมต่างๆ I/You/We/They like…/He/She likes… ตามแบบทฟ่ี งั I/You/We/They love…/He/She loves… I/You/We/They don’t like/love/feel… He/She doesn’t like/love/feel… I/You/We/They feel… etc. ป.๕ ๑. พูด/เขยี นโต้ตอบในการ บทสนทนาทใ่ี ชใ้ นการทกั ทาย กลา่ วลา ขอบคณุ ส่อื สารระหว่างบคุ คล ขอโทษ ชมเชย การพูดแทรกอยา่ งสุภาพ ประโยค/ ข้อความทใ่ี ช้แนะนาตนเอง เพื่อน และบคุ คลใกล้ ตวั และสานวนการตอบรับ เช่น Hi/ Hello/ Good morning/ Good afternoon/ Good evening/ I am sorry./ How are you?/ I’m fine. Thank you. And you?/ หลกั สูตรกลุม่ สาระการเรียนร้ภู าษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) โรงเรยี นอนบุ าลกระสงั สพป.บรุ ีรมั ย์ เขต ๒

๖๒ ช้นั ตัวช้วี ดั สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง Hello. I am…/ Hello,…I am… This is my sister. Her name is… /Hello,…/ Nice to see you. Nice to see you too./ Goodbye./ Bye./ See you soon/later./ Good/Very good./ Thanks./ Thank you./ Thank you very much./ You’re welcome./ It’s O.K. etc. ๒. ใช้คาส่งั คาขอรอ้ ง คาสัง่ คาขอร้อง คาแนะนาทมี่ ี ๑-๒ ขั้นตอน คาขออนุญาต และให้ คาแนะนาง่ายๆ ๓. พดู /เขยี นแสดงความ คาศพั ท์ สานวน และประโยคท่ใี ชบ้ อกความตอ้ งการ ขอความ ตอ้ งการขอความชว่ ยเหลอื ช่วยเหลือ ตอบรบั และปฏิเสธการใหค้ วามช่วยเหลอื เชน่ ตอบรบั และปฏิเสธการให้ Please…/ May…?/I need…/ Help me!/ Can/ Could…?/ ความช่วยเหลือในสถานการณ์ Yes,.../No,…etc. งา่ ยๆ ๔. พดู /เขยี นเพ่ือขอและให้ คาศพั ท์ สานวน และประโยคทใ่ี ชข้ อและให้ขอ้ มูล ขอ้ มลู เกย่ี วกบั ตนเอง เพอื่ น เกยี่ วกบั ตนเอง เพ่ือน ครอบครวั และเร่อื งใกล้ตวั ครอบครัวและเรอ่ื งใกล้ตัว เชน่ What do you do? I’m a/an… What is she/he? …is a/an (อาชพี ) How old/tall…? I am… Is/Are/Can…or…? …is/are/can… Is/Are…going to…or…? …is/are going to… etc. ๕. พดู /เขยี นแสดงความรสู้ กึ คาและประโยคทใี่ ชแ้ สดงความรสู้ ึก เชน่ ชอบไม่ชอบ ดใี จ เสียใจ ของตนเองเก่ียวกับเร่ืองต่างๆ มคี วามสขุ เศรา้ หวิ รสชาตเิ ชน่ ใกลต้ ัวและกิจกรรมตา่ งๆ I’m…/He/She/It is…/You/We/They are… พร้อมท้งั ใหเ้ หตผุ ลสน้ั ๆ I/You/We/They like…/He/She likes…because… ประกอบ I/You/We/They love…/He/She loves…because… I/You/We/They don’t like/love/feel…because… He/She doesn’t like/love/feel…because… I/You/We/They feel…because… etc. หลกั สูตรกลมุ่ สาระการเรียนรูภ้ าษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) โรงเรยี นอนบุ าลกระสัง สพป.บุรรี ัมย์ เขต ๒

๖๓ ชน้ั ตวั ชีว้ ดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ป.๖ ๑. พดู /เขยี นโตต้ อบในการ บทสนทนาทใ่ี ช้ในการทกั ทาย กล่าวลา ขอบคุณ สอ่ื สารระหว่างบคุ คล ขอโทษ ชมเชย การพูดแทรกอย่างสภุ าพ ประโยค/ ข้อความทีใ่ ช้แนะนาตนเอง เพอ่ื น และบุคคลใกล้ ตัว และสานวนการตอบรับ เช่น Hi/ Hello/ Good morning/ Good afternoon/ Good evening/ I amsorry./ How are you?/ I’m fine./Very well./ Thank you. And you?/ Hello. I am… Hello,…I am… This is my sister. Her name is… Hello,…/ Nice to see you. Nice to see you, too./ Goodbye./ Bye./ See you soon/later./ Great!/ Good./ Very good. Thank you./ Thank you very much./ You’re welcome./ It’s O.K./ That’s O.K./ That’s all right./ Not at all./Don’t worry./Never mind./ Excuse me./ Excuse me, Sir./Miss./Madam. etc. ๒. ใชค้ าส่งั คาขอร้อง และให้ คาส่ัง คาขอร้อง และคาแนะนาทม่ี ี ๒-๓ ขนั้ ตอน คาแนะนา ๓. พูด/เขียนแสดงความ คาศพั ท์ สานวน และประโยคทใี่ ชบ้ อกความ ต้องการขอความช่วยเหลือ ตอ้ งการ ขอความช่วยเหลอื ตอบรบั และปฏเิ สธ ตอบรับและปฏเิ สธการใหค้ วาม การใหค้ วามชว่ ยเหลือ เชน่ Please…/ May…?/ I ชว่ ยเหลือในสถานการณ์ง่ายๆ need…/ Help me!/ Can/Could…?/ Yes,.../No,…etc. ๔. พูดและเขยี นเพื่อขอและให้ คาศพั ท์ สานวน และประโยคท่ใี ชข้ อและใหข้ ้อมูล ขอ้ มลู เกยี่ วกับตนเอง เพอื่ น เกย่ี วกบั ตนเอง เพอ่ื น ครอบครัว และเร่ืองใกล้ตวั เช่น ครอบครวั และเร่ืองใกล้ตวั What do you do? I’m a/an… What is she/he? …is a/an (อาชพี ) How old/tall…? I am… Is/Are/Can…or…? …is/are/can… Is/Are…going to…or…? …is/are going to…etc. หลักสตู รกลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) โรงเรยี นอนบุ าลกระสงั สพป.บุรีรมั ย์ เขต ๒

๖๔ ช้นั ตวั ชว้ี ัด สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง ๕. พูด/เขียนแสดงความร้สู กึ คาและประโยคท่ใี ช้แสดงความรูส้ ึก และการให้เหตผุ ลประกอบ ของตนเองเกยี่ วกับเรื่องตา่ งๆ เชน่ ชอบ/ไม่ชอบ ดใี จ เสียใจ มคี วามสุข เศร้า หวิ รสชาติ สวย ใกลต้ วั กจิ กรรมตา่ งๆ พร้อม นา่ เกลยี ด เสียงดงั ดี ไม่ดี เช่น ทง้ั ให้เหตุผลสัน้ ๆ ประกอบ I’m…/He/She/It is…/You/We/They are… I/You/We/They like…/He/She likes…because… I/You/We/They love…/He/She loves…because… I/You/We/They don’t like/love/feel…because… He/She doesn’t like/love/feel…because… I/You/We/They feel…because… etc. ม.๑ ๑. สนทนา แลกเปล่ียนขอ้ มูล ภาษาที่ใช้ในการสื่อสารระหวา่ งบคุ คล เช่น การ เกี่ยวกบั ตนเอง กจิ กรรม และ ทกั ทาย กล่าวลา ขอบคณุ ขอโทษ ชมเชย การพูด สถานการณ์ต่างๆ ใน แทรกอยา่ งสุภาพ การชักชวน ประโยค/ขอ้ ความ ชีวิตประจาวนั ที่ใชแ้ นะนาตนเอง เพื่อน และบุคคลใกลต้ วั และ สานวนการตอบรบั การแลกเปลี่ยนขอ้ มูลเกยี่ วกับ ตนเอง กจิ กรรม สถานการณต์ ่างๆ ในชวี ิตประจาวนั ๒. ใช้คาขอรอ้ ง ใหค้ าแนะนา คาขอรอ้ ง คาแนะนา และคาชีแ้ จง และคาชแ้ี จง ตามสถานการณ์ ๓. พูดและเขยี นแสดงความ ภาษาท่ใี ช้ในการแสดงความต้องการ ขอความ ต้องการขอความช่วยเหลอื ช่วยเหลอื ตอบรับและปฏเิ สธการให้ความ ตอบรบั และปฏเิ สธการให้ ชว่ ยเหลือ เช่น ความชว่ ยเหลือในสถานการณ์ Please…/…, please./ I’d like…/ I need…/ ต่างๆ อยา่ งเหมาะสม May/Can/Could…?/ Yes,../Please do./Certainly./ Yes, of course./ Sure./ Go right ahead./ Need some help?/ What can I do to help?/ Would you like any help?/ I’m afraid…/ I’m sorry, but…/ Sorry, but… etc. ๔. พดู และเขยี นเพ่ือขอและ คาศัพท์ สานวน ประโยค และข้อความทีใ่ ช้ในการ ให้ข้อมูล และแสดงความ ขอและให้ขอ้ มูล และแสดงความคิดเหน็ เกีย่ วกับ คดิ เหน็ เก่ยี วกับเรอื่ งทีฟ่ ังหรือ เร่อื งท่ีฟังหรอื อ่าน อา่ นอย่างเหมาะสม หลักสูตรกลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ (ภาษาอังกฤษ) โรงเรยี นอนบุ าลกระสงั สพป.บุรีรมั ย์ เขต ๒

๖๕ ชน้ั ตวั ชว้ี ัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ๕. พดู และเขยี นแสดงความร้สู กึ ภาษาทใ่ี ช้ในการแสดงความร้สู กึ ความคดิ เหน็ และใหเ้ หตผุ ล และความคดิ เหน็ ของตนเอง ประกอบ เชน่ ชอบ ไมช่ อบ ดใี จ เสยี ใจ มีความสุข เศรา้ หวิ เกีย่ วกบั เรอื่ งต่างๆ ใกล้ตัว รสชาติ สวย นา่ เกลยี ด เสยี งดัง ดี ไมด่ ี จากข่าว เหตกุ ารณ์ กิจกรรมตา่ งๆพร้อมทงั้ ใหเ้ หตผุ ล สถานการณ์ ในชวี ติ ประจาวนั เช่น Nice/ Very nice./ Well สนั้ ๆ ประกอบอย่างเหมาะสม done!/ Congratulations. I like… because… / I love… because…/ I feel… because…I think…/ I believe…/ I agree/disagree… I don’t believe…/ I have no idea…/ Oh no! etc. ม.๒ ๑. สนทนา แลกเปลยี่ นข้อมูล ภาษาทใ่ี ช้ในการสอ่ื สารระหว่างบุคคล เช่น การทักทาย เกี่ยวกับตนเอง เรอื่ งต่างๆ กล่าวลา ขอบคณุ ขอโทษ ชมเชย การพดู แทรกอยา่ งสุภาพ ใกลต้ ัว และสถานการณต์ ่างๆ การชักชวน ประโยค/ขอ้ ความ ทใี่ ชแ้ นะนาตนเอง เพ่ือน ในชวี ิตประจาวนั อย่างเหมาะสม และบุคคลใกลต้ ัว และสานวนการตอบรบั การแลกเปล่ียน ข้อมลู เกย่ี วกับตนเอง เรอ่ื งใกลต้ ัว สถานการณต์ ่างๆ ในชวี ติ ประจาวนั ๒. ใชค้ าขอรอ้ ง ให้คาแนะนา คาขอรอ้ ง คาแนะนา คาชีแ้ จง และคาอธิบาย คาช้แี จง และคาอธิบายตาม สถานการณ์ ๓.พดู และเขียนแสดงความ ภาษาทใี่ ชใ้ นการแสดงความตอ้ งการ เสนอและใหค้ วาม ต้องการ เสนอและให้ความ ช่วยเหลือ ตอบรบั และปฏเิ สธการให้ความช่วยเหลือใน ชว่ ยเหลือ ตอบรับและปฏิเสธการ สถานการณต์ า่ งๆ เชน่ Please…/…, please./ I’d like…/ I ให้ความชว่ ยเหลอื need… / May/Can/Could…?/ Yes,../Please do./ ในสถานการณต์ ่างๆ อย่าง Certainly./ Yes, of course./ Sure./ Go right ahead./ เหมาะสม Need some help?/ What can I do to help?/ Would you like any help?/ I’m afraid…/ I’m sorry, but…/ Sorry, but… etc. ๔. พดู และเขียนเพือ่ ขอและให้ คาศัพท์ สานวน ประโยค และขอ้ ความท่ีใช้ในการขอและให้ ขอ้ มลู บรรยาย และแสดงความ ขอ้ มลู บรรยาย และแสดงความคิดเหน็ เกยี่ วกบั เร่ืองท่ฟี ังหรือ คดิ เห็นเกย่ี วกบั เรื่องท่ีฟงั หรืออ่าน อ่าน อย่างเหมาะสม หลักสูตรกลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศ (ภาษาอังกฤษ) โรงเรียนอนุบาลกระสัง สพป.บรุ ีรมั ย์ เขต ๒

๖๖ ชั้น ตัวช้วี ัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ๕. พูดและเขียนแสดงความรูส้ ึก ภาษาที่ใช้ในการแสดงความรู้สึก ความคิดเห็น และใหเ้ หตุผล และความคิดเห็นของตนเอง ประกอบ เช่น ชอบ ไม่ชอบ ดใี จ เสียใจ มีความสขุ เศรา้ หิว เก่ยี วกบั เร่ืองตา่ งๆ กิจกรรม และ รสชาติ สวย นา่ เกลยี ด เสียงดงั ดี ไมด่ ี จากขา่ ว เหตุการณ์ ประสบการณ์ พรอ้ มท้งั ใหเ้ หตุผล สถานการณ์ ในชวี ติ ประจาวัน เช่น Nice./ Very nice./ Well ประกอบอยา่ ง เหมาะสม done!/ Congratulations on… / I like…because…/ I love…because…/ I feel… because…/ I think…/ I believe…/ I agree/ disagree…/ I’m afraid I don’t like…/ I don’t believe…/ I have no idea…/Oh no! etc. ม.๓ ๑. สนทนาและเขยี นโตต้ อบ ภาษาท่ีใชใ้ นการสอ่ื สารระหว่างบคุ คล เชน่ การทักทาย กล่าว ข้อมลู เกย่ี วกับตนเอง เรือ่ งต่างๆ ลา ขอบคุณ ขอโทษ ชมเชย การพูดแทรกอย่างสภุ าพ การ ใกล้ตวั สถานการณ์ ข่าว เรอ่ื งที่ ชักชวน การแลกเปลี่ยนขอ้ มลู เก่ียวกบั ตนเอง เร่ืองใกล้ตวั อย่ใู นความสนใจของสงั คมและ สถานการณ์ต่างๆ ในชีวิตประจาวัน การสนทนา/เขียนข้อมูล สอ่ื สารอยา่ งต่อเน่ืองและ เกยี่ วกบั ตนเองและบุคคลใกลต้ วั สถานการณ์ ขา่ ว เร่ืองทอี่ ยู่ใน เหมาะสม ความสนใจในชวี ิตประจาวนั ๒. ใชค้ าขอรอ้ ง ให้คาแนะนา คาขอร้อง คาแนะนา คาช้แี จง คาอธิบาย ทม่ี ขี ้ันตอนซบั ซ้อน คาช้ีแจง และคาอธิบายอย่าง เหมาะสม ภาษาทีใ่ ช้ในการแสดงความตอ้ งการ เสนอและใหค้ วาม ๓. พูดและเขียนแสดงความ ต้องการ เสนอและให้ความ ชว่ ยเหลือ ตอบรบั และปฏิเสธการให้ความช่วยเหลอื ใน ช่วยเหลอื ตอบรบั และปฏเิ สธ สถานการณ์ต่างๆ เช่น Please…/…, please./ I’d like…/ I การใหค้ วามชว่ ยเหลอื need…/ May/Can/Could…?/ Yes,../Please do./ ในสถานการณต์ า่ งๆ อยา่ ง Certainly./ Please…/…, please./ I’d like…/ I need…/ เหมาะสม May/Can/Could…?/ Yes,../Please do./ Certainly./ Yes, of course./ Sure./ Go right ahead./ Need some help?/ What can I do to help?/ Would you like any help?/ I’m afraid…/ I’m sorry, but…/ Sorry, but… etc. ๔. พูดและเขยี นเพ่อื ขอและให้ คาศัพท์ สานวน ประโยค และข้อความที่ใชใ้ นการขอและให้ ข้อมูล อธบิ าย เปรยี บเทยี บ และ ข้อมลู อธิบาย เปรยี บเทยี บ และแสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกับ แสดงความคิดเหน็ เกี่ยวกับเรอ่ื งท่ี เรอ่ื งที่ฟงั หรืออ่าน ฟังหรอื อ่านอย่างเหมาะสม หลกั สูตรกลุ่มสาระการเรยี นร้ภู าษาตา่ งประเทศ (ภาษาอังกฤษ) โรงเรียนอนบุ าลกระสงั สพป.บรุ รี ัมย์ เขต ๒

๖๗ ช้ัน ตวั ช้วี ัด สาระการเรยี นร้แู กนกลาง ๕. พดู และเขยี นบรรยาย ภาษาที่ใชใ้ นการแสดงความรู้สกึ ความคดิ เหน็ และให้เหตผุ ล ความรูส้ ึก และความคิดเห็นของ ประกอบ เช่น ชอบ ไม่ชอบ ดีใจ เสยี ใจ มีความสขุ เศรา้ หวิ ตนเองเกี่ยวกับ รสชาติ สวย น่าเกลียด เสียงดัง ดี ไม่ดี จากขา่ ว เหตกุ ารณ์ เรอ่ื งต่างๆ กจิ กรรม สถานการณ์ ในชีวิตประจาวัน เชน่ ประสบการณ์ และข่าว/ Nice./ Very nice./ Well done!/ Congratulations on... / เหตกุ ารณ์ พรอ้ มทงั้ ใหเ้ หตผุ ล I like…because…/ I love… because… / ประกอบอย่างเหมาะสม I feel… because…I think…/ I believe…/ I agree/disagree…/ I’m afraid …/ I don’t like… I don’t believe…/ I have no idea…/ Oh no! etc. สาระที่ ๑ ภาษาเพอ่ื การส่ือสาร มาตรฐาน ต ๑.๓ นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเห็นในเร่อื งตา่ งๆ โดยการพดู และการเขยี น ชั้น ตวั ช้วี ัด สาระการเรียนร้แู กนกลาง ป.๑ ๑. พูดใหข้ ้อมลู เกีย่ วกับตนเอง คาและประโยคทใ่ี ช้ในการพดู ใหข้ อ้ มลู เกย่ี วกบั และเรอื่ งใกลต้ วั ตนเอง บคุ คลใกลต้ วั และเรอื่ งใกล้ตัว เชน่ บอกชอ่ื อายุ รูปร่าง สว่ นสงู เรยี กสิ่งตา่ งๆ จานวน ๑-๒๐ สี ขนาด สถานทอ่ี ยูข่ องสิง่ ของ ป.๒ ๑. พูดใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั ตนเอง คาและประโยคท่ีใช้ในการพดู ให้ขอ้ มลู เก่ียวกับตนเอง บุคคล และเร่ืองใกลต้ วั ใกลต้ วั และเรื่องใกล้ตวั เชน่ บอกชื่ออายุ รูปร่าง ส่วนสูง เรยี ก ส่งิ ตา่ งๆ จานวน ๑-๓๐สี ขนาด สถานทีอ่ ย่ขู องสิ่งของ ป.๓ ๑. พูดให้ข้อมลู เกี่ยวกบั ตนเอง คาและประโยคทใี่ ชใ้ นการพดู ให้ขอ้ มลู เกีย่ วกบั และเร่ืองใกล้ตวั ตนเอง บุคคลใกล้ตัว และเร่อื งใกลต้ ัว เช่น บอกช่อื อายุ รปู ร่าง สว่ นสูง เรยี กส่งิ ต่างๆ จานวน ๑-๕๐ สี ขนาด สถานทอี่ ยู่ของสิ่งของ ๒. จดั หมวดหมคู่ าตามประเภท คา กลุ่มคาทม่ี คี วามหมายเกี่ยวกบั บคุ คล สตั ว์ และ ของบคุ คล สตั ว์ และสิ่งของ สง่ิ ของ เชน่ การระบ/ุ เชอ่ื มโยงความสัมพันธข์ อง ตามทฟี่ ังหรอื อ่าน ภาพกบั คา หรอื กลมุ่ คา โดยใชภ้ าพ แผนภมู ิ แผนภาพ แผนผงั หลักสูตรกล่มุ สาระการเรยี นรูภ้ าษาตา่ งประเทศ (ภาษาอังกฤษ) โรงเรยี นอนบุ าลกระสัง สพป.บรุ รี มั ย์ เขต ๒

๖๘ ช้นั ตวั ชวี้ ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ป.๔ ๑. พูด/เขียนใหข้ อ้ มูลเก่ียวกบั ประโยคและขอ้ ความที่ใช้ในการพูดให้ขอ้ มลู เกยี่ วกบั ตนเอง ตนเองและเรือ่ งใกลต้ ัว บุคคล สัตวแ์ ละเร่ืองใกลต้ ัว เช่นชื่อ อายุ รปู รา่ ง สี ขนาด รูปทรง สงิ่ ต่างๆ จานวน๑-๑๐๐ วัน เดือน ปี ฤดกู าล ทอี่ ยขู่ อง สิง่ ตา่ งๆเครือ่ งหมายวรรคตอน ๒. พดู /วาดภาพแสดง คา กลมุ่ คาท่ีมคี วามหมายสมั พนั ธ์ของส่ิงต่างๆvใกล้ตวั เชน่ ความสัมพนั ธข์ องส่งิ ตา่ งๆ ใกล้ตัว การระบุ/เชอ่ื มโยงความสัมพันธ์ของภาพกับคา หรือกลมุ่ คา ตามท่ีฟังหรอื อา่ น โดยใช้ภาพ แผนภมู ิ แผนภาพ แผนผงั ๓. พดู แสดงความคิดเห็นงา่ ยๆ ประโยคท่ีใช้ในการแสดงความคิดเหน็ เก่ยี วกบั เกยี่ วกับเรอื่ งต่างๆ ใกล้ตวั เร่ืองต่างๆ ใกลต้ ัว ป.๕ ๑. พดู /เขยี นให้ข้อมลู เกยี่ วกบั ประโยคและขอ้ ความท่ใี ชใ้ นการให้ขอ้ มูลเกยี่ วกับบคุ คล สตั ว์ ตนเองและเร่อื งใกล้ตัว สถานที่ และกจิ กรรมตา่ งๆ เชน่ ขอ้ มูลส่วนบุคคล เรือ่ งต่างๆ ใกล้ตัว จานวน ๑-๕๐๐ ลาดบั ท่ี วนั เดอื น ปี ฤดกู าล เวลา สภาพดินฟ้า อากาศ อารมณ์ ความรสู้ ึก สี ขนาด รปู ทรง ทอ่ี ยู่ ของสง่ิ ต่างๆ เคร่อื งหมายวรรคตอน ๒. เขียนภาพ แผนผงั และ คา กลมุ่ คาประโยคท่ีแสดงขอ้ มลู และความหมาย แผนภูมแิ สดงขอ้ มลู ตา่ งๆ ของเรือ่ งตา่ งๆ ภาพ แผนผงั แผนภูมิ ตาราง ตามที่ฟงั หรืออ่าน ๓. พดู แสดงความคดิ เหน็ เกี่ยวกบั ประโยคทใ่ี ช้ในการพดู แสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั เรอ่ื งตา่ งๆ ใกลต้ ัว กจิ กรรมหรอื เรื่องต่างๆ ใกล้ตัว ป.๖ ๑. พูด/เขยี นให้ข้อมลู เก่ยี วกบั ประโยคและขอ้ ความที่ใช้ในการใหข้ ้อมลู เกยี่ วกับตนเอง ตนเองเพ่ือน และส่ิงแวดลอ้ ม กจิ วัตรประจาวัน เพ่อื น ส่งิ แวดล้อมใกลต้ วั เช่น ข้อมลู สว่ น ใกลต้ วั บุคคล เรยี กส่ิงตา่ งๆ จานวน ๑-๑,๐๐๐ ลาดับที่ วนั เดือน ปี ฤดกู าล เวลา กิจกรรมที่ทา สี ขนาด รปู ทรง ทอี่ ยูข่ องสิ่งต่างๆ ทิศทางงา่ ยๆ สภาพดนิ ฟา้ อากาศ อารมณ์ ความรู้สึก เครื่องหมายวรรคตอน ๒. เขยี นภาพ แผนผัง แผนภมู ิ คา กลมุ่ คาและประโยคท่ีมีความหมายสัมพนั ธ์กบั และตารางแสดงขอ้ มลู ต่างๆ ทีฟ่ ัง ภาพ แผนผงั แผนภมู ิ และตาราง หรอื อา่ น หลกั สตู รกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) โรงเรียนอนุบาลกระสัง สพป.บุรีรมั ย์ เขต ๒

๖๙ ชั้น ตวั ชี้วัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ๓. พูด/เขียนแสดงความคดิ เหน็ ประโยคที่ใชใ้ นการแสดงความคิดเห็น เก่ียวกับเรือ่ งต่างๆ ใกลต้ วั ม.๑ ๑. พดู และเขยี นบรรยายเกี่ยวกับ ประโยคและข้อความทใี่ ชใ้ นการบรรยายเก่ยี วกับตนเอง ตนเองกิจวัตรประจาวัประสบการณ์ กิจวตั รประจาวัน ประสบการณ์ สง่ิ แวดล้อม ใกลต้ ัว เชน่ และส่งิ แวดลอ้ มใกลต้ ัว การเดินทาง การรบั ประทานอาหาร การเรยี น การเล่น กฬี า ฟงั เพลง การอา่ นหนังสอื การท่องเทย่ี ว ๒. พูด/เขยี น สรุปใจความสาคญั / การจบั ใจความสาคัญ/แกน่ สาระ การวิเคราะหค์ วามเรือ่ ง/ แกน่ สาระ(theme) ทไี่ ด้จากการ เหตกุ ารณ์ท่ีอยใู่ นความสนใจ เช่น ประสบการณ์ วิเคราะหเ์ รือ่ ง/เหตุการณ์ทอี่ ยู่ ภาพยนตร์ กฬี า เพลง ในความสนใจของสังคม ๓. พดู /เขียนแสดงความคดิ เห็น การแสดงความคิดเหน็ และการให้เหตุผลประกอบเกี่ยวกับ เกี่ยวกบั กิจกรรมหรอื เร่อื งต่างๆ ใกล้ กิจกรรมหรือเรอื่ งตา่ งๆ ใกล้ตวั ตัว พร้อมทั้งให้เหตุผลส้ันๆ ประกอบ ม.๒ ๑. พดู และเขียนบรรยายเกี่ยวกบั การบรรยายขอ้ มลู เกี่ยวกับตนเอง กิจวตั รประจาวัน ตนเอง กจิ วตั รประจาวนั ประสบการณ์ ขา่ ว/เหตกุ ารณ์ที่อยู่ในความสนใจของ ประสบการณ์ และขา่ ว/เหตกุ ารณ์ สังคม เช่น การเดนิ ทาง การรับประทานอาหาร การเลน่ ทอ่ี ยู่ในความสนใจของสังคม กฬี า/ดนตรี การฟงั เพลง การอา่ นหนงั สอื การทอ่ งเทย่ี ว การศกึ ษา สภาพสังคม เศรษฐกิจ ๒. พดู และเขยี นสรปุ ใจความสาคญั / การจบั ใจความสาคัญ/แกน่ สาระ หัวข้อเรื่อง แก่นสาระ หัวข้อเรอื่ ง (topic) ทไ่ี ด้ การวเิ คราะหเ์ รื่อง/ขา่ ว/เหตุการณท์ ่อี ยู่ในความสนใจ จากการวเิ คราะห์เร่ือง/ข่าว/เหตุการณ์ เช่น ประสบการณ์ ภาพยนตร์ กีฬา ดนตรี เพลง ทีอ่ ยใู่ นความสนใจของสงั คม ๓. พดู และเขยี นแสดงความคิดเห็น การแสดงความคดิ เหน็ และการให้เหตุผลประกอบเกีย่ วกับ เกีย่ วกบั กิจกรรม เร่ืองตา่ งๆ ใกล้ตัว กจิ กรรม เรอ่ื งตา่ งๆ ใกลต้ วั และประสบการณ์ และประสบการณ์ พรอ้ มทัง้ ใหเ้ หตุผล ส้ันๆ ประกอบ ม.๓ ๑. พูดและเขียนบรรยายเกี่ยวกับ การบรรยายเก่ียวกับตนเอง ประสบการณ์ ข่าวเหตุการณ์ ตนเอง ประสบการณ์ ขา่ ว/ /ประเด็นทอี่ ยใู่ นความสนใจของสังคม เช่น การเดนิ ทาง เหตกุ ารณ์ / เรอื่ ง/ ประเดน็ ตา่ งๆ การรบั ประทานอาหาร การเลน่ กีฬา/ดนตรี การฟงั เพลง ทอ่ี ยู่ในความสนใจของสงั คม การอ่านหนงั สอื การทอ่ งเทีย่ ว การศกึ ษา สภาพสังคม เศรษฐกิจ หลกั สูตรกลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) โรงเรยี นอนบุ าลกระสงั สพป.บรุ รี ัมย์ เขต ๒

๗๐ ช้ัน ตัวชี้วัด สาระการเรยี นร้แู กนกลาง ม.๓ ๒. พดู และเขยี นสรุปใจความสาคัญ/ การจบั ใจความสาคัญ/แก่นสาระ หวั ข้อเรอื่ ง แก่นสาระ หัวข้อเรื่องท่ีไดจ้ ากการ การวเิ คราะหเ์ รอ่ื ง/ขา่ ว/เหตกุ ารณ์/สถานการณ์ที่อยใู่ น วิเคราะห์เรื่อง/ขา่ ว/เหตกุ ารณ์/ ความสนใจ เชน่ ประสบการณ์ เหตุการณ์ สถานการณ์ สถานการณ์ทอ่ี ยใู่ นความสนใจ ตา่ งๆ ภาพยนตร์ กีฬา ดนตรี เพลง ของสังคม ๓. พดู และเขยี นแสดงความคดิ เห็น การแสดงความคิดเหน็ และการใหเ้ หตุผลประกอบ เกี่ยวกับกิจกรรม ประสบการณ์ และ เกย่ี วกบั กจิ กรรม ประสบการณ์ และเหตกุ ารณ์ เหตกุ ารณ์ พร้อมทัง้ ใหเ้ หตผุ ล ประกอบ สาระท่ี ๒ ภาษาและวฒั นธรรม มาตรฐาน ต ๒.๑ เขา้ ใจความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งภาษากับวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา และนาไปใชไ้ ดอ้ ยา่ ง เหมาะสมกบั กาลเทศะ ช้ัน ตวั ชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ป.๑ ๑. พดู และทาทา่ ประกอบ ตาม วฒั นธรรมของเจ้าของภาษา เชน่ การใชส้ ีหนา้ ท่าทาง ประกอบการพูดขณะแนะนาตนเอง การสัมผสั มอื วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา การโบกมอื การแสดงอาการตอบรับหรอื ปฏเิ สธ คาศพั ทเ์ กี่ยวกบั เทศกาลสาคญั ของเจา้ ของภาษา ๒. บอกช่ือและคาศพั ทเ์ กีย่ วกบั เช่น วันคริสตม์ าส วนั ขึน้ ปีใหม่วันวาเลนไทน์ เทศกาลสาคญั ของเจ้าของภาษา กจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรม เชน่ การเลน่ เกม ๓. เข้ารว่ มกจิ กรรมทางภาษาและ การร้องเพลง การเลา่ นทิ านประกอบท่าทาง วัฒนธรรมทเี่ หมาะกบั วัย วนั ครสิ ต์มาส วันขนึ้ ปใี หมว่ นั วาเลนไทน์ วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา เช่น การใชส้ ีหน้าท่าทาง ป.๒ ๑. พูดและทาทา่ ประกอบ ตาม ประกอบการพูดขณะแนะนาตนเอง การสมั ผสั มอื วัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา การโบกมือ การแสดงอาการตอบรับหรือปฏเิ สธ คาศัพทเ์ ก่ยี วกับเทศกาลสาคญั ของเจา้ ของภาษา ๒. บอกชื่อและคาศัพทเ์ กย่ี วกับ เช่น วันคริสตม์ าส วันขึน้ ปีใหมว่ นั วาเลนไทน์ เทศกาลสาคญั ของเจา้ ของภาษา กจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรม เชน่ การเลน่ เกม ๓. เข้ารว่ มกจิ กรรมทางภาษาและ การร้องเพลง การเลา่ นทิ านประกอบท่าทาง วัฒนธรรมทีเ่ หมาะกบั วัย วนั ครสิ ตม์ าส วนั ขน้ึ ปีใหม่วนั วาเลนไทน์ หลกั สูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) โรงเรยี นอนบุ าลกระสงั สพป.บรุ ีรมั ย์ เขต ๒

๗๑ ชัน้ ตวั ชว้ี ัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ป.๓ ๑. พูดและทาทา่ ประกอบ ตาม มารยาทสังคม/วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา เช่น มารยาทสงั คม/วฒั นธรรมของ การขอบคณุ ขอโทษ การใชส้ หี น้าทา่ ทางประกอบการพดู เจ้าของภาษา ขณะแนะนาตนเอง การสัมผัสมอื การโบกมอื การแสดงอาการตอบรบั หรือปฏเิ สธ ๒. บอกชอ่ื และคาศพั ทง์ า่ ยๆ คาศพั ทเ์ ก่ียวกับเทศกาล/วนั สาคัญ/งานฉลอง และ เกย่ี วกับเทศกาล/วนั สาคัญ/ ชีวติ ความเปน็ อยูข่ องเจ้าของภาษา เชน่ วนั ครสิ ตม์ าสวันขนึ้ งานฉลอง และชวี ติ ความเปน็ อยู่ ปใี หม่ วนั วาเลนไทน์ เคร่ืองแต่งกาย อาหารเครอ่ื งด่มื ของเจา้ ของภาษา ๓. เข้าร่วมกจิ กรรมทางภาษาและ กจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรม เชน่ การเลน่ เกม วฒั นธรรมทเี่ หมาะกบั วัย การร้องเพลง การเล่านทิ านประกอบท่าทาง วันครสิ ตม์ าส วนั ข้นึ ปีใหม่วนั วาเลนไทน์ ป.๔ ๑. พูดและทาท่าประกอบ มารยาทสงั คมและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา เช่น อย่างสุภาพตามมารยาทสงั คม การขอบคณุ ขอโทษ การใช้สหี นา้ ทา่ ทางประกอบ และวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา การพดู ขณะแนะนาตนเอง การสมั ผสั มือ การโบกมือ การแสดงความร้สู ึกชอบ/ไมช่ อบ การแสดงอาการตอบรับ หรือปฏิเสธ ๒. ตอบคาถามเกย่ี วกับเทศกาล/ คาศัพท์และขอ้ มลู เกี่ยวกับเทศกาล/วันสาคัญ/ วันสาคัญ/งานฉลองและชีวติ ความ งานฉลอง และชีวติ ความเปน็ อยูข่ องเจา้ ของภาษา เช่น เปน็ อยงู่ า่ ยๆ ของเจ้าของภาษา วนั คริสต์มาส วนั ข้นึ ปีใหม่ วนั วาเลนไทน์ เครื่องแต่งกาย ฤดกู าล อาหาร เครื่องด่มื ๓. เข้าร่วมกิจกรรมทางภาษาและ กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรม เช่น การเลน่ เกม วฒั นธรรมทเ่ี หมาะกบั วัย การรอ้ งเพลง การเล่านิทานประกอบท่าทาง บทบาท สมมุติ วันครสิ ตม์ าส วนั ข้ึนปีใหม่วันวาเลนไทน์ ป.๕ ๑. ใช้ถ้อยคา นา้ เสยี ง และกิริยา การใชถ้ อ้ ยคา น้าเสยี ง และกิรยิ าทา่ ทาง ตามมารยาทสังคม ท่าทางอยา่ งสภุ าพ ตามมารยาท และวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา เช่น การขอบคณุ ขอโทษ สงั คมและวัฒนธรรมของเจา้ ของ การใช้สีหนา้ ทา่ ทาง ประกอบการพดู ขณะแนะนาตนเอง ภาษา การสัมผัสมือการโบกมือ การแสดงความรสู้ กึ ชอบ/ไม่ชอบ การกล่าวอวยพร การแสดงอาการตอบรับหรือปฏเิ สธ หลกั สูตรกลุม่ สาระการเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศ (ภาษาอังกฤษ) โรงเรยี นอนุบาลกระสงั สพป.บรุ ีรมั ย์ เขต ๒

๗๒ ชัน้ ตวั ช้วี ดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ๒. ตอบคาถาม/บอกความสาคัญของ ข้อมลู และความสาคญั ของเทศกาล/วันสาคัญ/ เทศกาล/วันสาคัญ/งานฉลองและ งานฉลองและชีวติ ความเป็นอยูข่ องเจ้าของภาษา เชน่ ชวี ิตความเป็นอยงู่ ่ายๆ วันคริสตม์ าส วนั ขึน้ ปใี หม่วันวาเลนไทน์ เครื่องแต่งกาย ของเจา้ ของภาษา ฤดกู าล อาหาร เครื่องด่มื ๓. เขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาและ กจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรม เช่น การเล่นเกม วฒั นธรรมตามความสนใจ การรอ้ งเพลง การเล่านทิ าน บทบาทสมมตุ ิ วันขอบคุณพระเจา้ วันครสิ ตม์ าส วนั ข้ึนปีใหม่ วนั วาเลนไทน์ ป.๖ ๑. ใช้ถอ้ ยคา นา้ เสียง และกริ ิยา การใช้ถ้อยคา นา้ เสียง และกิริยาทา่ ทาง ตามมารยาทสังคม ท่าทางอยา่ งสุภาพเหมาะสม ตาม และวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา เชน่ การขอบคณุ ขอโทษ มารยาทสงั คมและวัฒนธรรมของ การใช้สีหนา้ ทา่ ทางประกอบการพดู ขณะแนะนาตนเอง เจา้ ของภาษา การสมั ผสั มอื การโบกมือ การแสดงความรู้สกึ ชอบ/ไม่ชอบ การกลา่ วอวยพร การแสดงอาการตอบรับหรือปฏิเสธ ๒. ใหข้ อ้ มลู เกยี่ วกบั เทศกาล/วนั ขอ้ มลู และความสาคญั ของเทศกาล/วันสาคญั / สาคญั /งานฉลอง/ชีวติ ความเป็นอยู่ งานฉลองและชวี ิตความเป็นอยขู่ องเจ้าของภาษา ของเจ้าของภาษา เชน่ วันคริสต์มาส วนั ข้นึ ปีใหมว่ ันวาเลนไทน์ เคร่ืองแต่งกายตามฤดกู าล อาหาร เคร่อื งดมื่ ๓. เขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาและ กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรม เช่น การเล่นเกม วฒั นธรรมตามความสนใจ การรอ้ งเพลง การเล่านิทาน บทบาทสมมุติ วันขอบคณุ พระเจา้ วนั คริสตม์ าส วันขึ้นปใี หม่ วันวาเลนไทน์ ม.๑ ๑.ใช้ภาษา นา้ เสียง และกริ ิยา การใชภ้ าษา นา้ เสยี ง และกิรยิ าท่าทางในการสนทนา ทา่ ทางสภุ าพเหมาะสม ตามมารยาท ตามมารยาทสงั คมและวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา เช่น สงั คม และวัฒนธรรม การขอบคุณ ขอโทษ การชมเชย การใชส้ ีหนา้ ทา่ ทาง ของเจา้ ของภาษา ประกอบการพูดขณะแนะนาตนเอง การสมั ผัสมอื การโบกมอื การแสดงความรสู้ ึกชอบ/ไมช่ อบ การกล่าว อวยพร การแสดงอาการตอบรับหรือปฏิเสธ ๒. บรรยายเกีย่ วกับเทศกาล ความเปน็ มาและความสาคัญของเทศกาล วนั สาคญั วนั สาคัญ ชวี ิตความเปน็ อยู่ และ ชีวติ ความเป็นอยู่ และประเพณขี องเจ้าของภาษา ประเพณขี องเจ้าของภาษา หลักสูตรกลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) โรงเรยี นอนุบาลกระสงั สพป.บรุ รี มั ย์ เขต ๒

๗๓ ช้นั ตัวชี้วัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ๓. เขา้ รว่ ม/จัดกจิ กรรมทางภาษา กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรม เช่น การเลน่ เกม และวัฒนธรรมตามความสนใจ การร้องเพลง การเลา่ นิทาน บทบาทสมมตุ ิ วันขอบคุณพระเจา้ วันคริสต์มาส วันข้นึ ปใี หม่ วันวาเลนไทน์ ม.๒ ๑. ใชภ้ าษา น้าเสียง และกริ ยิ า การใชภ้ าษา นา้ เสยี ง และกริ ยิ าท่าทางในการสนทนา ทา่ ทางเหมาะกับบคุ คลและโอกาส ตามมารยาทสงั คมและวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา เชน่ ตามมารยาทสงั คม และวัฒนธรรม การขอบคณุ ขอโทษ การชมเชย การใช้สหี น้าทา่ ทาง ของเจา้ ของภาษา ประกอบ การพดู ขณะแนะนาตนเอง การสมั ผัสมอื การโบกมอื การแสดงความรสู้ ึกชอบ/ไมช่ อบ การกลา่ วอวยพร การแสดงอาการตอบรบั หรอื ปฏิเสธ ๒. อธบิ ายเก่ียวกับเทศกาล วนั สาคัญ ความเปน็ มาและความสาคัญของเทศกาล วนั สาคญั ชีวิตความเปน็ อยู่ และประเพณขี อง ชีวิตความเป็นอยู่ และประเพณีของเจ้าของภาษา เจ้าของภาษา ๓. เขา้ ร่วม/จัดกจิ กรรมทางภาษา กจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรม เชน่ การเลน่ เกม และวฒั นธรรมตามความสนใจ การรอ้ งเพลง การเล่านทิ าน บทบาทสมมตุ ิ วนั ขอบคุณพระเจ้า วันคริสต์มาส วนั ขึ้นปใี หม่ วนั วาเลนไทน์ ม.๓ ๑. เลือกใชภ้ าษา นา้ เสียง และกริ ยิ า การเลือกใชภ้ าษา น้าเสยี ง และกิรยิ าท่าทางในการสนทนา ทา่ ทาง เหมาะกับบคุ คลและโอกาส ตามมารยาทสงั คมและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา เชน่ ตามมารยาทสังคม และวฒั นธรรม การขอบคณุ ขอโทษ การชมเชย การใช้สีหนา้ ท่าทาง ของเจ้าของภาษา ประกอบ การพูด ขณะแนะนาตนเอง การสมั ผัสมอื การโบกมือ การแสดงความ รู้สึกชอบ/ไม่ชอบ การกล่าวอวยพร การแสดงอาการตอบรับหรือปฏเิ สธ ๒. อธบิ ายเกย่ี วกบั ชีวิตความเปน็ อยู่ ชวี ติ ความเปน็ อยู่ ขนบธรรมเนียมและประเพณี ขนบธรรมเนียมและประเพณีของ ของเจ้าของภาษา เจา้ ของภาษา ๓. เขา้ ร่วม/จดั กิจกรรมทางภาษา กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรม เช่น การเลน่ เกม และวฒั นธรรมตามความสนใจ การร้องเพลง การเล่านทิ าน บทบาทสมมุติ วันขอบคณุ พระเจา้ วนั ครสิ ตม์ าส วนั ขน้ึ ปใี หม่ วันวาเลนไทน์ หลกั สูตรกล่มุ สาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) โรงเรียนอนบุ าลกระสงั สพป.บุรีรัมย์ เขต ๒

๗๔ สาระท่ี ๒ ภาษาและวฒั นธรรม มาตรฐาน ต ๒.๒ เขา้ ใจความเหมอื นและความแตกตา่ งระหวา่ งภาษาและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษากับ ภาษาและวฒั นธรรมไทย และนามาใชอ้ ย่างถกู ต้องและเหมาะสม ชัน้ ตัวช้ีวดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ป.๑ ๑.ระบุตัวอักษรและเสยี งตัวอักษร ตวั อักษรและเสียงตวั อักษรของภาษาต่างประเทศและ ของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย ภาษาไทย ป.๒ ๑.ระบุตัวอักษรและเสยี งตวั อักษร ตัวอกั ษรและเสียงตัวอักษรของภาษาต่างประเทศและ ของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย ภาษาไทย ป.๓ ๑. บอกความแตกต่างของเสียงตวั อักษร ความแตกตา่ งของเสยี งตวั อกั ษร คา กล่มุ คา และประโยค คา กลมุ่ คา และประโยคงา่ ยๆ ของ ของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย ภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย ป.๔ ๑. บอกความแตกตา่ งของเสียงตัวอกั ษร ความแตกตา่ งของเสียงตัวอกั ษร คา กลมุ่ คา และประโยค คา กลุม่ คา ประโยค และขอ้ ความของ ของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย ภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย ๒. บอกความเหมอื น/ความแตกตา่ ง ความเหมอื น/ความแตกต่างระหวา่ งเทศกาล และงานฉลอง ระหวา่ งเทศกาลและงานฉลองตาม ตามวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา วัฒนธรรมของเจา้ ของภาษากับของไทย กบั ของไทย ป.๕ ๑. บอกความเหมือน/ความแตกต่าง ความเหมอื น/ความแตกต่างระหวา่ งการออกเสียงประโยค ระหว่างการออกเสียงประโยคชนิดตา่ งๆ ชนิดตา่ งๆ ของเจา้ ของภาษากบั ของไทยการใชเ้ ครอ่ื งหมาย การใช้เครื่องหมายวรรคตอน และการ วรรคตอนและการลาดับคาตามโครงสร้างประโยคของ ลาดบั คา(order) ตามโครงสรา้ งประโยค ภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย ของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย ๒. บอกความเหมอื น/ความแตกตา่ ง ความเหมอื น/ความแตกต่างระหวา่ งเทศกาลและงานฉลอง ระหวา่ งเทศกาลและงานฉลองของ ของเจ้าของภาษากับของไทย เจา้ ของภาษากับของไทย ป.๖ ๑. บอกความเหมือน/ความแตกตา่ ง ความเหมือน/ความแตกต่างระหวา่ งการออกเสียงประโยค ระหว่างการออกเสียงประโยคชนิดต่างๆ ชนดิ ตา่ งๆ ของเจ้าของภาษากบั ของไทยการใชเ้ ครอ่ื งหมาย การใช้เคร่อื งหมายวรรคตอน และการ วรรคตอนและการลาดบั คา ลาดบั คาตามโครงสรา้ งประโยค ของ ตามโครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย ภาษาต่างประเทศและภาษาไทย หลักสูตรกลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) โรงเรยี นอนบุ าลกระสงั สพป.บุรรี ัมย์ เขต ๒

๗๕ ชน้ั ตวั ช้ีวดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ๒. เปรียบเทียบความเหมือน/ความ การเปรยี บเทียบความเหมอื น/ความแตกตา่ ง แตกตา่ งระหว่างเทศกาล งานฉลองและ ระหว่างเทศกาล งานฉลอง และประเพณขี อง ประเพณขี องเจา้ ของภาษากับของไทย เจ้าของภาษากับของไทย ม.๑ ๑. บอกความเหมือนและความแตกต่าง ความเหมอื น/ความแตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยค ระหว่างการออกเสยี งประโยคชนดิ ต่างๆ ชนิดต่างๆ ของเจ้าของภาษากบั ของไทยการใช้ การใชเ้ คร่ืองหมายวรรคตอน และการ เครอ่ื งหมายวรรคตอนและการลาดบั คาตามโครงสรา้ ง ลาดบั คาตามโครงสร้างประโยคของ ประโยคของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย ภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย ๒. เปรียบเทยี บความเหมอื นและความ ความเหมอื นและความแตกตา่ งระหว่างเทศกาล งาน แตกต่างระหว่างเทศกาล งานฉลอง ฉลอง วันสาคญั และชวี ิตความเปน็ อยขู่ องเจา้ ของภาษา วันสาคัญ และชีวิตความเปน็ อยู่ของ กับของไทย เจ้าของภาษากบั ของไทย ม.๒ ๑. เปรยี บเทยี บและอธิบายความเหมอื น การเปรยี บเทยี บและการอธิบายความเหมอื น/ความ และความแตกต่างระหวา่ งการออกเสยี ง แตกตา่ งระหวา่ งการออกเสยี งประโยคชนดิ ต่างๆ ประโยคชนดิ ต่างๆ และการลาดบั คาตาม ของเจา้ ของภาษากับของไทย การใช้เคร่ืองหมายวรรค โครงสร้างประโยค ของภาษาตา่ งประเทศ ตอนและการลาดับคาตามโครงสรา้ งประโยคของ และภาษาไทย ภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย ๒ เปรยี บเทียบและอธิบายความเหมือน การเปรยี บเทียบและการอธบิ ายความเหมอื นและความ และความแตกตา่ งระหวา่ งชีวิตความ แตกต่างระหว่างชวี ิตความเปน็ อยแู่ ละวฒั นธรรมของ เปน็ อยู่และวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา เจา้ ของภาษากบั ของไทย กบั ของไทย ม.๓ ๑. เปรยี บเทยี บและอธิบายความเหมอื น การเปรียบเทยี บและการอธบิ ายความเหมือน/ความ และความแตกต่างระหวา่ งการออกเสียง แตกตา่ งระหว่างการออกเสยี งประโยคชนดิ ตา่ งๆ ประโยคชนดิ ตา่ งๆ และการลาดับคาตาม ของเจ้าของภาษากบั ของไทย การใชเ้ ครอ่ื งหมายวรรค โครงสร้างประโยคของภาษาตา่ งประเทศ ตอนและการลาดบั คาตามโครงสร้างประโยคของ และภาษาไทย ภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย ๒. เปรยี บเทียบและอธิบายความเหมือน การเปรยี บเทียบและการอธิบายความเหมือนและความ และความแตกตา่ งระหว่างชีวติ ความ แตกตา่ งระหว่างชีวิตความเปน็ อยูแ่ ละวฒั นธรรมของ เป็นอยแู่ ละวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา เจ้าของภาษากับของไทยการนาวฒั นธรรม กบั ของไทย และนาไปใช้อยา่ งเหมาะสม ของเจา้ ของภาษาไปใช้ หลกั สตู รกลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) โรงเรียนอนุบาลกระสัง สพป.บุรรี ัมย์ เขต ๒

๗๖ สาระที่ ๓ ภาษากับความสมั พันธก์ บั กลมุ่ สาระการเรยี นรู้อน่ื มาตรฐาน ต ๓.๑ ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชอ่ื มโยงความร้กู บั กลมุ่ สาระการเรยี นรู้อื่น และเป็นพ้ืนฐาน ในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทัศนข์ องตน ชัน้ ตัวช้วี ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ป.๑ ๑. บอกคาศัพท์ท่ีเกย่ี วขอ้ งกบั กลุม่ คาศพั ทท์ ีเ่ กย่ี วขอ้ งกบั กลุ่มสาระการเรียนรอู้ ื่น สาระการเรยี นรอู้ น่ื ป.๒ ๑. บอกคาศัพทท์ ่เี กยี่ วข้องกับกลุ่ม คาศพั ทท์ ีเ่ กี่ยวข้องกบั กลมุ่ สาระการเรยี นรูอ้ น่ื สาระการเรียนรูอ้ นื่ ป.๓ ๑. บอกคาศัพท์ทเ่ี ก่ยี วขอ้ งกบั กลุ่ม คาศพั ท์ทีเ่ ก่ียวข้องกับกลมุ่ สาระการเรยี นรอู้ ่นื สาระการเรยี นรอู้ น่ื ป.๔ ๑. ค้นคว้า รวบรวมคาศพั ทท์ ี่เกีย่ วข้องกับ การคน้ ควา้ การรวบรวม และการนาเสนอ คาศพั ท์ที่ กลมุ่ สาระการเรยี นรูอ้ ่ืนและนาเสนอด้วย เก่ียวข้องกับกลุ่มสาระการเรยี นรู้อืน่ การพูด / การเขยี น ป.๕ ๑. ค้นควา้ รวบรวมคาศพั ท์ท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั การคน้ คว้า การรวบรวม และการนาเสนอคาศพั ท์ กลุม่ สาระการเรียนร้อู ่นื และนาเสนอด้วย ที่เกย่ี วขอ้ งกบั กลุ่มสาระการเรยี นรอู้ ื่น การพูด / การเขียน ป.๖ ๑. คน้ ควา้ รวบรวมคาศัพทท์ ่ีเกี่ยวขอ้ งกับ การค้นคว้า การรวบรวม และการนาเสนอคาศพั ท์ กลมุ่ สาระการเรยี นรอู้ น่ื จากแหล่งเรยี นรู้ ทีเ่ ก่ียวขอ้ งกับกลุ่มสาระการเรียนรูอ้ ืน่ และนาเสนอด้วยการพูด/การเขยี น ม.๑ ๑. ค้นควา้ รวบรวม และสรปุ ขอ้ มูล/ การค้นควา้ การรวบรวม การสรุป และการนาเสนอ ข้อเทจ็ จริงทเี่ กย่ี วขอ้ งกับกลมุ่ สาระ ขอ้ มลู /ขอ้ เท็จจรงิ ที่เกย่ี วขอ้ งกับกล่มุ สาระการเรยี นรู้ การเรยี นรู้อ่ืนจากแหล่งเรียนรู้ และ อน่ื นาเสนอด้วยการพูด/การเขียน ม.๒ ๑. คน้ คว้า รวบรวม และสรปุ ข้อมูล/ การค้นควา้ การรวบรวม การสรปุ และการนาเสนอ ข้อเทจ็ จรงิ ท่ีเกย่ี วขอ้ งกบั กลุ่มสาระ ข้อมลู /ขอ้ เทจ็ จริงท่เี กีย่ วขอ้ งกับกลุม่ สาระการเรยี นรู้ การเรยี นรู้อื่นจากแหลง่ เรยี นรู้ และ อ่ืน นาเสนอดว้ ยการพูด/การเขียน ม.๓ ๑. ค้นควา้ รวบรวม และสรปุ ข้อมูล/ การคน้ คว้า การรวบรวม การสรุป และการนาเสนอ ขอ้ เทจ็ จริงท่ีเกยี่ วขอ้ งกบั กล่มุ สาระ ข้อมูล/ขอ้ เทจ็ จริงท่ีเก่ียวข้องกับกลมุ่ สาระการเรียนรู้ การเรยี นรูอ้ ื่นจากแหล่งเรยี นรู้ และ อ่ืน นาเสนอด้วยการพูดและการเขียน หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาตา่ งประเทศ (ภาษาอังกฤษ) โรงเรียนอนบุ าลกระสัง สพป.บุรรี ัมย์ เขต ๒

๗๗ สาระที่ ๔ ภาษากบั ความสมั พันธก์ บั ชุมชนและโลก มาตรฐาน ต ๔.๑ ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในสถานการณต์ ่างๆ ทง้ั ในสถานศกึ ษา ชมุ ชน และสงั คม ชนั้ ตวั ชวี้ ดั สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง ป.๑ ๑. ฟงั /พูดในสถานการณ์ง่ายๆ การใช้ภาษาในการฟงั /พูดในสถานการณ์งา่ ยๆ ท่ีเกิดขึน้ ในหอ้ งเรียน ท่ีเกดิ ขน้ึ ในหอ้ งเรยี น ป.๒ ๑. ฟงั /พดู ในสถานการณ์ง่ายๆ การใช้ภาษาในการฟงั /พูดในสถานการณ์งา่ ยๆ ที่เกดิ ขน้ึ ในห้องเรียน ทเ่ี กิดขน้ึ ในหอ้ งเรียน ป.๓ ๑. ฟงั /พดู ในสถานการณ์งา่ ยๆ การใชภ้ าษาในการฟัง/พูดในสถานการณ์ง่ายๆ ท่เี กดิ ขน้ึ ในห้องเรยี น ทเ่ี กดิ ขน้ึ ในหอ้ งเรียน ป.๔ ๑. ฟงั และพูด/อ่านในสถานการณ์ท่ี การใช้ภาษาในการฟังและพูด/อ่านในสถานการณ์ เกดิ ขึ้นในหอ้ งเรยี นและสถานศึกษา ทเ่ี กดิ ข้ึนในห้องเรยี น ป.๕ ๑. ฟงั พูด และอา่ น/เขยี นใน การใชภ้ าษาในการฟัง พูด และอา่ น/เขียนใน สถานการณ์ตา่ งๆ ทเี่ กิดข้ึนใน สถานการณต์ ่างๆ ท่เี กดิ ข้นึ ในห้องเรยี น หอ้ งเรยี นและสถานศึกษา ป.๖ ๑. ใช้ภาษาสอ่ื สารในสถานการณ์ การใช้ภาษาส่ือสารในสถานการณต์ า่ งๆท่ีเกิดขึน้ ตา่ งๆ ท่เี กดิ ขึน้ ในห้องเรยี นและ ในหอ้ งเรียนและสถานศึกษา สถานศกึ ษา ม.๑ ๑. ใช้ภาษาสอ่ื สารในสถานการณ์จรงิ / การใชภ้ าษาสื่อสารในสถานการณ์จรงิ /สถานการณ์ สถานการณจ์ าลองที่เกดิ ขนึ้ ใน จาลองทีเ่ กิดขน้ึ ในห้องเรียนและสถานศึกษา ห้องเรยี นและสถานศกึ ษา ม.๒ ๑. ใชภ้ าษาสือ่ สารในสถานการณ์จริง/ การใชภ้ าษาสอ่ื สารในสถานการณจ์ ริง/สถานการณ์ สถานการณจ์ าลองที่เกดิ ข้นึ ใน จาลองทเ่ี กดิ ข้นึ ในห้องเรยี น สถานศึกษา และชมุ ชน ห้องเรียน สถานศึกษา และชุมชน ม.๓ ๑. ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์จรงิ / การใชภ้ าษาสอื่ สารในสถานการณจ์ ริง/สถานการณ์ สถานการณจ์ าลองที่เกดิ ขนึ้ ใน จาลองทเ่ี กดิ ขน้ึ ในห้องเรยี น สถานศกึ ษา ชมุ ชน หอ้ งเรียน สถานศึกษา ชุมชน และ และสงั คม สงั คม หลักสูตรกลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ (ภาษาอังกฤษ) โรงเรยี นอนบุ าลกระสัง สพป.บรุ ีรมั ย์ เขต ๒

๗๘ สาระท่ี ๔ ภาษากบั ความสมั พนั ธ์กบั ชมุ ชนและโลก มาตรฐาน ต ๔.๒ ใชภ้ าษาต่างประเทศเปน็ เครือ่ งมอื พ้ืนฐานในการศกึ ษาตอ่ การประกอบอาชีพ และการ แลกเปลี่ยนเรยี นรกู้ ับสงั คมโลก ชัน้ ตวั ช้ีวัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ป.๑ ๑. ใช้ภาษาตา่ งประเทศ เพือ่ รวบรวม การใชภ้ าษาต่างประเทศในการรวบรวมคาศัพทท์ ี่ คาศัพทท์ เ่ี กี่ยวข้องใกลต้ วั เกีย่ วข้องใกล้ตวั จากส่อื ต่างๆ ป.๒ ๑. ใช้ภาษาต่างประเทศ เพ่ือรวบรวม การใช้ภาษาต่างประเทศในการรวบรวมคาศัพท์ที่ คาศัพท์ทีเ่ กี่ยวขอ้ งใกล้ตวั เก่ียวขอ้ งใกลต้ ัว จากสอื่ ต่างๆ ป.๓ ๑. ใชภ้ าษาตา่ งประเทศ เพือ่ รวบรวม การใช้ภาษาต่างประเทศในการรวบรวมคาศัพทท์ ่ี คาศพั ทท์ ี่เกี่ยวขอ้ งใกลต้ ัว เก่ียวขอ้ งใกล้ตวั จากสือ่ ต่างๆ ป.๔ ใชภ้ าษาต่างประเทศในการสบื ค้นและ การใช้ภาษาต่างประเทศในการสบื คน้ และการ รวบรวมขอ้ มลู ต่างๆ รวบรวมคาศพั ท์ท่ีเกี่ยวขอ้ งใกลต้ ัว จากสอ่ื และ แหลง่ การเรียนรตู้ า่ งๆ ป.๕ ๑. ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการสืบคน้ การใช้ภาษาต่างประเทศในการสบื คน้ และการ และรวบรวมข้อมูลตา่ งๆ รวบรวมคาศพั ทท์ ี่เก่ียวข้องใกลต้ วั จากส่ือและ แหลง่ การเรยี นรู้ตา่ งๆ ป.๖ ๑. ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการสืบค้น การใชภ้ าษาต่างประเทศในการสบื ค้นและการ และรวบรวมข้อมลู ต่างๆ รวบรวมคาศัพท์ท่เี กย่ี วขอ้ งใกลต้ วั จากส่ือและ แหลง่ การเรียนรู้ต่างๆ หลกั สตู รกลุ่มสาระการเรียนรูภ้ าษาตา่ งประเทศ (ภาษาอังกฤษ) โรงเรยี นอนุบาลกระสัง สพป.บรุ ีรัมย์ เขต ๒

๗๙ ชน้ั ตัวชว้ี ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ม.๑ ๑. ใช้ภาษาตา่ งประเทศในการสบื คน้ / การใชภ้ าษาต่างประเทศในการสืบคน้ /การคน้ ควา้ คน้ คว้า ความร/ู้ ข้อมลู ตา่ งๆ จากสอื่ ความร/ู้ ขอ้ มูลตา่ งๆ จากส่ือและแหล่งการเรยี นร้ตู า่ งๆ และแหล่งการเรยี นรตู้ า่ งๆ ใน ในการศกึ ษาตอ่ และประกอบอาชีพ การศกึ ษาต่อและประกอบอาชพี ม.๒ ๑. ใช้ภาษาต่างประเทศในการสืบค้น/ การใชภ้ าษาต่างประเทศในการสืบค้น/การค้นควา้ ค้นควา้ รวบรวมและสรุปความรู้/ ความร/ู้ ข้อมลู ต่างๆ จากส่ือและแหล่งการเรยี นรตู้ า่ งๆ ข้อมูลตา่ งๆ จากส่อื และแหลง่ การ ในการศึกษาตอ่ และประกอบอาชพี เรียนรตู้ ่างๆ ในการศกึ ษาตอ่ และ ประกอบอาชีพ ๒. เผยแพร/่ ประชาสมั พนั ธข์ ้อมลู การใชภ้ าษาต่างประเทศในการเผยแพร่/ประชาสัมพนั ธ์ ข่าวสาร ของโรงเรียนเป็น ขอ้ มลู ข่าวสารของโรงเรียน เชน่ การทาหนงั สอื เล่มเลก็ ภาษาต่างประเทศ แนะนาโรงเรียน การทาแผ่นปลิว ปา้ ยคาขวัญ คาเชญิ ชวนแนะนาโรงเรยี น การนาเสนอขอ้ มลู ข่าวสาร ในโรงเรียนเป็นภาษาอังกฤษ ม.๓ ๑. ใช้ภาษาตา่ งประเทศในการสืบคน้ / การใช้ภาษาต่างประเทศในการสบื ค้น/การค้นคว้า คน้ ควา้ รวบรวม และสรปุ ความรู้/ ความร/ู้ ข้อมูลตา่ งๆ จากสื่อและแหล่งการเรยี นรู้ตา่ งๆ ข้อมูลตา่ งๆ จากส่อื และแหลง่ การ ในการศกึ ษาต่อและประกอบอาชีพ เรยี นร้ตู ่างๆในการศึกษาตอ่ และ ประกอบอาชพี ๒. เผยแพร่ /ประชาสมั พนั ธ์ การใชภ้ าษาต่างประเทศในการเผยแพร/่ ประชาสมั พนั ธ์ ข้อมูล ขา่ วสารของโรงเรยี น ชุมชน ข้อมูลขา่ วสารของโรงเรยี น ชุมชน และทอ้ งถน่ิ เชน่ การ และท้องถนิ่ เป็นภาษาต่างประเทศ ทาหนังสือเลม่ เลก็ แนะนาโรงเรยี น ชมุ ชน และทอ้ งถิน่ การทาแผน่ ปลวิ ป้ายคาขวญั คาเชญิ ชวนแนะนา โรงเรียนและสถานท่สี าคัญในชุมชนและท้องถิ่น การ นาเสนอข้อมลู ขา่ วสารในโรงเรยี น ชุมชน และทอ้ งถิ่น เป็นภาษาอังกฤษ หลักสตู รกลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) โรงเรียนอนบุ าลกระสงั สพป.บุรีรมั ย์ เขต ๒

๘๐ ส่วนท่ี ๕ คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ หลกั สูตรกลุม่ สาระการเรียนรภู้ าษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) โรงเรียนอนุบาลกระสงั สพป.บรุ รี มั ย์ เขต ๒

๘๑ คำอธบิ ำยรำยวิชำพ้นื ฐำน อ๑๑๑๐๑ ภำษำอังกฤษ ๑ กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้ภำษำต่ำงประเทศ ชั้นประถมศกึ ษำปที ี่ ๑ เวลำ 200 ชั่วโมง ปฏบิ ตั ิตาม คาส่งั ง่ายๆ ท่ีฟงั ตัวอักษรและเสยี ง และสะกดคาง่าย ๆ ถกู ตอ้ งตามหลกั การอ่าน ภาพตรงตามความหมายของคาและกลุม่ คาทีฟ่ งั เรอ่ื งใกล้ตวั คาส้ัน ๆ งา่ ย ๆ ในการสอื่ สารระหวา่ งบุคคล ตามแบบทฟ่ี ัง คาส่ังงา่ ย ๆ ตามแบบทฟ่ี ัง ความต้องการง่ายๆ ของตนเองตามแบบที่ฟงั การขอและให้ขอ้ มลู งา่ ยๆ เก่ยี วกบั ตนเองตามแบบท่ีฟงั ขอ้ มลู งา่ ยๆ เกี่ยวกับตนเองและเรื่องใกล้ตวั ตามวฒั นธรรมของเจ้าของ ภาษา ชือ่ และคาศพั ทเ์ ก่ยี วกับเทศกาลสาคญั ของเจ้าของภาษา การเข้าร่วมกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรม ท่เี หมาะสมกับวยั การระบุตัวอกั ษรและเสยี งอกั ษรของภาษาต่างประเทศ (ภาษาองั กฤษ) และภาษาไทย คาศพั ทท์ ีเ่ กีย่ วขอ้ งกับกล่มุ สาระการเรียนรู้อ่นื การฟัง/พดู ในสถานการณง์ ่ายๆท่เี กดิ ข้นึ ในห้องเรียน การใช้ ภาษาต่างประเทศ(ภาษาองั กฤษ)เพื่อรวบรวมคาศัพท์ทเี่ ก่ยี วข้องใกล้ตวั โดยการปฏบิ ตั ิตาม ระบุ อา่ นออกเสียง เลือกภาพ ตอบคาถาม พดู โตต้ อบ ใช้ บอก พูดขอ ให้ข้อมูล ทาทา่ ประกอบ เขา้ ร่วม ฟงั /พูด เพอ่ื ใหผ้ ้เู รียนมีความรูค้ วามเขา้ ใจและนาไปประยุกต์ใช้ในชวี ติ ประจาวัน เกิดสมรรถนะตามความต้องการของหลักสตู ร มคี ณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ขนึ้ ในตวั ของผูเ้ รียน และสามารถ อยู่รว่ มกับผู้อนื่ ในสังคมไดอ้ ยา่ งมคี วามสขุ สามารถนาความรไู้ ปใชใ้ ห้เกิดประโยชน์โดยใชห้ ลักปรัชญาของ เศรษฐกจิ พอเพียงและสามารถนาไปประยุกต์ใช้กบั ชวี ิตประจาวันได้อยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสม มำตรฐำน/ตัวชวี้ ัด ต ๑.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓, ป.๑/๔ ต ๑.๒ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓, ป.๑/๔ ต ๑.๓ ป.๑/๑ ต ๒.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓ ต ๒.๒ ป.๑/๑ ต ๓.๑ ป.๑/๑ ต ๔.๑ ป.๑/๑ ต ๔.๒ ป.๑/๑ รวม 8 มำตรฐำน ๑๖ ตัวชีว้ ัด หลกั สูตรกลุม่ สาระการเรียนรภู้ าษาตา่ งประเทศ (ภาษาอังกฤษ) โรงเรียนอนบุ าลกระสงั สพป.บุรรี มั ย์ เขต ๒

