Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชา

แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชา

Published by natthapat.u, 2020-06-25 01:05:06

Description: 1. เพื่อให้เข้าใจหลักการและกระบวนการจัดจำหน่ายสินค้าและบริการ
2. เพื่อให้มีทักษะในการกำหนดตลาดเป้าหมาย และวางแผนการจัดจำหน่ายสินค้าและบริการ
3. เพื่อให้มีเจตคติและกิจนิสัยที่ดีในการทำงานด้วยความรับผิดชอบ การทำงานเป็นทีม ความมีมนุษยสัมพันธ์ และความซื่อสัตย์สุจริต

Keywords: การจัดจำหน่าย,หลักการและการจัดจำหน่าย

Search

Read the Text Version

แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ า หลกั การจัดการ รหัส 3200-1002 หลกั สูตรประกาศนียบตั รวชิ าชีพ พทุ ธศักราช 2556 แผนกวชิ าพาณชิ ยกรรม จัดทาโดย นางสาวณัฐพชั ร์ อุทยั รัศมี แผนกวชิ าการตลาด วทิ ยาลยั อาชีวศึกษาออมสินอปุ ถมั ภ์

รายการตรวจสอบและอนุญาตให้ใช้  ควรอนุญาตให้ใช้การสอนได้  ควรปรบั ปรงุ เกยี่ วกบั ..................................................................................................... ......................................................................... ..................................................................................................... ..................................................................................................... ..................................................................................................... ..................................................................................................... ..................................................................................................... ................ ........................................................................ ลงชอื่ (....................................................................) สาขาวชิ า หวั หน้า ............../.................................../....................  เห็นควรอนุญาตให้ใช้การสอนได้  ควรปรบั ปรุงดงั เสนอ  อนื่ ๆ ..................................................................................................... ................................................................ ..................................................................................................... .....................................................................................................

..................................................................................................... ........................... ........................................................................ ลงชอื่ (....................................................................) ฝ่ ายวชิ าการ รองผอู้ านวยการ ............../.................................../....................  อนุญาตให้ใช้การสอนได้  อนื่ ๆ ..................................................................................................... ................................................................ ..................................................................................................... ..................................................................................................... ..................................................................................................... ........................... ........................................................................ ลงชอื่ (....................................................................) ผอู้ านวยการ ............../.................................../............ ...... ลกั ษณะรายวชิ า รหสั 3200-1002 ชอ่ื วชิ า การจดั จาหน่ายสินคา้ และบรกิ าร

หน่วยกติ ...............3....................... เวลาเรยี นตอ่ ภาค …………72………….. ชว่ั โมง รายวชิ าตามหลกั สูตร จุดประสงคร์ ายวชิ า 1. เพอ่ื ให้เข้าใจหลกั การและกระบวนการจดั จาหน่ายสินคา้ และบรกิ าร 2. เพอ่ื ให้มที กั ษะในการกาหนดตลาดเป้ าหมาย และวางแผนการจดั จาหน่ายสินค้าและบรกิ าร 3. เพอ่ื ให้มเี จตคตแิ ละกจิ นสิ ัยทด่ี ใี นการทางานดว้ ยความรบั ผดิ ชอบ การทางานเป็ นทมี ความมมี นุษยสัมพนั ธ์ และความซอ่ื สัตยส์ จุ รติ สมรรถนะรายวชิ า 1. แสดงความร้เู กย่ี วกบั หลกั การและกระบวนการจดั จาหน่ายสินค้าและ บรกิ าร 2. แสดงความร้เู กยี่ วกบั สถานการณท์ างการตลาด และตลาด เป้ าหมาย 3. แสดงความรเู้ กยี่ วกบั กฎหมาย และองคก์ ารทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั การจดั จาหน่ายสินค้าและบรกิ าร 4. วางแผนและจดั จาหน่ายสินคา้ และบรกิ ารตามหลกั การ 5. ประยกุ ตใ์ ช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสารในการจดั จาหน่าย สินคา้ และบรกิ าร คาอธบิ ายรายวชิ า 1. บอกจดุ ประสงคร์ ายวชิ า สมรรถนะรายวชิ า และคาอธบิ าย รายวชิ าตามหลกั สตู รฯ ได้ 2. บอกแนวทางวดั ผลและการประเมนิ ผลการเรยี นรไู้ ด้

หลกั สตู ร : ประกาศนียบตั รวชิ าชพี โครงการ หน้า พุทธศักราช 2556 สอนตอ่ ท่ี รหสั วชิ า : 2202-2204 ภาคเรยี น 1 ชอ่ื วชิ า : การจดั จาหน่ายสินคา้ และ แผน่ ท่ี : บรกิ าร 1 ระดบั การศึกษา ปวช.  ปี 1.  ปี 2.  ปี 3. จานวน : 4 ชว่ั โมงตอ่ สัปดาห์ จานวน : 18 สัปดาหต์ อ่ ภาคเรยี น สอนในภาคเรยี นท่ี 2/2561 วดั ผ ล ส.ป. หวั ขอ้ Teaching Point กจิ กร สื่อ รม

1-3 -ความร้ทู ว่ั ไปเกยี่ วกบั - ปฐมนิเทศชแี้ จง บรรย ตย. วธิ กี ารเรยี น การให้ าย การจดั จาหน่าย คะแนน ถาม- ตย. -การวดั ผลและ ตอบ 4-5 -หลกั การจดั จาหน่าย ประเมนิ ผลเรยี น PP/ -งานทเ่ี กยี่ วข้องกบั การ บรรย ตย. สินค้าและบรกิ าร จดั จาหน่าย าย -ลกั ษณะตลาดสินค้า -การออกแบบช่องทาง ถาม- PP/ และบรกิ าร การจดั จาหน่าย ตอบ ตย. -โครงสรา้ งช่องทางการ 6-8 สถานการณ์ทางการตลาด จดั จาหน่าย บรรย -ความรเู้ กยี่ วกบั สินค้า าย ตลาดเป้าหมาย -ความร้เู กยี่ วกบั สถานการณท์ าง บรรย 9- การขนสง่ สนิ คา้ การตลาด าย 11 -การวเิ คราะห์ สถานการณท์ าง การตลาด -ความรเู้ กย่ี วกบั ตลาด เป้ าหมาย -ความรเู้ กย่ี วกบั การ ขนส่ ง 12- การคลงั สนิ คา้ -หน้าทขี่ องคลงั สินค้า บรรย ตย. 14 -ความร้เู กย่ี วกบั าย คลงั สินค้า 15- กฎหมายและองคก์ ารท่ี -กฎหมายทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั การจดั บรรย ตย. 17 เกย่ี วขอ้ งกบั การจดั จาหน่าย จาหน่าย าย ถาม- สนิ คา้ และบรกิ าร ตอบ 18 สอบปลายภาค

............................................. (นางสาวณฐั พชั ร์ อทุ ยั รศั ม)ี ครผู ้สู อน ตารางวเิ คราะห์หลกั สูตร หน่วยกติ 3 รหัส 2202-2004 วชิ าการจดั จาหน่ายสินคา้ และบรกิ าร ระดบั ช้ัน ปวช.สาขา การตลาด พุทธพิ สิ ัย พฤตกิ รรม ความรู้ ความจา ชอื่ หน่วย ความเข้าใจ ประยุกต์- 1.ความรพู้ น้ื ฐานเกย่ี วกบั องคก์ าร วินเาคไรปาใะ ้ชห์ สูงกว่า ทักษะพิ ัสย จิตพิ ัสย รวม ลาดับ ความสาคัญ 1 1 1 1 1 1 3 2 11 2.หน้าทก่ี ารจดั การ 1 1 1 1 1 1 4 2 12 3.หลกั การจดั การสมยั ใหม่ 1 1 1 1 1 1 3 2 11 4.การเปลย่ี นแปลงการพฒั นา 1 1 1 1 1 1 4 3 13 องคก์ าร 5.การนาเทคโนโลยสี ารสนเทศมาใช้ 1 1 1 1 1 1 4 3 13 ในการจดั การ 6.จรยิ ธรรมในการจดั การ 1 1 1 1 1 1 4 2 12 7.กรณีศกึ ษาการจดั การ 1 1 1 2 1 1 4 3 14 8.การประยกุ ตห์ ลกั การจดั การในงาน อาชพี ตามหลกั ปรชั ญาของ 1 1 1 2 1 1 4 3 14 เศรษฐกจิ พอเพยี ง สอบกลางภาคเรยี น สอบปลายภาคเรยี น

รวม 8 8 8 10 8 8 30 20 100 ลาดบั ความสาคญั 44434412 เกณฑก์ ารวดั และประเมินผลวิชา การจดั จาหน่ายสินค้าและบริการ การวดั และประเมนิ ผลรายวชิ าการจดั จาหน่ายสนิ คา้ และบรกิ าร หลกั สตู รประกาศนียบตั รวชิ าชพี 2556 ไดก้ าหนดใหใ้ ชส้ ดั สว่ นของคะแนนระหวา่ งภาคต่อคะแนนสอบกลางภาคและปลายภาคเทา่ กบั 80 : 20 ซง่ึ มี รายละเอยี ดดงั น้ี 1. ภาระงาน 50 % - ผลสมั ฤทธทิ ์ างการเรยี นระหวา่ งภาค 30 % (พทุ ธพสิ ยั ,ทกั ษะพสิ ยั ) 80 % - คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคท์ ต่ี อ้ งการบรู ณาการ รวม 2. วดั ผลและประเมนิ ผลปลายภาคเรยี น 20 % รวม 100 % เกณฑก์ ารตดั สนิ ผลการเรยี น 3. เกณฑก์ ารประเมนิ ผล ใชเ้ กณฑก์ ารประเมนิ แบบองิ เกณฑ์ มรี ะดบั ดงั น้ี 80 - 100 คะแนน ไดร้ ะดบั คะแนน 4 3.5 75 - 79 คะแนน ไดร้ ะดบั คะแนน

70 - 74 คะแนน ไดร้ ะดบั คะแนน 3 65 - 69 คะแนน ไดร้ ะดบั คะแนน 2.5 60 - 64 คะแนน ไดร้ ะดบั คะแนน 2 55 - 59 คะแนน ไดร้ ะดบั คะแนน 1.5 50 - 54 คะแนน ไดร้ ะดบั คะแนน 1 0 - 49 คะแนน ไดร้ ะดบั คะแนน 0 แผนการจดั การเรียนรู้ ท่ี 1 วชิ า การจดั จาหน่ายสินคา้ รหสั วชิ า 2202-2004 สัปดาหท์ ี่ 1 และบรกิ าร หน่วยท่ี - การปฐมนิเทศ เวลา 1 ชว่ั โมง เรอื่ ง การปฐมนเิ ทศ 1.สาระสาคญั การศกึ ษาวชิ าน้ีเป็นวชิ าทเ่ี น้นผเู้ รยี นเป็นสาคญั เพ่อื ปลูกฝงั ใหพ้ ฒั นาตนเองเขา้ สอู่ าชพี อย่างสม่าเสมอ และ นาไปประยุกต์เพ่อื วางแผนใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั ต่อไป และยงั เป็นการให้ผู้เรยี นไดม้ โี อกาสฝึกทกั ษะความชานาญการ เรยี นรดู้ า้ นความรู้ ความสามารถพ่อื มสี ว่ นร่วมในการเรยี นอย่างเตม็ ทใ่ี นการฝึกทกั ษะการปฏบิ ตั จิ รงิ เพ่อื พฒั นาทกั ษะ ความรู้ และความสามารถรวมทงั้ สตปิ ญั ญาเพ่อื แกป้ ญั หาได้ ผเู้ รยี นวชิ าน้ีนอกจากจะไดค้ วามรทู้ ่ถี ูกตอ้ งแลว้ สามารถ นาไปประยกุ ตใ์ ชเ้ พอ่ื เป็นเครอ่ื งมอื ทส่ี าคญั ในการแกป้ ญั หาในชวี ติ ประจาวนั อกี ดว้ ย 2.จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. บอกจุดประสงคร์ ายวชิ า สมรรถนะรายวชิ า และคาอธบิ ายรายวชิ าตามหลกั สตู รฯ ได้ 2. บอกแนวทางวดั ผลและการประเมนิ ผลการเรยี นรไู้ ด้ 3. มีการพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้สาเร็จการศึกษา สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ทค่ี รสู ามารถสงั เกตไดข้ ณะทาการสอนในเรอ่ื ง 3.1 ความมมี นุษยสมั พนั ธ์ 3.2 ความมวี นิ ยั 3.3 ความรบั ผดิ ชอบ 3.4 ความซ่อื สตั ยส์ จุ รติ 3.5 ความเช่อื มนั่ ในตนเอง 3.6 การประหยดั 3.7 ความสนใจใฝร่ ู้ 3.8 การละเวน้ สง่ิ เสพตดิ และการพนนั 3.9 ความรกั สามคั คี 3.10 ความกตญั ญกู ตเวที 3.สมรรถนะรายวิชา

1. แสดงความรเู้ กย่ี วกบั หลกั การและกระบวนการจดั จาหน่ายสนิ คา้ และบรกิ าร 2. แสดงความรเู้ กย่ี วกบั สถานการณ์ทางการตลาด และตลาดเป้าหมาย 3. แสดงความรเู้ กย่ี วกบั กฎหมาย และองคก์ ารทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั การจดั จาหน่ายสนิ คา้ และบรกิ าร 4. วางแผนและจดั จาหน่ายสนิ คา้ และบรกิ ารตามหลกั การ 5. ประยกุ ตใ์ ชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สารในการจดั จาหน่ายสนิ คา้ และบรกิ าร 4.เนื้อหาสาระ 1. บอกจดุ ประสงคร์ ายวชิ า สมรรถนะรายวชิ า และคาอธบิ ายรายวชิ าตามหลกั สตู รฯ ได้ 2. บอกแนวทางวดั ผลและการประเมนิ ผลการเรยี นรไู้ ด้

5.กิจกรรมการเรียนรู้ ขนั้ นาเข้าส่บู ทเรียน 1. ครูผู้สอนแนะนาจุดมุ่งหมายท่ีผู้เรียนจะได้จากหลกั สูตร โดยกาหนดให้ผู้เรยี นทุกคนต้องมีความรู้ ความสามารถและมที กั ษะในการประกอบอาชพี ทกุ ประเภท 2. ผูเ้ รยี นยกตวั อย่างการจดั จาหน่าย ซ่งึ เป็นกจิ กรรมอย่างหน่ึงท่ชี ่วยใหส้ นิ คา้ หรอื บรกิ ารไปถงึ มอื ผูซ้ ้อื ได้ ตามความตอ้ งการ ชว่ ยประหยดั เวลาและคา่ ใชจ้ า่ ยในการจดั หาผลติ ภณั ฑเ์ พ่อื สนองความตอ้ งการ ขนั้ สอน 3. ผเู้ รยี นกบั ผสู้ อน ชว่ ยกนั อภปิ รายลกั ษณะต่าง ๆ ของการจดั จาหน่ายสนิ คา้ และบรกิ าร 4. ผูเ้ รยี นรบั ฟงั คาช้แี จงสงั เขปรายวชิ าและการวดั ประเมนิ ผล ซกั ถามขอ้ ปญั หารวมทงั้ แสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั การเรยี นวชิ าน้ี ขนั้ สรปุ และการประยกุ ต์ 5. ผูเ้ รยี นวางแผนการเป็นผูป้ ระกอบการ เพ่อื นาไปประยุกต์ใช้กบั งานในชวี ติ ประจาวนั ท่จี าเป็นโดยทวั่ ไป ซง่ึ ทุกคนจะตอ้ งวางแผนการทางานตา่ ง ๆ ในอนาคต 6.สื่อและแหล่งการเรียนรู้ 1. หนงั สอื เรยี น วชิ าการจดั จาหน่ายสนิ คา้ และบรกิ าร ของสานกั พมิ พเ์ อมพนั ธ์ 2. สอ่ื แผน่ ใส, สอ่ื คอมพวิ เตอร์ สอ่ื อเิ ลก็ ทรอนิกส์ 3. กจิ กรรมการเรยี นการสอน 7.หลกั ฐาน 1. บนั ทกึ การสอน 2. ใบเชค็ ชอ่ื 3. แผนจดั การเรยี นรู้ 4. การตรวจประเมนิ ผลงาน 8.การวดั ผลและการประเมินผล วิธีวดั ผล 1. สงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล 2. ประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ 3. สงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ 4. การสงั เกตและประเมนิ พฤตกิ รรมดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

เครือ่ งมือวดั ผล 1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล 2. แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ 3. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั ประเมนิ เกณฑก์ ารประเมินผล 1. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล ตอ้ งไมม่ ชี อ่ งปรบั ปรงุ 2. เกณฑผ์ า่ นการประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50% ขน้ึ ไป) 3. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50% ขน้ึ ไป) 4. แบบประเมินคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ คะแนนข้นึ อยู่กบั การ ประเมนิ ตามสภาพจรงิ การวเิ คราะหต์ ามหลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง (Sufficiency Economy) 1. ทางสายกลาง (The middle path) : พอประมาณ มเี หตุผล มภี มู คิ ุม้ กนั ทด่ี ใี นตวั 2.เงอ่ื นไข (Condition) : ความรแู้ ละคณุ ธรรม หลกั ความพอประมาณ (Moderation) หมายถงึ พอประมาณ หมายถงึ ความพอดี ทไ่ี มม่ ากและไม่น้อยจนเกนิ ไป ไมเ่ บยี ดเบยี นตนเอง และผอู้ ่นื เชน่ การผลติ และการบรโิ ภคทพ่ี อประมาณ หลกั ความมเี หตุผล (Reasonableness) หมายถึง การใช้หลกั เหตุผลในการตดั สนิ ใจเร่อื งต่างๆ โดยพิจารณาจากเหตุปจั จยั ท่ีเก่ียวข้อง ตลอดจนผลทค่ี าดวา่ จะเกดิ ขน้ึ อยา่ งรอบคอบ หลกั การมภี มู คิ ุม้ กนั ในตวั ทด่ี ี (Self - awareness) หมายถงึ การเตรยี มตวั ใหพ้ รอ้ มรบั ต่อผลกระทบท่เี กดิ ขน้ึ จากการเปลย่ี นแปลงรอบตวั ปจั จยั เหล่าน้ีจะ เกดิ ขน้ึ ไดน้ นั้ จะตอ้ งอาศยั ความรู้ และคุณธรรม เป็นเงอ่ื นไขพน้ื ฐาน หลกั เงอ่ื นไขความรู้ (Knowledge) หมายถงึ ความรอบรู้ ความรอบคอบ และความระมดั ระวงั ในการดาเนินชวี ติ และการประกอบการงาน กิจกรรมเสนอแนะ แนะนาใหศ้ กึ ษาขอ้ มลู เกย่ี วกบั การจดั จาหน่ายสนิ คา้ และบรกิ าร

กิจกรรมเศรษฐกิจพอเพียง รหสั วิชา ...2202-2004.......ชอ่ื วชิ า..การจดั จาหน่ายสนิ คา้ และบรกิ าร... หน่วยท่ี ......-...... ช่ือหน่วย .....การปฐมนเิ ทศ ............ วตั ถปุ ระสงค์ ผูเ้ รยี นสามารถ พฒั นาตนเองเขา้ สู่อาชพี อย่างสม่าเสมอ และนาไปประยุกต์เพ่อื วางแผนใชใ้ น ชวี ติ ประจาวนั ต่อไป และยงั เป็นการใหผ้ ูเ้ รยี นไดม้ โี อกาสฝึกทกั ษะความชานาญการเรยี นรดู้ า้ นความรู้ ความสามารถพ่อื มสี ่วนร่วมในการเรยี นอย่างเต็มท่ใี นการฝึกทกั ษะการปฏิบตั ิจรงิ เพ่อื พฒั นาทกั ษะ ความรู้ และความสามารถรวมทงั้ สตปิ ญั ญาเพอ่ื แกป้ ญั หาได้ สามารถนาไปประยุกตใ์ ชเ้ พอ่ื เป็นเคร่อื งมอื ทส่ี าคญั ในการแกป้ ญั หาในชวี ติ ประจาวนั เง่ือนไข เงื่อนไขความรู้ เงื่อนไขคณุ ธรรม - ผมไดีู้เครร้ วยี บั านมมมอรคีบู้ วหามคมาวรยู้ใานมกเขา้ราแใสจดใงนผเลนงื้ อานหทา่ี - มปถคกูีฏตวิบา้อัตมงิงเซพาอื่ นยี สรทัตพี่ไยยด์ า้รยับามมอกบระหตมอื ารยอื รอ้นยใ่านง - รายวชิ า - การเรยี นและปฏบิ ตั งิ าน - มคี วามรู้ในการเลอื กการวางแผนใช้ - ให้ความร่วมมือกับผู้อื่นด้วยความ ในชวี ติ ประจาวนั เต็มใจและจรงิ ใจ - มีค ว า ม รู้เก่ีย ว กับ ห ลัก ป รัช ญ า เศรษฐกิจพอเพียง และนามาปรบั ใช้ไดด้ ี หลกั พอเพียง ความพอประมาณ ความมีเหตผุ ล การสร้างภมู ิค้มุ กนั ที่ดี - ผใ นู้ เรกียานร ฝจึ ัดกสปรฏริบเัตวิไลดา้ - เห็ นความสามารถใน - มีทัก ษ ะใน ก ารต อ บ - อยา่ งเหมาะสม ผู้ เ รี ย น รู้ จั ก ใ ช้ การเลอื กเครอื่ งมอื คาถาม อุ ป ก ร ณ์ แ ล ะ วั ส ดุ อยา่ งคุม่ คา่ - เห็ นความสาคัญ ของ - สื่ อความหมายในการ ป ฏิบัติต น เป็ น ผู้ น า ก า ร น า ไ ป ใ ช้ ใ ห้ เกิด ใ ช้ ง า น ไ ด้ อ ย่ า ง มี ประโยชนอ์ ยา่ งคุ้มคา่ ประสิทธภิ าพ - - เ ลื อ ก ใ ช้ วั ส ดุ ใ ห้ เหมาะสมงาน - กล้าซกั ถามปัญหาหรอื ข้อสงสัยต่างๆ อย่าง และผ้ตู ามทด่ี ี เป็ นเหตเุ ป็ นผล เป้ าหมายสมดลุ และพร้อมรบั การเปล่ียนแปลง 4 มิติ - ไคดว้บคุมอารมณ์ตนเอง ด้านวตั ถุ ด้านสงั คม ด้านสิ่งแวดล้อม ด้านวฒั นธรรม

- ผู้เรียน ทาแบบฝึกหัด - ผู้เรยี น ได้มกี ารซกั ถาม - หลงั จากเลกิ เรยี น - ใหผ้ เู้ รยี น สามารถพฒั นา ผู้ เรีย น ช่ ว ย กัน ตนเองเข้าสู่อาชีพ ได้ใน ออนไลน์ ลดรายจ่ายใน ขอ้ สงสยั ระหว่างเรยี นกบั รั ก ษ า ค ว า ม แนวทางทถ่ี กู ตอ้ ง ก า ร ใช้ ก ร ะ ด า ษ แ ล ะ ครผู สู้ อน สะอาด ข อง ส า ม า ร ถ ป ร ะ ม ว ล ผ ล - ได้มีก ารแลก เป ล่ียน ห้ อ ง เรีย น น า คะแนนไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ ความรกู้ บั เพอ่ื นรว่ มชนั้ ขเรยยี ะนออกทง้ิ ท่โี ต๊ะ - ไดต้ อบคาถามเป็นกลมุ่ - เปลิดกิ แเรอยีรน์ หลงั จาก - ประหยดั พลงั งาน ตารางวิเคราะหจ์ ดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ โดยบรู ณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง จดุ ประสงคก์ ารสอน ทางสายกลาง หน่วยที่ – รวม เร่ืองปฐมนิ เทศ ลาดับความสาคัญ 3 ห่วง 2 เงอ่ื นไข ความรู้ คณุ ธรรม พอประมาณ ีมเหตุผล ีมภ ิม ้คุมกันภู ิม ้คุมกัน รอบ ้รู รอบคอบ ระมัดระวัง ่ืซอสัตย์สุจ ิรต ขยันอดทน ีมส ิต ัปญญา แบ่ง ัปน 1.จดุ ประสงคร์ ายวชิ า / / / / / / / / /91 2.สมรรถนะรายวชิ า 3.คาอธบิ ายรายวชิ า / / / / / / / / /91 4.แนวทางวดั ผลการประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 5.คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผสู้ าเรจ็ / / / / / / / / 82 การศกึ ษา //// //// 82 รวม / / / / / / / / /91 ลาดบั ความสาคญั 4555434553 2111232113

บนั ทึกหลงั การสอน ข้อสรปุ หลงั การสอน .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ปัญหาท่ีพบ .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. แนวทางแก้ปัญหา .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ..................................................................................................................................................

.................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. วชิ า การจดั จาหน่ายสนิ คา้ และบรกิ าร แผนการจดั การเรียนรู้ ท่ี 2 สปั ดาหท์ ่ี 1 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 รหสั วชิ า 2202-2004 เวลา 3 ชวั่ โมง เรอ่ื ง ความรทู้ วั่ ไปเกย่ี วกบั การจดั จาหน่าย ความหมายของการจดั จาหน่าย 1.สาระสาคญั การประกอบธุรกจิ ในยุคของการแขง่ ขนั ผูป้ ระกอบการจะตอ้ งวางแผนการบรหิ ารส่วนประสมทางการตลาด อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ เพ่อื ใหเ้ กดิ การไดเ้ ปรยี บ การบรหิ ารช่องทางการจดั จาหน่าย เป็นกจิ กรรมหน่ึงทผ่ี บู้ รหิ ารจะตอ้ ง ใหค้ วามสาคญั การวางแผนการจดั จาหน่ายอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพช่วยใหส้ นิ คา้ ถงึ กลุ่มลุกคา้ เป้าหมายอย่างทวั่ ถงึ ช่วย ลดตน้ ทนุ การดาเนินงาน และยงั สามารถทาใหล้ กู คา้ เกดิ ความประทบั ใจไดอ้ กี ดว้ ย 2.จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. แสดงความรเู้ กย่ี วกบั ความหมายของชอ่ งทางการจดั จาหน่ายได้ 2. แสดงความรเู้ กย่ี วกบั งานทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั การจดั จาหน่ายได้ 3. แสดงความรเู้ กย่ี วกบั หน้าทท่ี างการตลาดของสถาบนั ในชอ่ งทางการจดั จาหน่ายได้ 4. มกี ารพฒั นาคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผสู้ าเรจ็ การศกึ ษาสานกั งาน คณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ทค่ี รสู ามารถสงั เกตไดข้ ณะทาการสอนในเรอ่ื ง 4.1 ความมมี นุษยสมั พนั ธ์ 4.2 ความมวี นิ ยั 4.3 ความรบั ผดิ ชอบ 4.4 ความซ่อื สตั ยส์ จุ รติ 4.5 ความเชอ่ื มนั่ ในตนเอง 4.6 การประหยดั 4.7 ความสนใจใฝร่ ู้

4.8 การละเวน้ สง่ิ เสพตดิ และการพนนั 4.9 ความรกั สามคั คี 4.10 ความกตญั ญกู ตเวที 3.สมรรถนะรายวิชา 1. แสดงความรเู้ กย่ี วกบั หลกั การและกระบวนการจดั จาหน่ายสนิ คา้ และบรกิ าร 2. แสดงความรเู้ กย่ี วกบั สถานการณ์ทางการตลาด และตลาดเป้าหมาย 3. แสดงความรเู้ กย่ี วกบั กฎหมาย และองคก์ ารทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั การจดั จาหน่ายสนิ คา้ และบรกิ าร 4. วางแผนและจดั จาหน่ายสนิ คา้ และบรกิ ารตามหลกั การ 5. ประยกุ ตใ์ ชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สารในการจดั จาหน่ายสนิ คา้ และบรกิ าร 4.เนื้อหาสาระ 1. ความหมายของชอ่ งทางการจดั จาหน่าย 2. งานทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั การจดั จาหน่าย 3. หน้าทท่ี างการตลาดของสถาบนั ในชอ่ งทางการจดั จาหน่าย 5.กิจกรรมการเรียนรู้ ขนั้ นาเข้าส่บู ทเรียน 1. ครผู สู้ อนชใ้ี หผ้ เู้ รยี นไดเ้ หน็ ความสาคญั ของการจดั จาหน่ายสนิ คา้ และบรกิ าร 2. ผเู้ รยี นยกตวั อยา่ งการจดั จาหน่ายสนิ คา้ และบรกิ ารประกอบ ขนั้ สอน 3. ครูผู้สอนอธิบายความหมายของช่องทางการจดั จาหน่าย (Place หรอื Distribution) หมายถึง การ เคล่อื นย้ายสนิ ค้าหรอื บรกิ าร พรอ้ มกรรมสทิ ธิ ์ จากผู้ผลติ ไปยงั ผู้บรโิ ภคคนสุดท้ายหรอื ผู้ใช้ทางอุตสาหกรรม โดยมี สถาบันคนกลาง เช่น ตัวแทนจาหน่าย พ่อค้าส่ง พ่อค้าปลีก เป็นต้น ทาหน้าท่ีอานวยความสะดวกระหว่างการ เคลอ่ื นยา้ ย การจดั จาหน่าย (Distribution) ช่องทางการจดั จาหน่าย การกระจายสินค้า (Channel of Distribution) (Physical Distribution 4. ครอู บอกลกั ษณะของงานทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั การจดั จาหน่าย ประกอบดว้ ย 1) ช่องทางการจดั จาหน่าย หมายถงึ ช่องทางในการนาผลติ ภณั ฑ์ และ(หรอื ) กรรมสทิ ธิ ์ เคล่อื นยา้ ย จากแหล่งผลติ ไปยงั ตลาดเป้าหมาย ภายในช่องทางการจดั จาหน่ายประกอบด้วย ผู้ผลติ คนกลาง และผูบ้ รโิ ภคคน สดุ ทา้ ยหรอื ผใู้ ชท้ างอุตสาหกรรม งานในชอ่ งทางการจดั จาหน่าย ไดแ้ ก่

1.1 สถาบนั การตลาด ประกอบดว้ ยคนกลางประเภทต่าง ๆ เช่น พอ่ คา้ สง่ พอ่ คา้ ปลกี ตวั แทน เป็น ตน้ รวมถงึ ธุรกจิ ทท่ี าหน้าทก่ี ระจายสนิ คา้ เชน่ ธุรกจิ ขนสง่ การคลงั สนิ คา้ เป็นตน้ ธุรกจิ ทใ่ี หบ้ รกิ ารทางการตลาด เช่น สถาบนั การเงนิ กจิ การทใ่ี หค้ าปรกึ ษาดา้ นการตลาด บรษิ ทั โฆษณา เป็นตน้ 1.2 ประเภทของคนกลาง คนกลางในช่องทางการจดั จาหน่าย มีหลายประเภท เช่น นายหน้า ตวั แทนผผู้ ลติ พอ่ คา้ สง่ พอ่ คา้ ปลกี เป็นตน้ ผผู้ ลติ ตอ้ งตดั สนิ ใจเลอื กชอ่ งทางการจดั จาหน่ายทเ่ี หมาะสมทส่ี ดุ 1.2.1 ผู้ค้าปลกี เป็นคนกลางท่มี กี รรมสทิ ธใิ ์ นสนิ ค้า ซ้อื สนิ ค้าจากผู้ผลติ หรอื แหล่งอ่ืน ๆ แล้ว นาไปขายใหแ้ กผ่ บู้ รโิ ภคคนสดุ ทา้ ย 1.2.2 ผู้คา้ ส่ง เป็นคนกลางท่มี กี รรมสทิ ธใิ ์ นสนิ คา้ ซ้ือสนิ ค้าจากผู้ผลติ หรอื แหล่งอ่นื ๆ แล้วนา ขายแก่ผคู้ า้ ปลกี และขายสนิ คา้ ทลี ะมาก ๆ 1.2.3 ตวั แทนผผู้ ลติ เป็นคนกลางทท่ี าหน้าทข่ี ายสนิ คา้ ของผผู้ ลติ ทงั้ หมด หรอื บางสว่ น ในเขต หรอื ทอ้ งทแ่ี หง่ หน่งึ โดยตวั แทนผผู้ ลติ หน่ึงรายอาจขายสนิ คา้ ของผผู้ ลติ หลายรายกไ็ ด้ แต่จะตอ้ งไมใ่ ชส้ นิ คา้ ทเ่ี ป็นคแู่ ขง่ กนั 1.2.4 ตวั แทนขาย มหี น้าทร่ี บั ผดิ ชอบงานดา้ นการขายของผผู้ ลติ และเป็นตวั แทนใหก้ บั ผผู้ ลติ เพยี งรายเดยี ว สามารถกาหนดรปู แบบและราคาของสนิ คา้ ไดเ้ น่ืองจากทราบความตอ้ งการของผบู้ รโิ ภคในทอ้ งถน่ิ อยา่ ง ดี 1.2.5 นายหน้า เป็นคนกลางทม่ี หี น้าทช่ี กั นาใหผ้ ซู้ อ้ื และผขู้ ายมาพบกนั เพอ่ื ตกลงซอ้ื ขายกนั แตไ่ มม่ สี ทิ ธเิ ขา้ ไปจดั การการซอ้ื ขายโดยตรง หลงั จากการซอ้ื ขายเสรจ็ สน้ิ แลว้ นายหน้าจะไดร้ บั คา่ ตอบแทนในรปู ของ คา่ นายหน้า หรอื คา่ Commission 1.3 การเลอื กคนกลาง ผผู้ ลติ หรอื ผบู้ รหิ ารการตลาด จะมหี ลกั เกณฑใ์ นการเลอื กคนกลางอยา่ ง เหมาะสมโดยคานึงถงึ ปจั จยั ต่าง ๆ เชน่ ลกั ษณะสนิ คา้ หากสนิ คา้ เน่าเสยี เรว็ ควรเลอื กชอ่ งทางการจดั จาหน่ายทส่ี นั้ หากผซู้ อ้ื อยกู่ นั อยา่ งกระจดั กระจาย ควรเลอื กชอ่ งทางทส่ี ามารถกระจายสนิ คา้ ไปสกู่ ลมุ่ ผซู้ อ้ื ไดอ้ ยา่ งทวั่ ถงึ เป็นตน้ 1.4 การเลอื กทาเลทต่ี งั้ การเลอื กทาเลทต่ี งั้ ทเ่ี หมาะสม จะชว่ ยใหก้ ารทาธรุ กจิ ประสบความสาเรจ็ เชน่ ผผู้ ลติ อาจจดั จาหน่ายผา่ นพอ่ คา้ ปลกี ทม่ี ที าเลทต่ี งั้ ใกลก้ บั แหล่งผซู้ อ้ื หรอื ผซู้ อ้ื เดนิ ทางมาไดส้ ะดวก เป็นตน้ 1.5 โครงสรา้ งชอ่ งทางการจดั จาหน่าย เป็นการจดั ประเภทของคนกลางในชอ่ งทางการจดั จาหน่าย อยา่ งเหมาะสมกบั ลกั ษณะของธรุ กจิ ลกั ษณะของสนิ คา้ ลกั ษณะของคแู่ ขง่ ฯลฯ ตวั อยา่ ง ผผู้ ลติ พอ่ คา้ สง่ พอ่ คา้ ปลี ผบู้ รโิ ภค หรอื ผผู้ ลติ พอ่ คา้ ปลกี ผบู้ รโิ ภค 1.6 จานวนระดบั ชอ่ งทางในการจดั จาหน่าย เป็นการตดั สนิ ใจวา่ จะใชค้ นกลางกร่ี ะดบั เพอ่ื ใหส้ นิ คา้ ไปสผู่ ซู้ อ้ื ซง่ึ จะตอ้ งพจิ ารณาลกั ษณะตลาด ลกั ษณะของสนิ คา้ นโยบายของกจิ การ 1.7 การกาหนดความหนาแน่นของคนกลางในชอ่ งทาง เป็นการกาหนดจานวนคนกลางท่ใี ชใ้ นแต่ ละระดบั โดยพจิ ารณาใหส้ ามารถจดั จาหน่ายสนิ คา้ ไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพมากทส่ี ดุ 1.8 การบรหิ ารชอ่ งทางการจดั จาหน่าย เป็นการวางแผนการดาเนินงานเพอ่ื ใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพมาก ทส่ี ดุ 2) การกระจายสนิ คา้ หมายถงึ กจิ กรรมการเคล่อื นยา้ ยสนิ คา้ จากผผู้ ลติ ไปถงึ มอื ผบู้ รโิ ภค หรอื ผใู้ ชท้ าง อุตสาหกรรม เชน่ การขนสง่ การคลงั สนิ คา้ การเกบ็ รกั ษาสนิ คา้ การบรรจภุ ณั ฑเ์ พอ่ื ป้องกนั สนิ คา้ เป็นตน้

5. ครบู อกหน้าทท่ี างการตลาดของสถาบนั ในชอ่ งทางการจดั จาหน่ายมดี งั น้ี 1) หน้าทเ่ี กย่ี วกบั การแลกเปลย่ี น ไดแ้ ก่ 1.1 ซอ้ื และรวบรวมสนิ คา้ 1.2 การขาย 2) หน้าทใ่ี นการกระจายสนิ คา้ ไดแ้ ก่ 2.1 การเกบ็ รกั ษา 2.2 การขนสง่ 3) หน้าท่อี านวยความสะดวก เป็นหน้าท่เี สรมิ เพ่อื ใหก้ ารแลกเปล่ยี น และการกระจายสนิ ค้าเป็นไป ดว้ ยดี หน้าทอ่ี านวยความสะดวก มดี งั น้ี 3.1 การจดั มาตรฐานสนิ คา้ 3.2 การเงนิ 3.3 การเสย่ี งภยั 3.4 การวจิ ยั และหาขอ้ มลู ทางการตลาด 6. ผเู้ รยี นพจิ ารณาภาพการขายสนิ คา้ บรเิ วณแหลง่ ทอ่ งเทย่ี ว (ดอยแมฟ่ ้าหลวง) แลว้ ตอบคาถามดา้ นลา่ ง 1) ผขู้ าย เป็นคนกลางประเภทใด 2) จงอธบิ ายชอ่ งทางการจดั จาหน่ายสนิ คา้ ตามความเขา้ ใจของนกั เรยี น 3) สรุปสงิ่ ทไ่ี ดร้ บั จากการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม 7. ผเู้ รยี นบอกหน้าทข่ี องสถาบนั ในช่องทางการจดั จาหน่าย โดยเตมิ ลงในช่องว่างทค่ี รกู าหนดให้ แลว้ สรุป สง่ิ ทไ่ี ดร้ บั จากการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม ขนั้ สรปุ และการประยกุ ต์ 8. ครูสุ่มตวั อย่างให้ผู้เรยี นให้แสดงความคดิ เห็นเก่ยี วกบั ความหมายของช่องทางการจดั จาหน่าย งานท่ี เกย่ี วขอ้ งกบั การจดั จาหน่าย และหน้าทท่ี างการตลาดของสถาบนั ในชอ่ งทางการจดั จาหน่าย 9. ครแู ละผเู้ รยี นรว่ มกนั สรปุ โดยใหท้ ากจิ กรรมใบงานและกรณีศกึ ษาตามทค่ี รมู อบหมาย 10. สรุปโดยการถาม-ตอบ เพอ่ื ประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจาวนั และประเมนิ ผเู้ รยี นตามแบบฟอรม์ ตอ่ ไปน้ี

ช่อื ผเู้ รยี น ประสบการณ์พน้ื ฐานการเรยี นรู้ วธิ กี ารเรยี นรู้ ความรู้ ทกั ษะ ผลงาน 1. 2. 3. 4. 5. 6.ส่ือและแหล่งการเรียนรู้ 1. หนงั สอื เรยี น วชิ าการจดั จาหน่ายสนิ คา้ และบรกิ าร ของสานกั พมิ พเ์ อมพนั ธ์ 2. รปู ภาพ 3. กจิ กรรมการเรยี นการสอน 4. แผน่ ใส 5. สอ่ื อเิ ลก็ ทรอนิกส,์ PowerPoint 5. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 7.หลกั ฐาน 1. บนั ทกึ การสอนของผสู้ อน 2. ใบเชค็ ช่อื 3. แผนจดั การเรยี นรู้ 4. การตรวจประเมนิ ผลงาน 8.การวดั ผลและการประเมินผล วิธีวดั ผล 1. สงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล 2. ประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ 3. สงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ 4 ตรวจกจิ กรรมสง่ เสรมิ คุณธรรมนาความรู้ 5. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 6. ตรวจกจิ กรรมใบงาน 7. การสงั เกตและประเมนิ พฤตกิ รรมดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ เครื่องมอื วดั ผล 1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล 2. แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ (โดยคร)ู 3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ (โดยผเู้ รยี น) 4. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 5. แบบประเมนิ กจิ กรรมใบงาน

6. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครแู ละผู้เรยี นร่วมกนั ประเมนิ เกณฑก์ ารประเมินผล 1. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล ตอ้ งไมม่ ชี อ่ งปรบั ปรงุ 2. เกณฑผ์ า่ นการประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50 % ขน้ึ ไป) 3. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม คอื ปานกลาง (50% ขน้ึ ไป) 4. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรมู้ เี กณฑผ์ า่ น 50% 5. แบบประเมนิ กจิ กรรมใบงานมเี กณฑผ์ า่ น 50% 6. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อยกู่ บั การ ประเมนิ ตามสภาพจรงิ การวิเคราะห์ตามหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง (Sufficiency Economy) 1. ทางสายกลาง (The middle path) : พอประมาณ มีเหตุผล มีภูมิคุม้ กนั ที่ดีในตวั 2.เง่ือนไข (Condition) : ความรู้และคุณธรรม หลกั ความพอประมาณ (Moderation) หมายถึง พอประมาณ หมายถึง ความพอดี ที่ไม่มากและไม่นอ้ ยจนเกินไป ไม่เบียดเบียนตนเอง และผอู้ ่ืน เช่น การผลิตและการบริโภคที่พอประมาณ หลกั ความมีเหตุผล (Reasonableness) หมายถึง การใช้หลักเหตุผลในการตัดสินใจเรื่องต่างๆ โดยพิจารณาจากเหตุปัจจัยท่ีเกี่ยวข้อง ตลอดจนผลท่ีคาดวา่ จะเกิดข้ึนอยา่ งรอบคอบ หลกั การมีภูมิคุม้ กนั ในตวั ที่ดี (Self - awareness) หมายถึง การเตรียมตวั ให้พร้อมรับต่อผลกระทบท่ีเกิดข้ึนจากการเปลี่ยนแปลงรอบตวั ปัจจยั เหล่าน้ีจะ เกิดข้ึนไดน้ ้นั จะตอ้ งอาศยั ความรู้ และคุณธรรม เป็นเง่ือนไขพ้ืนฐาน หลกั เงื่อนไขความรู้ (Knowledge) หมายถึงความรอบรู้ ความรอบคอบ และความระมดั ระวงั ในการดาเนินชีวิตและการประกอบการงาน กจิ กรรมเสนอแนะ 1. ผเู้ รียนศึกษาการจดั จาหน่ายสินคา้ และบริการเพ่มิ เติม 2. ทากิจกรรมใบงาน

กิจกรรมเศรษฐกิจพอเพียง รหสั วิชา ...2202-2004.......ชอ่ื วชิ า..การจดั จาหน่ายสนิ คา้ และบรกิ าร... หน่วยที่ ......1...... ช่ือหน่วย .....ความรทู้ ว่ั ไปเกยี่ วกบั การจดั จาหน่าย ............ วตั ถปุ ระสงค์ ผเู้ รยี นสามารถ แสดงความรเู้ ก่ยี วกบั ความหมายของการจดั จาหน่ายได้ และสามรารถนาไปใช้ ในชวี ติ ประจาวนั เกย่ี วกบั การจดั จาหน่ายและสว่ นประสมทางการตลาดได้ เง่ือนไข เงื่อนไขความรู้ เง่ือนไขคณุ ธรรม - ผู้ เรีย น มี ค ว า ม รู้ เกี่ ย ว กับ ก า ร จัด - ปฏิบัติงานท่ีได้รบั มอบหมายอย่าง จาหน่าย ถกู ต้องซอ่ื สัตย์ - รมาีคยววาชิ มารู้ ความเข้ าใจในเนื้ อห า - กมคาี รวเารมยี เนพแยี ลระพปยฏาบิ ยตั างิ มากนระตอื รอื ร้นใน - มคี วามรู้ในการเลอื กการวางแผนใช้ - ให้ความร่วมมือกับผู้อ่ืนด้วยความ ในชวี ติ ประจาวนั เต็มใจและจรงิ ใจ - มีค ว า ม รู้เกี่ย ว กับ ห ลัก ป รัช ญ า เศรษฐกิจพอเพียง และนามาปรบั ใช้ไดด้ ี หลกั พอเพียง ความพอประมาณ ความมีเหตผุ ล การสร้างภมู ิค้มุ กนั ที่ดี - ผู้เรียนจัดสรรเวลา - เห็ นความสามารถใน - มี ทัก ษ ะ ใ น ก า ร ต อ บ ผอใยนู้ เา่ กรงาี เยหรฝมนึากะรปสู้ จฏมั ิบกัตใิไชด้้ การเลอื กเครอื่ งมอื คาถาม - - เห็ นความสาคัญ ของ - ส่ื อความหมายในการ ก า ร น า ไ ป ใ ช้ ใ ห้ เกิด ใ ช้ ง า น ไ ด้ อ ย่ า ง มี อุ ป ก ร ณ์ แ ล ะ วั ส ดุ ประโยชนอ์ ยา่ งคุ้มคา่ ประสิทธภิ าพ - อยา่ งคุม่ คา่ - เ ลื อ ก ใ ช้ วั ส ดุ ใ ห้ ป ฏิบัติต น เป็ น ผู้ น า เหมาะสมงาน - กล้าซกั ถามปัญหาหรอื ข้อสงสัยต่างๆ อย่าง และผ้ตู ามทดี่ ี เป็ นเหตเุ ป็ นผล - ควบคุมอารมณ์ตนเอง ได้ เป้ าหมายสมดลุ และพรอ้ มรบั การเปลี่ยนแปลง 4 มิติ ด้านวตั ถุ ด้านสงั คม ด้านส่ิงแวดล้อม ด้านวฒั นธรรม - ผู้เรียน ทาแบบฝึกหัด - ผู้เรยี น ได้มกี ารซกั ถาม - หลงั จากเลกิ เรยี น - ใหผ้ เู้ รยี น สามารถนาช่อง ออนไลน์ ลดรายจ่ายใน ขอ้ สงสยั ระหว่างเรียนกบั ผู้ เรีย น ช่ ว ย กัน ท างการจัด จาห น่ ายไป ก า ร ใช้ ก ร ะ ด า ษ แ ล ะ ครผู สู้ อน รั ก ษ า ค ว า ม ใชไ้ ดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง ส า ม า ร ถ ป ร ะ ม ว ล ผ ล - ได้มีก ารแลก เป ล่ียน ส ะ อ า ด ข อ ง

คะแนนไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ ความรกู้ บั เพอ่ื นรว่ มชนั้ ห้ อ ง เรีย น น า - ไดต้ อบคาถามเป็นกลมุ่ ขยะ ท่โี ต๊ะ เรยี นออกทง้ิ - ปิดแอร์ หลงั จาก เลกิ เรยี น - ประหยดั พลงั งาน ตารางวิเคราะหจ์ ดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ โดยบรู ณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง จดุ ประสงคก์ ารสอน ทางสายกลาง หน่วยท่ี 1 รวม เรือ่ งความรทู้ วั่ ไปเก่ียวกบั การจดั จาหน่าย ลาดับความสาคัญ 3 ห่วง 2 เงอ่ื นไข ความรู้ คณุ ธรรม พอประมาณ ีมเหตุผล ีมภ ิม ้คุมกันภู ิม ้คุมกัน รอบ ้รู รอบคอบ ระมัดระวัง ่ืซอสัตย์สุจ ิรต ขยันอดทน ีมส ิต ัปญญา แบ่ง ัปน 1.ความหมายของชอ่ งทางการจดั จาหน่าย / / / / / / / / /91 / / / / / / / / / 91 2.ความรเู้ กย่ี วกบั งานทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั การจดั จาหน่าย / / / / / / /72 3.หน้าทท่ี างการตลาดของสถาบนั ในชอ่ งทางการจดั / / / / / / / / /91 จาหน่าย 2333434443 4.การพฒั นาคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผสู้ าเรจ็ การศกึ ษา สานกั งาน รวม

ลาดบั ความสาคญั 3222121112 ใบงานที่ 1.1 ผลการเรียนร้ทู ่ีคาดหวงั 1. แสดงความรเู้ กย่ี วกบั ความหมายของชอ่ งทางการจดั จาหน่ายได้ 2. แสดงความรเู้ กย่ี วกบั งานทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั การจดั จาหน่ายได้ 3. แสดงความรเู้ กย่ี วกบั หน้าทท่ี างการตลาดของสถาบนั ในชอ่ งทางการจดั จาหน่ายได้ ขนั้ ตอนการปฏิบตั ิกิจกรรม จงพจิ ารณาภาพการขายสนิ คา้ บรเิ วณแหลง่ ทอ่ งเทย่ี ว (ดอยแมฟ่ ้าหลวง) แลว้ ตอบคาถามดา้ นลา่ ง 1. ผขู้ าย เป็นคนกลางประเภทใด ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ 2. จงอธบิ ายชอ่ งทางการจดั จาหน่ายสนิ คา้ ตามความเขา้ ใจของนกั เรยี น ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ สรปุ สิ่งที่ได้รบั จากการปฏิบตั ิกิจกรรม

................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ใบงานท่ี 1.2 ผลการเรียนร้ทู ี่คาดหวงั 1. แสดงความรเู้ กย่ี วกบั ความหมายของชอ่ งทางการจดั จาหน่ายได้ 2. แสดงความรเู้ กย่ี วกบั งานทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั การจดั จาหน่ายได้ 3. แสดงความรเู้ กย่ี วกบั หน้าทท่ี างการตลาดของสถาบนั ในชอ่ งทางการจดั จาหน่ายได้ ขนั้ ตอนการปฏิบตั ิกิจกรรม จงอธบิ ายหน้าทข่ี องสถาบนั ในชอ่ งทางการจดั จาหน่าย โดยเตมิ ลงในชอ่ งวา่ ง สถาบนั หน้าที่ สรปุ ส่ิงที่ได้รบั จากการปฏิบตั ิกิจกรรม

................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ บนั ทึกหลงั การสอน ข้อสรปุ หลงั การสอน .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ปัญหาท่ีพบ .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. แนวทางแก้ปัญหา .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ..................................................................................................................................................

.................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. วชิ า การจดั จาหน่ายสนิ คา้ และบรกิ าร แผนการจดั การเรียนรู้ ท่ี 3 สปั ดาหท์ ่ี 2-3 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 รหสั วชิ า 2202-2004 เวลา 8 ชวั่ โมง เรอ่ื ง ความรทู้ วั่ ไปเกย่ี วกบั การจดั จาหน่าย งานทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั การจดั จาหน่าย 1.สาระสาคญั การประกอบธุรกจิ ในยุคของการแข่งขนั ผูป้ ระกอบการจะตอ้ งวางแผนการบรหิ ารส่วนประสมทางการตลาด อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ เพ่อื ใหเ้ กดิ การไดเ้ ปรยี บ การบรหิ ารชอ่ งทางการจดั จาหน่าย เป็นกจิ กรรมหน่ึงทผ่ี บู้ รหิ ารจะตอ้ ง ใหค้ วามสาคญั การวางแผนการจดั จาหน่ายอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพช่วยใหส้ นิ คา้ ถงึ กลุ่มลุกคา้ เป้าหมายอยา่ งทวั่ ถงึ ช่วย ลดตน้ ทนุ การดาเนินงาน และยงั สามารถทาใหล้ กู คา้ เกดิ ความประทบั ใจไดอ้ กี ดว้ ย 2.จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. แสดงความรเู้ กย่ี วกบั ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งการจดั จาหน่ายและสว่ นประสมทางการตลาดได้ 2. แสดงความรเู้ กย่ี วกบั ความสาคญั ของชอ่ งทางการจดั จาหน่ายได้ 3. แสดงความรเู้ กย่ี วกบั ความเป็นมาและววิ ฒั นาการของการจดั จาหน่ายได้ 4. แสดงความรเู้ กย่ี วกบั ปจั จยั ทท่ี าใหเ้ กดิ การพฒั นาระบบการจดั จาหน่ายได้ 5. วางแผนการจดั จาหน่ายเพอ่ื การแขง่ ขนั ทางการตลาดได้ 6. มกี ารพฒั นาคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผสู้ าเรจ็ การศกึ ษาสานกั งาน คณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ทค่ี รสู ามารถสงั เกตไดข้ ณะทาการสอนในเรอ่ื ง 6.1 ความมมี นุษยสมั พนั ธ์ 6.6 การประหยดั 6.2 ความมวี นิ ยั 6.7 ความสนใจใฝร่ ู้ 6.3 ความรบั ผดิ ชอบ 6.8 การละเวน้ สงิ่ เสพตดิ และการพนนั 6.4 ความซ่อื สตั ยส์ จุ รติ 6.9 ความรกั สามคั คี 6.5 ความเชอ่ื มนั่ ในตนเอง 6.10 ความกตญั ญกู ตเวที

3.สมรรถนะรายวิชา 1. แสดงความรเู้ กย่ี วกบั หลกั การและกระบวนการจดั จาหน่ายสนิ คา้ และบรกิ าร 2. แสดงความรเู้ กย่ี วกบั สถานการณ์ทางการตลาด และตลาดเป้าหมาย 3. แสดงความรเู้ กย่ี วกบั กฎหมาย และองคก์ ารทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั การจดั จาหน่ายสนิ คา้ และบรกิ าร 4. วางแผนและจดั จาหน่ายสนิ คา้ และบรกิ ารตามหลกั การ 5. ประยกุ ตใ์ ชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สารในการจดั จาหน่ายสนิ คา้ และบรกิ าร 4.เนื้อหาสาระ 4. ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งการจดั จาหน่ายและสว่ นประสมทางการตลาด 5. ความสาคญั ของชอ่ งทางการจดั จาหน่าย 6. ความเป็นมาและววิ ฒั นาการของการจดั จาหน่าย 7. ปจั จยั ทท่ี าใหเ้ กดิ การพฒั นาระบบการจดั จาหน่าย 8. การวางแผนการจดั จาหน่ายเพอ่ื การแขง่ ขนั ทางการตลาด 5.กิจกรรมการเรียนรู้ ขนั้ นาเข้าส่บู ทเรียน 1. ครแู สดงใหเ้ หน็ วา่ การจดั จาหน่ายเป็นองคป์ ระกอบหน่ึงของสว่ นประสมการตลาด (Marketing Mix) สว่ น ประสมการตลาดเป็นเคร่อื งมอื การตลาด ท่นี ักการตลาดนามาใช้เป็นยุทธวธิ ใี นการดาเนินงาน เพ่อื ให้กจิ การประสบ ความสาเรจ็ 2. ครแู นะนาเพมิ่ จากเน้ือหาเใหผ้ ูเ้ รยี นจดบนั ทกึ เป้าหมายของผเู้ รยี นแต่ละคนไวใ้ นสมุดบนั ทกึ สว่ นตวั และ เม่อื ถงึ กาหนดท่ตี งั้ เป้าหมายเอาไวแ้ ลว้ ลองพจิ ารณาดูว่าประสบความสาเรจ็ ก่ขี อ้ และขอ้ ทไ่ี ม่ประสบความสาเรจ็ ตาม เป้าหมายนนั้ มปี ญั หาใดบา้ ง ขนั้ สอน 3. ครอู ธบิ ายเน้ือหา โดยใชส้ อ่ื PowerPoint ประกอบ ดงั ตอ่ ไปน้ี - ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งการจดั จาหน่ายและสว่ นประสมทางการตลาด - ความสาคญั ของชอ่ งทางการจดั จาหน่าย - ความเป็นมาและววิ ฒั นาการของการจดั จาหน่าย - ปจั จยั ทท่ี าใหเ้ กดิ การพฒั นาระบบการจดั จาหน่าย - การวางแผนการจดั จาหน่ายเพ่อื การแขง่ ขนั ทางการตลาด 4. ครแู สดงใหเ้ หน็ วา่ สว่ นประสมทางการตลาด มคี วามสมั พนั ธก์ บั การจดั จาหน่าย ดงั น้ี 1) ผลติ ภณั ฑ์ (Product) หมายถงึ สง่ิ ทเ่ี สนอขายเพอ่ื สนองความจาเป็นหรอื ความตอ้ งการของผซู้ อ้ื ใหผ้ ู้ ซอ้ื เกดิ ความพงึ พอใจ ชว่ ยแกป้ ญั หาใหแ้ ก่ผซู้ อ้ื ได้ ผลติ ภณั ฑแ์ บง่ ออกเป็น 2 ประเภท ไดแ้ ก่ ผลติ ภณั ฑท์ จ่ี บั ตอ้ งได้

หรอื “สนิ คา้ ” และผลติ ภณั ฑท์ ไ่ี มส่ ามารถจบั ตอ้ งได้ จะไดร้ บั ในรปู ของการบรกิ าร ผซู้ อ้ื จะไดร้ บั ในรปู ของ ความ สะดวกสบาย ความสนุกสนาน เป็นตน้ 2) ราคา (Price) หมายถงึ มลู คา่ ของผลติ ภณั ฑใ์ นรปู ของตวั เงนิ ทผ่ี ซู้ อ้ื ยอมจา่ ยเพอ่ื ใหไ้ ดส้ นิ คา้ หรอื ไดร้ บั บรกิ ารนนั้ ลกู คา้ จะมกี ารเปรยี บเทยี บระหวา่ งคุณคา่ ของผลติ ภณั ฑก์ บั จานวนเงนิ ทจ่ี ะตอ้ งจ่าย หากเหน็ วา่ มคี วาม เหมาะสม หรอื ยอมรบั ไดก้ จ็ ะยอมจา่ ยเงนิ เพอ่ื แลกเปลย่ี น 3) การสง่ เสรมิ การตลาด (Promotion) เป็นการตดิ ต่อสอ่ื สารไปยงั กลมุ่ ลกู คา้ เป้าหมาย เพอ่ื การแจง้ ขา่ วสาร และเพอ่ื กระตุน้ ชกั จงู ใจใหผ้ ซู้ อ้ื เกดิ ความตอ้ งการ เพอ่ื เตอื นความทรงจา เพอ่ื สรา้ งความเช่อื ถอื และสรา้ ง ทศั นคตทิ ด่ี ี สงิ่ เหล่าน้ีลว้ นมอี ทิ ธพิ ลตอ่ การตดั สนิ ใจซอ้ื ทงั้ สน้ิ สว่ นประสมทางการตลาด ประกอบดว้ ย 3.1 การโฆษณา (Advertising) 3.2 การประชาสมั พนั ธ์ (Public relations) 3.3 การขายโดยพนกั งานขาย (Personal selling) 3.4 การสง่ เสรมิ การขาย (Sale Promotion) 4) การจดั จาหน่าย (Place or Distribution) เป็นกระบวนการในการเคล่อื นยา้ ยสนิ ค้าจากผู้ผลติ ไปยงั ตลาดเป้าหมาย ประกอบดว้ ยสว่ นสาคญั 2 สว่ น คอื ชอ่ งทางการจดั จาหน่าย และการกระจายสนิ คา้ 5. ครขู อกความสาคญั ของชอ่ งทางการจดั จาหน่ายวา่ มคี วามสาคญั ดงั น้ี 1) ชว่ ยขยายตลาด การจดั การชอ่ งทางการจดั จาหน่ายอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ ทาใหผ้ ขู้ ายสามารถขยาย ตลาดการจาหน่ายผลติ ภณั ฑไ์ ดก้ วา้ งขน้ึ สามารถนาสนิ คา้ ไปจาหน่ายในตลาดต่าง ๆ ไดอ้ ยา่ งทวั่ ถงึ 2) ชว่ ยกระจายสนิ คา้ การจดั จาหน่ายสนิ คา้ ทาใหส้ นิ คา้ กระจายไปยงั กลุ่มลกู คา้ ไดม้ ากขน้ึ และรวดเรว็ 3) ช่วยด้านการบรโิ ภค การจดั จาหน่ายสนิ ค้าช่วยให้ผู้บรโิ ภคมสี นิ ค้าหรอื บรกิ าร ตอบสนองความ ตอ้ งการไดอ้ ยา่ งเตม็ ท่ี 4) การแข่งขนั ทางการตลาด ผู้ดาเนินการทางการตลาด มีหน้าท่ีในการบริหารส่วนประสมทาง การตลาดให้ประสบความสาเรจ็ เหนือคู่แข่ง การบรหิ ารช่องทางการจดั จาหน่ายซ่ึงเป็นองค์ประกอบหน่ึงของส่วน ประสมทางการตลาด ทาใหก้ ารแขง่ ขนั ทางการตลาดสมบรู ณ์ยงิ่ ขน้ึ 5) ลดปริมาณสินค้าคงคลัง การบริหารช่องทางการจัดจาหน่ายอย่างมีประสิทธิภาพ ทาให้การ เคล่ือนย้ายสนิ ค้าเป็นไปอย่างสะดวก มีการดาเนินการบรหิ ารคลงั สนิ ค้า ช่วยลดปรมิ าณสนิ ค้าคงคลงั ซ่ึงช่วยลด คา่ ใชจ้ า่ ยในการเกบ็ รกั ษาอกี ดว้ ย 6. ครแู ละผเู้ รยี นเลา่ ความเป็นมาและววิ ฒั นาการของการจดั จาหน่าย ในชว่ ง - กอ่ นการปฏวิ ตั อิ ุตสาหกรรม – พ.ศ. 2493 - ปี พ.ศ. 2499 – 2513 - ปี พ.ศ. 2513 - 2521 - หลงั ปี พ.ศ. 2521 7. ผเู้ รยี นอ่านกรณีศกึ ษาเร่อื งการบรกิ ารสง่ สนิ คา้ ใหผ้ บู้ รโิ ภคถงึ ทท่ี าใหผ้ บู้ รโิ ภคไดร้ บั ความสะดวก อยา่ งไร บา้ งจงแสดงความคดิ เหน็ แลว้ สรปุ สงิ่ ทไ่ี ดร้ บั จากการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม 8. ผเู้ รยี นเคน้ หาขอ้ มลู การดาเนินกจิ การของบรษิ ทั โลจสิ ตกิ สใ์ นประเทศไทย จานวน 1 กิจการ โดยเตมิ ช่อื กจิ การ และลกั ษณะการใหบ้ รกิ าร พรอ้ มแสดงรปู ภาพประกอบ แลว้ แสดงความคดิ เหน็ เปรยี บเทยี บการจดั จาหน่ายใน อดตี กบั ปจั จบุ นั และสรปุ สงิ่ ทไ่ี ดร้ บั จากการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม 9. ครบู อกปจั จยั ทท่ี าใหเ้ กดิ การพฒั นาระบบการจดั จาหน่าย มดี งั น้ี

1) ตลาดระดบั โลก จากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ผู้ซ้ือผู้ขายสามารถซ้ือขายสนิ ค้ากนั ได้อย่าง กวา้ งขวาง และตลอดเวลา แมจ้ ะอยู่กนั คนละท่ี คนละประเทศก็สามารถตดิ ต่อกนั ได้ ผู้ขายสนิ คา้ จงึ ต้องมกี ารพฒั นา ระบบการจดั จาหน่ายใหส้ อดคลอ้ งกบั การเปลย่ี นแปลงเหล่านนั้ 2) ความสมั พนั ธ์ระยะยาว ผู้ขายจะต้องรกั ษาความสมั พนั ธ์กับระยะยาวกบั ลูกค้า ซ่ึงรวมถึงผู้ขาย วตั ถุดบิ คนกลาง และลูกคา้ ดว้ ย ดงั นัน้ ผูข้ ายจงึ ต้องวางแผนการจดั จาหน่ายใหท้ ุกฝ่ายไดร้ บั ความพงึ พอใจ เพ่อื สรา้ ง ความสมั พนั ธท์ ด่ี ตี อ่ กนั ในระยะยาว 3) การสรา้ งเครอื ข่าย ผู้ขายต้องสรา้ งความสมั พนั ธ์กบั ลูกคา้ ทงั้ ผู้ซ้อื และคนกลาง ในช่องทางการจดั จาหน่ายอยา่ งต่อเน่ือง เพอ่ื สรา้ งความสมั พนั ธท์ ด่ี ี และสรา้ งเครอื ขา่ ยทางการตลาด 4) พนั ธมติ รทางธุรกจิ ปจั จุบนั ธุรกจิ จะตอ้ งปรบั เปลย่ี นวธิ กี ารดาเนินกจิ การ จากการดาเนินธุรกจิ เพยี ง ลาพงั เป็นการดาเนินธุรกจิ แบบตกลงร่วมมอื หรอื ร่วมทากจิ กรรมบางอยา่ งร่วมกบั กจิ การอ่นื เพ่อื ใหส้ ามารถดาเนิน กจิ การไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ เช่น ผผู้ ลติ เคร่อื งด่มื บารุงกาลงั คาราบาวแดงขณะทก่ี าลงั เรมิ่ เขา้ สตู่ ลาด ตดั สนิ ใจเป็น พนั ธมติ รดา้ นการจดั จาหน่ายกบั บรษิ ทั เสรมิ สขุ จากดั ผจู้ ดั จาหน่ายเคร่อื งด่มื เป๊บซ่ี โดยทาแผนการจดั จาหน่ายรว่ มกนั ทาใหค้ าราบาวแดง มวี างจาหน่ายไดอ้ ยา่ งแพรห่ ลาย เป็นตน้ 5) การตอบสนองอย่างรวดเรว็ กจิ การทส่ี ามารถตอบสนองลกู คา้ ไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ ทงั้ ดา้ นการใหข้ อ้ มูล การสง่ สนิ คา้ ไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ ตรงเวลา การนาระบบสารสนเทศมาใชใ้ นระบบการโอนเงนิ จา่ ยเงนิ เพอ่ื ความสะดวกของ ลูกคา้ ทาให้การทางานมปี ระสทิ ธภิ าพ การซ้อื ขายมคี วามคล่องตวั สรา้ งความพงึ พอใจแก่ลูกคา้ และทาใหไ้ ดเ้ ปรยี บ คแู่ ขง่ ขนั ดว้ ย 6) พาณิชย์อิเลก็ ทรอนิกส์ การดาเนินธุรกิจโดยผ่านโครงข่ายอินเตอร์เน็ต ผู้ซ้ือมองเห็นภาพสนิ ค้า ราคา รปู แบบ วธิ กี ารชาระเงนิ ลูกคา้ สามารถเปรยี บเทยี บข้อมูลก่อนการตดั สนิ ใจซ้อื ซ่งึ สรา้ งความสะดวกและสรา้ ง ความพงึ พอใจแก่ลูกค้าได้มาก ผู้ขายจงึ ต้องพฒั นารูปแบบการจดั จาหน่ายเพ่อื สนองความต้องการของลูกค้าอย่าง เหมาะสม 7) ตน้ ทนุ การขนสง่ ผขู้ ายมกี ารเปรยี บเทยี บตน้ ทุนการขนสง่ ระหวา่ งการขนสง่ เองกบั การจา้ งภายนอก ขนสง่ หากพบวา่ การจา้ งภายนอกขนสง่ สามารถประหยดั ตน้ ทุนไดด้ กี วา่ ง จะเลอื กจา้ งบรษิ ทั มาขนสง่ สนิ คา้ 8) การจดั ซ้อื ทางอเิ ลก็ ทรอนิกส์ การจาหน่ายสนิ คา้ ทางอเิ ลก็ ทรอนิกส์ มคี วามรวดเรว็ เขา้ ถงึ ผูซ้ ้อื ได้ อยา่ งกวา้ งขวาง รวดเรว็ และประหยดั คา่ ใชจ้ ่าย จงึ เป็นระบบการจดั จาหน่ายทผ่ี ขู้ ายสามารถนามาใชเ้ พ่อื การตอบสนอง ทด่ี ี และลดตน้ ทนุ การจดั จาหน่ายไดอ้ กี ดว้ ย 9) การจา้ งผลติ จากเดมิ ทผ่ี ผู้ ลติ รบั ซอ้ื วตั ถุดบิ มาเพ่อื ใชใ้ นการผลติ หากผผู้ ลติ พบวา่ การซ้อื วสั ดุ หรอื ชน้ิ สว่ น จากกจิ การอ่นื ผขู้ ายมหี น้าทน่ี าวสั ดหุ รอื ชน้ิ สว่ นเหลา่ นนั้ มาประกอบกนั เป็นสนิ คา้ สาเรจ็ รปู ชว่ ยลดตน้ ทุน หรอื ทาใหก้ ารดาเนินกจิ การมปี ระสทิ ธภิ าพทด่ี กี วา่ อาจมกี ารปรบั แผนทแ่ี ตกต่างไปจากเดมิ 10. ครเู ปิด VDO การวางแผนการจดั จาหน่ายเพอ่ื การแขง่ ขนั ทางการตลาดสามารถกระทาไดด้ งั น้ี 1) ลดคา่ ใชจ้ า่ ยในการขนสง่ 2) ลดระยะเวลาการเคล่อื นยา้ ย 3. จดั สนิ คา้ ใหพ้ รอ้ ม 4) ลดปรมิ าณสนิ คา้ คงเหลอื ของลกู คา้ 5) ขยายตลาด 6) สรา้ งความสมั พนั ธท์ ด่ี กี บั ลกู คา้ 7) สรา้ งผลประโยชน์ 8) เน้นการบรกิ ารทด่ี ี 9) หาลกู คา้ เพม่ิ 10) ใชเ้ ทคโนโลยที ท่ี นั สมยั 11.ผเู้ รยี นบอกขนั้ ตอนการซอ้ื สนิ คา้ ทางพาณิชยอ์ เิ ลก็ ทรอนิกสม์ าพอเขา้ ใจ ๏ จงบอกผลดที ผ่ี ขู้ ายไดร้ บั จากการจาหน่ายสนิ คา้ ทางพาณิชยอ์ เิ ลก็ ทรอนิกส์

๏ จงบอกผลดที ผ่ี ซู้ อ้ื ไดร้ บั จากการซอ้ื สนิ คา้ ทางพาณชิ ยอ์ เิ ลก็ ทรอนิกส์ และสรุปสง่ิ ทไ่ี ดร้ บั จากการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม 12.สมมติว่านักเรยี นเป็นผู้จาหน่ายสนิ ค้าชนิดหน่ึง (ระบุชนิดของสนิ ค้าเอง) นักเรยี นจะวางแผนการจดั จาหน่ายอยา่ งไรเพอ่ื ใหช้ นะคแู่ ขง่ ขนั ได้ จงึ อธบิ ายอยา่ งละเอยี ด พรอ้ มสรปุ สงิ่ ทไ่ี ดร้ บั จากการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม 13.ครแู นะนาใหผ้ เู้ รยี นเขยี นตารางแสดงรายรบั -รายจา่ ยในชวี ติ ประจาวนั เพอ่ื สรา้ งนิสยั ความพอเพยี ง

6.สรปุ และการประยกุ ต์ 14. ครแู ละผเู้ รยี นชว่ ยกนั สรุปเน้ือหา ดงั น้ี 1) ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งการจดั จาหน่ายและสว่ นประสมทางการตลาด 2) ความสาคญั ของชอ่ งทางการจดั จาหน่าย 3) ความเป็นมาและววิ ฒั นาการของการจดั จาหน่าย 4) ปจั จยั ทท่ี าใหเ้ กดิ การพฒั นาระบบการจดั จาหน่าย 5) การวางแผนการจดั จาหน่ายเพ่อื การแขง่ ขนั ทางการตลาด 15. ครสู มุ่ ตวั อยา่ งใหผ้ เู้ รยี นตอบคาถามเป็นรายบคุ คล 16. ผเู้ รยี นวเิ คราะหเ์ น้ือหาการเรยี นการสอนและหาขอ้ สรุปเป็นความคดิ รวบยอดเพ่อื นาไปประยุกตใ์ ชต้ ่อไป พรอ้ มขอ้ เสนอแนะตนเอง 17. ประเมนิ ธรรมชาตขิ องผเู้ รยี น และวเิ คราะหผ์ เู้ รยี นเป็นรายกลุ่มตามวธิ กี ารเรยี นรู้ ชอ่ื ผเู้ รยี น ธรรมชาตขิ องผเู้ รยี น วธิ กี ารเรยี นรู้ ความสนใจ สตปิ ญั ญา วฒุ ภิ าวะ 1. 2. 3. แบบวเิ คราะหผ์ เู้ รยี นเป็นรายกลมุ่ ตามวธิ กี ารเรยี นรู้ ช่อื กลมุ่ …………….. 1. 2. 3. 7.สื่อและแหล่งการเรียนรู้ 1. หนงั สอื เรยี น วชิ าการจดั จาหน่ายสนิ คา้ และบรกิ าร ของสานกั พมิ พเ์ อมพนั ธ์ 2. รปู ภาพ 3. กจิ กรรมการเรยี นการสอน 4. แผน่ ใส 5. สอ่ื อเิ ลก็ ทรอนิกส,์ PowerPoint 6. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 7. แบบประเมนิ กจิ กรรมใบงาน หลกั ฐาน 1. บนั ทกึ การสอน 2. ใบเชค็ ชอ่ื 3. แผนจดั การเรยี นรู้ 4. การตรวจประเมนิ ผลงาน

8.การวดั ผลและการประเมินผล วิธีวดั ผล 1. สงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล 2. ประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ 3. สงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ 4. ตรวจใบงาน 5. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 6. การสงั เกตและประเมนิ พฤตกิ รรมดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ เคร่อื งมือวดั ผล 1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล 2. แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ (โดยคร)ู 3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ (โดยผเู้ รยี น) 4. แบบประเมนิ กจิ กรรมใบงาน 5. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 6. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครูและผู้เรยี นร่วมกนั ประเมนิ เกณฑก์ ารประเมินผล 1. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล ตอ้ งไมม่ ชี อ่ งปรบั ปรงุ 2. เกณฑผ์ า่ นการประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50% ขน้ึ ไป) 3. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50% ขน้ึ ไป) เกณฑก์ ารประเมนิ มเี กณฑ์ 4 ระดบั คอื 4= ดมี าก, 3 = ด,ี 2 = พอใช้ , 1= ควรปรบั ปรงุ 4. กจิ กรรมใบงาน เกณฑผ์ า่ น คอื 50% 5. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรมู้ เี กณฑผ์ า่ น 50% 6 แบบประเมินคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ คะแนนข้นึ อยู่กบั การ ประเมนิ ตามสภาพจรงิ การวเิ คราะห์ตามหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง (Sufficiency Economy) 1. ทางสายกลาง (The middle path) : พอประมาณ มีเหตุผล มีภูมิคุม้ กนั ท่ีดีในตวั 2.เงื่อนไข (Condition) : ความรู้และคุณธรรม หลกั ความพอประมาณ (Moderation) หมายถึง พอประมาณ หมายถึง ความพอดี ที่ไม่มากและไม่นอ้ ยจนเกินไป ไม่เบียดเบียนตนเอง และผอู้ ่ืน เช่น การผลิตและการบริโภคท่ีพอประมาณ หลกั ความมีเหตผุ ล (Reasonableness) หมายถึง การใช้หลักเหตุผลในการตัดสินใจเร่ืองต่างๆ โดยพิจารณาจากเหตุปัจจัยท่ีเกี่ยวข้อง ตลอดจนผลท่ีคาดวา่ จะเกิดข้ึนอยา่ งรอบคอบ

หลกั การมีภูมิคุม้ กนั ในตวั ท่ีดี (Self - awareness) หมายถึง การเตรียมตวั ให้พร้อมรับต่อผลกระทบท่ีเกิดข้ึนจากการเปล่ียนแปลงรอบตวั ปัจจยั เหล่าน้ีจะ เกิดข้ึนไดน้ ้นั จะตอ้ งอาศยั ความรู้ และคุณธรรม เป็นเงื่อนไขพ้นื ฐาน หลกั เง่ือนไขความรู้ (Knowledge) หมายถึงความรอบรู้ ความรอบคอบ และความระมดั ระวงั ในการดาเนินชีวิตและการประกอบการงาน กจิ กรรมเสนอแนะ 1. แนะนาใหผ้ เู้ รียนทบทวนเน้ือหา 2. ทากิจกรรมใบงาน

กิจกรรมเศรษฐกิจพอเพียง รหสั วิชา ...2202-2004.......ชอ่ื วชิ า..การจดั จาหน่ายสนิ คา้ และบรกิ าร... หน่วยท่ี ......1...... ช่ือหน่วย .....งานทเ่ี กยี่ วข้องกบั การจดั จาหน่าย ............ วตั ถปุ ระสงค์ ผเู้ รยี นสามารถ ทราบช่องทางในการนาผลติ ภณั ฑ์ หรอื กรรมสทิ ธเิ ์ คล่อื นยา้ ยจากแหล่งผลติ ไป ยงั ตลาดเป้าหมายได้ เง่ือนไข เงื่อนไขความรู้ เง่ือนไขคณุ ธรรม - ผู้เรยี นมคี วามรู้เกย่ี วกบั ช่องทางการ - ปฏิบัติงานที่ได้รบั มอบหมายอย่าง นาผลติ ภณั ฑไ์ ปใช้ ถกู ตอ้ งซอื่ สัตย์ - รมาีคยววาชิ มารู้ ความเข้ าใจในเนื้ อห า - กมคาี รวเารมยี เนพแยี ลระพปยฏาบิ ยตั างิ มากนระตอื รอื ร้นใน - มคี วามรู้ในการเลอื กการวางแผนใช้ - ให้ความร่วมมือกับผู้อื่นด้วยความ ในชวี ติ ประจาวนั เต็มใจและจรงิ ใจ - มีค ว า ม รู้เก่ีย ว กับ ห ลัก ป รัช ญ า เศรษฐกิจพอเพียง และนามาปรบั ใช้ไดด้ ี หลกั พอเพียง ความพอประมาณ ความมีเหตผุ ล การสรา้ งภมู ิค้มุ กนั ท่ีดี - ผู้เรียนจัดสรรเวลา - เห็ นความสามารถใน - มี ทัก ษ ะ ใ น ก า ร ต อ บ ใผอยนู้ เา่ กรงาี เยหรฝมนึากะรปสู้ จฏมั ิบกัตใิไชด้้ การเลอื กเครอื่ งมอื คาถาม - - เห็ นความสาคัญ ของ - ส่ื อความหมายในการ ก า ร น า ไ ป ใ ช้ ใ ห้ เกิด ใ ช้ ง า น ไ ด้ อ ย่ า ง มี อุ ป ก ร ณ์ แ ล ะ วั ส ดุ ประโยชนอ์ ยา่ งคุ้มคา่ ประสิทธภิ าพ - อยา่ งคุม่ คา่ - เ ลื อ ก ใ ช้ วั ส ดุ ใ ห้ ป ฏิบัติต น เป็ น ผู้ น า เหมาะสมงาน - กล้าซกั ถามปัญหาหรอื ข้อสงสัยต่างๆ อย่าง และผ้ตู ามทดี่ ี เป็ นเหตุเป็ นผล - ควบคุมอารมณ์ตนเอง ได้ เป้ าหมายสมดลุ และพร้อมรบั การเปล่ียนแปลง 4 มิติ ด้านวตั ถุ ด้านสงั คม ด้านสิ่งแวดล้อม ด้านวฒั นธรรม - ผู้เรียน ทาแบบฝึกหัด - ผู้เรยี น ได้มกี ารซกั ถาม - หลงั จากเลกิ เรยี น - ใหผ้ เู้ รยี น สามารถใชช้ ่อง ออนไลน์ ลดรายจ่ายใน ขอ้ สงสยั ระหว่างเรยี นกบั ผู้ เรีย น ช่ ว ย กัน ท างก ารจัด จาห น่ าย ได้ ก า ร ใช้ ก ร ะ ด า ษ แ ล ะ ครผู สู้ อน รั ก ษ า ค ว า ม อยา่ งถกู ตอ้ ง ส า ม า ร ถ ป ร ะ ม ว ล ผ ล - ได้มีก ารแลก เป ล่ียน ส ะ อ า ด ข อ ง

คะแนนไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ ความรกู้ บั เพอ่ื นรว่ มชนั้ ห้ อ ง เรีย น น า - ไดต้ อบคาถามเป็นกลมุ่ ขยะ ทโ่ี ต๊ะ เรยี นออกทง้ิ - ปิดแอร์ หลงั จาก เลกิ เรยี น - ประหยดั พลงั งาน ตารางวิเคราะหจ์ ดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ โดยบรู ณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง จดุ ประสงคก์ ารสอน ทางสายกลาง หน่วยที่ 1 รวม เรอื่ งงานท่ีเก่ียวข้องกบั การจาหน่าย ลาดับความสาคัญ 3 ห่วง 2 เง่ือนไข ความรู้ คณุ ธรรม พอประมาณ ีมเหตุผล ีมภ ิม ้คุมกันภู ิม ้คุมกัน รอบ ้รู รอบคอบ ระมัดระวัง ่ืซอสัตย์สุจ ิรต ขยันอดทน ีมส ิต ัปญญา แบ่ง ัปน 1.ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งการจดั จาหน่ายและสว่ น / / / / / / / / /91 ประสมทางการตลาด 2.ความสาคญั ของชอ่ งทางการจดั จาหน่าย / / / / / / / / 82 3.ความรเู้ กย่ี วกบั ความเป็นมาและววิ ฒั นาการของการ / / // / / /73 จดั จาหน่าย 4.ความรเู้ กย่ี วกบั ปจั จยั ทท่ี าใหเ้ กดิ การพฒั นาระบบ / / / / / / / / /91 การจดั จาหน่าย 5.วางแผนการจดั จาหน่ายเพอ่ื การแขง่ ขนั ทาง // / / / / / / / 91

การตลาด // / / / / / / / 91 6.มกี ารพฒั นาคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และ 4655555664 3122222113 คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผสู้ าเรจ็ การศกึ ษา สานกั งาน รวม ลาดบั ความสาคญั ใบงานท่ี 1.3 ผลการเรียนร้ทู ี่คาดหวงั 4. แสดงความรเู้ กย่ี วกบั ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งการจดั จาหน่ายและสว่ นประสมทางการตลาดได้ 5. แสดงความรเู้ กย่ี วกบั ความสาคญั ของชอ่ งทางการจดั จาหน่ายได้ ขนั้ ตอนการดาเนินกิจกรรม การบรกิ ารสง่ สนิ คา้ ใหผ้ บู้ รโิ ภคถงึ ท่ี ทาใหผ้ บู้ รโิ ภคไดร้ บั ความสะดวก อยา่ งไรบา้ งจงแสดงความคดิ เหน็ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ สรปุ สิ่งที่ได้รบั จากการปฏิบตั ิกิจกรรม ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................

ใบงานที่ 1.4 ผลการเรียนร้ทู ี่คาดหวงั 6. แสดงความรเู้ กย่ี วกบั ความเป็นมาและววิ ฒั นาการของการจดั จาหน่ายได้ ขนั้ ตอนการดาเนินกิจกรรม จงคน้ หาขอ้ มลู การดาเนินกจิ การของบรษิ ทั โลจสิ ตกิ สใ์ นประเทศไทย จานวน 1 กจิ การ โดยเตมิ ลงในชอ่ งวา่ ง ดา้ นลา่ ง ชื่อกิจการ ………………………………………………………………………………………………..….. การให้บริการ ..................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................ ......................................................................................................................................................................... รปู ภาพ แสดงความคิดเหน็ เปรียบเทียบการจดั จาหน่ายในอดีตกบั ปัจจบุ นั ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ สรปุ ส่ิงท่ีได้รบั จากการปฏิบตั ิกิจกรรม ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................

ใบงานที่ 1.5 ผลการเรียนร้ทู ี่คาดหวงั 7. แสดงความรเู้ กย่ี วกบั ปจั จยั ทท่ี าใหเ้ กดิ การพฒั นาระบบการจดั จาหน่ายได้ ขนั้ ตอนการปฏิบตั ิกิจกรรม ๏ จงอธบิ ายขนั้ ตอนการซอ้ื สนิ คา้ ทางพาณิชยอ์ เิ ลก็ ทรอนิกสม์ าพอเขา้ ใจ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ๏ จงบอกผลดที ผ่ี ขู้ ายไดร้ บั จากการจาหน่ายสนิ คา้ ทางพาณิชยอ์ เิ ลก็ ทรอนิกส์ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ๏ จงบอกผลดที ผ่ี ซู้ อ้ื ไดร้ บั จากการซอ้ื สนิ คา้ ทางพาณชิ ยอ์ เิ ลก็ ทรอนิกส์ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ สรปุ สิ่งที่ได้รบั จากการปฏิบตั ิกิจกรรม ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................

ใบงานท่ี 1.6 ผลการเรียนร้ทู ่ีคาดหวงั 8. วางแผนการจดั จาหน่ายเพอ่ื การแขง่ ขนั ทางการตลาดได้ ขนั้ ตอนการปฏิบตั ิกิจกรรม สมมตวิ า่ นกั เรยี นเป็นผจู้ าหน่ายสนิ คา้ ชนดิ หน่ึง (ระบชุ นิดของสนิ คา้ เอง) นกั เรยี นจะวางแผนการจดั จาหน่าย อยา่ งไรเพอ่ื ใหส้ ามารถชนะคแู่ ขง่ ขนั ได้ จงึ อธบิ ายอยา่ งละเอยี ด ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ สรปุ สิ่งที่ได้รบั จากการปฏิบตั ิกิจกรรม ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................

แบบประเมินผลหลงั การเรียนรหู้ น่วยการเรียนที่ 1 จงเลือกคาตอบท่ีถกู ต้องที่สดุ เพียงข้อเดียว 1. ขอ้ ใดกลา่ วถงึ ความหมายของการจดั จาหน่ายไดส้ มบรู ณ์ที่สดุ 1. การบรกิ ารลกู คา้ ใหไ้ ดร้ บั ความพอใจสงู สดุ 2. การจดั เกบ็ ขอ้ มลู เพอ่ื การผลติ สนิ คา้ ใหต้ รงกบั ความตอ้ งการของผซู้ ้อื 3. การขนสง่ สนิ คา้ จนถงึ กลมุ่ เป้าหมายใหท้ นั เวลา และทนั ต่อความตอ้ งการ 4. การเคล่อื นยา้ ยสนิ คา้ หรอื บรกิ ารพรอ้ มกรรมสทิ ธิ ์จากผผู้ ลติ ไปยงั ผบู้ รโิ ภคคนสดุ ทา้ ยหรอื ผใู้ ชท้ าง อุตสาหกรรม 5. การดาเนินงานของคนกลาง เพอ่ื ใหส้ นิ คา้ ทท่ี าการขนสง่ ปลอดภยั และอยใู่ นสภาพดี 2. ขอ้ ใดไมเ่ กย่ี วขอ้ งกบั โครงสรา้ งการจดั จาหน่าย 1. คนกลาง 2. สถาบนั การเงนิ 3. สถาบนั การศกึ ษา 4. ธุรกจิ ขนสง่ 5. การจดั การคลงั สนิ คา้ 3. ขอ้ ใดไม่ใช่กจิ กรรมการกระจายสนิ คา้ 1. การขนสง่ 2. การวางแผนการผลติ 3. การคลงั สนิ คา้ 4. การจดั เกบ็ 5. การบรรจุภณั ฑ์ 4. สนิ คา้ ขอ้ ใดควรจดั จาหน่ายใหถ้ งึ มอื ผซู้ อ้ื เรว็ ทส่ี ดุ 1. สนิ คา้ สะดวกซอ้ื 2. เสอ้ื ผา้ 3. อาหารสด 4. เครอ่ื งประดบั 5. กระเป๋ าหนงั 5. ขอ้ ใดต่อไปน้ีสามารถกระจายสนิ คา้ ไดม้ ปี ระสทิ ธภิ าพมากทส่ี ดุ 1. ธุรกจิ อาหารสามารถสง่ สนิ คา้ ใหล้ กู คา้ ไดท้ นั เวลา 2. ธรุ กจิ เสอ้ื ผา้ สง่ สนิ คา้ ไดไ้ มค่ รบตามจานวน 3. ธรุ กจิ อาหารกระป๋ องทาสนิ คา้ ชารดุ ระหวา่ งการขนสง่ 4. ธรุ กจิ จวิ เวลรส่ี ง่ สนิ คา้ ใหล้ กู คา้ ไมต่ รงตามทส่ี งั่ ซอ้ื 5. ธุรกจิ อาหารแชแ่ ขง็ สง่ สนิ คา้ หมดอายใุ หล้ กู คา้

6. บคุ คลใดไม่ใช่ผคู้ า้ ปลกี 1. พฒุ ภิ ทั รขายสนิ คา้ ตามตลาดนดั 2. ปวรจุ เป็นเจา้ ของหา้ งสรรพสนิ คา้ 3. ปีเตอรเ์ ป็นผสู้ ง่ ออกรายใหญ่ของประเทศ 4. รณพรี เ์ ป็นเจา้ ของรา้ นขายกระเป๋ าถอื ในหา้ งสยามพารากอน 5. รชั ชานนทเ์ ป็นเจา้ ของรา้ นบะหมเ่ี กย๊ี วทม่ี ชี ่อื เสยี งยา่ นเยาวราช 7. ขอ้ ใดแสดงถงึ ลกั ษณะของผคู้ า้ สง่ 1. ขายสนิ คา้ ใหแ้ ก่ผบู้ รโิ ภค 2. ขายสนิ คา้ ทลี ะมาก ๆ 3. ขายสนิ คา้ โดยไมห่ วงั กาไร 4. ขายสนิ คา้ ทลี ะน้อย ๆ 5. ขายสนิ คา้ ราคาถกู 8. Commission เป็นรายไดข้ องบคุ คลใด 1. ผคู้ า้ สง่ 2. ผคู้ า้ ปลกี 3. นายหน้า 4. ตวั แทน 5. ผผู้ ลติ 9. รา้ นขายของฝากทาหน้าทใ่ี ดในการจดั จาหน่ายสนิ คา้ 1. ผลติ สนิ คา้ 2. ขนสง่ สนิ คา้ 3. ประกนั ภยั สนิ คา้ 4. รวบรวมและจาหน่ายสนิ คา้ 5. ใหส้ นิ เช่อื แก่ผผู้ ลติ 10. เหตุใดจงึ ตอ้ งมกี ารจดั มาตรฐานสนิ คา้ 1. เพอ่ื ใหเ้ กดิ ความสวยงาม 2. เพอ่ื ความสะดวกในการกาหนดราคา 3. เพอ่ื สรา้ งภาพลกั ษณ์ของกจิ การ 4. เพอ่ื ใหเ้ ป็นไปตามมาตรฐานการขาย 5. เพอ่ื ใหผ้ ซู้ อ้ื เกดิ ความเช่อื มนั่ ในคณุ ภาพของสนิ คา้ 11. “สนิ เช่อื เพอ่ื SME” เกย่ี วขอ้ งกบั ขอ้ ใด 1. บรกิ ารดา้ นเงนิ ลงทนุ 2. บรกิ ารเพอ่ื มาตรฐานการครองชพี ของผบู้ รโิ ภค 3. บรกิ ารเพอ่ื ประสทิ ธภิ าพในการขนสง่ 4. บรกิ ารดา้ นชอ่ งทางการจดั จาหน่าย 5. บรกิ ารเพอ่ื คุณภาพของสนิ คา้ 12. บรษิ ทั ธนากรผลติ ภณั ฑน์ ้ามนั พชื จากดั เกรงวา่ สนิ คา้ จะไดร้ บั ความเสยี หายจากภยั ธรรมชาติ จงึ ควรใชบ้ รกิ ารของ กจิ การใด 1. บรษิ ทั หลกั ทรพั ยบ์ วั หลวง จากดั 2. บรษิ ทั ไปรษณยี ไ์ ทย จากดั 3. บรษิ ทั วริ ยิ ะประกนั ภยั จากดั (มหาชน) 4. บรษิ ทั ไทยเดนิ เรอื ทะเล จากดั 5. บรษิ ทั การบนิ ไทย จากดั (มหาชน) 13. การวจิ ยั และการหาขอ้ มลู ทางการตลาด มคี วามสาคญั ตามขอ้ ใด 1. ชว่ ยใหท้ ราบความตอ้ งการของผบู้ รโิ ภค 2. ชว่ ยลดตน้ ทุนการผลติ สนิ คา้ 3. ชว่ ยใหส้ ามารถกาหนดจานวนคนกลางในชอ่ งทางการจดั จาหน่าย

4. ชว่ ยใหส้ ามารถขนสง่ สนิ คา้ ใหท้ นั เวลา 5. ชว่ ยใหผ้ บู้ รโิ ภคซอ้ื สนิ คา้ ในราคาทถ่ี กู ลง 14. กจิ กรรมใดของการสง่ เสรมิ การตลาด ทช่ี ว่ ยสรา้ งภาพพจน์ทด่ี ใี หแ้ ก่กจิ การ 1. การขายโดยพนกั งานขาย 2. การประชาสมั พนั ธ์ 3. การโฆษณา 4. การสง่ เสรมิ การขาย 5. การลดราคาสนิ คา้ ตามเทศกาล 15. ขอ้ ใดเกย่ี วขอ้ งกบั การจดั จาหน่ายทงั้ หมด 1. การลดราคา ชอ่ งทางการจดั จาหน่าย 2. การโฆษณา การกระจายสนิ คา้ 3. การชงิ โชค การจดั แสดงสนิ คา้ 4. ชอ่ งทางการจดั จาหน่าย การกระจายสนิ คา้ 5. การกระจายสนิ คา้ การขายโดยพนกั งานขาย 16. การใหบ้ รกิ ารลกู คา้ ดว้ ยความรวดเรว็ และเกดิ ความประทบั ใจ เกย่ี วขอ้ งกบั ขอ้ ใด 1. Product 2. Process 3. People 4. Promotion 5. Physical Evidence 17. การทาใหส้ นิ คา้ เขา้ ถงึ กลมุ่ ลุกคา้ เป้าหมายไดม้ ากทส่ี ดุ สมั พนั ธก์ บั ขอ้ ใด 1. การขยายตลาด 2. การแขง่ ขนั ทางการตลาด 3. การกระจายสนิ คา้ 4. การบรโิ ภคสนิ คา้ 5. การลดปรมิ าณสนิ คา้ คงคลงั 18. การบรหิ ารสว่ นประสมทางการตลาด เกย่ี วขอ้ งกบั ขอ้ ใด 1. การลดปรมิ าณสนิ คา้ คงคลงั 2. การแขง่ ขนั ทางการตลาด 3. การบรโิ ภคสนิ คา้ 4. การขยายตลาด 5. การกระจายสนิ คา้ 19. เหตุการณ์ใดเกย่ี วขอ้ งกบั การพฒั นาระบบการจดั จาหน่าย 1. ผซู้ อ้ื สามารถเลอื กซอ้ื สนิ คา้ จากผขู้ ายทวั่ โลก 2. ผซู้ อ้ื คานึงถงึ สขุ ภาพของตนเองมากขน้ึ 3. ผขู้ ายใหค้ วามสาคญั กบั การเลอื กผผู้ ลติ ทม่ี คี ณุ ภาพ 4. ผขู้ ายคานึงถงึ ตน้ ทุนในการสง่ เสรมิ การตลาดมากขน้ึ 5. คนกลางตอ้ งการสรา้ งมาตรฐานการกระจายสนิ คา้ 20. ขอ้ ใดวางแผนการจดั จาหน่ายเพอ่ื การแขง่ ขนั ทางการตลาดไดด้ ที ส่ี ดุ 1. บรษิ ทั รงุ่ เรอื งชยั จา้ งพนกั งานทม่ี คี วามสามารถ 2. บรษิ ทั รงุ่ โรจน์ จดั สนิ คา้ ใหพ้ รอ้ มสาหรบั การจดั สง่ 3. บรษิ ทั ร่ารวยลดปรมิ าณสนิ คา้ คงคลงั ใหเ้ หลอื จานวนน้อยทส่ี ดุ 4. บรษิ ทั รามณรงคจ์ าน่ายสนิ คา้ เฉพาะบางพน้ื ท่ี 5. บรษิ ทั รวมใจเน้นความรวดเรว็ ในการจดั สง่ แต่ไมใ่ หค้ วามสาคญั กบั การบรกิ ารดา้ นอ่นื

บนั ทึกหลงั การสอน ข้อสรปุ หลงั การสอน .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ปัญหาที่พบ .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. แนวทางแก้ปัญหา .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. ..................................................................................................................................................

.................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................. วชิ า การจดั จาหน่ายสนิ คา้ และบรกิ าร แผนการจดั การเรยี นรู้ ท่ี 4 สปั ดาหท์ ่ี 4 หน่วยท่ี 2 รหสั วชิ า 2202-2004 เวลา 4 ชวั่ โมง เรอ่ื ง ความรทู้ วั่ ไปเกย่ี วกบั การจดั จาหน่าย หลกั การจดั จาหน่ายสนิ คา้ และบรกิ าร 1.สาระสาคญั การบรหิ ารการจดั จาหน่ายเป็นสง่ิ สาคญั เช่นเดยี วกบั ส่วนประสมทางการตลาดอ่นื ๆ แมว้ ่าผู้ผลติ จะผลติ สนิ ค้าท่มี ี คุณภาพ ตรงกบั ความต้องการของผูบ้ รโิ ภค มกี ารกาหนดราคาอย่างเหมาะสม และมกี ารส่งเสรมิ การตลาดท่กี ระตุ้น ความตอ้ งการของผบู้ รโิ ภคได้ แต่ไม่สามารถจดั จาหน่ายสนิ คา้ ไดอ้ ย่างเหมาะสม ผบู้ รโิ ภคไม่สามารถหาซ้ือสนิ คา้ ได้ ก็ ไมท่ าใหก้ ารบรกิ ารกจิ การประสบความสาเรจ็ ได้ ดงั นนั้ การบรหิ ารการจดั จาหน่าย จงึ มสี งิ่ ทค่ี วรพจิ ารณา คน้ หาขอ้ มลู เพ่อื นามาประกอบการตดั สนิ ใจวางแผน เลอื กชอ่ งทางการจดั จาหน่าย และการกระจายสนิ คา้ อยา่ งเหมาะสม 2.จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. ความรเู้ กย่ี วกบั การออกแบบชอ่ งทางการจดั จาหน่ายได้ 2. แสดงความรเู้ กย่ี วกบั โครงสรา้ งชอ่ งทางการจดั จาหน่ายได้ 3. แสดงความรูเ้ ก่ยี วกบั ปจั จยั ท่มี อี ทิ ธพิ ลต่อการเลอื กช่องทางการจดั จาหน่ายได้7.มกี ารพฒั นาคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผสู้ าเรจ็ การศกึ ษา สานักงานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ทค่ี รู สามารถสงั เกตไดข้ ณะทาการสอนในเรอ่ื ง 3.1 ความมมี นุษยสมั พนั ธ์ 3.6 การประหยดั 3.2 ความมวี นิ ยั 3.7 ความสนใจใฝร่ ู้ 3.3 ความรบั ผดิ ชอบ 3.8 การละเวน้ สงิ่ เสพตดิ และการพนนั 3.4 ความซ่อื สตั ยส์ จุ รติ 3.9 ความรกั สามคั คี 3.5 ความเช่อื มนั่ ในตนเอง 3.10 ความกตญั ญกู ตเวที 3.สมรรถนะรายวิชา

1. แสดงความรเู้ กย่ี วกบั หลกั การและกระบวนการจดั จาหน่ายสนิ คา้ และบรกิ าร 2. แสดงความรเู้ กย่ี วกบั สถานการณ์ทางการตลาด และตลาดเป้าหมาย 3. แสดงความรเู้ กย่ี วกบั กฎหมาย และองคก์ ารทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั การจดั จาหน่ายสนิ คา้ และบรกิ าร 4. วางแผนและจดั จาหน่ายสนิ คา้ และบรกิ ารตามหลกั การ 5. ประยกุ ตใ์ ชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สารในการจดั จาหน่ายสนิ คา้ และบรกิ าร 4.เนื้อหาสาระ 1. การออกแบบช่องทางการจดั จาหน่าย 2. โครงสรา้ งชอ่ งทางการจดั จาหน่าย 5.กิจกรรมการเรียนรู้ ขนั้ นาเข้าส่บู ทเรียน 1. ครูแสดงรปู ภาพแผนภูมิ การออกแบบช่องทางการจดั จาหน่าย และโครงสรา้ งช่องทางการจดั จาหน่าย ประกอบเป็นตวั อย่างใหผ้ เู้ รยี นศกึ ษา ดงั นนั้ การบรหิ ารการจดั จาหน่าย จงึ มสี งิ่ ท่คี วรพจิ ารณา คน้ หาขอ้ มูล เพ่อื นามา ประกอบการตดั สนิ ใจวางแผน เลอื กชอ่ งทางการจดั จาหน่าย และการกระจายสนิ คา้ อยา่ งเหมาะสม 2. ครอู ภปิ รายเพม่ิ เตมิ วา่ การกาหนดรายไดใ้ หเ้ พยี งพอกบั รายจ่ายเป็นสง่ิ ทส่ี าคญั และจาเป็นมาก เพราะใน วยั เกษยี ณอายุ ทุกคนสามารถนาเงนิ ทเ่ี กบ็ สะสมไวม้ าใชไ้ ดอ้ ยา่ งสะดวกสบายเพ่อื การดารงชวี ติ ต่อไป หากแต่ละบุคคล มเี งนิ ออมเกบ็ สะสมไว้ เพ่อื เป็นทุนสารองไวใ้ ชจ้ ่ายสาหรบั วยั เกษยี ณ วธิ ที ด่ี ที ส่ี ดุ คอื การวางแผนเพ่อื การเกษยี ณอายุ ไวต้ งั้ แต่เรม่ิ ตน้ อยา่ งมรี ะบบตามขนั้ ตอน ซง่ึ แต่ละคนสามารถกาหนดแผนงานและขนั้ ตอนแตกต่างกนั ออกไปตามความ เหมาะสมกบั สภาพการดารงชวี ติ ดงั น้ี 1) กาหนดความตอ้ งการใชเ้ งนิ 2) กาหนดความตอ้ งการของรายไดท้ ส่ี ามารถหามาได้ 3) เปรยี บเทยี บความตอ้ งการเงนิ ทุน กบั ความสามารถในการหารายได้ ขนั้ สอน 3. ครผู สู้ อนอธบิ ายการออกแบบช่องทางการจดั จาหน่าย และโครงสรา้ งชอ่ งทางการจดั จาหน่าย โดยใชส้ อ่ื PowerPoint 4. การออกแบบช่องทางการจดั จาหน่ายใหเ้ หมาะสม มกี ระบวนการดงั น้ี 1) การแบง่ สว่ นตลาด (Segmentation) 2) การเลอื กตลาดเป้าหมาย (Targeting) 3) การวางตาแหน่ง (Positioning) 4) การสรา้ งชอ่ งทางการตลาดใหม่ (Establish New Channels) 5) การปรบั ชอ่ งทางการตลาดเดมิ (Refine Existing Channels) 5. ครแู ละผเู้ รยี นอธบิ ายโครงสรา้ งชอ่ งทางการจดั จาหน่าย ทน่ี ิยมใชใ้ นปจั จบุ นั มดี งั น้ี

1) ชอ่ งทางการจดั จาหน่ายสนิ คา้ อุปโภคบรโิ ภค 1.1 ชอ่ งทางตรง เป็นชอ่ งทางการจดั จาหน่ายทไ่ี มผ่ า่ นคนกลาง ผผู้ ลติ ผลติ สนิ คา้ และจาหน่ายใหแ้ ก่ ผบู้ รโิ ภคโดยตรงหรอื ใชพ้ นกั งานขายของกจิ การเป็นผจู้ าหน่าย เป็นช่องทางการจดั จาหน่ายทส่ี นั้ ทส่ี ดุ เหมาะกบั สนิ คา้ ท่ี ผบู้ รโิ ภคยงั ไมเ่ กดิ ความตอ้ งการ จงึ ตอ้ งใหพ้ นกั งานขายชว่ ยในการนาเสนอ และจงู ใจ เชน่ ประกนั ชวี ติ บตั รเครดติ การ ทอ่ งเทย่ี ว เป็นตน้ และสนิ คา้ ทต่ี อ้ งการความใหมส่ ด เมอ่ื ออกจากแหลง่ ผลติ ผบู้ รโิ ภคสามารถรบั ประทานไดท้ นั ที เชน่ อาหาร ผลไม้ เป็นตน้ ผ้ผู ลติ ผ้บู ริโภค

1.2 ชอ่ งทางออ้ ม เป็นชอ่ งทางการจาหน่ายสนิ คา้ โดยผา่ นคนกลางประเภทต่าง ๆ ดงั น้ี 1.2.1 ผ้ผู ลิต ผ้คู ้าปลีก ผ้บู ริโภค 1.2.2 ผ้คู ้าสง่ ผ้คู ้าปลีก ผ้บู ริโภค ผ้ผู ลติ 1.2.3 ตวั แทน ผ้คู ้าปลีก ผ้บู ริโภค ผ้บู ริโภค ผ้ผู ลิต ตวั แทน ผ้คู ้าสง่ ผ้คู ้าปลีก 1.2.4 ผ้ผู ลติ 1.2.5 ตวั แทน ผบู้ รโิ ภค ผผู้ ลติ 2) ชอ่ งทางการจดั จาหน่ายสนิ คา้ อุตสาหกรรม หมายถงึ เสน้ ทางทผ่ี ลติ ภณั ฑเ์ คล่อื นยา้ ยจากผผู้ ลติ ไป ยงั ผใู้ ชส้ นิ คา้ ทางอุตสาหกรรม แบง่ ออกได้ ดงั น้ี 2.1 ชอ่ งทางตรง เป็นชอ่ งทางการจดั จาหน่ายทผ่ี ผู้ ลติ จาหน่ายสนิ คา้ แกผ่ ใู้ ชท้ างอุตสาหกรรมโดยตรง เหมาะกบั สนิ คา้ ทม่ี มี ลู คา่ สงู ขนาดใหญ่ น้าหนกั มาก มบี รกิ ารตดิ ตงั้ และตอ้ งการการบรกิ ารพเิ ศษจากผผู้ ลติ ผผู้ ลติ ผใู้ ชท้ างอุตสาหกรรม 2.2 ชอ่ งทางออ้ ม เป็นชอ่ งทางการจดั จาหน่ายทม่ี คี นกลางเขา้ มาเกย่ี วขอ้ ง แบ่งออกได้ ดงั น้ี 2.2.1 ผจู้ ดั จาหน่ายสนิ คา้ อุตสาหกรรม ผใู้ ชท้ าง ผผู้ ลติ (ผคู้ า้ สง่ ) อุตสาหกรรม 2.2.2 ตวั แทน ผใู้ ชท้ างอุตสาหกรรม ผผู้ ลติ 2.2.3 ตวั แทน ผจู้ ดั จาหน่ายสนิ คา้ ผใู้ ชท้ างอุตสาหกรรม ผผู้ ลติ ทางอุตสาหกรรม (ผคู้ า้ สง่ ) 6. สมมตวิ า่ นักเรยี นเป็นผูผ้ ลติ สนิ คา้ ตามภาพด้านล่าง จงออกแบบช่องทางการจัดจาหน่าย พรอ้ มอธบิ าย เหตุผลกระกอบอยา่ งละเอยี ด และบอกสง่ิ ทไ่ี ดร้ บั จากการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม

7. ผู้เรยี นบอกช่องการทางการจดั จาหน่ายสนิ ค้าตามภาพด้านล่าง โดนเตมิ ลงในช่องว่างท่คี รูกาหนดให้ พรอ้ มทงั้ บอกสง่ิ ทไ่ี ดร้ บั จากการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม 8. ครูแนะนาเพม่ิ เตมิ จากเน้ือหาใหท้ ุกคนควรเตรยี มความพรอ้ มในอนาคตดว้ ยตนเอง จงึ ตอ้ งมเี งนิ ออมไว้ จานวนหน่ึงเพอ่ื ใชจ้ า่ ย จงึ ตอ้ งสารวจตนเองวา่ ปจั จบุ นั อายเุ ทา่ ไร สขุ ภาพเป็นอยา่ งไร ขนั้ สรปุ และการประยกุ ต์ 9. ครแู ละผเู้ รยี นชว่ ยกนั สรปุ การออกแบบชอ่ งทางการจดั จาหน่าย และโครงสรา้ งชอ่ งทางการจดั จาหน่าย 10. ประเมนิ ผเู้ รยี นตามแบบฟอรม์ ต่อไปน้ี ชอ่ื ผเู้ รยี น ธรรมชาตขิ องผเู้ รยี น วธิ กี ารเรยี นรู้ ความสนใจ สตปิ ญั ญา วฒุ ภิ าวะ 1. 2. 3. 4. 5. แบบประเมนิ ประสบการณ์พน้ื ฐาน ชอ่ื ผเู้ รยี น ประสบการณ์พน้ื ฐานการเรยี นรู้ วธิ กี ารเรยี นรู้ ความรู้ ทกั ษะ ผลงาน 1. 2. 3. 4. 5. 6.สื่อและแหล่งการเรียนรู้ 1. หนงั สอื เรยี น วชิ าการจดั จาหน่ายสนิ คา้ และบรกิ าร ของสานกั พมิ พเ์ อมพนั ธ์ 2. รปู ภาพ 3. กจิ กรรมการเรยี นการสอน 4. แผน่ ใส 5. สอ่ื อเิ ลก็ ทรอนิกส,์ PowerPoint 6. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 7. แบบประเมนิ กจิ กรรมใบงาน 7.หลกั ฐาน 1. บนั ทกึ การสอน 2. ใบเชค็ ช่อื 3. แผนจดั การเรยี นรู้ 4. การตรวจประเมนิ ผลงาน

8.การวดั ผลและการประเมินผล วิธีวดั ผล 1. สงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล 2. ประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ 3. สงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ 4. ตรวจใบงาน 5. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 6. การสงั เกตและประเมนิ พฤตกิ รรมดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ เคร่อื งมือวดั ผล 1. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล 2. แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ (โดยคร)ู 3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ (โดยผเู้ รยี น) 4. แบบประเมนิ กจิ กรรมใบงาน 5. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 6. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครแู ละผเู้ รยี นรว่ มกนั ประเมนิ เกณฑก์ ารประเมินผล 1. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล ตอ้ งไมม่ ชี อ่ งปรบั ปรงุ 2. เกณฑผ์ า่ นการประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50% ขน้ึ ไป) 3. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50% ขน้ึ ไป) 4. กจิ กรรมใบงาน เกณฑผ์ า่ น คอื 50% 5. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรมู้ เี กณฑผ์ า่ น 50% 6. แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อยกู่ บั การ ประเมนิ ตามสภาพจรงิ การวิเคราะห์ตามหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง (Sufficiency Economy) 1. ทางสายกลาง (The middle path) : พอประมาณ มีเหตุผล มีภูมิคุม้ กนั ที่ดีในตวั 2.เงื่อนไข (Condition) : ความรู้และคุณธรรม หลกั ความพอประมาณ (Moderation) หมายถึง พอประมาณ หมายถึง ความพอดี ท่ีไม่มากและไม่นอ้ ยจนเกินไป ไม่เบียดเบียนตนเอง และผอู้ ื่น เช่น การผลิตและการบริโภคท่ีพอประมาณ หลกั ความมีเหตุผล (Reasonableness) หมายถึง การใช้หลักเหตุผลในการตัดสินใจเรื่องต่างๆ โดยพิจารณาจากเหตุปัจจัยท่ีเก่ียวข้อง ตลอดจนผลที่คาดวา่ จะเกิดข้ึนอยา่ งรอบคอบ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook