Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หลักสูตรประชาธิปัตย์ 64

หลักสูตรประชาธิปัตย์ 64

Published by palmmy-my, 2022-08-12 07:17:50

Description: หลักสูตรประชาธิปัตย์ 64

Search

Read the Text Version

คำอธิบำยรำยวชิ ำพ้นื ฐำน รหสั วชิ ำ ง 21102 กลุ่มสำระกำรเรียนรู้กำรงำนอำชีพ ชนั้ มธั ยมศึกษำปที ี่ 1 เวลำ 40 ชวั่ โมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกติ ศึกษา วเิ คราะหข์ นั้ ตอนการทางาน การใชอ้ ุปกรณ์ในการทางานประดิษฐแ์ ละงานช่าง การจดั ตกแตง่ ชนิ้ งาน การเตรยี ม การประกอบ และบริการงานประดษิ ฐ์งานช่าง ประดิษฐ์และซ่อมแซมของใช้ สว่ นตวั ของใช้ในครอบครัว แนวทางการเลือกอาชีพ โดยใชท้ กั ษะกระบวนการทางาน ทกั ษะการจดั การ ทักษะกระบวนการกลมุ่ ทักษะการแสวงหา ความรู้ ทกั ษะกระบวนการแก้ปญั หา เพ่อื ใหผ้ ู้เรียนเกิดความรู้ ความเขา้ ใจในการทางาน สามารถนากระบวนการทางานไปประยุกต์ใชใ้ น การดารงชวี ิต มีความคดิ สร้างสรรค์ มีความเสียสละ มีเจตคติท่ีดใี นการประกอบอาชีพ ตวั ชีว้ ัด ง 1.1 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3 ง 4.1 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3 รวมทั้งหมด 6 ตัวชีว้ ดั

คำอธบิ ำยรำยวิชำพน้ื ฐำน รหสั วชิ ำ ง 22101 กลุ่มสำระกำรเรยี นรูก้ ำรงำนอำชพี ชนั้ มัธยมศึกษำปีท่ี 2 เวลำ 40 ช่วั โมง จำนวน 1.0 หน่วยกิต ศกึ ษา ค้นควา้ แสวงหาความรู้ เพื่อพฒั นา การจดั ตกแต่งบ้าน การดแู ลรักษาและตกแตง่ สวน การ เตรยี มประกอบ จัด ตกแตง่ และบริการเคร่ืองดมื่ การเล้ียงสตั ว์ การจัดประสบการณ์อาชพี โดยใชท้ กั ษะการแสวงหาความรู้ ทักษะกระบวนการแกป้ ัญหาในการทางาน ทกั ษะกระบวนการกลุ่ม เพือ่ ใหผ้ ู้เรียนเกิดความรู้ ความเข้าใจการพฒั นาการทางานและแก้ไขปัญหาการทางาน และสามารถนา ความร้ไู ปใชใ้ นการดารงชีวติ มคี ณุ ธรรมและลักษณะนสิ ยั ในการทางาน มเี จตคติท่ีดี มีจิตสานกึ ในการทางานและใช้ ทรพั ยากรในการปฏบิ ัติงานอยา่ งประหยัดและคุ้มคา่ ตวั ชี้วัด ง 1.1 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3 ง 4.1 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3 รวมท้ังหมด 6 ตวั ช้วี ัด

คำอธบิ ำยรำยวิชำพน้ื ฐำน รหัสวชิ ำ ง 22102 กลุม่ สำระกำรเรยี นรู้กำรงำนอำชีพ ชั้นมัธยมศกึ ษำปที ี่ 2 เวลำ 40 ชวั่ โมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกิต ศกึ ษา วเิ คราะห์ขนั้ ตอนการทางาน โดยใชก้ ระบวนการเทคโนโลยีในการทางานประดิษฐแ์ ละงานชา่ ง อยา่ งปลอดภัย ออกแบบถ่ายทอดความคดิ เปน็ ภาพรา่ ง 3 มติ ิ เลือกใช้เทคโนโลยอี ยา่ งสร้างสรรค์ ใช้ทกั ษะ กระบวนการแกป้ ญั หา ทักษะการแสวงหาความรู้ เพ่ือนาไปสกู่ ารสรา้ งต้นแบบของสิ่งของเคร่ืองใช้ โดยใชท้ ักษะกระบวนการเทคโนโลยีทางาน ทกั ษะการจดั การ ทักษะกระบวนการกลุ่ม ทกั ษะการ แสวงหาความรู้ ทักษะกระบวนการแกป้ ญั หา เพื่อให้ผเู้ รียนเกิดความรู้ ความเข้าใจในการทางานอย่างสรา้ งสรรค์ตอ่ ชวี ิต สงั คม ส่งิ แวดล้อม ลดการ ใชท้ รัพยากรท่ีมผี ลกระทบต่อส่งิ แวดลอ้ ม มีความเสยี สละ มีเจตคตทิ ี่ดใี นการประกอบอาชีพ ตัวชี้วัด ง 1.1 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3 ง 2.1 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3, ม.2/4 ง 4.1 ม.4/1, ม.4/2, ม.4/3 รวมทั้งหมด 10 ตัวชี้วัด

คำอธบิ ำยรำยวิชำพนื้ ฐำน รหสั วิชำ ง 23101 กลุ่มสำระกำรเรียนรกู้ ำรงำนอำชพี ชั้นมัธยมศกึ ษำปีที่ 3 เวลำ 40 ช่ัวโมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกิต ศึกษา อภิปราย วิเคราะห์ขั้นตอนการซัก ตาก พับ เกบ็ เส้อื ผ้า ประดษิ ฐบ์ รรจุภณั ฑจ์ ากวสั ดุ ธรรมชาติ ขยายพนั ธพ์ุ ืช สรา้ งชิน้ งานหรอื ผลงาน การหางาน แนวทางการเขา้ สูอ่ าชีพตามความรูค้ วามถนดั และความสนใจ โดยใช้วิธีการอภิปราย ทกั ษะกระบวนการทางาน ทักษะการทางานร่วมกนั ทักษะการจัดการ ทักษะ การแก้ปัญหา สรา้ งชิน้ งานตามความสนใจ เพ่ือให้ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจข้นั ตอนการทางาน การสร้างงานอย่างมีประสิทธภิ าพและอยู่ร่วมกัน อยา่ งมีความสขุ และมคี ณุ ธรรม ประหยัดพลงั งาน ทรพั ยากรและสงิ่ แวดล้อม ตัวช้ีวดั ง 1.1 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/3 ง 4.1 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/3 รวมทั้งหมด 6 ตัวชว้ี ัด

รหสั วิชำ ง 23102 คำอธิบำยรำยวชิ ำพืน้ ฐำน ชนั้ มัธยมศึกษำปีท่ี 3 กลุ่มสำระกำรเรียนรู้กำรงำนอำชพี เวลำ 40 ช่วั โมง จำนวน 1.0 หน่วยกิต ศกึ ษา อภปิ ราย วเิ คราะหข์ ้ันตอนการผลิต สร้างช้ินงานหรือผลงาน การวางแผนการตลาด การ จดั ซอื้ การหางาน แนวทางการเข้าสู่อาชพี ตามความรู้ความถนัดและความสนใจ โดยใชว้ ิธีการอภิปราย ทักษะกระบวนการทางาน ทักษะการทางานรว่ มกนั ทักษะการจัดการ ทักษะ การแก้ปัญหา สรา้ งชน้ิ งานตามความสนใจ เพื่อให้ผ้เู รียนมีความรู้ความเข้าใจขน้ั ตอนการทางาน การสรา้ งงานอย่างมปี ระสิทธภิ าพและอยู่ร่วมกนั อย่างมีความสุข และมคี ุณธรรม ประหยัดพลงั งาน ทรพั ยากรและสิ่งแวดล้อม ตัวช้วี ดั ง 1.1 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/3 ง 4.1 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/3 รวมท้ังหมด 6 ตัวชว้ี ัด

คำอธิบำยรำยวิชำพ้นื ฐำน รหสั วิชำ ง 31101 กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้กำรงำนอำชีพ ช้นั มัธยมศกึ ษำปีที่ 4 เวลำ 20 ช่ัวโมง จำนวน 0.5 หน่วยกิต ศกึ ษา วิธีการทางานเพอ่ื การดารงชีวติ ความคดิ สรา้ งสรรค์ ทักษะการทางานร่วมกัน การจัดการการ แก้ปญั หาในการทางาน การแสวงหาความรเู้ พ่ือการดารงชวี ติ คณุ ธรรมและลกั ษณะนสิ ยั ในการทางาน พลังงานและ ทรัพยากรในการทางาน อธิบายวธิ ีการทางานเพอื่ การดารงชีวติ การสร้างผลงานอยา่ งมีความคดิ สร้างสรรค์ การใชแ้ ละการอนรุ ักษ์พลงั งานและทรัพยากรในการทางาน โดยใชท้ ักษะการทางานรว่ มกัน ทกั ษะการจดั การ ทักษะกระบวนการแกป้ ัญหา ทักษะในการ แสวงหาความรู้ เพ่ือให้มคี ุณธรรมและลักษณะนิสัยในการทางาน ตัวช้วี ดั ง 1.1 ม 4-6/1 , ม 4-6/2 , ม 4-6/3 ,ม 4-6/4, ม 4-6/5, ม 4-6/6 ,ม 4-6/7 รวมทั้งหมด 7 ตัวชวี้ ัด

คำอธิบำยรำยวชิ ำพน้ื ฐำน รหัสวิชำ ง 31102 งำนธรุ กิจ กลุม่ สำระกำรเรยี นรกู้ ำรงำนอำชพี ชั้นมัธยมศึกษำปที ี่ 4 เวลำ 20 ชั่วโมง จำนวน 0.5 หน่วยกิต ศกึ ษา แนวทางส่อู าชีพท่สี นใจ เทคโนโลยเี หมาะสมกบั อาชีพ ประสบการณ์ในอาชพี ท่ีถนดั และสนใจ คณุ ลกั ษณะทดี่ ีต่ออาชีพ อภปิ รายแนวทางสูอ่ าชีพทสี่ นใจ เลือกและใชเ้ ทคโนโลยีอย่างเหมาะสมกับอาชพี เพ่อื ให้มปี ระสบการณ์ในอาชีพทถ่ี นัดและสนใจ และมีคุณลักษณะที่ดีต่ออาชีพ ตวั ชว้ี ดั ง 4.1 ม4-6/1, ม4-6/2 , ม4-6/3 , ม4-6/4 รวมท้ังหมด 4 ตัวชวี้ ัด

คำอธิบำยรำยวชิ ำพ้ืนฐำน รหสั วชิ ำ ง 32101 งำนเกษตร กลุม่ สำระกำรเรียนรกู้ ำรงำนอำชพี ชน้ั มัธยมศึกษำปที ี่ 5 เวลำ 20 ชว่ั โมง จำนวน 0.5 หนว่ ยกิต ศกึ ษา แสวงหาความรู้ เก่ียวกับการเลี้ยงสัตว์ การปลูกพืช ขยายพันธพุ์ ืช ปจั จัยที่มผี ลต่อการ เจริญเติบโตของพชื และการเลี้ยงสตั ว์ รจู้ ักใช้ทกั ษะกระบวนการกล่มุ ทกั ษะกระบวนการแกป้ ัญหา ทักษะ การจดั การในการทางานร่วมกบั ผู้อืน่ วธิ กี ารทางานเพื่อการดารงชีวิต รจู้ ักใชท้ รพั ยากรอยา่ งคุ้มค่าและยั่งยืน มีคณุ ธรรมและลักษณะนิสยั ในการทางาน เหน็ คุณค่าความสาคัญของการประกอบอาชีพสจุ ริตและมเี จตคติที่ดี ต่องานการเกษตร ตวั ช้วี ดั ง 1.1 ม4-6/1 ,ม4-6/2 ,ม4-6/3, ม4-6/4 ,ม4-6/5 , ม4-6/6 , ม4-6/7 รวมทั้งหมด 7 ตัวช้ีวดั

คำอธบิ ำยรำยวิชำพ้นื ฐำน รหสั วิชำ ง 32102 งำนประดิษฐ์ กลุ่มสำระกำรเรียนรกู้ ำรงำนอำชีพ ช้นั มธั ยมศึกษำปที ่ี 5 เวลำ 20 ช่ัวโมง จำนวน 0.5 หนว่ ยกิต ศึกษา ขน้ั ตอนวธิ กี ารประดิษฐข์ องเลน่ ของใชท้ ี่เปน็ เอกลักษณ์ไทย โดยการสรา้ งผลงานอย่างมีความคิดสรา้ งสรรค์ และมีทกั ษะในการทางานรว่ มกบั ผู้อน่ื มที ักษะการ จัดการในการทางาน ทักษะกระบวนการแก้ปัญหาในการทางาน ใช้พลังงานทรัพยากรธรรมชาติและ ส่งิ แวดล้อมในการทางานประดิษฐ์อยา่ งคมุ้ ค่าและถูกวธิ ี เหน็ คุณคา่ ของการทางาน ทางานประดิษฐ์อย่างมี ความสุข มกี ิจนิสยั การทางานด้วยความประณีต รอบคอบ ปลอดภยั และสะอาด ตัวชว้ี ัด ง 1.1 ม4-6/2, ม4-6/3, ม4-6/4 , ม4-6/6 รวมทัง้ หมด 4 ตัวช้วี ัด

คำอธิบำยรำยวิชำพ้นื ฐำน รหัสวชิ ำ ง 33101 เทคโนโลยสี ำรสนเทศ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้กำรงำนอำชพี ช้นั มธั ยมศกึ ษำปีที่ 6 เวลำ 20 ช่ัวโมง จำนวน 0.5 หนว่ ยกิต ศกึ ษา อธิบายองค์ประกอบของระบบสารสนเทศ องค์ประกอบและหลกั การทางานของคอมพิวเตอร์ ระบบส่ือสารข้อมูลสาหรบั เครือขา่ ยคอมพวิ เตอร์ บอกคุณลักษณะของคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพว่ ง การ เขียนโปรแกรมภาษา การพัฒนาโครงงานคอมพวิ เตอร์ การใช้ฮาร์ดแวรแ์ ละซอฟแวร์ให้เหมาะสมกบั งาน การ ตดิ ตอ่ ส่อื สาร คน้ หาข้อมูลผา่ นอินเทอร์เนต็ ใช้คอมพวิ เตอร์ในการประมวลผลขอ้ มลู ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ นาเสนองานในรปู แบบทเ่ี หมาะสมตรงตามวัตถุประสงคข์ องงาน ช่วยในการสรา้ งช้นิ งานหรอื โครงงาน บอกข้อ ควรปฏบิ ตั ิสาหรับผูใ้ ชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ มที ักษะกระบวนการแกป้ ญั หาด้วยกระบวนการเทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างมีประสิทธภิ าพ เหน็ คณุ ค่าและ ความสาคญั ของเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สาร สามารถนาไปประยกุ ต์ใช้ในชีวติ ประจาวนั ตัวช้ีวัด ง 3.1 ม4-6/1 , ม4-6/2 , ม4-6/3 , ม4-6/4 , ม4-6/5 ,ม4-6/6,ม4-6/7, ม4-6/8 ม4-6/9, ม4-6/10 , ม4-6/11 ,ม4-6/12 ,ม4-6/13 รวมทั้งหมด 13 ตัวชว้ี ัด

คำอธิบำยรำยวชิ ำพืน้ ฐำน รหสั วิชำ ง 33102 กำรออกแบบเทคโนโลยี กลุ่มสำระกำรเรยี นรูก้ ำรงำนอำชีพ ชัน้ มธั ยมศกึ ษำปที ี่ 6 เวลำ 20 ช่ัวโมง จำนวน 0.5 หน่วยกิต ศึกษา อธบิ ายและเชื่อมโยงความสมั พนั ธ์ระหวา่ งเทคโนโลยกี บั ศาสตร์ วเิ คราะห์ระบบเทคโนโลยี สรา้ งและพัฒนาสิ่งของเคร่ืองใช้หรือวิธกี ารตามกระบวนการเทคโนโลยี ถ่ายทอดความคิดเปน็ ภาพฉายและ แบบจาลองเพื่อนาไปสกู่ ารสรา้ งช้ินงาน ถ่ายทอดความคดิ ของวิธกี ารเป็นแบบจาลองและการรายงานผลโดยใช้ ซอฟแวรช์ ่วยในการออกแบบหรือนาเสนอผลงาน วิเคราะหแ์ ละเลอื กใช้เทคโนโลยที ี่เหมาะสมกบั ชีวติ ประจาวนั อยา่ งสรา้ งสรรคต์ ่อชวี ติ สังคม และส่ิงแวดลอ้ ม มีการจดั การเทคโนโลยที ย่ี ัง่ ยืนดว้ ยวิธีการของเทคโนโลยี สะอาด มีความคดิ สรา้ งสรรค์ในการแก้ปญั หาหรือสนองความตอ้ งการในงานที่ผลติ เอง หรือการพฒั นา ผลติ ภัณฑท์ ี่ผูอ้ ืน่ ผลติ เหน็ คุณคา่ และความสาคญั ของเทคโนโลยี โดยเลือกใชเ้ ทคโนโลยีทีเ่ หมาะสมกับ ชวี ติ ประจาวนั ตวั ชีว้ ัด ง 2.1 ม4-6/1 , ม4-6/2 , ม4-6/3 , ม4-6/4 , ม4-6/5 รวมท้ังหมด 5 ตัวชี้วัด

