Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 4.aephnluukesuuethaksachiiwit_p.4-com

Description: 4.aephnluukesuuethaksachiiwit_p.4-com

Search

Read the Text Version

ค่มู ือการจดั กิจกรรมลกู เสือเสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ประเภทลกู สามญั หลกั สตู รลกู เสือตรี ชนั้ ประถมศึกษาปี ท่ี 4 คมู่ ือการจดั กิจกรรมลกู เสือสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ลูกเสือตรี ชนั้ ประถมศกึ ษาปี ที่ 4 1

คานิ ยม นบั วา่ เป็นโอกาสและประโยชน์ทส่ี าคญั อกี เรอ่ื งหน่งึ ทส่ี านกั การลกู เสอื ยวุ กาชาดและกจิ การ นกั เรยี น ซง่ึ เป็นหน่วยงานหน่งึ ในสงั กดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร รว่ มกบั หน่วยงานทเ่ี กย่ี วขอ้ ง ไดผ้ ลติ ตาราในลกั ษณะ ค่มู อื การจดั กจิ กรรมลกู เสอื เสรมิ สรา้ งทกั ษะชวี ติ ชดุ น้ขี น้ึ ซง่ึ มเี น้ือหาทส่ี อดคลอ้ งกบั ปัญหาตามวยั และพฒั นาการของผเู้ รยี น และมกี ารบรู ณาการกจิ กรรมการเรยี นการสอน เขา้ กบั วธิ กี ารลกู เสอื ครู อาจารย์ ผกู้ ากบั ลกู เสอื และบุคลากรทางการลกู เสอื จะไดน้ าไปใชใ้ หเ้ กดิ ประโยชน์อย่างแทจ้ รงิ โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ ประเทศไทยกาลงั กา้ วสู่ “ไทยแลนด์ 4.0” ดงั นนั้ ความถกู ตอ้ งและชดั เจนในเรอ่ื งการจดั กจิ กรรมลกู เสอื จงึ เป็นตาราและคมู่ อื ทางวชิ าการ สาหรบั กจิ กรรมลกู เสอื เพอ่ื จะใชเ้ ป็นเครอ่ื งมอื ในการ พฒั นาเยาวชนใหเ้ ป็นพลเมอื งดี มคี วามรอบรู้ สามารถชว่ ยตนเองได้ อนั จะเป็นแรงผลกั ดนั ใหก้ ารศกึ ษา ของประเทศไทยมคี วามเจรญิ เทา่ เทยี มกบั ประเทศสมาชกิ อาเซยี น และอารยประเทศอ่นื ๆ ทวั่ โลก ขอขอบคณุ และใหก้ าลงั ใจต่อผทู้ รงวุฒทิ างการลกู เสอื และผมู้ สี ่วนรว่ มในการจดั ทาคมู่ อื การจดั กจิ กรรมลกู เสอื เสรมิ สรา้ ง ทกั ษะชวี ติ เลม่ น้ที ุกท่าน ทไ่ี ดเ้ สยี สละ กาลงั ความคดิ จนทาใหเ้ สรจ็ สน้ิ โดยสมบูรณ์ อนั จะเป็นประโยชน์ ต่อกจิ การลกู เสอื อยา่ งมาก ทงั้ ในปัจจบุ นั และอนาคต นายประเสรฐิ บญุ เรอื ง รองปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร เลขาธกิ ารสานกั งานลกู เสอื แหง่ ชาติ 2 คมู่ อื การจดั กิจกรรมลกู เสือสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ลูกเสือตรี ชนั้ ประถมศึกษาปี ที่ 4

คานิ ยม คมู่ อื การจดั กจิ กรรมลกู เสอื เสรมิ สรา้ งทกั ษะชวี ติ เป็นเครอ่ื งมอื สาคญั สาหรบั ครผู สู้ อน ลกู เสอื เนตรนารี ทจ่ี ะใชส้ าหรบั วางแผนการสอน การวดั และการประเมนิ ผเู้ รยี น จดั ทาขน้ึ โดยมเี ป้าหมาย สาคญั คอื เสนอแนวทางทเ่ี หมาะสมในการจดั การเรยี นการสอนในรายวชิ าต่าง ๆ สาหรบั ครผู สู้ อน นาไปใชเ้ ป็นหลกั การในการจดั การเรยี นการสอน โดยสามารถพฒั นาและปรบั ปรงุ ใหด้ ขี น้ึ ตาม ความรู้ ความสามารถของครผู สู้ อน ในบรบิ ทแต่ละภูมภิ าค หลกั สาคญั ของเอกสารชุดน้ี นอกเหนือจากเสนอแนวทางดา้ นเน้อื หาสาระสาคญั วธิ สี อนท่ี เหมาะสม การวดั และประเมนิ ผล ตวั อยา่ งแบบทดสอบ วธิ ที ดสอบ แลว้ ยงั สามารถต่อยอดทาง ความคดิ ของครผู สู้ อนได้ เน่อื งจากเป้าหมายทต่ี อ้ งการคอื การนาเอากระบวนการลกู เสอื มาจดั การ เรยี นรใู้ หแ้ ก่ผเู้ รยี นลงมอื ปฏบิ ตั ดิ ว้ ยตนเอง ในการทากจิ กรรมอยา่ งครบวงจร เพ่อื ใหเ้ ป็นผมู้ คี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม ตามรปู แบบของลกู เสอื จงึ เชอ่ื ไดว้ ่า หากผเู้ รยี นเขา้ ใจและปฏบิ ตั ไิ ดแ้ ลว้ จะเป็นคนดใี น สงั คม ขอขอบคณุ ผรู้ ว่ มดาเนินการในการจดั ทาค่มู อื การจดั กจิ กรรมลกู เสอื เสรมิ สรา้ งทกั ษะชวี ติ ทกุ ภาคส่วน ทเ่ี ลง็ เหน็ ประโยชน์ในการทาเอกสารชดุ น้ีจนสาเรจ็ เรยี บรอ้ ย สามารถเผยแพรไ่ ด้ ซง่ึ น่าจะ เป็นประโยชน์ต่อเดก็ และเยาวชนในทส่ี ดุ นายศจั ธร วฒั นะมงคล ผอู้ านวยการสานกั เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร สานกั งานปลดั กระทรวงศึกษาธิการ คมู่ ือการจดั กิจกรรมลูกเสือสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ลกู เสือตรี ชนั้ ประถมศกึ ษาปี ที่ 4 3

คานา สานักการลูกเสอื ยุวกาชาดและกจิ การนักเรยี น สานักงานปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร สมาคม วางแผนครอบครวั แห่งประเทศไทย ในพระราชปู ถมั ภส์ มเดจ็ พระศรนี ครนิ ทราบรมราชชนนี ไดร้ บั การสนับสนุนงบประมาณจากสานักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสรมิ สุขภาพ (สสส.) ร่วมกนั พฒั นาโครงการลูกเสอื เสรมิ สร้างทกั ษะชีวติ มวี ตั ถุประสงค์เพ่อื เสรมิ สร้างทกั ษะชีวิตให้เด็กและ เยาวชนในสถานศกึ ษาด้วยกระบวนการลูกเสอื โดยใหเ้ ดก็ และเยาวชนลงมอื ปฏบิ ตั ดิ ว้ ยตนเองใน การทากจิ กรรมอย่างครบวงจร ตงั้ แต่การศกึ ษา วเิ คราะห์ วางแผน ปฏบิ ตั ติ ามแผน ประเมนิ และ ปรบั ปรงุ การจดั กจิ กรรม รวมถงึ การทางานเป็นระบบหมตู่ ามกระบวนการลูกเสอื ซง่ึ กจิ กรรมดงั กล่าว เป็นการพฒั นาความเป็นมนุษยแ์ บบองค์รวม ทงั้ ดา้ นร่างกาย จติ ใจ สงั คม และสตปิ ัญญา ทาใหเ้ ดก็ และเยาวชนมรี ะเบยี บวนิ ัย มจี ติ สานึกในการทาความดี เพ่อื ทาประโยชน์ให้กบั ครอบครวั ชุมชน สงั คม และประเทศชาติ ต่อไป เร่ิมจากการศึกษาความเป็ นไปได้ ศึกษาเอกสารและงานวิจัยท่ีเก่ียวข้องทัง้ ในและ ต่างประเทศ จดั ประชุมผู้เช่ยี วชาญทงั้ ด้านลูกเสอื ด้านทกั ษะชวี ติ รวมทงั้ ด้านการพฒั นาเดก็ และ เยาวชน เพ่อื กาหนดกรอบโครงสรา้ งหลกั สตู รลกู เสอื เสรมิ สรา้ งทกั ษะชวี ติ ทส่ี อดคลอ้ งกบั ปัญหาตาม วยั และพฒั นาการดา้ นต่าง ๆ ของลกู เสอื แต่ละประเภท ค่มู อื การจดั กจิ กรรมลกู เสอื เสรมิ สรา้ งทกั ษะชวี ติ ฉบบั ทดลอง สมาคมวางแผนครอบครวั แห่ง ประเทศไทยฯ ได้เรมิ่ ใช้ในปี พ.ศ.2553 มโี รงเรยี นจากทุกภูมภิ าคของประเทศเข้าร่วมโครงการ จานวน 26 โรงเรยี น โดยได้ดาเนินการควบคู่ไปกบั การวจิ ยั และประเมนิ ผลการใช้คู่มอื และทาการ ปรบั ปรุงค่มู อื ครงั้ แรกเม่อื เมษายน พ.ศ. 2554 โดยไดเ้ พม่ิ เตมิ เพลง เกม นิทาน เร่อื งสนั้ และเน้อื หา ใหค้ รบถว้ นยงิ่ ขน้ึ การปรบั ปรุงครงั้ ท่ีสอง มิถุนายน พ.ศ. 2559 เกิดข้นึ ตามข้อเสนอแนะจากการประชุม ปฏบิ ตั กิ าร “การขบั เคล่อื นกจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี นดว้ ยกระบวนการลูกเสอื ” ซง่ึ จดั โดยสานกั การลูกเสอื ยุวกาชาดและกิจการนักเรยี น สานักงานปลดั กระทรวงศึกษาธกิ าร โดยยดึ ข้อบงั คบั คณะลูกเสอื แห่งชาตวิ ่าด้วยการปกครอง หลกั สตู รและวชิ าพเิ ศษลูกเสอื และเพมิ่ จานวนแผนการจดั กจิ กรรมให้ ครบ 40 ชวั่ โมง เพ่อื ครอบคลุมสาระทจ่ี าเป็นอย่างครบถ้วน เป็ นการเตรยี มการขยายผลในโรงเรยี น สงั กดั สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐาน (สพฐ.) ทวั่ ประเทศ และได้แบ่งคู่มอื ออกเป็น 11 เลม่ สาหรบั ลกู เสอื แต่ละชนั้ ปี เพอ่ื ความสะดวกของผสู้ อน รวมทงั้ ทางสานกั การลูกเสอื ยวุ กาชาด และกิจการนักเรียน ได้ทาการทดลองคู่มือจากโรงเรียนทุกภูมิภาค จานวน 53 โรงเรยี น โดย ดาเนินการวิจยั และประเมินผลการใช้คู่มอื และทาการปรบั ปรุงคู่มอื คู่ขนานกับ สมาคมวางแผน ครอบครวั แหง่ ประเทศไทยฯ ดว้ ย สานกั การลูกเสอื ยุวกาชาดและกจิ การนักเรยี น และสมาคมวางแผนครอบครวั แห่งประเทศ ไทยฯ ขอขอบพระคุณหน่วยงานและบุคลากรทุกท่านท่มี สี ่วนร่วมในโครงการให้สาเร็จลุล่วง ณ โอกาสน้ี ตงั้ แต่การรเิ รมิ่ โครงการและสนับสนุนงบประมาณจากสานกั งานกองทุนสนับสนุนการสรา้ ง 4 ค่มู อื การจดั กิจกรรมลกู เสือสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ลูกเสือตรี ชนั้ ประถมศกึ ษาปี ที่ 4

เสรมิ สุขภาพ (สสส.) การจดั ทาหลกั สูตรและค่มู อื การทดลองวจิ ยั และประเมนิ ผลการใชค้ ่มู อื รวมทงั้ การปรบั ปรงุ ค่มู อื ทงั้ 2 ครงั้ หวงั เป็นอย่างยงิ่ ว่าค่มู อื ชุดน้ีจะช่วยส่งเสรมิ ใหก้ จิ การลกู เสอื ของประเทศ ไทย ซง่ึ ดาเนนิ มาครบวาระ 107 ปี ในปี พ.ศ. 2561 น้ี ไดเ้ ป็นเครอ่ื งมอื สาคญั และก่อใหเ้ กดิ ประโยชน์ สงู สดุ ต่อการพฒั นาเดก็ และเยาวชนของชาตติ ่อไป สานักการลูกเสอื ยวุ กาชาดและกิจการนักเรยี น สานักงานปลดั กระทรวงศกึ ษาธิการ สมาคมวางแผนครอบครวั แหง่ ประเทศไทย ในพระราชปู ถมั ภส์ มเดจ็ พระศรีนครินทราบรมราชชนนี เมษายน 2561 คมู่ อื การจดั กิจกรรมลกู เสือสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ลูกเสือตรี ชนั้ ประถมศกึ ษาปี ที่ 4 5

สารบญั หน้า 2 คานิ ยม 4 คานา 8 คาชี้แจงการใช้ค่มู ือ 11 แผนการจดั กิจกรรมลกู เสือสามญั ลกู เสือตรี ชนั้ ประถมศึกษาปี ท่ี 4 14 หน่วยท่ี 1 ปฐมนเิ ทศ แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 1 ปฐมนเิ ทศ 18 28 หน่วยท่ี 2 ระเบยี บแถว แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 2 ระเบยี บแถวเบอ้ื งตน้ 39 แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 3 สญั ญาณมอื และสญั ญาณนกหวดี 45 53 หน่วยท่ี 3 ความรเู้ กย่ี วกบั ขบวนการลกู เสอื 62 แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 4 ประวตั ิ ลอรด์ เบเดน เพาเวลล์ (บ.ี พ.ี ) แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 5 พระบดิ าแห่งการลกู เสอื ไทย 67 แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 6 ววิ ฒั นาการลกู เสอื ไทยและลกู เสอื โลก 73 แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 7 การทาความเคารพ การแสดงรหสั และการจบั มอื ซา้ ย 77 และคตพิ จน์ของลกู เสอื สามญั แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 8 เวลาในขวดแกว้ 80 แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 9 นาทวี กิ ฤติ 85 แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 10 สงิ่ ดๆี ของฉนั 89 92 หน่วยท่ี 4 คาปฏญิ าณและกฎของลกู เสอื สามญั 97 แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 11 คดิ เชงิ บวก 101 แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 12 ความซ่อื สตั ย์ 105 แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 13 สทิ ธสิ ่วนบคุ คล แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 14 ตน้ ตระกลู ไทย 108 แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 15 ความเป็นสุภาพบรุ ษุ สภุ าพสตรี 116 แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 16 การส่อื สารเพ่อื บอกความตอ้ งการ 124 แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 17 สง่ิ ประดษิ ฐจ์ ากขยะ หน่วยท่ี 5 กจิ กรรมกลางแจง้ แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 18 การใชป้ ระโยชน์จากเงอ่ื นเชอื ก แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 19 ทกั ษะการใชเ้ ขม็ ทศิ แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 20 การบนั เทงิ 6 คมู่ อื การจดั กิจกรรมลกู เสือสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ลกู เสือตรี ชนั้ ประถมศกึ ษาปี ที่ 4

สารบญั (ต่อ) หน้า 132 แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 21 การเตรยี มสงิ่ ของ อาหารและการแสดง 137 แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 22 การปฏบิ ตั ติ ามกฎและเครอ่ื งหมายจราจร 143 แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 23 เดก็ ไทยไมก่ นิ หวาน 149 แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 24 เสรมิ สรา้ งสมรรถนะทางกาย 152 แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 25 น้าด่มื สะอาดปลอดภยั หน่วยท่ี 6 ประเมนิ ผล 159 แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 27 การประเมนิ ผล หน่วยท่ี 7 พธิ กี าร 169 แผนการจดั กจิ กรรมท่ี 24 พธิ เี ขา้ ประจากอง และประดบั เครอ่ื งหมายลกู เสอื ตรี 173 ภาคผนวก 184 187 ภาคผนวก ก แนวคดิ เรอ่ื งทกั ษะชวี ติ 207 ภาคผนวก ข กจิ กรรมลกู เสอื เสรมิ สรา้ งทกั ษะชวี ติ ภาคผนวก ค กจิ กรรมลกู เสอื บรรณานุกรม ค่มู ือการจดั กิจกรรมลูกเสือสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ลกู เสือตรี ชนั้ ประถมศึกษาปี ที่ 4 7

คาชี้แจงการใช้ค่มู อื ค่มู อื การจดั กจิ กรรมลกู เสอื เสรมิ สรา้ งทกั ษะชวี ติ ชุดน้ี จดั ทาขน้ึ สาหรบั ผู้กากบั ลูกเสอื ใชเ้ ป็น แนวทางในการจดั กจิ กรรมลกู เสอื มจี านวน 11 เลม่ แยกตามชนั้ ปี สาหรบั ลกู เสอื 4 ประเภท คอื ลกู เสอื สารอง ลกู เสอื สามญั ลกู เสอื สามญั รนุ่ ใหญ่ และลกู เสอื วสิ ามญั หลกั สูตรลูกเสอื เสรมิ สรา้ งทกั ษะชวี ติ มเี น้ือหาทส่ี อดคลอ้ งกบั ปัญหาตามวยั และพฒั นาการ ดา้ นต่าง ๆ ของลกู เสอื แต่ละประเภท นอกจากน้ยี งั มเี น้อื หาครบถว้ น เป็นไปตามขอ้ บงั คบั คณะลกู เสอื แหง่ ชาติ วา่ ดว้ ยการปกครองหลกั สตู รและวชิ าพเิ ศษลกู เสอื สารอง ลกู เสอื สามญั ลกู เสอื สามญั รนุ่ ใหญ่ และลกู เสอื วสิ ามญั อกี ดว้ ย แผนการจดั กิจกรรมลูกเสอื เสรมิ สร้างทกั ษะชวี ติ ในคู่มอื ชุดน้ี ได้ออกแบบโดยบูรณาการ กจิ กรรมท่เี สรมิ สร้างทกั ษะชวี ติ เขา้ กบั วธิ กี ารลูกเสอื คอื การใช้ระบบหมู่หรอื กลุ่มย่อย โดยให้เดก็ เป็น ศูนยก์ ลาง และมผี ใู้ หญ่ทาหน้าทช่ี ่วยเหลอื และส่งเสรมิ ใหเ้ กดิ กระบวนการเรยี นรใู้ นกลุ่ม แนะนา สงั่ สอน และฝึกอบรมใหส้ ามารถพง่ึ ตนเองได้ มจี ติ อาสา รบั ผดิ ชอบต่อส่วนรวม ยดึ มนั่ ในคาปฏญิ าณและกฎของ ลกู เสอื เสรมิ สรา้ งคุณค่าในตนเอง รวมทงั้ ใชร้ ะบบเครอ่ื งหมายหรอื สญั ลกั ษณ์ทางลูกเสอื และเคร่อื งหมาย วชิ าพเิ ศษ เป็นแรงกระตุน้ ไปส่เู ป้าหมายในการพฒั นาตนเอง การเรยี งลาดบั แผนการจดั กจิ กรรม จดั เรยี งลาดบั เน้ือหาสาระตามหลกั สตู รในขอ้ บงั คบั คณะ ลกู เสอื แหง่ ชาติ ว่าดว้ ยการปกครองหลกั สตู รและวชิ าพเิ ศษลกู เสอื สารอง ลกู เสอื สามญั ลกู เสอื สามญั รุน่ ใหญ่ และลูกเสอื วสิ ามญั การนาไปใชข้ น้ึ กบั ดุลยพนิ ิจของสถานศกึ ษาในการเลอื กว่าแผนการจดั กจิ กรรมใดควรใชเ้ มอ่ื ใด องคป์ ระกอบในการประชุมกอง เน้นการใช้ชวี ติ กลางแจง้ นอกหอ้ งเรยี น ใกล้ชดิ ธรรมชาติ เรยี นรจู้ ากการลงมอื ปฏบิ ตั ดิ ว้ ยตนเอง เกม และการบรกิ ารผอู้ ่นื ซง่ึ ถอื เป็นหวั ใจของกจิ กรรมลูกเสอื ทกุ ประเภท โดยกจิ กรรมทใ่ี ช้ แบง่ ออกเป็น ประเภท คอื การแสดงออก 5 การสารวจและการรายงาน การวเิ คราะห์และการประเมนิ เกมและการแข่งขนั การบาเพญ็ ประโยชน์ มกี ารออกแบบกจิ กรรม เพ่อื ใหล้ กู เสอื ไดใ้ ชก้ ระบวนการกลุ่มในการแลกเปล่ยี นประสบการณ์ แลกเปลย่ี นความคดิ ความเช่อื สรา้ งองคค์ วามรแู้ ละสรุปความคดิ รวบยอด รวมทงั้ เปิดโอกาสใหล้ ูกเสอื ได้ประยกุ ต์ใชส้ งิ่ ทไ่ี ดเ้ รยี นรู้ ในชวี ติ จรงิ อกี ดว้ ย เน้อื หาสาระในแผนการจดั กจิ กรรมประกอบดว้ ย 1. กิจกรรมตามข้อบังคับของคณะลูกเสือแห่งชาติ (ไม่รวมกิจกรรมทดสอบเพ่ือรับ เครอ่ื งหมายหรอื สญั ลกั ษณ์ทางลกู เสอื และเครอ่ื งหมายวชิ าพเิ ศษ) 2. กจิ กรรมตามขอ้ บงั คบั ของคณะลกู เสอื แห่งชาติท่ชี ่วยเสรมิ สรา้ งทกั ษะชวี ติ ดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม ความภาคภมู ใิ จในตนเอง ความรบั ผดิ ชอบต่อสว่ นรวม 3. กจิ กรรมเสรมิ สรา้ งทกั ษะชวี ติ เพอ่ื สรา้ งภมู คิ ุม้ กนั ทางสงั คมต่อเหตุการณ์และสภาพปัญหา ของเดก็ แต่ละวยั 8 ค่มู ือการจดั กิจกรรมลูกเสือสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ลกู เสือตรี ชนั้ ประถมศกึ ษาปี ที่ 4

ค่มู อื แต่ละเล่ม ไดจ้ ดั ทาตารางหน่วยกจิ กรรม และแผนการจดั กจิ กรรม 40 ชวั่ โมง เพอ่ื ใหเ้ หน็ ภาพรวมของการจดั กจิ กรรมลกู เสอื เสรมิ สรา้ งทกั ษะชวี ติ ของลกู เสอื ในแต่ละระดบั ชนั้ และมหี มายเหตุ บอกไวใ้ นตารางช่องขวาสดุ ว่าเป็นแผนการจดั กจิ กรรมเสรมิ สรา้ งทกั ษะชวี ติ แผนการจดั กจิ กรรมประกอบดว้ ย จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ เน้อื หา สอ่ื การเรยี นรู้ กจิ กรรม การ ประเมนิ ผล องค์ประกอบทกั ษะชวี ติ สาคญั ท่เี กิดจากกจิ กรรม และภาคผนวกประกอบแผนการจดั กจิ กรรม (เพลง เกม ใบงาน ใบความรู้ เรอ่ื งทเ่ี ป็นประโยชน์) จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ผู้สอนควรทาความเข้าใจให้ชดั เจนว่าเป็นจุดประสงค์การเรยี นรูด้ ้านความรู้ เจตคติ หรอื ทกั ษะ เพ่อื จดั กจิ กรรมไดต้ รงตามจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรแู้ ต่ละดา้ น จุดประสงคก์ ารเรยี นรดู้ า้ นความรู้ มจี ุดเน้นท่กี ารตงั้ ประเดน็ ให้วเิ คราะห์ สงั เคราะหเ์ น้ือหา ความรู้ ใหเ้ ขา้ ใจอยา่ งถ่องแท้ และสามารถนาไปใชไ้ ดใ้ นชวี ติ จรงิ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรดู้ า้ นเจตคติ มจี ดุ เน้นทอ่ี ารมณ์ความรสู้ กึ และการตงั้ ประเดน็ ใหผ้ เู้ รยี น ไดแ้ ลกเปลย่ี นและตรวจสอบความคดิ ความเชอ่ื ของตนเองกบั สมาชกิ กลมุ่ คนอ่นื ๆ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรดู้ า้ นทกั ษะ เน้นทก่ี ารทาความเขา้ ใจในขนั้ ตอนการลงมอื ทาทกั ษะ และ ไดท้ ดลองและฝึกฝนจนชานาญ บางแผนการจดั กจิ กรรมมจี ุดประสงค์การเรยี นรซู้ อ้ นกนั มากกว่า 1 ด้าน ให้เน้นดา้ นทเ่ี ป็น จดุ ประสงคห์ ลกั ของแผนการจดั กจิ กรรม เนื้อหา เป็นผลการเรยี นรู้ท่เี กิดข้นึ หลงั การสอน ผู้สอนควรตรวจสอบว่าผูเ้ รยี นได้เน้ือหาครบถ้วน หรอื ไม่ ส่ือการเรียนรู้ เป็นส่อื อุปกรณ์ ทใ่ี ชใ้ นการจดั กจิ กรรม เชน่ แผนภมู เิ พลง เกม ใบงาน ใบความรู้ และเรอ่ื งท่ี เป็นประโยชน์ ซง่ึ มรี ายละเอยี ดอยใู่ นภาคผนวกประกอบแผนการจดั กจิ กรรม กิจกรรม กจิ กรรมลูกเสอื ยงั คงแบบแผนของลูกเสอื ไว้ คอื การเปิดประชุมกอง/ปิดประชุมกอง และ เพลง เกม นิทาน เรอ่ื งทเ่ี ป็นประโยชน์ ซง่ึ ใสไ่ วใ้ นทกุ แผนการจดั กจิ กรรม โดยผกู้ ากบั ลกู เสอื สามารถ ปรบั เปลย่ี นไดต้ ามความเหมาะสม ผสู้ อนควรจดั กจิ กรรมตามทไ่ี ดอ้ อกแบบไวเ้ รยี งตามลาดบั ขนั้ ตอน การจดั กจิ กรรม นอกจากน้ีก่อนการจดั กจิ กรรมควรศกึ ษาแผนการจดั กจิ กรรมใหเ้ ขา้ ใจอยา่ งถ่องแท้ ทุกขนั้ ตอน ศกึ ษาใบความรสู้ าหรบั ผสู้ อน และใบงานสาหรบั ผเู้ รยี น เพอ่ื ทผ่ี สู้ อนจะไดจ้ ดั กจิ กรรมการ เรยี นการสอนใหไ้ ดเ้ น้อื หาตรงตามจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรมู้ ากทส่ี ุด ทงั้ น้ีผกู้ ากบั ควรทาความเขา้ ใจแนวคดิ เรอ่ื งทกั ษะชวี ติ และกจิ กรรมลกู เสอื เสรมิ สรา้ งทกั ษะชวี ติ ใหถ้ ่องแทด้ ว้ ย โดยศกึ ษาไดจ้ ากภาคผนวก ก และภาคผนวก ข คมู่ อื การจดั กิจกรรมลกู เสือสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ลูกเสือตรี ชนั้ ประถมศกึ ษาปี ที่ 4 9

การประเมินผล สามารถประเมนิ ไดท้ งั้ ระหว่างการจดั กจิ กรรม และหลงั การสอนจบแลว้ ตามแนวทางทไ่ี ด้ให้ไว้ ในแต่ละแผนการจดั กจิ กรรม องคป์ ระกอบทกั ษะชีวิตสาคญั ที่เกิดจากกิจกรรม ทักษะชีวิตเกิดข้ึนได้หลายองค์ประกอบในการจัดกิจกรรมแต่ละครัง้ ในท่ีน้ีได้ระบุเพียง องคป์ ระกอบทกั ษะชวี ติ สาคญั ทเ่ี กดิ ขน้ึ เท่านนั้ ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กิจกรรม เป็นส่อื อุปกรณ์ ตามรายการทร่ี ะบุไวใ้ นส่อื การเรยี นรู้ เช่น เพลง เกม บตั รคา ใบงาน ใบความรู้ และเรอ่ื งทเ่ี ป็นประโยชน์ ฯลฯ หากมขี อ้ เสนอแนะเพอ่ื การปรบั ปรงุ ค่มู อื ชดุ น้ี กรณุ าตดิ ต่อท่ี สมาคมวางแผนครอบครวั แห่งประเทศไทย ฯ เลขท่ี 10900 แขวงลาดยาว เขตจตุจกั ร กรงุ เทพฯ 44 วภิ าวดรี งั สติ 8 โทรศพั ท์ 5130-2561-0 โทรสาร 151 ต่อ 2320-2941-0 10 ค่มู ือการจดั กิจกรรมลกู เสือสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ลกู เสือตรี ชนั้ ประถมศกึ ษาปี ที่ 4

แผนการจัดกจิ กรรมลกู เสือสามัญ ลูกเสอื ตรี ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 11 ค่มู ือการจดั กิจกรรมลูกเสือสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ลกู เสือตรี ชนั้ ประถมศึกษาปี ที่ 4

แผนการจดั กิจกรรมลกู เสือ หลกั สตู รลกู เสือสามญั (ลกู เสือตรี) ชนั้ ประถมศึกษาปี ที่ 4 ช่ือหน่วยกิจกรรม ชื่อแผนการจดั กิจกรรม จานวน หมายเหตุ ตามหลกั สตู ร ชวั่ โมง ข้อบงั คบั คณะ 1. ปฐมนิเทศ ทกั ษะชวี ติ ลกู เสือแห่งชาติ 2. ระเบยี บแถวเบอ้ื งตน้ 1 ทกั ษะชวี ติ 3. สญั ญาณมอื และสญั ญาณนกหวดี 2 ทกั ษะชวี ติ 1. ปฐมนเิ ทศ 4. ประวตั ิ ลอรด์ เบเดน เพาเวลล์ (บ.ี -พ.ี ) 1 ทกั ษะชวี ติ 2. ระเบยี บแถว 5. พระบดิ าแห่งการลกู เสอื ไทย 1 ทกั ษะชวี ติ 3. ความรเู้ กย่ี วกบั 6. ววิ ฒั นาการของขบวนการลกู เสอื ไทยและลกู เสอื 2 ทกั ษะชวี ติ 1 ทกั ษะชวี ติ ขบวนการลกู เสอื โลก ทกั ษะชวี ติ 7. การทาความเคารพ การแสดงรหสั การจบั มอื ซา้ ย 1 ทกั ษะชวี ติ 4. คาปฏญิ าณและกฎ ของลกู เสอื สามญั และคตพิ จน์ของลกู เสอื สามญั 2 8. เวลาในขวดแกว้ 1 5. กจิ กรรมกลางแจง้ 9. นาทวี กิ ฤต 1 10. สง่ิ ดี ๆ ของฉนั 1 11. คดิ เชงิ บวก 1 12. ความซอ่ื สตั ย์ 1 13. สทิ ธสิ ว่ นบคุ คล 2 14. ตน้ ตระกูลไทย 1 15. ความเป็นสุภาพบุรษุ กุลสตรี 1 16. การส่อื สารเพ่อื บอกความตอ้ งการ 2 17. สง่ิ ประดษิ ฐจ์ ากขยะ 2 18. การใชป้ ระโยชน์จากเงอ่ื นเชอื ก 2 19. ทกั ษะในการใชเ้ ขม็ ทศิ 2 20. การบนั เทงิ 1 21. การเตรยี มสง่ิ ของ อาหาร และการแสดง 1 22. การปฏบิ ตั ติ ามกฎและเครอ่ื งหมายจราจร 3 23. เดก็ ไทยไมก่ นิ หวาน 1 24. เสรมิ สรา้ งสมรรถนะทางกาย 2 25. น้าดม่ื สะอาดปลอดภยั 12 คมู่ ือการจดั กิจกรรมลูกเสือสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ลกู เสือตรี ชนั้ ประถมศกึ ษาปี ที่ 4

ชื่อหน่วยกิจกรรม ช่ือแผนการจดั กิจกรรม จานวน หมายเหตุ ตามหลกั สตู ร ชวั่ โมง ข้อบงั คบั คณะ 26. การประเมนิ ผล ลกู เสือแห่งชาติ 27. พธิ เี ขา้ ประจากอง และประดบั เคร่อื งหมาย 2 1 6. ประเมนิ ผล ลูกเสอื ตรี 7. พธิ กี าร รวม 27 แผนการจดั กิจกรรม 40 รวม 7 หน่วย กิจกรรม ค่มู ือการจัดกจิ กรรมลูกเสอื สามัญเสริมสร้างทักษะชีวติ ลกู เสือตรี ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 4 13

แผนการจดั กิจกรรมลกู เสือ หลกั สตู รลกู เสือสามญั (ลกู เสือตร)ี ชนั้ ประถมศึกษาปี ท่ี 4 หน่วยที่ 1 การปฐมนิเทศ เวลา 1 ชวั่ โมง แผนการจดั กิจกรรมที่ 1 การปฐมนิเทศ 1. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1.1 ลกู เสอื รจู้ กั ผบู้ งั คบั บญั ชาลกู เสอื สามญั ในกองลกู เสอื ของตน 1.2 สรา้ งขอ้ ตกลงในการเรยี นรแู้ ละการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตามตารางเรยี น 1.3 ลกู เสอื แต่งเครอ่ื งแบบลกู เสอื สามญั และประดบั เครอ่ื งหมายลกู เสอื ไดถ้ กู ตอ้ งและเรยี บรอ้ ย 2. เนื้อหา 2.1 รายช่อื ผบู้ งั คบั บญั ชาลกู เสอื ในกองลกู เสอื 2.2 การแต่งเครอ่ื งแบบลกู เสอื สามญั และการประดบั เครอ่ื งหมายลกู เสอื ตามกฎกระทรวง 2.3 ขอ้ ตกลงเรอ่ื งกจิ กรรมตามตารางเรยี น การตรงต่อเวลาและความรบั ผดิ ชอบ 3. ส่ือการเรยี นรู้ 3.1 แผนภูมเิ พลง 3.2 ชุดลกู เสอื (ของจรงิ ) หรอื แผนภาพเครอ่ื งแบบและเครอ่ื งหมายประกอบเครอ่ื งแบบลกู เสอื สามญั และลกู เสอื สารอง และสายสะพายเครอ่ื งหมายวชิ าพเิ ศษ 3.3 เรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 4. กิจกรรม 4.1 ลกู เสอื รวมกองในหอ้ งประชมุ หรอื ใตร้ ม่ ไม้ สถานทใ่ี ด สถานทห่ี น่งึ 4.2 ลกู เสอื ขบั รอ้ งเพลง ลกู เสอื ธรี ราช 4.3 ผกู้ ากบั ลกู เสอื แนะนาผบู้ งั คบั บญั ชาลกู เสอื และลกู เสอื รุน่ พ่ี ทจ่ี ะมาช่วยนากจิ กรรมใหก้ บั กองลกู เสอื สามญั 4.4 ผกู้ ากบั ลกู เสอื ชแ้ี จงตารางเวลาเรยี น และกาหนดขอ้ ตกลงรว่ มกนั ในเรอ่ื งของเวลาในการ เปิดประชุมกองการเรยี นรู้ ระบบหมู่ การตรงต่อเวลาและความรบั ผดิ ชอบ 4.5 ลกู เสอื เล่นเกม “แต่งกายดี มชี ยั ไปกวา่ ครง่ึ ” 1) ลกู เสอื ศกึ ษาเครอ่ื งแบบลกู เสอื สามญั ทถ่ี กู ตอ้ งตามประกาศ กระทรวงศกึ ษาธกิ ารจากแผนภาพ 2) ผกู้ ากบั ลูกเสอื นาเครอ่ื งแบบและเคร่อื งหมายประกอบเครอ่ื งแบบ ไดแ้ ก่ หมวก ผา้ ผูก คอและห่วง แถบสี เคร่อื งหมายหมู่ เคร่อื งหมายลูกเสือตรี เข็มขดั ถุงเท้าสีกากี รองเทา้ สนี ้าตาล (ตามกฎกระทรวงว่าดว้ ยเครอ่ื งแบบ) เคร่อื งหมายนายหมู่ มาวางไว้ ตรงหน้าหมลู่ กู เสอื หม่ลู ะ 1 ชดุ ลกู เสอื แต่ละหมู่ ส่งตวั แทนเพ่อื เป็นนายแบบ หม่ลู ะ 1 คน 14 ค่มู อื การจดั กิจกรรมลกู เสือสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ลูกเสือตรี ชนั้ ประถมศึกษาปี ที่ 4

3) ผกู้ ากบั ลกู เสอื ใหส้ ญั ญาณการแขง่ ขนั สมาชกิ ในหม่ชู ่วยกนั เอาเครอ่ื งแบบและ เครอ่ื งหมายประกอบเครอ่ื งแบบไปประดบั บนเครอ่ื งแบบของลกู เสอื ทเ่ี ป็นนายแบบ ใหถ้ ูกตอ้ งตามแผนภาพเครอ่ื งแบบลกู เสอื สามญั ภายในเวลาทก่ี าหนด 4) เมอ่ื หมดเวลา หมใู่ ดตดิ เครอ่ื งหมายครบและถกู ตอ้ งตามตาแหน่ง หมนู่ นั้ เป็นผชู้ นะ 4.6 ตรวจสอบความถูกตอ้ งของการประดบั เครอ่ื งหมาย ตรวจและเปรยี บเทยี บกบั แผนภาพ เครอ่ื งแบบลกู เสอื สามญั 4.7 ผกู้ ากบั ลกู เสอื เปรยี บเทยี บการแต่งกายแบบลกู เสอื สารอง และการแต่งกายแบบลกู เสอื สามญั ตลอดจนนาเครอ่ื งหมายวชิ าพเิ ศษ และสายยงยศ (ตามขอ้ บงั คบั คณะ ลกู เสอื แหง่ ชาติ ว่าดว้ ยการปกครองหลกั สตู รและวชิ าพเิ ศษลกู เสอื สามญั ฉบบั ที่ 13 พ.ศ.2525 ขอ้ 54 หน้า 70) มาจดั แสดงนิทรรศการใหล้ กู เสอื ไดศ้ กึ ษา พรอ้ มทงั้ วางแผนการพฒั นาตนเองเพอ่ื ทดสอบ ตาม เกณฑก์ ารรบั เครอ่ื งหมายลกู เสอื ตรี 8.4 ลกู เสอื จบั ค่ตู รวจสอบการแต่งเครอ่ื งแบบและการประดบั เครอ่ื งหมายใหถ้ ูกตอ้ งตาม ระเบยี บ 4.9 ผกู้ ากบั ลกู เสอื เล่าเรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 5. การประเมินผล สงั เกตความสนใจ การมสี ว่ นรว่ มทากจิ กรรม และการประดบั เครอ่ื งหมายประกอบเครอ่ื งแบบ ค่มู ือการจัดกิจกรรมลกู เสอื สามัญเสรมิ สรา้ งทักษะชีวติ ลกู เสือตรี ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 4 15

ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กิจกรรมท่ี 1 เพลง ลกู เสือธีรราช เหล่าลกู เสอื ของธรี ราช ทะนงองอาจ สบื ชาตเิ ชอ้ื พงศ์พนั ธุ์ สมคั รสมานโดยมสี ามคั คมี นั่ พวกเราจะรกั รว่ มกนั จะผกู สมั พนั ธต์ ลอดกาล มจี รรยา รกั ษาช่อื สรา้ งเกยี รตริ ะบอื เล่อื งลอื ตอ่ ไปชา้ นาน รา่ เรงิ แจ่มใสใฝ่ใจรกั ใหย้ นื นาน พวกเราลว้ นชน่ื บาน เพราะกจิ การลกู เสอื ไทย เรื่องสนั้ ท่ีเป็นประโยชน์ ลกู หมูกบั ฝงู แกะ กาลครงั้ หน่ึงนานมาแลว้ มลี กู หมตู วั หน่ึงหลงเขา้ ไปอย่ใู นฝงู แกะและหลบซ่อนอย่ทู ่นี นั่ เร่อื ยมา วนั หน่งึ เมอ่ื คนเลย้ี งแกะมาพบเขา้ กพ็ ยายามไลจ่ บั ลกู หมรู อ้ งเสยี งหลงวงิ่ หนไี ปรอบๆ คอก แกะตวั หน่ึงกล่าวตาหนิว่า “เจา้ จะวง่ิ ใหเ้ หน่ือยและส่งเสยี งรอ้ งใหห้ นวกหทู าไม ทุกครงั้ พวกขา้ กย็ นื ใหม้ นุษยจ์ บั แต่โดยด”ี “มนั ต่างสถานการณ์กนั น่ีเพ่อื นมนุษยจ์ บั พวกเจา้ ไปตดั ขน ส่วนขา้ ถูกจบั ไปเชอื ด” ลกู หมตู อบ พรอ้ มกบั ส่งเสยี งรอ้ งและพยายามวงิ่ หนสี ดุ ฝีเทา้ เรือ่ งนี้สอนให้รวู้ ่า เราไมค่ วรใชค้ วามคดิ เหน็ ของตนเองเป็นเครอ่ื งตดั สนิ หรอื ประเมนิ ผอู้ ่นื ประเดน็ การวิเคราะหค์ ณุ ธรรมท่ีได้ 1. ความซ่อื สตั ย์ สจุ รติ 2. ความรบั ผดิ ชอบ 16 ค่มู อื การจดั กิจกรรมลูกเสือสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ลกู เสือตรี ชนั้ ประถมศึกษาปี ที่ 4

แผนภาพเคร่ืองแบบลกู เสือสามญั ค่มู ือการจดั กิจกรรมลกู เสือสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ลูกเสอื ตรี ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 4 17

แผนการจดั กิจกรรมลกู เสือ หลกั สตู รลกู เสือสามญั (ลกู เสือตร)ี ชนั้ ประถมศึกษาปี ที่ 4 หน่วยท่ี 2 ระเบยี บแถว เวลา 2 ชวั่ โมง แผนการจดั กิจกรรมที่ 2 ระเบยี บแถวเบอื้ งต้น 1. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1.1 ลกู เสอื บอกความหมายและแสดงรหสั ลกู เสอื ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง 1.2 ลกู เสอื ปฏบิ ตั ติ ามระเบยี บแถวเบอ้ื งตน้ ได้ 2. เนื้อหา 2.1 การแสดงรหสั ลกู เสอื และความหมายของการแสดงรหสั 2.2 การฝึกระเบียบแถวบุคคลท่ามอื เปล่า (ท่าตรง ท่าพกั ท่าหนั อยู่กับท่ี ท่าเดนิ ท่าหยุด วนั ทยหตั ถ)์ และระเบยี บแถวบุคคลท่ามอี าวุธ (ทา่ ตรง ท่าพกั ท่าวนั ทยาวุธ – เรยี บอาวธุ ทา่ แบกอาวุธ – เรยี บอาวุธ) 3. สื่อการเรียนรู้ 3.1 แผนภูมเิ พลงเกม 3.2 เกม 3.2 ใบความรู้ 3.3 เรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 4. กิจกรรม 4.1 กิจกรรมครงั้ ท่ี 1 1) พธิ เี ปิดประชุมกอง (ชกั ธงขน้ึ สวดมนต์ สงบน่ิง ตรวจ แยก) 2) เพลง หรอื เกม 3) กจิ กรรมตามจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ (1) ผกู้ ากบั ลกู เสอื ทบทวนและฝึกซอ้ มนายหมลู่ กู เสอื เพ่อื เป็นผชู้ ว่ ยฝึกระเบยี บแถว (ผกู้ ากบั ลกู เสอื เตรยี มการนายหมลู่ กู เสอื ก่อนคาบเรยี น) (2) ผกู้ ากบั ลกู เสอื เรยี กกอง อธบิ ายความหมายและสาธติ การแสดงรหสั ทถ่ี ูกตอ้ ง (3) ผกู้ ากบั ลกู เสอื สาธติ วธิ กี ารรายงานตวั เขา้ เรยี นตามฐานและการเปลย่ี นฐาน (4) กจิ กรรมฝึกปฏบิ ตั ติ ามฐาน ระเบยี บแถวบุคคลท่ามอื เปล่า โดยนายหมอู่ ธบิ าย สาธติ พรอ้ มสงั่ ใหป้ ฏบิ ตั ใิ นแต่ละฐาน ฐานท่ี 1 ท่าตรง ท่าเคารพ ทา่ พกั ฐานท่ี 2 ทา่ หนั อยกู่ บั ท่ี ท่าเดนิ ท่าหยดุ ฐานท่ี 3 ฝึกปฏบิ ตั ริ ะเบยี บแถวบคุ คลทา่ มอื เปล่าทไ่ี ดเ้ รยี นมาแลว้ 18 คมู่ ือการจดั กิจกรรมลูกเสือสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ลกู เสือตรี ชนั้ ประถมศึกษาปี ที่ 4

4) ผกู้ ากบั ลกู เสอื เลา่ เรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 5) พธิ ปี ิดประชุมกอง (นดั หมาย ตรวจเครอ่ื งแบบ ชกั ธงลง เลกิ ) 4.2 กิจกรรมครงั้ ท่ี 2 1) พธิ เี ปิดประชุมกอง (ชกั ธงขน้ึ สวดมนต์ สงบนง่ิ ตรวจ แยก) 2) เพลงหรอื เกม 3) กจิ กรรมตามจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ - กจิ กรรมฝึกปฏบิ ตั ติ ามฐาน ระเบยี บแถวบุคคลท่าประกอบอาวธุ โดยนายหมอู่ ธบิ าย สาธติ พรอ้ มสงั่ ใหป้ ฏบิ ตั ใิ นแต่ละฐาน ฐานท่ี 1 ท่าตรง ท่าพกั ฐานท่ี 2 ท่าวนั ทยาวธุ – เรยี บอาวุธ ฐานท่ี 3 ท่าแบกอาวธุ – เรยี บอาวธุ ฐานท่ี 4 ผกู้ ากบั ลกู เสอื และลกู เสอื สนทนาซกั ถามเกย่ี วกบั ปัญหาระหว่างฝึกระเบยี บ แถวบุคคลท่าประกอบอาวธุ พรอ้ มเสนอแนะแนวทางแกไ้ ข 4) ผกู้ ากบั ลกู เสอื เล่าเรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 5) พธิ ปี ิดประชุมกอง (นดั หมาย ตรวจเครอ่ื งแบบ ชกั ธงลง เลกิ ) 5. การประเมินผล 5.1 สงั เกตการปฏบิ ตั ติ ามคาสงั่ 5.2 ตรวจสอบความถูกตอ้ งของการปฏบิ ตั ริ ะเบยี บแถวเบอ้ื งตน้ ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กิจกรรมท่ี 2 เพลง ลกู เสือ ไมจ่ บั มือขวา ลกู เสอื เขาไมจ่ บั มอื ขวา ยน่ื ซา้ ยมาจบั มอื กนั มนั่ มอื ขวาใชเ้ คารพกนั มอื ขวาใชเ้ คารพกนั ยน่ื ซา้ ยออกมาพลนั จบั มอื จบั มอื จบั มอื นนั้ หมายถงึ มติ ร เหมอื นญาตสิ นิท ควรคดิ ยดึ ถอื ยม้ิ ดว้ ยเมอ่ื ยามจบั มอื ยม้ิ ดว้ ยเมอ่ื ยามจบั มอื เพราะพวกเราคอื ลกู เสอื ดว้ ยกนั เพราะพวกเราคอื ลกู เสอื ดว้ ยกนั ค่มู ือการจัดกิจกรรมลกู เสือสามัญเสริมสร้างทกั ษะชีวติ ลกู เสอื ตรี ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 4 19

เกม แข่งเรือบก อปุ กรณ์ ปนู ขาวโรยเสน้ หรอื ใชไ้ มพ้ ลองวางในเสน้ ทก่ี าหนด วิธีเล่น 1. ใหล้ กู เสอื เขา้ แถวตอนเป็นหมู่ แต่ละหมู่เขา้ แถวห่างกนั 1 ชว่ งแขน 2. ลกู เสอื แต่ละหมหู่ รอื แถวเอามอื จบั เอวคนข้างหน้า 3. ใหแ้ ต่ละแถวเคลอ่ื นทไ่ี ปถงึ เสน้ ทก่ี าหนดดว้ ยการกระโดดพรอ้ มๆ กนั โดยไมใ่ หม้ อื หลดุ จากเอวหรอื ขาดจากกนั แถวใดถงึ เสน้ ทก่ี าหนดก่อนเป็นผชู้ นะ เร่ืองสนั้ ท่ีเป็นประโยชน์ ช่างทาโลหะกบั สนุ ัข กาลครงั้ หน่งึ นานมาแลว้ มชี า่ งทาโลหะคนหน่งึ ตที องเหลอื งเสยี งดงั โปกเปกอยใู่ นหอ้ งทางาน ของตน โดยมสี ุนขั ทเ่ี ลย้ี งไวน้ อนหลบั ป๋ ยุ ในบรเิ วณใกลๆ้ กนั นัน้ ครนั้ ถงึ เวลาเทย่ี งชา่ งทาโลหะหยดุ งานเพอ่ื รบั ประทานอาหารสนุ ขั ของเขากต็ ่นื ขน้ึ มายนื เคลา้ เคลยี และกระดกิ หางอยา่ งประจบ ช่างทาโลหะโยนเศษกระดกู ใหพ้ รอ้ มกบั กลา่ วว่า“เสยี งเคย้ี วอาหาร ของขา้ คงดงั กวา่ เสยี งตที องเหลอื งซนิ ะ เจา้ จงึ ตอ้ งต่นื ขน้ึ มาในเวลาน้ี เร่ืองนี้สอนให้ร้วู ่า แมค้ นเกยี จครา้ นทส่ี ุดในโลก กย็ งั ขยนั เกบ็ เกย่ี วผลประโยชน์ของตน การจบั มอื ซ้าย การจบั มอื กนั เป็นการทกั ทายกนั วธิ หี น่ึงของคนทวั ่ ไป ถอื เป็นแบบสากลทค่ี นทวั ่ โลกเขา้ ใจ ตรงกนั โดยจะย่นื มอื ขวาให้อกี ฝ่ ายหน่ึงจบั เพ่อื แสดงความเป็นมติ รต่อกนั แต่ในวงการลูกเสอื จะใช้การ จบั มอื ซา้ ยแทน โดยมปี ระวตั คิ วามเป็นมาดงั น้ี ในสมยั ทท่ี หารองั กฤษกบั ชนเผ่าซลู ทู าสงครามกนั ดนิ สิ ซลู ู นกั รบผกู้ ลา้ ไดร้ ว่ มต่อสเู้ ตม็ กาลงั ทาใหท้ หารองั กฤษไม่สามารถเอาชนะได้ ต่อมา บ.ี -พ.ี ไดเ้ ป็นตวั แทนเขา้ เจรจาสงบศกึ กบั ชนเผ่าซูลู ไดส้ าเรจ็ บ.ี -พ.ี จงึ ยน่ื มอื ขวาออกมาเพ่อื จบั มอื แสดงความเป็นมติ รต่อกนั แต่หวั หน้าเผ่า ดนิ ิส ซลู ู ไม่ ยอมจบั มอื ขวา กลบั ยน่ื มอื ซา้ ยมาจบั แทน พรอ้ มกบั อธบิ ายว่า \"มอื ขวาเป็นมอื ท่ีสกปรก ใช้จบั อาวุธฆ่ากัน ถ้าเราเป็นมิตรต่อกันควรท่ีจะใช้มือซ้ายจับ ดกี ว่า เพราะมอื ซา้ ยเป็นมอื สะอาด และอยใู่ กลห้ วั ใจ\" 20 คมู่ อื การจดั กิจกรรมลูกเสือสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ลูกเสือตรี ชนั้ ประถมศึกษาปี ที่ 4

บ.ี -พ.ี เหน็ ดว้ ยกบั คาพดู ของหวั หน้าเผ่า ดนิ ิส ซลู ู จงึ ยน่ื มอื ซา้ ยออกไปสมั ผสั กนั หลงั จากนนั้ บ.ี - พ.ี กไ็ ดน้ าการจบั มอื ซา้ ยมาใชใ้ นวงการลกู เสอื เพ่อื แสดงความเป็นมติ รต่อกนั และเป็นพวกเดยี วกนั เร่ืองนี้สอนให้ร้วู ่า การสมั ผสั มอื ซา้ ยเป็นวธิ จี บั มอื ของลกู เสอื ประเดน็ การวิเคราะหค์ ณุ ธรรมที่ได้ 1. ซ่อื สตั ย์ สจุ รติ 2. ความรบั ผดิ ชอบ 3. อุดมการณ์ คณุ ธรรม คู่มือการจดั กจิ กรรมลูกเสอื สามัญเสริมสร้างทักษะชีวติ ลกู เสอื ตรี ช้ันประถมศึกษาปีที่ 4 21

ใบความรู้ ระเบยี บแถวเบอื้ งต้น การแสดงรหสั รหสั ลูกเสือ เป็นเคร่อื งหมายทแ่ี สดงใหร้ กู้ นั เฉพาะในวงการลูกเสอื เท่านนั้ ลูกเสอื ทุกคนเมอ่ื เหน็ รหสั น้ี จะรบั รแู้ ละเขา้ ใจความหมายซง่ึ กนั และกนั ทนั ทวี ่า “เราเป็นพวกเดยี วกนั \" โอกาสท่ีใช้ในการแสดงรหสั 1. เมอ่ื ลกู เสอื กล่าวคาปฏญิ าณในพธิ ปี ฏญิ าณตนเขา้ ประจากอง และพธิ อี ่นื ๆ ทม่ี กี ารทบทวนคา ปฏญิ าณ 2. เมอ่ื พบกบั ลกู เสอื ชาตเิ ดยี วกนั หรอื ต่างชาตเิ ป็นการรบั รวู้ า่ เป็นพวกเดยี วกนั วิธีแสดงรหสั ของลกู เสอื 1. ยนื อยใู่ นทา่ ตรงมอื ซา้ ยแนบลาตวั 2. ยกมอื ขวาเสมอไหล่ งอศอกชดิ ลาตวั 3. หนั ฝ่ามอื ไปขา้ งหน้า นิ้วหวั แมม่ อื งอกดปลายนิ้วก้อยไว้ นิ้วชี้ นิ้วกลาง และนิ้วนาง เหยยี ดตรงชดิ ตดิ กนั ความหมาย หวั แมม่ อื กดปลายน้วิ กอ้ ยไวท้ าเป็นรปู วงกลม น้วิ ทงั้ สามเหยยี ดขน้ึ ไป หมายถงึ หวั ลกู เสอื ของรปู เฟลอรเ์ ดอลสี ใ์ นเครอ่ื งหมายลกู เสอื น้วิ ทงั้ สาม หมายถงึ คาปฏญิ าณของลกู เสอื 3 ขอ้ น้วิ หวั แมม่ อื กดรดั น้วิ กอ้ ย บ่งบอกถงึ ความรกั ใครเ่ หมอื นญาตพิ น่ี ้องทวั่ โลก ระเบียบแถวบคุ คลท่ามอื เปล่า ท่าตรง เป็นท่าเบอ้ื งตน้ ทเ่ี ป็นรากฐานการปฏบิ ตั ทิ ่าอ่นื ๆ และใหเ้ ป็นท่าแสดงการเคารพท่าหน่ึงเมอ่ื ได้ ยนิ คาสงั่ วา่ “ตรง” ใหล้ กู เสอื ปฏบิ ตั ิ ดงั น้ี 1. ส้นเท้าชดิ กนั และอยู่ในแนวเดยี วกนั ปลายเท้าแยกห่างจากกนั ประมาณ 1 คบื เข่า เหยยี ดตงึ และบบี ขาเขา้ หากนั 22 คมู่ ือการจดั กิจกรรมลูกเสือสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ลูกเสือตรี ชนั้ ประถมศึกษาปี ที่ 4

2. ลาตวั ยดื ตรง อกผาย ไหลผ่ ง่ึ เสมอกนั 3. แขนทงั้ สองขา้ งห้อยและเหยยี ดตรงแนบลาตวั พลกิ ข้อศอกไปข้างหน้าเลก็ น้อย น้ิวมอื เหยยี ดชดิ กนั น้วิ กลางของทงั้ สองมอื แตะขาทก่ี ง่ี กลางตามแนวตะเขบ็ กางเกง เปิดฝ่ามอื เลก็ น้อย 4. ลาคอยดื ตรง ไม่ยน่ื คาง ตามองตรงขา้ งหน้าไดร้ ะดบั น้าหนกั อยบู่ นเทา้ ทงั้ สองเท่ากนั ยนื นง่ิ ไมเ่ คลอ่ื นไหวรา่ งกาย ท่าเคารพ การแสดงความเคารพท่ามอื เปล่า คาบอก “วนั ทยหตั ถ”์ และ “มอื ลง” เมอ่ื ไดย้ นิ คาสงั่ ว่า “วนั ทยหตั ถ”์ ใหล้ กู เสอื ปฏบิ ตั ิ ดงั น้ี 1. ยนื ในท่าตรง 2. ยกมอื ขวาขน้ึ โดยเรว็ และแขง็ แรง แขนขวาท่อนบนยน่ื ไปขา้ งหน้าประมาณแนวไหล่ เม่อื อยู่ ในท่แี คบให้ลดขอ้ ศอกลงได้ตามความเหมาะสม งอศอก ขอ้ มอื ไม่หกั เปิดฝ่ ามอื ขน้ึ ประมาณ 30 องศา น้ิวหวั แม่มอื งอกดปลายน้ิวก้อยทาเป็นรูปวงกลม น้ิวช้แี ตะขอบล่างของหมวกค่อนไปดา้ นหน้าแนวตา ขา้ งขวา (กรณไี มส่ วมหมวก ใหท้ าวนั ทยหตั ถโ์ ดยใชป้ ลายน้วิ ชแ้ี ตะทห่ี างคว้ิ ขวา) น้วิ ช้ี น้วิ กลาง น้วิ นาง เหยยี ดตรงเรยี งชดิ กนั 3. เมอ่ื ไดย้ นิ คาสงั่ วา่ “มอื ลง”ใหล้ ดมอื ลงอยใู่ นท่าตรงโดยเรว็ และแขง็ แรง ท่าพกั เป็นท่าเปลย่ี นอริ ยิ าบถจากท่าตรง เพอ่ื ผอ่ นคลายความเครยี ดในโอกาสต่างๆ คอื พกั ตามปกติ ใชใ้ นโอกาสฟังคาอธบิ าย ดูการแสดงตวั อยา่ ง พกั ตามระเบยี บ ใชใ้ นโอกาสรอพธิ กี ารต่าง ๆ อยใู่ นแถวกองเกยี รตยิ ศ พกั ตามสบาย ใชใ้ นโอกาสรอคาสงั่ เพ่อื รอการปฏบิ ตั ติ ่อไป พกั นอกแถว ใชใ้ นโอกาสรอคาสงั่ ระยะเวลานานกวา่ ปกติ ท่าพกั ตามปกติ เมอ่ื ไดย้ นิ คาสงั่ วา่ “พกั ” ใหล้ กู เสอื ปฏบิ ตั ิ ดงั น้ี 1. หยอ่ นเขา่ ขวาลงก่อน เทา้ ทงั้ สองอยกู่ บั ท่ี หลงั จากน้อี าจเปลย่ี นเป็นหยอ่ นเขา่ ซา้ ยกไ็ ด้ 2. หา้ มพดู คุย แต่เคล่อื นไหวสว่ นต่างๆ ของรา่ งกายได้ คูม่ ือการจดั กิจกรรมลูกเสือสามัญเสรมิ สรา้ งทักษะชีวิต ลกู เสือตรี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 23

3. เมอ่ื ไดย้ นิ คาสงั่ วา่ “แถว” ใหย้ ดื ตวั ขน้ึ จดั ทุกส่วนของร่างกายใหอ้ ยใู่ นท่าตรง แต่ใหห้ ยอ่ นเขา่ ขวาไวเ้ หมอื นตอนเรมิ่ พกั และเมอ่ื ไดย้ นิ คาสงั่ ว่า “ตรง” ใหก้ ระตุกเข่าขวากลบั ไปอยใู่ นทา่ ตรงโดยเรว็ ท่าพกั ตามระเบียบ เมอ่ื ไดย้ นิ คาสงั่ ว่า “ตามระเบยี บ-พกั ” ใหล้ กู เสอื ปฏบิ ตั ิ ดงั น้ี 1. แยกเทา้ ซา้ ยออกไปทางซา้ ยประมาณ 1 ฟุต หรอื เกอื บครง่ึ กา้ วปกตอิ ยา่ งแขง็ แรงและรวดเรว็ 2. ยกมอื ไขวห้ ลงั ไวใ้ ตเ้ ขม็ ขดั เลก็ น้อยในแนวก่งึ กลางหลงั หลงั มอื ซา้ ยแนบลาตวั มอื ขวาทบั มอื ซา้ ย น้วิ หวั แมม่ อื ขวาทบั น้วิ หวั แมม่ อื ซา้ ย 3. ขาสองขา้ งตงึ น้าหนกั ตวั อยบู่ นเทา้ ทงั้ สอง ตามองตรงขนานกบั พน้ื น่ิงไมเ่ คลอ่ื นไหวร่างกาย 4. เมอ่ื ไดย้ นิ คาสงั่ วา่ “แถว-ตรง” ใหช้ กั เทา้ ซา้ ยมาชดิ เทา้ ขวาโดยเรว็ พรอ้ มกบั มอื ทงั้ สอง กลบั มาอยใู่ นท่าตรงตามเดมิ ท่าพกั ตามสบาย เมอ่ื ไดย้ นิ คาสงั่ ว่า “ตามสบาย..พกั ” ใหล้ กู เสอื ปฏบิ ตั ิ ดงั น้ี 1. ใหห้ ยอ่ นเขา่ ขวาก่อนเหมอื นกบั การพกั ท่าปกตใิ หพ้ ดู คุยกนั ได้ เคล่อื นไหวรา่ งกายไดต้ าม สบาย แต่ตอ้ งใหเ้ ทา้ ขา้ งหน่ึงอยกู่ บั ท่ี 2. หา้ มนงั่ หากผกู้ ากบั ลกู เสอื ไมอ่ นุญาต 3. เมอ่ื ไดย้ นิ คาสงั่ วา่ “แถว-ตรง” ใหป้ ฏบิ ตั เิ หมอื นกบั ทา่ พกั ตามปกติ ท่าพกั นอกแถว เมอ่ื ไดย้ นิ คาสงั่ วา่ “พกั นอกแถว” ใหล้ กู เสอื ปฏบิ ตั ดิ งั น้ี 1. ใหแ้ ยกออกจากแถวทนั ที 2. ใหท้ ุกคนอยใู่ นบรเิ วณใกลเ้ คยี งกบั ทเ่ี ขา้ แถว เพอ่ื จะไดก้ ลบั มาเขา้ แถวโดยรวดเรว็ เมอ่ื ไดย้ นิ เสยี งเรยี กใหก้ ลบั มาเขา้ แถวอกี เมอ่ื แยกแถวแลว้ ไมท่ าเสยี งดงั ใหร้ บกวนผอู้ ่นื 3. เมอ่ื ไดย้ นิ คาสงั่ ว่า “แถว” ใหท้ กุ คนกลบั มาเขา้ แถวทเ่ี ดมิ โดยจดั แถวใหเ้ รยี บรอ้ ยเหมอื นเดมิ และ อยใู่ นท่าตรง ท่าหนั อย่กู บั ท่ี ท่าขวาหนั เมอ่ื ไดย้ นิ คาสงั่ วา่ “ขวา…หนั ” ใหล้ กู เสอื ปฏบิ ตั ิ ดงั น้ี 1. ใหเ้ ปิดปลายเทา้ ขวา ยกสน้ เทา้ ซา้ ย และหมนุ ตวั ไปทางขวา 90 องศา ใหส้ น้ เทา้ ขวาและ ปลายเทา้ ซา้ ยอยตู่ ดิ กบั พน้ื ขณะทห่ี มุนตวั ใหน้ ้าหนกั ตวั อยทู่ เ่ี ทา้ ขวาเมอ่ื หมนุ ตวั แลว้ ใหข้ าซา้ ยเหยยี ด ตรง บดิ สนั เทา้ ออกขา้ งนอกพอตงึ 2. ชกั เทา้ ซา้ ยมาชดิ เทา้ ขวาใหอ้ ยใู่ นท่าตรงโดยเรว็ ท่าซ้ายหนั เมอ่ื ไดย้ นิ คาสงั่ ว่า “ซา้ ย…หนั ” ใหล้ กู เสอื ปฏบิ ตั ิ ดงั น้ี 24 ค่มู อื การจดั กิจกรรมลกู เสือสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ลูกเสือตรี ชนั้ ประถมศึกษาปี ที่ 4

1. ให้เปิดปลายเท้าซา้ ย ยกสนั เทา้ ขวา และหมุนตวั ไปทางซา้ ย 90 องศา ใหส้ นั เท้าซ้าย และปลายเทา้ ขวาอยตู่ ดิ กบั พน้ื ขณะทห่ี มนุ ตวั ใหน้ ้าหนกั ตวั อยทู่ เ่ี ทา้ ซา้ ยเมอ่ื หมนุ แลว้ ใหข้ าขวาเหยยี ด ตรง บดิ สน้ เทา้ ออกขา้ งนอกพอตงึ 2. ชกั เทา้ ขวามาชดิ เทา้ ซา้ ยใหอ้ ยใู่ นท่าตรงโดยเรว็ ท่ากลบั หลงั หนั เมอ่ื ไดย้ นิ คาสงั่ ว่า “กลบั หลงั …หนั ” ใหล้ กู เสอื ปฏบิ ตั ิ ดงั น้ี 1. ใหเ้ ปิดปลายเทา้ ขวา ยกสนั เทา้ ซา้ ย และหมุนตวั ไปทางขวา 180 องศา ใหส้ นั เทา้ ขวา และปลายเทา้ ซา้ ยอยตู่ ดิ กบั พน้ื ขณะทห่ี มนุ ตวั ใหน้ ้าหนกั ตวั อยทู่ เ่ี ทา้ ขวา เมอ่ื หมุนตวั แลว้ ใหข้ าซา้ ย เหยยี ดตรง บดิ สนั เทา้ ซา้ ยออกขา้ งนอกใหต้ งึ 2. ชกั เทา้ ซา้ ยมาชดิ เทา้ ขวาใหอ้ ยใู่ นท่าตรงโดยเรว็ ท่าเดิน ท่าหยดุ คาบอก “ หน้า – เดนิ ” และ “แถว – หยดุ ” เมอ่ื ไดย้ นิ คาสงั่ ว่า “ หน้า – เดนิ ” ใหล้ กู เสอื ปฏบิ ตั ิ ดงั น้ี โน้มน้าหนกั ตวั ไปขา้ งหน้า พรอ้ มกบั กา้ วเทา้ ซา้ ยออกเดนิ ขาเหยยี ดตงึ ปลายเทา้ งมุ้ สน้ เทา้ สงู จากพน้ื ประมาณ 1 คบื เมอ่ื จะวางเทา้ และกา้ วเทา้ ต่อไปใหโ้ น้มน้าหนกั ตวั ไปขา้ งหน้า ตบเทา้ เตม็ ฝ่าเทา้ อย่างแขง็ แรง ตวั และศรี ษะอย่ใู นท่าตรง เมอ่ื แกว่งแขนไปขา้ งหน้าใหง้ อศอกเลก็ น้อย เมอ่ื แกว่งแขนไป ขา้ งหลงั ให้เหยยี ดแขนตรงตามธรรมชาติ หนั หลงั มอื ออกนอกตวั แบมอื น้ิวเรยี งชดิ ตดิ กนั ความยาวก้าว จากสน้ เทา้ ถงึ สน้ เทา้ 40 – 60 เซนตเิ มตร เมอ่ื ไดย้ นิ คาสงั่ วา่ “แถว – หยดุ ” ใหป้ ฏบิ ตั เิ ป็น 2 จงั หวะตดิ ต่อกนั คอื กา้ วต่อไปอกี 1 กา้ ว และ ชกั เทา้ หลงั ไปชดิ เทา้ หน้าในลกั ษณะทา่ ตรงอยา่ งแขง็ แรง ระเบยี บแถวบุคคลท่าประกอบอาวธุ ท่าตรง ท่าพกั คาบอก “กอง (หม)ู่ – ตรง” การปฏิบตั ิ ทา่ ตรงและท่าพกั ในเวลาถอื ไมพ้ ลอง เหมอื นกบั ท่ามอื เปลา่ ไมพ้ ลองอยใู่ นท่าเรยี บอาวุธ ไม้พลองในท่าเรียบอาวุธ คือลูกเสืออยู่ในท่าตรง ถือไม้พลองด้วยมือขวาโดยไม้พลองอยู่ ประมาณโคนน้ิวก้อยเทา้ ขวาและชดิ กบั เท้าขวาไมพ้ ลองอยรู่ ะหว่างน้ิวหวั แม่มอื กบั น้ิวช้ี น้ิวหวั แม่มอื จบั ไมพ้ ลองชดิ ขา น้วิ อ่นื อกี 4 น้วิ ชดิ ตดิ กนั จบั ไมพ้ ลองเฉียงลงไปเบอ้ื งล่างปลายไมพ้ ลองอย่ใู นรอ่ งไหล่ ขวา ลาไมพ้ ลองตงั้ ตรงแนบตวั สาหรบั พกั ตามระเบยี บเหมอื นกบั ท่ามอื เปล่า มอื ขวาทถ่ี อื ไมพ้ ลองใหเ้ ล่อื นขน้ึ มาเสมอเอว แลว้ ย่นื ไม้พลองไปข้างหน้าเฉียงขวาประมาณ 45 องศา มอื ซ้ายไพล่หลงั ใต้เขม็ ขดั เล็กน้อยมอื แบตาม ธรรมชาตแิ ละน้วิ เรยี งชดิ ตดิ กนั ท่าวนั ทยาวธุ – เรยี บอาวธุ เป็นท่าแสดงการเคารพ เมอ่ื ถอื ไมพ้ ลอง คาบอก “วนั ทยา – วุธ” คู่มือการจัดกิจกรรมลกู เสอื สามัญเสริมสรา้ งทกั ษะชีวติ ลกู เสอื ตรี ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 4 25

การปฏิบตั ิ ลูกเสอื ปฏบิ ตั เิ ป็นจงั หวะเดยี ว โดยยกแขนซา้ ยขน้ึ มาเสมอแนวไหล่ ศอกงอไปขา้ งหน้าให้ตงั้ ฉากกบั ลาตวั ฝ่ามอื แบคว่า รวบน้วิ หวั แมม่ อื กบั น้วิ กอ้ ยจดกนั คงเหลอื น้วิ ช้ี น้วิ กลางและน้วิ นาง เหยยี ด ตรงชดิ ตดิ กนั ใหข้ า้ งปลายน้วิ ชแ้ี ตะไมพ้ ลองในรอ่ งไหล่ขวา คาบอก “เรยี บ – อาวุธ” การปฏิบตั ิ เมอ่ื เลกิ ทาความเคารพ ใหล้ กู เสอื ลดแขนซา้ ยลงมาอยทู่ เ่ี ดมิ โดยเรว็ ถา้ ผรู้ บั การเคารพเคล่อื นทม่ี าทางขวาซา้ ย หรอื ตรงหน้า ผคู้ วบคุมแถวจะบอกทศิ ทางเสยี ก่อน “ขวา (ซา้ ยหรอื ตรงหน้า) ระวงั – วนั ทยา – วุธ” ใหล้ กู เสอื ทาวนั ทยาวุธ พรอ้ มกบั หนั หน้าไปยงั ผรู้ บั การ เคารพตาอยทู่ ผ่ี รู้ บั การเคารพ หนั หน้าตามจนผรู้ บั การเคารพผา่ นหน้าตนไปแลว้ ประมาณ 2 กา้ ว จงึ หนั มาอยใู่ นทา่ ตรง เมอ่ื ผรู้ บั การเคารพผ่านพน้ แถวใหผ้ คู้ วบคมุ แถวบอกเลกิ ทาความเคารพ การแสดงความเคารพ ใช้ในโอกาสต่อไปนี้ 1. แสดงความเคารพต่อธงสาคญั ๆเช่นธงชาติธงคณะลูกเสอื แห่งชาตธิ งประจาจงั หวดั ฯลฯใน ขณะทเ่ี ชญิ ธงขน้ึ หรอื ลงหรอื มผี เู้ ชญิ ธงผ่านไป 2. แสดงความเคารพ เม่อื มกี ารบรรเลงเพลงชาติ และเพลงสรรเสรญิ พระบารมเี พลงมหาฤกษ์ มหาชยั 3. ถวายความเคารพแด่องคพ์ ระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั สมเดจ็ พระบรมราชนิ ีนารถ และพระ บรมวงศานุวงศ์ ผบู้ งั คบั บญั ชาลกู เสอื และบุคคลทค่ี วรเคารพ 4. แสดงความเคารพต่อลกู เสอื ดว้ ยกนั ในขณะทพ่ี บกนั เป็นครงั้ แรกในวนั หน่ึงๆ ท่าแบกอาวธุ – เรียบอาวธุ คาบอก “แบก – อาวุธ” การปฏิบตั ิ ลกู เสอื ปฏบิ ตั เิ ป็น 2 จงั หวะ จงั หวะที่ 1 ยกไมพ้ ลองดว้ ยมอื ขวาผ่านหน้าเฉียดลาตวั ไปขา้ งซา้ ยใหโ้ คนไมพ้ ลองอย่ใู นอุง้ มอื ซา้ ยลาไมพ้ ลองหรอื ไมพ้ ลองตงั้ อยตู่ รงรอ่ งไหล่ซา้ ยมอื ขวาจบั ไมพ้ ลองอย่ทู เ่ี ดมิ ศอกงอไปขา้ งหน้าแนว เดยี วกบั ไหล่ จงั หวะท่ี 2 ดนั ไมพ้ ลองด้วยมอื ซ้ายพรอ้ มกบั ส่งไม้พลองดว้ ยมอื ขวาไหไ้ มพ้ ลองพาดขน้ึ ไปบน ไหล่ซา้ ย แขนซา้ ยท่อนบนชดิ ลาตวั ศอกซา้ ยงอแขนทามุม 100 องศากบั ลาตวั ขณะเดยี วกนั ลดมอื ขวาลง ในท่าตรงโดยเรว็ ขอ้ ควรระวงั ขณะลูกเสอื ทาท่าแบกอาวุธจงั หวะ 2 ระวงั อย่าใหศ้ รี ษะเคล่อื นหลบไม้พลองทรง ศรี ษะใหค้ งท่เี หมอื นอย่ใู นท่าตรงเสมอ แขนซ้ายอย่ใู นลกั ษณะท่ถี ูกต้องและนิ่ง ปลายไม้พลองจงึ จะได้ ระดบั ไมเ่ ฉไปมา คาบอก “เรยี บ – อาวธุ ” การปฏิบตั ิ ลกู เสอื ปฏบิ ตั เิ ป็น 3 จงั หวะ 26 คมู่ ือการจดั กิจกรรมลูกเสือสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ลูกเสือตรี ชนั้ ประถมศึกษาปี ที่ 4

จงั หวะที่ 1 ยกมอื ขวาขน้ึ จบั ไมพ้ ลอง ศอกงอไปขา้ งหน้าในแนวเดยี วกบั ไหล่ พรอ้ มกบั เหยยี ด แขนซา้ ย โดยลดไมพ้ ลองลงชดิ กบั ลาตวั จงั หวะท่ี 2 จบั ไมพ้ ลองดว้ ยมอื ขวานามาไวข้ า้ งลาตวั ในรอ่ งไหล่ขวา (แขนขวาเหยยี ดเกอื บสุด ระยะทม่ี อื จบั ไมพ้ ลองในท่าเรยี บอาวุธ)ขณะเดยี วกนั ยกมอื ซา้ ยขน้ึ กนั ไมพ้ ลองทร่ี ่องไหล่ขวาศอกงอไป ขา้ งหน้าในแนวเดยี วกบั ไหล่ จงั หวะที่ 3ลดแขนซา้ ยอยใู่ นท่าเรยี บอาวธุ ตามเดมิ (ในจงั หวะน้เี หยยี ดแขนขวาลงสุดระยะท่ี มอื ขวาจบั ไมพ้ ลองอยใู่ นทา่ เรยี บอาวุธ โดยไมพ้ ลองจดพน้ื ) ข้อสงั เกต ตอนเหยยี ดแขนขวาจากจงั หวะ 2 ลงสดุ ระยะทม่ี อื ขวาจบั ไมพ้ ลองในท่าเรยี บอาวุธ ใน จงั หวะท่ี 3 จะรสู้ กึ ว่าตน้ ไมพ้ ลองจดพน้ื คูม่ อื การจดั กิจกรรมลูกเสือสามัญเสรมิ สร้างทักษะชีวติ ลกู เสือตรี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 27

แผนการจดั กิจกรรมลกู เสือ หลกั สตู รลกู เสือสามญั (ลกู เสือตรี) ชนั้ ประถมศึกษาปี ท่ี 4 หน่วยที่ 2 ระเบียบแถว เวลา 1 ชวั่ โมง แผนการจดั กิจกรรมท่ี 3 สญั ญาณมือและสญั ญาณนกหวีด 1. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ลกู เสอื ปฏบิ ตั ติ ามสญั ญาณมอื และสญั ญาณนกหวดี ไดถ้ ูกตอ้ ง 2. เนื้อหา 2.1 ความหมายของสญั ญาณมอื และการปฏบิ ตั ติ ามคาสงั่ สญั ญาณมอื 2.2 ความหมายของสญั ญาณนกหวดี และการปฏบิ ตั ติ ามสญั ญาณนกหวดี 3. สื่อการเรยี นรู้ 3.1 แผนภมู เิ พลง 3.2 เกม 3.2 ใบความรู้ 3.3 นกหวดี 3.4 เรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 4. กิจกรรม 4.1 พธิ เี ปิดประชุมกอง (ชกั ธงขน้ึ สวดมนต์ สงบน่ิง ตรวจ แยก) 4.2 ใหล้ กู เสอื รว่ มรอ้ งเพลง หรอื เกม 4.3 กจิ กรรมตามจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1) ผูก้ ากบั ลูกเสอื อธบิ ายและสาธติ การใชส้ ญั ญาณมอื และสญั ญาณนกหวดี แลว้ ให้ ลกู เสอื ปฏบิ ตั ติ าม 2) ผกู้ ากบั ลูกเสอื ใหน้ ายหม่ลู ูกเสอื นาฝึกปฏบิ ตั ิ โดยการแสดงสญั ญาณมอื และสญั ญาณ นกหวดี แลว้ ใหส้ มาชกิ ในหมตู่ นเองปฏบิ ตั ติ าม 3) ผกู้ ากบั และลกู เสอื รว่ มสรปุ อภปิ รายถงึ การปฏบิ ตั ิ 4.4 ผกู้ ากบั เลา่ เรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 4.5 พธิ ปี ิดประชุมกอง (นดั หมาย ตรวจเครอ่ื งแบบ ชกั ธงลง เลกิ ) 5. การประเมินผล 5.1 สงั เกตการปฏบิ ตั ติ ามสญั ญาณมอื และสญั ญาณนกหวดี 5.2 สงั เกตความพรอ้ มเพรยี ง ความเป็นระเบยี บ 28 คมู่ ือการจดั กิจกรรมลกู เสือสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ลกู เสือตรี ชนั้ ประถมศึกษาปี ที่ 4

ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กิจกรรมที่ 3 เพลง สญั ญาณนกหวีด เป่ายาวหน่งึ ครงั้ ฟังไดค้ วามวา่ “หยดุ ” เป่ ายาวเป็ นชุด ใหร้ บี รดุ ทาต่อไป สนั้ ตดิ ต่อกนั เรว็ พลนั เขา้ แถวทนั ใด สนั้ ยาวนนั้ ไซร้ จาใสใ่ จเพราะเกดิ เหตุการณ์ นายหม่มู าน่ี ฟังซิ สนั้ สามยาวหน่งึ ลกู เสอื เราพงึ จดจาคานงึ น่คี อื สญั ญาณ เกม ไฟฟ้าชอ๊ ต วิธีเล่น แบ่งลูกเสอื ออกเป็น 2 ทีม เท่าๆ กัน ลูกเสอื ทงั้ สองทีมเข้าแถวตอนเรยี งหน่ึง ห่างกนั เลก็ น้อย เม่อื ไดร้ บั สญั ญาณเรมิ่ ใหค้ นหวั แถวหนั ตวั เอามอื ไปแตะหวั ไหล่คนท่ี 2 คนท่ี 2 กห็ นั ตวั เอามอื ไปแตะไหล่คนท่ี 3 ต่อไปเรอ่ื ยๆ จนถงึ คนสดุ ทา้ ย ใหร้ อ้ งวา่ “โอ๊ย” การตดั สิน ทมี ทร่ี อ้ ง “โอ๊ย” ก่อน เป็นผชู้ นะ คมู่ ือการจดั กจิ กรรมลูกเสือสามญั เสริมสร้างทักษะชีวติ ลกู เสือตรี ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 4 29

ใบความรู้ การใช้สญั ญาณนกหวีด ใชใ้ นการออกคาสงั่ แก่ลกู เสอื ในการฝึกประจาวนั หรอื ในโอกาสทผ่ี บู้ งั คบั บญั ชาลกู เสอื อยหู่ า่ งไกลจากลกู เสอื สญั ญาณทค่ี วรรมู้ ดี งั น้ี 1. หวีดยาว 1 ครงั้ () ความหมาย - ถา้ เคลอ่ื นทอ่ี ยใู่ หห้ ยดุ - ถา้ หยดุ อยใู่ หถ้ อื ว่าเป็นสญั ญาณเตอื น, เตรยี มตวั หรอื คอยฟังคาสงั่ 2. หวีดยาว 2 ครงั้ ( ),( ) ความหมาย - เดนิ ต่อไป, เคลอ่ื นทต่ี ่อไป, ทางานต่อไป ผปู้ ฏบิ ตั ิ - ปฏบิ ตั กิ จิ กรรมทก่ี าลงั ปฏบิ ตั อิ ยนู่ นั้ ต่อไป หรอื ใหป้ ฏบิ ตั ิ กจิ กรรมทส่ี งั่ นนั้ ต่อไป 3. หวีดสนั้ 1 ครงั้ หวีดยาว 1 ครงั้ สลบั กนั ไป หลายๆ ครงั้ ( ),( ) ความหมาย - เกดิ เหตุ ผปู้ ฏบิ ตั ิ - ตรวจดเู หตกุ ารณ์ก่อนว่ามอี ะไรเกดิ ขน้ึ ควรรวมกนั ทผ่ี กู้ ากบั ลกู เสอื (ผบู้ งั คบั บญั ชา) ก่อน เพ่อื การสงั่ การต่อไป แลว้ แต่กรณี 4. หวีดสนั้ 3 ครงั้ หวีดยาว 1 ครงั้ ติดต่อกนั ไปหลายๆ ชุด ( ),( ) ความหมาย - เรยี กนายหมลู่ กู เสอื ใหม้ ารบั คาสงั่ ผปู้ ฏบิ ตั ิ - นายหมรู่ บี มาพบผใู้ หส้ ญั ญาณ ถา้ นายหมไู่ มอ่ ยู่ หรอื ไปพบไมไ่ ดใ้ หส้ ง่ ตวั แทนไป 5. หวีดสนั้ ติดต่อกนั หลายๆ ครงั้ ) ( ),( ความหมาย - รวม, ประชุม หรอื รวมกอง ผปู้ ฏบิ ตั ิ - ทกุ คนไปรวมกนั ทผ่ี ใู้ หส้ ญั ญาณ หมายเหตุ เมอ่ื จะใชส้ ญั ญาณ 2 3 4 5 ใหใ้ ชส้ ญั ญาณ 1 ก่อนทุกครงั้ เพ่อื เป็นการเตอื นใหร้ วู้ า่ จะใชส้ ญั ญาณอะไร (เพมิ่ เตมิ ) 30 ค่มู อื การจดั กิจกรรมลูกเสือสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ลกู เสือตรี ชนั้ ประถมศกึ ษาปี ที่ 4

การใช้สญั ญาณมือ ใชแ้ ทนคาบอกคาสงั่ ขณะทผ่ี บู้ งั คบั บญั ชาอยหู่ า่ งไกลจากลกู เสอื หรอื ไมส่ ามารถทจ่ี ะใชค้ าบอก ใหล้ กู เสอื ไดย้ นิ ทวั่ ถงึ หรอื ในกรณที ต่ี อ้ งการความสงบเงยี บ ไดแ้ ก่ 1) เตรียม คอยฟังคาสงั่ หรอื หยดุ การใหส้ ญั ญาณ เหยยี ดแขนขวาขน้ึ ตรงเหนือศรี ษะ มอื แบ น้วิ ทงั้ หา้ เรยี งชดิ ตดิ กนั หนั ฝ่ามอื ไปขา้ งหน้า เมอ่ื เหน็ สญั ญาณน้ี ใหล้ กู เสอื หยดุ การ เคล่อื นไหวหรอื การกระทาใด ๆ ทงั้ สน้ิ พรอ้ มกบั นิ่งคอยฟังคาสงั่ โดยหนั หน้าไปยงั ผบู้ งั คบั บญั ชาเพ่อื คอยฟังคาสงั่ แต่ถา้ อยใู่ นแถวใหย้ นื ในท่าตรง 2) รวม หรือ กลบั มา การใหส้ ญั ญาณ เหยยี ดแขนขวาขน้ึ ตรงเหนอื ศรี ษะ แบมอื ไปขา้ งหน้า น้วิ มอื ทงั้ หา้ ชดิ ตดิ กนั และหมนุ มอื เป็นวงกลมจากซา้ ยไปขวา เมอ่ื เหน็ สญั ญาณน้ี ใหล้ กู เสอื รวมกองรบี มาเขา้ แถวรวมกนั 3) จดั แถวหน้ากระดาน ออกไปดา้ นขา้ งเสมอ กระดาน หนั หน้าไป การใหส้ ญั ญาณ เหยยี ดแขนทงั้ สอง แนวไหล่ ฝ่ามอื แบไปขา้ งหน้าน้วิ เรยี งชดิ ตดิ กนั เมอ่ื เหน็ สญั ญาณน้ี ใหล้ กู เสอื จดั แถวหน้า หาผใู้ หส้ ญั ญาณ 4) จดั แถวตอน การใหส้ ญั ญาณ เหยยี ดแขนทงั้ สองขา้ งไปขา้ งหน้า แนวเดยี วกบั ไหล่ โดยใหแ้ ขนขนานกนั และฝ่ามอื แบเขา้ หากนั เมอ่ื เหน็ สญั ญาณน้ี ใหล้ กู เสอื เขา้ แถวตอน หนั หน้าไปหาผใู้ หส้ ญั ญาณ 5) เคลื่อนที่ไปยงั ทิศทางที่ต้องการ (ดา้ นหน้า ขวา/ซา้ ย กง่ึ ขวา/กง่ึ ซา้ ย และดา้ นหลงั ) การใหส้ ญั ญาณ ผใู้ หส้ ญั ญาณหนั หน้าไปยงั ทศิ ทางทต่ี อ้ งการ โดยชู แขนขวา ขน้ึ เหนือศรี ษะสุดแขน ฝ่ามอื แบไปขา้ งหน้า น้วิ ชดิ กนั แลว้ ลดแขนลง ขา้ งหน้าใหเ้ สมอแนวไหล่ เมอ่ื เหน็ สญั ญาณน้ี ใหล้ กู เสอื วง่ิ ไปยงั ทศิ ทางทม่ี อื ผใู้ หส้ ญั ญาณชไ้ี ป คู่มือการจดั กิจกรรมลกู เสอื สามัญเสรมิ สรา้ งทักษะชีวิต ลกู เสือตรี ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 4 31

6) เรง่ จงั หวะหรอื ทาให้เรว็ ขึ้น การใหส้ ญั ญาณ ผใู้ หส้ ญั ญาณงอแขนขวามอื กาเสมอบ่า ชขู น้ึ ตรงเหนอื ศรี ษะแลว้ ลดลงหลายๆ ครงั้ ตดิ ต่อกนั เมอ่ื เหน็ สญั ญาณน้ี ใหล้ กู เสอื รบี วง่ิ หรอื เรง่ จงั หวะสง่ิ ทท่ี าอยใู่ หเ้ รว็ ขน้ึ 7) นอนลงหรือเข้าที่กาบงั การใหส้ ญั ญาณ ผใู้ หส้ ญั ญาณเหยยี ดแขนขวาตรงไปขา้ งหน้าใหเ้ สมอแนวไหล่ ฝ่ามอื แบคว่าลงน้วิ ชดิ กนั พรอ้ มกบั ลดแขนลงขา้ งหน้า แลว้ ยกขน้ึ ทเ่ี ดมิ หลายๆ ครงั้ เมอ่ื ลกู เสอื เหน็ สญั ญาณน้ใี หร้ บี นอนหรอื เขา้ ทก่ี าบงั ทนั ที หมายเหตุ ก่อนการใหส้ ญั ญาณแต่ละทา่ ใหท้ าสญั ญาณ ขอ้ 1) ก่อนทกุ ครงั้ ไป เพ่อื เป็นการเตอื นใหร้ วู้ า่ จะใหส้ ญั ญาณอะไร การใช้สญั ญาณมือในการเรยี กแถวของลกู เสือสากล การฝึกอบรมลูกเสอื ตามแบบสากลของลูกเสอื ทุกประเภท ผู้บงั คบั บญั ชาท่จี ะเรยี กแถวต้อง เลอื กสถานทโ่ี ล่งและกวา้ งพอเหมาะกบั จานวนของลกู เสอื ผใู้ หส้ ญั ญาณยนื ตรงแลว้ จึงใหส้ ญั ญาณเรยี ก แถว คาเรยี กแถวของลกู เสอื สารองใชค้ าว่า “แพค” สว่ นลกู เสอื สามญั สามญั รนุ่ ใหญ่ และวสิ ามญั ใชค้ า วา่ “กอง” 1) ท่าพกั ตามระเบียบ ขณะทล่ี กู เสอื อยใู่ นแถว ผเู้ รยี กแถวจะทาสญั ญาณมอื เป็น 2 จงั หวะดงั น้ี จงั หวะที่ 1 กามอื ขวา งอขอ้ ศอกใหม้ อื ทก่ี าอยปู่ ระมาณหวั เขม็ ขดั หนั ฝ่ามอื ทก่ี าเขา้ หาหวั เขม็ ขดั จงั หวะที่ 2 สลดั มอื ทก่ี าและหน้าแขนออกไปทางขวา เป็นมมุ 180 องศาประมาณแนวเดยี วกบั เขม็ ขดั เป็นสญั ญาณใหล้ กู เสอื “พกั ”ตามระเบยี บ 32 ค่มู ือการจดั กิจกรรมลกู เสือสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ลูกเสือตรี ชนั้ ประถมศึกษาปี ที่ 4

2) ท่าตรง ขณะลกู เสอื กาลงั พกั ตามระเบยี บ ผเู้ รยี กแถวจะทาสญั ญาณมอื เป็น 2 จงั หวะดงั น้ี จงั หวะท่ี 1 กามอื ขวา แขนเหยยี ดตรงไปทางขวา ใหม้ อื กาอยใู่ นระดบั เดยี วกบั เขม็ ขดั (เหมอื นกบั การสลดั แขนสงั่ “พกั ” ในจงั หวะท่ี 2) จงั หวะท่ี 2 กระตุกหน้าแขนเขา้ หาตวั ใหม้ อื ทก่ี ากลบั มาอยตู่ รงหวั เขม็ ขดั (เหมอื นจงั หวะท่ี 1 ของสญั ญาณสงั่ พกั ”) เมอ่ื เหน็ สญั ญาณน้ี ให้ ลกู เสอื ชกั เทา้ ซา้ ยมาชดิ เทา้ ขวา ลดแขนทไ่ี ขวห้ ลงั มาอยใู่ นท่าตรง 3) แถวหน้ากระดานแถวเด่ียว การใหส้ ญั ญาณ ผเู้ รยี กแถวอยใู่ นท่าตรงเหยยี ดแขนทงั้ สองไปดา้ นขา้ งเสมอแนวไหล่ มอื แบ หนั ฝ่ามอื ไปขา้ งหน้า น้วิ มอื เรยี งชดิ ตดิ กนั ลูกเสอื เขา้ แถวหน้ากระดานแถวเด่ยี ว หนั หน้าเขา้ หาผู้เรยี ก โดยนายหม่ยู นื ทางซ้ายมอื ของ ผูเ้ รยี ก กะใหผ้ ู้เรยี กอย่กู ่งึ กลางแถวและห่างจากแถวประมาณ 6 ก้าว ลูกหม่ยู นื ต่อกนั ไปทางซ้ายมอื ของนายหมจู่ นถงึ คนสดุ ทา้ ยคอื รองนายหมู่ การจดั ระยะเคยี ง ถ้าเป็น “ปิดระยะ” ระยะเคยี งจะเป็น 1 ช่วงศอก คอื ใหล้ ูกเสอื ยกมอื ซา้ ยขน้ึ เทา้ สะโพก น้วิ เหยยี ดชดิ ตดิ กนั อยปู่ ระมาณแนวตะเขบ็ กางเกง แขนขวาแนบกบั ลาตวั และจดปลายศอก ซา้ ยของคนทอ่ี ยดู่ า้ นขวา จดั แถวใหต้ รงโดยสะบดั หน้าแลขวา ใหเ้ หน็ หน้าอกคนท่ี 4 นบั จากตวั ลูกเสอื เองเมอ่ื ผเู้ รยี กตรวจแถวสงั่ ว่า “นิ่ง” ใหล้ ดมอื ลงพรอ้ มกบั สะบดั หน้ามาอยใู่ นท่าตรงและนิง่ ถา้ “เปิดระยะ” ระยะเคยี งจะเป็นสดุ ชว่ งแขนซา้ ยของลกู เสอื โดยใหท้ กุ คน (ยกเวน้ คนทา้ ยแถว) ยกแขนซ้ายขน้ึ เสมอไหล่ เหยยี ดแขนตรงออกไปทางขา้ ง คว่าฝ่ามอื ลง น้ิวชดิ ตดิ กนั ใหป้ ลายน้ิวซ้าย จดไหล่ขวาของคนต่อไป จดั แถวใหต้ รงโดยนายหม่ยู นื แลตรงเป็นหลกั ลูกหม่สู ะบดั หน้าแลขวาใหเ้ หน็ หน้าอกคนท่ี 4 เมอ่ื ไดย้ นิ คาสงั่ วา่ “น่ิง” จงึ ลดมอื ลง สะบดั หน้ากลบั มาอยใู่ นท่าตรงและน่ิง คู่มือการจัดกิจกรรมลูกเสอื สามัญเสรมิ สรา้ งทกั ษะชีวิต ลกู เสือตรี ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 4 33

4) แถวตอนเรยี งหน่ึง (กรณมี หี ลายหม่จู ะเรยี กว่า “แถวตอนหม”ู่ ) การใหส้ ญั ญาณ ผเู้ รยี กแถวอยใู่ นท่าตรงเหยยี ดแขนทงั้ สองไปขา้ งหน้าเสมอแนวไหล่ มอื แบหนั ฝ่ามอื เขา้ หากนั น้วิ เรยี งชดิ ตดิ กนั ลูกเสอื เข้าแถวตอนเรยี งหน่ึงโดยนายหมู่ยนื ตรงเป็นหลกั ขา้ งหน้าผู้เรยี ก กะให้ห่างจาก ผูเ้ รยี กประมาณ 6 ก้าว ลูกหม่เู ขา้ แถวต่อหลงั นายหม่ตู ่อ ๆ กนั ไปจดั แถวให้ตรงคอคนหน้า ระยะต่อ ระหวา่ งบุคคล 1 ช่วงแขน และปิดทา้ ยดว้ ยรองนายหมู่ 5) แถวตอนหมู่ แถวตอนเรยี งหน่งึ หลายหมเู่ รยี กวา่ “แถวตอนหม”ู่ สมมตวิ า่ มี 5 หมู่ ใหห้ มทู่ อ่ี ยตู่ รงกลางคอื หมู่ ท่ี 3 ยนื เป็นหลกั ตรงหน้าผเู้ รยี ก ห่างจากผเู้ รยี กประมาณ 6 กา้ ว หมทู่ ่ี 2 และหมทู่ ่ี 1 เขา้ แถวอยใู่ นแนว เดยี วกนั ไปทางซ้ายมอื ของผู้เรยี ก ส่วนหมู่ท่ี 4 และหมู่ท่ี 5 ก็เข้าแถวอยู่ในแนวเดยี วกนั แต่ไปทาง ขวามอื ของผเู้ รยี ก ระยะเคยี งระหว่างหมปู่ ระมาณ 1 ชว่ งศอก ส่วนระยะต่อระหวา่ งบคุ คล 1 ชว่ งแขน 6) แถวหน้ากระดานหมู่ ปิ ดระยะ 34 ค่มู ือการจดั กิจกรรมลกู เสือสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ลกู เสือตรี ชนั้ ประถมศึกษาปี ที่ 4

การใหส้ ญั ญาณ ผเู้ รยี กแถวยนื ในท่าตรง กามอื ทงั้ 2 ขา้ ง เหยยี ดแขนตรงไปขา้ งหน้าขนานกบั พน้ื งอขอ้ ศอกขน้ึ เป็นมมุ ฉาก หนั หน้ามอื เขา้ หากนั ลกู เสอื หม่แู รกเขา้ แถวตรงหน้าผเู้ รยี ก อย่หู ่างจากผเู้ รยี กประมาณ 6 กา้ ว นายหม่อู ยทู่ างซา้ ยมอื ของผเู้ รยี ก กะใหก้ ง่ึ กลางของหมอู่ ยตู่ รงหน้าผู้เรยี ก ลกู หมยู่ นื ต่อๆ ไปทางซา้ ยของนายหมู่ เวน้ ระยะเคยี ง 1 ช่วงศอก หม่อู ่นื ๆ เขา้ แถวหน้ากระดานขา้ งหลงั หมแู่ รก ซอ้ นกนั ไปตามลาดบั เวน้ ระยะต่อระหว่างหมู่ ประมาณ 1 ช่วงแขน การจดั แถว เม่อื ผูส้ งั่ ว่า “จดั แถว” ให้ทุกคน (ยกเว้นคนสุดทา้ ย) ยกมอื ซ้ายขน้ึ เท้าสะโพก น้ิว เหยยี ดชดิ กนั น้ิวกลางอย่ใู นแนวตะเขบ็ กางเกง แขนขวาแนบลาตวั จดั แถวใหต้ รงโดยนายหม่ยู นื แล ตรงเป็นหลกั ลกู หมสู่ ะบดั หน้าแลขวาใหเ้ หน็ หน้าอกคนท่ี 4 การตรวจแถว ผเู้ รยี กแถวตรวจการจดั แถวแลว้ จงึ สงั่ “นิ่ง” ลกู เสอื ทุกคนลดแขนลงพรอ้ มสะบดั หน้ากลบั มาอยใู่ นทา่ ตรงและนง่ิ 7) แถวหน้ากระดานหมู่ เปิ ดระยะ ผเู้ รยี กยนื ในท่าตรง กามอื ทงั้ 2 ขา้ ง งอขอ้ ศอกเป็นมุมฉาก แขนท่อนบนแบะออกจนเป็นแนวเดยี วกบั ไหล่ หนั หน้ามอื ไปขา้ งหน้าใหล้ กู เสอื เขา้ แถวเช่นเดยี วกบั แถวหน้ากระดานหม่ปู ิดระยะ แต่เวน้ ระยะต่อ ระหวา่ งหมขู่ ยายออกไปทางดา้ นหลงั ห่างกนั หมลู่ ะประมาณ 3 ช่วงแขน หรอื 3 กา้ ว การจดั แถว และตรวจแถว ใหป้ ฏบิ ตั เิ ช่นเดยี วกบั แถวหน้ากระดานหมปู่ ิดระยะ คมู่ ือการจดั กจิ กรรมลูกเสอื สามญั เสริมสร้างทกั ษะชีวิต ลูกเสอื ตรี ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 4 35

8) แถวรปู ครง่ึ วงกลม การให้สญั ญาณ ผู้เรยี กแถวยนื ในท่าตรง แบมอื ทงั้ 2 ขา้ ง แขนเหยยี ดตรงด้านหน้าและลง ขา้ งล่าง คว่าฝ่ามอื เขาหาตวั ขอ้ มอื ขวาไขวท้ บั ขอ้ มอื ซ้าย แลว้ โบกผ่านลาตวั ชา้ ๆ เป็นรปู ครง่ึ วงกลม 3 ครงั้ นายหมลู่ กู เสอื หมแู่ รกยนื อยใู่ นแนวเดยี วกบั ผู้เรยี กทางดา้ นซา้ ย ห่างจากผเู้ รียกพอสมควรลูก หม่ยู นื ต่อ ๆ กนั ไปทางซา้ ยมอื ของนายหมู่ เวน้ ระยะเคยี ง 1 ช่วงศอก (มอื เทา้ สะโพก) สะบดั หน้าไปทางขวา รอคาสงั่ “นิ่ง” หม่ทู ่ี 2 และหม่อู ่นื ๆ เขา้ แถวต่อจากด้านซา้ ยของหม่แู รก ตามลาดบั เว้นระยะระหว่างหมู่ 1 ช่วงศอก รองนายหมสู่ ดุ ทา้ ย จะยนื ตรงดา้ นขวาของผเู้ รยี ก ในแนวเดยี วกนั กบั นายหมู่ หมแู่ รก การจดั แถว ยกมอื ซา้ ยขน้ึ ทาบสะโพก สะบดั หน้าไปทางขวา (ยกเวน้ นายหมู่ หมแู่ รก) จดั แถว ใหเ้ ป็นรปู ครง่ึ วงกลม การตรวจแถว ผูเ้ รยี กแถวตรวจการจดั แถวแลว้ จงึ สงั่ “น่ิง” ลูกเสอื ทุกคนลดแขนลงพรอ้ มกบั สะบดั หน้ากลบั มาอยใู่ นท่าตรง 9) แถวรปู วงกลม มี 2 แบบ 36 ค่มู ือการจดั กิจกรรมลูกเสือสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ลูกเสือตรี ชนั้ ประถมศึกษาปี ที่ 4

การเรียกแถวแบบผ้เู รียกยืนอย่ทู ่ีจดุ ศนู ยก์ ลาง การใหส้ ญั ญาณ ผเู้ รยี กแถวยนื ในท่าตรง แบมอื ทงั้ 2 ขา้ ง แขนเหยยี ดตรงลงขา้ งล่าง คว่าฝ่ ามอื เขา้ หาตวั ขอ้ มอื ขวาไขวท้ บั ขอ้ มอื ซา้ ย แลว้ โบกผา่ นลาตวั ประสานกนั จากดา้ นหน้าจดดา้ นหลงั (โบกผ่าน ลาตวั 3 ครงั้ ) ลกู เสอื หมแู่ รกยนื ดา้ นซา้ ยมอื ของผเู้ รยี ก เขา้ แถวเช่นเดยี วกบั แถวครง่ึ วงกลม สว่ นหมู่ 2 และ หมตู่ ่อ ๆ ไปอยทู่ างดา้ นซา้ ยของหมทู่ อ่ี ยกู่ ่อนตามลาดบั จนคนสุดทา้ ย(รองนายหม)ู่ ของหมสู่ ุดทา้ ยไป จดกบั นายหมขู่ องหมแู่ รก ถอื ผเู้ รยี กเป็นศูนยก์ ลาง การจดั แถว ลกู เสอื ยกมอื ซา้ ยขน้ึ เทา้ สะโพก สะบดั หน้าไปทางขวา (ยกเวน้ นายหมู่ หมแู่ รก)จดั แถวใหเ้ ป็นรปู วงกลม การตรวจแถว ผู้เรยี กแถวตรวจการจดั แถวแลว้ จงึ สงั่ “น่ิง” ลูกเสอื ทุกคนลดแขนลงพรอ้ มกบั สะบดั หน้ากลบั มาอยใู่ นทา่ ตรง และน่งิ การเรียกแถวแบบผ้เู รยี กอย่ทู ี่เส้นรอบวง การใหส้ ญั ญาณ ผเู้ รยี กแถวยนื ในท่าตรง กามอื ขวา เหยยี ดแขนขวาตรงไปขา้ งหน้า ยกขน้ึ บน และเลยไปขา้ งหลงั หมนุ กลบั มาดา้ นหน้า ทา 3 ครงั้ ลกู เสอื หมแู่ รกยนื ชดิ ดา้ นซา้ ยมอื ของผเู้ รยี ก หมทู่ ่ี 2และหมตู่ ่อ ๆ ไปอยทู่ างซา้ ยมอื ของหม่ทู อ่ี ยู่ ก่อนตามลาดบั จนรองนายหมขู่ องหมสู่ ุดทา้ ยไปจดขวามอื ของผเู้ รยี กใหผ้ เู้ รยี กอยใู่ นเสน้ รอบวง การจดั แถวและการตรวจแถว กระทาเช่นเดยี วกบั แบบแรก คมู่ อื การจดั กิจกรรมลกู เสือสามัญเสริมสรา้ งทักษะชีวิต ลูกเสือตรี ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 4 37

เร่ืองสนั้ ท่ีเป็นประโยชน์ ขมุ ทรพั ยใ์ นไร่องุ่น ทไ่ี ร่องุ่นแห่งหน่ึง มพี ่อผสู้ งู อายุกบั ลูกชายจอมขเ้ี กยี จ 3 คนอาศยั อยู่ ต่อมาพ่อลม้ ป่วยลงและ ก่อนท่จี ะส้นิ ลมหายใจ ไดเ้ รยี กลูกชายทงั้ 3 มาสงั่ เสยี ว่าอย่าขายท่ดี นิ เพราะพ่อไดซ้ ่อนขุมทรพั ย์อนั มหาศาลเอาไวใ้ ห้ จงขดุ ดนิ พรวนดนิ ขดุ หาใหท้ วั่ ทกุ ตารางน้วิ ของไร่ หลงั จดั งานศพพ่อเรยี บรอ้ ย ลูกชายทงั้ 3 กล็ งมอื ตงั้ หน้าตงั้ ตาขุดดนิ ไถคราด พรวนดนิ จน ทวั่ ไร่ แต่พวกเขาไม่พบขุมทรพั ยอ์ ย่างท่พี ่อบอกไว้ แมแ้ ต่เศษเงนิ ก็ยงั ไม่มี หน่ึงปีผ่านไปไร่องุ่นทพ่ี วกเค้าตงั้ หน้าตงั้ ตาขุดพรวนดนิ เพ่อื หาขุมทรพั ย์ กลบั เกดิ ผลอย่างท่ี ไมไ่ ดค้ าดคดิ องนุ่ ในไรไ่ ดอ้ อกดอกออกผลมากมายเตม็ ไปหมด เมอ่ื เป็นเช่นนนั้ ลกู ชายทงั้ 3 จึงช่วยกนั นาผลองุ่นออกขายไดเ้ งนิ จานวนมาก พวกเขาเพงิ่ จะไดร้ ตู้ อนน้ีเองว่าขุมทรพั ยท์ พ่ี ่อพดู ถงึ นนั้ หมายถงึ อะไร เขาควรจะทางานหนกั ขยนั ขนั แขง็ ในทด่ี นิ ของพอ่ เพ่อื สรา้ งผลผลติ ในไรน่ นั่ เอง เร่ืองนี้สอนให้ร้วู ่า ความขยนั และสงู้ านหนกั เป็นบ่อเกดิ ของขมุ ทรพั ย์ ประเดน็ การวิเคราะหค์ ณุ ธรรมที่ได้ 1. ซ่อื สตั ย์ สจุ รติ 2. ความรบั ผดิ ชอบ 3. อุดมการณ์ คุณธรรม 38 ค่มู ือการจดั กิจกรรมลูกเสือสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ลกู เสือตรี ชนั้ ประถมศกึ ษาปี ที่ 4

แผนการจดั กิจกรรมลกู เสือ หลกั สตู รลกู เสือสามญั (ลกู เสือตร)ี ชนั้ ประถมศึกษาปี ที่ 4 หน่วยที่ 3 ความร้เู กี่ยวกบั ขบวนการลกู เสือ เวลา 1 ชวั่ โมง แผนการจดั กิจกรรมท่ี 4 ประวตั ิ ลอรด์ เบเดน เพาเวลล์ (บี.-พี.) 1. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ลกู เสอื สามารถเล่าประวตั ขิ อง ลอรด์ เบเดน เพาเวลล์ (บ.ี -พ.ี ) และการกาเนิดลกู เสอื โลกพอ สงั เขปได้ 2. เนื้อหา 2.1 ประวตั ขิ อง ลอรด์ เบเดน เพาเวลล์ (บ.ี -พ.ี ) 2.2 การกาเนดิ ลกู เสอื โลก 3. ส่ือการเรียนรู้ 3.1 แผนภูมเิ พลง 3.2 เกม 3.2 รปู ภาพ ลอรด์ เบเดน เพาเวลล์ (บ.ี -พ.ี ) 3.3 ใบความรู้ 3.4 เรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 4. กิจกรรม 4.1 พธิ เี ปิดประชุมกอง (ชกั ธงขน้ึ สวดมนต์ สงบนง่ิ ตรวจ แยก) 4.2 เพลง หรอื เกม 4.3 กจิ กรรมตามจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1) ผกู้ ากบั ลกู เสอื ใหล้ กู เสอื ดภู าพ ลอรด์ เบเดน เพาเวลล์ (บ.ี -พ.ี ) แลว้ สนทนาซกั ถาม เกย่ี วกบั บคุ คลในภาพ 2) แจกใบความรเู้ รอ่ื ง ประวตั ขิ อง ลอรด์ เบเดน เพาเวลล์ (บ.ี -พ.ี ) และใหห้ มลู่ กู เสอื เลน่ เกมตามล่าหาคาตอบ โดยกาหนดเวลาใหห้ าคาตอบใหไ้ ดภ้ ายใน 10 นาที ถา้ คาตอบ ถูกตอ้ งจะไดแ้ ตม้ ขอ้ ละ 5 คะแนน ดงั น้ี 1. บุคคลในภาพช่อื อะไร 2. มอี าชพี อะไร 3. เป็นคนเมอื งไหน 4. วยั เดก็ เขาชอบใชช้ วี ติ อยา่ งไร 5. ลกั ษณะนสิ ยั ของเขาเป็นอยา่ งไร 6. ชวี ติ วยั ทางานของเขาเป็นอยา่ งไร คมู่ อื การจัดกจิ กรรมลูกเสอื สามญั เสรมิ สร้างทักษะชีวติ ลูกเสือตรี ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 39

7. ซลู ู คอื ใคร 8. ประสบการณ์ของเขาทล่ี ูกเสอื นามาเป็นวชิ าเรยี น มอี ะไรบา้ ง 9. เขาเกย่ี วขอ้ งกบั กจิ กรรมลกู เสอื อยา่ งไรบา้ ง 10. เขาเสยี ชวี ติ ทป่ี ระเทศใด 3) รวมกอง ผกู้ ากบั ลกู เสอื อ่านคาถามทลี ะขอ้ หมลู่ กู เสอื แขง่ ขนั กนั ตอบคาถาม หมทู่ ต่ี อบ คาถามไดถ้ กู ตอ้ งจะไดค้ ะแนนขอ้ ละ 5 คะแนน 4) ผกู้ ากบั ลกู เสอื เฉลยคาตอบ พรอ้ มกบั อธบิ ายรายละเอยี ดประวตั ขิ องบ.ี พ.ี เพมิ่ เตมิ และเล่าถงึ การกาเนิดลกู เสอื โลก 4.4 ผกู้ ากบั ลกู เสอื เลา่ เรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 4.5 พธิ ปี ิดประชมุ กอง (นดั หมาย ตรวจเครอ่ื งแบบ ชกั ธงลง เลกิ ) 5. การประเมินผล 5.1 ตรวจสอบความรเู้ รอ่ื งประวตั ลิ อรด์ เบเดน เพาเวลล์ (บ.ี -พ.ี ) จากเกมตามล่าหาคาตอบ 5.2 สอบถามความเขา้ ใจการกาเนดิ ลกู เสอื โลก ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กิจกรรมท่ี 4 (ผกู้ ากบั ลกู เสือสามารถเลือกใช้เพลงหรือเกมกไ็ ด้ตามความเหมาะสม) เพลง วชิราวธุ ราลึก วชริ าวุธพระมงกุฎเกลา้ เจา้ ประชา ก่อกาเนดิ ลกู เสอื มา ขา้ เลอ่ื มใส พวกเราลกู เสอื เชอ้ื ชาตไิ ทย เทดิ เกยี รตพิ ระองคไ์ ว้ ดว้ ยภกั ดี ลกู เสอื ราลกึ นกึ พระคุณ เทดิ บชู า ปฏญิ าณรกั กษตั รยิ ์ ชาติ ศาสน์ศรี มาเถดิ ลกู เสอื สรา้ งความดี เพ่อื ศกั ดศิ ์ รลี กู เสอื ไทย ดงั่ ใจปอง เกม เกมการแข่งเรอื บก 1. ใหล้ กู เสอื เขา้ แถวตอนเป็นหมู่ ๆ แต่ละหมเู่ ขา้ แถวห่างกนั 1 ชว่ งแขน 2. ใหล้ กู เสอื แต่ละหมหู่ รอื แถวนงั่ เอามอื จบั เอวคนขา้ งหน้า 3. ใหแ้ ต่ละแถวเคลอ่ื นทไ่ี ปถงึ เสน้ ทก่ี าหนดดว้ ยการกระโดดพรอ้ ม ๆ กนั โดยไมใ่ หม้ อื หลุดจาก เอว หรอื ขาด แถวใดถงึ เสน้ ทก่ี าหนดก่อนเป็นผชู้ นะ อปุ กรณ์ ปนู ขาวโรยเสน้ หรอื ใชไ้ มพ้ ลองวางในเสน้ ทก่ี าหนด 40 คมู่ ือการจดั กิจกรรมลูกเสือสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ลูกเสือตรี ชนั้ ประถมศึกษาปี ที่ 4

เรื่องสนั้ ที่เป็นประโยชน์ ที่มาของ คาว่า SCOUT คาว่าลูกเสอื ในภาษาองั กฤษใช้คาว่า SCOUT ซง่ึ มที ่มี าจากอกั ษรตวั แรกของคาใน ภาษาองั กฤษ 5 คา คอื S เป็นอกั ษรตวั แรกของคาวา่ SINCERITY แปลว่า ความจรงิ ใจ C เป็นอกั ษรตวั แรกของคาวา่ COURTESY แปลว่า ความสภุ าพอ่อนโยน O เป็นอกั ษรตวั แรกของคาว่า OBEDIENCE แปลวา่ การเช่อื ฟัง U เป็นอกั ษรตวั แรกของคาวา่ UNITY แปลวา่ ความสามคั คี T เป็นอกั ษรตวั แรกของคาวา่ THRIFTY แปลวา่ ความมธั ยสั ถ์ ดงั นนั้ ลกู เสอื ทกุ คน จงึ ควรประกอบดว้ ยคณุ สมบตั ทิ ส่ี าคญั เหล่าน้ดี ว้ ย ประเดน็ การวิเคราะหค์ ณุ ธรรมท่ีได้ 1. ความพอเพยี ง 2. ความกตญั ญู 3. ซ่อื สตั ย์ สจุ รติ 4. ความรบั ผดิ ชอบ 5. อุดมการณ์ คณุ ธรรม คูม่ ือการจัดกิจกรรมลกู เสอื สามญั เสรมิ สรา้ งทักษะชีวติ ลูกเสือตรี ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 4 41

ใบความรู้ ประวตั ิของ ลอรด์ เบเดน เพาเวลล์ ( บี.-พี. ) ลอรด์ เบเดน เพาเวลล์ เป็นผใู้ หก้ าเนิดลกู เสอื โลก มชี ่อื เตม็ ว่า โรเบริ ต์ สตเิ ฟสนั สไมธ์ เบเดน เพาเวลล์ เรยี กย่อๆ ว่า บ.ี -พ.ี เกดิ วนั ท่ี 22 กุมภาพนั ธ์ พ.ศ. 2400 ทก่ี รุงลอนดอน ประเทศองั กฤษ มี บดิ าเป็นศาสตราจารยส์ อนวชิ าเรขาคณติ และธรรมชาตศิ กึ ษา ณ มหาวทิ ยาลยั ออกซฟ์ อรด์ มารดาของ เขาเป็นธดิ าของพลเรอื เอก ดบั บวิ .ท.ี สไมธ์ แห่งราชนาวอี งั กฤษ บ.ี พ.ี ไดส้ มรสกบั นางสาวโมลาฟ เซน็ ต์ แคลร์ เมอ่ื อายไุ ด้ 55 ปี ชีวิตในวยั เดก็ บ.ี -พ.ี เขา้ ศกึ ษาในระดบั ประถมศกึ ษาและมธั ยมศกึ ษาในกรุงลอนดอน ประเทศองั กฤษ ต่อมา โรงเรยี นมธั ยมช่อื ชาเตอรเ์ ฮาส์ ทเ่ี ขาศกึ ษาอยไู่ ดย้ า้ ยไปอย่ใู นชนบท ณ เมอื งโกคาลมงิ ในแควน้ เซอร์ เรย์ ซง่ึ อยใู่ กลก้ บั ป่าใหญ่มธี รรมชาตสิ วยงาม มลี าธารน้าไหลผ่าน เขาจงึ มักใชเ้ วลาว่างหลบเขา้ ไปใช้ ชวี ติ ศกึ ษาธรรมชาติ ชวี ติ สตั วแ์ ละตน้ ไม้ เขาชอบวาดภาพ รอ้ งเพลง แสดงละคร นอกจากน้ีบ.ี พ.ี ยงั ไดร้ บั ความรพู้ เิ ศษจากพลเรอื เอก สไมธ์ ผเู้ ป็นตา เกย่ี วกบั การว่ายน้า เล่นสเกต ขม่ี า้ การวดั แดดและ ดดู าวตลอดจนความรเู้ ชงิ พราน ในชว่ งปิดภาคเขาจงึ มกั จะทอ่ งเทย่ี วพกั แรมไปกบั พช่ี ายอกี 3 คน เมอ่ื จบชนั้ มธั ยมศกึ ษา บ.ี พ.ี สอบเขา้ เรยี นท่โี รงเรยี นนายรอ้ ยแซนดเ์ ฮสิ ต์ หลงั จบการศกึ ษาเขา ได้รบั การแต่งตงั้ เป็นนายรอ้ ยตรแี ห่งกองทพั บกขององั กฤษ และถูกส่งไปประจาการท่ปี ระเทศอินเดีย เมอ่ื อายุ 19 ปี ชีวิตในการรบั ราชการทหาร บ.ี -พ.ี รบั ราชการทหารในประเทศอนิ เดยี ประจากองทหารมา้ อุสซารท์ ่ี 13 เป็นเวลา 8 ปี โดย ปฏบิ ตั หิ น้าทดี่ ว้ ยความเขม้ แขง็ ขณะทมี่ ยี ศเป็นรอ้ ยตรเี ขาไดร้ บั เงนิ เดอื นน้อยมาก จงึ ดาเนินชวี ติ อยา่ งประหยดั คอื ไมส่ บู บุหร่ี ด่มื สุราแต่น้อย และยงั หารายไดพ้ เิ ศษโดยการเขยี นเรอ่ื งและเขยี นภาพ ลงหนังสอื พมิ พ์ ชวี ติ ราชการทหารของเขาส่วนใหญ่อยู่ในประเทศอนิ เดยี และอาฟรกิ าไดร้ บั ยศรอ้ ย เอกตงั้ แต่อายุ 26 ปี ในระหว่างน้ีมเี หตุการณ์ทแ่ี สดงถงึ ลกั ษณะพเิ ศษของเขาหลายอย่าง เช่นไดร้ บั รางวลั ชนะเลศิ ในการแขง่ ขนั กฬี าแทงหมปู ่า ขณะอย่บู นหลงั มา้ โดยใชห้ อกสนั้ เมอ่ื พ.ศ. 2426 และมี เรอ่ื งราวประทบั ใจทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั กจิ การลูกเสอื หลายครงั้ ดังน้ี ครงั้ ที่ 1 พ.ศ. 2431 ไปปราบชนเผ่าซูลูซง่ึ มหี วั หน้าเผ่าช่อื ดนิ ีส ซูลู ในอาฟรกิ าใต้ได้สาเร็จ เขานาประสบการณ์บางอย่างในครงั้ น้ีมาใชใ้ นกจิ การลกู เสอื ดว้ ย ไดแ้ ก่บทเพลงอนิ กอน ยามา (หวั หน้า) อนิ กอน -ยา-มา กอน-ยา-มา (ลกู ค่)ู อนิ -ว-ู ยู ยาโบห์ ยาโบห์ อนิ -ว-ู ยู สร้อยคอของดินิส ซูลู ทาด้วยไม้ แกะเป็ นท่อนเล็กๆ ซ่ึงต่อมา บี.พี.ได้นามาเป็ นบีด เครอ่ื งหมาย วดู แบดจ์ สาหรบั ผทู้ ผ่ี า่ นการอบรมผบู้ งั คบั บญั ชาลกู เสอื ขนั้ ความรชู้ นั้ สงู ครงั้ ที่ 2 พ.ศ. 2432 ท่เี กาะมอลต้า บ.ี พ.ี ไดร้ บั แต่งตงั้ เป็นผชู้ ่วยทูตทหาร ทาหน้าท่เี ป็นทหาร สบื ราชการลบั 42 ค่มู อื การจดั กิจกรรมลกู เสือสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ลูกเสือตรี ชนั้ ประถมศึกษาปี ที่ 4

ครงั้ ท่ี 3 พ.ศ. 2438 ทาการรบกบั เผ่าอาซนั ติ ซง่ึ มกี ษตั รยิ ช์ ่อื ว่า คงิ เปรมเปห์ และไดร้ บั ชยั ชนะ เหตุการณ์ครงั้ น้ี บ.ี พ.ี ไดป้ ระสบการณ์ดงั ต่อไปน้ี 1. การบุกเบกิ เชน่ การโค่นตน้ ไม้ การทาสะพาน การสรา้ งค่ายพกั 2. ทดลองการแต่งกายของตนเอง ใชห้ มวกปีกแบบโคบาล จนไดร้ บั ฉายาจากพวกพน้ื เมอื งว่า คมั ตะไค แปลวา่ คนสวมหมวกปีกกวา้ ง 3. ประเพณกี ารจบั มอื ซา้ ย จากการแสดงความเป็นมติ รของคนพน้ื เมอื ง ครงั้ ท่ี 4 พ.ศ. 2439 พวกมาตาบลิ ี ซง่ึ เป็นเผ่าหน่ึงของซูลู เดมิ อย่ใู นทรานสวาล และถูกพวก บวั รข์ บั ไล่ จงึ อพยพไปอยใู่ นมาตบิ ลิ ี (ปัจจบุ นั เรยี กโรดเิ ซยี ) พวกมาตาบลิ กี ่อการกบฏรฐั บาลองั กฤษจงึ สงั่ ทหารไปปราบ บ.ี พ.ี ไดป้ ฏบิ ตั หิ น้าทด่ี ว้ ยความเขม้ แขง็ ครงั้ น้ีเขาได้รบั ประสบการณ์เรอ่ื งการสอดแนม โดยเฉพาะการปฏบิ ตั งิ านตอนกลางคนื เลยไดร้ บั ฉายาวา่ \"อมิ ปีซ่า\" แปลวา่ หมาป่าผไู้ มเ่ คยนอนหลบั ครงั้ ที่ 5 พ.ศ. 2442 หลงั จากท่ี บ.ี พ.ี กลบั จากการปฏบิ ตั งิ านท่ี อนิ เดยี 2 ปี กไ็ ดร้ บั คาสงั่ ด่วนให้ เดนิ ทางไปอาฟรกิ าเพ่อื หาทางป้องกนั การรกุ รานทเ่ี มอื งมาฟีคงิ จากพวกบวั ร์ (ชาวดทั ซท์ อ่ี พยพไปอยู่ ในแอฟรกิ าใต)้ ในทรานสวาลและออเรน้ จท์ รสี เตท ซง่ึ จะตงั้ ตนเป็นเอกราช บ.ี พ.ี ไดน้ ากองทหารไปรกั ษา เมอื งมาฟีคงิ ซง่ึ ถูกลอ้ มโดยกองทหารบวั รเ์ ป็นเวลานานถงึ 217 วนั จนกระทงั่ กองทพั ใหญ่ไปถงึ ทาให้ พวกบวั รต์ อ้ งล่าถอยไป ในการป้องกนั เมอื งมาฟีคงิ บ.ี -พ.ี ไดป้ ฏบิ ตั หิ น้าทด่ี ว้ ยความเขม้ แขง็ อดทนรา่ เรงิ ไมย่ อ่ ทอ้ ใช้ สตปิ ัญญาหาวธิ แี กป้ ัญหา ทากลอุบายลวงขา้ ศกึ ใหเ้ ขา้ ใจผดิ คดิ ว่ามกี าลงั ทหารมากมายและมกี าร ป้องกนั รกั ษาเมอื งอย่างเขม้ แขง็ ตลอดจนใชเ้ ดก็ อาสาสมคั รทีไ่ ดร้ บั การอบรมทาหน้าทีส่ ่งข่าว ปรากฏว่าทางานไดผ้ ลดี ทาให้ บ.ี พ.ี มคี วามประทบั ใจในตวั เดก็ และเหน็ ว่า ถา้ ฝึกอบรมเดก็ ใหถ้ ูก ทางแลว้ จะเกดิ ประโยชน์แก่ประเทศชาตอิ ยา่ งมาก จงึ ไดร้ เิ รมิ่ การลกู เสอื ในเวลาต่อมา จากเหตุการณ์ ทเ่ี มอื งมาฟีคงิ ทาให้ บ.ี พ.ี ไดร้ บั ฉายาว่า \"ผปู้ ้องกนั มาฟีคงิ \" การกาเนิดลกู เสือ บ.ี -พ.ี เดนิ ทางกลบั องั กฤษในฐานะวรี บุรษุ และไดน้ าประสบการณ์จากเมอื งมาฟีคงิ มาใชเ้ ขาจดั ให้ เดก็ ๆ เข้ามาช่วยเหลอื ในการรกั ษาเมอื ง โดยทาหน้าท่เี ป็นผู้ส่อื ข่าวและสอดแนมของกองทพั รกั ษา ความสงบภายใน ปฏบิ ตั งิ านต่างๆ ท่อี ยู่ในความสามารถ เช่น อยู่ยามบนหอคอย ให้สญั ญาณแก่ ประชาชนเม่อื พวกบวั รโ์ จมตี เดก็ ๆ เหล่าน้ีสามารถทาหน้าท่ที ่ไี ด้รบั มอบหมายอย่างเข้มแขง็ ว่องไว ไดผ้ ลดไี มแ่ พผ้ ใู้ หญ่ ดงั นนั้ บ.ี พ.ี จงึ คดิ ตงั้ ขบวนการลกู เสอื ขน้ึ โดยนาความคดิ และประสบการณ์ต่างๆ มาพฒั นาอยา่ งรอบคอบ จดั ตงั้ ขบวนการลกู เสอื ขน้ึ ในปี พ.ศ. 2450 โดยบ.ี พ.ี ไดร้ วบรวมเดก็ ชาย 20 คน ไปอยทู่ เ่ี กาะบราวน์ซี ในช่องแคบองั กฤษ นบั เป็นการพกั แรมของลกู เสอื ครงั้ แรกของโลก ปีต่อมากองลูกเสอื ได้เรม่ิ ก่อตงั้ ขน้ึ อย่างจรงิ จงั เป็นครงั้ แรกในองั กฤษ และขยายตวั แพร่หลาย อย่างรวดเรว็ ขบวนการลูกเสอื ได้เจรญิ ขน้ึ ตามลาดบั ทาให้ บ.ี พ.ี มองเหน็ การณ์ไกลว่าลูกเสอื จะเป็น งานสาคญั ในชวี ติ ช่วยฝึกอบรมเดก็ ๆ ใหเ้ ป็นพลเมอื งดขี องชาติ เป็นประโยชน์แก่บา้ นเมอื งอยา่ งมาก ต่อไป บ.ี พ.ี จงึ ลาออกจากราชการทหาร มาใช\"้ ชวี ติ ทส่ี อง\" ซ่งึ เป็นชวี ติ ทใ่ี หบ้ รกิ ารแก่ลกู เสอื ทวั่ โลก คู่มือการจดั กิจกรรมลูกเสอื สามัญเสริมสร้างทกั ษะชีวติ ลกู เสือตรี ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 4 43

พ.ศ. 2454 บ.ี พ.ี เดนิ ทางรอบโลก เพ่อื พบลกู เสอื ประเทศต่างๆ เป็นการเรมิ่ ตน้ สง่ เสรมิ ความ เป็นพน่ี ้องกนั ของลกู เสอื ทวั่ โลก พ.ศ. 2463 มงี านชุมนุมลกู เสอื โลกครงั้ แรก ในการชมุ นุมครงั้ น้ลี กู เสอื ทวั่ โลกทม่ี ารว่ มประชุมได้ พรอ้ มใจกนั ประกาศให้ บ.ี พ.ี อยใู่ นตาแหน่งประมขุ คณะลกู เสอื โลก เมอ่ื การลกู เสอื มอี ายคุ รบ 21 ปี ซง่ึ เปรยี บเหมอื นการบรรลุ \"นติ ภิ าวะ\" ตามกฎหมายองั กฤษ มี ลูกเสอื ทวั่ โลกถึงกว่า 2 ล้านคน พระเจา้ ยอร์ชท่ี 5 ได้พระราชทานบรรดาศักดใิ ์ ห้ บ.ี พ.ี เป็นบารอน จากนนั้ มากจิ การลกู เสอื กเ็ จรญิ กา้ วหน้าไมห่ ยดุ ยงั้ และมกี ารชุมนุมลกู เสอื โลกอกี หลายครงั้ เมอ่ื บ.ี พ.ี มอี ายุ 80 ปี เขาไดก้ ลบั ไปพกั ผ่อนในชว่ งสดุ ทา้ ยของชวี ติ อยทู่ ป่ี ระเทศเคนยา ในทวปี อาฟรกิ าอกี ครงั้ หน่งึ และถงึ แก่กรรมทน่ี นั่ เมอ่ื วนั ท่ี 8 มกราคม พ.ศ.2484 44 คมู่ อื การจดั กิจกรรมลูกเสือสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ลกู เสือตรี ชนั้ ประถมศกึ ษาปี ที่ 4

แผนการจดั กิจกรรมลกู เสือ หลกั สตู รลูกเสือสามญั (ลกู เสือตร)ี ชนั้ ประถมศึกษาปี ที่ 4 หน่วยที่ 3 ความร้เู กี่ยวกบั ขบวนการลกู เสือ แผนการจดั กิจกรรมท่ี 5 พระบิดาแห่งการลกู เสือไทย เวลา 2 ชวั่ โมง 1. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ลูกเสอื สามารถเล่าพระราชประวตั ขิ องพระบาทสมเดจ็ พระมงกุฎเกลา้ เจา้ อย่หู วั และการกาเนดิ ลกู เสอื ไทยพอสงั เขปได้ 2. เนื้อหา 2.1 พระราชประวตั ิ พระราชกรณียกจิ และบทพระราชนิพนธท์ ีเ่ กี่ยวขอ้ งกบั ลกู เสอื ของ พระบาทสมเดจ็ พระมงกุฎเกลา้ เจา้ อย่หู วั 2.2 การกาเนิดลกู เสอื ไทย 3. สื่อการเรียนรู้ 3.1 แผนภูมเิ พลง 3.2 เกม 3.2 ใบความรู้ 3.3 เรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 4. กิจกรรม 4.1 กิจกรรมครงั้ ที่ 1 1) พธิ เี ปิดประชุมกอง (ชกั ธงขน้ึ สวดมนต์ สงบน่ิง ตรวจ แยก) 2) เพลง หรอื เกม 3) กจิ กรรมตามจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ (1) ใหล้ ูกเสอื แต่ละหม่รู ่วมกนั วเิ คราะห์บทพระราชนิพนธข์ องพระบาทสมเดจ็ พระมงกุฎ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั ต่อไปน้วี ่าทรงมเี จตนาตอ้ งการใหล้ กู เสอื เป็นคนอย่างไร? ลกู เสอื บใ่ ช่เสอื สัตวไ์ พร เรายืมชื่อมาใช้ ด้วยใจกลา้ หาญปานกัน ใจกล้า ใช่กล้าอาธรรม์ เชน่ เสอื อรัญ สญั ชาตชิ นคนพาล ใจกล้า ตอ้ งกลา้ อย่างทหาร กล้ากอรป์ กิจการแกช่ าติประเทศเขตตน (2) สมุ่ ตวั แทนหมลู่ ูกเสอื รายงาน 1 หมู่ ผกู้ ากบั ลกู เสอื นาอภปิ รายใหห้ มอู่ ่นื ชว่ ยเพม่ิ เตมิ และ สรปุ คมู่ อื การจดั กจิ กรรมลูกเสอื สามัญเสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ลกู เสือตรี ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 4 45

(3) แบง่ งานใหห้ มลู่ กู เสอื ศกึ ษาคน้ ควา้ หมลู่ ะ 1 เรอ่ื ง โดยใหน้ าเสนอในลกั ษณะของ ผสู้ อ่ื ขา่ วสารคดใี นครงั้ ต่อไป ดงั น้ี - พระราชประวตั ขิ องพระบาทสมเดจ็ พระมงกุฎเกลา้ เจา้ อยหู่ วั - พระราชกรณยี กจิ ของพระบาทสมเดจ็ พระมงกุฎเกลา้ เจา้ อยหู่ วั - การกาเนดิ ลกู เสอื ไทย - พระราชนิพนธข์ องพระบาทสมเดจ็ พระมงกุฎเกลา้ เจา้ อยหู่ วั ทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั ลกู เสอื 4) ผกู้ ากบั ลกู เสอื เลา่ เรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 5) พธิ ปี ิดประชมุ กอง (นดั หมาย ตรวจเครอ่ื งแบบ ชกั ธงลง เลกิ ) 4.2 กิจกรรมครงั้ ที่ 2 1) พธิ เี ปิดประชุมกอง (ชกั ธงขน้ึ สวดมนต์ สงบนงิ่ ตรวจ แยก) 2) เพลง หรอื เกม 3) กจิ กรรมตามจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ (1) ลกู เสอื แต่ละหมนู่ าเสนอ เรอ่ื งทไ่ี ปศกึ ษาคน้ ควา้ ตามรปู แบบผสู้ อ่ื ข่าวสารคดที ห่ี มู่ ถนดั (2) ผกู้ ากบั ลกู เสอื และลกู เสอื หมอู่ ่นื รว่ มกนั ซกั ถามเพอ่ื ความเขา้ ใจ (3) ผกู้ ากบั ลกู เสอื สรปุ สาระสาคญั ของเรอ่ื งทแ่ี ต่ละหมนู่ าเสนอ 4) ผกู้ ากบั ลกู เสอื เล่าเรอ่ื งสนั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์ 5) พธิ ปี ิดประชมุ กอง (นดั หมาย ตรวจเครอ่ื งแบบ ชกั ธงลง เลกิ ) 5. การประเมินผล 5.1 สงั เกตความรว่ มมอื ในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม 5.2 ตรวจสอบเน้อื หา จากการนาเสนอในบทบาทผสู้ ่อื ขา่ วสารคดี 46 คมู่ ือการจดั กิจกรรมลกู เสือสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ลกู เสือตรี ชนั้ ประถมศกึ ษาปี ที่ 4

ภาคผนวกประกอบแผนการจดั กิจกรรมที่ 5 เพลง วชิราวธุ ราลึก วชริ าวธุ พระมงกุฎเกลา้ เจา้ ประชา ก่อกาเนดิ ลกู เสอื มา ขา้ เลอ่ื มใส พวกเราลกู เสอื เชอ้ื ชาตไิ ทย เทดิ เกยี รตพิ ระองคไ์ ว้ ดว้ ยภกั ดี ลกู เสอื ราลกึ นกึ พระคุณ เทดิ บชู า มาเถดิ ลกู เสอื สรา้ งความดี ปฏญิ าณรกั กษตั รยิ ์ ชาติ ศาสน์ศรี เพอ่ื ศกั ดศิ ์ รลี กู เสอื ไทย ดงั่ ใจปอง ลกู เสือธีรราช เหลา่ ลกู เสอื ของธรี ราช ทะนงองอาจ สบื ชาตเิ ชอ้ื พงศพ์ นั ธุ์ สมคั รสมานโดยมสี ามคั คมี นั่ พวกเราจะรกั รว่ มกนั จะผกู สมั พนั ธต์ ลอดกาล มจี รรยา รกั ษาช่อื สรา้ งเกยี รตริ ะบอื เลอ่ื งลอื ต่อไปชา้ นาน รา่ เรงิ แจ่มใสใฝ่ใจรกั ใหย้ นื นาน พวกเราลว้ นชน่ื บาน เพราะกจิ การลกู เสอื ไทย เกม เกมวิบาก ผู้เล่นเข้าแถวหน้ากระดาน 2 แถว หนั หน้าไปทางเดยี วกนั ยนื อยู่ท่เี ส้นซ่งึ ห่างเส้นชยั 10 เมตร ผเู้ ล่นแถวหลงั ยกขาวขวาขน้ึ ใหผ้ เู้ ลน่ ทอ่ี ย่ขู า้ งหน้าจบั ขาไว้ มอื ทงั้ สองของผเู้ ลน่ แถวหลงั จบั บ่าของ ผเู้ ล่นคนหน้าไว้ เมอ่ื ไดร้ บั สญั ญาณเรมิ่ เล่นใหผ้ เู้ ล่นทุกค่วู งิ่ ไปขา้ งหน้าตรงไปยงั เสน้ ชยั การตดั สิน ผเู้ ลน่ ทกุ ค่ตู อ้ งไมแ่ ยกจากกนั และตอ้ งวง่ิ ในลกั ษณะสามขา ค่ใู ดลม้ ใหเ้ รมิ่ วงิ่ ใหมต่ รงจดุ ท่ี ลม้ ค่ทู ถ่ี งึ เสน้ ชยั ก่อนเป็นผชู้ นะ เกมว่ิงอลวน ลูกเสอื ทุกคนนัง่ เป็นวงกลมมอื กอดอก แต่ละคนห่างกนั 1 ช่วงแขน เลอื กลกู เสอื ออกมาสอง คน คนหน่ึงเป็นคนไล่ อกี คนหน่ึงเป็นคนหนี เรม่ิ การเล่น คนไล่ตอ้ งวง่ิ ไล่จบั คนหนีใหไ้ ด้ การหนีจะอยู่ ภายในวงกลมหรอื วง่ิ หลบหลกี ในระหว่างผทู้ น่ี งั่ อยู่ เมอ่ื ไม่ต้องการหนีใหว้ ง่ิ ไปนัง่ ขา้ งหน้าผทู้ ่นี งั่ อยู่รอบ วงกลมคนใดคนหน่งึ ผทู้ ถ่ี ูกคนหนีนงั่ ขา้ งหน้าจะกลายเป็นผไู้ ล่ทนั ที คนไล่เดมิ จะกลายเป็นคนหนตี ่อไป การตดั สิน ลกู เสอื ทเ่ี ป็นคนหนีคนใด ถกู จบั ไดต้ อ้ งออกจากการแข่งขนั เลอื กลกู เสอื คนใหมข่ น้ึ มา แทนคนหนตี ่อไป คู่มือการจดั กจิ กรรมลกู เสือสามัญเสรมิ สร้างทกั ษะชีวติ ลูกเสือตรี ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 4 47

เร่ืองสนั้ ที่เป็นประโยชน์ ที่มาของช่ือ “บางกอก” ทม่ี าของคาว่า “บางกอก” สนั นิษฐานว่ามาจากการทแ่ี มน่ ้าเจา้ พระยาคดเคย้ี วไปมา บางแห่งมี สภาพเป็นเกาะเป็นโคก จงึ เรยี กกนั วา่ \"บางเกาะ\"หรอื \"บางโคก\"แลว้ เพย้ี นเป็นบางกอก บ้างก็ว่าเน่ืองเพราะบรเิ วณน้ีมตี ้นมะกอกอยู่มาก จงึ เรยี กว่า \"บางมะกอก\"ข้อสนั นิษฐานน้ี อา้ งองิ มาจากช่อื เดมิ ของวดั อรณุ ราชวราราม คอื วดั มะกอก (ก่อนจะเปลย่ี นเป็นวดั มะกอกนอก และวดั แจง้ ตามลาดบั ) ต่อมาคาว่า “บางมะกอก” ไดก้ รอ่ นคาไปเหลอื แค่ “บางกอก” คนต่างชาติส่วนใหญ่เรียกเมืองน้ีว่า “ Bangkok ”เพราะเดิมเป็นท่ีตัง้ ของเมืองธนบุรีศรี มหาสมทุ ร ทช่ี าวต่างชาตเิ รยี กกนั ว่า \"บางกอก\"แต่จะออกเสยี งเป็น \"แบงกค์ อ็ ก\"มาตงั้ แต่สมยั กรุงศรี อยธุ ยามคี วามสาคญั ในฐานะเส้นทางออกสทู่ ะเลและตดิ ต่อคา้ ขายกบั อาณาจกั รต่างๆ ทงั้ เป็นเมอื งหน้า ด่านขนอน คอยดแู ลเกบ็ ภาษจี ากเรอื สนิ คา้ ทกุ ลาทผ่ี า่ นเขา้ ออก การกอบกู้อิสรภาพจากพม่าหลงั เสยี กรุงเม่อื ครงั้ ท่ี 2 สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรที รงสถาปนา เมอื งธนบรุ ศี รมี หาสมทุ รใหเ้ ป็นราชธานแี หง่ ใหม่ คอื กรุงธนบุรี เมอ่ื วนั ท่ี 3 ตุลาคม พ.ศ.2313 เรื่องนี้สอนให้ร้วู ่า ทม่ี าของบางเรอ่ื งตอ้ งจดจา ที่มาของชื่อ “กรงุ เทพมหานคร” พระบาทสมเดจ็ พระพุทธยอดฟ้าจฬุ าโลก มพี ระราชดารวิ ่า กรงุ ธนบุรมี สี ภาพเป็นเมอื งอกแตก ตรงกลางมแี ม่น้าเจา้ พระยาไหลผ่าน จงึ โปรดเกลา้ ฯ ใหส้ รา้ งราชธานีแห่งใหม่ทางฟากตะวนั ออกของ แม่น้าเจ้าพระยาซ่ึงมีชัยภูมิดีกว่า ต่อสู้ป้ องกันข้าศึกได้ง่ายกว่า โดยสืบทอดศิลปกรรมและ สถาปัตยกรรมจากพระราชวงั หลวงของกรุงศรอี ยุธยา พระราชทานนามว่า \"กรุงเทพมหานคร บวร รตั นโกสนิ ทร์ มหนิ ทรายุธยา มหาดลิ กภพ นพรตั นราชธานีบูรรี มย์ อุดมราชนิเวศน์มหาสถาน อมร พมิ านอวตารสถติ สกั กะทตั ตยิ วษิ ณุกรรมประสทิ ธ\"ิ ์ มคี วามหมายว่า \"เมอื งของเทวดา มหานครอนั เป็น อมตะ สง่างามดว้ ยแก้ว 9 ประการ และเป็นทป่ี ระทบั ของพระเจา้ แผ่นดนิ เมอื งทม่ี พี ระราชวงั หลายแห่ง ดจุ เป็นวมิ านของเทวดา ซง่ึ พระวษิ ณุกรรมสรา้ งขน้ึ ตามบญั ชาของพระอนิ ทร\"์ ต่อมารชั กาลท่ี 4 โปรดเกลา้ ฯ ใหเ้ ปลย่ี น “บวรรตั นโกสนิ ทร”์ เป็น “อมรรตั นโกสนิ ทร”์ และเรยี กกนั วา่ “กรงุ รตั นโกสนิ ทร”์ ใน พ.ศ.2514 รฐั บาลไดร้ วมจงั หวดั พระนครและจงั หวดั ธนบรุ เี ขา้ ดว้ ยกนั เป็นนครหลวง กรงุ เทพธนบุรี หลงั การปรบั ปรงุ การปกครองใหมเ่ มอ่ื พ.ศ.2515 จงึ เปลย่ี นเรยี กช่อื ในภาษาราชการวา่ กรงุ เทพมหานคร และเรยี กอยา่ งยอ่ ว่า กรงุ เทพฯ เรอื่ งนี้สอนให้ร้วู ่า พระมหากษตั รยิ ไ์ ทยทรงมคี ณุ ูปการต่อชาตบิ า้ นเมอื งมาชา้ นานแลว้ ทม่ี าขอ้ มลู ข่าวสด http://dek-d.com 48 ค่มู อื การจดั กิจกรรมลกู เสือสามญั เสริมสรา้ งทกั ษะชีวิต ลูกเสือตรี ชนั้ ประถมศกึ ษาปี ที่ 4

ประเดน็ การวเิ คราะหค์ ณุ ธรรมทไ่ี ด้ 1. ความรบั ผดิ ชอบ 2. กตญั ญู 3. อุดมการณ์ คุณธรรม ใบความรู้ พระราชประวตั ิของพระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกล้าเจ้าอย่หู วั พระบาทสมเดจ็ พระมงกุฎเกลา้ เจา้ อย่หู วั ทรงเป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั และสมเดจ็ พระศรพี ชั รนิ ทราบรมราชนิ ีนารถ (สมเดจ็ พระนางเจา้ เสาวภาผ่องศร)ี ทรงพระราช สมภพ เม่อื วนั เสารท์ ่ี 1 มกราคม พ.ศ. 2434 ไดร้ บั พระราชทานนามว่า \"สมเดจ็ พระเจ้าลูกยาเธอเจ้า ฟ้ามหาวชิราวุธฯ\" เมอ่ื ทรงพระเยาวไ์ ดศ้ กึ ษาวชิ าหนงั สอื ไทยกบั พระยาศรสี ุนทรโวหาร พระชนมายุ ได้ 13 พรรษา ไดเ้ สดจ็ ไปทรงศกึ ษา ณ ประเทศองั กฤษ ในสาขาประวตั ศิ าสตร์ รฐั ศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ กฎหมาย วรรณคดี ทม่ี หาวทิ ยาลยั ออกซฟ์ อรด์ และวชิ าทหารบก ทโ่ี รงเรยี นนายรอ้ ยแซนดเ์ ฮสิ ต์ หลงั ทรงจบการศกึ ษา ไดเ้ สดจ็ นิวตั กิ ลบั ประเทศไทยใน พ.ศ. 2453 และทรงเขา้ รบั ราชการทนั ที พระองคเ์ สดจ็ เถลงิ ถวลั ยราชสมบตั ติ ่อจากสมเดจ็ พระบรมชนกนาถเม่อื วนั ท่ี 23 ตุลาคม พ.ศ. 2453 ขณะนนั้ มพี ระชนมายุได้ 31 พรรษา ตลอดรชั สมยั ของพระองคไ์ ดท้ รงประกอบพระราช กรณีย กจิ ทานุบารุงประเทศชาติในด้านการปกครองการทหารการศึกษาการสาธารณสุขการคมนาคมการ ศาสนาโดยเฉพาะทางวรรณคดีทรงพระราชนิพนธ์ทงั้ รอ้ ยแก้วรอ้ ยกรองประมาณ 200 เร่อื งด้วยพระ ปรชี าสามารถของพระองคป์ ระชาชนจงึ ถวายพระสมญาแดพ่ ระองคว์ ่า \"พระมหาธีรราชเจ้า\" ทรงอยใู่ น ราชสมบตั เิ พยี ง 16 ปี เสดจ็ สวรรคตเมอ่ื วนั ท่ี 26 พฤศจกิ ายน พ.ศ.2468 พระชนมายไุ ด้ 46 พรรษาแต่ เน่ืองดว้ ยพระราชกรณียกิจของพระองคท์ าใหเ้ กดิ คุณประโยชน์แก่บา้ นเมอื งอย่างใหญ่หลวงรฐั บาลกบั ประชาชนจงึ รว่ มใจกนั สรา้ งพระบรมรปู ของพระองคป์ ระดษิ ฐานไวท้ ส่ี วนลุมพนิ ีและคณะลกู เสอื แห่งชาติ ร่วมด้วยคณะลูกเสอื ทวั่ ราชอาณาจกั รไดส้ รา้ งพระบรมรูปของพระองคป์ ระดษิ ฐานไว้หน้าค่ายลูกเสอื วชริ าวุธอาเภอศรรี าชาจงั หวดั ชลบรุ ี พระราชกรณียกิจที่สาคญั ถงึ แมว้ ่าพระบาทสมเดจ็ พระมงกุฎเกลา้ ฯจะทรงครองราชยไ์ ม่นาน แต่กท็ รงประกอบพระราช กรณยี กจิ อนั เป็นคณุ ประโยชน์อเนกประการ ซง่ึ แบ่งออกไดด้ งั น้ี 1. ด้านการปกครอง ไดท้ รงตงั้ สภาเผยแพร่พาณิชย์ (คอื กระทรวงพาณิชยใ์ นปัจจุบนั ) ตงั้ กรมศลิ ปากร ปรบั ปรุงกระทรวงโยธาธกิ ารเป็นกระทรวงคมนาคม ตราพระราชบญั ญตั นิ ามสกุล ทรง ประดษิ ฐธ์ งไตรรงค์ ตงั้ กองลกู เสอื ป่าและกองลกู เสอื ค่มู ือการจดั กจิ กรรมลูกเสือสามัญเสริมสรา้ งทักษะชีวติ ลกู เสือตรี ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 4 49