บันทึกผลหลงั การจดั การเรยี นรู้ 1. ผลการจดั การเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ปญั หา/อปุ สรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. ขอ้ เสนอแนะและแนวทางการแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ …………………………………………..ครูผู้สอน (นางสาววิภาพร ทพิ ราช) นกั ศกึ ษาฝึกประสบการณว์ ิชาชีพครู ความคิดเห็นของครพู ีเ่ ลีย้ ง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื …………………………………………..ครูพ่เี ล้ียง (นายพันศกั ด์ิ เส็งสุวรรณ) ครูวิทยาฐานะครชู านาญการพเิ ศษ ความคดิ เห็นของรองผู้อานวยการสถานศึกษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………………………………..ผู้ตรวจ (นางทพิ มาศ ดวงจันทราศิร)ิ รองผู้อานวยการสถานศึกษาโรงเรยี นวัดมะลิ ความคิดเหน็ ของผอู้ านวยการสถานศกึ ษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………………………………..ผู้บริหารสถานศึกษา (นางสาวดรณุ ี เทพา) ผ้อู านวยการสถานศึกษาโรงเรียนวัดมะลิ
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 7 รหัสวิชา 14101 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ศิลปะ สาระ ทัศนศิลป์ หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 3 การเขยี นภาพระบายสโี ปสเตอร์ ภาคเรยี นท่ี 2 เรือ่ ง การไลค่ ่าน้าหนกั สผี สมขาว จานวน 1 คาบ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 4 เวลา 1 ช่วั โมง สอนเมอ่ื วันท…่ี ……….เดือน……………………….พทุ ธศักราช…………. ครูผู้สอน วภิ าพร ทิพราช 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ศ 1.1 สรางสรรค์งานทัศนศิลปตามจินตนาการ และความคิดสรางสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์คุณคางานทัศนศิลป ถายทอดความรูสึก ความคิดตองานศิลปะอยางอิสระ ชื่นชม และประยกุ ต์ใชใ นชีวติ ประจาวนั 2. ตวั ช้วี ัด ศ 1.1 ป. 4/5 มที กั ษะพ้นื ฐานในการใชวสั ดุ อปุ กรณส์ รางสรรคง์ านวาดภาพระบายสี 3. สาระสาคัญ เพอื่ ใหเขาใจขบวนการการระบายสีดวยคา นา้ หนักสีผสมขาว และสามารถบอกคาน้าหนักสีผสม ขาวไดถูกตองตามหลกั การการไลส ี ซึ่งเฉดสีการผสมขาวจะมคี วามเขม – ออน แตกตา งกัน ทาใหเกิด เฉดสหี ลายสี สามารถผสมสี คาน้าหนักสีผสมขาวและไลคาน้าหนักผสมขาวมีความแตกตางกันชัดเจนในแต ระดับสี ซึ่งจะไลคาน้าหนักจากอเขมไปออน เพราะคาน้าหนักสีผสมขาวเป็นการเติมสีขาวใน อตั ราสว น20 % ลงในสีแท (Hue) จากน้นั ผสมกันแลวใหระบายลงในกระดาษ จากนั้นใหเ ตมิ สีขาวใน อัตราสวน 20 % ลงในสีเดิมอีกคร้ัง ผสมใหเขากันจากนั้นนาไประบายลงในกระดาษเพ่ือไลระดับสี สามารถเติมสีขาวและระบายเชน นไ้ี ปเร่ือยๆ ได โดยระดบั นา้ หนักความออ นท่เี ห็นความเปล่ียนแปลง ไดชัดอยูในระดบั ที่ 3 - 6 ระดับและจะปรากฏคานา้ หนกั ความเขม -ออน 4. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 4.1 ด้านความรู้ (K) เพอ่ื ใหน กั เรยี นสามารถบอกคาน้าหนกั สผี สมขาวได
4.2 ด้านทกั ษะ (P) เพ่อื ใหนกั เรยี นสามารถผสมสีไลค า น้าหนกั สผี สมสีขาวได 4.3 ด้านคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ (A) 1) มีวินยั (เขาชั้นเรยี น, มคี วามรบั ผิดชอบตองานทไี่ ดร บั มอบหมาย) 2) มุง ม่ันในการทางาน (เอาใจใสตอ การปฏบิ ัติหนา ท่ที ่ีไดร ับมอบหมาย, พยายาม แกป ญั หาและอุปสรรคในการทางานใหสาเรจ็ ) 5. สาระการเรยี นรู้ การผสมสี คานา้ หนกั สีผสมขาวจนเกดิ เป็นเฉดสีหลายสี 6. สมรรถนะทีส่ าคญั 6.1 ความสามารถในการคิดอยา งสรา งสรรค์ 6.2 ความสามารถในการใชเ หตุผลในการคดิ ดว ยตนเอง 6.3 ความสามารถในการแกปญั หาเฉพาะหนาไดดว ยตนเอง 7. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 7.1 มีวนิ ัย 7.2 ใฝุเรยี นรู 7.3 มุงมัน่ ในการทางาน 7.4 มจี ติ สาธารณะ 8. กระบวนการการจดั กิจกรรมการเรยี นรแู้ บบซปิ ปา ขั้นนา (5 นาที) 8.1 ครกู ลา วทกั ทายนกั เรยี น 8.2 ครูอธิบายสง่ิ ที่ตองเรยี นในสปั ดาห์นใี้ หน ักเรยี นทราบเก่ียวกบั การไลคานา้ หนักสีผสมขาว 8.3 ครใู หนักเรียนนงั่ เป็นกลมุ โดยใหนงั่ ตามกลมุ เดมิ เหมอื นกบั กิจกรรมในครั้งแรก มีทั้งหมด 5 กลุม จานวนกลุมละ 3 คน สมาชิกในกลุมประกอบดวยนักเรียนที่จัดอยูในกลุมเกง ปานกลาง และกลมุ ออ น ขน้ั ท่ี 1 การทบทวนความร้เู ดมิ 8.4 ครูสอบถามนักเรียน “หากนาสีขาวมาผสมกับสีใดสีหน่ึง จะทาใหสีนั้นมีลักษณะอยางไร” (พิจารณาตามคาตอบของนักเรยี น โดยใหอยใู นดุลยพนิ จิ ของครูผสู อน) เพื่อกระตุนใหผูเรียนรูจักคิดและ เปน็ การทบทวนความรูเดิมที่เคยไดเ รียนมา เพื่อเช่อื มโยงเขาสูเน้ือหาความรูเกี่ยวกับการเขียนการไลคา นา้ หนกั สีผสมขาว
ขั้นสอน (50 นาที) ขน้ั ท่ี 2 การแสวงหาความร้ใู หม่ 8.5 ครใู หน กั เรียนดวู งจรสีที่ไลคา นา้ หนักสผี สมขาวแสดงเฉดสหี ลายเฉดสี 8.6 ครูแจกใบความรูแลวใหนักเรียนอานเพื่อทาความเขาใจในสวนของคาน้าหนักสีผสมขาว คืออะไร ภาพที่ 1 : วงจรสี ไลคานา้ หนักสผี สมขาว ที่มา : วภิ าพร ทพิ ราช ขน้ั ที่ 3 การศกึ ษาทาความเข้าใจข้อมลู /ความรู้ใหม่ และเช่อื มโยงความรใู้ หม่กบั ความรู้เดิม 8.7 ครูใหนักเรียนตอบคาถามเมื่อนาสีขาวมาผสมกับสีใดสีหน่ึงสีนั้นจะเปล่ียนคาสีใหออนลง จากเดิม เนื่องจากเป็นสีทม่ี คี วามสวางและออนทสี่ ุด ขนั้ ท่ี 4 การแลกเปลย่ี นความรคู้ วามเขา้ ใจกับกลุ่ม 8.8 จากน้ันครใู หน ักเรียนแตล ะกลุม ทดลองใชสีชอรก์ โดยเลือกสีใดสีหนึ่งระบายลงในกระดาษ แลว ใชสีขาวทาทับลงไปโดยคอ ยๆ ออกแรงกดสไี ลระดบั สขี นึ้ ไป จากน้นั ใหน กั เรยี นสงั เกตคา นา้ หนักสี 8.9 สมาชิกแตล ะคนในกลุมผลัดกันเสนอคาตอบของตนเองใหเพื่อนในกลุมฟัง แลวซักถามขอ สงสัย จนทกุ คนในกลมุ มคี วามรคู วามเขาใจท่ถี กู ตองตรงกัน 8.10 ครูใหตัวแทนนักเรียนแตละกลุมนาเสนอคาตอบหนาช้ันเรียนและแสดงความคิดเห็น รว มกัน ขน้ั ท่ี 5 การสรุปและจัดระเบยี บความรู้ 8.11 ครูอธบิ าย สีขาว เป็นสีท่ีมีเน้ือสีออนและสวาง สวนสีแท (Hue) คือ สีท่ีมีความเขมในตัว ของมนั อยแู ลวโดยทย่ี งั ไมถกู ผสมกบั สีดาหรอื สีขาว เมื่อนาสีขาวมาผสมกบั สแี ทจะทาใหสีแทออนลง 8.12 ครูเปดิ คลปิ วิดโี อการไลค าน้าหนักสีผสมขาวใหนักเรียนดูและอธิบายสีขาวจะลดความสด ของสีลงมากกวาสหี ลกั
คลิปวดิ ีโอข้นั ตอนการไลค่ ่านา้ หนักสีผสมขาว ท่ีมา : https://www.youtube.com/watch?v=dyNDAOA0MZ4&t=203s 8.13 ครูสาธติ และอธิบายการไลค า นา้ หนักสีผสมขาว ยกตัวอยางสีมว งใหนักเรยี นดู วัสดุ อปุ กรณ์ - ถาดสี - กระบอกเติมน้า - สีโปสเตอร์แมส ี 3 สี - สีขาว - พูกัน - กระดาษ - เศษผา - ผากันเปอื้ น - เทปกาวกันนา้ การระบายสคี วรระบายสใี หระบายไปในทิศทางเดียวกนั หรือปาดซา ย-ขวา ไปมา ไมค วรนาพูกัน จุมน้าขณะระบายสีเดิมอยูเพราะจะทาใหสีเพี้ยนสีสีดาง ไมควรปวดสีตัดกันไปมาเพราะจะทาใหสีเกิด เสนตดั กันและสไี มสม่าเสมอกนั มากกวา ข้นั ตอนการไลค า นา้ หนักสผี สมขาว ยกตัวอยางสีมว ง 1. ใหนาเทปกาวกนั นา้ ตดิ ขอบรอบนอกส่เี หล่ยี ม 2. ผสมสมี วง และระบายลงในชอ งสเ่ี หลยี่ มชองท่ี 1 3. เติมสขี าวอัตราสว น 20 % ลงในถาดสีมว ง คนใหเขากนั 4. นาสีทผี่ สมแลวมาระบายลงในชอ งส่เี หล่ยี มชองท่ี 2 5. ใหทาเชนน้จี นครบทกุ ชอ ง ใหนักเรียนสังเกตความแตกตางของสีในแตละระดับ สีขาวจะลดความเขมของสีลง สหี ลัก ระดับนา้ หนักความออ นทเี่ ห็นความเปลยี่ นแปลงไดชดั อยูใ นตั้งแต 3 - 6 ระดับ ค่านา้ หนักสผี สมขาว ที่มา : วภิ าพร ทพิ ราช
ขนั้ ท่ี 6 การปฏิบัติ และ/หรือการแสดงผลงาน 8.14 ครูใหนกั เรียนทากิจกรรมใบงานที่ 3.3 เรื่อง การไลคาน้าหนักสีผสมขาว โดยใหนักเรียน เลอื กสี 1 สี จากน้นั ผสมสี ไลค า น้าหนักสีผสมขาวลงในชอ งสเี หลี่ยมทกี่ าหนดให 8.15 ครูเปิดโอกาสใหนักเรียนซักถาม จากนั้นใหนักเรียนทากิจกรรมและครูคอยเดินดูและให คาแนะนา 8.16 ครูใหสุมนักเรียนออกมานาเสนอผลงานหนาช้ันเรียน พรอมบอกปัญหาท่ีพบขณะ ปฏบิ ัติงาน ขนั้ ที่ 7 การประยกุ ตใ์ ชค้ วามรู้ 8.17 ครูใหนักเรียนหาขอมูลการไลคาน้าหนักสีผสมขาวสามารถนามาสรางงานทัศนศิลปได หรือไม พรอมยกตัวอยางประกอบ (พิจารณาตามคาตอบของนักเรียน โดยใหอยูในดุลยพินิจของ ครูผสู อน) ข้ันสรุป (5 นาที) 8.18 ครูสรุปเน้ือหาเรื่อง “การไลคาน้าหนักสีผสมขาว” รวมกับนักเรียนและใหนักเรียนเก็บ อุปกรณ์ใหเรียบรอ ย 9. การวดั และประเมนิ ผล 9.1 เรอื่ ง การไลค านา้ หนักสผี สมขาว (10 คะแนน) ประเด็นการ 5 เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ประเมนิ - 4 3 2 10 - -นักเรียนบอก -นักเรียนบอก -นักเรียนบอก -ไม ด้านความรู้ (K) คานา้ หนักสผี สม คา น้าหนักสีผสม ค า น้ า ห นั ก สี สามารถ -เพื่อใหนักเรียน ขาวถูกตอง ทุก ขาวถูกตอง 2 ผสมขาวถกู ตอ ง บอกได สามารถบอกคา ขอ จาก 3 ขอ ขอ จาก 3 ขอ 1 ขอจาก 3 ขอ -ไมมา น้าห นักสีผส ม ขาวได เรยี น ด้านทกั ษะ -สามารถไลคา -ส า ม า ร ถ ไ ล ค า -สามารถไลคา -สามารถไลคา -สามารถไลคา -ไมสง (P) น้าห นักสีผส ม น้าห นักสีผส ม น้าห นักสีผส ม น้าห นักสีผส ม น้าหนักสีผสม งาน -เพื่อใหนักเรียน ขาวเห็นระดับ ขาว เห็นระดับ ขาว เห็นระดับ ขาว เห็นระดับ ขาว เห็นระดับ -ไมมา สามารถผสมสี น้าห นักค วา ม น้าห นักค วา ม น้าห นักค วา ม น้าห นักค วา ม น้าหนักความ เรียน ไลคาน้าหนักสี อ อ น เ ป ล่ี ย น อ อ น เ ป ลี่ ย น อ อ น เ ป ลี่ ย น อ อ น เ ป ล่ี ย น อ อ น เ ป ลี่ ย น ผสมสีขาวได แปลงทุกระดับ แปลง 5 ระดับ แปลง 4 ระดับ แปลง 3 ระดับ แ ป ล ง 1-2 จาก 6 ระดบั จาก 6 ระดับ จาก 6 ระดบั ระดับ จาก 5 จาก 6 ระดับ -ก ร ะ ด า ษ ไ ม -กระดาษเป็นขุย -กระดาษเป็นขุย ระดบั -ก ร ะ ด า ษ ไ ม
เ ป็ น ขุ ย แ ล ะ สี เ ป็ น ขุ ย แ ล ะ สี เ ล็ ก น อ ย แ ต สี เล็กนอยและสี -ก ร ะ ด า ษ ไมชา้ ไมช ้า ไมช้า ชา้ เล็กนอ ย เป็นขุยจานวน -สีไมกระจายใน -สีไมกระจายใน -สีไมกระจายใน -สีกระจายลงใน มากและสีช้า ชอ งระดบั สีอน่ื ชอ งระดับสอี น่ื ชองระดับสีอื่น ชอ งระดับสีอ่นื มาก -รูปแบบผลงาน -รูปแบบผลงาน -รูปแบบผลงาน -รูปแบบผลงาน -สีกระจายลง ส ะ อ า ด ส ะ อ า ด ส ะ อ า ด ส ะ อ า ด ในชองระดับสี เ รี ย บ ร อ ย เ รี ย บ ร อ ย เ รี ย บ ร อ ย เรียบรอย แตไม อนื่ จานวนมาก สมบูรณ์ สมบูรณ์ สมบรู ณ์ สมบรู ณ์ -รปู แบบผลงาน สะอาด แตไม สมบูรณ์ ดา้ นจิตพิสัย - - - -เ ข า ช้ั น เ รี ย น -เขาช้ั นเรีย น ไมเขา (A) ช้นั -มีวนิ ยั แ ล ะ มี ค ว า ม แตไมมีค วาม เรยี น -มงุ มั่นในการ ทางาน มุ ง มั่ น ใ น ก า ร มุง ม่ั นใน กา ร ทางาน ทางาน เกณฑ์การประเมนิ คะแนน ประเมิน 9 - 10 ดี 7-8 5–6 ปานกลาง นอ ย 10. สือ่ อุปกรณ์และแหลง่ การเรียนรู้ สื่อการเรียนรู้ 1. วงจรสี คา นา้ หนักสผี สมขาว 2. ใบความรู อปุ กรณ์ - ใบงาน - สโี ปสเตอร์/พูกัน/ถาดสี/กระบอกเตมิ น้า/ผา กนั เปือ้ น - ดินสอ/ยางลบ แหลง่ การเรยี นรู้ 1. หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน ทัศนศิลป กลุมสาระการเรียนรูศิลปะ ระดับช้ัน ประถมศึกษาปีท่ี 4 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พนื้ ฐาน พ.ศ. 2551
2. เวบ็ Pinteres 3. Youtube
ใบงานท่ี 3.3 เร่ือง การไลค่ ่าน้าหนกั สีผสมขาว ตอนท่ี 1 คาชี้แจง : ให้นกั เรยี นเติมเครือ่ งหมาย หรือ ลงใน ใหถ้ ูกต้อง 1. การไลคานา้ หนกั สผี สมขางใหเตมิ สีขาวอัตราสวน 20 % 2. ระดบั นา้ หนักความออนท่ีเหน็ ความเปล่ียนแปลงไดช ัดอยูในระดบั ที่ 1 ระดับ เทานนั้ 3. จากภาพวงจรสีเป็นการไลค า น้าหนักสี ผสมดา ตอนที่ 2 คาชแี้ จง : ให้นักเรียนเลือกสีแท้ (Hue) 1 สี จากนั้นไล่ค่าน้าหนักสี ผสมขาว ให้มีน้าหนัก ความ อ่อนลงเหน็ ความเปลีย่ นแปลงทุกระดบั ชื่อ……………………………………………..นามสกุล………………………………….เลขท…ี่ …………ช้นั ……………
ลั ก ษ ณ ะ สี จ า แ น ก ไ ด เ ป็ น 3 ประเภท ไดแก สีเขม (Shade) สี แ ท (Hue) แ ล ะ สี อ อ น (Tint) ยกตวั อยา งสีสม ดงั นี้ 1. สเี ขม้ (Shade) ไดแ ก สีท่ีผสมกบั สีดาหรอื สที เี่ ขม กวา สีแท สีดาจะเพิ่มน้าหนกั ของสีที่ถกู ผสมใหเ ขมข้ึน 2. สีแท้ (Hue) ไดแ ก สีที่มคี วามเขม ซ่ึงเป็นคุณสมบตั ิ แทๆ โดยตวั ของมันเอง ไมถูกผสมดว ยสีดาหรือขาว 3. สีอ่อน (Tint) ไดแ ก สที ผ่ี สมกับสขี าวเพอ่ื ลดความเขม ของสี ทาใหน า้ หนกั ของสีแททถี่ ูกผสมออนลง
แบบประเมนิ ใบงาน เคร่อื งมือ หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่………….เร่อื ง……………………………………………………………………ช้ัน……………….. คาช้ีแจง : ใหครผู ูสอนประเมนิ ใบงานของนักเรียนแลวใหทาเครื่องหมาย ลงในชอ งท่ีตรงกับ ระดบั คะแนน ลาดบั ท่ี ลาดับท่ี -เพื่อให้นกั เรยี น -เพอื่ ใหน้ กั เรยี น ความมุ่งม่นั รวม 10 ชอ่ื – สกลุ สามารถบอกค่า สามารถผสมสไี ล่ ในการ คะแนน นา้ หนักสีผสมขาว ค่านา้ หนกั สผี สมสี ทางาน ได้ ขาวได้ 2 10 2101 0 1 ด.ญ. วรสรณ์ ขาวิจติ ราภรณ์ 2 ด.ญ. ปิยนุช แสงทวปี 3 ด.ญ. พีรดา ชาญเช่ยี ว 4 ด.ช. พชรพล สบื สาย 5 ด.ช. ธัญเทพ ฐานวิริยฐากุล 6 ด.ญ. จิรวรรณ์ อัศวเดชานกุ ร 7 ด.ญ. ทพิ ภาภรณ์ แขกแปลก 8 ด.ญ. ทพิ านันท์ ไชยนัด 9 ด.ช. อคั รเดช มว งทวี 10 ด.ช. สหรฐั อิ่มสมโภชน์ 11 ด.ช. รชั ชานนท์ เจริญทรัพย์ 12 ด.ช. กษิด์ิดิษฎ์ กันแกว 13 ด.ช. กองภพ กอ นแกว 14 ด.ช. ณฐั วุธ มจี าด 15 ด.ญ. โฮซันนา มั่นหมาย 16 ด.ช. เหรียญชัย เฉิน 17 ด.ญ. ลลดา ทองเรือง ลงชื่อ...................................................ผปู้ ระเมิน (…………………..…………………………..) .................../................../................
แบบประเมนิ ใบงาน เครือ่ งมอื หน่วยการเรียนรทู้ ่ี………….เร่อื ง……………………………………………………………………ชนั้ ……………….. คาชี้แจง : ใหครผู ูสอนประเมินใบงานของนักเรยี นแลวใหทาเครื่องหมาย ลงในชอ งทีต่ รงกับ ระดบั คะแนน ลาดบั ท่ี ลาดบั ที่ เพ่อื ใหน้ กั เรียน -นกั เรียนบอกค่า ความมุ่งมนั่ รวม 10 ชอ่ื – สกุล สามารถบอกคา่ นา้ หนักสผี สมขาว ในการ คะแนน น้าหนักสีผสมดาได้ ทางาน ถกู ต้อง ทุกข้อ จาก 3 ข้อ 2 102101 0 1 ด.ช. ชวินทร์ จันทรเ์ จริญ 2 ด.ช. กิตตภิ พ พรมสอน 3 ด.ญ. ชญั ญานุช ศรตี ัสสะ 4 ด.ช. อนสุ รณ์ แชม สนิท 5 ด.ญ. จันทร์ทมิ า เมฆกระจาย 6 ด.ญ. สุภานชิ า เรอื งกลน่ั 7 ด.ญ. ธนวรรณ ธนกุลทินวัฒน์ 8 ด.ช. ธรี ภทั ร ธปู เทยี นรตั น์ 9 ด.ช. ศกึ ษา แกวมศี รี 10 ด.ช. ภานุวัชร์ ศาลา 11 ด.ญ. พีชญา แกวบวั ดี 12 ด.ญ. รนิ รดา ตรงกลาง 13 ด.ช. ธนกฤต จนั ทรักษา 14 ด.ช. ธนกฤต จนั ทรกั ษา 15 ด.ช. ชโยทติ สุขพศิ ษิ ฐ์ 16 ด.ช. พีระพฒั น์ สันสะกดิ ลงช่อื ...................................................ผูป้ ระเมิน (…………………..…………………………..) .................../................../................
บนั ทกึ ผลหลงั การจดั การเรยี นรู้ 1. ผลการจัดการเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ปัญหา/อุปสรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. ขอ้ เสนอแนะและแนวทางการแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชือ่ …………………………………………..ครผู ู้สอน (นางสาววภิ าพร ทพิ ราช) นักศึกษาฝึกประสบการณว์ ิชาชีพครู ความคดิ เห็นของครพู เี่ ลี้ยง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื …………………………………………..ครูพ่เี ลี้ยง (นายพันศกั ดิ์ เส็งสวุ รรณ) ครูวิทยาฐานะครูชานาญการพเิ ศษ ความคิดเหน็ ของรองผู้อานวยการสถานศกึ ษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ …………………………………………..ผู้ตรวจ (นางทิพมาศ ดวงจนั ทราศิร)ิ รองผอู้ านวยการสถานศึกษาโรงเรยี นวัดมะลิ ความคดิ เหน็ ของผู้อานวยการสถานศกึ ษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………………………………..ผู้บรหิ ารสถานศึกษา (นางสาวดรุณี เทพา) ผอู้ านวยการสถานศกึ ษาโรงเรียนวัดมะลิ
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 13 รหัสวชิ า 14101 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ศิลปะ สาระ ทัศนศิลป์ หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 3 ทัศนศิลปก์ ับวฒั นธรรม ภาคเรียนที่ 2 เรอื่ ง ทัศนศลิ ป์และวัฒนธรรมไทย 4 ภาค จานวน 2 คาบ ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 4 เวลา 1 ช่วั โมง สอนเมอื่ วนั ท…่ี …….เดือน………………..พุทธศักราช………….. คาบท่ี 2 ครผู สู้ อน วภิ าพร ทิพราช 1. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ศ 1.2 เขาใจความสมั พันธร์ ะหวางทัศนศลิ ป ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เหน็ คุณคา งานทัศนศิลปท ีเ่ ป็นมรดกทางวัฒนธรรม ภูมปิ ัญญาทองถิ่น ภูมิปัญญาไทย และสากล 2. ตัวชี้วัด ศ 1.2 ป.4/1 ระบุ และอภิปรายเกี่ยวกับงานทัศนศิลป ในเหตุการณ์ และงานเฉลิมฉลอง ของวฒั นธรรมในทองถิ่น ป.4/2 บรรยายเกี่ยวกบั งานทศั นศลิ ปที่มาจากวัฒนธรรมตา งๆ 3. สาระสาคัญ เพอ่ื ใหส ามารถระบทุ ัศนศิลปใ นแตล ะทองถ่ินใน 4 ภาคของไทย ท่ีมีความแตกตางกันท้ังดานการ สรา งงานทัศนศลิ ปห รอื ในดา นวฒั นธรรม ซ่ึงมคี ณุ คา ตอ คนไทยมาตง้ั แตอดตี จนถึงปจั จบุ นั สามารถบรรยายดานทัศนศิลปและวัฒนธรรมท่ีเกิดขึ้นในทองถ่ินในแตละภาคของไทย ศิลปะ ทองถ่ินในภมู ิภาคตา งๆ มกั มีลักษณะทีแ่ ตกตา งกันไปตามภูมิประเทศ วิถีชีวิต ประเพณีและวัฒนธรรม ของผคู นในทองถิ่น และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพราะถูกสรางสรรค์โดยศิลปินหรือผูคนในทองถิ่นเอง และมีลักษณะไมเ หมอื นกบั ผลงานศลิ ปะทอ งถิน่ อน่ื ๆ 4. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 4.1 ดา้ นความรู้ (K) เพื่อใหนักเรียนสามารถระบทุ ัศนศิลปและวฒั นธรรมในแตล ะทองถ่ินได
4.2 ด้านทกั ษะ (P) เพื่อใหน กั เรียนสามารถบรรยายเกี่ยวกับทัศนศิลปแ ละวัฒนธรรมในแตล ะทองถิ่นได 4.3 ดา้ นคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (A) 1) มวี ินัย (เขาชน้ั เรียน, มคี วามรับผดิ ชอบตอ งานทีไ่ ดร ับมอบหมาย) 2) มุง มั่นในการทางาน (เอาใจใสต อการปฏิบัติหนา ทท่ี ่ีไดร บั มอบหมาย, พยายาม แกปญั หาและอปุ สรรคในการทางานใหส าเร็จ) 5. สาระการเรียนรู้ - ความแตกตา งของทัศนศิลปและวัฒนธรรมในแตล ะทอ งถน่ิ ของไทย 6. สมรรถนะทสี่ าคญั 6.1 ความสามารถในการคิดอยางสรางสรรค์ 6.2 ความสามารถในการใชเหตุผลในการคดิ และแกปัญหาดวยตนเอง 7. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 7.1 มวี ินยั 7.2 ใฝุเรยี นรู 7.3 มุงมนั่ ในการทางาน 7.4 มีจิตสาธารณะ 8. กระบวนการจดั การเรยี นรู้ ขั้นนา (5 นาที) 8.1 ครูกลาวทกั ทายนกั เรยี น 8.2 ครูอธิบายสงิ่ ที่ตอ งเรียนในสัปดาหน์ ใ้ี หน ักเรียนทราบ “ทศั นศิลปและวัฒนธรรมไทย 4 ภาค” 8.3 ครูสอบถามนักเรียน “ถานักเรียนไปรวมงานแหเทียน จะแกะสลักเทียนเป็นรูปอะไร” เพอ่ื กระตุนใหผ ูเรียนรจู ักคดิ และเปน็ การเชือ่ โยงเขาสบู ทเรยี นเกีย่ วกับทศั นศลิ ปแ ละวัฒนธรรมไทย 4 ภาค ขั้นสอน (50 นาที) 8.4 ครูเลาประสบการในการเขารวมงานวัฒนธรรมตางๆ ของภาคของตนเอง เชน การเขา รวมงานประเพณีแหเทียนพรรษา การเขารวมงานประเพณีขึ้นเขาพนมรุงของภาคอีสาน การเขารวมงาน
ประเพณสี งกรานตข์ องภาคเหนือ จากนัน้ ใหนักเรียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับงานทัศนศิลปท่ีตองพบใน การเขารวมงานประเพณแี ละวฒั นธรรมตา งๆ โดยครใู ชค าถาม ดงั นี้ ถาครูไปเทยี่ วงานประเพณีแหเ ทยี รพรรษาของจงั หวดั อุบลราชธานีครจู ะพบงานทศั นศลิ ปอะไร (ตวั อยา งคาตอบ การแกะสลักเทยี นพรรษา) ภาพท่ี 1 : การแกะสลกั เทยี นพรรษา ที่มา : https://www.tqm.co.th/new_images/1154_1.jpg?v=20190715155953 ถา ครไู ปเท่ียวงานประเพณีข้นึ เขาพนมรุง ครจู ะพบงานทัศนศิลปอ ะไร (ตวั อยา งคาตอบ ปราสาทเขาพนมรงุ ทบั หลงั นารายณบ์ รรทมสนิ ธ์ุ) ภาพที่ 2 : ปราสาทเขาพนมรุ้งทบั หลงั นารายณบ์ รรทมสินธ์ุ ท่ีมา : https://obs.line-scdn.net/0h_mbJefdwAEJfMymOL61_FXVlAy1sXxNBOwVRQQNd XnchVEBGNlRMJi4xXnImUBQUalBHdyg3W3Z2U0QXN1JPLChhV3FzBwIVMQFJdH9gVg/w644
ถาครูไปรว มงานประเพณสี งกรานต์ของจังหวดั เชียงใหมครูจะพบงานทศั นศลิ ปอะไร (ตัวอยา งคาตอบ การทาตงุ ) ภาพที่ 3 : การทาตงุ ที่มา : https://i.pinimg.com/originals/19/22/b1/1922b186a9d751a1b2c49b9a0453a2fb.jpg 8.5 ครูแบงกลุมนักเรียนออกเป็น 4 กลุม กลุมละเทากัน ใหแตละกลุมศึกษางานทัศนศิลปใน วัฒนธรรมทองถน่ิ ตา งๆ ดงั น้ี กลมุ ท่ี 1 ศึกษางานทศั นศลิ ปในวฒั นธรรมทอ งถน่ิ ภาคเหนอื กลุมที่ 2 ศึกษางานทศั นศิลปใ นวัฒนธรรมทอ งถิ่นภาคกลาง กลุมที่ 3 ศึกษางานทัศนศลิ ปใ นวัฒนธรรมทองถน่ิ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กลมุ ที่ 4 ศกึ ษางานทัศนศลิ ปใ นวัฒนธรรมทองถิ่นภาคใต 8.6 ใหนักเรียนแตละกลุมทาใบกิจกรรมที่ 3.1 แตละกลุมวาดภาพผลงานทัศนศิลปท่ีแสดง เอกลักษณ์ของไทยในภาคทีน่ ักเรยี นไดรบั 8.7 ใหน กั เรียนออกมานาเสนอผลงานพรอมกบั แผนผงั (Mind Map) เม่ือสปั ดาหท์ แ่ี ลว
ภาคเหนอื ภาคกลาง งานทัศนศลิ ป ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ข้นั สรปุ (5 นาที) ครูและนักเรียนสรุปเนื้อหารวมกัน “งานทัศนศิลปของแตละทองถิ่นมีความเก่ียวของกับ วัฒนธรรมในทองถ่ินเป็นงานท่ีมีคุณคา ควรแกการศึกษาและอนุรักษ์ไว เพราะเป็นงานท่ีแสดงใหเห็นถึง การใชชีวติ ความเป็นอยูของผูค นในอดีตจนถงึ ปัจจุบัน” จากนน้ั ใหนกั เรียนเก็บอปุ กรณใ์ หเรียบรอย 9. การวดั และประเมินผล 9.1 ทัศนศลิ ปและวัฒนธรรมไทย 4 ภาค (10 คะแนน) ประเด็นการ เกณฑ์การให้คะแนน ประเมนิ 5 4 3 2 10 ดา้ นความรู้ (K) - -เพื่อใหนักเรียน - -ส ามาร ถร ะบุ -ส ามาร ถร ะบุ -สามารถระบุ -ไม ส า ม า ร ถ ร ะ บุ ทั ศ น ศิ ล ป แ ล ะ ทัศนศิลปและ ทัศนศิลปและ ทัศนศิลปและ สามารถ วัฒนธรรมในแต ละทองถ่ินได วัฒนธรรมในแต วัฒนธรรมในแต วัฒนธรร มใน บอกได ล ะ ท อ ง ถ่ิ น ใ น ล ะ ท อ ง ถิ่ น ใ น แตละทองถิ่น -ไมมา แ ผ น ผั ง แ ผ น ผั ง ใ น แ ผ น ผั ง ไ ด เรยี น ไ ด ถู ก ต อ ง ไ ด ถู ก ต อ ง ถูกตอง 1 ภาค 4-3 ภาค 2 ภาค จาก จาก 4 ภาค 4 ภาค ด้านทักษะ (P) -ส า ม า ร ถ -ส า ม า ร ถ -ส า ม า ร ถ -ส า ม า ร ถ -บ ร ร ย า ย -ไมสง -เพื่อใหนักเรียน บ ร ร ย า ย บ ร ร ย า ย บ ร ร ย า ย บ ร ร ย า ย เ ก่ี ย ว กั บ งาน ส า ม า ร ถ เ กี่ ย ว กั บ เ กี่ ย ว กั บ เ กี่ ย ว กั บ เ กี่ ย ว กั บ ทัศนศิลปและ -ไมม า บ ร ร ย า ย ทัศนศิลปและ ทัศนศิลปและ ทัศนศิลปและ ทัศนศิลปและ วัฒนธรร มใน เรียน เ กี่ ย ว กั บ วั ฒ น ธ ร ร ม ใ น วั ฒ น ธ ร ร ม ใ น วั ฒ น ธ ร ร ม ใ น วั ฒ น ธ ร ร ม ใ น ท อ ง ถิ่ น ที่
ทัศนศิลปและ ท อ ง ถ่ิ น ที่ ท อ ง ถิ่ น ที่ ท อ ง ถ่ิ น ท่ี ท อ ง ถิ่ น ท่ี นักเรียนหามา วัฒนธรรมในละ นกั เรียนหามาได นกั เรยี นหามาได นกั เรียนหามาได นกั เรยี นหามาได ไ ด ไ ม ต ร ง ทองถ่นิ ได ถู ก ต อ ง ต า ม ถู ก ต อ ง แ ต ถู ก ต อ ง แ ต ผิดถูกบางบาง ประเดน็ ประเด็น บ ร ร ย า ย เ กิ น บ ร ร ย า ย เ กิ น ประเดน็ -ว า ด ภ า พ -ว า ด ภ า พ ป ร ะ เ ด็ น ประเดน็ มาก -ว า ด ภ า พ ร ะ บ า ย สี ไ ด ร ะ บ า ย สี ไ ด เลก็ นอย -ว า ด ภ า พ ร ะ บ า ย สี ไ ด สวยงาม สวยงาม -ว า ด ภ า พ ร ะ บ า ย สี ไ ด สวยงาม -รปู แบบผลงาน -รูปแบบผลงาน ร ะ บ า ย สี ไ ด สวยงาม -รูปแบบผลงาน ส ะ อ า ด ส ะ อ า ด สวยงาม -รูปแบบผลงาน ส ะ อ า ด เรยี บรอย เ รี ย บ ร อ ย -รูปแบบผลงาน ส ะ อ า ด เ รี ย บ ร อ ย สมบูรณ์ ส ะ อ า ด เ รี ย บ ร อ ย สมบูรณ์ เ รี ย บ ร อ ย สมบรู ณ์ สมบรู ณ์ ด้านจติ พิสยั - - - -เ ข า ช้ั น เ รี ย น -เขาช้ั นเรีย น ไมเ ขา ช้ัน (A) แ ล ะ มี ค ว า ม แตไมมีค วาม เรยี น -มวี ินยั มุ ง ม่ั น ใ น ก า ร มุง ม่ั นใน กา ร -มงุ มั่นในการ ทางาน ทางาน ทางาน -เห็นคุณคาของ -ไมเห็นคุณคา -รกั ความเปน็ ศลิ ปะไทย ของศิลปะไทย ไทย เกณฑ์การประเมนิ คะแนน ประเมิน ดี 9 - 10 7-8 ปานกลาง 5–6 นอย 10. ส่อื อปุ กรณ์และแหลง่ การเรียนรู้ - ดินสอ/ยางลบ สอื่ การเรยี นรู้ 1. ตวั อยา งของประเพณใี นแตละทอ งถิ่น อปุ กรณ์ - ใบงาน - สีไม/สเี ทียน แหล่งการเรยี นรู้
1. หนังสอื เรยี น รายวชิ าพ้ืนฐาน ทศั นศิลป กลุมสาระการเรียนรศู ลิ ปะ ระดบั ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 4 ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน พ.ศ. 2551 2. PowerPoint
ใบงาน 3.1 เรอ่ื ง ทัศนศิลปแ์ ละวฒั นธรรมไทย 4 ภาค คาชแ้ี จง : ใหน กั เรยี นแตละกลุมวาดภาพผลงานทัศนศิลปท ีแ่ สดงเอกลักษณ์ของไทยในภาคทน่ี ักเรียน ไดร ับ ช่ือภาพ…………………………………………………………………………………………………………………………………….. เปน็ งานทัศนศิลปท ี่มาจากวัฒนธรรมของภาคใด……………………………………………………………………………… งานทัศนศิลปน ้ีเก่ยี วขอ งกับเหตกุ ารณ์ใดในทอ งถ่ิน…………………………………………………………………………... ความรูสกึ ทีม่ ตี อภาพน้ี………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ช่ือ…………………………………………………………………………….เลขท…่ี ………………….ช้นั ……………………
แบบประเมินใบงาน เครอื่ งมอื หน่วยการเรยี นรู้ท่ี………….เร่ือง……………………………………………………………………ช้ัน……………….. คาช้แี จง : ใหค รูผูสอนประเมินใบงานของนักเรยี นแลว ใหท าเคร่ืองหมาย ลงในชองทตี่ รงกับ ระดับคะแนน เพอื่ ให้ ลาดบั ลาดับที่ นักเรียน เพื่อใหน้ ักเรยี น ความ รวม ที่ ชอ่ื – สกุล สามารถระบุ สามารถบรรยาย มุง่ มน่ั ใน 10 ทศั นศิลปแ์ ละ เกย่ี วกับทศั นศิลป์และ คะแนน 1 ด.ญ. วรสรณ์ ขาวิจติ ราภรณ์ วฒั นธรรมใน วฒั นธรรมในละ การ 2 ด.ญ. ปิยนุช แสงทวีป แต่ละท้องถิ่น ทางาน 3 ด.ญ. พีรดา ชาญเชย่ี ว ท้องถิ่นได้ 4 ด.ช. พชรพล สืบสาย 5 ด.ช. ธัญเทพ ฐานวริ ิยฐากลุ ได้ 6 ด.ญ. จิรวรรณ์ อัศวเดชานุกร 7 ด.ญ. ทพิ ภาภรณ์ แขกแปลก 3210543210210 8 ด.ญ. ทิพานันท์ ไชยนัด 9 ด.ช. อคั รเดช มวงทวี 10 ด.ช. สหรัฐ อิม่ สมโภชน์ 11 ด.ช. รัชชานนท์ เจรญิ ทรัพย์ 12 ด.ช. กษิด์ดิ ิษฎ์ กันแกว 13 ด.ช. กองภพ กอ นแกว 14 ด.ช. ณฐั วุธ มจี าด 15 ด.ญ. โฮซันนา ม่นั หมาย 16 ด.ช. เหรยี ญชัย เฉิน 17 ด.ญ. ลลดา ทองเรอื ง ลงช่อื ...................................................ผ้ปู ระเมนิ (…………………..…………………………..) .................../................../................
แบบประเมนิ ใบงาน เครือ่ งมอื หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่………….เรอ่ื ง……………………………………………………………………ชั้น……………….. คาช้แี จง : ใหค รผู ูสอนประเมินใบงานของนกั เรยี นแลวใหท าเครือ่ งหมาย ลงในชองท่ตี รงกบั ระดับคะแนน เพือ่ ให้ ลาดบั ลาดับที่ นักเรยี น เพ่อื ใหน้ กั เรียน ความ รวม ท่ี ชอ่ื – สกลุ สามารถระบุ สามารถบรรยาย มงุ่ มั่นใน 10 ทัศนศิลปแ์ ละ เกีย่ วกบั ทัศนศลิ ป์และ คะแนน 1 ด.ช. ชวนิ ทร์ จันทรเ์ จรญิ วฒั นธรรมใน วฒั นธรรมในละ การ 2 ด.ช. กติ ตภิ พ พรมสอน แตล่ ะทอ้ งถ่ิน ทางาน 3 ด.ญ. ชัญญานชุ ศรตี สั สะ ท้องถิ่นได้ 4 ด.ช. อนสุ รณ์ แชม สนทิ 5 ด.ญ. จันทรท์ ิมา เมฆกระจาย ได้ 6 ด.ญ. สภุ านชิ า เรืองกล่นั 7 ด.ญ. ธนวรรณ ธนกลุ ทินวฒั น์ 3210543210210 8 ด.ช. ธรี ภทั ร ธปู เทียนรตั น์ 9 ด.ช. ศึกษา แกวมีศรี 10 ด.ช. ภานวุ ชั ร์ ศาลา 11 ด.ญ. พีชญา แกว บัวดี 12 ด.ญ. รินรดา ตรงกลาง 13 ด.ช. ธนกฤต จันทรกั ษา 14 ด.ญ. ปลายฟาู กุลเจริญสินชล 15 ด.ช. ชโยทิต สุขพศิ ิษฐ์ 16 ด.ช. พีระพัฒน์ สนั สะกิด ลงชือ่ ...................................................ผปู้ ระเมนิ (…………………..…………………………..) .................../................../................
บันทกึ ผลหลงั การจดั การเรยี นรู้ 1. ผลการจัดการเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ปัญหา/อุปสรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. ขอ้ เสนอแนะและแนวทางการแก้ไข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ …………………………………………..ครผู ู้สอน (นางสาววภิ าพร ทพิ ราช) นักศึกษาฝึกประสบการณว์ ิชาชีพครู ความคดิ เห็นของครพู เี่ ลี้ยง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื …………………………………………..ครูพ่เี ลี้ยง (นายพันศกั ดิ์ เส็งสวุ รรณ) ครูวิทยาฐานะครูชานาญการพเิ ศษ ความคิดเหน็ ของรองผู้อานวยการสถานศึกษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ …………………………………………..ผู้ตรวจ (นางทิพมาศ ดวงจนั ทราศิร)ิ รองผอู้ านวยการสถานศึกษาโรงเรยี นวัดมะลิ ความคดิ เหน็ ของผู้อานวยการสถานศึกษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………………………………..ผู้บรหิ ารสถานศึกษา (นางสาวดรุณี เทพา) ผอู้ านวยการสถานศกึ ษาโรงเรียนวัดมะลิ
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 14 รหัสวิชา 14101 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ศลิ ปะ สาระ ทัศนศลิ ป์ หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 ทศั นศิลป์กับวฒั นธรรม ภาคเรยี นท่ี 2 เรอ่ื ง ธงุ ใยแมงมมุ สท่ี ศิ จานวน 1 คาบ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 4 เวลา 1 ชว่ั โมง สอนเมอ่ื วนั ท…ี่ …….เดือน………………..พทุ ธศกั ราช………….. ครผู ูส้ อน วิภาพร ทพิ ราช 1. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ศ 1.2 เขาใจความสัมพันธร์ ะหวางทศั นศลิ ป ประวัตศิ าสตร์ และวฒั นธรรม เห็นคุณคา งานทัศนศลิ ปทเี่ ปน็ มรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาทอ งถิน่ ภมู ิปัญญาไทย และสากล 2. ตวั ชวี้ ัด ศ 1.2 ป.4/1 ระบุ และอภิปรายเกี่ยวกับงานทัศนศิลป ในเหตุการณ์ และงานเฉลิมฉลอง ของวฒั นธรรมในทอ งถิน่ ป.4/2 บรรยายเกีย่ วกับงานทศั นศลิ ปท ี่มาจากวฒั นธรรมตา งๆ 3. สาระสาคญั เพ่อื ใหสามารถระบุทัศนศลิ ปใ นทองถ่ินของภาคใดภาคหน่ึงของไทยได ซ่ึงดานการสรางสรรค์งาน ทัศนศลิ ปขึน้ นน้ั สรางขนึ้ มาตามความเช่อื ทางศาสนาหรอื ความเชอ่ื สว นบุคคล ซ่ึงมีคุณคาตอคนไทยมา ตัง้ แตอดตี จนถึงปัจจุบัน สามารถนางานทศั นศลิ ปในทองถิ่นมาประยุกต์สรา งสรรค์จนเกิดความงามตามรูปแบบของตนเอง อีกทั้งไดทราบถึงข้ันตอนวิธีการสรางสรรค์ที่มีมาต้ังแตอดีต และสามารถบรรยายดานทัศนศิลปและ วัฒนธรรมที่เกิดขึ้นในทองถิ่น และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพราะถูกสรางสรรค์โดยศิลปินหรือผูคนใน ทองถนิ่ เอง และมลี กั ษณะไมเหมือนกับผลงานศลิ ปะทองถนิ่ อนื่ ๆ 4. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 4.1 ด้านความรู้ (K) - เพื่อใหนักเรียนสามารถบอกความเปน็ มาของงานทศั นศิลปประเภทธงุ ได
4.2 ดา้ นทักษะ (P) - เพอ่ื ใหนกั เรียนสามารถสรางสรรคง์ านทศั นศลิ ปธ ุงใยแมงมุมสีท่ ศิ ได 4.3 ด้านคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (A) 1) มีวินัย (เขาช้นั เรียน, มคี วามรบั ผิดชอบตอ งานทไ่ี ดรบั มอบหมาย) 2) มงุ ม่ันในการทางาน (เอาใจใสตอ การปฏบิ ตั หิ นา ที่ท่ไี ดร บั มอบหมาย, พยายาม แกปญั หาและอปุ สรรคในการทางานใหสาเรจ็ ) 3) รักความเปน็ ไทย (ภาคภูมิใจในขนบธรรมเนยี มประเพณี ศลิ ปะ วฒั นธรรมไทย) 5. สาระการเรียนรู้ งานทัศนศลิ ปที่สรางสรรคข์ ึ้นความเชื่อในทองถิน่ 6. สมรรถนะทีส่ าคัญ 6.1 ความสามารถในการคดิ อยางสรางสรรค์ 6.2 ความสามารถในการใชเหตผุ ลในการคดิ และแกปัญหาดวยตนเอง 7. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 7.1 มวี ินยั 7.2 ใฝุเรยี นรู 7.3 มงุ มัน่ ในการทางาน 7.4 รักความเปน็ ไทย 7.5 มจี ติ สาธารณะ 8. กระบวนการจดั การเรยี นรู้ ขั้นนา (5 นาที) 8.1 ครกู ลาวทกั ทายนักเรยี น 8.2 ครูอธิบายสงิ่ ที่ตอ งเรยี นในสปั ดาหน์ ้ใี หนกั เรียนทราบ “ธุงใยแมงมุมสท่ี ศิ ” 8.3 ครสู อบถามนกั เรียน “หากนักเรียนไปงานนมสั การองคพ์ ระธาตุนักเรยี นจะเหน็ ทัศนศิลปอะไร ปรากฏอยูในงาน” เพื่อกระตนุ ใหผ เู รียนรจู กั คิดและเปน็ การเช่ือโยงเขา สูบทเรยี นเกีย่ วกับธุงใยแมงมุมส่ที ิศ ขั้นสอน (50 นาที)
8.4 ครเู ลา ประสบการในการเขารวมงานงานนมัสการองคพ์ ระธาตุในภาคตะวันออกเฉียงเหนือให นกั เรยี นฟัง “การเขารวมงานนมสั การองคพ์ ระธาตุในจังหวัดนครพนม ทัศนศิลปที่ครูพบเห็นคือธุงใยแมง มมุ ท่ถี ูกตกแตง ตามทางเดิน ตามตน ไม ตามศาลา ซึ่งการนาสงิ่ น้ีมาตกแตงในสถานท่ีสักสิทธ์ิตองมีท่ีมาท่ีไป อาจเกิดจากความเช่ือทางศาสนาหรือความเช่อื ของคนโบราณท่สี รา งขึ้นมาเพอื่ ผลบางอยาง” 8.5 จากนนั้ ครูอธบิ ายเกี่ยวกับที่มาของธงุ ใยแมงมมุ ใหน ักเรียนฟงั ธงุ ใยแมงมุม เปน็ สญั ลักษณข์ องความเชื่อเก่ียวกับโชคลางของชาวอีสาน เป็นเคร่ืองประกอบ พธิ กี รรมสาคญั ของชาวอีสานมาอยางยาวนาน เช่ือกันวาสามารถใชปูองกันสิ่งเลวรายหรือสิ่งไมดีท่ีมองไม เห็น ภตู ผวี ญิ ญาณตางๆ ทจี่ ะมารบกวนงานบุญ หากผีเห็นธุงผีจะถอยออกไป อีกท้ังยังเป็นการบอกกลาว บวงสรวงเทพยดาในพื้นทว่ี ามกี ารทาบุญ มีพธิ กี ารสาคญั ใหเ ทพยดามองเห็นและมาชวยปกปอู งคมุ ครอง ธงุ ใยแมงมมุ ท่ีมา : https://www.bloggang.com/data/t/travelsomewhere/picture/1551668619.jpg ทม่ี า : https://pbs.twimg.com/media/DziY0UCUcAA9Rhj.jpg 8.6 ครูเปดิ คลิปวดิ ีโอข้นั ตอนการทาธงุ ส่ที ศิ ใหน กั เรียนดแู ละอธบิ าย วัสดุ อปุ กรณ์ - ไมต ะเกยี บ 2 อัน - ไหมพรม - กรรไกร ขนั้ ตอนการทา 1. ข้ึนโครงดว ยไมต ะเกียบ โดยนาไมตะเกยี บวางชดิ กัน จากนน้ั พันไหมพรมใหอ ยู ก่ึงกลางของไมตะเกียบ 3-4 รอบ แลวมดั
2. แยกไมตะเกียบออกจากกันโดยการหมนุ สลบั ทิศทางกันใหเ ปน็ เครอ่ื งหมายบวก (+) 3. ดงึ ไหมพรมดานยาวพันทีละมมุ ของไม มมุ ละ 3-4 รอบ 4. ดงึ เชอื กขึ้นดานบน พนั ไหมพรมออ มหลงั ไมดานบน 5. ดงึ ไหมพรมวางบนดานหนา ของไมดา นขวา พันไหมพรมออ มหลังไมด า นขวา
6. หมุนไมไปตามทิศทางเขม็ นาฬิกา แลวทาเหมือนขอ 5 แลวหมนุ ไปตามทิศทางเข็ม นาฬิกาใหพันไหมพรมทาแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนไหมพรมขยายกวางขนึ้ ตามความชอบ 7. วิธีตอไหมพรม ใหนาปลายของไหมพรมท่ีตองการเปล่ียนสี มาวางทับกับปลาย ไหมพรมในโครงตะเกยี บ จากนัน้ มัดแบบเงอื นพริ อดแลวพันตอ ไป หากพันถงึ ขอตอของ ไหมพรมใหซ อนปลายเชอื กไวด านหลงั ของไมแลวพนั ตอไปเร่อื ยๆ เปล่ียนสไี หมพรมตาม ตองการ การมดั แบบเงอื นพิรอด ท่มี า : https://teen.mthai.com/education/172343.html
8. วธิ พี นั เกบ็ งาน ใหท าบว งจากน้ันคลองบวงเขา ไมด ึงใหตึง ทาซ้า 3 รอบ จากน้นั ตดั เสนไหมพรม ธงุ ใยแมงมมุ ที่มา : https://www.youtube.com/watch?v=yzGCB8QkCR8&t=181s 8.7 ครใู หน ักเรยี นทากจิ กรรมธุงใยแมงมมุ 8.8 ครูเปิดโอกาสใหน กั เรียนซักถามขอสงสัย จากนั้นลงมอื ปฏิบัติกจิ กรรม ครคู อยเดนิ ดูและให คาแนะนา ขน้ั สรุป (5 นาท)ี ครูและนักเรียนสรุปเน้ือหารวมกัน “ทัศนศิลปในทองถิ่นประเภทธุง ถูกสรางสรรค์ขึ้นเพื่อใช ประกอบพธิ ใี นดานพทุ ธศาสนาหรือประกอบอืน่ ๆ ตามความเช้ือของทองถิ่นน้ันๆ” จากน้ันใหนักเรียนเก็บ อุปกรณใ์ หเรียบรอ ย
9. การวดั และประเมนิ ผล 9.1 ธุงใยแมงมมุ ส่ีทศิ (10 คะแนน) ประเด็นการ เกณฑ์การใหค้ ะแนน ประเมนิ 5 4 3 2 10 ดา้ นความรู้ - - -นั ก เ รี ย น -นั ก เ รี ย น -นั ก เ รี ย น -ไมตอบ (K) ส า ม า ร ถ บ อ ก ส า ม า ร ถ บ อ ก สามารถบอก คาถาม -เพื่อใหนักเรียน ค ว า ม เ ป็ น ม า ค ว า ม เ ป็ น ม า ค วา มเป็ นม า -ไมมา สามารถบอก ข อ ง ง า น ข อ ง ง า น ข อ ง ง า น เรียน ค ว า ม เ ป็ น ม า ทั ศ น ศิ ล ป ทั ศ น ศิ ล ป ทั ศ น ศิ ล ป ของงาน ประเภทธุงได ประเภทธุงได ประเภทธุงไม ทั ศ น ศิ ล ป ถู ก ต อ ง ต ร ง บางบางประเดน็ ต ร ง ป ร ะ เ ด็ น ประเภทธุงได ประเดน็ คาถาม คาถาม ดา้ นทักษะ -ส า ม า ร ถ -ส า ม า ร ถ -ส า ม า ร ถ -ส า ม า ร ถ -ส า ม า ร ถ -ไมส ง (P) สรางสรรค์งาน สรางสรรค์งาน สรางสรรค์งาน สรางสรรค์งาน สรางสรรค์งาน งาน -เพื่อใหนักเรียน ทัศนศิลปธุงใย ทัศนศิลปธุงใย ทัศนศิลปธุงใย ทัศนศิลปธุงใย ทัศนศิลปธุงใย -ไมมา ส า ม า ร ถ แมงมุมสี่ทิศได แมงมุมสี่ทิศได แมงมุมสี่ทิศได แมงมุมสี่ทิศได แมงมุมสี่ทิศได เรยี น สรางสรรค์งาน โ ค ร ง ข อ ง ธุ ง โ ค ร ง ข อ ง ธุ ง โ ค ร ง ข อ ง ธุ ง โ ค ร ง ข อ ง ธุ ง แตโครงของธุง ทัศนศิลปธุงใย สมา่ เสมอกนั สม่าเสมอกัน สมา่ เสมอกนั สม่าเสมอกัน ไมส ม่าเสมอกัน แมงมุมสี่ทศิ ได -สี สั น ข อ ง ธุ ง -สี สั น ข อ ง ธุ ง -สี สั น ข อ ง ธุ ง -สี สั น ข อ ง ธุ ง -สี สั น ข อ ง ธุ ง สวยงาม สวยงาม สวยงาม สวยงาม สวยงาม -ไหมพรมเรียง -ไ ห ม พ ร ม ไ ม -ไ ห ม พ ร ม ไ ม -ไ ห ม พ ร ม ไ ม -ไ ห ม พ ร ม ไ ม ชิ ด ติ ด กั น เรยี งชดิ ตดิ กันไม เรยี งชดิ ติดกันไม เรยี งชิดตดิ กันไม เรียงชิดติดกัน สม่าเสมอกัน สม่าเสมอกนั สม่าเสมอกนั สมา่ เสมอกัน ไมสมา่ เสมอกนั -ไมม ีใยไหมพรม -ไมมีใยไหมพรม -มีใยไหมพร ม -มีใยไหมพร ม -มีใยไหมพรม บนพ้ืนของธงุ บนพ้นื ของธุง บน พื้น ขอ ง ธุ ง บน พ้ืน ขอ ง ธุ ง บนพ้ืนของธุง -ไมเ ห็ นป ล า ย -ไมเ ห็ นป ล า ย เล็กนอ ย จานวนมาก จานวนมาก ไหมพรมตรงขอ ไหมพรมตรงขอ -ไมเ ห็ นป ล า ย -เห็นปลายไหม -เห็นปลายไหม ตออยูดานหนา ตออยูดานหนา ไหมพรมตรงขอ พรมตรงขอตอ พรมตรงขอตอ ของธุง ของธุง ตออยูดานหนา อ ยู ด า น ห น า อ ยู ด า น ห น า -ธุ ง แ ข็ ง แ ร ง -ธุ ง แ ข็ ง แ ร ง ของธุง ของธงุ เลก็ นอ ย ของธุงชดั เจน ไ ม เ อี ย ง ไ ม เ อี ย ง -ธุ ง แ ข็ ง แ ร ง -ธุ ง แ ข็ ง แ ร ง -ธุงไมแ ข็งแรง ไมบิดเบยี้ ว ไมบ ดิ เบย้ี ว ไ ม เ อี ย ง ไ ม เ อี ย ง -รปู แบบผลงาน -รูปแบบผลงาน -รูปแบบผลงาน ไมบิดเบีย้ ว ไมบิดเบี้ยว ส ะ อ า ด ส ะ อ า ด ส ะ อ า ด -รูปแบบผลงาน -รูปแบบผลงาน เรียบรอย เ รี ย บ ร อ ย เ รี ย บ ร อ ย ส ะ อ า ด ส ะ อ า ด
สมบูรณ์ สมบูรณ์ เ รี ย บ ร อ ย เรยี บรอ ย - สมบรู ณ์ ด้านจติ พสิ ยั - (A) - -เ ข า ชั้ น เ รี ย น -เขาชั้ นเรีย น ไมเ ขา -มวี นิ ยั แ ล ะ มี ค ว า ม แตไมมีค วาม ช้ัน -มงุ มัน่ ในการ มุ ง ม่ั น ใ น ก า ร มุง ม่ั นใน กา ร เรียน ทางาน ทางาน ทางาน -รกั ความเป็น -เห็นคุณคาของ -ไมเห็นคุณคา ไทย ศิลปะไทย ของศลิ ปะไทย เกณฑ์การประเมิน คะแนน ประเมนิ ดี 9 - 10 7-8 ปานกลาง 5–6 นอย 10. สอ่ื อุปกรณแ์ ละแหล่งการเรียนรู้ - ดินสอ/ยางลบ สื่อการเรียนรู้ 1. ตวั อยางภาพธงุ ใยแมงมุม 2. ขน้ั ตอนการทาธงุ ใยแมงมมุ สท่ี ศิ อปุ กรณ์ - ใบงาน - สไี ม/สีเทียน แหล่งการเรยี นรู้ 1. หนังสอื เรียน รายวิชาพืน้ ฐาน ทศั นศลิ ป กลมุ สาระการเรียนรศู ลิ ปะ ระดับช้ัน ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน พ.ศ. 2551 2. Pinterest 3. Youtube
ใบงาน 3.2 เรอื่ ง ธุงใยแมงมมุ ส่ที ิศ คาชี้แจง : ใหน กั เรยี นสรา งสรรค์ใยแมงมุมสท่ี ศิ งานหัตถกรรม ชอ่ื ……………………………………………………………………………….เลขที่…………………….ช้ัน……………………
แบบประเมนิ ใบงาน เครื่องมือ หน่วยการเรยี นรู้ท่ี………….เรอ่ื ง……………………………………………………………………ช้นั ……………….. คาช้แี จง : ใหค รูผูสอนประเมินใบงานของนักเรียนแลว ใหทาเครอ่ื งหมาย ลงในชอ งทต่ี รงกับ ระดับคะแนน เพ่ือให้ ลาดบั ลาดับที่ นกั เรียน เพ่ือใหน้ ักเรียน ความ รวม ที่ ชอ่ื – สกลุ สามารถบอก สามารถสรา้ งสรรค์งาน มุ่งมน่ั ใน 10 ความเป็นมา ทศั นศลิ ปธ์ งุ ใยแมงมุม คะแนน 1 ด.ญ. วรสรณ์ ขาวจิ ติ ราภรณ์ การ 2 ด.ญ. ปิยนุช แสงทวีป ของงาน สีท่ ิศได้ ทางาน 3 ด.ญ. พีรดา ชาญเชย่ี ว ทัศนศลิ ป์ 4 ด.ช. พชรพล สืบสาย 5 ด.ช. ธัญเทพ ฐานวริ ิยฐากุล ประเภทธุงได้ 6 ด.ญ. จิรวรรณ์ อัศวเดชานุกร 7 ด.ญ. ทพิ ภาภรณ์ แขกแปลก 3210543210210 8 ด.ญ. ทิพานันท์ ไชยนัด 9 ด.ช. อคั รเดช มวงทวี 10 ด.ช. สหรัฐ อิม่ สมโภชน์ 11 ด.ช. รัชชานนท์ เจรญิ ทรัพย์ 12 ด.ช. กษิด์ดิ ิษฎ์ กันแกว 13 ด.ช. กองภพ กอ นแกว 14 ด.ช. ณฐั วุธ มจี าด 15 ด.ญ. โฮซันนา ม่นั หมาย 16 ด.ช. เหรยี ญชัย เฉิน 17 ด.ญ. ลลดา ทองเรอื ง ลงชือ่ ...................................................ผู้ประเมิน (…………………..…………………………..) .................../................../................
แบบประเมินใบงาน เครอ่ื งมือ หน่วยการเรียนรู้ที่………….เรอื่ ง……………………………………………………………………ชนั้ ……………….. คาชี้แจง : ใหค รูผูสอนประเมินใบงานของนักเรยี นแลวใหทาเครอ่ื งหมาย ลงในชองทตี่ รงกบั ระดบั คะแนน เพ่ือให้ ลาดับ ลาดบั ที่ นักเรียน เพอื่ ใหน้ ักเรียน ความ รวม ที่ ชอ่ื – สกลุ สามารถบอก สามารถสร้างสรรค์ ม่งุ ม่ันใน 10 ความเปน็ มา งานทัศนศิลปธ์ งุ ใยแมง คะแนน การ ของงาน มุมสที่ ศิ ได้ ทางาน ทัศนศลิ ป์ ประเภทธงุ ได้ 3210543210210 1 ด.ช. ชวนิ ทร์ จนั ทร์เจริญ 2 ด.ช. กติ ตภิ พ พรมสอน 3 ด.ญ. ชญั ญานชุ ศรตี ัสสะ 4 ด.ช. อนุสรณ์ แชมสนิท 5 ด.ญ. จันทร์ทิมา เมฆกระจาย 6 ด.ญ. สภุ านิชา เรืองกล่นั 7 ด.ญ. ธนวรรณ ธนกลุ ทินวฒั น์ 8 ด.ช. ธีรภัทร ธูปเทียนรัตน์ 9 ด.ช. ศึกษา แกวมศี รี 10 ด.ช. ภานวุ ัชร์ ศาลา 11 ด.ญ. พชี ญา แกวบัวดี 12 ด.ญ. รินรดา ตรงกลาง 13 ด.ช. ธนกฤต จันทรักษา 14 ด.ญ. ปลายฟาู กลุ เจริญสินชล 15 ด.ช. ชโยทิต สุขพิศิษฐ์ 16 ด.ช. พรี ะพัฒน์ สันสะกิด ลงชอ่ื ...................................................ผู้ประเมนิ (…………………..…………………………..) .................../................../................
บันทกึ ผลหลังการจัดการเรยี นรู้ 1. ผลการจัดการเรยี นรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ปญั หา/อุปสรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. ข้อเสนอแนะและแนวทางการแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ …………………………………………..ครูผสู้ อน (นางสาววภิ าพร ทิพราช) นกั ศกึ ษาฝกึ ประสบการณ์วชิ าชีพครู ความคิดเหน็ ของครูพเ่ี ลีย้ ง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื …………………………………………..ครูพเี่ ลีย้ ง (นายพนั ศักดิ์ เสง็ สวุ รรณ) ครูวิทยาฐานะครูชานาญการพเิ ศษ ความคิดเหน็ ของรองผู้อานวยการสถานศึกษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………………………………..ผตู้ รวจ (นางทิพมาศ ดวงจันทราศิริ) รองผูอ้ านวยการสถานศึกษาโรงเรยี นวัดมะลิ ความคดิ เห็นของผูอ้ านวยการสถานศกึ ษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชือ่ …………………………………………..ผูบ้ รหิ ารสถานศกึ ษา (นางสาวดรุณี เทพา) ผอู้ านวยการสถานศึกษาโรงเรียนวดั มะลิ
แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี 2 รหสั วชิ า 21101 กล่มุ สาระการเรียนรู้ ศลิ ปะ สาระ ทัศนศลิ ป์ หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 1 ทัศนยี ภาพ ภาคเรยี นท่ี 2 เรอ่ื ง ทศั นียภาพแบบ 1 จุด จานวน 1 คาบ ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 1 เวลา 1 ช่วั โมง สอนเมือ่ วันท…ี่ ……เดือน………………….พุทธศักราช…………….. ครูผู้สอน วภิ าพร ทพิ ราช 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ศ 1.1 สรางสรรคง์ านทศั นศิลปตามจินตนาการ และความคิดสรางสรรค์วิเคราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์คุณคางานทัศนศิลป ถายทอดความรูสึก ความคิดตองานศิลปะอยางอิสระ ช่ืนชม และประยกุ ต์ใชใ นชีวิตประจาวนั 2. ตวั ชว้ี ัด ศ 1.1 ม. 1/3 วาดภาพทัศนียภาพแสดงใหเห็นระยะไกลใกลเป็น 3 มิติ 3. สาระสาคัญ เพื่อใหบอกลกั ษณะของทัศนียภาพ แบบ 1 จุดได ท่ีแสดงระยะใกลไกลแบบสามมิติ แสดง เปน็ ภาพทม่ี องเห็นดานหนาวัตถุ วางขนานกับเสน ระดบั ตาหรอื เสนขอบฟูาโดยวัตถุที่ไกลออกไปจะ คอยๆเลก็ ลงไปรวมกันทจี่ ุดรวมสายตา เพ่ือใหสามารถวาดทัศนียภาพ แบบ 1 จุด ถูกตองตามขวบการขั้นตอนการวาดภาพ ทัศนียภาพ แสดงถึงระยะใกล-ไกล ของวตั ถุ เป็นการวาดภาพท่ีเกิดจากการมองรูปดานใดดานหน่ึง ของสิ่งที่จะวาดในแนวเสนตั้ง และเสนนอนไดฉากกันสวนดานลึกจะเป็นแนวเสนเฉียง และเสน แสดงความลึกจะถูกลากไปบรรจบกันที่จุดรวมสายตาไดเพียงจุดเดียวบนเสน ระดับตา หรือเสน ขอบฟาู จดุ รวมสายตานอี้ าจจะอยดู านขวา ดานซาย หรอื กงึ่ กลางกไ็ ด
4. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 4.1 ดา้ นความรู้ (K) - เพอ่ื ใหน กั เรียนสามารถอธบิ ายลกั ษณะของทัศนยี ภาพ แบบ 1 จดุ ได 4.2 ด้านทกั ษะ (P) - เพอื่ ใหนกั เรยี นสามารถวาดทศั นยี ภาพ แบบ 1 จุดได 4.3 ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A) 1) มีวินัย (เขา ชั้นเรยี น, มคี วามรับผิดชอบตอ งานท่ไี ดรับมอบหมาย) 2) มุงม่ันในการทางาน (เอาใจใสตอการปฏิบัติหนาท่ีท่ีไดรับมอบหมาย, พยายาม แกป ญั หาและอปุ สรรคในการทางานใหสาเรจ็ ) 5. สาระการเรยี นรู้ การวาดทศั นียภาพแบบ 1 จดุ ทแี่ สดงระยะใกล – ไกล ของวัตถุ 6. สมรรถนะท่สี าคญั 6.1 ความสามารถในการคิดอยา งสรา งสรรค์ 6.2 ความสามารถในการใชเหตุผลในการคดิ แยกแยะไดด วยตนเอง 7. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 7.1 มีวินัย 7.2 ใฝุเรียนรู 7.3 มุงมน่ั ในการทางาน 7.4 มจี ติ สาธารณะ 8. กระบวนการจัดการเรียนรู้ ข้นั นา (5 นาที) 8.1 ครกู ลาวทักทายนักเรยี น 8.2 ครูอธบิ ายสง่ิ ที่ตองเรียนในสัปดาห์นี้ใหนกั เรียนทราบ “ทศั นียภาพแบบ 1 จุด” 8.3 ครูทบทวนความรูท่ีเรียนในสัปดาห์ท่ีแลวใหนักเรียนฟัง “การวาดภาพทัศนียภาพ เป็นการ วาดภาพแบบเหมอื นจรงิ แสดงระยะใกลไ กล แบบสามมิติ” เพ่ือกระตุนใหผูเรียนเชื่อมโยงเขาสูเนื้อหา ความรูทศั นยี ภาพ
ข้ันสอน (50 นาที) 8.4 ครูตั้งกลอง 1 กลอง ไวหนาชั้นเรียน จากนั้นใหเรียนเดินดูกลองดานซาย ตรงกลาง และ ดานขวา จากน้ันใหแสดงความคิดเห็นวากลองในแตละทิศทางมีลักษณะอยางไร ” (พิจารณาตาม คาตอบของนักเรยี น โดยใหอ ยูในดลุ ยพนิ ิจของครผู ูสอน) 8.5 ครูอธิบายทัศนียภาพ แบบ 1 จุดใหนักเรียนฟังพรอมใหนักเรียนดูภาพประกอบและแสดง ความคิดเห็นรว มกัน การวาดภาพทัศนียภาพแบบ 1 จุด (ONE POINT PERSPECTIVE) เป็นการวาดภาพท่ี เกดิ จากการมองรปู ดานใดดานหนึ่งของสิ่งท่ีจะวาดในแนวเสน ตงั้ และเสน นอนไดฉากกันสวนดานลึกจะ เป็นแนวเสนเฉียงและเสนแสดงความลึกจะถูกลากไปบรรจบกันที่จุดรวมสายตาไดเพียงจุดเดียวบน เสนระดบั ตา หรือเสน ขอบฟาู จุดรวมสายตานี้อาจจะอยูด านขวา ดานซาย หรอื กง่ึ กลางกไ็ ด ตวั อย่างการวาดทศั นยี ภาพแบบ 1 จุด ท่มี า : https://foodbunkaew.files.wordpress.com/2014/09/7cedf- de0b8a5e0b988e0b8ade0b8871vp.jpg?w=400&h=230 8.7 ครอู ธิบายขัน้ ตอนการวาดภาพทศั นียภาพแบบ 1 จุด พรอ มสาธติ ใหน ักเรียนดู
ขน้ั ท่ี 3 ขน้ั ที่ 4 ลากเสนตรงเฉียงทง้ั 2 เสน แสดงความ ลากเสนขนานระหวางเสนระดับสายตา ลกึ ลากไปบรรจบกันทจ่ี ุดรวมสายตาไดเพียงจุด และขอบดานบนของรูปส่ีเหล่ียม จะเห็นพ้ืนผิว เดียวบนเสนระดับตา ดา นบนของกลอง ขัน้ ท่ี 1 ข้นั ที่ 2 กาหนดเสนระดับสายตาและจุดรวม ร า ง รู ป ด า น ห น า ข อ ง ก ล อ ง สายตา สีเ่ หลี่ยมผืนผาหรอื จตุรสั ก็ไดตามตองการ
ทศั นียภาพแบบ 1 จดุ สมบูรณ์ ถาตัดเสนขอบทุกเสนของกลองออก เราจะเห็นภาพทศั นยี ภาพแบบ 1 จุด ของกลอง สีเหล่ยี มชดั เจน ท่ีมา : วภิ าพร ทพิ ราช 8.6 ครูใหนักเรียนทากิจกรรม ใบงานท่ี 1.1 เร่ือง ทัศนียภาพแบบ 1 จุด ใหนักเรียนกาหนด เสนระดับสายและจุดรวมสายตา จากน้นั กาหนดกลอ งสเ่ี หลีย่ มแลจากนัน้ ใหลากเสน เฉียงและเสนแสดง ความลกึ จะถกู ลากไปบรรจบกันทจี่ ดุ รวมสายตาไดเ พียงจุดเดียวบนเสน ระดบั ตา 8.7 ครเู ปดิ โอกาสใหน กั เรยี นซักถามขอสงสัย จากน้ันนักเรียนลงมือปฏิบัติงาน ครูคอยเดินดูและ ใหคาแนะนา ขนั้ สรุป (5 นาที) ครแู ละนกั เรียนสรปุ เนื้อหาความรู “ลักษณะของทัศนียภาพ แบบ 1 จุดได ท่ีแสดงระยะใกลไกล แบบสามมิติ แสดงเป็นภาพท่ีมองเห็นดานหนาวัตถุวางขนานกับเสนระดับตาหรือเสนขอบฟูา การวาด ภาพทัศนียภาพแบบ 1 จุด (ONE POINT PERSPECTIVE) เป็นการวาดภาพที่เกิดจากการมองรูปดาน ใดดานหนงึ่ ของส่งิ ท่ีจะวาดในแนวเสนต้งั และเสนนอนไดฉากกนั สวนดานลกึ จะเป็นแนวเสน เฉียงและเสน แสดงความลึกจะถูกลากไปบรรจบกันท่ีจุดรวมสายตาไดเพียงจุดเดียวบนเสนระดับตา หรือเสนขอบฟูา จดุ รวมสายตานี้อาจจะอยูดานขวา ดา นซา ย หรือกึ่งกลางกไ็ ด” จากนนั้ นกั เรยี นเกบ็ อุปกรณใ์ หเรยี บรอ ย
9. การวัดและประเมนิ ผล 9.1 ทศั นยี ภาพ แบบ 1 จดุ (10 คะแนน) ประเดน็ การ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ประเมนิ 5 4 3 2 10 ด้านความรู้ - - (K) -นกั เรียน -นักเรียน -นกั เรยี น -ไม -เพ่ือใหน ักเรยี น -สามารถวาด -สามารถวาด สามารถอธิบาย ทศั นียภาพแบบ ทัศนียภาพแบบ สามารถอธิบาย สามารถอธบิ าย สามารถอธบิ าย สามารถ ลกั ษณะของ 1 จุดได คอื 1 จดุ ได คือ ทศั นยี ภาพ กาหนดจุดรวม กาหนดจุดรวม ลักษณะของ ลกั ษณะของ ลักษณะของ บอกได แบบ 1 จุดได สายตา และ สายตา และ ทศั นียภาพ ทัศนยี ภาพ ทศั นยี ภาพ -ไมมา ด้านทักษะ กาหนดกลอ งสี กาหนดกลอ งสี แบบ 1 จดุ ได แบบ 1 จดุ ไดผดิ แบบ 1 จุดได เรยี น (P) เหลยี่ มไวม มุ ใด เหลยี่ มไวมมุ ใด ระดับดมี าก ถกู บา ง ระดับนอ ยมาก -เพื่อใหน ักเรยี น มุมหนง่ึ จากนน้ั มมุ หนง่ึ จากนั้น สามารถวาด วาดดา นลกึ จะ วาดดานลึกจะ -สามารถวาด -สามารถวาด -สามารถวาด -ไมส ง ทัศนียภาพ เปน็ แนวเสน เปน็ แนวเสน ทัศนียภาพแบบ ทศั นียภาพแบบ ทศั นียภาพ งาน แบบ 1 จดุ ได เฉยี งและเสน เฉยี งและเสน 1 จุดได คอื 1 จดุ ได คอื แบบ 1 จุดได -ไมม า แสดงความลกึ แสดงความลึก กาหนดจดุ รวม กาหนดจุดรวม คอื กาหนดจุด เรยี น จะถกู ลากไป จะถกู ลากไป สายตา และ สายตา และ รวมสายตา บรรจบกันท่จี ดุ บรรจบกนั ที่จดุ กาหนดกลองสี กาหนดกลอ งสี และกาหนด รวมสายตาได รวมสายตาได เหล่ยี มไวม ุมใด เหลีย่ มไวมมุ ใด กลอ งสเี หลย่ี ม เพยี งจดุ เดยี วบน เพียงจดุ เดียวบน มุมหนง่ึ จากนนั้ มมุ หน่ึง จากน้ัน ไวม มุ ใดมุมหนึง่ เสน ระดบั ตาทกุ เสน ระดับตา แต วาดดานลึกจะ วาดดานลึกจะ แตล ากเสน ดา น เสน ไดถูกตอง มีเสนใดเสน หน่ึง เปน็ แนวเสน เปน็ แนวเสน ลึก ไมบรรจบ -รูปแบบผลงาน ไมไ มบรรจบกัน เฉียงและเสน เฉียงและเสน กันทจ่ี ุดรวม สะอาด สมบูรณ์ ท่จี ุดรวมสายตา แสดงความลึก แสดงความลกึ สายตาทุกเสน เรียบรอย เลก็ นอย จะถกู ลากไป จะถูกลากไป หรอื เสน -รูปแบบผลงาน บรรจบกนั ท่ีจดุ บรรจบกนั ท่จี ุด กระจายไปทุก สะอาด สมบรู ณ์ รวมสายตาได รวมสายตาได ทศิ ทุกทาง เรียบรอย เพยี งจุดเดียวบน เพยี งจุดเดยี วบน -รปู แบบผลงาน เสนระดบั ตา แต เสนระดับตา แต สะอาดแตไ ม มีเสน ใดเสน หนงึ่ ทุกเสน ไม สมบูรณ์ ไมไมบรรจบกัน บรรจบกันท่ีจดุ ทจี่ ดุ รวมสายตา รวมสายตาทุก ระดับปานกลาง เสนเลก็ นอ ย -รปู แบบผลงาน -รปู แบบผลงาน สะอาด สมบูรณ์ สะอาด สมบรู ณ์ เรียบรอ ย เรียบรอย
ด้านจติ พสิ ยั - - - -เ ข า ชั้ น เ รี ย น -เขาช้ั นเรีย น ไมเขา (A) แ ล ะ มี ค ว า ม แตไมมีค วาม ช้ัน -มวี ินัย มุ ง ม่ั น ใ น ก า ร มุง ม่ั นใน กา ร เรียน -มงุ มั่นในการ ทางาน ทางาน ทางาน เกณฑ์การประเมนิ คะแนน ประเมนิ ดี 9 - 10 7-8 ปานกลาง 5–6 นอย 10. สอ่ื อุปกรณ์และแหล่งการเรยี นรู้ สื่อการเรยี นรู้ 1. ภาพทศั นยี ภาพแบบ 1 จุด อปุ กรณ์ - ใบงาน - ปากกา/ดนิ สอ/ยางลบ/ไมบรรทดั แหล่งการเรียนรู้ 1. หนงั สอื เรียน รายวิชาพน้ื ฐาน ทศั นศิลป กลมุ สาระการเรียนรูศิลปะ ระดับชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน พ.ศ. 2551 2. เว็บ Pinterest
ใบงานท่ี 1.1 เรอื่ ง ทศั นยี ภาพแบบ 1 จุด คาช้ีแจง : ใหนกั เรียนกาหนดเสนระดับสายและจุดรวมสายตา จากน้ันกาหนดกลองสี่เหลี่ยมแล จากนัน้ ใหลากเสนเฉียงและเสนแสดงความลึกจะถูกลากไปบรรจบกันท่ีจุดรวมสายตาไดเพียง จุดเดียวบนเสน ระดบั ตา ชื่อ……………………………………………………………………………….เลขท…่ี ………………..ชนั้ ……………………
แบบประเมินใบงาน เครอื่ งมือ หน่วยการเรียนรู้ท่ี………….เรื่อง………………………………………………………………………ชั้น……………….. คาช้ีแจง : ใหครผู ูสอนประเมนิ ใบงานของนักเรยี นแลวใหทาเครอ่ื งหมาย ลงในชองทต่ี รงกับ ระดับคะแนน เพื่อให้นักเรยี น ลาดับ ลาดบั ท่ี สามารถ เพ่ือใหน้ กั เรยี น ความ รวม ที่ ชอ่ื – สกุล อธิบาย สามารถวาด มุ่งม่นั ใน 10 ลักษณะของ ทศั นยี ภาพ แบบ 1 จดุ คะแนน ทัศนียภาพ การ ได้ ทางาน แบบ 1 จดุ ได้ 3 210543210210 1 ด.ช. บารมี ผาสขุ 2 ด.ช. สุรยุทธ ปรีเลิศ 3 ด.ช. วุฒิชยั เฉยดี 4 ด.ช. ภานพุ งศ์ ศรขี ดั เครอื 5 ด.ช. วสุ รตั นศฤงค์ 6 ด.ญ. กิตติยารตั น์ ศรสี อาด 7 ด.ญ. สโรชา ศรีสอาด 8 ด.ช. ชโยดม วรุณพงษ์ 9 ด.ญ. แพรวา ธรี เดชพฒั น์ชัย 10 ด.ช. ธนวฒุ ิ สวางชม 11 ด.ญ. ณธดิ า จนั ทรักษา 12 ด.ช. ติณณภพ สระทองเรอื ง 13 ด.ช. สุทธิพร แสงจันทร์ 14 ด.ญ. ธมนวรรณ เฉิน 15 ด.ญ. นรินรชั ทาดี ลงชือ่ ...................................................ผู้ประเมนิ (…………………..…………………………..) .................../................../.................
บันทกึ ผลหลงั การจดั การเรยี นรู้ 1. ผลการจดั การเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ปญั หา/อปุ สรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. ขอ้ เสนอแนะและแนวทางการแก้ไข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ …………………………………………..ครผู ู้สอน (นางสาววิภาพร ทพิ ราช) นักศึกษาฝึกประสบการณ์วชิ าชีพครู ความคิดเห็นของครูพ่ีเลยี้ ง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่ือ…………………………………………..ครูพเี่ ลี้ยง (นายพันศักด์ิ เสง็ สุวรรณ) ครูวทิ ยาฐานะครชู านาญการพิเศษ ความคดิ เห็นของรองผอู้ านวยการสถานศึกษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื …………………………………………..ผตู้ รวจ (นางทพิ มาศ ดวงจนั ทราศิร)ิ รองผู้อานวยการสถานศึกษาโรงเรียนวัดมะลิ ความคิดเหน็ ของผอู้ านวยการสถานศกึ ษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………………………………..ผ้บู รหิ ารสถานศึกษา (นางสาวดรณุ ี เทพา) ผูอ้ านวยการสถานศึกษาโรงเรียนวดั มะลิ
แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ 6 รหัสวิชา 21101 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ศลิ ปะ สาระ ทัศนศิลป์ หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 2 การออกแบบรปู ภาพ สญั ลกั ษณ์และงานกราฟกิ ภาคเรยี นที่ 2 เรื่อง ประเภทรปู ภาพสญั ลักษณ์ (Logo) จานวน 1 คาบ ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 เวลา 1 ชวั่ โมง สอนเมอ่ื วันท…ี่ ……เดอื น………………….พุทธศักราช……………… ครูผสู้ อน วิภาพร ทพิ ราช 1. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ศ 1.1 สรางสรรค์งานทัศนศิลปตามจินตนาการ และความคิดสรางสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์คณุ คา งานทัศนศิลป ถา ยทอดความรสู กึ ความคดิ ตอ งานศิลปะอยางอิสระ ช่ืนชม และประยกุ ตใ์ ชใ นชีวิตประจาวัน 2. ตวั ช้วี ัด ศ 1.1 ม. 1/5 ออกแบบรูปภาพ สัญลกั ษณ์หรือกราฟกิ อนื่ ๆ ในการนาเสนอความคิด และขอมลู 3. สาระสาคญั เพ่ือใหบอกเหตุผลในการออกแบบสัญลักษณ์ (Logo) เพ่ือใชในการสื่อสารในลักษณะ ตางๆ เหตุการณ์ตางๆ ซึ่งสิ่งที่นักออกแบบไดออกแบบข้ึนมา เพ่ือสื่อความหมายใหมนุษย์เขาใจ รว มกนั ในสังคม รูปภาพสัญลักษณ์ (Logo) มีหลากหลายรูปแบบ สรางขึ้นเพื่อใชในการส่ือสารใหผูพบ เห็นเขาใจความหมายของสัญลักษณ์น้ันในทันที ซึ่งภาพสัญลักษณ์มีหลากหลายรูปแบบหลาย ประเภท อีกทั้งสัญลักษณย์ ังมีการออกแบบท้งั รูปแบบภาพและรูปแบบตวั หนงั สือ 4. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 4.1 ดา้ นความรู้ (K) - เพ่อื ใหน กั เรยี นสามารถอธบิ ายความหมายของสญั ลกั ษณ์ (Logo) ได
4.2 ดา้ นทกั ษะ (P) - เพอื่ ใหน ักเรยี นสามารถรจู ักหลักการในการวาดสัญลักษณ์ (Logo) ได 4.3 ด้านคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (A) 1) มีวินยั (เขา ชน้ั เรยี น, มีความรับผดิ ชอบตองานทไ่ี ดร ับมอบหมาย) 2) มุงมั่นในการทางาน (เอาใจใสตอการปฏิบัติหนาที่ที่ไดรับมอบหมาย, พยายาม แกปญั หาและอปุ สรรคในการทางานใหสาเร็จ) 5. สาระการเรยี นรู้ ประเภทสัญลกั ษณ์ (Logo) เพื่อใชในการสื่อสาร 6. สมรรถนะทีส่ าคญั 6.1 ความสามารถในการคดิ อยา งสรา งสรรค์ 6.2 ความสามารถในการใชเหตุผลในการคดิ แยกแยะไดดวยตนเอง 7. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ 7.1 มีวินัย 7.2 ใฝุเรยี นรู 7.3 มงุ มน่ั ในการทางาน 7.4 มจี ติ สาธารณะ 8. กระบวนการจดั การเรยี นรู้ ขั้นนา (5 นาที) 8.1 ครูกลาวทักทายนักเรยี น 8.2 ครอู ธบิ ายสิง่ ที่ตอ งเรียนในสัปดาห์นใี้ หน ักเรียนทราบ “ประเภทรปู ภาพสญั ลักษณ์ (Logo)” 8.3 ครูสอบถามนกั เรยี น “นักเรยี นลองยกตัวอยางสัญลักษณ์หรือโลโกที่นักเรียนรูจักมา 1 อยาง พรอมอธิบายเหตใุ ดถึงเลือกผลงานชิ้นน้ัน” เพ่ือกระตุนใหผูเรียนเชื่อมโยงเขาสูเนื้อหาความรูเก่ียวกับ ประเภทรูปภาพสญั ลกั ษณ์ (Logo) ข้ันสอน (50 นาที) 8.4 ครูอธบิ ายหลักการออกแบบสญั ลกั ษณ์ (Logo) ใหน ักเรียนฟัง
การออกแบบรปู ภาพมหี ลกั การอะไรบ้าง 1) เรื่องและแนวความคิด : คือท่ีมาของความคิดท่ีจะออกแบบ อาจมาจากธรรมชาติหรือ ขอกาหนดของการออกแบบ 2) ทัศนธาตุและเทคนิควิธีการ : การใชจุด เสน สี น้าหนัก พ้ืนผิวและเทคนิคตางๆ ในการสรางสรรค์ 3) หลักและทฤษฎีองค์ประกอบศิลป : จะชวยใหการสรางสรรค์งานออกแบบ มีความงาม 4) คุณคาทางความงามของงานออกแบบ เป็นผลสัมฤทธ์ิท่ีเกิดขึ้นและมีผลตอผูชม และสงั คม การออกแบบรปู ภาพมีอะไรบา้ ง 1. การออกแบบรปู ภาพ แบง ออกไดดงั น้ี 1.1. การออกแบบรูปภาพดวยจุด จุดเป็นองค์ประกอบหน่ึงของทัศนธาตุ ทสี่ ามารถนามาสรางภาพไดท กุ รปู แบบ 1.2. การออกแบบรปู ภาพดวยเสน เสนมหี ลายลกั ษณะและทาใหเ กิดความรูสกึ ทหี่ ลากหลายตอผูพบเห็น 2. การออกแบบสัญลักษณ์ ความหมายของสญั ลกั ษณ์ คือ ส่ิงทนี่ ักออกแบบไดออกแบบขน้ึ มาเพือ่ สอื่ ความหมายใหม นุษยเ์ ขาใจรว มกันในสังคม ไดแก 1. เครอื่ งหมายจราจร ทม่ี า : http://www.logahead.com/wp-content/uploads/2017/01/Traffic_Signs.jpg
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399