หนังสือ สอนสั่งอย่างไรให้เมืองไทยได้ผู้นำที่ดี ภาคที่ ๑ การเตรียมตัวเป็นพ่อแม่ที่ดีของลูก

/ www.kalyanamitra.org ว,3 bvms กาคกี ๑ การเดรยบช■วฟ้บพ่อแบ่ศ่ฮของลก BVWflnfl7o«/vfrrwinf?3VMrn^ - ovv^nvตท Jrvc ถรเ(ไ'พง^ Kary'ji/n/wfiflfJ-wntT'vww-jj^wj??^/สืก va-ufTmumir^mfitiiftpfTirrnj

คู่มือปลูกฝังคุณธรรมเด็กวัยแรกรุ่น - วัยมืครอบครัว www.kalyanamitra.org สิ m ษเปี!งไทยั๊ได1นาทึ๋ติ ภาคที่๑ การเตรียมตัวเป็นพ่อแม่ที่ดีของลูก เรียบเรียงโดย วิริยะ ดุสิตพงศ์ และชมรมนักคิดนักเขียน เพื่อสันติภาพโลก มูลนิธิพัฒนาการสืกษาเพื่อคิลธรรม

คณความดีของหนังสีอเล่มนี้ www.kalyanamitra.org พวกเราขออุทิศให้ แด่... บรรพชนผู้ดีบทอดพระพุทธศาสนา หลวงปู หลวงตา หลวงพ่อ หลวงพี่ พระอาจารย์ ผู้ทรงไว้ซึ่งพระธรรมคำสอน ของพระพทธองค์ บรรพบๅษ ปูย่าตายาย คุณพ่อคุณแม่ ครูบาอาจารย์ มิตรสหาย ที่ทุ่มเทเอาใจไล่ เคี่ยวเข็ญ สั่งสอน ฝ็กฝน อบรม ปมนิสัย ให้รู้จักผิด-ชอบ ชั่ว-ดี บุญ-บาป ควร-ไม่ควรทำ โดยไม่มีข้อแม้ เงื่อนไขใดๆ กับสติปัญญาอันจำกัดของพวกเราทั้งสัน

คำ นำ www.kalyanamitra.org ก่อนอื่นพวกเราต้องขออภัยคุณพ่อคุณแม่และท่านผู้อ่านทุกท่านที่ เคยอ่านหนังสีอ \"แยงลูกอย่างไรให้เมืองไทยได้เยาวชนดี\" มาบ้างแล้ว ที่ปล่อยให้รอภาค๒ของหนังสือเล่มนี้นานเกินไป นั่นคือ\"สอนสังอย่างไร ให้เมืองไทยได้ผู้นำที่ดี ภาค ๑ ะ การเตรียมด้วเป็นพ่อแม่ที่ดีของลูก\" ที่ท่านกำลังถืออยู่ในมือขณะนี้ สาเหตุที่ล่าช้า ก็เพราะว่า พวกเราต้องการให้หนังสือเล่มนี้เป็น ประหนึ่งคู่มือในการสร้างเยาวชนไทยให้เติบโตมาเป็นผู้นำที่ดีและเก่ง ผ่านหลักธรรมคำสอนในพระพุทธศาสนา อยากให้คุณพ่อคุณแม่เลี้ยงดู ®f ฟ้:ot'ijli เท้ป้;6:ไ>ไน.?พุ้นำฑ็ร็ ^

เขาให้เติบโตขึ้นมาเป็นผู้นำที่มีความรู้ ความสามารถ คุณธรรม และ www.kalyanamitra.org วิสัยทัศน1นการช่วยพัฒนาประเทศชาติของเราให้เจริญก้าวหน้าต่อใป ในอนาคต ไม่อยากให้ใครมาดูถูก หรือมองดูว่าเราเป็นประเทศกระจอก งอกง่อย เหมือนกับที่พวกเราเคยสัมผัสกับภาวะดังกล่าวอยู่ช่วงหนึ่งในป็ พ.ศ. ๒๕๔๐ จากวิกฤตเศรษฐกิจของประเทศไทย ดังนั้น พวกเราจึง ต้องยอมล่าช้า และยอมแบ่งเนื้อที่หน้า มาเล่าความเป็นมาของหนังสิอ เล่มนื้ให้ฟังก่อน เพราะไม่อยากให้ลูกหลานต้องมาพลาดเจอวิกฤต เศรษฐกิจ วิกฤตภัยสังคมเหมือนอย่างที่หลายๆ ท่านได้เจอมาแล้วด้วย ตนเอง สำ หรับกำรเก็บข้อมูลต่างๆ ในหนังสือเล่มนื้ พวกเราได้แบ่งเวลา บางช่วงของชีวิตไปรวบรวมข้อมูลเชิงประลบการณ์จากหลายแหล่งข้อมูล ได้เห็น ได้ยิน ได้ฟัง เรื่องราวต่างๆ มากมาย รู้สืกว่า กว่าใครจะเจอ ทิศทางชีวิตที่ถูกต้องได้ ชั่งเป็นเรื่องยากเย็น บางคนพลาดชํ้าแล้วชำอีก กว่าจะเจอครูดีของชีวิต มาประคับประคองช่วยเหลือให้ลืมตาอ้าปากได้ ทั้งๆ ที่บางท่านก็อยู่ไม่ไกล อยู่ในบ้านของตนเอง หรือโรงเรืยนเก่าที่เรา เคยเรืยนแท้ๆ แต่การมองออกก็ไม่ใช่เรื่องง่าย พวกเราคิดว่าในฐานะที่เราเกิดมาเป็นเพื่อนร่วมโลกกัน การ แบ่งปันความรู้ ความดี และประลบการณ์เป็นเรื่องสำคัญ ทำ อย่างไรให้ คนอื่นๆ ได้เรืยนรู้บทลรุปการเดินไปบนเส้นทางชีวิตที่ถูกต้อง ไม่ต้อง ไปเลืยเวลากับเรื่องเก่าๆ ที่เขาเคยผิดพลาดไว้เป็นตัวอย่างในอดีตบ้าง นึ่เป็นสิงที่พวกเราอยากให้คนทุกคนได้คิดเผื่อแผ่ช่วยเหลือกันบ้าง 1 ('อ:ฟ้:อนํบใว ใVLJJwVtj'ftKUTTff ก/,.ffi

พวกเราไม่อยากให้คุณพ่อคุณแม่และผู้อ่านต้องเดินผิดพลาดใน www.kalyanamitra.org เรื่องการเลี้ยงดูลูกหลาน ซึ่งเป็นปัญหาเก่าประจำโลกมานานแสนนาน หลายๆ ครั้ง ประวัติศาสตร์ชี้ให้เราเห็นว่า ความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นใน ยุคหนึ่งๆ เกิดขึ้นจากความผิดพลาดของครอบครัวหนึ่งที่เลี้ยงดูลูก อย่างผิดพลาด ทำ ให้เขาเจ็บชํ้าในวัยเด็ก เมื่อเขาเติบโตขึ้น ชีวิตพลิกผัน ให้มีอำนาจวาสนาเป็นใหญ่เป็นโตขึ้นมาได้ ก็เลยใช้อำนาจตรงนั้น นำ โลกเช้าส่สงครามเสียเลย กลายเป็นผู้นำที่ใช้1พ่เผาโลก ผู้คนทั่วโลกล้ม ตายไปเป็นล้านๆ ซึ่งใครที่มีชีวิตอยู่ในช่วงนั้น จะทราบถึงความเจ็บปวด ของไพ่สงครามได้ดื แต่ทว่าเมื่อคนรุ่นใหม่เกิดขึ้นมา และคนในยุค สงครามโลกหมดอายุขัยไปแล้ว บทเรียนเหล่านี้ก็ไม่มีใครนึกภาพออก แล้วการเลี้ยงดูบุตรหลานที่ผิดพลาดก็ยังคงถูกปล่อยให้ดำเนินต่อไป โลกจึงไต้อยู่ใ'นภาวะเฉียดไปเฉียดมาของการเกิดสงครามโลกหลายครั้ง หลายหนในยุคของเราท่านนี้ ดังนั้น ในฐานะที่'ทุกท่านเป็นคุณพ่อคุณแม่ของลูก พวกเราจึง อยากให้ตระหนักไว้เสมอว่า \"เด็กคนเดียวที่ไม่ได้รับการปลูกฝืงสิลธรรมอย่างถูกวิธี เขาอาจ เติบโตมาเป็นผู้นำที่นำประเทศ หรือนำโลกเข้าส่สงครามได้ ในทาง ตรงกันข้าม เด็กเพียงคนเดียวที่ได้รับการปลูกฝืงดีลธรรมอย่างถูกวิธี เขาอาจเติบโตมาเป็นผู้นำที่นำประเทศ นำ โลกเข้าส่ด้นติสุขได้เช่นกัน\" ชมรมนักคิด-นักเขียน เพื่อสันติภาพโลก นิธิพัฒนาการคิกษาเพื่อคิลธรรม ส£1«ร่)อ!ภ่งใ'!ใพ้เ£03ไทยใ^พุ้นํพ»1 rA.^,0 ทํ™

สารบัญ หน้า www.kalyanamitra.org ร{วงที่ ๑ ะ คุยกัน.ภาษาพ่อแม่ ๗ •คู่มือปลูกฝังคุณธรรมลูกอยู่ที่ไหน? ๙ ๔ท ร}วงที่ ๒ ะ ป็ญหาสีลธรรมกับการแยงลูกให้เป็นคนดี ๔๕ •บทเรียนวิกฤตเศรษฐกิจ บทเรียนปัญหาสืลธรรม •คุณธรรมของลูก คุณธรรมของชาติ ๖๗ ร{วงที่ ฅ ะ ลูกเสิยคนเพราะอะไร? ๘๑ •ระบบการสร้างคนในประเทศไทย ๘๓ •ทำ ไมจึงเลี้ยงลูกให้เป็นคนดีไ^ตลอดรอดฝัง (ร)(ร)๓ ร{วงที่ ๔ ะ พ่อแม่ ครูสอนดีลธรรมคนแรกของลูก ๑ท๕ ๑๓๗ •หัวใจสำคัญของการเป็นพ่อแม่ที่ดี ๑๗๙ •ข้อคิดก่อนส่งลูกไปโรงเรียน ๖ flauSjBirvj'liใ.?น่;0.พนพุ้น่'mS r\\f-Tf]

ศยกั!๓าษาพ่อแม่ www.kalyanamitra.org

๔ ทเสืกไทยต้องการ www.kalyanamitra.org

คู่มือปลูกฝืงคุณธรรมลูกอยู่ที่ไหน? www.kalyanamitra.org กราบเรียนคุณพ่อคุณแม่ และครูบาอาจารย์ที่เคารพรักทุกท่าน การพบกันในหนังสือเล่มนี้นับเป็นโอกาสอันดียิ่งที่เราจะได้พูดคุยกัน เรื่อง \"การเลยงลูกให้เติบโตมาเป็นผู้นำที่ดีและเก่งของสังคม\" กันต่อไป ในส่วนตัวของผมแล้วหากเทต้องการที่จะพัฒนาประเทศชาติของ เราให้มีตักยภาพ มีเสถียรภาพทางสังคม การเมีอง เศรษฐกิจ และ สิงแวดล้อม ที่เชิดหน้าชูตาอยู่ในสังคมโลกอย่างภาคภูมิใจในระยะยาว น..พ...

ต่อไป เรื่องการเลี้ยงลูกให้เติบโตมาเป็นผู้นำที่ดีและเก่งนี้ ก็จัดเป็นเรื่อง ที่คุณพ่อคุณแม่ไม่สิกษาไม่ได้ หนังสีอเล่มนี้จึงเกิดขึ้!เมาด้วยความเป็น ห่วงเป็นใยในอนาคตของเยาวชนไทยที่อยู่ในมือของคุณพ่อคุณแม่และ ครูอาจารย์ทุกท่านในขณะนี้ ซึ่งทุกตัวอักษรล้วนเฃียนขึ้นมาจากความ รู้สืกว่า เยาวชนไทยทุกคนเป็นลูกเป็นหลานแท้ๆของเราเอง และก็อยาก ให้ผู้อ่านทุกท่านรู้สิกเช่นนี้ด้วย เพราะเราอยู่ร่วมกันเป็นประเทศไทย ไม่ ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่เราก็เป็นคนไทยด้วยกัน และต่างก็มืหน้าที่จะต้อง รับผิดชอบอนาคตของประเทศไทยร่วมกัน (5'® www.kalyanamitra.org ' \\นุ // \\1 เ/ IpUJuJ m ®o g flBijiDmali ใ*เรองไทยไ*ฟ้น่■ทิพ

ทำ ไมจึงเลือกทฤษฎีของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า www.kalyanamitra.org อย่างไรก็ตาม คุณพ่อคุณแม่หลายคนอาจจะมีคำถามว่า ครอบครัวเทจะหาวิธีการเลี้ยงลูกให้เติบโตมาเป็นผู้นำที่ดีและเก่งอย่าง ถูกต้องได้จากที่ไหน โดยส่วนตัวแล้ว ผมมองไปที่หลักธรรมของพระ ล้มมาล้มพุทธเจ้า เหตุผลที่ผมเลือกหล้กการสร้างผู้นำของพระล้มมาล้มพุทธเจ้า ก็ เพทะมีความเห็นว่า พระล้มมาล้มพุทธเจ้า คือ บุคคลที่หมดกิเลสแล้ว ทรงเอาชนะ ความโลภ ความโกรธ ความหลงในใจได้เด็ดขาด เป็นพระอรหันต์ผู้ ประเสรัฐ หลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดแล้วอย่างถาวร 0 ®® สรนพั๋อพ่ไ'!ใฟ้พ็ร):ไท!)นยู้น่พร! เ^^/\") ฬุรฟฐกรํเพ)ณรฑ:) เทน

ผมจึงเชีอมันว่า สิงทีท่านทรงสังสอน เป็นรากฐานความรู้ทีมาจาก www.kalyanamitra.org ดวงจิตบริสุทธื้อันปราศจากความโลภ ความโกรธ ความหลง มุ่งให้ผู้ ทีกษาพ้นทุกข์เท่านั้น และเป็นทฤษฎีบทสุดท้ายที่สรุปมาจากการเวียน ว่ายตายเกิดอย่างนับภพนับชาติไม่ถ้วน นอกจากนี้ ถ้าใครทีกษามานานๆ และนำไปปฏิบัติ ก็จะพบ ว่าความรู้ของพระองค์เป็นความรู้ที่สมบูรณ์แล้ว มีแต่สิงที่ถูกต้องดีจริง เท่านั้น ไม่มีสิงที่เป็นโทษเลย เพราะเป็นความรู้ที่ทำให้พระองค์เปลี่ยน สถา•นภาพจากมนุษย์คนหนึ่ง มาเป็นผู้มีอุดมการณ์อันยิ่งใหญ่ ทำ ความ ดีช่วยสรรพชีวิตทั้งหลายให้พ้นจากทุกข์ในวัฎฏสงสารมาต่อเนึ่องยาวนาน จนกระทั่งทรงไต้มาตรัสรู้สิงที่ปราบกิเลสในใจได้อย่างเด็ดขาดซึ่งเรียกว่า อริยสัจ ๔ แล้วด้วยอำนาจแห่งการตรัสรู้นั้น ก็ทำ ให้พระองค์ได้เป็นพระ สัมมาล้มพุทธเจ้าในชาติสุดท้าย และทรงมีชีวิตอยู่เมื่อสองพ้นห้าร้อย กว่าปีที่แล้ว ทรงสั่งสอนถึงอุดมการณ์ที่แท้จริงของการเกิดเป็นมนุษย์ สอนถึงหสักการ และวิธีการสร้างชาติ สร้างคนดี สร้างความดี และ สั่งสมบุญติดตัวข้ามภพชาติไป เ'ที่อให้คนรุ่นหลังได้มีแผนผังเพื่อการ หลุดพ้นจากกิเลส เป็นพระอรหันต์ตามพระองค์ไป และคำสอนนั้นก็ได้ มีการบันทึกตกทอดอยู่ในพระไตรปิฎกของชาวพุทธในประเทศไทยนึ่เอง แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าจะนำเสนอออกยู่มวลชนที่มีความคิด และความ เชื่อหลากหลายนั้น ผมก็ด้องยอมรับว่า นึ่เป็นเพียงความเชื่อส่วนตัว ของผู้เขียนเท่านั้น จะมาบังคับให้คนอื่นเขาเชื่อตามผมไม่ได้ และ พระพุทธองค์ก็ไม่ทรงบังคับให้ใครเชื่อด้วย แต่ทรงบอกว่าให้มาพีสูจน์ ส;!ฬ่รรพ่ไ!ไท้เรพไทยไส้พุ้นํTทํ่สิ 0,/f\"^1 ทุ่ร0ป5ทรงทุทแraijns^nlw

การเขียนหนังสือเล่มนี้ ผมจึงมีทางเลือกเดียว คือต้องทำวิจัยเชิง www.kalyanamitra.org ประสบการณ์ชีวิต รวบรวมเอาหลักการ และวิธีการของบุคคลที่เลี้ยง บุตรหลานให้เติบโตเป็นผู้นำที่เป็นคนดีและคนเก่งของประเทศชาติ มา รายงานให้คุณพ่อคุณเฌ่และผู้อ่านทราบ ทำไมไม่ใfทฤษฎีปลูกฝืงจริยรรรมแบบตะวันดก อีกประการหนึ่งก็คือ บางท่านก็อาจจะมีคำถามว่า ทำ ไมผมไม่เลือก ใช้ทฤษฎีต่างๆ ทางตะวันตก คำ ตอบก็คือ ไม่ใช่ว่าทฤษฎีของเขาไม่ดี เพียงแต่ผมเห็นลถิติปัญหาลังคมจากประเทศที่เป็นผู้นำในเรื่องเหล่านี้แล้ว ผมก็ต้องยอมรับว่า เขาเองก็แก็ไม่ตกเหมีอนกัน เพราะมันพุ่งสูงกว่า 0 ค่รอ1I5กร่:ณ อยู่ทึ๋เทน ทอนส์งditA 1ฟ้ง่!0งไ»ไยไร้พุ้น่าพ;

เมืองไทยเสียอีก ยิ่งสืกษายิ่งแก!ขตามนั้นปัญหาสีลธรรมเยาวชนยิ่งเพิ่ม www.kalyanamitra.org ปัญหาครอบครัวยิ่งเพิ่ม ปัญหาการหย่าร้างยิ่งเพิ่ม ปัญหาคนแก่ถูก ทอดทิ้งยิ่งเพิ่ม เพราะเป็นการสีกษาว่ากิเลสมือาการแสดงออกอย่างไร แล้วก็สรุปเอาว่า ความโลภ ความโกรธ ความหลงเป็นเรื่องปกติธรรมดา ของมนุษย์ ไม่ต้องไปแกไขอะไร ปล่อยเอาไว้อย่างนันถูกแล้ว แต่ไม่ ไต้สีกษาว่าจะขจัดความโลภ ความโกรธ ความหลง อันเป็นต้นตอของ ปัญหาล้งคมทั้งมวลอย่างไร ผมจึงคิดว่า ถ้าเรายังใช้วิธีการเหมือนนัก วิชาการตะวันตก เราก็จะเจอปัญหาอย่างที่เขาเจอต่อไป ที่สำ คัญก็คือ เวลานี้เราต้องยอมรับว่า ทฤษฎีการบริหารประเทศ ทั้งระบอบทุนนิยม ระบอบสังคมนิยมล้วนเคยสร้างปัญหาถึงขั้นก่อ สงครามโลกทั้งนั้น ยกตัวอย่างเรื่องทฤษฎีทางเศรษฐศาสตร์ข้อหนึ่ง ที่บอกว่า\"มนุษย์ มีความต้องการที่ไม่จำกัด แต่ทรัพยากรธรรมชาติมีจำกัด เราต้องหา ทางนำทรัพยากรที่มีจำกัดมาตอบสนองความต้องการที่ไม่จำกัดของ มนุษย์ใฟ้,ต้\"พูดง่ายๆ เป็นภาษาชาวบ้านก็คือทฤษฎีการตอบสนองความ ไม่รู้จักพอของมนุษย์ ความจริงแล้ว ที่ถูกต้องนั้น ควรจะสอนทฤษฎีเศรษฐศาสตร์เพื่อ การแบ่งปัาเมากกว่า เช่นว่า \"ทรัพยากรธรรมชาติมีจำกัด มนุษย์ควรจะ ใช้อย่างประหยัด และรู้จักปันกันกินปันกันใช้\" แต่เพราะบางยุคสอนให้ คิดเอาแต่ได้ฝ่ายเดียวอย่างนี้เหมือนกันทั้งโลก โลกจึงได้ลุกเป็นไฟ ยกตัวอย่างเช่น หากประเทศใดประเทศหนึ่งใช้ทฤษฎีนี้บริหาร เศรษฐกิจ เมื่อดูภาพรวมแล้ว ตลอดทั้งปี ประเทศนี้อาจจะต้องการใช้ BSWfjBพ่ไT ใพเม็องใทยนพนํพร็ Q ^ง่ง่อปรูทฝิงร)WTOJเดูกอยู่>tlTO

ทรัพยากรเพียงแค่สิบส่วนก็เพียงพอแล้ว แต่เนื่องจากผู้บริหารมีความ www.kalyanamitra.org โลภ อยากได้ถึงร้อยส่วน ก็เลยส่งกองทัพไปส่าเอาอีกร้อยส่วนจาก ประเทศอื่นมาเป็นของตัว สงครามปล้นฆ่าจึงได้เกิดขึ้น เกิดการส่า อาณานิคมขึ้นมา ในที่สุด สงครามโลกจึงเกิดขึ้นมา มลพิษต่างๆ ที่เป็น ผลพวงจากการใช้อาวุธสงครามจึงเกิดตามมาแล้วมนุษย์ผู้บริสุทธคนอื่นๆ ก็ต้องมาพลอยรับเคราะห์กรรมไปด้วย มันถึงเวลาแล้ว ที่เราต้องยอมรับว่า ทฤษฎีบางอย่างที่เกิดขึ้นบน พื้นฐานความโลภ ความโกรธ ความหลงของมนุษย์นี้ เป็นความรู้ที่ไม่ สมบูรณ์ ยังมีช้อผิดพลาดให้ต้องปรับปรุงอยู่ทุกๆ หลายสิบปี เพียงแต่ ว่ามนุษย์คนไหนมีอำนาจ ก็พยายามจะทำให้คนอื่นๆ ยอมรับในทฤษฎี ที่มาจากกิเลสนี้ ว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องชอบธรรม แล้วก็เอาเป็นเหตุผลใน การใช้ล่าอาณานิคมประเทคอื่น ให้มาเป็นเมีองขึ้นของตัว ไม่ว่าจะเป็น เมีองขึ้นทางการทหาร หรือทางเครษฐกิจก็ตาม ก็เป็นการเอาเปรียบกัน โดยไม่ชอบธรรมทั้งนั้น รวมทั้งประเทคไทยก็หวุดหวิดจะไม่รอดจาก ปากเหยี่ยวปากกาจากประเทคที่ยึดถือทฤษฎีส่าอาณานิคมเหส่านี้มาแล้ว แต่บุญของประเทคไทยยังดี ที่เรามีพระมหากษัตริย์ที่ทรงปรีชาสามารถ ในการปกครองประเทค พระองค์จึงทรงแก!ขวิกฤตการส่าอาณานิคมใน อดีตมาได้ ผมเขียนอย่างนี้!ม่ได้เขียนโจมตีใคร เพียงแต่ชี้ให้เห็นว่า มันมีความ ผิดพลาดอะไรบ้างที่เกิดมาเป็นร้อยๆ ปีในโลกใบนี้ จากการตั้งทฤษฎีที่ ยังต้องลองผิดลองถูก จากการสอนมนุษย์ให้ตามใจกิเลส ไม่รู้จักพอ ไม่รู้จักการใช้ตามความจำเป็น ไม่รู้จักการแปงปันกัน แล้วก็สอนลูก สอนหลานให้ทำตามต่อๆ กันมาอย่างนี้ แล้วถ้าเรายังสอนทฤษฎีที่มา สeน<!3Cย่^3l•! Tx'f , นิพํ่ด็ รุ pi

จากความโลภ ความโกรธ ความหลงต่อไป ชีวิตของมนุษย์จะเป็นอย่างไร www.kalyanamitra.org โลกของเราจะเป็นอย่างไร สิงแวดล้อมจะเป็นอย่างไร ประเทศไหนที่รับเอาแนวคิด^ปบริหารประเทศ ผู้คนที่เติบโต มาในกรอบแนวคิดแบบนี้ ก็จะหํ้าหั่นกันอย่างเอาเป็นเอาตายตาม อำ นาจความโลภของตัว เอาเปรียบได้ก็เอาเปรียบ โกงได้ก็โกง จริงอยู่ ว่า การรู้เขารู้เราเป็นสิงจำเป็น แต่ถามว่า เรารู้หรือไม่ว่าในประเทศไทย ของเรา มีความรู้ดีๆ อะไรบ้างที่สอนด้วยเหตุด้วยผล สอนให้มองโลก และชีวิตอย่างถูกต้อง พูดง่ายๆ วันนี้ เรารู้จักประเทศไทยของเราดี พอแล้วหรือยัง ผมเขียนแบบนี้ เพี่อตั้งคำถามว่า ทำ ไมเราไม่ย้อนกลับมาดูทฤษฎี ต่างๆ ที่เรามีอยู่ในพระพุทธศาสนาของเราบ้าง อย่างน้อยผมก็กำลัง พยายามทำให้เห็นจากหนังสือเล่มนี้ เพราะถ้าเราขืนใช้ทฤษฎีที่มีพื้นฐาน บนความโลภ ความโกรธ ความหลงตามเขา ที่สุดของประเทศเรา ก็ คงจะกลายเป็นอีกประเทศหนึ่งที่เป็นนักล่าอาณานิคมรายต่อไป แล้ว ทฤษฎีเหล่านั้น ก็จะเป็นสิงที่เรานำมาสอนลูกสอนหลานให้กลายเป็นนัก ล่าอาณานิคมโดยไม่รู้ตัว แล้วก็กลายเป็นผู้ชักสืกเช้าบ้าน หรือเป็นผู้นำ โลกเช้าส่ไฟสงครามอีกครั้ง ประเทศชาติของเราก็จะมีสิทธิจะถึงจุดจบ โดยไม่รู้ตัว ดังนั้น การเลือกใช้ทฤษฎีสำหรับสร้างคนในประเทศจึงเป็น สิงที่ต้องระมัดระวัง และทฤษฎีการปลูกฝืงดีลธรรมที่ดีที่สุดในโลกนี้ กาลเวลาได้พิสูจน์แล้วว่า ทฤษฎีของพระสัมมาล้มพุทธเจ้าดีที่สุด เพราะ ทฤษฎีของพระองค์ไม่ทรงสอนให้คนนำเลือดมาส่โลกนี้สักหยดหยาดเดียว เป็นทฤษฎีที่เลยการลองผิดลองถูกมาไกลหลายอสงไขยกัปแล้ว ® {J สอนSicย่■พไร ใ*aiผไrtjไ?พุ้น่พสิ คุ่รอปรก{1-}คุณ1ทนรู11อ(^*ท1น

การเลี้ยงดูบุตรหลานเป็นเรื่องการรักษาสีลธรรมประจำโลก www.kalyanamitra.org ผมคิดว่าเรื่องการเลี้ยงดูบุตรหลานนี้ ไม่ใช่เป็นแค่เรื่องของ ครอบครัวใดครอบครัวหนึ่ง ที่มีลูกขึ้นมา แล้วก็เลี้ยงดูลูกไปแบบตามมี ตามเกิด แต่ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องการปลูกฝังทฤษฎีด้านคิลธรรมโลกลง ไปให้แก่เขา ซึ่งอย่างน้อยก็ศีล ๕ รวมทั้งหลักธรรมอื่นๆ ที่ทำ ให้เขามี นิสัยพื้นฐานของคนดี คือ ไม่แสบ ไม่โง่ ไม่แล้งนํ้าใจ เป็นเบื้องต้นก่อน จากนั้น คุณพ่อคุณแม่จึงค่อยสอนให้เขาเติบโตมากับธรรมะ ควบคู่กับวิชาการทางโลกอย่างค่อยเป็นค่อยไป แล้วก็จะได้ลูกที่ทั้งดี และเก่ง ยกตัวอย่างเช่น คุณพ่อคุณแม่อาจจะต้องแบ่งเวลามาสอนให้ ลูกรู้ด้วยว่า บนโลกใบนี้ที่เขาเกิดขึ้นมา มันมีอะไรรอเขาอยู่บ้างทั้งส่วนดี และส่วนไม่ดี เวลาจะตัดสินใจว่าอะไรถูกผิดดีชั่ว จะใช้หสักเกณฑ์ไหน siciijijBijitli ใพฟ้องไทยพพุ้นํพเ n ทุ่รอป^ทฟ้งธุณ!ทใ}งฐกอ^พใทน

ในการตัดสินใจ และการอยู่ร่วมกับคนอื่นอย่างถูกต้อง ลูกจะต้องมี www.kalyanamitra.org หลักการดำเนินชีวิตอย่างไร จึงจะทำให้ตนเองมีดวามสุขและผู้อื่นมี ความสุข เพราะเขากับเราก็เป็นคนเหมีอนกัน ไม่ใช่เราสุขแต่เขาทุกข์ หรือเราทุกข์แต่เขาสุข ที่ถูกต้องคือต้องร่วมสุขร่วมทุกข์ด้วยกัน แล้วที่สำคัญก็คือ คุณพ่อคุณแม่ต้องสอนเขาด้วยว่า ยังมีคำถาม อะไรบ้างที่ค้างคาใจเกี่ยวกับการเกิดมาเป็นมนุษย์ ที่พ่อกับแม่เองก็ยัง หาคำตอบด้วยเหตุด้วยผลไม่ได้ มีคำ สอนใดบ้างที่พอจะให้ความสม เหตุสมผลมากที่สุดซึ่งเป็นสิ่งที่เขาจะต้องคันหาคำตอบด้วยตัวเองต่อไป เพราะวันหนึ่งพ่อกับแม่จะไม่อยู่กับเขาตลอดไป ผมคิดว่าสิ่งต่างๆ เหล่านี้ คือสิ่งที่พ่อแม่ต้องสอนให้เขารู้ ไม่ใช่ สอนแค่เรื่องการทำมาหากิน เพราะโลกนี้มีความรู้ที่ต้องรู้มากกว่านั้น แล้วเด็กก็จะเติบโตมากับคุณธรรม และมีกรอบความคิดของการคันหา ความหมายชีวิตโดยไม่เบียดเบียนผู้อื่นต่อไป อย่างไรก็ตาม จากการตั้งข้อสังเกต หลายคนก็จะพบว่า ล้า ครอบครัวไหนไม่ให้ความสำคัญกับการปลูกฝังคุณธรรมลูก ก็จะทำให้ เด็กอยู่ร่วมกับคนในโลกนี้!ต้อย่างไม่ถูกต้อง และไม่มีความสุข ยกตัวอย่าง การไม่ปลูกฝังการรักษาคืล ๕ ของชาวพุทธให้แก่ลูก ของเรา ลูกของเราก็พร้อมที่จะฆ่า ลัก เจ้ารู้ โกหก จมอยู่ในอบายมุข ทั้งอยู่ต่อหน้าและลับหลังพ่อแม่ ใช่แล้วคร้บ ผมเขียนไม่ผิดหรอกคร้บทฤษฎีคืล ๕ที่คนไทยท่องได้ ได้ยินมาแต่อ้อนแต่ออกนึ่แหละในเล่มที่แล้ว คือหนังสือเลยงลูกอย่างไร ให้เมืองไทยได้เยาวชนดี ผมได้ชี้ประเด็นให้เห็นว่า คืล๕ต้องเป็นพื้นฐาน สอฟ่(ง!)บ่างไ!ใ!รนํร0งไทขไร้พุ้นำพ่, ''^ว/,/ฐ'^ ทุ่ร0ป5กฝ็งทุ!นร■ท!)ดูกอ(jที๋ไทน

ของทฤษฎีทุกอย่างในโลกใบนี้ เพราะเป็นทฤษฎีที่มีกรอบความคิดให้ www.kalyanamitra.org ลูกหลานรู้จักการอยู่ร่วมกันอย่างเป็นสุขและถูกต้อง คือไม่ฆ่า ไม่ลัก ไม่เจ้า! ไม่โกหก ไม่เสพอบายมุข เป็นการตัดลูกเราออกจากเส้นทาง อาชญากรรมต่างๆ ในลังคม นอกจากนี้ ถ้ามองในภาพกว้าง คืล ๕ นี้แหละ ที่จะเป็นพื้นฐาน ให้โลกไม่เกิดสงคราม ชึ่งผู้รับรองทฤษฎีนี้ ก็คือ พระส้มมาส้มพุทธ เจ้าของเรา ผู้ทรงหมดกิเลสแส้วนั่นเอง แต่การจะทำให้นักวิชาการต่างๆ ในโลกนี้ ยอมรับในทฤษฎีนี้ ก็ไม่ใช่ของง่าย เพราะติดภาพลักษณ์ของ ความเชื่อทางศาสนาของตนเข้ามาด้วย แต่ถ้าเรามองว่านี่คือพื้นฐาน ความจริงของโลกใบนี้และชีวิตทุกชีวิตบนโลกใบนี้ เราจะเห็นอีกอย่าง เหมือนอย่างที่ผู้รู้ในอดีตท่านมองเห็น และจะเห็นว่าเด็กที่ไม่ได้เติบโต มากับการฝึกให้รักษาคืล ๕ พอเขาเติบโตขึ้นมาเป็นผู้นำประเทศ เขาจะ สามารถใข้อำนาจหน้าที่ดลบันดาลวิกฤตการณ์เลวร้ายต่างๆ ให้ประเทศ ไทยอย่างนึกไม่ถึง ชึ่งนี่เป็นเพียงความเสียหายที่เกิดจากการไม่ปลูกฝัง ธรรมะเพียงหมวดเดียวเท่านั้น แต่มืผลให้คุณธรรมข้ออื่นๆ ไม่เติบโต และยังท่าความเสียหายต่อส่วนรวมอย่างมากมายอีกด้วย เพราะฉะนั้น การเลี้ยงลูกให้เติบโตมากับธรรมะหริอคุณธรรม จึง เป็นเรื่องสำคัญของการรักษาคืลธรรมโลกเลยทีเดียวเป็นความรู้ที่สำคัญ ไม่จำกัดวุฒิการคืกษาของพ่อแม่ ไม่มืชัดเจนอยู่ในระบบการคืกษา แต่ มือยู่บนผืนแผ่นดินไทยอย่างเหลือส้น ขอให้คุณพ่อคุณแม่ได้แบ่งเวลา มาศึกษาเถิด เพี่อให้ลูกของเราเติบโตขึ้นมาอย่างผู้มืคุณธรรมและความ สามารถในการตัดสินใจในทางที่ถูกต้องของชีวิตเขาเอง ซึ่งจะมืผลต่อ ความสงบสุขของผู้อื่นบนโลกใบนี้ด้วย เ1อนฟ้งผเฬไ-:ใพ้ฟ้อ3ไทยไพุนํ■ท่1»; m'ป^' คู่รอป

^ร?ใทfjjn พร ♦เริรพ^พิร กฎแห่งกรรมส์าคัญส์าหรับการแยงลูก www.kalyanamitra.org อย่างที่กล่าวไปแล้วข้างต้น ผมคิดว่าพระพุทธศาสนาของเรามี เนื้อหาสาระที่สอนเรื่องการพัฒนาจิตไจให้คิกษามากกว่าทางตะวันตก หลายเท่านัก เพียงแต่ว่าสิงเหล่านี้ถูกบันทึกไว้ในพระไตรปิฎก ซึ่งคน ส่วนใหญ่มักไม่ค่อยได้มีโอกาสมาคิกษากัน ค่าสอนของพระสัมมาล้มพุทธเจ้า เปีนค่าสอนที่สอนให้มนุษย์ รู้จักการพัฒนาจิตใจอย่างมีเหตุมีผลบนพื้นฐานของกฎแห่งกรรม คือ ใครทำอะไรเอาไว้อย่างไร ไม่ว่าดีหรือชั่วก็ตาม ตนจะต้องไต้รับผลอย่าง นั้น ไม่ข้าก็เร็ว หสักการนี้ให้ความชอบธรรมแก่ทุกฝ่าย ผู้ทำ เหตุต้องเป็นผู้รับผล ใครจะรับผลแทนตนเองไม่ได้เพียงแต่ว่าการคิกษาเรื่องเหล่านี้ต้องใช้เวลา จะน่าเสียดายก็ตรงที่ว่า คนไทยอยู่กับพระไตรปิฎกแท้ๆ แต่คนส่วน ใหญ่ในยุคนี้ กสับไม่ค่อยให้ความสนใจมาคิกษากัน จึงทำให้พลาด ของดีในพระไตรปิฎกไปอย่างน่าเสียดาย ๒° Q สอนสืงอน»ใ1ใน้ฟ้องใ*!Iไส้นุ้uirsi ก-/ สุ่น็อป ง'; 'สุ'!อV\"ใ'สน

อย่างไรก็ตาม ในหนังสิอเล่มนี้และเล่มอื่นๆ ผมจะพยายามนำสิ่ง www.kalyanamitra.org ที่ผมได้สืกษาและค้นคว้านี้มาเล่าสู่กันฟังต่อไป เพราะผมคิดว่า ทฤษฎี ของพระพุทธองค์เป็นความรู้ที่บอกแหล่งที่มาอย่างชัดเจน ไม่ต้องมีใคร มาดลบันดาลให้ทั้งนั้น เป็นความรู้บริสุทธี้ที่เกิดขึ้นมาจากดวงใจที่ปราศจากความโลภ ความโกรธ ความหลงอย่างถาวร เป็นความรู้ที่ได้มาจากอำนาจแห่งการปาเพ็ญเพียรภาวนาอย่าง เอาชีวิตเป็นเดิมพัน เป็นความรู้ที่สิ่งสมมาข้ามภพข้ามชาติ เพื่อเอามาปราบกิเลสในใจ ให้หมดสินไป เป็นความรู้ที่เกิดขึ้นจากมนุษย์ผู้เป็นมหาบุรุษที่ยิ่งใหญ่ของโลก เมื่อสองพันกว่าปีที่แล้ว ในคืนวันเพ็ญ ๑๕ คํ่า เดือน ๖ ใต้ร่มโคนไม้ศรี มหาโพธื้ ริมฝังแม่นํ้าเนรัญชรา ประเทศอินเดืย เป็นความรู้ที่มีมนุษย์ ผู้ปฏิบัติตามแล้ว สามารถหมดกิเลสเป็น พระอรหันต์ไต้เช่นเดืยวกับพระพุทธองค์ เป็นความรู้ที่ใช้ได้จริงในทุกยุคทุกสมัย ไม่ว่าใครจะเอา เทคโนโลยีในยุคสมัยใดมาพิสูจน์ก็จะพบคำตอบว่าเป็นจริงตลอดกาล อยู่เหนือกาลเวลา ไม่เปลี่ยนแปลงผลลัพธ์ไปจากเหตุที่เราได้กระทำไว้ และไม่เปลี่ยนไปตามความเชื่อของใคร ทุกคำสอนของพระองค์นั้น มีการบันทึกสถานที่ เหตุการณ์ บุคคล และเนี้อหาธรรมะไว้ในพระไตรปิฎกไว้อย่างชัดเจน เป็นความสมบุรณ์ flaufijad'uli ใท้เรaงไทยไrพุนพต็ ๒® พุ่£3ปรูกร1}«!ทเรทม(;ก8พุ่ทึ๋ไ«น

พร้อมทางด้านหลักฐานประวัติศาสตร์เหนือกว่าหลักฐานชิ้นไหนๆในโลกนี้ www.kalyanamitra.org และที่สำคัญคือ พระไตร!เฎกยังเป็นบันทึกเรื่องการหลุดพ้นจาก กฎแห่งกรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่บอกให้เรารู้ว่า เราควรปฏิบัติ อย่างไร เราจึงจะพ้นทุกข์ และได้พบสุขจากการดำเนินชีวิตทั้งในชาตินี้ ชาติหน้า ชาติต่อๆ ไป และชาติสุดท้าย คือ บรรลุมรรคผลนิพพาน เฉก เช่นเดียวกับพระลัมมาลัมพุทธเจ้า และเหล่าพระอรหันต์ที่เข้านิพพานไป ก่อนหน้านิแล้วน้นเอง นอกจากนี้ ในพระไตรปิฎกยังมีสรรพคาสตร์ต่างๆ บันทึกไว้อยู่ มากมาย เป็นสิงที่ได้มาจากการระลึกชาติของพระพุทธองค์ ระหว่างที่ ทรงเทคน์สอนการสร้างสังคมที่สมบูรณ์แบบให้เหล่ากษัตริย์ในสมัย พุทธกาลฟัง เช่น ความรู้เรื่องมนุษยศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ สังคมศาสตร์ รัฐศาสตร์ แพทย์ศาสตร์ และศาสตร์อื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งสามารถใช้ เป็นความรู้ในการสร้างมนุษย์ที่ดี สร้างผู้นำที่ดี สร้างสิงแวดล้อมที่ดี สร้างลังคมโลกที่ดี เหมาะแก่การละเว้นความชั่ว ทำ ความดี กลั่นจิตใจ ให้ผ่องใสตามพื้นฐานของกฎแห่งกรรม เมื่อผู้คืกษาเกิดความเข้าใจ ก็ จะเห็นภาพรวมของการเวียนว่ายตายเกิด และเกิดกำลังใจที่จะ ปฏิบัติธรรมตามเส้นทางของเหล่าพระพุทธองค์ไป เมื่อผมเกิดความเข้าใจในพระไตรปิฎกอย่างที่เล่ามาให้ฟังนี้แล้ว ผมก็ต้องพยายามหาคำสอนที่ใฟ้.นการเลี้ยงดูบุตรหลานด้วยหลักธรรม ของพระลัมมาลัมพุทธเจ้า ควบคู่ไปกับการสัมภาษณ์บุคคลที่มีพื้นฐาน มาจากครอบครัวธรรมะต่อไป เพราะบุคคลเหล่านี้ จะมีคำสอนที่ได้รับ ปลูกฝังให้คิดอย่างมีเหตุมีผลตามหลักธรรมในพระพุทธคาสนา และ ๒๒ ^ สรนสืงรพ่ใ!ไท้ฟ้พไทยโfiuirS ทุ่รอป5กร่1»1ณ1ท!«5ทอยู่ทึ๋1ทน

ตนเองก็ได้ประสบความสำเร็จในชีวิตเป็นผู้นำที่ดีของสังคมอย่างแท้จริงๆ www.kalyanamitra.org มาแล้ว ด้วยหวังจะให้คุณพ่อคุณแม่ได้ข้อมูลที่ดีที่สุด จากการสร้างคน ด้วยหลักธรรมที่ใข้ได้ผลจริง ทั้งในแง่ของหลักการ วิธีการ และ ประลบการณ์อย่างครบล้วน เพื่อนำไปประยุกต์ใช้กับบุตรหลานของ ^อง^ย^งลrผิ^^^^^^^^ จากหลักการทางานตรงนี้เอง ผมคิดว่าจะเป็นโอกาลดีที่ทำให้คุณ พ่อคุณแม่ คุณผู้อ่าน และตัวผมจะได้เรียนftปด้วยกันว่า คำ ลอนใน พระพุทธศาลนานั้น มีคุณค่ามหาศาลต่อตัวเรา ประเทศชาติ พระศาลนา และพระมหากษัตริย์ของเราขนาดไหน จะได้ช่วยกันอบรมสั่งลอนบุตร หลานว่า อย่าได้คิดตัดทิ้งธรรมะไปจากชีวิตของเราเป็นอันขาด เพราะ ความเของพระสัมมาอัมพุทธเจ้า เป็นความรูทิ้สมบูรณ์แล้ว ส่วนความ ร้ที่มีเรียนมีลอนกันในขณะนี้ เป็นความรู้ที่ยังไม่ลมบูรณ์ เป็นความรู้ เพื่อการทำมาหากิน เป็นความรู้ที่ยังมีปัญหาแอบแฝงอยู่มาก ยังตัอง ปร้บปรุงแก!ขอีกหลายอสงไขยกัปจึงจะได้ความรู้เท่ากับของพระพุทธองค์ เพราะฉะนั้น ในฐานะที่แต่ละทำนก็มีความรับผิดชอบจะต้องเลี้ยง ลูกให้เป็นคนดีและคนเก่งของลังคม เราก็ต้องดีกษาธรรมะให้มากๆ เพราะถ้าเราลามารถเลี้ยงลูกหลานของเราให้เติบโตมาเป็นผู้นำที่เก่งและดี ได้มากเท่าไหร่ ก็หมายความว่าบั้นปลายชีวิตของเรา ก็จะอยู่อย่างสุข ลงบมากขึ้นเท่านั้น ไม่ต้องมาพบเจอภาวะผันผวนของบ้านเมีอง ไม่ต้อง เจอวิกฤตเศรษฐกิจให้เดีอดร้อนวุ่นวายในยามแก่เฒ่า ซึ่งจะทำให้[จ ต้องขุ่นมัว และเป็นอุปสรรคใหญในการสั่งลมบุญติดตัวไปปรโลกยาม บั้นปลายชีวิตของเราเอง สรฟ(งอข่ว ใ!!!ฟ้องไทยพยู้น่•ทำ* P คุ่ร!)1||;ก{1ง»!ท1ร7»15กอ(jrilwu

www.kalyanamitra.org พรรพุทธศาสนากับโลกที่กำลังฟลี่ยนแปลง ผมเริ่มต้นการเขียนหนังสือเล่มนี้ ที่วัดแห่งหนึ่ง ต้วยการหมั่นไป อ่านพระไตรปิฎก และฟังคำเทศน์คำสอนของพระมหาเถระรูปหนึ่ง ที่ ผมมีความเคารพรักศรัทธาท่านมาก เหตุที่ผมเลือกไปสืกษาข้อยูลจากวัดแห่งนี้ ก็เพราะว่ามีแหล่ง ข้อมูลมาก อีกอย่างก็คือ ผมมองโลกว่า \"พระพุทธศาสนาในเมืองไทย น่าจะมือะไรที่โชว์เขาไต้ทั้งด้านความสวยงามทางวัตถุและพลังศรัทธา ๒๔ คุ่รฮปjniljptuimjjjnayrili™ สรฟ(10ย่»ไร ใ*น่!ร!ไฑยไส้พุ้นํ•เพ!

อันยิ่งใหญ่ของประชาซนที่มีต่อองค์พระสัมมาสัมพุทธ!,จ้า\" สิงเหล่านี้มี www.kalyanamitra.org ความจำเป็นอย่างมากต่อการแสดงออกถึงความพร้อมในด้านจิตใจใฝ่ สิลธรรมของคนในชาติให้ชาวโลกเขามองเห็นอย่างเป็นรูปธรรม ผมคิดว่า วันนี้หลายๆ คนในประเทศ เริ่มเข้าใจแล้วว่า เวทีโลก เขาแข่งขันกันอย่างไร เขาดูความพร้อมของด้กยภาพประเทศกันที\"ไหน และอย่างไร ซึ่งโดยรวมแล้ว เวทีโลกเขาก็มองว่า การที่ใครจะก้าวเข้ามา มีบทบาทในระดับโลกนี้!ด้ ตนเองต้องทำผลงานบริหารในประเทศให้ ติดอันดับโลกเสียก่อน ซึ่งต้องดีโดยเนี้อแท้ ไม่ใช่ดีโดยการสร้างภาพ ไม่อย่างนั้นจะต้องเอาดักดิ้ศริประเทศไทยไปต่อท้ายเป็นลูกไล่เขา ซึ่งไม่ น่าภูมิใจเอาเสียเลย ที่สำ คัญก็คือ เวลานี้ นิตยสารไทม์ฉบับวันที่ ๔ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๔๖ ที่ผ่า'แมา ไต้รายงานว่า ขณะนี้ชาวยุโรป ชาวอเมริกาไต้หันมา สนใจการฝ็กสมาธิแบบชาวเอเชียอยู่เป็นประจำ จำ นวนมากถึงกว่า ๘ ล้านคน และมีแนวโน้มว่าจะสูงขึ้นเริ่อยๆ ผมคิดว่าคัวเลขชาวยุโรปและชาวอเมริกันเยอะขนาดนี้ ถ้ามองใน เชิงเศรษฐกิจ น้กเศรษฐศาสตร์ต้องตาลุกวาว เพราะประเทศไทยนั้น ไต้ชื่อว่าเป็น\"เมืองหลวงของพระพุทธศาสนาโลก\"มีวัดกว่าสามหมื่นวัด มีครูสอนสมาธิมากมายถึงสามแสนรูป ที่สำ คัญคือเรื่องการสอนสมาธิ แบบพุทธนี้ มีสอนกันไม่กี่ประเทศในโลก ถ้าหากภาครัฐมีการสำรวจว่า เมืองไทยมีความพร้อมต่อการเป็น \"ประเทศศูนย์กลางการ!!กสมาธิโลก\" มากน้อยแค่ไหน หากผลสำรวจ ออกมาว่าเราพร้อมจริง ทดลองประชาล้มพันธ์ออกไปแบบกลางๆ โดย ส!)นฟ้งaน่า1ไ1 ใฟ้น่!ผไา)ยนพุ้นํไทึ๋ร ' ทุ่รรปดูกรพฺนธรแ-ชุกรยู่ทึ๋!ทน

ไม่มีประเด็นของความแตกต่างทางด้านศาสนาเข้ามาเกี่ยวข้อง ผมเชื่อว่า www.kalyanamitra.org ประเทศไทยจะได้ชาวยุโรปและชาวอฒริกันอีกกลุ่ม {ประมาณกว่าแปด ล้านคนขึ้นไป)ที่สนใจด้านการฝึกสมาธิ เพิ่มขึ้นอีกกลุ่มหนึ่ง เพราะเขารู้ ว่ามาเมีองไทยค่าไข้จ่ายไม่แพง แล้วก็จะเป็นโอกาสให้เราได้แนะนำ ความสวยงามด้านอื่นๆ ของประเทศไทยพ่วงเข้าไปด้วย ซึ่งก็จะทำให้ คนกลุ่มนี้รู้สิกคุ้มกับการเดินทางหลายอย่าง ตั้งแต่ได้มาสิกษาสมาธิจาก แหล่งกำเนิดได้มาเที่ยวประเทศไทยได้ทดลองกินอาหารไทย ผลไมไทย ซึ่งจะเป็นอีกทางที่จะนำประเทศไทยก้าวขึ้นไปบนเวทีโลกในด้านที่ยัง ไม่มีใครเข้ามาแข่งข้นก้บเราอีกด้วยเพียงแต่ว่าเราต้องสำรวจความพร้อม ในเรื่องนี้ของประเทศเราก่อนนั่นเอง แนวคิดต่างๆ ดังกล่าวนี้ เกิดขึ้นมาเพราะผมมีความเห็นว่า วัด ของท่านพระมหาเถระมีการเจริญเติบโตที่ต่อเนึ่องรวดเร็ว มีการจัด ระบบบริการคนมาวัดที่ดี มีกิจกรรมในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ใหญ่โตติดอันดับโลก และเป็นหน้าเป็นตาให้แก่พระพุทธศาสนาอย่างมาก วัดของพระมหาเถระรูปนี้ เป็นวัดอีกแห่งหนึ่งที่ไม่ทำให้พระพุทธ ศาสนาในประเทศไทยดูกระจอกในสายตาชาวโลก เป็นล่วนเสริม เสถียรภาพทางคิลธรรมของประเทศ และแถมยังทำให้คนไทยได้ภูมิใจ ในความเป็นชาวพุทธที่มีผลงานระดับโลกอีกด้วย ด้วยเหตุผลจากความต้องการแหล่งข้อมูลมากๆ เพิ่อเขียน หนังสิอเล่มนี้ และกระแสวัฒนธรรมของโลกตะวันตก ที่ส่วนหนึ่งกำลัง ค่อยๆ เปลี่ยนทิศมาล่การฝึกสมาธิแบบเอเชียนี้ ผมจึงตัดสินใจเลือกที่นึ่ เพิ่อจะได้มีโอกาสไปกราบท่าน และถามท่านว่า ท่านสอนอะไร มีหล้กการ § ร0นสืพม่างไ!ใ!ไฟ้พไทยไ*พุ้น่■ทำค็ ๆ^^ร ทุ่รย

อะไร ผลที่ได้รับต้องเป็นอย่างไร และมีริธีการแกฝนอบรมด้ษย์อย่างไร www.kalyanamitra.org เพื่อผมจะได้นำมาปรับใซในชีวิตของผมบ้าง แล้วถ้าธรรมะที่ท่านให้นำ ไปปฎิบ้ติ ออกผลดี ผลเร็วให้แก่ชีวิตของผมจริง ผมก็จะเขียนหนังสิอ เล่าให้คนอื่นได้รับทราบข้อมูลบ้าง แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากผมยังมีงานเก็บข้อมูลผลตอบรับความ คิดเห็นจากผู้อ่านหนังสือเล่มนี้ โดยไม่ต้องการให้มีเครดิตทางสังคม ด้านอื่นๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง ผมจึงไม่สามารถระบุชีอฃองพระมหาเถระ บุคคล สถานที่ และตำแหน่งทางสังคมของแหล่งข้อมูลได้ในตอนนี้ จึงต้องกราบขออภัยไว้ ณ โอกาสนี้ด้วย เก็บข้อมูลเขียนหนังiaจากคนไปวัด หสังจากที่ผมพยายามตามฟังเทศน์ของท่านพระมหาเถระมาหลาย ปี ซึ่งรวมระยะเวลาแล้ว ก็คงไม่ตํ่ากว่าห้าร้อยชั่วโมง จากจุดนี้เอง ยิ่ง ท่าให้ผมได้เห็นรายละเอียดในการนำหลักธรรมไปปรับไซในการอบรม บุตรหลานมากยิ่งขึ้นโดยเห็นได้จากผลที่ออกมาจากชีวิตลูกคิษย์ของท่าน ซึ่งแต่ละคนที่นำคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ได้จากท่าน ไป ปฏิบัติตามแล้ว ก็ล้วนประสบความสำเร็จในชีวิตหน้าที่การงานทั้งนั้น แล้วพอผมฟังเทศน์ของท่านเสร็จก็แอบไปถามลูกคิษย์ของทานว่า มาวัดแล้วได้อะไร หลวงฟอสอนอะไร นำ ไปใช้แล้วผลเป็นอย่างไร ผม เห็นว่าสิงที่ลูกคิษย์หลายคนตอบ มันไม่ท่าให้พระพุทธศาสนาดูกระจอก ในสายตาชาวโลกเลย ในทางตรงกันข้าม กลับท่าให้เราเข้าใจด้วยว่า คน เรานั้นเกิดมาเพื่ออะไร ต้องทำอะไร ไข้ชีวิตอย่างไร ชีวิตจึงจะสงบสุข รขิฬ่ง£ย่13ไ1 ๒๗ P คุ่รอปรูกฝื■พุผธ71»15ก0ยู่ท1«น

มีความหมาย แม้ว่ามีอายุเนแต่ก็เสิกลุ้มค่าและเป็นสาระกว่าการ www.kalyanamitra.org มีอายุยืนยาวเป็นร้อยปี แต่ไม่ใช!ห้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและโลกใบนี เลย เป็นเพียงแค่ใช้สังขารให้เพลิดเพลินไปกับกามารมณ1นโลกนี้เท่านั้น จนกว่าสังขารจะเสือมสูญ แล้วก็จากโลกนี้!ปโดยไม่มีประโยชน์ต่อคน รุ่นหสังเลย ลูกสืษย์หลายๆ คนของท่านที่ผมเห็น กำ ลังมีชึ่อเสืยงติดอันดับ ประเทศ อันดับโลกอยู่ในขณะนี้ หลายคนเล่าว่า เขาก้าวมาถึงจุดนี้!ดั เพราะมาฟังเทศน์จากท่าน ตั้งแต่เมื่อสามสิบกว่าปีที่แล้ว ซึ่งขณะนั้นก็ ยังเป็นเพียงนิสิตนักส์กษา ยังไม่ได้มีชื่อเสิยงฐานะเงินทองรํ่ารวยอะไรนัก แต่ก็ได้อาศัยหลักธรรมที่ท่านสอนในวันนั้น โดยเฉพาะมงคลสิวิต ฅ๘ ประการ มาใช้เป็นหลักในการสร้างฐานะของตัวเองมาตามล่าดับ จนกระทั่ง วันนี้!ดักลายมาเป็นผู้นำทางด้านคุณธรรมของสังคม เป็นผู้บริหารระดับ สูงอยู่ตามองค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน หลายท่านเป็นถึงประธาน บริษัทเอกชน เป็นหัวหน้าคณะแพทย์ เป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาล เป็นผู้อำนวยการโรงเรียน เป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัย เป็นนายทหาร ชั้นผู้ใหญ่ เป็นสมาชิกๅฒิสภา และอีกหลายท่านที่ไม่ได้มีตำแหน่งใหญ่ ในสังคม แต่ก็ประสบความสำเร็จในการบริหารครอบครัว ลูกศัษย์หลายๆ คนของท่าน ที่มีตำ แหน่งหน้าที่การงานใหญ่โต แต่พอมาถึงวัดแล้ว ก็ทำ ตัวติดดิน ให้โอกาสผมได้พูดคุยสัมภาษณ์ และหลายๆ คนก็ตอบผมเหมีอนๆ กันหมดว่า เขามาที่วัดนี้ ก็เพราะตั้ง ความหวังว่า เขาจะบำเพ็ญบารมีเพื่อไปบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ใน ชาติใดชาติหนึ่งเบื้องหน้า ควบคู่ไปกับการทำงานในทางโลกเหมีอน อย่างที่พระสาวกของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทำเป็นตัวอย่าง ส0«สิงอน่างไ'!ใพฟ้อ-!ไทยใ*พุ้น่ฟ้พ! ร๒๘ r คุ่};อง5กฝืพ; อ!]ท.ทน

คุณพ่อคุณเฌ่และคุณผู้อ่านที่เคารพรัก ถ้าผมไม่ได้มาฟังคำตอบ www.kalyanamitra.org จากลูกศิษย์ของท่านด้วยตัวเอง และผมไม่ได้เห็นหลักฐานความ ก้าวหน้าในชีวิตของท่านเหล่านี้ ซึ่งหลายท่านก็มีชื่อเสียงอยู่ในระดับ ประเทศและระดับโลกตอนนี้ด้วยแล้ว ผมก็คงจะไม่เชื่อว่า บุคคลเหล่า นี้จะประสบความสำเร็จด้วยแนวคิดเช่นนี้ แล้วยิ่งในยุคที่โลกมี เทคโนโลยีก้าวไกลไปนอกโลกนอกจักรวาลด้วยแล้ว จะมีคนที่คิด ผมใช้บริการอยู่ในประเทศไทยขณะนี้อีกด้วย ธรรมะให้อะไรแก่ผู้สืกษาอย่างจริงจังบ้าง จากประสบการณ์ทำงานในครั้งนี้ทำให้ผมต้องมาทบทวนชีวิตใหม่ แล้วก็ค่อยๆ แหวกออกจากม่านเทคโนโลยีทางวัตถุที่ใครๆ ทั้งโลกเขาก็ บอกว่าสุดยอดกว่าทุกสิงแล้ว เพื่อมาเปิดหูเปิดตากับเทคโนโลยีด้านจิตใจ คือ ธรรมะอย่างจริงจังบ้าง ครั้นเมื่อคิกษาธรรมะเข้าแล้วก็ติดใจ เพราะผมพบว่าธรรมะของ พระพุทธองค์นั้น เป็นล้จธรรมที่แท้จริงตลอดกาล ให้ความสงบสุขที่ ลึกซึ้งกว่าเทคโนโลยีหลายเท่าน้ก เป็นการคิกษาที่หลุดกรอบความเสื่อม สูญสินไปของลังขารมนุษย์นี้แล้ว ในขณะที่เทคโนโลยีด้านวัตถุยังอยู่ใน กรอบของความเสื่อมสูญสินไปของลังขารมนุษย์ ให้ได้เพียงความ สะดวกสบายทางกาย แต่ไม่ช่วยให้เกิดความหลุดพ้นทางด้านจิตใจ ■(ท loaf ศอฬ่งอ!ภ-!น ไท้ฟ้ผไHยใพุนํพร

www.kalyanamitra.org ผมคิดว่าธรรมะเรนเทคโนโลยีด้านจิตใจที่เหนือกว่าเทคโนโลยี ด้านวัตถุทุกประการ และมนุษย์ทุกคนสามารถสัมผัสความหลุดพ้นตรง ^ด้ว่ามีอยู่จริงในพระพุทธศาสนาด้วยการทำสมาธิภาวนา ซึ่งอาจทำ ง่ายๆ เพียงแค'หลับตาลงเบาๆ แล้วไม่ต้องคิดอะไรเลยสัก ๕ นาที ก็จะ ได้พบประสบการณ์ความสงบนิ่งภายใน ซึ่งเป็นด้นทางของความ หลุดพ้นจากความทุกข์ต่างๆ \"O ทุ่ร่3รปลุกฝ็งคุ!นทรJ45กรยู่ทึ๋ไหน สรฟhอย่■พไร ใพ้น่!อรไ>เยไส้'ฟ้น่■พ็ส็ ว

เรื่องราวที่น่าสนใจเหล่านี้ผมจำเป็นต้องเขียนด้วยความระมัดระวัง www.kalyanamitra.org และมีดวามจำเป็นต้องเล่าข้อมูลเหล่านี้ให้คุณพ่อคุณแม่และคุณผู้อ่าน ได้ฟังบ้าง เพื่อให้ท่านได้รับทราบว่า ธรรมะของพระพุทธองค์ทรงให้ อะไรแก่เราบ้าง คำ ตอบก็คือ ธรรมะสอนให้เราเข้าใจโลกและเวิตที่เราเป็นอยู่ว่า ความจริงนั้นเป็นอย่างไร มีกฎเกณฑ์ตัดสินความผิดชอบชั่วดีอยู่ที่ตรง ไหน เราควรตังเป้าหมายสิริตอย่างไร สิริตจึงจะเป็นสุข เราตัอง รับผิดชอบอะไรบ้าง สิริตจึงจะไม่ประลบทุกข์ และเราจะมีหลักการ รับผิดชอบสิงต่างๆ เหล่านั้นในสิริตอย่างไร เพื่อให้สิริตของเรา คน รอบข้างของเรา ลังคมของเรา และประเทศชาติของเรามีความเจริญทั้ง ทางด้านวัตถุและจิตใจ และที่สำคัญก็คือ ธรรมะลอนให้เรารู้ว่า เตรียมตัวตายอย่างไร สิริตในโลกหน้าจึงจะเป็นสุข แนวคิดการแก้ป็ญหาสืลธรรมที่ถูกต้อง จากการที่ผมใช้เวลาทำงานตรงนี้มาไม่ตํ่ากว่า ๗ ปี {ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๓๙)ผมก็ได้ข้อคิดว่า ผมพอมีบุญเก่ามาบ้างที่ได้พบท่านพระมหาเถระ และบุคคลสำคัญอื่นๆ ที่เป็นแหล่งข้อมูลในการเขียนครั้งนี้ ผมตระหนักดีว่า การที่เราจะพบใครสักคนหนึ่งที่ลามารถจัด ระบบการฝ็กอบรมคนแบบตลอดชีวิตได้ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ถ้าท่านไม่ทำ มาตลอดชีวิตจริงๆ คงจะไม่มีลูกศิษย์ลูกหามาเป็นพยานมากมายได้ ขนาดน 0 «\"® กงใ': ไทยไลัผู้น่าที่คิ คํมีอปดูกมังคุCiธวใVดู

ที่สำ คัญท่านชี้ให้เห็นว่า ตลอดระยะเวลาที่มีการแก้ปัญหา www.kalyanamitra.org ศีลธรรมนั้น เราได้ใช้แนวคิดว่า การแก้ไขปัญหาทั้งหมดที่เกิดขึ้นใน ปัจจุบันนี้ ควรจะไปเริ่มต้นที่คนรุ่นใหม่ ส่วนคนรุ่นเก่าก็ปล่อยให้สร้าง ปัญหาต่อไป เพราะไม้อ่อนดัดง่าย แต่ไม้แก่ดัดยาก ถ้ามองโดยผิวเผิน แนวคิดดังกล่าวนี้ดูเหมือนว่าจะดี แต่เมือดูให้ ชัดเจนต่อไป กลับกลายเป็นว่า แห้จริงแล้ว คนรุ่นปัจจุบันกำลังผลักภาระ 1 1 ๓๒ สรนส์«6£ท่งไ'!ใ^น่!&!ไr.ยนพุ้น่พํ่ส็ r*!

ปัญหาต่างๆที่ตนสร้างขึ้นโยนให้คนณุ่หลังรับเป็นผู้แก1ฃต่อไป ซึ่งเป็น www.kalyanamitra.org สิงไม่ถูกต้อง พูดง่ายๆ ก็คือ\"ป่ย่าตายายกำลังจะโยนปัญหาที่ตนสร้างโยนบาป ที่ตนก่อ ให้ลูกหลานเป็นคนแก้นั่นเอง\" การคิดเช่นนั้นย่อมทำให้สถานการณ์เลวร้ายหนักยิ่งขึ้นกว่าเก่าเสีย อีก เพราะย่อมทำให้เด็กรุ่นหลังขาดต้นแบบที่ดี แล้วเขาจะเป็นคนดีได้ อย่างไรปัญหาต่างๆ จึงย่อมมีแต่พอกพูนขึ้นจนกลายเป็นดินพอกหางหมู หรือปมด้ายที่พันกันยุ่งเหยิงจนยากจะสางออกมาได้ แล้วก็เป็นการ กระตุ้นให้เกิดตัวอย่างที่ใม่ดีแก่บุตรหลานเพิ่มหนักขึ้นอีกด้วย ดังนั้น ถ้าหากยังใช้แนวคิดเดิมนี้แกัปัญหาต่อไป จะไม่มีทางประสบความ สำ เร็จอย่างแน่นอน แนวคิดแบบไหนที่จะประสบความสำเร็จในการแก้ปัญหา พระล้มมาล้มพุทธเจ้าทรงขึ้ให้เห็นว่า \"ต้นเหตุของปัญหาอยู่ที่ไหน ต้องดับที่ต้นเหตุตรงนั้น\" หลักการตรงนี้จึงมีอยู่ว่า \"ก่อนจะไปปรับปรุงแก่ไขอะไรต่างๆใน โลกนี้ เราจะต้องเริ่มต้นที่การปรับปรุงแก่ไขตนเองให้ดีก่อน ต้องปีด วาล์วความชั่ว เปีดวาล์วความดี ให้ความดีของแต่ละคนถ่ายเทไปมา หาส่ก้นไต้ จึงจะเกิดเป็นสิงแวดลัอมที่ดีต่อก้น ในที่สุดต้นแบบที่ดีก็จะ เกิดขึ้นตามมา ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในยุคของเรานี้ ก็จะลดลงถึงขั้น หมดไป และไม่หมักหมมกลายเป็นปัญหาใหญ่ให้คนรุ่นหลังต้องมารับ ภาระแก้ไข โดยที่เขาไม่รู้เรื่องก้บเรา\" ส0«ร่50พ่ไ1ไพ้น!! ยไ#พุน่■ทิพ! (ท๓ คุ่ม็เฟ5กฝ็งธุผรรรม5ก8^ฟ้ไทน

วิธีการจัดระบบการปลูกฝืงสีลธรรมตลอดรวิต www.kalyanamitra.org เมื่อก้าวมาถึงตรงนี้ ผมยิ่งมีความสงสัยว่า พระมหาเถระท่านไปเอา แนวคิดนี้มาจากไหน ท่านมีวิธีการท่าหลักสูตรฝึกอบรมคนอย่างไร ผมจึงได้ตามฟังตามสังเกตทุกครั้งที่มีโอกาสได้ฟังเทศน์จากท่าน แล้ววันหนึ่งผมก็ได้มีโอกาสเข้าไปซักถามข้อสงสัยเหล่านี้ก้บท่านโดยตรง สอนริ!รย่นไ'!ใน้นํ!พไrtjไส้พุ้นํ•เทสิ ก,/ ทุ่รอปรู!เร่!!!;ยพ!นดูทอยู่ทึ๋ไทน

ท่านเมตตาชวนผมเข้าไปร่วมประชุมกับคณะจัดทำหลักสูตร www.kalyanamitra.org อบรมของท่าน สิงที่ผมได้พบเห็นมาด้วยตนเองก็คีอ ทุกครั้งก่อนจะมี การเทศน์สอนอะไรลักเรื่องหนึ่งท่านจะมีการประชุมระดมความคิดเห็น จากลูกคิษย์ลูกหาของท่านที่มีประสบการถflนด้านต่างๆ ทั้งที่อยู่ใน ประเทศและต่างประเทศจนดึกดื่นค่อนคืนเพี่อหารือกันว่า ตอนนี้ปัญหา ศีลธรรมที่ลังคมไทย และลังคมโลกแกัไม่ตกคืออะไร เมื่อที่ประชุมตั้งโจทย์ปัญหาได้ถูกแล้ว ท่านก็จะไล่ถามความ คิดเห็นจากผู้ประชุมว่าสาเหตุของปัญหานี้มาจากไหนจากนั้นท่านจึงค่อย เฉลยด้นตอปัญหาที่ครอบคลุม ถูกต้อง ชัดเจนให้ทุกคนฟัง พร้อมทั้ง บอกถึงหลักการแกัไขที่พระพุทธองค์ทรงให้หลักการไว้ในพระไตรปิฎก มาเล่าให้ฟังอีกด้วย ระหว่างที่เล่านี้ เพี่อเป็นการพิสูจน์ว่า ท่านเองไม่ได้ พูดลอยๆ ท่านก็จะให้คนไปถ่ายเอกสารพระสูตรที่บันทึกการแกไขปัญหา นั้นๆ มาทำสำเนาแจกให้ที่ประชุมได้อ่านเองอีกด้วย เมื่อที่ประชุมเห็นปัญหาและข้อมูลที่ใข้แก้ไขตรงกันแล้ว ท่านก็จะ เริ่มวิเคราะห์ให้ฟังอีกรอบ เมื่อที่ประชุมฟังจบ ท่านก็จะเปิดโอกาสให้ แต่ละคนแสดงความคิดเห็นในแง'มุมต่างๆ เพิ่มขึ้น เพี่อจะทำความเข้าใจ ในภาคปฏิบัติให้ลึกซึ้งยิ่งๆ ขึ้นไปตามสำดับ ท่านนำประชุมอย่างนี้หลายรอบ บางหลักสูตรประชุมนานหลาย เดือน บางครั้งนานหลายปี และบางครั้งบางหลักสูตรก็ผ่านการปรับปรุง นานเป็นสิบปี ตรวจลอบแล้วตรวจลอบอีกจนกว่าจะแนใจว่า หลักสูตร ธรรมะที่นำมาถ่ายทอดนั้นลามารถอธิบายหลักธรรมต่างๆให้คนฟังเข้าใจ แล้วลามารถนำไปใชั1นภาคปฏิบัติได้อย่างแห้จริง สอฬ36ย่างไา ใฟ้ฟ้อรใทยไพุ.;พ็พ็ \\

เมื่อได้ผลเป็นที่พอใจแล้ว ท่านก็จะเริ่มเทศน์สรุปหลักการและวิธี www.kalyanamitra.org การของพระสัมมาล้มพุทธเจ้าในธรรมะข้อนั้นอีกรอบ แล้วก็เขียนเป็น หนังสือวิชาการออกมาเผยแพร่ต่อไป ดังนั้น ในช่วงสามสิบปีแรกของการสร้างวัดของท่าน จึงเป็นช่วง ของการจัดหสักสูตรสืกอบรมคนให้เหมาะกับคนแต่ละเพศและแต่ละวัย ตั้งแต่เด็ก วัยรุ่น ผู้ใหญ่ ผู้เฒ่า และซาวโลก เพื่อให้เขาเหล่านั้น สามารถเข้าถึงธรรมะไตร่ตรองตามธรรมะของพระสัมมาล้มพุทธเจ้าได้ทัน ซึ่งจากผ่านการอบรมไปแล้ว แต่ละคนต่างก็ยอมรับด้วยตัวเขาเองว่า ธรรมะของพระสัมมาล้มพุทธเจ้าเป็นของดีจริง ถูกต้องจริง เป็น ประโยชน์จริง อยู่เหนือกาลเวลาจริง และด้วยอานิสงส์ที่ท่านพระมหาเถระเอาจริงเอาจังเรื่องหสักสูตร อบรมคนเช่นนี้ จึงทำให้ท่านสามารถจัดระบบการอบรมปลูกฝัง คุณธรรมคนได้ตลอดขีวิต และกรุณานำมาถ่ายทอดให้เราฟัง ซึ่งผม ก็ได้นำมาบรรจุไวในหนังสือเล่มนี้แล้ว เก็บข้อมูลเพิ่มเดิมจากประสบการณ์ของฟ้ย่าตาทวด อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นว่า จริงๆ แล้ว ผมตั้งใจจะดีกษาเรื่องวิธีการ เลี้ยงลูกให้เติบโตมาเป็นผู้นำที่เป็นคนดีและคนเก่งของประเทศชาติ บ้านเมืองไทยในอนาคต แต่ปรากฏว่า ผมกสับมาได้ความรู้เหล่านี้แถม มาด้วยจากพระพุทธคาสนา ถ้าไม่เล่าก็ไม่ได้ เพราะถือว่าเป็นการให้ เครดิตแก'แหล่งความรู้ เป็นเหมือนบทไหว้ครูในเรื่องการสร้างผู้นำที่ดี และเก่งที่โลกด้องการ ๓๖ ส!!ฬ่«11ท่1ไ1ใท้ช่รพไทยไพุน่■ท่ร่ร 'ว,^;^ ทุ่รร(ฟ5ก

ผมจึงมีความรู้สืกภาคภูมิใจอย่างมากที่ได้รวบรวม ค้นคว้า และ www.kalyanamitra.org จัดทำหนังสิอเล่มนี้ขึ้นมาให้คุณพ่อคุณแม่ และท่านผู้อ่านทุกท่านได้ สืกษากัน ผมเล่ายาวขนาดนี้ ก็อย่าเพิ่งเบื่อไปก่อนนะคร้บ โปรดอดทน อ่านกันต่อไป เพิ่อที่จะให้ได้ข้อภูลเพิ่มขึ้น ผมจึงอาด้ยพื้นฐานข้อมูลตรงนี้ ไป พูดคุยกับปูย่าตาทวดที่ท่านมีประสบการณ์การเลี้ยงดูบุตรหลานให้เป็น ผู้นำ ที่ดีและเก่งของสังคม เพิ่อจะขอรับฟังแนวคิด หสักการ และวิธีการ เลี้ยงลูกของท่านบ้างว่า สอดคล้องกับหสักธรรมที่พระมหาเถระท่านเล่า ให้ฟังหรือไม่ อย่างไร 0 ฬุร)ปรูก!}3คุ สอพ่(50£ก่งไ1ใViCejVข'นพุ้นํ■พ*

ใjย่าตาทวดท่านก็กรุณาต่อผมยิ่งนัก ท่านช่วยสรุปเนื้อหาสาระ www.kalyanamitra.org จากชีวิตของท่าน ซึ่งไม่ตํ่ากว่า ๖๐ ปี มาเล่าให้ฟังอย่างออกรสชาติ ทำ ให้ผมได้เห็นภาพรวมตลอดชีวิตของท่าน มีข้อมูลเพิ่มขึ้น ได้รู้จัก อุดมการณ์ชีวิตของหลายๆ คน ได้รู้จักตนเองมากขึ้น และรักงานของ ผมมากขึ้น ที่สำ คัญก็คือ มันท่าให้ผมตระหนักอยู่เสมอว่า \"สิงที่เรามีอยู่ เหลือเฟือตลอดชีวิตนั้น อาจหมายถึงสิงที่อีกคนแสวงหามาตลอดชีวิต ก็เป็นได้\" เพราะฉะนั้น ผมจะต้องเขียนเล่าเรื่องราวต่างๆ เหล่านื้ออกมา เป็นบันทึกให้คนอื่นๆ ได้อ่านอย่างดีที่สุด ผลจากการสัมภาษณ์ ก็ได้ข้อสรุปว่า สิ่งที่ปูย่าตาทวดกรุณาเล่าให้ ฟัง แม้จะไม่ได้รายละเอียดเท่ากับท่านพระมหาเถระ แต่เนื้อหาสาระ หลักในการเลี้ยงดูลูกหลานให้ประสบความสำเร็จของท่านนั้น มาจาก รากฐานเดียวกัน คือ ธรรมะของพระพุทธองค์ ผมเองไม่ค่อยแปลกใจนักในเรื่องเหล่านื้แต่ก็ต้องท่าหน้าที่หาข้อมูล ให้ครอบคลุมที่สุดต่อไป เพิ่อให้ใครที่เขาไม่ศรัทธาในพระพุทธศาสนา จะมาว่าท่านพระมหาเถระ ยู่ย่าตาทวด และตัวผมเองโมฌ พูดเอง เออ เอง เขียนเองไม่ได้ เพราะจริงๆ แล้ว ทุกคนที่ผมได้!ปพบ ท่านต่างก็ ฝึกอบรมตน และเลี้ยงลูกหลานของท่านมาตามคำสอนของพระสัมมา สัมพุทธเจ้าทั้งลี้น ส่วนว่าใครจะมีประสบการณ์จากมุมไหน กว้างลึก อย่างไร ก็แล้วแต่ว่าท่านจะเมตตาเล่าเพิ่อบรรเทาความอ่อนด้อย สติปัญญาให้ผมฟังมากน้อยแค่ไหน และขึ้นอยู่กับว่า ผมจะมีปัญญา ตรองตามคำของท่านไปได้แค่ไหนเท่านั้น ซึ่งผมคิดว่ามีคุณค่าทุกคำพูด และผมก็รวบรวมมาเพิ่อการท่าหน้าที่ปลูกฝังคุณธรรมของทุกคน ๓๘ ร8นสื1อ1ภ่งใ1ใไรฟ้องไทเ.ไ n f'jf] ทุ่รอปรูทฝืง

อย่างไรก็ตาม สิงสำคัญที่ผมได้รับก็คือ นี่เป็นอีกครั้ง ที่ผมได้ www.kalyanamitra.org ประจักษ์ด้วยตนเองว่า \"ธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าถูกต้องจริง ดี จริง เป็นประโยชน์จริง และเป็นของจริงตลอดกาลไม่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา และพร้อมต่อการพิสูจน์เสมอ เหมือนทองแท้ที่ไม่เคยกลัวการพิสูจน์ ของไฟ\" อุปสรรคในการจัดทำหนังสิอฟมน อย่างไรก็ตาม อุปสรรคในการทำงานของผม ก็ยังไม่ได้หมดแค่นั้น เพราะเมื่อได้คันคว้ารวบรวมข้อมูลมามากพอแล้ว ผมก็เจอปัญหาอีกว่า ผมจะหาคำอธิบายข้อมูลที่รวบรวมมานี้ให้กะทัดรัด ชัดเจน เข้าใจง่ายๆ ได้อย่างไร ผมก็ต้องนั่งอ่านๆ คิดๆ เขียนๆ ลบๆ อยู่เป็นปีๆ ปรับแล้ว ปรับอีกอยู่หลายเที่ยว บางทีก็ทิ้งต้นฉบับไว้เป็นเดือนๆ ต้องเปลี่ยนไป ทำ งานอย่างอื่นก่อน เพื่อให้ข้อมูลตกตะกอน จิตใจจะได้ปลอดโปร่ง ไม่ กังวล แล้วจึงค่อยกลับมาเรียบเรียงความคิด ค่าพูดใหม่ ให้ออกมาเป็น ถ้อยค่าต่างๆ ในหนังสีอเล่มนี้ พยายามเขียนอยู่หลายรอบ พร้อมกับ เฝึาถามตัวเองว่าทำ[มผมไม่ฉลาดกว่านี้เก่งกว่านี้จะได้ทำงานได้เร็วกว่านี้ ผู้อ่านจะได้ไม่ต้องรอนานเกินไป แต่ผมก็ทำสุดความสามารถแล้ว หวังว่า คุณฟอคุณแม่ที่ได้อ่านข้อมูลนี้แล้ว คงจะเห็นภาพรวมที่ชัดเจนเข้าใจง่าย สามารถนำไปใข้งานได้จริง การที่ผมเล่าความล่าช้าของผมเสียยืดยาวขนาดนี้ ก็เพียงต้องการ บอกคุณพ่อคุณแม่และผู้อ่านว่าขอให้ทุกท่านโปรดอ่านฟ้นอย่างร้คุณค่า เพราะกว่าผมจะไต้ข้อมูลมานั้นอ่างยากลำบากจริงๆ แต่ความยากสำบาก ศ£๗งอ(ท!ไ!ไท้!ฟ้องไทยไค้ฟ้นำทํ่ร็ รฺบัP

H'ท ของผมนี้ ก็เทียบไม่ได้เลยกับความยากลำบากของผู้เทศน์ผู้เล่าที่กรุณา www.kalyanamitra.org ถ่ายทอดข้อมูลมาให้เพราะท่านเหล่านั้นต้องเอาเวิตของตนเอง มาพิสูจน์ ธรรมะโดยแห้ แล้วก็สรุปเอาสาระสำต้ญแห่งการปฏิบัติธรรมนั้น มามอบให้แก่มือดุณพ่อคุณแม่และท่านผู้อ่านผ่านหนังสิอเส่มนั้ เพี่อพัฒนาชีวิตของตนเอง และอนาคตของลูกหลาน ให้เขาเติบโตขึ้นมา เป็นผู้นำที่ดีและเก่ง ทำ ประโยชน์ต่อตนเอง ครอบครัว สิงแวดล้อม สังคม และโลกต่อไป การสืกษาหนังสิอเล่มนี้ผมอยากให้คุณพ่อคุณแม่อ่านหนังสิอแยง ลูกอย่างไรให้เมืองไทยไต้เยาวชนดีประกอบด้วย เพราะเป็นภาคแรก คือ เป็นคู่มือปลูกฝืงคุณธรรมเด็กวัยแรกเกิด-วัยแรกรุ่น ซึ่งอุปมา ส£๗งอน่ฬโร ไท้ฟ้องไฑยไ ๙๐ n r* ♦ฟ้อป(•กรง»10เ1โทม5กร^ท้ไงณ

เหมือนกับการสร้างเพชรเนื้อดี ส่ว^wไาคสอง ดีอเล่มนื้ เป็นการปลูกฝืง www.kalyanamitra.org คุณธรรมเด็กวัยแรกรุ่น- วัยเบญจเพศ ซึ่งอุปมาเหมือนกับการนำเพชร เนื้อดีมาเจียระไนให้เป็นเพชรที่มีครามงดงามแผ่ออกมาทุกด้านทั้งเนื้อ นํ้า รูปทรง และความแวววาวนั่นเอง ผมหวังว่าข้อมูลไนหนังสือเล่มนื้จะเป็นความพยายามที่ไม่สูญเปล่า และคงพอจะช่วยแปงเบาภาระการอบรมปมนิสัยลูกให้เป็นคนดีและคน เก่งของคุณพ่อคุณแม่ให้เบาลงได้บ้าง และสามารถใช้เป็นคู่มือของคู่รัก คู่ใหม่ที่เพิ่งเริ่มคบกัน คู่รักที่กำสังจะแต่งงาน คู่รักที่กำลังจะสร้าง ครอบครัว หรือคู่รักที่กำลังจะเตรียมตัวเป็นคุณพ่อคุณแม่คน ได้มี ข้อมูลดีกษาว่า ถ้าต้องเป็นพ่อแม่คนแล้ว ตนเองจะนำหลักธรรมอะไร ไปใช!นการปลูกฝืงคุณธรรมลูกตั้งแต่วัยเด็กวัยแรกรุ่นวัยรุ่นให้เติบโต มาเป็นผู้ใหญ่ ที่มีความเข้าใจโลกและชีวิต สามารถรับผิดชอบตนเองและ ล่วนรวมได้อย่างไร โดยที่เขายิ่งเติบโต ก็ยิ่งเข้าใจตนเอง ยิ่งสามารถ ควบคุมตนเองให้เป็นผู้ที่ละเว้นความชั่ว ทำ ความดี กลั่นจิตใจให้ผ่องใส สามารถเติบโตมาเป็นคนดีไปได้ตลอดรอดผิง เป็นบุคคลที่ประเทศชาติ ได้พิ่งพาอาลัยในอนาคตต่อไป วิริยะ ดุสิตพงดี ประธานชมรมนักคิดนักเฃียนเพื่อสันติภาพโลก มูลนิธิพัฒนาการดีกษาเพื่อดีลธรรม PoWIjoimli ใฟ้เรDJไ ๔๑ ฬุ

ป้ญหา^ลธรรม www.kalyanamitra.org กับการเลี้ยงลูกให้เป็นคนดี

^1— www.kalyanamitra.org

บทเรียนวิกฤตเศรบฐกิจ บทเรียนปัญหากิลธรรม ก่อนที่จะพูดถึงเรื่องอื่นๆ ต่อไป www.kalyanamitra.org ผมขอย้อนเวลากลับไปเมื่อ ปลายปี พ.ศ. ๒๕๓๙ เพื่อจะชี้ให้เห็นว่า ป็ญหาวิกฤตเศรษฐกิจในครั้งนั้น มีสาเหตุ มาจากวิกฤตป็ญหาสืลธรรมของประเทศ เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่และคุณผู้อ่านได้เห็นภาพ ตรงกันว่า งานปลูกฝืงสีลธรรมลูกหลาน ใ^เมีอของท่านนั้น มันสำสัญ ต่อประเทศชาติอย่างมาก สอนฟ้)8พ่ใ!ใส้ฌ็พ่1«ย'พ ะก 1ท1ท็บนว็ก(1«เพ5ย3คอ บทเว็ยนป้ญVllflflimjl

ช่วงปลายปี พ.ศ.๒๕๓๙นั้น เป็นจุดเริ่มต้นที่ประเทศไทยประสบ www.kalyanamitra.org ภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจและรุนแรงเพิ่มขึ้นมาตามลำดับ จนถึงขัน วิกฤตขนาดที่ว่า หลังจากประกาศลดค่าเงินบาท เมื่อวันที่ ๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๐ ไปแล้ว ก็ทำ ให้ใครหลายๆ คนที่ผมรู้จัก ซึ่งเป็นคนดีมี สืล ๕ ทำ มาหากินโดยสุจริต มีลูกน้องอีกเป็นพันกว่าชีวิตที่ต้องรับ ผิดชอบ ต้องเจ็บหนักปางตายกันทั้งองค์กรทีเดียว บางท่านเล่าให้ฟังว่า ก่อนเข้านอนเขายังมีเครดิตเป็นเศรษฐีพันล้าน แต่พอตื่นนอนตอนเช้า เขามีหนี้อยู่เจ็ดหมื่นล้าน ชั่งเป็นความผันผวนที่ โหดร้ายทารุณเหลือเกิน ซึ่งถ้าท่านเหล่านั้น ไมใช่เป็นนักฝึกสมาธิตัวยง ก็คงจะไม่สามารถควบคุมจิตใจให้มั่นคง พอที่จะยอมรับความจริงที่ เป็นมรสุมลูกใหญ่ของชีวิตไต้ ท่านตั้งหลักไต้ด้วยอำนาจการฝึกสมาธิ จึงยังคงมีสติสัมปชัญญะที่แจ่มใส มีขวัญก่าล้งใจที่เข้มแข็ง มีความ เชื่อมั่นว่าจะสร้างขึ้นมาใหม่ได้แล้วก็กัดฟันสู้กับมรสุมวิกฤตต่างๆ ต่อไป โดยไม่ยอมแพ้ต่อชะตากรรมของประเทศ และวันนี้เมฆฝนบางส่วนก็ เริ่มเลือนหายไปแล้ว ฟ้าหลังฝนก็ค่อยๆ เริ่มสดใสขึ้'แมาตามลำดับ แต่อย่างไรก็ตาม ในมรสุมวิกฤตย่อมมีการสูญเสียที่ไม่ใช่ความ โกรธแค้น แต่เป็นสิงที่ต้องจดจำไว้เป็นบทเรียนของตัวเอง ผมจำได้ว่า ปัญหาหนี้สินไต้ทำให้ทั้งบ้านทั้งเมีองของเรากลัดกลุ้มคลุ้มคลั่งกันไปทั่ว บางครอบครัว พอพ่อแม่ลูกกินข้าวกันอิ่มแล้ว พ่อบ้านก็แจกยาพิษให้ลูก ให้เมียกิน ฆ่าตัวตายพร้อมกันทั้งบ้าน เพิ่อหนีปัญหาหนี้สินที่เพิ่มขึ้น กะทันหัน ผมฟังข่าวนี้แล้ว ก็ไค้แต่นั่งนี้าตาซึม พูดอะไรไม่ออก เพราะ สงสารครอบครัวเขา และเข็ดขยาดกับมรสุมเศรษฐกิจลูกนี ส£)โฬั่ง8ย่13ไ1 ใพ้เรองไทยไ*ฟ้นพั๋ร ^ก ร' vnnuuinrif นทฟ้ยนรyทา?an••.ง;

ในช่วงที่ประเทศไทยต้องติดหนี้เพิ่มเปีนตัวเลขมหาศาลนั้น ผม www.kalyanamitra.org เองก็ยังคิดไม่ออกว่า เราจะหาทางใช้หนี้ต่างชาติให้หมดสินไต้อย่างไร หนีมันถึงจะไม่ตกไปเป็'แภาระของลูกหลาน (ปัจจุบัน เมื่อวันที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๔๖ รัฐบาลได้คืนเงินกู้งวดสุดท้าย จำ นวน ๑,๖๐๐ ล้าน เหรียญสหรัฐ ให้แก่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรีอไอเอ็มเอฟ หมดสินแล้ว เป็นการชำระหนี้ก่อนกำหนด ๒ ปี) เหตุการณ1นวันอดีตนัน ขัดกับหลักการเรื่องต้นทุนประเทศที่ผม ได้คิกษามาอย่างรุนแรง ผมไม่เคยคิดมาก่อนว่า ประเทศเราจะประสบ ชะตากรรมขนาดนี ผมจึงอดสงสัยไม่ได้ว่า อะไรทำให้เมืองไทยประสบ ปัญหามากมายถึงเพียงนี้ § SEwijEiin'n \"พฟ้องไ*!ยไฟ้พุ้น่ใทั๋? ร^\"' P นท.ร็ยนวิทฤ?เ.»Tn)jriii umnuuilryii-rpatr!-!!.

ผมเริ่มสำรวจปัจจัยพื้นฐานทีละอย่าง ตั้งแต่ต้นทุนทางธรรมชาติ www.kalyanamitra.org ผมก็พบว่าแผ่นดินไทยส่วนใหญ่ก็ยังอุดมสมใJธณ์ดี ผ่นฟ้ายังตกต้อง ตามฤดูกาล แหล่งนํ้าส่วนใหญ่ของเมืองไทยก็ยังบริบูรณ์ดีอยู่ ยังนำมา ใช้อาบ ดื่ม กิน และทำการเกษตรไต้อย่างพอเพียง ทรัพยากร ธรรมชาติอื่นๆ ชองเมืองไทยก็ยังพอจะหล่อเลียงประเทศได!ปอีกหลาย ชั่วอายุคน ขณะที่ประเทศในยุโรปบางประเทศยังอุดมสมบูรณ์น้อยทว่า เราเลียอีก ซึ่งตรงนี้สะท้อนให้เห็นว่า เมืองไทยไม่ได้จน ครั้นเมื่อหันมาดูในด้านการดีกษา ก็ยังพบอีกว่า แท้ที่จริงแล้ว คน ไทยไม่ไดโง่ เพราะทุกๆ ปีเด็กไทยของเราคว้าเหรียญทองวิชาการ โอลิมปิกโลกติดมือกลับมาอวดคนไทยเสมอ หันมาดูต้านสถิติ ก็พบว่า จำ นวนประชากรไทยที่จบปริญญาตรี ปริญญาโท ปริญญา เอก มื แนวโน้มมากขึ้นทุกปี ซึ่งตรงนี้สะท้อนให้เห็นว่า เรีองวิชาการทางโลกน้น คนไทยไม่ได้โง่ แต่ทำไม ทั้งๆ ที่เมืองไทยมืต้นทุน ทังทรัพยากรคน และ ทรัพยากรธรรมชาติ ที่ดีต่อการพัฒนาประเทศถึงเพียงนี ประเทศไทย กลับเผชิญมรสุมเศรษฐกิจ แล้วถูกชำเติมด้วยปัญหายาเสพติด ปัญหา การขายบริการทางเพศ ปัญหาอาชญากรรม และปัญหาอีนๆ อย่างหนัก จนถึงขั้นเศรษฐกิจที่เป็นลัมมาอาชีพล่มสลายกันเปีนทิรแกร แล้วก็เกิด ธุรกิจอบายมุขเพิ่มขึ้นมาถล่มประเทศอีกระลอก กลายเป็นว่าเรายากจน ทั้งประเทศแล้ว ยังเอาเงิน.มาจมกับอบายมุขอีก ผมเห็นเช่นนี้แล้ว ก็ไต้แต่ไม่เข้าใจ เพราะการกอบกู้ประเทศชาติ ต้องใช้คนที่มืกำลังใจ และมืต้กยภาพ แต่ประชาชนส่วนใหญ่กลับ ๙๘ บทเรัยนวิกฤ®เศรชุIกิจ บท(รั!พปีญหาล้อธรรม ส0นฟ้4อ!ก่งไร ให้เมืองไทขไล้กู้น่าที่ค

ทำ ลายคุณภาพตนเองด้วยอบายมุขเช่นนี้ แล้วประเทศของเราจะพลิก www.kalyanamitra.org ฟืนขึ้นมาได้อย่างไร ผมจึงยิ่งไม่เข้าใจหนักเข้าไปอีกว่า ทำ ไมประเทศไทยที่มีต้นทุน ประเทศอย่างมหาศาล ไม่จนทั้งทรัพยากรธรรมชาติ ไม่จนทั้งสติปัญญา ความสามารถ แต่พอเจอวิกฤตเศรษฐกิจ การเงินของประเทศกล้บจม ดิ่งเช่นนี้ แล้วนี้จะแกไขกันอย่างไร แล้ววันหนึ่งผมก็เข้าใจ ท่านพระมหาเถระได้ให้ศวามกระจ่างแก่ ผมในเรื่องนี้ว่า \"ป็ญหาวิกฤต^,ศรษฐกิจที่ผ่า^เมานั้นแท้จริงแล้ว คือปัญหา วิกฤตคืลธรรมของประเทศไทย\" ความจริงวิกฤตเกิดสะสมมาก่อนหน้านี้นานแล้ว เพราะตลอดระยะ เวลากว่าลิบปีที่ผ่านมา เรามองว่าผู้ที่รักษาสืล ๕ เป็นพวกล้าหลัง ไม่ทัน สมัย แล้วมองว่าการโกง การเอาเปรียบเล็กๆ น้อยๆ เป็นเรื่องดี การค้า บริการทางเพศเป็นเรื่องดี การดื่มเหล้าเป็นเรื่องดี มองอย่างนี้ปอยเข้า วินิจฉัยดีๆ ก็ล้ม ล้มถึงขนาดว่า ในช่วงเวลาดังกล่าว ผู้หญิงไทยเดินทาง ไปประเทศไหน ก็มักถูกถามว่า ราคาเท่าไหร่ ผู้ชายไทยทั้งประเทศก็ ถูกมองว่าเป็นแมา แต่เราก็ไม่ใส่ใจที่จะแกไขภาพพจน์ของประเทศไทย อย่างจริงจัง ภาพพจน์ของเราก็เลยกลายเป็นคนที่ไม่มีเครดิตในสายตา ชาวโลก ในที่สุด ก่อนจะเกิดวิกฤต พ.ศ. ๒๕๔๐ นั้น เราจึงได้ผิดพลาด ครั้งใหญ่ คือเราเลือกตัวแทนขึ้นไปบริหารประเทศ ทั้งๆ ที่รู้ว่า บางคน ขึ้นไปแล้วก็ไม่ได้ยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นหลัก ไม่ได้มีคืลธรรม ที่แท้จริง แล้วเราก็เจ็บกันทั้งประเทศ รอฬ่งแย่ฬไาใทฟ้เพไทยไ»iผู้นาทร ฐ^^®^ บทlimonttinmujfii บทพ็ยนปี!!unfinim).

ท่านให้หลักการผมตรงนี้ แล้วก็อธิบายความลึกซึ้งของปัญหานี้ ให้ผมฟังอยู่ ๔ ประเด็นสำคัญด้วยกัน และนั่นคือบทเรียนที่ผมจำมาถึง ทุกวันนี้ ซึ่งผมก็อยากเล่าให้คุณพ่อคุณแม่และคุณผู้อ่านได้ฟังบ้าง เพื่อ อธิบายว่า ท่าไมผมจึงพาดหัวไว้ตอนต้นว่า งานปลูกฝืงคืลธรรมลูก หลานในมือของท่านนั้น สำ คัญต่อการเตรียมประเทศไทยให้อยู่รอดใน เวทีโลก และท่าไมเราจึงต้องเลือกหลักธรรมของพระสัมมาส้มพุทธเจ้า มาเป็นเฌ่บทหลักในการปลูกฝังศีลธรรมเยาวชนของประเทศ ประเด็นที่ ๑ ภาพรวมความเสียหายทางด้านเศรษฐกิจ www.kalyanamitra.org และสังคม ท่านพระมหาเถระเล่าให้ผมฟังว่า เมื่อก่อนหน้า ปี พ.ศ. ๒๕๓๙ ประมาณสองปี นักการธนาคารโลกออกมาให้สัญญาณเตือนภัยว่า เศรษฐกิจโลกจะตกตํ่าลง และค่าเงินไทยควรจะลดลงมาอยู่ที่ประมาณ๓๐ บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แต่เราไม่ได้หามาตรการป้องกันล่วงหน้า พอ ประชาชนรับรู้อย่างกะทันหัน ตั้งหลักไม่ทัน ก็ตกใจทั้งประเทศ แล้วเรา ก็ต้องจ่ายค่าตกใจเกินกว่าจำเป็น ค่าตกใจนี้แพงอย่างมหาศาล เพราะ มันท่าให้เศรษฐกิจและ ลังคมของเราสาหัสปางตาย ๑. ความเสียหายทางด้านเศรษฐกิจ ความเสิยหายด้านนี้ คุณผู้อ่านหลายท่านคงได้เห็นมาแล้วด้วยตัว เอง ก็คือ ส!ทฟ้3อ!jiAi ใท้ฟ้ทนใrพุ้;พี? บทเใยนว่กฤร;inชุทิจ!.ทเร็นนร!Vทพีar.วม