Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore panwadwad

panwadwad

Published by panwad.panwad.11, 2018-05-20 23:49:46

Description: panwadwad

Keywords: หลักสูตรโรงเรียนปลอดบุหรี่

Search

Read the Text Version

195แนวคําตอบกลมุ ที่ ......... ช่อื กลุม ................................................................................................. ช้ัน .....................1. นักเรยี นเหน็ อะไรในภาพนบี้ า ง เหน็ แลว มคี วามรสู ึกอยา งไร ตอบ เห็นภาพปศาจบุหร่ี แขวนคอเด็กซึ่งเปนวิญญาณที่ถือซองบุหรี่รสออน แลวพาลากจูงไปดว ยอํานาจที่เหนือกวา2. ภาพนส้ี อ่ื ความหมายเกี่ยวกับ “กลยทุ ธ : การนาํ เสนอผลติ ภณั ฑบหุ รี่รสออน” อยา งไร จงอธิบาย ตอบ สอ่ื ความหมายวา แมบริษัทบุหร่ีจะผลิตบุหรี่รสออน แตอันตรายของบุหร่ีก็มิไดลดนอยลงแตอยางใด และประชาชนยังคงตกอยูภายใตอ ํานาจของบหุ รต่ี อไป3. นักเรียนคิดวา “กลยุทธ : การนําเสนอผลิตภัณฑบุหร่ีรสออน” เปนกลยุทธท่ีชักจูงบุคคลใหสูบบุหร่ีและมผี ลตอ การเพ่มิ ยอดขายหรือไม อยางไร ตอบ นับเปนกลยุทธที่มักใชไดผลกับนักสูบบุหรี่มือใหมท่ีเปนเด็กและผูหญิง เพราะคิดวาบุหรี่ที่มีรสออนพิษภัยจะนอ ยลง แตในความจริงแลวผูสูบบุหร่ีรสออนจะตองสูดควันบุหรี่ใหลึกกวาและนานกวาเดมิ ดงั นน้ั นักสบู มอื ใหมทไี่ มร ูเ ทาทนั จึงมีสว นเพ่ิมยอดขายบุหรไ่ี ปโดยไมร ตู วั4. นักเรียนคิดวา “กลยุทธ : การนําเสนอผลิตภัณฑบุหร่ีรสออน” มีสวนในการกระตุนใหเด็กอยากสูบบหุ รห่ี รือไม อยางไร ตอบ มสี ว นอยา งมาก เพราะคิดวามีรสชาตแิ ปลกใหมน าสบู และอนั ตรายนอ ยกวา5. นักเรยี นมวี ธิ กี ารใดบา ง ในการเผยแพรข อมลู “กลยุทธ : การนาํ เสนอผลิตภัณฑบุหรรี่ สออน” ใหผ ูอื่นรบั รอู ยางทว่ั ถึง ตอบ 1. จดั ทาํ โปสเตอรพ รอมคําขวัญ 2. จดั บรรยายหรอื อภิปรายใหเดก็ เยาวชน และผหู ญิงไดร บั รู6. นักเรียนคดิ วา จะมผี ลกระทบอะไรเกดิ ข้ึนบางถา เยาวชนรไู มเทา ทันกลยุทธน ้ี ตอบ ผลกระทบก็คือ เยาวชนจะทดลองสูบบุหร่ีรสออน และทําใหติดบุหรี่จนถอนตัวไมข้ึนในทส่ี ุด ซ่งึ เปน การทําลายสขุ ภาพ ชวี ิต และอนาคตของเยาวชนอยา งนา เสียดาย

196 กลุมสาระการเรียนรสู ขุ ศึกษาและพลศกึ ษา โรงเรียน........................................... รายวิชาโรงเรยี นปลอดบุหรี่ (สาระการเรียนรูเพ่มิ เติม) ชว งชนั้ ท่ี 3 (ม.1- ม.3) หนวยการเรยี นรูท่ี 3 เรือ่ ง “กฎหมายคุม ครอง เราตองรทู ัน ดบั ควันบหุ รี่” แผนการจัดการเรียนรทู ่1ี 2 เร่ือง “จะปลอดบหุ รมี่ อื สอง ตองชวยคุมครองอยางทัว่ ถงึ ” เวลา 2 ช่วั โมง1. มาตรฐานการเรยี นรู มาตรฐานหลัก พ 5.1 ปองกันและหลีกเล่ียงปจจัยเสี่ยง พฤติกรรมเสี่ยงตอสุขภาพ อุบัติเหตุ การใชย า สารเสพติด และความรุนแรง มาตรฐานชว งชน้ั ขอ 2 และ 52. ผลการเรยี นรูท่คี าดหวัง รูจักสถานท่ีสาธารณะท่ีเปนเขตปลอดบุหร่ี และมีวิธีการปกปองคุมครองสุขภาพของตนเองและผูอ ืน่ ใหปลอดจากควนั บุหร่ีอยา งสรางสรรค3. จดุ ประสงคการเรียนรู 3.1 บอกสถานทีท่ เ่ี ปนเขตปลอดบุหรี่ (ความร)ู 3.2 แสดงกระบวนการและวิธีการปกปองคุมครองสุขภาพของตนเองและผูอื่นใหปลอดจากควันบุหร่ีอยา งสรา งสรรค (ทักษะกระบวนการ) 3.3 บอกความรูสึกประโยชนและคุณคาของการปกปองคุมครองสุขภาพของตนเอง และผูอ่ืนใหปลอดจากควันบหุ รีอ่ ยา งสรา งสรรค (เจตคต)ิ4. สาระการเรยี นรู 4.1 สถานทีส่ าธารณะทเ่ี ปน เขตปลอดบุหร่ี 4.2 วิธีการปกปองคมุ ครองตนเองและผูอืน่ ใหป ลอดจากควันบุหรี่5. สาระสาํ คัญ พระราชบัญญัติคุมครองสุขภาพของผูไมสูบบุหรี่ พ.ศ. 2535 เปนพระราชบัญญัติท่ีมีบทบัญญัติบางประการเก่ียวกับการจํากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล เพื่อคุมครองสุขภาพของผูไมสูบบุหรี่โดยกระทรวงสาธารณสุขไดจัดทําประกาศกระทรวงสาธารณสุข เพ่ือกําหนดสถานท่ีสาธารณะที่เปนเขตปลอดบุหรี่ ดังนั้นการเรียนรูวาสถานท่ีสาธารณะใดบางเปนเขตปลอดบุหร่ี และการแสดงวิธีการปกปองสขุ ภาพผไู มส ูบบหุ รีจ่ ะทําใหนกั เรยี นสามารถดูแลตนเองและผูอ่ืนใหไมไ ดร ับควนั พษิ จากบหุ ร่ไี ด6. กระบวนการเรยี นรู ชั่วโมงท่ี 1 ข้นั นาํ 6.1 นักเรียนรวมกันนําสื่อประชาสัมพันธรณรงค เพ่ือการไปสูบบุหร่ี เรื่อง “คุณมาทํารายฉันทําไม” มารวมกันวพิ ากษว จิ ารณ ในประเดน็ ตอไปนี้ - ดูส่อื ประชาสัมพนั ธน แี้ ลว มีความรูสึกอยางไร

197 - ตวั ละครในเร่อื งน้ีใครเปน เหย่อื ของบุหรี่มือสอง เพราะเหตุใด - จะมีวิธีการปอ งกนั มิใหผ ูที่ไมส บู บหุ ร่ีตองตกเปนเหยอ่ื บหุ ร่ีมือสองไดโดยวธิ ีใดบา ง ครูใหขอเสนอแนะเพิ่มเติมและอธิบายเพิ่มเติมวา รัฐบาลไดออกพระราชบัญญัติคุมครองสุขภาพของผูไมสูบบุหร่ี พ.ศ. 2535 และประกาศกระทรวงสาธารณสุขหลายฉบับโดยมีการปรับปรุงพัฒนากฎหมายใหเหมาะสมและทันสมัย มีสาระสําคัญเพ่ือกําหนดสถานที่สาธารณะใหเปนเขตปลอดบหุ ร่ี ซ่งึ เราจะไดเรยี นรกู ันในวันน้ี ขั้นสอน 6.2 แบงนักเรียนออกเปน 5 กลุม เพื่อใหแตละกลุมปฏิบัติตามใบงานที่ 1 เร่ือง “เกมตอจ๊ิกซอใหครบ จะพบเขตปลอดบุหรี่” โดยแขงขันกันเลนเกมตอจ๊ิกซอเพื่อคนหาเขตปลอดบุหรี่ในสถานที่สาธารณะตามกฎหมายท้ัง 45 แหง 6.3 นักเรียนรวมกันสรุปสถานท่ีสาธารณะที่เปนเขตปลอดบุหร่ี จํานวน 45 แหง พรอมรวมกันแสดงความคดิ เห็นเพิม่ เตมิ ดังนี้ - สถานท่สี าธารณะใดบางทีน่ ักเรียนเพ่ิงทราบวาเปนเขตปลอดบุหร่ี - การเรียนรวู าสถานทใ่ี ดบางเปน เขตปลอดบหุ รม่ี ปี ระโยชนตอ นกั เรียนอยา งไรบา ง - นักเรยี นคิดวา สถานทีส่ าธารณะใดอีกบาง ทค่ี วรกําหนดใหเ ปน เขตปลอดบหุ รี่เพม่ิ เตมิ ครูใหขอเสนอแนะเพิ่มเติมถึงการมีสวนรวมของคนทุกคนในการชวยกันปกปองคุมครองผูที่ไมส บู บหุ ร่ใี หป ลอดภัยจากควนั บุหร่ี 6.4 มอบหมายการบานใหนักเรียนแตละคนปฏิบัติตาม ใบงานที่ 2 เรื่อง “การสํารวจสถานการณจริง ในเขตปลอดบหุ ร่”ี โดยใชเ วลาสํารวจประมาณ 1 สปั ดาห ชวั่ โมงท่ี 2 6.5 นักเรียนนํารายงานผลการสํารวจ “สถานการณจริงในเขตปลอดบุหรี่” จากใบงานที่ 2มาเสนอครูนาํ นักเรียนรว มกันสนทนาและสรุปผลการสาํ รวจในภาพรวม ดงั นี้ - นักเรียนพบเห็นผสู ูบบหุ รใี่ นสถานทท่ี ่ีเปนเขตปลอดบุหรีท่ ีใ่ ดบาง - สภาพการณข องผสู บู บุหรแ่ี ละปฏกิ ริ ิยาของคนรอบขางเปน อยางไร - สภาพการณข องนักเรยี นเมอ่ื ไดร ับควนั บหุ ร่ี และปฏิกริ ิยาของนกั เรียนเปนอยา งไร 6.6 แบงนักเรียนเปนกลุมๆ ละประมาณ 5-7 คน แตละกลุมปฏิบัติตาม ใบงานที่ 3 เร่ือง “วิธีการปกปองคุมครองสขุ ภาพของผูไ มส ูบบุหรี่อยา งสรา งสรรค” และเขียนคาํ ตอบลงในกระดาษการดสีหรือฟลปิ ชารต โดยแบง หนา ทป่ี ฏิบัติ ดังน้ี 5 กลุม แรก รายงานสถานการณท ี่ 1- 3 5 กลมุ หลัง รายงานสถานการณที่ 4 - 6 6.7 นักเรียนทุกกลุมรวมกันรายงานสถานการณและวิธีการปกปองคุมครองสุขภาพของผูไมสูบบุหรี่อยางสรางสรรค โดยการแสดงบทบาทสมมติ และรว มกันวิเคราะหว ิจารณใ นประเด็นตอ ไปนี้

198 - วธิ กี ารในแตล ะสถานการณมีผลตอ การหยุดยง้ั ควนั บหุ รีม่ ากนอยเพยี งใด - วิเคราะหแ ละพัฒนาวิธกี ารทมี่ ีประสิทธิภาพและสรางสรรค - วิธกี ารปกปองคุมครองผไู มสูบบหุ รอ่ี ยา งสรา งสรรคกอ ใหเกดิ ผลดอี ยา งไร - นกั เรยี นจะมสี ว นรว มในการสง เสรมิ การบงั คบั ใชก ฎหมายคุมครองสุขภาพของ ผูไ มส บู บหุ ร่ีอยางไร ครใู หขอ แนะนําเพ่มิ เตมิ นกั เรียนจดบนั ทึกลงในสมุด ข้นั สรุป 6.8 นักเรียนทุกคนรวมกันสรุปผลการเรียนรู และบอกความรูสึก ประโยชนและคุณคาของการปกปอ งคุมครองสขุ ภาพของตนเองและผอู น่ื ใหปลอดจากควนั บหุ ร่อี ยางสรา งสรรค ครูประเมนิ ผลการเรยี นรู ใหขอ เสนอแนะเพม่ิ เตมิ และนกั เรียนจดบันทกึ ลงในสมดุ7. วธิ ีการจัดการเรียนรู 7.1 กระบวนการคดิ อยา งมีวจิ ารณญาณ (Critical Thinking) 7.2 การเรยี นรแู บบประสบการณ (Experiential Learning)8. การบรู ณาการ 8.1 บูรณาการกับกลุมสาระการเรียนรูศิลปะ (เพลงชุดเด็กรุนใหม...ไมสูบบุหร่ี และการแสดงบทบาทสมมติ) 8.2 บูรณาการกับกลุมสาระการเรียนรูสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม (กฎหมายคุมครองสุขภาพของผูไมสูบบุหรี่ การสํารวจสถานการณจริงในเขตปลอดบุหรี่และจิตสํานึกสาธารณะในการปกปองคมุ ครองสุขภาพของผูไมส บู บหุ ร)ี่9. สือ่ /แหลงการเรียนรู 9.1 พระราชบญั ญัติคมุ ครองสุขภาพของผูไ มส บู บุหร่ี พ.ศ. 2535 9.2 โปสเตอร “ทไ่ี หนบา งตอ งปลอดบุหรีต่ ามกฎหมาย” 9.3 ใบงานท่ี 1 เร่ือง “เกมตอจ๊ิกซอใหค รบ จะพบเขตปลอดบุหร”ี่ 9.4 ใบงานที่ 2 เรื่อง “การสาํ รวจสถานการณจ รงิ ในเขตปลอดบหุ รี่” 9.5 ใบงานที่ 3 เร่อื ง “วิธีการปกปองคุมครองสขุ ภาพของผูไมส ูบบหุ ร่อี ยา งสรางสรรค” 9.6 กระดาษการดสี พรอ มอุปกรณเ คร่ืองเขยี น 9.7 สมุดบนั ทึกของนกั เรยี น 9.8 ศนู ยการเรยี นรูกลุมสาระการเรยี นรูส ุขศึกษาและพลศกึ ษา/ศนู ยรณรงคเ พอื่ การไมสบู บุหรี่ 9.9 เวบ็ ไซต http:// www.ashthailand.or.th http:// www.smokefreezone.or.th

19910. การวัดและประเมนิ ผล 10.1 วธิ กี ารวดั 1) การประเมินกระบวนการปฏบิ ัติงานกลุม 2) การประเมินกระบวนการเรยี นรู “หัวใจนักปราชญ” 10.2 เครือ่ งมือวดั 1) แบบประเมินกระบวนการปฏบิ ัตงิ านกลมุ 2) แบบประเมินกระบวนการเรียนรู “หัวใจนักปราชญ” 10.3 เกณฑก ารวัด ทกุ กิจกรรมถอื เกณฑก ารผา นรอยละ 5011. กจิ กรรมเสนอแนะ 11.1 ครูควรสงเสริมใหนักเรียนจัดทําปายนิเทศแนะนําสถานที่สาธารณะที่เปนเขตปลอดบุหร่ีเพือ่ เผยแพรค วามรูแ กน ักเรยี นทั่วไป 11.2 สงเสริมใหนักเรียนนําวิธีการปกปองคุมครองสุขภาพของผูไมสูบบุหรี่อยางสรางสรรคไปใชใ นสถานการณจ ริงที่อยูใกลต ัว เชน ในโรงเรยี นและทบ่ี าน เปนตน แลวนํามาวิเคราะหผ ล ลงช่ือ........................................................................ (......................................................................) ตาํ แหนง ................................................................... ครูผสู อน

200 บันทึกหลงั สอน 1. ผลการจดั การเรยี นรู........................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... 2. ปญหาและอปุ สรรค ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... 3. วิธีการแกปญ หา ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ลงชื่อ........................................................................ (......................................................................) ตําแหนง ................................................................... ครผู สู อน ความคิดเห็นของผูบ รหิ ารสถานศกึ ษา/ผูทไี่ ดร ับมอบหมาย ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ลงช่อื ........................................................................ (......................................................................) ตาํ แหนง ................................................................... ผูอาํ นวยการสถานศึกษา

201 ส่ือการเรยี นรูพระราชบัญญัตคิ มุ ครองสุขภาพของผูไมสบู บหุ รี่ พ.ศ.2535 และประกาศกระทรวงสาธารณสขุ

202 ส่ือการเรียนรูโปสเตอร “ท่ไี หนบา งตอ งปลอดบุหรีต่ ามกฎหมาย”

203 ใบงานที่ 1เรอื่ ง “เกมตอ จิก๊ ซอใหครบ จะพบเขตปลอดบุหร”่ีจดุ ประสงคก ารเรยี นรู 1. บอกสถานที่ ทเ่ี ปนเขตปลอดบหุ รี่ตามกฎหมายไดอยา งถูกตอ ง (ความร)ู 2. ระบุโทษผูสูบบุหรี่ และสถานประกอบการท่ีฝาฝนกฎหมาย พรอมเสนอแนะมาตรการ ปอ งกันแกไ ขได (ความรู ทกั ษะกระบวนการ และเจตคต)ิคําชี้แจง ใหนักเรียนศึกษาส่ือการเรียนรูโปสเตอร “ท่ีไหนบางตองปลอดบุหร่ีตามกฎหมาย” ตามกระทรวงสาธารณสุข แลว นาํ ความรเู รื่องสถานทีส่ าธารณะที่เปนเขตปลอดบหุ รี่มาเลน เกม “ตอ จิก๊ ซอใหครบ จะพบเขตปลอดบหุ ร”่ี 1. อุปกรณก ารเลนเกม 1.1 บัตรสัญลักษณเขตปลอดบุหร่ี จํานวน 45 บัตร (45 สถานท่ี) จํานวน 5 ชุด (จํานวนชุดเทา กบั จาํ นวนกลมุ ของนกั เรียน) 1.2 กรอบเฟรมสําหรบั ตอ จ๊กิ ซอของนักเรยี น จาํ นวน 5 กรอบ 1.3 กระดาษกาวสําหรับติดดา นหลงั บัตรสัญลกั ษณ 1.4 โปสเตอร “ที่ไหนบางตอ งปลอดบหุ รีต่ ามกฎหมาย” จํานวน 1 แผน 2. วิธกี ารเลน เกม 2.1 แบงนกั เรยี นออกเปน 5 กลุม 2.2 แจกบัตรสัญลักษณเขตปลอดบุหร่ี และกรอบเฟรมสาํ หรบั ตอจิก๊ ซอ กลุมละ 1 ชดุ 2.3 นักเรียนแตละกลุมชวยกันนําบัตรสัญลักษณเขตปลอดบุหรี่มาตอจิ๊กซอลงบนกรอบ เฟรมใหเต็มพ้ืนท่ี และถกู ตอ ง สอดคลองกับโปสเตอร โดยใชเวลาเพียงกลุมละไมเกิน 5 นาที 2.4 แตละกลมุ นําเฟรมจ๊กิ ซอท่ีตอเสร็จแลว มาตดิ แสดงบนกระดานดํา และนาํ โปสเตอรมา ตดิ เปรยี บเทยี บ 2.5 ครูนํานักเรียนรวมกันตรวจสอบใหคะแนนแตละกลุมคะแนนเต็ม 50 คะแนน ตอจิ๊กซอ ไดถูกตองท้ัง 45 แหง ได 45 คะแนน และคะแนนกระบวนการกลุม 5 คะแนน โดยมีโปสเตอรเปนแบบเฉลย 2.6 นักเรยี นรวมกนั สรปุ สถานท่ีสาธารณะที่เปน เขตปลอดบหุ รี่ ทง้ั 45 แหง

204 เกม “ตอจิ๊กซอใหครบ จะพบเขตปลอดบุหร”ี่กลมุ ที่ ........................ ชอื่ กลมุ ......................................................................................ช้นั ...................... 1. สถานทีส่ าธารณะท่ีเปนเขตปลอดบุหร่ีท้ังหมด 1 2 34 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 252. สถานทสี่ าธารณะทีต่ อ งปลอดบหุ รเี่ ฉพาะบริเวณที่มรี ะบบปรับอากาศ 26 27 28 29 30 31 32 453. สถานท่ี ที่เปนเขตปลอดบุหรี่ท้ังหมด (ยกเวนบรเิ วณหอ งพกั สว นตัว หรือหองทาํ งานสว นตัวของผปู ฏิบัติงาน และบริเวณทีจ่ ัดไว เปน “เขตสบู บุหร”ี่ เปนการเฉพาะ) 32 33 34 35 36 37 38 39 40 41 42 43 44 45 สรปุ คะแนน

205 ใบงานท่ี 2 ปฏบิ ัตงิ าน เร่อื ง “การสํารวจสถานการณจ รงิ ในเขตปลอดบหุ รี”่ นอกเวลา เปน การบา นจุดประสงคก ารเรยี นรู 1. บอกชื่อสถานที่สาธารณะทเ่ี ปน เขตปลอดบหุ รี่ (ความรู) 2. แสดงกระบวนการและวิธกี ารปกปอ งคมุ ครองสุขภาพของตนเองและผูอนื่ ใหป ลอดจากควนั บุหร่ีอยางสรางสรรค (ทักษะกระบวนการ) 3. บอกความรสู กึ และประโยชนค ณุ คาของการปกปองคุมครองสุขภาพของตนเอง และผูอื่นให ปลอดจากควันบุหร่อี ยางสรา งสรรค (เจตคต)ิคําช้ีแจง 1. ใหสังเกตสถานการณท่ีมีผูสูบบุหร่ีในสถานท่ีสาธารณะท่ีเปนเขตปลอดบุหรี่ แลวบันทึกขอมูล ดังน้ี สถานทีป่ ลอดบหุ รี่ กริ ยิ าทาทางการแสดงออกของ ปฏิกริ ิยาของคนรอบขาง1. ผูทส่ี ูบบหุ ร่ี2.3.

2062. ระบุสถานการณใ น 1 สัปดาห ท่นี กั เรียนไดรบั ควนั พษิ จากบหุ ร่ี สถานท่ีทไ่ี ดรบั ควนั บหุ ร่ี ผลกระทบที่เกิดขึน้ กบั นกั เรยี น ปฏิกิรยิ าของนักเรียน1. เม่ือไดรบั ควันบุหรี่2.3. หองพักครู

207 ใบงานท่ี 3 ปฏิบัติงานเรอ่ื ง “วิธกี ารปกปอ งคมุ ครองสุขภาพของผูไ มส บู บหุ รอี่ ยา งสรา งสรรค” นอกเวลา เปน การบา นจดุ ประสงคก ารเรยี นรู 1. บอกช่อื สถานท่ีสาธารณะท่ีเปน เขตปลอดบุหร่ี (ความรู) 2. แสดงกระบวนการและวิธีการปกปองคุมครองสุขภาพของตนเองและผูอื่นใหปลอดจากควัน บุหรอี่ ยางสรา งสรรค (ทกั ษะกระบวนการ) 3. บอกความรูสึกและประโยชนคุณคาของการปกปองคุมครองสุขภาพของตนเอง และผูอื่นให ปลอดจากควันบุหรอ่ี ยางสรางสรรค (เจตคต)ิคาํ ช้ีแจง 1.นกั เรียนแตล ะกลุมพจิ ารณาสถานการณต วั อยา งทีม่ ีผสู บู บหุ รใี่ นเขตปลอดบหุ ร่ี แลว ชวยกันคิด วิธีการปกปอ งคุมครองสขุ ภาพของผูไมส ูบบุหรี่อยา งสรางสรรค ในแตละสถานการณ 2. เขยี นตอบลงในใบงาน และกระดาษการดสี 3. สง ตวั แทนนาํ เสนอหนา ช้นั เรยี น โดยแสดงบทบาทสมมตปิ ระกอบการนําเสนอสถานการณที่ 1 : ในโรงเรยี น นกั เรยี นนําสมุดแบบฝกหัดไปสงครูและอยากสอบถามขอสงสัยบางประการเกี่ยวกับแบบฝกหัดนั้นแตพบวามีครูคนหนึ่งน่ังสูบบุหร่ีอยูที่โตะทํางานใกลๆ กัน นักเรียนเหม็นควันบุหร่ี นักเรียนจะทําอยา งไรเพอ่ื ปกปองสขุ ภาพของตนเองอยา งสรา งสรรค หองพกั ครู

208สถานการณท ี่ 2 : ในบา น นักเรียนและนอง น่ังดูทีวีในบานหลังจากรับประทานอาหารเย็น ตอมาคุณพอมารวมดูทีวีและสูบบุหรี่ดวย นองมักขยี้ตาและไอ นักเรียนจะทําอยางไรเพื่อปกปองสุขภาพของตนเองและนองอยางสรางสรรคสถานการณที่ 3 : ในสวนสาธารณะ นักเรียนและเพื่อนกําลังเดินเลนอยูในสวนสาธารณะปรากฏวามีคนสูบบุหร่ีเดินเลนอยูขางหนานักเรียนตองการอากาศบริสุทธิ์ในบริเวณนั้น นักเรียนจะทําอยางไร เพื่อปกปองสุขภาพของตนเองและผอู นื่ อยางสรา งสรรคสถานการณท ่ี 4 : ในรา นอาหาร นักเรียนรวมงานเลี้ยงฉลองการรับปริญญาของญาติ ในรานอาหารที่มีเคร่ืองปรับอากาศแลวพบวา โตะ ขางเคียงมีผูสูบบุหรี่ นักเรียนรูสึกอึดอัดเมื่อไดรับควันบุหรี่ นักเรียนจะทําอยางไรเพื่อปกปองสขุ ภาพของตนเองและผูอ่นื อยางสรางสรรค

209สถานการณท่ี 5 : บนรถโดยสารสาธารณะ นักเรียนและเพื่อนเดินทางกลับเขากรุงเทพฯ โดยรถโดยสารสาธารณะมีผูสูบบุหร่ีในรถ ทําใหเพื่อนของนักเรียนรูสึกปวดศีรษะและอยากอาเจียน นักเรียนจะทําอยางไรเพื่อปกปองสุขภาพของตนเองและผอู น่ื อยา งสรา งสรรคสถานการณท ่ี 6 : ในหา งสรรพสนิ คา (หองสขุ า) นักเรียนกับเพ่ือนไปซ้ือของที่หางสรรพสินคาแหงหน่ึงและแวะเขาหองสุขาพบวา มีบุคคลหน่ึงกําลังสูบบุหร่ีอยูในหองสุขา นักเรียนจะทําอยางไรเพ่ือปกปองสุขภาพของตนเองและผูอื่นอยางสรางสรรค

210 บนั ทกึ ชว ยจาํ ........................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................

211 หนว ยการเรียนรูที่ 4เร่อื ง “ใชก ลยุทธช น้ั เซียน ชวยโรงเรยี นใหป ลอดบุหร”่ี

213 กลุมสาระการเรยี นรูสุขศึกษาและพลศึกษา โรงเรียน........................................... รายวชิ าโรงเรยี นปลอดบุหรี่ (สาระการเรยี นรูเพิม่ เติม) ชว งช้นั ท่ี 3 (ม.1- ม.3) หนวยการเรยี นรูท่ี 4 เร่อื ง “ใชก ลยทุ ธชนั้ เซียน ชวยโรงเรียนใหปลอดบุหรี”่ แผนการจดั การเรยี นรทู ่ี 13 เรื่อง “คบเพอ่ื นดี ปลอดบุหรต่ี ลอดชีวติ ” เวลา 1 ช่วั โมง1. มาตรฐานการเรียนรู มาตรฐานหลักพ2.1 เขา ใจและเห็นคุณคา ของชีวิต ครอบครัว เพศศกึ ษา และมีทกั ษะในการดาํ เนินชวี ติ มาตรฐานชวงชนั้ ขอ 22. ผลการเรียนรทู ่คี าดหวัง รเู ขา ใจในคณุ คา ของความเปน เพือ่ น เลือกคบเพื่อนท่ีดี และนําเพ่ือนไปในทางสรางสรรคไ ด3. จุดประสงคการเรียนรู 3.1 อธิบายเปรยี บเทยี บลกั ษณะของมิตรแทกับมิตรเทยี มได (ความร)ู 3.2 วิเคราะหวิธีการคบเพ่ือนและการปฏิบัติตอเพื่อนดวยวิธีการท่ีสรางสรรคและเปนประโยชน ได (ทักษะกระบวนการ) 3.3 บอกคุณคา ของความเปนเพอื่ นในการรวมพลงั สรา งสรรคโรงเรียนและสงั คมได (เจตคติ)4. สาระการเรยี นรู 4.1 มติ รแท และมิตรเทยี ม 4.2 กิจกรรมในทางสรางสรรค 4.3 คณุ คาของการคบเพ่ือนคนดีเปนมิตร5. สาระสําคัญ วัยรุนเปนวัยท่ีรางกายและจิตใจกําลังเปล่ียนแปลงและเจริญเติบโตอยางรวดเร็ว และเปนชวงท่ีชวี ิตท่ีใหความสาํ คญั ของคาํ วา “เพื่อน” มากทีส่ ุด แตใ นโลกนี้มที ้งั เพอื่ นดีหรือเพื่อนแทและเพื่อนท่ีไมดีหรอื เพื่อนเทยี มควบคกู นั ขน้ึ อยูท่ีวาเราจะรูจักคบเพื่อนแบบใด หากคบเพื่อนดีก็จะนําพาชีวิตของเราไปในทางท่ีดีงามและเจริญกาวหนา และหากคบเพื่อนท่ีไมดีก็จะนําพาชีวิตของเราไปสูความช่ัวรายมีแตความหายนะ มีผลงานวิจัยพบวา เด็กวัยรุนมักจะติดบุหร่ีหรือสิ่งเสพติดอ่ืนๆ มาจากเพื่อนและมีแนวโนม วา การสูบบุหร่ขี องวยั รนุ มอี ัตราท่เี พิ่มขน้ึ สงู กวาคนในวัยอ่นื ดังนัน้ จงึ ควรเลอื กคบเพ่ือนดีเปนมิตร และรวมกิจกรรมในทางสรางสรรคก็จะชวยใหมีชีวิตที่ปลอดบุหรี่ และมีอนาคตที่สดใสอยางแนนอน6. กระบวนการเรียนรู ข้ันนํา 6.1 นักเรยี นรว มกันดสู อื่ ภาพวาด เร่ือง “มือเพื่อน” และชว ยกันวพิ ากษว จิ ารณภ าพ - นักเรียนเหน็ อะไรในภาพนี้บา ง - ภาพนส้ี อ่ื ความหมายวา อยางไรและนักเรยี นรสู ึกอยางไรตอภาพน้ี

214 6.2 แบงนักเรียนออกเปนกลุมๆ ละประมาณ 5 - 7 คนรวมกันศึกษา ใบความรูท่ี 1 เรื่อง “มิตรแท -มิตรเทียม” แลวปฏิบัติตาม ใบงานท่ี 1 เรื่อง “คบเพ่ือนแบบใด จึงหางไกลบุหร่ี” ซ่ึงมีกิจกรรมและระดมความคิดเห็นในประเด็นตอไปน้ี (1) เกมจับคูระหวางมิตรแทและมิตรเทียม 8 ประเภทกับสื่อการตูน 8 ภาพใหมีความหมายท่ตี รงกัน (2) อธิบายลักษณะของมิตรแทและมิตรเทียมในสภาพสังคมปจจุบันและตามประสบการณของนักเรียน (3) นักเรียนคิดวา ควรจะเลือกคบเพื่อนแบบใดจึงไมนําพาไปสูความเส่ือม เชน สูบบุหรี่เปนตน พรอมอธบิ ายวธิ ีคบเพอ่ื นและการรักษาสมั พนั ธภาพท่ีดีไว (4) นักเรียนจะมีวิธีปฏิบัติตอเพ่ือนท่ีไมดีอยางไร จึงจะเปนวิธีการที่สรางสรรคและเปนประโยชนตอ ทุกฝาย 6.3 สุมกลุมนักเรียนออกมานําเสนอผลการระดมความคิดเห็นประมาณ 2 กลุม โดยครูใหขอ เสนอแนะเพมิ่ เติมและนกั เรยี นจดบันทกึ ลงในสมุด ข้นั สรุป 6.4 นักเรียนรวมกันแสดงความคิดเห็นถึงประโยชนและคุณคาของความเปนเพ่ือนในการรวมพลงั สรา งสรรคโ รงเรยี นและสงั คม7. วธิ ีการจัดการเรียนรู 7.1 การเรยี นรทู เ่ี นนทกั ษะกระบวนการคิด 7.2 การเรยี นรูท่ีใชก ระบวนการกลุม8. การบรู ณาการ 8.1 บูรณาการกับกลมุ สาระการเรียนรูสงั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม (มิตรแท – มติ รเทยี ม)9. สอ่ื /แหลงการเรยี นรู 9.1 สือ่ ภาพวาด เรือ่ ง “มอื เพ่อื น” 9.2 ใบความรทู ี่ 1 เรื่อง “มติ รแท – มิตรเทียม” 9.3 ใบงานที่ 1 เรื่อง “คบเพ่อื นแบบใด จึงหา งไกลบุหร่”ี 9.4 ศูนยการเรียนรกู ลมุ สาระการเรยี นรสู ุขศกึ ษาและพลศกึ ษา/ศนู ยรณรงคเพอื่ การไมสูบบหุ ร่ี 9.5 เว็บไซต http:// www.ashthailand.or.th http:// www.smokefreezone.or.th10. การวัดและประเมนิ ผล 10.1 วิธกี ารวัด 1) ประเมนิ แบง กลมุ ระดมความคิดเหน็ 2) ประเมนิ กระบวนการเรียนรู “หัวใจนกั ปราชญ”

215 10.2 เคร่อื งมอื วดั 1) แบบประเมินแบงกลมุ ระดมความคิดเห็น 2) แบบประเมนิ กระบวนการเรียนรู “หัวใจนกั ปราชญ” 10.3 เกณฑก ารวดั ทกุ กจิ กรรมถอื เกณฑก ารผา นรอ ยละ 5011. กจิ กรรมเสนอแนะ 11.1 ควรสงเสรมิ ใหน กั เรียนให “คุณคา แหง ความเปนเพ่ือน” ปฏิบัติกิจกรรมรวมกันในลักษณะกัลยาณมิตร โดยเปลี่ยนมิตรเทียมใหเปนมิตรแท ครูติดตามพัฒนาการของนักเรียนและใหคะแนนจิตพสิ ัยหรอื ประเมินคณุ ลักษณะอันพึงประสงค 11.2 การปฏิบัติใบงานที่ 2 เรื่อง “ชวนเพื่อนทําความดี เพ่ือโรงเรียนปลอดบุหรี่” เปนการระดมความคิดเห็นดวยแผนภูมิ “กางปลา” ซึ่งจะเปนรากฐานใหนักเรียนแตละกลุมจัดกิจกรรมรณรงคไมส บู บหุ ร่ีตอ ไป ลงชือ่ ........................................................................ (.....................................................................) ตําแหนง ................................................................... ครผู ูสอน

216บันทกึ หลงั สอน1. ผลการจัดการเรยี นรู...............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................2. ปญ หาและอปุ สรรค...............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................3. วิธีการแกปญหา............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... ลงชอื่ ........................................................................ (.....................................................................) ตาํ แหนง................................................................... ครูผสู อนความคดิ เหน็ ของผูบรหิ ารสถานศกึ ษา/ผทู ไี่ ดร ับมอบหมาย............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... ลงชือ่ ........................................................................ (.....................................................................) ตําแหนง................................................................... ผอู าํ นวยการสถานศึกษา

217 สื่อการเรียนรูสอื่ ภาพวาด เรื่อง “มอื เพ่ือน” ภาพวาดสีโปสเตอร เรือ่ ง “มอื เพอื่ น” ผลงานของ นางสาวอทุ ัยทิพย สังขวศิ ิษฐ ช้ัน ม.6 โรงเรียนรัตนโกสินทรส มโภชน บางขุนเทยี นประเด็นคําถาม1. นกั เรียนเหน็ อะไรในภาพนบ้ี าง2. ภาพนสี้ ื่อความหมายวาอยางไร และนักเรียนรูสึกอยางไรตอ ภาพน้ี3. นกั เรยี นควรคบเพอ่ื นแบบไหน เพราะเหตใุ ด

218 ใบความรูที่ 1 เรอื่ ง “มิตรแท – มติ รเทยี ม”จุดประสงคก ารเรยี นรู 1. อธบิ ายเปรยี บเทยี บลักษณะของมติ รแทก ับมติ รเทียมได (ความร)ู 2. รวมกลุม กับเพ่อื นปฏบิ ตั ิกิจกรรมในทางสรางสรรคไ ด (ทักษะกระบวนการ) 3. บอกคุณคาของความเปนเพื่อนในการรวมพลงั สรางสรรคโรงเรยี นและสงั คมได (เจตคติ)มติ รแท – มิตรเทียม พระพุทธเจาทรงเห็นความสําคัญของการคบเพ่ือนวา เปนตนเหตุของ “ความสําเร็จ” หรือ “ความลม เหลว” ในชวี ติ ได จึงทรงสง่ั สอนไวใ นธรรมะเรื่อง สุหทมิตร ดังนี้ มิตรแท มี 4 ประเภทไดแ ก 1. มติ รอปุ การะ - เมื่อเพ่อื นประมาท ชว ยรักษาเพอ่ื น - เมื่อเพือ่ นประมาท ชวยรกั ษาทรพั ยส นิ ของเพ่ือน - เมื่อมภี ยั เปน ทพ่ี ่ึงพาํ นกั ได - เมอ่ื มีกจิ จําเปน ชว ยออกทรพั ยใหเ กินกวาทอี่ อกปาก 2. มติ รรวมสขุ รวมทุกข - บอกความลับแกเ พื่อน - ปด ความลบั ของเพือ่ น - เมื่อมีภยั อนั ตรายไมละทิง้ - แมชีวิตกส็ ละใหไ ด 3. มติ รแนะประโยชน - จะทาํ ช่ัวเสียหาย คอยหา มปรามไว - คอยแนะนําใหต ้งั อยูในความดี - ใหไ ดฟง ไดร สู งิ่ ทไ่ี มเ คยไดรูไ ดฟง - บอกทางสุข ทางสวรรคใ ห 4. มิตรมีน้าํ ใจ มคี วามรักใครเ อน็ ดู - เมือ่ เพ่ือนมีทุกข พลอยทกุ ขไมสบายใจดว ย - เม่ือเพอื่ นมีสุข พลอยมสี ขุ แชม ชนื่ ยินดีดวย - เมือ่ เขาตเิ ตยี นเพ่ือน ชวยยับยงั้ แกให - เมื่อเขาสรรเสริญเพ่ือน ชว ยพูดเสรมิ สนับสนนุ

219มิตรเทียม มี 4 ประเภทไดแก 1. คนปอกลอก - คือคนที่เอาของเพอ่ื นไปฝายเดียว - คอื เอาแตไ ดฝ ายเดยี ว เหน็ แกตวั เห็นแกไ ด - ยอมเสียนอย โดยหวังจะเอาใหมาก - เม่ือตวั มภี ยั จึงจะมาชว ยทาํ กิจกรรมของเพือ่ น - คบเพื่อนเพราะเห็นแกประโยชนสวนตน - อจิ ฉาเพอ่ื น แทงขา งหลงั - อยูด ว ยแลวอึดอัดไมสบายใจ 2. คนดีแตพูด - ดีแตยกสง่ิ ของทหี่ มดแลว มาปราศรัย - ดีแตอ างของที่ยังไมม มี าปราศรัย - สงเคราะหเ พ่อื นดว ยสง่ิ ทหี่ าประโยชนม ิได - เมื่อเพ่ือนมีกิจตองการความชวยเหลืออางแตเหตุขัดของ แตจะขอความชวยเหลือฝายเดียว ไมร จู ักชว ยเหลอื ตอบแทน - ปากโปง ชอบใสความคนอื่น 3. คนหัวประจบ - เพ่อื นจะทําความชั่วกเ็ ออออดวย - เพ่ือนจะทําความดีก็เออออดวย - ตอหนาสรรเสรญิ ลบั หลงั นนิ ทา 4. คนชวนฉิบหาย - คอยเปนเพอื่ นดื่มนํา้ เมา - คอยเปน เพือ่ นเทย่ี วกลางคืน - คอยเปน เพอ่ื นดูการเลน - คอยเปน เพื่อนเลน การพนนั - ชกั จงู ใหท ําแตสง่ิ เลวๆ**ท่ีมา อาทร จันทรวมิ ล. 108 วิธี มอบนํา้ ใจใหแ กกัน. กรุงเทพฯ : วฒั นาพานิช, 2544, 88 หนา

220 ใบงานท่ี 1เรือ่ ง “คบเพ่อื นแบบใด จงึ หา งไกลบหุ รี่”จดุ ประสงคก ารเรยี นรู 1. อธบิ ายเปรียบเทยี บลักษณะของมิตรแทกบั มิตรเทยี มได (ความรู) 2. รวมกลมุ กับเพอ่ื นปฏบิ ตั กิ จิ กรรมในทางสรา งสรรคไ ด (ทกั ษะกระบวนการ) 3. บอกคุณคา ของความเปนเพอ่ื นในการรวมพลังสรางสรรคโรงเรียนและสงั คมได (เจตคติ)คําช้ีแจง เม่ือนกั เรยี นศึกษาใบความรทู ี่ 1 เรื่อง “มติ รแท – มติ รเทียม” แลวเรมิ่ ตน ทํากจิ กรรม และระดม ความคดิ เหน็ ดงั น้ี1. เกมจับคู “มติ รแท – มติ รเทียม” ลากเสน เช่อื มโยงบตั รคาํ มติ รแท- มติ รเทยี ม 8 ประเภทกบั รปู ภาพการตนู ทม่ี คี วามหมายถกู ตองตรงกนั มิตรแท 4 ประเภท1. มติ รอุปการะ2. มิตรรว มทกุ ขร ว มสขุ3. มติ รแนะนาํ ประโยชน 4. มติ รมีนาํ้ ใจ มคี วามรกั ใครเอ็นดู

221มติ รเทียม 4 ประเภท 1. คนปอกลอก 2. คนดแี ตพดู 3. คนหัวประจบ 4. คนชวนฉบิ หาย

222 แบบเฉลย ใบงานท่ี 1เร่ือง “คบเพื่อนแบบใด จงึ หางไกลบุหรี่”1. เกมจบั คู “มติ รแท – มิตรเทยี ม” ลากเสนเชื่อมโยงบัตรคํา มิตรแท-มิตรเทียม 8 ประเภทกับรูปภาพการตูนท่ีมีความหมายถูกตองตรงกัน มติ รแท 4 ประเภท1. มิตรอปุ การะ2. มิตรรวมทุกขรวมสขุ3. มติ รแนะนําประโยชน4. มิตรมนี ้ําใจมคี วามรกั ใครเ อ็นดู

223มิตรเทียม 4 ประเภท 1. คนปอกลอก 2. คนดีแตพ ูด 3. คนหวั ประจบ 4. คนชวนฉบิ หาย

2242. อธบิ ายลกั ษณะของมติ รแท และมติ รเทยี ม ในสภาพสงั คมปจจบุ ัน และตามประสบการณของนกั เรียนมิตรแท มิตรเทียม1. มติ รอปุ การะ 1. คนปอกลอก..................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ....................................................................2. มิตรรวมทกุ ขรว มสุข 2. คนดีแตพ ดู..................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ....................................................................3. มิตรแนะประโยชน 3. คนหัวประจบ..................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ....................................................................4. มติ รมีนาํ้ ใจ มคี วามรกั ใครเ อ็นดู 4. คนชวนฉิบหาย..................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ......................................................................................................................................... ....................................................................

2253. นักเรียนคิดวาควรจะเลือกคบเพื่อนแบบใดจึงจะไมนําพาไปสูความเสื่อม เชน สูบบุหรี่ เปนตน พรอมอธิบายวิธีการคบเพอื่ นและการรกั ษาสมั พนั ธภาพกับเพ่ือนไว เพื่อนทค่ี วรคบ 1.......................................................................................................................................... 2.......................................................................................................................................... 3.......................................................................................................................................... 4.......................................................................................................................................... วิธกี ารคบเพื่อน 1.......................................................................................................................................... 2.......................................................................................................................................... 3.......................................................................................................................................... 4.......................................................................................................................................... การรักษาสัมพนั ธภาพกับเพอ่ื นไว 1.......................................................................................................................................... 2.......................................................................................................................................... 3.......................................................................................................................................... 4..........................................................................................................................................4. นักเรียนจะมีวิธีปฏิบตั ติ อเพอ่ื นทีไ่ มด อี ยางไร จึงจะเปน วธิ ีการทส่ี รา งสรรค และเปน ประโยชน ตอ ทกุ ฝาย 1.......................................................................................................................................... 2.......................................................................................................................................... 3.......................................................................................................................................... 4..........................................................................................................................................

226 กลมุ สาระการเรยี นรสู ขุ ศึกษาและพลศึกษา โรงเรียน........................................... รายวชิ าโรงเรยี นปลอดบหุ รี่ (สาระการเรยี นรูเพ่ิมเติม) ชว งชน้ั ที่ 3 (ม.1- ม.3) หนวยการเรยี นรทู ่ี 4 เรื่อง “ใชกลยุทธช ้ันเซียน ชวยโรงเรยี นใหปลอดบุหร่ี” แผนการจดั การเรียนรูที่ 14 เรื่อง “เลกิ สบู บุหรี่อยางไร จงึ ชนะใจอยางยง่ั ยนื ” เวลา 2 ช่ัวโมง1. มาตรฐานการเรียนรู มาตรฐานหลัก พ 4.1 เห็นคุณคาและมีทักษะในการสรางเสริมสุขภาพ การดํารงสุขภาพการปอ งกนั โรค และการสรางเสรมิ สมรรถภาพเพ่ือสุขภาพ มาตรฐานชวงช้ัน ขอ 1- 3 มาตรฐานหลัก พ 5.1 ปอ งกนั และหลีกเลย่ี งปจ จัยเส่ยี ง พฤตกิ รรมเสีย่ งตอสุขภาพ อบุ ตั ิเหตุ การใชยา สารเสพติด และความรุนแรง มาตรฐานชวงชนั้ ขอ 2, 3 และ 62. ผลการเรยี นรูทคี่ าดหวัง รแู ละเขา ใจวิธีการเลกิ สบู บุหร่ี สามารถนําไปใชก ับตนเองและชว ยเหลือผูอื่นในการเลกิ สูบบหุ รไ่ี ด3. จดุ ประสงคการเรยี นรู 3.1 บอกประโยชนของการเลกิ สบู บุหรไี่ ด (ความรู - เจตคติ) 3.2 ใชทักษะกระบวนการกลุมวิเคราะหปญหาอุปสรรคในการเลิกสูบบุหร่ีได (ทักษะกระบวนการ) 3.3 ใชทักษะกระบวนการสํารวจและวิเคราะหตัวกระตุนที่ทําใหอยากสูบบุหร่ีได (ทักษะกระบวนการ) 3.4 บอกเทคนิคและวิธกี ารเลกิ สูบบุหรไี่ ด (ความรู - ทกั ษะกระบวนการ)4. สาระการเรียนรู 4.1 ประโยชนข องการเลกิ สบู บหุ ร่ี 4.2 ปญ หาและอปุ สรรคในการเลิกสบู บหุ ร่ี 4.2 ตวั กระตุนท่มี อี ิทธิพลใหคนตดิ บหุ รี่ 4.3 เทคนคิ และวธิ ีการเลกิ สบู บหุ ร่ี5. สาระสําคัญ การติดบุหรี่เปนกลไกท่ีซับซอนของจิตใจ พฤติกรรม และความเคยชิน โดยมีนิโคตินเปนตัวกระตุนสารส่ือประสาทในสมอง ทําใหผูสูบรูสึกเปนสุข คลายเครียด ทําใหเสพติดและตองสูบบุหรี่เพือ่ ใหไดน ิโคตนิ อยูเร่ือยๆ สิ่งสําคัญที่สุดในการเลิกสูบบุหร่ีคือ จะตองมีความตั้งใจจริงที่จะเลิก แกไข

227พฤติกรรมความเคยชินท่ีทําใหอยากสูบบุหรี่ หลีกเล่ียงตัวกระตุน เอาชนะอุปสรรคตางๆ ดวยกําลังใจที่เขมแข็งโดยอาศัยความเขา ใจและแรงสนับสนนุ จากครอบครวั เพื่อน และบุคคลทีใ่ กลช ิด6. กระบวนการเรียนรู ชัว่ โมงท่ี 1 ข้นั นาํ 6.1 ครูตั้งคําถามชวน คิดวา “ถาคนคนหนึ่งสามารถเลิกสูบบุหรี่ได เขาจะไดอะไรจากการเลิกสูบบุหร่ี” นักเรียนแขงขันกันคิดถึงประโยชนจากการเลิกสูบบุหร่ีบันทึกลงในกระดาษใหมากที่สุดในเวลา 2 นาที ใหนักเรียนที่คิดไดมากท่ีสุดออกมาอานคําตอบ ครูกลาวคําชมเชย มอบรางวัล และใหนกั เรียนบอกคําตอบเพ่มิ เติมท่ีไมซ้าํ กบั ท่ีเพื่อนอาน ข้นั สอน 6.2 ครูต้ังคําถามตอไปวา การเลิกสูบบุหรี่เปนส่ิงท่ีทาทาย มีคนจํานวนมากที่เลิกสูบบุหรี่ไมสําเร็จ ตองกลับมาสูบอีก แบงนักเรียนเปนกลุมๆ ละ 5 - 7 คน แลกเปล่ียนประสบการณถึงปญหาอุปสรรคที่ทําใหคนท่ีตองการเลิกสูบบุหร่ีไมสามารถเลิกสูบบุหรี่ไดสําเร็จ บันทึกลงในใบงานท่ี 1เรื่อง “ปญ หาอุปสรรคในการเลิกสบู บุหร่ี” ตัวแทนกลุม ออกมารายงานหนาช้ัน 6.3 ครูอธิบายถึงกลไกและองคประกอบของการติดบุหรี่ โดยแจกใบความรูที่ 1เร่ือง “องคประกอบของการติดบุหรี่” และใหนักเรียนรวมกันวิเคราะหวิจารณเปรียบเทียบกับคําตอบของนกั เรยี นในใบงานท่ี 1 6.4 ครอู ธบิ ายวา การที่จะเลิกสูบบุหรี่ส่ิงสําคัญที่สุดคือ การหยุดกระบวนการที่ทําใหเกิดอาการอยากสบู บหุ รม่ี วี ิธีงายๆ ทจ่ี ะตองทาํ คือ 1. รจู ัก/คนหาตวั กระตุน ทท่ี ําใหอยากสบู บหุ ร่ี 2. หลีกเลีย่ งการเผชิญกบั ตวั กระตนุ นน้ั 3. รูจกั วธิ ีการจดั การกบั ตัวกระตนุ 6.5 ครูใหการบานโดยใหนักเรียนแตละคนไปสัมภาษณคนท่ีสูบบุหร่ีจํานวน 10 คน ซึ่งมีอายุระหวาง 12 - 19 ป โดยใชใบงานท่ี 2 เรื่อง “ตัวกระตุนภายนอก” และ ใบงานท่ี 3 เร่ือง “ตัวกระตุนภายใน” นํามาสรปุ เปนผลงานกลุม ในการเรยี นคร้ังตอไป ชั่วโมงที่ 2 6.6 นักเรยี นรวมกลมุ สมาชกิ 5 - 7 คน นําผลการสํารวจผูสูบบุหร่ีมาประมวลผลเร่ือง ตัวกระตุนภายนอก และตัวกระตุนภายในท่ีมีอิทธิพลทําใหคนท่ีพยายามเลิกสูบบุหร่ีตองหันกลับมาสูบอีกตัวแทนกลุมออกมารายงานหนาช้ัน นักเรียนรวมกันอภิปรายเรื่องอิทธิพลของตัวกระตุนเหลานี้ทําอยางไรเราจงึ จะเอาชนะและหลีกเล่ยี งตัวกระตุนเหลา นไี้ ด โดยครูใหข อ เสนอแนะเพ่ิมเติม

228 6.7 นักเรียนรวมกลุมศึกษาใบความรูท่ี 2 เร่ือง “วิธีการเลิกสูบบุหรี่ดวยตนเอง” และปฏิบัติตามใบงานที่ 4 เรื่อง “ทําอยางไรจึงจะเลิกสูบบุหร่ีได” โดยรวมกันคิดวิเคราะห ตอบปญหาในประเด็นตอ ไปนี้ - วธิ ีการจดั การเอาชนะตวั กระตนุ - เลือกวธิ กี ารหยุดความคดิ เสพตดิ เพ่อื พชิ ติ บุหร่ี - บอกวิธกี ารปฏิเสธเมอ่ื มผี ูยนื่ บหุ ร่ีให 6.8 ตวั แทนกลมุ รายงานหนา ชน้ั อภิปรายซักถามโดยครใู หขอ เสนอแนะเพ่ิมเตมิ ขนั้ สรปุ 6.9 ครูและนักเรยี นรว มกนั สรปุ บทเรยี นในประเดน็ ตา งๆ ดงั น้ี - อะไรเปน ปจจยั สําคญั ที่ทําใหเลกิ สบู บุหร่ีได - เราจะมสี ว นสาํ คญั ในการชวยใหค นใกลชิดเลกิ สบู บุหรี่ไดอ ยา งไร7. วิธีการจัดการเรียนรู 7.1 การเรยี นรทู เ่ี นนทักษะกระบวนการคิด 7.2 การเรียนรโู ดยใชก ระบวนการกลุม 7.3 การสาํ รวจขอมูลภาคสนาม8. การบูรณาการ 8.1 บรู ณาการกับกลุมสาระการเรยี นรศู ิลปะ (การต ูน “เกมซอนบุหร”ี่ ) 8.2 บูรณาการกบั กลุมสาระการเรยี นรูกลมุ สาระวทิ ยาศาสตร (องคประกอบของการติดบหุ รี่)9. ส่อื /แหลง การเรยี นรู 9.1 สื่อภาพการตนู “เกมซอนบหุ ร”่ี 9.2 ใบงานท่ี 1 เร่ือง “ปญ หาอุปสรรคในการเลกิ สบู บุหร่”ี 9.3 ใบความรูท่ี 1 เรอื่ ง “องคป ระกอบของการติดบุหร”ี่ 9.4 ใบงานท่ี 2 เรอื่ ง “ตวั กระตุนภายนอก” 9.5 ใบงานท่ี 3 เร่ือง “ตวั กระตุนภายใน” 9.6 ใบความรทู ่ี 2 เรอื่ ง “วิธกี ารเลกิ สบู บุหร่ีดว ยตนเอง” 9.7 ใบงานที่ 4 เรอื่ ง “ทําอยางไรจึงจะเลกิ สูบบหุ รี่ได” 9.8 ศนู ยการเรยี นรกู ลมุ สาระการเรียนรูส ขุ ศึกษาและพลศึกษา/ศนู ยร ณรงคเ พื่อการไมส บู บุหร่ี 9.9 แหลง สํารวจขอมูลภาคสนามในชมุ ชน 9.10 เว็บไซต http:// www.ashthailand.or.th http:// www.smokefreezone.or.th

22910. การวดั และประเมินผล 10.1 วิธกี ารวัด 1) ประเมนิ กระบวนการเรียนรู “หัวใจนกั ปราชญ” 2) ประเมนิ การแบง กลมุ ระดมความคดิ 10.2 เครือ่ งมือวดั 1) แบบประเมนิ กระบวนการเรียนรู “หวั ใจนกั ปราชญ” 2) แบบประเมนิ การแบง กลุมระดมความคิด 10.3 เกณฑการวัด ทกุ กจิ กรรม ถอื เกณฑก ารผานรอ ยละ 5011. กิจกรรมเสนอแนะ จดั กิจกรรมบาํ บัด (Matrix) กลุมยอยสําหรับนักเรียนท่ีสมัครใจเลิกสูบบุหร่ีสัปดาหละ 1 คร้ังๆ ละ 1 ช่ัวโมง เพ่ือฝกเทคนิคการควบคุมตนเอง ใหกําลังใจ และติดตามพฤติกรรมการเลิกสูบบุหรี่ โดยนําเอาครอบครวั เขา มามสี วนรวมในการชวยเหลอื นกั เรียน ลงช่ือ........................................................................ (.....................................................................) ตําแหนง................................................................... ครผู สู อน

230 บันทึกหลังสอน 1. ผลการจดั การเรียนรู.................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... 2. ปญหาและอุปสรรค ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... 3. วิธีการแกป ญ หา ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ลงชื่อ........................................................................ (...................................................................) ตาํ แหนง................................................................... ครผู สู อน ความคดิ เหน็ ของผูบรหิ ารสถานศึกษา/ผูท ไ่ี ดรบั มอบหมาย ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ลงช่ือ........................................................................ (....................................................................) ตาํ แหนง ................................................................... ผอู าํ นวยการสถานศึกษา

231 ใบงานท่ี 1เรือ่ ง “ปญหาอุปสรรคในการเลกิ สูบบุหร่ี”จุดประสงคก ารเรียนรู ใชท ักษะกระบวนการกลมุ วเิ คราะหป ญ หาอปุ สรรคในการเลิกสบู บุหรไี่ ด (ทกั ษะกระบวนการ)คาํ ชีแ้ จง แบง นกั เรียนเปน กลุมๆ ละ 5 - 7 คน รวมกันแสดงความคิดเห็นและแลกเปล่ียนประสบการณท่ี พบเหน็ ถึงปญ หาอุปสรรคในการเลิกสูบบุหรี่ แลวบันทึกผลลงในแผนภาพความคิดบนพื้นท่ีวาง ขา งลางน้ี กลุมท่.ี .........................................................................สมาชิกกลุม 1. ...................................................................................... เลขท่ี ............................... 2. ...................................................................................... เลขที่ ............................... 3. ...................................................................................... เลขที่ ................................ 4. ...................................................................................... เลขที่ ................................ 5. ...................................................................................... เลขท่ี ................................ 6. ...................................................................................... เลขท่ี ................................ 7. ...................................................................................... เลขที่ ................................

ใบความรูที่ 1 232 เรอ่ื ง “องคป ระกอบของการตดิ บหุ ร่”ีจดุ ประสงคก ารเรียนรู ใชทกั ษะกระบวนการกลุมวเิ คราะหปญ หาอปุ สรรคในการเลกิ สูบบหุ ร่ไี ด (ทักษะกระบวนการ) นิสยั ความเคยชนิ องคป ระกอบของการตดิ บุหรี่ อารมณ / ปญ หาทางจติ ใจสารเคมใี นรางกายการติดบหุ รี่เกดิ จากองคประกอบ 3 ประการ คือ 1. สารเคมีในรางกาย โดยพบวา นิโคตินซ่ึงเปนสารกระตุนจะออกฤทธิ์ตอเซลสมองชวยใหสมองหลั่งสารเคมีชนิดหนึ่งท่ีทําใหรูสึกสบาย ปลอดโปรง หากหยุดสูบจะทําใหการทํางานของสมองเหนือ่ ยลา ลง ผูส บู จะเกิดความตอ งการสบู อกี เพื่อใหรา งกายสดชน่ื ขึน้ และจะตอ งเพมิ่ ขนาดมากข้ึนเรื่อยๆเพ่ือใหไ ดค วามรสู ึกสดชน่ื เหมือนกบั ทเ่ี คยรสู ึก 2. นิสัยความเคยชิน เ ราจะพบวาคนสวนใหญจะเคยชินกับส่ิงที่เคยทํา เชน คนติดบุหรี่มักจะหยิบบุหรี่มาสูบในเวลาเดมิ ๆ ทีเ่ คยสูบหรือเมื่อพบเพือ่ นท่ีสูบก็จะตอ งหยบิ ข้นึ มาสบู 3. อารมณ/ปญหาทางจติ ใจ เราจะพบวา ปญ หาอารมณและจิตใจ มสี ว นสาํ คญั ใหคนอยากสูบบหุ ร่ี

233 ใบงานท่ี 2เร่ือง “ตวั กระตุนภายนอก หลอกใหห ลวมตัว”จุดประสงคการเรียนรู ใชทักษะกระบวนการสํารวจและวิเคราะหตัวกระตุนที่ทําใหอยากสูบบุหร่ีได (ทักษะกระบวนการ)คําชี้แจง ตัวกระตุนภายนอก คือ ภาวะส่ิงแวดลอมที่อยูรอบตัวบุคคลซ่ึงมีอิทธิพลในการกระตุน ความอยากสูบบุหรี่ไดแก คน สถานที่ ส่ิงของ เหตุการณ หรือสถานการณตางๆ ใหนักเรียนไป สํารวจผูท่ีสูบบุหร่ี หรือเคยสูบบุหรี่ จํานวน 10 คนวาตัวกระตุนภายนอกใด มีผลตอผูสูบ บหุ รม่ี ากท่สี ุด โดยใสเครอื่ งหมาย 9 ลงไปในชองท่ตี อ งการ และสรปุ ผลรวบรวมสงครู ตวั กระตนุ ภายนอกตอไปนมี้ ผี ลตอ คุณหรือผูสบู บหุ ร่เี พยี งใด ตวั กระตนุ ภายนอก มากทีส่ ดุ มาก ปานกลาง นอ ย ไมมีผล1. อยบู า นคนเดียว2. อยูบานกบั เพ่อื น3. ทบ่ี า นเพอ่ื น4. งานเลยี้ งสังสรรค5. เชยี รกฬี า6. ดืม่ เครือ่ งดม่ื ที่มแี อลกอฮอล7. ดูภาพยนตร8. อยทู ผ่ี บั / เธค9. ชมคอนเสริ ต10. อยูท่ีสวนสาธารณะ11. มนี ดั กับเพอ่ื นตางเพศ12. เห็นปายขอความ “ขายบหุ ร่ี”13. ไดกลิ่นบหุ ร่ี14. เหน็ คนสบู บุหร่ี15. หอ งนาํ้ โรงเรยี น16. เห็นภาพบหุ ร่ี17. เห็นอปุ กรณท ใ่ี ชใ นการสบู บุหร่ี18. การไดร วมกลมุ กับเพ่อื นท่สี บู บุหร่ี19. เห็นภาพคนสบู บุหร่ีในภาพยนตรละครและสือ่ ตา ง ๆ20. อื่นๆระบุ……………………

234 แบบสรุปผลการสํารวจตัวกระตนุ ภายนอกผสู ํารวจ……………………………………………………………….………. ช้ัน……………….. วนั ท…่ี ………………………………..…………….. ชอื่ - สกลุ ตวั กระตนุ ตวั กระตนุ ตัวกระตนุ ผรู บั การสาํ รวจ อายุ ภายนอกอนั ดบั 1 ภายนอกอนั ดบั 2 ภายนอกอนั ดบั 3 หมายเหตุ1 (3 คะแนน) (2 คะแนน) (1 คะแนน)2345678910สรปุ ตวั กระตนุ ภายนอกที่ไดคะแนนสงู สุด 3 อนั ดับคอื1…………………………………………………………………………..2…………………………………………………………………………..3…………………………………………………………………………..จากการสัมภาษณของสมาชกิ กลุมสรปุ ตัวกระตนุ ภายนอกทไ่ี ดคะแนนสูงสดุ 3 อันดบั คอื1…………………………………………………………………………..2…………………………………………………………………………..3………………………………………………………………………….. “หลกี เลี่ยงแรงกระตนุ วยั รนุ ปลอดบหุ ร”่ี

235 ใบงานท่ี 3เร่ือง “ตวั กระตุน ภายใน อยูทีใ่ จของเรา”จุดประสงคการเรียนรู ใชทักษะกระบวนการสํารวจและวิเคราะหตัวกระตุนท่ีทําใหอยากสูบบุหร่ีได (ทกั ษะกระบวนการ)คําช้ีแจง ตวั กระตนุ ภายใน คือ ภาวะตา งๆ ทางจิตใจ ซึ่งกระตุนทําใหเกิดความอยากสูบบุหร่ี ใหนักเรียน ไปสํารวจผูที่สูบบุหรี่ หรือเคยสูบบุหร่ีจํานวน 10 คน วาตัวกระตุนภายในใด มีผลตอผูสูบ มากที่สดุ โดยใสเคร่ืองหมาย 9 ลงไปในชองท่ีตองการ และสรุปผลรวบรวมสง ครูตัวกระตนุ ภายใน ตอ ไปน้มี ผี ลตอ คณุ เพียงใดตัวกระตุนภายใน มากท่สี ุด มาก ปานกลาง นอย ไมมีผล1. ความสุข/สนกุ2. อารมณใคร3. ถูกทอดทิ้ง/โดดเดยี่ ว4. เครียด5. โกรธ6. คับขอ งใจ/รูสกึ ถูกกดดนั /ถูกบีบคน้ั7. อกหัก8. วา เหว/เหงา9. อยาก/เคยชนิ กบั การสบู บหุ รี่10. เศรา11. อยากลอง12. อยากผอ นคลาย13. อยากเอาชนะ/อยากประชดประชัน14. อยากเดน /อยากใหค นสนใจ15. ต่ืนเตน /ประหมา16. ขาดความเชอ่ื มน่ั /อารมณไ มมนั่ คง17. ความเบื่อ18. นอ ยใจ/เสยี ใจ19. อืน่ ๆ ระบุ ……………………..

236 แบบสรปุ ผลการสํารวจตัวกระตุนภายใน ปฏิบตั งิ าน นอกสถานที่ผสู ํารวจ……………………………………………ช้ัน……… เปน การบาน วนั ท…่ี ……………………………..……………….. ชอ่ื - สกลุ ตวั กระตุน ตวั กระตุน ตวั กระตนุ ผรู บั การสํารวจ อายุ ภายในอันดับ 1 ภายในอนั ดบั 2 ภายในอนั ดบั 3 หมายเหตุ1 (3 คะแนน) (2 คะแนน) (1 คะแนน)2345678910สรปุ ตัวกระตนุ ภายในทไ่ี ดค ะแนนสงู สุด 3 อนั ดับคือ1…………………………………………………………………………..2…………………………………………………………………………..3…………………………………………………………………………..จากการรวบรวมขอมูลของสมาชิกท้ังกลมุสรุปตัวกระตนุ ภายในทไี่ ดค ะแนนสงู สุด 3 อันดบั คือ1…………………………………………………………………………..2…………………………………………………………………………..3………………………………………………………………………….. “กระตุนอยางไร ก็แพใ จของเรา”

237 ใบความรทู ี่ 2เร่ือง “วิธกี ารเลิกสบู บหุ รีด่ ว ยตนเอง”จดุ ประสงคการเรยี นรู บอกเทคนิคและวิธีการเลิกสบู บหุ ร่ีได (ความรู - ทักษะกระบวนการ)วธิ ีการเลกิ สูบบุหรด่ี วยตนเอง 1. ปรับเปลี่ยนกิจวัตรประจําวันใหมงดดื่มกาแฟ/สุราช่ัวคราว งดอาหารรสจัด หลีกเล่ียงการอยูในสถานท่ที ท่ี าํ ใหคุณอยากสบู บหุ รี่ 2. รจู ักตัวกระตุน ทท่ี าํ ใหอยากสูบบุหร่ี หลกี เล่ยี งท่ีจะเผชญิ กับตัวกระตนุ เหลานน้ั 3. หาบคุ คลทีเ่ ปนคสู ัญญาทจ่ี ะใหก ําลงั ใจคุณในการเลิกสูบบุหรี่ 4. ใหรางวัลตนเองในชวงเวลาท่เี ลกิ สบู บุหรี่ได 1 สัปดาห 1 เดือน 3 เดอื น 6 เดือน 1 ป 5. เทคนิคการหยุดความคิดเสพติด เพื่อพิชิตบุหรี่ เมื่อคุณรูสึกอยากสูบบุหรี่ ตองรีบหยุดความคิดภายใน 60 วนิ าที โดยเลือกวิธกี ารตอไปนี้1. ฝกสมาธใิ หอ ยทู ลี่ มหายใจเขา ออก2. สรา งจินตนาการเพ่อื หาสง่ิ ยึดเหนี่ยว เชน นึกถึงหนาคนท่รี สู ึกผกู พัน3. หาหนังสติ๊กรดั บรเิ วณขอ มือ ดีดหนังสต๊กิ เมอื่ รสู ึกอยากสูบบหุ รี่4. ลา งหนา/อาบนา้ํ /นอนแชในน้ําอนุ หรือนา้ํ เย็น5. ออกไปเดินเลน ขา งนอก/ออกกําลงั กาย/เลน กีฬา/หากิจกรรมที่ชอบทํา6. โทรศพั ทห าคนทร่ี ูใ จ/หาเพ่อื นคยุ /ระบายความรูส กึ กบั คนทไ่ี วใ จ7. ดืม่ นาํ้ มากๆ8. คุย/แลกเปลีย่ นประสบการณกับคนท่ีเลิกสบู บหุ ร่ีได

238 6. วิธีปฏิเสธการสูบบุหรี่ การปฏิเสธเปนสิทธิสวนบุคคล เม่ือคุณตระหนักวาถูกชวนใหกระทําในส่งิ ทีค่ าดวา จะเกิดผลเสยี หรอื ผลกระทบในดานลบตามมา 1) อยา เกรงใจถา มใี ครยื่นบุหรใี่ หแ ลวไมรับคณุ มสี ทิ ธิ์ปฏเิ สธ 2) ปฏิเสธอยางจริงจังทั้งทาทาง คําพูด และนํ้าเสียงเพื่อแสดงความต้ังใจอยางชัดเจนที่จะขอปฏิเสธ ถามีใครคะยน้ั คะยอใหย ืนยันความต้งั ใจจรงิ “ผมเลิกสูบบุหรแี่ ลวครับ” 3) ใชความรูสึกเปนขออางประกอบเหตุผล เพราะการใชเหตุผลอยางเดียวมักถูกโตแยงดวยเหตผุ ลอื่น การอางความรูส ึกทําใหโ ตแ ยง ไดย ากข้นึ 4) การขอความเหน็ ชอบแสดงความขอบคณุ เมื่อผชู วนยอมรับเปนการรักษานํา้ ใจของผชู วน 5) เมื่อถูกเซาซ้ีหรือสบประมาทไมควรหวั่นไหวไปกับคําพูดเหลาน้ัน เพราะจะทําใหขาดสมาธิในการหาทางออก ควรปฏเิ สธซาํ้ บอกลาหาทางเล่ยี งไปกอนทีจ่ ะใจออ นกลับมาสบู

239ใบงานท่ี 4 เรื่อง “ทาํ อยา งไรจงึ จะเลกิ สูบบุหร่ีได”จุดประสงคก ารเรยี นรู บอกเทคนคิ และวธิ ีการเลิกสบู บุหรี่ได (ความรู-ทักษะกระบวนการ)คําช้ีแจง สมาชิกรวมกันอภิปราย ระดมความคิด และศึกษาใบความรูที่ 2 เรื่อง “วิธีการเลิกสูบบุหร่ีดวย ตนเอง” แลวตอบคาํ ถามตอ ไปน้ี 1. วิธกี ารจัดการกบั ตนเองเมอื่ อยากสูบบุหรี่2. เทคนคิ การหยดุ ความคดิ เสพตดิ เพ่ือพชิ ิตบหุ รี่3. วิธกี ารปฏเิ สธเม่อื มีผยู น่ื บุหรใี่ ห3.1 วิธีการ ...............................................................................................................................................................................................................................................................................................................3.2 คาํ พดู ปฏิเสธ ....................................................................................................................................................................................................................................................................................................

240 กลุมสาระการเรียนรสู ุขศึกษาและพลศึกษา โรงเรียน........................................... รายวิชาโรงเรยี นปลอดบุหรี่ (สาระการเรยี นรเู พมิ่ เติม) ชว งชั้นท่ี 3 (ม.1- ม.3) หนว ยการเรียนรทู ี่ 4 เรือ่ ง “ใชก ลยุทธช ัน้ เซยี น ชวยโรงเรยี นใหปลอดบหุ ร่ี” แผนการจดั การเรยี นรทู ่ี 15 เร่อื ง “ประสานพลงั ใจ ใชปญ ญา พาโรงเรยี นปลอดบุหร”ี่ เวลา 2 ช่วั โมง1. มาตรฐานการเรยี นรู มาตรฐานหลกั พ 2.1 เขาใจและเหน็ คุณคา ของชวี ติ ครอบครวั เพศศกึ ษา และมที กั ษะในการดาํ เนนิ ชวี ิตรักษาสมั พนั ธภาพกับผอู ื่น มาตรฐานชว งชัน้ ขอ 2 มาตรฐานหลัก พ 4.1 เห็นคณุ คาและมที กั ษะในการสรา งเสริมสุขภาพ การดํารงสุขภาพ การปอ งกนั โรค และการสรา งเสรมิ สมรรถภาพเพ่อื สุขภาพ มาตรฐานชว งชน้ั ขอ 1 - 5 มาตรฐานหลัก พ 5.1 ปองกันและหลีกเลี่ยงปจจัยเสี่ยง พฤติกรรมเส่ียงตอสุขภาพ อุบัติเหตุการใชยา สารเสพตดิ และความรนุ แรง มาตรฐานชว งชน้ั ขอ 2 - 62. ผลการเรยี นรทู ่คี าดหวัง รู เขาใจ และมที ักษะกระบวนการในการจัดกิจกรรมรณรงคเ พื่อการไมสูบบุหรี่ในโรงเรยี นไดอ ยา งมปี ระสทิ ธิภาพดว ยความมุง มั่นและความภาคภูมิใจ3. จดุ ประสงคก ารเรียนรู 3.1 อธิบายองคค วามรเู รอื่ งบหุ ร่ใี นการจัดกิจกรรมรณรงคเ พอ่ื การไมสูบบุหรี่ไดอยางถูกตองและชดั เจน (ความรู) 3.2 ใชทักษะกระบวนการจัดกิจกรรมโครงงานรณรงคเพ่ือการไมสูบบุหร่ีไดบรรลุตามจดุ ประสงคข องโครงงาน (ทกั ษะกระบวนการ) 3.3 ใชทักษะกระบวนการสํารวจและวิเคราะหตัวกระตุนที่ทําใหอยากสูบบุหร่ีได (ทักษะกระบวนการ) 3.4 อธิบายและส่ือความรูสึกภาคภูมิใจในการเปนนักรณรงคเพ่ือการไมสูบบุหร่ีของโรงเรียนได(เจตคติ)4. สาระการเรยี นรู 4.1 องคความรเู รอื่ งบหุ รี่ในการจัดกจิ กรรมรณรงค 4.2 การดําเนนิ โครงการรณรงคเพ่ือการไมสบู บหุ ร่ี 4.2 ความภาคภูมใิ จของเยาวชนนกั รณรงคเ พือ่ การไมสบู บหุ ร่ี

2415. สาระสาํ คัญ เยาวชนนักรณรงคเพื่อการไมสูบบุหร่ีในโรงเรียน จะตองมีความพรอมท่ีจะจัดกิจกรรมเพ่ือสวนรวมทั้งทางดานความรูที่ถูกตองชัดเจนเก่ียวกับบุหร่ี ทักษะกระบวนการในการจัดกิจกรรมโครงงาน โดยใชกระบวนการ P-D-C-A อยางครบวงจร และมีเจตคติหรือจิตสํานึกสาธารณะที่จะปกปอ งคุมครองสุขภาพของผทู ่ีสบู บหุ ร่แี ละผูท่ีไมส บู บุหร่ี คุณสมบัติท้ัง 3 ดานน้ี จะเปนปจจัยสําคัญในการจัดกิจกรรมรณรงคเพ่ือการไมสูบบุหร่ีใหประสบความสําเร็จและนําไปสู “โรงเรียนปลอดบุหรี่”ไดด วยความภาคภูมใิ จ6. กระบวนการเรยี นรู ชวั่ โมงที่ 1 ขนั้ นํา 6.1 นักเรยี นรวมกนั ฟง เพลง “เล็กนอย...มหาศาล” ของมลู นธิ ริ ณรงคเพ่ือการไมส ูบบหุ ร่ี โดยฝกรอ งตามและปรบมอื เขาจงั หวะ เสร็จแลว ครูชวนนักเรยี นรวมกันสนทนาในประเดน็ ตอ ไปน้ี - ฟง เพลงนแี้ ลวรสู ึกอยางไรและมเี น้อื หาเกีย่ วกับอะไรบา ง - คาํ วา “เลก็ นอ ย...มหาศาล” หมายความวาอยา งไร - เด็กที่ไมสูบบุหรี่อาจไดรับควันบุหรี่มือสองจากคนท่ีสูบก็จะเปนอันตรายเชนเดียวกันดังนั้นเดก็ รุนใหมที่แทจริงควรจะทําอะไรบางเพ่ือปกปองคุมครองตนเองและผูอ่ืนท่ีไมสูบบุหรี่ใหปลอดจากควันบหุ รี่ ครูใหขอเสนอแนะเพ่ิมเติมและสรางแรงจูงใจใหนักเรียนเปนเด็กรุนใหมที่มีคุณคาตอโรงเรียนและสังคม โดยเตรียมตัวฝกฝนเปน “เยาวชนนักรณรงคเพื่อการไมสูบบุหร่ี” ต้ังแตวันนี้ ซ่ึงมีเปาหมายสําคญั คอื การพัฒนาโรงเรยี นใหเปน “โรงเรียนปลอดบุหร”่ี อยางแทจริง 6.2 นักเรียนท่ีเปน “เยาวชนนักรณรงคเพื่อการไมสูบบุหร่ี” ทุกกลุมรวมกันศึกษาใบความรูท่ี 1เร่ือง “กระบวนการ P–D–C–A กับการดําเนินโครงงาน” และรวมกันเขียน โครงงาน “กิจกรรมรณรงคเพื่อการไมสูบบุหรี่” โดยมีกิจกรรมหลัก 2 ดาน คือ 1)ดานการปองกัน 2)ดานการแกปญหาและใหแตละกลุมคิดคนกิจกรรมและสื่อนวัตกรรมตามความถนัดเพิ่มเติมอยางอิสระและใชกระบวนการP–D–C–A เปนแนวทางการดําเนินงาน 6.3 สงตวั แทนกลุมนําเสนอโครงงานกลุม ละ 10 นาที 6.4 นักเรยี นและครูรวมกันเสนอแนะเพอ่ื ใหเ กิดความสมบรู ณ 6.5 ทกุ กลมุ นําโครงงานไปปรบั ปรงุ แกไขและเสนอครูเพอื่ พจิ ารณาอนมุ ตั ิ 6.6 ทุกกลุมพิจารณาคัดเลือกส่ือการเรียนรูจากมูลนิธิรณรงคเพ่ือการไมสูบบุหร่ี และจากแหลงเรยี นรอู ืน่ และสรา งสอื่ การเรียนรูใ หม (นวัตกรรม)

242 ชวั่ โมงที่ 2 6.7 นักเรียนแตล ะกลุม จดั กิจกรรมรณรงคเพื่อการไมสูบบุหร่ี ท้ังในเวลาเรียนและนอกเวลาเรียน(ตามแผนปฏิบัติการ) ตัวอยางเชน กิจกรรมดานการปองกัน กิจกรรมนันทนาการ การเผยแพรความรูเร่ืองพิษภัยของบุหร่ี การจัดคายเยาวชน กิจกรรมเสียงตามสาย กิจกรรมประกวดหองเรียนปลอดบุหร่ีกิจกรรมชวยเพอ่ื นใหเ ลกิ สูบบุหร่ี เปน ตน 6.8 ทกุ กลมุ มีการประเมินโครงงานของตนเองในระหวางปฏิบัติ เพื่อนําขอบกพรองมาปรับปรุงพัฒนาใหด ีขึน้ ครูสังเกตและติดตามประเมินผลกระบวนการการดําเนินงานทุกระยะ พรอมใหคําปรึกษาและเสริมแรงใหก าํ ลังใจ ข้นั สรุป 6.9 จัดประชุมสัมมนา “เยาวชนนักรณรงคเพื่อการไมสูบบุหรี่” เพ่ือสรุปประเมินผลโครงการและใหขอ เสนอแนะตอ ทางโรงเรยี น 6.10 นักเรียนทุกคนเขียนความรูสึกในใจและความภาคภูมิใจในการเปนเยาวชนคนรุนใหมที่มีคุณคา ในการเปนนักรณรงคเ พื่อการไมสูบบุหร่ี7. วิธีการจัดการเรียนรู 7.1 การเรยี นรแู บบโครงงาน 7.2 การเรยี นรแู บบ CIPPA MODEL8. การบรู ณาการ 8.1 บูรณาการกับกลุมสาระการเรียนรูท่ีเก่ียวของ (ตามลักษณะกิจกรรมและส่ือการเรียนรูท่ีใช) 8.2 บูรณาการกับมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐานดานผูเรียนของสํานักรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องคก รมหาชน) หรือ “สมศ.” ทั้ง 8 มาตรฐาน (การประเมนิ ภายนอกกรอบ 2)9. ส่อื /แหลง การเรียนรู 9.1 สอ่ื แผนซดี บี ทเพลง “เล็กนอ ย...มหาศาล” 9.2 ส่อื ทกุ ชนดิ ของมูลนิธิรณรงคเ พ่ือการไมส บู บุหร่ี 9.3 สอื่ นวัตกรรมจากแหลงการเรียนรูอืน่ ๆ และสรางสรรคข ึน้ เอง 9.4 ใบความรทู ่ี 1 เรอ่ื ง “กระบวนการงานการจดั กจิ กรรม P-D-C-A กับการดําเนนิ โครงงาน” 9.5 ใบงานที่ 1 เรื่อง “แบบนําเสนอเคาโครงของโครงงาน” 9.6 ใบงานที่ 2 เรือ่ ง “ทาํ โครงงานอยางไร สุขใจไดค ณุ คา ” 9.7 วสั ดอุ ุปกรณการดาํ เนนิ กิจกรรม 9.8 ศนู ยก ารเรยี นรกู ลมุ สาระการเรยี นรสู ุขศกึ ษาและพลศึกษา/ศูนยรณรงคเ พือ่ การไมส บู บุหรี่ 9.9 เวบ็ ไซต http:// www.ashthailand.or.th http:// www.smokefreezone.or.th

24310. การวดั และประเมินผล 10.1 วธิ กี ารวดั 1) ประเมินการแบงกลมุ ระดมความคดิ เห็น 2) ประเมนิ กระบวนการเรยี นรู “หวั ใจนกั ปราชญ” 3) ประเมินกระบวนการปฏิบตั งิ านกลุม 4) ประเมินตนเอง (หลงั จากงานสาํ เร็จ) 5) ประเมนิ โครงงาน (โดยครผู สู อน) 10.2 เครอ่ื งมือวดั 1) แบบประเมินการแบง กลุมระดมความคิดเหน็ 2) แบบประเมนิ กระบวนการเรยี นรู “หวั ใจนักปราชญ” 3) แบบประเมินกระบวนการปฏิบัติงานกลุม 10.3 เกณฑก ารวดั ทุกกิจกรรม ถอื เกณฑก ารผานรอยละ 5011. กิจกรรมเสนอแนะ 11.1 แผนการจัดการเรียนรูท่ี 15 เรื่อง “ประสานพลังใจใชปญญา พาโรงเรียนปลอดบุหร่ี”เวลาเรียน 2 ช่ัวโมงนี้ มีความยืดหยุนทั้งรูปแบบกิจกรรม กระบวนการเรียนรูและระยะเวลา เพราะเปนแผนโครงงานท่ีใหอิสระนักเรียนในการคิดคน และดําเนินงานดวยตนเองภายใตคําปรึกษาของครูดังน้ันครูผูสอนจึงควรชวยประสานงานกับทางโรงเรียน และหนวยงานท่ีเกี่ยวของ ในการจัดกิจกรรมรณรงคนอกเวลารวมกับนกั เรียนในระดบั ชนั้ อ่ืนๆ โดยมีแผนการดําเนินงานทีช่ ดั เจน 11.2 โรงเรียนควรสนับสนุนใหครูในกลุมสาระการเรียนรูอ่ืนๆ และครูกิจกรรมมีโอกาสนําแผนการจัดการเรียนรูรายวิชาโรงเรียนปลอดบุหรี่ไปประยุกตใชในการจัดกิจกรรมบูรณาการและกิจกรรมพัฒนาผเู รยี นไดต ามความเหมาะสม ลงช่ือ........................................................................ (..................................................................) ตําแหนง................................................................... ครูผสู อน

244บนั ทึกหลังสอน1. ผลการจดั การเรียนรู...............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................2. ปญ หาและอปุ สรรค...............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................3. วิธกี ารแกปญ หา............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... ลงช่ือ........................................................................ (..................................................................) ตําแหนง................................................................... ครูผูสอนความคดิ เหน็ ของผบู รหิ ารสถานศึกษา/ผูทไี่ ดร บั มอบหมาย............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... ลงช่ือ........................................................................ (..................................................................) ตําแหนง ................................................................... ผูอํานวยการสถานศกึ ษา

245 สื่อการเรียนรูเนอื้ รองเพลง “เลก็ นอย...มหาศาล” ศิลปน : นิตพิ งษ ปญญาวงษ(*) เคยใชไหมละ เปนบางคราวใชไ หมละ บางเวลาอารมณม ันก็แอบพาใจนายไป มองอะไรก็ไมเ ห็น ฟุง ซานเลยใชไ หมละ เหมอื นติดในเขาวงกตไมม ีทางออกฉนั เขา ใจ(**) ยาใชไหมละ เหลาบุหรใี่ ชไหมละ คิดวามนั จะดี กแ็ คลองหนอ ยคงไมเ ปนไร แตร ไู หมเธอรไู หม คิดบา งไหมเธอคดิ ไหม ลองกนั คนละหนอยประเทศชาติตอ งพงั ทลาย(***) JUST SAY NO (JUST SAY NO) JUST SAY NO (JUST SAY NO) JUST SAY NO (JUST SAY NO) JUST SAY NOพูด : เหลาบหุ รี่มันไมดเี ธอรไู หม ไอยาเสพตดิ มนั มแี ตโ ทษเธอจาํ เอาไว เจอทไ่ี หนออกหางมันใหไกล ถา ทาํ ไดอยา งน้ีประเทศชาตคิ งรอดตาย ซํ้า (*, **, ***)ลขิ สิทธ์โิ ดย มูลนธิ ิรณรงคเ พอ่ื การไมส บู บุหรี่ โทร. 0-2278-1828


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook