Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore panwadwad

panwadwad

Published by panwad.panwad.11, 2018-05-20 23:49:46

Description: panwadwad

Keywords: หลักสูตรโรงเรียนปลอดบุหรี่

Search

Read the Text Version

43 ใบงานท่ี 1 เรื่อง “สารพิษในบุหรี่มีจริงหรือไม”จดุ ประสงคก ารเรียนรู 1. อธิบายสว นประกอบของสารพษิ ในควนั บุหรี่ และผลกระทบทีเ่ กดิ กับรา งกายและชวี ิตมนษุ ยได (ความรู - เจตคต)ิ 2. ปฏิบัตกิ ารทดลอง “ผลการเผาไหมของบหุ ร่ี” จนสามารถพสิ จู นไดวา มีสารพษิ อยูใ นควันบหุ ร่ีจริง (ความร-ู ทักษะกระบวนการ- เจตคต)ิ 3. เขียนคาํ ขวญั สรางความตระหนกั ในพิษภยั ของบุหรี่ได (ความรู -ทักษะกระบวนการ - เจตคต)ิคําชแี้ จง ใบงานนมี้ กี ิจกรรมทีน่ กั เรียนตองปฏิบัติอยู 3 กิจกรรม ไดแ ก 1. กิจกรรมการระดมความคดิ เห็นเรื่อง “สารพิษในบหุ ร”่ี 2. กจิ กรรมการทดลอง “ผลการเผาไหมของบหุ รี่” 3. กิจกรรมการการเขียนคําขวญั สรางความตระหนกั ในพษิ ภยั ของบหุ รี่ ซึง่ มีรายละเอียดดงั น้ี 1. กิจกรรมการระดมความคดิ เห็นเรอื่ ง “สารพษิ ในบหุ ร”่ี

44 แนวปฏิบตั ิ 1. แบง นกั เรยี นเปน กลมุ ๆ ละประมาณ 5-7 คน รว มกันศกึ ษาใบความรทู ่ี 1 เร่ือง “สารพษิ ในบุหร”ี่ พรอมท้ังศึกษาคนควาขอมูลเพ่ิมเติมจากสื่อและแหลงเรียนรูอื่นๆ และนํามาวิเคราะหวิจารณภายในกลมุ สรปุ เปนประเดน็ ตอไปน้ี - มีสารพิษอะไรบา งในบุหร่ี - สารพิษเหลานม้ี ีลักษณะอยา งไร และมผี ลกระทบตอ รา งกายอยา งไร 2. กิจกรรมการทดลอง “ผลการเผาไหมข องบหุ ร”ี่แนวปฏบิ ตั ิใหน กั เรยี นแตล ะกลุมรวมกนั ทดลอง “ผลการเผาไหมข องบุหรี่” ดังนี้(1) อุปกรณ ธาตุตา งๆ ไฮโดรเจนไซยาไนด1. ขวดพลาสตกิ น้ําอดั ลมขนาด 2 ลิตร 2. สาํ ลี 2 กอ น3. แกว พรอมน้าํ สะอาด 2 ใบ 4. กระดาษสะอาดสขี าว 1 แผน5. บุหรแี่ ละไมข ดี 6. หนากากอนามัย (ผาปดจมกู )(2) กระบวนการทดลอง กัมมันตรงั สี1. นาํ ขวดพลาสตกิ นา้ํ อดั ลมทีแ่ หงและสะอาดลอกเอาฉลากออก ทาร2. เจาะรทู ฝี่ าจกุ นา้ํ อดั ลมใหพ อดีกับขนาดบุหร่ี พรอมสวมหนา กากปดจมกู3. ตัดกนกรองบุหร่ีท้ิง และเสยี บบหุ ร่ีเขา กบั ฝาจกุ อยางระมัดระวงั4. นํากอ นสําลมี าหมุ กนบหุ รดี่ านในฝาจุกและนําฝาจุกปด ปากขวดใหแ นน ไนโตรเจนไดออกไซด5. จดุ บุหร่ีขณะท่ีกาํ ลงั บีบขวดแลว ปลอ ยมือเพอื่ ใหเ กิดการเผาไหม6. คลายฝาจุกเลก็ นอยพรอมกับบบี ขวดเพอื่ ไลอากาศออก7. ปด ฝาจุกใหแ นน และปลอยมือสังเกตการเปลย่ี นแปลง8. ทาํ ขอ 6 และขอ 7 ซํ้าจนกวาบุหร่จี ะเผาไหมห มด นโิ คติน คารบอนมอนอกไซด9. สังเกตกอนสาํ ลใี นขวดจะมสี ีคล้าํ เพราะไดร ับควันบหุ รี่10. เปดฝาจุกเทนา้ํ สะอาดลงในขวดท่ที ดลอง ปดฝาแลวเขยา ขวด11. เทนา้ํ ในขวดใสแ กว จะพบวานาํ้ ในแกว มีสีคล้าํ และสกปรก เนือ่ งจากไดรบั สารพิษจากควนั บหุ รี่12. นํามาเปรียบเทยี บกับแกว ทบ่ี รรจุนา้ํ สะอาด จะเห็นความแตกตางของนา้ํ ในแกว 2 ใบนี้ไดอ ยางชดั เจน

45 (3) บันทึกกระบวนการและสรปุ ผลการทดลอง ใหแตละกลุมบันทึกกระบวนการและสรุปผลการทดลอง พรอมท้ังนํามาวิเคราะหวิจารณ สรุปสารเคมีซึ่งเปนสารพิษท่ีเกิดจากการเผาไหมของบุหร่ีและมีผลกระทบตอรางกายอยางไรบาง โดยศึกษาจากใบความรูเพ่มิ เตมิ และใหนกั เรยี นจดบันทึกลงในสมุดเปนรายบุคคล 3. กิจกรรมการเขียนคําขวญั สรา งความตระหนักในพษิ ภัยของบุหร”ี่ ใหนักเรียนรวมกันสรุปบทเรียน และเขียนคําขวัญสรางความตระหนักในพิษภัยของบุหร่ีเผยแพรภายในโรงเรียน (คําขวญั สรางความตระหนกั ในพษิ ภัยของบหุ ร่)ี

46 กลมุ สาระการเรียนรสู ขุ ศึกษาและพลศกึ ษา โรงเรียน........................................... รายวิชาโรงเรยี นปลอดบหุ ร่ี (สาระการเรยี นรูเพิ่มเตมิ ) ชว งชนั้ ท่ี 3 (ม.1-ม.3) หนว ยการเรียนรูท ่ี 1 เรือ่ ง “รจู กั บุหร่ไี ว ปอ งกันภัยวนั ขางหนา ” แผนการจัดการเรียนรูที่ 3 เรือ่ ง “สขุ ภาพเริ่มทรดุ เมื่อจุดบหุ รี”่ เวลา 1 ชัว่ โมง1. มาตรฐานการเรยี นรู มาตรฐานหลกั พ 4.1 เห็นคุณคาและมีทักษะในการสรางเสริมสุขภาพ การดํารงสุขภาพการปอ งกนั โรค และการสรางเสริมสมรรถภาพเพอ่ื สขุ ภาพ มาตรฐานชว งชัน้ ขอ 1-22. ผลการเรียนรทู ีค่ าดหวงั รู เขาใจ และตระหนกั ในพษิ ภัยและอนั ตรายของบหุ ร่ที ม่ี ตี อ สุขภาพของตนเอง และบุคคลขา งเคยี ง3. จุดประสงคก ารเรยี นรู 3.1 คดิ วเิ คราะหผลกระทบของบหุ รีท่ ี่มีตอ สุขภาพ บคุ ลิกภาพ และทศั นคติของสงั คมทมี่ ตี อผูสูบบหุ ร่ไี ด(ความร)ู 3.2บอกประโยชนแ ละคณุ คา ของการปอ งกันตนเองและบุคคลขา งเคียงใหร อดพนจากพษิ ภัยของบุหรีไ่ ด(เจตคติ)4. สาระการเรียนรู 4.1 ผลกระทบของบหุ รท่ี ม่ี ีตอสุขภาพ 4.2 การปอ งกนั ตนเองและบคุ คลใกลชิดใหร อดพนจากพษิ ภยั ของบหุ รี่ 4.3 ประโยชนแ ละคณุ คาของการชว ยเหลอื ผอู น่ื ใหร อดพน จากพิษภยั ของบุหรี่5. สาระสําคัญ ควันบุหร่ีมีสารพิษจํานวนมากที่เปนอันตรายตอสุขภาพของตัวผูสูบเองและบุคคลที่อยูใกลเคยี ง สามารถจําแนกเปนผลที่เกดิ ข้ึนในระยะสัน้ ผลท่ีเกิดขึ้นในระยะยาว และผลกระทบของการสูบบุหรต่ี อสขุ ภาพของบคุ คลขางเคยี ง

476. กระบวนการเรียนรู ข้นั นาํ 6.1 นกั เรยี นทาํ แบบทดสอบกอนเรยี นจํานวน 10 ขอ 6.2 ทบทวนความรูเก่ียวกับสารพิษท่ีมีอยูในควันบุหรี่ จากแผนการจัดการเรียนรูท่ี 2 โดยใหนกั เรียนเลน เกม “คนหาสารพษิ ” จากนน้ั ซกั ถามนักเรยี นดงั นี้ - ในควนั บหุ รม่ี ีสารพิษดงั ท่เี ราทราบแลว นักเรียนคิดวาผทู ี่สบู บุหร่ีจะไดรับสารพิษนั้นหรือไม - เมื่อไดรับสารพษิ ดงั กลา วจะมีผลตอ รา งกายอยา งไร ครใู หข อเสนอแนะเพม่ิ เติมวา สารพษิ ของบหุ รม่ี ผี ลเสยี หายรา ยแรงตอรา งกายของคนเราอยา งมหาศาลเกินกวาที่เราจะคาดคิด เราจึงควรรว มกันศกึ ษาและหาวธิ กี ารปองกนั สารพษิ ของบหุ รีด่ งั กลาว ข้ันสอน 6.3 แบง นกั เรยี นออกเปน กลุม ๆ ละประมาณ 5 – 7 คน ใหแ ตละกลุมรว มกนั เขยี นโทษของบุหรที่ ม่ี ีตอ ผูท่สี บู บุหร่ีในระยะสน้ั ทงั้ ทางดา นบคุ ลิกภาพและสุขภาพ ลงในใบงานที่ 1 เร่ือง “ชีวิตเริม่ วุนหากวยั รุนสูบบุหร”่ี พรอมท้ังระบายสีภาพคนใหสวยงาม 6.4 แจกสื่อแผนภาพโปสเตอรเ ร่อื ง “รา งกายของคนสบู บุหร”ี่ ใหน กั เรยี นแตล ะกลุม ศึกษาโทษของบุหรท่ี ่ีมีตอ ผทู ี่สบู บุหรใ่ี นระยะยาว 6.5 นักเรียนรว มกนั แสดงความคดิ เห็นเกย่ี วกับผลกระทบของควนั บหุ ร่ที มี่ ตี อบคุ คลขา งเคยี งโดยใชก ารต้งั คาํ ถาม ดังนี้ - ถานักเรียนไมไดสูบบุหรี่แตอยูในครอบครัวท่ีมีคนสูบบุหรี่นักเรียนคิดวานักเรียนจะไดร ับผลกระทบอยา งไรบา ง ขั้นสรุป 6.6 นักเรียนรวมกันสรุปผลกระทบของบุหร่ีท่ีมีตอตนเองและบุคคลขางเคียง พรอมทั้งบอกประโยชนและคุณคาของการปองกันตนเองและบุคคลขางเคียงใหรอดพนจากพิษภัยของบุหร่ี ครูใหขอเสนอแนะเพิม่ เตมิ และนกั เรียนจดบนั ทกึ ลงในสมุด เสร็จแลวใหนกั เรยี นทําแบบทดสอบหลังเรยี น 10 ขอ7. วธิ ีการจดั การเรยี นรู 7.1 การเรียนรทู ี่เนน ทักษะกระบวนการคดิ 7.2 การเรียนรูโดยใชกระบวนการกลุม8. การบูรณาการ 8.1 บรู ณาการกับกลุมสาระการเรียนรวู ทิ ยาศาสตร (เกมคนหาสารพิษ) 8.2 บูรณาการกับกลุมสาระการเรยี นรูศ ิลปะ (ระบายสภี าพคนในใบงานที่ 1)

489. สอ่ื /แหลงการเรยี นรู 9.1 แบบทดสอบกอนเรยี นและหลงั เรียน 9.2 เกม “คน หาสารพษิ ” 9.3 ใบงานท่ี 1 เรอื่ ง “ชวี ติ เรม่ิ วนุ หากวยั รนุ สูบบุหร่”ี 9.4 สือ่ ภาพโปสเตอรเ รอ่ื ง “รางกายของคนสบู บหุ ร่”ี 9.5 สมุดบนั ทกึ 9.6 เวบ็ ไซต http://www.ashthailand.or.th http://www.smokefreezone.or.th10. การวัดและประเมินผล 10.1 วธิ ีการวัด 1) การทดสอบกอนเรยี น/หลงั เรียน 2) ประเมินผลงานใบงานท่ี 1 และใบงานที่ 2 3) ประเมินกระบวนการเรียนรู “หวั ใจนกั ปราชญ” 10.2 เคร่อื งมือวัด 1) แบบทดสอบกอนเรยี น/หลังเรยี น 2) แบบประเมนิ ผลงานใบงานที่ 1 และใบงานท่ี 2 3) แบบประเมินกระบวนการเรยี นรู “หัวใจนักปราชญ” 10.3 เกณฑก ารวัด ทุกกจิ กรรม ถือเกณฑก ารผา นรอ ยละ 5011. กจิ กรรมเสนอแนะ นอกเหนือจากการจัดกระบวนการเรียนรูในแผนนี้แลว หากพบวานักเรียนหองใดมีลีลาการเรียนรูดานเปนนักกิจกรรมและนักปฏิบัติเปนสวนใหญ ครูอาจประยุกตการจัดกิจกรรมการเรียนรูใหเหมาะสมกับนักเรียน โดยใหนักเรียนรวมกันแสดงบทบาทสมมติในหัวขอเร่ือง “ชีวิตเริ่มวุน หากวัยรุนสูบบุหรี”่ ลงชอ่ื ........................................................................ (................................................................................) ตําแหนง ................................................................... ครูผสู อน

49บนั ทกึ หลงั สอน1. ผลการจดั การเรยี นรู....................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................2. ปญ หาและอปุ สรรค....................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................3.วิธกี ารแกปญ หา.................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... ลงชื่อ........................................................................ (................................................................................) ตาํ แหนง ................................................................... ครูผสู อนความคิดเหน็ ของผบู รหิ ารสถานศกึ ษา/ผูที่ไดรับมอบหมาย............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... ลงชือ่ ........................................................................ (......................................................................) ตาํ แหนง ................................................................... ผูอ ํานวยการสถานศึกษา

50 แบบทดสอบกอนเรยี นและหลังเรยี นเร่ือง “ผลกระทบของบหุ รี่ท่มี ีตอสขุ ภาพและบุคลิกภาพ”จุดประสงคการเรยี นรู 1. คดิ วิเคราะหผ ลกระทบของบหุ รี่ท่มี ีตอสขุ ภาพ บุคลิกภาพ และทศั นคติของสังคมท่ี มตี อ ผูสูบบุหร่ีได (ความร)ู 2.บอกผลกระทบของบหุ รีท่ ่มี ตี อ สขุ ภาพของบคุ คลขางเคยี งและบอกวิธีการปองกนั ได (ทกั ษะกระบวนการ)คําชีแ้ จง แบบทดสอบนมี้ ีจาํ นวน 10 ขอ คะแนนเตม็ 10 คะแนน ใหน ักเรยี นเลือกขอ ทีถ่ ูกตองทส่ี ุดเพยี งขอ เดยี ว1. สารพษิ จากควันบหุ รท่ี ที่ าํ ใหน ิ้วเหลืองและเลบ็ เสียคอื สารพิษชนิดใดก. ทาร ข. นิโคตนิค แอมโมเนีย ง. ไนโตรเจนไดออกไซด2. อาการไอเปน เลอื ด นํ้าหนกั ลด ปวดกระดูกซี่โครง ไหปลาราหรอื สะบัก บวมบริเวณหนาแขน และ อก กลืนอาหารลําบาก ไมสามารถกล้นั ปสสาวะและอจุ จาระได อาจเปนอาการของผปู วยทเี่ ปนโรคอะไรก. วณั โรค ข. มะเร็งปอดค. โรคถุงลมปอดโปงพอง ง. โรคหัวใจทเี่ กดิ จากโรคปอด3. โรคใดตอ ไปนไ้ี มไดมสี าเหตมุ าจากการสบู บหุ รี่ก. โรคหัวใจ ข. หลอดลมอักเสบค. มะเรง็ ตอมลกู หมาก ง. มะเร็งปากมดลกู4. สารนิโคตนิ ในบหุ รีก่ อ ใหเ กิดโรคใดก. โรคหวั ใจ ข. มะเร็งปอดค. มะเรง็ ในชอ งปาก ง. โรคถุงลมปอดโปง พอง5. เหตุใดหญิงตง้ั ครรภท สี่ ูบบุหรี่จงึ มีโอกาสแทง ลกู มากกวาหญงิ ตั้งครรภท ่ีไมส บู บุหร่ีก. เพราะทารกในครรภไ ดร บั ออกซเิ จนจากมารดามากเกนิ ไปข. เพราะทารกในครรภไ ดร ับกา ซคารบ อนมอนอกไซดจ ากมารดาค. เพราะทารกในครรภไ ดรับสารอาหารจากผา นทางรกไมเ พยี งพอง. เพราะทารกในครรภไ ดรบั เลือดและออกซเิ จนไมเ พยี งพอจากมารดา6. การเกิดคราบเกาะภายในหลอดเลอื ดจนทาํ ใหหลอดเลอื ดเล็กลงและเกดิ การตบี ตันของเสน เลือดทาํ ใหเลือดไปเลย้ี งสวนตางๆของรางกายไดน อยลง เปน สาเหตุใหเ กดิ โรคอะไรก. โรคหลอดเลือดอกั เสบ ข. โรคความดนั โลหติ ตาํ่ค. โรคเสน เลอื ดหวั ใจตบี ง. โรคไขมันอดุ ตนั ในเสนเลอื ด

517. โรคถงุ ลมปอดโปง พองเกดิ จากการไดรบั สารพษิ ใดในบหุ รี่ก. นโิ คตินและแอมโมเนยี ข. ไนโตรเจนไดออกไซดแ ละทารค. คารบอนมอนอกไซดแ ละนิโคตนิ ง. แอมโมเนยี และไฮโดรเจนไซยาไนด8. เหตุใดการสบู บหุ ร่ีจงึ กอ ใหเ กิดโรคถงุ ลมปอดโปง พองก. เพราะสารพษิ ในบหุ ร่ีทําใหถุงลมในปอดเพม่ิ จํานวนและขนาดมากข้นึข. เพราะสารพษิ ในบหุ ร่ีทาํ ใหถุงลมในปอดแตกจนทาํ ใหเ ลือดออกในปอดค. เพราะสารพิษในบหุ รีท่ ําใหถ งุ ลมในปอดฉกี ขาดและรวมตัวกันมขี นาดใหญขึ้นง. เพราะสารพษิ ในบหุ รี่ทําใหถุงลมในปอดหยดุ การฟอกเลอื ดทําใหห อบและเหน่ือยงา ย9. สารนิโคตนิ ในบหุ รี่เมอ่ื สบู เขา ไปแลวสง ผลตอระบบประสาทอยางไรก. กระตนุ ประสาทในระยะแรกแลว กดประสาทในเวลาตอ มาข. กดประสาทในระยะแรกแลวกระตุนประสาทในเวลาตอมาค. กระตนุ ประสาทในระยะแรกแลวกลอมประสาทในเวลาตอมาง. กลอ มประสาทในระยะแรกแลว กระตนุ ประสาทในเวลาตอ มา10. อาการเขียวคลํา้ บรเิ วณรมิ ฝป ากของผูส ูบบหุ รเี่ กิดจากสาเหตใุ ดก. เพราะเสน เลือดฝอยในรางกายขยายตวั ทําใหร ิมฝป ากมีสคี ล้ําลงข. เพราะเสนเลือดฝอยบริเวณริมฝปากขยายตัวจงึ เหน็ สคี ลํา้ มากขน้ึค. เพราะเสน เลอื ดฝอยในรา งกายหดตวั ทาํ ใหรมิ ฝป ากมสี คี ลํา้ ลงง. เพราะเสน เลอื ดฝอยในรา งกายหดตวั ทําใหเลือดไหลเวียนไมสะดวกเฉลยแบบทดสอบ เรอ่ื ง “ผลกระทบของบหุ รที่ ม่ี ีตอสขุ ภาพและบคุ ลิกภาพ” 1. ก. 6. ค. 2. ข. 7. ข. 3. ค. 8. ค. 4. ก. 9. ก. 5. ง 10. ค.

52 เกม “คน หาสารพษิ ”อปุ กรณ 1. กระเปา ผนังที่สรางจากแผน ฟว เจอรบ อรด หรอื วสั ดอุ ืน่ ตามความเหมาะสม มชี องสาํ หรับเสียบบัตรคาํ โดยท่กี ระเปาผนังดงั กลา วมีภาพเกยี่ วกบั ผลจากสารพิษในบหุ ร่ีติดอยูที่ดา นหนาเพอื่ ดงึ ดูดความสนใจ ดงั ภาพ (อาจเปน ภาพฟน เหลอื ง หรอื ภาพปากดาํ เล็บเหลอื ง ฯลฯ)

532. บัตรคาํ ชื่อของสารพษิ ในควันบหุ รี่กติกาการเลน 1. นกั เรยี นควรมีความรเู กย่ี วกบั เรื่องสารพษิ ที่พบในบหุ รม่ี าบางแลว 2. นาํ กระเปาผนังวางในรองของกระดานเพื่อใหน กั เรียนทั้งช้ันไดเ หน็ พรอ มกนั 3. นําบตั รคําจาํ นวนมากที่สรางข้ึนเปน ภาพบุหรที่ ม่ี ชี อ่ื สารเคมีชนดิ ตาง ๆ วางบนโตะครหู รือ บนพืน้ หนาชน้ั เรียน 4. ใหนกั เรยี นแขง กนั เลือกบตั รคาํ ท่เี ปนชื่อของสารพษิ ทพี่ บในบหุ รเี่ ทา น้นั ทสี่ ามารถจะนํามา เสียบในกระเปาผนงั ได 5. ใหเ วลา 3 นาที จากนน้ั กดกร่งิ หมดเวลา 6. ครนู าํ บตั รคาํ ออกมาจากกระเปาผนังทลี ะคําแลว ซักถามนักเรียนวาเปนสารพิษทพ่ี บในบหุ รี่ หรือไม แลว รวมกนั สรปุ เพม่ิ เติม

54 ใบงานท่ี 1 เรอื่ ง “ชวี ติ เรม่ิ วนุ หากวัยรนุ สบู บุหร่ี”จุดประสงคก ารเรยี นรู คิดวิเคราะหผลกระทบของบุหรี่ท่ีมตี อสุขภาพ บคุ ลกิ ภาพ และทศั นคตขิ อง สังคมทม่ี ตี อผสู บู บุหรี่ได (ความร)ูคาํ ช้แี จง ใหนักเรียนรวมกันพิจารณาวาหากวัยรุนชาย และหญิงติดบุหร่ี จะมีผลกระทบตอบุคลิกภาพ และสุขภาพอยางไรบาง โดยเติมขอความลงในชองสี่เหล่ียมใหถูกตองสมบูรณพรอมทั้งโยง เสนบอกตําแหนง และรวมกันสรุปภาพลักษณของวัยรุน ชาย – หญิง ท่ีสูบบุหร่ี ในสายตา ของนักเรียน และสังคมรอบขาง เสร็จแลวระบายสีใหสวยงาม คะแนนเต็ม 10 คะแนน (การ เตมิ ขอ ความ 7 คะแนน การระบายสี 3 คะแนน) สรุป : ภาพลักษณของวยั รนุ ชาย – หญงิ ท่สี บู บุหร่ใี นสายตานักเรียน วัยรุนชาย ……………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………. วยั รนุ หญงิ .…………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………….

55 แบบประเมินผลงานใบงานที่ 1 เร่ือง “ชีวติ เริม่ วนุ หากวัยรนุ สูบบุหร่ี”จุดประสงคการเรยี นรู คิดวเิ คราะหผลกระทบของบุหรที่ ่ีมีตอสุขภาพ บคุ ลิกภาพ และภาพลักษณข อง วัยรนุ ท่ีสูบบุหร่ไี ด (ความร-ู ทกั ษะกระบวนการ)คําช้ีแจง ใหน ักเรยี นรวมกนั พจิ ารณาวาบหุ รีม่ ีผลกระทบตอสขุ ภาพและบุคลิกภาพอยา งไร โดยจัดทาํ ผงั ความคิด (Mind Mapping) ใหสัมพันธกับรูปภาพ และเติมขอความลงในกรอบขางลาง เพ่ือ สรปุ ภาพลักษณของวยั รนุ ชายและหญิงที่สูบบุหรี่ ในสายตาของนกั เรยี นและสังคมรอบขา ง ฟน เหลอื ง แนวคาํ ตอบ แกเ ร็ว หัวเหมน็ตวั เหม็น ปากดํา ปากเหมน็นวิ้ เหลืองสรปุ : ภาพลกั ษณของวัยรนุ ชาย – หญิง ทส่ี ูบบหุ ร่ใี นสายตานักเรียนและสงั คมรอบขา งวัยรุน ชาย = ไมน าไวว างใจมีโอกาสติดยาเสพตดิ ชนดิ อื่นเพมิ่ ข้ึน ไมเปนผูน าํ ทด่ี ี หาแฟนยาก ไมม ใี ครอยากคบดวยวัยรุน หญิง = เปน ทตี่ ิฉนิ นนิ ทา มีโอกาสตดิ ยาเสพตดิ ชนดิ อื่นเพม่ิ ขึน้ และอาจมีพฤติกรรมท่เี ส่อื มเสียช่อื เสียง ของวงศต ระกลู ไมมใี ครอยากไดเปน สะใภ หรอื เปนแมของลูก เพราะจะสรา งความอบั อายขายหนา และเปน แบบอยางท่ีไมดี

56 กลมุ สาระการเรียนรสู ุขศกึ ษาและพลศกึ ษา โรงเรียน........................................... รายวิชาโรงเรยี นปลอดบุหร่ี (สาระการเรยี นรูเพิม่ เตมิ ) ชวงช้ันที่ 3 (ม.1-ม.3) หนว ยการเรียนรูที่ 1 เรือ่ ง “รูจกั บุหรไ่ี ว ปองกนั ภัยวนั ขางหนา ” แผนการจดั การเรียนรทู ่ี 4 เรอ่ื ง “ออนแอทุกเม่อื ความเชอื่ ทผี่ ดิ จึงตดิ บหุ ร”ี่ เวลา 1 ชั่วโมง1. มาตรฐานการเรียนรู มาตรฐานหลัก พ 5.1 ปองกันและหลีกเล่ียงปจจัยเส่ียง พฤติกรรมเส่ียงตอสุขภาพ อุบัติเหตุการใชยา สารเสพตดิ และความรนุ แรง มาตรฐานชว งชัน้ ขอ 12. ผลการเรยี นรูที่คาดหวัง รู เขาใจ และตระหนักถึงสาเหตุ ปจจัย และความเชื่อของการสูบบุหร่ีท่ีมีอิทธิพลตอพฤติกรรมการสบู บหุ รี่3. จุดประสงคการเรียนรู 3.1 คิดวิเคราะหส าเหตขุ องการสูบบุหรไี่ ด (ความร)ู 3.2 จําแนกระหวา งความจริงกับความเชือ่ ของการสูบบุหรไ่ี ด (ความรู- เจตคติ) 3.3 สาํ รวจและวิเคราะหพ ฤตกิ รรมการสูบบุหรขี่ องคนในชมุ ชนได (ทกั ษะกระบวนการ)4. สาระการเรยี นรู 4.1 สาเหตุของการสูบบหุ ร่ี 4.2 ความจริงและความเชอื่ ของการสบู บุหรี่ 4.3 การสํารวจและวเิ คราะหพ ฤติกรรมการสูบบหุ ร่ขี องคนในชมุ ชน5. สาระสําคญั การสูบบุหร่ีมีสาเหตุมาจากปญหาสังคม จากการวิเคราะหผลสํารวจพฤติกรรมการสูบบุหร่ีของประชากรของสาํ นักงานสถิตแิ หง ชาติ พ.ศ. 2547 พบวา ผูท่ีสูบบุหร่ีสวนใหญมีระดับการศึกษาตํ่าทําใหไมม ีความรูเร่อื งพษิ ภยั ของการสบู บุหร่ี มจี ติ ใจท่อี อ นไหวและมีความเชอื่ ทผี่ ดิ ๆ ในเรือ่ งของการสูบบุหรี่นอกจากน้ียังมีสาเหตุมาจากการมีพอแม พี่นองหรือเพื่อนฝูงที่สูบบุหรี่ ความอบอุนในครอบครัวการกําพราพอหรือแม การมีผลการเรียนออน การต้ังใจจะสูบเม่ือมีอายุมากขึ้น ลวนเปนปจจัยสําคัญทั้งสน้ิ6. กระบวนการเรยี นรู ข้นั นํา 6.1 นักเรียนรวมกันพิจารณาส่ือภาพวาดจินตนาการเร่ือง “บุหร่ีกับชีวิต” ซ่ึงเปนภาพเมรุเผาศพคนตายที่มีภาพปลองควันไฟ ซึ่งผูวาดจินตนาการเปนรูปมวนบุหร่ีถูกจุดปลอยควันพิษพวยพุงข้ึนสู

57ทองฟาจํานวน 5 มวน เบื้องลางเปนภาพไฟบรรลัยกัลปกําลังเผาผลาญหัวกะโหลกอยางบาคลั่งและรว มกันวิเคราะหวจิ ารณในประเด็นตอ ไปนี้ - นกั เรยี นสังเกตเหน็ อะไรในภาพบาง - ภาพวาดน้สี ่ือความหมายท่ีเกีย่ วขอ งกับบหุ ร่ีอยา งไรบาง - ช่ือภาพท่วี า “บหุ รกี่ บั ชวี ิต” มีความเหมาะสมหรือไม เพราะเหตุใด - ในเม่ือบุหรี่เปนตัวรายที่ทําลายชีวิตผูคนท่ัวโลกปละ 5 ลานคน แตเหตุใดยังมีผูสูบบุหรี่อยูเปน จํานวนมาก ครูใหขอเสนอแนะเพ่ิมเตมิ และชกั ชวนใหนักเรยี นรวมกันคนหาสาเหตุและความเช่ือของการสูบบุหรี่ในลําดบั ตอ ไปนี้ ข้ันสอน 6.2 แบงกลุมผูเรียนกลุมละประมาณ 5-7 คน ใหแตละกลุมรวมกันปฏิบัติใบงานที่ 1 เรื่อง“สาเหตุของการสูบบุหร่ี” และใหทุกกลุมสงตัวแทนมารวมกันจัดทําแผนภาพความคิด (Mind Mapping)เพ่อื สรปุ “สาเหตุของการสบู บุหร่ี” ลงในกระดาษแผนใหญและใหน ักเรียนทกุ คนบันทึกลงในสมุด ครูสังเกตกระบวนการเรยี นรูและใหข อเสนอแนะเพ่มิ เตมิ 6.3 นักเรียนแตละกลุมรวมกันวิเคราะหขอมูลจากใบงานที่ 2 เร่ือง “การวิเคราะหระหวางความจริงกับ ความเชื่อ” แลวสงตัวแทนออกมานําเสนอและอธิบายเหตุผลประกอบพรอมท้ังจดบันทึกขอมูลบนกระดานดํา 6.4 นําขอ มูลของทกุ กลุมมาสรปุ ผลการวิเคราะหเปนภาพรวม ขอมูลใดมีความคิดเห็นไมตรงกันจะนาํ มาสู การอภปิ ราย ขอควรระวัง ในกรณีท่ีเสียงสวนใหญเห็นดวยกับ “ความเชื่อที่ไมถูกตอง” เชน เห็นดวยกับขอความท่วี า การสูบบุหรี่เปน ความเทมีเสนหของวัยรุน ครูควรชวนนักเรียนสนทนาและใชวิจารณญาณรว มกันเพอื่ เปล่ยี นแปลง ความเชือ่ ท่ีไมเ หมาะสมของนักเรยี น 6.5 นักเรียนแตละกลุมรับเอกสารแบบสัมภาษณพฤติกรรมการสูบบุหร่ีของคนในชุมชน และแบบวัดระดับการติดสารนิโคติน เพ่ือนําไปสํารวจพฤติกรรมการสูบบุหรี่ของบุคคลในชุมชนโดยวางแผนแบงพ้นื ที่สาํ รวจและหนาท่ีรับผิดชอบ 6.6 ครูใหคําปรึกษาและขอเสนอแนะในการไปสํารวจขอมูลในชุมชน ดานการเตรียมการการส่อื สาร มารยาทท่ดี ี และความปลอดภยั 6.7 ทุกกลุม จัดทาํ รายงานผลการสํารวจพฤตกิ รรมการสบู บุหรขี่ องคนในชุมชน สงครูในสัปดาหตอ ไป ขั้นสรุป 6.8 นักเรยี นและครรู วมกันสรุปสาเหตขุ องการสูบบุหร่ี

587. วิธกี ารจัดการเรียนรู 7.1 กระบวนการคิดอยางมีวจิ ารณญาณ (Critical Thinking) 7.2 การเรยี นรแู บบประสบการณ (Experiential Learning)8. การบูรณาการ 8.1 บรู ณาการกบั กลมุ สาระการเรยี นรูศลิ ปะ (ภาพวาดจนิ ตนาการเรื่อง “บุหร่กี ับชวี ิต”) 8.2 บูรณาการกับกลุมสาระการเรียนรูสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม (การสํารวจ พฤติกรรมการสบู บหุ รี่ของคนในชมุ ชน) 8.3 บรู ณาการกบั กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร (การสาํ รวจ สรปุ ขอ มลู และหาคา รอยละ)9. สือ่ /แหลงการเรยี นรู 9.1 สอื่ ภาพวาดจินตนาการเรอ่ื ง “บุหร่ีกบั ชวี ติ ” 9.2 กระดาษแผนใหญ ปากกาเมจกิ และอปุ กรณใ นการจัดทําแผนภาพความคดิ 9.3 ใบงานท่ี 1 เรอื่ ง “สาเหตขุ องการสูบบุหรี”่ 9.4 ใบงานท่ี 2 เร่อื ง “การวเิ คราะหร ะหวางความจรงิ กบั ความเชื่อ” 9.5 แบบสัมภาษณพ ฤตกิ รรมการสูบบุหร่ขี องคนในชุมชน 9.6 แบบวัดระดับการติดสารนิโคตนิ 9.7 ตารางสรุปแบบสํารวจพฤตกิ รรมการสบู บหุ รใ่ี นโรงเรียน 9.8 สมดุ บันทึกของนักเรียน 9.9 ศูนยก ารเรยี นรูกลมุ สาระสขุ ศึกษาและพลศกึ ษา/ศนู ยร ณรงคเ พอ่ื การไมสูบบุหร่ขี องโรงเรียน 9.10 เวบ็ ไซต http:// www.ashthailand.or.th http:// www.smokefreezone.or.th 9.11 แหลงการเรยี นรใู นชมุ ชน10. การวัดและประเมนิ ผล 10.1 วธิ กี ารวดั 1) ประเมนิ กระบวนการเรียนรู “หัวใจนักปราชญ” 2) ประเมนิ ผลงาน (ใบงาน) 3) ประเมนิ กระบวนการปฏบิ ัติงานกลุม 10.2 เครื่องมือวดั 1) แบบประเมินกระบวนการเรยี นรู “หวั ใจนักปราชญ” 2) แบบประเมินผลงาน (ใบงาน) 3) แบบประเมนิ กระบวนการปฏิบตั ิงานกลมุ 10.3 เกณฑการวดั ทุกกจิ กรรม ถอื เกณฑการผานรอ ยละ 50

5911. กจิ กรรมเสนอแนะ 11.1 “การวิเคราะหระหวางความจริงกับความเชื่อ” เร่ืองการสูบบุหร่ี สามารถระดมความคดิ เห็นใหน ักเรียนกาํ หนดหัวขอหรอื ขอ มูลเพิม่ เตมิ ไดโ ดยครเู ปน ผูใหคําปรกึ ษา 11.2 ควรสงเสริมใหผูปกครองและผูนําชุมชนมีสวนรวมกิจกรรม และประเมินผูเรียนตามสภาพจริงในการออกไปสํารวจพฤติกรรมการสบู บุหรีข่ องคนในชุมชนดวย ลงชือ่ ........................................................................ (........................................................................) ตาํ แหนง................................................................... ครูผูสอน

60บันทกึ หลงั สอน1. ผลการจดั การเรยี นรู....................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................2. ปญหาและอุปสรรค....................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................3.วิธีการแกป ญหา.................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... ลงชือ่ ........................................................................ (........................................................................) ตําแหนง................................................................... ครผู สู อนความคดิ เห็นของผูบรหิ ารสถานศกึ ษา/ผูท ไ่ี ดร บั มอบหมาย............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... ลงช่อื ........................................................................ (........................................................................) ตําแหนง................................................................... ผอู ํานวยการสถานศึกษา

61 สื่อการเรยี นรูภาพวาดจนิ ตนาการเร่อื ง “บหุ รี่กับชีวิต”

62 ใบงานท่ี 1เรือ่ ง “สาเหตุของการสบู บุหร่ี”จุดประสงคการเรียนรู คิดวิเคราะหส าเหตุของการสูบบุหรี่ได (ความรู)คาํ ชแี้ จง แบงกลุมนักเรียนกลุมละประมาณ 5-7 คน ใหแตละกลุมรวมกันปฏิบัติใบงานที่ 1 เร่ือง “สาเหตุของการสูบบุหรี่” ลงในกระดาษ A4 และสงตัวแทนกลุมมารวมกันจัดทํา แผนภาพความคิด (Mind Mapping) เพอื่ สรุปลงในกระดาษแผน ใหญ

63 แบบเฉลยใบงานท่ี 1 เรอ่ื ง “สาเหตขุ องการสูบบุหร่ี”จุดประสงคการเรียนรู คิดวิเคราะหส าเหตขุ องการสูบบุหร่ีได (ความร)ูคําช้ีแจง แบงกลุมนักเรียนกลุมละประมาณ 5-7 คน ใหแตละกลุมรวมกันปฏิบัติใบงานท่ี 1 เรื่อง “สาเหตุของการสูบบุหร่ี” ลงในกระดาษ A4 และสงตัวแทนกลุมมารวมกันจัดทํา แผนภาพความคิด (Mind Mapping) เพอื่ สรปุ ลงในกระดาษการด แผนใหญ- การสบู เพ่ือเขาสงั คม แนวการตอบ - การทําตามเพ่ือน- อทิ ธิพลของการโฆษณาชวนเช่ือ เพอ่ื น - การถูกเพอ่ื นชักชวน- การอยใู นชมุ ชนทีม่ องการสูบบุหร่ี - การทําเพอื่ ใหกลมุ เพือ่ นเปนเรือ่ งปกติ ยอมรบั หรอื ทาํ เพื่อเขากลมุ สภาพแวดลอ ม ตนเอง- การที่มีบุคคลในบานสูบบุหรี่จน สาเหตขุ องการสูบบุหร่ี - ความอยากรอู ยากลอง มองวาเปนเรอ่ื งปกติ ครอบครวั - ความเช่ือท่ีผิดเกยี่ วกบั การสบู บหุ รี่ เชน คดิ วา เท หรือทําให- การเลียนแบบพฤติกรรมของคน สมองปลอดโปรง คลายเครยี ด ในครอบครัว

64ใบงานท่ี 2 เร่ือง “การวิเคราะหระหวา งความจริงกบั ความเชือ่ ”จุดประสงค จาํ แนกระหวา งความจริงกับความเชอ่ื ของการสูบบหุ รไ่ี ด (ความร-ู เจตคติ)คําชี้แจง ใหนักเรียนคิดวิเคราะหขอมูลเหลาน้ีวาขอความในขอใดเปนความจริง ขอความในขอใดเปน ความเช่ือ โดยใหนักเรียนใสเคร่ืองหมาย 9 ลงในชองท่ีนักเรียนเลือกพรอมทั้งเขียนเหตุผล ประกอบท่ี ขอความ ความจรงิ ความเช่อื เหตุผล1 การสบู บุหรี่ทําใหคลายเครียด และสมองปลอดโปรง ข้ึน2 การสบู บุหรี่เปนความเทแ ละเปนเสนหของวยั รุน3 การสูบบหุ รี่ดทู าํ ใหเปนผูใหญขึน้ และเปนผชู ายที่สมบูรณแ บบ4 การสบู บหุ รเ่ี ปน สัญลักษณของการเปนผนู าํ5 การสบู บหุ ร่ชี วยดึงดูดความสนใจของเพศตรงขา ม6 การสบู บุหรี่ชวยควบคุมนํา้ หนักตวั7 การสูบบุหรท่ี ําใหใบหนาแกกอนวัย8 การสบู บุหร่ียงิ่ สูบมากโอกาสทจี่ ะเกดิ ตอกระจกย่งิ มาก9 การสบู บุหรี่เปน สาเหตสุ าํ คัญของการเกิดมะเร็งทีล่ ้ินและในปาก10 การสูบบุหรท่ี ําใหฟ น ผุ มีกลิ่นปาก และเปน โรคเหงอื ก11 การสูบบหุ รีจ่ ะทําใหนิ้วเหลือง และทาํ ใหเล็บเสยี12 ผูที่สบู บุหรมี่ โี อกาสเกิดโรคแผลในกระเพาะอาหารมากกวา ผู ไมสบู บหุ รี่13 การสูบบหุ รจ่ี นตดิ ทําใหแ กเ รว็ ขน้ึ ประมาณ 10 ป14 ผชู ายสบู บหุ รจ่ี ะมโี อกาสเกิดสมรรถภาพทางเพศเส่ือม15 ผหู ญงิ สูบบหุ ร่ีจะทาํ ใหเกิดมะเรง็ ปากมดลกู ได

65 แบบเฉลย ใบงานที่ 2 เร่ือง “การวิเคราะหร ะหวา งความจรงิ กับความเชื่อ”จุดประสงค จําแนกระหวางความจรงิ กบั ความเช่อื ของการสูบบุหรีไ่ ด (ความร-ู เจตคติ)คําช้แี จง ใหนกั เรยี นคดิ วิเคราะหขอ มลู เหลานี้วาขอความในขอใดเปนความจริง ขอความในขอใดเปน ความเชอื่ โดยใหนักเรียนใสเครื่องหมาย 9 ลงในชองที่นักเรียนเลือกพรอมทั้งเขียนเหตุผล ประกอบ แนวการตอบที่ ขอ ความ ความจรงิ ความเชือ่ เหตผุ ล1 การสูบบุหรี่ทําใหคลายเครียด และสมองปลอด 9 การเลน ดนตรี กฬี าคลายเครียดไดด ีกวา โปรง ขึน้2 การสูบบุหรี่เปนความเทและเปน เสนหของวัยรนุ 9 การสูบบหุ ร่เี ปนทีร่ งั เกียจของสังคม3 การสูบบุหร่ีดูทําใหเปนผูใหญขึ้น และเปนผูชายท่ี 9 การมีสุขภาพแข็งแรงสมวัย ทําใหเติบโต สมบรู ณแ บบ เปนผูใ หญทสี่ มบูรณ4 การสูบบหุ ร่ีเปนสญั ลักษณข องการเปน ผูนาํ 9 ผูนําตองกลา คิดกลา แสดงออกในทางที่ดี5 การสบู บหุ รช่ี วยดึงดูดความสนใจของเพศตรงขาม 9 การเลน ดนตรี กฬี ากด็ ึงดดู ความสนใจได6 การสบู บหุ รช่ี ว ยควบคมุ น้ําหนกั ตวั 9 ตอ งควบคุมอาหารและออกกาํ ลังกาย7 การสูบบุหรท่ี าํ ใหใ บหนาแกก อนวัย 9 ลดการไหลเวยี นโลหติ ไปยงั ผวิ หนงั8 การสูบบุหร่ีย่ิงสูบมากโอกาสท่ีจะเกิดตอกระจกย่ิง 9 มโี อกาสเปน มากกวา คนปกติ มาก9 การสูบบุหร่ีเปนสาเหตุสําคัญของการเกิดมะเร็งที่ 9 สารพิษในบุหรี่กระตุนใหเซลลทํางาน ลิน้ และในปาก ผดิ ปกติ10 การสูบบุหรี่ทําใหฟนผุ มีกลิ่นปาก และเปนโรค 9 เกดิ จากสารพิษตกคางและเสยี่ งเปนมะเรง็ เหงือก11 การสบู บหุ รี่จะทาํ ใหน้ิวเหลอื ง และทําใหเลบ็ เสยี 9 เกิดจากสารทารท ่อี ยใู นบุหรี่12 ผูท่ีสูบบุหร่ีมีโอกาสเกิดโรคแผลในกระเพาะ 9 เพราะสารพิษในบุหร่ีสามารถดูดซึมเขาทาง อาหารมากกวา ผไู มสูบบหุ ร่ี เนอ้ื เยอ่ื ทําใหเ กดิ การระคายเคือง13 การสบู บหุ รีจ่ นตดิ ทาํ ใหแ กเ รว็ ขึน้ ประมาณ 10 ป 9 ลดการไหลเวยี นโลหติ ไปยังผวิ หนัง14 ผูชายสูบบุหร่ีจะมีโอกาสเกิดสมรรถภาพทางเพศ 9 เพราะรูเสนประสาทและเสนเลือดตบี เสื่อม15 ผหู ญิงสูบบหุ รี่จะทาํ ใหเ กิดมะเร็งปากมดลกู ได 9 สารพิษกระตนุ ใหเกดิ เซลลผดิ ปกติ

66 แบบสาํ รวจพฤติกรรมการสบู บุหรี่ของคนในชมุ ชน โครงการโรงเรียนปลอดบุหรี่ โรงเรียน............................................................ ---------------------------------------------------------------คาํ ช้ีแจง ดวยโรงเรียน…………………………………….. ไดจัดทําโครงการ “โรงเรียนปลอดบุหร่ี”โดยมีวัตถุประสงค เพ่ือสรางคานิยมไมสูบบุหร่ีใหกับนักเรียน และพัฒนากิจกรรมการรณรงคเพ่ือการไมสูบบุหรี่ในโรงเรียน รวมทั้งใหนักเรียนไดมีบทบาทในการรณรงคเพ่ือการไมสูบบุหรี่ ซึ่งจะทําใหเกิดนโยบายปลอดบุหร่ีขึ้นในโรงเรียนและขยายผลไปสูชุมชนปลอดบุหรี่ในอนาคต ดังน้ันเพื่อใหโครงการนี้สําเร็จผลดวยดีและเปนประโยชนทางการศึกษา จึงใครขอความอนุเคราะหตอบแบบสํารวจพฤติกรรมการสูบบุหร่นี ้ี โดยขอมลู ทั้งหมดผดู ําเนนิ การจะเกบ็ ไวเปน ความลับตอนท่ี 1 ขอมูลสว นบุคคล1.1 เพศ { ชาย { หญิง1.2 อาย.ุ .............ป1.3 สถานภาพ { โสด { สมรส { หมา ย/หยา ราง/แยกกันอยู1.4 อาชพี { รบั ราชการ { รบั จาง { เกษตรกร { การประมง { รัฐวิสาหกจิ { ประกอบอาชพี อสิ ระ { อนื่ ๆ (โปรดระบ)ุ ............................................ตอนท่ี 2 พฤตกิ รรมและความคดิ เหน็ เก่ยี วกบั การสบู บุหร่ี2.1 ทานเคยสบู บุหรคี่ ร้งั แรกเมอื่ อาย.ุ ..............ป สบู เพราะ..........................................................2.2 ระยะเวลาที่สูบบหุ ร่ี { เวลา 2-5 ป { เวลา 6-10 ป { ตา่ํ กวา 2 ป { เวลา 20 ปขึน้ ไป { เวลา 11-20 ป2.3 ปจ จุบันนท้ี านสบู บหุ รีป่ ระมาณวนั ละกีม่ วน{ 1 มวน { 2-5 มวน { 6-10 มวน{ 11-20 มวน { มากกวา 20 มวน2.4 สถานท่ี ทใี่ ชใ นการสูบบุหรี่ (ตอบไดมากกวา 1 ขอ){ สถานบนั เทงิ { สถานทท่ี ี่จดั ไวเฉพาะคนสบู บุหร่ี{ หองน้ํา { สถานท่สี าธารณะทว่ั ไป { รา นอาหาร

67{ หองนอน { หอ งทํางาน { รถยนตสว นตวั{ อ่ืนๆ (โปรดระบุ) .....................................................................................2.5 ทา นมีความคิดเหน็ อยา งไรตอ การสบู บหุ ร่ี{ การสูบบุหร่เี ปนเรอ่ื งปกติ { การสบู บุหรี่เปน สิง่ เสพติดทําลายสขุ ภาพ2.6 สาเหตทุ ีท่ า นยงั คงสบู บุหรอ่ี ยู (ตอบไดมากกวา 1 ขอ ){ เพอ่ื เขา สงั คม { ตามเพ่ือน { ตกงาน/ไมมอี ะไรทาํ{ ลดความเครยี ด { ลดความอว น { ประชดชวี ติ{ คนในครอบครวั สบู { แกเหงา { เปนแฟชนั่{ สูบเมื่อด่ืมสรุ า { ตัวผูสบู มปี ญ หา { ครอบครวั มีปญ หา{ ตอ งการโชว { เลียนแบบดารา { ตอ งการทาํ รา ยตวั เอง{ รูสึกมน่ั ใจในตนเองมากขนึ้ { อนื่ ๆ (โปรดระบ)ุ .......................................................2.7 ทานมีความคดิ ท่ีจะเลกิ สูบบหุ รหี่ รอื ไม{ เคยคดิ { ไมเคยคดิ2.8 สาเหตุทอ่ี ยากจะเลกิ สบู บหุ รี่ (ตอบไดม ากกวา 1 ขอ ){ สขุ ภาพไมด ี { อยากลดคาใชจ า ย { คนขา งเคยี งขอรอ งใหเ ลกิ{ ผลกระทบในการทํางาน { รูสกึ วา สงั คมรังเกยี จ{ อน่ื ๆ (โปรดระบ)ุ ...................................................................................................2.9 อะไรเปนสาเหตทุ ีท่ านเลกิ บหุ รีไ่ ด (กรณีทีเ่ ลกิ ได){ มีความตง้ั ใจจรงิ { แยกจากเพ่อื นทีส่ บู บหุ รี่ { คนขางเคยี งใหก ําลงั ใจ{ หมอบังคบั ใหเลิก { รูสกึ สุขภาพดขี น้ึ หลงั เลกิ บุหรี่{ อ่ืนๆ (โปรดระบุ) …………………………………………………...........................2.10 อะไรเปน สาเหตทุ ที่ านเลิกบุหร่ไี มได (กรณีท่เี ลกิ ไมไ ด){ อยูใ นสังคมทสี่ บู /เพอ่ื นสบู { ไมอ ยากจะเลิก/ไมคิดจะเลิก{ คนในครอบครวั สูบ { จําหนายเอง{ จติ ใจไมเขม แขง็ พอ { ไมมคี วามต้ังใจจริง---------------------------------------------------------------------------- ถาคุณคิดจะเลกิ บุหรี่ขอขอมูลไดที่ศูนยรณรงคเพื่อการไมสูบบุหร่ีในโรงเรียนหรือมูลนิธิรณรงคเพื่อการไมสูบบุหร่ี36/2 ซอยประดิพัทธ 10 ถนนประดิพัทธ เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400 โทร. 0-2278-1828หรือ 1600

68อยากรูไหม... คณุ ตดิ บุหรแี่ คไหน วิธีงาย ๆ ท่ีจะชวยใหคนที่สูบบุหร่ีรูจักตัวเองมากขึ้น อยากใหคุณลองประเมินตัวเอง และคิดหาทางเลกิ บุหรี่กอ นท่ีจะสายเกนิ แก ดว ยวธิ ที ดสอบวาคณุ ติดนิโคตนิ ระดับไหน1. โดยปกติคณุ สบู บุหรีก่ ีม่ วนตอวัน … 10 มวนหรือนอ ยกวา (0 คะแนน) … 11-20 มวน (1 คะแนน) … 21-30 มวน (2 คะแนน) … 31 มวนขน้ึ ไป (3 คะแนน)2. หลงั ตืน่ นอนตอนเชาคณุ สูบบหุ รม่ี วนแรกเม่ือไหร … ภายใน 5 นาทีหลงั ต่นื นอน (3 คะแนน) … 6-30 นาทีหลงั ตืน่ นอน (2 คะแนน) … 31-60 นาทีหลังตนื่ นอน (1 คะแนน) … มากกวา 60 นาที หลงั ตน่ื นอน (0 คะแนน)3. คณุ สูบบุหรจ่ี ดั ในชวั่ โมงแรกหลังต่นื นอน (หมายถงึ สบู มากกวาในชว งอ่นื ของวัน) … ใช (1 คะแนน) … ไมใช (0 คะแนน)4. สบู บุหรี่มวนไหนที่คุณไมอ ยากเลิกมากท่ีสุด … มวนแรกในตอนเชา (1 คะแนน) … มวนอน่ื ๆ (0 คะแนน)5. คณุ รูสกึ ลําบากหรือยุงยากไหมทต่ี องอยใู นเขต \"ปลอดบุหร\"่ี เชน โรงภาพยนตร รถเมล รา นอาหาร … รูส ึกลาํ บาก (1 คะแนน) …ไมรสู กึ ลาํ บาก (0 คะแนน)6. คณุ ยังตองสูบบุหรี่ แมจะเจบ็ ปว ยนอนพักตลอดในโรงพยาบาล … ใช (1 คะแนน) … ไมใ ช (0 คะแนน)

69คะแนนท่ไี ดรับและการอา นผล นบั คะแนน โดยตรวจสอบคําตอบ และรวมคะแนน ซง่ึ คะแนนจะอยตู อในชว ง 0 – 10 คะแนนซ่ึงสามารถอานผลดังคําอธิบายตอ ไปนี้คะแนนของคุณเทา กบั 0-3ไมนับวาคุณติดสารนิโคติน คุณสามารถเลิกสูบบุหร่ีไดดวยตนเอง หากคุณเคยลมเหลวจากการพยายามเลกิ ดวยตนเอง คุณอาจลองใชพ ฤติกรรมบาํ บัดบางอยางชว ยเสรมิคะแนนของคุณเทากับ 4-5คุณติดนิโคตินในระดับปานกลาง คุณสามารถเลิกสูบบุหรี่ไดดวยตนเอง หากคุณเคยลมเหลวจากการพยายามเลิกดวยตนเอง คณุ อาจลองใชพ ฤติกรรมบาํ บัดบางอยา งชว ยเสริมคะแนนของคุณเทา กับ 6-7คุณติดนิโคตินระดับปานกลาง และมีแนวโนมอยางมากในการพัฒนาไปเปนการติดนิโคตินในระดับสูงการเลกิ สูบบหุ รี่เสยี ตงั้ แตวนั นจี้ ะทาํ ไดงา ยกวาการท่ีคุณยังสูบตอไป และจะมีแผนเลิกในอนาคต หากคุณเคยลมเหลวจากการพยายามเลิกบุหรี่ดวยตนเองหรือรวมกับการใชพฤติกรรมบําบัดเสริม หรือวิธีอ่ืนๆเชน การฝงเข็มหรือการสะกดจิต มาแลว คุณควรอยางยิ่งที่จะไปพบแพทยเพื่อรับคําปรึกษาเพ่ือการเลิกสูบบุหรี่คะแนนของคณุ เทากบั 8-9คุณตดิ สารนิโคตนิ ระดับสงู มาก คุณควรใสใจและใหความสําคญั กับสขุ ภาพของคุณ และเอาจริงเอาจังในการเลกิ บหุ รี่เพอื่ ชวี ติ ท่ีดขี ้นึ สาํ หรบั คุณการเลกิ บหุ ร่ดี วยตนเอง หรือการใชแคเพียงกําลังใจอยางเดียวอาจไมเพียงพอในการรักษา หากคุณเคยลมเหลวจากการพยายามเลิกบุหร่ีดวยตนเองหรือรวมกับการใชพฤติกรรมบําบัดเสริม หรือวิธีอ่ืนๆ รวมท้ังการใชแผนแปะนิโคตินหรือหมากฝรั่งนิโคตินมาแลว กรณีนี้ทา นควรพบแพทยเ พ่อื รบั คําปรกึ ษาเพอื่ การเลกิ บุหรี่คะแนนของคุณเทากบั 10คณุ ตดิ นโิ คตินในระดับท่สี งู สุด คุณควรใสใจและใหความสําคัญกับสุขภาพของคุณ และเอาจริงเอาจังในการเลกิ บหุ รี่เพอ่ื ชวี ิตท่ีดขี ้นึ สําหรบั คณุ การเลิกบุหร่ดี ว ยตนเอง หรือการใชแคเพียงกําลังใจอยางเดียวอาจไมเพียงพอ หากคุณเคยลมเหลวจากการพยายามเลิกบุหร่ีดวยตนเองหรือรวมกับการใชพฤติกรรมบําบัดเสริม หรือวิธีอ่ืนๆ รวมท้ังการใชแผนแปะนิโคตินมาแลว กรณีนี้ทานควรพบแพทยเพ่ือรับคําปรึกษาเพื่อการเลิกบุหร่ี***หากคณุ ตอ งการคําปรึกษาในการเลิกสบู บหุ ร่ี โทร. 1600 ตั้งแตว ันจันทร-ศกุ ร 09.00-17.30 น.***

70 ตารางสรุปแบบสํารวจพฤติกรรมการสบู บหุ รีข่ องคนในชมุ ชนจุดประสงคการเรยี นรู สาํ รวจและวิเคราะหพ ฤตกิ รรมการสูบบุหรี่ของคนในชมุ ชนได (ทักษะ กระบวนการ)พนื้ ทสี่ ํารวจอยูในเขตหมบู าน/ชมุ ชน.........................................................................................................แขวง/ตําบล.............................................................เขต/อําเภอ...................................................................จังหวดั .............................................................................ตารางที่ 1 แสดงจาํ นวนกลมุ ตัวอยา งทต่ี อบแบบสาํ รวจ หญิง รวม ชาย จํานวน รอยละ จํานวน รอยละ กลุมตวั อยางทต่ี อบแบบสํารวจ จาํ นวน รอยละ 100ตารางท่ี 2 แสดงอายุของกลมุ ตวั อยา งท่ี อายุ ชาย หญงิ รวม จํานวน รอ ยละ จาํ นวน รอยละ จาํ นวน รอ ยละ1 อายุ 10 –15 ป2 อายุ 16 –20 ป3 อายุ 21 –30 ป4 อายุ 31 – 40 ป5 อายุ 41 ปข ้นึ ไปตารางท่ี 3 แสดงสถานภาพการสมรสของกลุมตวั อยา งที่ สถานภาพการสมรส ชาย หญิง รวม จาํ นวน รอยละ จํานวน รอยละ จํานวน รอ ยละ1 โสด2 สมรส3 หมา ย/หยา รา ง/แยกกนั อยู

71ตารางท่ี 4 แสดงอาชีพของกลมุ ตวั อยางท่ี อาชีพ ชาย หญิง รวม จํานวน รอยละ จํานวน รอ ยละ จํานวน รอยละ1 รับราชการ2 รบั จา ง3 เกษตรกร4 ประมง5 รัฐวิสาหกจิ6 ประกอบอาชพี อสิ ระ7 อ่ืนๆตารางท่ี 5 อายใุ นการสูบบหุ ร่ีคร้งั แรกของกลมุ ตัวอยางท่ี อายใุ นการสบู บหุ รคี่ ร้งั แรก ชาย หญงิ รวม จาํ นวน รอยละ จํานวน รอ ยละ จาํ นวน รอยละ1 อายุ 10 –15 ป2 อายุ 16 – 20 ป3 อายุ 21 –30 ป4 อายุ 31-40 ป5 อายุ 40 ป ข้ึนไปตารางท่ี 6 ระยะเวลาในการสบู บุหรีข่ องกลมุ ตวั อยา งที่ ชาย หญิง รวม จํานวน รอยละ จาํ นวน รอ ยละ จํานวน รอยละ1 เวลา < 2 ป2 เวลา 2-5 ป3 เวลา 6-10 ป4 เวลา 11 -20 ป5 เวลา 20 ปข ้นึ ไป

72ตารางท่ี 7 เฉล่ยี การสบู บหุ รตี่ อ วันของกลมุ ตวั อยา งที่ เฉลี่ยการสูบบหุ รี่ตอวนั ชาย หญงิ รวม จํานวน รอยละ จํานวน รอ ยละ จํานวน รอ ยละ1 จาํ นวน 1 มวน/วัน2 จํานวน 2-5 มวน/วัน3 จาํ นวน 6-10 มวน/วนั4 จํานวน 11-20 มวน/วนั5 จํานวน 21 มวนขึน้ ไปตารางท่ี 8 ความคดิ เหน็ ตอการสูบบุหรขี่ องกลุมตวั อยา งท่ี ความคดิ เหน็ ตอ การสูบบหุ รี่ ชาย หญงิ รวม จํานวน รอยละ จาํ นวน รอ ยละ จํานวน รอยละ1 การสบู บุหร่เี ปนเร่ืองปกติ2 การสบู บหุ ร่เี ปนสง่ิ เสพติด ทําลายสขุ ภาพตารางท่ี 9 สาเหตุท่ที าํ ใหส ูบบุหร่ี (ตอบไดม ากกวา 1 ขอ )ท่ี สาเหตุทาํ ใหค นสบู บุหร่ี ชาย หญงิ รวม จาํ นวน รอ ยละ จาํ นวน รอ ยละ จํานวน รอยละ1 อยากลอง2 เพื่อเขาสังคม3 ตามเพ่ือน4 ตกงาน/ไมมอี ะไรจะทํา5 ลดความเครียด6 ตอ งการลดความอว น7 ประชดชีวติ8 คนในครอบครวั สูบ9 แกเหงา10 รูสึกมนั่ ใจตนเองมากข้นึ11 สบู เมอ่ื ดืม่ สรุ า12 ตองการโชว

73ตารางที่ 9 สาเหตทุ ท่ี ําใหสบู บหุ ร่ี (ตอบไดมากกวา 1 ขอ ) (ตอ)ท่ี สาเหตุทาํ ใหค นสูบบุหรี่ ชาย หญงิ รวม จาํ นวน รอ ยละ จํานวน รอยละ จํานวน รอยละ13 เลียนแบบดารา/แฟชั่น14 ตอ งการทาํ รา ยตัวเอง15 ครอบครวั มปี ญ หา16 ตวั คนสูบมีปญ หา17 เลียนแบบคนในครอบครัวตารางท่ี 10 สถานท่ี ท่ีใชในการสบู บุหรี่ (ตอบไดม ากกวา1 ขอ )ที่ สถานที่ ทใี่ ชใ นการสูบบหุ ร่ี ชาย หญงิ รวม จาํ นวน รอ ยละ จํานวน รอยละ จาํ นวน รอ ยละ1 สถานบนั เทงิ2 สถานท่ีท่จี ัดไวเฉพาะคนสูบบุหร่ี3 หองนํ้า4 สถานทสี่ าธารณะทวั่ ไป5 รา นอาหาร6 หองนอน7 หอ งทาํ งาน8 รถยนตสวนตวัตารางท่ี 11 ความคิดจะเลิกสูบบหุ ร่ี ชาย หญงิ รวม จํานวน รอยละ จาํ นวน รอ ยละ จาํ นวน รอยละ ท่ี ความคิดจะเลกิ สูบบุหร่ี 1 เคยคดิ 2 ไมเ คยคดิ

74ตารางท่ี 12 สาเหตทุ ่ีอยากจะเลกิ สบู บหุ รี่ (ตอบไดมากกวา 1 ขอ )ท่ี สาเหตุที่อยากจะเลกิ สบู บุหร่ี ชาย หญิง รวม จาํ นวน รอ ยละ จํานวน รอยละ จาํ นวน รอยละ1 สขุ ภาพไมดี2 อยากลดคาใชจ าย3 คนขางเคยี งขอรอ งใหเลิก4 มผี ลกระทบในการทํางาน5 รสู กึ วา สังคมรงั เกียจ6 อืน่ ๆตารางท่ี 13 อะไรเปนสาเหตทุ ท่ี านเลกิ บหุ รี่ไดท่ี อะไรเปน สาเหตทุ ท่ี า นเลกิ บหุ รี่ได ชาย หญิง รวม จาํ นวน รอยละ จาํ นวน รอ ยละ จํานวน รอ ยละ1 มคี วามตงั้ ใจจริง2 แยกจากเพ่ือนท่สี ูบบุหร่ี3 คนขางเคยี งใหก าํ ลังใจ4 หมอบังคบั ใหเลกิ5 รูสึกสุขภาพดขี นึ้ หลังเลิกบหุ ร่ี6 อืน่ ๆตารางท่ี 14 อะไรเปนสาเหตุทีท่ า นเลิกบหุ ร่ีไมไ ดที่ อะไรเปน สาเหตทุ ี่ทานเลกิ บุหรี่ ชาย หญงิ รวม ไมได จํานวน รอยละ จํานวน รอยละ จํานวน รอ ยละ1 อยูใ นสังคมทส่ี ูบ/เพอื่ นสูบ2 ไมอ ยากจะเลกิ /ไมค ิดจะเลิก3 คนในครอบครัวสูบ4 จําหนายเอง5 จิตใจไมเขมแข็งพอ6 ไมมคี วามตง้ั ใจจรงิ

75 หนว ยการเรียนรูที่ 2เรื่อง “บหุ รี่มผี ลกระทบ เปนจุดจบของชวี ิต”

77 กลมุ สาระการเรยี นรูสุขศกึ ษาและพลศกึ ษา โรงเรียน........................................... รายวิชาโรงเรยี นปลอดบหุ รี่ (สาระการเรยี นรเู พิม่ เตมิ ) ชว งชน้ั ท่ี 3 (ม.1-ม.3) หนวยการเรยี นรทู ่ี 2 เรอื่ ง “บุหรมี่ ีผลกระทบ เปนจดุ จบของชีวติ ” แผนการจดั การเรยี นรทู ่ี 5 เรอื่ ง “ดับบุหรกี่ อนเสีย่ ง หลีกเล่ยี งหายนะ” เวลา 1 ชว่ั โมง1. มาตรฐานการเรียนรู มาตรฐานหลกั พ 5.1 ปอ งกนั และหลกี เลย่ี งปจ จยั เสยี่ งตอสุขภาพ อบุ ัตเิ หตุ การใชย าสารเสพตดิ และความรนุ แรง มาตรฐานชว งชัน้ ขอ 3 ใหก ลวิธตี างๆ ในการปอ งกนั และหลกี เลีย่ งปจ จัยเสยี่ งตอ สุขภาพ2. ผลการเรยี นรูที่คาดหวัง รู เขา ใจ และตระหนกั ในผลกระทบของการสบู บหุ รที่ ่ีมีตอ พฤตกิ รรมเส่ยี งดานอน่ื ๆ3. จุดประสงคการเรียนรู 3.1 บอกผลกระทบของการสูบบหุ ร่ีทีม่ ีตอพฤติกรรมเส่ยี งดา นอ่นื ๆ ได (ความรู) 3.2 ใชท ักษะกระบวนการคิดปองกัน และแกปญหาผลกระทบของการสูบบุหร่ีที่มีตอพฤติกรรมเสีย่ งดานอ่ืนๆ ได (ทักษะกระบวนการ) 3.3 บอกประโยชนและคุณคาในการปองกันและแกปญหาผลกระทบของการสูบบุหรี่ท่ีมีตอพฤติกรรมเส่ยี งดานอน่ื ๆ ได (เจตคต)ิ4. สาระการเรยี นรู 4.1 ผลกระทบของการสูบบุหร่ที มี่ ตี อ พฤตกิ รรมเสย่ี งดานอ่นื ๆ 4.2 การปองกันและแกป ญหาผลกระทบของการสูบบหุ ร่ีท่ีมตี อพฤติกรรมเสย่ี งดานอืน่ ๆ 4.3 ประโยชนและคุณคาในการปองกันและแกปญหาผลกระทบของการสูบบุหรี่ที่มีตอพฤตกิ รรมเสย่ี งดา นอนื่ ๆ5. สาระสําคญั บุหรี่เปนสิ่งเสพติดท่ีหาซื้อไดงาย มีราคาถูกเยาวชนท่ีสูบบุหรี่มีโอกาสสูงที่จะนําไปสูส่ิงเสพติดชนดิ อน่ื ไดงา ย จากผลการวจิ ยั พบวยั รนุ ที่ติดฝนและกญั ชารอยละ 75 และตดิ สรุ ารอยละ 62 เร่ิมตน มาจากการสูบบุหรี่ นอกจากน้ีวัยรุนที่สูบบุหร่ียังมีแนวโนมท่ีจะไมเช่ือฟงผูใหญ มีความรูสึกวาตนเองตํ่าตอยและมักไปเกี่ยวของกับพฤติกรรมเส่ียงดานอื่นๆ เชน หนีเรียน เท่ียวกลางคืน มีเพศสัมพันธกอนวัยอันควร และเลน การพนัน เปนตน จึงจําเปนตองสรางความตระหนักหาวิธีการปองกันและแกไขผลกระทบของการสูบบุหรี่ท่ีมีตอพฤติกรรมเส่ียงดานอื่นๆ เพ่ือเปนการตัดไฟแตตนลม

786. กระบวนการจัดการเรยี นรู ข้ันนาํ 6.1 นักเรียนรวมกันฟงเพลง “หนุมนอย” ของปู พงษสิทธิ์ คําภีร ท่ีสะทอนเร่ืองราวของนักเรียนอาชีวะซ่ึงเปนเด็กดีแตตองเสียชีวิตเพราเหตุจากปญหานักเรียนอาชีวะยกพวกตีกัน โดยใหนักเรียนรว มกันรอ งเพลงและปรบมอื ตามไปดว ย 6.2 นกั เรยี นรว มกนั แสดงความรูส ึกและความคิดเหน็ จากบทเพลง “หนมุ นอย” - ฟงเพลงแลวรสู กึ อยา งไร ไพเราะหรือไม และใหค ตติ อเยาวชนอยา งไร - ชีวิตของเด็กและเยาวชนทตี่ อ งเสีย่ งภัยยังมีพฤติกรรมเส่ียงอะไรอีกบางนอกจากปญหาการทะเลาะววิ าทกันแลว ใหน กั เรยี นยกตวั อยา ง ขัน้ สอน 6.3 นักเรียนจับคูกันปฏิบัติตามใบงานท่ี 1 เร่ือง “พฤติกรรมเสี่ยงภัยท่ีนาตกใจของวัยรุน”โดยพิจารณารูปภาพท่ีสื่อใหเห็นถึงพฤติกรรมเสี่ยงที่ไมเหมาะสมของเด็กและเยาวชนในลักษณะตางๆเชน หนีเรียน เท่ียวกลางคืน มั่วสุมสิ่งเสพติด มีพฤติกรรมทางเพศที่ไมเหมาะสม และเลนการพนันเปน ตน แลวชว ยกนั คิดวเิ คราะหใ นประเดน็ ตอ ไปนี้ - พฤตกิ รรมเส่ียงที่ไมเหมาะสมมีอะไรบาง - พฤตกิ รรมเหลานี้มผี ลเสียหายตอเดก็ และเยาวชนอยา งไรทั้งในปจ จุบนั และอนาคต - มีสาเหตุมาจากอะไรบาง และการสูบบุหร่ีมีสวนเกี่ยวของกับพฤติกรรมเส่ียงมากนอยเพยี งใด เสร็จแลวรวมกนั ระบายสรี ปู ภาพใหส วยงาม 6.4 นักเรียนทั้งหองรวมกันวิเคราะหวิจารณปญหา “พฤติกรรมเส่ียงที่นาตกใจของวัยรุน” และรว มกันหาทางออกในการปองกันและแกป ญ หาในเรอ่ื งน้ี ครูเสริมแรงใหกําลังใจและใหขอเสนอแนะเพิ่มเติมเกี่ยวกับขอมูลจากผลการวิจัยเรื่องผลการกระทบของการสบู บุหร่ีที่มตี อ พฤติกรรมเส่ยี งของวยั รุนแลวใหนักเรียนจดบนั ทกึ ลงบนสมุด 6.5 แบงนักเรียนเปนกลุมๆ ละประมาณ 5- 7 คนแตละกลุมรวมกันปฏิบัติตามใบงานท่ี 2เรื่อง “แตงเติมเรื่องราว กาวสูนักคิด” โดยรวมกันพิจารณาเรื่องราวจากรูปภาพการตูนแลวใชกระบวนการคิดวิเคราะห คิดสังเคราะห คิดวิจารณญาณ และคิดสรางสรรค ตอเติมเร่ืองราวรูปภาพและคําพูดของตัวละครตามความคิดและจินตนาการอยา งอิสระ 6.6 นักเรียนแตละกลุมสงตัวแทนมานําเสนอผลงาน นักเรียนทุกคนรวมกันวิพากษวิจารณใหขอเสนอแนะคัดเลือกผลงานท่ีมีความคิดในเชิงสรางสรรคดีท่ีสุด แลวรวมกันใหขอเสนอแนะวิธีการปองกันและแกป ญ หาผลกระทบของการสูบบุหรี่ที่มตี อพฤตกิ รรมเส่ยี งดานอื่นๆ ของวัยรนุ ครเู สรมิ แรงใหกาํ ลงั ใจและใหข อ เสนอแนะเพิ่มเติม

79 ขั้นสรุป 6.7 นกั เรยี นรว มกนั อภิปรายถึงประโยชนและคุณคาในการปองกันและแกปญหาผลกระทบของการสูบบุหรี่ ครูใหขอเสนอแนะเพ่มิ เติม เสร็จแลว นักเรยี นบันทกึ ลงในสมดุ7. วธิ ีการจัดการเรยี นรู 7.1 การเรียนรูทีเ่ นนทกั ษะกระบวนการคดิ 7.2 การเรียนที่เนน ปญ หาเปนฐาน (Problem Based Instruction)8. การบรู ณาการ 8.1 บรู ณาการกับกลุมสาระการเรียนรศู ิลปะ (การรองเพลง การวาดภาพจินตนาการ) 8.2 บูรณาการกับกลุมสาระการเรียนรูสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม (การเรียนรูเพื่อแกปญ หาเยาวชน และสังคม)9. สอ่ื /แหลงการเรียนรู 9.1 สอื่ แถบบันทึกเสยี งเพลง และเนอ้ื รอ งเพลง “หนมุ นอย” 9.2 ใบงานท่ี 1 เร่ือง “พฤตกิ รรมเส่ียงภัยท่ีนา ตกใจของวยั รุน ” 9.3 ใบงานที่ 2 เร่อื ง “แตง เตมิ เร่อื งราว กา วสูนักคิด” 9.4 วสั ดุอปุ กรณการวาดภาพจนิ ตนาการ 9.5 สมุดบนั ทกึ 9.6 ศูนยก ารเรียนรกู ลมุ สาระสขุ ศกึ ษาและพลศึกษา/ศนู ยร ณรงคเ พอื่ การไมสูบบุหรี่ในโรงเรียน10. การวัดและประเมินผล 10.1 วิธีการวดั 1) ประเมนิ ผลงานใบงานที่ 1 และใบงานท่ี 2 2) ประเมินกระบวนการเรียนรู “หัวใจนกั ปราชญ” 10.2 เคร่ืองมือวดั 1) แบบประเมินผลงานใบงานท่ี 1 และใบงานท่ี 2 2) แบบประเมินกระบวนการเรียนรู “หวั ใจนกั ปราชญ” 10.3 เกณฑก ารวัด ทุกกจิ กรรมถอื เกณฑการผานรอยละ 5011. กิจกรรมเสนอแนะ 11.1 ครูสามารถสงเสริมใหนักเรียนคนควาหาขอมูลและสถิติจากผลงานวิจัยเพ่ิมเติมเกี่ยวกับพฤตกิ รรมการสูบบหุ รี่ของวยั รุน และผลกระทบท่ีมตี อ พฤติกรรมเสี่ยงดา นอืน่ ๆ เพอื่ เปนการยืนยันขอมูลและสรา งความตระหนักแกน กั เรยี นยิ่งข้นึ 11.2 ครูอาจจัดกิจกรรมสงเสริมใหนักเรียนมีพฤติกรรมท่ีดีท้ังทางดานการเรียนและความประพฤติ พรอ มทงั้ การยกยองเชดิ ชเู กยี รติ ลงชือ่ ........................................................................ (.....................................................................) ตาํ แหนง................................................................... ครผู ูสอน

80บนั ทึกหลังสอน1. ผลการจัดการเรียนรู....................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................2. ปญหาและอุปสรรค....................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................3. วธิ ีการแกป ญหา.................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... ลงช่อื ........................................................................ (.....................................................................) ตาํ แหนง................................................................... ครผู สู อนความคดิ เห็นของผูบริหารสถานศึกษา/ผูทไี่ ดรับมอบหมาย............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... ลงช่อื ........................................................................ (.....................................................................) ตําแหนง ................................................................... ผูอํานวยการสถานศึกษา

81 สื่อการเรยี นรู เนอื้ รองเพลง หนมุ นอ ย ศลิ ปน : ปู พงษส ิทธ์ิ คมั ภีรเขาเดนิ เขา ออกในซอยทกุ วนั เพ่อื นฝูงทกุ คนตา งรักใครเ ขาทกุ ๆ วันตอนเชา แตง ตวั ไปเรยี นไมเคยจะเกจะขาดพอ แมภ ูมใิ จ มลี ูกผูชาย เอาการเอางาน เอาเรยี นกช็ วี ิตนด้ี ่ังไมใ กลฝ ง หวงั พงึ่ พาลกู ชายคนเดยี วโอ..โอ......เจา เด็กหนุมของพอ โอ..โอ......เจาเดก็ หนมุ ของแมตกเยน็ เลิกเรยี นกลบั บานตามเคย หอยโหนรถเมลอยางเกาคดิ ถงึ กบั ขา ว บนจานใบเกามีพอ กบั แมลอมวงแตแ ลว ทนั ใด โลกมดื ดับไปมสี ตั วรา ยมองดคู ลายวาเปน คนทาํ รายรางกาย รมุ ตจี นตาย แลว สลายรา งหายในหมคู นโอ..โอ......เจา เด็กหนุมของพอ โอ..โอ......เจา เดก็ หนมุ ของแม* พอแมร ขู า วรายรํา่ รอ งแทบวางวายกลิ้งเกลือกลงกบั กองเลือดของลกูลูกฉันทําอะไร เขายงั ไมค วรตาย หนุมนอ ยผมู ีอนาคตไกลแคสเี สอื้ ไมเ หมอื นคาํ สอนแตปางไหน นส่ี ีใคร นน่ั สมี ึง นี่สีกูความหวงั พงั ทลายแตน จี้ ะอยอู ยางไร เพราะหวั ใจเพียงตวั เดยี วแหลกสลายโอ.....โอ.....โอะ................โอ โอ. ....โอ. ....โอะ .................โอ ( ซาํ้ * )ตั้งแตบ ัดนไ้ี มม ีอกี แลว เดก็ หนมุ คนดปี ระจําซอยพอ แมก ห็ าย ครอบครัวสลาย ไมสายทุกคนกล็ มืโอ.....โอ. ....โอะ ................โอ โอ.....โอ. ....โอะ .................โอโอ. ....โอ. ....โอะ ................โอ โอ.....โอ. ....โอะ.................โอ

82ใบงานท่ี 1 เร่อื ง “พฤติกรรมเสีย่ งภยั ทน่ี าตกใจของวยั รนุ ”1. ชอ่ื -สกุล ..................................................... ชนั้ ................... เลขท่ี .............. คะแนนที่ได 202. ชอื่ -สกลุ ..................................................... ช้ัน ................... เลขท่ี ............. คะแนนเตม็จุดประสงคการเรยี นรู บอกผลกระทบของการสบู บุหรที่ ่ีมีตอพฤติกรรมเสี่ยงดา นอน่ื ๆ ได (ความร)ูภาพที่ 1 ภาพที่ 2 ภาพที่ 3ภาพที่ 4 ภาพท่ี 5 ภาพท่ี 6 ภาพที่ 7

83คาํ ชแี้ จง ใหน กั เรยี นจบั คกู นั พจิ ารณาภาพในใบงานแลว ชว ยกนั คดิ วเิ คราะห และเขยี นลงในตารางขา งลางน้ใี หถกู ตอ งสมบรู ณ เสรจ็ แลว ชว ยกนั ระบายสีรปู ภาพใหประณีตสวยงามภาพที่ พฤตกิ รรมเสีย่ ง ผลกระทบ/ผลเสีย สาเหตุ 1234567สรปุ ผลกระทบของบหุ ร่ีทมี่ ตี อพฤตกิ รรมเสย่ี งของวัยรุน............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................เกณฑการใหค ะแนน 1. เติมขอความถกู ตอ งสมบูรณ จาํ นวน 7 ขอๆละ 2 คะแนน รวม 14 คะแนน 2. สรปุ ผลกระทบของบหุ ร่ีทม่ี ตี อ สุขภาพ 2 คะแนน 3. ระบายสรี ูปภาพ 4 คะแนน รวม 20 คะแนน

84 แบบเฉลยใบงานท่ี 1 เรื่อง “พฤติกรรมเส่ยี งภยั ที่นา ตกใจของวัยรนุ ”1. ชอื่ -สกลุ ........................................................................... ชั้น ........................ เลขที่ ....................2. ชอ่ื -สกุล ........................................................................... ชนั้ ........................ เลขท่ี ....................จดุ ประสงคก ารเรียนรู บอกผลกระทบของการสูบบุหร่ที มี่ ีตอ พฤติกรรมเสย่ี งดา นอน่ื ๆ ได (ความร)ูภาพท่ี 1 ภาพท่ี 2 ภาพที่ 3 ภาพที่ 4 ภาพที่ 5 ภาพท่ี 6 ภาพที่ 7

85คําชีแ้ จง ใหนกั เรยี นจบั คกู นั พิจารณาภาพในใบงานแลว ชว ยกนั คดิ วเิ คราะห และเขยี นลงในตารางขางลา งนใ้ี หถ กู ตองสมบรู ณ เสรจ็ แลว ชวยกันระบายสีรปู ภาพใหป ระณีตสวยงามภาพที่ พฤตกิ รรมเสี่ยง ผลกระทบ/ผลเสีย สาเหตุ1 สิ่งเสพติด กัญชา เฮโรอนี เสยี สขุ ภาพ การเรียนตกตา่ํ เริ่มจากการสบู บุหร่ี คบเพอ่ื นไมด ียาบา เสียอนาคต จิตใจออนไหว ครอบครวั มีปญ หา2 สุรา เบียร ขาดสติ การเรยี นตกต่าํ เรม่ิ ตนจากการสบู บหุ ร่ี คบเพ่ือน เสยี สขุ ภาพ เสยี อนาคต ไมดี อยากลองเขา สงั คม ทะเลาะวิวาท เกดิ อุบตั เิ หตุ3 นกั เรียนตีกนั ทรพั ยส นิ เสียหาย บาดเจบ็ ปญหาสว นตวั กลุมใจ บางคนสูบ เสียชวี ติ เสยี อนาคต พอ แม บหุ รี่มากอน คบเพ่ือนไมดี รัก เสียใจ เพือ่ นในทางทผี่ ดิ หมน่ิ ศักดศิ์ รี ปญหาชสู าว4 มเี พศสมั พนั ธก อนวยั อนั ควร เสียการเรียน เสียช่อื เสียง คบเพอ่ื นไมดี จิตใจออนไหว เสียอนาคต เกดิ ปญหา การตดิ ตอ ผานอนิ เทอรเ น็ต สงั คม พอ แมเ สียใจ ครอบครัวมปี ญ หา ตดิ โรคทางเพศสัมพนั ธ5 หนีเรียน การเรียนตกต่ํา เสียอนาคต เรียนออ น คบเพื่อนไมด ี พอ แมเ สียใจ ไมมีอุปกรณก ารเรียน6 เลนการพนนั เสยี เงิน เสียการเรยี น คบเพือ่ นไมดี อยูในสิง่ แวดลอมท่ี เสยี อนาคต ผิดกฎหมาย ไมด ี ความโลภ อยากลอง7 เท่ียวกลางคืน เสยี การเรยี น เสียเงิน เริ่มตน จากการสูบบหุ รี่ คบเพอ่ื น ตดิ โรคทางเพศสัมพนั ธ ไมดี อยากลอง เสยี อนาคต ไมป ลอดภยัสรปุ ผลกระทบของบุหร่ที ่มี ตี อ พฤตกิ รรมเสีย่ งของวัยรุน บหุ ร่เี ปน สง่ิ เสพติดที่หาซือ้ งาย มีราคาถูก เยาวชนท่สี บู บหุ รม่ี โี อกาสสูงทีจ่ ะนําไปสูสิ่งเสพติดชนิดอื่นและพฤติกรรมเสี่ยงดานอื่นไดมาก ดวยสาเหตุจากการคบเพ่ือน ความอยากลอง จิตใจท่ีออนไหว รวมทั้งสภาพแวดลอม สงั คมรอบตวั ก็มสี ว นสาํ คัญท่เี ปน ตัวผลักดันใหเยาวชนหลงผดิ ไปได

86ใบงานที่ 2 เรื่อง “แตง เติมเรอ่ื งราว กาวสูน กั คิด”จุดประสงคก ารเรียนรู ใชท ักษะกระบวนการคดิ ปอ งกัน และแกปญหาผลกระทบของการสบู บหุ รี่ท่มี ี ตอ พฤตกิ รรมเสี่ยงดา นอ่นื ๆ ได (ทกั ษะกระบวนการ)คาํ ชีแ้ จง แบงนกั เรยี นเปน กลมุ ๆ ละประมาณ 5 คน รวมกนั พิจารณาเรอ่ื งราวจากภาพการตนู ทั้ง 3 ภาพ เสรจ็ แลวใหน กั เรียนรว มกนั ใชท กั ษะกระบวนการคิดแตง เรือ่ งราวพรอมทงั้ วาดภาพและเขียน คาํ พดู ของตวั ละครลงในกรอบสีเ่ หลีย่ มทีก่ าํ หนดใหต ามความคดิ และจนิ ตนาการอยางอสิ ระ พรอมทั้งระบายสใี หสวยงาม ทางสองแพรง ของเด็กชาย เอ เย็นวนั หนง่ึ เดก็ ชายเอ กลบั จากโรงเรียนเดนิ ผานกลมุ เดก็ วยั รุนกาํ ลงั มัว่ สมุ สบู บุหร่ีกัญชา และสุรากันอยางเพลิดเพลิน ในจํานวนนั้นมีเด็กชายบีเพ่ือนเกาที่ถูกไลออกจากโรงเรียนรวมอยูดว ย แตเ ด็กชายเอพยายามเดนิ เล่ียงหลบไป

87 วันตอมาเด็กชายเอเดินผานเด็กกลุมนี้อีก แตคราวน้ีหนีไมพน เด็กชายบีเขามาทักทายและสงบหุ รใี่ หเดก็ ชายเอลองสบู ดู ในที่สุดเด็กชายเอกถ็ ูกชกั จูงเขามาอยูในกลุมวัยรุนกลุมน้ีจนได และเร่ิมสูบบุหรี่อยา งจริงจงั มากขนึ้

88 ? เหตกุ ารณต อไปจะเปน อยางไร ขอใหน ักเรยี นชว ยกนั วาดภาพแตง เรื่องราวใหส มบูรณใ นกรอบท่กี ําหนดใหข า งบนนตี้ ามความคิดและจินตนาการอยางอสิ ระ

89 “แตง เตมิ เร่ืองราว กาวสูนกั คดิ ” คะแนนท่ีได คะแนนเต็ม 10ช่อื -สกลุ ............................................................ ช้ัน ................... เลขท่ี ...............คําบรรยายภาพ.........................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................

90 กลมุ สาระการเรียนรูสขุ ศกึ ษาและพลศึกษา โรงเรยี น........................................... รายวชิ าโรงเรยี นปลอดบุหร่ี (สาระการเรยี นรเู พิ่มเติม) ชวงชั้นที่3 (ม.1-ม.3) หนวยการเรียนรทู ่ี 2 เรอ่ื ง “บหุ รมี่ ผี ลกระทบ เปน จุดจบของชวี ติ ” แผนการจดั การเรยี นรูท ี่ 6 เรื่อง “ผูหญงิ สบู บุหรี่ มะเรง็ ก็มา ราศกี ็เสือ่ ม” เวลา 1 ชัว่ โมง1. มาตรฐานการเรยี นรู มาตรฐานหลัก พ 4.1 เห็นคุณคาและมีทักษะในการสรางเสริมสุขภาพ การดํารงสุขภาพการปอ งกนั โรค และการสรา งเสรมิ สมรรถภาพเพอ่ื สขุ ภาพ มาตรฐานชวงชั้น ขอ 2-3 มาตรฐานหลกั พ 5.1 ปองกันและหลกี เล่ียงปจจัยเสยี่ ง พฤติกรรมเส่ียงตอ สขุ ภาพ อุบัติเหตุการใชยา สารเสพติด และความรุนแรง มาตรฐานชว งชัน้ ขอ 12. ผลการเรียนรทู ี่คาดหวงั รู เขาใจ ตระหนักถงึ ผลกระทบ และมกี ระบวนการปอ งกนั หรือปฏิเสธการสบู บหุ รีข่ องผูหญิง3. จดุ ประสงคการเรียนรู 3.1 วเิ คราะหผลกระทบในการสบู บุหรขี่ องผูหญิงได (ความร)ู 3.2 เขยี นคาํ ขวัญรณรงคปอ งกนั และแกปญ หาการสบู บุหร่ขี องผหู ญงิ ได (ทักษะกระบวนการ) 3.3 บอกคุณคา ของการรณรงคป อ งกนั และแกป ญหาการสูบบหุ รีข่ องผหู ญิงได (เจตคต)ิ4. สาระการเรียนรู 4.1 ผลกระทบของการสบู บุหร่ใี นผูหญงิ 4.2 กระบวนการรณรงคป อ งกนั และแกปญ หาการสบู บุหรีข่ องผูห ญงิ 4.3 คณุ คาของการรณรงคป องกันและแกปญ หาการสบู บุหรีข่ องผหู ญงิ5. สาระสาํ คัญ ผูหญิงที่สูบบุหรี่จะทําเกิดโรคและรางกายทรุดโทรมมากกวาผูหญิงที่ไมสูบบุหร่ี เพราะในควันบุหร่ีมีสารพิษตาง ๆ มากมายซ่ึงทําใหเกิดอันตรายตอรางกาย เชน ลดการไหลเวียนของเลือดทําใหเกิดผิวแหงกรานและทําใหเกิดรอยเหี่ยวยนไดงาย และควันบุหร่ีเปนสาเหตุสําคัญใหเกิดมะเร็งสวนหญิงท่ีตั้งครรภจะมีโอกาสเกิดโรคแทรกซอนในระหวางต้ังครรภได ทําใหแทงหรือคลอดกอนกําหนด ทารกมีนํ้าหนักตัวนอย และอาจมีสมองพิการอีกดวย นอกจากน้ีวัฒนธรรมไทยยังไมยอมรับผูหญิงไทยที่สูบบุหรี่ และจะเปนตัวอยางที่ไมดีตอบุตรหลาน แตในปจจุบันการสูบบุหร่ีของผูหญิงไทยมีแนวโนมสูงข้ึนอยางนาตกใจ และเปนเปาหมายท่ีสําคัญของบริษัทบุหรี่ ดังน้ันการรณรงคเพ่ือการไม

91สูบบุหรี่ของผูหญิงโดยการใหความรูและความตระหนักในพิษภัยของบุหร่ีจึงเปนประโยชนอยางยิ่งในการพัฒนาสุขภาพอนามยั ของครอบครัวและสังคมไทยตลอดไป6. กระบวนการเรยี นรู ขัน้ นาํ 6.1 ใหนักเรียนดูสื่อรูปภาพผูหญิงวัยรุนท่ีมีสุขภาพแข็งแรงรูปรางหนาตาดี มีความนารัก และราเริงแจมใสตามวัย พรอมทั้งรวมกันวิจารณแสดงความรูสึกท่ีมีตอภาพนี้ แลวใหนักเรียนใชความคิดจินตนาการตอไปวาหากบุคคลในภาพสูบบุหร่ีจนติดจะทําใหเกิดการเปล่ียนแปลงตอสุขภาพและบคุ ลกิ ภาพของผหู ญงิ คนน้ีอยางไรบา ง ขั้นสอน 6.2 แบง นักเรยี นเปน กลมุ ๆ ละ 5 คน เพือ่ ศึกษาใบความรูที่ 1 เรือ่ ง “บหุ รก่ี ับผหู ญิง” พรอ มท้ังศกึ ษาขอ มลู เพมิ่ เติมจากสื่อและแหลง การเรยี นรูอน่ื ๆ และนํามาวเิ คราะหภ ายในกลุม 6.3 นักเรียนแตละกลุมรวมกันปฏิบัติตามใบงานที่ 1 เรื่อง “บุหร่ี…ควันรายทําลายผูหญิง”โดยรวมกันแสดงความคิดเห็นถึงผลกระทบจากการสูบบุหร่ีของผูหญิงและสรุปสาระสําคัญเปนแผนภาพความคิดรวบยอด (Concept Mapping) บนกระดาษการดแผนใหญใหครอบคลุมประเด็นตอ ไปนี้ - วัยรุนหญิงสบู บหุ รี่ เพ่ือนดีๆ หมางเมิน - ผหู ญงิ ที่สบู บหุ รีม่ ีแตโรครุมเรา - ผูหญงิ ต้งั ครรภก บั การสูบบหุ รี่ - แมส บู บหุ รผี่ ลกระทบตอลูกนอ ย เสรจ็ แลวชว ยกันเขยี นคําขวญั รณรงคป อ งกนั และแกปญหาการสบู บุหร่ีของผูหญงิ 6.4 นักเรียนแตละกลุมนําผลงานแผนภาพความคิดพรอมคําขวัญติดแสดงท่ีปายนิเทศ และรว มกนั วเิ คราะหวจิ ารณ ครปู ระเมนิ ผลงานและใหข อ เสนอแนะในการนําสือ่ ไปเผยแพรใ นโรงเรียนและชมุ ชนตอไป ขน้ั สรปุ 6.5 นักเรียนและครูรวมกันสรุปแนวทางการรณรงคเพ่ือการไมสูบบุหร่ีของผูหญิงรวมทั้งประโยชนแ ละคณุ คาทไี่ ดร ับ ครปู ระเมินผลงานและใหคําแนะนําเพิ่มเติมในการชวยกันรณรงคเพื่อการไมสูบบุหรี่ของผูหญิงในโอกาสตอไป7. วิธีการจัดการเรียนรู 7.1 การเรียนรทู ่ีเนนทักษะกระบวนการคดิ 7.2 การเรียนรทู ใ่ี ชกระบวนการกลุม8. การบรู ณาการ บูรณาการเรื่องกบั กลมุ สาระการเรียนรูศ ิลปะ (การวาดภาพ ออกแบบโปสเตอรแ ละแตงเพลง)

929. สื่อ/แหลง การเรียนรู 9.1 ส่อื ผหู ญิงวยั รนุ 9.2 ใบความรทู ่ี 1 เร่ือง “บุหร่ีกับผหู ญงิ ” 9.3 ใบงานท่ี 1 เรอ่ื ง “บุหร่ี…ควันรายทาํ ลายผหู ญงิ ” 9.4 อุปกรณก ารจัดทําแผนภาพความคิดและเขียนคําขวัญ 9.5 หองสมุด 9.6 ศูนยการเรียนรูกลุมสาระการเรียนรูสุขศึกษาและพลศึกษา/ศูนยรณรงคเพ่ือการไมสูบบุหรี่ในโรงเรียน 9.7 เวบ็ ไซต http://www.ashthailand.or.th http://www.smokefreezone.or.th10. การวดั และประเมนิ ผล 10.1 วธิ ีการวัด 1) ประเมินกระบวนการปฏบิ ตั งิ านกลมุ 2) ประเมนิ ผลงานใบงานที่ 1 และใบงานที่ 2 3) ประเมนิ กระบวนการเรียนรู “หัวใจนกั ปราชญ” 10.2 เครอ่ื งมอื วัด 1) แบบประเมนิ กระบวนการปฏิบตั งิ านกลมุ 2) แบบประเมนิ ผลงานใบงานที่ 1 และใบงานที่ 2 3) แบบประเมินกระบวนการเรียนรู “หวั ใจนกั ปราชญ” 10.3 เกณฑก ารวดั ทุกกิจกรรม ถือเกณฑก ารผานรอ ยละ 5011. กจิ กรรมเสนอแนะ 11.1 ในการปฏิบัติตามใบงานที่ 2 เรื่อง “ส่ือสรางสรรค ดับควันบุหรี่ของผูหญิง” ซ่ึงเปนการปฏิบัติงานในระยะเวลาอันสั้น ผลงานยังไมสมบูรณแบบ ครูอาจเปดโอกาสใหนักเรียนนําผลงานมาพัฒนาตอยอดนอกเวลาใหสมบูรณและมีคุณภาพย่ิงขึ้นเพื่อเตรียมการรณรงค เพ่ือการไมสูบบุหรี่ในแผนตอๆ ไป 11.2 สงเสริมใหนักเรียนสํารวจสภาวะการสูบบุหร่ีของนักเรียนชายและนักเรียนหญิงในโรงเรยี น เพ่ือนาํ มาวางแผนการรณรงคตอไป ลงชือ่ ........................................................................ (.......................................................................) ตําแหนง................................................................... ครผู ูสอน

93บนั ทึกหลังสอน1. ผลการจัดการเรียนรู....................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................2. ปญ หาและอปุ สรรค....................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................3. วธิ ีการแกปญหา.................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... ลงชอื่ ........................................................................ (.......................................................................) ตําแหนง ................................................................... ครูผสู อนความคิดเห็นของผูบรหิ ารสถานศกึ ษา/ผทู ไ่ี ดรบั มอบหมาย.......................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... ลงชื่อ........................................................................ (.......................................................................) ตําแหนง ................................................................... ผอู าํ นวยการสถานศึกษา


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook