Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ผลงาน

ผลงาน

Published by Wipaphorn Tipparach, 2021-05-15 20:57:17

Description: ผลงาน

Search

Read the Text Version

2. เครือ่ งหมายของสถาบัน สมาคม มูลนิธิ หรือกล฽ุมกจิ กรรมต฽างๆ ท่มี าภาพที่ 2 : https://lh3.googleusercontent.com/proxy/0hzHPYXH4QfJFfqqWbRz3gPn- 0P46axXb7J8vH_es3Yx82J6_kZ_M6tiGZeGdkBLD9nAHWBtA06cdxEnJvEnnKAd 3. เครือ่ งหมายบรษิ ัท ท่มี า : https://www.design365days.com/UploadFile/Blog/blog_1309772292.jpg 4. เครือ่ งหมายสถานท่ี ทีม่ าภาพที่ 1 : https://lh3.googleusercontent.com/proxy/YYxJqyOipqJMSk1RNTLN1qtj- jqTQ623LNEsgLwCCbCSbKUjVSFtCrqt4izC_fa9KrcImQ6Jk6WlztnmSY9_uEq9VQkAwniK- rV9rpQLc4uVz5XaEIU ที่มาภาพที่ 2 : https://encrypted-tbn0.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcSQQrt1_XML7s67-qEf2g d84D0wPVJiXAV-wg&usqp=CAU

5. เครื่องหมายแสดงกิจกรรมตา฽ งๆ ท่มี าภาพท่ี 1 : https://f.ptcdn.info/894/069/000/qcbfmt575Yz7sG09mv7-o.jpg ท่มี าภาพท่ี 2 : https://i.pinimg.com/originals/02/10/d4/0210d46b2d589b43f9772621 84630061.jpg 8.5 ครูใหน฾ กั เรียนทากิจกรรมใบงานท่ี 2.2 เรือ่ ง ประเภทรูปภาพสญั ลักษณ์ (Logo) 8.6 ครูเปดิ โอกาสให฾นักเรียนซักถามข฾อสงสยั จากน้ันนักเรยี นลงมือปฏบิ ตั งิ าน ครูคอยเดนิ ดูและ ใหค฾ าแนะนา ข้นั สรุป (5 นาท)ี ครูและนักเรียนสรุปเนื้อหาความร฾ู “รปู ภาพสัญลักษณ์ (Logo) มีหลากหลายรูปแบบ หลากหลาย ประเภท ซึ่งผู฾ออกแบบได฾ออกแบบเพื่อใช฾ในการส่ือสารในด฾านต฽างๆ” จากนั้นนักเรียนเก็บอุปกรณ์ ให฾เรยี บร฾อย 9. การวดั และประเมินผล 9.1 ประเภทรปู ภาพสัญลกั ษณ์ (Logo) (10 คะแนน) ประเดน็ การ เกณฑก์ ารให้คะแนน ประเมิน 5 4 3 2 10 ด้านความรู้ - - (K) -นั ก เ รี ย น -นั ก เ รี ย น -นั ก เ รี ย น -ไม฽ -เพือ่ ให฾นักเรียน สามารถอธิบาย สามารถอธิบาย สามารถอธิบาย ส า ม า ร ถ อธิบาย ความหมายของ ค ว า ม ห ม า ย ค ว า ม ห ม า ย อ ธิ บ า ย -ไมม฽ า สั ญ ลั ก ษ ณ์ ของสัญลักษณ์ ของสัญลักษณ์ ค ว า ม ห ม า ย เรียน (Logo) ได฾ (Logo) ได฾ (Logo) ได฾ผิด ของสัญลักษณ์ ร ะ ดั บ ดี ม า ก ถู ก บ฾ า ง บ า ง (Logo) ได฾ผิด แ ล ะ ต ร ง ประเดน็ คาถาม ถูกบ฾างหลาย ประเด็นคาถาม ป ร ะ เ ด็ น คาถาม

ดา้ นทักษะ -นั ก เ รี ย น -นั ก เ รี ย น -นั ก เ รี ย น -นั ก เ รี ย น -นั ก เ รี ย น -ไม฽สง฽ (P) ส า ม า ร ถ ส า ม า ร ถ ส า ม า ร ถ ส า ม า ร ถ ส า ม า ร ถ งาน -เพื่อให฾นักเรียน วาดสัญลักษณ์ วาดสัญลักษณ์ วาดสัญลักษณ์ วาดสัญลักษณ์ วาดสัญลักษณ์ -ไม฽ ส า ม า ร ถ รู฾ จั ก ( Logo) ต า ม ( Logo) ต า ม ( Logo) ต า ม ( Logo) ต า ม ( Logo) ต า ม มา หลักการในการ แบบที่นักเรียน แบบท่ีนักเรียน แบบที่นักเรียน แบบท่ีนักเรียน แบบท่ีนักเรียน เรยี น วาดสัญลักษณ์ ห า ม า ไ ด฾ ต ร ง ห า ม า ไ ด฾ ต ร ง ห า ม า ไ ด฾ ต ร ง ห า ม า ไ ด฾ ต ร ง ห าม าได฾ ตร ง (Logo) ได฾ ต า ม รู ป แ บ บ ต า ม รู ป แ บ บ ต า ม รู ป แ บ บ ต า ม รู ป แ บ บ ต า ม รู ป แ บ บ ต฾นฉบบั ต฾ น ฉ บั บ ต฾ น ฉ บั บ ต฾นฉบับแต฽วาด ต฾นฉบับแต฽วาด องค์ประกอบ องค์ประกอบ องค์ประกอบ องค์ประกอบ องค์ประกอบ ในภาพครบทุก ในภาพครบทุก ในภาพครบทุก ในภาพไม฽ครบ ในภาพไม฽ครบ สว฽ น ส฽วน สว฽ น บ า ง ส฽ ว น ห ล า ย ส฽ ว น -ระบายสีภาพ -ระบายสีภาพ -ระบายสีภาพ -ระบายสีภาพ -ระบายสีภาพ สัญลัก ษ ณ์ไ ด฾ สัญลัก ษ ณ์ไ ด฾ สัญลัก ษ ณ์ ไ ด฾ สัญลัก ษ ณ์ไ ด฾ สัญลักษณ์ได฾ สวยงาม สวยงาม สวยงามระดับ สวยงามระดับ ส ว ย ง า ม -ภ า พ -ภ า พ ปานกลาง เล็กน฾อย เล็กนอ฾ ย สัญลักษ ณ์ไ ม฽ สัญลักษณ์เอน -ภ า พ -ภ า พ -ภ า พ เอนเอียงหรือ เอียง ห รือบิด สัญลักษณ์เอน สัญลักษณ์เอน สัญลักษณ์เอน บิดเบี้ยวไปใน เ บี้ ย ว ไ ป ใ น เอียง ห รือบิด เอียง ห รือบิด เอียงบิดเบ้ียว ทิ ศ ท า ง ใ ด ทิ ศ ท า ง ใ ด เ บี้ ย ว ไ ป ใ น เ บี้ ย ว ไ ป ใ น ไปทุกทศิ ทาง ทิศทางหน่ึง ทศิ ทางหนง่ึ ทิ ศ ท า ง ใ ด ทิ ศ ท า ง ใ ด -รู ป แ บ บ -รปู แบบผลงาน -รปู แบบผลงาน ทศิ ทางหน่งึ ทิ ศ ท า ง ห น่ึ ง ผลงานสะอาด ส ะ อ า ด ส ะ อ า ด -รูปแบบผลงาน -รูปแบบผลงาน แต฽ไมส฽ มบูรณ์ ส ม บู ร ณ์ ส ม บู ร ณ์ ส ะ อ า ด เรียบรอ฾ ย เรยี บรอ฾ ย เรียบร฾อย ส ม บู ร ณ์ เรยี บรอ฾ ย ด้ า น จิ ต พิ สั ย - - - -เข฾าชั้นเรียน -เข฾าช้ันเรียน ไม฽เข฾า (A) แ ล ะ มี ค ว า ม แต฽ไม฽มีความ ช้นั -มีวนิ ยั มุ฽ง มั่นใ นกา ร มุ฽ง มั่นในการ เรียน -ม฽ุ ง มั่ น ใ น ก า ร ทางาน ทางาน ทางาน

เกณฑ์การประเมิน คะแนน ประเมิน 9 - 10 ดี 7 - 8 ปานกลาง 5 – 6 น฾อย 10. ส่อื อปุ กรณ์และแหลง่ การเรียนรู้ ส่อื การเรยี นรู้ 1. รปู ภาพประเภทสัญลกั ษณ์ (Logo) อุปกรณ์ - ใบงาน - สี - ปากกา/ดินสอ/ยางลบ/ไมบ฾ รรทดั แหล่งการเรยี นรู้ 1. หนังสอื เรียน รายวิชาพ้นื ฐาน ทศั นศลิ ป฼ กลมุ฽ สาระการเรียนร฾ศู ลิ ปะ ระดบั ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 1 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐาน พ.ศ. 2551 2. เว็บ Pinterest

ใบงานท่ี 2.2 เร่ือง การออกแบบรปู ภาพสัญลักษณ์ (Logo) คาชแี้ จง : ใหน้ กั เรียนวาดเครอื่ งหมายสญั ลกั ษณ์มา 1 อย่าง ระบายสใี ห้สวยงาม พรอ้ มบอก สัญลักษณ์ ประเภทเครื่องหมายสญั ลกั ษณ์ สี และประโยชนข์ องเครื่องหมาย  ใหน้ ักเรยี น  ประเภทเครือ่ งหมายสัญลกั ษณท์ ี่นักเรียนวาดลงในช่อง ใหถ้ ูกตอ้ ง เครือ่ งหมายจราจร เคร่อื งหมายของสถาบนั สมาคม มลู นิธิ หรอื กล฽ุมกิจกรรมต฽างๆ เครือ่ งหมายบริษทั เครื่องหมายสถานท่ี เครอื่ งหมายแสดงกจิ กรรตา฽ งๆ

สีของเคร่ืองหมายสญั ลกั ษณ์……………………………………………………………………………………………… สง่ิ ทีป่ รากฏอยใู่ นสัญลักษณม์ ีอะไรบ้าง………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………..………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ความหมายของเครื่องหมายสัญลกั ษณ……………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………..………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………..………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………..………………………………………………………………………………………………………………………………… สัญลักษณ์นน้ี าไปใชป้ ระโยชนใ์ นดา้ นใด………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………..………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………..………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………….………………………………………………………………………………………………………………………… ชือ่ ………………….....................นามสกุล…………………………………………..ชัน้ ……………เลขท…่ี ………...

แบบประเมนิ ใบงาน เครื่องมือ หน่วยการเรียนรทู้ ่ี………….เร่ือง………………………………………………………………………ชนั้ ……………….. คาชี้แจง : ใหค฾ รผู ู฾สอนประเมินใบงานของนักเรยี นแล฾วใหท฾ าเครอื่ งหมาย  ลงในช฽องท่ีตรงกับ ระดบั คะแนน เพอ่ื ใหน้ กั เรียน ลาดับ ลาดบั ที่ สามารถ เพอื่ ใหน้ ักเรียน ความ รวม ที่ ชอ่ื – สกลุ อธบิ าย สามารถร้จู กั หลักการ มงุ่ ม่ันใน 10 ความหมาย ในการวาดสัญลกั ษณ์ คะแนน ของสญั ลักษณ์ การ (Logo) ได้ ทางาน (Logo) ได้ 3 210543210210 1 ด.ช. บารมี ผาสุข 2 ด.ช. สรุ ยุทธ ปรเี ลิศ 3 ด.ช. วฒุ ชิ ัย เฉยดี 4 ด.ช. ภานพุ งศ์ ศรขี ดั เครอื 5 ด.ช. วสุ รัตนศฤงค์ 6 ด.ญ. กติ ตยิ ารัตน์ ศรสี อาด 7 ด.ญ. สโรชา ศรสี อาด 8 ด.ช. ชโยดม วรุณพงษ์ 9 ด.ญ. แพรวา ธรี เดชพัฒนช์ ยั 10 ด.ช. ธนวฒุ ิ สว฽างชม 11 ด.ญ. ณธดิ า จันทรกั ษา 12 ด.ช. ติณณภพ สระทองเรือง 13 ด.ช. สุทธพิ ร แสงจนั ทร์ 14 ด.ญ. ธมนวรรณ เฉิน 15 ด.ญ. นรินรชั ทาดี ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิ (…………………..…………………………..) .................../................../.................

บันทกึ ผลหลงั การจดั การเรยี นรู้ 1. ผลการจัดการเรยี นรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ปัญหา/อปุ สรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. ขอ้ เสนอแนะและแนวทางการแก้ไข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่ือ…………………………………………..ครูผู้สอน (นางสาววิภาพร ทพิ ราช) นกั ศกึ ษาฝึกประสบการณว์ ชิ าชีพครู ความคดิ เห็นของครูพเ่ี ลี้ยง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื …………………………………………..ครูพเี่ ลยี้ ง (นายพนั ศกั ดิ์ เสง็ สุวรรณ) ครูวทิ ยาฐานะครูชานาญการพเิ ศษ ความคิดเหน็ ของรองผ้อู านวยการสถานศกึ ษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื …………………………………………..ผตู้ รวจ (นางทพิ มาศ ดวงจันทราศิริ) รองผูอ้ านวยการสถานศึกษาโรงเรียนวัดมะลิ ความคดิ เห็นของผู้อานวยการสถานศกึ ษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………………………………..ผ้บู รหิ ารสถานศึกษา (นางสาวดรุณี เทพา) ผู้อานวยการสถานศึกษาโรงเรยี นวัดมะลิ

แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 10 รหัสวชิ า 21101 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ศิลปะ สาระ ทศั นศลิ ป์ หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 3 ทศั นศลิ ป์ของชาตแิ ละท้องถนิ่ ภาคเรยี นที่ 2 เรือ่ ง รปู แบบงานทศั นศิลป์ของชาตแิ ละทอ้ งถิ่น จานวน 1 คาบ ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 1 เวลา 1 ชั่วโมง สอนเมือ่ วนั ท…่ี ……เดือน………………….พุทธศักราช……………… ครูผสู้ อน วิภาพร ทิพราช 1. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ศ 1.2 เข฾าใจความสัมพันธ์ระหว฽างทัศนศิลป฼ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เห็นคณุ คา฽ งานทศั นศลิ ป฼ที่เป็นมรดกทางวฒั นธรรม ภมู ปิ ัญญาทอ฾ งถ่ิน ภมู ปิ ญั ญาไทย และสากล 3. ตวั ช้ีวดั ศ 1.2 ม. 1/1 ระบุ และบรรยายเก่ียวกับลักษณะ รูปแบบงานทัศนศิลป฼ของชาติ และของท฾องถิน่ ตนเองจากอดีตจนถึงปจั จบุ นั 4. สาระสาคัญ เพื่อให฾บอกรูปแบบงานทัศนศิลป฼ของชาติและท฾องถ่ิน ทางศิลปะในแต฽ละยุคสมัย ซ่ึงสามารถ วิเคราะห์ได฾จากผลงานทัศนศิลป฼ในแต฽ละประเภท ได฾แก฽ ด฾านจิตรกรรม ด฾านประติมากรรม และดา฾ นสถาปตั ยกรรม ทมี่ ลี ักษณะรปู แบบแตกต฽างกนั และมเี อกลกั ษณค์ วามสวยงามแตกต฽างกันไปใน แต฽ละทอ฾ งถนิ่ จาแนกลักษณะงานงานทัศนศิลป฼ของชาติและท฾องถิ่นที่มีลักษณะแตกต฽างกันท้ังด฾านจิตรกรรม ดา฾ นประตมิ ากรรมและด฾านสถาปัตยกรรม ซึ่งแนวคดิ ในการสร฾างอาจเป็นเร่ืองราวเดียวกัน แต฽ปัจจัยที่ ทาให฾งานทัศนศิลป฼ของไทยมีความแตกต฽างกัน ได฾แก฽ สภาพทางภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ ศาสนา ความเช่ือ และสังคมวัฒนธรรมในแต฽ละพื้นที่ ซ่ึงล฾วนแล฾วแต฽ทาให฾เกิดรูปแบบผลงานที่เป็น ลักษณะเฉพาะของชาตแิ ละท฾องถ่ินตามลาดบั

5. จุดประสงค์การเรียนรู้ 4.1 ด้านความรู้ (K) - เพื่อใหน฾ ักเรียนสามารถบรรยายลักษณะรปู แบบงานทัศนศิลป฼ของชาติและทอ฾ งถ่ินได฾ 4.2 ด้านทักษะ (P) - เพื่อให฾นกั เรยี นสามารถจาแนกและระบลุ ักษณะรปู แบบงานทัศนศิลป฼ของชาติและ ท฾องถน่ิ ได฾ 4.3 ด้านคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ (A) 1) มวี ินัย (เข฾าชนั้ เรียน, มีความรับผิดชอบตอ฽ งานทไ่ี ดร฾ บั มอบหมาย) 2) ม฽ุงม่ันในการทางาน (เอาใจใส฽ต฽อการปฏิบัติหน฾าท่ีที่ได฾รับมอบหมาย, พยายาม แกป฾ ัญหาและอปุ สรรคในการทางานให฾สาเร็จ) 3) รกั ความเปน็ ไทย (ภาคภมู ใิ จในขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปะ วัฒนธรรมไทย) 6. สาระการเรียนรู้ รปู แบบงานทศั นศิลป฼ของชาติและท฾องถ่ินล฾วนมีเอกลักษณ์ที่สะท฾อนให฾เห็นถึงความเช่ือ วถิ ีชีวติ ขนบธรรมเนียมประเพณี และวัฒนธรรมในแต฽ละทอ฾ งถน่ิ 7. สมรรถนะท่ีสาคัญ 6.1 ความสามารถในการคดิ อย฽างสร฾างสรรค์ 6.2 ความสามารถในการใชเ฾ หตุผลในการคดิ แยกแยะได฾ดว฾ ยตนเอง 8. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 7.1 มีวินยั 7.2 ใฝุเรียนร฾ู 7.3 มงุ฽ มัน่ ในการทางาน 7.4 มีจิตสาธารณะ 9. กระบวนการจัดการเรียนรู้ ขัน้ นา (5 นาที) 8.1 ครกู ล฽าวทกั ทายนกั เรยี น

8.2 ครูอธิบายสิ่งท่ีต฾องเรียนในสัปดาห์นี้ให฾นักเรียนทราบ “รูปแบบงานทัศนศิลป฼ของชาติและ ทอ฾ งถนิ่ ” 8.3 ครูสอบถามนักเรียน “งานทัศนศิลป฼ในแต฽ละพ้ืนที่มีลักษณะเหมือนกันหรือแตกต฽างกัน หรือไม฽” (พิจารณาตามคาตอบของนักเรียน โดยให฾อยู฽ในดุลยพินิจของครูผ฾ูสอน) เพ่ือกระตุ฾นให฾ผู฾เรียน เชือ่ มโยงเข฾าสูเ฽ นอ้ื หาความรู฾เก่ียวกับ รปู แบบงานทศั นศิลป฼ของชาติและทอ฾ งถน่ิ ขัน้ สอน (50 นาที) 8.4 ครอู ธบิ ายความหมายของงานทัศนศลิ ปข฼ องชาตแิ ละท฾องถนิ่ ให฾นกั เรียนฟงั สงั คมไทยมีพฒั นาการทีย่ าวนานมาตง้ั แต฽สมัยกอ฽ นประวัติศาสตรจ์ นถึงปัจุบัน เห็นได฾จาก หลักฐานทางประวัติศาสตร์และโบราณคดีท่ีปรากฎตามแหล฽งอารยธรรมในภูมิภาคต฽างๆที่มีการค฾นพบ ทรพั ยากรทาวฒั นธรรมหรอื ผลงานทัศนศลิ ป฼ เป็นจานวนมากท่กี ระจายอยู฽ ปัจจัยที่ทาให฾งานทัศนศิลป฼ของไทยมีความแตกต฽างกัน ได฾แก฽ สภาพทางภูมิศาสตร์ ประวัตศิ าสตร์ ศาสนา ความเช่ือ และสังคมวัฒนธรรมในแต฽ละพื้นที่ ซึ่งล฾วนแล฾วแต฽ทาให฾เกิดรูปแบบ ผลงานท่ีเป็นลักษณะเฉพาะของชาติและท฾องถ่ินตามลาดับ ซ่ึงเป็นส่ิงท่ีคนในท฾องถ่ินและคนในชาติควร ภาคภูมิใจเป็นอยา฽ งย่ิง  ประเภทงานทัศนศลิ ปม฼ ี ดังนี้ 1. จิตรกรรม (Painting) หมายถึง ผลงานศิลปะท่ีแสดงออกด฾วยการขีดเขียน การวาด และระบายสี 2. ประติมากรรม (Sculpture) หมายถึง การสร฾างรูปทรง 3 มิติ ได฾แก฽ ประติมากรรม นนู ตา่ ประติมากรรมนนู สงู และประติมากรรมแบบลอยตวั ซึง่ มี 4 วิธี คอื การป้นั (Casting) การแกะสลกั (Carving) การหล฽อ (Molding) และ การประกอบขนึ้ รูป (Construction) 3. สถาปตั ยกรรม (Architecture) หมายถงึ ผลงานศลิ ปะที่แสดงออกด฾วยส่งิ ก฽อสร฾าง อาคารที่อย฽ูอาศัยต฽างๆ ที่มีขนาดใหญ฽ 2 ประเภท ได฾แก฽ สถาปัตยกรรมแบบปิด และสถาปัตยกรรมแบบเปิด  1. ลักษณะรปู แบบงานทัศนศลิ ป฼ของชาติ งานทัศนศลิ ป฼ของชาติ หมายถงึ ศิลปะที่ถูกถ฽ายทอดและสร฾างข้ึนโดยช฽างจากราชสานักหรือช฽าง หลวงโดยมีรปู แบบท่แี ตกตา฽ งกันไปตามลักษณะของการใชส฾ ่อื วัสดุ กรรมวิธี ช฽วงเวลา และพัฒนาการทาง ศิลปะในแตล฽ ะยุคสมัย ซ่ึงสามารถวเิ คราะห์ไดจ฾ ากผลงานทศั นศลิ ปใ฼ นแตล฽ ะประเภท ดงั น้ี

1.1 จิตรกรรม 1) ลักษณะของจิตรกรรมไทย ในสมัยโบราณจิตรกรรมหรือภาพเขียนสีของไทยจะ นิยมเขียนข้ึน เพื่อเป็นพุทธบูชาตามผนังโบสถ์ วิหาร ศาลาการเปรียญ ในคูหาองค์พระปรางค์ พระสถูป เจดียแ์ ละผนังถ้า มีจุดประสงค์เพ่อื ตอ฾ งการเลา฽ เรอื่ งพทุ ธประวัตหิ รือเร่อื งราวทางสาสนาดว฾ ยภาพ 2) ประเภทของจิตรกรรมไทย แสดงภาพดว฾ ยการวาดเส฾นและระบายสีลงบนแผ฽นผิว เรยี บรูปทรงท่ีประกอบจากเส฾นสีบนผิวเรียบ เช฽น เขียนไว฾บนผนัง เรียกว฽า “จิตรกรรมฝาผนัง” เขียนบน ผืนผ฾า เรียกว฽า “พระบฏ” เขียนบนกระดาษทับซ฾อน เรียกว฽า “จติ รกรรมสมดุ ภาพ” เป็นต฾น จติ รกรรมฝาผนัง เร่ืองรามเกียรต์ิ บนระเบียงรอบพระอโุ บสถ วัดพระศรรี ตั นศาสนาราม กรุงเทพมหานคร ทีม่ า : https://teen.mthai.com/app/uploads/2019/08/Hanuman.jpg 1.2 ประตมิ ากรรม ลักษณะประติมากรรมไทย สร฾างขึ้นเพื่อการตกแต฽งสถาปัตยกรรม เช฽น ลวดลาย ประดับต฽างๆ ประติมากรรมที่มีคุณสมบัติเฉพาะท่ีมีความสมบูรณ์ในตัว ท้ังด฾านเน้ือหา รูปทรง และการ แสดงออก เช฽น พระพุทธรูปประดิษฐานอยู฽ภายในพระพระอุโบสถ วิหาร เป็นต฾น ประเภทของ ประติมากรรมไทย เป็นผลงานศิลปกรรมท่ีเกิดจากขึ้นจากฝีมือ ความคิด และความสามารถของคนไทย

สรา฾ งข้ึนด฾วยวตั ถปุ ระสงคต์ ฽างๆ กนั เช฽น ความศรัทธาต฽อศาสนา ความเช่ือทางไสยศาสตร์ขนมธรรมเนียม ประเพณี ตลอดจนสรา฾ งข้ึนตามคตินิยมของชุมชนหรอื ท฾องถิน่ เป็นตน฾ พระพุทธชนิ ราช เปน็ พุทธศิลปท์ ่มี คี วามงดงามมาก ปฏมิ ากรผสู้ รา้ ง ยอ่ มมคี วามศรทั ธาในพระพทุ ธศาสนาอยา่ งเปยี่ มล้น ที่มา : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=64 1.3 สถาปัตยกรรม ลกั ษณะสถาปตั ยกรรมไทย ทีโ่ ดดเดน฽ พร฾อมดว฾ ยคุณลกั ษณะทางทัศนศิลป฼จะเป็นงาน ศิลปะแท฾ทีส่ รา฾ งความประทับใจแก฽ผช฾ู มได฾ เชน฽ วดั พระศรรี ัตนศาสดาราม พระท่ีนั่งจักรีมหาปราสาท เป็น ต฾น อกี ทัง้ สถาปัตยกรรมไทยมกี ารสร฾างสัญลักษณ์ท่ีเป็นเอกลักษณ์เฉพาะมาแต฽โบราณ ซ่ึงอิทธิพลท่ีทาให฾ เกิดลักษณะเฉพาะทางสถาปัตยกรรมไทยนั้น ได฾แก฽ อิทธิพลทางด฾านศาสนาและวัฒนธรรมตลอดจน อิทธพิ ลทางด฾านสภาพดนิ ฟูาอากาศ รูปแบบของสถาปัตยกรรมไทยท่ีได฾รับอิทธิพลทางด฾านศาสนาและวัฒนธรรม เช฽น ปราสาท สถปู เจดยี ์ ปรางค์ โบสถ์ วหิ าร เปน็ ต฾น รูปแบบของสถาปัตยกรรมไทยท่ีได฾รับอิทธิพลทางด฾านสภาพดินฟูาอากาศ เช฽น อาคาร บ฾านเรือน เป็นตน฾

พระท่ีน่ังจักรมี หาปราสาท ภายในพระบรมมหาราชวงั จัดเปน็ สถาปัตยกรรมทีร่ บั อิทธิพลของศลิ ปะตะวันตก ทีเ่ ขา้ มาในสมัยรัชกาลที่ 5 ที่มา : https://hilight.kapook.com/view/171974  2. ลักษณะรูปแบบงานทัศนศลิ ป฼ท฾องถิ่น งานทัศนศิลป฼ท฾องถ่ิน หมายถึง ศิลปกรรมในสาขาภูมิปัญญาไทยด฾านจิตรกรรม ประตมิ ากรรมและสถาปัตยกรรม ที่เปน็ ผลงานสรา฾ งสรรคข์ องท฾องถ่ินท่ีเกิดจากภูมิปัญญาของชาวบ฾าน ได฾ คิดประดิษฐ์ข้นึ มาเปน็ เอกลักษณ์ของตนเอง ซึ่งสามารถวิเคราะห์ได฾จากผลงานทัศนศิลป฼ในแต฽ละแระเภท ได฾ ดงั นี้ 2.1 จิตรกรรมท฾องถิ่น จิตรกรรมท฾องถิ่น คอื ผลงานการวาดภาพ ระบายสีลงพ้ืนที่ต฽างๆ ตามความรู฾สึกนึก คดิ ของชาวบ฾าน ทีม่ เี อกลกั ษณ์เรียบง฽าย ไม฽แสดงลายละเอียด แต฽แสดงออกถึงความทรงจา ตลอดจนแรง บันดาลใจจากสง่ิ ทีเ่ คยพบเห็นในธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดล฾อมผ฽านทางภาพวาดจติ รกรรมในลักษณะต฽างๆ เช฽น จติ รกรรมฝาผนัง จติ รกรรมประกอบ เครือ่ งใช฾ จติ รกรรมประเภทเครอื่ งเลน฽ ตา฽ งๆ และจิตรกรรมท่ีเกิดจาก ความศรัทธาทางศาสนา เป็นตน฾

ภาพเขียนสี (ฮูปแต้ม) เล่าเรอื่ งราวขบวนแหผ่ ะเหวด แทรกอย่ใู นชาดกเร่อื งเวสสันดร ทสี่ ิมวัดสนวนวารพี ฒั นาราม จังหวดั ขอนแก่น ทีม่ า : https://www.esanart.com/wat_sanaunwari/images/018.jpg 2.2 ประตมิ ากรรมท฾องถ่ิน ประติมากรรมทอ฾ งถิน่ คือ ผลงานท่ีเกิดจากการปั้น การแกะสลัก การหล฽อ การกลึง การทุบตี การเคาะ ซ่ึงผลงานจากการสร฾างสรรค์ในแต฽ละท฾องถิ่นจะมีความแตกต฽างกันด฾วยกรรมวิธีใน การผลติ ซ่งึ การผลิตผลงายส฽วนใหญ฽ จะมุ฽งผลติ เพอ่ื ประโยชน์ในการใช฾สอยเป็นสาคัญ การจาแนกลักษณะ ของประติมากรรมท฾องถิ่น สามารถจาแนกไดตามประเภทของวัสดุและวิธีการสร฾างสรรค์ ได฾แก฽ งาน แกะสลกั งานปั้น งานกระดาษ และงานโลหะ หรือจาแนกตามประเภทของการใช฾สอย ได฾แก฽ ผลงานที่ใช฾ ประดบั บ฾านเรือน ผลงานที่ใชป฾ ระกอบในเร่ืองความเช่อื และพิธีกรรมต฽างๆ ผลงานท่ีใช฾ประกอบการละเล฽น รวมถงึ เครอ่ื งประดบั ต฽างๆ

พระพุทธรูปแบบทอ้ งถ่นิ สมยั ทวารวดี พบท่เี มืองศรีมโหสถ จงั หวดั ปราจนี บรุ ี ท่ีมา : https://suanleklek.wordpress.com/2018/08/05/ontheeasternfrontier/ 2.3 สถาปตั ยกรรมทอ฾ งถิ่น สถาปัตยกรรมท฾องถิ่น คือ ส่ิงปลูกสร฾างประเภทอาคารบ฾านเรือนท่ีมีลักษณะและ รูปแบบตามความนิยมในท฾องถิ่นมีลักษณะเฉพาะตัวในแต฽ละภูมิภาค โดยมีความสอดคล฾องกับประ เพณี และวัฒนธรรมของกล฽ุมคนเหล฽านั้น ซึ่งสามารถจาแนกรูปแบบสถาปัตยกรรมท฾องถิ่นได฾ 2 รูปแบบ คือ สถาปัตยกรรมทางศาสนา และสถาปัตยกรรมอาคารบ฾านเรือนและท่ีอยู฽อาศัย เช฽น บ฾านเรือนในท฾องถ่ิน ประเภทเครอ่ื งผูกท่ใี ชว฾ สั ดไุ ม฽คงทนในการสรา฾ ง มีวธิ กี ารปลูกสร฾างง฽ายๆ โดยการนาวัสดุต฽างๆ มาผูกยึดเข฾า ด฾วยกนั ประเภทเคร่ืองสับท่ีใชว฾ สั ดคุ งทนโดยนามาประกอบกนั ด฾วยวิธีการเข฾าไม฾ เป็นต฾น

สมิ วดั ปาุ แสงอรณุ อาเภอเมือง จงั หวัดขอนแกน฽ ภายในมีความวิจิตรงดงามของภาพเขียนลายผ฾าไหมมัดหมี่ สะท฾อนให฾เหน็ ถึงความเป็นเอกลกั ษณ์ของท฾องถ่ิน ท่ีมา : https://lh3.googleusercontent.com/proxy/786N8cBXCS84_b5q5xn3kdDRmpS3kLz6y 2Jwh2RzlLO2pm12lc3-rENFKCjb1SZ__V1b2njHHg7E_qlvaq5-4wY0f_WI-lRT2j3tL1lNY5K8y 8frcMOr9PJkZV6_iQMa9Yv6StwQtov4uAkhDkzQL9_25kg ลายผา฾ ไหมมดั หมี่ ทีม่ า : https://inwfile.com/s-n/gtv5v1.jpg

8.5 ครูให฾นกั เรียนทากิจกรรมใบงานท่ี 3.1 เรือ่ ง รูปแบบงานทศั นศลิ ปข฼ องชาติและท฾องถน่ิ 8.6 ครูเปิดโอกาสให฾นักเรียนซักถามข฾อสงสัย จากนั้นให฾นักเรียนลงมือปฏิบัติงาน ครูคอยเดินดู และใหค฾ าแนะนา ขนั้ สรปุ (5 นาที) ครูและนักเรยี นสรปุ เนอื้ หาความรู฾ “รูปแบบงานทศั นศิลป฼ของชาติและทอ฾ งถิน่ ” ร฽วมกัน “รูปแบบ งานทัศนศิลป฼ของชาติถูกสร฾างขึ้นโดยช฽างจากราชสานักหรือช฽างหลวง ส฽วนรูปแบบงานทัศนศิลป฼ท฾องถ่ิน เป็นผลงานสร฾างสรรค์ที่เกิดจากภูมิปัญญาของชาวบ฾าน แต฽รูปแบบงานทัศนศิลป฼ของชาติและท฾องถิ่น มี ความสวยงามและมเี อกลักษณ์เฉพาะตัวในแต฽ละรูปแบบ” จากนัน้ นักเรียนเกบ็ อปุ กรณ์ให฾เรยี บรอ฾ ย 4. การวดั และประเมินผล 9.1 รปู แบบงานทัศนศลิ ป฼ของชาตแิ ละท฾องถิน่ (10 คะแนน) ประเด็นการ เกณฑ์การให้คะแนน ประเมนิ 5 4 3 2 10 ดา้ นความรู้ - - -นั ก เ รี ย น -นั ก เ รี ย น -นั ก เ รี ย น -ไม฽ (K) ส า ม า ร ถ ส า ม า ร ถ บ ร ร ย า ย บรรยา -เพอ่ื ให฾นักเรียน สามารถ บ ร ร ย า ย บ ร ร ย า ย ลั ก ษ ณ ะ ย บรรยาย ลั ก ษ ณ ะ ลั ก ษ ณ ะ รู ป แ บ บ ง า น -ไมม฽ า ลกั ษณะรูปแบบ รู ป แ บ บ ง า น รู ป แ บ บ ง า น ทัศนศิลป฼ของ เรียน ทัศนศิลป฼ของ ทัศนศิลป฼ของ ช า ติ แ ล ะ ง า น ทั ศ น ศิ ล ป฼ ช า ติ แ ล ะ ช า ติ แ ล ะ ท฾องถ่ินได฾ผิด ขอ ง ช า ติแ ล ะ ท฾ อ ง ถิ่ น ไ ด฾ ท฾องถ่ินได฾ผิด ถูกบ฾างหลาย ทอ฾ งถ่นิ ได฾ ถู ก ต฾ อ ง ถู ก บ฾ า ง บ า ง ป ร ะ เ ด็ น ตร ง ป ร ะ เ ด็ น ประเดน็ คาถาม คาถาม คาถามทกุ ขอ฾ ด้านทักษะ -นั ก เ รี ย น -นั ก เ รี ย น -นั ก เ รี ย น -นั ก เ รี ย น -นั ก เ รี ย น -ไมส฽ ฽ง (P) สามารถจาแนก สามารถจาแนก สามารถจาแนก สามารถจาแนก ส า ม า ร ถ งาน -เพอื่ ให฾นักเรียน แ ล ะ ร ะ บุ แ ล ะ ร ะ บุ แ ล ะ ร ะ บุ แ ล ะ ร ะ บุ จ า แ น ก แ ล ะ -ไม฽ สามารถจาแนก ลั ก ษ ณ ะ ลั ก ษ ณ ะ ลั ก ษ ณ ะ ลั ก ษ ณ ะ ร ะบุลักษ ณ ะ มา แ ล ะ ร ะ บุ รู ป แ บ บ ง า น รู ป แ บ บ ง า น รู ป แ บ บ ง า น รู ป แ บ บ ง า น รู ป แ บ บ ง า น เรยี น ลกั ษณะรปู แบบ ทัศนศิลป฼ของ ทัศนศิลป฼ของ ทัศนศิลป฼ของ ทัศนศิลป฼ของ ทัศนศิลป฼ของ งานทัศนศิลป฼ ช า ติ แ ล ะ ช า ติ แ ล ะ ช า ติ แ ล ะ ช า ติ แ ล ะ ช า ติ แ ล ะ ขอ ง ช า ติแ ล ะ ท฾ อ ง ถิ่ น ไ ด฾ ท฾ อ ง ถ่ิ น ไ ด฾ ท฾ อ ง ถ่ิ น ไ ด฾ ท฾ อ ง ถิ่ น ไ ด฾ ท฾ อ ง ถิ่ น ไ ด฾ ท฾องถ่ินได฾ ถูกต฾องทุกข฾อ ถูกต฾อง 5 ข฾อ ถูกต฾อง 4 ข฾อ ถูกต฾อง 3 ข฾อ ถู ก ต฾ อ ง 1-2 จาก 6 ขอ฾ จาก 6 ข฾อ จาก 6 ข฾อ จ า ก 6 ข฾ อ ข฾อจาก 6 ข฾อ

-รปู แบบผลงาน -รูปแบบผลงาน -รูปแบบผลงาน -รปู แบบผลงาน -รู ป แ บ บ ส ะ อ า ด ส ะ อ า ด ส ะ อ า ด ส ะ อ า ด ผลงานสะอา เรยี บร฾อย เรยี บรอ฾ ย เรียบร฾อย เรียบรอ฾ ย เรยี บร฾อย ด้ า น จิ ต พิ สั ย - - - -เข฾าชั้นเรียน -เข฾าชั้นเรียน ไม฽เข฾า (A) แ ล ะ มี ค ว า ม แต฽ไม฽มีความ ชน้ั -มวี นิ ยั ม฽ุง ม่ันในกา ร ม฽ุง มั่นในการ เรียน -มุ฽ ง มั่ น ใ น ก า ร ทางาน ทางาน ทางาน -เหน็ คณุ คา฽ ของ -ไม฽เห็นคุณค฽า -รักความเป็ น ศิลปะไทย ของศลิ ปะไทย ไทย เกณฑ์การประเมิน คะแนน ประเมนิ 9 - 10 ดี 7 - 8 ปานกลาง 5 – 6 นอ฾ ย 5. ส่ือ อปุ กรณ์และแหลง่ การเรยี นรู้ สื่อการเรยี นรู้ 1. รปู ภาพรูปแบบงานทัศนศลิ ปข฼ องชาติ 2. รูปภาพรปู แบบงานทศั นศิลป฼ท฾องถ่ิน อปุ กรณ์ - ใบงาน - สี - ปากกา/ดินสอ/ยางลบ/ไม฾บรรทัด แหลง่ การเรียนรู้ 1. หนังสือเรียน รายวิชาพน้ื ฐาน ทศั นศิลป฼ กลุ฽มสาระการเรยี นร฾ศู ิลปะ ระดบั ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 1 ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน พ.ศ. 2551 2. เว็บ Pinterest

ใบงานที่ 3.1 เรอ่ื ง รปู แบบงานทศั นศิลปข์ องชาตแิ ละทอ้ งถ่ิน คาชแ้ี จง : จงอธบิ ายรูปแบบงานทัศนศิลปข฼ องชาติและทอ฾ งถ่ิน 1. รูปแบบงานทศั นศิลป฼ของชาติ หมายถงึ …………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 1.1 ลักษณะจติ รกรรมไทย……………………………………………………………..……………………............ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 1.2 ลักษณะประติมากรรมไทย…………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 1.3 ลักษณะสถาปตั ยกรรมไทย…………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. รปู แบบงานทัศนศิลป฼ท฾องถิ่น หมายถงึ …………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2.1 ลักษณะจติ รกรรมท฾องถิ่น…………………………………………………………………………………....... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2.2 ลกั ษณะประติมากรรมท฾องถิ่น………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2.3 ลักษณะสถาปัตยกรรมทอ฾ งถ่นิ ………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ช่ือ……………………….....................นามสกุล…………………………………………..ชนั้ …………….…เลขที่…………...

ตอนที่ 2 คาชีแ้ จง : จงจาแนกลักษณะงานทัศนศิลป฼ของชาติและท฾องถิน่ ให฾ถูกต฾อง จติ รกรรมไทย ประติมากรรมไทย สถาปัตยกรรมไทย จติ รกรรมทอ้ งถิ่น ประติมากรรมทอ้ งถ่ิน สถาปตั ยกรรมทอ้ งถน่ิ ……………………………………………………………. ……………………………………………………………. ……………………………………………………………. ……………………………………………………………. ……………………. ……………………. ……………………………………………………………. ……………………………………………………………. ชื่อ………………………………...…...…...…...…...….......นามสกุล…………………………………………..ช้นั ……………………….………เล…ข…ท.ี่…………...

แบบประเมนิ ใบงาน เคร่ืองมอื หน่วยการเรียนรูท้ ี่………….เรอ่ื ง………………………………………………………………………ชัน้ ……………….. คาชีแ้ จง : ให฾ครูผ฾ูสอนประเมินใบงานของนกั เรียนแลว฾ ให฾ทาเคร่ืองหมาย  ลงในช฽องทีต่ รงกบั ระดบั คะแนน เพ่ือใหน้ ักเรยี น ลาดบั ลาดบั ที่ สามารถ เพ่ือให้นักเรยี น ความ รวม ที่ ชอ่ื – สกุล บรรยาย สามารถจาแนกและ ม่งุ ม่ันใน 10 ลักษณะ ระบลุ กั ษณะรปู แบบ คะแนน รูปแบบงาน งานทัศนศิลป์ของชาติ การ ทศั นศลิ ปข์ อง ทางาน ชาตแิ ละ และท้องถนิ่ ได้ ทอ้ งถิน่ ได้ 3 210543210210 1 ด.ช. บารมี ผาสขุ 2 ด.ช. สรุ ยุทธ ปรเี ลิศ 3 ด.ช. วุฒชิ ยั เฉยดี 4 ด.ช. ภานพุ งศ์ ศรีขดั เครอื 5 ด.ช. วสุ รัตนศฤงค์ 6 ด.ญ. กติ ตยิ ารัตน์ ศรีสอาด 7 ด.ญ. สโรชา ศรสี อาด 8 ด.ช. ชโยดม วรณุ พงษ์ 9 ด.ญ. แพรวา ธรี เดชพัฒน์ชยั 10 ด.ช. ธนวฒุ ิ สว฽างชม 11 ด.ญ. ณธิดา จนั ทรักษา 12 ด.ช. ติณณภพ สระทองเรือง 13 ด.ช. สุทธพิ ร แสงจันทร์ 14 ด.ญ. ธมนวรรณ เฉิน 15 ด.ญ. นรินรัช ทาดี ลงชอื่ ...................................................ผู้ประเมิน (…………………..…………………………..) .................../................../.................

บันทึกผลหลงั การจดั การเรยี นรู้ 1. ผลการจดั การเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ปญั หา/อปุ สรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. ขอ้ เสนอแนะและแนวทางการแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ …………………………………………..ครูผู้สอน (นางสาววิภาพร ทิพราช) นกั ศกึ ษาฝึกประสบการณ์วิชาชพี ครู ความคิดเห็นของครพู ่ีเลยี้ ง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื …………………………………………..ครูพ่เี ล้ียง (นายพันศกั ด์ิ เสง็ สุวรรณ) ครูวิทยาฐานะครชู านาญการพเิ ศษ ความคดิ เห็นของรองผอู้ านวยการสถานศึกษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………………………………..ผู้ตรวจ (นางทพิ มาศ ดวงจนั ทราศิริ) รองผู้อานวยการสถานศึกษาโรงเรยี นวัดมะลิ ความคิดเหน็ ของผู้อานวยการสถานศกึ ษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………………………………..ผู้บริหารสถานศึกษา (นางสาวดรณุ ี เทพา) ผ้อู านวยการสถานศึกษาโรงเรียนวดั มะลิ

แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ 11 รหัสวิชา 21101 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ศิลปะ สาระ ทัศนศิลป์ หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 3 ทศั นศิลปข์ องชาติและท้องถ่นิ ภาคเรยี นที่ 2 เรอ่ื ง ทศั นศลิ ป์ไทย 4 ภูมภิ าค จานวน 1 คาบ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 1 เวลา 1 ชว่ั โมง สอนเมื่อ วันท…ี่ ……เดอื น………………….พุทธศกั ราช……………… ครูผู้สอน วภิ าพร ทพิ ราช 1. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ศ 1.2 เข฾าใจความสัมพันธ์ระหว฽างทัศนศิลป฼ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เหน็ คณุ ค฽างานทัศนศลิ ป฼ทีเ่ ปน็ มรดกทางวัฒนธรรม ภมู ิปญั ญาทอ฾ งถิน่ ภมู ิปัญญาไทย และสากล 2. ตัวชี้วัด ศ 1.2 ม. 1/1 ระบุ และบรรยายเกยี่ วกับลกั ษณะ รปู แบบงานทัศนศลิ ป฼ของชาติ และของทอ฾ งถิน่ ตนเองจากอดีตจนถงึ ปจั จบุ ัน ม. 1/2 ระบุ และเปรียบเทียบงานทศั นศิลปข฼ องภาคตา฽ งๆ ในประเทศไทย 3. สาระสาคัญ เพอ่ื ให฾บอกทัศนศิลป฼ไทยในภูมิภาคต฽างๆ ในไทย ซ่ึงทัศนศิลป฼ไทยท้ัง 4 ภูมิภาคน้ัน มีจิตรกรรม ประติมากรรม และสถาปัตยกรรมเหมือนกัน แต฽ที่มีความแตกต฽างกันไปในแต฽ละภูมิภาค ตามวิถีชีวิต ประเพณี วฒั นธรรมในแต฽ละทอ฾ งถ่ิน ท่ีมเี อกลักษณ์เฉพาะตวั สามารถจาแนกศิลปะทัศนศิลป฼ของภูมิภาคต฽างๆ ท่ีมีลักษณะและเอกลักษณ์ท่ีแตกต฽างกัน ทั้งรูปแบบการสร฾าง ลักษณะของผลงานท่ีบ฽งบอกโดดความโดดเด฽นความแตกต฽างของแต฽ละภูมิภาค ทงั้ ด฾านจติ รกรรม ประตมิ ากรรม และสถาปัตยกรรม ท่ีสร฾างขึ้นตามวิถีชีวิต ประเพณี วัฒนธรรมในแต฽ ละทอ฾ งถิน่ ซ่ึงมีการสร฾างสรรค์โดยฝมี อื ของคนในท฾องถ่ินน้ันๆ โดยอาศัยความรู฾ความสามารถท่ีมีอยู฽ใน การสร฾างสรรค์ผลงาน จึงทาให฾ในแต฽ละพ้ืนที่มีงานทัศนศิลป฼ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวและมีความ สวยงามทีแ่ ตกต฽างกนั ไปในแตล฽ ะภูมิภาค

4. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 4.1 ด้านความรู้ (K) - เพอื่ ใหน฾ กั เรียนสามารถบอกลักษณะของงานทศั นศิลป฼ได฾ 4.2 ดา้ นทักษะ (P) - เพ่อื ใหน฾ กั เรียนสามารถจาแนกลักษณะทัศนศิลปไ฼ ทยทง้ั 4 ภมู ภิ าคได฾ 4.3 ดา้ นคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ (A) 1) มวี ินัย (เข฾าช้นั เรียน, มคี วามรับผดิ ชอบต฽องานที่ได฾รับมอบหมาย) 2) มุ฽งม่ันในการทางาน (เอาใจใส฽ต฽อการปฏิบัติหน฾าที่ที่ได฾รับมอบหมาย, พยายาม แกป฾ ัญหาและอุปสรรคในการทางานใหส฾ าเรจ็ ) 3) รักความเป็นไทย (ภาคภูมใิ จในขนบธรรมเนยี มประเพณี ศิลปะ วัฒนธรรมไทย) 5. สาระการเรยี นรู้ ความร฾ู ความเข฾าใจในลกั ษณะของทัศนศิลปไ฼ ทยทงั้ 4 ภมู ภิ าค ทมี่ คี วามแตกตา฽ งกัน 6. สมรรถนะทีส่ าคัญ 6.1 ความสามารถในการคิดอย฽างสรา฾ งสรรค์ 6.2 ความสามารถในการใชเ฾ หตุผลในการคิดแยกแยะได฾ด฾วยตนเอง 7. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ 7.1 มวี ินยั 7.2 ใฝุเรียนร฾ู 7.3 มุ฽งมัน่ ในการทางาน 7.4 มจี ิตสาธารณะ 8. กระบวนการจดั การเรียนรู้ ข้ันนา (5 นาที) 8.1 ครกู ล฽าวทักทายนักเรยี น 8.2 ครอู ธบิ ายสง่ิ ที่ต฾องเรียนในสปั ดาหน์ ้ีให฾นกั เรยี นทราบ “ทัศนศลิ ป฼ไทย 4 ภมู ิภาค”

8.3 ครูสอบถามนักเรียน “งานทัศนศิลป฼ไทยท่ีอย฽ูต฽างพื้นที่ ต฽างภูมิภาค ลักษณะของผลงาน ทัศนศิลป฼จะเหมือนกันหรือแตกต฽างกัน” (พิจารณาตามคาตอบของนักเรียน โดยให฾อย฽ูในดุลยพินิจของ ครูผสู฾ อน) เพ่ือกระต฾ุนใหผ฾ เ฾ู รยี นเช่อื มโยงเข฾าส฽เู นอ้ื หาความร฾ูเกีย่ วกบั ทศั นศิลป฼ไทย 4 ภมู ภิ าค ข้ันสอน (50 นาที) 8.4 ครอู ธิบายประเภททัศนศิลป฼ใหน฾ ักเรยี นฟงั ประเภทงานทัศนศิลปม฼ ี ดงั น้ี 1. จิตรกรรม (Painting) หมายถึง ผลงานศิลปะท่ีแสดงออกด฾วยการขีดเขียน การวาด และระบายสี 2. ประติมากรรม (Sculpture) หมายถึง การสร฾างรูปทรง 3 มิติ ได฾แก฽ ประติมากรรม นูนตา่ ประติมากรรมนนู สงู และประตมิ ากรรมแบบลอยตวั ซ่งึ มี 4 วธิ ี คือ การปนั้ (Casting) การแกะสลกั (Carving) การหลอ฽ (Molding) และ การประกอบขนึ้ รูป (Construction) 3. สถาปัตยกรรม (Architecture) หมายถงึ ผลงานศลิ ปะทแี่ สดงออกด฾วยสิ่งกอ฽ สร฾าง อาคารท่อี ยอ฽ู าศยั ตา฽ งๆ ทีม่ ขี นาดใหญ฽ 2 ประเภท ได฾แก฽ สถาปตั ยกรรมแบบปิดและ สถาปตั ยกรรมแบบเปดิ 8.5 ครูอธบิ ายงานทศั นศลิ ป฼ในแต฽ละภมู ิภาคให฾นักเรียนฟังประเทศไทยมี 4 ภมู ภิ าค ดังนี้ ภาพภูมภิ าคในประเทศไทย ทีม่ า : https://lh3.googleusercontent.com/proxy/XeY-u5nDoaFx-ZBxpwNG4m_dZGQr-HV_WL9nho- zR0tyfk-Wr_eR6CPrS0Uc6k1JnxtFS5x2Cn7H9tdfiFXFeqbhvR-TtVfG

 งานทัศนศลิ ป฼ในแตล฽ ะภมู ิภาค ประเทศไทยในแต฽ละภูมิภาคมีลักษณะทางภูมิสาสตร์ ประวัติความเป็นมา และลักษณะ ทางสังคมวัฒนธรรมที่แตกต฽างกัน ปัจจัยดังกล฽าวล฾วนมีผลต฽อการสร฾างสรรค์ผลงานทัศนศิลป฼ในภูมิภาค ตา฽ งๆ ไม฽วา฽ จะเพอ่ื ประโยชน์ใช฾สอย หรอื ตอบสนองความเช่ือทางศาสนา และความพึงพอใจของ ตนกต็ าม ซงึ่ งานทัศนศิลป฼ภาคตา฽ งๆ ของไทย มีดงั น้ี 1. ภาคเหนือ ทัศนศิลป฼ภาคเหนือ หรือทัศนศิลป฼สมัยเชียงแสนหรือล฾านนา มีศูนย์กลางของ อาณาจกั รอยูท฽ างภาคเหนือของประเทศไทย อยู฽ในช฽วงเวลาระยะระหว฽างพุทธศตวรรษที่ 18-23 นับเป็น ยุคสมัยของศิลปะไทยอย฽างแท฾จริง มีผลงานส่ิงปลูกสร฾างต฽างๆ ที่สะท฾อนให฾เห็นถึงความศรัทธาใน พระพทุ ธศาสนา สวนประติมากรรมที่พบมากจะเป็นพระพุทธรูป ซ่ึงมีความร฽วมสมัยกับสมัยสุโขทัยในยุค ตอ฽ มา พนื้ ทขี่ องจังหวัดเชยี งใหมใ฽ นปัจจุบันมีผลงานทศั นศิลป฼เปน็ จานวนมาก ทั้งท่ีได฾รับอิทธิพลจากศิลปะ พมา฽ และอิทธิพลจากสว฽ นกลาง 1.1 จิตรกรรม เปน็ ผลงานทีเ่ กิดข้ึนจากการเขียนภาพระบายสีสะท฾อนถึงเรื่องราวของ สงั คม ประเพณี วัฒนธรรม และสภาพแวดล฾อม โดยมเี รอื่ งราวสะทอ฾ นถึงเหตุการณ์ต฽างๆ เช฽น การแต฽งกาย ของผูค฾ น ประเพณวี ัฒนาธรรมการประกอบอาชีพ การใช฾ชีวติ ของชาวบ฾านในชว฽ งเวลานน้ั เปน็ ต฾น ตัวอย฽างจิตรกรรมแบบล฾านนาท่ีโดดเด฽น เช฽น จิตรกรรมฝาผนัง วัดบวกครกหลวง จงั หวัดเชียงใหม฽ วัดหนองบัวและวดั ภมู นิ ทร์ จงั หวดั นา฽ น เปน็ ตน฾ ที่มา : https://www.dmc.tv/images/00-iimage/590910-dd-2.jpg 1.2 ประติมากรรม เป็นประติมากรรมท่ีมีการสืบทอดมาจากศิลปะล฾านนา ลักษณะ ท่ัวไปของพระพุทธรูปประทับปางสมาธิเพชร นิยมทาเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย มีพระวรกายอวบอูม พระพักตรอ์ ม่ิ ยมิ้ สารวม พระเกตมุ าลาเป็นรูปดอกบัวตูม พระขนงโก฽ง รับกับพระนาสิกท่ีง฾ุมเพียงเล็กน฾อย

พระพุทธรูปในภาคเหนือได฾รับอิทธิพลจากอินเดีย พม฽า และลังกา และได฾แสดงความงดงามตามอุดมคติ แบบไทยให฾ปรากฏไว฾อยา฽ งขดั เจน ท่ีมา : https://lannasculpture.files.wordpress.com/2016/11/cats.jpg?w=365&h=365 1.3 สถาปัตยกรรม เป็นสิ่งก฽อนสร฾างท่ีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเห็นได฾จากโบสถ์ วิหาร มัก สรา฾ งเป็นวหิ ารขนาดใหญ฽ มเี สาเรยี งรายอยูภ฽ ายใน และมหี ลงั คาซ฾อนกันสามช้ันเป็นส฽วนมาก ในระยะแรก การสร฾างสถาปัตยกรรมจะได฾รับอิทธิพลจากประเทศเพ่ือนบ฾าน ต฽อมาได฾มีการพัฒนารูปแบบท่ีเป็น เอกลักษณเ์ ฉพาะตัวของศิลปะลา฾ นนามากขน้ึ นอกจากน้ีกล฽ุมเรือนถิ่นของภาคเหนือตอนบน เรือนเครื่องสับแบบล฾านนาจะเป็นเรือน ชนดิ ทม่ี จี ่ัวสงู ทางดา฾ นหนา฾ สว฽ นบนของจั่วมีไม฾ที่แกะสลักเป็นลวดลายต฽างๆ ไขว฾กันแบบเรียบง฽ายเรียกว฽า “เรอื นกาแล”

เจดีย์วัดเชยี งมน่ั จังหวดั เชยี งใหม่ ที่มา : https://media-cdn.tripadvisor.com/media/photo-s/08/e3/42/f7/caption.jpg 2. ภาคกลาง ผลงานทัศนศลิ ปส฼ ว฽ นมากจะสรา฾ งขนึ้ ตามคติความเชอ่ื ทางพระพทุ ธศาสนาและศาสนา พรมหมณ์-ฮินดู และการรับอิทธิพลทางศิลปวัฒนธรรมจากชาติอ่ืนๆ เช฽น วัฒนธรรมอินเดีย วัฒนธรรม เขมร เป็นตน฾ เขา฾ มาผสมผสานกับผลงานทัศนศิลป฼ของตน จนกลายเป็นรูปแบบท่ีเป็นลักษณะเฉพาะของ ชา฽ งราชสานักและแพร฽หลายไปยงั ภมู ภิ าคอ่นื ตามการแผ฽อทิ ธิพลทางการเมอื งการปกครอง 2.1 จิตรกรรม นิยมสื่อความหมายด฾วยการเล฽าเร่ืองภาพพุทธประวัติ นิทานชาดก และเรอ่ื งราวในไตรภมู พิ ระรว฽ ง โดยเปน็ การเล฽าเร่ืองผา฽ นเขียนบนฝาผนังของพระปรางค์ พระอุโบสถ พระ วหิ าร หอสวดมนต์ ซึง่ มวี ธิ ีการเขยี นภาพดว฾ ยลายเส฾น โดยใช฾สีเดียว เรียกว฽า “จิตรกรรมสีเอกรงค์” ที่นิยม มาต้งั แต฽สมยั โบราณ และรูปแบบระบายสหี ลายสี เรยี กว฽า “จิตรกรรมพี หุรงค์” โดยเขยี นด฾วยสีฝุน และปิด ทองคาเปลวในบางส฽วนที่สาคัญ นอกจากน้ีจิตรกรรมฝาผนังยังสะท฾อนเร่ืองราวเกี่ยวกับประเพณี ความเช่ือ วิถีชีวิต และสภาพแวดล฾อมต฽างๆ ในช฽วงสมัยท่ีมีการเขียนภาพอีกด฾วย เช฽น แม฽น้าลาคลอง พืชพันธ์ไม฾ต฽างๆ สัตว์ ชุมชนบ฾านเรือนท่ีปลูกสร฾างอยู฽ริมน้าและบนบกให฾เห็นชัดเจน เป็นต฾น ซึ่งจะช฽วยให฾ผ฾ูชมมีความเข฾าใจถึง ประวัตสิ าสตรส์ งั คมของทอ฾ งถ่นิ ท่ถี กู ถ฽ายทอดเปน็ เร่ืองราวแทรกอยูใ฽ นภาพจติ รกรรมฝาผนังไดเ฾ ปน็ อย฽างดี

จิตรกรรมฝาผนงั รอบระเบียง วัดพระศรรี ตั นศาสดาราม เรื่องรามเกียรติ์ ตอนทศกัณฐ์ออกศกึ กับพระรามครงั้ แรก มีเทคนคิ การเขียนภาพแบบ 2 มติ ิ โดยเน้นความงามและเน้อื หาเปน็ สาคัญ ทีม่ า : http://nainuad-book.lnwshop.com/product/839/ 2.2 ประติมากรรม ประติมากรรมในภาคกลางแบ฽งออกได฾เป็น ประติมากรรมรูป เคารพ ประติมากรรมเร่ืองเล฽า และประติมากรรมตกแต฽ง ประติกรรมรูปเคารพมีการสร฾างตามความเชื่อ ของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู เช฽น เทวรูปพระศิวะ พระนารายณ์ เป็นต฾น หรือพระพุทธศาสนา นิกาย มหายาน ได฾แก฽ รปู พระโพธิสัตว์ และรปู เคารพในพระพุทธศาสนานิกายเถรวาทที่เป็นรูปพระพุทธเจ฾าปาง ต฽างๆ เชน฽ ปางมารวิชยั ซึ่งนิยมสรา฾ งประดษิ ฐานในพระอโุ บสถของวัดตา฽ งๆ ทัว่ ประเทศไทย เป็นต฾น ประติมากรรมภาคกลาง ไดร฾ บั อทิ ธิพลมาจากศลิ ปะลังกา เขมร และตะวันตก อีกท้ังมี การพฒั นารปู แบบการสร฾างเป็นผลงานทีเ่ หมอื นจริงตามแบบอย฽างตะวันตกมากขึ้น ตัวอย฽าง พระพุทธชิน ราชนี้เป็นพระพุทธรูปศิลปะสมัยสุโขทัย ลักษณะขององค์พระมีเส฾นรอบนอกพระวรกายอ฽อนช฾อย พระ โขนงโก฽ง พระเนตรประดุจตากวาง พระนาสิกโด฽ง ชายผ฾าสังฆาฏิแยกเป็นเขี้ยวตะขาบ นิ้วพระหัตถ์ท้ังส่ี ยาวเสมอกัน อยใู฽ นลกั ษณะปางมารวชิ ัย

พระพุทธชินราช เปน็ พทุ ธศิลปท์ มี่ คี วามงดงาม ทีม่ า : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=64 2.3 สถาปัตยกรรม ผลงานส฽วนส฽วนมากพัฒนาการมาตั้งแต฽สมัยสุโขทัยจนถึงสมัย รัตนโกสินทร์ มกี ารปลกู สรา฾ งให฾มีขนาดใหญ฽โต มีการออกแบบลวดลายตกแต฽งอย฽างวิจิตร เช฽น เครื่องบน ของอาคารมีช฽อฟูา ใบระกา หางหงส์ เปน็ ตน฾ เห็นได฾จากสถาปัตยกรรมภายในวดั พระศรีรัตนศาสดาราม ที่ เป็นจดุ รวมของสถาปตั ยกรรมเด฽นๆ สมยั รตั นโกสินทรไ์ วเ฾ กือบทง้ั หมด นอกจากนี้ สถูป เจดีย์ และพระปรางค์ มีรูปแบบท่ีเป็นลักษณะเฉพาะ เช฽น พระ ปรางค์วดั พระราม เจดียท์ รงกลม หรอื ทรงระฆังคว่า วดั พระศรีสรรเพชญ์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พระ ปรางค์วัดอรณุ ราชวราราม กรุงเทพมหานคร เป็นต฾น ส฽วนบา฾ นไทย หรือเรอื นไทยภาคกลาง มลี ักษณะเดน฽ จะมหี ลงั คาทรงสูง ใต฾ถุนสูง ชาน กวา฾ ง และไม฽มีเพดาน นิยมปลูกริมแม฽น้าลาคลอง เพ่ือสะดวกในการเดินทาง เนื่องจากในสมัยโบราณ ใช฾ แมน฽ า้ ลาคลองในการคมนาคม

วัดพระศรีรตั นศาสดาราม เป็นสถานท่ซี ึง่ ประกอบดว้ ยงานจติ รกรรม ประตมิ ากรรม และสถาปัตยกรรม อันทรงคุณค่าหลายอยา่ ง ทม่ี า : https://th.tripadvisor.com/LocationPhotoDirectLink-g293916-d311044-i125682441- Temple_of_the_Emerald_Buddha_Wat_Phra_Kaew-Bangkok.html 3. ภาควันออกเฉยี งเหนอื (ภาคอีสาน) นักวิชาการได฾สันนิฐานว฽าเมื่อประมาณ 2,500 ปีมาแล฾ว จนถึง พ.ศ. 500 พระพุทธศาสนาและศาสนาพราหมณ์-ฮินดูจากอินเดียได฾ถูกนามาเผยแพร฽บริเวณดินแดนสองฝั่งโขงและ ภาคอสี าน ทาให฾ศลิ ปวฒั นธรรมของบ฾านเมืองรนุ฽ แรกๆ ในบรเิ วณนีจ้ งึ เริม่ ปรากฏขึ้น และพัฒนาต฽อมาจนมี รูปแบบเฉพาะตัว พรอ฾ มกบั มีการรับแบบอย฽างของงานทัศนศิลป฼จากดินแดนอื่น เช฽น ทวารวดี เขมร ลาว เป็นตน฾ เข฾ามาประยุกตใ์ ช฾ในวีชีวิต ของตนเอง จนทาให฾เกิดสถาปัตยกรรมต฽างๆ ท่ีสวยงาม เช฽น ปราสาท หิน เจดีย์ โบราณสถาน โบราณวตั ถอุ น่ื ๆ ทีป่ รากฏในภาคอีสานอกี มากมาย เปน็ ตน฾ 3.1 จิตรกรรม ภาพเขียนสีของอีสานมักปรากฏบนผนังของสิม เรียกว฽า “ฮูปแต฾ม” บนผนงั ด฾านในของสิมมกั เขียนเรื่องราวในพระพุทธประวัติ นิทานพ้ืนบ฾านเร่ืองสังข์ศิลป฼ชัย (สินไซ) มีก่ีใช฾ สสี นั รูปร฽างหนา฾ ตาของภาพมีการผสมผสานระหวา฽ งงานทัศนศลิ ปภ฼ าคกลางด฾วย ภาพจะมีการใช฾เทคนิคใน การระบายสีที่มีการเน฾นเส฾นที่หนักแน฽น ไม฽ประณีตแบบงานเหมือนจิตรกรรมภาคกลาง ในภาคอีสานจะ เขียนภาพที่ผนังด฾านในและผนังด฾านนอกของศาสนสถาน ซึ่งแตกต฽างจากจิตรกรรมภาคอ่ืนๆ ท่ีเขียนรูป เฉพาะผนงั ดา฾ นในของศาสนสถานเทา฽ น้ัน

ภาพฮูปแตม้ ผนงั สิม จงั หวัดมหาสารคาม บ่งบอกเร่ืองราวเฮฮาสนกุ สาน อีกท้งั แสดงเรอื่ งราวสกั ลายบนขาของชาวอีสาน ทมี่ า : https://s.isanook.com/wr/0/uploads/13659/content_image/2019/08/perroe.jpg 3.2 ประตมิ ากรรม จะนยิ มสรา฾ งสรรค์ผลงานในรูปแบบตา฽ งๆ ท่ีคล฾ายกับภาคกลางและ ภาคเนือ ส฽วนลักษณะลวดลายในการตกแต฽งที่แตกต฽างกัน เช฽น นิยมทาหัวบันไดเป็นรูปพญานาคบริเวณ ทางข้ึนทางเข฾าของศาสนสถาน ศาลาการเปรียญ สิม เป็นต฾น นิยมปั้นลวดลายตกแต฽งตามฐานพระธาตุ หรอื ตกแตง฽ แบบรังผ้งึ ในบริเวณหนา฾ บันของสิม เปน็ ตน฾ ลักษณะพระพุทธรูป คือ มีพระพักตร์สั้นแบน พระนลาฏแคบ พระนาสิกปูานใหญ฽ พระโอษฐ์หนา พระหตั ถแ์ ละพระบาทใหญ฽ ส฽วนการออกแบบส฽วนฐานให฾มีความสูงมาก และลักษณะของ ใบหน฾าทรวดทรงก็มีความเป็นท฾องถิ่น คือ ดูเรียบง฽าย แต฽ในการปั้น หล฽อ หรือแกะสลัก จะไม฽ประณีต เรยี บร฾อยเหมอื นผลงานของชา฽ งภาคกลางหรอื ช฽างหลวง

ลกั ษณะพระพุทธรปู ภาคอสี าน ทีม่ า : http://www.praputthai.com/product--288357-1.html 3.3 สถาปัตยกรรม เป็นศาสนสถานที่ใช฾สาหรับประกอบพิธีกรรมทาง พระพุทธศาสนามีชื่อเรียกว฽า “สิม” ได฾รับอิทธิพลการก฽อสร฾างจากรูปแบบของศิลปะลาว (ล฾านช฾าง) ท่ี แพรห฽ ลายเขา฾ มาสู฽ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เมื่อประมาณพุทธศตวรรษท่ี 24-25 โดยมีการผสมผสานกับ ศิลปะด้งั เดมิ และศลิ ปะสมยั รตั นโกสนิ ทร์จนกลายเป็นเอกลกั ษณ์ของสถาปัตยกรรมแบบอีสาน ท่ีมีรูปแบบ ท่แี ตกต฽างไปจากภูมภิ าคอนื่ ๆ ส฽ว น ลัก ษ ณะ รู ปแบบขอ งสถาปัตยก ร รม ท่ี เก่ีย ว ข฾อ ง สถาปัตย กร ร มที่ เก่ีย ว ข฾อ ง กั บ สาสนา เช฽น เทวลัยปราสาทเขาพนมรุ฾ง เป็นรูปแบบศิลปะขอมตั้งอยู฽บนยอดเขาพนมร฾ุง อาเภอนางรอง จังหวัดบุรีรีมย์ กอ฽ สร฾างดว฾ ยหินสชี มพู เปน็ รปู สเ่ี หลี่ยมจัตุรัส ด฾านหน฾าทาเป็นมณฑปภายในปราสาทเป็นที่ ประทบั รูปเคารพ

สว฽ นบา฾ นเรอื นไม฾กระดานใต฾ถนุ สูง เช฽นเดียวกับภาคอนื่ ๆ แตไ฽ ม฽นิยมต฽อยอดปูานลมให฾ สูงเหมือนเรือนไทยภาคเหนือ มีประตูเดียว ไม฽นิยมทาหน฾าต฽างด฾านหลังแต฽จะทาเป็นช฽องเล็กๆ พอยื่น ศรีษะเกษออกไปเทา฽ นนั้ ภายในบา฾ นคอ฽ นข฾างมดื ทึบ เพือ่ กนั ลมพดั เขา฾ ในฤดูหนาว เทวลยั ปราสาทเขาพนมรุ้ง จงั หวดั บุรรี มี ย์ ท่ีมา : https://www.paiduaykan.com/province/Northeast/buriram/phanomrung.html#:~:text= 4. ภาคใต฾ ภาคใต฾มีทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์ มาตั้งแต฽สมัยโบราณ มีการเผยแพร฽เข฾ามาของ พระพุทธศาสนา สาสนาพราหมณ์-ฮินดู และศาสนาอสิ ลาม ทาใหอ฾ ทิ ธพิ ลทางศิลปวัฒนธรรมจากภายนอก ได฾เผยแพร฽เขา฾ มาและช฽วยพัฒนาให฾เกิดเป็นอาณาจักรสาคัญในบริเวณดินแดนคาบมหาสมุทรภาคใต฾ เช฽น อาณาจักรลงั กาสุกะ อาณาจกั รตามพรลิงค์ อาณาจกั ศรวี ิชยั เป็นต฾น 4.1 จิตรกรรม การเขียนภาพบนฝาผนงั หรอื เขยี นลงบนวัตถุอื่นๆ จะมีรูปแบบที่คล฾าย กับภาคกลาง คือ นิยมนาเรื่องราวทางพุทธประวัติ ไตรภูมิ หรือนิทานชาดกมาถ฽ายทอดเป็นเรื่องราวใน ภาพเขียนบนฝาผนังตามส฽วนต฽างๆ ของอุโบสถ วิหาร หอไตร ภาพเขียนบางแห฽งจะได฾รับอิทธิพลตาม แบบอย฽างของสกุลช฽างหลวงโดยตรง เช฽น วดั มัชฌิมาวาส จังหวัดสงขลา เป็นต฾น บางวัดเขียนขึ้นจากฝีมือ ชา฽ งในท฾องถิ่นเองโดยมีการเลยี นแบบ หรือรับอิทธิพลจากจิตรกรรมของช฽างหลวงมาปรับใช฾ในการทางาน

ของตน ในระยะหลังการเขียนภาพลงบนฝาผนังฝีมือจะไม฽ประณีตเท฽าเดิม อย฽างไรก็ตามก็ยังมีการ แสดงออกถงึ เอกลักษณ์ของช฽างในทอ฾ งถ่ินอยม฽ู าก เช฽น ความจริงใจ ความกล฾าแสดงออกในการสร฾างสรรค์ ผลงาน เป็นตน฾ ภาพชูชกพบทหารแห่งนครสีพี เปน็ จติ รกรรมฝาผนงั วัดคเู่ ต่า จงั หวดั สงขลา ที่มา : https://readthecloud.co/wat-khu-tao-songkla/ 4.2 ประติมากรรม ผลงานในยุคแรกได฾รับอิทธิพลมาจากศิลปะอินเดีย มรการสร฾าง เป็นรูปพระโพธิสัตว์ปางต฽างๆ การทาพระพิมพ์ดินดิบ จนสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล฾าเจ฾าอย฽ูหัว รชั กาลท่ี 5 เป็นตน฾ มา สกุลช฽างประตมิ ากรรมทางภาคใต฾เร่ิมเส่ือมลงตามลาดับ การสร฾างผลงานทัศนศิลป฼ มักนิยมนาแบบอย฽างจากช฽างหลวงมาเป็นแนวทางทาให฾แบบอย฽างของความเป็นท฾องถิ่นค฽อยๆ มีน฾อยลง อยา฽ งไรกต็ ามตามวดั อารามทอ่ี ยน฽ู อกเมืองออกไปก็ยังสามารถพบเห็นประติมากรรมท฾องถ่ินแบบภาคใต฾ที่ ยังคงอนรุ กั ษ์สบื สานรปู แบบของวัฒนธรรมท฾องถน่ิ ไว฾อยบ฽ู า฾ งในบางพ้ืนที่

ประตมิ ากรรมในภาคใต฾ ส฽วนใหญเ฽ ปน็ ศิลปะ ในยุคอาณาจักรศรวี ิชัย มีศูนย์กลางอย฽ูท่ี ชวา ตวั อยา฽ งพระโพธสิ ัตว์อวโลกิเตศวร พระพุทธรูปสมัยศรีวิชัยมีลักษณะสาคัญ คือ พระวรกายอวบอ฾วน อยา฽ งมสี ัดสว฽ น พระโอษฐเ์ ล็ก พระพักตร์คลา฾ ยพระพุทธรูปเชียงแสน พระโพธิสัตวอ์ วโลกิเตศวร พระพทุ ธรปู สมัยศรีวิชยั ที่มา : https://readthecloud.co/wat-khu-tao-songkla/ 4.3 สถาปตั ยกรรม ส฽วนมากเกิดข้ึนพร฾อมกับการเข฾ามาของพระพุทธศาสนา นิกาย มหายาน หลักการท่ีสาคัญ ได฾แก฽ โบราณสถานและโบราณวัตถุท่ีสาคัญทางศาสนาหลายแห฽ง เช฽น พระ บรมธาตุเมืองนครศรีธรรมราช (องค์เดิม) พระบรมธาตุไชยา เป็นต฾น รวมท้ังทีการสร฾างบ฾านเรือนตาม แบบอยา฽ งชา฽ งหลวงสมยั รตั นโกสนิ ทร์ โดยไดม฾ กี ารปรับปรงุ เปลย่ี นแปลงรูปแบบสถาปัตยกรรมให฾เหมาะสม กบั ท฾องถ่ิน เชน฽ เจดยี ์วัดราษฎรบ์ รู ณะ (วดั ช฾างให฾) วัดชลธาราสงิ เห วัดถ้าขวัญเมือง เป็นต฾น ตัวอย฽างสถาปัตยกรรมพระบรมธาตุไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีลักษณะของ สถาปตั ยกรรมแบบศรวี ชิ ัย คือการสร฾างสถูปทรงมณฑปให฾มีฐานและเรือนธาตุรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ส฽วนยอด

เปน็ เจดยี ์แปดเหลี่ยม ส฽วนฐานปากระฆังสร฾างเป็นช้ันลดหล่ันกันไป มีเจดีย์ประดับมุมและซ฾ุมบันแถลงใน แต฽ละทศิ กรณีบ฾านเรอื นในภาคใต฾ ตัวเรือนกั้นด฾วยฝาแผ฽นกระดานตีเกร็ดแนวนอน หลังคาหน฾า จั่วสงู ส฽วนลักษณะของหลงั คาเรอื นจะนยิ มสรา฾ งเป็นสแี่ บบ คือ หลังคาทรงจั่ว หลังคาทรงป้ันหยา หลังคา ทรง บราเนอร์ และหลงั คาทรงมนิลา ลักษณะเด฽นของเรือนในภาคใต฾จะนิยมวางเสาไว฾บนตีนเสา (ตอม฽อ) ท่กี อ฽ อิฐและฉาบปนู เมื่อกรณที ตี่ อ฾ งการยา฾ ยบา฾ นสามารถจะหามและยา฾ ยไปตงั้ ใหม฽ได฾สะดวก พระบรมธาตไุ ชยา จงั หวัดสรุ าษฎรธ์ านี สถาปัตยกรรมทีม่ ลี ักษณะเดน่ เป็นเอกลกั ษณ์ แสดงถึงความงดงามของอาณาจกั รศรวี ชิ ยั ทม่ี า : https://www.tripadvisor.com/LocationPhotoDirectLink-g2237709-d2558038-i239774073- Wat_Phra_Boromathat_Chaiya-Chaiya_Surat_Thani_Province.html

8.6 ครูให฾นักเรียนทากิจกรรมใบงานที่ 3.2 เร่ือง ทัศนศิลป฼ไทย 4 ภูมิภาค ตอนที่ 1 ให฾นักเรียน อธิบายลกั ษณะของงานทัศนศิลป฼ ตอนท่ี 2 ให฾นักเรียนทา My Mapping เปรียบเทียบความแตกต฽างของ งานทศั นศลิ ปไ฼ ทยทง้ั 4 ภมู ภิ าค 8.7 ครูเปิดโอกาสให฾นักเรียนซักถามข฾อสงสัย จากน้ันให฾นักเรียนลงมือปฏิบัติงาน ครูคอยเดินดู และใหค฾ าแนะนา ขัน้ สรุป (5 นาที) 8.8 ครสู ุ฽มนักเรียนออกมานาเสนองานหนา฾ ชนั้ เรียน พร฾อมบอกปัญหา อุปสรรค์ที่พบขณะทางาน และวิธีการแก฾ไขปญั หาร฽วมกัน 8.9 ครูและนักเรียนสรุปเน้ือหาความร฾ู “ทัศนศิลป฼ไทย 4 ภูมิภาค” ร฽วมกัน “ประเทศไทยในแต฽ ละภูมิภาคมีลักษณะทางภูมิสาสตร์ ประวัติความเป็นมา และลักษณะทางสังคมวัฒนธรรมท่ีแตกต฽างกัน ดังน้ันความแตกตา฽ งทางดา฾ นผลงานทัศนศิลปจ฼ งึ มคี วามแตกต฽างไป เพราะเกิดจากการสร฾างสรรค์ของผ฾ูคน ในภูมิภาคน้ันๆ อีกทั้งในแต฽ละภูมิภาคได฾รับอิทธิพลด฾านศิลปะที่แตกต฽างกันจึงทาให฾ผลงานทัศนศิลป฼มี ลักษณะไม฽เหมือนกันและมีความสวยงามแตกต฽างกันไปตามรูปแบบการสร฾างของถ่ินนั้นๆ ” จากน้ัน นักเรียนเกบ็ อุปกรณ์ใหเ฾ รยี บร฾อย 6. การวัดและประเมินผล 9.1 ทศั นศิลป฼ไทย 4 ภมู ภิ าค (10 คะแนน) ประเด็นการ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ประเมนิ 5 4 3 2 10 ด้านความรู้ - (K) - -นั ก เ รี ย น -นั ก เ รี ย น -นักเรียนบอก -ไม฽ -เพ่ือให฾นักเรียน สามารถบอก สามารถบอก สามารถบอก ลัก ษ ณะ ข อ ง สามาร ลั ก ษ ณ ะ ข อ ง ลั ก ษ ณ ะ ข อ ง ลั ก ษ ณ ะ ข อ ง งานทัศนศิลป฼ ถบอก งานทัศนศลิ ปไ฼ ด฾ ง า น ทั ศ น ศิ ล ป฼ ง า น ทั ศ น ศิ ล ป฼ ที่ ป ร ะ ก อ บ ได฾ ท่ี ป ร ะ ก อ บ ท่ี ป ร ะ ก อ บ ไ ป ด฾ ว ย -ไม฽มา ไ ป ด฾ ว ย ไ ป ด฾ ว ย จิ ต ร ก ร ร ม เรยี น จิ ต ร ก ร ร ม จิ ต ร ก ร ร ม ประติมากรรม ประติมากรรม ประติมากรรม และสถาปัตย- และสถาปัตย- และสถาปัตย- กรรมได฾ผิดถูก กรรมได฾ถูกต฾อง กรรมได฾ถูกต฾อง บ฾ า ง แ ล ะ อ ธิ บ า ย แ ต฽ อ ธิ บ า ย อ ธิ บ า ย องค์ประกอบ องค์ประกอบ องค์ประกอบ ไ ด฾ ถู ก ต฾ อ ง ได฾ไมค฽ รบถว฾ น ไดบ฾ างสว฽ น

ทั้ง ห มด ตร ง ประเด็น ด้านทกั ษะ -นั ก เ รี ย น -นั ก เ รี ย น -นั ก เ รี ย น -นั ก เ รี ย น -นั ก เ รี ย น -ไม฽สง฽ (P) สามารถจาแนก สามารถจาแนก สามารถจาแนก สามารถจาแนก ส า ม า ร ถ งาน -เพ่ือให฾นักเรียน เป รีย บ เทีย บ เป รีย บเทีย บ เปรีย บเทีย บ เปรีย บเทีย บ จ า แ น ก -ไม฽ สามารถจาแนก ทัศนศิลป฼ไทย ทัศนศิลป฼ไทย ทัศนศิลป฼ไทย ทัศนศิลป฼ไทย เปรียบเทียบ มา เ ป รี ย บ เ ที ย บ ทงั้ 4 ภูมิภาคท่ี ท้งั 4 ภูมิภาคที่ ทง้ั 4 ภูมิภาคที่ ท้งั 4 ภูมิภาคท่ี ทัศนศิลป฼ไทย เรยี น ลั ก ษ ณ ะ ป ร ะ ก อ บ ป ร ะ ก อ บ ป ร ะ ก อ บ ป ร ะ ก อ บ ท้งั 4 ภมู ิภาคที่ ทัศนศิลป฼ไทย ไ ป ด฾ ว ย ไ ป ด฾ ว ย ไ ป ด฾ ว ย ไ ป ด฾ ว ย ป ร ะ ก อ บ ท้งั 4 ภมู ิภาคได฾ จิ ต ร ก ร ร ม จิ ต ร ก ร ร ม จิ ต ร ก ร ร ม จิ ต ร ก ร ร ม ไ ป ด฾ ว ย ประติมากรรม ประติมากรรม ประติมากรรม ประติมากรรม จิ ต ร ก ร ร ม และสถาปัตย- และสถาปัตย- และสถาปัตย- และสถาปัตย- ประติมากรรม กรรมได฾ถูกต฾อง กรรมได฾ถูกต฾อง ก ร ร ม ไ ด฾ แ ต฽ ก ร ร ม ไ ด฾ แ ต฽ และสถาปัตย- ทั้ง 4 ภูมิภาค ทั้ง 4 ภูมภิ าค ข฾อมูลละเอียด ข฾อมูลละเอียด กร ร ม ไ ด฾ แ ต฽ -My Mapping -My Mapping 3 ภู มิ ภ า ค 2 ภู มิ ภ า ค ข฾อมูลละเอียด แ ป ล ก ใ ห ม฽ แ ป ล ก ใ ห ม฽ จาก 4 ภมู ภิ าค จาก 4 ภูมภิ าค 1 ภู มิ ภ า ค ไม฽เหมือนใคร ไม฽เหมือนใคร -My Mapping -My Mapping จาก 4 ภมู ิภาค อ฽ า น แ ต฽ อ฽ า น แ ป ล ก ใ ห ม฽ ไม฽แปลกให ม฽ -My Mapping ร า ย ล ะ เ อี ย ด ร า ย ล ะ เ อี ย ด ไม฽เหมือนใคร แ ล ะ อ฽ า น ไม฽แปลกใหม฽ งา฽ ย ยาก แ ต฽ อ฽ า น ร า ย ล ะ เ อี ย ด แ ล ะ อ฽ า น -ต ก แ ต฽ ง -ต ก แ ต฽ ง ร า ย ล ะ เ อี ย ด ยาก ร าย ล ะเ อีย ด ร ะ บ า ย สี ร ะ บ า ย สี ยาก -ต ก แ ต฽ ง ยาก สวยงาม สวยงาม -ต ก แ ต฽ ง ร ะ บ า ย สี -ต ก แ ต฽ ง ทั้ง 4 ภูมภิ าค ทง้ั 4 ภูมภิ าค ร ะ บ า ย สี สวยงาม ร ะ บ า ย สี ไ ด฾ -รู ป แ บ บ -รู ป แ บ บ สวยงาม -รูปแบบผลงาน เล็กนอ฾ ย ผลงานสะอาด ผลงานสะอาด -รปู แบบผลงาน ส ะ อ า ด -รู ป แ บ บ เรียบร฾อย เรยี บรอ฾ ย ส ะ อ า ด เรียบรอ฾ ย ผ ล ง า น เรียบรอ฾ ย เรยี บรอ฾ ย ด้ า น จิ ต พิ สั ย - - - -เข฾าชั้นเรียน -เข฾าช้ันเรียน ไมเ฽ ข฾า (A) แ ล ะ มี ค ว า ม แต฽ไม฽มีความ ชั้น -มีวนิ ัย ม฽ุง ม่ันใ นกา ร ม฽ุง มั่นในการ เรยี น -มุ฽ ง ม่ั น ใ น ก า ร ทางาน ทางาน ทางาน -เหน็ คุณคา฽ ของ -ไม฽เห็นคุณค฽า -รักความเป็ น ศิลปะไทย ของศิลปะไทย ไทย

เกณฑก์ ารประเมิน ประเมนิ คะแนน 9 - 10 ดี 7 - 8 ปานกลาง 5 – 6 นอ฾ ย 7. สื่อ อุปกรณ์และแหล่งการเรยี นรู้ สอ่ื การเรียนรู้ 1. รปู ภาพรปู แบบงานทัศนศิลปไ฼ ทย 4 ภูมิภาค อุปกรณ์ - ใบงาน - สี - ปากกา/ดินสอ/ยางลบ/ไม฾บรรทัด แหล่งการเรยี นรู้ 1. หนงั สอื เรียน รายวชิ าพ้ืนฐาน ทัศนศิลป฼ กลุ฽มสาระการเรียนร฾ศู ิลปะ ระดบั ช้ัน มัธยมศึกษาปที ี่ 1 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน พ.ศ. 2551 2. เว็บ Pinterest

ใบงานท่ี 3.2 เร่อื ง ทัศนศลิ ป์ไทย 4 ภูมิภาค ตอนท่ี 1 คาชีแ้ จง : จงอธิบายลกั ษณะของงานทศั นศลิ ป฼ 1. จิตรกรรม หมายถงึ ……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ประติมากรรม หมายถึง………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. สถาปัตยกรรม หมายถงึ ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ชื่อ…………………….....................นามสกุล…………………………………………..ช้นั …………….…เลขที่……………

ตอนที่ 2 คาช้แี จง : ใหน฾ ักเรยี นทา My Mapping เปรยี บเทียบความแตกต฽างของงานทัศนศลิ ปไ฼ ทย ทง้ั 4 ภูมภิ าค กระดาษ ขนาด A4 ช่ือ…………………….....................นามสกลุ …………………………………………..ชัน้ …………….…เลขท่ี…………...

แบบประเมนิ ใบงาน เคร่อื งมือ หนว่ ยการเรยี นรู้ที่………….เรอ่ื ง………………………………………………………………………ชน้ั ……………….. คาชีแ้ จง : ใหค฾ รผู ู฾สอนประเมนิ ใบงานของนกั เรยี นแล฾วให฾ทาเครื่องหมาย  ลงในชอ฽ งที่ตรงกับ ระดบั คะแนน ลาดั ลาดับที่ เพ่ือให้นกั เรยี น เพ่ือให้นกั เรยี น ความ รวม 10 บที่ ชอ่ื – สกุล สามารถบอก สามารถจาแนก มงุ่ มั่นใน คะแนน ลกั ษณะของ ลกั ษณะทัศนศิลป์ไทย งานทศั นศิลป์ ท้ัง 4 ภมู ภิ าคได้ การ ทางาน ได้ 3 210543210210 1 ด.ช. บารมี ผาสุข 2 ด.ช. สรุ ยุทธ ปรเี ลิศ 3 ด.ช. วุฒชิ ยั เฉยดี 4 ด.ช. ภานพุ งศ์ ศรีขดั เครือ 5 ด.ช. วสุ รัตนศฤงค์ 6 ด.ญ. กติ ตยิ ารตั น์ ศรสี อาด 7 ด.ญ. สโรชา ศรีสอาด 8 ด.ช. ชโยดม วรุณพงษ์ 9 ด.ญ. แพรวา ธีรเดชพฒั นช์ ยั 10 ด.ช. ธนวุฒิ สวา฽ งชม 11 ด.ญ. ณธดิ า จันทรกั ษา 12 ด.ช. ติณณภพ สระทองเรอื ง 13 ด.ช. สุทธพิ ร แสงจนั ทร์ 14 ด.ญ. ธมนวรรณ เฉิน 15 ด.ญ. นรินรชั ทาดี ลงชอ่ื ...................................................ผู้ประเมนิ (…………………..…………………………..) .................../................../.................

บนั ทึกผลหลงั การจดั การเรียนรู้ 1. ผลการจัดการเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ปญั หา/อุปสรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. ขอ้ เสนอแนะและแนวทางการแก้ไข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ …………………………………………..ครูผู้สอน (นางสาววภิ าพร ทพิ ราช) นกั ศึกษาฝกึ ประสบการณ์วิชาชพี ครู ความคดิ เห็นของครูพ่ีเลีย้ ง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื …………………………………………..ครูพีเ่ ล้ียง (นายพันศกั ดิ์ เสง็ สวุ รรณ) ครูวิทยาฐานะครูชานาญการพเิ ศษ ความคิดเหน็ ของรองผูอ้ านวยการสถานศกึ ษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ …………………………………………..ผู้ตรวจ (นางทิพมาศ ดวงจนั ทราศิริ) รองผู้อานวยการสถานศกึ ษาโรงเรียนวัดมะลิ ความคดิ เห็นของผอู้ านวยการสถานศกึ ษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ …………………………………………..ผบู้ ริหารสถานศึกษา (นางสาวดรุณี เทพา) ผอู้ านวยการสถานศึกษาโรงเรียนวดั มะลิ

แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 12 รหัสวชิ า 21101 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ศลิ ปะ สาระ ทัศนศลิ ป์ หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 3 ทศั นศิลป์ของชาติและทอ้ งถ่ิน ภาคเรยี นท่ี 2 เรือ่ ง วาดลายประจายาม จานวน 1 คาบ ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 1 เวลา 1 ชัว่ โมง สอนเมอื่ วนั ท…่ี ……เดอื น………………….พุทธศกั ราช……………… ครผู สู้ อน วภิ าพร ทิพราช 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ศ 1.2 เข฾าใจความสัมพันธ์ระหว฽างทัศนศิลป฼ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เห็นคุณค฽างานทัศนศลิ ปท฼ ่ีเปน็ มรดกทางวฒั นธรรม ภูมิปญั ญาทอ฾ งถ่นิ ภูมิปัญญาไทย และสากล 2. ตัวชวี้ ัด ศ 1.2 ม. 1/1 ระบุ และบรรยายเกี่ยวกบั ลักษณะ รูปแบบงานทศั นศลิ ปข฼ องชาติ และของทอ฾ งถ่ินตนเองจากอดตี จนถึงปจั จบุ ัน 3. สาระสาคัญ เพอ่ื ใหอ฾ ธบิ ายเกยี่ วกบั ลายประจายาม ซง่ึ ตน฾ กาเนดิ อาจได฾รบั แรงบันดาลใจจากธรรมชาติ มีโครงสรา฾ งเป็นรูปสเ่ี หลยี่ มด฾านเทา฽ มีลกั ษณะเป็นลายดอกมี 4 กลีบ ตรงกลางเป็นรูปวงกลม และรอบ นอกเป็นลายบัวส่ีด฾าน ลายประจายามมักใช฾ประดับตามเสา ขอบประตูหน฾าต฽าง หน฾าต฽าง ของโบสถ์ วหิ าร พลบั พลาปราสาท พระเจดยี แ์ ละพระธาตุ เปน็ ต฾น เข฾าใจกระบวนการ ข้ันตอนการวาดลายประจายาม จนออกมาเป็นรูปลวดลายประจา ยามทม่ี ี ความโดดเดน฽ สวยงาม ซึ่งลายประจายามเป็นแม฽ลายสาคัญอีกแม฽ลายหน่ึงของการเขียนภาพ ไทยโดยรูปทรงท่ัวไปจะเป็นรูปสี่เหล่ียมจัตุรัส ตรงกลางเป็นรูปวงกลม มีส่ีกลีบคล฾ายกับดอกไม฾ และ กลบี ทงั้ ส่มี าจากรปู ทรงของ แม฽ลายกระจังตาอ฾อย ซง่ึ แมล฽ ายประจายามนสี้ ามารถแตกแขนง ออกไปได฾ อีกมากมาย โดยการใส฽ไส฾ซ฾อนเข฾าไปจนดูหรูหรามากข้ึน และรูปทรงยังสามารถเปล่ียนจากส่ีเหล่ียม จตั รุ สั เปน็ ส่ีเหลยี่ มขนมเปยี กปนู ไดอ฾ กี ด฾วย ซึง่ ทาใหเ฾ กดิ ความงามที่แตกตา฽ งไปอีกแบบหนงึ่

4. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 4.1 ด้านความรู้ (K) - เพื่อใหน฾ ักเรยี นสามารถอธบิ ายลกั ษณะของลายประจายามได฾ 4.2 ด้านทักษะ (P) - เพอ่ื ใหน฾ กั เรียนสามารถวาดลายประจายามได฾ 4.3 ด้านคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (A) 1) มวี ินยั (เข฾าช้นั เรียน, มคี วามรับผิดชอบต฽องานท่ีได฾รบั มอบหมาย) 2) ม฽ุงม่ันในการทางาน (เอาใจใส฽ต฽อการปฏิบัติหน฾าท่ีที่ได฾รับมอบหมาย, พยายาม แกป฾ ัญหาและ อุปสรรคในการทางานให฾สาเร็จ) 3) รกั ความเป็นไทย (ภาคภูมิใจในขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปะ วฒั นธรรมไทย) 5. สาระการเรยี นรู้ ความรู฾ ความเขา฾ ใจในลักษณะของลายประจายาม ซง่ึ เป็นลายที่สาคัญของการเขยี นภาพไทย 7. สมรรถนะท่ีสาคญั 6.1 ความสามารถในการคดิ อย฽างสร฾างสรรค์ 6.2 ความสามารถในการใช฾เหตุผลในการคดิ แยกแยะไดด฾ ฾วยตนเอง 8. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 7.1 มีวนิ ยั 7.2 ใฝเุ รียนรู฾ 7.3 มุง฽ ม่นั ในการทางาน 7.4 มจี ิตสาธารณะ 9. กระบวนการจัดการเรยี นรู้ ขน้ั นา (5 นาที) 8.1 ครูกลา฽ วทกั ทายนกั เรยี น 8.2 ครอู ธบิ ายส่งิ ที่ตอ฾ งเรยี นในสปั ดาหน์ ้ีใหน฾ กั เรียนทราบ “การลายประจายาม”

8.3 ครูสอบถามนักเรยี น “นกั เรยี นเคยสงั เกตลวดลายไทยท่ีปรากฏตามศาสนสถานต฽างๆ หรือไม฽ และลวดลายเหล฽านั้นมีลักษณะอย฽างไร” (พิจารณาตามคาตอบของนักเรียน โดยให฾อย฽ูในดุลยพินิจของ ครูผู฾สอน) เพือ่ กระตุน฾ ใหผ฾ ู฾เรยี นเชื่อมโยงเข฾าสู฽เน้ือหาความร฾ูเกีย่ วกับ ลายประจายาม ขนั้ สอน (50 นาที) 8.4 ครูอธิบายเกยี่ วกับท่มี าของลายไทยให฾นักเรยี นฟงั ลายไทยเกดิ จากความเลอ่ื มใสศรัทธาในพุทธศาสนา จึงเป็นเหตุให฾ศิลปินประดิษฐ์โดยได฾ แนวคิดมาจาก ดอกบัว พวงมาลัย ควันธูป และเปลวเทียน เป็นต฾น แล฾วนามาสร฾างสรรค์เป็นลวดลาย ตา฽ งๆ บางส฽วนมกี ารพัฒนาจากรปู ดอกบัวหลากหลายชนิด อาทิ บวั หลวง บัวสัตตบงกช บัวสัตตบุษย์ และ มีการพฒั นาจากลกั ษณะการเคล่อื นไหวของเปลวไฟท่ีมีความพลิว้ ไหว ต฾นแบบของลายประดับท่ีเรียกว฽า ลายไทย คือ ลวดลายในศิลปะอินเดียโบราณ ที่ แพรห฽ ลายเขา฾ สด฽ู ินแดนเมื่อกว฽าพันปีมาแล฾ว และไดแ฾ ปรเปล่ยี นลกั ษณะไปตามความนยิ มของดินแดนแต฽ละ ท฾องถิ่นตามยุคสมัยท่ีเปลี่ยนมาเป็นลาดับ และช฽างไทยได฾มีการพัฒนาลวดลายจนมีเอกลักษณ์เป็นของ ตนเองโดยมจี ุดประสงคข์ องการใชง฾ านหรอื ใช฾ประดับเป็นแนวทางในการออกแบบงานประดับ ซึ่งลวดลาย ประดับ ในวฒั นธรรมศาสนาก็เพือ่ ความเปน็ สริ ิมงคลตามความเชอ่ื ทางศาสนา ภาพลายไทย ทมี่ า : https://www.lib.ru.ac.th/journal2/?p=12009

8.5 ครใู หน฾ กั เรียนดูภาพลายประจายามและอธิบายเกยี่ วกบั ลายประจายามให฾นักเรียนฟัง ลายประจายามมีลักษณะหลายรูปแบบ ข้ึนอยกู่ บั ศิลปินตอ้ งการสร้างสรรคอ์ อกมาในรูปแบบใด ท่มี า : https://www.seesketch.com/ ลักษณะของลายประจายาม สันนิษฐานว฽ามีท่ีมาจากดอกจันหรือลูกจันท่ีผ฽าเอาเน้ือข฾าง ในออกเหลอื เพียงเปลอื กนอก เปน็ แม฽ลายทเี่ ขียนอยู฽ในรปู ร฽างสีเ่ หลยี่ มจตั รุ สั ตะแคง มีลักษณะคล฾ายดอกไม฾ มเี กสรเป็นรูปวงกลมอยู฽ตรงกลาง มีกลีบมนแหลมคล฾ายกลบี บวั ล฾อมอยู฽โดยรอบ 4 กลีบ ดว฾ ยกัน ประโยชน์ของแม฽ลายประจายาม ลายน้ีประดับอย฽ูตามเสา ขอบประตู หน฾าต฽างของ โบสถ์ วิหาร เจดีย์ ปราสาท หรือติดประดับกับเสาบุษบกทั้ง 4 ด฾าน ติดประดับอย฽ูท่ีเคร่ืองสวมหัวประจา อยู฽ท้ัง 4 ด฾าน เช฽นนี้เรียกว฽า “ประจายาม” เพราะเชื่อว฽าเป็นยามรักษาการณ์ปูองกันภัยแก฽ผู฾คิดมิดีมิร฾าย ลายประจายามนี้เมอ่ื นาไปใชก฾ บั ลวดลายอ่ืนๆ มีชื่อเรียกต฽างกัน เช฽น ประจายามก฾ามปู ประจายามลูกฟัก กา฾ มปู ราชวตั รประจายาม ประจายามก฾านเกย้ี ว ลายซกี ดอกซอ฾ น

ลกั ษณะลายประจายาม 4 กลีบ ทม่ี า : http://introductiontothai606.myreadyweb.com/article/topic-25177.html 8.6 ครูสาธิตวิธกี ารวาดลายประจายามใหน฾ ักเรียนดู  ขน้ั ตอนการวาดลายประจายาม 1. วาดเขยี นรูปส่เี หลย่ี มจัตุรัส 5 x 5 นิ้ว แบ฽งกึง่ กลางเป็นเคร่อื งหมายบวก ((+) เส฾นสีแดง) และเคร่อื งหมายคณู ((x) เส฾นสีเขยี ว) ตดั กนั 2. วาดเขียนรูปส่ีเหลี่ยมจัตุรัส (เส฾นสีม฽วง) ให฾เป็นมุมตั้งทับลงปลายเครื่องหมายบวกในกรอบ สเี่ หล่ยี ม


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook