94 ส่อื การเรียนรูรปู ภาพผหู ญงิ วัยรุนวัยสดใสแบบน้ี จะเปน เชน ไร หากกลายเปนคนขย้ี า
95 ใบความรทู ี่ 1 “บุหรี่กับผูหญิง”จุดประสงคก ารเรยี นรู วเิ คราะหผลกระทบในการสบู บหุ รีข่ องผหู ญิงได (ความร)ู บุหรก่ี บั ผหู ญิง• วยั รุนสูบบุหร่ี เพือ่ นดีๆ หมางเมนิ นอกจากการสูบบุหร่ีของผูหญิงที่อยูในวัยรุนจะมีผลกระทบตอสุขภาพและบุคลิกภาพ ทําใหขาดความสดช่ืนแจมใส ดูแกกวาวัยแลว ยังเปนท่ีรังเกียจของเพ่ือน ๆ และเพศตรงขามอีกดวย เพราะวัฒนธรรมไทยไมยอมรับใหผูหญิงสูบบุหร่ี เนื่องจากการสูบบุหรี่ เปนกิริยาอาการท่ีไมสมควรทําใหเปนท่ีติฉินนินทาของชาวบาน และเกิดภาพลักษณท่ีไมดี ทําใหสังคมมองในแงรายวาอาจมีพฤตกิ รรมท่ีไมเ หมาะสมอน่ื ๆ และทาํ ใหบ คุ คลทีร่ ัก เชน บดิ ามารดารสู กึ เสียใจและอับอายขายหนา• ผูหญงิ สบู บุหรม่ี แี ตโรครมุ เรา ผูหญิงสูบบุหร่ี อวัยวะท้ังภายนอกและภายในจะแกกอนวัยกวาคนที่ไมสูบบุหรี่เฉลยี่ เปน เวลา 10 ป ผหู ญงิ ทสี่ ูบบหุ รีม่ ีความเส่ียงท่จี ะเปน มะเรง็ ปอดมากกวาผทู ไ่ี มส ูบบุหร่ี 10 เทา ผูหญิงท่ีสูบบุหร่ีจะมีโอกาสเปนโรคหัวใจและหลอดเลือดมากข้ึน โดยพบวาผูหญิงท่ีสูบบุหร่ีจะเกิดอาการหัวใจลมเหลวมากกวาผูหญิงที่ไมสูบบุหร่ี 2-6 เทา และมีอัตราเสี่ยงตอการเกดิ อาการหวั ใจวายเฉียบพลันเพิ่มขนึ้ 20 เทา และความเส่ยี งนจี้ ะทวีตามจํานวนบุหรี่ท่ีสูบตอวัน ผูหญิงที่สูบบุหร่ีจะมีอัตราเสี่ยงตอการเกิดมะเร็งปากมดลูกสูงกวาผูหญิงทั่วไปถึง 4 เทา เพราะการสูบบุหร่ีทําใหภมู ิตานทานของรางกายลดลงมผี ลใหเกิดการตดิ เชือ้ ไดงาย ซงึ่ ทําใหม โี อกาสเปน มะเร็งได ผูหญิงสูบบุหรี่มีโอกาสเปนมะเร็งเตานมมากกวาผูท่ีไมสูบบุหรี่หรือผูที่เลิกสูบบุหรี่แลวถึงรอยละ 25 เพราะการสูบบุหรที่ าํ ใหร ะดับฮอรโมนเอสโตรเจน ซึ่งมีหนาท่ีในการปองกันการเกิดมะเร็งเตานม
96ลดลง และผูหญิงที่สูบบุหรี่จะมีโอกาสเส่ียงเปนโรคกล้ันปสสาวะไมอยูเพิ่มข้ึนมากกวาผูหญิงทั่วไปเปน2 เทา เพราะนิโคตนิ ไปทาํ ลายกลา มเนื้อที่ควบคุมการทํางานของกระเพาะปส สาวะ• ผูหญงิ ตั้งครรภกับการสบู บุหร่ี ผูหญิงสูบบุหร่ีจะมีโอกาสต้ังครรภชากวาผูไมสูบถึง 3 เทา และผูหญิงท่ีสูบบุหร่ีหรือไดรับควันบุหรี่ในระหวางต้ังครรภมีโอกาสเส่ียงตอการแทงสูงถึงรอยละ 100 ท้ังนี้เพราะการสูบบุหร่ีมีผลทําใหเกิดความผิดปกติดานการเจริญพันธุของผูหญิงอยางมากผูหญิงท่ีสูบบุหรี่เปนประจําจะมีรอบเดือนมาไมปกติมากกวาผูท่ีไมสูบบุหรี่ มีโอกาสต้ังครรภไดยากกวาผูหญิงทัว่ ไปถงึ 3 เทา และเมือ่ มีอายุสูงขึน้ ทําใหกระดกู เชงิ กรานหักงา ยเมอ่ื หกลม นอกจากน้ีจะมีโอกาสเปนโรคแทรกซอนระหวางตั้งครรภและคลอดบุตรได ไดแก อาการครรภเปน พษิ ความดันโลหติ สงู เลอื ดออกมาก คลอดลาํ บาก มแี นวโนมที่จะคลอดกอนกําหนดมากกวารอยละ50 ทาํ ใหท ารกมีโอกาสตายตง้ั แตอยใู นครรภเ พม่ิ ขึ้น 1.6 เทา ผลติ นํา้ นมไดน อยกวาปกติ และสารนิโคตินในเลือดสามารถถายทอดไปสูทารกโดยผานทางน้ํานมได หัวใจจะเตนเร็วพรอมกับระดับวิตามินซีในรา งกายจะลดลง กาซคารบอนมอนอกไซดในเลือดจะสูงข้นึ และถามแี นวโนม ทีจ่ ะเปนโรคหัวใจอยูแลวก็อาจทําใหเ กดิ อาการของโรคกําเรบิ ขน้ึ ได • แมส บู บุหรมี่ ผี ลกระทบตอ ลูกนอ ย การสูบบุหร่ีของแมระหวางตั้งครรภเปนสาเหตุสําคัญทําใหทารกท่ีคลอดออกมาเปนเด็กพิการทางปญญาหรือปญญาออน ทารกมีน้ําหนักแรกคลอดต่ํากวาทารกปกตปิ ระมาณ 170-200 กรมั ความยาวรอบศรี ษะและชวงไหลอ าจส้ันกวาทารกปกติ จากการศึกษาของศูนยควบคุมและปองกันโรครวมกับมหาวิทยาลัยเอ็มโมรี พบวา การสูบบุหรี่ระหวา งตัง้ ครรภ ทาํ ใหเ สีย่ งท่ีจะมีบตุ รปญญาออนสงู ข้ึนรอยละ 50 ความเส่ยี งน้ีจะทวขี ้ึนจนถึงรอ ยละ 85ในกรณีทีส่ ูบบุหรวี่ นั ละ 1 ซองหรอื มากกวา นน้ั ที่เปนเชน นเ้ี พราะนโิ คตินจากการสบู บุหรีท่ ําใหเ สน เลือดบริเวณรกหดตัวและกาซคารบอนมอนอกไซดทําใหเสนเลือดท่ีไปเลี้ยงทารกมีออกซิเจนนอยลง ผลก็คือทารกในครรภจะไดรับทั้งเลือดและออกซิเจนนอยกวาปกติทําใหทารกตัวเล็กกวาปกติ และจะมีทารกจํานวนหน่ึงมีโครงสรางของสมองไมสมบูรณ ซ่ึงจะมีผลตอระบบความคิดที่บกพรอง ออนแอ มีโอกาสเปนโรคเรื้อรังสูงขึ้น จากการติดตามเด็กท่ีเกิดจากแมซึ่งขณะตั้งครรภสูบบุหร่ีมากกวา 10 มวนตอวันพบวา เม่ือเด็กอายุได 7-11 ป จะเต้ียกวาเด็กที่เกิดจากแมที่ไมสูบบุหร่ี ความสามารถในการอานหรือคิดคํานวณชากวาปกติ 3-5 เดือน และเด็กกลุมน้ีจะมีระดับไอคิวลดลง 4 จุด ซ่ึงแมวาจะดูเปนเรื่องเล็กนอยแตร ะดบั ไอคิวทลี่ ดลงน้เี ทยี บเทา ไดก ับเดก็ ท่ไี ดร บั ผลกระทบในระดบั กลางจากพษิ ของสารตะก่ัวอนั มีผลตอระดบั ไอควิ หรือพฒั นาการทางสมองของเด็ก ซงึ่ จะสงผลกระทบตอ เดก็ ในระยะยาวอยางแนนอน
97 ใบงานที่ 1“บหุ รี.่ ..ควันราย ทําลายผหู ญงิ ”จดุ ประสงคก ารเรยี นรู 1. วเิ คราะหผลกระทบในการสูบบหุ รีข่ องผูห ญงิ ได (ความรู) 2. เขยี นคาํ ขวญั รณรงคป องกนั และแกป ญหาการสูบบุหรขี่ องผหู ญงิ ได (ทกั ษะกระบวนการ)คําชแี้ จง 1. แบงนักเรียนเปนกลุมๆ ละ 5 คน เพื่อศึกษาใบความรูท่ี 1 เร่ือง “บุหร่ีกับผูหญิง” พรอมท้ัง ศึกษาคน ควา ขอ มูลเพม่ิ เตมิ จากสือ่ และแหลงการเรียนรอู ืน่ ๆ เพอ่ื นํามาวิเคราะหภ ายในกลมุ 2. นกั เรียนแตละกลมุ รวมกนั วเิ คราะหวจิ ารณแ ละสรุปใหค รอบคลมุ ในประเด็นตอ ไปน้ี โดย เขียนเปน แผนภาพความคดิ (Mind Mapping) - วัยรนุ หญิงสบู บุหรี่ เพอื่ นดๆี หมางเมนิ - ผหู ญิงทสี่ ูบบุหรี่มแี ตโ รครมุ เรา - ผูห ญงิ ตง้ั ครรภกบั การสูบบหุ ร่ี - แมสูบบหุ ร่ีมีผลกระทบตอ ลกู นอย 3. เขียนคาํ ขวัญรณรงคปอ งกันและแกปญ หาการสบู บุหรี่ของผูห ญงิ คําขวญั : ………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………..กลมุ ที่ ....................... ชอ่ื กลุม ............................................................................. ชัน้ ...............................
98 เฉลยใบงานที่ 1 “บหุ ร่.ี .. ควันราย ทาํ ลายผหู ญงิ ”จุดประสงคการเรยี นรู 1. วเิ คราะหผลกระทบในการสบู บุหรี่ของผหู ญงิ ได (ความร)ู 2. เขยี นคําขวัญรณรงคป องกันและแกปญ หาการสบู บุหร่ขี องผหู ญงิ ได (ทกั ษะกระบวนการ)คําชี้แจง 1. แบงนักเรียนเปนกลุมๆ ละ 5 คน เพ่ือศึกษาใบความรูที่ 1 เร่ือง “บุหรี่กับผูหญิง” พรอมท้ังศึกษาคนควาขอ มลู เพ่ิมเติมจากส่ือและแหลง การเรียนรูอ่นื ๆ เพ่ือนาํ มาวเิ คราะหภ ายในกลุม 2. นกั เรียนแตล ะกลมุ รว มกนั วเิ คราะหว จิ ารณและสรุปใหค รอบคลุมในประเดน็ ตอ ไปนี้โดย เขียนเปนแผนภาพความคดิ (Mind Mapping) - วยั รุน หญงิ สูบบุหร่ี เพ่ือน ดี ๆ หมางเมนิ - ผูหญิงทส่ี บู บหุ รีม่ ีแตโรครุมเรา - ผหู ญงิ ตั้งครรภกบั การสูบบุหรี่ - แมสูบบหุ ร่ีมผี ลกระทบตอ ลกู นอ ย 3. เขียนคําขวัญรณรงคป องกันและแกป ญหาการสบู บหุ รีข่ องผูห ญิง- ขาดความสดช่ืน แจมใส ดูแกกวาวัย แนวคาํ ตอบ - เปนโรคหัวใจ- เปน ทรี่ ังเกยี จของเพ่อื น ๆ และเพศตรงขาม - แกกอนวัย 10 ป- เปน ที่ติฉนิ นินทา ผหู ญงิ ที่สูบบหุ ร่ี - เปนมะเร็งเตานม- เปน ภาพลักษณทไี่ มดี มีแตโรครมุ เรา - เปน มะเรง็ ปอดมากกวา ผูไ มสูบ 10 เทา- ทาํ ใหบ ุคคลท่ีเรารัก เชน พอแมเสียใจและ - เปนมะเรง็ ปากมดลกู มากกวา ผูไมส บู 4 เทาอบั อายวยั รุน หญิงสบู บุหรี่ บุหร.่ี ..ควนั รา ย ผูห ญิงต้ังครรภเพือ่ นดี ๆ หมางเมนิ ทาํ ลายผูหญิง กับการสูบบุหรี่- ตายในครรภ แมสูบบหุ รมี่ ี - แทง ลูก- นํ้าหนกั นอย ผลกระทบตอลูกนอ ย - โรคแทรกซอ น- เปนโรคเรื้อรงั - เปนโรคกระดูกผุ- คลอดกอนกําหนด - ต้ังครรภย ากกวาผไู มสูบ 3 เทา- พัฒนาการชา สมองพกิ าร คาํ ขวญั “บหุ รี่พิษราย ทําลายความสวย จนหรือรวย ก็ตอ งมวยมรณา”
99 กลุม สาระการเรยี นรสู ขุ ศึกษาและพลศึกษา โรงเรียน........................................... รายวิชาโรงเรยี นปลอดบหุ รี่ (สาระการเรียนรเู พิม่ เตมิ ) ชว งช้ันที่ 3 (ม.1-ม.3) หนว ยการเรียนรทู ่ี 2 เรื่อง “บุหร่ีมผี ลกระทบ เปนจุดจบของชีวติ ” แผนการจัดการเรยี นรทู ่ี 7 เร่ือง “บานปลอดบุหร่ี ทกุ ชีวีมคี วามสุข” เวลา 1 ช่วั โมง1. มาตรฐานการเรียนรู มาตรฐานหลัก พ 4.1 เห็นคุณคาและมีทักษะในการสรางเสริมสุขภาพ การดํารงสุขภาพ การปองกันโรค และการสรา งเสริมสมรรถภาพเพ่อื สุขภาพ มาตรฐานชว งช้นั ขอ 1และ 32. ผลการเรยี นรทู ค่ี าดหวงั รู เขาใจ ตระหนักถึงพิษภัยของบุหรี่ ท่ีมีผลกระทบตอครอบครัว และมีแนวทางปองกันผลกระทบของบหุ รี่ทจี่ ะเกดิ กับครอบครัวได3. จุดประสงคการเรียนรู 3.1 วเิ คราะหผ ลกระทบของการสบู บหุ รีท่ ม่ี ีตอครอบครัวได (ความร)ู 3.2 ศึกษาวิเคราะหแ ละกําหนดแนวทางการพัฒนาบานใหปลอดจากบหุ รไ่ี ด (ทักษะกระบวนการ) 3.3 อธบิ ายผลดีของการท่ีบา นปลอดบหุ ร่ไี ด (เจตคต)ิ4. สาระการเรียนรู 4.1 ผลกระทบของการสบู บหุ รที่ มี่ ตี อครอบครัว 4.2 แนวทางการพัฒนาบา นใหปลอดจากบหุ รี่ 4.3 ผลดขี องการท่ีบานปลอดบุหร่ี5. สาระสําคัญ ครอบครัวเปนสถาบันแรกของสังคมท่ีมีสวนรวมสําคัญตอการสรางและพัฒนากําลังคนใหมีคุณภาพไปสูการพัฒนาสังคม และประเทศชาติ หากมีผูสูบบุหรี่ในครอบครัวก็จะสงผลกระทบตอคุณภาพชีวิตของคนในครอบครัว และเปนตัวอยางไมดีตอเด็กและเยาวชน ดังน้ัน การชวยกันทําใหครอบครัวปลอดบุหรี่จึงเปนการสรางความสุข ความปลอดภัยของทุกคนและยังสงผลไปสูการพัฒนาสงั คม และประเทศชาตนิ นั่ เอง6. กระบวนการเรียนรู ข้ันนาํ 6.1 นกั เรยี นรวมกันฟงเพลง “บา นของเรา” พรอมท้งั รองตามและปรบมือเขาจังหวะ แลวรวมกันแสดงความรสู ึก และความคดิ เหน็ ดังน้ี
100 - ฟง เพลงนแ้ี ลว รสู ึกอยางไร และเพลงไดส่ือความหมายวา อยางไรบา ง - นักเรียนคิดวา บา นทมี่ ีความสขุ ทัง้ กายและใจนัน้ มอี งคประกอบสําคญั อะไรบาง - หากในบานของเรามีผูสูบบุหร่ีจะมีผลกระทบตอความสุขทางกายและใจของคนในบานอยา งไรบา ง ครูใหขอเสนอแนะเพ่ิมเติม และนํานักเรียนทบทวนความรูเดิมเรื่อง สารพิษในบุหร่ีกับผลกระทบทีม่ ีตอ สุขภาพ ขน้ั สอน 6.2 ครูต้ังคําถามวา “มีใครบางที่มีสมาชิกในบานสูบบุหรี่” เม่ือนักเรียนยกมือ เชิญนักเรียนออกมาหนา ชน้ั และต้งั คําถามเพือ่ ถามนกั เรยี น ดังนี้ 1. บคุ คลทสี่ บู บหุ ร่ใี นครอบครัวของนักเรยี นมใี ครบา ง 2. ปรมิ าณบหุ รี่ทีเ่ หน็ บคุ คลในครอบครัวสูบตอ วนั 3. ลักษณะการสูบบุหรีใ่ นบานของบุคคลในครอบครัว ในบาน/นอกบาน 4. ลักษณะกิจกรรม/การกระทาํ ที่บุคคลในครอบครวั มกั จะทาํ ขณะสูบบุหรี่ 5. ชวงเวลาท่บี คุ คลในครอบครวั สบู บุหรี่ 6. พฤตกิ รรมของนักเรียนเม่อื เห็นบคุ คลในครอบครวั สูบบุหร่ี 7. เคยรสู ึกไมสบายตอ การสบู บุหรี่ของบุคคลในครอบครวั หรอื ไมแ สดงออกอยา งไร 8. คาดวาบคุ คลในครอบครวั รับรวู า “บุหรีม่ โี ทษหรอื พิษภยั ” หรอื ไม 9. เคยหวาดกลัววา บคุ คลในครอบครัวจะไดรบั อันตรายจากบุหร่ี หรอื ไม 10. ระบโุ อกาสทนี่ กั เรยี นจะตดั สินใจสูบบหุ รี่ในอนาคต 11. นักเรียนเคยขอรองใหสมาชิกในครอบครัวท่ีสูบบุหร่ี เลิกสูบบุหร่ีหรือไม มีปญหาอุปสรรคอะไรทไ่ี มสามารถทาํ ใหบ า นปลอดบหุ ร่ไี ด ครูถามคําถามครั้งละ 1 คําถาม และใหนักเรียนตอบทีละคน ในขณะที่นักเรียนตอบเพื่อนที่เปนผูฟงจดบันทึกในรูปแบบแผนภาพความคิด (Mind Mapping) นักเรียนรับแจกเอกสารแผนพับเร่ือง“เหตผุ ลท่คี ุณควรเลิกบหุ รี่เพื่อคนทค่ี ณุ รัก” เพอ่ื นาํ ไปมอบใหบ คุ คลในบานของนกั เรยี นทส่ี บู บุหร่ี 6.3 แบงนักเรียนเปนกลุมๆ ละ 5-7 คน รวมกันปฏิบัติใบงานที่ 1 เรื่อง “ผลกระทบของการสูบบุหร่ีที่มีตอครอบครัว” โดยระดมสมองถึงผลกระทบท่ีสมาชิกในครอบครัวไดรับจากการที่มีสมาชิกในครอบครัวสบู บุหร่ี เสร็จแลวบนั ทึกลงในใบงาน ตัวแทนกลุมออกมารายงานและอภปิ รายซกั ถาม 6.4 ครูต้ังคําถามวา “มีใครบางที่มีสมาชิกในบานเคยสูบบุหรี่และสามารถเลิกบุหร่ีไดสําเร็จ”เม่อื นกั เรยี นยกมอื เชิญนกั เรียนออกมาหนาช้นั และตั้งคาํ ถามเพือ่ ถามนกั เรียนดังน้ี 1. บคุ คลในบา นที่เคยสูบบหุ รี่และสามารถเลกิ บุหรี่ไดส ําเรจ็ คอื ใคร 2. อะไรเปนแรงบนั ดาลใจใหเ ขาเลกิ สูบบหุ รี่ 3. เลกิ สบู บุหรี่มานานเทาไหร
101 4. วธิ กี ารทใี่ ชในการเลกิ สูบบหุ ร่ี 5. มปี ญหาอปุ สรรคหรอื ไมขณะใชค วามพยายามในการเลิกสบู บุหร่ี 6. สิ่งดีๆ ที่เกิดข้ึนหลงั เลิกสูบบหุ รี่ 7. นักเรยี นรูส ึกอยางไรที่บคุ คลในบานเลิกสบู บุหรไ่ี ด ครูถามคําถามคร้ังละ 1 คําถาม ใหนักเรียนตอบทีละคน ในขณะท่ีนักเรียนตอบเพื่อนที่เปนผูฟงจดบันทึกในรปู แบบ Mind Mapping 6.5 นักเรียนปฏิบัติใบงานที่ 2 เรื่อง “ทําอยางไรบานจึงจะปลอดบุหรี่” แตละกลุมแขงขันกันคิดหาวิธีการที่ทําใหบานปลอดบุหร่ี แลวบันทึกลงในใบงาน และเลือกวิธีท่ีดีท่ีสุดกลุมละ 1 วิธี ออกมานําเสนอ โดยนักเรียนรวมกันอภิปรายซักถามถึงขอดี ขอเสียของแตละวิธีและลงมติเลือกวิธีท่ีดีท่ีสุดมอบรางวลั แกกลมุ ทชี่ นะเลศิ ข้นั สรปุ 6.6 ครูและนักเรียนรวมกันสรุปถึงผลดีของการท่ีบานปลอดบุหร่ี และใหกําลังใจนักเรียนท่ีมีสมาชิกในบานสูบบุหร่ี เสนอแนะใหทดลองนําวิธีที่เหมาะสมไปใช หลังจากนั้นใหครูแจกแผนพับ“บานปลอดบุหร”ี่ แกนักเรียนทุกคน7. วิธีการจัดการเรยี นรู 7.1 การเรียนรูท่เี นน ทักษะกระบวนการคดิ 7.2 การเรียนรูทใ่ี ชก ระบวนการกลุม8. การบูรณาการ 8.1 บูรณาการกับกลุมสาระการเรียนรูศิลปะ (ฟงเพลง รองเพลง และวิจารณเพลง “บานเรา”การวาดภาพการต ูนประกอบคําขวญั ) 8.2 บูรณาการกับกลุมสาระการเรียนรูสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม (ความสัมพันธและการแกป ญ หาในครอบครัว)9. สอื่ /แหลงการเรยี นรู 9.1 แถบบันทึกเสียงและเน้ือรอ งเพลง “บานของเรา” 9.2 ส่อื เอกสาร “บานปลอดบุหร่”ี (Smoke Free Home) 9.3 ส่อื เอกสาร “ทําอยางไรจะเลิกบุหรไี่ ดสําเร็จ” 9.4 ใบงานท่ี 1 เรอื่ ง “ผลกระทบของการสูบบุหรีท่ ม่ี ีตอ ครอบครัว” 9.5 ใบงานที่ 2 เร่อื ง “ทาํ อยางไรบานจงึ จะปลอดบหุ ร่”ี 9.6 แบบสาํ รวจความคดิ เหน็ ของนกั เรียนตอ บุคคลในครอบครวั ที่สบู บหุ รี่10. การวดั และประเมินผล 10.1 วธิ ีการวดั 1) การประเมนิ กระบวนการปฏบิ ตั ิงานกลุม 2) การประเมินกระบวนการเรียนรู “หวั ใจนักปราชญ” 10.2 เคร่อื งมอื วัด
102 1) แบบประเมนิ กระบวนการปฏิบัตงิ านกลมุ 2) แบบประเมินกระบวนการเรียนรู “หวั ใจนกั ปราชญ”11. กจิ กรรมเสนอแนะ 11.1 ครอู าจจดั กระบวนการเรียนรใู หน ักเรยี นชวยกันคิดหาวิธีการหรอื คําพูดในเชงิ สรา งสรรค ท่ีนักเรียนจะนําไปใชกับพอแมหรือคนในครอบครัวท่ีสูบบุหรี่เพ่ือรวมกันทําให “บานปลอดบุหร่ี”และสงเสรมิ ใหน กั เรียนนําไปใชจริง 11.2 ใหนักเรียนท่ีมีบุคคลในบานสูบบุหร่ีกรอกแบบสํารวจความคิดเห็นของนักเรียนตอผปู กครองท่ีสบู บุหร่ี เพ่ือสรุปรายงานผูป กครองและหนวยงานทีเ่ กย่ี วขอ งทราบตอไป ลงชื่อ........................................................................ (.....................................................................) ตาํ แหนง................................................................... ครผู ูสอน
103บนั ทึกหลงั สอน1. ผลการจัดการเรยี นรู....................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................2. ปญหาและอปุ สรรค....................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................3.วธิ ีการแกป ญหา.................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... ลงช่อื ........................................................................ (.....................................................................) ตําแหนง ................................................................... ครผู ูส อนความคดิ เห็นของผูบรหิ ารสถานศกึ ษา/ผทู ไ่ี ดร บั มอบหมาย............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... ลงชื่อ........................................................................ (.....................................................................) ตาํ แหนง ................................................................... ผูอาํ นวยการสถานศกึ ษา
104 ส่ือการเรยี นรูเนอ้ื รอ งเพลง “บา นของเรา”เนื้อเพลง “บานของเรา” คาํ รอง-ทํานอง เนรญั ชราบา นคอื วิมานของเรา เราซือ้ เราเชา เราปลูกของเราตามใจยอ มเปนสถานทิพยว มิ านพอหาได เปน ที่เกดิ ที่ตาย ทีเ่ ราสรา งไวค อยทาบานคือวมิ านของคน ถึงแมนยากจนกต็ องด้นิ รนอยา จนปญ ญาหาบา นสักหลงั ทีพ่ อประทงั วิญญา เพ่ือสนทิ ในนิทรา ใหต น่ื มามองโลกชน่ื ใจ บานฉันมีเพลงฝนใหฟง มเี สยี งระฆังจากกังสดาลพล้ิวไป มีสวนไมดอกผลิบานกานชอ ใบ มีความรกั มนี า้ํ ใจ มีใหอ ภยั มกี รุณาบา นคือวิมานของเรา ยามพบความเศรา รบี กลบั บานเราจะเปรมปรดี าเพราะบา นมีรกั น้าํ ใจ อภยั กรุณาคอยเราอยูทุกเวลา ในชายคาเขตบานของเรา
105 สอ่ื การเรียนรูเอกสาร “บานปลอดบุหรี”่
106 ใบงานท่ี 1เรื่อง “ผลกระทบของการสูบบุหร่ที ่มี ีตอครอบครวั ”จุดประสงคการเรยี นรู วเิ คราะหผ ลกระทบของการสบู บุหรีท่ มี่ ีตอครอบครวั ได (ความรู)คาํ ชแี้ จง แบงนักเรียนออกเปนกลุมๆ ละประมาณ 5-7 คน รวมกันระดมความคิดเห็นถึงผลกระทบที่ สมาชิกในครอบครัวไดรับจากการที่สมาชิกในครอบครัวสูบบุหรี่ โดยบันทึกผลการระดม ความคิดเปนแผนภาพความคิด (Mind Mapping) อยางอิสระ เสร็จแลวสงตัวแทนกลุมออกมา รายงานและอภปิ รายซักถาม
107 แบบเฉลยใบงานท่ี 1 เร่ือง “ผลกระทบของการสูบบุหรีท่ มี่ ีตอครอบครัว”จุดประสงคการเรียนรู 1. วเิ คราะหผลกระทบของการสูบบหุ รที่ ีม่ ตี อครอบครัวได (ความร)ูคําชแ้ี จง แบง นกั เรยี นเปนกลุมๆ ละประมาณ 5 คน รว มกนั ศกึ ษาสื่อเอกสาร “บานปลอดบหุ ร”่ี (Smoke Free Home) และส่ือจากแหลง อนื่ ๆ มารว มกนั วเิ คราะหและสงั เคราะหเปน แผนภาพ ความคดิ (Mind Mapping) เรื่อง “ผลกระทบของการสบู บหุ รท่ี ม่ี ตี อ ครอบครัว” บนกระดาษ การดแผน ใหญ และใชค วามคิดสรางสรรคตกแตง และระบายสแี ผนภาพใหป ระณตี สวยงามทําใหสญู เสียบคุ คล แนวคําตอบ เปน แบบอยางท่ไี ม ในครอบครวั ดีตอ ลกู หลาน ทาํ ใหส ขุ ภาพจติ ของ คนในครอบครัวเสอื่ มทําใหมมี ลพิษในบาน ผลกระทบของการสบู บุหร่ีที่มตี อ มผี ลกระทบตอ เดก็ ใน ั ครรภหลายดาน และมีคนในครอบครวั ไดรับ โอกาสทําใหเด็กพกิ ารไดอนั ตรายจากควันบหุ รี่ ครอบครวั เสียคาใชจ าย โดยเปลา ประโยชน คนในครอบครวั สุขภาพเสื่อมลง
108 ใบงานท่ี 2 เรื่อง “ทําอยางไร บานจึงจะปลอดบหุ ร่ี”จดุ ประสงคก ารเรียนรู ศึกษาวเิ คราะหและกาํ หนดแนวทางการพฒั นาบานใหปลอดบหุ ร่ีได (ทกั ษะ กระบวนการ)คําชแ้ี จง ใหน ักเรียนนาํ ปญ หาสภาวะการสบู บหุ รี่ในครอบครัวมารว มกนั ระดมความคิดเห็นหาวิธี ปองกนั และแกป ญหาผลกระทบของการสบู บหุ ร่ใี นครอบครัว ในหวั ขอ “ทําอยางไรบา นจึง จะปลอดบุหรี่” ทําอยา งไรบา นจึงจะปลอดบหุ รี่กลุม ที่ ..................... ซึง่ กลมุ ....................................................................... ช้ัน .......................................1. …………………………………………………………………………………………………………2. …………………………………………………………………………………………………………3. …………………………………………………………………………………………………………4. …………………………………………………………………………………………………………5. …………………………………………………………………………………………………………6. …………………………………………………………………………………………………………***หมายเหตุ เกณฑการใหค ะแนนใชแบบประเมนิ กระบวนการปฏิบตั งิ านกลุม
109 แบบเฉลยใบงานท่ี 2 เร่ือง “ทําอยางไร บา นจงึ จะปลอดบหุ ร่ี”จุดประสงคการเรียนรู 1. ศกึ ษาวเิ คราะหแ ละกาํ หนดแนวทางการพฒั นาบา นใหป ลอดจากบหุ ร่ไี ด (ทักษะกระบวนการ) 2. บอกประโยชนและคณุ คา ของการมีสว นรวมทาํ ให “บา นปลอดบุหร”่ี ได (เจตคต)ิคาํ ช้แี จง ใหน กั เรียนนาํ ปญ หาสภาวะการสบู บหุ รีใ่ นครอบครวั มารว มกนั ระดมความคดิ เหน็ หาวธิ ี ปอ งกนั และแกป ญ หาผลกระทบของการสบู บุหรใ่ี นครอบครวั ในหัวขอ “ทําอยางไรบานจงึ จะปลอดบุหรี่” แนวคําตอบ ทาํ อยา งไรบานจึงจะปลอดบหุ ร่ี 1. ไมอนุญาตใหทุกคนสูบบุหรี่ในบานรวมท้ังแขกท่ีมาเย่ียมบานโดยขอรองอยางสุภาพ และติดสัญลักษณหรอื ขอความ “บานปลอดบุหรี”่ เพอ่ื ยํา้ ใหทกุ คนรับรู 2. พยายามยํ้าถึงเหตุผลวาทําไมถึงตองกําหนดใหบานปลอดบุหรี่ โดยเนนเหตุผลดานสุขภาพมากกวาที่จะลงโทษผูทฝี่ า ฝนสูบบุหรใ่ี นบา น 3. หากมีใครคิดหรืออยากสูบบุหร่ีในบานใหหาอยางอื่นรับประทานหรือชวนทํากิจกรรมสนุกสนานแทนการสูบบุหรี่ 4. ไมอนุญาตใหใครก็ตาม เชน คนรับใช แมบาน พี่เล้ียงเด็ก หรือชางซอมตางๆ สูบบุหร่ีในบา นโดยเฉพาะหากมเี ด็กเลก็ ๆอยูดวยตองหามสบู บุหรี่โดยเด็ดขาด 5. นอกจากใหบานเปนเขตปลอดบุหร่ี แลวหากมรี ถยนตควรรวมกันทําใหรถเปนเขตปลอดบุหร่ีดวย เพราะรถเปน สถานท่คี บั แคบหากมกี ารสบู บหุ ร่ีทกุ คนกจ็ ะไดร บั ควนั และกลิน่ บุหร่ีก็จะติดอยูในรถเปนเวลานาน 6. ถาหากคนในบา นอยากเลิกบหุ รี่ ขอใหเปนกําลงั ใจใหเลกิ บหุ รี่ไดสําเรจ็ และแนะนําแหลง ใหคําปรกึ ษาเพ่อื เลกิ บหุ ร่หี รือโทร 1600 Quit line สายนีป้ ลอดบุหร่ี
110แบบสาํ รวจ ความคดิ เหน็ ของนกั เรยี นตอ บคุ คลในครอบครัวทสี่ บู บหุ ร่ี โรงเรยี น ................................................................คําช้ีแจง การสํารวจ ความคิดเห็นของนักเรียนตอบุคคลในครอบครัวที่สูบบุหรี่ เปนแนวทางท่ีนําไปสู การรณรงคแกไขปญหาผลกระทบของบุหรี่ตอครอบครัวตอไป จึงใครขอความรวมมือจาก นักเรียนในการตอบแบบสาํ รวจตามความจริงท่ีนกั เรยี นพบเหน็ตอนที่ 1 ขอ มลู ท่วั ไป1. เพศ { เพศชาย { เพศหญิง2. ระดับช้ัน { ม.1 { ม.2 { ม.3 { ม.4 { ม.5 { ม.63. บคุ คลท่ีสบู บหุ รใ่ี นครอบครัว{ บดิ า { มารดา { พ/่ี นอ ง ระบุ ................{ ญาติ ระบุ .............. { คนงานในบา น..................4. ปรมิ าณบุหรีท่ เ่ี ห็นบุคคลในครอบครัวสูบตอวนั{ 1-2 มวนตอ วัน { 3-5 มวนตอ วัน { 6-10 มวนตอ วนั{ 11-15 มวนตอ วัน { 16-20 มวนตอ วนั { 21-25 มวนตอวนั{ 1-2 ซองตอวนั { มากกวา 2 ซองตอ วนั5. ลกั ษณะการสูบบหุ รี่ในบานของบคุ คลในครอบครวั{ สูบบหุ รใ่ี นบาน { ออกไปสูบนอกตัวบาน { สบู บุหรน่ี อกร้วั บา น6. ลกั ษณะกจิ กรรม/การกระทําที่บุคคลในครอบครวั มกั จะสูบบุหร่ี{ สบู เวลานง่ั ดทู ีวีดว ยกนั { สบู เวลานง่ั กินขาวดวยกนั{ สูบในหอ งนอนเม่ือนกั เรยี นอยูดว ย { สบู เวลาพานักเรียนไปเที่ยว{ สูบเวลาทด่ี ่ืมสุรา { สบู เม่อื นั่งในรถกบั นักเรยี น{ อ่นื ๆ ระบุ ................................................7. ชว งเวลาที่บคุ คลในครอบครวั มักสบู บุหรี่{ ต่ืนนอนตอนเชา { หลงั อาหาร { เวลาวา ง{ เวลาที่เครยี ด { เวลาท่ดี ่มื สรุ า { อนื่ ๆ ระบุ ..................................8. พฤติกรรมของนกั เรียนเมื่อเห็นบุคคลในครอบครัวสบู บุหร่ี{เดนิ หนี { บอกใหด บั หรืออยา สบู บุหรี่{ฟองมารดาหรือผูใหญ { อน่ื ๆ ระบุ ..................................
111ตอนที่ 2 ความคดิ เหน็ ตอ การทบ่ี คุ คลในบานสบู บหุ ร่ี 1. ความคิดเหน็ ตอ การสูบบหุ รี่ของบคุ คลในครอบครวั {เท { ไมเท {ไมแนใ จ { อน่ื ๆ ระบุ ........................... 2. ทานเคยรสู กึ ไมสบาย เพราะการสูบบหุ ร่ขี องบคุ คลในครอบครวั หรอื ไม { เคยเปน ประจํา { เคยเปน บางครั้ง { ไมเ คยเลย 3. ทานคาดวา บคุ คลในครอบครวั รบั รวู า “บหุ ร่ีมโี ทษหรือพษิ ภยั ” { รวู า มีโทษหรือพษิ ภยั { ไมมีโทษหรอื พษิ ภยั { ไมแ นใ จ/ไมท ราบ ถาตอบวารู ระบโุ ทษหรอื พษิ ภัยของบุหร่ี ........................................................ 4. ทานเคยหวาดกลวั วาบคุ คลในครอบครวั จะไดรับอันตรายจากบุหรี่ { กลวั วาจะไมส บาย { กลัววาจะพกิ าร { กลวั วาจะเสยี ชีวิต { อน่ื ๆ ระบุ .................................................................................................... 5. ระบุความรสู กึ ที่บุคคลในครอบครัวสูบบหุ ร่ี { ชอบ { ไมชอบ { ไมแ นใ จ ระบเุ หตผุ ลทไ่ี มชอบ............................................................................................ 6. ระบโุ อกาสท่ีทานจะตดั สนิ ใจสูบบุหรใ่ี นอนาคต { สูบ { ไมสบู { ไมแ นใ จ ระบุเหตผุ ล............................................................................................................ 7. ระบุความตอ งการท่จี ะใหบคุ คลในครอบครวั เลิกสูบบหุ รี่ { อยากใหเ ลกิ บหุ รี่ { ไมอ ยากใหเลกิ { ไมแ นใ จ 8. ระบคุ วามกลาที่จะทาํ สิ่งตา งๆ เพ่อื ใหบคุ คลในครอบครวั ลดหรอื เลกิ สูบบุหร่ี { เอาปา ย “หามสูบบุหร่ไี ปติดในบาน” { เอาหนังสอื วธิ เี ลกิ สบู บุหร่ใี หอ า น { ขอรอง/แนะนาํ /ชกั ชวนใหเลิกสบู บหุ ร่ี { ชกั ชวนใหเขา รับการบาํ บัดเพ่อื เลิกสบู บหุ รี่ { อืน่ ๆ ระบุ ....................................................................................................... 9. ความรสู ึกทอ่ี ยากจะบอกบคุ คลในครอบครวั เรื่องการเลิกบหุ ร่ี ........................ .............................................................................................................................. 10. ทานตองการ เอกสาร โปสเตอร สตกิ เกอร รณรงคเ ลิกบหุ รีเ่ พ่อื นาํ ไปตดิ ทบ่ี านหรอื ไม { ตองการ { ไมต องการ
112 กลุมสาระการเรยี นรสู ขุ ศึกษาและพลศกึ ษา โรงเรยี น........................................... รายวิชาโรงเรยี นปลอดบหุ ร่ี (สาระการเรียนรูเพม่ิ เติม) ชวงช้นั ที่ 3 (ม.1- ม.3) หนว ยการเรยี นรทู ่ี 2 เร่ือง “บุหร่ีมผี ลกระทบ เปน จดุ จบของชวี ติ ” แผนการจัดการเรยี นรทู ่ี 8 เรอ่ื ง “ยิ่งสบู ยง่ิ จน มืดมนทงั้ ชวี ติ ” เวลา 1 ชั่วโมง1. มาตรฐานการเรยี นรู มาตรฐานหลัก พ 4.1 เห็นคุณคาและมีทักษะในการสรางเสริมสุขภาพ การดํารงสุขภาพการปอ งกนั โรคและการสรางเสริมสมรรถภาพเพอ่ื สขุ ภาพ มาตรฐานชว งชน้ั ขอ 3 มาตรฐานหลัก พ 5.1 ปองกันและหลีกเลี่ยงปจจัยเสี่ยง พฤติกรรมเสี่ยงตอสุขภาพ อุบัติเหตุการใชย าสารเสพติด และความรุนแรง มาตรฐานชว งชน้ั ขอ 1 – 32. ผลการเรยี นรูท คี่ าดหวงั รู เขา ใจ และตระหนกั ในผลกระทบของการสูบบุหรีท่ ่ีมีตอเศรษฐกจิ3. จดุ ประสงคก ารเรยี นรู 3.1 วิเคราะหผลกระทบที่มีตอ เศรษฐกจิ จากการสบู บหุ รี่ได (ความรู) 3.2 ใชกระบวนการศึกษาวิเคราะหผลกระทบที่มีตอเศรษฐกิจจากการสูบบุหร่ีของคนในชุมชนได (ทกั ษะกระบวนการ) 3.3 บอกประโยชนและคุณคา ทางเศรษฐกจิ เมอ่ื เลกิ สบู บุหรไี่ ด (เจตคติ)4. สาระการเรยี นรู 4.1 ผลกระทบที่มตี อเศรษฐกิจจากการสูบบหุ รี่ 4.2 การศึกษาวเิ คราะหผ ลกระทบทีม่ ีตอ เศรษฐกิจจากการสูบบุหรขี่ องคนในชมุ ชน 4.3 ประโยชนและคุณคา ทางเศรษฐกิจจากการเลกิ สบู บุหรี่5. สาระสาํ คญั บหุ รี่เปน ภยั เงียบท่ีนอกจากจะคกุ คามสุขภาพและชีวิตของผูสูบแลวยังมีผลกระทบตอความสูญเสียทางเศรษฐกจิ ระดับบคุ คล ระดบั ชาติ และระดับโลกอีกดวย ซึง่ เปน ทงั้ ความสูญเสยี ทสี่ ามารถคาํ นวณไดและไมสามารถคํานวณได แตก็สงผลเสียอยางมหาศาลตอสภาวะทางเศรษฐกิจ ชีวิตความเปนอยู และความเจริญมั่นคงของสังคม ดังนั้นวิธีการเดียวที่จะชวยบรรเทาความเสียหายดังกลาวไดก็คือการรณรงคเพ่อื การไมสบู บหุ รี่น่ันเอง
1136. กระบวนการเรียนรู ข้ันนาํ 6.1 นักเรียนรวมกันพิจารณาสื่อโปสเตอร “หมดมวน หมดตัว” และ “สินเช่ือเพ่ือฌาปนกิจ”พรอ มท้งั รว มกันแสดงความรสู กึ และวจิ ารณความหมายของโปสเตอรตามความเขา ใจของนกั เรียน ครูใหขอเสนอแนะเพิ่มเติมและเชื่อมโยงมาถึงการเรียนรูผลกระทบจากการสูบบุหรี่ที่มีตอเศรษฐกจิ ดงั คํากลาวทว่ี า “ยง่ิ สูบยิง่ จน” ซึง่ คนสวนใหญม ักมองไมเหน็ ความสาํ คัญ ขัน้ สอน 6.2 แบงนักเรียนออกเปน 6 กลุม แตละกลุมจับสลากเลือกกิจกรรมระดมความคิดเห็น กลุมละ 1ใบงานจากจํานวน 6 กจิ กรรม ดงั นี้ ใบงานท่ี 1 เรอื่ ง “ยง่ิ สูบยงิ่ จน จะทุกขท นไปทาํ ไม” ใบงานท่ี 2 เรอ่ื ง “คิดเลขงาย ๆ กับความเสยี หายจากบุหรี่ ใบงานที่ 3 เร่อื ง “ข้ึนภาษบี หุ รี่ชว ยใหเ ด็กดไี มเสยี คน” ใบงานท่ี 4 เรือ่ ง “การสูบบหุ รข่ี องคนกรุง เรอ่ื งยงุ ที่ตอ งรบี แก” ใบงานที่ 5 เร่อื ง “คาบุหร่ีของพอ หนขู อเปน คา อาหาร” ใบงานที่ 6 กรณศี กึ ษา เรื่อง “สตีฟ ยอดนกั รณรงค” 6.3 ในแตละกิจกรรมจะมีใบความรู และใบงานใหนักเรียนรวมกันระดมความคิดเห็นเปนกระบวนการกลุมในการวิเคราะหผลกระทบตอเศรษฐกิจจากการสูบบุหร่ี และวิธีการปองกันและแกปญ หา ครสู งั เกตกระบวนการเรียนรู และใหค าํ ปรกึ ษาแตล ะกลุม 6.4 ใหตัวแทนกลุมนําเสนอผลงาน เพ่ือแลกเปล่ียนเรียนรูซึ่งกันและกัน พรอมนําผลงานติดแสดงบนปา ยนเิ ทศ 6.5 ครูนํานักเรียนสรุปผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการสูบบุหร่ี ซ่ึงเปนผลกระทบที่สามารถคํานวณความสูญเสียได และไมสามารถคํานวณได พรอมท้ังใหนักเรียนแตละกลุมรับเอกสารแบบสัมภาษณเพื่อศึกษาวิเคราะหผลกระทบท่ีมีตอเศรษฐกิจจากการสูบบุหร่ีของคนในชุมชน เพ่ือนําไปวางแผนสมั ภาษณเกบ็ ขอ มูลจากผทู ีส่ ูบบุหรี่ในชมุ ชนใกลบา น ข้นั สรุป 6.6 นักเรียนรวมกันสรุปและแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับประโยชนและคุณคาของเศรษฐกิจหากสามารถลดอัตราการสูบบหุ รี่ไดตามเปาหมาย และจดบนั ทกึ ลงในสมดุ7. วธิ กี ารจดั การเรียนรู 7.1 การเรียนรทู ่ีเนน ทกั ษะกระบวนการคิด 7.2 การเรยี นรทู ี่ใชกระบวนการกลุม
1148. การบรู ณาการ 8.1 บูรณาการกับกลุมสาระการเรียนรูการงานอาชีพและเทคโนโลยี (ขอมูลทางเศรษฐกิจการสรุปเสนอขอ มลู ดว ยคอมพวิ เตอร) 8.2 บรู ณาการกบั กลุมสาระการเรียนรูคณติ ศาสตร (คิดเลขงา ยๆ กบั ความเสยี หายทางเศรษฐกจิ ) 8.3 บูรณาการกับกลุมสาระการเรียนรูสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม (การสํารวจและศึกษาวเิ คราะหผ ลกระทบทมี่ ตี อเศรษฐกิจจากการสบู บหุ รขี่ องคนชมุ ชน)9. ส่อื /แหลง การเรียนรู 9.1 สื่อโปสเตอร “หมดมวนหมดตวั ” และ “สินเช่อื เพื่อฌาปนกิจ” 9.2 ใบงานกจิ กรรมกลุม จาํ นวน 6 ใบงาน 9.3 แบบสาํ รวจและศกึ ษาวิเคราะหผ ลกระทบทม่ี ีตอ เศรษฐกจิ จากการสูบบหุ รีข่ องคนในชุมชน 9.4 กระปุกออมสินของมลู นธิ ิรณรงคเพอ่ื การไมสูบบหุ รี่10. การวดั และประเมินผล 10.1 วธิ กี ารวัด 1) ประเมินผลการแบง กลุมระดมความคิดเหน็ 2) การประเมินกระบวนการปฏิบตั งิ านกลมุ 3) การประเมนิ กระบวนการเรยี นรู “หวั ใจนกั ปราชญ” 10.2 เครื่องมือวัด 1) แบบประเมินผลการแบงกลมุ ระดมความคดิ เห็น 2) แบบเมินกระบวนการปฏบิ ัตงิ านกลุม 3) แบบประเมินกระบวนการเรียนรู “หัวใจนกั ปราชญ” 10.3 เกณฑก ารวัด ทุกกิจกรรม ถือเกณฑการผา นรอ ยละ 5011. กิจกรรมเสนอแนะ 11.1 การใหนักเรียนออกไปสํารวจผลกระทบที่มีตอเศรษฐกิจจากการสูบบุหรี่ของคนในชุมชนหากเวลาไมพอ อาจใชนอกเวลาเรียนและครูควรระมัดระวังในความปลอดภัยของนักเรียนเปนพิเศษ ครูควรเดินทางไปดวย และติดตอ ประสานงานกบั ผูน าํ ชมุ ชนทุกครั้ง 11.2 ผลการสํารวจและวเิ คราะหขอมูล สามารถนําเสนอหนวยงานสาธารณสุขในชุมชน และใชในการวางแผนรณรงคเ พ่อื การไมสบู บุหรีใ่ นชมุ ชนในโอกาสตอ ไป ลงชอื่ ........................................................................ (......................................................................) ตาํ แหนง ................................................................... ครูผูสอน
115บันทกึ หลังสอน1. ผลการจดั การเรียนรู...............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................2. ปญหาและอุปสรรค...............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................3. วิธกี ารแกปญ หา............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... ลงชอื่ ........................................................................ (......................................................................) ตําแหนง................................................................... ครูผูสอนความคิดเหน็ ของผูบรหิ ารสถานศึกษา/ผทู ไ่ี ดร บั มอบหมาย............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... ลงชื่อ........................................................................ (......................................................................) ตําแหนง ................................................................... ผอู าํ นวยการสถานศึกษา
116 สื่อการเรียนรูสอื่ โปสเตอร “หมดมวน หมดตัว”
117 ใบงานท่ี 1เรือ่ ง “ย่ิงสบู ย่ิงจน จะทกุ ขทนไปทาํ ไม”จุดประสงคการเรยี นรู 1. วเิ คราะหผลกระทบที่มตี อ เศรษฐกจิ จากการสบู บุหรี่ได (ความร)ู 2. ใชก ระบวนการศกึ ษาวิเคราะหผลกระทบที่มีตอ เศรษฐกจิ จากการสบู บหุ ร่ีของคนในชมุ ชนได (ทักษะกระบวนการ) 3. บอกประโยชนแ ละคุณคา ทางเศรษฐกจิ เมอื่ เลกิ สูบบหุ รไ่ี ด (เจตคต)ิคําช้ีแจง ใหนักเรียนรวมกันอานขอมูลความรู เร่ือง “ยิ่งสูบยิ่งจน จะทุกขทนไปทําไม” และระดม ความคดิ เหน็ ในกลมุ เพ่อื ตอบคําถามตอนทา ยของขอมลู ความรูน้ี “ย่งิ สบู ยงิ่ จน จะทกุ ขทนไปทําไม” ผูมีรายไดตอเดือนไมเกิน 2,500 บาท มีอัตราการสูบบุหรี่เปนประจําสูงสุดรอยละ 40.1ขณะท่ผี ทู ีม่ รี ายไดม ากกวา 10,000 บาทตอ เดือน สูบบุหร่ีเพียงรอยละ 9.4 เทา น้นัการสูบบหุ รี่ จําแนกตามรายไดต อเดอื น รอยละของการสูบบหุ ร่ี 40.1 รายไดต อ เดือน (บาท) 20.9 ไมเกิน 2,500 19.6 2,501-5,000 9.4 5,001-10,000 ตง้ั แต 10,001
118 ในอดีตผูสูบบุหรี่มักเปนคนท่ีมีฐานะดีมากกวาคนจน เพราะบุหร่ีจัดเปนสินคาฟุมเฟอยไมใชส่ิงจําเปนในการดํารงชีพ ต้ังแตในระยะ 20 - 30 ป ท่ีผานมา พบวาคนที่มีฐานะดีกลับเลิกสูบบุหรี่มากขึ้น ในขณะที่ผมู รี ายไดน อ ยยงั คงสูบบหุ ร่ตี อไป ตวั อยางเชน ประเทศอังกฤษพบวา คนที่มกี ารศึกษาสูงสูบบุหร่ีนอยมาก คือ เพศชายสูบบุหรี่รอยละ 12 เพศหญิงสูบบุหรี่รอยละ 10 ในขณะท่ีผูท่ีมีรายไดนอยและมีการศึกษาตํา่ นอ ยทเ่ี ปน เพศชายสูบบุหรี่รอยละ 40 เพศหญิงสูบบหุ รีร่ อยละ 50 นอกจากน้ียังพบวา อัตราการสูบบุหรี่ของประชาชนในประเทศกําลังพัฒนาก็มีอัตราการสูบบุหรี่เพิ่มขึ้นอยางรวดเร็วจากจํานวน 5.7 ลานมวน ที่มีการสูบบุหร่ีท่ัวโลกตอป พบวา รอยละ 75เปนผูสูบบุหรี่ในประเทศกําลังพัฒนา ทั้งนี้เพราะการเปดเสรีทางการคาทําใหบริษัทบุหรี่ยักษใหญจากอเมริกาและองั กฤษสามารถเขาไปขายในประเทศกําลังพัฒนาได รัฐบาลของประเทศกําลังพัฒนาขาดมาตรการในการควบคุมการบริโภคยาสูบ โดยเฉพาะการหามการโฆษณาและการสงเสริมการขาย รวมถึงการขาดการใหขอมูลความรูในเร่ืองอันตรายจากการสูบบุหรี่แกประชาชน ประชาชนในประเทศกําลังพัฒนาสวนใหญมีการศึกษาตํ่าทําใหขาดความรูความเขาใจ และความตระหนกั ถึงอนั ตรายจากการสบู บหุ ร่ที มี่ ีตอสขุ ภาพ จากเหตุผลดงั กลา วทาํ ใหประชาชนในประเทศกําลังพัฒนาสูบบุหร่ีเพ่ิมข้ึน โดยเฉพาะในกลุมผูมีรายไดนอ ย ตัวอยางเชน ในประเทศมาเลเซีย พบวา ครอบครัวทม่ี รี ายได 2,000 ริงกติ (ประมาณ 20,000 บาท) หรอื ตา่ํ กวา นี้มอี ัตราการสูบบหุ ร่ีสูงกวา ครอบครวั ท่มี รี ายไดสูงกวา
119 แบบเฉลยใบงานท่ี 1เร่อื ง “ย่งิ สูบยิ่งจน จะทกุ ขทนไปทําไม” คาํ ถามชวนคดิ 1. สรปุ ประเดน็ สาระสําคัญ จาํ นวน 3 ขอ แนวคําตอบ 1.1 ผมู ีรายไดตอเดอื นไมเ กนิ 2,500 บาท มอี ตั ราการสูบบุหร่ีเปนประจําสูงสุดคือ รอยละ 40.1ขณะทีผ่ ูทรี่ ายไดมากกวา 10,000 บาทตอ เดือน สูบบหุ รี่เพยี งรอยละ 19.4 เทานั้น 1.2 ในอดีตผูสบู บหุ รม่ี กั เปน คนมฐี านะดี แตในปจ จุบันคนจนกลับสูบบุหรีม่ ากกวาคนรวย 1.3 การเปดเสรีทางการคา ทําใหบริษัทบุหร่ียักษใหญในอเมริกา และอังกฤษ สามารถเขาไปคา ขายในประเทศทกี่ าํ ลังพฒั นาได 2. เหตุใดอตั ราการสูบบุหรข่ี องประเทศทีก่ าํ ลงั พฒั นา จึงเพิม่ ขนึ้ อยา งรวดเรว็ แนวคาํ ตอบ เปนเพราะรัฐบาลของประเทศที่กําลังพัฒนาขาดมาตรการในการควบคุมการบริโภคยาสูบโดยเฉพาะการหา มการโฆษณาและสง เสริมการขาย 3. เหตุใดคนจนจึงสูบบหุ รมี่ ากกวา คนรวย แนวคําตอบ เน่ืองจากคนจนสวนมากมกี ารศึกษาต่ํา จึงขาดความรูความเขาใจและตระหนักถึงอันตรายจากการสบู บุหรี่ท่ีมีตอ สุขภาพ
120 ใบงานท่ี 2เรอื่ ง “คิดเลขงา ยๆ กบั ความเสยี หายจากบหุ ร่ี”จดุ ประสงคก ารเรียนรู 1. วเิ คราะหผลกระทบทม่ี ีตอ เศรษฐกิจจากการสูบบหุ ร่ีได (ความร)ู 2. ใชกระบวนการศึกษาวิเคราะหผลกระทบท่ีมีตอเศรษฐกิจจากการสูบบุหรี่ ของคนในชมุ ชนได (ทกั ษะกระบวนการ) 3. บอกประโยชนแ ละคณุ คา ทางเศรษฐกจิ เมอ่ื เลิกสูบบหุ ร่ีได (เจตคต)ิคาํ ชแ้ี จง ใหนักเรยี นรวมกนั อานขอ มลู ความรู เรอื่ ง “คิดเลขงายๆ กบั ความเสยี หายจากบุหร่”ี และระดม ความคดิ เห็นในกลมุ เพื่อตอบคําถามตอนทายของขอมูลองคค วามรนู ี้ “คิดเลขงา ยๆ กับความเสยี หายจากบุหรี”่ จากการวิเคราะหพบวา ในทุกๆ 1,000 ตัน ของยาสูบที่ผลิต ออกมา จะทํารายไดหรือผลกําไรสุทธิใหผูผลิต 65 ลานบาท แตทําให มีผูเสียชีวิต 650 คน ซึ่งคน 650 คนน้ีตองเสียคารักษาพยาบาลใน การรักษาโรคกอนท่ีจะเสียชีวิตประมาณ 140 ลานบาท และยังมี คาใชจายและความสูญเสียทางออมของบุคคลนี้อีกประมาณ 275 ลาน บาท เมื่อบวกกับรายไดที่คนเหลาน้ีควรไดรับหาไมเสียชีวิตกอนวัย อนั ควรอกี 330 ลานบาท จงึ รวมเปนความสูญเสยี ทงั้ ส้ิน 745 ลา นบาท - ดงั นัน้ ความสูญเสยี จากยาสบู เพียง 1,000 ตัน จึงมากกวารายรบั ถึง 745 – 65 = 680 ลา นบาท - ขณะนี้ท่ัวโลกผลิตยาสูบปละ 7,300,000 ตัน จึงคิดเปนความสูญเสียทางเศรษฐกิจของโลก ปล ะประมาณ 5 ลา นลานบาท ธนาคารโลกไดส รปุ วาการลงทนุ ปอ งกนั ไมใหคนติดบุหรี่เปนการลงทุนที่คุมคาท่ีสุดในการลดคา ใชจ ายดานการรักษาโรคภยั ไขเ จ็บของประชาชน ตวั อยา งเชน - ในประเทศกําลังพัฒนาท่ีมีรายไดตอหัวตอป 50,000 บาท การลงทุนเพ่ือรณรงคปละ 500- 1,000 บาทตอคนตอป เพื่อไมใหประชาชนสูบบุหรี่หรือเลิกสูบบุหร่ีขณะท่ียังไมปวยและมี อายยุ นื ข้ึน - ในขณะท่ีคาใชจายในการรักษามะเร็งปอดซึ่งสามารถยืดชีวิตผูปวยไดประมาณรอยละ 10 เทา นนั้ จะตอ งเสียเงนิ ในการยดื ชีวติ ตอคนตอป เทากบั 450,000 บาท จากการสูญเสียทางเศรษฐกิจน้ี ทําใหธนาคารโลกงดการใหเงินกูกับประเทศท่ีขอกูไปลงทุนในเรอื่ งยาสบู ทกุ ชนิด ไมว า จะเปนการเพาะปลูก การสง ออกหรือกจิ กรรมอ่นื ๆ ท่เี กีย่ วขอ ง
121คําถามชวนคดิ กลมุ ท่ี ........... ช่อื กลุม ....................................................................................... ช้นั ..........................1. สรุปประเด็นสาระสําคัญ จํานวน 3 ขอ1.1..........................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................1.2..........................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................1.3..........................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................2. การวเิ คราะหค วามเสยี หายจากการสูบบหุ ร่ใี ชขอ มลู ใดมารวมกันบา ง....................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................3. เหตใุ ดธนาคารโลกจงึ สรุปวา “การลงทุนปอ งกนั ไมใ หค นตดิ บหุ รเี่ ปนการลงทุนทีค่ มุ คาทส่ี ดุ ”....................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................
122 แบบเฉลยใบงานท่ี 2 เร่อื ง “คิดเลขงา ยๆ กบั ความเสียหายของบุหร่”ีคาํ ถามชวนคดิ กลุมท่ี ....................ชอื่ กลุม ............................................................................... ชนั้ .............................. 1. สรปุ ประเดน็ สาระสําคัญ จาํ นวน 3 ขอ แนวคาํ ตอบ 1.1 การสูบบุหร่ีมีผลกระทบดานคารักษาพยาบาล และคาความสูญเสียทางออม เม่ือทรัพยากรบุคคลถูกทําลาย นับเปนมูลคามหาศาล ดังน้ันการลงทุนปองกันไมใหคนติดบุหร่ีจึงเปนการลงทุนที่คมุ คา ที่สดุ 1.2 ขณะนี้ทั้งโลกผลิตยาสูบปละ 7,300,000 ตัน คิดเปนความสูญเสียทางเศรษฐกิจของโลกปละ 5 ลา นลา นบาท 1.3 ธนาคารโลกงดการใหเงนิ กกู ับประเทศทีข่ อกูไปลงทนุ ในเรอ่ื งของยาสูบทกุ ชนิด 2. การวเิ คราะหความเสยี หายจากการสบู บหุ รใี่ ชขอมลู ใดมารวมกันบา ง แนวคาํ ตอบ ประกอบดวยขอมูลดานคารักษาพยาบาล และคาใชจายจากการสูญเสียทางออม เชน คาเสียโอกาสและรายไดในการทํางาน คาผลกระทบของควันบุหร่ีท่ีมีตอบุคคลใกลเคียง และคาจัดงานศพเม่ือถงึ แกกรรม เปนตน 3. เหตใุ ดธนาคารโลกจึงสรปุ วา “การลงทนุ ปอ งกนั ไมใหคนติดบหุ รีเ่ ปน การลงทนุ ทค่ี ุมคาท่สี ุด” แนวคําตอบ เพราะเปนการลงทุนรณรงคปองกันที่เสียคาใชจายนอย แตไดผลในการลดความเสียหายจากอนั ตรายของบหุ รค่ี ิดเปน มูลคามหาศาล
123 ใบงานท่ี 3เรื่อง “ขึ้นภาษบี ุหรี่ ชวยใหเดก็ ดีไมเ สียคน”จุดประสงคการเรียนรู 1. วเิ คราะหผ ลกระทบท่มี ีตอเศรษฐกิจจากการสบู บุหรี่ได (ความรู) 2. ใชก ระบวนการศึกษาวิเคราะหผลกระทบที่มีตอเศรษฐกิจจากการสูบบุหรี่ของคนในชุมชนได (ทกั ษะกระบวนการ) 3. บอกประโยชนแ ละคณุ คาทางเศรษฐกจิ เม่ือเลกิ สบู บหุ รีไ่ ด (เจตคต)ิคําชี้แจง ใหนักเรียนรวมกันอานขอมูลความรู เรื่อง “ข้ึนภาษีบุหร่ี ชวยใหเด็กดีไมเสียคน” และระดม ความคดิ เห็นในกลุม เพื่อตอบคาํ ถามตอนทายของขอ มลู องคค วามรูนี้ “ขน้ึ ภาษบี ุหรี่ ชว ยใหเ ดก็ ดไี มเสยี คน”ขอ เสนอแนะในการปองกันเด็กไทยไมใหสูบบหุ รี่ รัฐบาลตองแสดงความจริงจังในการท่ีจะปองกันท่ีจะไมใหเด็กไทยติดบุหร่ีเพิ่มขึ้นดวย โดยข้ึนภาษีบุหร่ี เพอื่ ทําใหราคาบุหรี่แพงขึ้น อันจะมีผลตอ การปองกันเดก็ และเยาวชนจากการซอ้ื บุหร่ี ท่ีสําคัญรัฐบาลไดม กี ารขนึ้ ภาษีมา 3 ปแลว ทําใหราคาตํ่ากวาท่ีควรจะเปน เพราะถารัฐบาลไทย ดําเนินนโยบายขึ้นภาษีตามอตั ราคา ครองชพี ทเ่ี ปลี่ยนแปลง กจ็ ะทําให - ขายบุหรไี่ ดเ ทา เดมิ หรอื นอยลง ขึ้นกบั จํานวนอตั ราภาษที ีข่ ึน้ - รฐั บาลมรี ายไดจากภาษเี พมิ่ ข้นึ อยางมาก - เยาวชนตดิ บหุ ร่ีนอ ยลง - จํานวนผูป ว ยนอยลง - คารักษาพยาบาลนอยลง
124ขอบคณุ คณะรัฐมนตรที ข่ี ึน้ ภาษีบหุ รี่ ในท่ีสุดคณะรัฐมนตรีก็มีมติใหกรมสรรพสามิต กระทรวงการคลังปรับข้ึนอัตราภาษียาสูบจากปจจุบันที่จัดเก็บในอัตรารอยละ 75 เพิ่มขึ้นเปนรอยละ 79 เกือบเต็มเพดานตามท่ีกฎหมายยาสูบกําหนดไวส ูงสดุ คือรอยละ 80 การข้ึนภาษีบุหร่ีน้ีเปนมาตรการสําคัญมาตรการหน่ึงในการควบคุมการบริโภคยาสูบที่ธนาคารโลกไดเสนอไว เพราะผลกระทบท่ีสําคัญท่ีเกิดขึ้นคือ ราคาบุหรี่จะแพงข้ึน ซ่ึงเปนปจจัยที่ปอ งกันเยาวชนใหเขามาสบู บุหรีน่ อยลง เนอื่ งจากยังไมมีรายไดจึงมีกําลังซ้ือต่ํา ซึ่งสอดคลองกับผลสรุปงานวจิ ัยเรอ่ื ง “การวเิ คราะหเ ศรษฐกิจของการสูบบุหร”่ี โดย รศ.ดร.อศิ รา ศานตศิ าสน คณะเศรษฐศาสตรจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย ซึ่งระบุวา คนไทยใชเงินเกือบรอยละ 3 จากรายไดทั้งหมดไปกับการสูบบุหร่ีการตอบสนองของอุปสงคบุหรี่หรือความตองการตอการเปล่ียนแปลงราคาในประเทศไทยคลายกันกับประเทศที่มีรายไดปานกลางอ่ืนๆ คือ การเพิ่มราคาท่ีแทจริงเพิ่มข้ึนรอยละ 1 จะทําใหการบริโภคลดลงประมาณรอ ยละ 0.4 และจะเกิดผลกระทบลดการสูบบหุ ร่ีมากทีส่ ดุ ในกลมุ ประชากรที่มีรายไดน อย ท้ังนี้มีการประมาณการวา การขึ้นภาษีนี้จะมีผลตอราคาบุหรี่ขายปลีก โดยบุหร่ีไทยที่มีกนกรองราคาจะเพ่ิมขน้ึ 5 - 6 บาท สวนบุหร่ีตางประเทศจะมีราคาเพิ่มขึ้น 6 - 8 บาทตวั เลขท่ีนา คิดจากผลการวิจยั ถา ราคาบุหรข่ี ้นึ ซองละ 1 บาท จะมีผสู ูบบุหร่ตี ดั สินใจเลกิ สูบบหุ ร่รี อ ยละ 21.2 หรอื เทากบั 1ใน5 ถาราคาบุหรข่ี ึ้นซองละ 3 บาท จะมีผูสบู บหุ ร่ีตัดสนิ ใจเลกิ สบู บหุ รี่รอยละ 32.4 หรือเทา กับ 1 ใน 3 ถาราคาบุหรี่ขึน้ ซองละ 5 บาท จะมผี สู บู บหุ รีต่ ดั สนิ ใจเลกิ สบู บุหรรี่ อยละ 44.5 หรอื เทากบั 1 ใน 2***ที่มา : สํานักวิจัยเอแบคโพลล ผลสํารวจภาคสนาม เรื่อง การประเมินคาใชจายในการสูบบุหรี่:กรณศี กึ ษา ผสู บู บหุ รีท่ ี่มอี ายุ 11 ป ข้นึ ไปใน เขต 13 จงั หวัดทวั่ ประเทศ
125 คําถามชวนคดิ1. สรุปประเด็นสาระสาํ คัญจํานวน 3 ขอ1.1..............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................1.2...............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................1.3...............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................2. การขึ้นภาษีบหุ รี่ มีผลดีตอเยาวชนอยา งไรบาง....................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................3. ประมาณการวา จากการประกาศข้ึนภาษีบุหรข่ี องคณะรัฐมนตรคี ร้งั น้ี จะมีผูสูบบุหร่ีตัดสินใจเลิกบุหรี่ไมต า่ํ กวารอยละ 44.5 นักเรียนเชอ่ื หรอื ไม เพราะเหตุใด....................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................
126 แบบเฉลยใบงานท่ี 3เรอื่ ง “ขึ้นภาษบี หุ รี่ ชวยใหเ ดก็ ดไี มเสียคน” คาํ ถามชวนคดิ กลุม ท่ี ....................ชือ่ กลมุ ............................................................................... ชั้น .............................. 1. สรปุ ประเดน็ สาระสาํ คัญ จาํ นวน 3 ขอ แนวคาํ ตอบ 1.1 การที่รัฐบาลข้ึนภาษีบุหร่ี จะมีผลดีคือ การขายบุหรี่จะมีอัตราที่ลดลง เน่ืองจากมีราคาแพงข้ึน แตรัฐบาลท่ีรายไดจากการเก็บภาษีเพ่ิมขึ้น เยาวชนติดบุหร่ีนอยลงเพราะไมมีเงินซ้ือ จํานวนผูปวยลดลงและคา รักษาพยาบาลกน็ อ ยลงเปน เงาตามตวั 1.2 ในปจจุบันน้ี กรมสรรพสามิตไดปรับอัตราภาษียาสูบเปนรอยละ 79 เกือบเต็มเพดานตามท่ีกฎหมายกาํ หนดไวส ูงสุดไมเ กินรอยละ 80 1.3 เยาวชนและผมู ีรายไดน อ ยจะไดร บั ผลกระทบจากการข้นึ ภาษบี หุ รี่ 2. การขน้ึ ภาษบี หุ ร่มี ีผลดตี อเยาวชนอยางไร แนวคําตอบ ชวยใหเยาวชนติดบุหร่ีนอยลง เพราะไมมีเงินซ้ือ ซึ่งจะชวยรักษาสุขภาพทางกาย ทางจิตใจและทางสติปญญา ใหมีความสมบูรณ เปนการหลีกเล่ียงตอพฤติกรรมเสี่ยง ทําใหมีอนาคตท่ีสดใสเปนพลงั ทเ่ี ขมแขง็ ของครอบครัว สงั คม และประเทศชาติตลอดไป 3. ประมาณวา จากการประกาศขึน้ ภาษีบหุ รข่ี องคณะรฐั มนตรีครง้ั นี้ จะมีผูสบู บุหรต่ี ดิ สนิ ใจเลิกบุหรไ่ี มต ่าํ กวารอยละ 44.5 นกั เรียน เช่ือหรอื ไม เพราะเหตใุ ด แนวคาํ ตอบ เชื่อตามขอมูลท่ีไปสํารวจมา แตเช่ือวาเปนความคิดของคนกลุมหนึ่งท่ีตั้งใจจะเลิกสูบบุหรี่แตตองอาศัยปจจัยอ่ืนๆ ชวยกระตุนดวย เชน จิตใจที่เขมแข็งและแนวแน การเลิกบุหร่ีเพ่ือบุคคลอันเปน ท่รี ักและวธิ กี ารเลิกบหุ รท่ี ถ่ี ูกตองเหมาะสม เปนตน
127 ใบงานท่ี 4เรอื่ ง “การสูบบหุ ร่ีของคนกรงุ เร่ืองยงุ ท่ตี องแก”จดุ ประสงคก ารเรยี นรู 1. วิเคราะหผลกระทบที่มีตอเศรษฐกจิ จากการสบู บหุ รีไ่ ด (ความรู) 2. ใชกระบวนการศกึ ษาวิเคราะหผ ลกระทบทีม่ ีตอ เศรษฐกิจจากการสบู บุหรี่ ของคนในชุมชนได (ทักษะกระบวนการ) 3. บอกประโยชนและคุณคา ทางเศรษฐกิจเม่อื เลิกสูบบุหรไ่ี ด (เจตคต)ิคาํ ช้แี จง ใหนักเรียนรวมกันอานขอมูลความรู เร่ือง “การสูบบุหร่ีของคนกรุง เรื่องยุงท่ีตองแก” และ ระดมความคดิ เห็นในกลุม เพอ่ื ตอบคาํ ถามตอนทายของขอ มลู องคความรูน ้ี “การสบู บหุ รข่ี องคนกรงุ เรอ่ื งยงุ ทีต่ อ งแก” บริษัท ศูนยวิจัยกสิกรไทย จํากัด สํารวจ “พฤติกรรมการสูบบุหร่ีของคนกรุงเทพฯ” จากกลุมตัวอยาง 1,271 คน ระหวางวันที่ 2-16 พฤษภาคม พ.ศ.2546 พบประเด็นสําคัญคือ คาใชจายเฉลี่ยดานบุหร่ีของคนกรุงเทพฯ รอยละ 15.07 ของรายไดทั้งหมดในแตละเดือน โดยเฉลี่ยคนกรุงเทพฯ ที่ตอบแบบสอบถามมีคาใชจายในการสูบบุหรี่ 150 บาทตอเดือน ซึ่งเมื่อคํานวณแลวจะพบวา ในป พ.ศ.2546ตลาดบุหร่ีในกรุงเทพฯ มีมูลคาประมาณ 500 ลานบาท และถาเปรียบเทียบในชวง 2 ทศวรรษที่ผานมาพบวาแมจะมีการรณรงคในเรื่องการสูบบุหรี่อยางตอเน่ือง แตคาใชจายเฉล่ียตอคนในการซ้ือผลิตภัณฑยาสูบยังมีแนวโนมเพ่ิมข้ึนอยางตอเน่ือง กลุมอายุท่ีนาเปนหวงคือ กลุมวัยรุน อายุ 13-19 ป ซึ่งมีคาใชจายดานบุหรี่ถึงรอยละ 20.3 สวนกลุมเด็กอายุนอยกวา 13 ป มีคาใชจายดานบุหร่ีรอยละ 15นอกจากน้ี ถากลุมเด็กท่ีตอบแบบสอบถามมีเงินเดือนหรือรายไดเพ่ิมขึ้นรอยละ 22.2 จะนําไปซื้อบุหร่ีเพ่ิมขึ้น
128 ปจจัยที่เปนแรงกระตุนใหเกิดความอยากสูบบุหรี่ คนกรุงเทพฯ ระบุวา ปจจัย 5 อันดับแรกที่กระตุนใหเกิดความอยากสูบบุหรี่ คือ 1)ความเครียด 2)การดื่มสุรา 3)โมโห/หงุดหงิด 4)การเท่ียวกลางคืน และ 5)การดภู าพยนตรที่มีการสบู บหุ รี่ สวนปจจัยที่จะทําใหการรณรงคไมสูบบุหร่ีมีประสิทธิภาพ 5 อันดับแรก คือ 1)ทําใหกฎหมายเขตปลอดบุหร่ีมีผลบังคับเขมงวดมากข้ึน 2)กําหนดใหบุหรี่เปนสิ่งเสพติด 3)เผยแพรผลเสียของการสบู บุหร่ี 4)กําหนดเขตปลอดบุหรีเ่ พิม่ ข้นึ 5)ปลกู ฝง คา นิยมท่ดี แี กเ ยาวชนในสถาบนั การศึกษา อยา งไรก็ตามคนกรุงเทพฯ ที่ตอบแบบสอบถามระบุวา กฎหมายการหามสบู บุหรี่ในทส่ี าธารณะท่ีกําหนดน้ันไมมีผลตอผูที่สูบบุหรี่ เนื่องจากผูตอบแบบสอบถามเห็นวาผูที่สูบบุหร่ีสามารถปรับตัวไดถึงรอยละ 45.8 และอีกรอยละ 35.1 เห็นวาเกิดจากความไมเขมงวดของเจาหนาที่ กําลังเจาหนาท่ีตรวจจับไมเพียงพอ และบทลงโทษไมห นัก นอกจากน้ีส่ิงที่ตองแกไขอยางตอเน่ืองจากผลของการหามสูบบุหรี่ในท่ีสาธารณะสําหรับผูที่ยังไมสามารถเลิกสูบบุหรี่ได ซ่ึงคนกลุมนี้จะหันไปสูบบุหรี่ท่ีบานมากข้ึน อันเปนตัวอยางท่ีไมดีสําหรับเด็กและเยาวชนซ่ึงในอนาคตจะมีโอกาสเปนผูท่ีสูบบุหร่ีมากข้ึนดวย การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการสูบบุหรี่เมื่อมีการข้ึนราคาบุหรี่ คนกรุงเทพฯ รอยละ 53.7 เลิกสูบบุหร่ีและสูบบุหร่ีนอยลง สวนอีกรอยละ46.3 ไมเปลยี่ นแปลงโดยท่บี างคนยังสบู ย่ีหอเดมิ และบางคนหนั ไปสูบบุหรีท่ ี่มีราคาถูกลงขอมูลจาก http://www.ashthailand.or.th/th/content_image/informationcenter/78.doc
129 คาํ ถามชวนคดิ กลมุ ที่ ....................ชอ่ื กลมุ ............................................................................... ชน้ั ..............................1. สรุปประเด็นสาระสาํ คญั จํานวน 3 ขอ1.1...............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................1.2...............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................1.3...............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................2. ผูสูบบุหรี่ในกลุมอายุใดที่มีคาใชจายดานบุหร่ีสูงที่สุด และหากไมสามารถรณรงคใหคนกลุมน้ีลดการสูบบหุ รี่ลงไดจ ะเกิดผลเสยี หายอยางไร เพราะเหตใุ ด....................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................3. นกั เรยี นคิดวาวิธีลดแรงกระตุน ท่ที ําใหเกิดความอยากสูบบหุ รี่ คืออะไรบาง....................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................
130 แบบเฉลยใบงานท่ี 4เรอ่ื ง “การสบู บหุ รี่ของคนกรุง เรอื่ งยงุ ทต่ี อ งแก” คาํ ถามชวนคดิ กลมุ ท่ี ....................ช่ือกลุม ............................................................................... ชน้ั .............................. 1. สรุปประเดน็ สาระสําคญั จํานวน 3 ขอ แนวคําตอบ 1.1 จากการสํารวจของบริษัท ศูนยวิจัยกสิกรไทย จํากัด พบวาตลาดบุหร่ีในกรุงเทพฯ ในปพ.ศ.2546 มมี ลู คา ประมาณ 500 ลา นบาท และมีแนวโนมเพมิ่ สงู ขน้ึ ในปต อ ไป 1.2 ปจจัยท่ีเปนแรงกระตุนใหคนกรุงเทพฯอยากสูบบุหร่ี 5 อันดับแรก คือ 1)ความเครียด2)การดืม่ สุรา 3)โมโห หงดุ หงดิ 4)การเทีย่ วกลางคนื และ 5)การดูภาพยนตรท ม่ี กี ารสูบบหุ รี่ 1.3 กฎหมายการหามสูบบุหร่ีในท่ีสาธารณะไมมีผลตอการเลิกสูบบุหร่ีได เพราะผูที่สูบบุหร่ีสามารถปรับตัวไดถึงรอยละ 45.8 และอีกรอยละ 35.1 เห็นวาเจาหนาท่ีไมเขมงวด มีคําสั่งในการตรวจจบั ไมเพยี งพอและลงโทษไมห นกั 2. ผูสูบบุหรี่ในกลมุ อายใุ ด ทมี่ ีคาใชจายดา นบหุ รี่สงู ท่ีสดุ และหากไมสามารถรณรงคใ หคนกลุมนล้ี ดการสบู บหุ ร่ีลงได จะเกิดผลเสยี หายอยางไร เพราะเหตใุ ด แนวคาํ ตอบ กลุมวัยรุนอายุ 13-19 ป มีคาใชจายดานบุหรี่ถึงรอยละ 20.3 ของรายไดในแตละเดือน ซึ่งเปนกลุมท่ีมีรายจายสูงสุด และหากไมสามารถรณรงคใหคนกลุมนี้ลดการสูบบุหร่ีลงได จะเกิดผลเสียตอการพัฒนาประเทศทั้งในปจจุบันและอนาคตอยางมหาศาล เพราะเยาวชนเหลาน้ีจะเปนพลังสําคัญของชาตบิ านเมืองในอนาคต 3. นกั เรียนคิดวาวธิ ีลดแรงกระตุนท่ที าํ ใหเกดิ ความอยากสบู บุหรีค่ อื อะไรบา ง แนวคาํ ตอบ การหลีกเล่ียงความเครียดดวยการเลนกีฬา ออกกําลังกาย เลนดนตรี ทํางานศิลปะหรืองานอดิเรกที่ใจรัก ไมด่ืมสุรา หลีกเล่ียงความหงุดหงิด โมโหงาย ดวยการมองโลกในแงดีและมีเมตตา ไมเที่ยวกลางคืน แหลงมั่วสุมตางๆ และเลือกชมภาพยนตรที่ไมมีการสูบบุหรี่ควรเปนเรื่องสนุกสนานเบาสมองหรอื แนวอนุรกั ษธ รรมชาติ
131 ใบงานท่ี 5เรอื่ ง “คา บหุ ร่ีของพอ หนขู อเปนคาอาหาร”จดุ ประสงคก ารเรยี นรู 1. วเิ คราะหผลกระทบท่มี ตี อ เศรษฐกจิ จากการสบู บุหรไี่ ด (ความร)ู 2. ใชก ระบวนการศกึ ษาวเิ คราะหผลกระทบท่ีมีตอเศรษฐกิจจากการสูบบุหร่ีของคนในชุมชนได (ทกั ษะกระบวนการ) 3. บอกประโยชนและคณุ คา ทางเศรษฐกจิ เม่อื เลิกสูบบหุ ร่ไี ด (เจตคต)ิคาํ ชแี้ จง ใหนักเรียนรวมกันอานขอมูลความรู เร่ือง “คาบุหร่ีของพอ หนูขอเปนคาอาหาร” และระดม ความคิดเหน็ ในกลุม เพอ่ื ตอบคําถามตอนทายของขอ มลู องคค วามรูน ้ี “คา บหุ รขี่ องพอ หนขู อเปน คาอาหาร” การสูบบุหร่ีของคนท่ีมีรายไดนอยน้ัน นอกจากจะเปนการบั่นทอนสุขภาพของตัวเองใหออนแอลงทุกวันแลว คาใชจายท่ีเกิดจากการสูบบุหร่ียังเบียดบังคาใชจายอ่ืนๆ ที่จําเปนของครอบครัวของผูสูบบุหร่ี โดยท่ีผูสูบบุหร่ีไมรูตัวและยิ่งผลักดันใหครอบครัวยากจนย่ิงข้ึน ซ่ึงนับเปนเร่ืองที่มีความเสียหายมาก เพราะเปนการนําเงนิ นําไปซื้อบหุ ร่ี แทนทีจ่ ะซื้ออาหาร ทีม่ ปี ระโยชนสําหรับบริโภค โดยเฉพาะในประเทศท่ีกําลังพัฒนาหลายประเทศ มีอัตราสวนของคาใชจายในบานท่ีถูกใชไปเพ่ือซ้ือบุหรี่สูงมากเชน ในประเทศบัลแกเรีย ครอบครัวมีรายไดตํ่าและมีคนสูบบุหร่ีอยางนอย 1 คน จะใชจายเงินรอยละ10.4 ของรายไดท ง้ั หมดไปเพอ่ื ซ้อื บุหร่ซี ึ่งเปนการเบยี ดบังคา ใชจา ยทจ่ี าํ เปน เชน คา อาหาร เปนตน
132 จากการศึกษาในประเทศอินเดีย พบวา การสูบบุหร่ีมีความสัมพันธกับภาวะการขาดอาหารรุนแรงและสุขภาพเด็ก ตัวอยางจากประเทศบังคลาเทศ พบวาถา 2 ใน 3 ของเงินถูกนําไปซื้ออาหารแทนบหุ ร่ีจะสามารถชว ยใหค นมากกวา 10 ลานคน พน จากภาวะขาดอาหารได ในประเทศลาว พบวา เงินจํานวน 10,000 - 15,000 กีบ หรือประมาณ 40-60 บาท ท่ีตองจายไปเพ่ือซ้ือบุหร่ีมารลโบโร 1 ซอง สามารถนําไปซ้ืออาหารเพ่ือครอบครัวได โดยซ้ือเน้ือเพื่อใชเปนอาหารได 1 กิโลกรัม หรือซื้อขาวเหนียวได 6 กิโลกรัม หรือซื้อปลา 1.3 กิโลกรัม และเงินคาบุหรี่ 1 ซองนี้สามารถซ้ือแอปเปล กนิ ไดถึง 2 กโิ ลกรมั ในประเทศเวียดนาม จากการสํารวจในป พ.ศ.2538 พบวา ใน 1 ปผสู บู บุหร่ี 1 คน ใชจายเงินเพื่อซื้อบุหรี่เฉลี่ยมากกวา 2,500 บาท ซึ่งเงินจํานวนน้ีสามารถซื้อขาวสารไดถึง 169 กิโลกรัม ซึ่งมากพอสําหรบั เลยี้ งชวี ติ คนหน่ึงคนไดตลอดทง้ั ป และในป พ.ศ.2541 พบวา คาใชจายของผูสูบบุหรี่ในประเทศมากพอท่จี ะซือ้ ขาวสารเพอ่ื เลีย้ งชวี ิตคนเวียดนามไดถ ึง 10.6 ลานคนเปน เวลา 1 ป สําหรับประเทศไทย คาบุหร่ีกรองทิพย 1 ซอง ราคา 35 บาท มากกวาราคากวยเตี๋ยว 1 ชามซึ่งมีราคา 25 บาท ดังนั้นหากผูสูบบุหรี่วันละ 2 ซองสําหรับคนในเมือง เงินจํานวนนี้สามารถซื้ออาหารไดถึง 3 ม้ือ แตคนในชนบทท่ีทําอาหารกินเองจะมีรายจายเพ่ือซื้ออาหารตํ่ากวานี้มาก เงินจํานวนน้ีจึงมากพอที่จะนําไปใชป ระโยชนไ ดม ากข้ึน ดวยเหตุน้ีจึงมีเสียงเรียกรองจากลูกถึงพอ เปนคําพูดกินใจวา “คาบุหร่ีของพอ หนูขอเปนคาอาหาร”
133คาํ ถามชวนคดิ กลุม ท่ี ....................ชอ่ื กลุม ............................................................................... ชัน้ ..............................1. สรุปประเดน็ สาระสาํ คัญ จาํ นวน 3 ขอ1.1...............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................1.2...............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................1.3...............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................2. ในบรรดาประเทศที่กําลังพัฒนา และประเทศที่ประสบปญหาการขาดแคลนอาหารดังที่กลาวมาน้ีประเทศใดท่ีประสบภาวะขาดอาหารมากทส่ี ุด เพราะเหตุใด....................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................3. จากคําพูดทว่ี า “คา บหุ ร่ขี องพอ หนขู อเปน คาอาหาร” นนั้ นักเรยี นคิดวา อาหารทค่ี วรซ้อื รับประทานควรมคี ณุ ลกั ษณะอยา งไร....................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................
134 แบบเฉลยใบงานท่ี 5เรือ่ ง “คา บุหรข่ี องพอ หนขู อเปนคาอาหาร” คําถามชวนคดิ กลมุ ที่ ....................ชอ่ื กลุม ............................................................................... ชั้น .............................. 1. สรุปประเดน็ สาระสําคญั จาํ นวน 3 ขอ แนวคําตอบ 1.1 การสูบบุหร่ีของคนที่มีรายไดนอย จะมีผลกระทบตอคาใชจายอ่ืนที่มีความจําเปนตอครอบครวั เชน คาอาหาร เปนตน 1.2 ในประเทศบังคลาเทศ พบวาถา 2 ใน 3 ของเงินถูกนําไปซื้ออาหารแทนบุหรี่ ก็จะสามารถชว ยชาวบงั คลาเทศมากกวา 10 ลา นคน ใหพนจากภาวะขาดอาหารได 1.3 การเปรยี บเทยี บคา บุหรกี่ ับคาอาหารและผลไมที่เปน ประโยชนตอ รา งกาย อาจชว ยใหผสู ูบบุหรฉ่ี ุกคิดไดบ างวา ถึงเวลาทจ่ี ะเปลย่ี นคา บุหรี่เปน คา อาหารไดแ ลว 2. ในบรรดาประเทศท่ีกําลังพัฒนา และประเทศท่ีประสบปญ หาการขาดแคลนอาหารดงั ทีก่ ลาวมานี้ ประเทศใดทีป่ ระสบภาวะขาดอาหารมากที่สดุ เพราะเหตใุ ด แนวคําตอบ ประเทศบังคลาเทศตกอยูในภาวะขาดอาหารมากที่สุด เหตุเพราะความยากจน และชาวบงั คลาเทศเสยี คาใชจา ยไปกับการสบู บหุ รี่เปน จํานวนมาก 3. จากคําพูดที่วา “คาบุหรี่ของพอ หนูขอเปนคาอาหาร” นั้น นักเรียนคิดวา อาหารท่ีควรซ้ือรบั ประทานควรมีคุณลกั ษณะอยางไร แนวคาํ ตอบ อาหารที่ควรซอื้ รับประทานควรเลือกอาหารทเ่ี ปน ประโยชนตอ รา งกาย และเปนอาหารทคี่ รบ 5 หมู
135 ใบงานท่ี 6กรณีศกึ ษาเรื่อง “สตีฟ ยอดนกั รณรงค”จุดประสงคก ารเรยี นรู 1. วิเคราะหผลกระทบท่มี ีตอ เศรษฐกจิ จากการสบู บุหร่ีได (ความรู) 2. ใชก ระบวนการศึกษาวเิ คราะหผลกระทบท่ีมีตอเศรษฐกิจจากการสูบบุหร่ีของคนในชุมชนได (ทักษะกระบวนการ) 3. บอกประโยชนแ ละคุณคา ทางเศรษฐกิจเมอ่ื เลิกสบู บุหรไี่ ด (เจตคติ)คาํ ช้แี จงใหนกั เรียนอานกรณีศกึ ษา เรอื่ ง “สตฟี ยอดนักรณรงค” สตีฟ ยอดนักรณรงค ถาเทียบกับสตีฟ วูดเวิรด แลวผมตองชิดซายในเร่ืองรณรงคไมสูบบุหรี่ สตีฟเปนชาวออสเตรเลียท่ีเขาเลาใหผมฟงวาท่ีเมืองเมลเบิรน รัฐวิคตอเรีย เขาหามสูบหร่ีในรถแท็กซี่รวมท้ังคนขับรถแท็กซี่เองก็หามสูบในรถดวย ไมวาจะมีผูโดยสารหรือไมก็ตาม กฎหมายนี้ผลักดันโดย ส.ส.คนหน่ึงที่ไมไดสนใจเรื่องรณรงคไมสูบบุหร่ี แตเขาตองการสงเสริมการทองเท่ียวเขาจึงผลักกฎหมายที่กําหนดใหแท็กซี่ของรัฐวิคตอเรียเปนปจจัยหนึ่งที่จะดึงดูดใหผูคนมาเท่ียวรัฐของเขา โดยกฎหมายกําหนดวารถแท็กซ่ีตองอยูในสภาพดี สะอาด คนขับตองสุภาพ แตงตัวเรียบรอยและหามสูบบุหรี่ในรถไมวาในเวลาใด เพราะการสูบบุหร่ีในรถจะทําใหมีกลิ่นเหม็นบุหรี่คางอยู ผูฝาฝนมีโทษปรับ 200เหรียญออสเตรเลียหรือประมาณ 6,000 บาท ผมกําลังขอสําเนากฎหมายนี้ของเขาเพื่อจะสงใหเจาหนาที่กระทรวงการทองเที่ยวของเราพิจารณา เพราะสภาพรถแท็กซี่ของเรายังตองปรับปรุงอีกมากโดยเฉพาะเรือ่ งเหมน็ กล่นิ บุหรี่ แมจะมีกฎหมายหามสูบบุหรี่ในรถแท็กซ่ีมานานแลวก็ตาม สตีฟเลาวา ทุกครั้งที่เขาขึ้นรถแท็กซี่ที่เมลเบิรน เขาจะเลือกนั่งคันที่คนขับยืนสูบบุหรี่อยูนอกรถ ในขณะที่เพื่อนเขาจะเลือกนั่งคันที่เขาเห็น
136คนขับไมไดสูบบุหรี่ ทีแรกผมฟงแลวก็งง แตสตีฟบอกวาเขาจะใชทุกโอกาสเกลี้ยกลอมใหทุกคนรวมท้ังคนขับแท็กซ่ีท่ียังสูบบุหร่ีใหเลิกสูบ อยางนี้ผมยอมแพ ครั้งหนึ่งเขาน่ังแท็กซี่จากสนามบินเขาเมือง พอรถเริ่มออกเขาก็ชวนคนขับแท็กซี่คุย สตีฟพูดวา “เมื่อกี้เห็นสูบบุหรี่อยู ไมกลัวเปนมะเร็งปอดตามคําเตือนที่พิมพอยูบนซองหรือ” คนขับแท็กซ่ี บอกวา “สาเหตุของมะเร็งมีมากมาย” สตีฟรุกตอวา“อา วแลว โรคหวั ใจละ ” คนขบั บอกวา “คนไมสูบบุหรี่ก็เปนหัวใจวายเยอะแยะ” สตีฟเลยคิดวาถาพูดเร่ืองพิษภัยของบุหร่ีกับพอคนน้ีทาจะไมสําเร็จ ฟงสําเนียงคนขับพอจะรูวาไมใชคนพ้ืนเมืองจึงถามวา “เดิมอยูท ่ีไหน” คนขบั บอกวา “ผมมาจากอติ าลีสบิ กวา ปแ ลว ” สตฟี ถามวา “เคยกลบั ไปเยี่ยมพ่ีนองที่โรมหรือเปลา” คนขับตอบวา “อาชีพขับแท็กซ่ีไมมีปญญาท่ีจะซื้อตั๋วเคร่ืองบินไปโรมหรอก” สตีฟรุกตอวา“คุณสูบบุหร่ีวันละกี่มวน” คนขับตอบวา “สูบวันละซอง” สตีฟไดท่ีเลยเสนอวา “ถาคุณหยุดสูบบุหรี่คุณจะกลับโรมไดปละคร้ัง เพราะบุหร่ีมารลโบโรซองละ 10 เหรียญ ปหน่ึงคุณก็จะเหลือเงินเกือบส่ีพันเหรียญ (1 เหรียญออสเตรเลยี เทากับ 28 บาทและคาเคร่ืองบินไปกลับเมลเบิรน-โรมเทากับ 2,000 เหรียญ)พอท่ีจะซื้อต๋ัวเครื่องบินไปกลับโรมหรือถาคุณไมสูบสองป คุณจะมีเงินพอที่จะพาเมียไปโรมไดดวย”คนขับแท็กซี่หันมามองสตีฟและวา “เอะ นาสนใจ ผมไมเคยคิดเรื่องน้ีมากอน ความคิดของคุณเขาทาเมยี กพ็ ยายามทจี่ ะใหผ มเลกิ อยูแลว” หลายปตอ มา มคี นขบั คนหนงึ่ วิง่ มาหาสตีฟถามวา “จําผมไดไหม ท่ีคุณเคยแนะนําใหผมเลิกสูบบหุ รีเ่ พอ่ื จะไดไ ปโรม ผมเลิกไดแลว” สตีฟถามวา “แลวคุณไดกลับอิตาลีหรือเปลา” คนขับแท็กซ่ีตอบวา“ไมไดไปอิตาลี แตเอาเงินคาบุหรี่ไปผอนรถ ตอนนี้ผมมีรถยนตเปนของตนเองแลว ลูกเมียดีใจดวยขอบคุณสตฟี ” คนขับแท็กซี่ในกรุงเทพฯ ถาสูบกรองทิพยวันละซองหากเลิกสูบบุหรี่หน่ึงปจะประหยัดเงินได12,775 บาท อาจจะเทากับรายไดหน่ึงถึงสองเดือนของการขับแท็กซี่ ซึ่งพอท่ีจะไปเที่ยวสิงคโปรหรือฮองกงไดทีเดยี ว สําหรับผมแลวถามีอารมณก็จะทําแบบสตีฟแตสวนใหญผมเพียงแตพูดวา “รถคุณดีจังไมเหม็นกลนิ่ บุหรี่เลย”
137 คําถามชวนคดิ กลุมท่ี ....................ชือ่ กลมุ ............................................................................... ชนั้ ..............................1. สรุปประเดน็ สาระสาํ คญั จํานวน 3 ขอ1.1...............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................1.2...............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................1.3...............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................2. กฎหมายในประเทศออสเตรเลียท่ีเกี่ยวกับการหามสูบบุหรี่ที่นาสนใจเปนอยางไร โดยมีจุดประสงคสาํ คญั ในเร่อื งใด....................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................3. นกั เรียนมีความคิดเห็นอยา งไร ในความเปนยอดนักรณรงคข องสตีฟ และกลุมของนกั เรียนมีแนวคดิทจ่ี ะรวมกนั รณรงคเพ่อื การไมส บู บหุ รี่กับใคร และอยางไร....................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................
138 แบบเฉลยใบงานท่ี 6กรณศี กึ ษาเรอื่ ง “สตีฟ ยอดนกั รณรงค” คําถามชวนคดิ กลุมท่ี ....................ช่อื กลุม ............................................................................... ชั้น .............................. 1. สรุปประเดน็ สาระสําคัญ จํานวน 3 ขอ แนวคําตอบ 1.1 เมืองเมลเบร์ิน รัฐวิคตอเรีย ประเทศออสเตรเลีย มีกฎหมายหามสูบบุหร่ีในรถแท็กซ่ีทงั้ คนขับรถและผูโ ดยสาร หากฝา ฝน จะมโี ทษปรับประมาณ 6,000 บาท 1.2 สตีฟ วูดเวร์ิด เปนชาวออสเตรเลีย เปนยอดนักรณรงคเพื่อการไมสูบบุหร่ีกับคนขับรถแท็กซ่ีโดยใชว ิธพี ูดคยุ ใหแ นวคิดถงึ ประโยชนข องการเลกิ สูบบุหรีท่ เ่ี กย่ี วขอ งกบั เศรษฐกจิ และความมัน่ คงของชีวิต 1.3 คนขับรถแท็กซ่ีในกรุงเทพฯ ที่สูบบุหรี่กรองทิพยวันละ 1 ซอง สามารถเก็บเงินไปเท่ียวสงิ คโปรห รอื ฮอ งกงไดป ล ะ 1 ครัง้ หากในปน น้ั เขาเลกิ สบู บหุ รม่ี าตัง้ แตต น ป 2. ในบรรดาประเทศท่กี าํ ลังพัฒนา และประเทศทปี่ ระสบปญ หาการขาดแคลนอาหารดังท่ีกลา วมาน้ี ประเทศใดท่ีประสบภาวะขาดอาหารมากทสี่ ดุ เพราะเหตุใด แนวคําตอบ กฎหมายหา มสูบบุหร่ใี นประเทศศออสเตรเลีย ประกาศใชท่ีเมืองเมลเบริ์น รัฐวิคตอเรีย หามสูบบุหรี่ในรถแท็กซี่ท้ังคนขับรถและผูโดยสาร หากฝาฝนจะมีโทษปรับ 6,000 บาท ซ่ึงกฎหมายน้ีผลักดันโดย ส.ส.คนหน่ึง ท่ีมีจุดประสงค เพื่อดึงดูดใหนักทองเที่ยวมาเท่ียวรัฐของเขา ดวยบริการรถแท็กซี่ในสภาพดี สะดวก ปลอดภยั คนขบั สุภาพ แตงกายเรียบรอยและไมสูบบุหรีใ่ นรถ 3. นกั เรยี นมีความคิดเห็นอยา งไร ในความเปนยอดนกั รณรงคข องสตฟี และกลมุ ของนกั เรียนมีแนวคิดทจ่ี ะรวมกนั รณรงคเ พ่ือการไมส ูบบุหรกี่ บั ใคร และอยางไร แนวคําตอบ สตีฟ เปนยอดนักรณรงคเพ่ือการไมสูบบุหรี่ดวยวิธีการพุงเปาไปท่ีคนขับรถแท็กซี่ที่ยืนสูบบุหร่ี อยูนอกรถ ซ่ึงเปนกลุมเปาหมายท่ีแทจริง และประสบความสําเร็จอยางงดงาม สําหรับกลุมของ ขาพเจา สนใจท่จี ะรณรงคเ พอ่ื การไมสบู บหุ รภี่ ายในหอ งเรียนและในโรงเรียน โดยใชวิธีขยายผลจาก กลุมเล็กๆ ท่ีประสบความสําเร็จไปสูนักเรียนกลุมใหญของโรงเรียนเพื่อพัฒนาโรงเรียนใหเปน “โรงเรยี นปลอดบุหร่ี” อยา งแทจ ริง
139 แบบสมั ภาษณเ พ่อื ศึกษาวิเคราะหผลกระทบทม่ี ตี อ เศรษฐกจิ จากการสบู บุหรีข่ องคนในชุมชนสถานที่ ...………………………………..………………………………………….……………….ผสู ัมภาษณ ………………………………………….…… วนั ท่ีสมั ภาษณ …………………………ตอนท่ี 1 ขอ มูลทวั่ ไป1. เพศ ( ) ชาย ( ) หญิง2. อายุ ……….. ป3. ระดับการศกึ ษา ( ) ตํา่ กวา ป.4 ( ) ป.4 ( ) ป.6 ( ) มธั ยมศกึ ษาตอนตน ( ) มัธยมศกึ ษาตอนปลาย หรือประกาศนียบัตร ( ) ปรญิ ญาตรี ( ) ปรญิ ญาโทหรอื สงู กวา4. อาชีพ ( ) ไมไ ดท าํ งาน/แมบ า น ( ) นกั เรยี น นกั ศกึ ษา ( ) รบั ราชการ ( ) ลูกจางบริษัทเอกชน ( ) ทํางานอสิ ระ ( ) ธรุ กจิ สวนตวั คณุ มรี ายไดน อกเหนอื จากการทาํ งานหรอื ไม ( ) ไมมี ( ) มี กรุณาระบุ …………… บาท/เดอื น …………….. บาท/วัน5. จาํ นวนสมาชิกภายในครวั เรอื น ………………… คน ประกอบดว ยผใู หญ (อายุ 18 ปข ึ้นไป) ……….. คน ชาย ………. คน หญิง ………. คนเดก็ (อายุ 18 ปข้ึนไป) ……….. คน ชาย ………. คน หญงิ ………. คนรวม ….…../……..เปน ผสู บู บหุ รี่ ชาย ………. คน หญงิ ………. คน6. รายไดของครวั เรอื นประมาณ ………………. บาท/เดอื น7. คุณมีโรคประจาํ ตัวหรอื ไม ( ) ไมมี ( ) มี กรณุ าระบุ ………………………...…หากมีโรคประจําตัว มคี า ใชจ ายในการดแู ลรักษาโรคเหลานั้นหรอื ไม ( ) ไมม ี ( ) มี กรุณาระบุ …………..…… บาท/เดอื น
140ตอนที่ 2 ขอ มูลการสบู บหุ รี่8. คณุ เรมิ่ สบู บหุ รีเ่ มื่ออายุ …………. ป9. เหตุทส่ี บู บหุ รี่ กรุณาระบุ ………………………………………………………..………..10. คณุ ไดบ หุ ร่มี วนแรกมาอยางไร( ) ซื้อ ( ) เพ่อื น( ) ผปู กครอง ( ) ญาตคิ นอื่นๆ ( ) ขโมยมาจาก………………..11. จาํ นวนบุหร่ีที่สูบในชว ง 3 เดอื นแรก ……………… มวน/วัน12. แหลง ทม่ี าของรายจา ยของการสบู บหุ รใ่ี นชวง 3 เดอื นแรกของการสูบ( ) ซ้อื ดวยตวั คณุ เองท้ังหมด ( ) สวนใหญซ ื้อดว ยตวั คุณเอง( ) สวนใหญผ ูอ ่นื ซอื้ ให ( ) ผอู ื่นซอ้ื ใหท ัง้ หมด13. บุหรช่ี นดิ ใดท่คี ณุ สบู เปน คร้ังแรก( ) บหุ รไี่ ทย ( ) บุหรีน่ าํ เขา ทีถ่ ูกกฎหมาย ( ) บหุ ร่นี าํ เขา ที่ผดิ กฎหมาย14. คณุ ยงั คงสบู บหุ ร่ีชนดิ เดยี วกับที่คุณสบู เปน ครง้ั แรกหรอื ไม( ) ไมใช เพราะ …………………………………………...….( ) ใช เพราะ ………………………………………………15. ตามปกตแิ ลวขณะนคี้ ณุ สบู บหุ ร่ี ……………….. มวน/วัน16. ปจ จบุ นั คณุ ไดบ หุ ร่มี าจาก( ) การซอ้ื ………….. มวน/วนั คดิ เปนมลู คา ……………. บาท/วัน( ) เพื่อน ………….. มวน/วนั( ) ผูปกครอง ………….. มวน/วัน17. ในกรณที ซ่ี ื้อดว ยตนเอง คุณเหน็ ภาพและคําเตือนบนซองบหุ รี่หรอื ไม( ) ไม( ) ใช กรณุ าระบุภาพและคาํ เตือนทค่ี ณุ จําไดดีท่สี ดุ …………………………………………..18. คุณมียีห่ อบหุ ร่ีทค่ี ณุ สบู เปนประจาํ หรอื ไม( ) ไมมี( ) มี โปรดระบุ …………………………………………..19. บุหรสี่ วนใหญท่คี ณุ สบู เปน( ) บหุ ร่ีไทย ( ) บหุ รีน่ าํ เขาท่ีถูกกฎหมาย ( ) บหุ รีน่ ําเขา ทผ่ี ิดกฎหมาย20. โดยปกตแิ ลวคุณซื้อบหุ รจ่ี ากทีใ่ ด( ) แผงขายบหุ ร่ี ( ) รา นสะดวกซอ้ื /รานขายของชํา( ) หางสรรพสนิ คา ( ) อ่นื ๆ …………………………………………..
14121. คุณเคยเลกิ สูบบุหรี่หรอื ไม( ) ไมเ คย( ) เคย ประมาณ …………เดอื น และกลับมาสบู อกี คร้งั เพราะ …………………………….…ในเวลานี้ คุณคดิ วาคณุ ตองการทจี่ ะเลิกบหุ ร่ีหรือไม( ) ไมค ดิ เพราะ …………………………………………..( ) คดิ เพราะ …………………………………………..22.ราคาบหุ ร่ที ่คี ณุ สบู เปน ประจาํ คือ …………… บาท / ซอง23.คณุ คดิ วาอะไรอยูเบือ้ งหลังนโยบายของรัฐในการขน้ึ ราคาบหุ รี่( ) เพ่อื เพม่ิ รายไดจ ากภาษีใหมากขน้ึ ( ) เพือ่ ลดจํานวนผูส ูบบหุ ร่ี( ) เพื่อเพ่ิมกาํ ไรของบรษิ ทั บุหร่ี ( ) คาใชจายในการผลติ สูงขึ้น( ) อน่ื ๆ โปรดระบุ ………………………………..24.คณุ ทราบหรือไมวา มกี ารเพมิ่ ภาษีสรรพสามติ ครงั้ ลา สดุ เมื่อใด( ) ไมทราบ เพราะ …………………………………………..( ) ทราบ เพราะ …………………………………………..25.การเพิ่มภาษสี รรพสามติ ที่ผา นมาคร้งั ลาสดุ เปน สง่ิ ท่ดี หี รอื ไม( ) ไมด ี เพราะ …………………………………………..( ) ดี เพราะ ……………………………….…………..26.ภายหลังการเพม่ิ ภาษีสรรพสามิตในครง้ั นน้ั พฤตกิ รรมการสบู บุหรข่ี องคุณไดรับผลกระทบอยางไร( ) ลดการสบู บุหรี่ลงประมาณ …………… มวน/วัน( ) สบู บหุ รใ่ี นปริมาณทีเ่ ทา กับทเี่ คยสูบในชว งกอ นข้ึนราคาภาษี( ) เพ่ิมการสูบบุหรีป่ ระมาณ …………… มวน/วัน27.รฐั ควรใชร ายไดจ ากภาษบี หุ รอี่ ยางไร( ) รักษาผูปว ยท่ีเปน โรคอนั เนอื่ งมาจากการสูบบุหร่ี( ) รณรงคต อตานการสูบบหุ รี่( ) พฒั นาประเทศ( ) ใชสําหรับกจิ กรรมทางการศึกษา( ) ใชส ําหรบั กิจกรรมสุขภาพของสาธารณะ28.ถาราคาบหุ รเ่ี พิ่มขน้ึ อีกรอ ยละ 10 จะสงผลกระทบตอการสบู บหุ รีข่ องคณุ อยา งไร( ) ลดการสบู บหุ รีล่ งประมาณ …………… มวน/วัน( ) เพม่ิ การสบู บหุ รีป่ ระมาณ …………… มวน/วนั( ) สบู บหุ ร่ีในปริมาณทเ่ี ทา กบั ทีเ่ คยสูบในชว งกอ นข้ึนราคาภาษี( ) เลิกสูบบหุ ร่ี
14229.ถาราคาบุหรีเ่ พิม่ ข้ึนอกี รอยละ10 คุณจะเปลยี่ นไปบริโภคบุหร่ชี นิดอนื่ หรอื ไม( ) ไมเปลย่ี น (ตอบขอ 31) ( ) เปลยี่ นหากตอบวา เปลีย่ น คุณจะเปล่ยี นไปเปน( ) บุหรี่ไทย กรณุ าระบยุ ีห่ อ ………………………………………………..( ) บุหรีน่ ําเขา ทถ่ี ูกกฎหมาย กรุณาระบยุ ห่ี อ ………………………………..( ) บุหรี่นําเขา ทีผ่ ิดกฎหมาย กรุณาระบยุ ห่ี อ ………………………………..( ) อนื่ ๆ กรณุ าระบยุ ห่ี อ …………………………………..………………..สําหรับผสู มั ภาษณ1. ขอดซู องบุหร่ีของคณุ หนอ ยไดไหม( ) ไมไ ด (จบการสัมภาษณ) ( ) ได2. ชนิดของบหุ รี่( ) บหุ ร่ีไทย (จบการสัมภาษณ) ( ) บหุ รนี่ าํ เขา กรณุ าระบยุ ห่ี อ ………………………3. มภี าพและคาํ เตอื นที่ฉลากหรอื ไม( ) ไมม ี (จบการสัมภาษณ) ( ) มีหากมี กรณุ าระบุภาษาของคําเตือนนน้ั( ) ภาษาไทย ระบุ ……………………………..…………………………..( ) ภาษาอังกฤษ ระบุ ………………………………..……………………..( ) ภาษาอน่ื ๆ ระบุ ………………………………………………………....
143 กลุมสาระการเรยี นรสู ุขศกึ ษาและพลศกึ ษา โรงเรียน........................................... รายวิชาโรงเรยี นปลอดบหุ ร่ี (สาระการเรยี นรูเ พมิ่ เติม) ชว งช้นั ท่ี 3 (ม.1- ม.3) หนวยการเรียนรูท่ี 2 เร่ือง “บุหรีม่ ผี ลกระทบ เปน จุดจบของชีวติ ” แผนการจัดการเรียนรูที่ 9 เร่ือง “บุหรี่คอื มารรา ย ทาํ ลายสงั คม บมเพาะอาชญากร” เวลา 2 ชั่วโมง1. มาตรฐานการเรยี นรู มาตรฐานหลัก พ 4.1 เห็นคุณคาและมีทักษะในการสรางเสริมสุขภาพ การดํารงสุขภาพการปอ งกนั โรค และการสรางเสรมิ สมรรถภาพเพ่ือสขุ ภาพ มาตรฐานชว งชน้ั ขอ 3 มาตรฐานหลัก พ 5.1 ปองกันและหลีกเล่ียงปจจัยเสี่ยง พฤติกรรมเสี่ยงตอสุขภาพ อุบัติเหตุการใชยา สารเสพติด และความรนุ แรง มาตรฐานชวงช้ัน ขอ 32. ผลการเรยี นรทู ีค่ าดหวัง รู เขาใจ และตระหนักในพิษภัยของบุหร่ี ใชกระบวนการปองกันและแกไขปญหา ผลกระทบของบหุ ร่ีทมี่ ีตอสงั คม3. จุดประสงคการเรยี นรู 3.1 อธบิ ายถึงพษิ ภยั และผลกระทบของบหุ รท่ี ่มี ตี อสงั คมได (ความรู) 3.2 คิดวิเคราะหและเสนอแนวทางปองกันและแกไขปญหาผลกระทบของบุหร่ีที่มีตอสังคมได(ทักษะกระบวนการ) 3.3 อธิบายความรูส ึกในการมีสว นรว มปอ งกันและแกไขปญหาของบหุ ร่ีท่มี ีตอ สงั คม (เจตคติ)4. สาระการเรียนรู 4.1 พษิ ภยั และผลกระทบของบหุ รีท่ ม่ี ีตอ สงั คม 4.2 แนวทางการปองกันและแกไ ขปญ หาผลกระทบของบุหรท่ี ม่ี ตี อสังคม 4.3 การมสี ว นรว มในการปอ งกนั และแกไ ขปญ หาผลกระทบของบุหรที่ ่มี ีตอ สงั คม5. สาระสาํ คญั บหุ รี่เปนภยั อนั ตรายสรางความเสยี หายสาํ หรับผสู ูบและผใู กลชดิ สงผลกระทบเปนวงกวางไปสูปญหาสังคมเปนจุดเร่ิมตนของแหลงมั่วสุม ปญหาอบายมุขและอาชญากรรมในสังคม ซึ่งเปนปญหาท่ีจะสงผลกระทบตอชีวิตความเปนอยู ความเจริญและสันติสุขของคนในสังคม ดังนั้นการสรางความรูความเขาใจ ความตระหนักและรวมมือกันปองกันแกไขจึงเปนแนวทางที่จะชวยบรรเทาปญหาของบุหรี่ท่ีมีตอสังคมใหคลีค่ ลายไปในทางท่ดี ีขึน้ ได
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266