พุทธวจน
-บาลี มู. ม. ๑๒/๑๔๙/๑๗๒.
พทุ ธวจน -หมวดธรรม เปดิ ธรรมทถ่ี ูกปิด ๑๒ฉบับ เดรจั ฉานวชิ า พุทธวจนสถาบัน รว่ มกนั มงุ่ มนั่ ศกึ ษา ปฏบิ ตั ิ เผยแผค่ ำ� ของตถาคต
พุทธวจน ฉบับ ๑๒ เดรจั ฉานวิชา ข้อมูลธรรมะน้ี จัดท�ำเพื่อประโยชน์ทางการศึกษาสู่สาธารณชน เป็นธรรมทาน ลิขสิทธใ์ิ นตน้ ฉบบั น้ีไดร้ ับการสงวนไว้ ในการจะจัดท�ำหรือเผยแผ่ โปรดใชค้ วามละเอียดรอบคอบ เพื่อรกั ษาความถกู ตอ้ งของข้อมลู ใหข้ ออนญุ าตเปน็ ลายลกั ษณ์อักษร และปรึกษาดา้ นข้อมูลในการจัดท�ำเพ่อื ความสะดวกและประหยัด ติดตอ่ ไดท้ ี่ มูลนิธิพทุ ธโฆษณ ์ โทรศพั ท ์ ๐๘ ๒๒๒๒ ๕๗๙๐-๙๔ มูลนธิ ิพทุ ธวจน โทรศัพท์ ๐๘ ๑๔๕๗ ๒๓๕๒ คุณศรชา โทรศพั ท ์ ๐๘ ๑๕๑๓ ๑๖๑๑ คณุ อารีวรรณ โทรศัพท์ ๐๘ ๕๐๕๘ ๖๘๘๘ ปที พ่ี ิมพ์ ๒๕๖๓ ศลิ ปกรรม ณรงคเ์ ดช เจริญปาละ, จนิ ตนา เป่ยี มศริ ิ จดั ท�ำโดย มลู นิธพิ ุทธโฆษณ์ (เว็บไซต์ www.buddhakos.org)
ค�ำอนโุ มทนา ขออนุโมทนา กุศลเจตนาเป็นอย่างย่ิงต่อคณะงาน ธมั มะทไ่ี ดท้ มุ่ เทแรงกายแรงใจ รวบรวม เรยี งรอ้ ย เชอ่ื มโยง ค�ำตถาคต พร้อมทง้ั เปรียบเทียบให้เหน็ ชดั เจนถงึ หลักฐาน ที่มาท่ีไปของค�ำแต่งใหม่ รวมทั้งชี้ให้เห็นความขัดแย้งของ ค�ำแต่งใหม่กบั ค�ำของตถาคตไดอ้ ยา่ งชดั เจน รวบรวมมาไว้ ในหนังสือ “เดรัจฉานวิชา” เลม่ นี้ เพอ่ื เปดิ ธรรมทถ่ี กู ปดิ ใหแ้ กห่ มภู่ กิ ขุ ภกิ ขณุ ี อบุ าสก อุบาสิกาท้ังหลาย ทราบถึงความจริงท่ีศาสดาผู้ที่เป็นสัมมา สัมพุทธะบัญญัติ หรืออะไรที่พระองค์มิได้บัญญัติไว้ ซึ่ง ความไม่รู้นั้นจะเป็นเหตุให้เขาตกลงจมอยู่ในมิจฉาทิฏฐิว่า กรรม หรอื สุข ทกุ ข์ เกิดจากผู้อน่ื บันดาล อันจะทำ� ให้เขา ท้ังหลายไม่สามารถสมหวังในสิ่งท่ีเขาตั้งความปรารถนาไว้ ได้ ซ่ึงคติ ๒ อยา่ งของผ้ทู ยี่ ังมคี วามเหน็ ผดิ คือ นรก หรอื กำ� เนดิ เดรจั ฉาน ดังน้ันผู้ต้องการความส�ำเร็จสมหวังในส่ิงท่ีเขา ปรารถนาในทางโลก หรือต้องการหวังการเข้าถึงความ บรสิ ทุ ธหิ์ ลดุ พน้ ไดจ้ รงิ ในทางธรรม จะไดเ้ ลอื กทจี่ ะเดนิ ตาม
ตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธะผู้รู้แจ้งโลกเป็นสัพพัญญู หรือศรัทธาเดินตามความเห็นและการบัญญัติในค�ำแต่ง ใหม่ หรือของสมณพราหมณ์เหล่าอ่ืน ซึ่งเขาเหล่าน้ันต้อง สรา้ งศรทั ธาของตนเองดว้ ยกำ� ลงั อนิ ทรยี อ์ อ่ นแก่ หรอื ธลุ ใี น ดวงตาทีม่ ากหรอื นอ้ ยตามเหตปุ จั จัย ด้วยเหตุที่ได้กระท�ำมาแล้วน้ี ขอจงเป็นเหตุปัจจัย ให้ผู้มีส่วนร่วมในการท�ำหนังสือและผู้ท่ีได้อ่าน ได้ศึกษา ไดน้ ำ� ไปปฏบิ ตั ิ พงึ สำ� เรจ็ สมหวงั พบความเจรญิ รงุ่ เรอื งของ ชวี ติ ได้จรงิ ในทางโลก และได้ดวงตาเหน็ ธรรม สำ� เร็จผลยัง พระนพิ พาน สมดังความปรารถนาท่ไี ด้สรา้ งมาอยา่ งดีแลว้ ดว้ ยเทอญ. ขออนุโมทนา ภิกขุคกึ ฤทธิ์ โสตฺถผิ โล
อักษรย่อ เพอื่ ความสะดวกแก่ผูท้ ยี่ ังไมเ่ ขา้ ใจเรอ่ื งอกั ษรย่อ ที่ใชห้ มายแทนชอ่ื คัมภีร์ ซึง่ มอี ยโู่ ดยมาก มหาว.ิ วิ. มหาวภิ ังค์ วินัยปฎิ ก. ภิกขฺ ุน.ี วิ. ภกิ ขุนวี ิภังค์ วนิ ยั ปฎิ ก. มหา. ว.ิ มหาวรรค วนิ ยั ปิฎก. จุลลฺ . ว.ิ จุลวรรค วนิ ยั ปฎิ ก. ปริวาร. ว.ิ ปรวิ ารวรรค วนิ ัยปฎิ ก. ส.ี ที. สีลขนั ธวรรค ทฆี นิกาย. มหา. ท.ี มหาวรรค ทฆี นกิ าย. ปา. ท.ี ปาฏิกวรรค ทฆี นกิ าย. ม.ู ม. มูลปณั ณาสก์ มัชฌิมนกิ าย. ม. ม. มชั ฌมิ ปณั ณาสก์ มชั ฌิมนกิ าย. อปุ ร.ิ ม. อปุ ริปณั ณาสก์ มชั ฌมิ นิกาย. สคาถ. สํ. สคาถวรรค สงั ยตุ ตนกิ าย. นิทาน. สํ. นทิ านวรรค สงั ยตุ ตนิกาย. ขนธฺ . ส.ํ ขันธวารวรรค สงั ยุตตนิกาย. สฬา. สํ. สฬายตนวรรค สังยตุ ตนิกาย. มหาวาร. ส.ํ มหาวารวรรค สงั ยุตตนิกาย. เอก. อ.ํ เอกนิบาต อังคุตตรนกิ าย. ทุก. อํ. ทกุ นิบาต องั คตุ ตรนกิ าย. ติก. อ.ํ ตกิ นบิ าต อังคตุ ตรนิกาย. จตุกกฺ . อํ. จตุกกนบิ าต อังคุตตรนิกาย.
ปญจฺ ก. อํ. ปัญจกนบิ าต องั คุตตรนิกาย. ฉกกฺ . อ.ํ ฉกั กนบิ าต อังคตุ ตรนิกาย. สตตฺ ก. อํ. สตั ตกนิบาต องั คตุ ตรนิกาย อฏฺ ก. อ.ํ อัฏฐกนบิ าต องั คุตตรนิกาย. นวก. อ.ํ นวกนิบาต องั คุตตรนกิ าย. ทสก. อ.ํ ทสกนิบาต อังคุตตรนกิ าย. เอกาทสก. อํ. เอกาทสกนิบาต อังคุตตรนิกาย. ข.ุ ขุ. ขทุ ทกปาฐะ ขทุ ทกนิกาย. ธ. ขุ. ธรรมบท ขุททกนิกาย. อ.ุ ข.ุ อทุ าน ขุททกนิกาย. อิติว.ุ ข.ุ อติ ิวตุ ตกะ ขุททกนกิ าย. สตุ ฺต. ข.ุ สตุ ตนบิ าต ขทุ ทกนิกาย. วมิ าน. ขุ. วมิ านวตั ถุ ขทุ ทกนกิ าย. เปต. ข.ุ เปตวัตถุ ขุททกนิกาย. เถร. ขุ. เถรคาถา ขุททกนกิ าย. เถรี. ขุ. เถรคี าถา ขทุ ทกนกิ าย. ชา. ขุ. ชาดก ขุททกนกิ าย. มหาน.ิ ขุ. มหานิทเทส ขุททกนกิ าย. จฬู นิ. ข.ุ จฬู นทิ เทส ขทุ ทกนิกาย. ปฏิสมฺ. ข.ุ ปฏิสมั ภิทามรรค ขทุ ทกนกิ าย. อปท. ข.ุ อปทาน ขุททกนกิ าย. พุทฺธว. ข.ุ พุทธวงส์ ขทุ ทกนิกาย. จรยิ า. ข.ุ จริยาปิฎก ขุททกนกิ าย. ตัวอยา่ ง : ๑๔/๑๗๑/๒๔๕ ให้อ่านวา่ ไตรปิฎกฉบับสยามรฐั เลม่ ๑๔ หนา้ ๑๗๑ ขอ้ ท่ี ๒๔๕
ค�ำน�ำ มนษุ ย์ทงั้ หลายเป็นอันมาก เมื่อเกิดความทุกข์หรอื ความกลวั ขนึ้ มาในชวี ติ แลว้ ตา่ งกพ็ ากนั แสวงหาทพี่ งึ่ ในแบบ ของตน หรอื โดยการยดึ ถอื ในสง่ิ ทบี่ ญั ญตั ขิ น้ึ มาเองตามแบบ ของสมณพราหมณ์เหล่าอ่ืนผู้มีความเห็นผิด ผู้ปฏิบัติผิด และมีศีลอันเป็นอกุศลคือการเลี้ยงชีพชั่ว เล้ียงชีวิตโดย มจิ ฉาชพี มปี ระการตา่ งๆ โดยคดิ ไปวา่ สง่ิ นนั้ จะทำ� ใหเ้ ขาพน้ จากความทกุ ขท์ งั้ หลายได้ เขาหารไู้ มว่ า่ นนั่ ไมใ่ ชก่ ารแสวงหา ท่พี ึง่ อันเกษม ไม่ใชท่ ่ีพึ่งอนั สงู สดุ แตเ่ ขาควรหนั มาพง่ึ ตถาคต ธรรมะทตี่ ถาคตตรสั รู้และ สงฆส์ าวกผเู้ ปน็ ทายาทแหง่ ธรรมของตถาคต ผเู้ กดิ โดยธรรม เนรมิตโดยธรรม ทเ่ี รยี กวา่ สมณศากยปตุ ติยะ แตเ่ พราะเหตทุ ่ี สมณพราหมณเ์ หลา่ อน่ื หรอื สาวก ผปู้ ระกอบดว้ ยเครอื่ งเศรา้ หมอง ไมม่ สี งา่ ไมร่ งุ่ เรอื ง ไมไ่ พโรจน์ มลี กั ษณะแบบทสี่ มั มาสมั พทุ ธะตรสั ไวว้ า่ ไมใ่ ช่ “คนของเรา” ไมใ่ ชผ่ อู้ ยใู่ นอรยิ วงศ์ คอื ธรรมทเ่ี ปน็ เชอ้ื สายของพระอรยิ เจา้ ท่ีชนท้งั หลายพากันไปแสวงหาพ่งึ พิงนนั้ ชนเหล่าน้ัน ยอ่ ม ไมส่ ามารถ ส�ำเรจ็ ผลตามความปรารถนาได้ แต่ความส�ำเร็จที่เขาได้รับอันเกิดเพราะผลแห่ง กรรมน้ัน เขากลับเชื่อไปว่า เป็นเพราะผลจากการบูชา
เทพเจา้ นำ�้ มนต์ เคร่ืองราง ของปลุกเสก สิ่งศักดส์ิ ทิ ธ์ิ หรือ พิธีกรรมต่างๆ ตามแบบสมณพราหมณ์ผู้เห็นผิดเหล่าน้ัน ซึ่งท�ำให้เขาจมลงสู่มิจฉาทิฏฐิหนึ่งในส่ีแบบว่า สุขและทุกข์ ของเขาทง้ั หลายน้ัน เกิดจากผูอ้ น่ื บนั ดาล ชอื่ วา่ เขาเหล่านั้น ยังไม่ได้มีการสร้างเหตุท่ีถูกต้องตามความเห็นของตถาคต อรหันตสัมมาสัมพุทธะ ชนเหล่าน้ันย่อมไม่หลุดพ้นไปจาก ทุกขท์ ง้ั ปวงได้ พทุ ธวจน ฉบับ “เดรัจฉานวิชา” จึงปน็ การรวบรวม รปู แบบตา่ งๆ ของการเลย้ี งชพี โดยทางผดิ ดว้ ยเดรจั ฉานวชิ า ทงั้ หมดตามทศี่ าสดาบญั ญตั อิ นั เปน็ กจิ เลว เปน็ ของชาวบา้ น เปน็ ของปถุ ชุ น ไมป่ ระกอบดว้ ยประโยชน์ พรอ้ มทงั้ ทม่ี าทไี่ ป ของประเพณี ขอ้ วตั รปฏบิ ตั ิ คำ� สวด ผดิ จากทพี่ ระองคต์ รสั ไว้ อันเกิดจากค�ำแต่งใหม่ ท่ีมิใช่ของตถาคตอรหันตสัมมา สมั พทุ ธะ ... เป็นการทำ� มหาชนให้เสื่อมเสีย ท�ำมหาชนให้ หมดสขุ เป็นความพินาศแกม่ หาชนเปน็ อนั มาก เพอ่ื ทำ� พทุ ธบรษิ ทั ทง้ั สี่ ผทู้ มี่ ศี รทั ธาตงั้ มนั่ มคี วามรกั ตง้ั มนั่ มศี รทั ธาไมห่ วนั่ ไหวมคี วามเลอื่ มใสยง่ิ ในศาสดาแหง่ ตน ได้ทราบความจริงว่า แบบแห่งการปฏิบัติอันประเสริฐ บรสิ ทุ ธ์ิ บรบิ รู ณส์ น้ิ เชงิ พรอ้ มทง้ั อรรถะ พรอ้ มทง้ั พยัญชนะ ทส่ี ัมมาสัมพทุ ธะ ทรงประกาศไว้ คือ อยา่ งไร ?
เพื่อสาวกตถาคต ผู้ปรารถนาความบริสุทธ์ิ จะได้ ละ เลกิ เว้นขาด ในข้อปฏบิ ัติ อันไม่เปน็ ธรรมไมเ่ ป็นวนิ ัย ในศาสนาของพระศาสดา และเพ่ือใหค้ น้ พบทางออก ดว้ ย ขอ้ ปฏบิ ตั ิ ตามบัญญัติของตถาคตท่ีได้รวบรวม นำ� มาบรรจุ ไวใ้ นเลม่ นด้ี ว้ ย ดงั ทพี่ ระองคไ์ ดก้ ลา่ วไวว้ า่ สาวกทง้ั หลายของ พระองค์ ย่อมไม่ก้าวล่วงสิกขาบทใดๆ แม้จะต้องเสียชีวิต เป็นผู้อดทนยอมรับฟังค�ำส่ังสอนโดยเคารพ เป็นผู้ท่ีมี ลกั ษณะแหง่ ศรทั ธาของผมู้ ศี รทั ธา เปน็ ผทู้ ำ� มหาชนใหไ้ ดร้ บั ประโยชน์ ทำ� มหาชนใหไ้ ดร้ บั ความสขุ เปน็ ไปเพอ่ื ความเจรญิ แกม่ หาชน และเปน็ ไปเพื่อความเก้อื กลู เพื่อความสุขทั้งแก่ เทวดาและมนษุ ยท์ ง้ั หลาย เพอ่ื จะทำ� ซง่ึ ทส่ี ดุ แหง่ ทกุ ขโ์ ดยชอบ ดว้ ยการปฏบิ ตั ติ ามสงิ่ ทพี่ ระศาสดาบญั ญตั ิ อนั เปน็ ไปพรอ้ ม เพ่อื นิพพาน คณะงานธมั มะ วัดนาป่าพง
บทน�ำ
ธรรมวินยั คอื ศาสดาแทนพระสัมมาสัมพทุ ธะ -บาลี มหา. ท.ี ๑๐/๑๗๘/๑๔๑., -บาลี ม. ม. ๑๓/๔๒๗/๔๖๓., -บาลี มหาวาร. ส.ํ ๑๙/๒๑๗/๗๔๐. อานนท์ ! ความคิดอาจมีแก่พวกเธออย่างนี้ว่า ‘ธรรมวินัยของพวกเรามีพระศาสดาล่วงลับไปเสียแล้ว พวกเราไม่มีพระศาสดา’ ดงั นี้. อานนท ์ ! พวกเธออยา่ คดิ อยา่ งนนั้ . อานนท ์ ! ธรรมกด็ ี วนิ ยั กด็ ี ทเี่ ราแสดงแลว้ บญั ญตั ิ แลว้ แกพ่ วกเธอทงั้ หลาย ธรรมวนิ ยั นน้ั จักเปน็ ศาสดาของ พวกเธอทง้ั หลาย โดยกาลล่วงไปแห่งเรา. อานนท ์ ! ในกาลบดั นก้ี ด็ ี ในกาลลว่ งไปแหง่ เรากด็ ี ใครก็ตาม จกั ตอ้ งมีตนเป็นประทปี มตี นเปน็ สรณะ ไมเ่ อา สงิ่ อน่ื เปน็ สรณะ มธี รรมเปน็ ประทปี มธี รรมเปน็ สรณะ ไมเ่ อา สง่ิ อนื่ เปน็ สรณะ เปน็ อย.ู่ อานนท์ ! ภิกษุพวกใด เป็นผู้ใคร่ในสิกขา ภิกษุ พวกนั้น จกั เปน็ ผ้อู ยู่ในสถานะอันเลศิ ทส่ี ดุ แล. อานนท์ ! ความขาดสูญแห่งกัลยาณวัตรนี้ มีใน ยุคแห่งบุรุษใด บุรุษนั้นช่ือว่าเป็นบุรุษคนสุดท้ายแห่งบุรุษ ทงั้ หลาย... เราขอกล่าวยำ้� กะเธอว่า... เธอทั้งหลายอย่าเป็น บุรุษคนสุดทา้ ยของเราเลย.
ธรรมวนิ ยั ของพระสมั มาสมั พทุ ธะเปดิ เผยจงึ จะรงุ่ เรอื ง -บาลี เอก. อ.ํ ๒๐/๓๖๔/๕๗๑. ภิกษุทั้งหลาย ! สิ่ง ๓ อย่างน้ี ปิดบังไว้จึงเจริญ เปดิ เผยไม่เจรญิ ๓ อย่างนัน้ คือ (1) มาตคุ ามปดิ บงั ไว้จงึ จะงดงาม เปิดเผยไม่งดงาม (2) มนตข์ องพราหมณป์ ิดบงั ไวจ้ งึ รุ่งเรอื ง เปดิ เผย ไมร่ ุง่ เรอื ง (3) มิจฉาทฏิ ฐิปดิ บังไวจ้ ึงเจรญิ เปดิ เผยไม่เจรญิ ภกิ ษทุ ง้ั หลาย ! สงิ่ ๓ อยา่ งเหลา่ นแี้ ล ปดิ บงั ไวจ้ งึ เจรญิ เปิดเผยไมเ่ จรญิ . ภิกษุทั้งหลาย ! สิ่ง ๓ อย่างนี้ เปิดเผยจึงรุ่งเรือง ปดิ บงั ไม่รงุ่ เรือง ๓ อย่างนัน้ คอื (1) ดวงจนั ทร์ เปดิ เผยจงึ รงุ่ เรอื ง ปดิ บงั ไมร่ งุ่ เรอื ง (2) ดวงอาทติ ย์ เปดิ เผยจงึ รงุ่ เรอื ง ปดิ บงั ไมร่ งุ่ เรอื ง (3) ธรรมวนิ ยั ทต่ี ถาคตประกาศไวแ้ ลว้ เปดิ เผย จงึ รุ่งเรือง ปิดบงั ไมร่ ุ่งเรอื ง ภิกษุท้ังหลาย ! สิ่ง ๓ อย่างเหล่านี้แล เปิดเผย จึงรุ่งเรอื ง ปิดบงั ไมร่ ุ่งเรือง.
หลกั ตรวจสอบวา่ คำ� กลา่ วของใครเปน็ ธรรม เปน็ วนิ ยั -บาลี มหา. ท.ี ๑๐/๑๔๔/๑๑๓-๖. (1) (หากมี) ภิกษุในธรรมวินัยน้ีกล่าวอย่างน้ีว่า ผู้มีอายุ ! ข้าพเจ้าได้สดับรับมาเฉพาะพระพักตร์พระผู้มี พระภาคว่า “น้ีเป็นธรรม นี้เป็นวินัย นี้เป็นคำ�สอนของ พระศาสดา”... (2) (หากมี) ภิกษุในธรรมวินัยนี้กล่าวอย่างน้ีว่า ในอาวาสช่ือโน้นมีสงฆ์อยู่พร้อมด้วยพระเถระ พร้อมด้วย ปาโมกข์1ข้าพเจ้าได้สดับมาเฉพาะหน้าสงฆ์น้ันว่า “น้ีเป็น ธรรม นเ้ี ป็นวินยั นเ้ี ปน็ คำ�สอนของพระศาสดา”... (3) (หากมี) ภิกษุในธรรมวินัยนี้กล่าวอย่างน้ีว่า ในอาวาสชอ่ื โนน้ มภี กิ ษผุ เู้ ปน็ เถระอยจู่ ำ�นวนมาก เปน็ พหสุ ตู เรยี นคมั ภรี ์ ทรงธรรม ทรงวนิ ยั ทรงมาตกิ า2 ขา้ พเจา้ ไดส้ ดบั มาเฉพาะหนา้ พระเถระเหลา่ นั้นวา่ “นี้เปน็ ธรรม นีเ้ ป็นวนิ ัย น้ีเปน็ คำ�สอนของพระศาสดา”... (4) (หากมี) ภิกษุในธรรมวินัยนี้กล่าวอย่างน้ีว่า ในอาวาสชื่อโน้นมีภิกษุผู้เป็นเถระอยู่รูปหนึ่ง เป็นพหุสูต เรียนคัมภีร์ ทรงธรรม ทรงวินยั ทรงมาตกิ า ขา้ พเจ้าไดส้ ดับ 1. ภิกษุผูเ้ ป็นหัวหน้า 2. บาลีทเี่ ปน็ แม่บท
มาเฉพาะหน้าพระเถระรูปนั้นว่า “น้ีเป็นธรรม น้ีเป็นวินัย นเ้ี ปน็ คำ�สอนของพระศาสดา” เธอทง้ั หลายยงั ไมพ่ งึ ชนื่ ชม ยงั ไมพ่ งึ คดั คา้ นคำ� กลา่ ว ของผู้นั้น พึงเรียนบทและพยัญชนะเหล่านั้นให้ดี แล้วพึง สอบสวนลงในพระสูตร เทียบเคียงดูในวินัย ถ้าบทและ พยัญชนะเหล่าน้ัน สอบลงในสูตรก็ไม่ได้ เทียบเข้าในวินัย ก็ไม่ได้ พึงลงสันนิษฐานว่า “นี้มิใช่พระด�ำรัสของพระผู้มี พระภาคพระองค์นั้นแนน่ อน และภกิ ษนุ ้ีรับมาผิด” เธอ ทั้งหลาย พึงท้ิงค�ำน้ันเสีย ถ้าบทและพยัญชนะเหล่าน้ัน สอบลงในสูตรก็ได้ เทยี บเขา้ ในวินัยก็ได้ พึงลงสนั นิษฐานว่า “น้ีเปน็ พระด�ำรัส ของพระผู้มีพระภาคพระองค์น้ันแน่นอน และภิกษุนั้น รับมาดว้ ยดี” เธอท้ังหลาย พงึ จำ� มหาปเทส ... นไ้ี ว้.
สารบัญ เดรจั ฉานวชิ า คอื อะไร 1 1. อะไรคอื เดรจั ฉานวชิ า2 2. พระพทุ ธเจา้ เวน้ ขาดจากการทำ� เดรจั ฉานวชิ า7 3. ภกิ ษใุ นธรรมวนิ ยั นี้ เวน้ ขาดจากการทำ� เดรจั ฉานวชิ า13 4. อะไรคอื เดรจั ฉานกถา20 5. พระพทุ ธเจา้ เวน้ ขาดจากเดรจั ฉานกถา21 6. ภกิ ษใุ นธรรมวนิ ยั นี้ เวน้ ขาดจากเดรจั ฉานกถา22 เดรจั ฉานวชิ า ไมใ่ ชอ่ ทิ ธปิ าฏหิ ารยิ ์ 25 7. ปาฏหิ ารยิ ์ ๓ อยา่ ง26 8. พระสมั มาสมั พทุ ธะ อดึ อดั ขยะแขยง เกลยี ดชงั 28 อทิ ธปิ าฏหิ ารยิ ์ และอาเทสนาปาฏหิ ารยิ ์ หลกั ปฏบิ ตั ขิ องภกิ ษุ ตอ่ อทิ ธปิ าฏหิ ารยิ ์ และ คณุ วเิ ศษอนื่ ๆ35 9. พระสมั มาสมั พทุ ธะ หา้ มภกิ ษแุ สดงอทิ ธปิ าฏหิ ารยิ ์ 36 10. พระสมั มาสมั พทุ ธะ หา้ มภกิ ษุ 38 แกลง้ บอกคณุ วเิ ศษทต่ี นเองไมม่ ี 39 11. พระสมั มาสมั พทุ ธะ หา้ มภกิ ษุ บอกคณุ วเิ ศษใหก้ บั ผทู้ ไี่ มใ่ ชน่ กั บวช 12. พระสมั มาสมั พทุ ธะ หา้ มพยากรณ์ 40 (ทำ� นายทายทกั ) บคุ คลอนื่ 13. มหาโจร ๕ จำ� พวก41
อรยิ บคุ คล ไมท่ ำ� เดรจั ฉานวชิ า 45 14. อรยิ บคุ คล จะเจตนางดเวน้ จากมจิ ฉาอาชวี ะ46 ฐานะทเ่ี ปน็ ไปไมไ่ ด้ ของโสดาบนั 53 15. ฐานะทเี่ ปน็ ไปไมไ่ ดข้ องโสดาบนั นยั ท่ี ๑54 16. ฐานะทเี่ ปน็ ไปไมไ่ ดข้ องโสดาบนั นยั ท่ี ๒55 17. ฐานะทเี่ ปน็ ไปไมไ่ ดข้ องโสดาบนั นยั ที่ ๓56 18. ฐานะทเ่ี ปน็ ไปไมไ่ ดข้ องโสดาบนั นยั ท่ี ๔57 19. อานสิ งสแ์ หง่ การทำ� ใหแ้ จง้ ซง่ึ โสดาปตั ตผิ ล59 20. ความเขา้ ใจผดิ เรอื่ งกรรม 3 แบบ ทอี่ รยิ บคุ คลจะตอ้ งละได้ 60 เชอ่ื วา่ สขุ และทกุ ข์ เกดิ จากกรรมเกา่ อยา่ งเดยี ว 61 เชอื่ วา่ สขุ และทกุ ขเ์ กดิ จากเทพเจา้ บนั ดาลให้ 62 เชอ่ื วา่ สขุ และทกุ ขเ์ กดิ ขน้ึ เองลอยๆ 63 ไมม่ อี ะไรเปน็ เหตุ เปน็ ปจั จยั 21. อนตุ ตรยิ ะ ๖ (สง่ิ ทปี่ ระเสรฐิ ๖ ประการ)64 22. ลกั ษณะแหง่ ศรทั ธาของผมู้ ศี รทั ธา70 อรยิ บคุ คล จะปฏบิ ตั ติ ามสง่ิ ทพี่ ระศาสดาบญั ญตั ิ 75 23. พระสมั มาสมั พทุ ธะ บญั ญตั ใิ หภ้ กิ ษุ 76 ฉนั อาหารวนั หนงึ่ เพยี งหนเดยี ว 79 24. อรยิ สาวกทงั้ หลายยอมเสยี ชวี ติ แตไ่ มย่ อมกา้ วลว่ งสกิ ขาบท เครอ่ื งเศรา้ หมองของสมณพราหมณ์ 81 25. เครอื่ งเศรา้ หมองของสมณพราหมณ์ 82
ศลี ทเ่ี ปน็ อกศุ ล คอื การเลย้ี งชพี ชวั่ 85 26. ศลี ทเ่ี ปน็ อกศุ ล คอื การเลยี้ งชพี ชวั่ 86 ภาคผนวก 89 27. หลกั ปฏบิ ตั ติ อ่ คำ� สอน ของสมั มาสมั พทุ ธะ90 28. หลกั ปฏบิ ตั ติ อ่ คำ� แตง่ ใหม่ 91 29. การเขา้ ไปสนใจคำ� แตง่ ใหม่ 92 มผี ลใหค้ ำ� ตถาคตอนั ตรธานหายไป 30. ผทู้ ำ� สทั ธรรมใหอ้ นั ตรธาน นยั ที่ ๑94 31. ผทู้ ำ� สทั ธรรมใหด้ ำ� รงอยู่ นยั ท่ี ๑98 32. ผทู้ ำ� สทั ธรรมใหอ้ นั ตรธาน นยั ท่ี ๒102 33. ผทู้ ำ� สทั ธรรมใหด้ ำ� รงอยู่ นยั ท่ี ๒103 34. มลู เหตแุ หง่ การววิ าท104 35. ผเู้ รยี กรอ้ งหาศาสดา เพอื่ ความเปน็ มติ ร หรอื ศตั รู 106 36. ขดี จำ� กดั ของสาวก เทยี บกบั สมั มาสมั พทุ ธะ108 37. อะไรคอื ใบไมใ้ นปา่ อะไรคอื ใบไมใ้ นกำ� มอื 109 38. การบอกสอนมนตม์ าจากไหน111 39. การสาธยายธรรมในแบบพระศาสดา เปน็ ไปเพอ่ื วมิ ตุ ติ 114 ทม่ี าทไ่ี ปของประเพณผี ดิ อนั เกดิ จากคำ� แตง่ ใหม่ 117 40. ความเขา้ ใจผดิ เกยี่ วกบั อานสิ งสก์ ารสรา้ งพระพทุ ธรปู 118 41. ความเขา้ ใจผดิ เกย่ี วกบั การฟงั เทศนม์ หาชาติ 122 พระสมั มาสมั พทุ ธะ นามวา่ เมตเตยยะ โดยพทุ ธวจน 122 พระสมั มาสมั พทุ ธะ นามวา่ เมตเตยยะ โดยคำ� แตง่ ใหม่ 123 42. ความเขา้ ใจผดิ เกยี่ วกบั การกรวดนำ้� อทุ ศิ บญุ 126
43. ความเขา้ ใจผดิ เกยี่ วกบั การทำ� นำ้� มนต์ 128 44. ความเขา้ ใจผดิ เกยี่ วกบั อานสิ งสข์ องการสวดมนต์ 130 45. บทสวดมนตย์ อดนยิ ม เปน็ คำ� แตง่ ใหม่ 133 บทสวดสพั พมงั คลคาถา เปน็ คำ� แตง่ ใหม่ 133 บทสวดพาหงุ (พทุ ธชยั มงั คลคาถา) เปน็ คำ� แตง่ ใหม่ 134 คาถาชนิ บญั ชร เปน็ คำ� แตง่ ใหม่ 135 บทสวดอภยปรติ ร เปน็ คำ� แตง่ ใหม่ 137 บทสวดอาฏานาฏยิ ปรติ ร เปน็ คำ� แตง่ ใหม่ 138 บทสวดโพชฌงคปรติ ร เปน็ คำ� แตง่ ใหม่ 139 บทสวดชยั ปรติ ร เปน็ คำ� แตง่ ใหม่ 140 บทสวดอทุ ศิ บญุ กศุ ล (ปตั ตทิ านคาถา) เปน็ คำ� แตง่ ใหม่ 141 ทางออกของผปู้ ระพฤตมิ จิ ฉาทฏิ ฐไิ ปแลว้ 145 46. กรณขี องภกิ ษุ 146 หากเหน็ โทษโดยความเปน็ โทษ ใหท้ ำ� คนื ตามธรรม 146 ขอ้ ควรปฏบิ ตั ขิ องภกิ ษเุ มอื่ เขา้ บา้ น 149 สงิ่ ทภี่ กิ ษคุ วรทำ� เมอ่ื อยรู่ ว่ มกนั 152 47. ขอ้ ทภ่ี กิ ษคุ วรพจิ ารณาใหม้ าก153 ผสู้ รา้ งสขุ หรอื สรา้ งทกุ ขใ์ หแ้ กม่ หาชน นยั ที่ ๑ 153 ผสู้ รา้ งสขุ หรอื สรา้ งทกุ ขใ์ หแ้ กม่ หาชน นยั ที่ ๒ 155 ลกั ษณะแบบใด คอื คนของสมั มาสมั พทุ ธะ 158 ไดช้ อ่ื วา่ เปน็ ภกิ ษุ ไมใ่ ชเ่ พราะเครอื่ งแบบ 159 ผใู้ ดเหน็ ธรรม ผนู้ น้ั เหน็ ตถาคต 161 ลกั ษณะของผอู้ ยใู่ นอรยิ วงศ์ 162
48. กรณขี องคฤหสั ถ์ 165 หากเหน็ โทษโดยความเปน็ โทษ ใหท้ ำ� คนื ตามธรรม 165 ลกั ษณะการเกย่ี วขอ้ งกบั นกั บวช 166 ผจู้ ดั วา่ เปน็ อบุ าสกจณั ฑาล 168 ผจู้ ดั วา่ เปน็ อบุ าสกรตั นะ 169 การใหท้ าน เปน็ เหตใุ หเ้ กดิ ทรพั ย์ 170 สงั คมเลว เพราะคนดอี อ่ นแอ 171 หลกั การกำ� จดั เสยี้ นหนาม (คนไมด่ )ี 173 กรณศี กึ ษาเรอ่ื งภกิ ษชุ าวกรงุ โกสมั พแี ตกสามคั คกี นั 175 บทสง่ ทา้ ย 181 49. การเกย่ี วขอ้ งกนั ของนกั บวชกบั คฤหสั ถ์ 182 50. สงิ่ ทใ่ี ครๆ ในโลกไมไ่ ดต้ ามปราถนา183 51. เหตใุ หส้ ำ� เรจ็ ตามปรารถนา นยั ที่ ๑187 52. เหตใุ หส้ ำ� เรจ็ ตามปรารถนา นยั ที่ ๒192 53. เทวดาไหวใ้ คร196 54. ฤกษด์ ี ยามดี ในแบบพทุ ธวจน198 55. ทพ่ี ง่ึ ผดิ ทพี่ ง่ึ ถกู 199 56. พธิ ปี ลงบาปในอรยิ วนิ ยั นยั ที่ ๑200 57. พธิ ปี ลงบาปในอรยิ วนิ ยั นยั ที่ ๒204 58. พธิ ปี ลงบาปอนั เปน็ อรยิ ะ นยั ท่ี ๑208 59. พธิ ปี ลงบาปอนั เปน็ อรยิ ะ นยั ท่ี ๒210
หมายเหตุผรู้ วบรวม เนอ้ื หาของหนงั สอื เลม่ น้ี บางสว่ นไดป้ รบั สำ� นวนตา่ ง จากฉบับหลวง โดยเทียบเคียงจากทุกส�ำนัก (ฉบับสยามรัฐ, ฉบบั หลวง, ฉบับมหามงกฏุ ฯ, ฉบับมหาจฬุ าฯ, ฉบบั เฉลมิ พระเกยี รต,ิ ฉบบั สมาคมบาลปี กรณแ์ หง่ ประเทศองั กฤษ) เพอื่ ใหส้ อดรบั กบั บาลี และความเช่อื มโยงของพทุ ธวจนให้มากที่สดุ
เดรจั ฉานวชิ า คืออะไร
พทุ ธวจน - หมวดธรรม เปดิ ธรรมทีถ่ กู ปิด : เดรัจฉานวิชา อะไรคือเดรัจฉานวิชา 01 -บาลี ส.ี ท.ี ๙/๘๓/๑๐๓. มหาราช ! อกี อยา่ งหนง่ึ เม่อื สมณะหรอื พราหมณ์ บางพวก ฉันโภชนะท่ีเขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ท่านเหล่าน้ัน ยังเลี้ยงชีวิตโดยมิจฉาชีพด้วยเดรัจฉานวิชาเห็นปานน้ี คือ ทำ� นายอวยั วะ ทำ� นายตำ� หนิ ทำ� นายลางดลี างรา้ ย ทำ� นายฝนั ทำ� นายลกั ษณะ ทำ� นายหนกู ดั ผา้ ทำ� พธิ บี ชู าไฟ ทำ� พธิ เี บกิ แวน่ เวยี นเทยี น ทำ� พธิ ซี ดั แกลบบชู าไฟ ทำ� พธิ ซี ดั รำ� บชู าไฟ ทำ� พธิ ี ซัดข้าวสารบูชาไฟ ท�ำพิธีเติมเนยบูชาไฟ ท�ำพิธีเติมน�้ำมัน บชู าไฟ ทำ� พธิ เี สกเปา่ บชู าไฟ ทำ� พลกี รรมดว้ ยโลหติ เปน็ หมอดู อวัยวะ ดูลักษณะที่บ้าน ดูลักษณะที่นา เป็นหมอปลุกเสก เป็นหมอผี เป็นหมอลงเลขยนั ต์คุ้มกนั บา้ นเรอื น เป็นหมองู เปน็ หมอยาพษิ เปน็ หมอแมลงปอ่ ง เปน็ หมอรกั ษาแผลหนกู ดั เปน็ หมอทายเสยี งนก เปน็ หมอทายเสยี งกา เปน็ หมอทายอายุ เปน็ หมอเสกกนั ลกู ศร เปน็ หมอทายเสยี งสตั ว.์ อีกอย่างหน่ึง เมอื่ สมณะหรอื พราหมณ์บางพวก ฉัน โภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ท่านเหล่าน้ันยังเลี้ยงชีวิต โดยมจิ ฉาชีพด้วยเดรัจฉานวิชาเหน็ ปานน้ี คือ ทายลกั ษณะ 2
เปิดธรรมที่ถกู ปิด : เดรัจฉานวชิ า แกว้ มณี ทายลักษณะผ้า ทายลักษณะไม้พลอง ทายลกั ษณะ ศัสตรา ทายลักษณะดาบ ทายลักษณะศร ทายลักษณะธนู ทายลักษณะอาวุธ ทายลักษณะสตรี ทายลักษณะบรุ ุษ ทาย ลักษณะกุมาร ทายลักษณะกุมารี ทายลักษณะทาส ทาย ลกั ษณะทาสี ทายลักษณะชา้ ง ทายลักษณะม้า ทายลักษณะ กระบือ ทายลกั ษณะโคอุสภะ ทายลักษณะโค ทายลักษณะ แพะ ทายลักษณะแกะ ทายลักษณะไก่ ทายลักษณะนก กระทา ทายลักษณะเหี้ย ทายลักษณะตุ่น ทายลักษณะเต่า ทายลกั ษณะมฤค1. อกี อยา่ งหนงึ่ เม่ือสมณะหรอื พราหมณบ์ างพวก ฉนั โภชนะทเ่ี ขาใหด้ ว้ ยศรทั ธาแลว้ ทา่ นเหลา่ นน้ั ยงั เลย้ี งชวี ติ โดย มจิ ฉาชพี ดว้ ยเดรจั ฉานวชิ าเหน็ ปานนี้ คอื ดฤู กษย์ าตราทพั วา่ พระราชาจกั ยกออก พระราชาจกั ไมย่ กออก พระราชาภายใน จกั ยกเขา้ ประชดิ พระราชาภายนอกจกั ถอย พระราชาภายนอก จกั ยกเขา้ ประชิด พระราชาภายในจกั ถอย พระราชาภายใน จักมีชัย พระราชาภายนอกจักปราชัย พระราชาภายนอก จักมีชัย พระราชาภายในจักปราชัย พระราชาพระองค์นี้ จักมีชยั พระราชาพระองค์น้ีจกั ปราชยั เพราะเหตุนๆี้ . 1. เนือ้ , สัตวป์ ่า มกี วาง อเี กง้ เปน็ ตน้ 3
พทุ ธวจน - หมวดธรรม อกี อยา่ งหน่ึง เม่อื สมณะหรอื พราหมณ์บางพวก ฉัน โภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ท่านเหล่าน้ันยังเลี้ยงชีวิต โดยมิจฉาชีพด้วยเดรจั ฉานวชิ าเห็นปานนี้ คอื ท�ำนายวา่ จัก มีจันทรคราส จกั มสี รุ ิยคราส จักมนี กั ษัตรคราส ดวงจันทร์ ดวงอาทติ ยจ์ กั โคจรถกู ทาง ดวงจนั ทรด์ วงอาทติ ยจ์ กั โคจรผดิ ทาง ดาวนกั ษตั รจกั โคจรถกู ทาง ดาวนกั ษตั รจกั โคจรผดิ ทาง จักมีอุกกาบาต จกั มีดาวหาง จักมีแผน่ ดนิ ไหว จกั มีฟ้ารอ้ ง ดวงจนั ทร์ดวงอาทิตย์และดาวนักษัตร จกั ขึน้ จักตก จักมัว หมอง จกั กระจา่ ง จนั ทรคราสจกั มีผลเป็นอย่างนี้ สรุ ิยคราส จักมีผลเป็นอย่างนี้ นักษัตรคราสจักมีผลเป็นอย่างนี้ ดวง จนั ทรด์ วงอาทติ ยโ์ คจรถกู ทางจกั มผี ลเปน็ อยา่ งน้ี ดวงจนั ทร์ ดวงอาทิตย์โคจรผิดทางจักมีผลเป็นอย่างนี้ ดาวนักษัตร โคจรถกู ทางจกั มผี ลเปน็ อยา่ งนี้ ดาวนกั ษตั รโคจรผดิ ทางจกั มผี ลเป็นอยา่ งนี้ มีอุกกาบาตจักมีผลเปน็ อยา่ งน้ี มีดาวหาง จักมีผลเป็นอย่างน้ี แผน่ ดินไหวจักมผี ลเปน็ อยา่ งนี้ ฟา้ รอ้ ง จักมีผลเป็นอย่างน้ี ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์และดาวนักษัตร ข้ึน ตก มวั หมอง กระจา่ ง จักมีผลเป็นอยา่ งน้ี. อีกอย่างหนง่ึ เมื่อสมณะหรอื พราหมณบ์ างพวก ฉัน โภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ท่านเหล่านั้นยังเลี้ยงชีวิต 4
เปดิ ธรรมท่ถี กู ปดิ : เดรจั ฉานวิชา โดยมิจฉาชีพด้วยเดรัจฉานวิชาเห็นปานน้ี คือ ท�ำนายว่า จักมีฝนดี จักมีฝนแล้ง จักมีอาหารหาได้ง่าย จักมีอาหาร หาได้ยาก จักมคี วามเกษม จักมีภยั จักเกิดโรค จกั มคี วาม ส�ำราญหาโรคมิได้ หรอื ค�ำนวณฤกษย์ าม ค�ำนวณดวงชะตา จับยาม แตง่ กาพย์ โลกายตศาสตร1์. อีกอย่างหนึง่ เมื่อสมณะหรอื พราหมณบ์ างพวก ฉัน โภชนะทเ่ี ขาใหด้ ว้ ยศรทั ธาแลว้ ทา่ นเหลา่ นนั้ ยงั เลยี้ งชวี ติ โดย มิจฉาชีพด้วยเดรัจฉานวิชาเห็นปานน้ี คือ ให้ฤกษ์อาวาห มงคล2 ใหฤ้ กษว์ วิ าหมงคล3 ดฤู กษเ์ รยี งหมอน4 ดฤู กษห์ ยา่ รา้ ง ดูฤกษ์เก็บทรัพย์ ดูฤกษ์จ่ายทรัพย์ ดูโชคดี ดูเคราะห์ร้าย ใหย้ าผดงุ ครรภ์ รา่ ยมนตใ์ หล้ น้ิ กระดา้ ง รา่ ยมนตใ์ หค้ างแขง็ ร่ายมนต์ให้มือส่ัน ร่ายมนต์ไม่ให้หูได้ยินเสียง เป็นหมอ 1. สอนต�ำราวา่ ดว้ ยทางโลก 2. ‘การพาหญิงมาอยู่บา้ นของตน’ หมายถงึ การแตง่ งานแบบหน่ึงท่ีฝา่ ยชาย จะนําหญงิ ทต่ี นแต่งงานด้วยมาอย่ทู ่ีบา้ นของตน เรียกว่า อาวาหมงคล เป็น ประเพณีแต่งงานที่นยิ มปฏบิ ตั กิ ันในประเทศอินเดียฝ่ายเหนอื 3. ‘การพาออกไป’ หมายถึง การแต่งงานแบบหนึ่งท่ฝี ่ายชายจะตอ้ งถูกนําไปอยู่ ท่ีบ้านฝ่ายหญงิ เรยี กว่า ววิ าหมงคล เปน็ ประเพณีแตง่ งานที่นยิ มปฏิบตั ิกนั ใน ประเทศอนิ เดยี ฝ่ายใต้ การแตง่ งานตามประเพณีไทย ไม่ว่าฝ่ายหญิงจะไปอย่ทู ี่ บ้านฝ่ายชาย หรือฝ่ายชายจะไปอยู่ทบ่ี ้านฝ่ายหญงิ หรือจะแยกไปอยู่ตามลาํ พงั ก็เรียกว่า ววิ าหะ หรอื ววิ าหมงคล ทง้ั สิ้น 4. พธิ ตี อนหนง่ึ ในการแตง่ งาน ผถู้ อื ฤกษย์ ามมกั ถอื วา่ เมอ่ื หนมุ่ สาวเขา้ สพู่ ธิ แี ตง่ งาน จะต้องนอนคกู่ ันบนเตียงพอเปน็ พธิ ี เรยี กวา่ เรยี งหมอน 5
พทุ ธวจน - หมวดธรรม ทรงกระจก เปน็ หมอทรงหญงิ สาว เปน็ หมอทรงเจา้ บวงสรวง พระอาทติ ย์ บวงสรวงทา้ วมหาพรหม รา่ ยมนตพ์ น่ ไฟ ทำ� พธิ ี เชญิ ขวญั . อีกอยา่ งหนึ่ง เมอ่ื สมณะหรือพราหมณ์บางพวก ฉัน โภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ท่านเหล่านั้นยังเลี้ยงชีวิต โดยมจิ ฉาชพี ดว้ ยเดรจั ฉานวชิ าเหน็ ปานน้ี คอื ทำ� พธิ บี นบาน ท�ำพิธีแก้บน ร่ายมนต์ขับผี สอนมนต์ป้องกันบ้านเรือน ทำ� กะเทยให้กลับเปน็ ชาย ทำ� ชายใหก้ ลายเป็นกะเทย ท�ำพธิ ี ปลูกเรือน ท�ำพิธีบวงสรวงพื้นที่ พ่นน้�ำมนต์ รดน้�ำมนต์ ทำ� พธิ บี ูชาไฟ ปรงุ ยาสำ� รอก ปรุงยาถา่ ย ปรงุ ยาแก้ลมตขี ้ึน เบ้ืองบน ปรุงยาแก้ลมตีลงเบ้ืองล่าง ปรุงยาแก้ปวดศีรษะ หุงน้�ำมันหยอดหู ปรุงยาตา ปรุงยานัตถุ์ ปรุงยาทาให้กัด ปรุงยาทาให้สมาน ปา้ ยยาตา ท�ำการผ่าตัด รกั ษาเด็ก ใส่ยา ชะแผล. 6
พุทธวจน - หมวดธรรม เปดิ ธรรมท่ถี ูกปดิ : เดรัจฉานวชิ า พระพุทธเจา้ 02 เว้นขาดจากการทำ� เดรัจฉานวิชา -บาลี พรหมชาลสตู ร ส.ี ท.ี ๙/๑๑-๑๕/๑๙-๒๕. ภิกษุท้ังหลาย ! อีกอย่างหนึ่ง เม่ือสมณะหรือ พราหมณบ์ างพวก ฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรทั ธาแลว้ ทา่ น เหล่านั้นยังเล้ียงชีวิตโดยมิจฉาชีพด้วยเดรัจฉานวิชาเห็น ปานนี้ คอื ทำ� นายอวยั วะ ทำ� นายตำ� หนิ ทำ� นายลางดลี างรา้ ย ท�ำนายฝัน ทำ� นายลกั ษณะ ท�ำนายหนกู ดั ผา้ ทำ� พธิ บี ชู าไฟ ท�ำพิธีเบิกแว่นเวียนเทียน ท�ำพิธีซัดแกลบบูชาไฟ ท�ำพิธี ซดั รำ� บชู าไฟ ทำ� พธิ ซี ดั ขา้ วสารบชู าไฟ ทำ� พธิ เี ตมิ เนยบชู าไฟ ท�ำพิธีเติมน�้ำมันบูชาไฟ ท�ำพิธีเสกเป่าบูชาไฟ ท�ำพลีกรรม ดว้ ยโลหติ เปน็ หมอดอู วยั วะ ดลู กั ษณะทบ่ี า้ น ดลู กั ษณะทนี่ า เป็นหมอปลุกเสก เป็นหมอผี เป็นหมอลงเลขยันต์คุ้มกัน บ้านเรือน เป็นหมองู เป็นหมอยาพิษ เป็นหมอแมลงป่อง เปน็ หมอรกั ษาแผลหนูกดั เป็นหมอทายเสียงนก เป็นหมอ ทายเสียงกา เปน็ หมอทายอายุ เป็นหมอเสกกนั ลกู ศร เปน็ หมอทายเสยี งสตั ว.์ ส่วนสมณโคดม เว้นขาดจากการเลี้ยงชีวิตโดย มิจฉาชีพด้วยเดรัจฉานวิชาเห็นปานน้ีเสียแล้ว เม่ือปุถุชน จะกล่าวสรรเสรญิ ตถาคต พงึ กล่าวสรรเสริญอยา่ งน.้ี 7
พุทธวจน - หมวดธรรม อีกอยา่ งหน่ึง เม่ือสมณะหรอื พราหมณบ์ างพวก ฉัน โภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ท่านเหล่านั้นยังเลี้ยงชีวิต โดยมิจฉาชพี ด้วยเดรจั ฉานวิชาเหน็ ปานนี้ คือ ทายลกั ษณะ แกว้ มณี ทายลักษณะผา้ ทายลกั ษณะไมพ้ ลอง ทายลักษณะ ศัสตรา ทายลักษณะดาบ ทายลักษณะศร ทายลักษณะธนู ทายลักษณะอาวธุ ทายลักษณะสตรี ทายลกั ษณะบุรษุ ทาย ลักษณะกุมาร ทายลักษณะกุมารี ทายลักษณะทาส ทาย ลกั ษณะทาสี ทายลกั ษณะช้าง ทายลกั ษณะมา้ ทายลักษณะ กระบอื ทายลักษณะโคอสุ ภะ ทายลกั ษณะโค ทายลักษณะ แพะ ทายลักษณะแกะ ทายลักษณะไก่ ทายลักษณะนก กระทา ทายลักษณะเหี้ย ทายลักษณะตุ่น ทายลักษณะเต่า ทายลักษณะมฤค. ส่วนสมณโคดม เว้นขาดจากการเล้ียงชีวิตโดย มิจฉาชีพด้วยเดรัจฉานวิชาเห็นปานน้ีเสียแล้ว เมื่อปุถุชน จะกลา่ วสรรเสรญิ ตถาคต พึงกลา่ วสรรเสริญอย่างนี.้ อีกอย่างหนึ่งเมื่อสมณะหรอื พราหมณบ์ างพวก ฉัน โภชนะทเี่ ขาใหด้ ว้ ยศรทั ธาแลว้ ทา่ นเหลา่ นนั้ ยงั เลยี้ งชวี ติ โดย มจิ ฉาชพี ดว้ ยเดรจั ฉานวชิ าเหน็ ปานน้ี คอื ดฤู กษย์ าตราทพั วา่ พระราชาจกั ยกออก พระราชาจกั ไมย่ กออก พระราชาภายใน 8
เปดิ ธรรมทถ่ี ูกปดิ : เดรัจฉานวิชา จกั ยกเขา้ ประชดิ พระราชาภายนอกจกั ถอย พระราชาภายนอก จกั ยกเข้าประชิด พระราชาภายในจกั ถอย พระราชาภายใน จกั มชี ัย พระราชาภายนอกจักปราชัย พระราชาภายนอกจกั มชี ยั พระราชาภายในจกั ปราชยั พระราชาพระองคน์ จี้ กั มชี ยั พระราชาพระองคน์ จี้ ักปราชยั เพราะเหตุนๆ้ี . ส่วนสมณโคดม เว้นขาดจากการเล้ียงชีวิตโดย มิจฉาชีพด้วยเดรัจฉานวิชาเห็นปานนี้เสียแล้ว เมื่อปุถุชน จะกลา่ วสรรเสริญตถาคต พึงกล่าวสรรเสริญอย่างน้ี. อีกอย่างหน่ึง เมือ่ สมณะหรอื พราหมณบ์ างพวก ฉัน โภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ท่านเหล่าน้ันยังเลี้ยงชีวิต โดยมิจฉาชพี ด้วยเดรจั ฉานวชิ าเหน็ ปานนี้ คอื ทำ� นายว่าจกั มีจันทรคราส จักมีสรุ ิยคราส จักมีนักษตั รคราส ดวงจนั ทร์ ดวงอาทติ ยจ์ กั โคจรถกู ทาง ดวงจนั ทรด์ วงอาทติ ยจ์ กั โคจรผดิ ทาง ดาวนกั ษตั รจกั โคจรถกู ทาง ดาวนกั ษตั รจกั โคจรผดิ ทาง จกั มีอกุ กาบาต จักมดี าวหาง จักมีแผ่นดินไหว จกั มฟี า้ ร้อง ดวงจนั ทรด์ วงอาทติ ยแ์ ละดาวนกั ษตั ร จกั ขน้ึ จกั ตก จกั มวั หมอง จักกระจ่าง จันทรคราสจักมีผลเป็นอย่างน้ี สุริยคราส จักมีผลเป็นอย่างนี้ นักษัตรคราสจักมีผลเป็นอย่างน้ี ดวง จนั ทรด์ วงอาทติ ยโ์ คจรถกู ทางจกั มผี ลเปน็ อยา่ งน้ี ดวงจนั ทร์ 9
พทุ ธวจน - หมวดธรรม ดวงอาทิตย์โคจรผิดทางจักมีผลเป็นอย่างนี้ ดาวนักษัตร โคจรถกู ทางจกั มผี ลเปน็ อยา่ งนี้ ดาวนกั ษตั รโคจรผดิ ทางจกั มผี ลเป็นอย่างนี้ มีอกุ กาบาตจกั มีผลเปน็ อยา่ งน้ี มีดาวหาง จักมผี ลเปน็ อย่างน้ี แผ่นดนิ ไหวจักมีผลเป็นอยา่ งนี้ ฟา้ ร้อง จักมีผลเป็นอย่างนี้ ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์และดาวนักษัตร ขน้ึ ตก มวั หมอง กระจ่าง จักมผี ลเปน็ อย่างน้.ี ส่วนสมณโคดม เว้นขาดจากการเล้ียงชีวิตโดย มิจฉาชีพด้วยเดรัจฉานวิชาเห็นปานนี้เสียแล้ว เม่ือปุถุชน จะกลา่ วสรรเสรญิ ตถาคต พึงกลา่ วสรรเสรญิ อยา่ งน.้ี อกี อยา่ งหนึง่ เมอื่ สมณะหรอื พราหมณบ์ างพวก ฉนั โภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ท่านเหล่าน้ันยังเลี้ยงชีวิต โดยมิจฉาชีพด้วยเดรัจฉานวิชาเห็นปานนี้ คือ ท�ำนายว่า จักมีฝนดี จักมีฝนแล้ง จักมีอาหารหาได้ง่าย จักมีอาหาร หาได้ยาก จกั มคี วามเกษม จักมภี ัย จักเกิดโรค จกั มีความ ส�ำราญหาโรคมิได้ หรือค�ำนวณฤกษย์ าม คำ� นวณดวงชะตา จบั ยาม แตง่ กาพย์ โลกายตศาสตร์. ส่วนสมณโคดม เว้นขาดจากการเลี้ยงชีวิตโดย มิจฉาชีพด้วยเดรัจฉานวิชาเห็นปานนี้เสียแล้ว เมื่อปุถุชน จะกลา่ วสรรเสรญิ ตถาคต พงึ กล่าวสรรเสริญอย่างน้ี. 10
เปิดธรรมท่ีถกู ปิด : เดรัจฉานวชิ า อกี อยา่ งหนึง่ เมื่อสมณะหรือพราหมณบ์ างพวก ฉัน โภชนะทเ่ี ขาใหด้ ว้ ยศรทั ธาแลว้ ทา่ นเหลา่ นนั้ ยงั เลย้ี งชวี ติ โดย มิจฉาชีพด้วยเดรัจฉานวิชาเห็นปานน้ี คือ ให้ฤกษ์อาวาห มงคล ให้ฤกษว์ วิ าหมงคล ดฤู กษ์เรียงหมอน ดูฤกษ์หย่ารา้ ง ดูฤกษ์เก็บทรัพย์ ดูฤกษ์จ่ายทรัพย์ ดูโชคดี ดูเคราะห์ร้าย ใหย้ าผดงุ ครรภ์ รา่ ยมนตใ์ หล้ นิ้ กระดา้ ง รา่ ยมนตใ์ หค้ างแขง็ รา่ ยมนตใ์ หม้ อื สน่ั รา่ ยมนตไ์ มใ่ หห้ ไู ดย้ นิ เสยี ง เปน็ หมอทรง กระจก เปน็ หมอทรงหญงิ สาว เปน็ หมอทรงเจ้า บวงสรวง พระอาทติ ย์ บวงสรวงทา้ วมหาพรหม รา่ ยมนตพ์ น่ ไฟ ทำ� พธิ ี เชิญขวัญ. ส่วนสมณโคดม เว้นขาดจากการเล้ียงชีวิตโดย มิจฉาชีพด้วยเดรัจฉานวิชาเห็นปานน้ีเสียแล้ว เมื่อปุถุชน จะกลา่ วสรรเสริญตถาคต พึงกล่าวสรรเสรญิ อยา่ งน.้ี อีกอย่างหนึ่ง เม่ือสมณะหรอื พราหมณบ์ างพวก ฉัน โภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ท่านเหล่าน้ันยังเลี้ยงชีวิต โดยมจิ ฉาชพี ดว้ ยเดรจั ฉานวชิ าเหน็ ปานน้ี คอื ทำ� พธิ บี นบาน ท�ำพิธีแก้บน ร่ายมนต์ขับผี สอนมนต์ป้องกันบ้านเรือน ท�ำกะเทยใหก้ ลบั เป็นชาย ทำ� ชายให้กลายเปน็ กะเทย ท�ำพิธี ปลูกเรือน ท�ำพิธีบวงสรวงพื้นที่ พ่นน�้ำมนต์ รดน�้ำมนต์ 11
พุทธวจน - หมวดธรรม ท�ำพธิ ีบูชาไฟ ปรุงยาส�ำรอก ปรุงยาถ่าย ปรุงยาแก้ลมตีขึ้น เบื้องบน ปรุงยาแก้ลมตีลงเบื้องล่าง ปรุงยาแก้ปวดศีรษะ หุงน้�ำมันหยอดหู ปรุงยาตา ปรุงยานัตถุ์ ปรุงยาทาให้กัด ปรงุ ยาทาใหส้ มาน ป้ายยาตา ทำ� การผ่าตัด รกั ษาเดก็ ใสย่ า ชะแผล. ส่วนสมณโคดม เว้นขาดจากการเล้ียงชีวิตโดย มิจฉาชีพด้วยเดรัจฉานวิชาเห็นปานนี้เสียแล้ว เมื่อปุถุชน จะกลา่ วสรรเสริญตถาคต พงึ กล่าวสรรเสริญอย่างนี.้ ภกิ ษทุ งั้ หลาย ! ขอ้ ทป่ี ถุ ชุ นกลา่ วสรรเสรญิ ตถาคต จะพึงกล่าวด้วยประการใด ซ่ึงมีประมาณน้อย ยังต่�ำนัก เปน็ เพยี งศลี นน้ั เทา่ นี้แล. 12
พทุ ธวจน - หมวดธรรม เปดิ ธรรมที่ถูกปิด : เดรัจฉานวชิ า ภิกษใุ นธรรมวินยั น้ี 03 เวน้ ขาดจากการท�ำเดรัจฉานวิชา -บาลี สามญั ผลสตู ร ส.ี ท.ี ๙/๘๙-๙๒/๑๑๔-๑๒๑. มหาราช ! อกี อยา่ งหนงึ่ เมอื่ สมณะหรอื พราหมณ์ บางพวก ฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ท่านเหล่านั้น ยังเลี้ยงชีวิตโดยมิจฉาชีพด้วยเดรัจฉานวิชาเห็นปานน้ี คือ ทำ� นายอวยั วะ ทำ� นายตำ� หนิ ทำ� นายลางดลี างรา้ ย ทำ� นายฝนั ทำ� นายลกั ษณะ ทำ� นายหนกู ดั ผา้ ทำ� พธิ บี ชู าไฟ ทำ� พธิ เี บกิ แวน่ เวยี นเทยี น ทำ� พธิ ซี ดั แกลบบชู าไฟ ทำ� พธิ ซี ดั รำ� บชู าไฟ ทำ� พธิ ี ซดั ขา้ วสารบชู าไฟ ทำ� พธิ เี ตมิ เนยบชู าไฟ ทำ� พธิ เี ตมิ นำ้� มนั บชู า ไฟ ท�ำพธิ ีเสกเป่าบูชาไฟ ท�ำพลกี รรมด้วยโลหิต เป็นหมอดู อวัยวะ ดูลักษณะท่ีบ้าน ดูลักษณะที่นา เป็นหมอปลุกเสก เป็นหมอผี เปน็ หมอลงเลขยนั ตค์ มุ้ กันบ้านเรือน เปน็ หมองู เปน็ หมอยาพษิ เปน็ หมอแมลงปอ่ ง เปน็ หมอรกั ษาแผลหนกู ดั เปน็ หมอทายเสยี งนก เปน็ หมอทายเสยี งกา เปน็ หมอทายอายุ เปน็ หมอเสกกนั ลูกศร เปน็ หมอทายเสยี งสัตว์. ส่วนภิกษุในธรรมวินัยน้ี เว้นขาดจากการเลี้ยงชีวิต โดยมจิ ฉาชพี ดว้ ยเดรจั ฉานวชิ าเหน็ ปานนเ้ี สยี แลว้ แมน้ ก้ี เ็ ปน็ ศลี ของเธอประการหนึง่ . 13
พทุ ธวจน - หมวดธรรม อีกอย่างหน่งึ เมอื่ สมณะหรือพราหมณบ์ างพวก ฉัน โภชนะท่ีเขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ท่านเหล่าน้ันยังเล้ียงชีวิต โดยมิจฉาชพี ดว้ ยเดรจั ฉานวิชาเห็นปานนี้ คือ ทายลกั ษณะ แกว้ มณี ทายลกั ษณะผ้า ทายลักษณะไมพ้ ลอง ทายลักษณะ ศัสตรา ทายลักษณะดาบ ทายลักษณะศร ทายลักษณะธนู ทายลักษณะอาวุธ ทายลักษณะสตรี ทายลกั ษณะบรุ ุษ ทาย ลักษณะกุมาร ทายลักษณะกุมารี ทายลักษณะทาส ทาย ลกั ษณะทาสี ทายลกั ษณะชา้ ง ทายลกั ษณะม้า ทายลักษณะ กระบอื ทายลกั ษณะโคอสุ ภะ ทายลกั ษณะโค ทายลกั ษณะ แพะ ทายลักษณะแกะ ทายลักษณะไก่ ทายลักษณะนก กระทา ทายลักษณะเหี้ย ทายลักษณะตุ่น ทายลักษณะเต่า ทายลักษณะมฤค. ส่วนภิกษุในธรรมวินัยนี้ เว้นขาดจากการเล้ียงชีวิต โดยมจิ ฉาชพี ดว้ ยเดรจั ฉานวชิ าเหน็ ปานนเี้ สยี แลว้ แมน้ ก้ี เ็ ปน็ ศลี ของเธอประการหน่ึง. อีกอยา่ งหน่งึ เมือ่ สมณะหรอื พราหมณบ์ างพวก ฉัน โภชนะทเ่ี ขาใหด้ ว้ ยศรทั ธาแลว้ ทา่ นเหลา่ นน้ั ยงั เลย้ี งชวี ติ โดย มจิ ฉาชพี ดว้ ยเดรจั ฉานวชิ าเหน็ ปานน้ี คอื ดฤู กษย์ าตราทพั วา่ พระราชาจกั ยกออกพระราชาจกั ไมย่ กออกพระราชาภายในจกั 14
เปดิ ธรรมทีถ่ กู ปดิ : เดรัจฉานวชิ า ยกเขา้ ประชดิ พระราชาภายนอกจกั ถอย พระราชาภายนอก จกั ยกเขา้ ประชดิ พระราชาภายในจกั ถอย พระราชาภายใน จักมีชยั พระราชาภายนอกจักปราชยั พระราชาภายนอกจัก มชี ยั พระราชาภายในจกั ปราชยั พระราชาพระองคน์ จ้ี กั มชี ยั พระราชาพระองคน์ ้ีจกั ปราชัย เพราะเหตนุ ๆี้ . ส่วนภิกษุในธรรมวินัยน้ี เว้นขาดจากการเล้ียงชีวิต โดยมจิ ฉาชพี ดว้ ยเดรจั ฉานวชิ าเหน็ ปานนเี้ สยี แลว้ แมน้ ก้ี เ็ ปน็ ศลี ของเธอประการหนง่ึ . อกี อยา่ งหนงึ่ เมอื่ สมณะหรือพราหมณบ์ างพวก ฉัน โภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ท่านเหล่านั้นยังเลี้ยงชีวิต โดยมจิ ฉาชีพด้วยเดรจั ฉานวิชาเห็นปานนี้ คอื ท�ำนายวา่ จกั มจี ันทรคราส จักมสี รุ ิยคราส จกั มีนักษตั รคราส ดวงจนั ทร์ ดวงอาทติ ยจ์ กั โคจรถกู ทาง ดวงจนั ทรด์ วงอาทติ ยจ์ กั โคจรผดิ ทาง ดาวนกั ษตั รจกั โคจรถกู ทาง ดาวนกั ษตั รจกั โคจรผดิ ทาง จกั มอี กุ กาบาต จกั มีดาวหาง จักมแี ผน่ ดนิ ไหว จักมฟี า้ ร้อง ดวงจนั ทรด์ วงอาทติ ยแ์ ละดาวนกั ษตั รจกั ขน้ึ จกั ตกจกั มวั หมอง จักกระจ่าง จันทรคราสจักมีผลเป็นอย่างนี้ สุริยคราส จักมีผลเป็นอย่างน้ี นักษัตรคราสจักมีผลเป็นอย่างนี้ ดวง จนั ทรด์ วงอาทติ ยโ์ คจรถกู ทางจกั มผี ลเปน็ อยา่ งน้ี ดวงจนั ทร์ 15
พุทธวจน - หมวดธรรม ดวงอาทิตย์โคจรผิดทางจักมีผลเป็นอย่างน้ี ดาวนักษัตร โคจรถกู ทางจกั มผี ลเปน็ อยา่ งน้ี ดาวนกั ษตั รโคจรผดิ ทางจกั มผี ลเป็นอย่างนี้ มีอุกกาบาตจักมีผลเป็นอยา่ งน้ี มดี าวหาง จกั มผี ลเป็นอยา่ งน้ี แผน่ ดนิ ไหวจักมีผลเป็นอยา่ งนี้ ฟ้าร้อง จักมีผลเป็นอย่างน้ี ดวงจันทร์ดวงอาทิตย์และดาวนักษัตร ขน้ึ ตก มวั หมอง กระจา่ ง จกั มผี ลเปน็ อย่างน้.ี ส่วนภิกษุในธรรมวินัยน้ี เว้นขาดจากการเล้ียงชีวิต โดยมิจฉาชีพด้วยเดรัจฉานวิชาเห็นปานนี้เสียแล้ว แม้น้ีก็ เป็นศลี ของเธอประการหน่งึ . อกี อย่างหน่ึง เมื่อสมณะหรือพราหมณ์บางพวก ฉัน โภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ท่านเหล่าน้ันยังเล้ียงชีวิต โดยมิจฉาชีพด้วยเดรัจฉานวิชาเห็นปานน้ี คือ ท�ำนายว่า จักมีฝนดี จักมีฝนแล้ง จักมีอาหารหาได้ง่าย จักมีอาหาร หาไดย้ าก จักมีความเกษม จกั มภี ยั จักเกดิ โรค จักมีความ สำ� ราญหาโรคมิได้ หรอื คำ� นวณฤกษ์ยาม คำ� นวณดวงชะตา จบั ยาม แตง่ กาพย์ โลกายตศาสตร์. ส่วนภิกษุในธรรมวินัยน้ี เว้นขาดจากการเล้ียงชีวิต โดยมจิ ฉาชพี ดว้ ยเดรจั ฉานวชิ าเหน็ ปานนเ้ี สยี แลว้ แมน้ กี้ เ็ ปน็ ศีลของเธอประการหนึ่ง. 16
เปดิ ธรรมทถ่ี กู ปิด : เดรจั ฉานวชิ า อีกอย่างหน่งึ เม่อื สมณะหรอื พราหมณ์บางพวก ฉัน โภชนะทเี่ ขาใหด้ ว้ ยศรทั ธาแลว้ ทา่ นเหลา่ นนั้ ยงั เลย้ี งชวี ติ โดย มิจฉาชีพด้วยเดรัจฉานวิชาเห็นปานนี้ คือ ให้ฤกษ์อาวาห มงคล ให้ฤกษว์ ิวาหมงคล ดูฤกษ์เรียงหมอน ดูฤกษ์หย่ารา้ ง ดูฤกษ์เก็บทรัพย์ ดูฤกษ์จ่ายทรัพย์ ดูโชคดี ดูเคราะห์ร้าย ใหย้ าผดงุ ครรภ์ รา่ ยมนตใ์ หล้ นิ้ กระดา้ ง รา่ ยมนตใ์ หค้ างแขง็ รา่ ยมนตใ์ หม้ อื สน่ั รา่ ยมนตไ์ มใ่ หห้ ไู ดย้ นิ เสยี ง เปน็ หมอทรง กระจก เป็นหมอทรงหญิงสาว เปน็ หมอทรงเจ้า บวงสรวง พระอาทติ ย์ บวงสรวงทา้ วมหาพรหม รา่ ยมนตพ์ น่ ไฟ ทำ� พธิ ี เชญิ ขวัญ. ส่วนภิกษุในธรรมวินัยน้ี เว้นขาดจากการเลี้ยงชีวิต โดยมจิ ฉาชพี ดว้ ยเดรจั ฉานวชิ าเหน็ ปานนเี้ สยี แลว้ แมน้ ก้ี เ็ ปน็ ศีลของเธอประการหน่ึง. อกี อยา่ งหนงึ่ เมอ่ื สมณะหรอื พราหมณบ์ างพวก ฉัน โภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ท่านเหล่าน้ันยังเลี้ยงชีวิต โดยมจิ ฉาชพี ดว้ ยเดรจั ฉานวชิ าเหน็ ปานนี้ คอื ทำ� พธิ บี นบาน ท�ำพิธีแก้บน ร่ายมนต์ขับผี สอนมนต์ป้องกันบ้านเรือน ทำ� กะเทยให้กลับเปน็ ชาย ทำ� ชายใหก้ ลายเป็นกะเทย ท�ำพิธี ปลูกเรือน ท�ำพิธีบวงสรวงพ้ืนท่ี พ่นน�้ำมนต์ รดน�้ำมนต์ 17
พทุ ธวจน - หมวดธรรม ท�ำพิธีบชู าไฟ ปรงุ ยาสำ� รอก ปรงุ ยาถ่าย ปรงุ ยาแก้ลมตีขึน้ เบื้องบน ปรุงยาแก้ลมตีลงเบ้ืองล่าง ปรุงยาแก้ปวดศีรษะ หุงน้�ำมันหยอดหู ปรุงยาตา ปรุงยานัตถุ์ ปรุงยาทาให้กัด ปรงุ ยาทาใหส้ มาน ป้ายยาตา ทำ� การผ่าตัด รักษาเด็ก ใส่ยา ชะแผล. ส่วนภิกษุในธรรมวินัยน้ี เว้นขาดจากการเลี้ยงชีวิต โดยมจิ ฉาชพี ดว้ ยเดรจั ฉานวชิ าเหน็ ปานนเี้ สยี แลว้ แมน้ ก้ี เ็ ปน็ ศีลของเธอประการหนึง่ . มหาราช ! ภิกษุสมบูรณ์ด้วยศีลอย่างน้ี ย่อมไม่ ประสบภัยแต่ไหนๆ เลย เพราะสีลสังวรน้ันเปรียบเหมือน กษัตริย์ผู้ได้มุรธาภิเษก1 ก�ำจัดราชศัตรูได้แล้ว ย่อมไม่ ประสบภัยแต่ไหนๆ เพราะราชศัตรนู ้นั . มหาราช ! ภิกษุก็ฉันน้ัน สมบูรณ์ด้วยศีลอย่างนี้ แล้ว ย่อมไม่ประสบภัยแต่ไหนๆ เพราะสีลสังวรน้ัน ภิกษุ สมบรู ณด์ ว้ ยอรยิ สลี ขนั ธน์ ้ี ยอ่ มไดเ้ สวยสขุ อนั ปราศจากโทษ ในภายใน. มหาราช ! ดว้ ยประการดงั กลา่ วมานแี้ ล ภกิ ษชุ อื่ วา่ เป็นผู้ถงึ พร้อมดว้ ยศลี . 1. นา้ํ รดพระเศยี รในงานราชาภิเษกหรอื พระราชพธิ อี น่ื ๆ 18
เปดิ ธรรมท่ถี ูกปิด : เดรัจฉานวิชา นอกจากพรหมชาลสตู รและสามัญญผลสูตรท่ีมกี ารกล่าวถึง การหา้ มท�ำเดรัจฉานวิชาแลว้ ยงั มีปรากฏอยใู่ นสตู รอืน่ อีก คือ อัมพัฏฐสูตร ตรสั กบั อมั พัฏฐมาณพ (-บาลี สี. ท.ี ๙/๑๒๙/๑๖๓.), โสณทัณฑสตู ร ตรัสกับ โสณทัณฑพราหมณ์ (-บาลี สี. ท.ี ๙/๑๕๙/๑๙๕.), กฏู ทนั ตสตู ร ตรสั กับ กูฏทันตพราหมณ์ (-บาลี สี. ท.ี ๙/๑๘๘/๒๓๕.), มหาลิสูตร ตรัสกับ เจา้ โอฏฐัทธลจิ ฉวี (-บาลี ส.ี ที. ๙/๒๐๑/๒๕๕.), ชาลยิ สตู ร ตรสั กบั มณั ฑยิ ปรพิ าชกและชาลยิ ปรพิ าชก (-บาลี ส.ี ท.ี ๙/๒๐๓/๒๕๖.), มหาสีหนาทสูตร ตรัสกับ อเจลกัสสปะ (-บาลี สี. ที. ๙/๒๑๘/๒๗๐.), โปฏฐปาทสูตร ตรัสกับ โปฏฐปาทปริพาชก (-บาลี ส.ี ที. ๙/๒๒๖/๒๗๙.), สภุ สตู ร พระอานนทก์ ล่าวกับ สภุ มาณพโตเทยบุตร (-บาลี สี. ท.ี ๙/๒๕๔ /๓๑๙.), เกวฏั ฏสตู ร ตรสั กบั เกวัฏฏะ (ชาวประมง) (-บาลี สี. ท.ี ๙/๒๗๖/๓๔๒.), โลหิจจสูตร ตรัสกับ โลหิจจพราหมณ์ (-บาลี สี. ท.ี ๙/๒๙๓/๓๖๓.), เตวชิ ชสตู ร ตรสั กบั วาเสฏฐมาณพและภารทวาชมาณพ (-บาลี ส.ี ท.ี ๙/๓๑๐/๓๘๓.). 19
พทุ ธวจน - หมวดธรรม เปดิ ธรรมทีถ่ ูกปดิ : เดรัจฉานวชิ า อะไรคอื เดรจั ฉานกถา 04 -บาลี มหาวาร. ส.ํ ๑๙/๕๒๖/๑๖๖๓. ภิกษุทั้งหลาย ! เธอท้ังหลาย จงอย่ากล่าว เดรัจฉานกถาเห็นปานน้ี คือ พูดเร่ืองพระราชา เรื่องโจร เรอื่ งมหาอำ� มาตย์ เรอื่ งกองทพั เรอื่ งภยั เรอ่ื งการรบ เรอ่ื งขา้ ว เร่ืองน้�ำ เร่ืองผ้า เร่ืองท่ีนอน เรื่องดอกไม้ เร่ืองของหอม เรอ่ื งญาติ เรอื่ งยานพาหนะ เรอื่ งหมบู่ า้ น เรอ่ื งนคิ ม เรอ่ื งนคร เรอ่ื งชนบท เรอ่ื งสตรี เรอ่ื งบรุ ษุ เรอ่ื งคนกลา้ หาญ เรอื่ งตรอก เรอ่ื งทา่ นำ�้ เรอื่ งคนทลี่ ว่ งลบั ไปแลว้ เรอ่ื งเบด็ เตลด็ เรอ่ื งโลก เรอื่ งทะเล เรอ่ื งความเจรญิ และความเสอ่ื ม ดว้ ยประการนน้ั ๆ ข้อนนั้ เพราะเหตุไร เพราะถ้อยค�ำน้ีไม่ประกอบด้วยประโยชน์ ไม่ เป็นเง่ือนต้นของพรหมจรรย์ ไม่เป็นไปเพื่อความหน่าย ความคลายก�ำหนัด ความดับ ความร�ำงับ ความรู้ยิ่ง ความรพู้ ร้อม และนพิ พานเลย. 20
พุทธวจน - หมวดธรรม เปดิ ธรรมทถี่ กู ปิด : เดรัจฉานวชิ า พระพุทธเจา้ 05 เว้นขาดจากเดรัจฉานกถา -บาลี สี. ที. ๙/๑๐/๑๕. ภิกษุท้ังหลาย ! อีกอย่างหน่ึง เม่ือสมณะหรือ พราหมณ์บางพวก ฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ท่านเหล่านั้นยังกล่าวเดรัจฉานกถาเห็นปานน้ี คือ พูด เร่ืองพระราชา เรื่องโจร เรื่องมหาอ�ำมาตย์ เรื่องกองทัพ เรอื่ งภัย เร่ืองการรบ เรื่องข้าว เรือ่ งน�้ำ เรอื่ งผา้ เร่ืองท่ีนอน เร่ืองดอกไม้ เรื่องของหอม เร่ืองญาติ เร่ืองยานพาหนะ เร่ืองหมู่บ้าน เร่ืองนิคม เรื่องนคร เร่ืองชนบท เรื่องสตรี เรื่องบุรุษ เรื่องคนกล้าหาญ เร่ืองตรอก เร่ืองท่าน้�ำ เร่ือง คนที่ล่วงลับไปแล้ว เรื่องเบ็ดเตล็ด เร่ืองโลก เรื่องทะเล เรือ่ งความเจริญและความเสื่อม ดว้ ยประการนั้นๆ. สว่ นสมณโคดม เวน้ ขาดจากเดรจั ฉานกถาเหน็ ปานนี้ เสียแล้ว เม่ือปุถุชนจะกล่าวสรรเสริญตถาคต พึงกล่าว สรรเสรญิ อยา่ งน้.ี 21
พุทธวจน - หมวดธรรม เปดิ ธรรมที่ถกู ปดิ : เดรจั ฉานวชิ า ภิกษุในธรรมวินัยน้ี 06 เว้นขาดจากเดรจั ฉานกถา -บาลี สี. ท.ี ๙/๘๗/๑๑๐., -บาลี มหาวาร. ส.ํ ๑๙/๕๒๖/๑๖๖๓. ... เมอ่ื สมณะหรอื พราหมณบ์ างพวก ฉนั โภชนะทเี่ ขา ใหด้ ้วยศรทั ธาแล้ว ท่านเหล่าน้นั ยังกล่าวเดรจั ฉานกถาเหน็ ปานน้ี คือ พูดเรื่องพระราชา เร่ืองโจร เร่ืองมหาอ�ำมาตย์ เร่ืองกองทพั เรอ่ื งภัย เร่ืองการรบ เร่ืองขา้ ว เรื่องน�้ำ เร่ือง ผ้า เรือ่ งทีน่ อน เรอื่ งดอกไม้ เรือ่ งของหอม เรอื่ งญาติ เร่ือง ยานพาหนะ เรือ่ งหมูบ่ ้าน เรอื่ งนคิ ม เร่ืองนคร เรื่องชนบท เรอ่ื งสตรี เรอื่ งบรุ ษุ เรอ่ื งคนกลา้ หาญ เรอื่ งตรอก เรอ่ื งทา่ นำ้� เรอ่ื งคนทลี่ ว่ งลบั ไปแลว้ เรอ่ื งเบด็ เตลด็ เรอ่ื งโลก เรอื่ งทะเล เรื่องความเจรญิ และความเสอื่ ม ดว้ ยประการน้นั ๆ. ส่วนภิกษุในธรรมวินัยน้ี เว้นขาดจากเดรัจฉานกถา เหน็ ปานนเี้ สียแล้ว แม้นกี้ ็เป็นศลี ของเธอประการหน่ึง. ภิกษุทั้งหลาย ! พวกเธอทั้งหลาย จงอย่ากล่าว เดรัจฉานกถาเห็นปานนี้ คือ พูดเร่ืองพระราชา เร่ืองโจร เร่ืองมหาอำ� มาตย์ เรอ่ื งกองทัพ เรือ่ งภยั เรือ่ งการรบ เรือ่ ง ขา้ ว เรอ่ื งนำ้� เรอื่ งผา้ เรอื่ งทน่ี อน เรอ่ื งดอกไม้ เรอ่ื งของหอม เรอ่ื งญาติ เรอื่ งยานพาหนะ เรอื่ งหมบู่ า้ น เรอื่ งนคิ ม เรอ่ื งนคร 22
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272