๘๒ คำอธบิ ำยรำยวชิ ำพ้ืนฐำน อ๑๒๑๐๑ ภำษำองั กฤษ ๒ กลุ่มสำระกำรเรียนรภู้ ำษำตำ่ งประเทศ ช้นั ประถมศกึ ษำปที ่ี ๒ เวลำ 200 ชวั่ โมง ปฏิบัติตามคาสั่งง่ายๆ และคาขอรอ้ งง่ายๆ ทฟี่ งั ระบตุ วั อกั ษรและเสยี ง อา่ นออกเสยี งคา สะกดคา และอา่ นประโยคง่ายๆ ถูกตอ้ งตามหลักการอา่ น เลอื กภาพตรงตามความหมายของคาและกล่มุ คาทฟี่ ัง ตอบคาถามจากการฟงั ประโยค บทสนทนาหรือนิทานงา่ ย ๆ ท่ีมีภาพประกอบ พูดโตต้ อบดว้ ยคาสน้ั ๆ ง่าย ๆ ในการส่อื สารระหวา่ งบุคคลตามแบบทีฟ่ ัง ใชค้ าส่ังและคาขอร้องง่าย ๆ ตามแบบท่ีฟงั บอกความต้องการ งา่ ยๆ ของตนเองตามแบบท่ฟี งั พูดขอและให้ข้อมลู ง่ายๆ เกี่ยวกับตนเองตามแบบทฟี่ ัง พูดให้ขอ้ มลู เกย่ี วกับ ตนเองและเรอ่ื งใกลต้ วั พูดและทาทา่ ทางประกอบตามวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา บอกชอ่ื และคาศพั ท์ เกย่ี วกับเทศกาลสาคญั ของเจ้าของภาษา การเขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมทเ่ี หมาะสมกับวัย ระบตุ วั อักษรและเสยี งอักษรของภาษาต่างประเทศ(ภาษาองั กฤษ)และภาษาไทย บอกคาศัพท์ทเี่ ก่ยี วข้อง กบั กลุ่มสาระการเรยี นรอู้ ื่น ฟัง/พดู ในสถานการณ์ง่ายๆท่ีเกิดข้นึ ในห้องเรียน ใชภ้ าษาตา่ งประเทศ (ภาษาองั กฤษ) เพ่อื รวบรวมคาศัพท์ทีเ่ กี่ยวข้องใกล้ตัว โดยการระบุ อ่านออกเสียง เลอื ก ตอบคาถาม พูดโตต้ อบ ใช้ บอก ทาท่าทาง เขา้ ร่วม ฟัง เพ่อื ให้ผูเ้ รียนมีความรู้ความเขา้ ใจและนาไปประยกุ ต์ใชใ้ นชวี ติ ประจาวัน เกิดสมรรถนะตามความต้องการ ของหลักสตู ร มคี ณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ ้นึ ในตัวของผเู้ รยี น และสามารถอยูร่ ่วมกับผูอ้ น่ื ในสงั คมได้ อย่างมีความสขุ สามารถนาความรู้ไปใช้ใหเ้ กดิ ประโยชนโ์ ดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง และสามารถนาไปประยกุ ตใ์ ชก้ บั ชีวติ ประจาวันได้อยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสม มำตรฐำน/ตัวช้วี ัด ต ๑.๑ ป.๒/๑ , ป.๒/๒ , ป.๒/๓ , ป.๒/๔ ต ๑.๒ ป.๒/๑ , ป.๒/๒ , ป.๒/๓ , ป.๒/๔ ต ๑.๓ ป.๒/๑ ต ๒.๑ ป.๒/๑ , ป.๒/๒ , ป.๒/๓ ต ๒.๒ ป.๒/๑ ต ๓.๑ ป.๒/๑ ต ๔.๑ ป.๒/๑ ต ๔.๒ ป.๒/๑ รวม 8 มำตรฐำน ๑๖ ตัวช้ีวดั หลกั สูตรกลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) โรงเรยี นอนุบาลกระสงั สพป.บรุ รี ัมย์ เขต ๒

๘๓ คำอธบิ ำยรำยวชิ ำพืน้ ฐำน อ๑๓๑๐๑ ภำษำองั กฤษ ๓ กลมุ่ สำระกำรเรยี นรภู้ ำษำตำ่ งประเทศ ช้ันประถมศกึ ษำปที ี่ ๓ เวลำ 200 ช่วั โมง ปฏิบตั ติ ามคาสงั่ และคาขอรอ้ งท่ฟี ังหรืออา่ น คา สะกดคา อา่ นกลุ่มคาประโยค และบทพดู เข้าจังหวะ (chant) งา่ ยๆ ถูกต้องตามหลกั การอา่ น ภาพหรอื สัญลกั ษณ์ตรงตามความหมายของคากลมุ่ คาและประโยค ท่ฟี ังจากการฟังหรืออ่านประโยค บทสนทนา หรอื นิทานง่ายๆ คาส้นั ๆ งา่ ยๆ ในการสอื่ สารระหวา่ งบคุ คล ตามแบบที่ฟัง คาสง่ั และคาขอร้องง่าย ๆ ตามแบบท่ฟี งั ความตอ้ งการง่ายๆของตนเองตามแบบทฟี่ ัง ขอและใหข้ อ้ มูลง่ายๆ เก่ยี วกับตนเองและเพอื่ นตามแบบทีฟ่ ัง ความรู้สกึ ของตนเองเกยี่ วกับสงิ่ ต่างๆ ใกลต้ วั หรือกจิ กรรมตา่ งๆ ตามแบบท่ฟี งั ใหข้ อ้ มลู งา่ ยๆ เกี่ยวกบั ตนเองและเร่อื งใกล้ตวั คาตามประเภทของ บุคคล สัตว์ และสงิ่ ของตามทฟี่ ังหรืออ่าน มารยาทสงั คม/วฒั นธรรมของเจ้าของภาษา ชือ่ และคาศัพท์ง่ายๆ เกีย่ วกบั เทศกาล/วันสาคญั /งานฉลองและชีวิตความเป็นอย่ขู องเจา้ ของภาษา กจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรม ที่เหมาะสมกบั วัย ความแตกต่างของเสยี งตัว อกั ษร คา กล่มุ คา และประโยคง่ายๆ ของภาษาต่างประเทศ (ภาษาองั กฤษ) และภาษาไทย คาศัพทท์ เ่ี กีย่ วข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรูอ้ ่ืน สถานการณง์ ่ายๆ ท่เี กิดข้นึ ในห้องเรยี น ภาษาตา่ งประเทศ(ภาษาอังกฤษ)เพอื่ รวบรวมคาศัพท์ที่เก่ยี วขอ้ งใกลต้ ัว โดยการอ่านออกเสียง สะกดคา ฟัง พูด เลือก/ระบุ ตอบคาถาม พูดโต้ตอบ ใช้ บอก จัดหมวดหมู่ ทาทา่ ประกอบ เข้าร่วมกจิ กรรม เพื่อใหม้ คี วามรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ สามารถนาความรู้ ไปปฏิบัตใิ ห้เกิดประโยชนต์ อ่ ตนเองและสงั คม มคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม สามารถนาความรูไ้ ปใช้ให้เกดิ ประโยชน์ โดยใชห้ ลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งและสามารถนาไปประยุกต์ใช้กบั ชีวติ ประจาวันไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง เหมาะสม มำตรฐำน/ตัวชวี้ ัด ต ๑.๑ ป.๓/๑ , ป.๓/๒ , ป.๓/๓ , ป.๓/๔ ต ๑.๒ ป.๓/๑ , ป.๓/๒ , ป.๓/๓ , ป.๓/๔ , ป.๓/๕ ต ๑.๓ ป.๓/๑ , ป.๓/๒ ต ๒.๑ ป.๓/๑ , ป.๓/๒ , ป.๓/๓ ต ๒.๒ ป.๓/๑ ต ๓.๑ ป.๓/๑ ต ๔.๑ ป.๓/๑ ต ๔.๒ ป.๓/๑ รวม 8 มำตรฐำน ๑๘ ตวั ชวี้ ัด หลักสตู รกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) โรงเรียนอนุบาลกระสัง สพป.บุรรี ัมย์ เขต ๒

๘๔ คำอธบิ ำยรำยวิชำพืน้ ฐำน อ๑๔๑๐๑ ภำษำองั กฤษ ๔ กลมุ่ สำระกำรเรยี นรูภ้ ำษำตำ่ งประเทศ ชัน้ ประถมศกึ ษำปที ่ี ๔ เวลำ ๘๐ ชัว่ โมง ปฏบิ ตั ิตามคาสงั่ คาขอร้อง และคาแนะนา (instructions)ง่าย ๆทฟี่ ังหรอื อ่าน อา่ นออกเสียงคา สะกดคา อ่านกลมุ่ คา ประโยค ข้อความง่ายๆ และบทพูดเขา้ จงั หวะ ถกู ต้องตามหลกั การอ่าน เลอื ก/ระบุ ภาพหรือสัญลกั ษณ์ หรือเครอ่ื งหมายตรงตามความหมายของประโยคและข้อความสนั้ ๆท่ฟี งั หรอื อา่ น ตอบคาถามจากการฟงั หรอื อ่านประโยค บทสนทนา หรือนิทานงา่ ยๆ พดู /เขียนโต้ตอบในการสอ่ื สาร ระหวา่ งบคุ คล ใชค้ าสัง่ คาขอรอ้ ง และคาขออนญุ าตงา่ ย ๆ พูด/เขยี นแสดงความตอ้ งการของตนเอง ถามและขอความชว่ ยเหลอื ในสถานการณง์ ่ายๆ พูด/เขียนเพ่อื ขอและให้ข้อมูล เกยี่ วกบั ตนเองเพือ่ น และครอบครวั พูดแสดงความรสู้ กึ ของตนเองเกย่ี วกับเรื่องตา่ งๆ ใกลต้ วั หรอื กจิ กรรมตา่ งๆ ตามแบบท่ีฟัง พดู /เขียนใหข้ ้อมลู งา่ ยๆ เกีย่ วกับตนเองและเรื่องใกล้ตวั พดู /วาดภาพแสดงความสัมพันธ์ของสง่ิ ต่างๆ ใกลต้ ัว ที่ฟังหรอื อ่าน พดู แสดงความคดิ เหน็ ง่ายๆ เกี่ยวกับตนเองและเรอื่ งใกลต้ วั พดู และทาท่าประกอบอย่างสภุ าพ ตามมารยาทสงั คม/วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา ตอบคาถามเก่ยี วกับเทศกาล/วันสาคัญ/งานฉลองและชวี ติ ความเป็นอยงู่ ่ายๆของเจา้ ของภาษา การเข้าร่วมกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมท่ีเหมาะสมกบั วัย บอกความแตกตา่ งของเสียงตัว อกั ษร คา กลมุ่ คา ประโยค และขอ้ ความ ของภาษาต่างประเทศ (ภาษาองั กฤษ) และภาษาไทย บอกความเหมอื น/ความแตกต่างระหว่างเทศกาลและงานฉลองตามวฒั นธรรม ของเจ้าของภาษากบั ของไทย คน้ คว้ารวบรวม คาศัพท์ทเี่ ก่ียวขอ้ งกบั กลุ่มสาระการเรยี นรูอ้ ื่น และนาเสนอ ด้วยการพดู /การเขียน ฟงั /พดู ในสถานการณท์ ีเ่ กิดขึ้นในหอ้ งเรียนและสถานศึกษา ใชภ้ าษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ในการสบื คน้ และรวบรวมขอ้ มลู ตา่ งๆ โดยการฟัง พดู อา่ น เขียน ระบุ อ่านออกเสียง เลอื ก ตอบคาถาม พดู โตต้ อบ ใช้ บอก ทาทา่ ทาง เข้ารว่ ม เพอื่ ให้ผู้เรยี นมีความรู้ความเข้าใจและนาไปประยกุ ตใ์ ช้ในชวี ติ ประจาวนั เกิดสมรรถนะ ตามความต้องการของหลกั สตู ร มีคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงคข์ ้นึ ในตัวของผเู้ รยี น และสามารถอยรู่ ่วมกบั ผอู้ ื่น ในสงั คมไดอ้ ยา่ งมีความสุข สามารถนาความรูไ้ ปใชใ้ ห้เกดิ ประโยชนโ์ ดยใชห้ ลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง และสามารถนาไปประยุกต์ใชก้ ับชีวติ ประจาวนั ได้อยา่ งถกู ต้องเหมาะสม มำตรฐำน/ตวั ช้ีวัด ต ๑.๑ ป.๔/๑ , ป.๔/๒ , ป.๔/๓ , ป๔/๔ ต ๑.๒ ป.๔/๑ , ป.๔/๒ , ป.๔/๓ , ป๔/๔ , ป๔/๕ ต ๑.๓ ป.๔/๑ , ป.๔/๒ , ป.๔/๓ ต ๒.๑ ป.๔/๑ , ป.๔/๒ , ป.๔/๓ ต ๒.๒ป.๔/๑ , ป.๔/๒ ต ๓.๑ ป.๔/๑ ต ๔.๑ ป.๔/๑ ต ๔.๒ ป.๔/๑ รวม 8 มำตรฐำน ๒๐ ตัวชวี้ ดั หลกั สตู รกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) โรงเรยี นอนบุ าลกระสัง สพป.บุรรี มั ย์ เขต ๒

๘๕ อ๑๕๑๐๑ ภำษำอังกฤษ ๕ คำอธบิ ำยรำยวชิ ำพ้ืนฐำน ช้นั ประถมศกึ ษำปที ี่ ๕ กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ภำษำตำ่ งประเทศ เวลำ ๘๐ ชั่วโมง ปฏิบัตติ ามคาส่งั คาขอร้อง และคาแนะนา ที่ฟงั หรอื อ่าน อ่านออกเสยี ง ประโยค ขอ้ ความ และบทกลอนสั้นๆ ถกู ตอ้ งตามหลกั การอา่ น ระบ/ุ วาดภาพสญั ลกั ษณ์ หรอื เครื่องหมายตรงตามความหมาย ของประโยคและข้อความส้ันๆทีฟ่ งั หรืออ่าน บอกใจความสาคัญและตอบคาถามจากการฟังหรอื อา่ น บทสนทนา และนทิ านง่ายๆหรอื เรื่องสน้ั ๆ พดู /เขยี นโต้ตอบในการสือ่ สารระหว่างบคุ คล ใช้คาส่งั คาขอรอ้ ง คาขออนุญาตและใหค้ าแนะนาง่าย ๆ พูด/เขียนแสดงความต้องการของตนเองตาม ขอความช่วยเหลือ ตอบรบั และปฏิเสธการใหค้ วามชว่ ยเหลือในสถานการณง์ ่ายๆ พูด/เขียนเพื่อขอและให้ข้อมลู เกี่ยวกับตนเอง เพอ่ื น ครอบครัว และเรือ่ งใกลต้ วั พูดแสดงความร้สู ึกของตนเองเกีย่ วกับเรื่องต่างๆ ใกล้ตวั หรือกจิ กรรม ต่างๆพรอ้ มทง้ั ใหเ้ หตุผลส้ันๆประกอบ พดู /เขยี นให้ข้อมลู ง่ายๆ เกี่ยวกับตนเองและเรื่องใกลต้ ัว เขียนภาพ แผนผงั และแผนภมู แิ สดงขอ้ มูลตา่ งๆตามทฟ่ี ังหรอื อ่าน พูดแสดงความคดิ เห็น เกี่ยวกบั เรื่องตา่ งๆ ใกลต้ วั ใชถ้ อ้ ยคา นา้ เสยี ง และกริ ิยาทา่ ทางอย่างสุภาพตามมารยาทสังคม/วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา ตอบคาถาม/ บอกความสาคญั ของเทศกาล/วันสาคญั /งานฉลองและชวี ิตความเปน็ อยู่งา่ ยๆของเจา้ ของภาษา การเข้ารว่ ม กิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมตามความสนใจ บอกความเหมือน/ความแตกต่างระหวา่ งการออกเสยี ง ประโยคชนิดต่างๆ การใช้เคร่อื งหมายวรรคตอน และการลาดบั คา(order) ตามโครงสรา้ งของประโยค ของภาษาต่างประเทศ(ภาษาอังกฤษ)และภาษาไทย บอกความเหมอื น/ความแตกต่างระหวา่ งเทศกาล และงานฉลองตามวัฒนธรรม ของเจ้าของภาษากับของไทย คน้ ควา้ รวบรวม คาศัพท์ทเ่ี ก่ยี วขอ้ งกบั กลมุ่ สาระ การเรียนรู้อ่ืน และนาเสนอด้วยการพดู /การเขยี น ฟัง พูด และอ่าน/เขยี นในสถานการณ์ต่างๆท่ีเกิดข้นึ ในห้องเรยี นและสถานศกึ ษา ใชภ้ าษาตา่ งประเทศ(ภาษาองั กฤษ)ในการสืบคน้ และรวบรวมขอ้ มูลตา่ งๆ โดยการฟัง พูด อ่าน เขียน ระบุ อ่านออกเสยี ง เลือก ตอบคาถาม พูดโต้ตอบ ใช้ บอก ทาท่าทาง เข้ารว่ ม เพ่ือใหผ้ เู้ รยี นมีความร้คู วามเข้าใจและนาไปประยกุ ต์ใชใ้ นชีวติ ประจาวัน เกิดสมรรถนะ ตามความต้องการของหลักสตู ร มคี ุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ข้นึ ในตัวของผูเ้ รยี น และสามารถอยรู่ ว่ มกบั ผูอ้ น่ื ในสังคมได้อยา่ งมคี วามสุข สามารถนาความรไู้ ปใช้ใหเ้ กดิ ประโยชน์โดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง และสามารถนาไปประยกุ ต์ใชก้ ับชวี ติ ประจาวันไดอ้ ย่างถูกต้องเหมาะสม มำตรฐำน/ตัวช้ีวดั ต ๑.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔ ต ๑.๒ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕ ต ๑.๓ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓ ต ๒.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓ ต ๒.๒ ป.๕/๑, ป.๕/๒ ต ๓.๑ ป.๕/๑ ต ๔.๑ ป.๕/๑ ต ๔.๒ ป.๕/๑ รวม 8 มำตรฐำน ๒๐ ตัวชวี้ ัด หลักสูตรกลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) โรงเรยี นอนบุ าลกระสงั สพป.บรุ รี มั ย์ เขต ๒

๘๖ คำอธบิ ำยรำยวชิ ำพืน้ ฐำน อ๑๖๑๐๑ ภำษำองั กฤษ ๖ กลุ่มสำระกำรเรียนรภู้ ำษำตำ่ งประเทศ ช้นั ประถมศกึ ษำปที ี่ ๖ เวลำ ๘๐ ชว่ั โมง ปฏิบตั ติ ามคาสง่ั คาขอร้อง และคาแนะนา ท่ีฟงั และอา่ น อ่านออกเสยี ง ข้อความ นทิ าน และบทกลอนสน้ั ๆ ถูกต้องตามหลกั การอ่าน เลอื ก/ระบุประโยค หรือ ข้อความส้ันๆ ตรงตามภาพ สญั ลกั ษณ์ หรือเครอื่ งหมายทอี่ ่าน บอกใจความสาคญั และตอบคาถามจากการฟงั หรืออ่าน บทสนทนา หรือนทิ านงา่ ยๆ และเร่ืองเลา่ พูด/เขยี นโต้ตอบในการสอ่ื สารระหวา่ งบุคคล ใชค้ าสัง่ คาขอรอ้ ง และคาขออนญุ าต และให้คาแนะนา พูด/เขยี นแสดงความต้องการ ขอความชว่ ยเหลอื ตอบรับและปฏิเสธการให้ความช่วยเหลอื ในสถานการณง์ า่ ยๆ พดู /เขียนเพอ่ื ขอและให้ขอ้ มูล เกย่ี วกบั ตนเอง เพ่อื น ครอบครัว และเรือ่ งใกลต้ วั พดู /เขียนแสดงความรู้สึกของตนเองเกีย่ วกับเรือ่ งต่างๆ ใกล้ตวั หรือกจิ กรรมต่างๆ พรอ้ มท้ังใหเ้ หตุผลส้ันๆ ประกอบ พูด/เขยี นใหข้ ้อมลู เก่ยี วกบั ตนเอง เพอื่ น และสงิ่ แวดลอ้ มใกลต้ วั เขยี นภาพ แผนผงั และแผนภมู ิ แสดงขอ้ มูลต่างๆตามทีฟ่ ังหรอื อา่ น พูดเขียนแสดงความคดิ เหน็ เก่ียวกับเรอื่ งตา่ งๆ ใกล้ตวั ใช้ถ้อยคา นา้ เสียง และกิรยิ าท่าทางอยา่ งสุภาพ เหมาะสมตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา ให้ข้อมูลเกย่ี วกับ เทศกาล/วนั สาคัญ/งานฉลอง/ชวี ติ ความเปน็ อยขู่ องเจ้าของภาษา การเข้ารว่ มกิจกรรมทางภาษาและ วัฒนธรรมตามความสนใจ บอกความเหมือน/ความแตกตา่ งระหว่างการออกเสียงประโยคชนดิ ตา่ งๆ การใชเ้ ครื่องหมายวรรคตอน และการลาดบั คา ตามโครงสรา้ ง ประโยค ของภาษาตา่ งประเทศ (ภาษาอังกฤษ) และภาษาไทย เปรยี บเทยี บความเหมือน/ความแตกต่างระหว่างเทศกาลงานฉลอง และประเพณีของเจา้ ของภาษากบั ของไทย คน้ ควา้ รวบรวม คาศพั ทท์ ่เี กยี่ วขอ้ งกบั กลมุ่ สาระการเรียนร้อู น่ื จากแหลง่ การเรยี นรู้ และนาเสนอด้วยการพูด/การเขียน ใชภ้ าษาสื่อสารในสถานการณต์ ่างๆท่เี กดิ ขึน้ ในหอ้ งเรียนและสถานศึกษา ใชภ้ าษาต่างประเทศ(ภาษาอังกฤษ)ในการสืบคน้ และรวบรวมข้อมูลตา่ งๆ โดยการฟงั พดู อ่าน เขยี น ระบุ อ่านออกเสยี ง เลือก ตอบคาถาม พูดโต้ตอบ เขา้ รว่ ม เปรียบเทียบ ค้นควา้ ใช้ บอก เพือ่ ใหผ้ เู้ รยี นมคี วามรคู้ วามเขา้ ใจและนาไปประยกุ ต์ใชใ้ นชีวิตประจาวัน เกิดสมรรถนะตามความต้องการของหลักสตู ร มีคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ขนึ้ ในตัวของผเู้ รียน และสามารถ อย่รู ว่ มกบั ผอู้ ่นื ในสงั คมไดอ้ ยา่ งมีความสขุ สามารถนาความร้ไู ปใชใ้ หเ้ กดิ ประโยชน์โดยใชห้ ลักปรชั ญา ของเศรษฐกิจพอเพยี งและสามารถนาไปประยุกตใ์ ช้กบั ชวี ิตประจาวันได้อยา่ งถูกต้องเหมาะสม มำตรฐำน/ตัวชวี้ ัด ต ๑.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔ ต ๑.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕ ต ๑.๓ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓ ต ๒.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓ ต ๒.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒ ต ๓.๑ ป.๖/๑ ต ๔.๑ ป.๖ /๑ ต ๔.๒ ป.๖/๑ รวม 8 มำตรฐำน ๒๐ ตวั ช้วี ัด หลกั สูตรกลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาตา่ งประเทศ (ภาษาอังกฤษ) โรงเรียนอนบุ าลกระสัง สพป.บุรรี ัมย์ เขต ๒

๘๗ คำอธิบำยรำยวิชำเพ่มิ เตมิ อ1๔201 อังกฤษเพอ่ื กำรส่อื สำร กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำต่ำงประเทศ ชั้นประถมศกึ ษำปที ่ี 4 เวลำ 40 ช่วั โมง เลือก/ระบภุ าพ หรือสัญลักษณ์ หรอื เครอ่ื งหมายตรงตามความหมายของประโยคและขอ้ ความส้ันๆ ทฟี่ ง หรืออ่าน ใช้และปฏิบตั ติ ามคาส่งั คาขอรอ้ ง และคาขออนญุ าตงา่ ยๆ พดู /เขียนแสดงความต้องการ ของตนเอง และขอความช่วยเหลือในสถานการณ์งา่ ยๆ พดู /เขยี นเพอื่ ขอและให้ข้อมลู เกี่ยวกับตนเอง เพ่อื น และครอบครัว พดู และทาทา่ ประกอบอยา่ งสภุ าพ ตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา ตอบคาถามเกี่ยวกับเทศกาล/วนั สาคัญ/ งานฉลองและชวี ิตความเป็นอยงู่ ่ายๆ ของเจ้าของภาษา บอกความแตกต่างของเสียงตัวอกั ษร คา กลมุ่ คา ประโยค และข้อความของภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย ฟงั และพดู /อ่านในสถานการณ์ทเี่ กดิ ขน้ึ ในห้องเรยี นและสถานศกึ ษา ผลกำรเรยี นรู้ ๑. เลือก/ระบุภาพ หรือสัญลักษณ์ หรือเคร่ืองหมายตรงตามความหมายของประโยคและข้อความ สนั้ ๆ ท่ีฟงั หรอื อ่าน ๒. ใชแ้ ละปฏบิ ตั ติ ามคาส่งั คาขอร้อง และคาขออนุญาตง่ายๆ พดู /เขียนแสดงความตอ้ งการของ ตนเองและขอความช่วยเหลือในสถานการณ์งา่ ยๆ ๓. พดู /เขียนเพื่อขอและใหข้ อ้ มลู เก่ียวกับตนเอง เพ่ือน และครอบครัว ๔. พดู และทาท่าประกอบอย่างสภุ าพ ตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา ๕. ตอบคาถามเก่ยี วกบั เทศกาล/วันสาคญั / งานฉลองและชวี ติ ความเปน็ อยงู่ ่ายๆ ของเจา้ ของภาษา ๖. บอกความแตกตา่ งของเสียงตัวอกั ษร คา กลมุ่ คา ประโยค และข้อความของภาษาต่างประเทศ และภาษาไทย ๗. ฟงั และพดู /อ่านในสถานการณท์ ่เี กดิ ขึน้ ในห้องเรียนและสถานศกึ ษา รวมทั้งหมด ๗ ผลกำรเรียนรู้ หลักสูตรกลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) โรงเรยี นอนบุ าลกระสัง สพป.บรุ รี มั ย์ เขต ๒

๘๘ คำอธบิ ำยรำยวชิ ำเพ่ิมเตมิ อ1๕201 อังกฤษเพ่ือกำรสอ่ื สำร กลุม่ สำระกำรเรยี นรู้ภำษำตำ่ งประเทศ ชั้นประถมศกึ ษำปที ่ี ๕ เวลำ 40 ชวั่ โมง ระบ/ุ วาดภาพ สัญลกั ษณ์ หรอื เคร่อื งหมาย ตรงตามความหมายของประโยคและขอ้ ความสนั้ ๆ ท่ีฟัง หรืออา่ น พูด/เขียนโต้ตอบในการส่อื สารระหวา่ งบคุ คล ขอและให้ข้อมูลเก่ยี วกับตนเอง เพอ่ื น ครอบครัว และเร่อื งใกล้ตวั ใช้และปฏบิ ัติตามคาสงั่ คาขอร้อง คาขออนญุ าต และให้คาแนะนาง่ายๆ พดู /เขียน แสดงความต้องการ ขอความชว่ ยเหลือ ตอบรับและปฏิเสธการให้ความชว่ ยเหลือในสถานการณง์ ่ายๆ พูด/เขียนแสดงความรสู้ ึกของตนเองเกยี่ วกับเรื่องตา่ งๆ ใกลต้ วั และกิจกรรมตา่ งๆ พรอ้ มทั้งใหเ้ หตุผลสัน้ ๆ ประกอบ บอกความเหมอื น/ความแตกต่างระหว่างการออกเสยี งประโยคชนิดต่างๆ การใชเ้ ครอื่ งหมาย วรรคตอน และการลาดับคา (order) ตามโครงสรา้ งประโยค ของภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย ใช้ถ้อยคา น้าเสียง และกิรยิ าทา่ ทางอย่างสภุ าพตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา ตอบคาถามเก่ยี วกบั เทศกาล/วันสาคญั / งานฉลองและชีวิตความเป็นอยู่งา่ ยๆ ของเจา้ ของภาษา บอกความแตกต่างของเสียง ตัวอักษร คา กลมุ่ คา ประโยค และขอ้ ความของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย ผลกำรเรียนรู้ 1. ระบ/ุ วาดภาพ สญั ลักษณ์ หรอื เคร่ืองหมาย ตรงตามความหมายของประโยคและข้อความส้นั ๆ ท่ฟี งั หรอื อา่ น 2. พูด/เขยี นโต้ตอบในการสือ่ สารระหว่างบคุ คล ขอและให้ขอ้ มลู เก่ียวกับตนเอง เพ่อื น ครอบครวั และเร่อื งใกล้ตวั ๓. ใชแ้ ละปฏิบัตติ ามคาสง่ั คาขอรอ้ ง คาขออนุญาต และให้คาแนะนางา่ ยๆ ๔. พดู /เขยี นแสดงความต้องการขอความชว่ ยเหลอื ตอบรบั และปฏเิ สธการใหค้ วามชว่ ยเหลือ ในสถานการณง์ ่ายๆ ๕. พูด/เขียนแสดงความรู้สกึ ของตนเองเก่ยี วกบั เรอ่ื งตา่ งๆ ใกลต้ วั และกจิ กรรมตา่ งๆ พรอ้ มทัง้ ใหเ้ หตผุ ลสั้นๆ ประกอบ ๖. บอกความเหมือน/ความแตกตา่ งระหว่างการออกเสียงประโยคชนดิ ต่างๆ การใชเ้ คร่อื งหมาย วรรคตอน และการลาดบั คา (order) ตามโครงสร้างประโยค ของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย ๗. ใชถ้ ้อยคา นา้ เสียง และกิริยาท่าทางอย่างสภุ าพตามมารยาทสังคมและวฒั นธรรม ของเจ้าของภาษา ๘. ตอบคาถามเกี่ยวกับเทศกาล/วันสาคัญ/ งานฉลองและชีวติ ความเปน็ อยงู่ า่ ยๆ ของเจ้าของภาษา รวมทงั้ หมด ๘ ผลกำรเรียนรู้ หลักสูตรกลุม่ สาระการเรยี นรภู้ าษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) โรงเรยี นอนบุ าลกระสัง สพป.บุรีรมั ย์ เขต ๒

๘๙ คำอธบิ ำยรำยวชิ ำเพม่ิ เตมิ อ1๖201 องั กฤษเพอ่ื กำรสือ่ สำร กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำตำ่ งประเทศ ช้ันประถมศึกษำปที ี่ ๖ เวลำ 40 ชว่ั โมง เลือก/ระบปุ ระโยค หรือขอ้ ความส้ันๆ ตรงตามภาพ สัญลักษณ์ หรือเครื่องหมายท่อี า่ น พดู /เขียน โต้ตอบในการสือ่ สารระหวา่ งบคุ คล พูด/เขียนใหข้ ้อมูลเกย่ี วกับตนเอง เพื่อน และสงิ่ แวดลอ้ มใกล้ตวั ใช้และ ปฏบิ ตั ิตามคาสัง่ คาขอร้อง และใหค้ าแนะนา พดู /เขยี นแสดงความต้องการขอความชว่ ยเหลือ ตอบรบั และ ปฏเิ สธการให้ความชว่ ยเหลือในสถานการณ์งา่ ยๆ พูด/เขียนแสดงความรู้สกึ ของตนเองเกี่ยวกบั เรื่องต่างๆ ใกล้ ตัว กิจกรรมตา่ งๆ พร้อมทั้งใหเ้ หตผุ ลสัน้ ๆ ประกอบ ใชถ้ อ้ ยคา น้าเสยี ง และกริ ยิ าทา่ ทางอย่างสุภาพ เหมาะสม ตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา ให้ข้อมลู เก่ยี วกบั เทศกาล/วันสาคญั / งานฉลอง/ชีวิตความเปน็ อยู่ของเจา้ ของภาษา เปรียบเทยี บความเหมือน/ความแตกตา่ งระหวา่ งเทศกาล งาน ฉลองและประเพณขี องเจา้ ของภาษากับของไทย ผลกำรเรียนรู้ 1. เลอื ก/ระบปุ ระโยค หรือข้อความสัน้ ๆ ตรงตามภาพ สัญลกั ษณ์ หรอื เครือ่ งหมายที่อ่าน 2. พูด/เขียนโต้ตอบในการสอื่ สารระหวา่ งบุคคล 3. พดู /เขียนให้ขอ้ มลู เกีย่ วกบั ตนเอง เพอื่ น และสิ่งแวดล้อมใกลต้ ัว ๔. ใชแ้ ละปฏบิ ัติตามคาสง่ั คาขอรอ้ ง และให้คาแนะนา ๕. พูด/เขยี นแสดงความตอ้ งการขอความชว่ ยเหลือ ตอบรบั และปฏิเสธการใหค้ วามช่วยเหลอื ในสถานการณง์ ่ายๆ ๖. พูด/เขียนแสดงความร้สู กึ ของตนเองเกย่ี วกบั เรื่องตา่ งๆ ใกลต้ ัว กจิ กรรมตา่ งๆ พรอ้ มท้งั ใหเ้ หตผุ ล ส้ันๆ ประกอบ ๗. ใชถ้ อ้ ยคา นา้ เสียง และกริ ิยาทา่ ทางอย่างสภุ าพเหมาะสม ตามมารยาทสงั คมและวฒั นธรรม ของเจา้ ของภาษา ๘. ให้ข้อมูลเกยี่ วกับเทศกาล/วันสาคัญ/งานฉลอง/ชีวติ ความเปน็ อยูข่ องเจ้าของภาษา ๙. เปรยี บเทียบความเหมือน/ความแตกตา่ งระหวา่ งเทศกาล งานฉลองและประเพณี ของเจา้ ของภาษากบั ของไทย รวมท้งั หมด ๙ ผลกำรเรยี นรู้ หลกั สตู รกลมุ่ สาระการเรียนร้ภู าษาตา่ งประเทศ (ภาษาอังกฤษ) โรงเรยี นอนุบาลกระสัง สพป.บรุ ีรมั ย์ เขต ๒

๙๐ คำอธบิ ำยรำยวชิ ำพืน้ ฐำน อ๒๑๑๐๑ ภำษำองั กฤษ กลุม่ สำระกำรเรียนรภู้ ำษำตำ่ งประเทศ ช้นั มัธยมศกึ ษำปที ่ี 1 ภำคเรียนท่ี 1 เวลำ 6๐ ช่ัวโมง จำนวน 1.5 หนว่ ยกิต สามารถปฏิบตั ิตามคาสั่ง คาขอร้อง คาแนะนา และคาชี้แจงงา่ ย ๆ ที่ฟังและอ่าน อา่ นออกเสียง ข้อความ นิทาน และบทรอ้ ยกรอง (Poem) สน้ั ๆ ถกู ตอ้ งตามหลกั การอ่านเก่ียวกับสตั ว์ต่างๆ เลอื ก/ระบุ ประโยคและขอ้ ความใหส้ ัมพนั ธก์ บั สือ่ ทไี่ มใ่ ช่ความเรยี ง (non-text information) ทอ่ี า่ น ระบหุ ัวขอ้ เรอ่ื ง (topic) ใจความสาคญั (main idea) และตอบคาถามจากการฟงั และอา่ นบทสนทนา นิทานและเรื่องสน้ั สนทนาแลกเปลย่ี นขอ้ มูลเกีย่ วกับตนเอง กิจกรรมและสถานการณต์ า่ งๆ ในชีวติ ประจาวัน ใชค้ าขอรอ้ ง ให้คาแนะนา และคาช้ีแจงตามสานการณ์ พดู และเขียนแสดงความต้องการ ขอความชว่ ยเหลือ ตอบรบั และ ปฏิเสธการให้ความชว่ ยเหลอื ในสถานการณ์ตา่ งๆ อย่างเหมาะสม พูดและเขยี นเพือ่ ขอ และให้ข้อมลู และ แสดงความคดิ เห็นเกยี่ วกับประเพณี วฒั นธรรมท้องถิ่น วนั สาคัญ เร่อื งตา่ งๆ ใกล้ตัว กจิ กรรมต่างๆ พรอ้ มทั้ง ใหเ้ หตผุ ลสัน้ ๆ ประกอบอยา่ งเหมาะสม พดู และเขียนบรรยายเก่ียวกบั ตนเอง กจิ วัตรประจาวัน เรื่องราวส้ันๆ ประสบการณ์ และส่งิ แวดลอ้ มใกล้ตัว พูด/เขยี น สรปุ ใจความสาคัญ/แกนสาระ (theme) ท่ีได้จากการ วิเคราะห์เร่อื ง/เหตุการณ์ทอี่ ยใู่ นความสนใจของสงั คม พดู /เขยี นแสดงความคิดเหน็ เกย่ี วกับกิจกรรมหรอื เรื่องต่าง ๆ ใกลต้ วั พร้อมทง้ั ใหเ้ หตุผลสัน้ ๆ ประกอบ ใชภ้ าษา นา้ เสียง และกริ ยิ าทา่ ทางสภุ าพเหมาะสม ตามมารยาทสงั คมในการทักทายกลา่ วลา ขอบคุณ และมารยาทสังคมของท้องถิ่นชนบทไทย และวัฒนธรรม ของเจ้าของภาษาเกย่ี วกบั เทศกาล วนั สาคญั ชวี ิตความเปน็ อยู่ และประเพณีในท้องถ่นิ เจ้าของภาษา เข้าร่วม/ กิจกรรมทางภาษาแลวัฒนธรรมตามความสนใจ เชน่ การเล่านิทานพื้นบ้านในทอ้ งถ่ิน บอกความเหมือนและ ความแตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยคชนิดตา่ งๆ การใช้เครอื่ งหมายวรรคตอน และการลาดับคา ตามโครงสรา้ งประโยคของภาษาไทย เปรียบเทยี บความเหมอื นและความแตกต่างระหว่างเทศกาล งานฉลอง วันสาคัญ เช่น วนั สงกรานต์ วนั ลอยกระทง และชีวิตความเปน็ อยู่ของเจ้าของภาษากับของไทย ค้นควา้ รวบรวม และสรุปขอ้ มูล/ขอ้ เทจ็ จริง ทเี่ ก่ยี วกับกลมุ่ สาระการเรยี นรูอ้ ่ืนจากแหลง่ เรยี นรู้ และนาเสนอ ด้วยการพูด/การเขียน ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณจ์ ริง/สถานการณ์จาลองทเี่ กดิ ขึน้ ในห้องเรยี นและ สถานศกึ ษาโดยการแนะนาสถานทท่ี ี่นา่ สนใจในท้องถ่นิ ของตนเอง ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการสืบคน้ /ค้นควา้ เกย่ี วกบั สถานที่สาคญั ทางประวตั ศิ าสตร์ของทอ้ งถิ่น ความรู้/ข้อความตา่ งๆ จากส่อื และแหลง่ การเรยี นรู้ตา่ งๆ ในการศกึ ษาต่อและประกอบอาชพี โดยใชก้ ระบวนการฟัง การพดู การอ่าน และการเขียน ในการสืบเสาะความรู้ การทางานรว่ มกบั ผอู้ ื่นอย่างมคี วามสุข มีความสามารถในการสืบค้นขอ้ มลู การอภิปราย การวเิ คราะห์ เพอ่ื ให้ไดค้ วามร้คู วามเข้าใจ สามารถนาไปใช้ในชีวิตประจาวนั และดาเนนิ ชีวติ ร่วมกบั คนในสังคม มเี จตคติท่ดี ีตอ่ การใช้ภาษาต่างประเทศเพอื่ การสือ่ สารได้ มำตรฐำน/ตวั ชวี้ ดั ต 1.1 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3, ม.1/4 ต 1.2 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3, ม.1/4, ม.1/5 ต 1.3 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3 ต 2.1 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3 ต 2.2 ม.1/1, ม.1/2 ต 3.1 ม.1/1 ต 4.1 ม.1/1 ต 4.2 ม.1/1, ม.1/2 รวม 8 มำตรฐำน 21 ตัวชว้ี ดั หลกั สตู รกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ (ภาษาอังกฤษ) โรงเรยี นอนุบาลกระสงั สพป.บุรีรมั ย์ เขต ๒

๙๑ อ๒๑๑๐๒ ภำษำองั กฤษ คำอธบิ ำยรำยวิชำพ้นื ฐำน ชนั้ มัธยมศึกษำปีท่ี 1 ภำคเรยี นท่ี 2 กลุ่มสำระกำรเรยี นรภู้ ำษำตำ่ งประเทศ เวลำ 6๐ ชั่วโมง จำนวน 1.5 หน่วยกิต สามารถปฏบิ ัตติ ามคาสง่ั คาขอร้อง คาแนะนา และคาช้แี จงงา่ ย ๆ ท่ฟี งั และอา่ น อา่ นออกเสียง ขอ้ ความ นทิ าน และบทร้อยกรอง (Poem) สั้น ๆ ถกู ตอ้ งตามหลักการอา่ นเก่ียวกบั สัตวต์ ่างๆ เลอื ก/ระบุ ประโยคและข้อความให้สัมพนั ธก์ ับส่อื ทไ่ี ม่ใชค่ วามเรียง (non-text information) ที่อ่าน ระบหุ วั ขอ้ เร่อื ง (topic) ใจความสาคญั (main idea) และตอบคาถามจากการฟังและอ่านบทสนทนา นทิ านและเรอื่ งส้นั สนทนาแลกเปล่ยี นข้อมูลเกี่ยวกบั ตนเอง กจิ กรรมและสถานการณต์ ่างๆ ในชีวิตประจาวัน ใชค้ าขอรอ้ ง ใหค้ าแนะนา และคาชีแ้ จงตามสานการณ์ พดู และเขียนแสดงความต้องการ ขอความช่วยเหลือ ตอบรบั และปฏเิ สธการใหค้ วามชว่ ยเหลอื ในสถานการณ์ต่างๆ อยา่ งเหมาะสม พูดและเขยี นเพอ่ื ขอ และใหข้ อ้ มูล และแสดงความคดิ เห็นเกย่ี วกบั ประเพณี วฒั นธรรมท้องถิน่ วนั สาคญั เรอื่ งต่างๆ ใกลต้ ัว กจิ กรรมตา่ งๆ พร้อมท้ังให้เหตผุ ลสน้ั ๆ ประกอบอยา่ งเหมาะสม พูดและเขยี นบรรยายเกย่ี วกับตนเอง กจิ วัตรประจาวนั เรอื่ งราวสน้ั ๆ ประสบการณ์ และสิง่ แวดลอ้ มใกลต้ ัว พูด/เขียน สรุปใจความสาคญั /แกนสาระ (theme) ท่ีไดจ้ ากการวเิ คราะหเ์ รือ่ ง/เหตุการณท์ อ่ี ยใู่ นความสนใจของสงั คม พดู /เขยี นแสดงความคิดเหน็ เก่ียวกับ กจิ กรรมหรอื เร่อื งต่าง ๆ ใกลต้ ัว พร้อมท้งั ให้เหตุผลสนั้ ๆ ประกอบ ใช้ภาษา นา้ เสยี ง และกริ ยิ าทา่ ทางสภุ าพ เหมาะสมตามมารยาทสงั คมในการทักทายกลา่ วลา ขอบคณุ และมารยาทสังคมของทอ้ งถนิ่ ชนบทไทย และวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษาเก่ียวกบั เทศกาล วนั สาคญั ชีวิตความเป็นอยู่ และประเพณใี นท้องถิน่ เจา้ ของภาษา เขา้ ร่วม/กจิ กรรมทางภาษาแลวัฒนธรรมตามความสนใจ เช่น การเล่านิทานพน้ื บ้านในทอ้ งถนิ่ บอกความเหมือนและความแตกตา่ งระหว่างการออกเสียงประโยคชนิดต่างๆ การใชเ้ ครอ่ื งหมายวรรคตอน และการลาดบั คาตามโครงสร้างประโยคของภาษาไทย เปรียบเทยี บความเหมือนและความแตกต่างระหวา่ ง เทศกาล งานฉลอง วนั สาคญั เช่น วนั สงกรานต์ วันลอยกระทง และชีวิตความเป็นอยู่ของเจ้าของภาษา กับของไทย คน้ คว้า รวบรวม และสรุปข้อมลู /ข้อเทจ็ จริง ท่เี กี่ยวกับกลุม่ สาระการเรยี นรอู้ ื่นจากแหล่งเรยี นรู้ และนาเสนอดว้ ยการพดู /การเขยี น ใช้ภาษาส่อื สารในสถานการณ์จรงิ /สถานการณ์จาลองที่เกิดขึ้นในหอ้ งเรียน และสถานศึกษาโดยการแนะนาสถานที่ท่ีน่าสนใจในท้องถ่ินของตนเอง ใช้ภาษาตา่ งประเทศในการสบื ค้น/ คน้ คว้าเก่ียวกบั สถานท่สี าคญั ทางประวัติศาสตร์ของทอ้ งถน่ิ ความร้/ู ขอ้ ความตา่ งๆ จากส่ือ และแหลง่ การเรียนรู้ต่างๆ ในการศกึ ษาต่อและประกอบอาชีพ โดยใชก้ ระบวนการฟัง การพูด การอ่าน และการเขยี น ในการสบื เสาะความรู้ การทางาน รว่ มกับผู้อ่ืนอย่างมคี วามสขุ มีความสามารถในการสบื ค้นขอ้ มลู การอภปิ ราย การวเิ คราะห์ เพ่อื ให้ไดค้ วามรูค้ วามเขา้ ใจ สามารถนาไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั และดาเนนิ ชีวติ ร่วมกับคนในสงั คม มีเจตคติที่ดตี อ่ การใช้ภาษาต่างประเทศเพอื่ การส่อื สารได้ มำตรฐำน/ตัวชวี้ ดั ต 1.1 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3, ม.1/4 ต 1.2 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3, ม.1/4, ม.1/5 ต 1.3 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3 ต 2.1 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3 ต 2.2 ม.1/1, ม.1/2 ต 3.1 ม.1/1 ต 4.1 ม.1/1 ต 4.2 ม.1/1, ม.1/2 รวม 8 มำตรฐำน 21 ตัวชว้ี ัด หลักสูตรกลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) โรงเรยี นอนบุ าลกระสงั สพป.บรุ ีรัมย์ เขต ๒

๙๒ คำอธบิ ำยรำยวิชำพื้นฐำน อ๒๒๑๐๑ ภำษำองั กฤษ กลุ่มสำระกำรเรยี นรภู้ ำษำตำ่ งประเทศ ชน้ั มธั ยมศกึ ษำปีที่ 2 ภำคเรยี นที่ 1 เวลำ 6๐ ช่ัวโมง จำนวน 1.5 หน่วยกิต สามารถปฏิบัตติ ามคาขอร้อง คาแนะนา คาชแี้ จง และคาอธบิ ายง่ายๆ ทฟี่ ังและอ่านในการ ให้คาแนะนา เช่น การบอกทศิ ทาง อ่านออกเสยี งข้อความ ขา่ ว ประกาศ และบทร้อยกรองสน้ั ๆ ถูกตอ้ ง ตามหลักการอา่ น เช่น บทรอ้ ยกรอง ระบ/ุ เขยี นประโยคและขอ้ ความให้สมั พันธก์ บั สือ่ ท่ีไมใ่ ชค่ วามเรยี งรูปแบบ ตา่ งๆ เชน่ การเขยี นประโยคให้สมบูรณ์ เลอื กหัวข้อเรอ่ื ง ใจความสาคญั บอกรายละเอยี ดสนับสนนุ และแสดงความคดิ เหน็ เกี่ยวกบั เรื่องที่ฟังและอ่าน โดยการเขียนบอกเหตผุ ลเกย่ี วกับสภาวะโลกร้อน สนทนา แลกเปลี่ยนข้อมูลเก่ยี วกับตนเอง เรอ่ื งต่างๆใกล้ตวั เชน่ การพูดทกั ทายแนะนาตนเองและการเขียน profile เก่ียวกับตนเอง ใช้ภาษาในการใหค้ าแนะนาและคาขอร้อง พดู แนะนาเก่ียวกับการให้ข้อมูลเร่อื งการดแู ล สขุ ภาพ พดู และเขยี นในการแสดงความตอ้ งการ เสนอแนะให้ความช่วยเหลือ ตอบรับและปฏเิ สธการให้ ความชว่ ยเหลือในสถานการณ์ต่างๆ พดู และเขียนเพ่อื ขอและใหข้ อ้ มูลเกย่ี วกับประเด็นที่อา่ นและฟัง อย่างเหมาะสม พูดและเขยี นบรรยายความรสู้ ึกแสดงความคิดเหน็ และใหเ้ หตุผลประกอบเก่ยี วกบั ความชอบ และไมช่ อบ พดู และเขียนนาเสนอข้อมลู เกยี่ วกบั กิจวัตรของตนเอง พุดและเขียนสรปุ ใจความสาคัญ การสรุป บทความ การโต้ตอบเกี่ยวกับบทความทีอ่ า่ น พดู และเขยี นแสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกับกจิ กรรมต่างๆ ใกล้ตัว พร้อมทัง้ ใหเ้ หตผุ ลประกอบ เชน่ การให้เหตุผลเกีย่ วกับภาพยนตร์ท่ดี ู ใช้ภาษา นา้ เสยี ง และกริ ยิ าท่าทาง เหมาะกบั บุคคลและโอกาสทีเ่ กย่ี วข้องกับการแตง่ กาย เข้ารว่ มกจิ กรรมทางภาษาในการใชภ้ าษาในการรณรงค์ เก่ียวกับสภาวะโลกรอ้ น เปรียบเทียบและอธิบายความเหมอื นและความแตกตา่ งเกี่ยวกับความเชอ่ื ของคนไทย และเจ้าของภาษา เปรียบเทยี บและอธบิ ายความแตกต่างระหวา่ งโครงสรา้ งประโยคภาษาตา่ งประเทศและ ภาษาไทย เช่น exclamations ค้นคว้า รวบรวม และสรุปขอ้ มูลท่เี กย่ี วข้องกับกลุ่มสาระเทคโนโลยเี ร่ืองการใช้ คอมพิวเตอร์ ใชภ้ าษาส่อื สารในสถานการณต์ า่ งๆในหอ้ งเรียนเก่ยี วกบั แหลอ่ งท่องเท่ยี วทสี่ าคญั ในจังหวัด ของนักเรยี น ใช้ภาษาตา่ งประเทศในการสบื คน้ ขอ้ มลู รวบรวมเกีย่ วกบั อาชีพท่ีตนเองสนใจจากสือ่ และแหลง่ เรยี นรู้ตา่ งๆในการศกึ ษาต่อและประกอบอาชพี เผยแพร่ประชาสมั พนั ธข์ อ้ มลู ข่าวสารของโรงเรยี น และทอ้ งถนิ่ ของนกั เรียนเปน็ ภาษาต่างประเทศ โดยการใช้กระบวนการฟัง การพูด การอ่าน การเขยี น และการคิดวิเคราะห์ ในการสืบเสาะหาความรู้ การทางานร่วมกับผอู้ น่ื อย่างมีความสขุ มคี วามสามารถในการสืบคน้ ข้อมลู และอภิปราย การวิเคราะห์ เพือ่ ให้เกดิ ความรู้ ความเขา้ ใจ สามารถนาไปใชใ้ นชวี ิตประจาวนั ดาเนินชีวิตรว่ มกับคนในสงั คม มเี จตคติท่ีดีตอ่ การใช้ภาษาตา่ งประเทศ และใช้ภาษาตา่ งประเทศเพื่อการสอ่ื สาร แสวงหาความรแู้ ละศึกษาต่อ ในระดับที่สงู ขนึ้ และสามารถถา่ ยทอดความคดิ และวฒั นธรรมไทยไปยังสงั คมโลกไดอ้ ยา่ งสร้างสรรค์ มำตรฐำน/ตัวช้ีวัด ต 1.1 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3, ม.2/4 ต 1.2 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3, ม.2/4, ม.2/5 ต 1.3 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3 ต 2.1 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3 ต 2.2 ม.2/1, ม.2/2 ต 3.1 ม.2/1 ต 4.1 ม.2/1 ต 4.2 ม.2/1, ม.2/2 รวม 8 มำตรฐำน 21 ตัวชว้ี ัด หลักสตู รกลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) โรงเรียนอนุบาลกระสงั สพป.บุรีรัมย์ เขต ๒

๙๓ คำอธบิ ำยรำยวิชำพ้นื ฐำน อ๒๒๑๐๒ ภำษำองั กฤษ กลุ่มสำระกำรเรียนรภู้ ำษำตำ่ งประเทศ ชัน้ มัธยมศกึ ษำปที ี่ 2 ภำคเรยี นที่ 2 เวลำ 6๐ ชัว่ โมง จำนวน 1.5 หน่วยกติ สามารถปฏิบัติตามคาขอร้อง คาแนะนา คาช้ีแจง และคาอธิบายง่ายๆทีฟ่ งั และอ่านในการ ใหค้ าแนะนา เช่น การบอกทศิ ทาง อ่านออกเสยี งข้อความ ขา่ ว ประกาศ และบทรอ้ ยกรองสน้ั ๆ ถูกตอ้ ง ตามหลักการอ่าน เช่น บทรอ้ ยกรอง ระบ/ุ เขยี นประโยคและขอ้ ความใหส้ มั พนั ธก์ บั สอ่ื ท่ีไมใ่ ชค่ วามเรยี งรปู แบบ ตา่ งๆ เช่น การเขียนประโยคให้สมบรู ณ์ เลอื กหัวข้อเรือ่ ง ใจความสาคญั บอกรายละเอียดสนับสนนุ และ แสดงความคิดเห็นเกยี่ วกับเร่อื งท่ฟี ังและอา่ น โดยการเขยี นบอกเหตผุ ลเก่ียวกับสภาวะโลกร้อน สนทนา แลกเปลยี่ นขอ้ มูลเกีย่ วกับตนเอง เรอื่ งต่างๆใกลต้ ัว เช่น การพดู ทักทายแนะนาตนเองและการเขยี น profile เก่ยี วกบั ตนเอง ใช้ภาษาในการให้คาแนะนาและคาขอร้อง พดู แนะนาเกย่ี วกับการให้ข้อมูลเรือ่ งการดูแล สขุ ภาพ พูดและเขยี นในการแสดงความต้องการ เสนอแนะให้ความชว่ ยเหลือ ตอบรับและปฏิเสธการให้ ความชว่ ยเหลือในสถานการณต์ ่างๆ พูดและเขียนเพ่อื ขอและใหข้ ้อมลู เกย่ี วกับประเด็นท่อี า่ นและฟัง อยา่ งเหมาะสม พดู และเขยี นบรรยายความรู้สกึ แสดงความคดิ เหน็ และให้เหตุผลประกอบเก่ยี วกับความชอบ และไม่ชอบ พดู และเขียนนาเสนอขอ้ มูลเก่ยี วกับกิจวัตรของตนเอง พุดและเขียนสรปุ ใจความสาคญั การสรุป บทความ การโต้ตอบเกยี่ วกบั บทความทอี่ า่ น พูดและเขียนแสดงความคดิ เห็นเก่ียวกับกิจกรรมตา่ งๆ ใกล้ตัว พร้อมทงั้ ให้เหตผุ ลประกอบ เช่น การใหเ้ หตผุ ลเก่ียวกับภาพยนตร์ที่ดู ใชภ้ าษา น้าเสยี ง และกริ ิยาทา่ ทาง เหมาะกับบคุ คลและโอกาสทเี่ กย่ี วข้องกบั การแตง่ กาย เข้าร่วมกจิ กรรมทางภาษาในการใชภ้ าษาในการรณรงค์ เกยี่ วกับสภาวะโลกร้อน เปรยี บเทียบและอธบิ ายความเหมอื นและความแตกตา่ งเก่ียวกับความเชอ่ื ของคนไทย และเจ้าของภาษา เปรยี บเทียบและอธบิ ายความแตกตา่ งระหว่างโครงสรา้ งประโยคภาษาต่างประเทศและ ภาษาไทย เช่น exclamations คน้ คว้า รวบรวม และสรุปข้อมลู ท่เี ก่ียวข้องกบั กลุ่มสาระเทคโนโลยเี รือ่ ง การใช้คอมพวิ เตอร์ ใชภ้ าษาส่อื สารในสถานการณต์ า่ งๆในหอ้ งเรยี นเกย่ี วกบั แหลอ่ งท่องเท่ียวทสี่ าคัญในจงั หวัด ของนักเรียน ใชภ้ าษาต่างประเทศในการสบื ค้นขอ้ มลู รวบรวมเกยี่ วกบั อาชพี ทต่ี นเองสนใจจากส่ือ และแหลง่ เรียนรู้ต่างๆในการศึกษาต่อและประกอบอาชีพ เผยแพรป่ ระชาสมั พนั ธข์ อ้ มลู ขา่ วสารของโรงเรียน และทอ้ งถน่ิ ของนักเรยี นเป็นภาษาตา่ งประเทศ โดยการใชก้ ระบวนการฟงั การพดู การอ่าน การเขียน และการคิดวเิ คราะห์ ในการสบื เสาะหาความรู้ การทางานรว่ มกับผู้อ่นื อยา่ งมีความสุข มคี วามสามารถในการสืบค้นขอ้ มลู และอภิปราย การวิเคราะห์ เพื่อให้เกิดความรู้ ความเขา้ ใจ สามารถนาไปใชใ้ นชีวิตประจาวันดาเนินชีวิตรว่ มกับคนในสังคม มเี จตคตทิ ่ดี ตี อ่ การใชภ้ าษาต่างประเทศ และใช้ภาษาต่างประเทศเพือ่ การส่อื สาร แสวงหาความร้แู ละศกึ ษาต่อ ในระดับทสี่ งู ขน้ึ และสามารถถา่ ยทอดความคดิ และวฒั นธรรมไทยไปยงั สงั คมโลกได้อยา่ งสร้างสรรค์ มำตรฐำน/ตัวชีว้ ดั ต 1.1 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3, ม.2/4 ต 1.2 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3, ม.2/4, ม.2/5 ต 1.3 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3 ต 2.1 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3 ต 2.2 ม.2/1, ม.2/2 ต 3.1 ม.2/1 ต 4.1 ม.2/1 ต 4.2 ม.2/1, ม.2/2 รวม 8 มำตรฐำน 21 ตัวชีว้ ัด หลกั สตู รกลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) โรงเรยี นอนุบาลกระสงั สพป.บรุ ีรัมย์ เขต ๒

๙๔ คำอธบิ ำยรำยวชิ ำพื้นฐำน อ๒๓๑๐๑ ภำษำองั กฤษ กลมุ่ สำระกำรเรยี นรภู้ ำษำตำ่ งประเทศ ช้ันมัธยมศึกษำปีที่ 3 ภำคเรียนที่ 1 เวลำ 6๐ ชว่ั โมง จำนวน 1.5 หนว่ ยกติ ศกึ ษาวเิ คราะห์ภาษา นา้ เสียง ท่าทาง คา วลี สานวนง่ายๆ ประโยคคาส่ัง คาขอรอ้ ง คาแนะนา คาอธิบายวิธที า บอกทศิ ทาง ปา้ ยประกาศ อา่ นข้อความ บทอา่ น โฆษณา บทร้อยกรอง เรอื่ งราวสั้นๆ ทง้ั ทเ่ี ป็นความเรียงและไม่ใช่ความความเรียง การใชพ้ จนานกุ รม ระบปุ ระโยค ข้อความ ตคี วาม ถ่ายโอนข้อมลู เกย่ี วกับตนเอง โรงเรียน สิ่งแวดล้อม อาหาร เครอ่ื งด่มื นันทนาการ สุขภาพ สวัสดกิ าร ลมฟา้ อากาศ การซอื้ ขาย การทอ่ งเที่ยว การบรกิ าร สถานท่ี อา่ นจบั ใจความสาคัญจากสอื่ สง่ิ พมิ พ์ และส่อื อิเล็กทรอนกิ ส์ ยกตัวอยา่ ง แสดงความคิดเห็น ให้เหตุผล บอกความเหมอื น ความแตกตา่ งของประโยคชนิดต่างๆ เรยี งลาดับ ตามคาโครงสรา้ งทางภาษา เปรยี บเทียบ อธิบาย ความเหมอื นและความแตกตา่ งของวฒั นธรรมไทยและ วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา คน้ ควา้ ข้อมลู ขอ้ เทจ็ จริงทสี่ มั พันธก์ ับกลมุ่ สาระการเรยี นรอู้ ืน่ นาเสนอ ใช้ภาษา สือ่ สารตามสถานการณ์จรงิ สถานการณ์จาลองเก่ยี วกบั การศกึ ษาตอ่ และประกอบอาชีพ เผยแพร่ ประชาสัมพนั ธ์ ขอ้ มูล ทั้งของโรงเรยี น ชมุ ชนและท้องถนิ่ โดยใชก้ ระบวนการคิด วเิ คราะห์ กระบวนการจัดการทางภาษา กระบวนการเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง กระบวนการเรียนรูแ้ บบบูรณาการ กับกลมุ่ สาระการเรยี นร้อู ่ืน กระบวนการสรา้ งเสรมิ คณุ ลกั ษณะ อันพงึ ประสงค์ เพ่อื ให้เห็นประโยชนข์ องการเรียนรภู้ าษาองั กฤษ เกดิ ความสนกุ สนานเพลดิ เพลิน เปน็ ผู้มีวินัย ใฝเ่ รียนรู้ มีความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ มงุ่ ม่ันในการทางาน รบั ฟังความคดิ เห็นของผ้อู นื่ มจี สิ าธารณะ รักความเปน็ ไทย สามารถใช้เทคโนโลยีในการแสวงหาความรเู้ พมิ่ เตมิ เพื่อพัฒนาตนเอง เพอื่ กาศึกษาต่อ เพ่อื การประกอบอาชีพ เช่ือมโยงกบั กลมุ่ สาระการเรียนรูอ้ ่ืน ชมุ ชนและสังคมโลก มำตรฐำน/ตวั ช้วี ัด ต 1.1 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/3, ม.3/4 ต 1.2 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/3, ม.3/4, ม.3/5 ต 1.3 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/3 ต 2.1 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/3 ต 2.2 ม.3/1, ม.3/2 ต 3.1 ม.3/1 ต 4.1 ม.3/1 ต 4.2 ม.3/1, ม.3/2 รวม 8 มำตรฐำน 21 ตัวชวี้ ดั หลกั สตู รกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ (ภาษาอังกฤษ) โรงเรยี นอนบุ าลกระสงั สพป.บรุ รี ัมย์ เขต ๒

๙๕ คำอธบิ ำยรำยวิชำพนื้ ฐำน อ๒๓๑๐๒ ภำษำองั กฤษ กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ ภำษำต่ำงประเทศ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๓ ภาคเรยี นท่ี ๒ เวลา ๖๐ ชั่วโมง จานวน ๑.๕ หน่วยกิต ศึกษา วเิ คราะห์ คาํ สงั่ คําขอร้อง คําแนะนาํ คาํ ชแ้ี จง คําบรรยาย ภาษาทา่ ทาง ประโยคผสมและ ประโยคซบั ซ้อน ข้อความสนั้ ๆ บทสนทนา เร่ืองสัน้ เรือ่ งเล่า นิทาน อ่านและออกเสยี งคาํ ข้อความและบท อ่านไดถ้ ูกตอ้ งตามหลักการอา่ น ตีความ วิเคราะห์และแสดงความคิดเหน็ เกีย่ วกับข่าวสาร บทความ สารคดี บนั เทิงคดี สือ่ ทเี่ ปน็ ความเรียงและไม่ใชค่ วามเรียงในรูปแบบต่าง ๆ ใชภ้ าษาในการสือ่ สารอย่างเหมาะสมใน สถานการณต์ ่าง ๆ เก่ยี วกับตนเอง ครอบครวั โรงเรียน ชมุ ชน สิ่งแวดลอ้ ม อาหาร เครื่องด่ืม วัฒนธรรม ประเพณี ความสัมพันธก์ ับบุคคล เวลาวา่ งและนนั ทนาการ สขุ ภาพและสวัสดกิ าร การซื้อขาย ลมฟา้ อากาศ การศกึ ษาและอาชีพ การเดินทางท่องเทยี่ ว การบริการ สถานที่ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี แสดงความ ต้องการของตน แลกเปล่ยี นความคิดเห็น การเสนอบริการ และการวางแผน นําเสนอความคิดรวบยอดจากบท เพลง บทกวี บทละคร ข้อมลู จากสอ่ื ตา่ ง ๆ โดยใช้กระบวนการ การเรียนภาษาเพอ่ื การส่อื สาร กระบวนการปฏิบตั ิ การนําเสนอผลงาน และ กระบวนการสรา้ งเสริมคณุ ลกั ษณะที่พงึ ประสงค์ เพอ่ื ให้มี นิสยั รกั การฟงั พดู อ่าน เขยี น มีระเบยี บวินยั ความซอ่ื สัตย์ ความขยนั หมั่นเพียร ความ อดทน รกั การคน้ คว้า สามารถปฏิบัตงิ านรว่ มกับผ้อู นื่ มีความสามารถในการใชภ้ าษาองั กฤษแสวงหาความ เพลิดเพลิน และความรู้ทีเ่ กยี่ วข้องกบั กล่มุ สาระการเรียนรูอ้ ื่น ๆ เพิม่ เตมิ อยา่ งต่อเน่ือง เป็นพ้ืนฐานใน การศึกษาตอ่ และประกอบอาชีพ เป็นการประยุกต์ใช้ภาษาในการพัฒนาตนเอง ครอบครวั ชมุ ชนและสังคม รวมท้งั มีความรคู้ วามเข้าใจในเรื่องราวและวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม ประเพณี อนั หลากหลายของประชาคม โลก มคี วามภาคภมู ใิ จในความเปน็ ไทย และสามารถถา่ ยทอดความคดิ และวัฒนธรรมไทยไปยังสงั คมโลกได้ อยา่ งสรา้ งสรรค์ตลอดจนมคี วามรู้ ความเข้าใจ และตระหนกั ในการเป็นประชาคมอาเซียนมากยิ่งขึ้น มำตรฐำน/ตวั ช้วี ัด ต ๑.๑ ม.๓/๑ ,ม.๓/๒ ,ม.๓/๓ ,ม.๓/๔ ต ๑.๒ ม.๓/๑ ,ม.๓/๒ ,ม.๓/๔ ,ม.๓/๕ ต ๑.๓ ม.๓/๑ ,ม.๓/๒ ,ม.๓/๓ ต ๒.๑ ม.๓/๑ ,ม.๓/๒ ม.๓/๓ ต ๒.๒ ม.๓/๑ ,ม.๓/๒ ต ๓.๑ ม.๓/๑ ต ๔.๑ ม.๓/๑ ต ๔.๒ ม.๓/๑ รวม ๘ มาตรฐาน ๑๙ ตัวชว้ี ัด หลักสูตรกลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ (ภาษาอังกฤษ) โรงเรยี นอนบุ าลกระสงั สพป.บรุ รี ัมย์ เขต ๒


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook