Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ชาวเลกระบี่ ดร.อรุณรัตน์ สรรเพ็ชร

ชาวเลกระบี่ ดร.อรุณรัตน์ สรรเพ็ชร

Published by sommaipinsilp, 2021-11-22 07:16:40

Description: ชาวเลในจังหวัดกระบี่ มีที่พักอาศัยอยู่ ๓ อำเภอ อำเภอเมืองกระบี่ มี ๑ หมู่บ้าน คือ บ้านแหลมตง เกาะพีพี อำเภอเหนือคลอง มีชาวเลที่เกาะจำชื่อบ้านติงไหร มูตู กลาง กลาโหม และโต๊ะบุหรง
อำเภอเกาะลันตา มีที่โต๊ะบาหลิว ในไร่ คลองดาว หัวแหลม และสังกาอู้ มีอาชีพประมง รองเง็งเป็นศิลปะการแสดงทั้งร้อง-รำ

Keywords: ชาวเล

Search

Read the Text Version

๓๙ แผนทชี่ ุมชนชาวเลอรุ ักลาโว้ยโต๊ะบาหลวิ หมู่ที่ ๑ ต.ศาลาด่าน อ.เกาะลนั ตา จ.กระบ่ี ทม่ี า : Google Earth กราฟิ กดไี ซน์ : ฉันท์ชนิต สรรเพช็ ร

๔๐ ชาวเลอรุ ักลาโว้ยชุมชนโต๊ะบาหลวิ ประวตั ิความเป็ นมาของกล่มุ ชาตพิ นั ธ์ุ ชาวเลอุรักลาโวย้ ชุมชนโตะ๊ บาหลิว หรือศาลาดา เดิมอาศยั อยูบ่ ริเวณบา้ นบ่อแหน (ชาวเลอุรัก ลาโวย้ เรียกวา่ ตูโป๊ ะ ดะ บูแนน) มาต้งั แตบ่ รรพบุรุษ ต่อมามีนายทุนเขา้ มาขอสัมปทานพ้ืนท่ีป่ าชายเลน เพอ่ื ตดั ไมโ้ กงกางนาไปเผาถ่าน ที่บา้ นบ่อแหนเคยเป็นบริเวณที่ทาไมเ้ ผาถ่านที่ใหญ่แห่งหน่ึงในเกาะลนั ตา ทาใหม้ ีผคู้ นจากหลายพ้ืนท่ีอพยพเขา้ มาเพ่ือเป็นแรงงานรับจา้ งและอาศยั อยใู่ นพ้นื ที่บา้ นบ่อแหนมาก ข้ึน ชาวเลอุรักลาโวย้ จึงอพยพเคลื่อนยา้ ยออกมาอยู่ ณ สถานท่ีแห่งใหม่ เพราะความรักสงบ และไม่ชอบ อยู่ร่วมกบั คนต่างวฒั นธรรม ชุมชนโต๊ะบาหลิว จึงเป็ นพ้ืนท่ีท่ีชาวเลอุรักลาโวย้ บา้ นบ่อแหนเขา้ มาต้งั หลกั แหล่ง อีกท้งั บริเวณน้ี ยงั เป็ นพ้ืนที่ประกอบพิธีกรรมลอยเรือ และเป็ นท่ีจอดเรือของชาวเลอุรักลา โวย้ บา้ นในไร่ และบา้ นคลองดาว ชาวเลอุรักลาโวย้ จึงมาสร้างที่พกั บริเวณรอบ ๆ ศาลเจา้ โต๊ะบาหลิว เพอื่ เฝ้าเรือ ปัจจุบนั ท่ีดินบริเวณชุมชนโตะ๊ บาหลิวอยใู่ นเขตป่ าชายเลน ชุมชนโต๊ะบาหลิว เป็ นชุมชนริมน้า สันนิษฐานวา่ ชาวเลอุรักลาโวย้ จากบา้ นบ่อแหนเขา้ มาต้งั ถ่ินฐานในพ้ืนท่ีน้ีมากกว่า ๘๐ ปี ชุมชนโตะ๊ บาหลิว อยูบ่ ริเวณริมทะเลดา้ นทิศตะวนั ตกของเกาะลนั ตา ใหญ่ ซ่ึงเป็นดา้ นตรงขา้ มกบั ที่จอดเรือหลบพายุ ชาวเลอุรักลาโวย้ จาเป็ นตอ้ งต้งั บา้ นเรือนอยใู่ กลก้ บั จุด ท่ีออกจบั ปลาไดง้ ่าย ชุมชนโตะ๊ บาหลิวยงั คงหลงเหลือรูปแบบของบา้ นชาวเลด้งั เดิมไวอ้ ยา่ งชดั เจน อีก ท้งั ยงั มีแนวป่ าชายเลน ขนาบอยหู่ ลงั หมูบ่ า้ น ชาวบา้ นจึงสร้างสะพานขา้ มคลอง (ป่ าชายเลน) เพื่อใชใ้ น การสญั จร ทตี่ ้งั แหล่งทอ่ี ย่อู าศัย ชุมชนโต๊ะบาหลิว หมู่ที่ ๑ ตาบลศาลาด่าน อาเภอเกาะลนั ตา จงั หวดั กระบ่ี ห่างจากที่ว่าการ อาเภอประมาณ ๔๐๐ เมตร มีคลองคน่ั กลาง ชุมชนต้งั อยใู่ กลท้ ่าเทียบเรือศาลาด่าน พืน้ ทที่ ากนิ ชาวเลอุรักลาโวย้ ชุมชนโต๊ะบาหลิว ทาประมงในเขตเกาะห้า เกาะรอก หลงั เกาะกระดาน เกาะ ไหง เกาะพีพี เกาะหมา ในเขตจงั หวดั กระบ่ี และบริเวณกะหรังเทียม (หรือปะการังเทียมท่ีมีแท่งปูน ส่ีเหลี่ยมเป็นหลกั เพ่ือใหป้ ลาวางไข่) รวมถึงป่ าชายเลนใกลท้ ี่อยอู่ าศยั

๔๑ พืน้ ทที่ างจิตวญิ ญาณ พ้ืนที่ทางจิตวิญญาณของชาวเลอุรักลาโวย้ ชุมชนโต๊ะบาหลิว ได้แก่ ศาลโต๊ะบาหลิว เป็ น ศูนยก์ ลางของชุมชน ในการขอพรและประกอบพิธีกรรมตา่ ง ๆศาลแห่งน้ีเป็นท่ีสิงสถิตยข์ องวญิ ญาณ ๓ องค์ ซ่ึงเดิมเป็นจอมปลวก ๓ ยอด ตอ่ มาโตะ๊ หมอในชุมชนฝันและบอกวา่ ยอดตรงกลาง คือโต๊ะบาหลิว ยอดซา้ ยมือ คือ โต๊ะอาโฆะเบอราตยั เป็ นผูห้ ญิง และยอดขวามือ คือ โตะ๊ อีตบั เป็ นผชู้ าย , หลาโต๊ะ เขียว (ต้งั อยู่ที่บา้ นหลงั แรกในชุมชนโต๊ะบาหลิว), โล๊ะดุหยง (ศาลโต๊ะบาหลิวเก่า) ปัจจุบนั อยูใ่ นสวน ปาลม์ ของเอกชน บา้ นบ่อแหน จะเป็นสถานท่ีประกอบพิธีกรรมต้งั ของเซ่นไหวช้ ่วงพิธีลอยเรือ, บ่อคุรี, ยีรัยจบูเนน (สุสานเก่าบ่อแหน), ยีรัยจปาดก๊ั บลกั บลกั (สุสานทุ่งนาก), ยรี ัยจปาดกั๊ ซอย (สุสานหลงั สอด) ปัจจุบนั สุสานที่ฝังศพของชุมชนโต๊ะบาหลิวอยูบ่ ริเวณคลองสองปาก บา้ นในไร่ และบริเวณ ชุมชนบา้ นโตะ๊ บาหลิวยงั เป็ นสถานที่ประกอบพิธีกรรมลอยเรือประจาปี ของชาวเลอุรักลาโวย้ บา้ นโต๊ะ บาหลิว,ชาวเลอุรักลาโวย้ บา้ นในไร่และชาวเลอุรักลาโวย้ บา้ นคลองดาว ศาลเจ้าโต๊ะบาหลวิ ศูนย์รวมจิตใจของชาวเลอรุ ักลาโว้ยชุมชนโต๊ะบาหลวิ , บ้านในไร่ และบ้านคลองดาว สถานทปี่ ระกอบพธิ ีกรรมลอยเรือ (อารีปาจั๊ก) ซ้าย : โต๊ะอาโฆะเบอราตยั , กลาง : โต๊ะบาหลวิ , ขวา : โต๊ะอตี ับ

๔๒ จานวนประชากร ชุมชนโต๊ะบาหลิว มีชาวเลอาศยั อยู่ ๓๘ ครัวเรือน จาแนกไดด้ งั น้ี ชาย ๘๐ คน หญิง ๗๖ คน รวมเป็น ๑๕๖ คน ภาษา ชาวเลอุรักลาโวย้ ชุมชนโต๊ะบาหลิว มีภาษาท่ีใช้สื่อสารในชีวิตประจาวนั มีภาษาพูดแต่ไม่มี ภาษาเขียน จะมีคาศพั ท์ที่เขา้ ใจกนั เฉพาะกลุ่มแสดงถึงอตั ลกั ษณ์ของกลุ่มชาติพนั ธุ์ จาแนกเป็ นหมวด ไดแ้ ก่ หมวดร่างกาย เช่น กีกี หมายถึง ฟัน กากี หมายถึง เทา้ กือนิง หมายถึง หนา้ ผาก เป็ นตน้ หมวด สี เช่น จยั จ ลาแงะ หมายถึง สีฟ้า, จยั จ ฮีตบั หมายถึง สีดา, จยั จ เตะ หมายถึงสีขาว, หมวดจานวนนบั เช่น ซา หมายถึง หน่ึง, ดูวา หมายถึง สอง, ตีกา หมายถึง สาม, ปัยจ หมายถึง สี่, ลีมา หมายถึง หา้ , นมั หมายถึง หก จูโญะฮ หมายถึง เจด็ , ลาปัด หมายถึง แปด, ซามีลดั หมายถึง เกา้ , ซาปูโละฮ หมายถึง สิบ เป็นตน้ (แมะฮ กาลา อูรักลาโวยจ (มารู้จกั อูรักลาโวยจ) ๒๕๖๑, หนา้ ๗,๗๕ – ๗๖) วฒั นธรรม ประเพณ/ี เทศกาล ชาวเลอุรักลาโวย้ ชุมชนโตะ๊ บาหลิว มีประเพณีท่ีสาคญั ไดแ้ ก่ ประเพณเี ปอตดั ญรี ัย (ประเพณีการแต่งเปรว) เป็ นการทาความสะอาด บูรณะซ่อมแซม เปรวหรือสุสานท่ีฝังศพ และหลุมศพของแต่ละ ครอบครัวแต่ละสายสกุล พิธีจดั ในวนั ข้ึน ๗ ค่า เดือน ๔ ของทุกปี หลงั จากที่ครอบครัวทาความสะอาด สุสานและหลุมฝังศพเสร็จแลว้ โตะ๊ หมอจะเป็ นผปู้ ระกอบพิธีบูชาบรรพบุรุษดว้ ยการนาเคร่ืองเซ่นไหว้ และอาหาร ท่ีสมาชิกนามาร่วมประกอบพิธี เม่ือเสร็จพิธีแลว้ จะมีการรับประทานอาหารร่วมกนั ร่วมสนุก ดว้ ยการร้องราทาเพลงจากวงรามะนา เพราะเช่ือกนั วา่ บรรพบุรุษจะมาร่วมสนุกกบั บรรดาลูกหลานดว้ ย ประเพณลี อยเรือ (อารีปาจั๊ก) จดั ในช่วงวนั ข้ึน ๑๓ ค่า ถึงวนั แรม ๑ ค่า เดือน ๖ และเดือน ๑๑ ตามปฏิทินจนั ทรคติ ระยะเวลา จดั งานเป็ นเวลา ๓ วนั โดยมีข้นั ตอนพิธีกรรม สรุปได้ ดงั น้ี วนั ข้ึน ๑๓ ค่า ผหู้ ญิงจะเตรียมทาขนมบวั ลอย ๗ สี เพ่ือใชใ้ นพิธี ผชู้ ายจะสร้างท่ีพกั ชว่ั คราวใน บริเวณลานพธิ ี และจะไปรวมตวั กนั ท่ีศาลเจา้ โตะ๊ บาหลิว เพื่อเซ่นไหว้ บอกกล่าว และเชิญใหบ้ รรพบุรุษ มาร่วมในงานพธิ ี

๔๓ ขนมบวั ลอย ๗ สี ทใี่ ช้ในการประกอบพธิ ีกรรมลอยเรือ

๔๔ วนั ข้ึน ๑๔ ค่า ผูช้ ายจะเดินทางไปตดั ไมต้ ีนเป็ ดมาทา “เรือปลาจก๊ั ” และไมร้ ะกามาทา “ตุก๊ ตา ไม้ หรือรูปฝาก” เมื่อไดไ้ มม้ าแลว้ ก็จะมีพิธีแห่รอบศาลเจา้ โต๊ะบาหลิว ก่อนจะนาไปประกอบเป็ นเรือ ปลาจกั๊ ที่มีความยาวประมาณ ๔ เมตร หรือมากกวา่ น้นั พร้อมท้งั ตกแต่งเรือใหส้ วยงาม ขบวนแห่เรือปลาจั๊กมายงั สถานทปี่ ระกอบพธิ ีกรรม คือบริเวณศาลโต๊ะบาหลวิ ช่วงบ่ายจะมีการแห่เรือมายงั สถานที่ประกอบพิธีกรรม จากน้นั ชาวเลจะนาอาหารและส่ิงของ ตา่ ง ๆ เช่น ขา้ วเปลือก ขา้ วสาร กะปิ เกลือ ไมข้ ีดไฟ หมาก พลู ใบจาก เงิน เลบ็ ผม เป็ นตน้ รวมท้งั ตุ๊กตา ไมร้ ะกาแกะสลกั ต่างตวั เทา่ กบั จานวนคนในบา้ น ใส่ลงไปในเรือปลาจกั๊ ส่วนผหู้ ญิงจะเตรียมขนม ๗ สี ท้งั สุกและดิบ ขา้ วเหนียว ๗ สี หมาก พลู ใบจาก ยาเส้น ไก่ย่าง ไข่ไก่ดิบ กายาน ขา้ วตอก เทียน เงิน เคร่ืองใชไ้ มส้ อยและของจาเป็ นอื่น ๆ เพ่ือใชใ้ นพิธีบวงสรวงวิญญาณบรรพบุรุษในเวลาประมาณสี่โมง เยน็ โดยมีโต๊ะหมอเป็ นผูป้ ระกอบพิธีกรรม ตกกลางคืน ประมาณ ๑ ทุ่ม จะมีการฉลองเรือดว้ ยดนตรี และเพลงรามะนา วนั ข้ึน ๑๕ ค่า เชา้ มืด ชาวเลอุรักลาโวย้ จะมารวมตวั กนั เพื่อนาเรือลอยออกไปจากฝั่ง เมื่อนาเรือลอยออกไปจากหมู่บา้ นไกลพอสมควรแลว้ ก็ปล่อยเรือลงน้า และเดินทางกลบั โดยมีขอ้ แมว้ า่ หา้ มหนั กลบั ไปมองเรือปลาจกั๊ อีก ช่วงบ่ายผชู้ ายจะไปตดั ไมแ้ ละหาใบกะพอ้ เพื่อทาไมป้ าดก๊ั หรือไม้ กนั ผี และตอนกลางคืนก็จะมีพิธีฉลองเหมือนคืน ๑๔ ค่า พอใกล้สวา่ งโต๊ะหมอจะทาพิธีเสกน้ามนต์ ทานายโชคชะตา และสะเดาะเคราะห์ใหค้ นที่เขา้ ร่วมพิธีก่อนจะอาบน้ามนต์ และแยกยา้ ยกนั กลบั บา้ น พร้อมกบั นาไมป้ าดก๊ั ไปปักรอบบริเวณหมู่บา้ น หลงั พิธีลอยเรือห้ามทุกคนออกทะเลเป็ นเวลาหน่ึงวนั ประเพณีลอยเรือปลาจก๊ั จดั ข้ึนเพื่อลอยเคราะห์และส่งวญิ ญาญบรรพบุรุษกลบั ไป”ฆูนุงฌีไร” (ภูเขาตน้

๔๕ ไทร ในรัฐไทรบุรี ประเทศสหพนั ธรัฐมาเลเซีย) ซ่ึงชาวเลเชื่อวา่ เป็ นดินแดนศกั ด์ิสิทธ์ิท่ีบรรพบุรุษเคย อยู่อาศยั และชาวเลตอ้ งทาพิธีลอยเรือ “ปลาจก๊ั ” เพื่อเซ่นสรวงทุกคร้ังท่ีลมมรสุมพดั เปลี่ยนทิศทาง และประเพณีน้ียงั ทาใหญ้ าติพ่ีนอ้ งที่อยตู่ า่ งถิ่นตา่ งทิศไดม้ ีโอกาสพบปะกนั องค์ประกอบในงานประเพณีลอยเรือ ไดแ้ ก่ พิธีบูชาเซ่นไหวบ้ อกกล่าวหลาโต๊ะ (ศาลบรรพ บุรุษ) แห่ไม้ การต่อเรือ แห่เรือ พิธีทาน้ามนตแ์ ละอาบน้ามนต์ การสะเดาะเคราะห์ปัดเป่ าสิ่งชวั่ ร้ายให้ ออกไปจากชุมชน หมดทุกขโ์ ศกโรคภยั และมีโชคลาภในการทามาหากิน ประเพณแี ต่งงาน ในอดีตหนุ่มสาวชาวเลอุรักลาโวย้ จะแต่งงานอายุประมาณ ๑๔ – ๑๘ ปี และมีพิธีสู่ขอหม้นั หมาย โดยผใู้ หญฝ่ ่ ายชายจะไปขอถึง ๓ คร้ัง ถา้ ตอบรับก็จะไปขอหม้นั หรือ “ปากยั ตูนงั ก่อนแต่ง ๓ วนั ฝ่ ายชายจะตอ้ งอาสาทางานบา้ นผหู้ ญิง เช่น หาน้า ผา่ ฟื นเป็ นตน้ วนั แต่งงานขบวนแห่จะให้เจา้ บ่าวขี่คอ เดินวนซ้ายรอบบา้ นเจา้ สาว ๓ รอบ ก่อนย่างเขา้ ประตูบา้ นผูใ้ หญ่ฝ่ ายเจา้ สาวจะถามวา่ มีเรือไหม มีแห ไหม มีฉมวกไหม เจา้ บ่าวตอบว่า “มี” ก็จะมีคนลา้ งเทา้ ให้ก่อนขา้ มเขา้ ธรณีประตู เพื่อนเจา้ บ่าวจะนา เสื่อและหมอนไปวางในหอ้ งเจา้ สาว เจา้ ถามจะประแป้งให้แขกที่มาร่วมงาน วนั รุ่งข้ึนพ่อแม่และญาติ พี่นอ้ งจะส่งตวั เจา้ บ่าวเจา้ สาวลงเรือไปผจญภยั ตามเกาะต่าง ๆ โดยมีขา้ วสาร น้าจืด เครื่องมือจบั ปลาไป ดว้ ย เพอื่ พสิ ูจน์วา่ ฝ่ ายชายจะสามารถเล้ียงดูภรรยาไดข้ าไปผูช้ ายจะเป็ นคนกรรเชียงเรือโดยให้ผูห้ ญิงนง่ั หวั เรือ ขากลบั ผูห้ ญิงจะเป็ นฝ่ ายกรรเชียงเรือให้ผูช้ ายนง่ั หัวเรือ เป็ นที่เขา้ ไดไ้ ด่วา่ ท้งั คู่เป็ นสามีภรรยา ตามพฤตินยั แลว้ เม่ือแต่งแลว้ ฝ่ ายชายจะตอ้ งเขา้ ไปอยูบ่ า้ นฝ่ ายหญิง (อาภรณ์ อุกฤษณ์ ๒๕๕๔, หนา้ ๑๙๙) ปัจจุบนั ชาวเลอุรักลาโวย้ ชุมชนโตะ๊ บาหลิว มีพิธีแตง่ งานท่ีคลา้ ยกบั คนไทยพ้ืนถ่ิน เร่ิมต้งั แต่หนุ่ม สาวชอบพอกนั ให้ผูใ้ หญ่ไปสู่ขอ มีสินสอดของหม้นั มีงานเล้ียงในหมู่ญาติและคนรู้จกั งานเล้ียงจะ ข้ึนอยู่กบั ฐานะของคู่บ่าวสาว บางคู่ก็มีการกินเล้ียงที่บา้ น อาหารในงานเล้ียง เช่นปลาทอด น้าชุบหยา แกงไก่ แกงหมู เป็นตน้ จะมีพธิ ีรดน้าใหพ้ ร โดยมีโต๊ะหมอเป็ นผทู้ าพิธี และญาติผูใ้ หญ่ ชุดแต่งงานของ คู่บ่าวสาวก็เป็ นไปตามสมยั นิยม ช่วงอายุของการแต่งงานประมาณยี่สิบปี ข้ึนไป จะมีการแต่งงาน ระหว่างกลุ่มชาวเลดว้ ยกนั เองและต่างกลุ่ม และหลงั จากแต่งงานแลว้ การที่จะอยู่บา้ นของฝ่ ายไหนก็ ข้ึนอยกู่ บั สะดวกและสถานที่ทางานของฝ่ ายน้นั ประเพณสี ารทเดือนสิบ ในอดีตชาวเลอุรักลาโวย้ ชุมชนโต๊ะบาหลิวจะนาของทะเล เช่น ปลาเค็ม ปลาย่าง ปะการัง กลั ปังหา เปลือกหอย และกาไลกระ (กระดองเต่า) ไปแลกเปลี่ยนกบั เส้ือผา้ อาหาร ในวนั สารทไทยหรือ สารทเดือน ๑๐ ของชาวไทยพุทธ และร่วมประเพณีชิงเปรตที่วดั ในอาเภอคลองท่อม วดั ในอาเภอเหนือ

๔๖ คลอง และวดั ในอาเภอเมือง เพื่อเก็บขนมพอง ลา ขา้ วปลา อาหาร และเงิน เพราะชาวเลเชื่อวา่ ตอ้ งไป รับบุญเพอ่ื ไมใ่ หว้ ญิ ญาณบรรพบุรุษอดอยาก โดยจะเดินทางไปก่อนล่วงหนา้ วนั สารทเดือนสิบ ๒ – ๓ วนั พธิ ีกรรม ชาวเลอุรักลาโวย้ ชุมชนโตะ๊ บาหลิว มีพธิ ีกรรมท่ีสาคญั ไดแ้ ก่ พธิ ีศพ เม่ือมีสมาชิกในชุมชนเสียชีวติ จะก่อกองไฟไวห้ นา้ บา้ นผตู้ าย และจดั วางอาหารไวห้ นา้ กองไฟ ตลอก ๓ วนั ๓ คืน ถา้ เสียชีวิตในช่วงเช้าจะฝังศพตอนเย็น ถ้าเสียชีวิตหลงั เที่ยงวนั จะทาพิธีฝังใน วนั รุ่งข้ึน ผชู้ ายจะช่วยกนั ทาโลง และมีการอาบน้าศพ โดยโตะ๊ หมอจะอาบให้เป็ นคนแรก ต่อดว้ ยญาติพ่ี น้อง เพื่อนบา้ น หลงั จากน้นั จะแต่งตวั ให้ผูต้ ายและทาน้ามนั หอมก่อนบรรจุลงในโลงศพท่ีปูดว้ ยเส่ือ และใชผ้ า้ ขาวยาว ๙ ศอก คลุมบนศพ นาขา้ วของเครื่องใชข้ องผูต้ ายใส่ไปในโลงศพดว้ ย แลว้ แห่ศพไป ฝังยงั สุสาน เม่ือโตะ๊ หมอทาพิธี ญาติพ่ีนอ้ งจะช่วยกนั กลบหลุมศพ และปลูกมะพร้าวท่ีมีหน่อไวป้ ลาย เทา้ ศพ หลงั จากน้ันอีก ๓ วนั จะเล้ียงอาหาร ดบั กองไฟ และทาบุญผูต้ ายอีกคร้ัง ในพิธีแต่งเปลว (อาภรณ์ อุกฤษณ์ ๒๕๕๔, หนา้ ๒๐๑) พธิ ีไหว้หัวเรือ หรือการทานูหรีเรือ พิธีน้ีทาตอนนาเรือเขา้ มาซ่อมแซม เมื่อเรือชารุด เช่น ทาสีใหม่ ตอกหมนั เรือ ก่อนซ่อมแซม เรือจะมีการทานูหรีเล้ียงคน โดยมีความเชื่อวา่ ถา้ มีคนมาร่วมงานบุญนูหรีมาก ก็จะทาใหต้ อนออกไปหา สัตวน์ ้าจะไดม้ ากเช่นกนั อาหารที่จดั เล้ียงไดแ้ ก่ ขา้ ว หม่ีผดั เหนียวเหลือง ไก่ตม้ โดยมีโตะ๊ หมอเป็ นผู้ ประกอบพิธีกรรมให้ พธิ ีปยู าเกาะ (พธิ ีปูย่าปูเลา) เป็ นพิธีบวงสรวงเกาะและโต๊ะที่อยูป่ ระจาเกาะ ชาวเลอุรักลาโวย้ ทุกชุมชนในเกาะลนั ตาจะ มาร่วมพิธี และยงั มีชาวเลอุรักลาโวย้ จากเกาะจา อาเภอเหนือคลอง จงั หวีดกระบี่ และบา้ นราไวย์ จงั หวดั ภูเก็ต มาร่วมพิธีน้ีดว้ ย ช่วงเวลาท่ีประกอบพิธีระหวา่ งเดือนหกถึงเดือนสิบเอด็ สถานท่ีประกอบ พิธีกรรม คือ แหลมมาลาตี ปากคลองศาลาด่าน เวลาในการประกอบพิธีกรรมจะเป็ นช่วงเชา้ หรือเยน็ ก็ ได้ ถา้ ทาพิธีในช่วงน้าทะเลกาลงั ข้ึนจะดีมาก ในการประกอบพิธีกรรม (พ.ศ.๒๕๖๔) โต๊ะหมอ คือ นายมะดีเอน็ ชา้ งน้า และรองโตะ๊ หมอ คือ นายสัน ชา้ งน้า ทาหนา้ ท่ีเชิญโต๊ะต่าง ๆ ท่ีอยใู่ นเกาะหรือใน สถานที่ที่เคยทาพิธี ให้มารับของเซ่นไหว้ อาหารในพิธีกรรม มีดงั น้ี ขา้ วเหนียวขาวและขา้ วเหนียว เหลือง, ไก่ยา่ งหรือตม้ ท้งั ตวั , กุง้ หอยปูปลา (ถา้ มี), ผลไม,้ น้า น้าหวานและเหลา้ (ถา้ มี), หมาก, พลู, ขา้ วตอก, กายาน, เทียนข้ีผ้งึ ,ใบจาก, ยาเส้น, ผา้ แดง, มนั จนั ทร์และแป้งน้า,ธูป, กระดาษเงินกระดาษทอง และมีปาญีเป็นไมผ้ กู ผา้ ไวต้ รงปลายไม้ แทนสญั ลกั ษณ์ของสถานท่ีที่นบั ถือ ไมน้ ้ีเชื่อกนั วา่ จะมีโชคลาภ โต๊ะหมอจะบอกกล่าวกับโต๊ะเพื่อขอให้สัตวน์ ้ามีความอุดมสมบูรณ์ ขอให้ทุกคนและครอบครัวมี

๔๗ สุขภาพแขง็ แรงปลอดภยั จากอนั ตรายต่าง ๆ หลงั โต๊ะหมอบอกกล่าวเสร็จ ก็จะใหผ้ เู้ ขา้ ร่วมพิธีต้งั หมาก พลูและบอกกล่าวขอพรกบั โตะ๊ ใหต้ นเองและครอบครัว บางครอบครัวก็ไปแกบ้ นเพราะสาเร็จผลตามที่ ไดบ้ นบานไว้ จากน้นั ก็นาของท่ีนามาเซ่นไหวแ้ บ่งส่งลงทะเลบางส่วน ส่วนปาญีหลงั เสร็จพิธีก็ปักไว้ ท่ี ณ สถานท่ีทาพธิ ี พธิ ีแก้บน (แก้เหลย) ชาวเลอุรักลาโวย้ ชุมชนโตะ๊ บาหลิว จะมีการแกบ้ น เนื่องจากไดบ้ นบานศาลกล่าวกบั ส่ิงเหนือ ธรรมชาติที่ตนเคารพนบั ถือวา่ ใหต้ นเองและครอบครัวหายจากการเจบ็ ไขไ้ ดป้ ่ วย หรือประสบผลสาเร็จ ในเร่ืองใดเร่ืองหน่ึง ถา้ เป็นไปตามท่ีไดข้ อหรือบนบานไว้ ก็ตอ้ งแกบ้ นตามที่ไดส้ ัญญาไว้ เช่น บนวา่ ถา้ หายป่ วยจะจดั ใหม้ ีการแสดงรามะนา หรือถวายอาหารคาวหวาน เป็นตน้ คติ ความเช่ือ ตานาน ความเช่ือเร่ือง “โตะ๊ ” หรือ “ดาโตะ๊ ” ซ่ึงเป็ นวิญญาณบรรพบุรุษ แฝงตวั อยรู่ ่างต่าง ๆ ของสัตว์ เช่น เสือ ปลา นก งู จอมปลวก กอ้ นหิน หรือสถานท่ี เป็ นตน้ ,ความเช่ือเรื่องฟ้าแดง ในเวลาหา้ หรือหก โมงเยน็ ถา้ เกิดฟ้าเป็ นสีแดงหรือสีส้มโดยไม่มีฝนต้งั เคา้ ให้รีบเขา้ บา้ นเพราะจะเกิดสิ่งไม่ดี,ความเชื่อ เรื่องหา้ มคนทอ้ งนงั่ ขวางประตูในเวลาฟ้าแดง และเวลาทวั่ ไป เพราะจะทาให้คลอดยาก,ความเช่ือเรื่อง ใหค้ นทอ้ งกลดั เขม็ กลดั ไวท้ ี่เส้ือบริเวณเหนือสะดือ กลดั ไวจ้ นคลอด เพ่ือป้องกนั ภูติผปี ี ศาจ และป้องกนั การแทง้ ลูก, ความเช่ือการวางอวน ตอนซ้ืออวนมาใหม่ ตอ้ งเอามารมควนั กายานแลว้ อธิษฐานกบั เจา้ ทะเล เจา้ บาดาล เจา้ สมุทร เจา้ แม่คงคา ลูกหลานจะเอาเครื่องมือน้ีลงทะเลแลว้ ขอให้ไดส้ ัตวน์ ่ามาก ๆ แลว้ จะถวายเน้ือ หรือแลว้ แต่จะบนบานไว,้ ความเชื่อเรื่องตดั ไมร้ ะกาหรือไมต้ ีนเป็ ดเพื่อใชใ้ นพิธีลอย เรือ ห้ามลบหลู่ส่ิงศกั ด์ิสิทธ์ิ ห้ามพูดจาไม่ดี,ความเช่ือเร่ืองพลิกแผ่นดิน ตอ้ งขุดดินใตถ้ ุนบา้ น เอามา ประมาณ ๓ กามือ ตอนขดุ อยา่ ให้หนา้ ดินพลิก ตอ้ งใหห้ นา้ ดินอยดู่ า้ นบนเสมอ แลว้ เอาดินใหโ้ ตะ๊ หมอ ทาพิธี โต๊ะหมอจะพลิกหนา้ ดินเอาไวล้ ่าง แลว้ นาไปวางไวท้ ่ีเดิม ทาในกรณีเกิดเร่ืองไม่ดีในครอบครัว ถูกไสยศาสตร์ อยไู่ ม่เป็นสุข เจบ็ ไขไ้ ดป้ ่ วย หรือเกิดอุบตั ิเหตุ อยบู่ ่อยคร้ัง ตานาน เช่น กาเนิดอุรักลาโวย้ ,โตะ๊ ลาแกกึตมั บาตู,อุรักลาโวย้ เขา้ แขก,โต๊ะบูม้ยั ,คาสาปเกอเดอ มยั ,โตะ๊ เบอแลบ็ บึรายคุ ,โตะ๊ บุหรง,โตะ๊ บาหลิว,โตะ๊ แซะ,โต๊ะบิกง, โต๊ะดุหยง (ปลาพยนู ),ตะปอคุลี (บ่อ คุลี),ปาโวฮญาญี, อูมะฮ จูโญฮ (คลื่นเจด็ ลูก ) (อาภรณ์ อุกฤษณ์ ๒๕๖๓, หนา้ ๕ – ๒๙)

๔๘ ศิลปะการแสดง รองเง็ง เป็นการแสดงที่มีท้งั การร้องและราคลา้ ยคลึงกบั การเล่นรามะนา บทเพลงจะขบั เป็ นภาษามลายู กลาง ที่กล่าวถึงสภาพแวดลอ้ มและผูค้ นบนเกาะ การขบั ร้องจะเริ่มตน้ ดว้ ยเพลงลาฆูดูวอ และเล่น เพลงสะปาอีตู้ เมาะอินงั เจะ๊ ชูโล่ง อายมั ดีเตะ๊ ไปตามลาดบั นางรารองแง็งในงานอารีปาจั๊กชุมชนโต๊ะบาหลวิ รามะนา เป็นการแสดงพ้ืนบา้ น เป็นพิธีไหวค้ รูของชาวเลที่มีต่อบรรพบุรุษที่เสียชีวิตไปแลว้ และใชเ้ ล่น ในงานลอยเรือ, แต่งเปรว, แกบ้ น เคร่ืองดนตรีประกอบดว้ ย กลองรามะนา ๒ – ๓ ใบ, กลองทน ๒ ใบ, ซอหรือไวโอลิน ๑ ตวั อาจจะเพ่ิมฉ่ิงหรือฉาบกไ็ ด้ ภูมิปัญญาท้องถ่ิน ภูมิปัญญาของชาวเลอุรักลาโวย้ ชุมชนโตะ๊ บาหลิวที่ใชใ้ นการประกอบอาชีพ ไดแ้ ก่ การทาบูบูอี กดั (ไซปลา), การทาบูบูนุยฮ (ไซปลาหมึก), การทาปูกยั จ ฮูรัก(อวนกุง้ ), การดูกระแสน้า, การดูทิศทาง ลม, การรู้การโคจรของดวงจนั ทร์และดวงดาว

๔๙ ภูมิปัญญาการทาบูบูนุยฮ (ไซปลาหมึก) ภูมิปัญญาด้านหัตถกรรม เช่น การต่อเรือปลาจก๊ั การจกั สานฝาบา้ น เยบ็ จากมุงหลงั คาบา้ น เป็นตน้ ภูมิปัญญาการถนอมอาหาร เช่น การทาปลาเคม็ ,การดองผกั เป็นตน้ ภูมิปัญญาการถนอมอาหาร (การทาปลาเคม็ ) การละเล่น ในอดีตเด็กผูห้ ญิงชาวเลอุรักลาโวย้ ชุมชนโต๊ะบาหลิว จะเล่น หมากหยอดหลุม, หมากเก็บ, กระโดดยาง, เด็กผูช้ าย เล่นซ่อนแอบ, เล่นตารวจจบั ผูร้ ้าย, เล่นยิงปื น,ส่วนเด็กชาวเลอุรักลาโวย้ ชุมชน โตะ๊ บาหลิวในปัจจุบนั มีการละเล่นตามสมยั นิยมเหมือนเด็กทว่ั ไป เช่น เล่นขายขา้ วแกง, ขายก๋วยเต๋ียว ,

๕๐ ร้องเพลงเตน้ รา, เล่นเป็ นครูสอนเด็ก, เล่นตุก๊ ตา ส่วนเด็กผูช้ าย เล่นว่ายน้า, ขี่คอกระโดด, เล่นยิงปื น และ ตกเบด็ เป็นตน้ วถิ ีชีวติ จาแนกตามวฒั นธรรมปัจจยั ๔ ไดด้ งั น้ี ทอี่ ยู่อาศัย ชาวเลอุรักลาโวย้ ชุมชนโต๊ะบาหลิว สร้างบา้ นอยูร่ ิมทะเลดา้ นทิศตะวนั ตกเฉียงเหนือของเกาะ ลันตาใหญ่ เป็ นด้านตรงข้ามกับที่จอดเรือหลบพายุ มีป่ าชายเลนขนาบอยู่หลังหมู่บ้าน มีสะพาน คอนกรีตขา้ มคลองเข้าไปในชุมชน บา้ นหันหน้าออกทะเล เป็ นลกั ษณะบ้านแบบด้งั เดิมของชาวเล ชายหาดหนา้ หมู่บา้ นเป็นดินเลนปนทราย ถดั ออกไปเป็ นท่ีจอดเรือ ปัจจุบนั บา้ นเรือนไดซ้ ่อมแซมใหม่ ฝาบา้ นเปลี่ยนเป็ นฝาขดั แตะ ผา้ ยาง หรือสังกะสี หลงั คามุงสังกะสี โครงหลงั คาทาดว้ ยไมท้ ี่หาไดใ้ น พ้ืนท่ี มีเสาบา้ นสร้างดว้ ยไมย้ นื่ ลงไปในทะเล พ้นื บา้ นยกสูงเหนือน้าระดบั เดียวกบั ถนนหนา้ บา้ น ส่วน พ้ืนบา้ นปูดว้ ยเศษไมก้ ระดาน บ้านเรือนของชาวเลอรุ ักลาโว้ยชุมชนโต๊ะบาหลวิ การแต่งกาย ในอดีตชาวเลอุรักลาโวย้ ชุมชนโต๊ะบาหลิวจะแต่งกายดว้ ยเส้ือผา้ ไม่มากชิ้น ผชู้ ายนุ่งผา้ ขาวมา้ ผนื เดียว หรือกางเกงชาวเล ผา้ ขาวมา้ คาดเอว ไม่สวมเส้ือ ผหู้ ญิงอยบู่ า้ นจะนุ่งผา้ กระโจมอก ไม่สวมเส้ือ ถา้ ออกไปขา้ งนอกจะสวมเส้ือและนุ่งผา้ ปาเตะ๊ สีสด ๆ ปัจจุบนั ชาวเลอุรักลาโวย้ ชุมชนโต๊ะบาหลิว ส่วน

๕๑ ใหญ่แต่งกายตามสมยั นิยม ผูช้ ายใส่เส้ือยืด กางเกงยืนส์ ส่วนผูห้ ญิงใส่เส้ือผา้ ตามแฟช่ัน สีสดใส แต่งหน้า ยอ้ มสีผม และใส่ เครื่องประดบั ส่วนชาวเลผูช้ ายสูงวยั อยู่บา้ นจะนุ่งผา้ ขาวมา้ หรือกางเกง ชาวเล ไมส่ วมเส้ือ ส่วนผหู้ ญิงอยบู่ า้ นจะนุ่งผา้ ปาเตะ๊ สวมเส้ือหลวม ๆ สบาย ๆ การแต่งกายของชาวเลอุรักลาโว้ยชุมชนโต๊ะบาหลวิ ในปัจจุบนั การรักษาโรค ชาวเลอุรักลาโวย้ ชุมชนโตะ๊ บาหลิว มีความเช่ือวา่ การเจ็บป่ วย เกิดจากส่ิงเหนือธรรมชาติหรือผี บรรพบุรุษ ถา้ เจ็บไขเ้ พียงเล็กน้อยก็จะรักษาเองดว้ ยสมุนไพร หรือให้โต๊ะหมอรักษา โดยทาน้ามนต์ ปัจจุบนั ชาวเลเขา้ ถึงการรักษาโรคแผนปัจจุบนั มากข้ึน แต่การรักษาโรคแบบพ้ืนบา้ นก็ยงั คงมีควบคู่ไป กบั การรักษาแผนปัจจุบนั เช่น โรคตาแดง จะใชน้ ้าจานวนหน่ึงลา้ งครกและสากให้หมดรอยเคร่ืองแกง

๕๒ เป็นการลา้ งน้าแรก นาน้ามาลา้ งครกและสากเป็นคร้ังท่ีสอง จึงนาน้าน้นั สองสามหยดมาหยอดตา หยอด เพยี งคร้ังเดียว ไม่นานโรคตาแดงจะหาย, อาการไอ ให้เอามะนาวอ่อนผา่ ซีกเอาปูนมาทาบาง ๆ แลว้ กิน อาการจะทุเลาลง, เด็กอ่อนเป็ นไขห้ วดั ใหเ้ อาใบมะขาม และหัวหอมมาตม้ รวมกนั พอเดือดก็ยกลงต้งั ไวใ้ หเ้ ยน็ แลว้ อาบใหเ้ ด็ก อาการตวั ร้อนของเดก็ จะลดลง เป็นตน้ อาหาร ชาวเลอุรักลาโวย้ ชุมชนตะ๊ บาหลิว จะรับประทานอาหารทะเลประเภท กุง้ หอย ปลา ปู ก้งั ปลา หมีก และเพรียงทะเล เป็ นอาหารหลกั นามาตม้ ยา่ ง เผา หรือกินสด ๆ เช่น หอยติเตบ (หอยนางรมตวั เล็ก), แกงมนั ปลา (กูลยั มียะอีกดั ), ตม้ มนั ปลาแกแดด (เรอมุย้ มียะอีกดั ), น้าพริกคว่ั (นาชุ รือนกั ), ตม้ หอยแครงบิด (ซีโป้ยจ รือมุย้ ), ตม้ ส้มหนอหยา (โวยวาย) และยาหอยติบ เป็นตน้ อาหารของชาวเลอรุ ักลาโว้ยชุมชนโต๊ะบาหลวิ การประกอบอาชีพ ชาวเลอุรักลาโวย้ ชุมชนโตะ๊ บาหลิว มีเรือประมงของแต่ละครอบครัว เคร่ืองมือประมงท่ีใชใ้ น การประกอบอาชีพ ไดแ้ ก่ ไซปลา, ไซปลาหมึก, อวนปู, อวนกุง้ , อวนปลา และ อวนจบั กุง้ เคย (อวน ลอ้ ม) ซ่ึงเครื่องมือแต่ละชนิดสามารถใชห้ มุนเวยี นกนั ไปตลอดฤดูกาล

๕๓ เรือประมงของชาวเลอุรักลาโว้ยชุมชนโต๊ะบาหลวิ ปัจจุบนั ชาวเลอุรักลาโวย้ ชุมชนโต๊ะบาหลิวประกอบอาชีพอื่น ๆ นอกเหนือจากอาชีพประมง ไดแ้ ก่ คา้ ขาย รับจา้ งทวั่ ไป เช่น แบกหาม ทาสวน ดายหญา้ ก่อสร้าง พนกั งานเสิร์ฟ แม่บา้ นในรีสอร์ท และโรงแรม เป็นตน้ สภาพปัญหาอุปสรรค ชาวเลอุรักลาโวย้ ชุมชนโตะ๊ บาหลิว มีปัญหาอุปสรรค ดงั น้ี ๑. ที่ดินท่ีอยอู่ าศยั ปัจจุบนั ที่อยอู่ าศยั สร้างอยใู่ นเขตป่ าชายเลน ๒. บา้ นมีสภาพที่ไมม่ นั่ คงไม่แขง็ แรง ๓. สภาพแวดลอ้ มและความเป็นอยแู่ ออดั ๔. หอ้ งน้าหอ้ งสุขาไม่ถูกสุขลกั ษณะ ๕. ดา้ นสาธารณูปโภค น้าประปาเขา้ ไม่ถึง ตอ้ งซ้ือน้าจืดเพื่ออุปโภคและบริโภคในราคาแพง ๖. กระแสไฟฟ้าไม่เพียงพอ ทาให้ตอ้ งจ่ายค่าไฟฟ้าในราคาที่แพงกว่าปกติ ตอ้ งเฉล่ียจ่ายค่า ไฟฟ้าร่วมกนั ในชุมชน, ๗. พ้ืนที่ทางจิตวิญญาณ สุสานคลองสองปาก หมู่ท่ี ๑ ตาบลศาลาด่าน เป็ นท่ีฝังศพและ ประกอบพิธีกรรมของชาวเลอุรักลาโวย้ ชุมชนโต๊ะบาหลิว ยงั ไม่มีแนวเขตสุสานท่ีชัดเจน ทาให้ไม่มี เอกสารสิทธ์ิในท่ีดิน และพ้ืนท่ีสุสานบา้ นบ่อแหน หมู่ที่ ๕ ตาบลศาลาด่าน ซ่ึงเป็ นที่ฝังศพของบรรพ

๕๔ บุรุษชาวเลในพ้นื ที่อาเภอเกาะลนั ตา ปัจจุบนั อยใู่ นพ้ืนท่ีของเอกชนเป็ นผถู้ ือครอง เพราะมีเอกสารสิทธ์ิ ท่ีดิน ทาใหไ้ ม่สามารถเขา้ ไปประกอบพิธีกรรมได้ ๘. การทามาหากินและการเขา้ ถึงทรัพยากร เพราะถูกจบั จอง ครอบครอง และประกาศเป็ น พ้นื ที่คุม้ ครอง ๙. ขยะมูลฝอย ๑๐. ปัญหาท่ีเกี่ยวเนื่องกบั การศึกษาเรียนรู้ ที่จะสนับสนุนการศึกษาในระดบั ท่ีสูงข้ึน และ สนบั สนุนอาชีพท่ีตอ่ ยอดจากความรู้และทกั ษะที่มีอย,ู่ ๑๑. ปัญหาการขาดความมน่ั ใจและภูมิใจในวิถีวฒั นธรรมด้งั เดิม เช่น ศิลปะการแสดง, การสืบ ทอดภาษาอุรักลาโวย้ เป็นตน้

๕๕ ชาวเลอุรักลาโว้ยบ้านในไร่ หมู่ที่ ๑ ตาบลศาลาด่าน อาเภอเกาะลนั ตา จงั หวดั กระบ่ี

๕๖ แผนทชี่ ุมชนชาวเลอรุ ักลาโว้ยบ้านในไร่ หมู่ท่ี ๑ ต.ศาลาด่าน อ.เกาะลนั ตา จ.กระบ่ี ทม่ี า : Google Earth กราฟิ กดีไซน์ : ฉันท์ชนิต สรรเพช็ ร

๕๗ ชาวเลอรุ ักลาโว้ยบ้านในไร่ ประวตั ิความเป็ นมาของกล่มุ ชาติพนั ธ์ุ ชาวเลอุรักลาโวย้ บา้ นในไร่ เดิมอาศยั อยบู่ ริเวณบา้ นบ่อแหนมาต้งั แต่บรรพบุรุษ ต่อมามีนายทุน เขา้ มาขอสัมปทานพ้ืนที่ป่ าชายเลนเพอื่ ตดั ไมโ้ กงกางนาไปเผาถ่าน ทาใหม้ ีบุคคลภายนอกเขา้ มาอาศยั อยู่ ในพ้ืนที่บา้ นบ่อแหนมากข้ึน ชาวเลอุรักลาโวย้ จึงอพยพเคลื่อนยา้ ยออกมาอยู่ ณ สถานท่ีแห่งใหม่ เพราะความรักสงบ และไม่ชอบอยู่ร่วมกบั คนต่างวฒั นธรรม จึงไดอ้ พยพออกมาอยูท่ ่ีบา้ นในไร่และ บริเวณศาลเจา้ โตะ๊ บาหลิว ท่ีบา้ นในไร่ทางราชการไดจ้ ดั สรรที่ดินให้ชาวเลอุรักลาโวย้ ครอบครัวละ ๔ ไร่ เพื่อเป็นที่อยอู่ าศยั ซ่ึงแตล่ ะบา้ นจะมีทะเบียนบา้ นที่ชดั เจน ทต่ี ้งั แหล่งทีอ่ ยู่อาศัย บา้ นในไร่ หมูท่ ่ี ๑ ตาบลศาลาด่าน อาเภอเกาะลนั ตา จงั หวดั กระบ่ี พืน้ ทที่ ากนิ ชาวเลอุรักลาโวย้ บา้ นในไร่ ทาประมงในเขต เกาะห้า เกาะรอก หลงั เกาะกระดาน เกาะไหง เกาะพีพี เกาะหมา เกาะมุก และเกาะจา ในเขตจงั หวดั กระบ่ี และบริเวณปะการังเทียมรวมถึงป่ าชายเลน ใกลท้ ี่อยอู่ าศยั พืน้ ทที่ างจิตวิญญาณ ชาวเลอุรักลาโวย้ บา้ นในไร่ มีพ้ืนท่ีทางจิตวญิ ญาณ ไดแ้ ก่ ศาลโตะ๊ บาหลิว เป็ นสถานท่ีประกอบ พิธีกรรมลอยเรือประจาปี ของชาวเลอุรักลาโวย้ ชุมชนโต๊ะบาหลิว บา้ นในไร่และบา้ นคลองดาว, โต๊ะ บ่อคุรี, โตะ๊ มาลาดี, โตะ๊ แหลมทึง, โต๊ะฮาบู, โต๊ะกาแมะจืองนั , ญีรัยจปาดก๊ั ดาลบั (สุสานบา้ นในไร่), ญี รัยจบูเนน (สุสานบ่อแหน), ญีรัยจปาดกั๊ ซอย (สุสานหลงั สอด), ญีรัยจปาดก๊ั บลกั บลกั (สุสานทุ่งนาก), โล๊ะดุหยง (ศาลโต๊ะบาหลิวเก่า) ปัจจุบนั อยู่ในสวนปาล์มของเอกชน บา้ นบ่อแหน จะเป็ นสถานที่ ประกอบพิธีกรรมต้งั ของเซ่นไหวต้ อนงานลอยเรือปลาจกั๊

๕๘ จานวนประชากร บา้ นในไร่มีชาวเลอุรักลาโวย้ อาศยั อยู่ ๑๒๔ ครัวเรือน จาแนกไดด้ งั น้ี ชาย ๒๕๕ คน หญิง ๒๑๗ คน รวมเป็น ๔๗๒ คน ภาษา ภาษาของชาวเลอุรักลาโว๊ยบา้ นในไร่ ที่ใช้สื่อสารในชีวิตประจาวนั มีแต่ภาษาพูดแต่ไม่มี ภาษาเขียน มีคาศพั ท์ท่ีเขา้ ใจกนั เฉพาะกลุ่มแสดงถึงอตั ลกั ษณ์ของกลุ่มชาติพนั ธุ์ แบ่งได้เป็ นหมวด ได้แก่ หมวดเครื่องใช้ในบ้าน เช่น งารอยจ หมายถึง ที่ขูดมะพร้าว กือเบอ หมายถึง ผา้ ห่ม กูติก หมายถึงกรรไกร เป็นตน้ หมวดคากริยา เช่น นาแงะฮ หมายถึง ร้องไห้ เกอละฮ หมายถึง หวั เราะ, ลยั จ หมายถึง มอง เป็นตน้ หมวดสตั ว์ เช่น เกอตบั หมายถึง ปู, อีตี หมายถึง เป็ด, กดู า หมายถึง มา้ เป็ นตน้ (สานกั งานวมั นธรรมจงั หวดั กระบ่ี มปป., หนา้ ๑๓ – ๑๖) วฒั นธรรม ประเพณี/เทศกาล ชุมชนชาวเลอุรักลาโวย้ บา้ นในไร่ จะมีประเพณีท่ีสาคญั คือ ประเพณีลอย เรือปลาจก๊ั และประเพณีเปอตดั ญีรัย เป็ นประเพณีสาคญั ของกลุ่มเช่นเดียวกบั ชาวเลอุรักลาโวย้ ชุมชน โตะ๊ บาหลิว และชาวเลอุรักลาโวย้ บา้ นคลองดาว เพราะอพยพมาจากท่ีเดียวกนั ประเพณเี ปอตัดญรี ัย (ประเพณีการแตง่ เปรว) เป็นการทาความสะอาด บูรณะซ่อมแซมเปรวหรือสุสานที่ฝังศพ และหลุมศพของแต่ละครอบครัวแต่ละ สายสกุล พิธีจดั ในวนั ข้ึน ๗ ค่า เดือน ๔ และวนั ข้ึน ๑๕ ค่า เดือน ๕ ของทุกปี หลงั จากท่ีครอบครัวทา ความสะอาดสุสานและหลุมฝังศพเสร็จแลว้ โต๊ะหมอจะเป็ นผูป้ ระกอบพิธีบูชาบรรพบุรุษดว้ ยการนา เครื่องเซ่นไหว้ และอาหาร ท่ีสมาชิกนามาร่วมประกอบพธิ ี เมื่อเสร็จพธิ ีแลว้ จะมีการรับประทานอาหาร ร่วมกนั ร่วมสนุกดว้ ยการร้องราทาเพลงจากวงรามะนา เพราะเช่ือกนั ว่าบรรพบุรุษจะมาร่วมสนุกกบั ลูกหลานดว้ ย ประเพณลี อยเรือ (อารีปลาจ๊ัก) จดั ในช่วงวนั ข้ึน ๑๓ ค่า ถึงวนั แรม ๑ ค่า เดือน ๖ และเดือน ๑๑ ตามปฏิทินจนั ทรคติ ระยะเวลา จดั งานเป็นเวลา ๓ วนั โดยมีข้นั ตอนพธิ ีกรรม สรุปได้ ดงั น้ี วนั ข้ึน ๑๓ ค่า ผหู้ ญิงจะเตรียมทาขนมบวั ลอย ๗ สี เพื่อใชใ้ นพิธี ผชู้ ายจะสร้างท่ีพกั ชวั่ คราว ในบริเวณลานพิธี และจะไปรวมตวั กนั ท่ีศาลเจา้ โต๊ะบาหลิว เพ่ือเซ่นไหว้ บอกกล่าว และเชิญให้บรรพ บุรุษมาร่วมในงานพิธี

๕๙ วนั ข้ึน ๑๔ ค่า ผชู้ ายจะเดินทางไปตดั ไมต้ ีนเป็ ดมาทา “เรือปลาจก๊ั ” และไมร้ ะกา มาทา “ตุก๊ ตา ไม้ หรือรูปฝาก” เม่ือไดไ้ มม้ าแลว้ ก็จะมีพิธีแห่รอบศาลเจา้ โต๊ะบาหลิว ก่อนจะนาไปประกอบเป็ นเรือ ปลาจกั๊ ท่ีมีความยาวประมาณ ๔ เมตร หรือมากกวา่ น้นั พร้อมท้งั ตกแต่งเรือให้สวยงาม ช่วงบ่ายจะมี การแห่เรือมายงั สถานที่ประกอบพิธีกรรม จากน้นั ชาวเลจะนาอาหารและสิ่งของต่าง ๆ เช่น ขา้ วเปลือก ขา้ วสาร กะปิ เกลือ ไมข้ ีดไฟ หมาก พลู ใบจาก เงิน เล็บผม เป็ นตน้ รวมท้งั ตุ๊กตาไมร้ ะกาแกะสลกั ต่าง ตวั เท่ากบั จานวนคนในบา้ น ใส่ลงไปในเรือปาจกั๊ ส่วนผูห้ ญิงจะเตรียมขนม ๗ สี ท้งั สุกและดิบ ขา้ ว เหนียว ๗ สี หมาก พลู ใบจาก ยาเส้น ไก่ยา่ ง ไข่ไก่ดิบ กายาน ขา้ วตอก เทียน เงิน เครื่องใชไ้ มส้ อยและ ของจาเป็ นอ่ืน ๆ เพื่อใชใ้ นพิธีบวงสรวงวญิ ญาณบรรพบุรุษในเวลาประมาณส่ีโมงเยน็ โดยมีโต๊ะหมอ เป็นผปู้ ระกอบพิธีกรรม ตกกลางคืน ประมาณ ๑ ทุม่ จะมีการฉลองเรือดว้ ยดนตรีและเพลงรามะนา บานอ (โต๊ะหมอ) ประกอบพธิ ีกรรมอารีปาจ๊ัก วนั ข้ึน ๑๕ ค่า ช่วงเชา้ มืด ชาวเลจะมารวมตวั กนั เพื่อนาเรือลอยออกไปจากฝั่ง เม่ือนาเรือลอย ออกไปจากหมู่บา้ นไกลพอสมควรแล้ว ก็ปล่อยเรือลงน้า และเดินทางกลับโดยมีขอ้ แมว้ ่าห้ามหัน กลบั ไปมองเรือปลาจก๊ั อีก ช่วงบ่ายผูช้ ายจะไปตดั ไมแ้ ละหาใบกะพอ้ เพ่ือทไมป้ าดก๊ั หรือไมก้ นั ผี และ ตอนกลางคืนก็จะมีพิธีฉลองเหมือนคืน ๑๔ ค่า พอใกลส้ ว่าง โต๊ะหมอจะทาพิธีเสกน้ามนต์ ทานาย โชคชะตา และสะเดาะเคราะห์ใหค้ นท่ีเขา้ ร่วมพิธีก่อนจะอาบน้ามนต์ และแยกยา้ ยกนั กลบั บา้ น พร้อม กบั นาไมป้ าดกั๊ ไปปักรอบบริเวณหมู่บา้ น หลงั พธิ ีลอยเรือหา้ มทุกคนออกทะเลในหน่ึงวนั ประเพณีลอยเรือปลาจกั๊ จดั ข้ึนเพ่ือลอยเคราะห์และส่งวิญญาญบรรพบุรุษกลบั ไป”ฆูนุงฌีไร” (ภูเขาตน้ ไทร ในรัฐไทรบุรี ประเทศสหพนั ธรัฐมาเลเซีย) ซ่ึงชาวเลเชื่อวา่ เป็ นดินแดนศกั ด์ิสิทธ์ิท่ีบรรพ บุรุษเคยอยู่อาศยั และชาวเลตอ้ งทาพิธีลอยเรือ “ปลาจกั๊ ” เพื่อเซ่นสรวงทุกคร้ังท่ีลมมรสุมพดั เปลี่ยน ทิศทาง และประเพณีน้ียงั ทาใหญ้ าติพ่ีนอ้ งท่ีอยตู่ ่างถิ่นตา่ งทิศไดม้ ีโอกาสพบปะกนั

๖๐ องค์ประกอบในงานประเพณีลอยเรือ ไดแ้ ก่ พิธีบูชาเซ่นไหวบ้ อกกล่าวหลาโต๊ะ (ศาลบรรพ บุรุษ) แห่ไม้ การต่อเรือ แห่เรือ พิธีทาน้ามนตแ์ ละอาบน้ามนต์ การสะเดาะเคราะห์ปัดเป่ าสิ่งชวั่ ร้ายให้ ออกไปจากชุมชน หมดทุกขโ์ ศกโรคภยั และมีโชคลาภในการทามาหากิน ประเพณแี ต่งงาน ในอดีตหนุ่มสาวชาวเลจะแต่งงานอายุประมาณ ๑๔ – ๑๘ ปี และมีพิธีสู่ขอหม้นั หมาย โดย ผใู้ หญฝ่ ่ ายชายจะไปขอถึง ๓ คร้ัง ถา้ ตอบรับก็จะไปขอหม้นั หรือ “ปากยั ตูนงั ก่อนแต่ง ๓ วนั ฝ่ ายชาย จะตอ้ งอาสาทางานบา้ นผูห้ ญิง เช่น หาน้า ผา่ ฟื นเป็ นตน้ วนั แต่งงานขบวนแห่จะใหเ้ จา้ บ่าวขี่คอเดินวน ซา้ ยรอบบา้ นเจา้ สาว ๓ รอบ ก่อนยา่ งเขา้ ประตูบา้ นผใู้ หญ่ฝ่ ายเจา้ สาวจะถามวา่ มีเรือไหม มีแหไหม มี ฉมกไหม เจา้ บ่าวตอบวา่ “มี” ก็จะมีคนลา้ งเทา้ ให้ก่อนขา้ มเขา้ ธรณีประตู เพื่อนเจา้ บ่าวจะนาเส่ือและ หมอนไปวางในหอ้ งเจา้ สาว เจา้ ถามจะประแป้งใหแ้ ขกท่ีมาร่วมงาน วนั รุ่งข้ึนพอ่ แม่และญาติพี่นอ้ งจะ ส่งตวั เจา้ บ่าวเจา้ สาวลงเรือไปผจญภยั ตามเกาะต่าง ๆ โดยมีขา้ วสาร น้าจืด เคร่ืองมือจบั ปลาไปดว้ ย เพื่อ พิสูจน์วา่ ฝ่ ายชายจะสามารถเล้ียงดูภรรยาไดข้ าไปผชู้ ายจะเป็ นคนกรรเชียงเรือโดยให้ผูห้ ญิงนงั่ หัวเรือ ขากลบั ผูห้ ญิงจะเป็ นฝ่ ายกรรเชียงเรือใหผ้ ูช้ ายนง่ั หวั เรือ เป็ นที่เขา้ ไดไ้ ด่วา่ ท้งั คู่เป็ นสามีภรรยาตามพฤติ นยั แลว้ เมื่อแต่งแลว้ ฝ่ ายชายจะตอ้ งเขา้ ไปอยู่บา้ นฝ่ ายหญิง (อาภรณ์ อุกฤษณ์ ๒๕๕๔, หน้า ๑๙๙) ปัจจุบนั ชาวเลอุรักลาโวย้ บา้ นในไร่ มีพิธีแต่งงานท่ีคล้ายกบั คนไทยพ้ืนถิ่น เร่ิมต้งั แต่หนุ่มสาวชอบ พอกนั ให้ผูใ้ หญ่ไปสู่ขอ มีสินสอดของหม้นั มีงานเล้ียงในหมู่ญาติและคนรู้จกั งานเล้ียงจะข้ึนอยู่กบั ฐานะของคูบ่ า่ วสาว บางคู่กม็ ีการกินเล้ียงที่บา้ น อาหารในงานเล้ียง เช่นปลาทอด น้าชุบหยา แกงไก่ แกง หมู เป็นตน้ มีพิธีรดน้าใหพ้ ร โดยมีโตะ๊ หมอเป็นผทู้ าพิธี และมีญาติผใู้ หญ่ รดน้าอวยพร ชุดแต่งงานของ คู่บ่าวสาวก็เป็ นไปตามสมยั นิยม ช่วงอายุของการแต่งงานจะอยู่ที่ย่ีสิบปี ข้ึนไป จะมีการแต่งงานงาน ระหว่างกลุ่มชาวเลดว้ ยกนั เองและต่างกลุ่ม และหลงั จากแต่งงานแล้วการที่จะอยู่บา้ นของฝ่ ายไหนก็ ข้ึนอยกู่ บั สะดวกและสถานท่ีทางานของฝ่ ายน้นั ประเพณสี ารทเดือนสิบ ในอดีตชาวเลอุรักลาโวย้ บา้ นในไร่ จะนาของทะเล เช่น ปลาเค็ม ปลาย่าง ปะการัง กลั ปังหา เปลือกหอย และกาไลกระไปแลกเปลี่ยนกบั เส้ือผา้ อาหาร ในวนั สารทไทยหรือสารทเดือน ๑๐ ของชาว ไทยพทุ ธที่วดั ในอาเภอคลองท่อม วดั ในอาเภอเหนือคลอง และวดั ในอาเภอเมืองโดยจะเดินทางไปก่อน ล่วงหนา้ ๒ – ๓ วนั เพ่ือร่วมประเพณีชิงเปรต และเก็บขนมพอง ลา ขา้ วปลา อาหาร และเงิน เพราะ ชาวเลเช่ือวา่ ตอ้ งไปรับบุญเพื่อวญิ ญาณบรรพบุรุษจะไมอ่ ดอยาก

๖๑ พธิ ีกรรม ชาวเลอุรักลาโวย้ บา้ นในไร่ มีพิธีกรรมที่ปฏิบตั ิกนั ในชุมชน ดงั น้ี พธิ ีศพ เม่ือมีสมาชิกในชุมชนเสียชีวติ จะก่อกองไฟไวห้ นา้ บา้ นผตู้ าย และจดั วางอาหารไวห้ นา้ กองไฟ ตลอก ๓ วนั ๓ คืน ถ้าเสียชีวิตในช่วงเช้าจะฝังศพตอนเยน็ ถ้าเสียชีวิตหลงั เที่ยงวนั จะทาพิธีฝังใน วนั รุ่งข้ึน ผชู้ ายจะช่วยกนั ทาโลง และมีการอาบน้าศพ โดยโตะ๊ หมอจะอาบใหเ้ ป็ นคนแรก ต่อดว้ ยญาติพ่ี น้อง เพ่ือนบา้ น หลงั จากน้นั จะแต่งตวั ให้ผูต้ ายและทาน้ามนั หอมก่อนบรรจุลงในโลงศพที่ปูดว้ ยเส่ือ และใชผ้ า้ ขาวยาว ๙ ศอก คลุมบนศพ นาขา้ วของเครื่องใชข้ องผตู้ ายใส่ไปในโลงศพดว้ ย แลว้ แห่ศพไป ฝังยงั สุสาน เม่ือโต๊ะหมอทาพิธี ญาติพ่ีนอ้ งจะช่วยกนั กลบหลุมศพ และปลูกมะพร้าวท่ีมีหน่อไวป้ ลาย เท้าศพ หลงั จากน้ันอีก ๓ วนั จะเล้ียงอาหาร ดบั กองไฟ และทาบุญผูต้ ายอีกคร้ัง ในพิธีแต่งเปรว (อาภรณ์ อุกฤษณ์ ๒๕๕๔, หนา้ ๒๐๑) พธิ ีทาบุญบ้าน ทุกบา้ นจะทาบุญบา้ นจะทาเพ่อื ความเป็นสิริมงคล ในช่วงเดือน ๔ ขา้ งข้ึน อาหารที่ตอ้ งจดั ทา ได้แก่ ขา้ วเจา้ , ขา้ วหนียวเหลือง,ขา้ วเหนียวขาว,ขา้ วเหนียวดา, อาหารท่ีบรรพบุรุษชอบ,หมากพลู, ขา้ วตอก,น้าตาลทรายขาว,เทียน,กายาน,ใบจาก,ยาเส้น จดั กบั ขา้ ว ๓ ชุด วางตรงลานบา้ น โดยมีโต๊ะ หมอเป็นผปู้ ระกอบพธิ ีกรรมให้ พธิ ีปยู าเกาะ (พธิ ีปยู ่าปูเลา) เป็ นพิธีบวงสรวงเกาะและโต๊ะท่ีอยู่ประจาเกาะ ชาวเลอุรักลาโวย้ ทุกชุมชนในเกาะลนั ตาจะ มาร่วมพิธี และยงั มีชาวเลอุรักลาโวย้ จากเกาะจา อาเภอเหนือคลอง และบา้ นราไวย์ จงั หวดั ภูเก็ต มาร่วม พธิ ีน้ีดว้ ย ช่วงเวลาที่ประกอบพธิ ีระหวา่ งเดือนหกถึงเดือนสิบเอด็ สถานท่ีประกอบพิธีกรรม คือ แหลม มาลาตี ปากคลองศาลาด่าน เวลาในการประกอบพิธีกรรมจะเป็ นช่วงเชา้ หรือเยน็ ก็ได้ ถา้ ทาพิธีในช่วง น้าทะเลกาลงั ข้ึนจะดีมาก ในการประกอบพิธีกรรม (พ.ศ.๒๕๖๔) โตะ๊ หมอ คือ นายมะดีเอ็น ชา้ งน้า และรองโต๊ะหมอ คือ นายสัน ช้างน้า ทาหนา้ ที่เชิญโตะ๊ ต่าง ๆ ที่อยูใ่ นเกาะหรือในสถานท่ีท่ีเคยทาพิธี ให้มารับของเซ่นไหว้ อาหารในพิธีกรรม มีดงั น้ี ขา้ วเหนียวขาวและขา้ วเหนียวเหลือง, ไก่ย่างหรือตม้ ท้งั ตวั , กุง้ หอยปูปลา (ถา้ มี), ผลไม,้ น้า น้าหวานและเหลา้ (ถา้ มี), หมาก, พลู, ขา้ วตอก, กายาน, เทียน ข้ีผ้งึ ,ใบจาก, ยาเส้น, ผา้ แดง, มนั จนั ทร์, แป้ง, น้า,ธูป, กระดาษเงินกระดาษทอง และมีปาญีเป็ นไมผ้ ูกผา้ ไวต้ รงปลายไม้ แทนสญั ลกั ษณ์ของสถานที่ท่ีนบั ถือ ไมน้ ้ีเช่ือกนั วา่ จะมีโชคลาภ โตะ๊ หมอจะขอใหส้ ัตว์ น้ามีความอุดมสมบูรณ์ ขอใหท้ ุกคนและครอบครัวมีสุขภาพแข็งแรงปลอดภยั จากอนั ตรายต่าง ๆ หลงั โต๊ะหมอบอกกล่าวเสร็จ ก็จะให้ผูเ้ ขา้ ร่วมพิธีต้งั หมากพลูและบอกกล่าวขอพรกบั โต๊ะให้ตนเองและ

๖๒ ครอบครัว บางครอบครัวก็ไปแกบ้ นเพราะสาเร็จผลตามที่ไดบ้ นบานไว้ จากน้นั ก็นาของท่ีนามาเซ่น ไหวแ้ บง่ ส่งลงทะเลบางส่วน ส่วนปาญีหลงั เสร็จพธิ ีก็ปักไวท้ ี่ ณ สถานที่ทาพธิ ี พธิ ีแก้บน(แก้เหลย) ชาวเลอุรักลาโวย้ จะมีการแก้บน เนื่องจากได้บนบานศาลกล่าวกับส่ิงเหนือธรรมชาติท่ีตน เคารพนบั ถือวา่ ใหต้ นเองและครอบครัวหายจากการเจ็บไขไ้ ดป้ ่ วย หรือประสบผลสาเร็จในเร่ืองใดเร่ือง หน่ึง ถา้ เป็ นไปตามที่ไดข้ อหรือบนบานไว้ ก็ตอ้ งแก้บน เช่น บนว่าถา้ หายป่ วยจะจดั ให้มีการแสดง รามะนา หรือถวายอาหารคาวหวาน กต็ อ้ งมาทาตามท่ีไดใ้ หพ้ นั ธะสัญญาไว้ คติ ความเช่ือ ตานาน ความเช่ือเร่ือง “โตะ๊ ” หรือ “ดาโตะ๊ ” ซ่ึงเป็ นวิญญาณบรรพบุรุษ แฝงตวั อยรู่ ่างต่าง ๆ ของสัตว์ เช่น เสือ ปลา นก งู จอมปลวก กอ้ นหิน หรือสถานท่ี เป็ นตน้ , ความเชื่อเรื่องโต๊ะแหลมทึง,โตะ๊ บ่อคุรี ,โตะ๊ มาลาดี ,โตะ๊ ฮาบู, โตะ๊ กาแมะจืองนั , ความเชื่อเร่ือง “เครื่องรางของขลงั ” โต๊ะหมอจะใชเ้ ศษผา้ ควนั่ เป็นเกลียว ทาเป็นตะกรุด แลว้ เชิญวญิ ญาณบรรพบุรุษมาช่วยปลุกเสก แลว้ โต๊ะหมอจะเป็ นผูผ้ กู ให้ โดย ผชู้ ายจะผกู ไวท้ ่ีโคนแขนขวา ผหู้ ญิงจะผกู ไวท้ ี่โคนแขนซ้าย ผกู ไวเ้ ป็ นเวลา ๗ วนั ถึงจะตดั ตะกรุดท่ีผูก ไวไ้ ด,้ ความเชื่อเร่ืองหา้ มคนทอ้ งนงั่ ขวางประตู เพราะจะทาให้คลอดยาก,ความเชื่อเรื่องใหค้ นทอ้ งกลดั เข็มกลดั เพ่ือป้องกนั ภูติผีปี ศาจ และป้องกนั เด็กหลุดออก,ความเช่ือเร่ืองตดั ไมร้ ะกาหรือไมต้ ีนเป็ ดเพื่อ ใชใ้ นพิธีลอยเรือ หา้ มลบหลู่สิ่งศกั ด์ิสิทธ์ิ หา้ มพูดจาไมด่ ี ตานาน เช่น กาเนิดอุรักลาโวย้ ,โตะ๊ ลาแกกึตมั บาตู,อุรักลาโวย้ เขา้ แขก,โต๊ะบูม้ยั ,คาสาปเกอเดอ มยั ,โตะ๊ เบอแล็บบึรายคุ ,โตะ๊ บุหรง,โตะ๊ บาหลิว,โต๊ะแซะ,โต๊ะบิกง, โตะ๊ ดุหยง (ปลาพยูน),ตะปอคุลี (บ่อ คุลี),ปาโวฮญาญี, อูมะฮ จูโญฮ (คล่ืนเจด็ ลูก ) (อาภรณ์ อุกฤษณ์ ๒๕๖๓, หนา้ ๕ – ๒๙) ศิลปะการแสดง รองเงง็ เป็ นการแสดงที่มีท้งั การร้องและการราคลา้ ยคลึงกบั การเล่นรามะนา บทเพลงจะขบั ร้องเป็ น ภาษามลายกู ลาง กล่าวถึงความเป็นอยขู่ องผคู้ นบนเกาะ เริ่มตน้ ร้องดว้ ยเพลงลาฆูดูวอ และต่อดว้ ยเพลง สะปาอีตู้ , มะอินงั , เจะ๊ ชูโร่ง, และอายมั ดีเตะ๊ ไปตามลาดบั

๖๓ นางสาวตู ช้างนา้ แม่เพลงรองเงง็ บ้านในไร่ รามะนา เป็นการแสดงพ้ืนบา้ น ใชเ้ ล่นในงานลอยเรือ แต่งเปรว แกบ้ น เคร่ืองดนตรีประกอบดว้ ย กลอง รามะนา (บานา) กลองทน (คือนกั ) ฆอ้ ง(ปาลูตาวะ) และฉาบ (แชะแชะ) นกั เล่นดนตรีรามะนาจะนง่ั เป็ นวงกลม ส่วนนางราก็ราเป็ นวงกลมล้อมรอบวงนกั ดนตรี เพลงท่ีใช้ในการแดง ได้แก่ เพลงลงปง เพลงลาเอลา และเพลงโลยโลยอีนงั (บวยจ เดะ ลากู ซูกา บวยจ (ทาในส่ิงที่เราชอบ), ๒๕๕๙ หนา้ ๗๒- ๗๕) นางบีด๊ะ ช้างนา้ แม่เพลงรามะนาบ้านในไร่

๖๔ ภูมปิ ัญญาท้องถนิ่ ภูมิปัญญาของชาวเลอุรักลาโวย้ บา้ นในไร่ ท่ีใช้ในการประกอบอาชีพ ไดแ้ ก่ การทาบูบูอีกดั (ไซปลา), การทาบูบูนุยฮ (ไซปลาหมึก), การทาปูกยั จ ฮูรัก (อวนกงุ้ ) ภูมิปัญญาการทาบูบูอกี ดั ((ไซปลา) ภูมิปัญญาดูกระแสน้า, การดูทิศทางลม, การรู้เรื่องการโคจรของดวงจนั ทร์และดวงดาว และ ภูมิปัญญาดา้ นหตั ถกรรม ไดแ้ ก่ การตอ่ เรือปลาจก๊ั การจกั สานฝาบา้ น การจกั สานตะกร้า การละเล่น ในอดีตเด็กผหู้ ญิงชาวเลอุรักลาโวย้ บา้ นในไร่จะเล่น หมากหยอดหลุม, หมากเก็บ, กระโดดยาง เดก็ ผชู้ าย เล่นซ่อนแอบ, เล่นตารวจจบั ผรู้ ้าย, เล่นยิง ปัจจุบนั มีการละเล่นตามสมยั นิยมเหมือนคนทวั่ ไป เช่น เล่นขายขา้ วแกง, ขายก๋วยเต๋ียว ,ร้องเพลงเตน้ รา, เล่นเป็ นครูสอนเด็ก ,เล่นตุก๊ ตา ส่วนเด็กผชู้ าย เล่น วา่ ยน้า, ขี่คอกระโดด, เล่นยงิ ปื น แบะตกเบด็ เป็นตน้

๖๕ วถิ ชี ีวติ จาแนกตามวฒั นธรรมปัจจยั ๔ ไดด้ งั น้ี ทอ่ี ย่อู าศัย ชาวเลอุรักลาโวย้ บา้ นในไร่ สร้างบา้ นอยู่ห่างจากชายหาด ลกั ษณะบา้ นเป็ นบา้ นปูนช้นั เดียว หลงั คามุงกระเบ้ือง โครงสร้างค่อนขา้ งแขง็ แรง เหตุที่ชาวเลอุรักลาโวย้ บา้ นในไร่ตอ้ งเปลี่ยนท้งั สถานที่ สร้างบา้ นเรือน และลกั ษณะของบา้ นเรือน เน่ืองจากริมทะเลไดข้ ายใหก้ บั นายทุนเพื่อสร้างรีสอร์ท ทา ใหช้ าวเลอุรักลาโวย้ บา้ นในไร่ตอ้ งขยบั ข้ึนไปสร้างบา้ นบริเวณริมเขาดา้ นในมากข้ึน บ้านเรือนของชาวเลอุรักลาโว้ยบ้านในไร่ การแต่งกาย ในอดีตชาวเลอุรักลาโวย้ บา้ นในไร่ แต่งกายดว้ ยเส้ือผา้ ไม่มากชิ้น ผูช้ ายนุ่งผา้ ขาวมา้ ผืนเดียว หรือกางเกงชาวเลมีผา้ ขาวมา้ คาดเอว ไม่สวมเส้ือ ผูห้ ญิงอยู่บา้ นจะนุ่งผา้ กระโจมอก ไม่สวมเส้ือ ถา้ ออกไปขา้ งนอกจะสวมเส้ือและนุ่งผา้ ปาเตะ๊ สีสด ๆ ปัจจุบนั ชาวเลอุรักลาโวย้ ส่วนใหญ่แต่งกายตามสมยั นิยม ผูช้ ายใส่เส้ือยืด กางเกงยืนส์ ผูห้ ญิงใส่เส้ือผา้ ตามแฟช่ัน สีสดใส แต่งหน้า ยอ้ มสีผม และใส่ เครื่องประดบั ส่วนชาวเลสูงวยั ผชู้ ายอยูบ่ า้ นจะนุ่งผา้ ขาวมา้ หรือกางเกงชาวเล ไม่สวมเส้ือ ส่วนผูห้ ญิง สูงวยั อยบู่ า้ นจะนุ่งผา้ ปาเตก๊ ระโจมอกะ ไม่สวมเส้ือ หรือสวมเส้ือคอกระเชา้ การรักษาโรค ชาวเลอุรักลาโวย้ บา้ นในไร่ เชื่อวา่ การเจ็บป่ วย เกิดจากสิ่งเหนือธรรมชาติหรือผีบรรพบุรุษ ถา้ เจ็บไขเ้ พียงเล็กน้อยก็จะรักษาเองดว้ ยสมุนไพร หรือให้โต๊ะหมอรักษา และทาน้ามนต์ หรือรักษาดว้ ย การขบั ไล่ หรือเชิญให้ผีออกไปดว้ ยวิธีร่ายเวทมนต์ เป่ าคาถาอาคม หรือดูเทียน เพ่ือดูอาการของโรค ตา่ ง ๆ โตะ๊ หมอจะสามารถติดตอ่ กบั บรรพบุรุษไดแ้ ละรู้สาเหตุของอาการ รู้วธิ ีการรักษาให้หายจากโรค

๖๖ น้ัน ๆ ได้ ซ่ึงมีตวั ยารักษาโดยเฉพาะ ปัจจุบนั ชาวเลอุรักลาโวย้ บา้ นในไร่เขา้ ถึงการรักษาโรคแผน ปัจจุบนั มากข้ึน แต่การรักษาโรคแบบพ้นื บา้ นก็ยงั คงมีควบคูไ่ ปกบั การรักษาแผนปัจจุบนั การรักษาโรค โดยใชส้ มุนไพร เช่น เมาหอยตาชยั รักษาโดย เด็ดใบออ่ นผกั บุง้ ทะเลมาเค้ียวกิน เป็นตน้ อาหาร ชาวเลอุรักลาโวย้ บา้ นในไร่ มีอาหารทะเลประเภท กุง้ หอย ปลา ปู ก้งั ปลาหมีก และเพรียง ทะเล เป็ นอาหารหลกั นามาตม้ ยา่ ง เผา หรือกินสด ๆ เช่น หอยติเตบ (หอยนางรมตวั เล็ก), ยาหอยล่ิน, ตม้ กะทิหอยตาววั , ยาหอยติเตบ, ปูตม้ , น้าชุบ, ปลาทอด และ แกงไก่ เป็นตน้ อาหารของชาวเลอุรักลาโว้ยบ้านในไร่ การประกอบอาชีพ ชาวเลอุรักลาโวย้ บา้ นในไร่ มีเรือประมงเป็ นของตวั เอง เคร่ืองมือประมงท่ีใชใ้ นการประกอบ อาชีพ ไดแ้ ก่ ไซปลา เป็ นเครื่องมือประมงของชาวเลมาต้งั แต่อดีต เป็ นอตั ลกั ษณ์ของชาวเลอุรักลาโวย้ มีขนาดใหญ่ ใชว้ สั ดุทอ้ งถ่ินท่ีคงทน, ไซปลาหมึก, อวนปู, อวนกุง้ หรืออวนสามช้นั จะวางเฉพาะหนา้ มรสุมประมาณ ๖ เดือน ระหวา่ งเดือน ๖ – เดือน ๑๑, อวนปลา, อวนจบั กุง้ เคย (อวนลอ้ ม), ฉมวกแทง

๖๗ ปลา, แห และเบ็ด ซ่ึงเครื่องมือแต่ละชนิดสามารถใชห้ มุนเวียนกนั ไปตลอดฤดูกาล ปัจจุบนั ชาวเลอุรัก ลาโวย้ บา้ นในไร่หประกอบอาชีพอื่น ๆ นอกเหนือจากอาชีพประมง ไดแ้ ก่ คา้ ขาย เพาะปลูก รับจา้ ง ทว่ั ไป เช่น แบกหาม คนงานจดั สวน ดายหญา้ ก่อสร้าง พนกั งานเสิร์ฟ แม่บา้ นในรีสอร์ทและโรงแรม เป็ นตน้ สภาพปัญหาอปุ สรรค ชาวเลอุรักลาโวย้ บา้ นในไร่มีปัญหาอุปสรรค ดงั น้ี ๑. ที่ดินท่ีอยูอ่ าศยั เนื่องจากลูกหลานของชาวเลอุรักลาโวย้ บา้ นในไร่เพิ่มจานวนมากข้ึน และ ชุมชนบา้ นในไร่ถูกห้อมลอ้ มดว้ ยธุรกิจการท่องเท่ียวทาให้ท่ีดินบางผืนถูกเปล่ียนมือเป็ นของนายทุน เพื่อสร้างรีสอร์ท โรงแรมและร้านอาหาร ๒. พ้ืนที่ทางจิตวญิ ญาณ สุสานคลองสองปาก หมูท่ ี่ ๑ ตาบลศาลาด่าน เป็ นที่ฝังศพ ยงั ไม่มีแนว เขตสุสานที่ชดั เจน ทาให้ไม่มีเอกสารสิทธ์ิในท่ีดิน และพ้ืนที่สุสานบา้ นบ่อแหน หมู่ที่ ๕ ตาบลศาลา ด่าน ซ่ึงเป็นท่ีฝังศพของบรรพบุรุษชาวเลพ้ืนท่ีอาเภอเกาะลนั ตา ปัจจุบนั อยใู่ นพ้ืนท่ีของเอกชนเป็ นผถู้ ือ ครองเพราะมีเอกสารสิทธ์ิท่ีดิน ทาใหไ้ มส่ ามารถเขา้ ไปประกอบพธิ ีกรรมได้ ๓. ไมม่ ีท่ีจอดเรือ เนื่องจากเจา้ ของธุรกิจท่องเท่ียวไม่อนุญาตให้จอดเรือประมง จึงตอ้ งมาจอด เรือท่ีบริเวณศาลโตะ๊ บาหลิว ๔. การทามาหากินและการเขา้ ถึงทรัพยากร เพราะถูกจบั จอง ครอบครอง และประกาศเป็ น พ้ืนที่คุม้ ครอง ๕. เกี่ยวเนื่องกบั การศึกษาเรียนรู้ ท่ีจะสนับสนุนการศึกษาในระดบั ที่สูงข้ึน และสนับสนุน อาชีพที่ต่อยอดจากความรู้และทกั ษะท่ีมีอยู่ ๖. การขาดความมน่ั ใจและภูมิใจในวิถีวฒั นธรรมด้งั เดิม เช่น ศิลปะการแสดง การสืบทอด ภาษาอุรักลาโวย้ เป็นตน้

๖๘ ชาวเลอรุ ักลาโว้ยบ้านคลองดาว หมู่ท่ี ๓ ตาบลศาลาด่าน อาเภอเมือง จังหวดั กระบ่ี

๖๙ แผนทช่ี ุมชนชาวเลอรุ ักลาโว้ยบ้านคลองดาว หมู่ท่ี ๓ ต.ศาลาด่าน อ.เกาะลนั ตา จ.กระบ่ี ทม่ี า : Google Earth กราฟิ กดีไซน์ : ฉันท์ชนิต สรรเพช็ ร

๗๐ ชาวเลอรุ ักลาโว้ยบ้านคลองดาว ประวตั ิความเป็ นมาของกลุ่มชาตพิ นั ธ์ุ ชาวเลอุรักลาโวย้ บา้ นคลองดาว เดิมอาศยั อยูบ่ ริเวณบา้ นบ่อแหนมาต้งั แต่บรรพบุรุษ ต่อมามี นายทุนเขา้ มาขอสมั ปทานพ้ืนที่ป่ าชายเลนเพื่อตดั ไมโ้ กงกางนาไปเผาถ่าน ทาใหม้ ีบุคคลภายนอกเขา้ มา อาศยั อยู่ในพ้ืนท่ีบา้ นบ่อแหนมากข้ึน ชาวเลอุรักลาโวย้ จึงเคลื่อนยา้ ยออกมาอยู่ ณ สถานที่แห่งใหม่ เพราะความรักสงบ และไม่ชอบอยูร่ ่วมกบั คนต่างวฒั นธรรม จึงได้อพยพออกมาอยู่ท่ีบา้ นคลองดาว บา้ นในไร่และบริเวณศาลเจา้ โตะ๊ บาหลิว ชาวเลอุรักลาโวย้ บา้ นคลองดาว ส่วนใหญ่ใชน้ ามสกุลชา้ งน้า ซ่ึงเป็นนามสกลุ พระราชทาน ทต่ี ้งั แหล่งทอี่ ยู่อาศัย บา้ นคลองดาว หมู่ท่ี ๓ ตาบลศาลาด่าน อาเภอเกาะลนั ตา จงั หวดั กระบี่ พืน้ ทที่ ากนิ ชาวเลอุรักลาโวย้ บา้ นคลองดาวมีพ้ืนท่ีทาประมงอยูใ่ นเขต เกาะห้า เกาะยุง เกาะไผ่ เกาะพีพี แหลมตง เกาะหมา เกาะจา เกาะปู เกาะร่าปู เกาะกา เกาะปอ ในเขตจงั หวดั กระบี่ เกาะไหง เกาะ กระดาน เกาะเชือก เกาะมุก ปากเมง แหลมไทร จงั หวดั ตรัง และบริเวณปะการังเทียม ท่ีอยู่ห่างจาก บริเวณชายฝั่งของเกาะลนั ตาและเกาะจาประมาณ ๔,๐๐๐ เมตร รวมถึงป่ าชายเลนใกลท้ ่ีอยอู่ าศยั พืน้ ทท่ี างจิตวญิ ญาณ พ้ืนท่ีทางจิตวญิ ญาณของชาวเลอุรักลาโวย้ บา้ นคลองดาว ไดแ้ ก่ ศาลโตะ๊ บาหลิว, ศาลโต๊ะลุดง, ญีรัยตาหยกั (สุสานแหลมทุง่ ยงู ) และญีรัยเตอหง๊ะ (สุสานกลาง) จานวนประชากร บา้ นคลองดาวมีชาวเลอุรักลาโวย้ อาศยั อยู่ ๕๗ ครัวเรือน จาแนกไดด้ งั น้ี ชาย ๑๔๐ คน หญิง ๑๓๓ คน รวมเป็น ๒๗๓ คน

๗๑ ภาษา ชาวเลอุรักลาโวย้ บา้ นคลองดาว ภาษาที่ใชส้ ื่อสารในชีวิตประจาวนั มีภาษาพูดแต่ไม่มีภาษา เขียน มีคาศพั ท์ท่ีเขา้ ใจกนั เฉพาะกลุ่มท่ีแสดงถึงอตั ลกั ษณ์ของกลุ่มชาติพนั ธุ์ แบ่งเป็ นหมวด ได้แก่ หมวดพืชผกั เช่น ตีมอนนีกยั หมายถึง แตงโม, เดียด หมายถึง ทุเรียน, เตอบู หมายถึง ออ้ ย เป็ นตน้ หมวดสัตวบ์ ก เช่น บรูตดั หมายถึง เสือ, กูตา หมายถึง มา้ , เคอนมั หมายถึง กระตาย หมวดสัตวน์ ้า เช่น ซีโปยจ ตีเตะ หมายถึง หอยนางรมขนาดเล็ก, อีกดั กากะ หมายถึง ปลากระพง, อูรัก หมายถึง กุง้ เป็นตน้ (สานกั งานวฒั นธรรมจงั หวดั กระบี่ มปป., หนา้ ๑๔ – ๑๕) วฒั นธรรม ประเพณี/เทศกาล ชาวเลอุรักลาโวย้ บา้ นคลองดาว มีประเพณีที่สาคญั ของชุมชนเช่นเดียวกบั ชาวเลอุรักลาโวย้ โตะ๊ บาหลิว และชาวเลอุรักลาโวย้ บา้ นในไร่ เพราะอพยพมาจากท่ีเดียวกนั ไดแ้ ก่ ประเพณเี ปอตดั ญรี ัย (ประเพณีการแต่งเปรว) เป็ นการทาความสะอาด บูรณะซ่อมแซม เปรวหรือสุสานท่ีฝังศพ และหลุมศพของแต่ละ ครอบครัวแตล่ ะสายสกลุ พธิ ีจดั ในวนั ข้ึน ๗ ค่า เดือน ๔ และวนั ข้ึน ๑๕ ค่า เดือน ๕ ของทุกปี หลงั จาก ที่ครอบครัวทาความสะอาดสุสานและหลุมฝังศพเสร็จแลว้ โต๊ะหมอจะเป็ นผูป้ ระกอบพิธีบูชาบรรพ บุรุษด้วยการนาเครื่องเซ่นไหว้ และอาหาร ท่ีสมาชิกนามาร่วมประกอบพิธี เมื่อเสร็จพิธีจะมีการ รับประทานอาหารร่วมกนั และร่วมสนุกดว้ ยการร้องราทาเพลงจากวงรามะนา เพราะเชื่อกนั วา่ บรรพ บุรุษจะมาร่วมสนุกกบั บรรดาลูกหลานดว้ ย ประเพณลี อยเรือ (อารีปลาจ๊ัก) จดั ในช่วงวนั ข้ึน ๑๓ ค่า ถึงวนั แรม ๑ ค่า เดือน ๖ และเดือน ๑๑ ตามปฏิทินจนั ทรคติ ระยะเวลา จดั งานเป็นเวลา ๓ วนั โดยมีข้นั ตอนพิธีกรรม สรุปได้ ดงั น้ี วนั ข้ึน ๑๓ ค่า ผหู้ ญิงจะเตรียมทาขนมบวั ลอย ๗ สี เพื่อใชใ้ นพิธี ผูช้ ายจะสร้างท่ีพกั ชว่ั คราว ในบริเวณลานพิธี และจะไปรวมตวั กนั ที่ศาลเจา้ โตะ๊ บาหลิว เพ่ือเซ่นไหว้ บอกกล่าว และเชิญให้บรรพ บุรุษมาร่วมในงานพิธี วนั ข้ึน ๑๔ ค่า ผชู้ ายจะเดินทางไปตดั ไมต้ ีนเป็ ดมาทา “เรือปลาจก๊ั ” และไมร้ ะกา มาทา “ตุ๊กตา ไมห้ รือรูปฝาก” เมื่อไดไ้ มม้ าแลว้ ก็จะมีพิธีแห่รอบศาลเจา้ โต๊ะบาหลิว ก่อนจะนาไปประกอบเป็ นเรือ ปลาจกั๊ ที่มีความยาวประมาณ ๔ เมตร หรือมากกวา่ น้นั พร้อมท้งั ตกแต่งเรือให้สวยงาม ช่วงบ่ายจะมี การแห่เรือมายงั สถานที่ประกอบพธิ ีกรรม จากน้นั ชาวเลจะนาอาหารและสิ่งของต่าง ๆ เช่น ขา้ วเปลือก ขา้ วสาร กะปิ เกลือ ไมข้ ีดไฟ หมาก พลู ใบจาก เงิน เล็บผม เป็ นตน้ รวมท้งั ตุก๊ ตาไมร้ ะกาแกะสลกั ต่าง

๗๒ ตวั เท่ากบั จานวนคนในบา้ น ใส่ลงไปในเรือปาจกั๊ ส่วนผูห้ ญิงจะเตรียมขนม ๗ สี ท้งั สุกและดิบ ขา้ ว เหนียว ๗ สี หมาก พลู ใบจาก ยาเส้น ไก่ยา่ ง ไข่ไก่ดิบ กายาน ขา้ วตอก เทียน เงิน เครื่องใชไ้ มส้ อยและ ของจาเป็ นอ่ืน ๆ เพื่อใชใ้ นพิธีบวงสรวงวิญญาณบรรพบุรุษในเวลาประมาณสี่โมงเยน็ โดยมีโต๊ะหมอ เป็นผปู้ ระกอบพธิ ีกรรม ตกกลางคืน ประมาณ ๑ ทุ่ม จะมีการฉลองเรือดว้ ยดนตรีและเพลงรามะนา วนั ข้ึน ๑๕ ค่า เชา้ มืด ชาวเลอุรักลาโวย้ จะมารวมตวั กนั เพ่ือนาเรือลอยออกไปจากฝั่ง เม่ือนาเรือ ลอยออกไปจากหมู่บา้ นไกลพอสมควรแลว้ ก็ปล่อยเรือลงน้า และเดินทางกลบั โดยมีขอ้ แมว้ ่าห้ามหัน กลบั ไปมองเรือปลาจกั๊ อีก ช่วงบ่ายผชู้ ายจะไปตดั ไมแ้ ละหาใบกะพอ้ เพ่ือทไมป้ าดก๊ั หรือไมก้ นั ผี และ ตอนกลางคืนก็จะมีพิธีฉลองเหมือนคืน ๑๔ ค่า พอใกล้สว่าง โต๊ะหมอจะทาพิธีเสกน้ามนต์ ทานาย โชคชะตา และสะเดาะเคราะห์ใหค้ นที่เขา้ ร่วมพิธีก่อนจะอาบน้ามนต์ และแยกยา้ ยกนั กลบั บา้ น พร้อม กบั นาไมป้ าดกั๊ ไปปักรอบบริเวณหมูบ่ า้ น หลงั พิธีลอยเรือหา้ มทุกคนออกทะเลในหน่ึงวนั ประเพณีลอยเรือปลาจกั๊ จดั ข้ึนเพ่ือลอยเคราะห์และส่งวิญญาญบรรพบุรุษกลบั ไป”ฆูนุงฌีไร” (ภูเขาตน้ ไทร ในรัฐไทรบุรี ประเทศสหพนั ธรัฐมาเลเซีย) ซ่ึงชาวเลเชื่อวา่ เป็ นดินแดนศกั ด์ิสิทธ์ิท่ีบรรพ บุรุษเคยอยู่อาศยั และชาวเลตอ้ งทาพิธีลอยเรือ “ปลาจกั๊ ” เพ่ือเซ่นสรวงทุกคร้ังที่ลมมรสุมพดั เปล่ียน ทิศทาง และประเพณีน้ียงั ทาใหญ้ าติพี่นอ้ งท่ีอยตู่ า่ งถ่ินตา่ งทิศไดม้ ีโอกาสพบปะกนั องคป์ ระกอบในงานประเพณีลอยเรือ ไดแ้ ก่ พิธีบูชาเซ่นไหวบ้ อกกล่าวหลาโต๊ะ (ศาล บรรพ บุรุษ) แห่ไม้ การต่อเรือ แห่เรือ พิธีทาน้ามนตแ์ ละอาบน้ามนต์ การสะเดาะเคราะห์ปัดเป่ าสิ่งชวั่ ร้ายให้ ออกไปจากชุมชน หมดทุกขโ์ ศกโรคภยั และมีโชคลาภในการทามาหากิน ประเพณแี ต่งงาน ในอดีตหนุ่มสาวชาวเลจะแต่งงานอายุประมาณ ๑๔ – ๑๘ ปี และมีพิธีสู่ขอหม้นั หมาย โดย ผใู้ หญฝ่ ่ ายชายจะไปขอถึง ๓ คร้ัง ถา้ ตอบรับก็จะไปขอหม้นั หรือ “ปากยั ตูนงั ก่อนแต่ง ๓ วนั ฝ่ ายชาย จะตอ้ งอาสาทางานบา้ นผูห้ ญิง เช่น หาน้า ผา่ ฟื นเป็ นตน้ วนั แต่งงานขบวนแห่จะให้เจา้ บ่าวขี่คอเดินวน ซา้ ยรอบบา้ นเจา้ สาว ๓ รอบ ก่อนยา่ งเขา้ ประตูบา้ นผใู้ หญ่ฝ่ ายเจา้ สาวจะถามวา่ มีเรือไหม มีแหไหม มี ฉมกไหม เจา้ บ่าวตอบวา่ “มี” ก็จะมีคนลา้ งเทา้ ให้ก่อนขา้ มเขา้ ธรณีประตู เพื่อนเจา้ บ่าวจะนาเสื่อและ หมอนไปวางในหอ้ งเจา้ สาว เจา้ ถามจะประแป้งใหแ้ ขกท่ีมาร่วมงาน วนั รุ่งข้ึนพอ่ แม่และญาติพ่ีนอ้ งจะ ส่งตวั เจา้ บา่ วเจา้ สาวลงเรือไปผจญภยั ตามเกาะต่าง ๆ โดยมีขา้ วสาร น้าจืด เคร่ืองมือจบั ปลาไปดว้ ย เพ่ือ พิสูจน์ว่าฝ่ ายชายจะสามารถเล้ียงดูภรรยาไดข้ าไปผชู้ ายจะเป็ นคนกรรเชียงเรือโดยใหผ้ ูห้ ญิงนง่ั หัวเรือ ขากลบั ผหู้ ญิงจะเป็ นฝ่ ายกรรเชียงเรือให้ผูช้ ายนง่ั หวั เรือ เป็ นที่เขา้ ไดไ้ ด่วา่ ท้งั คู่เป็ นสามีภรรยาตามพฤติ นยั แลว้ เม่ือแต่งแล้วฝ่ ายชายจะตอ้ งเขา้ ไปอยู่บา้ นฝ่ ายหญิง (อาภรณ์ อุกฤษณ์ ๒๕๕๔, หน้า ๑๙๙) ปัจจุบนั ชาวเลบา้ นคลองดาว จะมีพิธีแต่งงานท่ีคลา้ ยกบั คนไทยพ้ืนถ่ิน เริ่มต้งั แต่หนุ่มสาวชอบพอกนั

๗๓ ใหผ้ ใู้ หญ่ไปสู่ขอ มีสินสอดของหม้นั มีงานเล้ียงในหมู่ญาติและคนรู้จกั งานเล้ียงจะข้ึนอยกู่ บั ฐานะของ คู่บ่าวสาว บางคู่ก็มีการกินเล้ียงท่ีบา้ น อาหารในงานเล้ียง เช่น ปลาทอด แกงไก่ แกงหมู หอยทอด แกง หอย ยาหอยแมงภู่ ยาหอยพง และยาปลาชิงชา้ ง เป็นตน้ ช่วงเยน็ ถึงกลางคืนมีการเตน้ ราวง และด่ืมเหลา้ ขาวเพ่ือความสนุกสนาน มีพิธีรดน้าใหพ้ ร โดยมีโตะ๊ หมอเป็นผทู้ าพิธี และญาติผใู้ หญ่ ชุดแต่งงานของคู่ บ่าวสาวก็เป็ นไปตามสมยั นิยม ช่วงอายุของการแต่งงานจะอยู่ท่ียี่สิบปี ข้ึนไป จะมีการแต่งงานงาน ระหว่างกลุ่มชาวเลดว้ ยกนั เองและต่างกลุ่ม และหลงั จากแต่งงานแล้วการท่ีจะอยู่บา้ นของฝ่ ายไหนก็ ข้ึนอยกู่ บั สะดวกและสถานที่ทางานของฝ่ ายน้นั งานแต่งงานของนายภาณวุ ฒั น์ ช้างนา้ (พ.ศ.๒๕๖๔) ประเพณสี ารทเดือนสิบ ในอดีตชาวเลอุรักลาโวย้ บา้ นคลองดาวจะนาของทะเล เช่น ปลาเคม็ ปลายา่ ง ปะการัง กลั ปังหา เปลือกหอย และกาไลกระ(กระดองเต่า) ไปแลกเปล่ียนกบั เส้ือผา้ อาหาร ในวนั สารทไทยหรือสารท เดือน ๑๐ ของชาวไทยพทุ ธท่ีวดั เหนือคลอง วดั คลองท่อม วดั โคกเคียน วดั โคกยาง และวดั ถ้าเสือ และ ร่วมประเพณีชิงเปรต เพ่ือเก็บขนมพอง ขนมลา ขา้ วปลา อาหาร และเงิน เพื่อกลบั มาให้บรรพบุรุษ เพราะชาวเลเชื่อว่าตอ้ งไปรับบุญเพื่อไม่ให้วิญญาณบรรพบุรุษอดอยาก โดยจะเดินทางไปก่อนถึงวนั สารทล่วงหนา้ ๒ – ๓ วนั ปัจจุบนั ชาวเลอุรักลาโวย้ บา้ นคลองดาวจะไปร่วมงานประเพณีสารทเดือนสิบ ไปเชา้ กลบั เยน็ ไม่นอนคา้ งคืนเหมือนในอดีต

๗๔ พธิ ีกรรม ชาวเลอุรักลาโวย้ บา้ นคลองดาว มีพธิ ีกรรมท่ีสาคญั ดงั น้ี พธิ ีศพ เมื่อมีสมาชิกในชุมชนเสียชีวติ จะก่อกองไฟไวห้ นา้ บา้ นผูต้ าย และจดั วางอาหารไวห้ นา้ กองไฟ ตลอก ๓ วนั ๓ คืน ถ้าเสียชีวิตในช่วงเช้าจะฝังศพตอนเย็น ถา้ เสียชีวิตหลงั เที่ยงวนั จะทาพิธีฝังใน วนั รุ่งข้ึน ผชู้ ายจะช่วยกนั ทาโลง และมีการอาบน้าศพ โดยโตะ๊ หมอจะอาบให้เป็ นคนแรก ต่อดว้ ยญาติพี่ น้อง เพื่อนบา้ น หลงั จากน้นั จะแต่งตวั ให้ผูต้ ายและทาน้ามนั หอมก่อนบรรจุลงในโลงศพท่ีปูดว้ ยเสื่อ และใชผ้ า้ ขาวยาว ๙ ศอก คลุมบนศพ นาขา้ วของเครื่องใชข้ องผูต้ ายใส่ไปในโลงศพดว้ ย แลว้ แห่ศพไป ฝังยงั สุสาน เม่ือโตะ๊ หมอทาพิธี ญาติพี่นอ้ งจะช่วยกนั กลบหลุมศพ และปลูกมะพร้าวท่ีมีหน่อไวป้ ลาย เทา้ ศพ หลังจากน้ันอีก ๓ วนั จะเล้ียงอาหาร ดับกองไฟ และทาบุญผูต้ ายอีกคร้ัง ในพิธีแต่งเปลว (อาภรณ์ อุกฤษณ์ ๒๕๕๔, หนา้ ๒๐๑) ปัจจุบนั บางครอบครัวก็นิมนตพ์ ระมาสวด พธิ ีแก้บน (แก้เหลย) ชาวเลอุรักลาโวย้ บา้ นคลองดาวจะมีการแกบ้ นหรือแกเ้ หลย เนื่องจากไดบ้ นบานศาลกล่าวกบั ส่ิงเหนือธรรมชาติที่ตนเคารพนบั ถือวา่ ใหต้ นเองและครอบครัวหายจากการเจ็บไขไ้ ดป้ ่ วย หรือประสบ ผลสาเร็จในเรื่องใดเร่ืองหน่ึง ถา้ เป็ นไปตามที่ไดข้ อหรือบนบานไว้ ก็ตอ้ งมาแกบ้ นตามที่ไดส้ ัญญาไว้ เช่น บนวา่ ถา้ หายป่ วยจะจดั ใหม้ ีการแสดงรามะนา หรือถวายอาหารคาวหวาน เป็นตน้ พธิ ีปยู าเกาะ (พธิ ีปยู ่าปเู ลา) เป็ นพิธีบวงสรวงเกาะและโต๊ะที่อยูป่ ระจาเกาะ ชาวเลอุรักลาโวย้ ทุกชุมชนในเกาะลนั ตาจะ มาร่วมพิธี และยงั มีชาวเลอุรักลาโวย้ จากเกาะจา อาเภอเหนือคลอง และบา้ นราไวย์ จงั หวดั ภูเก็ต มาร่วม พธิ ีน้ีดว้ ย ช่วงเวลาที่ประกอบพธิ ีระหวา่ งเดือนหกถึงเดือนสิบเอด็ สถานที่ประกอบพิธีกรรม คือ แหลม มาลาตี ปากคลองศาลาด่าน เวลาในการประกอบพิธีกรรมจะเป็ นช่วงเชา้ หรือเยน็ ก็ได้ ถา้ ทาพิธีในช่วง น้าทะเลกาลงั ข้ึนจะดีมาก ในการประกอบพิธีกรรม (พ.ศ.๒๕๖๔) โต๊ะหมอ คือ นายมะดีเอน็ ชา้ งน้า และรองโต๊ะหมอ คือ นายสัน ชา้ งน้า ทาหนา้ ท่ีเชิญโต๊ะต่าง ๆ ท่ีอยใู่ นเกาะหรือในสถานท่ีที่เคยทาพิธี ใหม้ ารับของเซ่นไหว้ อาหารในพิธีกรรม มีดงั น้ี ขา้ วเหนียวขาวและขา้ วเหนียวเหลือง, ไก่ยา่ งหรือไก่ตม้ ท้งั ตวั , กุง้ หอยปูปลา (ถา้ มี), ผลไม,้ น้า น้าหวานและเหลา้ (ถา้ มี), หมาก, พลู, ขา้ วตอก, กายาน, เทียน ข้ีผ้ึง,ใบจาก, ยาเส้น, ผา้ แดง, มนั จนั ทร์และแป้งน้า,ธูป, กระดาษเงินกระดาษทอง และมีปาญีเป็ นไมผ้ ูก ผา้ ไวต้ รงปลายไม้ แทนสัญลกั ษณ์ของสถานที่ที่นบั ถือ ไมน้ ้ีเช่ือกนั วา่ จะมีโชคลาภ โตะ๊ หมอจะขอให สัตวน์ ้ามีความอุดมสมบูรณ์ ขอให้ทุกคนและครอบครัวมีสุขภาพแข็งแรงปลอดภยั จากอนั ตรายต่าง ๆ หลงั โตะ๊ หมอบอกกล่าวเสร็จ ก็จะใหผ้ เู้ ขา้ ร่วมพธิ ีต้งั หมากพลูและบอกกล่าวขอพรกบั โต๊ะใหต้ นเองและ

๗๕ ครอบครัว บางครอบครัวก็ไปแกบ้ นเพราะสาเร็จผลตามที่ไดบ้ นบานไว้ จากน้นั ก็นาของท่ีนามาเซ่น ไหวแ้ บ่งส่งลงทะเลบางส่วน ส่วนปาญีหลงั เสร็จพธิ ีจะปักไวท้ ี่ ณ สถานที่ทาพิธี พธิ ีปูย่าปเู ลา (บวงสรวงเกาะ) บริเวณแหลมมาลาดี ปากคลองศาลาด่าน คติ ความเชื่อ ตานาน ความเชื่อเร่ือง “โต๊ะ” หรือ “ดาโต๊ะ” ซ่ึงเป็ นวิญญาณบรรพบุรุษ แฝงตวั อยู่ร่างต่าง ๆ ของ สัตว์ เช่น เสือ ปลา นก งู จอมปลวก กอ้ นหิน หรือสถานท่ี เป็ นตน้ , ความเชื่อเร่ืองตดั ไมร้ ะกาหรือไม้ ตีนเป็ดเพื่อใชใ้ นพิธีลอยเรือ หา้ มลบหลู่สิ่งศกั ด์ิสิทธ์ิ ห้ามพูดจาไม่ดี,ความเช่ือเร่ืองหา้ มคนทอ้ งนงั่ ขวาง ประตู เพราะจะทาใหค้ ลอดยาก ตานาน เช่น กาเนิดอุรักลาโวย้ ,โตะ๊ ลาแกกึตมั บาตู,อุรักลาโวย้ เขา้ แขก,โต๊ะบูม้ยั ,คาสาปเกอเดอ มยั ,โตะ๊ เบอแลบ็ บึรายคุ ,โตะ๊ บุหรง,โตะ๊ บาหลิว,โตะ๊ แซะ,โตะ๊ บิกง, โต๊ะดุหยง (ปลาพยูน),ตะปอคุลี (บ่อ คุลี),ปาโวฮญาญี, อูมะฮ จูโญฮ (คล่ืนเจด็ ลูก ) (อาภรณ์ อุกฤษณ์ ๒๕๖๓, หนา้ ๕ – ๒๙) ศิลปะการแสดง รองเง็ง เป็ นการแสดงที่มีท้งั การร้องและราคลา้ ยคลึงกบั การเล่นรามะนา บทเพลงขบั ร้องเป็ นภาษา มลายกู ลาง กล่าวถึงวถิ ีชีวติ คนบนเกาะ เร่ิมตน้ ดว้ ยเพลงลาฆูดูวอ และเล่นเพลงสะปาอีตู้ มะอินั เจะ๊ ชู โร่ง และอายมั ดีเตะ๊ ไปตามลาดบั เคร่ืองดนตรีประกอบดว้ ย ไอโอลิน (ซอ) รามะนา ฆอ้ ง

๗๖ รามะนา เป็ นการแสดงพ้ืนบา้ น ท่ีใชใ้ นโอกาสสาคญั เช่น งานลอยเรือ แต่งเปลว แก้บน เคร่ืองดนตรี ประกอบกว้ ย กลองรามะนา ๒ – ๓ ใบ กลองทน ๒ ใบ ซอหรือไวโอลิน ๑ ตวั อาจจะเพ่ิมฉิ่งหรือฉาบก็ ได้ การเล่นเพลงรามะนาจะมีขอ้ กาหนดตา่ ง ๆ เช่น วงรามาจะเร่ิมเล่นไดห้ ลงั จากโตะ๊ หมอประกอบพิธี ฉลองเรือเสร็จแลว้ และตอ้ งเริ่มดว้ ยเพลงพิธีกรรมของบรรพบุรุษครบ ๗ เพลง จึงจะเขา้ บทเพลงเพื่อ ความบนั เทิงได้ ภูมิปัญญาท้องถ่นิ ภูมิปัญญาของชาวเลอุรักลาโวย้ บา้ นคลองดาว ท่ีใชใ้ นการประกอบอาชีพ ไดแ้ ก่ การทาบูบูอีกดั (ไซปลา), การทาบูบูนุยฮ (ไซปลาหมึก), การทาปูกยั จ ฮูรัก(อวนกุง้ ), การดูกระแสน้า, การดูทิศทางลม, การโคจรของดวงจนั ทร์และดวงดาว, ภูมิปัญญาดา้ นหตั ถกรรม ไดแ้ ก่ การต่อเรือปลาจกั๊ , การจกั สานฝา บา้ น, จกั สานราฆา (ตะกร้าหวายไวเ้ กบ็ หอย) ภูมิปัญญญาดา้ นการถนอมอาหาร เช่น ทาปลาเค็ม, ทาปลา พอง, ทาจาหลู (กุง้ ดอง),ทาปลาแดดเดียว,ทากะปิ ,และทาปลาหวาน (เน้ือสวรรค)์ เป็นตน้ ภูมิปัญญาการทาบูบู้นุยฮ (ไซปลาหมึก) การละเล่น เด็กผูห้ ญิงชาวเลอุรักลาโวย้ บา้ นคลองดาวจะเล่น ขา้ วหุงเลียง,หมากหยอดหลุม, หมากเก็บ, กระโดดยาง เด็กผชู้ าย เล่นซ่อนแอบ เล่นตารวจจบั ผรู้ ้าย เล่นยงิ ปื นในปัจจุบนั มีการละเล่นตามสมยั นิยม

๗๗ เหมือนคนทว่ั ไป เช่น เล่นขายขา้ วแกง ขายก๋วยเต๋ียว ร้องเพลงเตน้ รา เล่นเป็ นครูสอนเด็ก เล่นตุ๊กตา ส่วนเดก็ ผชู้ าย เล่นน้า ขี่คอกระโดด เล่นยงิ ปื น ตกเบด็ เป็นตน้ วถิ ีชีวติ จาแนกตามวฒั นธรรมปัจจยั ๔ ไดด้ งั น้ี ทอ่ี ยู่อาศัย ชาวเลอุรักลาโวย้ บา้ นคลองดาว ต้งั บา้ นเรือนอยู่ตามแนวถนนดา้ นทิศตะวนั ออกของเกาะ อยู่ ระหวา่ งรีสอร์ทต่าง ๆ มีสร้างข้ึนมารองรับการท่องเท่ียว สร้างบา้ นอยหู่ ่างจากชายหาด ลกั ษณะบา้ นจะ เป็นบา้ นปูนช้นั เดียว หลงั คามุงกระเบ้ือง โครงสร้างค่อนขา้ งแขง็ แรง การแต่งกาย ในอดีตชาวเลจะแต่งกายดว้ ยเส้ือผา้ ไม่มากชิ้น ผูช้ ายนุ่งผา้ ขาวมา้ ผืนเดียว หรือกางเกงชาวเล ผา้ ขาวมา้ คาดเอว ไมส่ วมเส้ือ ผหู้ ญิงเสลาอยบู่ า้ นจะนุ่งผา้ กระโจมอก ไม่สวมเส้ือ ถา้ ออกไปขา้ งนอกจะ สวมเส้ือและนุ่งผา้ ปาเตะ๊ สีสด ๆ ปัจจุบนั ชาวเลส่วนใหญ่แต่งกายตามสมยั นิยม ผชู้ ายใส่เส้ือยืด กางเกง ยืนส์ ส่วนผูห้ ญิงใส่เส้ือผา้ ตามแฟชน่ั สีสดใส แต่งหน้า ยอ้ มสีผม ใส่เครื่องประดบั ส่วนชาวเลสูงวยั ผูช้ ายถา้ อยู่บา้ นจะนุ่งผา้ ขาวมา้ หรือกางเกงเล ไม่สวมเส้ือ ส่วนผูห้ ญิงถ้าอยูบ่ า้ นจะนุ่งผา้ ปาเต๊ะ สวม เส้ือผา้ สบาย ๆ หรือเส้ือคอกระเชา้ การรักษาโรค ชาวเลมีความเชื่อว่าการเจ็บป่ วย เกิดจากสิ่งเหนือธรรมชาติหรือผีบรรพบุรุษ ถา้ เจ็บไขเ้ พียง เล็กนอ้ ยก็จะรักษาเองดว้ ยสมุนไพร หรือให้โต๊ะหมอรักษา และทาน้ามนต์ ปัจจุบนั ชาวเลเขา้ ถึงการ รักษาโรคแผนปัจจุบนั มากข้ึน แต่การรักษาโรคแบบพ้ืนบา้ นก็ยงั คงมีใช้ควบคู่ไปกบั การรักษาแผน ปัจจุบนั เช่น ใชต้ น้ โทะ๊ หรือตน้ กาโทะ๊ รักษาอาการเวยี นศรีษะหรือประจาเดือนมาผิดปกติ หรือรักษาไข้ เลือดผูห้ ญิง วิธีทา ถอนตน้ กาโท๊ะท้งั ตน้ ลา้ งให้สะอาด นามาตากบั สารส้มพอให้มีน้าออกมา แลว้ บีบ เอาเฉพาะน้ามาด่ืม ให้ดื่มตอนเชา้ ก่อนลา้ งแปรงฟัน, ยาแกท้ อ้ งผูก ใช้ใบชุมเห็ดตม้ น้าดื่ม, ยารักษา ริดสีดวงจมูก วิธีทา ใบตูแมะลา้ งใหส้ ะอาด ใส่ในฝ่ ามือแลว้ ใช้ฝ่ ามือถูกนั จนมีน้าออกมา นาน้าใบตูมะ หยอดไปในจมูก ทาตอนเชา้ ติดต่อกนั ๓ วนั หยดุ หน่ึงวนั แลว้ ทาต่อจนหาย ยาแกป้ วดหรือเจ็บมือ วธิ ี ทา นาใบบากงหรือใบพลบั พลึงทะเลมาลนไฟให้ใบเหี่ยวพอร้อน ๆ แลว้ เอามาพนั ท่ีขอ้ มือที่มีอาการ ปวดหรือเจบ็ แลว้ ใชผ้ า้ ห่อพนั ไวอ้ ีกช้นั อยา่ ใหห้ ลุด เป็นตน้ อาหาร ชาวเลอุรักลาโวย้ บา้ นคลองดาว มีอาหารทะเลประเภท กุง้ หอย ปลา ปู ก้งั ปลาหมีก และเพรียง ทะเล เป็ นอาหารหลกั นามาตม้ ยา่ ง เผา หรือกินสด ๆ เช่น หอยติเตบ (หอยนางรมตวั เล็ก), ขา้ วตม้

๗๘ ปลาบะบุแกเ้ ปลือย (บูเบออีกดั บะบุ) แกงกะทิหอยทา้ ยเวียน, ผดั หวานหอยโหละ, แกงเลียงบอน, ยา เพรียง, หอยตีเตบดอง, เพรียงดอง, ปูเปร้ียวชุบแป้งทอด เป็นตน้ อาหารของชาวเลอุรักลาโว้ยบ้านคลองดาว การประกอบอาชีพ ชาวเลอุรักลาโวย้ บา้ นคลองดาว มีเรือประมงเป็ นของตวั เอง เคร่ืองมือประมงที่ใช้ในการ ประกอบอาชีพ ไดแ้ ก่ ไซปลา เป็ นเครื่องมือประมงของชาวเลมาต้งั แต่อดีต เป็ นอตั ลกั ษณ์ของชาวเล เพราะมีขนาดใหญ่ ใชว้ สั ดุทอ้ งถิ่นท่ีคงทน, ไซปลาหมึก, อวนปู, อวนกงุ้ หรืออวนสามช้นั จะวางเฉพาะ หนา้ มรสุมประมาณ ๖ เดือน ระหวา่ งเดือน ๖ – เดือน ๑๑, อวนปลา, อวนจบั กุง้ เคย (อวนลอ้ ม), ฉมวก แทงปลา, แห และเบ็ด ซ่ึงเคร่ืองมือแต่ละชนิดสามารถใชห้ มุนเวียนกนั ไปตลอดฤดูกาล ชาวเลบา้ น คลองดาวจะออกเรือหาปลาในช่วงเช้า เวลาประมาณ ๐๕.๐๐ และกลบั มาตอนบ่าย เวลาประมาณ

๗๙ ๑๔.๐๐ น. ปัจจุบนั ชาวเลอุรักลาโวย้ บา้ นคลองดาว ประกอบอาชีพอื่น ๆ นอกจากการทาประมง ไดแ้ ก่ คา้ ขาย เพาะปลูก รับจา้ งทว่ั ไป เช่น แบกหาม คนงานจดั สวน ดายหญา้ ก่อสร้าง พนักงานเสิร์ฟ แมบ่ า้ นในรีสอร์ทและโรงแรม เป็นตน้ สภาพปัญหาอปุ สรรค ชาวเลอุรักลาโวย้ บา้ นคลองดาว มีปัญหาอุปสรรค ดงั น้ี ๑.พ้ืนที่ทางจิตวิญญาณ สุสานบา้ นแหลมทุ่งยูง หมู่ท่ี ๓ ตาบลศาลาด่าน เป็ นท่ีฝังศพและ ประกอบพิธีกรรมของชาวเลบา้ นคลองดาว และพ้ืนท่ีชายหาดเป็ นท่ีจอดเรือประมง เป็ นท่ีพกั เรือและ ซ่อมเรือ มีพ้ืนท่ีเขา้ ออกเพียงทางเดียว คบั แคบ พ้ืนท่ีจากดั เนื่องจากโรงแรม สถานประกอบการและ เอกชนไดก้ นั ร้ัวแนวเขตตลอดเส้นทาง ส่งผลกระทบในการเขา้ ไปประกอบพิธีกรรมและการประกอบ อาซีพในฤดูกาลทอ่ งเที่ยว ๒. ปัญหาเรื่องการทามาหากินและการเขา้ ถึงทรัพยากร เพราะถูกจบั จอง ครอบครอง และ ประกาศเป็นพ้ืนท่ีคุม้ ครอง ๓. ปัญหาที่เกี่ยวเน่ืองกับการศึกษาเรียนรู้ ท่ีจะสนับสนุนการศึกษาในระดบั ท่ีสูงข้ึน และ สนบั สนุนอาชีพที่ต่อยอดจากความรู้และทกั ษะท่ีมีอยู่ ๔. ปัญหาการขาดความมน่ั ใจและภูมิใจในวถิ ีวฒั นธรรมด้งั เดิม เช่น ศิลปะการแสดง การสืบ ทอดภาษาอุรักลาโวย้ เป็นตน้

๘๐ ชาวเลอรุ ักลาโว้ยบ้านหัวแหลม หมู่ที่ ๑ ตาบลเกาะลนั ตาใหญ่ อาเภอเกาะลนั ตา จังหวดั กระบ่ี

๘๑ แผนทชี่ ุมชนบ้านหัวแหลม หมู่ที่ ๕ ตาบลเกาะลนั ตาใหญ่ อาเภอเกาะลนั ตา จังหวดั กระบ่ี ทม่ี า : Google Earth กราฟิ กดีไซน์ : ฉันท์ชนิต สรรเพช็ ร

๘๒ ชาวเลอุรักลาโว้ยบ้านหวั แหลม ประวตั คิ วามเป็ นมาของกล่มุ ชาตพิ นั ธ์ุ ชาวเลอุรักลาโวย้ บา้ นหัวแหลม เดิมเคยต้งั เพิงพกั อาศยั ยา่ งปลา หุงหาอาหาร และหลบพายุ บริเวณตลาดศรีรายา เม่ือหมดหนา้ มรสุมก็อพยพออกไปทามาหากินในทอ้ งทะเลและตามเกาะแก่งต่าง ๆ จะหวนกลบั มาพกั อาศยั อีกเม่ือถึงหน้ามรสุม แต่เม่ือหวนกลบั มาก็พบวา่ มีชาวมุสลิมมาอาศยั อยแู่ ลว้ จึงขยบั ไปใชพ้ ้ืนที่อ่าวถดั ไป คือบริเวณหวั แหลมแค่ (หวั แหลมใกล)้ เป็ นท่ีพกั อาศยั ต่อมามีชาวจีนเขา้ มาอยู่อาศยั บริเวณตลาดศรีรายา ชาวมุสลิมเลยขยบั ไปใช้พิ้นที่บริเวณหัวแหลมแค่ (หัวแหลมใกล้) ชาวเลจึงตอ้ งขยบั ขยายไปสร้างที่พกั อาศยั บริเวณหัวแหลมกลาง ในอดีตมีชาวเลอุรักลาโวย้ อาศยั อยูท่ ี่ หวั แหลมกลางประมาณ ๔๐ – ๕๐ ครัวเรือน แต่ก็มีสาเหตุที่ทาใหช้ าวเลอุรักลาโวย้ บา้ นหวั แหลมกลาง ตอ้ งอพยพอีก เช่น ประมาณปี พ.ศ.๒๔๘๐ ชาวเลอุรักลาโวย้ บา้ นหัวแหลมพาลูกหนีการเขา้ โรงเรียน หนีการเกณฑท์ หาร และหนีโรคระบาด ก่อนหนีไปไดข้ ายที่ดินใหค้ นอ่ืน เม่ืออพยพกลบั มาก็ตอ้ งอาศยั ในที่ดินที่ขายใหค้ นอ่ืนไปแลว้ ในปี พ.ศ.๒๔๙๙ ชาวเลบา้ นหวั แหลมมีสิทธ์ิไดร้ ับสาเนาทะเบียนบา้ น ในฐานะคนไทย และตอ้ งเขา้ รับการคดั เลือกทหาร ในปี พ.ศ.๒๕๐๑ ชาวเลคนหน่ึงไดร้ ับการคดั เลือก ทหารไม่สามารถผอ่ นผนั ได้ จึงหนีไปอยทู ี่เกาะอ่ืน ทาใหช้ าวเลครอบครัวอื่น ๆ ทยอยอพยพตามไปจน บา้ นหวั แหลมแทบไมม่ ีชาวเลเหลืออยู่ แต่หลงั จากน้นั ก็หวนกลบั มาอีกแมจ้ ะมีปัญหาเร่ืองท่ีดินสาหรับ อยอู่ าศยั (อาภรณ์ อุกฤษณ์ ๒๕๕๔, หนา้ ๗๘ – ๗๙) ทตี่ ้ังแหล่งทอ่ี ยู่อาศัย บา้ นหวั แหลม หมูท่ ี่ ๑ ตาบลเกาะลนั ตาใหญ่ อาเภอเกาะลนั ตา จงั หวดั กระบ่ี พืน้ ทที่ ากิน ชาวเลอุรักลาโวย้ บา้ นหวั แหลม ทาประมงในเขตเกาะหา้ เกาะรอก หลงั เกาะกระดาน เกาะไหง เกาะพพี ี เกาะหมา ในเขตจงั หวดั กระบ่ี และบริเวณปะการังเทียม รวมถึงป่ าชายเลนใกลท้ ี่อยอู่ าศยั พืน้ ทท่ี างจิตวญิ ญาณ พ้ืนท่ีทางจิตวิญญาณของชาวเลอุรักลาโวย้ บา้ นหัวแหลม ไดแ้ ก่ ศาลโต๊ะอาโฆะ๊ เบอราตยั เป็ น ศาลบรรพบุรุษประจาบา้ นหวั แหลมกลาง, ญีไร้ตูโป๊ ะ(สุสานหวั แหลม), และศาลาประกอบพิธีลอยเรือ

๘๓ ญไี ร้ตูโป๊ ะ(สุสานหวั แหลม) จานวนประชากร ชาวเลอุรักลาโวย้ บา้ นหัวแหลม มีชาวเลอยู่อาศยั ๓๔ ครัวเรือน จาแนกได้ดงั น้ี ชาย ๖๗คน หญิง ๗๐ คน รวมเป็น ๑๓๗ คน ภาษา ภาษาของชาวเลอุรักลาโวย๊ ในบา้ นหวั แหลม ที่ใชส้ ่ือสารในชีวิตประจาวนั มีแต่ภาษาพูดแต่ไม่ มีภาษาเขียน มีคาศพั ท์น้อย จะมีคาศพั ท์ที่เขา้ ใจกนั เฉพาะกลุ่มแสดงถึงอตั ลกั ษณ์ของกลุ่มชาติพนั ธุ์ แบง่ เป็นหมวด ไดแ้ ก่ หมวดเครื่องมือเคร่ืองใชใ้ นการทามาหากิน เช่น ดกั ดกั หมายถึง รถจกั รยานยนต,์ จาโตะ หมายถึง เครื่องมือเจาะหอย, ญาเวาะ หมายถึง สวงิ ตกั ปลา เป็ นตน้ , หมวดเคร่ืองใชใ้ นครัวเรือน เช่น จาลก หมายถึง แก้วน้า, บางา เบอซี หมายถึง กระทะ, ตีกอ หมายถึง กาตม้ น้าร้อน เป็ นตน้ , หมวดธรรมชาติ เช่น กอมมวง หมายถึง กอ้ นเมฆ, กาโบยจ หมายถึง หมอก, ตานะ หมายถึง ดิน เป็ น ตน้ (สานกั งานวฒั นธรรมจงั หวดั กระบ่ี. มปป., หนา้ ๑๒ – ๑๓ ) วฒั นธรรม ประเพณ/ี เทศกาล ชุมชนชาวเลอุรักลาโวย้ บา้ นหวั แหลม จะมีประเพณีท่ีสาคญั ไดแ้ ก่ ประเพณเี ปอตัดญรี ัย (ประเพณีการแตง่ เปรว)

๘๔ เป็ นการทาความสะอาด บูรณะซ่อมแซม ตกแต่ง เปรวหรือสุสานและหลุมศพของแต่ละ ครอบครัวแต่ละสายสกลุ พิธีแตง่ เปรวหินทรายจะทาในเดือน ๔ ส่วนเปรวบา้ นเก่าจะทาในเดือน ๕ ของ ทุกปี ช่วงเชา้ ผูช้ ายจะดายหญา้ ตกแต่งหลุมศพ หลงั จากท่ีครอบครัวทาความสะอาดสุสานและหลุมฝัง ศพเสร็จแลว้ ช่วงบ่าย โต๊ะหมอจะเป็ นผูป้ ระกอบพิธีเซ่นไหวบ้ ูชาบรรพบุรุษ เมื่อเสร็จพิธีจะมีการ รับประทานอาหารร่วมกนั ร่วมสนุกดว้ ยการร้องราทาเพลงจากวงรามะนา เพราะเช่ือกนั วา่ บรรพบุรุษจะ มาร่วมสนุกกบั บรรดาลูกหลานดว้ ย ประเพณลี อยเรือ (อารีปลาจั๊ก) จดั ในช่วงวนั ข้ึน ๑๓ ค่า ถึงวนั แรม ๑ ค่า เดือน ๖ และเดือน ๑๑ ตามปฏิทินจนั ทรคติ ระยะเวลา จดั งานเป็นเวลา ๓ วนั โดยมีข้นั ตอนพธิ ีกรรม สรุปได้ ดงั น้ี วนั ข้ึน ๑๓ ค่า ผหู้ ญิงจะเตรียมทาขนมบวั ลอย ๗ สี เพื่อใชใ้ นพิธี ผูช้ ายจะสร้างท่ีพกั ชว่ั คราว ในบริเวณลานพิธี และจะไปรวมตวั กนั ท่ีศาลเจา้ โตะ๊ บาหลิว เพื่อเซ่นไหว้ บอกกล่าว และเชิญให้บรรพ บุรุษมาร่วมในงานพธิ ี วนั ข้ึน ๑๔ ค่า ผชู้ ายจะเดินทางไปตดั ไมต้ ีนเป็ ดมาทา “เรือปลาจก๊ั ” และไมร้ ะกา มาทา “ตุ๊กตา ไม”้ เมื่อได้ไมม้ าแลว้ จะมีพิธีแห่ ก่อนจะนาไปประกอบเป็ นเรือปลาจก๊ั มีความยาวประมาณ ๔ เมตร หรือมากกวา่ น้นั พร้อมท้งั ตกแต่งเรือให้สวยงาม ช่วงบ่ายมีการแห่เรือมายงั สถานที่ประกอบพิธีกรรม จากน้นั ชาวเลจะนาอาหารและส่ิงของต่าง ๆ เช่น ขา้ วเปลือก ขา้ วสาร กะปิ เกลือ ไมข้ ีดไฟ หมาก พลู ใบ จาก เงิน เลบ็ ผม เป็นตน้ รวมท้งั ตุก๊ ตาไมร้ ะกาแกะสลกั ต่างตวั เทา่ กบั จานวนคนในบา้ น ใส่ลงไปในเรือ ปาจกั๊ ส่วนผหู้ ญิงจะเตรียมขนม ๗ สี ท้งั สุกและดิบ ขา้ วเหนียว ๗ สี หมาก พลู ใบจาก ยาเส้น ไก่ยา่ ง ไข่ ไก่ดิบ กายาน ขา้ วตอก เทียน เงิน เครื่องใชไ้ มส้ อยและของจาเป็ นอื่น ๆ เพื่อใชใ้ นพิธีบวงสรวงวิญญาณ บรรพบุรุษในเวลาประมาณสี่โมงเยน็ โดยมีโตะ๊ หมอเป็ นผปู้ ระกอบพิธีกรรม ประมาณ ๑ ทุ่ม จะมีการ ฉลองเรือดว้ ยดนตรีและเพลงรามะนา รามะนา ประมาณเท่ียงคืนจะมีพิธี “เลฮูบาเละฮู” หรือ ”พิธีสาด น้า” วนั ข้ึน ๑๕ ค่า เช้ามืด ชาวเลจะมารวมตวั กนั เพื่อนาเรือลอยออกไปจากฝั่ง เมื่อนาเรือลอย ออกไปจากหมู่บ้านไกลพอสมควรแล้ว ก็ปล่อยเรือลงน้า และเดินทางกลับโดยมีขอ้ แมว้ ่าห้ามหัน กลบั ไปมองเรือปลาจกั๊ อีก ช่วงบ่ายผชู้ ายจะไปตดั ไมแ้ ละหาใบกะพอ้ เพ่ือทไมป้ าดก๊ั หรือไมก้ นั ผี และ ตอนกลางคืนก็จะมีพิธีฉลองเหมือนคืน ๑๔ ค่า พอใกลส้ ว่าง โต๊ะหมอจะทาพิธีเสกน้ามนต์ ทานาย โชคชะตา และสะเดาะเคราะห์ใหค้ นท่ีเขา้ ร่วมพิธีก่อนจะอาบน้ามนต์ และแยกยา้ ยกนั กลบั บา้ น พร้อม กบั นาไมป้ าดกั๊ ไปปักรอบบริเวณหมูบ่ า้ น หลงั พิธีลอยเรือหา้ มทุกคนออกทะเลในหน่ึงวนั

๘๕ ประเพณีลอยเรือปลาจก๊ั จดั ข้ึนเพื่อลอยเคราะห์และส่งวิญญาญบรรพบุรุษกลบั ไป”ฆูนุงฌีไร” (ภูเขาตน้ ไทร ในรัฐไทรบุรี ประเทศสหพนั ธรัฐมาเลเซีย) ชาวเลเชื่อว่าเป็ นดินแดนศกั ด์ิสิทธ์ิท่ีบรรพ บุรุษเคยอยูอ่ าศยั ซ่ึงชาวเลตอ้ งทาพิธีลอยเรือ “ปลาจก๊ั ” เพ่ือเซ่นสรวงทุกคร้ังท่ีลมมรสุมพดั เปลี่ยน ทิศทาง และประเพณีน้ียงั ทาใหญ้ าติพีน่ อ้ งที่อยตู่ า่ งถ่ินไดม้ ีโอกาสพบปะกนั องคป์ ระกอบในงานประเพณีลอยเรือ ไดแ้ ก่ พิธีบูชาเซ่นไหวบ้ อกกล่าวหลาโต๊ะ (ศาลบรรพ บุรุษ) แห่ไม้ การต่อเรือ แห่เรือ พิธีทาน้ามนตแ์ ละอาบน้ามนต์ การสะเดาะเคราะห์ปัดเป่ าส่ิงชว่ั ร้ายให้ ออกไปจากชุมชน หมดทุกขโ์ ศกโรคภยั และมีโชคลาภในการทามาหากิน ขนมในพธิ ีลอยเรือ ประเพณแี ต่งงาน ในอดีตหนุ่มสาวชาวเลจะแต่งงานอายุประมาณ ๑๔ – ๑๘ ปี และมีพิธีสู่ขอหม้นั หมาย โดย ผใู้ หญ่ฝ่ ายชายจะไปขอถึง ๓ คร้ัง ถา้ ตอบรับก็จะไปขอหม้นั หรือ “ปากยั ตูนงั ก่อนแต่ง ๓ วนั ฝ่ ายชาย จะตอ้ งอาสาทางานบา้ นผูห้ ญิง เช่น หาน้า ผา่ ฟื นเป็ นตน้ วนั แต่งงานขบวนแห่จะใหเ้ จา้ บ่าวข่ีคอเดินวน ซา้ ยรอบบา้ นเจา้ สาว ๓ รอบ ก่อนยา่ งเขา้ ประตูบา้ นผใู้ หญ่ฝ่ ายเจา้ สาวจะถามวา่ มีเรือไหม มีแหไหม มี ฉมกไหม เจา้ บ่าวตอบวา่ “มี” ก็จะมีคนลา้ งเทา้ ให้ก่อนขา้ มเขา้ ธรณีประตู เพ่ือนเจา้ บ่าวจะนาเสื่อและ หมอนไปวางในหอ้ งเจา้ สาว เจา้ ถามจะประแป้งใหแ้ ขกท่ีมาร่วมงาน วนั รุ่งข้ึนพ่อแม่และญาติพี่นอ้ งจะ ส่งตวั เจา้ บ่าวเจา้ สาวลงเรือไปผจญภยั ตามเกาะต่าง ๆ โดยมีขา้ วสาร น้าจืด เครื่องมือจบั ปลาไปดว้ ย เพ่ือ พิสูจน์ว่าฝ่ ายชายจะสามารถเล้ียงดูภรรยาไดข้ าไปผูช้ ายจะเป็ นคนกรรเชียงเรือโดยให้ผูห้ ญิงนงั่ หัวเรือ ขากลบั ผูห้ ญิงจะเป็ นฝ่ ายกรรเชียงเรือใหผ้ ูช้ ายนง่ั หวั เรือ เป็ นท่ีเขา้ ไดไ้ ด่วา่ ท้งั คู่เป็ นสามีภรรยาตามพฤติ นยั แลว้ เม่ือแต่งแลว้ ฝ่ ายชายจะตอ้ งเขา้ ไปอยู่บา้ นฝ่ ายหญิง (อาภรณ์ อุกฤษณ์ ๒๕๕๔, หน้า ๑๙๙) ปัจจุบนั ชาวเลบา้ นหวั แหลม มีพิธีแต่งงานท่ีคลา้ ยกบั คนไทยพ้ืนถ่ิน เร่ิมต้งั แต่หนุ่มสาวชอบพอกนั ให้

๘๖ ผใู้ หญ่ไปสู่ขอ มีสินสอดของหม้นั มีงานเล้ียงในหมู่ญาติและคนรู้จกั งานเล้ียงจะข้ึนอยกู่ บั ฐานะของคู่ บ่าวสาว บางคู่ก็มีการกินเล้ียงที่บา้ น อาหารในงานเล้ียง เช่นปลาทอด น้าชุบหยา แกงไก่ แกงหมู เป็ น ตน้ มีพิธีรดน้าให้พร โดยมีโต๊ะหมอเป็ นผูท้ าพิธี และญาติผูใ้ หญ่ ชุดแต่งงานของคู่บ่าวสาวแต่งตาม สมยั นิยม ช่วงอายุของการแต่งงานประมาณย่ีสิบปี ข้ึนไป จะมีการแต่งงานงานระหวา่ งกลุ่มชาวเลดว้ ย กนั เองและต่างกลุ่ม และหลงั จากแต่งงานแล้วการท่ีจะอยู่บา้ นของฝ่ ายไหนก็ข้ึนอยู่กบั สะดวกและ สถานที่ทางานของฝ่ ายน้นั ประเพณแี ลกเปลย่ี นส่ิงของและชิงเปรต ช่วงเทศกาลสารทไทย หรือเดือนสิบ ชาวเลอุรักลาโวย้ จะนาของทะเล เช่น ปลาเค็ม ปลายา่ ง ปะการัง กลั ปังหา เปลือกหอย ไขม่ ุก กาไลกระ ไปแลกกบั เส้ือผา้ อาหาร ของใชจ้ าเป็ นกบั คนเมือง โดย เดินทางไปล่วงหนา้ ๒ – ๓ วนั และร่วมพธิ ีชิงเปรต เพ่อื เก็บขนมพอง ขนมลา ขา้ วปลาอาหาร ทและเงิน ที่ชาวพุทธนาไปต้งั ไหวเ้ ปรต เพื่อนาไปไหวบ้ รรพบุรุษ เพราะเช่ือวา่ ตอ้ งไปรับบุญไม่เช่นน้นั วญิ ญาณ บรรพบุรุษจะอดอยาก (อาภรณ์ อุกฤษณ์ ๒๕๕๔, หนา้ ๑๙๗) พธิ ีกรรม ชาวเลอุรักลาโวย้ บา้ นหวั แหลม มีพธิ ีกรรมที่สาคญั ดงั น้ี พธิ ีศพ เมื่อมีสมาชิกในชุมชนเสียชีวติ จะก่อกองไฟไวห้ นา้ บา้ นผตู้ าย และจดั วางอาหารไวห้ นา้ กองไฟ ตลอด ๓ วนั ๓ คืน ถา้ เสียชีวิตในช่วงเช้าจะฝังศพตอนเย็น ถ้าเสียชีวิตหลงั เที่ยงวนั จะทาพิธีฝังใน วนั รุ่งข้ึน ผชู้ ายจะช่วยกนั ทาโลง และมีการอาบน้าศพ โดยโตะ๊ หมอจะอาบให้เป็ นคนแรก ต่อดว้ ยญาติพี่ นอ้ ง เพ่ือนบา้ น หลงั จากน้นั จะแต่งตวั ให้ผูต้ ายและทาน้ามนั หอมก่อนบรรจุลงในโลงศพท่ีปูดว้ ยเสื่อ และใชผ้ า้ ขาวยาว ๙ ศอก คลุมบนศพ นาขา้ วของเคร่ืองใชข้ องผตู้ ายใส่ไปในโลงศพดว้ ย แลว้ แห่ศพไป ฝังยงั สุสาน เมื่อโต๊ะหมอทาพิธี ญาติพ่ีนอ้ งจะช่วยกนั กลบหลุมศพ และปลูกมะพร้าวท่ีมีหน่อไวป้ ลาย เท้าศพ หลงั จากน้ันอีก ๓ วนั จะเล้ียงอาหาร ดับกองไฟ และทาบุญผูต้ ายอีกคร้ัง ในพิธีแต่งเปลว (อาภรณ์ อุกฤษณ์ ๒๕๕๔, หนา้ ๒๐๑) พธิ ีไหว้หัวเรือ ในอดีตประมาณย่ีสิบกวา่ ปี ท่ีแลว้ พิธีน้ีจะทาตอนท่ีนาเรือเขา้ มาซ่อม หรือเมื่อเรือชารุด เช่น ทาสีใหม่ ตอกหมนั เรือ ก่อนซ่อมจะมีการทานูหรีเล้ียงคน โดยมีความเช่ือวา่ ถา้ มีคนมาร่วมงานบุญนูหรี มาก ก็จะทาให้ตอนออกไปหาสัตวน์ ้าจะได้มากเช่นกนั อาหารที่จดั เล้ียงได้แก่ ขา้ ว หม่ีผดั เหนียว เหลือง ไก่ตม้ โดยมีโตะ๊ หมอเป็นผปู้ ระกอบพิธีกรรม

๘๗ พธิ ีปูยาเกาะ (พธิ ีปยู ่าปเู ลา) เป็ นพิธีบวงสรวงเกาะและโต๊ะท่ีอยู่ประจาเกาะ ชาวเลอุรักลาโวย้ ทุกชุมชนในเกาะลนั ตาจะ มาร่วมพิธี และยงั มีชาวเลอุรักลาโวย้ จากเกาะจา อาเภอเหนือคลอง และบา้ นราไวย์ จงั หวดั ภูเก็ต มาร่วม พิธีดว้ ย ช่วงเวลาท่ีประกอบพิธีระหว่างเดือนหกถึงเดือนสิบเอด็ สถานท่ีประกอบพิธีกรรม คือ แหลม มาลาตี ปากคลองศาลาด่าน เวลาในการประกอบพิธีกรรมจะเป็ นช่วงเชา้ หรือเยน็ ก็ได้ ถา้ ทาพิธีในช่วง น้าทะเลกาลงั ข้ึนจะดีมาก ในการประกอบพิธีกรรม (พ.ศ.๒๕๖๔) โตะ๊ หมอ คือ นายมะดีเอ็น ชา้ งน้า และรองโต๊ะหมอ คือ นายสัน ช้างน้า ทาหนา้ ที่เชิญโต๊ะต่าง ๆ ที่อยใู่ นเกาะหรือในสถานที่ที่เคยทาพิธี ใหม้ ารับของเซ่นไหว้ ซ่ึงอาหารในพธิ ีกรรม มีดงั น้ี ขา้ วเหนียวขาวและขา้ วเหนียวเหลือง, ไก่ยา่ งหรือตม้ ท้งั ตวั , กุง้ หอยปูปลา (ถา้ มี), ผลไม,้ น้า น้าหวานและเหลา้ (ถา้ มี), หมาก, พลู, ขา้ วตอก, กายาน, เทียน ข้ีผ้งึ ,ใบจาก, ยาเส้น, ผา้ แดง, มนั จนั ทร์และแป้งน้า,ธูป, กระดาษเงินกระดาษทอง และมีปาญีเป็ นไมผ้ ูก ผา้ ไวต้ รงปลายไม้ แทนสัญลกั ษณ์ของสถานท่ีท่ีนบั ถือ ไมน้ ้ีเชื่อกนั วา่ จะมีโชคลาภ โต๊ะหมอจะขอกบั โตะ๊ ให้สัตวน์ ้ามีความอุดมสมบูรณ์ ขอให้ทุกคนและครอบครัวมีสุขภาพแข็งแรงปลอดภยั จากอนั ตราย ต่าง ๆ หลงั โต๊ะหมอบอกกล่าวเสร็จ ก็จะให้ผูเ้ ขา้ ร่วมพิธีต้งั หมากพลูและบอกกล่าวขอพรกบั โต๊ะให้ ตนเองและครอบครัว บางครอบครัวก็ไปแกบ้ นเพราะสาเร็จผลตามที่ไดบ้ นบานไว้ จากน้นั ก็นาของท่ี นามาเซ่นไหวแ้ บง่ ส่งลงทะเลบางส่วน ส่วนปาญีหลงั เสร็จพธิ ีก็ปักไวท้ ี่ ณ สถานที่ทาพธิ ี พธิ ีแก้บน(แก้เหลย) ชาวเลจะมีการแกบ้ น เพราะไดบ้ นบานศาลกล่าวกบั ส่ิงเหนือธรรมชาติท่ีตนเคารพนบั ถือวา่ ให้ ตนเองและครอบครัวหายจากการเจ็บไขไ้ ดป้ ่ วย หรือประสบผลสาเร็จในเร่ืองใดเร่ืองหน่ึง ถา้ เป็ นไป เป็นตามที่ไดข้ อหรือบนบานไว้ กต็ อ้ งมาแกบ้ น เช่น บนวา่ ถา้ หายป่ วยจะจดั ให้มีการแสดงรามะนา หรือ ถวายอาหารคาวหวาน กต็ อ้ งมาทาตามที่ไดใ้ หพ้ นั ธะสัญญาไว้ คติ ความเชื่อ ตานาน ความเชื่อเรื่อง “โตะ๊ ” หรือ “ดาโตะ๊ ” ซ่ึงเป็ นวิญญาณบรรพบุรุษ แฝงตวั อยูร่ ่างต่าง ๆ ของสัตว์ เช่น เสือ ปลา นก งู จอมปลวก กอ้ นหิน หรือสถานท่ี เป็ นตน้ ,ความเชื่อเร่ืองห้ามคนท่ีเป็ นแผลไปงาน ศพ เพราะจาใหแ้ ผลเป่ื อยมากข้ึน, ความเชื่อเรื่องตดั ไมร้ ะกาหรือไมต้ ีนเป็ ดเพื่อใชใ้ นพิธีลอยเรือ ห้ามลบ หลู่ส่ิงศกั ด์ิสิทธ์ิ ห้ามพูดจาไม่ดี ,ความเชื่อเร่ืองคนที่คลอดลูกใหม่ ๆ ในขณะท่ีนอนอยูไ่ ฟ ห้ามให้คน อ่ืนไปเหยยี บหรือสะดุดเทา้ ,หา้ มขา้ มเชือกหวั เรือจะทาใหค้ ลอดยาก เป็นตน้ ตานานโตะ๊ บุหรง เชื่อวา่ โต๊ะบุหรง สิงสถิตยใ์ นตวั นก สามารถห้ามฟ้าห้ามฝนได้ จึงแกะสลกั รูปหวั นกไวบ้ นหวั เรือปลาจกั๊ , ตานานโต๊ะอาโฆฮ๊ เบอราตยั เดิมเป็ นจอมปลวก และมีงูตวั ใหญ่เล้ือยมา

๘๘ ขดเป็ นประจา เชื่อกนั ว่า โต๊ะอาโฆ๊ฮเบอราตยั สิงสถิตยใ์ นตวั งู ชาวบา้ นหัวแหลมจึงสร้างศาลให้อยู่ อาศยั และเป็ นศาลบรรพบุรุษ ทุกเดือน ๗ ก่อนทานาชาวเล ชาวจีน ชาวมุสลิมท่ีมีนาจะจดั งานฉลอง ปัจจุบนั ชาวเลยงั คงทาพิธีไหวศ้ าลและเวียนไมร้ ะกาก่อนพิธีลอยเรือในเดือน ๖ และเดือน ๑๑ ,ตานาน กาเนิดชาวเล, ตานานชาวเลเข้าแขก, ตานานท่าราปูเหล็กไฟ,ตานานคลื่นเจ็ดลูกหรือ “รูมัก ตู โยะ”,(อาภรณ์ อุกฤษณ์ ๒๕๕๔, หนา้ ๑๘๙ – ๑๙๓) ศิลปะการแสดง รองเง็ง เป็ นการแสดงที่มีการร้องและราคลา้ ยคลึงกบั การเล่นรามะนา บทเพลงจะขบั เป็ นภาษามลายู กลาง เรียกว่า ขบั แขก จะเริ่มตน้ ด้วยเพลงลาฆูดูวอ จะเล่นเพลงอ่ืน ๆ ไปตามลาดบั ปัจจุบนั บา้ น หวั แหลมมีคนขบั รองแง็งได้ ๑ คน เป็ นผูช้ าย อายุประมาณ ๖๓ ปี และมีคนรารองแง็งได้ ๑ คน เป็ น ผหู้ ญิง อายปุ ระมาณ ๕๗ ปี ปกติเวลามีงานจะร่วมรากบั คณะท่ีบา้ นสงั กาอู้ รามะนา เป็ นการแสดงพ้ืนบา้ นของชาวอุรักลาโวย้ ขบั ร้องโดยใช้ภาษามาเลยผ์ สมกบั ภาษา อูรักลาโวย้ แบบเก่า ใช้แสดงในพิธีกรรมต่าง ๆ เช่น พิธีลอยเรือ แต่งเปรว พิธีแก้บน เครื่องดนตรีประกอบกว้ ย กลองรามะนา ๒ – ๓ ใบ กลองทน ๒ ใบ ซอหรือไวโอลิน ๑ ตวั อาจจะเพ่ิมฉ่ิงหรือฉาบก็ได้ วงรามะนา


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook