Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผน 1/64 ม.ต้น (ทักษะการพัฒนาอาชีพ)

แผน 1/64 ม.ต้น (ทักษะการพัฒนาอาชีพ)

Published by Niya J., 2021-09-02 08:28:21

Description: แผนการจัดกระบวนการเรียนรู้ ภาคเรียนที่ 1/2564 ระดับ ม.ต้น รายวิชาทักษะการพัฒนาอาชีพ (อช21002)

Search

Read the Text Version

77 2.2 ครมู อบหมายให้นกั ศกึ ษาเรียนรู้แบบ (ON-Air) ในเรื่อง ทักษะในการพฒั นาอาชพี https://www.youtube.com/watch?v=OZimMETCi3E&list=PLPBTQSTtkB- TVFiyeSdqRYxbP3Ca7SbLWและให้นักศึกษาสรปุ ลงในแบบบันทึกการเรยี นรู้ กศน. นาสง่ ผ่านทาง Google Classroom หรอื แอปพลิเคชัน LINE 2.3 ครมู อบหมายใหน้ กั ศกึ ษาเลอื กโครงงานท่นี ักศกึ ษาสนใจ จานวน 1 เรอื่ ง ให้ไปศึกษาค้นควา้ จาก หนังสือเรียนออนไลน์ (ลงิ ค์ http://online.pubhtml5.com/wpgv/cygm ) และจากการศกึ ษาในรูปแบบ (ON- Air) ทงั้ ในเว็บไซต์ www.etvthai.tv และ ทีวีดิจติ อลช่อง 52 (กศน.) หรอื จากแหล่งการเรียนรู้ต่างๆ และให้ นกั ศึกษาจดั ทาสรปุ ความร้เู ป็นแผนผังความคิด ลงในแบบบนั ทึกการเรียนรู้ กศน. ในหัวข้อ ดงั น้ี -ประเภทสินค้า -ค่าใชจ้ า่ ยต่าง ๆ -ผลกาไร -คแู่ ข่งขนั -ส่วนครองตลาด -สมรรถนะของธรุ กิจ และส่งงานผา่ นทาง Google Classroom หรอื แอปพลิเคชัน LINE 2.4 ครูสอนและสอดแทรกคุณธรรม 11 ประการ ในเรอ่ื ง ความสะอาด ความสภุ าพ ความกตญั ญูกตเวที ความขยนั ความประหยัด ความซ่ือสัตย์ ความมีนา้ ใจ ความมวี ินัย ศาสน์ กษัตริย์ รกั ความเป็นไทย และยึดมน่ั ใน วิถีชีวิตและการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษัตรยิ ์ทรงเปน็ ประมุข ผ่านทาง LINE กลุ่ม การปฏิบัติและนาไปประยุกต์ (I : Implementation) 3. ขน้ั การปฏบิ ตั แิ ละนาไปประยุกต์ใช้ (เวลา 1 ชวั่ โมง) 3.1 ครสู มุ่ ตวั แทนกลมุ่ นาเสนอ เพ่ือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึง่ กนั และกัน สรปุ สงิ่ ท่ีไดเ้ รียนรรู้ ว่ มกันและ ให้นกั ศึกษาบันทึกความรู้ที่ได้ ลงในแบบบันทึกการเรยี นรู้ กศน. 3.2 นักศึกษานาความรู้ท่ีได้จากการเรียนรู้มาเป็นแนวทางในการแก้ปัญหาและการดาเนินชีวิตใน ประจาวนั ตอ่ ไป ขนั้ ประเมินผล (E : Evaluation) 4. ข้นั สรปุ ผลและประเมินผล ( เวลา 1 ชัว่ โมง ) 4.1. ครสู รุปผลการทากิจกรรมและตรวจสอบความถูกต้อง จากชิ้นงานท่ีได้มอบหมายไปและให้นักศึกษา สง่ กลบั มาทาง LINE กลุ่ม 4.2. ครูให้นักศึกษาทาแบบทดสอบย่อย ในรูปแบบปรนัย จานวน 20 ข้อ โดยใช้ Google Form พร้อม เฉลย ประเมินผล และใหน้ ักศึกษาบนั ทกึ คะแนนลงในแบบบนั ทึกการเรยี นรู้ กศน. 4.3. ครใู หน้ กั ศึกษาสรุปการทาความดีและคุณธรรมท่ีได้ปฏิบัติ พร้อมบันทึกลงในสมุดบันทึก ความดีเพื่อ การประเมนิ คุณธรรม

78 5. ข้ันมอบหมายงาน 5.1. ครูมอบหมายให้นักศึกษาไปอ่านทบทวนเน้ือหาเพ่ิมเติม เรื่อง การจัดการความเสี่ยงจาก หนงั สอื เรยี นออนไลน์ ลิงค์ http://online.pubhtml5.com และใหส้ รปุ ลงในแบบบนั ทกึ การเรยี นรู้ กศน. 5.2. ครูมอบหมายให้นักศึกษาไปศึกษาค้นคว้าและใบงานท่ี 1 เร่ืองการจัดการความเส่ียงและ แหล่งเรียนรู้ (โดยครูจะส่งใบงานทาง Google classroom) และให้นักศึกษาส่งงานทาง Google classroom หรือทาง LINE ตามวันเวลาที่ครนู ดั หมาย 5.3. ครูมอบหมายนักศึกษาให้ไปศึกษา เร่ือง วางแผนในการฝึกทักษะอาชีพโดยพัฒนาต่อยอด และประยุกต์ใช้ภูมิปัญญา จากหนังสือ เรียนออนไลน์ ลิงค์ http://online.pubhtml5.com เพ่ือเตรียมการ เรียนรูท้ างออนไลน์ ในสปั ดาห์ต่อไป 6. ข้ันติดตามผล ( เวลา 30 นาท)ี ครูสอบถามและติดตามงานที่ได้มอบหมายนักศึกษา เพ่ือติดตามความคืบหนา ผ่านทาง LINE/Facebook/เพจ กศน.ตาบล/อื่น ๆ ดงั น้ี 1) ตดิ ตามงานที่ได้รับมอบหมายสปั ดาห์ที่ผ่านมา 2) การทากิจกรรมพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ (กพช.) 3) ติดตามสอบถามสขุ ภาพของนักศึกษา (การตรวจสขุ ภาพ ความสะอาด การแตง่ กาย) 4) ตดิ ตามสอบถามการทาความดใี นแต่ละวัน สัปดาห์ท่ีผ่านมา และติดตามการบันทึกกิจกรรมที่ ทาความดีลงในสมุดบันทึกบนั ทกึ ความดเี พือ่ การประเมนิ คุณธรรม 5) ติดตามสอบถามเก่ียวกับงานอดิเรก สุนทรียภาพ การเล่นกีฬา การใช้เวลาว่างให้เป็น ประโยชน์ 6) ติดตามการทาโครงงาน

79 สื่อและแหล่งการเรียนรู้ วิธีเรียนผา่ นชอ่ งทาง ETV (ON-AIR) 1. www.etvthai.tv 2. ทีวีดิจิตอลช่อง 52 (กศน.) 3. เฟสบุ๊ค https://www.facebook.com/etv.digital/ และ https://www.facebook.com/Etv-Channel-1512499252411798/ 4. Google Classroom / แอปพลเิ คชัน LINE 5. หนังสือเรียนวิชา อช21002 วิชาทักษะการพัฒนาอาชีพ หรือ หนังสือเรียนออนไลน์ลิงค์ http://online.pubhtml5.com 6. แบบทดสอบก่อนเรียน (Pre-test) วิชา ทักษะการพัฒนาอาชีพ แบบปรนัย จานวน 30 ข้อ (ชดุ แบบทดสอบ หรอื Google Form) 7. แบบทดสอบย่อย เรื่อง การจัดการความเส่ียง แบบปรนัย จานวน 20 ข้อ (ชุด แบบทดสอบ หรือ Google Form) 8. ใบงานที่ 1 เร่อื งการจัดการความเส่ยี ง 9. ใบความรทู้ ี่ 1 เรอ่ื งการจดั การความเสยี่ ง 10. แบบบนั ทึกการเรียนรู้ กศน. การวัดและประเมนิ ผล 1. การสงั เกตพฤติกรรมการมีสว่ นรว่ มรายบุคคล/รายกลมุ่ 2. ตรวจแบบบันทึกการเรียนรู้ กศน. 3. ตรวจใบงาน 4. ตรวจแบบทดสอบ 5. ประเมินคุณธรรม

80 กระบวนการจัดการเรียนรู้ วธิ ีการเรียน : ผา่ น แอปพลเิ คชั่น (ON-Demand) การกาหนดสภาพ ปัญหา ความต้องการในการเรียนรู้ (O : Orientation) 1. ขน้ั ตอนนาเขา้ สบู่ ทเรียน ( เวลา 30 นาที ) 1.1 ครทู กั ทายนักศึกษา และนาเขา้ ส่บู ทเรยี นโดยแจง้ ข่าวสารเหตุการณ์ปัจจุบัน ผา่ นทาง Google Classroom หรอื LINE กลมุ่ ใหน้ กั ศึกษาทราบพร้อมท้ังแลกเรยี นเปลีย่ นเรียนรู้ขอ้ มูลข่าวสารเหตุการณป์ ัจจุบัน รว่ มกันวเิ คราะห์ และแสดงความคิดเหน็ ร่วมกนั ผ่านทาง Google Classroom หรือ LINE กลุ่ม พร้อมอธิบายถึง เหตุผลความจาเปน็ ทต่ี ้องจดั กิจกรรมการเรยี นรูปแบบออนไลน์ 1.2 ครูชแ้ี จง สาระสาคัญ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ เน้อื หา กระบวนการจัดการเรียนรู้ สือ่ และแหลง่ การ เรยี นรู้ การวัดและประเมนิ ผล และการติดตาม ผา่ นทาง Google Classroom หรือ LINE กลมุ่ 1.3 ครแู ละนกั ศึกษาร่วมกันวิเคราะหแ์ ละแสดงความคดิ เหน็ เกี่ยวกับปัญหา ความต้องการ รูปแบบในการ เรียน และการแสวงหาความรู้จากสื่อต่าง ๆ ในการเรียนรายวิชาทักษะการพัฒนาอาชีพ เรื่อง การจัดการความ เสยี่ ง ผ่าน ทาง Google Classroom หรอื LINE กลุม่ การแสวงหาข้อมูลและการจัดการเรียนรู้ (N : New ways of learning) 2. ขั้นจัดการเรยี นการสอน ( เวลา 3 ชั่วโมง 30 นาท)ี 2.1 ครูให้นักศึกษาทาแบบทดสอบก่อนเรียน (pre-test) แบบปรนัย จานวน 30 ข้อ โดยใช้เอกสารหรือ Google Form ผ่านทาง Google Classroom หรือ LINE และแจ้งผลสอบให้นักศึกษาทราบผ่านทาง Google Classroom หรอื LINE และนักศกึ ษาบันทึกคะแนนลงในแบบบนั ทึกการเรยี นรู้ กศน. 2.2 ครูมอบหมายให้นักศึกษาไปศึกษาหาความรู้จากหนังสือเรียนออนไลน์ วิชาทักษะการพัฒนาอาชีพ http://online.pubhtml5.com หรือจากแหล่งเรียนรู้ต่างๆ และให้สรุปลงในแบบบันทึกการเรียนรู้ กศน. ใน หัวข้อต่อไปน้ี - ประเภทสินค้า - คา่ ใช้จา่ ยต่างๆ - ผลกาไร - คแู่ ข่งขัน - สว่ นครองตลาด - สมรรถนะของธุรกจิ 2.3 ครูใหน้ ักศึกษาศึกษาค้นคว้าจากแหลง่ เรยี นรูส้ ่ือสิ่งพิมพ์ อินเตอร์เน็ต และใบความรู้ที่ 4 การ จัดการความเสี่ยง (โดยครูจะส่งใบความรู้ทาง Google classroom) พร้อมท้ังให้นักศึกษาสรุปเนื้อหาสาระสาคัญ ลงในแบบบันทกึ การเรียนรู้ กศน. และทาใบงานท่ี 4 เร่ืองการจัดการความเสี่ยง (โดยครูจะส่งใบงานทาง Google classroom)

81 2.4 ครูสอนและสอดแทรกคุณธรรม 11 ประการ ในเรือ่ ง ความสะอาด ความสุภาพ ความกตัญญูกตเวที ความขยนั ความประหยัด ความซอ่ื สตั ย์ ความมีนา้ ใจ ความมีวินัย ศาสน์ กษตั ริย์ รกั ความเปน็ ไทย และยึดม่นั ใน วิถีชีวติ และการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษตั ริย์ทรงเปน็ ประมุข ผ่านทาง LINE กลุ่ม การปฏิบัติและนาไปประยกุ ต์ (I : Implementation) 3. ขน้ั การปฏิบัติและนาไปประยกุ ตใ์ ช้(เวลา 1 ชัว่ โมง) 3.1 ครูสุ่มตัวแทนกลุ่มนาเสนอ เพ่ือแลกเปลีย่ นความคดิ เห็นซง่ึ กนั และกนั สรปุ สิง่ ท่ีไดเ้ รียนรู้ร่วมกันและ ให้นักศึกษาบนั ทึกความรู้ทีไ่ ด้ ลงในแบบบันทกึ การเรียนรู้ กศน. 3.2 นักศึกษานาความรู้ท่ีได้จากการเรียนรู้มาเป็นแนวทางในการแก้ปัญหาและการดาเนินชีวิตใน ประจาวันต่อไป ขัน้ ประเมนิ ผล (E :Evaluation) 4. ขั้นสรุปและประเมนิ ผล ( เวลา 1 ช่วั โมง ) 4.1. ครสู รปุ ผลการทากิจกรรมและตรวจสอบความถูกต้อง จากช้ินงานท่ีได้มอบหมายไปและให้นักศึกษา สง่ กลบั มาทาง LINE กลุ่ม 4.2. ครูให้นักศึกษาทาแบบทดสอบย่อย ในรูปแบบปรนัย จานวน 20 ข้อ โดยใช้ Google Form พร้อม เฉลย ประเมนิ ผล และใหน้ กั ศกึ ษาบนั ทึกคะแนนลงในแบบบันทึกการเรียนรู้ กศน. 4.3. ครใู หน้ กั ศกึ ษาสรุปการทาความดีและคุณธรรมท่ีได้ปฏิบัติ พร้อมบันทึกลงในสมุดบันทึก ความดีเพื่อ การประเมินคุณธรรม สอ่ื และแหล่งเรยี นรู้ 1. หนังสอื เรยี นวชิ า อช21002 วชิ าทักษะการพฒั นาอาชีพ หรอื หนังสอื เรียนออนไลน์ลิงค์ http://online.pubhtml5.com 2. แบบทดสอบย่อย เร่ือง การจัดการความเส่ียง แบบปรนัย จานวน 20 ข้อ (ชุด แบบทดสอบ หรือ Google Form) 4. ใบงานที่ 3 เร่อื งการจัดการความเสย่ี ง 5. ใบความรทู้ ่ี 3 เรื่องการจดั การความเสยี่ ง 6. แบบบนั ทึกการเรียนรู้ กศน. การวดั และประเมนิ ผล 1. การสงั เกตพฤติกรรมการมีส่วนรว่ มรายบุคคล/รายกลุ่ม 2. ตรวจแบบบนั ทกึ การเรียนรู้ กศน. 3. ประเมินการนาเสนอผลงาน 4. ตรวจใบงาน 5. ตรวจแบบทดสอบยอ่ ย 6. ประเมนิ คณุ ธรรม

82 กระบวนการจัดการเรยี นรู้ วิธีการเรียน : แบบหนงั สือเรยี น มอบหมายงาน (ON - Hand) การกาหนดสภาพ ปญั หา ความตอ้ งการในการเรยี นรู้ (O : Orientation) 1. ขัน้ ตอนนาเขา้ สู่บทเรยี น ( เวลา 30 นาที ) 1.1 ครูทักทายนักศึกษา และนาเข้าสู่บทเรียนโดยแจง้ ข่าวสารเหตุการณป์ จั จบุ ัน ผา่ นทาง Google Classroom หรอื LINE กลมุ่ ใหน้ กั ศึกษาทราบพร้อมท้ังแลกเรียนเปลีย่ นเรียนร้ขู อ้ มลู ขา่ วสารเหตุการณ์ปจั จบุ นั รว่ มกันวิเคราะห์ และแสดงความคิดเหน็ รว่ มกนั ผา่ นทาง Google Classroom หรือ LINE กลุม่ พร้อมอธบิ ายถึง เหตผุ ลความจาเป็นที่ต้องจดั กิจกรรมการเรยี นรูปแบบออนไลน์ 1.2 ครูช้แี จง สาระสาคัญ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ เนือ้ หา กระบวนการจัดการเรียนรู้ สอ่ื และแหลง่ การ เรยี นรู้ การวัดและประเมนิ ผล และการตดิ ตาม ผา่ นทาง Google Classroom หรือ LINE กลุ่ม 1.3 ครแู ละนักศกึ ษารว่ มกันวเิ คราะห์และแสดงความ คดิ เห็น เก่ยี วกับปัญหา ความต้องการ รปู แบบใน การเรยี น และการแสวงหาความรจู้ ากส่ือต่าง ๆ ในการเรียนรายวชิ าทกั ษะการพฒั นาอาชพี เร่ือง ทกั ษะการ พัฒนาอาชีพ ผา่ นทาง Google Classroom หรือ LINE กลุม่ การแสวงหาข้อมูลและการจัดการเรียนรู้ (N : New ways of learning) 2. ขนั้ จัดการเรียนการสอน ( เวลา 3 ชวั่ โมง 30 นาที ) 2.1 ครูให้นักศึกษาทาแบบทดสอบก่อนเรียน (pre-test) แบบปรนัย จานวน 30 ข้อ โดยใช้เอกสารหรือ Google Form ผ่านทาง Google Classroom หรือ LINE และแจ้งผลสอบให้นักศึกษาทราบผ่านทาง Google Classroom หรือ LINE และนกั ศึกษาบันทกึ คะแนนลงในแบบบันทกึ การเรียนรู้ กศน. 2.2 ครูมอบหมายให้นักศึกษาไปศึกษาหาความรู้จากหนังสือเรียนออนไลน์ วิชาทักษะการพัฒนาอาชีพ http://online.pubhtml5.com หรือจากแหล่งเรียนรู้ต่างๆ และให้สรุปลงในแบบบันทึกการเรียนรู้ กศน. ใน หัวข้อตอ่ ไปนี้ 1.1.) ความหมายของความเสีย่ งและการจัดการความเสี่ยง 1.2.) การแกป้ ญั หาความเสยี่ ง 1.3.) การวางแผนปฏิบัติการจัดการความเสย่ี ง 1.4.)การควบคมุ คณุ ภาพการผลิตหรอื การบรกิ าร 2.3 ครูให้นักศึกษาศึกษาค้นคว้าจากแหล่งเรียนรู้ส่ือส่ิงพิมพ์ อินเตอร์เน็ต และใบความรู้ที่ 4 เรื่องการ จัดการความเสี่ยง (โดยครูจะส่งใบความรู้ทาง Google classroom) พร้อมทั้งให้นักศึกษาสรุปเน้ือหาสาระสาคัญ ลงในแบบบันทกึ การเรียนรู้ กศน. และทาใบงานท่ี 4 เร่ืองการจัดการความเส่ียง (โดยครูจะส่งใบงานทาง Google classroom) 2.4 ครสู อนและสอดแทรกคุณธรรม 11 ประการ ในเรอ่ื ง ความสะอาด ความสภุ าพ ความกตัญญูกตเวที ความขยนั ความประหยดั ความซื่อสตั ย์ ความมนี ้าใจ ความมวี นิ ัย ศาสน์ กษัตริย์ รักความเปน็ ไทย และยึดม่นั ใน วถิ ีชีวติ และการปกครองตามระบอบประชาธปิ ไตยอนั มีพระมหากษตั รยิ ์ทรงเปน็ ประมุข ผ่านทาง LINE กลมุ่

83 การปฏบิ ตั แิ ละนาไปประยกุ ต์ (I : Implementation) 3. ขน้ั การปฏบิ ตั แิ ละนาไปประยุกตใ์ ช้(เวลา 1 ช่วั โมง) 3.1 ครูสมุ่ ตวั แทนกลมุ่ นาเสนอ เพื่อแลกเปล่ยี นความคดิ เห็นซึ่งกันและกนั สรปุ สิ่งท่ีไดเ้ รียนรรู้ ว่ มกนั และ ใหน้ กั ศึกษาบนั ทึกความรทู้ ไ่ี ด้ ลงในแบบบันทึกการเรียนรู้ กศน. 3.2 นักศึกษานาความรู้ท่ีได้จากการเรียนรู้มาเป็นแนวทางในการแก้ปัญหาและการดาเนินชีวิตใน ประจาวนั ต่อไป ขนั้ ประเมินผล (E :Evaluation) 4. ขน้ั สรุปและประเมินผล ( เวลา 1 ชวั่ โมง ) 1. ครูสรุปผลการทากิจกรรมและตรวจสอบความถูกต้อง จากชิ้นงานที่ได้มอบหมายไปและให้นักศึกษา ส่งกลบั มาทาง LINE กลุ่ม 2. ครูให้นักศึกษาทาแบบทดสอบย่อย ในรูปแบบปรนัย จานวน 20 ข้อ โดยใช้ Google Form พร้อม เฉลย ประเมนิ ผล และให้นกั ศกึ ษาบนั ทึกคะแนนลงในแบบบนั ทึกการเรยี นรู้ กศน. 3. ครูให้นักศึกษาสรุปการทาความดีและคุณธรรมที่ได้ปฏิบัติ พร้อมบันทึกลงในสมุดบันทึก ความดีเพ่ือ การประเมนิ คณุ ธรรม 5. ขั้นมอบหมายงาน 1. ครมู อบหมายให้นักศึกษาไปอ่านทบทวนเนื้อหาเพ่ิมเติม เรื่อง การจัดการความเสี่ยง จากหนังสือเรียน ออนไลน์ ลิงค์ http://online.pubhtml5.com และใหส้ รปุ ลงในแบบบนั ทึกการเรียนรู้ กศน. 2. ครูมอบหมายให้นักศึกษาไปศึกษาค้นคว้าและใบงานท่ี 4 เรื่องการจัดการความเสี่ยง (โดยครูจะส่งใบ งานทาง Google classroom) และให้นักศึกษาส่งงานทาง Google classroom หรือทาง LINE ตามวันเวลาท่ีครู นดั หมาย 3. ครูมอบหมายนักศึกษาให้ไปศึกษา เร่ือง การจัดการความเส่ียง โดยพัฒนาต่อยอด และประยุกต์ใช้ภูมิ ปัญญา จากหนังสือ เรียนออนไลน์ ลิงค์ http://online.pubhtml5.com เพื่อเตรียมการเรียนรู้ทางออนไลน์ ใน สปั ดาหต์ ่อไป 6. ขน้ั ตดิ ตามผล ( เวลา 30 นาที) ครูสอบถามและติดตามงานท่ีได้มอบหมายนักศึกษา เพื่อติดตามความคืบหนา ผ่านทาง LINE/Facebook/เพจ กศน.ตาบล/อื่น ๆ ดงั น้ี 1) ตดิ ตามงานทไ่ี ด้รับมอบหมายสัปดาห์ทีผ่ า่ นมา 2) การทากจิ กรรมพัฒนาคณุ ภาพชีวติ (กพช.) 3) ตดิ ตามสอบถามสขุ ภาพของนกั ศึกษา (การตรวจสขุ ภาพ ความสะอาด การแต่งกาย) 4) ตดิ ตามสอบถามการทาความดีในแต่ละวัน สัปดาห์ท่ีผ่านมา และติดตามการบันทึกกิจกรรมท่ีทาความ ดีลงในสมุดบนั ทกึ บันทึกความดีเพอ่ื การประเมนิ คุณธรรม 5) ตดิ ตามสอบถามเกี่ยวกับงานอดเิ รก สุนทรียภาพ การเลน่ กีฬา การใชเ้ วลาวา่ งให้เป็นประโยชน์ 6) ตดิ ตามการทาโครงงาน

84 ส่ือและแหล่งเรยี นรู้ 1. หนังสือเรียนวชิ า อช21002 วชิ าทกั ษะการพฒั นาอาชีพ หรือ หนงั สือเรียนออนไลนล์ ิงค์ http://online.pubhtml5.com 2. แบบทดสอบก่อนเรียน (Pre-test) วิชา ทักษะการพัฒนาอาชีพ แบบปรนัย จานวน 30 ข้อ (ชดุ แบบทดสอบ หรือ Google Form) 3. แบบทดสอบย่อย เรื่อง การจัดการความเส่ียง แบบปรนัย จานวน 20 ข้อ (ชุด แบบทดสอบ หรือ Google Form) 4. ใบงานที่ 1 เรือ่ งการจัดการความเสย่ี ง และใบงานที่ 2 เร่ือง การจัดการอาชพี และแหลง่ เรยี นรู้ 5. ใบความรทู้ ่ี 1 เรอื่ งการจัดการความเสยี่ ง 6. แบบบนั ทึกการเรยี นรู้ กศน. การวัดและประเมนิ ผล 1. การสงั เกตพฤติกรรมการมีสว่ นร่วมรายบุคคล/รายกลมุ่ 2. ตรวจแบบบันทกึ การเรียนรู้ กศน. 3. ประเมินการนาเสนอผลงาน 4. ตรวจใบงาน 5. ตรวจแบบทดสอบย่อย 6. ประเมนิ คณุ ธรรม

85 การเรียนรู้ดว้ ยตนเอง (กรต.) คร้ังท่ี 7 (จานวน 9 ช่ัวโมง) สาระการการประกอบอาชีพ รายวชิ า อช21002 ทักษะการพฒั นาอาชีพ ระดับมัธยมศกึ ษาตอนต้น คาส่ัง ให้นักศึกษาแบ่งกลุ่มเป็น 3 กลุ่ม และไปทากิจกรรมการเรียนรู้ต่อเน่ือง (กรต) โดยการไปศึกษาค้นคว้า อ่านหนังสือ จดบันทึก จากหนังสือแบบเรียน ตารา หนังสือ และสื่ออ่ืนๆ ในห้องสมุดประชาชนจังหวัด ห้องสมุด ประชาชนอาเภอ โรงเรียนประถมศึกษา โรงเรียนมัธยมศึกษา วิทยาลัยชุมชนในพ้ืนที่อาเภอเมืองนราธิวาสหรือ อาเภออืน่ ๆ หรือไปสอบถามขอความรูจ้ ากบุคคล ในหวั ขอ้ ต่อไปน้ี กลุ่มที่ 1. ความเส่ยี งต่อการดาเนนิ การ กลุ่มที่ 2. การแกป้ ญั หาความเส่ียง กลมุ่ ที่ 3. การวางแผนปฏิบตั ิการ ขน้ั ตอนของการไปเรียนรตู้ อ่ เนือ่ ง (กรต.) ของนักศึกษา มดี งั นี้ 1. แผนการเรียนรู้ต่อเน่ือง (กรต.) ในแต่ละแต่ละสัปดาห์ แต่ละครั้งที่ครู กศน.ตาบล/ครู ศรช. หรือครู ประจากลุ่มกลมุ่ มอบหมาย 2. ให้บริหารเวลาและใช้เวลาในการศึกษาเรียนรู้ด้วยตนเองและทากิจกรรมการเรียนรู้ต่อเน่ือง (กรต.) สัปดาหล์ ะ 9 ชั่งโมงเปน็ อย่างน้อย 3. อา่ นหนงั สือ สอบถามผรู้ ู้ และจดบนั ทึกทกุ ครงั้ ทีมกี ารทากจิ กรรม กรต. และเก็บหลักฐานไว้ทุกคร้ังเพื่อ ส่งครูกศน.ตาบล/ครศู รช. หรอื ครูประจากลุ่ม ตรวจให้คะแนนการทา กรต. 4. จดั ทารายงานเปน็ เลม่ ตามแบบรายงานทศี่ ูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยกาหนด และใหส้ ง่ ในวนั ทมี่ กี ารนาเสนอผลการทากรต. ในเรือ่ งนั้นๆ 5. ตวั แทนกลุ่มนาเสนอด้วยตนเอง (กรณีทีท่ ากรต.คนเดยี ว) โดยใหน้ าเสนอผลงานตามข้อ 4 กลุ่มละ/คน ละไม่เกิน 10 นาที ในวันพบกลมุ่ ครัง้ ตอ่ ไป

86 ใบความรูท้ ี่ 3 การจดั การความเส่ียง วชิ า ทักษะการพัฒนาอาชพี รายวิชา อช 21002 ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ความเสี่ยง (Risk) ความเสี่ยง คือ โอกาสทจี่ ะเกดิ ความผิดพลาด ความเสียหาย การร่ัวไหล ความสูญเปล่า หรอื เหตกุ ารณท์ ี่ ไม่พึงประสงค์ หรือการกระทาใด ๆ ท่ีอาจเกิดขนึ้ ภายใต้สถานการณท์ ี่ไม่แน่นอน ซ่ึงอาจเกิดขึน้ ในอนาคตและมี ผลกระทบหรอื ทาให้การดาเนินงานไมป่ ระสบความสาเรจ็ ตามวตั ถปุ ระสงคแ์ ละเปา้ หมายขององค์กร ท้งั ในดา้ น ยทุ ธศาสตร์ การปฏิบตั ิงาน การเงินและการบรหิ าร การบรหิ ารความเส่ยี ง คือ กระบวนการดาเนินงานขององค์กรที่เป็นระบบและตอ่ เนื่อง เพอ่ื ช่วยใหอ้ งค์กรลด มลู เหตขุ องแตล่ ะโอกาสทจี่ ะเกิดความเสยี หาย ใหร้ ะดบั ของความเสยี หายและขนาดของความเสียหายทจี่ ะเกิดข้ึน ในอนาคต อยู่ในระดับท่ีองค์กรยอมรับได้ ประเมนิ ได้ ควบคุมได้ และตรวจสอบได้อย่างมีระบบ โดยคานึงถึงการ บรรลวุ ตั ถุประสงค์หรอื เป้าหมายขององค์กรเป็นสาคัญ ความเสีย่ งจาแนกได้เป็น 4 ลักษณะ ดังนี้ 1) ความเสยี่ งทางดา้ นกลยทุ ธ์ (Strategic Risk : SR) 2) ความเสี่ยงทางด้านการเงิน (Financial Risk : FR) 3) ความเสย่ี งทางด้านการปฏบิ ตั ิงาน (Operational Risk : OR) 4) ความเสย่ี งทางด้านกฎหมาย และข้อกาหนดผกู พนั องคก์ ร (Compliance Risk : CR) ปจั จยั ความเส่ียง (Risk Factor) ปจั จยั ความเสย่ี ง หมายถงึ ตน้ เหตุ หรอื สาเหตุท่ีมาของความเสย่ี ง ท่ีจะทาใหไ้ มบ่ รรลุวตั ถปุ ระสงค์ที่ กาหนดไว้ โดยตอ้ งระบุได้ด้วยว่าเหตกุ ารณน์ นั้ จะเกดิ ที่ไหน เมื่อใดและจะเกดิ ข้นึ ได้อย่างไรและทาไม ทั้งนี้สาเหตุ ของความเสย่ี งทร่ี ะบคุ วรเป็นสาเหตทุ ี่แท้จริง เพ่อื จะไดว้ ิเคราะหแ์ ละกาหนดมาตรการความเสีย่ ง ในภายหลงั ได้ อยา่ งถูกต้อง ปจั จยั ความเส่ียงพจิ ารณาได้จาก 1) ปจั จยั ภายนอก เช่น เศรษฐกิจ สงั คม การเมือง กฎหมาย ฯลฯ 2) ปจั จัยภายใน เช่น กฎระเบียบ ข้อบังคับภายในองค์กร ประสบการณ์ของเจา้ หนา้ ท่ี ระบบการทางาน ฯลฯ การประเมินความเสี่ยง (Risk Assessment) การประเมนิ ความเสี่ยง หมายถงึ กระบวนการระบคุ วามเสย่ี ง การวิเคราะห์ความเส่ียงและจัดลาดับความ เส่ียง โดยการประเมนิ จากโอกาสทจ่ี ะเกดิ (Likelihood) และผลกระทบ (Impact) 1) โอกาสทจ่ี ะเกิด (Likelihood) หมายถึง ความถี่หรือโอกาสท่จี ะเกิดเหตุการณ์ ความเสี่ยง 2) ผลกระทบ (Impact) หมายถงึ ขนาดความรุนแรงของความเสยี หายทจ่ี ะเกดิ ขน้ึ หากเกิด เหตุการณ์ ความเสยี่ ง 3) ระดบั ของความเส่ียง (Degree of Risk) หมายถึง สถานะของความเสยี่ งท่ีได้จากประเมินโอกาสและ ผลกระทบของแต่ละปัจจยั เสี่ยงแบ่งเป็น 5 ระดับ คือ สูงมาก สงู ปานกลาง นอ้ ย และน้อยมาก

87 การบริหารความเสย่ี ง (Risk Management) การบริหารความเส่ียง หมายถึง กระบวนการท่ใี ช้ในการบรหิ ารจดั การให้โอกาสทีจ่ ะเกิดเหตุการณ์ความ เสี่ยงลดลงหรือผลกระทบของความเสียหายจากเหตุการณ์ความเส่ยี งลดลงอยู่ในระดบั ที่องค์กรยอมรับได้ ซ่ึงการ จัดการความเส่ียงมหี ลายวิธดี งั นี้ 1) การยอมรับความเสีย่ ง (Risk Acceptance) เปน็ การยอมรับความเสีย่ งท่ีเกดิ ข้นึ เนอ่ื งจากไม่คมุ้ คา่ ใน การจดั การควบคมุ หรือป้องกันความเสีย่ ง 2) การลด/การควบคุมความเส่ยี ง (Risk Reduction) เปน็ การปรับปรุงระบบการทางานหรือการออกแบบ วิธีการทางานใหม่เพื่อลดโอกาสที่จะเกิด หรือลดผลกระทบใหอ้ ย่ใู นระดับท่อี งค์กรยอมรับได้ 3) การกระจายความเสย่ี ง หรือการโอนความเสี่ยง (Risk Sharing) เป็นการกระจายหรอื ถ่ายโอนความ เสีย่ งให้ผอู้ นื่ ช่วยแบ่งความรับผิดชอบไป 4) เลย่ี งความเสีย่ ง (Risk Avoidance) เป็นการจดั การความเสีย่ งที่อย่ใู นระดับสูงมากและหน่วยงานไม่ อาจยอมรบั ได้ จึงต้องตดั สินใจยกเลิกโครงการ/กจิ กรรมนั้น การควบคุม (Control) การควบคมุ หมายถึง นโยบาย แนวทาง หรอื ข้ันตอนปฏิบัตติ า่ ง ๆ ซงึ่ กระทาเพ่ือลดความเสยี่ ง และทาให้ การดาเนินบรรลวุ ัตถปุ ระสงค์ แบง่ ได้ 4 ประเภท คอื 1) การควบคุมเพอ่ื การปอ้ งกนั (Preventive Control) เปน็ วิธีการควบคุมที่กาหนดขึ้นเพ่ือป้องกันไม่ให้ เกิดความเสี่ยง และข้อผิดพลาดตั้งแต่แรก 2) การควบคุมเพอ่ื ให้ตรวจพบ (Detective Control) เป็นวิธีการควบคุมที่กาหนดขึน้ เพ่ือค้นพบ ข้อผดิ พลาดทเี่ กิดข้นึ แลว้ 3) การควบคุมโดยการชี้แนะ (Directive Control) เปน็ วธิ ีการควบคมุ ท่ีส่งเสริมหรอื กระตุน้ ให้เกิด ความสาเรจ็ ตามวตั ถุประสงค์ทตี่ ้องการ 4) การควบคุมเพื่อการแก้ไข (Corrective Control) เป็นวิธีการควบคมุ ที่กาหนดขน้ึ เพ่ือแก้ไขขอ้ ผิดพลาด ท่เี กดิ ขึ้นให้ถูกตอ้ งหรือเพื่อหาวิธีการแกไ้ ขไม่ให้เกิดขอ้ ผิดพลาดซา้ อกี ในอนาคต ที่มา : เวบ็ ไซต์ การบริหารความเสี่ยง องค์การพพิ ธิ ภัณฑว์ ทิ ยาศาสตร์แห่งชาติ

88 ใบงานท่ี 3 การจดั การความเสย่ี ง วชิ า ทกั ษะการพัฒนาอาชพี รายวิชา อช 21002 ระดับมัธยมศกึ ษาตอนต้น จงตอบคาถามต่อไปน้ี 1. ความเส่ยี ง หมายถึงอะไร ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. 2. องค์ประกอบการบรหิ ารความเส่ียงมีอะไรบ้าง ............................................................................................................................. ....................................................... .............................................................................................................................................. .......................... ....................................................................................................... ............................................................................. ............................................................................................................................. ........................................... ...................................................................................................................................... .............................................. ........................................................................................................................................................................ 3.จงเขียน Mind Map ของข้ันตอนในการบรหิ ารความเส่ยี งขององคก์ ร พรอ้ มอธบิ าย ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ........................................... .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ช่ือ-สกุล.......................................................................................ระดบั ................................................................

89 แบบทดสอบย่อย คร้ังท่ี 7 เรอื่ ง การจดั การความเสยี่ ง วิชา ทักษะการพัฒนาอาชีพ รายวชิ า อช 21002 ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนตน้ 1. “Risk” หมายถึงข้อใด 6. ใชเ้ วลาในการผลติ มากเกินไป ก. กลยทุ ธ์ ก. ยอดขายลดลง ข. ความเสีย่ ง ข. แผ่นดนิ ไหว ค. การจดั การ ค. ไฟไหม้โรงงาน ง. ผลกระทบ ง.การโจรกรรม 2. ขอ้ ใดกลา่ วถูกต้อง ก. ความเสีย่ งเป็นเหตุทีเ่ กิดข้ึนไมบ่ ่อยนักในองคก์ ร 7. ขอ้ ใดคือความเสย่ี งดา้ นบคุ ลากร ข. ความเส่ยี งเกิดข้ึนไดเ้ มื่อมีการเปลย่ี นแปลงผู้บริหาร ก. การเข้าออกของพนกั งาน ค. ความเสี่ยงเกดิ ข้ึนเมื่อมีการแขง่ ขนั สูง ข. การดาเนินนโยบายของผู้บรหิ าร ง. ความเส่ยี งเป็นเหตกุ ารณ์ที่ทาให้เป้าหมายของ ค. การจ่ายค่าตอบแทน องค์กรเบ่ยี งเบน ง. การจดั ซอ้ื จดั จ้าง 3. การจดั การความเส่ยี งเปน็ กระบวนการทีก่ าหนดใน 8. “สินค้าไมเ่ ปน็ ทีย่ อมรบั ” เป็นความเสย่ี งดา้ นใด สว่ นใดขององค์กร ก. ความเสี่ยงทีเ่ กิดแก่ทรัพย์สิน ก.นโยบาย ข. ความเสี่ยงแทจ้ ริง ข. ขอ้ มูล ค. ความเสยี่ งในการจัดองคก์ ร ค. กลยุทธ์ ง. ความเสยี่ งจากการประดิษฐผ์ ลิตภัณฑ์ ง. พนั ธกิจ 9. ข้อใดไมใ่ ชป่ ัจจัยต่อความสาเรจ็ ของการจดั การ 4. ขอ้ ใดคือความเสย่ี งด้านกลยทุ ธท์ เ่ี กดิ จากปจั จัย ความเส่ยี ง ภายนอก ก. การสนบั สนนุ จากผู้บรหิ ารระดับสงู ก. คู่แข่ง ข. การจดั การความเสย่ี งเปน็ หนา้ ทข่ี องผ้บู รหิ าร ข. ยอดขาย เท่าน้ัน ค. สทิ ธบิ ัตร ค. มกี ารฝกึ อบรมให้ความรู้ ง. มีการจัดความเส่ียงอยา่ งเน่ือง ง ช่อื เสียง 5. ข้อใดคือความเสีย่ งดา้ นการปฏิบตั ิงาน 10. หลักการ ORCA “C” คอื ข้อใด ก. ใชเ้ วลาในการผลิตมากเกนิ ไป ก. การกาหนดวัตถปุ ระสงค์ ข. ใช้วัตถุดบิ มาก ข. การประเมนิ ความเสี่ยง ค. ใหบ้ ริการลูกค้าไมด่ ีเทา่ ท่ีควร ค. การสร้างการควบคุมภายใน ง. ถกู ทุกข้อ ง. ความสอดคล้องกนั

90 เฉลยแบบทดสอบยอ่ ย ครง้ั ท่ี 7 เรื่อง การจดั การความเส่ียง วิชา ทักษะการพัฒนาอาชพี รายวชิ า อช 21002 ระดับมัธยมศึกษาตอนตน้ 1. “Risk” หมายถึงข้อใด ง. ถกู ทกุ ขอ้ ก. กลยุทธ์ 6. ใช้เวลาในการผลติ มากเกนิ ไป ข. ความเส่ยี ง ค. การจัดการ ก. ยอดขายลดลง ง. ผลกระทบ ข. แผน่ ดินไหว ค. ไฟไหม้โรงงาน 2. ข้อใดกลา่ วถูกต้อง ง.การโจรกรรม ก. ความเสย่ี งเปน็ เหตทุ เ่ี กดิ ข้ึนไม่บ่อยนักในองคก์ ร ข. ความเส่ยี งเกิดขึ้นได้เม่ือมีการเปลย่ี นแปลง 7. ข้อใดคือความเสย่ี งด้านบุคลากร ผู้บริหาร ก. การเขา้ ออกของพนักงาน ค. ความเสยี่ งเกดิ ขึ้นเมื่อมีการแขง่ ขันสูง ข. การดาเนนิ นโยบายของผู้บริหาร ง. ความเสี่ยงเป็นเหตุการณ์ที่ทาให้เปา้ หมายของ ค. การจ่ายค่าตอบแทน องค์กรเบ่ียงเบน ง. การจดั ซอ้ื จัดจ้าง 3. การจัดการความเสยี่ งเป็นกระบวนการทีก่ าหนด 8. “สนิ คา้ ไมเ่ ปน็ ทย่ี อมรบั ” เปน็ ความเสยี่ งด้านใด ในส่วนใดขององค์กร ก. ความเส่ียงที่เกิดแก่ทรพั ยส์ ิน ก.นโยบาย ข. ความเสย่ี งแท้จริง ข. ข้อมลู ค. ความเส่ียงในการจัดองค์กร ค. กลยุทธ์ ง. ความเสย่ี งจากการประดษิ ฐผ์ ลิตภณั ฑ์ ง. พันธกจิ 9. ขอ้ ใดไมใ่ ชป่ ัจจยั ต่อความสาเรจ็ ของการจดั การ 4. ขอ้ ใดคือความเส่ยี งด้านกลยทุ ธ์ท่ีเกดิ จากปจั จัย ความเสี่ยง ภายนอก ก. การสนบั สนุนจากผู้บริหารระดับสูง ก. คู่แข่ง ข. การจดั การความเส่ียงเปน็ หน้าทข่ี องผู้บริหาร ข. ยอดขาย เท่านัน้ ค. สิทธิบัตร ค. มกี ารฝึกอบรมให้ความรู้ ง. มกี ารจัดความเสยี่ งอยา่ งเนื่อง ง. ชอื่ เสยี ง 10. หลักการ ORCA “C” คอื ข้อใด 5. ข้อใดคือความเสีย่ งด้านการปฏิบัติงาน ก. การกาหนดวัตถุประสงค์ ก. ใชเ้ วลาในการผลิตมากเกินไป ข. การประเมินความเสีย่ ง ข. ใช้วัตถุดบิ มาก ค. การสรา้ งการควบคุมภายใน ค. ใหบ้ ริการลกู คา้ ไม่ดเี ท่าท่ีควร ง. ความสอดคลอ้ งกัน

91

91 แผนการการจัดการเรียนรู้รายสปั ดาห์ ระดับ ม.ตน้ ครง้ั ท่ี 8 รายวชิ าทกั ษะการพัฒนาอาชีพ รหสั วิชา อช21002 เวลาเรียน 30 ช่วั โมง พบกลุ่ม 6 ชั่วโมง /การเรยี นรู้ดว้ ยตนเอง 24 ชว่ั โมง วนั ท่ี ……………. เดือน …………………………..พ.ศ. 2564 มาตรฐานที่ 3.1 มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ และเจตคติท่ดี ีในงานอาชพี มองเหน็ ชอ่ งทางและตดั สินใจประกอบ อาชพี ได้ตามความต้องการและศักยภาพของตนเอง มาตรฐานที่ 3.2 มคี วามรู้ ความเข้าใจ ทักษะในอาชีพท่ีตดั สนิ ใจเลือก มาตรฐานที่ 3.3 มีความรู้ ความเขา้ ใจ ในการจัดการอาชีพอยา่ งมีคุณธรรม มาตรฐานท่ี 3.4 มคี วามรู้ ความเข้าใจ ในการพฒั นาอาชีพให้มีความมน่ั คง มาตรฐานการเรียนร้รู ะดบั 1. มีความรู้ ความเข้าใจทกั ษะในการพัฒนาอาชีพที่ตดั สนิ ใจเลอื กบนพน้ื ฐานความรู้ กระบวนการผลิต กระบวนการตลาดทใี่ ช้นวัตกรรม เทคโนโลยีที่เหมาะสม และประยุกต์ใชภ้ ูมิปัญญา 2. มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ และสามารถจัดทาแผนงานและโครงการธรุ กจิ เพ่ือพฒั นาอาชพี เขา้ สตู่ ลาดการ แขง่ ขนั ตามแนวคดิ ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง เพอื่ สู่ความเข้มแขง็ ตวั ชว้ี ดั ที่ 1. จัดการเกี่ยวกับการควบคุมคณุ ภาพ 2. อธิบายวิธกี ารใช้นวัตกรรมเทคโนโลยีในการผลิต 3. อธิบายข้นั ตอนการลดตน้ ทุนการผลิตหรอื การบริการ 4. จัดทาแผนการผลติ หรือการบริการ เน้ือหา 1. การจดั การเกี่ยวกบั การควบคมุ คุณภาพ -ขั้นการกาหนดนโยบาย -ข้นั การออกแบบผลติ ภณั ฑ์ -ข้นั ตอนการควบคมุ คุณภาพของการผลิต -ขน้ั การจาหน่าย 2. การใชน้ วัตกรรมเทคโนโลยีในการผลิต -ประโยชน์จากการนาเทคโนโลยีมาใชเ้ พอื่ การเพิ่มผลผลิต -ผลกระทบทเ่ี กดิ จากการใชเ้ ทคโนโลยีการผลติ และบริการ 3. การลดต้นทนุ การผลิตหรอื การบรกิ าร -การจดั การ การผลติ และการบริการเป็นอย่างดี 4. การจัดทาแผนปฏบิ ัตกิ าร

92 กระบวนการจดั การเรยี นรู้ วธิ กี ารเรียน : แบบพบกลุ่ม (ON-Site) การกาหนดสภาพปญั หา ความต้องการในการเรยี นรู้ (O:Orientation) 1. ขน้ั นาเข้าสบู่ ทเรยี น ( เวลา 30 นาที) 1.1 ครูทักทายนักศึกษา และนาเข้าสู่บทเรียนโดยแจ้งข่าวสารเหตุการณ์ปัจจุบัน ให้นักศึกษาทราบ พร้อมทั้งแลกเปล่ียนเรียนรู้ข้อมูลข่าวสารเหตุการณ์ปัจจุบัน ร่วมกันวิเคราะห์ และแสดงความคิดเห็น ร่วมกันใน ชั้นเรียน และทบทวนบทเรียนจากครั้งที่แล้ว เร่ือง วิธีแก้ปัญหาความเส่ียงเพ่ือความมั่นคงของอาชีพ เพ่ือดึง ความรู้และประสบการณ์เดิมของนักศึกษา เน้นการมีส่วนร่วมมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ สะท้อนความคิดและ อภปิ รายโดยใหเ้ ชือ่ มโยงกับความรใู้ หม่ 1.2 ครูนาเข้าสู่บทเรียนโดยครูเปิดวีดีทัศน์ เรื่อง การจัดการการผลิตหรือการบริการ จาก ลิงค์ https://www.youtube.com/watch?v=UDxYS4n7sfs และลงิ ค์ https://www.youtube.com/watch?v=Yv7C8c1Q0v8 ใหน้ กั ศึกษารับชมเพือ่ ใหน้ ักศึกษาทราบ เพื่อเช่ือมโยง สบู่ ทเรยี นตอ่ ไป 1.3 ครแู ละนกั ศกึ ษาสรปุ สิ่งที่ไดอ้ ภปิ รายรว่ มกัน และนักศึกษาบันทึกลงในแบบบนั ทึกการเรยี นรู้ กศน. การแสวงหาข้อมูลและการจัดการเรยี นรู้ (N : New ways of learning) 2. ขั้นจดั การเรยี นการสอน ( เวลา 1 ชว่ั โมง 30 นาที) 1. ครูอธบิ ายเนือ้ หาจากหนงั สือเรยี น ในหน่วยการเรยี นรู้ที่ 4 เรอื่ ง การจดั การการผลิตหรือการบริการ พรอ้ มใหน้ กั ศึกษาจดบันทึกรายละเอยี ดลงในแบบบนั ทึกการเรียนรู้ กศน. 2. ครูบรรยายโดยใช้คลปิ วิดโิ อ หรือ You Tube ลงิ ค์ https://www.youtube.com/watch?v=UDxYS4n7sfs และ ลงิ ค์ https://www.youtube.com/watch?v=Yv7C8c1Q0v8 และแนะนาใหน้ ักศกึ ษาตง้ั ใจ ฟงั และจด บนั ทกึ รายละเอียด ลงในแบบบนั ทึกการเรยี นรู้ กศน. 3. ครใู ห้นักศึกษาแบ่งกลมุ่ ออกเป็น 4 กลุ่มๆละเท่าๆกนั เพือ่ ศกึ ษาข้อมลู เกี่ยวกบั เพอ่ื ศึกษาข้อมูล เกยี่ วกับเรือ่ ง การทาแผนธุรกิจเพอ่ื การพฒั นาอาชพี และการจดั การการผลติ หรอื การบริการ 4. ครูให้นักศึกษาแบ่งกลุ่มออกเป็น 4 กลมุ่ หรือแลว้ แตต่ ามความเหมาะสม โดยให้นักศึกษาในกลุ่ม คดั เลอื ก ประธาน เลขานุการ และสง่ ตวั แทนออกมาจับสลากเลือกกลมุ่ ดังนี้ กลมุ่ ที่ 1 การจัดการเก่ียวกับการควบคุมคุณภาพ กลมุ่ ที่ 2 การใชน้ วัตกรรมเทคโนโลยีในการผลิต กลุม่ ท่ี 3 การลดตน้ ทุนการผลิตหรือการบริการ กล่มุ ที่ 4 การจดั ทาแผนปฏิบัตกิ าร

93 จากนน้ั ใหน้ ักศึกษาในกลุม่ ศึกษาหาความรเู้ พ่ิมเติมและคน้ คว้าจาก หนังสือเรยี น กศน. หรือ E-book หรอื ETV หรอื หาความรเู้ พม่ิ เติมจากอินเทอร์เน็ต หรอื แหลง่ เรียนรตู้ า่ ง ๆ จากน้นั ออกมานาเสนอหน้าชนั้ เรียน 5. ครูใหค้ วามรเู้ พิ่มเตมิ ความรูแ้ ละตรวจสอบความถูกต้องและให้นักศึกษาทุกคนฟังและจดบันทึกสงิ่ ที่ ได้รับในแบบบันทกึ การเรยี นรู้ กศน. 6. ครสู อนและสอดแทรกคณุ ธรรม 11 ประการ ในเรื่อง ความสุภาพ ความขยนั ความซ่ือสตั ย์สจุ ริต ความสามคั คี ความมนี ้าใจ ความตรงต่อเวลา และความมีวินัย การปฏิบตั แิ ละนาไปประยุกต์ (I : Implementation) 3. ขน้ั การปฏิบัติและนาไปประยกุ ต์ใช้ ( 30 นาที ) 3.1 ครูสุ่มตัวแทนกลมุ่ นาเสนอ เพ่ือแลกเปลีย่ นความคิดเห็นซ่งึ กนั และกนั สรุปสงิ่ ที่ได้เรียนรรู้ ว่ มกันและ ให้นกั ศึกษาบนั ทึกความรทู้ ี่ได้ ลงในแบบบันทึกการเรยี นรู้ กศน. 3.2 นักศกึ ษานาความร้ทู ่ไี ด้จากการเรยี นร้มู าเป็นแนวทางในการแกป้ ัญหาและการดาเนินชวี ติ ใน ประจาวนั ต่อไป ขัน้ ประเมินผล (E : Evaluation) 4. ขน้ั สรปุ และประเมนิ ผล ( เวลา 1 ชัว่ โมง ) 4.1 ครูและนักศึกษาร่วมกันแลกเปลี่ยนเรยี นรู้ สรปุ ความรเู้ บือ้ งต้นเกี่ยวกับเรือ่ ง การจดั การการผลิตหรือ การบริการ จากสื่อและแหล่งเรยี นรูต้ า่ ง ๆ ตรวจสอบความถูกต้องในเน้ือหาทีน่ ักศึกษานาเสนอ พร้อมบันทึกลงใน แบบบนั ทกึ การเรยี นรู้ กศน. 4.2 ครูให้นักศึกษาทาแบบทดสอบย่อยในรปู แบบปรนัย จานวน 20 ข้อ เรอื่ ง การจดั การการผลิตหรือ การบริการ โดยใชเ้ อกสารหรือ Google Form พรอ้ มเฉลย ประเมนิ ผล และใหน้ ักศกึ ษาบันทึกคะแนนลงในแบบ บันทึกการเรียนรู้ กศน 4.3 ครูใหน้ ักศึกษาสรปุ การทาความดแี ละคณุ ธรรมท่ีได้ปฏิบัติ พรอ้ มบันทกึ ลงในสมดุ บันทึก ความดีเพื่อ การประเมินคุณธรรม

94 สอ่ื และแหล่งการเรยี นรู้ 1. หนังสอื เรยี นวิชา อช 21002 ทักษะการพฒั นาอาชพี หรือ หนังสอื เรยี นออนไลน์ ลงิ ค์ http://online.pubhtml5.com 2. คมู่ ือนักศกึ ษา 3. วิดที ศั น์ เร่อื ง การจัดการการผลิตหรือการบรกิ าร(You Tube) https://www.youtube.com/watch?v=UDxYS4n7sfs และลิงค์ https://www.youtube.com/watch?v=Yv7C8c1Q0v8 4. แบบทดสอบย่อย เรอื่ ง การจัดการการผลิตหรอื การบริการ แบบปรนยั จานวน 20 ขอ้ (ชดุ แบบทดสอบ หรือ Google Form) 5. ใบงานท่ี 4 การจัดการการผลิตหรอื การบริการ 6. แบบบนั ทึกการเรียนรู้ กศน. การวัดและประเมนิ ผล 1. การสังเกตพฤติกรรมการมีส่วนรว่ มรายบคุ คล/รายกลมุ่ 2. ตรวจแบบบันทกึ การเรยี นรู้ กศน. 3. ประเมินการนาเสนอผลงาน 4. ตรวจใบงาน 5. ตรวจแบบทดสอบยอ่ ย 6. ประเมนิ คณุ ธรรม

95 กระบวนการจัดการเรยี นรู้ วธิ ีการเรียน : แบบออนไลน์ (ON-Line) การกาหนดสภาพ ปญั หา ความตอ้ งการในการเรยี นรู้ (O : Orientation) 1. ขั้นนาเข้าสบู่ ทเรยี น ( เวลา 30 นาที) 1.1 ครูทักทายนักศึกษา และนาเข้าสบู่ ทเรยี นโดยแจ้งขา่ วสารเหตกุ ารณ์ปัจจุบัน ผา่ นทาง Google Classroom หรือ LINE กลุ่ม ให้นกั ศึกษาทราบ พร้อมท้งั แลกเรยี นเปล่ียนเรยี นรู้ขอ้ มลู ข่าวสาร เหตกุ ารณ์ปจั จบุ นั รว่ มกนั วเิ คราะห์ และแสดงความคดิ เหน็ ร่วมกัน ผ่านทาง Google Classroom หรือ LINE กล่มุ พร้อมอธบิ ายถึง เหตผุ ลความจาเป็นท่ตี ้องจดั กิจกรรมการเรียนรูปแบบออนไลน์ 1.2 ครเู ปิดวดี ีทศั น์ เรอื่ งการจัดการการผลิตหรือการบรกิ าร ให้นักศกึ ษารบั ชมผา่ นทาง YouTube จาก ลิงค์ https://www.youtube.com/watch?v=UDxYS4n7sfs และลิงค์ https://www.youtube.com/watch?v=Yv7C8c1Q0v8 โดยครสู ่งลิงคผ์ ่านทาง Google Classroom หรอื LINE เพือ่ ใหน้ กั ศึกษาเกดิ ความรูค้ วามเข้าใจในการจัดการการผลิตหรือการบริการ ใหน้ กั ศกึ ษาทราบ เพอ่ื เชื่อมโยงสบู่ ทเรียนตอ่ ไป การแสวงหาข้อมูลและการจัดการเรียนรู้ (N : New ways of learning) 2. ขนั้ จดั การเรียนการสอน ( เวลา 3 ช่ัวโมง 30 นาที) 2.1 ครูมอบหมายให้นักศึกษาไปศึกษาหาความรู้ เรอ่ื ง การจัดการการผลติ หรือการบรกิ าร จากหนงั สอื เรยี นออนไลน์ ลงิ ค์ http://online.pubhtml5.com หรอื จากแหล่งเรียนรู้ตา่ งๆ และให้ สรุปลงในแบบบนั ทกึ การเรยี นรู้ กศน. ในหัวข้อตอ่ ไปน้ี เรอ่ื งท่ี 1 การจดั การเกย่ี วกับการควบคุมคุณภาพ เรอ่ื งท่ี 2 การใชน้ วัตกรรมเทคโนโลยีในการผลติ เรื่องท่ี 3 การลดตน้ ทนุ การผลติ หรอื การบริการ เรื่องท่ี 4 การจัดทาแผนปฏบิ ัติการ 2.2 ครูมอบหมายใหน้ ักศกึ ษาเลอื กหัวข้อทีส่ นใจ จานวน 1 เรื่อง ให้ไปศกึ ษาค้นควา้ จากหนังสอื เรยี น ออนไลน์ ลิงค์http://online.pubhtml5.com หรอื จากแหลง่ การเรยี นรตู้ า่ งๆ และใหน้ ักศกึ ษาจดั ทาหนังสือเลม่ เลก็ ตามตัวอย่างทค่ี รสู ่งให้ดู ดงั นี้ เรอ่ื งท่ี 1 การจัดการเกยี่ วกบั การควบคุมคุณภาพ เร่ืองท่ี 2 การใชน้ วัตกรรมเทคโนโลยีในการผลติ เรอื่ งที่ 3 การลดตน้ ทนุ การผลติ หรือการบริการ เรือ่ งท่ี 4 การจัดทาแผนปฏบิ ัตกิ าร 3. ครสู อนและสอดแทรกคุณธรรม 11 ประการ ในเรื่อง ความสะอาด ความสภุ าพ ความกตญั ญู กตเวที ความขยนั ความประหยดั ความซอ่ื สตั ย์ ความมีน้าใจ ความมวี ินยั ศาสน์ กษัตรยิ ์ รักความเปน็ ไทย และยึดมัน่ ใน วถิ ีชวี ติ และการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษตั รยิ ์ทรงเป็นประมขุ ผา่ น ทาง LINE กลุ่ม

96 การปฏิบัติและนาไปประยกุ ต์ (I : Implementation) 3. ข้นั การปฏบิ ตั แิ ละนาไปประยุกต์ใช้ ( 30 นาที ) 3.1 ครูสุม่ ตวั แทนกล่มุ นาเสนอ เพ่ือแลกเปล่ียนความคดิ เห็นซึ่งกนั และกนั สรุปส่ิงท่ีไดเ้ รียนรู้ร่วมกนั และ ใหน้ กั ศึกษาบนั ทึกความรู้ทไี่ ด้ ลงในแบบบนั ทึกการเรียนรู้ กศน. 3.2 นักศึกษานาความรู้ท่ไี ดจ้ ากการเรยี นรูม้ าเป็นแนวทางในการแกป้ ัญหาและการดาเนินชวี ติ ใน ประจาวันตอ่ ไป ขัน้ ประเมนิ ผล (E : Evaluation) 4. ขนั้ สรปุ ผลและประเมินผล ( เวลา 1 ชว่ั โมง ) 4.1. ครูสรปุ ผลการทากิจกรรมและตรวจสอบความถูกต้อง จากชิน้ งานทไี่ ดม้ อบหมายไปและให้นักศึกษา ส่งกลับมาทาง LINE กลุม่ 4.2. ครใู หน้ ักศกึ ษาทาแบบทดสอบยอ่ ย ในรปู แบบปรนยั จานวน 20 ข้อ โดยใช้ Google Form พร้อม เฉลย ประเมนิ ผล และให้นักศึกษาบนั ทึกคะแนนลงในแบบบันทกึ การเรยี นรู้ กศน. 4.3 .ครใู หน้ ักศึกษาสรุปการทาความดีและคณุ ธรรมทไี่ ด้ปฏิบตั ิ พร้อมบันทกึ ลงในสมดุ บนั ทึก ความดเี พ่ือ การประเมนิ คณุ ธรรม ครูสอบถามและติดตามงานที่ได้มอบหมายนักศึกษา เพือ่ ติดตามความคืบหนา ผ่านทาง LINE/Facebook/เพจ กศน.ตาบล/อืน่ ๆ ดงั นี้ 1) ตดิ ตามงานทไ่ี ด้รบั มอบหมายสปั ดาหท์ ีผ่ า่ นมา 2) การทากิจกรรมพฒั นาคุณภาพชวี ิต (กพช.) 3) ตดิ ตามสอบถามสขุ ภาพของนกั ศึกษา (การตรวจสขุ ภาพ ความสะอาด การแต่งกาย) 4) ติดตามสอบถามการทาความดใี นแตล่ ะวัน สปั ดาห์ท่ผี า่ นมา และติดตามการบันทึกกิจกรรมท่ี ทาความดีลงในสมดุ บนั ทึกบนั ทกึ ความดีเพื่อการประเมินคุณธรรม 5) ติดตามสอบถามเกีย่ วกับงานอดิเรก สุนทรยี ภาพ การเล่นกฬี า การใชเ้ วลาว่างให้เปน็ ประโยชน์ 6) ตดิ ตามการทาโครงงาน

97 ส่ือและแหล่งเรียนรู้ 1. หนังสอื เรยี นวชิ า อช 21002 ทักษะการพัฒนาอาชีพ หรอื หนังสือเรยี นออนไลน์ ลงิ ค์ http://online.pubhtml5.com 2. ค่มู อื นกั ศกึ ษา 3. วดี ที ศั น์ เรื่อง การทาแผนธรุ กจิ เพ่ือการพฒั นาอาชีพ การจดั การการผลิตหรือการบรกิ าร (You Tube) https://www.youtube.com/watch?v=UDxYS4n7sfs และลงิ ค์ https://www.youtube.com/watch?v=Yv7C8c1Q0v8 4. แบบทดสอบย่อย เรื่อง การจัดการการผลิตหรือการบรกิ าร แบบปรนัย จานวน 20 ข้อ (ชดุ แบบทดสอบ หรอื Google Form) 5. ใบงานที่ 4 การจดั การการผลติ หรอื การบรกิ าร 6. แบบบนั ทึกการเรียนรู้ กศน. การวัดและประเมินผล 1. การเขา้ เรยี นดว้ ยระบบออนไลน์ 2. ตรวจแบบบนั ทึกการเรยี นรู้ กศน. 3. ตรวจใบงาน 4. ตรวจแบบทดสอบ 5. ประเมินคุณธรรม

98 กระบวนการจดั การเรยี นรู้ วิธีการเรยี น : แบบผ่านชอ่ งทาง ETV (ON-AIR) การกาหนดสภาพ ปัญหา ความตอ้ งการในการเรียนรู้ (O : Orientation) 1. ขัน้ นาเขา้ สูบ่ ทเรยี น ( 1 ช่วั โมง) 1.1 ครทู ักทายนักศึกษา และนาเขา้ สบู่ ทเรียนโดยแจ้งขา่ วสารเหตกุ ารณป์ จั จบุ ัน ผา่ นทาง Google Classroom หรอื LINE กลมุ่ ให้นักศึกษาทราบพร้อมท้ังแลกเรยี นเปลี่ยนเรียนรขู้ อ้ มูลข่าวสารเหตุการณ์ปจั จุบัน ร่วมกนั วิเคราะห์ และแสดงความคดิ เหน็ ร่วมกัน ผา่ นทาง Google Classroom หรือ LINE กลุม่ พร้อมอธิบายถึง เหตผุ ลความจาเปน็ ท่ตี ้องจดั กิจกรรมการเรียนรปู แบบออนไลน์ 1.2 ครนู าเขา้ สู่บทเรยี นโดย ใหน้ กั ศกึ ษาสมคั รเปน็ สมาชกิ ETV ตามลิงค์ต่อไปน้ี https://www.etvthai.tv/member/AddMember_ext.aspx เพ่ือให้นักศึกษามีรหัสผา่ นเพ่ือเขา้ ไปศึกษาหา ความรูต้ ามตารางออนแอร์ ในแตล่ ะวนั ของสถานวี ทิ ยโุ ทรทัศนเ์ พ่ือการศกึ ษา กระทรวงศึกษาธกิ าร ตามลิงค์ รายการโทรทัศน์สง่ เสริมการศึกษานอกระบบโรงเรียน http://www.etvthai.tv/Video/VDO_Detail_Ext.aspx?ContentID=320&videoid=1087&v=1&p=5 และ นกั ศึกษาสามารถตดิ ตามขา่ วสารไดใ้ นเฟสบุ๊ค ETV Channel ตามล้ิงต่อไปนี้ https://www.facebook.com/Etv-Channel-1512499252411798/ 1.3 ครูแจกตารางการออนแอรข์ องรายการ ETV เพ่ือใหน้ ักศกึ ษาตามวนั และเวลาที่กาหนด การแสวงหาข้อมูลและการจัดการเรยี นรู้ (N : New ways of learning) 2. ขัน้ จัดการเรียนการสอน ( เวลา 3 ชัว่ โมง 30 นาที ) 2.1 ครูมอบหมายให้นักศึกษาเข้าไปศึกษาหาความรู้ ของสถานีวิทยุโทรทัศน์เพื่อการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการตามเว็บไซต์ www.etvthai.tv โดย เข้าสู่ระบบด้วยรหัสผ่านที่นักศึกษาสมัครไว้แล้ว โดย สามารถดูตาราง ออนแอร์ได้ ตามลิ้ง http://www.etvthai.tv/Front_ETV/FETV_Schedule.aspx และ สามารถดูรายการย้อนหลังได้ ตามล้ิง http://www.etvthai.tv/home/home_External.aspx อีกช่องทาง การศึกษาหาความรู้โดยผ่าน ทีวีดิจิตอลช่อง 52 (กศน.) สามารถติดตามข่าวสารและตารางออนแอร์

99 ไ ด้ ใ น เ ฟ ส บุ๊ ค : ETV ส่ื อ ดิ จิ ทั ล เ พื่ อ ก า ร ศึ ก ษ า ส า นั ก ง า น ก ศ น . ต า ม ลิ้ ง นี้ https://www.facebook.com/etv.digital/ 2.2 ครูมอบหมายใหน้ กั ศกึ ษาเรียนร้แู บบ (ON-Air) ในเรือ่ ง ทักษะในการพัฒนาอาชพี https://www.youtube.com/watch?v=OZimMETCi3E&list=PLPBTQSTtkB- TVFiyeSdqRYxbP3Ca7SbLW และให้นักศกึ ษาสรุปลงในแบบบันทกึ การเรยี นรู้ กศน. นาสง่ ผ่านทาง Google Classroom หรือ แอปพลิเคชัน LINE 2.3 ครมู อบหมายใหน้ ักศึกษาเลือกโครงงานท่นี กั ศึกษาสนใจ จานวน 1 เร่ือง ใหไ้ ปศึกษาคน้ ควา้ จาก หนังสอื เรยี นออนไลน์ (ลงิ ค์ http://online.pubhtml5.com/wpgv/cygm ) และจากการศกึ ษาในรปู แบบ (ON-Air) ท้ังในเว็บไซต์ www.etvthai.tv และ ทวี ดี จิ ิตอลชอ่ ง 52 (กศน.) หรอื จากแหลง่ การเรยี นรตู้ ่างๆ และ ให้นักศึกษาจดั ทาสรปุ ความรเู้ ป็นแผนผงั ความคิด ลงในแบบบันทกึ การเรียนรู้ กศน. ในหัวข้อ ดงั น้ี เรือ่ งที่ 1 การจัดการเกยี่ วกับการควบคมุ คณุ ภาพ เรอื่ งที่ 2 การใช้นวัตกรรมเทคโนโลยีในการผลิต เรอื่ งที่ 3 การลดตน้ ทนุ การผลิตหรอื การบริการ เรอ่ื งที่ 4 การจดั ทาแผนปฏบิ ัติการ และสง่ งานผ่านทาง Google Classroom หรอื แอปพลิเคชัน LINE 2.4 ครูสอนและสอดแทรกคุณธรรม 11 ประการ ในเร่ือง ความสะอาด ความสุภาพ ความกตัญญูกตเวที ความขยัน ความประหยัด ความซ่อื สตั ย์ ความมีน้าใจ ความมีวนิ ัย ศาสน์ กษัตริย์ รักความเป็นไทย และยดึ มัน่ ใน วิถชี ีวิตและการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษตั รยิ ์ทรงเป็นประมขุ ผ่านทาง LINE กลุม่ การปฏบิ ัติและนาไปประยกุ ต์ (I : Implementation) 3. ขัน้ การปฏบิ ัติและนาไปประยกุ ตใ์ ช้ ( 30 นาที ) 3.1 ครูสมุ่ ตัวแทนกลมุ่ นาเสนอ เพ่ือแลกเปลยี่ นความคิดเห็นซ่ึงกนั และกัน สรุปสงิ่ ท่ีไดเ้ รียนรู้ร่วมกนั และ ใหน้ กั ศึกษาบันทึกความรู้ทไี่ ด้ ลงในแบบบันทึกการเรยี นรู้ กศน. 3.2 นักศึกษานาความรู้ที่ได้จากการเรียนรู้มาเป็นแนวทางในการแก้ปัญหาและการดาเนินชีวิตใน ประจาวันต่อไป ข้ันประเมนิ ผล (E : Evaluation) 4. ขนั้ สรปุ ผลและประเมินผล ( เวลา 1 ช่วั โมง ) 4.1. ครูสรุปผลการทากิจกรรมและตรวจสอบความถูกต้อง จากชิ้นงานท่ีได้มอบหมายไปและให้นักศึกษา สง่ กลบั มาทาง LINE กลมุ่ 4.2. ครูให้นักศึกษาทาแบบทดสอบย่อย ในรูปแบบปรนัย จานวน 20 ข้อ โดยใช้ Google Form พร้อม เฉลย ประเมนิ ผล และใหน้ กั ศกึ ษาบนั ทกึ คะแนนลงในแบบบนั ทึกการเรยี นรู้ กศน.

100 4.3. ครูให้นกั ศึกษาสรุปการทาความดแี ละคุณธรรมทไี่ ดป้ ฏิบัติ พร้อมบันทึกลงในสมุดบันทึก ความดีเพ่ือ การประเมินคณุ ธรรม ส่อื และแหล่งการเรยี นรู้ วธิ เี รยี นผ่านช่องทาง ETV (ON-AIR) 1. www.etvthai.tv 2. ทีวดี ิจิตอลช่อง 52 (กศน.) 3. เฟสบคุ๊ https://www.facebook.com/etv.digital/ และ https://www.facebook.com/Etv-Channel-1512499252411798/ 4. Google Classroom / แอปพลิเคชนั LINE 5. หนังสือเรียนวิชา อช21002 วิชาทักษะการพัฒนาอาชีพ หรือ หนังสือเรียนออนไลน์ลิงค์ http://online.pubhtml5.com 6. แบบทดสอบก่อนเรียน (Pre-test) วิชา ทักษะการพัฒนาอาชีพ แบบปรนัย จานวน 30 ข้อ (ชุดแบบทดสอบ หรอื Google Form) 7. แบบทดสอบย่อย เรื่อง การจัดการการผลิตหรือการบริการ แบบปรนัย จานวน 20 ข้อ (ชุด แบบทดสอบ หรอื Google Form) 8. ใบงานท่ี 1 เร่อื งการจัดการการผลิตหรือการบรกิ าร 9. ใบความรทู้ ี่ 1 เรื่องการจดั การการผลติ หรอื การบริการ 10. แบบบันทกึ การเรยี นรู้ กศน. การวัดและประเมนิ ผล 1. การสงั เกตพฤติกรรมการมีสว่ นร่วมรายบุคคล/รายกลมุ่ 2. ตรวจแบบบันทึกการเรยี นรู้ กศน. 3. ตรวจใบงาน 4. ตรวจแบบทดสอบ 5. ประเมินคุณธรรม

101 กระบวนการจดั การเรียนรู้ วธิ ีการเรียน : ผา่ น แอปพลเิ คช่นั (ON-Demand) การกาหนดสภาพ ปัญหา ความตอ้ งการในการเรยี นรู้ (O : Orientation) 1. ขั้นตอนนาเข้าสบู่ ทเรยี น ( เวลา 30 นาที ) 1.1 ครทู กั ทายนกั ศึกษา และนาเขา้ สู่บทเรียนโดยแจ้งข่าวสารเหตุการณ์ปัจจบุ นั ผา่ นทาง Google Classroom หรอื LINE กลมุ่ ให้นักศึกษาทราบพร้อมท้ังแลกเรียนเปล่ยี นเรียนร้ขู อ้ มลู ขา่ วสารเหตุการณ์ปจั จุบนั ร่วมกันวเิ คราะห์ และแสดงความคิดเห็นรว่ มกนั ผา่ นทาง Google Classroom หรอื LINE กลมุ่ พร้อมอธบิ ายถงึ เหตุผลความจาเปน็ ที่ต้องจดั กิจกรรมการเรียนรูปแบบออนไลน์ 1.2 ครชู แ้ี จง สาระสาคญั จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ เนอ้ื หา กระบวนการจดั การเรียนรู้ ส่อื และแหลง่ การ เรยี นรู้ การวดั และประเมินผล และการติดตาม ผา่ นทาง Google Classroom หรือ LINE กลุม่ 1.3 ครูและนักศึกษาร่วมกันวิเคราะห์และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหา ความต้องการ รูปแบบใน การเรียน และการแสวงหาความรจู้ ากสื่อต่าง ๆ ในการเรียนรายวิชาทักษะการพัฒนาอาชีพ เรื่อง การจัดการการ ผลติ หรือการบรกิ าร ผ่าน ทาง Google Classroom หรือ LINE กลมุ่ การแสวงหาข้อมูลและการจัดการเรียนรู้ (N : New ways of learning) 2. ข้นั จดั การเรียนการสอน ( เวลา 3 ชว่ั โมง 30 นาที) 2.1 ครูให้นักศึกษาทาแบบทดสอบก่อนเรียน (pre-test) แบบปรนัย จานวน 30 ข้อ โดยใช้เอกสารหรือ Google Form ผ่านทาง Google Classroom หรือ LINE และแจ้งผลสอบให้นักศึกษาทราบผ่านทาง Google Classroom หรอื LINE และนกั ศึกษาบันทึกคะแนนลงในแบบบันทึกการเรยี นรู้ กศน. 2.2 ครูมอบหมายให้นักศึกษาไปศึกษาหาความรู้จากหนังสือเรียนออนไลน์ วิชาทักษะการพัฒนาอาชีพ http://online.pubhtml5.com หรือจากแหล่งเรียนรู้ต่างๆ และให้สรุปลงในแบบบันทึกการเรียนรู้ กศน. ใน หวั ขอ้ ต่อไปนี้ เรือ่ งที่ 1 การจัดการเกี่ยวกบั การควบคมุ คณุ ภาพ เรือ่ งที่ 2 การใชน้ วตั กรรมเทคโนโลยใี นการผลติ เรอ่ื งท่ี 3 การลดตน้ ทนุ การผลิตหรอื การบริการ เรือ่ งที่ 4 การจดั ทาแผนปฏบิ ัติการ 2.3 ครูใหน้ ักศึกษาศึกษาค้นคว้าจากแหล่งเรียนรู้สอื่ ส่งิ พิมพ์ อินเตอร์เนต็ และใบความรูท้ ่ี 4 การจัดการ การผลติ หรือการบริการ (โดยครจู ะสง่ ใบความร้ทู าง Google classroom) พรอ้ มท้งั ให้นักศึกษาสรปุ เนอ้ื หา สาระสาคัญลงในแบบบนั ทึกการเรียนรู้ กศน. และทาใบงานที่ 4 เรือ่ งการจัดการการผลิตหรอื การบรกิ า (โดยครจู ะส่งใบงานทาง Google classroom)

102 2.4 ครสู อนและสอดแทรกคุณธรรม 11 ประการ ในเร่ือง ความสะอาด ความสุภาพ ความกตญั ญกู ตเวที ความขยัน ความประหยดั ความซ่อื สตั ย์ ความมีน้าใจ ความมีวินยั ศาสน์ กษัตรยิ ์ รกั ความเปน็ ไทย และยึดมนั่ ใน วถิ ชี วี ิตและการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษตั รยิ ์ทรงเป็นประมขุ ผ่านทาง LINE กลุ่ม การปฏิบตั แิ ละนาไปประยกุ ต์ (I : Implementation) 3. ขั้นการปฏิบตั แิ ละนาไปประยกุ ต์ใช้( 30 นาที ) 3.1 ครสู ุม่ ตวั แทนกลุ่มนาเสนอ เพ่ือแลกเปลยี่ นความคดิ เห็นซึ่งกนั และกัน สรปุ สง่ิ ท่ีได้เรียนรูร้ ว่ มกันและ ใหน้ กั ศึกษาบนั ทึกความร้ทู ี่ได้ ลงในแบบบนั ทกึ การเรียนรู้ กศน. 3.2 นักศึกษานาความรู้ท่ีได้จากการเรียนรู้มาเป็นแนวทางในการแก้ปัญหาและการดาเนินชีวิตใน ประจาวันตอ่ ไป ข้ันประเมินผล (E :Evaluation) 4. ขั้นสรปุ และประเมินผล ( เวลา 1 ชัว่ โมง ) 4.1. ครสู รุปผลการทากิจกรรมและตรวจสอบความถูกต้อง จากช้ินงานท่ีได้มอบหมายไปและให้นักศึกษา ส่งกลับมาทาง LINE กลมุ่ 4.2. ครูให้นักศึกษาทาแบบทดสอบย่อย ในรูปแบบปรนัย จานวน 20 ข้อ โดยใช้ Google Form พร้อม เฉลย ประเมินผล และให้นกั ศึกษาบนั ทึกคะแนนลงในแบบบนั ทึกการเรยี นรู้ กศน. 4.3. ครูใหน้ กั ศึกษาสรุปการทาความดีและคุณธรรมท่ไี ดป้ ฏิบัติ พร้อมบันทึกลงในสมุดบันทึก ความดีเพื่อ การประเมินคณุ ธรรม การมอบหมายงาน กรต. 1. ครูมอบหมายให้นักศึกษาไปอ่านทบทวนเนื้อหาเพ่ิมเติม เร่ือง ทักษะการพัฒนาอาชีพ จากหนังสือ เรียนออนไลน์ ลิงค์ http://online.pubhtml5.com และใหส้ รปุ ลงในแบบบันทึกการเรยี นรู้ กศน. 2. ครมู อบหมายให้นกั ศกึ ษาไปศึกษาค้นคว้าและใบงานท่ี 1 เร่ืองทักษะในการพัฒนาอาชีพ และใบงานท่ี 2 เรือ่ ง การจัดการอาชพี และแหล่งเรยี นรู้ (โดยครูจะส่งใบงานทาง Google classroom) และให้นักศึกษาส่งงาน ทาง Google classroom หรือทาง LINE ตามวันเวลาที่ครูนัดหมาย 3. ครูมอบหมายนักศึกษาให้ไปศึกษา เร่ือง วางแผนในการฝึกทักษะอาชีพโดยพัฒนาต่อยอด และ ประยุกต์ใช้ภูมิปัญญา จากหนังสือ เรียนออนไลน์ ลิงค์ http://online.pubhtml5.com เพ่ือเตรียมการเรียนรู้ ทางออนไลน์ ในสปั ดาหต์ ่อไป ครูสอบถามและติดตามงานท่ีได้มอบหมายนักศึกษา เพ่ือติดตามความคืบหนา ผ่านทาง LINE/Facebook/เพจ กศน.ตาบล/อื่น ๆ ดงั นี้ 1) ติดตามงานท่ีไดร้ ับมอบหมายสัปดาหท์ ผี่ า่ นมา 2) การทากิจกรรมพัฒนาคุณภาพชวี ิต (กพช.) 3) ตดิ ตามสอบถามสุขภาพของนกั ศึกษา (การตรวจสุขภาพ ความสะอาด การแตง่ กาย)

103 4) ตดิ ตามสอบถามการทาความดีในแตล่ ะวัน สัปดาห์ทผี่ ่านมา และติดตามการบันทึกกิจกรรมท่ีทาความ ดลี งในสมุดบันทกึ บนั ทกึ ความดเี พอ่ื การประเมนิ คุณธรรม 5) ติดตามสอบถามเกี่ยวกับงานอดิเรก สุนทรยี ภาพ การเลน่ กีฬา การใชเ้ วลาวา่ งให้เปน็ ประโยชน์ 6) ตดิ ตามการทาโครงงาน ส่อื และแหล่งเรียนรู้ วธิ เี รียนผา่ น แอปพลิเคชั่น (ON-Demand) 1. หนงั สือเรียนวชิ า อช21002 วชิ าทักษะการพัฒนาอาชีพ หรอื หนังสอื เรียนออนไลนล์ ิงค์ http://online.pubhtml5.com 2. แบบทดสอบย่อย เรื่อง การจัดการการผลิตหรือการบริการ แบบปรนัย จานวน 20 ข้อ (ชุด แบบทดสอบ หรือ Google Form) 4. ใบงานท่ี 3 เร่อื งการจัดการการผลติ หรือการบรกิ าร 5. ใบความรทู้ ่ี 3 เร่ืองการจดั การการผลติ หรอื การบริการ 6. แบบบันทึกการเรียนรู้ กศน. การวดั และประเมนิ ผล 1. การสงั เกตพฤติกรรมการมีส่วนรว่ มรายบุคคล/รายกลุ่ม 2. ตรวจแบบบนั ทกึ การเรียนรู้ กศน. 3. ประเมินการนาเสนอผลงาน 4. ตรวจใบงาน 5. ตรวจแบบทดสอบยอ่ ย 6. ประเมินคุณธรรม

104 กระบวนการจัดการเรยี นรู้ วธิ ีการเรยี น : แบบหนังสือเรยี น มอบหมายงาน (ON - Hand) การกาหนดสภาพ ปญั หา ความต้องการในการเรยี นรู้ (O : Orientation) 1. ข้นั ตอนนาเข้าสบู่ ทเรยี น ( เวลา 30 นาที ) 1.1 ครูทกั ทายนกั ศึกษา และนาเข้าสู่บทเรียนโดยแจ้งข่าวสารเหตุการณ์ปัจจุบัน ผา่ นทาง Google Classroom หรือ LINE กลุ่ม ใหน้ กั ศึกษาทราบพร้อมทั้งแลกเรยี นเปลย่ี นเรียนร้ขู ้อมูลข่าวสารเหตกุ ารณป์ ัจจุบนั รว่ มกันวิเคราะห์ และแสดงความคดิ เห็นรว่ มกัน ผ่านทาง Google Classroom หรอื LINE กล่มุ พร้อมอธบิ ายถงึ เหตุผลความจาเป็นท่ีต้องจดั กิจกรรมการเรยี นรูปแบบออนไลน์ 1.2 ครชู แ้ี จง สาระสาคญั จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ เนือ้ หา กระบวนการจดั การเรยี นรู้ ส่ือและแหลง่ การ เรยี นรู้ การวดั และประเมินผล และการติดตาม ผ่านทาง Google Classroom หรอื LINE กลุ่ม 1.3 ครแู ละนักศกึ ษารว่ มกนั วิเคราะห์และแสดงความ คิดเห็น เกยี่ วกบั ปัญหา ความต้องการ รูปแบบใน การเรียน และการแสวงหาความรจู้ ากสอื่ ต่าง ๆ ในการเรียนรายวิชาทักษะการพัฒนาอาชีพ เร่ือง ทกั ษะการ พฒั นาอาชีพ ผา่ นทาง Google Classroom หรือ LINE กลุ่ม การแสวงหาข้อมูลและการจัดการเรียนรู้ (N : New ways of learning) 2. ขน้ั จดั การเรียนการสอน ( เวลา 3 ชัว่ โมง 30 นาที ) 2.1 ครูให้นักศึกษาทาแบบทดสอบก่อนเรียน (pre-test) แบบปรนัย จานวน 30 ข้อ โดยใช้เอกสารหรือ Google Form ผ่านทาง Google Classroom หรือ LINE และแจ้งผลสอบให้นักศึกษาทราบผ่านทาง Google Classroom หรอื LINE และนักศกึ ษาบันทึกคะแนนลงในแบบบันทกึ การเรียนรู้ กศน. 2.2 ครูมอบหมายให้นักศึกษาไปศึกษาหาความรู้จากหนังสือเรียนออนไลน์ วิชาทักษะการพัฒนาอาชีพ http://online.pubhtml5.com หรือจากแหล่งเรียนรู้ต่างๆ และให้สรุปลงในแบบบันทึกการเรียนรู้ กศน. ใน หวั ขอ้ ตอ่ ไปน้ี เรื่องที่ 1 การจดั การเกยี่ วกบั การควบคมุ คุณภาพ เรื่องท่ี 2 การใช้นวัตกรรมเทคโนโลยีในการผลิต เรือ่ งท่ี 3 การลดต้นทนุ การผลติ หรือการบริการ เรือ่ งท่ี 4 การจัดทาแผนปฏิบัติการ 2.3 ครูให้นักศึกษาศึกษาคน้ ควา้ จากแหลง่ เรียนรสู้ ่ือสงิ่ พมิ พ์ อินเตอร์เน็ต และใบความรทู้ ่ี 4 เรือ่ งการ จัดการการผลิตหรือการบรกิ าร (โดยครจู ะส่งใบความรู้ทาง Google classroom) พร้อมทง้ั ให้นักศกึ ษาสรุป เน้อื หาสาระสาคัญลงในแบบบนั ทกึ การเรยี นรู้ กศน. และทาใบงานที่ 4 เรื่องการจัดการการผลิตหรือการบริการ (โดยครจู ะสง่ ใบงานทาง Google classroom)

105 2.4 ครสู อนและสอดแทรกคุณธรรม 11 ประการ ในเรอื่ ง ความสะอาด ความสภุ าพ ความกตญั ญกู ตเวที ความขยัน ความประหยัด ความซ่ือสัตย์ ความมนี ้าใจ ความมีวนิ ยั ศาสน์ กษัตริย์ รกั ความเปน็ ไทย และยึดม่นั ใน วถิ ีชีวติ และการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษตั ริย์ทรงเป็นประมขุ ผ่านทาง LINE กลุ่ม การปฏบิ ตั แิ ละนาไปประยุกต์ (I : Implementation) 3. ข้นั การปฏิบตั ิและนาไปประยกุ ตใ์ ช(้ 30 นาที ) 3.1 ครูส่มุ ตวั แทนกลมุ่ นาเสนอ เพื่อแลกเปล่ยี นความคิดเห็นซงึ่ กันและกัน สรปุ สง่ิ ที่ได้เรียนรูร้ ว่ มกนั และ ใหน้ กั ศึกษาบันทึกความรู้ท่ไี ด้ ลงในแบบบันทึกการเรียนรู้ กศน. 3.2 นักศึกษานาความรู้ที่ได้จากการเรียนรู้มาเป็นแนวทางในการแก้ปัญหาและการดาเนินชีวิตใน ประจาวนั ตอ่ ไป ขน้ั ประเมินผล (E :Evaluation) 4. ข้ันสรปุ และประเมนิ ผล ( เวลา 1 ชั่วโมง ) 1. ครูสรุปผลการทากิจกรรมและตรวจสอบความถูกต้อง จากช้ินงานท่ีได้มอบหมายไปและให้นักศึกษา ส่งกลบั มาทาง LINE กลมุ่ 2. ครูให้นักศึกษาทาแบบทดสอบย่อย ในรูปแบบปรนัย จานวน 20 ข้อ โดยใช้ Google Form พร้อม เฉลย ประเมนิ ผล และให้นกั ศกึ ษาบนั ทกึ คะแนนลงในแบบบันทึกการเรยี นรู้ กศน. 3. ครูให้นักศึกษาสรุปการทาความดีและคุณธรรมท่ีได้ปฏิบัติ พร้อมบันทึกลงในสมุดบันทึก ความดีเพื่อ การประเมินคณุ ธรรม สอ่ื และแหล่งเรยี นรู้ วธิ เี รียน แบบหนังสือเรยี น มอบหมายงาน (ON - Hand) 1. หนังสือเรยี นวิชา อช21002 วิชาทักษะการพัฒนาอาชีพ หรือ หนงั สือเรยี นออนไลนล์ ิงค์ https://pubhtml5.com/oivm/nmqn/basic 2. แบบทดสอบก่อนเรียน (Pre-test) วิชา ทักษะการพัฒนาอาชีพ แบบปรนัย จานวน 30 ข้อ (ชดุ แบบทดสอบ หรอื Google Form) 3. แบบทดสอบย่อย เร่ือง การจัดการการผลิตหรือการบริการ แบบปรนัย จานวน 20 ข้อ (ชุด แบบทดสอบ หรอื Google Form) 4. ใบงานที่ 1 เรื่องการจัดการการผลิตหรอื การบรกิ าร 5. ใบความรู้ที่ 1 เร่ืองการจดั การการผลิตหรือการบรกิ าร 6. แบบบนั ทกึ การเรยี นรู้ กศน.

106 การวัดและประเมนิ ผล 1. การสงั เกตพฤติกรรมการมีส่วนร่วมรายบคุ คล/รายกลุ่ม 2. ตรวจแบบบนั ทกึ การเรยี นรู้ กศน. 3. ประเมินการนาเสนอผลงาน 4. ตรวจใบงาน 5. ตรวจแบบทดสอบย่อย 6. ประเมนิ คณุ ธรรม

107 การเรยี นร้ดู ว้ ยตนเอง (กรต.) ครงั้ ที่ 8 (จานวน 24 ช่ัวโมง) สาระการการประกอบอาชพี รายวิชา อช21002 ทักษะการพัฒนาอาชพี ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น คาส่ัง ให้นักศึกษาแบ่งกลุ่มเป็น 4 กลุ่ม และไปทากิจกรรมการเรียนรู้ต่อเนื่อง (กรต) โดยการไปศึกษาค้นคว้า อ่านหนังสือ จดบันทึก จากหนังสือแบบเรียน ตารา หนังสือ และสื่ออ่ืนๆ ในห้องสมุดประชาชนจังหวัด ห้องสมุด ประชาชนอาเภอ โรงเรียนประถมศึกษา โรงเรียนมัธยมศึกษา วิทยาลัยชุมชนในพ้ืนท่ีอาเภอเมืองนราธิวาสหรือ อาเภออืน่ ๆ หรือไปสอบถามขอความรู้จากบคุ คล ในหัวขอ้ ตอ่ ไปน้ี กล่มุ ท่ี 1. การจดั การเกี่ยวกับการควบคมุ คุณภาพ กลมุ่ ที่ 2. การใชน้ วัตกรรมเทคโนโลยีในการผลติ กล่มุ ท่ี 3. การลดตน้ ทนุ การผลติ หรือการบรกิ าร กลุม่ ท่ี 4 การจัดแผนปฏิบตั กิ าร ขัน้ ตอนของการไปเรยี นรตู้ อ่ เนื่อง (กรต.) ของนักศกึ ษา มีดังนี้ 1. แผนการเรียนรู้ต่อเน่ือง (กรต.) ในแต่ละแต่ละสัปดาห์ แต่ละครั้งท่ีครู กศน.ตาบล/ครู ศรช. หรือครู ประจากล่มุ กล่มุ มอบหมาย 2. ให้บริหารเวลาและใช้เวลาในการศึกษาเรียนรู้ด้วยตนเองและทากิจกรรมการเรียนรู้ต่อเน่ือง (กรต.) สปั ดาหล์ ะ 24 ชงั่ โมงเปน็ อย่างน้อย 3. อ่านหนังสือ สอบถามผู้รู้ และจดบันทึกทุกครั้งทีมีการทากิจกรรม กรต. และเก็บหลักฐานไว้ทุกครั้ง เพอื่ สง่ ครูกศน.ตาบล/ครศู รช. หรือครปู ระจากลุ่ม ตรวจให้คะแนนการทา กรต. 4. จัดทารายงานเป็นเล่ม ตามแบบรายงานที่ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย กาหนดและให้สง่ ในวันท่มี กี ารนาเสนอผลการทากรต. ในเรือ่ งนัน้ ๆ 5. ตวั แทนกลุ่มนาเสนอด้วยตนเอง (กรณีทที่ ากรต.คนเดียว) โดยให้นาเสนอผลงานตามข้อ4 กลุ่มละ/คน ละไม่เกนิ 10 นาที ในวันพบกลุม่ ครง้ั ตอ่ ไป

108 ใบความร้ทู ี่ 8 เรื่องการจัดการการผลติ และการบริการ วิชา ทกั ษะการพัฒนาอาชีพ รายวชิ า อช 21002 ระดบั มัธยมศึกษาตอนต้น 1. ความรูท้ ั่วไปเก่ยี วกับการจดั การการตลาด และการผลิต 1.1. ความหมายและความสาคญั ของการตลาด และการผลติ ความหมายของการตลาด แกรี่ อารม์ สตรอง และ ฟลิ ลิป คอตเลอร์ ไดใ้ ห้ความหมายของการตลาดไว้วา่ \"เป็นกระบวนการทางสงั คม และ กระบวนการของการจัดการท่ีทาใหบ้ คุ คล และกลุ่มได้รับในสิง่ ทต่ี ้องการและจาเป็น โดยการคดิ คน้ นวตั กรรมใหม่ และการผลิตสินคา้ ออกส่ตู ลาดตามความต้องการของลูกค้า\" ความหมายของการตลาดจึงประกอบไปดว้ ยคาสาคญั 4 คาหลกั ดงั นี้ 1. ความตอ้ งการ 2. การสร้างความพึงพอใจ 3. รับผิดชอบต่อสงั คม 4. ทากาไรให้กับกิจการในระดบั ทีเ่ ปน็ ท่ีพงึ พอใจ ความสาคญั ของการตลาด 1. การตลาดเป็นเคร่ืองมือที่ทาใหเ้ กิดการแลกเปลย่ี น การตลาดเสนอผลติ ภณั ฑ์ทตี่ อบสนองความต้องการของผู้บริโภค เมอื่ ผู้บริโภคเกิดความตอ้ งการจงึ เกิดการ แลกเปล่ียนขึน้ 2. การตลาดเปน็ ตวั เชือ่ มโยงเจา้ ของผลิตภัณฑก์ ับผบู้ ริโภค เจา้ ของผลิตภัณฑม์ ักจะส่ือสารกับผู้บรโิ ภคผ่านการทาการตลาด เมอ่ื ผูบ้ รโิ ภครับสารแลว้ กจ็ ะแสดงพฤติกรรม ออกมาใหเ้ จา้ ของผลิตภัณฑร์ ับรู้ด้วยการตอบสนองต่อผลติ ภัณฑ์ จึงกล่าวไดว้ า่ การตลาดเป็นตวั เชื่อมโยงเจา้ ของ ผลิตภณั ฑใ์ หร้ ับรูถ้ ึงความต้องการของผ้บู ริโภค 3. การตลาดเปน็ ตัวผลักดันให้มีการพัฒนาปรบั ปรงุ ผลติ ภัณฑ์ จากข้อ 2 จะเห็นวา่ การตลาดทาใหเ้ จา้ ของผลิตภณั ฑ์รับรถู้ งึ ความต้องการของผูบ้ ริโภค ด้วยเหตุน้ีเจ้าของ ผลิตภัณฑ์จงึ ปรับปรงุ ผลติ ภัณฑ์ใหต้ รงตามความต้องการของผ้บู รโิ ภคใหม้ ากข้นึ จงึ กล่าวไดว้ ่า การตลาดทาใหเ้ กิด การปรับปรุงผลิตภณั ฑ์ 4. การตลาดเป็นกลไกในการเสริมสรา้ งระบบเศรษฐกิจ การตลาด ทาใหเ้ กิด การจา้ งงาน เพือ่ ทาการผลิตสนิ ค้าและบรกิ าร เมื่อเกิดการจา้ งงานประชาชนจงึ มี รายได้ เมอ่ื มรี ายได้จงึ เกิด การบรโิ ภค เมือ่ เกิดการบริโภคกท็ าให้ มาตรฐานการครองชีพสงู ข้นึ จงึ กลา่ วได้วา่ การตลาดเปน็ กลไกในการเสริมสร้างเศรษฐกจิ

109 ความหมายของการผลติ การผลติ หมายถึง การจัดการเกีย่ วกบั กระบวนการเปลีย่ นแปลงท่ใี ชป้ ัจจยั การผลติ (ทดี่ นิ แรงงาน เงินทุน และ การจัดการ) ซ่ึงมีความครอบคลมุ ถึงกจิ กรรมท่สี าคัญดังน้ี 1. การวางแผนผลติ ภณั ฑ์ 2. การกาหนดทาเลท่ีตั้ง 3. การวางแผนกาลังการผลิต 4. การออกแบบระบบการผลิต และการวางผงั กระบวนการผลติ 5. การออกแบบงาน การกาหนดมาตรฐาน และการวดั งานการผลติ 6. การวางแผนการผลิต และการจัดตารางการผลติ 7. การควบคมุ การผลติ ความสาคญั ของการผลติ 1. ในทางเศรษฐกิจ การผลติ ทาให้เกิด การจ้างงาน เพ่ือทาการผลิตสนิ ค้าและบริการ เมื่อเกิดการจ้างงานประชาชนจงึ มี รายได้ เมอ่ื มีรายไดจ้ งึ เกิด การบริโภค เม่ือเกดิ การบรโิ ภคก็ทาให้ มาตรฐานการครองชีพสงู ข้นึ 2. ในทางการตลาด การผลิตเปน็ เครอ่ื งมือหน่ึงของการตลาดในการตอบสนองความต้องการของผูบ้ รโิ ภคทางด้านผลิตภัณฑ์ จะ ตอบสนองได้ดแี ค่ไหนขน้ึ อยู่กับประสิทธภิ าพ และความสามารถในการผลิต 1.2. หนา้ ท่กี ารตลาดกับการผลติ หนา้ ทีก่ ารตลาด เพราะผ้ผู ลติ และผู้บรโิ ภคอยูห่ ่างไกลกันด้วยความห่าง 5 ประการ คือ 1. สถานที่ ห่างกันดว้ ยสถานที่ คอื ผผู้ ลิตกบั ผบู้ รโิ ภคอยหู่ ่างกันโดยภูมิศาสตร์ 2. เวลา หา่ งกันด้วยเวลา คือ ผู้บรโิ ภคตอ้ งการผลติ ภัณฑ์ในยามท่ีไม่ใชฤ่ ดูกาลของผลติ ภณั ฑ์ 3. การรบั รู้ ห่างกันดว้ ยการรับรู้ คอื ผู้บริโภคไมท่ ราบว่ามีผลติ ภณั ฑ์ที่แกป้ ัญหาให้กบั เขาได้ 4. มลู ค่า หา่ งกันด้วยมูลคา่ คือ มลู ค่าของผลิตภัณฑ์อยใู่ นเกรดทไี่ มต่ รงกับผู้บริโภค 5. การเป็นเจา้ ของ ห่างกนั ดว้ ยการเป็นเจ้าของ คือ ความสะดวกในการแลกเปลยี่ นผลติ ภัณฑ์กบั เงินตราเพื่อให้ได้ สิทธิในการเป็นเจ้าของผลติ ภัณฑข์ องผบู้ รโิ ภค ด้วยเหตนุ ้จี งึ จาเปน็ ต้องมีการตลาดเขา้ มาช่วยทาให้ความห่างที่มนี นั้ เข้าใกลก้ ัน ซึ่งหนา้ ท่ที างการตลาด อาจ จาแนกออกไดเ้ ป็น 8 หนา้ ที่ ดังนี้ 1. หน้าท่ีในการแลกเปล่ยี น

110 เปน็ เรอื่ งท่ีเกย่ี วกับกจิ กรรมการซ้ือ และการขายของกจิ การทจ่ี ะต้องจัดทาใหม้ ีความเปน็ ระเบียบ และเป็น มาตรฐานเพ่ืออานวยความสะดวก และสรา้ งความพึงพอใจให้กบั ผบู้ ริโภค กิจกรรมเหลา่ นี้เร่มิ ตั้งแต่การคดั กรอง คณุ ภาพของวตั ถดุ บิ เพือ่ นามาผลิตสินค้า จนไปถงึ การทาการโฆษณาสง่ เสรมิ การขาย และการรับประกนั สนิ ค้า ซึ่ง หัวใจหลักทีส่ าคัญของการแลกเปลย่ี นก็คือ การสรา้ งความไว้วางใจ การทาสัญญา และความสะดวกทางการเงนิ ท่ี ทาใหผ้ ู้ซื้อสามารถซ้ือสนิ คา้ ได้ 2. หนา้ ทใ่ี นการจาแนกแจกจ่ายสนิ ค้า เป็นเรื่องที่เกย่ี วกับ กิจกรรมการขนส่ง และการเกบ็ รักษาสินคา้ ซึง่ กจิ การจะต้องประเมินทางเลอื กในการขนส่ง สินค้า และประเมนิ ปรมิ าณสินค้าทีจ่ ะจัดให้มีการเกบ็ รักษาสารองไว้ เพ่ือความสะดวกในการสง่ มอบให้กบั ลูกคา้ ได้ อยา่ งรวดเรว็ และประหยัดคา่ ใช้จ่ายให้มากที่สุด 3. หนา้ ท่ีในการอานวยความสะดวก เป็นเร่ืองเกี่ยวกบั การอานวยความสะดวกในการแลกเปล่ยี นและเคล่ือนย้ายสินค้า โดยมุ่งแก้ปัญหาในกจิ กรรม ต่างๆต่อไปน้ี 3.1. การจัดมาตรฐานสนิ ค้า เพ่ืออานวยความสะดวกให้ลูกคา้ ตดั สนิ ใจซ้ือและเลอื กหาได้ง่ายขน้ึ 3.2. สารสนเทศสาหรบั ตลาด เป็นการศึกษาตดิ ตามการเปล่ียนแปลงทางการเมือง เศรษฐกจิ กฎหมาย และ ความเคลือ่ นไหวของค่แู ขง่ ขัน ซ่งึ กจิ การจะต้องปรบั ตัวตามการเปลี่ยนแปลงเพอื่ ให้เกิดความถกู ต้องในทางปฏบิ ตั ิ ซ่ึงจะทาใหไ้ ม่เกิดปญั หากบั ลูกคา้ ในอนาคต 3.3. ความเส่ียงภยั ของตลาด คอื การตรวจสอบความเสื่อมสภาพของสนิ คา้ ความลา้ สมัย ความสูญหาย ชารุด เสยี หาย เปลีย่ นแปลง อันเน่อื งมาจากปัจจัยตา่ งๆ เช่น การขนส่ง สมยั นิยม สภาพสงั คม ประเพณีวัฒนธรรม ซ่งึ กิจการจะต้องปรับตวั ตามเพอ่ื ท่ีจะคงความสะดวก และความพึงพอใจของลูกค้าทม่ี ีต่อผลิตภณั ฑ์ 3.4. การเงนิ ของตลาด คือ การสร้างสภาพคล่องทางการเงนิ ใหก้ ับกิจการ เพื่อสรา้ งความม่ันใจให้กับลกู ค้าทจ่ี ะ มีตอ่ กิจการ 4. หน้าทใ่ี นการวิเคราะห์ตลาด เป็นการวเิ คราะห์กระบวนการของการหาซอ้ื สนิ ค้าของลูกคา้ โดยการสารวจการหาซื้อของลกู ค้า และการวิจัย ตลาดของกจิ การซ่งึ ทง้ั สองสว่ นน้เี ปน็ หน้าทีใ่ นการวิเคราะห์ตลาดท่ีจะทาใหก้ ิจการทราบว่า ลูกค้ามจี านวนเทา่ ใด อยู่ท่ีไหน มีความต้องการต่อสินค้าเป็นอยา่ งไร 5. หน้าที่ในการส่อื ข้อความทางการตลาด เปน็ การสือ่ สารกันระหวา่ งกจิ การและลกู คา้ ซง่ึ อาศยั สอ่ื และกิจกรรมตา่ งๆ เช่น การทาวจิ ยั ตลาด การโฆษณา การขาย การประชาสมั พันธ์ ซึง่ ข้อมูลทไ่ี ด้จากกจิ กรรมเหล่าน้จี ะเป็นตัวชว่ ยใหล้ ูกคา้ และกจิ การเข้าใจกนั มาก ย่งิ ขน้ึ 6. หนา้ ที่ในการสรา้ งความแตกตา่ งให้กบั ผลติ ภณั ฑ์ เป็นการปรบั ปรุงเปล่ียนแปลงผลติ ภัณฑเ์ พื่อสร้างความพึงพอใจให้กบั ลูกค้า และมผี ลทางด้านการแข่งขันกับ ค่แู ขง่ ในตลาดดว้ ย ซึ่งการเปลยี่ นแปลงท่ีผ้ขู ายจะตอ้ งกระทามดี ังนี้ 6.1. การเปลี่ยนแปลงตวั สินคา้ บรกิ าร หรอื ความคดิ

111 6.2. การเปลย่ี นแปลงบรรจุภัณฑ์ ตราสนิ คา้ ราคา หรือทาเลทต่ี ง้ั 6.3. การเปล่ียนแปลงข้อมูลท่ใี หก้ บั ผซู้ ้ือ 6.4. การเปลีย่ นแปลงทศั นคติ หรือ แนวทางปฏบิ ัติ เก่ียวกบั กระบวนการตกลงต่อรอง 7. หน้าทีใ่ นการแบ่งสว่ นตลาด ไม่มีผู้ขายรายใด สามารถสร้างความพึงพอใจให้กบั ผซู้ ้ือไดท้ ้ังหมด ดังนั้นกิจการจงึ ควรทาการแบ่งส่วนตลาด เพ่ือทีจ่ ะตอบสนองความต้องการของกลมุ่ เป้าหมายไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธิภาพมากทสี่ ุด นกั การตลาดอาจมีแนวทาง ในการจัดการกบั ส่วนตลาดดงั นี้ 7.1. เสนอสินค้าเพียงตัวเดยี วในทกุ ส่วนของตลาด 7.2. พยายามเจาะส่วนใดส่วนหน่งึ ของตลาด 7.3. เสนอผลติ ภณั ฑห์ ลายชนิดใหค้ รอบคลุมแตล่ ะสว่ นของตลาด 8. หนา้ ท่ีในการประเมินคา่ เป็นการประเมินผลความคุ้มคา่ ของการแลกเปลี่ยนทางการตลาด ซ่ึงมีหลกั สาคัญคือ รายไดจ้ ะต้องสงู กวา่ ต้นทนุ ทเ่ี ปน็ ตัวเงิน และตน้ ทุนอยา่ งอืน่ เชน่ เวลา แรงพยายาม ผลประโยชนท์ เี่ ปน็ รูปธรรม จติ วทิ ยา และความ เชือ่ เป็นตน้ ซงึ่ ความพงึ พอใจอาจเพิ่มขึน้ ไดโ้ ดยเพ่ิมผลประโยชนห์ รือลดต้นทนุ ใหต้ า่ ลง หนา้ ทีก่ ารผลิต การแบ่งหน้าที่การดาเนินการผลิต แบ่งตามลักษณะสาคญั ได้ 4 ประการดังน้ี 1. แบง่ ตามลักษณะความซ้าซ้อนของหน้าที่ 2. แบ่งตามลักษณะการประสานงานอยา่ งเป็นระบบ และราบร่นื 3. แบ่งตามลักษณะการจัดการในหน้าทที่ ่เี หมือนกัน 4. แบง่ ตามลกั ษณะงานทส่ี ามารถแยกย่อยเปน็ งานทเี่ ลก็ ลงตามลาดบั วงจรการผลิตจะเริ่มจาก ฝา่ ยขาย ได้รบั ใบสั่งซือ้ จาก ลูกคา้ แลว้ จึงทาการพยากรณ์การขายส่งไปยัง ฝา่ ย การเงนิ ใหก้ าหนดงบประมาณการผลติ จากน้นั จึงส่งคุณลักษณะของผลติ ภณั ฑ์พร้อมกับงบประมาณการ ผลิตนน้ั ให้กับฝา่ ย วิศวกรรม ออกแบบ เมื่อไดแ้ บบแล้วก็ส่งต่อไปยังฝา่ ย การวางแผนและควบคุมการผลิต ซง่ึ จะตอ้ งประสานงานกับฝ่าย การควบคุมสินคา้ คงเหลอื ถา้ สนิ ค้าคงเหลอื ไม่พอ กต็ อ้ งประสานงานกบั ฝ่าย การ จัดซอ้ื จดั หา เม่อื จดั ซื้อจดั หาวัตถดุ บิ ครบแล้ว กเ็ ร่ิมทา การผลติ เม่อื ได้ผลิตภณั ฑ์ออกมาก็สง่ ต่อไปยงั ฝา่ ย ควบคุมคุณภาพ เพ่อื ตรวจสอบคณุ ภาพ เมื่อผา่ นการตรวจสอบคณุ ภาพแล้วกส็ ง่ ไป จัด จาหนา่ ย ใหก้ บั ลกู ค้า ตอ่ ไป

112 จากวงจรการผลติ จะเหน็ ได้วา่ หน้าที่การผลิตคือข้ันตอนดงั ตอ่ ไปน้ี 1. หน้าที่ดา้ นวศิ วกรรม 2. หน้าทกี่ ารวางแผนและควบคมุ การผลิต 3. หน้าทก่ี ารควบคุมสินคา้ คงเหลือ 4. หนา้ ที่การจดั ซื้อจดั หา 5. หน้าทคี่ วบคมุ คุณภาพ 1.3. ความสัมพนั ธข์ องการตลาดกับการผลติ การตลาดกับการผลติ มีความสัมพันธ์ต่อกนั อย่างใกลช้ ดิ ทงั้ นเี้ พราะหนา้ ทีด่ า้ นการผลติ จะต้องทาการผลิตสินค้าให้ ไดต้ ามคุณลักษณะ คณุ ภาพ ปรมิ าณ และมาตรฐานตามที่ลูกคา้ ต้องการดว้ ยต้นทนุ ทีไ่ ม่สูงเกนิ กวา่ ที่จะสามารถ แข่งขันได้ในตลาด ส่วนหนา้ ท่ีทางด้านการตลาดนนั้ จะต้องรับผดิ ชอบในกิจกรรมตา่ งๆ หลายด้าน เพือ่ กระตนุ้ ให้ เกิดความพึงพอใจทุกๆ ฝ่ายท่ีเกยี่ วข้องในการกระจายสินค้า และการจดั จาหน่ายให้กับผู้บริโภค 2. ความรเู้ บ้ืองต้นเกยี่ วกับการจัดการการผลติ และดาเนนิ งาน 2.1. แนวคิดเกี่ยวกับการจดั การการผลติ และดาเนนิ งาน การผลิตและดาเนนิ งาน หมายถึง กระบวนการในการเปลย่ี นแปลงปัจจยั การผลิต (ทด่ี ิน แรงงาน วตั ถุดบิ เงนิ ทุน) ใหเ้ ปน็ ผลผลิต (สินค้า และบริการ) ซง่ึ แนวคิดในการผลิต และดาเนินงานนน้ั สามารถแบง่ ออกไดเ้ ป็นสามแนวคิด ดงั น้ี 1. แนวคดิ แบบดัง้ เดิม เป็นแนวคิดการจดั การการผลิตแบบวทิ ยาศาสตร์ ท่ีมงุ่ ประสิทธภิ าพการทางานโดยอาศยั การวเิ คราะห์อยา่ งมี เหตุผล และแนวคิดการจดั การผลิตทม่ี ุ่งกระบวนการ แนวคิดการจัดการผลิตแบบดัง้ เดมิ นเ้ี ป็นทม่ี าของ หลกั การ แบง่ งานกันทา ตามหน้าที่ทบี่ ุคลากรมีความถนดั ผู้ท่มี ีบทบาทสาคัญ และได้รับการขนานนามว่าเป็นบิดาแห่งการ จดั การแบบวทิ ยาศาสตร์ ก็คือ เฟรดเดอริค เทเลอร์ 2. แนวคดิ ตามแนวพฤตกิ รรม เป็นแนวคดิ ท่ีพยายามแก้ไขข้อบกพรอ่ งของแนวคิดแบบดง้ั เดมิ ที่มองมนษุ ยเ์ ป็นเคร่อื งจกั ร จงึ ไดม้ ีการนา แนวคดิ ทางดา้ นมนุษยสมั พนั ธ์ พฤติกรรมศาสตรต์ ลอดจนแนวคดิ ด้านสังคมวิทยามาประยุกตใ์ ชร้ ่วมกนั ผู้ทมี่ ี บทบาทสาคัญในการพสิ จู นแ์ นวคดิ นี้คือ เอลตนั เมโย 3. แนวคิดการใชต้ ัวแบบ เปน็ แนวคดิ ทเ่ี น้นทฤษฎี ระบบกระบวนการในการตดั สินใจ และใชต้ ัวแบบทางคณติ ศาสตรเ์ พื่อการตัดสินใจ ผสมผสานกับการใช้เทคโนโลยีคอมพวิ เตอร์ นอกจากนยี้ งั คานงึ ถงึ ความต้องการของผู้ปฏิบัตงิ านในสถาน ประกอบการว่าต้องการมีชีวติ การทางานท่ีดี อีกท้งั สนิ ค้าท่ีผลติ ให้แกผ่ ู้บริโภคก็เพอ่ื สนองความตอ้ งการให้แก่

113 ผู้บรโิ ภคมากยิ่งข้ึน 2.2. ระบบการผลติ 3.5. การผลติ ต่อเน่อื ง เป็นการผลิตทีม่ กี ารไหลของวตั ถุอย่างต่อเน่อื ง เช่น โรงน้ากลน่ั ผลติ ตลอด 24 ช่วั โมง สว่ นใหญจ่ ะผลิตจานวนมากๆ และเป็นสินคา้ ประเภทเดยี ว 4. จาแนกตามวิธกี ารในการจัดการการผลติ ระบบการผลติ และบรกิ าร หมายถงึ กระบวนการในการเปลย่ี นแปลง ปัจจยั การผลติ ใหเ้ ปน็ สนิ ค้าหรือบรกิ าร มีการตรวจสอบประสทิ ธิภาพของระบบโดยใช้ ข้อมูลย้อนกลบั ซง่ึ เป็น เกณฑ์การวัดค่าท่ีกาหนดไว้ และสภาวะแวดลอ้ มภายนอกมักจะมีอทิ ธิพลตอ่ กระบวนการเปล่ียนแปลงต่างๆ ใน ระบบการผลิต ประเภทของระบบการผลิต สามารถแบง่ ระบบการผลิตได้หลายประเภทตามเกณฑต์ ่างๆ ดงั ต่อไปนี้ 1. จาแนกตามคาส่ังซื้อ 1.1. การผลติ เพือ่ เก็บเข้าคลัง เปน็ การผลิตโดยไม่ต้องรอคาสัง่ ซ้ือ 1.2. การผลิตตามคาส่ัง เป็นการผลติ เม่ือได้รบั คาส่ังซ้ือ 2. จาแนกตามลักษณะผลิตภัณฑ์ 2.1. การผลติ แบบประกอบ เปน็ การผลิตที่นาชิ้นส่วนตา่ งๆ มาปะกอบเปน็ ผลติ ภณั ฑ์ 2.2. การผลติ แบบกระบวนการ เป็นการผลิตผลติ ภณั ฑ์ท่ไี ม่สามารถแยกสว่ นประกอบไดอ้ ีก 3. จาแนกตามปรมิ าณการผลติ 3.1. การผลิตแบบโครงการ เชน่ รบั เหมากอ่ สรา้ งอาคาร 3.2. การผลติ แบบงานเป็นครั้งคราว เปน็ การผลติ สนิ ค้าครง้ั ละจานวนไมม่ าก แตผ่ ลิตครงั้ ละหลายแบบ 3.3. การผลติ เป็นรนุ่ หรือเปน็ ชดุ เปน็ การผลติ ทีเ่ มื่อหมดร่นุ แล้วก็อาจจะไม่มีการผลิตอีก 3.4. การผลติ เป็นสายการประกอบ เปน็ การผลิตสนิ ค้าจานวนมากๆ แตผ่ ลิตสนิ คา้ รูปแบบเดิมตายตวั 4.1. การผลติ แบบโครงการ 4.2. การผลติ แบบไมต่ ่อเนอื่ ง คือ การผลติ แบบครงั้ คราว และการผลิตเปน็ รุ่น 4.3. การผลติ แบบต่อเน่ือง คือ การผลิตแบบสายประกอบ และการผลติ ตอ่ เน่ือง 2.3. กาลังการผลิต กิจการจะต้องทาการพยากรณ์ความต้องการสนิ คา้ หรือบรกิ ารก่อนแล้วจึงวางแผนกาลังการผลติ ให้เพียงพอต่อ ความต้องการของลูกค้า การทาความเข้าใจเรอ่ื งกาลังการผลิต จะตอ้ งเข้าใจหลักสาคัญ 3 ขอ้ ต่อไปนี้ 1. กาลงั การผลิต คือ อตั ราการผลติ สูงสดุ ทหี่ นว่ ยผลติ หน่ึงสามารถผลติ ได้ 2. การวัดกาลังการผลิต สามารถวดั ได้จากผลผลิตที่ออกมา หรือวดั จากปัจจัยการผลิตที่ใชไ้ ป 3. ปจั จยั ทีก่ าหนดกาลงั การผลิต

114 3.1. การออกแบบกระบวนการผลิต อตั ราผลผลติ ข้ึนอยกู่ ับขนั้ ตอนทีใ่ ชเ้ วลานานที่สุด 3.2. การออกแบบผลิตภัณฑ์ การออกแบบทเ่ี หมาะสมจะทาให้ผลติ ง่ายขนึ้ และเร็วขึ้น 3.3. ความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ หากผลิตภัณฑ์มีความหลากหลายจะทาให้เสยี เวลาในการผลติ 3.4. คุณภาพของผลิตภัณฑ์ ในบางคร้ังการตรวจสอบคุณภาพทาให้อตั ราการผลติ ลดลง 3.5. การจดั ตารางการผลิต การจัดตารางการผลติ ช่วยลดเวลาสญู เปลา่ 3.6. การจัดการวัสดุ เปน็ การจดั วตั ถดุ บิ และชน้ิ สว่ นประกอบใหม้ ีความเพียงพอต่อการผลิต 3.7. การบารุงรักษา การบารุงรักษาเคร่ืองจักรทาใหก้ ระบวนการผลิตไมห่ ยุดชะงัก 3.8. การบรหิ ารงานบุคคล การออกแบบงาน การฝึกอบรมพนักงานมผี ลตอ่ กาลังการผลิต 2.4. การวางแผนผลิตภัณฑ์ การวางแผนผลิตภัณฑ์ เป็นการออกแบบผลติ ภณั ฑ์ให้สามารถนาไปผลิตไดต้ ามทล่ี กู คา้ ต้องการ ซึ่งสง่ิ ท่ีผอู้ อกแบบ จาเปน็ ตอ้ งต้องทราบก็คือ 1. ลกั ษณะปัญหาของผลติ ภณั ฑ์เดิมท่ีใช้งานอยู่ 2. เงอื่ นไขดา้ นเวลาว่าผูบ้ ริโภคตอ้ งการใช้เมื่อไหร่ 3. ทรัพยากรทจี่ าเปน็ ต้องใช้ และมีตน้ ทุนต่า เทคนคิ ท่ีใชใ้ นการออกแบบผลิตภณั ฑ์ Quality Function Deployment หรือ QFD คอื เทคนิคท่ีมกี ารนาขอ้ มูลของลกู ค้ามาใชใ้ นการออกแบบที่ สอดคลอ้ งกับความต้องการด้านเทคนิค โดยสร้างเปน็ แมทริกซ์

115 ส่วนประกอบของ QFD 3. ความร้เู บื้องต้นเกีย่ วกับการตลาด 3.1. แนวคดิ เกยี่ วกบั การตลาด แนวคดิ การตลาด หมายถึง การมุง่ ใช้ทรพั ยากรที่มอี ยู่ทั้งหมดของกิจการมาตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค โดยทาให้เกิดการสร้างสรรค์ จงู ใจ และสรา้ งความพงึ พอใจใหก้ ับผบู้ รโิ ภค ในระดบั ท่ีกิจการมผี ลกาไร แนวคิด การตลาดท่ีเป็นหลกั พนื้ ฐานการตลาด ทใี่ ชใ้ นการกาหนดกลยทุ ธก์ ารตลาดมี 3 ประการ คือ 1. การเนน้ ผบู้ ริโภคเป็นสาคัญ แนวคดิ การตลาดนี้ คอื จงตอบสนองในสิ่งที่ผูบ้ รโิ ภคต้องการ นกั การตลาดจะต้องคน้ หาว่าอะไรคือส่งิ จงู ใจ ผู้บริโภค และผู้บรโิ ภคต้องการซอ้ื อะไร นอกเหนือไปจากส่งิ ท่เี ขาพูดว่าเขาจะซอ้ื 2. การประสมประสานกจิ กรรมการตลาด แนวคดิ ท่สี าคัญในสว่ นน้ี คือ สร้างความพงึ พอใจให้กับผู้บรโิ ภคใหไ้ ดม้ ากทส่ี ุด และพยายามลดข้อขดั แย้งท้งั มวลใหน้ ้อยที่สดุ อีกทง้ั ควรได้มีการประสานงานกัน และควรได้มีการบรู ณาการทุกกิจกรรมที่เก่ยี วข้องกบั

116 การตลาดเขา้ ด้วยกนั 3. การมุ่งกาไรเปน็ สาคัญ แนวคิดการตลาดในเรื่องน้ี คือ โดยธรรมชาติแล้วการมงุ่ ท่ีผลกาไรของกจิ การต้องไมเ่ ป็นอุปสรรคต่อความ รบั ผดิ ชอบทางด้านสังคม การมงุ่ กาไรน้ันคนละอย่างกนั กับการมุง่ การขาย บางกจิ การสามารถเพิ่มยอดขายแตไ่ ม่ สามารถเพ่ิมกาไรได้ วิวัฒนาการของแนวความคิดการตลาด ในอดตี สมัยหลังสงครามโลกครง้ั ท่ี 2 การตลาดจะ มงุ่ เนน้ ที่กาไร (มุ่งเน้นการผลติ ) เพราะมีความตอ้ งการซื้อที่ มากเกิดพอผลติ เท่าไหรก่ ็สามารถขายได้หมด ยง่ิ ผลติ มากก็นามาซง่ึ ผลกาไรทีม่ ากขนึ้ ต่อมาเม่ือการค้ามีการ แข่งขนั กันสูงขน้ึ สินค้ามีความหลากหลายข้นึ ผู้บรโิ ภคมสี ทิ ธิในการเลอื กซื้อสินคา้ การตลาดกเ็ รมิ่ ทจี่ ะมา มงุ่ เน้น ทผ่ี ูบ้ รโิ ภค พยายามทาความเข้าใจความต้องการของผู้บรโิ ภคและสนองตอบความต้องการของผู้บริโภคในไดม้ าก ทีส่ ุด และในยคุ ปัจจุบันการตลาดกาลงั จะพฒั นาไปส่ยู คุ ของการตลาด มุ่งสังคม เพราะนอกจากจะมุ่งทีผ่ บู้ รโิ ภค ซ่งึ เป็นลูกค้าของกิจการแลว้ ยังตอ้ งคานึงถงึ ผลกระทบทจ่ี ะมตี อ่ สงั คมดว้ ย และต่อมาการตลาดม่งุ สังคมก็พฒั นา ไปสู่การตลาด มุ่งระบบ ซ่ึงมีแนวคดิ ในการประสานงานกันอยา่ งเปน็ ระบบ จนก้าวมาถึง การตลาด มงุ่ ความเป็น มนษุ ย์ ซ่งึ เป็นการตลาดทใี่ หค้ วามสาคัญกบั ผู้บริโภค ผูถ้ อื หุ้น พนกั งาน สมาชิกของชมุ ชน และมนุษยโ์ ดยรวม คานงึ ถึงผลกระทบในทุกภาคสว่ นมองยอ้ นกลับครอบคลุมถึงผมู้ สี ว่ นได้เสียของกิจการด้วย อาจกลา่ วได้วา่ ปจั จุบัน การตลาดมคี าสาคัญอยู่ 4 คา คอื ความต้องการ (สนองความต้องการของผู้บริโภค) ความพึงพอใจ (สรา้ งความพึง พอใจให้กับผ้บู ริโภค) สงั คม (รบั ผิดชอบต่อสงั คม) และกาไร (ทากาไรให้กับธุรกิจ) 3.2. ประเภทของตลาด ตามแนวคิดของ อารม์ สตรอง และคอตเลอร์ จาแนกตลาดลูกคา้ ออกได้เปน็ 5 ประเภท ดังนี้ 1. ตลาดผูบ้ ริโภค คอื ตลาดผบู้ รโิ ภคข้ันสุดท้าย ซอ้ื ไปใชเ้ อง 2. ตลาดธุรกิจ คือ ตลาดของผผู้ ลิตท่ีซอ้ื ผลติ ภัณฑเ์ พื่อนาไปเป็นวตั ถุดิบในการผลติ 3. ตลาดผู้ขายต่อ คือ ตลาดของพ่อค้าคนกลาง ซ้อื มาขายไปเพือ่ ทากาไร 4. ตลาดรัฐบาล คอื ตลาดทร่ี ัฐบาลเปน็ ผูซ้ ้อื เพื่อนาผลติ ภัณฑ์ไปใช้บรกิ ารสาธารณะ หรือใหก้ ับผู้ทตี่ ้องการ 5. ตลาดระหวา่ งประเทศ เป็นตลาดทปี่ ระกอบดว้ ยผู้ซ้ือในต่างประเทศ ท่เี ป็นทั้ง ผู้บริโภค ผ้ผู ลิต ผู้ขายต่อ และ รฐั บาล ตลาดสามารถจาแนกตลาดตามลักษณะของตลาดได้ดงั นี้ 1. จาแนกตามลกั ษณะประเภทสนิ คา้ ท่ซี ้ือขาย เชน่ ตลาดเส้อื ผา้ ตลาดอาหาร 2. จาแนกตามกลมุ่ ประชากร เช่น ตลาดผู้ใหญ่ ตลาดวยั ร่นุ 3. จาแนกตามลกั ษณะภูมศิ าสตร์ เชน่ ตลาดภาคกลาง ตลาดภาคเหนือ 4. จาแนกตามกฎหมาย เช่น ตลาดการค้าชายแดน ตลาดบริเวณจดุ ผอ่ นปรนชายแดน

117 5. จาแนกตามลกั ษณะเวลา เชน่ ตลาดเช้า ตลาดเย็น 6. จาแนกตามบทบาทและสิ่งจูงใจของผซู้ ้ือสินค้า เชน่ ตลาดอุตสาหกรรม ตลาดองค์กร 7. จาแนกตามลกั ษณะของผลิตภณั ฑ์ เช่น ตลาดผู้บรโิ ภค และตลาดองค์การ เปน็ การซ้ือเพอื่ ไปจาหนา่ ยต่อ องคป์ ระกอบของตลาด 4 ประการ มีดังนี้ 1. มคี วามจาเปน็ หรอื ความต้องการ 2. มเี งนิ ที่จะซื้อหรอื มีอานาจซ้ือ 3. มีความเตม็ ใจทจ่ี ะซื้อ 4. มอี านาจในการตดั สนิ ใจซ้ือ 3.3. กระบวนการตลาด กระบวนการการตลาดประกอบดว้ ยขน้ั ตอนหลกั ทีส่ าคญั 4 ข้นั ตอนดังน้ี 1. การวเิ คราะห์ตลาด 1.1. การวเิ คราะหส์ ภาพแวดล้อม 1) สภาพแวดลอ้ มภายใน เปน็ ปัจจัยทกี่ จิ การสามารถควบคุมได้ 2) สภาพแวดลอ้ มภายนอก เปน็ ปัจจัยแวดล้อมท่ีกิจการไม่สามารถควบคมุ ได้ 1.2. การวิเคราะห์ SWOT 1) Strength คอื จุดเด่น หรือจดุ แขง็ ของกิจการที่เหนอื กวา่ กิจการอ่นื 2) Weakness คือ จุดอ่อนของกจิ การทพี่ ิจารณาจากสภาพแวดลอ้ มภายใน 3) Opportunity คือ โอกาสที่เกดิ ขนึ้ จากสภาพแวดล้อมภายนอก 4) Threat คือ ปญั หาอปุ สรรคทเ่ี กิดจากสภาพแวดลอ้ มภายนอก 2. การกาหนดวตั ถุประสงค์การตลาด และการเลือกตลาดเปา้ หมาย สามารถกาหนดวัตถุประสงคใ์ หญๆ่ ทางการตลาดของหนว่ ยงานได้ดังนี้ 2.1. ด้านยอดขาย 1) เพือ่ ความเติบโต 2) เพอ่ื ความมัน่ คงของยอกขาย 3) เพอ่ื ขยายหรือรกั ษาส่วนครองตลาด 2.2. ดา้ นกาไร 1) เพ่ือกาไรเป็นตวั เงนิ 2) เพอื่ กาไรเปน็ ตัวเงนิ ของยอดขาย 3) เพอ่ื ส่วนของกาไรต่อการลงทนุ หรือเรียกวา่ ผลตอบแทนจากการลงทุน 2.3. ด้านการสรา้ งความพึงพอใจต่อสาธารณะชน เช่น สรา้ งความพึงพอใจให้กับ ผู้ถือหนุ้ ลูกค้า รัฐบาล และผู้ มีสว่ นไดเ้ สยี เปน็ ตน้

118 2.4. ดา้ นภาพลกั ษณ์ จะต้องคานึงถึงตลาดเปา้ หมายเป็นสาคญั ซึ่งกลยุทธ์การเลือกตลาดเป้าหมายมีอยู่ 3 วธิ ี 1) กิจการจะตดั สนิ ใจเข้าหาตลาดที่ใหญท่ ส่ี ดุ เปน็ การตลาดแบบ Mass Market 2) กิจการจะตัดสินใจเข้าหาส่วนตลาดตา่ งๆ เป็นการตลาดครอบคลุมทุกส่วนตลาด 3) กจิ การจะตดั สินใจเขา้ หาสว่ นตลาดท่ีแคบ เป็นการตลาดแบบ Niche Market 3. การกาหนดกลยุทธก์ ารตลาด กลยทุ ธ์ คอื วิธีที่กิจการจะเลอื กเคร่ืองมือขึ้นมาใชเ้ พ่ือช่วยให้วตั ถุประสงค์การตลาดท่กี าหนดไว้บรรลุได้ เคร่อื งมือที่เลอื กใช้ คือ สว่ นประสมการตลาด 4. การพฒั นาระบบการจัดการการตลาด การจดั การการตลาด หมายถงึ การจัดการสายงานต่างๆ ทางการตลาดท้งั หมดที่เกี่ยวขอ้ งกบั ส่วนประสมทาง การตลาด และหน้าทอี่ น่ื ๆ ที่เก่ียวขอ้ ง เชน่ 4.1. การวางแผนการตลาด 4.2. การดาเนินการการตลาด 4.3. การควบคุมการตลาด 4.4. การประเมินผลการตลาด จงึ กลา่ วได้ว่า การพฒั นาระบบการจัดการการตลาดเป็นการจัดเตรยี มเพอ่ื ดาเนนิ การการตลาด ใหบ้ รรลุ วัตถปุ ระสงค์การตลาด และแผนการตลาดท่ีกาหนดไว้ 3.4. ส่วนประสมการตลาด ส่วนประสมทางการตลาด หมายถงึ ปจั จัยทางการตลาดท่ีควบคมุ ได้ ประกอบดว้ ย 1. ผลิตภณั ฑ์ 2. ราคา 3. การจัดจาหน่าย 4. การส่งเสริมการตลาด คือ การสอ่ื สารให้ตลาดเป้าหมายทราบว่าผลติ ภัณฑท์ ่ตี ้องการมีจาหนา่ ย ณ ทใี่ ด ณ ระดบั ใด ส่วนประสมการส่งเสริมการตลาดประกอบด้วย 4.1. การโฆษณา 4.2. การขายโดยบคุ คล เป็นการตดิ ต่อสอ่ื สารแบบตัวต่อตัว 4.3. การส่งเสริมการขาย เป็นการให้โปรโมช่ัน ลด แลก แจก แถม แจกคูปอง 4.4. การให้ข่าว และการประชาสมั พนั ธ์ เปน็ กจิ กรรมในการสร้างทศั นคติท่ีดีจากชุมชน เพ่อื สรา้ งความสนใจ ความเขา้ ใจ และการยอมรบั จากชมุ ชน ซึ่งมลี ักษณะดังนี้ 1) การติดต่อสือ่ สารโดยไมใ่ ช้บคุ คลกับผูฟ้ งั จานวนมาก 2) กจิ การไม่เสยี ค่าใช้จา่ ยโดยตรงจากการใช้ข่าวนั้น 3) การใหข้ า่ วสามารถสร้างความเชอื่ ถอื ได้ดี 4.5. การตลาดทางตรง เช่น การเลอื กซ้ือทางโทรทศั น์ อิเลก็ ทรอนิคส์ จดหมายตรง และแคต็ ตาล็อก

119 ใบงานที่ ....... เร่อื ง การจัดการการผลติ และการบริการ วิชา ทกั ษะการพัฒนาอาชีพ รายวชิ า อช 21002 ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนต้น การวเิ คราะห์การจัดการการผลติ หรือการบริการ ใหผูเรียนสรปุ ขอมลู ความรู เร่อื งการจดั การการผลติ หรือการบริการ ตามหวั ขอตอไปนี้ 1. จากขอมลู ทงั้ หมด สรปุ ไดขอมูลดงั นี้ ……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………(ไมเกนิ 5 บรรทัด) 2. การจดั การการผลติ และการบริการ มวี ธิ กี ารดังนี้ 2.1………………………………………………………………………………………………. 2.2………………………………………………………………………………………………. 2.3………………………………………………………………………………………………. 3. หากผูเรียนเปนเจาของธุรกิจหน่งึ ผูเรยี นจะมีวิธีการจัดการการผลติ หรอื การบริการดานใด เพราะ อะไร 1.1 ดาน…………………………….เพราะ……………………………………………… 1.2 ดาน……………………………เพราะ……………………………………………….. 1.3 ดาน……………………………เพราะ………………………………………………... 4. หากผูเรยี นตองเลือกการจัดการการผลิตหรือการบริการเรงดวน ผูเรยี นจะเลือกดาเนินการในดานใด เพราะอะไร ดาน………………………………………………………………………………………………...…………………….. เพราะ…………………………………………………………………………………………………..……….………………………… ………………………………………………………………………………………….......................................................... ………………………………………………………………………………………….......................................................... ………………………………………………………………………………………….......................................................... ………………………………………………………………………………………….......................................................... ชือ่ ………………………………………………………สกุล……………………………รหสั นักศึกษา............................................

120 แผนการการจัดการเรียนร้รู ายสัปดาห์ ระดบั ม.ตน้ คร้งั ที่ 9 รายวชิ าทกั ษะการพัฒนาอาชีพ รหัสวิชา อช21002 เวลาเรยี น 20 ช่ัวโมง พบกลุ่ม 6 ชว่ั โมง /การเรยี นรู้ดว้ ยตนเอง 14 ช่ัวโมง วนั ที่ ……………. เดือน …………………………..พ.ศ. 2564 มาตรฐานท่ี 3.1 มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ และเจตคติท่ดี ใี นงานอาชพี มองเห็นชอ่ งทางและตัดสินใจประกอบ อาชีพได้ตามความตอ้ งการและศักยภาพของตนเอง มาตรฐานท่ี 3.2 มคี วามรู้ ความเข้าใจ ทกั ษะในอาชีพทตี่ ดั สนิ ใจเลือก มาตรฐานท่ี 3.3 มีความรู้ ความเข้าใจ ในการจดั การอาชีพอยา่ งมีคุณธรรม มาตรฐานที่ 3.4 มีความรู้ ความเขา้ ใจ ในการพัฒนาอาชีพใหม้ คี วามม่ันคง มาตรฐานการเรียนรู้ระดับ 1. มคี วามรู้ ความเข้าใจทักษะในการพฒั นาอาชีพที่ตัดสินใจเลอื กบนพ้นื ฐานความรู้ กระบวนการผลิต กระบวนการตลาดท่ีใชน้ วตั กรรม เทคโนโลยที ี่เหมาะสม และประยุกต์ใช้ภมู ิปัญญา 2. มีความรู้ ความเข้าใจ และสามารถจัดทาแผนงานและโครงการธรุ กจิ เพ่ือพัฒนาอาชพี เข้าสู่ตลาดการ แขง่ ขนั ตามแนวคิดปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง เพอื่ สู่ความเข้มแขง็ ตวั ชว้ี ัดท่ี 1. จัดการการตลาดเพ่อื นาผลผลิตเขา้ ส่ตู ลาด 2. สามารถจดั ทาแผนการจัดการการตลาด เน้อื หา 1. จัดการการตลาดเพ่ือนาผลผลติ เข้าสตู่ ลาด -การโฆษณา -การประชาสมั พันธ์ -การวิจัยตลาด -การส่งเสริมการขาย -การทาฐานข้อมลู ลูกคา้ -การกระจายสินคา้ 2. สามารถจัดทาแผนการจัดการตลาด -วิธกี ารจดั ทาแผนปฏบิ ตั ิการ -การจัดเตรยี มแผนปฏบิ ตั ิการทดี่ ี

121 กระบวนการจัดการเรยี นรู้ วธิ กี ารเรยี น : แบบพบกลุ่ม (ON-Site) การกาหนดสภาพปัญหา ความตอ้ งการในการเรียนรู้ (O:Orientation) 1. ขน้ั นาเข้าสบู่ ทเรียน ( เวลา 30 นาที) 1.1 ครูทักทายนักศึกษา และนาเข้าสู่บทเรียนโดยแจ้งข่าวสารเหตุการณ์ปัจจุบัน ให้นักศึกษาทราบ พร้อม ท้ังแลกเปลี่ยนเรียนรู้ข้อมูลข่าวสารเหตุการณ์ปัจจุบัน ร่วมกันวิเคราะห์ และแสดงความคิดเห็น ร่วมกันในช้ันเรียน และทบทวนบทเรียนจากคร้งั ทแี่ ลว้ เร่ือง การใชน้ วตั กรรมเทคโนโลยีในการผลิต เพ่อื ดงึ ความรู้และประสบการณ์เดิม ของนกั ศึกษา เนน้ การมีส่วนรว่ มมกี ารแลกเปลย่ี นเรยี นรู้ สะท้อนความคิดและอภิปรายโดยใหเ้ ชอ่ื มโยงกับความรใู้ หม่ 1.2 ครูนาเขา้ ส่บู ทเรยี นโดยครูเปดิ วดี ที ศั น์ เรอ่ื ง การจดั การการตลาด จากลงิ ค์ https://www.youtube.com/watch?v=UDxYS4n7sfs และลิงค์ https://www.youtube.com/watch?v=Yv7C8c1Q0v8 ให้นักศกึ ษารบั ชมเพ่อื ให้นักศึกษาทราบ เพ่ือเช่ือมโยงสู่ บทเรยี นต่อไป 1.3 ครแู ละนักศึกษาสรุปสงิ่ ท่ีไดอ้ ภปิ รายร่วมกัน และนักศกึ ษาบันทกึ ลงในแบบบันทกึ การเรียนรู้ กศน. การแสวงหาข้อมูลและการจัดการเรียนรู้ (N : New ways of learning) 2. การจดั การเรียนการสอน (เวลา 3 ชั่วโมง 30 นาท)ี 1. ครอู ธิบายเนอ้ื หาจากหนังสือเรียน ในหน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 4 เร่อื ง การจัดการการตลาด พรอ้ มใหน้ ักศึกษา จดบันทกึ รายละเอียดลงในแบบบันทกึ การเรยี นรู้ กศน. 2. ครบู รรยายโดยใชค้ ลปิ วิดโิ อ หรอื You Tube ลิงค์ https://www.youtube.com/watch?v=UDxYS4n7sfs และ ลิงค์ https://www.youtube.com/watch?v=Yv7C8c1Q0v8 และแนะนาให้นกั ศกึ ษาต้งั ใจ ฟงั และจด บันทกึ รายละเอียด ลงในแบบบนั ทกึ การเรยี นรู้ กศน. 3. ครูให้นักศึกษาแบ่งกลุม่ ออกเปน็ 4 กลุ่มๆละเท่าๆกนั เพ่อื ศกึ ษาข้อมลู เกีย่ วกบั เพอ่ื ศึกษาข้อมลู เกย่ี วกับ เร่อื ง การทาแผนธรุ กจิ เพื่อการพัฒนาอาชีพและการจดั การการตลาด 4. ครูใหน้ กั ศึกษาแบ่งกลมุ่ ออกเปน็ 4 กลมุ่ หรือแล้วแต่ตามความเหมาะสม โดยให้นักศกึ ษาในกลุ่มคัดเลอื ก ประธาน เลขานกุ าร และสง่ ตัวแทนออกมาจบั สลากเลือกกลุ่ม ดงั นี้ กลุ่มที่ 1 การจัดการการตลาด กลุม่ ที่ 2 การจัดทาแผนปฏบิ ัตกิ าร จากนั้น ให้นักศึกษาในกลมุ่ ศึกษาหาความรเู้ พ่ิมเติมและค้นคว้าจาก หนังสือเรยี น กศน. หรือ E-book หรอื ETV หรือ หาความรูเ้ พ่ิมเตมิ จากอนิ เทอร์เนต็ หรือแหล่งเรียนร้ตู ่าง ๆ จากนน้ั ออกมานาเสนอหนา้ ชนั้ เรยี น 5. ครูให้ความรูเ้ พ่ิมเติมความรแู้ ละตรวจสอบความถูกต้องและใหน้ ักศกึ ษาทุกคนฟังและจดบันทึกสิง่ ท่ีไดร้ ับ ในแบบบันทึกการเรียนรู้ กศน. 6. ครสู อนและสอดแทรกคุณธรรม 11 ประการ ในเรือ่ ง ความสภุ าพ ความขยัน ความซ่ือสัตย์สจุ ริต ความ สามคั คี ความมีนา้ ใจ ความตรงต่อเวลา และความมวี ินัย

122 การปฏิบัติและนาไปประยกุ ต์ (I : Implementation) 3. ขน้ั การปฏบิ ตั แิ ละนาไปประยกุ ตใ์ ช้ (เวลา 1 ชวั่ โมง) 3.1 ครูสุ่มตวั แทนกล่มุ นาเสนอ เพื่อแลกเปล่ียนความคดิ เห็นซึ่งกันและกนั สรปุ ส่งิ ที่ไดเ้ รียนรูร้ ว่ มกันและให้ นกั ศกึ ษาบันทึกความรู้ทีไ่ ด้ ลงในแบบบนั ทึกการเรยี นรู้ กศน. 3.2 นักศึกษานาความรู้ทไี่ ด้จากการเรยี นรู้มาเปน็ แนวทางในการแกป้ ัญหาและการดาเนินชวี ติ ในประจาวัน ต่อไป ข้นั ประเมนิ ผล (E : Evaluation) 4. ข้ันสรุปและประเมินผล ( เวลา 1 ชั่วโมง ) 4.1 ครแู ละนกั ศึกษาร่วมกนั แลกเปล่ียนเรยี นรู้ สรปุ ความรเู้ บือ้ งตน้ เกี่ยวกบั เร่อื ง การจัดการการตลาด จาก สือ่ และแหลง่ เรยี นร้ตู ่าง ๆ ตรวจสอบความถกู ตอ้ งในเนื้อหาที่นกั ศึกษานาเสนอ พรอ้ มบนั ทึกลงในแบบบันทึกการ เรียนรู้ กศน. 4.2 ครใู หน้ ักศึกษาทาแบบทดสอบย่อยในรปู แบบปรนยั จานวน 20 ข้อ เรือ่ ง การจดั การการตลาด โดยใช้ เอกสารหรอื Google Form พร้อมเฉลย ประเมนิ ผล และใหน้ กั ศกึ ษาบันทึกคะแนนลงในแบบบนั ทึกการเรียนรู้ กศน. 4.3 ครใู ห้นกั ศึกษาสรปุ การทาความดีและคุณธรรมที่ไดป้ ฏิบตั ิ พรอ้ มบันทกึ ลงในสมดุ บันทึก ความดีเพื่อ การประเมินคุณธรรม ส่อื และแหล่งการเรียนรู้ 1. หนงั สือเรยี นวชิ า อช 21002 ทักษะการพัฒนาอาชีพ หรือ หนงั สอื เรียนออนไลน์ ลงิ ค์ http://online.pubhtml5.com 2. คู่มือนักศกึ ษา 3. วดิ ีทัศน์ เร่อื ง การจดั การการตลาด (You Tube) https://www.youtube.com/watch?v=UDxYS4n7sfs และลิงค์ https://www.youtube.com/watch?v=Yv7C8c1Q0v8 4. แบบทดสอบย่อย เรอื่ ง การจัดการการตลาด แบบปรนัย จานวน 20 ขอ้ 5. ใบงานท่ี 5 การจัดการการตลาด 6. แบบบันทกึ การเรียนรู้ กศน. การวัดและประเมนิ ผล 1. การสงั เกตพฤติกรรมการมีสว่ นร่วมรายบุคคล/รายกลุม่ 2. ตรวจแบบบันทึกการเรียนรู้ กศน. 3. ประเมินการนาเสนอผลงาน 4. ตรวจใบงาน 5. ตรวจแบบทดสอบย่อย 6. ประเมินคุณธรรม

123 กระบวนการจัดการเรียนรู้ วธิ ีการเรียน : แบบออนไลน์ (ON-Line) การกาหนดสภาพ ปญั หา ความต้องการในการเรยี นรู้ (O : Orientation) 1. ข้ันนาเขา้ สู่บทเรียน ( เวลา 30 นาที) 1.1 ครูทักทายนักศึกษา และนาเขา้ สู่บทเรียนโดยแจง้ ขา่ วสารเหตกุ ารณ์ปัจจุบัน ผ่านทาง Google Classroom หรือ LINE กลุม่ ให้นกั ศึกษาทราบ พร้อมท้ังแลกเรียนเปล่ยี นเรยี นรขู้ ้อมลู ข่าวสาร เหตกุ ารณ์ปจั จบุ ัน ร่วมกนั วเิ คราะห์ และแสดงความคิดเห็นร่วมกัน ผ่านทาง Google Classroom หรือ LINE กล่มุ พร้อมอธบิ ายถงึ เหตุผลความจาเปน็ ที่ต้องจัดกิจกรรมการเรยี นรูปแบบออนไลน์ 1.2 ครูเปดิ วดี ีทศั น์ เร่ืองการจัดการการตลาด ให้นกั ศึกษารับชมผา่ นทาง YouTube จากลงิ ค์ https://www.youtube.com/watch?v=UDxYS4n7sfs และลิงค์ https://www.youtube.com/watch?v=Yv7C8c1Q0v8 โดยครสู ่งลิงค์ผ่านทาง Google Classroom หรือ LINE เพอื่ ให้นักศึกษาเกิดความรู้ความเขา้ ใจในการจดั การการตลาด ให้นักศึกษาทราบ เพื่อเช่อื มโยงส่บู ทเรียนต่อไป การแสวงหาข้อมูลและการจัดการเรียนรู้ (N : New ways of learning) 2. ขนั้ จัดการเรยี นการสอน ( เวลา 1 ชัว่ โมง 30 นาที) 1. ครมู อบหมายให้นกั ศกึ ษาไปศึกษาหาความรู้ เร่ือง การจัดการการตลาด จากหนังสือเรียนออนไลน์ ลงิ ค์ http://online.pubhtml5.com หรอื จากแหลง่ เรียนรูต้ ่างๆ และให้ สรปุ ลงในแบบบันทึกการเรยี นรู้ กศน. ในหวั ข้อ ตอ่ ไปน้ี กล่มุ ที่ 1 การจดั การการตลาด กลมุ่ ท่ี 2 การจัดทาแผนปฏบิ ัตกิ าร 2. ครูมอบหมายให้นักศกึ ษาเลือกหัวขอ้ ท่ีสนใจ จานวน 1 เรอื่ ง ใหไ้ ปศึกษาค้นคว้าจากหนังสอื เรียน ออนไลน์ ลิงค์http://online.pubhtml5.com หรือจากแหลง่ การเรียนรูต้ ่างๆ และใหน้ ักศกึ ษาจัดทาหนังสอื เลม่ เลก็ ตามตวั อยา่ งท่ีครูส่งใหด้ ู ดงั น้ี -การโฆษณา -การประชาสมั พันธ์ -การวจิ ัยตลาด -การส่งเสริมการขาย -การทาฐานข้อมูลลกู คา้ -การกระจายสนิ คา้ 3. ครสู อนและสอดแทรกคุณธรรม 11 ประการ ในเร่ือง ความสะอาด ความสุภาพ ความกตญั ญู กตเวที ความขยนั ความประหยดั ความซ่ือสัตย์ ความมีน้าใจ ความมวี ินัย ศาสน์ กษัตรยิ ์ รกั ความเป็นไทย และยดึ มน่ั ในวถิ ี ชีวิตและการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษตั ริยท์ รงเป็นประมุข ผ่าน ทาง LINE กลุ่ม

124 การปฏิบัติและนาไปประยุกต์ (I : Implementation) 3. ขนั้ การปฏบิ ตั ิและนาไปประยกุ ต์ใช้ (เวลา 1 ช่ัวโมง) 3.1 ครูสุ่มตัวแทนกลุม่ นาเสนอ เพื่อแลกเปล่ียนความคดิ เห็นซ่งึ กนั และกัน สรปุ ส่ิงท่ีไดเ้ รียนรู้ รว่ มกนั และให้นักศึกษาบนั ทกึ ความร้ทู ่ไี ด้ ลงในแบบบันทึกการเรยี นรู้ กศน. 3.2 นักศึกษานาความรู้ทีไ่ ดจ้ ากการเรยี นรู้มาเปน็ แนวทางในการแก้ปัญหาและการดาเนินชวี ิตใน ประจาวันต่อไป ขั้นประเมินผล (E : Evaluation) 4. ขนั้ สรปุ ผลและประเมินผล ( เวลา 1 ชวั่ โมง ) 4.1. ครสู รุปผลการทากจิ กรรมและตรวจสอบความถูกต้อง จากชิ้นงานท่ไี ดม้ อบหมายไปและให้ นักศกึ ษาส่งกลับมาทาง LINE กลุ่ม 4.2. ครูให้นกั ศกึ ษาทาแบบทดสอบย่อย ในรูปแบบปรนยั จานวน 20 ขอ้ โดยใช้ Google Form พร้อมเฉลย ประเมนิ ผล และให้นกั ศกึ ษาบันทึกคะแนนลงในแบบบันทกึ การเรียนรู้ กศน. 4.3 .ครูให้นักศึกษาสรปุ การทาความดีและคณุ ธรรมทไ่ี ดป้ ฏิบัติ พร้อมบันทกึ ลงในสมุดบันทกึ ความ ดีเพ่อื การประเมนิ คุณธรรม ครสู อบถามและติดตามงานท่ีไดม้ อบหมายนักศกึ ษา เพือ่ ติดตามความคืบหนา ผา่ นทาง LINE/Facebook/ เพจ กศน.ตาบล/อน่ื ๆ ดังน้ี 1) ติดตามงานทีไ่ ดร้ บั มอบหมายสปั ดาห์ท่ีผา่ นมา 2) การทากจิ กรรมพัฒนาคุณภาพชวี ติ (กพช.) 3) ตดิ ตามสอบถามสุขภาพของนกั ศึกษา (การตรวจสุขภาพ ความสะอาด การแตง่ กาย) 4) ติดตามสอบถามการทาความดใี นแต่ละวัน สปั ดาห์ที่ผา่ นมา และตดิ ตามการบนั ทกึ กิจกรรมท่ีทา ความดีลงในสมดุ บนั ทึกบันทึกความดีเพ่ือการประเมนิ คุณธรรม 5) ติดตามสอบถามเกีย่ วกบั งานอดิเรก สุนทรยี ภาพ การเล่นกีฬา การใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ ปน็ ประโยชน์ 6) ติดตามการทาโครงงาน สื่อและแหล่งเรียนรู้ 1. หนงั สอื เรียนวิชา อช 21002 ทักษะการพฒั นาอาชีพ หรือ หนังสอื เรยี นออนไลน์ ลงิ ค์ http://online.pubhtml5.com 2. คู่มอื นกั ศกึ ษา 3.วิดที ัศน์ เรอ่ื ง การทาแผนธุรกจิ เพ่ือการพัฒนาอาชพี การจัดการการตลาด (You Tube) https://www.youtube.com/watch?v=UDxYS4n7sfs และลงิ ค์ https://www.youtube.com/watch?v=Yv7C8c1Q0v8 4. ใบงานที่ 4 การจัดการการตลาด 5. แบบบนั ทกึ การเรียนรู้ กศน.

125 การวัดและประเมนิ ผล 1. การเขา้ เรยี นดว้ ยระบบออนไลน์ 2. ตรวจแบบบนั ทึกการเรยี นรู้ กศน. 3. ตรวจใบงาน 4. ตรวจแบบทดสอบ 5. ประเมนิ คณุ ธรรม.


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook