การออกแบบตกแต่งภายในผู้ช่วยศาสตราจารย์จง บุญประชา คณะเทคโนโลยอี ุตสาหกรรมสถาบนั ราชภฎั สวนสุนันทา 2557
สารบญั หน้าคานา (5)สารบัญ (7)สารบญั ภาพ (11)สารบัญตาราง (19)แผนบริหารการสอนประจาวชิ า (21)แผนบริหารการสอนประจาบทท่ี 1 1บทที่ 1 บทนา 3 3 รูปแบบการตกแต่งภายใน 15 ข้นั ตอนการสร้างบรรยากาศการตกแต่งภายใน 17 สรุป 18 คาถามทบทวน 19เอกสารอา้ งอิง 21แผนบริหารการสอนประจาบทที่ 2 23บทที่ 2 การจัดพนื้ ทป่ี ระโยชน์ใช้สอยภายในอาคาร 23 ลกั ษณะประเภทอาคารท่ีพกั อาศยั 27 การจดั การพ้นื ที่ประโยชน์ใชส้ อย 29 การกาหนดทางสญั จร 31 การจดั วางแผนผงั ประโยชน์ใชส้ อย 35 ระยะการจดั วางและขนาดสดั ส่วนเคร่ืองเรือน 39 สรุป 39 คาถามทบทวน 40เอกสารอา้ งอิง
(8) 41 43แผนบริหารการสอนประจาบทที่ 3 43บทที่ 3 รูปด้านและการเขยี นแบบ 45 46 ผงั พ้นื 47 รูปดา้ น 48 รูปตดั 49 ส่วนขยาย รายละเอียด 59 เส้นท่ีใชแ้ ทนสญั ลกั ษณ์ในการเขียนแบบ 59 สญั ลกั ษณ์ท่ีใชใ้ นการเขยี นแบบ 60 สรุป 61 คาถามทบทวนเอกสารอา้ งอิง 63แผนบริหารการสอนประจาบทที่ 4บทท่ี 4 การเขยี นทศั นียภาพและการทาหุ่นจาลอง 63 ประเภทของการเขียนทศั นียภาพ 66 การเขียนทศั นียภาพโดยกาหนดจุดรวมสายตา 69 ข้นั ตอนการเขียนทศั นียภาพ 76 การทาหุ่นจาลอง 79 สรุป 80 คาถามทบทวน 81เอกสารอา้ งอิงแผนบริหารการสอนประจาบทท่ี 5 83บทที่ 5 สีและแสงเพอื่ การออกแบบตกแต่งภายใน 85 สีสนั และการใชใ้ นงานออกแบบตกแต่งภายใน 85 แสงเพือ่ การออกแบบตกแตง่ ภายใน 93 ลกั ษณะการใชแ้ สงไฟในที่อยอู่ าศยั 94 ประเภทของหลอดไฟ การจดั วางแสงไฟเพ่ือการใชง้ าน 96 ขอ้ ปฏิบตั ิในการใชแ้ สงไฟ สรุป 100 101 103
คาถามทบทวน (9)เอกสารอา้ งอิงแผนบริหารการสอนประจาบทท่ี 6 103บทที่ 6 การออกแบบห้องรับแขก 104 105 การวางผงั หอ้ งรับแขก 107 ตาแหน่งของหอ้ งรับแขก 107 แบบเฟอร์นิเจอร์ 112 แนวคิดการออกแบบตกแต่งหอ้ งรับแขก 112 สรุป 113 คาถามทบทวน 124เอกสารอา้ งอิง 124แผนบริหารการสอนประจาบทที่ 7 125บทท่ี 7 การออกแบบห้องนอน 127 การวางผงั หอ้ งนอน 129 ตาแหน่งของหอ้ งนอน 129 132 เครื่องเรือนในหอ้ งนอน 132 133 แนวคิดการออกแบบตกแต่งหอ้ งนอน 140 140 สรุป 142 คาถามทบทวน 143เอกสารอา้ งอิง 145แผนบริหารการสอนประจาบทที่ 8 152บทท่ี 8 การออกแบบห้องครัว 156 การวางผงั หอ้ งครัว 157 ตาแหน่งของหอ้ งรัว 159 อุปกรณ์และเคร่ืองใชใ้ นครัว 163 แนวคดิ การออกแบบตกแต่งหอ้ งครัว 163 สรุป 164 คาถามทบทวนเอกสารอา้ งอิง
(10) 165 167แผนบริหารการสอนประจาบทที่ 9 167บทที่ 9 การออกแบบห้องนา้ 170 170 การวางผงั หอ้ งน้า 171 ตาแหน่งของหอ้ งน้า 182 ขอ้ พิจารณาในการจดั แต่งหอ้ งน้า 182 แนวคดิ การออกแบบตกแต่งหอ้ งน้า 183 สรุป 185 คาถามทบทวน 187เอกสารอา้ งอิง 187แผนบริหารการสอนประจาบทท่ี 10 189บทท่ี 10 การออกแบบห้องเดก็ 190 การวางผงั หอ้ งเดก็ 191 องคป์ ระกอบของหอ้ งเดก็ 203 เฟอร์นิเจอร์ในหอ้ งเดก็ 203 แนวคดิ การออกแบบตกแตง่ หอ้ งเดก็ 204 สรุป 205 คาถามทบทวนเอกสารอา้ งอิงบรรณานุกรม
บทที่ 1 บทนา การออกแบบตกแต่งภายใน คือ การสร้างสภาพแวดลอ้ มภายในอาคารที่เกี่ยวขอ้ งกบั ความเป็นอยใู่ นชีวติ ประจาวนั ของมนุษยใ์ หเ้ กิดความสะดวกสบายในดา้ นประโยชนใ์ ชส้ อยและความงามในรูปแบบโดยอาศยั เหตุผลทางพฤติกรรมและขอ้ มูลต่างๆ ของมนุษยเ์ ป็นหลกั โดยมีหลกั การออก-แบบตกแต่งภายใน ดงั ต่อไปน้ี - ประโยชนใ์ ชส้ อย - ความงามของรูปแบบ - การจดั วาง - จิตวิทยาในงานออกแบบตกแต่งภายใน ประโยชน์ใช้สอย ในงานออกแบบตกแต่งภายใน คือ ความเหมาะสมกบั การใชง้ านอยา่ งมีประสิทธิภาพและสะดวกสบาย เช่น การออกแบบเกา้ อ้ีตวั หน่ึง อาจดูรูปแบบและสีสนั สวย น่ามองน่าใชส้ อย แต่เมื่อลองนง่ั แลว้ ปรากฏวา่ มีอาการเจบ็ หลงั การทรงตวั ไม่ดี ถา้ นงั่ ไม่ระวงั อาจพลิกหงายหลงั ได้ แสดงวา่ การออกแบบเกา้ อ้ีตวั น้ีลม้ เหลว ไม่ประสบความสาเร็จ เสียท้งั เงินทุน เสียคา่ แรงงาน กาลงั สติปัญญาและเสียเวลา มีผลกระทบต่อจิตใจดว้ ย ความงามของรูปแบบ ของงานออกแบบตกแต่งภายใน เป็นองคป์ ระกอบที่สร้างความพงึพอใจใหแ้ ก่ผใู้ ช้ ท้งั ในดา้ นความงาม ความทนั สมยั ความมีรสนิยมและกลมกลืนกบั บรรยากาศ การจัดวาง คอื การวางตาแหน่งเคร่ืองเรือนเครื่องใชต้ ามหนา้ ที่ของการใชส้ อยภายในหอ้ งเพ่อื ใหเ้ กิดความงาม ความเป็นระเบียบ เกิดมิติ ช่องวา่ งและความกลมกลืน จติ วทิ ยาในงานออกแบบตกแต่งภายใน ผอู้ อกแบบควรคานึงถึงสภาพแวดลอ้ ม สังคมเศรษฐกิจ ระดบั การศึกษา รสนิยมและความตอ้ งการพ้นื ฐานของผใู้ ชง้ าน เพ่อื ใหง้ านออกแบบตกแต่งภายในเกิดประโยชนส์ ูงสุดรูปแบบการตกแต่งภายใน การออกแบบตกแต่งภายมีอยหู่ ลายรูปแบบเกือบไม่มีขอ้ จากดั ซ่ึงข้ึนอยกู่ บั ผใู้ ชห้ รือผอู้ าศยัและจินตนาการการออกแบบของผอู้ อกแบบ แต่ถา้ จะมองโดยรวม ๆ แลว้ อาจสามารถแบ่งรูปแบบการตกแต่งภายในเป็น 4 แบบคือรูปแบบตกแต่งภายในรูปแบบด้งั เดิม รูปแบบการตกแต่งภายใน
4สมยั ใหม่ รูปแบบตกแต่งภายในร่วมสมยั รูปแบบตกแต่งภายในตามทอ้ งถ่ิน และในพ้นื ท่ีใดพ้นื ที่หน่ึงสามารถท่ีจะตกแต่งไดห้ ลากหลายรูปแบบ ข้ึนอยกู่ บั รสนิยม และความตอ้ งการของผอู้ าศยั ดงัแสดงในภาพที่ 1.1 -1.4 ภาพที่ 1.1 รูปแบบตกแต่งภายในรูปแบบด้งั เดิม ภาพที่ 1.2 รูปแบบตกแต่งภายในรูปแบบสมยั ใหม่
5ภาพท่ี 1.3 รูปแบบตกแต่งภายในรูปแบบร่วมสมยัภาพท่ี 1.4 รูปแบบตกแต่งภายในรูปแบบทอ้ งถ่ิน
6 นอกจากรูปแบบหลกั ของการตกแต่งภายใน 4 รูปแบบดงั กล่าวแลว้ ยงั สามารถแบ่งยอ่ ยออกเป็นหลากหลายแนวการตกแต่งภายในท่ีข้ึนอยกู่ บั ความพึงพอใจของผใู้ ช้ รสนิยม และรูปแบบการใชช้ ีวติ ท่ีแตกต่างกนั ดงั แสดงในภาพท่ี 1.5 - 1.13 ภาพท่ี 1.5 แนวการตกแต่งภายในแบบ Formal Classic
7ภาพที่ 1.6 แนวการตกแต่งภายในแบบ Chic Modern
8 ภาพที่ 1.7 แนวการตกแต่งภายในแบบ City Modern
9ภาพที่ 1.8 แนวการตกแต่งภายในแบบ Soft Modern
10 ภาพท่ี 1.9 แนวการตกแต่งภายในแบบ Light Casual
11ภาพที่ 1.10 แนวการตกแต่งภายในแบบ Oak Natural
12 ภาพท่ี 1.11 แนวการตกแต่งภายในแบบ Plain Natural
13ภาพที่ 1.12 แนวการตกแต่งภายในแบบ Pure Casual
14 ภาพท่ี 1.13 แนวการตกแต่งภายในแบบ Silky Elegance
15ข้นั ตอนการสร้างบรรยากาศการตกแต่งภายใน การออกแบบตกแต่งภายในจะเริ่มจากหอ้ งโล่งที่ยงั ไม่มีการตกแต่งแต่อยา่ งใด แลว้ ค่อย ๆเร่ิมใส่องคป์ ระกอบต่าง ๆ เขา้ ไป ดงั จะแสดงดงั ภาพท่ี 1.14 – 1.20 ภาพที่ 1.14 หอ้ งโล่งท่ีไม่มีการตกแต่งสร้างบรรยากาศสภาพแวดลอ้ มใหน้ ่าอยอู่ าศยั ภาพที่ 1.15 เร่ิมนาเฟอร์นิเจอร์เขา้ มาจดั วางทาใหเ้ กิดประโยชนใ์ ชส้ อยเกิดข้ึน
16 ภาพท่ี 1.16 สร้างบรรยากาศดว้ ยการจดั วางแสงไฟเพือ่ สร้างบรรยากาศและความสวา่ งของหอ้ ง ภาพที่ 1.17 นาของตกแต่งเช่นหมอนอิง และรูปภาพ ทาใหบ้ รรยากาศน่าอยอู่ าศยั มากข้ึน
17ภาพท่ี 1.18 ผลของการตกแต่งท่ีมีชีวิตชีวาดว้ ยองคป์ ระกอบต่าง ๆ ท่ีสอดคลอ้ งกบั ประโยชนใ์ ชส้ อย รสนิยม และการดาเนินชีวิต ของผพู้ กั อาศยัสรุป การออกแบบตกแต่งภายใน มีหลกั ในการออกแบบเบ้ืองตน้ อยู่ 4 ประการคือ 1) ประโยชน์ใชส้ อย 2) ความงามของรูปแบบ 3) การจดั วาง 4) จิตวิทยาในงานออกแบบตกแต่งภายใน ปัจจยั ท้งั 4 ประการน้ี จะตอ้ งอาศยั เหตุผลทางพฤติกรรมและขอ้ มูลต่าง ๆ ของมนุษยเ์ ป็นหลกั เน่ืองดว้ ยการออกแบบท้งั หลายท้งั มวลกเ็ พ่อื มุ่งไปสู่ความพงึ พอใจ และความสะดวกสบายของมนุษยน์ นั่ เอง ดงั น้นั จะเห็นไดว้ า่ การออกแบบตกแต่งภายในจะไม่มีแบบที่ตายตวั แต่จะมีได้หลากหลาย ในพ้นื ที่เดียวกนั สามารถท่ีจะนารูปแบบการตกแต่งภายในไดอ้ ยา่ งนอ้ ย 4 รูปแบบใหญ่ๆ คือ รูปแบบตกแต่งภายในรูปแบบด้งั เดิม รูปแบบการตกแต่งภายในสมยั ใหม่ รูปแบบตกแต่งภายในร่วมสมยั และรูปแบบตกแต่งภายในตามทอ้ งถ่ิน ความแตกต่างรูปแบบท่ีเกิดข้ึนน้นั เกิดข้ึนดว้ ย ความพึงพอใจของผใู้ ช้ รสนิยม และรูปแบบการใชช้ ีวติ ท่ีแตกต่างกนั นนั่ เอง
18คำถำมทบทวน 1. การออกแบบตกแต่งภายในคืออะไร 2. มีหลกั การออกแบบตกแต่งภายในอยา่ งไร 3. ประโยชน์ใชส้ อยในงานออกแบบตกแต่งภายในคืออะไร 4. ความงามของรูปแบบในงานออกแบบตกแต่งภายในคืออะไร 5. การจดั วางในงานออกแบบตกแต่งภายในคืออะไร 6. จิตวิทยาในงานออกแบบตกแต่งภายในคืออะไร 7. โดยรวม ๆ แลว้ อาจสามารถแบ่งรูปแบบการตกแต่งภายในเป็นก่ี แบบ อะไรบา้ ง 8. ความหลากหลายแนวการตกแต่งภายในข้ึนอยกู่ บั ปัจจยั อะไรบา้ ง 9. อธิบายการออกแบบตามแนวทางการตกแต่งภายในแบบ Soft Modern 10. ข้นั ตอนการสร้างบรรยากาศการตกแต่งภายในมีข้นั ตอนอยา่ งไร
19 เอกสารอ้างองิBrainard, S. (2011). A Design Manual. New Jersey : Prentice Hall.Cohen, J. (2011). Color Coordition for Interiors: Home Color Design. Boston: McGraw Hill.O’Shea, L., Grimley, C. (2010). The Interior Design Reference & Specification Book: Everything Interior Designers Need to Know Every Day. New Jersey: Prentice Hall International, Inc.Slotkis, J. (2012). Foundations of Interior Design. London : Oxford University Press.
บทที่ 2 การจัดพนื้ ที่ประโยชน์ใช้สอยภายในอาคาร ท่ีวา่ งภายในบา้ นและอาคารเป็นพ้ืนฐานสาหรับการตกแต่งภายใน ส่วนใหญ่พ้ืนท่ีการใช้สอย ไดร้ ับการกาหนดมาล่วงหนา้ แลว้ ในข้นั ตอนการก่อสร้าง วา่ จะมีก่ีหอ้ งนอน กี่หอ้ งน้ากาหนดใหห้ อ้ งรับแขกอยทู่ ่ีไหน และใชพ้ ้นื ท่ีใดเป็นหอ้ งครัว หรือหอ้ งรับประทานอาหาร แต่จะมีสกั กี่ราย ท่ีสามารถใชพ้ ้นื ท่ีใชส้ อยตามความตอ้ งการ และความจาเป็นก่อนการปลกู สร้าง เพราะส่วนใหญ่ ในการซ้ือบา้ นน้นั มกั จะซ้ือ บา้ นจดั สรร ทาวน์เฮาส์ คอนโดมิเนียม ที่มีการจดั พ้นื ที่ใช้สอยไวล้ ่วงหนา้ แลว้ ถึงแมว้ า่ จะสามารถกาหนดไวไ้ ดล้ ่วงหนา้ แลว้ กต็ าม แต่ในขณะน้นั ความตอ้ งการ และความจาเป็นในการใชพ้ ้นื ท่ีใชส้ อยน้นั อาจไม่เพยี งพอในอนาคต เช่น ในคูส่ ามี-ภรรยาที่แต่งงานกนั ใหม่ หอ้ งนอนจึงใชเ้ พยี งหอ้ งเดียว พ้ืนท่ีใชส้ อยอื่น กท็ าไวส้ าหรับสองคนเท่าน้นั แต่เมื่อครอบครัวขยายข้ึน ความตอ้ งการพ้ืนที่ใชส้ อยจึงเปลี่ยนไป การจดั พ้นื ที่ประโยชนใ์ ชส้ อยภายในอาคารจึงตอ้ งมีการปรับใหเ้ ขา้ กบั บริบทดงั กล่าว โดยพิจารณาปัจจยั ดงั น้ี - ลกั ษณะประเภทอาคารที่พกั อาศยั - การจดั การพ้นื ที่ประโยชน์ใชส้ อย - การกาหนดทางสญั จร - การจดั วางแผนผงั ประโยชน์ใชส้ อยลกั ษณะประเภทอาคารทพี่ กั อาศัย อาคารที่พกั อาศยั คือสถานท่ีอยสู่ ่วนตวั ของบุคคล หรือการอยรู่ วมกนั ของครอบครัว เพื่อการใชช้ ีวติ ในการดารงอยู่ ที่เป็นหน่ึงในปัจจยั สี่ของชีวติ ขนาดของท่ีพกั อาศยั อาจเป็นบา้ น หรือส่ิงก่อสร้างอื่น ๆ ท่ีสามารถแบ่งเป็นประเภทต่าง ๆ คือ 1. คอนโดมิเนียมหรืออาคารชุด เป็นลกั ษณะอาคารสูงหลายช้นั เป็นที่พกั อาศยั ท่ีสามารถอยู่ร่วมกนั ไดห้ ลายครอบครัว มีพ้นื ที่ส่วนกลาง เช่น ทางเดินส่วนกลาง บนั ได ลิฟต์ สระวา่ ยน้า หอ้ งออกกาลงั กาย การก่อสร้างอาคารชุดสามารถทาไดโ้ ดยใชพ้ ้นื ท่ีไม่มาก แต่สามารถอยอู่ าศยั ไดห้ ลายคน จึงทาใหน้ ิยมสร้างในที่ชุมชนหรือในเมืองใหญ่ ที่มีที่ดินจากดั และราคาแพง การจดั พ้ืนที่ภายในอาคารชุดมีส่วยใชส้ อยต่าง ๆ เหมือนบา้ นพกั อาศยั ทว่ั ๆ ไป คือ มีส่วนนอน รับประทานอาหารหอ้ งน้า และพกั ผอ่ น หรือจดั เป็นส่วนเอนกประสงค์ การตกแต่งจะแตกต่างกนั บา้ งที่มีจานวนและขนาดของเคร่ืองเรือน ที่ตอ้ งจากดั เพราะพ้นื ที่นอ้ ย
24 ภาพท่ี 2.1 ลกั ษณะของอาคารชุด และรูปแบบการจดั วางผงั ประโยชนใ์ ชส้ อยการตกแต่งภายใน
25 2. บา้ นเดี่ยว เป็นบา้ นที่มีบริเวณ รอบ ๆ ตวั บา้ นปลูกตน้ ไมห้ รือจดั สวนได้ ตวั บา้ นอาจเป็นขนาดใหญ่หรือขนาดเลก็ การจดั พ้นื ที่ใชง้ านภายในสามารถจดั เป็นส่วนนอน รับประทานอาหารครัวและหอ้ งน้า แต่ถา้ พ้นื ท่ีไม่กวา้ งขวางนกั การจดั ภายในพ้ืนที่ใชส้ อย อาจเป็นลกั ษณะพ้นื ท่ีเอนกประสงคไ์ ด้ ภาพท่ี 2.2 ลกั ษณะของบา้ นเดี่ยว และรูปแบบการจดั วางผงั ประโยชนใ์ ชส้ อยการตกแต่งภายใน
26 3. ทาวน์เฮาส์ เป็นลกั ษณะอาคารท่ีมีการใชผ้ นงั ร่วมกนั ท้งั 2 ดา้ น มีพ้นื ที่ดา้ นหนา้ และดา้ นหลงั บา้ นบา้ งเลก็ นอ้ ย สามารถจดั พ้นื ท่ีใชส้ อยเป็น และสิ่งอานวยความสะดวกพอสมควร เช่นมีหอ้ งนอนหลายหอ้ ง หอ้ งน้าและพกั ผอ่ น พ้ืนที่ภายนอกดา้ นหนา้ สามารถจดั พ้นื ที่เป็นท่ีจอดรถได้ ภาพท่ี 2.3 ลกั ษณะของทาวนเ์ ฮาส์ และรูปแบบการจดั วางผงั ประโยชนใ์ ชส้ อยการตกแต่งภายใน
27การจดั การพนื้ ท่ีประโยชน์ใช้สอย พ้นื ท่ีประโยชน์ใชส้ อย ภายในบา้ น นอกจากจะเปล่ียนตามความจาเป็น ของสภาพครอบครัวแลว้ ส่ิงสาคญั เป็นอยา่ งมากที่จะเป็นตวั กาหนดกค็ ือ \" รสนิยม \" ซ่ึงเป็นตวั กาหนด หลกั -การของการตกแต่งใหอ้ อกมารูปแบบต่าง ๆ เดิมอาจชอบเปิ ดโล่งที่มีพ้ืนที่ต่อเนื่องกนั ไดท้ ้งั บา้ นโดยไม่มีผนงั มาก้นั กลาง ภายหลงั เพื่อความเป็นส่วนตวั มากข้ึน จึงตอ้ งการมีหอ้ งที่มีลกั ษณะปิ ดก้นัจากภายนอก หรือเดิมชอบบา้ นแบบเรียบ ๆ มีของตกแต่งเท่าที่จาเป็น แต่กลบั มาชอบการตกแต่งที่สมบูรณ์แบบ มีภาพแขวนบนผนงั มุมวา่ งจดั วางไวด้ ว้ ยประติมากรรม หนา้ ต่างและประตูทุกบานติดม่านจบั จีบ ซ่ึงความตอ้ งการเหล่าน้ี อาจจะตอ้ งทาใหม้ ีการก้นั หอ้ ง หรือร้ือผนงั ออกไป เพื่อความเหมาะสมของการตกแต่ง ก่อนออกแบบเพ่ือการปรับปรุงพ้นื ที่การใชส้ อยน้นั ควรพิจารณาถึงวธิ ีการอยา่ งง่าย ๆเสียก่อน นน่ั คือ การลองพยายามนึกถึงหอ้ งต่าง ๆ ภายในบา้ นอยา่ งสมั พนั ธเ์ ชื่อมโยงกนั บางทีเพยี งแต่สลบั หอ้ งกนั ระหวา่ งหอ้ งนอน และหอ้ งนงั่ เล่นกอ็ าจจะไดส้ ่ิงที่ตอ้ งการ โดยไม่ตอ้ งสร้างข้ึนมาใหม่ถา้ ตอ้ งการหอ้ งรับแขกท่ีกวา้ งขวาง อาจจะเอาเฟอร์นิเจอร์ท่ีเกินความจาเป็นออกไป หรือจดั กลุ่มเครื่องเรือนใหม่ทาใหเ้ กิดที่วา่ งกวา้ งขวางกวา่ เดิม ขอ้ กาหนดที่สาคญั ในการออกแบบพ้นื ท่ีใชส้ อย กค็ ือ การทาใหเ้ กิดความสมดุลกนั ระหวา่ งความตอ้ งการท่ีขดั แยง้ กนั ของสมาชิกในครอบครัว อยา่ งเช่น มีบางคนตอ้ งการความสงบสาหรับการทางานหรืออ่านหนงั สือ แต่กม็ ีบางคนตอ้ งการพกั ผอ่ นโดยการฟังวทิ ยุ ดูโทรทศั น์ การจดั จะตอ้ งแยกกิจกรรม ท่ีขดั แยง้ ใหแ้ ยกออกจากกนั ไวค้ นละหอ้ ง ที่เกบ็ เสียงได้ ถา้ มีความจาเป็นตอ้ งรวม ท่ีรับแขก โตะ๊ อาหาร และครัวไวใ้ นหอ้ งเดียวกนั กค็ วรทาระบบระบายอากาศ ไวใ้ หถ้ ่ายเทใหด้ ี และติดเครื่องดูดอากาศไวใ้ นครัว อีกส่ิงหน่ึงท่ีตอ้ งคานึงถึง คือ ทางสญั จรภายในบา้ น จะตอ้ งสะดวก ไม่วกวน อีกประการหน่ึงใหน้ ึกถึงความสมั พนั ธ์ ระหวา่ งธรรมชาติภายนอก กบั การใชส้ อยภายในการที่จะใชพ้ ้ืนที่ไหนทาอะไร จะตอ้ งคานึงถึงแสงสวา่ ง ทิศทางลม ตวั อยา่ งเช่น แสงแดดในยามเชา้น้นั ดูน่าสบายในการรับประทานอาหารเชา้ จึงควรจดั หอ้ งรับประทานอาหารใหอ้ ยดู่ า้ นที่แสงแดดส่องเขา้ ถึง หอ้ งพกั ผอ่ นสาหรับครอบครัวควรจะอยใู่ นท่ีอากาศถ่ายเทไดด้ ีสามารถอยอู่ าศยั ไดท้ ้งั วนัจะตอ้ งเป็นหอ้ งที่ไม่ที่เสียง และฝ่ นุ ละอองจากภายนอกแต่ถา้ หลีกเล่ียงไม่ได้ อาจจะตอ้ งใชฉ้ ากหรือม่านก้นั หรือระบบปรับอากาศ
28 ภาพท่ี 2.4 ความสมั พนั ธ์ของการจดั พ้นื ที่ประโยชน์ใชส้ อยและอิทธิพลทางธรรมชาติ
29การกาหนดทางสัญจร ทางสญั จร คือ เสน้ ทางเดิน เป็นไดท้ ้งั ทางเดินเขา้ ออกระหวา่ งหอ้ ง ทางเดินระหวา่ งคนกบัเครื่องเรือน หรือคนเดินสวนกนั การจดั ทางสญั จรตอ้ งพยายามใหท้ างเดินน้นั ๆ ส้นั ที่สุด ตอ้ งไม่เดินออ้ มหรือวกวน ตอ้ งไม่แคบหรือกวา้ งจนเกินไป ทางสญั จรตอ้ งไม่เกะกะ หรือติดขดั จนกลายเป็นทาใหเ้ สียเวลาในการทางาน หรือความไม่คล่องตวั อื่น ๆ ทางสญั จรน้ียงั แยกไดเ้ ป็นทางสญั จรหลกั และทางสัญจรรอง โดยทางสัญจรหลกั จะเป็นทางเดินท่ีกวา้ งสะดวกต่อการใชง้ าน ส่วนทางสญั จรรองจะเป็นทางเดินในส่วนยอ่ ย หรือส่วนติดต่อหน่วยยอ่ ย ๆ อยา่ งไรกต็ ามการจดั พ้นื ท่ีทางเดินน้ี ตอ้ งพิจารณาจากพ้นื ที่ส่วนรวมท้งั หมด วา่ ประกอบดว้ ยส่วนใชง้ านอะไรบา้ ง และจดัพ้ืนท่ีทางสญั จรใหเ้ หมาะสมกบั การใชง้ าน (นภาพรรณ, 2554 : 9) ภาพที่ 2.5 ตวั อยา่ งการจดั เสน้ ทางสญั จรที่ไม่เหมาะสมในพ้นื ที่หอ้ งรับแขกแบบที่ 1 ภาพท่ี 2.6 ตวั อยา่ งการจดั เสน้ ทางสญั จรที่ไม่เหมาะสมในพ้ืนท่ีหอ้ งรับแขกแบบที่ 2
30 ภาพท่ี 2.7 ตวั อยา่ งการจดั เสน้ ทางสญั จรที่เหมาะสมในพ้นื ท่ีหอ้ งรับแขก
31การจัดวางแผนผงั ประโยชน์ใช้สอย ในแต่ละพ้นื ท่ีจะมีขนาดและรูปร่างแตกต่างกนั ข้ึนอยกู่ บั โครงสร้างและองคป์ ระกอบของอาคาร ดงั น้นั จึงตอ้ งมีการออกแบบแต่ละพ้นื ท่ีใหม้ ีความเหมาะสมต่อการใช้ ภาพท่ี 2.8 แนวการออกแบบพ้ืนท่ีประโยชน์ใชส้ อย แบบท่ี 1
32 ภาพที่ 2.9 แนวการออกแบบพ้นื ท่ีประโยชน์ใชส้ อย แบบท่ี 2
33ภาพที่ 2.10 แนวการออกแบบพ้นื ที่ประโยชนใ์ ชส้ อย แบบที่ 3
34 ภาพที่ 2.11 แนวการออกแบบพ้นื ท่ีประโยชน์ใชส้ อย แบบท่ี 4
35ระยะการจดั วางและขนาดสัดส่วนเครื่องเรือน การออกแบบตกแต่งภายในจะตอ้ งมีการเวน้ ระยะและขนาดสดั ส่วนของเคร่ืองเรือน เพ่อื ให้เกิดประสิทธิภาพในการใชส้ อยและความสะดวกสบายดงั ภาพท่ี 2.12 – 2.16 ภาพท่ี 2.12 ระยะและขนาดสดั ส่วนของเคร่ืองเรือนในหอ้ งรับแขก
36 ภาพที่ 2.13 ระยะและขนาดสดั ส่วนของเคร่ืองเรือนในหอ้ งครัว
37 ภาพที่ 2.14 ระยะและขนาดสดั ส่วนของเคร่ืองเรือนในหอ้ งทางานภาพที่ 2.15 ระยะและขนาดสดั ส่วนของเครื่องเรือนในบริเวณทางานและรับแขก
38 ภาพที่ 2.16 ระยะและขนาดสดั ส่วนของเคร่ืองเรือนในหอ้ งน้า
39สรุป การจดั พ้นื ที่ประโยชนใ์ ชส้ อยภายในอาคาร มีบทบาทสาคญั ในการกาหนดคุณภาพ และลกั ษณะในการจดั ตกแต่งภายในที่วา่ ง ซ่ึงจะตอ้ งคานึงผลท่ีเกิดข้ึน เช่น การจดั วางชุดรับแขก 4 ชิ้นที่ประกอบดว้ ยโซฟายาว เกา้ อ้ีนวมอีกสองตวั และโตะ๊ กลางหน่ึงตวั ซ่ึงจดั ไดล้ งตวั และสวยงามในหอ้ งที่กวา้ งขวาง แต่ถา้ หอ้ งที่มีขนาดเลก็ กค็ วรใชเ้ ฟอร์นิเจอร์สมยั ใหม่ ท่ีออกแบบใหเ้ หมาะสมกบัการประหยดั ของพ้ืนท่ี และใหบ้ รรยากาศที่โปร่งใล่งกบั หอ้ งท่ีมีขนาดเลก็ ไดม้ ากกวา่ และสามารถเคล่ือนยา้ ยไดง้ ่าย และเม่ือสามารถกาหนดบทบาทหนา้ ที่ของหอ้ งไดแ้ ลว้ จึงนาบทบาทน้นั มาเป็นตวั กาหนดตาแหน่งของหอ้ ง วา่ ควรวางจุดใดของบา้ น รวมท้งั การกาหนดเสน้ ทางการสญั จร เพื่อประโยชนใ์ ชส้ อยในการเขา้ ถึงยงั ส่วนต่าง ๆ ของพ้ืนท่ีไดอ้ ยา่ งคล่องตวั และเหมาะสมคาถามทบทวน 1. การจดั พ้นื ท่ีประโยชน์ใชส้ อยภายในอาคารมีปัจจยั ที่ตอ้ งพจิ ารณาอะไรบา้ ง 2. คอนโดมิเนียมหรืออาคารชุด มีลกั ษณะอยา่ งไร 3. บา้ นเด่ียวและทาวน์เฮาส์มีลกั ษณะแตกต่างกนั อยา่ งไร 4. ก่อนออกแบบเพ่อื การปรับปรุงพ้ืนที่การใชส้ อยน้นั ควรพิจารณาถึงอะไรบา้ ง 5. ขอ้ กาหนดท่ีสาคญั ในการออกแบบพ้นื ที่ใชส้ อยคืออะไร พร้อมยกตวั อยา่ ง 6. ความสมั พนั ธ์ ระหวา่ งธรรมชาติภายนอก กบั การใชส้ อยภายใน มีความสมั พนั ธก์ นั อยา่ งไร 7. ทางสญั จร คือ อะไร สาคญั อยา่ งไร 8. ทางสญั จร แบ่งเป็นก่ีประเภท 9. ระยะการจดั วางและขนาดสดั ส่วน ของโซฟา 2 ที่นงั่ มีระยะและสดั ส่วนอยา่ งไร 10. ระยะห่างระหวา่ งโซฟากบั โตะ๊ กลางมีขนาดเท่าไหร่
40 เอกสารอ้างองินภาพรรณ สุทธพนิ ทุ (2549). ปฏิบตั ิการออกแบบตกแต่งภายใน 1. กรุงเทพฯ : สมาคมส่งเสริม เทคโนโลยี (ไทย-ญี่ป่ ุน).วฒั นะ จูฑะวภิ าต. (2554). ศิลปะการออกแบบตกแต่งภายใน. พิมพค์ ร้ังที่ 3. กรุงเทพฯ : พิมพด์ ี.Cohen, J. (2011). Color Coordination for Interiors: Home Color Design. Boston: McGraw Hill.Daniel, K. (2008). Home Quick Planner. London : Thames and Hudson Ltd .Ellis, T. (2010). Interior Design: Decorating Ideas for Every Room. Boston: McGraw Hill.Maureen, M. (2012) Interior Design Visual Presentation: A Guide to Graphics Models and Presentation Techniques. London: Marshell Cavendish.Stotkis, J. (2012). Foundations of Interior Design. London : Oxford University Press.
บทท่ี 3 รูปด้านและการเขยี นแบบ สิ่งที่ส่ือถึงความคิดการออกแบบตกแต่งภายในใหอ้ อกมาเป็นรูปธรรม คือ การเขียนแบบ ท่ีจะมีส่วนประกอบของรูปดา้ นประเภทต่าง ๆ คือ ผงั พ้ืน(Plan) รูปดา้ น(Elevation) รูปตดั (Section)และส่วนขยายรายละเอียด (Details) โดยจะเป็นการสื่อสารระหวา่ งผอู้ อกแบบและบุคคลอ่ืน ๆ ที่เกี่ยวขอ้ ง ไม่วา่ จะเป็นผรู้ ับเหมาตกแต่ง ช่าง และเจา้ ของบา้ น เพื่อใหเ้ กิดความเขา้ ใจในรายละเอียดของการออกแบบที่ตรงกนัผงั พนื้ (Plan) ผงั พ้ืน หมายถึง รูป 2 มิติที่เกิดจากมุมมองที่มองจากดา้ นบนในแนวดิ่ง ทามุมกบั พ้ืน 90องศา และ โดยปกติอยทู่ ี่ระดบั ท่ีสูงจากพ้นื ในระยะความสูง ประมาณ 90 – 150 เซนติเมตร แสดงแต่ความกวา้ งและความยาวเป็นขนาดอตั ราส่วนท่ีสามารถอา้ งอิงระยะตามเสน้ บอกขนาด ไม่แสดงความสูง บางคร้ังอาจใชค้ าวา่ รูปดา้ นบน (Top View) ภาพท่ี 3.1 แสดงรูปแบบของผงั พ้นื
44 ภาพท่ี 3.2 ผงั พ้นื ท่ีมีรายละเอียดของการจดั วางประโยชนใ์ ชส้ อยของพ้ืนท่ีและรายละเอียดอ่ืน ๆ
45รูปด้าน (Elevation) รูปดา้ น หมายถึง รูป 2 มิติที่เกิดจากมุมมองท่ีมองจากดา้ นขา้ ง ทามุมกบั สายตา 90 องศาส่วนใหญ่ประกอบดว้ ยสี่ดา้ น คือ รูปดา้ นหนา้ (Front View) รูปดา้ นหลงั (Back View) รูปดา้ นซา้ ย(Left View) และรูปดา้ นขวา (Right View) แต่โดยส่วนใหญแ่ ลว้ จะใชเ้ ป็นสญั ลกั ษณ์อกั ษรภาษาองั กฤษ A, B, C.. เช่น Elevation A, Elevation B, Elevation C ฯลฯ เป็นตน้ เพราะในพ้นื ที่หน่ึงอาจประกอบมากกวา่ 4 ดา้ น ภาพท่ี 3.3 ลกั ษณะของรูปดา้ นและตวั อยา่ งการเขียนแบบ
46รูปตัด (Section) รูปตดั หมายถึง รูป 2 มิติ ท่ีเกิดจากการตดั ส่วนท้งั หมด หรือ ส่วนใดส่วนหน่ึงของพ้ืนที่หรือของวตั ถุ โดยการตดั ดว้ ยระนาบเดียว หรือหลายระนาบ เพอ่ื ใหเ้ ห็นส่วนของรายละเอียดองคป์ ระกอบของอาคาร เช่น รูปตดั ผนงั รูปตดั พ้ืน รูปตดั เพดาน และในบางกรณี ในการเขียนรูปดา้ นของอาคาร 2 ช้นั ข้ึนไป นิยมที่จะเขียนรูปดา้ นรวมของทุกช้นั เป็นรูปตดั ภาพที่ 3.4 ลกั ษณะของรูปตดั และตวั อยา่ งการเขียนแบบ
47ส่วนขยาย รายละเอยี ด (Details) ส่วนขยาย รายละเอียด คือ การขยายภาพในบางส่วนของรูปดา้ น รูปตดั ใหม้ ีขนาดใหญ่ข้ึนในมาตราส่วน ที่มากข้ึน พร้อมใหร้ ายละเอียดของส่วนท่ีขยายดว้ ย แต่โดยส่วนมากมกั จะเขียนขยายเป็นรูปตดั เพราะมีรายละเอียดท่ีตอ้ งขยายใหช้ ดั เจน ภาพท่ี 3.5 ลกั ษณะการเขียนแบบส่วนขยายของรายละเอียดของรูปตดั
48 ภาพที่ 3.5 ลกั ษณะของส่วนขยายรายละเอียดบนั ไดเส้นทใี่ ช้แทนสัญลกั ษณ์ในการเขยี นแบบ ในงานการเขียนแบบจะสงั เกตเห็นไดว้ า่ จะมีการใชเ้ สน้ รูปแบบต่าง ๆ เพราะขนาดและลกั ษณะของเสน้ เป็นเคร่ืองบ่งบอกใหท้ ราบความหมายในการเขียนแบบ ซ่ึงมีอยหู่ ลายรูปแบบและความหมายดงั น้ี 1. เส้นขอบนอก (Border Line) เป็นเสน้ ที่ใชเ้ ขียน ส่วนท่ีเป็นขอบนอก เช่น กรอบกระดาษเป็นเสน้ หนามาก 2. เส้นภาพ (Object Line) เป็นเสน้ ท่ีใชเ้ ขียนแทน ส่วนที่เป็นตวั วตั ถุ หรือรายละเอียดทวั่ ไปเป็นเสน้ หนา 3. เส้นประ (Hidden line) เป็นเสน้ ท่ีใชเ้ ขียนแทน ส่วนที่มองไม่เห็น ซ่ึงถูกบงั อยภู่ ายในหรือส่วนที่จะร้ือถอน 4. เส้นศูนย์กลางและเส้นแกน (Center and Axis Line) เป็นเสน้ ท่ีใชเ้ ขียนแบบเพอ่ื บอกระยะก่ึงกลางของวตั ถุ หรือรัศมีวงกลม เป็นเสน้ ลกู โซ่
49 5. เส้นบาง เป็นเสน้ ที่มีความบางกวา่ เสน้ หนา เพ่อืใชใ้ นการฉายมายงั เสน้ มิติ เส้นแกน และเสน้ อา้ งอิงจะใชเ้ สน้ขนาดน้ี 6. เส้นสลบั ฟันปลา (Zigzag line) เป็นเสน้ ท่ีบางช่วงตดั ตอนหรือต่อกนั ดว้ ยเสน้ สลบั ฟันปลา เพือ่ บอกถึงการตดัตอนและต่อเน่ือง 7. เส้นกากบั ใชเ้ สน้ ลกู โซ่หรือเสน้ เตม็ บางโดยมีวงกลมไวท้ ่ีปลายเสน้สัญลกั ษณ์ท่ใี ช้ในการเขียนแบบ สญั ลกั ษณ์ คือสิ่งท่ีใชใ้ นการออกแบบเพือ่ อธิบายรายละเอียดต่าง ๆ ของอาคาร หรือเคร่ืองเรือนใหค้ นทวั่ ไปไดร้ ู้ ก่อนเริ่มการเรียนรู้กบั ภาพลกั ษณะต่าง ๆ เพอื่ การใชส้ ญั ลกั ษณ์ในการเขียนแบบ และก่อใหเ้ กิดความเขา้ ใจตรงกนัตารางท่ี 3.1 สญั ลกั ษณ์และความหมายในการเขียนแบบ ความหมาย สัญลกั ษณ์ เสน้ แบ่งคร่ึง ท่ีทุก ๆ ระยะ ทิศทางท่ีมอง
50 ความหมาย สัญลกั ษณ์ ทิศเหนือ เสน้ ระดบั ดิน เสน้ ระดบั น้า บนั ได ทางลาด ระดบั เดิมในแปลน ระดบั เดิมในรูปตดั ระดบั ท่ีตอ้ งการในอปลน ระดบั ท่ีตอ้ งการในรูปตดั บริเวณปลกู ตน้ ไม้ สนามหญา้
สัญลกั ษณ์ 51 ความหมาย ตน้ ไมย้ นื ตน้ คอนกรีตหล่อ ไมอ้ ดั ไมจ้ ริง คอนกรีตปูกระเบ้ือง ผนงั ก่ออิฐโชวแ์ นว ผนงั คอนกรีตบลอ็ ก ผนงั หินกาบ ผนงั หินอ่อน ไมพ้ มุ่ เต้ีย ไมค้ ลุมดิน
52 ความหมาย สัญลกั ษณ์ โคมไฟเพดาน โคมไฟผนงั เดี่ยวและคู่ สวติ ชไ์ ฟ ปลกั๊ ไฟ ฟลูออเรสเซนต์ เคร่ืองปรับอากาศ โซฟายาว เกา้ อ้ีเทา้ แขนเด่ียว ตเู้ ต้ียมีอ่างลา้ ง ตเู้ ยน็ เตาแก๊ส
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185