2. เครือ่ งหมายของสถาบัน สมาคม มูลนิธิ หรือกลุมกจิ กรรมตางๆ ท่มี าภาพที่ 2 : https://lh3.googleusercontent.com/proxy/0hzHPYXH4QfJFfqqWbRz3gPn- 0P46axXb7J8vH_es3Yx82J6_kZ_M6tiGZeGdkBLD9nAHWBtA06cdxEnJvEnnKAd 3. เครือ่ งหมายบรษิ ัท ท่มี า : https://www.design365days.com/UploadFile/Blog/blog_1309772292.jpg 4. เครือ่ งหมายสถานท่ี ทีม่ าภาพที่ 1 : https://lh3.googleusercontent.com/proxy/YYxJqyOipqJMSk1RNTLN1qtj- jqTQ623LNEsgLwCCbCSbKUjVSFtCrqt4izC_fa9KrcImQ6Jk6WlztnmSY9_uEq9VQkAwniK- rV9rpQLc4uVz5XaEIU ที่มาภาพที่ 2 : https://encrypted-tbn0.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcSQQrt1_XML7s67-qEf2g d84D0wPVJiXAV-wg&usqp=CAU
5. เครื่องหมายแสดงกิจกรรมตา งๆ ท่มี าภาพท่ี 1 : https://f.ptcdn.info/894/069/000/qcbfmt575Yz7sG09mv7-o.jpg ท่มี าภาพท่ี 2 : https://i.pinimg.com/originals/02/10/d4/0210d46b2d589b43f9772621 84630061.jpg 8.5 ครูใหน กั เรียนทากิจกรรมใบงานท่ี 2.2 เรือ่ ง ประเภทรูปภาพสญั ลักษณ์ (Logo) 8.6 ครูเปดิ โอกาสใหนักเรียนซักถามขอสงสยั จากน้ันนักเรยี นลงมือปฏบิ ตั งิ าน ครูคอยเดนิ ดูและ ใหค าแนะนา ข้นั สรุป (5 นาท)ี ครูและนักเรียนสรุปเนื้อหาความรู “รปู ภาพสัญลักษณ์ (Logo) มีหลากหลายรูปแบบ หลากหลาย ประเภท ซึ่งผูออกแบบไดออกแบบเพื่อใชในการส่ือสารในดานตางๆ” จากนั้นนักเรียนเก็บอุปกรณ์ ใหเรยี บรอย 9. การวดั และประเมินผล 9.1 ประเภทรปู ภาพสัญลกั ษณ์ (Logo) (10 คะแนน) ประเดน็ การ เกณฑก์ ารให้คะแนน ประเมิน 5 4 3 2 10 ด้านความรู้ - - (K) -นั ก เ รี ย น -นั ก เ รี ย น -นั ก เ รี ย น -ไม -เพือ่ ใหนักเรียน สามารถอธิบาย สามารถอธิบาย สามารถอธิบาย ส า ม า ร ถ อธิบาย ความหมายของ ค ว า ม ห ม า ย ค ว า ม ห ม า ย อ ธิ บ า ย -ไมม า สั ญ ลั ก ษ ณ์ ของสัญลักษณ์ ของสัญลักษณ์ ค ว า ม ห ม า ย เรียน (Logo) ได (Logo) ได (Logo) ไดผิด ของสัญลักษณ์ ร ะ ดั บ ดี ม า ก ถู ก บ า ง บ า ง (Logo) ไดผิด แ ล ะ ต ร ง ประเดน็ คาถาม ถูกบางหลาย ประเด็นคาถาม ป ร ะ เ ด็ น คาถาม
ดา้ นทักษะ -นั ก เ รี ย น -นั ก เ รี ย น -นั ก เ รี ย น -นั ก เ รี ย น -นั ก เ รี ย น -ไมสง (P) ส า ม า ร ถ ส า ม า ร ถ ส า ม า ร ถ ส า ม า ร ถ ส า ม า ร ถ งาน -เพื่อใหนักเรียน วาดสัญลักษณ์ วาดสัญลักษณ์ วาดสัญลักษณ์ วาดสัญลักษณ์ วาดสัญลักษณ์ -ไม ส า ม า ร ถ รู จั ก ( Logo) ต า ม ( Logo) ต า ม ( Logo) ต า ม ( Logo) ต า ม ( Logo) ต า ม มา หลักการในการ แบบที่นักเรียน แบบท่ีนักเรียน แบบที่นักเรียน แบบท่ีนักเรียน แบบท่ีนักเรียน เรยี น วาดสัญลักษณ์ ห า ม า ไ ด ต ร ง ห า ม า ไ ด ต ร ง ห า ม า ไ ด ต ร ง ห า ม า ไ ด ต ร ง ห าม าได ตร ง (Logo) ได ต า ม รู ป แ บ บ ต า ม รู ป แ บ บ ต า ม รู ป แ บ บ ต า ม รู ป แ บ บ ต า ม รู ป แ บ บ ตนฉบบั ต น ฉ บั บ ต น ฉ บั บ ตนฉบับแตวาด ตนฉบับแตวาด องค์ประกอบ องค์ประกอบ องค์ประกอบ องค์ประกอบ องค์ประกอบ ในภาพครบทุก ในภาพครบทุก ในภาพครบทุก ในภาพไมครบ ในภาพไมครบ สว น สวน สว น บ า ง ส ว น ห ล า ย ส ว น -ระบายสีภาพ -ระบายสีภาพ -ระบายสีภาพ -ระบายสีภาพ -ระบายสีภาพ สัญลัก ษ ณ์ไ ด สัญลัก ษ ณ์ไ ด สัญลัก ษ ณ์ ไ ด สัญลัก ษ ณ์ไ ด สัญลักษณ์ได สวยงาม สวยงาม สวยงามระดับ สวยงามระดับ ส ว ย ง า ม -ภ า พ -ภ า พ ปานกลาง เล็กนอย เล็กนอ ย สัญลักษ ณ์ไ ม สัญลักษณ์เอน -ภ า พ -ภ า พ -ภ า พ เอนเอียงหรือ เอียง ห รือบิด สัญลักษณ์เอน สัญลักษณ์เอน สัญลักษณ์เอน บิดเบี้ยวไปใน เ บี้ ย ว ไ ป ใ น เอียง ห รือบิด เอียง ห รือบิด เอียงบิดเบ้ียว ทิ ศ ท า ง ใ ด ทิ ศ ท า ง ใ ด เ บี้ ย ว ไ ป ใ น เ บี้ ย ว ไ ป ใ น ไปทุกทศิ ทาง ทิศทางหน่ึง ทศิ ทางหนง่ึ ทิ ศ ท า ง ใ ด ทิ ศ ท า ง ใ ด -รู ป แ บ บ -รปู แบบผลงาน -รปู แบบผลงาน ทศิ ทางหน่งึ ทิ ศ ท า ง ห น่ึ ง ผลงานสะอาด ส ะ อ า ด ส ะ อ า ด -รูปแบบผลงาน -รูปแบบผลงาน แตไมส มบูรณ์ ส ม บู ร ณ์ ส ม บู ร ณ์ ส ะ อ า ด เรียบรอ ย เรยี บรอ ย เรียบรอย ส ม บู ร ณ์ เรยี บรอ ย ด้ า น จิ ต พิ สั ย - - - -เขาชั้นเรียน -เขาช้ันเรียน ไมเขา (A) แ ล ะ มี ค ว า ม แตไมมีความ ช้นั -มีวนิ ยั มุง มั่นใ นกา ร มุง มั่นในการ เรียน -มุ ง มั่ น ใ น ก า ร ทางาน ทางาน ทางาน
เกณฑ์การประเมิน คะแนน ประเมิน 9 - 10 ดี 7 - 8 ปานกลาง 5 – 6 นอย 10. ส่อื อปุ กรณ์และแหลง่ การเรียนรู้ ส่อื การเรยี นรู้ 1. รปู ภาพประเภทสัญลกั ษณ์ (Logo) อุปกรณ์ - ใบงาน - สี - ปากกา/ดินสอ/ยางลบ/ไมบ รรทดั แหล่งการเรยี นรู้ 1. หนังสอื เรียน รายวิชาพ้นื ฐาน ทศั นศลิ ป กลมุ สาระการเรียนรศู ลิ ปะ ระดบั ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 1 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐาน พ.ศ. 2551 2. เว็บ Pinterest
ใบงานท่ี 2.2 เร่ือง การออกแบบรปู ภาพสัญลักษณ์ (Logo) คาชแี้ จง : ใหน้ กั เรียนวาดเครอื่ งหมายสญั ลกั ษณ์มา 1 อย่าง ระบายสใี ห้สวยงาม พรอ้ มบอก สัญลักษณ์ ประเภทเครื่องหมายสญั ลกั ษณ์ สี และประโยชนข์ องเครื่องหมาย ใหน้ ักเรยี น ประเภทเครือ่ งหมายสัญลกั ษณท์ ี่นักเรียนวาดลงในช่อง ใหถ้ ูกตอ้ ง เครือ่ งหมายจราจร เคร่อื งหมายของสถาบนั สมาคม มลู นิธิ หรอื กลุมกิจกรรมตางๆ เครือ่ งหมายบริษทั เครื่องหมายสถานท่ี เครอื่ งหมายแสดงกจิ กรรตา งๆ
สีของเคร่ืองหมายสญั ลกั ษณ์……………………………………………………………………………………………… สง่ิ ทีป่ รากฏอยใู่ นสัญลักษณม์ ีอะไรบ้าง………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………..………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ความหมายของเครื่องหมายสัญลกั ษณ……………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………..………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………..………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………..………………………………………………………………………………………………………………………………… สัญลักษณ์นน้ี าไปใชป้ ระโยชนใ์ นดา้ นใด………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………..………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………..………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………….………………………………………………………………………………………………………………………… ชือ่ ………………….....................นามสกุล…………………………………………..ชัน้ ……………เลขท…่ี ………...
แบบประเมนิ ใบงาน เครื่องมือ หน่วยการเรียนรทู้ ่ี………….เร่ือง………………………………………………………………………ชนั้ ……………….. คาชี้แจง : ใหค รผู ูสอนประเมินใบงานของนักเรยี นแลวใหท าเครอื่ งหมาย ลงในชองท่ีตรงกับ ระดบั คะแนน เพอ่ื ใหน้ กั เรียน ลาดับ ลาดบั ที่ สามารถ เพอื่ ใหน้ ักเรียน ความ รวม ที่ ชอ่ื – สกลุ อธบิ าย สามารถร้จู กั หลักการ มงุ่ ม่ันใน 10 ความหมาย ในการวาดสัญลกั ษณ์ คะแนน ของสญั ลักษณ์ การ (Logo) ได้ ทางาน (Logo) ได้ 3 210543210210 1 ด.ช. บารมี ผาสุข 2 ด.ช. สรุ ยุทธ ปรเี ลิศ 3 ด.ช. วฒุ ชิ ัย เฉยดี 4 ด.ช. ภานพุ งศ์ ศรขี ดั เครอื 5 ด.ช. วสุ รัตนศฤงค์ 6 ด.ญ. กติ ตยิ ารัตน์ ศรสี อาด 7 ด.ญ. สโรชา ศรสี อาด 8 ด.ช. ชโยดม วรุณพงษ์ 9 ด.ญ. แพรวา ธรี เดชพัฒนช์ ยั 10 ด.ช. ธนวฒุ ิ สวางชม 11 ด.ญ. ณธดิ า จันทรกั ษา 12 ด.ช. ติณณภพ สระทองเรือง 13 ด.ช. สุทธพิ ร แสงจนั ทร์ 14 ด.ญ. ธมนวรรณ เฉิน 15 ด.ญ. นรินรชั ทาดี ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิ (…………………..…………………………..) .................../................../.................
บันทกึ ผลหลงั การจดั การเรยี นรู้ 1. ผลการจัดการเรยี นรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ปัญหา/อปุ สรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. ขอ้ เสนอแนะและแนวทางการแก้ไข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่ือ…………………………………………..ครูผู้สอน (นางสาววิภาพร ทพิ ราช) นกั ศกึ ษาฝึกประสบการณว์ ชิ าชีพครู ความคดิ เห็นของครูพเ่ี ลี้ยง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื …………………………………………..ครูพเี่ ลยี้ ง (นายพนั ศกั ดิ์ เสง็ สุวรรณ) ครูวทิ ยาฐานะครูชานาญการพเิ ศษ ความคิดเหน็ ของรองผ้อู านวยการสถานศกึ ษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื …………………………………………..ผตู้ รวจ (นางทพิ มาศ ดวงจันทราศิริ) รองผูอ้ านวยการสถานศึกษาโรงเรียนวัดมะลิ ความคดิ เห็นของผู้อานวยการสถานศกึ ษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………………………………..ผ้บู รหิ ารสถานศึกษา (นางสาวดรุณี เทพา) ผู้อานวยการสถานศึกษาโรงเรยี นวัดมะลิ
แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 10 รหัสวชิ า 21101 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ศิลปะ สาระ ทศั นศลิ ป์ หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 3 ทศั นศลิ ป์ของชาตแิ ละท้องถนิ่ ภาคเรยี นที่ 2 เรือ่ ง รปู แบบงานทศั นศิลป์ของชาตแิ ละทอ้ งถิ่น จานวน 1 คาบ ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 1 เวลา 1 ชั่วโมง สอนเมือ่ วนั ท…่ี ……เดือน………………….พุทธศักราช……………… ครูผสู้ อน วิภาพร ทิพราช 1. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ศ 1.2 เขาใจความสัมพันธ์ระหวางทัศนศิลป ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เห็นคณุ คา งานทศั นศลิ ปที่เป็นมรดกทางวฒั นธรรม ภมู ปิ ัญญาทอ งถ่ิน ภมู ปิ ญั ญาไทย และสากล 3. ตวั ช้ีวดั ศ 1.2 ม. 1/1 ระบุ และบรรยายเก่ียวกับลักษณะ รูปแบบงานทัศนศิลปของชาติ และของทองถิน่ ตนเองจากอดีตจนถึงปจั จบุ นั 4. สาระสาคัญ เพื่อใหบอกรูปแบบงานทัศนศิลปของชาติและทองถ่ิน ทางศิลปะในแตละยุคสมัย ซ่ึงสามารถ วิเคราะห์ไดจากผลงานทัศนศิลปในแตละประเภท ไดแก ดานจิตรกรรม ดานประติมากรรม และดา นสถาปตั ยกรรม ทมี่ ลี ักษณะรปู แบบแตกตางกนั และมเี อกลกั ษณค์ วามสวยงามแตกตางกันไปใน แตละทอ งถนิ่ จาแนกลักษณะงานงานทัศนศิลปของชาติและทองถิ่นที่มีลักษณะแตกตางกันท้ังดานจิตรกรรม ดา นประตมิ ากรรมและดานสถาปัตยกรรม ซึ่งแนวคดิ ในการสรางอาจเป็นเร่ืองราวเดียวกัน แตปัจจัยที่ ทาใหงานทัศนศิลปของไทยมีความแตกตางกัน ไดแก สภาพทางภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ ศาสนา ความเช่ือ และสังคมวัฒนธรรมในแตละพื้นที่ ซ่ึงลวนแลวแตทาใหเกิดรูปแบบผลงานที่เป็น ลักษณะเฉพาะของชาตแิ ละทองถ่ินตามลาดบั
5. จุดประสงค์การเรียนรู้ 4.1 ด้านความรู้ (K) - เพื่อใหน ักเรียนสามารถบรรยายลักษณะรปู แบบงานทัศนศิลปของชาติและทอ งถ่ินได 4.2 ด้านทักษะ (P) - เพื่อใหนกั เรยี นสามารถจาแนกและระบลุ ักษณะรปู แบบงานทัศนศิลปของชาติและ ทองถน่ิ ได 4.3 ด้านคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ (A) 1) มวี ินัย (เขาชนั้ เรียน, มีความรับผิดชอบตอ งานทไ่ี ดร บั มอบหมาย) 2) มุงม่ันในการทางาน (เอาใจใสตอการปฏิบัติหนาท่ีที่ไดรับมอบหมาย, พยายาม แกป ัญหาและอปุ สรรคในการทางานใหสาเร็จ) 3) รกั ความเปน็ ไทย (ภาคภมู ใิ จในขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปะ วัฒนธรรมไทย) 6. สาระการเรียนรู้ รปู แบบงานทศั นศิลปของชาติและทองถ่ินลวนมีเอกลักษณ์ที่สะทอนใหเห็นถึงความเช่ือ วถิ ีชีวติ ขนบธรรมเนียมประเพณี และวัฒนธรรมในแตละทอ งถน่ิ 7. สมรรถนะท่ีสาคัญ 6.1 ความสามารถในการคดิ อยางสรางสรรค์ 6.2 ความสามารถในการใชเ หตุผลในการคดิ แยกแยะไดดว ยตนเอง 8. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 7.1 มีวินยั 7.2 ใฝุเรียนรู 7.3 มงุ มัน่ ในการทางาน 7.4 มีจิตสาธารณะ 9. กระบวนการจัดการเรียนรู้ ขัน้ นา (5 นาที) 8.1 ครกู ลาวทกั ทายนกั เรยี น
8.2 ครูอธิบายสิ่งท่ีตองเรียนในสัปดาห์นี้ใหนักเรียนทราบ “รูปแบบงานทัศนศิลปของชาติและ ทอ งถนิ่ ” 8.3 ครูสอบถามนักเรียน “งานทัศนศิลปในแตละพ้ืนที่มีลักษณะเหมือนกันหรือแตกตางกัน หรือไม” (พิจารณาตามคาตอบของนักเรียน โดยใหอยูในดุลยพินิจของครูผูสอน) เพ่ือกระตุนใหผูเรียน เชือ่ มโยงเขาสูเ นอ้ื หาความรูเก่ียวกับ รปู แบบงานทศั นศิลปของชาติและทอ งถน่ิ ขัน้ สอน (50 นาที) 8.4 ครอู ธบิ ายความหมายของงานทัศนศลิ ปข องชาตแิ ละทองถนิ่ ใหนกั เรียนฟงั สงั คมไทยมีพฒั นาการทีย่ าวนานมาตง้ั แตสมัยกอ นประวัติศาสตรจ์ นถึงปัจุบัน เห็นไดจาก หลักฐานทางประวัติศาสตร์และโบราณคดีท่ีปรากฎตามแหลงอารยธรรมในภูมิภาคตางๆที่มีการคนพบ ทรพั ยากรทาวฒั นธรรมหรอื ผลงานทัศนศลิ ป เป็นจานวนมากท่กี ระจายอยู ปัจจัยที่ทาใหงานทัศนศิลปของไทยมีความแตกตางกัน ไดแก สภาพทางภูมิศาสตร์ ประวัตศิ าสตร์ ศาสนา ความเช่ือ และสังคมวัฒนธรรมในแตละพื้นที่ ซึ่งลวนแลวแตทาใหเกิดรูปแบบ ผลงานท่ีเป็นลักษณะเฉพาะของชาติและทองถ่ินตามลาดับ ซ่ึงเป็นส่ิงท่ีคนในทองถ่ินและคนในชาติควร ภาคภูมิใจเป็นอยา งย่ิง ประเภทงานทัศนศลิ ปม ี ดังนี้ 1. จิตรกรรม (Painting) หมายถึง ผลงานศิลปะท่ีแสดงออกดวยการขีดเขียน การวาด และระบายสี 2. ประติมากรรม (Sculpture) หมายถึง การสรางรูปทรง 3 มิติ ไดแก ประติมากรรม นนู ตา่ ประติมากรรมนนู สงู และประติมากรรมแบบลอยตวั ซึง่ มี 4 วิธี คอื การป้นั (Casting) การแกะสลกั (Carving) การหลอ (Molding) และ การประกอบขนึ้ รูป (Construction) 3. สถาปตั ยกรรม (Architecture) หมายถงึ ผลงานศลิ ปะที่แสดงออกดวยส่งิ กอสราง อาคารที่อยูอาศัยตางๆ ที่มีขนาดใหญ 2 ประเภท ไดแก สถาปัตยกรรมแบบปิด และสถาปัตยกรรมแบบเปิด 1. ลักษณะรปู แบบงานทัศนศลิ ปของชาติ งานทัศนศลิ ปของชาติ หมายถงึ ศิลปะที่ถูกถายทอดและสรางข้ึนโดยชางจากราชสานักหรือชาง หลวงโดยมีรปู แบบท่แี ตกตา งกันไปตามลักษณะของการใชส ่อื วัสดุ กรรมวิธี ชวงเวลา และพัฒนาการทาง ศิลปะในแตล ะยุคสมัย ซ่ึงสามารถวเิ คราะห์ไดจ ากผลงานทศั นศลิ ปใ นแตล ะประเภท ดงั น้ี
1.1 จิตรกรรม 1) ลักษณะของจิตรกรรมไทย ในสมัยโบราณจิตรกรรมหรือภาพเขียนสีของไทยจะ นิยมเขียนข้ึน เพื่อเป็นพุทธบูชาตามผนังโบสถ์ วิหาร ศาลาการเปรียญ ในคูหาองค์พระปรางค์ พระสถูป เจดียแ์ ละผนังถ้า มีจุดประสงค์เพ่อื ตอ งการเลา เรอื่ งพทุ ธประวัตหิ รือเร่อื งราวทางสาสนาดว ยภาพ 2) ประเภทของจิตรกรรมไทย แสดงภาพดว ยการวาดเสนและระบายสีลงบนแผนผิว เรยี บรูปทรงท่ีประกอบจากเสนสีบนผิวเรียบ เชน เขียนไวบนผนัง เรียกวา “จิตรกรรมฝาผนัง” เขียนบน ผืนผา เรียกวา “พระบฏ” เขียนบนกระดาษทับซอน เรียกวา “จติ รกรรมสมดุ ภาพ” เป็นตน จติ รกรรมฝาผนัง เร่ืองรามเกียรต์ิ บนระเบียงรอบพระอโุ บสถ วัดพระศรรี ตั นศาสนาราม กรุงเทพมหานคร ทีม่ า : https://teen.mthai.com/app/uploads/2019/08/Hanuman.jpg 1.2 ประตมิ ากรรม ลักษณะประติมากรรมไทย สรางขึ้นเพื่อการตกแตงสถาปัตยกรรม เชน ลวดลาย ประดับตางๆ ประติมากรรมที่มีคุณสมบัติเฉพาะท่ีมีความสมบูรณ์ในตัว ท้ังดานเน้ือหา รูปทรง และการ แสดงออก เชน พระพุทธรูปประดิษฐานอยูภายในพระพระอุโบสถ วิหาร เป็นตน ประเภทของ ประติมากรรมไทย เป็นผลงานศิลปกรรมท่ีเกิดจากขึ้นจากฝีมือ ความคิด และความสามารถของคนไทย
สรา งข้ึนดวยวตั ถปุ ระสงคต์ างๆ กนั เชน ความศรัทธาตอศาสนา ความเช่ือทางไสยศาสตร์ขนมธรรมเนียม ประเพณี ตลอดจนสรา งข้ึนตามคตินิยมของชุมชนหรอื ทองถิน่ เป็นตน พระพุทธชนิ ราช เปน็ พุทธศิลปท์ ่มี คี วามงดงามมาก ปฏมิ ากรผสู้ รา้ ง ยอ่ มมคี วามศรทั ธาในพระพทุ ธศาสนาอยา่ งเปยี่ มล้น ที่มา : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=64 1.3 สถาปัตยกรรม ลกั ษณะสถาปตั ยกรรมไทย ทีโ่ ดดเดน พรอมดว ยคุณลกั ษณะทางทัศนศิลปจะเป็นงาน ศิลปะแททีส่ รา งความประทับใจแกผชู มได เชน วดั พระศรรี ัตนศาสดาราม พระท่ีนั่งจักรีมหาปราสาท เป็น ตน อกี ทัง้ สถาปัตยกรรมไทยมกี ารสรางสัญลักษณ์ท่ีเป็นเอกลักษณ์เฉพาะมาแตโบราณ ซ่ึงอิทธิพลท่ีทาให เกิดลักษณะเฉพาะทางสถาปัตยกรรมไทยนั้น ไดแก อิทธิพลทางดานศาสนาและวัฒนธรรมตลอดจน อิทธพิ ลทางดานสภาพดนิ ฟูาอากาศ รูปแบบของสถาปัตยกรรมไทยท่ีไดรับอิทธิพลทางดานศาสนาและวัฒนธรรม เชน ปราสาท สถปู เจดยี ์ ปรางค์ โบสถ์ วหิ าร เปน็ ตน รูปแบบของสถาปัตยกรรมไทยท่ีไดรับอิทธิพลทางดานสภาพดินฟูาอากาศ เชน อาคาร บานเรือน เป็นตน
พระท่ีน่ังจักรมี หาปราสาท ภายในพระบรมมหาราชวงั จัดเปน็ สถาปัตยกรรมทีร่ บั อิทธิพลของศลิ ปะตะวันตก ทีเ่ ขา้ มาในสมัยรัชกาลที่ 5 ที่มา : https://hilight.kapook.com/view/171974 2. ลักษณะรูปแบบงานทัศนศลิ ปทองถิ่น งานทัศนศิลปทองถ่ิน หมายถึง ศิลปกรรมในสาขาภูมิปัญญาไทยดานจิตรกรรม ประตมิ ากรรมและสถาปัตยกรรม ที่เปน็ ผลงานสรา งสรรคข์ องทองถ่ินท่ีเกิดจากภูมิปัญญาของชาวบาน ได คิดประดิษฐ์ข้นึ มาเปน็ เอกลักษณ์ของตนเอง ซึ่งสามารถวิเคราะห์ไดจากผลงานทัศนศิลปในแตละแระเภท ได ดงั นี้ 2.1 จิตรกรรมทองถิ่น จิตรกรรมทองถิ่น คอื ผลงานการวาดภาพ ระบายสีลงพ้ืนที่ตางๆ ตามความรูสึกนึก คดิ ของชาวบาน ทีม่ เี อกลกั ษณ์เรียบงาย ไมแสดงลายละเอียด แตแสดงออกถึงความทรงจา ตลอดจนแรง บันดาลใจจากสง่ิ ทีเ่ คยพบเห็นในธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอมผานทางภาพวาดจติ รกรรมในลักษณะตางๆ เชน จติ รกรรมฝาผนัง จติ รกรรมประกอบ เครือ่ งใช จติ รกรรมประเภทเครอื่ งเลน ตา งๆ และจิตรกรรมท่ีเกิดจาก ความศรัทธาทางศาสนา เป็นตน
ภาพเขียนสี (ฮูปแต้ม) เล่าเรอื่ งราวขบวนแหผ่ ะเหวด แทรกอย่ใู นชาดกเร่อื งเวสสันดร ทสี่ ิมวัดสนวนวารพี ฒั นาราม จังหวดั ขอนแก่น ทีม่ า : https://www.esanart.com/wat_sanaunwari/images/018.jpg 2.2 ประตมิ ากรรมทองถ่ิน ประติมากรรมทอ งถิน่ คือ ผลงานท่ีเกิดจากการปั้น การแกะสลัก การหลอ การกลึง การทุบตี การเคาะ ซ่ึงผลงานจากการสรางสรรค์ในแตละทองถิ่นจะมีความแตกตางกันดวยกรรมวิธีใน การผลติ ซ่งึ การผลิตผลงายสวนใหญ จะมุงผลติ เพอ่ื ประโยชน์ในการใชสอยเป็นสาคัญ การจาแนกลักษณะ ของประติมากรรมทองถิ่น สามารถจาแนกไดตามประเภทของวัสดุและวิธีการสรางสรรค์ ไดแก งาน แกะสลกั งานปั้น งานกระดาษ และงานโลหะ หรือจาแนกตามประเภทของการใชสอย ไดแก ผลงานที่ใช ประดบั บานเรือน ผลงานที่ใชป ระกอบในเร่ืองความเช่อื และพิธีกรรมตางๆ ผลงานท่ีใชประกอบการละเลน รวมถงึ เครอ่ื งประดบั ตางๆ
พระพุทธรูปแบบทอ้ งถ่นิ สมยั ทวารวดี พบท่เี มืองศรีมโหสถ จงั หวดั ปราจนี บรุ ี ท่ีมา : https://suanleklek.wordpress.com/2018/08/05/ontheeasternfrontier/ 2.3 สถาปตั ยกรรมทอ งถิ่น สถาปัตยกรรมทองถิ่น คือ ส่ิงปลูกสรางประเภทอาคารบานเรือนท่ีมีลักษณะและ รูปแบบตามความนิยมในทองถิ่นมีลักษณะเฉพาะตัวในแตละภูมิภาค โดยมีความสอดคลองกับประ เพณี และวัฒนธรรมของกลุมคนเหลานั้น ซึ่งสามารถจาแนกรูปแบบสถาปัตยกรรมทองถิ่นได 2 รูปแบบ คือ สถาปัตยกรรมทางศาสนา และสถาปัตยกรรมอาคารบานเรือนและท่ีอยูอาศัย เชน บานเรือนในทองถ่ิน ประเภทเครอ่ื งผูกท่ใี ชว สั ดไุ มคงทนในการสรา ง มีวธิ กี ารปลูกสรางงายๆ โดยการนาวัสดุตางๆ มาผูกยึดเขา ดวยกนั ประเภทเคร่ืองสับท่ีใชว สั ดคุ งทนโดยนามาประกอบกนั ดวยวิธีการเขาไม เป็นตน
สมิ วดั ปาุ แสงอรณุ อาเภอเมือง จงั หวัดขอนแกน ภายในมีความวิจิตรงดงามของภาพเขียนลายผาไหมมัดหมี่ สะทอนใหเหน็ ถึงความเป็นเอกลกั ษณ์ของทองถ่ิน ท่ีมา : https://lh3.googleusercontent.com/proxy/786N8cBXCS84_b5q5xn3kdDRmpS3kLz6y 2Jwh2RzlLO2pm12lc3-rENFKCjb1SZ__V1b2njHHg7E_qlvaq5-4wY0f_WI-lRT2j3tL1lNY5K8y 8frcMOr9PJkZV6_iQMa9Yv6StwQtov4uAkhDkzQL9_25kg ลายผา ไหมมดั หมี่ ทีม่ า : https://inwfile.com/s-n/gtv5v1.jpg
8.5 ครูใหนกั เรียนทากิจกรรมใบงานท่ี 3.1 เรือ่ ง รูปแบบงานทศั นศลิ ปข องชาติและทองถน่ิ 8.6 ครูเปิดโอกาสใหนักเรียนซักถามขอสงสัย จากนั้นใหนักเรียนลงมือปฏิบัติงาน ครูคอยเดินดู และใหค าแนะนา ขนั้ สรปุ (5 นาที) ครูและนักเรยี นสรปุ เนอื้ หาความรู “รูปแบบงานทศั นศิลปของชาติและทอ งถิน่ ” รวมกัน “รูปแบบ งานทัศนศิลปของชาติถูกสรางขึ้นโดยชางจากราชสานักหรือชางหลวง สวนรูปแบบงานทัศนศิลปทองถ่ิน เป็นผลงานสรางสรรค์ที่เกิดจากภูมิปัญญาของชาวบาน แตรูปแบบงานทัศนศิลปของชาติและทองถิ่น มี ความสวยงามและมเี อกลักษณ์เฉพาะตัวในแตละรูปแบบ” จากนัน้ นักเรียนเกบ็ อปุ กรณ์ใหเรยี บรอ ย 4. การวดั และประเมินผล 9.1 รปู แบบงานทัศนศลิ ปของชาตแิ ละทองถิน่ (10 คะแนน) ประเด็นการ เกณฑ์การให้คะแนน ประเมนิ 5 4 3 2 10 ดา้ นความรู้ - - -นั ก เ รี ย น -นั ก เ รี ย น -นั ก เ รี ย น -ไม (K) ส า ม า ร ถ ส า ม า ร ถ บ ร ร ย า ย บรรยา -เพอ่ื ใหนักเรียน สามารถ บ ร ร ย า ย บ ร ร ย า ย ลั ก ษ ณ ะ ย บรรยาย ลั ก ษ ณ ะ ลั ก ษ ณ ะ รู ป แ บ บ ง า น -ไมม า ลกั ษณะรูปแบบ รู ป แ บ บ ง า น รู ป แ บ บ ง า น ทัศนศิลปของ เรียน ทัศนศิลปของ ทัศนศิลปของ ช า ติ แ ล ะ ง า น ทั ศ น ศิ ล ป ช า ติ แ ล ะ ช า ติ แ ล ะ ทองถ่ินไดผิด ขอ ง ช า ติแ ล ะ ท อ ง ถิ่ น ไ ด ทองถ่ินไดผิด ถูกบางหลาย ทอ งถ่นิ ได ถู ก ต อ ง ถู ก บ า ง บ า ง ป ร ะ เ ด็ น ตร ง ป ร ะ เ ด็ น ประเดน็ คาถาม คาถาม คาถามทกุ ขอ ด้านทักษะ -นั ก เ รี ย น -นั ก เ รี ย น -นั ก เ รี ย น -นั ก เ รี ย น -นั ก เ รี ย น -ไมส ง (P) สามารถจาแนก สามารถจาแนก สามารถจาแนก สามารถจาแนก ส า ม า ร ถ งาน -เพอื่ ใหนักเรียน แ ล ะ ร ะ บุ แ ล ะ ร ะ บุ แ ล ะ ร ะ บุ แ ล ะ ร ะ บุ จ า แ น ก แ ล ะ -ไม สามารถจาแนก ลั ก ษ ณ ะ ลั ก ษ ณ ะ ลั ก ษ ณ ะ ลั ก ษ ณ ะ ร ะบุลักษ ณ ะ มา แ ล ะ ร ะ บุ รู ป แ บ บ ง า น รู ป แ บ บ ง า น รู ป แ บ บ ง า น รู ป แ บ บ ง า น รู ป แ บ บ ง า น เรยี น ลกั ษณะรปู แบบ ทัศนศิลปของ ทัศนศิลปของ ทัศนศิลปของ ทัศนศิลปของ ทัศนศิลปของ งานทัศนศิลป ช า ติ แ ล ะ ช า ติ แ ล ะ ช า ติ แ ล ะ ช า ติ แ ล ะ ช า ติ แ ล ะ ขอ ง ช า ติแ ล ะ ท อ ง ถิ่ น ไ ด ท อ ง ถ่ิ น ไ ด ท อ ง ถ่ิ น ไ ด ท อ ง ถิ่ น ไ ด ท อ ง ถิ่ น ไ ด ทองถ่ินได ถูกตองทุกขอ ถูกตอง 5 ขอ ถูกตอง 4 ขอ ถูกตอง 3 ขอ ถู ก ต อ ง 1-2 จาก 6 ขอ จาก 6 ขอ จาก 6 ขอ จ า ก 6 ข อ ขอจาก 6 ขอ
-รปู แบบผลงาน -รูปแบบผลงาน -รูปแบบผลงาน -รปู แบบผลงาน -รู ป แ บ บ ส ะ อ า ด ส ะ อ า ด ส ะ อ า ด ส ะ อ า ด ผลงานสะอา เรยี บรอย เรยี บรอ ย เรียบรอย เรียบรอ ย เรยี บรอย ด้ า น จิ ต พิ สั ย - - - -เขาชั้นเรียน -เขาชั้นเรียน ไมเขา (A) แ ล ะ มี ค ว า ม แตไมมีความ ชน้ั -มวี นิ ยั มุง ม่ันในกา ร มุง มั่นในการ เรียน -มุ ง มั่ น ใ น ก า ร ทางาน ทางาน ทางาน -เหน็ คณุ คา ของ -ไมเห็นคุณคา -รักความเป็ น ศิลปะไทย ของศลิ ปะไทย ไทย เกณฑ์การประเมิน คะแนน ประเมนิ 9 - 10 ดี 7 - 8 ปานกลาง 5 – 6 นอ ย 5. ส่ือ อปุ กรณ์และแหลง่ การเรยี นรู้ สื่อการเรยี นรู้ 1. รปู ภาพรูปแบบงานทัศนศลิ ปข องชาติ 2. รูปภาพรปู แบบงานทศั นศิลปทองถ่ิน อปุ กรณ์ - ใบงาน - สี - ปากกา/ดินสอ/ยางลบ/ไมบรรทัด แหลง่ การเรียนรู้ 1. หนังสือเรียน รายวิชาพน้ื ฐาน ทศั นศิลป กลุมสาระการเรยี นรศู ิลปะ ระดบั ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 1 ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน พ.ศ. 2551 2. เว็บ Pinterest
ใบงานที่ 3.1 เรอ่ื ง รปู แบบงานทศั นศิลปข์ องชาตแิ ละทอ้ งถ่ิน คาชแ้ี จง : จงอธบิ ายรูปแบบงานทัศนศิลปข องชาติและทอ งถ่ิน 1. รูปแบบงานทศั นศิลปของชาติ หมายถงึ …………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 1.1 ลักษณะจติ รกรรมไทย……………………………………………………………..……………………............ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 1.2 ลักษณะประติมากรรมไทย…………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 1.3 ลักษณะสถาปตั ยกรรมไทย…………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. รปู แบบงานทัศนศิลปทองถิ่น หมายถงึ …………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2.1 ลักษณะจติ รกรรมทองถิ่น…………………………………………………………………………………....... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2.2 ลกั ษณะประติมากรรมทองถิ่น………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2.3 ลักษณะสถาปัตยกรรมทอ งถ่นิ ………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ช่ือ……………………….....................นามสกุล…………………………………………..ชนั้ …………….…เลขที่…………...
ตอนที่ 2 คาชีแ้ จง : จงจาแนกลักษณะงานทัศนศิลปของชาติและทองถิน่ ใหถูกตอง จติ รกรรมไทย ประติมากรรมไทย สถาปัตยกรรมไทย จติ รกรรมทอ้ งถิ่น ประติมากรรมทอ้ งถ่ิน สถาปตั ยกรรมทอ้ งถน่ิ ……………………………………………………………. ……………………………………………………………. ……………………………………………………………. ……………………………………………………………. ……………………. ……………………. ……………………………………………………………. ……………………………………………………………. ชื่อ………………………………...…...…...…...…...….......นามสกุล…………………………………………..ช้นั ……………………….………เล…ข…ท.ี่…………...
แบบประเมนิ ใบงาน เคร่ืองมอื หน่วยการเรียนรูท้ ี่………….เรอ่ื ง………………………………………………………………………ชัน้ ……………….. คาชีแ้ จง : ใหครูผูสอนประเมินใบงานของนกั เรียนแลว ใหทาเคร่ืองหมาย ลงในชองทีต่ รงกบั ระดบั คะแนน เพ่ือใหน้ ักเรยี น ลาดบั ลาดบั ที่ สามารถ เพ่ือให้นักเรยี น ความ รวม ที่ ชอ่ื – สกุล บรรยาย สามารถจาแนกและ ม่งุ ม่ันใน 10 ลักษณะ ระบลุ กั ษณะรปู แบบ คะแนน รูปแบบงาน งานทัศนศิลป์ของชาติ การ ทศั นศลิ ปข์ อง ทางาน ชาตแิ ละ และท้องถนิ่ ได้ ทอ้ งถิน่ ได้ 3 210543210210 1 ด.ช. บารมี ผาสขุ 2 ด.ช. สรุ ยุทธ ปรเี ลิศ 3 ด.ช. วุฒชิ ยั เฉยดี 4 ด.ช. ภานพุ งศ์ ศรีขดั เครอื 5 ด.ช. วสุ รัตนศฤงค์ 6 ด.ญ. กติ ตยิ ารัตน์ ศรีสอาด 7 ด.ญ. สโรชา ศรสี อาด 8 ด.ช. ชโยดม วรณุ พงษ์ 9 ด.ญ. แพรวา ธรี เดชพัฒน์ชยั 10 ด.ช. ธนวฒุ ิ สวางชม 11 ด.ญ. ณธิดา จนั ทรักษา 12 ด.ช. ติณณภพ สระทองเรือง 13 ด.ช. สุทธพิ ร แสงจันทร์ 14 ด.ญ. ธมนวรรณ เฉิน 15 ด.ญ. นรินรัช ทาดี ลงชอื่ ...................................................ผู้ประเมิน (…………………..…………………………..) .................../................../.................
บันทึกผลหลงั การจดั การเรยี นรู้ 1. ผลการจดั การเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ปญั หา/อปุ สรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. ขอ้ เสนอแนะและแนวทางการแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ …………………………………………..ครูผู้สอน (นางสาววิภาพร ทิพราช) นกั ศกึ ษาฝึกประสบการณ์วิชาชพี ครู ความคิดเห็นของครพู ่ีเลยี้ ง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื …………………………………………..ครูพ่เี ล้ียง (นายพันศกั ด์ิ เสง็ สุวรรณ) ครูวิทยาฐานะครชู านาญการพเิ ศษ ความคดิ เห็นของรองผอู้ านวยการสถานศึกษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………………………………..ผู้ตรวจ (นางทพิ มาศ ดวงจนั ทราศิริ) รองผู้อานวยการสถานศึกษาโรงเรยี นวัดมะลิ ความคิดเหน็ ของผู้อานวยการสถานศกึ ษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………………………………..ผู้บริหารสถานศึกษา (นางสาวดรณุ ี เทพา) ผ้อู านวยการสถานศึกษาโรงเรียนวดั มะลิ
แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ 11 รหัสวิชา 21101 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ศิลปะ สาระ ทัศนศิลป์ หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 3 ทศั นศิลปข์ องชาติและท้องถ่นิ ภาคเรยี นที่ 2 เรอ่ื ง ทศั นศลิ ป์ไทย 4 ภูมภิ าค จานวน 1 คาบ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 1 เวลา 1 ชว่ั โมง สอนเมื่อ วันท…ี่ ……เดอื น………………….พุทธศกั ราช……………… ครูผู้สอน วภิ าพร ทพิ ราช 1. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ศ 1.2 เขาใจความสัมพันธ์ระหวางทัศนศิลป ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เหน็ คณุ คางานทัศนศลิ ปทีเ่ ปน็ มรดกทางวัฒนธรรม ภมู ิปญั ญาทอ งถิน่ ภมู ิปัญญาไทย และสากล 2. ตัวชี้วัด ศ 1.2 ม. 1/1 ระบุ และบรรยายเกยี่ วกับลกั ษณะ รปู แบบงานทัศนศลิ ปของชาติ และของทอ งถิน่ ตนเองจากอดีตจนถงึ ปจั จบุ ัน ม. 1/2 ระบุ และเปรียบเทียบงานทศั นศิลปข องภาคตา งๆ ในประเทศไทย 3. สาระสาคัญ เพอ่ื ใหบอกทัศนศิลปไทยในภูมิภาคตางๆ ในไทย ซ่ึงทัศนศิลปไทยท้ัง 4 ภูมิภาคน้ัน มีจิตรกรรม ประติมากรรม และสถาปัตยกรรมเหมือนกัน แตที่มีความแตกตางกันไปในแตละภูมิภาค ตามวิถีชีวิต ประเพณี วฒั นธรรมในแตละทอ งถ่ิน ท่ีมเี อกลักษณ์เฉพาะตวั สามารถจาแนกศิลปะทัศนศิลปของภูมิภาคตางๆ ท่ีมีลักษณะและเอกลักษณ์ท่ีแตกตางกัน ทั้งรูปแบบการสราง ลักษณะของผลงานท่ีบงบอกโดดความโดดเดนความแตกตางของแตละภูมิภาค ทงั้ ดานจติ รกรรม ประตมิ ากรรม และสถาปัตยกรรม ท่ีสรางขึ้นตามวิถีชีวิต ประเพณี วัฒนธรรมในแต ละทอ งถิน่ ซ่ึงมีการสรางสรรค์โดยฝมี อื ของคนในทองถ่ินน้ันๆ โดยอาศัยความรูความสามารถท่ีมีอยูใน การสรางสรรค์ผลงาน จึงทาใหในแตละพ้ืนที่มีงานทัศนศิลปที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวและมีความ สวยงามทีแ่ ตกตางกนั ไปในแตล ะภูมิภาค
4. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 4.1 ด้านความรู้ (K) - เพอื่ ใหน กั เรียนสามารถบอกลักษณะของงานทศั นศิลปได 4.2 ดา้ นทักษะ (P) - เพ่อื ใหน กั เรียนสามารถจาแนกลักษณะทัศนศิลปไ ทยทง้ั 4 ภมู ภิ าคได 4.3 ดา้ นคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ (A) 1) มวี ินัย (เขาช้นั เรียน, มคี วามรับผดิ ชอบตองานที่ไดรับมอบหมาย) 2) มุงม่ันในการทางาน (เอาใจใสตอการปฏิบัติหนาที่ที่ไดรับมอบหมาย, พยายาม แกป ัญหาและอุปสรรคในการทางานใหส าเรจ็ ) 3) รักความเป็นไทย (ภาคภูมใิ จในขนบธรรมเนยี มประเพณี ศิลปะ วัฒนธรรมไทย) 5. สาระการเรยี นรู้ ความรู ความเขาใจในลกั ษณะของทัศนศิลปไ ทยทงั้ 4 ภมู ภิ าค ทมี่ คี วามแตกตา งกัน 6. สมรรถนะทีส่ าคัญ 6.1 ความสามารถในการคิดอยางสรา งสรรค์ 6.2 ความสามารถในการใชเ หตุผลในการคิดแยกแยะไดดวยตนเอง 7. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ 7.1 มวี ินยั 7.2 ใฝุเรียนรู 7.3 มุงมัน่ ในการทางาน 7.4 มจี ิตสาธารณะ 8. กระบวนการจดั การเรียนรู้ ข้ันนา (5 นาที) 8.1 ครกู ลาวทักทายนักเรยี น 8.2 ครอู ธบิ ายสง่ิ ที่ตองเรียนในสปั ดาหน์ ้ีใหนกั เรยี นทราบ “ทัศนศลิ ปไทย 4 ภมู ิภาค”
8.3 ครูสอบถามนักเรียน “งานทัศนศิลปไทยท่ีอยูตางพื้นที่ ตางภูมิภาค ลักษณะของผลงาน ทัศนศิลปจะเหมือนกันหรือแตกตางกัน” (พิจารณาตามคาตอบของนักเรียน โดยใหอยูในดุลยพินิจของ ครูผสู อน) เพ่ือกระตุนใหผ เู รยี นเช่อื มโยงเขาสเู นอ้ื หาความรูเกีย่ วกบั ทศั นศิลปไทย 4 ภมู ภิ าค ข้ันสอน (50 นาที) 8.4 ครอู ธิบายประเภททัศนศิลปใหน ักเรยี นฟงั ประเภทงานทัศนศิลปม ี ดงั น้ี 1. จิตรกรรม (Painting) หมายถึง ผลงานศิลปะท่ีแสดงออกดวยการขีดเขียน การวาด และระบายสี 2. ประติมากรรม (Sculpture) หมายถึง การสรางรูปทรง 3 มิติ ไดแก ประติมากรรม นูนตา่ ประติมากรรมนนู สงู และประตมิ ากรรมแบบลอยตวั ซ่งึ มี 4 วธิ ี คือ การปนั้ (Casting) การแกะสลกั (Carving) การหลอ (Molding) และ การประกอบขนึ้ รูป (Construction) 3. สถาปัตยกรรม (Architecture) หมายถงึ ผลงานศลิ ปะทแี่ สดงออกดวยสิ่งกอ สราง อาคารท่อี ยอู าศยั ตา งๆ ทีม่ ขี นาดใหญ 2 ประเภท ไดแก สถาปตั ยกรรมแบบปิดและ สถาปตั ยกรรมแบบเปดิ 8.5 ครูอธบิ ายงานทศั นศลิ ปในแตละภมู ิภาคใหนักเรียนฟังประเทศไทยมี 4 ภมู ภิ าค ดังนี้ ภาพภูมภิ าคในประเทศไทย ทีม่ า : https://lh3.googleusercontent.com/proxy/XeY-u5nDoaFx-ZBxpwNG4m_dZGQr-HV_WL9nho- zR0tyfk-Wr_eR6CPrS0Uc6k1JnxtFS5x2Cn7H9tdfiFXFeqbhvR-TtVfG
งานทัศนศลิ ปในแตล ะภมู ิภาค ประเทศไทยในแตละภูมิภาคมีลักษณะทางภูมิสาสตร์ ประวัติความเป็นมา และลักษณะ ทางสังคมวัฒนธรรมที่แตกตางกัน ปัจจัยดังกลาวลวนมีผลตอการสรางสรรค์ผลงานทัศนศิลปในภูมิภาค ตา งๆ ไมวา จะเพอ่ื ประโยชน์ใชสอย หรอื ตอบสนองความเช่ือทางศาสนา และความพึงพอใจของ ตนกต็ าม ซงึ่ งานทัศนศิลปภาคตา งๆ ของไทย มีดงั น้ี 1. ภาคเหนือ ทัศนศิลปภาคเหนือ หรือทัศนศิลปสมัยเชียงแสนหรือลานนา มีศูนย์กลางของ อาณาจกั รอยูท างภาคเหนือของประเทศไทย อยูในชวงเวลาระยะระหวางพุทธศตวรรษที่ 18-23 นับเป็น ยุคสมัยของศิลปะไทยอยางแทจริง มีผลงานส่ิงปลูกสรางตางๆ ที่สะทอนใหเห็นถึงความศรัทธาใน พระพทุ ธศาสนา สวนประติมากรรมที่พบมากจะเป็นพระพุทธรูป ซ่ึงมีความรวมสมัยกับสมัยสุโขทัยในยุค ตอ มา พนื้ ทขี่ องจังหวัดเชยี งใหมใ นปัจจุบันมีผลงานทศั นศิลปเปน็ จานวนมาก ทั้งท่ีไดรับอิทธิพลจากศิลปะ พมา และอิทธิพลจากสว นกลาง 1.1 จิตรกรรม เปน็ ผลงานทีเ่ กิดข้ึนจากการเขียนภาพระบายสีสะทอนถึงเรื่องราวของ สงั คม ประเพณี วัฒนธรรม และสภาพแวดลอม โดยมเี รอื่ งราวสะทอ นถึงเหตุการณ์ตางๆ เชน การแตงกาย ของผูค น ประเพณวี ัฒนาธรรมการประกอบอาชีพ การใชชีวติ ของชาวบานในชว งเวลานน้ั เปน็ ตน ตัวอยางจิตรกรรมแบบลานนาท่ีโดดเดน เชน จิตรกรรมฝาผนัง วัดบวกครกหลวง จงั หวัดเชียงใหม วัดหนองบัวและวดั ภมู นิ ทร์ จงั หวดั นา น เปน็ ตน ที่มา : https://www.dmc.tv/images/00-iimage/590910-dd-2.jpg 1.2 ประติมากรรม เป็นประติมากรรมท่ีมีการสืบทอดมาจากศิลปะลานนา ลักษณะ ท่ัวไปของพระพุทธรูปประทับปางสมาธิเพชร นิยมทาเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย มีพระวรกายอวบอูม พระพักตรอ์ ม่ิ ยมิ้ สารวม พระเกตมุ าลาเป็นรูปดอกบัวตูม พระขนงโกง รับกับพระนาสิกท่ีงุมเพียงเล็กนอย
พระพุทธรูปในภาคเหนือไดรับอิทธิพลจากอินเดีย พมา และลังกา และไดแสดงความงดงามตามอุดมคติ แบบไทยใหปรากฏไวอยา งขดั เจน ท่ีมา : https://lannasculpture.files.wordpress.com/2016/11/cats.jpg?w=365&h=365 1.3 สถาปัตยกรรม เป็นสิ่งกอนสรางท่ีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเห็นไดจากโบสถ์ วิหาร มัก สรา งเป็นวหิ ารขนาดใหญ มเี สาเรยี งรายอยูภ ายใน และมหี ลงั คาซอนกันสามช้ันเป็นสวนมาก ในระยะแรก การสรางสถาปัตยกรรมจะไดรับอิทธิพลจากประเทศเพ่ือนบาน ตอมาไดมีการพัฒนารูปแบบท่ีเป็น เอกลักษณเ์ ฉพาะตัวของศิลปะลา นนามากขน้ึ นอกจากน้ีกลุมเรือนถิ่นของภาคเหนือตอนบน เรือนเครื่องสับแบบลานนาจะเป็นเรือน ชนดิ ทม่ี จี ่ัวสงู ทางดา นหนา สว นบนของจั่วมีไมที่แกะสลักเป็นลวดลายตางๆ ไขวกันแบบเรียบงายเรียกวา “เรอื นกาแล”
เจดีย์วัดเชยี งมน่ั จังหวดั เชยี งใหม่ ที่มา : https://media-cdn.tripadvisor.com/media/photo-s/08/e3/42/f7/caption.jpg 2. ภาคกลาง ผลงานทัศนศลิ ปส ว นมากจะสรา งขนึ้ ตามคติความเชอ่ื ทางพระพทุ ธศาสนาและศาสนา พรมหมณ์-ฮินดู และการรับอิทธิพลทางศิลปวัฒนธรรมจากชาติอ่ืนๆ เชน วัฒนธรรมอินเดีย วัฒนธรรม เขมร เป็นตน เขา มาผสมผสานกับผลงานทัศนศิลปของตน จนกลายเป็นรูปแบบท่ีเป็นลักษณะเฉพาะของ ชา งราชสานักและแพรหลายไปยงั ภมู ภิ าคอ่นื ตามการแผอทิ ธิพลทางการเมอื งการปกครอง 2.1 จิตรกรรม นิยมสื่อความหมายดวยการเลาเร่ืองภาพพุทธประวัติ นิทานชาดก และเรอ่ื งราวในไตรภมู พิ ระรว ง โดยเปน็ การเลาเร่ืองผา นเขียนบนฝาผนังของพระปรางค์ พระอุโบสถ พระ วหิ าร หอสวดมนต์ ซึง่ มวี ธิ ีการเขยี นภาพดว ยลายเสน โดยใชสีเดียว เรียกวา “จิตรกรรมสีเอกรงค์” ที่นิยม มาต้งั แตสมยั โบราณ และรูปแบบระบายสหี ลายสี เรยี กวา “จิตรกรรมพี หุรงค์” โดยเขยี นดวยสีฝุน และปิด ทองคาเปลวในบางสวนที่สาคัญ นอกจากน้ีจิตรกรรมฝาผนังยังสะทอนเร่ืองราวเกี่ยวกับประเพณี ความเช่ือ วิถีชีวิต และสภาพแวดลอมตางๆ ในชวงสมัยท่ีมีการเขียนภาพอีกดวย เชน แมน้าลาคลอง พืชพันธ์ไมตางๆ สัตว์ ชุมชนบานเรือนท่ีปลูกสรางอยูริมน้าและบนบกใหเห็นชัดเจน เป็นตน ซึ่งจะชวยใหผูชมมีความเขาใจถึง ประวัตสิ าสตรส์ งั คมของทอ งถ่นิ ท่ถี กู ถายทอดเปน็ เร่ืองราวแทรกอยูใ นภาพจติ รกรรมฝาผนังไดเ ปน็ อยางดี
จิตรกรรมฝาผนงั รอบระเบียง วัดพระศรรี ตั นศาสดาราม เรื่องรามเกียรติ์ ตอนทศกัณฐ์ออกศกึ กับพระรามครงั้ แรก มีเทคนคิ การเขียนภาพแบบ 2 มติ ิ โดยเน้นความงามและเน้อื หาเปน็ สาคัญ ทีม่ า : http://nainuad-book.lnwshop.com/product/839/ 2.2 ประติมากรรม ประติมากรรมในภาคกลางแบงออกไดเป็น ประติมากรรมรูป เคารพ ประติมากรรมเร่ืองเลา และประติมากรรมตกแตง ประติกรรมรูปเคารพมีการสรางตามความเชื่อ ของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู เชน เทวรูปพระศิวะ พระนารายณ์ เป็นตน หรือพระพุทธศาสนา นิกาย มหายาน ไดแก รปู พระโพธิสัตว์ และรปู เคารพในพระพุทธศาสนานิกายเถรวาทที่เป็นรูปพระพุทธเจาปาง ตางๆ เชน ปางมารวิชยั ซึ่งนิยมสรา งประดษิ ฐานในพระอโุ บสถของวัดตา งๆ ทัว่ ประเทศไทย เป็นตน ประติมากรรมภาคกลาง ไดร บั อทิ ธิพลมาจากศลิ ปะลังกา เขมร และตะวันตก อีกท้ังมี การพฒั นารปู แบบการสรางเป็นผลงานทีเ่ หมอื นจริงตามแบบอยางตะวันตกมากขึ้น ตัวอยาง พระพุทธชิน ราชนี้เป็นพระพุทธรูปศิลปะสมัยสุโขทัย ลักษณะขององค์พระมีเสนรอบนอกพระวรกายออนชอย พระ โขนงโกง พระเนตรประดุจตากวาง พระนาสิกโดง ชายผาสังฆาฏิแยกเป็นเขี้ยวตะขาบ นิ้วพระหัตถ์ท้ังส่ี ยาวเสมอกัน อยใู นลกั ษณะปางมารวชิ ัย
พระพุทธชินราช เปน็ พทุ ธศิลปท์ มี่ คี วามงดงาม ทีม่ า : https://palanla.com/index.php?op=domesticLocation-detail&id=64 2.3 สถาปัตยกรรม ผลงานสวนสวนมากพัฒนาการมาตั้งแตสมัยสุโขทัยจนถึงสมัย รัตนโกสินทร์ มกี ารปลกู สรา งใหมีขนาดใหญโต มีการออกแบบลวดลายตกแตงอยางวิจิตร เชน เครื่องบน ของอาคารมีชอฟูา ใบระกา หางหงส์ เปน็ ตน เห็นไดจากสถาปัตยกรรมภายในวดั พระศรีรัตนศาสดาราม ที่ เป็นจดุ รวมของสถาปตั ยกรรมเดนๆ สมยั รตั นโกสินทรไ์ วเ กือบทง้ั หมด นอกจากนี้ สถูป เจดีย์ และพระปรางค์ มีรูปแบบท่ีเป็นลักษณะเฉพาะ เชน พระ ปรางค์วดั พระราม เจดียท์ รงกลม หรอื ทรงระฆังคว่า วดั พระศรีสรรเพชญ์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พระ ปรางค์วัดอรณุ ราชวราราม กรุงเทพมหานคร เป็นตน สวนบา นไทย หรือเรอื นไทยภาคกลาง มลี ักษณะเดน จะมหี ลงั คาทรงสูง ใตถุนสูง ชาน กวา ง และไมมีเพดาน นิยมปลูกริมแมน้าลาคลอง เพ่ือสะดวกในการเดินทาง เนื่องจากในสมัยโบราณ ใช แมน า้ ลาคลองในการคมนาคม
วัดพระศรีรตั นศาสดาราม เป็นสถานท่ซี ึง่ ประกอบดว้ ยงานจติ รกรรม ประตมิ ากรรม และสถาปัตยกรรม อันทรงคุณค่าหลายอยา่ ง ทม่ี า : https://th.tripadvisor.com/LocationPhotoDirectLink-g293916-d311044-i125682441- Temple_of_the_Emerald_Buddha_Wat_Phra_Kaew-Bangkok.html 3. ภาควันออกเฉยี งเหนอื (ภาคอีสาน) นักวิชาการไดสันนิฐานวาเมื่อประมาณ 2,500 ปีมาแลว จนถึง พ.ศ. 500 พระพุทธศาสนาและศาสนาพราหมณ์-ฮินดูจากอินเดียไดถูกนามาเผยแพรบริเวณดินแดนสองฝั่งโขงและ ภาคอสี าน ทาใหศลิ ปวฒั นธรรมของบานเมืองรนุ แรกๆ ในบรเิ วณนีจ้ งึ เริม่ ปรากฏขึ้น และพัฒนาตอมาจนมี รูปแบบเฉพาะตัว พรอ มกบั มีการรับแบบอยางของงานทัศนศิลปจากดินแดนอื่น เชน ทวารวดี เขมร ลาว เป็นตน เขามาประยุกตใ์ ชในวีชีวิต ของตนเอง จนทาใหเกิดสถาปัตยกรรมตางๆ ท่ีสวยงาม เชน ปราสาท หิน เจดีย์ โบราณสถาน โบราณวตั ถอุ น่ื ๆ ทีป่ รากฏในภาคอีสานอกี มากมาย เปน็ ตน 3.1 จิตรกรรม ภาพเขียนสีของอีสานมักปรากฏบนผนังของสิม เรียกวา “ฮูปแตม” บนผนงั ดานในของสิมมกั เขียนเรื่องราวในพระพุทธประวัติ นิทานพ้ืนบานเร่ืองสังข์ศิลปชัย (สินไซ) มีก่ีใช สสี นั รูปรางหนา ตาของภาพมีการผสมผสานระหวา งงานทัศนศลิ ปภ าคกลางดวย ภาพจะมีการใชเทคนิคใน การระบายสีที่มีการเนนเสนที่หนักแนน ไมประณีตแบบงานเหมือนจิตรกรรมภาคกลาง ในภาคอีสานจะ เขียนภาพที่ผนังดานในและผนังดานนอกของศาสนสถาน ซึ่งแตกตางจากจิตรกรรมภาคอ่ืนๆ ท่ีเขียนรูป เฉพาะผนงั ดา นในของศาสนสถานเทา น้ัน
ภาพฮูปแตม้ ผนงั สิม จงั หวัดมหาสารคาม บ่งบอกเร่ืองราวเฮฮาสนกุ สาน อีกท้งั แสดงเรอื่ งราวสกั ลายบนขาของชาวอีสาน ทมี่ า : https://s.isanook.com/wr/0/uploads/13659/content_image/2019/08/perroe.jpg 3.2 ประตมิ ากรรม จะนยิ มสรา งสรรค์ผลงานในรูปแบบตา งๆ ท่ีคลายกับภาคกลางและ ภาคเนือ สวนลักษณะลวดลายในการตกแตงที่แตกตางกัน เชน นิยมทาหัวบันไดเป็นรูปพญานาคบริเวณ ทางข้ึนทางเขาของศาสนสถาน ศาลาการเปรียญ สิม เป็นตน นิยมปั้นลวดลายตกแตงตามฐานพระธาตุ หรอื ตกแตง แบบรังผ้งึ ในบริเวณหนา บันของสิม เปน็ ตน ลักษณะพระพุทธรูป คือ มีพระพักตร์สั้นแบน พระนลาฏแคบ พระนาสิกปูานใหญ พระโอษฐ์หนา พระหตั ถแ์ ละพระบาทใหญ สวนการออกแบบสวนฐานใหมีความสูงมาก และลักษณะของ ใบหนาทรวดทรงก็มีความเป็นทองถิ่น คือ ดูเรียบงาย แตในการปั้น หลอ หรือแกะสลัก จะไมประณีต เรยี บรอยเหมอื นผลงานของชา งภาคกลางหรอื ชางหลวง
ลกั ษณะพระพุทธรปู ภาคอสี าน ทีม่ า : http://www.praputthai.com/product--288357-1.html 3.3 สถาปัตยกรรม เป็นศาสนสถานที่ใชสาหรับประกอบพิธีกรรมทาง พระพุทธศาสนามีชื่อเรียกวา “สิม” ไดรับอิทธิพลการกอสรางจากรูปแบบของศิลปะลาว (ลานชาง) ท่ี แพรห ลายเขา มาสูภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เมื่อประมาณพุทธศตวรรษท่ี 24-25 โดยมีการผสมผสานกับ ศิลปะด้งั เดมิ และศลิ ปะสมยั รตั นโกสนิ ทร์จนกลายเป็นเอกลกั ษณ์ของสถาปัตยกรรมแบบอีสาน ท่ีมีรูปแบบ ท่แี ตกตางไปจากภูมภิ าคอนื่ ๆ สว น ลัก ษ ณะ รู ปแบบขอ งสถาปัตยก ร รม ท่ี เก่ีย ว ขอ ง สถาปัตย กร ร มที่ เก่ีย ว ขอ ง กั บ สาสนา เชน เทวลัยปราสาทเขาพนมรุง เป็นรูปแบบศิลปะขอมตั้งอยูบนยอดเขาพนมรุง อาเภอนางรอง จังหวัดบุรีรีมย์ กอ สรางดว ยหินสชี มพู เปน็ รปู สเ่ี หลี่ยมจัตุรัส ดานหนาทาเป็นมณฑปภายในปราสาทเป็นที่ ประทบั รูปเคารพ
สว นบา นเรอื นไมกระดานใตถนุ สูง เชนเดียวกับภาคอนื่ ๆ แตไ มนิยมตอยอดปูานลมให สูงเหมือนเรือนไทยภาคเหนือ มีประตูเดียว ไมนิยมทาหนาตางดานหลังแตจะทาเป็นชองเล็กๆ พอยื่น ศรีษะเกษออกไปเทา นนั้ ภายในบา นคอ นขางมดื ทึบ เพือ่ กนั ลมพดั เขา ในฤดูหนาว เทวลยั ปราสาทเขาพนมรุ้ง จงั หวดั บุรรี มี ย์ ท่ีมา : https://www.paiduaykan.com/province/Northeast/buriram/phanomrung.html#:~:text= 4. ภาคใต ภาคใตมีทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์ มาตั้งแตสมัยโบราณ มีการเผยแพรเขามาของ พระพุทธศาสนา สาสนาพราหมณ์-ฮินดู และศาสนาอสิ ลาม ทาใหอ ทิ ธพิ ลทางศิลปวัฒนธรรมจากภายนอก ไดเผยแพรเขา มาและชวยพัฒนาใหเกิดเป็นอาณาจักรสาคัญในบริเวณดินแดนคาบมหาสมุทรภาคใต เชน อาณาจักรลงั กาสุกะ อาณาจกั รตามพรลิงค์ อาณาจกั ศรวี ิชยั เป็นตน 4.1 จิตรกรรม การเขียนภาพบนฝาผนงั หรอื เขยี นลงบนวัตถุอื่นๆ จะมีรูปแบบที่คลาย กับภาคกลาง คือ นิยมนาเรื่องราวทางพุทธประวัติ ไตรภูมิ หรือนิทานชาดกมาถายทอดเป็นเรื่องราวใน ภาพเขียนบนฝาผนังตามสวนตางๆ ของอุโบสถ วิหาร หอไตร ภาพเขียนบางแหงจะไดรับอิทธิพลตาม แบบอยางของสกุลชางหลวงโดยตรง เชน วดั มัชฌิมาวาส จังหวัดสงขลา เป็นตน บางวัดเขียนขึ้นจากฝีมือ ชา งในทองถิ่นเองโดยมีการเลยี นแบบ หรือรับอิทธิพลจากจิตรกรรมของชางหลวงมาปรับใชในการทางาน
ของตน ในระยะหลังการเขียนภาพลงบนฝาผนังฝีมือจะไมประณีตเทาเดิม อยางไรก็ตามก็ยังมีการ แสดงออกถงึ เอกลักษณ์ของชางในทอ งถ่ินอยมู าก เชน ความจริงใจ ความกลาแสดงออกในการสรางสรรค์ ผลงาน เป็นตน ภาพชูชกพบทหารแห่งนครสีพี เปน็ จติ รกรรมฝาผนงั วัดคเู่ ต่า จงั หวดั สงขลา ที่มา : https://readthecloud.co/wat-khu-tao-songkla/ 4.2 ประติมากรรม ผลงานในยุคแรกไดรับอิทธิพลมาจากศิลปะอินเดีย มรการสราง เป็นรูปพระโพธิสัตว์ปางตางๆ การทาพระพิมพ์ดินดิบ จนสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกลาเจาอยูหัว รชั กาลท่ี 5 เป็นตน มา สกุลชางประตมิ ากรรมทางภาคใตเร่ิมเส่ือมลงตามลาดับ การสรางผลงานทัศนศิลป มักนิยมนาแบบอยางจากชางหลวงมาเป็นแนวทางทาใหแบบอยางของความเป็นทองถิ่นคอยๆ มีนอยลง อยา งไรกต็ ามตามวดั อารามทอ่ี ยนู อกเมืองออกไปก็ยังสามารถพบเห็นประติมากรรมทองถ่ินแบบภาคใตที่ ยังคงอนรุ กั ษ์สบื สานรปู แบบของวัฒนธรรมทองถน่ิ ไวอยบู า งในบางพ้ืนที่
ประตมิ ากรรมในภาคใต สวนใหญเ ปน็ ศิลปะ ในยุคอาณาจักรศรวี ิชัย มีศูนย์กลางอยูท่ี ชวา ตวั อยา งพระโพธสิ ัตว์อวโลกิเตศวร พระพุทธรูปสมัยศรีวิชัยมีลักษณะสาคัญ คือ พระวรกายอวบอวน อยา งมสี ัดสว น พระโอษฐเ์ ล็ก พระพักตร์คลา ยพระพุทธรูปเชียงแสน พระโพธิสัตวอ์ วโลกิเตศวร พระพทุ ธรปู สมัยศรีวิชยั ที่มา : https://readthecloud.co/wat-khu-tao-songkla/ 4.3 สถาปตั ยกรรม สวนมากเกิดข้ึนพรอมกับการเขามาของพระพุทธศาสนา นิกาย มหายาน หลักการท่ีสาคัญ ไดแก โบราณสถานและโบราณวัตถุท่ีสาคัญทางศาสนาหลายแหง เชน พระ บรมธาตุเมืองนครศรีธรรมราช (องค์เดิม) พระบรมธาตุไชยา เป็นตน รวมท้ังทีการสรางบานเรือนตาม แบบอยา งชา งหลวงสมยั รตั นโกสนิ ทร์ โดยไดม กี ารปรับปรงุ เปลย่ี นแปลงรูปแบบสถาปัตยกรรมใหเหมาะสม กบั ทองถ่ิน เชน เจดยี ์วัดราษฎรบ์ รู ณะ (วดั ชางให) วัดชลธาราสงิ เห วัดถ้าขวัญเมือง เป็นตน ตัวอยางสถาปัตยกรรมพระบรมธาตุไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีลักษณะของ สถาปตั ยกรรมแบบศรวี ชิ ัย คือการสรางสถูปทรงมณฑปใหมีฐานและเรือนธาตุรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส สวนยอด
เปน็ เจดยี ์แปดเหลี่ยม สวนฐานปากระฆังสรางเป็นช้ันลดหล่ันกันไป มีเจดีย์ประดับมุมและซุมบันแถลงใน แตละทศิ กรณีบานเรอื นในภาคใต ตัวเรือนกั้นดวยฝาแผนกระดานตีเกร็ดแนวนอน หลังคาหนา จั่วสงู สวนลักษณะของหลงั คาเรอื นจะนยิ มสรา งเป็นสแี่ บบ คือ หลังคาทรงจั่ว หลังคาทรงป้ันหยา หลังคา ทรง บราเนอร์ และหลงั คาทรงมนิลา ลักษณะเดนของเรือนในภาคใตจะนิยมวางเสาไวบนตีนเสา (ตอมอ) ท่กี อ อิฐและฉาบปนู เมื่อกรณที ตี่ อ งการยา ยบา นสามารถจะหามและยา ยไปตงั้ ใหมไดสะดวก พระบรมธาตไุ ชยา จงั หวัดสรุ าษฎรธ์ านี สถาปัตยกรรมทีม่ ลี ักษณะเดน่ เป็นเอกลกั ษณ์ แสดงถึงความงดงามของอาณาจกั รศรวี ชิ ยั ทม่ี า : https://www.tripadvisor.com/LocationPhotoDirectLink-g2237709-d2558038-i239774073- Wat_Phra_Boromathat_Chaiya-Chaiya_Surat_Thani_Province.html
8.6 ครูใหนักเรียนทากิจกรรมใบงานที่ 3.2 เร่ือง ทัศนศิลปไทย 4 ภูมิภาค ตอนที่ 1 ใหนักเรียน อธิบายลกั ษณะของงานทัศนศิลป ตอนท่ี 2 ใหนักเรียนทา My Mapping เปรียบเทียบความแตกตางของ งานทศั นศลิ ปไ ทยทง้ั 4 ภมู ภิ าค 8.7 ครูเปิดโอกาสใหนักเรียนซักถามขอสงสัย จากน้ันใหนักเรียนลงมือปฏิบัติงาน ครูคอยเดินดู และใหค าแนะนา ขัน้ สรุป (5 นาที) 8.8 ครสู ุมนักเรียนออกมานาเสนองานหนา ชนั้ เรียน พรอมบอกปัญหา อุปสรรค์ที่พบขณะทางาน และวิธีการแกไขปญั หารวมกัน 8.9 ครูและนักเรียนสรุปเน้ือหาความรู “ทัศนศิลปไทย 4 ภูมิภาค” รวมกัน “ประเทศไทยในแต ละภูมิภาคมีลักษณะทางภูมิสาสตร์ ประวัติความเป็นมา และลักษณะทางสังคมวัฒนธรรมท่ีแตกตางกัน ดังน้ันความแตกตา งทางดา นผลงานทัศนศิลปจ งึ มคี วามแตกตางไป เพราะเกิดจากการสรางสรรค์ของผูคน ในภูมิภาคน้ันๆ อีกทั้งในแตละภูมิภาคไดรับอิทธิพลดานศิลปะที่แตกตางกันจึงทาใหผลงานทัศนศิลปมี ลักษณะไมเหมือนกันและมีความสวยงามแตกตางกันไปตามรูปแบบการสรางของถ่ินนั้นๆ ” จากน้ัน นักเรียนเกบ็ อุปกรณ์ใหเ รยี บรอย 6. การวัดและประเมินผล 9.1 ทศั นศิลปไทย 4 ภมู ภิ าค (10 คะแนน) ประเด็นการ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ประเมนิ 5 4 3 2 10 ด้านความรู้ - (K) - -นั ก เ รี ย น -นั ก เ รี ย น -นักเรียนบอก -ไม -เพ่ือใหนักเรียน สามารถบอก สามารถบอก สามารถบอก ลัก ษ ณะ ข อ ง สามาร ลั ก ษ ณ ะ ข อ ง ลั ก ษ ณ ะ ข อ ง ลั ก ษ ณ ะ ข อ ง งานทัศนศิลป ถบอก งานทัศนศลิ ปไ ด ง า น ทั ศ น ศิ ล ป ง า น ทั ศ น ศิ ล ป ที่ ป ร ะ ก อ บ ได ท่ี ป ร ะ ก อ บ ท่ี ป ร ะ ก อ บ ไ ป ด ว ย -ไมมา ไ ป ด ว ย ไ ป ด ว ย จิ ต ร ก ร ร ม เรยี น จิ ต ร ก ร ร ม จิ ต ร ก ร ร ม ประติมากรรม ประติมากรรม ประติมากรรม และสถาปัตย- และสถาปัตย- และสถาปัตย- กรรมไดผิดถูก กรรมไดถูกตอง กรรมไดถูกตอง บ า ง แ ล ะ อ ธิ บ า ย แ ต อ ธิ บ า ย อ ธิ บ า ย องค์ประกอบ องค์ประกอบ องค์ประกอบ ไ ด ถู ก ต อ ง ไดไมค รบถว น ไดบ างสว น
ทั้ง ห มด ตร ง ประเด็น ด้านทกั ษะ -นั ก เ รี ย น -นั ก เ รี ย น -นั ก เ รี ย น -นั ก เ รี ย น -นั ก เ รี ย น -ไมสง (P) สามารถจาแนก สามารถจาแนก สามารถจาแนก สามารถจาแนก ส า ม า ร ถ งาน -เพ่ือใหนักเรียน เป รีย บ เทีย บ เป รีย บเทีย บ เปรีย บเทีย บ เปรีย บเทีย บ จ า แ น ก -ไม สามารถจาแนก ทัศนศิลปไทย ทัศนศิลปไทย ทัศนศิลปไทย ทัศนศิลปไทย เปรียบเทียบ มา เ ป รี ย บ เ ที ย บ ทงั้ 4 ภูมิภาคท่ี ท้งั 4 ภูมิภาคที่ ทง้ั 4 ภูมิภาคที่ ท้งั 4 ภูมิภาคท่ี ทัศนศิลปไทย เรยี น ลั ก ษ ณ ะ ป ร ะ ก อ บ ป ร ะ ก อ บ ป ร ะ ก อ บ ป ร ะ ก อ บ ท้งั 4 ภมู ิภาคที่ ทัศนศิลปไทย ไ ป ด ว ย ไ ป ด ว ย ไ ป ด ว ย ไ ป ด ว ย ป ร ะ ก อ บ ท้งั 4 ภมู ิภาคได จิ ต ร ก ร ร ม จิ ต ร ก ร ร ม จิ ต ร ก ร ร ม จิ ต ร ก ร ร ม ไ ป ด ว ย ประติมากรรม ประติมากรรม ประติมากรรม ประติมากรรม จิ ต ร ก ร ร ม และสถาปัตย- และสถาปัตย- และสถาปัตย- และสถาปัตย- ประติมากรรม กรรมไดถูกตอง กรรมไดถูกตอง ก ร ร ม ไ ด แ ต ก ร ร ม ไ ด แ ต และสถาปัตย- ทั้ง 4 ภูมิภาค ทั้ง 4 ภูมภิ าค ขอมูลละเอียด ขอมูลละเอียด กร ร ม ไ ด แ ต -My Mapping -My Mapping 3 ภู มิ ภ า ค 2 ภู มิ ภ า ค ขอมูลละเอียด แ ป ล ก ใ ห ม แ ป ล ก ใ ห ม จาก 4 ภมู ภิ าค จาก 4 ภูมภิ าค 1 ภู มิ ภ า ค ไมเหมือนใคร ไมเหมือนใคร -My Mapping -My Mapping จาก 4 ภมู ิภาค อ า น แ ต อ า น แ ป ล ก ใ ห ม ไมแปลกให ม -My Mapping ร า ย ล ะ เ อี ย ด ร า ย ล ะ เ อี ย ด ไมเหมือนใคร แ ล ะ อ า น ไมแปลกใหม งา ย ยาก แ ต อ า น ร า ย ล ะ เ อี ย ด แ ล ะ อ า น -ต ก แ ต ง -ต ก แ ต ง ร า ย ล ะ เ อี ย ด ยาก ร าย ล ะเ อีย ด ร ะ บ า ย สี ร ะ บ า ย สี ยาก -ต ก แ ต ง ยาก สวยงาม สวยงาม -ต ก แ ต ง ร ะ บ า ย สี -ต ก แ ต ง ทั้ง 4 ภูมภิ าค ทง้ั 4 ภูมภิ าค ร ะ บ า ย สี สวยงาม ร ะ บ า ย สี ไ ด -รู ป แ บ บ -รู ป แ บ บ สวยงาม -รูปแบบผลงาน เล็กนอ ย ผลงานสะอาด ผลงานสะอาด -รปู แบบผลงาน ส ะ อ า ด -รู ป แ บ บ เรียบรอย เรยี บรอ ย ส ะ อ า ด เรียบรอ ย ผ ล ง า น เรียบรอ ย เรยี บรอ ย ด้ า น จิ ต พิ สั ย - - - -เขาชั้นเรียน -เขาช้ันเรียน ไมเ ขา (A) แ ล ะ มี ค ว า ม แตไมมีความ ชั้น -มีวนิ ัย มุง ม่ันใ นกา ร มุง มั่นในการ เรยี น -มุ ง ม่ั น ใ น ก า ร ทางาน ทางาน ทางาน -เหน็ คุณคา ของ -ไมเห็นคุณคา -รักความเป็ น ศิลปะไทย ของศิลปะไทย ไทย
เกณฑก์ ารประเมิน ประเมนิ คะแนน 9 - 10 ดี 7 - 8 ปานกลาง 5 – 6 นอ ย 7. สื่อ อุปกรณ์และแหล่งการเรยี นรู้ สอ่ื การเรียนรู้ 1. รปู ภาพรปู แบบงานทัศนศิลปไ ทย 4 ภูมิภาค อุปกรณ์ - ใบงาน - สี - ปากกา/ดินสอ/ยางลบ/ไมบรรทัด แหล่งการเรยี นรู้ 1. หนงั สอื เรียน รายวชิ าพ้ืนฐาน ทัศนศิลป กลุมสาระการเรียนรศู ิลปะ ระดบั ช้ัน มัธยมศึกษาปที ี่ 1 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน พ.ศ. 2551 2. เว็บ Pinterest
ใบงานท่ี 3.2 เร่อื ง ทัศนศลิ ป์ไทย 4 ภูมิภาค ตอนท่ี 1 คาชีแ้ จง : จงอธิบายลกั ษณะของงานทศั นศลิ ป 1. จิตรกรรม หมายถงึ ……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ประติมากรรม หมายถึง………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. สถาปัตยกรรม หมายถงึ ……………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… ชื่อ…………………….....................นามสกุล…………………………………………..ช้นั …………….…เลขที่……………
ตอนที่ 2 คาช้แี จง : ใหน ักเรยี นทา My Mapping เปรยี บเทียบความแตกตางของงานทัศนศลิ ปไ ทย ทง้ั 4 ภูมภิ าค กระดาษ ขนาด A4 ช่ือ…………………….....................นามสกลุ …………………………………………..ชัน้ …………….…เลขท่ี…………...
แบบประเมนิ ใบงาน เคร่อื งมือ หนว่ ยการเรยี นรู้ที่………….เรอ่ื ง………………………………………………………………………ชน้ั ……………….. คาชีแ้ จง : ใหค รผู ูสอนประเมนิ ใบงานของนกั เรยี นแลวใหทาเครื่องหมาย ลงในชอ งที่ตรงกับ ระดบั คะแนน ลาดั ลาดับที่ เพ่ือให้นกั เรยี น เพ่ือให้นกั เรยี น ความ รวม 10 บที่ ชอ่ื – สกุล สามารถบอก สามารถจาแนก มงุ่ มั่นใน คะแนน ลกั ษณะของ ลกั ษณะทัศนศิลป์ไทย งานทศั นศิลป์ ท้ัง 4 ภมู ภิ าคได้ การ ทางาน ได้ 3 210543210210 1 ด.ช. บารมี ผาสุข 2 ด.ช. สรุ ยุทธ ปรเี ลิศ 3 ด.ช. วุฒชิ ยั เฉยดี 4 ด.ช. ภานพุ งศ์ ศรีขดั เครือ 5 ด.ช. วสุ รัตนศฤงค์ 6 ด.ญ. กติ ตยิ ารตั น์ ศรสี อาด 7 ด.ญ. สโรชา ศรีสอาด 8 ด.ช. ชโยดม วรุณพงษ์ 9 ด.ญ. แพรวา ธีรเดชพฒั นช์ ยั 10 ด.ช. ธนวุฒิ สวา งชม 11 ด.ญ. ณธดิ า จันทรกั ษา 12 ด.ช. ติณณภพ สระทองเรอื ง 13 ด.ช. สุทธพิ ร แสงจนั ทร์ 14 ด.ญ. ธมนวรรณ เฉิน 15 ด.ญ. นรินรชั ทาดี ลงชอ่ื ...................................................ผู้ประเมนิ (…………………..…………………………..) .................../................../.................
บนั ทึกผลหลงั การจดั การเรียนรู้ 1. ผลการจัดการเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ปญั หา/อุปสรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. ขอ้ เสนอแนะและแนวทางการแก้ไข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ …………………………………………..ครูผู้สอน (นางสาววภิ าพร ทพิ ราช) นกั ศึกษาฝกึ ประสบการณ์วิชาชพี ครู ความคดิ เห็นของครูพ่ีเลีย้ ง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื …………………………………………..ครูพีเ่ ล้ียง (นายพันศกั ดิ์ เสง็ สวุ รรณ) ครูวิทยาฐานะครูชานาญการพเิ ศษ ความคิดเหน็ ของรองผูอ้ านวยการสถานศกึ ษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ …………………………………………..ผู้ตรวจ (นางทิพมาศ ดวงจนั ทราศิริ) รองผู้อานวยการสถานศกึ ษาโรงเรียนวัดมะลิ ความคดิ เห็นของผอู้ านวยการสถานศกึ ษา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ …………………………………………..ผบู้ ริหารสถานศึกษา (นางสาวดรุณี เทพา) ผอู้ านวยการสถานศึกษาโรงเรียนวดั มะลิ
แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 12 รหัสวชิ า 21101 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ศลิ ปะ สาระ ทัศนศลิ ป์ หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 3 ทศั นศิลป์ของชาติและทอ้ งถ่ิน ภาคเรยี นท่ี 2 เรือ่ ง วาดลายประจายาม จานวน 1 คาบ ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 1 เวลา 1 ชัว่ โมง สอนเมอื่ วนั ท…่ี ……เดอื น………………….พุทธศกั ราช……………… ครผู สู้ อน วภิ าพร ทิพราช 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ศ 1.2 เขาใจความสัมพันธ์ระหวางทัศนศิลป ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เห็นคุณคางานทัศนศลิ ปท ่ีเปน็ มรดกทางวฒั นธรรม ภูมิปญั ญาทอ งถ่นิ ภูมิปัญญาไทย และสากล 2. ตัวชวี้ ัด ศ 1.2 ม. 1/1 ระบุ และบรรยายเกี่ยวกบั ลักษณะ รูปแบบงานทศั นศลิ ปข องชาติ และของทอ งถ่ินตนเองจากอดตี จนถึงปจั จบุ ัน 3. สาระสาคัญ เพอ่ื ใหอ ธบิ ายเกยี่ วกบั ลายประจายาม ซง่ึ ตน กาเนดิ อาจไดรบั แรงบันดาลใจจากธรรมชาติ มีโครงสรา งเป็นรูปสเ่ี หลยี่ มดานเทา มีลกั ษณะเป็นลายดอกมี 4 กลีบ ตรงกลางเป็นรูปวงกลม และรอบ นอกเป็นลายบัวส่ีดาน ลายประจายามมักใชประดับตามเสา ขอบประตูหนาตาง หนาตาง ของโบสถ์ วหิ าร พลบั พลาปราสาท พระเจดยี แ์ ละพระธาตุ เปน็ ตน เขาใจกระบวนการ ข้ันตอนการวาดลายประจายาม จนออกมาเป็นรูปลวดลายประจา ยามทม่ี ี ความโดดเดน สวยงาม ซึ่งลายประจายามเป็นแมลายสาคัญอีกแมลายหน่ึงของการเขียนภาพ ไทยโดยรูปทรงท่ัวไปจะเป็นรูปสี่เหล่ียมจัตุรัส ตรงกลางเป็นรูปวงกลม มีส่ีกลีบคลายกับดอกไม และ กลบี ทงั้ ส่มี าจากรปู ทรงของ แมลายกระจังตาออย ซง่ึ แมล ายประจายามนสี้ ามารถแตกแขนง ออกไปได อีกมากมาย โดยการใสไสซอนเขาไปจนดูหรูหรามากข้ึน และรูปทรงยังสามารถเปล่ียนจากส่ีเหล่ียม จตั รุ สั เปน็ ส่ีเหลยี่ มขนมเปยี กปนู ไดอ กี ดวย ซึง่ ทาใหเ กดิ ความงามที่แตกตา งไปอีกแบบหนงึ่
4. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 4.1 ด้านความรู้ (K) - เพื่อใหน ักเรยี นสามารถอธบิ ายลกั ษณะของลายประจายามได 4.2 ด้านทักษะ (P) - เพอ่ื ใหน กั เรียนสามารถวาดลายประจายามได 4.3 ด้านคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (A) 1) มวี ินยั (เขาช้นั เรียน, มคี วามรับผิดชอบตองานท่ีไดรบั มอบหมาย) 2) มุงม่ันในการทางาน (เอาใจใสตอการปฏิบัติหนาท่ีที่ไดรับมอบหมาย, พยายาม แกป ัญหาและ อุปสรรคในการทางานใหสาเร็จ) 3) รกั ความเป็นไทย (ภาคภูมิใจในขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปะ วฒั นธรรมไทย) 5. สาระการเรยี นรู้ ความรู ความเขา ใจในลักษณะของลายประจายาม ซง่ึ เป็นลายที่สาคัญของการเขยี นภาพไทย 7. สมรรถนะท่ีสาคญั 6.1 ความสามารถในการคดิ อยางสรางสรรค์ 6.2 ความสามารถในการใชเหตุผลในการคดิ แยกแยะไดด วยตนเอง 8. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 7.1 มีวนิ ยั 7.2 ใฝเุ รียนรู 7.3 มุง ม่นั ในการทางาน 7.4 มจี ิตสาธารณะ 9. กระบวนการจัดการเรยี นรู้ ขน้ั นา (5 นาที) 8.1 ครูกลา วทกั ทายนกั เรยี น 8.2 ครอู ธบิ ายส่งิ ที่ตอ งเรยี นในสปั ดาหน์ ้ีใหน กั เรียนทราบ “การลายประจายาม”
8.3 ครูสอบถามนักเรยี น “นกั เรยี นเคยสงั เกตลวดลายไทยท่ีปรากฏตามศาสนสถานตางๆ หรือไม และลวดลายเหลานั้นมีลักษณะอยางไร” (พิจารณาตามคาตอบของนักเรียน โดยใหอยูในดุลยพินิจของ ครูผูสอน) เพือ่ กระตุน ใหผ ูเรยี นเชื่อมโยงเขาสูเน้ือหาความรูเกีย่ วกับ ลายประจายาม ขนั้ สอน (50 นาที) 8.4 ครูอธิบายเกยี่ วกับท่มี าของลายไทยใหนักเรยี นฟงั ลายไทยเกดิ จากความเลอ่ื มใสศรัทธาในพุทธศาสนา จึงเป็นเหตุใหศิลปินประดิษฐ์โดยได แนวคิดมาจาก ดอกบัว พวงมาลัย ควันธูป และเปลวเทียน เป็นตน แลวนามาสรางสรรค์เป็นลวดลาย ตา งๆ บางสวนมกี ารพัฒนาจากรปู ดอกบัวหลากหลายชนิด อาทิ บวั หลวง บัวสัตตบงกช บัวสัตตบุษย์ และ มีการพฒั นาจากลกั ษณะการเคล่อื นไหวของเปลวไฟท่ีมีความพลิว้ ไหว ตนแบบของลายประดับท่ีเรียกวา ลายไทย คือ ลวดลายในศิลปะอินเดียโบราณ ที่ แพรห ลายเขา สดู ินแดนเมื่อกวาพันปีมาแลว และไดแ ปรเปล่ยี นลกั ษณะไปตามความนยิ มของดินแดนแตละ ทองถิ่นตามยุคสมัยท่ีเปลี่ยนมาเป็นลาดับ และชางไทยไดมีการพัฒนาลวดลายจนมีเอกลักษณ์เป็นของ ตนเองโดยมจี ุดประสงคข์ องการใชง านหรอื ใชประดับเป็นแนวทางในการออกแบบงานประดับ ซึ่งลวดลาย ประดับ ในวฒั นธรรมศาสนาก็เพือ่ ความเปน็ สริ ิมงคลตามความเชอ่ื ทางศาสนา ภาพลายไทย ทมี่ า : https://www.lib.ru.ac.th/journal2/?p=12009
8.5 ครใู หน กั เรียนดูภาพลายประจายามและอธิบายเกยี่ วกบั ลายประจายามใหนักเรียนฟัง ลายประจายามมีลักษณะหลายรูปแบบ ข้ึนอยกู่ บั ศิลปินตอ้ งการสร้างสรรคอ์ อกมาในรูปแบบใด ท่มี า : https://www.seesketch.com/ ลักษณะของลายประจายาม สันนิษฐานวามีท่ีมาจากดอกจันหรือลูกจันท่ีผาเอาเน้ือขาง ในออกเหลอื เพียงเปลอื กนอก เปน็ แมลายทเี่ ขียนอยูในรปู รางสีเ่ หลยี่ มจตั รุ สั ตะแคง มีลักษณะคลายดอกไม มเี กสรเป็นรูปวงกลมอยูตรงกลาง มีกลีบมนแหลมคลายกลบี บวั ลอมอยูโดยรอบ 4 กลีบ ดว ยกัน ประโยชน์ของแมลายประจายาม ลายน้ีประดับอยูตามเสา ขอบประตู หนาตางของ โบสถ์ วิหาร เจดีย์ ปราสาท หรือติดประดับกับเสาบุษบกทั้ง 4 ดาน ติดประดับอยูท่ีเคร่ืองสวมหัวประจา อยูท้ัง 4 ดาน เชนนี้เรียกวา “ประจายาม” เพราะเชื่อวาเป็นยามรักษาการณ์ปูองกันภัยแกผูคิดมิดีมิราย ลายประจายามนี้เมอ่ื นาไปใชก บั ลวดลายอ่ืนๆ มีชื่อเรียกตางกัน เชน ประจายามกามปู ประจายามลูกฟัก กา มปู ราชวตั รประจายาม ประจายามกานเกย้ี ว ลายซกี ดอกซอ น
ลกั ษณะลายประจายาม 4 กลีบ ทม่ี า : http://introductiontothai606.myreadyweb.com/article/topic-25177.html 8.6 ครูสาธิตวิธกี ารวาดลายประจายามใหน ักเรียนดู ขน้ั ตอนการวาดลายประจายาม 1. วาดเขยี นรูปส่เี หลย่ี มจัตุรัส 5 x 5 นิ้ว แบงกึง่ กลางเป็นเคร่อื งหมายบวก ((+) เสนสีแดง) และเคร่อื งหมายคณู ((x) เสนสีเขยี ว) ตดั กนั 2. วาดเขียนรูปส่ีเหลี่ยมจัตุรัส (เสนสีมวง) ใหเป็นมุมตั้งทับลงปลายเครื่องหมายบวกในกรอบ สเี่ หล่ยี ม
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399