201การปรุงดินดังกลา่ วกโ็ ดยทําให้ค่อนข้างร่วนโปร่งและมธี าตุอาหารมาก นันกค็ ือต้องใช้ปุ ๋ ยคอกหรือปุ ๋ ยหมักเป็นส่วนผสมของดินทีใช้กลบหลุมปลกู ส่วนจะใช้มากนอ้ ยเพียงใดขึ นอยูก่ ับคุณภาพและความอุดมสมบูรณ์ของดินเดิมเป็นเกณฑ์ ถ้าไม่มีโอกาสใหต้ รวจสอบ ขอแนะนําให้ใช้อินทรียวัตถุ1 ส่วนต่อดินทีขุดขึ นมา2 ส่วน 3) การเตรียมพรรณไม้ปลูก พรรณไม้ทีจะนํามาปลกู ลงดนิ กลางแจ้งนั นถ้านําพรรณไม้ออกมาจากโรงเรือนเพาะชําพรางแสง แล้วนํามาปลกู ทันที เมือพรรณไม้นั นได้รับแสงแดดจ้าอย่างกะทันหัน จะทําให้ใบไม้ไหม้ และหากรุนแรงก็อาจถึงตายได้ ฉะนั นจําเป็ นต้องฝึ กพรรณไม้นั นให้คุ้นกับแสงแดดจ้าเสียก่อนโดยก่อนปลูกประมาณ2-3 สัปดาห์ ควรเพมิ แสงแดดใหก้ ับพรรณไม้นั นให้มากขึ น ๆ เป็ นลําดับ โดยการเปิ ดหลังคาใหไ้ ด้รับแสงมากขึ น หรือเคลือนย้ายพรรณไม้ออกมาอยู่นอกร่ มเงาของเรือนเพาะชํา การเพิมแสงอาจปรับให้ได้แสงเพิมขึ นจากร้อยละ50เป็ นร้อยละ 70 ในสปั ดาห์แรกและเพิมเป็ นร้อยละ 90 ในสปั ดาห์ที 2 เมือเข้าสัปดาห์ที 3 ก็ให้ได้รับแสงเตม็ ทีการแนะนําอย่างนี พูดง่ายทํายาก เพราะวัสดุพรางแสงหลังคาจากโรงเรือนพรางแสงได้มากน้อยตายตัวและปรับลดปรับเพิมได้ยาก จึงขอแนะนําให้ขนย้ายพรรณไม้ออกพรางแสงทั งวันมาอยู่ในบริเวณทีแดดส่องถึงโดยตรงในชว่ งเช้าถึงประมาณ 10 นาฬกิ า จึงมีเงาหลังคาพรางแสงบังวางไวเ้ ช่นนี ประมาณ1 สัปดาห์ กข็ ยับให้ได้รับแสงสว่างเพิมขึ นจนถึงเทียงวันอีก 1 สัปดาห์ พอถึงช่วงสัปดาหท์ ี 3 จึงย้ายออกไปให้ได้รับแสงแดดตลอดทั งวัน 4) การปลูก หลังจากผสมดินในหลุมปลูกดีแล้วใหข้ ุดหลมุ เล็กๆตรงกลางหลุมใหญ่เพือทีวางพรรณไม้ลงปลูกได้ แล้วกลบดิน โรยปุ ๋ ยเคมีสูตร16-16-16 หรือ 15-15-15 ประมาณ1 ช้อนชา แต่ถ้าขุดหลมุ กว้างขนาด30 เซนติเมตร ให้ผสมปุ ๋ ยเคมกี ับหนา้ ดินใหเ้ ข้ากัน แล้วกดดินให้พอแน่น ถ้าพรรณไม้สูงต้องปักหลักไม้ผูกเชือกกันลมพัดโยกด้วย เสร็จแล้วกลบผิวหน้าด้วยวัสดุช่วยให้ดินโปร่งทีมเี นือหยาบ เช่น แกลบ ขี กบ เปลือกถั วลสิ ง กาบมะพร้าว เป็นต้น ทั งนี เพือชย่วเกบ็ ความชืนและป้ องกันวัชพืชขึ นแซมโคนต้น 5) ข้อควรพจิ ารณาในการปลูกไม้ขุดล้อมจะต้องมีหลักการและวธิ ีการทีเหมาะสมกับพันธุ์ไม้ เพือความสะดวกในการขุดล้อมและขนย้าย ดังนั นควรปฏบิ ัติดังนี - ปลูกไม้ทีต้องการขดุ ล้อมจําหน่ายเป็นแถวเป็นแนวให้เป็นระเบียบเพอื สะดวกในการบํารุงรักษา - ปลูกให้ชิดไว้ก่อน และวิธีทีดีคือ ในแถวหนึ ง ๆ ควรปลูกพรรณไม้สองชนิดสลับกัน คือ ชนิดหนึงเป็นพรรณไม้ยืนต้นขนาดใหญ่อีกชนิดหนึ งเป็ นพรรณไม้พุ่มขนาดเลก็ หรือพรรณไม้ทรงต้นสูงสลับกับพรรณไม้ต้นเตี ย เช่น ปลูกลีลาวดีสลับกับปาล์มสิบสองปันนา ปลูกปาล์มนํ าพสุ ลับกับสิบสองปันนา เป็นต้น
202 - หากเป็ นพรรณไม้ตระกูลปาล์มพยายามตัดใบปาล์มส่วนล่าง ๆ ออกเสมอเป็ นการเร่งกระตุ้นให้ปาล์มแตกใบใหมแ่ ละสูงเร็วขึ น - การให้นํ าไม่ควรให้นํ ามากเกินไปหรือให้น้อยเกินไป ควรใหน้ ํ าครั งละน้อยแต่บ่อยครั ง ทําให้พรรณไม้มีการเจริญเติบโตสมําเสมอ รูปทรงต้นสวยงาม - สังเกตดุ ูยอดหรือลักษณะใบออ่ นทีแตกใหมว่ ่ามีจํานวนเท่าไหร่ หากมียอดหรือใบอ่อนทีแตกใหม่ลักษณะอวบอ้วน จํานวนมากแสดงว่าพรรณไม้นั นงามดี ถ้าไม่ค่อยผลิแสดงว่าไมง่ ามต้องให้ปุ ๋ ยช่วย และควรเปลยี นสูตรและชนิดของปุ ๋ ยอยู่เสมอ อย่าใส่ปุ ๋ ยสูตรซํ า ๆ กัน จะช่วยให้ได้ธาตุอาหารเสริมทีแตกต่างกัน - คอยตรวจสอบปริมาณและป้ องกันกําจัดศัตรูพชื อยู่เสมอ โดยกําจัดวัชพชื รักษาความสะอาดของแปลงปลูก เพือไม่ให้เป็ นแหล่งเพาะฟักขยายพันธุ์ของศัตรูพืชและป้ องกนั โรคแมลงศัตรูพชื ระบาด 1.2.3 วธิ ีการขุดย้าย พรรณไม้ยืนต้นทีปลูกลงดินเพือการขุดย้าย เมือเติบโตได้ขนาดหรือเมอื มกี ารสังซือ วธิ ีการขุดย้ายพรรณไม้ขึ นมาจําหน่ายนี อาจทําไ2ดว้ ิธี คือ 1) วิธีการล้างราก (Bare root) เป็ นการขุดพรรณไม้ขึ นจากดินหรือวัสดุปลกู โดยใหม้ ีแต่รากติดมากับพรรณไม้เท่านั น จะไม่มีดินหรือวัสดุปลกู ติดมาด้วย เหมาะกับตน้ กล้าและพรรณไม้ยนื ต้นทมี ีระบบรากแข็งแรง ทนทาน เจริญเติบโตเร็ว วิธีนี ทําได้ง่ายใช้เวลาน้อยและสะดวกในการขนส่ง เช่น เหง้าสัก กล้าปาล์มประดับ ต้นตอติดตาเขียวยางพารา ปบี โมก เป็นต้น 2) วธิ ีการขุดล้อม (Balling and burlaping) เป็นการขุดล้อมพรรณไม้โดยมีดินหรือวัสดุปลูกห่อหุ้มรากไปด้วย เหมาะกับพรรณไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ต้องปฏิบัติอย่างประณี ตใช้เวลามากและมเี ทคนิคปฏบิ ัติหลายขั นตอน ซึงแบ่งออกเป็น2 แบบ คือ - การขุดล้อมเตือน ใช้กบั พรรณไมท้ ีขุดล้อมยากจําเป็ นต้องอาศัยเวลานานเป็นเดือน โดยขุดดินรอบโคนต้นแล้วค่อยตัดแต่งรากออกทีละด้านและใช้วัสดุห่อตุ้มดินใหแ้ น่นโดยตั งแต่เริมขดุ ครั งแรกก็ต้องตัดแต่งกิงและคํ ายันต้นไว้ให้เรียบร้อย หลังจากน15ั น-30 วัน จึงตัดรากทั งหมดแล้วเคลือนย้ายได้ เช่น จิก ตะแบก เสลา กาสะลอง นนทรี เป็ นต้น แต่ในกรณทีเป็ นพรรณไม้ทีมีอายุมาก เปลือกบางเจริญเติบโตช้า จําเป็ นต้องใช้ระยะเวลาขุดล้อมเตือนนานเป็ นปีเมือสงั เกตเห็นมีรากใหม่งอกแทนทะลุวัสดุห่อหุ้มตุ้มดินแล้วจึงตัดรากทั งหมดแล้วเคลือนย้ายได้เช่น ตะโกนา มะเกลอื จันทนห์ อม พะยอม บุนนาค กันเกรา จนั ทนก์ ะพ้อ เป็นต้น
203 ภาพที 9.3 การขุดล้อมเตือนพรรณไม้ ถ่ายภาพโดยสมพงษ์ ทองเด็จ - การขดุ ล้อมและเคลอื นย้ายในขั นตอนเดียว เป็ นวิธีการขุดดินล้อมรอบโคนต้นแล้วตัดแต่งรากและตุ้มดินให้ได้ขนาดตามต้องการ ใช้วัสดุห่อตุ้มดินใหแ้ น่น ก็สามารถเคลือนย้ายได้ทันที นิยมใช้กับพรรณไม้ขนาดใหญ่มียาง เปลอื กหนา หรือพืชตระกลู ปาล์ม มีโอกาสตายน้อยมาก เช่น โพธิ ไทร กร่าง ลีลาวดี ยางอินเดีย ตีนเป็ ด ลําดวน สนมังกร จนั ทน์ผา ไผน่ ํ าเต้าหมากเหลอื ง หมากแดง ปาล์มฟ็อกเทล สิบสองปันนา เป็นต้น 1.2.4 การเลือกระยะเวลาขดุ ย้าย พรรณไม้ทีโตเร็วและไมผ่ ลัดใบช่วงทีเหมาะสมมากทีสุดในการขุดย้าย คือต้นฤดูฝน เพราะในอากาศมีความชืนสูง แต่ก็มีข้อเสีย คือระยะนี ดินจะชุ่มนํ าตุ้มดินจะแตกง่าย ส่วนพรรณไม้ประเภทผลัดใบควรจะสะสมอาหารไว้แล้วอย่างเต็มทีในรูปของแป้ งและนํ าตาลหรือคาร์โบไฮเดรตไว้ใต้เปลือก พรรณไม้ในประเทศหนาวช่วงพักตวั จะมีความชัดเจนกว่าพรรณไม้เมืองร้อนซึงจะพักตัวไม่พร้อมกัน ทั งนี จะต้องอาศัยการสงั เกตใบของพรรณไม้แต่ละชนิด ส่วนใหญ่พรรณไม้จะผลัดใบหรือพักตวั ตั งแต่เดือนพฤศจิกายนไปจนถึงเดือนมีนาคม พรรณไม้บางชนิดอาจผลดั ใบหลายครั งต่อปี ซึ งจะตอ้ งใช้การสังเกตเนืองจากพรรณไม้ชนิดเดียวกันอาจพักตัวไม่พร้อมกันขึ นอยูก่ ับพืนทีทีมีสภาพแวดล้อมต่างนกัในกรณีทีมีความจําเป็ น ควรเว้นระยะเวลาในพรรณไม้ทีแตกใบใหม่สร้างและดูดซับพลังงานสะสมไว้สักระยะหนึ งก่อน ไม่ควรตัดแตง่ กิงใบทีใช้พลังงานทีออมไว้มาสร้างใบใหม่ก่อนทีใบเหล่านี จะสงั เคราะห์แสงสะสมพลังงานใหม่ทีมากกว่าเดิม ระยะทีเหมาะสมเป็ นช่วงฤดูแล้ง เพราะตุ้มดินไม่แตกง่ายเหมอื นในฤดฝู น แต่กต็ ้องหมั นให้นํ าอย่างพอเพยี งในการอนุบาลไม้ขุดล้อม
204 1.2.5 การตัดแต่งกิงพรรณไม้ก่อนการย้ายการขุดล้อมพรรณไม้แม้จะขดุ ล้อมให้ได้ตุ้มดินใหญ่ทีสุด ก็ยังทําให้พรรณไม้เสียระบบรากไปมากกว่าร้อยละ50 ดังนั นการเตรียมการตดั แต่งทีเหมาะสมและถกู หลักวิชาการ ทั งการตัดแต่งทรงพุ่มลําต้น กิงก้าน และระบบราก จะช่วยให้พรรณไมม้ ีโอกาสฟื นตวั และแข็งแรงเจริญเติบโตเร็วหลังการนาํ ลงปลูกอีกครั ง การตดั แต่งพุ่มใบออก 1/3 ทิง โดยไมจ่ ําเป็นนนั เป็นผลเสียมากกวา่ ผลดี เนืองจากพุม่ ใบเป็นทีปรุงอาหารสร้างพลังงานมาเกบ็ สะสมไว้ตามกิงก้านและลําต้น ดังนั นการตัดแต่งกิงออกมากเกินความจําเป็นกลับทําให้พรรณไม้ฟื นตัวช้า วธิ ีการคลุมพรรณไม้ขดุ ล้อมด้วยตาข่ายพรางแสง ฉีดพ่นละออกนํ าและคลุมด้วยพลาสติกใสรักษาความชนื ไว้เพือลดการตัดแต่งกิงมากเกินไปเป็นอีกวิธีหนึ งทีได้ผลดี ในระยะตั งตัวพรรณไม้จะสลัดทิงใบส่วนเกินสมดุลเองตามธรรมชาติและถ่ายเทพลังงานในรูปของกลโู คสคืนเข้าไปในกิงหรือลําต้นสํารับการตัดแต่งกิงพรรณไม้ก่อนการขดุ ย้าย ควรพิจารณาดังนี 1) กิงทีอาจกีดขวางเมือนํามาปลกู ใหม่ เช่น ระดบั ตํ าติดศีรษะ อาคารหรือไม่พ้นหลังคารถ สูงระสายไฟฟ้ าข้างบน เป็นต้น 2) กิงทีได้รับความเสียหาย ผุ ถูกแมลงเจาะมาก เปลือกหลุดล่อนฉีกขาด หรือไม่แขง็ แรง 3) กิงทีอาจก่อปัญหาในอนาคต เช่น กิงรูปตัววแี หลมทีเหลือกฝังใน เป็นต้น 4) กิงทีมรี ูปทรงน่าเกลยี ด เช่น กิงทีขัดหรือเสียดสีกัน เป็นต้น 1.2.6 การตัดแต่งราก การขดุ ล้อมให้ตุ้มดินมีขนาดใหญ่ทีสุดย่อมมผี ลดีกับการฟื นตัวของพรรณไม้ แต่จะสร้างปัญหามากในการขนย้าย บางครั งจึงเห็นผู้รับจา้ งขุดย้ายะจขุดล้อมจนเหลือตุ้มดินเลก็ โดยทีพรรณไม้ทีถูกกระทําในลักษณะนี จะยังไม่ตายและหากจะตายก็กินเวลาเป็ นปี ๆหากไมค่ วบคุมงานให้เข้มงวดผู้รับจ้างก็จะแอบขดุ ย้ายแล้วนําไปตั งฝังดินหรือคลุมด้วยวัสดุพรางไว้ไม่ให้มองเห็นขนาดของตุ้มดิน สําหรับผู้ประกอบการธุรกจิ ไม้ขุดล้อมจะกําหนดขนาดของตุ้มดินสัมพันธ์กับขนาดของพรรณไม้แบบง่าย ๆ โดยขนาดเสน้ ผา่ ศนู ยก์ ลางของตุ้มดินเท่ากับขนาดเส้นรอบวงของลําต้นวัดจากโคนต้นขึ นมา30 เซนติเมตร 1.2.7 การยกและย้ายพรรณไม้ พรรณไมข้ นาดเล็กไม่ค่อยมีปัญหาในการยกและเคลอื นย้ายแต่สําหรับพรรณไม้ขนาดใหญ่ทีหนักมากก็จะเป็นปัญหามาก ส่วนใหญ่มักจะใช้ลวดสลงิผูกกับลําต้นแล้วยกด้วยปั นจัน วิธีนี ทําให้เปลอื กของพรรณไม้ไม่อาจยึดตัวกับลําต้นไว้ได้ จึงฉีกขาดรูดตามลวดสลิง ทียกขึ นแม้จะมีการรองด้วยกระสอบไว้แล้ว ควรใช้สายพานแบนมัดตรงโคนต้นจุดถ่วงดุล จะดีกว่าลวดสลิง การขนย้ายพรรณไม้เป็ นระยะทางไกลจะต้องระวังไม่ใหพ้ รรณไม้สูญเสียนํ าจากลม ในขณะทีรถแล่นเร็ว ควรมัดรวบกิงก้านและใบให้เรียบร้อยแล้วคลุมด้วยแผน่ ผ้า
205พลาสติกหรือตาข่ายพรางแสงไม่ให้ใบพลิวสะบดั ลม หากเป็ นฤดูแล้งและแดดจัด อากาศไม่มีความชืน ควรฉีดพน่ นํ าให้เกดิ ความชุ่มชืนพอสมควรตลอดเวลาด้วย ภาพที 9.4 การขนย้ายพรรณไม้ขุดล้อม ถา่ ยภาพโดยสมพงษ์ ทองเด็จ 1.2.8 การเลือกภาชนะห่อหุ้มตุ้มดิน การห่อหุ้มตุ้มดินหรื อส่วนรากของพรรณไม้ทีขุดล้อมแล้ว ในทีนี หมายถึงขั นตอนการอนุบาลพรรณไม้ เพือกระตุ้นให้พรรณไม้ฟื นตัวได้เร็วทีสุด สําหรับภาชนะทีนิยมใช้ห่อหุ้มตุ้มดิน มีดังนี 1) เข่งไม้ไผ่ เป็นภาชนะทีหาง่าย ราคาไมแ่ พงมาก แต่มปี ัญหาเรืองความคงทน ไม้ไผ่เป็ นวสั ดุทีผุเร็วมาก ในเวลาเพียง 6-7 เดือนก็อาจผุ รับนํ าหนักไม่ไดผ้ ู้ประกอบการบางคนใช้ปูนซีเมนต์ฉาบทาผิวภายนอกเข่ง ก็ช่วยยืดเวลาได้ไม่มาก นอกจากนี การเปลียนภาชนะเพือขยายตุ้มรากทําได้ยาก เนืองจากเข่งไมเ่ รียบ และเมือนํากลับไปปลูกรากจะถกู กระทบกระเทือนเสียหายมากจึงไม่เหมาะกับการอนุบาลพรรณไม้ใหญ่ไว้เป็นเวลานานๆ กว่าจะจําหน่ายได้หรือนําพรรณไม้กลับไปปลูกไดอ้ าจตอ้ งกินเวลา 3-4 ปี การใชเ้ ข่งไม้ไผ่จึงเป็ นการสิ นเปลืองและยุ่งยากในการเคลอื นย้าย 2) ลังไม้ เป็นทีนิยมมากในอดีตเมือไม้ยังมีราคาถูกและคุณภาพดี ส่วนใหญ่จะทําเป็ นลังสีเหลียม มีความคงทนทานพอควรขึ นอยู่กบั ชนิดของเนือไม้ แต่เมือใช้ไปนาน ๆ ก็ผุเช่นกนัลังไม้มคี วามสะดวกในการเคลือนย้ายพอควร ถ้าสร้างแข็งแรงและสามารถทําทียกหรือทีผูกมัดให้เหมาะสม การถอดพรรณไม้ออกขณะนํากลับไปปลกู ก็สะดวกกวา่ เนืองจากสามารถงัดออกเป็ นชินๆ ได้ ปัจจุบันไม้หายาก คณุ ภาพตํา ผุง่าย และมรี าคาแพงมากจึงไม่คุ้มทีจะนํามาใช้
206 3) ถังไฟเบอร์กลาส มขี ้อดีคือ สามารถสังให้ทําได้ทุกขนาดและทุกรูปทรงถ้าเป็ นถังขนาดใหญ่อาจทําเป็นสองชินได้ โดยยึดติดกันด้วยน็อตทีถอดออกได้เมือนําไปลงปลูก ข้อเสียคือราคาแพง แม้จะนํากลับมาใช้ได้อีกหลายครั งก็ตาม นอกจากนี ยังมีข้อเสียเช่นเดียวกับท่อซีเมนต์คือรากขดเป็นวงรอบผนังถังเมอื เลียงพรรณไม้ไว้นาน 4) ท่อซีเมนต์สําเร็จรูป ท่อซีเมนต์สําเร็จรูปหาง่าย ราคาไม่แพงมากขนาดทีมีจําหน่ายทัวไปมี 3 ขนาดคือ 0.50, 0.80 และ 1 เมตร ความสูงของท่อ 35-50 เซนติเมตร หากต้องการขนาดทีมีความกว้างและสูงกว่าปกติต้องสังทําหรืออาจหล่อท่อซีเมนตท์ ําเป็ นสองชินนํามาประกบกันไว้ใชเ้ อง แต่มีขอ้ เสียคือนํ าหนักมากและความสูงตํ าไป ถ้าใชส้ องท่อนซ้อน ก็ไม่สะดวกและแพงเป็นสองเท่า ข้อเสียสําคัญของการใชท้ ่อซีเมนต์อกี ประการหนึ ง ในการใช้สําหรับอนุบาลพรรณไม้คือ ผิวทีเรียบทึบจะทําให้รากขดเป็นวงไปตามผิวท่อ ถ้าทิงไว้นานเป็นปี 5) แผ่นวงสปริง เป็นวัสดุผลิตภัณฑล์ ิขสิทธิ ของประเทศออสเตรเลียทีออกแบบเพือการอนุบาลพรรณไม้โดยเฉพาะมีนํ าหนักเบา ราคาถูก ผลิตออกมาเป็นแผ่นบาง ๆ และเป็ นม้วนจึงมีความเป็นอิสระทีจะทําเป็นภาชนะได้ทุกขนาด สามารถลอกแผ่นขยายออกได้หรือเปลียนแผ่นใหม่ให้มขี นาดสูงขึ นได้เมอื รากงอกเต็ม ข้อดีของภาชนะชนิดนี คือรูอากาศ ทีเจาะไว้ทีปลายปุ ่ ม จะช่วยให้รากฝอยเจริญงอกงามดีมากและไมข่ ดเป็ นวงวนเหมือนในกระถางผิวทึบเรียบ เนืองจากได้รับออกซิเจนอย่างพอเพียง ไม่มีปัญหาตุม้ ดินแตกระหว่าง การขนส่งเนืองจากระบบรากงอกงามแผก่ ระจายแน่นสมําเสมอดี นอกจากนี กย็ ังนํากลับไปใช้ได้อีกไม่น้อย4-5 ครั ง จึงเหมาะแก่การอนุบาลไม้ขุดล้อมได้ดีทสี ุด 1.2.9 การป้ องการรากทะลุลงดิน การใช้ภาชนะทีมีรูระบายนํ าด้านล่างและวางบนดินโดยตรงมักประสบปัญหาเมือรากเจริ ญงอกงามขึ นมนั จะเริ มทะลุผ่านรูลงในดินและเจริ ญอย่างรวดเร็วโดยไม่ได้สังเกต เห็นในระยะแรก ๆ จะสังเกตเห็นก็เมือพรรณไม้งามผิดปกติแล้วซึงเป็นเวลาทีต้องการจะย้ายปลูกใหม่ การอนุบาลพรรณไม้ไว้เป็ นปี ๆ แม้จะวางบนแผ่นกระเบืองปูพืนแล้วก็ตามรากก็ยังไชชอนเลี ยวลงช่องว่างระหว่างรอยต่อกระเบืองลงไปในดิน เมือต้องการใช้งานหรือจําหน่ายพรรณไม้จึงพบว่าระบบรากส่วนใหญล่ งดินตอ้ งขุดล้อมอีกครั ง วิธีทีดีทีสุดและประหยัดคือการใช้แผน่ พลาสติกโพลีเอททีลีนอยา่ งหนาปูรองพืนก่อนโดยทําความลาดใหน้ ํ าระบายออกได้ 1.2.10 การโยงยึดชัวคราว การโยงยึดระหว่างการอนุบาลพรรณไม้ทีย้ายมา มีความสําคัญมากเนืองจากบริเวณอนุบาลส่วนใหญ่อยูก่ ลางแจ้ง จึงถกู ลมพายุอยูเ่ สมอ ต้องทําการโยงยึดด้วยวิธีการทีเหมาะสม เพอื ป้ องกันไม่ให้เกิดการโค่นล้มหรือเอนจากลมพายุ ในระยะแรกพรรณไม้ยังไม่แข็งแรงและรากทีกําลังงอกใหม่ไม่แขง็ แรง ควรยึดให้แน่นหนาพอควรด้วยเชือกหรือแถบยางแบน
207เมือพรรณไม้เริมตั งตัวได้แะลลําต้นเริมขยายตัว ควรคลายเชือกแล้วมัดไม่ ถ้าปริมาณพรรณไม้มากทีต้องอนุบาล ต้องทําเสาและราวไว้อย่างแข็งแรงแล้ววางพรรณไม้เป็นแถวยึดกับราวด้วยเชือกหรือยางในรถยนต์ทีตัดเป็นแถบยาว ควรมีการตรวจตราซ่อมต้นทีผูกไม่แน่นหรือหลุดอยูเ่ สมอรวมทั งการคลายเชือกให้แก่ต้นทีลําตน้ ขยายตัว เพือป้ องกนั ไม่ให้เชือกรัดลําตน้ ปิ ดท่อทางเดินนํ าและอาหาร 1.2.11 การให้ร่มเงาและความชืนระยะแรก ในระยะแรกทีนําไม้ยืนต้นทีขดุ ย้ายใหมม่ าเข้าทีอนุบาล จําเป็นต้องให้ร่มเงาและฉีดพน่ นํ าเพือลดการสูญเสียนํ าทางใบ ผวิ ของลําต้น และกิงก้านในระยะนี ระบบรากของพรรณไม้ซึงถูกกระทบกระเทือนและถกู ัดเหลือน้อย จึงไม่สามารถดูดนํ าขึ นไปให้เพยี งพอต่อการคายนํ าของใบในขณะถกู แดดและลมได้ ปัจจุบันนิยมใช้ตาข่ายพรางแสงขึงคลุมด้านบนและด้านข้างทีถูกแดดบ่าย เพือลดการคายนํ าให้มากทีสุดในระยะแรก ควรฉีดนํ าให้ชุ่มฉําทั งพุ่มใบ ลําต้น และรากหากเป็นช่วงฤดูแล้งทีมีลมแรงและแดดจัด ควรฉีดนํ าวันละหลายครั งในงานอนุบาลพรรณไม้จํานวนมาก การติดตั งระบบพ่นนํ าเป็ นฝอยตั งเวลาอัตโนมัติอาจคุ้มค่า มีประสิทธิภาพมากกว่าและยังเป็นการประหยัดนํ าได้อกี เป็นปริมาณมาก 1.2.12 การให้นํ าและปุ ๋ ยระหวา่ งการอนุบาลหลังจาก 3-4 สปั ดาห์หรือเมือพรรณไม้เริ มตั งตัวได้แล้ว อาจงดการพ่นนํ าส่วนบนมาให้ทีระบบรากเพียงอย่างเดียว อาจใชร้ ะบบพ่นฝอยตามปกติหรือใช้ระบบนํ าหยด ตั งเวลาอัตโนมัติก็ได้ ข้อดีของระบบนํ าหยดนอกจากประหยัดนํ าแล้วยังให้ปุ ๋ ยรวมไปด้วยไดน้ ใระยะแรกทีย้ายมาพักไว้ใหม่ ๆ พรรณไม้ยังไมส่ ามารถใช้ปุ ๋ ยได้ เนืองจากรากขนอ่อนยังมีไม่มากการให้ปุ ๋ ยทีระบบรากได้โดยสังเกตจากการเริ มแตกตาและผลิใบใหม่ถ้าพรรณไม้มีใบเดิมติดมากพอควรและอยู่ในสภาพแข็งแรง เมือปล่อยใหพ้ รรณไม้ตั งตัวได้ระยะหนึงแล้วอาจใช้วิธีฉีดพน่ ให้ปุ ๋ ยเร่งรากทางใบอย่างออ่ น ๆ จะได้ผลรวดเร็วกว่า เพือกระตุ้นให้รากเจริญให้มากและเร็วทีสุดก่อน 1.2.13 การประมาณราคาไม้ขดุ ล้อม มาตรฐานการวัดขนาดไม้ขุดล้อมเพือการประมาณราคา โดยวัดจากโคนต้นสูงจากระดับพืนดินขึ นมา12 นิ ว จากนั นก็ใชต้ ลบั เมตรวัดเสน้ รอบวงของลําต้น สมมติว่าวัดได6้ นิ วแล้วใหห้ ารด้วย3 ก็จะได้ขนาดของเสน้ ผา่ ศนู ย์กลางเท่ากับ2 นิ วหรือหากวัดได้9 นิว ไม้ขดุ ล้อมจะมีเส้นผ่าศูนย์กลางลําต้นขนาดเท่าก3ับนิว ซึงการประมาณราคาพิจารณาจาก ขนาดของเส้นผ่าศูนย์กลางลําต้นทคี ํานวณหน่วยเป็ นนิ ว โดยพิจารณาถึงประเภทของพรรณไม้ วธิ ีการดแู ลรักษา ความหายากง่าย และกระแสความนิยมของตลาดด้วย 1.2.14 วิธีการปลูกไม้ขุดล้อม การปลูกพรรณไม้ในพืนทีธรรมชาตหิ รือการปลกู พรรณไม้ยืนต้นในสวนทีมีดินอุดมสมบูรณ์และสภาพแวดล้อมเหมาะสม ย่อมไม่เป็ นปัญหามากเท่ากับ
208การปลูกพรรณไม้ทีขุดล้อมแล้วนํามาปลกู ในเมืองทีสภาพแวดล้อมไม่เอืออํานวย สาํ หรับวิธีการปลูกพรรณไม้ขุดล้อมมแี นวปฏบิ ัติการปลูกไม้ขดุ ล้อมทีปฏิบัติโดยทัวไป ดังนี 1) ขดุ หลุมปลูกพรรณไม้ให้มคี วามกว้างและลกึ มาก 2) ใส่ดินผสมหรือวัสดุปลกู สูตรต่าง ๆ ทีมีจําหน่ายตามท้องตลาดในการปลูกไม้ขุดล้อม 3) การให้ปุ ๋ ยเคมีสูตรต่าง ๆ หลังการปลูกไม้ขุดล้อมทันทีเพือเร่งการเจริญเติบโตของราก การผลติ ใบและป้ องกันการขาดธาตุอาหาร 4) คํ ายันพรรณไม้อย่างมั นคงไมใ่ ห้โยกคลอนและต้คองํ าทิงไว้หลายปี 5) ใช้ลวดร้อยท่อยางรัดลําต้นทิงไว้ 6) ใช้ผ้ากระสอบพันรอบลําต้นทิงไว้ 7) ตัดกิงและใบทิง1/3 เพือให้สมดุลกับราก 8) ปลูกไม้คลมุ ดินหรือหญ้าทีโคนต้นเพอื ช่วยรักษาความชืน ภาพที 9.5 การคํ ายันพรรณไม้ขุดอลม้ ถ่ายภาพโดยสมพงษ์ ทองเด็จ
209 1.3 การบรรจุหีบห่อพรรณไม้เพือจําหน่าย เป็นการป้ องกันความเสียหายทีเกิดขึ นกับพรรณไม้ระหว่างการขนส่งซึงเกิดจากสาเหตุหลายประการ เช่น ลม อณุ หภมู สิ ูงหรือตํามาก การเคลือนย้าย การซ้อนทับกันในยานพาหนะทีใช้ขนส่ง เป็นต้น นอกจากนี ยังช่วยรวบรวมพรรณไม้ให้อยู่ในปริมาณทีเหมาะสม และง่ายสําหรับการขนส่ง เพิมปริมาณการจําหน่ายของพรรณไม้ และเป็นสือกลางช่วยทําให้สามารถแจ้งรายละเอียดเกียวกับพรรณไม้ เช่น ชนิด ปริมาณ คุณภาพผลผลิต ผู้ส่งผู้รับ เป็นต้น ซึงควรพจิ ารณาสิงทีเกียวข้องกับการบรรจุหีบห่อพรรณไม้เพอื จําหน่าย ดังนี 1.3.1 ชนิดของพรรณไม้ทีจะบรรจุ พรรณไม้ทีจะบรรจุมีความแตกต่างกันไปตามลักษณะผลผลติ ชนิด ขนาด และรูปทรงของพรรณไม้ เช่น กิงตอนส้มโอสามารถรวบห่อด้วยกระสอบและมดั ผูกเชือก เฟิ ร์นก้านดําขนาดเล็กจําเป็นต้องห่อด้วยกระดาษทีละต้นก่อนบรรจุลงกลอ่ งใหญ่เป็ นต้น 1.3.2 การรวบมัดและจัดเรียงพรรณไม้ พรรณไม้ทีผ่านการคัดเลือก ควรจะรวบมัดพรรณไม้ส่วนทีเป็นกิงและใบป้ องกันการฉีกขาดแล้วค่อยทําการขนส่งหรือเก็บรกั ษา ไม่ควรมัดรวบพรรณไม้แน่นเกินไป เพราะจะทําให้พรรณไม้เกิดความเสียหาย อาจจะทําให้เชือราเจริญเติบโตได้ดีและยังทําให้พรรณไม้มีอณุ หภูมิตําลดลงช้า การจัดเรียงและมัดรวบขึ นอยู่กับความต้องการของลูกค้า และชนิดของพรรณไม้สามารถใช้วิธีการ ดังนี 1) การห่อหุ้มพ่มุ และช่อดอก ควรห่อด้วยแผ่นกระดาษทีสะอาดหรือแผ่นพลาสติกโดยทั วไปนิยมใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ห่อสําหรับไม้ทีมีขนาดเล็กและขนาดกลางสําหรับไม้ทีมีขนาดใหญ่ อาจใช้ตาข่ายพรางแสง ตาข่ายพลาสติก หรือกระสอบปุ ๋ ยในการห่อทรงพ่มุ 2) ใช้ไม้หลักปักยึดต้นและทรงพมุ่ เพือป้ องกันการยโกคลอนในระหว่างการขนส่งและเคลอื นย้าย 3) การบรรจกุ ล่องและหีบห่อ นิยมใช้กับพรรณไม้ทีมีขนาดเล็กบอบบางและมีราคาแพง เช่น อัฟริกันไวโอเลท บีโกเนีย กล๊อกซิเนีย กหุ ลาบพันปี เป็นต้น 4) การทําชั นในยานพาหนะขนส่ง เพอื ช่วยเพิมจํานวนพรรณไม้หรือลผผลติในการขนส่งและป้ องกันการเบียดเสียด ความบอบชํ าของพรรณไม้ในขณะขนส่ง
210 ภาพที 9.6 การห่อพรรณไม้ด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์ ถา่ ยภาพโดยสมพงษ์ ทองเดจ็ 1.3.3 ชนิดของภาชนะบรรจุ ภาชนะบรรจุจะทําหน้าทีได้ดีเพียงใดขึ นอยู่กับคุณสมบัติของภาชนะบรรจุ แต่ละชนิด เนืองจากภาชนะบรรจุพรรณไม้ไม่ได้ทําให้พรรณไม้มคี ุณภาพดีขึ น ดังนั นพรรณไม้ทีมีคุณภาพดีเท่านั นทีควรจะบรรจุลงในภาชนะเพือรอการขนส่งสู่ตลาดต่อไป ภาชนะบรรจุแบ่งออกตามลักษณะการใช้งานได2้ ชนิด คือ 1) ภาชนะบรรจุสําหรับการขนส่งภายในประเทศ ภาชนะทีใช้บรรจุพรรณไม้เพือการขนส่งภายในประเทศอาจจะเป็นกลอ่ งกระดา กลอ่ งโฟม เข่งไม้ไผ่ หรือถุงพลาสติก ทั งนี ขึ นอยูก่ ับชนิดของพรรณไม้ ราคาต่อหน่วยทีจําหน่ายได้ และระยะทางความห่างไกล จากแหล่งพรรณไม้ถึงตลาดหรือมือลูกค้า 2) ภาชนะบรรจุสําหรับการส่งออก ขึ นอยูก่ ับความต้องการของผู้รับปลายทางและความเหมาะสมของขนาดผลผลิตทีต้องการบรรจุ อาจจะเป็ นกล่องกระดาษ ขนาดเลก็ บรรจุพรรณไมแ้ ละกล่องขนาดเล็กนี ถูกจัดเรี ยงบรรจุอยู่ในกล่องกระดาษขนาดใหญ่ (master carton)อีกทีหนึง หรือไม้ตัดดอกทีมัดและอยู่ในถุงพลาสติกถูกบรรจุลงในกล่องกระดาขนาดใหญ่โดยตรงด้านนอกของกล่องกระดาษควรจะพมิ พ์ชือและทีอยู่ของผู้ส่ง และผู้รับ ชนิดของพรรณไม้ จํานวนพรรณไม้ให้ชัดเจน 1.3.4 วธิ ีการบรรจุหีบห่อพันธุ์ไม้(packing) การบรรจุหีบห่อทําได้หลายวิธีซึงโดยทัวไปแล้วจะแบ่งออกได้3 วธิ ี 1) การบรรจุหีบห่อแบบแห้ง (Dry method of packing) ใช้ได้ทั งบรรจุเมลด็ พันธุ์หรือต้นไม้ทีมรี ากติดต่ออยู่ก็ได้ ซึงเรามีวธิ ีปฏบิ ัติได้ดังนี
211 - พันธุ์ไม้ทีไม่มกี ารหยุดพักการเจริญเติบโตหรือมีการหยุดพัก ถ้าส่งไม่ตรงกับระยะเวลาการหยุดพัก ควรหลีกเลียงโดยการคัดเลือกพันธุ์ทีแข็งแรงดีจริง ๆ เท่านั น - หากเป็นพันธุไ์ ม้ชนิดทีเป็ นต้น ควรมีรากและดินหรือวัสดุอย่างอืนทําให้รากได้รับความชืนจงึ จะไมเ่ หียวเฉา - ถ้าเป็นเมล็ดควรจะคลมุ ด้วยขี เลือย มอส เพือให้เกิดความชุ่มชืนด้วย - พันธุ์ไม้ทีมใี บมากให้ตัดใบออกเสียบ้างและงดการใหน้ ํ าก่อนบรรจุและให้ถกูแสงสว่างเตม็ ทีก่อนทีจะนําไปบรรจุหีบห่อ - ถ้าเป็ นเมล็ดแหง้ การบรรจุอาจใส่กล่อง หรือกระป๋ องสงั กะสีชนิดทีมีฝาปิ ดแน่น อาจใส่ถึงกระดาษหรือถุงพลาสติกก็ได้ โดยไม่มีวัสดุอืนรวมไปกบั เมล็ดเลย ภาชนะทีใส่จะต้องสะอาดเมล็ดทีส่งควรแห้งสะอาดด้วย - พันธุ์ไม้ทีเป็ นหวั แหง้ อาจใส่ถุงรวมกันก็ได้หรือใส่กล่องกระดาษโดยมีวัสดุอืนอัดรวมไปด้วยให้แนน่ เพอื กันการกระทบกระเทือน 2) การบรรจุหีบห่อแบบเปี ยก (Fleshy or Moistened packing) ควรปฏิบัติดังนี - เมล็ดพันธ์ไม้ชนิดสด (fleshy seeds) หรื อพันธุ์ไม้นํ า(Aquatic plants)การบรรจุแบบนี ต้องมีความชืนแทรกอยู่ระหว่างเมล็ดด้วย - เมล็ดหรื อพันธุ์ไมท้ ีมีรากแล้ว ต้องมีวัสดุทีมีความชืนอยู่รวมในรากติดไปกับต้นด้วย เช่น ขี เลือย ขี เถ้าแกลบ แกลบsphagnum moss - เมล็ดพันธุไ์ ม้เมืองร้อน เช่น เมลด็ มะม่วง มังคุด ปาล์มบางชนิดอาจใส่ขี เลือยหรือ sphagnum moss ลงไปกับเมล็ด ใส่กระป๋ องสังกะสีปิ ดผนึกหรือใส่ถงุ พลาสติก - พันธุ์ไม้นํ า ควรบรรจุใส่ขวดหรือกระป๋ องสังกะสีโดยใส่นํ าหรือโคลนลงไปในภาชนะนั นด้วย และปิ ดผนึกให้แน่น ถ้าเป็นขวดแก้วควรปิ ดจุกให้แน่นและชุบเทียนไขทีจุกเพือกันนํ าไหลออกได้ 3) การบรรจุหีบห่อกิงตอน กิงปกั ชํา มขี ้อควรปฏบิ ัติดังนี - การเลือกกิงตอน ต้องเป็นกิงทีใหญ่สมบรู ณ์ แข็งแรง อ้วนสั น - ปราศจากโรค และแมลง - ใช้ sphagnum moss ขี เถ้าแกลบ หรือขุยมะพร้าวพอกกิงแล้วห่อด้วยพลาสติก - เมอื รากงอกแล้วก็ทําการตัดแต่งกิงตอน - นํามามัดรวมกันหลาย ๆ กิง แล้วใช้ถุงพลาสติกบรรจุกิงทีมัดแล้วบรรจุลงกล่อง
2122. การเพิมมูลค่าผลผลิตไม้ดอกไม้ประดับ การเพิมมูลค่าผลผลิตคือ การกระทําให้ผลผลิตทีมีค่าน้อยให้มีค่ามากขึ น ในแง่ของราคาผลผลิตทางการเกษตรหลายชนิดสามารถกระทําได้หลายรูปแบบอยู่ทีเกษตรกรมีเวลามากน้อยเพียงใดและใช้ภมู ิปัญญาท้องถินเดิม เช่น การแปรรูปผลิตภัณฑ์ทางกาเกษตร เช่นการนํากล้วยมาทํากล้วยตาก มกี ารบรรจุหีบห่อให้น่าซือ ก็เป็นการเพิมมูลค่าผลิตภัณฑ์จากราคาไมก่ ีบาท ทําให้มรี าคานับ สิบบาท หรื อนาํ ดินมาปั นเป็ นกระถางแล้วเคลือบใส่ลวดลายลงไป ก็ทําให้กระถางใบละ25 บาท เปลยี นเป็นราคา 200-300 บาท เป็นตัวอย่างของการเพิมผลผลิตอกี อย่างหนึง สําหรับไม้ดอกไม้ประดับนั นการเปลยี นมูลค่าของมันก็กระทํากันมานานแล้ว แต่วิธีการทีค่อยเป็นค่อยไป บางครั งกไ็ ม่รู้ตัว แต่ปัจจุบันมี วิธีการหลายวธิ ีการทีเป็นการเพิมมูลค่าผลผลิต ดังนี 2.1 วิธีการเพิมมูลค่าผลผลิต วิธีการเพิมมลู ค่าผลผลิตเป็ นวิธีหนึ งทีจะทําใหไ้ ม้ดอกไม้ประดับของผู้ผลิตมีคุณค่าและมีประโยชนม์ ากขึ น ทําให้ลูกค้าหรือผู้บริโภคมีความต้องการมากขึ น ดังมีวิธีการเพิมมูลค่าผลผตลิไม้ดอกไม้ประดับ ดังนี 2.1.1 การผสมพันธุ์ไม้ใหมๆ่ เป็นการผสมพันธุไ์ ม้จากพันธุไ์ ม้เดิมซึงไม่ค่อยสวยงาม มาผสมกันได้พันธใุ์หมข่ ึ น แล้วคัดต้นทีมรี ูปร่างลักษะดี และสวยงาม นําไปจําหน่ายทําให้มรี าคาสูงขึ นกเ็ ป็นวิธีการเพิมมูลค่าได้ 2.1.2 ใชว้ ิธีการขยายพนั ธุ์โดยไม่ใช้เพศ เช่นการขยายพันธุ์โดยการเปลียนยอด ติดตาทาบกิง ตัวอย่างเช่นเปลียนยอดเฟื องฟ้ าด่างบนต้นตอพืนเมือง หรือการเปลียนยอดผกากรองทีสวยงามจากผกากรองป่ า โดยให้มีฟอร์มและรูปทรงทีสวยงามและมีศิลปะ ก็เป็ นการเพิมมลู ค่าผลผลติ อกี วิธีหนึง 2.1.3 ใช้วิธีการเปลยี นพันธุ์ไม้และตัดแต่งรูปทรงหรือปลูกในลวดทีดัดเป็ นรูปร่างพันธ์ไม้ต่างๆ หรือรูปสัตว์ต่างๆ แล้วปลูกลงดิน หรือในกระถางทีมีลวดดัด เช่น การปลกู ชาดัด ข่อยดัดตะโกดัด หรือไทรยอดทองแต่ผู้ปลกู จะต้องมีการดูแลรักษาอยา่ งดีมีการตัดแต่งใหเ้ ข้ารูปทรงทีต้องการและใช้เวลามาก ดังนั นผลผลติ ทีได้ก็มีราคาเพิมขึ นมาก 2.1.4 การนําพันธุ์ไม้ปลูกลงในภาชนะต่างๆ เช่นการนํากล้วยไม้จาํ พวก กล้วยไม้พันธุ์เพชรหึงปลูกในตอไม้ การนาํ ไมส้ กุลสาวน้อยปะแป้ ง วาสนา ว่านมงคลต่างๆมาปลูกในกระถางลายคราม กเ็ ป็นการเพิมมูลค่าผลผลิต 2.1.5 การนําพันธุ์ไม้มาสานหรือถัก เช่น หลิว มาถักเป็ นรูปแจกัน หรือใช้ต้นกวนอิมมาสานหรือถักหรือนํามารวมกันแล้วผูกโบว์ หรือไม้พลาสกตปิ ักตกแต่งจําหน่ายเป็ นการเพิมมูลค่าผลผลติ ได้อกี
213 ทีกลา่ วมาข้างต้น จะเห็นได้วา่ เป็นการเพิมมลู ค่าของไม้ดอกไม้ประดับทีจะส่งจําหน่ายทีจริงแล้วมกี ารเพิมมูลค่าของไม้ดอกไม้ประดับอีกหลายวิธี เช่นการปฏิบัติ ดูแลรักษา มีการใส่ปุ ๋ ยป้ องกันกําจัดศัตรูพชื ตัดแต่งทงรพมุ่ เปลียนกระถางใหเ้ หมาะสม ซึงเป็ นการเพิมมลู ค่าผลผลิตได้โดยอัตโนมัติ ส่วนประกอบอืนๆทีเกียวข้องเป็ นการเพิมมูลค่าได้ ยกตัวอย่างเช่น นําแกลบดิบดินร่ วน ปุ ๋ ยคอก ปุ ๋ ยหมัก ขี เถ้าแกลบ ใบก้าปมูผุ ผสมเป็ นดินจําหน่าย เป็ นการเพิมมูลค่าให้กับเกษตรกร ถ้าวัสดุทีกล่าวมา จําหน่ายเดียวๆโดยทีไม่มีการผสม จะมีมูลค่านอ้ ย แต่ถ้านํามาผสมกันจะเป็นการเพิมมูลค่าได้มากขึ น 2.2 การวางแผนกลยุทธการตลาดเพือเพิมมูลค่าผลผลิตไม้ดอกไม้ประดบั สิ งทีมีความจําเป็ นต้องทราบก่อนการวางแผนกลยุทธการตลาดไมด้ อกไม้ประดับให้ประสบผลสําเร็ จ คือเกษตรกรต้องรู้และเข้าใจในลักษณะธรรมชาติของตลาดไม ้ดอกไม ้ประดับให้ถ่องแทก้ ่อน และต้องรู้จักวิธีส่งเสริมการจําหน่าย พร้อมทั งจะตอ้ งวิเคราะห์ ความสามารถการแข่งขันของตนเองกับคู่แข่งใหถ้ อ่ งแท้ เพอื ทีจะดําเนินการวางแผนกลยุทธการตลาดดังนี 2.2.1 ศึกษาลักษณะของไม้ดอกไม้ประดับ ผู้ทีเกียวขอ้ งต้องให้ความสนใจลักษณะทีสําคัญของตลาดไม้ดอกไม้ประดับ ได้แก่ 1) ไมด้ อกเป็นสินค้าทีเน่าเสียง่าย ต้องมกี ารจัดการทีดีและรวดเร็ว ตลาดไม้ดอกทีดีควรมีสถานทีซือขายที สะดวก กว้างขวาง ไม่ร้อนอบอ้าว อากาศถ่ายได้สะดวก มีสิงอํานวยความสะดวกในการขนส่งเพอื หลกี เลียงการบอบชํ า มหี ้องเย็นในการเกบ็ รักษาผลผลติ 2) ตลาดไม้ดอกไม้ประดับต้องการสินค้าหลากหลายชนิด มีปริมาณ ตรงเวลา และสมําเสมอ ผู้ซือไม้ดอกไม้ประดับไปจําหน่ายต้องการไดน้สคิ ้าทหี ลากหลายชนิดและสายพันธุ์ เพือรองรับความต้องการของผู้ บริ โภคและปริ มาณของไม ้ดอกไม ้ประดับทีจะรับซื อต้องมีปริ มาณมากพอ ทีสาํ คัญผู้ผลิตหรือเกษตรกรตอ้ งมีผลผลิตให้แก่ผู้ซืออย่างสมําเสมอ และตรงวเ ลาทีตลาดต้องการ มฉิ ะนั นแล้วผู้ซือหรือผู้จําหน่ายไม้ดอมกไ้ประดับกจ็ ะเลอื กหาซือจากผู้ผลติ รายอืนแทน 3) ไม้ดอกไม้ประดับเป็ นสินค้าทีจําหน่ายคุณภาพ ความแปลกใหม่ ส่วนใหญ่ไม้ดอกไม้ประดับทีมีคุณภาพดี และมีความแปลกใหม่ จะจําหน่ายได้ราคาสูงกว่าไม้ดอกไม้ประดับโดยทัวไป อาจมยี กเว้นบ้างในตลาดทีมีผู้ซือฐมาี นะไม่ดี แต่มคี วามจําเป็ นต้องซือไม้ดอกไม้ประดับเพอื ใช้ในพิธีทางศาสนา จะยอมรับไม้ดอกไม้ประดับทีมคี ุณภาพตํา 4) ไม้ดอกไม้ประดับเป็นสินค้าทีสามารถจะสร้างความต้องการของผู้ซือได้สินค้าบางชนิด เช่น ข้าว ผู้บริโภคแต่ละคนจะบริโภคได้ในจํานวนจํากัด ถึงแม้ว่ามีจะปรับปรุงคุณภาพให้สูงขึ น หรือจะมขี ้าวชนิดแปลกใหม่ ผู้บริโภคก็จะบริโภคข้าวไมเ่ พิมขึ นมากนัก ในกรณีทีมสี ินค้าอนื ให้บริโภคทดแทน เช่นขนมปัง เป็นต้น แต่ไม้ดอกไม้ประดับเป็ นอาหารตา อาหารใจทีบริโภค
214ได้ไม่จํากัด ดังนั นการผลิตสินค้านี ในรู ปแบบทีแปลกใหม่หรื อชนิดพันธุ์ใหม่ๆจะต้องมีการประชาสัมพันธ์และรู้จักวิธีการ ก็จะสามารถขยายความต้องการของผู้บริโภคได้มากขึ น 5) ไม้ดอกไม้ประดับเป็ นธุรกิจของการแข่งขัน ทีมีการเปลียนแปลงทีรวดเร็วดังนั นไม่วา่ ผู้ปลูกหรือผู้จําหน่ายไม้ดอกไม้ประดับ เจป็ํานต้องยอมรับความจริงในข้อนี และความต้องการของผู้ใช้ไม้ดอกไม้ประดับมีการเปลียนแปลงอยู่เสมอและรวดเร็วเมือเทียบกับสินค้าอืน(วรนัฐ, 2539) 2.2.2 การส่งเสริมการจัดจําหน่าย ไม้ดอกไม้ประดับเป็ นสินค้าทีสามารถเพิ มมูลค่าสินค้าและเพิ มความต้องการของตลาดได้หากวธิ ีการส่งเสริมการจัดจําหน่ายทีดี การส่งเสริมการจัดจําหน่ายหรือการขายทําได้หลายลักษณะด้วยกันดังนี 1) การประชาสัมพันธ์ ผ่านสือต่างๆ เช่นในหนังสือพิมพ์ วารสารการเกษตรวารสารการตกแต่งสวน วิทยุ โทรทัศน์ และอินเทอร์เน็ต เป็ นวิธีการทีทําใหผ้ ู้ต้องการใช้สินค้าทราบข้อมูลเกียวกับสินค้าทีผู้ผลิตมีอยู่ วัตถุประสงค์ของการประชาสัมพันธ์ในลักษณะนีเพือต้องการให้ได้ลูกค้าใหม่ๆ อาจจะเป็ นวิธีการลงทุนไม่มากนัก หากผู้ผลิตทาํ การผลิตให้มีความแตกต่างกว่าผู้ผลิตรายอืน เช่นผลิตไม้ดอกไม้ประดบั ชนิดหรือสายพันธุ์ใหม่ๆ มีระบบวธิ ีการผลิตใหม่ๆ หรือมีวธิ ีการจัดการกับผลผลติ ทีแตกต่างกับผู้อนื 2) การร่ วมงานแสดง นิทรรศการ และการประกวดต่างๆ ไม้ดอกไม้ประดับเป็นสิงสวยงาม การจัดแสดงด้านไม้ดอกไม้ประดับเป็นทีนิยมกันอย่างกว้างขวางทัวโลก ในแต่ละปีจะมีการจัดแสดงไม้ดอกไม้ประดับนานาชาติอยูเ่ สมอ เช่นงานInternational Flower TraneShow ในประเทศเนเธอร์แลนด์ งาน Florissimo ในฝรั งเศส และงาน International ofNursery Gardening ในอิตาลีเป็ นต้น ปัจจุบันในประเทศไทยก็มีการจัดแสดงนิทรรศการและการประกวดไม้ดอกไม้ประดับกันบ่อยครั ง หากผู้ผลติ โมอี กาสควรนําผลผลติ ไปจัดแสดงให้ผู้เข้าชมงานดจู ะเป็นการ แนะนําผลผลติ และตัวผู้ผลติ ให้ลูกค้ารู้จักได้อย่างดี ปกติผู้เข้าชมงานในลักษณะนีจะเป็นผู้รักและสนใจ หรือเกียวข้องกับไม้ดอกไม้ประดับอยู่แล้วจึงเป็ นการนําเสนอสินค้าต่อลูกค้าโดยตรง นอกจากนั น การชนะการประกวดแข่งขันต่างๆ ยังจะช่วยเพิมความเชือถือให้ทั งไม้ดอกไม้ประดับ ทีชนะการประกวด และเจ้าของอาจทําให้ไม้ดอกไม้ประดับชนิดนั นๆ สามารถจําหน่ายได้มากขึ นและมีราคาสูงขึ น 3) เพิมมูลค่าให้แก่สินค้าไมด้ อกไมป้ ระดับมีข้อได้เปรี ยบสินค้าเกษตรอืนๆทีสามารถเพิมมูลค่าสินค้าได้ง่ายกวา่ วธิ ีการเพิมมูลค่าผลผลิตไม้ดอกไม้ประดับมหี ลายวิธี ดังนี
215 (1) การทําให้แปลกกว่าคู่แข่งขัน ตัวอย่างทีเห็น เช่น การขายต้นไทรประดบัปกติมีการปลกู จําหน่ายเป็ นไม้กระถาง เมือมีผู้นําต้นไทรมาปลกู รวมกันหลายต้นและดัดให้เป็ นรูปทรงต่างๆ ก็จะสามารถจําหน่ายต้นไทรในราคาทีสูงขึ นหรือการตัดแต่งต้นไม้ให้เกิดเป็นรูปทรงเช่น ต้นเฟื องฟ้ าต้นผกากรองหรือเทียนทอง หรืออาจจะมกี ารตัด การย้อมสี ดอกหรือใบไม้ ทําให้ต้นไม้นั น เกิดการแปลกตาของลูกค้า แลสะามารถเพิมมูลค่าผลผลิตได้ ภาพที 9. 7 ต้นเฟื องฟ้ าทีตัดแต่งและดัดแปลง ถา่ ยภาพโดยสมพงษ์ ทองเด็จ (2) การนําผลผลติ มารวมกันหรือจัดหมวดหมูใ่ หม่ ไมก้ ระถางบางชนิดเมือปลกูในกระถางต้นเดียวจะไม่ค่อยสวยงามนัก ขายไดร้ าคาถูก แต่ถ้านาํ มาปลูกจํานวน 2-3ตน้ ในกระถางเดียวกัน ก็จะดสู วยงามมากขึ น ขายได้ราคาดีกวา่ เก่า เช่น ต้นหมากเขียว กล้วยไม้สกลุ หวายหรื อกรณี ต้นกวนอิม ต้นหลิวไต้หวัน ถา้ ขายเพียงต้นเดียวก็จะได้ราคา 1-2 บาท แต่ถ้านํามารวมกัน โดยมาสานหรือถัก แล้วปลูกในภาชนะก็จะได้ราคาเพิมขึ นอีกมาก
216 ภาพที 9.8 ต้นหลิวไต้หวันมาถักเพอื เพิมมูลค่า ถา่ ยภาพโดยสมพงษ์ ทองเด็จ (3) การจัดวางให้เหมาะสม ไม้ดอกไม้ประดับเป็ นสิงสวยงาม การทีจะดูให้มีคุณค่านั นนอกจากสวยงามในตัวเองแล้ว การจัดวางก็มีผลด้วย ต้องวางต้นไม้ชนิดต่าง ๆ ให้ดูเด่นการวางต้นไม้ต้นเล็กๆ ใกล้กับต้นไม้ขนาดใหญ่ก็จะทําใหต้ ้นไม้เลก็ๆ ไม่เด่น ดังนั นการจัดวางจะต้องวางให้เหมาะให้เด่น สะดุดตาแก่ผู้ซือ ภาพที 9. 9 การวางต้นไม้เป็นหมวดหมู่ ถ่ายภาพโดย สมพงษ์ ทองเด็จ
217 (4) การใช้ภาชนะทีเหมาะสม การเลือกภาชนะทีมีขนาดสีสนั รูปร่างสวยงามพอเหมาะกับต้นไม้ หรือดอกไมจ้ ะทําใหต้ ้นไม้ดอกไม้นั นดูดีขึ น น่าซือมากขึ น และขายได้ราคาสูงขึ น ดังนั นการเลอื กกระถางสําหรับต้นไม้ จึงมีความสําคัญ หากกระถางไม่เหมาะสม เมือนํามาจําหน่ายกค็ วรเปลยี นกระถางให้เหมาะสมและสวยงาม(วรนัฐ,2539) ภาพที 9.10 การใช้กระถางปลูกทีเหมาะสมกับต้นไม้ ถ่ายภาพโดยสมพงษ์ ทองเด็จ3. การนาํ ไม้ดอกไม้ประดบั ไปใช้ประโยชน์ ไม้ดอกไม้ประดับเป็นไม้ทีมปี ระโยชน์เป็นสิงจรรโลงจิตใจ ให้กับผู้ปลูกผู้ทีพบเห็น ได้รับความสุข ความเพลิดเพลิน ทั งทางตรงและทางอ้อม ทําให้จิตใจมีความสุข ผ่อนคลายความตึงเครียด จากการทํางานมาทั งวัน ทั งเดือน หรือทั งปี ดังนั นมนุษย์ทุกคนจึงอยากหาทีพักผ่อนทีมีความสุขความสบายใจ จึงตอ้ งไปพักผ่อนหย่อนใจในสถานทีต่างๆ และสถานทีดังกล่าวมกี ารจัดภูมิทัศน์ให้น่าพักผอ่ น และสวยงาม นอกจากนั นแล้วไม้ดอกไม้ประดับยังมีความสําคัญในชีวติ ประจําวันของมนุษย์ อกี หลายด้านดังนี 3.1 ด้านสังคม ไมด้ อกไม้ประดับเกยี วข้องในชีวิตประจําวันของมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็ นอดีตหรือปัจจุบัน ประชาชนยังคงใช้ไม้ดอกไม้ประดับในประเพณีและวัฒนธรรมของไทยในทุกโอกาสดังนี 3.1.1 งานด้านพิธีการต่างๆ ของชาติ ศาสนา และพระมหากษตั ริย์ ซึงมีการจัดสถานทีให้สวยงาม เช่น วันเฉลมิ พระชนม์พรรษา จะมีพ่อค้า ประชาชน ข้าราชการทุกหมู่เหล่าร่วมกันทํากิจกรรมพิธีถวายพระพร ดังนั นแต่ละสถานที จะจัดสถานทีสําหรับทํากิจกรรมถวายพระพรโดยการตกแต่งดอกไม้ให้สวยงาม
218 ภาพที 9.11 การจัดสถานทีพิธีการถวายพระพร ถา่ ยภาพโดย สมพงษ์ ทองเด็จ 3.1.2 งานทางด้านประเพณีและวัฒนธรรม ได้แก่ พธิ กี ารมงคลสมรส ใช้ใบเงิน ใบทองในการประกอบพิธี พิธีการอปุ สมบท ในการทําขวัญนาคบายศรีสู่ขวัญ การทําบุญไหว้พระด้วยดอกไม้ธปู เทียน นอกจากนี คนไทยเรายังรับวัฒนธรรมอขงชาติตะวันตกมาใช้อีกมากได้แก่การเยียมผู้ป่ วย การแสดงความยินดีในโอกาสต่างๆเช่น ขึ นบ้านใหม่ เปิ ดร้านใหม่ ได้ตําแหน่งใหม่วันฉลองครบรอบแต่งงาน วันเกิด และวันรับปริญญา จนวันสุดท้ายของชวี ิตไม้ดอกไม้ประดับกย็ ังมีบทบาทสําคัญในพธิ ีกรรมนั นด้วย ภาพที 9. 12 แสดงความยินดีในวันรับปริญญา ถ่ายภาพโดย สมพงษ์ ทองเด็จ
219 3.2 ด้านความสวยงาม ใช้ไม้ดอกไม้ประดับตกแต่งอาคารสถานทีต่างๆ ทั งภายในและภายนอกอาคาร เพือสร้างความร่มรืนสวยงามให้กับบ้านเรือนทีอยู่อาศัย เช่นการปลูกต้นไม้ตกแต่งสวน เป็นทีพักผอ่ นหย่อนใจ หรือ การจัดสวนหยอ่ ม ภายในอาณาเขตของบา้ น และการจัดสวนตกู้ ระจกสวนถาด หรือสวนตู้ปลา เพอื ประดับตกแต่งบ้านเรือนให้น่าอยู่ น่ามอง ให้ความเพลิดเพลิน แก่ผู้อยู่อาศัย และแขกทีมาเยือน จึงถอื วา่ ไม้ดอกไม้ประดับเป็นอาหาตราอาหารใจทีทรงคุณค่ามาก ภาพที 9.13 การจัดสวนเป็นทีพักผ่อนหย่อนใจ ถ่ายภาพโดย สมพงษ์ ทองเด็จ 3.3 ด้านธุรกิจเกียวกับการจัดสวน นอกจากนั นการจดั สวนต่าง ๆ ตั งแต่การจดั สวนขนาดใหญ่ จนถึงสวนหย่อม ภายในบ้าน หรือแม้กระทั งการจัดสวนตกู้ ระจก สวนถาด สวนแก้วหรือ สวนตู้ปลา ยังเป็ นธุรกิจของนักจดั สวน เพือจัดจาํ หน่ายให้กบั ผู้บริโภค และยังมีการประกวดแข่งขัน ระดับโรงเรียน วทิ ยาลัย มหาวทิ ยาลัย จนถึงระดับชาติ ซึงมผี ู้สนใจเป็นอย่างมาก ภาพที 9.14 การจัดสวนตู้ปลาประกวดและจําหน่าย ถ่ายภาพโดย สมพงษ์ ทองเด็จ
220 3.4 ด้านธุรกิจทเี กียวข้องกับการผลิตไม้ดอกไม้ประดับ ในธุรกิจการทําไม้ดอกไม้ประดับยังมีธุรกิจอืน ๆ ทีเกียวข้องเป็ นอาชีพหลักหรืออาชีพรอง มีตลาดทั งภายในประเทศและต่างประเทศนํารายได้เข้าสู่ประเทศไดอ้ ีก เช่น 3.4.1 การทําไม้กระถาง ไม้กระถางยังคงเป็ นทีต้องการของตลาดทั งภายในประเทศและต่างประเทศ เพือใช้ในการตกแต่งภายในและภายนอกอาคาร หรือใช้จัดสวน เช่นชวนชม โป๊ ยเซียนพทิ เู นีย บีโกเนีย ดาวเรือง สร้อยไก่ ส่วนไม้กระถางเพอื ส่งออกต่างประเทศจําเป็ นจะต้องศึกษาความต้องการของตลาดวา่ ต้องการพันธุ์ไม้ชนิดไหน ภาพที 9. 15 โป๊ ยเซียนไม้ดอกกระถาง ถา่ ยภาพโดย สมพงษ์ ทองเด็จ 3.4.2 การปลกู ไม้ดอกไม้ประดบั ในกระเช้าแบบแขวน มีความแตกต่างกับการปลกู ไม้กระถางโดยทัวไป เพราะเหมาะสําหรับบุคคลทีมคี วามต้องการความสวยงาม และความแปลกใหม่แต่มขี ้อจํากัดในเรืองพืนทีในการปลูกและการตกแต่ง ภาพที 9.16 การปลูกหนวดพรามหใ์ นผลตีนเป็ด ถา่ ยภาพโดย สมพงษ์ ทองเด็จ
221 3.4.3 การทําธุรกิจไม้ขุดล้อม การขุดล้อมย้ายต้นไม้ คือการดําเนินการย้ายต้นไม้จากทีเดิมไปยังทีแห่งใหม่ โดยต้นไม้นั นยังคงมีชีวิตอยู่หรือหมายถึงเปลียนทิศทางของกิง การยกระดบัคอรากให้สูงขึ นหรือตําเพอื ปรับปรุงระดับดินบริเวณทีต้นไม้นั นอยไู่ ม่วา่ จะเป็ นชัวคราวหรือถาวรแต่ความหมายโดยทัวไปคือการปรับเปลียนทีตั งของต้นไม้โดยการขุด ตัดราก มีการห่อหุ้มรากการตัดแต่งใบ กิง ตามความจําเป็ นเพือให้ต้นไม้นั นเจริญงอกงามต่อไป ดังนั นผู้ทําธุรกิจด้านนีจะต้องมีความระมัดระวังเป็ นพิเศษ และมคี วามชํานาญ (อภิชาติ และทองพูล, 2556) โดยเฉพาะไม้ขุดลอ้ มจะเป็ นไม้ทีมีขนาดใหญ่จะตอ้ งมีเครืองมือและอุปกรณ์ ในการขนย้าย เช่นรถยนต์รถเครน หรือลอกสําหรับยกต้นไม้ ดังนั นการทําธุรกิจในการขดุ ล้อมนี มเี กษตรกรทีมีความชํานาญในการขุดลอ้ มและขนย้ายพันธุ์ไม้ ดําเนินการธุรกิจ ครบวงจร ตั งแต่ การปลกู ไม้ใหญ่ การดําเนินธุรกิจในการขายพันธุ์ไม้ใหญ่ให้กับบ้านจัดสรรสวนสาธารณะ สถานทีพักผ่อนหย่อนใจ ทีต้องการไม้ใหญ่ไปปลูก โดยไมต่ ้องดูแลตั งแต่ต้นยังเล็ก นอกจากนั นธุรกิจนี ยจัํางหน่ายไม้ขุดล้อมไปยงัต่างประเทศ นํารายได้เข้าประเทศ สร้างงานสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรและชาวบ้านทีรับจ้างในการขุดล ้ อม และเจ้าของธุรกิจ
222 สรุป 1. การจัดการหลังการเก็บเกียวไม้ดอกไม้ประดับ การจัดการหลังการเกบ็ เกียวไม้ดอกไม้ประดับ นั นมีความสําคัญไม่นอ้ ยกว่าพืชชนิดนอๆืจุดประสงค์สําคัญทีปฏบิ ัติกับไม้ดอกไม้ประดับขณะการเก็บเกียวและหลังการเก็บเกียวให้ผลผลิตนั นมีคุณภาพดี เป็ นทีต้องการของลกู ค้าอยา่ งสมบูรณ์จนกว่าจะถึงมือลกู ค้า ซึงแบ่งประเภทของไม้ดอกไม้ประดับ ได้ดังนี คือ - ไม้ตัดดอก เป็นไม้ทีสูญเสียคุณภาพหลังทีตัดมาจากต้นได้ง่าย ดังนั นจึงมีวิธีการปฏิบัติขนส่งและยืดอายุการใช้งาน หลายวิธีเช่น การลดอุณหภูมิของดอกไม้ โดยการแช่นํ า หรือการนําเข้าห้องเย็น การคัดคุณภาพ การตกแต่งและการหุ้มดอก การนําก้านเข้ากํา การหุม้ ดอกทีมัดกํา และการส่งเสริมคุณภาพของดอกก่อนการขนส่ง - ไม้ดอกและไม้ประดับ กรณีไม้ดอกนั นการจัดการหลังการเก็บเกียวไม่มีผลใดๆ เพราะว่าไม้ดอกในทีนี หมายถึงไม้ดอกประดบั แปลงและไม้ดอกกระถาง จึงไม่ต้องมีการปฏิบตั ิการหลังการเก็บเกียว มีแต่การขนย้ายเท่านั น ส่วนไมป้ ระดบั จะมีขั นตอนและวิธีการดงั นี เช่นการเตรียมพันธุ์ไม้จําหน่าย การขดุ ย้ายพรรณไม้ยืนต้น วิธีการขุดย้าย การเลือกระยะเวลาขุดย้ายการตัดแต่งกิงพรรณไม้ก่อนการย้าย การตัดแต่งราก การยกและย้ายพรรณไม้ การเลือกภาชนะห่อหุ้มตุ้มดิน การป้ องกันรากทะลุลงดิน การให้ร่มเงาและความชืนระยะแรก การให้นํ าใหป้ ุ ๋ ยระหวา่ งการอนุบาลการประเมนิ ราคาไม้ขุดล้อม และวิธีการปลูกไม้ขุดล้อม - การบรรจุหีบห่อพรรณไม้เพอื จําหน่าย เป็นการป้ องกันการเสียหายทีเกิดขึ นกับพรรณไม้ในระหว่างการขนส่ง การเคลือนย้าย ซึงขึ นอยู่กับ ชนิดของพรรณไม้ทีบรรจุ การรวบมัดและการจัดเรียงพรรณไม้ ชนิดของภาชนะบรรจุ และวธิ ีการบรรจุหีบห่อพรรณไม้ 2. การเพมิ มูลค่าผลผลิตไม้ดอกไม้ประดับหลังการเกบ็ เกียว การเพิมมูลค่าผลผลติ ไม้ดอกไม้ประดับหลังการเกบ็ เกียว เป็นเทคนิควิธีการของเกษตรกรและผู้รู้ทัวไปมานาน การปฏิบัติอาจจะมาจากเหตุปัจจัยบางอยา่ ง อาจเป็ นเพราะผู้ทีชอบศึกษาหาความรู้และทดลองของแปลกๆใหม่ๆ นําวัสดุใกล้ตัวมาประดิษฐ์ให้เกิดความสวยงามแก่ไม้ดอกไม้ประดับ ซึงมวี ิธีการเพิมมูลค่าผลผลติ ดังนี - วธิ ีการเพิมมูลค่าผลผลิต ได้แก่ การผสมพันธุ์ไม้ใหม่ๆ การขยายพันธุ์พืชโดยไม่ใช่เพศการเปลียนพันธไุ์ ม้และตัดแต่งรูปทรง และการนําพันธุ์ไม้มาสานหรือถัก - การวางแผนกลยุทธการตลาดเพือเพิมมูลค่าผลผลิตไม้ดอกไม้ประดบั จะต้องเข้าใจลักษณะธรรมชาติของตลาดไม้ดอกไม้ประดับ รู้วิธีส่งเสริมการขายและทําการวิเคราะห์เพือทีจะดําเนินการวางแผนกลยุทธการตลาด ได้แก่ ศกึ ษาลักษณะของไม้ดอกไม้ประดับ เช่นการเน่าเสียง่าย
223สินค้าไม้ดอกไม้ประดับต้องหลากหลาย มคี ุณภาพ และเป็ นทีต้องการของลกู ค้า ส่วนข้อมูลทีจะวางแผนการตลาดอีกเรื องก็คือ การส่ งเสริ มการจําหน่าย จะต้องมีการประชาสัมพันธ์การร่วมแสดงนิทรรศการ และการเพิมมูลค่าให้กับสินคา้ เช่นการทําให้สินค้าแปลกกว่าผู้อืนการนําผลผลิตมารวมกันหรือจัดหมวดหมู่ การจัดวางให้เหมาะสม และการใช้ภาชนะทเหี มาะสม - ด้านความสวยงาม เป็ นการนําไม้ดอกไม้ประดับมาตกแต่งทีอยูอ่ าศัย หรือสถานทีทั งภายในและภายนอก โดยการตกแต่งสวนพักผ่อนหย่อนใจ หรือสวนหย่อม สวนถาด สวนตู้กระจกและสวนตู้ปลา เพือเพิมมูลค่าให้กับไม้ดอกไม้ประดับ - ด้านธุรกิจการจัดสวน จากการทนี ําไม้ดอกไม้ประดับมาจัดสวนต่างๆ แล้ว จึงได้เกิดนักจัดสวน ทําการจัดสวนเป็นธุรกิจ เช่นการจัดสวนหย่อม สวนตู้กระจก สวนถาด สวนแก้ว ฯลฯซึงเป็นการเพิมมูลค่าให้กับไม้ดอกไม้ประดับอกี ทางหนึง 3. การนําไม้ดอกไม้ประดับไปใช้ประโยชน์ ไม้ดอกไมป้ ระดับเป็นสิงทีมปี ระโยชน์ ช่วยจรรโลงจิตใจให้ผู้ปลูกและผู้พบเห็นให้มคี วามสุขความเพลิดเพลิน มีความสบายใจ ทั งทางตรงและทางอ้อม ซึงการนําไม้ดอกไม้ประดับไปใช้ประโยชนม์ ดี ้วยกันหลายด้านเช่น - ด้านสังคม เป็ นการนาํ ไม้ดอกไม้ประดับไปใช้ในด้านพิธีการต่างๆ เช่น วนั สําคัญของชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ และ ด้านประเพณีและวัฒนธรรม - ด้านธุรกิจทีเกียวข้องกับการผลิตไม้ดอกไม้ประดับ เกษตรกรทีทําธุรกิจในการผลิตไม้ดอกไม้ประดับจะมีอาชีพอนื มาเกียวข้อง ได้แก่ การทําไม้กระถางการปลูกไม้ดอกไม้ประดับในกระเช้าแขวนและการทําธุรกิจไม้ขุดล้อม
224 แบบทดสอบก่อนเรียนวิชา การผลิตไม้ดอกไม้ประดับ รหสั วิชา 2501-2104เรืองที 9 การจัดการหลังการเก็บเกียว การเพิมมูลค่าผลผลิตและการนาํ ไม้ดอกไม้ประดบั ไปใช7้ประโยชน์คําชีแจง จงทําเครอื งหมาย กากบาท (x) หวั ข้อทีถูกต้องทีสุดเพียงข้อเดยี ว1. การจัดการหลังการเกบ็ เกียว จําเป็นกับไม้ดอกไม้ประดับชนิดใด มากทีสุดก. ชบา หลิวข. บัว เทียนทองค. กุหลาบ หน้าวัวง. พทุ ธรักษา ดาวเรือง2. สรีรวทิ ยาใดทีเกียวข้องกับการเกบ็ รักษาไม้ดอกไม้ประดับก. แสง อุณหภมู ิ นํ าข. นํ า ความชืน แสงค. อณุ หภูมิ แสง ความชืนง. อณุ หภมู ิ นํ า คาร์โบไฮเดรต3. ข้อใดไม่ใช้ไม้สําหรับขุดล้อมเพอื จําหน่ายก. ไทร โมกข. ตะโก ข่อยค. พิกลุ ตีนเป็ดง. หมากเหลือง ปาล์มหางหมาป่ า4. วัสดุชนิดใดไม่เหมาะสําหรับนํามาใช้บรรจุหีบห่อไม้ดอกก. พลาสติกดําข. กลอ่ งกระดาษค. ใบตอง(ใบกล้วย)ง. กระดาษหนังสือพิมพ์5. วธิ ีการใดไม่ใช่วธิ ีการส่งเสริมคุณภาพของดอกไม้ก่อนขนส่งก. การทําให้ดอกไม้สดข. การทําให้ดอกไม้ตมู บานค. การเพิมอาหารให้ดอกไม้ง. การทําให้ดอกไม้หยุดการหายใจ
2256. ข้อใดกลา่ วไม่ถูกต้อง ก. การบรรจุหีบห่อช่วยให้ดอกไม้มีราคาถูกลง ข. การบรรจุหีบห่อช่วยให้ดอกปลอดภัยจากโรคเน่า ค. การบรรจุหีบห่อช่วยป้ องกันไม้ดอกไม่ให้บอบชํ า ง. การบรรจุหีบห่อช่วยให้ไม้ดอกขนส่งได้ระยะทางไกล7. ข้อใดไม่ใช่วธิ ีการเพิมมูลค่าผลผลติ ก. การถักสานต้นหลวิ ข. การเปลยี นยอดเฟื องฟ้ า ค. การขุดล้อมต้นตีนเป็ดนํ า ง. การดัดและตัดแต่งต้นข่อย8. ช่อดอกไม้ทีให้ในวันแห่งความรักควรเป็นดอกไม้ ก. ช่อมะลิ ข. ช่อลลิ ลี ค. ช่อกหุ ลาบ ง. ช่อเยอร์บีร่า9. ประเพณีข้อใดทีนิยมใช้ดอกไม้แสดงความอาลัยรัก ก. งานศพ ข. งานบวช ค. งานแต่งงาน ง. งานทําบุญขึ นบ้านใหม่10. การทําธรุ กิจไม้ดอกไม้ประดับในข้อใดทีเกษตรกรไมต่ ้องมคี วามรู้และประสบการณ์มาก ก. การทําไม้ถัก ข. การจัดสวนตู้ปลา ค. การจัดสวนหย่อม ง. การปลูกไม้กระถาง
226 แบบทดสอบหลังเรียนวิชา การผลิตไม้ดอกไม้ประดับ รหัสวิชา 2501-2104เรืองที 9 การจัดการหลังการเก็บเกียว การเพิมมูลค่าผลผลิตและการนําไม้ดอกไม้ประดบั ไปใช้ประโยชน์คําชีแจง จงทาํ เครืองหมาย กากบาท (x) หัวข้อทีถูกต้องทสี ุดเพียงข้อเดียว1. การทําธรุ กิจไม้ดอกไม้ประดับในข้อใดทีเกษตรกรไมต่ ้องมคี วามรู้และประสบการณ์มากก. การทําไม้ถักข. การจัดสวนตู้ปลาค. การจัดสวนหย่อมง. การปลูกไม้กระถาง2. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องก. การบรรจุหีบห่อช่วยให้ดอกไม้มีราคาถูกลงข. การบรรจุหีบห่อช่วยให้ดอกปลอดภัยจากโรคเนา่ค. การบรรจุหีบห่อช่วยป้ องกันไม้ดอกไมใ่ ห้บอบชํ าง. การบรรจุหีบห่อช่วยให้ไม้ดอกขนส่งได้ระยะทางไกล3. ข้อใดไม่ใช่วิธีการเพิมมูลค่าผลผลิตก. การถักสานต้นหลิวข. การเปลียนยอดเฟื องฟ้ าค. การขดุ ล้อมต้นตีนเป็ดนํ าง. การดัดและตัดแต่งต้นข่อย4. การจัดการหลังการเก็บเกียวจําเป็นกับไม้ดอกไม้ประดับชนิดใด มากทีสุดก. ชบา หลวิข. บัว เทียนทองค. กุหลาบ หน้าวัวง. พทุ ธรักษา ดาวเรือง5. สรีรวิทยาใดทีเกียวข้องกับการเก็บรักษาไม้ดอกไม้ประดับก. แสง อณุ หภมู ิ นํ าข. นํ า ความชืน แสงค. อณุ หภูมิ แสง ความชืนง. อุณหภมู ิ นํ า คาร์โบไฮเดรต
2276. ช่อดอกไม้ทีให้ในวันแห่งความรักควรเป็นดอกไม้ ก. ช่อมะลิ ข. ช่อลลิ ลี ค. ช่อกุหลาบ ง. ช่อเยอร์บีร่า7. ประเพณีข้อใดทีนิยมใช้ดอกไม้แสดงความอาลัยรัก ก. งานศพ ข. งานบวช ค. งานแต่งงาน ง. งานทําบุญขึ นบา้นใหม่8. ข้อใดไม่ใช้ไม้สําหรับขุดล้อมเพือจําหน่าย ก. ไทร โมก ข. ตะโก ข่อย ค. พิกลุ ตีนเป็ด ง. หมากเหลอื ง ปาล์มหางหมาป่ า9. วัสดุชนิดใดไม่เหมาะสําหรับนํามาใช้บรรจุหีบห่อไม้ดอก ก. พลาสติกดํา ข. กลอ่ งกระดาษ ค. ใบตอง(ใบกล้วย) ง. กระดาษหนังสือพิมพ์10. วิธีการใดไม่ใช่วธิ ีการส่งเสริมคุณภาพของดอกไม้ก่อนขนส่ง ก. การทําให้ดอกไม้สด ข. การทําให้ดอกไม้ตมู บาน ค. การเพิมอาหารให้ดอกไม้ ง. การทําให้ดอกไม้หยุดการหายใจ
228 เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียนวิชา การผลิตไม้ดอกไม้ประดับ รหัสวิชา 2501-2104เรืองที 9 การจัดการหลังการเก็บเกียว การเพิมมูลค่าผลผลิตและการนําไม้ดอกไม้ประดบั ไปใช้ประโยชน์ ข้อ เฉลย 1ค 2ง 3ง 4ก 5ง 6ก 7ค 8ค 9ก 10 ง
229 เฉลยแบบทดสอบหลังเรียนวิชา การผลิตไม้ดอกไม้ประดับ รหัสวิชา 2501-2104เรืองที 9 การจัดการหลังการเก็บเกียว การเพิมมูลค่าผลผลิตและการนาํ ไม้ดอกไม้ประดบั ไปใช้ประโยชน์ ข้อ เฉลย 1ง 2ก 3ค 4ค 5ค 6ค 7ก 8ง 9ก 10 ง
230 หน่วยที 10 การจัดจําหน่ายและการทาํ บญั ชีสาระสําคัญ ปัจจุบันการจัดจําหน่ายได้เข้ามามีบทบาทในการทําการเกษตรอย่างมาก โดยเฉพาะกําไรได้มาจากการจัดทําบัญชีเป็นตัวทเขี ้ามามีบทบาท กําหนดการทําการเกษตรของเกษตรกรแต่ละรายออกมาในรูปแบบทีแตกต่างกันออกไป เกษตรกรแต่ละรายต้องคิดอยู่เสมอวา่ ตัวเองจะผลิตอะไรจึงจะทําให้ต้นทุนตําลง ผลผลิตเป็นทีต้องการของตลาดและได้ค่าตอบแทนสูง เกษตรกรจะต้องมีการวางแผนการผลิต การจําหน่าย และการจัดทําบัญชีเพือทีจะได้รู้ต้นทุน และกําไรจุดประสงค์การเรียนรู้ จุดประสงค์ทัวไป 1. รู้วธิ ีการจดั จําหน่ายไม้ดอกไม้ประดับ 2. รู้วธิ ีการทําบัญชีเบืองต้น 3. เพือให้นักเรียนมีคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยมและคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ เรืองความ รับผิดชอบ ความซือสัตย์สุจริต จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม 1. สามารถจัดจําหน่ายไม้ดอกไม้ประดับไดอ้ ย่างเหมาะสม 2. สามารถทําบัญชีรายรับและรายจ่ายได้อย่างถูกต้อง 3. สามารถทําบัญชีทรัพย์สินและหนี สินได้อย่างถูกต้อง
231เนือหาสาระ1. การจัดจําหน่ายไม้ดอกไม้ประดบั ก่อนทีจะมีการจัดจําหน่ายไม้ดอกไม้ประดับนั นจะต้องใหค้ วามสําคัญกับตลาดสินค้าเกษตรก่อน ซึงตลาดสินค้าเกษตรเป็นจุดนัดพบในการซือขายสินค้าทางด้านการเกษตรทีมีผู้ซือและผู้ขายเป็ นจํานวนมาก เขา้ มาทําการซือขายโดยตรง ด้วยวิธีการตกลงราคาหรือประมูลราคากันอย่างเปิ ดเผย “ตลาดสินค้าเกษตร” มิติใหมใ่ นการส่งเสริมเกษตรกรไทยให้มีช่องทางในการซือขายสินค้าเกษตรอยา่ งเป็ นระบบ และลดราคาสินค้าเกษตรตกตําในอนาคต ตลาดคา้ ส่งขนาดใหญ่ทีจําหน่าย ไม้ดอกไม้ประดบั ได้แก่ ตลาดไท ปากคลองตลาด ตลาดสีมุมเมือง ตลาดศรีเมืองตลาดต้นไม้ คลอง15 ส่วนตลาดค้าปลีกขนาดใหญ่ ได้แก่ ตลาดนัดจัตุจักร ตลาดต้นไม้เทเวศร์ตลาดต้นไม้เขตทหาร ตลาดตน้ ไม้วงแหวนกาญจนาภิเษก ตลาดตน้ ไม้บางใหญ่ บางบัวทองศูนย์ท่องเทียวและจําหน่ายไม้ดอกไม้ประดับจังหวัด นนทบ(ุรอี ภิชาติและจนั ทรา, 2556) ปัจจุบันการจดั จําหน่ายได้เข้ามามีบทบาทในธุรกิจไม้ดอกไมป้ ระดับเป็ นอย่างมากโดยเฉพาะกรรมวิธีทีจะทําอย่างไรให้ไม้ดอกไม้ประดับนั นมีคุณค่าสูงขึ นกว่าปกติ หรือทําอยา่ งไรให้ได้กําไรจากการจําหน่ายให้สูงทีสุด นันคือทุกขบวนการทุกขั นตอนทีจะทําใหไ้ ม้ดอกไม้ประดับมคี ุณภาพ ตรงตามความต้องการของตลาด โดยเฉพาะอย่างยิงการจัดการหลังการเกบ็ เกียว การเพิมมูลค่าผลผลติ เป็นขั นตอนสุดท้ายทีสําคัญมากก่อนนําไม้ดอกไม้ประดับออกจําหน่าย เกษตรกรต้องหาช่องทางทีจะทํากําไรให้ได้มากทีสุด 1.1 ลักษณะการจัดจําหน่ายไม้ดอกไม้ประดับในประเทศไทย การจําหน่ายไม้ดอกไม้ประดับภายในประเทศ หมายถงึ กิจกรรมการแลกเปลยี น หรือซือขายสินค้าไม้ดอกไม้ประดับและการบริการกับมลู ค่าทีเป็ นตัวเงิน หรือสินค้าอืนระหว่างท้องถินต่าง ๆภายในประเทศ เป็นการจัดจําหน่ายโดยไม่ต้องเสียค่าภาษีสินค้า การจัดจําหน่ายไม้ดอกไม้ประดับภายในประเทศอาจแยกได้ 2 ลักษณะ ดังนี 1.1.1 จําแนกตามแหลง่ การค้า ได้แก่แหลง่ การค้าตามชุมชนหรือแหล่งการค้าในท้องถินและนอกท้องถิน แหล่งการค้าในท้องถินแบ่งออกเป็ นตลาดดังเดิม คือตลาดทีนดั วันมาขาย หรือเรียกวา่ ตลาดนัด มกี ิจกรรมซือขายอยู่ในช่วงเวลาหนึง แลว้ เลิกรากันไปจนถึงวันนัดใหม่ มีลักษณะการค้าแบบต้องการแลกเปลียนสินค้าทีต้องการมากกว่ามุ่งหวงั เป็ นรายได้การขายทั งหมดแหล่งทีสองคือตลาดการค้าถาวรขนาดเล็ก ซึงเป็นแหลง่ การค้าในท้องถิน ในตําบล อําเภอ จังหวัดและภูมิภาค เป็ นลกั ษณะการค้าทีต้องอาศัยองค์ประกอบทางด้านอืนเข้ามาสนับสนุน เช่นการคมนาคม ยานพาหนะ ตลอดจนระบบการขนส่ง เช่นห้องเย็นสาํ หรับผลผลิตบางประเภททีเสียหายง่าย
232 1.1.2 จําหน่ายตามระบบการขายสามารถจําแนกได้2 ลักษณะย่อย ๆดังนี 1) การขายปลีก ได้แก่ลกั ษณะการขายตามร้านค้าทัวไป ไม่ว่าจะเป็ นร้านค้าขนาดเล็กหรือร้านค้าขนาดใหญ่ทีเรียกวา่ ร้านสรรพสินค้า เป็นกิจการทีไม่ต้องอาศัยเงินลงทุนมาก สินค้าในร้านค้าอาจจะได้มาจากการซือเงินสดหรือสินเชือกไ็ ด้ การนําเสนอของสินค้าอาจมีตัวแทนของผู้ผลิตมาติดต่อทีร้านเอง หรือร่วมกับการไปเลือกหาซือสินค้ามาเข้าร้านเองของเจ้าของร้านเองร้านค้าปลกี ลักษณะนี อาจแบ่งย่อยได3้ ลักษณะคือ - ร้านค้าเอกชนทัวไป - ร้านค้าสหกรณ์ของเอกชนหรือหุ้นส่วน - ร้านค้าทีอยูใ่ นความอุปถัมภ์ของกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ทีมีระเบียบการแตกต่างกันออกไป ในวิธีดําเนินงานและบริหารงาน แต่ระบบการขายเป็นเช่นเดียวกัน 2) การขายส่ง เป็ นระบบการขายทีต้องอาศัยแหล่งรวบรวมผลผลิตเพือการแยกจําหน่ายไปยังบริเวณต่างๆ ได้ทัวถึง เป็ นกิจการค้าทตี ้องอาศัยระบบการเงินหนุนหลังมาก ตั งแต่ระบบการธนาคารในการใหก้ ู้เงินทุนหมุนเวียน และการรวบรวมเงินทุนจากกลุ่มพวกของตนเองไปจนถึงการมีหรือเช่าโกดงั เก็บสิงของ เพือเก็บตุนสินคา้ ตามฤดูกาลผลิต หรือสินค้าทัวๆไปไว้ในปริมาณมาก สําหรับการส่งไปยงั ร้านค้าปลีกได้ต่อไป ดังนั นจะเห็นได้ว่าการจัดจําหน่ายไม้ดอกไม้ประดับภายในประเทศนั น ผู้ขายอาจเป็นได้ทั งเกษตรกรผูผ้ ลิต พ่อค้าคนกลาง ทีดําเนินการจัดจําหน่ายในลักษณะขายปลีก หรื อขายส่งส่วนผู้ซือเป็นได้ทั งพอ่ ค้าคนกลางด้วยกัน หรือผู้บริโภคโยดตรง 1.2 ลักษณะการเคลือนไหวของราคาไม้ดอกไม้ประดับ การเคลือนไหวของราคาสินคา้ เกษตรไม่แน่นอน ราคาขึ นๆ ลงๆ ตามวัฏจกั ร ฤดูกาลทีเปลียนแปลงหรือสภาพแวดล้อม โดยเฉพาะไม้ดอกไม้ประดับบางครั งก็ขึ นอยู่กับความพอใจของผู้ผลติ และผู้บริโภคจะตกลงกันดังนั นความเคลอื นไหวของราคาไม้ดอกไม้ประดับ จึงพอสรุปได้ดังนี 1.2.1 ความเคลือนไหวของราคาตามฤดูกาล เป็ นการเคลือนไหวของราคาทีเกิดขึ นในเดือนต่างๆ ในรอบปี ซึ งเป็ นเหตุมาจากการเปลียนแปลงดา้ นปริมาณการเสนอซือและขายทีเกิดขึ นในแต่ละเดือน ทั งนี เพราะไม้ดอกไม้ประดับบางชนิดผลิตแต่เฉพาะในบางฤดูกาล แม้ว่าจะมผี ลกระทบทางด้านการตลาดและอืน ๆ ก็ตาม ความรุนแรงของราคาทีเปลียนแปลงนี จะมากหรือน้อยขึ นอยู่กับความต้องการผลผลติ เฉพาะฤดกู าลและกเบ็ รักษาเป็นสําคัญ 1.2.2 ความเคลอื นไหวของราคาตามวัฏจักร เป็นการเคลอื นไหวทีเกิดขึ นเป็ นรายปี โดยมีลักษณะการเปลียนแปลงขึ นลงซํ าๆ กัน ในช่วงเวลาหนึ ง เช่นราคาไม้ดอกไม้ประดบั างอย่าง
233อาจสูงหรือตํากว่าปกติในทุก3-4 ปี เป็นต้น สาเหตุสําคัญของการเคลอื นไหวนี เกิดจากความต้องการในตลาดและการผลิตของผู้ผลิต กล่าวคือ เมือพืชใดมีความต้องการในตลาดสูงและใหร้ าคาสูงไม้ดอกไม้ประดับนั นก็จะขาดแคลน ดังนั นผู้ผลิตก็เร่งการผลิตออกมามาก ทําให้ราคาตลาดและความต้องการในตลาดค่อยๆลดลง ราคาไม้ดอกไม้ประดับจึงหมุนเวียนดังนี เรือยไป 1.2.3 ความเคลือนไหวของราคาตามแนวโน้มของสถานการณ์ เป็ นการเคลือนไหวทีเกิดขึ นเป็นรายปี เนืองจากมกี ารเปลยี นแปลงด้านความต้องการ และด้านการผลิตพืชเศรษฐกิจโดยส่วนรวม เช่น จํานวนประชากรเพิมขึ นจํานวนผลผลติ เพิมขึ น เป็นต้น 1.2.4 ความเคลือนไหวของราคาตามเหตุการณ์ผิดปกติ เป็ นการเปลียนแปลงราคาสินค้าทีเกิดขึ น ในปี ใดปี หนึง โดยไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหนา้ ได้ เนืองจากสภาพแวดล้อมต่างๆ เช่นสงคราม นํ าท่วม และอืนๆ ซึ งส่วนใหญ่จะเป็ นผลด้านการผลิตไม้ดอกไม้ประดับมากกว่าความตอ้ งการในท้องตลาด เช่นในสภาวะการผลิตไม้ดอกไม้ประดับบางชนิดของประเทศต่างๆในโลกประสบความล้มเหลว อันเนืองจากภัยธรรมชาติ เกิดภาวะขาดแคลน และต้องการพืชนั นๆอย่างมาก ราคากจ็ ะพุ่งขึ นอย่างรวดเร็ว2. การจัดทําบญั ชีในการผลิตไม้ดอกไม้ประดบั การจัดทําบัญชี หมายถึงการจดบันทึกรายการค้าทีเกิดขึ นโดยมีเอกสารเป็นหลักฐานและมีขั นตอนการเรี ยงลําดับเอกสารก่อนหลัง(ตามวนั ที และเลขทีใบสําคัญ) มีการจําแนกข้อมูลจัดหมวดหมูร่ ายการค้าเป็นประเภทต่างๆ เช่นทรพั ย์สิน หนี สิน ทุน รายรับและรายจ่าย มีการสรุปและวิเคราะหแ์ ปลความหมายและจัดทํารายงาน(ชูศิล, 2555) ดังนั นการจัดทําบัญชีฟาร์มในการผลิตไม้ดอกไม้ประดับก็คือการจดบันทึกรายการจําหน่ายและการจดั ซือวัสดุอุปกรณ์ในกิจการงานฟาร์ม และจดบนั ทึกทรัพย์สิน หนี สิน ของกิจการงานฟาร์ม เพอื เป็นหลักฐานและสถติ ิข้อมูลต่างๆ ต่อไป 2.1 ประเภทของการจดบันทึกกิจกรรมงานฟาร์ม การแบ่งประเภทของการจัดทําบัญชีฟาร์ม ทําให้เจ้าของกิจการสามารถทีจะทราบข้อมูลของกิจการได้รวดเร็วและถูกต้อง ซึงการจัดทําบัญชีสามารถแบ่งประเภทของบัญชีได้ดังนี 2.1.1 การบันทึกทรัพย์สินและหนี สิน รายรับ รายจ่าย เป็ นการบันทึกทรัพย์สินของฟาร์มและบันทึกเกียวกับเจ้าหนี ลูกหนี เช่นทีดิน โรงเรื อน แปลงไม้ดอกไม้ประดับ เครื องมือเครืองจักรกลเกษตร อุปกรณ์การเกษตร จํานวนปศุสัตว์ ปุ ๋ ยเคมี สารเคมี ผลผลิตต่างๆ ของฟาร์มทียังคงเหลอื และปัจจัยการผลติ ต่างๆ ทียังคงเหลอื หนี สินต่างๆ ของฟาร์ม การบันทึกหนี สินและ
234ทรัพย์สินของฟาร์มจะนาํ ไปใชส้ รุปฐานะทางการเงินของฟาร์มและเป็ นขอ้ มูลในการคํานวณหารายได้สุทธิของฟาร์ม ประเภทของบัญชีควรจะบันทึกดังนี 1) บัญชีรายรับและรายจ่าย เป็ นการบนั ทึกรายการรับและรายจ่ายทีเป็ นเงินสดทีเกียวข้องกับงานฟาร์ม ในส่วนของรายจ่าย ได้แก่ ค่าเมล็ดพันธุ์ ค่าแรงงาน ค่าปุ ๋ ย ค่าสารเคมี หรือการชําระหนี ฯลฯ ส่วนรายรับได้แก่ การขายผลผลติ ดังตารางท1ี 0.1ตารางที 10.1 แสดงตัวอยา่ งบัญชีรายรับและรายจ่าย รายรับ รายจ่ายว/ด/ป รายการ จํานวน ราคา/ จํานวน ว/ด/ป รายการ จํานวน ราคา/ จํานวน หน่วย เงิน หน่วย เงิน (บาท) (บาท)1/2/53 กหุ ลาบ 100กํา 50 5,000 15/2/53 ค่าแรง 3 คน 200 6008/2/53 ดาวเรือง 20 มัด 50 1,000 18/2/53 ค่าปุ ๋ ย 2 ก.ส 550 1,10015/2/53 ใบเตย 50 มัด 20 1,000 รวม 7,000 รวม 1,700 2) บัญชีลูกหนี ใชบ้ ันทึกรายการทีเกียวกับฟาร์ม ขายผลผลิตเป็ นเงินเชือ เช่นขายดอกไม้เป็นเงินเชือ ดังตารางที10.2ตารางที 10.2 แสดงการลงบัญชีลูกหนี พ.ศ.2553 รายการ จํานวนเงนิ รับชําระเงิน คงเหลือ เดือน วันที บาท ส.ต บาท ส.ต บาท ส.ตมกราคม 10 ขายกหุ ลาบ 5,000 - -- -- จํานวน100 กํากมุ ภาพันธ์ 1 รับชําระหนคี ่า -- 5,000 - -- กุหลาบ
235 3) บัญชีเจ้าหนี ใช้บันทึกรายการทีฟาร์มเป็ นหนี บุคคลอืน เช่นซือปุ ๋ ยเคมี เป็ นเงินเชือ และการขอกู้เงินจากธนาคาร ดังตัวอย่างในตารางท1ี 0.3ตารางที 10.3 แสดงการลงบัญชีเจ้าหนี พ.ศ.2553 รายการ จํานวนเงนิ รับชําระเงิน คงเหลอื เดือน วันที บาท ส.ต บาท ส.ต บาท ส.ตพฤษภาคม 7 ซือปุ ๋ ยเป็นเงิน 15,000 - - - 15,000 - เชือ 1 ตัน 15 ซือยาฆ่าแมลง 10,000 - - - 10,000 - เป็ นเงินเชือ 10 ลัง 25,000 - - - 25,000 - รวม 4) บญั ชีทรัพย์สิน เป็ นบัญชีทีจดบันทึกการนาํ ทรัพย์สินมาลงทุน โดยบนั ทึกมูลค่าเมือเริมโครงการและเมอื เสร็จสินโครงการ เช่นทีดิน ราคาทีดินจะต้องตีราคาทีคิดว่าจะขายได้ในช่วงเวลาหลายๆ ปี โรงเรือนให้ตีราคาโดยหักค่าเสือมราคาออก เครืองจักร เครืองมือ ให้หักค่าสึกหรอออก เช่น ซือเครืองพ่นยามาราคา 9,000 บาทพอสิ นปี หักค่าสึกหรอออกเหลือมูลค่าปลายปี เพยี ง 5,000 บาท ดังตัวอย่างในตารางที10.4ตารางที 10.4 แสดงตัวอย่างบัญชีทรัพย์สินพ.ศ.2553 รายการ จํานวนเงนิ คงเหลอื บาท ส.ต บาท ส.ตเดือน วันที รถไถเดินตาม 300,000 - 255,000 - เครืองพ่นยา 9,000 - 5,000 -ธันวาคม 30
236 5) บัญชีค่าแรงงาน (ทีไม่ได้จ้าง) เป็ นการบันทึกค่าแรงงานทีไม่ได้จ้าง ซึงเป็ นรายจ่ายประเภทหนึ งทีไม่ได้จ่ายเป็ นเงินสด เช่นบนั ทึกชัวโมงการปฏิบตั ิงานแล้วตีค่าเป็ นเงินแล้วนาํ ผลรวมของค่าแรงงานจากบัญชีค่าแรงงาน(ทีไม่ไดจ้ ้าง) มาเกียวข้องในบัญชีกําไรและบัญชขี าดทุนด้วย ดังตัวอย่างในตารางที10.5ตารางที 10.5 แสดงตัวอย่างบัญชีค่าแรง(ทีไม่ได้จ้าง) พ.ศ 2553 รายการ จํานวน จํานวนเงนิ หมายเหตุเดือน วันที ชั วโมง บาท ส.ต 150 - ค่าแรงชั วโมงละมกราคม 10 ตัดดอกกหุ ลาบ 6 200 - 25 บาท 815 ตัดดอกดาวเรือง 6) บัญชีกําไรและบัญชขี าดทุน เมือครบกําหนด 1 ปี หรือสิ นสุดโครงการจะนําอารายรับรายจ่ายของแต่ละกิจกรรม มารวมสรุปเปรียบเทียบกัน ถ้าผลรวมของรายได้สูงกว่าผลรวมของรายจ่ายคือ กําไรสุทธิ ถ้าผลรวมของรายจ่ายสูงกว่าผลรวมของรายรับ ก็คือ ขาดทุนสุทธิดังตัวอย่างตารางที 10.6ตารางที 10.6 แสดงตัวอย่างสรุปรายรับและรายจ่ายชนิดของไม้ดอกไม้ประดับ รายรับ รายจ่าย กําไร/ขาดทุน1. กุหลาบ 15,000 20,000 -50002. ดาวเรือง 30,000 20,000 10,0003. ใบเตย 15,000 5,000 10,000 60,000 45,000 15,000 รวม
237 2.1.2 การบันทึกข้อมูลในด้านการผลิต เป็ นการบันทึกรายละเอียดของการผลิตทั งหมดในการผลิต ซึงเป็นข้อมูลพืนฐานทีมคี วามสําคัญในการตัดสินใจเกียวกับการวางแผนการผลิต และเพิมประสิทธิภาพการผลิตให้ได้ผลดียิงขึ น การบันทึกข้อมลู ในด้านการผลิตแบ่งออกเป็ น 3 ส่วนดังนี 1) การบันทึกการผลิตไม้ดอกไม้ประดับ เป็นการบันทึกรายละเอียดเกียวกับเนือทีเพาะปลูกในแต่ละแปลงในการผลิต ซึงจะแยกรายละเอยี ดของการบันทึกดังต่อไปนี - แผนผังโรงเรือนเพือให้ทราบทีตั งของโรงเรือนและแปลงปลูกไม้ดอกไม้ประดับ เนือทีปลูกไม้ดอกไม้ประดับแต่ละชนิด - บันทึกการใช้ทีดิน ซึงจะมีรายละเอียดของการปลูกไม้ดอกไม้ประดบัแต่ละแปลง เช่น ชนิดของไม้ดอกไม้ประดับ พันธุเ์ นือที ทีใช้ปลูก ผลผลติ ต่อไร่ ผลผลติ ทั งหมด - การใช้ปัจจัยการผลิต (ปุ ๋ ยเคมี สารเคม(ี ลฯ)ทีเหมะสมเพือจะไดม้ ีขอ้ มูลทีจะสามารถอธิบายผลทีได้รับจากการเพาะปลูกพืชแต่ละชนิด - การสรุปการผลิตเป็นการสรุปรายรับและ รายจ่าย ของการผลิตทั งหมดของฟาร์ม เพอื หารายได้สุทธิของไม้ดอกไม้ประดับดังตัวอย่างในตารางที10.7
238ตารางที 10.7 แสดงรายละเอยี ดในการคํานวณต้นทุนและผลตอบแทนต่อไร่ของไม้ดอกไม้ประดับ กิจกรรม ต้นทุนที ตน้ ทุนที รวม เป็ นเงินสด ไมเ่ ป็นเงินสด1. ต้นทุนผันแปรค่าแรงงาน- เตรียมดิน- ปลูก- ปลูกซ่อม-ถอนแยก- กําจัดวัชพืช โรค แมลง- ให้นํ า ให้ปุ ๋ ย- เกบ็ เกียว และการจัดการหลังการเกบ็ เกียวค่าวัสดุการผลิต- ค่าเมล็ดพันธ์- ค่าปุ ๋ ยเคมี- ค่าสารเคมี- ค่านํ ามันเชือเพลงิค่าใช้จ่ายอนื ๆ- ค่าซ่อมอุปกรณ์รวมต้นทุนผันแปร2. ต้นทุนคงที- ค่าเช่าทีดิน- ค่าเสือมราคาอปุ กรณ์รวมต้นทุนคงทีรวมต้นทุนทั งหมด(บาท) ต้นทุนคงที + ต้นทุนผันแปร= ..................................................ผลผลติ ต่อไร่ (ก.ก) = ...................................................................................................ราคาผลผลติ ต่อ ก.ก. = ...................................................................................................รายได้ทั งหมด= ผลผลติ ต่อไร่ X ราคาผลผลิตต่อ ก.ก =.........................................................ต้นทุนทั งหมด(บาท) =....................................................................................................รายได้สุทธิต่อไร่ (บาท) = รายได้ทั งหมด– ต้นทุนทั งหมด= ................................................
239 2) การบันทึกการใช้งาน เป็ นการบันทึกรายละเอียดเกียวกับการใช้งานในการปลูกไม้ดอกไม้ประดับ ซึงจะมีรายละเอียดเกียวกับวันทีทํางาน ประเภทของงานทีทํา และปริมาณของงานทีทํา ข้อมุลการบนั ทึกการใชง้ านแรงงานทําให้ทราบถึง จํานวนแรงงานทีใชใ้ นแต่ละประเภท 3) การคิดรายรับ-รายจ่าย และกําไร โดยทัวไปค่าใช้จ่ายแบ่งงออกเป็ น 2 ส่วนใหญ่ ๆ คือ - ค่าใช้จ่ายผันแปร เป็นค่าใช้จ่ายต้องใช้มาก เมือทําการผลิตมาก ใช้นอ้ ยเมือทําการผลติ น้อย และไม่ต้องเสียเลยเมอื ไม่มีการผลติ เช่น ค่าปุ ๋ ยเคมี สารเคมี ค่าจ้างแรงงนา ค่าพันธุ์พืช เป็นต้น - ค่าใช้จ่ายคงที เป็ นค่าใช้จ่ายทีต้องเสียอยูแ่ ล้ว ไม่ว่าจะทําการผลิตหรือไม่ก็ตาม เช่น ค่าภาษีทีดิน ค่าเสือมราคาเครืองจักร และเครืองมอื เป็นต้น การวิเคราะห์ผลตอบแทนอย่างง่ายในการทําฟาร์ม กําไร = รายได-้ ค่าใช้จ่าย (รายจ่าย) รายได้ = ผลผลติ x ราคาต่อหน่วย กําไรขั นต้น = รายได้ – ค่าใช้จ่ายผันแปร กําไรสุทธิ = รายได้ – ค่าใช้จ่ายผันแปร– ค่าใช้จ่ายคงที ปกติการคิดรายจ่ายของเกษตรกรโดยทัวไป จะคิดเฉพาะค่าใช้จ่ายผันแปรเท่านนั เพือไม่ให้ยุ่งยากในการคํานวณ ดังนั นการบนั ทึกข้อมูลในดา้ นการผลิต เป็ นการบันทึกรายละเอียดทั งหมดในการผลิตไม้ดอกไม้ประดับ ซึงแบ่งออกเป็นต้นทุนผันแปร ได้แก่ค่าแรงงาน ค่าวัสดุการผลติ และค่าใช้จ่ายอืนๆ และต้นทุนคงที ไดแ้ ก่ค่าเช่าทีดิน ค่าเสือมราคาของวัสดุอุปกรณ์ นันคือตน้ ทุนการผลิตทั งหมดได้แก่ ต้นทุนคงทรี วมกบั ต้นทุนผันแปร ส่วนรายไดข้ องผลผลิตได้แก่ ผลผลิตคูณดว้ ยผลผลิตต่อหน่วย ซึงเป็ นรายได้ของผลผลิต ดังนั นรายไดส้ ุทธิของผลผลิต คือรายได้ทั งหมดลบด้วยต้นทุนคงทีรวมกับต้นทุนผันแปร ผลออกมาเป็ นบวกแสดงว่าได้กําไร แต่ถ้าผลออกมาเป็ นลบแสดงว่าขาดทุน
240 2.2 ประโยชน์ของการบนั ทกึ บญั ชี การจัดทําบัญชหี รือการบันทึกรายการในบัญชเี ป็ นการทําให้ผู้ผลติ หรือเจ้าของกิจการทราบถึงรายละเอียดรายรับและรายจ่ายของกิจการงานฟาร์มหรือการดําเนินการผลิตไมด้ อกไม้ประดับ ซึงจะมปี ระโยชนต์ ่อเจ้าของกิจการดังนี 2.2.1 เพอื ใหท้ ราบรายละเอียดของรายรับและรายจ่าย เป็นจํานวนเท่าใด 2.2.2 เพือให้ทราบว่าทําการผลิตอะไรบ้าง และมีผลกําไรหรื อขาดทุนจากการผลิตไม้ดอกไม้ประดับนั นมากน้อยเพยี งใด 2.2.3 เพอื ใหท้ ราบว่าผลผลิตทีนํามาบริโภคในครัวเรือนเป็นจํานวนและมูลค่าเท่าใด 2.2.4 เพือให้ทราบว่าผลผลิตทีได้รับจากการปลกู ไม้ดอกไม้ประดับเป็ นไปตามแผนการผลิตทีวางไว้หรือไม่ ควรจะปรับปรุงด้านไหน 2.2.5 ใช้เป็นหลักฐานการวางแผน และงบประมาณปี ต่อๆ ไป เพราะถ้ามกี ารผลติ และขยายเนือทีการผลิตจะไดท้ รายถึงการใช้ปัจจยั ในกิจกรรมต่างๆ ว่าเป็ นเท่าใด จะวางแผนหามาใช้ให้เพยี งพอ 2.2.6 การคํานวณต้นทุนและผลตอบแทนต่อไร่ ของไม้ดอกไม้ประดับ เป็นการสรุปผลการปฏิบัติในแต่ละรุ่น ซึงข้อมูลทีได้ จะใช้ในการพจิ ารณาวางแผนกําหนดนชิดพืชทีจะปลูก และการใช้ปัจจัยการผลิตในโอกาสต่อไป ภาพที 10.1 สมดุ บัญชีการจําหน่ายพันธุ์ไม้ ถ่ายภาพโดย สมพงษ์ ทองเด็จ
241สรุป ก่อนทีจะจาํ หน่ายและการทําจัดทําบัญชี ไม้ดอกไมป้ ระดบั ผู้ผลิตจะต้องรู้เรื องของตลาดสินค้าเกษตร ซึงเป็นแหลง่ ซือขายไม้ดอกไม้ประดับ ตลาดค้าส่งไม้ดอกไม้ประดับขนาดใหญ่ได้แก่ ตลาดไท ปากคลองตลาด และตลาดต้นไม้คลอง15 ส่วนตลาดต้นไม้ขนาดเล็ก ได้แก่ตลาดต้นไม้ชานเมืองกรุงเทพฯ ลักษณะการจําหน่ายไม้ดอกไม้ประดับในประเทศไทย คือจําหน่ายตามแหล่งการค้า และการจําหน่ายตามระบบการขาย เช่นการขายปลีก และการขายส่ง ลักษณะการเคลอื นไหวของราคาไม้ดอกไม้ประดับ ขึ นอยู่กับสภาพแวดล้อม ฤดูกาล และความพึงพอใจระหว่างผู้ซือและผู้ขาย จะตกลงราคากัน การจัดทําบญั ชีหมายถงึ การจดบันทึกรายการการค้า โดยมเี อกสารหลักฐาน มีการจัดทําเป็นขั นตอน มีการบนั ทึกรายรับและรายจ่าย บนั ทึกรายละเอียดของทรัพย์สิน หนี สินของกิจการงานฟาร์ม เพือให้ทราบฐานะทางการเงินของกิจการ การผลิตไม้ดอกไม้ประดับว่ามีกําไรหรือขาดทุนอยา่ งไร และใช้เป็นหลักฐานการวางแผนการผลิตไม้ดอกไม้ประดับ ในปี ต่อๆ ไป
242 แบบทดสอบก่อนเรียนวิชา การผลิตไม้ดอกไม้ประดับ รหัสวิชา 2501-2104เรืองที 10 การจัดจําหน่ายและการทาํ บัญชีคําชีแจง จงทําเครอื งหมาย กากบาท (x) หวั ข้อทีถูกต้องทสี ุดเพียงข้อเดียว1. การจําหน่ายต้นไม้ของไม้ดอกไม้ประดับในข้อใดทีจําหน่ายแบบตลาดการค้าถาวรก. ตลาดสีมุมเมอื งข. คลอง 15 จังหวัดนครนายกค. ตลาดจัตุจักร กรุงเทพมหานครง. ปากคลองตลาด กรุงเทพมหานคร2. ข้อใดไม่ใช่สาเหตุของราคาไม้ดอกไม้ประดับทีจําหน่ายในประทศไทยก. ฤดูกาลข. ค่านิยมค. ภัยธรรมชาติง. สภาวะการเมือง3. การจําหน่ายไม้ดอกไม้ประดับวิธีใดทีผู้บริโภคต้องการมากทีสุดก. จําหน่ายในท้องถินข. จําหน่ายตามตลาดนัดค. จําหน่ายในแหล่งผลิตง. จําหน่ายในตลาดการค้าถาวร4. ข้อมูลใดไมเ่กียวข้องกับการค้าต้นไม้ใหญ่ก. เส้นทางการคมนาคมข. ตลาดการค้าถาวรขนาดเล็กค. ห้องเย็นสําหรับเกบ็ รักษาต้นไม้ง. เป็นกิจการทีต้องอาศัยเงินทุนมาก5. ราคาผลผลิตทีกําหนดขายข้อใดไม่ถูกต้องก. พันธุ์ไม้โตเร็ว ราคาถูกข. พันธุ์ไม้หาง่าย ราคาแพงค. พันธุ์ไม้ลูกผสม ราคาแพงง. พันธุ์ไม้ขยายพันธ์ง่าย ราคาถูก
2436. ข้อใดไมเ่ กียวข้องกับการทําบัญชีงานฟาร์มไม้ดอกไม้ประดับ ก. บันทึกทรัพย์สิน ข. บันทึกรายรับ-รายจ่าย ค. บันทึกหนี สินนอกระบบ ง. บนั ทึกค่าแรง(ทีไมไ่ ด้จ้าง)7. ข้อใดเป็นการบันทึกรายจ่าย ก. ขายดอกดาวเรือง ข. รับใช้หนี ค่าใบเตย ค. ชําระหนี ค่าปุ ๋ ยเคมี ง. จําหน่ายใบหมากเหลอื ง8. ถังพ่นยา จะต้องลงบัญชีบันทึกในส่วนใด ก.บัญชีกําไร ข. บัญชีรายรับ ค. บัญชีทรัพย์สิน ง. บัญชีค่าแรงงาน9. ขอ้ ใดเป็นค่าใช้จ่ายคงที ทีเกษตรกรจะต้องนํามาคิดเป็นต้นทุนการผลิต ก. ค่าปุ ๋ ยเคมี ข. ค่าภาษีทีดิน ค. ค่าเมล็ดพันธุ์ ง. ค่าจ้างแรงงาน10. ผลของการจัดทําบัญชี เพอื ต้องการรู้เรืองอะไรมากทีสุด ก. กําไร-ขาดทุน ข. รายรับ-รายจ่าย ค. หลักฐานในการผลิต ง. ขอ้ มูลการผลติ เพือผลติ ครั งต่อไป
244 แบบทดสอบหลังเรียนวิชา การผลิตไม้ดอกไม้ประดบั รหัสวิชา 2501-2104เรืองที 10 การจัดจําหน่ายและการทาํ บัญชีคําชีแจง จงทําเครืองหมาย กากบาท (x) หวั ข้อทีถูกต้องทีสุดเพียงข้อเดยี ว1. ข้อมูลใดไม่เกียวข้องกับการค้าต้นไม้ใหญ่ก. เส้นทางการคมนาคมข. ตลาดการค้าถาวรขนาดเล็กค. ห้องเย็นสําหรับเกบ็ รักษาต้นไม้ง. เป็นกิจการทีต้องอาศัยเงินทุนมาก2. ราคาผลผลิตทีกําหนดขายข้อใดไมถ่ กู ต้องก. พันธุ์ไม้โตเร็ว ราคาถูกข. พันธุ์ไม้หาง่าย ราคาแพงค. พันธุ์ไม้ลูกผสม ราคาแพงง. พันธุ์ไม้ขยายพันธ์ง่าย ราคาถูก3. ข้อใดเป็นค่าใช้จ่ายคงที ทีเกษตรกรจะต้องนํามาคิดเป็นต้นทุนการผลติก. ค่าปุ ๋ ยเคมีข. ค่าภาษีทีดินค. ค่าเมล็ดพันธุ์ง. ค่าจ้างแรงงาน4. ผลของการจัดทําบัญชี เพอื ต้องการรู้เรืองอะไรมากทีสุดก. กําไร-ขาดทุนข. รายรับ-รายจ่ายค. หลักฐานในการผลติง. ข้อมูลการผลิตเพอื ผลิตครั งต่อไป5. ข้อใดไมเ่ กียวข้องกับการทําบัญชีงานฟาร์มไม้ดอกไม้ประดับก. บันทึกทรัพย์สินข. บันทึกรายรับ-รายจ่ายค. บันทึกหนี สินนอกระบบง. บันทึกค่าแรง(ทีไม่ได้จ้าง)
2456. การจําหน่ายต้นไม้ของไม้ดอกไม้ประดับในข้อใดทีจําหน่ายแบบตลาดการค้าถาวร ก. ตลาดสีมมุ เมอื ง ข. คลอง 15 จังหวัดนครนายก ค. ตลาดจัตุจักร กรุงเทพมหานคร ง. ปากคลองตลาด กรุงเทพมหานคร7. ข้อใดไม่ใช่สาเหตุของราคาไม้ดอกไม้ประดับทีจําหน่ายในประทศไทย ก. ฤดกู าล ข. ค่านิยม ค. ภัยธรรมชาติ ง. สภาวะการเมือง8. การจําหน่ายไม้ดอกไม้ประดับวิธีใดทีผู้บริโภคต้องการมากทีสุด ก. จําหน่ายในท้องถิน ข. จําหน่ายตามตลาดนัด ค. จําหน่ายในแหลง่ ผลิต ง. จําหน่ายในตลาดการค้าถาวร9. ข้อใดเป็นการบันทึกรายจ่าย ก. ขายดอกดาวเรือง ข. รับใช้หนี ค่าใบเตย ค. ชําระหนี ค่าปุ ๋ ยเคมี ง. จําหน่ายใบหมากเหลือง10. ถังพ่นยา จะต้องลงบัญชีบันทึกในส่วนใด ก.บัญชีกําไร ข. บัญชีรายรับ ค. บัญชีทรัพย์สิน ง. บัญชีค่าแรงงาน
246 เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน รหสั วิชา 2501-2104วิชา การผลิตไม้ดอกไม้ประดับเรืองที 10 การจัดจําหน่ายและการทําบัญชี ข้อ เฉลย 1ข 2ง 3ก 4ค 5ข 6ค 7ค 8ค 9ข 10 ก
247 เฉลยแบบทดสอบหลังเรียน รหสั วิชา 2501-2104วิชา การผลิตไม้ดอกไม้ประดับเรืองที 10 การจัดจําหน่ายและการทําบัญชี ข้อ เฉลย 1ข 2ก 3ค 4ข 5ข 6ก 7ค 8ก 9ค 10 ข
248 บรรณานุกรมกรมวิชาการเกษตร. 2545. เกษตรดีทีเหมาะสมสําหรับกล้วยไม้ตัดดอก. กรุงเทพ: ชุมชน สหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.จรัญ ไชยศร. 2546. การขยายพันธุ์พืช(Plant propagation). คณะวชิ าพชื ศาสตร์ วิทยาเขต นครศรีธรรมราช สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล. นครศรีธรรมราช.จิรา ณ หนองคาย. 2542. หลักและเทคโนโลยีการขยายพันธ์พืชในประเทศไทย(2): การขยายพันธ์ พืชแบบไม่ใช้เพศ. กรุงเทพฯ: บริษัทสํานักพิมพ์นายสุข จํากัด.จุฑามาศ อ่อนวมิ ล. 2547. คู่มือการปลูกไม้ประดับ. พิมพ์ครั งท3ี กรุงเทพฯ: โครงการหนังสือ เกษตรชุมชน.เจริญ สุวโรจนว์ งค.์ ม.ป.ป. คู่มือประกอบการศึกษาวิชาหลักพืชสวน.กรุงเทพฯ: โรงพมิ พ์ส่งเสริม อาชีพ.ชศู ิล ตรังตรีชาติ. 2555. อ่านงบการเงนิ อย่างผู้บริหารมืออาชีพ.นนทบุรี. ธิงค์ ปิ ยอนด์ บุ๊คส.์เดชา บุญคํ า. 2543. หน่วยที 11 หลักการจัดและออกแบบภูมิทัศน.์ ใน เอกสารการสอนชุดวชิ า การผลิตและการจัดการพืชสวนประดับ. มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.เต็ม สมิตินันทน.์ 2544. ชือพรรณไม้แห่งประเทศไทย.กรุงเทพฯ. สวนพฤกษศาสตร์ป่ าไม้ สํานักวชิ าการป่ าไม้ กรมป่ าไม.้ทศั นีย์ อัตตะนันทน์และประทีป วีระพัฒนนิรันด.ร์2550. ธรรมชาติของดนิ และปุ ๋ ย. กรุงเทพฯ: ห้างหุ้นส่วนจํากัด กร ครีเอชัน.นันทิยา วรรธนะภูมิ 2542. การขยายพันธุ์พืช. ภาควชิ าพืชสวน คณะเกษตรศาสตร์ มหาวทิ ยาลัย เชียงใหม่.นันทิยา วรรธนะภูมิ 2545. คู่มือการปลูกไม้ดอก.พิมพ์ครั งท4ี .กรุงเทพฯ:โอ เอส พร้นติงเฮ้าส์ประเวศ ไชยวงศ.์ 2536. คู่มือประกอบการเรียนการสอนการขยายพันธุ์พืช. ศูนยน์ ิเทศอาชีวศึกษา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หน่วยศึกษานิเทศก์ กรมอาชีวศึกษา. (อัดสําเนา).
249ปริศนา สิริอาชา. 2548. พฤกษศาสตร์.กรุงเทพฯ: บริษัทสุวยิ าสาสน.์ปิ ฎฐะ บุนนาค. 2536. ไม้ดอกไม้ประดับ.(พมิ พ์ครั งท6ี ).กรุงเทพฯ: หจก.บรรรกิจเทรดดิง.ปิ ยะ เฉลมิ กลิน,พัชรินทร์ เก่งกาจ และอนันต์ พิริยะภัทรกิจ.2549.ปาล์มถินไทย.พมิ พ์ครั งท1ี . สมทุ รปราการ:ห้างหุ้นส่วนจํากัด พิมพ์พินิจการพมิ พ. ์ปรีชา ทิวหุต. 2533. คู่มือประกอบธุรกิจขนาดย่อม2 ขยายสู่แนวหน้า.กรุงเทพฯ: สํานักทรัพยากร การเรียนรู้คุณหญิงหลง อรรถกระวสี ุนทร.พมิ ลพร นันทะ. 2545. ศัตรูธรรมชาติหัวใจของ IPM. พมิ พ์ครั งท1ี . กองกีฏและสัตววทิ ยา กรมวิชาการเกษตร.พรรณทวี พรประเสริฐกุล. 2547. คู่มือบอนไซ. กรุงเทพฯ. โรงพมิ พ์เทพพทิ ักษ.์พรรณเพ็ญ ฉายปรีชา. 2548. พรรณไม้เพือการตกแต่ง.(พิมพ์ครั งท4ี ). กรุงเทพฯ: บ้านและสวน.ไพบลู ย์ ไพรีพ่ายฤทธ.ิ 2539. หน่วยที 7 การจัดการสถานเพาะชํา. ในเอกสารชุดวิชาการผลิตและ การจัดการพืชสวนประดบั . มหาวทิ ยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช สาขาส่งเสริมการเกษตรและ สหกรณ์. โรงพมิ พ์ชวนพิมพ.์มานิต มานิตเจริญ. 2535. พจนานุกรมไทยทนั สมัยทสี ุด. กรุงเทพมหานคร: โอเดียนสโตร์.มุกดา สุขสวัสด.ิ 2547. วัสดุปลูกไม้ดอกไม้ประดับ. กรุงเทพฯ: อมรินทร์พริ นติงแอนด์พับลิชชิง จํากัด.ไม้ขุดล้อม. (ออนไลน)์ . URL : http://www.jatujakshop.com/shop/photo product.รวิภา เดชาชาญ. 2554. คู่มือการปลูกไม้ประดับในอาคารสํานกั งาน.กรุงเทพฯ:สํานักพิมพ์ ไทยควอลิตี บุ๊คส.์ราชบัณฑิตยสถาน. 2546. พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542. กรุงเทพฯ : นานมบี ุค๊ พับลิเคชั นส์ จํากั.ดวิยดา เทพหัตถ.ี 2552. ศัพท์พฤกษศาสตร์ สาขาอนุกรมวิธานพืช.กรุงเทพฯ.สํานักพิมพ์แห่ง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
250วรนัฐ ศรีพาเพลิน. 2539. ไม้ดอกไม้ประดับ เล่ม 2. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์บริษัทอมรินนทร์พริ นติง แอนด์พับลิชชิง จํากัด(มหาชน)วิเชียร ฝอยพิกุล. 2546. เทคนิคและการใช้ดนิ -ปุ ๋ ย-นํา.คณะวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวทิ ยาลัยราชภัฏสุรินทร.์เศรษฐมันตร์ กาญจนกุล. 2552. สารานุกรมไม้ดอกไม้ประดับไม้ประดับแสนสวย. กรุงเทพฯ: เศรษฐศิลป์ .ศูนย์สารสนเทศ 2551. ข้อมูลผลิตและส่งออกสินค้า. กรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตร และสหกรณ์.ศูนย์สารสนเทศการเกษตร 2556. สถานการณ์และแนวโน้มสินค้าเกษตรทสี ําคัญ. สํานักงาน เศรษฐกิจการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์สังคม เตชะวงค์เสถียร.์ 2542.วิทยาการหลังการเก็บเกียวของพืช.เอกสารประกอบการสอนวชิ า หลักการผลิตพืช.ภาควชิ าพืชสวน คณะเกษตรศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยขอนแก่น.สนั ต์ ไกยงาม.2551. ไม้ดอกกระถาง.พิมพ์ครั งท1ี .กรุงเทพฯ: สํานักพมิ พ์โอเดียนสโตร์สายชล เกตุษา.2531. เทคโนโลยีหลังการเก็บเกียวของดอกไม.้พมิ พ์ครั งท1ี . กรุงเทพฯ: บริษัท สารมวลชล จํากัด.สมจิต โยธะคง. 2539.การจัดการงานดูแลบํารุงรักษาภูมิทัศน.์ กรุงเทพ: สํานักพมิ พ์วงตะวันสมเพียร เกษมทรัพย.์ 2526. ไม้ดอกกระถาง. พมิ พ์ครั งท2ี . คณะเกษตรศาสตร์ มหาวทิ ยาลัย เกษตรศาสตร์ กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์อักษรพิทยา.สมเพียร เกษมทรัพย.์ 2535. การปลูกไม้ดอก. กรุงเทพฯ:บรรณกจิ เทรดดิง.สมศักดิ ศรีดาวทอง. 2551. เอกสารประกอบการเรียนรู้ วิชาการผลิตไม้ดอกไม้ประดบั สาขา วชิ าเกษตรศาสตร์ วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีสระแก้ว.อภิชาติ ศรีสะอาด.2554. เทคโนโลยีการขยายพันธุ์พืชอย่างง่าย.กรุงเทพฯ: นาคา อินเตอร์มเี ดียอภิชาติ ศรีสะอาด,จันทรา อู่สุวรรณ2556.ไดเรกทอรี ตลาดซือขายสินค้าเกษตร 77 จังหวัด. กรุงเทพฯ:พมิ พ์ครั งท1ี . นาคา อินเตอร์มีเดีย
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251