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำเพ่ิมเติม รหสั วิชำ ง 21201 กำรใช้เทคโนโลยีเพอื่ กำรส่อื สำร 1 กลุ่มสำระกำรเรยี นรกู้ ำรงำนอำชีพ ชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 1 เวลำ 40 ช่ัวโมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกติ ศกึ ษา อธิบาย อภิปราย หลกั การทางาน บทบาท และประโยชน์ ของคอมพวิ เตอร์ ลักษณะสาคัญ และผลกระทบของเทคโนโลยสี ารสนเทศ โดยใชก้ ระบวนการแสวงหาความรู้ ทกั ษะการทางานรว่ มกัน เพื่อให้ ผ้เู รยี นมีความรู้ความสามารถใชเ้ ครอ่ื งคอมพิวเตอรช์ ่วยอานวยความสะดวกในการทางาน และการดารงชวี ิต ผลกำรเรยี นรู้ 1. อธบิ ายหลกั การทางานของคอมพิวเตอร์ได้ 2. บอกประโยชน์และลักษณะสาคญั ของคอมพวิ เตอรไ์ ด้ 3. บอกผลกระทบของเทคโนโลยีสารสนเทศท่ีเก่ียวข้องกบั การทางานและการดารงชีวติ ได้ รวมท้ังหมด 3 ผลกำรเรียนรู้

คำอธิบำยรำยวชิ ำเพ่ิมเตมิ รหสั วิชำ ง 21202 กำรใชเ้ ทคโนโลยเี พ่อื กำรสอ่ื สำร 2 กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้กำรงำนอำชีพ ชัน้ มัธยมศกึ ษำปีที่ 1 เวลำ 40 ช่ัวโมง จำนวน 1.0 หน่วยกิต มงุ่ เนน้ ให้ผเู้ รยี นศึกษาความหมายของข้อมลู และสารสนเทศ ประเภทของข้อมูล การจัดการ สารสนเทศ ความหมายของการประมวลผล วธิ ีการประมวลผล และประมวลผลขอ้ มูลใหเ้ ปน็ สารสนเทศ การ ตรวจสอบขอ้ มลู ระดับของสารสนเทศ โดยใช้กระบวนการทางเทคโนโลยีสารสนเทศ เพอื่ ให้ผูเ้ รียนเขา้ ใจและ เหน็ คุณค่าของการใช้กระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศในการประมวลผลขอ้ มูลให้เปน็ สารสนเทศอยา่ งมี ประสิทธภิ าพ ประสิทธิผลและมคี ุณธรรม ผลกำรเรยี นรู้ 1. บอกความหมายของขอ้ มลู และสารสนเทศได้ 2. อธบิ ายประเภทของขอ้ มลู และการจัดการสารสนเทศได้ 3. บอกความหมายการประมวลผล และวธิ ีการประมวลผลได้ 4. สามารถประมวลผลขอ้ มลู ใหเ้ ป็นสารสนเทศได้ รวมท้ังหมด 4 ผลกำรเรียนรู้

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำเพ่ิมเตมิ อำหำรเพ่อื สขุ ภำพ 1 - 2 กลุ่มสำระกำรเรียนร้กู ำรงำนอำชพี ชน้ั มธั ยมศึกษำปีที่ 1 เวลำ 80 ชั่วโมง จำนวน 2.0 หนว่ ยกิต ความหมายของอาหารและโภชนาการ ความสาคัญของอาหารตอ่ สุขภาพ ประเภทของอาหาร และ สารอาหาร การเปลีย่ นแปลงของสารอาหารในรา่ งกาย ปรมิ าณสารอาหารท่ีควรได้รับใน 1 วนั ปญั หา โภชนาการในประเทศไทยและประเทศอื่นๆ สารปรุงแตง่ และสารเจอื ปนในอาหาร มีการฝกึ ปฏิบัตปิ ระกอบ อาหารหลกั 5 หมู่ เพือ่ ให้ได้สารอาหารสารอาหารครบถว้ น ตามความต้องการของวยั ต่างๆ อาหารเพื่อสุขภาพ องค์ประกอบและสมบตั เิ ชงิ หนา้ ท่ีของสารออกฤทธช์ิ วี ภาพทมี่ ีผลต่อสขุ ภาพ อาหารเพ่ือสุขภาพที่ได้จากพืช สตั ว์ และจลุ ินทรยี ์ ความปลอดภัยของอาหารเพือ่ สุขภาพและการควบคุม การประเมนิ การตรวจวิเคราะหเ์ พื่อรับรองคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ผลกำรเรียนรู้ 1. อธบิ ายความหมายของอาหารและโภชนาการได้ 2. บอกความสาคญั ของอาหาร ประเภทอาหารและสารอาหารทีม่ ผี ลต่อสุขภาพได้ 3. อธิบายถงึ การเปลย่ี นแปลงร่างกายที่ได้รบั สารอาหาร 4. อธิบายประโยชนแ์ ละโทษของสารอาหารปรงุ แต่งและสารเจอื ปนในอาหารได้ 5. ประกอบอาหารเพ่ือสุขภาพอย่างง่ายๆได้ 6. อธิบายสารอาหารที่มปี ระโยชนต์ อ่ ร่างกาย ตามความต้องการของวัยต่างๆได้ 7. อธิบายความหมายของอาหารเพ่ือสุขภาพได้ 8. บอกแหล่งหรือวัสดุทเี่ ปน็ สารอาหารเพือ่ สุขภาพได้ รวมท้ังหมด 8 ผลกำรเรียนรู้

คำอธบิ ำยรำยวิชำเพิ่มเตมิ รหัสวชิ ำ ว 22101 Computer 3 กลุ่มสำระกำรเรยี นร้กู ำรงำนอำชพี ชั้นมธั ยมศกึ ษำปีที่ 2 เวลำ 40 ชั่วโมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกิต มุ่งเนน้ ให้ผเู้ รียนศึกษาหลักการเบ้ืองต้นของการส่ือสารข้อมูลและเครือขา่ ยคอมพวิ เตอร์ หลกั การและ วธิ ีการแก้ปัญหา ดว้ ยกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยอธิบายการสอ่ื สารข้อมลู ยกตวั อยา่ งระบบเครือข่าย ระบอุ งค์ประกอบหลกั ที่สาคัญของการสือ่ สารขอ้ มูลในเครือข่ายคอมพิวเตอร์ บอกประโยชน์ท่ีได้รบั จากเครอื ข่าย คอมพิวเตอร์ อธิบายอุปกรณ์เครอื ข่าย จดั ประเภทของระบบเครือขา่ ย อธิบายหลกั การ และวิธกี ารแก้ปัญหา ด้วยกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ ผลกำรเรียนรู้ 1. สามารถศกึ ษาหลักการเบือ้ งตน้ ของข้อมูลและเครอื ข่ายคอมพวิ เตอร์ได้ 2. อธิบายหลกั การ วิธกี ารแก้ปัญหาดว้ ยกระบวนการสารสนเทศได้ 3. อธบิ ายการสือ่ สาร รูปแบบ พร้อมประโยชน์ทีไ่ ด้รับจากเครือข่ายได้ 4. ระบุองค์ประกอบหลกั ทส่ี าคัญของการส่ือสารขอ้ มูลในเครือขา่ ยคอมพิวเตอร์ได้ รวมท้ังหมด 4 ผลกำรเรยี นรู้

คำอธิบำยรำยวชิ ำเพิ่มเติม รหสั วิชำ ว 22202 Computer 4 กลุ่มสำระกำรเรยี นร้กู ำรงำนอำชพี ชัน้ มธั ยมศึกษำปที ี่ 2 เวลำ 40 ชั่วโมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกิต มงุ่ เน้นใหผ้ เู้ รยี นคน้ หาขอ้ มูล และติดต่อส่ือสารผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์อยา่ งมีคณุ ธรรมและจรยิ ธรรม ใชซ้ อฟต์แวรใ์ นการทางาน โดยอธิบายความหมายและพฒั นาการอนิ เตอร์เนต็ ใช้งานอินเตอรเ์ นต็ เช่น อีเมล blog สามารถโอนย้ายแฟ้มข้อมลู เลอื กใชโ้ ปรแกรมเรยี กคน้ ข้อมลู (search engine) มาสืบค้นข้อมลู ได้ เหมาะสม สนทนาบนเครอื ข่าย ระบผุ ลกระทบของการใชอ้ ินเตอรเ์ น็ตกับสงั คม มีมารยาทและปฏบิ ตั ิตาม ระเบียบ ขอ้ บังคับในการใช้อินเตอร์เน็ต นาซอฟต์แวร์ระบบ ซอฟต์แวร์ประยุกต์ มาช่วยในการทางาน เชน่ บีบอดั ขยาย โอนย้ายข้อมูล แกป้ ัญหาไวรสั คอมพิวเตอร์ หรอื ใชเ้ พ่ือความบันเทงิ ผลกำรเรียนรู้ 1. สามารถค้นหาขอ้ มูล ติดตอ่ สื่อสารผา่ นเครือข่ายคอมพิวเตอร์อยา่ งมคี ณุ ธรรมได้ 2. อธิบายความหมายและพฒั นาการของอินเตอร์เน็ตได้ รวมทั้งหมด 2 ผลกำรเรียนรู้

คำอธบิ ำยรำยวิชำเพ่ิมเตมิ รหัสวชิ ำ ว 23201 Computer 5 กลุ่มสำระกำรเรยี นรูก้ ำรงำนอำชพี ชนั้ มธั ยมศึกษำปีท่ี 3 เวลำ 40 ช่ัวโมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกติ มุ่งเนน้ ให้ผเู้ รยี นศึกษาหลักการพ้นื ฐานในการเขียนโปรแกรม โดยสามารถเขยี นโปรแกรม เขยี นสคริปต์ โดยใชจ้ าวาสคริปต์และเขยี นโปรแกรมแสดงภาพเคล่ือนไหวดว้ ยโปรแกรมแฟลช ผลกำรเรียนรู้ 1. อธิบายหลกั การพ้นื ฐานและการเขยี นโปรแกรมได้ 2. สามารถเขยี นโปรแกรมจาวาสคตริปต์ได้ รวมท้ังหมด 2 ผลกำรเรยี นรู้

คำอธิบำยรำยวชิ ำเพิ่มเติม รหัสวิชำ ว 23202 Computer 6 กลุ่มสำระกำรเรยี นรกู้ ำรงำนอำชีพ ชน้ั มัธยมศกึ ษำปที ี่ 3 เวลำ 40 ชั่วโมง จำนวน 1.0 หน่วยกิต มุ่งเน้นใหผ้ ้เู รียนอธบิ ายหลักการทาโครงงานที่มกี ารใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ นาเสนองานในรูปแบบทเี่ หมาะสมกบั ลักษณะงาน ใช้คอมพวิ เตอรช์ ว่ ยสร้างชิ้นงานจากจนิ ตนาการหรอื งานท่ีทา ในชีวิตประจาวัน ตามหลกั การทาโครงงานอย่างมีจติ สานึกและ ความรบั ผดิ ชอบ ผลกำรเรยี นรู้ 1. อธบิ ายหลักการทาโครงงานท่ีมีการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศได้ 2. สามารถใช้เทคโนโลยีในการนาเสนอผลงานได้ 3. สามารถใช้คอมพิวเตอรใ์ นการสรา้ งผลงานได้ รวมทั้งหมด 3 ผลกำรเรยี นรู้

คำอธิบำยรำยวชิ ำเพ่ิมเติม เทคโนโลยีสำรสนเทศ 1 - 2 กลุ่มสำระกำรเรียนรกู้ ำรงำนอำชีพ ชัน้ มัธยมศึกษำปที ่ี 4 เวลำ 80 ชั่วโมง จำนวน 2.0 หน่วยกิต ศกึ ษา วิเคราะห์ ความสาคญั ของเทคโนโลยีสารสนเทศและระบบสารสนเทศเพ่ือการสืบคน้ และแสวงหา ความรใู้ นสงั คมยคุ ตวั เลขและยุคแหง่ ปญั ญาทีม่ ีผลตอ่ ชวี ติ และความเป็นอยู่ของมนุษย์ การใชง้ านเทคโนโลยี คอมพิวเตอร์ การใชโ้ ปรแกรมระบบและโปรแกรมประยุกต์ การจัดเก็บและการนาเสนอข้อมูล การส่อื สารและ แลกเปล่ยี นข้อมูลสารสนเทศบนระบบเครือขา่ ย การเคารพสทิ ธทิ างปญั ญา คณุ ธรรม จรยิ ธรรมใน สงั คมสารสนเทศ ผลกำรเรียนรู้ 1. สามารถนาความรเู้ ทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ประยกุ ต์ในสงั คมยุคตัวเลขและยุคแหง่ ปัญญาได้ 2. สามารถใช้งานโปรแกรมระบบและโปรแกรมประยกุ ต์ได้ 3. มีความรู้ ความเขา้ ใจในเรื่องการจดั การข้อมลู และสารสนเทศ 4. มีความรู้ ความเข้าใจในการสอ่ื สารข้อมูลและระบบเครือข่ายคอมพวิ เตอร์ 5. มีความรู้ ความเขา้ ใจในการแลกเปลย่ี นข้อมูลสารสนเทศบนระบบเครือขา่ ยได้ 6. ร้จู ักการเคารพสทิ ธิทางปัญญา 7. มีคุณธรรม จรยิ ธรรมในสังคมสารสนเทศ รวมท้ังหมด 7 ผลกำรเรียนรู้

คำอธบิ ำยรำยวิชำเพิ่มเติม รหัสวชิ ำ ว 32201 เทคโนโลยกี ำรวำดภำพและตกแต่ง กลุ่มสำระกำรเรยี นรูก้ ำรงำนอำชีพ ชนั้ มัธยมศกึ ษำปีที่ 5 เวลำ 40 ช่ัวโมง จำนวน 1.0 หน่วยกติ รายวิชาที่มุ่งปลูกฝังให้ผู้เรียนเข้าใจและเห็นคุณค่าในการใช้ กระบวนการทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สืบค้นข้อมูลการเรียนรู้การสื่อสารการแก้ปัญหาโดยศึกษาเก่ียวกับการติดต่อส่ือสารและค้นหาข้อมูลผ่าน Internet ตัดสนิ ใจใชค้ อมพิวเตอร์ในการประมวลผลข้อมลู ให้เปน็ สารสนเทศ การใช้ Hardware และ Software การนาเสนองานโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ นอกจากน้ันยังสามารถพัฒนาช้ินงานและใช้ คอมพิวเตอร์สร้างงานจากโปรแกรม Photoshop อย่างมีจิตสานึกและมีความรับผิดชอบ ผลกำรเรียนรู้ 1. มคี วามรู้ความเข้าใจและสามารถใชโ้ ปรแกรมตกแตง่ ภาพ โปรแกรมสร้างขอ้ ความเคลื่อนไหว เพือ่ นาไปประยกุ ตใ์ ช้ในการสร้างเว็บได้ 2. มคี วามรู้ ความเข้าใจ ความหมาย หลักการและทฤษฎที เี่ กย่ี วขอ้ งกบั โปรแกรมตกแต่งภาพ หลักการออกแบบเรง่ เร้าความสนใจของผู้เรียนและประโยชนข์ องโปรแกรมตกแต่งภาพ 3. มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ ในการใช้โปรแกรมตกแต่งภาพ และนาไปใชอ้ ยา่ งมีจติ สานึก รับผิดชอบโดยยดึ หลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง รวมท้ังหมด 3 ผลกำรเรียนรู้

คำอธบิ ำยรำยวิชำเพ่ิมเติม รหัสวชิ ำ ง32202 กำรสรำ้ งภำพแอนนเิ มช่ัน กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้กำรงำนอำชีพ ช้นั มธั ยมศึกษำปที ี่ 5 เวลำ 40 ช่ัวโมง จำนวน 1.0 หน่วยกิต รายวิชาที่มุ่งปลูกฝังให้ผู้เรียนเข้าใจและเห็นคุณค่าในการใช้กระบวนการทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สืบค้นข้อมูล การเรียนรู้ การส่ือสาร การแก้ปัญหา โดยศึกษาเกี่ยวกับการติดต่อส่ือสารและค้นหาข้อมูลผ่าน Internet ตัดสินใจใช้คอมพิวเตอร์ในการประมวลผลข้อมูลให้เป็นสารสนเทศ การใช้ Hardware และ Software การนาเสนองานโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ นอกจากนั้นยังสามารถพัฒนาชิ้นงานและใช้ โปรแกรมสร้างภาพเคลอื่ นไหว สร้างงานอย่างมีจิตสานึกและมีความรับผิดชอบ ผลกำรเรยี นรู้ 1. มคี วามรู้ความเขา้ ใจและสามารถใชโ้ ปรแกรมสร้างภาพเคลอ่ื นไหว โปรแกรมสรา้ งขอ้ ความ เคล่อื นไหว เพ่ือนาไปประยุกต์ใช้ในการสร้างเวบ็ ได้ 2. มีความรู้ ความเขา้ ใจ ความหมาย หลักการและทฤษฎีทีเ่ กยี่ วข้องกบั การใช้โปรแกรมสร้าง ภาพเคลื่อนไหว หลกั การออกแบบเร่งเร้าความสนใจของผู้เรียนและประโยชนข์ องการใช้ โปรแกรมสร้างภาพเคลื่อนไหว 3. มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ ในการใช้โปรแกรมสรา้ งภาพเคลอื่ นไหว และนาไปใช้อยา่ งมีจิตสานกึ รับผิดชอบ โดยยึดหลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง รวมทั้งหมด 3 ผลกำรเรยี นรู้

คำอธบิ ำยรำยวิชำเพ่ิมเติม รหัสวชิ ำ ว 33201 กำรเขียนเวบ็ เพจ 3 กลุ่มสำระกำรเรียนรู้กำรงำนอำชีพ ชน้ั มธั ยมศกึ ษำปที ่ี 6 เวลำ 40 ชั่วโมง จำนวน 1.0 หน่วยกิต มุง่ เน้นใหผ้ ู้เรียนมคี วามรู้ ความเข้าใจและสามารถใช้โปรแกรมตกแต่งภาพ โปรแกรมสรา้ งขอ้ ความ เคลอ่ื นไหว ความหมาย หลักการและทฤษฎีที่เก่ยี วข้องกับการสรา้ งเวบ็ ไซต์ หลกั การออกแบบเรง่ เรา้ ความ สนใจของผู้เรยี นและประโยชนข์ องเวบ็ ไซต์ เพื่อนาไปประยุกตใ์ ชใ้ นการสรา้ งเว็บได้ และนาไปใช้อย่างมีจิตสานึก รบั ผดิ ชอบ โดยยดึ หลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง ผลกำรเรยี นรู้ 1. มคี วามร้คู วามเขา้ ใจและสามารถใชโ้ ปรแกรมตกแตง่ ภาพโปรแกรมสร้างขอ้ ความเคลื่อนไหว เพอ่ื นาไปประยุกต์ใช้ในการสร้างเว็บได้ 2. มีความรคู้ วามเขา้ ใจ ความหมาย หลักการและทฤษฎีท่ีเก่ียวข้องกับการสรา้ งเว็บไซต์ หลักการ ออกแบบเร่งเรา้ ความสนใจของผู้เรียนและประโยชน์ของเว็บไซต์ 3. มีความรู้ ความเขา้ ใจ ในการสร้างเวบ็ ไซตแ์ ละนาไปใช้อย่างมีจติ สานกึ รับผิดชอบ โดยยึด หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง รวมท้ังหมด 3 ผลกำรเรยี นรู้

คำอธบิ ำยรำยวิชำเพ่ิมเติม รหสั วชิ ำ ง33202 กำรเขยี นเวบ็ เพจ 4 กลุ่มสำระกำรเรียนรูก้ ำรงำนอำชพี ช้นั มัธยมศกึ ษำปที ่ี 6 เวลำ 40 ชว่ั โมงจำนวน 1.0หน่วยกติ ม่งุ เนน้ ใหผ้ ู้เรยี นมีความรู้ ความเขา้ ใจและสามารถใชโ้ ปรแกรมสร้างเว็บไซด์ ด้วยโปรแกรม Macromedia Dreamweaver ความหมาย หลักการและทฤษฎีที่เก่ยี วขอ้ งกับการสร้างเว็บไซต์ หลกั การ ออกแบบเร่งเร้าความสนใจของผู้เรยี นและประโยชน์ของเว็บไซต์ เพื่อนาไปประยุกตใ์ ช้ในการสร้างเว็บได้ และ นาไปใช้อย่างมีจิตสานกึ รบั ผิดชอบ โดยยดึ หลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง ผลกำรเรยี นรู้ ๑. มคี วามรู้ความเข้าใจและสามารถใช้โปรแกรมสร้างเวบ็ ไซด์ ดว้ ยโปรแกรม Macromedia Dreamweaver ๒. มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ ความหมาย หลกั การและทฤษฎีทเ่ี กย่ี วข้องกบั การสรา้ งเว็บไซต์ หลกั การ ออกแบบเรง่ เรา้ ความสนใจของผู้เรียนและประโยชน์ของเว็บไซต์ 3. มคี วามรู้ ความเข้าใจ ในการสร้างเวบ็ ไซต์และนาไปใชอ้ ย่างมีจติ สานกึ รับผิดชอบ โดยยึด หลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง รวมท้ังหมด 3 ผลกำรเรียนรู้

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำพ้นื ฐำน รหสั วิชำ อ 11101 ภำษำอังกฤษ กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ภำษำต่ำงประเทศ ชั้นประถมศกึ ษำปีท่ี 1 เวลำ 200 ชวั่ โมง จำนวน 5.0 หนว่ ยกิต ระบตุ วั อักษรและเสียงตัวอักษรของภาษาอังกฤษและภาษาไทย อา่ นออกเสียง สะกดคาง่ายๆ เลือกภาพ ตรงตามความหมายของคาและกล่มุ คาที่ฟัง ปฏิบัตติ ามและใช้คาสงั่ ง่ายๆ บอกความต้องการของตนเอง พดู และใหข้ ้อมลู ในการสอ่ื สารระหว่างบุคคลเก่ยี วกบั ตัวเองและเรือ่ งใกลต้ วั ในสถานการณ์งา่ ยๆ ท่เี กิดขึ้นใน หอ้ งเรียน พร้อมท้ังทาทา่ ประกอบตามวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา บอกช่อื รวบรวมคาศัพท์และตอบคาถาม เกย่ี วกบั เรอ่ื งใกล้ตวั จากกลมุ่ สาระการเรียนรู้อื่นและเทศกาลสาคญั ของเจา้ ของภาษาง่ายๆ และเข้าร่วมกจิ กรรม ทางภาษาและวฒั นธรรมทเี่ หมาะสมกับวัย ถูกต้องตามกาลเทศะ โดยการฝึกทกั ษะทางภาษาดา้ นการฟัง พูด อา่ น เขยี น สามารถใช้กระบวนการสืบคน้ ข้อมูล เช่อื มโยง ความรูท้ างภาษากับกลมุ่ สาระการเรียนรอู้ ื่น ใช้แหล่งเรยี นรู้และส่อื เพ่อื เพ่มิ พนู ความรู้ ความเพลิดเพลิน เห็น ประโยชนแ์ ละความจาเป็นในการเรยี นภาษาและมีเจตคติท่ีดี กล้าแสดงออกยา่ งมมี ารยาท มีความใฝ่เรียนรู้ ม่งุ มัน่ ในการทางาน รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ และรักความเป็นไทย ตัวชว้ี ัด ต 1.1 ป1/1 , ป1/2 , ป1/3 , ป1/4 ต 1.2 ป1/1 , ป1/2 , ป1/3 , ป1/4 ต 1.3 ป1/1 ต 2.1 ป1/1 , ป1/2 , ป1/3 ต 2.2 ป1/1 ต 3.1 ป1/1 ต 4.1 ป1/1 ต 4.2 ป1/2 รวมทั้งหมด 16 ตวั ชี้วัด

คำอธบิ ำยรำยวิชำพ้นื ฐำน รหสั วิชำ อ 12101 ภำษำอังกฤษ กลุ่มสำระกำรเรียนร้ภู ำษำต่ำงประเทศ ประถมศกึ ษำปีท่ี 2 เวลำ 200 ช่ัวโมง จำนวน 5.0 หน่วยกติ ระบตุ วั อกั ษรและเสียงตวั อักษรของภาษาอังกฤษและภาษาไทย อ่านออกเสยี ง สะกดคาง่ายๆ เลือกภาพ ตรงตามความหมายของคาและกลุ่มคาท่ีฟัง ปฏบิ ตั ิตามและใช้คาสงั่ งา่ ยๆ บอกความต้องการของตนเอง พดู และ ให้ข้อมลู ในการสื่อสารระหวา่ งบุคคลเกยี่ วกบั ตวั เองและเร่ืองใกล้ตัว ในสถานการณ์ง่ายๆ ท่เี กดิ ข้นึ ในหอ้ งเรยี น พร้อมทัง้ ทาทา่ ประกอบตามวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา บอกช่อื รวบรวมคาศพั ทแ์ ละตอบคาถามเกย่ี วกับเร่ือง ใกล้ตวั จากกลมุ่ สาระการเรยี นร้อู นื่ และเทศกาลสาคญั ของเจา้ ของภาษาง่ายๆ และเขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาและ วฒั นธรรมที่เหมาะสมกับวัย ถกู ต้องตามกาลเทศะ โดยการฝึกทักษะทางภาษาดา้ นการฟงั พูด อ่าน เขียน สามารถใชก้ ระบวนการสบื คน้ ข้อมลู เชอื่ มโยง ความรูท้ างภาษากบั กลมุ่ สาระการเรียนรอู้ ื่น ใช้แหล่งเรียนรู้และสอ่ื เพ่อื เพมิ่ พนู ความรู้ ความเพลดิ เพลิน เห็น ประโยชน์และความจาเปน็ ในการเรียนภาษาและมีเจตคติที่ดี กล้าแสดงออกย่างมีมารยาท มคี วามใฝเ่ รยี นรู้ มงุ่ มั่นในการทางาน รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และรักความเป็นไทย ตัวชี้วัด ต 1.1 ป2/1 , ป2/2 , ป2/3 , ป2/4 ต 2.1 ป2/1 , ป2/2 , ป2/3 , ป2/4 ต 1.3 ป2/1 ต 2.1 ป2/1 , ป2/2 , ป2/3 ต 2.2 ป2/1 ต 3.1 ป2/1 ต 4.1 ป2/1 ต 4.2 ป2/1 รวมท้ังหมด 16 ตวั ช้ีวดั

คำอธิบำยรำยวิชำพืน้ ฐำน รหสั วชิ ำ อ 13101 ภำษำอังกฤษ กลุ่มสำระกำรเรียนร้ภู ำษำตำ่ งประเทศ ช้นั ประถมศกึ ษำปีที่ 3 เวลำ 200 ชัว่ โมง จำนวน 5.0 หน่วยกติ บอกความแตกต่างของเสียงตัวอักษร คา กลุม่ คา และประโยคของภาษาอังกฤษและภาษาไทย อ่านออก เสียง สะกดคา จดั หมวดหมูข่ องคา อ่านกลุม่ คา ประโยคและบทพูดเขา้ จังหวะตามหลกั การอา่ น เลือก ระบุ ภาพ หรือสญั ลักษณ์ตรงตามความหมายของคา กลุ่มคา และประโยคท่ีฟัง ปฏบิ ัติตามและใช้คาสงั่ คาขอร้อง บอก ความต้องการและความรู้สกึ ของตนเองตามแบบท่ีฟัง พูดเพื่อขอและให้ข้อมลู โต้ตอบในการส่ือสารระหวา่ งบุคคล บอกความรูส้ ึกเกีย่ วกบั ตนเอง เพื่อน และเร่ืองใกล้ตัวในสถานการณง์ า่ ยๆ ทเ่ี กดิ ขนึ้ ในห้องเรยี น พร้อมท้งั ทาทา่ ประกอบตามมารยาทสงั คมและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา ตอบคาถามจากการฟงั อ่านประโยค บทสนทนา และนิทานง่ายๆ บอกช่อื รวบรวมคาศพั ท์ที่เกยี่ วกับกลุ่มสาระการเรียนรู้อนื่ เทศกาล วนั สาคญั งานฉลองและ ชวี ติ ความเป็นอยู่ของเจา้ ของภาษา และเข้าร่วมกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมท่ีเหมาะสมกบั วยั โดยการฝึกทักษะทางภาษาดา้ นการฟัง พูด อ่าน เขยี น สามารถใชก้ ระบวนการสบื คน้ ข้อมลู อภปิ ราย นาเสนอ เชื่อมโยงความรู้ทางภาษากับกลมุ่ สาระการเรียนรู้อืน่ ใชแ้ หล่งเรียนรู้และสือ่ เพื่อเพ่ิมพนู ความรู้ ความ เขา้ ใจ เห็นประโยชน์และความจาเปน็ ในการเรยี นภาษา มเี จตคติที่ดี มวี ินัย ใฝเ่ รยี นรู้ มงุ่ มั่นในการทางาน รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ และรักความเปน็ ไทย ตวั ชว้ี ัด ต 1.1 ป 3/1,ป 3/2 ,ป 3/3 ,ป 3/4 ต 1.2 ป 3/1,ป 3/2 ,ป 3/3 ,ป 3/4,ป 3/5 ต 1.3 ป 3/1,ป 3/2 ต 2.1 ป 3/1,ป 3/2 ,ป 3/3 ต 2.2 ป 3/1 ต 3.1 ป 3/1 ต 4.1 ป 3/1 ต 4.2 ป 3/1 รวมทั้งหมด 18 ตวั ชี้วดั

คำอธบิ ำยรำยวิชำพ้นื ฐำน รหสั วิชำ อ 14101 ภำษำอังกฤษ กลุ่มสำระกำรเรียนรภู้ ำษำต่ำงประเทศ ชน้ั ประถมศึกษำปีท่ี 4 เวลำ 200 ช่วั โมง จำนวน 5.0 หน่วยกิต ปฏิบัติตามคาสง่ั คาขอร้อง คาขออนุญาต คาแนะนางา่ ยๆ ท่ฟี งั หรืออา่ น อ่านออกเสยี งคา สะกดคา และอา่ นประโยค ข้อความง่ายๆ และบทพดู เข้าจงั หวะถูกต้องตาม หลกั การอา่ น เลือกระบุภาพหรือสัญลกั ษณ์ หรือ เครื่องหมาย ของประโยคและข้อความสัน้ ๆท่ีฟงั หรืออ่าน ตอบคาถามจากการฟงั และอ่านประโยค บทสนทนา หรือนทิ านง่ายๆ เทศกาล/วันสาคญั / งานฉลองและชวี ติ ความเป็นอยงู่ ่ายๆ ของเจ้าของภาษา พูดและเขยี น โต้ตอบในสื่อสารระหวา่ งบคุ คล แสดงความตอ้ งการของตนเอง ขอและใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั ตนเอง เพ่ือนและ ครอบครวั และเร่ืองใกลต้ ัวและขอความชว่ ยเหลือในสถานการณ์ตา่ งๆ พูดแสดงความคดิ เห็นงา่ ยๆ เก่ียวกับเรื่อง ต่างๆ ใกล้ตัวและวาดภาพแสดงความสัมพันธข์ องส่งิ ตา่ งๆ พดู และทาทา่ ประกอบอย่างสุภาพ ตามมารยาทสังคม และวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา บอกความแตกต่างของเสยี งตวั อักษร คา กลมุ่ คา ประโยค และข้อความของ ภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย บอกความเหมือน/ความแตกต่างระหวา่ งเทศกาลและงานฉลอง ตาม วัฒนธรรมของเจา้ ของภาษากับของไทย เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรมทเี่ หมาะกบั วยั คน้ คว้า รวบรวมคาศัพท์ท่ีเกี่ยวข้องกับกลมุ่ สาระการเรยี นรอู้ น่ื และนาเสนอดว้ ยการพดู /การเขียน ฟังและพดู /อา่ นใน สถานการณ์ทีเ่ กดิ ข้นึ ในห้องเรียนและสถานศึกษาใช้ภาษาต่างประเทศในการสืบคน้ และรวบรวมข้อมูลต่างๆ โดยใชก้ ระบวนการสื่อสารทางภาษา กระบวนการสบื คน้ ข้อมลู กระบวนการกลุ่ม เพื่อให้เกิดความรู้ ความเขา้ ใจในการใช้ภาษาอังกฤษ เห็นประโยชนแ์ ละความจาเปน็ ในการเรียนภาษา มีเจตคตทิ ่ดี ี มีวนิ ัย ใฝเ่ รียนรู้ มุ่งม่ันในการทางาน อยู่อย่างพอเพียง และรกั ความเปน็ ไทย ตวั ช้ีวัด ต 1.1 ป 4/1, ป 4/2 , ป 4/3 , ป.4/4 ต 1.2 ป 4/1, ป 4/2 , ป 4/3 , ป.4/4 ต 1.3 ป 4/1, ป 4/2 , ป 4/3 ต 2.1 ป 4/1, ป 4/2 ต 2.2 ป 4/1, ป 4/2 , ป 4/3 ต 3.1 ป 4/1 ต 4.1 ป 4/1 ต 4.2 ป 4/1 รวมท้ังหมด 19 ตัวช้ีวดั

คำอธบิ ำยรำยวิชำพน้ื ฐำน รหสั วชิ ำ อ 15101 ภำษำอังกฤษ กลุ่มสำระกำรเรยี นร้ภู ำษำตำ่ งประเทศ ชนั้ ประถมศกึ ษำปที ี่ 5 เวลำ 200 ช่วั โมง จำนวน 5.0 หน่วยกติ ปฏิบัตติ ามคาส่งั คาขอร้อง คาขออนุญาต คาแนะนาง่ายๆ ทฟ่ี งั หรืออ่าน อา่ นออกเสียงคา กล่มุ คา ประโยคชนิดต่างๆ ข้อความง่ายๆ เครื่องหมายวรรคตอน การลาดับคา โครงสรา้ งประโยค ระบหุ รือวาดภาพ สัญลกั ษณ์ เครื่องหมาย แผนผัง แผนภมู ิ และข้อมูลตา่ งๆ พดู / เขียนนิทานง่ายๆ บทสนทนาในการสอ่ื สารระหวา่ งบคุ คล ประโยคแสดงความตอ้ งการ หรือขอความชว่ ยเหลือ ข้อมลู เกยี่ วกับ ตนเอง เพ่ือน ครอบครวั และเรอื่ งใกลต้ วั ความรสู้ ึกของตนเองเกย่ี วกบั เร่ืองตา่ งๆ ใกลต้ ัว และกจิ กรรมต่างๆ ใช้ ถ้อยคา นา้ เสียงและกรยิ า ท่าทางอย่างสภุ าพตามมารยาททางสังคมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา เข้ารว่ ม กจิ กรรมทางภาษา วัฒนธรรม ตอบคาถาม บอกความสาคัญของเทศกาล วนั สาคัญ งานฉลอง เปรียบเทียบความ เหมอื น / ความแตกต่าง ชวี ติ ความเปน็ อยู่อย่างง่ายๆ ของไทย และเจ้าของภาษา ค้นควา้ รวบรวมคาศัพท์ท่ี เกย่ี วขอ้ งกบั กลุ่มสาระการเรียนร้อู น่ื ใชภ้ าษาส่ือสารในสถานการณท์ ี่เกดิ ข้นึ ในหอ้ งเรยี นและสถานศึกษา ตลอดจนสืบคน้ และรวบรวมข้อมูลต่างๆ โดยใช้กระบวนการสือ่ สารทางภาษา กระบวนการสบื ค้นข้อมลู กระบวนการกลุม่ เพ่ือให้เกิดความรู้ ความเข้าใจในการใชภ้ าษาองั กฤษ เหน็ ประโยชนแ์ ละความจาเปน็ ในการเรียนภาษา มเี จตคตทิ ี่ดี มวี นิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ มุง่ มนั่ ในการทางาน อยู่อยา่ งพอเพยี ง และรกั ความเป็นไทย ตัวชี้วัด ต 1.1 ป 5/1,ป 5/2 ,ป 5/3 ,ป 5/4 ต 1.2 ป 5/1,ป 5/2 ,ป 5/3 ,ป 5/4,ป 5/5 ต 1.3 ป 5/1,ป 5/2 ,ป 5/3 ต 2.1 ป 5/1,ป 5/2 ,ป 5/3 ต 2.2 ป 5/1,ป 5/2 ต 3.1 ป 5/1 ต 4.1 ป 5/1 ต 4.2 ป 5/1 รวมทั้งหมด 20 ตวั ชี้วดั

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำพ้ืนฐำน รหัสวชิ ำ อ 16101 ภำษำองั กฤษ กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้ภำษำต่ำงประเทศ ช้นั ประถมศกึ ษำปที ่ี 6 เวลำ 200 ชวั่ โมง จำนวน 5.0 หน่วยกิต ปฏบิ ตั ติ ามคาสั่ง คาขอร้อง คาแนะนา ขอ้ ความ นิทาน และบทกลอนสน้ั ๆ ประโยคหรือข้อความ ภาพ สัญลักษณ์ เครื่องหมาย บทสนทนา หรือเร่อื งเล่า การสอื่ สารระหว่างบคุ คล ความตอ้ งการ การขอความ ชว่ ยเหลือ การตอบรับ และปฏเิ สธการให้ความช่วยเหลอื ขอ้ มูลเก่ยี วกบั ตนเอง เพื่อน ครอบครวั และเร่ืองใกล้ตวั การแสดงความรสู้ ึกของตนเอง เรอื่ งตา่ งๆ ใกลต้ วั กิจกรรมต่างๆ และสงิ่ แวดล้อมใกล้ตัว ภาพ แผนผงั แผนภูมิ และตาราง แสดงขอ้ มูลตา่ งๆ มารยาททางสงั คม และวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา เทศกาล /วนั สาคญั / งาน ฉลองและชวี ติ ความเป็นอยู่ของเจา้ ของภาษา และเข้าร่วมกจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรม ศกึ ษาประโยคชนดิ ตา่ งๆเคร่ืองหมายวรรคตอนและโครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศและภาษาไทยเปรียบเทยี บความเหมือน / ความต่าง เทศกาล งานฉลอง และประเพณีของเจ้าของภาษากับของไทย คาศัพท์ท่ีเก่ียวขอ้ งกบั กลุ่มสาระการ เรียนรูอ้ ่ืน ใชภ้ าษาในการส่ือสารในสถานการณ์ตา่ งๆ ทีเ่ กิดขึน้ ในห้องเรียนและสถานศกึ ษา ตลอดจนสบื คน้ และ รวบรวมขอ้ มลู ตา่ งๆ โดยใช้กระบวนการการปฏิบตั ิ การฟงั การพูด การอา่ น การเขยี น การเลือก การระบุ การบอก การ ตอบคาถาม การใหข้ ้อมลู การให้เหตผุ ล การเขยี นแสดงความคดิ เห็น การบอกความเหมือน ความแตกต่าง การ ลาดบั คา การเปรียบเทียบความเหมอื นความแตกต่าง การคน้ คว้า การสบื ค้น การรวบรวม การนาเสนอ เพื่อให้ เกดิ ความรู้ ความเข้าใจในการใชภ้ าษาอังกฤษ เหน็ ประโยชนแ์ ละความจาเป็นในการเรยี นภาษา มเี จตคติทด่ี ี มี วินยั ใฝ่เรียนรู้ มงุ่ มั่นในการทางาน อย่อู ย่างพอเพยี ง และรักความเปน็ ไทย ตวั ชว้ี ัด ต.1.1 ป1/1,ป1/2 ,ป6/3 ,ป6/4 ต.1.2 ป1/1,ป1/2 ,ป6/3 ,ป6/4 , ป6/5 ต.1.3 ป1/1,ป1/2 ,ป6/3 ต.2.1 ป1/1,ป1/2 ,ป6/3 ต.2.2 ป1/1,ป1/2 ต.3.1 ป6/1 ต.4.1 ป6/1 ต.4.2 ป6/1 รวมท้ังหมด 20 ตัวชี้วดั

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำพนื้ ฐำน รหสั วชิ ำ อ 21101 ภำษำอังกฤษ กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้ภำษำตำ่ งประเทศ ช้นั มธั ยมศึกษำปีท่ี 1 เวลำ 60 ชว่ั โมง จำนวน 1.5 หนว่ ยกิต อา่ นออกเสียงข้อความ นทิ าน บทร้อยกรอง บอกความเหมือนและความแตกต่างระหว่างการออกเสยี ง ประโยคชนิดต่างๆ การใช้เครื่องหมายวรรคตอน และการลกดับคา ตามโครงสรา้ งประโยคของภาษาอังกฤษและ ภาษาไทย ปฏิบัติตามและใชค้ าสงั่ คาขอร้อง คาแนะนา คาชแี้ จง พูดและเขยี นบรรยาย สรุปใจความสาคญั ที่ได้ จากการวิเคราะห์ แสดงความคดิ เห็น เรือ่ งเกยี่ วกบั ตนเอง กจิ วตั รประจาวัน ประสบการณ์ ส่งิ แวดล้อม และ เหตกุ ารณใ์ กล้ตัวในความสนใจ ระบุและเลือกข้อมูล ประโยค ขอ้ ความ บทสนทนา นิทาน เร่ืองสน้ั และตอบ คาถามเกย่ี วกับเร่ืองท่ีฟังหรืออ่าน ค้นคว้ารวบรวม สรปุ ข้อมูลจากสอ่ื และเเหล่งเรยี นรตู้ ่างๆ ทัง้ ท่ีเปน็ ข้อเทจ็ จรงิ และข้อคิดเห็นทเ่ี ก่ยี วข้องกับกลมุ่ สาระการเรียนรู้อน่ื เปรยี บเทยี บประเพณี งานเทศกาล งานฉลอง วนั สาคญั ชีวติ ความเป็นอยแู่ ละวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา เข้ารว่ มและจดั กจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรม ส่อื สารดว้ ย ภาษานา้ เสยี งและกริ ิยาทา่ ทางสุภาพเหมาะสม ท้ังในสถานการณ์จาลองอยา่ งถูกต้องเหมาะสมตามกาลเทศะ โดยใช้กระบวนการทางภาษาในการสอ่ื สาร กระบวนการคดิ กระบวนการแก้ปญั หา กระบวนการสืบค้น ข้อมูลความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิตและการใช้เทคโนโลยี เพอ่ื ให้เกิดความคดิ ความเข้าใจสามารถใช้ ภาษาองั กฤษสื่อสารในชีวติ ประจาวนั ได้อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพเหมาะสมตามภาษาและวัฒนธรรม มีเจตคติที่ดีใน การเรียนภาษาอังกฤษ มีวนิ ยั ใฝเ่ รียนรู้ เหน็ คณุ ค่าในการนาความร้ไู ปใชป้ ระโยชนใ์ นชีวติ ประจาวัน อยูอ่ ย่าง พอเพียง มีความซอ่ื สตั ย์ มงุ่ มัน่ ในการทางาน รักความเป็นไทยและมจี ติ สาธารณะ ตัวช้ีวดั ต 1.1 ม.1/1 , ม.1/2 , ม.1/3 , ม.1/4 ต 1.2 ม.1/1 , ม.1/2 , ม.1/3 , ม.1/4 , ม.1/5 ต 1.3 ม.1/1 , ม.1/2 , ม.1/3 ต 2.1 ม.1/1 , ม.1/2 , ม.1/3 ต 2.2 ม.1/1 , ม.1/2 ต 3.1 ม.1/1 ต 4.1 ม.1/1 ต 4.2 ม.1/1 รวมท้ังหมด 20 ตัวชวี้ ัด

คำอธิบำยรำยวชิ ำพืน้ ฐำน รหสั วิชำ อ 21102 ภำษำอังกฤษ กลุ่มสำระกำรเรยี นรูภ้ ำษำตำ่ งประเทศ ช้นั มัธยมศึกษำปีท่ี 1 เวลำ 60 ช่ัวโมง จำนวน 1.5 หนว่ ยกิต อา่ นออกเสียงข้อความ นิทาน บทร้อยกรอง บอกความเหมือนและความแตกตา่ งระหว่างการออกเสยี ง ประโยคชนดิ ต่างๆ การใชเ้ ครื่องหมายวรรคตอน และการลกดับคา ตามโครงสรา้ งประโยคของภาษา อังกฤษและภาษาไทย ปฏบิ ตั ิตามและใชค้ าส่ัง คาขอร้อง คาแนะนา คาชีแ้ จง พูดและเขยี นบรรยาย สรปุ ใจความ สาคญั ท่ไี ด้จากการวเิ คราะห์ แสดงความคิดเห็น เรอื่ งเกย่ี วกับตนเอง กิจวตั รประจาวนั ประสบการณ์ สิ่งแวดล้อม และเหตุการณ์ใกลต้ ัวในความสนใจ ระบุและเลือกข้อมูล ประโยค ข้อความ บทสนทนา นิทาน เรือ่ งสน้ั และตอบคาถามเก่ียวกับเร่ืองท่ีฟังหรืออ่าน ค้นคว้ารวบรวม สรุปข้อมูลจากสอื่ และเหล่งเรียนรตู้ า่ งๆท้ังท่ี เปน็ ข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นทีเ่ กี่ยวข้องกับกลุม่ สาระการเรียนรอู้ ื่น เปรยี บเทียบประเพณี งานเทศกาล งาน ฉลอง วนั สาคญั ชีวติ ความเป็นอยูแ่ ละวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา เข้าร่วมและจัดกจิ กรรมทางภาษาและ วัฒนธรรม สอื่ สารด้วยภาษาน้าเสยี งและกริ ิยาทา่ ทางสภุ าพเหมาะสม ทัง้ ในสถานการณ์จาลองอย่างถูกตอ้ ง เหมาะสมตามกาลเทศะ โดยใชก้ ระบวนการทางภาษาในการสือ่ สาร กระบวนการคิด กระบวนการแกป้ ญั หา กระบวนการสืบคน้ ข้อมูลความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ และการใช้เทคโนโลยี เพอ่ื ให้เกดิ ความคดิ ความเขา้ ใจสามารถใช้ ภาษาองั กฤษส่ือสารในชีวติ ประจาวันได้อยา่ งมปี ระสิทธิภาพเหมาะสมตามภาษาและวฒั นธรรม มีเจตคตทิ ่ีดใี น การเรียนภาษาอังกฤษ มีวนิ ัย ใฝเ่ รียนรู้ เห็นคุณค่าในการนาความร้ไู ปใช้ประโยชน์ในชวี ิตประจาวัน อยูอ่ ยา่ ง พอเพียง มีความซ่ือสตั ย์ ม่งุ มั่นในการทางาน รกั ความเป็นไทยและมจี ติ สาธารณะ ตัวชว้ี ดั ต 1.1 ม.1/1 , ม.1/2 , ม.1/3 , ม.1/4 ต 1.2 ม.1/1 , ม.1/2 , ม.1/3 , ม.1/4 , ม.1/5 ต 1.3 ม.1/1 , ม.1/2 , ม.1/3 ต 2.1 ม.1/1 , ม.1/2 , ม.1/3 ต 2.2 ม.1/1 , ม.1/2 ต 3.1 ม.1/1 ต 4.1 ม.1/1 ต 4.2 ม.1/1 รวมท้ังหมด 20 ตัวชี้วัด

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำพื้นฐำน รหสั วชิ ำอ 22101 ภำษำอังกฤษ กลุ่มสำระกำรเรยี นรภู้ ำษำต่ำงประเทศ ช้นั มธั ยมศกึ ษำปที ี่ 2 เวลำ 60 ช่ัวโมง จำนวน 1.5 หนว่ ยกติ ปฏบิ ตั ิตาม และใช้คาขอร้อง คาแนะนา คาชแี้ จง และคาอธบิ ายง่ายๆ ตามสถานการณ์ อ่านออกเสยี ง เลือกหัวข้อ สรปุ ใจความสาคัญและรายละเอยี ดสนับสนนุ พรอ้ มทั้งแสดงความคิดเหน็ ใหเ้ หตุผล และยกตวั อย่างประกอบจากการอ่านเรอื่ ง ข่าวเหตกุ ารณ์ ประกาศ กจิ กรรม บทร้อยกรองสั้น ๆ เร่อื ง ใกล้ตวั และเรอ่ื งที่อยใู่ นความสนใจของสงั คม ระบุ เขียน อธิบาย เปรียบเทียบความเหมือน และความแตกตา่ ง ระหวา่ งการออกเสียงประโยคชนดิ ตา่ ง ๆ และการลาดับคาตามโครงสรา้ งประโยคของภาษาองั กฤษและ ภาษาไทย รวมทัง้ เทศกาล วันสาคญั ชีวติ ความเปน็ อยู่ และวฒั นธรรม ประเพณีของเจา้ ของภาษา เข้าร่วมและ จัดกจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรม สืบคน้ รวบรวม และสรปุ ข้อมูล หรือข้อเท็จจริงเกี่ยวกบั กล่มุ สาระการ เรยี นรอู้ ่ืน พรอ้ มทง้ั ประชาสัมพันธ์ข้อมลู ขา่ วสารของโรงเรียนเป็นภาษาอังกฤษ ขอและใหข้ ้อมลู ใช้ทักษะใน การสือ่ สารเพื่อแสดงความต้องการ ความรู้สึก ความคิดเห็น ความชว่ ยเหลอื เกี่ยวกับตัวเอง กิจวตั รประจาวนั ประสบการณ์ สถานการณ์ สถานการณ์ตา่ ง ๆ ในชวี ติ ประจาวนั ในห้องเรยี น สถานศึกษา ชมุ ชน โดยใช้ภาษา นา้ เสียง กริ ยิ าท่าทางอย่างเหมาะสม ถูกต้องตามกาลเทศะ โดยใชก้ ระบวนการส่ือสาร กระบวนการคดิ ความเข้าใจ สามารถใชภ้ าษาองั กฤษสื่อสารใน ชีวติ ประจาวันได้อย่างมปี ระสิทธภิ าพ เหมาะสมตามภาษาและวฒั นธรรม มีเจตคติท่ดี ีในการเรียนภาษาอังกฤษ มี นสิ ยั รักการอา่ น มีความรักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ซ่ือสัตย์สจุ ริต มวี ินยั ใฝเ่ รยี นรู้ อยูอ่ ย่างพอเพยี ง ม่งุ มนั่ ในการ ทางาน รกั ความเปน็ ไทยและมีจติ สาธารณะ ตวั ช้วี ดั ต 1.1 ม.2/1 , ม.2/2 ,ม.2/3 , ม.2/4 ต 1.2 ม.2/1 , ม.2/2 ,ม.2/3 , ม.2/4 , ม.1/5 ต 1.3 ม.2/1 , ม.2/2 ,ม.2/3 ต 2.1 ม.2/1 , ม.2/2 ,ม.2/3 ต 2.2 ม.2/1 , ม.2/2 ต 3.1 ม.2/1 ต 4.1 ม.1/1 ต 4.2 ม.2/1 , ม.2/2 รวมท้ังหมด 21 ตัวช้ีวดั

คำอธบิ ำยรำยวิชำพนื้ ฐำน รหสั วิชำ อ 22102 ภำษำอังกฤษ กลุ่มสำระกำรเรียนรภู้ ำษำตำ่ งประเทศ ชั้นมธั ยมศึกษำปีท่ี 2 เวลำ 60 ชั่วโมง จำนวน 1.5 หน่วยกิต ปฏิบตั ิตาม และใชค้ าขอร้อง ตาแนะนา คาชี้แจง และคาอธบิ ายงา่ ย ๆ ตามสถานการณ์ อ่านออกเสียง เลอื กหวั ข้อ สรุปใจความสาคัญและรายละเอยี ดสนับสนุน พร้อมทง้ั แสดงความคิดเห็น ใหเ้ หตผุ ล และ ยกตวั อยา่ งประกอบจากการอ่านเรอ่ื ง ข่าวเหตุการณ์ ประกาศ กจิ กรรม บทรอ้ ยกรองสั้น ๆ เรอ่ื งใกล้ตัว และ เรอื่ งที่อยู่ในความสนใจของสังคม ระบุ เขยี น อธบิ าย เปรียบเทียบความเหมือน และความแตกต่างระหวา่ งการ ออกเสียงประโยคชนดิ ต่าง ๆ และการลาดับคาตามโครงสร้างประโยคของภาษาอังกฤษและภาษาไทย รวมทง้ั เทศกาล วันสาคัญ ชวี ิตความเปน็ อยู่ และวฒั นธรรม ประเพณีของเจา้ ของภาษา เข้ารว่ มและจัดกิจกรรมทาง ภาษาและวฒั นธรรม สบื ค้น รวบรวม และสรุปข้อมลู หรือข้อเท็จจรงิ เกี่ยวกับกลุ่มสาระการเรยี นรู้อนื่ พร้อมทัง้ ประชาสัมพันธข์ ้อมูลข่าวสารของโรงเรียนเปน็ ภาษาอังกฤษ ขอและใหข้ ้อมลู ใชท้ ักษะในการสื่อสารเพ่ือแสดง ความต้องการ ความรูส้ ึก ความคดิ เหน็ ความชว่ ยเหลือ เก่ียวกับตัวเอง กิจวตั รประจาวนั ประสบการณ์ สถานการณ์ สถานการณ์ตา่ ง ๆ ในชวี ิตประจาวนั ในห้องเรียน สถานศึกษา ชุมชน โดยใช้ภาษา นา้ เสยี ง กิริยา ทา่ ทางอย่างเหมาะสม ถกู ต้องตามกาลเทศะ โดยใชก้ ระบวนการสื่อสาร กระบวนการคดิ ความเขา้ ใจ สามารถใชภ้ าษาอังกฤษส่ือสารใน ชีวติ ประจาวนั ได้อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ เหมาะสมตามภาษาและวัฒนธรรม มเี จตคติทีด่ ใี นการเรยี นภาษาอังกฤษ มี นสิ ัยรักการอา่ น มีความรักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ซ่ือสตั ย์สจุ รติ มีวินยั ใฝเ่ รยี นรู้ อยู่อย่างพอเพยี ง ม่งุ ม่ันในการ ทางาน รกั ความเป็นไทยและมีจิตสาธารณะ ตวั ช้ีวัด ต 1.1 ม.2/1 , ม.2/2 ,ม.2/3 , ม.2/4 ต 1.2 ม.2/1 , ม.2/2 ,ม.2/3 , ม.2/4 , ม.1/5 ต 1.3 ม.2/1 , ม.2/2 ,ม.2/3 ต 2.1 ม.2/1 , ม.2/2 ,ม.2/3 ต 2.2 ม.2/1 , ม.2/2 ต 3.1 ม.2/1 ต 4.1 ม.2/1 ต 4.2 ม.2/1 , ม.2/2 รวมท้ังหมด 21 ตัวชี้วัด

คำอธิบำยรำยวชิ ำพ้ืนฐำน รหัสวชิ ำ อ 23101 ภำษำอังกฤษ กลุ่มสำระกำรเรยี นรภู้ ำษำต่ำงประเทศ ชนั้ มัธยมศกึ ษำปที ่ี 3 เวลำ 60 ช่วั โมง จำนวน 1.5 หนว่ ยกิต อ่านออกเสียงคาศัพท์ สานวน ประโยค ขอ้ ความ ข่าว โฆษณา และบทร้อยกรองสน้ั ๆ ได้ถกู ต้องตาม หลักการอ่าน ปฏบิ ัติตาม และใช้คาขอร้อง คาแนะนา คาช้แี จง คาอธบิ าย พูดและเขยี น ตอบรบั และปฏเิ สธ เพอ่ื แสดงความต้องการ การเสนอแนะให้ความช่วย แสดงความรูส้ กึ ความคดิ เหน็ จากเรือ่ งท่ีฟังและอา่ น พรอ้ มให้ เหตผุ ลและยกตวั อยา่ งประกอบ พูดสนทนา เลือกใชภ้ าษาน้าเสียง และกิริยาทา่ ทางอยา่ งเหมาะสม พดู และเขยี น บรรยาย ข้อมูลเกีย่ วกบั ตนเอง เรอื่ งตา่ ง ๆ ใกลต้ วั สถานการณ์ ขา่ วเรื่องท่ีอยู่ในความสนใจของสงั คม เลือก ระบุ และเขยี นหัวข้อเรอื่ ง ใจความสาคญั ข้อมลู ขอ้ เทจ็ จริง และนาเสนอด้วยการพดู และเขยี นเก่ยี วขอ้ งกบั กลุ่มสาระ การเรียนร้อู ืน่ จากแหลง่ เรียนรู้ และสือ่ สารในสถานการณ์ท่ีเกิดขน้ึ ในห้องเรยี น สถานศึกษา ชุมชน และสงั คม อยา่ งต่อเนอ่ื ง อธบิ าย เปรยี บเทียบ ชวี ติ ความเป็นอยู่ ขนบธรรมเนียมประเพณี วฒั นธรรมของเจ้าของภารษากับ วัฒนธรรมของไทย จดั และเข้ารว่ มกิจกรรมทางภาษา และวัฒนธรรมตามความสนใจ อย่างสุภาพเหมาะสม ถกู ต้องตามกาลเทศะ โดยใช้กระบวนการสอื่ สาร กระบวนการคดิ กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการสืบคน้ ข้อมูล ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต และการใชส้ อ่ื เทคโนโลยี เพื่อให้เกดิ ความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ สามารถใช้ ภาษาอังกฤษสื่อสารในชีวติ ประจาวนั ได้อย่างมีประสิทธภิ าพ เหมาะสมตามภาษาและวัฒนธรรม มีเจตคตทิ ดี่ ีใน การเรยี นภาษาอังกฤษ มีนสิ ัยรกั การอ่าน มีความรักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ซือ่ สตั ย์สจุ รติ มีวินยั ใฝเ่ รียนรู้ อยู่อยา่ ง พอเพียง มุ่งมั่นในการทางาน รกั ความเป็นไทยและมีจิตสาธารณะ ตวั ชี้วัด ต 1.1 ม.2/1 , ม.2/2 ,ม.2/3 , ม.2/4 ต 1.2 ม.2/1 , ม.2/2 ,ม.2/3 , ม.2/4 , ม.1/5 ต 1.3 ม.2/1 , ม.2/2 ,ม.2/3 ต 2.1 ม.2/1 , ม.2/2 ,ม.2/3 ต 2.2 ม.2/1 , ม.2/2 ต 3.1 ม.2/1 ต 4.1 ม.2/1 ต 4.2 ม.2/1 , ม.2/2 รวมทั้งหมด 21 ตัวชวี้ ดั

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำพืน้ ฐำน รหัสวิชำ อ 23102 ภำษำอังกฤษ กลุ่มสำระกำรเรยี นรภู้ ำษำตำ่ งประเทศ ชั้นมัธยมศกึ ษำปที ี่ 3 เวลำ 60 ช่ัวโมง จำนวน 1.5 หนว่ ยกิต อา่ นออกเสยี งคาศัพท์ สานวน ประโยค ขอ้ ความ ข่าว โฆษณา และบทร้อยกรองส้ัน ๆ ไดถ้ กู ต้องตาม หลักการอ่าน ปฏิบตั ิตาม และใชค้ าขอร้อง คาแนะนา คาช้แี จง คาอธบิ าย พดู และเขยี น ตอบรบั และปฏเิ สธ เพอ่ื แสดงความต้องการ การเสนอแนะให้ความชว่ ย แสดงความรสู้ กึ ความคิดเห็นจากเรื่องท่ีฟังและอา่ น พร้อมให้ เหตผุ ลและยกตวั อย่างประกอบ พูดสนทนา เลอื กใช้ภาษาน้าเสยี ง และกิรยิ าท่าทางอย่างเหมาะสม พดู และเขยี น บรรยาย ขอ้ มูลเกย่ี วกบั ตนเอง เร่ืองต่าง ๆ ใกล้ตัวสถานการณ์ ข่าวเร่ืองที่อยู่ในความสนใจของสงั คม เลือก ระบุ และเขยี นหวั ข้อเร่อื ง ใจความสาคญั ขอ้ มลู ข้อเทจ็ จรงิ และนาเสนอดว้ ยการพูดและเขียนเกี่ยวข้องกับกลุ่มสาระ การเรยี นรูอ้ ื่น จากแหลง่ เรียนรู้ และสือ่ สารในสถานการณ์ท่ีเกดิ ขนึ้ ในห้องเรียน สถานศึกษา ชมุ ชน และสังคม อย่างต่อเน่ือง อธบิ าย เปรยี บเทียบ ชีวติ ความเป็นอยู่ ขนบธรรมเนียมประเพณี วฒั นธรรมของเจ้าของภารษากบั วฒั นธรรมของไทย จัดและเข้าร่วมกจิ กรรมทางภาษา และวัฒนธรรมตามความสนใจ อย่างสภุ าพเหมาะสม ถกู ต้องตามกาลเทศะ โดยใช้กระบวนการส่อื สาร กระบวนการคดิ กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการสืบคน้ ข้อมูล ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต และการใช้สื่อเทคโนโลยี เพือ่ ให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถใช้ ภาษาอังกฤษส่ือสารในชวี ิตประจาวนั ได้อย่างมีประสทิ ธิภาพ เหมาะสมตามภาษาและวัฒนธรรม มีเจตคตทิ ี่ดีใน การเรียนภาษาอังกฤษ มนี ิสัยรักการอา่ น มีความรักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ซือ่ สตั ยส์ จุ ริต มีวนิ ัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่ อยา่ งพอเพยี ง ม่งุ มน่ั ในการทางาน รกั ความเป็นไทยและมีจติ สาธารณะ ตวั ช้ีวดั ต 1.1 ม.3/1 , ม.3/2 ,ม.3/3 , ม.3/4 ต 1.2 ม.3/1 , ม.3/2 ,ม.3/3 , ม.3/4 , ม.3/5 ต 1.3 ม.3/1 , ม.3/2 ,ม.3/3 ต 2.1 ม.3/1 , ม.3/2 ,ม.3/3 ต 2.2 ม.3/1 , ม.3/2 ต 3.1 ม.3/1 ต 4.1 ม.3/1 ต 4.2 ม.3/1 , ม.3/2 รวมทั้งหมด 21 ตัวช้ีวัด

คำอธิบำยรำยวชิ ำพื้นฐำน รหสั วิชำ อ 31101 ภำษำอังกฤษ 1 กลุ่มสำระกำรเรยี นรูภ้ ำษำตำ่ งประเทศ ชนั้ มธั ยมศกึ ษำปที ่ี 4 เวลำ 40 ช่ัวโมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกิต อา่ นออกเสียงข้อความ ข่าว ประกาศ โฆษณา บทร้อยกรอง ถูกต้องตามหลักการอ่านปฏบิ ัติตาม คาแนะนาในคู่มือการใชง้ าน เลือกและใชค้ าขอร้อง คาชี้แจง คาอธบิ าย รวมท้ังให้คาแนะนะอธบิ ายระบุ เขียน ประโยค และข้อความสัมพนั ธก์ ับสอ่ื ท่ีไมใ่ ชค่ วามเรยี นในรูปแบบต่างๆ ท่ีฟงั และอ่านจับใจความสาคัญ ตีความ วเิ คราะห์ สรุป เรือ่ งที่เปน็ สารคดแี ละบนั เทิงคดี สนทนาโต้ตอบเขยี นแสดงความต้องการ ความรู้สกึ เสนอและ ใหต้ อบรบั และปฏเิ สธการให้ความชว่ ยเหลอื ในสถานการณ์จาลอง และสถานการณจ์ ริงอย่างถูกต้องเหมาะสมตาม กาลเทศะ ขอและให้ขอ้ มลู นาเสนอเร่อื งราวเกี่ยวกับตนเอง ประเด็นข่าว เหตกุ ารณ์ที่ฟังและอ่านอยา่ งเหมาะสม อธบิ าย เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างโครงสรา้ งประโยค ขอ้ ความสานวน คาพงั เพย สุภาษิต วิถีชีวติ ความเชอ่ื ที่มาของขนบธรรมเนยี มประเพณแี ละวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษกบของไทย เข้ารว่ มแนะนากิจกรรม ทางภาษาและวฒั นธรรมอยา่ งเหมาะสม คน้ คว้าสืบคน้ รวบรวม แสดงความคดิ เหน็ บันทึกสรุป นาเสนอ ความรู้ ขอ้ มลู ต่างๆท่ีเกี่ยวข้องกัลป์กลุ่มสาระการเรียนรู้อ่นื ๆ จากส่ือและเหล่งเรยี นรู้ท่หี ลากหลายในการศกึ ษา ตอ่ และประกอบอาชพี เผยแพรป่ ระชาสัมพันธ์ขอ้ มลู ขา่ วสารโรงเรียน ชมุ ชนเป็นภาษาองั กฤษ โดยใช้ภาษา น้าเสียง และกรยิ าทา่ ทางในการสอื่ สารในสถานการณจ์ ริง ถกู ต้องตามมารยาททางสงั คมและวัฒนธรรมของ เจา้ ของภาษา โดยใช้กระบวนการสือ่ สาร กระบวนการคดิ กระบวนการแกป้ ญั หา กระบวนการสืบค้นข้อมูล ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ และการใช้ส่อื เทคโนโลยี เพอ่ื ใหเ้ กิดความรคู้ วามคิด ความเขา้ ใจ สามารถใช้ ภาษาองั กฤษส่ือสารในชีวิตประจาวนั ได้อย่างมปี ระสิทธภิ าพ เหมาะสมตามภาษาและวัฒนธรรม มีเจตคติท่ดี ใี น การเรยี นภาษาอังกฤษ มีนสิ ัยรักการอา่ น ใฝ่เรียนรู้ อย่อู ยา่ งพอเพยี ง มุ่งม่ันในการทางาน รักความเป็นไทยและ มีจิตสาธารณะ ตวั ชว้ี ดั ต 1.1 ม.4-6/1 ,ม.4-6/2 ,ม.4-6/3 ,ม.4-6/4 ต 1.2 ม.4-6/1 ,ม.4-6/2 ,ม.4-6/3 ,ม.4-6/4 , ม.4-6/5 ต 1.3 ม.4-6/1 ,ม.4-6/2 ,ม.4-6/3 ต 2.1 ม.4-6/1 ,ม.4-6/2 ,ม.4-6/3 ต2.2 ม.4-6/1 ,ม.4-6/2 ต 3.1 ม.4-6/1 ต 4.1 ม.4-6/1 ต 4.2 ม.4-6/1 ,ม.4-6/2 รวมท้ังหมด 21 ตัวชี้วดั

คำอธิบำยรำยวชิ ำพ้ืนฐำน รหสั วิชำ อ 31102 ภำษำอังกฤษ 2 กลุ่มสำระกำรเรียนรภู้ ำษำตำ่ งประเทศ ช้ันมธั ยมศกึ ษำปที ี่ 4 เวลำ 40 ชว่ั โมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกิต อ่านออกเสยี งข้อความ ขา่ ว ประกาศ โฆษณา บทรอ้ ยกรอง ถูกต้องตามหลกั การอ่าน ปฏิบัติตาม คาแนะนาในคู่มอื การใชง้ าน เลอื กและใชค้ าขอร้อง คาชแ้ี จง คาอธิบาย รวมทั้งให้คาแนะนะอธิบายระบุ เขยี น ประโยค และข้อความสมั พันธ์กบั ส่ือที่ไมใ่ ชค่ วามเรียนในรูปแบบต่างๆ ที่ฟังและอา่ นจบั ใจความสาคญั ตคี วาม วเิ คราะห์ สรุป เร่อื งที่เป็นสารคดแี ละบันเทิงคดี สนทนาโต้ตอบเขยี นแสดงความต้องการ ความร้สู ึก เสนอและ ให้ตอบรับและปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือในสถานการณจ์ าลอง และสถานการณจ์ รงิ อย่างถกู ต้องเหมาะสมตาม กาลเทศะ ขอและให้ขอ้ มูลนาเสนอเร่ืองราวเกยี่ วกับตนเอง ประเดน็ ข่าว เหตกุ ารณท์ ี่ฟังและอ่านอย่างเหมาะสม อธบิ าย เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างโครงสรา้ งประโยค ข้อความสานวน คาพงั เพย สุภาษติ วิถีชวี ิต ความเชอื่ ที่มาของขนบธรรมเนียมประเพณแี ละวฒั นธรรมของเจ้าของภาษกบของไทย เขา้ รว่ มแนะนากจิ กรรม ทางภาษาและวฒั นธรรมอย่างเหมาะสม คน้ คว้าสืบค้น รวบรวม แสดงความคิดเห็น บนั ทึกสรุป นาเสนอความรู้ ขอ้ มูลตา่ งๆทีเ่ กี่ยวข้องกับกลมุ่ สาระการเรยี นรู้อน่ื ๆ จากส่ือและเหลง่ เรยี นรู้ทห่ี ลากหลายในการศึกษาต่อและ ประกอบอาชีพ เผยแพรป่ ระชาสมั พนั ธ์ขอ้ มลู ข่าวสารโรงเรยี น ชมุ ชนเปน็ ภาษาอังกฤษ โดยใช้ภาษา นา้ เสยี ง และกริยาท่าทางในการสื่อสารในสถานการณ์จริง ถูกต้องตามมารยาททางสงั คมและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา โดยใชก้ ระบวนการสื่อสาร กระบวนการคิด กระบวนการแกป้ ัญหา กระบวนการสบื ค้นขอ้ มูล ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต และการใชส้ อ่ื เทคโนโลยี เพือ่ ให้เกิดความร้คู วามคดิ ความเข้าใจ สามารถ ใช้ภาษาองั กฤษสื่อสารในชวี ิตประจาวันได้อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ เหมาะสมตามภาษาและวัฒนธรรม มเี จตคตทิ ดี่ ี ในการเรียนภาษาองั กฤษ มีนิสยั รักการอา่ น ใฝเ่ รยี นรู้ อยู่อย่างพอเพยี ง มุ่งมัน่ ในการทางาน รกั ความเปน็ ไทย และมีจติ สาธารณะ ตัวช้ีวัด ต 1.1 ม.4-6/1 ,ม.4-6/2 ,ม.4-6/3 ,ม.4-6/4 ต 1.2 ม.4-6/1 ,ม.4-6/2 ,ม.4-6/3 ,ม.4-6/4 , ม.4-6/5 ต 1.3 ม.4-6/1 ,ม.4-6/2 ,ม.4-6/3 ต 2.1 ม.4-6/1 ,ม.4-6/2 ,ม.4-6/3 ต2.2 ม.4-6/1 ,ม.4-6/2 ต 3.1 ม.4-6/1 ต 4.1 ม.4-6/1 ต 4.2 ม.4-6/1 ,ม.4-6/2 รวมท้ังหมด 21 ตัวชี้วัด

