จักกธัมมกถา 1รจง วงถัอธรรม ฟ้นคินแคนแห่งผู้ประ;พฤติธรรม อบอวลไปค้วยกถั๋นอายแห่งสิ'นติสุฃและ; กวามเอ็้อเ^อเผึ๋อแผ่ ไม่วุ่นวาย ไม่เบยคฒยนกัน เป็นค้น ทั้งเป็นทำเลท เหมาะ;แก่การติกษากวามรู้ เหมาะ;แก'การประ:กอบสิมมาอาซพ เหมาะ;แก่การ อยู่อากัย ไปมาหายู่กันไค้สะ;ควกค้วยมลาธารณูปโกกกรบกรัน มการป็'องกัน อันครายค เป็นค้น สถานทั้เซ่นนอัคเป็นปฏิรูปเทส เมอไค้อยู่ในปฏิรูปเทส เช่นนย่อมมทางเจริญก้าวหน้าและ;ไครับกวามสิาเร็่จไค้!คยไมยาก เพราะ; สถานทั้เช่นนั้นย่อมทำให้มโอกาสไค้พบปะ:กบหาผู้กนทติแกร;สามาTถพัฒนา คนไค้อย่างเฅ็่มท ถั๋นทอยู่จึงเป็นจักรธรรมทพาหมุนไปยู่กวามเป็นใหญ่แกร; กวามไพบูลย่โคคงนั้ อัปปุริสูปีสสยร; นั้นหมายถึงการกบหาสมากมกับกนค ติอการเข้าไป หา เข้าไปกังใกล้ น้อมรับฟิงกำแนะ;นำร่'งสอนของท่านค้วยทั้งใจ กำ หนค จคจำกำสอนไว้ทุกก้อยกระ:ทง และ;เจาะ;จงสิงเกคกิริยาของท่านเพอถึอเป็น แบบฉบับปฏิบัติคาม การกบหาสมากมกับกนคในสิกษณะ:เช่นนั้ย่อมเป็นเหคุ ใหรูจักบาปบญคุณโทษ ประ;โยชนมิใช่ประ;โยซน หรือไค้แง'กิคเติอนใจค่างๆ แล้วละ;วางร่งทเป็นโทษ ประ;กอบแค'สิงทเป็นประ;โยซน และ;ไค้แบบอย่างทค งามมาเป็นแนวปฏิบัติส์าหรับคนและ;แนะ;นำผู้อนค่อๆ กันไป ทั้งนั้เพราร:กนค หรือสิปบุรุษนั้นย่อมมปกติทำค พูคค กิคค ปฏิบัติคค้วยคน และ;ขอบแนร;นำ ปริซนกนรอบกอบข้างให้ทำค พูคค กิคค ปฏิบัติคคามคนไปค้วย ผู้ทเลือก เฟ้นและ;ไค้กบหา ไค้[กลืชค และ;ไค้รับกำแนะ;นำสิงสอน คลอคถึงไค้เห็่น คัวอย่างทคจากกนคเช่นนั้กับว่าเป็นกนมโซกมวาสนา มทางทจะ;พัฒนาคนเอง ให้รุ่งเรืองแลฟ้.ค้รับกวามสิาเร็่จในซวิคไม'ยาก คุณธรรมข้อนั้จึงเป็นจักรธรรม ทจำปรารถนาอกประ;การหนั้ง อัตตสิมมาปณิธิ นั้นหมายถึงการทั้งคนไว้ชอบ ติอการวางคัวเหมาะ; สมกับภาวะ:ของคน การประ;พฤติปฏิบัติคามกำแนะ;นำสิงสอนของกนกค้วย การเว้นชั่ว ประ;พฤติขอบ ประ;กอบจิคไว้ในทางทสมกวร กล่าวติอประ;คับ www.kalyanamitra.org
m ธรรมสารเทศนา... พระธรรมกิ?)ฅิวงส์ ปรรกองฅนให้ห่างพ้นจากทุจริตอันไม่ต้องค้วยกรรลองแห่งธรรม ให้กังอยู่ใน สุจริตมั่นกง อันยู้ทตั้งตนไว้ชอบวางกัวไต้เหมา๙สมต้วยยึตธรรมฟ้นแนกนำ คาเนินซวิต ไม่ปรร!มาทในการระวังกัวมิให้ผิคต้วยข้องแว:ะ!กับกวามชั่กตกาม เลวทุกสิง ไม่ประ;มาทในการละ!ทงกวามซั่วกวามเลวทเกยทำมา ไม่ประ!มาท ในการสร้างสมปมเพาะกวามคงามให้เกิตฃ็้นในตน และ!ไม่ประ!มาทในการ ประกับประกองรักษากวามคงามททำไว้ตสอตถึงพอกพูนให้เพิมทกขน ไม่ ประมาทเซ่นน็้ซอว่าตั้งตนไว้ชอบ ผูตั้งตนไว้ชอบนันย่อมกลาตแกล้วจากทุกฃ และภัยอันตรายอันเป็นผลชองทุจริตไต้ และย่อมไต้ประ!สบสุชอันเป็นผลชอง สุจริตทประพฤติมาคแล้ว กุณช้อนจึงเป็นจักรธรรมทึ๋นำไปยู่กวามเจริญแสะ! กวามส์าเรี่จอกประการหนง ปุพเพกตปุญญตา นั้นหมายถึงกวามมบุญเก่าทเกยทำไว้แล้ว กส่าว กือกวามติทเกยทำมาแต่อคตชาติบ้าง เกยทำมาแต่หนหอังในชาตินั้บ้าง จต เป็นบุญเก่าทั้งสิน อันบุญเก่านั้นย่อมมพอังอำนาจชักนำให้ผู้ทอังสมไว้เป็น กนพิเศษกว่ากนธรรมคาทั่วไป เซ่นนำให้เกิคมาสูงส่งหรือเจริญต้วยชาติ ตระกูลบ้าง ต้วยยศกักติบ้าง ต้วยโภกสมบัติบ้าง ต้วยสติปีญญาบ้าง ต้วย รูปร่างหน้าตาบ้าง กนทั่มบุญเก่าติเรืยกไต้ว่ามบุญญาธิการติหรือมบุญบารม ติ กนเซ่นนั้ย่อมไครับกวามเจริญและกวามส์าเรืจไต้ง่ายกว่าผู้ทั่ชาคบุญเก่า มาสนับสนุนส่งเสริม ผู้ฃาคบุญเก่านั้นนอกจากจะตั้าต้อยต้อยชาติตระ!กูส เป็นต้นแล้วยังทำมาหากินไต้ยาก ตั้งกัวไต้ลำบากกว่ากนทัวไปต้วย เพราะ! ฉะนั้นกวามมบุญเก่าทั่ทำไว้นั้นจึงเป็นจักรธรรมทหมุนพาไปส่กกามเ'^ริญแสะ! กวามลำ เรี่จอกประการหนง จักรธรรมทั้ง <1 ประการอันเป็นเหตุปีจจัยทั่หมุนพาให้บรรลุถึงมั่งแห่ง กวามเจริญแสะกวามสุชลำเร็่จกส่าวติอกวามเป็นใหญ่แสะ!ตกามไพบูสยใน โกกะทั้งหสายนั้นต่างอัมพันธเกยกเนองกันเป็นสูกโซ่ จำ ปรารถนาให้เป็นไป พร้อมกันจึงจะอำนกยให้ลำเรี่จประ!โยชนํ!ต้ต่อกาสไม่นานนัก มิเซ่นนันอาจให้ www.kalyanamitra.org
จักกธ้ขมกถา เรอง วงถ้อธรรม ผลไม่เฅ็่มทขาคฅกบกพร่องไปสมบูรณตามทกวรเป็น กล่าวกือหากไต้เกิคใน สถานททห่างไกลกวามเจริญ ทฃาคแคลนทั้งคุณธรรมและวิชาการอันเป็น เหตุปิจจัยหลักทจะพัฒนาตนต้วยประการทั้งปวง กี่ย่อมจะไคริบการอบรม ปมเพาะพัฒนาตนไปตามพนเพเติมในลนนั้น ยากทจะยกระคับให้ก้าวหน้า เกินกว่าพนเพเติม ถ้าไต้ขยับขยายไปอยู่ในปฏิรูปเทสอันเป็นทเหมาะทกวรซึ๋ง ล้วนพร้อมมูลต้วยเหตุปีจจัยแห่งกวามก้าวหน้า กี่จะสามารถพัฒนาตนให้ สูงล่งกว่าพนเพเติมไคโคยไม่ยาก และหากไต้กบหาสมากมกับกนค ไคพัง ไครู้ ไต้เหี่นแต่ร่งทเป็นประโยขนกี่ยํ่งจะมทางพัฒนาตนไต้สูงขนไป ยู้ทมพนเพอยู่ ในปฏิรูปเทสแล้วเกิยอก หากไม่สนใจกบหาสมากมกับกนคกี่พัฒนาตนให้ เจริญไม่ไต้ ให้อยู่คมสุขและมกวามราบรํ่นในซวิตไมใต้ และเมึ๋อไต้กบหา สมากมกับกนคแล้วประพฤติตนเป็นกนคตาม เชอพังกำแนะนำลังสอนของ ห่าน นำ มาปฏิบัติให้เป็นรูปธรรม มิใช่ลักแต่ว่าพังหรือเชอเฉยๆ โคยทั้งตน ไว่ในทางทขอบ ประกอบสุจริตธรรม กี่จะจำเริญสถาพรไต้ตามปรารถนา แต่หากไต้กบหาสมากมกับกนคแล้วแตใมไคใล่ใจถึงกำสอนกำแนะนำของท่าน ไม่ไต้ลังเกฅจคจำปฏิปทากวามประพฤติของท่านเพอนำมาเป็นแบบอย่าง ส์าหริบตน กี่ย่อมจะไมใค้ริบผลจากการกบหาอย่างทกวรไต้ กลายเป็นทัพพั ทแมัจะกธุกอยู่กับแกงแตใม่รู้รสแกงไปอย่างน่าเถึยคายไม่กวรเป็น และการท จะ:ไคโอกาสมาเกิคหรือมาอยู่ในปฏิรูปเทส จะไค[อกาสกบหาสมากมกับกนค และเซือพังกนค คลอคถึงจะไต้มจิตล่านึกทคกอเกลยคชั่ว ริกค ริกในการท จะพัฒนาตนให้ก้าวหน้า ตลอคถึงมกวามมูมานะพยายามผลักคันตนให้อยู่คม สุขจนถึงระคับสามารถช่วยเหลอคัวเอง ช่วยเหลือกรอบกริว ช่วยเหลือหมู่ กณะ:ลังกม คลอคถึงประเทศขาติและพระศาสนาไต้นั้น ย่อมต้องอาคัยบุญ เก่าทเกยทำไว้เห่านั้นผลักคันสนับสบุนให้เป็นไป หากไม่มบุญเก่าเป็นทุน อาคัยเmบุญใหม่ลือทาน ลืล ภาวนา และกวามรู้กวามสามารถและกวาม ขยันหมั่นเพัยรททำในบัจจุบันอย่างเคยว ไหนเลยจะไคริบกวามไพบูลย่โคยง่าย www.kalyanamitra.org
Woi Igyitei ธรรมสารเทศนา... พระธรรมกิฅศิวง กว่า'จฟ้.คักว่าจรเฟ้นอฟ้.รร'กอย่างก็่ย่อมลำบากเลือดฅาแทบกระ!เค็่น เหมือน คนทไม่เกยเป็นงานช่างเซ่นช่างไม้หรือช่างปูนมาก่อน เมอคัองมาทำงาน ก่อสร้างเข้า ไหนเลยจร;ทำงานไคัดและ:รู'ช่างทป็กปรือtเมือในเซิงช่างมา ซาซองก่อนแล้วไคั ช่างทเซาสร;สม'รกปรือป็มือมาดแล้วย่อมทำงานไคัคและ: เร็่วกว่า ทั้งย่อมไคัก่าฅอบแทนและ;ความก้าวหน้าสูงกว่า ฉะ;นั้น จักรธรรม ทั้งลืปรร;การนั้จึงคัองอาร'ยกันและ;กันและ;ร'มพันธกันดังพรรณนามาฉะ!นจึง จฟ้.ห้ลำเร็่จปรร;โยซนคัวยค เหมือนล้อรถทั้งลืล้อคัองวงปรร;สานกันไปทังหมด จึงจร;นำพาไปถง'รุดหมายไคั[ดยไม่มือุปสรรคฉร!นั้น คัวยเหคุดังนั้แล ยู้หวังกวามเจริญแลร;ความสุขลำเร็่จในซวิฅพงซวนซวาย คนรนผลักดันฅนให้มืโอกาสไคัอยูในปฏิรูปเทส คือหาทั้อยู่ให้เหมาร;แก่วัตถุ ปรร;สงคัฃองฅน เช่นคัองการคืกษากึ๋!ปอยูในสถานททสามารถจะ;คืกษาเล่าเรืยน ไคั[คยไม่ยาก คัองการหาโภคทรัพย^ปอยูในสถานททั้เป็นทำเลทำมาหากินไคั สร;ดวก คัองการหาความสงบความวิเวกก็่ไปอยู่ในสถานทั้ทั้สงบสงัดห่างไกล จากยู้คนแลร;ความพลุกพล่านเป็นคัน ในฃณร;เคืยวกันก็่พงคบหาสมาคมกับ คนคืกนมืความรู้ทพอจร;แนะ;นำลังสอน พอทจร;แนะ;นำแนวทางคำ เนินซวิฅ แลร;กิจการให้!คั แลร;พอทจร;เป็นแบบอย่างไคั แล้วหมั่นไปหา หมั่นเข้าไปมั่ง ใกล้พังคำ หมั่นจดจำมาปฏิบัติคาม พร้อมทั้งปฏิบัติดัววางคนให้เหมาะ;สม ไม่ทำดัวเลอร;เทอร;เหลวไหลไร้สาระ;ปล่อยชวิคไปคามยถากรรม มืปฏิปทา มั่นคงแน่วแนไม่ห้อแห้ถอยหลังเมอบังไมถงนั้ง'ฝืน ฝ่าพันบัญหาแลร;อุปสรรค ไปจนกว่าปรร;โยซนทคัองการจะ;ลำเร็่จ ทั้งหมั่นเพัยรลังสมนำเพ็่ญถุสลค่างๆ ไม่ว่าทาน คืล แลร;ภาวนาให้พร้อมมูล เพอความสมบูรณแห่งเหคุบัจจัยทจะ; สนับสนนนำพาให้บรรลุถงความเป็นใหญ่และ;ความไพบูลย่แห่งซวิค เมือ ปฏิบัติจัดการภารกิจไคดังนั้กี่เท่ากับว่าไคัสร้างล้อรถจำนวน ^ ล้อไว้รองรับ คนให้แล่นไปล่ความเจริญและ;ความสุขลำเร็่จค่างๆ ดังทปรารถนา หากไคั แค'ปรารถนาจร;ก้าวหน้าปรารถนาจะ;มือย่างบันเป็นอย่างนั้ แคไม่คิดทจะ;ยก www.kalyanamitra.org
0๘๙ จกกธ้มมกถา เรอง วงถัอธรรม ระ:คับผลักคันตัวเองให้แล่นไปหาจุเๆหมายปลายทาง!ทยไม่ชักปีๅ มัวแต่T0ท่า โซกซ^ฅา ไมไขว่หาโอกาสสร้างล้อธรรมไว้รองรับคัวเองให้พร้อมไว้ ไหน'จ2 สมปรารถนาตังใจหวัง มแต่จะ;ล้าหลังไม่ทันฅนอนเท่านั้น จักรธรรมทั้งสิ ประ;การจึงเรนคุณธรรมจำปรารถนาล่าหรับผู้ห้องการกวามก้าวหน้า กวาม เจริญ และ;กวามเป็นใหญไพบูลยในชวิฅห้วยประ;การฉ:;นั้ ซวิฅของเจ้าประ;คุณสมเคื่จพระ;พุทธชินวงล่ กันตาจารมหาเถระ;นั้นน่า สิกษาและ;เป็นทิฏฐานุกฅิแก่เหล่ารษยและ;สาธุชนทั่วไปไห้เป็นอย่างค เพราะ; ซวิต่ในวัยเยาว่แม้จะ;มการสิกษาน้อยเพราร;ไมไห้เกิต่ในปฏิรูปเทส หากแต่บุญ เก่าหรือปุพเพกฅปุญญฅามาหนุนนำ จึงไห้มโอกาสเขามาอยูทวัคมคุฏ กษัฅริยารามนั้ซงเป็นปฏิรูปเทสทั่สมบูรณห้วยประ;การทั้งปวง เมํ่อมาอยู่แลว ก็่มโอกาสไคสิกษาเล่าเรืยนทั้งทางโลกและ;ทางธรรม ไห้คบหาสมากมกับคนค ไห้รูให้53งและ;ไห้เห็่นแต่เรํ่องทคและ;ร่งทค เพราะ;มร่งแวคล้อมทั้ครอบห้าน โคยเฉพาะ;ไห้ปรนนิมัฅิรับไช!กลซคสมเค็่จพระ;อุมัชณาย่สิอเจ้าพร^คุณลมเค็่'จุ พระ:ลังฆราช ธุฏฐายมหาเถระ: ผู้ทรงเป็นนักปราชญ นักปกครองและ; เกร่งครัคในระ;เบยบวินัย จึงไครับการถ่ายทอคทั้งกวามรู้ ระ;เบยบปฏิบัติ และ;ปฏิปทาจากเจ้าพระ;คุณสมเค็่จอุปีชฌาย่ทั้งโคยตรงแล^โคยล้อมมากมาย มหาศาล ทังเจ้าประ:คุณสมเค็่จฯ เองก็่เป็นผู้นอบน้อมและ;ใฝ่ในการสิกษา หากวามรู้อยู่แล้ว เมอมโอกาสไห้ปรนนิบัติรับใช้และ;สนองงานใกลชคจึงกลาย เป็นภาชนะ;ทองทสามารถรองรับสิงทมค่าสูงสุคเปรืยบห้ายรัคนมณ'จุากเช้ๅ พระ;คุณสมเค็่จอุปิชฌาย่อย่างเฅ็่มทํ่ เป็นเหตุให้เจ้าประ:คุณสมเค็่จฯ มปฏิปทา ทงคงามและ;สามารถบริหารจัคการภารกิจต่างๆ ทไครบมอบหมายและ:ทรับ ผิคชอบอยู่ให้ล่าเร็่จเรืยบร้อยห้วยคทุกประ;การตังปรากฎชัคอยู่แล้านั้น ช้อนั้ ย่อมยืนยนไห้ว่าเจ้าประ;คุณสมเค็่จฯ เป็นผู้ถื้งพร้อมสมบูรณห้ายจักรธรรม d ประ;การมิไห้ขาคพร่อง จึงไห้รับผลเป็นกาามเจริญก้าาหน้าโคยล่าคับ และ;สามารถใช้กาามเจริญก้าาหน้านั้นสร้างสรรกและ:บำเพี่ญปรร;โยจุ!น่ให้แก่ www.kalyanamitra.org
'M ธทมสารเทศนา... พระธรรมกิคฅิวง^ พร5อาราม ^งฆมณฑล พร^ศาสนา แลร{ภิกษุสามเณรฅลอคถึงเยาวชน ของชาติไค้อย่างเต็่มท คังมผลงานประจักษซัคแลร{คำรงอยู่ให้เหื่นกันทัวไป และช้อนย่อมเป็นเกรองกระค้นหัวใจให้อนุชนรุ่นหลังไค้เกิคประกายกวาม ปรารถนาทจะยกระกับฅนให้ก้าวหน้าค้วยการสร้างจักรธTรมกือล้อธรรม <1 ประการนให้เภิกมในฅน อันจักมผลให้เจริญก้าวหน้าไค้เฉกเซ่นเจ้าปTะกณ สมเค็่จฯ ปฏิบัติจัดการให้เหื่นเป็นแบบอย่าง กังพรรณนามาค้วยประการ ฉะน อิมินา กตปุฌุเฌน ขออำนาจกุศลทักขิณานุปทานปุพพเปฅพลท กณะวัคมกุฎกษัฅริยารามไค้บำเพี่ญให้เป็นไปในกา7บำเพ็่ญกุส^ลัตุ?^มาา^หื่ ๒ ค้วยกวามอำนกในคุณูปการและกกัญฌูกฅเวทีคาธรรมเป็นทดั้งกรั้งนิ้ จงเป็นธรรมพลมวิบากอันเป็นสุข และอำนวยอิฏฐมนุญผลอันเป็นทีพยให้ อำ เรี่จ แค่เจ้าประคุณสมเค็่จพระพุทธชินวงหื่ กันคาจารมหาเถระ กรรมการ มหาเถรสมากม ผูรักษาการแทนเจ้ากณะใหญ่กณะธรรมยุค และเจ้าอาวาส วัคมกุฎกษัคริยาราม โคยสมกวรแก่อุทีสสนเจคนานิยมทุกประการ รับประทาน แสคงพระธรรมเทศนาในจักกธัมมกถา สมกวรแก่เวลา ขอยุติลงแค่เพยงเท่าน็้. เอวํ กี่มค้วยประการฉะน ฯ www.kalyanamitra.org
'ปูซารหกถา เรื่อง พระผู้ควรบูชา โย ปุพฺเพ กตกลุยาโณ อกา โลเก ฟ้ทุกฺกร อจุจนุตํ ปูชนารโหติ ฯ ปจฉา โลุ กยิรๆ น วา กยิรา ชุ.ช!. kacnl/&o^/&kocf^. KKX บคน็้ จักไค้แศคงพระธรรมเทศนาอนุโมทนาส่วนกุศลทักขิณาบุปทานกิ'จ ทท่านทั้งหลายไค้ร่วมทันบำ เพี่ญอุทิศถวายแค่ท่านพระกรโศกณกิ'ชุจานุถูล อคฅเค้าอาวาศวัคบางโฉลงในยู้ถึงแก่มรณภาพไปแล้ว เนองในการบำเพญ กุศลศวคพระอภิธรรมกืนท ๑๑ หลังจากทั้ท่านไค้มรณภาพมา ตามศมกวร แก่เวลา ก็่ แลศืนนิ้ ท่านทั้งหลายชงประกอบไปค้วยกณะศงฆวัคบางโฉลงใน พร้อมทั้งเพอนศหธรรมิกมท่านพระกรูวินัยธรศมปอง ศมฺปณฺโณ ผูรักษาการ แทนเค้าอาวาศวัคบางโฉลงในเป็นค้นเป็นประธาน คลอคถึงญาติโยมผู้มนาใจ พระธรรมกิคฅิวง!^ (ทอง^) วัคราชโอรร1าราม กรุงเทพฯ แสคง ในงานบำเพึ่ญกุสลสวคพรร อภิธรรมศพพระกรูใสภนกิฯฯาบุถูล อคคเจ้าอาวาสวัคบางโฉลงไน วันที๋ ImV) กันยายน พ.ศ. lo:(§;^<^o เวลา น. www.kalyanamitra.org
ธรรมฟ้ารเทศนา... พระธรรมกิฅคิวงส์ อันปTiกอบไปด้วยคุณผาค คุณอำนวย ฟ้มนึก และครอบครัว สายตระกูล พูลเจริญ โรงเริยนวัคบางโฉลงใน ตระกูลแช่มสายทอง ตระกูลตริทอง และ อำ นักงานเขตพนทํ่การสืกษาสมุทรปราการ เขต ๒ รวมทังท่านทังหลายท เป็นรษยามุสืษยและทเคารพนับถือในท่านพระครูโสภณกิ'จจามุกูล ได้มาร่วม กันเป็นเจ้าภาพและมาร่วมงานในการบำเพ็่ญกุศลสวคพระอภิธรรมคืนท ร^<5> น ทั้งนก็่ด้วยนํ้าใจอันประเสริฐของท่านทั้งหลาย โคยมารำลึกนึกถืงท่าน พระครูว่าในขณะทท่านยังมซวิตอยู่นั้นได้เป็นทรัก เป็นทเคารพ เป็นทนับถือ และเป็นทพงทางใจแก่เราท่านทั้งหลาย ทั้งทเป็นญาติโยมของวัค เป็นญาติ สนิทมิตรสหายในตระกูลของท่าน และพระภิกษุสามเณรในวัค เนึอท่านมา มรณภาพไปก็่เป็นธรรมคาทํ่จะด้องเกิคความเลึยใจอาลัยถืง แต่เนึองจากว่า ท่านพระครูได้เจ็่บไขได้ป้วยมาเป็นเวลานาน และโรคทท่านเป็นนันกี่ก่อนข้าง จะหนักรักษาให้หายได้ยาก ทุกท่านก็่ทำใจกันมาตังแต่แรกแล้วว่าถืงอย่างไร ท่านก็่จะด้องจากไปไม่ข้าก็่เร็่ว และวันนันก็่มาถืงเมอวันท ๑^ กันยายนท ผ่านมานั้ การมรณภาพของท่านนั้นก็่เหมือนกับด้นไทรทเกิคอยู่ข้างทาง เป็น ทอาตัยของนกกา และซาวบ้านทผ่านไปมาก็่ได้อาตัยร่มเงาพักอาตัย มืความ สุขกายสบายใจ แต่เมอด้นไทรนั้นล้มลงผู้คนก็่กิคถืง ตังนันจงมืผู้แต่งเป็นกำ ประพันฟ้ว้ว่า \"คนคตายเหมือนไทรร่มมาล้มหก มืคนรักรำลึกเ!(านกลึง\" หมายความว่า คนคืคือคนทเป็นทพงพาอาลัยของคนอํ่นได้ เมํ่อมรณภาพ หริอตายลง ผู้คนทํ่เคยอาลัยกันคุ้นเคยกันก็่มารำลึกนึกถืงกัน เหมือนอย่าง ท่านพระครูโสภณกิจจามุกูล เมอท่านมรณภาพไป ทุกท่านทุกคนทรู้จักท่าน ก็่มางานศพของท่าน บางคนมาทุกคืน บางคนมาหลายคืน โคยมาเป็น เจ้าภาพบ้าง มาเป็นเจ้าภาพร่วมบ้าง หริอมาร่วมพังพระสวคพระเทศนึบ้าง เป็นการแสคงถืงนํ้าใจว่ารักใคร่นับถือในตัวท่านพระครู เพราะว่าท่านพระครู ปฏิบัติตัวเหมือนกับด้นไทรตังทกล่าวแล้ว เมอมาล้มทักไปผู้คนก็่รำลึกนึกถืง www.kalyanamitra.org
0๕๓ ารหกถา เรึ๋อง พรรยู้ควร^ซา อันทจริงกนเรานั้นมซวิฅอยู่ในโลกน!คไม่นานนัก พร::ท่านว่าไม่เกิน ร้อย!]ก็่ฅ้องล้มหายฅายจากกันไป แม้จ::อยู่เกิน ๑00 รบ้างก็่เกินไม่มาก ท้ายทํ่สุคก็่ฅ้องสละร่างไว่ในโลกนั้แล้วก็่จากไป แต่ก่อนจะจากไปนั้นควรทจะ ไค้ทำอะไรเข้าไว้เป็นเกรองทคแทนบ้าง เหมือนอย่างทมกำกล่าวไว้ว่า เปลวเทํยนละลายแท่ง เพึ๋อเปล่งแสงอันอำไพ ชวิตมลายไป เหลือสิงใดหงไว้แทน หมายกวามว่า เท่ยนทเราจุกบูชาพระหรือว่าเทํยนทอยู่ต่อหน้าท่าน ทั้งหลายนั้มืเปลว มืไฟออกมา ไฟเท่ยนนั้ทำงาน ๒ อย่างไปพร้อมกัน อย่าง แรกคอเผาผลาญฅัวเท่ยนเองคือไขเท่ยนและไล้เท่ยนให้หมกไป อย่างทสองก็่ คือให้แสงสว่างไปรอบค้าน ไฟเท่ยนทำงาน ๒ อย่างนั้ ซวิฅกนเราก็่เหมือน กับค้นเท่ยนและไฟเท่ยน ในขณะทเรามืชวิกอยู่นั้ชวิฅก็่ทำงาน ๒ อย่างไป พร้อมกัน คือเผาผลาญร่างกายของเราไปค้วย หมายกวามว่าพาให้อายุ ร่างกายของเราเลือมสลายสินไปเรอยๆ ในขณะเคยวกันร่างกายของเราก็่ สว่างไสวและให้แสงไปค้วย คือให้กวามสว่างให้ประโยซนแก่กนอึ๋นไปพร้อม กัน ชวิฅทสมบูรณจะก้องทำหน้าทให้กรบทั้ง ๒ ประการนั้ มิใซ่อักแต่ว่ามื ซวิฅอยู่!ปวันๆ อังขารร่างกายร่วงโรยไปเรอยๆ แกไมไค้ทำประโยซน!มใค้ทำ อะไรไว้ทกแทนเลย ชวิกอย่างนั้ซอว่าเป็นโมฆะ ภาษาพระเรืยกว่า โมฆ ชวิต เป็นซวิกทํ่สูญเปล่า ท่านพระกรูโสภณกิจจานุกูลนั้นแม้ว่าจะมือายุไม่กง ^£30 ป็ เป็นเจ้า อาวาสวักบางโฉลงในนั้ประมาณ ๕ ป็เศษ ในขณะทเป็นเจ้าอาวาสนั้นโรกกัย ไค้มารุมเร้าท่านแล้ว แกโรกกัยไข้เจ็่บนั้นท่านพระกรูมิไค้มองว่าเป็นอปสรรก ฃักซวางซวิฅและงานของท่านแล้วมุ่งแต่จะรักษาตัวให้หายโกยก่ายเคยว โกย ไมไค้ทำอะไรเป็นซนเป็นอันหรือไม่ค้องสนใจหน้าทั้การงานของท่าน ซงอันทั้ จริงเมอท่านอาพาธเจ็่บป้วยอย่างนั้จำค้องไปรักษาตัวทโรงพยาบาล หรือจะ อยู่เฉยๆไม่ทำอะไร ก็่กงจะไม่มืใกรกล่าวหาหรือต่อว่าท่านไค้ เพราะกนเรา www.kalyanamitra.org
1ฒ[^! ธรรมฟ้ารเทศนา... พรรธรรมกิคฅิวงf{ ส่วนใหญ่เมอเกิคเจ็่บป้วยเข้าแล้วก็่มัก'จะ:ไม่กิคทำอะไร มัก'จะอยู่เฉยๆหรือไม่ ก็่รักษาตัวไป แต่ส่าหรับท่านพระกรูโสภณกิ'จ'จานุกูลนั้นท่านอยู่นอกเหนือกฎเกณ*ทํ นั้น คือแทนท'จะอยู่เปส่าๆไม่ฅ้องทำอะไรหรือรักษาตัวอยู่เฉยๆ ท่านกลับ มองว่าโรกภัยไข้เจ็่บนั้นเร็)นตัวกระตุ้นเป็นตัวผลักตันทส่ากัญทำให้เกิคกวาม ไม่ประมาทในซวิฅ ทำ ให้กิกว่าซวิฅของเราเหลือน้อย โรกภัยไข้เจ็่บเบยคเบยน อย่างนั้ฅ้องจากโลกนั้!ปโกยเรี่วพลันแน่นอน ท่านจึงไค้เร่งสร้างบุญสร้าง บารมโกยทำหน้าทเจ้าอาวาสให้สมบูรณบริบูรโนโกยไม่ซักข้า ท่านเนรมิฅวัคฺ บางโฉลงในนั้ให้เป็นวักทส่ากัญคืเต่น พร้อมมูลค้วยเสนาสนะถาวรวัฅโไท บูรณะซ่อมแซมของเก่าก็่ม ทสร้างขนใหม่ก็่มาก ปรับผังวักใหม่ ทำ ใหวัก สวยงามเป็นทเชิคหน้าชูตาของบางโฉลง ของอำเภอบางพลื และมิใซ่เฉพาะ ในแถบถั๋นนั้เท่านั้น ยังเป็นทเซิกหน้าชูฅาของจังหวัก เป็นทเซิกหน้าชูตาของ พระพุทธศาสนาอกค้วย กนทเข้ามาในวักบางโฉลงในขณะนั้ย่อมจะฅํ่นตาตน ใจไปค้วยภัน กนทเกยมาทวักบางโฉลงในเมอหลายป็แล้วเมํ่อเข้ามาใหม่กื่จะ มองไม่เห็่นภาพเก่าแล้ว เพราะท่านพระกรูท่านไค้เนรมิตวักบางโฉลงในนั้ใหม' ต่อจากพระเกขพระคุณหลวงปูพระมงกลวุ?มาจารย่ทวางรากฐานไว้ เป็นเหคุ ให้ซํ่อเลืยงของท่านพระกรูโสภณกิจจาบุกูลนั้เป็นทรู้จักในวงการพระเถระ ยูใหญ่ทั่วไป นั้แสตงให้เห็่นว่า โรคภัยไฃ้เจ็่บมิได้เป็นอุปสรรคส่าคญในการทั่จะ สร้างความดในการทจะสร้างบารม อายุมากอายุน้อยไม่ส่าคญ โรคภัยไข้ เจ็่บจะมหรือไม่มก็่ไม่ส่าคญ ส่าคญอยู่ว่าเป็นคนไม่ประมาท เป็นคนทั่ใข้ ซวิตทั่มอยู่ให้เป็นประโยซนแก่ตนเองและคนอึ๋นให้มากทั่สุดเท่าทั่จะมากได้ ในเรองนั้ซิวิตของท่านพระกรูเป็นตัวอย่างให้เหื่นภัน คือร่างกายของ ท่านทรุกโทรมลงไปเรอยๆ ในขณะเคืยวภันท่านก็่เปส่งแสงอันอำไพก็่คือ เปส่งผลงานออกมาเป็นทประจักษซักอย่างทเราเหื่นภันอย่ เราท่านทั้งหลาย www.kalyanamitra.org
ปูชารหกถา เรอง พพยู้ควร!{ขา จึงไค้เการพนับถือแลร;ยกย่องท่าน แท้ทจฺริงแล้ว การทกน'จร;นับถือพรร; 'จร; ยกย่องพระ: หรือ'จร;กราบพรร;ล้กองกหนง เราก็่ค้องคูว่าเป็นพรร;ปรร;เภทใค ศมกวรกราบสมกวรไหว้หรือไม่ เพราร:ปกตินั้นเมอเราไค้กราบพรร;ไหว้พรร: หรือไค้พูกไค้คุยกับท่านแล้วกี่'จร;เกิคเป็นสิริมงกล กังพระ;พุทธนิพนธว่า สมณานฌจ ทสฺสนํ เอตมมง.คลมุต.ตมํ แปลว่า การได้เหนพรร;ได้เห็่น สมณร;เป็นมงคลสงสด พรร; พรร;ทกวรกราบกวรไหว้นั้นมหลายปรร;เภท จึงในทนั้'จะไค้แสคงลักษณร; พระทกวรกราบกวรไหว้ เมุอกราบไหว้แล้วไค้บุญไค้กุศล กราบไหว้แล้วเป็น สิริมงกลแก'กัว ไค้แก่พระทมลักษณะ \"เป็นพระสุ เป็นพระเสก เป็นพระ สร้าง เป็นพระรก เป็นพระเถืย\" 'จำลันๆว่า \"พระสุ พระเสก พระสร้าง พระรก พระเรย\" ๕ ประเภทนั้เป็นพระทน่ากราบไหว้บซา เป็นปซนิย ลักษณะพระ ๕ ประเภทนฃยายกวามโคยลังเฃปกังนี๊ พระสุ ในทนั้กือ พระสุปฏิซนโน หมายถืงพระทปฏิบัติคปฏิบัติชอบ พระทมรลา'จารวัครงคงาม กือมกิริยามารยาทสวยงาม บุ่งเรืยบร้อยห่ม เรืยบร้อยคามพระวินัย พูค'จาไพเราะ พูคสมานสานักกวับใ'จผูฟิง 'จะลุก 'จะนั่ง 'จะเติน จะไปไหนมาไหนคูแล้วเสงฺยมงาม มสมบัติผูค มสมบัติคามเสฃิยวัคร พระวินัยซองพระพุทธเจ้า เหล่านั้เป็นคุณสมบัติภายนอก และภายในกัวฃอง ท่านกี่สมบูรณคามหลักธรรมกำสอนซองพระพุทธเจ้ารอมเมคคามกรุณา ทำ ใหยิ้มแย้มแจ่มใส ช่วยเหลือเกอกูลกนอึ๋นไค้เป็นประจำ กังนเป็นค้น พระ ทมลักษณะอย่างนเรืยกว่าพระสุ พระสุเช่นนเป็นปูซนยบุกกล เป็นพระท สมกวรแก่การกราบการไหว้[คยแน่แท้ พระทกวรกราบไหว้ประเภทท ๒ กอ พระเสก พระเสกในท! หมายกวามถืงพระเกจิอาจารย่อย่างทรู้กันอยู่เท่านั้น แททจริงพระเกจิอาจารย่ www.kalyanamitra.org
l5l(7Si ธรรมฟ้าททศนา... พรรธรรมกิ?เฅิวงส์ ท่านณรนพร:;เสก เพราะการท'จะเป็นพระเสกทขลังทส์ากัญได้นั้นก็่แสคงว่า ท่านเป็นพระทมคอยู่ข้างในคือเป็นพระทปฏิบัติสมาธิ พระสุเป็นพระมติลด ส่วนพระเสกเป็นพระมสมาธิติ พระเสกในทนจึงหมายกงพระทปฏิบัติกรรม ฐาน เป็นพระทเสกกัวเองด้วยกรรมฐาน หรือเป็นพระทํ่เสกกัวเองด้วยการ สวคมนฅด้วยการมมนฅอยู่ในคัว เมือมกรรมฐานมมนฅอยู่ในคัวก็่มกวาม ขลังอยู่ในคัว เมอมืกวามขลังอยู่ในคัว สมาธิจึฅก็่แน่วแป เมอใข้สมาธิจึฅนั้น ไปปลJไไปเสกวัคถุอะไรก็่กลายเป็นวัคกุมงกลทมืกวามส่ากัญกักติสิทธิคังทเรา ท่านทังหลายทราบกันอยู่ เพราะฉะนั้น พระเสก'จริงๆ จึงเป็นพระทน่ากราบ น่าไหว้ เพราะภายในของท่านประกอบด้วยมนฅ ภายในของท่านประกอบ ด้วยสมาธิ มืกวามขลัง มืจึฅแน่วแน่ ปฏิบัติคามหลักในพระพุทธศาสนา จึง เป็นพระทน่ากราบน่าไหว่อ็กประเภทหนั้ง ประเภทท ๓ คือ พระสร้าง ผู้เป็นพระสร้างในทนั้ มองโคยทั่วไปก็่คือ พระทเป็นนักก่อสร้าง ได้แก่สร้างกาวรวัฅกุ สร้างโบสก สร้างวิหาร สร้าง ศาลาการเปรยญ เรืยกกันว่าเป็นพระนวกรรมคือเป็นพระนักก่อสร้าง พระ สร้างก็่เป็นพระทญาติโยมให้กวามศรัทธาเตอมใส เช่นเคยวกับพระสุและพระ เสก เพราะว่าเป็นพระทเอาใจใส่มุ่งสร้างกวามเ'จริญให้แก'วัควาอาราม สร้าง สิงทเป็นประโยซน่แก'ญาติโยม เพอญาติโยมขาวบ้านจะได้มาอากัย สร้าง โบสถใว้ ณพอให้พระภิกษุสามเณรได้ทำวัครสวคมนฅและทำลังฆกรรมกัน ให้เป็นทบรรพซาอุปสมบทกุลษุครลูกหลานขาวบ้าน ให้ญาติโยมทั้งหลายได้ เข้าไปกราบพระไหว้พระกัน สร้างศาลาไวิกเพอจะได้ทำบุญทำกุศลกัน สร้าง กุฎิไว้ก็่เพอทจะให้พระเณรลูกหลานขาวบ้านได้อยู่อากัยยามเมอมาบวข สร้างโรงเรืยนไว้กเพํ่อทจะให้ลูกหลานขาวบ้านได้คืกษาเส่าเรืยน สร้างเมรุไว้ ก็่เพอบำเพ็่ญกุศลในเวลาล้มหายคายจากกันไป คังนั้เป็นด้น พระทสร้าง วัคกุอย่างนั้ก็่เป็นพระทน่าเการพกราบไหว้เช่นเคืยวกันเพราะว่าเป็นพระทมื นั้าใจ www.kalyanamitra.org
'0๕๗ ^ขารหกถา เรึ๋อง พรรยู้ควรบูชา แต่ พรร;สร้างทน่ายกย่องสูงกว่านั้นก็่คือพรร;ทสร้างพรร;แลร;พรร;ท สร้างคน พระทสร้างพรร!ก็่กือพระทสร้างภิกษุสามเณรให้มคุณภาพ อบรม ภิกษุสามเณรในวัคให้มภิริยามารยาทเร้ยมร้อย อบรมพระเณรให้เป็นพระ เณรจริง เป็นพระเณรแห้ เป็นพระเณรทญาติโยมสามารถเการพกราบไหว1ค้ เหมือนคัวเอง และสร้างพระสร้างเณรให้เป็นปูซนยษุกกล เป็นเนั้อนาษุญท ยอคเยยม เป็นทเหมาะส์าหรับกราบไหว้ เหมาะส์าหรับทำบุญใต่บาฅรของ ญาติโยมทั้งหลาย ชงกล่าวโคยรวมว่าสร้างพระสร้างเณรให้ประพฤติถูก ต้องคามพระวินัย ในขณะเคยวกันก็่สร้างพระสร้างเณรให้มืปิญญากวามรู้ โคย ให้พระเณรไต้สืกษาเล่าเริยน ให้มืกวามรู้เรึ๋องพระธรรมวินัยของพระพุทธเจ้า เพอจะนำมาร่งสอนญาติโยมทั้งหลายไต้ แม้จะสอนต้วยคัวเองไมใคกื่พยายาม หายูรู้มาสอนมาแนะนำ พระทั้สนับสบุนล่งเสริมการภิกษาเล่าเร้ยนของพระ เณรทั้เริยกกันว่าภิกษาพระปริยัติธรรมนั้นถือว่าเป็นพระสร้างพระเณร ก็่นับ เป็นพระสร้างเซ่นเคยวกัน นอกจากเป็นพระสร้างพระแล้วยังเป็นพระสร้างกนอก พรร;สร้างคนก็่ คือพรร;ทั้สามารถสอนคนแนะนำคนได้ บอกญาติโยมเณร;นำญาติโยมให้รู้ ว่าอะไรเป็นบาป อะไรเป็นบุญ อะไรเป็นคุณ อะไรเป็นโทษ อะไรด อะไร ไมด อะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำได้ สอนญาติโยมไห้รู้ว่าพระพุทธเจ้า พระ ธรรม พระสงฆ หรือพระร้ตนตรัยคืออะไร ส์าคญอย่างไร สอนไห้ ญาติโยมไคืรู้จ้กคืล ร้จ้กสมาธิ รู้จ้กปีญญา แนะนำญาติโยมไห้คืกษา กรรมฐาน สอนกรรมฐานไห้แก่ญาติโยมได้ หรือเป็นพระทั้สอนเค็่กลูก หลานของชาวบ้านเซ่นไปสอนตามโรงเรืยนไห้ลูกหลานชาวบ้านมืความรู้ ทางคืลธรรม ไห้รู้บาปบุญคุณโทษ ไห้รู้จ้กความกตญฌู ไห้รู้จ้กกิริยา มารยาททั้ด กราบพระเป็น ไหว้พระเป็น ดงนั้เป็นด้น อย่างนั้ก็่เรืยกว่า พระสร้าง เป็นพระสร้างคน www.kalyanamitra.org
ธทมสารเทศนา... พระธรรมกิฅคิวงfi พรร;สร้างไม่ว่า'จะสร้างถาวรวัฅถุ สร้างพระสร้างเณร สร้างกน หรือ ว่าสร้างลูกหลานสร้างเคี่ก ล้วนเป็นพระทน่าเการพ ปากราบไหว้บูชาทั้งสิน นกึอลักษณะของพระสร้าง สิวน พระสืก ชงเป็นทเการพนับถือของซาวบ้านนั้น ไมโก้หมายกวาม ว่าพระทถืกไปแล้ว ถ้าถืกไปแล้วกื่ไม่เรืยกว่าพระ พระถืกในทั้นั้หมายถืง พระส์กษา พระถืกษากกอพระทขยันในการถืกษาเสิาเรืยน ใฝ่ใจในการ หากวามรู้ บวชมาแล้วกื่เรืยน อย่างทโบราณว่า \"บวชเรืยน\" กอบวชแล้ว ก้องเรืยน เมอไม่เรืยนกื่ไม่รู้ เมอไม่รู้ก็่ปฏิบัฅิไม่ถูก เมอบวชมาแล้ว ถ้าไก้ ถืกษาไก้เสิาเรืยน นั่นแหละทเรืยกว่าพระถืก พระทถืกษาเสิาเรืยนเป็นพระท ใฝ่รู้ เป็นพระททำหน้าทชองพระโคยสมบูรณ เพราะว่าสิษย่ชองพระพุทธเจ้า ลูกชองพระพุทธเจ้าก้องเป็นผูรู้เป็นผู้ฉลาคจึง'จะไก้ธํ่อว่าเป็นพุทธะ เพราะ พุทธะ แปลว่า ผูรู้ แปลว่า ผู้ฉลาด แปลว่า ผู้ตึ๋น แปลว่า ผู้เอกบาน เพราะฉะนั้น เมึ๋อเป็นลูกของพระพุทธเจ้าก็่ต้องเป็นผูรู้ผู้ฉลาด เมอไม่รู!ป ฉลาดกี่ไม่สมควรทจะเป็นลูกของพระพุทธเจ้า เมอไม่สมควรทจะเป็นลูก ของพระ™ธเจ้ากี่เป็นผู้!ม่สมควรทจะกราบ ไม่สมควรทจะไหว้ ไม่สมควร ทั้จะเป็นเมือนาบุญของขาวบ้าน แค่พระรูป!คบวชมาแล้วทั้งใ'จถืกษาเสิาเรืยนหากวามรู้Iสิฅน ไม่เกย'จกร้าน ในการสืกษา ย่อมเป็นทสมกวรกราบไหว้และเป็นเนั้อนาบุญชองชาวบ้านไก้ อย่างเฅ็่มภูมิ การถืกษานั้นสามารถทำไก้ ๒ ทาง กือถืกษาในทางปริยัติกับถืกษา ในทางปฏิบัติ หรือทเรืยกคามภาษาพระว่าถืกษาในกันถธุระและถืกษาใน วิปิสสนาธุระ ถืกษาในทางปริยัติหรือถืกษากันถธุระนั้นไก้แก่การเรืยนนัก ธรรม เรืยนบาล เรืยนเชยน เรืยนอ่าน เรืยนท่องปนทรง'จำ อย่างนั้เรืยกว่า ถืกษาปริยัติ สิวนถืกษาในทางปฏิบัติหรือสืกษาวิปิสสนาธุระไก้แก่ถืกษาใน www.kalyanamitra.org
ปูชารทกถา เรอง พรรยู้ควรบูชา ค้านสมถะ;คือทำสมาธิอบรมจิฅบ้าง คืกษาในค้านวิปิสสนาคืออบรมปีญญา เจริญปีญญา ใหรู้แจ้งเหี่นจริงในสภาวะ;กวามเ?เนจริงชองร'งฃารร่างกายบ้าง ถ้าหากว่าไค้คืกษาทั้งสองทางก็่จะ;ประ;เสริ^ลํ้าเลิก แก่เมึ๋อไม่อาจคืกษาไค้ทั้ง สองอย่าง จะ;คืกษาเพยงอย่างไคอย่างหนงก็่นับว่าเลิกนับว่าประ;เสริฐแถ้ว และ;ก็่ถือว่าเป็นพระ;คืกเป็นพระ;ทสมกวรแก่การยกย่องนับถือบูชาเช่นเคืยวกัน พระ;คืกจึงเป็นพระ;ทน่ากราบน่าโหว่อกประ;เภทหนง อกประ;เภทหนงก็่คือ พรร;เส์ย พระ;เถืยในทนไมไค้หมายกวามว่าพระ;ท เถืยพระ; ถ้าเสิยพระ;กใม่เรยกว่าพระ;เพราะ;เถืยกวามเป็นพระ;ไปแล้ว หรือพระ; ทประ;พฤติไม่คืไม่ถูกค้อง พระ;ประ;พฤติทเถืยๆหายๆ ก็่ไม่น่านับถืออยู่แล้ว จึงไม่ไค้หมายถืงพระ;ประ;เภทนั้น อันพระ;เถืยทน่านับถือยกย่องในทั้นั้กื่คือ พรร;เสิยสลร; พระ;เถืยสละ;คือพระ;ทมนั้าใจ พระ;มนั้าใจเป็นพระ;ทน่าเการพ ยกย่องนับถือ พระ;ทเถืยสละ;นั้นไค้อะ;ไรมาก็่เพอให้เพอแจก ไม่ฅระ;หนั้ ไม่ เถืยคาย ถือกติว่า มเพอให้ ไค้เพึ๋อแจก แบกเพึ๋อสบาย ตายเพึ๋ออยู่ พระ;ทึ๋มลักษณะ;เช่นนั้จะ;มอะ;ไรก็่คามก็่มเพอกนอน เช่นมกวามรู้กเพึ๋อ สอนลูกติษย่ลูกหา สอนซาวบ้าน สอนกนอน มปีจจัยทญาติโยมถวายมาก็่ เพํ่อบริจากเถืยสละ; ไค้ข้าวชองทญาติโยมถวายมาก็่เพํ่อแจกจ่ายให้กนอนก่อ ไป นคือ มเพึ๋อให้ และ; ไค้เพึ๋อแจก ส่วน แบกเพึ๋อสบาย ก็่คือยอมรับ ภาระ;ยอมแบกหามเถืยเองเพอให้กนอนสบาย แสคงถืงกวามมนั้าใจ ไม่เหื่น แก'กวามเหนํ่อยยาก ไม่เหื่นแก'เถืยแรง ยอมเหนั้อยแรงเส์ยเอง ยอมหนัก เถืยเอง นั้คือพระ;ทมนั้าใจเถืยสละ; ตายเพออยู่ นั้นหมายกวามว่าถืงฅัวจะ; คายไปก็่ใม'เป็นไร ชอให้ลิงทคนเองทำไว่ยงอยู่เป็นประ;โยซน่ก่อไปนานๆ ชอ ให้พระ;เณรลูกติษย่ลูกหาอยู่กันอย่างสบายไม่ทุกฃร้อน ชอให้กวามร้ทั้งหลาย ทคนเส่าเรืยนมาแล้วลังสอนไว่ยงอยู่กับลูกติษย่ลูกหาคลอคไป เท่านั้ก็่พอใจ เฅ็่มใจทจะ;ให้ เฅ็่มใจทจะ;แจก และ;เฅี่มใจทจะ;แบกภาระ;ค'างๆแล้ว นั้คือ อุคมการณของพระ;ทคายเพออยู่ www.kalyanamitra.org
pKnl ธรรมสารเทศนา... พระธรรมกิคคิวงเ^ พระเส์ยจะมลักษณะ;มเพอให้ ไค้เพอแจก แบกเพอสบาย และฅายเพอ อยู่ คังนิ้ พระทมลักษณะคังนจึงเป็นพระทน่าเการพ น่าศรัทธาเลอมใส น่าบูชา กามทเทศนามานิ้กล้ายกับว่าเป็นตำราดูพระ เพอให้ญาติโยมทั้งหลาย เข้าใจว่าพระประเภทใคกวรจะยกย่องนับถือ พระประเภทใคกวรจะกราบไหว้ พระประเภทใคกวรทจะเป็นเนอนาบุญของเราไค้ พระทมลักษณะเป็นพระสุ เป็นพระเสก เป็นพระสร้าง เป็นพระถืก และเป็นพระเถืย ย่อมเป็นพระค พระจริง พระแห้ เป็นพระทน่ากราบ น่าไหว้ น่าบูซา และเป็นเนอนาบุญ ของเราไค้อย่างแห้จริง ท่านพระกรูโสภณกิจจาบุถูลเป็นพระทมกรบทั้ง ๕ ลักษณะน กอ ท่านเป็นพระสุ ถือเป็นพระสุปฎิปีนโน เป็นผู้ปฏิบัติคปฏิบัติชอบ เป็นพระท ทั้งมั่นอยู่ไนถืล รักษาระเบยบรักษาวินัย เพราะฉะนั้นพระเณรไนวัคของท่าน จึงมระเบยบมวินัย น่งเริยบร้อย ห่มเริยบร้อยสวยงาม ท่านเป็นพระทั้รัก สวยรักงาม วัคของท่านจึงสวยงาม นแสคงว่าท่านเป็นพระสุ ท่านเป็น พระเสก แม้ว่าจะไมไค้เป็นพระเกจิอาจารย่ซอคัง แก่ท่านก็่มกวามขลังอยูไน ตัว กล่าวถือมมนฅอยู่ไนตัว การทำวักรสวคมนคท่องปนภาวนาท่านก็่ พยายามทำ ท่านเป็นพระสร้าง ทั้งสร้างพระสร้างกน ถือสร้างทั้งพระเณร สร้างทั้งญาติโยม สร้างทั้งเค็่ก โคยท่านเปิควัคของท่านไห้เป็นสถานทปฏิบัติ ธรรมของญาติโยม ทั้งเป็นทปฏิบัติธรรมของเคื่กนักเริยนลูกหลานญาติโยม ม พระกอยรับผิคชอบ มกณะญาติโยมกอยรับผิคซอบ เป็นเหตุไหวัคบางโฉลงไน นั้เป็นวัคปฏิบัติทันกาเห็่น นแสคงว่าท่านเป็นพระสร้าง ท่านเป็นพระถืก ถือ เป็นพระถืกษา แม้พนเพเติมของท่านจะถืกษามาไม่มาก แก่ท่านก็่ถืกษาค้วย ตัวของท่านเอง ถืกษาค้วยการทำงาน ผลงานทท่านทำไว้เซ่นวัควาอารามท ท่านสร้างสวยงามเป็นระเบยบ ก็่แสคงว่าท่านถืกษา ถืกษาจากการดูถือไปดู จากทอนหรือดูจากตำราแล้วก็่นำมาถืกษา นำ มาปรืกษาหารือกับพระไนวัค และญาติโยมของวัค กกลงกันแล้วก็่นำมาไซให้เป็นรูปธรรม ท่านจึงสร้างวัค www.kalyanamitra.org
๑๖0 ปูซารหกถา เรอง พรร;ผู้ควรยูปีา ไค้สวยงาม มสืลปะ; เป็นระ:ฒยบเรยบร้อย นแสคงว่าท่านเป็นพระ:สืก เป็น พระ:ทสนใจใฝ่สืฝ่เห็่น ใฝ่สืกษา เป็นตัวอย่างทคฃองพระ:ทั่วไป ถึงแม้จะ:อายุ มากก็่ยังถึกษา และ ท่านเป็นพรร;เถึย ถึอเป็นพระทั่เถึยสละ เป็นพระทั่ม นํ้าใจ ไม่เหื่นแก่กวามเหน็่คเหนอย ถึงแม้จะมโรกภัยไฃ้เจ็่บหื่ยอม กนทมโรก ภัยไข้เจ็่บอย่างท่านจะนอนอยู่เฉยๆ ก็่ไค้ จะไม่ทำอะไรก็่ไปมไกรว่าไค้ แค่ ท่านก็่ทำ เมอท่านทำแล้วผลงานก็่ปรากฎอย่างทเหื่น แสคงถึงว่าข้างในของ ท่านเป็นพระเถึยสละ ท่านเป็นพระทั่ดงาม จึงจัคว่าเป็นพระปูซนยบุกกล ท่านพรร;ครูโสภณกิจจานกูลได้ท่าสิงทั่ เป็นตัวอย่าง แก่เราท่าน ทั้งหลายไว้เป็นอนมาก เราท่านทั้งหลายไค้รู!ด้ทราบตังนแล้วก็่สามารถป้า ปฏิปทาของท่านไปปฏิบติจดท่าตามได้ แลร;ญาติโยมทั้งหลายก็่ใซ้Iด้ กล่าว คือสามารถทั่จร;เป็นคนสุก!ด้ เป็นคนเสก เป็นคนสร้าง เป็นคนคืก แลร; เป็นคนเคืยก!ด้ ล้าเป็นพรร; ก็่เป็นสุ พรร;เสก พรร;สร้าง พรร;คืก พระเคืย ล้าเป็นคน ก็่เป็นคนสุ เป็นคนเสก เป็นคนสร้าง เป็นคนคืก เป็นคนเถึย ล้าเป็นเด็่กกเป็นเค็่กสุ เป็นเค็่กเสก เป็นเด็่กสร้าง เป็นเค็่กคืก และเป็น เด็่กเคืย คุณธรรมเหล่าน สามารถป้าไปไซ!นชวิฅประจำว้นได้ทุกคนไป ท่านพระกรูโสภณกิจจาบุกูลไค้ทำให้เหื่นเป็นตัวอย่างแล้ว ฐ่งทท่านทำ ไว้ล้วนแล้วแค่เป็นสิงค เป็นแบบอย่างไว้!ห้เหื่นประจักษ ซึ่อว่าไค้ทำสิงท ทำ ไค้ยากฝากไว้!นโลกนิ้แล้ว แม้บัคนท่านจะมรณภาพไปแล้ว ไม่สามารถจะ ทำ อะไรไค้อกแล้ว แค่คุณงามกวามคฃองท่านและตัวของท่านนั้นยังปรากฎอยู่ ท่านจึงเหมาะจึงกวรทจะไค้รับการยกย่องบูชา สมกวรทจะไค้รับเกรองบูชา ทั่ท่านทั้งหลายไค้จัคทำถวายท่านคลอคมา และสมกวรทจะไค้รับล่วนบุญ ล่วนกุสลทท่านทั้งหลายอุทิศถวายไห[คยประการเคยว ข้อนั้ก็่สมค้วยพระพุทธ นิพน^สมเค็่จพระผู้มพระกากเจ้าไค้ฅรัสไว้ ปรากฏในมหาอัสสาโรหชาคก ชุททกนิกาย ทอาคมภาพไค้ยกมาเป็นนิกเชปบทเบองค้นว่า โย ปุพฺเพ กดกลยาโณ เป็นอาทิ ชงแปลเป็นภาษาไทยไค้ว่า www.kalyanamitra.org
IIXq] iLs^jfeu ธรรมสารเทศนา... พระธรรมกิฅฅิวงส์ \"บุคคลใดได้ทำเคยทำคุณงามความดไว้ ชึ๋อว่าได้ทำสิงท ทำ ได้ยากไว้แล้ว ต่อมาบุคคลนนจรทำหรือไม่ทำอกกึ๋ตาม ปอมเส์นผู้ควรแก่การบูชาแลรเครองบูชาโดยต่วนเคยว\" คังนิ้ ฯ ชงหมายกวามว่า บุกกลโคไม่ว่าจรเป็นบรรพซิฅหรอเป็นกฤหัฟ้ถ เมึอ ไค้ทำไค้บำเพ็่ญร่งทเป็นประ:โยซนเป็นกวามคเข้าไว้ก่อนหน้าแล้ว ในภายหลัง ท่านจะ:ไค้ทำหรือไมไค้ทำเซ่นนั้นอกก็่คาม ผู้นั้นย่อมไคซอว่าทำสิงททำไค้ยาก ไว้แล้ว และ:ตัวท่านผู้ทำนั้นเล่าย่อมกวรยกย่องว่าเป็นปูซนยบุกกล เป็นผู้ กวรแก'การบูซา เป็นผู้กวรแก่เกรองบูซา และ:เป็นผู้กวรทจรไค้รับกวามเการพ กราบไหว้ นับถือโคยปรรการเค้ยว ตังเซ่นท่านพรรกรูโสกณกิจจานุกูลไค้ ปฏินัฅิจัคทำแลรบำเพ็่ญปรรโยชนั้ค่างๆ ให้เหี่นเป็นทปรรจักษจนเป็นทยอมรับ แลรสมกวรไค้รับเกรองบูซาแลรการบูซาค่างๆจากพรรสงฆและ5กฤห้สกชน ทั้งหลายตังทไค้ซี้แจงแสคงมา พรรธรรมเทศนาว่าค้วยลักษณรผู้กวรแก่การ บูซาก็่สินกรรแสกวามลงกงไว้แค่เพยงนั้ อิมินา กตปุณ.เฌน ค้วยอำนาจบุญกุศลทกณรเจ้าภาพตังไค้เอ่ย นามมาแล้วในเบองค้น แลรทั้กณรสงฆ กณรสิษย่ คลอคทังญาติมิฅร ทั้งหลายไค้ร่วมทันปาเพี่ญให้เป็นไปในกรั้งนั้ ซอจงเป็นพลวปิจจัยล่งเสริม อุปทัมภกํ้าซูให้ท่านพรรกรูโสกณกิจจาบุกูล ไค้เสวยทิพยสุฃทิพยสมบัติมั่นกง อยู่ในลัมปรายกพยงข็้นไปคลอคจิรัฏฐติกาล เอเดน จ สจุจวซฺเชน แลรค้วยอำนาจการกล่าวคำลัคย่อันเป็นธรรมนั้ สทา โสดถ ภวนฺคุ โว ขอกวามสุฃ ซอกวามสวัสค้ ซอกวามเจริญก้าวหน้าในธรรม จงบังเกิคมแก่ ท่านทั้งหลายคลอคกาลนาน รับปรรทานแสคงพรรธรรมเทศนามาสมปรรสงก่ ขอสมมติยุติลงกงไว้ค้วยเวลาเพยงเท่านั้. เอวํ ก็่มค้วยปรรการรฉรนั้ ฯ www.kalyanamitra.org
»> จิตดกถา เรื่อง การพัฒนาจิด จิฤตสฺฟิ ทมโถ สาธุ จิฤตํ ทนฺตํ สุขาวหนฺติ ฯ ชุ.ร. ko&/€>en/s>ff^. บคน จักรับพระ:ราชทานถวายวิร'ชนาพระ:ธรรมเทศนาในจิฅฅกถา ฉลองพระ!เคซพระ:กุณประคับพระ:ปิญญาบารม ในการทราชลกุล \"กิตติยากร\" บำ เพ็่ญพระราชกุศลถวายพระศพ ลมเค็่จพระเร้าพนางเธอ เร้าฟ้ากัลยาณิ วัฒนา กรมหลวงนราธิวาลราชนกรินทร คัวยมาระลึกว่าลมเกี่กเร้าฟ้าฯ พระองกนั้นทรงเป็นพระโลทรเซษฐภกินในพระบาทลมเคี่'ๆพระเร้าอยู่หัว มพระราชลมภพในราชลกุลมหิคล นับไค้ว่าเกยวเนองกัมพันธกับราชลกุล กิฅฅิยากรใกลึชค และไคัทรงบำเพื่ญพระกรณยกิจอันเป็นประโยชนัแก่ ประเทศชาติบ้านเมองยั๋งใหญไพศาล เป็นการเผยแพร่พระเกยรติกุณและเป็น คักคี่ศริแห่งทุกราชลกุลให้อยูในหัวใจและกวามทรงจำซองพลกนิกรซาวไทย พรรธรท]กิคฅิวงfi (ทองค ศุรเ?!โซ ป.ธ. วัอราซโอรฟ้าราม กรุงเทพมหานกร ถวายในการท ราขฟ้กุถกิกฅิยากร บำ เพ็่ญพรรราซกุศอฯ ณ พรรทนั่งฅุสิฅมหาปราฟ้าท วันพฤหัฟ้บคท ๒๗ กมภาพนธ พุทธวักราช ๒๕๕๑ เวอา ๑0.๐๐ น. www.kalyanamitra.org
1® [I.s^jy^ ธรรมฟ้ารเทศนา... พระธรรมกิ?)คิวงส์ อย่างทั่วถ้วน จึงเหมาร;ควรท'จร;ทรงไค้รบพระราชกุศลทบำเพ็่ญอุทิศถวาย แล้วนิ้ค้วยปรร;การทั้งปวง ศมเคี่'จพรร;เ'จ้าพนางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาส ราชนครินทร ทรงเรเยมล้นสมบูรณค้วยพระอตตสมบติคือพรร;คุณสมบัติส่วน พรร:องก เซ่นทรงมพรร:อัธยากัยแลร;พรร:'จริยาวัฅรอ่อนโยน อ่อนน้อมลร;มุน ลร;ไม พอพรร;หฤทัยท'จร;เสคี่จอยู่แบบเริยบง่าย ทรงมพนฐานพรร;หฤทัยอยู่ ในเมตฅากรุณาธรรมแลร;ร''จธรรมความซอล้ฅย่สุ'จริฅเทยงฅรง เป็นค้น ทั้ง ทรงเป็นนักวิชาการ ทรงมความรู้ลกซ็้งในศาสฅรค่างๆ โคยเฉพาร;ค้านภาษา ทั้งทรงมพรร;อัจฉริยภาพค้านการประ:พันธ ไค้ทรงนิพนธแลร;รวบรวมเริยบ เริยงหนังคือทั่มข้อมูลทางวิชาการอันทรงคุณค่าไว้เป็นอันมาก ชงสามารถไข้ อ้างอิงแลร;ปรร;กอบการคืกษาก้นคว้าเชิงวิชาการค่างๆ ไค้เป็นอย่างด นคือ พรร;อัฅฅสมบัติ แลร;ทรงเพยบพร้อมสมบูรณค้วยพระปรหิตสมบติคือพระคุณ สมบัติทั่มค่อบุคคลอน สมเคี่'จเจ้าฟ้าฯพระองค่นั้นทรงบำเพี่ญพระกรณยกิ'จ น้อยใหญ่อันเป็นประโยชนค่อพระราชวงคืและพสกนิกรชาวไทยโคยทั่วหน้า เมอครั้งสมเคี่'จพระศรนครินทราบรมราชชนนยังทรงพระชนมอยู่ ไคโคยเสคี่'จ ติคคามเกยงค่ไปทรงเยยมเยยนและสงเคราะหราษฎร พระราชทานร่งชองทั่ ชาคแคลนและกำลังใจให้คลายทุกฃทั่วสารทิศ โคยเฉพาะในค้านสุขภาพ อนามัยทรงสนพระหฤทัยเป็นพิเศษ เมึ่อร้นสมเคี่จพระบรมราชชนนแล้วก็่ ทรงรับพระภาระทั้งนั้นไว้และคืบสานให้คำรงมั่นคงอยู่คราบเท่าปีจจุบัน เป็นการ แน่งเบาพระราชภาระชองพระบาทสมเคี่จพระเจ้าอยู่หัวและสมเคี่จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินินาถไค้!ม่น้อย พระคุณสมบัติส่วนนั้จัคเป็นพระปรหิฅสมบัติชง ทรงมพร้อมมูลเซ่นกัน การทั่สมเคี่จเจ้าฟ้าฯ พระองกนั้นทรงบำเพ็่ญพระอัฅคสมบัติและพระ ปรหิคสมบัติค้วยพระวิริยะอุคสาหะมั่นคงค่อเนองยาวนานโคยไม่ทรงคำนิงถง www.kalyanamitra.org
•0๖๕ จิคคกถา เรึ๋จง ผู้ควรนก'การบูชา กวามฅรากตรำตำบากแห่งพรร;วรกาย ทรงทุ่มเทให้กับการทรงงานอย่างไป ทรงเหน็่คเหนอยห้อแห้ เพํ่อแกัปิญหากวามทุกขยากฃาคแกลนของพสกนิกร ซาวไทย ทั้งนฺก็่ด้วยทรงมพรร;หฤทัยทเข้มแฃ็่งมั่นกงไม่ถลยกลับ แสคงถึง พระคุณธรรมทปรร;เสริฐอย่างหนงทั้พรร;พุทธศาสนาเรยกว่า\"กาทึเกฝนจิต\" ซึงคุณธรรมข้อนเป็นเหตุให้บุกกลมจิตใจทเข้มแฃ็่งเค็่คเคยQ แต่แฝงไว้ด้วย กวามอ่อนโยน อคกลั้น สงบ แลร;เยือกเย็่น มพลังใจต่อรูกับปิญหาคุปสรรก ต่างๆไค[คยไม่ย่นย่อท้อแห้ เพราร;จิฅทึ๋tinฝนดแล้วปอมเป็นจิตทเข้มแฃ็่ง มคุณภาพ ไม่เปราร;บาง มภูมิต้านทานอำนาจกิเลสสูง ไม่ถูกกรร:แสกิเลส พดพาไปไต้ง่าย เป็นเหคุให้บุคคลผู้ฝกฝนจิตดแล้วได้รับความสุขแลร;ความ ส์าเร็่จในร่งทั้ปรารถนาทุกปรร;การ เพราร;การtlกฝนจิตนั้นเป็นกวามคทมผล เป็นกวามสุฃ สมตามพรร;บาลพุทธพจนทสมเค็่จพรร;บรมสุกตเจ้าตรัสไว้!น ธรรมบท ฃุททกนิกาย ทั้อัญฺเชิญมาเป็นนิกเขปบทเทศนาว่า จิตตสฺส ทมโถ สาธุ จิตตํ ทนฺตํ สุขาวห่ ชงแปลไค!จกวามว่า \"การ'!เกฝนจิตเป็นความค จิตmเกฝนด้แล้วนำความสุขมาให้\" คังนั้ แห้จริง จิตของกนเราจำด้อง'รกฝนอยู่เป็นปรร;จำแลร;tเกฝนให้มากจึง จะค เพราะจิตมสภาวะปกฅิทลร;เอยคอ่อน ข่มได้ยากกวบคุมได้ยาก ขัคตำย ไปหาอารมณต่างๆอยู่เสมอ มักตกไปตามกระแสกิเลสทน่ารักน่าใคร่พอใจ ในทางพระศาสนาแสคงไวุ้ขัคเจนว่าจิตของแต่ลร;คนนั้นมัทฅทอยู่ในฦy^แส แห่ง นิวรณ ทเป็นเครองกั้น คือกั้นจิตไม่ให้บรรลุถึงความคแลร;กนความคมิ ให้เข้ามาถึงจิต มุ ๕ ประการคือ กามฉันทร; ความพอใจฅิคใจในอารมณ ในรูป เถึยง กลํ่น รส ลัมผัสทั้น่าชอบใจ กตำวคือฅิคอยู่ในกวามสุข ๑ พยาบาท กวามกิคร้าย กวามผูกใจเจ็่บในยู้อนด้วยอำนาจกวามโกรธขุ่น เคืองอาฆาต ๑ ถึนมิทธะ กวามหคหู่ท้อแท้ กวามเกลิบเกลั้มเศร้าซึมไม่ แจ่มใส ๑ อุทธจจะกุกคุจจะ กวามห้งข่าน อื้คอัคกลัคกลุ้ม กวามวิตก กังวล และรำกาญใจ ๑ วิจิกิจฉา กวามลังเลใจ กวามสงลัยกังวล ฅัคลิน www.kalyanamitra.org
๕^' Q teuisi! ธรรมสารเทศนา... พระ!ธรรมกิฑฅิวงเ^ ใจไมใค้ ๑ นิวรณ ๕ ปร^การนเป็นทท่องเทยวไปของจิฅ เป็นททจิฅเสพ เสวยอยู่เนืองนิจ และจิฅนิ้มพลังมอำนาจบังกับบัญชาบุกกสผู้เป็นเจ้าของจิต ให้ทำ ให้พูค ให้กิคไปฅามขอบใจแห่งตน กัตวโลกทั้งหลายจึงถูกจิตนำไป ถูกจิตซักไป และเป็นไปในอำนาจแห่งธรรมอย่างเคยวกือจิต แสคงว่าจิตม อิทธิพลยํ่งใหญ่กังน จึงมคำโบราณกล่าวไว้ว่า \"จิตเป็นนาย กายเป็นปาว'' กี่เพราะเหตุน สมเคี่จพระซินสิห่กัมมากัมพุทธเจ้าจึงทรงแนะนำให้ นืกฝนจิต และทรงแสคงวิธิการtlกฝนจิตไว้มากประการตามจริตกอพนเพ จิฅใจและอุปนิกัยของแต่ละบุกกล อย่างเซ่นทรงแสคงสมถกรรมฐานวิธไว้ มากอย่าง หรือททรงแสคงไว้ว่า \"พงยกจิตในสมยทั้ควรยก พึงข่มจิตใน สมยทั้ควรข่ม พึงทำจิตให้ร่าเริงในสมยทั้ควรให้ร่าเริง พึงเพ่งจิตโดยวาง เฉยในสมยทั้ควรเพ่งเฉย'' เป็นต้น ชงพอสรุปประเดี่นใจกวามไต้ว่า เวลา ไคจิตถูกถนมิทธนิวรณกรอบงำ เป็นจิตทย่อหย่อนอ่อนแอห้อแห้ เวลาบันจำ ต้องยกจิตฃ็้นต้วยกัมโพชฌงกั ๓ ข้อกือธัมมวิจยะ วิริยะ และป็ฅิ กือใข้ บัญญาพิจารณาข้อธรรมในใจของตน ใหรู้ว่าธรรมนั้นเป็นกุศลหรืออบุสส นื โทษหรือไม่มโทษ เป็นต้น เพมกวามเพึยรเพิมกวามอุตสาหะแก'จิต โคยนุกถง จิคทประกอบต้วยกุศลของตน และพยายามนืกถึงกศลธรรมในจิตทํไต้กังสม บำ เพ็่ญมาเพอให้เกิคกวามปลาบปลมเอมอํ่มใจ นกือสบัยเวลาทกวุรยกจิต และในเวลาใคจิตถูกกรอบงำต้วยอุทธัจจกุกกุจจนิวรณ เป็นจิตทฟ้งซ่าน หงุคหงิค กลัคกลุ้มรำกาญ เวลาบันจำต้องซ่มจิตต้วยกัมโพซฌงกี่ ถก ข้อ คือปีสกัทธิ สมาธิ และอุเบกขา คือการปฏิบัติเพอใหจิตสงบ ซ่มจิตต้วยtเก ให้มสมาธิ หรือให้มอุเบกขาวางเฉยในอารมณ ในเวลาใคจิตหมตกวามสุข ซนบาน ไม่กระคือรือร้นทจะพัฒนาปิญญากวามรู้ เวลาบันจำต้องทำจิตให้ ร่าเริงต้วยการพิจารณาสภาวะททำให้เกิคกวามสลคใจ คือพิจารณากวามเกิค กวามแก่ กวามเจึบ กวามตาย หรือน้อมจิตไปเจริญพุทธาบุสสติ ธัมมาบุสสติ กังฆาบุสสติ ในเวลาใคจิฅสงบนั้งอยู่ในอารมณของสมาธิสมาเสมอ ไม่หคหู่ ไม่พังซ่าน และไม่ขาตกวามสุขซนบาน เวลานั้นกี่ใม่มกิจทจะต้องบังกับกวบกุม www.kalyanamitra.org
จิตตกถา เรอง ยู้ตวรนก่การยูชา จิฅ เพยงวางเฉยใmฅคำเนินไปฅามปกติอย่างนั้น ไม่ฅ้องยก ไม่ฅ้องข่ม และ ไม่ฅ้องทำให้ร่าเริง นั้กือวิธการtเกฝนจิฅให้พ้นจากการกรอบงำของนิวรณ วิ}การtlกฝนจิฅในรปแบบต่างๆทแสคงมานั้เป็นไปฅามอาการของจิต เป็นวิ}การหยุดการท่องเทยวไปในนิวรณของจิต กือหยุคความกิค ไม่ปล่อย ใหจิตพ้งข่านไปในอารมณต่างๆ คัวยการกวบคุมค้วยศติและปีญญา และ อาคัยกวามอคทน กวามพากเพยรพยายามเป็นเกรองสนับลนุนล่ากัญ ข้อทว่า \"จิต^กฝนดแล้วป้าความสุขมาให้\" นั้เป็นการแสคง อานิสงส์ฟงการtเกฝนจิต กวามสุขทยูป็กฝนจิตจะพึงไครับกือกวามสุขกาย สุขใจ ยู้ทหมกมุ่นอยู่กับกามารมณต่างๆ เกิคกวามว้าวุ่นหากวามสงบใจมิไคั เมอ'!!กฝนจิตคจนกลายกามฉันท!คัแล้วก็่จะสงบเย็่น ไม่ว้าวุ่นต่อไป ยู้ทร้อน ร่มข่นเกืองใจคัวยไฟอาฆาตพยาบาทอยูกจะให้อภัยกนอนไคั ทำ ให้เยือกเย็่น ลงและระงับเวรภัยลงไคั ผู้ทหคหู่ท้อแท้ เศร้าซึมหมคกำลังใจ ก็่จะเกิคกวาม มุมานะ ยืคผู้งานและMวิตคัวยกวามกล้าหาญแล้วประสบผลล่าเร็่จไคั หรือ ผู้ทพ้งข่านอคอัตกลัคกลุ้ม กังวลใจ ก็่จะตั้งสติสงบระงับ กลายทุกฃกลาย กังวลไคั หรือผู้ทตกอยู่ในอาการลังเล ฅัครนใจไม่แน่นอน ขอบสงลัยราไป ก็่จะสามารถกัครนใจฺไคัแน่วแน่และรวคเร็่ว เหล่านั้กือขลทไครับจากการไคั ผู้กฝนจิตคแล้ว ผลทสูงขนไปอกคือสามารถใช้จิตทสงบระงับจากนิวรโนแล้ว นั้นเป็นฐานล่าหรับปฏิบัติกรรมฐานทสูงซนไปคือวิปีสสนากรรมฐานไคั ชงจะ สามารถไครับกวามสุขทสูงขนไปอกจนถึงสุขอันเกิตจากการระงับกับกิเลส แต่การ'!!กฝนุจิตกังแสคงมานั้เป็นการ'!!กฝนเพอประโยขน่คือกวามสุข ล่าหรับกัวเองเป็นทตั้ง กล่าวคือเมอป็กฝนจิตคืแล้วกัวเองเท่านั้นเป็นผู้!ครบ กวามสุขโคยตรง ผูอนแม้อาจจะไครับผลบ้างก็่เป็นเพึยงโคยอ้อมเท่านั้น ยังมการ'!เกฝนจิตอกแบบหนงซงเมอflกฝนคืแล้วย่อมอำนวยสุขให้แก่ ตนเองคัวย แก่ล่วนรวมคือกนรอบข้าง ลังกม และประเทศขาติบ้านเมือง ตลอคถึงร่งแวคล้อมและโลกชงเป็นทอยู่อากัยนั้คัวย การtเกฝนจิตแบบนั้น www.kalyanamitra.org
ร ธร!มสารเทศนา... พระธรรมกิคฅิวงส์ คือการ!เกฝนจิฅให้มภาวร:ทค ๓ อย่าง คือภาวร:จิฅส์านก ๑ ภาวฺร:จิฅ สาธารณร: ๑ กาวร:จิฅบริการ ๑ กาวร: ๓ ปรร:การนิ้เป็นร่งจำเป็นทฅ้อง ป็กฝนให้มให้เป็นข'นในจิฅ เพราะ:เป็นไปเพอปรร:โยชนเกอกูลแลร:กวามสุขแก' ทุกฝ่าย กล่าวโคยสรุปก็่คือจิฅ ๓ อย่างคือ จิตส์านก จิตสาธารณร; แลร: จิตบริการ เป็นกาวร:จิฅทกวร!เกกวรร่'งสมอบรมให้เกิคมในคนด้วยในเมอคน เราด้องอยู่ร่วมกันในสิ'งกมโลก \"จิตส์านึก\" กาวร:จิฅทกวรสิ'งสมอบรมประ:การด้นนั้น ได้แก่มโนธรรม หรือมโนล่านกทเกิคขน'จากการไคืรู!ด้เห็่นปรร:สบการณต่างๆทเกิคฃ็้นแก่ตัว เองหรือแก'กนอน เซ่นกวามรู้คืกเมฅฅากรุณา กวามรู้คืกอายชั่วกลัวบาป กวามรู้รกรักคืเกลยคชั่ว รักกวามซอลัฅย่ เกลยคกวามกคโกงไม่ซอลัตยุ รัก กวามยุฅิธรรม เกลยคกวามอยุติธรรมกวามมอกคิ เป็นด้น จิฅล่านกนั้เป็น เหตุให้กนเรามกวามรับฆิคขอบต่อคนเอง ต่อกนอน ต่อล่วนรวม และ:ต่อ หน้าท เป็นเหตุใหลังกมอยู่กันด้วยกวามสงบสุข ไม่เบยคเบยน ไม'เอารัคฺเอา เปรยบ ไม่กคฃซ่มเหงกัน เพรา^มจิตล่าน้กทคืย่อมทำพูดคิคแต่เรองทดๆ คิดแต่จร;ทำปรร;โยซนต่อผู้อน มนำใจเอออาทร ชอบช่วยเหลือคนทล่าบาก เดือดร้อน ไม่คำน้งถงความสุขล่วนตัว มุ่งให้ความสุขแก่ผู้อนเป็นหตัก ล่วนยู้ทขาคจิคล่านกทคืย่อมเป็นกนทไม่อายชั่วกลัวบาป ขาคกวามรับผิค ชอบ เป็นกนทแล้งนั้าใจ ไม่กิคทจะ:เอออาทรไกร มุ่งประ:โยชนคนเป็นใหญ่ ไม่คำนึงถึงกวามเรยหายอันจร:เกิคแก่ล่วนรวมหรือลังกมรอบข้าง เป็นอันคราย ต่อกวามสงบสุขของลังกมเป็นอย่างยํ่ง ตังนั้น การ!!กฝนจิคให้มจิคล่านึกทคืจิงเป็นเรองล่ากัญและ:จำเป็นก่อน เรองอน เพราร:เมอยู้กนมจิคล่านึกทคืมกวามรับผิคชอบกันถ้วนหน้าแล้ว ร่ง ทคืงามและ:ร่งทปรารถนากัน เซ่นกวามสงบ กวามสุข กวามปลอคกัยใน ซ่วิคและ:ทรัพย่สิน และ:กวามไว้วางใจกันไคกจร:มคามมาโคยไม่ด้องเพรืยกหา ให้เหนึ๋อยแรง www.kalyanamitra.org
0๖๙ จิตตกถา 1รอง ยู้ควรแก่การบูชา ภาวะจิฅทควรร่'งสมอบรมปTiการต่อมาคือ \"จิตสาธารณะ\" นั้นไค้แก' ความรู้คืกทคืต่อสมบัติสาธารณะอันเป็นของต่วนรวม เซ่นสมบัติราชการ สมบัติของอังคม สมบัติของขาติ รวมถงร่งแวคล้อมทอำนวยประโยซนให้แก' ทุกคน เซ่น อาคารสถานท สวนสาธารณะ ค้นไม้ ป้าไม้ ภูเขา แม่นั้า ลำ คลอง ถนนหนทาง เป็นค้น โคยร้คืกรักทวงแหน ค้องการสร้างสรรคื บำ รุงรักษา Mลให้คงอยู่ ไมให้แฅกหักเคืยหายหรือถูกทำลายโคยไม่สมควร จิตสาธารณะนเป็นจิต!เองกนสมบัติสาธารณะ บัองกนสิงแวดล้อม บัองกน ธรรมชาติ แดะ!!องบันติดปวฒนธรรมของมนุษยชาติได้เป็นอย่างคื เพราะ ผู้มจิฅสาธารณะนอก'ไเาก'จะไม'ทำลายสาธารณสมบัติแล้วยังจะรักหวงแหนไม' ให้คนอนมาทำลายโคยไร้เหตุผล และกิคแค'จะสร้างสรรกดูแลรักษาให้ดำรงกง อยู่เพอเป็นประโยซนแก'ต่วนรวมคราบนานเท่านานค้วย ตรงบันข้ามบับผ้ท ปราศจากจิตสาธารณะย่อมไม่มความรักความหวงแหนสมบัติสาธารณะสิง แวดล้อมแดะธรรมชาติทเป็นประโยชนร่วมบัน ย่อมไม่ติดท!!องบันหรือ ดูแดรักษาแต่ประการใค มแต่จะทำดายสิงแวดล้อม สร้างมดภาวะให้แก่ ธรรมชาติเพอผดประโยชนต่วนตนประการเคยว ต่วน \"จิตบริการ\" นั้นไค้แก'ความร้คืกเอออาทรเห็่นอกเห็่นใจผู้อน เห็่นเขาไค้รับความลำบากหรือเคือคร้อนก็่หวั่นไหวอคทนไมใค้ทํ่จะปต่อยไป อย่างนั้น จิฅบริการเซ่นนั้เป็นเหตุให้เคืยสละเข้าไปซ่วยเหลือเกอถูลคนอน เข้าไปรับไข้บริการอังคม เป็นอาสาสมัครบำเพ็่ญประโยขนต่างๆแก'ต่วนรวม ผ้มจิคบริการย่อมมอัธยาอัยไม'นั้งดูคาย เป็นคนมนั้าใจ ยินคืรับใข้บริการคน อนค้วยความเฅ็่มใจ ทำ ให้อังคมเป็นอังคมแห่งความเอออาทรพงพากันไค้ ทั่วไป จิต ๓ แบบนั้เป็นจิฅทคื เป็นจิฅทั่เออประโยซนต่อคนรอบข้าง อังคม และสิงแวคล้อม อังนั้นย่อมเป็นการสมควรทจะtเกฝนจิฅให้มภาวะเซ่นนั้กัน แต่ย่อมเป็นการยากไม่น้อยทั่จะ'!!กฝนบันได้ เพราะจำด้อง!!นธรรมชาติ www.kalyanamitra.org
ธรรมสารเทศนา... พระธรรมกิฅฅิวง^ ของจิตทมกท้อถอยไม่จริงจังในการทำความค เช่นจร;ต้องเว้นการทควร เว้น จร;ต้องทำการทควรทำ การทถายอปางทอยากจร;ทำแตใม่ควรทำ กี่ ต้องเว้นเสิยไม่ทำ การหลายอย่างท!ม่อยากจร;ทำแต่ควรทำ กี่จำ ต้องทำ จร;ต้องเดินไปตามทางแห่งความทำเร็่จ แนจิตแนความรู้ทํกต้วยความ อตทนอตกลั้นแลร;ความพยายาม เมํ่อทำไค้อย่างนิ้ย่อมtเกฝนจิฅให้มภาวะ; เซ่นนี๊!ค้แน่แห้ สมเค็่จพระ;เจ้าพนางเธอ เจ้าห้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาส ราชนครินทร ทรงtเกฝนจิฅให้มภาวะ;ต่างๆมาคครบถ้วนสมบูรณแล้ว จึง ทรงงานบำเพี่ญประ;โยซนต่างๆไค้มากมายเหลือทจะ;คณานับ เป็นทประ;จักษ ชัคและ;เป็นแบบอย่างไค้เป็นอย่างค ทั้งทรงเป็นล้กขพยานแห่งข้อธรรมทว่า \"การ'!เกฝนจิตเป็นความดิ จิตทั้!เกฝนดิแล้วนำความสุขมาไท้\" ฉะ;น เมอ ทรงพระ;ซนม่อยู่จึงทรงไค้รับความสบายพระ;หฤทัยเพราะ;ทรงเห็่นผลงานเป็น ประ;จักษ เมอเสค็่จสุสวรรคาลัยแล้วกี่ทรงไค้รับพระ;เกยรฅิยส เครองราซ กักการะ; เครองกักการะ; และ;การเคารพบูซาเป็นอเนกอนันฅน่าอัศจรรย่ทำหรับ ซาวโลก และ;จะ;ทรงคำรงอยู่ในห้วงแห่งความทรงจำของราซสกุลและ;พสก นิกรซาวไทยไปฅลอคกาลนาน ทังรับพระ;ราซทานแสคงมา ค้วยประ;การฉะ;น ซออำนาจพระ;ราซกุศลทราซสกุล \"กิตติยากร\" ทรงบำเพี่ญให้เป็นไป ในวาระ;น จงทำเรี่จผลเป็นทิพยสุฃทิพยสมบัติใหญ่หลวงพร้อมมูลสมํ่าเสมอ แต่สมเคี่จพระ;เจ้าพนางเธอ เจ้าห้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราซ นครินทรั ในกัมปฑยภพสมคามอุทิสสนเจฅนาปฑรภทุกประ;การ ร้บพระ;ฑซทาน แสคงพระ;ธรรมเทศนาฉลองพระ;เคซพระ;กุณประ;ทับพระ;ปีญญาบารม ยุติลง เพยงเท่าน เอวํ กี่มค้วยปร:;การฉะ;น. ซอถวายพระ;พร www.kalyanamitra.org
อาดัปปกถา 1รื่อง ความเพยรที่ควรทำ อซุเซว ฑิจุจมาฅปฺป้ โก ชฌฺฌๆ มรณํ สุเว นหิ โน ฟ้งครนฺเตน มหาเส์เนน มจจนาติ ฯ ^V บตน รักไค้แฟ้คงพรiธรรมเทศนาในอาฅัปปกถา เพอฉลองศรัทธา ปรร:คับปิญญาบารม อนุโมทนาในกุศลปุพพเปฅพลทักขิณานปทานกิจ ทกณะ:ศงฆกณะกิษยวัครันทนกะพัอแลฬิฟ้ลาสิกซนกนวัคผู้มจิฅศรัทธามั่นกง อยูในกคัญฌกฅเวทิคาธรรมทั้งหลาย ซงมพระ:เคชพระ:กุณพระพรหมมน ยูรักษาการแทนเค้าอาวาลวัครันทนกะพ้อเป็นค้นเป็นประธาน ไค้มกุศลฉันทั พร้อมใจทันบำพ็่ญให้เป็นไปเนองในการบำ เพ็่ญกุศลพระราชทานเพลิงศพ พระธรรมเมธาภรณ (ลนิท สุภาจาโร) อคคเค้าอาวาลวัครันทนกะพ้อ และ เค้ากณะรังหวัคปทุมธาน (ธรรมยุค) ทั้งนเป็นการแลคงกงนํ้าใจอันบริสุทธ งคงามคามเซิงชั้นแห่งทัปปุริส์ชนกนคทั้งหลายจะพงปฎิทัฅิทัน ค้วยมั่นอยูใน พระธรรมทิคกิางสั (ทองค ศุรเคโซ ป.ธ.(ะ=^) วัคราชโอร(1าราม เฟคงในการบำเพึ่ญกุfiล พระราชทานเพดิงศพ พระธรรมเมธาภรณ (ศนิท สุภาคาโร) วัคคันทนกะพัอ อำ เภอฟิามโคก คังหวัคปทุมธานิ วันสุกรทึ๋ ร)<1 มนากม พ.ศ. ๒๕๕๑ เวศา ๑๘.0๐ น. www.kalyanamitra.org
[[รบ^ ธรรมฟ้าททศนา... พรiธรรมกิฅฅิวง^ พรหมวิหารธรรมบ้าง ในกฅัญฌูกฅเวทีฅาธรรมบ้าง ฅามแบบอย่างทถือ ปฏิบัติกันรบมาฅามพร^พุทธบรรหารว่า อทาสิ เม อกาสิ เม เป็นอาที เป็นมิตรของเรา ผู้นเป็นเพอนของเรา ดงน ก็่ควรฟ้าทักษิณาทานอุทิศไป ให้แก'ท่านเหล่านั้นผู้ล่วงลบไปแล้ว\" คังนั้ แท้'จริง ท่านเ'จ้าคุณพร::ธรรมเมธาภรณนั้นเป็นพระมหาเถรร;ทกวรแก่ ทักษิณาทานสือข้าวนํ้าและเกรองกักการะบูชาทั้งหลายซงเรยกรวมว่าของ ทำ บุญทุกอย่างทผองเพอนสหธรรมิก ติษยานุติษย่ วิสสารกซน และญาติพ น้องทั้งปวงไท้บำเพ็่ญอุทิศไปให้บับแด่มรณภาพมา ห้วยเหตุว่าท่านเจ้าคุณฯ เป็นยู้อยูในข่ายกวรไครับยกย่องว่าเป็นปูซนยบุกกล เพราะเมื่อขณะบังมซวิฅ อยู่นั้นไท้สร้างสรรกร่งทเป็นกศลเป็นคุณูปการแก'พระอาราม แก'การกณะ สงฆ แก่พระศาสนา และแก'ประเทศชาติบ้านเมืองไว้มาก ล้วนแล้วแด่เป็น ประโยชน เป็นร่งเกอกูล และอำนวยกวามสุขสบายแก่ผู้อยู่หกังทบังประจ้กษ คาอยู่ทั้งร้น และกวามมืนั้าใ'จ กวามเอออาทร คลอคถึงกวามเรยสละของ ท่านก็่บังประทับอยู่ในใ'จของผูใกลซิคสนิทสนมไม่'จางหาย อิริยาบถของท่าน ก็่บังเป็นกาพติคคา ถ้อยกำสนทนาก็่บังเป็นเถึยงติคหูฅรึงใ'จอยู่'จนทุกวันนั้ กวามคกวามงามและผลงานเหล่านั้แลเป็นเหตุชักนำให้ท่านทั้งหลายมาระถึก ถึงแล้วบำเ'พ็่ญกุศลอุทิศถวายมาโคยลำคับ และ'จะไท้บำเ'พ็่ญกันด่อไปอก ยาวนาน เมื่อคิคอย่างสามัญว่า ท่านเจ้าคุณพระธรรมเมธากรณทั้งทกำกังเป็น ทรักเป็นทเการพนับถึอของเหล่าติษย่วิสสารกชน เป็นทไว้วางใ'จของกณะสงฆ และมืกำกังกายกำกังใ'จม่งมั่นสร้างสรรกํกรณยกิ'จเพอกวามเ'จริญงอกงาม ไพบูลย่แก่พระภิกษุสามเณรในปกกรอง แก'พระอาราม และแก่การกณะสงม ให้ยิงขนไป ไม่น่าทจะมาประสบภัยแห่งซวิฅ'จนท้องหยุคทำกิ'จทั้งปวงลง www.kalyanamitra.org
0๗ฅ อาตปปกถา เรอง ความเพยรทควรทำ กรร;ทันหันเซ่นน หากแฅ่พิเกราร;หัให้ค'จร;เห็่นได้ว่าเพราร;กุศลผลบุญเก่า อำ นวยผลให้เท่านั้น จึงมเหคุให้ด้องพลัน'จากไปด้วยเหตุแลร;เวลาอันไม่ ศมกวร ไม่มไกรศามารถด้านทานยั้อยุคไว่ได้คามปรารถนา เพราร;มรณร;คือ กวามคายนั้นเป็นเ'จ้าของซ่วิฅของศรรพลัฅว่ทเกิคมาในโลก 'จนไคืรับศมญา นามว่ามั'จ'จุราชชงแปลว่าเจ้าแห่งกวามคาย มั'จจุราชนั้ย่อมยายกรอบงำ มั'จ'จร;คือผู้'จร;ด้องคายทุกถ้วนหน้าไม่ยกเว้นหรือให้รทธิพิเศษแก่ผูใค เทยง ครงเศมอหน้ากันหมค ศมคามพรร;พุทธพจนทว่า ยถาปี เศลา วิปุลา นภํ อาหจจ ปพฺพตา เป็นอาทิ กวามว่า \"ภูเขาสิลาล้วนสูงใหญ่จดฟ้า กลงมาบคล้ตว้ทั้งคืทิศโดยรอบ แม้ ฉนโค ความแก่แลร;ความตายก็่ฉนนน ปอมครอบงำล้ตว้ทั้งหลาย ทั้ง กษตริย ทังพราหมณ ทังแพศย ทังศูทร ทังจณฑาล แลร;คนกวาดฃยร; ไม่ลร;เว้นใครๆ ไว้เลย ย่อมยำยเคืยสิน ทังเด็่กผู้!หญ่ ทั้งพาลบณฑิต ทั้ง ผูมั'๋ งม คนขดศน ทุกคนล้วนม่งหม้าไปปูความตาย\" คังนั้ เราท่านทังหลายทยังมลมหายใจอยู่นั้ก็่ย่อมคกอยู่ในอำนาจแห่งมัจจุราช แลร;กำลังเคินทางบุ่งหน้าไปหามัจจุราช หรือมัจจุราชนั้นกำลังฅิคคามเราอยู่ เซ่นเคืยวกัน เพยงแคใม่รู้ว่าจร;ปรร;จวบพบกันเมอไร จึงไม่กวรนั๋งนอนใจประ:มาท อยู่ว่าคนยังแฃี่งแรง อายุยังไม่มาก ยังจร;อยู่ในโลกนั้!คือกนาน ด้วยเซํ่อใจว่า ในปีจจุบันมเหตุให้ศามารถยืคอายุและ;ยึ๊อชวิคไว้[ด้นานกว่าเมอก่อน เซ่นม หมอคื มยาก มการดูแลสุขภาพอนามัยคืกว่าศมัยก่อนเป็นด้น แค่เมอถื้งเวลา ทมัจจุราชมาปรากฏคนเช้าจริงๆ แม้จะ;มหมอคืมยาวิเศษอย่างไร ก็่ไม่อาจ ด้านทานหรือค่อผู้กับมัจจุราชได้ ด้องยอมให้พาไปปูปรโลกทุกรายโคยไม่อาจ หลกเลยงเป็นเทยงแห้ ทถูกแน่นั้นคือเมึ๋อยังมลมหายใจอยู่พึงรืบปฏิบัฅิคนให้ เป็นไปคามพระ;พุทธนิพนธ[นกัทเทกรัคคศูคร มัชณิมนิกาย อปริปิณณาศก่ ทได้ยกมาเป็นนิกเฃปบทเทศนาว่า อชฺเชว กิจจมๆตปฺป้ เป็นอาทิ ชงแปล กวามได้ว่า www.kalyanamitra.org
ร ^[gyj ธทมสารเทศนา... พระธรรมกิฅคิวง^ \"ควรทำความเพยรเส์ยในวนนํ้นแล ใครเล่าจร;รู้ว่าความตายจรมึใน วนพรุ่งนั้ เพราร;ว่าการขอผ่อนผนกบมจจุราชผู้มเร(นาใหญ่นันม่อมไมมแก่ พวกเราทั้งหลาย'' คังน ด้วยเหตุผลทว่าร'ฅวโลกทั้งหลายยู้มอันต้องคายเป็นธรรมคา ต้องไปล่ อำ นาจแห'งกวามคาย ไม่มใกรหลกพ้นไปไต้ ถึงจะ:หนไปอยูในทลลับหรึอในทํ ห่างไกลไม่มยู้พบเห็่น เซ่นในถํ้า ในป่าเขา บนท้องพ้านภากาศ เป็นต้น ก็่ไม่ อาจหนพ้นกวามคายไปไต้ ทั้งไม่รู้ว่ากวามคายจะ:มาถึงในวันไคในเวลาโค และ:เมอเผชิญหน้าลับกวามตายพร้อมเสนาใหญ่กือกวามแก่และ:กวามเจ็่บ แล้วจะ:อ้อนวอนขอผ่อนผันยืคเวลาอายุออกไปอกลักเล็่กน้อย พอให้ลัง เถึยกนทรักสนิทชิคเซอ พอใหจคสรรปินล่วนมรคกแก'ลูกหลานจนเสร็่จร้น พอให้ทำบุญกุศลทยังไม่ไต้ทำให้เรยบร้อยก่อน หรึอแม้จะ:ยกทัพทมอาๅธ พร้อมมอมาซ่มฃู่ขอร้องให้ปล่อยวางไม่เอาซวิค แม้จะ:ฅิครนบนหรือบนบาน ศาลกล่าวอย่างไร กี่หาไค้รับความอาทรผ่อนผันจากมัจจุราชไม่ ย่อมต้องถูก นำ ไปล่ปรโลกทั้งขณะ:ทยังไม่อยากไปหรือยังไม่พร้อมทจฟ้.ปคังน เหล่าเมธซน ผู้มปิญญาทั้งหลายจึงกวรเร่งรืบทำกวามเพยรเถึยแคในวันนิ้ เพราะ:ไม'รู้ว่า พรุ่งนจะ:ยังมลมหายใจอยู่อกหรือไม่ เพราะ:ซวิคของลัควโลกทั้งหลายไม่ม นิมิคเกรองหมาย ไม'มอะ:ไรเป็นเกรองกำหนคใหรู้ว่าจะ:มซวิคลันอยูใต้เห่าไค เมอถึงเวลากี่ต้องจากไป และ:ชิวิคนั้นเล่ากี่ร้นและ:น้อยมัก ไม'ถึงร้อยป็กี่จาก ลันไปหมค หากจะ:เกินร้อยป็ไปบ้างกี่มไม'มาก ทั้งขณะ:มซวิคอยู่เล่ากี่มกวาม ลำ บากและ:ประ:กอบต้วยกวามทุกฃรอบต้าน เพราะ:ต้องบริหารซวิคให้อย่รอค ปลอคลัย ทังนั้นเมอวันนั้ยังมซวิคอยู่จึงกวรเร่งรืบทำกวามเพยรเพอไค้ชึอว่า ใช้ซวิคทยังอยู่นั้ทำกวามเพยรในทางทขอบประ:กอบต้วยธรรม หากจะ:ถามว่า อันความเพ้ยรทควร่รบเร่งทำนนคืออย่างไร ในข้อนม อธิบายไขกวามว่า กวามเพยรทกวรเร่งรืบทำในขณะ:ทยังมลมหายใจอยู่มัน กือกวามเพยรในท <L สถานคือ เพยรระ:วังบาปอกุศลมิให้เกิคขนในคน ๑ www.kalyanamitra.org
อาตปปกถา เรอง ความเพย!ทควรทำ เพยรล^บาปอกุศลทเกิคฃนแล้ว ๑ เพยรบำเพ็่ญบุญกุศลให้เกิคมในฅน ๑ เพยทักษาบุญกุศลทมอยู่แล้วให้กงอยู่ ๑ กล่าวโคยย่อก็่กือ เพยรขจัดรั้ๆย ๑ เพยรฃยายด ๑ เพยรมจิตบริสุทธ ๑ ทว่า \"เพยรฃจัดร้าย\" นั้นคือ กวามคั้งใจแน่วแน่ท'จะ;ไม่ทำบาปอกุศล อัน'จะ:ล่งผลร้ายให้เสือคร้อนในภายหลัง ไค้แก่ป้'องกันคัวเองมิให้!ปเกลือก กลั้วกับบาปทุ'จริฅทางกาย วาจา ใจ และ:ร่งเลวร้ายอันจะ:นำพาให้ชวิฅ คกฅํ่าหรอประ:ศบหายนะ:วิบัติฃัคศนเซ่นอบายมฃค่างๆ กวามประ:พฤติผิคคืล ธรรม รวมถึงการกระ:ทำทเลวร้าย การเบยคเบยนซ่มเหง เอารัคเอาเปรยบ ทำ ให้กนอนเสือคร้อน เป็นค้น และ:เมอเกยประ:พฤติปฏิบัติผิคเซ่นนั้นมาแล้ว กี่ฅั้งศติกิคให้เห็่นโทษของบาปอกุศลเหล่านั้นคามกวามเป็นจริงว่าเป็นร่งทน่า รังเกยจ ไม่น่าแคะ:ค้อง ไม่น่านำเข้ามาไล่คัวให้มวหมอง แล้วเพยรพยายาม แซ็่งใจกำจัคเลิกละ:เลืยให้ร้นไป ไม่เข้าใกล้เกยวข้องซํ้าอก กิจอย่างนั้เป็นกิจ ทชอบ เป็นกิจทกวรเพยรทำเป็นประ:การค้น ลิาหรับ \"เพยรฃยายค\" นั้นคือ กวามฅั้งใจแน่วแน่ทจะ:ทำกวามค ทำ ลิงทเป็นประ:โยซน่แก่คนเองและ:ผูอน ตั้งใจประ:พฤติคามหลักคืลธรรมอันค งาม เซ่นให้ทาน รักษาคืล ประ:พฤติธรรม เป็นค้น กิจอันใคทจะ:เป็น ประ:โยชน่แก่คน ทำ ให้คนเจริญก้าวหน้า ทำ ให้คนคำรงซวิคอยูใค้ ตั้งเป็นกิจ ทชอบเป็นสุจริคไม่ผิคคืลธรรม และ:กิจอันไคเป็นไปเพอประ:โยชน่ เพื๋อเกอกูล และ:เพอกวามศุฃแก่ผูอื่น ก็่ปฏิบัติจัคทำกิจอันนั้นค้วยจิคใจทม่งมั่นเข้มแฃ็่ง ไม่เกยจกร้านเหื่นแก่กวามลุฃเล็่กน้อย ทุ่มเทแรงกายแรงใจทำให้ล่าเรี่จ แม้ จะ:มบัญหาอุปศรรกหริอมเหทุให้ห้อแห้ใจ กื่ไม่ยอมหยุคหริอถอยหลังให้เลืย เวลา เตินหน้าฝ่าฟินปีญหาอุปศรรกไปจนกว่าจะ:ถึงหลักชัยคือกวามล่าเร็่จ คามทประ:ศงกํ เพยรอย่างนั้จัคเป็นกิจทกวรทำกวรปฏิบัติ เป็นการเพมพูน กวามคให้แก่คน www.kalyanamitra.org
ธรรมฟ้ารเทศนา... พระธรรมกิศฅิวงส์ ส่วน \"เพยรมจิตบริสุทธ์\" นั้นคือ กวามฅั้งใจแน่วแน่ทจ^ชำร:;ใ'จของ ตนให้หมกจค เพยรร่'งสมอบรมใจให้กลายกิเลสคือรากะ; โลภะ: โทสะ; และ; โมหะ ให้เบาบางลงเรอยไปจนกว่าจะ;หมกร้น แม้จะ:ไม่ถงกวามบริสุทธ์ร้น เซิงในภพซาฅินั้ก็่กั้งใจเพํ่มพูนอบรมปมเพาะ;เรอยไป เพอเป็นอุปนิร'ยปิจจัยใน ภพซาฅิฅ่อๆไป เมอมกวามเพยรกั้งใจเพึ๋อใ^กหมกจกจากกิเลสเหล่านั้ ไคืซอว่าเกินกามปฏิปทาซองพระ:อริยะ:กั้งหลายมพระ:ทุทธเ'จ้าเป็นก้นแล้ว แม้ว่า จะ;ไม่ถึงขั้นสุกห้ายคือละ;กิเลสไก้เค็่กซาก เพยงแก่ทำให้เบาบางลง หรือมสกิ กำ หนกรู้ว่าจิกกำลังฅกอยูในอำนาจซองกิเลสประ;เภทใกแล้วtเนใจรืเนกวาม รู้ถึกมิให้จิกเป็นไปกามอำนาจบังกับซองกิเลสนั้น พยายามอกทนอกกลั้นไว้ ก็่จะ:สามารถเอาซนะ:กิเลสนั้นไก้ แม้ว่าจะ:ซนะ:ไมไคโกยเคี่กซาก บังอาจเกิก เนไคอก แกกจะ;ไครับผลเป็นกวามสุซเป็นกวามสงบไคในระ;กับหนง ทส่ากัญ คือสามารถบัองกันตัวเองมิให้เคือกร้อนในภายหลังไก้เป็นอย่างคื หากไม่!!น ใจระ:งับบับยั้งไว้กอาจเถึยทกิเลสแล้วไปก่อกรรมทำเฃ็่ญทเป็นบาปอกุศลหรือ เป็นเวรเป็นภัยเช้า ก็่จะ:ถึงแก่กวามเคือกร้อนและ:ความทุกซสาหัสกี่เป็นไก้ ตังตัวอย่างมให้เห็่นกันอยู่โกยทั่วไป เซ่นก้องกิกกุกกิกกะ;รางเพราะ:โลภะ;บ้าง เพราะ:โทสะ;บ้าง เพราะ:โมหะ:บ้าง หรือก้องเถึยทรัพย่รน เถึยซอเถึยง เถึยรู้ กนอน เพราะ;โลภะ:บ้าง เพราะ:โทสะ:บ้าง เพราะ:โมหะ:บ้าง แฅ่เมอสามารถ เพยรพยายามทำใหัจิกบริสุทธึ๋โก้ กวามทุกซเคือกร้อนและ:เวรภัยเซ่นนั้กี่จะ;ไม่ กรายมาถึงซวิกแน่นอน เพราร;จิกทั่บริสุทธ์คืนั้นเป็นภูมิก้มกันซวิกมิให้กกกา <# %J *1 yi I พระ;ทุทธภาษิกทั่ยกขั้นมาแสกงนั้เป็นเกรองซนำและ:เคือนใจใหัรู้กวาม เป็นจริงซองชวิก จะ;ไก้กั้งอยูในกวามไม่ประ;มาทพลั้งเผลอว่ากนจะ;บังมซวิก อยู่อกนานเท่านั้นเท่านั้ เมอไคชวิกมาแล้วจะ:ไครบเร่งซวนซวายทำร่งทั่เป็น ประ:โยซน่แก'ตัวเอง ใหัตัวเองอยู่คืมสุซ มวิซากวามรู้ มทรัพย่รน และ:มหน้า ทั่การงานทำเป็นสุจริก มซวิกทั่เพยบพร้อมก้วยโภกสมบักิและ:ธรรมสมบักิ www.kalyanamitra.org
อาตปปกถา เรอง ความเพยรทึ๋ควรทำ แล้วไมนงดูคายเพยงแก่นั้น ไม่กิคแก่เพยง'จร;เสวยสุขเพยงลำพังคัวแลร; กรอบกรัวญาติพน้อง หากแก่'จร:ไคกคถึงกวามลำบากเคือคร้อนของผูอนแล้ๆ ขวนขวายทำร่งทเป็นคุณเป็นปรร;โยซนแก่เพอนมนุษยล้วยกัน ไหทนเวลาท ซวิฅยังคำเนินไปอยู่อกไม่นานก่อน'จร;ถึงกาลทมั'จคุราซ'จร;พาไปลํปรโลก เมอ ทำ ไคคงนั้ แม้หากมั'จ'จุราซ'จร;มาปรากฏก่อนเวลาอันกวรแล้วก่วนพรากซวิฅ ไป ก็่'จร;ไค้มทุนติคคามไปลํปรโลกพร้อมมูลเพราร;เพั๋มพูนไว้ก่อนแล้วอย่าง เพยงพอท'จร;อำนวยสุขไหไค้[คยคลอค แลร;'จร;ไม่อาดูรเคือคร้อนใ'จเพราร;มา คำ นงว่าคนไค้ทำกิ'จทพงทำเสร็่'จเรยบร้อยแล้วหรือไค้ทำ'จนสุคทาๆมสามารถ ^^ทำไค้แล้ว เหมือนยู้เครืยม'จร;เดินทางไกล ไค้ครร:เครืยมสร;สมเสบยงไว้ ล่วงหน้าแล้วแลร;พร้อมเสมอท'จร;เดินทาง เมอมืเหฅุค้องไปก่อนเวลาก็่ สามารถหยิบกว้าเสบยงนั้นแล้วออกเดินทางไค้ทันทํโคยมิพักค้องห่างหน้า พร;วงหลังฉร;นัน หากมัวปรร;มาทขาคสดิอยู่ ไมไค้ครร;เครืยมทุนท'จร;เดินทาง ไปล่ปรโลกไว้ให้พร้อม ยังไม่ลำเร็่'จกิ'จทกวรทำกวรบำเพ็่ญ เมอมั'จ'จุราขมา ปรากฏกร;ทันทันก็่'จร;เถึยทํ 'จร;ขอปรานผ่อนผันปรร;วิงไว้เพํ่อทำกิ'จก่างๆทค้าง อยู่ก็่เป็นอันไม่ไค้ หาก'จำค้องไปทั้งทมืเสบยงไม่พอหรือไม่มืเลยก็่จร:ขัคสน หากวามสุขไมไค้[นปรโลก มืแก่'จร:ไครับทุกฃเคือคร้อนปรร;การเคยา เหมือน กนเดินทางไกลทขาคเสบยงฉร;นั้น ท่านเจ้าคุณพรร;ธรรมเมธาภรถ4 ถึอว่าไค้เป็นยูมโซกคืคือเป็นยูใม่ปรร;มาท เป็นยู้มืสดิกิคไค้ถึงพรร;พุทธปรร;สงทคามพรร:บาลนั้ จงมืจิคยินคืพากเพยร สร้างสมปมเพาร:กวามคืทั้งทเป็นบุญล่วนตัา คือเพัยรขจัคร้าย เพัยรขยายคื แลร;เพยรมืจิคบริสุทธิ แลร;ทเป็นคุณคือเป็นปรร;โยซน้แก่รูอื่น ก่อลังกม ก่อ พระ;อาราม แลร;ก่อปรร;เทศซาดิพรร;ศาสนา ลังสมอบรม'จนกลายเป็นบุญ บารมืทลำกัญทันเห็่น โคยไม่เห็่นแก่กวามลำบากครากตรำ ถึงแม้ว่า'จร:มา ประ:สบกับ'อุปฆาคกกรรมเข้ามาฅัครอนการคำ เนินชวิฅทเป็นไปค้ๅยคืให้หยุท ซะงักและ:ให้สินลงในทั้สุค ทำ ให้หมคโอกาสทำกวามคืก่อไป ก็่พอ'จร;อากัย www.kalyanamitra.org
ธรรมสารเทศนา... พระ:ธรรมกิคคิวง^ บุญกุศลต่างๆ ททำบำเพ็่ญไว้ก่อนหน้าเ?เนอุปิฅถัมภกกรรมนำพาให!ปต่ภพ ภูมิทคไค้แน่นอน หากว่าท่านมัวปรรมาทอยู่ว่าเรายังจะมชวิตอยู่!คอกนาน ยังมโอกาลทำความคฅลอคไป แล้วเพิกเฉยเลยละทจะทำกวามคทเป็น ประโยซนํฅนและประโยซนํผู้อนเสิย เมอมาประลบกับกรรมเซ่นนก็่คงจร5 ฃาคทุน มรณภาพไปแบบไปมือเปล่าแน่แท้ ซวิฅของท่านเจ้าคุณฯ จึงเป็น ฃวิฅทน่าจึกษาและลามารถเป็นคติเตือนใจเราท่านทั้งหลายตามมัยพรร5พทธ ภารตทว่า \"ควรทำความเพิยรเล้ยในวนนนแล ใครเล่าจะรู้ว่าความตายจรเ มืในวนพรุ่งน็้ เพราะว่าการขอผ่อนผนกับมัจจุราชยู้มืเสนาใหญ่มันย่อม ไม่มืแก่พวกเราทั้งหลาย\" ไค้เป็นอย่างตื ตังพรรณามาฉะน อิมินา กฅปุฌ.เฌน ค้วยอำนาจกุศลปุพพเปตพลทักขิณาบุปทานกิจ ทคณะลงฆคณะติษย่วัคจันทนํกะพ้อ และกัปปุริลซนคนวัคยู้มืจิตศรัทธา มั่นคงอยู่ในกตัญญกตเวทิตาธรรม ซงมืพระเคซพระคุณพระพรหมมน ยูรักษาการแทนเจ้าอาวาลเป็นค้นเป็นประธาน ไค้มืกุศลฉันท่พร้อมใจกัน บาพี่ญให้เป็นไปเนองในการบำเพี่ญกุศลพระราชทานเพลิงศพ พระธรรม เมธาภรณ (ลนิท ลุภาจาโร) อคตเจ้าอาวาลวัคจันทน่กะพ้อ และเจ้าคณะ จังหวัคปทุมธาน(ธรรมบุต) ในครังน ขอจงเป็นธรรมพลิมืวิบากอันเป็นลุฃ และอำนวยอิฏฐมนญญผลอันเป็นทิพย่เบี่คเลรี่จ ล่าเร็่จแค'ท่านเจ้าคุณพระ ธรรมเมธาภรณ ในกัมปรายภพ โคยลมควรแก่อทิลลนเจตนาปรารภทุก ประการ รับประทานแลคงพระธรรมเทศนาในอาตัปปกถา ลมควรแก'เวลา ขอบุติลงคงไว้แต่เพิยงเท่าน็้. เอวํ ก็่มืค้วยประการฉะน ฯ www.kalyanamitra.org
กฅิญญกถา เรื่อง นู^ดัญผู กคญณุมฺหิ จ โปส์มฺหิ ส์ลวนฺเต อริยวุตฺติเน สุเขฅฺเฅ วิย พชานิ กตํ ตมหิ น นร!ฟ้ตติ ฯ y.n. kDcif/s>ene^/ko(!^&. XXX บคนิ้ จักรับพระราชทานแฟ้คงพระธรรมเทfSนาในกฅัญฌูกถา ฉลอง พระเคซพระคุณประคับพระปิญญาบารม ในการบำเพ็่ญคุศลทักษิณานุประทาน กิจอทิศถวายฟ้มเคี่'รพระคังฆราชเจัา กรมหลวงวชิรญาณวงคี่ ในวาระครบ ๕0 fiแต่จันสินพระชนม ซึ๋งคณะสงฆจัคบวรนิเวศวิหาร คณะสิษยานุสิษย และท่านทเการพทับถอในสมเคี่จพระสิงมราชเจ้าพระองคี่นั้นไคัจัคฃนเพอ เชิคชูพระเกิยรติให้ปรากฏแผใพศาล เป็นการแสคงความกคัญฌูกฅเวทัใน พระองคี่ท่านในคราวเคี่ยวทันนั้ค้วย การนความทราบถึงฝ่าละอองธุลพระบาท พระธทมกิคฅิวงต่ (ทองค ป.ธ.๙) วัครารโอรฟ้าราม นฟ้คงในการป้าเพ็่ญกุฟ้อทัทรณานุ ประทาน ในวาระกรบ ๕๐ lI วันสินพระซนม่ฟ้มเฅึ๋ๆพรรุสื'งมราขเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงต่ ณ พระอุโบถวัคบวรนิเวฟ้วิหาร ก^งเทพมหานกร วันท ๑๐ พฤฟ้กิกายน พ.ฟ้. 103๕๕๑ เวลา ๑๕.๐๐ น. www.kalyanamitra.org
ธรรมฟ้ารเทศนา... พTะธTT14fiฅ?iวงf^ พร2บาทสมเค็่จพระเจ้าอยู'หัว ผู้ทรงพระกุณอันประเสริฐ จึงทรงพระกรุณา โปรครับการบำเพ็่ญกุสลทักษิณานุประทานไวในพระบรมราซูปถัมภ อกทั้ง ทรงพระกรุณาโปรคฯให้ สมเค็่'จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้า'รุฬ'าภรณวลัยลักษณ อัครราชกุมาร เสค็่'จพระราชคำ เนินแทนพระองคค้วย ทั้งน็้กี่ค้วยทรงพระ อนุสรณถึงสมเค็่'จพระลังฆราชเจ้าพระองคํนั้นในฐานะทรงเป็นพระราช อุปิธยา'จารย และมพระกรณยกิ'จทั้คำกัญเกยวช้องลับพระราชวง^มากมาย นับทั้งแค่การพระราชพิธบรมราชาภิเษก การทรงผนวช การถวายพระนาม พระราชโอรสพระราชธิคา เป็นค้น นับเป็นพระมหากรุณาธิกุณล้นพ้นแก' คณะสงฆวัคบวรนิเวศวิหาร คณะภิษยานุภิษย และท่านทั้เคารพนับถือใน สมเคื่'จพระลังฆราชเจ้าพระองกันั้นอย่างหาทสุคมิไค้ สมเค็่'จพระลังฆราชเจ้า กรมหลวงวซิรญาณวงกั มพระนามเคิมว่า \"หม่อมราชวงส์ชึ๋น นภวงส์\" ทรงเป็นพระโอรสในหม่อมเจ้าถนอมและ หม่อมเอม นกวงค่ ประสูติเมํ่อวันท ๒๒ พฤศจิกายน พุทธกักราช ๒<1๑๕ ทรงบรรพชาเป็นสามเณรทั้งแค่พระชนมายุ ๑๓ พรรษา ณ วัค บวรนิเวศวิหาร เมอป็พุทธกักราช ๒<1๒๘ ทรงถืกษาพระปริยัติธรรมไค้ เป็นเปรยญ ๕ ประโยคทั้งแค่เป็นสามเณร ในป็พุทธกักราช ๒<1๓๕ ไค้ ทรงอุปสมบท ณ วัคบวรนิเวศวิหาร โคยมพระพรหมบุน (แฟง กิฅฺติสาโร) วัคมกุฎกษัฅริยาราม เป็นพระอุปิชฌาย่ และสมเค็่'จพระมหาสมณเจ้า กรม พระยาวชิรญาณวโรรส ครั้งคำรงพระยศเป็นพระเจ้าน้องยาเธอกรมหมนวซิร ญาณวโรรส ทรงเป็นพระกรรมวา'จา'จารย่ ไค้พระนามฉายาว่า \"สุจิตุโต'' เมอทรงอุปสมบทแล้วไค้ทรงสอบพระปริยัติธรรมค่อ'จนไค้เป็นเปรยญ ๗ ประโยค ไค้ทรงรับภารกิ'จค้านการสอนภิกษุสามเณรในวัคบวรนิเวศวิหาร ทรงเป็นกำลังคำกัญของสมเคื่'จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวซิรญาณวโรรส ในการบริหารงานคณะสงฆซงเป็นยุคทั้กำลังปรับปรุงเปลยนแปลงครั้งคำกัญ ทั้งในค้านการถืกษาและค้านการปกครองคณะสงฆ ทรงรับสนองงานและ www.kalyanamitra.org
ฑฅัญญฑถา เ7ธง ยู้กฅัญญ แบ่งเบาพรร:ภาระของdมเค็่จพรร;มหาสมณเจ้าฯ พรร!องกนั้นอย่างส์ากัญยั๋ง ในสมัยนั้น สมเค็่จพรร:ร'งฆราชเจ้า กรมหลวงวซิรญาณวง ไค้ทรงบำเพ็่ญ พรร:กรณยร:เกยวแก่พรร:ศาสนา กณร:สงฆ แลร:ประ:ซาซนเป็นอันมากตั้งแต่ ศรั้งยังทรงเป็นเปรยญ เป็นค้นว่า ในค้านการสืกษากณร:สงฆ สมัยทสมเค็่ฯ พรร:มหาสมณเจ้า กรมพรร:ยาวซิรญาณวโรรส ทรงปรับปรุงการสืกษากณร: สงฆ!ห้เ'จริญก้าวหใรัา โคยจัคตั้งมหามกุฎราซวิทยาลัยซนเป็นสถานสืกษา ส์าหรับพรร:สงฆธรรมยุคแลร:ปรร:ซาซนทั่วไป สมเคื่จพรร:ลังฆราซเจ้าฯกื่ไค้ ทรงเป็นกำลังส์าฅัญกือทรงเป็นกรูรุ่นแรกในโรงเรยนวัคบวรนิเวศซงเป็น โรงเรยนสาฃาท ๑ ของมหามกุฎราซวิทยาลัย ต่อมาไค้ทรงรับเป็นกรรมการ ทรงเป็นอุปนายกกรรมการ แลร:สุคท้ายทรงเป็นนายกกรรมการคลอคพรร:ซนมั เป็นเหตุให้มหามกุฎราซวิทยาลัยเจริญก้าวหน้ามาค้วยค นอกจากนั้นยังทรง ไค้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้อำนวยการการสืกษามณฑลจันทบุริแลร:ไค้ออกไปครวจ จัคการกณ:: การพรร:ศาสนา แลร:การค้กษาในมณฑลนั้นค้วยพรร:องกเอง แลร:ต่อมาเมอมการปรร!กาศใซ้พรร:ราซบัญญัติลักษณร:ปกกรองสงฆ ร.ศ.๑๒๑ กี่ทรงไค้รับแต่งตั้งให้คำรงตำแหน่งเจ้ากณร:มณฑลจันทบุริเป็นพรร:องกํแรก ในค้านการปกกรองกณร:สงฆนั้นกี่ทรงรับการร:แลร:หน้าทส์ากัญๆมา คลอคพรร:ซนมายุ เรํ่มแต่ทรงเป็นเจ้ากณร:มณฑลจันทบุริ ทรงเป็นเจ้ากณร: มณฑลอยุธยา ทรงบัญซาการกณร:สงฆแลร:ทรงปฏิบัติหน้าเจ้ากณร:ใหญ่ ธรรมยุค จนในทสุคทรงไค้รับสถาปนาเป็นสมเค็่จพรร:ลังฆราซ สกลมหาลังฆ ปริณายก แลร:ทรงไค้รับสถาปนาฃ็้นทรงกรมเป็นสมเค็่จพรร:ลังฆราซเจ้า กรมหลวงวซิรญาณวงกี่ ในค้านการปกกรองกณร:สงฆนั้กี่ทรงปกครองโคย ธรรม ทรงวางข้อกำหนคกฎเกณฑ!ว้ส์าหรับปฏิบัติ แลร:ทรงปฏิบัติพรร:องกี่ เป็นแบบอย่างทคงามเพอให้พรร:สงฆทั่วลังฆมณฑลไค้ครร:หนักลังวรประ:พฤติ เออเทื้เอในพรร:ธรรมวินัยอย่างเกร่งกรัค www.kalyanamitra.org
1©: ธรรมสารเทศนา... พระ!ธรรมกิตติวงส์ ส่วนการทรงปฏิบัติพรร!กรณยะพิเศษในพระ:บาทสมเคึ๋จเจ้าอยู่หัว รัชกาลบั'จ'รุบันและ:พระ!ราชวงf^นั้นก็่มเป็นอันมาก เป็นต้นว่าถวายศาสโน วาทและ:เบญจติลแค่พระ:บาทสมเดี่'จพระ:เจ้าอยู่หัวในกราวทรงแสคงพระ:องก เป็นพุทธมามกะ: ณ พระ:อุโบสถวัคพระ:ศรรัฅนศาสคาราม ในป็พุทธหักราช ๒<1๘๙ ทรงเป็นประ:ธานสงฆ!นพระ:ราชพิธบรมราชาภิเษก ในป็พุทธหักราช ๒<1๙๓ และ:ทรงเป็นพระ:ราชอุปีธยา'จารย ในป็พุทธหักราช ๒<£๙๙ สมเคื่'จพระ:หังฆราชเจ้าฯ พระ:องกนั้นร้นพระ:ชนมเมอวันท ๑๑ พฤศจิกายน พุทธหักราช ๒๕0๑ มพระ:ชนมายุไต้ ๘๕ พรรษา ๑๑ เคึอน ๑๙ วัน ทรงคำรงตำแหน่งสมเค็่'จพระ:หังฆราช ๑๓ ป็ ๙ เคอน ๑๑ วัน นับแค่ป็ร้นพระ:ชนมมาถึงปี'จรุบันน็้กรบ ๕0 ป็พอค แค่แม้จะ: ร้นพระ:ชนมใปนานแล้ว หากพระ:คุณสมบัติและ:พระ:คุณูปการอเนกอนันฅ ชองพระ:องกบังคำรงมั่นกงอยู่เหมือนผ่านไปแล้วไม่นาน เพราะ:บังมืประ:จักษ พยานทั้งบุกกลและ:ระ:เบยบแบบแผนคลอคถึงอาการสถานทค่างๆปรากฏเป็น หลักฐานส่ากัญอยู่ แค่ทั้พระ:คุณูปการอเนกอนันฅของสมเค็่จพระ:ลังฆราชเจ้าพระ:องกนัน ปรากฏซัคเจนและ:แพร่ขยายปรากฏประ:จักษมาคราบเท่าทุกวันนั้!ต้นั้นกี่เพราะ: อาหัยกวามกหัญฌูกคเวทชองคณะ:สงฆวัคบวรนิเวศวิหาร กณะ:ติษยาบุติษย และ:ท่านทั้เการพนับถึอในพระ:องกเป็นส่าหัญส่วนหนง หากชาคกหัญฌู กฅเวทิคาธรรมช้อนกันแล้วไชร้ พระ:คุณสมบัติค่างๆชองพระ:องกกี่จะ:ปรากฏ เฉพาะ:ขณะ:ทบังทรงพระ:ชนม่อยู่และ:หลังจากทั้ร้นพระ:ชนม่แล้วไม่นานเท่านั้น จะ:มิอาจคำรงมั่นกงอยู่โต้นานและ:ปรากฏซัคเหมือนเกิคมือยู่ในยุกปีจรุบันนั้!ต้เลย การทบุคคลผูใดผู้หนงเมั่อได้บำเพ็่ญความดได้ปรร:กอบกรณย์อนเป็น ปรร:โยชน์เป็นคุณูปการแก่ปรร:เทศชาติบ้านเมือง แก่พรร:ศาสนา แก่ลังคม หรอแม้แก่ครอบครัวดรร:กูลวงส์โว้เป็นอนมาก อยู่ในกาวร;ทั้เรัยกได้ว่าเป็น www.kalyanamitra.org
Qdm กตญญกถา ifอง ยู้กต้ญญ บุพการซนแล้ว จร;ไค้njผกคึอการยกย่องเชิดชู การเคารพนบกอ หรือ การรำลึกกงเฟ้นปฏิการร;ตอบแทนจากผูโค้ทเปรร;โยซนทุกผู้ทุกบุคคลไปก็่ หาไม่ มบุพการืซนไม่น้อยทั้งทเฟ้นบิดามารดา เฟ้นครูอาจารย่ เฟ้นผู้นา ล้งคมปรร;เทศซาติ ทได้ทำคุณปรร;โยซนไว้เฟ้นอันมากแก่ลูกหลาน แก่ เหล่าติษย่ แก่อังคม หรือแก่ซาติบ้านเมือง แดไมไค้รบผลตอบแทนเช่น นั้น กลบถูกลูกหลานหรืออังคมผู้เคยได้รบผลปรร;โยซน้มาลบหลู่หรือ ลร;เลยทอดทั้งไม่แยแส ทำ ให้ลึมเลึอนกนไปไม่เอ่ยกง ป้ามาซงความ หดห่สลดใจแก่ผรัเห็่น ส์าหรับสมเค็่จพรร;อังฆราชเจ้าพรร;องก่นั้นหาไค้เป็น ฃ่_ ฃ'น เช่นนั้นไม่ หากแด่ทรงไดรับยกย่องเชิคชูพรร;เกยรติคุณให้แผไพศาลเป็นท ปรร;จักษ ให้อนุชนไค้ดรร;หนักคำนงแลร;ซาบซงในพรร;คุณูปการด่างๆ ฃ้อนั้ เป็นเพราร;กพร;สงฆวัคบวรนิเวศวิหารเป็นค้นดำรงไพกวามกฅัญณูกดเวทํ ในสมเด็่จพรร;อังฆราชเจ้าพรร;องกนั้นอย่างหนักแน่นมั่นกง จึงเป็นเหตุให้ พรร;คุณูปการด่างๆชองพรร;องกยังดำรงอยู่ ไม่ถูกลร;เลยลืมเลือน แลร;ถูก ลืบสานกันด่อมามิไค้สูญหายละลายไปพร้อมกับกาลเวลา ฃ้อนั้กี่สมค้วย ประพันธกาถาทสมเค็่จพระอัมมาอัมพุทธเจ้าดรัสไวิในนิโกรธชาดก แห่ง ฃุททกนิกายชาดก ทไค้ยกมาเป็นนิกเชปบทเทศนาว่า กตญฌุมฺหิ จ โปสมหิ เป็นอาทิ ชงแปลไค้!จกวามว่า \"ความดทั้บุคคลทำไว้!นบุคคลผู้กอัญฌู ผู้มืลึล มืความปรร;พฤติ ปรร;เสริฐ ย่อมไม่สูญหายไป เหมือนพืซทบุคคลหว่านไว้!นนาดฉร;นั้น\" คังนั้ ฯ ดามพระบาลืชาดกนั้ สมเค็่จพระจอมบุนพุทธเจ้าทรงเปรยบกวามคท บุกกลทำไว้ว่าเหมือนกับพืชลือพันธุข้าวทหว่านและปีกดำไว้ในนาคว่าย่อมไม่ สูญหาย แด่จะมืผลงอกงาม ให้ประโยชนแก่เกษดรกรรูปิกดำ กล่าวลือ เกษฅรกรผ้ฉลาดในการกสิกรรมนอกจากจะกัดเลือกพันธข้าวทดเดรืยมไว้ www.kalyanamitra.org
ธรรมสา!■เทศนา... พระธรรมกิคฅิวงเ^ ล่วงหน้าแล้วยังเลือกหานาคไว้เพาะ:ปลูกด้วย อันว่านาทอยู่ในเกณฑเป็น นาคนั้นคือนาทมกุณสมยัฅิ ๓ ประ:การ คือ เป็นนาท มป้ยคื สมบูรณด้วย แร่ธาตุสารอินทรยัทเป็นประ:โยชน้แก'ข้าวกล้า (ร) เป็นนาท มคินด สมmru ด้วยเนั้อคินล้วน ไม่มกรวคทรายปะ:ปนอยู่มากเกินไป ๑ เป็นนาท มนาด เป็นทล่มชุ่มด้วยนั้าทขังอยู่เสมอไม่แห้งฃอค ๑ เมอหว่านพันธุข้าวและ:ปีกคำ ข้าวกล้าลงไปในนาคืเซ่นนั้น ข้าวกล้าย่อมงอกงามเติบโคไปคามลำคับ ไม่ เหยวเฉาหรือแกระ:แกรื่นในระ:หว่าง สุคห้ายก็่ออกรวงสมบูรณเฅ็่มท นำ มา ชงกวามป็ติยินคืแก่เกษฅรกรเจ้าของนา แม้หลังจากเก็่บเกยวแล้ว หาก เกษตรกรยู้นั้นมกวามลำนึกในบุญคุณของนาแล้วขยันหมั่นปรับปรุงบำรุงนา ของคนให้กงสภาพเป็นนาคือยู่เสมอ นาคืนั้นก็่จะ:อำนวยประ:โยซนํทด้อง ประ;สงกอย่างคุ้มก่าได้คลอคไป ข้ออุปมานั้ฉันไค กวามคืทบุกกลทำไว้!นกน ผูกคัญฌู ยู้มคืล มกวามประ:พฤติประ:เสริฐ กี่มอุปไมยฉันนั้นแล อันกวามคืทบุกกลทำแล้วจ^ไม'สูญหายไปเหมือนพืซทหว่านลงในนาคืนั้น ได้แก่การบำเพื่ญประ:โยชนํแก่ยู้อนทเรืยกว่าปรหิฅลัมปทาหรือปรหิฅประ:โยชน กล่าวคือกวามคืทเกิคจากการให้การเลืยสละ: การบำเพ็่ญประ:โยชน้ซ่วยเหลือผู้ อนด้วยนั้าใจอันประ:เสริฐ อันทำให้เขาพ้นจากกวามทุกซ่เคือคร้อนบ้าง ทำ ให้ เขาไคืรับกวามสุขกวามสะ:ควกสบายบ้าง คังเซ่นกวามคืทบิคา■มารคาทำให้แก่ บุครธิคาเป็นด้น กวามคืเซ่นนั้หากได้ทำแก'กนคื กวามคืนั้นย่อมไม'สูญหาย ไม่ถูกลืมเลือนหรือถูกละ:เลยเลืย แค่จะ:อยู่ในห้วงคำนึงในฐานะ:เป็นอบุสรณยะ: เนึองๆของกนคืทไคืรับประ:โยชน้นั้น กนคืทในพระ:บาลืชาคกนั้เปรืยบไว้เหมือนกับนาคืนั้นได้แก่บุกกลผู้ สมบูรณด้วยคุณสมบัติ ๓ ประ:การคือ เป็นคนกคัญญ (ร) เป็นคนมืคืล ๑ เป็นคนประ!พฤติประแส?ฐ ๑ www.kalyanamitra.org
กคัญฌูกถา เรอง ยู้กตัญญ กนกฅัญฌูกี่กือกนทมฅวามรู้รกส์านกในกวามดในบุญคุณของบุกกลแลร; ศถานทร่งฃองทมคุณูปการกือมอุปการร:เกั้อกูลอำนวยประ:โยชนแลร:กวามสุฃ แก่ฅน เช่น อา?โยบิดามารคาให้กำเนิดแล้วถนอมเลยงคูมาจนเติบใหญ่แลร: อบรมปมเพาร:นิล้ยจนเป็นกนเฅ็่มกนเป็นค้น ก็่ส์านึกในบุญคุณของบิดา มารดานั้น อา?โยกรูอาจารย!ดแนร:นำร่'งสอนวิขากวาม^ห้จนสามารถใช้เป็น เกรองมือหาเล็้ยงซพไค้ กื่ส์านึกในบุญคุณของกรูอาจารยนั้น อา?โยแผ่นติน ใดเกิด อา?โยแผ่นตินใดพักพิง อา?โยแผ่นใดทำมาหาเลยงซพ ก็่ส์านึกในบุญ คุณของแผ่นตินนั้น อา?โยสถานทใดหน่วยงานใดปรร:กอบอาชพ มืรายไค้ เลยงฅัวเลยงกรอบกรัว ก็่รานึกในบุญคุณของสถานทนั้นหน่วยงานนั้น โดยทสุดอา?โยร่งแวดล้อม เช่น แม่นั้าลำกลองแลร:ป่าไม้สายธารใดอุปโภก บริโกกบ้าง ล้ญจรไปมาบ้าง พักผ่อนไค้ร่มเงาบ้าง ก็่ส์านึกในบุญคุณของ แม่นั้าลำกลองแลร:ป่าไม้สายธารนั้น กวามรู้รกรานึกแลร:ดรร:หนักในอุปการ คุณของบุกกลแลร:สถานทร่งของเช่นนั้เรยกว่ากวามกฅัญณู กวามกฅัญฌูนั้ เป็นคุณสมบัติของกนคแลร:เป็นนิมิฅเกรํ่องหมายให้รู้ว่าเป็นกนคปรร:การหนง ดังธรรมภาษิฅทแสดงไว้ว่า นิมิตต สาธุรูปานํ กฅฌฌกตเวทิตา แปลว่า ความกตญฌูกตเวทิเป็นเครองหมายของฅนด ดังนั้ คุณสมบัติของกนคปรร:การทสองทว่า \"เป็นคนมืติล\" นั้นกือเป็นยู้มื ปกติปรร:พฤติเว้นจากบาปอกุกลทางกายแลร:วาจาทเรัยกว่ากายทุจริคแลร:วจ ทุจริต มืกวามรังเกิยจกวามชั่วเรยหาย เช่นรังเกิยจการฆ่ากันเบยดเบยน กัน รังเกิยจการลักขโมย การฉ้อโกง รังเกิยจกวามมักมากในกามารมณ รังเกิยจการพูดปดมดเท็่จพูดหยาบกายโดยไม่ลร:อายใจ เป็นค้น บุกกลยู้มื ปกติวิลัยเช่นนั้เริยกว่าเป็นกนมืรล ราหรับคุณสมบัติของกนคปรร:การทสามทว่า \"เป็นคนปรร;พฤติ ปรรแสริฐ\" นั้นกือเป็นผู้ปรร:พฤติคดามแบบอย่างอารยขน ปรร:พฤติร่งท www.kalyanamitra.org
ligJlBy ธรรมสาททศนา... พระธรรมกิฅฅิวงส์ อารยซนทั้งหลายปฏิบัติกัน ในทน็้หมายถึงกนทมนํ้าใ'จงคงาม มเมฅฅา กรุณา มนํ้าใ'ๆเออเทั้อเผอแผ่ ชอบให้ ซอบเถึยลละ ซอบช่วยเหลือเกอกล ซอบบำเพ็่ญประโยซน ไมนงคูคายเมอเหี่นยู้อนลำบากเสือคร้อน กนทม ลักษณะนิกัยและมนาใ'จงคงามเช่นนจัคว่าเป็นกนประพฤติประเลริฐ บุกกลผู้มกวามกฅัญฌู มสืล และประพฤติประเลริฐนั้น หากยูใคไค้ หว่านพืซสือกวามสืลงไป กวามสืนั้นย่อมไม่ลูญหายไปถูกลืม ผู้ทำ กวามสื ย่อมไครับปฏิการะคอบแทนแม่นอน เช่น กวามคทบิคามารคาทำไว้แก'บุฅร ธิคา บุฅรธิคาผู้เป็นกนคมกวามกกัญฌูกื่'จะทำอุปการะคอบแทน เป็นค้นว่า เลยงคูยามบิคามารคาซราภาพ ปรนนิบัติคูแลยามเจี่บป่วย เป็นค้น ทั้งนั้ เพราะผู้มริคลำปึกในบุญคุณของผู้ทเกยอุปการะคนมา ทั้งยังเป็นผู้มสืล และมจิคเออเทั้อเผอแผ่ ซอบให้ซอบเลืยลละเป็นทุนเติมอยู่แล้ว ย่อม'จะไม่ลืม เลือนละเลยหรือทำให้กวามสืซองผู้มอปการะลูญหายไปเหมอนนาคย่อมไม่ ทำ ให้ข้าวกล้าทบักคำลงไม่เลืยหายฉะบัน ฅรงกันข้าม กวามคทบุกกลทำไว้!นกนไม่สื ย่อมจะลูญหายไม่งอกเงย ไม่มผลคอบแทนใคๆ เหมือนกังพืซทหว่านลงในกองไฟซงไม่อาจงอกงามไค้ มืแฅ่จะมอคไหม้หมคสินไ!/!นพริบคา ลมกังพระพุทธประพันธกาถาทปรากฏ ในพระบาลืนิโกรธซาคกนั้นเองว่า ยถาปี วซํ อคคิสฺมื ฑยฺหติ น วิรูหติ เอวํ กตํ อสป.ปุริเส นสฺสติ น วิรูหติ ฯ กวามว่า ความดทั้บุคคลทำในอลัตบุรุษคือคนไม่ดย่อมสูญหายไม่ งอกเงยได้ เหมือนพืซทั้บุคคลหว่านไปในกองไฟ ย่อมมอดไหมืโม่งอกขั้น ได้ฉะนั้น ฯ พระบาลืซาคกทั้งลองบทนั้ซให้เห็่นว่า การทำความดนั้นจำเป็นด้อง เลือกเพันเน้นพิจารณา หากประสงคืทำความคืเพึ๋อรักษาความคโดยเห็่น www.kalyanamitra.org
ฑฅัญญกทา 17ธง ^ฑฅัญญ ว่าเป็นกรณย์ทควรทำไม่ควรเพิกเฉยลร?เลยเสิยดังนั้!ซร้ แม้จร;มองไม่เห็่น ผลตอบแทนกี่เป็นสิงทควรทำควรปรร;พฤติ อย่างเซ่นพร^มหาซนกโพธิดัฅว่ แหวกว่ายสายธารอยู่กลางทร;เลลกแม้จร;มองไม่เหี่นทางรอค แฅ่ก็่เพิยร พยายามว่ายไปไม่หยุคหย่อนค้วยเห็่นว่ากวามเพิยรพยายามเป็นปุริสการิยร; คือเป็นหน้าทของลูกผู้ชาย เป็นกวามคืทไมพงลร;เลยเสิย ทั้งเมึ๋อทำแล้วก็่จร; ไม่ถูกคราหน้าว่าเป็นผู้ฃาคกวามเพิยร บุกกลผู้ทำกวามคืเพอกวามคืย่อมกิค เช่นนิ้จึงไม่ท้อแท้ผิคหวังเมอไม่ไคืรับผลผลตอบแทนใคๆ แค่หากปรร;สงก ทำ กวามคืเพอไท้เกิคผลทั้งแก่ฅนผู้ทำแลร;แก่ผูรับผลกี่พึงเลือกพิจารณาทำแก' กนทั้อยู่ไนช่ายเป็นกนคืจึงจะ:สมปรารถนา คือเมอทำแล้วกี่จร;ไม่ผิคหวัง คนเองกี่ไท้กวามปลาบปล็้มว่าไค้ทำกวามคืแล้ว ผูรับกี่ปลาบปลมว่าคนไท้ ปรร;โยซน้จากผู้นั้นผู้นิ้ ทำ ให้คระ:หนักลืานึกในบุญคุณแล้วหาทางคอบแทน เป็นเหตุใท้ผู้ทำกวามคืนั้นเกิคกวามรูลืกว่า \"ทำคไคด\" จริงๆ ครงกันข้าม หากทำกวามคืโคยไม่เลือกไม่พิจารณาไท้ถ่องแท้ ทั้งใจทำกวามคืแคใมใท้ พิจารณาไท้ถ้วนกรอบกอบ เกิคไปทำไท้แก่กนไม่คืคือกนอกฅัญฌู ไม่มคืล ม กวามประ;พฤติเลืยหายเข้ากี่จะ;กลายเป็นหว่านพึซลงไนกองไฟไป จะ:ไท้เขา กคัญฌูรู้ลืานึกไนกวามคืและ:กิคคอบแทนนั้นย่อมเป็นไปไท้ยาก คังมกำกล่าว ไว้ว่า ถงจร;ยกแผ่นตินน็้ทั้งหมคให้แก่คนอกดัญฌู กี่!ม่อาจทำให้เขายินด พอใจหรือทำนึกในบุญคุณได้ ผู้ทำ กวามคืชงแม้จะ:ทำท้วยไจรัก ทำ ท้วย กวามมนั้าไจเลืยสละ: แค่ยังหวังผลคอบแทนจากรูรับอยู่ไนไจลืกๆ เมอไมใท้ รับผลคอบสนองดังหวังทั้งไจกี่จะ:เกิคกวามรู้ลืกผิคหวังเลืยกำลังไจแลร:เถิก กวามท้อแทํไม่อยากทำค่อไป ท้วยรู้ลืกว่า \"ทำดไมใด้ด\" ชนมา หาก พิจารณาเรองนั้ไท้ถ่องแท้คามพรร;บาลืข้างท้นแล้วกี่จะ;ปรร;จักษลืงเหตุผลว่า เหตุไคทำคืจึงไคค และ:เหตุไคทำคืจึงไมไคคดังนั้ พระ:บาลืชาคกทั้งสองบทข้างท้นเมึ๋อมองอกบุมหนงย่อมจับปรร:เค็่นไท้ ว่า คนทั้มความกดัญฌู มคืล แลร;มความปรร;พฤติปรร;เสรฐทั้เรืยกว่าคนด www.kalyanamitra.org
lisaisa smithimflm... พรธรรนทฅทิางส์ เท่านั้นย่อมจร{มองเห็่นแลร{ยอมnjความดอนเฟ้นคุณูปการของบุคคลอึ๋นทึ๋ ไค้ทำไว้แลร{เฟ้นปรร{โยชนแก่ตน แลร{จร{ไม่ทำให้ความดนั้นสูญหายไปเปล่า จร{ไม่ปล่อยปลร{ลร{เลยหรือลืมเลือนไมคานงลง หากแต่จร{ยงรร{ลืกลงค้วย ความร่นชมยินด กรร{ลือรือรืนทจร{ปฏิการร{ตอบแทนเมึ๋อมโอกาส แลร{เกิด รืเติปลมเปรมทุกครั้งทไค้ตอบแทน วิค้ยกนคเฟ้นเซ่นนั้ เพราร;เหตุนั้นกวามด ต่างๆทบุพการซนทั้งหลายไค้ทุ่มเทสรรพกำลังสร้างสรรก!ว้ค้วยกวามเลืย สลร;เพํ่อประ:เทกซาฅิ เพอพรร:กาสนา เพอลังกม แลร;เพํ่อลูกหลานฅรร;กูล วงส์จึงยังดำรงกงอยู่แลร;เรืยนรู้เล่าซานกันไค้ดลอดมา เพราร;อาลัยกนคไค้ พยายามพยุงรักษาลืบสานเล่าซานกันไว้มิให้สูญหายไปค้วยปรร;การฉร;นั้ เพราร{ฉร{นั้น ผู้มปรืชาทั้งหลายเมึ๋อมจิตปรร{กอบค้วยเมตตากรุณา ม่นั้าใจใคร่จร{ป้าเพ็่ญคุณปรร{โยชน ปรารลนาทำร่งทม่คำควรแก'การเฟ้น อนุสรณยร{ลืบไป ก็่พงสนใจพิจารณาเลือกเฟ้นเน้นกิจทจร{พิงทำแลร{บุคคล หรือกลุ่มบคคลทจฟ้.ครับปรร{โยชนน้น เหมือนเกษตรกรน้ฉลาดเลือกเฟ้น พนธุข้าวทดแลร{เลือกเฟ้นนาทดเพึ๋อเพาร{ปลูกฉร{น้น ทงนเพึ๋อฟ้องกัน ความรู้ลืกว่าทำดไมใค้ลื แล้วเกิดความเลืยใจห้อแห้ผิดหว้งอนจร{พิงมืใน ภายหลัง แลร{เพึ๋อยึนยนหลักการใหญ่ทว่าทำลืไค้คจริง แล้วเกิดความรู้ลืก ^จ . พรร;คุณูปการอันเฟ้นกวามดทั้งปวงทั้สมเคี่จพรร;ลังฆราซเจ้า กรม หลวงวซิรญาณวงลัใค้ทรงทุ่มเทบำเพ็่ญให้เฟ้นไปแล้วนั้น ล้วนเฟ้นพิซพันธุท คแลร;ไค้ทรงหว่านไวคแล้วในนาทั้ดกอในวัคบวรนิเวกวิหาร ในกณร{สงฆ ใน กณร;กิษย่ผู้มกวามกฅัญณูมั่นคง มลืล มืกวามปรร{พฤติปรร;เสริฐ จึงมืผล เฟ้นกวามดสมบูรณ อำ นวยอัฅถร; หิดร; สุขร; แลร;กวามเจริญทึ๋ยั่งยืนมั่นกง แก่พรร;อาราม แก'กณร;สงฆ รวมถึงลังฆมณฑลไทยมาดราบเท่าทุกวันนั้ แลร;เฟ้นเหตุให้กณร;สงฆวัดบวรนิเวกวิหารเฟ้นค้นอนุสรณรำลืกถึงอยู่เสมอ www.kalyanamitra.org
กคัญญกถา 1รธง ยู้กตญญ จึงบำเพ็่ญกุศลอุทิศถวายเป็นนิพัทธกิจประจำฅลอคมา ด้วยกวามส์านกใน พระกุณูปการต่างๆ กามเซิงชั้นแห่งสิ'ฅบุรุษกนกผู้มปรซา กังรับพระราชทาน แศคงมา ด้วยประการฉะน ฯ อิมินา กตปุฌุเฌน ซออำนาจพระราชกุศลทักษิณาบุประทานกิจท ศมเคี่จบรมบพิฅรพระราชศมภารพระองกผู้ทรงพระกุณสินประเศริฐทรง บำ เพ็่ญให้เป็นไป พร้อมด้วยกณะศงฆวัคบวรนิเวศวิหารและกณะ กิษยาบุกิษย เพึ๋ออุทิศถวายแต่ศมเคี่จพระสิงฆราชเจ้า กรมหลวงวซิรญาณ วงคี่ จงเป็นผลสิมฤทธิ เป็นไปเพึ๋ออิฏฐมบุญผลทน่าปรารถนาพอใจ แค' สมเคี่จพระสิงฆราชเจ้าพระองคี่นั้นโคยฐานะนิยม ถวายพระธรรมเทศนาใน กกัญฌูกถา ยุคิลงด้วยเวลา เอวํ ก็่มด้วยประการฉะนั้. ชอถวายพระพร www.kalyanamitra.org
;^ ^ ลูกทั้งฟ่อเฒ่ คนแก่ทั้งทาน สมภารทั้งวด กษัตริยทั้งราษฎร์ นักปราชญทั้งตำรา ปอมมแต่ทายนร; พระธรรมกิฅฅิวงส์ www.kalyanamitra.org
สาธุกัมมกถา เรื่อ-) ความดี ฟิกรํ สาธุนา สาธุ สาธุ ปาเปน ทุกกรนฺติ ฯ ช.ปี. )SD๕/ร)}รod/ร)'k:>crf-s>\\y<!^. XXX บคน จักรบพระราซทานแฟ้คงพระธรรมเทศนาในสาธุกัมมกถา ฉลอง พระเคชพระกณประคับพระปิญญาบารม ในการททรงพระกรุณาโปรคฯให้ม การบำเพี่ญพระราชกุศลพระอัฐสมเค็่ฯพระเจ้าพนางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิจัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร สมเค็่จพระใสทรเชษฐภกินผู้ทรงเป็นทริก ยํ่ง ค้วยพระราชประสงกสิบสานพระราชประเพโนการพระศพพระราชวงคั1ห้ เป็นทกักไวสืบไปภายหน้า และสนองพระคุณให้ครบถ้วนสม!{รณคามหกักธรรม และโบราณราชประเพโน การพระราชพิธค่างๆ อันเกยวค้วยการพระราชทาน เพลิงพระศพสมเฬ็่พระเจ้าพนางเธอฯนั้นกิงสิาเร็่'ๆลงครบถ้วนเหมาะสม เป็น พTmrนกิฅคิวงส์ {ทองคิ ฟ้ทคโซ ป.ธ.๙) วัคราชโอร^าราม กรุงmพมหานกร แศกงในการ พรรราชพิธพระราชเพอิงพรรกพฟ้มเก็่จพระเจาพนางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวง นราธิวาสราชนกรินทร ณ พระทนั่งกุอิกมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง วันอังการท ร)๘ พฤกจิกายน พ.ก. ๒๕๕๑ เวลา ๑๒.00 น www.kalyanamitra.org
ธรรมสารเทศนา... พระ;ธรรมกิฅฅิวง^ ท4นซมประทับใจของซาวไทยผู้จงรักกักคในพรร!ราชวงเ^ทุกถ้วนหน้า แลร:เป็น ทฅนฅาฅํ่นใจซองซาวต่างซาฅิทไถ้มาพบเห็่นการพรร:ราซพิธทยํ่งใหญ่ส์ากัญ เซ่นน สมเค็่จพรร:เจ้าพนางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาส ราซนกรินทรนั้นเป็นทปรร:จักษกันแล้วว่าทรงธุทิสพรร:องกัเพอปวงซนซาวไทย ทรงปฏิบัติพรร:กรณยร:นานัปปรร:การซงล้วนเป็นไปเพอปรร:โยซนั้ เพอเก็้อกูล แลร:เพอกวามสุขแก'พสกนิกรซาวไทยถ้วนหน้า ทรงเป็นศริสง่าแห่งพรร: ราซวงต่ ทรงเป็นอัจฉริยนาริรัฅนพรร:องกหนั้ง ถ้วยทรงเซยวซาญชำนาญ ในศาสฅรหลายสาขาจนเป็นทปรร:จักษแลร:ยอมรับกันทั้งในปรร:เทศและ:ต่าง ปรร:เทศ ทรงใช้กวามอัจฉริยร:นั้นสร้างสรรกัคุณปรร:โยซน้แก่บ้านเมืองเป็น อเนกปริยาย ทรงแปงเบาพรร:ราขภาระ:ของพรร:บาทสมเค็่จพรร:เจ้าอยู่ทัว อย่างมิรู้จักเหนี่คเหนอยมาฅลอกพรร:ซนมายุ ถ้วยเหตุกังนั้สมเค็่จพรร:เจ้าพนาง เธอฯพรร:องกันั้นจึงสมกวรไค้รับพรร:เกยรติยศยํ่งใหญ่โกยอนุโลมกามโบราณ ราซปรร:เพณ พรร:ราซพิธิพรร:ราซทานเพลิงพรร:ศพจึงยํ่งใหญ่เหมาร:สม โคยมื งานถึง วันเฅ็่มนับแต่วันทั้ ๑d ถึงวันทั้ ร)๙ พฤศจิกายน พุทธกักราซ ๒๕๕(ร) แลร:ทรงไค้รับพรร:ราซทานพรร:อิสริยยศพรร:ศพอย่างสูงสุก เป็นถ้น ว่าทรงไค้รับโปรกเกล้าฯให้ปรร:กิษฐานพรร:ศพ ณ พรร:ทนั้งตุลิฅมหาปราสาท ในพรร:บรมมหาราซวัง เซ่นเกยวกับสมเคี่จพระ:ศรินกรินทราบรมราซซนน ทรงไค้รับพรร:ราซทานพรร:โกศทองใหญ่ ซงเป็นพรร:โกศทั้อยู่ในลำกับชันสูงสุก ใช้ลำหรับพระ:มหากษัฅริย่แลร:พรร:ราซวงกัซั้นสูงเห่านั้นเป็นเกรองประ:กอบ พรร:อิสริยยศพระ:ศพ แลร:ทรงไค้รับพรร:ราซทานเศวตฉัฅร ๗ ชั้นกางกัน พรร:โกศเป็นเกรองเฉลิมพรร:เกยรติยศปรากฏถึบไป พรร:เกยรติยศยั๋งใหญ่ททรงไค้รับพรร:ราซทานก็่ก กวามเการพนับถึอ กวามรักอาลัยถ้วยกวามจงรักกักก แลร:กวามพร้อมใจกันมืลํวนร่วมในการ www.kalyanamitra.org
สาธุก้มมกถา เรอง ความค พร5ราชพิธพรรราชทานเพรงพรifjพฃองพกนิกรชาวไทยทุกแห่งหนทั่ๆพ7ะ: ราชอาณาจัก่รก็่ค ล้วนเป็นเกรองบูชาร'กการ^แค่รมเค็่จพรรเจ้าพนางเธอๆ พระ;องกนั้น เพราะ;ทรงบำเพ็่ญพระ;คุณูปการอันเป็นประ;โยชนแก่บ้านเมืองก่อ เนองมิฃาคสฺายฅลอดเวลายาวนาน ชงล้วนบำเพ็่ญไค้ยากทั้งรน จึงทรงเป็น ผู้กวรแก่เกรืองรกการบูชาและ;พระ;เกยรติยศลูงคุคทั้ทTงไครับมาน ซงศมค้วย พระ;บาลในมหาอัศศาโรหชาดกว่า โย ปุพฺเพ กตกลุยาโณ อกา โลเก สุทุกกรํ ปจฉา โลุ กยิรา น วา กยิรา อจฺจนฺตํ ปูชนารโห ฯ ความว่า ได้ฟ้าความดไว้ก่อนแล้ว ชือว่าได้ฟ้าสิงทั้ฟ้าได้ยากไว้ แล้ว ต่อมาผูนนจร;ได้ฟ้าหรือไมได้ฟ้าอกก็่ตาม ก็่เป็นผู้ควรแก่การบูชาแลร; เครองบูชาโดยต่วนเคยว ดังน พระ;คุณูปการต่างๆทั้ทรงบำเพ็่ญให้เป็นไปแล้วเพํ่อประ;เทศชาติ พระ; ศาศนา และ;พระ;ราชวงก่ฅลอดพระ;ชนมืนั้นลามารถกล่าวไค้ว่าเป็นกวามคทั้ ทำ ไค้ยาก กือยากทํจะ;ทำกันไค้ เพราะ;ค้องอาดัยกวามเรยลละ; กวามอดทน อดกลั้น และ;กวามพากเพยรพยายามอย่างลูงยั๋ง มิเซ่นนั้นจะ;มิอาจบำเพ็่ญ ก่อเมืองยาวนานไค้ หากไม่เรยลละ; ไม่อดทนอดกลั้น ไม่เพยรพยามอย่าง ลูงแล้วไชร้ เมอพบกับอุปลรรกหรือกวามยากลำบากต่างๆเข้า กื่จะ;เหนอย หน่ายท้อแท้แล้วทอดทิงเรยกลางดัน เหมือนกนทั้ไม่ล้งานหรือกนไม่รูชวิค เพราะ;จิตอ่อนแอไม่เข้มแฃื่ง แก่ลมเคี่จพระ;เจ้าพนางเธอฯพระ;องก่นั้นทรงลลร; กวามลุชล่วนพระ;องก่เพอกนอน เพึ๋องาน เพํ่อพระ;ราชวงค้เป็นลำดัญอย่าง ไม่ทรงเหนอยหน่ายท้อแท้ ทั้ทรงบำเพ็่ญกวามคมืประ;การต่างๆดังทึ๋ปรร;จ้กบ กันถุ้วนุหน้าไค้นั้นก็่เพราะ;พระ;องก่ทรงเป็นกนคนารืรัฅน่ อันกนคนั้นย่อมทำ แก่รุ่งทฺคและ;ทำคไค้ง่าย ไม่คิดกังวลอะ;ไรมาก ไม่มืเงอนไชอะ;ไรมาก เมอเห็่น ว่าร่งนั้เป็นกวามคิก็่ทำ เมอเห็่นว่าสิงนั้ทำแล้วจะ;เป็นประ;โยชน่แก'ตนแลร;ผู้ www.kalyanamitra.org
M ร! ธรรมฟ้ารเทศนา.., พระธรรมกิคฅิวง!'! อนก็่ทำ ผิคกับกนชั่วนั้นย่อมทำกวามคฅ่างๆไค้ยาก 'จร!ทำรงทคๆกักอย่าง เพอกนอนแลร:เพอกังกมปรร!เทกชาติก็่กิคมาก มเงือนไขมาก เลยทำไมไค้ หรอไมไค้ทำ สมฅามพรร!บาลพุทธพ'จนในอานันทสูฅร ฃุททกนิกาย ทํไค้ อัญเชิญมาเป็นบทเทศนาเบองค้นว่า สุกรํ สาธุนา สาธุ สาธุ ปาเปน ทุกกร0ิ กวามว่Iา \"ความด คนคทำได้ง่าย ความค คนชั่วทำได้ยาก\" คังนั้ กำ ว่ากวามกในพรร!บาลนทรงใซ้กัพทํว่า\"สาธุ\" เรยกเฅี่มกำว่า \"สาธุ กรรม\" กรรมทจัคว่าเป็นสาธุในพรร!บาลนั้กืออย่างไร เมอกล่าวโกยสามัญ สาธุกรรมกี่กือการกรร!ทำใคๆททำไปแล้วเป็นเหตุให้ผู้รูเ.หึ่นเ.กิกกว่านนิกน ซมชืน เกิคกวามปรร!ทับใ'จแล้วยกมอฃ็้นเหนือหัว่พร้อมเปล่งว่า'จาสาธุการ'ว่า สาธุๆ อย่างททำกันอยู่โกยทั่ว่ไปในหมู่กนไทย เซ่นเนือเหี่นพรร!บาทสมเค็่'จ พรร!เ'จ้าอยู่หัว สมเค็่'จพรร!บรมราชินืนาถ แลร!พรร!ราชวงกํซันสูงทุกพรร!องก ทรงบำเพี่ญพรร!ราชกรณยกิจหรอพรร!กรณยกิ'จทเป็นปรร!โยซฺนืแก่พสกนิกร' M Aoj แแ U V| M , <r «'.v_ T ..J^4 .1...®. แก่เมํ่อกล่าวในรายลร!เอยคแล้ว การกรร!ทำทจ้ดเป็นสาธุกรรมนนคึอการ กรร!ทำทดงาม ไม่มโทษ ก่อแต่ปรร!โยชนฺให้แก่ตนเองแสร!คนอืน โดย เฉพาร!การกรร!ทำทเป็นไปเพํ่อความสุข เ'พอความเจริญ แลร!เพือกันติแก่ ผูอน อนนั้นจ้ดเป็นสาธุกรรมความคแห้ อนั้ง กวามคทเป็นสาธุกรรมมันอาจแปงเป็นล่วนย่อยไค้ ๓ รร!คับ กึอ ความดรร!ด้บด้น ความดรร!ด้บกลาง แลร! ความด้รร!ด้บสูง ความดรร!ด้บด้น นั้นกือกวามกชั้นพ็้นฐาน เป็นกวามกสามัญททำกัน ไค้ใคยทั่วไป ทำ โกยปรารภตนกิอเพอปรร!โยซนืเกอกูลแก่ฅนเป็นหกัก เซ่น กวามฃยันหมั่นในการกิกษาหากวามรู้ ในการปรร!กอบอาซพ กวามอกทนใน www.kalyanamitra.org
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222