Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือและแผนการเรียนรู้_ม.1-07061623

คู่มือและแผนการเรียนรู้_ม.1-07061623

Description: คู่มือและแผนการเรียนรู้_ม.1-07061623

Search

Read the Text Version

294 228974 ๕. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ๑. มีวนิ ัย ๒. ใฝ่เรียนรู้ ๓. มุง่ มน่ั ในการทางาน ๔. รกั ความเปน็ ไทย ๖. การประเมนิ ผลรวบยอด ช้ินงานหรือภาระงาน

295 228985 แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ๘ ประการ ชื่อ-สกุลนกั เรยี น.................................................................ชน้ั /ห้อง...................... เลขท่ี............................. คาชแี้ จง:ให้ผสู้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด / ลงในชอ่ งท่ตี รงกับระดบั คะแนน คุณลักษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน อันพึงประสงค์ ๓ ๒ ๑๐ ๑. รักชาติ ศาสน์ ๑.๑มีความรัก และภูมใิ จในความเปน็ ชาติ กษตั ริย์ ๑.๒ปฏิบตั ติ นตามหลักของศาสนา ๑.๓แสดงออกถงึ ความจงรกั ภักดีตอ่ สถาบนั พระมหากษัตรยิ ์ ๒. ซ่อื สัตยส์ ุจรติ ๒.๑ปฏิบตั ติ ามระเบยี บการสอน และไม่ลอกการบ้าน ๒.๒ประพฤติ ปฏิบัติ ตรงต่อความเป็นจรงิ ตอ่ ตนเอง ๓. มีวนิ ัย ๒.๓ประพฤติ ปฏิบตั ิตรงตอ่ ความเปน็ จรงิ ตอ่ ผูอ้ ืน่ ๔. ใฝ่หาความรู้ ๓.๑เขา้ เรยี นตรงเวลา ๓.๒แตง่ กายเรียบรอ้ ยเหมาะสม ๕. อยู่อยา่ งพอเพยี ง ๓.๓ปฏบิ ตั ติ ามกฎระเบียบที่วางไว้ ๔.๑แสวงหาข้อมูลจากแหล่งเรยี นรู้ตา่ งๆ ๖. ม่งุ มั่นในการ ๔.๒มีการจดบันทึกความร้อู ยา่ งเปน็ ระบบ ทางาน ๔.๓สรปุ ความรไู้ ดอ้ ยา่ งมีเหตผุ ล ๕.๑ใชท้ รัพยส์ ินและส่ิงของของโรงเรียนอยา่ งประหยดั ๕.๒ใชอ้ ปุ กรณ์การเรียนอยา่ งประหยดั และรู้คณุ คา่ ๕.๓ใช้จา่ ยอยา่ งประหยดั และมกี ารเก็บออมเงนิ ๖.๑มีความต้งั ใจ และพยายามในการทางานทีไ่ ดร้ บั มอบหมาย ๖.๒มีความอดทนและไม่ท้อแท้ตอ่ อุปสรรคเพื่อให้งานสาเร็จ

296229869 ๗. รักความเป็นไทย ๗.๑มีจิตสานึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย ๘. มจี ิตสาธารณะ ๗.๒เห็นคณุ คา่ และปฏบิ ตั ติ นตามวฒั นธรรมไทย ๘.๑รจู้ กั การใหเ้ พื่อส่วนรวมและเพอื่ ผ้อู ื่น ๘.๒แสดงออกถงึ การมีนา้ ใจหรือการใหค้ วามชว่ ยเหลอื ผอู้ ่ืน ๘.๓เข้าร่วมกจิ กรรมบาเพญ็ ตนเพอื่ สว่ นรวมเม่ือมโี อกาส รวม รวมคะแนน/เฉลยี่ หมายเหตุ ……………………………………………………………..........................................................………………………………… …………………………………………………………………………………………………........................................................ เกณณฑฑ์กก์ าารใรหให้คะค้ แะนแนนน พฤตติกิกรรรมมททีป่ ฏป่ี ิบฏตั บิ ิชตั ดั ิชเจัดนเแจลนะแสลมะา่ เสสมม�่ำอเสมอใ ห้ ๓ คะแนน ให้ ๓ คะคแะนแนนน ๕๐คะ-แ๖น๖น ร๕ะ๐ดับ-คณุ๖๖ภาพระดดีเยบั ีย่ คมุณภาพ ดีเยี่ยม •พ••ฤ•ต•ิก•ร•ร•ม•ท••ี่ป•ฏ•ิบ•ตั •ิช••ัด•เ•จ•น•แ•ล•ะ•ส•ม••่ำ� •เ•ส••ม•••อ••แ•ล•ะ•บ••อ่ •ย•ค•ร•ง้ั•• ••••••ใ••ห••้ •๒•••ค•••ะค•แ•ะ•น•แ•น•น•น• •••๔••๐•ค••ะ•-•แ••๔น••๙•น••ร•๔•ะ•๐ด••บั••-ค••ณุ๔•••๙ภาพระดดี บั คณุ ภาพ ดี พฤติกรรมทปี่ ฏบิ ัตบิ างครั้ง ให้ ๑ คะแนน คะแนน ๒๐ - ๓๙ ระดับคณุ ภาพ พอใช้ พฤตตกิ ิกรรรมมททีไ่ มีป่ ไดฏป ิบฏัติบบิ ัตาิ งครั้ง ให้ ๐ คะแนน ให้ ๑ คะคแะนแนนน ๐คะ- แ๑น๙นร๒ะ๐ดบั -คณุ๓ภ๙าพระปดรับบั คปณุรุงภาพ พอใช้ พฤติกรรมที่ไมไ่ ด้ปฏบิ ัติ ให้ ๐ คะแนน สรปุ ผลการประเมิน สรระปุ ดผับลการดปเี รยะีย่ เมมิน ระดับ  ดดีเี ยยี่ ม  ดพีอใช้  พปรอับใชป้รุง ลงชื่อ......................................................................ผู้ประเมนิ ปรบั ปรงุ ลงช(่ือ................................................................................................................................)...........ผปู้ ระเมนิ (............./................................./...................... ..........) ........... /................................/.....................

297 297 290 แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน คาช้ีแจง : ให้ ผสู้ อน ประเมินการนาเสนอผลงานของนกั เรยี นตามรายการทก่ี าหนด แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง ทตี่ รงกับระดบั คะแนน ลาดับท่ี รายการประเมิน ระดับคะแนน ๔๓๒๑ ๑ เนื้อหาละเอียดชัดเจน ๒ ความถูกต้องของเน้อื หา ๓ ภาษาท่ใี ช้เข้าใจงา่ ย ๔ ประโยชน์ทไ่ี ดจ้ ากการนาเสนอ ๕ วธิ กี ารนาเสนอผลงาน รวม ลงชอ่ื ...................................................ผู้ประเมนิ ............../.................../................ เกณฑ์การให้คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสมบรู ณ์ชัดเจน ให้ ๔ คะแนน ผลงานหรือพฤตกิ รรมมีข้อบกพรอ่ งบางสว่ น ให้ ๓ คะแนน ผลงานหรือพฤตกิ รรมมีข้อบกพรอ่ งเปน็ ส่วนใหญ่ ให้ ๒ คะแนน ผลงานหรอื พฤติกรรมมขี ้อบกพร่องมาก ให้ ๑ คะแนน เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ ๑๘ – ๒๐ ดีมาก ๑๔ – ๑๗ ดี ๑๐ – ๑๓ พอใช้ ต่ากวา่ ๑๐ ปรบั ปรุง

298 2981 แบบประเมินสมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น ชอ่ื -สกุลนกั เรยี น....................................................................................ชน้ั /หอ้ ง................... เลขที.่ ............................ คาชีแ้ จง:ให้ผ้สู อนสังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขีด / ลงในช่องทตี่ รงกับ ระดับคะแนน ระดับคะแนน สมรรถนะด้าน รายการประเมนิ ๓๒๑๐ ความสามารถ ๑.๑ มคี วามสามารถในการรับ - ส่งสาร ในการส่อื สาร ๑.๒ มคี วามสามารถในการถ่ายทอดความรู้ ความคดิ ความเขา้ ใจของตนเอง ความสามารถ โดยใช้ภาษาอยา่ งเหมาะสม ในการคิด ๑.๓ ใชว้ ิธีการสอ่ื สารทเ่ี หมาะสม ๑.๔ วเิ คราะหแ์ สดงความคดิ เห็นอย่างมีเหตุผล ความสามารถ ๒.๑ มีความสามารถในการคิดวเิ คราะห์ สังเคราะห์ ในการแกป้ ญั หา ๒.๒ มที ักษะในการคิดนอกกรอบอยา่ งสรา้ งสรรค์ ๒.๓ สามารถคิดอยา่ งมวี จิ ารณญาณ ๒.๔ มคี วามสามารถในการคิดอยา่ งมีระบบ ๒.๕ ตัดสินใจแกป้ ญั หาได้ ๓.๑ สามารถแกป้ ัญหาและอุปสรรคตา่ ง ๆ ทีเ่ ผชญิ ได้ ๓.๒ ใชเ้ หตุผลในการแกป้ ัญหา ๓.๓ เข้าใจความสมั พนั ธแ์ ละการเปล่ยี นแปลงในสงั คม ๓.๔ แสวงหาความรู้ ประยุกตค์ วามร้มู าใชใ้ นการ แก้ไขปัญหา

229929 299 ความสามารถ ๔.๑ สามารถทางานกล่มุ รว่ มกบั ผ้อู น่ื ได้ ๔.๒ ปฏิบัตติ ามบทบาทหนา้ ที่ ในการใชท้ ักษะ ๔.๓ ใหค้ วามรว่ มมอื ในการทางาน ชีวติ ความสามารถใน ๔.๔ ร่วมกจิ กรรมสมา่ เสมอ การใช้เทคโนโลยี ๔.๕ หลีกเลยี่ งพฤติกรรมไมพ่ งึ ประสงค์ทสี่ ง่ ผลกระทบตอ่ ตนเอง ๕.๑ เลือกและใช้เทคโนโลยไี ดเ้ หมาะสมตามวัย ๕.๒ มีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี ๕.๓ ใชเ้ ทคโนโลยใี นการแก้ปัญหาอยา่ งสร้างสรรค์ ๕.๔ มคี ณุ ธรรม จริยธรรมในการใช้เทคโนโลยี รวม รวมคะแนน/เฉลีย่ หมายเหตุ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… เกณฑ์การให้คะแนนระดบั คณุ ภาพ ดีมาก - พฤตกิ รรมทปี่ ฏบิ ัติชดั เจนและสมา่ เสมอ ให้ ๓ คะแนน คะแนน ๕๐ –๖๖ ระดับคณุ ภาพ ดีเย่ยี ม ดี - พฤตกิ รรมท่ีปฏิบัติชัดเจนและบ่อยครั้ง ให้ ๒ คะแนน คะแนน ๔๐- ๔๙ ระดบั คุณภาพ ดี พอใช้ - พฤติกรรมทีป่ ฏบิ ัตบิ างคร้งั ให้ ๑ คะแนน คะแนน ๒๐- ๓๙ ระดบั คุณภาพ พอใช้ ตอ้ งปรับปรงุ - ไม่เคยปฏิบัติพฤติกรรม ให้ ๐ คะแนน คะแนน ๐ – ๑๙ ระดบั คุณภาพ ปรบั ปรงุ สรปุ ผลการประเมิน ลงชื่อ......................................................................ผปู้ ระเมนิ ระดบั  ดเี ยย่ี ม (.....................................................................)  ดี  พอใช้  ปรับปรุง  ปรบั ปรุง

302039030 แบบประเมินพฤติกรรมการทางานกล่มุ ของนกั เรยี น ความถูกตอ้ ง การมี ความคดิ การตรงต่อ รวม ชัดเจนของ ส่วนรว่ ม สรา้ งสรรคใ์ น เวลา เลขท่ี ช่อื -สกลุ สร้างสรรค์ การนาเสนอ เนอื้ หา งานกลุม่ 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 12 ขอ้ เสนอแนะเพิ่มเติม : ...................................................................................................................................................................................................................................................................... ...................................................................................... เกณฑ์การประเมนิ ดี ระดับคณุ ภาพ 3 หมายถึง พอใช้ 9 – 12 คะแนน = ดี 2 หมายถงึ 5 – 8 คะแนน = พอใช้ 1 หมายถงึ ปรับปรงุ 1– 4 คะแนน = ปรับปรุง

302139041 รายละเอยี ดเกณฑก์ ารให้คะแนนแบบประเมินพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม ประเด็นการประเมนิ 3 เกณฑ์การใหค้ ะแนน 1 2 เน้ือหาทน่ี าเสนอขาดความ ถูกต้อง ชัดเจน และมี ความถกู ต้อง ชัดเจน เนอ้ื หาที่นาเสนอมคี วาม เน้อื หาทนี่ าเสนอมคี วาม ขอ้ ผดิ พลาด 3 ประเดน็ ข้นึ ของเนอ้ื หาทน่ี าเสนอ ถูกตอ้ ง ชดั เจน ในทุก ถูกต้อง ชัดเจน แต่มี ไป ประเด็นมีรายละเอียด ข้อผดิ พลาดบา้ ง 1-2 ครบถว้ น ประเดน็ การมสี ว่ นรว่ ม สมาชิกมสี ่วนร่วมในการ สมาชิกส่วนใหญ่ มีสว่ นร่วม สมาชิกส่วนใหญ่ มีส่วนรว่ ม สรา้ งสรรค์ สรา้ งสรรค์งานกล่มุ โดย ในการสรา้ งสรรค์งานกลมุ่ ในการสร้างสรรคง์ านกลุม่ งานกลุ่ม ยอมรบั ฟงั ความคดิ เหน็ แต่มสี มาชิกในกลมุ่ ท่ีไม่มี แต่มสี มาชิกในกลุ่มท่ีไม่มี ความคดิ สรา้ งสรรค์ ของผู้อน่ื และแสดงความ สว่ นร่วมสรา้ งสรรคง์ านบ้าง ส่วนรว่ มสรา้ งสรรคง์ าน 3 ในการนาเสนอ คดิ เหน็ ทกุ ครง้ั 1–2 คน คนขึ้นไป มีความคดิ สร้างสรรคใ์ น ขาดความคิดสรา้ งสรรค์ใน ขาดความคดิ สรา้ งสรรค์ใน การนาเสนอผลงานท่ี การนาเสนอผลงาน แตเ่ ป็น การนาเสนอผลงาน และ แปลกใหม่ นา่ สนใจ และ ผลงานท่ีมีคณุ คา่ ผลงานไมม่ คี ณุ ค่า มีคณุ ค่า การตรงต่อเวลา งานของกลมุ่ เสรจ็ ตาม งานของกลุม่ เสรจ็ ตาม งานของกลุ่มเสรจ็ ไม่ กาหนดเวลาและงานมี กาหนดเวลาแตง่ านไมม่ ี ทนั เวลาท่ีกาหนดและงาน คณุ ภาพดี คณุ ภาพ ไม่มีคณุ ภาพ

302 320925 แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเรยี นของนกั เรยี นรายบคุ คล เลขท่ี ช่ือ-สกุล ความสนใจ การมสี ว่ นรว่ มใน ความรับผดิ ชอบต่อ คณุ ธรรมใน รวม กระตือรือรน้ ในการ การทากจิ กรรม เช่น งานทไ่ี ด้รบั มอบหมาย การเรยี น เชน่ ความขยัน ซ่อื สตั ย์ เรียน ตอบคาถาม มจี ิตสาธารณะ 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 12 ข้อเสนอแนะเพิ่มเตมิ : ...................................................................................................................................................................................................................................................................... ...................................................................................... เกณฑก์ ารประเมิน ระดบั คุณภาพ 3 หมายถงึ ดี 9 – 12 คะแนน = ดี 2 หมายถงึ พอใช้ 5 – 8 คะแนน = พอใช้ 1 หมายถึง ปรบั ปรงุ 1– 4 คะแนน = ปรบั ปรงุ

