Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หลักสูตรสถานทวิศึกษาบัญชี2558

หลักสูตรสถานทวิศึกษาบัญชี2558

Published by kwkanokorn, 2019-08-29 05:18:10

Description: หลักสูตรสถานทวิศึกษาบัญชี2558

Search

Read the Text Version

หลกั สตู รการจัดการเรยี นร่วม หลักสตู รอาชีวศึกษาและมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย (ทวศิ กึ ษา) โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ ๓๑ พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๘ สานกั บรหิ ารงานการศกึ ษาพเิ ศษ สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ

๒ ประกาศโรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ เรื่อง การใชห้ ลกั สตู รโรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ พุทธศักราช ๒๕๕๘ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ .......................................................................... อนุทินคาส่ังกระทรวงศึกษาธิการ ที่ สพฐ. ๒๙๓/๒๕5๑ เรื่องให้ใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ัน พื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ สั่ง ณ วันท่ี ๑๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ เพ่ือให้การจัดการศึกษาข้ันพื้นฐาน สอดคล้องกับสภาพความเปล่ียนแปลงทางเศรษฐกิจสังคมและความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาการเป็นการสร้างกล ยุทธ์ใหม่ในการพัฒนาคุณภาพ การศึกษาให้สามารถตอบสนองความต้องการของบุคคลสังคมไทย ผู้เรียนมี ศักยภาพในการแข่งขันและร่วมมืออย่างสร้างสรรค์ในสังคมโลก ปลูกฝังให้ผู้เรียนมีจิตสานึกในความเป็นไทย มี ระเบียบวนิ ัย คานึงถึงประโยชน์ส่วนรวมและยึดม่ันในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรง เป็นประมุข เป็นไปตามเจตนารมณ์มาตรา ๘๐ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ และ พระราชบญั ญตั ิการศกึ ษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๒ และทแี่ กไ้ ขเพิ่มเตมิ (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๔๕ ฉะน้ันโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ จึงได้จัดทาหลักสูตรโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ พุทธศักราช ๒๕๕๓ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ให้เป็นไปดังนี้ ปีการศึกษา ๒๕๕8 ให้ใช้หลักสูตรโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ พุทธศักราช ๒๕๕8 ตาม หลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ รายวชิ าสาระเพิ่มเติม กลุ่มสาระการงานอาชีพและ เทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 4-6 หลกั สตู รเรียนร่วมอาชวี ศึกษาและมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย(ทวิศกึ ษา) ทั้งนี้หลักสูตรโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการสถานศึกษาขั้น พื้นฐาน เมือ่ วันท่ี ๒ เดอื น มนี าคม พ.ศ. ๒๕๕๘ จงึ ประกาศใชห้ ลกั สูตรโรงเรียนตงั้ แต่บดั น้ีเปน็ ต้นไป ประกาศ ณ วันที่ ๒ เดือน มนี าคม พุทธศักราช ๒๕๕๘ (นายประมวล ฟองตา) (นางวิลาวัลย์ ยอดผ่านเมอื ง) ประธานคณะกรรมการสถานศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน (ผู้อานวยการโรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ ๓๑)

๓ สารบัญ คานา หน้า ประกาศโรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ ๓๑ เร่ืองการใช้หลักสตู รโรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ ความนา 2 วิสยั ทัศน์ 4 หลกั การ 7 จดุ หมาย 7 สมรรถนะหลกั ของผูเ้ รียน 8 คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 8 โครงสรา้ งหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ ระดบั ชน้ั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย 9 โครงสรา้ งหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐานและโครงสร้างหลกั สตู รประกาศนียบัตรวชิ าชีพ 10 โครงสร้างหลักสูตรประกาศนียบตั รวิชาชพี (ปวช.) ประเภทวชิ าพาณิชยกรรม สาขา วชิ าบญั ชี 11 โครงสร้างเวลาเรียนระดับประกาศนยี บตั รวิชาชีพ (ปวช.) สาขาบญั ชี 12 20 โครงสรา้ งหลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ ระดับชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๔ (สาขาบัญช)ี โครงสร้างหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ ระดับชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี ๕ (สาขาบัญช)ี 22 โครงสรา้ งหลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ ระดบั ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ ๖ (สาขาบัญช)ี 23 24 สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้รายวิชาพนื้ ฐาน คาอธิบายรายวิชาพืน้ ฐาน 25 คาอธบิ ายรายวิชากลุม่ บังคบั เลอื ก 38 คาอธิบายรายวิชาเพิ่มเติม 89 กจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี น 96 การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้และการส่งเสริมการเรียนรู้ตามหลักสตู รโรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ 125 ระเบยี บโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ วา่ ด้วยการประเมนิ ผลการเรียนตามหลักสูตรแกนกลาง 128 การศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ พ.ศ. ๒๕๕๘ เกณฑ์การวดั ผลและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 132 ภาคผนวก 157

๔ ความนา สืบเนอื่ งจากกระทรวงศกึ ษาธกิ ารมีนโยบายในการผลติ ผ้เู รยี นด้านอาชีวศึกษาให้มากขึ้น เพ่ือรองรับการ จ้างงาน ท้ังภาคธุรกิจบริการ ภาคอุตสาหกรรม และภาคการเกษตร โดยเฉพาะอย่างย่ิงกลุ่มอาชีพท่ีเป็นความ ต้องการของตลาดแรงงานที่กาลังขยายตัวในทุกภาคส่วน กระทรวงศึกษาธิการซึ่งเป็นหน่วยงานที่ผลิตกาลังคน จาเป็นอย่างยิ่งต้องเร่งประชาสัมพันธ์ สร้างความเข้าใจ ให้นักเรียนได้หันมาสนใจเรียนทางด้านอาชีพซึ่งมีตลาด รองรับอย่างแน่นอนให้มากข้ึน แต่เนื่องจากสภาพปัจจุบันค่านิยมของผู้ปกครองและผู้เรียนมุ่งท่ีจะสนับสนุนให้มี การเรียนสายสามัญเพ่ือเข้าสู่ระดับอุดมศึกษา ส่งผลให้ขาดกาลังคนในภาคแรงงานเป็นอย่างมาก รัฐบาลจึงมี นโยบายที่จะให้มีการจัดการศึกษาหลักสูตรเรียนร่วมอาชีวศึกษาและมัธยมศึกษาตอนปลายควบคู่กันไป เพื่อให้ ผู้สาเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายมีความรู้พ้ืนฐานด้านอาชีพและสามารถเข้าสู่ตลาดแรงงานได้ทันที การจัดการอาชีวศึกษาและฝึกอบรมวิชาชพี ถอื เปน็ อกี ช่องทางหนง่ึ ท่ีสอดคล้องและสัมพันธ์กับตลาดแรงงาน สามารถผลติ กาลังคนในระดับฝีมือที่ได้มาตรฐาน สานักงาน คณะกรรมการการอาชีวศึกษาได้ตระหนักถึงความสาคัญดังกล่าว จึงจัดให้มีการจัดการอาชีวศึกษาอย่าง หลากหลายยิ่งข้ึน ทง้ั น้เี พ่ือเปน็ การเพิ่มโอกาสทางการศึกษาดา้ นวิชาชีพให้แกป่ ระชาชนวยั เรียนและวัยทางานตาม ความถนัด ความสนใจ และสามารถเข้าถึงการอาชีวศึกษาได้ง่ายข้ึน โดยการขยายวิชาชีพและกลุ่มเปูาหมายเข้าสู่ ระบบการจัดการอาชีวศึกษาให้ชัดเจน ทั่วถึง และรวดเร็วข้ึน เพื่อเป็นทางเลือกสาหรับผู้เรียนระดับมัธยมศึกษา ตอนปลายท่ีมีความประสงค์จะเรียนควบคู่กันไปทั้งสายสามัญและสายอาชีพ เมื่อเรียนครบตามหลักสูตร ผู้เรียน สามารถสาเร็จการศกึ ษาทั้งหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนปลายสายสามัญและหลักสูตรสายอาชีพไปพร้อมกัน ทั้งนี้ได้ มีการกาหนดการจัดการเรียนการสอนโดยการทาความตกลงร่วมมือกันในการจัดการเรียนการสอนระหว่าง สถานศึกษาทเ่ี ปิดสอนมธั ยมศกึ ษากบั สถานศกึ ษา ที่เปิดสอนหลักสูตร ประกาศนียบตั รวิชาชพี (ปวช.)

๕ วตั ถุประสงค์ ๑. เพ่อื เพ่มิ โอกาสทางการศึกษาด้านอาชวี ศึกษาแกป่ ระชาชนวยั เรียนและวยั ทางานตามความถนัด และความสนใจ ๒. เพื่อขยายกลมุ่ เปูาหมายไปสู่นกั เรยี นระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลายในการเขา้ สู่หลกั สูตรอาชวี ศึกษา ๓. เพ่อื เปน็ ทางเลือกสาหรบั ผ้เู รียนในระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลายท่ีมีความประสงค์จะเรียนควบคู่ ไปกับหลกั สตู รประกาศนยี บตั รวิชาชีพ  การจดั การศกึ ษาวิชาชพี ในสถานศกึ ษาสังกัดสานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน พระราชบญั ญัติการศึกษาแห่งชาติ พทุ ธศักราช ๒๕๔๒ และทีแ่ ก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พุทธศักราช ๒๕๔๕ซง่ึ ดาเนนิ การปฏริ ปู การศกึ ษาทั้งดา้ นการบริหารจดั การและการจัดการเรียนการสอน โดยเนน้ ใหผ้ ู้เรยี น มี โอกาสเรียนร้ตู ลอดชีวิตตามความถนดั ความสนใจ โดยคานึงถงึ ความแตกตา่ งระหว่างบุคคล ฝกึ ทักษะ กระบวนการคดิ การจดั การ การเผชญิ สถานการณ์ และการประยกุ ต์ความรู้ เพื่อนามาใช้ปูองกันและแก้ปัญหา จดั กิจกรรมให้ผเู้ รยี นไดเ้ รยี นรู้จากประสบการณ์จรงิ ฝกึ การปฏบัตใิ ห้ท้ทาได้ คดิ เป็น ทาเปน็ รักการอ่าน และเกดิ การ ใฝุรู้อยา่ งต่อเนื่อง จดั การเรยี นการสอน โดยสดั สว่ นสมดลุ กนั รวมทั้งปลกู ฝงั คา่ นยิ มท่ีดีงาม และคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ไว้ในทุกวชิ า ซ่งึ กระทรวงศกึ ษาธิการได้ออกกฎกระทรวงวา่ ด้วยการแบง่ ระดบั และประเภทการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน เป็น ๓ ระดับ คือ ๑. การศึกษาระดับก่อนประถมศึกษา ๒. การศึกษาระดับประถมศกึ ษา ๓. การศึกษาระดบั มธั ยมศกึ ษา แบง่ เปน็ ๒ ระดับ คือ ๓.๑ การศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนตน้ ๓.๒ การศึกษาระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย แบ่งระดบั เป็น ๒ ประเภท คือ ๓.๒.๑ ประเภทสามัญศึกษา ๓.๒.๒ ประเภทอาชวี ศึกษา สาหรบั การจัดการศึกษาระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลายได้ถูกแบ่งการศึกษาออกเปน็ ๒ ประเภท ดังนี้ ประเภทสามญั ศึกษา หนว่ ยงานที่รับผิดชอบ คอื สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พื้นฐาน และประเภท อาชวี ศกึ ษา หนว่ ยงานท่ีรัผิดชอบ คือสานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา จากสภาวะการณ์ปจั จุบนั ทต่ี ้อง เผชิญการเปลย่ี นแปลงทางเศรษฐกจิ สังคม และเทคโนโลยีอยา่ งรวดเร็ว ทาใหท้ ุกคนในสังคมต้องพยายามปรับตวั ให้สามารถดารงชีวติ อยู่ได้ จึงทาให้สงั คมหันมาให้ความสนใจกบั การพฒั นาคุณภาพชีวติ ด้วยการศึกษามากขนึ้ โดยเฉพาะอย่างย่ิงดา้ นอาชีวศึกษา ทง้ั นี้ เพื่อตอบสนองต่อความตอ้ งการท้ังในการศกึ ษาต่อและการประกอบอาชีพ กอปรกบั รัฐบาล โดยกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ได้ใหค้ วามสาคัญกบั การจดั การอาชีวศกึ ษาเพ่ือต้องการใหน้ กั เรียนสนใจ เรียนสายอาชีพมากขน้ึ เม่อื สาเรจ็ การศึกษาแลว้ สามารถทางานไดท้ นั ที ดงั น้ันเพื่อเป็นการสนองนโยบายดังกลา่ ว ขา้ งต้น จงึ กาหนดให้ดาเนินการเปิดสอนหลกั สูตร ประกาศนยี บัตรวิชาชพี (ปวช.) ในโรงเรยี นมัธยม สงั กดั สานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พืน้ ฐาน ใน ๓ ลักษณะ คือ

๖ ลักษณะท่ี ๑ ข้ึนทะเบยี นเป็นนักเรียนของสถานศกึ ษาสังกัดสานักงานคณะกรรมการการ ลักษณะที่ ๒ อาชวี ศึกษาเรยี นหลกั สูตรประกาศนียบัตรวชิ าชีพ (ปวช.) จบแล้วได้วฒุ ปิ ระกาศนียบตั ร ลักษณะที่ ๓ วชิ าชพี (ปวช.) คือ รูปแบบที่ ๑ บุคลากรจากสถานศกึ ษาสงั กัดสานักงานคณะกรรมการการ อาชวี ศกึ ษา ไปสอนท่โี รงเรียนในสงั กัดสานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน รูปแบบที่ ๒ โรงเรยี นในสงั กัดสานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพ้นื ฐานสง่ นักเรียนมาเรียนทีส่ ถานศึกษาในสงั กดั สานกั งานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา ขึ้นทะเบียนเป็นนกั เรียนของสถานศึกษาสงั กัดสานักงานคณะกรรมการการศกึ ษา ขน้ั พื้นฐานเรียนหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนปลาย แตเ่ น้นวิชาชพี ตามหลักสตู รจบแลว้ ไดว้ ฒุ ิ มธั ยมศึกษาตอนปลายมี ๒ รูปแบบ คอื รูปแบบท่ี ๑ นักเรยี นเรียนรายวชิ าเพ่ิมเตมิ จากรายวิชาชีพหลักสตู รประกาศนียบัตร วิชาชีพ (ปวช.) เพือ่ เทียบโอนเขา้ สู่หลกั สูตรประกาศนยี บัตรวิชาชพี (ปวช.) พ.ศ. ๒๕๕๖ และ ตอ้ งลงทะเบยี นเปน็ นกั เรยี นของสถานศึกษาในสงั กดั สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เพื่อเรียนตามหลกั สูตรประกาศนยี บัตรวชิ าชพี (ปวช.) อีกอย่างนอ้ ย ๑ ภาคเรยี น จึงจะได้ วฒุ ปิ ระกาศนยี บตั รวชิ าชีพ (ปวช.) พ.ศ. ๒๕๕๖ รูปแบบที่ ๒ นกั เรยี นเรยี นรายวิชาเพมิ่ เตมิ จากรายวชิ าตามหลักสตู รประกาศนียบตั ร วชิ าชพี (ปวช.) เพอ่ื เป็นพ้ืนฐานการเรยี นต่อระดับประกาศนยี บตั รวิชาชพี ชน้ั สูง (ปวส.) ขนึ้ ทะเบยี นเป็นนักเรียนของสถานศกึ ษาสงั กดั สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษา ข้นั พืน้ ฐาน แตน่ าหลักสูตรประกาศนียบตั รวชิ าชีพ (ปวช.) พ.ศ. ๒๕๕๖ มาจัดการเรียน การสอน จบแล้วไดว้ ฒุ ิประกาศนียบตั รวชิ าชพี โดยใหส้ ถานศึกษาสังกัดสานกั งาน คณะกรรมการการอาชวี ศึกษาเปน็ สถานศึกษาพี่เลย้ี ง ท้ังนี้ ในการเปิดสอนนน้ั ให้เปน็ ไปตามหลัก เกณฑก์ ารขอเปิดสอนหลักสตู รระดบั ประกาศนียบัตรวชิ าชีพ (ปวช.) ในโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน

๗  การเรยี นแบบสะสมหน่วยกติ การจดั การอาชีวศกึ ษาและฝกึ อบรมวิชาชพี เปน็ การจัดการศึกษาวชิ าชีพให้สอดคลอ้ งกบั ความต้องการของ ตลาดแรงงาน ให้สามารถผลิตกาลังคนไดต้ ามเปาู หมายของประเทศรวมท้งั มที กั ษะฝีมอื ทไ่ี ดม้ าตรฐาน สานกั งาน คณะกรรมการการอาชีวศึกษาจงึ เห็นสมควรปรับปรุงรปู แบบการบริหารจดั การอาชวี ศึกษาให้มคี วามหลากหลาย เหมาะสม เพอ่ื เพิม่ โอกาสในการศึกษาด้านวชิ าชีพสาหรับประชาชนวยั เรียนและวยั ทางานตามความถนดั และความสนใจ ในการเข้าถึงการศกึ ษาอาชวี ศกึ ษาไดง้ า่ ยมากขึน้ ต้องขยายวธิ ีการและกลมุ่ เปาู หมาย เพื่อเพิม่ โอกาสใหส้ ามารถเขา้ สูร่ ะบบ การจดั การศกึ ษาอาชวี ศึกษาไดอ้ ย่างชดั เจน ทว่ั ถงึ และรวดเร็ว นบั เปน็ ทางเลอื กสาหรบั ประชาชนผสู้ นใจ นกั เรียนระดบั มัธยมศึกษาตอนต้น (ม. ๑-๓) และระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย (ม. ๔-๖) ทีม่ คี วามประสงคจ์ ะเพม่ิ พูนหรอื สะสมความรู้ ทักษะและเตรยี มตัวท่ีจะเขา้ ศกึ ษาในระดบั อาชวี ศึกษาตอ่ ไป การเรยี นรายวชิ าสะสมหนว่ ยกติ ซงึ่ ประกอบด้วยรายวิชาระยะสนั้ รายวชิ าเตรียม ปวช. และรายวชิ าเตรียม ปวส. จะเปน็ แนวทางหนง่ึ ในการเพม่ิ โอกาสทางดา้ นอาชวี ศกึ ษาในกบั ผสู้ นใจ นักเรียนทีเ่ รยี นในระดบั ตา่ กว่ามัธยมศึกษา ตอนตน้ และมธั ยมศึกษาตอนปลาย ได้มโี อกาสศึกษาในหลกั สตู รอาชวี ศกึ ษาตามความถนดั และความสนใจ โดยสามารถนา ผลการเรยี นจากรายวชิ าดังกลา่ ว มาขอโอนเพ่อื นับจานวนหนว่ ยกิตสะสมภายหลังจากทไ่ี ดส้ มคั รเข้าเรียน และขน้ึ ทะเบียน เป็นนกั เรยี นตามหลกั สูตรประกาศนียบตั รวิชาชีพ (ปวช.) หรอื เป็นนกั ศึกษาตามหลักสตู รประกาศนยี บตั รวิชาชพี ชน้ั สงู (ปวส.) กับสถานศกึ ษาในสงั กัดสานักงานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา วสิ ัยทศั น์ โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ ม่งุ จดั การศึกษาสาหรบั เด็กด้อยโอกาสท่ีมีคุณภาพและมาตรฐาน พัฒนาผเู้ รยี นใหเ้ ปน็ บคุ คลทม่ี ีคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ทักษะอาชีพและทักษะการดารงชีวิตท่ีดีและเปน็ สถานศกึ ษา ต้นแบบแหลง่ เรียนรู้ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงภายในปี ๒๕๕๘ หลกั การ หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ ๓๑ พุทธศกั ราช ๒๕๕๘ ตามหลกั สตู รแกนกลาง การศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ มหี ลกั การท่สี าคญั ดังน้ี ๑. เปน็ หลกั สูตรการศึกษาเพ่ือความเป็นเอกภาพของชาติ มจี ดุ หมายและมาตรฐานการเรียนรู้เป็น เปูาหมายสาหรบั พัฒนาเด็กและเยาวชนให้มีความรู้ ทักษะ เจตคติ และคณุ ธรรมบนพื้นฐานของความเป็นไทย ควบคู่กบั ความเป็นสากล ๒. เป็นหลกั สูตรการศึกษาเพ่ือปวงชน ที่ประชาชนทุกคนมีโอกาสได้รับการศึกษาอย่างเสมอภาค และมี คณุ ภาพ ๓. เปน็ หลกั สูตรการศึกษาที่สนองการกระจายอานาจ ให้สังคมมสี ว่ นรว่ มในการจดั การศกึ ษาให้ สอดคล้องกบั สภาพและความต้องการของท้องถน่ิ ๔. เปน็ หลกั สตู รการศึกษาที่มีโครงสรา้ งยดื หยุ่นทง้ั ด้านสาระการเรียนรู้ เวลาและการจัดการเรยี นรู้ ๕. เปน็ หลักสตู รการศึกษาทีเ่ น้นผ้เู รียนเป็นสาคญั ๖. เป็นหลักสูตรการศึกษาสาหรับการศกึ ษาในระบบ นอกระบบ และตามอธั ยาศยั ครอบคลุมทุก กลุม่ เปาู หมาย สามารถเทียบโอนผลการเรียนรู้ และประสบการณ์

๘ จดุ หมาย หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ พุทธศักราช ๒๕๕๘ ตามหลักสตู รแกนกลาง การศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ มุ่งพฒั นาผูเ้ รียนใหเ้ ป็นคนดี มปี ัญญา มีความสขุ มศี ักยภาพใน การศึกษาต่อ และประกอบอาชพี จึงกาหนดเปน็ จุดหมายเพื่อให้เกดิ กับผูเ้ รยี น เม่ือจบการศึกษาตามหลกั สตู ร ดงั นี้ ๑. มีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมที่พึงประสงค์ เห็นคุณค่าของตนเอง มีวินัยและปฏิบัติตนตาม หลกั ธรรมของพระพทุ ธศาสนา หรือศาสนาทต่ี นนับถอื ยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ๒. มีความรู้ ความสามารถในการสื่อสาร การคิด การแก้ปัญหา การใช้เทคโนโลยี และมีทักษะชวี ติ ๓. มสี ขุ ภาพกายและสุขภาพจติ ที่ดี มสี ขุ นสิ ัย และรกั การออกกาลงั กาย ๔. มีความรักชาติ มจี ิตสานกึ ในความเป็นพลเมอื งไทยและพลโลก ยึดมั่นในวิถีชีวิตและการปกครองตาม ระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษัตริยท์ รงเป็นประมุข ๕. มีจิตสานึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย การอนุรักษ์และพัฒนาส่ิงแวดล้อม มีจิต สาธารณะทม่ี งุ่ ทาประโยชนแ์ ละสรา้ งสงิ่ ทด่ี ีงามในสังคม และอยู่รว่ มกันในสังคมอยา่ งมีความสุข สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน หลกั สูตรโรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ ๓๑ พ.ศ. ๒๕๕๗ ตามหลักสตู รแกนกลาง พ.ศ. ๒๕๕๑ มุ่ง พัฒนาผู้เรยี นใหม้ ีสมรรถนะสาคัญ ๕ ประการตามเจตนารมณ์ของหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน ดงั น้ี ๑. ความสามารถในการส่อื สาร เป็นความสามารถในการรบั และสง่ สาร มีวฒั นธรรมในการใช้ภาษา ถา่ ยทอดความคดิ ความร้คู วามเข้าใจ ความรสู้ กึ และทัศนะของตนเองเพ่อื แลกเปลย่ี นข้อมลู ข่าวสาร และ ประสบการณ์อันจะเปน็ ประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเองและสังคม รวมท้ังเจรจาต่อรองเพือ่ ขจัดและลดปัญหาความ ขัดแยง้ ตา่ ง ๆ การเลือกรับหรือไม่รับข้อมลู ขา่ วสารดว้ ยหลกั เหตุผล และความถกู ต้อง ตลอดจนการเลือกใช้วธิ กี าร สอ่ื สารทมี่ ีประสิทธภิ าพโดยคานึงถึงผลกระทบท่ีมีตอ่ ตนเองและสังคม ๒. ความสามารถในการคดิ เป็นความสามารถในการคดิ วิเคราะห์ การคิดสงั เคราะห์ การคิดอยา่ ง สร้างสรรค์ การคิดอยา่ งมวี ิจารณญาณ และการคิดเปน็ ระบบ เพื่อนาไปสู่การสร้างองค์ความรหู้ รือสารสนเทศเพ่ือ การตดั สินใจเกยี่ วกบั ตนเองและสงั คมไดอ้ ย่างเหมาะสม ๓. ความสามารถในการแก้ปญั หา เปน็ ความสามารถในการแกป้ ัญหาและอปุ สรรคต่าง ๆ ท่ีเผชญิ ได้ อย่างถูกต้องเหมาะสมบนพน้ื ฐานของหลกั เหตผุ ล คณุ ธรรมและข้อมลู สารสนเทศ เข้าใจความสัมพันธ์และการ เปลยี่ นแปลงของเหตุการณต์ ่าง ๆ ในสังคม แสวงหาความรู้ ประยุกตค์ วามรู้มาใช้ในการปอู งกนั และแกไ้ ขปัญหา และมีการตดั สนิ ใจที่มปี ระสิทธภิ าพโดยคานงึ ถึงผลกระทบทเี่ กิดขน้ึ ตอ่ ตนเอง สงั คมและสง่ิ แวดล้อม ๔. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ เปน็ ความสามารถในการนากระบวนการตา่ ง ๆ ไปใช้ในการ ดาเนนิ ชวี ิตประจาวัน การเรยี นรดู้ ้วยตนเอง การเรยี นรู้อยา่ งต่อเน่ือง การทางานและการอย่รู ว่ มกันในสังคมดว้ ย การสรา้ งเสรมิ ความสมั พันธอ์ ันดรี ะหว่างบุคคล การจดั การปญั หาและความขัดแย้งตา่ ง ๆ อย่างเหมาะสม การ ปรบั ตัวให้ทนั กบั การเปล่ียนแปลงของสงั คมและสภาพแวดลอ้ มและการรู้จกั หลีกเล่ียงพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ที่ สง่ ผลกระทบต่อตนเองและผู้อนื่ ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เป็นความสามารถในการเลอื กและใชเ้ ทคโนโลยีด้าน ตา่ ง ๆ และมที ักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพื่อการพัฒนาตนเองและสงั คม ในด้านการเรียนรู้ การสื่อสาร การทางาน การแกป้ ัญหาอย่างสร้างสรรค์ ถูกตอ้ งเหมาะสมและมคี ุณธรรม

๙ คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๘ ตามหลกั สตู รแกนกลาง การศกึ ษาข้ันพนื้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ ม่งุ พฒั นาผู้เรียนให้มคี ณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ เพอื่ ให้ผู้เรยี นสามารถ อยู่รว่ มกบั ผ้อู น่ื ในสังคมได้อยา่ งมีความสุข ในฐานะพลเมอื งไทยและพลโลกดงั นี้ ๑. รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ๒. ซอ่ื สตั ยส์ จุ ริต ๓. มีวินัย ๔. ใฝุเรียนรู้ ๕. อย่อู ยา่ งพอเพียง ๖. มุ่งมน่ั ในการทางาน ๗. รักความเป็นไทย ๘. มจี ิตสาธารณะ

๑๐ โครงสรา้ งหลกั สตู รโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ โครงสร้างหลักสตู รโรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายประกอบด้วย โครงสรา้ งเวลาเรียนและโครงสร้างชน้ั ปี ดงั นี้ 1. โครงสรา้ งเวลาเรยี น เป็นโครงสร้างท่ีแสดงรายละเอียดในภาพรวม เวลาเรยี นของกลมุ่ สาระการเรียนรู้ ๘ กล่มุ สาระ ใช้เป็นเวลาเรียนพน้ื ฐาน เวลาเรยี นเพ่ิมเติมและเวลาในการจัดกิจกรรมพฒั นาผู้เรยี น จาแนกแตล่ ะช้นั ปี โครงสรา้ งเวลาเรียนระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ / กจิ กรรม เวลาเรียน ม.๔ ม.๕ ม.๖ รายวิชาพน้ื ฐาน ภาษาไทย ๘๐ ๘๐ ๘๐ คณติ ศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ ๘๐ ๘๐ ๘๐ สังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ ๘๐ ๘๐ ๘๐ สขุ ศึกษาและพลศึกษา ศิลปะ ๘๐ ๘๐ ๘๐ การงานอาชพี และเทคโนโลยี ภาษาอังกฤษ ๔๐ ๔๐ - รวมรายวิชาพื้นฐานทั้งหมด ๔๐ ๔๐ ๔๐ รายวชิ าเพ่ิมเติม กจิ กรรมพัฒนาผ้เู รยี น ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๑. กิจกรรมแนะแนว ๒. กจิ กรรมนกั เรยี น ๔๐ ๔๐ ๔๐ - ชมุ นุม/ นศท./ ผู้บาเพ็ญประโยชน์ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๓. กจิ กรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์ ๕๖๐ ๕๖๐ ๕๒๐ รวมกจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี น ๑,๖๔๐ ช่ัวโมง ไมเ่ กนิ กว่า ๑,๖๐๐ ชวั่ โมง ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๓๖๐ ชว่ั โมง

๑๑ โครงสร้างหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพนื้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ และ โครงสร้างหลกั สตู รประกาศนยี บตั รวชิ าชีพ (ปวช.) พุทธศกั ราช ๒๕๕๖ หลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน โครงสร้างหลกั สตู รประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) พุทธศกั ราช ๒๕๕๖ พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย รายวชิ า หนว่ ยกติ รายวิชา หนว่ ยกติ ๑.รายวิชาพื้นฐาน ๔๑ นก. ๑.หมวดวิชาทกั ษะชวี ติ ไม่น้อยกว่า ๒๒ นก. ๑.๑ กลมุ่ วชิ าภาษาไทย ไมน่ อ้ ยกว่า ๓ นก. ๑.๑ ภาษาไทย ๖ นก. ๑.๒ ภาษาต่างประเทศ(ภาษาองั กฤษ) ๖ นก. ๑.๒ กลุม่ วชิ าภาษาต่างประเทศ ไม่น้อยกว่า ๖ นก. ๑.๓ วิทยาศาสตร์ ๖ นก. ๑.๓ กลมุ่ วชิ าวทิ ยาศาสตร์ ไม่นอ้ ยกวา่ ๔ นก. ๑.๔ คณิตศาสตร์ ๖ นก. ๑.๔ กลุม่ วชิ าคณติ ศาสตร์ ไมน่ ้อยกว่า ๔ นก. ๑.๕ สงั คมศึกษาฯ ๘ นก. ๑.๕ กลมุ่ วิชาสังคมศึกษา ไม่นอ้ ยกวา่ ๓ นก. ๑.๖ สุขศกึ ษาและพลศึกษา ๓ นก. ๑.๖ กลุ่มวชิ าสขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ไม่นอ้ ยกว่า ๒ นก. ๑.๗ ศลิ ปศึกษา ๓ นก. ๑.๘ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ๓ นก. ๒.รายวิชาเพิม่ เติม ไม่เกนิ กว่า ๔๐ นก. ๒.หมวดวชิ าทกั ษะวิชาชพี ไม่น้อยกวา่ ๗๑ นก. ๒.๑ กลมุ่ ทักษะวิชาชพี พืน้ ฐาน ไมน่ อ้ ยกว่า ๑๘ นก. ๓.กจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี น ๓๖๐ ช่ัวโมง ๒.๒ กลมุ่ ทักษะวิชาชีพเฉพาะ รวม ไม่นอ้ ยกว่า ๘๑ นก. ๒.๓ กลมุ่ ทักษะวชิ าชพี เลือก ๒๔ นก. ๒.๔ ฝกึ ประสบการณ์ทักษะวชิ าชพี ไม่นอ้ ยกวา่ ๒๑ นก. ๒.๕ โครงการพฒั นาทักษะวิชาชีพ ๓.หมวดวชิ าเลือกเสรี ๔ นก. ๔.กจิ กรรมเสรมิ หลักสูตร ๔ นก. รวม ไม่นอ้ ยกวา่ ๑๐ นก. ๒ ช่ัวโมงตอ่ สัปดาห์ ไมน่ อ้ ยกวา่ ๑๐๓ นก.

๑๒ โครงสรา้ ง หลักสตู รประกาศนยี บตั รวชิ าชีพ (ปวช.) พุทธศกั ราช ๒๕๕๘ ประเภทวชิ าพาณิชยกรรม สาขา วชิ าบัญชี ผ้สู าเรจ็ การศึกษาตามหลักสูตรประกาศนียบตั รวิชาชพี (ปวช.) พทุ ธศักราช ๒๕๕๘ ประเภทวชิ า พาณชิ ยกรรม สาขา วิชาบญั ชี จะตอ้ งศกึ ษารายวิชาจากหมวดวชิ าตา่ งๆ ไมน่ อ้ ยกวา่ ๑๐๓ หนว่ ยกิต ดังโครงสรา้ งตอ่ ไปนี้ ๑.หมวดวชิ าทักษะชีวิต ไมน่ ้อยกว่า 22 หน่วยกติ ๑.๑ กลมุ่ วิชาภาษาไทย (ไม่น้อยกวา่ 3 หนว่ ยกิต) ๑.๒ กลุ่มวิชาภาษาตา่ งประเทศ (ภาษาอังกฤษ) (ไม่น้อยกว่า ๖ หน่วยกิต) ๑.๓ กลุ่มวิชาวทิ ยาศาสตร์ (ไมน่ อ้ ยกวา่ 4 หนว่ ยกิต) ๑.๔ กลมุ่ วิชาคณิตศาสตร์ (ไม่นอ้ ยกว่า 4 หน่วยกติ ) ๑.๕ กลุ่มวชิ าสังคมศึกษาฯ (ไมน่ อ้ ยกวา่ 3 หน่วยกิต) ๑.๖ กล่มุ วชิ าสุขศึกษาและพลศึกษา (ไมน่ ้อยกว่า 2 หน่วยกิต) ๒.หมวดวชิ าทักษะวชิ าชีพ ไม่นอ้ ยกว่า 71 นก. ๒.๑ กลุ่มทักษะวชิ าชีพพ้นื ฐาน ( ๑๘ หนว่ ยกิต) ๒.๒ กลมุ่ ทกั ษะวิชาชีพเฉพาะ (๒๔ หนว่ ยกิต) ๒.๓ กลมุ่ ทกั ษะวชิ าเลือก (ไม่นอ้ ยกว่า ๒๑ หน่วยกิต) ๒.๔ ฝกึ ประสบการณ์ทักษะวชิ าชีพ ( 4 หนว่ ยกิต ) 2.5 โครงการพัฒนาทักษะวชิ าชพี ( 4 หนว่ ยกิต ) ไม่น้อยกว่า ๑๐ หน่วยกติ 3.หมวดวชิ าเลอื กเสรี (2 ชว่ั โมง/สัปดาห์) ๓.กิจกรรมเสรมิ หลักสูตร ไมน่ อ้ ยกวา่ 103 นก. รวมไม่น้อยกว่า

๑๓ 1. หมวดวชิ าทักษะชีวติ ไมนอยกวา 22 หนวยกิต ใหเรยี นรายวชิ าลาดบั แรกของกลุมวิชาหรือตามทกี่ ลุมวิชากาหนดและเลือกเรียนรายวชิ าส วนทีเ่ หลอื ตามทกี่ าหนดในแตละกลุมวิชาใหสอดคลองหรอื สัมพนั ธกบั สาขาวชิ าทีเ่ รียนอีกรวมไมน อยกวา 22 หนวยกิต 1.1 กลุมวชิ าภาษาไทย (ไมนอ้ ยกวา 3 หนวยกิต) รหสั วชิ า ชอ่ื วิชา ท-ป-น 2000-1101 ภาษาไทยพ้ืนฐาน 2-0-2 2000-1102 ภาษาไทยเพ่อื อาชพี 1-0-1 2000-1103 ภาษาไทยธรุ กจิ 1-0-1 2000-1104 การพดู ในงานอาชพี 1-0-1 2000-1105 การเขียนในงานอาชพี 1-0-1 2000-1106 ภาษาไทยเชงิ สรางสรรค 1-0–1 2000*1101 ถึง 2000*1199 รายวิชาในกลมุ่ วชิ าภาษาไทยท่ีสถานศึกษาอาชวี ศึกษา * - * - * หรอื สถาบันพฒั นาเพมิ่ เตมิ 1.2 กลุมวชิ าภาษาตางประเทศ (ไมนอยกวา 6 หนวยกิต) รหสั วิชา ช่อื วชิ า ท-ป-น 2000-1201 ภาษาอังกฤษในชวี ติ จริง 1 2-0–2 2000-1202 ภาษาองั กฤษในชวี ิตจริง 2 2-0-2 2000-1203 ภาษาอังกฤษฟัง – พดู 1 0-2-1 2000-1204 ภาษาองั กฤษฟัง– พูด 2 0-2-1 2000-1205 การอานสอื่ สิ่งพมิ พในชิวตี ประจาวัน 0-2-1 2000-1206 การเขยี นในชิวตี ประจาวนั 0-2-1 2000-1208 ภาษาอังกฤษสาหรับงานพาณชิ ย 0-2-1 2000-1209 การโตตอบจดหมายธุรกิจ 0-2-1 2000-1219 ภาษาอังกฤษสาหรบั งานบัญชี 0-2–1 2000*1201 ถงึ 2000*1299 รายวิชาในกลุ่มวชิ าภาษาตางประเทศท่สี ถานศึกษาอาชีวศกี ษา * - * - * หรอื สถาบันพัฒนาเพิ่มเติม

๑๔ 1.3 กลุมวิชาวิทยาศาสตร ไม่น้อยกว่า 4 หนวยกติ ) รหัสวิชา ช่ือวิชา ท-ป-น 2000-1301 วทิ ยาศาสตรเพอ่ื พฒั นาทักษะชีวิต 1-2-2 2000-1303 วิทยาศาสตรเพ่ือพฒั นาอาชพธี ุรกิจและบริการ 1-2-2 2000-1306 โครงงานวทิ ยาศาสตร 0-2–1 2000*1301 ถึง 2000*1399 รายวชิ าในกลุ่มวชิ าวิทยาศาสตรทสี่ ถานศกึ ษาอาชีวศึกษา* - * - * หรือสถาบนั พัฒนาเพิม่ เติม 1.4 กลุมวิชาคณติ ศาสตร ไม่น้อยกวา่ 4 หน่วยกิต) รหสั วชิ า ชื่อวิชา ท-ป-น 2000-1401 คณิตศาสตรพื้นฐาน 2-0-2 2000-1402 คณติ ศาสตรพืน้ ฐานอาชพี 2-0-2 2000-1406 คณิตศาสตรพาณิชยกรรม 2-0–2 2000*1401 ถงึ 2000*1499 รายวิชาในกลุ่มวชิ าคณิตศาสตรท่สี ถานศกึ ษาอาชีวศกึ ษา* - * - * หรือสถาบนั พฒั นาเพิ่มเติม 1.5 กลุมวิชาสงั คมศึกษา (ไมนอยกวา 3 หน่วยกิต) รหัสวิชา ชอื่ วชิ า ท-ป-น 2000-1501 หนาท่ีพลเมอื งและศีลธรรม 2-0-2 2000-1502 ทักษะชวี ิตและสังคม 2-0-2 2000-1503 ภมู ิศาสตรและประวัตศิ าสตร์ไทย 2-0-2 2000-1504 อาเซยี นศกึ ษา 1-0-1 2000-1505 เหตกุ ารณปจจุบัน 1-0-1 2000-1506 วัฒนธรรมอาเซยี น 1-0–1 2000*1501 ถงึ 2000*1599 รายวิชาในกลุ่มวชิ าสงั คมศกึ ษาท่สี ถานศกึ ษาอาชีวศึกษา* - * - * หรือสถาบันพฒั นาเพิ่มเตมิ

๑๕ 1.6 กลุมวิชาสุขศกษาและพลศึกษา (ไมนอยกวา 2 หนวยกติ ) ใหเลือกเรยี นรายวชิ าในกลุมสุขศึกษาและกลมุ พลศกึ ษารวมกนั ไมนอยกวา 2 หนวยกิต หรอื เลือกเรียนรายวชิ าในกลุมบรู ณาการ 1.6.1 กลุมพลศึกษา รหัสวชิ า ชื่อวชิ า ท-ป-น 2000-1601 พลศึกษาเพ่อื พฒั นาสขุ ภาพ 0-2-1 2000-1602 ทกั ษะชวี ติ ในการพัฒนาสุขภาพ 0-2–1 2000-1603 การออกกาลงั กายเพ่ือเสริมสรางสมรรถภาพในการทางาน 1- 2 - 1 2000-1604 การปองกนั ตนเองจากภยั สงั คม 0-2-1 2000-1605 พลศกึ ษาเพอ่ื พัฒนากายภาพเฉพาะทาง 0-2-1 1.6.2 กลมุ สุขศกึ ษา รหัสวิชา ชื่อวชิ า ท-ป-น 2000-1606 การจดั ระเบยี บชีวิตเพ่อื ความสขุ 1-0-1 2000-1607 เพศวิถศี ึกษา 1-0-1 2000-1608 สง่ิ เสพติดศกึ ษา 1-0-1 1.6.2 กลุมบรู ณาการ รหสั วชิ า ช่ือวชิ า ท-ป-น 2000-1609 ทักษะการพฒั นาพฤตกิ รรมสขุ ภาพ 1-2-2 2000-1610 การพฒั นาคุณภาพชวี ิต 1-2–2 2000*1601 ถึง 2000*1699 รายวชิ าในกลมุ่ วชิ าสขุ ศกึ ษาและพลศึกษา *-*-* ท่ีสถานศกึ ษาอาชวี ศกึ ษาหรอสถาบันพัฒนาเพม่ิ เติม

๑๖ 2. หมวดวชิ าทกั ษะวิชาชีพ ไมนอยกวา 71 หนวยกิต 2.1 กลุมทกั ษะวิชาชีพพ้ืนฐาน (18 หนวยกติ ) ใหเรียนรายวชิ าตอไปนี้ รหสั วชิ า ชื่อวชิ า ท-ป-น 2001-1001 ความรเู กี่ยวกบงานอาชพี 2-0-2 2001-2001 คอมพวิ เตอรและสารสนเทศเพือ่ งานอาชพี 1-2-2 2200-1001 เศรษฐศาสตรเบื้องตน 2-0-2 2200-1002 การบญั ชีเบ้ืองตน 1 1-2-2 2200-1003 การบญั ชเี บือ้ งตน 2 1-2-2 2200-1004 การขายเบือ้ งต้น 1 2-0-2 2200-1005 การขายเบื้องต้น 2 1-2-2 2200-1006 พมิ พดดี ไทยเบอ้ื งตน 1-2-2 2200-1007 พมิ พดีดอังกฤษเบือ้ งตน 1-2-2  รายวชิ าเพม่ิ เติมในกลุมทกั ษะวิชาชีพพ้ืนฐาน สถานศึกษาอาชีวศึกษาหรือสถาบันสามารถเลือก รายวิชาตอไปนไี้ ปใชในกลุมทกั ษะวชิ าชีพเลอื ก หรือหมวดวชิ าเลอื กเสรไี ด รหสั วชิ า ชือ่ วชิ า ท-ป-น 2001-1002 การเปนผูประกอบการ 2-0-2 2001-1003 พลงั งานและส่งิ แวดลอ้ ม 1-2–2 2001-1004 อาชวี อนามยั และความปลอดภยั 1-2-2 2001-1005 การอนรุ กั ษทรพั ยากรและสิง่ แวดลอมในงานอาชีพ 1-0-1 2001-1006 กฎหมายแรงงาน 1-0-1 2001-1007 ความปลอดภัยในงานอาชีพ 1-0–1 2.2 กลุมทกั ษะวิชาชพี เฉพาะ (24 หนวยกิต) ใหเรียนรายวิชาตอไปน้ี รหัสวิชา ช่อื วชิ า ท-ป-น 2201-2001 การบัญชีสาหรับกจิ การซื้อขายสินคา 2-2-3 2201-2002 การบญั ชีหางหนุ สวน 2-2-3 2201-2003 การบัญชีบรษิ ัทจากดั 2-2-3 2201-2004 การบญั ชตี นทุนเบื้องตน 2-2-3 2201-2005 ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดากับการบัญชี 3-0-3 2201-2006 ภาษีเงนิ ไดน้ ิติบคุ คลกับการบญั ชี 3-0-3 2201-2007 การใชคอมพิวเตอรในงานบัญชี 2-2-3 2201-2008 กระบวนการจดั ทาบัญชี 1-4-3

๑๗ 2.3 กลุมทกั ษะวชิ าชพี เลือก (ไมน่ ้อยกวา 21 หนวยกิต) ใหเลอื กเรยี นรายวิชาต่อไปน้ี สาขางานการบัญชี รหสั วิชา ช่ือวิชา ท-ป-น 2201-2101 การบัญชสี ินคาและระบบบัญชีเดย่ี ว 3-0-3 2201-2102 การบญั ชีเชาซื้อและฝากขาย 2-2-3 2201-2103 การประยกุ ต์โปรแกรมตารางงานเพอ่ื งานบญั ชี 2-2-3 2201-2104 การบัญชีรวมคาและระบบใบสาคญั 2-2-3 2201-2105 การบญั ชีกจิ การพิเศษ 3-0-3 2201-2106 การบัญชีปฏิบตั กิ ารภาษาอังกฤษ 2-2-3 2201-2107 การบญั ชตี วั๋ เงิน 3-0-3 2201-2108 การบญั ชีสนิ คา 3-0-3 2201-2109 การจัดการสินคาคงคลัง 1-2-2 2201*2101 ถงึ 2201*2199 รายวชิ าชพี เลือกที่สถานศึกษาอาชีวศึกษาหรอื สถาบัน * - * - * พฒั นาเพ่ิมเติมตามความตองการของสถานประกอบการ หรือตามยทุ ธศาสตรของภมู ภิ าค รายวชิ าทวิภาคี รหัสวชิ า ชอื่ วิชา ท-ป-น 2201-5101 ปฏบิ ตั ิงานการบัญชี 1 *-*-* 2201-5102 ปฏิบตั งิ านการบัญชี 2 *-*-* 2201-5103 ปฏบิ ัติงานการบัญชี 3 *-*-* 2201-5104 ปฏิบัติงานการบญั ชี 4 *-*-* 2201-5105 ปฏบิ ัติงานการบัญชี 5 *-*-* 2201-5106 ปฏบิ ตั งิ านการบัญชี 6 *-*-* สาหรับการจดั การศึกษาระบบทวภิ าคีไมนอยกวา 21 หนวยกิต นนั้ ใหสถานศึกษารวมกบั สถานประกอบการวิเคราะหลกั ษณะงานของสถานประกอบการ เพือ่ กาหนดจานวนหนวยกิตและ รายละเอียดของ แตละรายวิชารวมทั้งการจดั ทาแผนการฝกอาชีพ การวดั และการประเมินผลรายวิชา โดยใหใชเวลาฝกใน สถานประกอบการไมนอยกวา 54 ชัว่ โมง มีคาเทากบั 1 หนวยกติ

๑๘ 2.4 ฝกประสบการณทกั ษะวิชาชีพ (4 หนว่ ยกิต) ใหเลอื กเรยี นวชิ า2201-8001 ฝกงาน หรอื 2201-8002 ฝกงาน 1 และ 2201-8003 ฝกงาน 2 รหสั วชิ า ชอ่ื วชิ า ท-ป-น 2201-8001 ฝกงาน *-*-4 2201-8002 ฝกงาน 1 *-*-2 2201-8003 ฝกงาน 2 *-*-2 2.5 โครงการพฒั นาทักษะวชิ าชีพ (4 หน่วยกิต) ใหเลือกเรยี นรายวิชา 2201-8501 โครงการ หรอื 2201-8502โครงการ 1 และ 2201-8503 โครงการ 2 รหัสวชิ า ชือ่ วิชา ท-ป-น 2201-8501 โครงการ *-*-4 2201-8502 โครงการ 1 *-*-2 2201-8503 โครงการ 2 *-*-2 3.หมวดวิชาเลอื กเสรี ไมนอยกวา 10 หนวยกิต ใหเลอื กเรยี นตามความถนัดและความสนใจจากรายวิชาท่กี าหนดหรือเลอื กเรียนจากรายวิชา ใน หลักสตู รประกาศนียบัตรวิชาชพี พุทธศกั ราช 2556 ทุกประเภทวชิ า สาขาวิชา ท้ังนส้ี ถานศกึ ษา อาชีวศกึ ษา หรือสถาบนั สามารถพัฒนารายวชิ าเพ่ิมเติมในหมวดวิชาเลอื กเสรีไดตามบรบิ ทและความ ตองการของชมุ ชน และทองถ่นิ รหัสวิชา ชือ่ วิชา ท-ป-น 2200-1008 กฎหมายพาณชิ ย์ 2-0-2 2XXX*9X01 ถึง 2XXX*9X99 รายวิชาที่สถานศึกษาอาชวี ศกึ ษาหรือสถาบัน * - * - * พัฒนาเพ่มิ เติมตามความต้องการของสถานประกอบการ หรือตามยทุ ธศาสตรของภูมภิ าค หรือเพื่อ การศกึ ษาตอ

๑๙ 4. กจิ กรรมเสริมหลักสูตร (2 ช่ัวโมงตอสัปดาห รหัสวชิ า ชอ่ื วชิ า ท - ป- น 2000-2001 กจิ กรรมลกู เสอื วิสามัญ 1 0-2-0 2000-2002 กิจกรรมลกู เสือวิสามญั 2 0-2-0 2000-2003 กจิ กรรมองคการวชิ าชีพ 1 0-2-0 2000-2004 กิจกรรมองคการวิชาชีพ 2 0-2-0 2000-2005 กจิ กรรมองคการวิชาชพี 3 0-2-0 2000-2006 กจิ กรรมองคการวชิ าชีพ 4 0-2-0 2000*2001 ถงึ 2000*20XX กิจกรรมนกั ศึกษาวิชาทหาร / กิจกรรมทส่ี ถานศึกษา 0 - 2 – 0

๒๐ โครงสรา้ งเวลาเรยี นระดับประกาศนยี บัตรวชิ าชีพ (ปวช.) สาขาบัญชี กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ / กิจกรรม เวลาเรียน ปวช.๑ ปวช.๒ ปวช.๓ รายวชิ าพ้ืนฐาน ภาษาไทย ๘๐ ๘๐ ๘๐ คณิตศาสตร์ ๘๐ ๘๐ ๘๐ วทิ ยาศาสตร์ ๘๐ ๘๐ ๘๐ สังคมศึกษาฯ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ประวัตศิ าสตร์ ๔๐ ๔๐ ๔๐ สขุ ศึกษาและพลศึกษา ๔๐ ๔๐ ๔๐ ศิลปศึกษา ๔๐ ๔๐ ๔๐ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ๔๐ ๔๐ ๔๐ ภาษาองั กฤษ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๕๖๐ ๕๖๐ ๕๖๐ รวมรายวชิ าพ้ืนฐานทั้งหมด รายวิชาเพิม่ เติม ๑,๖๘๐ ชว่ั โมง หน้าท่พี ลเมือง ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ รวมรายวิชาเพิม่ เติม กลุม่ วิชาเลือก (พาณิชยกรรม) ไมเ่ กินกว่า ๑,๖๐๐ ชว่ั โมง ความรู้เก่ยี วกับงานอาชีพ การบญั ชเี บ้ืองต้น ๑ ๘๐ การขายเบ้ืองต้น ๑ ๑๒๐ คอมพวิ เตอร์และสารสนเทศเพ่ืองานอาชีพ ๘๐ พิมพ์ดีดอังกฤษเบื้องต้น ๑ ๑๒๐ เศรษฐศาสตรเ์ บ้ืองต้น ๑๒๐ การบญั ชเี บือ้ งตน้ ๒ ๘๐ การขายเบื้องตน้ ๒ ๑๒๐ พมิ พด์ ีดไทยเบ้ืองตน้ ๑๒๐ การใช้คอมพิวเตอรใ์ นงานบญั ชี ๑๒๐ การเป็นผู้ประกอบการ ๑๖๐ การบัญชีสาหรบั กิจการซื้อขายสินค้า ๘๐ การบญั ชีห้างหุน้ สว่ น การบญั ชสี นิ ค้าและระบบบญั ชเี ด่ยี ว ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๒๐

กลมุ่ สาระการเรียนรู้ / กิจกรรม ปวช.๑ เวลาเรยี น ๒๑ ปวช.๒ การบัญชีตน้ ทุนเบื้องตน้ ๑,๒๐๐ ๑๖๐ ปวช.๓ การบญั ชบี รษิ ทั จากดั ๔๐ ๑๖๐ กระบวนการจดั ทาบัญชี ๔๐ ๒๐๐ ๑๒๐ ภาษีเงนิ ไดบ้ ุคคลธรรมดากับการบญั ชี ๔๐ ๑๒๐ การบญั ชตี ว๋ั เงิน ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ภาษเี งนิ ไดน้ ติ บิ ุคคลกับการบัญชี ๑๒๐ โครงการ ๑,๒๐๐ ๑๒๐ การจัดการสนิ คา้ คงคลัง ๑,๒๐๐ ๑๖๐ การบัญชกี จิ การพเิ ศษ ๑๖๐ การบญั ชีสินค้า ๔๐ ๑๖๐ การบัญชีเช่าซ้ือและฝากขาย ๔๐ ๑๖๐ การประยุกต์โปรแกรมตารางงานเพ่ืองานบญั ชี ๔๐ ๑,๑๒๐ การส่งเสรมิ การขาย ๑๒๐ คอมพิวเตอร์และการบารุงรักษา ๓๖๐ ชวั่ โมง ๔๐ ๔๐ รวมวิชาเลือก กิจกรรมพฒั นาผูเ้ รยี น ๔๐ ๑. กจิ กรรมแนะแนว ๑๒๐ ๒. กิจกรรมนักเรียน - ชุมนุม/ นศท./ ผูบ้ าเพ็ญประโยชน์ ๓. กจิ กรรมเพ่ือสงั คมและสาธารณประโยชน์ รวมกจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี น

๒๒ โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ ๓๑ อาเภอแมแ่ จ่ม จงั หวดั เชยี งใหม่ โครงสรา้ งรายวิชาที่เปดิ สอนสาหรบั นกั เรยี นรายวชิ า ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๔ (สาขาบัญชี) ภาคเรยี นที่ ๑ ภาคเรยี นที่ ๒ หมายเหตุ รหัสวิชา รายวชิ า นน./นก ชม.ทีส่ อน/ รหัสวชิ า รายวชิ า นน./นก ชม.ท่สี อน/ สปั ดาห์ สัปดาห์ กลมุ่ รายวชิ าพื้นฐาน ๒ ๒ ท๓๑๑๐๑ ภาษาไทย ๑.๐(๖๐) ๒ ท๓๑๑๐๒ ภาษาไทย ๑.๐(๖๐) ๒ ๒ ค๓๑๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๑.๐(๖๐) ๒ ค๓๑๑๐๒ คณิตศาสตร์ ๑.๐(๖๐) ๑ ๑ ว๓๑๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์ ๑.๐(๖๐) ๒ ว๓๑๑๐๒ วิทยาศาสตร์ ๑.๐(๖๐) ๑ ๑ ส๓๑๑๐๑ สังคมศกึ ษาฯ ๑.๐(๔๐) ๒ ส๓๑๑๐๓ สงั คมศกึ ษาฯ ๑.๐(๔๐) ๒ ส๓๑๑๐๒ ประวตั ศิ าสตร์ ๐.๕(๒๐) ๑ ส๓๑๑๐๔ ประวัติศาสตร์ ๐.๕(๒๐) ๑๔ พ๓๑๑๐๑ สขุ ศึกษาพลศึกษา ๐.๕(๒๐) ๑ พ๓๑๑๐๒ สุขศึกษาพลศกึ ษา ๐.๕(๒๐) ๑ ศ๓๑๑๐๑ ศิลปศึกษา ๐.๕(๒๐) ๑ ศ๓๑๑๐๒ ศลิ ปศกึ ษา ๐.๕(๒๐) ๓ ๓ ง๓๑๑๐๑ การงานอาชีพและ ๐.๕(๒๐) ๑ ง๓๑๑๐๒ การงานอาชีพและ ๐.๕(๒๐) ๔ เทคโนโลยี เทคโนโลยี ๒ อ๓๑๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๑.๐(๔๐) ๒ อ๓๑๑๐๒ ภาษาอังกฤษ ๑.๐(๔๐) ๑๕ รวมกลมุ่ รายวิชาพื้นฐาน ๗.๐(๓๔๐) ๑๔ รวมกล่มุ รายวิชาพนื้ ฐาน ๗.๐(๓๔๐) กลุ่มรายวชิ าเพ่ิมเตมิ หน้าทพี่ ลเมอื ง ๐.๕(๒๐) ๑ หนา้ ท่ีพลเมอื ง ๐.๕(๒๐) ง๓๑๒๗๓ การบัญชเี บ้อื งตน้ ๑ ๑.๕ ความรเู้ ก่ียวกบั งานอาชพี ง๓๑๒๗๑ การขายเบ้ืองต้น ๑ ๑ ง๓๑๒๗๒ คอมพิวเตอร์และ ๑.๕ ๓ ง๓๑๒๘๙ การขายเบือ้ งตน้ ๒ ๑.๕ สารสนเทศเพอ่ื งานอาชีพ ง๓๑๒๗๔ ๑.๕ ๒ ง๓๑๒๙๒ พมิ พด์ ีดไทยเบ้อื งต้น ๑.๕ ๑ ๗.๕ ๓ ง๓๑๒๙๓ การใชค้ อมพิวเตอรใ์ น ๒ ง๓๑๒๗๕ พิมพ์ดีดอังกฤษเบื้องตน้ ๑ งานบัญชี ๑ ง๓๒๒๗๑ เศรษฐศาสตรเ์ บื้องต้น ๓ ง๓๑๒๙๑ การเป็นผปู้ ระกอบการ ๗.๕ ๒ รวมกลุม่ วชิ าเลอื ก ๑๕ รวมกลมุ่ วิชาเลอื ก กิจกรรมพัฒนาผ้เู รยี น ๑.กิจกรรมแนะแนว (๒๐) ๒.กิจกรรมนกั เรยี น (๒๐) -ชมุ นุม/นศท./ผ้บู าเพ็ญประโยชน์ ๓.กิจกรรมเพือ่ สังคมและสาธารณประโยชน์ (๒๐) รวมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน (๖๐) รวมทัง้ หมด

๒๓ โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ อาเภอแมแ่ จ่ม จงั หวดั เชียงใหม่ โครงสร้างรายวชิ าทเ่ี ปดิ สอนสาหรบั นักเรยี นรายวชิ า ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๕ (สาขาบัญช)ี ภาคเรยี นท่ี ๑ ภาคเรยี นท่ี ๒ หมายเหตุ รหสั วิชา รายวิชา นน./นก ชม.ท่สี อน/ รหสั วชิ า รายวชิ า นน./นก ชม.ท่ี สปั ดาห์ สอน/ สัปดาห์ กลุ่มรายวชิ าพ้ืนฐาน ๒ ท๓๒๑๐๑ ภาษาไทย ๑.๐(๖๐) ๒ ท๓๒๑๐๒ ภาษาไทย ๑.๐(๖๐) ๒ ค๓๒๑๐๒ คณิตศาสตร์ ๑.๐(๖๐) ๒ ค๓๒๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๑.๐(๖๐) ๒ ว๓๒๑๐๒ วทิ ยาศาสตร์ ๑.๐(๖๐) ๒ ส๓๒๑๐๓ สงั คมศึกษาฯ ๑.๐(๔๐) ๑ ว๓๒๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์ ๑.๐(๖๐) ๒ ส๓๒๑๐๔ ประวตั ิศาสตร์ ๐.๕(๒๐) ๑ พ๓๒๑๐๒ สุขศกึ ษาพลศึกษา ๐.๕(๒๐) ๑ ส๓๒๑๐๑ สังคมศึกษาฯ ๑.๐(๔๐) ๒ ศ๓๒๑๐๒ ศลิ ปศึกษา ๐.๕(๒๐) ๑ ๐.๕(๒๐) ๒ ส๓๒๑๐๒ ประวัติศาสตร์ ๐.๕(๒๐) ๑ ๑.๐(๔๐) ๑๔ พ๓๒๑๐๑ สขุ ศกึ ษาพลศึกษา ๐.๕(๒๐) ๑ ๗.๐(๓๔๐) ๑ ศ๓๒๑๐๑ ศิลปศึกษา ๐.๕(๒๐) ๑ ๐.๕(๒๐) ๔ ง๓๒๑๐๑ การงานอาชพี และ ๐.๕(๒๐) ๑ ง๓๒๑๐๒ การงานอาชพี และเทคโนโลยี ๒ ๕ เทคโนโลยี ๒.๕ ๓ ๑.๕ ๓ อ๓๒๑๐๑ ภาษาอังกฤษ ๑.๐(๔๐) ๒ อ๓๒๑๐๒ ภาษาอังกฤษ ๑.๕ ๑๕ ๗.๕ รวมกลมุ่ รายวิชาพ้นื ฐาน ๗.๐(๓๔๐) ๑๔ รวมกลุ่มรายวิชาพืน้ ฐาน (๒๐) กลมุ่ รายวชิ าเพม่ิ เติม (๒๐) หนา้ ทพ่ี ลเมือง ๐.๕(๒๐) ๑ ส๓๒๒๐๕ หน้าทพี่ ลเมือง (๒๐) กลมุ่ วิชาเลอื ก (พาณชิ ยกรรม) เรียนรว่ ม ปวช.สาขาการบัญชี (๖๐) ง๓๒๒๙๔ การบัญชสี าหรบั กิจการ ๒ ๔ ง๓๒๒๘๗ การบัญชีบรษิ ทั จากัด ซือ้ ขายสินคา้ ง๓๒๒๗๒ การบญั ชีห้างห้นุ ส่วน ๒ ๔ ง๓๒๒๘๖ กระบวนการจดั ทาบญั ชี ง๓๒๒๗๕ การบัญชีสนิ คา้ และ ๑.๕ ๓ ง๓๒๒๘๘ ภาษีเงินไดบ้ ุคคลธรรมดากับการ ระบบบัญชเี ดยี่ ว บญั ชี ง๓๒๒๗๓ การบัญชตี น้ ทนุ เบอ้ื งตน้ ๒ ๔ ง๓๒๒๘๙ การบัญชตี ัว๋ เงนิ รวมกลุ่มวิชาเลือก ๗.๕ ๑๕ รวมกลมุ่ วิชาเลอื ก กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี น กจิ กรรมพฒั นาผูเ้ รียน ๑.กจิ กรรมแนะแนว (๒๐) ๑.กิจกรรมแนะแนว ๒.กจิ กรรมนกั เรียน (๒๐) ๒.กจิ กรรมนักเรียน -ชุมนมุ /นศท./ผูบ้ าเพ็ญประโยชน์ -ชุมนมุ /นศท./ผบู้ าเพ็ญประโยชน์ ๓.กิจกรรมเพ่อื สังคมและ (๒๐) ๓.กจิ กรรมเพอื่ สังคมและ สาธารณประโยชน์ สาธารณประโยชน์ รวมกจิ กรรมพัฒนาผ้เู รียน (๖๐) รวมกจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น รวมท้ังหมด รวมทงั้ หมด

๒๔ โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ อาเภอแมแ่ จ่ม จังหวัดเชียงใหม่ โครงสร้างรายวชิ าทเ่ี ปดิ สอนสาหรบั นักเรียนรายวชิ า ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ ๖ (สาขาบัญช)ี ภาคเรยี นที่ ๑ ภาคเรยี นที่ ๒ หมาย เหตุ ชม.ที่ ชม.ที่ สอน/ รหัสวิชา รายวิชา นน./นก สอน/ รหสั วชิ า รายวชิ า นน./นก สัปดาห์ สปั ดาห์ ๒ ๒ กลุ่มรายวชิ าพน้ื ฐาน ๒ ๒ ท๓๓๑๐๑ ภาษาไทย ๑.๐(๖๐) ๒ ภาษาไทย ๑.๐(๖๐) ๑ ค๓๓๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๑.๐(๖๐) ๒ คณติ ศาสตร์ ๑.๐(๖๐) ๑ ว๓๓๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์ ๑.๐(๖๐) ๒ วทิ ยาศาสตร์ ๑.๐(๖๐) ๑ สังคมศึกษาฯ ๑.๐(๔๐) ๑ ส๓๓๑๐๑ สังคมศึกษาฯ ๑.๐(๔๐) ๒ ประวตั ศิ าสตร์ ๐.๕(๒๐) ๒ ส๓๓๑๐๒ ประวตั ศิ าสตร์ ๐.๕(๒๐) ๑ สขุ ศึกษาพลศึกษา ๐.๕(๒๐) พ๓๓๑๐๑ สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ๐.๕(๒๐) ๑ ศิลปศึกษา ๐.๕(๒๐) ๑๔ การงานอาชีพและ ศ๓๓๑๐๑ ศิลปศกึ ษา ๐.๕(๒๐) ๑ เทคโนโลยี ๐.๕(๒๐) ๑ ภาษาองั กฤษ ง๓๓๑๐๑ การงานอาชพี และ ๐.๕(๒๐) ๑ ๑.๐(๔๐) ๔ เทคโนโลยี รวมกลุม่ รายวชิ าพนื้ ฐาน ๑.๐(๔๐) ๒ ๗.๐(๓๔๐) ๔ อ๓๓๑๐๑ ภาษาอังกฤษ หนา้ ทีพ่ ลเมอื ง ๔ ๗.๐(๓๔๐) ๑๔ ๐.๕(๒๐) ๔ รวมกล่มุ รายวชิ าพนื้ ฐาน ๑๖ กลมุ่ รายวชิ าเพม่ิ เติม หนา้ ทพ่ี ลเมือง ๐.๕(๒๐) ๑ กลุม่ วชิ าเลอื ก (พาณชิ ยกรรม) เรียนรว่ ม ปวช.สาขาการบญั ชี ง๓๓๒๖๑ ภาษีเงนิ ได้นติ ิบุคคลกับ ๑.๕ ๓ การบัญชีเช่าซื้อและฝากขาย ๒ การบญั ชี ๒ การประยุกตโ์ ปรแกรม ๒ ง๓๓๒๖๓ โครงการ ๔* ตารางงานเพอื่ งานบญั ชี ๒ การสง่ เสรมิ การขาย ง๓๓๒๖๐ การจัดการสินค้าคงคลัง ๑.๕ ๓ คอมพวิ เตอร์และการ ๘ บารงุ รักษา ง๓๓๒๖๓ การบญั ชกี จิ การพเิ ศษ ๑.๕ ๓ (๒๐) รวมกลุ่มวชิ าเลือก (๒๐) ง๓๓๒๖๒ การบัญชีสนิ คา้ ๑.๕ ๓ กิจกรรมพัฒนาผเู้ รียน ๑๐ ๑๒ (๒๐) รวมกล่มุ วชิ าเลอื ก ๑.กิจกรรมแนะแนว กิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น (๒๐) ๒.กิจกรรมนักเรยี น (๖๐) (๒๐) -ชมุ นมุ /นศท./ผูบ้ าเพ็ญ ๑.กจิ กรรมแนะแนว ประโยชน์ ๒.กิจกรรมนกั เรียน ๓.กิจกรรมเพื่อสังคมและ -ชมุ นุม/นศท./ผู้บาเพ็ญประโยชน์ สาธารณประโยชน์ ๓.กจิ กรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์ (๒๐) รวมกจิ กรรมพัฒนา ผู้เรียน รวมกิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน (๖๐) รวมทง้ั หมด รวมท้ังหมด

๒๕ โครงสรา้ ง หลักสตู รมธั ยมศึกษาตอนปลาย พุทธศกั ราช ๒๕๕๘ ผสู้ าเรจ็ การศกึ ษาตามหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนปลาย พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๘ จะตอ้ งศึกษา รายวชิ าจากหมวดวชิ าตา่ งๆ ตามกลุ่มสาระการ เรียนรู้ ๘ กลุ่มสาระการเรียนรรู้ วม ๓ ปี จานวน ๑,๖๔๐ ชว่ั โมง (๔๑ หน่วยกติ ) กิจกรรมพัฒนาผเู้ รียน ๓๖๐ ชวั่ โมง และรายวิชา/กจิ กรรมทสี่ ถานศกึ ษาจดั เพิ่มเติมตาม ความพร้อมและจุดเนน้ ปลี ะไมน่ อ้ ยกวา่ ๑,๖๐๐ ชว่ั โมง (๔๐หนว่ ยกติ ) รวม ๓ ปีไมน่ ้อยกวา่ ๓,๖๐๐ ชว่ั โมง ดงั โครงสร้างตอ่ ไปนี้ ๑.รายวิชาพืน้ ฐาน ไมน่ ้อยกว่า ๔๑ หน่วยกิต ๑.๑ กลุ่มวิชาภาษาไทย (ไม่นอ้ ยกวา่ ๖ หน่วยกิต) ๑.๒ กลมุ่ วชิ าภาษาตา่ งประเทศ (ภาษาอังกฤษ) (ไมน่ ้อยกวา่ ๖ หนว่ ยกิต) ๑.๓ กลมุ่ วชิ าวิทยาศาสตร์ (ไมน่ อ้ ยกว่า ๖ หน่วยกิต) ๑.๔ กลุ่มวชิ าคณิตศาสตร์ (ไม่น้อยกว่า ๖ หน่วยกิต) ๑.๕ กลุ่มวิชาสงั คมศึกษาฯ (ไม่น้อยกว่า ๘ หน่วยกติ ) ๑.๖ กลุม่ วิชาสุขศกึ ษาและพลศกึ ษา (ไม่นอ้ ยกว่า ๓ หนว่ ยกิต) ๑.๗ กลุ่มวชิ าศลิ ปศกึ ษา (ไมน่ อ้ ยกวา่ ๓ หน่วยกติ ) ๑.๘ กลมุ่ วชิ าการงานอาชีพและเทคโนโลยี (ไม่นอ้ ยกวา่ ๓ หนว่ ยกิต) ๒.รายวิชาเพ่ิมเติม ไมน่ ้อยกวา่ ๔๐ นก. ๓.กจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี น (๓๖๐ ชว่ั โมง) ๘๑ นก. รวมไมน่ ้อยกว่า ๑.รายวิชาพนื้ ฐาน ไมน่ อ้ ยกว่า ๔๑ หนว่ ยกิต ใหเ้ รยี นรายวิชาลาดบั แรกของกลุ่มวิชา หรือตามทก่ี ล่มุ วชิ ากาหนด และเรียนรายวิชาส่วนทเ่ี หลือตามท่ี กาหนดในแตล่ ะกลมุ่ วิชา ให้สอดคล้องหรือสัมพันธ์กับสาขาวชิ าท่ีเรียนอีก รวมไม่นอ้ ยกว่า ๔๑ หน่วยกิต ๑.๑ ภาษาไทย (ไมน่ อ้ ยกว่า ๖ หนว่ ยกิต) รหสั วิชา ชือ่ วิชา หนว่ ยกิต ท๓๑๑๐๑ ภาษาไทย ๑.๐(๖๐) ๑.๐(๖๐) ท๓๑๑๐๒ ภาษาไทย ๑.๐(๖๐) ๑.๐(๖๐) ท๓๒๑๐๑ ภาษาไทย ๑.๐(๖๐) ๑.๐(๖๐) ท๓๒๑๐๒ ภาษาไทย ท๓๓๑๐๑ ภาษาไทย ภาษาไทย

๒๖ ๑.๒ กล่มุ วชิ าภาษาตา่ งประเทศ (ภาษาอังกฤษ) (ไม่นอ้ ยกว่า ๖ หนว่ ยกติ ) รหสั วชิ า ช่อื วิชา หนว่ ยกิต อ๓๑๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๑.๐(๔๐) ๑.๐(๔๐) อ๓๑๑๐๒ ภาษาอังกฤษ ๑.๐(๔๐) ๑.๐(๔๐) อ๓๒๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๑.๐(๔๐) ๑.๐(๔๐) อ๓๒๑๐๒ ภาษาอังกฤษ อ๓๓๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ภาษาองั กฤษ ๑.๓ วิทยาศาสตร์ (ไมน่ ้อยกวา่ ๖ หนว่ ยกิต) รหัสวชิ า ชื่อวิชา หน่วยกติ ว๓๑๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์ ๑.๐(๖๐) ๑.๐(๖๐) ว๓๑๑๐๒ วิทยาศาสตร์ ๑.๐(๖๐) ๑.๐(๖๐) ว๓๒๑๐๑ วิทยาศาสตร์ ๑.๐(๖๐) ๑.๐(๖๐) ว๓๒๑๐๒ วิทยาศาสตร์ ว๓๓๑๐๑ วิทยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ๑.๔ คณติ ศาสตร์ (ไม่น้อยกวา่ ๖ หน่วยกิต) รหสั วชิ า ชอ่ื วิชา หนว่ ยกิต ค๓๑๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๑.๐(๖๐) ๑.๐(๖๐) ค๓๑๑๐๒ คณิตศาสตร์ ๑.๐(๖๐) ๑.๐(๖๐) ค๓๒๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๑.๐(๖๐) ๑.๐(๖๐) ค๓๒๑๐๒ คณิตศาสตร์ ค๓๓๑๐๑ คณิตศาสตร์ คณติ ศาสตร์ ๑.๕ สงั คมศกึ ษาฯ (ไมน่ อ้ ยกว่า ๘ หน่วยกิต) รหสั วชิ า ช่อื วิชา หนว่ ยกิต ๑.๐(๔๐) ส๓๑๑๐๑ สังคมศึกษาฯ ๑.๐(๔๐) ๑.๐(๔๐) ส๓๑๑๐๓ สังคมศึกษาฯ ๑.๐(๔๐) ๑.๐(๔๐) ส๓๒๑๐๑ สังคมศึกษาฯ ๑.๐(๔๐) ๐.๕(๒๐) ส๓๒๑๐๓ สงั คมศึกษาฯ ส๓๓๑๐๑ สงั คมศึกษาฯ สงั คมศึกษาฯ ส๓๑๑๐๒ ประวัตศิ าสตร์

๒๗ ส๓๑๑๐๔ ประวัติศาสตร์ ๐.๕(๒๐) ส๓๒๑๐๒ ประวตั ิศาสตร์ ๐.๕(๒๐) ส๓๒๑๐๔ ประวัตศิ าสตร์ ๐.๕(๒๐) ส๓๓๑๐๒ ประวัติศาสตร์ ๐.๕(๒๐) ประวัตศิ าสตร์ ๐.๕(๒๐) ๑.๖ สุขศึกษาและพลศกึ ษา (ไมน่ อ้ ยกว่า ๓ หนว่ ยกติ ) หนว่ ยกิต รหสั วิชา ชือ่ วิชา ๐.๕(๒๐) พ๓๑๑๐๑ สุขศกึ ษาพลศึกษา ๐.๕(๒๐) พ๓๑๑๐๒ สุขศกึ ษาพลศึกษา ๐.๕(๒๐) พ๓๒๑๐๑ สุขศึกษาพลศึกษา ๐.๕(๒๐) พ๓๒๑๐๒ สขุ ศกึ ษาพลศึกษา ๐.๕(๒๐) พ๓๓๑๐๑ สุขศกึ ษาและพลศึกษา ๐.๕(๒๐) สขุ ศึกษาพลศึกษา ๑.๗ ศิลปศกึ ษา (ไมน่ ้อยกวา่ ๓ หนว่ ยกิต) รหัสวชิ า ชือ่ วิชา หน่วยกิต ศ๓๑๑๐๑ ศลิ ปศึกษา ๐.๕(๒๐) ๐.๕(๒๐) ศ๓๑๑๐๒ ศลิ ปศกึ ษา ๐.๕(๒๐) ๐.๕(๒๐) ศ๓๒๑๐๑ ศลิ ปศึกษา ๐.๕(๒๐) ๐.๕(๒๐) ศ๓๒๑๐๒ ศลิ ปศกึ ษา ศ๓๓๑๐๑ ศิลปศกึ ษา ศลิ ปศึกษา ๑.๘ การงานอาชพี และเทคโนโลยี (ไมน่ ้อยกว่า ๓ หนว่ ยกติ ) รหัสวชิ า ชื่อวิชา หนว่ ยกติ ง๓๑๑๐๑ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ๐.๕(๒๐) ๐.๕(๒๐) ง๓๑๑๐๒ การงานอาชพี และเทคโนโลยี ๐.๕(๒๐) ๐.๕(๒๐) ง๓๒๑๐๑ การงานอาชพี และเทคโนโลยี ๐.๕(๒๐) ๐.๕(๒๐) ง๓๒๑๐๒ การงานอาชีพและเทคโนโลยี ง๓๓๑๐๑ การงานอาชีพและเทคโนโลยี การงานอาชีพและเทคโนโลยี

๒๘ ๒.รายวิชาเพม่ิ เติม ชอื่ วิชา ไม่น้อยกว่า ๔๐ นก. รหัสวชิ า หน้าทพ่ี ลเมือง หน้าที่พลเมือง หนว่ ยกติ หน้าท่ีพลเมือง ๐.๕(๒๐) หน้าทพ่ี ลเมือง ๐.๕(๒๐) หน้าทพี่ ลเมือง ๐.๕(๒๐) หนา้ ทพ่ี ลเมือง ๐.๕(๒๐) ๐.๕(๒๐) ๐.๕(๒๐) ๓.กจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี น (๓๖๐ ชว่ั โมง) รหัสวชิ า ชอื่ วิชา หนว่ ยกิต กิจกรรมแนะแนว ๒๐ชว่ั โมงตอ่ ปี ๒๐ช่วั โมงต่อปี กิจกรรมนักเรยี น ๒๐ชัว่ โมงตอ่ ปี -ชมุ นมุ /นศท./ผูบ้ าเพญ็ ประโยชน์ กิจกรรมเพือ่ สังคมและสาธารณประโยชน์

๒๙ สาระและมาตรฐานการเรียนรรู้ ายวชิ าพนื้ ฐาน สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ได้กาหนดสาระและมาตรฐานการเรียนรู้ เปน็ เกณฑ์ในการกาหนดคณุ ภาพของผู้เรียนเม่ือเรียนจบการศึกษาข้ันพนื้ ฐาน ซึ่งกาหนดไว้ ดงั รายละเอียดดงั ต่อไปนี้ ภาษาไทย สาระท่ี ๑ : การอา่ น มาตรฐาน ท ๑.๑ : ใชก้ ระบวนการอ่านสรา้ งความร้แู ละความคิดไปใช้ตดั สินใจ แกป้ ัญหาในการ ดาเนินชวี ิตและมีนิสัยรักการอ่าน สาระท่ี ๒ : การเขยี น มาตรฐาน ท ๒.๑ : ใช้กระบวนการเขยี นเขยี นสื่อสาร เขยี นเรยี งความ ย่อความ และเขียนเรอื่ งราว ในรูปแบบต่าง ๆ เขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศ และรายงานการศึกษาค้นควา้ อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ สาระที่ ๓ : การฟัง การดู และการพดู มาตรฐาน ท ๓.๑ : สามารถเลือกฟังและดอู ยา่ งมวี ิจารณญาณ และพดู แสดงความรู้ ความคิด และ ความรู้สกึ ในโอกาสตา่ ง ๆ อย่างมวี ิจารณญาณ และสร้างสรรค์ สาระท่ี ๔ : หลกั การใชภ้ าษา มาตรฐาน ท ๔.๑ : เขา้ ใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลัง ของภาษา ภมู ปิ ัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เปน็ สมบตั ิของชาติ สาระท่ี ๕ : วรรคดี และวรรณกรรม มาตรฐาน ท ๕.๑ : เข้าใจและแสดงความคิดเหน็ วิจารณว์ รรณคดี และวรรณกรรมไทยอยา่ งเห็น คณุ ค่าและนามาประยกุ ต์ใชใ้ นชวี ิตจริง

๓๐ คณติ ศาสตร์ สาระท่ี ๑ : จานวนและการดาเนินการ มาตรฐาน ค ๑.๑ : เขา้ ใจถึงความหลากหลายของการแสดงจานวนและการใชจ้ านวนในชวี ิตจริง มาตรฐาน ค ๑.๒ : เข้าใจถงึ ผลท่ีเกิดข้นึ จากการดาเนนิ การของจานวนและความสัมพันธร์ ะหวา่ งการ ดาเนินการตา่ ง ๆ และสามารถใช้การดาเนินการในการแก้ปัญหา มาตรฐาน ค ๑.๓ : ใชก้ ารประมาณค่าใจการคานวณ และแก้ปัญหา มาตรฐาน ค ๑.๔ : เข้าใจในระบบจานวน และสามารถนาสมบตั เิ กีย่ วกับจานวนไปใช้ สาระที่ ๒ : การวัด มาตรฐาน ค ๒.๑ : เข้าใจพ้ืนฐานเกย่ี วกับการวดั วดั และคาดคะเนขนาดของสิง่ ที่ต้องการวัด มาตรฐาน ค ๒.๒ : แกป้ ัญหาเกย่ี วกบั การวัด สาระท่ี ๓ : เรขาคณติ มาตรฐาน ค ๓.๑ : อธิบายและวเิ คราะห์รปู เรขาคณติ สองมิติและสามมิติ มาตรฐาน ค ๓.๒ : ใช้การนกึ ภาพ (visualization) ใช้เหตุผลเกีย่ วกับปรภิ มู ิ (spatial reasoning) และ ใช้แบบจาลองทางเรขาคณิต (geometric model) ในการแก้ปัญหา สาระที่ ๔ : พชี คณติ มาตรฐาน ค ๔.๑ : อธิบายและวเิ คราะหแ์ บบรปู (pattern) ความสัมพันธ์ และฟงั กช์ นั ตา่ ง ๆ มาตรฐาน ค ๔.๒ : ใช้นพิ จน์ สมการ อสมการ กราฟ และตวั แบบเชิงคณิตศาสตร์ (Mathematical model) อน่ื ๆ แทนสถานการณ์ต่าง ๆ ตลอดจนแปลความหมายและนาไปใช้ แก้ปัญหา สาระท่ี ๕ : การวิเคราะห์ข้อมูลและความนา่ จะเปน็ มาตรฐาน ค ๕.๑ : เขา้ ใจและใชว้ ธิ ีการทางสถติ ิในการวเิ คราะห์ข้อมูล มาตรฐาน ค ๕.๒ : ใช้วิธกี ารทางสถติ แิ ละความรูเ้ ก่ียวกับความนา่ จะเป็นในการคาดการณไ์ ด้อยา่ ง สมเหตสุ มผล มาตรฐาน ค ๕.๓ : ใชค้ วามรู้เกี่ยวกับสถติ แิ ละความน่าจะเปน็ ชว่ ยในการตัดสนิ ใจและแกป้ ญั หา สาระท่ี ๖ : ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ มาตรฐาน ค ๖.๑ : มคี วามสามารถในการแก้ปัญหา การให้เหตุผล การสอื่ สาร การสื่อความหมายทาง คณติ ศาสตร์ และการนาเสนอ การเช่อื มโยงความรตู้ า่ ง ๆ ทางคณิตศาสตรแ์ ละ เชอ่ื มโยงคณิตศาสตร์กับศาสตรอ์ ื่น ๆ และมีความคดิ รเิ ร่ิมสร้างสรรค์

๓๑ วทิ ยาศาสตร์ สาระที่ ๑ : สิ่งมีชีวติ กบั กระบวนการดารงชวี ิต มาตรฐาน ว ๑.๑ : เข้าใจหน่วยพื้นฐานของส่ิงมชี ีวิต ความสัมพนั ธ์ของโครงสรา้ งและหน้าทขี่ อง ระบบตา่ ง ๆ ของสงิ่ มีชีวิตทท่ี างานสัมพนั ธ์กัน มกี ระบวนการสบื เสาะหาความรู้ สอ่ื สารส่ิงทเ่ี รียนรู้ และนาความรู้ไปใชใ้ นการดารงชวี ิตของตนเอง และดแู ล สงิ่ มชี วี ิต มาตรฐาน ว ๑.๒ : เขา้ ใจกระบวนการและความสาคัญของการถา่ ยทอดลักษณะทางพนั ธกุ รรม ววิ ัฒนาการของสง่ิ มีชีวติ ความหลากหลายทางชวี ภาพ การใชเ้ ทคโนโลยชี วี ภาพ ทีม่ ผี ลกระทบต่อมนษุ ย์ และสิ่งแวดลอ้ ม มีกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ และ จิตวิทยาศาสตร์ สอื่ สารสง่ิ ทเี่ รยี นรแู้ ละนาความร้ไู ปใชป้ ระโยชน์ สาระที่ ๒ : ชวี ติ กับสิง่ แวดลอ้ ม มาตรฐาน ว ๒.๑ : เข้าใจสงิ่ แวดลอ้ มในท้องถ่นิ ความสมั พันธร์ ะหว่างสงิ่ แวดลอ้ มกับสิ่งมชี วี ิต ความ สมั พนั ธ์ระหว่างสิ่งมชี วี ิตต่าง ๆ ในระบบนิเวศ มกี ระบวนการสบื เสาะหาความรู้ และจติ วิทยาศาสตร์ ส่อื สารสิง่ ทเี่ รียนร้แู ละนาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ มาตรฐาน ว ๒.๒ : เขา้ ใจความสาคญั ของทรัพยากรธรรมชาติ การใช้ทรัพยากรธรรมชาติในระดบั ท้องถิน่ ประเทศ และโลก นาความรู้ไปใชใ้ นการจดั การทรพั ยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมในท้องถ่ินอย่างย่ังยืน สาระท่ี ๓ : สารและสมบัตขิ องสาร มาตรฐาน ว ๓.๑ : เข้าใจสมบัตขิ องสาร ความสัมพันธ์ระหวา่ งสมบตั ขิ องสารกบั โครงสรา้ งและแรง ยึดเหนยี่ วระหว่างอนภุ าค มีกระบวนการสบื เสาะหาความรแู้ ละจติ วิทยาศาสตร์ สือ่ สารส่ิงที่เรียนรู้และนาความรไู้ ปใช้ประโยชน์ มาตรฐาน ว ๓.๒ : เข้าใจหลกั การและธรรมชาติของการเปล่ียนสถานะของสาร การเกิดสารละลาย การเกดิ ปฏกิ ริ ยิ า มีกระบวนการสบื เสาะหาความรู้และจติ วทิ ยาศาสตร์ สือ่ สารส่งิ ท่ี เรียนร้แู ละนาความรไู้ ปใช้ประโยชน์ สาระที่ ๔ : แรงและการเคล่อื นท่ี มาตรฐาน ว ๔.๑ : เขา้ ใจธรรมชาตแิ ละแรงแม่เหล็กไฟฟูา แรงโน้มถ่วง และแรงนิวเคลยี ร์ มี กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ สือ่ สารสิ่งทเ่ี รียนร้แู ละนาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ อย่างถกู ต้องและมคี ุณธรรม มาตรฐาน ว ๔.๒ : เขา้ ใจลกั ษณะการเคล่ือนท่ีแบบตา่ ง ๆ ของวตั ถุในธรรมชาติ มกี ระบวนการ สบื เสาะหาความรแู้ ละจติ วทิ ยาศาสตร์ สือ่ สารสิ่งท่เี รียนรู้ และนาความรไู้ ปใช้ ประโยชน์ สาระที่ ๕ : พลังงาน มาตรฐาน ว ๕.๑ : เข้าใจความสัมพนั ธร์ ะหว่างพลงั งานกับการดารงชวี ิต การเปล่ยี นรูปพลงั งาน ปฏิสัมพนั ธร์ ะหว่างสารและพลังงาน ผลของการใชพ้ ลงั งานตอ่ ชวี ติ และ สิ่งแวดลอ้ ม มีกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ สอ่ื สารส่ิงทเ่ี รยี นรู้และนาความร้ไู ป ใช้ประโยชน์

๓๒ สาระท่ี ๖ : กระบวนการเปล่ียนแปลงของโลก มาตรฐาน ว ๖.๑ : เข้าใจกระบวนการต่าง ๆ ท่เี กิดขึ้นบนผิวโลกและภายในโลก ความสัมพันธข์ อง กระบวนการตา่ ง ๆ ที่มผี ลตอ่ การเปลยี่ นแปลงภมู ิอากาศ ภมู ปิ ระเทศ และสัณฐาน ของโลก มีกระบวนการสบื เสาะหาความรู้และจิตวิทยาศาสตร์ สือ่ สารสงิ่ ท่เี รยี นรู้ และนาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ สาระท่ี ๗ : ดาราศาสตร์และอวกาศ มาตรฐาน ว ๗.๑ : เขา้ ใจวิวัฒนาการของระบบสุรยิ ะ กาแลก็ ซแี ละเอกภาพ การปฏสิ ัมพันธ์ภายใน ระบบสรุ ยิ ะและผลต่อส่ิงมีชวี ติ บนโลก มกี ระบวนการสบื เสาะหาความรแู้ ละ จติ วิทยาศาสตร์ สื่อสารสิ่งท่ีเรยี นร้แู ละนาความรู้ไปใช้ประโยชน์ มาตรฐาน ว ๗.๒ : เข้าใจความสาคัญของเทคโนโลยอี วกาศท่นี ามาใชใ้ นการสารวจอวกาศและ ทรพั ยากรธรรมชาติ ดา้ นการเกษตรและการสื่อสาร มีกระบวนการสบื เสาะ หาความรู้และ จิตวิทยาศาสตร์ สอื่ สารสง่ิ ท่เี รยี นรู้และนาความรู้ไปใช้ประโยชน์ อยา่ งมคี ุณธรรมต่อชีวิตและสิ่งแวดลอ้ ม สาระท่ี ๘ : ธรรมชาติของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มาตรฐาน ว ๘.๑ : ใชก้ ระบวนการทางวิทยาศาสตร์และจิตวิทยาศาสตร์ ในการสืบเสาะหาความรู้ การแก้ปัญหา รวู้ ่าปรากฏการณท์ างธรรมชาตทิ ่ีเกิดข้ึนส่วนใหญ่มรี ูปแบบท่ี แนน่ อน สามารถอธิบายและตรวจสอบได้ภายใต้ข้อมลู และเครื่องมือที่มอี ยใู่ นช่วง เวลานัน้ ๆ เขา้ ใจว่าวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สงั คม และสิ่งแวดลอ้ ม มคี วาม เก่ียวขอ้ งสมั พนั ธ์กัน

๓๓ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สาระที่ ๑ : ศาสนา ศีลธรรม จรยิ ธรรม มาตรฐาน ส ๑.๑ : รแู้ ละเข้าใจประวัติ ความสาคัญ ศาสดา หลกั ธรรมของพระพุทธศาสนา หรอื ศาสนาที่ตนนบั ถือและศาสนาอืน่ มีศรัทธาทถ่ี ูกต้อง ยึดม่ันและปฏิบัตติ าม หลักธรรมเพอื่ อยรู่ ว่ มกันอย่างสันตสิ ุข มาตรฐาน ส ๑.๒ : เขา้ ใจ ตระหนักและปฏิบัติตนเปน็ ศาสนกิ ชนทีด่ ี และธารงรักษาพระพทุ ธศาสนา หรอื ศาสนาท่ีตนนบั ถือ สาระท่ี ๒ : ชวี ิตกับสิง่ แวดลอ้ ม มาตรฐาน ส ๒.๑ : เข้าใจและปฏิบัติตนตามหน้าทข่ี องการเป็นพลเมืองดี มีค่านยิ มทด่ี ีงาม และธารง รกั ษาประเพณีและวัฒนธรรมไทย ดารงชวี ติ อยู่ร่วมกนั ในสังคมไทยและสังคม โลกอย่างสันตสิ ขุ มาตรฐาน ส ๒.๒ : เขา้ ใจระบบการเมืองการปกครองในสังคมปัจจบุ นั ยดึ ม่ัน ศรัทธา และธารง รกั ษาไว้ซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริยท์ รงเป็น ประมขุ สาระที่ ๓ : เศรษฐศาสตร์ มาตรฐาน ส ๓.๑ : เข้าใจและสามารถบรหิ ารจัดการทรัพยากรในการผลิตและการบรโิ ภค การใช้ ทรัพยากรทม่ี ีอยูจ่ ากดั ได้อยา่ งมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า รวมทั้งเขา้ ใจหลกั การของ เศรษฐกิจอยา่ งพอเพียง เพือ่ การดารงชีวติ อยา่ งมีดุลยภาพ มาตรฐาน ส ๓.๒ : เขา้ ใจระบบ และสถาบนั ทางเศรษฐกจิ ตา่ ง ๆ ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกจิ และความจาเปน็ ของการรว่ มมือกนั ทางเศรษฐกิจในสงั คมโลก สาระท่ี ๔ : ประวัตศิ าสตร์ มาตรฐาน ส ๔.๑ : เข้าใจความหมาย ความสาคัญของเวลาและยุคสมยั ทางประวตั ิศาสตร์ สามารถ ใช้วธิ ีการทางประวตั ศิ าสตร์มาวเิ คราะห์เหตุการณ์ตา่ ง ๆ อย่างเป็นระบบ มาตรฐาน ส ๔.๒ : เขา้ ใจพัฒนาการของมนุษยชาติจากอดตี จนถงึ ปจั จบุ ันในด้านความสมั พันธ์ และ การเปลีย่ นแปลงของเหตุการณ์อยา่ งต่อเน่ือง ตระหนักถึงความสาคัญและสามารถ วเิ คราะหผ์ ลกระทบท่ีเกิดขึน้ มาตรฐาน ส ๔.๓ : เข้าใจความเป็นมาของชาติไทย วัฒนธรรม ภูมิปัญญาไทย มคี วามรกั มคี วาม ภูมิใจ และธารงความเปน็ ไทย สาระท่ี ๕ : ภมู ิศาสตร์ มาตรฐาน ส ๕.๑ : เขา้ ใจลักษณะของโลกทางกายภาพ และความสมั พนั ธข์ องสรรพส่ิงซึ่งมผี ลตอ่ กัน และกนั ในระบบของธรรมชาติ ใชแ้ ผนท่ี และเคร่ืองมือทางภูมิศาสตร์ ในการค้นหา วิเคราะห์ สรุปและใช้ขอ้ มูลภูมิสารสนเทศอย่างมปี ระสิทธภิ าพ มาตรฐาน ส ๕.๒ : เข้าใจปฏสิ มั พนั ธร์ ะหวา่ งมนษุ ย์กบั สภาพแวดล้อมทางกายภาพทก่ี อ่ ใหเ้ กิดการสร้างสรรคว์ ัฒนธรรม มจี ิตสานกึ และมสี ว่ นร่วมในการอนุรักษ์ทรพั ยากรและสิ่งแวดลอ้ มเพ่อื การพฒั นาทีย่ ง่ั ยืน

๓๔ สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา สาระท่ี ๑ : การเจรญิ เติบโตและพัฒนาการของมนุษย์ มาตรฐาน พ ๑.๑ : เขา้ ใจธรรมชาติของการเจริญเติบโต และพฒั นาการของมนุษย์ สาระท่ี ๒ : ชวี ิตและครอบครัว มาตรฐาน พ ๒.๑ : เขา้ ใจและเหน็ คณุ คา่ ของตนเอง ครอบครัว เพศศึกษา และมที ักษะในการดาเนนิ ชวี ิต สาระท่ี ๓ : การเคล่ือนไหว การออกกาลงั กาย การเล่นเกม กฬี าไทย และกฬี าสากล มาตรฐาน พ ๓.๑ : เขา้ ใจ มที กั ษะในการเคลื่อนไหว กจิ กรรมทางกาย การเล่นเกม และกีฬา มาตรฐาน พ ๓.๒ : รกั การออกกาลงั กาย การเลน่ เกม และการเล่นกีฬา ปฏบิ ตั เิ ปน็ ประจาอยา่ ง สมา่ เสมอ มวี ินยั เคารพสทิ ธิ กฎ กตกิ า มีนา้ ใจนักกฬี า มีจิตวิญญาณในการ แข่งขัน และช่ืนชมในสุนทรยี ภาพของการกฬี า สาระท่ี ๔ : การสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ สมรรถภาพและการปอ้ งกันโรค มาตรฐาน พ ๔.๑ : เหน็ คณุ ค่า และมีทักษะในการสรา้ งเสริมสุขภาพ การดารงสุขภาพ การปอู งกัน โรค และการสร้างเสรมิ สมรรถภาพเพื่อสขุ ภาพ สาระที่ ๕ : ความปลอดภัยในชวี ติ มาตรฐาน พ ๕.๑ : ปูองกนั และหลีกเลีย่ งปจั จัยเส่ียง พฤติกรรมเสีย่ งต่อสขุ ภาพ อุบัติเหตุ การใช้ยา สารเสพติด และความรนุ แรง

๓๕ ศิลปะ สาระที่ ๑ : ทัศนศลิ ป์ มาตรฐาน ศ ๑.๑ : สร้างสรรคง์ านทัศนศิลปต์ ามจินตนาการ และความคดิ สรา้ งสรรค์ วเิ คราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์คุณค่างานทัศนศิลป์ ถ่ายทอดความรสู้ ึก ความคิดต่องานศลิ ปะ อย่างอสิ ระ ชืน่ ชมและประยุกตใ์ ช้ในชีวติ ประจาวนั มาตรฐาน ศ ๑.๒ : เขา้ ใจความสัมพนั ธร์ ะหว่างทัศนศิลป์ ประวตั ิศาสตร์ และวฒั นธรรม เห็นคุณค่า งานทศั นศิลปท์ ี่เปน็ มรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปญั ญาท้องถน่ิ ภมู ิปัญญาไทยและสากล สาระที่ ๒ : ดนตรี มาตรฐาน ศ ๒.๑ : เขา้ ใจและแสดงออกทางดนตรีอย่างสรา้ งสรรค์ วเิ คราะห์ วพิ ากษ์ วจิ ารณค์ ณุ คา่ ดนตรี ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดต่อดนตรีอย่างอสิ ระ ช่ืนชม และประยุกตใ์ ช้ ในชวี ิตประจาวนั มาตรฐาน ศ ๒.๒ : เข้าใจความสมั พนั ธ์ระหวา่ งดนตรี ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม เหน็ คณุ คา่ ของ ดนตรที เ่ี ปน็ มรดกทางวฒั นธรรม ภมู ปิ ญั ญาท้องถิน่ ภูมิปญั ญาไทยและสากล สาระที่ ๓ : นาฏศลิ ป์ มาตรฐาน ศ ๓.๑ : เขา้ ใจและแสดงออกทางนาฏศลิ ป์อย่างสร้างสรรค์ วเิ คราะห์ วพิ ากษ์ วิจารณค์ ุณค่า นาฏศิลป์ ถา่ ยทอดความรสู้ ึก ความคดิ อย่างอิสระ ช่นื ชม และประยุกตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจาวนั มาตรฐาน ศ ๓.๒ : เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหวา่ งนาฏศลิ ป์ ประวตั ิศาสตร์และวฒั นธรรม เห็นคณุ ค่า ของนาฏศลิ ป์ที่เปน็ มรดกทางวฒั นธรรม ภูมปิ ญั ญาท้องถนิ่ ภูมปิ ญั ญาไทยและสากล

๓๖ การงานอาชีพและเทคโนโลยี สาระท่ี ๑ : การดารงชีวติ และครอบครัว มาตรฐาน ง ๑.๑ : เข้าใจการทางาน มคี วามคดิ สรา้ งสรรค์ มีทักษะกระบวนการทางาน ทกั ษะการ จัดการ ทกั ษะกระบวนการแกป้ ัญหา ทักษะการทางานร่วมกันและทักษะการแสวงหา ความรู้ มีคุณธรรมและลักษณะนสิ ยั ในการทางาน มีจิตสานกึ ในการใช้พลงั งาน ทรัพยากรและส่ิงแวดล้อมเพื่อการดารงชวี ติ และครอบครัว สาระท่ี ๒ : การอาชพี มาตรฐาน ง ๒.๑ : เขา้ ใจเทคโนโลยีและกระบวนการเทคโนโลยี ออกแบบและสรา้ งสิ่งของเครอื่ งใช้ หรือวิธกี าร ตามกระบวนการเทคโนโลยีอย่างมคี วามคิดสร้างสรรค์ เลอื กใช้ เทคโนโลยีในทางสรา้ งสรรคต์ อ่ ชีวิต สังคม สิ่งแวดลอ้ ม และมสี ว่ นรว่ มในการ จัดการเทคโนโลยที ่ยี ง่ั ยืน สาระที่ ๓ : เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มาตรฐาน ง ๓.๑ : เข้าใจ เหน็ คุณคา่ และใชก้ ระบวนการเทคโนโลยสี ารสนเทศในการสืบคน้ ข้อมลู การเรียนรู้ การสื่อสาร การแก้ปญั หา การทางาน และอาชพี อย่างมีประสทิ ธภิ าพ ประสทิ ธผิ ล และมคี ุณธรรม สาระที่ ๔ : การอาชีพ มาตรฐาน ง ๔.๑ : เข้าใจ มีทักษะที่จาเปน็ มีประสบการณ์ เหน็ แนวทางในงานอาชีพ ใชเ้ ทคโนโลยีเพื่อ พัฒนาอาชีพ มีคุณธรรม และมีเจตคตทิ ่ีดตี ่ออาชพี

๓๗ ภาษาต่างประเทศ สาระที่ ๑ : ภาษาเพ่ือการส่ือสาร มาตรฐาน ต ๑.๑ : เขา้ ใจและตีความเร่ืองที่ฟังและอ่านจากส่อื ประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็น อยา่ งมีเหตุผล มาตรฐาน ต ๑.๒ : มีทักษะการสื่อสารทางภาษา ในการแลกเปลีย่ นขอ้ มลู ขา่ วสาร แสดงความร้สู ึกและ ความคดิ เห็นอยา่ งมปี ระสิทธิภาพ มาตรฐาน ต ๑.๓ : นาเสนอข้อมลู ขา่ วสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรือ่ งต่าง ๆ โดยการ พูดและการเขียน สาระท่ี ๒ : ภาษาและวัฒนธรรม มาตรฐาน ต ๒.๑ : เข้าใจความสมั พันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้ อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ มาตรฐาน ต ๒.๒ : เข้าใจความเหมอื นและความแตกต่างระหว่างภาษาและวฒั นธรรมของเจ้าของ ภาษาและวฒั นธรรมไทย และนามาใช้อยา่ งถูกต้องและเหมาะสม สาระที่ ๓ : ภาษากบั ความสัมพนั ธก์ บั กลุ่มสาระการเรยี นรู้อ่ืน มาตรฐาน ต ๓.๑ : ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการเชอื่ มโยงความรูก้ ับกล่มุ สาระการเรียนรู้อื่นและเปน็ พืน้ ฐานในการพฒั นา แสวงหาความร้แู ละเปดิ โลกทัศน์ของตน สาระที่ ๔ : ภาษากับความสัมพนั ธ์กับชุมชนและโลก มาตรฐาน ต ๔.๑ : ใช้ภาษาตา่ งประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ทั้งในสถานศึกษา ชุมชนและสังคม มาตรฐาน ต ๔.๒ : ใชภ้ าษาต่างประเทศเป็นเครอ่ื งมอื พื้นฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ และการแลกเปลย่ี นเรียนรู้กบั สังคมโลก

๓๘ ท๓๑๑๐๑ ภาษาไทย คาอธบิ ายรายวชิ าพืน้ ฐาน ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ ๔ ภาคเรียนที่ ๑ กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย เวลา ๔๐ ชว่ั โมง จานวน ๑.๐ หนว่ ยกติ อ่านออกเสยี งบทร้อยแกว้ และบทร้อยกรอง ประเภทโคลง ได้อย่างถูกต้อง จับใจความสาคัญ วเิ คราะห์วจิ ารณ์ และตอบคาถามจากเร่ืองท่ีอา่ นอย่างมเี หตุผล เขียนกรอบแนวคิด ผงั ความคดิ จากเรอ่ื งท่ีอ่าน เขียนบนั ทกึ ย่อความ เรียงความ สังเคราะหค์ วามรจู้ ากสื่อสิง่ พิมพ์ สือ่ อเิ ล็กทรอนิกส์และแหล่งเรียนรู้ต่างๆ เขียน ส่อื สาร เขียนบรรยาย อธิบาย พรรณนา ได้ถูกตอ้ งตรงตามวัตถปุ ระสงค์ มีข้อมลู และสาระสาคัญ รวมถึงมี มารยาทในการเขยี น วิเคราะห์แนวคดิ การใช้ภาษาและความนา่ เชื่อถอื จากเรอ่ื งทฟี่ งั ดู และพูด อธิบาย มีความร้คู วามเขา้ ใจหลกั การแต่งคาประพันธ์ ประเภทโคลง ศึกษาวิเคราะห์ วจิ ารณ์ อธบิ ายธรรมชาติ พลังและลกั ษณะของภาษา เหน็ คณุ ค่าของวรรณคดี และวรรณกรรมทอ่ี ่าน ท่องจาบทอาขยานตามทก่ี าหนด และตามความสนใจ มมี ารยาทในการอ่าน การฟงั การ ดู การพดู และการเขยี น โดยใช้กระบวนการอ่าน กระบวนการเขยี น กระบวนการคดิ ทกั ษะการใชภ้ าษา ทกั ษะการส่ือสาร การสบื ค้นข้อมูล บนั ทกึ จดั กลุ่มข้อมลู และการอภปิ ราย เพือ่ ให้เกิดความรู้ ความคดิ ความเข้าใจ หลักการอ่าน ออกเสยี งร้อยแกว้ รอ้ ยกรอง พัฒนาทักษะการคดิ วิเคราะห์วจิ ารณ์ ประเมินคา่ สรปุ ลักษณะเดน่ และ ประเดน็ สาคัญของวรรณคดแี ละวรรณกรรม สงั เคราะห์ความรูจ้ ากการอา่ นข่าวสารจากสอ่ื สง่ิ พิมพส์ อ่ื อิเลก็ ทรอนกิ สแ์ ละแหลง่ เรียนร้ตู า่ งๆในชมุ ชน บทความ เขียนสรุปความเขยี นบนั ทกึ ยอ่ ความ เรยี งความ จาก สอื่ ส่ิงพิมพ์ สื่ออิเล็กทรอนิกส์และแหล่งเรยี นร้ตู า่ งๆ เขยี นสื่อสาร เขียนบรรยาย อธบิ าย พรรณนา ย่อความ ฝึกฝนทักษะการฟัง การพูด การเล่าเร่ือง และการแสดงความคิดเหน็ ตามเจตนารมณ์ที่ตอ้ งการส่ือสาร สามารถ นาความรทู้ ไ่ี ด้รบั ไปส่ือสารได้อย่างมีประสทิ ธิภาพ เหน็ คุณค่าวถิ ชี ีวิตของคนไทยในอดตี มคี วามภาคภมู ิใจในวรรณคดีและวรรณกรรมอนั เปน็ มรดกของ ชาติ สามารถนาความรไู้ ปใช้ในการตดั สนิ ใจและการดาเนินชวี ิตประจาวัน มีจิตสาธารณะ ตระหนกั ถึงคณุ คา่ ของ คณุ ธรรมจรยิ ธรรม การมีคา่ นิยมอนั พงึ ประสงค์ ใชค้ วามรู้ภาษาไทยเพ่อื การจรรโลงจติ ใจ ธารงและพัฒนาสงั คม ไดเ้ ต็มศกั ยภาพของผเู้ รียน รหสั ตัวชี้วัด ท ๑.๑ ม. ๔/๑ , ม.๔/๓ , ม.๔/๗, ม.๔/๙ท ๒.๑ ม. ๔/๑ , ม.๔/๔, ม.๔/๕, ม.๔/๗, ม.๔/๘ ท ๓.๑ ม. ๔/๑, ม.๔/๒, ม.๔/๓, ม.๔/๔, ม.๔/๕, ม.๔/๖ ท ๔.๑ ม.๔/๑, ม.๔/๔, ม.๔/๗ ท ๕.๑ ม. ๕/๑, ม.๕/๖ รวมท้ังหมด ๒๐ ตัวชีว้ ดั

๓๙ ท๓๑๑๐๒ ภาษาไทย คาอธิบายรายวิชาพนื้ ฐาน ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ ๔ ภาคเรียนท่ี ๒ กล่มุ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย เวลา ๔๐ ชวั่ โมง จานวน ๑.๐ หนว่ ยกิต อา่ นออกเสยี งบทร้อยแกว้ และบทร้อยกรอง ประเภทกาพย์ กลอน ตีความ แปลความ ขยายความ วิเคราะห์วิจารณ์ และตอบคาถามจากเร่ืองท่อี ่านอย่างมเี หตผุ ล เขยี นกรอบแนวคิด ผงั ความคดิ จากเร่ืองท่ีอ่าน เขียนรายงาน สังเคราะห์ความรู้จากสือ่ สง่ิ พิมพ์ ส่อื อเิ ล็กทรอนกิ สแ์ ละแหลง่ เรยี นรู้ตา่ งๆ เขียนจดหมายกจิ ธุระ การกรอกแบบรายการต่างๆ ไดถ้ ูกตอ้ งตรงตามวัตถปุ ระสงค์ มีขอ้ มูลและสาระสาคญั รวมถึงมีมารยาทในการเขยี น วิเคราะหแ์ นวคิด การใชภ้ าษาและความน่าเชื่อถือจากเร่ืองทฟ่ี ัง ดู และพูด อภปิ ราย มคี วามรู้ความเข้าใจหลกั การ แตง่ คาประพันธ์ประเภทกาพย์ กลอน ศกึ ษาวิเคราะหว์ จิ ารณ์ เสียงในภาษา สว่ นประกอบของภาษา องคป์ ระกอบของพยางคแ์ ละคา และเห็นคุณค่าของวรรณคดีและวรรณกรรมที่อา่ น ท่องจาบทอาขยานตามท่ี กาหนด และตามความสนใจ มีมารยาทในการอา่ น การฟัง การดู การพูดและการเขียน โดยใชก้ ระบวนการอา่ น กระบวนการเขยี น กระบวนการคิด ทักษะการใช้ ภาษา ทักษะการส่ือสาร การ สบื ค้นขอ้ มูล บันทกึ จัดกลมุ่ ขอ้ มูล และการอภปิ ราย เพ่ือให้เกดิ ความรู้ ความคดิ ความเขา้ ใจ หลกั การอ่านออก เสียงรอ้ ยแก้ว ร้อยกรอง พัฒนาทักษะการคิด วเิ คราะหว์ ิจารณ์ ประเมินคา่ สรปุ ลกั ษณะเดน่ และประเดน็ สาคญั ของวรรณคดีและวรรณกรรม รวบรวมวรรณกรรมพื้นบา้ นท่แี สดงถึงภาษากบั วฒั นธรรม ภาษาถ่ิน อธบิ าย ภูมปิ ญั ญาทางภาษา สงั เคราะหค์ วามรูจ้ ากการอ่านข่าวสารจากส่ือสิง่ พิมพ์ส่ืออิเลก็ ทรอนกิ สแ์ ละแหลง่ เรียนรตู้ า่ งๆ ในชมุ ชน บทความ เขียนรายงาน จากสอื่ ส่งิ พิมพ์ สอื่ อิเล็กทรอนิกสแ์ ละแหล่งเรยี นรู้ต่างๆ เขียนจดหมายกิจธรุ ะ การกรอกแบบรายการต่างๆ เขียนรายงานเชงิ วชิ าการ การใช้คา การเรยี บเรียงประโยคถกู ต้องเหมาะสมตาม ระดับภาษา ฝึกฝนทกั ษะการฟงั การพูด การพดู ต่อที่ประชุมชน การพูดอภปิ ราย การเล่าเรือ่ ง และการแสดง ความคดิ เหน็ ตามเจตนารมณ์ท่ีต้องการส่ือสาร สามารถนาความรทู้ ไี่ ด้รบั ไปใชภ้ าษาส่ือสารไดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ เหน็ คณุ คา่ วิถชี ีวติ ของคนไทยในอดตี มีความภาคภูมิใจในวรรณคดีและวรรณกรรมอันเป็นมรดกของชาติ สามารถนาความรู้ไปใช้ในการตดั สนิ ใจและการดาเนนิ ชวี ิตประจาวนั มจี ติ สาธารณะ ตระหนักถึงคุณค่าของ คณุ ธรรมจรยิ ธรรม การมีค่านยิ มอนั พงึ ประสงค์ ใชค้ วามรภู้ าษาไทยเพอื่ การจรรโลงจิตใจ ธารงและพัฒนาสังคม ไดเ้ ต็มศกั ยภาพของผเู้ รยี น รหสั ตัวช้ีวัด ท ๑.๑ ม. ๔/๑ , ม.๔/๓ , ม.๔/๙ ,ท ๒.๑ ม. ๔/๑ , ม.๔/๔, ม.๔/๖, ม.๔/๗, ม.๔/๘ ท ๓.๑ ม.๔/๒, ม. ๔/๓, ม.๔/๔, ม.๔/๖ ท ๔.๑ ม.๔/๑, ม.๔/๓, ม.๔/๔, ม.๔/๗ ท ๕.๑ ม. ๕/๑, ม.๕/๓, ม.๕/๕, ม.๕/๖ รวม ๒๐ ตัวชี้วดั

๔๐ คาอธบิ ายรายวชิ าพนื้ ฐาน ท๓๒๑๐๑ ภาษาไทย กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๕ ภาคเรียนท่ี ๑ เวลา ๔๐ ชว่ั โมง จานวน ๑.๐ หนว่ ยกติ ศกึ ษาการอา่ นออกเสียงทงั้ ร้อยแก้วประเภทบทความ นวนิยาย และความเรียง ร้อยกรองประเภทร่าย และลลิ ติ ตีความ แปลความ และขยายความเร่ืองสัน้ นวนิยาย วรรณกรรมพ้ืนบ้าน วรรณคดีในบทเรียน บทโฆษณา คาขวัญ รวมถึงการวเิ คราะห์และวจิ ารณ์ การเขียนผงั ความคดิ การบันทึก หลกั การเขียนเชญิ ชวน โครงการ เรยี งความ ยอ่ ความ ผลติ งานเขียนในรูปแบบสารคดี บนั เทงิ คดี ประเมินงานเขียนของผ้อู น่ื การสรุปแนวคิดแสดงความคิดเห็น ประเมนิ การฟังการดู มีวจิ ารณญาณในการเลอื กเรื่องจากการฟังและดู หลกั การพดู อภปิ ราย โน้มน้าวใจ ด้วยภาษาที่ถูกต้อง การใชค้ าและกลมุ่ คาสรา้ งประโยค หลักการแตง่ คา ประพันธ์ประเภท รา่ ย อิทธพิ ลของภาษา ต่างประเทศและภาษาถิน่ หลกั การสร้างคาในภาษาไทย หลกั การ วเิ คราะห์และประเมนิ การใช้ภาษาและส่ือสิ่งพิมพ์อิเลก็ ทรอนกิ ส์ หลักการวิเคราะหว์ ิจารณ์วรรณคดแี ละ วรรณกรรมการประเมนิ คณุ ค่าวรรณคดี การท่องบทอาขยาน โดยใช้กระบวนการด้านทักษะทางภาษา การสือ่ สารในรูปแบบการเชญิ ชวน โครงการ เรยี งความ ย่อ ความ ผลิตงานเขียนในรปู แบบสารคดี บันเทิงคดี ประเมินงานเขียนของผู้อ่นื บันทึก สรปุ แนวคดิ แสดงความ คดิ เห็น ประเมินการฟงั การดูมวี ิจารณญาณในการเลอื กเรื่องจากการฟงั และดู พูดอภิปราย โนม้ น้าวใจ ด้วย ภาษาที่ถูกตอ้ ง ใชค้ าและกลุ่มคาสรา้ งประโยคตรงตามวัตถปุ ระสงค์ ใช้ภาษาเหมาะสมแก่โอกาสและกาลเทศะ แต่งคาประพันธ์ประเภท รา่ ย วเิ คราะหอ์ ิทธิพลของภาษาต่างประเทศและภาษาถิ่น อธิบายและวเิ คราะห์ หลักการสรา้ งคาในภาษาไทย ตลอดจนวิเคราะหแ์ ละประเมนิ การใช้ภาษาและสือ่ สิ่งพิมพอ์ ิเล็กทรอนิกส์ ประเมนิ คณุ คา่ วรรณคดี ท่องบทอาขยาน มีมารยาทในการอา่ น การเขียน การฟังการดู และการพูด และเห็นคุณค่าของการใชภ้ าษาไทยเพือ่ การสอ่ื สาร นาความรูจ้ ากวรรณคดี วรรณกรรม ไปประยกุ ต์ใชใ้ นชวี ิตจริง ตลอดจนมีความรกั และภาคภมู ิใจ ในภาษาไทย อันเป็นภาษาของชาติ รหัสตวั ช้ีวดั ท๑.๑ ม.๕/๑ ม.๕/๒ ม.๕/๓ ม. ๕/๕ม . ๕/๗ ม.๕/๙ ท ๒.๑ ม.๕/๑ ม.๕/๒ ม.๕/๓ ม.๕/๔ ม. ๕/๕ม . ๕/๗ ม.๕/๘ ท ๓.๑ ม.๕/๑ ม.๕/๒ ม. ๕/๕ม. ๕/๖ ท ๔.๑ ม.๕/๒ ม.๕/๔ ม. ๕/๕ม . ๕/๗ ท ๕.๑ ม.๕/๑ ม.๕/๒ ม.๕/๓ ม.๕/๔ ม . ๕/๗ รวม ๒๖ ตัวชีว้ ัด

๔๑ คาอธบิ ายรายวชิ าพื้นฐาน ท๓๒๑๐๒ ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ ๕ ภาคเรียนที่ ๒ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง จานวน ๑.๐ หนว่ ยกติ ศกึ ษาการอา่ นออกเสยี งบทท้งั รอ้ ยแกว้ ประเภทบทความ นวนิยาย และความเรยี ง ร้อยกรองประเภท รา่ ย และลิลติ ตคี วาม แปลความ ขยายความ วิเคราะห์และวจิ ารณ์ คาดคะเนเหตกุ ารณ์ ตอบคาถาม ผัง ความคดิ บนั ทกึ ย่อความ สังเคราะห์ความรจู้ ากการอ่าน การเขียนส่อื สารในรปู แบบประกาศ จดหมายกจิ ธุระ เรียงความ ยอ่ ความการเขียนรายงาน เขียนโครงงาน และเขยี นรายงานการศึกษาค้นคว้า การสรปุ แนวคิดแสดง ความคิดเหน็ ประเมินการฟงั การดู มีวจิ ารณญาณในการเลอื กเรอื่ งจากการฟังและดู หลักการพดู อภปิ ราย โนม้ น้าวใจ แล้วใช้ข้อมลู สารสนเทศอ้างอิงอย่างถูกต้อง แสดงความคิดเหน็ วเิ คราะห์ วจิ ารณ์ แนวคิด การใชภ้ าษา และความน่าเชื่อถือ และประเมนิ จากเร่ืองที่ฟังและดูแลว้ นากาหนดแนวทางไปประยกุ ต์ใชใ้ นชีวติ ประจาวัน การใชค้ าและกลุ่มคาสร้างประโยค การสร้างคาในภาษาไทย ตลอดจนวเิ คราะห์และประเมนิ การใชภ้ าษาและส่ือ ส่งิ พิมพ์อิเล็กทรอนิกส์ ประเมินคุณค่าด้านวรรณศลิ ป์ ข้อคิดจากวรรณคดีและวรรณกรรม เพือ่ นาไป ประยุกต์ใชใ้ นชวี ติ จรงิ ตลอดจนรวบรวมวรรณกรรมพนื้ บา้ นและอธบิ ายภมู ิปญั ญาทางภาษา โดยใชก้ ระบวนการดา้ นทกั ษะทางภาษา การสอ่ื สารในรปู แบบการเชญิ ชวน โครงการ เรยี งความ ยอ่ ความ ผลติ งานเขียนในรูปแบบสารคดี บันเทงิ คดี ประเมนิ งานเขียนของผู้อ่นื บนั ทึก สรปุ แนวคดิ แสดงความ คิดเหน็ ประเมินการฟังการดูมีวิจารณญาณในการเลือกเรื่องจากการฟังและดู พดู อภิปราย โนม้ น้าวใจ ดว้ ย ภาษาที่ถูกต้อง ใช้คาและกลมุ่ คาสร้างประโยคตรงตามวัตถุประสงค์ ใช้ภาษาเหมาะสมแกโ่ อกาสและกาลเทศะ แต่งคาประพนั ธป์ ระเภท รา่ ย วเิ คราะหอ์ ิทธิพลของภาษาตา่ งประเทศและภาษาถ่ิน อธบิ ายและวเิ คราะห์ หลกั การสร้างคาในภาษาไทย ตลอดจนวิเคราะห์และประเมนิ การใช้ภาษาและสอ่ื ส่งิ พมิ พ์อิเล็กทรอนิกส์ ประเมิน คณุ ค่าวรรณคดี ท่องบทอาขยาน มมี ารยาทในการอา่ น การเขยี น การฟงั การดู และการพดู ตลอดจนมีความรกั และภาคภมู ใิ จใน ภาษาไทย อนั เป็นภาษาของชาติ รหัสตัวช้ีวัด ท๑.๑ ม.๕/๒ ม.๕/๓ ม.๕/๔ ม. ๕/๕ม. ๕/๖ม . ๕/๗ ม.๕/๘ ม.๕/๙ ท ๒.๑ ม.๕/๑ ม.๕/๒ ม.๕/๓ ม. ๕/๖ม . ๕/๗ ม.๕/๘ ท ๓.๑ม.๕/๑ ม.๕/๒ ม.๕/๓ ม. ๕/๕ม. ๕/๖ ท ๔.๑ม.๕/๒ ม.๕/๓ท ๕.๑ ม.๕/๑ ม.๕/๒ ม.๕/๓ ม.๕/๔ ม. ๕/๕ม. ๕/๖ รวม ๒๗ ตวั ชีว้ ดั

๔๒ ท๓๓๑๐๑ ภาษาไทย คาอธบิ ายรายวชิ าพ้นื ฐาน ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๖ ภาคเรียนท่ี ๑ กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย เวลา ๔๐ ช่ัวโมง จานวน ๑.๐ หนว่ ยกติ ศึกษาหลักการอา่ นรอ้ ยแก้วประเภทปาฐกถา เทศนา บทร้อยกรองประเภทโคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน ร่าย การอา่ นจบั ใจความสาคัญ การตีความ การแปลความ และการขยายความ การอ่านวเิ คราะห์ การ วจิ ารณ์ การประเมินคา่ และการแสดงความคดิ เหน็ วรรณกรรมประเภทต่าง ๆ การสรปุ เป็นแผนผงั ความคิด บนั ทึก ย่อความ รายงาน ความรจู้ ากการอา่ นสอ่ื สง่ิ พมิ พ์ สอื่ อิเลก็ ทรอนกิ ส์ และแหลง่ เรียนรู้ การเขยี นอธบิ าย บรรยาย พรรณนา แสดงทรรศนะ การโต้แย้งได้ตรงตามวัตถุประสงค์ โดยใชภ้ าษาเรยี บเรยี งถูกต้อง และมี ข้อมูลสาระสาคญั ชัดเจน การเขยี นเรยี งความ ยอ่ ความจากสอ่ื ท่ีหลากหลาย และการเขียนบันเทงิ คดี การเขียน รายงานจากการศึกษาคน้ คว้าเรอื่ งท่ีสนใจ การฟัง การดู ข่าว เหตกุ ารณ์ การอภิปราย การใหค้ วามรู้ การคดิ วิเคราะห์ วจิ ารณ์ การประเมนิ ค่าโดยใช้วจิ ารณญาณอย่างสร้างสรรค์ การศกึ ษาบริบทธรรมชาติของภาษา พลังของภาษา และลกั ษณะของภาษา การใชค้ า กลุ่มคา เพื่อสร้างประโยคในการสื่อสาร การแตง่ บทร้อยกรอง ประเภทฉันท์ อทิ ธิพลของภาษาต่างประเทศและภาษาถ่ิน การศึกษากวนี ิพนธ์ กลอน บทละคร วรรณกรรม วรรณคดี และการรวบรวมวรรณกรรมพื้นบา้ นท่ีเป็น ภมู ปิ ญั ญาทางภาษา การท่องจาบทอาขยานทีน่ า่ สนใจ โดยใชท้ กั ษะกระบวนการอ่าน กระบวนการเขยี น กระบวนการคดิ ทักษะการใชภ้ าษา ทักษะการ สอ่ื สาร การสืบค้นข้อมลู บนั ทึก จดั กล่มุ ข้อมลู และการอภปิ รายเพือ่ ให้เกดิ ความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ สามารถนาความรู้ทไ่ี ด้รับนั้นไปใชส้ ื่อสารได้อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ เหน็ คณุ ค่าของวรรณคดี วรรณกรรม มีคุณธรรม ในการใช้ภาษา และนาไปใช้ในชวี ติ ประจาวัน มมี ารยาทในการอา่ น การเขียน การฟังการดู และการพดู ตลอดจนมีความรักและภาคภูมิใจใน ภาษาไทย อนั เปน็ ภาษาของชาติ รหสั ตัวชี้วดั ท ๑.๑ ม.๖/๑, ม.๖/๒, ม.๖/๓, ม.๖/๔, ม.๖/๕, ม.๖/๖, ม.๖/๗ ม.๖/๘, ม.๖/๙, ท ๒.๑ ม.๖/๑, ม.๖/๒, ม.๖/๓, ม.๖/๔, ม.๖/๕, ม.๖/๖, ม.๖/๗ ม.๖/๘, ท ๓.๑ ม.๖/๑, ม.๖/๒, ม.๖/๓, ม.๖/๔, ม.๖/๕, ม.๖/๖, ท ๔.๑ ม.๖/๓, ม.๖/๔, ม.๖/๗, ท ๕.๑ ม.๖/๑, ม.๖/๒, ม.๖/๓, ม.๖/๔, ม.๖/๕, ม.๖/ ๖ รวม ๓๒ ตัวช้ีวัด

๔๓ ท๓๓๑๐๒ ภาษาไทย คาอธบิ ายรายวชิ าพนื้ ฐาน ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ ๖ ภาคเรียนที่ ๒ กลุม่ สาระการเรียนรูภ้ าษาไทย เวลา ๔๐ ชวั่ โมง จานวน ๑.๐ หนว่ ยกิต ศึกษาหลักการอ่านรอ้ ยแกว้ ประเภทพระบรมราโชวาท บทรอ้ ยกรองประเภทกลอน ร่าย รอ้ ยกรองรว่ ม สมยั และบทอาเศียรวาท การจบั ใจความสาคญั การตีความ การแปลความ และการขยายความ การอา่ น วเิ คราะห์ วจิ ารณ์ การประเมนิ ค่า และการแสดงความคิดเหน็ วรรณกรรมประเภทตา่ งๆ การสรปุ เป็นแผนผงั ความคดิ ย่อความ รายงาน การสงั เคราะห์ความรู้จากการอา่ นส่ือส่ิงพิมพ์ ส่อื อิเล็กทรอนิกสแ์ ละแหล่งเรียนรู้ การเขยี นโนม้ น้าวใจเชญิ ชวน ประกาศ จดหมายกจิ ธุระ และการรายงานการประชุมไดต้ รงตามวัตถปุ ระสงค์ โดยใชภ้ าษาเรียบเรยี งถกู ต้อง และมีข้อมูลสาระสาคญั ชัดเจน การเขียนสารคดี การเขยี นรายงานจากการศึกษา ค้นควา้ ทส่ี นใจ เพ่ือพัฒนาตนเอง การฟงั การดูสารคดี โฆษณาทางสือ่ การวเิ คราะห์ วิจารณ์ ประเมินค่าโดย ใช้วิจารณญาณอย่างสรา้ งสรรค์ โดยการพูดแสดงความรู้ พูดแสดงทรรศนะ และพดู โน้มนา้ วใจ การศึกษาการใช้ ภาษาเหมาะสมแก่โอกาส กาลเทศะ บคุ คล พร้อมที่จะใช้ระดบั ของภาษาเป็นตวั กาหนด การใชค้ าราชาศัพท์ และประเมินค่า การใช้ภาษาจากส่อื ส่ิงพิมพ์ สอื่ อเิ ล็กทรอนิกส์ การศึกษากวีนิพนธ์ กลอนบทละคร วรรณกรรม วรรณคดี และการรวบรวมข้อคิดจากวรรณคดี วรรณกรรมมาประยุกต์ใชใ้ นชวี ิตจริง โดยใช้ทกั ษะกระบวนการอ่าน กระบวนการเขยี น กระบวนการคิด ทกั ษะการใช้ภาษา ทกั ษะการ สือ่ สาร การสบื คน้ ข้อมลู บันทกึ จัดกลมุ่ ข้อมูล และการอภปิ รายเพอ่ื ให้เกิดความรู้ ความคดิ ความเขา้ ใจ สามารถนาความรู้ทไ่ี ด้รบั น้ันไปใช้ส่ือสารได้อยา่ งมีประสิทธิภาพ เห็นคณุ คา่ ของวรรณคดี วรรณกรรม มีคณุ ธรรม ในการใชภ้ าษา และนาไปใชใ้ นชีวิตประจาวัน มีมารยาทในการอา่ น การเขียน การฟังการดู และการพดู ตลอดจนมีความรกั และภาคภมู ิใจใน ภาษาไทย อันเปน็ ภาษาของชาติ รหัสตัวชี้วัด ท ๑.๑ ม.๖/๑, ม.๖/๒, ม.๖/๓, ม.๖/๔, ม.๖/๕, ม.๖/๖, ม.๖/๗ ม.๖/๘, ม.๖/๙, ท ๒.๑ ม.๖/๑, ม.๖/๒, ม.๖/๓, ม.๖/๔, ม.๖/๕, ม.๖/๖, ม.๖/๗ ม.๖/๘, ท ๓.๑ ม.๖/๑, ม.๖/๒, ม.๖/๓, ม.๖/๔, ม.๖/ ๕, ม.๖/๖, ท ๔.๑ ม.๖/๓, ม.๖/๔, ม.๖/๗, ท ๕.๑ ม.๖/๑, ม.๖/๒, ม.๖/๓, ม.๖/๔, ม.๖/๕, ม.๖/๖ รวม ๓๒ ตัวชี้วดั

๔๔ คาอธบิ ายรายวิชาคณติ ศาสตร์ รหัสวชิ า ค๓๑๑๐๑ กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ ๔ เวลา ๔๐ ชว่ั โมง / ภาค จานวน ๑ หน่วยกิต ภาคเรียนที่ ๑ คาอธบิ ายรายวิชา ศกึ ษา เรื่อง เซต การดาเนินการของเซต แผนภาพเวนน์- ออยเลอร์ และการแก้ปญั หา การให้ เหตุผลแบบอปุ นัยและแบบนิรนัย และการอา้ งเหตผุ ล โดยจัดประสบการณ์หรือสร้างสถานการณ์ในชีวิตประจาวันที่ใกล้ตวั ใหผ้ ู้เรยี นได้ศึกษา ค้นควา้ โดยการ ปฏบิ ัตจิ ริง สรุป รายงาน และนาเสนอ เพอ่ื พัฒนาทักษะ / กระบวนการในการคดิ คานวณ การแก้ปัญหา การให้ เหตผุ ล การสือ่ ความหมายทางคณิตศาสตร์ และการนาประสบการณด์ า้ นความรู้ ความคิดทกั ษะกระบวนการท่ไี ด้ ไปใช้ในการเรียนรู้สงิ่ ต่างๆ และในชีวิตประจาวันอย่างสรา้ งสรรค์ การเห็นคุณคา่ และมีเจตคตทิ ่ีดีต่อคณติ ศาสตร์ สามารถทางานอยา่ งเป็นระบบ ระเบยี บ รอบคอบ มี ความรับผดิ ชอบ มวี ิจารณญาณ และเชือ่ มัน่ ในตนเอง มีความซื่อสตั ย์สุจรติ มวี ินัย ใฝเุ รียนรู้ มีความมงุ่ มั่นในการ ทางาน และมีจติ สาธารณะ รหัสตวั ชี้วัด ค๔.๑ ม.๔ /๑ , ค๔.๑ ม.๔ /๒ , ค๔.๒ ม.๔ /๑ , ค๔.๒ ม.๔ /๒ , ค๖.๑ ม.๔/๑ , ค๖.๑ ม.๔/๒ , ค๖.๑ ม.๔/๓ ,ค๖.๑ ม.๔/๔ , ค๖.๑ ม.๔/๕ , ค๖.๑ ม.๔/๖ รวม ๑๐ ตัวชี้วดั

๔๕ คาอธบิ ายรายวิชาคณติ ศาสตร์ ช้ัน มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๔ รหัสวชิ า ค ๓๑๑๐๒ กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๒ เวลา ๔๐ ชวั่ โมง / ภาค จานวน ๑ หนว่ ยกติ คาอธบิ ายรายวิชา ศึกษาเรื่อง จานวนจริง สมบัติของจานวนจริงเกี่ยวกับการบวก และการคูณ สมบัติการเท่ากันและการ ไมเ่ ท่ากัน สมการกาลงั สองตวั แปรเดียว อสมการตวั แปรเดยี ว คา่ สมั บรู ณ์ เรอื่ ง เลขยกกาลังท่ีมเี ลขช้ีกาลังเป็นจานวนตรรกยะ รากที่ n ของจานวนจริง โดยจดั ประสบการณห์ รือสร้างสถานการณ์ในชีวิตประจาวันที่ใกล้ตัวให้ผู้เรียนได้ศึกษา ค้นคว้า โดยการ ปฏิบัติจริง สรุป รายงาน และนาเสนอ เพ่ือพัฒนาทักษะ / กระบวนการในการคิดคานวณ การแก้ปัญหา การให้ เหตผุ ล การส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์ และการนาประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิดทักษะกระบวนการที่ได้ ไปใช้ในการเรยี นรู้สิง่ ต่างๆ และในชวี ิตประจาวนั อย่างสร้างสรรค์ การเห็นคุณค่าและมีเจตคติท่ีดีต่อคณิตศาสตร์ สามารถทางานอย่างเป็นระบบ ระเบียบ รอบคอบ มี ความรับผิดชอบ มีวิจารณญาณ และเชื่อม่ันในตนเอง มีความรักชาติ ศาสตร์ กษัตริย์ มีความซื่อสัตย์สุจริต มีวินัย ใฝเุ รียนรู้ รูจ้ ักใช้ชีวติ อย่างพอเพียง มคี วามมงุ่ มน่ั ในการทางาน รกั ความเปน็ ไทย และมจี ิตสาธารณะ รหสั ตัวชีว้ ดั ค๑.๑ ม.๔ /๑ , ค๑.๑ ม.๔/๒ , ค๑.๑ ม.๔/๓ , ค๑.๒ ม.๔/๑ , ค๑.๓ ม.๔/๑ , ค๑.๔ ม.๔/๑ , ค๔.๒ ม.๔/๓ ค๖.๑ ม.๔/๑ , ค๖.๑ ม.๔/๒ , ค๖.๑ ม.๔/๓ , ค๖.๑ ม.๔/๔ , ค๖.๑ ม.๔/๕ , ค๖.๑ ม.๔/๖ รวม ๑๓ ตัวชวี้ ดั

๔๖ คาอธิบายรายวชิ าคณติ ศาสตร์ รหสั วิชา ค๓๒๑๐๑ กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ ช้ัน มัธยมศึกษาปีที่ ๕ เวลา ๔๐ ชัว่ โมง / ภาค จานวน ๑ หน่วยกิต ภาคเรยี นท่ี ๑ คาอธิบายรายวชิ า ศึกษา เรื่อง ความสัมพันธ์และฟังก์ชัน ความสัมพันธ์และฟังก์ชัน กราฟของความสัมพันธ์ และ ฟังก์ชนั โดยจดั ประสบการณ์หรอื สร้างสถานการณ์ในชีวิตประจาวันท่ีใกล้ตัวให้ผู้เรียนได้ศึกษา ค้นคว้า โดยการ ปฏิบัติจริง สรุป รายงาน และนาเสนอ เพ่ือพัฒนาทักษะ / กระบวนการในการคิดคานวณ การแก้ปัญหา การให้ เหตุผล การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ และการนาประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิดทักษะกระบวนการที่ได้ ไปใช้ในการเรยี นรู้ส่ิงต่างๆ และในชวี ิตประจาวนั อยา่ งสรา้ งสรรค์ การเห็นคุณค่าและมีเจตคติที่ดีต่อคณิตศาสตร์ สามารถทางานอย่างเป็นระบบ ระเบียบ รอบคอบ มี ความรบั ผดิ ชอบ มีวจิ ารณญาณ และเชอื่ มั่นในตนเอง มีความรักชาติ ศาสตร์ กษัตริย์ มีความซื่อสัตย์สุจริต มี วนิ ัย ใฝเุ รียนรู้ รูจ้ ักใชช้ ีวิตอยา่ งพอเพียง มคี วามมงุ่ มนั่ ในการทางาน รกั ความเปน็ ไทย และมจี ิตสาธารณะ รหสั ตวั ชว้ี ดั ค๔.๑ ม.๕/๓ , ค๔.๒ ม.๕/๔ , ค๔.๒ ม.๕/๕ , ค๖.๑ ม.๕/๑ , ค๖.๑ ม.๕/๒ , ค๖.๑ ม.๕/๓ , ค๖.๑ ม. ๕/๔ ค๖.๑ ม.๕/๕ , ค ๖.๑ ม.๕/๖ รวม ๙ ตวั ชว้ี ัด

๔๗ คาอธบิ ายรายวชิ าคณติ ศาสตร์ รหสั วชิ า ค ๓๒๑๐๒ กลุ่มสาระการเรยี นร้คู ณิตศาสตร์ ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๕ เวลา ๔๐ ชั่วโมง / ภาค จานวน ๑ หน่วยกิต ภาคเรียนที่ ๒ คาอธิบายรายวิชา ศึกษา เร่ือง อัตราส่วนตรีโกณมิติและการนาไปใช้ และ ลาดับและอนุกรม ลาดับ ลาดับเลข คณิต ลาดับเรขาคณิต อนุกรมเลขคณิต อนุกรมเรขาคณิต การหาผลบวก n พจน์แรกของอนุกรมเลขคณิตและ อนุกรมเรขาคณติ โดยจัดประสบการณ์หรือสร้างสถานการณ์ในชีวิตประจาวันท่ีใกล้ตัวให้ผู้เรียนได้ศึกษา ค้นคว้าโดยการ ปฏบิ ัติจริง ทดลอง สรุป รายงาน เพื่อพัฒนาทักษะ / กระบวนการในการคิดคานวณ การแก้ปัญหา การให้เหตุผล การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ และการนาประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิดทักษะกระบวนการท่ีได้ไปใช้ใน การเรียนรู้ส่ิงต่างๆ และในชีวิตประจาวันอย่างสร้างสรรค์ รวมท้ังเห็นคุณค่าและมีเจตคติที่ดีต่อคณิตศาสตร์ สามารถทางานอยา่ งเปน็ ระบบ ระเบยี บ รอบคอบ มีความรับผิดชอบ มวี ิจารณญาณ และเช่ือม่ันในตนเอง การเห็นคุณค่าและมีเจตคติท่ีดีต่อคณิตศาสตร์ สามารถทางานอย่างเป็นระบบ ระเบียบ รอบคอบ มี ความรบั ผดิ ชอบ มวี ิจารณญาณ และเชื่อมั่นในตนเอง มีความรักชาติ ศาสตร์ กษัตริย์ มีความซ่ือสัตย์สุจริต มี วนิ ัย ใฝเุ รียนรู้ รจู้ ักใชช้ วี ติ อย่างพอเพียง มีความมงุ่ ม่ันในการทางาน รักความเปน็ ไทย และมีจติ สาธารณะ รหัสตัวช้วี ัด ค๒.๑ ม.๕/๑ , ค๒.๒ ม.๕/๑ , ค๔.๑ ม.๕/๔ , ค๔.๑ ม.๕/๕ , ค ๔.๒ ม.๕/๖ , ค๖.๑ ม.๕/๑ , ค๖.๑ ม. ๕/๒ ค๖.๑ ม.๕/๓ , ค๖.๑ ม.๕/๔ , ค๖.๑ ม.๕/๕ , ค๖.๑ ม.๕/๖ รวม ๑๑ ตวั ช้วี ดั

๔๘ คาอธบิ ายรายวิชาคณิตศาสตร์ รหสั วิชา ค๓๓๑๐๑ กลุ่มสาระการเรียนรูค้ ณิตศาสตร์ ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ ๖ เวลา ๔๐ ช่วั โมง / ภาค จานวน ๑ หนว่ ยกติ ภาคเรียนท่ี ๑ คาอธบิ ายรายวิชา ศึกษาเรื่องความน่าจะเป็นกฎเกณฑ์เบ้ืองต้นเกี่ยวกับการนับและแผนภาพต้นไม้ ทดล ม และหาความน่าจะเป็นของเหตุการณ์ นาความรู้เก่ียวกับความน่าจะเป็นไปใช้ในการคาดการณ์ และช่วยในการ ตัดสินใจ รวมถงึ การเสริมทักษะกระบวนการทาง คณิตศาสตร์ โดยการปฏิบัติ สรุปและรายงานผลการเรียนรู้โดยการวัดและประเมินผล ด้วยวิธีการ ที่หลากหลาย ตามสภาพความเป็นจริง ให้สอดคล้องกับเนื้อหาและทักษะที่ต้องการวัด เพื่อพัฒนาทักษะ / กระบวนการในการ คิดคานวณ การแก้ปัญหา การให้เหตุผล การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ และนาประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิด ทักษะกระบวนการท่ไี ดไ้ ปใชใ้ นการเรียนรู้ ส่งิ ต่าง ๆ และใชใ้ นชีวิตประจาวันอยา่ งสรา้ งสรรค์ การเห็นคุณค่าและมีเจตคติที่ดีต่อคณิตศาสตร์ สามารถทางานอย่างเป็นระบบ ระเบียบ รอบคอบ มี ความรบั ผิดชอบ มีวจิ ารณญาณ และเชอื่ มั่นในตนเอง มีความรักชาติ ศาสตร์ กษัตริย์ มีความซื่อสัตย์สุจริต มี วนิ ัย ใฝุเรยี นรู้ รจู้ ักใชช้ ีวิตอย่างพอเพียง มีความมุ่งม่ันในการทางาน รักความเปน็ ไทย และมีจติ สาธารณะ รหัสตัวชว้ี ดั ค๕.๒ ม.๖/๒ , ค๕.๓ ม.๖/๒ , ค๖.๑ ม.๖/๑ , ค๖.๑ ม.๖/๒ , ค๖.๑ ม.๖/๓ , ค๖.๑ ม.๖/๔ , ค๖.๑ ม. ๖/๕ , ค๖.๑ ม.๖/๖ รวม ๘ ตวั ช้วี ดั

๔๙ คาอธิบายรายวชิ าคณติ ศาสตร์ รหัสวชิ า ค ๓๓๑๐๒ กลุม่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ ช้ัน มธั ยมศึกษาปที ่ี ๖ เวลา ๔๐ ชวั่ โมง / ภาค จานวน ๑ หนว่ ยกติ ภาคเรยี นที่ ๒ คาอธบิ ายรายวชิ า ศกึ ษา เรอ่ื ง สถติ ิเบือ้ งตน้ รวมถงึ การเสริมทักษะกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ โดยการปฏิบัติสรุปและรายงานผลการเรียนรู้โดยการวัดและประเมินผลด้วยวิธีการ ท่ีหลากหลายตาม สภาพความเป็นจริงให้สอดคล้องกับเนื้อหาและทักษะที่ต้องการวัดเพื่อพัฒนาทักษะ /กระบวนการในการคิด คานวณ การแก้ปัญหา การให้เหตุผล การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ และนาประสบการณ์ด้านความรู้ ความคดิ ทกั ษะกระบวนการท่ไี ดไ้ ปใชใ้ นการเรยี นรู้ สิง่ ต่าง ๆ และใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั อยา่ งสร้างสรรค์ การเห็นคุณค่าและมีเจตคติที่ดีต่อคณิตศาสตร์ สามารถทางานอย่างเป็นระบบ ระเบียบ รอบคอบ มี ความรบั ผดิ ชอบ มีวจิ ารณญาณ และเช่อื มน่ั ในตนเอง มีความรักชาติ ศาสตร์ กษัตริย์ มีความซ่ือสัตย์สุจริต มี วินัย ใฝเุ รียนรู้ รู้จักใช้ชีวติ อย่างพอเพียง มีความมุง่ มั่นในการทางาน รกั ความเป็นไทย และมีจติ สาธารณะ รหสั ตวั ชี้วัด ค๕.๑ ม.๖/๑ , ค๕.๑ ม.๖/๒ , ค๕.๑ ม.๖/๓ , ค๕.๒ ม.๖/๑ , ค๕.๓ ม.๖/๑ , ค๖.๑ ม.๖/๑ , ค๖.๑ ม. ๖/๒ , ค๖.๑ ม.๖/๓ , ค๖.๑ ม.๖/๔ , ค๖.๑ ม.๖/๕ , ค๖.๑ ม.๖/๖ รวม ๑๑ ตัวช้ีวัด

๕๐ คาอธบิ ายรายวิชา รหัสวิชา ว๓๑๑๐๑ รายวิชา วิทยาศาสตร์ ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี ๔ ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลา ๔๐ ชั่วโมง / ภาคเรียน จานวน ๑ หนว่ ยกติ อธิบายการรักษาดุลยภาพของส่ิงมีชีวิต การเคล่ือนที่ของสารผ่านเข้าออกจากเซลล์ การลาเลียงสาร โดยวิธีการแพร่ การออสโมซิส การลาเลียงแบบฟาซิลิเทต และการลาเลียงแบบใช้พลังงาน การลาเลียงสารขนาด ใหญเ่ ข้าและออกจากเซลล์ การลาเลียงของส่ิงมีชีวิตเซลล์เดียวและหลายเซลล์ กลไกในการรักษาดุลยภาพของน้า ในพืช การคายน้าผ่านปากใบ การดูดน้าที่ราก โครงสร้าง หน้าที่ การางานในการขับของเสียจากกระบวนการเม แทบอลิซึมของไต การกาจัดน้าและของเสียของสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวและหลายเซลล์ การรักษาดุลยภาพของน้า แร่ ธาตุของปลาน้าจืดและปลาน้าเค็ม กลไกการควบคุมอุณหภูมิในร่างกายของสัตว์และมนุษย์ ระบบภูมิคุ้มกันและ การรักษาดุลยภาพในร่างกายของมนุษย์ การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม โครงสร้างและองค์ประกอบของ DNA การเกิดมิวเทชัน การแปรผันทางพันธุกรรม ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีชีวภาพ ผลที่เกิดจากการใช้ เทคโนโลยีทางชีวภาพ ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต ประโยชน์ของความหลากหลายทางชีวภาพของส่ิงมีชีวิต ระบบนเิ วศ สมดุลของระบบนเิ วศ การเปลยี่ นแปลงแทนที่ ความหลากหลายของระบบนิเวศ ความสัมพันธ์ระหว่าง สิ่งมีชีวิต และส่ิงมีชีวิตกับสิ่งแวดล้อม ผลท่ีเกิดจากการเพิ่มของประชากรมนุษย์ การใช้ทรัพยากรธรรมชาติท่ีมีอยู่ อยา่ งจากัดใหค้ ุม้ ค่า แนวทางปูองกนั แกไ้ ขฟ้ืนฟูสภาพแวดลอ้ ม การอนรุ ักษท์ รพั ยากรธรรมชาติอยา่ งยัง่ ยืน โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสารวจตรวจสอบ การสืบค้นข้อมูล บนั ทึก จัดกลมุ่ ขอ้ มูล และการอภปิ รายเพ่อื ให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถนาเสนอ ส่ือสารส่ิงท่ีเรยี นรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ เหน็ คุณค่าของการนาความรไู้ ปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจาวันมีจิตวิทยา ศาสตร์ คณุ ธรรม จริยธรรม และค่านยิ มทเ่ี หมาะสม รหัสตัวช้ีวัด ว๑.๑ ม.๔-๖/๑, ม.๔-๖/๒, ม.๔-๖/ ๓ ม.๔-๖/๔ ว๑.๒ ม.๔-๖/๑ ม.๔-๖/๒ ม.๔-๖/๓ ม.๔-๖/๔ ว๒.๑ ม.๔-๖/๑ ม.๔-๖/๒ ม.๔-๖/๓ ว๒.๒ ม.๔-๖/๑ ม.๔-๖/๒ ม.๔-๖/๓ ว๘.๑ ม.๔-๖/๑ - ๑๒


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook