Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ผลงาน

ผลงาน

Published by Wipaphorn Tipparach, 2021-05-15 20:57:17

Description: ผลงาน

Search

Read the Text Version

บันทึกผลหลงั การจดั การเรยี นรู้ 1. ผลการจดั การเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ปญั หา/อปุ สรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. ขอ้ เสนอแนะและแนวทางการแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ …………………………………………..ครูผู้สอน (นางสาววิภาพร ทพิ ราช) นกั ศกึ ษาฝึกประสบการณว์ ิชาชีพครู ความคิดเห็นของครพู ีเ่ ลีย้ ง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื …………………………………………..ครูพ่เี ล้ียง (นายพันศกั ด์ิ เส็งสุวรรณ) ครูวิทยาฐานะครชู านาญการพเิ ศษ ความคดิ เห็นของรองผู้อานวยการสถานศึกษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………………………………..ผู้ตรวจ (นางทพิ มาศ ดวงจันทราศิร)ิ รองผู้อานวยการสถานศึกษาโรงเรยี นวัดมะลิ ความคิดเหน็ ของผอู้ านวยการสถานศกึ ษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………………………………..ผู้บริหารสถานศึกษา (นางสาวดรณุ ี เทพา) ผ้อู านวยการสถานศึกษาโรงเรียนวัดมะลิ

แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 7 รหัสวิชา 14101 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ศิลปะ สาระ ทัศนศิลป์ หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 3 การเขยี นภาพระบายสโี ปสเตอร์ ภาคเรยี นท่ี 2 เรือ่ ง การไลค่ ่าน้าหนกั สผี สมขาว จานวน 1 คาบ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 4 เวลา 1 ช่วั โมง สอนเมอ่ื วันท…่ี ……….เดือน……………………….พทุ ธศักราช…………. ครูผู้สอน วภิ าพร ทิพราช 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ศ 1.1 สร฾างสรรค์งานทัศนศิลป฼ตามจินตนาการ และความคิดสร฾างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์คุณค฽างานทัศนศิลป฼ ถ฽ายทอดความร฾ูสึก ความคิดต฽องานศิลปะอย฽างอิสระ ชื่นชม และประยกุ ต์ใชใ฾ นชีวติ ประจาวนั 2. ตวั ช้วี ัด ศ 1.1 ป. 4/5 มที กั ษะพ้นื ฐานในการใช฾วสั ดุ อปุ กรณส์ ร฾างสรรคง์ านวาดภาพระบายสี 3. สาระสาคัญ เพอื่ ให฾เข฾าใจขบวนการการระบายสีด฾วยคา฽ นา้ หนักสีผสมขาว และสามารถบอกค฽าน้าหนักสีผสม ขาวได฾ถูกต฾องตามหลกั การการไลส฽ ี ซึ่งเฉดสีการผสมขาวจะมคี วามเข฾ม – อ฽อน แตกตา฽ งกัน ทาให฾เกิด เฉดสหี ลายสี สามารถผสมสี ค฽าน้าหนักสีผสมขาวและไล฽ค฽าน้าหนักผสมขาวมีความแตกต฽างกันชัดเจนในแต฽ ระดับสี ซึ่งจะไล฽ค฽าน้าหนักจากอเข฾มไปอ฽อน เพราะค฽าน้าหนักสีผสมขาวเป็นการเติมสีขาวใน อตั ราสว฽ น20 % ลงในสีแท฾ (Hue) จากน้นั ผสมกันแล฾วให฾ระบายลงในกระดาษ จากนั้นใหเ฾ ตมิ สีขาวใน อัตราส฽วน 20 % ลงในสีเดิมอีกคร้ัง ผสมให฾เข฾ากันจากนั้นนาไประบายลงในกระดาษเพ่ือไล฽ระดับสี สามารถเติมสีขาวและระบายเชน฽ นไ้ี ปเร่ือยๆ ได฾ โดยระดบั นา้ หนักความออ฽ นท่เี ห็นความเปล่ียนแปลง ได฾ชัดอย฽ูในระดบั ที่ 3 - 6 ระดับและจะปรากฏค฽านา้ หนกั ความเขม฾ -อ฽อน 4. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 4.1 ด้านความรู้ (K) เพอ่ื ใหน฾ กั เรยี นสามารถบอกค฽าน้าหนกั สผี สมขาวได฾

4.2 ด้านทกั ษะ (P) เพ่อื ให฾นกั เรยี นสามารถผสมสีไลค฽ า฽ น้าหนกั สผี สมสีขาวได฾ 4.3 ด้านคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ (A) 1) มีวินยั (เข฾าชั้นเรยี น, มคี วามรบั ผิดชอบต฽องานทไี่ ดร฾ บั มอบหมาย) 2) มุง฽ ม่ันในการทางาน (เอาใจใส฽ตอ฽ การปฏบิ ัติหนา฾ ท่ที ่ีไดร฾ ับมอบหมาย, พยายาม แกป฾ ญั หาและอุปสรรคในการทางานให฾สาเรจ็ ) 5. สาระการเรยี นรู้ การผสมสี ค฽านา้ หนกั สีผสมขาวจนเกดิ เป็นเฉดสีหลายสี 6. สมรรถนะทีส่ าคญั 6.1 ความสามารถในการคิดอยา฽ งสรา฾ งสรรค์ 6.2 ความสามารถในการใชเ฾ หตุผลในการคดิ ดว฾ ยตนเอง 6.3 ความสามารถในการแก฾ปญั หาเฉพาะหน฾าได฾ดว฾ ยตนเอง 7. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 7.1 มีวนิ ัย 7.2 ใฝุเรยี นร฾ู 7.3 มุ฽งมัน่ ในการทางาน 7.4 มจี ติ สาธารณะ 8. กระบวนการการจดั กิจกรรมการเรยี นรแู้ บบซปิ ปา ขั้นนา (5 นาที) 8.1 ครกู ลา฽ วทกั ทายนกั เรยี น 8.2 ครูอธิบายสง่ิ ที่ต฾องเรยี นในสปั ดาห์นใี้ หน฾ ักเรยี นทราบเก่ียวกบั การไล฽ค฽านา้ หนักสีผสมขาว 8.3 ครใู ห฾นักเรียนนงั่ เป็นกล฽มุ โดยให฾นงั่ ตามกลม฽ุ เดมิ เหมอื นกบั กิจกรรมในครั้งแรก มีทั้งหมด 5 กลุ฽ม จานวนกลุ฽มละ 3 คน สมาชิกในกลุ฽มประกอบด฾วยนักเรียนที่จัดอยู฽ในกล฽ุมเก฽ง ปานกลาง และกล฽มุ ออ฽ น ขน้ั ท่ี 1 การทบทวนความร้เู ดมิ 8.4 ครูสอบถามนักเรียน “หากนาสีขาวมาผสมกับสีใดสีหน่ึง จะทาให฾สีนั้นมีลักษณะอย฽างไร” (พิจารณาตามคาตอบของนักเรยี น โดยให฾อยใู฽ นดุลยพนิ จิ ของครูผส฾ู อน) เพื่อกระตุ฾นให฾ผ฾ูเรียนร฾ูจักคิดและ เปน็ การทบทวนความร฾ูเดิมที่เคยไดเ฾ รียนมา เพื่อเช่อื มโยงเข฾าสู฽เน้ือหาความรู฾เกี่ยวกับการเขียนการไล฽ค฽า นา้ หนกั สีผสมขาว

ขั้นสอน (50 นาที) ขน้ั ท่ี 2 การแสวงหาความร้ใู หม่ 8.5 ครใู หน฾ กั เรียนดวู งจรสีที่ไล฽คา฽ นา้ หนักสผี สมขาวแสดงเฉดสหี ลายเฉดสี 8.6 ครูแจกใบความรู฾แล฾วให฾นักเรียนอ฽านเพื่อทาความเข฾าใจในส฽วนของค฽าน้าหนักสีผสมขาว คืออะไร ภาพที่ 1 : วงจรสี ไล฽ค฽านา้ หนักสผี สมขาว ที่มา : วภิ าพร ทพิ ราช ขน้ั ที่ 3 การศกึ ษาทาความเข้าใจข้อมลู /ความรู้ใหม่ และเช่อื มโยงความรใู้ หม่กบั ความรู้เดิม 8.7 ครูให฾นักเรียนตอบคาถามเมื่อนาสีขาวมาผสมกับสีใดสีหน่ึงสีนั้นจะเปล่ียนค฽าสีให฾อ฽อนลง จากเดิม เนื่องจากเป็นสีทม่ี คี วามสว฽างและอ฽อนทสี่ ุด ขนั้ ท่ี 4 การแลกเปลย่ี นความรคู้ วามเขา้ ใจกับกลุ่ม 8.8 จากน้ันครใู หน฾ ักเรียนแตล฽ ะกลุม฽ ทดลองใช฾สีชอรก์ โดยเลือกสีใดสีหนึ่งระบายลงในกระดาษ แลว฾ ใช฾สีขาวทาทับลงไปโดยคอ฽ ยๆ ออกแรงกดสไี ล฽ระดบั สขี นึ้ ไป จากน้นั ใหน฾ กั เรยี นสงั เกตคา฽ นา้ หนักสี 8.9 สมาชิกแตล฽ ะคนในกล฽ุมผลัดกันเสนอคาตอบของตนเองให฾เพื่อนในกลุ฽มฟัง แล฾วซักถามข฾อ สงสัย จนทกุ คนในกล฽มุ มคี วามร฾คู วามเข฾าใจท่ถี กู ต฾องตรงกัน 8.10 ครูให฾ตัวแทนนักเรียนแต฽ละกล฽ุมนาเสนอคาตอบหน฾าช้ันเรียนและแสดงความคิดเห็น รว฽ มกัน ขน้ั ท่ี 5 การสรุปและจัดระเบยี บความรู้ 8.11 ครูอธบิ าย สีขาว เป็นสีท่ีมีเน้ือสีอ฽อนและสว฽าง ส฽วนสีแท฾ (Hue) คือ สีท่ีมีความเข฾มในตัว ของมนั อย฽แู ล฾วโดยทย่ี งั ไม฽ถกู ผสมกบั สีดาหรอื สีขาว เมื่อนาสีขาวมาผสมกบั สแี ท฾จะทาให฾สีแท฾อ฽อนลง 8.12 ครูเปดิ คลปิ วิดโี อการไลค฽ ฽าน้าหนักสีผสมขาวให฾นักเรียนดูและอธิบายสีขาวจะลดความสด ของสีลงมากกว฽าสหี ลกั

คลิปวดิ ีโอข้นั ตอนการไลค่ ่านา้ หนักสีผสมขาว ท่ีมา : https://www.youtube.com/watch?v=dyNDAOA0MZ4&t=203s 8.13 ครูสาธติ และอธิบายการไลค฽ า฽ นา้ หนักสีผสมขาว ยกตัวอย฽างสีมว฽ งให฾นักเรยี นดู  วัสดุ อปุ กรณ์ - ถาดสี - กระบอกเติมน้า - สีโปสเตอร์แมส฽ ี 3 สี - สีขาว - พู฽กัน - กระดาษ - เศษผา฾ - ผ฾ากันเปอื้ น - เทปกาวกันนา้ การระบายสคี วรระบายสใี ห฾ระบายไปในทิศทางเดียวกนั หรือปาดซา฾ ย-ขวา ไปมา ไมค฽ วรนาพู฽กัน จุ฽มน้าขณะระบายสีเดิมอยู฽เพราะจะทาให฾สีเพี้ยนสีสีด฽าง ไม฽ควรปวดสีตัดกันไปมาเพราะจะทาให฾สีเกิด เส฾นตดั กันและสไี ม฽สม่าเสมอกนั มากกว฽า  ข้นั ตอนการไลค฽ า฽ นา้ หนักสผี สมขาว ยกตัวอย฽างสีมว฽ ง 1. ให฾นาเทปกาวกนั นา้ ตดิ ขอบรอบนอกส่เี หล่ยี ม 2. ผสมสมี ฽วง และระบายลงในชอ฽ งสเ่ี หลยี่ มช฽องท่ี 1 3. เติมสขี าวอัตราสว฽ น 20 % ลงในถาดสีมว฽ ง คนให฾เข฾ากนั 4. นาสีทผี่ สมแล฾วมาระบายลงในชอ฽ งส่เี หล่ยี มช฽องท่ี 2 5. ให฾ทาเช฽นน้จี นครบทกุ ชอ฽ ง ให฾นักเรียนสังเกตความแตกต฽างของสีในแต฽ละระดับ สีขาวจะลดความเข฾มของสีลง สหี ลัก ระดับนา้ หนักความออ฽ นทเี่ ห็นความเปลยี่ นแปลงได฾ชดั อยูใ฽ นตั้งแต฽ 3 - 6 ระดับ ค่านา้ หนักสผี สมขาว ที่มา : วภิ าพร ทพิ ราช

ขนั้ ท่ี 6 การปฏิบัติ และ/หรือการแสดงผลงาน 8.14 ครูให฾นกั เรียนทากิจกรรมใบงานที่ 3.3 เรื่อง การไล฽ค฽าน้าหนักสีผสมขาว โดยให฾นักเรียน เลอื กสี 1 สี จากน้นั ผสมสี ไลค฽ า฽ น้าหนักสีผสมขาวลงในชอ฽ งสเี หลี่ยมทกี่ าหนดให฾ 8.15 ครูเปิดโอกาสให฾นักเรียนซักถาม จากนั้นให฾นักเรียนทากิจกรรมและครูคอยเดินดูและให฾ คาแนะนา 8.16 ครูให฾ส฽ุมนักเรียนออกมานาเสนอผลงานหน฾าช้ันเรียน พร฾อมบอกปัญหาท่ีพบขณะ ปฏบิ ัติงาน ขนั้ ที่ 7 การประยกุ ตใ์ ชค้ วามรู้ 8.17 ครูให฾นักเรียนหาข฾อมูลการไล฽ค฽าน้าหนักสีผสมขาวสามารถนามาสร฾างงานทัศนศิลป฼ได฾ หรือไม฽ พร฾อมยกตัวอย฽างประกอบ (พิจารณาตามคาตอบของนักเรียน โดยให฾อย฽ูในดุลยพินิจของ ครูผสู฾ อน) ข้ันสรุป (5 นาที) 8.18 ครูสรุปเน้ือหาเรื่อง “การไล฽ค฽าน้าหนักสีผสมขาว” ร฽วมกับนักเรียนและให฾นักเรียนเก็บ อุปกรณ์ให฾เรียบรอ฾ ย 9. การวดั และประเมนิ ผล 9.1 เรอื่ ง การไลค฽ ฽านา้ หนักสผี สมขาว (10 คะแนน) ประเด็นการ 5 เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ประเมนิ - 4 3 2 10 - -นักเรียนบอก -นักเรียนบอก -นักเรียนบอก -ไม฽ ด้านความรู้ (K) ค฽านา้ หนักสผี สม คา฽ น้าหนักสีผสม ค฽ า น้ า ห นั ก สี สามารถ -เพื่อให฾นักเรียน ขาวถูกต฾อง ทุก ขาวถูกต฾อง 2 ผสมขาวถกู ตอ฾ ง บอกได฾ สามารถบอกค฽า ขอ฾ จาก 3 ขอ฾ ขอ฾ จาก 3 ขอ฾ 1 ข฾อจาก 3 ขอ฾ -ไม฽มา น้าห นักสีผส ม ขาวได฾ เรยี น ด้านทกั ษะ -สามารถไล฽ค฽า -ส า ม า ร ถ ไ ล฽ ค฽ า -สามารถไล฽ค฽า -สามารถไล฽ค฽า -สามารถไล฽ค฽า -ไม฽สง฽ (P) น้าห นักสีผส ม น้าห นักสีผส ม น้าห นักสีผส ม น้าห นักสีผส ม น้าหนักสีผสม งาน -เพื่อให฾นักเรียน ขาวเห็นระดับ ขาว เห็นระดับ ขาว เห็นระดับ ขาว เห็นระดับ ขาว เห็นระดับ -ไม฽มา สามารถผสมสี น้าห นักค วา ม น้าห นักค วา ม น้าห นักค วา ม น้าห นักค วา ม น้าหนักความ เรียน ไล฽ค฽าน้าหนักสี อ฽ อ น เ ป ล่ี ย น อ฽ อ น เ ป ลี่ ย น อ฽ อ น เ ป ลี่ ย น อ฽ อ น เ ป ล่ี ย น อ฽ อ น เ ป ลี่ ย น ผสมสีขาวได฾ แปลงทุกระดับ แปลง 5 ระดับ แปลง 4 ระดับ แปลง 3 ระดับ แ ป ล ง 1-2 จาก 6 ระดบั จาก 6 ระดับ จาก 6 ระดบั ระดับ จาก 5 จาก 6 ระดับ -ก ร ะ ด า ษ ไ ม฽ -กระดาษเป็นขุย -กระดาษเป็นขุย ระดบั -ก ร ะ ด า ษ ไ ม฽

เ ป็ น ขุ ย แ ล ะ สี เ ป็ น ขุ ย แ ล ะ สี เ ล็ ก น฾ อ ย แ ต฽ สี เล็กน฾อยและสี -ก ร ะ ด า ษ ไม฽ชา้ ไมช฽ ้า ไม฽ช้า ชา้ เล็กนอ฾ ย เป็นขุยจานวน -สีไม฽กระจายใน -สีไม฽กระจายใน -สีไม฽กระจายใน -สีกระจายลงใน มากและสีช้า ชอ฽ งระดบั สีอน่ื ชอ฽ งระดับสอี น่ื ช฽องระดับสีอื่น ชอ฽ งระดับสีอ่นื มาก -รูปแบบผลงาน -รูปแบบผลงาน -รูปแบบผลงาน -รูปแบบผลงาน -สีกระจายลง ส ะ อ า ด ส ะ อ า ด ส ะ อ า ด ส ะ อ า ด ในช฽องระดับสี เ รี ย บ ร฾ อ ย เ รี ย บ ร฾ อ ย เ รี ย บ ร฾ อ ย เรียบร฾อย แต฽ไม฽ อนื่ จานวนมาก สมบูรณ์ สมบูรณ์ สมบรู ณ์ สมบรู ณ์ -รปู แบบผลงาน สะอาด แต฽ไม฽ สมบูรณ์ ดา้ นจิตพิสัย - - - -เ ข฾ า ช้ั น เ รี ย น -เข฾าช้ั นเรีย น ไม฽เขา฾ (A) ช้นั -มีวนิ ยั แ ล ะ มี ค ว า ม แต฽ไม฽มีค วาม เรยี น -ม฽งุ มั่นในการ ทางาน ม฽ุ ง มั่ น ใ น ก า ร มุ฽ง ม่ั นใน กา ร ทางาน ทางาน เกณฑ์การประเมนิ คะแนน ประเมิน 9 - 10 ดี 7-8 5–6 ปานกลาง นอ฾ ย 10. สือ่ อุปกรณ์และแหลง่ การเรียนรู้ สื่อการเรียนรู้ 1. วงจรสี คา฽ นา้ หนักสผี สมขาว 2. ใบความรู฾ อปุ กรณ์ - ใบงาน - สโี ปสเตอร์/พู฽กัน/ถาดสี/กระบอกเตมิ น้า/ผา฾ กนั เปือ้ น - ดินสอ/ยางลบ แหลง่ การเรยี นรู้ 1. หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน ทัศนศิลป฼ กล฽ุมสาระการเรียนรู฾ศิลปะ ระดับช้ัน ประถมศึกษาปีท่ี 4 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พนื้ ฐาน พ.ศ. 2551

2. เวบ็ Pinteres 3. Youtube

ใบงานท่ี 3.3 เร่ือง การไลค่ ่าน้าหนกั สีผสมขาว ตอนท่ี 1 คาชี้แจง : ให้นกั เรยี นเติมเครือ่ งหมาย  หรือ  ลงใน  ใหถ้ ูกต้อง 1. การไล฽ค฽านา้ หนกั สผี สมขางให฾เตมิ สีขาวอัตราส฽วน 20 % 2. ระดบั นา้ หนักความอ฽อนท่ีเหน็ ความเปล่ียนแปลงไดช฾ ัดอย฽ูในระดบั ที่ 1 ระดับ เท฽านนั้ 3. จากภาพวงจรสีเป็นการไลค฽ า฽ น้าหนักสี ผสมดา ตอนที่ 2 คาชแี้ จง : ให้นักเรียนเลือกสีแท้ (Hue) 1 สี จากนั้นไล่ค่าน้าหนักสี ผสมขาว ให้มีน้าหนัก ความ อ่อนลงเหน็ ความเปลีย่ นแปลงทุกระดบั ชื่อ……………………………………………..นามสกุล………………………………….เลขท…ี่ …………ช้นั ……………

ลั ก ษ ณ ะ สี จ า แ น ก ไ ด฾ เ ป็ น 3 ประเภท ได฾แก฽ สีเข฾ม (Shade) สี แ ท฾ (Hue) แ ล ะ สี อ฽ อ น (Tint) ยกตวั อยา฽ งสีสม฾ ดงั นี้ 1. สเี ขม้ (Shade) ไดแ฾ ก฽ สีท่ีผสมกบั สีดาหรอื สที เี่ ข฾ม กวา฽ สีแท฾ สีดาจะเพิ่มน้าหนกั ของสีที่ถกู ผสมใหเ฾ ข฾มข้ึน 2. สีแท้ (Hue) ไดแ฾ ก฽ สีที่มคี วามเข฾ม ซ่ึงเป็นคุณสมบตั ิ แท฾ๆ โดยตวั ของมันเอง ไม฽ถูกผสมดว฾ ยสีดาหรือขาว 3. สีอ่อน (Tint) ไดแ฾ ก฽ สที ผ่ี สมกับสขี าวเพอ่ื ลดความเขม฾ ของสี ทาใหน฾ า้ หนกั ของสีแท฾ทถี่ ูกผสมอ฽อนลง

แบบประเมนิ ใบงาน เคร่อื งมือ หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่………….เร่อื ง……………………………………………………………………ช้ัน……………….. คาช้ีแจง : ให฾ครผู ู฾สอนประเมนิ ใบงานของนักเรียนแล฾วให฾ทาเครื่องหมาย  ลงในชอ฽ งท่ีตรงกับ ระดบั คะแนน ลาดบั ท่ี ลาดับท่ี -เพื่อให้นกั เรยี น -เพอื่ ใหน้ กั เรยี น ความมุ่งม่นั รวม 10 ชอ่ื – สกลุ สามารถบอกค่า สามารถผสมสไี ล่ ในการ คะแนน นา้ หนักสีผสมขาว ค่านา้ หนกั สผี สมสี ทางาน ได้ ขาวได้ 2 10 2101 0 1 ด.ญ. วรสรณ์ ขาวิจติ ราภรณ์ 2 ด.ญ. ปิยนุช แสงทวปี 3 ด.ญ. พีรดา ชาญเช่ยี ว 4 ด.ช. พชรพล สบื สาย 5 ด.ช. ธัญเทพ ฐานวิริยฐากุล 6 ด.ญ. จิรวรรณ์ อัศวเดชานกุ ร 7 ด.ญ. ทพิ ภาภรณ์ แขกแปลก 8 ด.ญ. ทพิ านันท์ ไชยนัด 9 ด.ช. อคั รเดช มว฽ งทวี 10 ด.ช. สหรฐั อิ่มสมโภชน์ 11 ด.ช. รชั ชานนท์ เจริญทรัพย์ 12 ด.ช. กษิด์ิดิษฎ์ กันแกว฾ 13 ด.ช. ก฾องภพ กอ฾ นแก฾ว 14 ด.ช. ณฐั วุธ มจี าด 15 ด.ญ. โฮซันนา มั่นหมาย 16 ด.ช. เหรียญชัย เฉิน 17 ด.ญ. ลลดา ทองเรือง ลงชื่อ...................................................ผปู้ ระเมิน (…………………..…………………………..) .................../................../................

แบบประเมนิ ใบงาน เครือ่ งมอื หน่วยการเรียนรทู้ ่ี………….เร่อื ง……………………………………………………………………ชนั้ ……………….. คาชี้แจง : ให฾ครผู ู฾สอนประเมินใบงานของนักเรยี นแล฾วให฾ทาเครื่องหมาย  ลงในชอ฽ งทีต่ รงกับ ระดบั คะแนน ลาดบั ท่ี ลาดบั ที่ เพ่อื ใหน้ กั เรียน -นกั เรียนบอกค่า ความมุ่งมนั่ รวม 10 ชอ่ื – สกุล สามารถบอกคา่ นา้ หนักสผี สมขาว ในการ คะแนน น้าหนักสีผสมดาได้ ทางาน ถกู ต้อง ทุกข้อ จาก 3 ข้อ 2 102101 0 1 ด.ช. ชวินทร์ จันทรเ์ จริญ 2 ด.ช. กิตตภิ พ พรมสอน 3 ด.ญ. ชญั ญานุช ศรตี ัสสะ 4 ด.ช. อนสุ รณ์ แชม฽ สนิท 5 ด.ญ. จันทร์ทมิ า เมฆกระจาย 6 ด.ญ. สุภานชิ า เรอื งกลน่ั 7 ด.ญ. ธนวรรณ ธนกุลทินวัฒน์ 8 ด.ช. ธรี ภทั ร ธปู เทยี นรตั น์ 9 ด.ช. ศกึ ษา แก฾วมศี รี 10 ด.ช. ภานุวัชร์ ศาลา 11 ด.ญ. พีชญา แก฾วบวั ดี 12 ด.ญ. รนิ รดา ตรงกลาง 13 ด.ช. ธนกฤต จนั ทรักษา 14 ด.ช. ธนกฤต จนั ทรกั ษา 15 ด.ช. ชโยทติ สุขพศิ ษิ ฐ์ 16 ด.ช. พีระพฒั น์ สันสะกดิ ลงช่อื ...................................................ผูป้ ระเมิน (…………………..…………………………..) .................../................../................

บนั ทกึ ผลหลงั การจดั การเรยี นรู้ 1. ผลการจัดการเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ปัญหา/อุปสรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. ขอ้ เสนอแนะและแนวทางการแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชือ่ …………………………………………..ครผู ู้สอน (นางสาววภิ าพร ทพิ ราช) นักศึกษาฝึกประสบการณว์ ิชาชีพครู ความคดิ เห็นของครพู เี่ ลี้ยง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื …………………………………………..ครูพ่เี ลี้ยง (นายพันศกั ดิ์ เส็งสวุ รรณ) ครูวิทยาฐานะครูชานาญการพเิ ศษ ความคิดเหน็ ของรองผู้อานวยการสถานศกึ ษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ …………………………………………..ผู้ตรวจ (นางทิพมาศ ดวงจนั ทราศิร)ิ รองผอู้ านวยการสถานศึกษาโรงเรยี นวัดมะลิ ความคดิ เหน็ ของผู้อานวยการสถานศกึ ษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………………………………..ผู้บรหิ ารสถานศึกษา (นางสาวดรุณี เทพา) ผอู้ านวยการสถานศกึ ษาโรงเรียนวัดมะลิ

แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 13 รหัสวชิ า 14101 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ศิลปะ สาระ ทัศนศิลป์ หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 3 ทัศนศิลปก์ ับวฒั นธรรม ภาคเรียนที่ 2 เรอื่ ง ทัศนศลิ ป์และวัฒนธรรมไทย 4 ภาค จานวน 2 คาบ ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 4 เวลา 1 ช่วั โมง สอนเมอื่ วนั ท…่ี …….เดือน………………..พุทธศักราช………….. คาบท่ี 2 ครผู สู้ อน วภิ าพร ทิพราช 1. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ศ 1.2 เข฾าใจความสมั พันธร์ ะหว฽างทัศนศลิ ป฼ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เหน็ คุณค฽า งานทัศนศิลปท฼ ีเ่ ป็นมรดกทางวัฒนธรรม ภูมปิ ัญญาท฾องถิ่น ภูมิปัญญาไทย และสากล 2. ตัวชี้วัด ศ 1.2 ป.4/1 ระบุ และอภิปรายเกี่ยวกับงานทัศนศิลป฼ ในเหตุการณ์ และงานเฉลิมฉลอง ของวฒั นธรรมในท฾องถิ่น ป.4/2 บรรยายเกี่ยวกบั งานทศั นศลิ ป฼ที่มาจากวัฒนธรรมตา฽ งๆ 3. สาระสาคัญ เพอ่ื ใหส฾ ามารถระบทุ ัศนศิลปใ฼ นแตล฽ ะท฾องถ่ินใน 4 ภาคของไทย ท่ีมีความแตกต฽างกันท้ังด฾านการ สรา฾ งงานทัศนศลิ ปห฼ รอื ในดา฾ นวฒั นธรรม ซ่ึงมคี ณุ คา฽ ตอ฽ คนไทยมาตง้ั แต฽อดตี จนถึงปจั จบุ นั สามารถบรรยายด฾านทัศนศิลป฼และวัฒนธรรมท่ีเกิดขึ้นในท฾องถ่ินในแต฽ละภาคของไทย ศิลปะ ท฾องถ่ินในภมู ิภาคตา฽ งๆ มกั มีลักษณะทีแ่ ตกตา฽ งกันไปตามภูมิประเทศ วิถีชีวิต ประเพณีและวัฒนธรรม ของผคู฾ นในท฾องถิ่น และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพราะถูกสร฾างสรรค์โดยศิลปินหรือผ฾ูคนในท฾องถิ่นเอง และมีลักษณะไมเ฽ หมอื นกบั ผลงานศลิ ปะทอ฾ งถิน่ อน่ื ๆ 4. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 4.1 ดา้ นความรู้ (K) เพื่อให฾นักเรียนสามารถระบทุ ัศนศิลป฼และวฒั นธรรมในแตล฽ ะท฾องถ่ินได฾

4.2 ด้านทกั ษะ (P) เพื่อใหน฾ กั เรียนสามารถบรรยายเกี่ยวกับทัศนศิลปแ฼ ละวัฒนธรรมในแตล฽ ะท฾องถิ่นได฾ 4.3 ดา้ นคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (A) 1) มวี ินัย (เข฾าชน้ั เรียน, มคี วามรับผดิ ชอบตอ฽ งานทีไ่ ดร฾ ับมอบหมาย) 2) มุง฽ มั่นในการทางาน (เอาใจใสต฽ ฽อการปฏิบัติหนา฾ ทท่ี ่ีไดร฾ บั มอบหมาย, พยายาม แก฾ปญั หาและอปุ สรรคในการทางานใหส฾ าเร็จ) 5. สาระการเรียนรู้ - ความแตกตา฽ งของทัศนศิลป฼และวัฒนธรรมในแตล฽ ะทอ฾ งถน่ิ ของไทย 6. สมรรถนะทสี่ าคญั 6.1 ความสามารถในการคิดอย฽างสร฾างสรรค์ 6.2 ความสามารถในการใช฾เหตุผลในการคดิ และแก฾ปัญหาด฾วยตนเอง 7. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 7.1 มวี ินยั 7.2 ใฝุเรยี นรู฾ 7.3 ม฽ุงมนั่ ในการทางาน 7.4 มีจิตสาธารณะ 8. กระบวนการจดั การเรยี นรู้ ขั้นนา (5 นาที) 8.1 ครูกล฽าวทกั ทายนกั เรยี น 8.2 ครูอธิบายสงิ่ ที่ตอ฾ งเรียนในสัปดาหน์ ใ้ี หน฾ ักเรียนทราบ “ทศั นศิลป฼และวัฒนธรรมไทย 4 ภาค” 8.3 ครูสอบถามนักเรียน “ถ฾านักเรียนไปร฽วมงานแห฽เทียน จะแกะสลักเทียนเป็นรูปอะไร” เพอ่ื กระตุ฾นใหผ฾ ฾ูเรียนรจู฾ ักคดิ และเปน็ การเชือ่ โยงเข฾าส฽บู ทเรยี นเกีย่ วกับทศั นศลิ ปแ฼ ละวัฒนธรรมไทย 4 ภาค ขั้นสอน (50 นาที) 8.4 ครูเล฽าประสบการในการเข฾าร฽วมงานวัฒนธรรมต฽างๆ ของภาคของตนเอง เช฽น การเข฾า ร฽วมงานประเพณีแห฽เทียนพรรษา การเข฾าร฽วมงานประเพณีขึ้นเขาพนมรุ฾งของภาคอีสาน การเข฾าร฽วมงาน

ประเพณสี งกรานตข์ องภาคเหนือ จากนัน้ ให฾นักเรียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับงานทัศนศิลป฼ท่ีต฾องพบใน การเข฾าร฽วมงานประเพณแี ละวฒั นธรรมตา฽ งๆ โดยครใู ชค฾ าถาม ดงั นี้  ถ฾าครูไปเทยี่ วงานประเพณีแหเ฽ ทยี รพรรษาของจงั หวดั อุบลราชธานีครจู ะพบงานทศั นศลิ ป฼อะไร (ตวั อยา฽ งคาตอบ การแกะสลักเทยี นพรรษา) ภาพท่ี 1 : การแกะสลกั เทยี นพรรษา ที่มา : https://www.tqm.co.th/new_images/1154_1.jpg?v=20190715155953  ถา฾ ครไู ปเท่ียวงานประเพณีข้นึ เขาพนมรุ฾ง ครจู ะพบงานทัศนศิลปอ฼ ะไร (ตวั อยา฽ งคาตอบ ปราสาทเขาพนมรง฾ุ ทบั หลงั นารายณบ์ รรทมสนิ ธ์ุ) ภาพที่ 2 : ปราสาทเขาพนมรุ้งทบั หลงั นารายณบ์ รรทมสินธ์ุ ท่ีมา : https://obs.line-scdn.net/0h_mbJefdwAEJfMymOL61_FXVlAy1sXxNBOwVRQQNd XnchVEBGNlRMJi4xXnImUBQUalBHdyg3W3Z2U0QXN1JPLChhV3FzBwIVMQFJdH9gVg/w644

 ถ฾าครูไปรว฽ มงานประเพณสี งกรานต์ของจังหวดั เชียงใหม฽ครูจะพบงานทศั นศลิ ป฼อะไร (ตัวอยา฽ งคาตอบ การทาตงุ ) ภาพที่ 3 : การทาตงุ ที่มา : https://i.pinimg.com/originals/19/22/b1/1922b186a9d751a1b2c49b9a0453a2fb.jpg 8.5 ครูแบ฽งกลุ฽มนักเรียนออกเป็น 4 กล฽ุม กลุ฽มละเท฽ากัน ให฾แต฽ละกล฽ุมศึกษางานทัศนศิลป฼ใน วัฒนธรรมท฾องถน่ิ ตา฽ งๆ ดงั น้ี กล฽มุ ท่ี 1 ศึกษางานทศั นศลิ ป฼ในวฒั นธรรมทอ฾ งถน่ิ ภาคเหนอื กลุ฽มที่ 2 ศึกษางานทศั นศิลปใ฼ นวัฒนธรรมทอ฾ งถิ่นภาคกลาง กลุ฽มที่ 3 ศึกษางานทัศนศลิ ปใ฼ นวัฒนธรรมท฾องถน่ิ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กลม฽ุ ที่ 4 ศกึ ษางานทัศนศลิ ปใ฼ นวัฒนธรรมท฾องถิ่นภาคใต฾ 8.6 ให฾นักเรียนแต฽ละกลุ฽มทาใบกิจกรรมที่ 3.1 แต฽ละกล฽ุมวาดภาพผลงานทัศนศิลป฼ท่ีแสดง เอกลักษณ์ของไทยในภาคทีน่ ักเรยี นได฾รบั 8.7 ใหน฾ กั เรียนออกมานาเสนอผลงานพร฾อมกบั แผนผงั (Mind Map) เม่ือสปั ดาหท์ แ่ี ล฾ว

ภาคเหนอื ภาคกลาง งานทัศนศลิ ป฼ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ข้นั สรปุ (5 นาที) ครูและนักเรียนสรุปเนื้อหาร฽วมกัน “งานทัศนศิลป฼ของแต฽ละท฾องถิ่นมีความเก่ียวข฾องกับ วัฒนธรรมในท฾องถ่ินเป็นงานท่ีมีคุณค฽า ควรแก฽การศึกษาและอนุรักษ์ไว฾ เพราะเป็นงานท่ีแสดงให฾เห็นถึง การใช฾ชีวติ ความเป็นอย฽ูของผูค฾ นในอดีตจนถงึ ปัจจุบัน” จากนน้ั ให฾นกั เรียนเก็บอปุ กรณใ์ ห฾เรียบร฾อย 9. การวดั และประเมินผล 9.1 ทัศนศลิ ป฼และวัฒนธรรมไทย 4 ภาค (10 คะแนน) ประเด็นการ เกณฑ์การให้คะแนน ประเมนิ 5 4 3 2 10 ดา้ นความรู้ (K) - -เพื่อให฾นักเรียน - -ส ามาร ถร ะบุ -ส ามาร ถร ะบุ -สามารถระบุ -ไม฽ ส า ม า ร ถ ร ะ บุ ทั ศ น ศิ ล ป฼ แ ล ะ ทัศนศิลป฼และ ทัศนศิลป฼และ ทัศนศิลป฼และ สามารถ วัฒนธรรมในแต฽ ละท฾องถ่ินได฾ วัฒนธรรมในแต฽ วัฒนธรรมในแต฽ วัฒนธรร มใน บอกได฾ ล ะ ท฾ อ ง ถ่ิ น ใ น ล ะ ท฾ อ ง ถิ่ น ใ น แต฽ละท฾องถิ่น -ไม฽มา แ ผ น ผั ง แ ผ น ผั ง ใ น แ ผ น ผั ง ไ ด฾ เรยี น ไ ด฾ ถู ก ต฾ อ ง ไ ด฾ ถู ก ต฾ อ ง ถูกต฾อง 1 ภาค 4-3 ภาค 2 ภาค จาก จาก 4 ภาค 4 ภาค ด้านทักษะ (P) -ส า ม า ร ถ -ส า ม า ร ถ -ส า ม า ร ถ -ส า ม า ร ถ -บ ร ร ย า ย -ไม฽ส฽ง -เพื่อให฾นักเรียน บ ร ร ย า ย บ ร ร ย า ย บ ร ร ย า ย บ ร ร ย า ย เ ก่ี ย ว กั บ งาน ส า ม า ร ถ เ กี่ ย ว กั บ เ กี่ ย ว กั บ เ กี่ ย ว กั บ เ กี่ ย ว กั บ ทัศนศิลป฼และ -ไมม฽ า บ ร ร ย า ย ทัศนศิลป฼และ ทัศนศิลป฼และ ทัศนศิลป฼และ ทัศนศิลป฼และ วัฒนธรร มใน เรียน เ กี่ ย ว กั บ วั ฒ น ธ ร ร ม ใ น วั ฒ น ธ ร ร ม ใ น วั ฒ น ธ ร ร ม ใ น วั ฒ น ธ ร ร ม ใ น ท฾ อ ง ถิ่ น ที่

ทัศนศิลป฼และ ท฾ อ ง ถ่ิ น ที่ ท฾ อ ง ถิ่ น ที่ ท฾ อ ง ถ่ิ น ท่ี ท฾ อ ง ถิ่ น ท่ี นักเรียนหามา วัฒนธรรมในละ นกั เรียนหามาได฾ นกั เรยี นหามาได฾ นกั เรียนหามาได฾ นกั เรยี นหามาได฾ ไ ด฾ ไ ม฽ ต ร ง ท฾องถ่นิ ได฾ ถู ก ต฾ อ ง ต า ม ถู ก ต฾ อ ง แ ต฽ ถู ก ต฾ อ ง แ ต฽ ผิดถูกบ฾างบาง ประเดน็ ประเด็น บ ร ร ย า ย เ กิ น บ ร ร ย า ย เ กิ น ประเดน็ -ว า ด ภ า พ -ว า ด ภ า พ ป ร ะ เ ด็ น ประเดน็ มาก -ว า ด ภ า พ ร ะ บ า ย สี ไ ด฾ ร ะ บ า ย สี ไ ด฾ เลก็ น฾อย -ว า ด ภ า พ ร ะ บ า ย สี ไ ด฾ สวยงาม สวยงาม -ว า ด ภ า พ ร ะ บ า ย สี ไ ด฾ สวยงาม -รปู แบบผลงาน -รูปแบบผลงาน ร ะ บ า ย สี ไ ด฾ สวยงาม -รูปแบบผลงาน ส ะ อ า ด ส ะ อ า ด สวยงาม -รูปแบบผลงาน ส ะ อ า ด เรยี บร฾อย เ รี ย บ ร฾ อ ย -รูปแบบผลงาน ส ะ อ า ด เ รี ย บ ร฾ อ ย สมบูรณ์ ส ะ อ า ด เ รี ย บ ร฾ อ ย สมบูรณ์ เ รี ย บ ร฾ อ ย สมบรู ณ์ สมบรู ณ์ ด้านจติ พิสยั - - - -เ ข฾ า ช้ั น เ รี ย น -เข฾าช้ั นเรีย น ไมเ฽ ข฾า ช้ัน (A) แ ล ะ มี ค ว า ม แต฽ไม฽มีค วาม เรยี น -มวี ินยั มุ฽ ง ม่ั น ใ น ก า ร มุ฽ง ม่ั นใน กา ร -ม฽งุ มั่นในการ ทางาน ทางาน ทางาน -เห็นคุณค฽าของ -ไม฽เห็นคุณค฽า -รกั ความเปน็ ศลิ ปะไทย ของศิลปะไทย ไทย เกณฑ์การประเมนิ คะแนน ประเมิน ดี 9 - 10 7-8 ปานกลาง 5–6 น฾อย 10. ส่อื อปุ กรณ์และแหลง่ การเรียนรู้ - ดินสอ/ยางลบ สอื่ การเรยี นรู้ 1. ตวั อยา฽ งของประเพณใี นแต฽ละทอ฾ งถิ่น อปุ กรณ์ - ใบงาน - สีไม฾/สเี ทียน แหล่งการเรยี นรู้

1. หนังสอื เรยี น รายวชิ าพ้ืนฐาน ทศั นศิลป฼ กล฽ุมสาระการเรียนร฾ศู ลิ ปะ ระดบั ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 4 ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน พ.ศ. 2551 2. PowerPoint

ใบงาน 3.1 เรอ่ื ง ทัศนศิลปแ์ ละวฒั นธรรมไทย 4 ภาค คาชแ้ี จง : ใหน฾ กั เรยี นแต฽ละกล฽ุมวาดภาพผลงานทัศนศิลปท฼ ีแ่ สดงเอกลักษณ์ของไทยในภาคทน่ี ักเรียน ไดร฾ ับ ช่ือภาพ…………………………………………………………………………………………………………………………………….. เปน็ งานทัศนศิลปท฼ ี่มาจากวัฒนธรรมของภาคใด……………………………………………………………………………… งานทัศนศิลปน฼ ้ีเก่ยี วขอ฾ งกับเหตกุ ารณ์ใดในทอ฾ งถ่ิน…………………………………………………………………………... ความรู฾สกึ ทีม่ ตี ฽อภาพน้ี………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ช่ือ…………………………………………………………………………….เลขท…่ี ………………….ช้นั ……………………

แบบประเมินใบงาน เครอื่ งมอื หน่วยการเรยี นรู้ท่ี………….เร่ือง……………………………………………………………………ช้ัน……………….. คาช้แี จง : ใหค฾ รูผ฾ูสอนประเมินใบงานของนักเรยี นแลว฾ ใหท฾ าเคร่ืองหมาย  ลงในช฽องทตี่ รงกับ ระดับคะแนน เพอื่ ให้ ลาดบั ลาดับที่ นักเรียน เพื่อใหน้ ักเรยี น ความ รวม ที่ ชอ่ื – สกุล สามารถระบุ สามารถบรรยาย มุง่ มน่ั ใน 10 ทศั นศิลปแ์ ละ เกย่ี วกับทศั นศิลป์และ คะแนน 1 ด.ญ. วรสรณ์ ขาวิจติ ราภรณ์ วฒั นธรรมใน วฒั นธรรมในละ การ 2 ด.ญ. ปิยนุช แสงทวีป แต่ละท้องถิ่น ทางาน 3 ด.ญ. พีรดา ชาญเชย่ี ว ท้องถิ่นได้ 4 ด.ช. พชรพล สืบสาย 5 ด.ช. ธัญเทพ ฐานวริ ิยฐากลุ ได้ 6 ด.ญ. จิรวรรณ์ อัศวเดชานุกร 7 ด.ญ. ทพิ ภาภรณ์ แขกแปลก 3210543210210 8 ด.ญ. ทิพานันท์ ไชยนัด 9 ด.ช. อคั รเดช ม฽วงทวี 10 ด.ช. สหรัฐ อิม่ สมโภชน์ 11 ด.ช. รัชชานนท์ เจรญิ ทรัพย์ 12 ด.ช. กษิด์ดิ ิษฎ์ กันแก฾ว 13 ด.ช. ก฾องภพ กอ฾ นแก฾ว 14 ด.ช. ณฐั วุธ มจี าด 15 ด.ญ. โฮซันนา ม่นั หมาย 16 ด.ช. เหรยี ญชัย เฉิน 17 ด.ญ. ลลดา ทองเรอื ง ลงช่อื ...................................................ผ้ปู ระเมนิ (…………………..…………………………..) .................../................../................

แบบประเมนิ ใบงาน เครือ่ งมอื หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่………….เรอ่ื ง……………………………………………………………………ชั้น……………….. คาช้แี จง : ใหค฾ รผู ู฾สอนประเมินใบงานของนกั เรยี นแล฾วใหท฾ าเครือ่ งหมาย  ลงในช฽องท่ตี รงกบั ระดับคะแนน เพือ่ ให้ ลาดบั ลาดับที่ นักเรยี น เพ่อื ใหน้ กั เรียน ความ รวม ท่ี ชอ่ื – สกลุ สามารถระบุ สามารถบรรยาย มงุ่ มั่นใน 10 ทัศนศิลปแ์ ละ เกีย่ วกบั ทัศนศลิ ป์และ คะแนน 1 ด.ช. ชวนิ ทร์ จันทรเ์ จรญิ วฒั นธรรมใน วฒั นธรรมในละ การ 2 ด.ช. กติ ตภิ พ พรมสอน แตล่ ะทอ้ งถ่ิน ทางาน 3 ด.ญ. ชัญญานชุ ศรตี สั สะ ท้องถิ่นได้ 4 ด.ช. อนสุ รณ์ แชม฽ สนทิ 5 ด.ญ. จันทรท์ ิมา เมฆกระจาย ได้ 6 ด.ญ. สภุ านชิ า เรืองกล่นั 7 ด.ญ. ธนวรรณ ธนกลุ ทินวฒั น์ 3210543210210 8 ด.ช. ธรี ภทั ร ธปู เทียนรตั น์ 9 ด.ช. ศึกษา แก฾วมีศรี 10 ด.ช. ภานวุ ชั ร์ ศาลา 11 ด.ญ. พีชญา แกว฾ บัวดี 12 ด.ญ. รินรดา ตรงกลาง 13 ด.ช. ธนกฤต จันทรกั ษา 14 ด.ญ. ปลายฟาู กุลเจริญสินชล 15 ด.ช. ชโยทิต สุขพศิ ิษฐ์ 16 ด.ช. พีระพัฒน์ สนั สะกิด ลงชือ่ ...................................................ผปู้ ระเมนิ (…………………..…………………………..) .................../................../................

บันทกึ ผลหลงั การจดั การเรยี นรู้ 1. ผลการจัดการเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ปัญหา/อุปสรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. ขอ้ เสนอแนะและแนวทางการแก้ไข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ …………………………………………..ครผู ู้สอน (นางสาววภิ าพร ทพิ ราช) นักศึกษาฝึกประสบการณว์ ิชาชีพครู ความคดิ เห็นของครพู เี่ ลี้ยง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื …………………………………………..ครูพ่เี ลี้ยง (นายพันศกั ดิ์ เส็งสวุ รรณ) ครูวิทยาฐานะครูชานาญการพเิ ศษ ความคิดเหน็ ของรองผู้อานวยการสถานศึกษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ …………………………………………..ผู้ตรวจ (นางทิพมาศ ดวงจนั ทราศิร)ิ รองผอู้ านวยการสถานศึกษาโรงเรยี นวัดมะลิ ความคดิ เหน็ ของผู้อานวยการสถานศึกษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………………………………..ผู้บรหิ ารสถานศึกษา (นางสาวดรุณี เทพา) ผอู้ านวยการสถานศกึ ษาโรงเรียนวัดมะลิ

แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 14 รหัสวิชา 14101 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ศลิ ปะ สาระ ทัศนศลิ ป์ หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 ทศั นศิลป์กับวฒั นธรรม ภาคเรยี นท่ี 2 เรอ่ื ง ธงุ ใยแมงมมุ สท่ี ศิ จานวน 1 คาบ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 4 เวลา 1 ชว่ั โมง สอนเมอ่ื วนั ท…ี่ …….เดือน………………..พทุ ธศกั ราช………….. ครผู ูส้ อน วิภาพร ทพิ ราช 1. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ศ 1.2 เข฾าใจความสัมพันธร์ ะหว฽างทศั นศลิ ป฼ ประวัตศิ าสตร์ และวฒั นธรรม เห็นคุณค฽า งานทัศนศลิ ป฼ทเี่ ปน็ มรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาทอ฾ งถิน่ ภมู ิปัญญาไทย และสากล 2. ตวั ชวี้ ัด ศ 1.2 ป.4/1 ระบุ และอภิปรายเกี่ยวกับงานทัศนศิลป฼ ในเหตุการณ์ และงานเฉลิมฉลอง ของวฒั นธรรมในทอ฾ งถิน่ ป.4/2 บรรยายเกีย่ วกับงานทศั นศลิ ปท฼ ี่มาจากวฒั นธรรมตา฽ งๆ 3. สาระสาคญั เพ่อื ให฾สามารถระบุทัศนศลิ ปใ฼ นท฾องถ่ินของภาคใดภาคหน่ึงของไทยได฾ ซ่ึงด฾านการสร฾างสรรค์งาน ทัศนศลิ ป฼ขึน้ นน้ั สร฾างขนึ้ มาตามความเช่อื ทางศาสนาหรอื ความเชอ่ื สว฽ นบุคคล ซ่ึงมีคุณค฽าต฽อคนไทยมา ตัง้ แต฽อดตี จนถึงปัจจุบัน สามารถนางานทศั นศลิ ป฼ในท฾องถิ่นมาประยุกต์สรา฾ งสรรค์จนเกิดความงามตามรูปแบบของตนเอง อีกทั้งได฾ทราบถึงข้ันตอนวิธีการสร฾างสรรค์ที่มีมาต้ังแต฽อดีต และสามารถบรรยายด฾านทัศนศิลป฼และ วัฒนธรรมที่เกิดขึ้นในท฾องถิ่น และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพราะถูกสร฾างสรรค์โดยศิลปินหรือผู฾คนใน ท฾องถนิ่ เอง และมลี กั ษณะไม฽เหมือนกับผลงานศลิ ปะท฾องถนิ่ อนื่ ๆ 4. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 4.1 ด้านความรู้ (K) - เพื่อให฾นักเรียนสามารถบอกความเปน็ มาของงานทศั นศิลป฼ประเภทธงุ ได฾

4.2 ดา้ นทักษะ (P) - เพอ่ื ให฾นกั เรียนสามารถสร฾างสรรคง์ านทศั นศลิ ปธ฼ ุงใยแมงมุมสีท่ ศิ ได฾ 4.3 ด้านคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (A) 1) มีวินัย (เข฾าช้นั เรียน, มคี วามรบั ผิดชอบตอ฽ งานทไ่ี ด฾รบั มอบหมาย) 2) มง฽ุ ม่ันในการทางาน (เอาใจใส฽ตอ฽ การปฏบิ ตั หิ นา฾ ที่ท่ไี ดร฾ บั มอบหมาย, พยายาม แก฾ปญั หาและอปุ สรรคในการทางานให฾สาเรจ็ ) 3) รักความเปน็ ไทย (ภาคภูมิใจในขนบธรรมเนยี มประเพณี ศลิ ปะ วฒั นธรรมไทย) 5. สาระการเรียนรู้ งานทัศนศลิ ป฼ที่สร฾างสรรคข์ ึ้นความเชื่อในท฾องถิน่ 6. สมรรถนะทีส่ าคัญ 6.1 ความสามารถในการคดิ อย฽างสร฾างสรรค์ 6.2 ความสามารถในการใช฾เหตผุ ลในการคดิ และแก฾ปัญหาด฾วยตนเอง 7. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 7.1 มวี ินยั 7.2 ใฝุเรยี นร฾ู 7.3 มงุ฽ มัน่ ในการทางาน 7.4 รักความเปน็ ไทย 7.5 มจี ติ สาธารณะ 8. กระบวนการจดั การเรยี นรู้ ขั้นนา (5 นาที) 8.1 ครกู ล฽าวทกั ทายนักเรยี น 8.2 ครูอธิบายสงิ่ ที่ตอ฾ งเรยี นในสปั ดาหน์ ้ใี ห฾นกั เรียนทราบ “ธุงใยแมงมุมสท่ี ศิ ” 8.3 ครสู อบถามนกั เรียน “หากนักเรียนไปงานนมสั การองคพ์ ระธาตุนักเรยี นจะเหน็ ทัศนศิลป฼อะไร ปรากฏอยู฽ในงาน” เพื่อกระต฾นุ ใหผ฾ เ฾ู รียนร฾จู กั คิดและเปน็ การเช่ือโยงเขา฾ สู฽บทเรยี นเกีย่ วกับธุงใยแมงมุมส่ที ิศ ขั้นสอน (50 นาที)

8.4 ครเู ลา฽ ประสบการในการเข฾าร฽วมงานงานนมัสการองคพ์ ระธาตุในภาคตะวันออกเฉียงเหนือให฾ นกั เรยี นฟัง “การเข฾าร฽วมงานนมสั การองคพ์ ระธาตุในจังหวัดนครพนม ทัศนศิลป฼ที่ครูพบเห็นคือธุงใยแมง มมุ ท่ถี ูกตกแตง฽ ตามทางเดิน ตามตน฾ ไม฾ ตามศาลา ซึ่งการนาสงิ่ น้ีมาตกแต฽งในสถานท่ีสักสิทธ์ิต฾องมีท่ีมาท่ีไป อาจเกิดจากความเช่ือทางศาสนาหรือความเช่อื ของคนโบราณท่สี รา฾ งขึ้นมาเพอื่ ผลบางอย฽าง” 8.5 จากนนั้ ครูอธบิ ายเกี่ยวกับที่มาของธงุ ใยแมงมมุ ใหน฾ ักเรียนฟงั ธงุ ใยแมงมุม เปน็ สญั ลักษณข์ องความเชื่อเก่ียวกับโชคลางของชาวอีสาน เป็นเคร่ืองประกอบ พธิ กี รรมสาคญั ของชาวอีสานมาอย฽างยาวนาน เช่ือกันว฽าสามารถใช฾ปูองกันสิ่งเลวร฾ายหรือสิ่งไม฽ดีท่ีมองไม฽ เห็น ภตู ผวี ญิ ญาณต฽างๆ ทจี่ ะมารบกวนงานบุญ หากผีเห็นธุงผีจะถอยออกไป อีกท้ังยังเป็นการบอกกล฽าว บวงสรวงเทพยดาในพื้นทว่ี ฽ามกี ารทาบุญ มีพธิ กี ารสาคญั ใหเ฾ ทพยดามองเห็นและมาช฽วยปกปอู งคม฾ุ ครอง ธงุ ใยแมงมมุ ท่ีมา : https://www.bloggang.com/data/t/travelsomewhere/picture/1551668619.jpg ทม่ี า : https://pbs.twimg.com/media/DziY0UCUcAA9Rhj.jpg 8.6 ครูเปดิ คลิปวดิ ีโอข้นั ตอนการทาธงุ ส่ที ศิ ใหน฾ กั เรียนดแู ละอธบิ าย  วัสดุ อปุ กรณ์ - ไมต฾ ะเกยี บ 2 อัน - ไหมพรม - กรรไกร  ขนั้ ตอนการทา 1. ข้ึนโครงดว฾ ยไมต฾ ะเกียบ โดยนาไม฾ตะเกยี บวางชดิ กัน จากนน้ั พันไหมพรมใหอ฾ ย฽ู ก่ึงกลางของไม฾ตะเกียบ 3-4 รอบ แล฾วมดั

2. แยกไม฾ตะเกียบออกจากกันโดยการหมนุ สลบั ทิศทางกันใหเ฾ ปน็ เครอ่ื งหมายบวก (+) 3. ดงึ ไหมพรมด฾านยาวพันทีละมมุ ของไม฾ มมุ ละ 3-4 รอบ 4. ดงึ เชอื กขึ้นด฾านบน พนั ไหมพรมออ฾ มหลงั ไม฾ด฾านบน 5. ดงึ ไหมพรมวางบนด฾านหนา฾ ของไม฾ดา฾ นขวา พันไหมพรมออ฾ มหลังไมด฾ า฾ นขวา

6. หมุนไม฾ไปตามทิศทางเขม็ นาฬิกา แล฾วทาเหมือนข฾อ 5 แล฾วหมนุ ไปตามทิศทางเข็ม นาฬิกาให฾พันไหมพรมทาแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนไหมพรมขยายกว฾างขนึ้ ตามความชอบ 7. วิธีต฽อไหมพรม ให฾นาปลายของไหมพรมท่ีต฾องการเปล่ียนสี มาวางทับกับปลาย ไหมพรมในโครงตะเกยี บ จากนัน้ มัดแบบเงอื นพริ อดแล฾วพันตอ฽ ไป หากพันถงึ ข฾อต฽อของ ไหมพรมใหซ฾ ฽อนปลายเชอื กไวด฾ ฾านหลงั ของไม฽แล฾วพนั ต฽อไปเร่อื ยๆ เปล่ียนสไี หมพรมตาม ต฾องการ การมดั แบบเงอื นพิรอด ท่มี า : https://teen.mthai.com/education/172343.html

8. วธิ พี นั เกบ็ งาน ใหท฾ าบว฽ งจากน้ันคล฾องบ฽วงเขา฾ ไมด฾ ึงให฾ตึง ทาซ้า 3 รอบ จากน้นั ตดั เส฾นไหมพรม ธงุ ใยแมงมมุ ที่มา : https://www.youtube.com/watch?v=yzGCB8QkCR8&t=181s 8.7 ครใู หน฾ ักเรยี นทากจิ กรรมธุงใยแมงมมุ 8.8 ครูเปิดโอกาสใหน฾ กั เรียนซักถามข฾อสงสัย จากนั้นลงมอื ปฏิบัติกจิ กรรม ครคู อยเดนิ ดูและให฾ คาแนะนา ขน้ั สรุป (5 นาท)ี ครูและนักเรียนสรุปเน้ือหาร฽วมกัน “ทัศนศิลป฼ในท฾องถิ่นประเภทธุง ถูกสร฾างสรรค์ขึ้นเพื่อใช฾ ประกอบพธิ ใี นด฾านพทุ ธศาสนาหรือประกอบอืน่ ๆ ตามความเช้ือของท฾องถิ่นน้ันๆ” จากน้ันให฾นักเรียนเก็บ อุปกรณใ์ ห฾เรียบรอ฾ ย

9. การวดั และประเมนิ ผล 9.1 ธุงใยแมงมมุ ส่ีทศิ (10 คะแนน) ประเด็นการ เกณฑ์การใหค้ ะแนน ประเมนิ 5 4 3 2 10 ดา้ นความรู้ - - -นั ก เ รี ย น -นั ก เ รี ย น -นั ก เ รี ย น -ไม฽ตอบ (K) ส า ม า ร ถ บ อ ก ส า ม า ร ถ บ อ ก สามารถบอก คาถาม -เพื่อให฾นักเรียน ค ว า ม เ ป็ น ม า ค ว า ม เ ป็ น ม า ค วา มเป็ นม า -ไม฽มา สามารถบอก ข อ ง ง า น ข อ ง ง า น ข อ ง ง า น เรียน ค ว า ม เ ป็ น ม า ทั ศ น ศิ ล ป฼ ทั ศ น ศิ ล ป฼ ทั ศ น ศิ ล ป฼ ของงาน ประเภทธุงได฾ ประเภทธุงได฾ ประเภทธุงไม฽ ทั ศ น ศิ ล ป฼ ถู ก ต฾ อ ง ต ร ง บ฾างบางประเดน็ ต ร ง ป ร ะ เ ด็ น ประเภทธุงได฾ ประเดน็ คาถาม คาถาม ดา้ นทักษะ -ส า ม า ร ถ -ส า ม า ร ถ -ส า ม า ร ถ -ส า ม า ร ถ -ส า ม า ร ถ -ไมส฽ ง฽ (P) สร฾างสรรค์งาน สร฾างสรรค์งาน สร฾างสรรค์งาน สร฾างสรรค์งาน สร฾างสรรค์งาน งาน -เพื่อให฾นักเรียน ทัศนศิลป฼ธุงใย ทัศนศิลป฼ธุงใย ทัศนศิลป฼ธุงใย ทัศนศิลป฼ธุงใย ทัศนศิลป฼ธุงใย -ไม฽มา ส า ม า ร ถ แมงมุมสี่ทิศได฾ แมงมุมสี่ทิศได฾ แมงมุมสี่ทิศได฾ แมงมุมสี่ทิศได฾ แมงมุมสี่ทิศได฾ เรยี น สร฾างสรรค์งาน โ ค ร ง ข อ ง ธุ ง โ ค ร ง ข อ ง ธุ ง โ ค ร ง ข อ ง ธุ ง โ ค ร ง ข อ ง ธุ ง แต฽โครงของธุง ทัศนศิลป฼ธุงใย สมา่ เสมอกนั สม่าเสมอกัน สมา่ เสมอกนั สม่าเสมอกัน ไมส฽ ม่าเสมอกัน แมงมุมสี่ทศิ ได฾ -สี สั น ข อ ง ธุ ง -สี สั น ข อ ง ธุ ง -สี สั น ข อ ง ธุ ง -สี สั น ข อ ง ธุ ง -สี สั น ข อ ง ธุ ง สวยงาม สวยงาม สวยงาม สวยงาม สวยงาม -ไหมพรมเรียง -ไ ห ม พ ร ม ไ ม฽ -ไ ห ม พ ร ม ไ ม฽ -ไ ห ม พ ร ม ไ ม฽ -ไ ห ม พ ร ม ไ ม฽ ชิ ด ติ ด กั น เรยี งชดิ ตดิ กันไม฽ เรยี งชดิ ติดกันไม฽ เรยี งชิดตดิ กันไม฽ เรียงชิดติดกัน สม่าเสมอกัน สม่าเสมอกนั สม่าเสมอกนั สมา่ เสมอกัน ไม฽สมา่ เสมอกนั -ไมม฽ ีใยไหมพรม -ไม฽มีใยไหมพรม -มีใยไหมพร ม -มีใยไหมพร ม -มีใยไหมพรม บนพ้ืนของธงุ บนพ้นื ของธุง บน พื้น ขอ ง ธุ ง บน พ้ืน ขอ ง ธุ ง บนพ้ืนของธุง -ไม฽เ ห็ นป ล า ย -ไม฽เ ห็ นป ล า ย เล็กนอ฾ ย จานวนมาก จานวนมาก ไหมพรมตรงข฾อ ไหมพรมตรงข฾อ -ไม฽เ ห็ นป ล า ย -เห็นปลายไหม -เห็นปลายไหม ต฽ออยู฽ด฾านหน฾า ต฽ออย฽ูด฾านหน฾า ไหมพรมตรงข฾อ พรมตรงข฾อต฽อ พรมตรงข฾อต฽อ ของธุง ของธุง ต฽ออยู฽ด฾านหน฾า อ ย฽ู ด฾ า น ห น฾ า อ ยู฽ ด฾ า น ห น฾ า -ธุ ง แ ข็ ง แ ร ง -ธุ ง แ ข็ ง แ ร ง ของธุง ของธงุ เลก็ นอ฾ ย ของธุงชดั เจน ไ ม฽ เ อี ย ง ไ ม฽ เ อี ย ง -ธุ ง แ ข็ ง แ ร ง -ธุ ง แ ข็ ง แ ร ง -ธุงไมแ฽ ข็งแรง ไม฽บิดเบยี้ ว ไมบ฽ ดิ เบย้ี ว ไ ม฽ เ อี ย ง ไ ม฽ เ อี ย ง -รปู แบบผลงาน -รูปแบบผลงาน -รูปแบบผลงาน ไม฽บิดเบีย้ ว ไม฽บิดเบี้ยว ส ะ อ า ด ส ะ อ า ด ส ะ อ า ด -รูปแบบผลงาน -รูปแบบผลงาน เรียบร฾อย เ รี ย บ ร฾ อ ย เ รี ย บ ร฾ อ ย ส ะ อ า ด ส ะ อ า ด

สมบูรณ์ สมบูรณ์ เ รี ย บ ร฾ อ ย เรยี บรอ฾ ย - สมบรู ณ์ ด้านจติ พสิ ยั - (A) - -เ ข฾ า ชั้ น เ รี ย น -เข฾าชั้ นเรีย น ไมเ฽ ข฾า -มวี นิ ยั แ ล ะ มี ค ว า ม แต฽ไม฽มีค วาม ช้ัน -มงุ฽ มัน่ ในการ ม฽ุ ง ม่ั น ใ น ก า ร มุ฽ง ม่ั นใน กา ร เรียน ทางาน ทางาน ทางาน -รกั ความเป็น -เห็นคุณค฽าของ -ไม฽เห็นคุณค฽า ไทย ศิลปะไทย ของศลิ ปะไทย เกณฑ์การประเมิน คะแนน ประเมนิ ดี 9 - 10 7-8 ปานกลาง 5–6 น฾อย 10. สอ่ื อุปกรณแ์ ละแหล่งการเรียนรู้ - ดินสอ/ยางลบ สื่อการเรียนรู้ 1. ตวั อย฽างภาพธงุ ใยแมงมุม 2. ขน้ั ตอนการทาธงุ ใยแมงมมุ สท่ี ศิ อปุ กรณ์ - ใบงาน - สไี ม฾/สีเทียน แหล่งการเรยี นรู้ 1. หนังสอื เรียน รายวิชาพืน้ ฐาน ทศั นศลิ ป฼ กลมุ฽ สาระการเรียนรศู฾ ลิ ปะ ระดับช้ัน ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน พ.ศ. 2551 2. Pinterest 3. Youtube

ใบงาน 3.2 เรอื่ ง ธุงใยแมงมมุ ส่ที ิศ คาชี้แจง : ใหน฾ กั เรยี นสรา฾ งสรรค์ใยแมงมุมสท่ี ศิ งานหัตถกรรม ชอ่ื ……………………………………………………………………………….เลขที่…………………….ช้ัน……………………

แบบประเมนิ ใบงาน เครื่องมือ หน่วยการเรยี นรู้ท่ี………….เรอ่ื ง……………………………………………………………………ช้นั ……………….. คาช้แี จง : ใหค฾ รูผ฾ูสอนประเมินใบงานของนักเรียนแลว฾ ให฾ทาเครอ่ื งหมาย  ลงในชอ฽ งทต่ี รงกับ ระดับคะแนน เพ่ือให้ ลาดบั ลาดับที่ นกั เรียน เพ่ือใหน้ ักเรียน ความ รวม ที่ ชอ่ื – สกลุ สามารถบอก สามารถสรา้ งสรรค์งาน มุ่งมน่ั ใน 10 ความเป็นมา ทศั นศลิ ปธ์ งุ ใยแมงมุม คะแนน 1 ด.ญ. วรสรณ์ ขาวจิ ติ ราภรณ์ การ 2 ด.ญ. ปิยนุช แสงทวีป ของงาน สีท่ ิศได้ ทางาน 3 ด.ญ. พีรดา ชาญเชย่ี ว ทัศนศลิ ป์ 4 ด.ช. พชรพล สืบสาย 5 ด.ช. ธัญเทพ ฐานวริ ิยฐากุล ประเภทธุงได้ 6 ด.ญ. จิรวรรณ์ อัศวเดชานุกร 7 ด.ญ. ทพิ ภาภรณ์ แขกแปลก 3210543210210 8 ด.ญ. ทิพานันท์ ไชยนัด 9 ด.ช. อคั รเดช ม฽วงทวี 10 ด.ช. สหรัฐ อิม่ สมโภชน์ 11 ด.ช. รัชชานนท์ เจรญิ ทรัพย์ 12 ด.ช. กษิด์ดิ ิษฎ์ กันแก฾ว 13 ด.ช. ก฾องภพ กอ฾ นแก฾ว 14 ด.ช. ณฐั วุธ มจี าด 15 ด.ญ. โฮซันนา ม่นั หมาย 16 ด.ช. เหรยี ญชัย เฉิน 17 ด.ญ. ลลดา ทองเรอื ง ลงชือ่ ...................................................ผู้ประเมิน (…………………..…………………………..) .................../................../................

แบบประเมินใบงาน เครอ่ื งมือ หน่วยการเรียนรู้ที่………….เรอื่ ง……………………………………………………………………ชนั้ ……………….. คาชี้แจง : ใหค฾ รูผู฾สอนประเมินใบงานของนักเรยี นแล฾วให฾ทาเครอ่ื งหมาย  ลงในช฽องทตี่ รงกบั ระดบั คะแนน เพ่ือให้ ลาดับ ลาดบั ที่ นักเรียน เพอื่ ใหน้ ักเรียน ความ รวม ที่ ชอ่ื – สกลุ สามารถบอก สามารถสร้างสรรค์ ม่งุ ม่ันใน 10 ความเปน็ มา งานทัศนศิลปธ์ งุ ใยแมง คะแนน การ ของงาน มุมสที่ ศิ ได้ ทางาน ทัศนศลิ ป์ ประเภทธงุ ได้ 3210543210210 1 ด.ช. ชวนิ ทร์ จนั ทร์เจริญ 2 ด.ช. กติ ตภิ พ พรมสอน 3 ด.ญ. ชญั ญานชุ ศรตี ัสสะ 4 ด.ช. อนุสรณ์ แช฽มสนิท 5 ด.ญ. จันทร์ทิมา เมฆกระจาย 6 ด.ญ. สภุ านิชา เรืองกล่นั 7 ด.ญ. ธนวรรณ ธนกลุ ทินวฒั น์ 8 ด.ช. ธีรภัทร ธูปเทียนรัตน์ 9 ด.ช. ศึกษา แก฾วมศี รี 10 ด.ช. ภานวุ ัชร์ ศาลา 11 ด.ญ. พชี ญา แก฾วบัวดี 12 ด.ญ. รินรดา ตรงกลาง 13 ด.ช. ธนกฤต จันทรักษา 14 ด.ญ. ปลายฟาู กลุ เจริญสินชล 15 ด.ช. ชโยทิต สุขพิศิษฐ์ 16 ด.ช. พรี ะพัฒน์ สันสะกิด ลงชอ่ื ...................................................ผู้ประเมนิ (…………………..…………………………..) .................../................../................

บันทกึ ผลหลังการจัดการเรยี นรู้ 1. ผลการจัดการเรยี นรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ปญั หา/อุปสรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. ข้อเสนอแนะและแนวทางการแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ …………………………………………..ครูผสู้ อน (นางสาววภิ าพร ทิพราช) นกั ศกึ ษาฝกึ ประสบการณ์วชิ าชีพครู ความคิดเหน็ ของครูพเ่ี ลีย้ ง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื …………………………………………..ครูพเี่ ลีย้ ง (นายพนั ศักดิ์ เสง็ สวุ รรณ) ครูวิทยาฐานะครูชานาญการพเิ ศษ ความคิดเหน็ ของรองผู้อานวยการสถานศึกษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………………………………..ผตู้ รวจ (นางทิพมาศ ดวงจันทราศิริ) รองผูอ้ านวยการสถานศึกษาโรงเรยี นวัดมะลิ ความคดิ เห็นของผูอ้ านวยการสถานศกึ ษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชือ่ …………………………………………..ผูบ้ รหิ ารสถานศกึ ษา (นางสาวดรุณี เทพา) ผอู้ านวยการสถานศึกษาโรงเรียนวดั มะลิ



แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี 2 รหสั วชิ า 21101 กล่มุ สาระการเรียนรู้ ศลิ ปะ สาระ ทัศนศลิ ป์ หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 1 ทัศนยี ภาพ ภาคเรยี นท่ี 2 เรอ่ื ง ทศั นียภาพแบบ 1 จุด จานวน 1 คาบ ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 1 เวลา 1 ช่วั โมง สอนเมือ่ วันท…ี่ ……เดือน………………….พุทธศักราช…………….. ครูผู้สอน วภิ าพร ทพิ ราช 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ศ 1.1 สร฾างสรรคง์ านทศั นศิลป฼ตามจินตนาการ และความคิดสร฾างสรรค์วิเคราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์คุณค฽างานทัศนศิลป฼ ถ฽ายทอดความรู฾สึก ความคิดต฽องานศิลปะอย฽างอิสระ ช่ืนชม และประยกุ ต์ใชใ฾ นชีวิตประจาวนั 2. ตวั ชว้ี ัด ศ 1.1 ม. 1/3 วาดภาพทัศนียภาพแสดงให฾เห็นระยะไกลใกล฾เป็น 3 มิติ 3. สาระสาคัญ เพื่อให฾บอกลกั ษณะของทัศนียภาพ แบบ 1 จุดได฾ ท่ีแสดงระยะใกล฾ไกลแบบสามมิติ แสดง เปน็ ภาพทม่ี องเห็นด฾านหน฾าวัตถุ วางขนานกับเสน฾ ระดบั ตาหรอื เส฾นขอบฟูาโดยวัตถุที่ไกลออกไปจะ ค฽อยๆเลก็ ลงไปรวมกันทจี่ ุดรวมสายตา เพ่ือให฾สามารถวาดทัศนียภาพ แบบ 1 จุด ถูกต฾องตามขวบการขั้นตอนการวาดภาพ ทัศนียภาพ แสดงถึงระยะใกล฾-ไกล ของวตั ถุ เป็นการวาดภาพท่ีเกิดจากการมองรูปด฾านใดด฾านหน่ึง ของสิ่งที่จะวาดในแนวเส฾นตั้ง และเส฾นนอนได฾ฉากกันส฽วนด฾านลึกจะเป็นแนวเส฾นเฉียง และเส฾น แสดงความลึกจะถูกลากไปบรรจบกันที่จุดรวมสายตาได฾เพียงจุดเดียวบนเส฾น ระดับตา หรือเส฾น ขอบฟาู จดุ รวมสายตานอี้ าจจะอย฽ดู ฾านขวา ด฾านซ฾าย หรอื กงึ่ กลางกไ็ ด฾

4. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 4.1 ดา้ นความรู้ (K) - เพอ่ื ใหน฾ กั เรียนสามารถอธบิ ายลกั ษณะของทัศนยี ภาพ แบบ 1 จดุ ได฾ 4.2 ด้านทกั ษะ (P) - เพอื่ ให฾นกั เรยี นสามารถวาดทศั นยี ภาพ แบบ 1 จุดได฾ 4.3 ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A) 1) มีวินัย (เขา฾ ชั้นเรยี น, มคี วามรับผิดชอบตอ฽ งานท่ไี ด฾รับมอบหมาย) 2) มุ฽งม่ันในการทางาน (เอาใจใส฽ต฽อการปฏิบัติหน฾าท่ีท่ีได฾รับมอบหมาย, พยายาม แกป฾ ญั หาและอปุ สรรคในการทางานให฾สาเรจ็ ) 5. สาระการเรยี นรู้ การวาดทศั นียภาพแบบ 1 จดุ ทแี่ สดงระยะใกล฾ – ไกล ของวัตถุ 6. สมรรถนะท่สี าคญั 6.1 ความสามารถในการคิดอยา฽ งสรา฾ งสรรค์ 6.2 ความสามารถในการใช฾เหตุผลในการคดิ แยกแยะไดด฾ ฾วยตนเอง 7. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 7.1 มีวินัย 7.2 ใฝุเรียนร฾ู 7.3 ม฽ุงมน่ั ในการทางาน 7.4 มจี ติ สาธารณะ 8. กระบวนการจัดการเรียนรู้ ข้นั นา (5 นาที) 8.1 ครกู ล฽าวทักทายนักเรยี น 8.2 ครูอธบิ ายสง่ิ ที่ต฾องเรียนในสัปดาห์นี้ให฾นกั เรียนทราบ “ทศั นียภาพแบบ 1 จุด” 8.3 ครูทบทวนความรู฾ท่ีเรียนในสัปดาห์ท่ีแล฾วให฾นักเรียนฟัง “การวาดภาพทัศนียภาพ เป็นการ วาดภาพแบบเหมอื นจรงิ แสดงระยะใกลไ฾ กล แบบสามมิติ” เพ่ือกระต฾ุนให฾ผู฾เรียนเชื่อมโยงเข฾าสู฽เนื้อหา ความรู฾ทศั นยี ภาพ

ข้ันสอน (50 นาที) 8.4 ครูตั้งกล฽อง 1 กล฽อง ไว฾หน฾าชั้นเรียน จากนั้นให฾เรียนเดินดูกล฽องด฾านซ฾าย ตรงกลาง และ ด฾านขวา จากน้ันให฾แสดงความคิดเห็นว฽ากล฽องในแต฽ละทิศทางมีลักษณะอย฽างไร ” (พิจารณาตาม คาตอบของนักเรยี น โดยใหอ฾ ย฽ูในดลุ ยพนิ ิจของครผู ฾ูสอน) 8.5 ครูอธิบายทัศนียภาพ แบบ 1 จุดให฾นักเรียนฟังพร฾อมให฾นักเรียนดูภาพประกอบและแสดง ความคิดเห็นรว฽ มกัน การวาดภาพทัศนียภาพแบบ 1 จุด (ONE POINT PERSPECTIVE) เป็นการวาดภาพท่ี เกดิ จากการมองรปู ด฾านใดด฾านหนึ่งของสิ่งท่ีจะวาดในแนวเสน฾ ตงั้ และเสน฾ นอนได฾ฉากกันส฽วนด฾านลึกจะ เป็นแนวเส฾นเฉียงและเส฾นแสดงความลึกจะถูกลากไปบรรจบกันที่จุดรวมสายตาได฾เพียงจุดเดียวบน เส฾นระดบั ตา หรือเสน฾ ขอบฟาู จุดรวมสายตานี้อาจจะอยูด฽ ฾านขวา ด฾านซ฾าย หรอื กง่ึ กลางกไ็ ด฾ ตวั อย่างการวาดทศั นยี ภาพแบบ 1 จุด ท่มี า : https://foodbunkaew.files.wordpress.com/2014/09/7cedf- de0b8a5e0b988e0b8ade0b8871vp.jpg?w=400&h=230 8.7 ครอู ธิบายขัน้ ตอนการวาดภาพทศั นียภาพแบบ 1 จุด พรอ฾ มสาธติ ใหน฾ ักเรียนดู

ขน้ั ท่ี 3 ขน้ั ที่ 4 ลากเส฾นตรงเฉียงทง้ั 2 เสน฾ แสดงความ ลากเส฾นขนานระหว฽างเส฾นระดับสายตา ลกึ ลากไปบรรจบกันทจ่ี ุดรวมสายตาได฾เพียงจุด และขอบด฾านบนของรูปส่ีเหล่ียม จะเห็นพ้ืนผิว เดียวบนเส฾นระดับตา ดา฾ นบนของกล฽อง ขัน้ ท่ี 1 ข้นั ที่ 2 กาหนดเส฾นระดับสายตาและจุดรวม ร฽ า ง รู ป ด฾ า น ห น฾ า ข อ ง ก ล฽ อ ง สายตา สีเ่ หลี่ยมผืนผ฾าหรอื จตุรสั ก็ได฾ตามต฾องการ

ทศั นียภาพแบบ 1 จดุ สมบูรณ์ ถ฾าตัดเส฾นขอบทุกเส฾นของกล฽องออก เราจะเห็นภาพทศั นยี ภาพแบบ 1 จุด ของกล฽อง สีเหล่ยี มชดั เจน ท่ีมา : วภิ าพร ทพิ ราช 8.6 ครูให฾นักเรียนทากิจกรรม ใบงานท่ี 1.1 เร่ือง ทัศนียภาพแบบ 1 จุด ให฾นักเรียนกาหนด เส฾นระดับสายและจุดรวมสายตา จากน้นั กาหนดกลอ฽ งสเ่ี หลีย่ มแลจากนัน้ ให฾ลากเสน฾ เฉียงและเส฾นแสดง ความลกึ จะถกู ลากไปบรรจบกันทจี่ ดุ รวมสายตาไดเ฾ พียงจุดเดียวบนเสน฾ ระดบั ตา 8.7 ครเู ปดิ โอกาสใหน฾ กั เรยี นซักถามข฾อสงสัย จากน้ันนักเรียนลงมือปฏิบัติงาน ครูคอยเดินดูและ ให฾คาแนะนา ขนั้ สรุป (5 นาที) ครแู ละนกั เรียนสรปุ เนื้อหาความรู฾ “ลักษณะของทัศนียภาพ แบบ 1 จุดได฾ ท่ีแสดงระยะใกล฾ไกล แบบสามมิติ แสดงเป็นภาพท่ีมองเห็นด฾านหน฾าวัตถุวางขนานกับเส฾นระดับตาหรือเส฾นขอบฟูา การวาด ภาพทัศนียภาพแบบ 1 จุด (ONE POINT PERSPECTIVE) เป็นการวาดภาพที่เกิดจากการมองรูปด฾าน ใดด฾านหนงึ่ ของส่งิ ท่ีจะวาดในแนวเส฾นต้งั และเส฾นนอนได฾ฉากกนั ส฽วนด฾านลกึ จะเป็นแนวเสน฾ เฉียงและเส฾น แสดงความลึกจะถูกลากไปบรรจบกันท่ีจุดรวมสายตาได฾เพียงจุดเดียวบนเส฾นระดับตา หรือเส฾นขอบฟูา จดุ รวมสายตานี้อาจจะอยู฽ด฾านขวา ดา฾ นซา฾ ย หรือกึ่งกลางกไ็ ด฾” จากนนั้ นกั เรยี นเกบ็ อุปกรณใ์ ห฾เรยี บรอ฾ ย

9. การวัดและประเมนิ ผล 9.1 ทศั นยี ภาพ แบบ 1 จดุ (10 คะแนน) ประเดน็ การ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ประเมนิ 5 4 3 2 10 ด้านความรู้ - - (K) -นกั เรียน -นักเรียน -นกั เรยี น -ไม฽ -เพ่ือใหน฾ ักเรยี น -สามารถวาด -สามารถวาด สามารถอธิบาย ทศั นียภาพแบบ ทัศนียภาพแบบ สามารถอธิบาย สามารถอธบิ าย สามารถอธบิ าย สามารถ ลกั ษณะของ 1 จุดได฾ คอื 1 จดุ ได฾ คือ ทศั นยี ภาพ กาหนดจุดรวม กาหนดจุดรวม ลักษณะของ ลกั ษณะของ ลักษณะของ บอกได฾ แบบ 1 จุดได฾ สายตา และ สายตา และ ทศั นียภาพ ทัศนยี ภาพ ทศั นยี ภาพ -ไม฽มา ด้านทักษะ กาหนดกลอ฽ งสี กาหนดกลอ฽ งสี แบบ 1 จดุ ได฾ แบบ 1 จดุ ได฾ผดิ แบบ 1 จุดได฾ เรยี น (P) เหลยี่ มไวม฾ มุ ใด เหลยี่ มไว฾มมุ ใด ระดับดมี าก ถกู บา฾ ง ระดับนอ฾ ยมาก -เพื่อใหน฾ ักเรยี น มุมหนง่ึ จากนน้ั มมุ หนง่ึ จากนั้น สามารถวาด วาดดา฾ นลกึ จะ วาดด฾านลึกจะ -สามารถวาด -สามารถวาด -สามารถวาด -ไมส฽ ฽ง ทัศนียภาพ เปน็ แนวเสน฾ เปน็ แนวเส฾น ทัศนียภาพแบบ ทศั นียภาพแบบ ทศั นียภาพ งาน แบบ 1 จดุ ได฾ เฉยี งและเส฾น เฉยี งและเส฾น 1 จุดได฾ คอื 1 จดุ ได฾ คอื แบบ 1 จุดได฾ -ไมม฽ า แสดงความลกึ แสดงความลึก กาหนดจดุ รวม กาหนดจุดรวม คอื กาหนดจุด เรยี น จะถกู ลากไป จะถกู ลากไป สายตา และ สายตา และ รวมสายตา บรรจบกันท่จี ดุ บรรจบกนั ที่จดุ กาหนดกล฽องสี กาหนดกลอ฽ งสี และกาหนด รวมสายตาได฾ รวมสายตาได฾ เหล่ยี มไวม฾ ุมใด เหลีย่ มไว฾มมุ ใด กลอ฽ งสเี หลย่ี ม เพยี งจดุ เดยี วบน เพียงจดุ เดียวบน มุมหนง่ึ จากนนั้ มมุ หน่ึง จากน้ัน ไวม฾ มุ ใดมุมหนึง่ เสน฾ ระดบั ตาทกุ เสน฾ ระดับตา แต฽ วาดด฾านลึกจะ วาดด฾านลึกจะ แตล฽ ากเสน฾ ดา฾ น เส฾น ได฾ถูกต฾อง มีเส฾นใดเสน฾ หน่ึง เปน็ แนวเส฾น เปน็ แนวเสน฾ ลึก ไม฽บรรจบ -รูปแบบผลงาน ไมไ฽ ม฽บรรจบกัน เฉียงและเส฾น เฉียงและเสน฾ กันทจ่ี ุดรวม สะอาด สมบูรณ์ ท่จี ุดรวมสายตา แสดงความลึก แสดงความลกึ สายตาทุกเสน฾ เรียบร฾อย เลก็ น฾อย จะถกู ลากไป จะถูกลากไป หรอื เสน฾ -รูปแบบผลงาน บรรจบกนั ท่ีจดุ บรรจบกนั ท่จี ุด กระจายไปทุก สะอาด สมบรู ณ์ รวมสายตาได฾ รวมสายตาได฾ ทศิ ทุกทาง เรียบร฾อย เพยี งจุดเดียวบน เพยี งจุดเดยี วบน -รปู แบบผลงาน เส฾นระดบั ตา แต฽ เส฾นระดับตา แต฽ สะอาดแตไ฽ ม฽ มีเสน฾ ใดเสน฾ หนงึ่ ทุกเสน฾ ไม฽ สมบูรณ์ ไม฽ไม฽บรรจบกัน บรรจบกันท่ีจดุ ทจี่ ดุ รวมสายตา รวมสายตาทุก ระดับปานกลาง เส฾นเลก็ นอ฾ ย -รปู แบบผลงาน -รปู แบบผลงาน สะอาด สมบูรณ์ สะอาด สมบรู ณ์ เรียบรอ฾ ย เรียบร฾อย

ด้านจติ พสิ ยั - - - -เ ข฾ า ชั้ น เ รี ย น -เข฾าช้ั นเรีย น ไม฽เขา฾ (A) แ ล ะ มี ค ว า ม แต฽ไม฽มีค วาม ช้ัน -มวี ินัย ม฽ุ ง ม่ั น ใ น ก า ร มุ฽ง ม่ั นใน กา ร เรียน -มงุ฽ มั่นในการ ทางาน ทางาน ทางาน เกณฑ์การประเมนิ คะแนน ประเมนิ ดี 9 - 10 7-8 ปานกลาง 5–6 น฾อย 10. สอ่ื อุปกรณ์และแหล่งการเรยี นรู้ สื่อการเรยี นรู้ 1. ภาพทศั นยี ภาพแบบ 1 จุด อปุ กรณ์ - ใบงาน - ปากกา/ดนิ สอ/ยางลบ/ไม฾บรรทดั แหล่งการเรียนรู้ 1. หนงั สอื เรียน รายวิชาพน้ื ฐาน ทศั นศิลป฼ กลมุ฽ สาระการเรียนร฾ูศิลปะ ระดับชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน พ.ศ. 2551 2. เว็บ Pinterest

ใบงานท่ี 1.1 เรอื่ ง ทศั นยี ภาพแบบ 1 จุด คาช้ีแจง : ให฾นกั เรียนกาหนดเส฾นระดับสายและจุดรวมสายตา จากน้ันกาหนดกล฽องสี่เหลี่ยมแล จากนัน้ ให฾ลากเส฾นเฉียงและเส฾นแสดงความลึกจะถูกลากไปบรรจบกันท่ีจุดรวมสายตาได฾เพียง จุดเดียวบนเสน฾ ระดบั ตา ชื่อ……………………………………………………………………………….เลขท…่ี ………………..ชนั้ ……………………

แบบประเมินใบงาน เครอื่ งมือ หน่วยการเรียนรู้ท่ี………….เรื่อง………………………………………………………………………ชั้น……………….. คาช้ีแจง : ให฾ครผู ู฾สอนประเมนิ ใบงานของนักเรยี นแล฾วให฾ทาเครอ่ื งหมาย  ลงในช฽องทต่ี รงกับ ระดับคะแนน เพื่อให้นักเรยี น ลาดับ ลาดบั ท่ี สามารถ เพ่ือใหน้ กั เรยี น ความ รวม ที่ ชอ่ื – สกุล อธิบาย สามารถวาด มุ่งม่นั ใน 10 ลักษณะของ ทศั นยี ภาพ แบบ 1 จดุ คะแนน ทัศนียภาพ การ ได้ ทางาน แบบ 1 จดุ ได้ 3 210543210210 1 ด.ช. บารมี ผาสขุ 2 ด.ช. สุรยุทธ ปรีเลิศ 3 ด.ช. วุฒิชยั เฉยดี 4 ด.ช. ภานพุ งศ์ ศรขี ดั เครอื 5 ด.ช. วสุ รตั นศฤงค์ 6 ด.ญ. กิตติยารตั น์ ศรสี อาด 7 ด.ญ. สโรชา ศรีสอาด 8 ด.ช. ชโยดม วรุณพงษ์ 9 ด.ญ. แพรวา ธรี เดชพฒั น์ชัย 10 ด.ช. ธนวฒุ ิ สว฽างชม 11 ด.ญ. ณธดิ า จนั ทรักษา 12 ด.ช. ติณณภพ สระทองเรอื ง 13 ด.ช. สุทธิพร แสงจันทร์ 14 ด.ญ. ธมนวรรณ เฉิน 15 ด.ญ. นรินรชั ทาดี ลงชือ่ ...................................................ผู้ประเมนิ (…………………..…………………………..) .................../................../.................

บันทกึ ผลหลงั การจดั การเรยี นรู้ 1. ผลการจดั การเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ปญั หา/อปุ สรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. ขอ้ เสนอแนะและแนวทางการแก้ไข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ …………………………………………..ครผู ู้สอน (นางสาววิภาพร ทพิ ราช) นักศึกษาฝึกประสบการณ์วชิ าชีพครู ความคิดเห็นของครูพ่ีเลยี้ ง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่ือ…………………………………………..ครูพเี่ ลี้ยง (นายพันศักด์ิ เสง็ สุวรรณ) ครูวทิ ยาฐานะครชู านาญการพิเศษ ความคดิ เห็นของรองผอู้ านวยการสถานศึกษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื …………………………………………..ผตู้ รวจ (นางทพิ มาศ ดวงจนั ทราศิร)ิ รองผู้อานวยการสถานศึกษาโรงเรียนวัดมะลิ ความคิดเหน็ ของผอู้ านวยการสถานศกึ ษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………………………………..ผ้บู รหิ ารสถานศึกษา (นางสาวดรณุ ี เทพา) ผูอ้ านวยการสถานศึกษาโรงเรียนวดั มะลิ

แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ 6 รหัสวิชา 21101 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ศลิ ปะ สาระ ทัศนศิลป์ หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 2 การออกแบบรปู ภาพ สญั ลกั ษณ์และงานกราฟกิ ภาคเรยี นที่ 2 เรื่อง ประเภทรปู ภาพสญั ลักษณ์ (Logo) จานวน 1 คาบ ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 เวลา 1 ชวั่ โมง สอนเมอ่ื วันท…ี่ ……เดอื น………………….พุทธศักราช……………… ครูผสู้ อน วิภาพร ทพิ ราช 1. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ศ 1.1 สร฾างสรรค์งานทัศนศิลป฼ตามจินตนาการ และความคิดสร฾างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์คณุ คา฽ งานทัศนศิลป฼ ถา฽ ยทอดความร฾สู กึ ความคดิ ตอ฽ งานศิลปะอย฽างอิสระ ช่ืนชม และประยกุ ตใ์ ชใ฾ นชีวิตประจาวัน 2. ตวั ช้วี ัด ศ 1.1 ม. 1/5 ออกแบบรูปภาพ สัญลกั ษณ์หรือกราฟกิ อนื่ ๆ ในการนาเสนอความคิด และข฾อมลู 3. สาระสาคญั เพ่ือให฾บอกเหตุผลในการออกแบบสัญลักษณ์ (Logo) เพ่ือใช฾ในการสื่อสารในลักษณะ ต฽างๆ เหตุการณ์ต฽างๆ ซึ่งสิ่งที่นักออกแบบได฾ออกแบบข้ึนมา เพ่ือสื่อความหมายให฾มนุษย์เข฾าใจ รว฽ มกนั ในสังคม รูปภาพสัญลักษณ์ (Logo) มีหลากหลายรูปแบบ สร฾างขึ้นเพื่อใช฾ในการส่ือสารให฾ผู฾พบ เห็นเข฾าใจความหมายของสัญลักษณ์น้ันในทันที ซึ่งภาพสัญลักษณ์มีหลากหลายรูปแบบหลาย ประเภท อีกทั้งสัญลักษณย์ ังมีการออกแบบท้งั รูปแบบภาพและรูปแบบตวั หนงั สือ 4. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 4.1 ดา้ นความรู้ (K) - เพ่อื ใหน฾ กั เรยี นสามารถอธบิ ายความหมายของสญั ลกั ษณ์ (Logo) ได฾

4.2 ดา้ นทกั ษะ (P) - เพอื่ ใหน฾ ักเรยี นสามารถรจ฾ู ักหลักการในการวาดสัญลักษณ์ (Logo) ได฾ 4.3 ด้านคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (A) 1) มีวินยั (เขา฾ ชน้ั เรยี น, มีความรับผดิ ชอบต฽องานทไ่ี ดร฾ ับมอบหมาย) 2) มุ฽งมั่นในการทางาน (เอาใจใส฽ต฽อการปฏิบัติหน฾าที่ที่ได฾รับมอบหมาย, พยายาม แก฾ปญั หาและอปุ สรรคในการทางานให฾สาเร็จ) 5. สาระการเรยี นรู้ ประเภทสัญลกั ษณ์ (Logo) เพื่อใช฾ในการสื่อสาร 6. สมรรถนะทีส่ าคญั 6.1 ความสามารถในการคดิ อยา฽ งสรา฾ งสรรค์ 6.2 ความสามารถในการใช฾เหตุผลในการคดิ แยกแยะได฾ด฾วยตนเอง 7. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ 7.1 มีวินัย 7.2 ใฝุเรยี นร฾ู 7.3 มงุ฽ มน่ั ในการทางาน 7.4 มจี ติ สาธารณะ 8. กระบวนการจดั การเรยี นรู้ ขั้นนา (5 นาที) 8.1 ครูกล฽าวทักทายนักเรยี น 8.2 ครอู ธบิ ายสิง่ ที่ตอ฾ งเรียนในสัปดาห์นใี้ หน฾ ักเรียนทราบ “ประเภทรปู ภาพสญั ลักษณ์ (Logo)” 8.3 ครูสอบถามนกั เรยี น “นักเรยี นลองยกตัวอย฽างสัญลักษณ์หรือโลโก฾ที่นักเรียนร฾ูจักมา 1 อย฽าง พร฾อมอธิบายเหตใุ ดถึงเลือกผลงานชิ้นน้ัน” เพ่ือกระตุ฾นให฾ผ฾ูเรียนเชื่อมโยงเข฾าสู฽เนื้อหาความรู฾เก่ียวกับ ประเภทรูปภาพสญั ลกั ษณ์ (Logo) ข้ันสอน (50 นาที) 8.4 ครูอธบิ ายหลักการออกแบบสญั ลกั ษณ์ (Logo) ใหน฾ ักเรียนฟัง

 การออกแบบรปู ภาพมหี ลกั การอะไรบ้าง 1) เรื่องและแนวความคิด : คือท่ีมาของความคิดท่ีจะออกแบบ อาจมาจากธรรมชาติหรือ ข฾อกาหนดของการออกแบบ 2) ทัศนธาตุและเทคนิควิธีการ : การใช฾จุด เส฾น สี น้าหนัก พ้ืนผิวและเทคนิคต฽างๆ ในการสร฾างสรรค์ 3) หลักและทฤษฎีองค์ประกอบศิลป฼ : จะช฽วยให฾การสร฾างสรรค์งานออกแบบ มีความงาม 4) คุณค฽าทางความงามของงานออกแบบ เป็นผลสัมฤทธ์ิท่ีเกิดขึ้นและมีผลต฽อผู฾ชม และสงั คม  การออกแบบรปู ภาพมีอะไรบา้ ง 1. การออกแบบรปู ภาพ แบง฽ ออกได฾ดงั น้ี 1.1. การออกแบบรูปภาพด฾วยจุด จุดเป็นองค์ประกอบหน่ึงของทัศนธาตุ ทสี่ ามารถนามาสร฾างภาพไดท฾ กุ รปู แบบ 1.2. การออกแบบรปู ภาพด฾วยเสน฾ เส฾นมหี ลายลกั ษณะและทาใหเ฾ กิดความร฾ูสกึ ทหี่ ลากหลายต฽อผ฾ูพบเห็น 2. การออกแบบสัญลักษณ์ ความหมายของสญั ลกั ษณ์ คือ ส่ิงทนี่ ักออกแบบได฾ออกแบบขน้ึ มาเพือ่ สอื่ ความหมายใหม฾ นุษยเ์ ข฾าใจรว฽ มกันในสังคม ได฾แก฽ 1. เครอื่ งหมายจราจร ทม่ี า : http://www.logahead.com/wp-content/uploads/2017/01/Traffic_Signs.jpg


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook