Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หลักสูตรประชาธิปัตย์ 64

หลักสูตรประชาธิปัตย์ 64

Published by palmmy-my, 2022-08-12 07:17:50

Description: หลักสูตรประชาธิปัตย์ 64

Search

Read the Text Version

คำอธบิ ำยรำยวิชำพืน้ ฐำน รหัสวิชำ พ13101 (สุขศึกษำพลศกึ ษำ) กลุม่ สำระกำรเรียนรู้สขุ ศึกษำและพลศึกษำ ช้นั ประถมศึกษำปที ี่ 3 เวลำ 80 ชัว่ โมง จำนวน 2.0 หน่วยกิต ศกึ ษาลักษณะการเจริญเตบิ โตของรา่ งกายมนุษย์ เปรียบเทยี บตนเองกับเกณฑ์มาตรฐาน วเิ คราะห์ ปัจจัยทม่ี ีผลตอ่ การเจริญเติบโต ความสาคญั และความแตกต่างของครอบครวั ทมี่ ตี ่อตนเอง สรา้ งสัมพันธภาพใน ครอบครวั และกลุ่มเพ่ือน หลกี เลย่ี งพฤติกรรมทีน่ าไปสู่การล่วงละเมิดทางเพศ สามารถการตดิ ต่อและรวู้ ธิ ีการ ปอ้ งกันการแพร่ กระจายของโรค จาแนกอาหารหลัก 5 หมู่ เลือกกนิ อาหารที่หลากหลายครบ 5 หมูใ่ น สัดสว่ นทีเ่ หมาะสม แปรงฟันใหส้ ะอาดอยา่ งถูกวธิ ี สร้างเสริมสมรรถภาพทางกายไดต้ ามคาแนะนา ปฏบิ ตั ิตน เพ่อื ความปลอดภัยจากอุบัติเหตใุ นบ้าน โรงเรยี น และการเดินทาง ขอความชว่ ยเหลอื จากบุคคลและแหลง่ ต่างๆ เมอ่ื เกดิ เหตุร้าย หรืออุบัติเหตุ ปฐมพยาบาล เม่ือบาดเจบ็ จากการเล่น ศกึ ษาเพ่ือให้มีความรู้ มที ักษะในการจัดรปู แบบการเคลื่อนไหวร่างกายแบบผสมผสาน และการปฏิบัติ กิจกรรมทางกายท้ังแบบขณะอยกู่ บั ท่ี เคลือ่ นไหวและการใช้อุปกรณป์ ระกอบ ในการเล่นยดื หยุน่ ขนั้ พืน้ ฐาน ดว้ ยการกล้งิ มว้ นตัว กระโดด ห้อยโหน หกกบ หกสามเสา้ หกศีรษะตั้ง การทรงตวั ความอ่อนตัว ความ คลอ่ งตัว เพื่อให้มีความสามารถในการเคลอื่ นไหวขนั้ พ้ืนฐานได้อยา่ งมขี ้ันตอน ปลอดภัย มคี วามอดทน มกี าร ตัดสนิ ใจ และการทรงตวั ทด่ี ี มีเจตคตทิ ่ดี ีต่อการเรียนยดื หยุ่นขัน้ พน้ื ฐาน การสรา้ งเสรมิ สุขภาพ มีวินยั เคารพ สทิ ธิ กฎ กตกิ าในการเลน่ ยืดหยนุ่ ขนั้ พืน้ ฐานอยา่ งเคร่งครัด โดยใชก้ ารกระบวนการกลุ่ม การอธิบาย บอก ระบุ การแสดงและการปฏบิ ตั ิตามสขุ บัญญัติแหง่ ชาติ เพอ่ื ใหม้ ีสุขภาพดีทั้งรา่ งกาย จิตใจ และสังคม รวมถงึ การปฏบิ ตั ิการเคลื่อนไหว อยู่กบั ที่ เคลื่อนท่ีและ เคลอื่ นไหวโดยใชอ้ ปุ กรณ์ นาทกั ษะเกี่ยวกับการเคล่ือน ไปใช้ในชวี ิตประจาวนั ไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ ตัวช้ีวัด พ 1.1 ป. 3/1 , ป. 3/2,ป. 3/3 พ 2.1 ป. 3/1 , ป. 3/2 , ป. 3/3 พ 3.1 ป. 3/1 , ป. 3/2 พ 3.2 ป. 3/1 , ป. 3/2 พ 4.1 ป. 3/1 , ป. 3/2 , ป. 3/3 , ป. 3/4 , ป. 3/5 พ 5.1 ป. 3/1 , ป. 3/2 , ป. 3/3 รวมท้ังหมด 18 ตวั ชวี้ ัด

คำอธิบำยรำยวชิ ำพื้นฐำน รหสั วชิ ำ พ 14101(สุขศกึ ษำพลศึกษำ) กลมุ่ สำระกำรเรียนรสู้ ุขศกึ ษำและพลศกึ ษำ ชัน้ ประถมศึกษำปีท่ี 4 เวลำ 80 ชวั่ โมง จำนวน 2.0 หนว่ ยกิต ศึกษา วเิ คราะห์ระบบภายในร่างกายเกย่ี วกบั กลา้ มเน้ือ กระดกู และข้อท่ีมีผลตอ่ สุขภาพ รวมถงึ การเจรญิ เติบโตและพัฒนาการและมวี ิธีดูแลกลา้ มเนอ้ื กระดูกและข้อใหท้ างานอยา่ งมีประสิทธภิ าพแล้ว ยังต้องดูแลตนเองและครอบครวั เก่ียวกับคุณลักษณะของความเป็นเพ่ือนและสมาชกิ ทด่ี ีของครอบครวั พฤตกิ รรม ทเ่ี หมาะสมกับเพศของตนตามวฒั นธรรมไทย วธิ ีการปฏเิ สธ การกระทาทเี่ ปน็ อนั ตรายและไมเ่ หมาะสมในเรื่อง เพศ ทกั ษะ รวมถึงการเคลือ่ นไหวในลักษณะผสมผสานได้ท้ังแบบอยู่กับท่ี เคลื่อนท่ี และใช้อุปกรณ์ประกอบ กายบริหารทา่ มือเปลา่ ประกอบจงั หวะ เกมเลยี นแบบและกิจกรรมแบบผลดั กีฬาพ้ืนฐานได้อยา่ งน้อย 1 ชนิด ออกกาลงั กาย เลน่ เกม และกีฬาท่ีตนเองชอบและมคี วามสามารถในการวเิ คราะห์ผลพัฒนาการของตนเองตาม ตวั อย่างและแบบปฏบิ ัติของผู้อนื่ กฎ กติกาการเล่นกีฬาพ้ืนฐานตามชนดิ กีฬาทีเ่ ล่น มีการสรา้ งความสมั พนั ธ์ ระหว่างส่งิ แวดลอ้ มกบั สุขภาพ สภาวะอารมณ์ ความรสู้ กึ ทมี่ ผี ลต่อสุขภาพ ขอ้ มูล บนฉลากอาหารและ ผลติ ภณั ฑ์สุขภาพ เพ่ือการเลือกบรโิ ภค ดูแลสมรรถภาพทางกายตามผลการตรวจสอบสมรรถภาพทางกาย ความสาคัญของการใช้ยาและใชย้ าอยา่ งถูกวิธี วิธีปฐมพยาบาล เมอ่ื ไดร้ ับอันตรายจากการใช้ยาผดิ สารเคมี แมลงสตั ว์กดั ต่อย และการบาดเจ็บจากการเล่นกฬี า ผลเสยี ของการสบู บุหรี่ และการดืม่ สุรา ที่มตี อ่ สุขภาพและ การป้องกนั โดยใช้การกระบวนการกลุ่มและการปฏบิ ตั ิ รวมถึงการอธิบาย การแสดง ระบุ ใฝ่เรียนรู้ เพื่อใหเ้ กิดการเรยี นรู้ มวี ิธีการดูแลสขุ ภาพร่างกายให้เหมาะสมกับวัยของตนเองท้งั ร่างกาย จติ ใจ รวมถึงมีทักษะการเคลื่อนไหวอยู่กับท่ี เคลอ่ื นที่และเคลื่อนไหวโดยใช้อุปกรณร์ า่ งกายทจี่ าเปน็ สาหรบั ชวี ิตและ การดาเนนิ ชีวติ ประจาวันได้อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ ตัวช้ีวัด พ 1.1 ป. 4/1 , ป. 4/2 , 4/3 พ 2.1 ป. 4/1 , ป. 4/2 , ป. 4/3 พ 3.1 ป. 4/1 , ป. 4/2 , ป. 4/3 , ป. 4/4 พ 3.2 ป. 4/1 , ป. 4/2 พ 4.1 ป. 4/1 , ป. 4/2 , ป. 4/3 , ป. 4/4 พ 5.1 ป. 4/1 , ป. 4/2 , ป. 4/3 รวมทั้งหมด 19 ตัวชี้วัด

คำอธบิ ำยรำยวิชำพน้ื ฐำน รหสั วิชำ พ 15101 (สุขศกึ ษำพลศกึ ษำ) กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้สุขศึกษำและพลศึกษำ ชัน้ ประถมศกึ ษำปีที่ 5 เวลำ 80 ช่ัวโมง จำนวน 2.0 หน่วยกิต ศึกษาระบบย่อยอาหาร ระบบขบั ถา่ ย รวมถึงวธิ กี ารดูแลรักษา การเปลี่ยนแปลงทางเพศและการดแู ล ตนเองท่ีถกู ต้อง การวางตนที่เหมาะสมกบั เพศตามวฒั นธรรมไทย แก้ปัญหาความขดั แย้งในครอบครวั ที่เกิดจาก พฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ ปฏิบัติตนตามสขุ บญั ญตั ิแห่งชาติ วเิ คราะหอ์ ิทธิพลของส่ือทีม่ ีผลต่อสุขภาพ ปฏิบตั ิ ตนปอ้ งกันโรคทเี่ กิดในชีวติ ประจาวัน และปฏิบตั ิตนเพ่ือป้องกันอนั ตรายจากการเลน่ กีฬา ปฏบิ ตั ิตนเพ่ือความ ปลอดภัยจากการใชย้ าและหลกี เล่ยี งสารเสพติด วิเคราะห์ผลผลกระทบของการใช้ยาและสารเสพท่ีมีผลต่อ ร่างกาย จติ ใจ อารมณ์ สงั คม และสติปญั ญาทาลายตนเอง ครอบครัว สงั คม การปฏิบตั ิและการหลกี เลี่ยงสาร เสพตดิ และสื่ออินเตอรเ์ น็ต เกมทีม่ ีอิทธิพลต่อพฤติกรรมสุขภาพ วธิ กี ารป้องกนั อันตรายจากการเล่นกีฬา ศกึ ษาเพ่ือใหม้ ีความรู้ มีทกั ษะในการจัดรูปแบบการเคลอ่ื นไหวรา่ งกายแบบผสมผสาน และการปฏบิ ัติกิจกรรม ทางกายท้ังแบบขณะอยู่กบั ที่ เคล่อื นไหวและการใช้อปุ กรณป์ ระกอบใน การเล่นยืดหยุ่นขน้ั พื้นฐานดว้ ยการกล้งิ มว้ นตวั กระโดด หอ้ ยโหน หกกบ หกสามเสา้ หกศรี ษะตง้ั การทรงตวั ความอ่อนตัว ความคล่องตัว เพื่อให้มคี วามสามารถในการเคลอื่ นไหวขัน้ พืน้ ฐานได้อยา่ งมขี นั้ ตอน ปลอดภัย มี ความอดทน มกี ารตดั สินใจ และการทรงตวั ทีด่ ี มีเจตคติที่ดตี อ่ การเรยี นยืดหยุ่นขนั้ พื้นฐาน การสรา้ งเสริม สุขภาพ มวี นิ ยั เคารพสทิ ธิ กฎ กติกาในการเล่นยดื หยุน่ ขั้นพนื้ ฐานอย่างเคร่งครดั โดยใชก้ ารกระบวนการกลมุ่ การอธิบาย บอก ระบุ การแสดง และการปฏิบตั ิตามสุขบญั ญัติ แห่งชาติ เพ่อื ให้มีสขุ ภาพดที ัง้ รา่ งกาย จิตใจ และสงั คม รวมถงึ การปฏิบตั ิการเคล่อื นไหวอยู่กับที่ เคล่ือนทแี่ ละ เคล่อื นไหวและเคลื่อนไหวโดยใชอ้ ุปกรณ์ นาทักษะเกีย่ วกับการเคลื่อนไปใชใ้ นชีวติ ประจาวันไดอ้ ย่างมี ประสิทธิภาพ ตวั ชวี้ ดั พ 1.1 ป. 5/1 , ป. 5/2 พ 2.1 ป. 5/1 , ป. 5/2 , ป. 5/3 พ 3.1 ป. 5/1 , ป. 5/2 , ป. 5/3 , ป. 5/4 , ป. 5/5 , ป. 5/6 พ 3.2 ป. 5/1 , ป. 5/2 , ป.5/3 , ป. 5/4 พ 4.1 ป. 4/1 , ป. 4/2 , ป. 4/3 , ป. 4/4 , ป. 4/5 พ 5.1 ป. 5/1 , ป. 5/2 , ป. 5/3 , ป. 5/4 , ป. 5/5 รวมท้ังหมด 25 ตัวชี้วดั

คำอธิบำยรำยวชิ ำพื้นฐำน รหัสวิชำ พ 16101 (สุขศกึ ษำพลศกึ ษำ) กล่มุ สำระกำรเรยี นรสู้ ุขศกึ ษำและพลศกึ ษำ ชน้ั ประถมศกึ ษำปีที่ 6 เวลำ 80 ชัว่ โมง จำนวน 2.0 หนว่ ยกติ ศึกษาระบบสบื พันธ์ ระบบไหลเวยี นโลหติ ระบบหายใจ รวมถงึ วธิ กี ารดูแลรกั ษาใหร้ ะบบตา่ งๆ ของ รา่ งกายใหท้ างานตามปกติ การสรา้ งและรกั ษาสมั พนั ธภ์ าพกบั ผู้อืน่ พฤติกรรมเสย่ี ง เพศสัมพันธ์ การติดเชือ้ เอดส์ และการตง้ั ครรภ์ก่อนวัย ส่ิงแวดล้อมทม่ี ผี ลต่อสุขภาพ โรคตดิ ต่อ ผลกระทบจาก โรคระบาด วิธกี ารป้องกันการระบาดของโรค พฤตกิ รรมทีแ่ สดงออกเก่ียวกับสขุ ภาพของสว่ นรว่ ม วิธกี ารทดสอบ สมรรถภาพทางกาย ภยั ธรรมชาติ การปฏบิ ัติตนเพื่อความปลอดภัยจากภยั ธรรมชาติ สาเหตุของการติดสารเสพ ติด ทกั ษะการหลีกเลีย่ งสารเสพตดิ ศกึ ษาเพ่อื ให้มีความรู้ มีทกั ษะในการเคล่ือนไหวรว่ มกบั ผู้อน่ื แบบผลัด แบบ ผสมผสานในการรว่ มกิจกรรมทางกาย และการปฏบิ ัติกจิ กรรมทางกายทัง้ แบบขณะอยู่กับท่ี เคลือ่ นไหวและการ ใชอ้ ปุ กรณ์ประกอบในการเล่นกีฬาวอลเลยบ์ อล ประวัติความเปน็ มา กฎ กติกา มารยาท ลักษณะวธิ ีการเลน่ กฬี าวอลเลยบ์ อล เพื่อใหเ้ กิดประโยชน์ตอ่ การสร้างเสรมิ สุขภาพ และสมรรถภาพของตน เพ่อื ให้มคี วามสามารถ ในการเคล่ือนไหวในการเล่นกีฬาวอลเลยบ์ อลได้อย่างถูกตอ้ งตามขั้นตอน ปลอดภัย มีความอดทน มีการตัดสินใจ มีเจตคติท่ดี ีต่อการเล่นกีฬาวอลเลยบ์ อล สร้างเสริมสุขภาพ มีน้าใจนักกีฬา มวี นิ ยั เคารพสิทธิ กฎ กติกาในการเล่นกฬี าวอลเลย์บอลอยา่ งเคร่งครดั โดยใช้การกระบวนการกลมุ่ การอธบิ าย บอก ระบุ การแสดงและการปฏบิ ตั ิตน เพือ่ ความปลอดภัยจากภัยธรรมชาติ เพอ่ื ให้มสี ขุ ภาพดีทั้งร่างกาย จติ ใจ และสงั คม รวมถงึ การ ปฏิบตั ิการเคลอ่ื นไหวอยู่กับท่ี เคล่อื นท่ีและเคลื่อนไหวโดยใช้อุปกรณ์ นาทักษะเกยี่ วกบั การเคล่ือนไปใชใ้ นชวี ิต ประจาวันได้อยา่ งมีประสิทธิภาพ ตัวชี้วดั พ 1.1 ป. 6/1 , ป. 6/2 พ 2.1 ป. 6/1 , ป. 6/2 พ 3.1 ป. 6/1 , ป. 6/2 , ป. 6/3 , ป. 6/4 , ป. 6/5 พ 3.2 ป. 6/1 , ป. 6/2 , ป.6/3 , ป. 6/4 , ป. 6/5 , ป. 6/6 พ 4.1 ป. 6/1 , ป. 6/2 , ป. 6/3 , ป. 6/4 พ 5.1 ป. 6/1 , ป. 6/2 , ป. 6/3 รวมท้ังหมด 22 ตัวช้ีวดั

คำอธบิ ำยรำยวิชำพนื้ ฐำน รหัสวชิ ำ พ21103 (สุขศกึ ษำ) กลมุ่ สำระกำรเรยี นรสู้ ขุ ศกึ ษำและพลศกึ ษำ ชัน้ มัธยมศกึ ษำปที ี่ 1 เวลำ 40 ชว่ั โมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกิต ศกึ ษา อธิบาย วเิ คราะห์ ความสาคญั วธิ ดี แู ลรักษาของระบบประสาทและระบบต่อมไร้ท่อ ทม่ี ผี ลตอ่ สุขภาพ การเจริญเติบโตและพฒั นาการของวัยรุ่น ใหท้ างานตามปกติ วิธีการปรบั ตวั ตอ่ การ เปล่ียนแปลงทางร่างกายจิตใจ อารมณ์ และพฒั นาการทางเพศอยา่ งเหมาะสม การปฏิเสธเพือ่ ปอ้ งกันตนเอง จากการถูกลว่ งละเมิดทางเพศ การปฐมพยาบาลและเคลื่อนยา้ ยผ้ปู ่วยอย่างปลอดภัย ลกั ษณะอาการของผู้ตดิ สารเสพติดและการป้องกัน การติดสารเสพตดิ ความสัมพันธ์ของการใช้สารเสพติดกับการเกิดโรคและอุบตั เิ หตุ วธิ ีการชกั ชวนผอู้ ืน่ ใหล้ ด ละ เลิกสารเสพตดิ การสรา้ งเสรมิ และปรับปรุงสมรรถภาพทางกายตามผลการ ทดสอบ มีความรู้ ความเข้าใจ มีทักษะปฏบิ ัตติ นในเร่ืองสุขภาพ ความสาคัญของการออกกาลงั กายและเล่น กีฬาจนเป็นวถิ ีชีวิตท่ีมีสุขภาพดี มีทักษะปฏบิ ตั กิ ารเคลือ่ นไหวที่ใช้ทกั ษะกลไกและทกั ษะพืน้ ฐาน เช่น กฬี า พน้ื บา้ น มอญซ่อนผ้า ปดิ ตาตีป๊ปี เดนิ 3 ขา เดนิ กะลามะพรา้ ว ว่งิ เป้ียว ขีม่ า้ สง่ เมือง ชักคะเย่อ กระโดด เชือก หมากรุก หมากฮอส ฯลฯ ท่ีนาไปสกู่ ารพฒั นาทักษะการเล่นกฬี าประเภทบุคคลและทมี กฬี าไทย แมไ่ ม้ มวยไทย ประวตั ิความเปน็ มา กฎ กตกิ า ข้อตกลง มารยาท ลกั ษณะวธิ ีการเลน่ เพื่อใหเ้ กิดประโยชน์ตอ่ การสร้าง เสรมิ สขุ ภาพ และสมรรถภาพของตน โดยใช้ทักษะพืน้ ฐานตามชนดิ กฬี า ปฏบิ ตั ิกิจกรรมนนั ทนาการอย่างน้อย 1 กิจกรรม และนาหลักความรู้ที่ได้ไปเช่อื มโยงสมั พนั ธก์ ับวชิ าอ่ืน ออกกาลังกายและเลอื กเขา้ ร่วมเลน่ กีฬาตามความถนัด ความสนใจอยา่ งเตม็ ความสามารถ พรอ้ มทง้ั มีการประเมนิ การเล่นของตนและผอู้ ื่น วางแผนการรุกและการป้องกนั ในการ เลน่ กฬี าท่ีเลือกและนาไปใช้ในการเล่นอยา่ งเปน็ ระบบ รว่ มมอื ในการเลน่ กีฬา และการทางานเปน็ ทีมอยา่ ง สนกุ สนาน ยอมรับความสามารถและความแตกต่างระหวา่ งวธิ ีการเล่นกีฬาของตนเองกับผอู้ น่ื มีเจตคติทีด่ ีต่อการ สร้างเสริมสขุ ภาพ ซอื่ สัตย์สจุ ริต มีวนิ ัย ใฝ่เรียนรู้ อยูอ่ ย่างพอเพียง มุง่ ม่ันใน การทางาน รกั ความเปน็ ไทย มีจติ สาธารณะ มนี า้ ใจเปน็ นกั กีฬา โดยใชท้ กั ษะกระบวนการกลมุ่ กระบวนการคิด กระบวนการอา่ น เขยี น ฟัง พดู ดู การอธบิ าย การ แสวงหาการแสดงทักษะ และการปฏบิ ตั ติ น เพ่ือให้มีความรู้ ความเข้าใจ ด้านพฤติกรรมสขุ ภาพทีด่ ีท้ังร่างกาย จติ ใจ และสังคม มีความสามารถใน การเคล่อื นไหวในการเลน่ กฬี าไดอ้ ย่างถกู ตอ้ งตามขั้นตอน ปลอดภยั มีความอดทน มีการตดั สนิ ใจ มเี จตคตทิ ี่ดี ต่อการเล่นกฬี า เคารพสิทธิ กฎ กตกิ าในการเลน่ กีฬาอย่างเคร่งครดั สรา้ งเสริมสุขภาพ รวมถึงปฏิบัตกิ าร เคล่อื นไหวที่ใชท้ กั ษะกลไกและทักษะพ้ืนฐาน สามารถนาองค์ความรไู้ ปใช้ในชวี ิตประจาวันได้อยา่ งมี ประสิทธภิ าพ ตวั ช้ีวัด พ 1.1 ม. 1/1 , ม. 1/2 พ 2.1 ม. 1/1 , ม. 1/2 พ 3.1 ม. 1/1 , ม. 1/2 , ม. 1/3 พ 3.2 ม. 1/1 , ม. 1/2 , ม. 1/3 , ม. 1/4 , ม. 1/5 , ม.1/6 พ 4.1 ม. 1/4 พ 5.1 ม. 1/1 , ม. 1/2 , ม. 1/3 , ม. 1/4 รวมทั้งหมด 18 ตวั ช้ีวัด

คำอธิบำยรำยวชิ ำพนื้ ฐำน รหสั วชิ ำ พ 21104 (พลศึกษำ) กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้สขุ ศึกษำและพลศึกษำ ช้นั มธั ยมศึกษำปที ่ี 1 เวลำ 40 ชว่ั โมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกติ ศึกษา อธิบาย วิเคราะห์ภาวะการเจรญิ เตบิ โตทางร่างกายของตนเองกบั เกณฑม์ าตรฐาน แนวทางในการ พัฒนาตนเองใหเ้ จริญเตบิ โตสมวยั เลอื กอาหารที่เหมาะสมกับวัยตามหลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง ปญั หาท่ี เกิดจากการภาวะโภชนาการท่ีมีผลกระทบต่อสุขภาพ การควบคมุ น้าหนกั ของตนเองให้อยูใ่ นเกณฑ์มาตรฐาน การสร้างเสรมิ และปรบั ปรุงสมรรถภาพทางกายตาม ผลการทดสอบ มีความรู้ ความเข้าใจ มที ักษะปฏิบตั ิตนใน เร่อื งสขุ ภาพ ความสาคญั ของการออกกาลงั กายและเลน่ กีฬาจนเปน็ วิถชี วี ิตที่มสี ขุ ภาพดี มที ักษะปฏบิ ัติการ เคลื่อนไหวท่ีใช้ทักษะกลไกและทกั ษะพน้ื ฐาน เช่น กีฬาพืน้ บ้าน มอญซ่อนผ้า ปดิ ตาตีป๊ีบ เดนิ 3 ขา เดิน กะลามะพร้าว ว่งิ เปยี้ ว ขีม่ า้ ส่งเมือง ชักคะเย่อ กระโดดเชือก หมากรุก หมากฮอส ฯลฯ ท่ีนาไปสู่การพฒั นา ทักษะการเล่นกฬี าประเภทบุคคลและทีม กีฬาสากล เทเบิลเทนนิส ประวตั คิ วามเป็นมา กฎ กติกา ข้อตกลง มารยาท ลักษณะวธิ ีการเลน่ เพอื่ ใหเ้ กิดประโยชนต์ อ่ การสร้างเสรมิ สุขภาพ และสมรรถภาพของตน โดยใชท้ กั ษะพนื้ ฐานตามชนดิ กฬี า ปฏิบตั กิ จิ กรรมนนั ทนาการอยา่ งน้อย 1 กจิ กรรม และนาหลกั ความรู้ท่ไี ด้ไป เชือ่ มโยงสัมพันธก์ บั วิชาอ่นื ออกกาลงั กายและเลอื กเข้าร่วมเลน่ กฬี าตามความถนดั ความสนใจอยา่ งเต็มความสามารถ พร้อมทัง้ มกี ารประเมินการเลน่ ของตนและผอู้ ื่น วางแผนการรกุ และการป้องกนั ในการเล่นกีฬาทเี่ ลือกและนาไปใช้ใน การเลน่ อยา่ งเป็นระบบ ร่วมมอื ในการเล่นกีฬา และการทางานเป็นทีมอย่างสนุกสนาน ยอมรบั ความสามารถ และความแตกตา่ งระหวา่ งวธิ กี ารเล่นกีฬาของตนเองกบั ผู้อื่น มีเจตคตทิ ่ีดีต่อการสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ ซ่ือสตั ย์สุจริต มวี ินยั ใฝเ่ รยี นรู้ อยู่อยา่ งพอเพยี ง มุ่งม่ันในการทางาน รกั ความเป็นไทย มจี ิตสาธารณะ มนี ้าใจเปน็ นักกฬี า โดยใช้ทักษะกระบวนการกลุ่ม กระบวนการคิด กระบวนการอา่ น เขยี น ฟัง พูด ดู การอธบิ าย การ แสวงหา การแสดงทักษะ และการปฏิบัตติ น เพ่อื ใหม้ คี วามรู้ ความเขา้ ใจ ดา้ นพฤติกรรมสุขภาพที่ดที ้ังรา่ งกาย จิตใจ และสงั คม เลือกกินอาหารท่ีเหมาะสมกับวัยสอดคลอ้ งกบั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง มีความสามารถในการ เคลื่อนไหวในการเลน่ กีฬาได้อย่างถูกต้องตามขนั้ ตอน ปลอดภัย มีความอดทน มกี ารตดั สินใจ มีเจตคตทิ ีด่ ีต่อ การเล่นกฬี า เคารพสทิ ธิ กฎ กตกิ าในการเลน่ กีฬาอย่างเคร่งครดั สรา้ งเสริมสขุ ภาพ รวมถึงปฏิบตั กิ ารเคล่ือนไหว ที่ใช้ทกั ษะกลไกและทักษะพื้นฐาน สามารถนาองค์ความรู้ไปใช้ในชีวิตประจาวันได้อย่างมีประสิทธภิ าพ ตัวชี้วัด พ 1.1 ม. 1/3 , ม. 1/4 พ 3.1 ม. 1/1 , ม. 1/2 , ม. 1/3 พ 3.2 ม. 1/1 , ม. 1/2 , ม. 1/3 , ม. 1/4 , ม. 1/5 , ม.1/6 พ 4.1 ม. 1/1 , ม. 1/2 , ม. 1/3 , ม. 1/4 รวมท้ังหมด 15 ตวั ชี้วัด

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำพน้ื ฐำน รหสั วชิ ำ พ 22103 (สขุ ศึกษำ) กลมุ่ สำระกำรเรียนรสู้ ขุ ศึกษำและพลศกึ ษำ ชนั้ มัธยมศกึ ษำปีท่ี 2 เวลำ 40 ชวั่ โมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกติ ศึกษา อธิบาย วิเคราะห์ ปัจจยั ท่มี ีผลกระทบต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการ การเปล่ยี นแปลงด้าน รา่ งกาย จติ ใจ อารมณ์ สังคม และสตปิ ญั ญาในวยั รนุ่ ปัจจัยทีม่ ีอิทธิพลต่อ เจตคตใิ นเรื่องเพศ ปญั หาและ ผลกระทบท่เี กดิ จากการมีเพศสัมพันธ์ในวยั เรียน วิธีปอ้ งกันตนเองและหลีกเลยี่ งจากโรคติดตอ่ ทางเพศสมั พันธ์ เอดส์ และการตง้ั ครรภ์โดยไม่พงึ ประสงค์ ความสาคญั ของความเสมอภาพทางเพศ และวางตวั ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม วิธีการ ปัจจยั และแหลง่ ทีช่ ่วยเหลือ ฟนื้ ฟูผตู้ ดิ สารเสพติด การหลกี เลยี่ งพฤติกรรมเสยี่ งและสถานการณเ์ ส่ยี ง ทกั ษะชวี ติ ในการป้องกันตนเองและหลีกเลยี่ งสถานการณ์คับขันที่อาจนาไปสู่อันตราย มีความรู้ ความเข้าใจ มี ทักษะปฏบิ ัติตนในเรื่องสุขภาพ ทกั ษะกลไกและทักษะการเคลือ่ นไหวในการเลน่ กีฬาจากแหลง่ ข้อมูลท่ี หลากหลายมาสรปุ เปน็ วธิ ีท่ีเหมาะสม ในบริบทของตนเอง เล่นกีฬาไทย กระบี่กระบอง ประวตั คิ วามเป็นมา กฎ กตกิ าขอ้ ตกลง มารยาท ลักษณะวิธีการเล่น เพ่ือใหเ้ กดิ ประโยชน์ต่อการสร้างเสริมสุขภาพการพฒั นาสมรรถภาพ ทางกายตนเองใหเ้ ปน็ ไปตามเกณฑ์ที่กาหนด มีความรู้ ความเข้าใจ มีทกั ษะปฏบิ ตั แิ ละสมรรถภาพของตน โดยใช้ ทกั ษะพ้ืนฐานตามชนิดกีฬา เช่น กฬี าพื้นบา้ น มอญซ่อนผ้า ปิดตาตีป๊บี เดนิ 3 ขา เดินกะลามะพร้าว วิง่ เปย้ี ว ขม่ี า้ สง่ เมือง ชกั คะเย่อ กระโดดเชือก หมากรุก หมากฮอส ฯลฯ ทัง้ ประเภทบคุ คลและทมี ได้อย่างละ 1 ชนิด เ ปรียบเทยี บประสทิ ธภิ าพของรปู แบบการเคลื่อนไหวทส่ี ง่ ผลตอ่ การเล่นกฬี าและกิจกรรมในชวี ติ ประจาวัน ร่วม กิจกรรมนันทนาการอยา่ งน้อย 1 กิจกรรม และนาความร้แู ละหลักการที่ได้ ไปปรับใชใ้ นชวี ติ ประจาวัน อย่างเป็นระบบ สาเหตุการเปลย่ี นแปลงทางกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และสติปญั ญา ที่เกดิ จากการออกกาลัง กาย และเลน่ กีฬาเปน็ ประจาจนเปน็ วิถีชีวิต เลือกเขา้ ร่วมกจิ กรรม การออกกาลังกาย เลน่ กีฬาตามความถนัด และความสนใจ พร้อมทั้งวิเคราะห์ความแตกตา่ งระหว่างบุคคล เพื่อเป็นแนวทางในการพฒั นาตนเอง มีวินยั ปฏิบตั ิตามกฎ กติกา และขอ้ ตกลงในการเลน่ กีฬาที่เลอื ก วางแผนการรกุ และการป้องกันในการเล่นกีฬาที่เลือก และนาไปใช้ในการเลน่ อยา่ งเหมาะสมกับทมี นาผลการปฏิบัติในการเลน่ กีฬามาสรปุ เปน็ วธิ ที เ่ี หมาะสมกบั วยั ตนเองดว้ ยความมุ่งมนั่ มเี จตคตทิ ด่ี ตี ่อการสรา้ งเสริมสุขภาพ ซือ่ สตั ย์สจุ ริต มวี ินยั ใฝ่เรยี นรู้ อยู่อยา่ งพอเพยี ง มุ่งมัน่ ใน การทางาน รกั ความเปน็ ไทย มีจิตสาธารณะ มีน้าใจเป็นนกั กีฬา โดยใชท้ ักษะกระบวนการกลุ่ม กระบวนการคิด กระบวนการอา่ น เขยี น ฟัง พดู ดู การอธิบาย การ แสวงหา การแสดงทักษะ และการปฏิบัติตน เพือ่ ใหม้ ีความรู้ ความเขา้ ใจ ดา้ นพฤติกรรมสุขภาพที่ดีท้ังรา่ งกาย จิตใจ และสงั คม มีความสามารถในการเคลอ่ื นไหวในการเล่นกีฬาไดอ้ ย่างถูกตอ้ งตามขน้ั ตอน ปลอดภยั มีความ อดทน มีการตัดสินใจ มเี จตคตทิ ่ีดตี อ่ การเล่นกีฬา เคารพสิทธิ กฎ กตกิ าในการเลน่ กีฬาอยา่ งเคร่งครัด สรา้ งเสริม สุขภาพ รวมถึงปฏบิ ัติการเคลื่อนไหวทใ่ี ชท้ ักษะกลไกและทักษะพืน้ ฐาน สามารถนาองคค์ วามรู้ไปใชใ้ น ชีวิตประจาวนั ไดอ้ ย่างมปี ระสิทธภิ าพ ตวั ช้วี ดั พ 1.1 ม. 2/1 , ม. 2/2 พ 2.1 ม. 2/1 , ม. 2/2 , ม.2/3 , ม.2/4 พ 3.1 ม. 2/1 , ม. 2/2 , ม. 2/3 , ม.2/4 พ 3.2 ม. 2/1 , ม. 2/2 , ม. 2/3 , ม. 2/4 , ม. 2/5 พ 4.1 ม. 2/7 พ 5.1 ม. 2/1 , ม. 2/2 , ม. 2/3 รวมท้ังหมด 19 ตวั ช้ีวัด

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำพ้นื ฐำน รหสั วชิ ำ พ 22104 (พลศกึ ษำ) กลมุ่ สำระกำรเรยี นรสู้ ุขศกึ ษำและพลศกึ ษำ ช้ันมธั ยมศกึ ษำปีท่ี 2 เวลำ 40 ชั่วโมง จำนวน 1.0 หน่วยกิต ศกึ ษา อธิบาย วิเคราะห์ เลือกใชบ้ รกิ ารทางสุขภาพอยา่ งมีเหตุผล ผลของการใช้เทคโนโลยที มี่ ีตอ่ สุขภาพ ความเจรญิ ก้าวหน้าทางการแพทย์ที่มผี ลต่อสุขภาพ ความสัมพันธ์ของภาวะสมดุลระหว่างสุขภาพกาย และสุขภาพจติ ลกั ษณะอาการเบ้อื งตน้ ของผู้มีปัญหาสุขภาพจติ วธิ ปี ฏิบตั ิตนเพือ่ จดั การกับอารมณแ์ ละ ความเครยี ด พฒั นาสมรรถภาพทางกายตนเองให้เปน็ ไปตามเกณฑ์ท่ีกาหนด มีความรู้ ความเขา้ ใจ มีทักษะ ปฏบิ ัติตนในเร่อื งสขุ ภาพ ทกั ษะกลไกและทักษะการเคลอื่ นไหวในการเลน่ กีฬาจากแหล่งข้อมูลทีห่ ลากหลายมา สรุปเป็นวิธที เ่ี หมาะสมในบริบทของตนเอง เล่นกฬี าสากล กรีฑา ประวัติความเป็นมา กฎ กตกิ า ขอ้ ตกลง มารยาท ลกั ษณะวธิ ีการเล่น เพ่ือให้เกิดประโยชนต์ ่อการสร้างเสรมิ สขุ ภาพ การพฒั นาสมรรถภาพทางกาย ตนเองให้เปน็ ไปตามเกณฑท์ ่ีกาหนด มีความรู้ ความเข้าใจมีทกั ษะปฏิบตั แิ ละสมรรถภาพของตน โดยใชท้ กั ษะ พ้นื ฐานตามชนิดกีฬา เชน่ กีฬาพืน้ บา้ น มอญซ่อนผ้า ปิดตาตปี ี๊บ เดิน 3 ขา เดนิ กะลามะพร้าว ว่งิ เปยี้ ว ข่ีมา้ ส่งเมอื ง ชักคะเย่อ กระโดดเชือก หมากรุก หมากฮอส ฯ ท้ังประเภทบุคคลและทีมได้อย่างละ 1 ชนิด เปรยี บเทยี บประสิทธิภาพของรปู แบบการเคลือ่ นไหวท่สี ่งผลต่อการเล่นกีฬาและกจิ กรรมในชวี ติ ประจาวัน ร่วม กจิ กรรมนนั ทนาการอย่างน้อย 1 กจิ กรรม และนาความรแู้ ละหลกั การที่ได้ไปปรับใช้ในชีวิตประจาวันอยา่ งเปน็ ระบบ สาเหตุการเปลย่ี นแปลงทางกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และสตปิ ญั ญา ทเี่ กิดจากการออกกาลงั กาย และ เลน่ กีฬาเป็นประจาจนเป็นวิถีชีวิต เลอื กเข้ารว่ มกจิ กรรมการออกกาลงั กาย เล่นกฬี าตามความถนัดและความ สนใจ พร้อมท้ังวเิ คราะห์ความแตกตา่ งระหวา่ งบุคคล เพ่ือเป็นแนวทางในการพฒั นาตนเอง มวี ินยั ปฏิบตั ิตาม กฎ กติกา และข้อตกลงในการเล่นกีฬาท่ีเลือก วางแผนการรุก และการป้องกนั ในการเลน่ กีฬาท่ีเลอื กและ นาไปใชใ้ นการเลน่ อย่างเหมาะสมกับทมี นาผลการปฏบิ ัติในการเล่นกฬี ามาสรุปเปน็ วธิ ที ่ีเหมาะสมกบั วัยตนเอง ด้วยความมุง่ ม่ัน มเี จตคติท่ีดีต่อการสรา้ งเสรมิ สุขภาพ ซอ่ื สัตยส์ จุ รติ มวี นิ ยั ใฝ่เรียนรู้ อย่อู ย่างพอเพยี ง มุ่งม่ันใน การทางาน รักความเปน็ ไทย มีจิตสาธารณะ มนี ้าใจเปน็ นักกีฬา โดยใชท้ ักษะกระบวนการกลุ่ม กระบวนการคิด กระบวนการอ่าน เขยี น ฟงั พูด ดู การอธบิ าย การ แสวงหา การแสดงทักษะ และการปฏบิ ตั ติ น เพ่อื ใหม้ ีความรู้ ความเขา้ ใจ ด้านพฤติกรรมสขุ ภาพท่ีดีท้ังร่างกาย จติ ใจ และสังคม มีความสามารถในการเคล่ือนไหวในการเล่นกฬี าได้อย่างถูกต้องตามขั้นตอน ปลอดภัย มีความ อดทน มีการตดั สนิ ใจ มเี จตคติทีด่ ีต่อการเล่นกีฬา เคารพสิทธิ กฎ กติกาในการเลน่ กีฬาอย่างเคร่งครดั สร้างเสริม สขุ ภาพ รวมถึงปฏบิ ตั กิ ารเคลอ่ื นไหวท่ใี ชท้ ักษะกลไกและทักษะพ้นื ฐาน สามารถนาองค์ความร้ไู ปใชใ้ น ชีวติ ประจาวันไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ ตวั ชี้วดั พ 3.1 ม. 2/1 , ม. 2/2 , ม. 2/3 , ม.2/4 พ 3.2 ม. 2/1 , ม. 2/2 , ม. 2/3 , ม. 2/4 , ม. 2/5 พ 4.1 ม. 2/1 , ม. 2/2 , ม. 2/3 , ม. 2/4 , ม. 2/5 , ม.2/6 , ม. 2/7 รวมท้ังหมด 16 ตวั ช้ีวดั

คำอธิบำยรำยวิชำพ้นื ฐำน รหัสวิชำ พ 23103 (สขุ ศึกษำ) กลุม่ สำระกำรเรยี นรสู้ ุขศกึ ษำและพลศกึ ษำ ชน้ั มธั ยมศกึ ษำปที ่ี 3 เวลำ 40 ช่ัวโมง จำนวน 1.0 หน่วยกติ ศกึ ษา อธิบาย วิเคราะห์ เปรียบเทียบการเปล่ียนแปลงทางด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และ สตปิ ญั ญาแตล่ ะช่วงของชวี ติ อทิ ธพิ ลและความคาดหวังของสังคมต่อการเปลี่ยนแปลงของวยั รุน่ สอ่ื โฆษณาทมี่ ี อิทธิพลต่อการเจรญิ เตบิ โตและพัฒนาการของวยั รนุ่ ปจั จัยเสย่ี งและพฤตกิ รรมเสย่ี งทม่ี ีผลตอ่ สุขภาพและ แนวทางปอ้ งกนั การหลกี เล่ียงการใชค้ วามรุนแรงและชักชวนเพอื่ นใหห้ ลีกเลยี่ งการใชค้ วามรุนแรงในการ แก้ปญั หา อิทธพิ ลของสอื่ ต่อพฤติกรรมสขุ ภาพและความรุนแรง ความสัมพนั ธ์ของการดมื่ เคร่ืองดมื่ ที่มี แอลกอฮอลต์ ่อสุขภาพและการเกิดอบุ ตั เิ หตุ การแสดงวิธีการช่วยฟน้ื คืนชีพอย่างถูกวธิ ี มคี วามรู้ ความเข้าใจ มี ทกั ษะปฏิบัตติ นในเร่ืองสุขภาพ ทกั ษะกลไกและทักษะการเคลือ่ นไหว เล่นกีฬาไทยและกฬี าสากลได้อยา่ งละ 1 ชนดิ โดยใชเ้ ทคนิคที่เหมาะสมกับตนเองและทมี นาหลกั การความรแู้ ละทักษะในการเคล่ือนไหว กิจกรรมทางกาย การเลน่ เกม และการเล่นกีฬาไปใช้สรา้ งเสรมิ สขุ ภาพอย่างตอ่ เน่อื งเปน็ ระบบ รว่ มกจิ กรรมนันทนาการอย่างน้อย 1 กจิ กรรมและนาหลักความรู้วิธกี ารไปขยายผลการเรียนรูใ้ หก้ ับผ้อู น่ื มมี ารยาทในการเล่นและดกู ีฬาด้วยความมี น้าใจนักกีฬา ออกกาลังกายและเลน่ กฬี าอย่างสม่าเสมอและนาแนวคดิ หลกั การจาก การเล่นไปพฒั นาคณุ ภาพ ชีวติ ของตนดว้ ยความภาคภูมิใจ ปฏบิ ัติตนตามกฎ กติกา และข้อตกลงในการเล่นตามชนดิ กีฬาทีเ่ ลอื กและนา แนวคดิ ทีไ่ ด้ไปพฒั นาคุณภาพชีวิต ของตนในสังคม จาแนกกลวธิ กี ารรุก การป้องกัน และใชใ้ นการเลน่ กฬี าที่ เลอื กและตัดสินใจเลือกวิธีท่เี หมาะสมกบั ทีมไปใชไ้ ด้ตามสถานการณ์ของการเล่น ทดสอบสมรรถภาพทางกาย และพัฒนาได้ตามความแตกต่างระหว่างบคุ คล เสนอผลการพัฒนาสุขภาพของตนเองท่ีเกิดจากการออกกาลังกาย และการเล่นกฬี าเป็นประจา เลน่ กีฬาไทย ตะกร้อลอดบว่ ง ประวัตคิ วามเปน็ มา กฎ กติกา ข้อตกลง มารยาท ลกั ษณะวิธีการเลน่ เพ่ือให้เกิดประโยชน์ตอ่ การสรา้ งเสริมสขุ ภาพ การพฒั นาสมรรถภาพทางกายตนเองให้เป็นไป ตามเกณฑ์ที่กาหนด มีความรู้ ความเขา้ ใจ มีทกั ษะปฏบิ ตั ิและสมรรถภาพของตน โดยใชท้ ักษะพนื้ ฐานตามชนิด กีฬา เช่น กฬี าพ้ืนบา้ น มอญซ่อนผา้ ปิดตาตปี บี๊ เดิน 3 ขา เดนิ กะลามะพรา้ ว ว่ิงเปย้ี ว ขมี่ า้ สง่ เมือง ชกั คะ เย่อ กระโดดเชอื ก หมากรุก หมากฮอส ฯลฯ นาผลการปฏบิ ตั ใิ นการเล่นกีฬามาสรุปเป็นวิธีท่ีเหมาะสมกับวัย ตนเองดว้ ยความมุ่งมั่น มเี จตคตทิ ่ดี ตี ่อการสร้างเสริมสุขภาพ ซือ่ สัตย์สจุ รติ มวี ินัย ใฝเ่ รียนรู้ อยอู่ ยา่ งพอเพียง ม่งุ ม่ันใน การทางาน รกั ความเป็นไทย มีจิตสาธารณะ มีน้าใจเป็นนักกีฬา โดยใช้ทักษะกระบวนการกลุ่ม กระบวนการคดิ กระบวนการอา่ น เขียน ฟัง พดู ดู การอธิบาย การ แสวงหา การแสดงทักษะ และการปฏบิ ัตติ น เพอ่ื ใหม้ คี วามรู้ ความเข้าใจ ด้านพฤตกิ รรมสขุ ภาพท่ีดีทง้ั รา่ งกาย จติ ใจ และสังคม มคี วามสามารถในการเคลอื่ นไหวในการเล่นกฬี าไดอ้ ย่างถูกต้องตามขัน้ ตอน ปลอดภยั มคี วาม อดทน มีการตัดสนิ ใจ มีเจตคตทิ ด่ี ตี ่อการเล่นกีฬา เคารพสิทธิ กฎ กติกาในการเล่นกีฬาอย่างเคร่งครัด สร้างเสริม สุขภาพ รวมถงึ ปฏิบัติการเคล่ือนไหวทใ่ี ช้ทักษะกลไกและทักษะพ้นื ฐาน สามารถนาองค์ความรู้ไปใช้ใน ชวี ติ ประจาวนั ไดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ ตัวช้ีวดั พ 1.1 ม. 3/1 , ม. 3/2 , ม.3/3 พ 3.1 ม. 3/1 , ม. 3/2 , ม. 3/3 พ 3.2 ม. 3/1 , ม. 3/2 , ม. 3/3 , ม. 3/4 , ม. 3/5 พ 4.1 ม. 3/5 พ 5.1 ม. 3/1 , ม. 3/2 , ม. 3/3 , ม. 3/4 , ม. 3/5 รวมท้ังหมด 17 ตวั ชี้วดั

คำอธบิ ำยรำยวิชำพื้นฐำน รหสั วิชำ พ 23104 (พลศกึ ษำ) กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้สขุ ศกึ ษำและพลศึกษำ ช้นั มัธยมศึกษำปที ี่ 3 เวลำ 40 ช่ัวโมง จำนวน 1.0 หน่วยกติ ศกึ ษา วิเคราะห์ นาเสนอ อธิบาย อนามยั แม่และเดก็ การวางแผนครอบครัวและวิธกี ารปฏิบัตติ นท่ี เหมาะสม ปัจจัยทีม่ ีผลกระทบต่อการต้ังครรภ์ สาเหตุและแนวทางป้องกัน แก้ไข ความขัดแย้งในครอบครัว กาหนดรายการอาหารท่ีเหมาะสมกับวยั ต่าง ๆ โดยคานึงถึงความประหยดั และคุณคา่ ทางโภชนาการ แนวทาง ป้องกันโรคที่เปน็ สาเหตสุ าคญั ของการเจบ็ ป่วย และการตายของคนไทยการรวบรวมข้อมูล แนวทางแกไ้ ข ปัญหาสขุ ภาพในชุมชน การวางแผนและจดั เวลาในการออกกาลงั กาย การพักผอ่ นและการสร้างเสริม สมรรถภาพทางกาย ทดสอบสมรรถภาพทางกายและพัฒนาได้ตามความแตกตา่ งระหว่างบุคคล มคี วามรู้ ความ เข้าใจ มที ักษะปฏิบตั ติ นในเร่ืองสุขภาพ ทักษะกลไกและทักษะการเคลื่อนไหว เล่นกีฬาไทยและกีฬาสากลได้ อย่างละ 1 ชนิดโดยใช้เทคนคิ ท่ีเหมาะสมกบั ตนเองและทมี นาหลกั การความรู้และทักษะในการเคล่ือนไหว กจิ กรรมทางกาย การเลน่ เกม และการเล่นกีฬาไปใชส้ ร้างเสริมสขุ ภาพอยา่ งต่อเนอื่ งเป็นระบบ ร่วมกิจกรรม นนั ทนาการอย่างน้อย 1 กจิ กรรมและนาหลักความรู้วธิ กี ารไปขยายผลการเรียนรูใ้ ห้กบั ผอู้ ่นื มีมารยาทในการ เลน่ และดูกีฬาด้วยความมนี ้าใจนักกฬี า ออกกาลังกายและเลน่ กีฬาอย่างสม่าเสมอและนาแนวคิดหลักการจาก การเลน่ ไปพฒั นาคุณภาพชวี ิตของตนดว้ ยความภาคภมู ใิ จ ปฏิบัติตนตามกฎ กติกา และข้อตกลงในการเลน่ ตาม ชนิดกฬี าท่ีเลือกและนาแนวคิดทไ่ี ด้ไปพฒั นาคณุ ภาพชวี ิต ของตนในสังคม จาแนกกลวิธีการรกุ การปอ้ งกัน และ ใช้ในการเลน่ กีฬาทเี่ ลือกและตดั สนิ ใจเลือกวิธที ่ีเหมาะสมกับทมี ไปใช้ได้ตามสถานการณ์ของการเล่น ทดสอบ สมรรถภาพทางกาย และพัฒนาไดต้ ามความแตกตา่ งระหวา่ งบคุ คล เสนอผลการพัฒนาสขุ ภาพของตนเองทเ่ี กดิ จากการออกกาลังกาย และการเล่นกฬี าเป็นประจา เลน่ กฬี าสากล วอลเลยบ์ อล ประวตั ิความเป็นมา กฎ กตกิ า ข้อตกลง มารยาท ลกั ษณะวิธีการเล่น เพอื่ ใหเ้ กดิ ประโยชน์ตอ่ การสรา้ งเสริมสขุ ภาพ การพฒั นาสมรรถภาพ กายตนเองใหเ้ ป็นไปตามเกณฑท์ ี่กาหนด มีความรู้ ความเข้าใจ มที ักษะปฏิบัติและสมรรถภาพของตน โดยใช้ ทักษะพนื้ ฐานตามชนดิ กีฬา เช่น กีฬาพืน้ บา้ นมอญซอ่ นผา้ ปดิ ตาตปี ี๊บ เดิน 3 ขา เดนิ กะลามะพร้าว ว่งิ เปี้ยว ขมี่ ้าส่งเมือง ชกั คะเย่อ กระโดดเชอื ก หมากรุก หมากฮอส ฯลฯ นาผลการปฏิบัติในการเลน่ กีฬามาสรปุ เปน็ วิธีทเี่ หมาะสมกับวัยตนเองด้วย ความมงุ่ มัน่ มีเจตคติทด่ี ีตอ่ การสรา้ งเสริมสุขภาพ ซ่ือสตั ย์สจุ รติ มวี ินยั ใฝ่ เรียนรู้ อยอู่ ย่างพอเพียง มุ่งมั่นใน การทางาน รักความเป็นไทย มจี ิตสาธารณะ มนี า้ ใจเป็นนกั กฬี า โดยใช้ทักษะกระบวนการกลุ่ม กระบวนการคดิ กระบวนการอ่าน เขียน ฟงั พดู ดู การอธิบาย การ แสวงหา การแสดงทักษะ และการปฏิบัติตน เพอื่ ให้มีความรู้ ความเขา้ ใจ ด้านพฤตกิ รรมสุขภาพทดี่ ีทงั้ รา่ งกาย จติ ใจ และสงั คม มีความสามารถในการเคล่อื นไหวในการเล่นกฬี าไดอ้ ย่างถูกตอ้ งตามขั้นตอน ปลอดภัย มคี วาม อดทน มีการตัดสนิ ใจ มีเจตคติท่ดี ีตอ่ การเลน่ กีฬา เคารพสิทธิ กฎ กตกิ าในการเลน่ กีฬาอย่างเคร่งครดั สรา้ งเสรมิ สุขภาพ รวมถึงปฏบิ ตั กิ ารเคล่ือนไหวทใ่ี ช้ทักษะกลไกและทักษะพนื้ ฐาน สามารถนาองคค์ วามรู้ไปใช้ใน ชีวิตประจาวันได้อย่างมปี ระสิทธิภาพ ตวั ชี้วดั พ 2.1 ม. 3/1 , ม. 3/2, ม.3/3 พ 3.1 ม. 3/1 , ม. 3/2 , ม. 3/3 พ 3.2 ม. 3/1 , ม. 3/2 , ม. 3/3 , ม. 3/4 , ม. 3/5 พ 4.1 ม. 3/1 , ม. 3/2 , ม. 3/3 , ม. 3/4 , ม. 3/5 รวมทั้งหมด 16 ตวั ช้ีวัด

คำอธิบำยรำยวิชำพ้นื ฐำน รหสั วชิ ำ พ31101 สุขศึกษำและพลศึกษำ1 กลุ่มสำระกำรเรยี นรสู้ ขุ ศึกษำและพลศึกษำ ช้นั มธั ยมศกึ ษำปที ี่ 4 เวลำ 20 ช่ัวโมง จำนวน 0.5 หน่วยกิต ศึกษา วเิ คราะห์ มสี ่วนรว่ มในการปอ้ งกนั ความเสีย่ งต่อการใชย้ า การใชส้ ารเสพตดิ และความ รนุ แรง เพอ่ื สขุ ภาพของตนเอง ครอบครัว และสังคม ผลกระทบที่เกิดจากการครอบครอง การใช้และการ จาหนา่ ยสารเสพติด ปจั จัยที่มีผลตอ่ สขุ ภาพ หรือความรุนแรงของคนไทยและเสนอแนวทางป้องกนั วางแผน กาหนดแนวทางลดอบุ ตั เิ หตุ และสรา้ งเสริมความปลอดภยั ในชุมชน มสี ว่ นรว่ มในการสรา้ งเสริมความปลอดภัยใน ชมุ ชน การตัดสินใจแกป้ ัญหาในสถานการณท์ ่ีเส่ียงต่อสุขภาพและความรนุ แรง วิธกี ารชว่ ยฟ้ืนคนื ชพี อยา่ งถูกวิธี โดยใชก้ ารกระบวนการปฏบิ ตั แิ ละกลุม่ การอธบิ าย การวางแผน วเิ คราะห์ การนาเสนอการให้ความ รว่ มมอื ในการปฏบิ ัตกิ ิจกรรมเพื่อให้มสี ุขภาพดีทั้งจติ ใจ ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงสามารถนาไปใช้ในชวี ิตประจาวัน ไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ ตวั ชว้ี ดั พ 5.1 ม. 4-6/1 , ม. 4-6/2 , ม.4-6/3 , ม. 4-6/4 , ม. 4-6/5 , ม.4-6/6 , ม.4-6/7 รวมทั้งหมด 7 ตวั ชวี้ ัด

คำอธบิ ำยรำยวิชำพน้ื ฐำน รหัสวชิ ำ พ 31102 วอลเลย์บอล กล่มุ สำระกำรเรียนรสู้ ุขศึกษำและพลศกึ ษำ ช้ันมธั ยมศึกษำปีท่ี 4 เวลำ 20 ช่วั โมง จำนวน 0.5 หนว่ ยกติ ศึกษา วเิ คราะห์ กีฬาวอลเลยบ์ อล ความคิดรวบยอดเก่ียวกบั การเคล่ือนไหวรูปแบบต่างๆ ในการเลน่ กีฬา ใช้ ความสามารถของตนเพอ่ื เพมิ่ ศกั ยภาพของทีม คานึงถึงผลที่เกิดตอ่ ผอู้ ่ืนและสงั คม เล่นกีฬาไทย กีฬาสากล ประเภทบุคคล / คู่ กีฬาประเภททีมไดอ้ ยา่ งนอ้ ย 1 ชนิด แสดงการเคล่ือนไหวไดอ้ ยา่ งสรา้ งสรรค์ เขา้ ร่วมกิจกรรมนนั ทนาการนอกโรงเรียน และนา หลกั การแนวคิด ไปปรับปรุงและพฒั นาคุณภาพชีวติ ของตนและสงั คม ออกกาลงั กายและเลน่ กีฬาที่เหมาะสมกบั ตนเองอยา่ ง สม่าเสมอ และใชค้ วามสามารถของตนเองเพิ่มศกั ยภาพของทีม ลดความเป็นตวั ตน คานึง ถึงผลท่ีเกิดต่อสงั คม อธิบายและ ปฏิบตั ิเกี่ยวกบั สิทธิ กฎ กติกา กลวธิ ีต่างๆ ในระหวา่ งการเลน่ การแขง่ ขนั กีฬากบั ผอู้ ื่นและนาไปสรุปเป็ นแนวปฏิบตั ิและใช้ ในชีวติ ประจาวนั อยา่ งต่อเน่ือง แสดงออกถึงการมีมารยาทในการดู การเล่นและการแข่งขนั กีฬา ดว้ ยความมีน้าใจนกั กีฬา และนาไปใชป้ ฏิบตั ิทุกโอกาส จนเป็นบคุ ลิกภาพที่ดี ร่วมกิจกรรมทางกายและเลน่ กีฬาอยา่ งมีความสุข ช่ืนชมในคุณค่าและ ความงามของการกีฬา วางแผนและปฏิบัติตามแผนการพัฒนาสมรรถภาพกายและสมรรถภาพกลไก โดยใช้กระบวนการปฏิบัติ เล่น แข่งขนั กจิ กรรมกลุ่ม การอธบิ าย การวางแผน วิเคราะห์ การนา เสนอ การใหค้ วามร่วมมอื ในการปฏิบัติกิจกรรม เพ่ือให้มีสขุ ภาพดีทั้งจิตใจ รา่ งกายสมบูรณ์แขง็ แรง สามารถ นาไปใชใ้ นชีวิตประจาวันได้อยา่ งมีประสิทธภิ าพ ตวั ชว้ี ดั พ 3.1 ม. 4-6/1 , ม. 4-6/2 , ม.4-6/3 , ม. 4-6/4 , ม. 4-6/5 พ 3.2 ม. 4-6/1 , ม. 4-6/2 , ม.4-6/3 , ม. 4-6/4 พ 4.1 ม. 4-6/1 รวมทั้งหมด 10 ตัวช้ีวดั

คำอธิบำยรำยวชิ ำพ้นื ฐำน รหัสวิชำ พ32101 สุขศกึ ษำและพลศกึ ษำ2 กลุ่มสำระกำรเรยี นร้สู ขุ ศกึ ษำและพลศึกษำ ชั้นมธั ยมศกึ ษำปที ่ี 5 เวลำ 20 ชั่วโมง จำนวน 0.5 หน่วยกิต ศึกษา วิเคราะห์ อธบิ ายกระบวนการสรา้ งเสริมและดารงประสิทธภิ าพการทางานของระบบอวัยวะ ตา่ ง ๆ การวางแผนดูแลสุขภาพตามภาวะการเจริญเตบิ โต และพฒั นาการของตนเองและบุคคลในครอบครัว อิทธิพลของครอบครัว เพอื่ น สังคม และวฒั นธรรมที่มตี ่อพฤติกรรมทางเพศ และการดาเนนิ ชวี ติ ค่านยิ มใน เรอื่ งเพศตามวฒั นธรรมไทยและวัฒนธรรมอ่นื แนวทางในการเลือกใช้ทักษะต่าง ๆ ในการป้องกนั ลดความ ขัดแย้ง และแกป้ ัญหาเรอื่ งเพศ และครอบครัว ทกั ษะการสอ่ื สารและสร้างสมั พนั ธภาพ ทักษะการต่อรอง ทักษะ การปฏเิ สธ ทกั ษะการคิดวเิ คราะห์ ทกั ษะการตัดสนิ ใจ และแก้ไขปัญหา ความขดั แยง้ ที่อาจเกดิ ข้นึ ระหวา่ ง นกั เรยี นหรือเยาวชนในชมุ ชน สาเหตุของความขดั แยง้ ผลกระทบที่เกิดจากความขดั แย้งระหวา่ งนักเรียน หรือ เยาวชนในชุมชน แนวทางในการแก้ปัญหาท่ีอาจเกิดจากความขดั แย้งของนักเรยี นหรือเยาวชนในชุมชน โดยใช้การกระบวนการปฏิบตั ิ กิจกรรมกลุ่ม การอธิบาย การวางแผน วิเคราะห์ การนาเสนอ การให้ ความรว่ มมือในการปฏบิ ัติกิจกรรม เพื่อใหม้ ีสุขภาพดีทงั้ จิตใจ ร่างกายสมบรู ณ์แขง็ แรง สามารถนาไปใชใ้ น ชีวิตประจาวันไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ ตวั ช้ีวัด พ 1.1 ม. 4-6/1 , ม. 4-6/2 พ 2.1 ม. 4-6/1 , ม. 4-6/2 , ม.4-6/3 , ม. 4-6/4 รวมท้ังหมด 6 ตัวชี้วดั

คำอธิบำยรำยวชิ ำพ้นื ฐำน รหัสวิชำ พ 32102 แบดมนิ ตนั กลุม่ สำระกำรเรยี นรู้สุขศึกษำและพลศกึ ษำ ชน้ั มัธยมศกึ ษำปที ี่ 5 เวลำ 20 ชั่วโมง จำนวน 0.5 หน่วยกติ ศกึ ษา วเิ คราะห์ กีฬาแบดมินตัน ความคดิ รวบยอดเกย่ี วกบั การเคล่ือนไหวรปู แบบต่างๆ ในการเล่น กฬี า ใชค้ วามสามารถของตนเพ่อื เพิ่มศกั ยภาพของทมี คานงึ ถงึ ผลท่เี กิดต่อผู้อนื่ และสังคมเล่นกีฬาไทย กีฬา สากล ประเภทบคุ คล / คู่ กีฬาประเภททีมไดอ้ ยา่ งน้อย 1 ชนดิ แสดงการเคล่ือนไหวไดอ้ ยา่ งสร้างสรรค์ เข้าร่วม กจิ กรรมนนั ทนาการนอกโรงเรยี น และนาหลกั การแนวคดิ ไปปรับปรงุ และพฒั นาคุณภาพชวี ิตของตนและสงั คม ออกกาลังกายและเล่นกีฬาที่เหมาะสมกับตนเองอย่างสมา่ เสมอ และใช้ความสามารถของตนเองเพ่มิ ศักยภาพ ของทมี ลดความเปน็ ตวั ตน คานงึ ถึงผลที่เกิดต่อสังคม อธิบายและปฏิบตั เิ กี่ยวกบั สิทธิ กฎ กติกา กลวธิ ีตา่ งๆ ในระหวา่ ง การเลน่ การแข่งขนั กีฬากับผู้อืน่ และนาไปสรุปเปน็ แนวปฏบิ ตั แิ ละใช้ในชีวติ ประจาวันอย่างตอ่ เน่ือง แสดงออกถึงการมมี ารยาทในการดู การเล่นและการแขง่ ขนั กีฬา ด้วยความมีน้าใจนักกฬี า และนาไปใชป้ ฏิบตั ิ ทุกโอกาส จนเปน็ บุคลกิ ภาพที่ดี ร่วมกจิ กรรมทางกายและเลน่ กีฬาอยา่ งมีความสขุ ชน่ื ชมในคณุ คา่ และความ งามของการกีฬา วางแผนและปฏบิ ัตติ ามแผนการพฒั นาสมรรถภาพกายและสมรรถภาพกลไก โดยใช้กระบวนการปฏิบตั ิ เล่น แขง่ ขนั กจิ กรรมกลุ่ม การอธิบาย การวางแผน วิเคราะห์ การนา เสนอ การใหค้ วามร่วมมือในการปฏิบัตกิ ิจกรรม เพื่อให้มสี ขุ ภาพดีทัง้ จิตใจ รา่ งกายสมบูรณแ์ ขง็ แรงสามารถ นาไปใชใ้ นชีวติ ประจาวันได้อย่างมีประสทิ ธิภาพ ตวั ช้ีวัด พ 3.1 ม. 4-6/1 , ม. 4-6/2 , ม.4-6/3 , ม. 4-6/4 , ม. 4-6/5 พ 3.2 ม. 4-6/1 , ม. 4-6/2 , ม.4-6/3 , ม. 4-6/4 พ 4.1 ม. 4-6/1 รวมท้ังหมด 10 ตัวช้ีวัด

คำอธบิ ำยรำยวิชำพื้นฐำน รหัสวิชำ พ 33101 สุขศึกษำและพลศึกษำ3 กลมุ่ สำระกำรเรยี นรูส้ ขุ ศกึ ษำและพลศกึ ษำ ช้ันมธั ยมศึกษำปที ่ี 6 เวลำ 20 ช่วั โมง จำนวน 0.5 หน่วยกติ ศกึ ษา วิเคราะห์ บทบาทและความรับผิดชอบของบุคคลที่มีต่อการสรา้ งเสริมสขุ ภาพและการป้องกนั โรคใน ชมุ ชน อิทธพิ ลของสอ่ื โฆษณาเกย่ี วกับสขุ ภาพ แนวทางการเลอื กบรโิ ภคอยา่ งฉลาดและปลอดภัย สทิ ธพิ ้ืนฐาน ของผู้บรโิ ภคและกฎหมายทเ่ี ก่ยี วขอ้ งกบั การคมุ้ ครองผู้บรโิ ภค สาเหตุของการเจ็บป่วย และการตายของคนไทย เช่น โรคจากการประกอบอาชพี โรคทางพนั ธุกรรม แนวทางการปอ้ งกนั การเจบ็ ป่วย การวางแผนการพฒั นาสขุ ภาพ ของตนเอง ครอบครัว การมีส่วนร่วมในการสง่ เสริมและพัฒนาสขุ ภาพของบคุ คลในชมุ ชน การวางแผนพัฒนา สมรรถภาพทางกายและสมรรถภาพกลไก โดยใช้การกระบวนการปฏิบตั ิ กิจกรรมกลมุ่ การอธบิ าย การวางแผน วเิ คราะห์ การนาเสนอ การให้ ความร่วมมอื ในการปฏบิ ตั ิกิจกรรม เพื่อใหม้ สี ุขภาพดที ้งั จิตใจ ร่างกายสมบรู ณ์แข็งแรง สามารถนาไปใช้ใน ชีวิตประจาวนั ได้อยา่ งมีประสิทธิภาพ ตัวช้ีวัด พ 4.1 ม. 4-6/1 , ม. 4-6/2 , ม.4-6/3 , ม. 4-6/4 ,ม. 4-6/5 , ม. 4-6/6 , ม. 4-6/7 รวมทั้งหมด 7 ตัวชว้ี ดั

คำอธบิ ำยรำยวิชำเพิ่มเตมิ รำยวชิ ำเพศศึกษำ 1-2 กลุ่มสำระกำรเรียนรู้สุขศกึ ษำและพลศกึ ษำ ชัน้ มธั ยมศกึ ษำปที ่ี 4 เวลำ 20 ชว่ั โมง จำนวน 0.5 หนว่ ยกติ ศึกษาเกีย่ วกบั พัฒนาการทางเพศของการเปลี่ยนแปลงเข้าสวู่ ยั หนุ่มสาว สัมพันธภาพ กบั ความคาดหวังต่อบทบาทและความรับผิดชอบ การแสดงออกทางเพศ ทักษะการตัดสินใจ การต่อรองและการ สื่อสารความต้องการตามความคิดเห็นและความรู้สึกของตนเองบนพ้นื ฐานของการเคารพในสทิ ธขิ องผู้อื่น การ ดูแลสขุ ภาพทางเพศ สทิ ธใิ นการแสดงออกตามวิถีชีวติ ทางเพศภายใต้กรอบของกฎหมาย ว่าด้วยเพศ สังคมและวฒั นธรรมตลอดจนภาพลักษณ์ทส่ี ง่ ผลตอ่ ความรูส้ ึกและพฤติกรรม โดยเน้นกระบวนการเรยี นรูแ้ บบมสี ว่ นร่วมของผู้เรยี นเพ่ือปลกู ฝังทัศนคติและคา่ นยิ ม ตลอดจน พฤติกรรมทางเพศทปี่ ลอดภัยและรบั ผิดชอบในพฤติกรรมของตน ผลกำรเรียนรู้ 1.อธิบายพฒั นาการทางเพศของการเปลย่ี นแปลงของวยั รนุ่ ได้ 2.เขา้ ใจสัมพนั ธภาพ บทบาท ความรับผดิ ชอบของวยั รนุ่ ได้ 3.มที ักษะการตัดสนิ ใจ การกลา้ แสดงออก การแสดงความคิดเหน็ และความรสู้ ึกของตนเอง บนพ้นื ฐานของการเคารพในสิทธิของผู้อืน่ ได้ 4.ดูแลรกั ษาสุขภาพทางเพศของตนเองได้ 5.มพี ฤตกิ รรมที่เหมาะสมต่อสังคมและวัฒนธรรม 6.รูจ้ กั วธิ ีรกั ษาพฤติกรรมทางเพศทีป่ ลอดภยั และมีความรับผดิ ชอบต่อพฤติกรรมของตน รวมท้ังหมด 6 ผลกำรเรยี นรู้

คำอธิบำยรำยวิชำเพ่ิมเติม รหสั วิชำ พ 33201 กิจกรรมเข้ำจังหวะ กลมุ่ สำระกำรเรยี นรสู้ ุขศกึ ษำและพลศกึ ษำ ชัน้ มธั ยมศกึ ษำปีที่ 6 เวลำ 20 ชวั่ โมง จำนวน 0.5 หน่วยกิต ศกึ ษา วิเคราะห์ กิจกรรมเข้าจังหวะ ความคิดรวบยอดเกยี่ วกับการเคลื่อนไหวรูปแบบต่างๆ ในการเลน่ กิจกรรมเข้าจังหวะ ใชค้ วามสามารถของตนเพอ่ื เพมิ่ ศกั ยภาพของทีม คานึงถึงผลทเ่ี กิดต่อผอู้ น่ื และสังคม เล่น และแข่งขันกิจกรรมเขา้ จงั หวะ แสดงการเคลือ่ นไหวไดอ้ ยา่ งสรา้ งสรรค์ เขา้ ร่วมกจิ กรรมนันทนาการภายใน โรงเรยี น และนาหลกั การแนวคิดไปปรบั ปรงุ และพฒั นาคุณภาพชวี ติ ของตนและสงั คม ออกกาลังกายและเลน่ กิจกรรมเข้าจงั หวะทเี่ หมาะสมกบั ตนเองอย่างสมา่ เสมอ อธิบายและปฏบิ ัติเกย่ี วกับสทิ ธิ กฎ กติกา ตา่ งๆ ใน ระหวา่ งการเล่น การแข่งขนั กับผู้อืน่ และนาไปสรปุ เปน็ แนวปฏิบัตแิ ละใชใ้ นชวี ติ ประจาวันอย่างตอ่ เนื่อง แสดงออกถึงการมีมารยาทในการดู การเลน่ และการแขง่ ขันด้วยความมนี ้าใจนักกีฬา และนาไปใชป้ ฏบิ ตั ทิ ุก โอกาส จนเป็นบคุ ลิกภาพทดี่ ี รว่ มกจิ กรรมทางกายและเล่นกฬี าอย่างมีความสุข ช่นื ชมในคณุ ค่าและความงาม ของการกีฬา โดยใช้กระบวนการปฏบิ ัติ เล่น แข่งขัน กจิ กรรมกลุ่ม การอธิบาย การวางแผน วิเคราะห์ การนา เสนอ การใหค้ วามร่วมมอื ในการปฏิบตั กิ ิจกรรม เพื่อให้มสี ขุ ภาพดีทัง้ จิตใจ รา่ งกายสมบูรณ์แข็งแรงสามารถ นาไปใช้ในชวี ติ ประจาวันได้อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ ผลกำรเรยี นรู้ 1. มคี วามรู้ เข้าใจรูปแบบการเคลอ่ื นไหวในรปู แบบต่าง ๆ 2. วเิ คราะหร์ ูปแบบการเคล่ือนไหวท่ีเหมาะสมกบั ตนเอง 3. ปฏบิ ัติกิจกรรมเข้าจงั หวะไดอ้ ยา่ งน้อย 3 รูปแบบ 4. วางแผนการจัดกิจกรรมการแข่งขันกิจกรรมเขา้ จงั หวะ 5. ตดั สินการแขง่ ขันกิจกรรมเข้าจงั หวะ 6. มมี ารยาทในการเปน็ ผูเ้ ล่น ผู้ชม ตามกฎ กติกา 7. มีนา้ ใจเป็นนกั กีฬา รแู้ พ้ รูช้ นะ รู้อภัย รวมทั้งหมด 7 ผลกำรเรียนรู้

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำเพิ่มเติม รหสั วชิ ำ พ33202 ลลี ำศ กลมุ่ สำระกำรเรยี นร้สู ุขศึกษำและพลศกึ ษำ ชนั้ มัธยมศึกษำปีที่ 6 เวลำ 20 ช่วั โมง จำนวน 0.5 หน่วยกติ ศกึ ษา วิเคราะห์ กีฬาลีลาศ ความคดิ รวบยอดเกย่ี วกับการเคลื่อนไหวรปู แบบตา่ งๆ ในการลลี าศ ใช้ ความสามารถของตนเพื่อเพิ่มศกั ยภาพของทมี คานึงถึงผลทเ่ี กดิ ต่อผอู้ ื่นและสงั คม เลน่ และแขง่ ขนั ลลี าศ แสดง การเคล่ือนไหวได้อย่างสร้างสรรค์ เข้ารว่ มกจิ กรรมนันทนาการภายในโรงเรยี น และนาหลักการแนวคิดไปปรบั ปรุง และพัฒนาคณุ ภาพชวี ติ ของตนและสังคม ออกกาลังกายโดยลีลาศทเี่ หมาะสมกบั ตนเองอยา่ งสม่าเสมอ อธิบาย และปฏิบตั ิเกย่ี วกบั สิทธิ กฎ กตกิ า ต่างๆ ในระหว่างการเล่น การแขง่ ขนั กบั ผู้อ่ืนและนาไปสรปุ เป็นแนว ปฏิบัติและใชใ้ นชีวติ ประจาวันอย่างต่อเนือ่ ง แสดงออกถงึ การมมี ารยาทในการดู การเล่นและการแข่งขันด้วย ความมนี า้ ใจนักกีฬาและนาไปใช้ปฏิบัตทิ ุกโอกาส จนเป็นบุคลิกภาพท่ีดี ร่วมกจิ กรรมทางกายและเล่นกฬี าอยา่ งมี ความสขุ ช่ืนชมในคณุ คา่ และความงามของการกีฬา โดยใชก้ ระบวนการปฏิบตั ิ เล่น แขง่ ขัน กจิ กรรมกลุ่ม การอธิบาย การวางแผน วเิ คราะห์ การนา เสนอ การใหค้ วามร่วมมือในการปฏบิ ัติกิจกรรม เพ่ือให้มีสุขภาพดีท้ังจิตใจ ร่างกายสมบูรณแ์ ข็งแรงสามารถ นาไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวันได้อย่างมีประสทิ ธิภาพ ผลกำรเรียนรู้ 1. อธบิ ายประเภทของการลลี าศ 2. บอกทิศทางของการลีลาศ 3. อธิบายมารยาททางสงั คมในงานลีลาศ 4. อธบิ ายการจับคู่ การนา และการตามในลลี าศ 5. แสดงวธิ ีการจบั คู่แบบ บอลรมู ปิด- เปิด 6. แสดงวิธีการนาและการตาม 7. แสดงลีลาศได้อย่างน้อย 3 รูปแบบ 8. จดั การแข่งขันกีฬาลีลาศ 9. ตดั สนิ การแข่งขันลีลาศ 10. มีมารยาทในการเป็นผเู้ ลน่ ผชู้ ม ตามกฎ กติกา 11. มนี ้าใจเป็นนกั กฬี า รแู้ พ้ รู้ชนะ รอู้ ภัย รวมท้ังหมด 11 ผลกำรเรียนรู้

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำพ้ืนฐำน รหัสวชิ ำ ศ 11101 ศิลปะ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ศิลปะ ชน้ั ประถมศกึ ษำปที ่ี 1 เวลำ 80 ช่ัวโมงจำนวน 2.0 หน่วยกิต สำระทัศนศิลป์ อภิปราย รูปรา่ ง ลักษณะ ขนาดของสิ่งตา่ งๆ รอบตวั บอกความรสู้ ึกทม่ี ีตอ่ ส่ิงแวดล้อม มที กั ษะ ในการใชว้ ัสดุอปุ กรณ์สร้างงานทศั นศิลป์ ทดลองใช้สีด้วยเทคนิคงา่ ยๆ วาดระบายสีภาพธรรมชาตติ าม ความรู้สึก ระบุงานทศั นศลิ ป์ในชีวิตประจาวนั โดยใช้กระบวนการทางศลิ ปะ สรา้ งสรรค์และใช้จินตนาการให้เปน็ ผลงานทัศนศิลป์ เพื่อใหเ้ กดิ ความรู้ ความเขา้ ใจ ใฝร่ ใู้ ฝเ่ รียน มวี ินยั มุง่ มัน่ ในการทางาน สำระดนตรี ศึกษาการเรยี นรู้ส่งิ ตา่ งๆ ทสี่ ามารถก่อกาเนิดเสียงท่แี ตกต่าง พร้อมทั้งบอกลักษณะของเสียงดัง - เบา ความช้า - เรว็ ของจังหวะ สามารถท่อง บทกลอน รอ้ งเพลง รวมทั้งมสี ว่ นรว่ มในกจิ กรรมดนตรอี ย่าง สนกุ สนาน โดยการเลา่ ถงึ บทเพลงและระบดุ นตรใี นทอ้ งถน่ิ เพ่อื มาปรบั ใชใ้ นชวี ิตปิ ระจาวัน โดยการใชก้ ระบวนการถ่ายทอดความรู้ กระบวนการคิด การฝกึ ทกั ษะความชานาญ เพื่อใหเ้ กดิ ความรู้ ความเขา้ ใจ และตระหนกั ถึงคุณคา่ ของดนตรีทถ่ี ือเป็นเอกลักษณป์ ระจาชาติและเห็นคณุ คา่ ของดนตรที ้องถน่ิ สำระนำฏศลิ ป์ ศกึ ษาความรพู้ ื้นฐานนาฏศลิ ปเ์ บ้ืองต้น สามารถปฏบิ ัติการเคลอื่ นไหวในลกั ษณะต่างๆ ใชค้ วามรจู้ าก ภาษาทา่ ประดิษฐท์ า่ ทางประกอบเพลง มีการสงั เกตและรับรู้การละเล่นของเด็กไทยด้วยความสนกุ สนาน โดยใช้กระบวนการทางการฝึกปฏิบัติ เพ่อื ใหเ้ กิดความรู้ ความชานาญ และสามารถนาไปใชไ้ ด้ใน ชวี ติ ประจาวัน ทาให้เห็นคณุ ค่าและรักความเป็นไทย ตัวช้ีวดั ศ. 1.1 ป. 1/1 – ป. 1/5 ศ. 1.2 ป. 1/1 ศ. 2.1 ป. 1/1 – ป. 1/5 ศ. 2.2 ป. 1/1 – ป. 1/2 ศ 3.1 ป. 1/1 – ป. 1/3 ศ 3.2 ป. 1/1 – ป. 1/2 รวมทั้งหมด 18 ตัวชี้วดั

คำอธิบำยรำยวชิ ำพ้นื ฐำน รหสั วชิ ำ ศ 12101 ศิลปะ กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ศลิ ปะ ชน้ั ประถมศึกษำปที ี่ 2 เวลำ 80 ช่วั โมง จำนวน 2.0 หน่วยกติ สำระทศั นศิลป์ บรรยาย และระบุทศั นธาตุ นามาสรา้ งงานทัศนศิลป์ มที ักษะในการใชว้ สั ดุอุปกรณ์สร้างงาน 3 มิติ สร้างภาพปะติด วาดภาพถ่ายทอดเร่ืองราวครอบครัวของตนและเพื่อนบา้ น เลอื กงานทัศนศิลปแ์ ละบรรยาย สง่ิ ที่มองเหน็ เน้ือหา เรอ่ื งราว สร้างงานทัศนศลิ ป์เปน็ รปู แบบงานโครงสร้างเคลื่อนไหว บอกความสาคัญของ งานทัศนศลิ ป์ในชวี ิตประจาวนั อภิปรายงานทศั นศลิ ป์ในท้องถนิ่ โดยใช้กระบวนการทางศลิ ปะสรา้ งสรรค์และใชจ้ นิ ตนาการให้เป็นผลงานทัศนศิลป์ เพ่อื ให้เกดิ ความรู้ ความเข้าใจ ใฝ่รใู้ ฝ่เรยี น ม่งุ มัน่ ในการทางาน รักความเป็นไทย สำระดนตรี ศึกษาการจาแนกแหล่งกาเนิดของเสียงท่ไี ดย้ ินและคุณสมบัติของเสียงสูง - ตา่ ดัง - เบา ยาว - สั้น ของดนตรี โดยการเคาะจังหวะ การเคลื่อนไหวร่างกายใหส้ อดคลอ้ งกับเนื้อหาของเพลง และร้องเพลงงา่ ยๆ ทเี่ หมาะสมกับวัย พร้อมทั้งบอกความหมาย ความสาคญั ของเพลงที่ไดย้ นิ รวมท้ังบอกความสัมพันธข์ องเสียง รอ้ ง เสียงเคร่อื งดนตรีในเพลงทอ้ งถน่ิ โดยใชค้ างา่ ยๆ ดว้ ยการแสดง และเขา้ รว่ มกจิ กรรมทางดนตรีในท้องถิ่น โดยการใชก้ ระบวนการถ่ายทอด กระบวนการคิด การใฝ่เรียนรู้ เพ่ือใหเ้ กดิ ความร้คู วามเข้าใจ การแสดงออกอย่างสรา้ งสรรค์ ทราบซ่งึ ในบทเพลง และตระหนกั ถึงคณุ คา่ ของดนตรีท่ีถอื เปน็ เอกลักษณ์ประจา ชาตแิ ละเหน็ คณุ คา่ ของดนตรีทอ้ งถน่ิ สำระนำฏศลิ ป์ ศกึ ษาการเคล่ือนไหวในรูปแบบต่างๆ สถานการณส์ น้ั ๆ อย่างสร้างสรรค์ โดยใชห้ ลกั และวธิ ีการปฏบิ ัติ ทางนาฏศลิ ป์ การใช้ประโยชนข์ องการแสดงนาฏศิลป์ในชวี ิตประจาวัน ใช้ภาษาทา่ และนาฏยศพั ท์แสดงท่าทาง ประกอบเพลงตามรปู แบบนาฏศลิ ป์ อยา่ งเขา้ ใจและสนกุ สนาน โดยใชก้ ระบวนการทางการฝึกปฏบิ ตั ิ อภิปรายสิง่ ที่เป็นลกั ษณะเดน่ และเอกลักษณ์ของการแสดง นาฏศลิ ปห์ รอื การแสดงนาฏศิลปพ์ ืน้ บ้าน เพื่อใหเ้ กดิ ความรู้ ความเขา้ ใจ ความชานาญ และความคิดท่ีจะ สรา้ งสรรค์ผลงาน รบั รปู้ ระโยชนข์ องการแสดงนาฏศิลป์ในชีวิตประจาวัน เพอื่ ทาให้เห็นคุณคา่ และรักความเป็น ไทย ตวั ชว้ี ดั ศ. 1.1 ป. 2/1 – ป. 2/8 ศ. 1.2 ป. 2/1 – ป. 2/2 ศ. 2.1 ป. 2/1 – ป. 2/5 ศ. 2.2 ป. 2/1 – ป. 2/2 ศ 3.1 ป. 2/1 – ป. 2/5 ศ 3.2 ป. 2/1 – ป. 2/3 รวมทั้งหมด 25 ตัวชี้วดั

คำอธิบำยรำยวชิ ำพื้นฐำน รหัสวชิ ำ ศ 13101 ศิลปะ กลุ่มสำระกำรเรยี นรูศ้ ลิ ปะ ชัน้ ประถมศกึ ษำปีท่ี 3 เวลำ 80 ช่ัวโมง จำนวน 2.0 หน่วยกิต สำระทศั นศิลป์ บรรยาย จาแนกทัศนธาตุ ระบุวสั ดุ อปุ กรณ์ท่ใี ช้เม่ือชมงานทัศนศลิ ป์ และมที ักษะในการใชว้ าดภาพระบายสี ถ่ายทอดความคดิ ความรสู้ กึ จากเหตุการณช์ ีวติ จริง บรรยายเหตผุ ลและวธิ ีการสร้างงานทศั นศิลป์ ลกั ษณะ รูปรา่ ง รปู ทรงในงานออกแบบ บอกความสาคญั และอภิปรายงานทศั นศิลป์ในชวี ติ ประจาวนั ในท้องถิ่น ระบุส่งิ ที่ชื่นชมและควรปรับปรงุ ในงานทัศนศิลป์ของตน โดยใช้กระบวนการทางศิลปะ สร้างสรรคแ์ ละใชจ้ ินตนาการใหเ้ ปน็ ผลงานทัศนศลิ ปเ์ พ่ือให้เกดิ ความรู้ ความเข้าใจ ใฝ่ร้ใู ฝเ่ รยี น มงุ่ ม่นั ในการทางาน รักความเป็นไทย สำระดนตรี ศึกษาการระบุรปู ร่าง ลกั ษณะของเคร่ืองดนตรีทีเ่ ห็นและได้ยนิ ในชีวิตประจาวนั โดยการใช้รปู ภาพหรือ สัญลักษณ์แทนเสยี งและจังหวะเคาะ พร้อมท้ังบอกบทบาทหน้าทีข่ องเพลงทีไ่ ดย้ ิน การขับรอ้ งบรรเลงดนตรี งา่ ยๆ การเคล่ือนไหวรา่ งกายท่าทางสอดคล้องกบั อารมณข์ องเพลง รวมทั้งแสดงความคิดเห็นเกย่ี วกับ เสยี งดนตรี เสยี งขบั ร้องของตนเองและผ้อู ่นื ดว้ ยการนาดนตรไี ปใชใ้ นโอกาสตา่ งๆ ได้อย่างเหมาะสม อกี ทงั้ ระบุ เอกลกั ษณ์ของดนตรีในท้องถ่ินและระบุประโยชนข์ องดนตรตี ่อการดาเนนิ ชวี ิตของคนในทอ้ งถนิ่ โดยการใชก้ ระบวนการถ่ายทอด กระบวนการคดิ การใฝ่เรียนรู้ การเหน็ คุณคา่ ของความเป็นไทย การฝกึ ทักษะความชานาน เข้าถงึ อารมณ์ของเพลง เรียนรู้ เพือ่ ให้เกิดความรูค้ วามเขา้ ใจ และตระหนักถึงคณุ ค่าของ ดนตรที ีถ่ ือเป็นเอกลกั ษณป์ ระจาชาตแิ ละเหน็ คุณค่าของดนตรีท้องถน่ิ สำระนำฏศิลป์ ศกึ ษาการเคลื่อนไหวในรูปแบบต่างๆ สถานการณส์ ั้นๆ อย่างสรา้ งสรรค์ โดยใชห้ ลกั และวธิ ีการปฏิบัตทิ าง นาฏศิลป์ การใชป้ ระโยชนข์ องการแสดงนาฏศลิ ป์ในชวี ติ ประจาวัน ใชภ้ าษาท่าและนาฏยศพั ท์แสดงทา่ ทาง ประกอบเพลงตามรปู แบบนาฏศิลป์ อยา่ งเขา้ ใจและสนกุ สนาน โดยใชก้ ระบวนการทางการฝึกปฏบิ ัติ อภิปรายสงิ่ ทีเ่ ปน็ ลกั ษณะเดน่ และเอกลักษณ์ของการแสดง นาฏศลิ ปห์ รือการแสดงนาฏศิลปพ์ ื้นบ้าน เพ่ือให้เกดิ ความรู้ ความเขา้ ใจ ความชานาญ และความคิดทจ่ี ะ สร้างสรรค์ผลงาน รับรปู้ ระโยชนข์ องการแสดงนาฏศิลป์ในชีวิตประจาวนั เพอ่ื ทาให้เห็นคุณคา่ และรักความเป็น ไทย ตวั ชี้วดั ศ. 1.1 ป. 3/1 – ป.3/10 ศ. 1.2 ป. 3/1 – ป.3/2 ศ. 2.1 ป. 3/1 – ป. 3/7 ศ. 2.2 ป. 3/1 – ป. 3/2 ศ 3.1 ป. 3/1 – ป. 3/5 ศ 3.2 ป. 3/1 – ป. 3/3 รวมท้ังหมด 29 ตัวชี้วัด

คำอธบิ ำยรำยวิชำพื้นฐำน รหัสวชิ ำ ศ 14101 ศิลปะ กลุ่มสำระกำรเรียนรศู้ ลิ ปะ ช้นั ประถมศึกษำปที ่ี 4 เวลำ 80 ชั่วโมง จำนวน 2.0 หนว่ ยกิต สำระทัศนศลิ ป์ ศึกษาและวิเคราะหค์ วามต้องการของผ้เู รยี น ใหเ้ รยี นร้ดู ว้ ยตวั เองตามความสนใจ ทักษะความถนัด ความสามรถของผเู้ รยี นไดอ้ ย่างจรงิ มรี ะบบและข้ันตอน การปลกู ฝังลกั ษณะที่ดี การเรยี นร้ใู นการทางาน สรา้ ง แบบและนาเสนอผลงานศิลปะ จากจนิ ตนาการความคิดสร้างสรรค์การสังเกตทางศิลปะ ให้รบั รเู้ ห็นคุณค่า ธรรมชาตสิ ง่ิ แวดล้อม ศลิ ปะไทยศลิ ปะทอ้ งถ่ินอธิบายความหมายของทัศนศลิ ป์ ทศั นธาตุ องคป์ ระกอบดนตรี องคป์ ระกอบนาฏศลิ ป์ สารวจ ทดลอง ทกั ษะในการใช้เทคนิควิธกี ารใหมๆ่ ให้เกิดความต้องการของตนเอง ศึกษาสังเกตรวบรวมข้อมูล และววิ ฒั นาการงานศิลปะทีเ่ ก่ยี วข้องกับวัฒนธรรมท้องถิ่น การถ่ายทอดชีวติ ความ ประทบั ใจ อธิบายใหผ้ อู้ ่นื เขา้ ใจ เชน่ ในประวัติศาสตรห์ รอื เหตุการณ์ในปจั จุบันทไี่ ด้รับอิทธพิ ลจากงานศลิ ปะ ไป ประยุกตใ์ ช้ในชีวติ ประจาวนั โดยใช้กระบวนการเรียนรู้ กลุ่มสาระอ่นื ๆและธรรมชาติแวดล้อม มรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถ่ิน ภูมิปญั ญาไทย และสากลมาประยกุ ต์ เพื่อให้เกิดความคิดความเขา้ ใจ สามารถสอ่ื สารถงึ สง่ิ ท่เี รียนรคู้ วามสามารถ ในการตัดสนิ ใจ สร้างสรรคง์ านศลิ ปะใหม้ ีคุณค่า การนาความร้ไู ปใช้ใหเ้ กิดประโยชน์ ความม่นั ใจในการแสดงออก มคี วามสุขกบั การทางาน และยอมรับความคิดความสามารถของผ้อู ่ืน ตระหนัก ชน่ื ชม รับรู้ เห็นคณุ ค่าของ ธรรมชาตสิ ิ่งแวดล้อม ศลิ ปะไทย ศิลปะท้องถ่นิ อย่างเหมาะสม สำระดนตรี ศึกษาการจาแนกประเภทของเครอื่ งดนตรีทใี่ ชใ้ นเพลงท่ีฟงั และบอกประโยคเพลงอย่างง่าย พรอ้ มท้ัง ระบทุ ิศทางการเคลือ่ นทขี่ ้ึน - ลงงา่ ยๆ ของทานอง รูปแบบ ความเร็วของจังหวะเพลงฟงั และระบดุ นตรที ี่ สามารถใช้ในการส่อื สารเรือ่ งราวความสาคัญในการอนรุ ักษ์ส่งเสริมวฒั นธรรมทางดนตรี โดยการบอกแหล่งทม่ี า ของความสัมพนั ธ์ของวถิ ีชวี ิตไทยทสี่ ะท้อนในดนตรีและเพลงทอ้ งถน่ิ การอ่านเขียนโนต้ ไทย - สากล รอ้ งเพลง โดยใช้ช่วงเสยี งท่เี หมาะสมกับตนเอง รวมท้ังใช้และเกบ็ เครื่องดนตรีอยา่ งถูกต้องและปลอดภัย เพอ่ื ให้รปู้ ระเภท ประโยคของเพลงและเครื่องดนตรี ทิศทาง การเคลื่อนทขี่ ึ้น - ลงของทานองเพลง ความสาคญั ต่างๆ ในท้องถน่ิ การเกบ็ รักษาเครื่องดนตรี สำระนำฏศิลป์ ศกึ ษา ฝึกทกั ษะพ้นื ฐานทางนาฏศิลป์และการละครท่ีใช้สือ่ ความหมายและอารมณโ์ ดยใชภ้ าษาทา่ และ นาฏยศพั ทห์ รือศัพท์ทางการละครงา่ ย ๆ ในการถ่ายทอดเรื่องราว แสดง การเคล่อื นไหวในจังหวะต่าง ๆ ตาม ความคดิ ของตน แสดงนาฏศิลปเ์ ป็นคู่ เป็นหมู่ พร้อมท้งั เล่าสิง่ ทช่ี นื่ ชอบในการแสดงโดยเนน้ จดุ สาคญั ของเรื่อง และลกั ษณะเด่นของตัวละคร ประวัตคิ วามเปน็ มาของนาฏศลิ ป์ หรอื ชดุ การแสดงอย่างงา่ ย ๆ การแสดงที่มา จากวฒั นธรรมอนื่ ความสาคัญของการแสดงความเคารพในการเรยี นและการแสดงนาฏศิลป์ โดยใชก้ ระบวนการถา่ ยทอด กระบวนการคิด การเปรยี บเทยี บ การฝึกทักษะความชานาญ เพ่ือใหเ้ กดิ ความรคู้ วามเข้าใจ และทักษะความชานาญ สามารถถ่ายทอดเพ่ือการอนุรกั ษ์ ตระหนักถึง คุณค่าของนาฏศลิ ปท์ ถี่ ือเป็นเอกลักษณป์ ระจาชาติ และนิยมไทย ตัวชี้วดั ศ. 1.1 ป. 4/1 – ป.3/9 ศ. 1.2 ป. 4/1 – ป.4/2 ศ. 2.1 ป. 4/1 – ป. 4/7 ศ. 2.2 ป. 4/1 – ป. 4/2 ศ 3.1 ป. 4/1 – ป. 4/5 ศ 3.2 ป. 4/1 – ป. 4/4 รวมท้ังหมด 29 ตัวชี้วดั

คำอธิบำยรำยวชิ ำพนื้ ฐำน รหัสวชิ ำ ศ 15101 ศลิ ปะ กลุ่มสำระกำรเรียนรศู้ ลิ ปะ ชน้ั ประถมศึกษำปที ่ี 5 เวลำ 80 ช่ัวโมง จำนวน 2.0 หนว่ ยกติ สำระทศั นศิลป์ ศกึ ษาและวิเคราะห์สร้างและนาเสนอและผลงานศลิ ปะจากจนิ ตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ การสังเกต ทางศิลปะ รบั รู้งานทเ่ี กยี่ วกับวฒั นธรรมในท้องถน่ิ สามารถอภปิ รายให้ผ้อู ่ืนเข้าใจประวตั ิศาสตร์ หรอื เหตุการณ์ ในปจั จุบันไดร้ วมถึงการเรียนรกู้ บั กล่มุ สาระอ่ืนๆ สนใจสร้างงานศิลปะให้มีความสขุ กบั การทางาน ม่นั ใจในการ แสดงออกยอมรับความสามารถของผู้อ่ืน ตระหนักชืน่ ชมในคุณคา่ ของศิลปะ ธรรมชาติ สงิ่ แวดล้อม ภมู ปิ ญั ญา ท้องถน่ิ ภมู ิปญั ญาไทย และสากล โดยการถา่ ยทอดจนิ ตนาการ ความรู้สึก ความประทบั ใจในธรรมชาติ และสงิ่ แวดล้อมดว้ ยเทคนิค วธิ ีการ สร้างสรรค์งานทศั นศลิ ปด์ ้วยวธิ ีการตา่ งๆ การสารวจ ตรวจสอบ การคน้ คว้าหาข้อมลู การอภปิ ราย เพ่ือใหเ้ กดิ ความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถส่ือสารสิ่งที่เรียนรู้ ความสามารถในการตดั สินใจ ใหเ้ หน็ คุณค่าของศิลปะสาขาต่างๆ ไปใช้ประโยชนใ์ นชีวิตประจาวนั ใชร้ ู้จกั ใชว้ สั ดุ อปุ กรณ์ในการทางานอย่างปลอดภัย และรับผิดชอบ รแู้ ละอธิบายความหมายงานทัศนศลิ ป์ ทัศนธาตุ สนใจรู้ความเปน็ มาของภูมิปัญญาท้องถิ่น สำระดนตรี ศกึ ษาการระบอุ งคป์ ระกอบของดนตรใี นเพลงที่ใช้ในการส่ืออารมณ์ การจาแนกลักษณะของเสียงขบั รอ้ งและเครอ่ื งดนตรีที่อยูใ่ นวงดนตรปี ระเภทต่างๆ โดยการอา่ น - เขยี นโน้ตไทย - สากล 5 ระดบั เสยี งรวมทั้งการ ใช้เคร่อื งดนตรีบรรเลงจังหวะและทานองรว่ มกับกจิ กรรมในการแสดงออกตามจนิ ตนาการ พร้อมท้ังรอ้ งเพลง ไทย เพลงสากลทเ่ี หมาะสมกับวัย การดน้ สดง่ายๆ โดยใช้ประโยคเพลงเพลงแบบถาม – ตอบ และการอธบิ ายความสัมพันธ์ คุณคา่ ระหวา่ งดนตรกี ับ ประเพณที ่มี าจากวัฒนธรรมที่ตา่ งกัน เพ่อื ให้รถู้ ึงองค์ประกอบของดนตรี การเขยี นโน้ตไทย - สากล ตามลาดบั เสียง การแสดงออกตาม จินตนาการของแต่ละคน เห็นคณุ คา่ ความสัมพนั ธร์ ะหว่างดนตรกี บั ประเพณีทมี่ าจากวัฒนธรรมทตี่ า่ งกัน สำระนำฏศลิ ป์ ศึกษาองคป์ ระกอบของนาฏศิลป์ การแสดงทา่ ทางประกอบเพลงหรือเร่ืองราวตามความคิดของตน โดย เนน้ การใชภ้ าษาท่า และนาฏยศัพท์ในการสื่อความหมายและการแสดงออก มสี ่วนร่วมในการเขยี น เค้าโครงเรอ่ื งหรือบทละครสนั้ ๆ รวมถงึ การแสดงนาฏศิลป์พ้ืนบ้านท่ีสะท้อนถึงวัฒนธรรมและประเพณี ใน แตล่ ะท้องถิน่ การแสดงนาฏศิลปช์ ดุ ต่าง ๆ รวมท้ังประโยชน์ท่ไี ด้รับจากการชมการแสดง โดยใช้กระบวนการถ่ายทอด กระบวนการคิด การเปรยี บเทยี บ การฝกึ ทักษะความชานาญ เพ่อื ใหเ้ กดิ ความรู้ความเข้าใจ และทักษะความชานาญ สามารถถา่ ยทอดเพือ่ การอนรุ ักษ์ ตระหนักถึง คุณค่าของนาฏศลิ ป์ทีถ่ ือเป็นเอกลักษณป์ ระจาชาติ และนิยมไทย ตวั ชว้ี ดั ศ. 1.1 ป. 5/1 – ป.5/7 ศ. 1.2 ป. 5/1 – ป.5/2 ศ. 2.1 ป. 5/1 – ป. 5/7 ศ. 2.2 ป. 5/1 – ป. 5/2 ศ 3.1 ป. 5/1 – ป. 5/6 ศ 3.2 ป. 5/1 – ป. 5/2 รวมทั้งหมด 26 ตัวชี้วัด

คำอธบิ ำยรำยวิชำพื้นฐำน รหัสวิชำ ศ 16101 ศลิ ปะ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ศลิ ปะ ชน้ั ประถมศึกษำปที ่ี 6 เวลำ 80 ชั่วโมง จำนวน 2.0 หน่วยกติ สำระทัศนศลิ ป์ ศึกษาและวเิ คราะห์ความต้องการของผู้เรยี น ใหเ้ รียนรู้ดว้ ยตวั เอง ตามความสนใจทกั ษะความถนัด ความสามารถของผเู้ รียนได้ปฏิบัตจิ ริง สามารถสื่อสารงานด้านทัศนศลิ ป์ใหเ้ ปน็ เร่อื งราว สรา้ งและนาเสนอ ผลงานศิลปะจากจนิ ตนาการ ความคดิ สรา้ งสรรค์จะสังเกตความรู้สึกและความประทับใจ รับรู้งานศิลปะท่ี เกย่ี วกบั วฒั นธรรมในท้องถ่นิ ไดแ้ ก่ ทศั นธาตุ องค์ประกอบดนตรี องคป์ ระกอบนาฏศิลป์ สามารถอธิบายให้ ผอู้ นื่ เขา้ ใจ ทักษะในการใช้เทคนิคให้เกิดผลตามความต้องการของตนเอง และสามารถอธบิ ายใหผ้ ูอ้ ่ืนรบั รู้ ซึ่ง สามารถช่วยในการวเิ คราะห์และอธบิ ายใหผ้ ู้อื่นไดเ้ ข้าใจในประวตั ศิ าสตร์หรอื เหตุการณ์ในปัจจุบนั ได้ โดยการถา่ ยทอดจนิ ตนาการ ความสวยงาม ความไพเราะ ความมัน่ ใจในการแสดงออก ยอมรับ ความสามารถของผูอ้ ่ืนใหต้ ระหนัก ชืน่ ชม ในคณุ ค่าของศิลปะ ธรรมชาติส่ิงแวดล้อม วัฒนธรรม ภูมปิ ญั ญาท้องถนิ่ ภูมิปญั ญาไทยและสากล วิธกี ารสร้างสรรค์งานทศั นศลิ ป์ดว้ ยวิธีการต่างๆ การสารวจ ตรวจสอบหาขอ้ มูลเพื่อใหเ้ กิดความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ เพอ่ื ให้เหน็ คุณคา่ ในศิลปะสาขาต่างๆ ไปใช้ประโยชนใ์ นชวี ติ ประจาวัน รวมถึงการเรยี นรูก้ ับกลมุ่ สาระ อนื่ ๆ และการใชว้ ัสดุอุปกรณ์ในการทางานอย่างปลอดภัยและรับผิดชอบ รู้ความหมาย รคู้ วามเปน็ มาของภูมิ ปญั ญาในท้องถิน่ สำระดนตรี ศกึ ษาการบรรยายเพลงที่ฟงั ความรู้สึกท่มี ีต่อดนตรี โดยอาศยั องคป์ ระกอบของดนตรีและศพั ทส์ ังคตี และการจาแนกประเภทประเภท บทบาท หน้าที่ของเคร่ืองดนตรีไทย เคร่ืองดนตรที ี่มาจากวัฒนธรรมตา่ งๆ รวมทงั้ การอ่าน - เขยี นโน้ตไทย - สากลทานองง่ายๆ โดยการใช้เครือ่ งดนตรบี รรเลงประกอบ การร้องเพลงดน้ สดที่มจี ังหวะและทานองง่ายๆ พร้อมท้งั แสดง ความคดิ เหน็ เกีย่ วกบั ทานอง จังหวะ การประสานเสียง คุณภาพเสยี งของเพลงท่ีฟงั และอธิบายเรอื่ งราวของ ดนตรไี ทยในประวตั ศิ าสตร์ การจาแนกดนตรที ่มี าจากยคุ สมัยทีต่ ่างกนั อีกท้ังอภปิ รายอทิ ธพิ ลของวัฒนธรรมต่อ ดนตรใี นทอ้ งถิ่น เพ่ือให้ร้ถู งึ องค์ประกอบของดนตรี ศพั ทส์ งั คีต การจาแนกประเภท การเขียนโนต้ ไทยและโน้ตสากล อธิบายเรือ่ งราวตา่ งๆ ของดนตรีไทยในประวัตศิ าสตร์ เพื่อใหเ้ กิดความรู้ความเข้าใจในเน้ือหา สำระนำฏศิลป์ ศกึ ษาการเคล่ือนไหวและการแสดงโดยเนน้ การถ่ายทอดลีลาหรอื อารมณ์ ออกแบบเครื่องแต่งกาย หรือ อปุ กรณ์ประกอบการแสดงอย่างง่าย ๆ การแสดงนาฏศลิ ป์และละครงา่ ย ๆ เจตคติท่มี ตี ่องานนาฏศิลปแ์ ละการ ละคร หลักการชมการแสดง ความสมั พันธ์ระหวา่ งนาฏศิลปแ์ ละการละครกบั ส่ิงทีป่ ระสบในชีวติ ประจาวนั สิ่งทม่ี คี วามสาคัญต่อการแสดงนาฏศลิ ปแ์ ละละคร ประโยชนท์ ีไ่ ด้รบั จากการแสดงหรือการชมการแสดง นาฏศิลปแ์ ละละคร โดยใชก้ ระบวนการถ่ายทอด กระบวนการคิด การเปรยี บเทยี บ การฝึกทกั ษะความชานาญ เพื่อให้เกดิ ความรู้ความเข้าใจ และทักษะความชานาญ สามารถถ่ายทอดเพ่ือการอนุรักษ์ ตระหนักถึง คณุ คา่ ของนาฏศิลป์ที่ถือเปน็ เอกลักษณป์ ระจาชาติ และนิยมไทย ตวั ช้ีวดั ศ. 1.1 ป. 6/1 – ป.6/7 ศ. 1.2 ป. 6/1 – ป.6/3 ศ. 2.1 ป. 6/1 – ป. 6/6 ศ. 2.2 ป. 6/1 – ป. 6/3 ศ 3.1 ป. 6/1 – ป. 6/6

ศ 3.2 ป. 6/1 – ป. 6/2 รวมทั้งหมด 27 ตัวช้ีวดั

คำอธิบำยรำยวิชำพ้นื ฐำน รหัสวิชำ ศ 21101 ดนตรี - นำฏศลิ ป์ 1 กลุ่มสำระกำรเรียนรูศ้ ิลปะ ชน้ั มัธยมศกึ ษำปที ี่ 1 เวลำ 20 ช่ัวโมง จำนวน 0.5หน่วยกติ ศกึ ษาเครือ่ งหมาย สญั ลกั ษณ์ทางดนตรี เสยี งร้อง เสยี งเครอ่ื งดนตรี รอ้ งเพลง ขับรอ้ งเพลงพน้ื บ้าน ใชเ้ คร่ืองดนตรปี ระกอบการร้องเพลง จัดประเภทวงดนตรี อารมณข์ องบทเพลง คุณภาพของบทเพลง ใชแ้ ละ บารุงรักษาเคร่ืองดนตรี บทบาทอิทธิพลของดนตรี องค์ประกอบของดนตรใี นแต่ละวฒั นธรรม โดยใชก้ ระบวนการ การอา่ น การเขยี น ร้องโน้ตไทยสากล เปรียบเทยี บเสียง การร้องและการ บรรเลงเครอื่ งดนตรจี ดั ประเภทวงดนตรี เปรยี บเทยี บอารมณเ์ พลง นาเสนอผลงานเพลง ประเมินคุณภาพใช้ และบารงุ รกั ษาเครื่องดนตรี อธิบายบทบาทและอิทธิพลของดนตรีท่ีแตกกัน สรา้ งสรรคผ์ ลงาน มุ่งมนั่ ในการ ทางาน มจี ิตสาธารณะ เห็นประโยชน์และนาไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั ได้ รหสั ตวั ชี้วัด ศ 2.1 ม.1/1,ม.1/2,ม.1/3,ม.1/4,ม.1/5,ม.1/6,ม.1/7,ม.1/8, ม.1/9 ศ 2.2 ม.1/1 , ม.1/2 รวมทั้งหมด 11 ตัวชี้วัด

คำอธิบำยรำยวชิ ำพื้นฐำน รหัสวิชำ ศ 21102 ทศั นศิลป์ 1 กลุ่มสำระกำรเรียนรูศ้ ิลปะ ชน้ั มัธยมศกึ ษำปีที่ 1 เวลำ 20 ช่ัวโมง จำนวน 0.5 หนว่ ยกติ ศกึ ษางานทศั นศลิ ป์ ทศั นธาตุ หลักการออกแบบ สญั ลักษณ์ ความเป็นเอกภาพ ความกลมกลนื ความ สมดลุ ระยะไกลใกล้ 3 มิติ วาดภาพทัศนยี ภาพ งานปั้น สอ่ื ผสม กราฟฟกิ ลกั ษณะงานทศั นศิลป์ ภาคตา่ ง ๆ โดยใชก้ ระบวนการ บรรยายความ เปรยี บเทยี บ รวบรวม นาเสนอความคิด มงุ่ มั่นในการทางาน มีจติ สาธารณะ รกั ความเปน็ ไทย เหน็ ประโยชนข์ องงานทัศนศลิ ป์ ตวั ชี้วดั ศ 1.1 ม. 1/1, ม.1/2, ม.1/3, ม.1/4, ม.1/5, ม .1/6 รวมทั้งหมด 6 ตัวชว้ี ัด

คำอธบิ ำยรำยวิชำพนื้ ฐำน รหัสวชิ ำ ศ 21103 ดนตรี - นำฏศิลป์ 2 กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ศลิ ปะ ช้ันมัธยมศึกษำปีที่ 1 เวลำ 20 ชั่วโมง จำนวน 0.5 หน่วยกิต ศึกษาอิทธิพลของนักแสดง นาฏยศัพท์ แสดงละคร การจัดการแสดง การแสดงท่าทางการเคลื่อนไหว หลักในการชมการแสดง การเปลีย่ นแปลงนาฏศิลป์ไทย ประเภท ยุคสมยั ของละครไทย โดยใช้กระบวนการอธบิ าย ปฏบิ ัตเิ ปน็ ผแู้ สดง ผู้ชม ใช้ภาษาท่า นาฏยศัพท์ เคลื่อนไหวร่างกาย ราวง แสดงนาฏศิลปง์ า่ ยๆและการแสดงนาฏศลิ ป์พ้ืนบ้าน ใชก้ ระบวนการทางานเป็นกลุ่ม ผลติ การแสดง สร้างสรรค์ กจิ กรรมการแสดง พจิ ารณาคณุ ภาพการแสดง หลกั การชมการแสดง มีมารยาทในการแสดง และการเรียน มุง่ ม่นั ในการทางาน มีจติ สาธารณะ รักความเป็นไทย เห็นประโยชน์ของนาฏศิลป์และนาไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวัน ตัวชี้วดั ศ 3.1 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3, ม.1/4, ม.1/5 ศ 3.2 ม.1/1, ม.1/2 รวมทั้งหมด 7 ตวั ชว้ี ัด

คำอธิบำยรำยวิชำพน้ื ฐำน รหสั วิชำ ศ 21104 ทัศนศลิ ป์ 2 กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ศลิ ปะ ช้ันมัธยมศึกษำปที ี่ 1 เวลำ 20 ชั่วโมง จำนวน 0.5 หน่วยกิต รเู้ ข้าใจ ส่อื ความหมาย วิเคราะห์ วจิ ารณ์ สร้างสรรค์ งานทศั นศลิ ป์จากจนิ ตนาการ ประสบการณ์ ด้วยวสั ดุ อปุ กรณ์ เทคนิค ทัศนธาตุและเทคโนโลยอี ยา่ งเหมาะสมกบั ยคุ สมยั รับรู้ สนใจและเห็นคุณค่าความ งามของธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดล้อม ศลิ ปวัฒนธรรมไทย ภมู ิปญั ญาท้องถ่ิน ภูมปิ ญั ญาไทยและสากล ตัวชว้ี ดั ศ 1.1 ม. 1/1,ม.1/2,ม.1/3, ม.1/4, ม. 1/5,ม. 1/6 ศ 1.2 ม. 1/1 , ม.1/2, ม. 1/3 รวมท้ังหมด 9 ตัวชีว้ ัด

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำพน้ื ฐำน รหสั วิชำ ศ 22101 ดนตรี -นำฏศิลป์ 1 กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้ศลิ ปะ ชนั้ มธั ยมศึกษำปที ่ี 2 เวลำ 20 ชั่วโมง จำนวน 0.5 หนว่ ยกิต ศึกษาเอกสารประกอบวชิ าดนตรี โน้ตไทยและสากล เคร่อื งหมายแปลงเสยี ง อิทธิพลต่อการสรา้ งสรรค์ งานดนตรี หลกั การรอ้ งเพลง หลักการรวมวง อารมณ์เพลง การขบั รอ้ งเพลงพืน้ บา้ น หลักการฝกึ ปฏิบัติ บทบาท ดนตรี เหตกุ ารณ์และประวัติศาสตร์ รปู แบบของดนตรีในประเทศ โดยใชก้ ระบวนการเปรยี บเทียบ อธิบาย บรรยาย ทกั ษะการอ่าน เขียน ร้องโนต้ ระบุปจั จยั สาคัญขอก การร้องเพลง การเล่นดนตรีเด่ียว และรวมวง ประเมนิ ทักษะทางดนตรี ระบุอาชีพทีเ่ ก่ยี วข้องกับดนตรี ตัวชว้ี ัด ศ 2.1 ม2/1 , ม.2/2 , ม.2/3 , ม.2/4 , ม.2/5 , ม.2/6 , ม.2/7 ศ 2.2 ม.2/1 ,ม2/2 รวมท้ังหมด 9 ตวั ชีว้ ดั

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำพน้ื ฐำน รหัสวชิ ำ ศ22102 ทัศนศิลป์ 1 กลุ่มสำระกำรเรยี นรศู้ ิลปะ ชั้นมธั ยมศึกษำปที ่ี 2 เวลำ 20 ช่ัวโมง จำนวน 0.5 หน่วยกติ ศึกษาวธิ ีการทางทัศนศลิ ป์ การเขียนภาพระบายสี การปั้น การพมิ พ์ภาพ การออกแบบตกแต่ง ภายในและภายนอกอาคาร การออกแบบงานศิลป์ในรูปแบบและด้านต่าง ๆ การใช้เทคนคิ การเขยี นภาพ ทศั นยี ภาพในวธิ กี ารต่าง ๆ โดยใช้กระบวนการบรรยายความ เปรียบเทียบ รวบรวม นาเสนอความคิด มุ่งม่นั ในการทางาน มีจติ สาธารณะ รกั ความเป็นไทย เหน็ ประโยชนข์ องทัศนศิลป์ ตัวชว้ี ัด ศ 1.1 ม.2/1 ,ม.2/2, ม.2/3, ม.2/4 รวมทั้งหมด 4 ตวั ช้ีวดั

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำพื้นฐำน รหัสวิชำ ศ 22103 ดนตรี - นำฏศิลป์ 2 กลุ่มสำระกำรเรยี นรูศ้ ลิ ปะ ชนั้ มัธยมศกึ ษำปีที่ 2 เวลำ 20 ชวั่ โมง จำนวน 0.5 หน่วยกติ ศึกษาศิลปะการแสดง องค์ประกอบนาฏศิลป์ และการละคร นาฏยศัพท์ ภาษาท่า ราวงมาตรฐาน เช่ือมโยงการเรียนรนู้ าฏศลิ ป์ และการละครกับสาระอ่ืน นาฏศลิ ปพ์ ืน้ เมืองละครไทย ละครพน้ื บ้าน มหรสพทีเ่ คย มใี นอดีต ละครสมัยตา่ ง ๆ โดยใช้กระบวนการเปรยี บเทยี บ อธบิ าย บรรยาย เสนอข้อคดิ เหน็ ระบุ สรา้ งสรรค์การแสดง วเิ คราะห์ วิจารณ์การแสดง ปฏบิ ตั ทิ ่ารา แสดงนาฏศลิ ป์รูปแบบตา่ งๆ ตวั ช้ีวัด ศ 3.1 ม2/1 , ม.2/2 , ม.2/3 , ม.2/4 , ม.2/5 ศ 3.2 ม.2/1 ,ม.2/2 ม.2/3 รวมท้ังหมด 8 ตัวช้ีวดั

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำพนื้ ฐำน รหัสวิชำ ศ 22104 ทศั นศลิ ป์ 2 กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ศลิ ปะ ชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 2 เวลำ 20 ช่ัวโมง จำนวน 0.5 หนว่ ยกิต ศกึ ษางานทัศนศิลป์ ท่ีตอ้ งวิเคราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์ และแสดงความคดิ เห็นเกยี่ วกับงานทศั นธาตใุ น งานศลิ ป์ ร้หู ลกั และความงามในทศั นศลิ ป์ มคี วามเช่ือทางวัฒนธรรม ศลิ ปะบนผนงั ตามวัด โบสถ์ ในทอ้ งถน่ิ ของเรา และอิทธิพลทที่ าให้ เกดิ การสร้างงานศิลปะในยุคสมยั ต่างๆ ใช้ภูมิปัญญามรดกอันทรง คุณคา่ ของศลิ ปวัฒนธรรมไทย โดยใชก้ ระบวนการบรรยายความ เปรียบเทียบ รวบรวม นาเสนอความคิด มุ่งมั่นในการทางาน มีจติ สาธารณะ รักความเปน็ ไทย เห็นประโยชน์ของทัศนศิลป์ ตวั ชว้ี ัด ศ 1.1 ม.2/5, ม.2/6 ศ 1.2 ม.2/1, ม.2/2 รวมท้ังหมด 4 ตัวชว้ี ัด

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำพ้ืนฐำน รหสั วชิ ำ ศ 23101 ดนตรี -นำฏศลิ ป์ 1 กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ศลิ ปะ ชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 3 เวลำ 20 ชั่วโมง จำนวน 0.5 หนว่ ยกิต ศกึ ษาองคป์ ระกอบที่ใช้ในงานดนตรี หลักการรอ้ งเพลง การเลน่ ดนตรเี ดย่ี ว หลักการแตง่ เพลงสัน้ ๆ องค์ประกอบในการสร้างสรรคง์ านดนตรี อิทธิพลของดนตรีท่มี ตี ่อบุคคลและสังคม การจัดการแสดงดนตรี ววิ ัฒนาการดนตรีแตล่ ะยคุ สมัย ลักษณะเด่นของงานดนตรที ่ีได้รับการยอมรับและการขับรอ้ งเพลงพื้นบา้ น โดยใชก้ ระบวนการเปรยี บเทียบ อธบิ าย บรรยาย นาเสนอ รอ้ งเพลง เลน่ ดนตรีและการแสดงออก ตัวชวี้ ัด ศ 2.1 ม3/1 , ม.3/2 , ม.3/3 , ม.3/4 , ม.3/5 , ม.3/6 , ม.3/7 ศ 2.2 ม.3/1 ,ม3/2 รวมท้ังหมด 9 ตัวช้วี ดั

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำพื้นฐำน รหสั วชิ ำ ศ23102 ทศั นศลิ ป์ 1 กลุ่มสำระกำรเรยี นรูศ้ ลิ ปะ ชัน้ มธั ยมศกึ ษำปที ่ี 3 เวลำ 20 ช่ัวโมง จำนวน 0.5 หน่วยกิต ศกึ ษางานทัศนศลิ ป์ การถา่ ยทอดความคิด ความรู้สึก เกี่ยวกับงานจิตรกรรม ประตมิ ากรรม สถาปตั ยกรรม กระบานการสรา้ งสรรคง์ านพาณิชย์ศิลป์ การสร้างสรรค์ภาพที่แสดงในรูปแบบต่าง ๆ การรับรู้ ชื่นชม ความประทับใจ ในความงามของศลิ ปะ โดยใชก้ ระบวนการบรรยายความ เปรียบเทยี บ รวบรวม นาเสนอความคิด มงุ่ มน่ั ใน การทางาน มี จติ สาธารณะ รกั ความเปน็ ไทย เห็นประโยชน์ของทัศนศลิ ป์ ตัวชี้วัด ศ 1.1 ม.3/1 ,ม.3/2, ม.3/3, ม.3/4 รวมทั้งหมด 4 ตัวช้ีวัด

คำอธิบำยรำยวิชำพื้นฐำน รหสั วชิ ำ ศ 23103 ดนตรี - นำฏศลิ ป์ 2 กลุ่มสำระกำรเรยี นรศู้ ลิ ปะ ช้นั มธั ยมศึกษำปีที่ 3 เวลำ 20 ชัว่ โมง จำนวน 0.5 หนว่ ยกิต ศกึ ษาโครงสร้าง องค์ประกอบของบทละคร ศพั ท์ทางการแสดง นาฏยศพั ท์ ภาษาท่าทางนาฏศลิ ป์ รา วงมาตรฐาน รปู แบบการแสดง ประดิษฐ์ท่าราประกอบการแสดง องค์ประกอบนาฏศิลป์ การจดั การแสดง บทบาทหนา้ ท่ีของการแสดง ละครกบั ชวี ติ การออกแบบสร้างสรรค์เคร่ืองแตง่ กาย ความสาคญั และบทบาทของ นาฏศิลป์ การละครในชวี ติ ประจาวัน การอนรุ กั ษน์ าฏศิลปไ์ ทยและการแสดงนาฏศลิ ป์พืน้ บ้าน โดยใชก้ ระบวนการ อธบิ าย ระบุ ปฏบิ ัติทา่ ทางนาฏศิลป์ไทย บรรยายเปรยี บเทยี บ ทักษะการคดิ สร้างสรรค์ การแปลความการสื่อความ วิจารณ์เปรียบเทยี บ การจดั การแสดง นาเสนอความคิด แสดงความ คิดเห็น ออกแบบสร้างสรรค์อุปกรณ์เครื่องแตง่ กาย ตวั ชี้วัด ศ 3.1 ม3/1 , ม.3/2 , ม.3/3 , ม.3/4 , ม.3/5 , ม.3/6 , ม.3/7 ศ 3.2 ม.3/1 ,ม.3/2 ,ม.3/3 รวมทั้งหมด 10 ตัวช้ีวัด

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำพ้ืนฐำน รหัสวิชำ ศ23104 ทศั นศลิ ป์ 2 กลุ่มสำระกำรเรียนรศู้ ิลปะ ชน้ั มัธยมศกึ ษำปีท่ี 3 เวลำ 20 ชว่ั โมง จำนวน 0.5 หนว่ ยกติ ศกึ ษางานทัศนศลิ ป์ ศลิ ปะการตกแต่ง งานประดษิ ฐ์ของที่ระลึก การวิจารณง์ าน การจดั แสดงผล งานทางศลิ ปะ ผลติ ภณั ฑ์ภมู ิปัญญาไทย ภมู ปิ ัญญาสากล ศลิ ปะพนื้ บ้านแตล่ ะภาค ศิลปะบนผนังตามวัด โบสถ์ ในท้องถ่ินของเรา คุณค่าในศลิ ปวัฒนธรรม ด้านจิตรกรรม ประตมิ ากรรม สถาปัตยกรรมและหัตถกรรม โดยใช้กระบวนการบรรยายความ เปรียบเทียบ รวบรวม นาเสนอความคิด มงุ่ ม่นั ในการทางาน มีจติ สาธารณะ รกั ความเปน็ ไทย เหน็ ประโยชน์ของทัศนศิลป์ ตวั ช้ีวัด ศ 1.2 ม.3/1,ม.3/2, ม.3/3 รวมทั้งหมด 3 ตัวชวี้ ดั

คำอธบิ ำยรำยวิชำพ้ืนฐำน รหสั วิชำ ศ 31101 ดนตรี-นำฏศิลป์ กล่มุ สำระกำรเรียนรูศ้ ิลปะ ชน้ั มธั ยมศึกษำปีที่ 4 เวลำ 20 ชั่วโมง จำนวน 0.5 หน่วยกติ อ่าน เขยี นโน้ตดนตรไี ทยและสากลในอัตราจังหวะตา่ ง ๆ จาแนกประเภทและรูปแบบของวงดนตรที ง้ั ไทยและสากล เปรยี บเทียบรูปแบบของบทเพลงและวงดนตรีแต่ละประเภท วเิ คราะห์รูปแบบของดนตรไี ทย และดนตรสี ากลในยุคสมยั ต่าง ๆ เปรยี บเทียบลกั ษณะเด่นของดนตรีในวัฒนธรรมต่าง ๆ เหน็ คณุ ค่าของการนา ความรดู้ ้านดนตรีไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจาวัน มีวนิ ัย รบั ผดิ ชอบ มคี ณุ ธรรม จริยธรรม มีความมุ่งม่ัน ขยัน ซ่อื สตั ย์ และมีค่านยิ มทเ่ี หมาะสม วิเคราะห์แก่นของการแสดงนาฏศลิ ป์ และการละคร ทตี่ อ้ งส่ือความหมายใน การแสดง วิจารณก์ ารแสดงตามหลกั นาฏศิลปแ์ ละการละคร บรรยายและวเิ คราะห์อิทธิพลของเคร่ืองแต่งกาย แสง สี เสยี ง ฉาก อุปกรณ์ และสถานที่ท่ีมีผลต่อการแสดง บรรยายววิ ฒั นาการของนาฏศิลปแ์ ละการละครไทย ตง้ั แตอ่ ดีตจนถงึ ปัจจุบนั เหน็ คุณค่าในศลิ ปะการแสดง ใฝเ่ รยี นรแู้ ละมงุ่ มนั่ ในการสร้างสรรคผ์ ลงานทางการแสดง เพือ่ สืบสานศลิ ปวัฒนธรรมไทย ตวั ชี้วดั ศ 2.1 ม.4/2, ม.4/2, ม.4/4, ม.4/5 ศ 2.2 ม.4/1, ม.4/3 ศ3.1 ม.4/4, ม.4/5, ม.4/6 ศ 3.2 ม.4/3, ม.4/4 รวมทั้งหมด 11 ตัวช้ีวัด

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำพ้นื ฐำน รหสั วิชำ ศ 31102 ทศั นศลิ ป์ กลุ่มสำระกำรเรียนรศู้ ลิ ปะ ชนั้ มัธยมศึกษำปีท่ี 4 เวลำ 20 ช่ัวโมง จำนวน 0.5 หนว่ ยกิต วเิ คราะหก์ ารใชท้ ัศนธาตแุ ละหลกั การออกแบบในการสอ่ื ความหมายในรูปแบบต่างๆและการเลือกใช้ วัสดุอุปกรณแ์ ละเทคนคิ ของศิลปินในการแสดงออกทางทัศนศิลป์ บรรยายจดุ ประสงค์และเนื้อหาของงาน ทศั นศิลป์ โดยใช้ศัพท์ทางทัศนศลิ ป์ มีทักษะและเทคนิคในการใช้วัสดอุ ปุ กรณ์ และกระบวนการทสี่ ูงข้นึ ในการสร้างสรรค์งานทศั นศิลป์ สรา้ งสรรค์งานทัศนศลิ ป์ดว้ ยเทคโนโลยตี า่ งๆ โดยเน้นหลกั การออกแบบและการจัดองค์ประกอบศลิ ป์ คานงึ ถึงความมีระเบยี บวินัยในการปฏบิ ัติงานด้วยความมุ่งมน่ั ด้วยความตั้งใจใฝ่รูใ้ ฝเ่ รียนมีความซ่ือสตั ย์ สุจริตต่อการสรา้ งสรรคง์ านทัศนศิลป์อยา่ งเห็นคณุ คา่ และรักความเปน็ ไทย ตัวชวี้ ัด ศ 1.1 ม. 4/3, ม.4/5, ม.4/6, ม.4/7, ม.4/10, ม.4/11 ศ 1.2 ม.4/1, ม.4/2 รวมทั้งหมด 8 ตัวช้ีวดั

คำอธิบำยรำยวชิ ำพน้ื ฐำน รหสั วชิ ำ ศ 32101 ทศั นศลิ ป์ กล่มุ สำระกำรเรียนร้ศู ิลปะ ช้ันมธั ยมศึกษำปีที่ 5 เวลำ 20 ชั่วโมง จำนวน 0.5 หน่วยกิต วเิ คราะห์และอธิบายจุดมุ่งหมายของศิลปนิ ในการเลือกใช้วสั ดุ อุปกรณ์ เทคนคิ และเน้ือหา โดยจดั กลุม่ งานทัศนศิลปเ์ พ่ือสะท้อนพฒั นาการและความกา้ วหน้าของตนเอง ศึกษาแนวคดิ และวธิ กี ารสร้างงาน ของศิลปินเพ่ือแสดงความคิดเห็นเกีย่ วกบั สภาพสงั คมในปัจจบุ ัน มที ักษะการเลือกใช้วัสดุ อุปกรณ์ เทคนคิ ในการออกแบบงานทัศนศลิ ป์ไทย และสากลอยา่ งสร้างสรรค์ จัดกลมุ่ งานทัศนศลิ ป์ในการจัดทาแฟ้มสะสมงานของตนเอง อย่างมุ่งม่นั ดว้ ยความต้ังใจ ใฝ่รู้ใฝเ่ รียน อย่างเห็น คณุ ค่าและรักความเป็นไทย ตัวชี้วดั ศ 1.1 ม.5/6, ม.5/7, ม.5/9, ม.5/10, ม.5/11 รวมท้ังหมด 5 ตัวชว้ี ัด

คำอธิบำยรำยวชิ ำพื้นฐำน รหสั วชิ ำ ศ 32102 ดนตรี - นำฏศิลป์ กลมุ่ สำระกำรเรียนรศู้ ิลปะ ช้ันมัธยมศึกษำปที ่ี 5 เวลำ 20 ชั่วโมง จำนวน 0.5 หน่วยกิต ศึกษาประวตั สิ ังคตี กวี เครอื่ งหมายและสญั ลักษณ์ทางดนตรี การถา่ ยทอดอารมณ์ความร้สู ึกของงาน ดนตรีจากแต่ละวฒั นธรรม บทบาทของดนตรีในการสะทอ้ นสงั คม การอ่านโน้ตเพลงไทยและสากล เทคนิคการ ถ่ายทอดอารมณ์เพลงดว้ ยการขับรอ้ งและบรรเลงเพลง การละเล่นดนตรีพืน้ บ้าน ประวตั ิความเปน็ มา ความหมายและรูปแบบของการแสดงระบา รา ฟ้อน การแสดงพื้นเมือง และนาฏศิลป์พ้นื บ้าน รวมทง้ั องค์ประกอบของการแสดงนาฏศลิ ป์ประเภทต่าง ๆ นาทักษะการแสดงระบา รา ฟอ้ น การแสดงพน้ื เมืองมาประดษิ ฐท์ ่าราเพลงตา่ งๆสร้างสรรค์ผลงานการ แสดงนาฏศลิ ปไ์ ทยในโอกาสต่างๆ สามารถประเมนิ คณุ ภาพการแสดงโดยใช้องคป์ ระกอบทางการแสดง เห็นคุณค่าในศิลปะการแสดงระบา รา ฟ้อน การแสดงพืน้ เมอื ง อนรุ กั ษ์นาฏศลิ ป์ ภมู ิปัญญาทอ้ งถน่ิ ใฝ่ เรยี นรแู้ ละมงุ่ มั่นในการสรา้ งสรรค์ผลงานทางการแสดง เพื่อสืบสานศลิ ปวฒั นธรรมไทย ตวั ชี้วัด ศ 2.1 ม.5/4, ม.5/7, ม.5/2, ม.5/4 , ม.5/4 ,ม.5/5 ศ 3.1 ม.5/1, ม.5/3, ม.5/7, ม.5/8 ศ 3.2 ม.5/1, ม.5/4 รวมทั้งหมด 12 ตัวชี้วัด

คำอธิบำยรำยวชิ ำพืน้ ฐำน รหัสวิชำ ศ 33101 ดนตรี-นำฏศลิ ป์ กลุ่มสำระกำรเรยี นรูศ้ ลิ ปะ ชน้ั มธั ยมศึกษำปที ี่ 6 เวลำ 20 ชั่วโมง จำนวน 0.5 หนว่ ยกิต เครือ่ งหมายและสัญลักษณ์ทางดนตรไี ทย สากลและดนตรีพืน้ บา้ นสร้างเกณฑ์การประเมินคุณภาพงาน ดนตรีและประโยชนข์ องดนตรีไทย สากลและดนตรีพ้ืนบา้ น ในการดาเนนิ ชีวติ ประจาวัน การสรา้ งสรรค์ ผลงานทางดนตรี องค์ประกอบของบทเพลงและลักษณะเดน่ ของดนตรี ความเชอ่ื และค่านิยมในผลงานทาง ดนตรไี ทย สากลและดนตรีพ้ืนบ้าน ในแต่ละวฒั นธรรม การส่งเสริมอนุรักษด์ นตรี ถ่ายทอดสนุ ทรียภาพของ การขับร้องและการบรรเลงดนตรีไทยและสากลในแตล่ ะวัฒนธรรมอยา่ งมุง่ มั่นด้วยความตัง้ ใจ ใฝร่ ใู้ ฝ่เรยี น อยา่ ง เห็นคุณคา่ สรา้ งสรรค์ละครส้นั ในรูปแบบตา่ ง ๆ ศึกษาประวตั คิ วามเป็นมาองคป์ ระกอบของละครสรา้ งสรรค์ ละครพดู วิจารณ์การแสดงตามหลักนาฏศิลปแ์ ละการละคร รูจ้ กั บคุ คลสาคัญในวงการละครของประเทศไทยใน ยุคสมัยตา่ ง ๆ ตัวชว้ี ัด ศ 2.1 ม.6/4 , ศ 2.1 ม.6/6 , ศ 2.1 ม.6/7 , ศ 2.1 ม.6/8 , ศ 2.2 ม.6/5 ศ 2.1 ม.6/5 ศ 3.1 ม.6/2, ม.6/4, ม.6/7 ศ 3.2 ม.6/2 รวมท้ังหมด 10 ตัวชว้ี ัด

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำพื้นฐำน รหสั วิชำ ศ 33102 ทศั นศลิ ป์ กลุ่มสำระกำรเรยี นรศู้ ลิ ปะ ชนั้ มธั ยมศึกษำปีที่ 6 เวลำ 20 ชว่ั โมง จำนวน 0.5 หนว่ ยกิต นาหลกั การทางการแสดงมาสรา้ งสรรคผ์ ลงานในรูปแบบตา่ งๆ สามารถประเมินคุณภาพการแสดงละคร โดยใชอ้ งค์ประกอบการแสดงเหน็ คุณค่าในการแสดงละครไทยและสากล ภูมใิ จและเห็นคุณค่าของการสร้างสรรค์ ผลงาน วิเคราะห์และเปรยี บเทยี บงานทัศนศิลป์ในรูปแบบตะวันตก และตะวันออก ระบงุ านทัศนศลิ ป์ของ ศิลปินทีม่ ชี ื่อเสียง และบรรยายผลตอบรับของสงั คม อภปิ รายเก่ยี วกับอิทธพิ ลของวัฒนธรรมระหว่างประเทศท่ีมี ผลตอ่ งานทศั นศลิ ปใ์ นสงั คม ใช้กระบวนการคดิ วิเคราะห์ ประเมินและวิจารณ์งานทัศนศิลป์โดยใช้ทฤษฎกี าร วิจารณศ์ ลิ ปะ เหน็ คุณค่าและชืน่ ชมในความงามทางศิลปวัฒนธรรมไทย ภูมิปัญญาไทย ภมู ปิ ญั ญาท้องถ่ินและสากล ตัวชี้วัด ศ 1.1 ม.6/8 ศ 1.2 ม.6/1, ม.6/2, ม.6/3 รวมท้ังหมด 4 ตัวชวี้ ดั

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำพ้ืนฐำนกำรงำนอำชีพ รหัสวิชำ ง 11101 กลุ่มสำระกำรเรยี นรกู้ ำรงำนอำชพี ช้ันประถมศึกษำปที ่ี 1 เวลำ 40 ชว่ั โมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกติ ศกึ ษาและบอกวิธกี ารทางานเพอื่ ชว่ ยเหลอื ตนเอง เชน่ การแต่งกาย การเกบ็ ของใช้ การหยิบจบั และใชข้ องใช้ส่วนตัว การจดั โต๊ะ ตู้ ช้นั ใช้วสั ดอุ ุปกรณ์ และเครื่องมือง่ายๆ ในการทางานอย่างปลอดภัย การ ใช้วสั ดุอุปกรณ์และเคร่ืองมือง่ายๆ ในการทางานอย่างปลอดภยั เช่น การทาความค้นุ เคยกบั การใช้เคร่ืองมือ การรดน้าตน้ ไม้ การถอนและเกบ็ วชั พชื การพับกระดาษเป็นของเล่น การทางานเพ่ือชว่ ยเหลือตนเองอยา่ ง กระตือรอื ร้นตรงตอ่ เวลา บอกขอ้ มลู ทสี่ นใจและแหลง่ ข้อมูลท่ีใกลต้ วั ข้อมลู ของสิ่งทส่ี นใจอาจเป็นข้อมลู เก่ยี วกบั บคุ คล สัตว์ ส่งิ ของ เร่อื งราวและเหตุการณต์ า่ งๆ แหล่งขอ้ มลู ท่ีอยู่ใกลต้ ัว เช่น บา้ น ห้องสมุด ผปู้ กครอง ครู หนงั สอื พิมพ์ รายการโทรทศั น์ บอกประโยชนข์ องอุปกรณเ์ ทคโนโลยีสารสนเทศ อุปกรณ์ เทคโนโลยีสารสนเทศ เช่น คอมพวิ เตอร์ วิทยุ โทรทัศน์ กล้องดิจติ อล โทรศพั ท์มือถือ ประโยชนข์ องอุปกรณ์ เทคโนโลยีสารสนเทศ เช่น ใชใ้ นการเรียน ใช้วาดภาพตดิ ต่อส่อื สาร โดยใชท้ ักษะกระบวนการทางาน ทักษะกระบวนการแกป้ ัญหา ทักษะการทางานรว่ มกนั เพ่ือให้มีคุณธรรมและมลี ักษณะนสิ ัยทดี่ ีในการทางาน กระตอื รือรน้ และตรงเวลา ตัวชีว้ ัด ง 1.1 ป 1/1 ป 1/2 ป 1/3 ง .3.1 ป 1/1 ป 1/2 รวมท้ังหมด 5 ตวั ชี้วัด

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำพน้ื ฐำน รหัสวิชำ ง 12101 กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้กำรงำนอำชพี ช้ันประถมศกึ ษำปีที่ 2 เวลำ 40 ชัว่ โมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกิต ศกึ ษาวิธกี ารและประโยชนก์ ารทางานเพื่อชว่ ยเหลอื ตนเองและครอบครัว การเลอื กใช้วสั ดุ อุปกรณ์ และเคร่ืองมือในการทางานอยา่ งเหมาะสมกบั งาน การประดิษฐ์ของใชส้ ว่ นตัว ประโยชนข์ องส่ิงของเคร่ืองใช้ใน ชีวติ ประจาวัน สรา้ งของเล่นของใช้อย่างง่ายโดยกาหนดปัญหาหรอื ความต้องการรวบรวมขอ้ มลู ออกแบบโดย ถา่ ยทอดความคิดเปน็ ภาพร่าง 2 มติ ิ ความรู้เก่ียวกับการใชใ้ นการสรา้ งของเลน่ ของใชอ้ ยา่ งงา่ ย เข้าใจ ประโยชนข์ องข้อมูลและรวบรวมข้อมลู ที่สนใจ จากแหลง่ ข้อมูลต่าง ๆ ที่เช่ือถือได้ บอกประโยชน์และการรักษา แหล่งข้อมลู บอกช่ือและอุปกรณ์พืน้ ฐานท่เี ปน็ สว่ นประกอบหลกั ของคอมพวิ เตอร์ บอกวธิ ีการทางาน สรา้ ง รวบรวม ออกแบบ โดยใช้ทักษะกระบวนการทางาน ทกั ษะการจดั การ ทักษะกระบวนการแก้ปัญหา ทกั ษะการทางาน ร่วมกัน ทกั ษะแสวงหาความร้แู ละมคี วามคิดสรา้ งสรรค์อย่างนอ้ ย 1 ลักษณะ ในการแก้ปญั หาหรอื สนองความ ตอ้ งการ ใช้กระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศในการสบื ค้นข้อมลู การเรยี นรู้ เพ่อื ให้เหน็ คณุ ค่า มคี ุณธรรมและลกั ษณะนิสัยในการทางาน มีความประหยัด ตวั ชีว้ ดั ง 1.1 ป 2/1 ป 2/2 ป 2/3 ง 2.1 ป 2/1 ป 2/2 ป 2/3 ป 2/4 ง 3.1 ป 2/1 ป 2/2 ป 2/3 รวมทั้งหมด 7 ตัวช้ีวัด

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำพืน้ ฐำน รหัสวชิ ำ ง 13101 กลุ่มสำระกำรเรยี นรกู้ ำรงำนอำชพี ช้นั ประถมศึกษำปที ี่ 3 เวลำ 40 ชว่ั โมง จำนวน 1.0 หน่วยกติ ศึกษาวิธีการและประโยชน์การทางาน เพ่ือช่วยเหลือตนเอง ครอบครวั และส่วนรวม การเลอื ก ใช้วัสดอุ ปุ กรณ์และเคร่ืองมือตรงกับลักษณะงาน เขา้ ใจขั้นตอนกระบวนการทางานดว้ ยความสะอาดและ อนรุ ักษส์ ่งิ แวดล้อม ศึกษาวิธีการทาของเลน่ ของใช้อยา่ งง่ายโดยกาหนดปัญหาหรอื ความต้องการรวบรวมข้อมูล ออกแบบโดยถา่ ยทอดความคิดเปน็ ภาพร่าง 2 มติ ิ ประกอบด้วย ด้านกวา้ ง ลงมือสร้าง ประเมนิ ผล เลอื กใช้ สง่ิ ของเครอ่ื งใช้ในชวี ติ ประจาวัน นาสิง่ ของเครื่องใช้ดว้ ยการนากลบั มาใชซ้ า้ ค้นหาข้อมูลอยา่ งมีขัน้ ตอนและ นาเสนอข้อมลู ในลกั ษณะต่าง ๆ เข้าใจ วิธดี แู ลและรักษาอุปกรณ์เทคโนโลยสี ารสนเทศ อธิบาย ใช้ ทางาน สร้าง รวบรวม ออกแบบ เลอื ก ค้นหาบอก โดยใชท้ ักษะกระบวนการทางาน ทกั ษะการจดั การ ทักษะกระบวนการแกป้ ญั หา ทักษะการทางานร่วมกัน ทักษะแสวงหาความร้แู ละมคี วามคิด สร้างสรรค์ เลือกใชเ้ ทคโนโลยใี นทางสร้างสรรค์ มีส่วนรว่ มในการจัดการเทคโนโลยีท่ียัง่ ยนื เพื่อให้มคี ุณธรรม และลักษณะนสิ ยั ในการทางาน มจี ติ สานึกในการใช้พลงั งาน อนุรกั ษ์ทรพั ยากรและสิ่งแวดล้อม เพอ่ื การ ดารงชวี ติ และครอบครวั ตัวช้ีวัด ง 1.1 ป 3/1 ป 3/2 ป 3/3 ง 2.1 ป 3/1 ป 3/2 ป 3/3 ง 3.1 ป 3/1 ป 3/2 รวมทั้งหมด 8 ตัวช้วี ัด

คำอธิบำยรำยวิชำพ้ืนฐำน รหัสวชิ ำ ง 14101 กลุ่มสำระกำรเรียนรกู้ ำรงำนอำชีพ ชนั้ ประถมศกึ ษำปที ี่ 4 เวลำ 40 ชั่วโมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกิต ศึกษาและเขา้ ใจเหตุผลในการทางานใหบ้ รรลุเป้าหมายท่ีวางไวต้ ามลาดบั ขน้ั ตอน เข้าใจพลงั งานและ ทรพั ยากรในการทางาน ช่ือและหน้าทีข่ องอุปกรณเ์ ทคโนโลยสี ารสนเทศ หลกั การทางานเบ้ืองต้นของ คอมพิวเตอร์ ประโยชน์และโทษจากการใช้งานคอมพิวเตอร์ ระบบปฏิบัติการคอมพวิ เตอรเ์ พื่อการทางาน สรา้ งภาพหรือชิน้ งานจากจินตนาการโดยใช้โปรแกรมกราฟิก ศึกษาความหมายและความสาคัญของอาชีพ อธิบายการทางาน ปฏบิ ัติ ใช้ สร้าง โดยใชท้ ักษะกระบวนการทางาน ทกั ษะการจดั การ ทักษะกระบวนการแก้ปญั หา เลือกใชเ้ ทคโนโลยี ในทางสรา้ งสรรค์ต่อชีวติ สงั คม ส่งิ แวดลอ้ ม มสี ่วนร่วมในการจัดการเทคโนโลยที ย่ี ัง่ ยืน เหน็ คุณค่าและใช้ กระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศในการสบื ค้นข้อมลู การเรียนรู้ การส่ือสาร การแกป้ ัญหา การทางาน ใช้ ทักษะทจ่ี าเปน็ ประสบการณ์ เห็นแนวทางในอาชีพ ใชเ้ ทคโนโลยเี พื่อพัฒนาอาชีพ เพ่อื ใหม้ ีคุณธรรม และมลี ักษณะนสิ ัยในการทางาน มีจิตสานกึ ในการใชพ้ ลังงาน ทรัพยากรและ สง่ิ แวดล้อมเพ่ือการดารงชวี ติ และครอบครัวด้วยความซื่อสัตย์ อดทน ขยันประหยัด รบั ผดิ ชอบ และเจตคติ ท่ีดตี ่ออาชีพ ตัวช้วี ัด ง 1.1 ป.4/1,4/2,4/3,4/4 ง 3.1 ป.4/1,4/2,4/3,4/4,4/5 ง 4.1 ป.4/1 รวมทั้งหมด 10 ตัวชี้วดั

คำอธิบำยรำยวิชำพื้นฐำน รหสั วชิ ำ ง 15101 กลุ่มสำระกำรเรียนรู้กำรงำนอำชีพ ช้ันประถมศกึ ษำปที ่ี 5 เวลำ 40 ชวั่ โมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกติ ศกึ ษา เขา้ ใจการทางานแต่ละข้นั ตอน อย่างถูกตอ้ งตามกระบวนการทางาน ทกั ษะการจดั การในการ ทางานอย่างเป็นระบบ ปฏบิ ัตติ นในการทางานกับสมาชิกในครอบครัว ใช้พลังงานและทรพั ยากรอย่างประหยดั และคุ้มคา่ เข้าใจความหมายและวิวัฒนาการของเทคโนโลยี สิ่งของเครื่องใชต้ ามความสนใจอยา่ งปลอดภัย โดยกาหนดปญั หา หรอื ความตอ้ งการ รวบรวมข้อมูล เลอื กวธิ กี าร ออกแบบ โดยถ่ายทอดความคิดเปน็ ภาพร่าง 3 มิติ สร้าง และประเมนิ ผล ความรู้การสร้างช้นิ งานไปประยุกต์ในการสร้างสิง่ ของเคร่อื งใช้ มีความคดิ สร้างสรรค์ อย่างน้อย 2 ลกั ษณะในการแก้ปัญหาหรือสนอง เลือกใช้เทคโนโลยีในชวี ิตประจาวนั ตอ่ ชีวติ สังคม และมกี ารจดั การ ส่งิ ของเครื่องใช้ ด้วย การแปรรปู แล้ว นากลับมา ใช้ใหม่ ข้อมลู ทสี่ นใจและ เป็นประโยชน์ จากแหลง่ ข้อมูลตา่ งๆ ทเ่ี ช่อื ถือได้ตรงตามวตั ถปุ ระสงค์ งานเอกสารเพื่อใชป้ ระโยชน์ในชวี ติ ประจาวัน ข้อมลู และ ความแตกต่างทเ่ี กย่ี วกบั อาชพี ตา่ งๆ ในชมุ ชน อธิบาย ใช้ ปฏิบัติ สร้าง รวบรวม ออกแบบ เลือกใช้ คน้ หา สารวจ ระบโุ ดยมีการอา้ งอิง แหล่งข้อมูล ใช้คาสภุ าพและไม่ก่อใหเ้ กดิ ความเสยี หายต่อผอู้ น่ื สารวจข้อมูลท่เี ก่ียวกับอาชพี ตา่ ง ๆ ในชมุ ชน เพื่อระบคุ วามแตกต่างและขอ้ ควรคานึงเกี่ยวกบั อาชีพ โดยใช้ทักษะกระบวนการทางาน ทักษะการจดั การ ทกั ษะกระบวนการแกป้ ญั หา ทกั ษะการทางานร่วมกัน ทกั ษะการแสวงหาความรู้ มีคณุ ธรรม และลกั ษณะนิสัยในการทางาน มีจติ สานึกในการใช้พลงั งาน ทรัพยากรและส่งิ แวดล้อม ในการ ดารงชีวิต เข้าใจเทคโนโลยีและกระบวนการเทคโนโลยี ออกแบบและสร้างส่ิงของเครอ่ื งใชห้ รือวิธีการตาม กระบวนการเทคโนโลยอี ยา่ งมคี วามคิดสรา้ งสรรค์ เลือกใชเ้ ทคโนโลยใี นทางสรา้ งสรรค์ตอ่ ชีวติ สังคม สง่ิ แวดล้อม และมีสว่ นร่วมในการจดั การเทคโนโลยีท่ียั่งยืน เห็นคณุ คา่ และใชก้ ระบวนการเทคโนโลยสี ารสนเทศ ในการสืบคน้ ข้อมลู การเรียนรู้ การสอื่ สาร การแก้ปัญหา การทางาน และอาชีพอย่างมีประสิทธภิ าพ ใชท้ ักษะ ทจ่ี าเป็น มปี ระสบการณ์ เห็นแนวทางในอาชพี ใชเ้ ทคโนโลยี เพอื่ พฒั นาอาชพี มีคุณธรรม มจี ิตสานกึ ใน ความรบั ผดิ ชอบและมลี ักษณะนสิ ัยในการทางาน มีความคิดสร้างสรรค์ มีจิตสานึกประหยดั ในการใช้พลงั งาน ทรพั ยากรและสง่ิ แวดล้อมเพื่อการดารงชีวิตและครอบครัว ตวั ช้วี ดั ง 1.1 ป 5/1 ป 5/2 ป 5/3 ป 5/4 ง 2.1 ป 5/1 ป 5/5 ป 5/3 ป 5/4 ป 5/5 ง 3.1 ป 5/1 ป 5/2 ง 4.1 ป 5/1 ป 5/2 รวมทั้งหมด 13 ตัวช้ีวดั

คำอธิบำยรำยวชิ ำพื้นฐำน รหสั วชิ ำ ง 16101 กลุ่มสำระกำรเรยี นร้กู ำรงำนอำชีพ ช้ันประถมศกึ ษำปีท่ี 6 เวลำ 40 ชั่วโมง จำนวน 1.0 หน่วยกติ ศึกษาแนวทางในการทางานและปรบั ปรุงการทางานแต่ละข้ันตอน การจัดการในการทางานและการ ทางานรว่ มกันกบั ครอบครัวและผู้อนื่ สว่ นประกอบของระบบเทคโนโลยี สิ่งของเครื่องใช้ตามความสนใจ ใช้ อย่างปลอดภยั กาหนดปัญหา หรือความต้องการรวบรวมขอ้ มูล เลอื กวธิ กี าร ออกแบบโดยถา่ ยทอด ความคดิ เปน็ ภาพร่าง 3 มติ ิ หรอื แผนทีค่ วามคดิ สรา้ ง และ ประเมินผล ความร้แู ละทักษะการสรา้ งชิน้ งานไป ประยกุ ต์ในการสรา้ งสงิ่ ของเครอ่ื งใช้หลกั การเบอื้ งตน้ ของการแก้ปญั หาคอมพวิ เตอร์ในการค้นหาข้อมูล ขอ้ มูลที่ เปน็ ประโยชน์ในรปู แบบต่างๆ และขอ้ มลู ในรปู แบบท่ีเหมาะสมโดย เลอื กใช้ซอฟต์แวร์ประยุกต์ คอมพิวเตอร์ ช่วยสรา้ งชน้ิ งานจากจนิ ตนาการหรอื งานที่ทาในชีวิตประจาวัน สารวจตนเองเพ่อื วางแผนในการเลือกอาชีพ ความรู้ ความสามารถและคุณธรรมท่สี ัมพนั ธ์กบั อาชพี ที่สนใจ อธบิ าย อภปิ ราย ปฏบิ ตั ิ สร้าง รวบรวม เลือก ใช้ เกบ็ รักษา นาเสนอ สารวจ ระบุ โดยใช้ ทกั ษะกระบวนการทางาน ทักษะการจดั การ ทกั ษะกระบวนการแกป้ ัญหา ทักษะการทางานร่วมกัน ทักษะ การแสวงหาความรู้ มีคุณธรรม และลกั ษณะนสิ ยั ในการทางาน มจี ิตสานกึ ในการใช้พลังงาน ทรพั ยากร และสง่ิ แวดล้อม ในการดารงชีวิต เขา้ ใจเทคโนโลยแี ละกระบวนการเทคโนโลยี ออกแบบและสร้างส่งิ ของ เครอื่ งใชห้ รือวธิ กี ารตามกระบวนการเทคโนโลยีอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ เลอื กใชเ้ ทคโนโลยใี นทางสร้างสรรค์ ต่อชีวิต สงั คมส่งิ แวดล้อม และมีสว่ นรว่ มในการจัดการเทคโนโลยที ี่ยั่งยนื เห็นคุณค่าและใชก้ ระบวนการ เทคโนโลยสี ารสนเทศในการสืบค้นข้อมูลการเรยี นรู้ การสื่อสาร การแก้ปัญหา การทางาน และอาชีพอย่างมี ประสิทธิภาพ ใช้ทักษะท่จี าเปน็ ประสบการณ์ เหน็ แนวทางในอาชพี มคี ุณธรรม มคี วามรบั ผดิ ชอบและมี ลักษณะนิสยั ในการทางาน มีความคดิ สรา้ งสรรค์ มีจติ สานึกความรับผิดชอบ ประหยัดในการใช้พลังงาน ทรพั ยากรและสิง่ แวดล้อมเพื่อการดารงชวี ติ และครอบครวั ตัวช้ีวัด ง 1.1 ป 6/1 ป 6/2 ป 6/3 ง 2.1 ป 6/1 ป 6/2 ป 6/3 ง 3.1 ป 6/1 ป 6/2 ป 6/3 ป 6/4 ป 6/5 ง 4.1 ป 6/1 ป 6/2 รวมทั้งหมด 13 ตัวชว้ี ัด

คำอธิบำยรำยวชิ ำพื้นฐำน รหัสวิชำ ง 21101 กลุ่มสำระกำรเรียนรกู้ ำรงำนอำชพี ชัน้ มัธยมศึกษำปที ่ี 1 เวลำ 40 ชั่วโมง จำนวน 1.0 หน่วยกิต ศึกษา วิเคราะห์ขน้ั ตอนการทางาน การใช้อุปกรณ์อานวยความสะดวกในการทางานบ้าน การจดั ตกแตง่ ห้อง การเตรียม ประกอบ จดั ตกแตง่ และบริการอาหาร การปลกู พชื ผกั ทัว่ ไป การแปรรปู ผลผลติ ทาง การเกษตรแนวทางการเลือกอาชพี โดยใชท้ ักษะกระบวนการทางาน ทักษะการจดั การ ทกั ษะกระบวนการกล่มุ ทักษะการแสวงหา ความรู้ ทักษะกระบวนการแกป้ ัญหา เพ่ือใหผ้ เู้ รียนเกิดความรู้ ความเข้าใจในการทางาน สามารถนากระบวนการทางานไปประยุกต์ใช้ใน การดารงชวี ติ มคี วามคิดสรา้ งสรรค์ มีความเสียสละ มีเจตคตทิ ี่ดีในการประกอบอาชีพ ตวั ช้ีวดั ง 1.1 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3 ง 4.1 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3 รวมท้ังหมด 6 ตัวชี้วัด


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook