Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ชีวิตนี้มีไว้ทุ่มเดิมพัน

ชีวิตนี้มีไว้ทุ่มเดิมพัน

Description: ชีวิตนี้มีไว้ทุ่มเดิมพัน

Search

Read the Text Version

^ตนี้มีไว้ทุ่มเดิมพ้น เรื่อง การสร้างทีมงานสืบทอดอายพระพทธศาสนา f ^ 5Si^ www.kalyanamitra.org

^ตนี้มืไว้ทุ่มเดิมพัน เรื่อง การสร้างทีมงานสืบทอดอายพระพุทธศาสนา พระธรรมเทศนา พระภาวนาวิริยคุณ(หลวงพ่อฑัตตซีโว) เรียบเรียง โดย ส.ผ่องสวัสดี้ www.kalyanamitra.org

ดูวิตนี้มีไว้ทุ่มเดิมพน ส.ผ่องสวัสดี้ เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนา พระภาวนาวิริยคุณ(หลวงพ่อทัดตชีโว) เลขมาตรฐานสากลประจำหนังสือ 978-974-1 3-4693-6 พิมพ์ครั้งที่ ๑ ๒๑ ธ้นวาคม ๒๕๕๐ จำ นวน ๒๐,๐๐๐ เล่ม คณะผู้จ้ดทำ กองวิชาการ อาศรมบ้ณฑิด ภาพปก กองพุทธศิลป๋ ออกแบบปกและพิลปกรรม ธาดา วงศ์คุณานนท์ และ บริษัท ครีเอทโชน จำ กัด จัดทำรูปเล่ม สันทัด ศ้กดี้สาคร พิมพ์ที่ บริษัท รุ่งศิลป๋การพิมพ์(๑๙๗๗)จำ กัด ๘๕-๙๕ ถนนมหานคร เขดบางร้ก กรุงเทพฯ ๑๐๕๐๐ จัดพิมพ์โดย โทร. ๐-๒๒๓๖-๐๐๕๙ โทรสาร ๐-๒๒๓๘-๔๐๒๘ กองวิชาการ อาศรมบัณฑิด ๔๐ หมู่ ๘ ด.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ๑๒๑๒๐ โทร. ๐๒-๘๓๑- ๑๒๕๐-๒ โทรสาร ๐๒-๘๓๑-๑๒๕๙ และ ชมรมนักคิดนักเขียนเพื่อสันติภาพโลก e-mail: [email protected] ลิขสิทธี้ มูลนีธิธรรมกาย ไม่สงวนลิขสิทธี้เพื่อพิมพ์เผยแพร่ทั่วไป สงวนลิขสืทธี้กรณีพิมพ์เพื่อแสวงหากำไรส่วนดน www.kalyanamitra.org

คำ นำ มหาสมุทรอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเทียบเทียมได้ก้บห้วง มหาสมุทรแห่งการเวียนว่ายตายเกิดในภพสาม มหาบุรุษผู้ว่ายข้ามวัฏสงสารได้ด้วยอำนาจแห่งบารมี ๑๐ ประการ ย่อมมึนํ้าใจที่ยิ่งใหญ่กว่าภพสามหลายเท่านัก การที่โลกจะบังเกิดมหาบุรุษผู้มีนํ้าใจยิ่งใหญ่กว่าภพสามนั้น มิใช่เรื่องง่าย และในบรรดามหาบุรุษผู้มีนั้าใจยิ่งใหญ่กว่า ภพสามทั้งหมดนั้น ผู้ที่ไม่ยอมข้ามสู่ส์งพระนิพพานเพียงลำพัง แต่ยังอยู่รั้งรอเพื่อขนสรรพซีวิดทั้งภพสามให้ข้ามไปถึงฝัง พระนิพพานด้วยกันนั้น กลับมีจำนวนน้อยแสนน้อยและ บังเกิดขึ้นยากยิ่งนัก มหาบุรุษผู้มีนํ้าใจยิ่งใหญ่กว่าภพสาม พากเพียร พยายามนำผองชนตลอดทุกภพข้ามไปสูฝังพระนิพพานนั้น คือ พระสัมมาส้มพุทธเจ้านั้นเอง คำ นำ (rf) www.kalyanamitra.org

พระธรรมคำสอนในพระพุทธศาสนาปรากฏขึ้นในโลกหล้า ล้วนเกิดจากพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ไพศาลของพระ สัมมาล้มพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์เป็นสำคัญ ทุกถ้อยพระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์นั้น จึงเป็น ประดุจนาวารื้อขนมหาชนผู้ลอยเคว้งคว้างในภพสามไปสู่ฝัง พระนิพพาน สำ หรับพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์นั้น แน่นอนย่อมยิ่งใหญ่กว่าภพสามมากล้นล้านเท่าทับทวี ดังนั้น การสืบทอดอายุพระพุทธศาสนาให้ยืนยงคงอยู่คู่ โลกไปดราบนานเท่านาน ผู้มีทัวใจรักพระพุทธศาสนาทุกท่าน จึงดัองทำงานทุกย่างถ้าวดัวยความบริสุทธิ้ใจดุจเดียวกับ พระสัมมาล้มพุทธเจ้าเมื่อครั้งอังทรงพระชนม์ นาวาพระพุทธ- ศาสนาจึงจะสามารถแล่นฝ่ากระแสคลื่นลมแห่งกิเลสในวัฏสงสาร น่าพาผองชนสร้างบุญบารมีไปสู่พระนิพพานได้ตลอดรอดฝัง ต่อไปอีกนานแสนนาน คณะผู้จ้ดทำต่างมีความเห็นพ้องดัองกันว่า พระธรรม เทศนาของพระเดชพระคุณพระภาวนาวิริยคุณ (หลวงพ่อ ทัดดรโว)เป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการทะนุบำรุงพระพุทธศาสนา ท่ามกลางกระแสโลกาภิว้ดน์ของโลกใบนี้ จึงได้ขออนุญาต รวบรวมพระธรรมเทศนาในวาระโอกาสต่างๆ มาเรียบเรียง เป็นหน้งสือชุด \"รวิตนี้มีไว้ทุ่มเดิมพัน\" เรื่องที่ ๑ การสร้างทึม งานสืบทอดอายุพระพุทธศาสนา เพื่อให้ผู้มีหัวใจรักพระพุทธ ศาสนาดุจเดียวกัน ได้มีคู่มีอสำหรับสร้างทีมงานเผยแฝ สืบทอดอายุพระพุทธศาสนาให้ยืนยงคงอยู่คู่โลกนี้ต่อไปอีก นานแสนนาน ชาวโลกรุ่นหสังจะได้มีพระธรรมคำสอนของพระ สัมมาล้มพุทธเจ้าเป็นแสงสว่างน่าทางข้ามพ้นวัฏสงสารด้วย ตนเองสืบไป (๖) มิไว้Y]มฬํมพัน www.kalyanamitra.org

ในโอกาสนี้ คณะทำงานขอกราบขอบพระคุณในความ เมตตาของพระเดชพระคุณหลวงพ่อฑัตตชีโวอย่างสูง ที่ อนุญาตให้นำความรู้อันทรงคุณค่าในพระพุทธศาสนา มาจัต พิมพ์เพื่อเผยแพร่ทั่วไปให้แก่ประชาชน โดยไม่หวงแหนปีตบัง ความรู้แม้แต่น้อยนิด และนับเป็นคุณูปการต่อผู้มีห้วใจรัก พระพุทธศาสนายิ่งนัก ขอขอบพระคุณมูลนิธิธรรมกาย และผู้ให้การสนับสนุน หนังสือเล่มนี้ทุกท่าน ทั้งที่ออกนามและมิได้ออกนามใน หนังสือเล่มนี้ไว้ณ ที่นี้ด้วย อย่างไรก็ตามหากการเรียบเรียงมีข้อผิดพลาดประการใด ผู้เรียบเรียงและทีมงานด้องกราบขออภัยทุกท่าน และโปรด ช่วยชี้ขุมทรัพย์อันเป็นประโยชน์ต่อการทำงานพระพุทธ- ศาสนาสืบไปไดโดยมิด้องเกรงใจ บุญกุศลใดอันเกิดจากกุศลจิดของทุกท่านที่ให้การ สนับสนุนสืบทอดอายุพระพุทธศาสนาให้ยืนยงคงคู่โลกนี้ไปอีก นานแสนนานด้วยดีเสมอมาขอให้ทุกท่านจงประสบแต่ความสุข ความสำเร็จ ความดีงาม และความเจริญรุ่งเรีองทั้งทางโลก และทางธรรม เป็นกำลังสำคัญในการนำผองชนข้ามพ้น วัฏสงสารได้ดลอดรอดฝังทุกภพทุกชาติ ดราบกระทั่งเข้าสู่ พระนิพพาน เทอญ ขอกราบอนุโมทนาบุญ ส. ผ่องสว้สดิ้ และทีมงานวิชาการ ๒๑ ธ้นวาคม พ.ศ. ๒๕๕๐ คำ นำ (๗) www.kalyanamitra.org

สารบัญ คานา (๕') รวิดนี้มีไว้ทุ่มเดิมพัน เรื่อง การสร้างทีมงานสิบทอดอายุพระพุทธศาสนา ๑ ๑. จิตวิทยาตามความหมายของพระพุทธศาสนา ๒ ๒. จิตวิทยาการลfTไงวัตพระธรรมกาย ๓ ๒.๑) สรางวัตด้วยกันอิ่มด้วยกันอดด้วยกัน ๖ ๒.๒) เจ็บป่วยเมื่อใดให้หาหมอดีที่สุตมารักษา ๗ ๒.๓) ทำ งานเป็นทีม ทะเลาะกันได้ แต่ห้าม ผูกโกรธกัน ๗ ๓. การสรางทีมงานเผยแผ่พระพุทธศาสนา ๙ วุฒิธรรม ๔ ประการ หลักการแสวงหาปั'ญญา ๑๓ ๑. ลัปปุริสสังเสวะ - หาครูดีให้พบ ๑๕ ๒. ลัทธัมมัสสวนะ - ฟังคำครูให้ชัด ๑๖ ๓. โยนิโสมนสิการ - ตรองคำครูใหเก ๒๑ ๔. ธัมมานุธัมมปฏิปัตติ - ทำ ตามครูให้ครบ ๒๓ (๙) ปีวํฅนมไว้ชุ่มเคิมท้น www.kalyanamitra.org

บารมี ๑๐ ประการ เส้นทางแห่งการตรัสรู้ธรรม ๒๙ ๑. บารมี คืออะไร ๓๓ ๒. ทำไมต้องทุ่มชีวิตสร้างบารมี ๓๔ ๓. ทำอย่างไรจึงบำเพ็ญบารมีไต้มาก ๓๕ การแกคน ต้องเริ่มต้นที่แกสีลธรรมผ่านฟ้จจัย ๔ ๔๑ ๑. นิสัยคืออะไร ๔๒ ๒. สิ่งที่คนเราต้องคิด-พูด-ทำซํ้าๆเป็นประจำคือ ๓. มนุษย์เรามีวิธีใช้ปัจจัย ๔ ในชีวิดประจำวันไต้ กี่รูปแบบ ๔๔ ๔. นิสัยเริ่มเกิดในตัวมนุษย์ตั้งแต่เมื่อไหร่และ แดกต่างกันไต้อย่างไร ๔๕ ๕. พระสัมมาสัมพุทธเจัาทรงมีวิธีแกหมู่คณะให้มี นิสัยทุ่มชีวิดทำความดีไต้อย่างไร ๔๘ ๕.๑ นิสสัย ๔ คืออะไร ๔๙ ๕.๒ นิสสัย ๔ มีอะไรบ้าง ๔๙ ๕.๓ จุดมุ่งหมายของการแกนิสสัย ๔ ๕๐ ๖. พระพุทธศาสนาเป็นเสมีอนต้นไมีใหญ่ที่กิน นํ้าน้อย ๕๐ ๗. ความเช้าใจถูกในการแกฝนนิสสัย ๔ ให้แก่ ดนเอง ๕๒ ๗.๑ พระองค์ทรงแปงคนในโลกนี้เป็น๒กลุ่ม ใหญ่ ๕๒ {ทรบัญ (๘) www.kalyanamitra.org

๗.๒ พระองค์ทรงกำหนดวัตtjประสงค์การ ใช้ปัจจัย ๔ ที่มีอานุภาพในการขจัด กิเลสและเป็นมาตรฐานโลก ๕๔ ๗.๓ พระองค์ทรงสอนให้รู้จักความพอดี ๕๘ ๗.๔ พระองค์ทรงสอนให้รู้จักความเหมาะสม ๕๙ ๗.๕ พระองค์ทรงสอนการใช้ปัจจัย ๔ให้เกิต บุญ ๖๑ ๗.๖ กิจวัตร ๑๐ บทปีกนิสัยนักบวชให้มีนิสัย ทุ่มชีวิตปฏิป้ตธรรม ๖๓ มรรคมีองค์๘ ห้วใจแห่งการบรรลุธรรม ๖๗ ๑. ธรรมะคืออะไรกันแน่ ๖๘ ๒. องค์ประกอบที่แท้จริงของมนุษย์ ๖๙ ๓. การปฏิบตมรรคมีองค์๘ ต้องทำอย่างไร ๗๒ ๔. ธรรมะในตู้กับธรรมะในตัว ๗๖ ๕. กำ สังใจไม่มีหมต ๗๗ ๖. ปีกนิสัยรักการปฎิปัตมรรคมีองค์๘ ๘๓ สิงแวดล้อมในวัดมีอิทธิพลต่อการบรรลุธรรม ๙๕ ๑. องค์ประการแห่งการเช้าถึงธรรมมีอะไรบ้าง ๙๗ ๒. ภารกิจสำคัญเพื่อการบรรลุธรรม ๙๘ ๓. การปีกตนให้มีคุณสมบตของผู้บรรลุธรรมไต้ง่าย ๑๐๐ ๓.๑ การเพิ่มพูนศรัทธาให้ตนเอง ๑๐๑ ๓.๒ การมีสุขภาพดี ๑๐๔ ๓.๓ การไม่โอ้อวดและไม่มีมารยา ๑๑๒ (๑๐) ปีวิทนมเว้ชุ่มเคมพัน www.kalyanamitra.org

๓.๔ การปรารภความเพียร ๑๑๘ ๓.๕ การเพิ่มใ{เนปัญญาให'ตนเอง ๑๒๔ ๔. การดูแลวัดให้มีคุณสมบัติของสถานที่ที่ เหมาะแก่การบรรลุธรรม ๑๒๗ ๔.๑ สถานที่เป็นที่สบาย ๑๒๗ ๔.๒ ปัจจัย ๔ เป็นที่สบาย ๑๒๘ ๔.๓ บุคคลเป็นที่สบาย ๑๒๙ ๔.๔ ธรรมะเป็นที่สบาย ๑๓๓ พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองได้ ด้องทุ่มรวิตให้ถูก ธรรม ๑๓๙ ๑. องค์ประกอบที่ดีในการสร้างบารมี ให้ตลอดรอดฝัง ๑๔0 ๒. กัลยาณมิตรที่เป็นด้นแบบให้เราได้เป็นอย่างไร ๑๔๑ ๓. นิสัยพื้นฐานแห่งการบรรลุธรรมเป็นอย่างไร ๑๔๒ ๔. การดำเนินชีวิตที่ไม่ประมาทในการประพฤติ พรหมจรรย์เป็นอย่างไร ๑๔๓ ๕. สรุป ะ การทุ่มชีวิตให้ถูกธรรม ๑๕๐ วิธีแกสมาธิเบื้องด้น ๑๕๕ บรรณานุกรม ๑๖๕ สารบัญ (๑®) www.kalyanamitra.org

รวิต'^ไว้ทุ่มเดิมพัน เรื่อง การสร้างทีมงานสืบทอดอายพระพฑธศาสนา ชวงหลายปีมานี้ หลวงพ่อมักถูกถามจากผู้ที่ทำงาน เผยแผ่พระพุทธศาสนาด้วยกันว่า วัดพระธรรมกายมี \"จิตวิทยา\" ในการแกอบรมสมารกของวัดและสาธุชน ที่มาปฏิบัติธรรมอย่างไร จึงสามารถขยายงานพระ ศาสนาออกไปทั่วโลกได้สำเร็จในระยะเวลาสามสิบกว่าปีนี้ หลวงพ่อได้ตอบคำถามนี้ไว้หลายครั้ง แต่ไม่มีโอกาสมาเล่าให้ พวกเราฟังอย่างทั่วถึงเท่าไหร่นัก จึงขอรวบรวมการตอบ คำ ถามนี้ทั้งหมตมาสรุปไว่ในโอกาสนี้ เพื่อให้พวกเราไต่ใช้เป็น แนวทางในการดูแลรักษาหมู่คณะและสืบทอตอายุพระพุทธ คาสนาให้เจริญรุ่งเรืองและยืนยาวสืบไปตราบนานเท่านาน ราดนมไว้ทุ่นฬํมพัน เรีอง การสว้างทึมงานรบทอคอายุพระทุทธคารนๆ Q www.kalyanamitra.org

๑. จิตวิทยาตามความหมายของพระทุฑธศาสนา คำ ว่า\"จิตวิทยาการสอน\"ตามความเข้าใจของคนฑั่วไป นั้น มักหมายถึง \"มุขเด็จ\"หรือ \"ลูกเล่น\" ที่ทำไห้เกิดความน่า สนใจในการเรืยนการสอนเรื่องนั้นๆ แต่ในทางปฏิป้ตอันลึกซึ้ง ในพระพุทธศาสนาแล้ว คำ ๆ นี้มีความหมายยิ่งใหญ่กว่าความ เข้าใจของคนทวไปมากมายนัก เพราะหมายถึง \"การรื้อสัตว์ขน สัตว์ข้ามว้ฏสงสารใปพระนิพพาน\"หรือเรืยกสั้นๆ ว่า\"วิชชา บรมครู\" สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่ากว่าที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่ละพระองค์จะตรัสรู้ธรรมะที่ใข้กำจัดทุกข์ได้จริงนั้น พระองค์ทรงด้องสละทั้งทรัพย์ อวัยวะ และชีวิตอย่างยิ่งใหญ่ มามากมายนับภพนับชาติไม่ถ้วน ตวงตาของพระองค์ที่สละเป็นทานนั้น มากยิ่งกว่า ตวงตาวทั้งหมดบนท้องฟ้า เลือดในร่างกายของพระองค์ที่สละเป็นทานนั้น มากยิ่ง กว่าปริมาณนั้าทั้งหมดในท้องพระมหาสมุทร เนื้อกายของพระองค์ที่สละเป็นทานนั้!พากยิ่งกว่าผืนแผ่น ดินในโลกนื้ทั้งหมด ชีวิตของพระองค์นั้นเพื่อแลกกับการได้รู้ธรรมแมัเพียงคำ ครื่งคำทรงยอมสละชีวิตเป็นทานมามากยิ่งกว่าคำว่านับไม่ถ้วน และเมื่อพระองค์ทรงรู้ธรรมะไตคืบหนัามาบ้างแล้ว ก็ไม่ ทรงปีดบ้ง ทรงยอมอุทิศเวลานับภพนับชาติไม่ถ้วน เพื่อหาวิธี ช่วยชาวโลกให้เข้าถึงธรรมตามพระองค์ใป ๒ ปีวัฅนมิไว้'tjมเคิมพัน www.kalyanamitra.org

การตรัสรู้ธรรมของพระองค์นั้นจึงไม่ได้ยังประโยชน์ เฉพาะตนเองเท่านั้น แต่ยังประโยชน์มหาศาลให้แก่ชาวโลก อีกด้วย ด้วยเหตุนี้ คำ ว่า จิตวิทยาการสอนในพระพุทธศาสนา จึงไม่ใช่ความหมายตื้นเผินตามที่คนทั่วไปเข้าใจกัน แต่หมาย ถึงวิชชาการเป็นบรมครูที่พระสัมมาส้มพุทธเจ้าทรงใข้เวลา ยาวนานกว่าสี่อสงไขยแสนมหากัป!!กฝนอบรมพระองค์เองมา ตามลำดับ เพื่อหอบหิ้วทั่งมนุษย์และเทวดาข้ามวัฏสงสาร เข้า พระนิพพานไปพรัอมกับพระองค์ นี่คือวิชชาบรมครูที่เกิดจากนํ้าพระฑ้ยบริสุทธของ พระองค์ เป็นวิชชาที่ฑำให้โลกไม่ว่างเปล่าจากพระพุทธ ศาสนา เป็นวิชชาที่ทำให้วัฏสงสารนี๋ใม่ว่างเปล่าจากการ มาบังเกิดขึ้นของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โฮ. จิตวิทยาการสรัางวัดพระธรรมกาย การอุทิศชีวิตทำงานสืบอายุพระพุทธศาสนาของวัดพระ ธรรมกาย ก็เกิดขึ้นจากความเสื่อมใสศรัทธาในพระส้มมาส้ม พุทธเจ้านี้เอง เพราะพระองค์ทรงมีนํ้าพระทัยยิ่งใหญ่ ทรงช่วย ส้ตวโลกให้พ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสาร ข้ามสู่ฝัง พระนิพพาน โดยไม่เห็นแก่ความเหนื่อยยากลำบากใดๆ แม้แต่นิดเดียว หส้กฐานของเรื่องนี้อยู่ใน \"คัมภีร์ชีนกาลบาลีปกรณ์\" ซึ่งมีบันทึกไวัว่า เมื่อครั้งที่พระส้มมาส้มพุทธเจ้ายังทรงเป็น รวิฅนฟึไว้ทุ่มฬิมพัน เรอง การสรางทีมงานรบทอคอายุพระพทธดาaนา ๓ www.kalyanamitra.org

พระโพธิสัตว์ พระองค์ทรงตั้งมโนปณิธานในการรื้อสัตว์ขน สัตวํให้พนจากการเวียนว่ายตายเกิตในวัฏสงสารไว้ว่า พุทฺโธหํ โพรยิสฺสามิ มุดฺโดหํ โมเจเย ปเร ดิณฺโณหํ ดาริยิสฺสามิ สํสาโรฆา มหพฺภยาติ \"เราตรัสรู้แล้ว จะให้ผู้อี่นตรัสรู้ด้วย เราพ้นจากกิเลสแล้ว จะให้ผู้อื่นพ้นด้วย เราข้ามโลกได้แล้ว จะให้ผู้อื่นข้ามได้ด้วย มหาสมุทรคือวัฏสงสารมิภัยมาก\" หลักฐานตรงนี้เอง ที่ยืนยันว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงมีนํ้าพระทัยยิ่งใหญ่ต่อชาวโลกอย่างยิ่ง เพราะทันทีที่ พระองค์เริ่มคิตจะแสวงหาทางพ้นทุกข์ ก็ไม่ทรงคิดแบบต่าง คนต่างอยู่ตัวใครตัวมันอย่างที่ชาวโลกทั่วไปม้กจะเป็นกัน แต่ ทรงคิตจะทุ่มชีวิตหอบหิ้วคนทั่งโลกให้พ้นทุกข็ไปด้วยกันทันที นํ้าพระทัยอันเ!)ยมสันด้วยความกรุณามหาศาลนี้เอง ที่ ภายหลังได้กลายมาเป็นคำว่า \"สังฆะ\" แปลว่า \"หมู่คณะ\" หรือ \"ทีมเวิร์ค\"(Team Work)นนเอง ส่งผลให้พระพุทธศาสนากลาย เป็นเรือลำใหญ่ที่ใช้รื้อสัตว์ขนสัตว์ข้ามห้วงทุกข็ในวัฏสงสาร โดยมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นกัปด้นเรือ และมีบรรพชนชาว- ๔ ปีวฅนม๊เว้ชุ่มเดิมพัน www.kalyanamitra.org

พุทธเป็นผู้สืบทอดรักษาเรือพระพุทธศาสนาลานีเรือยมาถึง พวกเราในวันนี้ เพราะฉะนั้นจึงกล่าวได้ว่า พระพุทธศาสนาเป็นศาสนา ที่กำ เนิดขึ้นมาจากนํ้าพระฑัยบริสุทธของพระส้มมาสัม- พุทธเจ้า ตรงนี้เองที่เป็นหลักการอยู่รอดของพระพุทธศาสนาว่า หากชาวพุทธขาดนํ้าใจปรารถนาดีต่อกันเมื่อไหร่ อายุ พระพุทธศาสนาจะสั้นลงทันที พระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโย ท่านมีความซาบซึ้ง ในพระคุณของพระลัมมาลัมพุทธเจ้าอย่างยิ่ง เพราะถ้าหาก พระองค์ท่านไม่มีมโนปณิธานเผื่อแผ่มาถึงชาวโลก โอกาสที่ ชาวโลกจะได้สรัไงบุญใหญ่เหมือนในวันนี้คงหมดไป ท่านจึงมีความเป็นห่วงใยว่า ถ้าหากไม่เผยแผ่พระพุทธ ศาสนาไปทั่วโลก วันหนึ่งพระพุทธศาสนาก็อาจจะสูญหายไป จากโลกนี้ได้ ท่านจึงได้อุทิศชีวิตช้กชวนหมู่คณะมาร่วมกัน สร้างวัดพระธรรมกายให้มีเนี้อที่สองพันกว่าไร่ ให้เป็นสถานที่ ที่พร้อมจะรองรับการมาปฏิบ้ตธรรมของผู้คนนับล้านคนจาก ทั่วโลก และในเวลาเดียวกัน ท่านก็ส่งทีมงานออกไปเผยแผ่ พระพุทธศาสนาในทวีปต่างๆทั่วโลกอีกด้วย การที่หลวงฟอท่านซักชวนหมู่คณะให้ทุ่มเทชีวิตเป็นเดิม พันเช่นนี้ เพราะท่านตระหนักดีว่า ยิ่งมีคนมาปฎิบ้ตธรรมร่วม กันมากเท่าไหร่ ยิ่งรวบรวมผู้ที่มีนั้าใจมาช่วยกันคํ้าจุน พระพุทธศาสนาได้มากเท่านั้น แล้วพระพุทธศาสนาก็จะมีอายุ ยืนยาวออกไปอีกนานแสนนาน และนั้นคือบุญกุศลใหญ่ของ พวกเรา ราดนมไว้ทุ่มเทิมทน ฬี่อง กาาทว้างฑมงานสบฑอดอายุพา:ทฺฑธคาสนา www.kalyanamitra.org

ความชาบชื้งและตระหนักในนํ้าพระทัยของพระส้มมา สมพุทธเจ้ายิ่งกว่าชีวิตนี้เองที่กลายมาเป็น\"จิตวิทยาการสร้าง วัดพระธรรมกาย\"หรือก็คือ \"ความมีนํ้าใจเผื่อแผ่ต่อการพ้น ทุกข์ของชาวโลก\" นั่นเอง หลวงพ่อขอยกตัวอย่างเรื่องนี้ ให้พวกเราเห็นภาพใน ทางปฎิบ้ติไตัง่ายๆ ตังนี้ โอ.๑) สร้างวัดด้วยกัน อิ่มด้วยกัน อดด้วยกัน เมื่อเรื่มแรกสรางวัตพระธรรมกาย พระเตชพระคุณหลวง พ่อธัมมชโยก็เรืยกประชุมหมู่คณะรุ่นบุกเบิก ซึ่งเวลานั้นก็มี เพียงเจ้าหนัาที่อุบาสกไม่กี่คน หลวงพ่อเองก็ยังไม่ไตับวช มีหนัาที่เป็นห้วหนัาอุบาสกของวัต เมื่อทุกคนมาพร้อมหนัา พร้อมตากันแล้ว หลวงพ่อท่านก็พูตสั้นๆ ดีว่า \"อิ่มด้วยกัน อด ด้วยกัน\"คือ หลวงพ่อท่านฉันอะไรพระลูกวัตก็ฉันอย่างนั้นเจ้า หนัาที่วัตก็กินอย่างนั้น นี่เป็นนโยบายแรกในการสร้างวัตของ หลวงพ่อท่าน เพราะฉะนั้น เป็นอันว่าต่อแต่นี้ไปไม่ว่ามีอะไร เกิดขึ้น เราจะร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน เป็นตายไม่ทิ้งกัน จากวันนั้นถึงวันนี้ วัดพระธรรมกายจึงไตัเติบโตอย่าง กัาวกระโตตมาตามลำตับๆในที่สุดระบบกองกลาง อาคารหอฉัน อาคารส้งฆกัณฑ์ ก็เกิตขึ้นมา เพื่อให้ทุกคนในหมู่คณะกอตคอ ทำ งานพระศาสนาร่วมกันตัวยความเป็นนั้าหนี่งใจเดียวกัน ทุกคนทั้งวัดก็เห็นตรงกันหมดว่า คนที่เหนี่อยทุ่มชีวิตเป็นเติม พันมากที่สุตในวัดก็คือหลวงพ่อท่าน ซึ่งตลอดระยะเวลาที่อยู่ สร้างบารมีกับหลวงพ่อท่านมา ก็ไม่เคยเห็นท่านมีเงื่อนไขใดๆ ปีวิทนรไว้ชุ่มเคมพัน www.kalyanamitra.org

ในการเคี่ยวเข็ญหมู่คณะและหอบหิ้วชาวโลกให้เข้าถึงธรรม แม้แด่นิดเดียว ใอ.ใอ) เจ็บป่วยเมี่อใดให้หาหมอดีที่สุดมารักษา นอกจากนโยบายดังกล่าวแล้ว หลวงพ่อท่านยังห่วงใยไป ถึงสุขภาพของทุกคนในหมู่คณะอีกด้วย ท่านบอกเลยว่า ทุก คนในที่นี้ยังไม่หมดกิเลส ยังมีความกลัวตายอยู่เหมือนกันหมด เมื่อถึงคราวเจ็บป่วยก็ดัองดัดเลือกหมอที่ดีที่สุดมาทำการ รักษาเพื่อรักษาชีวิตไว้สรางบุญเพราะฉะนั้น\"หากใครเจ็บป่วย เมื่อใด ให้หาหมอที่ดีที่สุดมารักษา ถ้าหาไม่ได้ ให้มาหา หมอที่รักษาท่าน\"จะเสียเงินเสียทองมากเท่าไหร่ ก็ช่างม้นดัอง รักษาชีวิตไว้สำหรับปราบกิเลสก่อน แล้วค่อยจากโลกนี๋ไป ใน ที่สุตโรงพยาบาลสนามสำหรับรักษาพ่รีให้แก่พระภิกษุ สามเณร เจ้าหน้าที่ว้ตและสาธุชนที่มาว้ตพระธรรมกายก็เกิดขึ้นมา แม้ว้นนี้หมู่คณะของวัดพระธรรมกายจะใหญ่ขึ้นกว่าเดิม หลายเท่า และงานเผยแผ่ธรรมะไดัขยายออกไปทั้งภายในและ ภายนอกประเทศแล้ว แด่นโยบายด้านการทำงานเคียงปา เคียงไหล่กันเป็นทีมของพระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโยยัง เหมือนเดิมทุกประการ ใอ.๓) ท่างานเป็นทีม ทะเลาะกันได้แต่ห้ามผูกโกรธกัน นอกจากนี้ ก่อนการลงมือสร้างวัดพระธรรมกายนั้น คุณ ยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง ได้ทำแบบ ราฅนปืโ'Ttjมเดพทน พอง ทารสfiงทึมงานสืบทอดอายุmะทุทธศาสนา ๗ www.kalyanamitra.org

อย่างการสร้างทีมงานไวให้ดูอีกด้วย เมื่อท่านเห็นว่า ถึงเวลาที่ จะด้องสร้างวัดแล้ว คุณยายก็เรียกประชุมลูกศิษย์ทุกคนให้มา พร้อมกัน เวลานั้นมีหลวงพ่อธ้มมชโยบวชอย่รฺปเดียว หลวง \" ขข่ พ่อและคนอื่นๆ ยังไม่ได้บวช คุณยายท่านทราบดีว่า งานสร้าง วัดจะสำเร็จหรีอไม่นั้นขึ้นอยู่กับ\"ความสามัคคีและมีนํ้าใจของ หมู่คณะเป็นสำคัญ\"ท่านจึงถามทุกคนในที่ประชุมเลยว่า \"เราจะช่วยกันสร้างวัดแล้ววัดที่เราส'รางก็เป็นวัดใหญ่ มีเนื้อที่มาก และเมื่อสร้างฑั้งฑี เราก็ต้องสร้างให้คีที่สุด ใครที่คิดว่ามาสร้างวัดกับยายแล้ว ล้าเถียงกันแล้ว ทะเลาะกันแล้ว อดที่จะโกรธกันไม่ไต้ ขอให้ถอยออกไป นั่งอยู่ข้างหลัง ส่วนใครคิดว่าข้ดแย้งกันแล้วเถียงกันแล้ว จะไม่โกรธกัน ขอให้ขยับขึ้นมานั่งใกล้ยาย\" พอสิ้นคำประกาศของคุณยาย ก็ปรากฏว่ามีหลายคนที่ เขยิบขึ้นมานั่งข้างหน้า และอีกหลายคนถอยร่นลงไปนั่งข้างหล้ง การที่คุณยายประกาศนโยบายเช่นนี้ ก็เพราะท่านทราบ ดีว่าวัดจะสร้างเสร็จไดก็ต้องแกให้ทุกคนมีความสามัคคีเป็น ทีม มีฉะนั่นหมู่คณะจะแตกแยกเสิยก่อนที่จะสร้างวัดเสร็จ แล้วก็จริงอย่างที่คุณยายพูด เมื่อถึงคราวลงมีอสร้างวัด จริงๆ เนื่องจากแต่ละคนไม่เคยสร้างวัดมาก่อน ก็ทำให็ในเวลา ที่ประชุมกัน มีบางครั้งที่ความคิดเห็นไม่ดรงกันบ้าง ข้ดแยัง กันบ้าง แต่ไม่ว่าจะกระทบกระทงกันอย่างไร พอเริ่มจะเสียงด้ง กันขึ้นมา คุณยายจะให้เลิกประชุมก่อนทุกครั้ง แล้วเรียกทุก คนให็ไปนั่งสมาธิพร้อมกัน พอทุกคนใจใสดีแล้ว เหลือเวลาอีก ปีวิทนี้มีไว้ทุ่มเดมพัน www.kalyanamitra.org

ห้านาทีจะเลิกนั่งสมาธิ ท่านก็จะสอนไม่ให้ผูกโกรธกันข้ามวัน หรือบางวันคุณยายมีเรื่องอะไรที่จะแนะนำตักเตือนหรือปรับ ความคิดเห็นของหมู่คณะ ท่านก็จะอาศัยเวลาช่วงห้านาทีก่อน เลิกนั่งสมาธินี้ หลอมความคิดในขณะที่ทุกคนกำตังใจใส พอวันรุ่งขึ้นทุกคนก็ร่วมแรงร่วมใจทำงานตัวยกันเหมือนเดิม วัดพระธรรมกายจึงสรัางสำเร็จไดในปัจจุบัน เพราะกุศโลบาย ในการทุ่มเทชีวิต?เกอบรมศิษย็ให็ใจใสของคุณยายนั่นเอง ทั้งสามเหตุการณ์ที่หลวงพ่อยกมาเป็นตัวอย่างนี้ คือ การสะห้อนให้เห็นภาพของคำว่า \"จิตวิทยาการสร้างวัดพระ ธรรมกายนั้น ได้ต้นแบบมาจากนั้าพระฑ้ยอันประเสริฐ ของพระสัมมาส้มพุทธเจ้านั่นเอง\" ๓. การสร้างทีมงานเผยแผ่พระพุทธศาสนา หตังจากที่หลวงพ่อธัมมชโยและหมู่คณะรุ่นบุกเบิกสร้าง วัดพระธรรมกายบนเนี้อที่ ๑๙๖ ไร่เสร็จแล้ว ส่งผลให้มีผู้มา ปฏิบ้ตธรรมจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ตามลำตับ จากเรือนสิบไป สู่เรือนรัอยจากเรือนรัอยไปสู่เรือนพันจากเรือนพันไปสู่เรือนหมื่น จากเรือนหมื่นไปสู่เรือนแสน และจากเรือนแสนไปสู่ทั้ว ประเทศและทั้วโลก งานเผยแผ่ของวัดจึงถูกบังคับให้ต้อง ขยายทั้งเนี้อที่ ทีมงาน และการบริหารออกมาตามสำตับอย่าง ที่เห็นอยู่ในปัจจุบันบนพื้นที่สองพันกว่าไร่ นั่นก็หมายความว่า ความกัาวหน้าของวัดพระธรรมกาย จากอดีตถึงปัจจุบันนั้น เกิดจากความสามารถของพระเดช รวิฅนมไว้ๆ}แดิมพน เรี๋อง การtmงทืนงานรบฑอคอายุพระทุทใifทสนา www.kalyanamitra.org

พระคุณหลวงพ่อธัมมชโยในการ?เกฝนอบรมหมู่คณะให้รู้จัก ทางานสรางบุญเป็นทีม มิฉะนั้น หากพื้นฐานตรงนี๋ไม่ดีแล้ว การกระทบกระทั่ง กันเองจะมีมาก แล้วงานเผยแผ่พระพุทธศาสนาจะไม่กัาวหน้า เพราะมัวแต่ใช้เวลาชีวิตอันมีค่าให้หมดไปกับการทะเลาะกันเอง แต่การที่ความเป็นทีมจะเกิตขึ้นมาได้นั้น ทุกคนในทีม ด้องผ่านการหล่อหลอมอบรมขั้นพื้นฐานมาเหมีอนๆ กัน ซึ่ง สิ่งเหล่านี้ ไม่ใช่เพิ่งมาเริ่มด้นจากที่วัต แต่ละคนด้องมีพื้นฐาน การ?เกตัวมาจากที่บ้านในระดับหนึ่งก่อนแล้ว จึงจะสามารถ ปรับตัวให้เช้ากับการ?เกผ่นอบรมขั้นพื้นฐานของวัตพระธรรม กายได้ เพราะฉะนั้น หากใครจะด้องไปทำงานสรัไงคน สรางทีม สรัางวัดต่อไปในภายหน้า จะด้องรู้จักวางพื้นฐานของการ ทางานเป็นทีมที่ดีเป็นอย่างไร มิฉะนั้น จะกลายเป็นการรวม คนเพิ่อมานั้งทะเลาะกันเอง แทนที่จะได้บุญก็กลายมาเป็น ความบาดหมางต่อกันอย่างไม่ควรจะเป็น ตังนั้นเพิ่อให้พวกเราศึกษาเริ่องนี้ได้ง่าย ๆหลวงพ่อขอสรุป ความรู้พื้นฐานในการสร้างทีมงานเผยแผ่พระพุทธศาสนา ของวัตพระธรรมกายไวั๕ ประการตังนี้ ๑. สอนให้ศึกษาธรรมะตามหลัก \"วุฒิธรรม ๔ ประการ\" ๒. สอนให้เช้าใจ คำ ว่า \"บารมี\" ปีวิทสั}]ไว้ชุ่มเทมทน www.kalyanamitra.org

๓. สอนให้แกไข \"นิสัย\" จากการใช้\"ฟ้จจัย ๔\" ๔. สอนให?เกสมาธิตามหลัก\"มรรคมีองค์๘ประการ\" ๕. สอนให้ช่วยกันดูแลวัดตามหลัก \"สัปปายะ ๙ ประการ\" ความรู้ทั้ง ๕ประการนี้คือความรู้พื้นฐานของการสรางทีม งานของวัดพระธรรมกายที่ปฏิบตกันมาตั้งแต่รุ่นบุกเบิกสร้าง วัตจนกระทั้งถึงปัจจุบัน โดยมีด้นแบบการทำงานจากพระ- สัมมาลัมพุทธเจ้า หากใครนำไปใช้อย่างจริงจังแลัว ไม่เพียง แต่จะเป็นการวางพื้นฐานการทำงานเป็นทีมเท่านั้น ยังมี อานุภาพในการ?]กฝนอบรมทุกคนให้สร้างบุญบารมีร่วมกัน เป็นทีมไปอย่างตลอดรอด&ง และมีศักยภาพในการเผยแฝ พระพุทธศาสนาไปทั้วโลกอีกด้วย €าคนปืโาๆมเดมทน ฬึ๋อง กา'!รโfไงฑีมงานHบทอทอาพา:พุท!คา{(นา eo www.kalyanamitra.org

\"วุฒิธรรม ๔ประการ\" หลักการแสวงหาฟ้ญญา พระสัมมาส้มพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ตรัสรู้ธรรมะได้ เพราะทรงละเว้นความชั่ว ทำ ความดี และกลั่นใจให้ผ่องใส อย่างทุ่มชีวิตเป็นเดิมพันมานับภพนับชาติไม่ถ้วน ทำ ให้1น พระชาติสุตท้าย พระองค์จึงทรงสามารถกำจ้ตทุกข์และกิเลสที่ แช่อิ่ม หมักตอง บีบคั้นบังคับ กัตกร่อนใจมานับภพนับชาติไม่ถ้วน ให้หมตสิ้นไปได้อย่างเด็ตขาดถาวร ความชั่วใดๆ ไม่อาจรั่วรด เข้าไปในใจของพระองคํใดแม้แต่เสิ้ยวอนุวินาที เพราะฉะนั้น ธรรมะทุกๆ คำ ที่พระสัมมาส้มพุทธเจ้า ทรงนำมาตรัสสอนชาวโลกนั้น ถ้วนออกมาจากใจที่ใสสะอาด \"วุฒทรม ๔ประการ\" ทลักการนสวงปัญญา Qtn www.kalyanamitra.org

บริสุฑธี้ ผู้ที่ตั้งใจปฏิบ้ตตามย่อมสามารถบรรลุธรรมอันเป็น เครื่องขจัดทุกข์และกิเลสให้หมดไปได้เช่นเดียวกับพระองค์ การศึกษาธรรมะทุก ๆ คำ ของพระสัมมาส้มพุทธเจ้า ด้องทำด้วยความรอบคอบและระมัดระจังเป็นอย่างยิ่งด้วยเหตุนี้ จัดพระธรรมกายจึงด้องวางรูปแบบการเทศน์สอนให้ดรงดาม หสักการศึกษาที่พระสัมมาส้มพุทธทรงให้!ว้นั่นศึอ\"วุฒิธรรม ๔ ประการ\"ได้แก่ ๑) ส้ปปุริสสังเสวะ แปลว่า คบสัดบุรุษ ใฮ) สัทธัมม้สสวนะ แปลว่า ฟังธรรม ๓) โยนิโสมนสิการะ แปลว่า ดริดรองธรรม ๔) ธัมมานุธ้มปฏิ{โตติ แปลว่า ปฏิบดธรรมสมควร แก่ธรรม หลวงพ่อได้กล่าวไว้ดอนด้นแล้วว่า ธรรมะทุกคำของ พระสัมมาสัมสัมพุทธเจ้าสามารถพาผู้ฟังไปพระนิพพานได้จริง ใครที่กำสังเรียนบาลีขอให้ดระหนักเรื่องนี้ใว่ให้มาก เพราะการ แปลความหมายที่ส่องความเข้าใจในทางปฏิบัติ เป็นเรื่อง สำ คัญต่อการลีบทอดอายุพระพุทธศาสนาอย่างมาก เพราะฉะนั้น กว่าที่หลวงพ่อจะได้เนี้อหาธรรมะแต่ละ เรื่องมาเทศน์ให้ทุกคนฟัง หลวงพ่อด้องดรวจสอบแล้วดรวจ สอบอีกหลายเที่ยว จนกระทงแน่ใจว่า ดนเองเข้าใจไม่ผิดทั้ง ในภาคปริย้ต ปฏิบ้ติ และปฏิเวธ จึงกล้าน่ามาเทศน์สอนให้ พวกเราฟัง «๔ ปีวิทนมไว้ชุ่มเดิมทน www.kalyanamitra.org

จากหลักการทำงานตรงนเอง หลังจากทหลวงพ่อ ค้นคว้าเรื่องวุฒิธรรม ๔ ประการ ซึ่งเป็นหลักการแสวงหา ปัญญาในพระพุทธศาสนา มาไม่ตากว่าร้อยเที่ยว จึงไค้คำ จำ กัตความและคำอธิบายที่ส่องทางปฏิบตอย่างชัดเจนมาให้ แก่พวกเรา ๑) สัปปุริสสังเสวะ (คบสัตบุรุษ) หมายถึง \"หา ครูดีให้พบ\" การที่ใครจะมีความเจริญก้าวหน้าในทางโลกหรือทางธรรม หรือไม่นั้น ก็ขื้นอยู่ก้มว่า คนๆ นั้นเลือกใครมาเป็นครูสอนต้วเอง เพราะว่าสิ่งที่น่ากลัวที่สุตในชีวิต ก็คือ การเลือกครูผิด เพราะ นอกจากเราจะไค้รับความร้ผิต ค้องกลายเป็น\"บุคคลที่มีมิจฉา ฑิฏฐิ\" แล้ว ยังจะติต \"นิสัยไม่ดี\" มาจากครูอีกค้วย และเราก็จะ กลายเป็นคนประเภทที่ก่อความเดือตร้อนให้แก่ตนเองและ สังคมไม่หยุตหย่อน ค้วยเหตุนี้ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงทรงให้ ความสำคัญของการหาครูดีให้พบไว้เป็นอันดับแรกของชีวิต การเลือกครูนั้น ค้องพิจารณา ๒ เรื่องใหญ่เป็นสำคัญ คือ ต้องพิจารณาจากการมิความรู้จริง และการมินิสัยดีจริง เรา จึงจะแน่ใจไค้ว่าท่านสามารถสอนเราไค้จริงทั้งในภาคทฤษฎี และภาคปฎิปัต เพราะว่าการที่ท่านมีนิสัยดีจริงนั้น ก็เท่าก้บ เป็นการยืนยันว่าเรื่องที่ท่านกำลังสอนอยู่นั้นท่านปฏิปัตไค้จริง ทำ ไมการเลือกครูจึงสำคัญเป็นอันดับหนึ่ง นั้นก็เพราะ \"ครู คือ บุคคลที่เป็นต้นแบบต้านความรู้และความ ประพฤติที่ดีให้แก่ผู้เรียน\" \"วุฟ็ธฬม ๔ ประการ\"ทสักการนสวงป็ญญา «dะ www.kalyanamitra.org

ต้นแบบเป็นสิ่งสำคัญ ถ้าเลือกครูที่ด่าเก่งก็สร้างลูกศิษย์ ด่าเก่งออกมาเต็มบ้านเต็มเมือง ถ้าเลือกครูที่พูดเพราะก็สร้าง ลูกศิษย์ที่พูดเพราะออกมาเต็มบ้านเต็มเมือง ถ้าเลือกครูขี้เมา ก็สร้างลูกศิษย์ขี้เหถ้าออกมาเต็มบ้านเต็มเมือง เราจะไปศึกษา ด่อที่ไหนก็ตาม เราจะส่งลูกหลานไปเรียนที่โรงเรียนไหนก็ดาม เราต้องคิดเรื่องการเลือกครูให้ดี ถ้าครูเป็นต้นแบบให้เราไม่ไต้ เสียแถ้วก็เสียเวลาไปฟังเทศน์เสียเวลาไปศึกษาในสำนักของท่าน เพราะฉะนั้น ความเจริญหรีอตกดรของชีวิตคนเรานั้น จึงขี้นอผู่กับ \"การหาครูดีได้พบหรือไม่\" เป็นอันดับแรก ใฮ) สัฑธ้มม้สสวนะ(ฬงธรรม)หมายถึง \"ฟังดำครู เมื่อเราไต้พบครูดีแถ้ว สิ่งสำคัญอันดับที่สองก็คือ ต้องฟัง คำ ครูให้ซัด อย่าให้ผิดพลาดคลาดเคลื่อนเพี้ยนความหมาย เพราะถ้าฟังไม่ซัด แถ้วจำไปทำผิดๆ ก็จะก่อปัญหาให้มากมาย ในภายหถ้ง ซึ่งอาจรุนแรงถึงขั้นเสียเงินเสียทอง เสียชื่อเสียง หรือเสียชีวิตไต้เลยทีเดียว การฟังคำครูให้ซัด คือฟังแถ้วอย่าฟังผ่านๆฟังแถ้วต้องไต้ \"ดำจำกัดความ\"ของเรื่องนั้นๆ ออกมาอย่างซัดเจน การให้ดำจำกัดความ คือ การกำหนดความหมายที่ ถูกด้องและชัดเจน ทั้งในทางทฤษฎีและทางปฏิบ้ดี เพี่อ ให้ครูและนักเรียน เกิดความเข้าใจที่ดรงกัน ในเรื่อง ๑๖ ปีวิทนรไ')ทม!คมพัน www.kalyanamitra.org

ความหมาย หลักการปฏิบัติ ทิศทางการปฏิบัติ และ ผลลัพธ์ที่ได้จากการปฏิบัติในเรื่องนั้น ๆ การศึกษาเรื่องใดก็ตามถ้าผู้สอนไม่ให้คำจำกัดความแก่ผู้ เรียนอย่างชัดเจน ก็เท่ากับตกม้าดายตั้งแต่ต้นทันที เพราะ เมื่อคำจำกัดความไม่ชัดแล้ว ผู้เรียนจะมีโอกาสเข้าใจผิดจาก ความถูกต้อง ส่งผลให้การคิด การพูด และการปฏิบดย่อมเกิด ผิดพลาดดามไปต้วย ผลลัพธ์ที่ออกมาย่อมทำให้เกิดปัญหา เดือดร้อนยุ่งยากตามมาทันที เพราะฉะนั้น ใครที่เป็นครูสอนเรื่องอะไร หรีอใครที่ ศึกษาเรื่องอะไร เพื่อป้องกันความผิดพลาด ต้องเอาความ จำ กัดความในเรื่องที่เรียนนั้นออกมาให้ไต้ ถ้าครูไม่ไดให้มา ก็ ต้องชักถามกับครูให้เป็น ถ้าครูตอบแล้วยังเชัาใจไม่ชัดเจน ก็ ต้องไปต้นคว้าเพิ่มเติมเอง วิธีการหาคำจำกัดความแบบง่ายๆ ก็คือ การตั้งคำถาม ในเรื่องที่เรียนต้วยคำว่า \"อะไร\" หรีอที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า \"What\"แล้วเดี๋ยวเราก็จะไต้คำจำกัดความออกมา ยกต้วอย่างเช่น วันนี้มาฟังหลวงพ่อเทศน์เรื่อง \"บุญ\" ก็ ถามคำแรกเลยว่า\"บุญคืออะไร\"ใครที่เทศน์เรื่องบุญ แล้วว่าไป เรื่อยๆ เป็นชั่วโมงๆ ไม่ให้คำจำกัดความ ก็ฃอเดือนว่าระวังดก ม้าตาย เพราะถ้าเขาถามขึ้นมาต้วยคำถามง่ายๆ ว่า \"What is the Boon(Punna)?\" แล้วดอบไม่ไต้สิ่งที่เทศน์มาเป็นชั่วโมงๆ ก็ต้องดกม้าตายต้วยคำถามคำเดียว \"วุฒิธฑม ๔ ประทาใ\" ทสักทารแสวงปัญญา ๑๗ www.kalyanamitra.org

คุณพ่อคุณแม่ที่กำลังปลูกฝังให้ลูกมีนิสัยรักการทำบุญก็ เช่นกัน ห้องตอบลูกใหได้ว่า \"บุญคืออะไร\" การปลูกฝังความ รักบุญกลัวบาปจึงจะเกิดเป็!๓าพชัดเจนในใจ พ่อแม่บางท่านเป็นคนชอบทำบุญจึงอยากให้ลูกเป็นคนรัก บุญเหมือนกับดนเอง แต่พอลูกถาม ดอบลูกไม่ได้ว่า \"บุญคือ อะไร\" ก็เลยใช่วิธีบังคับลูกให้มาทำบุญ ซึ่งก็เป็นวิธีที่ใช่ได้ เฉพาะช่วงหนึ่งที่ยังบังคับได้อยู่เท่านั้น แต่พอลูกโดขึ้น เริ่มมีแนวคิดเป็นของดนเอง ก็จะไม่ ยอมทำในสิ่งที่แกไม่เข้าใจว่า \"บุญคืออะไร\" เพราะนึกถึงการทำ บุญครั้งใด ก็จะเห็นภาพความเจ้าอารมณ์ ขาดเหตุผลของแม่ ขึ้นมาในใจทันที ความพยายามปลูกฝังความรักบุญกลัวบาป ให้แก่ลูกตั้งแต่เล็ก ก็จะล้มเหลวทันที แล้วก็ส่งผลมาถึงความ เข้าใจในคุณค่าของพระพุทธศาสนาอีกด้วย เพราะฉะนั้น พ่อแม่ด้องการปลูกฝังคุณธรรมใดให้แก่ลูก สิ่งแรกที่ด้องบอกให้ลูกรัก็คือคำจำกัดความของเรื่องนั้นคืออะไร หลวงพ่อดระหนักในเรื่องนี้อย่างมาก โดยเฉพาะอย่าง ยิ่งการให้คำจำกัดความเรื่อง \"บุญ\" เพราะหากเข้าใจดรงนี๋ไม่ ชัดเจนแล้ว โอกาสที่จะเกิดความเข้าใจอย่างถ่องแท่ในเรื่อง การดรัสรู้ธรรมของพระสัมมาล้มพุทธเจ้า และการทุ่มเททำบุญ อย่างเอาชีวิดเป็นเดิมพันในพระพุทธศาสนาที่เรียกว่า \"บำเพ็ญ บารมี\"ของพระโพธิสัดว์จนกระทั่งปรารถนาจะทำดาม ย่อมเป็น ไปไม่ได้เลย 6๘ ปีวํทนรไวัชุ่มเดิมพัน www.kalyanamitra.org

บุญ คือ อะไร? บุญ คือ พล้งงานบริสุฑธึ๋ฑเกิดขึ้นในใจมนุษย์ทุกครั้ง ที่ตัดใจไม่คืดชั่ว พูดชั่วทำ ชั่ว และตั้งใจคืดคืพูดคืทำ คื เช่น การทำทาน การรักษาคืล การเจริญภาวนา เป็นตัน หลวงพ่อตั้งใจพลิกพระไตรปีฎกอยู่หลายเที่ยว จึง สามารถให้คำจำกดความนี๋ไต และนำหลกฐานจากพระไตร ปีฎกมายืนยันเสร็จสรรพอีกว่า \"บุญมีจริง\" พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตรัสไจ้ชัตเจนใน\"ปุญญากิสันธานสูตร\"ว่า\"ทำบุญต้องได้บุญ และบุญเกิดขึ้นเป็นท่อธารบุญทุกครัง ที่ตังใจละชั่ว ทำ ความดี และกลั่นใจให้ผ่องใส\" พวกเราที่ตั้งใจมาสรางบุญ กับวัตพระธรรมกาย ก็ไม่ต้องไปเสียเวลานั่งเถียงกันเหมือน กับคนอื่นๆ ว่า \"บุญ-บาปมีจริงหรือไม่\" เอาเวลาชีวิตอันจำกัต มาสรางบุญอย่างเต็มที่ดีกว่า การสอนธรรมะที่ขาดความชัตเจนในเรื่องการให้คำ จำ กัดความ จะก่อให้เกิดปัญหาการลดคุณค่าธรรมะให้ตกตา ลงไดในภายหสัง เพราะคนส่วนมากคุ้นเคยกับกิเลสมากกว่า ธรรมะ จึงพร้อมจะดึงธรรมะให้ตาลงตามกิเลสในใจของตนเอง เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น แม้มืใจเป็นกุศลมาฟังธรรมะ แต่กัาจ้บประเต็นผิตก็มีสิทธี้ตกนรกไต้เช่นกัน ยิ่งกัาความเข้าใจผิดนั้นลุกลามไปถึงขั้นที่ว่าพระพุทธ ศาสนาเป็นเพียงกุศโลบายที่มนุษย์คิดต้นขึ้นเพื่อใช่ในการ หลอกลวงมนุษย็ให้อยากทำความดีต้วยแล้ว คุณค่าแห่งการ ตรัสรู้ธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าย่อมหมตสิ้นไปทันที \"วุฟ็ธรรม ๔ ประทาร\" ทลักการนสวงปัญญา ๑๙ www.kalyanamitra.org

ความประเสริฐเลิศลํ้าของธรรมะที่สามารถใช้เป็นเครื่องมือ ขจัดทุกข็ให้หมดสิ้นไปได้จริงย่อมถูกดับแสงทันที เช่น การ เช้าใจผิดว่านรก-สวรรคใม่มืจริง เป็นด้น ซึ่งย่อมส่งผลให้ ประชาชนคิดผิด พูดผิด และทำผิดอย่างขยายวงกว้างต่อๆกันไป เมื่อประชาชนปฏิบัติผิดๆ ย่อมได้รับผลผิดๆ ชีวิตจึง ยาแย่ลงไป ในที่สุด ก็เกิดความรู้สึกว่า ยิ่งนับถือพระทุทธ ศาสนายิ่งไม่ได้ประโยชน์อะไร เพียงความรู้สึกในแง่ลบที่เกิดขื้นเช่นนี้ ก็มืผลต่อการ ดำ รงอยู่ของพระพุทธศาสนาทันที เพราะฉะนั้น ชีวิตชาวพุทธจะเจริญรุ่งเรืองหรือดกตา อายุ พระพุทธศาสนาจะยืนยาวหรือสั้นลง ล้วนขึ้นอยู่กับว่า \"ครูสอน ธรรมะ\" นั้น ด้องสามารถให้คำจำกัดความที่ชัดเจนในทาง ปฏิบัติได้จริง และ \"ผู้เรียนธรรมะ\" นั้น เมื่อพบครูดีแล้ว ด้อง สามารถฟังคำจำกัดความของครูได้ชัดเจนในทางปฏิบัติได้ จริงด้วยเช่นกัน ด้วยเหตุนี้พระสัมมาล้มพุทธเจ้าจึงทรงกำหนด \"การฟัง คำ ครูให้ชัด\" ไว้เป็นข้อที่สองของ \"วุฒิธรรม\" เพราะเมื่อพบ ครูดีแล้ว ความเช้าใจที่ถูกด้องในการฟังธรรม ย่อมส่งผลไปถึง การคิดถูกด้อง การพูดถูกด้อง และการกระทำถูกด้องตามลำดับ คนๆ นั้นจึงจะได้รับผลสัพธ์ที่ถูกด้องต่อความเจริญกัาวหน้า ในชีวิด และนั้นคือที่มาของความชาบซึ้งในพระคุณของครู ๒0 ปีริฅนมไว้ทุ่มเทมทน www.kalyanamitra.org

๓) โยนิโสมนสิการ (ตริตรองธรรม) หมายถึง \"ตรองคำครูให้ลึก\" เมื่อเราได้พบครูดีแล้ว ได้ฟังคำครูชัดเจนแล้ว แต่จะ เข้าใจความรู้ของครูไดเกซึ้งมากน้อยแค่ไหน ก็อยู่ที่การนำ ความรู้กลับมาไดร่ตรองใหํเกซึ้ง เพราะยิ่งมีความลึกซึ้งมาก เท่าไหร่ การคิด การพูด การกระทำย่อมได้ผลมากยิ่งขึ้น เท่านั้นด้วย การตรองคำครูให้ลึก คือ การไตร่ตรองให้เกิดความ เข้าใจที่ถูกต้องถึงวัตถุประสงค์ของธรรมะในเรื่องนั้นๆ วิธีการหาวัตถุประสงค์ก็ทำได้ง่ายๆด้วยการตั้งคำถามว่า \"ทำไม\" หรือที่ภาษาอังกฤษใชัว่า \"Why\" ถามคำถามที่ซึ้นด้น ด้วยคำว่าทำไมๆๆๆ ไปสัก ๒๐ - ๓๐ คำ ถาม เดี๋ยวก็สามารถ มองเห็นชัดถึงวัตถุประสงค์ของธรรมะเรื่องนั้นๆ แล้วการคิด การพูด การปฏิบตก็จะไม่ผิดพลาด ยกตัวอย่างเช่น เมื่อเราศึกษาเรื่อง \"บุญ\" เราก็ด้องดอบ ให็ได้ก่อนว่าบุญคืออะไร เมื่อเราตอบได้แล้ว คำ ถามต่อไปที่ ด้องถามก็คือ \"ทำไมต้องสร้างบุญ ?\" หรือถ้าถามเป็นภาษา อังกฤษก็ได้ว่า \"Why did we make the Boon?\" เป็นด้น พอเราถามอย่างนี้แล้ว การด้นควัาแบบเจาะลึกไปให้ถึง วัตถุประสงค์นั้นๆ ก็จะเกิดขึ้น แล้วก็จะพบคาดอบมากมาย เช่น ๑) บุญสามารถกลั่นกาย วาจา ใจให้สะอาดบริธุทธี้ได้ ทำ ให้เรามีความสุขใจทุกครั้งที่ได้ทำบุญ ส่งผลให้มีบุคลิกภาพดี มีอารมถ!ดี ใบหน้ายิ้มแย้มเบิกบาน มีใจผ่องใสเป็นปกติ ทำ ให้ \"วุฒิธทม ๔ ประการ\" ทลักการน{ทงป็ญญา ๒« www.kalyanamitra.org

เป็นที่รักของคนหมู่มาก มีชื่อเสียงขจรขจายไป คนดีอยาก คบหาสมาคม และมีความองอาจภาคภูมิใจในที่ประชุมชน ๒) บุญสามารถสั่งสมไวในใจไดีไม่จำกัด ยิ่งมีมาก เท่าไหร่ ยิ่งนำความสุขและความเจริญทั้งมนุษย์สมบัติ ทิพยสมปด บริวารสมปติ และนิพพานสมปติมาให้แก่เราได้ มากเท่านั้น ๓) บุญสามารถนำติดตัวเป็นเสบียงข้ามภพชาติไปได้ จึงมีอานุภาพในการดลบันดาลให้!ปเกิดในภพภูมิและสิ่ง แวดล้อมที่เหมาะแก่การทำความดี เป็นผู้ถึงพรัอมด้วยรูปสมปติ ทรัพย์สมปติ คุณสมปติ ที่เป็นปัจจัยสนับสนุนให้เกิดความสุข และความเจริญยิ่งๆ ขึ้นไป ๔) บุญสามารถใฟ้.นการออกแบบชีวิตได้ เราอยากมี ความสุขและความเจริญในชีวิตแบบใด เราก็ด้องสร้างบุญที่มี อานิสงค์อย่างนั้น คนที่มีบุญมากก็จะประสบความสุขมาก คน ที่มีบุญน้อยก็จะประสบความสำเร็จนัอย เพราะแม้แต่การ ๆ «/ ตรัส_ รVู้เป็นพระสัมมาล้มพุทธเจัา พระปัจเจกพุทธเจัา พรร อรห้นตสาวก ก็ด้องอาศัยบุญ ฯลฯ เมอเราลองตอบคำถามนในแง่มุมอื่นๆ เพิ่มเติมเข้าไปอีก สัก ๔๐ - ๕๐ ครั้ง เดี๋ยวก็เจาะลึกเข้าไปถึงวัตถุประสงค์ที่ แห้จริงได้ชัดเจน และเราก็จะเห็นภาพรวมที่สรุปใจความ สำ ศัญได้ว่า tab ปีวิทเโมิไว้ชุ่ม!คมทัน www.kalyanamitra.org

\"วัตถุประสงค์หลักของการทำบุญ ก็คือ เพื่อแก็ไขข้อ ผิดพลาดจากวิบากกรรมในอดีต เพื่อสั่งสมความสุขและ ความเจริญในฟ้จจุบัน และเพื่อการขจัดอาสวกิเลสลัน เป็นต้นเหตุแห่งความทุกข์ทั้งมวลให้หมดสินไป\" นี่เป็นตัวอย่างของวิธีการตรองคำครูให้ลึกที่ทำให้เรามี ความเข้าใจถูกในเรื่องที่ครูสอนไตัอย่างถูกตัอง-ชัดเจน-ลึกซึ้ง ยิ่งๆ ขึ้นไป และนั่นคือทางมาแห่งปัญญาที่จะคิดถูก พูดถูก และทำถูกไตัอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลไตัมากยิ่งๆ ขึ้นไปด้วยเหตุนี้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงทรงวาง\"การตรองคำ ครูให้ลึก\"ไว้เป็นลำตับที่สามของ \"วุฒิธรรม\" ๔) ธัมมานุธัมมปฏิปัตติ (ปฏิบัติสมควรแก่ธรรม) หมายถึง \"ทำตามครูให้ครบ\" เมื่อเราหาครูดีพบแล้ว ฟังคำครูชัดแล้ว ดรองคำครูลึกแล้ว สิ่งที่ตัองทาให่ไตัก็คือ ต้องปฏิบัติจริงให้!ต้เหมือนครู มิฉะนั้น เราจะเป็นได้แค่คนขี้โม้คนฉาบฉวย คนเหยียบขี๋ไก่ไม่ฝ่อ นั่นคือ เก่งทฤษฎี แต่สอบดกปฎิบด ชีวิดนี้จึงยากจะประสบความสำเร็จ ทั้งๆที่ไม่ใช่เป็นคนโง่ ดรงนี้มีเรื่องตัองหยุดคิดกันว่า ครูที่ดีจริงนั้น ท่าน สามารถสอนให้ศิษย์รู้จริงได้ และสามารถเป็นด้นแบบที่ดีจริง ให้ศิษย์ดูได้แต่ทำไมลูกคืษข์เป็นร้อยคนไปเรียนจากครูคน เดียวกัน แต่กลับทำไดไม่เหมือนกัน '•วุฒธTJม ๔ ประการ'' หส้กการนรวงปัญญา ๒๓ www.kalyanamitra.org

ลูกศิษย์บางคนกลับมาทำตามที่สอนครูแล้วก็ประสบ ความรารวย แต่ลูกศิษย์บางคนยิ่งทำยิ่งล้มละลาย บางคนก็ ทำ ได้แต่ของกระจอก ก๊อกๆ แก๊กๆ ไปวันๆ ชาตินี้จึงไม่มี อะไรสำเร็จเป็นชิ้นเป็นลัน คนที่ได้ครูดีแล้วแต่เอาดีไม่ได้ก็เป็นเพราะ\"ทำตามคำครู ไม่ครบ\"เพราะถ้าทำครบ ผลงานก็ด้องออกมาดีเหมือนที่ครูทำ วิธีการที่จะทำตามคำครูได้ครบนั้น มีทางเดียว ก็คือ ต้อง รับเอานิสัยที่ดีของครูมาเป็นนิสัยของตนไหใต้ ใครเรียนความรู้เรื่องอะไรลับครูคนไหน ก็ด้องไปเอานิลัย ที่ดีจากครูท่านนั้นมาให้ครบ ถ้าเรียนเรื่องการค้าจากครูท่านใต ก็ด้องไปเอานิสัยทำการด้าที่ดีจากครูท่านนั้นมาให้ครบ ถ้า เรียนเรื่องก่อสร้างจากครูท่านใด ก็ด้องไปเอานิสัยทำการ ก่อสร้างที่ดีจากครูท่านนั้นมาให้ครบ ยิ่งถ้าเป็นเรื่องการเรียนธรรมะด้วยแล้ว ด้องเอานิสัยทุ่ม ชีวิตเป็นเติมพันในการทำความดีของพระบรมครูมาใหได้ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเป็นด้นแบบการทุ่มชีวิตเป็น เดิมพัน เริ่มตั้งแต่พอท่านตัดสินใจออกจากวังก็ทุ่มชีวิตเป็น เดิมพันออกบวช พอถึงคราวด้นธรรมะแม้ด้องทรมานกาย อย่างสาห้สก็ทุ่มชีวิตเป็นเดิมพัน พอถึงวันตรัสรู้ ท่านด้ตสิน ใจเด็ดขาตเป็นส้จจะวาจาเลยว่า \"แม้เลีอตเนื้อจะแห้งเหือดหาย ไป เหลือแต่เอ็นหนังหุ้มกระดูกก็ตามที ถ้าหากยังไม่ บรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณจะไม่ยอมลุกขึ้นจากที่ตรงนี้\" ๒๔ ^ทนรไว้ทุ่นIทินพัน www.kalyanamitra.org

เมื่อกาลเวลาล่วงมาสองพนห้าร้อยกว่าปี พระเดช พระคุณหลวงป่วัดปากนํ้า ภาษีเจริญ (สด จนุทสโร) ท่านก็มา เป็นต้นแบบการทุ่มชีวิดเป็นเดิมพันให้แก่พวกเรา เมื่อท่าน เรียนภาคปริย้ตจบแล้ว พอถึงคราวลงมือปฏิบ้ตภาวนา ท่าน พูดชัดเลยว่า \"ถ้าคืนนี๋ใม่เข้าถึงธรรม ก็ให้มันตายไปเถอะ\" หลวงปูท่านทำดามคำครูไต้ครบ ท่านจึงเข้าถึงธรรมใน วันเพ็ญขึ้น ๑๕ คั้าเดือน ๑๐ ปีพุทธศักราช ๒๔๖๐ หลังจาก นั้นท่านก็สอนวิธีปฎิบ้ตให้แก่ประชาชนในยุคนั้น ทำให้มืผู้เข้า ถึงธรรมไต้จริงดามมา แล้ววิธีปฏิบ้ดิก็สืบทอดต่อๆ กันมาจน กระทั่งถึงร่นของพวกเรา ทำให้พวกเราเชื่อมนว่ามนษย์ทกคน ร ๆๆ นั้นสามารถเข้าถึงธรรม จึงเกิดกำลังใจที่จะทุ่มชีวิดปฏิบัดิ ธรรมดามหลวงปูท่านไป ชึ่งก็คือ \"การทุ่มชีวิตเป็นเดิมพัน ปฏิบัติตามคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้ดรบ\"นั้นเอง ต้วยเหตุนี้พระสัมมาล้มพุทธเจ้าจึงทรงกำหนด \"การทำ ตามครูให้ครบ\"ไว่ใน\"วุฒิธรรม\"เป็นข้อสุดท้าย เพราะความ สำ เร็จของคนนั้น นอกจากหาครูดีให้พบ ฟังคำครูให้ข้ด ดรอง คำ ครูใหลึกแล้ว ยังต้องมืนิลัยทุ่มชีวิดทำจริงเหมือนกับครูต้วย จึงจะสามารถปฎิป้ตไต้ผลดีจริง ดังนั้น ความร้พึ้นฐานของการสร้างทมงานเผยแผ่ พระพุทธศาสนาประการที่ ๑ ก็คือ การเทศน์สอนอบรมคน โดยอาศัยหลัก \"วุฒิธรรม ๔ ประการ\" เป็นพื้นฐานสำศัญ จึง จะทำให้\"ผู้ที่มาอบรมที่วัดพระธรรมกายรูสิกว่าตนเองได้รับ บัญญาอย่างเต็มที่\" คือ \"ครบถ้วน ชัดเจน และลึกขึ้ง\" ว่า อะไร (What) ทำ ไม (Why) อย่างไร (How to) และผลเป็น '•รุฟ็ธรรม ๔ ประทาร\" หลักการแสวงปัญญา torf www.kalyanamitra.org

อย่างไร (Result)เมื่อเขารูสึกว่าตนเองได้รับปัญญาอย่างเต็มที่ จึงเกิดความอยากมารัดอีก เมื่อมารัดอีกก็ได้ศึกษาธรรมะอีก ทำ ให้เขาเกิดความเข้าใจที่อุ่มลึกไปดามลำดับๆ ทั้งในภาค ทฤษฎีและภาคปฏิบัติ จนกระทั้งเกิดเป็นความชาบซื้งใน พระคุณของพระรัดนดรัยต่อไป ยิ่งเมื่อเขาได้เห็นผู้นำของรัดพระธรรมกายและหมู่คณะ ตั้งใจทำงานเผยแผ่พระพุทธศาสนาไปทั้วโลกด้วยแล้ว จึง ทำ ให้เข้าใจไดไม่ยากํว่า การสรัางรัดพระธรรมกายมีประโยชน์ อย่างไรต่อชาวโลก จึงทำให้เขาเกิดความซาบชึ้งในมโน ปณิธานของหมู่คณะ และยินดีที่จะช่วยงานต่างๆ ของรัดพระ ธรรมกายให้ขยายออกไปอย่างรวดเร็ว พวกเราที่มาอยู่รัดนานแล้ว หรือที่เพิ่งมาใหม่ในภายหลัง ก็ขอให้เข้าใจดรงกันว่า เวลาที่หนํวยงานใดของรัดมีสมาชิก ใหม่เพิ่มขึ้นมา หน่วยงานนั้นจะด้องถ่ายทอดความรู้ทั้งภาค ทฤษฎีและปฏิป้ตดามหลักวุฒิธรรม ๔ ประการนี้ให็ได้ เพิ่อให้ ผู้มาใหม่ได้รับปัญญาอย่างเต็มที่ จนกระทั้งเกิดความเข้าใจ อย่างลุ่มลึกในภาคปฏิปัติไปดามลำดับ ๆ หากเขาเกิดความศรัทธายินดีที่จะทุ่มเทสร้างบุญบารมี ไปด้วยกันก็จัดสรรงานที่เหมาะสมกับความรู้ความสามารถ เวลา อายุ และประสบการณ็ให้แก่เขา เพียงเท่านี้ หน่วยงานนั้นก็จะ มีกำ ลังสำคัญในการช่วยงานพระพุทธศาสนาเพิ่มขึ้นอีกมาก ๒๖ ปีวิทนมไว้'»]ม1คมท้น www.kalyanamitra.org

นคือขุมทรัพย์ทางปัญญาในการสร้างทีมงานเผยแผ่ พุทธศาสนาที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงมอบไวให้พวกเรา ขอ ให้เพียงแต่พวกเราตั้งใจศึกษาให้ครบทั้ง อะไร ทำ ไม อย่างไร และผลเป็นอย่างไร แล้วลงมือปฏิบตอย่างเอาชีวิตเป็นเดิมพัน ความสุขและความเจริญในชีวิต ย่อมบังกิตขึ้นตามมาทันที และนั่นก็เป็นนิมิตหมายว่า พระพุทธศาสนาจะมือายุยืนยาวต่อ ไปอีกนานแสนนานจากการป็กผ่นอบรมตนเองตาม \"วุฒิธรรม ๔ ประการ\" อย่างทุ่มชีวิตเป็นเดิมพันและนี่คือความร้พึ้นฐานแรก ที่ต้องปลูกฝังให้แก่ทีมงานเผยแผ่พระพุทธศาสนาให้จงได้ \"วุฒ]ทรน ๔ ประการ\" ทสักทารนศวงป็ญญา ๒๗ www.kalyanamitra.org

บารมี ๑๐ ประการ เส้นทางแห่งการตรัสรู้ธรรม ควาฝรู้พื้นฐานประการที่๒ของการสร้างทีมงานเผยแผ่ พระพุทธศาสนา ก็คือ \"ทุกคนต้องมีภาพการสร้างบารมีของ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างชัดเจน\" ถ้าภาพนี้ในใจของใครไม่ชัดเจน ก็จะไม่รู้ว่า ในอดีตที่ผ่าน มานั้น ๑) โลกไต้มี!โญหาเกี่ยวกับความจริงของโลกและ ชัวิตอะไรบ้าง ๒) พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงต้นพบสัจธรรมอัน เป็นความจริงของโลกและรวิตไต้อย่างไร บารม eo ประการ เส้นทางแพ่งการดรัสรุ้ธรรม ๒๘ www.kalyanamitra.org

m) พระองค์ทรงมีข้อปฏิบัติในการละเว้นความชั่ว ทำ ความติ และกลั่นใจให้ผ่องใสอย่างไรบัาง ๔) และเหตุใดชาววัดพระธรรมกายจึงต้องเร่ง สร้างบุญกันอย่างทํมข้วิดเป็นเติมพันดาม อย่างพระองค์ท่าน ใครที่ตั้งใจศึกษาเรื่องนี้อย่างจริงจังและมองต้วยใจเป็นกลาง ก็จะพบความจริงว่า เมื่อครั้งที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังทรง เป็นพระโพธิสัตว์อยู่นั้น พระองค์ทรงมองสถานการณ์ความ จริงของโลกและชีวิตออกว่า มนุษย์ส่วนมากในโลกนี้เปรียบเสมือนผู้ที่กำสังตกอยู่ ท่ามกลางกระแสนํ้าเชี่ยวกราก หากใครเอาแต่ลอยคออยู่เฉยๆ ไม่ยอมว่ายทวนกระแสเข้าหารง ไม่ข้าไม่นาน เขาย่อมต้องถูก ความเชี่ยวกรากของกระแสนํ้าพัตดิ่งจมหายไปอย่างแน่นอน ยิ่งถ้าใครที่ว่ายตามกระแสนํ้าไปต้วยแล้ว ก็เท่ากับเร่ง ให้ต้วเองจมดิ่งไปในความหายนะทุกข์รวดเร็วยิ่งขึ้น ในทางตรงข้าม ถ้าใครทุ่มชีวิตเป็นเดิมพัน ยอมกัตฟัน สืนว่ายทวนกระแสนํ้านี้ไปไต้ ไม่ข้าไม่นานย่อมพาชีวิตรอตไป ถึงรง มืชีวิตอยู่อย่างปลอดภัย กระแสนํ้าเชี่ยวกรากที่กลืนกินชีวิตมนุษย์ ก็เปรียบ เหมือนกระแสกิเลสของคนทั้งโลกที่กำสังพัดพาตัวเองและผู้ อื่นให้จมหายอยู่ในความโลภ ความโกรธความหลงไปตลอดกาล พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงมองเห็นสถานการณ์ของชีวิต ตามความจริงเซ่นนี้จึงทรงตัดสินพระทัยว่า \"ต้องทุ่มชีวิตเป็น ปีวิทป้รไว้ชุ่ม!ทมพัน www.kalyanamitra.org

เดิมพันทวนกระแสกิเลส\" เพราะนั่นคือ หนทางรอดเพียง สายเดียวของมวลมนุษยชาดิ แล้วพระองค์ก็ทรงศึกษาต่อไปว่า ในอดีตที่ผ่านมามี^ด เคยทำสำเร็จมาก่อนบางหรือไม่ แล้วก็ทรงพบว่า ก่อนหน้า พระองค์นั้น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอดีตทุก ๆ พระองค์ได้ ทรงทวนกระแสกิเลสได้สำเร็จมาก่อนแล้วทั้งนั่น วิธีการที่พระสัมมาล้มพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ปฏิป้ดีกันมา ก็ศึอ การทุ่มพีวิตเป็นเดิมพันเพี่อละเว้นความชั่วทำความดี และกลั่นใจให้ผ่องใส ที่เรืยกว่า \"การบำเพ็ญบารมี ๑๐ ประการ\" นี่ดีอเส้นทางการขจ้คทุกข์ ขจ้คกิเลส และขจ้คความ ไม่รู้ของพระสัมมาส้มพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ ด้วยเหตุนี้ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่มาถึงวัดพระธรรมกายนานแล้ว หรือเพิ่งมาใหม่ก็ตาม จะด้องได้รับการปูพื้นฐานเรื่อง \"การ บำ เพ็ญบารมี ๑๐ ประการ ของพระสัมมาส้มพุทธเจ้า\" ให้ เข้าใจอย่างข้ตเจน จึงจะเกิตความเข้าใจว่าเหตุใควัคพระธรรม กายจึงเร่งสร้างบุญบารมีอย่างทุ่มข์วิตเป็นเดิมพัน แต่การที่เราจะอธิบายให้Iครเข้าใจเรื่องการสรางบารมีทวน กระแสกิเลสไปด้วยกันนั้น จำ เป็นด้องรู้จักการปูพื้นฐานจาก ง่ายไปหายาก นั้นศึอด้องชี้ให้เห็นก่อนว่า ไม่ว่าโลกนี้จะผ่านเวลามากี่รัอยกี่ล้านปีแล้วก็ตาม ปัญหามีตมนอนธการที่ติตด้วมวลมนุษย์ชาติมาทุกยุคทุกสมัย ก็ศึอ บารร 00 ประการ เส้นทางนทํงการตรัส5'ธรรม ๓® www.kalyanamitra.org

\"ไฝรูวาตนเองเกิดมาทำไมอะไรคือเป้าหมายที่แฑ้จริง ของสืวิต\" นี่สือ \"ความลับมีดดำประจำโลก\" ของมวล มนุษยชาติ แม้แต่พวกเราเองที่ตัดสินใจออกจากบ้านเรือนมาอยู่วัด พระธรรมกาย ก็เพราะปัญหาค้างคาใจในเรื่องนี้เซ่นกัน จึงไค้ ดะเกียกดะกายมาอยู่ร่วมกัน เพื่อหาทางขจัดปัญหาคาใจนี้ให้ หมดสิ้นไป หมู่คณะของพวกเรา ไม่ใซ่กลุ่มแรกที่ตัดสินใจทำแบบนี้ ก่อนหน้านี้ก็ไตัมีหลายหมู่คณะที่ทุ่มชีวิดหาทางขจัดความลับ มืดดำนี้มาก่อนพวกเราแล้ว นั่นคือหมู่คณะของพระลัมมา ส้มพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระองค์ทรงไค้นำหมู่ชนบำเพ็ญ \"บารมี ๑0 ประการ\" เพื่อละเว้นความชั่ว ทำความดี และกลนใจให้ผ่องใส มาน้บภพน้บชาติไม่ถ้วน จนกระทงในชาติสุดห้ายไตั \"ตรัสรู้ ธรรมชาติอันเป็นความจริงบริสุฑธ\"ที่ซ่อนอยู่ภายในร่างกาย ยาววา หนาคืบ กว้างศอกของมนุษย์ เรืยกว่า \"ธรรมะ\" ซึ่ง มือานุภาพในการขจัดความลับมืดดำประจำโลกให้หมดสิ้นไป ไค้สำเร็จ พระองค์จึงทรงสามารถขจัดความทุกข์และเปีดเผย ความลับประจำโลกและชีวิดนี้ให้ปรากฏออกมาไค้ เมื่อพระองค์ดรัสรู้แล้วก็ไม่ไค้เก็บไว้เพียงลำพัง แต่ รับสงให้หมู่คณะของพระองค์ทุ่มชีวิดประกาศ \"พระธรรม\" ให้ ขจรขจายไปที่'วโลก ชาวโลกจะไค้หสุดพันจากความทุกข์อย่าง แห้จริงไม่ต้องเสียเวลาชีวิดไปกับการลองผิดลองถูกอีกต่อไป ๓๒ 9วทป้รรไว้ชุ่มฬิมทัน www.kalyanamitra.org

นํ้าพระฑัยอันสุดจะเปรียบประมาณมิได้ของพระองค์นี้เอง ที่ทาให้พวกเราและชาวโลกนี้ในยุคนี้ แม้เกิดมาไม่ทันพบพระ พุทธองค์แต่ก็ยังมีโอกาสได้บรรลุธรรมของพระองค์ เพราะเราได้รู้แล้วว่า การที่พระล้มมาล้มพุทธเจ้าตรัสรู้ ธรรมได้เช่นนี้เพราะการทุ่มชีวิดเป็นเดิมพันเพื่อบำเพ็ญ\"บารมี ๑๐ ประการ\"นี่จึงเป็นเสมีอนแผนที่บอกทางลัดในการขจัดทุกข์ ขจัดกิเลสและขจัดความไม่รู้Iห้แก่มวลมนุษยชาดิ เพราะฉะนั้น เมื่อความจริงเป็นเช่นนี้ ใครที่ด้องการรู้คำ ดอบว่า เราเกิดมาทำไม และอะไรคือเป้าหมายที่แทัจริงของ ชีวิตนั้นจึงจำเป็นด้องมาศึกษาเรื่องการบำเพ็ญบารมี ๑๐ ประการ ของพระล้มมาล้มพุทธเจ้าให้ซัดเจน ซึ่งมีใจความสำคัญ ที่สรุป สั้นๆ ในเบื้องด้นได้ด้งนี้ ๑.บารมี คืออะไร บารมี คือ นิสัยทุ่มชีวิตเปีนเดิมพันในการละเว้นความ ชั่ว ทำ ความดี และกลั่นใจให้ผ่องใส เพื่อให้สามารถบรรลุ เป้าหมายอันสูงสุดคือการขจัดทุกข์ ขจัดกิเลส และทำ พระนิพพานให้แจ้ง อันเป็นหนทางเอกสายเดียวที่จะ รอดพันจากการเป็นปาวเป็นทาสของกิเลสได้สำเร็จของ มวลมนษยชาดิ บา•รม ©0 ป'ระการ เส์นทางนท่งการตรัสเ'®รรม «1๓ www.kalyanamitra.org

ใจ.ทำ ไมต้องทุ่มรวิตสร้างบารมี เพราะเมื่อคนเราลงมือทาความชั่ว ก็มืนิสัยทำความชั่ว อย่างทุ่มชีวิตเป็นเดิมพัน สาเหตุที่เป็นเช่นนั้น ก็เพราะใจของ คนเรานั้นคุ้นเคยกับความชั่วร้ายของกิเลสมานานนับภพนับ ชาดิไม่ถ้วนจนกระทั่งกิเลสนั้นเป็น \"นิสัยชั่ว\"หรือ \"โปรแกรม ชั่วที่คอยบีบบังคับใจให้คิดชั่ว พูดชั่ว ทำ ชั่ว\" ตามคำสงของ กิเลสทุกประการ ความคุ้นเคยกับกิเลสของใจนั้น อุปมาเหมือนกับปลา คุ้นนํ้า ใครมาพรากปลาขึ้นจากนํ้า มันจะต้องกระเสือกกระสน ดิ้นรนหาทางกสับลงนั้าให้ใต้ทันที ต้วยเหตุนี้ ไม่ว่ากิเลสจะสงให้ทำอะไร ไม่ว่าทำไปแล้ว จะเกิดความทุกข์เดือดร้อนตามมาในภายหสังเพียงไหน มนุษย์จะยอมเสี่ยงทำความชั่วอย่างทุ่มชีวิตเป็นเดิมพันทันที ยกต้วอย่างเช่น บางคนรู้ว่าใส่ความเขาแล้ว ถ้าถูกจับ ไต้มีโทษถึงตายแต่ก็ยังเสี่ยงใส่ความอย่างทุ่มชีวิตเป็นเดิมพัน บางคนรู้ว่าการประพฤดิผิดลูกผิดเมืย^น มีโทษถึงตาย แต่ก็ยังเสี่ยงทำผิดอย่างทุ่มชีวิตเป็นเดิมพัน บางคนรู้ว่าการดื่มเหล้าเข้าไปมากๆ มีโทษถึงตาย และ เป็นอันตรายต่อตับไตไล้พุง แต่ก็ยังดื่มอย่างทุ่มชีวิตเป็น เดิมพัน เพราะฉะนั้น มนุษย์จึงต้องทุกข์ระกำลำบากเพราะนิสัย ทุ่มชีวิตทำความชั่วมานับภพนับชาดิไม่ถ้วน การขจัดนิสัยชั่ว ให้หมดไปจากใจอย่างรวดเร็วจึงมีทางเดียว คือ ต้องเร่งสร้าง ๓๔ ปีวฬนมิไว้ชุ่มเดนพัน www.kalyanamitra.org

\"นิสัยทุ่มสิวิตทำความดี\"ให้เข้าไปควบคุมใจเป็นปกติ ซึ่งพระ สัมมาสัมพุทธเจ้า เรียกว่า \"การบำเพ็ญบารมี\"นั่นเอง ผลของการทุ่มชีวิตเป็นเดิมพันในการทำความดีนั้น ย่อมทำให้บุคคลนั้นปฎิบํติมรรคมีองค์ ๘ เป็นปกติ จึงเกิดนิสัย บริสุทธี้กาย วาจา ใจ เป็นปกติ เมื่อถึงคราวทำภาวนา ใจย่อม หยุดนิ่งสงบได้ง่าย ในที่สุด ธรรมะย่อมผุดปรากฏขึ้นในตัว สามารถด้นพบหนทางเอกสายเดียวเซ่นเดียวกับที่พระสัมมา สัมพุทธเจ้าทรงด้นพบมาก่อน ความสับประจำชีวิดย่อมสลาย หายไป พระนิพพานย่อมปรากฏแจ่มแจ้งอยู่ในตัว ๓.ทำ อย่างไร จึง \"บำเพ็ญบารมี\"ได้มาก พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์เพื่อจะให้การขจัดกิเลส ของท่านมีความคืบหน้าไปได้รวดเร็วว่องไว ท่านจึงทุ่มชีวิด เป็นเติมพัน ละเว้นความชั่ว ทำ ความดี และกลั่นใจให้ผ่องใส ด้วยการสราง \"บารมี ๑๐ ประการ\" หรีอ \"นิสัยบริสุทธ ๑๐ ประการ\"ต่อไปนี้ให้เต็มเ!เยมบริบูรถ่เ ๓.๑)ท่านทุ่มชีวิดสรไง \"ทานบารมี\" คือ \"การบริจาค ทรัพย์ อวัยวะ และชีวิต\" โดยยึดหสักการว่า \"แม้ต้องดายก็ ไฝยอมหวง\" ๓.๒)ท่านทุ่มชีวิดสร้าง \"สืลบารมี\" คือ \"การรักษาดีล\" โดยยึดหสักการว่า \"แม้ต้องตายก็ไม่ยอมทำชั่ว\" บารมี 00 ป\"ระการ เสันทางนท่งการตรัสฬู้รรน ๓๕ www.kalyanamitra.org

๓.๓) ท่านทุ่มชีวิตสร้าง \"เนกขัมมบารมี\" คือ \"การ ออกบวชประพฤติพรหมจรรย์\" โดยยึดหลักการว่า \"แม้ต้อง ดายก็โม่ยอมเป็นทาสของกาม\" ๓.๔)ท่านทุ่มชีวิดสร้าง \"ปั'ญญาบารมี\"โดยยึดหลักการ ว่า \"แม้ต้องตายก็ไม่ยอมโง่\" ๓.๕)ท่านทุ่มชีวิดสร้าง \"วิริยะบารมี\"โดยยึดหลักการว่า \"แม้ต้องตายก็ไม่ยอมแพ้\" ๓.๖)ท่านทุ่มชีวิดสร้าง\"ขันติบารมี\"โดยยึดหลักการว่า \"แม้ต้องตายก็ไม่ยอมถอย\" ๓.๗) ท่านทุ่มชีวิดสร้าง \"สัจจะบารมี\" โดยยึดหลักการ ว่า \"แม้ต้องตายก็ไม่ยอมทิ้งธรรม\" ๓.๘)ท่านทุ่มชีวิดสร้าง \"อธิษฐานบารมี\"โดยยึดหลักการ ว่า \"แม้ต้องตายก็ไม่ยอมทิ้งเป้าหมาย\" ๓.๙)ท่านทุ่มชีวิดสร้าง \"เมตตาบารมี\"โดยยึดหลักการ ว่า \"แม้ต้องตายก็ไม่ยอมคลายความปรารถนาติ\" ๓.๑๐)ท่านทุ่มชีวิดสร้าง \"อุเบกขาบารมี\" โดยยึดหลัก การว่า \"แม้ต้องตายก็ไม่ยอมหวั่นไหว\" และนี่คือเลันทางขจัดทุกข์ขจัดกิเลส ขจัดความไม่รู้ของ มวลมนุษยชาติเพียงสายเดียวที่พระสัมมาลัมพุทธเจ้าทุกๆ พระองคืได้ยาฝ่าพระบาทผ่านมาก่อนแล้ว และหาก^ดทุ่ม ชีวิดปฏิบตดามเลันทางนี๋ไป ในที่สุดบุคคลนั้น ย่อมกลายเป็น \"มหาบุรุษผู้ชนะกิเลส\"ดั่งเซ่นพระองค์ท่านนั้นเอง ๓๖ ปีวํทilsไ'ท]มเคมฟัน www.kalyanamitra.org

พระเดชพระคุณหลวงป๋วัดปากนํ้า ภาษีเจริญ (สด จนฺทสโร) ท่านศึกษาคำสอนของพระสัมมาส้มพุทธเจ้าอย่าง แตกฉาน หลวงปูท่านจึงตระหนักและซาบชื้งในความสำคัญ ของเรื่องนี้ ท่านจึงไคัทุ่มชีวิตเป็นเดิมพันบำเพ็ญภาวนาตาม เส้นทางเอกสายนี้ของพระสัมมาส้มพุทธเจ้าไป โตยหลวงปู ท่านถึงกับตั้งสัจจะวาจาว่า \"ถ้าคืนนี้ไม่เข้าถึงธรรม ก็ให้มัน ตายไปเถอะ\" ท่านเดิมพันด้วยชีวิตเช่นนี้ถึงสองครั้งสองคราจึงได้เข้าถึง \"ธรรมกาย\" ที่ลุ่มลึกไปตามลำดับๆ แส้วก็กลายมาเป็นพยาน ยืนยันให้มวลมนุษยซาดิในยุคนี้ได้รู้ความจริงว่า ๑. เส้นทางการตรัสรู้ธรรมของพระสัมมาส้มพุทธเจ้านั้น เป็นของจริง ๒. คำ สอนของพระองค์ทุกถ้อยคำนั้นเป็นความจริง ๓. ผู้ที่ตั้งใจปฎิบํติธรรมไปตามเส้นทางการปาเพ็ญบารมี ๑๐ ประการนี้ ย่อมสามารถ \"บรรลุธรรม\" ได้จริง เช่นเดียวกับพระองค์ ซึ่งพระองค์ถึงกับตรัสรับรอง ไว้ว่า\"ผู้!ดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นตถาคต\"และ\"ซึ่อ ของตถาคต ก็คือธรรมกาย\" และนี่เองศึอที่มาที่ทำให้พระเตชพระคุณหลวงปูว้ตปากนั้า เรียก \"การเข้าถึงธรรม\" ว่า \"การเข้าถึงธรรมกาย\" และเป็น ที่มาของการตั้งชื่อว้ตนี้ว่า \"วัตพระธรรมกาย\" เพราะว่าสามคำ นี้ศึอ คำ ว่า\"ธรรมะ\"\"ธรรมกาย\"และ\"ตถาคต\"นั้นเป็นคำ เดียวกันคำว่าธรรมกายจึงไม่ใช่คำใหม่แต่เป็นคำที่มีอยู่แล้ว ในพระพทธศาสนา บารม fio ประการ เส้นทางนห่งการตรัafธรรม ๓๗ www.kalyanamitra.org

แต่การทวัดพระธรรมกายใช้คำว่า \"การปฏิบัติธรรมเพอ เข้าถึงพระธรรมกาย\"เพราะต้องการยํ้าให้เห็นช้ดว่า การตรัสรู้ ธรรมนั้น ไม่ใช่เกิดจากการนึกติดตริตรอง แต่เป็นผลที่ เกิดจากการทำภาวนาจนกระทั่งเข้าถึงธรรม และการที่ใครจะ เช้าถึงธรรมไต้นั้น ต้องทุ่มชีวิตเป็นเดิมพ้นละเวันความชว ทำ ความดี และกลั่นใจให้ผ่องใส ตามเส้นทาง \"บารมี ๑๐ ประการ\"ที่พระสัมมาส้มพุทธเจ้าทรงปฏิบตเป็นต้นแบบมาก่อน แส้วนั้นเอง นี่คือพื้นฐานสำคัญของการสรางทีมงานเผยแผ่พระพุทธ ศาสนาประการที่ ๒ ที่สืบทอตมาจากพระเดชพระคุณหลวงปู วัตปากนํ้า ภาษีเจริญ จึงทำให้พวกเราสามารถตอบเป้าหมาย การเกิดมาเป็นมนุษย็ให้แก่ตนเองและทุกคนในโลกนั้ใต้อย่าง ซัดเจนว่า \"เราเกิดมาเพื่อทำพระนิพพานให้แจ้ง แสวงบุญ และสร้างบารมี\" เพราะฉะนั้นใครที่มาถึงวัดพระธรรมกายแส้วตนเองจะไต้ ประโยชน์เต็มที่ ก็ต้องตั้งใจละเวันความชั่ว ทำ ความดี และ กลั่นใจให้ผ่องใสต้วยการทุ่มชีวิตเร่งสร้างบารมี ๑๐ ประการ เพื่อขจ้ตทุกข์ ขจ้ตกิเลส และขจัดความลับมีดคำประจำโลกนี้ ให้สำเร็จเหมีอนอย่างกับพระสัมมาส้มพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ที่ ไต้ทรงปฎิบตไวัเป็นต้นแบบให้แก่มวลมนุษยชาดิแลัวนั้นเอง ๓๔ 7)ท11ม1ว้1]มเคิมทัน www.kalyanamitra.org

\"^ดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นตถาคต ชื่อของตถาคต ก็คือธรรมกาย\" คำ ว่า \"ธรรมะ\"\"ธรรมกาย\" และ \"ตถาคต\"นั้นเปีนคำเดียวกัน คำ ว่า ธรรมกาย จึงไม่ใช่คำใหม่ แต่เปีนคำที่มีอยู่แล้ว ในพระพทธศาสนา www.kalyanamitra.org

การแกคน เริ่มด้นที่เ!เกสีลธรรมฝาน!โจจัย ๔ ฒอพวกเราคิดทุ่มชีวิตเป็นเดิมพันเพื่อขจัดกิเลสไปตาม เสนทางการสร้างบารมี ๑๐ ประการของพระส้มมาส้มพุทธเจ้าแล้ว ก็มีความจำเป็นต้องศึกษาให้ชัตเจนว่า พระองค์ทรงกำหนดเส้น ทางกำจัดกิเลสไว้อย่างไร เพื่อที่เราจะไต้นำมาปึกห้ตขัตเกลา ตนเองไต้อย่างถูกต้อง ไม่ผิตพลาตคลาตเคลื่อน และเป็นการ เพื่มบุญบารมีไหยิ่งๆขึ้นไปต้วยโตยต้องมีความเข้าใจถูกก่อนว่า \"เส้นทางกำจัดกิเลสนั้น เริ่มต้นที่การแกนิสส้ย ๔ ฝาน รํโจจัย ๔ ในชีวิตประจำว้น และในการแกนั้นต้องมีบุคคล ต้นแบบเป็นผกายทอดนิสส้ย ๔ให้ต้วย\" การ?เกคน ทํ่มค้นที?!กสืล!!รรมผ่านปัจจัย ๔ ๔๑ www.kalyanamitra.org

๑.นิสัยคืออะไร ร พระสัมมาส้มพุทธเจ้าทรงทราบดีว่า มนุษย์ใfนประกอบ ด้วยสองส่วน คือ \"กาย\" กับ \"ใจ\" กัามนุษย์มีแต่กาย ไม่มีใจ เรียกว่า \"ศพ\" ถ้ามนุษย์มีแต่ใจ ไม่มีกาย เรียกว่า \"ภูต ผี ปีศาจ\" สิ่งที่ควบคุม \"กาย\" ก็คือ \"ใจ\" แต่สิ่งที่ควบคุม \"ใจ\" ก็ คือ \"นิสัย\" นิสัย แปลว่า ที่พึ่งอาศัยของตัวเรา นิสัยหมายถึงพฤติกรรมเคยรนที่เกิดจากการคิด-พูด- ทำ ร้าๆ ปอยๆ จนกระทั่งกลายเป็นโปรแกรมควบคุมใจ หรือพฤติกรรมปกติของคนๆ นั้นที่ทำ ได้โดยใม่ตัองยั้งติด หากมีโอกาสเมื่อไหร่ เป็นตัองทำอย่างนั้นอีก ถ้าไม่ได้ ทำ ตามอย่างนั้นอีกจะเกิดอาการหงุดหงิดไม่พอใจฑันฑึ ยกตัวอย่างในทางลบ เช่น คนติดบุหรี่ ถ้าไม่ได้สูบก็จะ หงุดหงิดทันที แต่พอสูบเข้าไปแล้ว ก็เกิดโทษกับตัว หลอดลม พังบ้าง ปอดพังบ้าง เป็นมะเร็งบ้าง แม้หมอจะห้าม แต่ก็ยัง แอบสูบอีกจนได้ หรีอยกด้วอย่างในทางบวก เช่น คนที่มีนิสัยนอนห้วคา ตื่นเข้ามีด พอถึงเวลาดีห้า เป็นด้องลุกขึ้นมาสวดมนต์ทำวัดรเข้า และนั้งสมาธิแต่ถ้าหากวันไหนมีเรี่องด้องให้นอนดึกและตื่นสาย จะรูสึกหงุดหงิดทันที ๔to ปีวิฅฟ้รไว้ชุ่นเคํนทน www.kalyanamitra.org

โอ. สิงที่คนเราต้องคิด-พูด-ทำซํ้า ๆ เป็นประจำ คืออะไร ร สิ่งที่คนเราต้องคิด พูด ทาชํ้ๆๆ บ่อยๆ เป็นบ่ระจำทุกวันก็ คือเรื่อง ปั'จจัย ๔ได้แก่ เครื่องนุ่งห่ม อาหาร ที่อยู่อาศัย ยา รักษาโรค ใครที่ใช้ปัจจ้ย ๔ ด้วยการคิดชั่ว พูดชั่ว ทำ ชั่ว เป็น พฤติกรรมชั่วชํ้าๆ ย่อมไต้นิสัยชั่ว ใครที่ใช้ปัจจัย ๔ ด้วยการคิดดี พูดดี ทำ ดี เป็นพฤติกรรม ดีซํ้าๆ ย่อมไต้นิสัยดี ถ้าใครถูก?เกให่ใช้ปัจจัย ๔ ผ่านการทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนาอยู่เป็นบ่ระจำ คนๆ นั้น ย่อมเป็นคนมีนํ้าใจงาม ไม่เป็นพิษเป็นภัยกับใคร มีความสงบใจเป็นบ่กติ และพร้อมที่ จะทำใหโลกนี้เกิดสัแติสุขอยู่ดลอดเวลา แต่ถ้าใครถูก?!กให่ใช้ปัจจัย ๔ไบ่ดามความโลภความโกรธ ความหลง อยู่เป็นบ่ระจำ คนๆ นั้น ย่อมเป็นคนเห็นแก่ต้ว มี ความโหดเหี้ยมอำมหิด มีเล่ห์เหลี่ยมมารยา และพร้อมที่จะ ทำ ให็โลกนี้ธุกเป็นไฟอยู่ดลอดเวลา นั้นก็หมายความว่า \"ปัจจัย ๔ คือ อุปกรณในการบ่ม เพาะนิสัยดีและนิสัยชั่วให้แก่ตัวเราตั้งแต่วันแรกเกิดจน กระทั่งวันตาย\" นั้นเอง การ?เทคน เรม^นfitiกฝึ&รรรมฝานป้จจัน ๔๓ www.kalyanamitra.org