296 303 303 รายละเอียดเกณฑก์ ารให้คะแนนแบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเรียนของนกั เรียนรายบคุ คล ประเด็นการประเมิน เกณฑ์การใหค้ ะแนน ความสนใจกระตือรอื ร้นใน การเรยี น 32 1 การมสี ว่ นรว่ มใน ขขาาดดคคววาามมสสนนใใจจแแลละะ การทากจิ กรรม เชน่ ตอบ มีความสนใจและกระตอื รอื ร้น มมีคคี ววาามมสสนนใใจจแแลละะ คเมพครววาดู่อื าากงคมมกมยุ กกาวนรรก่าะอ ะกต๓กตวือเอื่ารครรื่อ3ือรอื งรงั้ รคข้นน้ ร้ึนงั้พไขดูปน้ึ คไยุปนอก คาถาม ในการเรียนตลอดเวลา คพกคพกรรูดรรูดะ้ังคะั้งใคตใตุยนุยนือนอืคนรครอาืออาอืบกรบกรเ้นรน้เรใ่ือใน่ืองนบบงบบาา้ างงา้ เงงว1เวล๑–ลา2-า๒ ขกถทไกมาาิจจิค่ี มมด่กกรกสีรถูรราว่รามรนมมมรไไสีว่มม่วม่ตต่นใออนรบบว่กคมคาาใร�ำ นถทถาก�าำ มามทรทค่ี ารู มมีสสี ว่ว่ นนรร่วว่ มมใในนกกาารรททา�ำ กกิจจิ กกรรรรมม มสี ว่ นรว่ มในการทากิจกรรม สสมมา่�ำ เเสสมมออตตลลออดดคคาาบบตอบ สม่าเสมอตลอดคาบ ตอบ คตาอถบาคม�ำ ทถุกาคมรทงั้ กุทคี่ครรง้ัถู ทาค่ีมรถู าม คาถามที่ครถู าม 1–2 คร้ัง ความรบั ผิดชอบ มคี วามรบั ผดิ ชอบตอ่ งานท่ี มีความรับผดิ ชอบตอ่ งานที่ ขาดความรบั ผิดชอบต่องานท่ี ตอ่ งานที่ไดร้ บั มอบหมาย ได้รับมอบหมายอยา่ งดี ไดร้ ับมอบหมายแตท่ างานไม่ ได้รับมอบหมายทางานไมเ่ สรจ็ ทางานเสรจ็ และสง่ ตามเวลา เสรจ็ และสง่ ไมท่ นั เวลา 1–2 และสง่ ไม่ทันเวลา มากกวา่ 3 ทุกครัง้ ครง้ั คร้งั ข้ึนไป มีคุณธรรมในการเรียน โดยมี มีคุณธรรมในการเรียน โดยมี ขขาาดดคคุณุณธธรรรมมใในนกกาารรเรเรียยี นนโดย ความขยัน ซื่อสัตย์ และมีจิต ความขยัน ซ่ือสัตย์ และมีจิต ไไมมข่ ่ขยยันนั เรเรยี ียนน คณุ ธรรมในการเรียน เช่น สาธารณะต่อครูและเพื่อนทุก สาธารณะตอ่ ครแู ละเพือ่ นบา้ ง สไสไมามาธ่ ซ่ซธา่ืือ่ารอรณสณสัตะั ยะตต์แต่อยลคอ่ ์ แะรคูแไรลมลูแ่มะะลเีจะไพติเม่อืพ่ นมื่อี นจิ ต ความขยัน ซื่อสตั ย์ มีจติ ครงั้ ท่มี ีโอกาส 1–2 ครัง้ สาธารณะ

304 239074 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๔ นิทานสารพนั รหสั วิชา ท๒๑๑๐๑ รายวิชาพืน้ ฐานภาษาไทย กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ ๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๑ เวลา ๑๒ ชั่วโมง ชือ่ ...............................................นามสกลุ .......................................ชนั้ ................................เลขที่.................. ………………………………………………………………………………………….........................................………………………..... ๑. ความร้ทู นี่ ักเรยี นได้รับ ………………………………………………………………………………………….........................................………………………..... ………………………………………………………………………………………….........................................………………………..... ………………………………………………………………………………………….........................................………………………..... ………………………………………………………………………………………….........................................………………………..... ………………………………………………………………………………………….........................................………………………..... ………………………………………………………………………………………….........................................………………………..... ………………………………………………………………………………………….........................................………………………..... ๒. เรือ่ งทนี่ กั เรียนชอบและมีความเขา้ ใจ ………………………………………………………………………………………….........................................………………………..... ………………………………………………………………………………………….........................................………………………..... ………………………………………………………………………………………….........................................………………………..... ………………………………………………………………………………………….........................................………………………..... ………………………………………………………………………………………….........................................………………………..... ๓. เรอื่ งที่นกั เรียนไม่ชอบหรือไม่เข้าใจ.................................................................................................................. ………………………………………………………………………………………….........................................………………………..... ………………………………………………………………………………………….........................................………………………..... ๔. เร่ืองทน่ี กั เรยี นสามารนาไปประยกุ ต์ใช้ในชวี ติ ประจาวนั ได.้ ............................................................................. ………………………………………………………………………………………….........................................………………………..... ………………………………………………………………………………………….........................................………………………..... ………………………………………………………………………………………….........................................………………………..... ………………………………………………………………………………………….........................................……………………….....

305 หน่วยการเรียนร้ทู ี่ ๔ เรอื่ ง นิทานสารพนั แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๑ เวลา ๑ ชั่วโมง กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย เรื่อง คาวเิ ศษณ์ควรศึกษา ขอบเขตเนอ้ื หา รายวชิ าพนื้ ฐานภาษาไทย ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๑ ชนดิ และหน้าทข่ี องคา กิจกรรมการเรยี นรู้ สื่อ/แหล่งเรยี นรู้ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ขนั้ นา ๑. แถบประโยค ด้านความรู้ ครูติดแถบประโยคบนกระดานดา แล้วให้นักเรียน ๒. ใบความรู้ เร่ือง คาวิเศษณ์ (ลกั ษณะและ สังเกตคาจากแถบประโยคที่กาหนดให้แล้วต้งั คาถาม ชนิดของคาวิเศษณ)์ ๑. อธบิ ายความหมายคาวเิ ศษณ์ เช่น คาทขี่ ดี เส้นใต้เป็นคาชนิดใด คาทขี่ ีดเส้นใตท้ า ๓. เกม “วิเศษณแ์ บบไหน...ลองทายซิ” ๒. อธิบายชนิดของคาวเิ ศษณ์ หน้าท่ีอะไร คาท่ขี ีดเส้นใตท้ กุ ข้อมีความคลา้ ยคลงึ กนั ๔. แบบฝกึ “เลอื กวิเศษณใ์ ช้สื่อสาร” ดา้ นทักษะกระบวนการ หรือแตกต่างกนั อย่างไร จาแนกชนิดของคาวิเศษณไ์ ด้ ภาระงาน/ชิน้ งาน ด้านคุณลักษณะ ๑) เก่งเป็นคนอว้ น ครูมอบหมายให้นักเรยี นจัดทาแผนภาพ ๑. มีวินยั ๒) ไก่ว่ิงเร็ว ความคดิ สรุปลกั ษณะชนดิ ของคาวเิ ศษณ์ ๒. ใฝเ่ รียนรู้ ๓) ก้อยตน่ื สาย ๓. มงุ่ มันในการทางาน ๔) แกม้ นั่งใกล้โตะ๊ ๔. รักความเป็นไทย ๕) กก๊ิ ใส่เส้อื แดง ขน้ั สอน ๑. ครแู บง่ นกั เรยี นออกเปน็ ๖ กล่มุ ศกึ ษาใบความรู้ เร่อื ง คาวิเศษณ์ แล้วรว่ มกนั สรปุ ความรู้เรื่องความหมาย และชนดิ ของคาวเิ ศษณ์ ๒. นกั เรียนเล่นเกม “วเิ ศษณ์แบบไหน...ลองทาย” แข่งขันระบุชนิดของคาวิเศษณ์ ต่อไปน้ีแล้วร่วมกันสรุป ชนดิ คาวเิ ศษณ์ ๓. นกั เรยี นทาแบบฝึก “เลอื กวิเศษณใ์ ช้สอ่ื สาร” และเขียนแสดงความคิดเห็น ในประเดน็ 239085

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๔ เรอื่ ง นทิ านสารพัน แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๑ 306 กลมุ่ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย เร่ือง คาวิเศษณ์ควรศึกษา เวลา ๑ ช่ัวโมง รายวชิ าพ้ืนฐานภาษาไทย ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี ๑ “วเิ ศษณ์นัน้ สาคญั อย่างไร” ขัน้ สรปุ ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั สรปุ ความหมายและชนดิ คา วเิ ศษณ์ พร้อมทง้ั ข้อสงั เกตของคาวเิ ศษณแ์ ล้วให้ นักเรียนบันทกึ ลงสมดุ 299

307 300 307 การวดั และประเมนิ ผล วิธกี าร เครื่องมือท่ีใช้ เกณฑ์ สิ่งที่ต้องการวัด/ประเมิน สงั เกตพฤติกรรม นักเรียน แบบสงั เกตพฤติกรรม ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ รอ้ ยละ ดา้ นความรู้ ๘๐ ขนึ้ ไป ๑. ความหมายของคาวเิ ศษณ์ ๒. ชนดิ ของคาวิเศษณ์ ดา้ นทักษะและกระบวนการ ใบงานเรื่อง วเิ ศษณ์ ผา่ นเกณฑ์การประเมินร้อยละ จาแนกชนิดของคาวิเศษณ์ได้ ตรวจใบงาน ใชใ้ ห้ถกู ต้อง ๘๐ ขน้ึ ไป ดา้ นคุณลกั ษณะ ผา่ นเกณฑ์คณุ ภาพ ๑. มีวนิ ยั ประเมินคุณลกั ษณะ แบบประเมิน ระดับ ๒ ๒. ใมฝุ่งเ่มร่ันยี ในนรกู้ ารทางาน คณุ ลกั ษณะ ๓. ๔. รักความเปน็ ไทย ๘. บนั ทกึ ผลหลังสอน ผลการเรยี นรู้ ............................................................................................................................. ....................................................... ปญั หาและอปุ สรรค .................................................................................................................................................................................... ขอ้ เสนอแนะและแนวทางแก้ไข ............................................................................................................. ....................................................................... ลงชอ่ื ...................................................ผสู้ อน (.................................................................) วนั ที่.............เดอื น...................พ.ศ………. ๙. ความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะของผบู้ ริหารหรอื ผู้ทีไ่ ด้รับมอบหมาย .................................................................................................................................................................................... ลงชื่อ...................................................ผ้ตู รวจ (.................................................................) วันท่.ี ............เดือน...................พ.ศ……….

308 330081 ใบความรู้เร่ือง คาวิเศษณ์ หน่วยที่ ๔ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๑ เรื่อง คาวเิ ศษณค์ วรศึกษา รายวชิ าภาษาไทย รหัส ท๒๑๑๐๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ ๑ คาวเิ ศษณ์ คาวิเศษณ์ คือ คาท่ีใช้ประกอบหรือขยายคานาม สรรพนาม คากริยา หรือคาวิเศษณ์ เพ่ือให้ได้ใจความ ชัดเจนและละเอียดมากขนึ้ (ดวงพร หลิมรัตน์, ๒๕๕๑, หนา้ ๙๔) เช่น คนอว้ นกนิ จุ (\"อ้วน\" เป็นคาวเิ ศษณท์ ีข่ ยายคานาม \"คน\" \"จุ\" เปน็ คาวเิ ศษณ์ทีข่ ยายคากรยิ า \"กิน\" เขาร้องเพลงได้ไพเราะ (\"ไพเราะ\" เป็นคาวิเศษณท์ ี่ขยายคากรยิ า \"รอ้ งเพลง\") เขารอ้ งเพลงได้ไพเราะมาก (\"มาก\" เปน็ คาวิเศษณ์ทีข่ ยายคาวิเศษณ์ \"ไพเราะ\") ชนิดของคาวิเศษณ์ คาวิเศษณ์แบง่ ออกเปน็ ๑๐ ชนิด ดังน้ี ๑. คาวิเศษณ์บอกลักษณะ (ลักษณะวิเศษณ์) คือ คาวิเศษณท์ ่ีบอกลักษณะต่างๆ เช่น บอกชนิด สี ขนาด สณั ฐาน กลนิ่ รส บอกความรู้สกึ เช่น ดี ชั่ว ใหญ่ ขาว รอ้ น เยน็ หอม หวาน กลม แบน เปน็ ต้น เช่น นา้ ร้อนอยูในกระติกสขี าว จานใบใหญ่ราคาแพงกวา่ จานใบเลก็ ๒. คาวิเศษณ์บอกเวลา (กาลวิเศษณ์) คือ คาวิเศษณ์บอกเวลา เช่น เช้า สาย บ่าย เย็น อดีต อนาคต เปน็ ตน้ เชน่ วนั พรุ่งนี้เปน็ วันเกิดของคณุ แม่ เขามาโรงเรยี นสาย ๓. คาวิเศษณ์บอกสถานที่ (สถานวิเศษณ์) คือ คาวิเศษณ์บอกสถานที่ เช่น ใกล้ ไกล บน ล่าง เหนือ ใต้ ซา้ ย ขวา เปน็ ตน้ เชน่ บ้านฉนั อยู่ไกลมาก เขาอาศัยอยู่ช้ันบน ๔. คาวิเศษณ์บอกจานวน หรือปริมาณ (ประมาณวิเศษณ์) คือ คาวิเศษณ์บอกจานวน หรือปรมิ าณ เช่น หนึง่ สอง สาม มาก นอ้ ย บอ่ ย หลาย บรรดา ตา่ ง บ้าง เปน็ ตน้ เช่น เขามีเงินหา้ บาท เขามาหาฉนั บ่อยๆ ๕. คาวิเศษณ์ที่แสดงความปฏิเสธ (ประตเิ ษธวิเศษณ์ ) คอื คาวเิ ศษณ์ท่ีแสดงความปฏิเสธ หรือไมย่ อมรับ เช่น ไม่ ไมใ่ ช่ มิ มิใช่ ไม่ได้ หามไิ ด้ เปน็ ต้น เช่น เขามไิ ด้มาคนเดยี ว

330029 309 ของนี้ไมใ่ ช่ของฉัน ฉันจงึ รบั ไว้ไม่ได้ ๖. คาวิเศษณ์ที่ใช้แสดงการขานรับหรอื โต้ตอบ (ประติชญาวิเศษณ์) คอื คาวิเศษณ์ท่ีใช้แสดงการขานรับ หรอื โต้ตอบ เชน่ ครับ ขอรบั ค่ะ เป็นต้น เชน่ คุณครบั มคี นมาหาขอรบั คุณครูขา สวัสดีคะ่ ๗. คาวิเศษณ์ที่บอกความชี้เฉพาะ (นิยมวิเศษณ์) คือ คาวิเศษณ์ท่ีบอกความชี้เฉพาะ เช่น น้ี น่ัน โน่น ทง้ั น้ี ท้ังนนั้ แน่นอน เปน็ ตน้ เชน่ บ้านนั้นไมม่ ีใครมาอยู่ เขาเป็นคนขยนั แน่ๆ ๘. คาวิเศษณ์ที่บอกความไม่ช้ีเฉพาะ (อนิยมวิเศษณ์) คือ คาวิเศษณ์ท่ีบอกความไม่ช้ีเฉพาะ เช่น ใด อ่ืน ไหน อะไร ใคร ฉันใด เปน็ ตน้ เชน่ เธอจะมาเวลาใดก็ได้ คณุ จะนงั่ เกา้ อตื้ วั ไหนก็ได้ ๙. คาวิเศษณ์แสดงคาถาม (ปฤจฉาวิเศษณ์) คือ คาวิเศษณ์แสดงคาถาม หรือแสดงความสงสัย เช่น ใด ไร ไหน อะไร สงิ่ ใด ทาไม เปน็ ตน้ เช่น เสอ้ื ตัวนร้ี าคาเทา่ ไร เขาจะมาเมอื่ ไร ๑๐. คาวิเศษณ์ท่ีทาหน้าที่เชื่อมคาหรือประโยค (ประพันธวิเศษณ์) คือ คาวิเศษณ์ที่ทาหน้าท่ีเชื่อมคา หรอื ประโยคใหม้ คี วามเก่ียวขอ้ งกัน เช่นคาว่า ท่ี ซ่ึง อนั อย่าง ทีว่ า่ เพือ่ ว่า ให้ เป็นต้น เชน่ เขาทางานหนกั เพอื่ ว่าเขาจะไดม้ เี งนิ มาก เขาทาความดี อัน หาทสี่ ุดมไิ ด้

310 30130 หนา้ ทข่ี องคาวิเศษณ์ หน้าทีข่ องคาวเิ ศษณ์ มีดงั น้ีคอื ๑. ทาหน้าทีข่ ยายคานาม เช่น คนอว้ นกนิ จุ (\"อว้ น\" เป็นคาวเิ ศษณข์ ยายคานาม \"คน\") ตารวจหลายคนจับโจรผ้รู ้าย (\"หลาย\" เปน็ คาวิเศษณข์ ยายคานาม \"ตารวจ\") ๒. ทาหน้าทขี่ ยายคาสรรพนาม เช่น เราท้ังหมดชว่ ยกันทางานใหเ้ รียบร้อย (\"ท้ังหมด\" เปน็ คาวิเศษณ์ขยายคาสรรพนาม \"เรา\") ฉันเองเป็นคนพูด (\"เอง\" เปน็ คาวิเศษณข์ ยายคาสรรพนาม \"ฉัน\") ๓. ทาหนา้ ที่ขยายกรยิ า เช่น ป้าซอ้ื กับขา้ วท่ีตลาดนดั หนา้ อาเภอทุกวนั (\"ทุกวัน\" เป็นคาวเิ ศษณท์ ี่ไปขยายคากรยิ า \"ซอื้ \") ๔. ทาหน้าที่ขยายคาวเิ ศษณ์ เชน่ คืนน้ีพระจันทร์ส่องแสงสวยงามมาก (\"มาก\" เป็นคาวิเศษณ์ ทาหน้าท่ีขยายคา “สวยงาม” ซ่งึ เป็นคาวเิ ศษณ)์ ญาญ่าชอบด่ืมน้าส้มเย็นจัดเวลาเหนื่อย (\"จัด\" เป็นคากริยา ทาหน้าท่ีขยายคา “เย็น” ซ่ึงเป็น คาวิเศษณ)์ ๕. ทาหน้าทเี่ ป็นตัวแสดงในภาคแสดง เชน่ เธอสงู กวา่ คนอน่ื ขนมนอ้ี รอ่ ยดี

311 331041 เกม “วิเศษณแ์ บบไหน....ลองทายซิ” หนว่ ยที่ ๔ แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๑ เร่ือง คาวิเศษณ์ควรศกึ ษา รายวิชาภาษาไทย รหัส ท๒๑๑๐๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ ๑ วิธกี ารเล่น ๑. นักเรยี นแบง่ กลุ่มออกเป็น ๖ กลมุ่ สมาชกิ เลือกประธานกลมุ่ ๒. ประธานกลุ่มมารบั แผน่ เกม ๓. สมาชกิ ร่วมกนั วิเคราะห์ว่าคาวเิ ศษณแ์ ตล่ ะข้อเป็นคาวิเศษณช์ นดิ ใด ๔. กลมุ่ ท่ีส่งอนั ดับท่ี ๑ ได้คะแนนบวก ๓ อนั ดบั ๒ บวก ๒ อนั ดับ ๓ บวก ๑ ๑. บัวขาวขอผา้ เยน็ ๑ ผืน ....................................... ๒. หมาก ปริญญ์ เปน็ คนเหนือ ....................................... ๓. นักเรยี นคนไหนเปน็ ติง่ เกาหลี ....................................... ๔. คุณครตู าหนนิ ักเรยี นที่มาสาย ....................................... ๕. น้องมะลิสอบไดเ้ กรดสี่ทกุ วิชา ....................................................... ๖. รถเบนซ์คันน้นั เปน็ ของครเู อง ....................................... ๗. พ่ีตนู วิ่งไปถงึ ไหนก็มีแตค่ นตอ้ นรบั ............................................................ ๘. พ่ีมากขาน้องรออยู่ท่ที า่ น้าทุกวนั .................................................. กลุม่ ที่ ..........................................ม.๑/........ ลงชือ่ ....................................................ประธานกลุ่ม

312 312 305 เกม “วเิ ศษณแ์ บบไหน....ลองทายซิ” หน่วยท่ี ๔ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑ เรื่อง คาวิเศษณ์ควรศึกษา รายวิชาภาษาไทย รหัส ท๒๑๑๐๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ ๑ วิธกี ารเล่น ๑. นกั เรยี นแบง่ กลุ่มออกเปน็ ๖ กลมุ่ สมาชกิ เลือกประธานกลมุ่ ๒. ประธานกลุ่มมารบั แผน่ เกม ๓. สมาชิกรว่ มกันวเิ คราะห์ว่าคาวิเศษณแ์ ตล่ ะข้อเปน็ คาวิเศษณ์ชนดิ ใด ๔. กลุ่มท่ีส่งอนั ดบั ท่ี ๑ ไดค้ ะแนนบวก ๓ อันดบั ๒ บวก ๒ อันดบั ๓ บวก ๑ ๑. บวั ขาวขอผา้ เยน็ ๑ ผืน คาวิเศษณ์บอกลกั ษณะ ๒. หมาก ปรญิ ญ์ เปน็ คนเหนือ คาวเิ ศษณ์บอกสถานท่ี ๓. นักเรยี นคนไหนเป็นต่ิงเกาหลี คาวิเศษณ์แสดงคาถาม ๔. คณุ ครูตาหนนิ ักเรียนที่มาสาย คาวิเศษณ์บอกเวลา ๕. น้องมะลิสอบไดเ้ กรดส่ีทุกวิชา คาวเิ ศษณ์บอกปรมิ าณหรือจานวน ๖. รถเบนซค์ ันนน้ั เปน็ ของครูเอง คาวิเศษณ์บอกความชเ้ี ฉพาะ ๗. พ่ีตนู วิ่งไปถึงไหนก็มีแตค่ นต้อนรบั คาวิเศษณ์บอกความไมเ่ ฉพาะเจาะจง ๘. พี่มากขาน้องรออยู่ทที่ ่านา้ ทกุ วนั คาวิเศษณ์แสดงการขานรับ

313 331036 ใบงานเรอ่ื ง วิเศษณ์ใชใ้ หถ้ กู ตอ้ ง 313 313 หน่วยที่ ๔ แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๑ เรือ่ ง คาวิเศษณค์ วรศกึ ษา รายวิชาภาษาไทย รหัส ท๒๑ใ๑บ๐ง๑านเร่ือง วิเศภษาคณเรใ์ ชียใ้นหท้ถ่ี กู๑ตอ้ ง ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ ๑ คาชแี้ จง ให้นกั เรียนอหา่ นนน่วิทยทานี่ ๔อีสแปผนเรกื่อางรสจุนดั ขักจางิ้รจเรอียกนกรบั ทู้ สี่ ิง๑โตเใรนอ่ื กงรคงแาลวว้เิ ศเตษิมณค์คาววเิรศศษกึ ณษ์ทา่เี หมาะสมลงในช่องว่าง รายวิชาภาษาไทย รหัส ทน๒ทิ ๑า๑น๐อ๑สี ป เรอื่ ง สภุนาัขคจเ้ิงรจียอนกทก่ี บั๑สงิ โตในกรง ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ ๑ คาช้ีแจง ให้นกั เรยี นอ่านนิทานอสี ป เรอ่ื ง สนุ ัขจงิ้ จอกกบั สิงโตในกรงแลว้ เติมคาวิเศษณ์ทเ่ี หมาะสมลงในชอ่ งว่าง นิทานอสี ป เรอ่ื ง สุนัขจงิ้ จอกกับสิงโตในกรง สนุ ัขจ้ิงจอกตัว(๑)............. ออกหาอาหารในป่า(๒)............. มันบังเอิญไปเจอสิงโตตวั หน่ึงถูกนายพรานจับ ขงั ไว้ในกรง(๓)............... สุนขั จ้ิงจอกพดู จาเยาะเย้ยสิงโตอยา่ ง(๔)............เกรงกลัวว่า \"สมนา้ หน้าเจ้าจรงิ ๆ เป็นถึง เจ้าแห่งสัตว์ป่าผู้(๕)...................... แต่กลับต้องมาพลาดท่าใหม้ นุษย์ตัว(๖).................เสียนี่\" สิงโตตอบไปว่า \"ไม่ใช่ ว่าข้าไม่(ส๗นุ ).ัข..จ..ิ้ง..จ..อ..ก..ต..วั..(..๑..)แ..ต...่ข..้า..โ..ช..คอ(๘อก).ห...า.อ...า.ห...า..ร.ใ..น..ป...่า.(ต๒่า)ง..ห...า..ก..ท...ี่ม. นมุนัษบย์ังจเับอไิญดไ้ ปเจเจ้าอเอสงิ กโต็รตะวั หังตนัว่ึงถไวูก้ในหา้ดยีเพถรอาะนวจับน (ข๙ัง)ไ.ว..้ใ..น..ก...ร.ง..(.๓...)..ท..เ่ี..ผ..ล..อ...อ..า.จสเปุน็นัขจติ้งัวจเจอา้กเพองูดทจต่ีาเ้อยงาถะูกเขยงัย้ อสยิงูใ่โนตอนยี่แ่าบงบ(๔ข)า้ .\"...........เกรงกลวั ว่า \"สมน้าหน้าเจ้าจริง ๆ เป็นถึง เจ้าแห่งสัตว์ป่าผู้(๕)...................... แต่กลับ:ต: ้อนงิทมาานพเลรา่อื ดงทน่า้สี ใอหนม้ ในหุษ้รยู้วต์่าัว:(:๖).................เสียน่ี\" สิงโตตอบไปว่า \"ไม่ใช่ ว่าข้าไม่(๗).....................แตค่ขน้า(โ๑ช๐ค)(.๘..)...................ย..่อ...มตไ่ามงซ่ ห้าาเกตทิมผ่ีมู้ทน่ีกุษายล์จงั ับเดไดือ้ดเรจอ้ านเองก็ระวังตัวไว้ให้ดีเถอะ วัน (๙)..................ท่ีเผลออาจเป็นตัวเจ้าเองทต่ี ้องถูกขังอยูใ่ นนแ่ี บบขา้ \" :: นทิ านเรอ่ื งน้ีสอนใหร้ วู้ ่า :: เฉลย ๑. หน่ึง ๒.คลนกึ (/๑ให๐ญ)..่ ....................ย๓่อ.มใไหมญ่ซ่ า้ เติมผู้ท่กี ๔า.ลไงัมเ่ดือดรอ้ น ๕. ย่ิงใหญ่ ๖. เลก็ ๆ ๗. แข็งแรง/เกง่ ๘. ร้าย ๙. ไหน ๑๐. ดี เฉลย ๑. หน่งึ ๒. ลกึ /ใหญ่ ๓. ใหญ่ ๔. ไม่ ๕. ยิง่ ใหญ่ ๖. เลก็ ๆ ๗. แข็งแรง/เกง่ ๘. รา้ ย ๙. ไหน ๑๐. ดี

314 แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี ๒ เวลา ๑ ชัว่ โมง หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๔ เรื่อง นิทานสารพนั เร่ือง คาวเิ ศษณค์ วรศึกษา กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย รายวชิ าพน้ื ฐานภาษาไทย ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ ๑ ขอบเขตเน้อื หา กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื /แหล่งเรียนรู้ ชนิดและหน้าทข่ี องคา ขั้นนา ๑. แถบประโยค จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ครูตดิ แถบประโยคบนกระดานดา ๒. ใบความรู้ เรอ่ื ง คาวิเศษณ์ ด้านความรู้ นกบนิ ๓. นทิ าน เรือ่ ง หนา้ ทขี่ องฉนั นกเล็กบินเรว็ ๔. ใบงาน เร่ือง คาวิเศษณ์ วเิ คราะห์ชนดิ และหนา้ ทขี่ องคาวเิ ศษณ์ได้ นกเล็กหลายตัวบนิ เร็ว ๕. แบบทดสอบ เรอ่ื ง คาวเิ ศษณ์ ด้านทักษะกระบวนการ นกเลก็ หลายตวั บนิ เรว็ มาก ภาระงาน/ช้ินงาน แลว้ ให้นักเรียนสังเกตคาจากแถบประโยคทีก่ าหนดให้ว่า ศกึ ษาค้นควา้ บทความท่ใี ช้ค�ำ วิเศษณ์ ๑. จาแนกชนดิ และหนา้ ที่ของ มคี วามแตกต่างกนั อย่างไร คาวิเศษณ์ได้ ข้ันสอน ๑. ครแู บ่งนักเรยี นออกเป็นกลุ่ม ศึกษาใบความรู้ ๒. ใช้คาวเิ ศษณ์ไดถ้ ูกต้อง เรื่อง คาวเิ ศษณ์ แล้วร่วมกนั สรุปความรู้เรื่องหนา้ ทขี่ อง ด้านคุณลกั ษณะ คาวเิ ศษณ์ ๒. นกั เรียนเรยี นวเิ คราะห์คาวเิ ศษณ์จากนทิ าน ๑. มวี ินยั เรื่อง หน้าทขี่ องฉนั และนาเสนอหนา้ ช้ันเรยี น ๒. ใฝเ่ รยี นรู้ ๓. มงุ่ มันในการทางาน ๔. รักความเป็นไทย ๓. นักเรียนทาใบงาน เร่ือง คาวิเศษณ์ และ และ เขียนแสดงความคิดเห็น ในประเด็น “วิเศษณ์น้ันสาคัญ อยา่ งไร” ๔. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันเฉลยใบงานเรอื่ ง คาวิเศษณ์ ๕. นักเรียนทาแบบทดสอบ เร่ือง คาวิเศษณ์ พร้อม เฉลยแบบทดสอบอย่างละเอยี ด 331074

หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี ๔ เรอ่ื ง นทิ านสารพัน แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๒ 315 กลมุ่ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย เรอ่ื ง คาวิเศษณค์ วรศึกษา เวลา ๑ ช่วั โมง รายวชิ าพนื้ ฐานภาษาไทย ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี ๑ ข้นั สรุป ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันสรปุ คาวิเศษณ์เพื่อใหม้ ีความรู้ ความเข้าใจตรงกันและบนั ทึกลงสมุดเพ่ือนาไปใชไ้ ด้ อยา่ งถูกต้อง 308

316 331096 การวดั และประเมนิ ผล สงิ่ ท่ตี ้องการวัด/ประเมนิ วธิ ีการ เคร่ืองมือทใี่ ช้ เกณฑ์ ดา้ นความรู้ ๑. บอกความหมายคาวเิ ศษณ์ได้ ๑. นาเสนอผลงาน ๑. แบบนาเสนอผลงาน ผา่ นเกณฑ์การประเมินร้อยละ ๒. ชนิดและหน้าทข่ี องคา ๒. ทาแบบทดสอบ ๒. แบบทดสอบ ๘๐ ขึ้นไป วเิ ศษณไ์ ด้ ด้านทักษะและกระบวนการ ๑. วิเคราะหช์ นดิ และหนา้ ที่ของ ตรวจใบงาน ใบงานเร่ือง คาวิเศษณ์ ผ่านเกณฑ์การประเมนิ ร้อยละ คาวเิ ศษณ์ได้ ๘๐ ข้ึนไป ๒. ใช้คาวเิ ศษณไ์ ด้ถกู ต้อง ด้านคณุ ลกั ษณะ ๑. มีวนิ ัย ประเมนิ คุณลกั ษณะ แบบประเมิน ผา่ นเกณฑ์คุณภาพระดับ ๒ ๒. ใฝ่เรยี นรู้ คณุ ลกั ษณะ ๓. มุง่ ม่ันในการทางาน ๔. รักความเป็นไทย ๘. บนั ทกึ ผลหลังสอน ผลการเรยี นรู้ ............................................................................................................................. ....................................................... ปญั หาและอุปสรรค .................................................................................................................................................................................... ขอ้ เสนอแนะและแนวทางแก้ไข ............................................................................................................ ........................................................................ ลงชื่อ...................................................ผสู้ อน (.................................................................) วนั ท.ี่ ............เดือน...................พ.ศ………. ๙. ความคดิ เหน็ /ขอ้ เสนอแนะของผูบ้ รหิ ารหรอื ผู้ทไี่ ด้รบั มอบหมาย ............................................................................................................................. ....................................................... ลงช่อื ...................................................ผู้ตรวจ (.................................................................) วนั ท.ี่ ............เดือน...................พ.ศ………

317 331170 ใบความรู้ เรื่อง คาวเิ ศษณ์ หนว่ ยที่ ๔ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๒ เรือ่ ง คาวเิ ศษณ์ควรศกึ ษา รายวชิ าภาษาไทย รหัส ท๒๑๑๐๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ ๑ คาวิเศษณ์ คาวิเศษณ์ คือ คาที่ใช้ประกอบหรือขยายคานาม สรรพนาม คากริยา หรือคาวิเศษณ์ เพ่ือให้ได้ใจความ ชดั เจนและละเอยี ดมากขึ้น (ดวงพร หลิมรตั น์, ๒๕๕๑, หนา้ ๙๔) เชน่ คนอว้ นกนิ จุ (\"อว้ น\" เป็นคาวิเศษณ์ทขี่ ยายคานาม \"คน\" \"จุ\" เป็นคาวิเศษณท์ ี่ขยายคากริยา \"กิน\") เขารอ้ งเพลงได้ไพเราะ (\"ไพเราะ\" เป็นคาวเิ ศษณท์ ่ีขยายคากรยิ า \"รอ้ งเพลง\") เขารอ้ งเพลงได้ไพเราะมาก (\"มาก\" เปน็ คาวิเศษณ์ที่ขยายคาวเิ ศษณ์ \"ไพเราะ\") ชนิดของคาวิเศษณ์ คาวเิ ศษณ์แบ่งออกเปน็ ๑๐ ชนดิ ดงั นี้ ๑. คาวเิ ศษณ์บอกลกั ษณะ (ลกั ษณะวเิ ศษณ์) คอื คาวเิ ศษณ์ท่ีบอกลักษณะตา่ ง ๆ เชน่ บอกชนดิ สี ขนาด สณั ฐาน กลนิ่ รส บอกความรู้สกึ เช่น ดี ช่ัว ใหญ่ ขาว ร้อน เยน็ หอม หวาน กลม แบน เป็นตน้ เชน่ น้าร้อนอยูในกระตกิ สีขาว จานใบใหญ่ราคาแพงกวา่ จานใบเลก็ ๒. คาวิเศษณ์บอกเวลา (กาลวิเศษณ์) คือ คาวิเศษณ์บอกเวลา เช่น เช้า สาย บ่าย เย็น อดีต อนาคต เปน็ ตน้ เช่น วันพรุ่งน้ีเปน็ วันเกดิ ของคณุ แม่ เขามาโรงเรียนสาย ๓. คาวิเศษณ์บอกสถานท่ี (สถานวิเศษณ์) คือ คาวิเศษณ์บอกสถานท่ี เช่น ใกล้ ไกล บน ล่าง เหนือ ใต้ ซา้ ย ขวา เป็นตน้ เชน่ บา้ นฉนั อยู่ไกลตลาด นกอยู่บนตน้ ไม้ ๔. คาวิเศษณ์บอกจานวน หรือปริมาณ (ประมาณวิเศษณ์) คือ คาวิเศษณ์บอกจานวน หรือปรมิ าณ เช่น หนง่ึ สอง สาม มาก นอ้ ย บอ่ ย หลาย บรรดา ตา่ ง บ้าง เป็นตน้ เชน่ เขามเี งนิ ห้าบาท เขามาหาฉนั บ่อยๆ ๕. คาวเิ ศษณท์ แี่ สดงความปฏิเสธ (ประติเษธวเิ ศษณ์ ) คอื คาวิเศษณ์ท่ีแสดงความปฏิเสธ หรอื ไม่ยอมรับ เช่น ไม่ ไม่ใช่ มิ มิใช่ ไมไ่ ด้ หามิได้ เปน็ ต้น เช่น เขามไิ ด้มาคนเดยี ว ของน้ีไม่ใช่ของฉนั ฉนั จงึ รบั ไว้ไมไ่ ด้ ๖. คาวเิ ศษณ์ที่ใช้แสดงการขานรับหรอื โต้ตอบ (ประติชญาวิเศษณ์) คือ คาวิเศษณ์ท่ีใช้แสดงการขานรับ หรอื โต้ตอบ เช่น ครบั ขอรับ คะ่ เป็นต้น เช่น

318 331181 คณุ ครบั มคี นมาหาขอรบั คณุ ครูขา สวัสดีคะ่ ๗. คาวิเศษณ์ที่บอกความช้ีเฉพาะ (นิยมวิเศษณ์) คือ คาวิเศษณ์ท่ีบอกความชี้เฉพาะ เช่น น้ี น่ัน โน่น ท้งั น้ี ทั้งนน้ั แน่นอน เป็นตน้ เชน่ บ้านน้นั ไมม่ ใี ครมาอยู่ เขาเปน็ คนขยนั แน่ๆ ๘. คาวิเศษณ์ที่บอกความไม่ชี้เฉพาะ (อนิยมวิเศษณ์) คือ คาวิเศษณ์ท่ีบอกความไม่ชี้เฉพาะ เช่น ใด อ่ืน ไหน อะไร ใคร ฉันใด เปน็ ต้น เช่น เธอจะมาเวลาใดก็ได้ คุณจะน่ังเกา้ อต้ื วั ไหนก็ได้ ๙. คาวิเศษณ์แสดงคาถาม (ปฤจฉาวิเศษณ์) คือ คาวิเศษณ์แสดงคาถาม หรือแสดงความสงสัย เช่น ใด ไร ไหน อะไร สงิ่ ใด ทาไม เป็นตน้ เชน่ เสื้อตัวนร้ี าคาเท่าไร เขาจะมาเมื่อไร ๑๐. คาวิเศษณ์ที่ทาหน้าที่เช่ือมคาหรือประโยค (ประพันธวิเศษณ์) คือ คาวิเศษณ์ท่ีทาหน้าที่เชื่อมคา หรือประโยคให้มคี วามเกยี่ วขอ้ งกนั เชน่ คาว่า ที่ ซง่ึ อัน อย่าง ท่วี า่ เพอื่ ว่า ให้ เปน็ ต้น เชน่ เขาทางานหนักเพ่ือว่าเขาจะไดม้ เี งนิ มาก เขาทาความดี อนั หาทสี่ ดุ มิได้ หนา้ ที่ของคาวิเศษณ์ หนา้ ท่ขี องคาวิเศษณ์ มีดงั นี้คอื ๑. ทาหนา้ ทข่ี ยายคานาม เชน่ คนอว้ นกนิ จุ (\"อว้ น\" เปน็ คาวเิ ศษณ์ขยายคานาม \"คน\") ตารวจหลายคนจับโจรผู้ร้าย (\"หลาย\" เป็นคาวิเศษณ์ขยายคานาม \"ตารวจ\") ๒. ทาหน้าทขี่ ยายคาสรรพนาม เชน่ เราทงั้ หมดช่วยกนั ทางานใหเ้ รยี บร้อย (\"ท้งั หมด\" เปน็ คาวิเศษณ์ขยายคาสรรพนาม \"เรา\") ฉันเองเปน็ คนพดู (\"เอง\" เป็นคาวเิ ศษณ์ขยายคาสรรพนาม \"ฉนั \") ๓. ทาหน้าท่ขี ยายกริยา เช่น ป้าซือ้ กบั ขา้ วท่ตี ลาดนดั หน้าอาเภอทกุ วนั (\"ทกุ วนั \" เปน็ คาวเิ ศษณ์ทไ่ี ปขยายคากรยิ า \"ซื้อ\") ๔. ทาหนา้ ทข่ี ยายคาวิเศษณ์ เชน่ คืนน้ีพระจันทร์ส่องแสงสวยงามมาก (\"มาก\" เป็นคาวิเศษณ์ ทาหน้าท่ีขยายคา “สวยงาม” ซึง่ เป็นคาวเิ ศษณ)์ ญาญ่าชอบดื่มน้าส้มเย็นจัดเวลาเหนื่อย (\"จัด\" เป็นคากริยา ทาหน้าที่ขยายคา “เย็น” ซ่ึงเป็น คาวเิ ศษณ์) ๕. ทาหนา้ ที่เป็นตวั แสดงในภาคแสดง เช่น เธอสงู กวา่ คนอน่ื

319 319 312 นิทานเรือ่ ง หนา้ ท่ีของฉนั หน่วยท่ี ๔ แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๒ เร่ือง คาวิเศษณค์ วรศึกษา รายวชิ าขภนามษนาอ้ีไทรย่อยรดหี ัส ท๒๑๑๐๑นทิ านเรือ่ งภหานค้าเรทียีข่ นอทงี่ฉ๑นั ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ คาช้ีแจง ให้นักเรยี นอา่ นนิทานแล้ววเิ คราะหว์ า่ คาวเิ ศษณท์ ี่ขีดเส้นใต้ทาหนา้ ทีอ่ ะไร ณ หมู่บ้านชาวประมงแห่งหนึ่ง มีชายอ้วนศีรษะล้านผู้เป็นเจ้าของกิจการปลาเค็มแสนอร่อยของหมู่บ้าน เขาเลี้ยงสุนัขแสนรู้ไว้ ๓ ตัว มีสุนัขสึดา สุนัขสีขาว และสุนัขแก่ พวกมันทุกตัวมีหน้าที่เฝ้าปลาเค็มที่เขาตากไว้ สุนัขทุกตัวทาหน้าที่อย่างดีเยี่ยม ตลอดระยะเวลาที่ชายอ้วนมอบหมายหน้าท่ีให้ พวกมันจะน่ังเฝ้า นอนเฝ้าหรือ เดินไปมาบริเวณท่ีตากปลาตลอดเวลา เจ้าดาเก่งกว่าเพื่อน มันจะวิ่งไล่เห่าคนและสัตว์ทุกชนิดไม่ให้มาป้วนเป้ียน แถวทตี่ ากปลาเด็ดขาด วันหนึ่งมีสุนัขต่างถ่ินพลัดหลงเข้ามา เจ้าสุนัขถูกหมาหมู่วิ่งไล่มาอย่างรวดเร็ว เจ้าแก่เห็นดังนั้น อดชว่ ยเหลอื ไมไ่ ดว้ ่ิงเขา้ ขวางทันที สนุ ัขนกั เลง ๔ – ๕ ตัวเปล่ียนเป้าหมายมาเลง็ เจ้าแกท่ นั ที เจ้าขาววิ่งตามไปเพ่ือช่วยเหลือเจ้าแก่ แต่เจ้าดายังหมอบนิ่งไม่เคล่ือนไหว เจ้าขาวและเจ้าแก่ทั้งเห่า และคารามเสียงดัง หมาหมู่ตัวหนึ่งกระโดดกัดเจ้าแก่ที่ขา เจ้าขาวกระโดดเข้าช่วยกัดท่ีคอหมาหมู่ตัวนั้นอย่างแรง หมาหมู่เจ็บหนักร้องเอ๋ง ๆ ไม่หยุด หัวโจกเห็นท่าไมด่ ีรีบพาพรรคพวกล่าถอยโดยเร็ว เจ้าแก่ครางหงงิ ๆ เพราะเจ็บขา เจ้าขาวมองเจ้าดาตาขวางพร้อมพูดว่า “ทาไมนายไม่ไปช่วย” เจ้าดาเชิดหน้า “ไม่ใช่หน้าที่ของฉัน ฉันมีหน้าท่ี เฝ้าปลาเท่าน้ัน” เจ้าแก่ได้ฟังพูดข้ึนเบา ๆ ว่า “นอกจากหน้าท่ีเฝ้าปลาแล้ว เจ้าไม่มีหน้าที่ของเพื่อนเลยหรือไง” เจ้าดารสู้ ึกผิดมันมองรอยแผลที่ขาเจ้าแก่ซึ่งมีเลือดไหลซึมเลก็ น้อย ถ้าเจ้าแก่เป็นอะไรไปมากกว่านี้มันคงรู้สกึ ผิดไป ตลอดชีวิต เร่ืองนี้สอนให้ร้วู ่า ในขณะที่เราทาหน้าที่หนง่ึ อย่าลมื วา่ อาจมหี นา้ ที่อ่นื ดว้ ยจงอยา่ ละเลย วิเคราะหห์ น้าที่ ๑. ชายอ้วนศีรษะล้าน หน้าที่ ............................................... (ขยายนาม) ๒. ปลาเคม็ แสนอรอ่ ย หน้าท่ี ............................................... (ขยายวเิ ศษณ)์ ๓. สุนัขสีดา สนุ ขั สีขาว และสุนัขแก่ หนา้ ที่ ............................................... (ขยายนาม) ๔. พวกมันทุกตวั หนา้ ท่ี ............................................... (ขยายสรรนาม) ๕. สุนัขทกุ ตวั ทาหนา้ ที่อย่างดีเยย่ี ม หน้าท่ี ............................................... (ขยายกริยา) ๖. เจ้าดาเกง่ กวา่ เพื่อน หนา้ ท่ี ............................................... (เปน็ ตวั แสดง) ๗. สนุ ขั นกั เลง ๔ – ๕ ตวั หนา้ ที่ ............................................... (ขยายนาม) ๘. คารามเสยี งดงั หน้าท่ี ............................................... (ขยายกริยา) ๙. พดู ขน้ึ เบาๆ หน้าท่ี ............................................... (ขยายกรยิ า) ๑๐. เลอื ดไหลซึมเล็กน้อย หน้าที่ ............................................... (ขยายกรยิ า)

320 331230 ใบงานเร่ือง คาวิเศษณ์ หนว่ ยที่ ๔ แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ ๒ เรอ่ื ง คาวเิ ศษณค์ วรศกึ ษา รายวิชาภาษาไทย รหัส ท๒๑๑๐๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ ๑ ตอนท่ี ๑ คาชแ้ี จง ใหน้ ักเรยี นพิจารณาวา่ คาวเิ ศษณ์ท่ีขดี เสน้ ใตต้ อ่ ไปน้ี ทาหนา้ ที่ใดในประโยค ๑. ขยายคานาม ๒. ขยายคาสรรพนาม ๓. ขยายคากริยา ๔. ขยายคาวเิ ศษณ์ ๕. เปน็ ตัวแสดง ๑. คนผอมที่เดินอยู่ขา้ งคนอว้ น คอื พ่อ ของนา้ ขิง ....................................... ๒. น้าตาลเดนิ เรว็ มากเพราะรีบไปจองตว๋ั คอนเสริ ต์ ....................................... ๓. นา้ นง่ิ กินกว๋ ยเตย๋ี วของผมเอง ....................................... ๔. นกั แสดงทุกคนร่วมบริจาคโครงการก้าวคนละก้าว ....................................... ๕. ชุดประจาชาติของน้องน้าฝนสวยงามจรงิ ๆ ....................................... ๖. เขาทง้ั หลายสวดมนต์ข้ามปที ี่วดั ในชว่ งสง่ ท้ายปีเกา่ ....................................... ๗. แมวตัวใหญ่กนิ ขนมแมวจนหมดถุง ....................................... ๘. น้าฟา้ ใส่แว่นดาใหญ่เบ้อเริม่ จนคนเหลยี วมองทั้งงาน ....................................... ๙. คณุ ยายของน้ามนตม์ รี ูปร่างสวยท่สี ดุ ในกลมุ่ ผูส้ ูงอายุ ....................................... ๑๐. น้องน้าค้างซ้ือกระเป๋าใหม่จากห้างสรรพสินค้า ....................................... ตอนท่ี ๒ ให้นักเรยี นเลอื กคาวิเศษณ์ท่ีกาหนดให้เตมิ ลงในชอ่ งวา่ งใหถ้ ูกต้อง นน้ั บน ใคร ทงั้ หมด ท่ี เชา้ ครบั อว้ น เท่าไร ไมใ่ ช่ ๑. หมพู วกน้กี นิ อาหารมากจึง………… ๒. ทุก ๆ วัน ในตอน…………..เราตอ้ งรีบต่นื นอนไปโรงเรียน ๓. มหี นงั สอื นวนิยายสนุก ๆ วางอยู่……….โต๊ะ หลายเลม่ ๔. ขณะนี้เส้อื ผา้ ………..ทีจ่ ะใช้อยู่ในกระเปา๋ แล้ว ๕. เรือลา………..ว่ิงเร็วมากทส่ี ุด ๖. แบบฝกึ หัดภาษาไทยง่ายอยา่ งนี้….....….กท็ าได้ ๗. คุณแมอ่ ายุ……………. ๘. ………..แม่ ผมจะไปเดี๋ยวนี้ ๙. สมชาย…………คนขโมยดินสอของเพ่ือน ๑๐. เขาพดู อย่าง…….....….ใคร ๆ ไม่คาดคดิ

321 32141 เฉลยใบงานเรื่อง คาวเิ ศษณ์ หนว่ ยที่ ๔ แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ ๒ เรอื่ ง คาวิเศษณค์ วรศกึ ษา รายวิชาภาษาไทย รหัส ท๒๑๑๐๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ ๑ ตอนท่ี ๑ คาชแี้ จง ใหน้ ักเรยี นพิจารณาว่าคาวเิ ศษณ์ทีข่ ีดเสน้ ใตต้ อ่ ไปนี้ ทาหนา้ ท่ีใดในประโยค ๑. ขยายคานาม ๒. ขยายคาสรรพนาม ๓. ขยายคากริยา ๔. ขยายคาวิเศษณ์ ๕. เปน็ ตัวแสดง ๑. คนผอมท่เี ดินอยู่ขา้ งคนอว้ น คอื พ่อ ของนา้ ขิง ขยายคานาม ๒. นา้ ตาลเดินเรว็ มากเพราะรีบไปจองต๋วั คอนเสริ ์ต ขยายคาวิเศษณ์ ๓. นา้ น่งิ กนิ ก๋วยเตยี๋ วของผมเอง ขยายคาสรรพนาม ๔. นกั แสดงทุกคนร่วมบริจาคโครงการกา้ วคนละก้าว ขยายคานาม ๕. ชดุ ประจาชาตขิ องน้องน้าฝนสวยงามจริง ๆ เปน็ ตวั แสดง ๖. เขาทงั้ หลายสวดมนต์ขา้ มปีทีว่ ดั ในชว่ งสง่ ท้ายปีเกา่ ขยายคาสรรพนาม ๗. แมวตัวใหญ่กินขนมแมวจนหมดถงุ ขยายคานาม ๘. น้าฟา้ ใสแ่ ว่นดาใหญ่เบ้อเร่ิมจนคนเหลยี วมองทั้งงาน ขยายคาวิเศษณ์ ๙. คุณยายของน้ามนตม์ รี ูปร่างสวยท่สี ดุ ในกลุ่มผู้สงู อายุ ขยายคาวิเศษณ์ ๑๐. น้องนา้ คา้ งซื้อกระเปา๋ ใหม่จากห้างสรรพสนิ ค้า ขยายคากรยิ า ตอนที่ ๒ ใหน้ กั เรียนเลอื กคาวิเศษณท์ ี่กาหนดใหเ้ ติมลงในชอ่ งว่างใหถ้ ูกต้อง นัน้ บน ใคร ท้ังหมด ที่ เช้า ครบั อว้ น เท่าไร ไม่ใช่ ๑. หมพู วกนก้ี นิ อาหารมากจึง…อ้วน… ๒. ทกุ ๆ วัน ในตอน…เชา้ ..เราต้องรีบตื่นนอนไปโรงเรียน ๓. มหี นงั สือนวนิยายสนุก ๆ วางอยู่…บน….โต๊ะ หลายเล่ม ๔. ขณะน้เี สอื้ ผ้า…ทั้งหมด..ที่จะใชอ้ ยู่ในกระเป๋าแลว้ ๕. เรือลา…น้ี..วิง่ เรว็ มากทีส่ ดุ ๖. แบบฝึกหดั ภาษาไทยง่ายอย่างน้ี….ใคร ๆ….ก็ทาได้ ๗. คณุ แม่อายุ…เทา่ ไหร่…. ๘. …ครับ..แม่ ผมจะไปเด๋ยี วน้ี ๙. สมชาย…ไมใ่ ช่…คนขโมยดินสอของเพ่ือน ๑๐. เขาพดู อยา่ ง……นนั้ ….ใคร ๆ ไมค่ าดคดิ

322 332125 แบบทดสอบเรื่อง คาวิเศษณ์ หน่วยที่ ๔ แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๒ เร่อื ง คาวิเศษณค์ วรศึกษา รายวิชาภาษาไทย รหัส ท๒๑๑๐๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๑ คาช้แี จง ใหน้ กั เรยี น ทาเครื่องหมาย X ทบั ตวั อักษรที่ถูกตอ้ ง ๑. ขอ้ ใดคือความหมายของคาวิเศษณ์ ก. คาทใี่ ชข้ ยายคานามและกรยิ า ข. คาทีใ่ ช้แทนชื่อ คน สัตว์ สิง่ ของ สถานที่ ค. คาที่ใช้เตมิ ชื่อ คน สตั ว์ สิง่ ของใหเ้ กดิ ความชัดเจน ง. คาทีใ่ ช้ขยายคานาม สรรพนาม คากริยาและคาวิเศษณด์ ้วยกัน ๒. ข้อใดไม่มวี เิ ศษณ์บอกลักษณะ ก. นกั กีฬาคนนนั้ ว่ิงเรว็ มาก ข. เขามองเครือ่ งบินท่ีอยูเ่ หนือเมฆ ค. พ่ชี อบกนิ ไอศกรีมและขนมหวาน ง. รถบรรทกุ คนงานต่างด้าวกาลังแลน่ มา ๓. “ปลาบ่ไู ปโรงเรยี นแต่เช้าทุกวัน” คาใดเป็นคาวเิ ศษณ์บอกเวลา (กาลวิเศษณ์) ก. ไป ข. เช้า ค. ทุกวนั ง. โรงเรยี น ๔. หนงั สือเลม่ นเ้ี ปน็ ของพส่ี าวคนโต เธอซือ้ มาราคา ๓๐๐ บาท ขอ้ ความน้ีมคี าวเิ ศษณ์ก่ีคา ก. ๑ คา ข. ๒ คา ค. ๓ คา ง. ๔ คา ๕. “ด”ี ในข้อใดเปน็ คาวิเศษณ์ ก. เขาดตี อ่ ฉันมาก ข. เขาประพฤติตนไมด่ ี ค. ถุงน้าดเี กิดอกั เสบ ง. คนดมี ีแตค่ นรักใคร่ ๖. ข้อใดมีคาวิเศษณ์แสดงการขานรบั ก. หญิงคนน้เี ปน็ ลูกสาวกานัน ข. ขนมหวานยกมาได้แล้ว ค. คณุ แม่ บอกว่าให้มาพบหรอื ครับ ง. เดยี๋ วเธอไปพบกับครูทห่ี ้องพกั นะ

323 332136 ๗. ขอ้ ใดมคี าวเิ ศษณม์ ากที่สุด ก. แมวสีสวาทกินหนูสีขาว ข. กอ้ นเมฆลอยบนท้องฟ้ามากมาย ค. นักเรียนชายใสก่ างเกงสดี าเสื้อสีขาว ง. คนหน่มุ คนสาว เดก็ ๆ และคนแก่เดนิ เลน่ ๘. ขอ้ ใดไมม่ ีคาวิเศษณ์เลย ก. เม่อื ก้อนหินตกลงนา้ น้าก็เปน็ วงกระเพื่อม ข. การอา่ นหนงั สอื ทาใหเ้ รามีความรูก้ ว้างขวาง ค. เราควรระลกึ ถงึ ความดที ้ังหลายท่ีไดท้ าไว้ ง. ผูท้ ีท่ าคณุ ความดแี กป่ ระเทศชาติมีใครบ้าง ๙. ขอ้ ใดมีวเิ ศษณ์ขยายประธาน ก. ฉนั ชอบดอกไม้ขาว ข. ครูให้การบ้านมาก ค. ธงสะบดั บนยอดเสา ง. เราทง้ั หมดเปน็ นักเรยี น ๑๐. ขอ้ ใดมีวิเศษณ์ขยายกริยา ก. ตน้ ไมใ้ หญล่ ม้ ข. คนอว้ นเดินชา้ ค. ปลาใหญ่กนิ ปลาเลก็ ง. นกคอ้ นหอยกนิ ปลาใหญ่ เฉลย ขอ้ ๑ ง. ************************* ขอ้ ๕ ง. ข้อ ๖ ค. ข้อ ๒ ข. ข้อ ๓ ข. ข้อ ๔ ง. ข้อ ๑๐ ข. ข้อ ๗ ง. ขอ้ ๘ ก. ข้อ ๙ ง.

324 แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๓ เวลา ๑ ชัว่ โมง หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๔ เรอ่ื ง นิทานสารพัน เร่อื ง สารพนั บุพบท กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย รายวิชาพืน้ ฐานภาษาไทย ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ ๑ ขอบเขตเนื้อหา กิจกรรมการเรยี นรู้ ส่อื /แหล่งเรียนรู้ ขน้ั นา ๑. สานวนไทย ความหมายและหนา้ ที่ของคาบุพบท ครูนาสานวนไทย มาให้นักเรยี นอ่าน ๒. ใบความรู้ เรอ่ื ง คาบุพบท จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ กินอยู่กับปากอยากอยู่กบั ทอ้ ง ๓. ใบงาน เรือ่ ง คาบุพบท ดา้ นความรู้ ลกู ไก่ในกามอื ๕. แบบทดสอบ เรอ่ื ง คาบุพบท กนิ บนเรือนข้ีบนหลงั คา ๑. อธิบายความหมายของคาบพุ บทได้ เขยี นดว้ ยมอื ลบด้วยเท้า ภาระงาน/ชิ้นงาน ๒. อธบิ ายชนิดและหน้าทขี่ องคาบุพบทได้ ปลาหมอตายเพราะปาก ครมู อบหมายใหน้ กั เรยี นจัดทาสมุดคาบุพบท ด้านทักษะและกระบวนการ จากนัน้ ให้นักเรยี นฝึกสงั เกตคาบุพบทในสานวน ๑. วเิ คราะห์คาบพุ บทได้ ขั้นสอน ๒. ใช้คาบุพบทได้อยา่ งถูกต้อง ๑. ครูให้นักเรียนแบ่งกลมุ่ ศึกษาศึกษาใบความรู้ ดา้ นคณุ ลักษณะ เรือ่ ง คาบุพบทแลว้ อภิปรายเนอ้ื หาของคาบุพบท ๑. มีวนิ ัย ในประเด็น ดงั ต่อไปน้ี ๒. ใฝเ่ รียนรู้ ๑) คาบุพบท คืออะไร ๓. มุ่งมนั ในการทางาน ๒) คาบพุ บทมีหน้าที่อยา่ งไร ๔. รกั ความเปน็ ไทย ๓) คาบพุ บทมีก่ีชนดิ อะไรบ้าง นักเรียนจดบนั ทึกลงสมดุ ๒. นกั เรยี นศกึ ษาใบความรู้ เร่อื ง คาบุพบท แล้ว ชว่ ยกนั ยกตวั อย่างเพ่ิมเติมอย่างน้อยคนละ ๑ คา ๓. นักเรียนทาใบงาน เรอื่ ง คาบุพบท และ รว่ มกนั เฉลยใบงาน ๔. นกั เรียนทาแบบทดสอบ คาบุพบท 331274

ช่วยกนั ยกตวั อยา่ งเพมิ่ เติมอย่างนอ้ ยคนละ ๑ คา ๓. นกั เรยี นทาใบงาน เร่ือง คาบุพบท และ รว่ มกันเฉลยใบงาน ๔. นักเรยี นทาแบบทดสอบ คาบุพบท หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ ๔ เรื่อง นิทานสารพนั แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี ๓ 325 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรือ่ ง สารพันบพุ บท เวลา ๑ ชั่วโมง ชัน้ มัธยมศึกษาปที ี่ ๑ รายวชิ าพ้นื ฐานภาษาไทย ๕ ๕..คครรมู ูมอบอบหมหามยางยางนาในหใน้ หกั ้นเรักยี เนรียจดันทจาัดสทมำ�ดุ สคมาุดบุพ บคำ�ทบสุพ่งบตทามสเว่งตลามทเีก่ วาลหานทด่ีกำ�หนด ขนั้ สรปุ ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปเร่อื งคาบุพบท เพ่ือให้นักเรยี นเข้าใจตรงกันและนาไปใช้ใน ชีวิตประจาวนั ได้อยา่ งถกู ต้อง 318

326 323619 การวดั และประเมนิ ผล วิธีการ เครือ่ งมอื ที่ใช้ เกณฑ์ สิ่งทตี่ ้องการวดั /ประเมนิ สังเกต แบบสังเกตพฤติกรรม ผ่านเกณฑ์การประเมนิ ดา้ นความรู้ การเรียน ร้อยละ ๘๐ ขน้ึ ไป ๑. บอกความหมายของคา บุพบทได้ ๒. ชนดิ และหน้าทขี่ องคา บุพบทได้ ดา้ นทักษะและกระบวนการ ๑. ตรวจใบงาน ๑. ใบงานเร่อื ง คาบุพบท ผ่านเกณฑ์การประเมนิ ๑. วเิ คราะหค์ าบุพบทได้ ๒. ทาแบบทดสอบ ๒. แบบทดสอบเรอ่ื ง รอ้ ยละ ๘๐ ขน้ึ ไป ๒. ใชค้ าบพุ บทได้อยา่ ง คาบพุ บท ถกู ต้อง ด้านคณุ ลักษณะ ประเมินจากคณุ ลักษณะ แบบประเมินคณุ ลักษณะ ผ่านเกณฑ์คุณภาพ ๑. มีวินัย ระดับ ๒ ๒. ใฝเ่ รียนรู้ ๓. มงุ่ มั่นในการทางาน ๔. รกั ความเปน็ ไทย ๘. บันทกึ ผลหลังสอน ผลการเรยี นรู้ ............................................................................................................................. ....................................................... ปญั หาและอุปสรรค ......................................................................................................................................................................... ........... ขอ้ เสนอแนะและแนวทางแก้ไข ............................................................................................. ....................................................................................... ลงชอ่ื ...................................................ผู้สอน (.................................................................) วนั ท.่ี ............เดือน...............พ.ศ…………… ๙. ความคดิ เห็น/ข้อเสนอแนะของผ้บู รหิ ารหรือผู้ทไ่ี ด้รับมอบหมาย ............................................................................................................................. ....................................................... ลงชอื่ ...................................................ผู้ตรวจ (.................................................................) วนั ท่.ี ............เดอื น...............พ.ศ……………

327 332207 ใบความรเู้ รือ่ ง คาบุพบท หนว่ ยที่ ๔ แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี ๓ เรอ่ื ง คาบุพบท รายวิชาภาษาไทย รหัส ท๒๑๑๐๑ ภาคเรียนที่ ๑ ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ ๑ คาบุพบท คือ คาที่ปรากฏหน้าคานาม หรือคาสรรพนามเพ่ือบอกความสัมพันธ์ระหว่างคาน้ัน กับคาอ่ืน ในประโยคเดียวกนั ให้นักเรียนสังเกตประโยคต่อไปน้ี (นาวินี หลาประเสรฐิ และคณะ, ๒๕๔๘, หน้า ๓๘ – ๓๙) ๑. แมวนอนบนโซฟา ๒. นกั สารวจค้นพบลาธารใตห้ บุ เขา ๓. การ์ตนู ของเธอมีสสี ันสวยงาม ๔. ครกู าลังอา่ นพระราชบัญญัติการศึกษาแหง่ ชาติ ๕. ลูกมอบพวงมาลยั แด่แม่ ๖. พ่อทุ่มเททางานเพ่ือครอบครวั ๗. ชาวบา้ นบางระจันรวมพลงั กนั ตอ่ สู้กบั ข้าศกึ ๘. พ่ไี ปเขา้ ค่ายจรยิ ธรรมเมอื่ วนั ศุกร์ ๙. ศิษย์ดีเพราะครู ประโยคที่ ๑ และ ๒ มคี าว่า บน ใต้ บอกตาแหน่ง ทตี่ ัง้ สถานที่ ประโยคท่ี ๓ และ ๔ มีคาวา่ ของ แหง่ บอกความเปน็ เจ้าของ ประโยคที่ ๕ มคี าว่า แด่ บอกผู้รบั ผล ประโยคท่ี ๖ มคี าวา่ เพ่ือ บอกความมุ่งหมาย ประโยคท่ี ๗ มคี าว่า กบั บอกความเกี่ยวข้อง ประโยคท่ี ๘ มีคาว่า เม่อื บอกเวลา ประโยคท่ี ๙ มคี าวา่ เพราะ บอกเหตุผล สรุปได้ว่าคาบุพบทบอกความหมายหลายประการ ดงั ปรากฏในเร่ืองชนดิ ของคาบุพบท ดังนี้

328 3281 ชนิดของคาของคาบุพบท คาบุพบทแบ่งออกเป็น ๒ ชนิด ๑. คาบพุ บทท่ีแสดงความสมั พันธ์ระหว่างคา คือ ความสัมพนั ธร์ ะหว่างคานามกับคานาม คาสรรพนาม กับคานาม คานามกับคากริยา คาสรรพนามกับคาสรรพนาม คาสรรพนามกับคากริยา คากริยากับคานาม คากรยิ ากับคาสรรพนาม คากริยากับคากรยิ า เพือ่ บอกสถานการใหช้ ดั เจน ดังนี้ ๑.๑ บอกสถานภาพความเปน็ เจา้ ของ เช่น แห่ง ของ พ่อซ้ือสวนของนายทองคา (นามกบั นาม) ๑.๒ บอกความเกย่ี วข้อง เช่น กบั แก่ แด่ แต่ ต่อ เพ่ือ สา หรบั โดย ท้งั เฉพาะ ตาม เขาเห็นแกก่ นิ (กริยากบั กริยา) คุณครใู ห้รางวลั แกฉ่ นั (นามกับสรรพนาม) ๑.๓ บอกเวลา เชน่ ตงั้ แต่ จน จนกระทัง่ เมื่อ เขามาต้งั แตเ่ ชา้ (กรยิ ากบั นาม) ๑.๔ บอกสถานที่ เช่น ใกล้ ไกล ใน บน นอก เขามาจากต่างจังหวดั (กริยากบั นาม) ๑.๕ บอกความเปรยี บเทยี บ เช่น พห่ี นักกว่าฉนั (กรยิ ากับสรรพนาม) ๒. คาบุพบทที่ไม่มีความสัมพันธ์กับคาอ่ืน ส่วนมากจะอยู่ต้นประโยค ใช้เป็นการทักทาย มักใช้ใน คาประพันธ์ เช่นคาว่า ดกู อ่ น ขา้ แต่ ดูกร คาเหลา่ นี้ใช้นาหน้าคาสรรพนามหรือคานาม เช่น ดกู อ่ น ภิกษุท้ังหลาย ข้าแต่ทา่ นท้งั หลายโปรดฟงั ขา้ พเจา้ หนา้ ทข่ี องคาบุพบท หน้าท่ีของคาบุพบท มีดังนี้คือ เขาไปกับเพ่ือน ๑. ทาหน้าทน่ี าหนา้ นาม เชน่ ฉนั ชอบอยใู่ กล้เธอ เขาทางานกระทั่งตาย หนังสือของพ่อหาย เขาพูดเสยี งดงั กับคนไข้ ๒. ทาหน้าทน่ี าหนา้ สรรพนาม เชน่ เขาเลวสน้ิ ดี ปากกาของฉนั อยู่ท่ีเขา ๓. ทาหน้าทนี่ าหนา้ กริยา เชน่ เขากนิ เพ่ืออยู่ ๔. ทาหน้าทีน่ าหน้าประโยค เช่น เขามาต้ังแต่ฉันตื่นนอน ๕. ทาหน้าที่นาหนา้ คาวิเศษณ์ เช่น เขาต้องมาหาฉันโดยเรว็

329 332229 ใบงานเร่อื ง คาบพุ บท หน่วยที่ ๔ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๓ เรอ่ื ง คาบพุ บท รายวชิ าภาษาไทย รหัส ท๒๑๑๐๑ ภาคเรียนท่ี ๑ ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๑ ตอนที่ ๑ คาชี้แจง ใหน้ กั เรียนขดี เส้นใตค้ าบุพบทจากประโยคต่อไปน้ี ๑. สมชายเหน็ กับตาว่าสมบัตเิ จาะยางรถสมพงษ์ ๒. สมศักดว์ิ าดภาพลายเสน้ ด้วยดนิ สอสองบี ๓. วันน้ลี ูก ๆ ของสมศรยี อมไปโรงเรยี นโดยดี ๔. สมประสงคถ์ อื คตกิ นิ เพ่ืออยไู่ มใ่ ชอ่ ยู่เพ่ือกิน ๕. ถา้ สมโชคจะไปเท่ียวสมทุ รสงครามทางเรือต้องออกจากบ้านแตเ่ ช้า ๖. เจา้ กาโน่สนุ ขั ของสมปรารถนาแสนรู้มาก ๗. ทา่ นสนุ ทรภู่ เป็นยอดกวีแหง่ กรงุ รัตนโกสนิ ทร์ ๘. บ้านสมควรอยู่ในหมู่บา้ นป้อมปราการวิลล่า ๙. ไขป่ ลาคาร์เวียร์จานนส้ี าหรบั ทา่ นอธบิ ดีเท่านัน้ ๑๐. คุณสมศริ ิเขียนบทละครเวทีใกลเ้ สร็จแลว้ ตอนท่ี ๒ คาชีแ้ จง ให้นักเรียนนาคาบุพบทท่ีเหมาะสมมาเขียนลงในช่องว่างในประโยคต่อไปน้ี ๑. มนุษยต์ ้องคบหาสมาคมแลกเปล่ยี นความคดิ เห็น_______กันและกนั ๒. คนดยี อ่ มมคี วามกตญั ญู______พอ่ แม่ ๓. ข้าพเจ้ายังหาทางออกไม่ได้_____ปญั ญาจริงๆ ๔. หนังสือเล่มนีม้ ีความรูท้ วั่ ไปเก่ียว_________จติ ดว้ ย ๕. รัฐบาลสร้างอนุสาวรยี ท์ ีเ่ มืองแกลง_______เป็นเกยี รติ_______ทา่ นสนุ ทรภู่ ๖. ทด่ี นิ ในจงั หวดั เพชรบรู ณ์ เป็นดินดีเหมาะ________การทาไร่นา ๗. ยาเสพติดใหโ้ ทษ_________รา่ งกาย ๘. คนสว่ นมากเมือ่ ________ตัวเข้ากห็ นั เข้าหาท่พี ึงทางใจ ๙. เขามนี ิสัยเช่นน้ี________ไหน________ไรนา ๑๐. กรรมการเสนอเรอื่ ง________ทป่ี ระชมุ

330 332330 เฉลยใบงานเรอ่ื ง คาบพุ บท หน่วยท่ี ๔ แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๓ เรอื่ ง คาบุพบท รายวิชาภาษาไทย รหัส ท๒๑๑๐๑ ภาคเรียนท่ี ๑ ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ ๑ ตอนที่ ๑ คาชแี้ จง ให้นักเรียนขีดเส้นใต้คาบุพบทจากประโยคต่อไปน้ี ๑. สมชายเหน็ กบั ตาวา่ สมบตั เิ จาะยางรถสมพงษ์ ๒. สมศกั ดิว์ าดภาพลายเส้นด้วยดนิ สอสองบี ๓. วนั น้ลี กู ๆ ของสมศรียอมไปโรงเรียนโดยดี ๔. สมประสงคถ์ อื คตกิ ินเพื่ออย่ไู มใ่ ช่อยเู่ พ่ือกนิ ๕. ถ้าสมโชคจะไปเทยี่ วสมุทรสงครามทางเรือต้องออกจากบา้ นแต่เชา้ ๖. เจ้ากาโนส่ ุนขั ของสมปรารถนาแสนรูม้ าก ๗. ทา่ นสนุ ทรภู่ เป็นยอดกวีแห่งกรงุ รัตนโกสนิ ทร์ ๘. บา้ นสมควรอยู่ในหมูบ่ ้านปอ้ มปราการวลิ ล่า ๙. ไข่ปลาคารเ์ วียร์จานนี้สาหรบั ทา่ นอธิบดเี ท่านั้น ๑๐. คุณสมศริ เิ ขยี นบทละครเวทีใกล้เสรจ็ แล้ว ตอนท่ี ๒ คาชแ้ี จง ใหน้ กั เรียนนาคาบพุ บททเ่ี หมาะสมมาเขยี นลงในชอ่ งว่างในประโยคต่อไปนี้ ๑. มนุษย์ต้องคบหาสมาคมแลกเปล่ยี นความคิดเห็น_______กันและกัน ๒. คนดยี อ่ มมีความกตัญญู______พ่อแม่ ๓. ข้าพเจา้ ยงั หาทางออกไม่ได้_____ปัญญาจรงิ ๆ ๔. หนังสือเล่มนี้มคี วามรทู้ วั่ ไปเกี่ยว_________จติ ด้วย ๕. รัฐบาลสร้างอนสุ าวรียท์ ่ีเมอื งแกลง_______เป็นเกยี รติ_______ท่านสนุ ทรภู่ ๖. ทีด่ นิ ในจงั หวดั เพชรบรู ณ์ เปน็ ดินดเี หมาะ________การทาไรน่ า ๗. ยาเสพติดใหโ้ ทษ_________รา่ งกาย ๘. คนส่วนมากเม่ือ________ตวั เข้าก็หนั เข้าหาท่พี ึงทางใจ ๙. เขามีนิสยั เช่นน้ี________ไหน________ไรนา ๑๐. กรรมการเสนอเรอื่ ง________ทีป่ ระชมุ เฉลย ๑. ซง่ึ ๒. ตอ่ ๓. จน ๔. กับ ๕. เพอื่ ........แก่ ๖. แก่ ๗. ตอ่ ๘. แก่ ๙. แต่....แต่ ๑๐. ต่อ

333311 33233411 รราายยววิชิชาาภภาาษษาาไไททยย หหรรหหนน่ว่วััสสยยทททท๒๒ีี่่ ๔๔๑๑๑๑แแ๐๐ผผแแแแแ๑๑นนบบบบบกกบบบบบาาทททททรรดดดดจจดสสััดดสสสออกกอออบบาาบบบภภเเรรรรเเาาเเเ่ออื่ืรรรรรคคียยีื่่ือองงือ่ เเนนงงรรงคคยยีีรรคคาาคนน้้ทููทบบาาำทท่่ีี�บบุพุพ๓๓บี่ี่ ุพพุ๑๑บบุพเเบบททรรบืือ่่อทททงง คคาาบบพุุพบบชชทท้ันั้นมมัธัธยยมมศศึกึกษษาาปปีีทท่ี่ี ๑๑ ๑ค๑ค๒๓๒๓๔๖๔๖๕๕าา............ ชชปป“ข“ขปขปขคค้แีี้แเเ้ออ้อ้้อาารรรรขขววจจะะะะใใใใาาดดดด่าา่งงโโโโยยยยยยใใตตคกขกงคคกงกขคงคขกขกคงคขกกงคงขคกคงกขคกงกขค““ชชืน่น่ื........คคคคัดัด................................ใใเเ้คค้คคคคนนเเเเใใหหพพคคนนมมชชแแกดกดนนพชพช๓๓แเแเททเเเเ๕๕ดพดพ““นนขขขขขขาาาารร้า้ามมูชูชาาดบับัดชููชววอืน้น้อืรร้อ้อ้ออ้กุุก่อ่อ็ก็กหหบบลลรรขขาาาาาาูมมูตตบบงงาากกกก่ออ่ส่่สงงงงคคักกักกคคไไคคเเอ้้อไรไรงงนนอุ้้อุพพดดออกกะะออไไหหพุุพรรปตปตยตยตาานนเเลลอ้้อเเาาาางงปปใใังงั””บบาบาบไไรรพพบ้้บหหาา่ทูู่ทน็็นาาาานนบบ..ดดับับงงออสสหหวว..ยยีีโโบบททททยยยยา้้ารรรรเเ..เเ่บีีบ่มมใใออรรททยยบบืออืออ..ลลพพนนหหนนาานนบัับเเเเนน..ุนุนถถงงกกีคีค้้าา่ใูใู่..ขขพพอพพอยย้า้ามมะะลล..ตตคคเเ้้ตตาาหหกููกขขกกนน..เเาานนออททออรรูบ่บู่รราารรมม..งงโโมมุกกุนน้กก้้้ตตออ..าารรบบททียยีงงจจาาแแดดาา..กกเเาานนาาาาืื..ออรรับับฎฎใใ้้นนออพพแแะะะะนนุพุพศศาาุกุกตตเเยยกกกกดดฟฟรรศศงงคคงงเเหหั้น้นักกคคเเกกรราาววดด่วว่เเบบย็็ยนนณณขขดดเเขขึึกกา้า้รรรราาลลว้ว้ววปปยยมมนัขขนันันัว้้วงังัททา่า่าา้วว้าาว็ว็ษษะะืื่ออ่์กก์ตตาา””ออออสสยยาา็นน็ฟฟสสโโยยนนมมมมงงับับาาาายยลลดดาาออพพววคครรัังงคคหหาาแแาาออโโมมตตภภเเาายยจจถถี่ี่าาลลหหกกววขขกกยยมมหหาาาาบบงงรรปปภภรรนนาาเ่่เบู่่บูตตรราาาาิงิงาาๆๆดดุพุพเเรรถถ้าา้ยยมมนนตตนนรร็็ะะกกๆๆบบคคสสไไมิมิเเโโจจยยปปออาาททตต่ืออื่ คคXXาาาาววงงเเ๊ะะ๊สสททาากผกผเิเิ ใใาาบบศศจจอ่ื่อืาานนททรรษษงงุุพพนนเเหหไไัับบพพดดณณบบ้อ้อตตื่อ่อืเ้้เทท์์งงขขััววนนสสใใา้้าออขขดดมมใใัักกออจจุุดดษษงงททเเรรขข่ีโโี่ ททรราางงีี่่ถถเเูกูกรรตตียียงขงขขงขงนนอ้้อ........ งงตต๖๖””แแ๔๔่ออ่กกมมคค่่ คคีคคีาาาาาาบบุุพพบบททกกคี่ีค่ าา

333225 332 ๗. คาบพุ บทในขอ้ ใดใชแ้ ตกต่างจากข้ออ่ืน ข. ทิง้ ขยะลงในถัง ก. คนแคระนอนอยู่ใต้โตะ๊ ง. เขาเดินทางโดยเครื่องบนิ ข. ไอโฟน ๑๒ เคร่ืองนน้ั เป็นของครู ค. ดอกไม้สวยงามออ่ นหวานชอ่ น้ีเพ่ือเธอ ข. พอ่ ทางานทจ่ี ังหวัดเพชรบรุ ี ง. แมท่ าอาหารเช้าสาหรับลกู น้อยทุก ๆ วนั ง. คนทฉ่ี ลาดย่อมขวนขวายหาความรู้ ๘. ข้อใดใช้คาบุพบทได้เหมาะที่สดุ ก. คนจนี กนิ อาหารโดยตะเกียบ ข. ฉนั ตเี ขากบั มอื ของฉนั เอง ค. นกั เรยี นมอบพวงมาลยั แก่คณุ ครู ง. นกั ฟตุ บอลแข่งขนั ด้วยนา้ ใจนักกฬี า ๙. ข้อใดมบี ุพบทแสดงความเป็นเจา้ ของ ก. ทหารสละชวี ิตเพอ่ื ชาติ ค. พอ่ ของฉนั เป็นคนใจดี ๑๐. คาทพ่ี ิมพ์ตวั หนาข้อใดเป็นคาบุพบท ก. เขาซื้อทขี่ องพ่อคา้ เพชร ค. เขาทางานทไ่ี ดเ้ งนิ เดือนสงู เฉลย ขอ้ ๑ ข. ขอ้ ๒ ง. ขอ้ ๓ ง. ข้อ ๔ ข. ขอ้ ๕ ข. ข้อ ๖ ข. ขอ้ ๗ ค. ขอ้ ๘ ง. ขอ้ ๙ ค. ข้อ ๑๐ ข.

333 แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๔ หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ ๔ เรือ่ ง นิทานสารพนั เร่ือง สนั ธานเร่งจดจา เวลา ๑ ช่ัวโมง กลุม่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย รายวิชาพื้นฐานภาษาไทย ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๑ ขอบเขตเน้อื หา กิจกรรมการเรียนรู้ สื่อ/แหลง่ เรียนรู้ ข้ันนา ๑. แถบประโยค ชนิดและหน้าทีข่ องคาสนั ธาน นกั เรียนอ่านข้อความจากแถบประโยคท่ีกาหนดให้ ๒. ใบความรู้ เร่ือง คาสนั ธาน จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ต่อไปน้ี ๓. เกม “แยกใหอ้ อก” ด้านความรู้ พอ่ ...............แม่ของผมเป็นคนใต้ ๔. นทิ าน เรื่อง ก้อนหินวิเศษ สงกรานต์กนิ ปลาดบิ ...............สมชายกินปลารา้ ๕. ใบงาน เรอ่ื ง ชนิดของคาสันธาน ๑. บอกความหมายของคาสนั ธานได้ นักเรียนชอบเรยี นวชิ าคณติ ศาสตร์.......วชิ าภาษาไทย ภาระงาน/ชน้ิ งาน ๒. บอกชนิดของคาสนั ธานได้ แล้วใหน้ กั เรยี นชว่ ยกันสงั เกตและหาคาเช่ือมประโยคให้ ครูให้นกั เรียนรวบรวมคำ�สันธาน ด้านทักษะและกระบวนการ สมบูรณ์ (และ, แต/่ สว่ น, หรอื ) จากบทเพลงทนี่ กั เรยี นชน่ื ชอบ จาแนกชนดิ ของคาสนั ธานในประโยคได้ ขนั้ สอน ดา้ นคณุ ลกั ษณะ ๑. นกั เรียนศึกษาใบความร้เู รือ่ ง คาสนั ธาน ครอู ธบิ าย ๑. ซอื่ สัตย์ สุจรติ เพมิ่ เติม แลว้ จากนนั้ ครูและนักเรียนอภปิ รายถึงลกั ษณะ ๑. มีวนิ ัย ของคาสนั ธานพร้อมท้งั ยกตวั อยา่ ง ๒. ใฝเ่ รียนรู้ ๒. นักเรยี นแบง่ กลุ่มแขง่ ขนั เกม “แยกให้ออก” ๓. มงุ่ มน่ั ในการทางาน โดยจาแนกสนั ธาน ดังนี้ กบั ไม่เชน่ นน้ั พอ...ก็ หรือ แต่ ก็ เหตเุ พราะ แม.้ ..ก็ เมอื่ ...ก็ และ เพราะฉะนัน้ แตท่ วา่ เพราะ...จงึ มิฉะนนั้ คร้นั ...ก็ ดงั นั้น...จงึ ถงึ ...ก็ ฉะน้ัน วา่ เป็นคาสนั ธานประเภทใด 333236

หน่วยการเรียนร้ทู ี่ ๔ เรอื่ ง นทิ านสารพัน แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี ๔ 334 กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย เร่ือง สันธานเรง่ จดจา เวลา ๑ ชั่วโมง รายวิชาพ้ืนฐานภาษาไทย ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี ๑ ๓. นกั เรียนทกุ กลุม่ อา่ นนิทาน เรอ่ื ง ก้อนหนิ วิเศษ แล้วแข่งขันกนั หาคาสันธานที่ปรากฏ ๔. นักเรยี นทาใบงานเรือ่ ง ชนิดของคาสนั ธาน ครตู รวจ ใบงานให้นักเรยี นแก้ไขเพมิ่ เติม ขนั้ สรปุ ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันสรปุ เรือ่ ง คาสนั ธานบันทึกลงใน สมุด 327

332385 335 การวัดและประเมินผล สงิ่ ท่ีต้องการวัด/ประเมนิ วธิ กี าร เครอื่ งมอื ทใ่ี ช้ เกณฑ์ ดา้ นความรู้ แบบสงั เกตการ ผา่ นเกณฑ์การประเมิน ๑. บอกความหมายของ สังเกตการทางานกลุ่ม ทางานกลมุ่ ร้อยละ ๘๐ ข้ึนไป คาสันธานได้ ๒. บอกชนิดของคาสนั ธานได้ ด้านทกั ษะและกระบวนการ จาแนกชนดิ ของคาสันธานใน ตรวจใบงาน ใบงานเร่อื งชนิดของ ผ่านเกณฑ์การประเมนิ ประโยคได้ คาสนั ธาน รอ้ ยละ ๘๐ ข้ึนไป ดา้ นคณุ ลักษณะ ประเมินคุณลักษณะ แบบประเมนิ ผา่ นเกณฑ์คณุ ภาพ ๑. ซอ่ื สัตย์ สุจรติ คุณลักษณะ ระดับ ๒ ๑. มวี นิ ยั ๒. ใฝ่เรียนรู้ ๓. มุ่งม่นั ในการทางาน ๘. บันทกึ ผลหลังสอน ผลการเรียนรู้ ............................................................................................................................. ....................................................... ปญั หาและอุปสรรค .................................................................................................................................................................................... ขอ้ เสนอแนะและแนวทางแก้ไข ............................................................................................................. ....................................................................... ลงช่อื ...................................................ผสู้ อน (.................................................................) วันท.ี่ ............เดือน...............พ.ศ........... ๙. ความคิดเหน็ /ขอ้ เสนอแนะของผบู้ รหิ ารหรือผู้ทีไ่ ด้รับมอบหมาย ............................................................................................................................. ....................................................... ลงช่อื ...................................................ผู้ตรวจ (.................................................................) วนั ท.่ี ............เดือน...............พ.ศ...........

336 32369 ใบความร้เู รื่อง คาสนั ธาน หน่วยท่ี ๔ แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๔ เร่ือง สันธานเรง่ จดจา รายวิชาภาษาไทย รหัส ท๒๑๑๐๑ ภาคเรียนที่ ๑ ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ ๑ ความหมายของคาสันธาน คาสันธาน หมายถึง คาท่ีใช้เช่ือมคาหรือข้อความให้ติดต่อเป็นเรื่องเดียวกัน ประโยคจะมีความกระชับ และสละสลวยขน้ึ ชนดิ ของคาสนั ธาน คาสันธานแบ่งออกเป็น ๔ ชนิด ดังน้ี ๑. คาสันธานทเ่ี ชอ่ื มใจความคลอ้ ยตามกัน ไดแ้ กค่ าว่า กับ และ ก็ คร้งั ...ก็ เมื่อ...ก็ พอ...ก็ เชน่ พอฝนหยุดตกกบเขียดกร็ ้องส่งเสยี งระงม นอ้ งกับพี่ไปโรงเรียน ๒. คาสนั ธานทเี่ ช่ือมใจความขดั แยง้ กัน ได้แก่คาวา่ แต่ แต่ทวา่ ถึง...ก็ แม.้ ..ก็ เชน่ ถงึ เขาจะยากจนแตเ่ ขากม็ คี วามสุข เขาวงิ่ เรว็ มากแตว่ า่ ไม่เหนื่อยเลย ๓. คาสันธานที่เชื่อมใจความเป็นเหตุเป็นผลกัน ได้แก่คาว่า ดังนั้น เพราะฉะน้ัน เพราะ...จึง ดังนั้น...จึง จงึ ด้วย เหตเุ พราะ ฉะนัน้ เช่น เพราะเขาขยันอา่ นหนงั สือ เขาจึงสอบผา่ น เขาเกยี จคร้านจึงสอบตก ๔. คาสันธานทีเ่ ช่อื มใจความให้เลือกอย่างใดอย่างหนง่ึ ไดแ้ ก่คาว่า หรือ มฉิ ะน้นั ไม.่ ..ก็ ไมเ่ ช่นนัน้ เชน่ เธอจะไปกับผมหรือเธอจะไปกับเขา คณุ ต้องเข้าหอ้ งสอบก่อนเวลา ๙.๐๐ น. มิฉะน้ันจะถูกตดั สิทธิ์ในการสอบ หนา้ ทขี่ องคาสนั ธาน ๑. เชอ่ื มประโยคกับประโยค เชน่ ฉันอยากไดก้ ระเปา๋ ทีร่ าคาถกู และใช้งานไดน้ าน ๒. เชื่อมคากับคาหรือกลุ่มคา เช่น พอ่ ของฉันลาบากเมื่อแก่ ๓. เช่ือมความให้สละสลวย เชน่ คนเราก็ย่อมเกิดความผดิ พลาดกันบ้าง ๔. เชื่อมข้อความกับข้อความ เชน่ คนเราต้องการอาหาร เสอ้ื ผา้ เคร่ืองนุ่งห่ม ทอ่ี ยู่อาศัย และยารักษาโรค ดว้ ยเหตุนี้ เราจงึ จาเปน็ ต้องประกอบอาชีพเพื่อให้ได้เงินมาซ้ือสิ่งจาเปน็ เหล่านี้

337 333370 นิทานเรื่อง ก้อนหนิ วิเศษ หนว่ ยท่ี ๔ แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ ๔ เรื่อง สนั ธานเร่งจดจา รายวชิ าภาษาไทย รหัส ท๒๑นทิ๑า๐น๑เรือ่ ง ก้อนภหานิควเริเยีศนษที่ ๑ ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ ๑ คาชี้แจง ให้นักเรยี นอา่ นนิทาน แล้วหาคาสันธานที่ปรากฏ นานมาแล้ว ได้ยินมาว่ามีหินวิเศษอยู่ชนิดหนึ่ง ถ้าผู้ใดท่ีได้ครอบครอง จะสามารถนาไปแตะกับสิ่งของ อะไรก็ได้ สิ่งน้ันจะกลายเป็นทองคา ทาให้ชายผู้หนึ่งเกิดความสนใจ อยากจะเปลี่ยนแปลงชีวิตให้เป็นคนร่ารวย ขึน้ มา จงึ ตามหาหินกอ้ นน้ันเป็นการใหญ่ เม่ือตามหาจนถึงชายหาดแห่งหนึ่ง ซ่ึงเต็มไปด้วยก้อนหิน เขาตัดสินใจเก็บหินขึ้นมาดูทีละก้อน ถ้าก้อน ไหนไม่ใช่ก็จะขว้างมันลงทะเลไป เขาใช้ความพยายามอยู่นาน จากวันเป็นเดือน จากเดอื นเป็นปี ก้อนแลว้ ก้อนเล่า กย็ งั ไมใ่ ชส่ ิง่ ท่เี ขาคน้ หาอยดู่ ี และในที่สุด ความพยายามของเขาก็ประสบความสาเร็จจนได้ เขาได้พบกับหินวิเศษจริงๆ แต่ไม่ทันท่ีเขา จะได้คดิ อะไร เขาก็ขว้างมันลงทะเลไปเหมอื นหินก้อนที่ผา่ นๆ มา เขาตกใจมาก ถึงกับราพันออกมาว่า \"ตอ้ งเร่ิมต้น ใหม่อีกแลว้ หรอื เนีย่ \" ในชายหาดนั้น จะมีหินวิเศษชนิดนี้สักก่ีก้อนกันเชียว เหตุผลที่ทาให้ชายคนน้ีละท้ิงส่ิงท่ีเขาค้นหามานาน ก็คือ 'ความเคยชนิ ' นัน่ เอง บ่อยคร้ัง ที่เราพยายามค้นหาส่ิงท่ีต้องการมาตลอดชีวิต จนกระทั่งวันหน่ึงท่ีเรามี “โอกาส” พบมันแล้ว แต่ดว้ ย “ความเคยชนิ ” ในชีวติ ประจาวัน เราก็มองขา้ ม 'โอกาส' น้ันไป 'โอกาส' ท่ีอาจจะไม่ปรากฏบ่อยนัก เราจึง ตอ้ งเริม่ ตน้ ใหม่อยูร่ ่าไป อย่าคิดแต่จะเร่ิมต้นใหม่ เพราะสิ่งท่ีมีอยู่คือโอกาส ส่ิงใหม่คือความหวัง ท้ิงเก่าไปหาใหม่ ก็เท่ากับ ทง้ิ โอกาสทม่ี อี ยู่ แล้วไปรอความหวังทีย่ ังมาไมถ่ ึง

338 333381 ใบงานเรอ่ื ง ชนดิ ของคาสันธาน หนว่ ยท่ี ๔ แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ ๔ เรื่อง สนั ธานเร่งจดจา รายวชิ าภาษาไทย รหใัสบทงา๒น๑เ๑ร๐ื่อ๑ง ชนิดของคภาาสคันเรธียานนท่ี ๑ ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี ๑ คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นแยกประโยคตอ่ ไปนี้ และบอกคำสนั ธำนท่ีใช้เชือ่ มประโยค ว่ำเป็นสันธำนชนิดใด ตัวอยา่ ง เมอ่ื แม่ไปวัดพอ่ กเ็ ข้ำมำบำ้ น แมไ่ ปวัด พ่อเข้ำบำ้ น เมื่อ.......ก็ เป็นคำสันธำนชนดิ เชอ่ื มใจควำมเน้ือควำมคลอ้ ยตำมกนั ๑. แม้เขำเรยี นไมเ่ กง่ แต่มีควำมพยำยำม .................................................................................................................................................................................... ........................................... เป็นคำสันธำนชนดิ ....................................................................................................... ๒. ผมตั้งใจทำงำนเพรำะฉะนั้นผลงำนจึงออกมำดี .............................................................................................................. ..................................................................... ........................................... เปน็ คำสันธำนชนดิ ..................................................................................................... ๓. ครูอยู่สฟี ำ้ หรือสแี ดง .................................................................................................................................................................................. ........................................... เปน็ คำสันธำนชนิด ..................................................................................................... ๔. นักเรยี นมำเรียน.................มำเลน่ ............................................................................................ ...................................................................................... ........................................... เป็นคำสนั ธำนชนดิ ..................................................................................................... ๕. ...........เขำมำถงึ เขำ.............หมดกำลงั .................................................................................................. .................................................................................. .......................................... เป็นคำสนั ธำนชนดิ .......................................................................................................

339 333329 เฉลยใบงานเร่ือง ชนิดของคาสนั ธาน หน่วยท่ี ๔ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๔ เรือ่ ง สนั ธานเร่งจดจา รายวชิ าภาษาไทย รหัส ท๒๑๑๐๑ ภาคเรียนที่ ๑ ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ ๑ คาชแี้ จง ให้นกั เรยี นแยกประโยคตอ่ ไปนี้ และบอกคำสนั ธำนที่ใชเ้ ช่อื มประโยค วำ่ เป็นสันธำนชนดิ ใด ตวั อย่าง เม่ือแม่ไปวัดพอ่ กเ็ ขำ้ มำบำ้ น แม่ไปวดั พ่อเข้ำบำ้ น เมอ่ื .......ก็ เป็นคำสันธำนชนดิ ทเี่ ช่ือมใจควำมเนื้อควำมคล้อยตำมกัน ๑. แม้เขำเรยี นไมเ่ กง่ แต่มีควำมพยำยำม เขำเรยี นไม่เก่ง เขำมคี วำมพยำยำม แม้........แต่ เปน็ คำสนั ธำนชนิดทีเ่ ชอ่ื มใจความขดั แย้งกัน ๒. ผมตงั้ ใจทำงำนเพรำะฉะนั้นผลงำนจงึ ออกมำดี ผมต้ังใจทำงำน ผลงำนออกมำดี เพรำะฉะนัน้ ..... จึง เปน็ คำสันธำนชนิดท่เี ชอ่ื มใจความเป็นเหตเุ ปน็ ผลกนั ๓. ครอู ยูส่ ฟี ำ้ หรอื สีแดง ครอู ยสู่ ฟี ้ำ ครูอย่สู ีแดง หรอื เป็นคำสนั ธำนชนิดทเ่ี ช่อื มใจความใหเ้ ลือกอย่างใดอย่างหนง่ึ ๔. นักเรยี นมำเรยี น.......หรอื ..........มำเลน่ นักเรียนมำเรียน นกั เรยี นมำเลน่ หรอื เปน็ คำสนั ธำนชนดิ ทีเ่ ชอื่ มใจความใหเ้ ลือกอย่างใดอยา่ งหน่ึง ๕. พอ เขำมำถึงเขำ ก็ หมดกำลัง เขำมำถึงเขำ เขำหมดกำลัง พอ...ก็ เป็นคำสันธำนชนดิ ทเี่ ชื่อมใจควำมเนื้อควำมคลอ้ ยตำมกัน

340 แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๕ เวลา ๑ ชั่วโมง หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๔ เร่อื ง นทิ านสารพัน เร่ือง สันธานเร่งจดจา กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย รายวิชาพ้ืนฐานภาษาไทย ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ ๑ ขอบเขตเนือ้ หา กจิ กรรมการเรยี นรู้ สื่อ/แหลง่ เรยี นรู้ ขัน้ นา ๑. ใบความรเู้ ร่ือง คาสันธาน ชนิดและหน้าทขี่ องคาสนั ธาน ครสู นทนากบั นกั เรยี น เรื่อง คาสันธาน และให้ ๒. ใบงานเรอ่ื ง เลือกสรรสันธาน จุดประสงค์การเรยี นรู้ นกั เรียนยกตัวอย่างคาสันธาน จากน้นั ครเู ชอ่ื มโยง ๓. แบบทดสอบเร่ือง คาสนั ธาน ดา้ นความรู้ เขา้ ส่เู รื่อง หนา้ ท่ีของคาสันธาน ขัน้ สอน ภาระงาน/ช้นิ งาน ๑. อธบิ ายความหมายคาสนั ธานได้ ๑. นกั เรียนศึกษาใบความรู้ เรือ่ ง คาสนั ธาน แผนภาพความคิด ๒. อธบิ ายชนิดและหน้าทขี่ องคาสันธานได้ และรว่ มกันวเิ คราะหป์ ระโยคท่ีมสี นั ธานในประโยค ด้านทักษะและกระบวนการ แตล่ ะชนิดมเี นื้อความแตกต่างกนั อยา่ งไร ๑. วิเคราะห์ชนิดและหน้าที่ของ ๒. นกั เรยี นวเิ คราะห์คาสนั ธานในประโยค คาสันธานได้ ๓. นักเรยี นทาใบงาน เรอ่ื ง เลือกสรรสนั ธาน ๒. ใช้คาสันธานได้ถูกตอ้ ง จากนัน้ ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันเฉลยคาตอบพร้อม ด้านคุณลักษณะ กนั นกั เรียนฝึกสังเกตคาสันธานทไี่ ด้เรยี นมาแลว้ ๑. มีวินยั ศกึ ษาความแตกตา่ งครแู ละนักเรียนสรุปเป็นความรู้ ๒. ใฝ่เรยี นรู้ นกั เรียนบนั ทกึ ลงสมดุ ๓. มุ่งมนั่ ในการเรียนรู้ ๔. นักเรียนทาแบบสดสอบ เรือ่ ง สนั ธาน ครแู ละ นกั เรียนร่วมกันเฉลยแบบทดสอบ ขัน้ สรปุ ครใู หน้ ักเรียนสรุปความรู้ เรือ่ ง คาสนั ธานโดย การสรปุ ลงแผนภาพความคดิ ใหค้ รอบคลุมเน้ือหา สาระทีเ่ กย่ี วข้องกับคาสนั ธาน นาส่งตามที่ครู กาหนด 333340

341 341 334 การวดั และประเมินผล วิธกี าร เคร่อื งมอื ท่ใี ช้ เกณฑ์ สง่ิ ที่ต้องการวัด/ประเมนิ ๑. สงั เกตจากการตอบ ๑. แบบสังเกตพฤตกิ รรม ผา่ นเกณฑ์การประเมิน ด้านความรู้ คาถามและการยกตัวอย่าง รอ้ ยละ ๘๐ ขนึ้ ไป ๑. บอกความหมายของ คาสันธานได้ ๒. บอกชนดิ และหน้าที่ของ คาสันธานได้ ด้านทักษะและกระบวนการ ๑. ตรวจใบงาน ๑. ใบงาน เรื่อง เลอื กสรร ผ่านเกณฑ์การประเมนิ ๑. วิเคราะหช์ นิดและ ๒. ทาแบบทดสอบ เรื่อง คาสนั ธาน ร้อยละ ๘๐ ข้นึ ไป คาสนั ธาน ๒. แบบทดสอบ เรือ่ ง ผ่านเกณฑ์คณุ ภาพ หน้าท่ีของคาสนั ธานได้ ประเมนิ คุณลักษณะ คาสันธาน ระดับ ๒ ๒. ใช้คาสนั ธานได้ถกู ตอ้ ง แบบประเมนิ คุณลักษณะ ดา้ นคณุ ลกั ษณะ ๑. มีวินยั ๒. ใฝเ่ รียนรู้ ๓. มงุ่ ม่นั ในการทางาน ๘. บันทกึ ผลหลังสอน ผลการเรยี นรู้ ............................................................................................................................. ....................................................... ปญั หาและอุปสรรค .................................................................................................................................................................................... ข้อเสนอแนะและแนวทางแก้ไข ............................................................................................................. ....................................................................... ลงช่ือ...................................................ผสู้ อน (.................................................................) วันท.ี่ ............เดือน...............พ.ศ…………… ๙. ความคิดเหน็ /ข้อเสนอแนะของผูบ้ ริหารหรือผู้ท่ีได้รบั มอบหมาย ............................................................................................................................. ....................................................... ลงชอื่ ...................................................ผู้ตรวจ (.................................................................) วันที่.............เดอื น...............พ.ศ……………

342 334325 ใบความร้เู ร่ือง คาสนั ธาน หน่วยที่ ๔ แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๓ เรอ่ื ง สันธานเรง่ จดจา รายวชิ าภาษาไทย รหัส ท๒๑๑๐๑ ภาคเรียนท่ี ๑ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๑ ใบความรู้ เรอ่ื ง คาสันธาน ความหมายของคาสันธาน คาสันธาน หมายถึง คาที่ใช้เช่ือมคาหรือข้อความให้ติดต่อเป็นเรื่องเดียวกัน ประโยคจะมีความกระชับ และสละสลวยข้นึ ชนดิ ของคาสนั ธาน คาสันธานแบ่งออกเป็น ๔ ชนิด ดังนี้ ๑. คาสันธานทีเ่ ชอื่ มใจความคลอ้ ยตามกนั ไดแ้ ก่คาวา่ กับ และ ก็ ครัง้ ...ก็ เมอ่ื ...ก็ พอ...ก็ เชน่ พอฝนหยดุ ตกกบเขยี ดกร็ ้องสง่ เสียงระงม น้องกับพ่ไี ปโรงเรยี น ๒. คาสันธานทเี่ ชอ่ื มใจความขัดแยง้ กัน ได้แก่คาวา่ แต่ แตท่ ว่า ถึง...ก็ แม.้ ..ก็ เช่น ถึงเขาจะยากจนแต่เขาก็มคี วามสขุ เขาว่ิงเร็วมากแต่วา่ ไม่เหนือ่ ยเลย ๓. คาสันธานที่เช่ือมใจความเป็นเหตุเป็นผลกัน ได้แก่คาว่า ดังน้ัน เพราะฉะน้ัน เพราะ...จงึ ดังนั้น...จึง จงึ ด้วย เหตุเพราะ ฉะนั้น เชน่ เพราะเขาขยันอ่านหนงั สือ เขาจึงสอบผ่าน เขาเกยี จคร้านจึงสอบตก ๔. คาสนั ธานทีเ่ ชอื่ มใจความให้เลอื กอยา่ งใดอยา่ งหนึ่ง ได้แก่คาวา่ หรือ มิฉะนน้ั ไม่...ก็ ไม่เช่นนัน้ เชน่ เธอจะไปกบั ผมหรือเธอจะไปกบั เขา คุณตอ้ งเขา้ ห้องสอบกอ่ นเวลา ๙.๐๐ น. มฉิ ะนัน้ จะถกู ตดั สทิ ธใิ์ นการสอบ หน้าทข่ี องคาสนั ธาน ๑. เชือ่ มประโยคกับประโยค เช่น ฉันอยากได้กระเปา๋ ทร่ี าคาถูกและใช้งานได้นาน ๒. เชือ่ มคากบั คาหรอื กลุ่มคา เช่น พอ่ ของฉันลาบากเมือ่ แก่ ๓. เชอ่ื มความใหส้ ละสลวย เช่น คนเราก็ย่อมเกดิ ความผดิ พลาดกันบ้าง ๔. เชื่อมขอ้ ความกบั ข้อความ เช่น คนเราต้องการอาหาร เสือ้ ผา้ เคร่ืองนุ่งหม่ ทอ่ี ยู่อาศัย และยารักษาโรค ดว้ ยเหตนุ ี้ เราจึงจาเปน็ ต้องประกอบอาชพี เพ่อื ให้ได้เงนิ มาซื้อสง่ิ จาเป็นเหล่านี้

343 334336 ใบงานเรอ่ื ง เลอื กสรรคาสันธาน หน่วยท่ี ๔ แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๓ เร่ือง สนั ธานเร่งจดจา รายวชิ าภาษาไทย รหัส ท๒๑๑๐๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี ๑ ตอนท่ี ๑ คาชแี้ จง จงเติมคาสนั ธานที่เหมาะสมในช่องว่าง ๑. ฉนั ชวนเขาแลว้ ..................เขาไม่ไป ๒. ...........สภุ า ......สุรภี เป็นไข้หวดั ใหญ่ ๓. ..............เขาจะยากจน เขา ........ ไมโ่ กงใคร ๔. ........เขาประมาท เขา ......... ขับรถชนเด็ก ๕. เขาไวใ้ จใหเ้ ราทาเร่ืองนีใ้ ห้เสรจ็ ............ เราจะเหลวไหลไม่ได้ ๖. เธอจะไปรับเงนิ เอง .............เธอจะมอบฉันทะให้ใครไปแทน ๗. ...........รถของเราไปถึงบางแสน ฝน .......ตก ๘. สุดาตอ้ งทางานหนัก...........................เธอจะไมม่ ีเงนิ พอใช้ ๙. ทุกคนยนื ทาความเคารพท่านประธาน................คณุ สริ พิ รรณเธอนงั่ เฉย ๑๐. .....................เธอ..................เขาตา่ งกข็ ยนั เรยี น ตอนที่ ๒ คาช้ีแจง ใหน้ กั เรยี นใชส้ นั ธานเชอ่ื มประโยตต่อไปนใ้ี ห้ถกู ตอ้ งเหมาะสม และบอกชนิดของสันธาน ๑. ฉันชอบกนิ ขนมครกทส่ี ดุ แหววกินขนมครกทีส่ ุด................................................................................................ ..................................... ชนดิ ของสนั ธาน .......................................................................................................... ๒. เขาเรยี นเก่ง เขาสอบเข้ามหาวทิ ยาลัยได้...................................................................................................... ..................................... ชนดิ ของสันธาน .......................................................................................................... ๓. พ่อพาลกู ไปเดินเลน่ ริมทะเล แมพ่ าลูกไปเดินเล่นรมิ ทะเล .............................................................................. ..................................... ชนิดของสันธาน .......................................................................................................... ๔. เธอจะกินแกงเผด็ เธอจะกินแกงจดื ................................................................................................................. ..................................... ชนดิ ของสนั ธาน .......................................................................................................... ๕. คณุ พอ่ ไปทางาน คุณแม่อยู่บ้าน........................................................................................................................... ..................................... ชนิดของสนั ธาน ..........................................................................................................