คำอธิบำยรำยวิชำพน้ื ฐำน รหัสวชิ ำ อ 32101 ภำษำอังกฤษ 3 กลุ่มสำระกำรเรยี นรภู้ ำษำต่ำงประเทศ ชน้ั มัธยมศึกษำปีท่ี 5 เวลำ 40 ชัว่ โมง จำนวน 1.0หน่วยกติ อา่ นออกเสยี งข้อความ ข่าว บทร้อยกรอง บทละครสัน้ ถูกตอ้ งตามหลกั การอา่ น ปฏิบัติตามคาแนะนา ในค่มู ือการใช้ เลือกและใช้คาขอร้อง คาชี้แจง คาอธบิ าย คาบรรยาย รวมทง้ั ให้คาแนะนา คาอธิบาย/ระบุ เขียน ประโยคและขอ้ ความสัมพันธ์กบั สอ่ื ที่ไม่ใช่ความเรียงในรูปแบบต่างๆที่ฟังและอ่าน ตีความ วิเคราะห์ สรุป แสดง ความคดิ เหน็ เรื่องทเ่ี ปน็ สารคดแี ละบนั เทิงคดี พร้อมท้ังใหเ้ หตุผลและยกตัวอยา่ งประกอบ พูด เขียน อธิบาย อภิปราย บรรยาย เปรยี บเทยี บเพ่อื ขอและให้ขอ้ มูลเกย่ี วกบั ประสบการณ์ สถานการณ์ ข่าว เหตุการณ์ ประเด็น ทอ่ี ยู่ในความสนใจของสงั คมและส่ือสารอย่างต่อเนื่องเหมาะสม เสนอ ให้ ตอบรบั และปฏเิ สธการให้ความ ชว่ ยเหลอื ในสถานการณจ์ าลอง และสถานการณจ์ รงิ อย่างเหมาะสม ค้นคว้า สืบคน้ รวบรวม แสดงความคิดเห็น บันทึกสรปุ นาเสนอ ความรู้ ข้อมูลตา่ งๆ ทเ่ี กย่ี วข้องกบั กลุ่มสาระการเรยี นรู้อนื่ ๆ จากแหล่งการเรยี นรทู้ ่ี หลากหลายในการศึกษาตอ่ และประกอบอาชพี เผยแพร่ ประชาสัมพันธ์ข้อมูล ขา่ วสารของท้องถ่ิน สงั คม และ โลกเปน็ ภาษาต่างประเทศ โดยใช้ภาษา นา้ เสียง และกริ ิยาท่าทางในการสอื่ สารในสถานการณ์จริงและ สถานการณจ์ าลอง อธบิ าย เปรยี บเทยี บ วิเคราะห์ความแตกตา่ งระหว่างโครงสร้างประโยค สานวน คาพงั เพย สุภาษติ บทกลอน วถิ ชี วี ติ ความเชื่อ ท่มี าของขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษากับของ ไทย นาไปประยุกต์ใชไ้ ด้อย่างเหมาะสม เข้าร่วม แนะนา จัดกจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรมอย่างเหมาะสม ถกู ต้องตามมารยาททางสงั คมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา โดยใชก้ ระบวนการสื่อสาร กระบวนการคดิ กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการสบื คน้ ข้อมูล ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ และการใชส้ ่ือเทคโนโลยี เพ่อื ใหเ้ กิดความร้คู วามคดิ ความเขา้ ใจ สามารถใช้ ภาษาอังกฤษส่ือสารในชีวิตประจาวันได้อย่างมีประสทิ ธิภาพ เหมาะสมตามภาษาและวัฒนธรรม มีเจตคติที่ดใี น การเรยี นภาษาอังกฤษ มนี สิ ยั รกั การอา่ น มคี วามรักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ซอื่ สัตย์สุจริต มสี ินยั ใฝ่เรียนรู้ อยูอ่ ย่าง พอเพียง มุ่งมั่นในการทางาน รกั ความเป็นไทยและมีจติ สาธารณะ ตัวชีว้ ัด ต 1.1 ม.4-6/1-4 ต 1.2 ม.4-6/1-5 ต 1.3 ม.4-6/1-3 ต 2.1 ม.4-6/1-3 ต 2.2 ม.4-6/1-2 ต 3.1 ม.4-6/1 ต 4.1 ม.4-6/1 ต 4.2 ม.4-6/1-2 รวมท้ังหมด 21 ตัวช้ีวัด

คำอธิบำยรำยวชิ ำพื้นฐำน รหสั วชิ ำ อ 32102 ภำษำอังกฤษ 4 กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ภำษำต่ำงประเทศ ช้นั มธั ยมศกึ ษำปีที่ 5 เวลำ 40 ชั่วโมง จำนวน 1.0หน่วยกิต อา่ นออกเสยี งข้อความ ข่าว บทรอ้ ยกรอง บทละครสัน้ ถูกตอ้ งตามหลกั การอา่ น ปฏบิ ตั ิตามคาแนะนา ในคู่มือการใช้ เลือกและใชค้ าขอร้อง คาชี้แจง คาอธบิ าย คาบรรยาย รวมทงั้ ใหค้ าแนะนา คาอธิบาย/ระบุ เขยี น ประโยคและขอ้ ความสัมพนั ธก์ บั สื่อที่ไม่ใชค่ วามเรียงในรูปแบบต่างๆท่ีฟงั และอา่ น ตคี วาม วเิ คราะห์ สรุป แสดง ความคดิ เห็น เรื่องทเ่ี ป็นสารคดแี ละบันเทงิ คดี พร้อมทั้งให้เหตุผลและยกตวั อย่างประกอบ พดู เขยี น อธิบาย อภปิ ราย บรรยาย เปรยี บเทียบเพอ่ื ขอและให้ขอ้ มูลเกีย่ วกบั ประสบการณ์ สถานการณ์ ขา่ ว เหตุการณ์ ประเด็น ทีอ่ ยู่ในความสนใจของสงั คมและสอ่ื สารอยา่ งต่อเน่ืองเหมาะสม เสนอ ให้ ตอบรบั และปฏิเสธการใหค้ วาม ช่วยเหลอื ในสถานการณ์จาลอง และสถานการณ์จรงิ อย่างเหมาะสม คน้ ควา้ สบื ค้น รวบรวม แสดงความคิดเหน็ บันทกึ สรุป นาเสนอ ความรู้ ข้อมูลต่างๆ ทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั กลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืนๆ จากแหลง่ การเรียนรูท้ ่ี หลากหลายในการศึกษาตอ่ และประกอบอาชีพ เผยแพร่ ประชาสมั พนั ธ์ข้อมลู ขา่ วสารของท้องถ่นิ สงั คม และ โลกเป็นภาษาตา่ งประเทศ โดยใช้ภาษา น้าเสยี ง และกิริยาทา่ ทางในการสอื่ สารในสถานการณ์จรงิ และ สถานการณ์จาลอง อธิบาย เปรยี บเทียบ วิเคราะห์ความแตกต่างระหว่างโครงสรา้ งประโยค สานวน คาพังเพย สุภาษติ บทกลอน วิถชี ีวติ ความเชอ่ื ทม่ี าของขนบธรรมเนียมประเพณแี ละวฒั นธรรมของเจ้าของภาษากับของ ไทย นาไปประยุกต์ใช้ได้อยา่ งเหมาะสม เข้าร่วม แนะนา จัดกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมอย่างเหมาะสม ถกู ต้องตามมารยาททางสงั คมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา โดยใชก้ ระบวนการส่ือสาร กระบวนการคิด กระบวนการแกป้ ญั หา กระบวนการสบื คน้ ข้อมูล ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต และการใชส้ ื่อเทคโนโลยี เพอ่ื ให้เกดิ ความรู้ความคิด ความเข้าใจ สามารถใช้ ภาษาองั กฤษส่ือสารในชีวิตประจาวนั ได้อยา่ งมีประสิทธภิ าพ เหมาะสมตามภาษาและวัฒนธรรม มเี จตคตทิ ี่ดใี น การเรียนภาษาอังกฤษ มนี ิสัยรักการอา่ น มคี วามรักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ซอ่ื สตั ยส์ จุ ริต มสี นิ ัย ใฝเ่ รยี นรู้ อยู่ อยา่ งพอเพียง มงุ่ มน่ั ในการทางาน รกั ความเปน็ ไทยและมีจิตสาธารณะ ตัวชีว้ ดั ต 1.1 ม.4-6/1-4 ต 1.2 ม.4-6/1-5 ต 1.3 ม.4-6/1-3 ต 2.1 ม.4-6/1-3 ต 2.2 ม.4-6/1-2 ต 3.1 ม.4-6/1 ต 4.1 ม.4-6/1 ต 4.2 ม.4-6/1-2 รวมทั้งหมด 21 ตัวช้ีวัด

คำอธิบำยรำยวิชำพน้ื ฐำน รหสั วชิ ำ อ 33101 ภำษำอังกฤษ 5 กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำตำ่ งประเทศ ช้นั มัธยมศกึ ษำปีท่ี 6 เวลำ 40 ชัว่ โมง จำนวน 1.0หน่วยกิต อา่ นออกเสียงข้อความ ข่าว ประกาศ โฆษณา บทร้อยกรอง ถกู ต้องตามหลกั การอา่ น ปฏบิ ตั ติ าม คาแนะนาในคู่มอื การใช้ คาช้ีแจง คาอธิบาย และคาบรรยาย เลอื กและใช้คาขอร้อง คาชแ้ี จง คาอธิบาย และคา บรรยาย รวมทงั้ ให้คาแนะนา อธบิ าย เปรยี บเทยี บเพ่ือแสดงความคิดเหน็ พดู และเขยี นเขียนประโยค และ ข้อความสัมพันธก์ ับสือ่ ท่ีไมใ่ ช่ความเรยี งในรูปแบบตา่ งๆ ท่ีฟังและอา่ น ตีความ วิเคราะห์ สรุป แสดงความ คดิ เห็น เร่อื งที่เปน็ สารคดีและบันเทิงคดี พร้อมท้ังใหเ้ หตุผลและยกควั อย่างประกอบ สนทนาโตต้ อบเขียนแสดง ความตอ้ งการ ความรสู้ ึก เสนอและให้ตอบรบั และปฏิเสธการให้ความชว่ ยเหลือในสถานการณจ์ าลอง และ สถานการณ์จริงอยา่ งถกู ต้องอยา่ งตอ่ เนื่องและเหมาะสมตามกาลเทศะ เสนอ ให้ ตอบรับและปฏิเสธการให้ความ ชว่ ยเหลอื คน้ ควา้ สบื คน้ รวบรวมแสดงความเห็น บนั ทึกสรุป นาเสนอความรู้ ขอ้ มูลต่างๆ ขอและให้ขอ้ มลู นาเสนอเรื่องราวเกยี่ วกับตนเอง ประเดน็ ข่าว เหตุการณ์ท่ีฟงั และอ่านอยา่ งเหมาะสม อธบิ าย เปรยี บเทยี บความ แตกตา่ งระหวา่ งโครงสรา้ งประโยค ขอ้ ความสานวน คาพังเพย สุภาษติ วิถีชวี ิต และความเชอื่ ท่ีมาของ ขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษกับของไทย เข้ารว่ มแนะนากิจกรรมทางภาษาและ วัฒนธรรมอย่างเหมาะสม ค้นควา้ สบื คน้ รวบรวม แสดงความคดิ เห็น บันทกึ สรุป นาเสนอความรู้ ข้อมลู ตา่ งๆท่ี เก่ยี วข้องกลมุ่ สาระการเรียนรู้อน่ื ๆ จากส่ือและเหล่งเรียนรู้ที่หลากหลายในการศกึ ษาต่อและประกอบอาชีพ เผยแพร่ประชาสัมพนั ธข์ ้อมลู ขา่ วสารโรงเรียน ชุมชนเป็นภาษาองั กฤษ โดยใชภ้ าษา นา้ เสียง และกริยาท่าทาง ในการสอื่ สารในสถานการณ์จริง ถูกต้องตามมารยาททางสงั คมและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา โดยใช้กระบวนการส่ือสาร กระบวนการคิด กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการสืบค้นข้อมูล ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ และการใช้ส่ือเทคโนโลยี เพ่ือให้เกิดความรคู้ วามคิด ความเขา้ ใจ สามารถใช้ ภาษาองั กฤษสื่อสารในชีวติ ประจาวันได้อย่างมปี ระสิทธภิ าพ เหมาะสมตามภาษาและวัฒนธรรม มีเจตคตทิ ่ดี ีใน การเรียนภาษาอังกฤษ มีนสิ ัยรกั การอ่าน ใฝเ่ รยี นรู้ อยอู่ ย่างพอเพียง มุง่ มน่ั ในการทางาน รกั ความเปน็ ไทยและ มจี ติ สาธารณะ ตวั ชี้วัด ต 1.1 ม.4-6/1 , ม.4-6/2 ,ม.4-6/3 ,ม.4-6/4 ต 1.2 ม.4-6/1 , ม.4-6/2 ต 1.2 ม.4-6/3 , ม.4-6/4 , ม.4-6/5 ต 1.3 ม.4-6/1 , ม.4-6/2 ,ม.4-6/3 ต 2.1 ม.4-6/1 , ม.4-6/2 ,ม.4-6/3 ต2.2 ม.4-6/1 , ม.4-6/2 ต 3.1 ม.4-6/1 ต 4.1 ม.4-6/1 ต 4.2 ม.4-6/1 , ม.4-6/2 รวมทั้งหมด 21 ตัวชี้วัด

คำอธบิ ำยรำยวิชำพน้ื ฐำน รหสั วิชำ อ 33102 ภำษำอังกฤษ 6 กลุ่มสำระกำรเรียนรภู้ ำษำตำ่ งประเทศ ชน้ั มธั ยมศึกษำปีที่ 6 เวลำ 40 ชั่วโมง จำนวน 1.0หน่วยกิต อา่ นออกเสยี งข้อความ ขา่ ว ประกาศ โฆษณา บทรอ้ ยกรอง ถูกต้องตามหลักการอ่าน ปฏบิ ตั ติ าม คาแนะนาในคู่มือการใช้ คาชี้แจง คาอธบิ าย และคาบรรยาย เลือกและใชค้ าขอรอ้ ง คาชแี้ จง คาอธิบาย และคา บรรยาย รวมท้งั ใหค้ าแนะนา อธิบาย เปรียบเทียบเพ่ือแสดงความคดิ เหน็ พูดและเขียนเขยี นประโยค และ ข้อความสมั พนั ธ์กับสื่อท่ีไมใ่ ช่ความเรียงในรูปแบบตา่ งๆ ท่ีฟังและอา่ น ตีความ วเิ คราะห์ สรปุ แสดงความ คดิ เหน็ เร่ืองท่ีเปน็ สารคดีและบนั เทิงคดี พร้อมทงั้ ใหเ้ หตุผลและยกคัวอย่างประกอบ สนทนาโต้ตอบเขียนแสดง ความตอ้ งการ ความรสู้ กึ เสนอและใหต้ อบรบั และปฏเิ สธการให้ความชว่ ยเหลือในสถานการณจ์ าลอง และ สถานการณ์จริงอยา่ งถูกต้องอย่างต่อเน่ืองและเหมาะสมตามกาลเทศะ เสนอ ให้ ตอบรบั และปฏเิ สธการให้ความ ชว่ ยเหลอื ค้นควา้ สืบคน้ รวบรวมแสดงความเหน็ บันทึกสรปุ นาเสนอความรู้ ข้อมูลต่างๆ ขอและให้ขอ้ มลู นาเสนอเรื่องราวเกีย่ วกบั ตนเอง ประเดน็ ขา่ ว เหตกุ ารณท์ ี่ฟงั และอา่ นอย่างเหมาะสม อธิบาย เปรยี บเทยี บความ แตกตา่ งระหว่างโครงสร้างประโยค ขอ้ ความสานวน คาพังเพย สภุ าษิต วถิ ชี ีวิต และความเชือ่ ท่ีมาของ ขนบธรรมเนยี มประเพณีและวฒั นธรรมของเจ้าของภาษกับของไทย เขา้ รว่ มแนะนากิจกรรมทางภาษาและ วฒั นธรรมอย่างเหมาะสม ค้นควา้ สบื ค้น รวบรวม แสดงความคดิ เหน็ บันทึกสรุป นาเสนอความรู้ ข้อมูลตา่ งๆที่ เก่ยี วขอ้ งกลมุ่ สาระการเรยี นรู้อื่นๆ จากสื่อและเหลง่ เรียนรู้ทหี่ ลากหลายในการศกึ ษาต่อและประกอบอาชพี เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข้อมูล ข่าวสารโรงเรยี น ชุมชนเป็นภาษาองั กฤษ โดยใชภ้ าษา นา้ เสียง และกรยิ าท่าทาง ในการสื่อสารในสถานการณ์จรงิ ถูกต้องตามมารยาททางสังคมและวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา โดยใช้กระบวนการสอ่ื สาร กระบวนการคดิ กระบวนการแกป้ ญั หา กระบวนการสบื คน้ ข้อมูล ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต และการใช้ส่ือเทคโนโลยี เพ่ือให้เกดิ ความรคู้ วามคิด ความเขา้ ใจ สามารถใช้ ภาษาอังกฤษส่ือสารในชีวิตประจาวนั ได้อยา่ งมีประสิทธิภาพ เหมาะสมตามภาษาและวัฒนธรรม มเี จตคตทิ ่ดี ใี น การเรียนภาษาอังกฤษ มนี ิสยั รกั การอ่าน ใฝ่เรยี นรู้ อยอู่ ย่างพอเพยี ง มุ่งม่ันในการทางาน รกั ความเป็นไทยและ มจี ิตสาธารณะ ตัวช้วี ัด ต 1.1 ม.4-6/1 , ม.4-6/2 , ม.4-6/3 , ม.4-6/4 ต 1.2 ม.4-6/1 , ม.4-6/2 , ม.4-6/3 , ม.4-6/4, ม.4-6/5 ต 1.3 ม.4-6/1 , ม.4-6/2 , ม.4-6/3 ต 2.1 ม.4-6/1 , ม.4-6/2 , ม.4-6/3 ต2.2 ม.4-6/1 , ม.4-6/2 ต 3.1 ม.4-6/1 ต 4.1 ม.4-6/1 ต 4.2 ม.4-6/1 , ม.4-6/2 รวมท้ังหมด 21 ตัวชี้วัด

คำอธิบำยรำยวิชำเพิ่มเตมิ รหัสวชิ ำ อ 31201 ภำษำอังกฤษเพื่อกำรสื่อสำร 1 กลุ่มสำระกำรเรียนร้ภู ำษำต่ำงประเทศ ช้ันมธั ยมศกึ ษำปที ่ี 4 เวลำ 80 ช่ัวโมง จำนวน 2.0 หน่วยกิต พัฒนาทักษะการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน เรื่องราวจากส่ิงพิมพ์ประเภทต่างๆ คาบรรยาย ลักษณะบุคคล และสิ่งของ คาแนะนา สขุ ภาพโดยฝึกปฏิบัติตามขั้นตอนและทักษะยอ่ ยของกระบวนการนั้นๆ ใช้ ภาษาส่ือสารเพ่ือรับและส่งสารในรูปแบบการสนทนาในสถานการณ์ต่างๆที่หลากหลาย และการเขียนจดหมาย อเิ ลค็ ทรอนิคส์ โดยใช้คาศัพท์ สานวน วลี ประโยค โครงสรา้ งทางภาษาถ่ายโอนข้อมูลจากเร่ืองที่อ่านและฟัง ใช้ ภาษาสื่อสารได้ถูกต้องตามวัตถุประสงค์ของการสื่อสารอย่างสร้างสรรค์ มีประสิทธิภาพ รวมทั้งดาเนินการ ติดต่อส่ือสารกับบุคคลอื่นได้อย่างต่อเนื่อง เหมาะสมกับกาลเทศะและมารยาททางสังคมตามวัฒนธรรมของ เจา้ ของภาษา ตลอดจนมคี วามม่นั ใจในการใช้ภาษา และ เหน็ คุณคา่ ในการนาภาษาองั กฤษไปใช้ในชวี ิตประจาวัน ผลกำรเรยี นรู้ ๑. ปฏบิ ัตติ ามขน้ั ตอนของกระบวนการฟังได้อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ มที ักษะในการฟงั โดยสามารถ ตคี วาม วเิ คราะหส์ งิ่ ทฟี่ งั นา้ เสียงกริยา ท่าทาง และสรปุ ความ ถ่ายโอนเป็นภาพวาดได้อยา่ ง ถกู ต้อง ๒. ปฏิบตั ติ ามข้ันตอนของกระบวนการพดู ได้อย่างถูกต้อง โดยสามารถพดู ตามระดบั กลไก พดู อย่างมีความหมายและสนทนาตามสถานการณ์ทก่ี าหนดไดอ้ ย่างถูกต้องเหมาะสม ๓. ปฏิบตั ิตามขั้นตอนของกระบวนการอ่านขอ้ ความ และ เร่ืองสัน้ ๆ เพอื่ หาใจความสาคญั หร รายละเอียดของเร่อื งทอ่ี ่าน โดยสามารถพูดแสดงความคิดเห็นจากการวิเคราะห์เร่ืองท่ีอ่านและ สรปุ เร่ือง ๔. ปฏบิ ัตติ ามขน้ั ตอนของกระบวนการเขียนคาศัพท์ ประโยค ข้อความ และ จดหมายส่ือ อิเลคทรอนคิ ส์ (e-mail) เพ่อื ส่ือสารและเปล่ียนขอ้ มลู โดยใช้สอื่ เทคโนโลยใี นการฝึกทักษะได้ อยา่ งเหมาะสม ๕. สรา้ งสรรคภ์ าษาในการสนทนาและเปล่ยี นข้อมูลและสรา้ งความสัมพันธ์ระหวา่ งบุคคล โดยใช้ คาศัพท์สานวน โครงสร้างทางภาษาใหเ้ หมาะสมกับสถานการณแ์ ละมารยาททางสังคม ๖. มีความเชอื่ มัน่ ในการใชภ้ าษาองั กฤษในการส่อื สารกับบคุ คลอ่ืนและเห็นคุณค่าในการนา ภาษาองั กฤษไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั รวมท้ังหมด 6 ผลกำรเรียนรู้

คำอธบิ ำยรำยวิชำเพิ่มเติม รหสั วชิ ำ อ 31202 ภำษำอังกฤษเพ่ือกำรสื่อสำร 2 กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำตำ่ งประเทศ ช้นั มธั ยมศกึ ษำปีท่ี 4 เวลำ 80 ชั่วโมง จำนวน 2.0 หนว่ ยกติ พฒั นาทกั ษะการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน โดยฝกึ ปฏิบัติตามข้นั ตอนและทักษะยอ่ ยของ กระบวนการพฒั นาการรับสารและการส่งสารโดยฝึกจบั ใจความสาคญั สรุปความ วิเคราะห์ วิจารณแ์ ละประเมิน คา่ ฝึกทกั ษะการคิด รวบรวมความรู้ความคิด ประสบการณจ์ ากการฟัง การดู และการอ่านแลว้ นาเสนอด้วยการ พดู การถ่ายโอนเป็นรูปภาพหรอื สญั ลกั ษณ์ และการเขยี นอยา่ งมีวจิ ารณญาณและสร้างสรรค์ โดยใช้คาศพั ท์ สานวน ประโยค และโครงสร้างทางภาษาได้ถูกต้องตามวตั ถปุ ระสงค์ของการส่ือสารและดาเนนิ การตดิ ต่อสอ่ื สาร กับบคุ คลอน่ื ได้อยา่ งต่อเนื่อง เหมาะสมกับกาลเทศะและมารยาททางสงั คมตามวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา บอก ความสาคญั แนะนา และ เข้าร่วมกิจกรรมในวนั สาคัญและประเพณีของเจ้าของภาษา นาเสนอข้อมูลและ ความคดิ อยา่ งเปน็ ระบบ มีความมน่ั ใจในการใช้ภาษาและเหน็ คณุ ค่าในการนาภาษาอังกฤษไปใช้ในชวี ิตประจาวัน ผลกำรเรียนรู้ 1. ปฏบิ ตั ิตามขั้นตอนของกระบวนการฟงั ไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ มีทักษะในการฟังโดยสามารถ ตคี วาม วิเคราะหส์ ิ่งที่ฟัง น้าเสียงกริยา ท่าทาง และสรุปความ ถ่ายโอนเปน็ ภาษาพูด และ ภาพวาดได้ ๑. ปฏิบัติตามขน้ั ตอนของกระบวนการพูดได้อยา่ งถูกต้อง โดยสามารถพดู เพ่ือการส่ือสารตาม สถานการณ์ที่กาหนด สถานการณจ์ รงิ และพูดบรรยายภาพ/สถานการณ์ให้เพอ่ื นวาดภาพ ตามทพ่ี ูด ๒. ปฏิบัตติ ามขั้นตอนของกระบวนการอา่ นขอ้ ความ และ เรื่องสนั้ ๆ เพอื่ หาใจความสาคญั หรือ รายละเอยี ดของเรือ่ งท่ีอา่ น โดยสามารถพดู แสดงความคิดเห็นจากการวเิ คราะหเ์ รอื่ งและ สรุป เรือ่ งทอ่ี ่าน 4. ปฏิบัติตามขน้ั ตอนของกระบวนการเขียนคาศัพท์ ประโยค ข้อความ และ จดหมายสื่อ อเิ ลคทรอนคิ ส์ (E-mail) เรอื่ งสน้ั ๆ เพ่อื สื่อสารและเปลย่ี นขอ้ มูล โดยใช้ส่ือเทคโนโลยใี นการฝึกทักษะไดอ้ ยา่ ง เหมาะสม 5. สรา้ งสรรค์ภาษาในการสนทนาและเปล่ยี นข้อมูลและสรา้ งความสัมพนั ธ์ระหวา่ งบคุ คล โดยใช้ คาศัพทส์ านวน โครงสรา้ งทางภาษาให้เหมาะสมกับสถานการณแ์ ละมารยาททางสังคม 6. บอกความสาคัญ แนะนา และเข้าร่วมกิจกรรมในวนั สาคญั และประเพณขี องเจ้าของภาษา รวมท้ังหมด 6 ผลกำรเรียนรู้

คำอธิบำยรำยวชิ ำเพิ่มเติม รหัสวชิ ำ อ 32201 ภำษำอังกฤษฟัง –พดู 1 (Listening-Speaking) กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ ภำษำตำ่ งประเทศ ชัน้ มัธยมศกึ ษำปีท่ี 5 เวลำ 80 ช่วั โมง จำนวน 2.0 หนว่ ยกิต พัฒนาทักษะการฟัง และการพูด จากสิ่งแวดล้อมและบริบททางสังคม บรรยายลกั ษณะบคุ คล สัตว์ สงิ่ ของ และส่ิงแวดล้อม โดยฝกึ ปฏิบตั ติ ามขนั้ ตอนและทักษะย่อยของกระบวนการฟังและพดู ใชภ้ าษาสื่อสาร เพื่อรบั และส่งสารในรูปแบบการสนทนาในสถานการณต์ ่างๆที่หลากหลาย โดยใช้คาศัพท์ สานวน วลี ประโยค โครงสร้างทางภาษาถ่ายโอนข้อมูลจากเร่ืองท่ีฟัง ใช้ภาษาส่ือสารได้ถกู ต้องตามวตั ถุประสงคข์ องการส่ือสารอย่าง สร้างสรรค์ มีประสทิ ธภิ าพ รวมทงั้ ดาเนินการตดิ ต่อสือ่ สารกับบุคคลอืน่ ได้อยา่ ง เหมาะสมกบั กาลเทศะและ มารยาททางสังคมตามวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา ตลอดจนมีความมัน่ ใจในการใชภ้ าษา และ เห็นคุณคา่ ในการ นาภาษาองั กฤษไปใชใ้ นชีวิตประจาวนั ผลกำรเรยี นรู้ ๑. ปฏิบตั ิตามขั้นตอนของกระบวนการฟงั ได้อย่างมปี ระสิทธภิ าพ มีทักษะในการฟงั โดยสามารถ ตคี วาม วิเคราะห์ สิง่ ทฟ่ี งั น้าเสยี งกริยา ทา่ ทาง และสรุปความ ถ่ายโอนเป็นภาพวาดได้อย่าง ถูกต้อง ๒. ปฏิบตั ติ ามข้ันตอนของกระบวนการพดู ได้อยา่ งถูกต้อง โดยสามารถพดู ตามระดับกลไก พดู อย่างมีความหมายและสนทนาตามสถานการณ์ทกี่ าหนดไดอ้ ย่างถูกตอ้ งเหมาะสม ๓. สรา้ งสรรค์ภาษาในการสนทนาและเปลย่ี นข้อมูลและสร้างความสมั พันธร์ ะหว่างบุคคล โดยใช้ คาศพั ท์ สานวน โครงสร้างทางภาษาให้เหมาะสมกับสถานการณ์และมารยาททางสงั คม ๔. มคี วามเชื่อมน่ั ในการใช้ภาษาองั กฤษในการส่อื สารกบั บคุ คลอ่ืนและเหน็ คุณค่าในการนา ภาษาอังกฤษไปใชใ้ นชีวิตประจาวนั รวมทั้งหมด 4 ผลกำรเรยี นรู้

คำอธบิ ำยรำยวิชำเพิ่มเติม รหสั วิชำอ 32202 ภำษำอังกฤษฟงั –พดู 2 (Listening-Speaking) กลุ่มสำระกำรเรียนรภู้ ำษำตำ่ งประเทศ ช้ันมัธยมศกึ ษำปีท่ี 5 เวลำ 80 ช่ัวโมง จำนวน 2.0 หน่วยกติ พฒั นาทกั ษะการฟงั และการพูด จากสิ่งแวดล้อมและบรบิ ททางสังคม บรรยายลักษณะบคุ คล สัตว์ ส่ิงของ และส่งิ แวดล้อม โดยฝกึ ปฏบิ ตั ติ ามขนั้ ตอนและทักษะย่อยของกระบวนการฟังและพูด ใชภ้ าษาสื่อสาร เพอื่ รบั และสง่ สารในรปู แบบการสนทนาในสถานการณต์ ่างๆท่ีหลากหลาย โดยใชค้ าศัพท์ สานวน วลี ประโยค โครงสรา้ งทางภาษาถา่ ยโอนข้อมูลจากเร่ืองที่ฟัง ใช้ภาษาส่ือสารได้ถูกต้องตามวัตถุประสงค์ของการสื่อสารอย่าง สร้างสรรค์ มปี ระสทิ ธิภาพ รวมทัง้ ดาเนินการตดิ ต่อส่ือสารกับบคุ คลอ่ืนได้อย่าง เหมาะสมกับกาลเทศะและ มารยาททางสงั คมตามวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา ตลอดจนมคี วามมนั่ ใจในการใช้ภาษา และ เหน็ คณุ คา่ ในการ นาภาษาองั กฤษไปใช้ในชีวิตประจาวนั ผลกำรเรียนรู้ 1. ปฏิบตั ติ ามขน้ั ตอนของกระบวนการฟังได้อยา่ งมีประสิทธิภาพ มที ักษะในการฟังโดยสามารถ ตีความ วิเคราะห์ สิ่งท่ฟี งั น้าเสยี งกรยิ า ท่าทาง และสรุปความ ถ่ายโอนเปน็ ภาพวาดได้อย่าง ถูกต้อง 2. ปฏบิ ัตติ ามขน้ั ตอนของกระบวนการพูดได้อย่างถูกต้อง โดยสามารถพูดตามระดบั กลไก พูด อยา่ งมีความหมายและสนทนาตามสถานการณ์ทีก่ าหนดได้อย่างถูกต้องเหมาะสม 3. สร้างสรรคภ์ าษาในการสนทนาและเปล่ียนข้อมูลและสร้างความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล โดยใช้ คาศัพท์สานวน โครงสรา้ งทางภาษาให้เหมาะสมกบั สถานการณ์และมารยาททางสังคม 4. มีความเช่อื มนั่ ในการใช้ภาษาอังกฤษในการส่ือสารกบั บุคคลอ่นื และเห็นคณุ ค่าในการนา ภาษาองั กฤษไปใช้ในชีวิตประจาวัน รวมท้ังหมด 4 ผลกำรเรียนรู้

คำอธิบำยรำยวชิ ำเพ่ิมเติม รหสั วชิ ำอ 33201 ภำษำอังกฤษอ่ำน –เขยี น 1(Reading-Writing 1) กลุ่มสำระกำรเรยี นรูภ้ ำษำตำ่ งประเทศ ชน้ั มธั ยมศกึ ษำปีท่ี 6 เวลำ 80 ชว่ั โมง จำนวน 2.0 หนว่ ยกติ พฒั นาทักษะการอา่ นและการเขยี น จากสง่ิ แวดล้อม เพ่ือบรรยายลักษณะบุคคล สัตว์ ส่งิ ของและ ส่ิงแวดลอ้ ม โดยฝกึ ปฏบิ ัตติ ามข้นั ตอนและทักษะย่อยของกระบวนการนั้นๆ ใช้ภาษาส่อื สารเพื่อรับและสง่ สารใน รูปแบบการอา่ นและเยนส่ือความในสถานการณ์ตา่ งๆทีห่ ลากหลาย และการเขยี นจดหมายอเิ ลค็ ทรอนิคส์ โดย ใชค้ าศัพท์ สานวน วลี ประโยค โครงสร้างทางภาษาถ่ายโอนข้อมลู จากเร่ืองท่ีอ่าน ใชภ้ าษาสื่อสารไดถ้ ูกต้องตาม วตั ถปุ ระสงค์ของการเขยี นอย่างสร้างสรรค์และมีประสทิ ธิภาพ รวมท้ังดาเนนิ การเขยี นติดตอ่ สื่อสารกับบคุ คลอืน่ ไดอ้ ย่างต่อเน่ือง เหมาะสมกับกาลเทศะและมารยาททางสงั คมตามวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา ตลอดจน มีความ มัน่ ใจในการใชภ้ าษา และ เห็นคุณค่าในการนาภาษาองั กฤษไปใชใ้ นชวี ิตประจาวนั ผลกำรเรียนรู้ 1. ปฏิบัติตามขนั้ ตอนของกระบวนการอ่านได้อย่างมีประสทิ ธภิ าพ มีทกั ษะในการอ่านโดยสามารถ จับใจความ ตีความ วเิ คราะหส์ ง่ิ ท่ีอ่าน และสรุปความได้อยา่ งถูกต้อง 2. ปฏบิ ัตติ ามขน้ั ตอนของกระบวนการเขียนได้อย่างถกู ต้อง โดยสามารถเขียนเพอ่ื สื่อความถูกต้อง ตามโครงสรา้ งและหลกั เกณฑ์ทางภาษา 3. สร้างสรรคภ์ าษาในการเขียนเพอื่ ให้และ/หรือแลกเปล่ยี นขอ้ มูลและสรา้ งความสมั พันธ์ระหวา่ ง บุคคล โดยใช้คาศัพทส์ านวน โครงสรา้ งทางภาษาได้เหมาะสมกบั สถานการณ์ 4. มคี วามเชื่อมัน่ ในการใช้ภาษาอังกฤษในการส่ือสารกับบุคคลอ่ืนและเห็นคณุ ค่าในการนา ภาษาอังกฤษไปใชใ้ นชวี ิตประจาวนั รวมทั้งหมด 4 ผลกำรเรยี นรู้

คำอธิบำยรำยวิชำเพ่ิมเติม รหสั วชิ ำ อ 33202 ภำษำอังกฤษอำ่ น – เขยี น 2 (Reading-Writing) กลุม่ สำระกำรเรยี นร้ภู ำษำต่ำงประเทศ ชั้นมัธยมศกึ ษำปีท่ี 6 เวลำ 80 ช่ัวโมง จำนวน 2.0หนว่ ยกิต พฒั นาทกั ษะการอ่านและการเขียน จากสิ่งแวดลอ้ ม เพ่ือบรรยายลักษณะบุคคล สตั ว์ สิง่ ของและ สง่ิ แวดล้อม โดยฝึกปฏิบัตติ ามข้ันตอนและทักษะย่อยของกระบวนการน้ันๆ ใชภ้ าษาสือ่ สารเพื่อรบั และส่งสารใน รปู แบบการอา่ นและเยนส่ือความในสถานการณ์ต่างๆท่ีหลากหลาย และการเขยี นจดหมายอเิ ลค็ ทรอนิคส์ โดย ใช้คาศพั ท์ สานวน วลี ประโยค โครงสร้างทางภาษาถา่ ยโอนข้อมลู จากเร่ืองที่อ่าน ใช้ภาษาสื่อสารได้ถกู ตอ้ งตาม วตั ถุประสงค์ของการเขยี นอย่างสรา้ งสรรค์และมีประสทิ ธิภาพ รวมทั้งดาเนินการเขียนติดตอ่ สอ่ื สารกับบุคคลอ่ืน ได้อยา่ งตอ่ เน่ือง เหมาะสมกับกาลเทศะและมารยาททางสงั คมตามวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา ตลอดจน มี ความม่นั ใจในการใช้ภาษา และ เหน็ คุณค่าในการนาภาษาอังกฤษไปใช้ในชวี ิตประจาวัน ผลกำรเรียนรู้ ๑. ปฏิบตั ติ ามข้ันตอนของกระบวนการอ่านได้อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ มีทักษะในการอ่านโดยสามารถ จบั ใจความ ตีความ วิเคราะห์ส่ิงที่อ่าน และสรุปความได้อย่างถูกต้อง ๒. ปฏิบัตติ ามข้ันตอนของกระบวนการเขียนได้อย่างถูกต้อง โดยสามารถเขียนเพื่อส่ือความถกู ต้อง ตามโครงสร้างและหลักเกณฑท์ างภาษา ๓. สร้างสรรค์ภาษาในการเขยี นเพื่อให้และ/หรือแลกเปล่ยี นข้อมูลและสร้างความสัมพันธ์ระหว่าง บคุ คล โดยใชค้ าศพั ท์สานวน โครงสรา้ งทางภาษาไดเ้ หมาะสมกบั สถานการณ์ ๔. มคี วามเชอื่ ม่นั ในการใช้ภาษาอังกฤษในการสือ่ สารกบั บุคคลอนื่ และเห็นคุณค่าในการนา ภาษาอังกฤษไปใชใ้ นชีวิตประจาวัน รวมทั้งหมด 4 ผลกำรเรยี นรู้

กจิ กรรมพฒั นำผู้เรียน กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี นตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 มงุ่ ให้ผ้เู รยี นได้ พัฒนาตนเองตามศักยภาพ พฒั นาอยา่ งรอบด้านเพ่ือความเปน็ มนษุ ย์ทสี่ มบูรณ์ ทั้งรา่ งกาย สตปิ ญั ญา อารมณ์ และสงั คม เสริมสร้างใหเ้ ปน็ ผู้มีศีลธรรม จริยธรรม มีระเบียบวินัย ปลกู ฝังและสรา้ งจิตสานกึ ของการทา ประโยชนเ์ พื่อสงั คม สามารถจัดการตนเองได้ และอย่รู ่วมกบั ผู้อ่นื อยา่ งมีความสุข กิจกรรมพัฒนาผเู้ รยี นมงุ่ พัฒนาผูเ้ รียนใหใ้ ชอ้ งคค์ วามรู้ ทกั ษะและเจตคติ จากการเรียนรู้ 8 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ และประสบการณ์ ของผู้เรยี นมาปฏิบัติกจิ กรรมเพือ่ ช่วยใหผ้ เู้ รยี นเกิดสมรรถนะสาคัญ ได้แก่ ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการคิด ความสามารถในการแก้ปญั หา ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิตและความสามารถใน การใช้เทคโนโลยี ซ่งึ จะสง่ ผลในการพฒั นาผ้เู รยี นให้มีคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ไดแ้ ก่ รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ซอ่ื สตั ย์สุจรติ มวี ินยั ใฝ่เรียนรู้ อย่อู ยา่ งพอเพียง มงุ่ มนั่ ในการทางาน รักความเปน็ ไทย และมีจิตสาธารณะ เกดิ ทักษะการทางาน และอยู่ร่วมกบั ผอู้ ่นื ในสงั คมได้อยา่ งมีความสขุ ในฐานะเปน็ พลเมืองไทยและพลโลก กิจกรรมพฒั นาผู้เรียนตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ประกอบ ด้วยกิจกรรม 3 ลกั ษณะ ดังนี้ 1. กจิ กรรมแนะแนว เปน็ กจิ กรรมทีส่ ่งเสริมและพัฒนาผู้เรียนใหร้ ู้จักตนเอง รู้รักษ์สงิ่ แวดลอ้ ม สามารถ คดิ ตัดสินใจ คิดแก้ปัญหา กาหนดเป้าหมาย วางแผนชีวิตทั้งด้านการเรียน และอาชีพ สามารถปรบั ตนไดอ้ ย่างเหมาะสม นอกจากนย้ี ังช่วยใหค้ รรู จู้ ักและเขา้ ใจผ้เู รยี น ทัง้ ยงั เป็นกจิ กรรมท่ีชว่ ยเหลอื และให้ คาปรึกษาแก่ผูป้ กครองในการมสี ่วนรว่ มพัฒนาผู้เรยี น นกั เรยี นทุกคนตอ้ งเขา้ รว่ มกิจกรรมแนะแนว 40 ช่ัวโมงตอ่ ปกี ารศึกษา (ระดับประถมศกึ ษา) 20 ชว่ั โมงตอ่ ภาคเรียน (ระดบั มัธยมศกึ ษา) แนวทำงกำรจดั กิจกรรมแนะแนว 1. สารวจสภาพปญั หา ความตอ้ งการ ความสนใจ และธรรมชาติของผู้เรยี น 2. ศกึ ษาวิสัยทัศน์ของสถานศึกษาและวิเคราะห์ขอ้ มลู ที่ได้จากการสารวจ 3. กาหนดสัดส่วนสาระของกิจกรรมในแตล่ ะดา้ น 4. กาหนดแผนการปฏิบัติกจิ กรรมแนะแนว 5. การจดั ทารายละเอยี ดของแต่ละกิจกรรม 6.ปฏิบัตติ ามแผน วดั ผลและประเมนิ ผล และสรุปรายงาน 2. กจิ กรรมนักเรยี น เป็นกจิ กรรมท่ีมุ่งพัฒนาความมีระเบียบวินัย ความเปน็ ผนู้ า ผตู้ ามที่ดคี วาม รบั ผิดชอบ การทางานร่วมกัน การร้จู กั แก้ปญั หา การตัดสินใจที่เหมาะสม ความมีเหตผุ ล การชว่ ยเหลือแบง่ ปัน เอ้ืออาทรและสมานฉันท์ โดยจัดใหส้ อดคล้องกบั ความสามารถ ความถนดั และ ความสนใจของผู้เรยี น ให้ไดป้ ฏิบตั ดิ ้วยตนเองในทุกขน้ั ตอน ไดแ้ ก่ การศกึ ษาวเิ คราะห์ วางแผน

ปฏิบัติตามแผน ประเมิน และปรบั ปรงุ การทางาน เนน้ การทางานรว่ มกนั เป็นกลมุ่ ตามความเหมาะสมและ สอดคลอ้ งกับวุฒิภาวะของผู้เรยี นและบรบิ ทของโรงเรยี นชุมชนประชาธิปตั ยว์ ิทยาคารและท้องถนิ่ กจิ กรรม นักเรียนประกอบด้วย 2.1 กจิ กรรมลกู เสือ เนตรนารี ผูบ้ าเพญ็ ประโยชน์ และนักศกึ ษาวชิ าทหาร 2.2 กิจกรรมชุมนุม ชมรม 2.1 กิจกรรมลูกเสอื /เนตรนำรี นกั เรียนทุกคนต้องเขา้ ร่วมกจิ กรรมลูกเสือ/เนตรนารี40 ชัว่ โมงตอ่ ปกี ารศึกษา (ระดบั ประถมศึกษา) 20 ชวั่ โมงต่อภาคเรยี น (ระดับมัธยมศึกษา) แนวกำรจดั กิจกรรมลกู เสอื /เนตรนำรี จัดกจิ กรรมตามวธิ ีการลูกเสอื ซ่ึงมีองค์ประกอบ 7 ประการคือ คาปฏิญาณและกฎ, การเรยี นรจู้ าก การกระทา, ระบบหมู่, การใช้สัญลกั ษณ์ร่วมกัน, การศึกษาธรรมชาต,ิ ความก้าวหน้าในการรว่ มกิจกรรม และการสนับสนนุ โดยผใู้ หญ่ 2.2 กิจกรรมชุมนุม นักเรียนทุกคนต้องเข้าร่วมกจิ กรรมชุมนุม 30 ช่ัวโมงตอ่ ปี การศึกษา(ระดับประถมศกึ ษา) 13 ชว่ั โมงตอ่ ภาคเรียน(ระดบั มธั ยมศกึ ษา) แนวกำรจดั กิจกรรมชมุ นุม จดั บริการใหผ้ ู้เรยี นดาเนินกิจกรรมได้หลากหลาย ทง้ั ภายใน และนอกห้องเรยี นเป็นการจดั กิจกรรมที่ สอดคล้องกบั ความสนใจของผเู้ รยี น มคี รเู ป็นทป่ี รกึ ษา นักเรียนดาเนินกิจกรรมดว้ ยตนเอง ครทู ป่ี รึกษากิจกรรม และผู้เชีย่ วชาญเปน็ ผ้ปู ระเมินผล 3. กิจกรรมเพื่อสังคมและสำธำรณประโยชน์ เป็นกจิ กรรมทส่ี ่งเสริมและพฒั นานักเรียนให้ สามารถพัฒนาตนเองตามธรรมชาติ และเต็มศักยภาพ โดยคานงึ ถงึ ความแตกต่างระหวา่ งบุคคล และ พฒั นาการทางสมอง เนน้ ให้ความรู้ และคณุ ธรรมจรยิ ธรรม จัดกิจกรรมโดยให้ผู้เรยี นคดิ สร้างสรรค์ ออกแบบกิจกรรมบาเพญ็ ประโยชนอ์ ย่างหลากหลายรูปแบบ เพือ่ แสดงถึงความรบั ผดิ ชอบต่อสังคม ในลกั ษณะจิตอาสา นักเรยี นทกุ คนต้องเข้าร่วมกจิ กรรมเพื่อสงั คมและสาธารณประโยชน์ 10 ชว่ั โมงต่อปกี ารศึกษา (ระดับประถมศึกษา) 7 ชวั่ โมงตอ่ ภาคเรียน(ระดบั มธั ยมศึกษา) แนวกำรจัดกจิ กรรมเพอ่ื สังคมและสำธำรณประโยชน์ เปน็ กิจกรรมทส่ี ง่ เสริมใหผ้ ้เู รยี นบาเพญ็ ตนใหเ้ ปน็ ประโยชน์ต่อสงั คม ชมุ ชน และท้องถ่ินตามความ สนใจในลักษณะอาสาสมัคร เพื่อแสดงถึงความรับผิดชอบ ความดีงาม ความเสียสละต่อสงั คม และการมจี ติ สาธารณะ เช่น กิจกรรมอาสาพฒั นาตา่ งๆ กจิ กรรมสร้างสรรค์สงั คม (กระทรวงศกึ ษาธิการ, 2551)

แนวทำงกำรประเมนิ ผลกิจกรรมพฒั นำผ้เู รียน มกี ารประเมนิ กิจกรรมพฒั นาผู้เรียนรายกจิ กรรม และประเมินผูเ้ รียนเพ่ือการตัดสิน โดยผเู้ รียน จะต้องมเี วลาเขา้ ร่วมกจิ กรรมตามเกณฑ์ท่สี ถานศึกษากาหนดคอื ร้อยละ 80 ของเวลาเรยี นทั้งหมด ปฏิบตั ิ กจิ กรรมมีผลงานและช้นิ งาน และมีคุณลกั ษณะผ่านเกณฑ์ตามทสี่ ถานศึกษากาหนดคือ อยใู่ นเกณฑ์ ดี ขึน้ ไป กิจกรรมพัฒนาผูเ้ รียนตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551 กำรวัดและประเมินผลกำรเรียนรู้ การวัดและประเมินผลการเรียนรขู้ องผูเ้ รยี นต้องต้ังอยู่บนหลักการพื้นฐานสองประการคือ การประเมินเพื่อพัฒนาผู้เรียน และเพื่อตัดสินผลการเรยี น ในการพัฒนาคณุ ภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน ให้ ประสบผลสาเรจ็ นน้ั ผู้เรียนจะตอ้ งได้รบั การพฒั นาและประเมินตามตวั ช้วี ดั เพื่อให้บรรลุตามมาตรฐานการเรยี นรู้ สะท้อนสมรรถนะสาคัญ และคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ของผู้เรียนซึง่ เปน็ เป้าหมายหลักในการวัดและ ประเมินผลการเรยี นรใู้ นทกุ ระดบั ไมว่ ่าจะเป็นระดับชน้ั เรียน ระดับสถานศึกษา ระดบั เขตพ้นื ท่ี การศกึ ษา และระดับชาติ การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ เปน็ กระบวนการพัฒนาคุณภาพผูเ้ รยี นโดยใช้ผลการ ประเมินเปน็ ขอ้ มูลและสารสนเทศท่ีแสดงพัฒนาการความก้าวหน้า และความสาเรจ็ ทางการเรยี นของผูเ้ รียน ตลอดจนข้อมลู ท่เี ป็นประโยชน์ต่อการสง่ เสริมใหผ้ ูเ้ รยี นเกดิ การพฒั นาและเรียนรู้อย่างเต็มตามศักยภาพ การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ แบง่ ออกเป็น 4 ระดับ ไดแ้ ก่ ระดับชัน้ เรยี น ระดับสถานศกึ ษา ระดับเขตพนื้ ที่การศึกษา และระดับชาติ มรี ายละเอียด ดงั น้ี 1. กำรประเมินระดับชั้นเรยี น เป็นการวดั และประเมนิ ผลท่อี ยู่ในกระบวนการจัดการเรยี นรู้ ผสู้ อน ดาเนินการเป็นปกตแิ ละสม่าเสมอ ในการจดั การเรยี นการสอน ใช้เทคนิคการประเมนิ อย่างหลากหลาย เช่น การซกั ถาม การสงั เกต การตรวจการบ้าน การประเมนิ โครงงาน การประเมนิ ชน้ิ งาน/ ภาระงาน แฟ้มสะสม งาน การใช้แบบทดสอบ ฯลฯ โดยผู้สอนเปน็ ผปู้ ระเมินเอง หรือเปดิ โอกาสให้ผู้เรียนประเมนิ ตนเอง เพื่อน ประเมนิ เพื่อน ผปู้ กครองรว่ มประเมนิ ในกรณีที่ไม่ผา่ นตัวชี้วัดให้มกี ารสอนซ่อมเสรมิ การประเมนิ ระดับช้ันเรียนเป็นการตรวจสอบวา่ ผู้เรยี นมพี ฒั นาการความก้าวหน้าในการเรยี นรู้ อัน เปน็ ผลมาจากการจดั กิจกรรมการเรยี นการสอนหรอื ไม่ และมากน้อยเพยี งใด มีส่ิงทีจ่ ะต้องไดร้ บั การพฒั นา ปรับปรุงและสง่ เสรมิ ในด้านใด นอกจากนีย้ งั เปน็ ข้อมลู ให้ผู้สอนใช้ปรบั ปรงุ การเรียนการสอนของตนดว้ ย ทงั้ นี้ โดยสอดคลอ้ งกับมาตรฐานการเรยี นร้แู ละตัวช้วี ดั 2. กำรประเมนิ ระดับสถำนศกึ ษำ เป็นการประเมนิ ทีส่ ถานศกึ ษาดาเนินการเพ่ือตัดสินผล การเรียน ของผูเ้ รยี นเป็นรายป/ี รายภาค ผลการประเมินการอา่ น คิดวิเคราะหแ์ ละเขยี น คุณลักษณะ อนั พงึ ประสงค์ และกจิ กรรมพฒั นาผเู้ รียน นอกจากนเ้ี พื่อให้ได้ข้อมลู เกย่ี วกับการจัดการศกึ ษาของสถานศึกษาวา่ สง่ ผลต่อการ เรียนรู้ของผู้เรยี นตามเปา้ หมายหรือไม่ ผูเ้ รยี นมีจดุ พัฒนาในดา้ นใด รวมทั้งสามารถนาผลการเรยี นของผู้เรยี น ในสถานศกึ ษาเปรยี บเทียบกับเกณฑ์ระดบั ชาติ ผลการประเมนิ ระดับสถานศกึ ษาจะเป็นข้อมูลและสารสนเทศ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook