Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore อุบลราชธานี ศรีวนาราม

อุบลราชธานี ศรีวนาราม

Description: อุบลราชธานี ศรีวนาราม เป็นหนังสืองานพระราชทานเพลิงศพ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (มานิต ถาวโร) วัดสัมพันธวงศ์ วรวิหาร กรุงเทพฯ วันที่ ๒๘ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๒

Search

Read the Text Version

อบุ ลราชธานศี รวี นาลัย I 1๙๙

๒00 I อบุ ลราชธานศี รวี นาลยั

อุบลราชธานศี รีวนาลัย I ๒01 ภาระหน้าทกี่ ารคณะ และการพระศาสนา สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (มานิต ถาวโร) ได้รับภาระหนา้ ทก่ี ารคณะธรรมยุตและการพระศาสนาหลายด้าน คือ เจา้ พระคุณสมเดจ็ ฯ เปน็ เลขานกุ ารเจา้ คณะธรรมยุต จังหวัดธนบรุ ี-นนทบุร-ี ปทมุ ธานี เมือ่ พ.ศ. ๒๔8๕ ตอ่ มาใน พ.ศ. ๒๔8๗ ไดร้ บั แตง่ ตง้ั เปน็ กรรมการตรวจบาลสี นามหลวง และเปน็ กรรมการตรวจธรรมสนามหลวง เม่ือ พ.ศ. ๒๔88 เจา้ พระคณุ สมเด็จฯ เปน็ พระวนิ ยั ธรจังหวดั เมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๙ ต่อมาในพ.ศ. ๒๕0๓ เป็นผูช้ ว่ ยหัวหน้า พระธรรมธรคณะธรรมยตุ เปน็ รองเจา้ คณะภาค 8- 10(ธรรมยตุ ) เมอ่ื พ.ศ. ๒๕11 ตอ่ มาใน พ.ศ. ๒๕1๖ ไดร้ บั แตง่ ตงั้ เป็นรองเจ้าคณะภาค 10 - 11 (ธรรมยุต) ครั้นถึง พ.ศ. ๒๕1๙ ได้รับแต่งต้ังเป็นผู้รักษาการเจ้าคณะภาค ๙ - 10 - 11 (ธรรมยตุ ) เปน็ เจ้าคณะภาค 11 (ธรรมยตุ ) เมอื่ วนั ท่ี 1๓ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕1๙10 10 กรมศลิ ปากร, เรื่องต้งั พระราชาคณะผู้ใหญค่ ร้งั กรงุ รตั นโกสนิ ทร์ เล่ม ๒ (กรุงเทพฯ: กรมศิลปากร, ๒๕๔๕), หน้า 1๙0.

๒0๒ I อุบลราชธานีศรีวนาลัย งานพิเศษอืน่ ๆ นอกจากเจ้าพระคุณสมเด็จฯ จะมีศาสนกจิ ประจ�าต่างๆ ดงั กลา่ วไปแลว้ เจา้ พระคณุ สมเดจ็ ฯ ยงั ไดป้ ฏิบตั ิ ศาสนกิจพเิ ศษอ่นื ๆ อีกเปน็ จ�านวนมาก ดงั สามารถสรุปไดด้ ังน้ี เจ้าพระคุณสมเด็จฯ ได้ไปปฏิบัติศาสนกิจเป็นครูสอนปริยัติธรรม ท่ีวัดสัตตนารถปริวัตร จังหวัดราชบุรี 1 ปี ในปีสุดท้ายของสงครามโลกครั้งที่ ๒ กรุงเทพมหานครถูกโจมตีทางอากาศอย่างหนัก ต้องหลบภัยไปพัก อยู่ที่วัดดอนโคสิตาราม อ�าเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร และช่วยสอนปริยัติธรรมที่วัดน้ันเป็นเวลา 1 ปี เมื่อสงครามโลกสงบลง ไปปฏิบตั ศิ าสนกจิ เปน็ ครูสอนปรยิ ัตธิ รรมท่วี ดั อาวธุ วิกสติ าราม (บางพลดั ) ธนบรุ ี ๒ ปี เจ้าพระคุณสมเด็จฯ ได้ไปบ�าเพ็ญวิปัสสนากรรมฐานแบบยุบหนอพองหนอและเรียนพระอภิธรรมกับ พระอาจารยพ์ ม่า ช่อื ภัททันตะ อวู ิลาสะ ท่ีวดั ปรก ถนนตก ๒ ครั้ง ๆ ละ 1 เดอื น เจ้าพระคุณสมเด็จฯ เป็นนักศึกษาสภาการศึกษามหามกุฏราชวิทยาลัยมหาวิทยาลัยพุทธศาสนารุ่นแรก เรยี นอยู่ ๓ ปี เปน็ กรรมการนา� ขอ้ สอบธรรมและบาลีไปเปดิ สอบตา่ งจงั หวดั แทนแมก่ องธรรมสนามหลวง และแมก่ อง บาลีสนามหลวง ใน พ.ศ. ๒๕1๕ เจ้าพระคณุ สมเดจ็ ฯ ได้ไปนมัสการสังเวชนยี สถานท้งั ๔ ตา� บล ทปี่ ระเทศอินเดีย พ.ศ. ๒๕18 เจา้ พระคณุ สมเดจ็ ฯ ไปนมสั การปชู นยี วตั ถุ และปชู นยี สถานมพี ระทนั ตธาตเุ ปน็ ตน้ ทปี่ ระเทศ ศรีลังกา พ.ศ. ๒๕๒1 เจา้ พระคณุ สมเด็จฯ ไดร้ ับการแต่งตั้งเป็นกรรมการมหาเถรสมาคม และเปน็ มาจนมรณภาพ พ.ศ. ๒๕๓๓ เจ้าพระคุณสมเด็จฯ เดินทางไปตรวจการคณะสงฆ์ เยี่ยมวัดไทย และประชาชนชาวไทย ในประเทศสหรัฐอเมริกา พ.ศ. ๒๕๓๕ เจ้าพระคุณสมเด็จฯ ได้เป็นกรรมการตรวจช�าระพิมพ์อรรถกถาพระไตรปิฎกถวายสมเด็จ พระนางเจา้ สริ ิกติ ิ์ พระบรมราชินีนาถ ในวโรกาสท่ีทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ ๕ รอบ พ.ศ. ๒๕๓๕ เจ้าพระคุณสมเดจ็ ฯ เป็นพระอปุ ชั ฌายอ์ ปุ สมบทพระภิกษุ จ�านวน ๗0 รูป เฉลมิ พระเกยี รติ สมเดจ็ พระนางเจา้ สิรกิ ติ ิ์ พระบรมราชนิ นี าถ ในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ ๕ รอบ

อุบลราชธานีศรวี นาลัย I ๒0๓ เจา้ พระคุณสมเดจ็ ฯ ในวาระตา่ งๆ

๒0๔ I อุบลราชธานีศรีวนาลัย พ.ศ. ๒๕๓๕ เจา้ พระคณุ สมเด็จฯ เป็นหวั หนา้ พระธรรมทูตสายที่ ๕ พ.ศ. ๒๕๓๗ เจ้าพระคุณสมเด็จฯ เป็นประธานด�าเนินการสร้าง พระพุทธสันติสุขไพศาลอุดมมงคล จกั วาฬประสิทธิ์ ขนาดหนา้ ตกั กว้าง ๕.๖ เมตร สงู 10.๔0 เมตร ประดิษฐาน ณ วัดบ้านเก่าบ่อ อ�าเภอหวั ตะพาน จังหวัดอ�านาจเจรญิ จนแลว้ เสรจ็ จัดใหม้ ีพธิ ีสมโภช เม่ือวันท่ี ๒8 – ๒๙ ธนั วาคม ๒๕๓๙ ในการนี้ เจา้ พระคุณ สมเดจ็ พระญาณสงั วร สมเดจ็ พระสงั ฆราช สกลมหาสงั ฆปรณิ ายก ทรงประทานพระบรมสารรี กิ ธาตไุ ปบรรจใุ นองคพ์ ระ พ.ศ. ๒๕๔๒ เจ้าพระคุณสมเดจ็ ฯ จัดโครงการ และเปน็ พระอุปัชฌายบ์ รรพชาอุปสมบทพระภกิ ษุสามเณร จ�านวน ๔1 รูป เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในวโรกาส ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ ๖ รอบ ๗๒ พรรษา ณ วัดสัมพนั ธวงศาราม วรวิหาร พระอารามหลวง พ.ศ. ๒๕๔๓ เจา้ พระคณุ สมเดจ็ ฯ เปน็ ประธานเจา้ คณะภาค 8–๙–10–11(ธรรมยตุ ) เปน็ ประธานจดั ประชมุ พระสังฆาธกิ าร และตรวจธรรมสนามหลวงชน้ั ตรี ภาค 8–๙–10–11 (ธรรมยตุ ) ซ่งึ ในแต่ละปมี พี ระสังฆาธิการ เข้าร่วมประชุมประมาณ 1,๕00 รูป พ.ศ. ๒๕๔๖ เจ้าพระคุณสมเด็จฯ เป็นประธานด�าเนินการสร้างถาวรเจติยมหาวิหาร ท่ีวัดบ้านเก่าบ่อ อา� เภอหวั ตะพานจงั หวดั อา� นาจเจรญิ จนแลว้ เสรจ็ และจดั ใหม้ พี ธิ สี มโภชและบรรจพุ ระบรมสารรี กิ ธาตทุ ยี่ อดองคเ์ จดยี ์ เม่อื วันท่ี ๒8 – ๒๙ ธนั วาคม ๒๕๔๖ พ.ศ. ๒๕๔๖ เจา้ พระคณุ สมเดจ็ ฯ ไดร้ บั ปรญิ ญาดษุ ฎบี ณั ฑติ กติ ตมิ ศกั ดิ์ สาขาพทุ ธศาสตร์จากมหาวทิ ยาลยั มหามกุฏราชวทิ ยาลัย พ.ศ. ๒๕๔๙ เจา้ พระคุณสมเด็จฯ จัดโครงการและเป็นพระอุปชั ฌายบ์ รรพชาอปุ สมบทพระภิกษุสามเณร จ�านวน ๖0 รูป เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในวโรกาส ทรงครองสิริราชสมบัตคิ รบ ๖0 ปี วันที่ ๙ มิถนุ ายน ๒๕๔๙ เป็นต้น

อบุ ลราชธานศี รวี นาลัย I ๒0๕

๒0๖ I อบุ ลราชธานศี รวี นาลยั

อบุ ลราชธานีศรวี นาลัย I ๒0๗ เจา้ พระคณุ สมเดจ็ ฯ เม่อื คร้งั เดนิ ทางไปเมอื งเกา่ จงั หวดั สโุ ขทยั

๒08 I อุบลราชธานศี รวี นาลยั พระพุทธสนั ตสิ ุขไพศาล อดุ มมงคลจกั รวาฬประสิทธ์ิ ซงึ่ เจ้าพระคณุ สมเดจ็ ฯ ไดต้ ง้ั ชื่อ ประดษิ ฐานอยู่ใน “ถาวรเจติยมหาวิหาร” ภายในวัดบ้านเก่าบอ่ ต�าบลหนองแก้ว อา� เภอหัวตะพาน จังหวัดอ�านาจเจรญิ ซึง่ เจา้ พระคณุ สมเด็จฯ ทรงอปุ ถัมภก์ ารบรู ณะ เมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๕

อุบลราชธานีศรีวนาลยั I ๒0๙ ภายในพระอุโบสถใหม่วดั บ้านเกา่ บ่อ ซงึ่ เรียกวา่ “อโุ บสถการเปรยี ญพพิ ธิ ภณั ฑห์ นุ่ ข้ผี ึง้ ” ซ่งึ สรา้ งครอบอโุ บสถเดมิ ของวัดบ้านเกา่ บ่อ ต�าบลหนองแกว้ อา� เภอหวั ตะพาน จงั หวัดอ�านาจเจรญิ ปจั จุบนั พระครูภาวนากิจจาทร ว.ิ (เกษม กตกจิ โฺ จ) เป็นเจ้าอาวาส

๒10 I อบุ ลราชธานศี รวี นาลัย พระประธานในอุโบสถการเปรยี ญพพิ ธิ ภัณฑห์ นุ่ ขผี้ ึ้ง วัดบา้ นเกา่ บอ่ ต�าบลหนองแกว้ อา� เภอหวั ตะพาน จังหวดั อา� นาจเจรญิ

อบุ ลราชธานศี รีวนาลยั I ๒11 พระพุทธรัตนมงคลสมเดจ็ หลวงพอ่ นาคองค์แสนภายในวดั บา้ นเกา่ บ่อ อา� เภอหัวตะพาน จงั หวดั อา� นาจเจริญ

๒1๒ I อบุ ลราชธานศี รวี นาลยั

อุบลราชธานีศรีวนาลยั I ๒1๓ ตำาแหน่งหนา้ ทีส่ าำ คัญ ของสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (มานติ ถาวโร) เจา้ พระคณุ สมเดจ็ ฯ มตี า� แหนง่ หนา้ ทส่ี า� คญั ตา่ งๆ ในการปกครองคณะสงฆ์ ไดแ้ ก่ เปน็ เจา้ อาวาสวดั สมั พนั ธวงศาราม กรุงเทพมหานคร เปน็ ที่ปรกึ ษาเจ้าคณะภาค 11 (ธรรมยุต) เป็นกรรมการมหาเถรสมาคม เปน็ คณะผ้ปู ฏิบตั ิหน้าที่ สมเด็จพระสังฆราช เป็นกรรมการเถรสมาคมธรรมยุต เป็นกรรมการมูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัย เป็นประธาน คณะกรรมการศึกษาสงเคราะห์ เป็นประธานคณะกรรมการพิจารณาตั้งช่ือวัด เป็นกรรมการอ�านวยการจัดงาน ปฏิบัติธรรมเฉลมิ พระเกียรติ ณ พุทธมณฑล เป็นประธานกรรมการฝา่ ยสงฆ์ มูลนธิ สิ จุ ิณโณอนุสรณ์ เปน็ ประธาน กรรมการฝ่ายสงฆ์ มลู นธิ หิ ลวงปูแ่ หวน สุจิณโฺ ณ เปน็ ประธานท่ปี รกึ ษาฝา่ ยสงฆ์ มลู นธิ ิโรงเรียนวัดสัมพนั ธวงศาราม สงั กดั กรงุ เทพมหานคร เปน็ ประธานทปี่ รกึ ษาคณะสงฆธ์ รรมยตุ ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื เปน็ ทปี่ รกึ ษาคณะกรรมการ ความมน่ั คงแหง่ พระพุทธศาสนา และเปน็ ท่ีปรกึ ษาคณะกรรมการปฏิรปู การศกึ ษา11 เปน็ ต้น 11 กรมศิลปากร, เรอื่ งต้งั พระราชาคณะผ้ใู หญค่ รง้ั กรุงรัตนโกสนิ ทร์ เล่ม ๒ (กรงุ เทพฯ: กรมศลิ ปากร, ๒๕๔๕), หน้า 1๙1.

๒1๔ I อบุ ลราชธานีศรีวนาลัย จาก “พระอริยเมธี” สู่ “สมเดจ็ พระมหาวีรวงศ์” รปู ท่ี ๗ แหง่ กรงุ รัตนโกสินทร์ ด้วยเหตุท่ีสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (มานิต ถาวโร) ได้รับภาระหน้าที่ส�าคัญในการคณะธรรมยุตและ การพระศาสนาตา่ งๆ เปน็ จา� นวนมาก เจา้ พระคณุ สมเดจ็ ฯ จงึ ไดร้ บั พระราชทานสมณศกั ดต์ิ อ่ เนอื่ งมาโดยลา� ดบั ดงั น้ี พระอรยิ เมธี (มานติ ถาวโร) วันที่ ๕ ธันวาคม ๒๔๙๙ เจ้าพระคุณสมเดจ็ ฯ ได้รับพระราชทานสมณศกั ดิ์เปน็ พระราชาคณะชนั้ สามัญที่ พระอรยิ เมธี ดงั ปรากฏในแจง้ ความสา� นกั คณะรฐั มนตรี เรอ่ื งพระราชทานสญั ญาบตั รตงั้ สมณศกั ด์ิ ในราชกจิ จานเุ บกษา เลม่ ๗๔ ตอนท่ี ๖ 1๒ มกราคม ๒๕00 ฉบับพเิ ศษ หนา้ 10 ว่า “...ดว้ ยทรงพระกรณุ าโปรดพระราชทานสญั ญาบตั รตง้ั สมณศกั ดิ์ ในโอกาสพระราชพธิ เี ฉลมิ พระชนมพรรษา วันที่ ๕ ธนั วาคม ๒๔๙๙ คือ ให้... พระมหามานิต ๙ ประโยค วัดสมั พันธวงศ์ เปน็ พระราชาคณะมีนามวา่ พระอรยิ เมธ.ี ..”1๒ 1๒ ราชกจิ จานเุ บกษา ตอนท่ี ๖ ง ฉบับพิเศษ, เลม่ ๗๔, วันที่ 1๒ มกราคม ๒๕00, หนา้ 10.

อบุ ลราชธานศี รวี นาลัย I ๒1๕

๒1๖ I อุบลราชธานีศรีวนาลยั พระราชกวี (มานติ ถาวโร) วันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕0๗ เจ้าพระคุณสมเด็จฯ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะช้ันราชท่ี พระราชกวี ดงั ปรากฎหลักฐานในราชกิจจานุเบกษา วา่ “ด้วยทรงพระกรุณาโปรดพระราชทานสัญญาบตั รต้ังสมณศักดิ์ในโอกาสพระราชพธิ ีเฉลมิ พระชนมพรรษา วันท่ี ๕ ธนั วาคม ๒๕๐๗ คอื ให้... ...พระอรยิ เมธี เป็น พระราชกวี นรสีหพจนปิลนั ธน์ กันตธุรบัณฑติ ยตคิ ณสิ สร บวรสงั ฆาราม คามวาสี พระราชาคณะช้ันราช สถติ ณ วัดสมั พนั ธวงศ์ วรวหิ าร พระอารามหลวง ปฎั นานศุ กั ด์ิตงั้ ฐานานุกรมได้ ๔ รูป คือ พระครูปลัด ๑ พระครูสังฆรักษ์ ๑ พระครูสมหุ ์ ๑ พระครใู บฎกี า ๑...”๑๓ 1๓ ราชกจิ จานเุ บกษา ตอนที่ ๑๑๘ ง ฉบับพิเศษ, เลม่ ๘๑, วนั ท่ี 1๗ ธันวาคม ๒๕0๗, หน้า ๓.

อบุ ลราชธานศี รวี นาลัย I ๒1๗

๒18 I อุบลราชธานีศรวี นาลยั พระเทพปญั ญามนุ ี (มานิต ถาวโร) วันท่ี ๕ ธันวาคม ๒๕1๔ เจ้าพระคุณสมเด็จฯ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นเทพที่ พระเทพปญั ญามุนี ดงั ปรากฏในแจง้ ความสา� นกั คณะรฐั มนตรี เรอ่ื งพระราชทานสญั ญาบตั รตง้ั สมณศกั ดิ์ ในราชกจิ จานเุ บกษา ฉบับพิเศษ เล่ม 88 ตอนท่ี 1๕1 ง วนั ที่ ๓1 ธันวาคม ๒๕1๔ หน้า ๓ วา่ “...ดว้ ยทรงพระกรณุ าโปรดพระราชทานสญั ญาบตั รตงั้ สมณศกั ด์ิ ในโอกาสพระราชพธิ เี ฉลมิ พระชนมพรรษา วันท่ี ๕ ธันวาคม ๒๕๑๔ คอื ให้... พระราชกวี เป็น พระเทพปญั ญามนุ ี ตรปี ิฎกบัณฑติ ศาสนกจิ ธุราทร ยติคณสิ สร บวรสงั ฆาราม คามวาสี พระราชาคณะชน้ั เทพ สถิต ณ วัดสมั พนั ธวงศ์ วรวิหาร พระอารามหลวง มฐี านานศุ ักดติ์ ง้ั ฐานานกุ รมได้ ๕ รูป คอื พระครปู ลัด ๑ พระครูวินยั ธร ๑ พระครูสังฆรักษ์ ๑ พระครูสมุห์ ๑ พระครใู บฎกี า ๑...”1๔ 1๔ ราชกจิ จานเุ บกษา ตอนท่ี ๑๕๑ ง ฉบับพเิ ศษ, เลม่ ๘๘, วนั ท่ี ๓1 ธันวาคม ๒๕1๔, หนา้ ๓.

อบุ ลราชธานศี รวี นาลัย I ๒1๙

๒๒0 I อุบลราชธานศี รวี นาลัย พระธรรมบัณฑติ (มานิต ถาวโร) ๕ ธันวาคม ๒๕1๙ เจ้าพระคุณสมเด็จฯ ได้รับพระราชทานสมณศักด์ิเป็นพระราชาคณะชั้นธรรมท่ี พระธรรมบัณฑติ ดงั ปรากฏในแจง้ ความสา� นกั คณะรฐั มนตรี เรอื่ งพระราชทานสญั ญาบตั รตงั้ สมณศกั ดิ์ ในราชกจิ จานเุ บกษา ฉบบั พิเศษ เลม่ ๙๔ ตอนที่ ๓ ง วันที่ ๖ มกราคม ๒๕๒0 หนา้ 1 – ๒ วา่ “...ดว้ ยทรงพระกรณุ าโปรดพระราชทานสญั ญาบตั รตงั้ สมณศกั ดิ์ ในโอกาสพระราชพธิ เี ฉลมิ พระชนมพรรษา วันท่ี ๕ ธันวาคม ๒๕๑๙ คอื ให.้ .. พระเทพปัญญามุนี เป็น พระธรรมบัณฑิต วิจิตรปฏิภาณสุโกศล วิมลคัมภีรญาณ นิเทศกาจารย์วิภูสิต ยตคิ ณิสสร บวรสงั ฆาราม คามวาสี พระราชาคณะช้ันธรรม สถติ ณ วดั สมั พันธวงศ์ วรวิหาร พระอารามหลวง มีฐานานุศักด์ิตั้งฐานานุกรมได้ ๖ รูป คือ พระครูปลัดเมธาวัฒน์ ๑ พระครูวินัยธร ๑ พระครูธรรมธร ๑ พระครูสงั ฆรกั ษ์ ๑ พระครสู มหุ ์ ๑ พระครูใบฎกี า ๑...”1๕ 1๕ ราชกจิ จานเุ บกษา ตอนท่ี ๓ ง ฉบบั พเิ ศษ, เลม่ ๙๔, วนั ที่ ๖ มกราคม ๒๕๒0, หนา้ 1 – ๒.

อบุ ลราชธานศี รวี นาลัย I ๒๒1

๒๒๒ I อุบลราชธานีศรีวนาลยั พระอดุ มญาณโมลี (มานติ ถาวโร) ตอ่ มาในวนั ท่ี ๕ ธันวาคม ๒๕๓๒ เจา้ พระคณุ สมเด็จฯ ไดร้ ับการสถาปนาเปน็ รองสมเด็จพระราชาคณะที่ พระอดุ มญาณโมลี สลี าจารวราภรณ์ สาทรหติ านหุ ติ วมิ ล โสภณธรรโมวาทานสุ าสนี ตรปี ฎิ กบณั ฑติ ธรรมยตุ กิ คณสิ สร บวรสังฆาราม คามวาสี ดังปรากฏในพระบรมราชโองการ ประกาศสถาปนาสมณศกั ดิ์ ในราชกจิ จานุเบกษา ฉบับพเิ ศษ เล่ม 10๗ ตอนท่ี 1๓8 ก วันท่ี ๖ สงิ หาคม ๒๕๓๓ หนา้ ๒0 – ๒๓ วา่ “...พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามิน ทราธิราช บรมนาถบพติ ร มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ประกาศว่า โดยท่ีทรงพระราชด�าริว่า พระสงฆ์ซึ่ง ด�ารงในสมณคุณ มอี ุปการะยิ่งแก่การพระศาสนา สมควรจะได้เลื่อนอสิ รยิ ฐานนั ดรในสมณศักดสิ์ งู ข้ึน มีอยู่ บดั นี้ จวบกาลมหามงคลสมยั เฉลิมพระชนมพรรษา ควรจะสถาปนาอสิ ริยยศพระสงฆ์ขนึ้ ไว้ เพือ่ จกั ไดบ้ ริหารพระศาสนา ให้เจรญิ รุ่งเรอื งสถาพรสืบไป... ...อนง่ึ ทรงพระราชด�ารวิ ่า พระธรรมบัณฑิต เปน็ พระเถระผเู้ จริญในสมณพรหมจรรย์ ไดศ้ ึกษาช�านาญใน มคธปรวิ รรตนวธิ ี มปี รชี าญาณแตกฉานรอบรใู้ นพระปรยิ ตั ธิ รรมอรรถธรรมวนิ ยั ไตรปฎิ กสตุ าคม อดุ มปญั ญา สามารถ สอบไล่ไดเ้ ปน็ เปรยี ญธรรม ๙ ประโยค ทรงพระกรุณาโปรดให้เปน็ พระราชาคณะที่ พระอริยเมธี แล้วใหเ้ ลือ่ นเปน็ ชน้ั ราชท่ี พระราชกวี เปน็ ชน้ั เทพท่ี พระเทพปญั ญามนุ ี และเปน็ ชน้ั ธรรมที่ พระธรรมบณั ฑติ โดยลา� ดบั มา กส็ งั วรรกั ษา สมณคุณสมบัติและระเบยี บปฏบิ ตั ปิ ระเพณีราชการไดเ้ รยี บรอ้ ย เปน็ อย่างดี มีพรหมจริยาวัตรสลี สมาจารสมบรู ณ์ บรสิ ทุ ธิ์ ประกอบพทุ ธศาสนกจิ เปน็ อตั หติ ปรหติ จรรยาไพศาล แกพ่ ทุ ธจกั รและอาณาจกั รสามารถจดั การศกึ ษาภาษาบาลี และนักธรรมให้จ�าเรญิ รงุ่ เรืองเป็นล�าดบั มา กล่าวคือ ดา้ นการปกครองคณะสงฆ์ เป็นรองเจา้ อาวาสและเจา้ อาวาส วดั สมั พนั ธวงศ์ เป็นเลขานุการเจ้าคณะธรรมยุตจังหวัดธนบุรี – นนทบุรี – ปทุมธานี เป็นพระวินัยธรจังหวัด เปน็ รองเจา้ คณะธรรมยุตภาค ๘ และ ๑๐ เปน็ ผรู้ กั ษาการเจ้าคณะธรรมยตุ ภาค ๙ – ๑๐ – ๑๑ เป็นเจา้ คณะธรรมยตุ ภาค ๑๑ เปน็ กรรมการเถรสมาคมธรรมยตุ เปน็ กรรมการคณะธรรมยตุ เปน็ กรรมการอา� นวยการมหามกฏุ ราชวทิ ยาลยั เป็นกรรมการมหาเถรสมาคม เป็นพระอปุ ัชฌายะ ดา้ นการศึกษา จัดการศึกษาพระปริยตั ธิ รรมทงั้ บาลีและนกั ธรรม ของวดั ใหเ้ จริญรุง่ เรือง สามารถมภี ิกษุสามเณรเป็นเปรยี ญธรรม ต้ังแต่ ๓ ประโยคถงึ ๙ ประโยค ในสว่ นราชการ ไดร้ ว่ มกบั กรุงเทพมหานครจดั การศกึ ษาของเยาวชน และจดั สร้างอาคารเรียนขึน้ ในวดั เป็นอาคารใหญ่ สงู ๔ ชัน้

อุบลราชธานศี รวี นาลยั I ๒๒๓ และไปจัดด�าเนินงานสร้างอาคารเรียนพระปริยัติธรรมที่อ�าเภอหัวสะพาน จังหวัดอุบลราชธานี เป็นครูปริยัติธรรม เปน็ ครใู หญ่ เปน็ อาจารย์ใหญ่ และผอู้ า� นวยการศกึ ษาสา� นกั เรยี นวดั สมั พนั ธวงศ์ เปน็ กรรมการตรวจธรรมสนามหลวง เป็นกรรมการตรวจบาลีสนามหลวง เป็นกรรมการสภาการศกึ ษามหามกฏุ ราชวิทยาลยั เป็นหัวหนา้ แผนกกองตา� รา มหามกฏุ ราชวทิ ยาลยั เปน็ กรรมการอา� นวยการและวทิ ยากรโรงเรยี นพระสงั ฆาธกิ ารชนั้ ตน้ และชนั้ สงู ของคณะธรรมยตุ ไปเปน็ ครสู อนพระปรยิ ตั ธิ รรมทวี่ ดั สตั ตนารถปรวิ ตั รจงั หวดั ราชบรุ ีวดั ดอนโคจงั หวดั สมทุ รสาครวดั อาวธุ วกิ สติ าราม กรงุ เทพมหานคร และเปน็ กรรมการนา� ขอ้ สอบธรรมและบาลีไปเปดิ สอบในภมู ภิ าคแทนแมก่ องธรรมและแมก่ องบาลี เปน็ ผแู้ ทนสมเดจ็ พระมหาวรี วงศ์ หวั หนา้ พระธรรมทตู สาย ๕ ไปประชมุ อบรมและอา� นวยการงานพระธรรมทตู เปน็ นกั ศกึ ษาสภาการศกึ ษามหามกฏุ ราชวทิ ยาลยั มหาวทิ ยาลยั พระพทุ ธศาสนา รนุ่ แรก ดา้ นสาธารณปู การ เปน็ ประธาน สร้างพระอุโบสถ วัดสัมพันธวงศาราม สืบต่อจากอดีตเจ้าอาวาส จัดสร้างเสนาสนะกุฎีที่พักพระสงฆ์ที่ช�ารุดและ สร้างใหม่ให้เป็นอาคารม่นั คงถาวร เป็นประธานกรรมการปรับปรงุ การจัดผลประโยชน์ในที่ดนิ ของวัด เป็นประธาน กรรมการหาทุนจัดสร้างอาคารสุจิณฺโณ สูง ๑๕ ชั้น เป็นอาคารรักษาพยาบาลท่ีทันสมัยของประเทศแห่งหนึ่งใน โรงพยาบาลมหาราช นครเชียงใหม่ สร้างเป็นอนุสรณ์แด่หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ ที่เจริญอายุครบ ๙๖ พรรษา การสงั คมสงเคราะห์ เปน็ ประธานกรรมการมลู นธิ ิหลวงป่แู หวน สุจิณโฺ ณ ฝา่ ยสงฆ์ เป็นประธานกรรมการท่ีปรกึ ษา สร้างวัดป่าชัยรังสี จังหวัดสมุทรสาคร เป็นกรรมการจัดสร้างโรงพยาบาลพระอาจารย์จันทร์ คเวสโก และสร้าง โรงเรยี นมธั ยม ทถี่ า�้ วงั หนิ อา� เภอบอ่ พลอยจงั หวดั กาญจนบรุ ี เปน็ กรรมการจดั การศกึ ษานกั ธรรมบาลี ทว่ี ดั ปา่ ชยั รงั สี จงั หวดั สมทุ รสาคร เป็นกรรมการควบคมุ การจดั ขา้ วของแจกสาธารณประโยชนร์ ว่ มกับวัดป่าชัยรงั สี เปน็ กรรมการ สร้างตึกสงฆ์อาพาธ โรงพยาบาลบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี เป็นกรรมการสร้างอาคารหอประชุมมหาจุฬาลงกรณ ราชวทิ ยาลัยในพระบรมราชปู ถมั ภ์ วิทยาเขตสรุ นิ ทร์ เปน็ กรรมการสร้างอโุ บสถวดั ปราสาทจอมพระ จังหวดั สรุ นิ ทร์ เปน็ ประธานกรรมการมลู นธิ ิโรงเรยี นสมั พนั ธวงศ์ เปน็ กรรมการอา� นวยการสรา้ งพทุ ธมณฑล เปน็ ประธานจดั ใหม้ กี าร อบรมลูกเสือชาวบ้าน ค่ายสัมพันธวงศ์ เป็นประธานที่ปรึกษาสมาคมสัมพันธวงศ์ ด้านการต่างประเทศ ได้เป็น คณะพระอนุจรตามเสด็จสมเด็จพระสังฆราชไปปฏิบัติศาสนกิจ และสังเกตการณ์พระศาสนาที่ประเทศศรีลังกา อนิ เดยี เนปาล พมา่ สงิ คโปร์ มาเลเซยี และฮ่องกง

๒๒๔ I อบุ ลราชธานีศรีวนาลัย อนง่ึ พระธรรมบณั ฑติ เปน็ ผเู้ อาใจใส่ในการอบรมสงั่ สอนศลี ธรรมแกป่ ระชาชน โดยไดแ้ สดงธรรมและรจนา หนงั สอื ธรรมะ สารคดี บทความเก่ียวดว้ ยศลี ธรรมท้งั ท่ีเป็นรอ้ ยแก้วและร้อยกรอง พิมพ์ออกเผยแพร่เป็นประโยชน์ แกพ่ ระศาสนาและประชาชนเปน็ อนั มาก สรรพกรณยี กจิ ซงึ่ พระธรรมบณั ฑติ ไดร้ บั ภาระปฏบิ ตั บิ า� เพญ็ โดยลา� ดบั ดง่ั พรรณนามา ปรากฏเปน็ ผลดแี ก่ พระศาสนา ประเทศชาติและประชาชน เป็นที่ประจักษ์อยู่แล้ว บัดน้ี พระธรรมบัณฑิต ก็เจริญด้วยพรรษายุกาล วัยวุฒิ รัตตัญญูเถรกรณธรรม ม่ันคงอยู่ในเนกขัมมปฏิบัติ เป็นอจลพรหมจริยาภิรัต มีวัตจริยาเป็นท่ีน่าเล่ือมใส เปน็ หลกั อยู่ในคณะสงฆ์รปู หน่ึง สมควรจะยกย่องให้ดา� รงในสมณฐานนั ดรสูงขนึ้ จงึ มีพระบรมราชโองการโปรดสถาปนา พระธรรมบัณฑิต ขน้ึ เป็นพระราชาคณะเจา้ คณะรอง มรี าชทนิ นาม ตามที่จารึกในหิรัณยบัฏว่า พระอุดมญาณโมลี สีลาจารวราภรณ์ สาทรหิตานุหิตวิมล โสภณธรรโมวาทานุสาสนี ตรีปิฎกบัณฑิต ธรรมยุติกคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี สถิต ณ วัดสัมพันธวงศ์วรวิหาร พระอารามหลวง มฐี านานศุ กั ดต์ิ งั้ ฐานานกุ รมได้ ๘ รปู คอื พระครปู ลดั สวุ ฒั นมงคลคณุ อดลุ ศาสนภารธรุ าทร บวรธรรมยตุ กิ คณานนุ ายก ๑ พระครวู นิ ัยธร ๑ พระครูธรรมธร ๑ พระครสู รพจนพ์ ลิ าศ พระครูคสู่ วด ๑ พระครสู รพาจนพ์ ิไล พระครคู สู่ วด ๑ พระครสู งั ฆกิจบรรหาร ๑ พระครูสมหุ ์ ๑ พระครใู บฎีกา ๑...” 1๖ 1๖ ราชกจิ จานุเบกษา ตอนท่ี ๑๓๘ ก ฉบับพเิ ศษ, เล่ม ๑๐๗, วนั ที่ ๖ สิงหาคม ๒๕๓๓, หนา้ 1 – ๒.

อบุ ลราชธานศี รวี นาลัย I ๒๒๕

๒๒๖ I อบุ ลราชธานศี รวี นาลยั

อบุ ลราชธานศี รวี นาลัย I ๒๒๗

๒๒8 I อบุ ลราชธานศี รวี นาลยั

อบุ ลราชธานศี รวี นาลัย I ๒๒๙

๒๓0 I อุบลราชธานีศรวี นาลัย สมเด็จพระมหาวรี วงศ์ (มานิต ถาวโร) ๕ ธนั วาคม ๒๕๔๔ เจา้ พระคณุ สมเดจ็ ฯ ไดร้ บั การสถาปนาเปน็ สมเดจ็ พระราชาคณะที่ สมเดจ็ พระมหาวรี วงศ์ จาตุรงคประธานวิสุต พุทธพจนมธุรธรรมวาที ตรีปิฎกปริยัติโกศล วิมลศีลาจารวัตร พุทธบริษัทปสาทกร ธรรมยุตติกคณสิ สร บวรสงั ฆาราม คามวาสี อรณั ยวาสี สมเด็จพระราชาคณะ ดงั ปรากฏในพระบรมราชโองการ ประกาศสถาปนาสมณศกั ด์ิ ในราชกิจจานเุ บกษา ฉบบั พเิ ศษ เลม่ 118 ตอนที่ ๒๔ ข วนั ท่ี ๗ ธันวาคม ๒๕๔๔ หน้า ๔ – ๗ ว่า “...พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช มหติ ลาธเิ บศรรามาธบิ ดีจกั รนี ฤบดนิ ทร สยามนิ ทราธริ าช บรมนาถบพติ ร มพี ระบรมราชโองการโปรดเกลา้ โปรดกระหมอ่ มใหป้ ระกาศวา่ โดยทท่ี รงพระราชดา� รวิ า่ พระสงฆซ์ งึ่ ดา� รงใน สมณคณุ มอี ุปการะยง่ิ แกก่ ารพระศาสนา สมควรจะได้เลอื่ นอสิ รยิ ฐานันดรในสมณศักด์สิ งู ข้ึน มีอยู่ บัดน้ี จวบกาล มหามงคลสมยั เฉลมิ พระชนมพรรษา ควรจะสถาปนาอิสริยยศพระสงฆข์ น้ึ ไว้ เพอื่ จกั ได้บรหิ ารพระศาสนาให้เจริญ รงุ่ เรืองสถาพรสืบไป... จง่ึ ทรงพระราชดา� รวิ า่ พระอดุ มญาณโมลี เปน็ พระเถระผเู้ จรญิ ในสมณคณุ ยนิ ดีในเนกขมั ปฏบิ ตั ิ สมบรู ณด์ ว้ ย ศีลาจารวัตร รัตตัญญูมหาเถรกรณธรรมมั่นคงตลอดมาช้านาน ได้ประกอบกรณียกิจเป็นหิตานุหิตประโยชน์แก่ พระพทุ ธศาสนาและพระราชอาณาจกั รอยา่ งไพศาล ดงั่ ความพสิ ดารปรากฏในประกาศสถาปนาเปน็ ทพ่ี ระราชาคณะ เจ้าคณะรอง เมอ่ื วนั ที่ ๕ ธนั วาคม พุทธศกั ราช ๒๕๓๒ แลว้ นั้น ครนั้ ตอ่ มา พระอดุ มญาณโมลี ยง่ิ เจรญิ ดว้ ยอตุ สาหะวริ ยิ าธคิ ณุ มิไดท้ อ้ ถอย สามารถประกอบพทุ ธศาสนกจิ ใหเ้ จรญิ กา้ วหนา้ ยงิ่ ขน้ึ โดยลา� ดบั กลา่ วคอื ดา้ นการบรหิ ารและปกครองคณะสงฆ์ ยงั ดา� รงตา� แหนง่ หนา้ ทส่ี า� คญั อาทิ เป็นเจา้ อาวาสวัดสัมพนั ธวงศาราม เปน็ พระอปุ ัชฌาย์ เป็นกรรมการมหาเถรสมาคม เป็นท่ีปรึกษาเจ้าคณะภาค ๑๑ (ธรรมยุต) กรรมการเถรสมาคมธรรมยุต เป็นประธานท่ีปรึกษาคณะสงฆ์ธรรมยุตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็น กรรมการบรหิ ารคณะธรรมยตุ และเปน็ กรรมการบรหิ ารมลู นธิ มิ หามกฏุ ราชวทิ ยาลยั ในพระบรมราชปู ถมั ภ์ มผี ลงาน จดั ระเบยี บและสง่ เสรมิ พฒั นาคณะสงฆ์ในสว่ นทเี่ กย่ี วขอ้ งไดเ้ รยี บรอ้ ยตลอดมา ดา้ นการศกึ ษา เปน็ ผอู้ า� นวยการศกึ ษา และเปน็ ครสู อนพระปรยิ ตั ธิ รรมประจา� สา� นกั เรยี นวดั สมั พนั ธวงศาราม เปน็ กรรมการตรวจธรรมสนามหลวงและบาลี สนามหลวง เปน็ กรรมการตรวจชา� ระพมิ พอ์ รรถกถาพระไตรปฎิ ก เพอื่ เฉลมิ พระเกยี รตสิ มเดจ็ พระนางเจา้ ฯ พระบรม

อุบลราชธานศี รีวนาลยั I ๒๓1 ราชินนี าถ เนอื่ งในวโรกาสมหามงคลเฉลมิ พระชนมพรรษา ๕ รอบ เป็นกรรมการกองต�ารามหามกุฏราชวทิ ยาลยั เป็นกรรมการมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย เป็นประธานคณะกรรมการศึกษาสงเคราะห์ และเป็นที่ปรึกษา คณะกรรมการปฏิรูปการศึกษา ในฐานะเป็นครูสอนพระปริยัติธรรม และผู้อ�านวยการศึกษาประจ�าส�านักเรียน วดั สมั พนั ธวงศาราม ไดม้ เี มตตาอบรม แนะนา� พรา่� สอนในขอ้ วตั รปฏบิ ตั ทิ ช่ี อบ กอปรดว้ ยเหตผุ ล ประพฤตติ นใหเ้ ปน็ แบบอยา่ งทด่ี ี ไดเ้ อาใจใสพ่ ฒั นาการศกึ ษาเลา่ เรยี นภายในพระอารามเตม็ ความสามารถ ไดเ้ รยี บเรยี งตา� ราวชิ าแปลไทย เปน็ มคธ ไวเ้ ปน็ คมู่ อื การศกึ ษาขอพระภกิ ษสุ ามเณรทวั่ ไป ดา้ นการเผยแผ่ เมอ่ื พ.ศ. ๒๕๓๕ เปน็ หวั หนา้ คณะธรรมทตู สายท่ี ๕ ได้น�าพระธรรมค�าส่ังสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไปประกาศเผยแผ่เพ่ือประโยชน์สุขแก่พหูชน ดว้ ยความอตุ สาหะวริ ยิ ะอยา่ งยงิ่ โดยเปน็ คณะสงฆเ์ ดนิ ทางไปตรวจการคณะสงฆเ์ ยย่ี มวดั ไทยและประชาชนชาวไทย ในตา่ งประเทศ อาทิ สหรัฐอเมริกา อนิ เดยี สหภาพพม่า ศรลี ังกา สิงคโปร์ ฮอ่ งกง และมาเลเซยี ทัง้ เปน็ ก�าลงั แหง่ คณะสงฆ์ ชว่ ยจรรโลงพระพุทธศาสนาใหม้ ่นั คงสถาพรดว้ ยดี ดา้ นการสาธารณปู การ ได้เป็นประธานกรรมการ บรู ณปฏสิ งั ขรณพ์ ระอโุ บสถ และถาวรวตั ถใุ นพระอารามใหม้ คี วามสวยงามเปน็ ระเบยี บเรยี บรอ้ ย และทช่ี า� รดุ ทรดุ โทรม ให้มั่นคงยิ่งขึ้น เป็นประธานจัดสร้างศาลาเฉลิมพระเกียรติ ๗๒ พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ท่ีวัด สมั พนั ธวงศาราม และเป็นประธานจัดสร้างพระพทุ ธสันตสิ ขุ ไพศาล ณ วัดบา้ นเกา่ บ่อ จังหวดั อ�านาจเจรญิ เพื่อเป็น พทุ ธานุสสติและเปน็ ที่สักการะของพุทธศาสนิกชนโดยท่วั ไป ตลอดทั้งสรา้ งถาวรวตั ถุ เสนาสนะเพ่ิมขึน้ ใหเ้ พยี งพอ แกก่ ารปฏบิ ตั ศิ าสนกจิ งานพเิ ศษ เปน็ กรรมการยกรา่ งกฎมหาเถรสมาคม เปน็ กรรมการพจิ ารณายกวดั ราษฎรข์ นึ้ เปน็ พระอารามหลวง เปน็ ประธานคณะกรรมการพจิ ารณาตง้ั ชอ่ื วดั เปน็ กรรมการพจิ ารณาศาสนสมบตั กิ ลาง เปน็ ทป่ี รกึ ษา คณะกรรมการความม่ันคงแห่งพระพุทธศาสนาของมหาเถรสมาคม เป็นกรรมการอ�านวยการจัดงานปฏิบัติธรรม เฉลมิ พระเกยี รติ ณ พทุ ธมณฑล เปน็ ประธานกรรมการฝา่ ยสงฆม์ ลู นธิ สิ จุ ณิ โณอนสุ รณ์ เปน็ ประธานกรรมการฝา่ ยสงฆ์ มูลนิธิหลวงปู่แหวนสุจิณโณ และเป็นประธานท่ีปรึกษาฝ่ายสงฆ์ มูลนิธิโรงเรียนวัดสัมพันธวงศาราม สังกัด กรุงเทพมหานคร อีกท้ังได้ริเร่ิมจัดให้มีการบรรพชาอุปสมบทหมู่ให้แก่กุลบุตร เพ่ือถวายเป็นพระราชกุศลใน มหามงคลวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา ๕ รอบ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และในมหาวโรกาส เฉลมิ พระชนมพรรษา ๖ รอบ พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หวั

๒๓๒ I อบุ ลราชธานีศรีวนาลัย สรรพกรณียกิจที่ พระอุดมญาณโมลี ได้ปฏิบัติบ�าเพ็ญเป็นผลดีแก่พระพุทธศาสนา ประเทศชาติ และ ประชาชนทว่ั ไปจงึ นบั ไดว้ า่ เปน็ ผมู้ เี มตตาทคิ ณุ เกอื้ กลู ตอ่ พหชู น และบดั นี้ พระอดุ มญาณโมลี กเ็ จรญิ ดว้ ยวสั สายกุ าล รัตตัญญูมหาเถรกรณธรรม ประพฤตพิ รหมจรรยส์ มบรู ณ์บรสิ ุทธ์ิ มจี ริยาวัตรอนั งามเป็นปสาทนียคณุ ไพบลู ยด์ ว้ ย สมณวตั รทกุ สถาน เปน็ หลกั เปน็ ประธานอยู่ในคณะสงฆร์ ปู หนง่ึ เปน็ ทป่ี รากฏแกม่ วลพทุ ธบรษิ ัทและทางราชการ เปน็ ที่ เคารพสักการแห่งพุทธศาสนิกชนโดยท่วั ไป สมควรยกยอ่ งให้ดา� รงในสมณฐานันดรท่ี สมเด็จพระราชาคณะสบื ไป จึ่งมีพระบรมราชโองการโปรดสถาปนา พระอุดมญาณโมลี ขึ้นเป็นสมเด็จพระราชาคณะ มีราชทินนาม ตามทจ่ี ารกึ ในสพุ รรณบฏั วา่ สมเดจ็ พระมหาวรี วงศ์จาตรุ งคประธานวสิ ตุ พทุ ธพจนมธนุ ธรรมวาที ตรปี ฎิ กปรยิ ตั ิโกศล วิมลศีลาจารวตั ร พุทธบรษิ ัทปสาทกร ธรรมยตุ ติกคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี อรัญวาสี สถิต ณ วัดสมั พันธ- วงศารามวรวิหาร พระอารามหลวง มีฐานานศุ ักด์ิตง้ั ฐานานกุ รมได้ ๑๐ รปู คอื พระครปู ลดั สมั พพิ ฒั นวริ ยิ าจารย์ สนุ ทรธรรมปฏิภาณนายก ปิฎกธรรมบณั ฑิต ๑ พระครวู ินัยธร ๑ พระครูธรรมธร ๑ พระครวู ิมลสรสทิ ธ์ิ พระครู คสู่ วด ๑ พระครสู ลิ ิฐสรคณุ พระครคู ู่สวด ๑ พระครบู รรณวตั ร พระครูรองคสู่ วด ๑ พระครูพัทธกจิ พระครรู อง คสู่ วด ๑ พระครูสงั ฆบริคุต ๑ พระครสู มหุ ์ ๑ พระครใู บฎกี า ๑...” 1๗ 1๗ ราชกิจจานเุ บกษา ตอนท่ี ๒๔ ข ฉบับพิเศษ, เล่ม ๑๑๘, วนั ที่ ๗ ธันวาคม ๒๕๔๔, หน้า ๔ – ๗.

อบุ ลราชธานศี รวี นาลัย I ๒๓๓

๒๓๔ I อบุ ลราชธานศี รวี นาลยั

อบุ ลราชธานศี รวี นาลัย I ๒๓๕

๒๓๖ I อบุ ลราชธานศี รวี นาลยั

อบุ ลราชธานศี รวี นาลัย I ๒๓๗

๒๓8 I อบุ ลราชธานศี รวี นาลยั

อบุ ลราชธานีศรีวนาลยั I ๒๓๙ มรณภาพ สมเดจ็ พระมหา วรี วงศ์ (มานิต ถาวโร) ถงึ มรณภาพดว้ ยอาการสงบ ด้วยอาการชราภาพ เม่อื วนั ท่ี 10 พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๖1 สริ อิ ายไุ ด้ 100 ปี ๓1๖ วัน

บรรณานุกรม เดวิด แชนด์เลอร.์ ประวตั ศิ าสตรก์ มั พูชา. กรุงเทพฯ : มลู นธิ ิโครงการตา� ราสงั คมศาสตรแ์ ละมนษุ ยศาสตร,์ ๒๕๔๐. เตมิ วิภาคย์พจนกจิ . ประวัตศิ าสตรอ์ สี าน. กรงุ เทพฯ: สา� นักพมิ พ์มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์, ๒๕๕๗. ธวชั ปุณโณทก. ศิลาจารึกสมัยไทย – ลาว: ศกึ ษาทางด้านอักขรวทิ ยาและประวัติศาสตร์อสี าน. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลยั รามคา� แหง. ประชมุ ศิลาจารกึ ภาคที่ ๔. กรงุ เทพฯ: คณะกรรมการจัดพมิ พ์เอกสารทางประวตั ิศาสตร์ส�านกั นายกรฐั มนตร,ี ๒๕๑๓. ประวตั วิ ดั สุปัฏนารามวรวิหารและโบราณวตั ถชุ ้นิ ส�าคญั . กรงุ เทพฯ: ศกั ดิโสภา การพมิ พ์, ๒๕๕๕. ราชกจิ จานเุ บกษา ตอนท่ี ๖ ง ฉบับพเิ ศษ, เลม่ ๗๔, วนั ที่ ๑๒ มกราคม ๒๕๐๐. ราชกจิ จานเุ บกษา ตอนที่ ๑๑๘ ง ฉบับพิเศษ, เลม่ ๘๑, วนั ที่ ๑๗ ธนั วาคม ๒๕๐๗. ราชกจิ จานุเบกษา ตอนท่ี ๑๕๑ ง ฉบบั พิเศษ, เล่ม ๘๘, วนั ที่ ๓๑ ธนั วาคม ๒๕๑๔. ราชกจิ จานุเบกษา ตอนที่ ๓ ง ฉบับพิเศษ, เลม่ ๙๔, วันท่ี ๖ มกราคม ๒๕๒๐. ราชกิจจานเุ บกษา ตอนท่ี ๑๓๘ ก ฉบับพิเศษ, เล่ม ๑๐๗, วนั ท่ี ๖ สงิ หาคม ๒๕๓๓. ราชกจิ จานุเบกษา ตอนท่ี ๒๔ ข ฉบับพิเศษ, เลม่ ๑๑๘, วันที่ ๗ ธันวาคม ๒๕๔๔. รุ่งโรจน์ ธรรมรงุ่ เรอื ง. ทวารวดีในอีสาน. กรุงเทพฯ : มติชน, ๒๕๕๘. ศานติ ภักดีคา� . ประวัตศิ าสตรก์ ัมพชู าแบบเรียนของเขมรทเ่ี กยี่ วข้องกับไทย. กรงุ เทพฯ: มติชน, ๒๕๔๖. ศานติ ภกั ดคี า� . พระราชพงศาวดารฉบบั สมเดจ็ พระพนรตั น์ วดั พระเชตพุ น ตรวจสอบชา� ระจากเอกสารตวั เขยี น. กรงุ เทพฯ: อมรนิ ทรพ์ รน้ิ ตงิ้ แอนด์พบั ลชิ ช่งิ จา� กดั (มหาชน), ๒๕๕๘. ศิลปากร, กรม. จดหมายเหตุ รัชกาลท่ี ๓ เลม่ ๓. กรุงเทพฯ กรมศิลปากร, ๒๕๓๐. ศลิ ปากร, กรม. จดหมายเหตุ รัชกาลที่ ๓ เลม่ ๔. กรงุ เทพฯ กรมศิลปากร, ๒๕๓๐.

ศลิ ปากร, กรม. จารกึ ในประเทศไทย เลม่ ๑. กรุงเทพฯ: กรมศลิ ปากร, ๒๕๒๙. ศลิ ปากร, กรม. จารึกในประเทศไทย เล่ม ๓. กรุงเทพฯ หอสมุดแห่งชาติ กรมศลิ ปากร, ๒๕๒๙. ศิลปากร, กรม. ประชุมพงศาวดารฉบับกาญจนาภิเษก เลม่ ๙. กรงุ เทพฯ: กรมศิลปากร, ๒๕๔๕. ศลิ ปากร, กรม. เมืองอบุ ลราชธานี. กรุงเทพฯ: กรมศิลปากร, ๒๕๓๒. ศิลปากร, กรม. เร่ืองตง้ั พระราชาคณะผใู้ หญค่ ร้ังกรุงรัตนโกสินทร์ เล่ม ๒. กรงุ เทพฯ: กรมศิลปากร, ๒๕๔๕. ศิลปากร, กรม. แหล่งโบราณคดปี ระเทศไทย เล่ม ๔ (ภาคตะวันออกเฉยี งเหนือตอนล่าง). กรุงเทพฯ: กรมศลิ ปากร, ๒๕๓๓. สภุ ัทรดิศ ดศิ กลุ , หมอ่ มเจา้ . ประวัตเิ มอื งพระนคร (ANGKOR) ของขอม. กรงุ เทพฯ: บรษิ ัท จันทวาณชิ ย์ จา� กดั , ๒๕๒๖. สุภัทรดิศ ดิศกุล, หม่อมเจ้า. ประวัติศาสตร์เอเชียอาคเนย์ถึง พ.ศ. ๒๐๐๐. กรุงเทพฯ: สมาคมประวัติศาสตร์ในพระราชูปถัมภ์ สมเดจ็ พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกมุ ารี, ๒๕๒๙. สรุ ิยา รัตนกุล. นานาภาษาในเอเชีย ภาคท่ี ๑ ภาษาตระกูลออกสโตรเอเชียติก และตระกูลจนี – ทิเบต. กรงุ เทพฯ: ศูนยว์ ิจัยวฒั นธรรม เอเชียอาคเนย์ มหาวทิ ยาลยั มหดิ ล, ๒๕๓๑. อไุ รศรี วรศะรนิ . ประชมุ อรรถบทเขมร: รวมบทความวชิ าการของศาสตราจารยเ์ กยี รตคิ ณุ ดร.อไุ รศรี วรศะรนิ . กรงุ เทพฯ: จงเจรญิ การพมิ พ,์ ๒๕๔๕.

ภาคผนวก จดหมายเหตดุ า้ นพระพุทธศาสนาและการศึกษา เมอื งอุบลราชธานี จากหอจดหมายเหตุแห่งชาติ เอกสารจดหมายเหตุด้านพระพุทธศาสนาและการศึกษาเมืองอุบลราชธานีที่รวบรวมมาใช้ในภาคผนวกน้ี เป็นรายงานเกี่ยวกับ การจัดการพระพุทธศาสนาและการศึกษาของมณฑลตะวันออกเฉียงเหนือของพระญาณรักขิต (สิริจนฺโท จันทร์) ซึ่งต่อมาคือ พระอุบาลี คณุ ปู มาจารย์(สริ จิ นโฺ ทจนั ทร)์ ทร่ี ายงานมาเพอื่ กราบทลู สมเดจ็ พระมหาสมณเจา้ กรมพระยาวชริ ญาณวโรรส เมอ่ื ยงั ด�ารงพระอสิ รยิ ยศเปน็ กรมหม่ืนวชิรญาณวโรรส ถือได้ว่าเป็นเอกสารส�าคัญท่ีท�าให้เห็นถึงสภาพการณ์ของพระพุทธศาสนาและการศึกษาในเมืองอุบลราชธานี ในสมยั รชั กาลที่ ๕ ไดเ้ ปน็ อยา่ งดี ในทนี่ จี้ งึ นา� มาลงใชต้ ามตน้ ฉบบั เดมิ แต่ไดค้ ดั เลอื กมาเฉพาะในสว่ นทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั เมอื งอบุ ลราชธานเี ทา่ นนั้

จติ รกรรมฝาผนงั พระอโุ บสถเกา่ วัดสมั พนั ธวงศาราม

รายงานพระญาณรกั ขติ

อบุ ลราชธานศี รวี นาลัย I ๒๔๕

๒๔๖ I อบุ ลราชธานศี รวี นาลยั

อบุ ลราชธานศี รวี นาลัย I ๒๔๗

๒๔๘ I อบุ ลราชธานศี รวี นาลยั