Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 4.aephnluukesuuethaksachiiwit_p.4-com

Description: 4.aephnluukesuuethaksachiiwit_p.4-com

Search

Read the Text Version

ใบความรู้ ความเป็นสภุ าพบรุ ษุ และกลุ สตรี สุภาพบุรษุ นัน้ หาใช่.....บุคคลทแ่ี ต่งตวั ด.ี ..พูดจาไพเราะ...เก่งกาจด้านการเรยี น...ร่ารวยเงนิ ทองไมห่ ากแต่เป็นบุคคลทเ่ี ป็นคนดขี องสงั คมและ สามารถทาอะไรทเ่ี ป็นประโยชน์ต่อผอู้ ่นื และเป็นคน ทส่ี ามารถทาใหผ้ อู้ ่นื มคี วามสุขได้ สุภาพบุรุษนัน้ จริงใจ และสุภาพ มีน้าใจ และรู้ว่าสิ่งไหนควรทา และไม่ควรทา มีความ รบั ผดิ ชอบ มผี ยู้ กตวั อยา่ งพฤตกิ รรมความเป็นสุภาพบรุ ษุ ไวห้ ลายประการ เช่น - สภุ าพบุรษุ ไมต่ ะโกนโหเ่ รยี กผหู้ ญงิ - สุภาพบุรษุ ไมห่ ยบิ ยมื เงนิ ทองจากเพ่อื น ยกเวน้ ในสถานการณ์ทจ่ี าเป็นคบั ขนั จรงิ ๆ และเมอ่ื ยมื มาแลว้ จะตอ้ งรบี ใชค้ นื ทนั ทที เ่ี ป็นไปได้ - สภุ าพบุรษุ ไมโ่ ออ้ วดความร่ารวยในทรพั ยส์ นิ เงนิ ทองและสง่ิ ของเครอ่ื งใช้ - สุภาพบรุ ษุ ไมม่ พี ฤตกิ รรมต่อหน้าอยา่ งลบั หลงั อยา่ งไมว่ ่าจะอยทู่ ไ่ี หนกต็ าม - สภุ าพบรุ ษุ เคารพสทิ ธขิ องผอู้ ่นื และตอ้ งการใหผ้ อู้ ่นื ปฏบิ ตั ติ ่อตนเชน่ เดยี วกนั - สภุ าพบุรษุ คอื ผทู้ ย่ี นื หยดั อยบู่ นลาแขง้ ของตวั เองเป็นตน้ กลุ สตรตี ามความหมายในปัจจบุ นั คอื ผทู้ ข่ี วนขวายหาความรใู้ หก้ บั ตวั เองในทุกวถิ ที างทเ่ี ป็นไป ได้นับตงั้ แต่การศกึ ษาจนถงึ เรยี นรู้มารยาทสงั คมทวั่ ไปจงึ ส่งผลให้มกี รยิ ามารยาทงดงามและประสบ ความสาเรจ็ กุลสตรรี ู้ดวี ่าความสวยงามและมงั่ คงั่ สามารถจะหายไปได้ในพรบิ ตาแต่นิสยั ใจคอจะเป็น เกณฑว์ ดั และตดั สนิ เธอในฐานะคนคนหน่งึ ความสุภาพอ่อนโยนเป็นการแสดงความนบั ถอื อยา่ งสงู ทเ่ี ธอมี ต่อตวั เองและผอู้ ่นื และถอ้ ยคาช่นื ชมยกยอ่ งและเหน็ อกเหน็ ใจผอู้ ่นื อย่างจรงิ ใจจะสะทอ้ นใหเ้ หน็ ค่านิยม ในทางทด่ี งี ามของเธอ การเป็นกุลสตรคี อื ศลิ ปะไม่ใช่ชาตกิ าเนิดคอื สง่ิ เรยี นรจู้ ากได้จากความใส่ใจและ การหมนั่ ฝึกฝนตนเองอยา่ งสม่าเสมอ 100 ค่มู ือการจดั กิจกรรมลูกเสือสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ลูกเสือตรี ชนั้ ประถมศึกษาปี ที่ 4

แผนการจดั กิจกรรมลกู เสือ หลกั สตู รลกู เสือสามญั (ลกู เสือตรี) ชนั้ ประถมศึกษาปี ท่ี 4 หน่วยท่ี 4 คาปฏิญาณและกฎของลกู เสือสามญั เวลา 1 ชวั่ โมง แผนการจดั กิจกรรมท่ี 16 การส่ือสารเพื่อบอกความต้องการ 1. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ลกู เสอื สามารถสอ่ื สารเพอ่ื บอกความตอ้ งการได้ 2. เนื้อหา วธิ กี ารส่อื สารเพอ่ื บอกความตอ้ งการ 3. สื่อการเรียนรู้ 3.1 แผนภมู เิ พลง 3.2 เกม 3.2 ใบงาน 3.3 ใบความรู้ 3.4 เรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 4. กิจกรรม 4.1 พธิ เี ปิดประชุมกอง (ชกั ธงขน้ึ สวดมนต์ สงบนิ่ง ตรวจ แยก) 4.2 เพลง หรอื เกม 4.3 กจิ กรรมตามจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1) ผกู้ ากบั ลกู เสอื แจกใบความรู้ บรรยายขนั้ ตอนทกั ษะการส่อื สารเพอ่ื บอกความต้องการ พรอ้ มยกตวั อยา่ ง 2) หมลู่ กู เสอื รว่ มกนั ฝึกทกั ษะการสอ่ื สารเพอ่ื บอกความตอ้ งการตามใบกจิ กรรม 3) รวมกอง สุ่มใหห้ มลู่ กู เสอื รายงานทลี ะสถานการณ์ และใหห้ มอู่ ่นื ทไ่ี ดส้ ถานการณ์ เดยี วกนั ช่วยเพม่ิ เตมิ ผกู้ ากบั ลกู เสอื และลกู เสอื หมอู่ ่นื รว่ มกนั ประเมนิ ความถูกตอ้ ง จนครบทงั้ 3 สถานการณ์ 4.4 ผกู้ ากบั ลกู เสอื เลา่ เรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 4.5 พธิ ปี ิดประชุมกอง (นดั หมาย ตรวจเครอ่ื งแบบ ชกั ธงลง เลกิ ) 5.การประเมินผล 5.1 สงั เกตความรว่ มมอื ในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม 5.2 สงั เกตกระบวนการคดิ จากการอภปิ ราย คมู่ อื การจดั กจิ กรรมลกู เสือสามัญเสรมิ สร้างทักษะชีวติ ลกู เสอื ตรี ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 4 101

6.องคป์ ระกอบทกั ษะชีวิตสาคญั ท่ีเกิดจากกิจกรรม การสรา้ งสมั พนั ธภาพ และการส่อื สาร ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กิจกรรมที่ 16 เพลง เดก็ กางร่ม ฝน ฝน ฝน เดก็ สองคนกางรม่ หน่งึ คนั ฝนตกแรงไมห่ วนั่ ฝนตกแรงไมห่ วนั่ รม่ หน่งึ คนั กางกนั สองคน ฝน ฝน ฝน เดก็ สามคนกางรม่ หน่งึ คนั ฝนตกแรงไมห่ วนั่ ฝนตกแรงไมห่ วนั่ รม่ หน่งึ คนั กางกนั สามคน ฝน ฝน ฝน เดก็ สค่ี นกางร่มหน่งึ คนั ฝนตกแรงไมห่ วนั่ ฝนตกแรงไมห่ วนั่ รม่ หน่งึ คนั กางกนั สค่ี น เอ๊า!!.. เกม เกมรถไฟด่วน แบ่งลกู เสอื เป็นหมู่ ใหแ้ ต่ละหมเู่ ขา้ แถวตอนเรยี งหน่งึ มอื ทงั้ สองแตะบ่าลกู เสอื คนขา้ งหน้า เรมิ่ เล่น ใหท้ ุกคนวงิ่ ไปขา้ งหน้าในลกั ษณะแถวตอนเรยี งหน่ึง โดยมอื ตอ้ งไม่หลุดจากบ่าคนขา้ งหน้า วง่ิ ไป จนคนสดุ ทา้ ยผ่านเสน้ ชยั การตดั สิน หมใู่ ดผ่านเสน้ ชยั ก่อนเป็นผชู้ นะ เร่ืองสนั้ ท่ีเป็นประโยชน์ คางคกกบั สนุ ัขจิ้งจอก คางคกคุยอวดสุนขั จง้ิ จอกวา่ \"เจา้ รไู้ หมว่าขา้ สามารถรกั ษาโรคภยั ไขเ้ จบ็ ต่างๆ ได้ ขา้ เป็นหมอ เทวดา มยี าวเิ ศษมากมายหลายขนานเจา้ เชอ่ื ขา้ เถอะนะ\" สุนขั จง้ิ จอกไดฟ้ ังกห็ วั เราะเยาะเเลว้ ว่า \"ขา้ กอ็ ยากจะเช่อื เจา้ หรอกนะถ้าเจา้ รกั ษาผวิ หนงั ตะป่มุ ตะป่ า ของเจา้ ใหห้ ายดไี ดเ้ สยี ก่อน \" เรอ่ื งนี้สอนให้ร้วู ่า ผอู้ ่นื ย่อมเช่อื ถอื ผลงานมากกวา่ คาโออ้ วด 102 ค่มู ือการจดั กิจกรรมลกู เสือสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ลูกเสือตรี ชนั้ ประถมศกึ ษาปี ที่ 4

ประเดน็ การวิเคราะหค์ ณุ ธรรมที่ได้ 1. ซ่อื สตั ย์ สุจรติ 2. ความรบั ผดิ ชอบ 3. อุดมการณ์ คณุ ธรรม ใบงาน ใหล้ กู เสอื แต่ละหมู่ รว่ มกนั คดิ ประโยคสอ่ื สารเพอ่ื บอกความตอ้ งการ ในสถานการณ์ท่ี กาหนดให้ ตามขนั้ ตอนการสอ่ื สารเพอ่ื บอกความตอ้ งการ 4 ขนั้ ตอน เขยี นประโยคคาพดู ลงในตาราง ดา้ นล่าง และส่งตวั แทนรายงานในกองลกู เสอื สถานการณ์ หมทู่ ่ี 1 และ 4 ตอ้ งการใหเ้ พ่อื นในหม่ชู ว่ ยขนเตน็ ทไ์ ปเกบ็ หมทู่ ่ี 2 และ 5 ตอ้ งการใหเ้ พอ่ื นในหมมู่ าประชุมเพอ่ื วางแผนจดั นทิ รรศการในตอนบา่ ย หมทู่ ่ี 3 และ 6 ตอ้ งการใหเ้ พอ่ื นในกองลกู เสอื รว่ มกนั บรจิ าคเงนิ ชว่ ยผปู้ ระสบภยั น้าทว่ มท่ี ภาคใต้ สถานการณ์ ................................................................................................................................................... ขนั้ ตอน ตวั อย่างคาพดู 1. บอกความรสู้ กึ อาจมหี รอื ไมม่ เี หตุผลประกอบ ขน้ึ กบั สถานการณ์ 1. 2. 2. บอกความตอ้ งการอยา่ งตรงไปตรงมา 3. ถามความเหน็ เป็นการใหเ้ กยี รตคิ สู่ นทนา 3. 4. ขอบคณุ หรอื แสดงความช่นื ชมเมอ่ื อกี ฝ่าย 4. ยอมรบั คู่มือการจัดกจิ กรรมลูกเสอื สามญั เสรมิ สรา้ งทักษะชีวติ ลูกเสอื ตรี ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 4 103

ใบความรู้ การสื่อสารเพื่อบอกความต้องการ หลกั การส่ือสารทางบวก 1. ควบคุมอารมณ์ให้สงบขณะส่อื สาร เพราะการส่อื สารขณะกาลงั อารมณ์ไม่ดี เช่น โกรธ อาจจะใชค้ าพดู และท่าทางทไ่ี มเ่ หมาะสมได้ 2. ตอ้ งรคู้ วรพดู เวลาใด และสถานทใ่ี ดทค่ี วรพดู โดยคสู่ นทนามคี วามพรอ้ มทจ่ี ะฟัง 3. เป็นการส่อื สารทส่ี รา้ งความรสู้ กึ ทด่ี ตี ่อคสู่ นทนา เชน่ ทาใหเ้ ขาเกดิ ความภมู ใิ จ, ให้ ความสาคญั , ใหเ้ กยี รตเิ ป็นตน้ ฯลฯ ขนั้ ตอนการส่ือสารเพ่ือบอกความต้องการ ตวั อยา่ งสถานการณ์ : ตอ้ งการยมื สมดุ จดการบา้ นของเพอ่ื น ขนั้ ตอน ตวั อย่างคาพดู 1. บอกความรสู้ กึ อาจมหี รอื ไมม่ เี หตุผลประกอบ 1. ดใี จจงั ไดเ้ จอเธอพอดี ขน้ึ กบั สถานการณ์ 2. อยากขอยมื สมุดจดการบา้ นเธอหน่อย 2. บอกความตอ้ งการอยา่ งตรงไปตรงมา 3. ถามความเหน็ เป็นการใหเ้ กยี รตคิ ่สู นทนา 3. ไดไ้ หมจะ๊ 4. ขอบคณุ หรอื แสดงความช่นื ชมเมอ่ื อกี ฝ่าย 4. ขอบคณุ มากนะ ยอมรบั 104 ค่มู อื การจดั กิจกรรมลกู เสือสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ลกู เสือตรี ชนั้ ประถมศกึ ษาปี ที่ 4

แผนการจดั กิจกรรมลกู เสือ หลกั สตู รลกู เสือสามญั (ลกู เสือตรี) ชนั้ ประถมศึกษาปี ท่ี 4 หน่วยท่ี 4 คาปฏิญาณและกฎของลกู เสือสามญั เวลา 2 ชวั่ โมง แผนการจดั กิจกรรมที่ 17 ส่ิงประดิษฐจ์ ากขยะ 1. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ลกู เสอื สามารถอธบิ ายความสาคญั ของการลดปรมิ าณขยะ และรว่ มกนั ทาสง่ิ ประดษิ ฐจ์ ากขยะได้ 2. เนื้อหา การประดษิ ฐส์ ง่ิ ของเครอ่ื งใชจ้ ากวสั ดเุ หลอื ใชป้ ระเภทขยะ 3. สื่อการเรียนรู้ 3.1 แผนภมู เิ พลง 3.2 เกม 3.2 เศษวสั ดุ วสั ดเุ หลอื ใช้ วสั ดขุ ยะ อุปกรณ์การตดั และการประดษิ ฐ์ 3.3 เรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 4. กิจกรรม 4.1 พธิ เี ปิดประชุมกอง (ชกั ธงขน้ึ สวดมนต์ สงบนงิ่ ตรวจ แยก) 4.2 เพลง หรอื เกม 4.3 กจิ กรรมตามจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1) มอบหมายใหล้ กู เสอื รวบรวมกลอ่ งนม / ถุงนม / หรอื ขวดน้าพลาสตกิ ทไ่ี มใ่ ชแ้ ลว้ มา ประดษิ ฐเ์ ป็นของใช้ 2) ผกู้ ากบั ลกู เสอื นาตวั อยา่ งสงิ่ ประดษิ ฐจ์ ากกล่องนม ถุงนมหรอื ขวดน้าพลาสตกิ เช่น เสอ่ื รองนงั่ กระเป๋ าถอื ตะกรา้ ใส่ของ ฯลฯ ใหล้ กู เสอื เลอื กประดษิ ฐต์ ามวสั ดทุ ล่ี กู เสอื มอี ยู่ 3) ลกู เสอื แต่ละหมู่ เลอื กประดษิ ฐส์ ง่ิ ของตามแบบตวั อยา่ งทห่ี มสู่ นใจ หลงั ทาเสรจ็ ให้ ส่งตวั แทนนาเสนอในกองลกู เสอื พรอ้ มบอกประโยชน์ใชส้ อย ผกู้ ากบั ลกู เสอื ชว่ ยให้ คาแนะนา เชน่ เรอ่ื งการใชข้ องมคี มเทคนคิ การตดั ต่อหรอื การเยบ็ 4) ลกู เสอื นาสง่ิ ประดษิ ฐข์ องแต่ละหมมู่ านาเสนอ 4.4 ผกู้ ากบั ลกู เสอื เล่าเรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 4.5 พธิ ปี ิดประชุมกอง (นดั หมาย ตรวจเครอ่ื งแบบ ชกั ธงลง เลกิ ) 5. การประเมินผล 5.1 สงั เกตความรว่ มมอื ความรับผดิ ชอบและตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม 5.2 สงั เกตกระบวนการคดิ สรา้ งสรรคจ์ ากสง่ิ ประดษิ ฐ์ ค่มู ือการจัดกิจกรรมลูกเสือสามัญเสริมสรา้ งทกั ษะชีวติ ลกู เสอื ตรี ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 4 105

6. องคป์ ระกอบทกั ษะชีวิตสาคญั ที่เกิดจากกิจกรรม การคดิ วเิ คราะห์ ความคดิ สรา้ งสรรค์ ตระหนกั ถงึ ความสาคญั ของการลดปรมิ าณขยะและความ รบั ผดิ ชอบต่อสงั คม ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กิจกรรมท่ี 17 เพลง เศษกระดาษ เศษกระดาษเจา้ เอ๋ย ใครละเลยโยนเจา้ ทง้ิ ไว้ คนทง้ิ กช็ ่างใจรา้ ย คนทง้ิ ละกช็ ่างใจรา้ ย คนใดทง้ิ ผงเลอะเทอะ ถา้ แมน้ เราเจอะจะช่วยบอกให้ เอากลบั ไปใชใ้ หม่ทนั ใด ฉนั จะบอกใหร้ ไี ซเคลิ กด็ ี เกม เกมลกู เสือลอดถา้ ใหล้ กู เสอื เขา้ แถวตอนเป็นหมๆู่ ไปยนื หา่ งกนั ประมาณ 1 เมตร และยนื แยกขา พอใหส้ ญั ญาณ เรม่ิ เล่น ใหค้ นหลงั สุดคลานลอดขาคนหน้า และคนท่ี 2 – 3 ฯลฯ คลานลอดขาตามไปเลยทเี ดยี ว ไม่ ตอ้ งคอยใหค้ นหลงั ไปยนื หน้าคนหน้าสุด และใหล้ อดตามไปเรอ่ื ยๆ จนครบ 3 รอบ การตดั สิน หมใู่ ดเสรจ็ ก่อนและนงั่ ลง หมนู่ นั้ เป็นผชู้ นะ เร่ืองสนั้ ท่ีเป็นประโยชน์ คนขี้เหนียวกบั ทองคา ชายคนหน่งึ เป็นคนขเ้ี หนียวมาก เขามกั จะแอบเอาสมบตั ฝิ ังดนิ ไวร้ อบๆ บา้ นไมย่ อมนามาใช้ จา่ ยใหเ้ กดิ ประโยชน์ ต่อมาเขากลวั วา่ จะไมป่ ลอดภยั ถา้ ฝังเงนิ ทองไวห้ ลายแห่ง เขาจงึ ขายสมบตั ิ ทงั้ หมดเเลว้ ซอ้ื เป็นทองคาเเทง่ หน่งึ มาฝังไวท้ ห่ี ลงั บา้ นแลว้ มนั่ ไปดทู กุ วนั คนใชผ้ หู้ น่ึงสงสยั จงึ เเอบตาม ไปดทู ห่ี ลงั บา้ นเเลว้ กข็ ดุ เอาทองเเทง่ ไปเสยี วนั ต่อมาชายขเ้ี หนยี วมาพบหลมุ ทว่ี ่างเปล่ากเ็ สยี ใจ รอ้ งหม่ รอ้ งไหไ้ ปบอกเพอ่ื นบา้ นคนหน่งึ เพ่อื นบา้ นจงึ เเนะนาแบบประชดประชนั ว่า \"ท่านกเ็ อากอ้ นอฐิ ใสใ่ นหลมุ แลว้ คดิ วา่ เป็นทองคาสิ เพราะถงึ อยา่ งไรท่านกไ็ มเ่ อาออกมาใชอ้ ยู่ แลว้ \" เร่ืองนี้สอนให้รวู้ ่า ของมคี ่า ถา้ ไมน่ ามาทาใหเ้ กดิ ประโยชน์กย็ อ่ มเป็นของไรค้ ่า 106 คมู่ อื การจดั กิจกรรมลูกเสือสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ลูกเสือตรี ชนั้ ประถมศกึ ษาปี ที่ 4

ประเดน็ การวเิ คราะหค์ ณุ ธรรมทไ่ี ด้ 1. ความพอเพยี ง 2. ซ่อื สตั ย์ สุจรติ 3. ความรบั ผดิ ชอบ 4. กตญั ญู 5. อุดมการณ์ คุณธรรม คู่มือการจัดกจิ กรรมลกู เสือสามัญเสริมสร้างทักษะชีวิต ลกู เสือตรี ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 4 107

แผนการจดั กิจกรรมลกู เสือ หลกั สตู รลกู เสือสามญั (ลกู เสือตรี) ชนั้ ประถมศึกษาปี ท่ี 4 หน่วยที่ 5 กิจกรรมกลางแจ้ง เวลา 2 ชวั่ โมง แผนการจดั กิจกรรมท่ี 18 การใช้ประโยชน์จากเงื่อนเชือก 1. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ลกู เสอื สามารถผกู เงอ่ื นโดยใชเ้ ชอื กขนาดเดยี วกนั และเชอื กทม่ี ขี นาดต่างกนั ไดถ้ กู ตอ้ ง 2. เนื้อหา การผูกเงอ่ื นและใชป้ ระโยชน์จากเง่อื นเชอื กทใ่ี ชเ้ ชอื กขนาดเดยี วกนั (เงอ่ื นพริ อด เง่อื นประมง เง่อื นผูกรน่ เง่อื นผูกคนลาก) และเชอื กทม่ี ขี นาดต่างกนั ได้ (เง่อื นขดั สมาธชิ นั้ เดยี ว และ 2 ชนั้ ) 3. ส่ือการเรยี นรู้ 3.1 แผนภูมเิ พลง 3.2 เกม 3.2 ใบความรู้ 3.3 เชอื กขนาดเดยี วกนั และเชอื กทม่ี ขี นาดต่างกนั 3.4 เรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 4. กิจกรรม 4.1 กิจกรรมครงั้ ที่ 1 1) พธิ เี ปิดประชุมกอง (ชกั ธงขน้ึ สวดมนต์ สงบน่งิ ตรวจ แยก) 2) เพลง หรอื เกม 3) กจิ กรรมตามจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ (1) ผกู้ ากบั ลกู เสอื ชแ้ี จงวตั ถุประสงคก์ ารเรยี นรเู้ ก่ยี วกบั การผกู เชอื กโดยลกู เสอื จะเรยี นเรอ่ื งการผกู เงอ่ื น 2 ประเภทคอื การผกู เงอ่ื นโดยใชเ้ ชอื กขนาดเดยี วกนั และการผกู เงอ่ื นโดยใชเ้ ชอื กทม่ี ขี นาดต่างกนั วธิ กี ารเรยี นจะเรยี นเป็นฐาน 3 ฐาน แต่ละฐาน ลกู เสอื จะไดเ้ รยี นรกู้ ารผกู เงอ่ื น 1 ชนิด และการใชป้ ระโยชน์ของเงอ่ื น ชนิดนนั้ ๆ (2) ผกู้ ากบั ลกู เสอื ใหล้ กู เสอื เรยี นจากระบบฐาน ดงั น้ี ฐานท่ี 1 เงอ่ื นพริ อดและการใชป้ ระโยชน์ ฐานท่ี 2 เงอ่ื นประมงและการใชป้ ระโยชน์ ฐานท่ี 3 เงอ่ื นผกู รน่ และการใชป้ ระโยชน์ (3) ผกู้ ากบั ลกู เสอื และลกู เสอื รว่ มกนั สรปุ บทเรยี น พรอ้ มทงั้ มอบหมายใหล้ กู เสอื ฝึกฝน การผกู เงอ่ื นในเวลาวา่ ง 108 คมู่ อื การจดั กิจกรรมลกู เสือสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ลูกเสือตรี ชนั้ ประถมศกึ ษาปี ที่ 4

4) ผกู้ ากบั ลกู เสอื เล่าเรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 5) พธิ ปี ิดประชมุ กอง (นดั หมาย ตรวจเครอ่ื งแบบ ชกั ธงลง เลกิ ) 4.2 กิจกรรมครงั้ ท่ี 2 1) พธิ เี ปิดประชุมกอง (ชกั ธงขน้ึ สวดมนต์ สงบนิ่ง ตรวจ แยก) 2) เพลง หรอื เกม 3) กจิ กรรมตามจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ (1) ผกู้ ากบั ลกู เสอื ใหล้ กู เสอื เรยี นจากระบบฐาน ดงั น้ี ฐานท่ี 1 เงอ่ื นผกู คนลากและการใชป้ ระโยชน์ ฐานท่ี 2 เงอ่ื นขดั สมาธชิ นั้ เดยี วและการใชป้ ระโยชน์ ฐานท่ี 3 เงอ่ื นขดั สมาธิ 2 ชนั้ และการใชป้ ระโยชน์ (2) ผกู้ ากบั ลกู เสอื และลกู เสอื รว่ มกนั สรปุ บทเรยี น พรอ้ มทงั้ มอบหมายใหล้ กู เสอื ฝึกฝนการผกู เงอ่ื นในเวลาวา่ ง 4) ผกู้ ากบั ลกู เสอื เลา่ เรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 5) พธิ ปี ิดประชุมกอง (นดั หมาย ตรวจเครอ่ื งแบบ ชกั ธงลง เลกิ ) 5. การประเมินผล ตรวจสอบความถูกตอ้ งของการผกู เงอ่ื นเชอื ก และสอบถามความเขา้ ใจเกย่ี วกบั การนาเงอ่ื นไป ใชป้ ระโยชน์ ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กิจกรรมที่ 18 เพลง เพลงเงื่อนเชือก เชอื กขนาดเท่ากนั ต่อกนั ดว้ ยเงอ่ื นพริ อด สองเสน้ ไมเ่ ท่ากนั ตลอด สมาธสิ อดลอดเป็นเสน้ ยาว บว่ งสายธนู อาจชว่ ยกู้ชวี ติ ยนื ยาว กระหวดั ไม้ ใชเ้ ชอื กเสน้ ยาว ลากอา้ วๆ ไมขาดหลุดเลย คูม่ ือการจดั กจิ กรรมลูกเสือสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ลูกเสอื ตรี ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 4 109

เกม เกมครอบครวั สตั ว์ อปุ กรณ์ กระดาษเขยี นช่อื สตั ว์ ใหค้ รบจานวนผเู้ ลน่ นากระดาษเขยี นชอ่ื สตั วเ์ ป็นครอบครวั เชน่ ครอบครวั ท่ี 1 เป็นครอบครวั เสอื เขยี นพ่อเสอื แม่ เสอื ลกู ชายเสอื ลูกสาวเสอื ใหเ้ ขยี นครอบครวั สตั วจ์ นครบจานวนผเู้ ลน่ แลว้ นากระดาษมาคละกนั ใหผ้ ู้ เล่นแต่ละคนจบั เมอ่ื ผเู้ ล่นแต่ละคนจบั ไดอ้ ะไรหา้ มบอกผเู้ ล่นคนอ่นื ๆ ผกู้ ากบั ใหส้ ญั ญาณเล่น ใหผ้ เู้ ลน่ ทุกคนออกเสยี งสตั วต์ ามทต่ี นเองจบั ฉลากได้ เพอ่ื หาครอบครวั ตวั เอง ครอบครวั ทร่ี วมกนั ไดค้ รบ ใหร้ วมกลุ่มกนั แลว้ นงั่ ลง การตดั สิน ครอบครวั ทน่ี งั่ ไดถ้ กู ตอ้ งและเสรจ็ ก่อนเป็นทมี ชนะ เร่ืองสนั้ ที่เป็นประโยชน์ ราชสีหก์ บั ววั 4 ตวั กาลครงั้ หน่ึงมวี วั อยู่ 4 ตวั และเวลาออกหากนิ หญ้าในทุ่งหญา้ อนั กวา้ งใหญ่ ววั ทงั้ 4 จะไมจ่ าก กนั ไปไหนตามลาพงั เลย ไม่ว่าจะเป็นยามออกหาอาหาร หรอื กระทงั่ ยามหลบั นอน ราชสหี ์ตวั หน่ึง เหน็ ววั ทงั้ สเ่ี ขา้ กค็ ดิ ทจ่ี ะล่ากนิ เป็นอาหาร แต่มนั รดู้ วี ่าถา้ ววั ทงั้ หมดอยรู่ วมกนั เช่นน้ี มนั กไ็ มอ่ าจเขา้ จู่ โจมไดร้ าชสหี เ์ จา้ เลห่ จ์ งึ คดิ อุบายใหว้ วั ทงั้ สแ่ี ตกความสามคั คกี นั มนั พยายามเล่าเรอ่ื งราวต่าง ๆ ใหว้ วั แต่ละตวั ฟัง เพ่อื ก่อความระแวงสงสยั ซง่ึ กนั และกนั ในทส่ี ดุ แผนการของมนั กป็ ระสบผลสาเรจ็ ววั ทงั้ ส่ี ต่างมแี ต่ความอจิ ฉารษิ ยา และระแวงกนั อยู่ตลอดเวลา ในไม่ช้า มนั ก็แตกกลุ่ม แยกกนั ออกหา อาหารตามลาพงั ทาใหร้ าชสหี ส์ ามารถฆา่ ววั แต่ละตวั เป็นอาหารไดอ้ ย่างงา่ ยดาย เรือ่ งนี้สอนให้รวู้ ่า สามคั คคี อื พลงั ต้นโอก๊ ผยู้ ่ิงใหญ่ เยน็ วนั หน่งึ เกดิ พายใุ หญ่พดั กระหน่าจนตน้ ออ้ นนั้ พากนั เอนล่ไู ปตามกระเเสลม ตน้ โอ๊กใหญ่ เหน็ เช่นนนั้ จงึ ถามตน้ ออ้ ว่า “ไฉนเจา้ จงึ ไมย่ นื น่ิงตา้ นเเรงลมเลา่ ” ตน้ ออ้ ตอบอยา่ งถ่อมตนวา่ “ขา้ นนั้ เป็นตน้ ไมเ้ ลก็ ๆ ไมม่ เี เรงกาลงั มากเช่นท่าน ลมพดั ไปทางไหนจงึ ตอ้ งเอนไปทางนนั้ ” ตน้ โอ๊กไดฟ้ ังกห็ วั เราะดงั ลนั่ อยา่ งภาคภูมใิ จในความยงิ่ ใหญ่ของตนคนื นัน้ พายยุ งั คงโหม กระหน่ารนุ เเรง ตน้ โอ๊กทต่ี า้ นแรงลมไมไ่ หวจงึ หกั โค่นลง เหลอื เเต่ตน้ ออ้ ทย่ี งั มชี วี ติ อยู่ เเละเมอ่ื พายุ สงบลง ตน้ ออ้ กก็ ลบั ยนื ตรงไดอ้ กี ครงั้ เรื่องนี้สอนให้รวู้ ่า การรจู้ กั โอนอ่อน ยอ่ มหยดั ยนื อยไู่ ดน้ านกวา่ ความแขง็ กระดา้ ง 110 คมู่ อื การจดั กิจกรรมลูกเสือสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ลกู เสือตรี ชนั้ ประถมศึกษาปี ที่ 4

ประเดน็ การวเิ คราะหค์ ณุ ธรรมทไ่ี ด้ 1. ความพอเพยี ง 2. ซ่อื สตั ย์ สุจรติ 3. ความรบั ผดิ ชอบ 4. กตญั ญู 5. อุดมการณ์ คุณธรรม คู่มือการจัดกจิ กรรมลกู เสือสามัญเสริมสร้างทักษะชีวิต ลกู เสือตรี ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 4 111

ใบความรู้ 1. การผกู เงื่อนโดยใช้เชือกขนาดเดียวกนั และต่างขนาดกนั ประเภทของเงื่อนเชือก แบง่ ออกเป็นกลุ่มใหญ่ๆได้ 3 กลมุ่ คอื 1. ประเภทต่อเชือกเข้าด้วยกนั เพ่อื ใชป้ ระโยชน์ต่อเชอื กใหย้ าวขน้ึ ผกู ได้ 2 แบบไดแ้ ก่ การ ต่อเชอื กขนาดเดยี วกนั เช่นเงอ่ื นพริ อดเงอ่ื นขดั สมาธิ เงอ่ื นประมง การต่อเชอื กต่างขนาดกนั เชน่ เงอ่ื น ขดั สมาธิ 2. ประเภททาเป็ นบ่วง เพ่อื ใช้ประโยชน์สาหรบั คล้องหรอื สวมกบั หลกั เช่นเง่อื นบ่วงสายธนู เงอ่ื นผกู คนลากเงอ่ื นเกา้ อ้ี รอกเชอื ก 3. ประเภทผกู กบั วตั ถุ เพ่อื ใชป้ ระโยชน์สาหรบั ผกู ใหแ้ น่น ใชร้ งั้ ใหต้ งึ หรอื ดงึ ใหแ้ น่น เชน่ เงอ่ื น ผกู ซุงเงอ่ื นบุกเบกิ เง่อื นตะกรุดเบด็ เง่อื นผกู ถงั เง่อื นกระหวดั ไมเ้ งอ่ื นผูกรงั้ เงอ่ื นขนั ชะเนาะ เงอ่ื นผูก ประกบเงอ่ื นผกู กากบาทเงอ่ื นผกู ทแยง 2. ประโยชน์และวิธีการผกู เงื่อน เงื่อนพิรอด ประโยชน์ 1. ใชต้ ่อเชอื กขนาดเท่ากนั เหนยี วเทา่ กนั 2. ใชผ้ กู ปลายเชอื กเสน้ เดยี วกนั เพ่อื ผกู มดั หอ่ สงิ่ ของและวตั ถุต่างๆ 3. ใชป้ ระโยชน์ในการปฐมพยาบาลผทู้ ไ่ี ดร้ บั บาดเจบ็ เช่น ผกู ชายผา้ พนั แผล ผกู ชายผา้ 4. ผกู เชอื กรองเทา้ ผกู โบ วิธีผกู 112 คมู่ ือการจดั กิจกรรมลูกเสือสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ลกู เสือตรี ชนั้ ประถมศกึ ษาปี ที่ 4

เงื่อนประมง (เงอ่ื นหวั ลา้ นชนกนั ) ประโยชน์ 1. ใชใ้ นการต่อเชอื กทม่ี ขี นาดเดยี วกนั 2. ใชต้ ่อเชอื กทม่ี ลี กั ษณะล่นื หรอื มขี นาดเลก็ เชน่ ต่อสายเอน็ ตกปลา 3. ชอ่ งกลางระหว่างปมนนั้ ใชเ้ ชอื กลอ็ คยดึ สงิ่ ของ หรอื ใชเ้ ป็นห่วงรดู กไ็ ด้ เช่น ใชผ้ กู คอขวดเพ่อื การถอื หรอื หว้ิ 4. ใชต้ ่อเชอื กทอ่ี ยกู่ นั คนละจดุ โยนเชอื กใหก้ นั และกนั แลว้ ผกู รดู ปมเขา้ ต่อกนั วิธีผกู นาเชอื ก 2 เสน้ มาวางขนานกนั เอาปลายทจ่ี ะผูกแต่ละเสน้ พนั ทบั ซง่ึ กนั และกนั เสรจ็ แลว้ มว้ นปลายเชอื กกลบั มาพนั รอบตวั ของมนั เอง 1 รอบสอดปลายเชอื กลอดห่วงดงึ ให้แน่นทาเหมอื นกนั ทงั้ 2 เสน้ หลงั จากนัน้ ดงึ กกเชอื กของทงั้ 2 เสน้ ให้ปมท่เี กดิ นัน้ วง่ิ มาชนกนั เขา้ จะเกดิ เง่อื นหวั ลา้ นชน กนั เง่ือนผกู ร่น ประโยชน์ ใชผ้ กู รน่ ทบเชอื กทช่ี ารุดเลก็ น้อยใหม้ คี วามแขง็ แรงมากขน้ึ โดยไมต่ อ้ งตดั เชอื กทง้ิ แลว้ มาต่อใหม่ ใชท้ บเชอื กทย่ี าวมากๆใหส้ นั้ ลง วิธีผกู นาเชอื กส่วนทช่ี ารดุ หรอื ส่วนทจ่ี ะร่นนัน้ มาวางไวต้ รงกลาง ทบเชอื กทงั้ 2 ขา้ งใหเ้ หมอื นรปู ตวั Z โดยให้ส่วนท่จี ะทาการร่นนัน้ อย่ตู รงกลางระหว่าง 2 เส้นทท่ี บ เสรจ็ แลว้ ให้นาปลายเชอื กทงั้ 2 ขา้ ง มว้ นกลบั ให้เป็นห่วงบดิ ให้ปลายเชอื กอย่ดู ้านในหรอื ทาลกั ษณะเดยี วกนั กบั เง่อื นตะกรุดเบด็ เสรจ็ แล้ว สวมเขา้ ไปท่คี อพบั เชอื กทต่ี ้องการร่นลกั ษณะหกั คอเชอื กทาเหมอื นกนั ทงั้ 2 ขา้ ง สอดปลายเชอื กลอด ผา่ นชอ่ งทบน้ที งั้ 2 ขา้ ง แลว้ ดงึ ใหแ้ น่นจะเกดิ เงอ่ื นรน่ เชอื ก คูม่ อื การจัดกิจกรรมลกู เสอื สามัญเสรมิ สร้างทกั ษะชีวติ ลกู เสือตรี ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 4 113

เงื่อนผกู คนลาก ประโยชน์ เป็นเง่อื นท่ผี ูกเป็นบ่วงแลว้ ไม่รูด ใช้ทาบ่วงคล้องไหล่เม่อื ต้องการลากของหนัก ใชผ้ ูก ของในการลากใชผ้ กู ลกู บนั ไดในการทาบนั ไดลงิ วิธีผกู 1. ขดเชอื กเป็นบ่วงใหด้ า้ นขวาทบั ดา้ นซา้ ย 2. จบั ปลายเชอื กดา้ นซา้ ยออ้ มไปทางหลงั บว่ ง 3. ดงึ บว่ งตวั ลา่ งลอดเขา้ ใตเ้ สน้ เชอื กแลว้ ดงึ ขน้ึ มา จากนนั้ จดั เงอ่ื นใหเ้ รยี บรอ้ ย เง่ือนขดั สมาธิ เป็นเงอ่ื นทม่ี ปี ระโยชน์ในการต่อเชอื กทม่ี ขี นาดต่างกนั หรอื ขนาดเท่ากนั โดยใชเ้ สน้ ใหญ่ทาเป็นบ่วงส่วนเสน้ เลก็ เป็นเสน้ พนั ขดั ประโยชน์ 1. ใชต้ ่อเชอื กทม่ี ขี นาดต่างกนั 2. ใชผ้ กู กบั สงิ่ ทม่ี ลี กั ษณะเป็นขอหรอื เป็นหอู ยแู่ ลว้ เช่น เชอื กรอ้ ยธงชาติ เป็นตน้ 3. ใชต้ ่อเสน้ ดา้ ย เสน้ ไหมทอผา้ วิธีผกู 1. งอเชอื กเสน้ ใหญ่ใหเ้ ป็นบ่วง สอดปลายเชอื กเสน้ เลก็ เขา้ ในบว่ งทท่ี าไว้ โดยสอดจาก ดา้ นล่าง 2. มว้ นปลายเชอื กเสน้ เลก็ ทส่ี อดลงออ้ มดา้ นหลงั ของบ่วงทท่ี าไวค้ รงั้ แรก 3. จบั ปลายเชอื กเสน้ เลก็ ขน้ึ ไปลอดขดั ตวั เอง แลว้ จดั เงอ่ื นใหแ้ น่นและเรยี บรอ้ ยโดยการดงึ ตาม ทศิ ทางของลกู ศร 114 ค่มู ือการจดั กิจกรรมลกู เสือสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ลูกเสือตรี ชนั้ ประถมศกึ ษาปี ที่ 4

เงื่อนขดั สมาธิ 2 ชนั้ ประโยชน์ 1. ใชต้ ่อเชอื ก 2 เสน้ ทม่ี ลี กั ษณะ 1) ขนาดแตกต่างกนั มาก, 2)เชอื กเปียกทงั้ 2 เสน้ , 3) เชอื กอ่อนมากกบั เชอื กแขง็ มาก, 4) เชอื กทล่ี ่นื เช่น ไนลอ่ น 2. ใชค้ ลอ้ งผกู สมอ วิธีผกู 1. ผกู เชอื กใหเ้ ป็นเงอ่ื นขดั สมาธชิ นั้ เดยี วก่อน 2. จบั ปลายเชอื กเสน้ เลก็ ทล่ี อดขดั ตวั เอง ออ้ มหลงั บว่ งเชอื กเสน้ ใหญ่อกี 1 รอบ แลว้ วกกลบั มา สอดขดั กบั ตวั เชอื กเสน้ ใหญ่เชน่ เดมิ 3. ดงึ ตวั เชอื กเสน้ ใหญ่ เพ่อื ใหเ้ งอ่ื นแน่น คู่มือการจดั กิจกรรมลูกเสือสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวติ ลูกเสอื ตรี ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 4 115

แผนการจดั กิจกรรมลกู เสือ หลกั สตู รลกู เสือสามญั (ลกู เสือตรี) ชนั้ ประถมศึกษาปี ที่ 4 หน่วยท่ี 5 กิจกรรมกลางแจ้ง เวลา 2 ชวั่ โมง แผนการจดั กิจกรรมที่ 19 ทกั ษะในการใช้เขม็ ทิศ 1. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1.1 ลกู เสอื สามารถบอกประวตั ,ิ สว่ นประกอบ, วธิ ใี ช,้ วธิ เี กบ็ รกั ษา, และประโยชน์ของเขม็ ทศิ ได้ 1.2 ลกู เสอื สามารถหาทศิ โดยการใชเ้ ขม็ ทศิ ได้ 2. เนื้อหา ประวตั ิ ส่วนประกอบ วธิ ใี ช้ วธิ เี ก็บรกั ษา และประโยชน์ของเขม็ ทศิ การหาทศิ โดยใช้เขม็ ทศิ การกาหนดมุมอาซมิ ุท เพ่อื บอกจุดพกิ ดั และการกาหนดจุดพกิ ดั เพ่อื บอกมุมอาซมิ ุท 3. สื่อการเรยี นรู้ 3.1 แผนภมู เิ พลง 3.2 เกม 3.2 ใบความรู้ 3.3 เขม็ ทศิ แบบซลิ วา แผนภมู สิ ่วนประกอบของเขม็ ทศิ 3.4 เรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 4. กิจกรรม 4.1 กิจกรรมครงั้ ท่ี 1 1) พธิ เี ปิดประชุมกอง (ชกั ธงขน้ึ สวดมนต์ สงบนง่ิ ตรวจ แยก) 2) เพลง หรอื เกม 3) กจิ กรรมตามจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ (1) ผกู้ ากบั ลกู เสอื นาสนทนาเรอ่ื งทศิ และการหาทศิ ซง่ึ มไี ดห้ ลายวธิ ี เชน่ การสงั เกต ดวงอาทิตย์สงั เกตดอกไม้บางชนิดท่ีบานรบั แสงตะวนั และการใช้เข็มทิศซ่งึ สามารถ ใชไ้ ดใ้ นทกุ สถานทแ่ี ละเวลา ลกู เสอื จงึ ควรเรยี นรแู้ ละใชป้ ระโยชน์จากเขม็ ทศิ (2) หมลู่ กู เสอื รว่ มกนั ศกึ ษาใบความรู้ เรอ่ื งเขม็ ทศิ ในเรอ่ื งต่อไปน้ี - ประวตั เิ ขม็ ทศิ ชาตแิ รกทผ่ี ลติ เขม็ ทศิ ขน้ึ ใช้ - ความหมายและประโยชน์ของเขม็ ทศิ - การเกบ็ รกั ษาเขม็ ทศิ - วธิ ใี ชเ้ ขม็ ทศิ 4) ผกู้ ากบั ลกู เสอื เรยี กรวมกอง แจกเขม็ ทศิ แบบซลิ วาใหล้ กู เสอื สองคนต่อ 1 เรอื น ทบทวน 116 ค่มู อื การจดั กิจกรรมลูกเสือสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ลกู เสือตรี ชนั้ ประถมศกึ ษาปี ที่ 4

เรอ่ื งทศ่ี กึ ษาจากใบความรู้ และบรรยายประกอบการใชแ้ ผนภมู ิ ในเรอ่ื งสว่ นประกอบ ของเขม็ ทศิ แบบซลิ วา 5) ผกู้ ากบั ลกู เสอื นดั หมายนายหมเู่ พอ่ื ทบทวนทกั ษะการใชเ้ ขม็ ทศิ และนากลบั ไปสอน สมาชกิ ในคราวต่อไป 4.4 ผกู้ ากบั ลกู เสอื เล่าเรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 4.5 พธิ ปี ิดประชุมกอง (นดั หมาย ตรวจเครอ่ื งแบบ ชกั ธงลง เลกิ ) 4.2 กิจกรรมครงั้ ที่ 2 1) พธิ เี ปิดประชุมกอง (ชกั ธงขน้ึ สวดมนต์ สงบน่งิ ตรวจ แยก) 2) เพลง หรอื เกม 3) กจิ กรรมตามจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ - การปฏบิ ตั กิ ารใชเ้ ขม็ ทศิ (1) ผกู้ ากบั ลกู เสอื มอบหมายใหน้ ายหมทู่ าการสอนสมาชกิ ในหมู่ 3 เรอ่ื ง ดงั น้ี - การหาทศิ เหนอื - การกาหนดมุมอาซมิ ทุ เพอ่ื หาจดุ พกิ ดั - การหามมุ อาซมิ ทุ เมอ่ื กาหนดพกิ ดั ให้ (2) ผกู้ ากบั ลกู เสอื ทบทวนความรโู้ ดยใหล้ กู เสอื เล่นเกม \"หาทศิ \" (3) ผกู้ ากบั ลกู เสอื และลกู เสอื รว่ มกนั สรปุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ 4) ผกู้ ากบั ลกู เสอื เล่าเรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 5) พธิ ปี ิดประชุมกอง (นดั หมาย ตรวจเครอ่ื งแบบ ชกั ธงลง เลกิ ) 5. การประเมินผล 5.1 สอบถาม ความเขา้ ใจเก่ยี วกบั สว่ นประกอบ วธิ ใี ช้ วธิ เี กบ็ รกั ษา และประโยชน์ของเขม็ ทศิ 5.2 ตรวจสอบ ความถกู ตอ้ งของทกั ษะการใชเ้ ขม็ ทศิ 5.3 สงั เกต การมสี ว่ นรว่ ม และความตงั้ ใจในการเรยี นรใู้ นหมู่ คมู่ ือการจัดกจิ กรรมลกู เสอื สามัญเสรมิ สรา้ งทักษะชีวิต ลูกเสือตรี ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 4 117

ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กิจกรรมที่ 19 เพลง ทิศทงั้ แปด ทศิ ทงั้ แปดทศิ ขอใหค้ ดิ จาไวเ้ คยชนิ อุดรตรงขา้ มทกั ษณิ บรู พาประจมิ จาไว้ อสี านตรงหรดี ทอ่ งอกี ทจี าใหข้ น้ึ ใจ พายพั นนั้ อยทู่ างไหน ตรงขา้ มไปคอื อาคเนย์ เดินวนหาทิศ ขอถามสกั นิด เธออยทู่ ศิ อะไร ใครอยทู่ ศิ อะไรกจ็ งบอกมา เดนิ เอ๋ยเดนิ วน สค่ี นสท่ี ศิ สอง บุญเหลอื นนั้ อยทู่ ศิ ใต้ ทกุ คนโปรดไดเ้ ขา้ ใจ ส่ี บุญให้ อยทู่ ศิ ตะวนั ตกเอย หน่งึ บญุ ตา เธออยทู่ ศิ เหนอื สามตะวนั ออก บญุ หลาย จาไว้ เกม หาทิศ วิธีเล่น 1. ผเู้ ล่นเขา้ แถวตอนลกึ ตามจานวนหมู่ 2. ขดี เสน้ จากหมหู่ ่างออกไปประมาณ 8 เมตร วางเขม็ ทศิ กระดาษแขง็ ทต่ี เี สน้ ตามทศิ 8 ทศิ และฝาขวดน้าอดั ลมทเ่ี ขยี นตวั เลขมมุ ต่าง ๆ 8 มมุ (0 , 45 , 90 , 135 , 180 , 225 , 270 , และ 315) 3. เม่อื ไดย้ นิ สญั ญาณเรม่ิ นายหม่ซู ่งึ อย่หู วั แถววงิ่ ไปหนั เขม็ ทศิ ให้ตรงทศิ เหนือ แล้วหยบิ ฝา ขวดน้าอดั ลม 1 อนั มาวางบนกระดาษใหต้ รงมุมองศาทเ่ี ขยี นไว้ แลว้ วง่ิ กลบั ไปสมั ผสั มอื คนท่ี 2 ใหว้ ง่ิ มาหยบิ ฝาขวดน้าอดั ลมวางบนกระดาษใหต้ รงตามองศาทเ่ี ขยี นไว้ ทาเช่นน้จี นครบ 8 ฝา ถา้ คนไมค่ รบ 8 คน ใหเ้ ลน่ ซ้าคนแรกใหม่ 4. หมใู่ ดเสรจ็ ก่อนและถกู ตอ้ งมากทส่ี ดุ เป็นผชู้ นะ เกมสิบทิศ แบ่งผู้เล่นออกเป็นทีมหรอื หมู่ๆ ละเท่าๆ กนั เข้าแถวตอนเรยี งหน่ึงท่เี ส้นเรม่ิ เม่อื ได้รบั สญั ญาณใหผ้ เู้ ล่นคนแรกวง่ิ ไปแตะทจ่ี ดุ ตกลงกนั ไว้ โดยจะไปดว้ ยวธิ ใี ดกไ็ ด้ แลว้ วง่ิ กลบั มาแตะคนท่ี 2 118 ค่มู อื การจดั กิจกรรมลกู เสือสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ลูกเสือตรี ชนั้ ประถมศกึ ษาปี ที่ 4

กจ็ ะวงิ่ ไปแตะทจ่ี ดุ นนั้ อกี แต่วธิ กี ารไปตอ้ งแตกต่างกนั กบั คนแรก แลว้ กลบั มาแตะคนท่ี 3 ใหท้ าต่อไป เรอ่ื ย ๆ จนครบทุกคน ยกตวั อยา่ ง คนท่ี 1 วงิ่ ไป คนท่ี 2 จะวง่ิ ไปไมไ่ ดต้ อ้ งทาอยา่ งอ่นื เช่น กระโดดหรอื คลาน คนท่ี 3 , 4 , 5 , 6 ฯลฯ กเ็ ช่นเดยี วกนั การตดั สิน ทมี ใดทาครบหมดก่อน โดยเคลอ่ื นไหวไมซ่ ้าแบบกนั เป็นทมี ชนะ เร่ืองสนั้ ท่ีเป็นประโยชน์ คนหาปลา ชายหนุ่มผหู้ น่ึงนงั่ เป่าขลุ่ยอย่างไพเราะอยเู่ เม่น้าเพ่อื หวงั จะเรยี กปลาขน้ึ มาจากน้า เเลว้ ตนจะ ไดจ้ บั เอาไปเป็นอาหาร เพลงเเลว้ เพลงเล่าผ่านไปกไ็ ม่มปี ลาสกั ตวั ผุดขน้ึ จากน้าตามเสยี งขลุ่ยของเขา ชายหนุ่มรสู้ กึ โมโหมาก เขาจงึ กลบั บา้ นไปเอาแหมาเหวย่ี งลงน้า ในไมช่ า้ กไ็ ดป้ ลาตวั เลก็ ตวั น้อยดิ้น รนตดิ เเหอยูห่ ลายสบิ ตวั ชายหนุ่มคนหาปลาขดั เคอื งใจนกั จงึ บ่นตาหนิปลาว่า \"ทอี ยา่ งนี้มาทา กระโดดโลดเต้นกนั ใหญ่ ทเ่ี ป่าขลุ่ยใหฟ้ ังกลบั ทาเฉย\" เรื่องนี้สอนให้ร้วู ่า คดิ ทาการใด ควรหาวธิ กี ารหรอื อุปกรณ์ทเ่ี หมาะสม กจิ การนัน้ จงึ จะสาเรจ็ ชายพเนจรอกตญั ญู ชายสองคนเดนิ ทางพเนจรไปเรอ่ื ยๆท่ามกลางแสงแดดทร่ี อ้ นจดั ขณะนนั้ เป็นเวลาเทย่ี งวนั เม่อื พบไมพ้ ่มุ หน่งึ จงึ ชวนกนั หยดุ พกั ใตร้ ม่ เงาของพุ่มไมช้ ายคนหน่งึ ลงนอนพกั ใตร้ ม่ ไม้ มองดพู มุ่ ไมด้ า้ นบน เเลว้ บ่นว่า \"ไมพ้ ุ่มน้ีไม่มผี ลให้เรากนิ เลยนะ\"อกี คนกเ็ อ่ยบา้ งว่า \"จรงิ ดว้ ยไมพ้ ุ่มน้ีช่างไรป้ ระโยชน์เสยี จรงิ ๆ\" เร่ืองนี้สอนให้รวู้ ่า คนโงไ่ มร่ จู้ กั คดิ ใหร้ อบคอบก่อนพูด ประเดน็ การวิเคราะหค์ ณุ ธรรมที่ได้ 1. ความพอเพยี ง 2. ซ่อื สตั ย์ สจุ รติ 3. ความรบั ผดิ ชอบ 4. กตญั ญู 5. อุดมการณ์ คณุ ธรรม คมู่ อื การจดั กจิ กรรมลกู เสือสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ลกู เสอื ตรี ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 4 119

ใบความรู้ ประวตั ิเขม็ ทิศ เขม็ ทศิ เป็น 1 ใน 4 สงิ่ ประดษิ ฐ์ที่สาคญั ของจนี โบราณ (เขม็ ทศิ ดนิ ปืน กระดาษ และการ พมิ พ)์ มปี ระวตั ยิ าวนานกว่า 2,000 ปี เขม็ ทศิ ในยุคแรกทาจากหนิ แม่เหลก็ ธรรมชาตริ ปู ร่างคลา้ ยชอ้ น ทม่ี พี น้ื ดา้ นล่างเรยี บและมนั สามารถหมนุ ไดอ้ ยา่ งอสิ ระบนจานซง่ึ ทาจากทองแดงหรอื ไมเ้ มอ่ื เขม็ ทศิ ท่ี หมุนหยุดนิ่งแลว้ ส่วนทเ่ี หมอื นคนั ชอ้ นของเขม็ ทศิ จะชไ้ี ปทางทศิ ใต้เสมอดงั นัน้ เขม็ ทศิ จงึ มชี ่อื เรยี กอกี ช่อื หนึ่งว่า \"ซอื หนาน\" (เขม็ ชที้ ศิ ใต)้ และเม่อื มกี ารใชเ้ ขม็ ทศิ กนั แพรห่ ลายมากขนึ้ จงึ มกี าร ปรบั ปรุงเขม็ ทศิ ใหส้ ะดวกต่อการใชง้ านมากขน้ึ นอกจากเป็นชาตแิ รกของโลกทป่ี ระดษิ ฐเ์ ขม็ ทศิ แลว้ จนี ยงั เป็นชาตแิ รกทน่ี าเขม็ ทศิ ไปใชใ้ นการ เดนิ เรอื ในตน้ ศตวรรษท่ี 12 และชว่ ยใหเ้ กดิ การเปลย่ี นแปลงครงั้ สาคญั คอื ส่งผลใหก้ จิ การเดนิ เรอื ไดร้ บั การพฒั นา และเกดิ การแลกเปลย่ี นทางวฒั นธรรมระหว่างประเทศ พ่อคา้ ชาวอาหรบั และชาวเปอรเ์ ซยี ท่โี ดยสารเรอื ประมงของจนี บ่อยๆกลุ่มหน่ึง ได้เรยี นรู้วธิ กี ารประดษิ ฐ์เขม็ ทศิ และนาความรูด้ งั กล่าว เผยแพรไ่ ปส่โู ลกตะวนั ตก ต่อมาช่วงปลายศตวรรษท่ี 12 ตน้ ศตวรรษท่ี 13 ประเทศอาหรบั และยุโรปจงึ ไดเ้ รมิ่ ใชเ้ ขม็ ทศิ ในการเดนิ เรอื ซง่ึ เกดิ ขน้ึ หลงั จากจนี ถงึ รอ้ ยกว่าปี เขม็ ทศิ ของจนี ในยคุ แรก ความหมายและประโยชน์ของเขม็ ทิศ เขม็ ทิศ หมายถงึ เครอ่ื งมอื ทใ่ี ชใ้ นการหาทศิ โดยอาศยั แรงดงึ ดดู ระหว่างสนามแมเ่ หลก็ ขวั้ โลก (Magnetic Pole) กบั เขม็ แม่เหลก็ ซ่งึ เป็นองค์ประกอบสาคญั ท่สี ุดของเคร่อื งมอื น้ีเขม็ แม่เหลก็ จะแกว่ง ไกวได้โดยอิสระในแนวนอนเพ่อื ให้แนวเข็มช้อี ยู่ในแนวเหนือใต้ ไปยงั ขวั้ แม่เหล็กโลกตลอดเวลา หน้าปัดเขม็ ทศิ ซง่ึ คลา้ ยกบั หน้าปัดนาฬกิ าจะมกี ารแบ่งโดยรอบเป็น 360 องศานอกจากน้เี ขม็ ทศิ ยงั เป็น เครอ่ื งมอื สาหรบั ใชใ้ นการหาทศิ ของจดุ หรอื วตั ถุโดยมหี น่วยวดั เป็นองศา เปรยี บเทยี บกบั จดุ เรมิ่ ตน้ 120 ค่มู อื การจดั กิจกรรมลกู เสือสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ลกู เสือตรี ชนั้ ประถมศึกษาปี ที่ 4

ประโยชน์ของเขม็ ทิศ 1. ใชป้ ระโยชน์ในการเดนิ ทางโดยตอ้ งมแี ผนทป่ี ระกอบ ทงั้ ทางบก ทางเรอื และทางเครอ่ื งบนิ 2. ใชห้ าทศิ จรงิ ในแผนท่ี เมอ่ื วางแผนทไ่ี ดต้ รงทศิ แลว้ จงึ จะสามารถใชแ้ ผนทไ่ี ดต้ าม วตั ถุประสงค์ 3. เป็นเครอ่ื งมอื ช่วยในการสารวจ ของนกั สารวจ เขม็ ทิศแบบซิลวา ผลติ ในประเทศสวเี ดนมลี กั ษณะเป็นเขม็ ทศิ และไมโ้ ปรแทรกเตอรร์ วมกนั อยู่ เป็นเขม็ ทศิ ทน่ี ิยม ใชใ้ นวงการลกู เสอื เพราะมรี าคาถกู ใชง้ า่ ยและพกพาสะดวก ส่วนประกอบของเขม็ ทิศซิลวา 1. แผ่นฐานเป็นตวั วตั ถุโปรง่ ใส 2. ทข่ี อบมมี าตราส่วนเป็นน้ิวและ/หรอื เซนตเิ มตร 3. มลี กู ศรชท้ี ศิ ทางทจ่ี ะไป 4. เลนสข์ ยาย 5. ตลบั เขม็ ทศิ เป็นวงกลมหมนุ ไดบ้ นกรอบหน้าปัดของตลบั เขม็ ทศิ แบง่ ออกเป็น 360 องศา 6. ปลายเขม็ ทศิ เป็นแมเ่ หลก็ สแี ดงซง่ึ จะชไ้ี ปทางทศิ เหนือเสมอ 7. ขดี ตาแหน่งสาหรบั ตงั้ มุมและอ่านคา่ มุมอยบู่ นหน้าปัดตรงโคนลกู ศรชท้ี ศิ ทาง คู่มอื การจัดกจิ กรรมลูกเสอื สามญั เสริมสร้างทกั ษะชีวิต ลูกเสือตรี ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 4 121

วิธีใช้เขม็ ทิศซิลวา การหาทิศเหนือ วางเขม็ ทศิ ในแนวระนาบ ปลายเขม็ ทศิ ขา้ งหน่งึ จะชไ้ี ปทางทศิ เหนือคอ่ ย ๆหมนุ หน้าปัดของ เขม็ ทศิ ใหต้ าแหน่งตวั เลขหรอื อกั ษรทบ่ี อกทศิ เหนอื บนหน้าปัดตรงกบั ปลายเหนอื ของเขม็ ทศิ เมอ่ื ปรบั เขม็ ตรงกบั ทศิ เหนอื แลว้ จะสามารถอ่านทศิ ต่างๆไดอ้ ย่างถูกตอ้ งจากหน้าปัดเขม็ ทศิ ลกู เสอื สามารถนาเขม็ ทศิ ไปใชใ้ นกจิ กรรมต่างๆไดเ้ ช่นการเดนิ ทางไกลการสารวจป่าการผจญ ภยั การสารวจและการเยอื นสถานทเ่ี ป็นตน้ เมอ่ื เรมิ่ ออกเดนิ ทางลกู เสอื ควรหาทศิ ทจ่ี ะมงุ่ หน้าไปให้ ทราบก่อนว่าเป็นทศิ ใด เมอ่ื เกดิ หลงทศิ หรอื หลงทางจะสามารถหาทศิ ทางต่าง ๆ จากเขม็ ทศิ ได้ การกาหนดมมุ อาซิมทุ แล้วหาพิกดั กรณบี อกมุมอะซมิ ทุ มาใหแ้ ละตอ้ งการรวู้ ่าจะตอ้ งเดนิ ทางไปในทศิ ทางใดสมมตุ วิ ่ามุมอะซมิ ทุ 60 องศา 1) วางเขม็ ทศิ ในแนวระดบั ใหเ้ ขม็ แมเ่ หลก็ หมนุ ไปมาไดอ้ สิ ระ 2) หมนุ กรอบหน้าปัดของตลบั เขม็ ทศิ ใหเ้ ลข 60 อยตู่ รงขดี ตาแหน่งตงั้ มมุ 3) หนั ตวั เขม็ ทศิ ทงั้ ฐานไปจนกว่าเขม็ แม่เหลก็ สแี ดงภายในตลบั เขม็ ทศิ ช้ตี รงกบั อกั ษร N บน กรอบหน้าปัด ทบั สนิทกบั เครอ่ื งหมายหวั ลกู ศรทพ่ี มิ พไ์ ว้ 4) เมอ่ื ลกู ศรชท้ี ศิ ทางชไ้ี ปทศิ ใด ใหเ้ ดนิ ไปตามทศิ ทางนนั้ โดยเลง็ หาจดุ เดน่ ทอ่ี ยใู่ นแนวลูกศรช้ี ทศิ ทางเป็นหลกั แลว้ เดนิ ตรงไปยงั สง่ิ นนั้ การหามมุ อาซิมทุ เม่ือกาหนดพิกดั ให้ กรณที จ่ี ะหาค่าของมมุ อะซมิ ทุ จากตาบลทเ่ี รายนื อยู่ ไปยงั ตาบลทเ่ี ราจะเดนิ ทางไป 1) วางเขม็ ทศิ ในแนวระดบั ใหเ้ ขม็ แมเ่ หลก็ หมนุ ไปมาไดอ้ สิ ระ 2) หนั ลกู ศรชท้ี ศิ ทางไปยงั จดุ หรอื ตาแหน่งทเ่ี ราจะเดนิ ทางไป 3) หมนุ กรอบหน้าปัดเขม็ ทศิ ไปจนกว่าอกั ษร N บนกรอบหน้าปัด อยตู่ รงปลายเขม็ แมเ่ หลก็ สี แดงในตลบั เขม็ ทศิ 4) ตวั เลขบนกรอบหน้าปัดจะอย่ตู รงขดี ตาแหน่งสาหรบั ตงั้ มมุ และอ่านค่ามุม คอื ค่าของมุมทเ่ี รา ตอ้ งการทราบ 122 ค่มู อื การจดั กิจกรรมลกู เสือสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ลูกเสือตรี ชนั้ ประถมศึกษาปี ที่ 4

ข้อควรระวงั และการเกบ็ รกั ษาเขม็ ทิศ 1. จบั ถอื ดว้ ยความระมดั ระวงั เพราะหน้าปัดและเขม็ บอบบางอ่อนไหวงา่ ย 2. อยา่ ใหต้ กแรงกระเทอื นทาใหเ้ สยี ได้ 3. ไมค่ วรอ่านเขม็ ทศิ ใกลส้ ง่ิ ทเ่ี ป็นแมเ่ หลก็ หรอื วงจรไฟฟ้า 4. อยา่ ใหเ้ ปียกน้าจนขน้ึ สนิม 5. อยา่ ใหใ้ กลค้ วามรอ้ นเขม็ ทศิ จะบดิ งอ 6. เมอ่ื ไมใ่ ชค้ วรปิดฝาและใสซ่ อง ระยะปลอดภยั ในการใช้เขม็ ทิศ การใชง้ านใกลโ้ ลหะ และไฟฟ้าแรงสงู อาจคลาดเคลอ่ื นได้ มกี ารกาหนดระยะห่างดงั น้ี - หมวกเหลก็ 1 หลา - ปืนเลก็ 1 หลา - โทรศพั ท,์ ลวดหนาม 10 หลา - สายโทรเลข 10หลา - ปืนใหญ่ 10 หลา - รถยนต,์ รถถงั 20 หลา - สายไฟฟ้าแรงสงู 60 หลา คู่มือการจดั กจิ กรรมลูกเสือสามัญเสรมิ สรา้ งทักษะชีวติ ลกู เสอื ตรี ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 4 123

แผนการจดั กิจกรรมลกู เสือ หลกั สตู รลกู เสือสามญั (ลกู เสือตรี) ชนั้ ประถมศึกษาปี ท่ี 4 หน่วยท่ี 5 กิจกรรมกลางแจ้ง (การมสี ่วนรว่ มในกิจกรรมลกู เสือในหม่/ู ในกอง) แผนการจดั กิจกรรมท่ี 20 การบนั เทิง เวลา 2 ชวั่ โมง 1. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1.1 ลกู เสอื สามารถแสดงละครกบั เพ่อื นลกู เสอื ได้ 1.2 ลกู เสอื สามารถรอ้ งเพลงหรอื ทาทา่ ทางประกอบเพลงได้ 1.3 ลกู เสอื สามารถทาหุ่นและเชดิ หุน่ เป็นเรอ่ื งสนั้ ๆ กบั เพ่อื นลกู เสอื ได้ 2. เนื้อหา 2.1 การแสดงละคร 2.2 การรอ้ งเพลงหรอื ท่าทางประกอบเพลงทม่ี ดี นตรปี ระกอบ 2.3 การทาหุ่นและเชดิ หุ่น 3. ส่ือการเรียนรู้ 3.1 แผนภมู เิ พลง 3.2 เกม 3.2 ใบความรู้ 3.3 วสั ดอุ ุปกรณ์ทใ่ี ชท้ าหุ่นมอื ไดแ้ ก่ ถุงกระดาษ กล่องกระดาษ สเี มจกิ กระดาษสี กรรไกร มดี กาว หรอื แป้งเปียก 3.4 เครอ่ื งดนตรที ห่ี างา่ ยๆ ตามทอ้ งถน่ิ .35 หุ่นมอื แบบต่างๆ 3.6 เรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 4. กิจกรรม 4.1 กิจกรรมครงั้ ท่ี 1 1) พธิ เี ปิดประชุมกอง (ชกั ธงขน้ึ สวดมนต์ สงบนิง่ ตรวจ แยก) 2) เพลง หรอื เกม 3) กจิ กรรมตามจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ (1) ผกู้ ากบั ลกู เสอื นาสนทนาเก่ยี วกบั การแสดงต่าง ๆ เช่น การแสดงละคร การรอ้ ง เพลงทาท่าทางประกอบดนตรี และการเชดิ หุ่น เป็นตน้ (2) ใหล้ กู เสอื ดหู นุ่ มอื จากเศษวสั ดุต่าง ๆ เชน่ ห่นุ มอื จากถุงเทา้ ถุงกระดาษ กลอ่ ง กระดาษ เศษผา้ เป็นตน้ 124 ค่มู ือการจดั กิจกรรมลูกเสือสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ลูกเสือตรี ชนั้ ประถมศกึ ษาปี ที่ 4

(3) ใหห้ มลู่ กู เสอื รว่ มกนั อภปิ ราย และคดิ ว่าจะใชห้ ุ่นมาประกอบการเล่นนทิ าน เล่าขา่ ว หรอื โฆษณาไดอ้ ย่างไร (4) ผกู้ ากบั ลกู เสอื สาธติ วธิ กี ารทาหุ่นมอื (5) มอบหมายงานใหห้ มลู่ กู เสอื นาไปทาเป็นหุ่นเชดิ ประกอบการเล่านทิ าน เล่าขา่ ว หรอื โฆษณาตามทก่ี ลุ่มสนใจ (6) ใหห้ มลู่ กู เสอื เลอื กแสดงอยา่ งใดอย่างหน่งึ ต่อไปน้ี เชน่ การรอ้ งเพลง การทาท่าทาง ประกอบเพลง หรอื การแสดงละครสนั้ การเลา่ นิทานโดยเชดิ หุ่นประกอบ โดยฝึกใน เวลาวา่ งเพอ่ื เตรยี มแสดงเมอ่ื ไปอยคู่ า่ ยพกั แรม หรอื Day Camp 4) ผกู้ ากบั ลกู เสอื เลา่ เรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 5) พธิ ปี ิดประชุมกอง (นดั หมาย ตรวจเครอ่ื งแบบ ชกั ธงลง เลกิ ) 4.2 กิจกรรมครงั้ ที่ 2 1) พธิ เี ปิดประชุมกอง (ชกั ธงขน้ึ สวดมนต์ สงบน่ิง ตรวจ แยก) 2) เพลง หรอื เกม 3) กจิ กรรมตามจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ (1) ผกู้ ากบั ลกู เสอื นาสนทนาเรอ่ื งการรอ้ งเพลงต่าง ๆ ใหล้ กู เสอื บอกชอ่ื เพลงทร่ี จู้ กั (2) ใหห้ มลู่ กู เสอื รว่ มกนั แต่งเพลงประจาหมพู่ รอ้ มคดิ ท่าทางประกอบ แลว้ นามาเสนอที ละหมู่ (3) ผกู้ ากบั ลกู เสอื และลกู เสอื รว่ มกนั สรปุ 4) ผกู้ ากบั ลกู เสอื เลา่ เรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 5) พธิ ปี ิดประชุมกอง (นดั หมาย ตรวจเครอ่ื งแบบ ชกั ธงลง เลกิ ) 5. การประเมินผล 5.1 สงั เกตความรว่ มมอื ในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม 5.2 สงั เกตความพรอ้ มในการแสดงจรงิ เมอ่ื อยคู่ ่ายพกั แรมหรอื Day Camp คูม่ ือการจดั กิจกรรมลูกเสือสามัญเสรมิ สรา้ งทักษะชีวิต ลกู เสือตรี ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 125

ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กิจกรรมเรียนร้ทู ่ี 20 เพลง แว่วเสียงแคน ยามสนธยา เหล่านกกาบนิ กลบั รงั เสยี งแคนแวว่ ดงั ชวนใหฟ้ ังนะเจา้ เอย โอน้ วลเอ๋ยช่างเพลนิ อุรา เจา้ งามล้าของเรยี มน่เี อย แลนแลนแต แต่แลนแลนแต (ซา้ ) มาฟังเสยี งแคนกนั เถดิ หนา แสงเดอื นเยอื นขอบฟ้า สอ่ งแสงมาดงั่ เช่นเคย อยา่ ทาเฉยมาชมิ าทา เป็ ด ยามเมอ่ื เป็ดมนั เดนิ ไป มองแลว้ ไมน่ ่าดเู ลย จาไวเ้ ถดิ เพ่อื นเอ๋ย เอ๋ย จงอยา่ เดนิ ใหเ้ หมอื นเป็ด นกพิราบ พรบั พรบึ พรบั พรบึ พรบั ขยบั ปีก (ซ้า) ฝงู นกพริ าบ ดาและเทาน่ารกั จรงิ นา บนิ เวยี นวนอยบู่ นหลงั คา ไซรป้ ีกหางกนั อยไู่ ปมา พอแสงแดดจา้ พากนั คนื รงั ลิง เจย๊ี ก เจย๊ี ก เจย๊ี ก เป็นเสยี งเรยี กของลงิ ลงิ ไมอ่ ยนู่ ่งิ มนั ชอบวงิ่ กนั อยไู่ ปมา เจย๊ี ก เจย๊ี ก เจย๊ี ก ครนั้ พอถงึ เวลา มนั รอ้ งเรยี กพวกมนั มา ออกเทย่ี วหาผลไมก้ นิ เกม ตามผนู้ า วิธีเล่น ใหล้ กู เสอื เขา้ แถวหน้ากระดานหรอื แถวตอนเรยี งหน่งึ เลอื กหวั หน้าคนหน่งึ ผเู้ ป็นหวั หน้า จะทา กริ ยิ าท่าทางต่างๆ เช่น วง่ิ กระโดด หวั เราะ รอ้ งไห้ ฯลฯ คนอ่นื ๆ จะตอ้ งทาตามทุกอยา่ ง การตดั สิน 1. ผทู้ ไ่ี มส่ ามารถทาตามหวั หน้าได้ ตอ้ งออกจากการแขง่ ขนั 2. ผชู้ นะคอื ผเู้ ล่นทอ่ี ยใู่ นแถวนานทส่ี ดุ 126 ค่มู อื การจดั กิจกรรมลกู เสือสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ลกู เสือตรี ชนั้ ประถมศกึ ษาปี ที่ 4

ทาตรงกนั ข้าม วิธีเล่น เลอื กผนู้ ามา 1 คน โดยใหผ้ นู้ าทาท่าทางต่าง ๆ ผเู้ ลน่ คนอ่นื นัน้ จะตอ้ งทาตรงกนั ขา้ มกบั ท่ี ผนู้ าทา เช่น ผนู้ าหวั เราะ ลกู เสอื ทุกคนตอ้ งรอ้ งไห้ ผนู้ านงั่ ลง ลกู เสอื ตอ้ งยนื ขน้ึ ผนู้ ากา้ ว เทา้ ซา้ ย ลกู เสอื กา้ วเทา้ ขวา ฯลฯ การทาจะเรว็ ขน้ึ ไปเรอ่ื ย ๆ การตดั สิน ลกู เสอื ทท่ี าตามผนู้ าหรอื ทาชา้ จะตอ้ งออกจากการแขง่ ขนั หรอื เปลย่ี นมาเป็นผนู้ า เร่ืองสนั้ ท่ีเป็นประโยชน์ ประวตั ิของห่นุ กระบอกไทย หุ่นกระบอกไทย กาเนิดขน้ึ ในรชั สมยั พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจา้ อยู่หวั ซ่งึ ปรากฏ อย่างชดั เจนในลายพระหตั ถท์ ส่ี มเดจ็ พระเจา้ บรมวงศ์เธอ กรมพระยาดารงราชานุภาพ และสมเดจ็ พระ เจา้ บรมวงศเ์ ธอ เจา้ ฟ้ากรมพระยานรศิ รานุวตั ตวิ งศท์ รงโตต้ อบกนั ในหนงั สอื สาสน์ สมเดจ็ ทก่ี ล่าวถงึ หุ่น กระบอก มที ม่ี าจากชายขอทานตาบอดคนหน่ึง นงั่ รอ้ งเพลงพรอ้ ม ๆ กบั สซี อ และการขบั รอ้ งประกอบ ขณะสซี อ ชายตาบอดขอทานน้ีเรยี กช่อื ใหส้ มญาวา่ “ตาสงั ขารา” ซง่ึ เป็นคนเก่งทแ่ี บ่งใจเป็นสองภาคได้ คอื ทงั้ เล่นดนตรแี ละใชข้ บั รอ้ ง เปรยี บเทยี บกบั “หุ่นกระบอก” ทแ่ี สดงไดง้ า่ ยกว่าคนหน่ึงแสดงเชดิ หุ่น อกี คนหน่งึ ขบั รอ้ ง คนจงึ นิยม ทาหุ่นกระบอกในการแสดงมหรสพ เร่อื งนี้สอนให้ร้วู ่า การบนั เทงิ ของแต่ละชาตมิ มี าตงั้ แต่สมยั โบราณ คิดก่อนพดู ชาย 2 คนเป็นพ่นี ้องกนั พวกเขาเล้ยี งหมาสขี าวตวั หน่ึง วนั หน่ึงชายผูน้ ้องออกไปเยย่ี มญาติ ระหว่างทางฝนเทลงมาอย่างหนกั ทาใหเ้ สอ้ื ผา้ สขี าวของเขาเปียกโชก เมอ่ื ไปถงึ บา้ นญาตจิ งึ เปล่ยี นใส่ เสอ้ื ผา้ ชดุ ดาแทน เมอ่ื กลบั บา้ นในตอนเยน็ หมาจาเขาไมไ่ ดจ้ งึ เห่ากระโชกเป็นการใหญ่ ชายผนู้ ้องโกรธ มาก ร้องด่าพลางไล่ตีหมาไปรอบๆ บ้าน ชายผู้พ่มี าพบเขา้ จงึ ร้องห้ามพร้อมกบั พูดว่า “อย่าตีมนั ” ชายผูน้ ้องกพ็ ูดว่า “ตใี ห้ตาย หมาระยา จาเจา้ ของไม่ได้” ชายผูพ้ ่จี งึ กล่าวเตอื นสตผิ ูน้ ้องว่า “ถ้าหมาสี ขาวของเรามนั ออกจากบา้ นไปแลว้ กลายเป็นหมาดา เมอ่ื กลบั มาเจา้ จะจาไดห้ รอื ไม่” ชายผนู้ ้องจงึ ไดส้ ติ เพราะไมส่ ามารถตอบคาถามของพไ่ี ด้ เร่ืองนี้สอนให้รวู้ ่า เวลาเราจะทาหรอื พดู อะไรกต็ ามจะตอ้ งคดิ ใหร้ อบคอบเสยี ก่อน ประเดน็ การวเิ คราะหค์ ุณธรรมทไ่ี ด้ 1. ความพอเพยี ง 2. ซอ่ื สตั ย์ สุจรติ 3. ความรบั ผดิ ชอบ 4. อุดมการณ์ คุณธรรม คู่มือการจดั กิจกรรมลูกเสือสามญั เสรมิ สรา้ งทกั ษะชีวติ ลูกเสือตรี ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 4 127

ใบความรู้ การบนั เทิง การร้องเพลง การเชิดห่นุ การบนั เทิง การบันเทิง หมายถึง กิจกรรมท่ีทาให้เกิดความสนุกสนานร่าเริง ผู้เป็นลูกเสือต้องกล้า แสดงออกในการบนั เทงิ ตามโอกาสทเ่ี หมาะสม เช่น การละเลน่ หรอื การแสดงทจ่ี ะทาใหเ้ กดิ ความร่นื เรงิ เพอ่ื ผอ่ นคลายอารมณ์ ไดแ้ ก่ การรอ้ งเพลง การแสดงละคร การเชดิ ห่นุ ต่าง ๆ การรอ้ งเพลง การรอ้ งเพลงพรอ้ มกนั หลายๆ คน จะทาใหส้ นุกสนาน ผรู้ อ้ งจะมคี วามมัน่ ใจในตวั เองมากกว่า การรอ้ งเพลงคนเดยี ว การรอ้ งเพลงหมู่ ควรรอ้ งใหถ้ ูกจงั หวะทานองอย่างพรอ้ มเพรยี งกนั ขณะรอ้ งตอ้ งคอยฟังเสยี ง ของผอู้ ่นื ดว้ ย ไมร่ อ้ งดงั เกนิ ไปไมต่ ะโกน หรอื ตะเบง็ เสยี ง เสยี งเพลงทร่ี อ้ งนนั้ จงึ จะฟังไพเราะ การเชญิ ชวนใหเ้ พ่อื นๆ รอ้ งเพลงร่วมกนั เป็นสงิ่ ดี เพราะทาใหเ้ กดิ ความกลา้ มคี วามสนุกสนาน มคี วามเป็นน้าหน่งึ ใจเดยี วกนั และก่อใหเ้ กดิ ความสามคั คใี นหมคู่ ณะ เพลงหมทู่ น่ี ามารอ้ งควรเป็นเพลง ทเ่ี รา้ ใจ ปลุกใจใหเ้ ขม้ แขง็ มคี วามกลา้ หาญ หลกี เลย่ี งในการประพฤตชิ วั่ ประพฤตปิ ฏบิ ตั แิ ต่ในสงิ่ ท่ดี ี งาม 128 ค่มู ือการจดั กิจกรรมลกู เสือสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ลกู เสือตรี ชนั้ ประถมศึกษาปี ที่ 4

เครือ่ งดนตรีประกอบการรอ้ งเพลง การร้องเพลงจะสนุกสนานมากข้ึน ถ้ามี เคร่อื งดนตรปี ระกอบเพ่ือให้จงั หวะ จะทาให้เกิด ความพร้อมเพรยี งกนั ลูกเสอื ท่สี ามารถเล่นเคร่อื ง ดนตรไี ด้ เช่น หบี เพลงปากเมโลเดยี น กตี าร์ ขลุ่ย ฯลฯ ควรนามาเล่นประกอบการรอ้ งเพลง ซง่ึ จะช่วย ใหเ้ พลงไพเราะ และน่าฟังยงิ่ ขน้ึ เครื่องดนตรีชนิดต่าง การแสดงประกอบเพลงและดนตรี การแสดงท่าทางประกอบเพลงและดนตรี เช่น แสดงท่าราเลยี นแบบสตั วต์ ่าง ๆ ลกู เสอื ตอ้ งฝึก แสดงทา่ ทางประกอบเพลง โดยสงั เกตจากเพอ่ื น หรอื จากประสบการณ์ทเ่ี คยพบเหน็ และสงั เกตทา่ ทาง ของสตั วบ์ างชนิด แลว้ นามาปรบั ปรงุ ฝึกฝนใหช้ านาญ ห่นุ เชิด หุ่น คอื สง่ิ ทม่ี นุษยป์ ระดษิ ฐข์ น้ึ อาจเป็นหุ่นคน หุ่นสตั ว์ หรอื สง่ิ ของ แลว้ นามาเชดิ ใหเ้ กดิ ทา่ ทางและมคี าพดู จากเสยี งของผเู้ ชดิ ประกอบ หุ่นมหี ลายชนิด เชน่ หุ่นน้วิ มอื หุน่ มอื หุ่นกระบอก หุ่นชกั และหุ่นเงา หรอื หนงั ตะลงุ ค่มู ือการจดั กิจกรรมลูกเสือสามัญเสรมิ สร้างทักษะชีวติ ลูกเสือตรี ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 129

หนุ่ กระบอก ห่นุ ชกั การแสดงหุ่นเพอ่ื ความบนั เทงิ อาจเชดิ หุ่นโดยเลอื กนิทานทส่ี นุก มตี วั ละครไมม่ ากนกั เมอ่ื เลอื กวา่ จะเชดิ หนุ่ เรอ่ื งอะไร มตี วั ละครอยา่ งไรแลว้ กจ็ ดั ทาห่นุ ขน้ึ ตามตวั ละครเหลา่ นนั้ การทาห่นุ มือจากถงุ กระดาษ วสั ดทุ ี่ใช้ 1. ถุงกระดาษสนี ้าตาลชนดิ เน้อื หนา 1 ใบ 2. กระดาษแขง็ สเี ทาขาว 3. สเี มจกิ หรอื กระดาษสี ใชต้ ดิ แทนการระบายสี 4. กรรไกรตดั กระดาษ 5. แป้งเปียก วิธีทา 1. วาดหุ่นทต่ี อ้ งการบนกระดาษเทาขาว แลว้ ใชก้ รรไกรตดั หุน่ ออกเป็น 2 สว่ น คอื สว่ นตวั และ ส่วนตวั หนุ่ 2. ระบายสหี ุ่น หรอื จะใชก้ ระดาษสตี ดิ บางสว่ นแทนการระบายสกี ไ็ ด้ 3. ทาแป้งเปียกดา้ นหลงั ภาพ แลว้ ตดิ สว่ นหวั ห่นุ ทก่ี น้ ถุงกระดาษ ตดิ สว่ นตวั ห่นุ ทข่ี า้ งถุง กระดาษ ทง้ิ ใหแ้ หง้ แลว้ นาไปเชดิ ได้ การทาห่นุ จากกล่องกระดาษ กลอ่ งกระดาษ หนุ่ ทท่ี าจากกล่องกระดาษ 130 คมู่ ือการจดั กิจกรรมลกู เสือสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ลูกเสือตรี ชนั้ ประถมศึกษาปี ที่ 4

วสั ดทุ ี่ใช้ 1. กลอ่ งกระดาษแขง็ ขนาดเลก็ ทม่ี สี อดเขา้ ได้ 2. กระดาษแขง็ 3. สเี มจกิ หรอื กระดาษสใี ชต้ ดิ แทนการระบายสี 4. กรรไกรตดั กระดาษ 5. แป้งเปียก การเชิดห่นุ ใชฝ้ ่ามอื และน้วิ มอื สอดเขา้ ไปในหวั ห่นุ แลว้ เชดิ ถา้ เป็นหุ่นทม่ี แี ขนจะสอดน้วิ ชท้ี ห่ี วั หุ่นน้วิ กลาง และน้วิ หวั แมม่ อื ทแ่ี ขนทงั้ สองขา้ ง เมอ่ื เคล่อื นไหวน้วิ ทงั้ สาม หุน่ จะดคู ลา้ ยมชี วี ติ ขน้ึ ทนั ที ถา้ เป็นหุ่นทไ่ี มม่ แี ขน จะสอดน้วิ หวั แมม่ อื ทป่ี ากล่างของหุ่น น้วิ ทเ่ี หลอื สอดไวบ้ นปากของหนุ่ เมอ่ื ขยบั น้วิ เขา้ หากนั หุน่ จะเคลอ่ื นไหวคลา้ ยกาลงั พดู การเชิดห่นุ ตอ้ งแบ่งหน้าทก่ี นั เรม่ิ จากการสรา้ งเวทสี าหรบั เชดิ ห่นุ ทาฉาก และกาหนดตวั ผเู้ ชดิ คนหน่งึ อาจเชดิ หุ่นได้ 1 ถงึ 2 ตวั ขณะเชดิ หุน่ ตอ้ งพดู ตามบทหรอื ตามเรอ่ื งทก่ี าหนดไว้ โดยท่องจาบทใหไ้ ด้ ถา้ มดี นตรปี ระกอบผดู้ จู ะสนุกเพลดิ เพลนิ มากขน้ึ ถา้ การเชดิ หนุ่ มบี ทรอ้ งเพลงรวมอย่ดู ว้ ย และถา้ ผเู้ ชดิ บอกใหผ้ ดู้ รู ว่ มรอ้ งเพลงลกู เสอื ทุกคนควร รว่ มรอ้ งเพลงโดยพรอ้ มเพรยี งกนั จะเพม่ิ ความสนุกสนานเพลดิ เพลนิ มากขน้ึ อกี ดว้ ย กิจกรรมเสนอแนะ 1. แบ่งกลุ่มใหล้ ูกเสอื รว่ มกนั จดั กจิ กรรมแสดงประเภทต่าง ๆ เช่น การรอ้ งเพลง การเต้นรา การ เล่านิทาน การแสดงละคร การเชดิ หุน่ เป็นตน้ โดยใหล้ กู เสอื แต่ละกลุ่มฝึกซอ้ มมาล่วงหน้าแลว้ นามาแสดง ใหเ้ พ่อื นดู 2. ใหล้ กู เสอื แต่ละหม่จู ดั ทาอุปกรณ์หรอื เครอ่ื งดนตรงี า่ ยๆ ทใ่ี ชป้ ระกอบการจดั กจิ กรรมบนั เทงิ ต่าง ๆ เช่น หุ่นกระบอก หุ่นน้ิวมอื ส่วนกลองอาจทาจากกระป๋ อง ป่ีทาจากลาไผ่เลก็ ๆ และท่เี คาะ จงั หวะทานากฝาขวดน้าอดั ลม เป็นตน้ คมู่ อื การจัดกิจกรรมลูกเสอื สามัญเสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ลูกเสอื ตรี ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 4 131

แผนการจดั กิจกรรมลกู เสือ หลกั สตู รลกู เสือสามญั (ลกู เสือตรี) ชนั้ ประถมศึกษาปี ที่ 4 หน่วยที่ 5 กิจกรรมกลางแจ้ง เวลา 1 ชวั่ โมง แผนการจดั กิจกรรมท่ี 21 การเตรยี มส่ิงของ อาหาร และการแสดง 1. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1.1 ลกู เสอื สามารถเตรยี มสง่ิ ของ อาหาร เพอ่ื การเดนิ ทางไกลและการอยคู่ ่ายพกั แรมได้ 1.2 ลกู เสอื สามารถเตรยี มการแสดงได้ 2. เนื้อหา 2.1 การเตรยี มสง่ิ ของสาหรบั การอยคู่ ่ายพกั แรม 2.2 การเตรยี มอุปกรณ์การประกอบอาหาร สาหรบั การเดนิ ทางไกล 2.3 การเตรยี มการแสดง 3. ส่ือการเรยี นรู้ 3.1 แผนภมู เิ พลง 3.2 เกม 3.2 ใบความรู้ 3.3 ฐานสาธติ การเตรยี มวสั ดุอุปกรณ์ การประกอบอาหาร และการแสดง 3.4 เรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 4. กิจกรรม 4.1 พธิ เี ปิดประชุมกอง (ชกั ธงขน้ึ สวดมนต์ สงบนงิ่ ตรวจ แยก) 4.2 เพลง หรอื เกม 4.3 กจิ กรรมตามจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1) ผกู้ ากบั ลกู เสอื มอบหมายใหห้ มลู่ กู เสอื วเิ คราะหก์ นั ว่าถา้ จะเดนิ ทางไกลไปยงั สถานท่ี เราไมค่ ุน้ เคย เขาจะเตรยี มสงิ่ ของอะไรไปบา้ ง และหากเราเหงาคดิ ถงึ บา้ นเราจะ มวี ธิ กี ารอยา่ งไรใหค้ ลายเหงา 2) ผกู้ ากบั ลกู เสอื นาลกู เสอื เรยี นรจู้ ากฐานกจิ กรรม ดงั น้ี ฐานท่ี 1 การจดั อุปกรณ์เคร่อื งใช้ ยารกั ษาโรค แสงสวา่ ง เครอ่ื งนุ่งหม่ สาหรบั ไปอยคู่ ่ายพกั แรม ฐานท่ี 2 การบรรจุ วสั ดุ อุปกรณ์ สงิ่ ของเครอ่ื งใชใ้ น เป้ หรอื กระเป๋ าสว่ นตวั ให้ เหมาะสม ฐานท่ี 3 การประกอบอาหาร การใชอ้ าหารแหง้ สาเรจ็ รปู และอุปกรณ์ประกอบอาหาร ฐานท่ี 4 การแสดง เช่น ดนตรี ขบั รอ้ งเพลง การก่อไฟ การละเล่นต่าง ๆ 3) ผกู้ ากบั ลกู เสอื สรปุ สาระสาคญั ทไ่ี ดร้ บั 132 ค่มู อื การจดั กิจกรรมลกู เสือสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ลกู เสือตรี ชนั้ ประถมศกึ ษาปี ที่ 4

4) ผกู้ ากบั ลกู เสอื นดั หมายการเตรยี มการบนั เทงิ 4.4 ผกู้ ากบั ลกู เสอื เล่าเรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 4.5 พธิ ปี ิดประชุมกอง (นดั หมาย ตรวจเครอ่ื งแบบ ชกั ธงลง เลกิ ) 5. การประเมินผล 5.1 ตรวจสอบความถูกตอ้ งและเหมาะสมในการเตรยี มสงิ่ ของ อาหาร เพอ่ื การเดนิ ทางไกลและ การอยคู่ ่ายพกั แรม 5.2 สงั เกตการเตรยี มตวั การแสดง ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กิจกรรมที่ 21 เพลง สขุ ใจค่ายพกั แรม สุขใจเม่อื ไดม้ าอยคู่ า่ ย สุขใจเมอ่ื ไดม้ าพกั แรม คนื น้ีพระจนั ทรส์ วยแจม่ พกั แรมๆ สขุ ใจ สขุ ใจเม่อื ไดม้ ารอ้ งเลน่ รม่ เยน็ เมอ่ื ไดม้ าพกั ใจ สุขน้ีทเ่ี ราฝันใฝ่ สขุ ใจเม่อื ไดม้ าพกั แรม (ซ้า) เกม เกมขึน้ เขาลงห้วย ให้แต่ละหมู่เข้าแถวตอนลึก ระยะระหว่างหมู่ 3 ก้าว ระยะต่อ 5 ก้าว ให้คน สุดทา้ ยรองนายหมู่ยนื ตรง คนต่อมายนื ก้มหลงั คนถดั ไปยนื แยกขา ( สลบั เร่อื ย ๆ ไป จนถงึ หวั แถว ) เม่อื สญั ญาณเรม่ิ ใหร้ อนายหมู่เป็นผวู้ ง่ิ ขา้ มคนทอ่ี ยขู่ า้ งหน้า แลว้ มุดคนทอ่ี ยถู่ ดั ไป เม่อื ไปถงึ หวั แถว ก็ยกมอื ขน้ึ ใหส้ ญั ญาณ คนท้ายแถวจะเป็นผูว้ ง่ิ จะมุดหรอื กระโดดก่อน สดุ แตค่ นทย่ี นื อยขู่ า้ งหน้าจะยนื ในทา่ ใด การตดั สิน หมใู่ ดหมดก่อน และนงั่ ลงกอ่ นจะชนะ คมู่ อื การจดั กจิ กรรมลกู เสือสามญั เสริมสร้างทกั ษะชีวติ ลกู เสือตรี ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 133

เรื่องสนั้ ท่ีเป็นประโยชน์ การขึน้ ต้นไม้ การขน้ึ ตน้ ไม้ ถา้ ตน้ ไมต้ น้ นนั้ มกี ง่ิ กา้ นสาขา กส็ ามารถปีนขน้ึ ลงไดง้ า่ ย ขอ้ ควรระวงั คอื จบั ใหม้ นั่ ระวงั สะเกด็ ของตน้ ไมห้ ลดุ เกย่ี วกบั เสอ้ื ผา้ ของเรา จงึ ควรเลอื กขน้ึ ตน้ ไมท้ ไ่ี มม่ สี ะเกด็ กรณตี ้นไมน้ นั้ เป็นต้นไมท้ เ่ี ป็นลาสงู ชะลดู ไม่มกี งิ่ กา้ นสาขา ผขู้ น้ึ ตอ้ งใชเ้ ครอ่ื งมอื ช่วยผ่อนแรง เชน่ เขม็ ขดั ขน้ึ ตน้ ไม้ เชอื กคลอ้ งพยงุ ตวั เหลก็ หรอื ไมท้ าลกู ทอยสาหรบั เหยยี บหรอื เกาะยดึ ลกู เสอื ตอ้ งตรวจสอบลกู ทอยว่าอยตู่ อกตดิ แน่น สามารถรบั น้าหนกั ตวั เราได้ ไมเ่ ช่นนนั้ อาจเกดิ อนั ตรายต่อตวั เราได้ ดงั นนั้ ลูกเสอื จงึ ไม่ควรปีนป่ายขน้ึ ต้นไมด้ ว้ ยตนเอง และหากไมม่ อี ุปกรณ์ ไมม่ นั่ ใจ ลกู เสอื ตอ้ ง หลกี เลย่ี ง และไมข่ น้ึ ตน้ ไมอ้ ยา่ งเดด็ ขาด เรอ่ื งนี้สอนให้ร้วู ่า การปฏบิ ตั กิ จิ กรรมใด ๆ กต็ าม ควรรอบคอบเพราะจะทาใหเ้ ราปลอดภยั เสมอ ใบความรู้ การเตรยี มสิ่งของสาหรบั การเดินทางไกล ในการเดนิ ทางไกลระยะสนั้ ๆ ทใ่ี ชเ้ วลาไม่นาน ลูกเสอื อาจไมต่ อ้ งเตรยี มอาหารไปรบั ประทาน แต่ถา้ ไปไกลและใชเ้ วลานานกว่าครง่ึ วนั กต็ อ้ งเตรยี มอาหารไปรบั ประทานดว้ ย เชน่ ขา้ วหอ่ ขา้ วตม้ มดั หรอื อาหารห่ออย่างอ่นื ในกรณีเช่นน้ีลูกเสอื จะต้องมเี คร่อื งหลงั (ย่าม) เพ่อื ใส่อาหารสาเรจ็ รูปและ สง่ิ ของจาเป็นอ่นื ๆ หรอื ถ้ามกี ารพกั แรมคา้ งคนื กต็ ้องมกี ารเตรยี มการเรอ่ื งเครอ่ื งหลงั ใหพ้ รอ้ ม และ เหมาะสมกบั การเดนิ ทางไกลไปพกั คา้ งคนื อุปกรณ์ทต่ี อ้ งจดั เตรยี มแบง่ ออกเป็น 2 ประเภท คอื 1. อุปกรณ์เฉพาะบคุ คล หรอื อุปกรณ์ประจาตวั รวมทงั้ เครอ่ื งปัจจบุ นั พยาบาล 2. อุปกรณ์สว่ นรวม หรอื อุปกรณ์สาหรบั หมหู่ รอื กอง อปุ กรณ์เฉพาะบคุ คล ควรเป็นสงิ่ จาเป็น และมนี ้าหนกั ไมม่ ากนกั ไดแ้ ก่ 1. กระตกิ น้า ใสน่ ้าสะอาดใหเ้ ตม็ 2. เครอ่ื งใชป้ ระจาตวั เชน่ ผา้ เชด็ ตวั ผ้าขาวมา้ ผา้ ถุง สบู่ แปรงสฟี ัน ยาสฟี ัน รองเทา้ แตะ ไฟ ฉาย ชอ้ นสอ้ ม จานขา้ ว ยาทากนั ยงุ เป็นตน้ 3. เคร่อื งแบบและเคร่อื งประกอบเคร่อื งแบบ ไดแ้ ก่ เส้อื กางเกง (กระโปรงสาหรบั เนตรนาร)ี ผา้ พนั คอ หมวก เขม็ ขดั รองเทา้ ถุงเทา้ เป็นตน้ 4. เขม็ ทศิ แผนท่ี สมดุ จดบนั ทกึ การเดนิ ทาง ดนิ สอ ปากกา 5. ฤดฝู นตอ้ งเตรยี มชุดกนั ฝน ฤดหู นาวใหเ้ ตรยี มเสอ้ื กนั หนาว 6. เครอ่ื งนอน เช่น เตน็ ท์ ผา้ ปทู น่ี อน เส่อื ผา้ หม่ ถุงนอน เป็นตน้ 7. ถุงพลาสตกิ เพอ่ื ใชส้ าหรบั ใส่เสอ้ื ผา้ เปียกชน้ื หรอื เสอ้ื ผา้ ทใ่ี ชแ้ ลว้ 8. เชอื กหรอื ยางเพอ่ื ใชผ้ กู รดั อุปกรณ์สงิ่ ของเลก็ ๆ น้อย ๆ 134 ค่มู ือการจดั กิจกรรมลกู เสือสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ลกู เสือตรี ชนั้ ประถมศึกษาปี ที่ 4

การเตรยี มเครือ่ งปัจจบุ นั พยาบาลส่วนตวั สาหรบั การเดินทางไกล ในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมเดนิ ทางไกล บางครงั้ ลกู เสอื อาจเกดิ อาการเจบ็ ป่วยหรอื ไมส่ บาย ดงั นนั้ ควรเตรยี มเครอ่ื งปัจจบุ นั พยาบาลส่วนตวั ไปดว้ ย ดงั น้ี 1. ยาประเภทต่าง ๆ เช่น ยาลม ยาแก้ปวดลดไข้ ยาแก้ปวดท้อง ยาแดง ยาเหลอื ง ทงิ เจอร์ แอมโมเนีย ขผ้ี ง้ึ ฯลฯ 2. อุปกรณ์การปฐมพยาบาล เชน่ ผา้ พนั แผล ผา้ กอซ สาลี ฯลฯ อปุ กรณ์ ส่วนรวม หรืออปุ กรณ์สาหรบั หมหู่ รือกอง เป็นอุปกรณ์ทใ่ี ชส้ าหรบั ทกุ คนในหมหู่ รอื กอง ในการอย่คู ่ายพกั แรมรว่ มกนั และตอ้ งแบ่งหน้าท่ี กนั นาสง่ิ ของไป เช่น - นายหมู่ เอาตะเกยี ง มดี พรา้ และแผนท่ี - รองนายหมู่ นาพลวั่ สนาม เตน็ ท์ กระดาษชาระ กระเป๋ ายาและอุปกรณ์ในการปฐมพยาบาล ถงั น้า กะละมงั ไมข้ ดี ไฟ เชอ้ื ไฟ ยาขดั รองเทา้ ยาขดั โลหะ - หวั หน้าคนครวั เตรยี มกระทะ หมอ้ ทพั พี หมอ้ สาหรบั ปรงุ อาหาร กระทะ มดี ทาครวั - รองหวั หน้าคนครวั นากบั ขา้ ว เครอ่ื งปรงุ อาหารสด อาหารแหง้ และอาหารกระป๋ องสาหรบั รบั ประทานทงั้ หมู่ ส่ิงท่ีไมค่ วรบรรจเุ ครอื่ งหลงั ไมค่ วรนาสง่ิ ของอ่นื ๆ ทไ่ี มจ่ าเป็นและของมคี ่าทุกชนิดไป เช่น สายสรอ้ ยทองคา โทรศพั ทร์ าคา แพง เครอ่ื งเล่นรวมถงึ อุปกรณ์อเิ ลค็ โทรนิกอ่นื ๆ ฯลฯ นาเงนิ ตดิ ตวั ไปเท่าทจ่ี าเป็นตอ้ งใชร้ วมทงั้ ไม่พกพา อาวุธทุกชนิด การบรรจสุ ิ่งของลงในถงุ เคร่อื งหลงั หรอื กระเป๋ า เครื่องหลงั คอื ถุงหรอื กระเป๋ าสาหรบั ใส่สงิ่ ของต่าง ๆ และใชส้ ะพายหลงั เพ่อื ใหส้ ามารถ นาสง่ิ ของไปยงั สถานทต่ี ่าง ๆ ไดอ้ ยา่ งสะดวกเครอ่ื งหลงั จงึ เป็นสง่ิ สาคญั และมคี วามจาเป็นมากสาหรบั การเดนิ ทางไกล เพราะลูกเสอื ต้องใชบ้ รรจอุ ุปกรณ์ประจาตวั อุปกรณ์ประจาหมู่ ซง่ึ ตอ้ งนาไปใชใ้ นการ อยคู่ า่ ยพกั แรม มขี นั้ ตอนดงั ต่อไปน้ี 1. เลอื กเครอ่ื งหลงั ทม่ี ขี นาดพอเหมาะไมเ่ ลก็ หรอื ใหญ่จนเกนิ ไป 2. บรรจุสงิ่ ของทม่ี นี ้าหนกั มากหรอื สง่ิ ของทใ่ี ชภ้ ายหลงั ไวข้ า้ งล่าง ส่วนสงิ่ ของทใ่ี ชก้ ่อนหรอื ใช้ รบี ด่วน เช่นไฟฉาย เส้อื กนั ฝน ไม้ขดี ไฟ ฯ ให้บรรจุไว้ขา้ งบนสุดเพ่อื สามารถนาออกมาใช้ได้อย่าง สะดวก 3. บรรจุสง่ิ ของนุ่ม ๆ เช่น ผา้ เชด็ ตวั ผา้ ห่ม เสอ้ื ผ้า ฯลฯ ตรงส่วนทส่ี ัมผสั กบั หลงั ของลูกเสอื เพ่อื จะไดไ้ มเ่ จบ็ หลงั ขณะเดนิ ทาง 4. สงิ่ ของบางประเภท เช่น ยารกั ษาโรค ขา้ วสาร เป็นต้น ควรใส่ถุงผ้าหรอื ถุงพลาสตกิ ก่อน แลว้ จงึ บรรจลุ งเครอ่ื งหลงั คู่มือการจดั กิจกรรมลกู เสือสามัญเสริมสรา้ งทักษะชีวิต ลกู เสอื ตรี ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 4 135

5. ในกรณที ถ่ี ุงนอน และผา้ หม่ บรรจเุ ครอ่ื งหลงั ไมไ่ ด้ ใหผ้ กู ถุงนอนและผา้ ห่มนอนของลกู เสอื ไว้ นอกเครอ่ื งหลงั คลมุ ดว้ ยแผน่ พลาสตกิ ใสเพอ่ื กนั การเปียกน้า 6. เครอ่ื งหลงั ทล่ี กู เสอื นาไปตอ้ งไมห่ นกั จนเกนิ ไป เพราะจะทาใหล้ กู เสอื เหน่อื ยเรว็ น้าหนกั ของ เคร่อื งหลงั ควรหนักไมเ่ กนิ 1 ใน 5 ของน้าหนักตวั ลูกเสอื เช่น ถา้ ลูกเสอื หนกั 60 กโิ ลกรมั เคร่อื งหลงั ควรหนกั ไมเ่ กนิ 12 กโิ ลกรมั เป็นตน้ รองเท้าผ้าใบ ชุดลาลอง รองเท้าแตะ สมดุ บันทกึ ยารกั ษาโรค ของใชส้ ่วนตวั ไฟฉาย 136 ค่มู ือการจดั กิจกรรมลูกเสือสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ลกู เสือตรี ชนั้ ประถมศึกษาปี ที่ 4

แผนการจดั กิจกรรมลกู เสือ หลกั สตู รลกู เสือสามญั (ลกู เสือตรี) ชนั้ ประถมศึกษาปี ท่ี 4 หน่วยที่ 5 กิจกรรมกลางแจ้ง เวลา 1 ชวั่ โมง แผนการจดั กิจกรรมท่ี 22 การปฏิบตั ิตามกฎและเครอ่ื งหมายจราจร 1. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. ลกู เสอื บอกความหมายของสญั ญาณไฟจราจรและเครอ่ื งหมายจราจรไดถ้ กู ตอ้ ง 2. ลกู เสอื ปฏบิ ตั ติ ามกฎและเครอ่ื งหมายจราจรไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งและปลอดภยั 2. เนื้อหา กฎและเครอ่ื งหมายจราจร 3. สื่อการเรียนรู้ 3.1 แผนภูมเิ พลง เกม 3.2 ใบความรู้ 3.3 เรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 4. กิจกรรม 4.1 พธิ เี ปิดประชุมกอง (ชกั ธงขน้ึ สวดมนต์ สงบนงิ่ ตรวจ แยก) 4.2 เพลง หรอื เกม 4.3 กจิ กรรมตามจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1) ผกู้ ากบั ลกู เสอื จดั สถานทเ่ี ป็นถนนจาลอง ทบทวนเครอ่ื งหมายจราจร (สญั ญาณไฟ จราจร สญั ญาณไฟคนขา้ มถนน ป้ายจราจร) และสาธติ การเดนิ ถนนและขา้ มถนนอย่าง ปลอดภยั 2) หมลู่ กู เสอื ฝึกปฏบิ ตั ติ ามสญั ญาณไฟจราจร สญั ญาณไฟคนขา้ มถนน ป้ายจราจร และ การเดนิ ถนนและขา้ มถนนอยา่ งปลอดภยั 3) ผกู้ ากบั ลกู เสอื และลกู เสอื รว่ มกนั สรปุ 4.4 ผกู้ ากบั ลกู เสอื เลา่ เรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 5.4 พธิ ปี ิดประชุมกอง (นดั หมาย ตรวจเครอ่ื งแบบ ชกั ธงลง เลกิ ) 5. การประเมินผล 5.1 ซกั ถามความหมายของสญั ญาณไฟจราจรและเครอ่ื งหมายจราจร 5.2 สงั เกตการปฏบิ ตั ติ ามกฎและเครอ่ื งหมายจราจร คู่มอื การจดั กิจกรรมลกู เสอื สามัญเสรมิ สร้างทกั ษะชีวติ ลกู เสอื ตรี ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 4 137

ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กิจกรรมที่ 22 เพลง ข้ามถนน อยา่ เหมอ่ มองตอ้ งดขู า้ งหน้า อกี ซา้ ยและขวาเมอ่ื จะขา้ มถนน หากยวดยานมากหลายกต็ อ้ งอดใจทน อยา่ ตดั หน้ารถยนตท์ กุ ทกุ คนควรระวงั เอย มง แซะ มง แซะ แซะ มงตะลุ่มตุมมง (ซ้า) ข้ามถนน ขา้ มถนนบนสะพานลอย หรอื ลอดอุโมงคเ์ หน่อื ยหน่อย แต่กป็ ลอดภยั ดี ขา้ มถนนบนทางมา้ ลาย มองขวามองซา้ ย และมองขวาอกี ที หากปลอดภยั ขา้ มไดอ้ ยา่ รอรี ครง่ึ หลงั มองซา้ ยอกี ที เพราะอาจจะมรี ถมา เกม เกมซิบ – แซบ ทุกคนนัง่ เป็นวงกลม มลี ูกเสอื คนหน่ึงอย่ตู รงกลาง ลูกเสอื ท่อี ย่ใู นวงกลมต้องพยายามจาช่อื นามสกุล ของผทู้ อ่ี ยทู่ างขวาและซา้ ยมอื ใหไ้ ด้ ผทู้ อ่ี ยตู่ รงกลางจะเดนิ ไปรอบ ๆ วงกลม แลว้ ชม้ี อื ไปยงั ลกู เสอื คนหน่งึ แลว้ พดู วา่ “ซบิ ” พรอ้ มกบั นบั “1 – 2 – 3 -4 – 5” ผทู้ ถ่ี กู ชต้ี อ้ งบอกช่อื นามสกุล ของผู้ ทอ่ี ย่ทู างซ้ายมอื ถ้าพูดว่า “แซบ” พรอ้ มกบั นับ “1 – 2 – 3 -4 – 5” ผูท้ ่ถี ูกชต้ี ้องบอกช่อื นามสกุล ของผทู้ อ่ี ยทู่ างขวามอื การตดั สิน 1. ลกู เสอื ทถ่ี กู ชจ้ี ะตอ้ งบอกชอ่ื นามสกุลใหค้ รบก่อนนบั ถงึ 5 2. ถา้ บอกผดิ หรอื บอกซา้ หรอื นึกไมอ่ อก ตอ้ งเปลย่ี นมาอยกู่ ลางวงกลมคอยเป็นผชู้ ต้ี ่อไป 138 ค่มู อื การจดั กิจกรรมลูกเสือสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ลกู เสือตรี ชนั้ ประถมศกึ ษาปี ที่ 4

เรื่องสนั้ ท่ีเป็นประโยชน์ กบกบั หนู หนูเเก่ตวั หน่ึงเดนิ ทางรอนแรมมาจนถงึ ลาธารทช่ี ายป่าหนูตอ้ งการจะขา้ มไปยงั ฝัง่ ตรงขา้ มจงึ เขา้ ไปหากบตวั น้อยทอ่ี ย่รู มิ ลาธารเเลว้ ขอรอ้ งใหก้ บช่วยพาขา้ มลาธารไปฝัง่ ตรงกนั ขา้ มเจา้ กบตวั น้อย มองดหู นูอยา่ งพจิ ารณาเเลว้ จงึ ปฏเิ สธอย่างสุภาพว่า \"โธ่ ฉนั น่ะตวั เลก็ พอๆ กบั ท่านเเลว้ จะพาท่านขา้ ม ลาธารไปไดอ้ ยา่ งไรกนั ล่ะจะ๊ \" แต่หนูไมย่ อมเปลย่ี นความคดิ อา้ งว่าตนเป็นสตั วผ์ อู้ าวุโสกว่า ถา้ กบไม่ ช่วย ตนจะไปป่าวประกาศใหส้ รรพสตั วท์ งั้ หลายรถู้ งึ ความใจดาของกบเม่อื ถูกข่เู ขญ็ เช่นนนั้ กบจงึ ต้อง จายอมให้หนูเอาเท้าผูกกบั เท้าของตน เเล้วก็พาว่ายขา้ มลาธารไปเเต่ทว่าพอว่ายไปได้เเค่ครง่ึ ทาง เทา่ นนั้ กบกเ็ รมิ่ หมดเเรงก่อนทท่ี งั้ ค่จู ะจมน้าตายเหยย่ี วตวั หน่งึ กโ็ ฉบลงมาจกิ เอาทงั้ กบเเละหนูไปกนิ เร่ืองนี้สอนให้รวู้ ่า คดิ ประโยชน์จากผทู้ ไ่ี มส่ ามารถใหไ้ ด้ ยอ่ มมเี เต่เสยี หาย ประเดน็ การวเิ คราะหค์ ุณธรรมทไ่ี ด้ 1. ซอ่ื สตั ย์ สจุ รติ 2. ความรบั ผดิ ชอบ 3. กตญั ญู 4. อุดมการณ์ คณุ ธรรม คมู่ ือการจัดกิจกรรมลูกเสอื สามญั เสรมิ สร้างทกั ษะชีวติ ลูกเสอื ตรี ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 4 139

ใบความรู้ เคร่ืองหมายจราจร และความปลอดภยั ในการเดินถนน เครอ่ื งหมายจราจร เป็นสญั ลกั ษณ์ทางจราจรท่ใี ช้ในการควบคุมการจราจรมกั เป็นสญั ญาณแสงหรือป้าย เพ่อื กาหนดหรอื บงั คบั การเคล่อื นตวั ของจราจร การจอด หรอื อาจเป็นการเตอื นหรอื แนะนาทางจราจร สญั ญาณไฟจราจร สญั ญาณไฟจราจรโดยทวั่ ไปประกอบดว้ ยสญั ญาณไฟสามสตี ดิ ตงั้ ตามทางแยกต่างเพอ่ื ควบคุม การจราจรตามทางแยก โดยทงั้ สามสี ไดแ้ ก่สแี ดงใหร้ ถหยดุ สเี หลอื งใหร้ ถระวงั เตรยี มหยดุ และสเี ขยี ว คอื ใหร้ ถไปได้ สาหรบั สญั ญาณไฟจราจรพเิ ศษ เช่น มสี เี หลอื งเพยี งสเี ดยี วกระพรบิ อยใู่ ชส้ าหรบั ทางแยกทไ่ี ม่ พลุกพล่านหมายถงึ ใหร้ ะมดั ระวงั ว่ามที างแยกและดูความเหมาะสมในการออกรถไดเ้ อง, สญั ญาณไฟ จราจรสาหรบั การขา้ มถนน เป็นตน้ สญั ญาณไฟจราจรสาหรบั การเดินรถ มี 3 สี คอื สแี ดง สเี หลอื ง และสเี ขยี ว สีแดง หมายถงึ ใหร้ ถทุกคนั หยดุ หลงั แนวเสน้ ทก่ี าหนดไว้ สีเหลือง หมายถงึ ใหร้ ถทแ่ี ล่นอยเู่ ตรยี มหยดุ หรอื ใหร้ ถทจ่ี อดอยเู่ ตรยี มแลน่ สีเขียว หมายถงึ ใหร้ ถแลน่ ผ่านไปได้ สญั ญาณไฟสาหรบั คนข้ามถนน สญั ญาณไฟสาหรบั คนขา้ มถนนจะมรี ปู คนในสญั ญาณไฟ มี 2 สี คอื สแี ดง และสเี ขยี ว สีแดง หมายถงึ หา้ มขา้ มถนน สีเขียว หมายถงึ ขา้ มถนนได้ 140 ค่มู ือการจดั กิจกรรมลกู เสือสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ลกู เสือตรี ชนั้ ประถมศึกษาปี ที่ 4

ป้ายจราจร เป็นป้ายควบคุมการจราจร แบง่ ออกเป็น 3 ประเภท - ป้ายบงั คบั มกั จะมพี น้ื สขี าว ขอบสแี ดง เป็นป้ายกาหนด ตอ้ งทาตาม เช่น หา้ มเลย้ี วขวา - ป้ายเตอื น มกั จะมพี น้ื สขี าว ขอบสดี า จะเป็นป้ายแจง้ เตอื นวา่ มอี ะไรอยขู่ า้ งหน้า - ป้ายแนะนา เป็นป้ายทแ่ี นะนาการเดนิ ทางต่างๆ อาทิ ทางลดั ป้ายบอกระยะทาง เป็นตน้ ป้ายจราจร ความหมาย แสดงตาแหน่งทางขา้ มถนน เครอ่ื งหมายทางขา้ มถนน โรงเรยี น ระวงั เดก็ :ทางขา้ งหน้ามโี รงเรยี นตงั้ อยขู่ า้ งทางใหข้ บั รถให้ ชา้ ลงและระมดั ระวงั อุบตั เิ หตุ ซง่ึ อาจจะเกดิ ขน้ึ แก่เดก็ นกั เรยี นถ้าเดก็ นกั เรยี นกาลงั เดนิ ขา้ มถนนใหห้ ยดุ รถใหเ้ ดก็ นกั เรยี นขา้ มถนนไปได้ โดยปลอดภยั ถา้ เป็นเวลาทโ่ี รงเรยี นกาลงั สอนใหง้ ดใชเ้ สยี งสญั ญาณ และหา้ มใหเ้ กดิ เสยี งรบกวนดว้ ยประการใด ๆ ระวงั คนขา้ มถนน :ทางขา้ งหน้ามที างสาหรบั คนขา้ มถนน หรอื มี หมบู่ า้ นราษฎรอยขู่ า้ งทางซง่ึ มคี นเดนิ ขา้ มไปมาอยเู่ สมอ ใหข้ บั รถให้ ชา้ ลงพอสมควรและระมดั ระวงั คนขา้ มถนนถา้ มคี นกาลงั เดนิ ขา้ ม ถนนใหห้ ยดุ ใหค้ นเดนิ ขา้ มถนนไปไดโ้ ดยปลอดภยั เฉพาะคนเดนิ :บรเิ วณทต่ี ดิ ตงั้ ป้ายเป็นบรเิ วณทก่ี าหนดใหเ้ ฉพาะคน เดนิ เทา่ นนั้ หยดุ : รถทกุ ชนดิ ตอ้ งหยดุ เมอ่ื เหน็ วา่ ปลอดภยั แลว้ จงึ ใหเ้ คลอ่ื นรถ ต่อไปไดด้ ว้ ยระมดั ระวงั ใหท้ าง :รถทุกชนิดตอ้ งระมดั ระวงั และใหท้ างแก่รถและคนเดนิ เทา้ ในทางขวางหน้าผ่านไปก่อนเมอ่ื เหน็ ว่าปลอดภยั และไมเ่ ป็นการกดี ขวางการจราจรทบ่ี รเิ วณทางแยกนนั้ แลว้ จงึ ใหเ้ คล่อื นต่อไปไดด้ ว้ ย ความระมดั ระวงั คมู่ อื การจดั กจิ กรรมลกู เสือสามัญเสริมสร้างทกั ษะชีวติ ลกู เสอื ตรี ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 4 141

ความปลอดภยั ในการเดินถนน และข้ามถนน เพ่อื ความปลอดภยั ของตนเอง ผอู้ ่นื และเป็นตวั อยา่ งทด่ี ี ควรปฏบิ ตั ใิ นการเดนิ ถนน ดงั น้ี 1. ถนนทม่ี ที างเทา้ เดนิ บนทางเทา้ และเดนิ ชดิ ดา้ นซา้ ยของทางเทา้ 2. ถนนทไ่ี มม่ ที างเทา้ เดนิ ชดิ ขอบดา้ นขวาของถนน เมอ่ื มรี ถแล่นสวนมาจะไดร้ ะมดั ระวงั 3. เดนิ ถนนตอนกลางคนื ควรถอื ไฟฉายส่องทาง และควรสวมเสอ้ื ผา้ สขี าวหรอื สอี ่อน 4. เดก็ ทย่ี งั ขา้ มถนนไมเ่ ป็น ตอ้ งมผี ใู้ หญ่ดแู ลโดยจงู เดก็ ใหเ้ ดก็ เดนิ ดา้ นในห่างขอบถนน การเดินข้ามถนน เพอ่ื ความปลอดภยั ใหป้ ฏบิ ตั ิ ดงั น้ี 1. ข้ามสะพานลอย ทางขา้ มท่มี สี ญั ญาณไฟสาหรบั คนข้าม ทางม้าลาย หรอื บรเิ วณจุดท่มี ี ตารวจอานวยความสะดวก รอใหร้ ถจอดสนทิ ก่อนจงึ ขา้ มไดแ้ ละระมดั ระวงั รถทข่ี บั แซงขน้ึ มา 2. ถ้าไม่มสี ะพานลอย หรอื ทางขา้ มท่มี สี ญั ญาณไฟ หรอื ทางมา้ ลาย ให้ขา้ มถนนด้วยความ ระมดั ระวงั หยุดท่ขี อบทางก่อน มองดูรถทางขวา หนั กลบั มาดูรถทางซ้าย แล้วหนั กลบั ไปดูรถ ทางขวาอกี ครงั้ เมอ่ื ไมม่ รี ถหรอื รถอยู่ไกลจงึ ขา้ มถนนอยา่ งระมดั ระวงั โดยเดนิ ทางตรง 3. ไมค่ วรวง่ิ ไมค่ วรเดนิ ยอ้ นกลบั กลางทาง และไม่ควรหยุดเก็บของทต่ี กหล่นอย่กู ลางถนน ไม่ว่ิงเล่นหยอกล้อคุยโทรศพั ท์ หาของในกระเป๋ าหรอื ก้มเก็บของท่ตี กหล่นขณะข้ามถนนเด็ดขาด เพราะอาจเสยี หลกั หกลม้ จนโดนรถเฉ่ยี วชนได้ 4. เพม่ิ ความระมดั ระวงั การข้ามถนนบรเิ วณทางแยกและบรเิ วณท่มี สี ง่ิ บดบงั เช่น ท้ายรถ ประจาทาง ซอยทม่ี รี ถจอด 5.การขา้ มถนนทม่ี รี ถเดนิ ทางเดยี ว ควรหยดุ ดวู ่ารถวงิ่ มาจากทางใดและระมดั ระวงั รถทว่ี ง่ิ ยอ้ นศร หากเป็นถนนทม่ี เี กาะกลาง ควรขา้ มทลี ะครง่ึ ถนน และหยดุ พกั ทเ่ี กาะกลางหากไม่มรี ถคอ่ ยขา้ มครง่ึ หลงั 142 ค่มู อื การจดั กิจกรรมลกู เสือสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ลูกเสือตรี ชนั้ ประถมศึกษาปี ที่ 4

แผนการจดั กิจกรรมลกู เสือ หลกั สตู รลกู เสือสามญั (ลกู เสือตรี) ชนั้ ประถมศึกษาปี ที่ 4 หน่วยท่ี 5 กิจกรรมกลางแจ้ง แผนการจดั กิจกรรมท่ี 23 เดก็ ไทยไมก่ ินหวาน เวลา 3 ชวั่ โมง 1. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1.1 ลกู เสอื สามารถอธบิ ายถงึ ผลเสยี ของการบรโิ ภคน้าตาลมากเกนิ ไปได้ 1.2 ลกู เสอื สามารถบอกวธิ ปี ฏบิ ตั ติ นเพ่อื ป้องกนั ปัญหาสขุ ภาพจากการบรโิ ภคน้าตาลได้ 2. เนื้อหา 2.1 ลกู เสอื มคี วามสามารถในการวเิ คราะหถ์ งึ ปรมิ าณของน้าตาล ในขนมทม่ี รี สหวานและ เครอ่ื งด่มื ทน่ี ิยมด่มื กนั อยใู่ นปัจจบุ นั 2.2 ลกู เสอื สามารถป้องกนั ตนเองจากปัญหาสุขภาพทอ่ี าจตามมาได้ 3. สื่อการเรยี นรู้ 3.1 แผนภมู เิ พลง 3.2 เกม 3.3 ภาพเดก็ อว้ น และเดก็ ฟันผุ 3.4 กลอ่ ง กระป๋ องหรอื ขวด เครอ่ื งดม่ื น้าอดั ลม ทม่ี ขี อ้ มลู โภชนาการชุดละ 4 ชนิด เชน่ นมชนิดต่าง ๆ น้าอดั ลมสตี ่าง ๆ ชาพรอ้ มด่มื บรรจขุ วด น้าผลไม้ หรอื เครอ่ื งด่มื ทเ่ี ดก็ ดม่ื เป็นประจาในทอ้ งถน่ิ จานวนชุดเท่ากบั จานวนหมลู่ กู เสอื 3.5 กระดาษปรฟู๊ ปากกาเคมี 3.6 เรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 4. กิจกรรม 4.1 กิจกรรมครงั้ ที่ 1 1) พธิ เี ปิดประชุมกอง (ชกั ธงขน้ึ สวดมนต์ สงบน่ิง ตรวจ แยก) 2) เพลง หรอื เกม 3) กจิ กรรมตามจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ (1) ผกู้ ากบั ลกู เสอื ใหก้ องลกู เสอื ดภู าพเดก็ อว้ น/เดก็ ฟันผแุ ลว้ ชวนคดิ ชวนคยุ ว่า น่าจะ เกดิ จากสาเหตุใดไดบ้ า้ ง (เช่น ลกู อม ขนมหวาน เครอ่ื งดม่ื ทม่ี นี ้าตาลมาก ฯลฯ) (2) ผกู้ ากบั ลกู เสอื แจกกล่อง/ขวด/กระป๋ อง เคร่อื งด่มื ใหล้ กู เสอื หมลู่ ะ 1 ชุด และ มอบหมาย ใหล้ กู เสอื แต่ละหมสู่ ารวจปรมิ าณน้าตาลในเครอ่ื งด่มื แต่ละชนดิ โดย คู่มือการจัดกจิ กรรมลูกเสือสามัญเสรมิ สรา้ งทักษะชีวติ ลูกเสอื ตรี ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 4 143

คานวณปรมิ าณ น้าตาลออกมาเป็นจานวนชอ้ นชาต่อกล่อง/ขวด/กระป๋ อง (1 ชอ้ นชา = 4 กรมั ) (3) หลงั การคานวณใหเ้ ปรยี บเทยี บว่า เครอ่ื งด่มื ชนิดใดมปี รมิ าณน้าตาลมากทส่ี ุด และน้อยทส่ี ดุ แลว้ สง่ ตวั แทนรายงานในกองลกู เสอื (4) ลกู เสอื รายงานทลี ะหมจู่ นครบ (5) ผกู้ ากบั ลกู เสอื ชวนคดิ ว่าลกู เสอื ไดข้ อ้ คดิ อะไรจากกจิ กรรมน้ี (6) กองลกู เสอื รว่ มกนั รวบรวมผลการวเิ คราะหข์ องแต่ละหมู่ ทาเป็นตารางตดิ บอรด์ (7) มอบหมายใหล้ กู เสอื แต่ละคนจดบนั ทกึ ชนดิ และปรมิ าณ เครอ่ื งด่มื และลูกอม ทร่ี บั ประทานใน 1 วนั เพอ่ื นามาคุยกนั ครงั้ ต่อไป 4) ผกู้ ากบั ลกู เสอื เลา่ เรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 5) พธิ ปี ิดประชมุ กอง (นดั หมาย ตรวจเครอ่ื งแบบ ชกั ธงลง เลกิ ) 4.2 กิจกรรมครงั้ ที่ 2 1) พธิ เี ปิดประชุมกอง (ชกั ธงขน้ึ สวดมนต์ สงบนงิ่ ตรวจ แยก) 2) เพลงหรอื เกม 3) กจิ กรรมตามจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ (1) ลกู เสอื นงั่ ลอ้ มวงตามหมู่ พดู คุยแลกเปลย่ี น และช่วยกนั วเิ คราะหว์ ่าสมาชกิ แต่ละคน กนิ น้าตาลจากเครอ่ื งดม่ื และลกู อม วนั ละกช่ี อ้ นชา (เครอ่ื งดม่ื ดจู ากตารางครงั้ ก่อน / ลกู อม 1 เมด็ มนี ้าตาลประมาณ 1 ชอ้ นชา) (2) ผกู้ ากบั ลกู เสอื ใหข้ อ้ มลู ปรมิ าณน้าตาลทบ่ี รโิ ภคต่อวนั สาหรบั เดก็ ทอ่ี ยใู่ นวยั ลกู เสอื สามญั ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4ไมค่ วรกนิ น้าตาลเกนิ วนั ละ 5 ชอ้ นชา (3) ใหแ้ ต่ละหมสู่ ารวจดวู า่ มสี มาชกิ กค่ี นทก่ี นิ น้าตาลจากลกู อมและเครอ่ื งดม่ื เกนิ 5 ชอ้ นชาต่อวนั แลว้ ส่งตวั แทนรายงานในกอง (4) ตัวแทนหมู่ลูกเสือรายงาน ผู้กากับลูกเสือเพ่ิมเติมดังน้ี “นอกจากลูกอมและ เครอ่ื งด่มื แลว้ ลกู เสอื ยงั ไดน้ ้าตาลจากอาหารอ่นื ๆ อกี ดว้ ย เช่น บางคนชอบเตมิ น้าตาลลงใน ก๋วยเตยี๋ วทลี ะหลายๆชอ้ น” (5) ชวนคดิ ว่า “นอกจากก๋วยเตยี๋ ว ลกู อม ขนม และเครอ่ื งดม่ื แลว้ ลกู เสอื คดิ ว่ายงั มี น้าตาลในอาหารใดอกี บา้ งทต่ี อ้ งควรระวงั ” (6) ผกู้ ากบั ลกู เสอื รวบรวมและสรปุ คาตอบทไ่ี ด้ ชวนคดิ ว่าลกู เสอื ไดข้ อ้ คดิ อะไร จากกจิ กรรมน้ี (7) มอบหมายใหล้ กู เสอื แต่ละหมหู่ าขอ้ มลู “วธิ ปี ้องกนั ปัญหาสขุ ภาพจากการ รบั ประทานน้าตาลมากเกนิ ไป” หมลู่ ะ 3 ขอ้ 144 คมู่ อื การจดั กิจกรรมลูกเสือสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ลูกเสือตรี ชนั้ ประถมศึกษาปี ที่ 4

4) ผกู้ ากบั ลกู เสอื เล่าเรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 5) พธิ ปี ิดประชมุ กอง (นดั หมาย ตรวจเครอ่ื งแบบ ชกั ธงลง เลกิ ) 4.3 กิจกรรมครงั้ ท่ี 3 1) พธิ เี ปิดประชุมกอง (ชกั ธงขน้ึ สวดมนต์ สงบนิ่ง ตรวจ แยก) 2) เพลง หรอื เกม 3) กจิ กรรมตามจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ (1) ลกู เสอื แต่ละหมรู่ ายงาน“วธิ ปี ้องกนั ปัญหาสุขภาพจากการรบั ประทานน้าตาลมาก เกนิ ไป” (2) ผกู้ ากบั ลกู เสอื รวบรวมและใหล้ ูกเสอื ช่วยกนั โหวตว่าวธิ ใี ดทล่ี ูกเสอื ทาไดง้ า่ ยทส่ี ุด (3) ผกู้ ากบั ลกู เสอื เพม่ิ เตมิ ว่า “น้าตาลเป็นสงิ่ ทร่ี า่ งกายไมส่ ามารถขบั ทง้ิ ได้ จงึ สะสม อยใู่ นรา่ งกาย จะลดปรมิ าณน้าตาลไดต้ อ้ งเปลย่ี นน้าตาลใหเ้ ป็นพลงั งาน เชน่ การเดนิ เรว็ ๆ 1 กโิ ลเมตร จงึ จะลดน้าตาลทส่ี ะสมลงได้ = 4 ชอ้ นชา” (4) ใหแ้ ต่ละหมรู่ ว่ มกนั วางแผนปรบั เปลย่ี นพฤตกิ รรมสมาชกิ ตาม “วธิ ปี ้องกนั ปัญหา สุขภาพจากการรบั ประทานน้าตาลมากเกนิ ไป” 2 วธิ ที โ่ี หวตไดใ้ น ขอ้ 4 เขยี นลง กระดาษปรฟู๊ ตดิ บอรด์ 4) ผกู้ ากบั ลกู เสอื เลา่ เรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 5) พธิ ปี ิดประชมุ กอง (นดั หมาย ตรวจเครอ่ื งแบบ ชกั ธงลง เลกิ ) 5. การประเมินผล 5.1 สงั เกตการมสี ว่ นรว่ มและการแสดงความคดิ เหน็ ในหมแู่ ละกองลกู เสอื 5.2 ตรวจสอบการอธบิ ายผลเสยี ของการบรโิ ภคน้าตาลมากเกนิ ไป 5.3 สอบถามการปฏบิ ตั ติ น เพอ่ื หลกี เลย่ี งปัญหาจากการรบั ประทานน้าตาลมากเกนิ ไป 6. องคป์ ระกอบทกั ษะชีวิตสาคญั ท่ีเกิดจากกิจกรรม การคดิ วเิ คราะห์ ความคดิ สรา้ งสรรค์ ตระหนกั รู้ และป้องกนั ผลเสยี ของการบรโิ ภคน้าตาลมาก เกนิ ไป คู่มอื การจดั กิจกรรมลกู เสอื สามญั เสริมสร้างทักษะชีวติ ลกู เสือตรี ช้ันประถมศึกษาปีที่ 4 145

ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กิจกรรมที่ 23 เพลง ขนมเปี๊ ยะขนมปัง ขนมเป๊ียะขนมปัง (ซ้า) ขนมฝรงั่ ไสห้ มู ลอดช่องสาคู (ซา้ ) ขนมขห้ี นูขา้ วพอง ทองหยบิ ฝอยทองเมด็ ขนุน วนุ้ น้าเช่อื มโอโ้ ออว้ นจงั (ซ้า) กว๋ ยเต๋ียวบะหมี่ (ทานองเพลงกนิ ขา้ วกบั น้าพรกิ ) แกงกะหรใ่ี ส่มนั ก๋วยเตยี๋ วบะหม่ี (ซ้า) เน้อื สเตก็ สตู ขนมจนี ทอดมนั (ซ้า) แกงใส่พรกิ ไทยโอโ้ ฮ แกงเน้อื แกงหมแู กงไก่ กะทแิ กงไทย หวานมนั ชว่ ยดบั ความฝันดารา เดก็ ไทยไม่กินหวาน เดก็ ไทยเราไมก่ นิ หวาน ปรมิ าณน้าตาล จะเกนิ ความจาเป็น กนิ ผกั สด กบั เน้อื นมไข่ โปรตนี กม็ ากมาย วติ ามนิ กจ็ าเป็น ใหพ้ ลงั งานดี มคี ุณประโยชน์ ไมม่ โี ทษและโรคภยั รา่ งกายแขง็ แรง เกม เชื้อโรคติดต่อ วธิ เี ลน่ 1. เขยี นวงกลมรศั มพี อสมควร ใหค้ นอยใู่ นวงกลมหลบคนทว่ี งิ่ รอบ ๆ วงได้ 2. ใหล้ กู เสอื คนหน่งึ เป็นเช่อื โรค วง่ิ รอบ ๆ วงกลม 3. ลกู เสอื ทอ่ี ยใู่ นวงกลม อยา่ ใหเ้ ชอ้ื โรคแตะถกู ตวั ได้ ใครถกู แตะตอ้ งออกไปเป็นเชอ้ื โรค เรียงตวั อกั ษร วิธีเล่น 1. แบง่ ลกู เสอื เป็นหมู่ แจกบตั รอกั ษรใหห้ มลู่ ะ 1 ชดุ 2. ใหล้ กู เสอื แขง่ ขนั กนั เรยี งบตั รอกั ษร ใหเ้ ป็นขอ้ ความว่า “ทาดที ส่ี ุด” หมใู่ ดเรยี งเสรจ็ ก่อน และ ถกู ตอ้ งถอื ว่าชนะ 146 คมู่ ือการจดั กิจกรรมลูกเสือสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ลูกเสือตรี ชนั้ ประถมศึกษาปี ที่ 4

เรือกรรเชียง วิธีเล่น ใหแ้ ต่ละหม่ยู นื คล่อมไมพ้ ลอง ใหค้ นหน้าสุดหนั หน้าเขา้ หาคนอ่นื ๆ ใหท้ ุกคนจบั ไมพ้ ลองไว้ การเคล่อื นท่ี เคล่อื นถอยหลงั คนหน่งึ เป็นคนตกี รรเชยี ง คนหวั แถวเป็นคนถอื ทา้ ย หมใู่ ดถงึ เสน้ ชยั ก่อน เป็นผชู้ นะ เร่ืองสนั้ ท่ีเป็นประโยชน์ เดก็ โลภ เดก็ ชายคนหน่ึงอยากกนิ ลูกเกาลดั มาก จงึ ลว้ งมอื ลงไปในโถ แลว้ กอบลูกเกาลดั จนเตม็ กามอื และไม่สามารถเอามอื ออกจาก ปากโถแคบๆ ได้เดก็ ชายจงึ รอ้ งไหอ้ ยอู่ ย่างนัน้ เพราะไม่ยอมปล่อยลูก เกาลดั ออกจากมอื เม่อื ผใู้ หญ่คนหน่ึงเดนิ ผ่านมาเหน็ เขา้ จงึ ว่า \"ทาไมไมป่ ล่อยลูกเกาลดั ในมอื เสียก่อน ถา้ ลว้ งหยบิ เกาลดั ทลี ะลกู เดยี ว กส็ ามารถหยบิ กนิ ไดจ้ นอม่ิ เหมอื นกนั มอื กไ็ มต่ ดิ ปากโถดว้ ย\" เรอื่ งนี้สอนให้รวู้ ่า ไดท้ ลี ะน้อย กส็ ามารถเกบ็ ใหเ้ ป็นมากได้ ห่านออกไข่เป็ นทองคา เชา้ วนั หน่ึงชาวนาเดนิ เขา้ ไปในเลา้ เหน็ ห่านทเ่ี ลย้ี งไวอ้ อกไขเ่ ป็นทองคาสวยงามมาก กร็ สู้ กึ ดี ใจและต่นื เตน้ รบี นาไขไ่ ปใหภ้ รรยาดู ทงั้ สองตกลงใจนาไขท่ องคาไปขายจงึ กไ็ ดเ้ งนิ มาจานวนหน่งึ เพยี ง พอทจ่ี ะใชจ้ า่ ยในครอบครวั และซอ้ื สงิ่ ของทต่ี อ้ งการ วนั ต่อมาแมห่ ่านตวั เดมิ กอ็ อกไขเ่ ป็นทองคาอกี สอง สามภี รรยาต่างดอี กดใี จทม่ี หี ่านวเิ ศษไวใ้ นครอบครอง ทุกเชา้ จงึ เก็บไข่ห่านทองคาไปขายจนมฐี านะ ร่ารวยขน้ึ ดว้ ยความโลภทงั้ สองคนจงึ ปรกึ ษากนั วา่ “เราจะมวั เกบ็ ไขห่ า่ นทองคาไปขายวนั ละฟองอยทู่ าไม สจู้ บั ห่านมาฆ่านาทองทงั้ หมดทม่ี อี ยใู่ น ทอ้ งของมนั ไปขายทเี ดยี วไมด่ กี ว่าหรอื ” เมอ่ื ความเหน็ ตรงกนั ชาวนาจงึ ฆ่าห่านแต่เมอ่ื ผ่าทอ้ งดูกลบั พบวา่ ภายในทอ้ งห่านมแี ต่ความ วา่ งเปล่า เรือ่ งนี้สอนให้รวู้ ่า โลภนกั มกั ลาภหาย ลากบั เงา ชายหนุ่มคนหน่งึ ตกลงเช่าลาตวั หน่งึ เพ่อื ขเ่ี ดนิ ทางขา้ มทอ้ งถน่ิ อนั ทุรกนั ดารและแหง้ แลง้ โดย มเี จา้ ของลาตดิ ตามไปดว้ ย ครนั้ ถงึ เวลาเทย่ี งแดดรอ้ นจดั ชายหนุ่มจงึ ลงจากหลงั ลามานงั่ พกั กบั พ้นื ทรายโดยอาศยั รม่ เงาของลาเป็นทบ่ี งั แดด เจา้ ของลาซง่ึ ยนื ตากแดดอยเู่ หน็ ดงั นนั้ กไ็ มย่ อมอ้างว่าเขามี สทิ ธทิ ์ จ่ี ะเขา้ ไปหลบแดดในเงาของลามากกว่า แต่ชายหนุ่มโต้แยง้ ว่า “ขา้ ไดจ้ า่ ยค่าเช่าใหท้ ่านถูกต้อง แลว้ ขา้ กค็ วรจะมสี ทิ ธทิ ์ จ่ี ะใชเ้ งาของลาได”้ ค่มู อื การจัดกจิ กรรมลูกเสือสามัญเสรมิ สรา้ งทักษะชีวติ ลกู เสอื ตรี ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 4 147

แต่เจา้ ของลาไมย่ อมเถยี งว่า “ท่านขอเช่าแต่ตวั ลาเท่านัน้ ไม่ไดข้ อเช่าเงาของลาดว้ ย ดงั นัน้ ท่านไม่มสี ทิ ธ”ิ ์ ว่าแลว้ กพ็ ยายามแทรกเขา้ มาหลบในเงาของลา เม่อื ไมม่ ใี ครยอมใครจงึ เกดิ การทะเลาะชกต่อยกนั ขน้ึ ในระหว่างนนั้ เองลาเกดิ ตกใจ มนั จงึ วง่ิ หนีหายไป ในทส่ี ดุ ชายทงั้ สองกเ็ ลยตอ้ งเดนิ ตากแดดไปตลอดทาง เรื่องนี้สอนให้รวู้ ่า เมอ่ื ไรซ้ ง่ึ ความสามคั คี ประโยชน์อนั พงึ มกี ห็ ายไป ประเดน็ การวเิ คราะหค์ ณุ ธรรมทไ่ี ด้ 1. ความพอเพยี ง 2. ซอ่ื สตั ย์ สจุ รติ 3. ความรบั ผดิ ชอบ 4. กตญั ญู 5. อุดมการณ์ คณุ ธรรม 148 คมู่ อื การจดั กิจกรรมลูกเสือสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ลกู เสือตรี ชนั้ ประถมศกึ ษาปี ที่ 4

แผนการจดั กิจกรรมลกู เสือ หลกั สตู รลกู เสือสามญั (ลกู เสือตรี) ชนั้ ประถมศึกษาปี ท่ี 4 หน่วยท่ี 5 กิจกรรมกลางแจ้ง เวลา 1 ชวั่ โมง แผนการจดั กิจกรรมที่ 24 เสริมสร้างสมรรถนะทางกาย 1. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ลกู เสอื สามารถเลอื กวธิ อี อกกาลงั กายตามวยั และความถนดั ของตนได้ 2. เนื้อหา การออกกาลงั กายทส่ี รา้ งเสรมิ สุขภาพและสมรรถนะทางกาย 3. ส่ือการเรียนรู้ 3.1 แผนภมู เิ พลง 3.2 เกม 3.2 เรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 4. กิจกรรม 4.1 พธิ เี ปิดประชุมกอง (ชกั ธงขน้ึ สวดมนต์ สงบนิ่ง ตรวจ แยก) 4.2 เพลง หรอื เกม 4.3 กจิ กรรมตามจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1) หมลู่ กู เสอื นงั่ ลอ้ มวงพดู คยุ แลกเปลย่ี นกนั ในประเดน็ ต่อไปน้ี และสรปุ ผลการพูดคยุ ส่งตวั แทนรายงานในกองลกู เสอื - ทาไมลกู เสอื จงึ ตอ้ งเสรมิ สรา้ งสมรรถนะทางกายของตนเองใหแ้ ขง็ แรงขน้ึ - การออกกาลงั กายมปี ระโยชน์ต่อสขุ ภาพของลกู เสอื อยา่ งไร - สมาชกิ แต่ละคนมคี วามสนใจในการออกกาลงั กายชนิดใดบา้ งเพราะอะไร 2) สุ่มใหต้ วั แทนหมลู่ กู เสอื รายงานหมลู่ ะ 1 ประเดน็ และใหห้ มอู่ ่นื เพมิ่ เตมิ ผกู้ ากบั ลกู เสอื นาอภปิ รายซกั ถาม และสรปุ 3) ผกู้ ากบั ลกู เสอื รวบรวม จดั กลมุ่ การออกกาลงั กายประเภทต่าง ๆ ทล่ี กู เสอื สนใจ และ ใหล้ กู เสอื ไดเ้ ลอื กออกกาลงั กายตามทต่ี นเองทาไดจ้ รงิ ๆ เหมาะสมกบั วยั และปลอดภยั โดยมกี ารบนั ทกึ สะสมแตม้ การออกกาลงั กาย ตามระยะเวลาทก่ี าหนด 4.4 ผกู้ ากบั ลกู เสอื เล่าเรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 4.5 พธิ ปี ิดประชุมกอง (นดั หมาย ตรวจเครอ่ื งแบบ ชกั ธงลง เลกิ ) 5. การประเมินผล 5.1 ตดิ ตามผลการออกกาลงั กายของลกู เสอื ต่อเน่อื ง 5.2 บนั ทกึ สะสมแตม้ การออกกาลงั กาย ค่มู อื การจัดกจิ กรรมลูกเสอื สามัญเสริมสร้างทักษะชีวิต ลกู เสอื ตรี ช้ันประถมศึกษาปีที่ 4 149