176 แบบทดสอบกอ่ นเรยี น-หลังเรยี น คาชีแ้ จง จงเลือกคาตอบทีถ่ ูกตอ้ งที่สุดเพียงข้อเดียว 1. แนวคิดในเรือ่ งการใชท้ รัพยากรเพื่อการพฒั นาที่ 5. ขอ้ ใด ไม่ใช่ องค์ประกอบของเศรษฐกจิ พอเพียง ย่งั ยืนเปน็ ผลสบื เน่อื งจากสงิ่ ใด ก. การเสรมิ สรา้ งคุณภาพคน ก. การพฒั นาท่ีเนน้ ความเจรญิ ทางด้านวตั ถุ ข. ความพอประมาณอย่างมีเหตุผล ข. การพัฒนาที่ขาดประสทิ ธิภาพของการพัฒนา ค. ความสมบูรณห์ รือย่ังยืนของทรพั ยากรธรรมชาติ ค. การพฒั นาทีส่ ง่ ผลต่อทรัพยากรธรรมชาติและ ง. การปอ้ งกันและแก้ไขผลกระทบต่อส่งิ แวดลอ้ ม สงิ่ แวดลอ้ ม 6. ปญั หาขอ้ ใดเกิดจากแนวคิดตรงขา้ มกับเศรษฐกจิ ง. ความเสือ่ มโทรมของทรพั ยากรธรรมชาติและ พอเพยี ง สิ่งแวดล้อม ก . สภาวะหนีเ้ สยี 2. ขอ้ ใดไม่ใชว่ ธิ กี ารอนรุ ักษด์ ินทเี่ หมาะสม ข. ความเจบ็ ไขไ้ ด้ป่วย ก. ปลกู พืชคลมุ ดิน ค. การใชแ้ รงงานคนมากกวา่ เคร่ืองจกั ร ข. ปลูกพืชหมุนเวยี น ง. การอพยพย้ายหนีผกู้ ่อการร้าย ค. เพ่ิมสารเคมีในดนิ ที่ขาดความอุดมสมบูรณ์ 7. การอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ มทด่ี ีและ ง. เพิ่มอินทรียวัตถุในดินและรกั ษาดินท่ีสมบรู ณ์ไว้ มีประสิทธิภาพควรจะดาเนนิ การตามข้อใด สาหรบั การเกษตรกรรม ก. เพม่ิ จานวนเจา้ หนา้ ทีแ่ ละงบประมาณอยา่ ง 3. ขอ้ ใดคือความหมายของชุมชนเมืองทีถ่ ูกต้องท่สี ุด เพียงพอ ก. กลุ่มคนหรือบรเิ วณที่กลุ่มคนนัน้ ๆ อย่รู วมกันได้ ข. ประชาชนในท้องถน่ิ เห็นความสาคัญและมีสว่ นร่วม ข. กลุ่มคนท่ีอาศยั ในพืน้ ที่เดียวกัน มีผลประโยชน์ ค. เนน้ มาตรการทางกฎหมายใหร้ ดั กุม มบี ทลงโทษ รว่ มกัน อย่างหนัก ค. อาณาบรเิ วณทีม่ ปี ระชากรอยรู่ ่วมกนั เป็น ง. จดั ตั้งมลู นิธเิ พ่ือการอนุรกั ษ์ทรัพยากรธรรมชาติ จานวนมาก และสง่ิ แวดลอ้ ม ง. กลมุ่ ทางสงั คมที่อาศัยอยูร่ ว่ มกันในอาณา 8. การทาบนั ทึกรายการบัญชีรายรบั - รายจา่ ย มี บรเิ วณเดยี วกนั จดุ ประสงค์เพือ่ อะไร 4. ขอ้ ใดคือความหมายของชุมชนเมืองท่ีถกู ตอ้ งท่ีสดุ ก. เพ่ือสรุปยอดกาไร - ขาดทุน ก. กลุ่มคนหรอื บริเวณที่กลุ่มคนนัน้ ๆ อยูร่ วมกันได้ ข. เพ่ือวางแผนการทางาน ข. กล่มุ คนท่อี าศัยในพน้ื ทีเ่ ดียวกนั มผี ลประโยชน์ ค. เพื่อวางผงั การเพาะปลูก/การเลยี้ งสัตว์ รว่ มกนั ง. เพอื่ เลือกปลกู พชื ท่เี หมาะสม ค. อาณาบริเวณท่ีมปี ระชากรอยู่รว่ มกนั เป็นจานวน มาก
177 ง. กล่มุ ทางสงั คมท่ีอาศยั อยู่ร่วมกนั ในอาณาบริเวณ เดยี วกนั 9. ปญั หาข้อใดเกิดจากแนวคิดตรงข้ามกับเศรษฐกิจ พอเพียง ก . สภาวะหน้ีเสยี ข. ความเจบ็ ไขไ้ ด้ป่วย ค. การใชแ้ รงงานคนมากกว่าเครื่องจกั ร ง. การอพยพยา้ ยหนผี ู้ก่อการรา้ ย 10. จากพระบรมราโชวาทและพระราชดารัส นับต้ังแต่ 2517 พระองค์ทรงเน้นยา้ แนวทางใด ก. การพฒั นาที่อยบู่ นพ้ืนฐานของการพึ่งตนเอง ข. การพัฒนาท่ีพ่งึ เทคโนโลยตี ่างชาติ ค. การพฒั นาที่อย่บู นพื้นฐานทุนนยิ ม ง. ผิดทกุ ขอ้ ช่อื ................................................................................................รหสั นักศกึ ษา.........................................................
178 เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น-หลงั เรียน วิชาทักษะการพัฒนาอาชีพ รายวิชา อช 21002 ระดับมัธยมศกึ ษาตอนตน้ 1. ง 6. ก 2. ค 7. ข 3. ง 8. ก 4. ง 9. ก 5. ง 10. ก
179 แผนการการจดั การเรยี นร้รู ายสปั ดาห์ ระดับ ม.ตน้ ครัง้ ที่ 11 รายวชิ าทกั ษะการพัฒนาอาชพี รหสั วิชา อช21002 เวลาเรียน 20 ชั่วโมง พบกลุ่ม 6 ชัว่ โมง /การเรียนรู้ดว้ ยตนเอง 14 ชั่วโมง วนั ท่ี…………..เดอื น………………………………….พ.ศ. 2564 ************************************** มาตรฐานที่ 3.1 มีความรู้ ความเข้าใจ และเจตคติท่ีดใี นงานอาชพี มองเห็นชอ่ งทาง และตดั สินใจประกอบ อาชีพไดต้ ามความ ตอ้ งการ และศักยภาพของตนเอง มาตรฐานท่ี 3.2 มีความรู้ ความเข้าใจ ทักษะในอาชีพที่ตัดสนิ ใจเลือก มาตรฐานท่ี 3.3 มีความรู้ ความเข้าใจ ในการจัดการอาชพี อย่างมคี ุณธรรม มาตรฐานที่ 3.4 มีความรู้ ความเขา้ ใจ ในการพฒั นาอาชีพให้มคี วามม่ันคง มาตรฐานการเรยี นรู้ระดบั 1. มคี วามรู้ ความเข้าใจทักษะในการพฒั นาอาชีพท่ีตดั สินใจเลือกบนพื้นฐานความรู้ กระบวนการผลติ กระบวนการ ตลาดทใ่ี ช้นวัตกรรม เทคโนโลยีท่เี หมาะสม และประยกุ ตใ์ ชภ้ มู ปิ ญั ญา 2. มคี วามรู้ ความเข้าใจ และสามารถจัดทาํ แผนงานและโครงการธุรกจิ เพื่อพัฒนาอาชพี เข้าสู่ตลาด การแขง่ ขนั ตาม แนวคดิ ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง เพื่อสคู่ วามเข้มแข็ง ตัวชีว้ ดั ท่ี 1. อธบิ ายความสาํ คัญของการทําโครงการพฒั นาอาชีพ 2. เขยี นโครงการ 3. เขยี นแผนปฏบิ ัตกิ าร 4. ตรวจสอบโครงการได้ถูกต้องและเหมาะสม เนื้อหา 1.ความสําคญั ของโครงการพัฒนาอาชพี - ความหมายของโครงการพัฒนาอาชีพ - ประโยชนข์ องการพฒั นาอาชพี 2.ขัน้ ตอนการเขยี นโครงการ - ลกั ษณะของโครงการท่ดี ี 3.การเขยี นแผนปฏิบตั ิการ - ความหมายของการวางแผน - ความสาํ คญั ของการวางแผน - ประเภทของแผน 4.การตรวจสอบโครงการ
180 วธิ กี ารเรยี น : แบบพบกลุ่ม (On-site) กระบวนการจดั การเรยี นรู้ การกาหนดสภาพ ปัญหา ความต้องการในการเรียนรู้ (O : Orientation) 1. ขั้นตอนนาเขา้ สบู่ ทเรียน ( เวลา 30 นาที ) 1.1 ครูทกั ทายนกั ศกึ ษา และนาเข้าสูบ่ ทเรยี นโดยแจ้งข่าวสารเหตกุ ารณ์ปัจจุบัน ให้นักศึกษาทราบ พร้อม ทง้ั แลกเรียนเปลยี่ นเรียนรู้ขอ้ มลู ขา่ วสารเหตุการณ์ปัจจุบัน ร่วมกันวิเคราะห์ และแสดงความคิดเห็น ร่วมกันในช้ัน เรียน และทบทวนบทเรียนจากครั้งที่แล้ว เร่ือง การขับเคล่ือนเพ่ือพัฒนาธุรกิจ เพ่ือดึงความรู้และประสบการณ์ เดิมของนักศึกษา เน้นการมีส่วนร่วม มีการ แลกเปล่ียนเรียนรู้ สะท้อนความคิด และอภิปราย โดยให้เช่ือมโยงกับ ความรู้ใหม่ 1.2 ครูเปดิ วีดที ศั นจ์ าก You Tube เรือ่ ง โครงการพฒั นาอาชีพ ผ่านลงิ ค์ https://www.youtube.com/watch?v=6G0UE-mLiQM ใหน้ ักศกึ ษารับชม เม่ือนักศกึ ษาดู วดี ที ัศนจ์ บ ครูถาม นักศกึ ษาวา่ ชาวบา้ นหมู่บ้านมีความมนั่ คงด้านอาหาร ชมุ ชนพ่งึ ตนเองได้ และร่วมรกั ษาดินน้าป่าในพน้ื ท่ีไวใ้ ห้คง อยู่ เปน็ ชุมชนทไ่ี ทยพทุ ธและมสุ ลิมสามารถอยูร่ ว่ มกนั ได้อย่างมีความสุข คนเหลา่ น้ีมีการดาเนินชวี ิตอยา่ งไรบา้ ง ท่ี เราควรนามาเปน็ แบบอยา่ งหรอื ตน้ แบบในการดาเนนิ ชวี ิต จากวีดที ศั นท์ ีน่ ักศึกษารบั ชม โดยครูยกตวั อย่างและให้ นกั ศกึ ษาร่วมกันวเิ คราะห์และแลกเปล่ียนเรยี นรู้ เพื่อเชื่อมโยงเขา้ สู่ บทเรยี นต่อไป การแสวงหาข้อมูลและการจัดการเรยี นรู้ (N : New ways of learning) 2. ขั้นจดั การเรียนการสอน ( เวลา 3 ช่ัวโมง 30 นาที ) 1.ครอู ธิบายเนื้อหาจากหนงั สือเรียนในหน่วยการเรยี นรู้ที่ 7 เรอื่ ง โครงการพฒั นาอาชีพ พรอ้ มให้ นกั ศึกษาจดบันทึกรายละเอยี ดลงในแบบบนั ทึกการเรยี นรู้ กศน. 2. นักศึกษาแบ่งกลุ่มออกเป็น 4 กลุ่มหรือแล้วแต่ตามความเหมาะสม โดยให้นักศึกษาในกลุ่มคัดเลือก ประธาน เลขานกุ าร และสง่ ตวั แทนออกมาจบั สลากเลอื กกลุ่ม ดังน้ี กลุ่มท่ี 1 ความสาํ คญั ของโครงการพัฒนาอาชีพ กลมุ่ ที่ 2 ข้นั ตอนการเขยี นโครงการ กลุม่ ที่ 3 การเขียนแผนปฏิบตั ิการ กล่มุ ท่ี 4 การตรวจสอบโครงการ 3 ครูให้แต่ละกลุ่มส่งตัวแทนมาออกมานาเสนอหน้าห้องเรียน และครูเป็นผู้ตรวจสอบความถูกต้อง ให้ ความรู้เพิ่มและข้อเสนอแนะ โดยให้นักศึกษาจดบันทึกส่ิงท่ีได้จากการฟังและสรุปลงในแบบบันทึกการ เรียนรู้ กศน. 4. ครูสอนและสอดแทรกคุณธรรม 11 ประการ ในเรื่อง ความสะอาด ความสุภาพ ความขยัน ความ ประหยัด ความซือ่ สัตยส์ จุ ริต ความสามัคคี ความมีน้าใจ ความมีวินัย ศาสน์ กษัตริย์ รักความเป็นไทย และ ยึดม่ัน ในวถิ ชี ีวิตและการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษัตรยิ ท์ รงเปน็ ประมุข
181 การปฏบิ ัติและนาไปประยุกต์ (I : Implementation) 3. ขน้ั การปฏิบตั ิและนาไปประยกุ ต์ใช้ ( 30 นาที ) 3.1 ครูส่มุ ตัวแทนกล่มุ นําเสนอ เพ่ือแลกเปล่ยี นความคิดเห็นซึง่ กนั และกัน สรุปส่ิงที่ได้เรียนรู้รว่ มกันและ ใหน้ กั ศึกษาบันทึกความรทู้ ี่ได้ ลงในแบบบนั ทึกการเรียนรู้ กศน. 3.2 นกั ศกึ ษานาํ ความรทู้ ไี่ ดจ้ ากการเรียนรู้มาเป็นแนวทางในการแกป้ ัญหาและการดาํ เนินชีวิตใน ประจําวนั ต่อไป ข้นั ประเมินผล (E :Evaluation) 4. ขั้นสรุปและประเมนิ ผล ( เวลา 1 ช่ัวโมง ) 4.1 ครูและนกั ศกึ ษาสรุปส่งิ ท่ีได้เรยี นรูร้ ว่ มกนั พร้อมเพิ่มเติมความร้แู ละใหข้ ้อเสนอแนะเพม่ิ เติมให้ นกั ศึกษาบนั ทึกลงในแบบบันทึกการเรียนรู้ กศน. 4.2 ครใู ห้นักศึกษาทาแบบทดสอบยอ่ ย เร่ือง โครงการพฒั นาอาชีพ แบบปรนัย จานวน 20 ขอ้ จากชดุ แบบทดสอบ หรือผา่ นทาง Google From พร้อมเฉลยและ ประเมินผล ใหน้ ักศกึ ษาบนั ทึกคะแนนลงในแบบ บนั ทึกการเรียนรู้ กศน. 4.3 ครใู ห้นกั ศึกษาทาแบบทดสอบหลังเรยี น (Post-test) เรอ่ื ง ทักษะการพัฒนาอาชีพ แบบปรนัย จาํ นวน 30 ขอ้ จากชดุ แบบทดสอบ หรือจาก Google Form พรอ้ มเฉลยและประเมนิ ผล ให้นกั ศกึ ษาบนั ทึก คะแนนลงในแบบบันทึกการเรียนรู้ กศน. 4.4 ครูใหน้ กั ศึกษาสรปุ การทาความดีและคณุ ธรรมทไ่ี ด้ปฏิบตั ิ พรอ้ มบนั ทกึ ลงในสมุดบนั ทึกความดี เพื่อ การประเมินคุณธรรม 5. ขัน้ มอบหมายงาน 5.1 ครูมอบหมายให้นักศึกษาไปอ่านทบทวนเน้ือหาเพ่ิมเติม ทักษะการพัฒนาอาชีพ จากหนังสือเรียน ออนไลน์ ลงิ ค์ http://online.pubhtml5.com และให้สรปุ ลงในแบบบนั ทึกการ เรียนรู้ กศน. 5.2 ครูมอบหมายให้นักศึกษาไปศึกษาค้นคว้าและทําใบงานท่ี 1 เร่ืองโครงการพัฒนาอาชีพ (ใบงานครู แจกให)้ โดยให้ส่งในการเรียนสัปดาห์ต่อไป 5.3 ครูมอบหมายนักศึกษาให้ไปศึกษา เร่ือง การเขียนแผนปฏิบัติการ และประยุกต์ใช้ภูมิปัญญา จาก หนงั สือ เรียนออนไลน์ ลงิ ค์ http://pubhtml.5com/oivm/nmqn/basic เพื่อเตรยี มการเรยี นรูใ้ นสัปดาห์ตอ่ ไป 6. ขัน้ ตดิ ตามผล ( เวลา 30 นาที) ครูติดตามงานท่ไี ดม้ อบหมายนกั ศกึ ษา เพอื่ ตดิ ตามความคบื หน้า ดังนี้ 1) ตดิ ตามงานที่ไดร้ ับมอบหมายสปั ดาห์ท่ีผา่ นมา 2) การทํากจิ กรรมพฒั นาคุณภาพชีวติ (กพช.) 3) ติดตามสอบถามสุขภาพของนักศึกษา (การตรวจสุขภาพ/ความสะอาด/การแตง่ กาย) 4) ติดตามสอบถามการทาํ ความดีในแตล่ ะวนั สัปดาห์ทผ่ี ่านมาและติดตามการบันทึกกิจกรรมที่ทําความดี ลงในสมดุ บันทกึ บันทึกความดีเพ่อื การประเมินคุณธรรม
182 5) ตดิ ตามสอบถามเกย่ี วกับงานอดเิ รก สุนทรยี ภาพ การเลน่ กีฬา การใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ฯลฯ 6) ตดิ ตามความกา้ วหนา้ การทําโครงงาน สอ่ื และแหล่งการเรียนรู้ 1. 1. หนังสือเรียนวชิ าอช21002 ทักษะการพฒั นาอาชพี หรอื หนงั สอื เรียนออนไลน์ ลงิ ค์ https://pubhtml5.com/oivm/nmqn/basic 2. คมู่ ือนักศึกษา 3. วีดีทัศน์,Youtube เกยี่ วกบั เร่ืองโครงการพฒั นาอาชีพผา่ นลิงค์ https://www.youtube.com/watch?v=6G0UE-mLiQM 4. แบบทดสอบย่อย เรอื่ งโครงการพฒั นาอาชีพจาํ นวน 20 ขอ้ (ชดุ แบบทดสอบ หรือGoogle Form) 5. แบบทดสอบหลงั เรยี นPost(-test) เรอ่ื งทักษะการพฒั นาอาชพี จนวนา 30 ขอ้ (ชดุ แบบทดสอบ หรอื GoogleForm) 6. ใบงานเรอ่ื งโครงการพัฒนาอาชีพ 7. แบบบันทึกการเรยี นรู้ กศน การวัดและประเมินผล 1. การสังเกตพฤติกรรมการมีรายบคุ คล/รายกลุ่ม 2. การตรวจแบบบันทกึ การเรียนรู้ กศน. 3. ประเมนิ การนาํ เสนอผลงาน/ชนิ้ งาน 4. การตรวจใบงาน 5. การตรวจแบบทดสอบ 6. การประเมินคุณธรรม
183 วธิ ีการเรยี น : แบบออนไลน์ (ON-Line) กระบวนการจดั การเรยี นรู้ การกาหนดสภาพ ปญั หา ความต้องการในการเรยี นรู้ (O : Orientation) 1. ขนั้ นาเข้าส่บู ทเรียน ( เวลา 30 นาท)ี 1.1 ครูทักทายนักศึกษา และนาเข้าสู่บทเรียนโดยแจ้งข่าวสารเหตุการณ์ปัจจุบัน ผ่านทาง Google Classroom หรือ LINE กลมุ่ ใหน้ ักศกึ ษาทราบ พรอ้ มทัง้ แลกเรียนเปล่ียนเรียนรู้ข้อมูลข่าวสาร เหตุการณ์ปัจจุบัน ร่วมกันวิเคราะห์ และแสดงความคิดเห็นร่วมกัน ผ่านทาง Google Classroom หรือ LINE กลุ่ม พร้อมอธิบายถึง เหตุผลความจาเปน็ ท่ีต้องจดั กจิ กรรมการเรยี นรปู แบบออนไลน์ 1.2 ครูเปิดวีดีทัศน์ เร่ือง โครงการ ให้นกั ศกึ ษารับชมผ่านทาง YouTube ผ่านลงิ ค์ https://www.youtube.com/watch?v=6G0UE-mLiQM โดยครูสง่ ลงิ คผ์ า่ นทาง Google Classroom หรอื แอปพลเิ คชัน LINE แลว้ ครูถามนกั ศึกษาวา่ มีชาวปากรอมีความม่นั คงดา้ นอาหาร ชุมชนพ่ึงตนเองได้ และร่วม รกั ษาดินน้าปา่ ในพืน้ ท่ีไวใ้ หค้ งอยู่ เปน็ ชมุ ชนท่ไี ทยพุทธและมสุ ลิมสามารถอยู่ร่วมกันไดอ้ ย่างมีความสขุ คนเหล่านีม้ ี การดาเนินชีวิตอยา่ งไรบ้าง ท่ีเราควรนามาเปน็ แบบอย่างหรอื ต้นแบบในการดาเนนิ ชวี ิต จากทีไ่ ดด้ ูวีดที ัศน์ โดยให้ นกั ศึกษาร่วมกนั วเิ คราะห์และแลกเปลยี่ นเรียนรแู้ สดงความคิดเหน็ ผ่านทาง Google Classroom หรือ แอป พลิเคชัน LINE เพื่อเชอื่ มโยงเข้าสูบ่ ทเรยี นต่อไป การแสวงหาข้อมูลและการจัดการเรยี นรู้ (N : New ways of learning) 2. ข้นั จัดกจิ กรรมการเรยี นการสอน ( เวลา 3 ช่วั โมง 30 นาท)ี 2.1ครูมอบหมายใหน้ กั ศกึ ษาไปศกึ ษาหาความรู้เรื่องโครงการพฒั นาอาชีพจากหนงั สือเรยี น ออนไลน์ ลิงค์https://pubhtml5.com/oivm/nmqn/basicหรือจากสื่อ และแหล่งเรียนรู้ต่างๆ และให้ สรุปลงในแบบ บนั ทกึ การเรียนรู้ กศน. ในหัวขอ้ ต่อไปนี้ เรอ่ื งที่ 1 ความสาํ คัญของโครงการพฒั นาอาชีพ เรื่องท่ี 2 ขน้ั ตอนการเขยี นโครงการ2 เรอ่ื งที่ 3 การเขียนแผนปฏบิ ัตกิ าร3 เรอ่ื งที่ 4 การตรวจสอบโครงการ 2.2ครูมอบหมายให้นักศึกษาเลือกหัวข้อท่ีสนใจ จํานวน 1 เรื่อง ให้ไปศึกษาค้นคว้าจากหนังสือ เรียน ออนไลน์ ลิงค์ https://pubhtml5.com/oivm/nmqn/basicหรือจากแหล่งการเรียนรู้ต่างๆ และให้นักศึกษา จัดทาํ หนงั สอื เล่มเล็กตามตัวอย่างทค่ี รสู ง่ ให้ดู ดงั นี้ เรื่องท่ี 1 ความสําคัญของโครงการพัฒนาอาชพี เรือ่ งที่ 2 ขนั้ ตอนการเขยี นโครงการ เร่ืองที่ 3 การเขียนแผนปฏิบัติการ เรื่องที่ 4 การตรวจสอบโครงการ 2.3 ครูสอนและสอดแทรกคุณธรรม11 ประการ ในเร่ือง ความสะอาด ความสุภาพ ความกตญั ญู กตเวที ความขยัน ความประหยัด ความซ่ือสตั ย์ ความมีนา้ํ ใจความมวี นิ ยั ศาสน์ กษตั รยิ ์ รกั ความเปน็ ไทย และยดึ มนั่ ในวถิ ี ชีวติ และการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษัตรยิ ท์ รงเปน็ ประมขุ LINEผ่านกลุม่ ทาง
184 การปฏบิ ัติและนาไปประยกุ ต์ (I : Implementation) 3. ข้นั การปฏบิ ัตแิ ละนาไปประยกุ ต์ใช้ ( 30 นาที ) 3.1 ครูสมุ่ ตัวแทนกลุม่ นําเสนอ เพ่ือแลกเปล่ยี นความคิดเห็นซ่งึ กนั และกัน สรปุ สงิ่ ที่ไดเ้ รียนรูร้ ่วมกนั และ ให้นักศึกษาบนั ทึกความรูท้ ี่ได้ ลงในแบบบนั ทึกการเรยี นรู้ กศน. 3.2 นกั ศกึ ษานาํ ความรทู้ ่ไี ดจ้ ากการเรยี นรู้มาเป็นแนวทางในการแก้ปัญหาและการดําเนินชวี ิตใน ประจําวันต่อไป ข้ันประเมนิ ผล (E : Evaluation) 4. ข้นั สรุปผลและประเมินผล ( เวลา 1 ชั่วโมง ) 3.1 ครูให้นกั ศึกษาทแบบทดสอบยอ่ ยเรื่องโครงการพฒั นาอาชพี แบบปรนยั จาํ นวน 20 ข้อ ผ่านทาง Google From พร้อมเฉลยและประเมนิ ผล ให้นักศกึ ษาบันทึกคะแนนลงในแบบบนั ทึกการเรยี นรู้ กศน. 3.2 ครูให้นักศึกษาทแบบทดสอบหลังเรยี นาPost(-test) แบบปรนัย วชิ าทักษะการพฒั นาอาชพี จนวนา 30 ขอ้ ผ่านทางGoogle Form พรอ้ มเฉลยและประเมินผล ให้นักศึกษาบันทึกคะแนนลงใน แบบบันทึกการ เรยี นรู้ กศน. 3.3 ครใู ห้นักศึกษาสรปุ การทความดแี ละคุณธรรมท่ีไดป้ ฏิบัติ จากบันทกึ ลงในสมดุ บันทึกความ ดเี พ่ือ การประเม คณุ ธรรม 5. ข้ันมอบหมายงาน 5.1 ครูมอบหมายให้นักศึกษาไปอ่านทบทวนเน้ือหาเพิ่มเติม ทักษะการพัฒนาอาชีพ จากหนังสือเรียน ออนไลน์ ลิงค์ http://pubhtml.5com/oivm/nmqn/basic และใหส้ รปุ ลงในแบบบนั ทกึ การ เรียนรู้ กศน. 5.2 ครูมอบหมายให้นักศึกษาไปศึกษาค้นคว้าและทําใบงานท่ี 1 เรื่องโครงการพัฒนาอาชีพ (ใบงานครู แจกให้) โดยใหส้ ่งในการเรยี นสปั ดาห์ต่อไป 5.3 ครูมอบหมายนักศึกษาให้ไปศึกษา เร่ือง การเขียนแผนปฏิบัติการ และประยุกต์ใช้ภูมิปัญญา จาก หนังสือ เรียนออนไลน์ ลิงค์ http://pubhtml.5com/oivm/nmqn/basic เพื่อเตรียมการเรียนรู้ในสัปดาห์ ต่อไป 6. ขน้ั ตดิ ตามผล ( เวลา 30 นาท)ี ครูติดตามงานทไ่ี ดม้ อบหมายนกั ศกึ ษา เพือ่ ตดิ ตามความคืบหน้า ดังน้ี 1) ตดิ ตามงานทไี่ ดร้ บั มอบหมายสปั ดาห์ท่ีผา่ นมา 2) การทํากจิ กรรมพัฒนาคณุ ภาพชีวติ (กพช.) 3) ตดิ ตามสอบถามสุขภาพของนักศึกษา (การตรวจสขุ ภาพ/ความสะอาด/การแต่งกาย) 4) ตดิ ตามสอบถามการทาํ ความดีในแตล่ ะวนั สัปดาห์ทผ่ี ่านมาและติดตามการบันทึกกิจกรรมท่ีทําความ ดลี งในสมุดบนั ทกึ บนั ทกึ ความดเี พ่อื การประเมนิ คุณธรรม 5) ติดตามสอบถามเกย่ี วกับงานอดิเรก สุนทรียภาพ การเล่นกฬี า การใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ ป็นประโยชน์ ฯลฯ 6) ตดิ ตามความก้าวหนา้ การทําโครงงาน
185 สอื่ และแหล่งการเรียนรู้ 1. Google Classroom หรือ แอปพลเิ คชันLINE 2. หนงั สือเรียนวิชาอช21002 ทักษะการพัฒนาอาชีพหรือ หนังสือเรียนออนไลน์ ลิงค์ https://pubhtml5.com/oivm/nmqn/basic 3. แบบบันทึกการเรียนรู้ กศน. 4.แบบทดสอบก่อนเรียนPre(-test) วชิ าทกั ษะการพัฒนาอาชพี แบบปรนัยจาํ นวน30 ข้อ (ชุดแบบทดสอบ หรือGoogle Form) 5.แบบทดสอบย่อย เรื่อง ทกั ษะในการพฒั นาอาชีพ แบบปรนยั จาํ นวน 20ขอ้ (ชุดแบบทดสอบหรือ Google Form) 6.ใบงาน เร่อื ง โครงการพฒั นาอาชีพ การวดั และประเมนิ ผล 1. การมีสว่ นร่วมในการเข้าเรียนGoogleจาก Classroom/LINE 2. ตรวจแบบบนั ทึกการเรยี นรู้ กศน. 3. การตรวจใบงาน 4. การตรวจแบบทดสอบ 5. การประเมนิคณุ ธรรม
186 วธิ กี ารเรยี น : แบบผา่ นชอ่ งทาง ETV (ON-AIR) กระบวนการจัดการเรียนรู้ การกาหนดสภาพ ปัญหา ความตอ้ งการในการเรียนรู้ (O : Orientation) 1. ขั้นนาเข้าสู่บทเรียน ( 30 นาที) 1.1 ครูทักทายนักศึกษา และนาเข้าสู่บทเรียนโดยแจ้งข่าวสารเหตุการณ์ปัจจุบัน ผ่านทาง Google Classroom หรือ LINE กลุ่ม ให้นักศึกษาทราบ พร้อมทั้งแลกเรียนเปล่ียนเรียนรู้ข้อมูลข่าวสาร เหตุการณ์ ปัจจบุ นั รว่ มกนั วเิ คราะห์ และแสดงความคิดเห็นร่วมกัน ผ่านทาง Google Classroom หรือ LINE กลุ่ม พร้อม อธบิ ายถึงเหตุผลความจาเป็นทีต่ ้องจดั กจิ กรรมการเรยี นรปู แบบออนแอร์ 1.2 ครนู าํ เข้าสบู่ ทเรียนโดย ใหน้ ักศกึ ษาสมัครเปน็ สมาชิก ETV ตามลิง้ ต่อไปนี้ http://203.159.251.144/pattana/download เพื่อใหน้ ักศกึ ษามรี หัสผา่ นเพื่อเข้าไปศึกษาหาความร้ตู าม ตารางออนแอร์ ในแต่ละวนั ของสถานีวิทยโุ ทรทัศน์เพื่อการศกึ ษา กระทรวงศึกษาธกิ าร ตามล้งิ รายการโทรทัศน์ สง่ เสรมิ การศึกษานอกระบบโรงเรยี น http://www.etvthai.tv/Video/VDO_Detail_Ext.aspx?ContentID=320&videoid=1087&v=1&p=5 และ และ นกั ศึกษาสามารถติดตามข่าวสารไดใ้ นเฟสบคุ๊ ETV Channel ตามล้งิ ต่อไปน้ี https://www.facebook.com/Etv-Channel-1512499252411798/ การแสวงหาข้อมูลและการจัดการเรียนรู้ (N : New ways of learning) 2. ข้ันจัดการเรียนการสอน ( เวลา 3 ชวั่ โมง 30 นาที ) 2.1 ครูมอบหมายให้นักศึกษาเข้าไปศึกษาหาความรู้ ของสถานีวิทยุโทรทัศน์เพ่ือการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการตามเว็บไซต์ www.etvthai.tv โดย เข้าสู่ระบบด้วยรหัสผ่านท่ีนักศึกษาสมัครไว้แล้ว โดย สามารถดูตาราง ออนแอร์ได้ ตามล้ิง http://www.etvthai.tv/Front_ETV/FETV_Schedule.aspx และ สามารถดูรายการย้อนหลังได้ ตามลิ้ง http://www.etvthai.tv/home/home_External.aspx อีกช่องทาง การศึกษาหาความรู้โดยผา่ น ทีวีดิจติ อลชอ่ ง 52 (กศน.) สามารถติดตามข่าวสารและตารางออนแอร์ได้ในเฟสบุ๊ค : ETV ส่ือดิจิทลั เพ่ือการศกึ ษา สํานักงาน กศน. ตามล้ิงน้ี https://www.facebook.com/etv.digital/ 2.2 ครมู อบหมายใหน้ กั ศกึ ษาเรยี นรู้แบบ (ON-Air) ในเรอื่ งการเรยี นรู้ในรปู แบบโครงงานในหวั ข้อต่อไปน้ี 1 ความหมายของโครงการพัฒนาอาชพี
187 2 ประโยชน์ของการพัฒนาอาชีพ 3 ลักษณะของโครงการทด่ี ี 4 ความหมายของการวางแผน 5 ความสาํ คญั ของการวางแผน 6 ประเภทของแผน และใหน้ กั ศกึ ษาสรปุ ลงในแบบบนั ทึกการเรียนรู้ กศน. นําสง่ ผ่านทาง Google Classroom หรือ แอปพลิเคชนั LINE 2.3 ครูสอนและสอดแทรกคุณธรรม 11 ประการ ในเรอื่ ง ความสะอาด ความสภุ าพ ความกตัญญู กตเวที ความขยัน ความประหยัด ความซอื่ สตั ย์ ความมนี ้ําใจ ความมวี ินยั ศาสน์ กษัตรยิ ์ รกั ความเป็นไทย และ ยึดม่ันในวิถชี ีวติ และการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ผ่านทาง LINE กล่มุ การปฏบิ ตั ิและนาไปประยุกต์ (I : Implementation) 3. ขั้นการปฏิบัตแิ ละนาไปประยุกต์ใช้ ( 30 นาที ) 3.1 ให้นักศึกษา สรปุ สงิ่ ท่ีไดเ้ รยี นรูแ้ ละใหบ้ ันทึกความรทู้ ่ีได้ศึกษาลงในแบบบนั ทึกการเรียนรู้ กศน. 3.2 นกั ศึกษานําความรู้ที่ได้จากการเรยี นร้มู าเป็นแนวทางในการแกป้ ัญหาและการดําเนินชีวิตใน ประจาํ วันตอ่ ไป ขั้นประเมนิ ผล (E : Evaluation) 4. ขั้นสรปุ ผลและประเมินผล ( เวลา 1 ช่ัวโมง ) 4.1 ครใู หน้ กั ศึกษาแบบทดสอบย่อยเรอื่ งโครงการพัฒนาอาชีพแบบปรนยั จาํ นวน 20 ขอ้ ผ่านทาง Google From พร้อมเฉลยและประเมนิ ผล ให้นักศกึ ษาบันทกึ คะแนนลงในแบบบนั ทึกการเรยี นรู้ กศน. 4.2 ครใู หน้ ักศึกษาทําแบบทดสอบหลงั เรยี น Post(-test) แบบปรนยั วชิ าทกั ษะการพฒั นาอาชพี จํานวน 30 ขอ้ ผ่านทางGoogle Form พร้อมเฉลยและประเมนิ ผล ใหน้ กั ศึกษาบนั ทกึ คะแนนลงใน แบบบนั ทึก การเรียนรู้ กศน. 4.3 ครใู หน้ ักศึกษาสรปุ การทความดแี ละคณุ ธรรมท่ีได้ปฏบิ ัติ จากบันทกึ ลงในสมดุ บนั ทึกความ ดเี พื่อ การประเม คุณธรรม 5. ขน้ั มอบหมายงาน 5.1 ครูมอบหมายให้นักศึกษาไปอ่านทบทวนเน้ือหาเพ่ิมเติม ทักษะการพัฒนาอาชีพ จากหนังสือเรียน ออนไลน์ ลิงค์ http://pubhtml.5com/oivm/nmqn/basic และใหส้ รุปลงในแบบบนั ทกึ การ เรยี นรู้ กศน. 5.2 ครูมอบหมายให้นักศึกษาไปศึกษาค้นคว้าและทําใบงานที่ 1 เรื่องโครงการพัฒนาอาชีพ (ใบงานครู แจกให)้ โดยให้สง่ ในการเรยี นสปั ดาห์ต่อไป 5.3 ครูมอบหมายนักศึกษาให้ไปศึกษา เรื่อง การเขียนแผนปฏิบัติการ และประยุกต์ใช้ภูมิปัญญา จาก หนังสือ เรียนออนไลน์ ลิงค์ http://pubhtml.5com/oivm/nmqn/basic เพื่อเตรียมการเรียนรู้ในสัปดาห์ ตอ่ ไป
188 6. ข้ันตดิ ตามผล ( เวลา 30 นาที) ครูตดิ ตามงานทีไ่ ดม้ อบหมายนกั ศึกษา เพือ่ ตดิ ตามความคืบหนา้ ดังนี้ 1. ตดิ ตามงานทไี่ ด้รบั มอบหมายสัปดาหท์ ผ่ี ่านมา 2. การทํากจิ กรรมพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ (กพช.) 3. ตดิ ตมสอบถามสุขภาพของนักศกึ ษา (การตรวจสขุ ภาพ/ความสะอาด/การแต่งกาย) 4. ตดิ ตามสอบถามการทําความดใี นแตล่ ะวัน สปั ดาหท์ ผ่ี า่ นมาและติดตามการบันทึกกิจกรรมท่ีทําความ ดลี งในสมดุ บันทกึ บนั ทกึ ความดเี พ่อื การประเมินคุณธรรม 5. ติดตามสอบถามเกี่ยวกับงานอดเิ รก สนุ ทรยี ภาพ การเลน่ กฬี า การใช้เวลาว่างให้เปน็ ประโยชน์ ฯลฯ 6. ตดิ ตามความกา้ วหนา้ การทําโครงงาน สื่อและแหล่งการเรยี นรู้ 1. Google Classroom หรอื แอปพลเิ คชันLINE 2. หนงั สอื เรยี นวิชา อช21002 ทกั ษะการพัฒนาอาชีพหรือ หนังสือเรยี นออนไลน์ ลงิ ค์ https://pubhtml5.com/oivm/nmqn/basic 3. แบบบนั ทึกการเรยี นรู้ กศน. 4. แบบทดสอบก่อนเรียน Pre(-test) วชิ าทกั ษะการพฒั นาอาชีพแบบปรนยั จนวนา 30 ขอ้ (ชุดแบบทดสอบ หรือ Google Form) 5. แบบทดสอบย่อย เรื่อง ทักษะในการพฒั นาอาชีพ แบบปรนัยจาํ นวน 20 ข้อ (ชดุ แบบทดสอบหรือ Google Form) 6. ใบงาน เรอื่ ง โครงการพัฒนาอาชพี การวดั และประเมินผล 1. การมีส่วนร่วมในการเข้าเรียน Googleจาก Classroom/LINE 2. ตรวจแบบบนั ทึกการเรียนรู้ กศน. 3. การตรวจใบงาน 4. การตรวจแบบทดสอบ 5. การประเมนิคุณธรรม
189 วิธกี ารเรียน : ผา่ น แอปพลเิ คชัน่ (ON-Demand) กระบวนการจดั การเรยี นรู้ การกาหนดสภาพ ปญั หา ความต้องการในการเรยี นรู้ (O : Orientation) 1. ขน้ั ตอนนาเขา้ สู่บทเรยี น ( เวลา 30 นาที ) 1.1 ครทู กั ทายนกั ศึกษา และนาเขา้ สบู่ ทเรียนโดยแจ้งข่าวสารเหตกุ ารณ์ปจั จบุ นั ผา่ นทาง Google Classroom หรอื LINE กล่มุ ให้นักศึกษาทราบ พร้อมทง้ั แลกเรยี นเปล่ยี นเรยี นรู้ข้อมลู ข่าวสาร เหตุการณ์ ปจั จุบนั รว่ มกันวิเคราะห์ และแสดงความคดิ เหน็ รว่ มกัน ผา่ นทาง Google Classroom หรือ LINE กลุม่ พร้อม อธิบายถึงเหตุผลความจาเป็นทีต่ ้องจัดกจิ กรรมการเรียนรูปแบบ (ON-Demand) 1.2 ครเู ปดิ วดี ที ัศน์ เร่ือง โครงการ ให้นักศึกษารับชมผ่านทาง YouTube ผา่ นลิงค์ https://www.youtube.com/watch?v=6G0UE-mLiQM โดยครสู ง่ ลงิ ค์ผ่านทาง Google Classroom หรอื แอปพลเิ คชัน LINE แลว้ ครูถามนกั ศึกษาวา่ มีชาวปากรอมีความมัน่ คงด้านอาหาร ชุมชนพงึ่ ตนเองได้ และรว่ ม รกั ษาดนิ น้าป่าในพื้นทไ่ี ว้ให้คงอยู่ เป็นชุมชนท่ีไทยพทุ ธและมสุ ลมิ สามารถอยรู่ ว่ มกันได้อย่างมีความสขุ คน เหลา่ นม้ี กี ารดาเนนิ ชีวิตอยา่ งไรบ้าง ทเ่ี ราควรนามาเปน็ แบบอยา่ งหรอื ตน้ แบบในการดาเนินชีวติ จากทไ่ี ด้ดวู ดี ี ทศั น์ โดยให้นกั ศึกษาร่วมกนั วเิ คราะห์และแลกเปลยี่ นเรยี นรู้แสดงความคิดเห็นผ่านทาง Google Classroom หรอื แอปพลเิ คชนั LINE เพ่อื เชอ่ื มโยงเขา้ สบู่ ทเรยี นต่อไป 1.3 ครแู ละนักศกึ ษาสรุปสิง่ ท่ีอภปิ รายรว่ มกนั แลกเปลีย่ นเรยี นรู้ และบนั ทกึ ลงในแบบบันทึกการเรียนรู้ กศน. ผ่านทาง Google Classroom หรือ แอปพลิเคชัน LINE การแสวงหาข้อมูลและการจัดการเรียนรู้ (N : New ways of learning) 2. ขั้นจดั การเรยี นการสอน ( เวลา 3 ชัว่ โมง 30 นาท)ี 2.1 ครูมอบหมายให้นกั ศกึ ษาไปศึกษาหาความร้เู ร่อื งโครงการพฒั นาอาชีพจากหนังสือเรียน ออนไลน์ ลิงค์https://pubhtml5.com/oivm/nmqn/basic หรอื จากสื่อ และแหลง่ เรียนรู้ตา่ งๆ และให้สรปุ ลง ในแบบ บันทึกการเรยี นรู้ กศน. ในหัวขอ้ ตอ่ ไปน้ี เรื่องท่ี 1 ความสาํ คญั ของโครงการพฒั นาอาชพี เรื่องที่ 2 ขนั้ ตอนการเขยี นโครงการ2 เรื่องที่ 3 การเขยี นแผนปฏบิ ัติการ3 เรื่องที่ 4 การตรวจสอบโครงการ 2.2 ครมู อบหมายใหน้ กั ศกึ ษาเลือกหวั ข้อท่สี นใจ จํานวน 1 เรอื่ ง ใหไ้ ปศกึ ษาคน้ ควา้ จากหนังสือ เรยี น ออนไลน์ ลิงค์ https://pubhtml5.com/oivm/nmqn/basicหรือจากแหลง่ การเรียนรตู้ า่ งๆ และใหน้ ักศึกษา จัดทํารายงานเลือกตามหวั ขอ้ ดงั น้ี เรอื่ งที่ 1 ความสําคญั ของโครงการพัฒนาอาชีพ เร่ืองท่ี 2 ข้ันตอนการเขียนโครงการ เร่ืองท่ี 3 การเขยี นแผนปฏิบัติการ เรอ่ื งที่ 4 การตรวจสอบโครงการ
190 2.3 ครสู อนและสอดแทรกคุณธรรม11 ประการ ในเรื่อง ความสะอาด ความสุภาพ ความกตัญญู กตเวที ความขยนั ความประหยดั ความซ่ือสตั ย์ ความมนี ํา้ ใจความมวี นิ ยั ศาสน์ กษตั ริย์ รกั ความเป็นไทย และยดึ มนั่ ใน วถิ ชี วี ิตและการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษตั ริย์ทรงเปน็ ประมุขLINEผา่ นกลุ่มทาง การปฏิบัติและนาไปประยกุ ต์ (I : Implementation) 3. ขัน้ การปฏิบัตแิ ละนาไปประยุกตใ์ ช้( 30 นาที ) 3.1 ใหน้ ักศกึ ษา สรุปสิง่ ท่ีไดเ้ รยี นรแู้ ละใหบ้ นั ทึกความรทู้ ่ีไดศ้ ึกษาลงในแบบบันทกึ การเรียนรู้ กศน. 3.2 นกั ศึกษานําความรู้ทีไ่ ดจ้ ากการเรียนรู้มาเปน็ แนวทางในการแก้ปัญหาและการดาํ เนินชีวติ ใน ประจาํ วันตอ่ ไป ข้นั ประเมินผล (E :Evaluation) 4. ขัน้ สรุปผลและประเมินผล ( เวลา 1 ชัว่ โมง ) 4.1 ครูใหน้ กั ศึกษาแบบทดสอบยอ่ ยเร่อื งโครงการพัฒนาอาชพี แบบปรนัย จํานวน 20 ขอ้ จากชดุ แบบทดสอบ และประเมินผล ให้นักศกึ ษาบนั ทึกคะแนนลงในแบบบันทึกการเรยี นรู้ กศน. 4.2 ครูใหน้ กั ศึกษาแบบทดสอบหลงั เรียนPost(-test) แบบปรนัย วชิ าทกั ษะการพฒั นาอาชพี จํานวน30 ข้อ จากชดุ แบบทดสอบหลังเรียน และประเมินผล ใหน้ ักศึกษาบันทึกคะแนนลงใน แบบบันทึกการเรยี นรู้ กศน. 4.3 ครใู ห้นักศึกษาสรุปการทความดีและคุณธรรมท่ีได้ปฏบิ ัติ จากบนั ทึกลงในสมดุ บันทึกความ ดเี พ่ือ การประเม คุณธรรม 5. ขนั้ มอบหมายงาน 5.1 ครูมอบหมายให้นักศึกษาไปอ่านทบทวนเน้ือหาเพ่ิมเติม ทักษะการพัฒนาอาชีพ จากหนังสือเรียน ออนไลน์ ลิงค์ http://pubhtml.5com/oivm/nmqn/basic และใหส้ รปุ ลงในแบบบนั ทกึ การ เรยี นรู้ กศน. 5.2 ครูมอบหมายให้นักศึกษาไปศึกษาค้นคว้าและทําใบงานที่ 1 เร่ืองโครงการพัฒนาอาชีพ (ใบงานครู แจกให)้ โดยใหส้ ่งในการเรยี นสัปดาห์ต่อไป 5.3 ครูมอบหมายนักศึกษาให้ไปศึกษา เร่ือง การเขียนแผนปฏิบัติการ และประยุกต์ใช้ภูมิปัญญา จาก หนังสือ เรียนออนไลน์ ลิงค์ http://pubhtml.5com/oivm/nmqn/basic เพ่ือเตรียมการเรียนรู้ในสัปดาห์ ตอ่ ไป 6. ข้นั ติดตามผล ( เวลา 30 นาที) ครตู ิดตามงานท่ไี ด้มอบหมายนักศกึ ษา เพอ่ื ติดตามความคบื หนา้ ดังนี้ 1. ติดตามงานที่ได้รบั มอบหมายสัปดาหท์ ี่ผ่านมา 2. การทํากิจกรรมพัฒนาคณุ ภาพชีวิต (กพช.) 3. ตดิ ตามสอบถามสุขภาพของนักศึกษา (การตรวจสุขภาพ/ความสะอาด/การแตง่ กาย) 4. ตดิ ตามสอบถามการทาํ ความดีในแต่ละวนั สัปดาหท์ ่ผี ่านมาและติดตามการบันทึกกิจกรรมที่ทําความ ดีลงในสมดุ บันทกึ บันทกึ ความดีเพ่อื การประเมินคุณธรรม 5. ตดิ ตามสอบถามเก่ยี วกับงานอดิเรก สนุ ทรียภาพ การเลน่ กฬี า การใชเ้ วลาว่างใหเ้ ป็นประโยชน์ ฯลฯ 6. ตดิ ตามความกา้ วหน้าการทาํ โครงงาน
191 สื่อและแหล่งการเรียนรู้ 1. หนังสือเรียนวชิ าทักษะการพัฒนาอาชีพ อช 21002 2. คูม่ อื นักศึกษา 3. ใบความรู้ 4. แบบทดสอบสอบย่อย จํานวน 20 ขอ้ 5..แบบทดสอบหลงั เรยี น (Post-test) วชิ าทกั ษะการพฒั นาอาชพี อช 21002 จาํ นวน 30 ข้อ 6. ใบงาน 8. แบบบันทึกการเรยี นรู้ กศน. การวัดและประเมนิ ผล 1. การมีสว่ นรว่ มในการเรยี น 2. ตรวจแบบบันทกึ การเรียนรู้ กศน. 3. การตรวจใบงาน 4. การตรวจแบบทดสอบ 5. การประเมนิคณุ ธรรม
192 วธิ กี ารเรยี น : แบบหนังสือเรยี น มอบหมายงาน (ON - Hand) กระบวนการจัดการเรยี นรู้ การกาหนดสภาพ ปญั หา ความตอ้ งการในการเรยี นรู้ (O : Orientation) 1. ขนั้ ตอนนาเขา้ สู่บทเรยี น ( เวลา 30 นาที ) 1.1 ครูสํารวจความพร้อมของนักศึกษาในการเรียนรู้ สําหรับนักศึกษาไม่มีอินเตอร์เน็ต และเครื่องมือ ส่ือสาร โดยนําหนังสือเรียน ใบความรู้ และใบงาน ให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ที่บ้าน ในรายวิชา ทักษะการพัฒนาอาชีพ จากหนงั สือทีค่ รูได้นาํ ไปให้ พรอ้ มใหน้ กั ศกึ ษา ศึกษาใบความรู้ จดั ทําใบงาน พร้อมท้ังทาํ แบบทดสอบก่อนเรียน 1.2 ครูนําตัวอย่างการเรียนรู้แบบโครงงาน ไปให้นักศึกษา ศึกษาเรียนรู้ที่บ้าน เพ่ือเช่ือมโยงเข้าสู่ บทเรยี นและมอบหมายงานต่อไป 1.3 นักศึกษาสรุปสิ่งทไ่ี ดเ้ รียนรใู้ นตัวอย่างรูปเลม่ โครงงาน บันทึกลงในแบบบันทกึ การเรียนรู้ กศน. และ นาํ ส่งตามวันเวลาทีค่ รกู าํ หนด การแสวงหาข้อมูลและการจัดการเรียนรู้ (N : New ways of learning) 2. ขั้นจดั การเรียนการสอน ( เวลา 3 ช่ัวโมง 30 นาที ) 2.1 ครูมอบหมายใหน้ กั ศกึ ษาไปศกึ ษาหาความรเู้ ร่ืองโครงการพฒั นาอาชพี จากหนงั สือเรียน ออนไลน์ ลิงค์https://pubhtml5.com/oivm/nmqn/basic หรือจากส่อื และแหล่งเรียนรู้ต่างๆ และให้สรุปลง ในแบบ บันทกึ การเรียนรู้ กศน. ในหวั ขอ้ ตอ่ ไปนี้ เรื่องท่ี 1 ความสําคญั ของโครงการพฒั นาอาชีพ เรอ่ื งที่ 2 ขน้ั ตอนการเขยี นโครงการ2 เรื่องท่ี 3 การเขียนแผนปฏบิ ัตกิ าร3 เรอื่ งท่ี 4 การตรวจสอบโครงการ 2.2 ครูมอบหมายให้นักศึกษาเลือกหัวข้อที่สนใจ จํานวน 1 เรื่อง ให้ไปศึกษาค้นคว้าจากหนังสือ เรียน ออนไลน์ ลิงค์ https://pubhtml5.com/oivm/nmqn/basicหรือจากแหล่งการเรียนรู้ต่างๆ และให้นักศึกษา จัดทาํ รายงานเลือกตามหวั ขอ้ ดงั น้ี เร่ืองท่ี 1 ความสาํ คัญของโครงการพัฒนาอาชีพ เรอ่ื งท่ี 2 ข้ันตอนการเขียนโครงการ เรื่องที่ 3 การเขยี นแผนปฏบิ ัตกิ าร เรื่องที่ 4 การตรวจสอบโครงการ 2.3 ครูสอนและสอดแทรกคุณธรรม11 ประการ ในเรอ่ื ง ความสะอาด ความสภุ าพ ความกตัญญู กตเวที ความขยนั ความประหยัด ความซื่อสัตย์ ความมนี ้ใจความมีวนิ ัย ศาสน์ กษัตรยิ ์ รกั ความเป็นไทย และยึดมนั่ ใน วถิ ชี วี ิตและการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษตั ริย์ทรงเป็นประมขุ LINEผา่ นกลมุ่ ทาง
193 การปฏบิ ัติและนาไปประยกุ ต์ (I : Implementation) 3. ข้นั การปฏิบตั ิและนาไปประยุกต์ใช้( 30 นาที ) 3.1 ให้นกั ศึกษา สรปุ สิ่งท่ีได้เรียนรูแ้ ละให้บันทึกความรู้ท่ีได้ศกึ ษาลงในแบบบนั ทึกการเรยี นรู้ กศน. 3.2 นักศกึ ษานําความร้ทู ไี่ ดจ้ ากการเรยี นรูม้ าเป็นแนวทางในการแกป้ ัญหาและการดําเนินชีวติ ใน ประจาํ วันตอ่ ไป ขน้ั ประเมินผล (E :Evaluation) 4. ข้นั สรปุ ผลและประเมนิ ผล ( เวลา 1 ช่ัวโมง ) 4.1 ครูให้นักศึกษาทแบบทดสอบย่อยเรื่องโครงการพัฒนาอาชีพแบบปรนัย จํานวน 20 ข้อ จากชุด แบบทดสอบ และประเมินผล ใหน้ กั ศกึ ษาบันทกึ คะแนนลงในแบบบนั ทึกการเรียนรู้ กศน. 4.2 ครใู ห้นักศกึ ษาทแบบทดสอบหลงั เรียนาPost(-test) แบบปรนัย วิชาทักษะการพัฒนาอาชีพจํานวน 30 ข้อ จากชุดแบบทดสอบหลังเรียน และประเมินผล ให้นักศึกษาบันทึกคะแนนลงใน แบบบันทึกการเรียนรู้ กศน. 4.3 ครูให้นักศึกษาสรุปการทความดีและคุณธรรมท่ีได้ปฏิบัติ จากบันทึกลงในสมุดบันทึกความ ดีเพื่อ การประเม คณุ ธรรม 5. ข้นั มอบหมายงาน 5.1 ครูมอบหมายให้นักศึกษาไปอ่านทบทวนเน้ือหาเพิ่มเติม ทักษะการพัฒนาอาชีพ จากหนังสือเรียน ออนไลน์ ลิงค์ http://pubhtml.5com/oivm/nmqn/basic และให้สรุปลงในแบบบันทึกการ เรยี นรู้ กศน. 5.2 ครูมอบหมายให้นักศึกษาไปศึกษาค้นคว้าและทําใบงานท่ี 1 เร่ืองโครงการพัฒนาอาชีพ (ใบงานครู แจกให)้ โดยใหส้ ่งในการเรยี นสัปดาหต์ ่อไป 5.3 ครูมอบหมายนักศึกษาให้ไปศึกษา เร่ือง การเขียนแผนปฏิบัติการ และประยุกต์ใช้ภูมิปัญญา จาก หนังสือ เรียนออนไลน์ ลิงค์ http://pubhtml.5com/oivm/nmqn/basic เพื่อเตรียมการเรียนรู้ในสัปดาห์ ต่อไป 6. ขนั้ ติดตามผล ( เวลา 30 นาที) ครูติดตามงานท่ไี ด้มอบหมายนักศึกษา เพอื่ ตดิ ตามความคบื หน้า ดังน้ี 1) ตดิ ตามงานท่ีไดร้ ับมอบหมายสัปดาห์ที่ผา่ นมา 2) การทาํ กิจกรรมพัฒนาคณุ ภาพชวี ติ (กพช.) 3) ติดตามสอบถามสขุ ภาพของนักศึกษา (การตรวจสุขภาพ/ความสะอาด/การแตง่ กาย) 4) ติดตามสอบถามการทําความดีในแตล่ ะวนั สัปดาห์ทผ่ี ่านมาและตดิ ตามการบันทึกกิจกรรมท่ีทําความ ดีลงในสมดุ บันทึกบนั ทึกความดีเพ่ือการประเมนิ คุณธรรม 5) ตดิ ตามสอบถามเกยี่ วกบั งานอดิเรก สนุ ทรียภาพ การเล่นกีฬา การใช้เวลาว่างให้เปน็ ประโยชน์ ฯลฯ 6) ตดิ ตามความก้าวหน้าการทาํ โครงงาน
194 สื่อและแหล่งการเรียนรู้ 1. หนังสือเรียนวชิ าทักษะการพฒั นาอาชีพ อช 21002 2. ค่มู อื นักศึกษา 3. ใบความรู้ 4. แบบทดสอบสอบย่อย จํานวน 20 ขอ้ 5..แบบทดสอบหลงั เรยี น (Post-test) วชิ าทกั ษะการพฒั นาอาชพี อช 21002 จาํ นวน 30 ข้อ 6. ใบงาน 7. แบบบันทึกการเรยี นรู้ กศน. การวัดและประเมนิ ผล 1. การมีสว่ นรว่ มในการเรยี น 2. ตรวจแบบบันทกึ การเรียนรู้ กศน. 3. การตรวจใบงาน 4. การตรวจแบบทดสอบ 5. การประเมนิคณุ ธรรม
195 การเรยี นรู้ดว้ ยตนเอง (กรต.) ครั้งที่ 11 (จานวน 14 ชั่วโมง) สาระการการประกอบอาชีพ รายวิชา อช21002 ทกั ษะการพัฒนาอาชพี ระดบั มธั ยมศึกษาตอนต้น คาส่ัง ให้นักศึกษาแบ่งกลุ่มเป็น 4 กลุ่ม และไปทํากิจกรรมการเรียนรู้ต่อเนื่อง (กรต) โดยการไปศึกษาค้นคว้า อา่ นหนังสอื จดบนั ทึก จากหนงั สือแบบเรียน ตํารา หนังสือ และส่ืออื่นๆ ในห้องสมุดประชาชนจังหวัด ห้องสมุด ประชาชนอําเภอ โรงเรียนประถมศึกษา โรงเรียนมัธยมศึกษา วิทยาลัยชุมชนในพื้นที่อําเภอเมืองนราธิวาสหรือ อําเภออื่นๆ หรอื ไปสอบถามขอความรจู้ ากบุคคล ในหวั ข้อตอ่ ไปนี้ กลมุ่ ท่ี 1 ความสาํ คัญของโครงการพัฒนาอาชีพ - ความหมายของโครงการพัฒนาอาชีพ - ประโยชน์ของการพฒั นาอาชีพ กลุ่มท่ี 2 ขัน้ ตอนการเขียนโครงการ - ลักษณะของโครงการท่ดี ี กลุ่มที่ 3 การเขียนแผนปฏบิ ัติการ - ความหมายของการวางแผน - ความสาํ คญั ของการวางแผน - ประเภทของแผน กลมุ่ ที่ 4. การตรวจสอบโครงการ ขนั้ ตอนของการไปเรียนรตู้ ่อเน่อื ง (กรต.) ของนกั ศึกษา มีดงั นี้ 1. แผนการเรียนรู้ต่อเน่ือง (กรต.) ในแต่ละแต่ละสัปดาห์ แต่ละคร้ังท่ีครู กศน.ตําบล/ครู ศรช. หรือครู ประจํากลมุ่ กลมุ่ มอบหมาย 2. ให้บริหารเวลาและใช้เวลาในการศึกษาเรียนรู้ด้วยตนเองและทํากิจกรรมการเรียนรู้ต่อเนื่อง (กรต.) สปั ดาห์ละ 14 ชัง่ โมงเป็นอยา่ งน้อย 3. อ่านหนังสือ สอบถามผู้รู้ และจดบันทึกทุกครั้งทีมีการทํากิจกรรม กรต. และเก็บหลักฐานไว้ทุกคร้ัง เพ่ือส่งครูกศน.ตําบล/ครูศรช. หรอื ครูประจํากลมุ่ ตรวจใหค้ ะแนนการทาํ กรต. 4. จัดทํารายงานเป็นเล่ม ตามแบบรายงานท่ีศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย กําหนดและใหส้ ่งในวนั ท่มี กี ารนาํ เสนอผลการทํากรต. ในเรอื่ งนัน้ ๆ 5. ตัวแทนกลุ่มนําเสนอด้วยตนเอง (กรณีท่ีทํากรต.คนเดียว) โดยให้นําเสนอผลงานตามข้อ4 กลุ่มละ/ คนละไมเ่ กิน 10 นาที ในวันพบกลุ่มครงั้ ตอ่ ไป
196 ใบความรู้ โครงการพัฒนาอาชพี ความหมายของโครงการพฒั นาอาชีพ โครงการ หมายถึง งานท่ีกําหนดจะทาํ ในระยะหนึ่ง เพ่ือแกปัญหาหรอื ตอบสนองความตองการที่เกิดขนึ้ โดยระบุวาจะทําอะไร เมื่อไร ใชปจจยั อะไร เทาไร และมวี ธิ ีการดําเนนิ งานอยางไร เมื่อส้ินสดุ ระยะเวลา ปญหา หรือความตองการนั้น ไดรับการตอบสนองจะถือวาโครงการน้นั ส้ินสดุ การดาํ เนินงานในรูปโครงการเปนวธิ ีการบรหิ ารจดั การทดี่ ี เพราะทาํ ใหเกิดความชดั เจน มีเหตผุ ล เกดิ ความเขาใจท่ถี ูกตองตรงกนั และสามารถขยายผลการดําเนินงานไดเพ่อื พัฒนากจิ กรรมหรอื งานนั้นใหมีความ เจรญิ กาวหนาตอไป ความสาคญั ของโครงการ 1. ช่วยใหข้ ัน้ ตอนวางแผนและข้นั ตอนดาํ เนนิ งาน เปน็ ไปตามระบบ มีความเรียบร้อย 2. ช่วยใหข้ ัน้ ตอนตา่ งๆ มีความสอดคล้องกบั นโยบายหรือความประสงค์ของสถานศึกษาหรอื หน่วยงาน ต่างๆ 3.ทาํ ให้ขน้ั ตอนดาํ เนนิ งานมีทิศทางอันชัดเจน รวมทัง้ มีประสิทธิภาพออกมายอดเยีย่ ม 4.เป็นหลกั ฐานเพ่อื ใชป้ ระเมนิ งานท่ีผา่ นมา ตลอดจนเป็นแนวทางดาํ เนินงานครั้งตอ่ ไปได้อยา่ งเป็น ระเบียบ ข้ันตอนการเขยี นโครงการพัฒนาอาชีพ 1. ขอมูลทน่ี ํามาใชกาํ หนดโครงการพัฒนาอาชีพ จะคลายกับการจัดทําแผนแตจะมรี ายละเอียดของ แตละกิจกรรมมากกวาขอมูลท่ีจําเปนเหลานีไ้ ดแก 1. ความตองการของตลาด กอนท่ีจะเลือกการประกอบอาชีพใด ๆ จะตองมีการสํารวจสภาพและ ความตองการของชุมชนท่ีจะใชเปนแหลงประกอบอาชีพ เชน จํานวนปะชากรในชุมชน มีเด็กผูใหญ ผูหญิง คน สูงอายปุ ระกอบอาชีพอะไร มฐี านะอยางไร มรี ายไดโดยเฉล่ีย สภาพความเปนอยู ความนิยมสินคาหรือบริการใน ลักษณะใด ซง่ึ สินคาหรือบริการที่ตัดสินใจจะผลิตน้ันมีผูดําเนินการอยูหรือไม หรือมีอยูแลว ไมเพียงพอหรือไมมี คุณภาพ สวนของเรานน้ั จะพฒั นาใหแตกตางจากสินคาของผูอื่นอยางไร การสํารวจความตองการนี้อาจมีวิธีการ สอบถาม การสงั เกต สถติ ิจากหนวยงานของภาครัฐและเอกชน เพือ่ ทราบปริมาณความตองการของตลาดวาผลิต สินคาไปแลวคมุ ทุนหรือไม 2. ความพรอมในการประกอบอาชีพ เม่ือตัดสินใจเลือกอาชีพแลว จะตองพิจารณาความพรอมดาน ตาง ๆ ขออาชีพนั้น ๆ วามมี ากนอยพียงใด ไดแก 2.1 ความรูความสามารถเกี่ยวกับอาชีพ โดยพิจารณาว าจะตองใชความรูความสามารถ ดานใดบาง ผูประกอบการมพี นื้ ความรูมากนอยเพยี งใด ความรูที่ยังขาดอยูจะสามารถศกึ ษา ความรูเพ่มิ เตมิ ดวยวธิ ใี ด
197 2.2 สถานท่ีที่จะใชประกอบการกม็ คี วามสําคัญที่จะตองพิจารณา การประกอบอาชีพบางอยาง ขึ้นอยูกับการใชสถานท่ีดวย เชน ใชเน้ือที่มากสําหรับการประกอบอาชีพเกษตร สถานท่ีตองอยูในแหลงชุมชน สาํ หรับอาชีพคาขาย เปนตน 2.3 เงินทุน ตองใชเงินทุนเทาใดสําหรับอาชีพท่ีประกอบการ มีเงินทุนหรือยัง หากยังไมมีจะ จัดหาอยางไร ที่ใด 2.4 วัสดุอุปกรณจะตองใชวัสดุอุปกรณอะไรบางและมีหรือยัง หากยังไมมี มิธีการที่จัดหาได อย่างไร แหลงซอื้ อยูท่ใี ด 2.5 ผูรวมงาน ตองพิจารณาผูรวมงานวามีความจําเปนตองมีก่ีคน ใครบาง แตละคนมีความรู ความสามารถดานใดบาง หรอื ควรมอบหมายงานดานใดใหรับผิดชอบ 2. ขอมลู เพื่อเขยี นโครงการพฒั นาอาชีพ การใหไดขอมูลเพื่อการเขียนโครงการพัฒนาอาชีพ มีหลายวิธี ซึ่งผูเรียนอาจใชวิธีเดียวหรือหลายวิธี ประกอบกนั ก็ได วธิ ีการเหลาน้ี ไดแก 1. จากเอกสาร หนังสือ ไดแก หนังสือทั่วไป หนังสือรายป หนังสืออางอิง หนังสือพิมพเอกสาร รายงานตาง ๆ 2. จากสือ่ ทางไกลตาง ๆ เชน จากรายการโทรทัศน วทิ ย1ุ 06 3. จากหนวยงานตาง ๆ การดาํ เนินงานของหนวยงานจะมขี อมูลทน่ี าสนใจ เชน ราคาขายสงขายปลีกใน รอบป ปริมาณการผลิต ลักษณะของสนิ คาที่ตลาดตองการ หนวยงานเหลานี้ เชน กรมสงเสริม การเกษตร พิชย จังหวัด กรมสงเสรมิ อตุ สาหกรรม 4. ผูรใู นชุมชน โดยการสอบถามผูรใู นชมุ ชน เชน ผูนําในหมูบาน ครู อาจารย นกั วิชาการ 5. จากการสํารวจ เราสามารถดําเนินการสํารวจภายในชุมชนดวนตนเอง เพ่ือใหไดขอมูลท่ีชัดเจนและ ถูกตอง เชน สํารวจราคาของสินคา เราอาจสอบถามจากผูขายไดโดยตรงหลาย ๆ คน 6.จากการสงั เกต อาจใชวิธีการสงั เกตกไ็ ด เชน สังเกตวธิ ีการขายของผูประกอบการบางคนที่ทําใหสินคา ขายดีกวาผูอื่น 7. การสัมภาษณใชวิธีน้ีเพื่อใหไดขอมูลท่ีมีรายละเอียด เชน วิธีและเทคนิคการทําขนมจีบเราอาจจะต องใชเวลาสัมภาษณนานกวาวิธอี ืน่ ๆ ซึง่ จะตองจดหวั ขอไปลวงหนากอน เพ่อื ใหไดขอมลู ทค่ี รบถวนสมบรู ณ 3.การเขยี นโครงการพฒั นาอาชีพ โครงการเปนการกาํ หนดรายละเอียดในสิ่งที่จะทําอยางมีความสมั พนั ธ เพอื่ ใชในการควบคุมการ ดาํ เนินงานอาชีพใหดําเนินไปอยางเปนระบบ การเขยี นโครงการพฒั นาอาชพี มีรายการทีต่ องจดั ทําขอมูลและรายละเอียด ดงั นี้ 1) ช่อื โครงการ ชอ่ื โครงการจะตองมคี วามชดั เจน เฉพาะเจาะจงเขาใจงายวาจะกระทาํ สง่ิ ใด เชน โครงการเล้ียงไกเน้ือ โครงการปลกู กลวยนํ้าวา 2) หลักการและเหตุผล การเขียนหลักการและเหตุผล เปนการนําเสนอขอมูลที่แสดงใหเห็นถึงเหตุผลและความจําเปนหรือ ความสําคญั และท่ีมาของโครงการ โดยผูเขียนจะตองระบุถึงสภาพปญหา เหตุผลความจําเปนพรอมจัดหาข้อมูล
198 มาสนับสนุนใหชัดเจน เชน สถติ ขิ อมูลจากหนวยงานภาครัฐ สภาพปญหาของชุมชนที่ผานการประชุมประชาคม หรอื นโยบายภาครฐั จากสวนกลาง สวนทองถิ่นซึ่งจะตองแสดงใหเห็นถงึ ความสอดคลอง และชี้ใหเห็นถึงขอดีของ การดําเนินงานโครงการและขอเสยี หากไมมีการดาํ เนนิ งานโครงการ 3) วัตถุประสงค วัตถปุ ระสงคเปนขอความท่ีแสดงถงึ ความตองการหรือผลของการกระทําส่ิงหน่ึงสิ่งใดที่ชัดเจน สามารถปฏิบัติวัด และประเมินผลได โครงการหนึง่ อาจจะมวี ตั ถุประสงคเพียงขอเดยี วหรือหลายขอก็ได 4) เปาหมาย เปาหมาย เปนการกําหนดผลงานตามโครงการไวลวงหนาวา เมื่อดําเนินงานตามโครงการไปแลวจะได ผลอะไร อยางไร การกาํ หนดเปาหมาย จะมีการกาํ หนดใน 2 ลักษณะ คอื (1) เปาหมายเชิงปริมาณ เปนการกําหนดผลงานในดานปริมาณวาจะไดงาน กี่ชิ้น ก่ีคน กี่เลม ก่ชี ดุ กต่ี ําบล กแี่ หง ฯลฯ (2) เปาหมายเชงิ คณุ ภาพ เปนการกาํ หนดคุณภาพของผลงานที่ระบุไวในเชิงปริมาณวางานท่ีได จากโครงการนน้ั ดีอยางไร มีคุณคาอยางไร เกดิ ประโยชนอยางไร ฯลฯ 5) วิธดี าํ เนนิ การ วิธีดําเนินการ เปนการเขียนข้ันตอนรายละเอียดภารกิจที่จะตองปฏิบัติ เพ่ือใหงานบรรลุตามวัตถุประ สงคของโครงการ ดงั นั้น ในการเขียนวธิ ีดาํ เนนิ งานจึงควรคาํ นึงถึงประเดน็ ตอไปนี้ (1) จําแนกเปนกจิ กรรมยอยหลาย ๆ กิจกรรมเรียงตามลําดบั ตั้งแตเริ่มตนการดําเนินงาน จนกระทั่งเสรจ็ สิ้นโครงการใหชัดเจน (2)กจิ กรรมแตละกิจกรรมจะตองกาํ หนดระยะเวลา โดยกําหนดเปนปฏิทนิ ปฏบิ ัติงาน 6)ระยะเวลาในการดาํ เนินงานโครงการ การกาํ หนดระยะเวลาดําเนนิ กิจกรรมตามโครงการใหระบุการเริม่ ตนกิจกรรมจนกระท่งั สิ้นสุด 7) งบประมาณ การกําหนดงบประมาณเปนการแสดงขอมูลในรูปของตัวเงินหรือส่ิงของท่ีตีคาเปนเงิน โดยจะตองแจก แจงใหชัดเจนวาจะใชเงนิ ในรายการใดบาง เชน คาแรงงาน คาขนสง คาวัสดุอุปกรณ ในแตละรายการจะกําหนด ใชงบประมาณเทาไร ถาจะใหสมบูรณควรประมาณรายไดที่คาดวาจะไดรับไวดวย เพื่อจะไดนําไปใชในการ จัดการงานอาชีพ ใหมีความคลองตัวและใชในการปรับงบประมาณ คาใชจาย เพ่ือใหเกิดความสมดุล หรือผล กาํ ไรในการดาํ เนนิ งานอาชีพ 8) เครอื ขาย เครอื ขาย หมายถึง หนวยงานทัง้ ภาครัฐและเอกชน กลุมบุคคล ชุมชนและแหลงวทิ ยาการท่ีมสี วนรวมส งเสรมิ สนับสนุน ประสานงานและมกี ารจดั กจิ กรรมเชือ่ มโยงและเกอื้ หนุนกัน ในการระบุเครอื ขายจึงตองกําหนด ใหชดั เจนวา เครอื ขายมหี นวยงานหรอื บคุ คลใดบาง และมสี วนเกี่ยวของกบั การดาํ เนินงานโครงการนอ้ี ยางไร 9) การประเมินผลและรายงานผลโครงการพัฒนาอาชีพ การประเมินผลและรายงานผลโครงการพัฒนาอาชีพ เปนการระบุวาการดําเนินงานโครงการนี้กําหนด จะประเมินผลโครงการนอ้ี ยางไร ดวยวิธกี ารใด การประเมนิ โครงงานน้สี ามารถแบงเปน3 ระยะ คือ
199 1. ประเมินผลกอนดําเนินโครงการเปนการตรวจสอบความพรอมของปจจัยตาง ๆ ที่ตองใช ไดแก เงินลงทนุ วัสดุ อุปกรณ แรงงาน ตลาด ระบบการจดั การ ความถนดั ความสอดคลองของอาชีพกบั ชุมชน เพื่อไมใหเกดิ ความผดิ พลาดในระยะเร่ิมตนโครงงาน 2. ประเมินผลระหวางดําเนินโครงการ เปนการประเมินระหวางการดําเนินงานเพ่ือทราบ ความกาวหนาของงาน แนวโนมความสาํ เรจ็ ของโครงการ และมปี ญหาอุปสรรคอะไรบางเพอื่ หาวธิ ีแกไข 3. ประเมินผลเมื่อสิ้นสุดโครงการเปนการประเมินผลเพ่ือหาขอสรุปเม่ือส้ินสุดโครงการแลววา ประสบผลสาํ เร็จตามวัตถปุ ระสงคและเปาหมายหรอื ไม เพราะเหตุใด มปี ญหาอุปสรรคอยางไรและมีวธิ แี กไข อยางไรวิธีการประเมินผลมีหลายวิธี อาจใชหลาย ๆ วิธีประกอบกันก็ได เชน แบบประเมิน การอภิปราย โดย ดําเนินการเมอ่ื โครงการส้นิ สดุ ลงตามระยะเวลาที่กําหนด จากนนั้ ประมวลขอมูลการดําเนินงานสรุปเปนรายงาน ทกุ ครัง้ เพ่อื ใชเปนขอมลู ในการดาํ เนนิ งานคร้ังตอไป หรือรายงานใหเจาของกิจการอาชีพทราบ 10) ผูรับผดิ ชอบโครงงานพฒั นาอาชพี กําหนดระบุช่ือผูรับผิดชอบโครงการพัฒนาอาชีพ ในกรณีท่ีเปนโครงการท่ีมีผูรวมงานหลายคน ใหระบุ ไวดวยวามีก่คี น ใครบาง รับผิดชอบการดําเนินงานดานใดของโครงการพัฒนาอาชพี นน้ั ๆ 11) ความสัมพนั ธกับโครงงานอ่นื การระบคุ วามสมั พันธกับโครงการอนื่ เปนการระบวุ าโครงการท่ีดาํ เนินงานนี้เอ้ือประโยชนตอเน่ืองหรือ ประสานงานกับโครงการอื่นอยางไร นอกจากนี้ยังเปนการตรวจสอบดวยวาโครงการตาง ๆ ท่ีระบุดําเนินงานมี ความสัมพนั ธกนั หรือมคี วามํซา้ ซอนกันหรือไม 12) ผลที่คาดวาจะไดรับ ผลท่ีคาดวาจะไดรับ เปนการกําหนดผลผลิตในดานตางๆ ที่จะเกิดขึ้นทันทีเม่ือส้ินสุดโครงการพัฒนา อาชพี รวมถงึ ผลลพั ธ ในดานตางๆ ทค่ี าดวาจะเกิดข้ึนในอนาคต ประโยชน์ทไ่ี ด้รับ โครงการทดี่ ี จําเป็นต้องมีการเสนอความคิดเห็น อยา่ งถกู ต้อง มเี หตผุ ล พร้อมเขยี นรายละเอยี ดได้อยา่ ง ชดั เจน โดยการปฏบิ ตั งิ านนน้ั จะตอ้ งบรรลุจุดประสงค์ตามทตี่ ง้ั ไว้ได้ โครงการท่ีมคี วามถูกตอ้ ง-ชดั เจน จะสง่ ผล ให้เกิดประโยชน์มากมายแกห่ น่วยงานหลายขอ้ ดว้ ยกัน ไดแ้ ก่ • ชว่ ยอาํ นวยความสะดวกให้แกผ่ ้อู ่าน ให้เขามีความเข้าใจในเน้อื หาได้อย่างถกู ต้อง ชดั เจน ตรงตามที่ ผ้เู ขียนต้องการสื่อให้ผู้อา่ นรบั รู้ • ช่วยประหยัดเวลาแก่ผู้อนมุ ัตหิ รือผตู้ รวจตรา ใชเ้ วลาอา่ นเพียงไม่นานก็ตัดสินใจได้ทันที • ทาํ ใหก้ ารปฏิบัตงิ านตามโครงการเปน็ ไปตามวัตถุประสงค์รวมท้ังเป้าหมายซ่ึงกําหนดไวอ้ ยา่ งเคร่งครัด • ทาํ ใหเ้ ห็นถึงประสบการณ์การทํางานของผู้ดาํ เนนิ งาน
200 ใบงานท่ี 1 เร่อื งโครงการพัฒนาอาชีพ วชิ าทักษะการพัฒนาอาชีพรายวชิ าอช 21002 ระดับมธั ยมศึกษาตอนต้น จงตอบคําถามต่อไปนี้ 1. โครงการ หมายถงึ ? ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. ............................................................................................ ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. 2.โครงการมีความสําคัญอย่างไร ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................................................. ................ .................................................................................................................. ............................................................ ............................................................................................................................. ................................................. ................................................................................................................................................... ........................... ........................................................................................................ ...................................................................... ............................................................................................................................. ................................................. 3.บอกขนั้ ตอนการเขียนโครงการประกอบดว้ ยอะไรบา้ ง ............................................................................................................................. ................................................. .......................................................................................................................................................................... .... ............................................................................................................................. ................................................ ............................................................................................................................. ................................................. ................................................................................................................................................................ .............. ..................................................................................................................... ......................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ...................................................................................................................................................... ........................ ............................................................................................................................. ................................................. ................................................................................. ............................................................................................. ชอ่ื ......................................................................................รหัสนกั ศึกษา....................... ..................................
201 เฉลยใบงานท่ี 1 เรื่อง โครงการพัฒนาอาชพี วิชาทกั ษะการพัฒนาอาชีพรายวิชาอช 21002 ระดบั มธั ยมศึกษาตอนต้น จงตอบคาถามต่อไปน้ี 1.โครงการ หมายถงึ ? โครงการ หมายถึง งานท่ีกําหนดจะทําในระยะหนึ่ง เพื่อแกปญหาหรือตอบสนองความตองการที่ เกิดขนึ้ โดยระบวุ าจะทาํ อะไร เมอ่ื ไร ใชปจจยั อะไร เทาไร และมีวิธีการดําเนินงานอยางไร เม่ือส้ินสุดระยะเวลา ปญหาหรือความตองการน้ัน ไดรับการตอบสนองจะถอื วาโครงการนั้นสิน้ สุด 2.โครงการมคี วามสําคัญอยา่ งไร โครงการมีความสําคญั ต่อการวางแผนและการดําเนินงาน 1) ชว่ ยใหก้ ารดาํ เนินการสอดคล้องกับนโยบายหรือความต้องการของหน่วยงาน 2) ทาํ ให้การดาํ เนนิ งานนั้นมที ิศทางทชี่ ัดเจน และมปี ระสิทธิภาพ 3) เปน็ หลักฐานและใช้ในการประเมินค่างานท่ีผา่ นมาและเปน็ แนวทางในการดําเนินการครั้ง ต่อไปได้ 3.บอกขั้นตอนการเขยี นโครงการประกอบด้วยอะไรบา้ ง ขอมลู ที่ตองใชในการเขยี นโครงการพฒั นาอาชีพ 1. ข อมูลท่ีนํามาใช กําหนดโครงการพัฒนาอาชีพจะคล ายกับการจัดทําแผนแต จะมี รายละเอียดของแตละกจิ กรรมมากกวาขอมลู ทจี่ าํ เปนเหลาน้ีไดแก 1. ความตองการของตลาด 2. ความพรอมในการประกอบอาชีพ 2. ขอมลู เพ่ือเขียนโครงการพัฒนาอาชพี 3.การเขียนโครงการพฒั นาอาชีพ การเขียนโครงการพฒั นาอาชีพ มรี ายการท่ีตองจัดทําขอมูลและรายละเอยี ด ดงั น้ี 1) ชอ่ื โครงการ 2) หลกั การและเหตุผล 3) วัตถปุ ระสงค 4) เปาหมาย 5) วธิ ดี าํ เนนิ การ 6)ระยะเวลาในการดาํ เนินงานโครงการ 7) งบประมาณ 8) เครือขาย 9) การประเมินผลและรายงานผลโครงการพัฒนาอาชีพ 10) ผรู ับผิดชอบโครงงานพฒั นาอาชพี 11) ความสัมพนั ธกับโครงงานอื่น 12) ผลทีค่ าดวาจะไดรับ
202
203 แบบทดสอบย่อย เร่อื ง โครงการพัฒนาอาชีพ วิชาทักษะการพัฒนาอาชพี รายวิชาอช 21002 ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนตน้ 1. ข้อใดคือความหมายของโครงการ 6. วธิ ดี าเนนิ การโครงการข้อใดเปน็ อันดับแรก ก.การรายงานผลการทํางานอยา่ งละเอยี ด ก. ประชมุ ปรึกษา ข.ขน้ั ตอนการท างานท่ีมรี ะบบ ข. เสนอโครงการ ค.งานท่ีจะทาํ ในอนาคตอยา่ งมีประสิทธิภาพ ค. ดาเนินงาน ง.การวางแผนการทํางาน ง. แต่งตัง้ คาส่งั 7. เป้าหมายมีความหมายว่าอย่างไร 2. ประเภทของโครงการทแ่ี บ่งตามผู้เสนอแบ่ง ก. จดุ มุ่งหมายของโครงการหรือผลทจ่ี ะเกิดข้นึ ออกเปน็ กีป่ ระเภท ข. ผทู้ ่รี ิเรม่ิ โครงการหรอื ผู้ที่รบั ผิดชอบ ก. 3 ประเภท ค. การกาหนดแนวทางในการดาเนนิ งา ข. 4 ประเภท ง. ขนั้ ตอนในการปฏิบัติงาน ค. 5 ประเภท ง .6 ประเภท 8. ขอ้ ใดไม่จาเปน็ ต้องคานึงถึงในการเขยี นโครงการ ก. มวี ธิ กี ารดาเนินการอยา่ งไร 3. ขอ้ ใดไม่ใชว่ ัตถปุ ระสงค์ของโครงการ ข. ทาไมต้องทาโครงการน้ี ก. เพื่อประกอบการตดั สินใจของผูบ้ ังคบั บญั ชา ค. ผลประโยชน์เปน็ ของสว่ นรวมหรือไม่ ข. เพ่อื แสดงภูมริ ูด้ ้านเทคนคิ การทางานของผูเ้ สนอโครงการ ง. ผู้อนมุ ัตจิ ะมีงบประมาณใหห้ รือไม่ ค. เพื่อแกป้ ัญหาในการทางาน ง. เพ่ือพฒั นางานใหม้ ปี ระสิทธิภาพมากข้ึน 9. ข้อใดแสดงถึงเหตผุ ลทต่ี ้องจัดทําโครงการ ก. วตั ถุประสงค์ 4. ขอ้ ใดคือส่วนประกอบของโครงการ ข. วธิ ดี าเนนิ งา ก. ค่าใช้จา่ ย ค. ชอื่ โครงการ ข. เป้าหมาย ง. หลักการและเหตุผล ค. สถานที่ ง. ถกู ทกุ ข้อ 10.การวางแผนการทาโครงงานขอ้ ใดไม่ถกู ต้อง ก. การวางแผนเพ่ือใหก้ ารดาเนินการเปน็ ไปอยา่ ง 5.การเขียนรายงานโครงงานควรใช้ภาษาเขยี นแบบใด รอบคอบ ก.การเขยี นโครงงานควรใช้ภาษาท่ีอา่ นเข้าใจง่าย ข.การวางแผนจะสามารถร้แู หล่งคน้ ควา้ และรู้ และตรงประเดน็ งบประมาณการใช้จ่าย ข. การเขยี นโครงงานควรใชภ้ าษาแบบเป็นกันเองตามความ ค.การวางแผนสามารถทราบถงึ จดุ ประสงคเ์ รือ่ งทที่ า เขา้ ใจของผจู้ ัดทํา และทราบถงึ ขอบเขตได้ ค.การเขยี นโครงงานควรใชท้ ง้ั วัจนภาษาและอวจั นภาษาเพื่อ ง. การวางแผนจะทาโครงงานเสร็จเมอ่ื ไหรก่ ็ได้ไมต่ อ้ งนา เป็นทางเลอื กให้ผู้อ่านติดตาม เสนอใหใ้ ครทราบงานก่อน ง. การเขยี นโครงงานควรใชท้ งั้ รปู ภาพและวสั ดจุ รงิ มาเป็น สว่ นประกอบของการเขียนรายงาน
204 11. ข้อมูลพ้ืนฐานสาหรบั การวางแผน 16. การเขยี นรายงานโครงงานควรใชภ้ าษาเขยี นแบบใด ต้องคํานึงถึงอะไรมากทส่ี ุด ก.การเขยี นโครงงานควรใช้ภาษาทีอ่ ่านเขา้ ใจง่าย ก. สภาพทางสงั คม และตรงประเดน็ ข. ทศั นคติของประชาชน ข.การเขยี นโครงงานควรใช้ภาษาแบบเปน็ กนั เองตามความเขา้ ใจ ค. ขอ้ มูลภายในองค์การ ของผูจ้ ดั ทํา ง. สภาพทางเศรษฐกจิ ค. การเขยี นโครงงานควรใชท้ ั้งวจั นภาษาและอวจั นภาษา เพื่อเป็นทางเลือกใหผ้ ู้อา่ นตดิ ตาม 12. สว่ นใดของโครงการท่ีสาํ คญั ท่ีสุด ง. การเขยี นโครงงานควรใช้ทัง้ รปู ภาพและวสั ดุจริงมาเปน็ ก. ระยะเวลาและงบประมาณ ส่วนประกอบของการเขยี นรายงาน ข. หลักการและเหตุผล ค. วธิ ดี าเนนิ งาน 17.การเสนอผลงานทาไดห้ ลายรปู แบบขน้ึ อยู่กบั ความ ง. วัตถุประสงคแ์ ละเปา้ หมาย เหมาะสมต่อประเภทโครงงานข้อใดไม่ถูกต้อง ก. การแสดงบทบาทสมมุติ 13. ข้อใด ไมใ่ ช่ประโยชน์หรือ ข. การใช้งบประมาณจา้ งหนว่ ยงานต่างๆทา ความสาํ คัญของแผน ค. การจัดนทิ รรศการเกยี่ วกับผลงาน ก. ช่วยแบง่ เบาภาระของผู้บริหารใหล้ ดน้อยลง ง. การจัดแสดงและการอธบิ ายดว้ ยคาพดู ข. ลดความซ้าํ ซอ้ นของงาน ค. แผนทด่ี ีจะต้องชัดเจนวา่ ทาอะไร ท่ีไหน อย่างไร 18. ขน้ั ตอนการทาโครงงานข้อใดเรยี งลาดบั ถกู ต้อง ง. ประหยดั และระดมทรัพยากรขององค์กรมาใชอ้ ยา่ งท่วั ถึง ก. การคิดและการเลือกหัวเร่ือง การวางแผน การ ดาํ เนนิ งาน การเขียนรายงาน การนาเสนอ 14. ขอ้ ใดเป็นคากลา่ วท่ีไม่ถูกตอ้ ง ข.การคิดและการเลือกหัวเรอ่ื ง การวางแผน การเขียน เกยี่ วกับแผน (Plan) รายงาน การดาเนินงาน การนาเสนอ ก. แผนเป็นเร่ืองของกิจกรรม ค.การวางแผน การคิดและการเลือกหัวเรื่อง การดาเนิน ข. แผนเป็นเร่อื งของสมมตฐิ านในอนาคต งาน การเขียนรายงาน การนาเสนอ ค. แผนเปน็ เรอ่ื งเก่ียวกบั การตดั สินใจของผบู้ รหิ าร ง.การวางแผน การคดิ และการเลือกหัวเร่ือง การเขียน ง. แผนแม่บท รายงาน การดาเนนิ งาน การนาเสนอ 15. ขอ้ ใดคือการตง้ั ชื่อโครงการตาม 19.เม่อื เลือกหวั เรอ่ื งที่เหมาะสมไดแ้ ล้ว กจิ กรรมท่ีทา ขน้ั ตอนต่อไปควรทาตามข้อใด ก.โครงการโรงเรยี นในฝัน ข.โครงการบวช ก.การค้นคว้าและรวบรวมข้อมูล ค.โครงการวันสนุ ทรภู่ ข.การเรียบเรยี งการทารายงาน ง.โครงการช่วยพ่นี อ้ ย ค.กาํ หนดจุดม่งุ หมายและขอบเขตของเรื่อง ง.เขยี นท่มี าและความสาํ คัญของโครงงาน 20. โครงการทีแ่ บ่งตามระยะเวลาแบง่ ไดก้ ีป่ ระเภท ก. 2 ประเภท ข. 3 ประเภท ค. 4 ประเภท ง. 5 ประเภท
205 เฉลย แบบทดสอบยอ่ ย เร่อื ง โครงการพฒั นาอาชพี วิชาทักษะการพฒั นาอาชีพรายวชิ าอช 21002 ระดบั มัธยมศึกษาตอนต้น 1. ง 11. ค 2. ก 12. ข 3. ข 13. ค 4. ง 14. ง 5. ก 15. ก 6. ข 16. ก 7. ค 17. ข 8. ง 18. ก 9. ง 19. ง 10. ง 20. ข
206 แบบทดสอบหลังเรียน (Post-test) รายวิชา ทกั ษะพฒั นาอาชีพ 1. การออกแบบในข้อใดที่ต้องคานึงถึงกรรมวิธใี น 6. ผลกระทบใดไม่ไดเ้ กิดจากเทคโนโลยี กรรมวิธีในการผลติ เป็นหลกั ก.ปญั หาการว่างงาน ข.ปัญหาส่งิ แวดลอ้ ม ก.การออกแบบตกแต่ง ค.ปญั หาการขาดแคลนพลังงาน ข.การออกแบบสงิ่ พมิ พ์ ง.ปญั หาการผลิตสนิ ค้าไมไ่ ดค้ ุณภาพ ค.การออกแบบผลิตภัณฑ์ ง.การออกแบบทางวศิ วกรรม 7. การวางแผนงานใดควรใช้แผนระยะสน้ั ก.จาหนา่ ยผลไมต้ ามฤดูกาล 2. ขอ้ ใดคือลกั ษณะของววิ ัฒนาการของเทคโนโลยี ข.กอ่ สร้างอาคารสานกั งาน สมองกล ค.ตง้ั ศูนยฝ์ กึ อาชพี ระยะส้นั ง.ปรบั ปรงุ ผลติ ภณั ฑ์เครื่องจกั กลโรงงาน ก.ชอ่ งฝมี อื ชอ่ งกล เครือ่ งจกั รโรงงาน ข.เครอ่ื งจักรโรงงาน สมองกล ช่องกล 8. ขอ้ ใดไมใ่ ช่ปจั จยั ท่ีมีอทิ ธิพลตอ่ พฤติกรรมการซ้ือด้าน ค.เครื่องจักรอัตโนมัติ ช่างฝมี อื สมองกล สงั คม ง.ช่างฝีมือ เครือ่ งจักรอัตโนมัติ เครือ่ งจักรโรงงาน ก.การอา้ งองิ 3. ข้อใดเปน็ ขั้นตอนแรกของการเริ่มตน้ ประกอบอาชพี ข.ครอบครวั ก.การประเมนิ ความพรอ้ มของตัวเอง ค.สถานภาพ ข.การจัดแบง่ หนา้ ทใ่ี นการประกอบอาชีพ ง.บคุ ลิกภาพ ค.การแสวงหาชอ่ งทางในการประกอบอาชีพ ง.การศกึ ษาการตลาดเพ่ือจาหน่ายผลติ ภัณฑ์นั้น 9. ขอ้ ใดกลา่ วถูกต้องเกยี่ วกบั วสิ าหกิจชมุ ชน ก.กจิ กรรมที่มงุ่ เนน้ ผลผลิต 4. ข้อใดไม่ใช่ประโยชนข์ องการจัดจาหนา่ ย ข.กจิ การท่มี ุ่งเน้นผลกาไร ก.ชว่ ยใหเ้ กดิ อาชพี ในชุมชน ค.กิจการทีม่ ุ่งเน้นการใช้ทรัพยากร ข.ทาใหเ้ กิดการพัฒนาผลผลติ ท่ีดีข้นึ ง.กิจการท่ีมุง่ เนน้ การพ่ึงพาตนเอง ค.ผู้บรโิ ภคใช้เวลามากในการเลือกซื้อสนิ ค้า ง.เกิดการแลกเปลี่ยนความตอ้ งการของผู้ผลติ และ 10. ตู้เย็นคนยากเปน็ เทคโนโลยีเกี่ยวขอ้ งเร่ืองใด ก.งานช่าง ผบู้ ริโภค ข.พลังงาน ค.อุณหภมู ิ 5. C คือหนว่ ยข้อมูลใด ง.การเกษตร ก.บติ ข.ตวั อักษร ค.ฐานขอ้ มูล ง.ระเบยี นขอ้ มูล
207 11 องคป์ ระกอบหลักในการพิจารณาเลอื กอาชีพ คอื ขอ้ ใด 17. เทคโนโลยที ่ีเหมาะสมกับทอ้ งถนิ่ ข้อใดไมถ่ ูกตอ้ ง * ก. เป็นอาชีพทต่ี นเองถนัด มคี วามมน่ั คงและสุจรติ ก.ผูใ้ ช้สามารถผลิตขนึ้ เองได้ ข. เปน็ อาชีพท่สี งั คมยอมรบั และมผี ลตอบแทนสงู ข.มวี ธิ กี ารสร้างไม่ซับซ้อน ค. เปน็ อาชพี ทีค่ รอบครัวทาสืบทอดกนั มา ค.ใชต้ น้ ทุนในการผลิตคอ่ นขา้ งสูง ง. เป็นพน้ื ฐานของการศึกษาในอนาคต ง.นาไปใช้งา่ ยและบารงุ รักษางา่ ย 12. อาชีพการใหบ้ ริการ ไดแ้ กข่ ้อใด 18.ข้อใดเปน็ อาชีพประเภทการผลติ เกยี่ วกบั งานตกแต่ง ก. ตัดหญ้า ตกแตง่ สวนในบา้ น บา้ น ข. ตกแต่งกระถางให้สวยงาม ค. เปดิ ร้านขนมเบเกอร่ี ก. อาชีพทาเทยี นหอมไลย่ ุง ง. ประดิษฐโ์ คมไฟ ข. อาชพี ปลูกไม้ประดับ ค. อาชพี ทากรอบรูป 13 ขอ้ ใดไม่ใช่ทรพั ยากรในการวางแผนทารายงาน ง. อาชีพทาของท่รี ะลกึ ก.คน ข.เงิน 19. ขอ้ ใดหมายถงึ Search Engine ค.ระยะทาง ก.ชื่อภาษาท่ีเขยี นข้นึ เพ่ือใช้ค้นหาข้อมูล ง.เคร่อื งคอมพวิ เตอร์ ข.โปรแกรมทใ่ี ช้คน้ หาข้อมลู ของสารสนเทศ ค.เว็ปทีเ่ ปดิ บริการบนเครือขา่ ยคอมพิวเตอร์ 14. ข้อใดเปน็ ขน้ั ตอนแรกของการวางแผนทวั่ ไป ง.เครอื มือที่ใชช้ ่วยค้นหาข้อมูลบนเครือขา่ ย ก. เลอื กเปา้ หมาย ข. ตรวจสอบงาน อนิ เตอร์เน็ต ค. กาหนดวัตถปุ ระสงค์ 20. ข้อใดไม่ใชผ้ ลดีของการวางแผนลว่ งหน้า ง. วเิ คราะห์ขอ้ มูลและสถานการณ์ ก. ช่วยให้งานเสรจ็ เร็ว 15. ข้อใดคือลักษณะของวิวฒั นาการของเทคโนโลยี ข. ทาใหเ้ กดิ การประหยัด สมองกล ค. ช่วยใหม้ ีผลกาไรเพมิ่ ขน้ึ ง. ชว่ ยขจดั ปัญหาและอปุ สรรคต่างๆ ก.ใชม้ นษุ ย์ในการทางาน 21. ถา้ พบวา่ ในกลุม่ มีสมาชิกน้อยจะต้องหาคนเพิ่ม เป็น ข.มขี นาดเลก็ ใช้พลังงานนอ้ ย ขัน้ ตอนใดของกระบวนการจัดการ ค.ผลิตโดยเครอ่ื งยนต์แบบงา่ ยๆ ก.การประเมนิ ผล ง.มีขนาดใหญผ่ ลติ ช้นิ งานทลี ะมาก ข.แกป้ ัญหาทันที ค.บรรลุตามเปา้ หมาย 16. ข้อใดไม่ใชเ่ หตุผลท่ีทาให้ผู้ประกอบอาชีพประสบ ง.ปฏบิ ัตงิ านตามแผนที่ตงั้ ไว้ ความลม้ เหลว 22. ข้อใดเป็นการจัดจาหนา่ ยทมี่ ีประสทิ ธภิ าพ ก.สนองความต้องการผู้ผลิต ก. ผปู้ ระกอบอาชพี มคี วามเกยี จครา้ น ข.สนองความต้องการผู้บรโิ ภค ข. ไมเ่ ปน็ ท่ยี อมรับของสังคมหรือทอ้ งตลาด ค.สรา้ งความพอใจแก่ผู้ผลิตและผู้บริโภค ค. เปน็ อาชพี ท่ีมคี ู่แข่งในทอ้ งตลาดเปน็ จานวนมาก ง.เพ่ิมความสะดวกให้กับผูบ้ รโิ ภค
208 ง. ผู้ประกอบอาชีพไม่มีความถนดั ในอาชีพเป็นพ้ืนฐาน 28. วิสาหกจิ ชุมชนแบ่งออกเปน็ กีป่ ระเภท 23. การส่งเสรมิ การขายวิธีใดนยิ มใช้กบั สินคา้ ที่ต้องการให้ ก.2ประเภท เหน็ ความแตกตา่ ง ข.3ประเภท ก.การสาธิต ค.4ประเภท ข.การใหข้ องแถม ง.5ประเภท ค.การลดราคา 29. สิ่งที่ตอ้ งพฒั นาควบคู่ไปกับเทคโนโลยี ง.การสง่ ชน้ิ ส่วนชงิ โชค ก.ค่านยิ ม 24. ขอ้ ใดไมใ่ ช่เทคโนโลยี ข.ความคุ้มคา่ ก.เคร่อื งจกั ร ค.จริยธรรม ข.แรธ่ าตใุ นดนิ ง.ความตอ้ งการ ค.วิธกี ารถนอมอาหาร 30. ข้อใดคือผลของการประมวลผลข้อมลู ง.กระบวนการแยกของเสยี ออกจากแหล่งน้า ก.ขอ้ มูลดบิ 25 เทคโนโลยีท้องถน่ิ หมายถึงระดับของเทคโลยีสมองกล ข.สารสนเทศ ก.เทคโนโลยีระดบั สูง ค.กระบวนการ ข.เทคโนโลยีระดับกลาง ง.ภาษาคอมพิวเตอร์ ค.เทคโนโลยีระดับพ้ืนบา้ น ง.เทคโนโลยรี ะดับประเทศ 26. การพฒั นาผลิตภณั ฑ์เพ่ือวัตถุประสงค์ใดมากท่สี ุด ก.เพือ่ สนองความต้องการของตลาด ข.เพอ่ื ให้สนิ คา้ มีราคาทเ่ี หมาะสมขึ้น ค.เพ่ือสนองความต้องการของผูผ้ ลติ ง.เพือ่ ใหส้ นิ ค้ามีความสวยงาม ทันสมยั ข้นึ 27. การพฒั นาผลิตภณั ฑ์ดา้ นอาหารควรคานึงถงึ สง่ิ ใดมาก ที่สดุ ก.ความสะดวก ข.ความน่าเช่อื ถือ ค.ความปลอดภยั ง.ความสวยงาม ชื่อ...........................................................................รหสั นักศึกษา.................................. ...
209 เฉลย แบบทดสอบหลังเรียน (Post-test) รายวชิ า ทักษะพัฒนาอาชีพ 1. ง 11. ค 21. ข 2. ก 12. ก 22. ค 3. ค 13. ค 23. ก 4. ค 14. ง 24. ข 5. ข 15. ข 25. ค 6. ง 16. ก 26. ก 7. ก 17. ค 27. ง 8. ง 18. ง 28. ก 9. ง 19. ก 29. ค 10. ก 20. ค 30. ข
210
ภาคผนวก
แบบสังเกตพฤติกรรมการปฏบิ ตั ิกิจกรรมของนักเรียนรายบคุ คล เลข ่ีทชอ่ื – สกลุ ผลการประเมิน ีมความตั้งใจในการทางาน ีมความรับผิดชอบ ตรงต่อเวลา ความสะอาดเรียบร้อย ผลสาเร็จของงาน รวมคะแนน 3 3 3 3 3 15 ผา่ น ไม่ผ่าน เกณฑก์ ารประเมิน ระดับคณุ ภาพ เกณฑ์ท่ีผ่าน ตง้ั แต่ 10 คะแนน 3 ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤติกรรมสมา่ เสมอ ดี 11 – 15 คะแนน ดี ขึน้ ไป 2 ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมบอ่ ยครัง้ ปานกลาง 6 – 10 คะแนน พอใช้ 1 ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางคร้ังหรือน้อยครง้ั ปรับปรุง 1 – 5 คะแนน ปรบั ปรงุ
แบบสังเกตพฤตกิ รรมการปฏิบตั ิกจิ กรรมกลุ่ม กลุม่ ท่ี.............. เลขท่ีชอ่ื – สกลุ รวม ผลการประเมนิ ีม ่สวนร่วมในการแสดงความคิดเห็น ีมความกระตือรือร้นในการทางาน รับ ิผดชอบในงานที่ได้รับมอบหมาย ีม ั้ขนตอนในการทางานอย่างเป็น ระบบ ใ ้ชเวลาในการทางานอย่างเหมาะสม 3 3 3 3 3 15 ผา่ น ไม่ผ่าน เกณฑ์การประเมนิ ระดับคณุ ภาพ เกณฑ์ทผ่ี า่ น 3 ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤติกรรมสมา่ เสมอ ดี 11 – 15 คะแนน ดี ต้ังแต่ 10 คะแนน 2 ปฏิบัติหรือแสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ปานกลาง 6 – 10 คะแนน พอใช้ ขึ้นไป 1 ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤติกรรมบางครั้งหรือน้อยครั้ง ปรับปรุง 1 – 5 คะแนน ปรับปรงุ
คณะทำงำน ระดบั มัธยมศกึ ษำตอนต้น ที่ปรกึ ษำ ผอ.สานกั งาน กศน.จังหวัดนราธวิ าส 1. นายสุรสทิ ธ์ สดุ สาย รอง ผอ.สานักงาน กศน.จงั หวดั นราธิวาส 2. นายคนิณ ทองเอยี ด ผอ.กศน.อาเภอเมืองนราธิวาส ครูชานาญการพเิ ศษ 3. นายจริ วัฒน์ ไทยเก้อื ผอ.กศน.อาเภอเมืองนราธิวาส 4. นางสาวนาริณยี ์ อโนมะศริ ิ คณะทำงำน 1. นายจิรวฒั น์ ไทยเก้ือ 2. นางสาวนาริณีย์ อโนมะศริ ิ ครูชานาญการพิเศษ 3. นางสาวมารแี ย มะสาและ ครูผู้ช่วย 4. นางสาวอรโุ ณทยั ยา่ งกุ้ง ครูผู้ช่วย 5. นางสาวนิรฟาร ดงมซู อ ครูผู้ชว่ ย 6. นางสาวอัลฟารซี ัล รีจิ ครูผู้ชว่ ย 7. นางสาวมาริสา อาลี ครูผชู้ ่วย 8. นางสาวรอบียะห์ ดอเลาะ ครผู ชู้ ว่ ย 9. นางสาวนุรไอนี ดอเลาะ ครอู าสาฯ 10. นางสาวพัฒนช์ ินี ขันทศกร ครูอาสาฯ 11. นายรชต มน่ั คง ครู กศน.ตาบล 12. นางสาวฮามดี ะห์ ดอื ราแม ครู กศน.ตาบล 13. นางสาวฮามีด๊ะ ซูเล็ง ครูอาสาฯ ปอเนาะ 14. นางสาวโรสลินนา ลฆี ะ ครู ศรช. 15. นางสาวอาตกี ะห์ สะตาปอ ครูประจากล่มุ ผู้รวบรวม ครูผชู้ ่วย นางสาวมารีแย มะสาและ บรรณำธิกำร /ออกแบบปก ครผู ู้ชว่ ย นางสาวนริ อฮายา เจษฎาภา
หลักสตู รสถานศึกษา ตามหลกั สูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพนื้ ฐานพุทธศักราช 2551 ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมอื งนราธวิ าส จังหวดั นราธิวาส สานกั งานสง่ เสรมิ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั จงั หวัดนราธวิ าส สานักงาน กศน. สานกั งานปลัดกระทรวงศึกษาธกิ าร กระทรวงศึกษาธกิ าร
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240