บอกกลา่ ว เมอื่ สนิ้ สดุ “เป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษ” หรือ Millennium Development Goals (MDGs) เป้าหมาย “การพัฒนาที่ยงั่ ยนื ” หรอื Sustainable Development Goals (SDGs) ถูกใช้เป็นกรอบคิดสา� คัญภายใต้การน�าขององค์การ สหประชาชาติ รายงานสุขภาพคนไทยฉบับนีจ้ ึงขอหยบิ ยก เป้าหมายการพัฒนาทีย่ งั่ ยืนมาเป็นประเด็นส�าหรับหมวดตัวชีว้ ัด โดยจะเนน้ เปา้ หมายท่ี 3 “ชวี ติ ท่มี สี ขุ ภาพดแี ละสุขภาวะของทกุ คน ในทกุ ชว่ งวยั ” เปน็ หลกั โดยนา� เสนอ 11 ตวั ชว้ี ดั ภายใตช้ ่อื “สขุ ภาพ คนไทยกับเปา้ หมายการพัฒนาท่ียัง่ ยืน” โดยเสนอใหเ้ ห็นถงึ ข้อมลู สา� คญั ท่ีสะทอ้ นปญั หาหลายดา้ น ซ่งึ หากประเทศไทยตอ้ งการบรรลุ เปา้ หมาย “การพฒั นาอยา่ งย่ังยนื ” อาจตอ้ งเปน็ งานทา้ ทายสา� คญั อาทิ อัตราการตายของมารดาท่ียังคงสงู อยใู่ นบางพน้ื ท่ี โรคไมต่ ดิ ตอ่ เร้ือรังที่ท�าให้คนไทยจ�านวนมากเสยี ชีวิตก่อนวัยอันควร ปัญหา อบุ ัติเหตุ ทีย่ งั ครองแชมป์ในการท�าให้คนไทยสูญเสียปีสุขภาวะ หลักประกนั สขุ ภาพถว้ นหนา้ ท่ียงั มีปญั หาการเขา้ ถงึ บรกิ ารสขุ ภาพ ทเี่ ท่าเทียมและมคี ุณภาพ นอกจากนยี้ งั มปี ระเด็นเรือ่ งการใช้ สารเสพติด ปัญหาสง่ิ แวดล้อมรวมอยู่ดว้ ย สว่ นทสี่ อง รายงาน 10 สถานการณเ์ ดน่ ทางสขุ ภาพปนี ีไ้ ด้ หยิบยกเรอ่ื งส�าคญั ท่เี กดิ ขน้ึ ในรอบปี คอื รฐั ธรรมนญู ผา่ นประชามติ ยุทธศาสตรช์ าติ 20 ปี พ.ร.บ. สขุ ภาพแหง่ ชาตสิ กู่ ฎหมายเพอ่ื สุขภาพ ของไทย ธรรมนญู ระบบสขุ ภาพฉบบั ที่ 2 ควบ HIA ใหม่
ร่าง พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ได้รับผลกระทบจากการบริการสาธารณสขุ นโยบายลงทะเบียนผู้มีรายไดน้ อ้ ย มาตรการชว่ ยเหลอื ผสู้ ูงอายรุ องรบั สังคมสงู วยั การน�าเขา้ แรงงานขา้ มชาตติ าม MoU เขตพฒั นาเศรษฐกจิ พเิ ศษ และปญั หาราคาข้าวตกต�่า สว่ น 4 ผลงานดๆี ท่ีเกิดขึ้น ไดแ้ ก่ การใหส้ ทิ ธิบัตรทองกับผพู้ กิ าร ทุกคน อนมุ ตั เิ รียนฟรีอนบุ าล-ม.6 ไทยติดอันดับประเทศทมี่ คี วามทกุ ข์ยากนอ้ ยท่ีสุด และยกโครงการ บตั รทองใหเ้ ป็นแมแ่ บบเอเชยี ในทุกสงั คม ยอ่ มมีความแตกต่างหลากหลาย และแมส้ งั คมขนาดเล็กอย่างครอบครวั สมาชิก ก็มคี วามแตกต่างกัน ส�าคัญเหนืออื่นใดคือ การทา� ให้คนทมี่ คี วามแตกต่างกัน อยู่ร่วมกันในสงั คมได้ โดยไม่เกิดความขัดแยง้ แบง่ แยก หรือถกู ทอดทง้ิ ใหก้ ลายเป็นคนท่ีเปราะบาง ไมว่ า่ จะด้วยสาเหตใุ ด ก็ตาม รายงานสขุ ภาพคนไทย 2560 เรอื่ งพิเศษประจา� ฉบับ จึงชวนทา่ นมาทบทวน ประเด็นเชงิ สงั คม และการอยู่ร่วมกัน เรื่อง “เสริมพลงั กลุ่มเปราะบาง สร้างสงั คมทไี่ ม่ทอดทงิ้ กัน” ซึง่ จะท�าให้เข้าใจ มติ ิของความเปราะบางยงิ่ ขึน้ เข้าใจสาเหตุทีท่ �าให้คนเปราะบาง และลกั ษณะของความเปราะบาง ของคนแต่ละกลุ่ม ตลอดจนผลกระทบจากความเปราะบางและสิง่ ทีค่ วรท�า เพือ่ ให้คนกลุ่มนพี้ ้นจาก สภาพความเปราะบาง และอยใู่ นสังคมไดอ้ ยา่ งมศี กั ดศ์ิ รี มีความเทา่ เทยี ม และมีโอกาสเขา้ ถงึ ทรพั ยากร อย่างเสมอหนา้ กนั หนงั สอื สขุ ภาพคนไทย 2560 ขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านทีต่ ิดตามหนังสือเล่มนมี้ าโดยตลอด และใช้ประโยชน์จากข้อมลู ของเรา ท่านสามารถดาวน์โหลดและอ่านได้จากเว็บไซต์ www.thaihealthreport.com คณะท�ำงำนสุขภำพคนไทย มีนำคม 2560
สารบญั 11 ตวั ชี้วดั “สขุ ภาพคนไทย กับเปา้ หมายการพฒั นาท่ยี ง่ั ยืน” 76 พระบาทสมเด็จ 1. สุขภาพมารดา 82 พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดุลยเดช 2. การเกิดและคุณภาพเด็ก 84 3. โรคเอดส์ วณั โรค และมาลาเรีย 86 กับสขุ ภาพคนไทย 4. โรคไมต่ ิดต่อ 88 6 5. การใชส้ ารเสพติด 90 6. อบุ ัตเิ หตทุ างจราจร 92 7. อนามยั การเจริญพันธุ์ 94 8. มลพิษ 96 9. ระบบหลกั ประกนั สุขภาพถว้ นหนา้ 98 10. บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสขุ 100 11. ภาพรวม SDG ด้านสุขภาพ 102
10 สถานการณ์เด่น 4 ผลงานดๆี 150 ทางสุขภาพ 104 เพ่ือสุขภาพคนไทย 1. รฐั ธรรมนญู ผา่ นประชามติเดนิ หนา้ โรดแมป 1. ใหส้ ิทธบิ ัตรทองกบั ผูพ้ ิการทกุ คน 150 ส่กู ารเลือกตง้ั 106 2. อนุมัติเรียนฟรี อนบุ าล-ม.6 150 2. ยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี 110 3. ไทยติดอนั ดับประเทศท่ีมีความทกุ ข์ยากนอ้ ยทส่ี ุด 151 3. หน่งึ ทศวรรษ พ.ร.บ. สขุ ภาพแห่งชาติ 114 4. แพทยสมาคมโลก ยกโครงการบัตรทอง 151 สกู่ ฎหมายเพื่อสขุ ภาพของไทย เป็นแม่แบบของเอเชยี 4. คลอดธรรมนญู ระบบสขุ ภาพ ฉบับท่ี 2 ควบ HIA ใหม่ : สู่อนาคตระบบสขุ ภาพไทย 119 152 5. รา่ ง พ.ร.บ. คมุ้ ครองผู้ไดร้ ับผลกระทบ เร่อื งพเิ ศษประจ�าฉบับ จากการบรกิ ารสาธารณสุข : อีกหนึ่งความพยายาม เสริมพลงั กลุ่มเปราะบาง สรา้ งสงั คมท่ีไมท่ อดท้ิงกนั 154 ในการปฏิรูปสาธารณสุขไทย 124 6. นโยบายลงทะเบียนผูม้ รี ายได้นอ้ ย 128 ภาคผนวก มุ่งลดเหล่ือมลา�้ พัฒนาคณุ ภาพชวี ติ 7. 4 มาตรการชว่ ยเหลือผ้สู งู อายุ 132 บรรณานุกรม 181 รองรบั สังคมสูงวยั เกณฑก์ ารจัดท�ารายงาน “สุขภาพคนไทย 2560” 187 8. รัฐจดั ระเบียบแรงงานข้ามชาติ เนน้ น�าเขา้ ตาม MoU 136 รายชื่อคณะกรรมการชท้ี ศิ ทาง 189 รายช่ือผู้ทรงคุณวุฒิ 190 9. เขตพัฒนาเศรษฐกจิ พิเศษ ตอ้ งมองให้รอบด้าน 141 คณะท�างานจดั ทา� โครงการสุขภาพคนไทย 191 10. ราคาขา้ วตกต�่า : ปญั หาเรอื้ รังของไทย 146
`พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทร` มหาภมู พิ ลอดุลยเดช กับสขุ ภาพคนไทย
พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช กับสขุ ภาพคนไทย 7
` บทน�า` เมอื่ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานนั ทมหิดลเสด็จสวรรคตเมือ่ วันที่ 9 มถิ ุนายน พ.ศ. 2489 พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช ทรงเปน็ พระอนุชาพระองค์ เดียวของพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ โดยทรงด�ารงพระอสิ ริยยศเป็นสมเด็จพระเจ้า น้องยาเธอ เจ้าฟ้าภูมพิ ลอดุลยเดช รัฐบาลและรัฐสภา จึงพร้อมใจกันโดยรัฐสภาได้ มีมตเิ ปน็ เอกฉนั ทก์ ราบบังคมทลู อญั เชญิ เสดจ็ ข้นึ ครองราชยส์ ืบสันตตวิ งศต์ อ่ มาในวนั เดยี วกนั น้ันเอง(1) ขณะนั้น สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภูมิพลอดุลยเดช ทรงมีพระชนมพรรษาเพียง 18 ปี 6 เดือน 4 วัน ยงั ไม่ทรงบรรลนุ ติ ิภาวะ และยงั อยู่ระหว่างทรงศึกษาเล่าเรียน ในวันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2489 จึงทรงเสด็จพระราชด�าเนินกลับไปทรงศึกษาต่อ ณ ประเทศสวิตเซอรแ์ ลนด์ ทรงมพี ระราชดา� รสั อ�าลาประชาชนทางวิทยกุ ระจายเสยี งวา่ “ข้าพเจา้ มคี วามจา� เปน็ ที่จะต้องจากประเทศไทยและพวกท่านท้งั หลาย เพ่อื ไปศึกษาตอ่ ให้มคี วามรู้ด้านใหม่” ในวนั ท่ีเสดจ็ นริ าศจากประเทศไทยไปน้นั มีเหตทุ ่แี สดงถงึ ความจงรกั ภกั ดตี อ่ สถาบนั พระมหา กษัตริย์ของปวงชนชาวไทย และเป็นเครือ่ งผูกมดั หลอมรวมจิตใจของประชาชนเข้าเป็นอนั หน่ึงอนั เดยี วกันกบั องค์พระมหากษัตริย์ พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดลุ ยเดช ทรงพระราชนพิ นธไ์ ว้ในพระราชนพิ นธบ์ นั ทึกประจ�าวันวา่ “ท่ถี นนราชด�าเนินกลาง ราษฎรเข้ามาจนชิดรถทเ่ี รานง่ั กลัวเหลือเกนิ ว่าล้อรถ ของเราจะไปทับแข้งทับขาใครเขา้ บ้าง รถแล่นฝา่ ฝูงชนไปอย่างชา้ ทีส่ ดุ ถึงวัดเบญจมบพิตร รถแล่นเร็วขนึ้ ไดบ้ ้าง ตามทางที่ผ่านมา ไดย้ ินเสยี งใครคนหน่งึ ร้องขึ้นมาดงั ๆ ว่า ‘อย่าละท้งิ ประชาชน’ อยากจะรอ้ งบอกเขา ลงไปวา่ ‘ถา้ ประชาชนไม่ท้ิงข้าพเจ้าแลว้ ข้าพเจา้ จะ “ละท้ิง” อย่างไรได’้ แต่รถวง่ิ เร็วและเลยไปไกลเสียแลว้ ...”
ถ้าประชาชน ไม่ทิง้ ข้าพเจา้ แล้ว ขา้ พเจา้ จะ “ละท้งิ ” อย่างไรได้ แต่รถวิ่งเร็วและเลยไป ไกลเสยี แล้ว...
“เมือ่ ขึน้ มาอยบู่ นเครอื่ งบินแลว้ กย็ งั มองเหน็ เหลา่ ราษฎร ได้ยินเสียงไชโยโห่รอ้ ง อวยชัยให้พร แตเ่ มื่อคนประจ�าเครอ่ื งบนิ เร่มิ เดินเคร่อื งทีละเคร่อื งๆ เสยี ง เครื่องยนต์ดังสน่นั หวัน่ ไหว กลบเสียงโหร่ อ้ งก้องกังวาฬของประชาชนที่ดงั อยู่หมด พอถงึ 12 นาฬกิ า เรากอ็ อกเดนิ ทางมาบนิ วนอยู่เหนอื พระนครสามรอบ ยงั มองเห็นประชาชนแหงนดูเคร่อื งบนิ ทั่วถนนทุกสายในพระนคร”(2) เมอื่ ปลายปี พ.ศ. 2490 ทรงบรรลุนติ ิภาวะขณะประทับอยู่ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ทรงฉลองวันพระราชสมภพอยา่ งเงียบๆ ทรงตั้งพระทยั ว่า จะยังไมเ่ สด็จนวิ ตั ประเทศไทย จนกว่าจะถึงก�าหนดถวายพระเพลงิ พระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ซึง่ คาดว่าจะเป็น พ.ศ. 2491 แต่พระราชพิธีถวายพระเพลงิ พระบรมศพพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล มขี ึน้ ที่ท้องสนามหลวง เม่ือวนั ท่ี 29 มนี าคม พ.ศ. 2493 ทรงเสด็จนิวตั ประเทศไทยในช่วงน้ัน หลงั พระราชพิธีถวายพระเพลงิ พระบรมศพพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล ทรงมีพระราชพิธี ราชาภิเษกสมรสกบั ม.ร.ว.สริ กิ ิต์ิ กิติยากร เม่ือวันที่ 28 เมษายน ณ วงั สระปทุม ซ่ึงเป็นที่ ทสี่ มเด็จพระราชบิดาได้ทรงอภิเษกสมรสและสนิ้ พระชนม์ ทัง้ สองพระองค์ทรงจดทะเบยี น สมรส โดยทรงจ่ายค่าธรรมเนียม 10 บาท เหมือนราษฎรท่วั ไป จากน้ันกท็ รงลงพระนาม ในทะเบียนสมรส โดยทีม่ ิได้ทรงกรอกทีช่ ่องอาชีพ แต่คนก็น�าไปเล่าลือกันอย่างผดิ ๆ ว่า พระเจ้าอยหู่ ัวทรงกรอกท่ชี อ่ งอาชพี ว่า “พระเจ้าแผน่ ดิน” (3) หลงั จากนนั้ ทรงมพี ระราชพิธีบรมราชาภิเษก ณ พระทนี่ งั่ อมรินทรวินจิ ฉัย เมอื่ วันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2493 ในพระราชพิธีราชาภิเษกนนั้ ก็ได้ทรงสถาปนาพระยศสมเด็จ พระราชินสี ิริกิติ์ เป็น “สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินี” หลังจากนนั้ ได้เสด็จไป ประทับทีป่ ระเทศสวิตเซอร์แลนด์อกี ระยะหนงึ่ จึงเสด็จนวิ ัตประเทศไทยเป็นการถาวร ทนั วันเฉลมิ พระชนมพรรษาครบ 24 พรรษา เมือ่ วนั ท่ี 5 ธันวาคม พ.ศ. 2494 แมช้ ว่ ง 5 ปแี รกท่ีเสดจ็ ขน้ึ ครองราชยจ์ ะทรงใชช้ วี ติ สว่ นใหญอ่ ยกู่ บั การศกึ ษาในตา่ งประเทศ แต่พระราชกรณียกิจเพือ่ ประชาชนชาวไทยได้เริม่ แล้วตั้งแต่ก่อนเสด็จนิวัตประเทศไทย เปน็ การถาวร และความจรงิ แลว้ ไดท้ รงเรม่ิ พระราชกรณียกจิ โดยเฉพาะเพอ่ื สุขภาพคนไทย ตง้ั แต่ก่อนเสดจ็ ข้ึนครองราชยด์ ้วยซา�้ 10 สขุ ภาพคนไทย 2560
` ครอบครวั สาธารณสุข` พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช เป็นพระราชโอรสองค์เลก็ ของสมเด็จ พระมหิตลาธิเบศรอดลุ ยเดชวกิ รม พระบรมราชชนก และสมเดจ็ พระศรนี ครนิ ทราบรมราช ชนนี ประสตู เิ มื่อ วันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2470 ณ โรงพยาบาลเคมบรดิ จ์ ซึ่งต่อมาเปลี่ยน ชื่อเป็นโรงพยาบาลเมาตอ์ อเบริ ์น ในนครเคมบรดิ จ์ มลรัฐแมสซาชเู ซตส์ สหรฐั อเมรกิ า สม เดจ็ ฯ พระบรมราชชนก เดมิ ทรงเปน็ ทหารเรอื ต่อมาทรงไดม้ าดแู ลงานดา้ นสาธารณสุข ได้ ทรงใชเ้ วลาถงึ 12 ปี ศกึ ษาจนไดป้ รญิ ญาทางสาธารณสุข และแพทยศาสตรจ์ ากมหาวทิ ยาลัย ฮาร์วาร์ด ทรงอทุ ิศพระราชทรัพย์ เพือ่ สร้างโรงพยาบาลและให้ทนุ การศึกษาแก่นกั เรียน จ�านวนมาก รวมทัง้ ได้ทรงเป็นผู้เจรจากับมลู นธิ ิร็อคกี้เฟลเลอร์ให้เข้ามาปรับปรุงการศึกษา แพทยศาสตรข์ องประเทศไทยใหไ้ ดม้ าตรฐานทดั เทียมกบั ประเทศท่ีเจรญิ แลว้ ผลงานรวมท้งั พระราโชวาทของพระองค์ท่านมีส่วนส�าคัญในการหล่อหลอมอดุ มการณ์ และทิศทาง การพัฒนาด้านการแพทย์และสาธารณสขุ ของประเทศไทย จนวงการแพทย์ได้พร้อมใจกัน ถวายพระราชสมญั ญานามแดพ่ ระองคท์ ่านพระบดิ าแหง่ การแพทยแ์ ผนปัจจุบนั ของไทย พระราโชวาทของสมเดจ็ ฯ พระบรมราชชนก เกย่ี วกบั การแพทยแ์ ละสาธารณสขุ จา� นวนมาก มีการนา� มาอ้างองิ เสมอ พระราโชวาททไี่ ด้รับการคัดเลอื กจารึกไว้ทฐี่ านพระราชานุสาวรีย์ ของพระองค์ท่านทีป่ ระดิษฐานอยู่ในกระทรวงสาธารณสขุ คือ ลายพระหัตถ์ทที่ รงมีถึง นายแพทยส์ วัสด์ิ แดงสว่าง มีขอ้ ความดงั น้ี ขอใหถ้ อื ผลประโยชน์ส่วนตวั เป็นท่ีสอง ประโยชน์ของเพ่อื นมนษุ ย์เป็นกจิ ทห่ี นงึ่ ลาภ ทรัพย์ และเกียรติยศจะตกมาแกท่ า่ นเอง ถา้ ทา่ นทรงธรรมมะแหง่ อาชีพไว้ใหบ้ รสิ ทุ ธ์ิ (4) พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภมู ิพลอดุลยเดช กับสขุ ภาพคนไทย 11
ขอให้ถือผลประโยชนส์ ่วนตัว เปน็ ทส่ี อง ประโยชนข์ องเพ่อื นมนษุ ย์ เป็นกจิ ทห่ี นง่ึ ลาภ ทรัพย์ และเกยี รตยิ ศ จะตกมาแกท่ ่านเอง ถ้าท่านทรงธรรมมะแห่งอาชพี ไว้ให้บรสิ ทุ ธ์ิ
ส�าหรับ สมเด็จพระศรนี ครนิ ทราบรมราชชนนี ทรงมาจากครอบครวั ของสามญั ชน กา� พรา้ บดิ าตั้งแต่ยังเล็กมาก เมอื่ อายุได้ 9 ขวบ มารดาก็ตายจากไปอกี คน เมอื่ ยงั เลก็ ได้แม่ซึง่ เป็นคนเดียวในหมู่พีน่ ้องทีอ่ ่านหนังสือออก เริ่มสอนหนงั สือให้ ต่อมาได้เรียนหนังสืออย่าง กระทอ่ นกระแทน่ เรยี นโรงเรียนวดั แหง่ แรกไมถ่ งึ ปี โรงเรียนก็ปดิ ไป ตอ่ มาได้เรียนทโี่ รงเรียน ศึกษานารี ไดเ้ ดือนกวา่ ๆ กต็ ้องออก เพราะทางบ้านไม่มีเงินพอทจี่ ะเสียค่าเลา่ เรียน บุญทม่ี ี ผพู้ าไปฝากตวั เปน็ ขา้ หลวงของสมเดจ็ เจา้ ฟา้ วไลยอลงกรณ์ กรมหลวงเพชรบรุ รี าชสริ นิ ธร แม้ จะเป็นเพียงขา้ หลวงชน้ั สอง เพราะไมไ่ ดเ้ ป็นลกู ขนุ นาง ต่อมาจึงได้เรียนจนถึงชน้ั ประถม 3 และได้ไปเรียนต่อใน “โรงเรียนแพทย์ผดุงครรภ์และหญิงพยาบาลแห่งศิริราช” จนจบ และได้ทุนสมเด็จพระพันวัสสาอยั ยกิ าเจ้าไปเรียนต่อทสี่ หรัฐอเมริกา(5) ท�าให้ได้พบรัก กบั สมเดจ็ ฯ พระบรมราชชนก เมอื่ สมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลอดุลยเดช จะทรงอภิเษกสมรสกับนางสาวสังวาลย์ ตะละภัฏ ในชัน้ แรก พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวก็ไม่ทรงสบายพระทัยนกั ที่ “เจ้าฟ้า” จะทรงฝ่าประเพณีไปสมรสกับสตรีสามญั ชนเช่นนนั้ แต่ในท่สี ดุ ก็ทรงยนิ ยอมพระราชทาน พระบรมราชานุญาต สมเดจ็ เจา้ ฟา้ มหดิ ลอดลุ ยเดช ทรงมีลายพระหตั ถถ์ วายสมเดจ็ พระบรมราชชนนีของพระองค์ ทรงอธบิ ายเรอื่ งราว และขอพระราชทานพรวา่ “สงั วาลยเ์ ปน็ เดก็ กา� พร้า แต่งงานแลว้ ก็มาใชน้ ามสกุลหม่อมฉนั หม่อมฉนั ไมไ่ ด้ เลือกเมยี ด้วย สกุลรุนชาติ ตอ้ งเกดิ เปน็ อยา่ งน้ัน ตอ้ งเกดิ เปน็ อย่างน้ี คนเราเลอื กเกิดไม่ได้ หม่อมฉนั เลือกคนดี” (6) ท่ีฐานพระราชานสุ าวรยี ข์ องสมเดจ็ พระศรนี ครนิ ทราบรมราชชนนที ปี่ ระดษิ ฐานในกระทรวง สาธารณสขุ เคยี งคพู่ ระราชานสุ าวรยี ์ สมเดจ็ ฯ พระบรมราชชนก มจี ารกึ ถอ้ ยคา� ของพระองค์ ท่าน ไว้ ดังนี้ “คนดีของฉนั รึ จะตอ้ งเป็นคนทไี่ ม่พูดปด ไมส่ อพลอ ไม่อจิ ฉารษิ ยา ไมค่ ดโกง และไม่ทะเยอทะยานอย่างบ้าๆ แตพ่ ยายามทา� หน้าทีข่ องตน ใหด้ ีในขอบเขตของศีลธรรม” พระราชกรณยี กจิ มากมายท่สี มเดจ็ พระศรนี ครนิ ทราบรมราชชนนี ทรงบ�าเพญ็ เปน็ ประโยชน์ ต่อวงการสาธารณสุขไทยอย่างกว้างขวาง กระทรวงสาธารณสุข จึงถวายพระราชสมัญญา นามแดพ่ ระองคท์ า่ นว่า “พระมารดาแหง่ การสาธารณสุขไทย” พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช กบั สขุ ภาพคนไทย 13
` แบบอยา่ งของบุรพมหากษตั ริย์` และพระบรมวงศานวุ งศ์ ด้านการแพทย์และสาธารณสุข การแพทยแ์ ผนปจั จบุ ันเขา้ มาสปู่ ระเทศไทยพรอ้ มกบั การเผยแผศ่ าสนาของมชิ ชนั นารี ต้งั แต่ สมยั รัชกาลที่ 3 แล้ว พระมหากษัตริย์ไทยพระองค์แรกทีท่ รงเริ่มวางรากฐานการแพทย์ แผนปัจจบุ ันในประเทศไทยคือ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลา้ เจา้ อย่หู วั โดยทรงรเิ ร่ิมให้ มีการสร้างโรงพยาบาลของรัฐแหง่ แรกข้ึน ระหว่างนั้นพระราชโอรสพระองคห์ นง่ึ คือสมเดจ็ พระเจา้ ลูกยาเธอเจา้ ฟา้ ศริ ริ าชกกธุ ภณั ฑส์ ้ินพระชนมล์ งดว้ ยพระโรคบดิ เม่ือพระชนั ษาเพยี ง 1 ปี 6 เดือน 4 วัน อาการของโรคบิดนนั้ นา� ความทุกข์ทรมานแสนสาหัสมาสู่ผู้ป่วยจาก การถา่ ยเป็นมูกเลือด และปวดเบ่งมาก มีบนั ทกึ วา่ ทรงถา่ ยถึงวนั ละ 42-52 ครง้ั พระบาท สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเห็นความทุกข์ทรมานนัน้ ด้วยพระองค์เอง ดังทรงมี ลายพระหัตถ์ถึงคณะกรรมการสร้างโรงพยาบาลว่า “แต่ลูกเราพิทกั ษ์รักษาเพียงนี้ ยังได้ ความทุกข์เวทนาแสนสาหัส ลกู ราษฎรทอี่ นาถาทัง้ ปวงจะได้รับความทุกข์เวทนายิง่ กว่านี้ ประการใด ยิ่งทา� ให้มคี วามปรารถนาที่จะใหม้ โี รงพยาบาลยิง่ ขนึ้ ...” (7) จงึ ย่ิงทรงมีพระราช ปณธิ านอันแน่วแน่ที่จะสร้างโรงพยาบาลเพือ่ บรรเทาทกุ ข์ให้แก่ราษฎรให้จงได้ และ ทรงเตรียมการอย่างเป็นระบบ ไม้ทเี่ หลือจากงานพระเมรุ พระบรมศพของพระโอรสทมี่ ี พระราชพิธีพร้อมกับพระบรมวงศานวุ งศ์อีก 4 พระองค์ในครั้งนัน้ ก็ได้นา� ไปใช้ก่อสร้างโรง พยาบาล และพระราชทรัพย์ของเจ้าฟ้าชายศิริราชฯ จ�านวนถึง 700 ชั่ง ก็ทรงปรึกษา กับสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินี น�าไปใช้ก่อสร้างโรงพยาบาล โรงพยาบาลแห่งนี้ จงึ ไดน้ ามวา่ “โรงศริ ริ าชพยาบาล” สบื ตอ่ มา แต่ชาวบ้านนิยมเรียกวา่ โรงพยาบาลศิรริ าช โดยเรม่ิ สร้างเมอ่ื พ.ศ. 2429 และสามารถเปดิ บรกิ ารไดต้ ั้งแต่ พ.ศ. 2431 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช กับสขุ ภาพคนไทย 15
นอกจากโรงพยาบาลแลว้ พระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั ทรงตงั้ กรมพยาบาลข้นึ ในกระทรวงธรรมการ เม่ือ พ.ศ. 2430 ก่อตง้ั โรงเรียนแพทย์และโรงเรียนผดุงครรภข์ ึ้นเปน็ แห่งแรกทีศ่ ิริราช มกี ารตีพิมพ์ต�าราแพทย์แผนตะวันตกเล่มแรกในประเทศไทย และมี โครงการน�ารอ่ งดา้ นการจดั การสุขาภบิ าลข้นึ ทีจ่ งั หวัดสมุทรปราการ นอกจากโรงพยาบาลฝา่ ยกายแลว้ มีคนสง่ คนเสียจรติ ใหโ้ รงพยาบาลรกั ษาเนอื งๆ จะรบั รกั ษา ในโรงพยาบาลศิริราชก็ไม่ได้ จะบอกไม่เปิดรับรักษาคนเสียจริตก็เห็นขัดกับหน้าทขี่ องกรม พยาบาล จงึ คดิ จดั ตง้ั โรงพยาบาลคนเสียจรติ ขน้ึ โดยคณะกรรมการไดก้ ราบทูลขอบา้ นท่ีเปน็ ของหลวง เชน่ บา้ นท่เี จ้าภาษนี ายอากรตใี ช้หนี้หลวง เปน็ ตน้ มาปรับปรงุ เปน็ โรงพยาบาล สามารถต้ังโรงพยาบาลข้นึ คร้ังน้นั ได้ 5 แห่ง คอื ไดต้ กึ บา้ นพระยาภกั ดภี ทั รากร (เจา้ สวั เกงซวั ) ท่ปี ากคลองสานตง้ั เปน็ โรงพยาบาลคนเสยี จรติ แห่งหน่งึ ได้ตึกบ้านอากรตา ทีร่ ิมคลองคูพระนครตรงหน้าวังบูรพาภิรมย์ ตั้งเป็นโรงพยาบาลทั่วไป เรียกวา่ โรงพยาบาลบูรพาแห่งหนึ่ง ได้บ้านหลวงทปี่ ากถนนสลี มติดกับถนนเจริญกรุงซึง่ หมอเฮส์ได้รับอนญุ าตใช้เป็นทรี่ ักษา พยาบาลฝรัง่ อย่าง Nursing Home โอนมาเปน็ ของกรมพยาบาลแห่งหนึ่ง สรา้ งโรงพยาบาลใหมท่ ่ปี ากถนนหลวง ตรงกบั วดั เทพศริ นิ ทราวาสโดยใชเ้ รอื นไมส้ องชน้ั ของ พระราชทานคร้งั พระเมรสุ มเดจ็ เจา้ ฟา้ ศริ ริ าชกกธุ ภณั ฑเ์ ปน็ ท่วี า่ การและปลกู เรอื นไมร้ บั คนไข้ เช่นเดยี วกบั โรงพยาบาลศริ ริ าชเรียกว่า “โรงพยาบาลเทพศริ ินทร”์ แห่งหนึ่ง (9) เมอื่ พ.ศ. 2436 เกิดวิกฤตการณ์ ร.ศ. 112 มีการปะทะกันจนเกิดการบาดเจ็บล้มตาย ท่านผู้หญงิ เปลยี่ น ภาสกรวงศ์ได้กราบบังคับทูลขอพระราชทานพระบรมราชานญุ าตจัดตั้ง สภาอุณาโลมแดง (คือ สภากาชาดไทยในปัจจุบัน) เพือ่ ช่วยเหลอื บรรเทาทุกข์ทหารที่เจ็บ ปว่ ย เมอ่ื ไดร้ บั พระราชทานพระบรมราชานุญาตแล้ว กจิ การสภาอุณาโลมแดงจงึ ได้เรมิ่ ต้น ขนึ้ สมเด็จพระพนั วัสสาอยั ยกิ าเจา้ ทรงรบั ต�าแหนง่ สภาชนนี สมเด็จพระศรพี ชั รนิ ทราบรม 16 สุขภาพคนไทย 2560
ราชนิ ีนาถทรงเปน็ สภานายกิ า ตอ่ มาใน พ.ศ. 2461 สภาอณุ าโลมแดงจงึ เปล่ยี นสถานะเปน็ องค์กรเอกชนในนามสภากาชาดสยาม สมเด็จพระพันวัสสาอัยยกิ าเจ้าทรงด�ารงต�าแหน่ง สมาชิกพิเศษ สมเด็จพระศรพี ัชรินทราบรมราชนิ ีนาถทรงเป็นสภานายกิ า จน พ.ศ. 2463 เมอ่ื สภานายกิ าพระองค์แรกสวรรคต สมเดจ็ พระพันวัสสาอยั ยิกาเจ้าทรงด�ารงต�าแหนง่ สภา นายกิ าต่อเนอื่ งมาตราบกระท่ังเสดจ็ สวรรคตในพ.ศ. 2498 (10) ในรชั สมัยพระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ พระราชทาน ทนุ ทรัพย์สร้างโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ขึน้ ร่วมกับสภากาชาดไทย ต่อมามกี ารก่อตั้งสถาน ปาสเตอร์ สถานเสาวภา โรงเรียนเสนารกั ษ์ และวชิรพยาบาลข้ึน กรมพยาบาล และหนว่ ย งานท่ีรบั ผดิ ชอบดา้ นสุขอนามัยในสงั กดั กระทรวงตา่ งๆ ไดร้ วมกนั กอ่ ตง้ั เปน็ กรมสาธารณสขุ มกี ารเปิดโอสถศาลาขึ้นทวั่ ประเทศ (11)(12)(13) มีการออกกฎหมายควบคุมการประกอบโรค ศิลปะขึ้นครง้ั แรก คอื พระราชบญั ญตั ิการแพทย์ พ.ศ. 2466 (14) สมเดจ็ พระศรสี วรนิ ทิราบรมราชเทวี พระพนั วสั สาอัยยกิ าเจา้ นอกจากทรงสนับสนุนกจิ การ ของสภากาชาดไทย และทรงสนับสนนุ การสรา้ งโรงเรยี นขน้ึ หลายแหง่ ท้ังในพระนครและตา่ ง จงั หวัดแล้ว เม่ือเสดจ็ ไปประทับรกั ษาพระพลานามยั ณ เมืองศรีราชา จังหวัดชลบรุ ี ได้ทรง มีพระเมตตาสรา้ งสถานพยาบาลเพอ่ื ดแู ลรกั ษาขา้ ราชบรพิ าร และประชาชนท่เี จบ็ ไขไ้ ดป้ ว่ ย เมอื่ คราวพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชด�าเนนิ ไปทรงเยีย่ ม เมอ่ื พ.ศ. 2445 ทรงพระราชทานนามสถานพยาบาลแห่งนี้วา่ โรงพยาบาลสมเด็จ ต่อมา เรยี กว่า โรงพยาบาลสมเด็จ ณ ศรรี าชา ปจั จบุ นั คอื โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรรี าชา ระยะแรกสมเด็จพระพันวัสสาอยั ยิกาเจ้าทรงดูแลกิจการของโรงพยาบาลด้วย พระองค์เอง พระราชทานทีด่ นิ ให้สรา้ งอาคาร และพระราชทานทรัพยใ์ หเ้ ป็นคา่ ใชจ้ ่าย ให้ ขา้ ราชบรพิ ารและประชาชนท่ีเจบ็ ป่วยมารกั ษาและทรงรับไว้ในพระราชินปู ถมั ภ์ ทศ่ี รรี าชา สมเดจ็ พระพันวสั สาอัยยิกาเจา้ ทรงริเรม่ิ งานหนว่ ยแพทย์เคลอื่ นท่ี ด้วยทรงพระ กรณุ าแกป่ ระชาชนท่อี ยใู่ นหมบู่ า้ นชมุ ชนหา่ งไกล หนว่ ยแพทยเ์ คล่อื นท่สี มยั น้นั ใชเ้ กวยี นเปน็ พาหนะบรรทุกยาและอุปกรณ์ทางการแพทย์ น�าแพทย์ออกไปดูแลรักษาผู้ป่วยและช่วย ป้องกนั โรค กล่าวได้วา่ เปน็ จุดเรม่ิ ต้นของหนว่ ยแพทย์เคลอ่ื นท่ี (15) พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช กบั สขุ ภาพคนไทย 17
สถานะสขุ ภาพ คนไทย สมัยเม่อื แรกครองราชย์ ` `
เมอื่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเสด็จขึ้นครองราชย์ ตั้งแต่วันที่ 9 มถิ ุนายน พ.ศ.2489 ประเทศไทยยังอยู่ทงั้ ในสภาพด้อยพัฒนา และบอบช�้าจาก สงครามโลกครัง้ ที่ 2 แมจ้ ะไม่พนิ าศยอ่ ยยบั อยา่ งญ่ปี ุน่ เยอรมนี หรือประเทศท่ีเปน็ สมรภูมิ รบโดยตรงอ่นื ๆ ถนนหนทางยังอยใู่ นสภาพทุรกนั ดาร ประชาชนยงั เจบ็ ปว่ ยและเสียชวี ติ จาก โรคท่ีปอ้ งกนั ไดด้ ว้ ยวคั ซนี โรคตดิ เชอ้ื และภาวะขาดอาหาร แมจ้ ะเรม่ิ มบี รกิ ารทางการแพทย์ แบบตะวนั ตก ตงั้ แตส่ มยั รชั กาลที่ 5 การแพทย์แผนปัจจุบันสมัยน้นั กย็ ังพฒั นาไม่มาก ขอ้ ส�าคัญยงั กระจกุ อยแู่ ต่ในเมอื งหลวงและเมอื งใหญบ่ างเมอื งเทา่ นน้ั อัตราตายของมารดาสูงกวา่ 400 ต่อแสน และอัตราทารกมรณะยังอยู่ในหลกั รอ้ ยตอ่ การ เกิดมีชีพพันราย แม้ตัวเลขตามรายงานจะต�า่ กว่าร้อย โรคคอตีบ ไอกรน และบาดทะยกั ยังพบได้ท่ัวไป ในตกึ คนไข้เดก็ จะพบเด็กต้องถูกเจาะคอเพราะคอตีบจ�านวนมาก โรคไอกรน ซึ่งจะมอี าการไอรนุ แรง และมักเปน็ อยูน่ านราวร้อยวันจงึ หายไปเอง จนเรยี กโรคนว้ี ่าโรคไอ ร้อยวัน หลายหมู่บ้านจะได้ยนิ เสยี งเด็กไอรับกันตั้งแต่หัวบ้านจรดท้ายบ้าน อหิวาตกโรค ระบาดและท�าให้ผู้คนเสยี ชีวิตเป็นจ�านวนมากเป็นประจ�า วัณโรคเป็นโรคทพี่ บอย่าง กวา้ งขวาง เมือ่ เป็นแลว้ โดยมากโรคมักจะลกุ ลามจนทา� ให้ผู้ป่วยเสยี ชีวติ จนนกั ประพันธ์มกั จะน�าไปเขยี นเปน็ โรคของคน “อกหกั ” เช่น ม.ร.ว. กีรติ ในนวนิยายเร่อื งขา้ งหลงั ภาพของ ศรีบรู พา นักประพันธ์คนส�าคัญของไทยคือยาขอบก็เสยี ชีวิตจากวัณโรค โรคเรื้อนยังเป็น ปัญหาสาธารณสุขทีส่ �าคัญ เช่นเดียวกับคุดทะราด ต่อมาเมอื่ โรคโปลิโอแพร่ระบาดขึน้ ประชาชนคนไทยก็เป็นโรคนกี้ ันอย่างกว้างขวาง โรคหัด ซึง่ ปัจจุบนั มวี ัคซีนป้องกัน และ ประเทศไทยไดฉ้ ดี ใหแ้ กเ่ ดก็ ไทยท่วั ประเทศมานับสบิ ปแี ลว้ แตก่ อ่ นกเ็ ปน็ โรคท่ีถอื เปน็ ธรรมดา ทเ่ี ดก็ ทุกคนตอ้ งเป็น ท้ังๆ ท่ีโรคนีอ้ าจท�าให้เกดิ โรคแทรกซ้อนรุนแรงถึงตาย เช่น ปอดบวม หรือเป็นรนุ แรง ขนาดเด็กเดินไดแ้ ล้วถึงขั้นกลบั เดนิ ไมไ่ ด้ ตอ้ งหดั เดนิ ใหม่กม็ ี (16) 20 สขุ ภาพคนไทย 2560
งานประเดิมเริม่ แรก ` ` พระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภูมพิ ล โครงสร้างคอร์ดดนตรีไม่ซับซ้อน จึงทรง อดุลยเดช ได้ตามเสด็จพระบาทสมเด็จ เรมิ่ แตง่ เพลง แต่ยังไม่จบ พระปรเมนทรมหาอานันทมหิดลนวิ ัตถึง ประเทศไทย เมอื่ วันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. ช่วงทที่ รงประทบั อยู่ในประเทศไทย 2488 ซึ่งตรงกับวันพระราชสมภพ ม.จ.จกั รพนั ธ์เพ็ญศริ ิ ได้กราบบงั คมทูลให้ ทรงนพิ นธ์เพลงให้จบ แล้วก็ทรงอาสาจะ 18 พรรษาของพระองค์ ทรงรบั ส่งั ในภาย แตง่ เน้ือรอ้ งถวาย เพลงแรกท่พี ระองคท์ รง หลงั วา่ “ข้าพเจ้าจากประเทศไทยไปเกือบ นพิ นธ์ส�าเร็จ เมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. เจด็ ปเี ตม็ ขา้ พเจา้ แทบจะวาดภาพไม่ออก 2489 คือ เพลงแสงเทียน ซึ่งเป็นเพลง เลยว่าประเทศไทยและผู้คนเปลยี่ นไป บลูส์ สไตลน์ ิวออร์ลนี ส์ อย่างไรบา้ ง” ระหว่างทรงศึกษาอยู่ในสวิตเซอร์แลนด์ เม่ือเพลงแรกส�าเรจ็ แลว้ เพลงตอ่ ๆ มากง็ า่ ย ได้ทรงเรียนดนตรี และได้ทรงลอง และคล่องขึน้ เพลงพระราชนพิ นธ์เพลงที่ แต่งเพลงตามค�ากราบบงั คมทลู แนะน�า สองและสาม คือ เพลงยามเย็นกับเพลง ของ ม.จ.จักรพันธ์เพ็ญศิริ จักรพันธ์ุ โดย สายฝน ซ่ึง ม.จ.จกั รพ์ ันธ์เพ็ญศริ ิ ทรงแตง่ พระเจ้าอยู่หัวอานนั ทมหิดล และสมเด็จ เน้ือรอ้ งทั้งสองเพลง (17) พระพี่นางทรงมคี วามเห็นว่า พระอนชุ า ควรจะลองนพิ นธ์เพลงบลูส์ดูก่อน เพราะ พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู ิพลอดลุ ยเดช กับสุขภาพคนไทย 21
เพลงพระราชนพิ นธ์ยามเยน็ เปน็ เพลงแรก (ยนู เิ ซฟ) ได้น�าวัคซีนดังกล่าวไปใช้ในต่าง ทางแพทย์” ซึง่ เป็นวารสารวิชาการของ ทีพ่ ระราชทานให้วงดนตรีนา� ไปบรรเลงใน ประเทศดว้ ย ขณะเสดจ็ กลบั ไปศกึ ษาตอ่ ใน แพทยสมาคมแหง่ ประเทศไทยในพระบรม งานดนตรีการกุศลเพื่อหาเงินสมทบทนุ สวิตเซอร์แลนด์ ทรงแสวงหาตัวยาใหม่ๆ ราชูปถัมภ์ โดยรายงานตามขนบทางการ ช่วยเหลอื โครงการรณรงค์ต่อต้านวัณโรค เพื่อใช้ในการรักษาผู้ป่วยวัณโรค โดยทรง แพทยค์ อื มไิ ดร้ ะบุชอ่ื ผปู้ ว่ ย วารสารฉบับน้ี แห่งชาติของสมาคมปราบวัณโรคแห่ง ส่ังซ้อื ยาพาราแอมิโนซาลไิ ซลิกแอซดิ หรอื ได้ส่งไปที่หอสมุดทางการแพทย์แห่งชาติ ประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อม ยาพีเอเอส ซึ่งเป็นยารักษาวัณโรคขนาน สหรฐั อเมรกิ า และไดเ้ ผยแพรไ่ ปยังหอสมดุ กับพระราชทานแบบจ�าลองเรือรบหลวง ทสี่ องของโลก และยังมใี ช้ไม่แพร่หลาย การแพทย์ทัว่ โลก เพือ่ ให้วงการแพทย์ ศรีอยุธยา ซึง่ เป็นงานฝีพระหัตถ์ออก ทรงสัง่ ยาดังกล่าวมารักษาผู้ป่วยใประเทศ นานาชาตไิ ด้ใชศ้ ึกษาอ้างองิ ตอ่ ไป ประมลู ในงานเดยี วกนั เพอ่ื น�ารายไดส้ มทบ ไทย ตอ่ มาไดม้ กี ารศกึ ษาวจิ ยั พบวา่ เมอ่ื นา� ทุนในการรณรงค์ต่อต้านโรคร้ายดังกล่าว ยานี้ไปใช้ร่วมกับยาฉีดสเตร็ปโตมยั ซิน จากการทที่ รงบ�าเพ็ญพระราชกรณยี กิจ เมื่อวนั ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2489 และ ซงึ่ เปน็ ยารักษาวณั โรคขนานแรก สามารถ ท่ลี ว้ นเปน็ ประโยชนแ์ กก่ ารสง่ เสรมิ สุขภาพ ได้ทรงบริจาคพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ ช่วยป้องกันหรือชะลอการดือ้ ยาของ อนามัยป้องกันโรคและรักษาโรคปอด ชว่ ยเหลือกจิ กรรมตอ่ ตา้ นวณั โรค เสมอมา(18) เชอ้ื วัณโรคได้ (19) (20) แก่ประชาชนชาวไทยและมผี ลต่อชาวโลก เมอ่ื เดอื นกรกฎาคม พ.ศ. 2492 พระบาท ด้วยนี้ วิทยาลัยแพทย์ทรวงอกแห่งสหรัฐ สมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภูมพิ ลอดุ ลยเดช ในปี พ.ศ. 2518 พระบาทสมเด็จพระ อเมริกา (American College of Chest ขณะทรงเป็นนกั ศึกษาวิชากฎหมายอยู่ที่ ปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดชทรงประชวร Physicians) จึงได้ทูลเกล้าทูลกระหม่อม สวิตเซอร์แลนด์ ได้ทรงพระกรุณาโปรด ด้วยโรคพระปับผาสะอักเสบจากเชือ้ ถวายรางวัล Partnering of World เกล้าฯ พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วน มัยโคพลาสมา นับเป็นคนไทยรายแรกที่ Health อันเป็นการถวายรางวัลระหว่าง พระองคจ์ า� นวน 300,000 บาท สรา้ งตกึ ตรวจพบว่าเป็นโรคนี้ หลงั จากนัน้ มี ชาติครัง้ แรกของสถาบันดังกล่าวเพือ่ เผย มหิดลวงศานสุ รณ์ พระราชทานให้ ประชาชนสอบถามกันมากว่าเชือ้ โรคนนั้ แพรเ่ กยี รตคิ ณุ ใหเ้ ปน็ ท่ปี ระจกั ษส์ บื ไป เม่อื สภากาชาดไทย เพ่อื ใชเ้ ปน็ ห้องปฏิบตั กิ าร คอื อะไร เม่ือทรงทราบวา่ เปน็ การตรวจพบ วันท่ี 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539 (21) ผลิตวัคซีนบีซีจีป้องกันวัณโรค ซึ่งต่อมา ค รั ้ง แร ก ใ น ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย จึ ง ท ร ง องคก์ ารอนามยั โลกไดใ้ หก้ ารรบั รองคณุ ภาพ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ วัคซีนบซี ีจีทีผ่ ลติ ในประเทศไทย และ รายงานให้วงการแพทย์ได้ทราบและเพือ่ กองทนุ สงเคราะห์เด็กแห่งสหประชาชาติ ประชาชนจะไดท้ ราบดว้ ย จงึ มกี ารนา� เร่อื ง การค้นพบนีไ้ ปรายงานใน “จดหมายเหตุ 22 สขุ ภาพคนไทย 2560
`ราชประชาสมาสยั` โรคระบาดโรคหนึง่ ทีน่ า� ความทกุ ข์ทรมาน บาท แต่ก็ยังไม่เพียงพอ จึงพระราชทาน มาให้แก่ผู้ป่วยและครอบครัวมายาวนาน เงินส่วนพระองค์จ�านวนหนงึ่ และมผี ู้โดย นับพันปีคือ โรคเรือ้ น เพราะท�าให้เกิด เสด็จพระราชกศุ ลในครงั้ น้ีอกี มาก สิน้ เงนิ อาการหูหนาตาเล่อ และแผลมนี า�้ เหลือง ในการกอ่ สรา้ งคา่ เตยี ง และคา่ ตดิ ตง้ั ไฟฟา้ อนั เป็นทีน่ ่ารังเกียจและหวาดกลวั แก่คน รวม 1,558,561.00 บาท ตกึ หลังนใี้ ช้ ท่ัวไป บนั้ ปลายยังท�าใหเ้ กดิ ความพิการถึง ส�าหรับรับเด็กทปี่ ่วยด้วยโรคติดต่อ ทรง ขน้ั น้ิวกดุ จมูกยุบ เปน็ ตน้ มีประชาชนคน เสดจ็ พระราชดา� เนนิ ไปประกอบพธิ เี ปดิ ตกึ ไทยจ�านวนมากทปี่ ระสบเคราะหก์ รรมน้ี อานันทมหิดล เมอ่ื วนั ท่ี 9 มถิ ุนายน พ.ศ. 2508 เมื่อ พ.ศ. 2497 พระบาทสมเด็จพระปร มินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชได้ทรงพระ เมอื่ สร้างตึกส�าหรับเด็กป่วยดังกล่าวเสร็จ กรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ฉายภาพยนตร์ส่วน เรียบร้อยปรากฏว่ามเี งินเหลืออยู่ พระองค์ชดุ หนึ่ง ณ ศาลาเฉลมิ กรงุ รายได้ 175,064.75 บาท จึงพระราชทานเงนิ ท้งั หมดพระราชทานใหเ้ ปน็ ทนุ ในการสรา้ ง ใหส้ รา้ งสถาบันอบรมเจา้ หนา้ ท่ีและคน้ ควา้ ตึกอานนั ทมหิดลทโี่ รงพยาบาลศิริราช เกีย่ วกับโรคเรือ้ นขึน้ ทีส่ ถานพยาบาล เพื่อเป็นอนสุ รณ์แด่สมเด็จพระบรมเชษฐา พระประแดง ในวงเงินประมาณ 1 ล้าน ธริ าช พระบาทสมเดจ็ พระปรเมนทรมหา บาท โดยพระราชทานเงนิ จา� นวนท่เี หลอื น้ี อานนั ทมหิดล ปรากฏว่ารายได้จากการ ให้เป็นทุนในการริเริม่ และมผี ู้โดยเสด็จ ฉายภาพยนตร์ชุดนีส้ งู ถึง 444,600.50 พระราชกุศลในครง้ั นเี้ ปน็ จ�านวนมาก พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช กบั สุขภาพคนไทย 23
การกอ่ สรา้ งไดด้ า� เนินตามโครงการโดยเรม่ิ เมื่อวนั ที่ 16 มถิ ุนายน 2502 ทรงพระ อนึ่ง ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สร้างอาคารขึน้ ทีละหลังตามก�าลงั เงินที่มี กรณุ าโปรดเกลา้ ฯ พระราชทานเงนิ จา� นวน พระราชทานเวชภัณฑ์จ�านวนหนึง่ และ อยู่ คือ 100,000 บาท แก่มลู นิธโิ รคเรอื้ นลา� ปาง เคร่อื งรบั วทิ ยุโทรทศั น์ 1 เครอ่ื ง กบั เครอ่ื ง 1. อาคารส�าหรับทา� การสอนและอบรม เม่ือหักคา่ ก่อสร้างอาคาร 4 หลัง และเงนิ รับวิทยทุ รานซิสเตอร์ 3 เครื่อง แก่กอง พระราชทานแกม่ ลู นธิ โิ รคเรอ้ื นลา� ปางออก ควบคุมโรคเรือ้ นเพอ่ื ใช้ประโยชนแ์ กผ่ ูป้ ่วย เจ้าหน้าทีส่ ร้างเสร็จเมอื่ วันที่ 2 แล้ว ยังมเี งนิ ทุน “อานันทมหดิ ล” เหลือ โรคเร้ือนท่ีก�าลังรับการรักษาอยู่ในสถาน มถิ นุ ายน 2502 คา่ กอ่ สรา้ งเปน็ เงนิ อย่อู กี 271,452.05 บาท ในการเสดจ็ พยาบาล (22) 299,300.00 บาท พระราชด�าเนินเปิดสถาบันราชประชา นอกจากการพระราชทานทรพั ยเ์ พอ่ื กจิ การ 2. อาคารใชเ้ ปน็ สถานคน้ ควา้ เก่ยี วกบั โรค สมาสัย เมือ่ วนั ที่ 16 มกราคม 2503 ได้ ของการศกึ ษาปอ้ งกนั และควบคมุ โรคเร้อื น เรือ้ นสร้างเสรจ็ เมอ่ื วนั ที่ 17 มนี าคม ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน แล้ว พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหา 2502 ค่าก่อสร้าง 478,000.00 ให้เป็นทุน “ราชประชาสมาสยั ” เพือ่ ใช้ ภมู พิ ลอดลุ ยเดช ทรงเปน็ พลังส�าคญั ในการ บาท จ่ายในการส่งเสริมกิจการของสถาบัน เปลีย่ นทัศนคติต่อผู้ป่วยโรคเรือ้ น ดังเมือ่ 3. อาคารทใี่ ช้ท�าสรีรบา� บดั และกิจการ สืบไป เสด็จพระราชด�าเนินเยีย่ มสถานพักฟื้นผู้ เกี่ยวกับรังสีสร้างเสร็จเมือ่ วันที่ 4 ทุนราชประชาสมาสยั นีต้ ่อมาได้ทรงพระ ป่วยโรคเรือ้ น ไม่เพียงจะมพี ระราชด�ารัส เมษายน 2502 ค่า กอ่ สรา้ งเป็นเงิน กรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ก่อตั้งเป็น “มูลนิธิ ปฏิสนั ถารกับผู้ป่วยเท่านัน้ ยังทรงรับ 198,800.00 บาท ราชประชาสมาสัย” และให้มลู นิธินเี้ ป็น พวงมาลยั ดอกมะลิท่ผี ปู้ ว่ ยทลู เกลา้ ฯ ถวาย 4. อาคารใชเ้ ปน็ ท่พี กั อาศยั ของเจา้ หนา้ ท่ี มูลนิธใิ นพระราชปู ถมั ภ์ ด้วย นายแพทย์ธีระ รามสตู ผู้เชีย่ วชาญ ผเู้ ขา้ มารบั การอบรม สรา้ งเสรจ็ เม่ือวนั เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2504 ได้เสด็จ ผู้อุทิศชีวิตท�างานด้านโรคเรื้อนมาตลอด ที่ 7 พฤษภาคม 2502 คา่ ก่อสรา้ ง พระราชดา� เนินน�าเจ้าหญิงลิเลยี น เดอเรที ชวี ติ เลา่ วา่ “พระองคท์ รงสมั ผสั ตวั ผปู้ ว่ ย มี เป็นเงนิ 260,500.00 บาท พระชายาเจ้าชายเลโอโปลด์ อดีตกษัตริย์ พระราชดา� รสั กบั ผปู้ ว่ ย และแยม้ พระสรวล รวมคา่ กอ่ สรา้ งอาคารทัง้ 4 หลัง เปน็ เงนิ แห่งเบลเยีย่ ม เข้าชมกิจการของสถาน ให้ การเสด็จเยยี่ มผู้ป่วยนีเ้ ป็นสิง่ สา� คัญ 1,236,600.00 บาท และไดพ้ ระราชทาน พยาบาล และสถาบันราชประชาสมาสยั พระองค์ทรงพยายามให้เห็นว่าไม่เคยทรง นามสถาบนั แหง่ น้ีวา่ สถาบัน “ราชประชา รังเกียจผ้ปู ว่ ยเหล่านี้ และประชาชนกเ็ ห็น สมาสัย” อนั หมายถึง พระมหากษัตริย์ และยังส�าคญั ดว้ ยทจี่ ะใหค้ ณะแพทยไ์ ดเ้ หน็ (ราช) และประชาชน (ประชา) ย่อมพงึ่ พา ภาพน้ี เพราะแพทยเ์ องก็กลัว” อาศัยซ่ึงกันและกนั (สมาสยั ) 24 สขุ ภาพคนไทย 2560
ทรงมพี ระราชดา� รสั เลา่ ไว้ เม่ือ พ.ศ. 2540 พระองค์ทรงสมั ผสั ตวั ผปู้ ว่ ย ว่า “เมือ่ ไปเยีย่ มราษฎรในต่างจังหวัด มพี ระราชดา� รัสกบั ผู้ปว่ ย (นราธิวาส วนั ที่ 25 มนี าคม 2502) ได้ เห็นคนทเี่ ป็นโรคเรือ้ นคนหนึง่ มานงั่ อยู่กับ และแยม้ พระสรวลให้ การเสด็จเยีย่ มผปู้ ่วย ประชาชน แพทย์ที่ไปด้วยกบ็ อกว่าคนนนั้ นี้เป็นสิง่ ส�าคญั พระองค์ทรงพยายาม เป็นโรคอยา่ งน้นั ๆ ไมก่ ล้าที่จะบอกว่าเปน็ ให้เหน็ วา่ ไมเ่ คยทรงรังเกยี จผู้ปว่ ยเหล่าน้ี โรคเรอ้ื น แต่กเ็ ขา้ ไปใกล้เขา แล้วก็ไปถาม และประชาชนก็เหน็ และยังสา� คัญด้วย เขาว่าอยู่ทีไ่ หน และเป็นอย่างไร แพทย์ที่ ทีจ่ ะใหค้ ณะแพทยไ์ ด้เหน็ ภาพน้ี ไปด้วยก็ตกใจ กก็ ลัว หมายความว่าแพทย์ เพราะแพทย์เองก็กลวั เองก็ไมท่ ราบว่าโรคเร้ือนนตี้ ดิ ตอ่ ยาก” นายแพทยธ์ รี ะ เลา่ วา่ “ความรงั เกยี จในยคุ ในโรงพยาบาล และยอมรับการรกั ษา แต่ นนั้ เลวร้ายกว่าความรังเกียจผู้ป่วยโรค ก่อนนหี้ นีเวลาให้เข้ามาทีโ่ รงพยาบาล เอดส์ทเี่ ราเห็นตอนหลังเสียอีก” กระทงั่ มีโอกาสหนีเมอื่ ไรก็หนี ไม่ยอมให้หมอ บตุ รหลานทสี่ ุขภาพดีของผู้ป่วยโรคเรือ้ น รกั ษา ซง่ึ เป็นสง่ิ ท่อี ันตรายอยา่ งยิง่ ” (23) บ่อยครัง้ ถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าเรียน เพราะ ในทีส่ ดุ โลกก็เอาชนะโรคเรื้อนได้ เมือ่ เกรงกันว่าจะไปแพร่เชื้อโรคในโรงเรยี น องค์การอนามัยโลก แนะน�าใหใ้ ชย้ าบา� บดั นายแพทย์ธีระ ทบทวนถึงพระราชด�ารัส สามตัว เป้าหมายจึงไม่เพียงการควบคุม ทีท่ รงพระราชทานแก่ผู้ทีท่ �างานในมลู นธิ ิ (Control) หรอื การปอ้ งกนั (Prevention) ราชประชาสมาสัยว่า “ในการรกั ษาผู้ป่วย โรคนใี้ ห้ได้เท่านัน้ แต่ถึงขั้นมุ่งขจัด ตอ้ งรกั ษาใจเขาใหไ้ ด้ ตอ้ งเขา้ ถงึ ใจเขา ไมใ่ ช่ กวาดล้าง (Eradication) โรคนีใ้ หห้ มดส้นิ แคค่ วามเจบ็ ปวดหรอื อาการ ตอ้ งทา� ใหเ้ ขา ไปจากโลกเหมอื นทเ่ี คยกวาดลา้ งไขท้ รพษิ เห็นว่าโรคเรือ้ นรักษาได้” ทรงแนะว่า ให้หมดไปจากโลกได้แล้ว เมอื่ หลาย ประโยชนข์ องการใหก้ า� ลงั ใจผปู้ ว่ ยน้นั มีถงึ ทศวรรษก่อน สองประการ “เพราะทา� ใหย้ อมท่ีจะเขา้ มา พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดลุ ยเดช กบั สขุ ภาพคนไทย 25
มลู นิธิอานนั ทมหดิ ล ` ` ในการเสด็จพระราชด�าเนนิ พระราชทาน สามารถเปน็ เย่ยี มใหไ้ ดม้ โี อกาสไปศกึ ษาตอ่ • สาขาธรรมศาสตร ์ ปรญิ ญาบตั ร และอนปุ ริญญาบัตรแกผ่ ูจ้ บ ตา่ งประเทศในวชิ าชนั้ สงู เพอ่ื จะไดก้ ลบั มา เม่ือ 5 กุมภาพันธ์ 2506 หลักสูตรแพทย์และพยาบาล ณ ศิริราช ปฏิบตั ิงานในสาขาวิชาทไี่ ด้ศึกษามา แต่ พยาบาล เมอ่ื เดอื นเมษายน พ.ศ. 2489 โดยที่สมเด็จฯ พระบรมราชชนก ได้ทรง • สาขาอกั ษรศาสตร ์ พระบาทสมเดจ็ พระปรเมนทรมหาอานันท ศกึ ษาวชิ าแพทยศาสตร์ กบั ไดพ้ ระราชทาน เมื่อ 26 ตลุ าคม 2506 มหิดล ได้พระราชทานพระราชปรารภ ทุนให้นกั ศึกษาแพทย์ได้ไปเรียน ณ ต่าง ประสงค์ให้มกี ารผลติ แพทย์เพิม่ มากขึ้น ประเทศ กลบั มาเป็นแพทย์ทีม่ ีชือ่ เสียง • สาขาทนั ตแพทยศาสตร์ เพือ่ ให้เพียงพอช่วยเหลือประชาชน อนั หลายคน ฉะน้ันจงึ ไดท้ รงพระกรณุ าโปรด เมอ่ื 25 กันยายน 2535 เป็นผลให้เกิดคณะแพทยศาสตร์ขึ้น ณ เกล้าฯ พระราชทานทุนให้แก่นักศึกษา โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ แพทย์เป็นประเดิม (24) เริ่มเม่ือวันท่ี 3 • สาขาสตั วแพทยศาตร์ เพื่อเป็นอนสุ รณ์แด่พระบรมเชษฐาธิราช เมษายน พ.ศ. 2502 หลงั จากน้นั ไดข้ ยาย เมอ่ื 20 กรกฎาคม 2537 พระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภูมิพล ส่แู ขนงต่างๆ ได้แก่ อดลุ ยเดช ไดท้ รง พระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ • สาขาวศิ วกรรมศาสตร์ ให้จัดตัง้ มลู นิธิอานนั ทมหิดลขึน้ เมือ่ พ.ศ. • สาขาวิทยาศาสตร์ เมื่อ 19 พฤษภาคม 2541 2498 โดยมวี ตั ถปุ ระสงคท์ ่จี ะสง่ เสรมิ และ เม่ือ 25 กนั ยายน 2502 สนับสนนุ ให้นักศึกษาทีไ่ ด้แสดงความ • สาขาเกษตรศาสตร์ เมอ่ื 9 ตลุ าคม 2504 26 สขุ ภาพคนไทย 2560
การปราบอหิวาตกโรค ` ` พระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภูมิพล ทรงบริจาคเงินพระราชทานแก่ครอบครัว อาจแพร่เข้ามาสู่ประเทศไทยได้ ขอให้ อดุลยเดช ทรงสนพระราชหฤทัยใน ผ ู้ ต า ย ด ้ ว ย อ หิ ว า ต ก โ ร ค เ พื ่อ เ ป ็ น ทุ น กระทรวงสาธารณสขุ เตรยี มปอ้ งกนั ไว้ และ การปราบอหิวาตกโรค ซึ่งระบาดขึน้ เมือ่ ประกอบอาชีพตอ่ ไป ยงั ไดพ้ ระราชทานกระแสพระราชดา� รเิ กย่ี ว พ.ศ. 2501-2502 เปน็ อยา่ งย่งิ พระมหา ทรงจดั ตง้ั หนว่ ยฉดี วคั ซนี ปอ้ งกนั อหวิ าตก- กับวิธีด�าเนนิ งานปราบปรามอหิวาตกโรค กรุณาธิคุณในการสนบั สนุนงานด้านนมี้ ี โรคแก่ประชาชน ในบริเวณพระต�าหนัก ทีค่ วรปฏบิ ตั ิอกี หลายประการ หลายประการ เช่น จติ รลดารโหฐาน และตามทอ้ งท่ีตา่ งๆ เชน่ นอกจากน้ี ไดท้ รงสนบั สนนุ ใหม้ ีการคน้ ควา้ ทรงบริจาคเงินตัง้ เป็นทุนปราบอหิวาตก- ทอี่ า� เภอหวั หนิ จงั หวดั ประจวบครี ขี นั ธ์ ท้ัง เก่ยี วกบั วทิ ยาการระบาดของอหวิ าตกโรค โรค กับทัง้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ ได้ทรงพระกรณุ าโปรดเกล้าฯ ให้จดั หนว่ ย ข้นึ ในประเทศไทย เพ่อื เปน็ แนวทางในการ ประชาชนโดยเสด็จพระราชกศุ ลด้วย ฉดี วัคซีนตามเสด็จพระราชด�าเนนิ เยีย่ ม ปราบปรามโรคน้ีใหห้ มดส้นิ ไปโดยเรว็ อน่งึ พระราชทานเครื่องผลิตนา�้ กลนั่ เพือ่ ท�า ราษฎรจังหวดั ภาคใต้ด้วย เม่ือคณะทีป่ รึกษาเก่ียวกับการวิจัย น�้าเกลอื รักษาผู้ป่วยด้วยอหิวาตกโรคแก่ เม่ือวันที่ 19 ตุลาคม 2502 ไดท้ รงพระ อหิวาตกโรคในความอปุ ถัมภ์ขององค์การ โรงพยาบาลพระมงกฎุ เกล้า 1 เคร่อื ง และ กรุณาโปรดเกล้าฯ ให้รัฐมนตรีว่าการ สนธสิ ญั ญาปอ้ งกนั รว่ มกนั แหง่ เอเชยี ตะวนั แกโ่ รงงานเภสชั กรรมกระทรวงสาธารณสขุ กระทรวงสาธารณสุขเข้าเฝ้าทูลละอองธุลี ออกเฉียงใต้ ชอื่ ยอ่ คอื สปอ. ตวั ยอ่ ภาษา อีก 1 เคร่อื ง พระบาท ณ พระตา� หนกั จิตรลดารโหฐาน อังกฤษ คอื SEATO (ซีโต้) เดินทางเขา้ มา พระราชทานน�า้ เกลือและเงินเพื่อซื้อ เ พื ่อ รั บ พ ร ะ ร า ช ท า น เ งิ น จ� า น ว น ส�ารวจภาวการณ์ของอหิวาตกโรคใน เวชภณั ฑ์ เครอ่ื งมอื แพทย์ และเครอ่ื งใหน้ ้�า 409,017.50 บาท ส�าหรบั สรา้ งตกึ ผปู้ ว่ ย ประเทศไทยเม่อื เดอื นสงิ หาคมพ.ศ.2502 เกลือแก่กรมอนามัย โรคจติ ขน้ึ ในโรงพยาบาลสมเดจ็ เจา้ พระยา นนั้ พระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทร ท ร ง ม ีพ ร ะ ร า ช ป ร า ร ภ ว ่ า ใ น ข ณ ะ น ัน้ มหาภูมิพลอดุลยเดช ได้ทรงพระกรุณา อหิวาตกโรคก�าลังระบาดอยู่ในปากีสถาน โปรดเกลา้ ฯ ให้คณะที่ปรึกษาดังกลา่ วเขา้ มีผู้ป่วยถงึ สปั ดาห์ละประมาณ 500 ราย เฝา้ ทลู ละอองธุลพี ระบาทดว้ ย (25) พระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภูมิพลอดุลยเดช กบั สุขภาพคนไทย 27
การสนับสนนุ การสร้าง โรงพยาบาล ` `
` พระราชทานเงนิ สรา้ งอาคารคนไขพ้ เิ ศษ` “ราชสาทิส” ณ โรงพยาบาลสมเด็จเจา้ พระยา ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเงินรายได้จากการฉายภาพยนตร์ส่วนพระองค์ ชุดเสด็จประพาสภาคใต้จา� นวน 409,071.50 บาท สร้างอาคารคนไข้พิเศษ ขึ้น 1 หลัง ณ โรงพยาบาลสมเดจ็ เจา้ พระยา ธนบรุ ี และโปรดเกลา้ ฯ พระราชทานนามอาคารหลงั น้วี า่ “ราช สาทสิ ” ในการก่อสรา้ งอาคารคนไขพ้ ิเศษดงั กลา่ ว ได้ใชเ้ งินพระราชทานสมทบกับเงินของผู้ ร่วมบริจาคโดยเสด็จพระราชกุศล และเงินบ�ารุงของโรงพยาบาลเป็นค่าก่อสร้างรวมทงั้ สิน้ 500,000.00 บาท สมเดจ็ พระราชชนนศี รสี งั วาลย์ ผสู้ า� เรจ็ ราชการแทนพระองค์ ไดเ้ สดจ็ ไปทรงเป็นองคป์ ระธานในพธิ เี ปิดอาคารคนไขพ้ ิเศษหลังน้ี เมอื่ วนั ที่ 27 มิถุนายน 2503 อาคาร “ราชสาทิส” เปน็ ตกึ ท่ที นั สมยั ท�าใหก้ ารรกั ษาผปู้ ว่ ยมีประสทิ ธภิ าพดขี ้นึ และมคี วาม สะดวกสบายยิง่ ขนึ้ เปน็ อันมาก (26) 30 สขุ ภาพคนไทย 2560
` โรงพยาบาลประสาท` พญาไท พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช ทรงสนพระราชหฤทยั ในปญั หาผปู้ ว่ ยทาง ประสาท ซง่ึ ปรากฏวา่ มจี า� นวนทวขี ้นึ อยา่ งรวดเรว็ จงึ ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ พระราชทาน รายไดจ้ ากการฉายภาพยนตรส์ ว่ นพระองคช์ ดุ เสดจ็ เยอื นเวยี ดนาม อนิ โดนเี ซยี และพมา่ เปน็ เงนิ แปดแสนหา้ หม่นื บาทเศษ ใหแ้ กโ่ รงพยาบาลประสาท พญาไท เพอ่ื ใชจ้ า่ ยในการปรบั ปรงุ และขยายโรงพยาบาลใหม้ ปี ระสิทธภิ าพสงู ข้นึ ทงั้ ในการบา� บัด ปอ้ งกนั ตลอดจนการวจิ ยั เกย่ี ว กบั โรคทางประสาท กระทรวงสาธารณสขุ ไดใ้ ชเ้ งนิ พระราชทานและเงนิ ท่มี ีผบู้ รจิ าคโดยเสดจ็ พระราชกศุ ลกับเงนิ ที่ราชการสมทบทง้ั สน้ิ ประมาณ 2 ล้านบาท สรา้ งตึกวิจยั ประสาทวทิ ยา ขน้ึ ท่โี รงพยาบาลประสาท พญาไท อาคารดงั กลา่ วเปน็ ตกึ 5 ช้นั ประกอบดว้ ยหอ้ งปฏบิ ตั กิ าร วิทยาศาสตร์ 3 ชัน้ และห้องคนไข้ 2 ชั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จพระราชด�าเนนิ ไปทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ อาคารหลงั น้ี เม่อื วนั ท่ี 21 กรกฎาคม 2504 นบั วา่ เปน็ พระมหากรณุ าธคิ ณุ อยา่ งลน้ เกลา้ ฯ (27) พระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภูมพิ ลอดลุ ยเดช กับสุขภาพคนไทย 31
` โรงพยาบาลสว่ นภมู ิภาค` โรงพยาบาลพระปกเกล้าจันทบุรี “ประชาธิปก” โรงพยาบาลสว่ นภมู ภิ าค พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช และสมเดจ็ พระ นางเจา้ ฯ พระบรมราชนิ นี าถ ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ เสดจ็ พระราชดา� เนนิ ไปทรงประกอบ พิธีเปิดโรงพยาบาลพระปกเกล้าจนั ทบุรี และตกึ “ประชาธปิ ก” เมื่อวนั ท่ี 17 พฤศจิกายน 2499 32 สุขภาพคนไทย 2560
ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ พระราชทานรายไดจ้ ากการฉายภาพยนตรส์ ว่ นพระองคช์ ดุ เสดจ็ ประพาสภาคเหนอื สมทบกับเงินทนุ สะสมของโรงพยาบาลแพร่ สร้างอาคารผู้ป่วยหนึ่งหลงั ณ โรงพยาบาลแพร่ เมือ่ พ.ศ. 2502 ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ พระราชทานรายไดจ้ ากการฉายภาพยนตรส์ ว่ นพระองคช์ ดุ เสดจ็ เยือนเวยี ดนาม อนิ โดนเี ซยี และพมา่ เพ่อื ทา� นบุ า� รงุ โรงพยาบาลหนองคาย เม่อื พ.ศ. 2503 ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ พระราชทานรายไดจ้ ากการฉายภาพยนตรส์ ว่ นพระองคช์ ดุ เสดจ็ เยอื นประเทศใกล้เคียง 147,321.00 บาท สมทบกับเงินทนุ สะสมของโรงพยาบาล ปราจีนบุรี 56,679.00 บาท สรา้ งอาคารผ้ปู ว่ ยหนึ่งหลัง ณ โรงพยาบาลปราจนี บรุ ี เมือ่ พ.ศ. 2504 และโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามอาคารหลังนี้วา่ “ราชประชานุสรณ”์ ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ พระราชทานรายไดจ้ ากการฉายภาพยนตรส์ ว่ นพระองคช์ ดุ เสดจ็ เยือนเวยี ดนาม อินโดนเี ซีย และพม่า สมทบกบั เงนิ ท่พี ่อค้าคหบดบี ริจาคโดยเสด็จพระราช กศุ ล และเงนิ งบประมาณของจงั หวดั บรุ รี มั ย์ รวมท้งั สนิ้ เปน็ เงนิ 150,135.00 บาท ทา� การ ก่อสรา้ งเรือนคลอดบุตรรับผู้ปว่ ยได้ 25 เตียง ขน้ึ ณ โรงพยาบาลบุรรี มั ย์ และโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามอาคารหลงั นีว้ ่า เรอื น “ราชทัย” นอกจากน้ยี ังทรงพระกรณุ าโปรดเกล้าฯ ให้ พระวรวงศเ์ ธอ กรมหม่ืนพิทยลาภพฤฒิยากร ประธานองคมนตรี นายศรีเสนา สมบัติศริ ิ และพลเอก หลวงกมั ปนาทแสนยากร องคมนตรี เสด็จและไปกระทา� พธิ ีเปิดอาคารดงั กลา่ ว เมอ่ื วันที่ 4 มกราคม 2505 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานญุ าตให้สร้างพระรูปสมเด็จ พระราชบิดาเจา้ ฟ้ามหดิ ลอดลุ ยเดช กรมหลวงสงขลานครินทร์ เพ่อื ประดิษฐาน ณ บริเวณ หน้าตึกอา� นวยการ โรงพยาบาลสงขลา และโปรดเกล้าฯ พระราชทานเงินจ�านวน 10,000.00 บาท เปน็ ทุนประเดมิ ในการจัดสรา้ งพระรูปดงั กลา่ ว(28) พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภมู ิพลอดลุ ยเดช กบั สขุ ภาพคนไทย 33
` หนว่ ยแพทยเ์ คล่ือนท่ีพระราชทาน` หนว่ ยแพทย์พระราชทาน มรี วม 8 หนว่ ย ไดแ้ ก่ โครงการแพทย์หลวงเคลือ่ นที่พระราชทาน เกดิ ขนึ้ เม่อื พ.ศ. 2510 โครงการหนว่ ยแพทย์พระราชทาน เกิดขึน้ เมื่อ พ.ศ. 2512 หนว่ ยทนั ตกรรมเคล่อื นท่ีพระราชทาน เกดิ ขึ้นเมอ่ื พ.ศ. 2512 โครงการแพทยพ์ เิ ศษตามพระราชประสงค์ เกดิ ขึ้นเม่ือ พ.ศ. 2517 โครงการศลั ยแพทยอ์ าสาราชวทิ ยาลยั ศลั ยแพทยแ์ ห่งประเทศไทย เกดิ ขน้ึ เมื่อ พ.ศ. 2518 โครงการแพทย์ หู คอ จมกู และโรคภูมแิ พ้พระราชทาน เกิดขึน้ เมื่อ พ.ศ. 2522 โครงการอบรมหมอหมู่บา้ นในพระราชประสงค์ เริ่มครัง้ แรกท่อี �าเภอแว้ง ท่ีจังหวดั นราธิวาส เม่อื พ.ศ. 2517 โครงการอบรมปฐมพยาบาลเบอ้ื งตน้ และการช่วยคลอดฉกุ เฉนิ โครงการในพระราชด�าริสา� หรับตา� รวจจราจร เร่มิ ด�าเนินการเม่ือ 6 กันยายน 2536 34 สขุ ภาพคนไทย 2560
` เรอื เวชพาหน์` พระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้พระราชปรารภว่า ราษฎรทีต่ ัง้ บ้าน เรือนอยู่ตามล�าแม่น�า้ ในหลายต�าบล ตัง้ อยู่โดดเดีย่ วยงั ไม่มที างหลวงเชือ่ มต่อจังหวัด แม้ว่า จะมีการคมนาคมตดิ ตอ่ กบั จงั หวดั ทางน้�าไดก้ ห็ า่ งไกลโรงพยาบาลประจา� จงั หวดั มาก ถา้ เจบ็ ป่วยก็ต้องรักษาพยาบาลแผนโบราณ ซึ่งไม่ค่อยได้ผลในโรคหลายอย่าง จึงทรงพระกรุณา โปรดเกลา้ ฯ ใหบ้ รษิ ทั อเู่ รอื กรงุ เทพฯ จา� กดั ตอ่ เรอื ยนตข์ ้นึ ดว้ ยพระราชทรพั ยส์ ว่ นพระองค์ เพอ่ื พระราชทานใหส้ ภากาชาดไทยใชเ้ ปน็ หนว่ ยเคล่ือนท่รี กั ษาพยาบาลประชาชนตามล�านา�้ ตา่ งๆ โดยพระราชทานชอื่ วา่ \"เวชพาหน\"์ (อา่ นวา่ เวด-ชะ-พา) และไดเ้ สดจ็ พระราชดา� เนนิ ไปทรงประกอบพธิ พี ระราชทานเรอื ในวนั ท่ี 19 มกราคม 2498 เวลา 12.00 น.ณ ทา่ วาสุก รี กรงุ เทพมหานคร เม่ือพระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภูมพิ ลอดลุ ยเดช ทรงเจิมเรอื และ พระราชทานให้แลว้ ก็ออกปฎบิ ตั ิงานทนั ที ที่จงั หวดั นนทบุรี เรอื เวชพาหนเ์ ปน็ เรอื ไม้ 2 ชน้ั ขนาดกวา้ ง 3.81 เมตร ยาว 15.69 เมตร สงู 3.75 เมตร กนิ นา�้ ลกึ 0.85 เมตร เคร่อื งยนต์ดเี ซล โตโยตา้ 6 สบู 200 แรงม้า บรรทุกพนักงานเรือและ ผูโ้ ดยสารได้รวม 30 คน ความเร็ว 12 นอ็ ต/ชว่ั โมง กองบรรเทาทกุ ข์และอนามัย (ชือ่ เรียกขณะนนั้ ) ได้น�าเรือพระราชทาน \"เวชพาหน์\" ออก ปฏิบัติงานหน่วยแพทย์เคลือ่ นที่ ให้บริการทางการแพทย์ แก่ประชาชนผู้อาศัยอยู่ตามฝั่ง แมน่ �้าตามพระราชประสงคต์ ลอดมา ตงั้ แตว่ ันท่ี 19 มกราคม 2498 ปีละหน่ึงหรือหลาย คร้ัง ระยะนานบา้ งสน้ั บา้ ง และงดเป็นบางปี เน่ืองจากบุคลากรจ�ากัด และมภี ารกจิ บรรเทา ทุกขผ์ ปู้ ระสบภัยฉกุ เฉนิ ตา่ งๆ ทเ่ี ร่งดว่ น พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภมู ิพลอดุลยเดช กับสุขภาพคนไทย 35
สา� หรบั การปฏบิ ตั งิ านหนว่ ยแพทยเ์ คล่อื นท่ใี นระยะแรก การใหบ้ รกิ ารตรวจรกั ษา ผา่ ตดั เล็ ก ทันตกรรม ทา� แผล ฉดี ยา จัดยา จา่ ยยาผปู้ ว่ ย ตลอดจนการกนิ อย่หู ลับนอนของเจา้ หน้าท่ี ทงั้ หมดล้วนกระท�าในเรือทัง้ สนิ้ ต่อมามผี ู้มารับบริการมากขึน้ และเพิ่มกิจกรรมมากขึน้ เช่น สขุ ศึกษา ห้องสมุดเคลือ่ นที่ เป็นต้น จึงย้ายการรักษาขึน้ มาบนบก โดยอาศัยศาลา วัด ท่าน�า้ และโรงเรียน ส่วนการจัดยา จ่ายยาน้ันยังคงปฏิบตั ิทเี่ รือเหมือนเดิม เพื่อให้ผู้รับ บรกิ ารไดร้ ับรแู้ ละซงี้ ในพระมหากรุณาธิคณุ จากขอ้ ความบนแผ่นปา้ ยซ่งึ ติดไวท้ ด่ี า้ นขา้ งของ เรอื ท้ังสองดา้ นวา่ \"พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั พระราชทานเรอื ล�านี้ เมอ่ื พ.ศ. 2498 เพอื่ ใช้บรรเทาทกุ ข์และรกั ษาประชาชน โดยไม่คดิ มลู คา่ ใดๆ ทั้งสนิ้ \" เรอื พระราชทานเวชพาหน์ ปฏบิ ตั งิ านครง้ั แรกเม่ือวนั ท่ี 19มกราคม-17กมุ ภาพนั ธ์ 2498 ที่ จงั หวดั นนทบรุ ี และครง้ั ลา่ สดุ เม่อื วนั ท่ี 22-29 พฤศจกิ ายน 2550 ท่จี งั หวดั อา่ งทอง โดย ปฏบิ ัตงิ านรวมท้ังส้ิน 137 คร้งั ใน 18 จงั หวดั ไดแ้ ก่ จงั หวดั นนทบุรี สพุ รรณบรุ ี นครสวรรค์ กรุงเทพมหานคร สมทุ รสาคร ฉะเชิงเทรา พระนครศรอี ยธุ ยา ปราจนี บรุ ี ชยั นาท สิงหบ์ ุรี กาญจนบรุ ี ลพบุรี อ่างทอง ราชบุรี ปทุมธานี สมุทรสงคราม นครปฐม และอทุ ยั ธานี มผี มู้ า รับบริการตรวจรักษาโรค ฝังเข็ม ให้ภูมิคุ้มกันโรค และบริการทางทันตกรรม รวมทัง้ สนิ้ 317,984 ราย 36 สุขภาพคนไทย 2560
` โรงเรยี นแพทย์แผนโบราณ` วดั พระเชตุพน (วัดโพธ)์ิ การแพทยแ์ ผนไทยและการนวดแผนโบราณ มปี ระวตั คิ วามเปน็ มาคกู่ บั ชาตไิ ทยมาแตโ่ บราณ ในสมยั โบราณนัน้ ความรู้เกี่ยวกับการแพทย์และการนวดของไทยจะสัง่ สอนสืบต่อกัน เป็น ทอดๆ โดยครจู ะรบั ตวั ศษิ ยไ์ วแ้ ลว้ คอ่ ยส่งั คอ่ ยสอนใหจ้ ดจา� ความรตู้ า่ งๆ ความรทู้ ่สี ืบทอดกนั มานนั้ อาจเพ่มิ พนู สญู หาย หรือเพ้ียนไปบา้ งตามความสามารถของครูและศิษยเ์ ป็นส�าคญั จวบจนสมัยกรงุ รตั นโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระพทุ ธยอดฟา้ จฬุ าโลก ได้โปรดเกลา้ ฯ ให้ ปฏสิ งั ขรณ์ “วดั โพธาราม” หรอื “วัดโพธิ”์ ขนึ้ เป็นพระอารามหลวง ทรงให้รวบรวม ต�ารา ยา ฤาษดี ดั ตน จวบจนต�าราการนวด แลว้ ใหจ้ ารกึ ไวต้ ามศาลาราย เพอ่ื ใหป้ ระชาชนไดศ้ กึ ษา โดยทั่วกัน ต่อมาใน พ.ศ. 2375 ครงั้ รัชสมยั พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจา้ อย่หู วั ทรงพระ กรุณาโปรดเกล้าฯ ให้บรู ณะวัดโพธิ์ใหม่ ทรงให้หล่อรูปฤาษีดัดตนเป็นโลหะ และทรงให้ รวบรวมต�าราการนวดและต�าราการแพทย์จารึกในวัดโพธิ์ เพื่อเผยแพร่ให้ประชาชนทวั่ ไป ศึกษา และนา� ความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อไป ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จ พระปยิ มหาราช ทรงโปรดเกลา้ ฯ ใหแ้ พทยห์ ลวงจดั สงั คายนาและแปลตา� ราแพทยจ์ ากภาษา บาลี และสนั สกฤตเปน็ ภาษาไทย เรยี กตา� ราแพทย์ศาสตรส์ งเคราะห์ (ฉบบั หลวง) ซึ่งตา� รานี้ ไดแ้ ยกการนวดเป็นวิชาหตั ถศาสตร์ เรียกวา่ “ต�าราแบบนวดฉบบั หลวง” ใน พ.ศ. 2466 มกี ารออกพระราชบัญญตั กิ ารแพทย์ (การประกอบโรคศลิ ปะ) โดยแบง่ การแพทยเ์ ปน็ 2 แผน คือ แพทย์แผนปัจจุบัน และแพทยแ์ ผนโบราณ แพทยแ์ ผนโบราณแบ่งออกเปน็ 4 สาขา คือ สาขาเวชกรรมแผนโบราณ สาขาเภสชั กรรมแผนโบราณ สาขาผดุงครรภ์แผนโบราณ และ สาขานวดแผนโบราณ และเมอื่ มกี ารออกพระราชบัญญตั ิการประกอบโรคศิลปะใหม่ (พ.ศ. 2479) ไดม้ กี ารตดั สาขาการนวดแผนโบราณออก ใน พ.ศ. 2498 ทา่ นเจา้ คณุ พระธรรม วโรดม (ปนุ่ ปุณณสริ )ิ ซ่งึ ตอ่ มาทา่ นไดเ้ ปน็ สมเดจ็ พระอรยิ วงศาคตญาณสมเดจ็ พระสังฆราช พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช กบั สุขภาพคนไทย 37
องคท์ ่ี 17 ไดจ้ ดั ตง้ั สมาคมแพทยแ์ ผนโบราณและโรงเรยี นแพทยแ์ ผนโบราณวดั พระเชตพุ นฯ (วดั โพธิ์) ขนึ้ โดยโรงเรยี นไดเ้ ปดิ สอนวิชาแพทยแ์ ผนโบราณท้ัง 3 สาขาวชิ าตามทก่ี ฎหมาย ขณะน้ันกา� หนด ใน พ.ศ. 2504 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดลุ ยเดช ทรงเสดจ็ วดั โพธ์ิ คณะ อาจารย์ได้น�าต�าราของโรงเรียนฯ ขึ้นทลู เกล้าฯ ถวาย พระองค์ทรงรับสั่งถามว่ามกี ารนวด สอนหรือไม่ จากกระแสพระราชด�ารัสดังกล่าวเป็นผลให้มีการรวบรวมความรู้เกีย่ วกับการ นวดมาจดั ทา� เปน็ หลกั สูตร และเรม่ิ เปดิ สอนต้งั แตว่ นั ท่ี 15 พฤษภาคม พ.ศ.2505 โรงเรยี น จงึ มีการเรยี นการสอนครบท้งั 4 สาขาวชิ ามาจนถงึ ปจั จบุ ัน วชิ าการนวดแผนโบราณของไทย ได้มกี ารพัฒนาต่อเนื่องจนมชี ือ่ เสียงไปทัว่ โลก ในทีส่ ุดรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสขุ ก็มีประกาศก�าหนดให้การนวดไทย เป็นการประกอบโรคศิลปะสาขาการแพทย์แผนไทย ประเภทหนง่ึ เม่ือวนั ท่ี 1 กุมภาพนั ธ์ พ.ศ. 2544 ตอ่ มามีการอบรมหมอนวดวิชาชพี รุ่นแรก จนได้รับใบประกอบโรคศิลปะ และมพี ิธีมอบใบประกอบโรคศิลปะแก่ผู้ประกอบโรคศิลปะ สาขาการแพทยแ์ ผนไทยประเภทการนวดไทยรนุ่ แรก ในพระอโุ บสถกลางวดั พระเชตพุ นวมิ ล มังคลาราม เม่ือวันที่ 29 กนั ยายน พ.ศ. 2548(29) 38 สุขภาพคนไทย 2560
อันความกรณุ า ปราณี จะมใี ครบังคับ กห็ าไม่ เมือ่ วันที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2497 เกดิ ไฟไหม้ตลาดอา� เภอบ้านโป่ง กนิ เนือ้ ทกี่ ว่า 1 แสนตารางวา มอี าคารบ้านเรอื นต้องอคั คีภัย 832 หลังคาเรือน มผี ู้เสยี ชวี ิตอย่างนอ้ ย 3 คน มผี ้ปู ระสบภัย 5,904 คน คา่ เสยี หายคดิ เปน็ มลู คา่ 61,524,254.75 บาท วนั ท่ี 13 กนั ยายน พระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช และสมเด็จ พระราชินี ได้เสด็จบ้านโป่ง เป็นการส่วนพระองค์ พร้อมสมหุ ราช องครักษ์จ�านวนหนึง่ ทรงพระราชทานเสือ้ ผ้า อาหาร ยารักษาโรค และพระราชทรพั ยส์ ว่ นพระองคจ์ า� นวน 1 แสนบาท เพ่อื บรรเทาทกุ ข์ ของราษฎร ตอ่ มาหนงั สอื พิมพไ์ ด้ลงข่าวอย่างกว้างขวาง เช่น ` `
น.ส.พ. สารเสรี 14 กันยายน 2497 เสด็จไปรเวท ตร.วงั ไม่ร้เู ลย เนือ่ งจากทรงมพี ระประสงค์จะได้ทอดพระเนตรสถานทีซ่ ึ่งพระเพลงิ ได้เผาผลาญ ชาวบ้านโปง่ พินาศอย่างมหาศาล เม่อื วันที่ 9 เดือนนี้ และทรงเยย่ี มเยียนราษฎร ผู้ประสบเคราะห์คราวนดี้ ้วยพระองค์เอง พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัว จึงไดเ้ สด็จ ออกจากพระทีน่ ัง่ อมั พรสถานโดยรถยนต์พระทีน่ งั่ มุ่งไปยังบ้านโป่ง เมอื่ เวลา 9 น.เศษ วานนี้ (ท่ี 13) โดยเจ้าหนา้ ท่ีผ้ถู วายอารกั ขาไม่ทันทราบ จนกระทงั่ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยูห่ ัว เสด็จออกพน้ พระทนี่ ง่ั อมั พรสถานไปแลว้ เจา้ หนา้ ท่ตี า� รวจผถู้ วายอารกั ขาจงึ ทราบเรอ่ื ง เลยรบี โทรศพั ทแ์ จง้ ไปยังผบู้ ัญชาการ ต�ารวจนครบาล และอธิบดีต�ารวจใหท้ ราบทนั ที แล้วเจ้าหนา้ ที่ผ้ถู วายอารกั ขากร็ ีบ บง่ึ รถตามเสด็จไปในทันที ทางดา้ นจังหวดั พระนคร ผ้บู ัญชาการตา� รวจรีบจัดก�าลงั ตรวจออกรายทาง เตรยี ม รบั เสดจ็ ตอนกลบั ในทันทนี ้นั พรอ้ มดว้ ยกา� ลังเจา้ หนา้ ท่อี ีกสว่ นหน่งึ กร็ บี เดนิ ทางตาม เสดจ็ ไปยังบา้ นโปง่ 40 สขุ ภาพคนไทย 2560
น.ส.พ. พิมพ์ไทย 16 กนั ยายน 2497 ราชจริยาวตั ร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระบรมราชินีได้เสด็จเปนส่วนพระองค์ไปทรง เย่ยี มเยียนราษฎรผู้ประสบอคั คีภยั ทบ่ี า้ นโป่ง จงั หวัดราชบุรี เมื่อวันที่ 13 เดอื นน้ี ไดก้ อ่ ให้ เกิดความซาบซึง้ ตรึงใจแก่ราษฎรอย่างใหญ่หลวง เพราะปรากฏว่าทัง้ สองพระองค์ได้ ทรงรถยนตพ์ ระที่นง่ั และแล่นออกจากพระราชวงั ดุสติ ไปเงียบๆ โดยปราศจากพธิ รี ตี องใดๆ ท้งั ส้นิ แมแ้ ตเ่ จา้ หนา้ ท่ีตา� รวจผถู้ วายความอารกั ขากไ็ มท่ ราบ ตามขา่ วปรากฏวา่ มาทราบเอา เมอื่ ไดเ้ สดจ็ ไปนานแลว้ และขบวนถวายความอารกั ขาจากพระนครไปทันรถพระท่นี ่งั ท่จี งั หวดั นครปฐม ในการเสดจ็ เปนส่วนพระองคอ์ ยา่ งเงียบๆ เช่นนี้ เราเข้าใจว่าเพ่อื พระราชประสงค์จะได้ทอด พระเนตรความเปนไปของราษฎรผู้ประสบความทุกข์ยากอันเนือ่ งจากอัคคีภัยทงั้ นีอ้ ย่าง แทจ้ รงิ ครน้ั เม่อื ถงึ บรเิ วณอนั นา่ เอนจ็ อนาถนน้ั แลว้ พระองคไ์ ดเ้ สดจ็ ทอดพระเนตรจนท่วั ได้ ทรงถามสขุ ทุกขร์ าษฎร และพระราชทานเงนิ สว่ นพระองคใ์ หร้ ฐั บาลบันเทาทกุ ข์ 100,000 บาท และยงั ไดโ้ ปรดเกลา้ ฯ ใหก้ องคลงั ส�านกั พระราชวงั รบั เงนิ ท่มี ผี ้บู รจิ าคร่วมพระราชกศุ ล ทัง้ นด้ี ว้ ย พระราชจริยวัตรดังกล่าวนยี้ ่อมเปนทซี่ าบซึง้ ตรึงใจของปวงชนยิ่งนัก นับเปนการแสดง น�้าพระราชหฤทัยอนั ประเสริฐทีพ่ ระมหากษัตริย์จะพึงมตี ่อราษฎรในระบอบประชาธิปไตย ในฐานะทีพ่ ระองค์ทรงเปนพระประมขุ สงู สดุ ของชาติ ถึงมิได้ทรงใช้อา� นาจปกครองด้วย พระองคเ์ อง แต่กไ็ ดท้ รงพระปรีชาสามารถในทางปกครองยิ่งนกั พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภมู ิพลอดลุ ยเดช กับสขุ ภาพคนไทย 41
น.ส.พ. สยามรฐั 16 กันยายน 2497 ชาวบ้านโป่งซาบซ้งึ ในพระราชอธั ยาศัย คราวเสด็จเยย่ี ม ตามท่พี ระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั และสมเดจ็ พระนางเจา้ ฯ พระบรมราชนิ ไี ดเ้ สดจ็ โดยรถยนตพ์ ระทน่ี ง่ั ส่วนพระองค์ไปยังอา� เภอบ้านโปง่ จงั หวดั ราชบรุ ี เมื่อวันท่ี 13 เดือนนี้ เพือ่ เยย่ี มเยยี นพศกนิกรซ่ึงประสบอคั คีภัยน้ัน บดั นีร้ ายงานข่าวเพิม่ เติมว่า ในการเสด็จไปครั้งนมี้ ีสมหุ ราชองครักษ์โดยเสด็จ และโดยทไี่ ม่มพี ระราชประสงค์ให้มกี ารเตรียมรับเสด็จเป็นการเอิกเกริก จึงเสด็จ โดยกะทนั หนั รถยนตร์พระทน่ี ่งั ถึงจงั หวดั นครปฐมเมือ่ เวลา 12.00 น. ไดป้ ระทบั เสวยพระกระยาหารกลางวนั ณ พระทน่ี ัง่ ชาลบี รมอาสน์ เมอื่ เสวยพระกระยาหาร เสร็จแล้วจึงเสด็จพระราชด�าเนนิ ต่อถึงตลาดบ้านโป่ง ณ ทีน่ นั้ พระราชญาติรักษา ผู้วา่ การภาค 7 ได้เขา้ รับเสด็จ พระเจ้าอยู่หัวและสมเดจ็ พระนางเจา้ พระบรมราชนิ ี ทรงรถยนตพ์ ระท่ีน่งั รอบบรเิ วณเพลิงไหม้ และไดท้ รงทกั ถามทกุ ขส์ ขุ ของประชาชน ทปี่ ระสบภยั โดยท่ัวกัน ในการเสด็จครัง้ นีเ้ ปนผลให้ประชาชนชาวบ้านโป่งซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ เป็นลน้ เกลา้ 42 สขุ ภาพคนไทย 2560
` การปลกู ฝงั คุณธรรม` นอกจากพระบรมโชวาทในวโรกาสต่างๆ แล้ว ทรงปลูกฝังคุณธรรมแก่ พสกนิกรด้วยการ สรา้ งงานวรรณกรรมอันย่ิงใหญ่ ไดแ้ ก่ การท่ที รงพระวริ ยิ ะอุตสาหะแปลงานวรรณกรรมเร่อื ง “นายอนิ ทร์ผู้ปิดทองหลังพระ” เพือ่ ให้ประชาชนชาวไทยได้รับรู้และเห็นคุณค่าของการ ทา� งานเพอ่ื ประเทศชาตอิ ยา่ งเปย่ี มความรู้ ความสามารถ โดยมิไดห้ วงั ผลตอบแทนใดๆ แมแ้ ต่ ค�ายกยอ่ งเชดิ ชู ตามแนวทางของอุดมการณ์ “ความฝนั อนั สูงสุด” อันเปน็ บทเพลงพระราช นิพนธ์ทีม่ ีเนื้อร้องตอนหนงึ่ ว่า “จะปิดทองหลงั องคพ์ ระปฏมิ า” ตอ่ มาทรงปลกู ฝงั อุดมการณเ์ รอ่ื งความเพยี รหรอื พระวริ ยิ บารมี ดว้ ยการรงั สรรคว์ รรณกรรม “พระมหาชนก” ทั้งในรูปแบบของนิทาน และต่อมาเป็นฉบับการ์ตูนเพือ่ ให้เข้าถึงเยาวชน คนไทยได้ดยี ่งิ ข้ึน บทเพลงพระราชนพิ นธจ์ �านวนมาก นอกจากแสดงถงึ พระอจั ฉรยิ ภาพทางดนตรอี นั สงู ย่งิ ของ พระองค์ท่านแล้ว เนอ้ื เพลงยังเป็นเครอื่ งหลอ่ หลอมอุดมการณ์ของคนในชาติ ได้อย่างดยี ่งิ ในพระราชพิธฉี ลองสริ ิราชสมบัตคิ รบ 60 ปี เม่อื วันท่ีศกุ ร์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2549 ก็ทรง มพี ระราชด�ารัสในการเสด็จออกมหาสมาคมในงานพระราชพิธีดังกล่าว พระราชทาน พระบรมราโชวาทเรือ่ งคณุ ธรรม 4 ประการ “ซึ่งเป็นที่ตงั้ ของความรักความสามัคคี ทีท่ �าให้ คนไทยเราสามารถรว่ มมอื รว่ มใจกนั รกั ษาและพฒั นาชาตบิ า้ นเมอื งใหเ้ จรญิ รงุ่ เรอื งสบื ตอ่ กนั มาได้ตลอดรอดฝัง่ ” ไดแ้ ก่ พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดลุ ยเดช กับสขุ ภาพคนไทย 43
ประการแรก ประการท่สี อง คอื การที่ทุกคนคิด พดู คอื การทีแ่ ต่ละคนตา่ งชว่ ยเหลอื ดว้ ยความเมตตา มงุ่ ดี เก้ือกลู กัน ประสานงานประสาน มงุ่ เจรญิ ต่อกนั ประโยชน์กัน ให้งานที่ท�า สา� เรจ็ ผล ท้ังแก่ตน แก่ผูอ้ ืน่ และ แกป่ ระเทศชาติ ประการทสี่ าม ประการท่สี ่ี คอื การทท่ี กุ คนประพฤตปิ ฏิบัติ คอื การท่ตี า่ งคนตา่ งพยายาม ตนอยใู่ นความสจุ รติ ในกฎกติกา ทา� ความคิดเห็นของตนให้ถกู ตอ้ ง เทยี่ งตรงและมั่นคงอยใู่ นเหตผุ ล และในระเบยี บแบบแผน โดยเท่าเทยี มเสมอกัน พระราชด�ารัสดังกล่าว นบั ว่าเหมาะแก่สถานการณ์ทเี่ กิดความแตกแยกอย่างรุนแรงของ คนในชาติ ก่อนหน้านัน้ หลายปกี ท็ รงพระราชทานพระบรมราโชวาท เรอ่ื งคณุ ธรรม 4 ประการ ไดแ้ ก่ สจั จะ (ความซอ่ื สัตย์จริงใจตอ่ กนั ) ทมะ (ความขม่ ใจ ความฝกึ ฝนอบรมตน) ขนั ติ (ความ อดทน) และจาคะ (การเสยี สละ ละวาง เผ่อื แผ่ แบง่ ปนั มีน้�าใจกนั ) ซง่ึ กค็ อื “ฆราวาสธรรมส่”ี ในพระพุทธศาสนาน้นั เอง การที่มิได้ทรงอา้ งองิ พระธรรม ในพระพทุ ธศาสนาโดยตรง น่าจะ เนอื่ งมาจากทีแ่ ม้จะทรงเป็นพุทธมามกะ แต่ทรงเป็นเอกอัครศาสนปู ถัมภกของทุกศาสนา เฉกเช่นเดียวกับทีพ่ ระเจ้าอโศกมหาราชทแี่ ม้จะทรงเป็นพุทธมามกะ แต่ถ้อยค�าใน “จารึก อโศก” ล้วนเป็นถอ้ ยคา� กลางๆ ทีส่ ะท้อนหลกั ธรรมในทุกศาสนา ในดา้ นภาษาไทยทรงแสดงถงึ อจั ฉรยิ ภาพจนเปน็ ท่ปี ระจกั ษแ์ ละเปน็ ท่เี ล่อื งลอื เม่อื ทรงเสดจ็ พระราชดา� เนินไปทรงเปน็ ประธานและทรงอภปิ รายเร่อื ง “ปญั หาการใชภ้ าษาไทย” รว่ มกบั ผทู้ รงคณุ วฒุ ิในการประชมุ ทางวชิ าการของชมุ นุมภาษาไทย คณะอักษรศาสตร์ จฬุ าลงกรณ์ มหาวทิ ยาลยั ซง่ึ ทรงแสดงพระปรชี าสามารถและความสนพระราชหฤทยั หว่ งใยในภาษาไทย จนเป็นทปี่ ระทับใจผู้ร่วมประชุมครั้งนนั้ เป็นอย่างยงิ่ และท�าให้วันประชุมวันนนั้ คือ วันท่ี 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2505 รฐั บาลได้ประกาศเป็น “วันภาษาไทยแห่งชาติ” ตง้ั แต่ ปี พ.ศ. 2542 เป็นตน้ มา 44 สขุ ภาพคนไทย 2560
พระอัจฉรยิ ภาพทางภาษาไทยของพระองคท์ า่ นยอ่ มเปน็ ทป่ี ระจกั ษต์ ้งั แตก่ ารประชมุ อภปิ ราย ครงั้ น้ัน และปรากฏให้เห็นอย่างตอ่ เน่อื ง จนถึงขน้ั ทพ่ี ระราชดา� ริของท่านได้กลายเปน็ ศัพท์ ภาษาไทยท่ียอมรับกนั ทัว่ ไป เช่น ค�าว่า “แกม้ ลงิ ” เป็นต้น อีกค�าหนงึ่ คือค�าว่า “สาส์น” ทรี่ าชบณั ฑติ ยสถานยืนยันว่าต้องเขียน “สาสน์” เท่านัน้ มใิ ยทจ่ี ะมี “สาส์นสมเด็จ” ของสองปราชญ์แห่งรตั นโกสินทร์ คอื สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยา นริศรานวุ ัดติวงศ์ และสมเด็จฯ กรมพระยาด�ารงราชานุภาพโดดเด่นเป็นทรี่ ู้จักอย่างกว้าง ขวางในวงวรรณกรรมของไทย ในท่ีสุดพจนานุกรมฉบับราชบณั ฑิตยสถานกเ็ กบ็ คา� “สาสน์ ” ไว้อย่างเป็นทางการแล้วต้ังแต่ ฉบับ พ.ศ. 2542 หลังจากทีท่ รงมคี �าอธิบายอย่างลุ่มลึก เก่ียวกบั คา� นีจ้ นเปน็ ทยี่ อมรบั ของทุกฝ่ายโดยดุษฎี พระราชดา� รเิ ร่อื งเศรษฐกจิ พอเพียง ก็คือแนวทางท่ปี ระชาชนไทยจา� นวนมาก ยดึ ถอื ปฏิบัติ เปน็ แนวทางการด�าเนนิ ชีวิต และประสบผลดีน่าพอใจ เมือ่ เสด็จขึ้นครองราชย์สมบัติได้ครบ 25 ปี จะมีงานรัชดาภิเษกสมโภช รัฐบาลประสงค์ จะสรา้ งพระราชานุสาวรยี เ์ ปน็ ท่ีระลึก แตท่ รงขอใหส้ รา้ งถนนวงแหวนรอบกรงุ เทพมหานคร แทน ดงั ทรงมีพระราชด�ารัสวา่ “...อนสุ าวรียอ์ ยา่ เพิง่ สร้าง สรา้ งถนนดีกวา่ สร้างถนนเรียก วา่ วงแหวน เพราะมันเป็นความฝัน เปน็ ความฝันมาต้ังนานแล้ว...” ประชาชนไทยจึงได้ถนน รชั ดาภิเษกเปน็ ประโยชนแ์ กก่ ารคมนาคมของกรงุ เทพฯ ซงึ่ นบั วนั แต่จะเติบโตขยายตวั ออก ไปเรือ่ ยๆ และเมอื่ ครองราชย์สมบตั ิครบ 50 ปีประชาชนชาวไทยก็ได้ถนนกาญจนาภิเษก ซงึ่ เปน็ พระราชานสุ าวรีย์ทย่ี ิ่งใหญก่ วา่ พระราชานุสาวรียท์ ว่ั ๆ ไป อันพสกนิกรควรสา� นึกใน พระปญั ญาธิคุณ และพระมหากรุณาธิคณุ และเปน็ แบบอยา่ งทคี่ วรดา� เนินตามอยา่ งย่งิ เหนืออ่ืนใด คอื พระราชจรยิ วตั รของพระองคท์ า่ นท้งั ท่เี ก่ยี วกบั พระราชกรณียกจิ ในฐานะพระ มหากษตั ริยท์ เี่ ป่ยี มลน้ ทัง้ พระปญั ญาธคิ ณุ พระบริสทุ ธคิ ณุ และพระมหากรุณาธิคุณ งดงาม ครบถว้ นในทศพธิ ราชธรรมทกุ ประการ และพระราชจรยิ าวตั รทีท่ รงปฏบิ ตั ติ อ่ พระบรมวงศา นวุ งศท์ ุกพระองค์ โดยเฉพาะภาพทที่ รงแสดงความรกั และความกตญั ญูกตเวทตี อ่ สมเดจ็ พระ ศรนี ครนิ ทราบรมราชชนนี ซง่ึ เปน็ ภาพท่ีท้ังประทับใจ และสอนใจลูกทกุ คนท่ีลว้ นมแี มท่ ้ังส้นิ พระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมีมากมายอเนก อนนั ต์ สุดจะพรรณนาได้ครอบคลุมครบถ้วน เฉพาะโครงการอันเนือ่ งมาจากพระราชด�าริ ก็มถี ึงกว่าสี่พนั โครงการ จงึ ขอกลา่ วโดยย่นยอ่ พอสังเขปเพยี งเท่าน้ี พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภมู ิพลอดลุ ยเดช กับสุขภาพคนไทย 45
` พระมหาวีรภาพ` นอกจากทศพธิ ราชธรรมทีพ่ ระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงดา� รงไว้ได้ อย่างเต็มเปี่ยมตลอดพระชนมชีพอนั ยนื ยาวแล้ว ธรรมะอีกข้อหนึง่ ของพระองค์ท่านที่ โดดเดน่ อยา่ งย่งิ คือ ความกล้าหาญ ตลอดพระชนมชีพ พระองค์ท่านต้องเผชิญกับเหตุการณ์รุนแรงทุกรูปแบบ แต่ทรงเผชิญ เหตกุ ารณท์ ้ังปวงดว้ ยทศพธิ ราชธรรมและความกลา้ หาญ และสามารถฟนั ฝา่ มาไดอ้ ยา่ งงดงาม ยิ่งทุกครั้ง เมือ่ ทรงขึ้นครองราชย์ โลกตกอยู่ในยุคสงครามเยน็ อันยาวนาน และปะทุเป็นสงครามร้อน ในหลายภูมภิ าค รวมทัง้ ในอษุ าคเนย์ ประเทศไทยก็ตกอยู่ในสถานการณ์สู้รบนานหลาย ทศวรรษ เหตกุ ารณร์ นุ แรงถงึ ขน้ั ตอ่ สกู้ นั ดว้ ยอาวธุ รา้ ยแรง เรม่ิ ขน้ึ ตง้ั แต่ พ.ศ. 2504 (30) และ รุนแรงเพม่ิ ขนึ้ เรือ่ ยๆ โดยฝ่ายรฐั บาลมีความสูญเสยี ไม่น้อย เช่น ในปี 2513 นายประหยดั สมานมติ ร ผวู้ า่ ราชการจงั หวดั เชยี งราย พ.อ.จา� เนียร มสี งา่ นายทหารฝา่ ยเสนาธกิ ารกองทพั ภาคท่ี 3 และ พ.ต.อ.ศรีเดช ภมู ิประหมนั ผกู้ �ากบั การตา� รวจภธู รจงั หวดั เชียงราย ถูกซุ่ม ยงิ เสียชีวิต (31) ต่อมา หม่อมเจ้าหญิงวิภาวดี รังสิต ถูกยิงสนิ้ พระชนม์ขณะเสด็จไปบน เฮลคิ อปเตอร์ เพือ่ รับผบู้ าดเจ็บไปสง่ โรงพยาบาลทอ่ี า� เภอเวียงสระ จังหวัดสรุ าษฎร์ธานี (32) นอกจากนี้ ยงั มกี รณอี บุ ตั ิเหตุ เช่น กรณีเครื่องเฮลคิ อปเตอร์ของกรมต�ารวจชนกับเครื่อง ของกองทพั บก เมอ่ื วันที่ 30 ตลุ าคม พ.ศ. 2516 ทีโ่ รงเรยี นร่มเกลา้ บ้านหนองแคน ตา� บล ดงหลวง อ�าเภอนาแก จังหวดั นครพนม เป็นเหตใุ ห้นายสนุ นั ท์ ขนั อาสา ผูว้ ่าราชการจงั หวดั นครพนมเสียชวี ติ (33) ในทา่ มกลางสถานการณ์รุนแรงเช่นน้ี พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภมู ิพลอดลุ ยเดช ได้ เสดจ็ อยู่ใน “แนวหน้า” อยา่ งกลา้ หาญตลอดมา เหตุการณ์ทีแ่ สดงถึงพระทศพิธราชธรรม และพระวีรภาพของพระองค์ท่านอย่างชัดเจน คือ กรณรี ะเบิดในพธิ ีพระราชทานรางวลั แก่โรงเรียนปอเนาะ และพระราชทานธงประจ�ารนุ่ ลูกเสอื ชาวบา้ นที่สนามโรงพิธชี ้างเผือก ทีอ่ �าเภอเมือง จงั หวดั ยะลา เม่ือวันที่ 22 กนั ยายน 46 สขุ ภาพคนไทย 2560
ขอให้ทุกคนมจี ติ ใจเขม้ แขง็ ไมต่ ื่นเตน้ ต่อสถานการณ์ เปดิ หเู ปิดตาให้ดี กส็ ามารถขจดั อนั ตรายเหลา่ นน้ั ได้ คนไทยไม่ว่าอยภู่ าคไหนมจี ิตใจอย่างเดยี วกัน คือ รกั ษาความสงบ ใครกอ่ ความไมส่ งบ เรากต็ อ้ งป้องกัน ขอชมเชยลูกเสือชาวบา้ น ท่ปี ฏบิ ัตติ นได้อยา่ งดตี ามทฝ่ี กึ ไว้ ขอให้ทกุ คนมีความเข้มแขง็ ปลอดภัย และมีความสา� เร็จทกุ ประการ (๓๔)
พ.ศ. 2520 ระเบิดลูกแรกห่างพลบั พลาทปี่ ระทบั เพยี ง 55 เมตร ลกู ทีส่ อง 110 เมตร มีผู้ได้รับบาดเจ็บถึง 47 คน ทกุ คนตกใจวิ่งหนีกันอลหม่าน แต่พระบาทสมเด็จ พระปรมนิ ทรมหาภูมิพลอดลุ ยเดชทรงมพี ระสติสมั ปชญั ญะดียิง่ หลงั เกิดเหตชุ ุลมนุ ทา� ให้ พระราชพิธีชะงักลงชั่วครู่ และส่งคนเจ็บไปโรงพยาบาลแล้ว ท่านทรงงานต่อโดยมี พระราชด�ารัสกบั ผมู้ ารว่ มงานในพธิ ีว่า \"ขอใหท้ ุกคนมจี ิตใจเขม้ แขง็ ไมต่ ื่นเต้นตอ่ สถานการณ์ เปิดหูเปดิ ตาใหด้ ี ก็สามารถ ขจดั อนั ตรายเหลา่ น้นั ได้ คนไทยไม่วา่ อยภู่ าคไหนมจี ติ ใจอยา่ งเดียวกนั คือ รักษา ความสงบ ใครก่อความไม่สงบ เราก็ต้องป้องกัน ขอชมเชยลกู เสือชาวบ้าน ทีป่ ฏิบัติตนได้อย่างดีตามทฝี่ ึกไว้ ขอให้ทกุ คนมีความเข้มแข็ง ปลอดภัยและ มคี วามส�าเรจ็ ทุกประการ\" (34) หลังเสรจ็ พระราชพธิ ี ตา� รวจราชสา� นักกราบทลู ใหเ้ สดจ็ กลับพระตา� หนกั ทักษณิ ราชนิเวศน์ เพ่ือความปลอดภยั แตท่ รงขอไปเยย่ี มคนเจบ็ ทโ่ี รงพยาบาล ตา� รวจขอวา่ “อยา่ เสด็จเลย” อนั ตราย เพราะทางทีจ่ ะกลับ ถ้าค�่าแล้วย่ิงอันตรายใหญ่ เขาอาจจะยงิ ด้วยจรวดก็ได้ ให้รบี กลับเสยี แต่วนั ๆ เถอะ แตท่ รงยนื ยันว่า “ไม่ได้ เขามานี่ เจบ็ เพราะเรามา เขามาหาเรา เรา ตอ้ งไปเย่ียม” สมเด็จพระนางเจ้าสริ ิกิติ์ พระบรมราชินนี าถในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ล อดลุ ยเดช ทรงพระราชทานสมั ภาษณแ์ กก่ ลมุ่ นกั ขา่ วหญงิ ในเรอ่ื งน้วี ่า “มีรายงานบอกวา่ ไมไ่ ดเ้ จบ็ กนั มากพระเจา้ ขา้ ขา้ พเจา้ รบั รอง ไดข้ า่ ววา่ เลือดขดี ขว่ น เทา่ นนั้ ใส่ยาแดงแล้วกก็ ลับบา้ นได้ ฉนั คิดว่าการทพี่ ระมหากษัตริย์ของบางประเทศล่ม เพราะเหตุอย่างนี้ คือเพราะ เชอ่ื ตามค�าบอก พระเจา้ อยหู่ วั รบั ส่งั วา่ ขดี ขว่ นกจ็ ะไปดู เขาไมย่ อม ส่ังรถพระท่ีน่งั ใหก้ ลบั พระตา� หนัก รถพระท่ีน่ังวง่ิ กลบั พระเจา้ อย่สู ั่งให้เล้ยี วกลับเดยี๋ วนี้ ฉันจะไปโรงพยาบาล คนขบั รถกลัว เล้ียวไปอกี ทางท่ีโรงพยาบาล พอไปถงึ เราตกตะลงึ เพราะเลอื ดสาดเตม็ แลว้ มเี ดก็ ผหู้ ญงิ สาว อายุสัก 17-19 กา� ลงั หอบ ปอดยบุ ไปขา้ ง ถา้ เราไมไ่ ปกต็ าย แลว้ เดก็ อีกคนตากจ็ ะบอด คอื คนนอนกนั เตม็ เหน็ แตเ่ ลอื ด เลือด ท้งั น้นั พอเขา้ ไป เดก็ สาวนั้นเหน็ เรา เขากร็ ้องไห้ บอกท่านคะ หนูเจ็บเหลอื เกิน หนูหายใจไม่ออก หนูเจบ็ พ่อแม่ก็ไมไ่ ดม้ า ทา่ นช่วยหนูด้วย...”(35) 48 สุขภาพคนไทย 2560
` รรู้ ักษ์พระพลานามัย` พระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช ทรงมพี ระพลานามัยดีเยยี่ ม แม้จะ ปรากฏข่าวทรงประชวรเป็นบางครั้ง จากการตรากตร�าพระวรกายในการประกอบพระ กรณยี กิจไปในทกุ ถน่ิ ท่ี โดยเฉพาะในท้องถน่ิ ทรุ กนั ดาร ท้ังยามกลางวัน และยามกลางคนื เปน็ ทีป่ ระจักษแ์ ก่ขา้ ราชบริพาร และทุกคนทไี่ ด้มโี อกาสตามเสดจ็ นอกจากจะทรง “ขึน้ เขาลงห้วย” ด้วยความคล่องแคล่ว อย่างไม่ทรงรู้สึกเหนด็ เหนือ่ ย จนผู้ตามเสด็จหลายคนต้องฝึกฝนร่างกายเพื่อให้สามารถตามเสด็จได้ เมอื่ ต้องทรงงานที่ ต้องประทับนัง่ เป็นเวลานาน เช่น ในพิธีพระราชทานปริญญาบตั รแก่นิสติ นักศึกษา ทรงรกั ษาพระอริ ยิ าบถท่ีงามสงา่ ไวไ้ ดโ้ ดยตลอด เปน็ เวลาหลายชว่ั โมงโดยไมท่ รงเปล่ยี นพระ อิรยิ าบถเลย ในเวลาทรงดนตรี กม็ กั จะเหน็ พระองคป์ ระทับอยโู่ ดยไมท่ รงลุกขน้ึ เปล่ยี นพระ อริ ยิ าบถตง้ั แตเ่ ร่มิ ทรงดนตรตี อนค่า� ไปจนรงุ่ สาง ในขณะท่นี ักดนตรคี นอ่นื ๆ มกั ตอ้ งลงกราบ กอ่ นจะถอยออกไปเข้าห้องน�้าเป็นครั้งคราว การท่ที รงทา� ไดเ้ ชน่ น้นั เพราะทรงบรหิ ารพระวรกายอยา่ งสม่�าเสมอ ไมว่ า่ จะทรงประทับอยู่ ในพระนครหรอื ตา่ งจงั หวดั และนอกจากบรหิ ารพระวรกายแลว้ ยงั ทรงฝกึ ทา� สมาธจิ นกลา้ แขง็ ทา� ใหอ้ ยใู่ นพระอริ ยิ าบถท่งี ามสงา่ ไดย้ าวนาน “... ท่ที รงท�าเชน่ น้นั ไดก้ เ็ พราะพระสมาธิ อนั แน่วแน่ ... พระทัยจดจ่ออยู่กับพระราชกรณยี กิจทที่ รงท�าอย่างต่อเนอื่ ง เพราะฉะนนั้ จึงมไิ ด้สนพระทัยกับอาการปวดเมือ่ ยของพระวรกาย หรือหากทรงสนพระทัยก็คงจะทรง พจิ ารณาแตเ่ พยี งวา่ อาการปวดเม่อื ยน้นั ปรากฏอยู่ แลว้ กค็ งจะปลอ่ ยพระองคไ์ ปตามสภาพ ธรรมชาติ จะเรยี กวา่ ทรงอยเู่ หนอื ความปวดเมื่อยนั้นก็คงจะได”้ (36) พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภูมิพลอดลุ ยเดช กับสุขภาพคนไทย 49
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194