Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore นายช่่างโยธา กทม

นายช่่างโยธา กทม

Published by j9autocad, 2020-04-05 13:41:08

Description: นายช่่างโยธากทม

Search

Read the Text Version

101 34) การแจ้งการกอ่ สร้างดำเนินการตามมาตราใด ตอบ มาตรา 39 ทวิ ขนั้ ตอนในการแจ้ง 1. แจง้ ใหเ้ จ้าพนักงานท้องถิ่นทราบ โดยยื่นแบบฟอรม์ ตามทีเ่ จา้ พนกั งานทอ้ งถ่นิ กำหนด พร้อมท้งั เอกสารประกอบการขออนญุ าต แต่ในกรณีน้ีผอู้ อกแบบอาคารท้ังวิศวกรและสถาปนกิ ต้องเปน็ วฒุ วิ ศิ วกรและ วฒุ นิสถาปนิก พร้อมทัง้ แจง้ วันเรมิ่ ตน้ และวนั ส้นิ สุดการดำเนนิ การดงั กลา่ ว 2. ชำระคา่ ธรรมเนียม เม่อื ดำเนินการตาม 1 และ 2 เรยี บรอ้ ยแล้ว เจา้ พนกั งานทอ้ งถน่ิ จะออกใบรบั แจ้ง เพอ่ื เป็นหลกั ฐานการแจ้งภายในวันทีไ่ ดร้ บั แจง้ เมื่อเจ้าของอาคารได้รบั ใบรบั แจง้ แล้วสามารถดำเนินการ ก่อสร้างดัดแปลง รอ้ื ถอน หรอื เคลอ่ื นย้ายอาคารได้ 35) อาคารควบคุมการใช้ เมื่อกอ่ สรา้ งเสรจ็ ต้องดำเนินการอย่างไร ตอบ ตอ้ งใหเ้ จ้าพนกั งานท้องถิ่นตรวจรับรองการก่อสรา้ ง กอ่ นเปดิ การใช้อาคาร 36) การออกแบบอาคารสาธารณะ อาคารพเิ ศษ ตอ้ งดำเนินการอยา่ งไร ตอบ อาคารสาธารณะ อาคารพเิ ศษ อาคารทกี่ ่อสร้างดว้ ยวัตถุถาวรและวตั ถุทนไฟเปน็ ส่วนใหญ่ต้องจดั ทำ รายการคำนวณ ประกอบการยน่ื ของอนญุ าตและเปน็ ไปตามกฎกระทรวงกำหนดการรบั นำ้ หนักความต้านทาน ความคงทนของวสั ดุและของอาคาร หรอื พ้ืนดนิ ท่ีรองรบั อาคาร ลักษณะและ คุณสมบตั วิ ัสดุ (กฎกระทรวงฉบบั ที่ 6 พ.ศ. 2527) 37) กฎกระทรวงฉบบั ใดวา่ ดว้ ยเรอื่ งการออกแบบอาคารใหต้ า้ นทานแผ่นดินไหว กทม. ปรมิ ณฑล และ 6 จังหวัดภาคใด ตอบ 2550 (2540 – แผน่ ดินไหว ภาคเหนอื และภาคตะวันตก รวม 10 จงั หวดั ) 38) กฎกระทรวงฉบบั ใดวา่ ดว้ ยเรอื่ งการกำหนดอตั ราการทนไฟของวัสดุและการสะทอ้ นแสง ตอบ กฎกระทรวงฉบบั ที่ 60 (2549) ASTM = 119 39) อายขุ องใบอนุญาตทจ่ี ะทำการกอ่ สร้าง ตอบ 1. พืน้ ท่ีของอาคารขนาดน้อยกวา่ 10,000 ตารางเมตร ให้กำหนดอายุใบอนญุ าตหนงึ่ ปี 2. พื้นทข่ี องอาคารขนาดต้งั แต่ 10,000 ตารางเมตร แตไ่ มถ่ งึ 100,000 ตารางเมตรใหก้ ำหนดอายุ ใบอนุญาตสองปี 3. พน้ื ทีข่ องอาคารขนาดตั้งแต่ 100,000 ตารางเมตรขน้ึ ไป ใหก้ ำหนดอายใุ บอนุญาตสามปี 40) การต่อใบอนญุ าตก่อสร้างหากได้มกี ารต่อใบอนุญาตมาแลว้ เจา้ พนักงานท้องถ่ินจะอนญุ าตให้ต่ออายุ ใบอนุญาตไดต้ ่อเมอื่ ไดก้ อ่ สรา้ งอาคารสงิ่ ใดไปแลว้ ตอบ ฐานราก

102 41) อำนาจหนา้ ท่ขี องเจา้ พนักงานท้องถ่นิ กรณมี ีการฝ่าฝนื กฎหมายคอื ตอบ ม.40 – ระวัง หา้ มใช้ ม.41 – แกไ้ ข ยน่ื คำขอ ม.42 – ร้ือถอน ม.43 – ขอให้ศาลสั่งจับกุมคมุ ขงั – ร้ือถอนได้เอง 42) หากมีการฝ่าฝนื กฎหมายก่อสรา้ งหรอื ดัดแปลงโดยไมไ่ ดร้ ับอนญุ าต แบง่ เป็นกรณี 1) กรณกี ่อสรา้ ง ดดั แปลงโดยฝา่ ฝืนกฎหมาย 1.1 สงั่ ระงบั การกระทำ (มาตรา 40(1)) 1.2 สงั่ หา้ มใช้อาคาร (มาตรา 40(2)) 1.3 สัง่ อยา่ งใดอย่างหนง่ึ ภายใน 30 วัน นบั แตว่ นั ส่งั ตาม 1 (มาตรา 40(3)) 2) กรณกี อ่ สรา้ ง ดดั แปลงโดยไมไ่ ดร้ บั อนญุ าต(ฝ่าฝืนมาตรา 21) 2.1 สั่งระงบั การกระทำ ค.3 (มาตรา 40(1)) 2.2 สัง่ ห้ามใชอ้ าคาร ค.4 (มาตรา 40(2)) 2.3 ไมม่ สี ่วนขดั กฎหมายสง่ั ให้ขออนญุ าต ค.9 มาตรา 41 2.4 มสี ว่ นขดั กฎหมายแตแ่ ก้ไขได้ สั่งให้แกไ้ ขและขออนญุ าต ค.10 มาตรา 41 2.5 มีส่วนขัดกฎหมายแกไ้ ขไมไ่ ด้ ส่ังใหร้ อ้ื ถอน ค.7 มาตรา 42 2.6 แก้ไขได้ สงั่ ให้แกไ้ ขและหรอื ให้ขออนญุ าตแลว้ ไม่ปฏบิ ตั ิ สงั่ ใหร้ ือ้ ถอน ค.15 มาตรา 42 43) ใครเป็นผแู้ จง้ ความและดำเนินคดอี าญากบั ผฝู้ า่ ฝนื ตอบ เจา้ พนักงานทอ้ งถิ่น นายช่างและนายตรวจเปน็ เจ้าพนกั งานตามประมวลกฎหมายอาญา (มาตรา 64) 44) ผู้ฝา่ ฝืนผิดตาม พ.ร.บ. ควบคมุ อาคารจะโดนความผิดใด ตอบ คดอี าญา โดยเจา้ พนักงานทอ้ งถ่ินจะแจง้ ความอาญาตอ่ พนักงานสอบสวนเมอ่ื 1. กระทำโดยไมไ่ ด้รับอนญุ าต ฝ่าฝืนมาตรา 21 2. ฝา่ ฝนื คำสง่ั ใหร้ ะงบั การกระทำหรือห้ามใช้ ฝ่าฝืนมาตรา 40 3. ฝา่ ฝืนคำสง่ั ใหร้ ือ้ ถอน ฝ่าฝืนมาตรา 42 4. 53) เขตเพลงิ ไหมห้ มายความวา่ 5. ตอบ “เขตเพลงิ ไหม้” หมายความวา่ บริเวณทเ่ี กิดเพลงิ ไหมอ้ าคาร ตงั้ แต่ 30 หลังคาเรอื นขึน้ ไป หรือมเี น้ือที่ต้งั แตห่ นงึ่ ไรข่ ้นึ ไป รวมท้งั บริเวณท่อี ยู่ติดตอ่ ภายในระยะ 30 เมตร โดยรอบบรเิ วณท่ี เกดิ เพลงิ ไหมด้ ้วย 45) เม่อื เกิดเหตเุ พลิงไหมใ้ นเขตเพลิงไหม้ เจา้ พนักงานทอ้ งถ่ินจะประกาศเขตเพลงิ ไหม้ภายในกีว่ ันนบั แต่วนั เกิดเพลงิ ไหมห้ ้ามกอ่ สร้าง ดัดแปลง รอ้ื ถอน ตอบ ภายใน 45 วนั นับแตว่ ันท่เี กดิ เหตเุ พลงิ ไหม้ หา้ มกอ่ สรา้ ง ดัดแปลง รอื้ ถอน เคลอื่ นยา้ ยอาคารในเขต เพลงิ ไหม้ และใหผ้ ทู้ ่ไี ดร้ บั อนญุ าตไวแ้ ลว้ หรอื แจง้ การก่อสร้างไว้แลว้ ระงบั การกระทำตามที่ไดร้ บั อนุญาตหรอื ได้แจ้งไวน้ ้นั แลว้ ถ้ามีการฝา่ ฝนื ใหใ้ ช้มาตรา 40 42 43 มาบังคับใช้

103 ใหเ้ จ้าพนกั งานทอ้ งถ่ินพจิ ารราวา่ สมควรจะปรับปรงุ เขตเพลงิ ไหมห้ รอื ไม่ โดยเสนอความเหน็ พร้อม แผนที่สงั เขปต่อคณะกรรมการควบคุมอาคารเพอื่ เสนอรฐั มนตรีสงั่ การใหเ้ จา้ พนกั งานท้องถิ่นประกาศให้ ประชาชนทราบภายใน 45 วัน ในกรณีทไี่ ม่มกี ารปรับปรงุ เขตเพลงิ ไหม้ให้การหา้ มขา้ งต้นเปน็ อันยกเลิก ถ้าปรบั ปรงุ ใหก้ ารห้ามมผี ลตอ่ อกี 60 วนั นบั แตว่ ันที่ประกาศปรับปรงุ เขตเพลงิ ไหม้ และสำนกั งาน คณะกรรมการควบคุมอาคารจะตอ้ งเสนอแผนผงั ปรบั ปรงุ เขตเพลงิ ไหม้ เสนอรัฐมนตรีประกาศต่อไป เจา้ พนกั งานทอ้ งถ่ินตอ้ งดำเนนิ การปรบั ปรงุ เขตเพลงิ ไหมต้ ามประกาศภายใน 2 ปี ถ้าเกินกำหนดให้ ประกาศเปน็ อนั ยกเลกิ 46) งานอาคารสูง อาคารขนาดใหญพ่ เิ ศษ ย่ืนขออนุญาตกอ่ สร้างตอ้ งใหส้ ถาปนกิ วศิ วกรระดับใดรับรอง ตอบ วุฒวิ ศิ วกร 47) งานอาคารประเภทใดต้องใหส้ ามญั วศิ วกรรบั รอง ตอบ

104 48) ถ้าแบบแปลนไมถ่ ูกตอ้ ง ทำอยา่ งไร ตอบออกคำสัง่ ใหแ้ กไ้ ขแบบแปลน ตามอำนาจหนา้ ท่ตี ามมาตรา 27 ใช้แบบคำสง่ั ค.1 ถ้าแกไ้ ขไม่ได้ใช้แบบ น. 2 แจง้ คำส่งั ไมอ่ นญุ าต

105 49) การแจง้ การกอ่ สร้างตามมาตรา 39 ทวิ ใหม่ ตอบ อนวัช บรู พาชน

106 50) คณะกรรมการพจิ ารณาอุทธรณ์ประกอบด้วย ตอบ 1. ปลัดกระทรงมหาดไทย เปน็ ประธานกรรมการ 2. อธิบดกี รมโยธาธกิ ารและผังเมอื ง เป็นกรรมการ 3. ผ้แู ทนหนว่ ยงานอนื่ อีก 4 หน่วยงานเปน็ กรรมการ ได้แก่ สำนกั งานอัยการสงู สดุ สำนกั งาน คณะกรรมการกฤษฎกี า สภาสถาปนิก สภาวศิ วกร 4. ผทู้ รงคุณวุฒทิ ร่ี ัฐมนตรแี ตง่ ตง้ั ไมเ่ กิน 6 คน ซ่ึงรัฐมนตรีแตง่ ตั้งเปน็ กรรมการ 5. ผูอ้ ำนวยการสำนกั งานคณะกรรมการควบคมุ อาคาร เปน็ กรรมการและเลขานุการ คณะกรรมการพจิ ารณาอทุ ธรณ์ในเขตเทศบาล เขตเมืองพัทยาหรือเขตราชการสว่ นทอ้ งถน่ิ ประกอบด้วย 1. ผู้วา่ ราชการจงั หวัด เปน็ ประธาน 2. อยั การจงั หวัด เปน็ กรรมการ 3. กรรมการอนื่ อกี ไม่เกิน 6 คน ซ่งึ ปลดั กระทรวงมหาดไทยแต่งต้ังในจำนวนนี้ให้มกี รรมการจาก ภาคเอกชนไมน่ ้อยกวา่ 2 คน โดยมโี ยธาธกิ ารและผงั เมอื งจงั หวัดเปน็ เลขานุการ 51) ขั้นตอนการพิจารณาอุทธรณ์ ตอบ อนวัช บรู พาชน

107 ถามตอบ พ.ร.บ. ขุดดินและถมดนิ 1) การขุดดนิ ขนาดความลกึ หรอื ขนาดความกว้างเท่าใด ตอ้ งแจ้งต่อเจา้ พนกั งานท้องถิ่น ตอบ 1.ความลกึ เกนิ 3.00 เมตร หรือพืน้ ทเี่ กิน 10,000 ตารางเมตร 2) บอ่ ดิน หมายความวา่ ตอบ แอ่ง บอ่ สระ หรอื ช่องว่างใต้ดนิ ที่เกดิ จากการขดุ 3) การถมดนิ ขนาดเนินดนิ เทา่ ใด ตอ้ งแจง้ ตอ่ เจ้าพนกั งานทอ้ งถน่ิ ตอบ ความสูงเกินกว่าทดี่ นิ ข้างเคียง และพน้ื ท่ีเกนิ 2,000 ตารางเมตร 4) เจ้าของท่ีดินใด ไม่พอใจคำสงั่ ของเจ้าพนกั งานทอ้ งถ่ิน อทุ ธรณต์ อ่ ใคร ภายในระยะเวลา เท่าใด ตอบ ผู้วา่ ราชการจังหวัด ภายในระยะเวลา 30 วัน นบั แตว่ ันได้รบั แจง้ 5) เจ้าของทีด่ ินใด ฝ่าฝนื คำสงั่ ตอ้ งโทษอย่างไร ตอบ จำคกุ ไมเ่ กนิ หนง่ึ ปี หรอื ปรับไมเ่ กนิ ห้าหม่นื บาท หรือทั้งจำทง้ั ปรับ

108 บทท่ี 6 การเขยี นแบบท่ีอย่อู าศัย อาคารตา่ งๆ ตามขอ้ บัญญตั ิกรุงเทพมหานคร เร่ือง ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2544 ผังบรเิ วณ แผนผังบริเวณให้ใชม้ าตราส่วนไม่เล็กกว่า 1 ต่อ 500 แสดงลกั ษณะท่ีตั้งและขอบเขตของท่ีดินและ อาคารท่ีขออนุญาตก่อสร้าง ดัดแปลง ร้ือถอน เคล่ือนย้าย เปลี่ยนการใช้ ดัดแปลงหรือใช้ที่จอดรถที่กลับรถ และทางเข้าออกของรถเพ่ือการอ่ืน และพ้ืนที่หรือสงิ่ ท่สี รา้ งขึ้นเพื่อใชเ้ ป็นท่ีจอดรถที่กลับรถและทางเข้าออก ของรถแทนของเดิม พรอ้ มรายละเอียดดังน้ี ก) แสดงขอบเขตของอาคารทม่ี ีอย่แู ลว้ (ถ้ามี) ข) ระยะห่างของขอบนอกของอาคารที่ขออนุญาตถึงขอบเขตของท่ีดนิ ทกุ ด้าน ค) ระยะหา่ งระหวา่ งอาคารตา่ งๆ ที่มีอยแู่ ละอาคารที่ขออนญุ าตในขอบเขตของทีด่ นิ ง) ลักษณะและขอบเขตของท่ีสาธารณะและอาคารในบริเวณที่ดินท่ีติดต่อโดยสังเขปพร้อมด้วย เคร่อื งหมายทศิ จ) ในกรณที ีไ่ ม่มีทางน้ำสาธารณะสำหรบั การขออนญุ าตก่อสร้าง ดัดแปลง หรอื เคลือ่ นยา้ ยอาคารให้ แสดงทางระบายนำ้ ออกจากอาคารไปสู่ทางระบายน้ำสาธารณะ หรือวิธีการระบายน้ำด้วยวิธีอื่น พรอ้ มทง้ั แสดงเครอ่ื งหมายชี้ทศิ ทางน้ำไหลและส่วนลด ฉ) แสดงระดับของพื้นชนั้ ล่างของอาคาร และความสมั พันธ์กับระดบั ทาง หรอื ถนนสาธารณะที่ใกล้ ทส่ี ดุ และระดบั พน้ื ดิน ช) แสดงเคร่อื งหมายทิศเหนือ • แบบแปลนสำหรับการดัดแปลงอาคาร การใช้ท่ีจอดรถ, ท่ีกลบั รถ และทางเข้าออกของรถเพื่อการ อื่น ต้องแสดงส่วนท่ีมีอยู่เดิมและส่วนจะทำการก่อสรา้ งใหม่แทนของเดิมให้ชัดเจน (อาจเขียน ซ้อนในรปู เดียวกัน แยกให้เห็นความแตกต่างกนั ด้วยการแรเงาหรอื ใช้งายเส้นที่ตา่ งกัน หรืออาจ แยกเขียนเป็น 2 รปู เพือ่ ป้องกันความสับสนในการอา่ นแบบ) • ต้องระบุสำนกั งานหรือท่ีอยู่ พร้อมคณุ วุฒิของผู้รบั ผิดชอบงานออกแบบและคำนวณในผงั บริเวณ และแบบแปลนทกุ แผน่ และในหนา้ แรกของรายการประกอบแบบแปลน, และรายการคำนวณทกุ ชุด (ถ้าผู้รับผิดชอบงานออกแบบและคำนวณเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ สถาปตั ยกรรมควบคุม หรือวชิ าชีพวิศวกรรมควบคุม ใหร้ ะบุเลขทะเบยี นใบอนญุ าตดว้ ย)

109

110

111 ด้านหลังของตึกแถว-ห้องแถว ต้องมีที่ว่างกว้างไม่น้อยกว่า 3 เมตร โดยยอมให้สร้างบันไดหนีไฟ ภายนอกลำ้ เข้ามาในที่ว่างน้ไี ดไ้ ม่เกนิ 1.40 เมตร กฎกระทรวงฉบับท่ี 55 (พ.ศ. 2543) ข้อ 34 กำหนดว่าด้านหน้าท่ีไม่ติดริมถนนสาธารณะจะต้องมี “ที่ว่าง” กว้างไม่น้อยกว่า 6 เมตร ในข้อนี้จะระบุกรณีที่ด้านหน้าอาคารไม่ติดริมถนนสาธารณะ เพราะถ้า ดา้ นหน้าติดถนนสาธารณะ ก็ต้องมีระยะร่นเปน็ ไปความกว้างของถนนสาธารณะ (ท่านที่ลมื ไปแล้ว หรือเพิ่ม เข้ามาอา่ นขอให้ยอ้ นไปดู ตอนท่ี 4 ซงึ่ เขียนไวเ้ ร่ืองระยะรน่ จากถนนสาธารณะ) ดา้ นหลังจะต้องมี “ที่ว่าง” กวา้ งไม่น้อยกว่า 3 เมตร เพ่ือท่ีจะให้ด้านหลังของตึกแถวห้องแถวนั้นมี ทางเดนิ ติดตอ่ กนั ไปจนถึงดา้ นของตกึ แถว หอ้ งแถววัตถุประสงค์สำคญั ของท่ีว่างด้านหลงั นก้ี ็คอื ทางหนไี ฟเพ่ือ ความปลอดภัยสำหรับผู้อยู่ในตึกแถวและห้องแถวน่ันเอง และท่ีว่างด้านหลังนี้ กฎหมายผ่อนผันให้การทำ บนั ไดหนีไฟภายนอกเทา่ นั้น ท่ีสามารถล้ำเขา้ มาในทีว่ า่ งได้โดยต้องไมเ่ กิน 1.40 เมตร (แปลว่าที่วา่ งจากการทำ บันไดหนีไฟจะต้องมีเหลือกวา้ งไมน่ อ้ ยกว่า 1.60 เมตร)

112 ที่ว่างและระยะร่นของบ้านแฝด ต้องมีระยะร่มด้านหน้าไม่น้อยกว่า 3 เมตร ด้างหลังไม่น้อยกว่า 2 เมตร และดา้ นขา้ งต้องมีทีว่ ่างกวา้ งไม่น้อยกว่า 2 เมตร

113

114 - อาคารความสูงไม่เกิน 9 เมตร ด้านข้างอาคารท่ีติดแนวเขตที่ดินผู้อื่น มีช่องเปิด ระยะถอยร่นอาคาร จากขอบเขตทีด่ นิ อยา่ งนอ้ ย 2 เมตร - อาคารความสงู เกนิ 9 เมตร แต่ไม่เกนิ 23 เมตร ดา้ นข้างอาคารท่ีติดแนวเขตที่ดินผู้อื่น มีช่องเปดิ ระยะ ถอยรน่ อาคารจากขอบเขตที่ดินอยา่ งน้อย 3 เมตร - อาคารความสงู ไม่เกนิ 15 เมตร ด้านข้างอาคารท่ตี ดิ แนวเขตทด่ี นิ ผู้อน่ื ไมม่ ีชอ่ งเปิด ระยะถอยรน่ อาคาร จากขอบเขตที่ดินอย่างนอ้ ย 0.5 เมตร แตห่ ากเพ่ือบา้ นเซน็ ยนิ ยอมสามารถสรา้ งชดิ เขตทด่ี ินได้ - อาคารความสูง 15-23 เมตร ด้านข้างอาคารท่ีติดแนวเขตที่ดินผู้อื่น ไม่มีช่องเปิด ระยะถอยร่นอาคาร จากขอบเขตที่ดนิ อย่างนอ้ ย 0.5 เมตร ไมว่ ่าเพอ่ื บา้ นจะยินยอมหรือไมก่ ็ตาม หมายเหตุ ชอ่ งเปิด หมายถึง ประตู หนา้ ตา่ ง รวมถงึ ชอ่ งแสง บล๊อคแกว้ ช่องลม และระเบยี ง ระยะรน่ ทว่ี า่ ง ถนน ตามประเภทอาคาร

115 - หนา้ กวา้ งของทดี่ ินต้องกวา้ งอยา่ งนอ้ ย 12 เมตรข้นึ ไป - ต้องติดถนนสาธารณะทีค่ วามกวา้ ง 10 เมตรท่เี ช่อื มไปสถู่ นนทกี่ ว้างกวา่ - ระยะร่นรอบอาคารจากเขตที่ดนิ อย่างน้อย 6 เมตร - ต้องมรี ะบบป้องกันอคั คภี ยั - หากเป็นอาคารที่มีขนาดพื้นท่ีรวม 30,000 ตารางเมตรขึ้นไป ต้องอย่ตู ิดถนนสาธารณะท่มี ีความกว้าง 18 เมตร กฎหมายควบคมุ อาคารตามขอ้ บัญญัตกิ รุงเทพมหานคร - อาคารพาณิชย์ โรงงานอุตสาหกรรม คลงั สนิ ค้า อาคารสาธารณะ อาคารสูงเกิน 2 ช้นั หรืออาคารท่ีมี ความสงู มากกวา่ 8 เมตร ให้มีทีว่ า่ งด้านหน้าอาคาร กวา้ งไมน่ อ้ ยกว่า 6 เมตร ยกเว้น อาคารอยอู่ าศัยสงู ไม่เกิน 3 ช้ัน ทไ่ี ม่อยู่รมิ ทางสาธารณะ - อาคารพาณิชย์ โรงงานอุตสาหกรรม คลังสินค้า อาคารสาธารณะอาคารสูงเกิน 3 ช้ัน ให้มีที่ว่าง ดา้ นหนา้ อาคารกวา้ งไมน้ ้อยกว่า 12 เมตร - อาคารท่มี ีความสูงไม่เกนิ 15 ต้องมีท่ีว่างโดยรอบไม่น้อยกว่า 1 เมตร ยกเวน้ บ้านพักอาศัยที่มีพื้นท่ีไม่ เกิน 300 ตารางเมตร - อาคารที่มีความสงู 15 เมตรขึ้นไป ต้องมีท่ีวา่ งโดยรอบไม่น้อยกวา่ 2 เมตร – เทอรร์ ่า บเี คเค บทความโดย :TerraBKK เคลด็ ลบั การลงทุน TerraBkk ค้นหาบ้านดี คมุ้ คา่ ราคาถกู

116 ระยะร่นจากแหลง่ นำ้ สาธารณะทม่ี ีความกวา้ งตง้ั แต่ 10 เมตรขนึ้ ไป

117 ระยะร่นจากแหลง่ น้ำสาธารณะขนาดใหญ่ หากฝ่าฝนื ดอ้ื ดนั สรา้ งบ้านโดยไมร่ ่นระยะ บทเรียนทีไ่ ดร้ บั คือ หากก่อสรา้ งไปแล้วหรอื ยใู่ นช่วงกำลังกอ่ สรา้ งจะถูกระงบั หรอื อาจถูกใหแ้ กไ้ ขให้ถกู ต้อง หรอื รื้อถอน ทง้ั หมดภายในระยะเวลาทกี่ ำหนดตามมาตร 42 ของพระราชบญั ญัตคิ วบคมุ อาคาร และต้องเสยี ค่าปรบั ตามที่ กฎหมายกำหนด อยา่ งไรกต็ ามควรทำความเข้าใจอยา่ งรอบคอบปฏิบัติตามกฎเพือ่ การอยรู่ ่วมกันในสงั คม กฎหมายควบคุมอาคารมขี ้อกำหนด ห้ามกอ่ สรา้ งอาคารจนเต็มท่ดี ินทัง้ แปลงท่ีขออนุญาต ตอ้ งเว้นให้มี “ทว่ี า่ ง” หรอื กค็ ือ การห้ามก่อสรา้ งอาคารจนเตม็ ทด่ี ินทง้ั แปลงท่ีขออนุญาตนนั้ เอง กฎหมายควบคุมอาคารกำหนด “ท่ีว่าง” หมายถงึ “พื้นที่อันปราศจากหลังคาหรือสงิ่ กอ่ สร้างปกคลุม ซ่ึงพื้นทีด่ ังกล่าวอาจจะจัดให้เป็น บอ่ นำ้ สระวา่ ยน้ำ บอ่ พักน้ำเสีย ที่พักมลู ฝอย ทีพ่ กั รวมมลู ฝอย หรือที่จอดรถ ท่อี ย่ภู ายนอกอาคารกไ็ ด้ และให้หมายความรวมถึงพื้นท่ีของสิ่งก่อสร้างหรืออาคารทส่ี ูงจากกระดับพ้นื ท่ีดนิ ไม่ เกนิ 1.20 เมตร และไม่มีหลังคาหรือสิ่งกอ่ สร้างปกคลมุ เหนอื ระดับนัน้ ”

118 ประเดน็ แรก ทดี่ นิ แปลงท่ีขออนุญาตกอ่ สร้างหรือดัดแปลง ต้องเวน้ ท่ีดินเป็น “ที่วา่ ง” ให้มีปรมิ าณ (พื้นท)่ี ไม่นอ้ ย กว่าท่ีกฎหมายกำหนด เช่น บ้าน คอนโดมิเนียม(อาคารชุด), อพาร์ตเม้นนท์(อาคารอยู่อาศัยรวม), จะต้องมี ปริมาณทว่ี า่ งข้นั ต่ำไมน่ อ้ ยกว่ารอ้ ยละ 30 ของที่วา่ งนจี้ ะคดิ เทยี บกับพนื้ ท่ีดนิ ทีย่ นื่ ขออนญุ าตก่อสร้าง ตวั อย่างเชน่ หากมีท่ดี นิ 50 ตารางวา หรือเท่ากบั 200 ตารางเมตร แลว้ สร้างบ้าน 2 ชน้ั พื้นที่ชน้ั ล่างเท่ากบั 100 ตารางเมตร พน้ื ท่ชี ั้นบนเท่ากับ 80 ตารางเมตร กรณที ส่ี รา้ งบา้ นหลงั นี้ท่ตี ่างจงั หวดั จะตอ้ งเวน้ ให้มีท่วี ่างเท่ากับ 30 ตารางเมตร (100 x 30% ของพน้ื ทช่ี น้ั ทม่ี ากทส่ี ุดซง่ึ คือชน้ั ลา่ ง)

119 ตวั อยา่ งเช่น บา้ น หรอื อาคารทก่ี ่อสร้างหรือดัดแปลงเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ ตั้งแต่ 300 ตารางเมตรขึน้ ไป หากมี ความสูงไมเ่ กิน 15 เมตร ตอ้ งเว้นให้มีท่ีวา่ งโดยรอบอาคารไม่นอ้ ยกวา่ 1 เมตร แตห่ ากมีความสูงเกนิ 15 เมตร ต้องเว้นให้มีที่ว่างโดยรอบอาคารไม่น้อยกว่า 2 เมตร สำหรับบ้านพักอาศัยมีพนื้ ท่ีไมเ่ กิน 300 ตารางเมตร ให้ ผนังด้านที่ไม่มีช่องเปิดสามารถสร้างห่างเขตท่ีดินได้น้อยกว่า 1 เมตร ถ้าห่างเขตท่ีดินน้อยกว่า 50 ซม. ต้อง ไดร้ บั หนังสือยินยอมจากเจ้าของทีด่ นิ ด้านนน้ั ดว้ ย ท่ีมา https://www.scgbuildingmaterials.com/th/HomeConsuit/Blog/new-home/กฎหมายควบคุม อาคารทค่ี วรรู้-ตอนที่-3.aspx แบบแปลน • ตอ้ งเขยี นเปน็ ภาษาไทย ยกเว้น ตัวเลข และสัญลกั ษณ์ • ต้องใช้มาตราส่วนไม่เล็กกว่า 1:100 (สำหรับอาคารที่มคี วามกว้าง หรือความยาว ความสูงหรือ เกนิ 70 เมตร สามารถใชม้ าตราสว่ นไม่เล็กกวา่ 1:250 ได้) • แสดงแปลนพ้นื อาคารทกุ ชั้น • รูปดา้ นอย่างนอ้ ย 2 รูป • รูปตดั ขวางอยา่ งนอ้ ย 1 รปู • รปู ตัดตามยาวอยา่ งนอ้ ย 1 รูป

120 ตวั อยา่ งการเขียนแปลนพนื้ อาคาร (Floor Plan) ตัวอยา่ งการเขียนรปู ดา้ น (Side View) หรือรปู ตั้ง (Elevation)

121 ตวั อยา่ งการเขียนรูปตัด (Section) ตวั อย่างแบบขยายสขุ ภณั ฑ์

122 ทีว่ ่างรอบอาคาร • ต้องมที ่วี า่ งไม่นอ้ ยกว่า 30% ของพนื้ ทท่ี ีด่ ิน • อาคารทม่ี ีความสงู ไมเ่ กิน 15 เมตร ตอ้ งมที ี่วา่ งโดยรอบอาคารไม่น้อยกว่า 1 เมตรยกเว้น บ้านอยู่ อาศยั ทม่ี ีพ้ืนที่ไมเ่ กนิ 300 ตารางเมตร • อาคารทม่ี คี วามสงู เกนิ 15 เมตร ต้องมที ี่วา่ งรอบอาคารไม่นอ้ ยกวา่ 2 เมตร • บา้ นอยอู่ าศยั ที่มพี ื้นทไี่ มเ่ กนิ 300 ตารางเมตร ผนงั ดา้ นที่ไมม่ ีชอ่ งเปิด สามารถสร้างห่างเขตท่ดี ิน น้อยกว่า 1 เมตรได้ (ถ้าห่างเขตที่ดนิ น้อยกวา่ 50 เซนตเิ มตร ต้องได้รบั ความยินยอมเปน็ หนงั สือ จากข้าวของท่ีดินดา้ นนัน้ ดว้ ย) ผงั แสดงทวี่ า่ งปราศจากสงิ่ ปกคลมุ เทยี บกบั เนอื้ ทีข่ องทดี่ นิ ทจ่ี ะกอ่ สรา้ งอาคาร (ถา้ ท่ดี นิ แปลงเดยี วไม่พอ กต็ ้องใชห้ ลายแปลง) ระดับพ้ืนชนั้ ลา่ ง • ถ้าพนื้ อาคารทำด้วยคอนกรีต อฐิ หรอื หิน ระดับพื้นช้ันล่างตอ้ งสูงกว่าระดับถนนอย่างน้อย 30 เซนตเิ มตร • ถา้ ไมต่ ิดถนน ต้องสูงกวา่ พน้ื ดินท่ีจะปลูกสร้างอย่างนอ้ ย 10 เซนติเมตร ทจี่ อดรถ • ไมม่ ีขอ้ กำหนดใดๆ ตามกฎหมาย (ขนึ้ อย่กู ับความจำเปน็ ของเจา้ ของอาคาร) ขนาดตวั อาคาร • ทุกหนว่ ย (ยนู ติ ) ท่ีใช้เพอ่ื การอยอู่ าศัย ตอ้ งมีพน้ื ทภ่ี ายในอยา่ งนอ้ ย 20 ตารางเมตร หอ้ งนอน • ต้องกว้างไมน่ ้อยกวา่ 2.50 เมตร • ตอ้ งมีพื้นทีไ่ ม่น้อยกว่า 8 ตารางเมตร

123 ห้องเกบ็ ของ • ไม่มขี อ้ กำหนดใดๆ ตามกฎหมายในด้านสถาปตั ยกรรม • ตอ้ งรบั นำ้ หนักบรรทุกจรไดต้ ามทีใ่ ชง้ านจริง โดยไมน่ ้อยกว่า 150 กก./ตร.ม. ระเบียง • ต้องกว้างอยา่ งน้อย 1 เมตร • ยืน่ เหนอื ทางเท้าไดไ้ มเ่ กนิ 1.20 เมตร • สำหรับอาคารที่สูงไม่เกิน 9 เมตร ปลายระเบียงตอ้ งอยหู่ า่ งจากแนวเขตทีด่ นิ ไม่นอ้ ยกวา่ 2 เมตร • สำหรับอาคารท่ีสูงเกิน 9 เมตร แตไ่ มถ่ ึง 23 เมตร ปลายระเบียงตอ้ งอยูห่ ่างจากแนวเขตที่ดินไม่ น้อยกวา่ 3 เมตร • ระยะดงิ่ ระหว่างพน้ื ถงึ ยอดฝา หรือใตโ้ ครงหลงั คา ตอ้ งไมต่ ่ำกว่า 2.20 เมตร

124 แปลนแสดงขนาดระเบียง รปู ตัดแสดงค่าต่ำสดุ ของฝา้ เพดานบรเิ วณระเบยี ง และสว่ นยื่นของระเบยี งเหนอื ทส่ี าธารณะ กนั สาดท่อี ยตู่ ิดทางสาธารณะ • ส่วนต่ำสุดของกันสาด ต้องสงู จากทางเท้าอย่างน้อย 3.25 เมตร โดยไม่นับส่วนตกแต่งท่ีย่ืนจาก ผนังไม่เกนิ 50 เซนติเมตร • ต้องมีท่อรับน้ำจากกันสาดหรือหลังคาต่อแนบหรอื ฝังในผนังหรือเสาอาคาร ลงส่บู ่อพักหรือท่อ สาธารณะ ครวั • ครวั ทีส่ ร้างด้วยวัสดไุ มถ่ าวรทนไฟ ต้องอยนู่ อกอาคารเป็นสัดส่วนตา่ งหาก • พน้ื และผนงั ครวั ทีอ่ ยภู่ ายในอาคาร ตอ้ งทำด้วยวตั ถถุ าวรทนไฟ • ฝา และเพดานครัวทีอ่ ยู่ภายในอาคาร หากไม่ได้ทำด้วยวตั ถุถาวรทนไฟ ต้องบุด้วยวัตถุถาวรทน ไฟ

125 • ห้องครัวท่ีอยู่ติดกับห้องนอนหรือห้องส้วม ห้ามมีประตูหน้าต่าง หรือช่องลมในด้านที่ติดต่อกับ ห้องครัว ชอ่ งทางเดินภายในอาคาร • ตอ้ งกวา้ งไม่น้อยกวา่ 1 เมตร • ต้องจัดให้มีแสงสว่างธรรมชาตแิ ลเห็นได้ในตอนกลางวัน ตวั อยา่ งแปลนแสดงตำแหนง่ ห้องครัว หอ้ งน้ำ หอ้ งส้วม • ตอ้ งมีหอ้ งสว้ มท่ีมีทถี่ ่ายอุจจาระอย่างนอ้ ย 1 ท,ี่ อาบน้ำอยา่ งน้อย 1 ที่ และอ่างล้างมอื อย่างน้อย 1 ที่ • หอ้ งนำ้ ห้องสว้ มท่ีอย่แู ยกกัน ต้องมพี ืน้ ทไี่ มน่ ้อยกว่าทีล่ ะ 0.9 ตารางเมตร • ห้องนำ้ หอ้ งสว้ มท่อี ยรู่ วมกนั ต้องมีพนื้ ทรี่ วมไม่นอ้ ยกวา่ 1.5 ตารางเมตร • ระยะดิง่ ระหวา่ งพื้นถึงเพดานตอนทีต่ ำ่ สุด ตอ้ งไมต่ ำ่ กวา่ 2 เมตร • ต้องมีช่องระบายอากาศอย่างน้อย 10% ของพ้ืนที่ห้อง หรือติดพัดลมระบายอากาศที่สามารถ ระบายอากาศไดอ้ ยา่ งนอ้ ยช่วั โมงละสองเทา่ ของปริมาตรห้อง • โถสว้ มต้องใช้ชนดิ เก็บกลิน่ และชำระส่ิงปฏกิ ูลด้วยนำ้

126 แปลนแสดงขนาดของหอ้ งน้ำและห้องสม้ ที่อยู่แยกกัน แปลนแสดงขนาดของหอ้ งนำ้ และห้องสม้ ทอ่ี ยรู่ วมกัน รปู ตัดแสดงความสูงฝา้ เพดาน และประตขู องหอ้ งนำ้ – หอ้ งส้วม

127 ประตู, หนา้ ต่าง, ช่องลม • ตอ้ งมคี วามสงู จากพนื้ ถึงยอดไมน่ อ้ ยกว่า 2 เมตร • สำหรบั อาคารท่สี งู ไมเ่ กิน 9 เมตร ต้องห่างจากแนวเขตที่ดนิ ไมน่ ้อยกว่า 2 เมตร • สำหรับอาคารทส่ี ูงเกิน 9 เมตร แต่ไม่ถงึ 23 เมตร ต้องหา่ งจากแนวเขตท่ดี นิ ไม่น้อยกวา่ 3 เมตร ประตแู ละหน้าต่าง อาคารอยู่อาศยั บันได • ตอ้ งกว้างสูทธไิ มน่ อ้ ยกว่า 90 เซนตเิ มตร • ลกู ตงั้ ไมส่ งู กวา่ 20 เซนตเิ มตร • ลกู นอน (เมือ่ หกั สว่ นที่ขั้นบันไดเหลื่อมกันออกแลว้ ) ไม่แคบกวา่ 22 เซนติเมตร • ชานพักบันได และพ้นื หนา้ บนั ได ต้องกวา้ งและความยาวไม่นอ้ ยกว่าความกวา้ งสุทธิของบันได • บันไดช่วงหน่ึง สงู ไมเ่ กิน 3 เมตร • ระยะดงิ่ จากขนั้ บันไดหรอื ชานพกั ถึงสว่ นต่ำสดุ ของอาคารท่ีอยเู่ หนือขึ้นไป ต้องไม่นอ้ ยกวา่ 1.90 เมตร • สำหรบั บนั ไดเวยี นโค้งเกิน 90 องศา จะไม่มชี านพักก็ได้ แต่ลูกนอนตอ้ งกว้างเฉลี่ยอย่างนอ้ ย 22 เซนติเมตร

128 แปลนแสดงความกว้างบันไดอาคารอยอู่ าศัย รปู ตดั แสดงขนาดของบันได อาคารอย่อู าศยั รปู ตดั แสดงความสงู ของบันได ทไ่ี ม่มีชานพกั

129 รปู ตัดแสดงความสูงของชานพกั บนั ได แปลนแสดงขนาดบนั ไดเวยี นของอาคารอยู่อาศัย บันไดหนไี ฟ • อาคารทม่ี ีชัน้ ใต้ดินตัง้ แต่ 2 ช้ันขน้ึ ไป ตอ้ งมบี นั ไดหนีไฟโดยเฉพาะอย่างน้อย 1 แห่ง • อาคารท่สี รา้ งสงู กว่า 4 ชั้นแต่ไม่เกนิ 23 เมตร หรอื อาคาร 3 ช้ันทม่ี ีดาดฟา้ เกนิ 16 ตารางเมตร ต้องมบี นั ไดหนไี ฟอยา่ งนอ้ ย 1 แห่ง • อาคารส่ีชน้ั ข้ึนไป ทมี่ พี ้นื ท่ีรวมกนั ทุกชน้ั เกิน 2,000 ตารางเมตร ต้องมบี นั ไดหนีไฟทไี่ มใ่ ช่บนั ไดใน แนวดงิ่ หรือบันไดลงิ สามารถใชล้ ำเลียงคนออกจากอาคารไดภ้ ายใน 1 ชัว่ โมง • บันไดหนไี ฟนอกอาคาร - ต้องทำดว้ ยวัสดุทนไฟและถาวร - ความกวา้ งไมน่ อ้ ยกวา่ 90 เซนตเิ มตร และไม่เกิน 150 เซนติเมตร - ลกู ต้ังสูงไมเ่ กิน 20 เซนติเมตร และลกู นอนกวา้ งไม่น้อยกวา่ 22 เซนตเิ มตร - ชานพกั กวา้ งไมน่ ้อยกว่าความกว้างของบนั ได

130 - มรี าวบันไดสงู 90 เซนติเมตร - พนื้ หน้าบันไดหนไี ฟตอ้ งกว้างไม่นอ้ ยกว่าความกว้างของบันได และยาวไม่นอ้ ยกวา่ 1.50 เมตร - กรณใี ช้ทางลาดหนไี ฟแทนบนั ไดหนไี ฟ ความลาดชนั ของทางหนไี ฟ ดงั กล่าวต้องมีความลาดชัน ไม่เกนิ รอ้ ยละ 12 - หา้ มสร้างบนั ไดหนีไฟเป็นแบบบนั ไดเวียน - ต้องมบี ันไดหนีไฟจากช้ันสงู สุดหรือดาดฟ้า สู่พืน้ ดนิ • บันไดหนไฟภายในอาคาร - ต้องมีความกวา้ งไมน่ ้อยกวา่ 90 เซนติเมตร - มผี นังทึบกอ่ สรา้ งด้วยวัสดทุ นไฟและถาวรกน้ั โดยรอบ - เว้นแต่ สว่ นทเ่ี ป็นช่องระบายอากาศและชอ่ งประตูหนีไฟ และทกุ ชัน้ ต้องมชี อ่ งระบายอากาศท่ี เปน็ สภู่ ายนอกอาคารไดม้ ีพ้ืนทรี่ วมกันไมน่ ้อยกวา่ 1.40 ตารางเมตร - ต้องมแี สงสวา่ งใหเ้ พยี งพอทัง้ กลางวันและกลางคนื - ตอ้ งมคี วามลาดชนั นอ้ ยกว่า 60 องศา และมชี านพักทกุ ช้ัน - ต้องมบี นั ไดหนไี ฟจากชัน้ สูงสุดหรือดาดฟา้ ถึงพน้ื ชั้นสอง - พนื้ หนา้ บนั ไดหนีไฟต้องกว้างไมน่ อ้ ยกวา่ ความกวา้ งของบันได และยาวไมน่ ้อยกว่า 1.50 ม. • ประตสู ่บู ันไดหนไี ฟ - ต้องเป็นบานเปิด (ผลกั ออกสบู่ นั ได) กว้างไม่น้อยกวา่ 80 ซม. สงู ไมน่ ้อยกว่า 1.90 เมตร - สามารถทนไฟได้ไมน่ ้อยกวา่ 1 ช่วั โมง - ต้องเปน็ บานเปิดชนิดผลกั เขา้ สบู่ ันไดเทา่ นน้ั - ช้ันดาดฟ้า ชั้นลา่ งและช้ันทีอ่ อกเพื่อหนีไฟสูภ่ ายนอกอาคารใหเ้ ปิดออกจากหอ้ งบนั ไดหนีไฟ พร้อมติดตงั้ อปุ กรณ์ชนดิ ทบ่ี งั คับใหบ้ านประตูปิดได้เอง - ประตหู รอื ทางออกสบู่ ันไดหนไี ฟ ต้องไมม่ ขี น้ั หรอื ธรณปี ระตหู รอื ขอบกน้ั และต้องทำดว้ ยวสั ดุที่ ไม่ตดิ ไฟ - ต้องมรี ะยะห่างระหวา่ งประตหู ้องสุดท้ายดา้ นทางเดนิ ทเี่ ปน็ ทางตันไม่เกนิ 10 เมตร - ระยะห่างระหว่างบนั ไดหนไี ฟตามทางเดินตอ้ งไม่เกนิ 60 เมตร • ป้ายเรอื งแสง หรอื เคร่อื งหมายไฟแสงสว่างดว้ ยไฟสำรองฉกุ เฉนิ บอกทางออกสูบ่ นั ไดหนไี ฟ ติดต้ัง เปน็ ระยะตามทางเดินบริเวณหนา้ ทางออกสบู่ นั ไดหนีไฟ และทางออกจากบันไดหนไี ฟ ส่ภู ายนอก อาคารหรือชั้นที่มีทางหนีไฟได้ปลอดภัยต่อเน่ือง โดยป้ายดังกล่าวต้องแสดงข้อความทางหนีไฟ เปน็ อกั ษร 15 เซนตเิ มตร หรือเครอื่ งหมายทมี่ แี สงสว่างและแสดงวา่ เปน็ ทางหนีไฟให้ชดั เจน สว่ นยน่ื เหนือทสี่ าธารณะ • โดยปกติ จะต้องไมม่ ีส่วนของอาคารยืน่ ลำ้ เขา้ ไปในที่สาธารณะ • ยกเวน้ กรณที ่ไี ดร้ บั อนญุ าตจากเจ้าพนกั งานท่ีมีอำนาจหนา้ ท่ีในการอนญุ าตน้นั

131 ความสงู ของอาคาร • ระยะดิง่ จากระดบั ถนนหรือระดับพืน้ ดินที่ก่อสร้าง ถงึ สว่ นทสี่ ูงที่สุด (อาคารทรงจ่ัวหรอื ป้ันหยา ให้วัดถึงยอดผนงั ชั้นสงู สุด) ตอ้ งมีความสูงไมเ่ กนิ สองเท่าของระยะราบ วัดจากจดุ สงู สุดไปตงั้ ฉาก กบั แนวถนน ถึงเขตถนนด้านตรงข้ามกบั อาคาร หลังคา • วสั ดมุ งุ หลังคา ตอ้ งทำด้วยวตั ถุทนไฟ ยกเว้น อาคารซ่ึงตั้งอยหู่ า่ งอาคารอื่น หรอื ทางสาธารณะเกิน 20 เมตร สามารถมุงดว้ ยวสั ดุไม่ทน ไฟได้ ความสูงของชั้น • หอ้ งทีใ่ ชอ้ ย่อู าศัย, ช่องทางเดินในอาคาร ตอ้ งมรี ะยะดง่ิ จากพ้ืนถงึ พนื้ หรอื พนื้ ถึงใตโ้ ครงหลังคาไม่ นอ้ ยกวา่ 2.60 เมตร • ระเบยี ง ต้องมีระยะด่ิงจากพ้ืนถึงยอดฝา หรอื พ้ืนถึงใตโ้ ครงหลงั คา อย่างน้อย 2.20 เมตร รูปตัดแสดงความสงู ฝา้ เพดาน ห้องทใี่ ชอ้ ยอู่ าศยั วสั ดุกอ่ สรา้ ง • อาคารทีส่ ร้างด้วยวสั ดไุ มถ่ าวรทนไฟ สรา้ งไดไ้ ม่เกนิ 2 ช้ัน • อาคาร 3 ชน้ั ขน้ึ ไป ต้องสร้างด้วยวสั ดถุ าวรทนไฟ • วสั ดุที่ใช้ตกแตง่ ผิวภายนอกอาคารหรือใช้เปน็ ผนังอาคาร จะตอ้ งยดึ เกาะกบั ตัวอาคารด้วยวธิ ที ไี่ ม่ ก่อให้เกิดการร่วงหล่น อันอาจจะทำให้เกดิ อันตรายหรือความเสียหายได้ และจะต้องมีปริมาณ การสะท้อนแสงไดไ้ ม่เกินรอ้ ยละสามสบิ • วสั ดกุ อ่ สรา้ งท่ีใช้ภายในอาคาร จะตอ้ งไม่ทำใหเ้ กดิ สารแขวนลอยในอากาศอนั อาจเกดิ อันตรายตอ่ สขุ ภาพเช่น ใยหิน ซิลิกา หรือใยแกว้ เวน้ แตจ่ ะได้ฉายหุ้มหรือปดิ วัสดนุ ้ันไว้เพื่อป้องกันมิใหเ้ กิด สารแขวนลอยฟงุ้ กระจายและสมั ผัสกับอากาศท่บี รเิ วณใช้สอยของอาคาร

132 • กระจกที่ใช้ทำผนงั ภายนอกอาคารทเี่ ปน็ อาคารสูง อาคารขนาดใหญ่พเิ ศษและอาคารขนาดใหญ่ ตอ้ งเป็นกระจกตั้งแต่ 2 ชนั้ ขึ้นไปประกบกนั โดยมีวัสดุคัน่ กลางระหว่างชั้นและยึดกระจกแตล่ ะช้นั ใหต้ ิดแน่นเป็นแผ่นเดียวกัน และกระจกแตล่ ะชั้นต้องมคี ุณสมบตั ิในการป้องกันหรอื ลดอันตราย จากการบาดของเศษกระจกเมื่อกระจกแตก และวัดสุคั่นกลางต้องยึดเศษหรือชิ้นกระจกไม่ให้ หลุดออกมาเม่ือกระจกแตกร้าว หรือราน กระจกที่ตดิ กับราวกันตกและกระจกท่ีใช้เป็นฝาของ ห้องโถงหรือทางเดินร่วมภายในอาคารสูง อาคารขนาดใหญ่พิเศษและอาคารขนาดใหญ่ต้องมี คุณสมบัตใิ นการป้องกนั หรอื ลดอนั ตรายจากการบาดของเศษกระจก รายการคำนวณ • ต้องแนบรายการคำนวณ แล ะรายการคำนวณประกอบ 1 ชุด แสดงวิธีการตามหลัก วิศวกรรมศาสตร์ โดยคำนวณกำลังของวัสดุ การรับน้ำหนัก และกำลังต้านทานของส่วนต่างๆ ของอาคาร • ตอ้ งเปน็ ส่ิงพมิ พ์, สำเนาภาพถ่าย หรอื เขยี นด้วยหมกึ • ต้องลงลายมือชื่อ หรือสำเนา พร้อมกับเขียนช่ือด้วยตัวบรรจงในรายการคำนวณและรายการ คำนวณประกอบทุกแผน่ น้ำนักบรรทกุ จร • บนหลังคามุงกระเบ้ือง ต้องออกแบบให้รับน้ำหนกั บรรทุกจรได้อยา่ งนอ้ ย 30 กิโลกรัมต่อตาราง เมตร • บนพ้นื อาคาร ต้องออกแบบให้รบั นำ้ หนกั บรรทุกจรได้อยา่ งนอ้ ย 150 กโิ ลกรมั ต่อตารางเมตร การสขุ าภิบาล • อาคารอยู่อาศัยประเภทบ้านเด่ียวที่มีพ้ืนท่ีไม่เกิน 1,000 ตารางเมตร และอาคารชั่วคราว ต้อง แสดงแบบระบบบำบัดน้ำเสียของแต่ละหน่วย โดยจะต้องประกอบด้วย บ่อดักไขมัน, บ่อเกรอะ และบ่อกรอง ที่มขี นาดไดส้ ดั ส่วนท่ีเหมาะสมกับการใช้ของผทู้ อี่ ยู่อาศยั ในอาคารน้ัน - บอ่ ดกั ไขมัน ตอ้ งสามารถเก็บกักไขมันและเปิดทำความสะอาดได้ - บ่อเกรอะ ต้องมีลักษณะมิดชดิ , น้ำซึมผ่านไม่ไดใ้ ช้เป็นทแ่ี ยกกากที่ปนอยู่กบั น้ำท้ิงใหต้ กตะกอน - บ่อกรอง ต้องมีลกั ษณะท่เี ปน็ ท่ีรองรบั น้ำเสยี ทผี่ า่ นบ่อเกรอะแล้ว และให้นำ้ ไหลผ่านอฐิ หรอื หิน หรือวสั ดอุ ืน่ ท่ีสามารถปรับปรุงคุณภาพน้ำทงิ้ ใหไ้ ดต้ ามทก่ี ำหนด เชน่ 1. ค่า BOD ต้องไมเ่ กิน 50 มลิ ลกิ รัมตอ่ ลติ ร 2. สารแขวนลอย ตอ้ งมคี ่าไมเ่ กิน 50 มิลลิกรมั ต่อลิตร 3. ฯลฯ - หรือใช้แบบระบบบำบัดน้ำเสียด้วยวิธีอ่ืนที่เหมาะสม สามารถปรับปรุงคุณภาพน้ำทิ้งให้ได้ ตามทก่ี ำหนดในประเภท ง.

133 การกำจัดน้ำทงิ้ จากอาคาร • ตอ้ งบำบดั น้ำเสียก่อนระบายน้ำท้งิ ลงส่แู หล่งรอบรับน้ำทงิ้ หรือระบายลงสบู่ ่อซึม หรือโยวิธีอืน่ ที่ ไมก่ ่อใหเ้ กิดความเดอื ดรอ้ นแกผ่ อู้ นื่ หรอื กระทบตอ่ การรักษาคณุ ภาพสงิ่ แวดล้อม การระบายน้ำทง้ิ ทผ่ี ่านการบำบดั แล้ว, น้ำฝน ลงสแู่ หล่งรองรบั นำ้ ทิง้ สาธารณะ • ต้องทำรางระบายนำ้ จากอาคารไปสทู่ างนำ้ สาธารณะ โดยใหม้ ี Slope ไมต่ ่ำกว่า 1:200 • ถ้าใช้ทางระบายน้ำ แบบท่อปดิ ตอ้ งมีขนาดเส้นผ่าศนู ยก์ ลางไมน่ ้อยกว่า 10 เซนติเมตร โดยตอ้ งมี บ่อพกั สำหรบั ตรวจการะรายน้ำ - ทกุ มุมเลี้ยว - ทุกระยะไม่เกนิ 12 เมตร สำหรับทอ่ ทีม่ เี ส้นผ่าศนู ย์กลางนอ้ ยกว่า 60 เซนตเิ มตร - หรอื ทกุ ระยะไม่เกิน 24 เมตร สำหรบั ท่อทีม่ ีเสน้ ผ่าศูนยก์ ลางต้ังแต่ 60 เซนติเมตร • ถา้ ใชท้ างระบายน้ำแบบเปิด ต้องกวา้ งภายในท่ขี อบบนสุดไมน่ อ้ ยกว่า 10 เซนตเิ มตร การระบายอากาศ • ต้องมกี ารระบายอากาศโดยวธิ ธี รรมชาติ คอื ต้องมปี ระตู หน้าตา่ งหรอื ช่องระบายอากาศด้านท่ีติด กับภายนอกไม่น้อยกว่า 10% ของพืน้ ที่ของห้องนั้น • หรอื มีการระบายอากาศโดยวธิ ีกล ระบบปรบั อากาศ • ต้องมีการนำอากาศจากภายนอกเข้ามา หรือดูดออกจากภายใน อย่างน้อย 2 ลูกบาศก์เมตรต่อ ชัว่ โมงต่อพื้นที่อาคาร 1 ตารางเมตร • ตำแหนง่ ช่องอากาศเขา้ ต้องห่างจากช่องระบายอากาศทิ้ง ไม่น้อยกว่า 5 เมตร สงู จากพ้ืนดนิ ไม่ น้อยกวา่ 1.50 เมตร ระบบป้องกนั อคั คภี ัย • สำหรบั อาคารอยอู่ าศัยทเ่ี ปน็ ห้องแถว ตกึ แถว และบ้านแฝด ที่มีความสงู ไม่เกิน 2 ชน้ั - ต้องติดเคร่ืองดับเพลิงชนิดมือถือ แบบโฟมเคมี ไม่นอ้ ยกว่า 10 ลิตร หรือ ผลเคมีแหง้ ไม่น้อย กว่า 3 กิโลกรัม หรอื เทยี บเท่า คหู าละ 1 เครือ่ ง - การติดเคร่ืองดับเพลงิ ต้องตดิ ใหส้ ว่ นบนสุด สูงจากพืน้ อาคารไม่เกิน 1.50 เมตร ในที่มองเห็น สามารถอ่านคำแนะนำการใช้งานได้ - ตอ้ งติดตัง้ ระบบสัญญาณเตือนเพลิงไหม้ คูหาละ 1 เครอื่ ง • สำหรบั อาคารอยู่อาศยั ท่ีเปน็ ห้องแถว, ตึกแถว, บ้านแฝด ท่ีมีความสงู 3 ชัน้ ขน้ึ ไป และอาคารอยู่ อาศยั รวม ตง้ั แต่ 4 หนว่ ยขนึ้ ไป - ตอ้ งติดเครื่องดับเพลิงชนิดมือถือ แบบโฟมเคมี ไม่น้อยกว่า 10 ลติ ร หรือ ผลเคมีแหง้ ไม่น้อย กว่า 4 กิโลกรมั หรือเทยี บเท่า ทุกพื้นที่ 1,000 ตารางเมตร หรือทุกระยะไม่เกนิ 45 เมตร แต่ ไมน่ อ้ ยกวา่ ชน้ั ละ 1 เคร่ือง

134 - การติดเครอ่ื งดับเพลิง ต้องติดให้ส่วนบนสุด สูงจากพนื้ อาคารไมเ่ กิน 1.50 เมตร ในท่ีมองเห็น สามารถอ่านคำแนะนำการใชไ้ ด้ - ต้องตดิ ระบบสัญญาณเตือนเพลิงไหม้ 1 เครื่อง ทุกชน้ั ทกุ คูหา ระบบการจดั แสงสว่าง • ตอ้ งแสดงผังแสดงการจดั ใหม้ ีความเขม้ ของแสงสวา่ งในสว่ นต่างๆ ของอาคาร ดงั น้ี - หอ้ งพกั 100 LUX - หอ้ งน้ำ ห้องสว้ ม 100 LUX - ชอ่ งทางเดนิ 100 LUX - ท่ีจอดรถ 100 LUX สถาปนิก • อาคารอยู่อาศัยท่ีมีพื้นท่ีใช้สอยเกิน 150 ตารางเมตร เป็นอาคารควบคุมตาม พ.ร.บ. วิชาชีพ สถาปตั ยกรรมต้องมีสถาปนกิ เปน็ ผอู้ อกแบบและควบคมุ งาน วศิ วกร • อาคาร 3 ชั้นขึ้นไป เป็นอาคารควบคุมตาม พ.ร.บ. วิชาชีพวิศวกรรม ต้องมีวิศวกรโยธา และ วิศวกรสาขาอ่ืนท่ีเกี่ยวข้อง เป็นผู้ออกแบบและควบคมุ งาน การขอทำการเจาะกด หรือตอกเสาเข็มทดสอบ เม่ือต้องการจะทดสอบความลึกของเสาเข็มที่จะใช้ในการก่อสร้างอาคาร ต้องแจ้งต่อผู้ว่าราชการ กรงุ เทพมหานครทราบ โดยมเี อกสารประกอบ ดังน้ี 1) ผงั บรเิ วณแสดงสถานที่จะทดสอบเสาเข็ม จำนวน 2 ชุด 2) ผังแสดงตำแหน่งจะทดสอบเสาเข็ม จำนวน 2 ชดุ 3) หนงั สอื รับรองของวิศวกรผู้ควบคุมการทดสอบ

135 รายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิง่ แวดลอ้ ม • การจดั สรรที่ดินเพื่อเป็นท่ีอย่อู าศยั จำนวนท่ีดนิ แปลงยอ่ ยตง้ั แต่ 500 แปลงขึ้นไป หรือเน้ือทเ่ี กิน กวา่ 100 ไร่ • โครงการทกุ ประเภทที่อยูใ่ นพนื้ ทที่ ่ีคณะรัฐมนตรีได้มมี ติเหน็ ชอบ กำหนดให้เป็นพ้ืนท่ีลมุ่ น้ำช้ัน 1 ปี ทุกขนาดต้องจดั ทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบส่ิงแวดล้อมเสนอตอ่ สำนกั งานนโยบายและ แผนทรพั ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อพิจารณาและเห็นชอบก่อนดำเนินโครงการ ตาม พระราชบัญญัติส่งเสริมและรกั ษาคุณภาพสิ่งแวดลอ้ มแหง่ ชาติ พ.ศ. 2535 ทั้งของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจและเอกชน ซ่ึงดำเนินโครงการหรือกิจการหรือจะดำเนินการขยายโครงการหรือ กจิ การ การขออนุญาตตดั คนั หนิ ทางเทา้ , ลดระดับหนิ ทางเทา้ , ทำทางเชอื่ มในทสี่ าธารณะ • กระทำได้เมื่อรับอนุญาตจาก กทม. โดยยื่นคำขออนุญาตพร้อมแบบแปลน แผนผัง และ รายละเอียด จำนวน 3 ชดุ ณ สำนกั งานเขตทอ้ งที่ ระยะห่างของผนงั ท่มี ีชอ่ งเปดิ หรือระเบียงสำหรบั อาคารสูงไมเ่ กิน 9 เมตร ตอ้ งห่างไมน่ อ้ ยกวา่ 2 เมตร จากแนวเขตทีด่ นิ

136 กฎกระทรวงฉบับท่ี 55 (พ.ศ.2543) ข้อ 50 กำหนดไว้ว่า “ผนังของอาคารที่มีหน้าต่าง ประตู ช่องระบาย อากาศหรือชอ่ งแสง หรอื ระเบียงของอาคารต้องมีระยะห่างจากแนวเขตทด่ี ิน ดังน้ี (1) อาคารท่มี ีความสงู ไมเ่ กนิ 9 เมตร ผนงั หรือระเบยี งต้องอยู่หา่ งเขตทดี่ นิ ไม่น้อยกวา่ 2 เมตร (2) อาคารท่ีมีความสูงเกิน 9 เมตร แต่ไม่ถึง 23 เมตร ผนงั หรือระเบียงต้องอยู่ห่างเขตท่ีดินไม่น้อย กว่า 3 เมตร ผนงั ของอาคารท่ีอย่หู ่างเขตทด่ี ินนอ้ ยกวา่ ตามท่ีกำหนดไวใ้ น (1) หรือ (2) ต้องอย่หู ่างจากเขตทีด่ ินไม่ นอ้ ยกวา่ 50 เซนตเิ มตร เว้นแต่จะก่อสร้างชดิ เขตทีด่ ินและอาคาดงั กล่าวจะกอ่ สรา้ งไดส้ ูงไม่เกนิ 15 เมตร ผนัง ของอาคารทอี่ ยู่ชิดเขตท่ีดิน หรือห่างจากเขตที่ดินน้อยกว่าท่ีระบุไว้ใน (1) หรือ (2) ตอ้ งก่อสร้างเป็นผนังทึบ และดาดฟา้ ของอาคารดา้ นน้นั ให้ทำผนงั ทบึ สงู จากดาดฟา้ ไม่น้อยกว่า 1.80 เมตร ในกรณกี อ่ สรา้ งชดิ เขตทดี่ ิน ต้องได้รบั ความยนิ ยอมเป็นหนงั สอื จากเจา้ ของทดี่ นิ ขา้ งเคยี งด้านน้ันด้วย” ระยะหา่ งของช่องเปิดหรอื ระเบยี งจากแนวเขตท่ดี ิน เฉพาะอาคารในเขตกรงุ เทพฯ ระยะหา่ งของผนังท่มี ชี ่องเปิดหรอื ระเบยี ง สำหรบั อาคารสงู เกิน 9 เมตร ต้องห่างไมน่ อ้ ยกวา่ 3 เมตร จากแนวเขตท่ีดนิ

137 กฎหมายควบคุมอาคารจึงผ่อนผันให้การกระทำบางอย่างกับอาคาร สามารถลงมือทำได้โดยไม่ จำเปน็ ต้องย่นื ขออนุญาตแต่อย่างใด ถ้าส่ิงท่ีจะทำนัน้ ไมถ่ ือเป็นการ “ดัดแปลงอาคาร” ตามทีก่ ฎหมายกำหนด ไว้ สำหรบั บา้ นทกี่ อ่ สร้างหรอื ดดั แปลงในตา่ งจังหวัด - ผนังทม่ี ีช่องเปิดระยะห่างทก่ี ำหนดในกฎกระทรวงนั้นจะเป็นระยะห่างของ ผนังทั้งผนังกบั แนวเขต ทด่ี ิน ไม่ใช่คดิ เพียงเฉพาะช่องเปิด (แล้วเข้าใจวา่ ตรงไหนของผนังที่เป็นผนังทึบจะห่างน้อยกว่าที่กำหนดได้) และระยะหา่ ง 2 เมตร หรือ 3 เมตร จะเปน็ ไปตามความสูงของอาคารทัง้ หลัง ไม่ใช่ความสูงของช่องเปดิ - ระเบยี ง แมก้ ฎกระทรวงไมไ่ ดก้ ำหนดวา่ คอื ตรงไหนของระเบยี ง แต่เปน็ ท่เี ข้าใจได้ว่าในทางปฏิบัตจิ ะ ถือเอาริมนอกสดุ ของระเบียงเป็นแนววดั ระยะห่างจากเขตทดี่ นิ - ผนังทึบ จะต้องอยู่ห่างจากแนวเขตที่ดินไม่น้อยกว่า 50 เซนติเมตร ถ้าจะทำผนังทึบชิดเขตที่ดิน อาคารดังกล่าวจะตอ้ งสงู ไม่เกิน 15 เมตร และต้องให้เจา้ ของทดี่ นิ ข้างเคียงเซ็นเอกสารยนิ ยอมใหส้ ร้างชิดเขต ท่ดี ินของเขาได้ สำหรบั บา้ นท่ีกอ่ สร้างหรอื ดัดแปลงในเขตกรุงเทพฯ - ผนังท่ีมีช่องเป็นระยะห่างจากแนวเขตที่ดินที่กำหนดจะเปน็ ระยะห่างของช่องเปดิ กับแนวเขตท่ีดิน (หมายความว่า ในแนวปฏิบัติยอมให้ส่วนอ่ืนของผนังที่เป็นผนังทึบด้านน้ัน สามารถมีระยะห่างน้อยกว่าที่ กำหนดได้ ถ้าไม่ผิดเงื่อนไขเรื่องอ่ืน เช่น เรื่องท่ีว่างโดยรอบอาคาร) และระยะห่าง 2 เมตรหรอื 3 เมตร จะ เปน็ ไปตามความสูงของชอ่ งเปดิ ไมเ่ หมือนกรณีท่ีกำหนดในกฎกระทรวง - ระเบียง เขยี นระบุไวช้ ดั เจนว่าใชแ้ นวริมระเบยี ง เปน็ แนววดั ระยะหา่ งหากเขตท่ีดนิ - ผนังทึบ จะห่างจากแนวเขตที่ดินน้อยกว่า 1 เมตร ได้ เฉพาะบ้านพักอาศัยที่มีพ้ืนที่ไม่เกิน 300 ตารางเมตร และถ้าผนังทึบน้ันห่างน้อยกว่า 50 เซนติเมตร ต้องได้รับความยินยอมเป็นเอกสารจากเจ้าของ ทด่ี นิ ข้างเคยี งด้วย บ้านท่ีจะก่อสร้างหรือดัดแปลงในเขตกรงุ เทพมหานคร ยังมีข้อกำหนดเกี่ยวกบั ระยะร่นหรอื ท่ีว่างของ อาคารเพิ่มเติมและสำคัญ เพราะมผี ลต่อแนวของบ้านกบั ท่ดี ิน คราวหนา้ จะนำมาเขยี นใหท้ ราบ ที่มา https://www.scgbuildingmaterials.com/th/HomeConsult/Blog/new-home/กฎหมายควบคุม อาคารควรรู้ตอนท่ี-6-ผนงั ทึบ-ชอ่ งเปิด.aspx

138 เปล่ยี นส่วนทไ่ี มใ่ ชโ้ ครงสร้างอาคาร สามารถทำไดไ้ ม่ตอ้ งยื่นขออนญุ าต การติดป้ายเลก็ ๆ ยน่ื ออกมาจากผนังอาคาร ไม่ตอ้ งย่นื ขออนญุ าต

139 บ้านสามารถทำไดโ้ ดยไมต่ อ้ งยนื่ ขออนุญาต ดงั น้ี 1. หากต้องการเปลยี่ นโครงสรา้ งอาคาร (เช่น เสา, คาน, ตง และพน้ื ) ท่ไี ม่ไดท้ ำดว้ ยคอนกรีตเสริมเหล็ก คอนกรตี อัดแรง หรอื เหลก็ โครงสรา้ งรูปพรรณ และใชว้ ัสดุชนดิ เดิม ขนาดเท่าเดมิ จำนวนเท่าเดมิ สามารถทำได้โดยไม่ต้องยื่นขออนุญาต เช่น การเปล่ยี นคานไม้ทผี่ ุ หรือ แอน่ โดยยงั ใชเ้ ปน็ เช่นเดมิ 2. หากต้องการเปลย่ี นสว่ นที่ไมใ่ ช้โครงสรา้ งอาคาร (เชน่ เปลีย่ นผนัง ฝา ฝ้าเพดาน ประตู หน้าตา่ ง ฯลฯ) โดยใชว้ สั ดุของเดิม และส่งิ ที่เปลีย่ นนนั้ ไมห่ นักเพิม่ ขน้ึ มากกวา่ ของเดมิ รอ้ ยละสบิ สามารถทำไดโ้ ดยไม่ ต้องย่ืนขออนุญาต เช่น ผนังเดิมที่จะเปลี่ยนออกไปนัก 100 กิโลกรัม ผนังใหม่มาแทนและวัสดุ เหมือนเดมิ ต้องหนักไม่เกนิ 110 กโิ ลกรัม 3. หากตอ้ งการปรับเปล่ยี น ตอ่ เติม รูปทรง ขอบเขต สดั ส่วน ของส่วนทไ่ี มใ่ ช้โครงสรา้ งอาคาร แล้วไม่ได้ทำให้น้ำหนักตรงจุดนั้นเพ่ิมข้ึนมากกวา่ ของเดิมร้อยละสิบ สามารถทำได้โดยไม่ต้องย่ืนขอ อนญุ าต เชน่ การติดปา้ ยเล็กๆ ย่นื ออกมาจากผนงั อาคาร 4. หากต้องการลดพื้นทีบ่ า้ น หรอื เพ่ิมพ้ืนทบี่ า้ น รวมกันแล้วไม่เกิน 5 ตารางเมตร และตรงพื้นที่ท่ีลดหรือเพิ่มน้ันไม่ได้ทำให้ต้องเพิ่มเสาหรือคาน สามารถทำได้โดยไม่ตอ้ งยืน่ ขออนญุ าต เช่น ต่อเติมระเบยี งยน่ื ออกไป 5. หากต้องการลดหรอื เพิม่ พื้นท่ีหลงั คาบา้ น รวมกนั ไมเ่ กนิ 5 ตารางเมตร โดยไม่มกี ารเพิ่มเสาหรอื คาน สามารถทำได้โดยไมต่ อ้ งยืน่ ขออนญุ าต เช่น ดัดหลงั คาเว้าออกเล็กน้อย เพื่อหลบก่ิงของต้นไม้ท่โี ตจนย่นื มาชน 6. หากต้องการติดต้ังแผงเซลล์แสงอาทิตย์เพื่อผลิตพลงั งานไฟฟ้าบนหลังคาบ้าน ที่ขนาดพ้ืนที่ตดิ ตง้ั ไม่ เกิน 160 ตารางเมตร และมีน้ำหนกั รวมกันไม่เกนิ 20 กิโลกรมั ต่อตารางเมตร สามารถทำได้โดยไม่ ตอ้ งยนื่ ขออนญุ าตดัดแปลง แต่ทงั้ นีต้ อ้ งมวี ศิ วกรโยธาตรวจและรับรองความม่ันคงแขง็ แรง ลดหรอื เพม่ิ พน้ื ทหี่ ลังคาบา้ น รวมกันไม่เกิน 5 ตารางเมตร

140 ลดพนื้ ทบ่ี า้ น หรอื เพม่ิ พน้ื ท่ีบ้านโดยไม่ได้เพม่ิ เสาหรือคาน ขอขอบคุณแหลง่ ทีม่ าจาก คมกฤช ชเู กียรตมิ ั่น ผอู้ ำนวยการสถาบนั สถาปนกิ สยาม สมาคมสถาปนกิ สยามในพระบรมราชูปถมั ภ์

141

142 “บันไดหนีไฟ” ซ่งึ กฎหมายกำหนดให้ทพ่ี ักอาศัยที่เข้าขา่ ยโดยเฉพาะบา้ น ทาวนโ์ ฮม ตึกแถว ท่มี ีความ สูงตัง้ แต่ 4 ชน้ั ขึ้นไป อาคารพักอาศยั ทีไ่ ม่ใช้ตึกแถวบ้านแถว ซึง่ สงู 3 ช้ัน และมีชัน้ ที่ 4 เป็นดาดฟ้า โดยท่ีพัก อาศยั เหล่าน้จี ะต้องมบี นั ไดหนีไฟทม่ี ีลักษณะที่ถูกต้องตามกฎหมาย ทง้ั นี้เพ่อื ความสะดวกและปลอดภยั ในการ ใช้งาน เม่อื ใดบา้ นตอ้ งมบี ันไดหนไี ฟ กฎหมายควบคุมอาคาร กำหนดให้บ้านอยู่อาศัยไม่วา่ บ้านของท่านจะสรา้ งเป็น บ้านเดี่ยว บ้านแถว บ้านแฝด ห้องแถว ตึกแถว ฯลฯ หากมคี วามสูงต้ังแตส่ ี่ช้นั ขึ้นไป หรือมีความสูงสามชั้นและมีดาดฟ้าเหนือชั้น สามท่ีมีพ้ืนที่เกนิ 16 ตารางเมตร จะตอ้ งมี “บันไดหนีไฟ” เพิ่มจากบันไดปกติอย่างน้อยอีกหนึ่งแห่ง (กฎ.55 ข้อ 27) และตอ้ งไม่มีสงิ่ กดี ขวางทางเดนิ ทไ่ี ปยงั บนั ไดหนีไฟน้ัน กรณีบ้านในกรุงเทพมหานคร มีกำหนดเพ่ิมเตมิ ว่า หากมีการทำชั้นใต้ดนิ ต้ังแต่สองชน้ั ข้ึนไป (อาจมี บา้ นบางหลังทำ) บ้านหลังน้ันก็ตอ้ งทำ “บันไดหนีไฟ” โดยเฉพาะอกี หน่ึงทางดว้ ย (ขบ.44 ขอ้ 39) ซ่ึงทางหนี ไฟนจี้ ะทำเป็นบันไดหรือไม่กไ็ ด้ เชน่ ทำเปน็ ทางลาด ลักษณะของบนั ไดหนไี ฟตามกฎหมายควบคุมอาคาร บนั ไดใดๆ จะถอื เปน็ “บนั ไดหนีไฟ” ก็ตอ่ เม่ือมลี กั ษณะตามท่กี ฎหมายควบคมุ อาคารได้กำหนดไว้ดงั น้ี 1. บนั ไดหนีไฟตอ้ งเปน็ บนั ไดท่มี คี วามลาดชนั นอ้ ยกวา่ 60 องศา ยกเวน้ แตอ่ าคารนั้นเป็นตกึ แถวหรือ บ้านแถวทม่ี ีความสงู ไม่เกินส่ีชั้น โดยตอ้ งมีชานพกั บันไดทุกชั้น (กฎ.55 ข้อ 28) สำหรับกรงุ เทพมหานคร ห้าม สร้างบันไดหนีไฟเป็นบันไดเวียน (ขบ.44 ข้อ 41) และบ้านแถวหรือตึกแถวสูงไม่เกินสี่ช้ันหรือสูงไม่เกิน 15 เมตร จากระดบั ถนน กำหนดใหบ้ นั ไดหนีไฟจะเปน็ แนวด่ิงก็ได้ แต่ตอ้ งมชี านพักทุกชั้น แตล่ ะช้นั บันไดต้องหา่ ง ไมเ่ กิน 40 เซนตเิ มตร โดยชนั้ สุดท้ายต้องสูงจากพื้นดนิ ไมเ่ กิน 3.50 เมตร (ขบ.44 ข้อ 43) สำหรบั บนั ไดหนีไฟ แนวดง่ิ เรามกั เรยี กกนั ว่าบันไดลิง นนั่ เอง ระยะตา่ งๆ ของบันไดหนไี ฟ

143 ตำแหนง่ บนั ไดหนีไฟในผัง

144 บันไดหนีไฟภายนอกอาคาร 2. บันไดหนีไฟ ที่ไม่ใชบ้ ันไดแนวดิง่ สำหรับตกึ แถวหรอื บา้ นแถว ตอ้ งทำด้วยวัสดทุ นไฟและไม่ผุกรอ่ น ลูกตั้งสูงไม่เกิน 20 เซนติเมตร ลูกนอกกว้างไม่น้อยกว่า 22 เซนติเมตร ความสูงราวบันได 90 เซนติเมตร (ขบ.44 ขอ้ 41) บนั ไดหนไี ฟของอาคารในต่างจังหวดั กต็ อ้ งมรี ะยะลูกต้งั ลูกนอนเชน่ เดียวกันดว้ ย 3. บันไดหนีไฟ ถา้ อยู่ภายนอกอาคาร ตอ้ งมีความกว้างสุทธไิ ม่นอ้ ยกว่า 60 เซนตเิ มตร และผนังสว่ นที่ บันไดหนไี ฟพาดผ่านตอ้ งเปน็ ผนังทึบทนไฟ และถ้าลงไมถ่ ึงชน้ั ล่าง ต้องทำบนั ไดโลหะทส่ี ามารถยืดหรือหยอ่ น ลงจนถงึ พ้นื ช้ันลา่ งได้ (กฎ.55 ขอ้ 29) บันไดหนีไฟภายนอกถา้ เป็นอาคารประเภทหอ้ งแถวหรอื ตกึ แถว ซึ่งหกติ จะต้องมีที่ว่างด้านหลังกวา้ งไม่น้อยกว่า 3 เมตร แต่กฎหมายผ่อนผันใหบ้ ันไดหนีไฟภายนอกล้ำเข้าไปหรืออยู่ ในสว่ นพ้นื ทวี ่าง 3 เมตรนนั้ ได้ แต่จะต้องลำ้ เขา้ ไปไม่เกนิ 1.40 เมตร (กฎ.55 ข้อ 34 วรรคสอง) 4. บันไดหนไี ฟ ถ้าอย่ภู ายในอาคาร ต้องความกวา้ งสุทธไิ มน่ ้อยกว่า 80 เซนติเมตร มีผนงั ทบึ ทนไฟกั้น โดยรอบ ในแตล่ ะชั้นของบันไดหนไี ฟตอ้ งมีชอ่ งเปิดใหอ้ ากาศถ่ายเทจากภายนอกมีพน้ื ท่รี วมกนั ไม่นอ้ ยกว่า 1.4 ตารางเมตร โดยต้องมีแสงสวา่ งให้เพียงพอตลอดเวลา (กฎ.55 ขอ้ 30) สำหรับอาคารใน กทม. มีเพิ่มเติมว่า หากเป็นบันไดหนีไฟอยู่ภายในอาคารต้องทำให้ลงถึงช้ันพ้นื ดิน (ขบ.44 ข้อ 44) และกำหนดบันไดหนีไฟต้อง กว้างไม่น้อยกว่า 90 เซนติเมตร (ขบ.44 ข้อ 41) อย่าลืมว่า การวัดความกว้างบันไดนั้น ในต่างจังหวัดกับ กรุงเทพฯ กำหนดวธิ ีวดั ความกว้างบันไดไม่เหมอื นกัน ท่านท่ีลืมหรอื ต้องการทราบวธิ ีการวดั ขอใหย้ ้อนไปอ่าน บทความตอนท่ีแล้วเร่ือง “บันไดกับกฎหมายควบคมุ อาคาร” 5. มีประตหู นีไฟ ทที่ ำดว้ ยวัสดุทนไฟ ความกว้างสทุ ธิไม่น้อยกว่า 80 เซนติเมตร สูงไม่น้อยกวา่ 190 เมตร เปน็ บานเปิดผลักออกสภู่ ายนอกและตดิ อปุ กรณ์ชนิดท่บี ังคบั ใหบ้ านประตูปิดได้เอง ประตหู รอื ทางออกสู่ บันไดหนีไฟต้องไม่มีธรณีหรือขอบกั้น (กฎ.55 ข้อ 31) อาคารในเขต กทม. มีการกำหนดการเปิดประตูของ บนั ไดหนีไฟให้ชัดเจนข้นึ คอื ประตหู นไี ฟต้องเป็นบานเปิดชนิดผลักเขา้ สู่บันไดเท่าน้ัน สำหรับดาดฟ้า ช้นั ล่าง และช้ันท่ีออกเพ่อื ที่หนไี ฟสู่ภายนอกอาคารให้ประตูหนีไฟเปิดออกจากหอ้ งบันไดหนีไฟ (ขบ.44 ข้อ 45)

145 6. ชานพกั บันไดต้องกวา้ งไม่น้อยกว่าบันได (ขบ.44 ข้อ 41) 7.พื้นหน้าบนั ไดหนไี ฟตอ้ งกว้างไม่น้อยกว่าความกว้างของบันไดและ “อีกด้านหน่งึ ” กวา้ งไม่น้อยกว่า 1.50 เมตร (กฎ.55 ข้อ 32 และ ขบ.44 ข้อ 41) ความหมายของ “อกี ด้านหนึ่ง” คือระยะที่วัดต้ังฉากกับลูก นอนบันได 8. ตำแหนง่ บนั ไดหนีไฟ ต้องมีระยะห่างประตูหอ้ งสุดทา้ ยทางเดนิ ทเ่ี ปน็ ปลายตนั ไม่เกนิ 10 เมตร หาก มีบันไดหนีไฟต้องแต่สองบันไดข้ึนไป ระยะห่างระหว่างบันไดหนีไฟตามทางเดินต้องไม่เกิน 60 เมตร (ขบ.44 ข้อ 44) และตอ้ งมปี า้ ยเรืองแสงหรอื เครื่องหมายไฟแสงสว่างบอกทางหนีไฟ โดยมขี อ้ ความหนไี ฟเป็น ตวั อักษรสงู ไมน่ ้อยกวา่ 15 เซนตเิ มตร ตดิ ตามทางเดินและทางออกจากบันไดหนีไฟใหช้ ัดเจน (ขบ.44 ข้อ 46 และ กฎ.39 ข้อ 7) โดยในกฎกระทรวงฉบับท่ี 39 พ.ศ. 2537 ข้อ 7 กำหนดความสูงตัวอักษรของป้ายไว้ 10 เซนตเิ มตร

146 บทที่ 7 สาระสำคัญ พรบ. การผังเมอื ง พ.ศ. 2562 พระราชบัญญัติการผังเมือง พ.ศ. 2562 ท่ีประกาศในราชกิจจานุเบกษาไปเม่ือวันที่ 29 พฤษภาคม 2562 กำหนดให้เริ่มใช้บังคับเม่ือพ้นกำหนด 180 วันนบั แตว่ ันประกาศในราชกิจจานเุ บกษา คือวันท่ี 25 พ.ย. 2562 และเปน็ การยกเลิก พระราชบญั ญัติฉบบั เดิม คือพระราชบัญญตั กิ ารผังเมือง พ.ศ. 2518 และฉบบั แก้ไข ทีใ่ ช้บังคับมา 44 ปี พระราชบัญญัตกิ ารผังเมืองฉบับใหม่น้ีมีสาระสำคัญ โดยเน้นในประเด็นท่ีน่าสนใจ และ ประเด็นที่มคี วามแตกตา่ งไปจากพระราชบญั ญัติฉบับเดิม (Cr.กรมโยธาธิการและผงั เมอื ง)

147 บทนยิ าม ความหมายของ “การผังเมือง” มีความแตกต่างจากความหมายที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติฉบับ เดิม คือ เปน็ การกล่าวถึงผงั เมืองในระดับตา่ งๆ ไม่เพียงเฉพาะผงั เมืองรวมและผังเมืองเฉพาะ และมีการระบุ วตั ถุประสงค์ของการผังเมืองในด้านตา่ งๆ โดยเพ่ิมวัตถปุ ระสงคเ์ รือ่ ง การคมนาคมและการขนสง่ การปอ้ งกัน ภยั พิบัติ และการปอ้ งกนั ความขดั แย้งในการใชป้ ระโยชนท์ ี่ดนิ บททั่วไป พระราชบัญญตั ฉิ บับใหมม่ กี ารจัดแบง่ และการลำดบั หมวดทแี่ ตกต่างไปจากเดมิ มกี ารเพ่ิมหมวด “บท ทั่วไป” ซึ่งประกอบด้วย 2 มาตรา คือมาตราท่ีว่าด้วยความมุ่งหมายของพระราชบัญญัติ วิธีการ และ วตั ถุประสงค์ (มาตรา 6) และมาตราท่ีกำหนดใหม้ ี “ธรรมนูญว่าดว้ ยการผังเมอื ง” (มาตรา 7) ซึง่ เปน็ สงิ่ ใหมส่ ง่ิ หนึ่งที่เกิดข้ึนในพระราชบัญญัตกิ ารผังเมอื งฉบบั ใหมน่ ้ีพระราชบญั ญตั ฉิ บบั ใหม่บญั ญตั ิให้มกี ารจัดทำธรรมนูญ ว่าด้วยการผังเมือง เพื่อใช้เป็นหลักการพื้นฐานที่ผู้ท่ีเกี่ยวข้องกับการผังเมืองพึงปฏิบัติ โดยให้ คณะกรรมการนโยบายการผังเมืองแหง่ ชาติเปน็ ผู้จัดทำเสนอคณะรฐั มนตรเี ห็นชอบ (มาตรา 75(8)) และใหม้ ี ผลผูกพันหน่วยงานของรัฐและหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องท่ีจะต้องดำเนินการต่อไปตามอำนาจหน้าที่ของตน (มาตรา 7) ประเภทของผังเมอื ง เพมิ่ ประเภทของผงั เมอื งขน้ึ อีก 3 ประเภท นอกเหนือจาก ผังเมอื งรวม และ ผงั เมืองเฉพาะ ซงึ่ เป็นผัง สำหรบั กำหนดการใชป้ ระโยชน์ที่ดิน ประเภทของผงั เมืองทเ่ี พิม่ ข้ึนไดแ้ ก่ ผังนโยบายระดับประเทศ ผงั นโยบาย ระดับภาค และผังนโยบายระดับจังหวัด ซ่ึงเปน็ ผังนโยบายการใช้ประโยชน์ท่ีดิน (มาตรา 8) โดยผงั นโยบาย ระดบั จงั หวดั จะตอ้ งสอดคลอ้ งและเช่ือมโยงกับผงั นโยบายระดับภาค ส่วนการวางและจัดทำผังนโยบายระดับ ภาคจะต้องสอดคล้องและเช่อื มโยงกับผังนโยบายระดบั ประเทศ (มาตรา 11)

148 พระราชบัญญตั ิฉบบั ใหม่นีม้ เี จตนารมณ์ท่จี ะสร้างการมสี ว่ นรว่ มของประชาชนผ่านกระบวนการรับฟัง ความคดิ เห็นจากทุกภาคส่วน จงึ บัญญัติเป็นแนวนโยบายโดยรวมไว้ในมาตรา 9 วา่ ในการวางและจดั ทำผังทั้ง 5 ประเภท ต้องจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็น การปรึกษาหารือ และการมีส่วนร่วมของประชาชน โดยให้ คำนึงถึงผู้ที่จะได้รับผลกระทบในผังแต่ละประเภท และต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้ทราบด้วยวิธีการท่ี หลากหลายและทั่วถึง โดยมีข้อมูลเพียงพอต่อการที่ประชาชนจะเข้าใจถึงผลกระทบต่อประชาชน ชุมชน สิ่งแวดล้อม ความหลากหลายทางชีวภาพ และแนวทางการเยียวยาความเดือดร้อน หรือความเสียหายแก่ ประชาชนหรือชมุ ชน สำหรับผังนโยบายการใชป้ ระโยชน์พ้ืนท่ี บัญญัตใิ ห้มีการทบทวนทุก 5 ปหี รือในกรณีทีม่ ีความจำเป็น เพ่ือให้สอดคล้องกับแนวนโยบายแห่งรัฐ ยุทธศาสตร์ชาติ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ แผนและ ข้นั ตอนการดำเนินการปฏริ ูปประเทศ สภาพเศรษฐกิจและสังคม หรือทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมท่ี เปลี่ยนแปลงไป นอกจากนัน้ ยงั บัญญัตใิ ห้กรมโยธาธกิ ารและผงั เมอื งมหี นา้ ที่จดั ทำรายงานประจำปีเกี่ยวกับการ ปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้ของปีงบประมาณท่ผี ่านมา เสนอต่อคณะกรรมการนโยบายการผังเมืองแห่งชาติ เพ่อื ให้ความเหน็ ชอบภายใน 90 วนั นบั แต่วันสน้ิ ปีงบประมาณ (มาตรา 10) และเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา ให้ความเห็นชอบก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา และเผยแพร่ให้ประชาชนทราบเป็นการท่ัวไป (มาตรา 75(7))

149 ผังเมอื งรวม

150 ในผังเมืองรวมฉบับหนง่ึ ๆ จะมีองคป์ ระกอบต่างๆ (ดรู ายละเอียดในมาตรา 22) ซ่ึงองค์ประกอบหลัก ยังคงมีเช่นเดียวกับท่ีบัญญัติในพระราชบัญญัติฉบับเดิม อย่างไรก็ตาม ในส่วนของรายการ (3) แผนผัง เดิม กำหนดแผนผงั ไว้ 4 ประเภท (แผนผังกำหนดการใชป้ ระโยชนท์ ่ีดนิ ตามท่ไี ด้จำแนกประเภท แผนผงั แสดงท่โี ล่ง แผนผังแสดงโครงการคมนาคมและการขนสง่ และแผนผงั แสดงโครงการกิจการสาธารณูปโภค สาธารณปู การ และบริการสาธารณะ) ในพระราชบัญญัติฉบับใหม่ได้กำหนดใหม้ ีแผนผังเพ่มิ ขน้ึ อีก 3 ประเภท ได้แก่ แผนผัง แสดงแหลง่ ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดล้อม แผนผังแสดงผังนำ้ และแผนผังอ่ืน ๆ ท่จี ำเป็น สำหรับรายการ (5) ข้อกำหนดการใชป้ ระโยชนท์ ่ีดนิ ซ่ึงให้กำหนดเรอ่ื งอัตราสว่ นพน้ื ทีอ่ าคารปกคลุม ดินต่อพื้นท่ีแปลงท่ีดินท่ีใช้เป็นที่ตั้งอาคาร (Ground Area Coverage, GAC) พระราชบัญญัติฉบับใหม่ให้ ทางเลือกโดยอาจกำหนดเป็น อัตราสว่ นพื้นทว่ี ่างอันปราศจากสิ่งปกคลุมดนิ ของแปลงท่ีดินที่อาคารต้ังอยู่ต่อ พื้นท่ใี ช้สอยรวมของอาคาร (Open Space Ratio, OSR) ก็ได้ ซึง่ สอดคลอ้ งกบั ทีม่ กี ารกำหนดอยู่จริงเปน็ OSR ในกรณีของผงั เมอื งรวมกรุงเทพมหานครในปจั จุบนั สำหรบั รายการ (6) นโยบาย มาตรการ และวิธีดำเนนิ การเพ่ือปฏบิ ตั ิให้เปน็ ไปตามวัตถปุ ระสงค์ของผงั เมืองรวม ได้ขยายความในลกั ษณะช้ีนำแนวทางทเี่ ปน็ ไปได้ ว่าอาจกำหนดเป็น แนวทางในการปรับอัตราส่วน FAR (อัตราสว่ นพื้นท่ีอาคารรวมต่อพื้นดิน) แนวทางในการใช้มาตรการดา้ นการเงิน การคลงั หรือแนวทางท่ี เหมาะสมเพ่ือแก้ไขปัญหาและอุปสรรคท่ีเกิดข้ึน ทั้งน้ี เพ่ือส่งเสริมให้มีการพัฒนาหรือเพ่ือเยียวยาผู้ได้รับ ผลกระทบ การเปลี่ยนแปลงท่สี ำคญั อย่างหน่ึงในพระราชบัญญัตฉิ บับใหมน่ ้ีคอื ได้เปล่ียนรปู แบบการประกาศใช้ บังคบั ผังเมืองรวม จากเดิมที่ต้องออกเป็นกฎกระทรวง ตามพระราชบญั ญตั ิฉบบั ใหม่ การประกาศใช้บังคับผัง เมอื งรวมให้กระทำโดยการออกเปน็ ประกาศกระทรวงมหาดไทย หรือ ขอ้ บัญญตั ิท้องถิ่น (มาตรา 33) ขึน้ อยู่ กับว่ากรมโยธาธกิ ารและผังเมอื ง หรอื องค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ เปน็ ผูว้ างและจัดทำ เมื่อไดจ้ ัดทำผังเมอื งรวมเสรจ็ และคณะกรรมการผงั เมืองใหค้ วามเห็นชอบแล้ว เดมิ จะต้องจัดให้มกี าร ปดิ ประกาศแผนท่ีแสดงเขตของผงั เมืองรวมไว้ในทต่ี า่ งๆตามท่พี ระราชบัญญัติกำหนดเปน็ เวลาไม่น้อยกว่า 90 วนั เพื่อเชิญชวนให้ผู้มีส่วนได้เสียไปตรวจดูแผนผังและข้อกำหนดของผังเมืองรวมได้ ในพระราชบัญญัติฉบับ ใหม่กำหนดเพ่มิ เติมในสว่ นของการปิดประกาศวา่ ใหเ้ ผยแพรแ่ ละประชาสมั พนั ธ์ใหป้ ระชาชนทราบโดยวธิ กี าร ทางอิเล็กทรอนิกส์และสอ่ื อืน่ ๆ และปิดประกาศแผนทีแ่ สดงเขตและรายละเอยี ดของผงั เมืองรวมไว้ในทต่ี ่างๆ (ดมู าตรา 29) มีประเด็นหนึ่งทีน่ ่าสนใจในการประกาศบังคับใช้ผังเมืองรวม ท่ีมีการเพิม่ ข้ึนในพระราชบัญญัตฉิ บับ ใหม่ คือ หากได้ดำเนินการปิดประกาศให้ผู้มีส่วนได้เสียยื่นคำร้องแล้ว แต่ไม่มีผู้ย่ืนคำร้อง หรือมี แต่ คณะกรรมการผังเมืองส่ังยกคำร้องดังกล่าว ก็ให้ดำเนนิ การออกประกาศกระทรวงมหาดไทยหรือข้อบัญญัติ ท้องถิ่น แล้วแต่กรณี โดยไมช่ กั ช้า ในกรณขี องขอ้ บัญญัตทิ อ้ งถิ่น หากองค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถ่นิ ไม่ดำเนนิ การ ออกข้อบัญญัติท้องถิ่นภายในเวลาอันสมควร คณะกรรมการผังเมืองจังหวัดสามารถเสนอผังเมืองรวมน้ันให้ คณะกรรมการผงั เมืองภายใน 60 วันนบั แต่วันท่คี ณะกรรมการผังเมืองจงั หวัดมีมติ เพือ่ ให้กรมโยธาธกิ ารและ ผังเมอื งดำเนินการออกเป็นประกาศกระทรวงมหาดไทย (รายละเอียดดมู าตรา 32) สำหรับอายุการใช้บังคับผังเมืองรวม ยังคงเป็นไปตามหลักการเดิมที่ได้มีการปรับปรุงแก้ไข พระราชบัญญัติการผังเมอื ง พ.ศ. 2518 โดยพระราชบัญญัติการผังเมอื ง (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2558 คือ ไม่มีการ กำหนดอายุของผังเมืองรวม แต่ให้มีการจัดทำรายงานการประเมินผลการเปล่ียนแปลงสภาพการณ์และ สิง่ แวดล้อมการใช้บังคับผังเมืองรวมทุกไมเ่ กิน 5 ปี หากเหน็ วา่ จำเป็นต้องเปลีย่ นแปลงแก้ไขจึงจะดำเนนิ การ ปรบั ปรุงโดยการวางและจัดทำผังเมืองรวมข้ึนใหม่ (มาตรา 34)


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook