การวเิ คราะห์คมู่ อื ปฏบิ ัตงิ านเจ้าหนา้ ทส่ี ่งเสริมการเกษตร สถานการณ์ดา้ นการเกษตร ISBN 978-974-403-947-7 กรมสง่ เสรมิ การเกษตร
คู่มือปฏิบัติงานเจา้ หน้าท่ีสง่ เสรมิ การเกษตร การวิเคราะหส์ ถานการณด์ า้ นการเกษตร ISBN 978-974-403-947-7 พมิ พ์ครั้งที่ 1 ปี 2556 จ�ำนวน 10,000 เล่ม พมิ พท์ ่ ี โรงพิมพช์ ุมนมุ สหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จ�ำกดั
ค�ำน�ำ การท�ำงานส่งเสริมการเกษตร เป็นการท�ำงานที่มุ่งปรับปรุงคุณภาพชีวิตและ ความเป็นอยู่ของเกษตรกร โดยเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตร เป็นผู้น�ำความรู้และ เทคโนโลยีท่ีเหมาะสม ถา่ ยทอดสเู่ กษตรกรกล่มุ เปา้ หมาย ปี 2556 กรมสง่ เสริมการเกษตรได้จัดทำ� “คู่มอื ปฏบิ ัตงิ านเจ้าหนา้ ทส่ี ง่ เสริม การเกษตร” เพ่ือเปน็ องค์ความรู้ให้เจา้ หน้าทส่ี ง่ เสรมิ การเกษตร ไดใ้ ชเ้ ป็นแนวทาง การปฏิบัติงานส่งเสริมการเกษตรในพื้นที่ โดยได้รวบรวมและเรียบเรียงเน้ือหา ตามหลักวชิ าการท่ถี ูกตอ้ ง สามารถอา้ งองิ ได้ และถอดบทเรียนจากหลกั ปฏบิ ัติจริง สามารถประยกุ ตใ์ ชก้ บั งานส่งเสริมการเกษตรในแตล่ ะพนื้ ท่ี จำ� นวน 24 รายการ แบ่งเปน็ เน้ือหา ดา้ นการเพมิ่ ประสิทธภิ าพการผลิตพืชเศรษฐกิจ ด้านเคหกจิ เกษตร และการเพมิ่ มูลค่าสนิ คา้ เกษตร และด้านเทคนิคการท�ำงานส่งเสริมการเกษตร คมู่ ือปฏิบัติงานเจา้ หน้าท่ีสง่ เสริมการเกษตร เรือ่ ง “การวเิ คราะห์สถานการณ์ ด้านการเกษตร” เล่มนี้ ประกอบดว้ ยเน้อื หาท่สี ำ� คญั ไดแ้ ก่ หลักและวธิ กี ารวเิ คราะห์ ปัจจัยท่ีส่งผลกระทบ ความส�ำคัญของการวิเคราะห์ และกรณีศึกษาการวิเคราะห์ สถานการณด์ า้ นการเกษตร ซึ่งเจา้ หนา้ ทสี่ ่งเสริมการเกษตร สามารถน�ำไปปรับใช้ ให้เหมาะสมกับลักษณะการท�ำงานตามบทบาท และหน้าท่ีความรับผิดชอบ และ หวังใหเ้ กิดแนวคิด การพฒั นาทกั ษะในการทำ� งานสง่ เสริมการเกษตร เพ่ือประโยชน์ ของเกษตรกรต่อไป กรมสง่ เสรมิ การเกษตร ขอขอบคณุ ในความรว่ มมอื อยา่ งดยี ง่ิ จากหนว่ ยงาน และ เจา้ หนา้ ทท่ี เี่ กย่ี วขอ้ งในการใหข้ อ้ มลู และภาพประกอบสำ� หรบั การจดั ทำ� หนงั สอื เลม่ น้ี และหากเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตร มขี อ้ เสนอแนะเพิ่มเตมิ ขอได้โปรดแจ้งมายัง กรมส่งเสริมการเกษตรใหท้ ราบด้วย ทง้ั นี้ เพอื่ ประโยชน์ในการปรบั ปรุงสำ� หรับการ ใช้งานครัง้ ต่อไป (นางพรรณพมิ ล ชัญญานวุ ตั ร) อธิบดกี รมส่งเสรมิ การเกษตร สงิ หาคม 2556
สารบญั บทนำ� 2 บทที่ 1 หลักและวธิ กี ารวเิ คราะห์สถานการณ์ .........2 .........4 ดา้ นการเกษตร 30 1. บทนำ� 2. วธิ กี ารวเิ คราะห์สถานการณ์ดา้ นการเกษตรดว้ ยเทคนิคตา่ งๆ .........30 .........38 บทที่ 2 ปจั จยั ทีส่ ่งผลกระทบในการวิเคราะห์ 52 สถานการณ์ด้านการเกษตร .........52 1. สถานการณก์ ารเปลยี่ นแปลงทม่ี ผี ลตอ่ การพฒั นาการเกษตร 2. ปัจจัยทีส่ ำ� คัญในการวิเคราะหส์ ถานการณด์ า้ นการเกษตร .........57 บทที่ 3 ความส�ำคัญของการวเิ คราะห์ สถานการณด์ ้านการเกษตร 1. ความหมายและสถานการณด์ า้ นการเกษตร ● ตัวอย่าง การวเิ คราะห์สถานการณ์การเกษตร ในระดับโลกและประเทศ
สารบญั บทที่ 4 กรณีศกึ ษาการวิเคราะหส์ ถานการณ์ 86 ด้านการเกษตร .........86 .........98 1. กรณีศึกษาการวิเคราะหส์ ถานการณ์การผลิตข้าว .......133 ของจงั หวัดสพุ รรณบรุ ี .......169 2. กรณศี กึ ษาการวเิ คราะหส์ ถานการณ์มนั ส�ำปะหลัง 3. กรณีศกึ ษาการวเิ คราะห์สถานการณม์ ะมว่ ง 218 4. กรณีศกึ ษาการวิเคราะหส์ ถานการณ์หนอ่ ไมฝ้ รั่ง 220 บทสรปุ 222 บรรณานุกรม รายชือ่ คณะผ้จู ดั ท�ำ คู่มือปฏบิ ตั ิงานเจา้ หนา้ ทีส่ ่งเสริมการเกษตร การวเิ คราะห์สถานการณด์ ้านการเกษตร
บทน�ำ INTRO
บทน�ำ สถานการณ์ด้านการเกษตรมีความส�ำคัญต่อการด�ำเนินงาน สง่ เสรมิ การเกษตรขององคก์ ร โดยเฉพาะความรทู้ จ่ี ำ� เปน็ ตอ่ การปฏบิ ตั งิ าน ในการขบั เคลือ่ นขอ้ มูล เทคโนโลยีส่เู กษตรกรในอาชพี ตา่ งๆ ใหบ้ รรลุผล “การวเิ คราะหข์ อ้ มลู ” จงึ มคี วามจำ� เปน็ ทน่ี กั สง่ เสรมิ การเกษตรควรจะตอ้ ง มคี วามเขา้ ใจ สามารถน�ำไปใชใ้ ห้เกิดประโยชน์กบั การท�ำงานใหม้ ากทสี่ ดุ ไดแ้ ก่ หลกั การและวธิ กี ารวเิ คราะหส์ ถานการณ์ ปจั จยั ทส่ี ง่ ผลกระทบ และ ความสำ� คญั ของการวเิ คราะหส์ ถานการณ์ดา้ นการเกษตร ในการเรียนรู้เพื่อพัฒนาตนเองและพัฒนางานของนักส่งเสริม การเกษตร สามารถศึกษาหาความรู้ได้จากเอกสารส่ิงพิมพ์ และกรณี ตวั อย่างต่างๆ ทไี่ ด้รวบรวมประมวลไว้เป็นเบือ้ งต้น ประกอบดว้ ย กรณี ตวั อยา่ งการวเิ คราะหส์ ถานการณข์ า้ ว การวเิ คราะหส์ ถานการณม์ นั สำ� ปะหลงั การวเิ คราะหส์ ถานการณม์ ะมว่ ง และการวเิ คราะหส์ ถานการณห์ นอ่ ไมฝ้ รงั่ สิ่งดงั กล่าวเมอื่ นกั ส่งเสริมการเกษตร ไดศ้ กึ ษาเรียนรู้กจ็ ะท�ำให้เกดิ ความ มั่นใจในการส่งเสริมพชื ใหก้ บั เกษตรกรได้ โดยเฉพาะความรอบร้ใู นขอ้ มลู พนื้ ฐาน ศกั ยภาพของพชื และแนวทางในการสง่ เสรมิ การผลติ ใหก้ บั เกษตรกร อันน�ำไปสู่การจัดท�ำแผนพัฒนาการผลิตและการจัดการสินค้าเกษตรให้ สอดรับกับสถานการณ์ตามข้อเท็จจริงท่ีเกิดข้ึนโดยมีการเชื่อมโยงองค์ ประกอบของข้อมูล
หลักและวิธี การวิเคราะห์ ควกามารสว�ำคเิ คัญราขะหอ์ ง สง่ ผปัจลจกัยรทะที่ บ ตสัวถอวายนิเค่ากรงาากระหาณร์ ์พืช ขา้ ว มันสำ� ปะหลงั มะม่วง หน่อไมฝ้ ร่งั
ดงั นนั้ เนอื้ หาสาระ “การวเิ คราะหส์ ถานการณด์ า้ นการเกษตร” ในเอกสารที่ไดร้ วบรวม ประมวลสรปุ และนำ� มาใชใ้ นการถ่ายทอดความรู้ ให้กบั นกั ส่งเสริมการเกษตร จึงมาจากประสบการณแ์ ละข้อเทจ็ จรงิ ทเี่ กดิ จากการทำ� งานของเจ้าหนา้ ทท่ี ไี่ ดร้ ว่ มกนั ปฏบิ ตั โิ ดยมเี ป้าหมายเพอื่ ใหก้ าร ดำ� เนนิ งานสง่ เสรมิ การเกษตร บรรลผุ ลตามภารกจิ หนา้ ทขี่ องกรมสง่ เสรมิ การเกษตร ความรคู้ วามสามารถในการทำ� งานเปน็ สง่ิ จำ� เปน็ ทนี่ กั สง่ เสรมิ การเกษตร ควรจะต้องมีความรู้ความเข้าใจและมีทักษะในการน�ำไปใช้ ปฏิบัติงานร่วมกับเกษตรกร โดยเฉพาะองค์ความรู้เกี่ยวกับการวิเคราะห์ สถานการณด์ า้ นการเกษตร ทคี่ วรมกี ารเชอ่ื มโยงขอ้ มลู เนอ้ื หาและขอ้ เทจ็ จรงิ ทเี่ กดิ ขน้ึ ในพน้ื ทต่ี ามทไ่ี ดร้ บั มอบหมายใหร้ บั ผดิ ชอบ เรม่ิ ตง้ั แตก่ ารรวบรวม ขอ้ มลู การวิเคราะหข์ อ้ มลู และการสรุปขอ้ มลู ทง้ั นก้ี ็เพอ่ื นำ� ข้อมูลไปใช้ กำ� หนดเป็นแนวทางและกจิ กรรมที่จะสง่ เสริมอาชพี ใหก้ ับเกษตรกรได้อย่างมี ประสทิ ธิภาพ
SWOTOHEPLPPOFURLTHUANRIMTFIEUSL SCEAALESNODNAARLTIMESPLTIRANOKEBELHEOML TDERERES SWOT THREATS STRENGTHSMATCHING SHTAAKPEPHIONLDEESRSS WEAKNESSES HAPPINESS
บทท่ี หลักและวิธกี าร วเิ คราะหส์ ถานการณด์ ้านการเกษตร
2 การวเิ คราะหส์ ถานการณ์ดา้ นการเกษตร บ1ทท่ี หลกั และวธิ กี ารวิเคราะห์ SWOTสถานการณด์ า้ นการเกษตร Analysis 1. บทนำ� ในการทำ� งานสง่ เสรมิ การเกษตร นกั วชิ าการสง่ เสรมิ การเกษตรจำ� เป็นจะต้องเรียนรู้บริบทตา่ งๆ ของพน้ื ทที่ ่ี รับผิดชอบ เพ่ือให้สามารถแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดและ สอดคลอ้ งกบั สภาพของสงั คมวฒั นธรรมของเกษตรกรใน พน้ื ท่ี ดงั นน้ั การวิเคราะหส์ ถานการณด์ า้ นการเกษตรจงึ เปน็ สงิ่ ทนี่ กั วชิ าการสง่ เสรมิ การเกษตรจะตอ้ งเรยี นรแู้ ละ ฝกึ ทกั ษะ มเี ครอื่ งมอื หรอื เทคนคิ ทช่ี ว่ ยในการวเิ คราะหท์ ่ี สามารถน�ำมาใช้ได้หลายเคร่ืองมือ เช่น การวิเคราะห์
บทท่ี 1 หลกั และวธิ กี ารวเิ คราะหส์ ถานการณด์ า้ นการเกษตร 3 TSiemaeCsloainlneeanldar สภาพแวดล้อม (SWOT Analysis) การวิเคราะห์ด้วยเทคนิค Timeline การวเิ คราะหป์ ฏทิ นิ ฤดกู าล (Seasonal Calendar) การวเิ คราะห์ Problem Tree การวิเคราะห์กา้ งปลา เป็นต้น ซง่ึ ในการพิจารณาเลือกเครือ่ งมือ หรือเทคนิคต่างๆเหล่านี้อาจเลือกหลายๆเครื่องมือหรือเทคนิคในการ วเิ คราะหใ์ นเรอ่ื งเดยี วกนั เนอื้ หาในเลม่ นจ้ี ะแนะนำ� การวเิ คราะหด์ ว้ ยเทคนคิ 3 แบบ ไดแ้ ก่ SWOT Analysis, Timeline และ Seasonal Calendar
4 การวิเคราะห์สถานการณด์ า้ นการเกษตร 2. วธิ กี ารวิเคราะหส์ ถานการณ์ด้านการเกษตร ดว้ ยเทคนคิ ต่างๆ 2.1 การวิเคราะห์สถานการณ์ดา้ นการเกษตรดว้ ยเทคนิค SWOT 2.1.1 ความหมายของ SWOT SWOT เปน็ คำ� ยอ่ มาจากคำ� วา่ Strengths Weaknesses Opportunities และ Threats “Strengths” คือ จุดแข็ง เปน็ ปัจจัยภายใน หมายถึง ความสามารถและสถานการณ์ภายในองคก์ ร ที่เป็นบวก ซึ่งองค์กรน�ำมา ใช้ประโยชน์ในการท�ำงานเพ่ือบรรลุวัตถุประสงค์ หรือหมายถึงการ Sด�ำเนนิ งานภายใน ทอ่ี งค์กรทำ� ไดด้ ี “Weaknesses” คอื จดุ อ่อน เปน็ ปจั จัยภายใน หมายถึง สถานการณ์ภายในองคก์ รท่ีเปน็ ลบ และดอ้ ยความสามารถ ซ่งึ องคก์ รไม่ สามารถนำ� มาใชป้ ระโยชนใ์ นการทำ� งานเพอ่ื บรรลวุ ตั ถปุ ระสงค์ หรอื หมายถงึ Wการดำ� เนินงานภายในทอี่ งคก์ รท�ำได้ไม่ดี “Opportunities” คอื โอกาส เปน็ ปจั จยั ภายนอก หมายถงึ ปจั จัยและสถานการณภ์ ายนอก ทีเ่ อ้ืออำ� นวยใหก้ ารทำ� งานของ องค์กรบรรลุวัตถุประสงค์ หรือหมายถึง สภาพแวดล้อมภายนอกที่เป็น Oประโยชนต์ อ่ การด�ำเนนิ การขององคก์ ร
บทท่ี 1 หลกั และวธิ กี ารวเิ คราะหส์ ถานการณด์ า้ นการเกษตร 5 T “Threats” คอื อุปสรรค เป็นปจั จยั ภายนอก หมายถงึ ปจั จยั และสถานการณภ์ ายนอกทข่ี ดั ขวาง การทำ� งานขององคก์ รไมใ่ หบ้ รรลุ วตั ถปุ ระสงค์ หรอื หมายถงึ สภาพแวดลอ้ มภายนอกทเ่ี ปน็ ปญั หาตอ่ องคก์ ร ได้ประโยชน์ (Helpful) เสยี ประโยชน์ (Harmful) ปัจจัยภายใน (Internal factor) SStrengths WWeaknesses จดุ อ่อน ปัจ ัจยภายนอก จดุ แข็ง (External factor) Threats Opportunities T O อปุ สรรค โอกาส
6 การวเิ คราะห์สถานการณด์ ้านการเกษตร 2.1.2 เทคนคิ การวิเคราะห์ SWOT ในการนำ� เทคนคิ SWOT มาใชใ้ นการวเิ คราะหส์ ถานการณ์ ทางการเกษตรใหน้ กั ส่งเสรมิ การเกษตร จดั เวทีซง่ึ ประกอบด้วยผู้มีสว่ นได้ สว่ นเสยี (Stakeholders) ในเรื่องท่เี ราจะวิเคราะห์ เช่น ถ้าจะวเิ คราะห์ สถานการณข์ องศนู ยจ์ ดั การศตั รพู ชื ชมุ ชน บคุ คลทม่ี สี ว่ นไดส้ ว่ นเสยี ทเ่ี ราจะ เชญิ เขา้ รว่ มเวทไี ดแ้ ก่ เกษตรกร คณะกรรมการศนู ย์ เจา้ หนา้ ทท่ี เ่ี กยี่ วขอ้ ง มลู นิธิภาคเอกชน พอ่ ค้า ทเี่ กี่ยวขอ้ งกบั กจิ กรรมต่างๆ ของศูนย์จัดการ ศตั รพู ืชชุมชน เปน็ ตน้ แลว้ ดำ� เนินการตามขั้นตอนดงั ตอ่ ไปนี้ 1) กำ� หนดประเดน็ ทจี่ ะวเิ คราะห์ เชน่ การพฒั นาศกั ยภาพ ของศนู ย์จดั การศัตรพู ชื ชมุ ชนตำ� บล..... 2) ให้ผู้เข้าร่วมเวทีเขียนสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ลงในบัตรค�ำ (บตั รละหนึ่งประเด็น) 3) จัดบตั รคำ� ตามประเด็นจุดแขง็ จดุ อ่อน โอกาส และ อุปสรรค 4) เพื่อให้เกิดความครบถ้วนของข้อมูลที่ได้จากบัตรค�ำ ผดู้ ำ� เนนิ รายการควรมกี ารกระตนุ้ ใหเ้ กดิ การอภปิ ราย อาจใชค้ ำ� ถามนำ� บา้ ง โดยเฉพาะในประเดน็ ทผ่ี เู้ ขา้ รว่ มอภปิ รายอาจจะไมไ่ ดม้ องไปถงึ อยา่ งครอบคลมุ ทุกดา้ น ดงั นั้น การกระตุ้นให้เกิดการอภปิ รายเปน็ เทคนคิ ทีส่ ำ� คัญยิ่ง 5) การจัดหมวดหมู่ตามหัวข้อในแต่ละประเด็นจุดแข็ง จดุ ออ่ น โอกาส อปุ สรรค เชน่ จดุ แขง็ สามารถแบง่ หมวดหมไู่ ดเ้ ปน็ ทางดา้ น เกษตรกร ดา้ นเจ้าหนา้ ที่สง่ เสรมิ ดา้ นเทคโนโลยี ดา้ นการตลาด เป็นต้น
บทที่ 1 หลกั และวธิ กี ารวเิ คราะหส์ ถานการณด์ า้ นการเกษตร 7 6) เทคนคิ การจบั คู่ (SWOT Matching) โดยใชว้ ธิ ีการจบั คู่ ทีละคู่ ระหว่างจุดแข็งกับโอกาส จุดอ่อนกับโอกาส จุดแข็งกับอุปสรรค จดุ ออ่ นกบั อปุ สรรค เพอ่ื สรา้ งกลยทุ ธท์ างเลอื ก ในการจบั คอู่ าจจะจบั จดุ ออ่ น มากกว่าหนงึ่ ข้อกับโอกาสหน่งึ ขอ้ หรือ จดุ ออ่ นหนงึ่ ขอ้ กับโอกาสมากกว่า หนงึ่ ขอ้ กไ็ ด้ เพ่ือใหม้ กี ลยุทธท์ างเลอื กหนึ่งเดียว 2.1.3 ประเดน็ “ผลการวเิ คราะห์ SWOT” การสร้างกลยุทธ์ทางเลือกกระท�ำในขอบเขต จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และอปุ สรรค โดยใชว้ ิธีการเรียกว่า SWOT Matrix ดังนี้ 1) แยกจดุ แข็ง จดุ ออ่ น โอกาส อุปสรรค 2) จดั หมวดประเดน็ ของจดุ แขง็ จดุ ออ่ น โอกาส อปุ สรรค เชน่ หมวดด้านเจา้ หน้าท่ี ดา้ นเกษตรกร ดา้ นเทคโนโลยี ดา้ นการตลาด ดา้ นงบประมาณ เป็นตน้ ใสล่ งในช่องที่กำ� หนด 3) ตาราง matrix SO = ยทุ ธศาสตรเ์ ชิงรุก WO = ยทุ ธศาสตรเ์ ชงิ พฒั นา ST = ยุทธศาสตรเ์ ชิงรับ WT = ยุทธศาสตร์เชงิ ถอย
8 การวิเคราะห์สถานการณด์ ้านการเกษตร 4) การสรา้ งกลยุทธ์ทางเลอื ก (1) ยทุ ธศาสตรเ์ ชิงรุก (SO) เปน็ ผลของการพจิ ารณาปจั จยั ทเ่ี ปน็ จดุ แขง็ และโอกาส เปน็ ยทุ ธศาสตรเ์ พอ่ื การบรรลวุ ตั ถปุ ระสงคท์ ต่ี ง้ั ไว้ เมอื่ ผดู้ ำ� เนนิ การมจี ดุ แขง็ และโอกาสอำ� นวย ตัวอยา่ งเชน่ จุดแขง็ : พื้นทม่ี ีความเหมาะสมในการ ปลูกข้าวหอมมะลิ และโอกาส : ตลาดขา้ วหอมมะลิมอี กี มาก ยทุ ธศาสตร์ เชิงรุกจะท�ำอย่างไร อาจจะขยายพ้ืนท่ีปลูกข้าวหอมมะลิมากขึ้นหรือเพิ่ม ประสิทธิภาพการผลิตให้มากข้นึ เป็นตน้ (2) ยทุ ธศาสตรเ์ ชิงพัฒนา (WO) เปน็ ยทุ ธศาสตรป์ รบั จดุ ออ่ นใหเ้ ปน็ จดุ แขง็ เพอื่ ใหส้ ามารถ ดำ� เนนิ ยทุ ธศาสตรเ์ ชงิ รุกไดเ้ มื่อโอกาสอำ� นวยแต่ผู้ดำ� เนินการมีจดุ ออ่ น (3) ยุทธศาสตร์เชงิ รบั (ST) เป็นยุทธศาสตร์ท่ีปรับอุปสรรคให้เป็นโอกาสเพื่อให้ ด�ำเนินยุทธศาสตร์ เชิงรุกได้ หากผู้ด�ำเนินการมีจุดแข็งแต่โอกาสไม่เอ้ือ อำ� นวยให้ เนอ่ื งจากปจั จยั แหง่ ความสำ� เรจ็ ของสภาพแวดลอ้ มภายในอยใู่ น ช่องจุดแข็ง แตป่ ัจจยั แห่งความสำ� เร็จอยูใ่ นช่องอุปสรรค
บทท่ี 1 หลกั และวธิ กี ารวเิ คราะหส์ ถานการณด์ า้ นการเกษตร 9 (4) ยทุ ธศาสตร์เชงิ ถอย (WT) เป็นยุทธศาสตร์ท่ีปรับการด�ำเนินงานเพ่ือบรรลุ วัตถปุ ระสงค์ไปเปน็ รปู แบบอ่นื เนือ่ งจากปัจจยั แหง่ ความส�ำเรจ็ ของสภาพ แวดล้อมภายในอยู่ในช่องจุดอ่อน และปัจจัยแห่งความส�ำเร็จอยู่ในช่อง อปุ สรรค ปจั จัยภายใน จดุ แขง็ (S) จุดออ่ น (W) 1..................................................... 1......................................................... 2..................................................... 2......................................................... ปัจจัยภายนอก 3..................................................... 3......................................................... โอกาส (O) SO = ยุทธศาสตร์เชงิ รกุ WO = ยทุ ธศาสตรเ์ ชิงพัฒนา 1................................................ 2................................................ อปุ สรรค (T) ST = ยทุ ธศาสตร์เชิงรับ WT = ยุทธศาสตร์เชงิ ถอย 1................................................ 2................................................
10 การวเิ คราะหส์ ถานการณด์ ้านการเกษตร ตวั อยา่ งท่ี 1 การวเิ คราะหข์ อ้ มลู ทางดา้ นการเกษตรเพอื่ เปน็ แนวทางในการพฒั นา ศกั ยภาพศูนย์จัดการศัตรูพืชชมุ ชน จงั หวัดอ่างทอง ปจั จัยภายใน จุดแขง็ (S) จุดออ่ น (W) 1. มีศูนย์จัดการศัตรูพืชชุมชน 1. ขาดการบรหิ ารจดั การกลมุ่ ต้ังอยู่ครบทุกต�ำบลอย่างน้อย ทด่ี ี ทำ� ใหไ้ มม่ กี ารเกบ็ รวบรวม ต�ำบลละ 1 จุด ซึ่งกระจาย ในรปู กองทนุ หมุนเวยี น ครอบคลุมเต็มพ้ืนท่ีการเกษตร 2. เกษตรกรอายมุ าก มปี ญั หา ของจังหวัดอ่างทอง เรอ่ื งการจำ� แนกแมลงและผลติ 2. มอี ปุ กรณแ์ ละวสั ดใุ นการผลติ ขยายสารชีวภณั ฑ์ ขยายสารชวี ภณั ฑเ์ พยี งพอสามารถ 3. เจา้ หนา้ ทผี่ รู้ บั ผดิ ชอบศนู ยฯ์ ทำ� การผลติ ขยายได้ต่อเนื่อง บรรจใุ หม่ จงึ ขาดประสบการณ์ 3. เกษตรกรสามารถมาเรยี นรู้ และความรู้ ไดง้ า่ ยเพราะศนู ยฯ์ ตง้ั อยใู่ นชมุ ชน 4. การประชาสัมพันธ์ยังไม่ 4. คณะกรรมการบรหิ ารศนู ยฯ์ ทั่วถึง จึงมีเกษตรกรเพียง มคี วามรคู้ วามสามารถ ในการ บางสว่ นเทา่ นนั้ ทร่ี จู้ กั ศนู ยจ์ ดั การ ปัจจยั ภายนอก ถา่ ยทอดความรู้ ศัตรูพืชชุมชนและการใช้สาร ชีวภัณฑ์
บทที่ 1 หลกั และวธิ กี ารวเิ คราะหส์ ถานการณด์ า้ นการเกษตร 11 ตวั อยา่ งที่ 1 การวเิ คราะหข์ อ้ มลู ทางดา้ นการเกษตรเพอ่ื เปน็ แนวทางในการพฒั นา ศักยภาพศูนย์จดั การศตั รูพชื ชุมชน จังหวัดอ่างทอง (ต่อ) โอกาส (O) กลยทุ ธจ์ ดุ แขง็ -โอกาส กลยุทธจ์ ุดอ่อน-โอกาส 1. นโยบายลดตน้ ทนุ การผลติ (S-O) (W-O) ลดการใช้สารเคมี ให้มีการ 1. มีศูนย์จัดการศัตรูพืชชุมชน 1. จัดอบรมคณะกรรมการ จัดการศตั รพู ชื แบบผสมผสาน ต้ังอยู่ครบทุกต�ำบลอย่างน้อย บริหารศูนย์ฯ เร่ืองกองทุน 2. นโยบายสรา้ งระบบประกนั ต�ำบลละ 1 จุด ซ่ึงกระจาย หมุนเวียน และการบริหาร ภัยความเสี่ยงให้กับเกษตรกร ครอบคลุมเต็มพื้นที่การเกษตร จัดการกลุม่ จากภยั พบิ ตั ทิ างธรรมชาตแิ ละ ของจงั หวดั อา่ งทอง 2. จัดอบรมถ่ายทอดความรู้ การเปลย่ี นแปลงของราคาสนิ คา้ 2. มอี ปุ กรณแ์ ละวสั ดใุ นการผลติ ใหก้ ับเจา้ หน้าท่ีบรรจุใหม่ เพอ่ื 3. สนับสนุนงบประมาณใน ขยายสารชีวภัณฑ์เพียงพอ เพิ่มความรแู้ ละประสบการณ์ การด�ำเนินงานต่อเนื่องทุกปี สามารถท�ำการผลิตขยายได้ 3. สง่ เสรมิ ใหเ้ กษตรกรลดการ จากหน่วยงานราชการ ต่อเนื่อง ใชส้ ารเคมแี ละใชส้ ารชวี ภณั ฑท์ ่ี 4. มกี ารอบรมทบทวนความรู้ 3. เกษตรกรสามารถมาเรยี นรู้ มจี ำ� หนา่ ยสำ� เรจ็ รปู และใหศ้ นู ย์ และขยายผลจากรัฐอย่างน้อย ได้ง่ายเพราะศูนย์ฯ ต้ังอยู่ใน จัดการศัตรูพืชชุมชนเน้น ปีละ 1 คร้งั ชมุ ชน เร่ืองการส�ำรวจ และติดตาม 5. มีทางเลือกใหม่จากภาค 4. คณะกรรมการบรหิ ารศนู ยฯ์ สถานการณศ์ ตั รพู ชื การจดั การ เอกชนที่ผลิตเชื้อแบบผงมา มคี วามรคู้ วามสามารถ ในการ ศัตรพู ืชแบบผสมผสาน จำ� หนา่ ยซง่ึ ใชไ้ ดท้ นั ที ราคาถกู ถ่ายทอดความรู้ ประหยัดเงนิ และเวลา
12 การวเิ คราะหส์ ถานการณ์ดา้ นการเกษตร ตวั อยา่ งที่ 1 การวเิ คราะหข์ อ้ มลู ทางดา้ นการเกษตรเพอื่ เปน็ แนวทางในการพฒั นา ศกั ยภาพศูนยจ์ ดั การศตั รพู ชื ชมุ ชน จงั หวดั อ่างทอง (ต่อ) อุปสรรค (T) กลยุทธ์จดุ แข็ง-อุปสรรค กลยทุ ธ์จุดออ่ น-อปุ สรรค 1. นโยบายลดตน้ ทนุ การผลติ (S-T) (W-T) ลดการใช้สารเคมี ให้มีการ 1. สอนวธิ กี ารผลติ สารชวี ภณั ฑ์ 1. เพม่ิ การประชาสมั พนั ธผ์ า่ น จดั การศตั รูพืชแบบผสมผสาน แบบง่าย(ประยุกต์)ใหเ้ กษตรกร ส่ือส่ิงพิมพ์ วิทยกุ ระจายเสยี ง 2. นโยบายสรา้ งระบบประกนั สามารถท�ำใช้เองในครอบครัว และส่ืออื่นๆ ให้เกษตรกรรู้จัก ภัยความเส่ียงให้กับเกษตรกร ได้ ศนู ยจ์ ดั การศตั รพู ชื ชมุ ชน และ จากภยั พบิ ตั ทิ างธรรมชาตแิ ละ 2. ถา่ ยทอดเทคโนโลยกี ารผลติ สารชีวภณั ฑ์ที่มปี ระโยชน์ การเปลยี่ นแปลงของราคาสนิ คา้ เชอ้ื แบบผงหากเกษตรกรผลติ ได้ 2. ช้ีให้เกษตรกรทราบถึง 3. สนับสนุนงบประมาณใน จะชว่ ยลดความเสยี หายจากการ ผลเสยี ของการใช้สารเคมี การด�ำเนินงานต่อเน่ืองทุกปี ผลติ ที่เหลอื ใช้ได้ 3. ประเมนิ ศนู ยจ์ ดั การศตั รพู ชื จากหนว่ ยงานราชการ 3. ประสานกรมวชิ าการเกษตร ชุมชน เพื่อทราบสถานะของ 4. มกี ารอบรมทบทวนความรู้ เรื่องการรับรองประสิทธิภาพ ศนู ยฯ์ และแนวทางการพฒั นาที่ และขยายผลจากรัฐอย่างน้อย ของสารชีวภณั ฑ์ เหมาะสม ปลี ะ 1 ครง้ั 4. จัดประกวดศูนย์จัดการ 5. มีทางเลือกใหม่จากภาค เอกชนท่ีผลิตเชื้อแบบผงมา ศัตรูพืชชุมชน เพื่อเป็นการ ประชาสมั พนั ธอ์ กี ทางหนงึ่ และ จำ� หนา่ ยซงึ่ ใชไ้ ดท้ นั ที ราคาถกู สรา้ งแรงจงู ใจในการปฏบิ ตั งิ าน ประหยดั เงินและเวลา ท่ีมา : สุทนิ หริ ัญออ่ น, 2554.
บทที่ 1 หลกั และวธิ กี ารวเิ คราะหส์ ถานการณด์ า้ นการเกษตร 13 ตัวอย่างที่ 2 การวเิ คราะหข์ ้อมูลทางดา้ นการเกษตรเพือ่ เปน็ แนวทางในการ พฒั นาศนู ย์สง่ เสรมิ และผลติ พนั ธ์ุข้าวชมุ ชน อำ� เภอบางระจัน จงั หวดั สิงห์บุรี ปจั จยั ภายใน จดุ แข็ง (S) จุดอ่อน (W) 1. สภาพพื้นที่เหมาะสม และ 1. ขาดการบรหิ ารจดั การกลมุ่ อยู่ในเขตชลประทานมีน้�ำอุดม ทดี่ ี ทำ� ใหไ้ มม่ กี ารเกบ็ รวบรวม สมบูรณ์ตลอดปี ในรปู กองทุนหมนุ เวยี น 2. เปน็ การรวมตวั ของเกษตรกร 2. เกษตรกรอายมุ าก มปี ญั หา เพ่ือแก้ไขปัญหาที่ตรงความ เรอ่ื งการจำ� แนกแมลงและผลติ ต้องการของเกษตรกรในด้าน ขยายสารชีวภณั ฑ์ เมลด็ พนั ธข์ุ า้ ว 3. เจา้ หนา้ ทผ่ี รู้ บั ผดิ ชอบศนู ยฯ์ 3. เปน็ ศนู ยก์ ลางการถา่ ยทอด บรรจใุ หม่ จงึ ขาดประสบการณ์ เทคโนโลยกี ารผลติ ขา้ วทเ่ี หมาะสม และความรู้ 4. มีกฎระเบียบข้อบังคับของ 4. การประชาสัมพันธ์ยังไม่ กลมุ่ ทว่ั ถงึ จึงมีเกษตรกรเพียงบาง 5. มีกองทนุ หมนุ เวียนทุกกลุ่ม ส่วนเท่านั้นท่ีรู้จักศูนย์จัดการ ปจั จัยภายนอก 6. มีเจ้าหน้าท่ีส่งเสริมการ ศัตรูพืชชุมชนและการใช้สาร เกษตรในพนื้ ทใ่ี หค้ ำ� ปรกึ ษาและ ชีวภัณฑ์ ตดิ ตามดแู ล
14 การวิเคราะห์สถานการณด์ ้านการเกษตร ตัวอยา่ งที่ 2 การวิเคราะหข์ อ้ มลู ทางด้านการเกษตรเพอื่ เป็นแนวทางในการ พัฒนาศนู ยส์ ่งเสรมิ และผลติ พนั ธข์ุ ้าวชมุ ชน อำ� เภอบางระจนั จงั หวดั สิงห์บุรี (ตอ่ ) โอกาส (O) กลยุทธ์จุดแข็ง-โอกาส กลยุทธจ์ ุดอ่อน-โอกาส 1. อยู่ใกล้แหล่งวิชาการของ (S-O) (W-O) ทางราชการ 1. จดั ทำ� แผนพฒั นาศนู ยส์ ง่ เสรมิ 1. พฒั นาศกั ยภาพคณะกรรม 2. มกี ารดำ� เนนิ งานแบบบรู ณาการ และผลติ พนั ธข์ุ า้ วชมุ ชนในระดบั การศนู ยฯ์ ในการบรหิ ารจดั การ ของหน่วยงานทเ่ี กี่ยวขอ้ ง อำ� เภอ ท่ีมปี ระสิทธิภาพ 3. มแี หลง่ งบประมาณสนบั สนนุ 2. สง่ เสรมิ ใหศ้ นู ยฯ์ ขอรบั การ 2. พัฒนาสมาชิกศูนย์ฯ ใหม้ ี จากหลายแหลง่ สนบั สนนุ จากองคก์ รปกครองสว่ น ความรู้ ทักษะด้านการผลิต ทอ้ งถนิ่ ในดา้ นเงนิ ทนุ หมนุ เวยี น เมล็ดพันธุ์ที่มีคุณภาพและได้ เครอื่ งจกั ร และอปุ กรณ/์ โรงเรอื น มาตรฐาน ผลติ เมลด็ พันธุ์ 3. สง่ เสรมิ กระบวนการเรยี นรู้ 3. ส่งเสริมและขยายผลการ ทงั้ คณะกรรมการฯ และสมาชกิ จดั ตง้ั ศนู ยส์ ง่ เสรมิ และผลติ พนั ธ์ุ ศนู ยฯ์ ไดแ้ ก่ กระบวนการกลมุ่ ข้าวชุมชนในพ้ืนที่ให้กระจาย และการจัดการ ครอบคลุมใหม้ ากขน้ึ
บทที่ 1 หลกั และวธิ กี ารวเิ คราะหส์ ถานการณด์ า้ นการเกษตร 15 ตวั อย่างท่ี 2 การวิเคราะหข์ อ้ มูลทางดา้ นการเกษตรเพอื่ เปน็ แนวทางในการ พฒั นาศูนยส์ ่งเสรมิ และผลติ พนั ธ์ขุ า้ วชุมชน อำ� เภอบางระจนั จงั หวดั สงิ หบ์ รุ ี (ต่อ) อปุ สรรค (T) กลยทุ ธ์จุดแข็ง-อุปสรรค กลยุทธ์จุดออ่ น-อุปสรรค 1. เมล็ดพันธุ์หลักท่ีใช้ในการ (S-T) (W-T) จดั ทำ� แปลงพนั ธข์ุ องทางราชการ 1. ส่งเสริมให้มีการผลิตตาม - ติดตามและสนับสนุนการ มรี าคาแพง แหลง่ จำ� หนา่ ยอยไู่ กล ระบบการตรวจรบั รอง GAP ขา้ ว ดำ� เนนิ งานตามแผนพฒั นาศนู ย์ และมไี มเ่ พยี งพอกบั ความตอ้ งการ ทงั้ GAP-Grain และ GAP-Seed สง่ เสรมิ และผลติ พนั ธข์ุ า้ วชมุ ชน ของสมาชกิ ศูนยฯ์ 2. ประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกร 2. ผลผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวได้รับ ทั่วไปรับทราบการด�ำเนินงาน ความเสียหายจากภัยธรรมชาติ ของศูนย์ฯ และการระบาดของศัตรูพืชอยู่ 3. ส่งเสริมการสร้างเครือข่าย เป็นประจ�ำ ศนู ยฯ์ เพอ่ื เชอ่ื มโยงและพงึ่ พากนั ในดา้ นขอ้ มูลข่าวสาร การผลิต และการตลาด ทีม่ า : ไพฑรู ย์ ภูยาธร, 2555.
16 การวเิ คราะหส์ ถานการณ์ดา้ นการเกษตร ตัวอยา่ งท่ี 3 การวเิ คราะห์ศักยภาพการแขง็ ขนั มะพร้าวของไทย เทียบกบั ประเทศในอาเซียน ปัจจยั ภายใน จุดแข็ง (S) จดุ อ่อน (W) 1. ประเทศไทยมีพันธุ์ดีที่ 1. ผลผลิตต่อไรต่ ่ำ� เหมาะสม ในการบริโภคและ 2. ตน้ ทนุ การผลิตสงู แปรรูป 3. แหลง่ ผลติ สำ� คญั มกั ประสบ 2. ไดร้ บั ความเชอื่ ถอื ดา้ นคณุ ภาพ ภยั แลง้ ทำ� ใหผ้ ลผลติ ตำ�่ ขนาด 3. มเี ทคโนโลยแี ปรรปู เพมิ่ มลู คา่ ผลไม่สม่�ำเสมอ ได้หลากหลายและต่อเนื่อง 4. ผลผลิตมะพร้าวภายใน ปจั จัยภายนอก ทุกส่วนของต้นมะพร้าว ประเทศไม่เพียงพอกับความ ต้องการของตลาด โอกาส (O) กลยทุ ธ์จุดแข็ง-โอกาส กลยุทธจ์ ุดอ่อน-โอกาส 1. ตลาดมีความต้องการเพิ่ม (S-O) (W-O) ขนึ้ อย่างตอ่ เนอ่ื ง 1. พฒั นาการผลติ ของเกษตรกร 1. รักษาสถานภาพพ้นื ทป่ี ลูก 2. ผู้ประกอบการมีศักยภาพ ให้ไดม้ าตรฐาน GAP 2. เพมิ่ ประสทิ ธิภาพการผลติ ขยายตลาดส่งออกสินค้า 2. ส่งเสรมิ การท่องเทีย่ ว 3. ส่งเสริมการท�ำการเกษตร มะพรา้ วเพิม่ ขึน้ เชิงเกษตร แบบผสมผสานในสวนมะพรา้ ว 3. มกี ารวจิ ยั พนั ธม์ุ ะพรา้ วพนั ธด์ุ ี 3. เผยแพร่ข้อมูล/องค์ความรู้ 4. บรู ณาการความรว่ มมอื การ อย่างต่อเน่อื ง เก่ียวกับมะพร้าวเพ่ือส่งเสริม ส่งเสริมและพัฒนาขีดความ 4. เกษตรกรสามารถเพม่ิ ราย การปลกู พฒั นาประสทิ ธภิ าพและ สามารถดา้ นการปอ้ งกนั กำ� จดั ไดจ้ ากการทอ่ งเทย่ี วเชงิ เกษตร มาตรฐานการผลติ และสง่ เสรมิ ศตั รพู ชื และระบบเตือนภยั การบริโภคมะพรา้ วไทย
บทที่ 1 หลกั และวธิ กี ารวเิ คราะหส์ ถานการณด์ า้ นการเกษตร 17 ตวั อยา่ งท่ี 3 การวิเคราะหศ์ กั ยภาพการแข็งขันมะพรา้ วของไทย เทยี บกับประเทศในอาเซียน (ตอ่ ) อปุ สรรค (T) กลยุทธ์จดุ แข็ง-อปุ สรรค กลยทุ ธจ์ ุดอ่อน-อุปสรรค 1. พน้ื ทป่ี ลกู /ผลผลติ มแี นวโนม้ (S-T) (W-T) ลดลง 1. รวบรวมและจดั ทำ� ฐานขอ้ มลู 2. ราคามะพรา้ วมคี วามผนั ผวนสงู มะพรา้ ว ในรอบปแี ละในแต่ละปี 2. ประสานความรว่ มมอื ในการ 3. การเปดิ เสรกี ารคา้ อาจทำ� ให้ จัดท�ำยุทธศาสตร์มะพร้าวของ ผลผลติ ราคาถกู จากตา่ งประเทศ ประเทศ เพื่อเป็นแผนในการ เข้ามาทดแทนมะพรา้ วไทย พัฒนาอย่างต่อเนื่องและเป็นไป 4. ขอ้ มลู มจี ำ� กดั กระจดั กระจาย ในทศิ ทางเดียวกนั และไมเ่ ป็นเอกภาพ 3. จัดท�ำโครงการและค�ำขอ 5. ขาดการสนบั สนนุ จาก งบประมาณสนบั สนนุ ตามบทบาท ภาครัฐอยา่ งต่อเนอื่ ง และภารกิจทีร่ บั ผดิ ชอบ ท่ีมา : พิศมยั พง่ึ วกิ รยั , 2554.
18 การวิเคราะหส์ ถานการณด์ ้านการเกษตร 2.2 การวเิ คราะหส์ ถานการณด์ ้านการเกษตรดว้ ยเทคนิค Timelines 2.2.1 ความหมายของ Timelines Timelines เป็นเคร่ืองมือในการวิเคราะห์และสรุปผัง ความคิดในเชิงประวัติศาสตร์รวมท้ังงานเชิงอนาคต Timelines ช่วย น�ำเสนอให้เหน็ เหตุการณแ์ ละล�ำดับเหตกุ ารณ์สำ� คัญ พฒั นาการท่มี าท่ีไป เหตปุ จั จยั ทเ่ี ปน็ จดุ เปลย่ี นในแตล่ ะยคุ แตล่ ะชว่ งเวลา ซงึ่ อาจเกดิ ขน้ึ แลว้ ในอดตี ทจี่ ะทำ� ใหเ้ ขา้ ใจการเปลยี่ นแปลงทเี่ กดิ ขนึ้ มาสปู่ จั จบุ นั นอกจากนยี้ งั สามารถ นำ� มาเปน็ เครอ่ื งมือในการคาดการณ์แนวโน้ม เหตกุ ารณ์และความเป็นไปได้ ในช่วงเวลาในอนาคตได้ด้วย Timelines ไม่ว่าจะถูกใช้เป็นเคร่ืองมือใน การมองเชงิ ประวตั ศิ าสตรห์ รอื ในเชงิ อนาคตกต็ าม มกั จะมปี ระโยชนเ์ สมอ เพราะจะทำ� ใหเ้ ขา้ ใจการเปลย่ี นแปลงและพฒั นาการของเรอื่ งนนั้ ๆ ทสี่ ำ� คญั ยงั มีนยั ตอ่ การวางแนวคดิ ทศิ ทาง รวมถึงการจัดท�ำยทุ ธศาสตร์ รวมถึง การคดิ roadmap ของการทำ� งานในองคก์ รตา่ งๆ ไดด้ ้วย ตวั อยา่ งการใช้ Timelines ในการวเิ คราะห์ เชน่ การเขยี น Timelines ชว่ งชวี ติ ของคนๆหนง่ึ ตั้งแต่เกิดจนกระทงั่ ตาย จดุ เปลี่ยนต่างๆ ทเ่ี ขา้ มาในชว่ งชวี ติ ของเขา การเขยี น Timelines ของวถิ กี ารเกษตรของไทย ทีผ่ า่ นมาต้งั แต่อดตี จนถึงปัจจบุ ัน ตัวอย่างแผนผัง Timeline ประวัติชีวิตของ Benjamin Franklin ซงึ่ เปน็ นกั ประดษิ ฐ์ ทสี่ ำ� คญั คอื คดิ คน้ สายลอ่ ฟา้ นกั การทตู และ อื่นๆ ต้ังแต่เกิดในเมืองบอสตัน ปี 1706 กจิ กรรมต่างๆท่เี ปน็ จดุ เปลย่ี น และ มีความส�ำคญั ในชีวิต จนกระทงั่ เสียชวี ติ ในเมอื งฟิลาเดเฟยี ประเทศ สหรัฐอเมรกิ า ปี 1790
บทท่ี 1 หลกั และวธิ กี ารวเิ คราะหส์ ถานการณด์ า้ นการเกษตร 19 Event in the Life of Benjamin Franklin Born in Boston Open Printing office in PA Elected Pres. of Amer (1/17/1706) Poor Richard : An Almanack Phil. Society Appointed Postmaster of Phill PA Sees Mongolfier Brothers 1st to fly in Ballon Delegate to Constitutional Convention Dies in Phil. Pa (4/17/1790) 1700 1710 1720 1730 1740 1750 1760 1770 1780 1790 1800 Move to Famous Kite Experiment Treaty of Peace with Great London Book on Electricity Britain Apprentices at Published in London Treaty of Alliance with France Printing Shop Declaration of Independence 2.2.2 เทคนคิ การวิเคราะห์โดยใช้ Timelines ในการนำ� เทคนคิ Timelines มาใชใ้ นการวเิ คราะหส์ ถานการณ์ ทางการเกษตรใหน้ กั วชิ าการสง่ เสรมิ การเกษตรจดั เวทซี งึ่ ประกอบดว้ ยผมู้ ี สว่ นไดส้ ว่ นเสยี (Stakeholders) ในเรอื่ งทเี่ ราจะวเิ คราะห์ เชน่ ถา้ จะวเิ คราะห์ พฒั นาการการระบาดและการควบคมุ การระบาดของเพลยี้ กระโดดสนี ำ�้ ตาล ตงั้ แตอ่ ดตี จนถงึ ปจั จบุ ัน ผทู้ มี่ สี ว่ นไดส้ ่วนเสยี ทเ่ี ราจะเชิญเขา้ ร่วมเวทไี ดแ้ ก่ เกษตรกร เจ้าหน้าท่ีท่ีเกี่ยวข้อง มูลนิธิภาคเอกชน พ่อค้า ท่ีเก่ียวข้อง เปน็ ตน้ แล้วดำ� เนินการตามขนั้ ตอนดังตอ่ ไปน้ี
20 การวิเคราะหส์ ถานการณ์ด้านการเกษตร 1) ใชต้ ารางสำ� หรบั ดงึ ขอ้ มลู จากประสบการณข์ องผทู้ ร่ี ว่ ม วเิ คราะห์ ดงั ตารางวเิ คราะห์ ตารางแสดงการระบาดของเพล้ียกระโดดสนี ำ�้ ตาลในพ้ืนที่ต้ังแตอ่ ดีตจนถึงปัจจบุ ัน ช่วงเวลา เหตุการณส์ �ำคญั ทเ่ี กดิ ข้นึ จุดเปลีย่ น ปี 2515 พบการระบาดในบางพื้นท่ีของภาคกลาง - ปี 2517 พบการระบาดในเขตภาคกลางในขา้ วพนั ธ์ุ กรมวชิ าการเกษตรแนะนำ� พนั ธ์ุ กข 9 ซ่ึงต้านทานเพล้ียกระโดดสีน�้ำตาล กข 1 ใหเ้ กษตรกรปลูกแทน กข 1 ปี 2523 พบการระบาดในพ้ืนท่ีภาคกลางและตะวันตก - กรมวิชาการเกษตรแนะน�ำพันธุ์ - พ้ืนท่ี 1,074,567 ไร่ ในข้าวพันธ์ุ กข 7 กข 21 และ 23 ตา้ นทานเพลยี้ กระโดด 2524 สนี ้�ำตาล - ส่วนราชการและผู้ที่เกี่ยวข้องได้หัน มาใหค้ วามสนใจเนอ่ื งจากทำ� ความเสยี หายรุนแรง และมีการส�ำรวจพบว่า เกษตรกรนยิ มปลกู ขา้ วพนั ธ์ุ กข1 กข7 กข11 ซงึ่ พนั ธเ์ุ หลา่ นไี้ มต่ า้ นทานเพลย้ี กระโดดสนี ำ้� ตาล และพนื้ ทร่ี ะบาดสว่ น ใหญอ่ ยใู่ นพนื้ ทเี่ ขตชลประทาน มกี าร ท�ำนาต่อเน่ืองตลอดทั้งปี แมลงจึงมี อาหารอย่างอุดมสมบูรณ์และขยาย พันธุ์อย่างรวดเร็วจนถึงข้ันระบาด ท�ำความเสยี หาย และนักกีฏวทิ ยาลง ความเห็นว่าพันธุ์ข้าวเป็นปัจจัยหลัก ในการระบาดของเพลี้ยกระโดด สนี ำ�้ ตาล
บทท่ี 1 หลกั และวธิ กี ารวเิ คราะหส์ ถานการณด์ า้ นการเกษตร 21 ตารางแสดงการระบาดของเพลยี้ กระโดดสนี ้�ำตาลในพนื้ ทต่ี ง้ั แตอ่ ดตี จนถงึ ปจั จบุ นั (ตอ่ ) ชว่ งเวลา เหตกุ ารณ์ส�ำคัญท่ีเกิดขนึ้ จดุ เปลีย่ น ปี 2532 พบการระบาดคร้ังใหญ่ในพื้นที่ภาคกลาง - ข้าวราคาดีเกษตรกรจึงมีการปลูก – ตะวนั ออก และตะวันตก (2.3 และ 3.8 ลา้ นไร)่ ข้าวอย่างต่อเนื่องใช้พันธุ์ที่ให้ผลผลิต ในข้าวพนั ธส์ุ พุ รรณบุรี 60 สูงเชน่ สุพรรณบุรี 60 และมีการใช้ 2533 ปจั จัยการผลิตอยา่ งเต็มที่ - กรมวชิ าการเกษตรไดม้ คี วามเหน็ วา่ ปี 2542 เพล้ียกระโดดสีน�้ำตาลเป็นแมลงศัตรู – พชื ทม่ี กี ารอพยพเคลอ่ื นยา้ ยในระหวา่ ง ฤดูและสิ้นสุดฤดูการปลูกข้าวจึงแพร่ 2543 กระจายได้กว้างขวาง การควบคุม ปี 2551 เฉพาะทไ่ี มส่ ามารถลดปญั หาได้ รฐั จะ ต้องกำ� หนดนโยบายและวางแผนการ – ควบคมุ ในพน้ื ทก่ี วา้ ง มใิ ชใ่ หเ้ กษตรกร 2554 แตล่ ะรายจัดการกันเอง พบการระบาดในพ้ืนที่ภาคกลาง และภาค เหนือตอนลา่ ง (3.34 และ 1.64 ลา้ นไร่) ในข้าวพันธ์ชุ ัยนาท 1 พบการระบาดในพน้ื ทภ่ี าคกลางและภาคเหนอื - จากสอบถามเกษตรกรในจังหวัด ตอนลา่ ง (1.3 และ 2.38 ล้านไร่) ในข้าว ชยั นาทพบวา่ เกษตรกรไมไ่ ดใ้ ชส้ ารเคมี พันธ์ุปทุมธานี 1 ตามทรี่ าชการแนะนำ� ซง่ึ พบวา่ การใช้ สารเคมีบางประเภทจะท�ำให้เพลี้ย กระโดดสนี ำ้� ตาลมกี ารระบาดมากขนึ้ เช่น สารไซเพอร์เมทริน 2 - 26 เปอร์เซ็นต์
22 การวเิ คราะหส์ ถานการณด์ า้ นการเกษตร 2) นำ� ขอ้ มลู ทไี่ ดจ้ ากตารางมาเขยี นลงในแผนผงั Timelines ตามท่ไี ด้ออกแบบไว้ ดงั ตัวอยา่ ง ระบาดครง้ั ใหญ่ในรอบ 10 ปี ในภาคกลาง เกิดการระบาด เกิดการระบาด เนือ่ งจากเกษตรกรมีการปลกู ขา้ วพนั ธุ์ สพุ รรณบุรี 60 มกี ารระบาดในพนั ธุ์ กข1 กข7 และ กข11 มีการระบาดในพันธ์ุ กข1 พบการระบาดในบางพื้นที่ 2532 2542 2551 ของภาคกลาง 2530 2535 2540 2545 2550 2555 2517 2523 2510 2515 2520 2525 กรมวชิ าการเกษตรแนะนำ� พันธ์ุ กข9 กรมวชิ าการเกษตรไดร้ ายงานว่าการควบคมุ - กรมวิชาการเกษตรแนะน�ำพันธุ์ กข21 เพลย้ี ฯ จะตอ้ งรว่ มกันเป็นพ้ืนท่ีกวา้ ง มิใชใ่ ห้ กข23 ท�ำให้การระบาดลดลง เกษตรกรแต่ละรายการจัดกันเอง - ทุกส่วนท่ีเก่ียวข้องหันมาให้ความสนใจ ปญั หาการระบาดของเพลยี้ กระโดดสนี ำ�้ ตาล เรม่ิ ใชก้ ารบรหิ ารจดั การอยา่ งเปน็ ระบบในหนว่ ย - กรมวชิ าการเกษตรแนะนำ� พนั ธุ์ สุพรรณบุรี 90 งานตา่ งๆ ท่ีเกย่ี วขอ้ ง 2.2.3 ผลการวเิ คราะห์โดยใช้ Timelines จากตารางวิเคราะห์ Timeline และแผนภาพ Timeline เราสามารถเหน็ แนวทางอะไรบา้ ง เชน่ สาเหตกุ ารเกดิ การระบาดของเพลยี้ กระโดดสนี �้ำตาล เทคโนโลยีหรือองคค์ วามรู้ การบริหารจดั การควบคุม เพล้ยี กระโดดสีนำ้� ตาล และความเขา้ ใจในเร่ืองพัฒนาการขององค์ความรู้ ในการบริหารจัดการเพล้ียกระโดดสีน�้ำตาล และสามารถน�ำมาวางแผน เพ่ือป้องกันและควบคุมเพล้ียกระโดดสีน้�ำตาล โดยใช้ประสบการณ์และ บทเรียนการวิเคราะห์จากอดตี มาจนถึงปจั จบุ นั
บทที่ 1 หลกั และวธิ กี ารวเิ คราะหส์ ถานการณด์ า้ นการเกษตร 23 2.3 การวิเคราะห์สถานการณ์ด้านการเกษตรด้วยเทคนิค ปฏิทินฤดูกาล (Seasonal Calendar) 2.3.1 ความหมายของ Seasonal Calendar Seasonal Calendar เปน็ เทคนคิ การวเิ คราะหเ์ หตกุ ารณ์ สำ� คัญที่มีผลต่อระบบนเิ วศเกษตร แต่ในชว่ งระยะเวลาสั้น (ใน 1 ป)ี เปน็ แผนภาพท่ีใช้ช่วงเวลารายเดอื นเป็นหลกั ในการแสดงรายละเอยี ดของ การปฏิบตั ิกิจกรรมต่างๆ ทางการเกษตรหรอื กิจกรรมอน่ื ๆ รวมถงึ แสดง ความตอ้ งการปจั จยั การผลติ ในแตล่ ะชว่ งเวลา เชน่ ปรมิ าณนำ�้ ฝน แรงงาน ตลอดจนแสดงปัจจัยการผลิต จ�ำนวนผลผลิต ราคาผลผลิตในแต่ละ ช่วงเวลาดว้ ย ตวั อยา่ งในการใชป้ ฏทิ นิ ฤดกู าลในการวเิ คราะหส์ ถานการณ์ ทางการเกษตรเชน่ ปฏทิ ินผลไมใ้ นฤดกู าลของไทย (แผนภาพท่ี 1) ปฏทิ นิ การปฏบิ ตั ดิ ูแลรักษาหนอ่ ไมไ้ ผต่ ง (แผนภาพที่ 2)
24 การวิเคราะห์สถานการณด์ า้ นการเกษตร แผนภาพที่ 1 ปฏิทินผลไม้ในฤดกู าลของไทย ฤดกู าลผลไมไ้ ทย มนี ้อย มีนอ้ ย มมี าก ม.ค. ก.พ. ม.ี ค. เม.ย. พ.ค. ม.ิ ย. กระท้อน ะ กล้วยน�้ำวา้ กลว้ ยหอม ขนุน เงาะ ทุเรยี น มะปราง มะไฟ มะม่วง มะละกอ มังคุด ลองกอง ละมดุ ล�ำไย ลนิ้ จ่ี ส้มเขียวหวาน
บทที่ 1 หลกั และวธิ กี ารวเิ คราะหส์ ถานการณด์ า้ นการเกษตร 25 ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ท่มี า : http://www.talaadthai.com/main/knowledgepage.aspx?id=1
26 การวเิ คราะห์สถานการณ์ด้านการเกษตร แผนภาพท่ี 2 ปฏทิ ินการปฏบิ ัติดูแลรักษาหนอ่ ไม้ไผ่ตง การปฏบิ ัตดิ ูแลรกั ษา ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. เดอื น ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ม.ิ ย. ก.ค. ปลกู ก�ำจัดวชั พืช ใส่ปุ๋ยปกติ ใสป่ ุ๋ยเร่ง ไถพรวนกอ่ นดินแห้ง ตดั แต่งแขนงและลำ� หมกหน่อ (ดงหมก) เก็บเกี่ยวผลผลิต 2.3.2 เทคนคิ การวิเคราะห์ด้วย Seasonal Calendar ในการนำ� เทคนคิ Seasonal Calendar มาใชใ้ นการวเิ คราะห์ สถานการณ์ทางการเกษตรให้นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรจัดเวทีซ่ึง ประกอบดว้ ยผมู้ สี ว่ นไดส้ ว่ นเสยี (Stakeholders) ในเรอ่ื งทเี่ ราจะวเิ คราะห์ ตวั อยา่ งเชน่ ถา้ จะวเิ คราะหก์ ิจกรรมการปลกู มันส�ำปะหลังของเกษตรกร ดำ� เนนิ การตามขน้ั ตอนดังตอ่ ไปน้ี 1) ลากเส้นในกระดาษหรอื กระดาน โดยวาดเส้นแบ่งช่อง ในแนวด่งิ 13 ช่อง ช่องแรกส�ำหรับรายการกิจกรรม และที่เหลอื เปน็ ชอ่ ง แต่ละเดือน (ม.ค.-ธ.ค.) 2) สอบถามขอ้ มลู จากกลมุ่ ไดร้ ว่ มกนั คดิ และมสี ว่ นรว่ มในการ วาดภาพกิจกรรมที่ด�ำเนินการ และข้อมูลต่างๆ ที่เก่ียวข้องในการปฏิบัติ ในรอบ 1 ปี
บทท่ี 1 หลกั และวธิ กี ารวเิ คราะหส์ ถานการณด์ า้ นการเกษตร 27 ตวั อย่าง ปฏทิ ินการปลกู มนั สำ� ปะหลังของเกษตรกร กิจกรรม ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ปรมิ าณน้�ำฝน การปลูก 5 เตรยี มดิน ปลกู ใสป่ ุย๋ ดูแลรกั ษา กำ� จัดวชั พืช ดูแลรกั ษา เกบ็ เกีย่ ว มันสำ� ปะหลัง 4 นำ�้ ฝน ความตอ้ งการ 3 แรงงาน แหลง่ นำ้� 2 2.3.3 ผลการวิเคราะหโ์ ดยใช้ Seasonal Calendar จากข้อมูลที่ได้จากการวิเคราะห์สถานการณ์การผลิต มนั สำ� ปะหลงั ดว้ ยวธิ ี Seasonal Calendar โดยทำ� ปฏทิ นิ ชว่ งเวลาของปจั จยั ต่างๆ ท่ีเก่ียวข้องกับการผลิตมันส�ำปะหลัง และการปฏิบัติในการปลูก มนั ส�ำปะหลงั ซงึ่ ขอ้ มลู ท่ีได้นีส้ ามารถนำ� มาวเิ คราะห์เพ่ือวางแผนการผลิต ในการบริหารจัดการทรัพยากรตา่ งๆ อยา่ งเพียงพอและเกดิ ประสทิ ธิภาพ สงู สดุ และสามารถใชป้ ฏทิ นิ นสี้ ำ� หรบั วางแผนเพอื่ แกป้ ญั หาทเี่ กดิ ขนึ้ ตวั อยา่ ง เชน่ ในเรอื่ งของการจดั การวางแผนชว่ งเวลาปลกู ใหส้ มั พนั ธก์ บั ปรมิ าณนำ้� ฝน เปน็ ตน้ สำ� หรบั นกั สง่ เสรมิ การเกษตรสามารถใชป้ ฏทิ นิ นส้ี ำ� หรบั การวางแผน จดั กจิ กรรมกบั เกษตรกร โดยดชู ว่ งเวลาทเี่ กษตรกรวา่ งจากการปฏบิ ตั งิ าน สว่ นการใช้ Seasonal Calendar ในกรณอี นื่ ๆ เชน่ การใช้ปฏทิ ินการ ปลกู พชื ในการบรหิ ารจดั การปรมิ าณผลผลติ ทอ่ี อกสตู่ ลาด เพอื่ ลดความเสย่ี ง ทางดา้ นราคาท่ีผันผวนในบางช่วงเวลา
สถานการณภายในประเทศ แนวโนมปสกสถาจรถาเนจปกาัยลานีย่รทนณสสดภก่สีแดาาถปถงาานลยนาผารงกกใรนนนาาณละรดรกปกเกกบั เากษรโารดลตรษะระกรเทาทตณณนบศรใกน สใกนากรถาารอะรราดเนปเนวกลาับี่ยิเกคคษนโาแลตรปตรลากงณะรห กราะรเปดั ี่ลยบนโแปลลงก ภสาถยาในนกปาระเรท ณศ
บทท่ี ปัจจัยท่ีสง่ ผลกระทบ ในการวิเคราะห์สถานการณ์ ด้านการเกษตร
30 การวิเคราะห์สถานการณด์ ้านการเกษตร บทที่ ปจั จัยทส่ี ง่ ผลกระทบ ในการวเิ คราะหส์ ถานการณ์ 2 ดา้ นการเกษตร 1. สถานการณก์ ารเปลย่ี นแปลงท่ีมผี ล ต่อการพัฒนาการเกษตร 1 1.1 การเปล่ียนแปลงในระดบั โลก กฎ กติกาใหม่ของโลก จากสถานการณ์การ เปล่ยี นแปลงดา้ นตา่ งๆ และวกิ ฤตเศรษฐกิจ ที่ ผา่ นมา สง่ ผลใหเ้ กดิ การปรบั เปลยี่ นกฎระเบยี บ ในการบริหารจัดการเศรษฐกิจโลก ทั้งด้านการลงทุน การเงนิ สิ่งแวดลอ้ ม และสงั คม เชน่ มาตรการทางการ ค้าในรูปแบบที่ไม่ใช่ภาษี การเปิดเสรีทางการค้า ใน ลกั ษณะตา่ งๆ เรอ่ื งของทรพั ยส์ นิ ทางปญั ญา กฎระเบยี บ ทเ่ี กยี่ วกบั การแกไ้ ขปญั หาสงิ่ แวดลอ้ มและ การปลอ่ ยกา๊ ซ เรอื นกระจก เรอ่ื งของสทิ ธเิ ดก็ สตรี และคนพกิ าร เปน็ ตน้
บทท่ี 2 ปจั จยั ทส่ี ง่ ผลกระทบดา้ นการเกษตร 31 การปรบั ตวั เขา้ สเู่ ศรษฐกจิ โลกแบบหลายศนู ยก์ ลาง เปน็ การถา่ ยเท อํานาจทางเศรษฐกิจจากภูมิภาคตะวันตกมายังเอเชีย และ 2 การรวมกลมุ่ ทางเศรษฐกจิ ในภมู ภิ าคต่างๆ ของโลก รวมถึงการ รวมตัวเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเชยี นในปี 2558 การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุของโลก ส่งผลให้เกิดการย้ายถิ่นของ แรงงานขา้ มชาตโิ ครงสรา้ ง การผลติ เปลย่ี นจากการใช้แรงงาน 3 มาเปน็ การใชอ้ งคค์ วามรแู้ ละเทคโนโลยี ทําใหต้ อ้ งพฒั นาคนควบคู่ กับการพัฒนาเทคโนโลยี โครงสร้างการใช้จ่ายงบประมาณเปล่ียนแปลง คือ มีการใช้จ่ายด้านสุขภาพเพิ่มมากขึ้น ซ่ึงประเทศไทยจะเข้าสู่สังคม ผูส้ ูงอายุอย่างสมบูรณใ์ นปี 2568
32 การวิเคราะหส์ ถานการณ์ดา้ นการเกษตร 4 การเปลย่ี นแปลงของภมู อิ ากาศโลก อณุ หภมู โิ ลกสงู ขนึ้ เกดิ ภยั พบิ ตั ิ ทางธรรมชาติ ที่รุนแรงและบ่อยคร้ัง ภูมิอากาศและฤดูกาล เปลยี่ นแปลง ปรมิ าณน�้ำทก่ี ักเก็บลดลงและขาดแคลน สง่ ผลตอ่ 5ระบบการผลติ ทางการเกษตร รวมถงึ การระบาดของศตั รพู ชื ปศสุ ตั ว์ และ ประมง ทําให้กระทบ ต่อความมั่นคงทางอาหาร ความม่ันคงทางอาหารและพลังงานมีแนวโน้มเป็นปัญหาสําคัญ ของโลก ความต้องการ ใช้พลังงานและความต้องการบริโภค สนิ คา้ เกษตรและอาหารเพมิ่ ขน้ึ จากการเพม่ิ ของประชากรและการ เจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ในขณะท่ีผลผลิตพืชอาหารโลกลดลงอันเนื่อง มาจากข้อจํากัดด้านพ้ืนที่ ศักยภาพการผลิต และผลกระทบจากสภาวะ ภมู ิอากาศ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี มีผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและ สงั คม เชน่ การสง่ เสรมิ เศรษฐกจิ สรา้ งสรรค์ การพฒั นาพลงั งาน 6 จากพชื การพัฒนาสนิ คา้ สุขภาพ 1.2 สถานการณภ์ ายในประเทศ สถานการณภ์ าพรวมภาคเกษตร ถงึ แมป้ ระเทศไทยจะยงั เปน็ ผสู้ ง่ ออก สนิ คา้ เกษตร แตป่ ระสิทธภิ าพการผลิตของภาคการเกษตรได้รบั 1 ผลกระทบจากฐานทรพั ยากรธรรมชาตเิ สอื่ มโทรม ระบบการผลติ ภาคเกษตรยังต้องพึ่งปัจจัยการผลิตจากต่างประทศ ทําให้มีต้นทุนสูง ขณะที่พื้นที่การเกษตรมีจํากัดและถูกใช้ไปเพ่ือกิจการอ่ืนมากขึ้น รวมทั้ง
บทท่ี 2 ปจั จยั ทสี่ ง่ ผลกระทบดา้ นการเกษตร 33 การถูกครอบครองพ้ืนท่ีเกษตรกรรม ส่งผลให้การใช้ประโยชน์ท่ีดินและ แรงงานภาคเกษตรมีแนวโน้มลดลง ส่วนการเชื่อมโยงผลผลิตเกษตร 2กับภาคอุตสาหกรรมการเกษตรเพื่อเพิ่มมูลค่ายังอยู่ในวงจํากัดและล่าช้า เนอ่ื งจากการพัฒนาเปน็ แบบแยก สว่ นขาดการรวมกลมุ่ อยา่ งเป็นระบบ โครงสร้างและการเจรญิ เตบิ โตของภาคเกษตร มูลค่าผลติ ภณั ฑ์ มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ภาคเกษตรมีการเติบโตในอตั รา ทตี่ ำ่� กวา่ ภาคอตุ สาหกรรมและบรกิ ารภาคเกษตรตอ้ งพงึ่ พาตลาด ต่างประเทศและต้องรับความเสี่ยงจากตลาดโลกที่มีความผันผวน อัตรา การเจรญิ เตบิ โตของภาคเกษตร คอ่ นขา้ งทจี่ ะมคี วามผนั ผวนเนอ่ื งจากการ ผลิตต้องอาศัยปัจจัยทางธรรมชาติ ผลิตภาพการผลิตของ ภาคเกษตร เกอื บไมม่ กี ารเปลย่ี นแปลงเพมิ่ ขน้ึ เลยในชว่ งหลายสบิ ปที ผ่ี า่ นมา ภาคเกษตร เรมิ่ ประสบกบั ปญั หาเชงิ โครงสรา้ ง คอื การเพมิ่ พน้ื ทก่ี ารเกษตรถงึ จดุ อม่ิ ตวั 3แรงงานภาคเกษตรมอี ายสุ ูงขึ้นและ มจี ํานวนลดลง ทักษะในการผลติ ของ เกษตรกรส่วนใหญย่ งั เปน็ แบบดง้ั เดมิ การผลติ สนิ ค้าเกษตรท่ีสําคญั ในรอบ 5 ปี (ปี 2548-2552) มี อตั ราการขยายตวั ที่เพ่มิ ขึ้นเน่ืองจากราคาอยใู่ นเกณฑ์ดี จงู ใจให้ เกษตรกรขยายเนอื้ ทเี่ พาะปลกู สว่ นผลผลติ ตอ่ ไรค่ อ่ นขา้ ง ผนั ผวน เนอ่ื งจากสภาพภูมอิ ากาศเปลี่ยนแปลง และศัตรพู ืชระบาด ประเทศไทย ยงั คงมคี วามมน่ั คง ดา้ นอาหาร ผลผลติ เกษตรมเี พยี งพอสําหรบั การบรโิ ภค และสง่ ออกแมจ้ ะถกู ปรับเปล่ียนไปสพู่ ชื พลังงานมากขนึ้
34 การวิเคราะห์สถานการณ์ด้านการเกษตร 4 ประชากรภาคเกษตรเปน็ กลมุ่ ทภ่ี าครฐั ตอ้ งใหก้ ารดแู ลอยา่ งใกลช้ ดิ และตอ่ เนอ่ื ง เพราะนอกจากจะเปน็ ผผู้ ลติ อาหารเลยี้ งคนทง้ั ประเทศ แลว้ ยงั เปน็ กลมุ่ คนทม่ี ฐี านความเปน็ อยดู่ อ้ ยกวา่ กลมุ่ อนื่ ๆ ในสงั คม ประชากรภาคเกษตรมีแนวโน้มที่จะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุส่งผลให้เกิด ภาระพงึ่ พงิ ในชมุ ชนเพมิ่ ขน้ึ เกษตรกรมจี ํานวนลดนอ้ ยลง ผทู้ อี่ ยใู่ นวยั แรงงาน มกี ารอพยพออกนอกภาคเกษตรทงั้ อยู่ ในแบบถาวรและชวั่ คราว เนอื่ งจาก 5การเกษตรเปน็ การทํางานตามชว่ งฤดกู าล และขาดสวสั ดกิ าร และการคมุ้ ครอง แรงงานทมี่ ่นั คง ทรพั ยากรทางการเกษตร ทรพั ยากรดนิ มคี วามเสอ่ื มโทรมมากขน้ึ ประมาณรอ้ ยละ 60 ของพนื้ ทท่ี งั้ ประเทศ การใชด้ นิ ทไี่ มเ่ หมาะสม กบั ศกั ยภาพมถี งึ รอ้ ยละ 40 ของพ้ืนทกี่ ารเกษตร เนื้อทีถ่ อื ครอง ทางการเกษตรเฉลยี่ ตอ่ คนลดลง พน้ื ทช่ี ลประทานมปี ระมาณรอ้ ยละ 21.5 6ของพื้นท่ีการเกษตร ปริมาณน้�ำที่สามารถกักเก็บและใช้งานได้ในเข่ือน และอา่ งเก็บนำ�้ ทั่วประเทศไมเ่ พยี งพอต่อความต้องการ นโยบายและมาตรการต่างๆ ของภาครฐั ในการใหค้ วามชว่ ยเหลือ เกษตรกร เชน่ การประกนั รายได้เกษตรกร การรับจํานําสนิ คา้ เกษตร การช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยธรรมชาติ การแก้ไข ปัญหาผลไม้ล้นตลาด การแกไ้ ขปัญหาหน้สี ินของเกษตรกร การคมุ้ ครอง พื้นทเี่ กษตร
บทท่ี 2 ปจั จยั ทสี่ ง่ ผลกระทบดา้ นการเกษตร 35 7 การบรหิ ารจดั การภาคการเกษตร เชน่ การจดั ต้ังสภาเกษตรกร การพฒั นาระบบ สวัสดกิ ารเกษตรกร การพัฒนาดา้ นตลาดและ โลจิสติกส์ ระบบควบคุมคุณภาพสินค้าเกษตร ตามมาตรฐาน สากล การวจิ ยั พฒั นาซง่ึ บคุ ลากรทางวชิ าการเกษตรของภาครฐั มแี นวโนม้ ลดลง การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สาร การจดั สรรงบประมาณ ดา้ นการเกษตรซึง่ ค่อนขา้ งตำ่� เม่ือเปรยี บเทียบกับด้านอ่ืนๆ ความรว่ มมือ กบั ตา่ งประเทศและข้อตกลงทางการค้าต่างๆ ส่งผลกระทบตอ่ ภาคเกษตร 1.3 แนวโนม้ สถานการณ์ในอนาคต 1) ความคาดหวังทมี่ ีต่อภาคเกษตร : ภาคเกษตรมีความสําคัญ ในสังคมไทย การเกษตร เป็นวิถีชีวิต เป็นภาคการผลิตที่สอดคล้องและ เกอ้ื หนนุ ธรรมชาติ กอ่ ใหเ้ กดิ ประโยชนใ์ นหลายดา้ น คอื เปน็ แหลง่ อาหารหลกั เป็นสนิ คา้ ออก เป็นฐานวตั ถุดิบ ชว่ ยรักษาสภาพแวดลอ้ ม เป็นผูร้ องรบั ผทู้ ี่ ประสบปัญหาการว่างงาน ภาคเกษตรมีส่วนอย่างสําคัญในการลดความ ยากจน สรา้ งงาน ลดผลกระทบจากภาวะโลกรอ้ นและเสรมิ สรา้ งเศรษฐกจิ ฐานราก 2) ด้านเศรษฐกิจ : ภาวะเศรษฐกิจของโลกมีผลกระทบต่อ เกษตรกรรุนแรงมากขนึ้ การแข่งขนั ในระบบเศรษฐกิจและการค้าโลกมกี าร กําหนดมาตรการใหม่ๆ เพื่อช่วงชิงตลาดและกีดกันทางการค้ามากข้ึน การปรับเปลี่ยนเป็นระบบเศรษฐกิจแบบสร้างมูลค่าเพิ่ม (new value creation economy) และเศรษฐกิจเชงิ สรา้ งสรรค์ (creative economy)
36 การวเิ คราะห์สถานการณ์ดา้ นการเกษตร สถานการณพ์ ลงั งานส่งผลทง้ั ทางบวก และทางลบต่อภาคเกษตร สดั สว่ น ของผลิตภณั ฑม์ วลรวมประเทศ (GDP : gross domestic product) ของ ภาคเกษตรมแี นวโน้มลดลง 3) ด้านสนิ ค้าเกษตร : ผูบ้ ริโภคมีความตอ้ งการและเรยี กรอ้ ง มากข้นึ สินคา้ เกษตรถกู กําหนดคณุ ภาพและมาตรฐานด้านตา่ งๆ มากขึ้น สนิ คา้ เกษตรถกู ตรวจสอบ ควบคมุ กดี กนั ดว้ ยวธิ กี ารตา่ งๆ สนิ คา้ ธรรมชาติ อินทรีย์ และสุขภาพเป็นท่ีต้องการมากข้ึน สินค้าต้องมีความแตกต่าง หลากหลาย เฉพาะเจาะจงกับลูกคา้ และสินคา้ ท่ีมงุ่ เจาะตลาดเฉพาะกลุ่ม (niche market) การแขง่ ขนั ของสนิ คา้ เกษตรในดา้ นราคาและคณุ ภาพจาก ประเทศท่ีมศี ักยภาพ เช่น จนี อินเดยี กมั พชู า ฯลฯ มีความรนุ แรงขน้ึ ความสมดลุ ของการผลติ พชื อาหารและพชื พลงั งานเปน็ เรอื่ งทตี่ อ้ งคำ� นงึ ถงึ 4) ดา้ นองคค์ วามรู้ เทคโนโลยี และนวตั กรรม : โลกเข้าสู่ ยคุ ของเทคโนโลยชี วี ภาพ เทคโนโลยกี ารสอื่ สารและสารสนเทศมอี ทิ ธพิ ลตอ่ การพัฒนาการเกษตร สินค้าอาหารจะถูกผลิต ด้วยระบบอุตสาหกรรม และเทคโนโลยีขั้นสูง การวิจัยและการพัฒนาเทคโนโลยีด้านอาหารสริม หรอื อาหารทท่ี ําใหอ้ ายยุ นื (สมนุ ไพร/พชื ทห่ี ายาก) มมี ากขน้ึ เกดิ นวตั กรรม ใหมๆ่ มากยงิ่ ขนึ้ และอยา่ งรวดเรว็ ซง่ึ มผี ลกระทบตอ่ ความเปน็ อยขู่ องคนใน สงั คมรวมถึงเกษตรกร ทรพั ย์สนิ ทางปัญญาและภมู ปิ ญั ญา มีความสําคญั มากขึ้น
บทที่ 2 ปจั จยั ทสี่ ง่ ผลกระทบดา้ นการเกษตร 37 5) ด้านสงั คม : คนจํานวนมากยังคงต้องอยูใ่ นภาคเกษตร และการเกษตรยงั คงวถิ ชี วี ติ ของ คนไทย การพฒั นาทม่ี งุ่ เนน้ หลกั ปรชั ญา ของเศรษฐกิจพอเพยี ง การพงึ่ พาตนเอง และความย่ังยนื รวมถงึ การให้ ความสําคัญกับความสุขมวลรวมภายในประเทศ (gross domestic happiness : GDH) รูปแบบของสังคมเป็นสังคมข้อมูลข่าวสารและ องคค์ วามรู้ ภาคประชาสงั คมมสี ว่ นร่วมในการพฒั นามากข้นึ ประชากร ภาคเกษตรลดลงและคนชราเพมิ่ มากขน้ึ การเคลอื่ นยา้ ยแรงงานภาคเกษตร เขา้ สภู่ าคอตุ สาหกรรมและบรกิ ารอนั เนอื่ งมาจากความไมแ่ นน่ อนของรายได้ จากภาคเกษตร ความปลอดภยั ดา้ นอาหาร (food safety) จดั เปน็ ปญั หาสําคญั 6) ดา้ นทรพั ยากรและสง่ิ แวดลอ้ ม : ทรพั ยากรและสง่ิ แวดลอ้ ม มกี ารเปลยี่ นแปลงรนุ แรง ความแปรปรวนของดนิ ฟา้ อากาศและภยั ธรรมชาติ ส่งผลรุนแรงมากยิ่งข้ึน ความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรลดลงและ สง่ ผลกระทบตอ่ สงิ่ แวดลอ้ มมากขน้ึ ทรพั ยากรมนี อ้ ยลงและตอ้ งแยง่ ชงิ กนั มากขึน้ รวมถึงการครอบครองท่ดี นิ ของนายทุนและชาวต่างชาติ 7) ดา้ นการบรหิ ารและการปกครอง : การปรบั เปลยี่ นระบบ การบริหารราชการและการให้บริการของภาครัฐ การบริหารราชการ ส่วนทอ้ งถน่ิ เช่น องค์กรปกครองส่วนทอ้ งถ่ิน (อปท.) และ การบริหาร ราชการส่วนภูมิภาค เชน่ ผูว้ า่ ราชการจังหวดั มีบทบาทมากขึ้นและเปน็ เจ้าภาพหลักในการส่งเสริมพฒั นาและใหบ้ รกิ ารต่างๆ ในระดบั พ้นื ท่ี การ พัฒนาการเกษตรมีหน่วยงานอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องมากขึ้น รวมถึงสถาบัน การศกึ ษา องค์การนอกภาครฐั และภาคเอกชน
38 การวเิ คราะหส์ ถานการณด์ า้ นการเกษตร 2. ปจั จยั ทสี่ าํ คญั ในการวิเคราะห์สถานการณ์ ดา้ นการเกษตร การผลิตพืชในเชิงธุรกิจ ซ่ึงเป็นการผลิตที่มุ่งสู่ตลาดที่มีการแข่งขัน ผู้ผลิตต้องผลิตสินค้า ให้ได้คุณภาพตามมาตรฐานท่ีกําหนด ได้ปริมาณ ตามเวลาทก่ี ําหนด และทสี่ ําคญั ตอ้ งคมุ้ ค่ากบั การลงทนุ ดงั นนั้ กอ่ นตดั สนิ ใจ ผลติ พชื ตอ้ งมกี ารวเิ คราะหศ์ กั ยภาพของปจั จยั ตา่ งๆ ทเี่ กย่ี วขอ้ งกบั การผลติ ได้แก่ ศกั ยภาพทางตลาด ศักยภาพทางการผลิต ศกั ยภาพทางเทคโนโลยี และศกั ยภาพของผู้ประกอบการ 2.1 ศกั ยภาพทางดา้ นการตลาด การวิเคราะห์ตลาดทําให้ผู้ผลิตเข้าใจลักษณะของตลาด และทํา การผลิตตามท่ีตลาดต้องการ เป็นการลดความเส่ียงและสร้างโอกาสใน การแขง่ ขนั ในการวเิ คราะหต์ ลาดตอ้ งมกี ารศกึ ษาขอ้ มลู ทเี่ กย่ี วขอ้ ง เพอื่ เปน็ พื้นฐานในการวเิ คราะห์ ได้แก่ ลูกคา้ ตลาด คณุ ภาพ และมาตรฐานที่ ตลาดต้องการ และคู่แขง่
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242