เพื่อการปรบั ปรุงนโยบาย หลกั สตู ร โครงการ หรือวิธกี ารจัดการเรยี นการสอนตลอดจนเพอ่ื การจัดทา แผนพัฒนาคุณภาพการศกึ ษาของสถานศกึ ษา ตามแนวทาง การประกนั คณุ ภาพการศึกษาและการรายงานผลการจัดการศึกษาต่อคณะกรรมการสถานศึกษา สานักงานเขต พืน้ ที่การศกึ ษา สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน ผ้ปู กครองและชุมชน 3. กำรประเมนิ ระดับเขตพ้ืนทกี่ ำรศึกษำ เป็นการประเมินคณุ ภาพผู้เรียนในระดับเขตพื้นที่การศึกษา ตามมาตรฐานการเรียนรู้ ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน เพ่ือใชเ้ ปน็ ข้อมูลพืน้ ฐานในการพัฒนา คุณภาพการศึกษาของเขตพื้นที่การศึกษา ตามภาระความรบั ผิดชอบ สามารถดาเนินการโดยประเมินคุณภาพ ผลสัมฤทธข์ิ องผ้เู รียนด้วยข้อสอบมาตรฐานท่ีจัดทาและดาเนินการโดยเขตพื้นทก่ี ารศกึ ษา หรือด้วยความร่วมมือ กับหนว่ ยงานต้นสงั กัด ในการดาเนนิ การจดั สอบ นอกจากน้ยี ังได้จากการตรวจสอบทบทวนขอ้ มูลจากการ ประเมินระดบั สถานศกึ ษาในเขตพื้นที่การศึกษา 4. กำรประเมนิ ระดับชำติ เปน็ การประเมินคุณภาพผเู้ รยี นในระดบั ชาติตามมาตรฐาน การเรียนรู้ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน สถานศึกษาต้องจดั ใหผ้ เู้ รยี นทุกคนท่เี รียนในชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 3 ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 6 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 และช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6 เขา้ รับการ ประเมิน ผลจากการประเมนิ ใช้เป็นข้อมลู ในการเทยี บเคียงคณุ ภาพการศึกษาในระดบั ต่าง ๆ เพ่อื นาไปใชใ้ นการ วางแผนยกระดบั คุณภาพการจัดการศกึ ษา ตลอดจนเป็นขอ้ มลู สนบั สนนุ การตัดสินใจในระดับนโยบายของประเทศ ข้อมลู การประเมนิ ในระดบั ต่างๆ ข้างต้นเปน็ ประโยชนต์ อ่ สถานศกึ ษาในการตรวจสอบทบทวนพัฒนา คุณภาพผู้เรยี น และเป็นภาระความรับผิดชอบของสถานศึกษาท่ีจะตอ้ งจดั ระบบดูแลชว่ ยเหลือ ปรับปรงุ แก้ไข ส่งเสริมสนบั สนุนเพื่อให้ผเู้ รยี นไดพ้ ฒั นาเต็มตามศกั ยภาพบนพ้ืนฐาน ความแตกต่างระหว่างบคุ คลทจ่ี าแนก ตามสภาพปญั หาและความต้องการ ได้แก่ กล่มุ ผ้เู รียนท่ัวไป กล่มุ ผู้เรยี นทม่ี ีความสามารถพิเศษ กลมุ่ ผเู้ รยี นที่มผี ลสมั ฤทธท์ิ างการเรียนต่า กลมุ่ ผู้เรยี นที่มปี ัญหาดา้ นวินัยและพฤตกิ รรม กลมุ่ ผู้เรียนทปี่ ฏเิ สธ โรงเรยี น กลมุ่ ผู้เรียนที่มีปัญหาทางเศรษฐกิจและสงั คม กลุ่มพิการทางรา่ งกายและสติปัญญา เป็นต้น ข้อมูล จากการประเมนิ จงึ เปน็ หวั ใจของสถานศึกษาในการดาเนินการช่วยเหลือผ้เู รียนได้ทนั ท่วงที เปดิ โอกาสให้ ผเู้ รียนไดร้ บั การพฒั นาและประสบความสาเรจ็ ในการเรยี น โรงเรียนชมุ ชนประชาธิปตั ยว์ ทิ ยาคาร ในฐานะผ้รู ับผิดชอบจัดการศึกษา ไดจ้ ดั ทาระเบียบว่าด้วยการ วดั และประเมนิ ผลการเรียนของสถานศึกษาโดยเน้นความสอดคล้องและเปน็ ไปตามหลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติท่ี เป็นขอ้ กาหนดของหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพ้นื ฐาน เพอ่ื ให้บุคลากรทเี่ กี่ยวข้องทุกฝ่ายถือปฏิบตั ิรว่ มกนั
เกณฑก์ ำรจบ 1. ระดับประถมศึกษำ 1) ผเู้ รยี นเรียนรายวิชาพน้ื ฐาน จานวน 840 ชั่วโมง และรายวิชา/กจิ กรรมเพมิ่ เติมปลี ะไม่เกนิ 40 ช่ัวโมง 2) ผ้เู รยี นตอ้ งมผี ลการประเมนิ รายวิชาพ้นื ฐานระดับ 1 ขนึ้ ไป ทกุ รายวชิ า จึงจะถือวา่ ผา่ นรายวชิ า พ้นื ฐาน 3) ผู้เรยี นมีผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขยี นในระดับผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ ตามที่ สถานศึกษากาหนด 4) ผเู้ รยี นมผี ลการประเมินคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ในระดับผา่ นเกณฑ์การประเมินตามที่ สถานศึกษากาหนด 5) ผู้เรยี นเขา้ รว่ มกจิ กรรมพัฒนาผู้เรียน และมีผลการประเมนิ ผา่ นเกณฑ์การประเมินตามที่ สถานศกึ ษากาหนด 2. ระดับมธั ยมศกึ ษำตอนตน้ 1) ผู้เรียนเรียนรายวชิ าพน้ื ฐาน และเพ่มิ เติมไมเ่ กนิ 81 หน่วยกติ โดยเปน็ รายวชิ าพ้ืนฐาน 66 หน่วยกิต และรายวชิ าเพม่ิ เตมิ ตามท่ีสถานศกึ ษากาหนด 2) ผเู้ รยี นตอ้ งไดห้ นว่ ยกติ ตลอดหลักสตู รไมน่ ้อยกวา่ 77 หน่วยกติ โดยเปน็ รายวชิ าพนื้ ฐาน 66 หนว่ ยกติ และรายวิชาเพิ่มเตมิ ไมน่ ้อยกว่า 11 หนว่ ยกติ 3) ผูเ้ รียนมีผลการประเมินการอา่ น คิดวิเคราะห์ และเขียนในระดบั ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ตามทส่ี ถานศกึ ษากาหนด 4) ผ้เู รียนมผี ลการประเมินคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ในระดับผ่านเกณฑ์การประเมินตามท่ี สถานศึกษากาหนด 5) ผ้เู รยี นเข้ารว่ มกจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี นและมีผลการประเมินผ่านเกณฑก์ ารประเมินตามที่ สถานศึกษากาหนด 3. ระดบั มธั ยมศึกษำตอนปลำย 1) ผเู้ รียนเรยี นรายวชิ าพน้ื ฐาน และเพม่ิ เติมไม่นอ้ ยกว่า 81 หน่วยกิต โดยเป็นรายวชิ า พน้ื ฐาน 41 หน่วยกิต และรายวิชาเพ่ิมเติมตามที่สถานศกึ ษากาหนด 2) ผู้เรียนต้องไดห้ น่วยกิตตลอดหลกั สตู รไม่น้อยกว่า 77 หน่วยกิต โดยเป็นรายวิชาพ้ืนฐาน 41 หนว่ ยกติ และรายวชิ าเพิ่มเติมไม่น้อยกว่า 36 หนว่ ยกิต 3) ผ้เู รียนมผี ลการประเมนิ การอา่ น คิดวิเคราะห์ และเขยี นในระดับผา่ นเกณฑ์การประเมิน ตามท่ีสถานศึกษากาหนด 4) ผ้เู รียนมีผลการประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ในระดบั ผา่ นเกณฑ์การประเมินตามท่ี สถานศึกษากาหนด 5) ผเู้ รยี นเขา้ รว่ มกิจกรรมพฒั นาผูเ้ รียนและมผี ลการประเมินผา่ นเกณฑ์การประเมินตามที่ สถานศึกษากาหนด
เอกสำรหลกั ฐำนกำรศึกษำ เอกสารหลักฐานการศึกษา เปน็ เอกสารสาคัญที่บนั ทกึ ผลการเรียน ข้อมูลและสารสนเทศ ท่ี เกี่ยวขอ้ งกบั พฒั นาการของผเู้ รยี นในด้านตา่ งๆ แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังน้ี 1. เอกสำรหลักฐำนกำรศกึ ษำที่กระทรวงศกึ ษำธกิ ำรกำหนด 1.1 ระเบียนแสดงผลการเรยี น เป็นเอกสารแสดงผลการเรียนและรับรองผลการเรยี นของ ผเู้ รียนตามรายวิชา ผลการประเมินการอา่ น คิดวเิ คราะห์และเขียน ผลการประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ของสถานศกึ ษา และผลการประเมินกจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น สถานศกึ ษาจะต้องบนั ทึกข้อมลู และออกเอกสารน้ใี ห้ ผเู้ รยี นเป็นรายบุคคล เมื่อผ้เู รยี นจบการศึกษาภาคบังคบั ( ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 ) จบการศึกษาขน้ั พื้นฐาน ( ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6 ) หรือเม่ือลาออกจากสถานศึกษาในทกุ กรณี 1.2. ประกาศนยี บัตร เป็นเอกสารแสดงวฒุ ิการศึกษาเพอ่ื รบั รองศักด์ิปละสทิ ธ์ิของผจู้ บการศกึ ษา ทสี่ ถานศึกษา ให้ไว้แกผ่ ู้จบการศึกษาภาคบงั คบั และผ้จู บการศึกษาขัน้ พน้ื ฐานตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษา ขั้นพืน้ ฐาน 1.3. แบบรายงานผู้สาเร็จการศกึ ษา เป็นเอกสารอนุมัติการจบหลกั สูตรโดยบนั ทึกรายชอื่ และ ข้อมูลของผจู้ บการศึกษาภาคบงั คบั ( ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 3 ) และผ้จู บการศกึ ษาข้ันพืน้ ฐาน ( ช้ันมธั ยมศึกษาทที ี่ 6) 3. เอกสำร หลักฐำน กำรศกึ ษำที่สถำนศกึ ษำกำหนด เป็นเอกสารท่ีสถานศกึ ษาจดั ทาข้ึนเพ่อื บนั ทึกพัฒนาการผลการเรียนรู้และข้อมูลสาคญั เก่ยี วกบั ผเู้ รยี น เชน่ แบบรายงานปะจาตวั นักเรยี น บันทกึ ผลการเรียนประจารายวิชา ระเบียนสะสม ใบรบั รองผล การเรยี น และเอกสารอน่ื ๆ ตามวตั ถปุ ระสงคข์ องการนาเอกสารไปใช้ กำรเทียบโอนผลกำรเรียน สถานศกึ ษาสามารถเทยี บโอนผลการเรยี นของผู้เรยี นในกรณีต่างๆ ไดแ้ ก่ การย้ายสถานศกึ ษา การเปล่ียนรปู แบบการศึกษา การย้ายหลกั สตู ร การออกกลางคนั และขอกลับเขา้ รับการศึกษาต่อ การศกึ ษา จากตา่ งประเทศและขอเขา้ ศึกษาต่อในประเทศ นอกจากน้ียงั สามารถเทยี บโอนความรู้ ทกั ษะ ประสบการณ์ จากแหลง่ การเรียนรู้อนื่ ๆ เชน่ สถานประกอบการ สถาบนั ศาสนา สถาบันการฝึกอบรมอาชีพ การจดั การ ศกึ ษาโดยครอบครวั การเทยี บโอนผลการเรียนควรดาเนนิ การในชว่ งก่อนเปิดภาคเรยี น หรือตน้ ภาคเรยี นที่ สถานศกึ ษารับผู้ขอเทียบโอนเปน็ ผ้เู รียน ท้งั นี้ ผูเ้ รยี นทีไ่ ดร้ ับการเทยี บโอนผลการเรยี นต้องศึกษาต่อเน่ืองใน สถานศึกษาที่รบั เทียบโอนอย่างนอ้ ย 1 ภาคเรียน โดยสถานศกึ ษาท่รี บั ผเู้ รียนจากการเทียบโอนควรกาหนด รายวิชา/จานวนหน่วยกิต ท่จี ะรบั เทยี บโอนตามความเหมาะสม
กำรพิจำรณำกำรเทยี บโอน สามารถดาเนนิ การได้ ดังนี้ 1. พิจารณาจากหลักฐานการศกึ ษา และเอกสารอ่นื ๆทใี่ ห้ขอ้ มลู แสดงความรู้ ความสามารถของผู้เรียน 2. พิจารณาความรู้ ความสามารถของผู้เรยี นโดยการทดสอบด้วยวิธกี ารต่างๆ ท้ังภาคความรู้และ ภาคปฏิบัติ 3. พิจารณาจากความสามารถและการปฏบิ ัติในสภาพจริง การเทยี บโอนผลการเรียนใหเ้ ปน็ ไปตามประกาศ หรอื แนวปฏบิ ัตขิ องกระทรวงศึกษาธิการ สาหรับการเทียบโอนเขา้ สูก่ ารศึกษาในระบบระดับการศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน ใหด้ าเนินการตามแนวปฏิบัตเิ กีย่ วกับ การเทียบโอนผลการเรียนเข้าสกู่ ารศกึ ษาในระบบระดบั การศึกษาข้ันพ้ืนฐาน
เอกสำรอำ้ งองิ กระทรวงศึกษาธกิ าร. (2551) หลกั สตู รกำรศึกษำข้ันพน้ื ฐำน พทุ ธศกั รำช 2551. กรุงเทพฯ : โรงพมิ พ์ชมุ นุม สหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จากัด. กระทรวงศกึ ษาธกิ าร. (2551) ตวั ชีว้ ัดและสำระกำรเรียนรูแ้ กนกลำงกลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ ภำษำไทย. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ชมุ นมุ สหกรณ์การเกษตรแหง่ ประเทศไทย จากัด. กระทรวงศึกษาธิการ. (2551) ตวั ชี้วัดและสำระกำรเรยี นรแู้ กนกลำงกลุ่มสำระกำรเรียนรู้ คณิตศำสตร.์ กรุงเทพฯ : โรงพมิ พช์ มุ นมุ สหกรณ์การเกษตรแหง่ ประเทศไทย จากัด. กระทรวงศึกษาธิการ. (2551) ตัวช้วี ัดและสำระกำรเรียนร้แู กนกลำงกลุ่มสำระกำรเรียนรู้ วิทยำศำสตร์. กรุงเทพฯ : โรงพมิ พ์ชมุ นุม สหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จากัด. กระทรวงศกึ ษาธิการ. (2551) ตัวช้ีวัดและสำระกำรเรียนรแู้ กนกลำงกลุม่ สำระกำรเรยี นรู้ สงั คมศึกษำ ศำสนำและวัฒนธรรม. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ชุมนุม สหกรณก์ ารเกษตรแห่ง ประเทศไทย จากดั . กระทรวงศกึ ษาธกิ าร. (2551) ตัวชี้วัดและสำระกำรเรยี นรู้แกนกลำงกลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ กำรงำนอำชีพและเทคโนโลยี. กรุงเทพฯ : โรงพมิ พ์ชุมนุม สหกรณก์ ารเกษตรแห่งประเทศไทย จากดั . กระทรวงศึกษาธิการ. (2551) ตัวชวี้ ดั และสำระกำรเรยี นรู้แกนกลำงกลมุ่ สำระกำรเรียนรู้ ศิลปะ. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ชุมนมุ สหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จากดั . กระทรวงศกึ ษาธิการ. (2551) ตวั ช้วี ัดและสำระกำรเรยี นรแู้ กนกลำงกลุ่มสำระกำรเรียนรู้สุขศึกษำและพล ศึกษำ. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ชุมนุม สหกรณก์ ารเกษตรแห่งประเทศไทย จากัด.
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255