201 6.1.5 ผ้เู ช่าซื้อตกลงชาระค่าเช่าซื้อเป็ นงวดๆ จนกว่าจะครบกาหนดตามทร่ี ะบุไว้ในสัญญา ลกั ษณะประการน้ีของสัญญาเช่าซ้ือ ถือเป็ นวตั ถุประสงค์ของสัญญาเช่าซ้ือเช่นเดียวกนัโดยเงินค่าเช่าซ้ือท่ีผูเ้ ช่าซ้ือให้แก่ผใู้ ห้เช่าซ้ือน้นั นอกจากจะมีลกั ษณะเพ่ือเป็ นการตอบแทนการใช้หรือได้รับประโยชน์ในทรัพย์สินเช่นเดียวกบั ค่าเช่าแล้ว เงินน้ันยงั ถือเป็ นเงินค่ากรรมสิทธ์ิที่คาดหวงั ว่าอาจมีการโอนกรรมสิทธ์ิในทรัพยส์ ินที่เช่าซ้ือกนั ในอนาคตดว้ ย ฉะน้นั โดยปกติเงินค่าเช่าซ้ือจะมีจาํ นวนท่ีสูงกวา่ คา่ เช่าธรรมดา ที่สําคญั ค่าเช่าซ้ือจะตอ้ งเป็ นเงินเสมอ ไม่เหมือนกบั การเช่าทรัพยท์ ่ีค่าเช่าจะเป็ นของหรือสิ่งอื่นนอกจากเงินกไ็ ด้ ท้งั น้ีเพราะมาตรา 572 บญั ญตั ิไวใ้ นตอนทา้ ยของมาตราวา่ “...โดยเงื่อนไขท่ีผูเ้ ช่าไดใ้ ชเ้ งินเป็ นจาํ นวนเท่าน้นั เท่าน้ีคราว” และเงินค่าเช่าซ้ือจะตอ้ งมีการชาํ ระกนั เป็ นงวดๆ ถา้ชาํ ระเป็ นคร้ังหน่ึงคราวเดียวเงินน้นั ก็ไม่ใช่ค่าเช่าซ้ืออนั จะมีผลทาํ ให้สัญญาน้นั ไม่ใช่สัญญาเช่าซ้ือตามไปดว้ ย เพราะไม่เขา้ ลกั ษณะของสัญญาเช่าซ้ือตามมาตรา 572 แตอ่ าจจะกลายเป็ นสัญญาซ้ือขายไป126 6.1.6 เมื่อผู้เช่าซื้อชาระค่าเช่าซื้อครบถ้วนแล้ว กรรมสิทธ์ิในทรัพย์สินที่เช่าซื้อจะตกเป็ นของผ้เู ช่าซื้อโดยผลของกฎหมาย ในกรณีที่ทรัพยส์ ินที่เช่าซ้ือเป็ นสังหาริมทรัพยธ์ รรมดา เม่ือชาํ ระค่าเช่าซ้ือครบถว้ นแลว้กรรมสิทธ์ิกจ็ ะโอนมายงั ผเู้ ช่าซ้ือซ้ือทนั ที คาพิพากษาศาลฎีกาท่ี 423/2528 เม่ือผูเ้ ช่าซ้ือไดใ้ ชเ้ งินค่าซ้ือครบถว้ นตามท่ีกาํ หนดไวใ้ นสัญญาแล้ว กรรมสิทธ์ิในทรัพยส์ ินที่เช่าซ้ือย่อมตกเป็ นสิทธิแก่ผูเ้ ช่าซ้ือโดยผลของกฎหมายแม้สัญญาเช่าซ้ือจะมิไดร้ ะบุขอ้ ความดงั กล่าวไวก้ ็หาขดั ต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา572 ไม่ คาพพิ ากษาศาลฎีกาท่ี 2781/2548 ห้างหุ้นส่วนจาํ กดั ร. ไดช้ าํ ระค่าเช่าซ้ือให้แก่ผูร้ ้องครบทุกงวดแลว้ แมจ้ ะชาํ ระค่างวดล่าชา้ ไมต่ รงกาํ หนด แต่ผรู้ ้องก็รับค่าเช่าซ้ือจนครบทุกงวดตามสัญญาเช่าซ้ือ โดยไม่ได้บอกเลิกสัญญา ถือว่ากาํ หนดเวลาชาํ ระเงินไม่เป็ นสาระสําคญั กรรมสิทธ์ิในรถยนตท์ ี่เช่าซ้ือของกลางจึงตกเป็นของหา้ งหุ้นส่วนจาํ กดั ร. ทนั ทีตาม ป.พ.พ. มาตรา 572 และตามสัญญาเช่าซ้ือขอ้ 3 โดยไม่จาํ ตอ้ งจดทะเบียนโอนกรรมสิทธ์ิก่อน แมต้ ามขอ้ 9 ของสัญญาเช่าซ้ือจะใหผ้ ูร้ ้องคิดดอกเบ้ียของเงินค่าเช่าซ้ือที่คา้ งชาํ ระและค่าใชจ้ ่ายในการไปเก็บเงินดงั กล่าวได้ ผูร้ ้องก็ตอ้ งไปเรียกร้องเอากบั ห้างหุ้นส่วนจาํ กดั ร. ซ่ึงก็ไม่แน่วา่ ผูร้ ้องจะมีสิทธิเรียกดอกเบ้ียดงั กล่าวได้ตามสัญญาเช่าซ้ือหรือไม่ ท้งั ขอ้ ตกลงดงั กล่าวมิใช่เง่ือนไขท่ีจะไม่ใหก้ รรมสิทธ์ิในรถยนตข์ องกลางตกเป็นสิทธิแก่หา้ งหุ้นส่วนจาํ กดั ร. แมผ้ ูร้ ้องจะยงั มีช่ือเป็ นเจา้ ของกรรมสิทธ์ิรถยนตข์ องกลางตามหนงั สือแสดงการจดทะเบียน ผรู้ ้องกม็ ิใช่เจา้ ของแทจ้ ริง จึงไม่มีสิทธิขอคืนรถยนตข์ องกลาง 126 เพ่ิงอา้ ง, น.173.
202 แต่ในกรณีทรัพยส์ ินที่เช่าซ้ือน้นั เป็ นประเภทที่ตอ้ งมีการจดทะเบียนต่อพนกั งานเจา้ หนา้ ท่ีก็คือ อสังหาริมทรัพยแ์ ละสังหาริมทรัพยพ์ ิเศษ กรรมสิทธ์ิในทรัพยส์ ินเหล่าน้ีจะยงั ไม่โอนไปยงั ผู้เช่าซ้ือทนั ที เม่ือมีการชาํ ระค่าเช่าซ้ือครบถ้วน กรรมสิทธ์ิจะโอนก็ต่อเม่ือได้มีการดาํ เนินการจดทะเบียนต่อพนกั งานเจา้ หนา้ ที่ใหถ้ ูกตอ้ ง คาพพิ ากษาศาลฎกี าท่ี 2930/2530 แมผ้ รู้ ้องทาํ สัญญาเช่าซ้ือท่ีดินพิพาทจาก ส. และชาํ ระค่าเช่าซ้ือครบถว้ นแลว้ ก่อนที่ ส. จะนาํ ท่ีดินดงั กล่าวมาวางศาลเป็ นประกนั การชาํ ระหน้ีของจาํ เลยเพ่ือขอทุเลาการบงั คบั คดี แตส่ ิทธิของผรู้ ้องก็เป็นเพียงบุคคลสิทธิซ่ึงหาก ส. ผดิ สัญญาเช่าซ้ือก็เป็ นกรณีท่ีผูร้ ้องตอ้ งวา่ กล่าวบงั คบั เอากบั ส. เม่ือ ส. ยงั มิไดจ้ ดทะเบียนโอนกรรมสิทธ์ิ ที่ดินพิพาทจึงยงั ไม่ตกไปเป็ นของผูร้ ้องโดยสมบูรณ์ตามกฎหมาย ส. ยงั คงเป็ นเจา้ ของท่ีดินอยู่ โจทก์ชนะคดีแลว้ ยึดท่ีดินพพิ าทออกขายทอดตลาดชาํ ระหน้ีแก่โจทกไ์ ด้ ผรู้ ้องไมม่ ีสิทธิร้องขอใหป้ ล่อยทรัพยท์ ่ียดึ คาพิพากษาศาลฎีกาที่ 4219/2531 โจทก์เช่าซ้ือที่ดินพิพาทจาก ป. และชําระค่าเช่าซ้ือครบถ้วนแล้วแต่การได้มาโดยนิ ติกรรมซ่ึ งอสังหาริ มทรัพย์ตามสัญญาเช่ าซ้ื อน้ ันไม่บริ บูรณ์กรรมสิทธ์ิในที่ดินพิพาทยงั ไม่ตกเป็ นของโจทก์จนกว่าจะไดท้ าํ เป็ นหนังสือและจดทะเบียนการไดม้ ากบั พนกั งานเจา้ หนา้ ที่ตามความในประมวลกฎหมายแพง่ และพาณิชย์ มาตรา 1299 วรรคหน่ึง 6.2 แบบของสัญญาเช่าซื้อ บญั ญตั ิอยใู่ นมาตรา 572 วรรคสอง ซ่ึงบญั ญตั ิวา่ “สญั ญาเช่าซ้ือน้นั ถา้ ไมท่ าํ เป็นหนงั สือ ท่านวา่ เป็นโมฆะ” จากบทบญั ญตั ิดงั กล่าว แสดงให้เห็นว่า การทาํ สัญญาเช่าซ้ือจะตอ้ งทาํ เป็ นหนงั สือเสมอมิฉะน้นั จะเป็ นโมฆะ ซ่ึงไม่วา่ ทรัพยส์ ินที่เช่าซ้ือจะเป็ นสังหาริมทรัพยห์ รืออสังหาริมทรัพยก์ ็ตามโดยเฉพาะอสังหาริมทรัพยน์ ้นั การเช่าซ้ือทาํ เพียงเป็ นหนงั สือก็เพียงพอไม่ตอ้ งไปจดทะเบียนต่อพนกั งานเจา้ หนา้ ที่ แต่เมื่อมีการชาํ ระค่าเช่าซ้ือครบถว้ นแลว้ จะตอ้ งไปโอนกนั ทางทะเบียนน้นั เป็ นอีกเรื่องหน่ึง โดยหนังสือที่คู่สัญญาทาํ กนั ข้ึนมาน้ัน จะเขียนข้ึนมาเองท้งั ฉบบั หรือจะใช้วิธีพิมพ์ก็ได้เพียงแต่ขอให้มีขอ้ ความแสดงใหเ้ ห็นวา่ ไดม้ ีการทาํ สัญญาเช่าซ้ือกนั คือ ให้มีรายละเอียดครบถว้ นตามท่ีกาํ หนดอยใู่ นมาตรา 572 และคู่สัญญาท้งั สองฝ่ ายจะตอ้ งลงลายมือชื่อไวด้ ว้ ย คาพพิ ากษาศาลฎกี าท่ี 787/2508 ท่ีว่า 'สัญญาเช่าซ้ือน้นั ถา้ มิไดท้ าํ เป็ นหนงั สือท่านว่าเป็ นโมฆะ' น้นั หมายถึงวา่ คู่สัญญาท้งั สองฝ่ ายตอ้ งทาํ หนงั สือสัญญาน้นั ข้ึนดว้ ยกนั จึงจะผกู พนั กนั สัญญาเช่าซ้ือท่ีมีแต่ผเู้ ช่าซ้ือลงช่ือเพยี งฝ่ ายเดียวจึงไม่ผกู พนั เจา้ ของทรัพยท์ ่ีถูกอา้ งวา่ ใหเ้ ช่าซ้ือ คาพิพากษาศาลฎีกาท่ี 1453/2530 ตามบทบญั ญตั ิในมาตรา 572 วรรคสอง แห่งประมวลกฎหมายแพง่ และพาณิชยแ์ ปลไดว้ า่ สัญญาเช่าซ้ือจะตอ้ งทาํ เป็ นหนงั สือ โดยลงชื่อคู่สัญญาท้งั สองฝ่ ายและไม่มีบทบญั ญตั ิใดระบุว่า คู่สัญญาฝ่ ายใดฝ่ ายหน่ึงหรือท้งั สองฝ่ ายจะตอ้ งลงช่ือในวนั ทาํ
203สัญญาน้ันเมื่อคู่สัญญาลงช่ือในสัญญาเช่าซ้ือท้งั สองฝ่ ายแล้ว ก็ย่อมถือได้ว่าสัญญาเช่าซ้ือน้นั ได้กระทาํ เป็นหนงั สือแลว้ โดยคูส่ ญั ญาหาจาํ เป็นตอ้ งลงชื่อในวนั เดียวกบั ที่ทาํ สัญญาเช่าซ้ือไม่ 6.3 ความระงบั แห่งสัญญาเช่าซื้อ สัญญาเช่าซ้ือยอ่ มระงบั สิ้นไปดว้ ยเหตุหลายประการ ดงั น้ี 6.3.1 ผ้ใู ห้เช่าซื้อและผู้เช่าซื้อตกลงเลกิ สัญญากนั เอง ในกรณีน้ีเม่ือสัญญาเช่าซ้ือเลิกหรือระงบั ลงแลว้ คู่สัญญาแต่ละฝ่ ายก็ตอ้ งใหค้ ู่สัญญาอีกฝ่ ายหน่ึงกลบั คืนสู่ฐานะเดิม คาพิพากษาศาลฎีกาท่ี 754/2519 โจทก์ทาํ สัญญาเช่าซ้ือท่ีดินจากจาํ เลยและไดช้ าํ ระค่าเช่าซ้ือบางส่วนให้จาํ เลยแล้วต่อมาโจทก์จาํ เลยแสดงเจตนาเลิกสัญญากนั และเป็ นผลให้โจทก์จาํ เลยกลบั คืนสู่ฐานะเดิม ดงั น้ี จาํ เลยจึงตอ้ งคืนเงินค่าเช่าซ้ือท่ีไดร้ ับไวใ้ ห้โจทก์รวมท้งั ดอกเบ้ียของเงินดงั กล่าวดว้ ยโดยคิดต้งั แต่เวลาท่ีรับเงินน้นั ไวใ้ นอตั ราร้อยละ 7 คร่ึงต่อปี ตามประมวลกฎหมายแพง่และพาณิชย์ มาตรา 7 ประกอบดว้ ย มาตรา 391 6.3.2 ผู้เช่าซื้อบอกเลกิ สัญญา เป็นไปตามมาตรา 573 ซ่ึงบญั ญตั ิวา่ “ผเู้ ช่าจะบอกเลิกสญั ญาในเวลาใดเวลาหน่ึงก็ไดด้ ว้ ยส่งมอบทรัพยส์ ินกลบั คืนให้แก่เจา้ ของโดยเสียคา่ ใชจ้ ่ายของตนเอง” เหตุผลที่กฎหมายยอมให้ผูเ้ ช่าซ้ือบอกเลิกสัญญาเมื่อใดก็ได้ ก็เพราะเมื่อผูเ้ ช่าซ้ือไดช้ าํ ระเงินไปแลว้ ถา้ ไมพ่ อใจท่ีจะไดร้ ับโอนกรรมสิทธ์ิอีกต่อไป ก็น่าจะมีสิทธิเลิกสัญญาได้ ทางฝ่ ายผใู้ ห้เช่าซ้ือก็ไมเ่ สียหายอะไร เพราะไดร้ ับเงินมาแลว้ บางส่วนและยงั ไดร้ ับทรัพยส์ ินท่ีเช่าซ้ือคืนจากผเู้ ช่าซ้ือดว้ ย การเลิกสัญญาเช่าซ้ือน้ี กฎหมายกาํ หนดให้ผูเ้ ช่าซ้ือบอกเลิกในเวลาใดๆ ก็ได้ โดยการบอกเลิกสัญญาของผูเ้ ช่าซ้ือน้นั มิใช่แต่เพียงบอกกล่าวแก่ผใู้ หเ้ ช่าซ้ือเพียงอยา่ งเดียววา่ จะเลิกสัญญา แต่จะตอ้ งส่งมอบทรัพยส์ ินคืนใหแ้ ก่เจา้ ของ โดยเสียค่าใชจ้ ่ายของผเู้ ช่าซ้ือเองดว้ ย ฉะน้นั ตราบใดแมม้ ีการบอกกล่าวเลิกสัญญาแลว้ แต่ยงั ไม่ส่งมอบทรัพยส์ ินคืนให้แก่ผูใ้ ห้เช่าซ้ือ สัญญาเช่าซ้ือก็ยงั ไม่ระงบั 127 คาพิพากษาศาลฎีกาท่ี 3149/2530 โจทก์เป็ นผูเ้ ช่าซ้ือรถยนต์จากจาํ เลย หากโจทก์จะบอกเลิกสัญญาเช่าซ้ือก็อาจทาํ ไดด้ ว้ ยการส่งมอบรถยนต์คืนแก่จาํ เลย ดงั น้นั เมื่อโจทก์บอกกล่าวเลิกสัญญาโดยยงั ครอบครองรถยนต์คนั ที่เช่าซ้ืออยู่ การบอกเลิกสัญญาของโจทก์จึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายแพง่ และพาณิชย์ มาตรา 573 127 อา้ งแลว้ , เชิงอรรถท่ี 105, น.288.
204 คาพิพากษาศาลฎีกาที่ 129/2534 จาํ เลยที่ 1 ติดต่อกบั โจทก์เพ่ือขอโอนสิทธิการเช่าซ้ือรถยนต์พิพาทให้แก่ ด. ไดม้ ีการทาํ หนงั สือโอนสัญญาเช่าซ้ือโดยโจทก์ให้ใชแ้ บบพิมพข์ องโจทก์และโจทกย์ งั ไดใ้ ห้ ด.ลงลายมือช่ือในแบบพิมพส์ ัญญาเช่าซ้ือโดยไม่มีการกรอกขอ้ ความ ท้งั ในวนัดงั กล่าวจาํ เลยที่ 1 ไดช้ าํ ระค่าเช่าซ้ือท่ีคา้ งและค่าเช่าซ้ือล่วงหน้าของผูร้ ับโอนสัญญาเช่าซ้ืออีก 1งวดดว้ ยเช็คของ ด. รวมท้งั ค่าธรรมเนียมการโอนสัญญาเช่าซ้ือกบั ค่าอากรให้แก่โจทกร์ ับไปถูกตอ้ งตามประเพณีปฏิบตั ิในการโอนสิทธิตามสัญญาเช่าซ้ือของโจทก์แลว้ ประกอบกบั ในวนั เดียวกนั น้นัด. ไดท้ าํ แบบยน่ื ขอทาํ สัญญาเช่าซ้ือรถยนตพ์ ิพาทกบั โจทก์ โจทก์ก็รับไว้ พฤติการณ์เช่นน้ีถือไดว้ า่จาํ เลยท่ี 1 ไดส้ ่งมอบรถยนตท์ ี่เช่าซ้ือคืนโจทก์ซ่ึงเป็ นการบอกเลิกสัญญาเช่าซ้ือแก่โจทก์แลว้ ดงั น้นัไมว่ า่ การแปลงหน้ีใหม่ระหวา่ งโจทกก์ บั จาํ เลยท่ี 1 จะไดท้ าํ ถูกตอ้ งตามกฎหมายหรือไม่ สัญญาเช่าซ้ือก็เป็ นอนั เลิกกนั แลว้ นบั แต่วนั ที่จาํ เลยที่ 1 ส่งมอบรถยนต์พิพาทคืนโจทก์ จาํ เลยไม่ตอ้ งรับผิดชาํ ระคา่ เช่าซ้ือท่ีคา้ งและค่าเสียหายใหแ้ ก่โจทก์ 6.3.3 ผ้ใู ห้เช่าซื้อบอกเลกิ สัญญา เป็นไปตามมาตรา 574 ซ่ึงบญั ญตั ิวา่ “ในกรณีผดิ นดั ไม่ใชเ้ งินสองคราวติด ๆ กนั หรือกระทาํ ผดิ สัญญาในขอ้ ท่ีเป็ นส่วนสาํ คญัเจา้ ของทรัพยส์ ินจะบอกเลิกสัญญาเสียก็ได้ ถา้ เช่นน้นั บรรดาเงินที่ไดใ้ ชม้ าแลว้ แต่ก่อน ใหร้ ิบเป็ นของเจา้ ของทรัพยส์ ินและเจา้ ของทรัพยส์ ินชอบท่ีจะกลบั เขา้ ครองทรัพยส์ ินน้นั ไดด้ ว้ ย อน่ึง ในกรณีกระทาํ ผิดสัญญาเพราะผิดนดั ไม่ใชเ้ งินซ่ึงเป็ นคราวที่สุดน้นั ท่านว่าเจา้ ของทรั พย์สิ นชอบที่ จะริ บบรรดาเงิ นที่ได้ใช้มาแล้วแต่ก่ อนและกลับเข้าครองทรัพย์สิ นได้ต่อเมื่ อระยะเวลาใชเ้ งินไดพ้ น้ กาํ หนดไปอีกงวดหน่ึง” ดงั ไดก้ ล่าวมาแลว้ วา่ ถา้ ผูเ้ ช่าซ้ือจะบอกเลิกสัญญายอ่ มทาํ ไดท้ ุกเวลาและไม่จาํ เป็ นตอ้ งให้เหตุผลแห่งการเลิกสัญญา แต่ในส่วนผูใ้ ห้เช่าซ้ือน้นั จะบอกเลิกสัญญาตามอาํ เภอใจเช่นผูเ้ ช่าซ้ือไม่ได้ อย่างไรก็ตาม กฎหมายก็มิได้ตัดสิทธิผูใ้ ห้เช่าซ้ือท่ีจะบอกเลิกสัญญาเช่าซ้ือเสียทีเดียวโดยเฉพาะอยา่ งยิ่งในกรณีที่ผเู้ ช่าซ้ือไม่ชาํ ระเงินค่าเช่าซ้ือหรือกระทาํ ผิดขอ้ สัญญาในขอ้ ท่ีเป็ นส่วนสาํ คญั กรณแี รก ผ้เู ช่าซื้อผดิ นัดไม่ชาระเงินสองคราวติดๆ กนั ผ้ใู ห้เช่าซื้อมสี ิทธิเลกิ สัญญาได้ ดงั น้นั การท่ีผเู้ ช่าซ้ือผดิ นดั ไมช่ าํ ระค่าเช่าซ้ือเพียงคราวเดียว หรือผดิ นดั ไม่ชาํ ระค่าเช่าซ้ือ 2คราว แต่ไมต่ ิดตอ่ กนั ผใู้ หเ้ ช่าซ้ือก็จะเลิกสัญญาโดยอาศยั มาตรา 574 น้ีไม่ได้ คงจะมีสิทธิก็แต่เพียงเรียกคา่ เสียหาย เช่น ดอกเบ้ียในคา่ เช่าซ้ือท่ีคา้ งชาํ ระ คาพิพากษาศาลฎีกาที่ 691/2501 เมื่อเลิกสัญญาเช่าซ้ือและผูใ้ ห้เช่าซ้ือยอมรับรถคืนเลิกสญั ญาเช่าซ้ือ สัญญาเช่าซ้ือใชบ้ งั คบั ได้ เม่ือผเู้ ช่าซ้ือรับวา่ ตอ้ งชาํ ระค่าเช่าจริงผูใ้ หเ้ ช่าซ้ือก็มีสิทธิได้ค่าเช่าซ้ืองวดที่คา้ งชาํ ระมาก่อนตามขอ้ ตกลงเดิมในสัญญาเช่าซ้ือซ่ึงไดท้ าํ ไว้
205 คาพพิ ากษาศาลฎกี าที่ 1459/2522 ขณะจาํ เลยที่ 1 ทาํ สญั ญารับช่วงสัญญาเช่าซ้ือต่อจากสามีซ่ึงถึงแก่กรรมน้นั มีค่าเช่าซ้ือที่คา้ งส่งอยแู่ ลว้ รวม 10 งวด การท่ีโจทกต์ กลงให้จาํ เลยท่ี 1 ปฏิบตั ิตามสัญญาต่อไป เห็นไดว้ า่ โจทก์ไม่ประสงคท์ ี่จะบอกเลิกสัญญาเพราะเหตุผิดนดั ไม่ชาํ ระค่าเช่าซ้ือ 10งวดน้นั แลว้ เม่ือจาํ เลยท่ี 1 ทาํ สญั ญารับช่วงสญั ญาเช่าซ้ือ แลว้ ผดิ นดั ไมช่ าํ ระค่าเช่าซ้ืออีกเพียง 1 งวดจึงไม่ใช่เป็ นการผดิ นดั ชาํ ระค่าเช่าซ้ือสองคราวติดกนั โจทก์ไม่มีสิทธิบอกเลิกสัญญา และกลบั เขา้ครองทรัพยส์ ินน้นั พร้อมกบั เรียกคา่ ใชท้ รัพยส์ ิน ตามประมวลกฎหมายแพง่ และพาณิชย์ มาตรา 574และมาตรา 391 วรรคสาม ในกรณีท่ีผเู้ ช่าซ้ือชาํ ระเงินค่าเช่าซ้ือมาตลอดจนงวดสุดทา้ ยแลว้ เกิดผดิ นดั ไม่ชาํ ระค่าเช่าซ้ือในกรณีน้ีผูใ้ หเ้ ช่าซ้ือจะบอกเลิกสัญญาไดโ้ ดยการกลบั เขา้ ครอบครองทรัพยส์ ินที่เช่าซ้ือและริบเงินคา่ เช่าซ้ือท่ีผเู้ ช่าซ้ือไดจ้ ่ายมาก่อนได้ กต็ อ่ เม่ือระยะเวลาใชเ้ งินไดผ้ า่ นพน้ ไปอีกงวดหน่ึง เช่น นาย ก. เช่าซ้ือรถยนตจ์ ากนาย ข. โดยทาํ สัญญาเช่าซ้ือเป็ นหนงั สือ และกาํ หนดส่งค่าเช่าซ้ือเดือนละ 5,000 บาท ทุกวนั ท่ี 1 ของเดือน เป็ นเวลา 30 เดือน ต่อมาเมื่อเช่าซ้ือกนั ได้ 29 เดือนนาย ก. ผิดนดั ไม่ชาํ ระค่าเช่าซ้ือในงวดท่ี 30 เช่นน้ี หากนาย ข. ตอ้ งการจะเลิกสัญญาเพราะเหตุน้ีนาย ข. จะตอ้ งรอระยะเวลาใชเ้ งินไดพ้ น้ กาํ หนดไปอีกงวดหน่ึง คือรอใหพ้ น้ วนั ท่ี 1 ของเดือนท่ีถดัจากงวดที่ 30 ไปก่อน ข้อสังเกต (1) การคา้ งชาํ ระค่าเช่าซ้ือแตกต่างกบั การผดิ นดั ไม่ชาํ ระค่าเช่าซ้ือ เพราะในบางกรณีผูเ้ ช่าซ้ืออาจคา้ งชาํ ระค่าเช่าซ้ือ แต่อาจจะไม่ผดิ นดั ชาํ ระค่าเช่าซ้ือก็ได้ เช่น ในกรณีผเู้ ช่าซ้ือนาํ ค่าเช่าซ้ือไปชาํ ระแลว้ แต่ผใู้ หเ้ ช่าซ้ือไม่ยอมรับ หรือในกรณีท่ีผใู้ หเ้ ช่าซ้ือมีหนา้ ท่ีไปเก็บค่าเช่าซ้ือแลว้ ไม่ไปเกบ็ หรือมีเหตุผลอ่ืนท่ีผเู้ ช่าซ้ือมีสิทธิไม่ชาํ ระคา่ เช่าซ้ือได้ คาพิพากษาศาลฎีกาที่ 6185/2540 ท่ีดินท่ีโจทก์เช่าซ้ือจากจาํ เลยเป็ นที่ดินไม่มีทางออกสู่ทางสาธารณะ แมใ้ นสัญญาจาํ เลยตกลงจะทาํ ถนนใหโ้ จทก์ไวเ้ ป็ นทางเขา้ ออกซ่ึงจาํ เลยไดท้ าํ เสร็จแลว้ ก็ตามแต่จาํ เลยก็ไดโ้ อนถนนดงั กล่าวใหแ้ ก่ ค. โจทกจ์ ึงอาจไดร้ ับความเดือดร้อนเสียหายไดห้ ากค. ไม่ยินยอมให้โจทก์ใช้ถนนดงั กล่าว ดงั น้ันก่อนท่ีจาํ เลยโอนขายที่ดินให้ ค.จาํ เลยสามารถจะแบ่งแยกท่ีดินส่วนที่ทาํ เป็ นถนนออกก่อนหรือหากจาํ เป็ นตอ้ งโอนท่ีดินส่วนน้ีใหต้ ิดไปกบั ท่ีดินที่จาํ เลยโอนขายให้แก่ ค. ก็ควรทาํ ดว้ ยประการใด ๆเพื่อให้ ค. มีความผูกพนั ตามกฎหมายที่ตอ้ งยอมรับสิทธิของโจทก์ที่จะเขา้ ออกจากท่ีดินท่ีเช่าซ้ือไปสู่ทางสาธารณะไดต้ ่อไปไวด้ ว้ ยแมว้ ่าตามสัญญาเช่าซ้ือจะไม่ได้กาํ หนดให้จาํ เลยตอ้ งไปจดทะเบียน ภาระจาํ ยอมก็ตามแต่จาํ เลยหาได้ทาํเช่นน้นั ไม่ เม่ือโจทกแ์ จง้ ใหจ้ าํ เลย จดั การเรื่องถนนใหเ้ รียบร้อย จาํ เลยกไ็ มจ่ ดั การ เหตุการณ์ดงั กล่าวเกิดข้ึนระหวา่ งการปฏิบตั ิตามสัญญาเช่าซ้ือ หากโจทก์ชาํ ระค่าเช่าซ้ือ ให้แก่จาํ เลยจนเสร็จสิ้นก็ไม่แน่วา่ จาํ เลยจะจดั การกบั ปัญหาที่จาํ เลย ก่อข้ึนให้เรียบร้อยให้แก่โจทก์ได้ การท่ีโจทก์หน่วงเหน่ียวยงั ไม่ชาํ ระค่าเช่าซ้ือส่วนท่ีเหลือให้แก่จาํ เลยจึงนบั ไดว้ า่ มีเหตุสมควร ถือไม่ไดว้ า่ โจทก์ผิดสัญญา
206เช่าซ้ือ ดงั น้นั เมื่อโจทก์ พร้อมที่จะรับโอนที่ดินท่ีเช่าซ้ือและชาํ ระราคาส่วนที่เหลือให้แก่ จาํ เลยจาํ เลยก็ตอ้ งโอนใหโ้ จทกแ์ ละรับชาํ ระราคาส่วนท่ีเหลือ (2) มาตรา 574 มิใช่บทบัญญัติที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ดงั น้นั คู่สัญญาจึงสามารถตกลงยกเวน้ เป็ นอยา่ งอื่นได้ เช่น กาํ หนดวา่ ถา้ ผเู้ ช่าซ้ือผิดนดัไม่ชาํ ระเงินค่าเช่าซ้ืองวดใดงวดหน่ึง ผใู้ หเ้ ช่าซ้ือมีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้ คาพพิ ากษาศาลฎกี าที่ 1192/2501 ขอ้ สญั ญาวา่ ผเู้ ช่าซ้ือไมช่ าํ ระคา่ เช่าซ้ืองวดใด ผูใ้ หเ้ ช่าซ้ือเลิกสญั ญาและริบเงินที่ชาํ ระแลว้ ไดน้ ้นั ใชบ้ งั คบั ได้ ไม่ขดั กบั มาตรา 574 ซ่ึงเป็ นบทบญั ญตั ิท่ีใชเ้ มื่อคู่สญั ญาไมต่ กลงกนั ไว้ คาพิพากษาศาลฎีกาท่ี 1617/2515 สัญญาเช่าซ้ือมีขอ้ ตกลงวา่ ในวนั ทาํ สัญญา ผูเ้ ช่าซ้ือได้ชาํ ระค่าเช่าซ้ือให้ผูใ้ ห้เช่าซ้ือแลว้ ส่วนหน่ึง ส่วนค่าเช่าที่เหลือจะชาํ ระในวนั ท่ีกาํ หนดในสัญญาอีกงวดหน่ึง ถือไดว้ า่ ไดม้ ีการตกลงชาํ ระค่าเช่าซ้ือกนั เป็ น 2 งวด และขอ้ ตกลงวา่ ถา้ ผูเ้ ช่าซ้ือผิดนดั ไม่ชาํ ระค่าเช่าซ้ืองวดใดงวดหน่ึงให้ถือวา่ ผิดนดั สัญญาเช่าซ้ือท้งั หมดไม่ขดั ต่อมาตรา 574 วรรคสองแห่งประมวลกฎหมายแพง่ และพาณิชย์ คาพพิ ากษาศาลฎกี าที่ 1816/2511 โจทกเ์ ช่าซ้ือรถจากจาํ เลย การท่ีโจทกม์ ิไดช้ าํ ระเงินงวด 1ตามสัญญาถือวา่ โจทกผ์ ิดนดั ผิดสัญญา ฝ่ ายจาํ เลยยอ่ มมีสิทธิริบเงินดาวน์ และยึดรถพิพาทคืนตามขอ้ ตกลงโดยชอบดว้ ยกฎหมาย แมโ้ จทกจ์ ะไดร้ ับความเสียหาย จาํ เลยก็ไม่ตอ้ งรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทน สัญญาเช่าซ้ือรถระบุวา่ ถา้ ผดิ นดั ชาํ ระเงินงวดใดงวดหน่ึงยอมใหย้ ึดรถคืน ดงั น้ีเมื่อผเู้ ช่าซ้ือผดิ นดั ชาํ ระเงินงวดท่ี 1 ผใู้ หเ้ ช่าซ้ือกม็ ีสิทธิยดึ รถคืนได้ และการยดึ รถพพิ าทคืน ยอ่ มรวมถึงตวั ถงั รถซ่ึงเป็ นส่วนควบดว้ ย แต่ผูใ้ ห้เช่าซ้ือตอ้ งชดใชร้ าคาตวั ถงั รถใหแ้ ก่ผเู้ ช่าซ้ือ เม่ือหกั ค่าเส่ือมราคาจากราคาค่าตอ่ ตวั ถงั แลว้ (3) เม่ือผูเ้ ช่าซ้ือไม่ชาํ ระค่าเช่าซ้ือตามสัญญา และผูใ้ ห้เช่าซ้ือบอกเลิกสัญญาแลว้ นอกจากผูใ้ ห้เช่าซ้ือจะมีสิทธิเอาทรัพยค์ ืนและริบเงินค่าเช่าซ้ือท่ีชาํ ระไปแล้ว ผูเ้ ช่าซ้ือยงั ตอ้ งรับผิดชดใช้คา่ เสียหายใหแ้ ก่ผใู้ หเ้ ช่าซ้ือตามที่ตกลงไวใ้ นสัญญาดว้ ย คาพิพากษาศาลฎีกาท่ี 5363/2545 โจทก์กบั จาํ เลยท่ี 1 ตกลงกนั ตามสัญญาเช่าซ้ือว่า ถ้าจาํ เลยท่ี 1 ผิดนดั ไม่ชาํ ระเงินใด ๆ จาํ เลยท่ี 1 ยอมให้ผูแ้ ทนหรือลูกจา้ งของโจทก์เขา้ ไปยงั สถานที่ของจาํ เลยท่ี 1เพ่ือยดึ รถยนตไ์ ดไ้ มว่ า่ โจทกจ์ ะไดบ้ อกเลิกสัญญากบั จาํ เลยที่ 1 แลว้ หรือไม่ก็ตาม การที่โจทก์ติดตามยึดรถยนตท์ ี่เช่าซ้ือคืนจากจาํ เลยท่ี 1 จึงเป็ นกรณีที่โจทกส์ ามารถกระทาํ ไดโ้ ดยที่ยงัมิไดม้ ีการบอกเลิกสัญญากนั และต่อมาภายหลงั โจทกจ์ ึงไดบ้ อกเลิกสัญญาแก่จาํ เลยที่ 1 โดยที่จาํ เลยที่ 1 เป็ นฝ่ ายผิดสัญญา จาํ เลยท้งั สองจึงตอ้ งรับผิดชดใชค้ ่าเสียหายอนั เป็ นค่าขาดราคารถยนต์แก่โจทก์
207 (4) ในกรณีท่ีมีขอ้ ตกลงเกี่ยวกบั การเลิกสัญญาเช่าซ้ือ เม่ือผูเ้ ช่าซ้ือผิดนดั ไม่ชาํ ระค่าเช่าซ้ือแต่หากวา่ คู่สัญญามิไดถ้ ือเอาขอ้ ตกลงน้ีเป็ นการเคร่งครัด หากผูใ้ ห้เช่าซ้ือจะใชส้ ิทธิเลิกสัญญาในกรณีดงั กล่าว กต็ อ้ งปฏิบตั ิตามประมวลกฎหมายแพง่ และพาณิชย์ มาตรา 387 ก่อน มาตรา 387 บญั ญตั ิว่า “ถา้ คู่สัญญาฝ่ ายหน่ึงไม่ชาํ ระหน้ี อีกฝ่ ายหน่ึงจะกาํ หนดระยะเวลาพอสมควร แลว้ บอกกล่าวให้ฝ่ ายน้นั ชาํ ระหน้ีภายในระยะเวลาน้นั ก็ได้ ถา้ และฝ่ ายน้นั ไม่ชาํ ระหน้ีภายในระยะเวลาท่ีกาํ หนดใหไ้ ซร้ อีกฝ่ ายหน่ึงจะเลิกสัญญาเสียก็ได”้ คาพิพากษาศาลฎีกาที่ 3408//2530 สัญญาเช่าซ้ือระบุว่า การชําระค่าเช่าซ้ือตรงตามกาํ หนดเวลาเป็ นสาระสาํ คญั ของสัญญา ถา้ ผเู้ ช่าซ้ือผิดนดั คา้ งชาํ ระค่าเช่าซ้ือสองงวดติดต่อกนั หรือผิดนัดคา้ งชาํ ระค่าเช่าซ้ือต้งั แต่สองงวดข้ึนไป ให้สัญญาเช่าซ้ือเป็ นอนั ยกเลิกเพิกถอนทนั ที แต่ในทางปฏิบตั ิเมื่อจาํ เลยผูเ้ ช่าซ้ือมิได้ชาํ ระค่าเช่าซ้ือให้โจทก์ตรงตามกาํ หนดที่ระบุไวใ้ นสัญญาตลอดมา โจทกก์ ย็ อมรับชาํ ระโดยมิไดอ้ ิดเอ้ือน จึงเห็นไดว้ า่ โจทก์และจาํ เลยมิไดม้ ีเจตนาที่จะถือเอากาํ หนดเวลาตามสัญญาเช่าซ้ือเป็ นสาระสําคญั หากโจทก์ประสงค์จะเลิกสัญญาเช่าซ้ือกับจาํ เลยโจทกต์ อ้ งปฏิบตั ิตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 387 กล่าวคือตอ้ งบอกกล่าวกาํ หนดระยะเวลาพอสมควรให้จาํ เลยชาํ ระค่าเช่าซ้ืองวดท่ีติดคา้ งอยูต่ ่อเม่ือจาํ เลยไม่ชาํ ระค่าเช่าซ้ือภายในระยะเวลาท่ีกาํ หนดน้นั โจทกจ์ ึงจะบอกเลิกสญั ญาได้ คาพพิ ากษาศาลฎีกาที่ 876/2534 แมส้ ัญญาเช่าซ้ือระหวา่ งโจทกก์ บั จาํ เลยท่ี 1 จะมีขอ้ ตกลงวา่ หากโจทก์ผิดนดั ไม่ชาํ ระค่าเช่าซ้ือสองงวดติดต่อกนั ถือว่าสัญญาเช่าซ้ือเลิกกนั โดยไม่ตอ้ งบอกกล่าว แต่เม่ือโจทก์เคยผดิ นดั ไม่ชาํ ระค่าเช่าซ้ือสองงวดต่อกนั แลว้ จาํ เลยที่ 1 ยงั ยอมรับค่าเช่าซ้ือท่ีคา้ งชาํ ระและคืนรถยนต์ท่ียึดแก่โจทก์ ถือว่าจาํ เลยท่ี 1มิไดถ้ ือเอากาํ หนดเวลาชาํ ระค่าเช่าซ้ือตามสัญญาเป็ นสาระสําคญั อีกต่อไปเมื่อจาํ เลยท่ี 1 จะเลิกสัญญาเช่าซ้ือจะตอ้ งบอกกล่าวแก่โจทก์ตามป.พ.พ. มาตรา 387 ก่อน กรณที ส่ี อง ผ้เู ช่าซื้อกระทาผดิ ข้อสัญญาในข้อทเี่ ป็ นส่วนสาคัญ นอกจากการผิดนัดไม่ชาํ ระค่าเช่าซ้ือแลว้ ที่มาตรา 574 ให้สิทธิแก่ผูใ้ ห้เช่าซ้ือที่จะบอกเลิกสัญญาได้ ยงั มีกรณีท่ีผูเ้ ช่าซ้ือผิดขอ้ สัญญาท่ีตกลงไวก้ บั ผูใ้ ห้เช่าซ้ือ ผูใ้ ห้เช่าซ้ือก็มีสิทธิบอกเลิกสญั ญาไดเ้ ช่นกนั แตข่ อ้ สญั ญาขอ้ น้นั จะตอ้ งเป็นขอ้ ที่เป็นส่วนสาํ คญั มิใช่เป็นขอ้ สัญญาปลีกยอ่ ย ซ่ึงอยา่ งไรเป็นขอ้ สญั ญาที่เป็นขอ้ ที่เป็นส่วนสาํ คญั ก็จะตอ้ งพจิ ารณาขอ้ เทจ็ จริงเป็นกรณีๆ ไป เช่น นาย ก. ทาํ สัญญาเช่าซ้ือรถยนต์จากนาย ข. โดยในสัญญามีขอ้ กาํ หนดอยู่ขอ้ หน่ึงว่านาย ก. จะนาํ รถยนต์ไปว่ิงแข่งขนั ในการแข่งขนั ใดๆ ไม่ได้ หรือกาํ หนดว่าห้ามนาํ รถยนต์คนัดงั กล่าวไปให้บุคคลอ่ืนเช่าซ้ือต่อ เช่นน้ี หากปรากฏวา่ นาย ก. ฝ่ าฝื นขอ้ สัญญาดงั กล่าว นาย ข. ก็มีสิทธิบอกเลิกสัญญาไดต้ ามมาตรา 574 เพราะถือวา่ เป็นขอ้ กาํ หนดท่ีสาํ คญั แต่ถา้ ในสัญญาเช่าซ้ือกาํ หนดวา่ “ถา้ นาํ รถยนตอ์ อกนอกเขตท่ีระบุ ตอ้ งไดร้ ับอนุญาตเป็ นหนงั สือ ผิดสัญญาขอ้ น้ีบอกเลิกสัญญาได”้ หากต่อมาแมผ้ ูเ้ ช่าซ้ือฝ่ าฝื นขอ้ สัญญาดงั กล่าว ผูใ้ ห้เช่า
208ซ้ือก็ไม่สามารถบอกเลิกสัญญาได้ เน่ืองจากขอ้ สัญญาขอ้ น้ีไม่ใช่ขอ้ สัญญาที่เป็ นส่วนสําคญั (คาํพพิ ากษาศาลฎีกาท่ี 3186/2522) ในทางปฏิบตั ิ การปล่อยให้เกิดปัญหากาํ กวมว่าขอ้ สัญญาขอ้ ใดเป็ นขอ้ ที่เป็ นส่วนสําคญัหรือไม่น้นั ผูใ้ ห้เช่าซ้ือเองไม่ตอ้ งการ ผูใ้ ห้เช่าซ้ือจึงมกั จะระบุในสัญญาเช่าซ้ือปิ ดทา้ ยสัญญาว่า“ขอ้ กาํ หนดทุกขอ้ เป็นขอ้ กาํ หนดท่ีเป็นเรื่องสาํ คญั ทุกขอ้ ” เพื่อจะไดม้ ีสิทธิเลิกสัญญาได1้ 28 ผลของการบอกเลกิ สัญญาตามมาตรา 574 มีอยู่ 2 ประการ คือ ผลประการแรก คือ ผูใ้ ห้เช่าซ้ือมีสิทธิริบบรรดาเงินท่ีผูเ้ ช่าซ้ือได้ชาํ ระมาแล้วแต่ก่อนได้ท้งั หมด รวมท้งั เงินดาวน์ ซ่ึงถือวา่ เป็นค่าเช่าซ้ือส่วนหน่ึงดว้ ย โดยมาตรา 574 ไดก้ าํ หนดไวเ้ ป็ นการเฉพาะท่ีไม่ตอ้ งนาํ หลกั การกลบั คืนสู่ฐานะเดิมหลงั การเลิกสัญญาตามมาตรา 391 มาใช้ในเร่ืองค่าเช่าซ้ือที่ไดร้ ับชาํ ระมาแลว้ ท้งั น้ีเพราะผเู้ ช่าซ้ือเป็นฝ่ ายผดิ สัญญา ปัญหา คือ ผูใ้ ห้เช่าซ้ือมีสิทธิเรียกร้องเอาเงินค่าเช่าซ้ือที่ผูเ้ ช่าซ้ือยงั คงคา้ งชาํ ระอยู่ก่อนที่ผใู้ หเ้ ช่าซ้ือจะไดบ้ อกเลิกสัญญาไดห้ รือไม?่ เร่ืองน้ีเคยมีคาํ วนิ ิจฉยั ของศาลฎีกา คือ คาํ พิพากษาศาลฎีกาท่ี 691/2501 ตดั สินวา่ “เมื่อผูเ้ ช่าซ้ือผิดสัญญาไม่ชาํ ระค่าเช่าซ้ือกว่า 2 คราวติดๆ กนั ผูใ้ ห้เช่าซ้ือบอกเลิกสัญญาเอาทรัพยค์ ืน และเรียกค่าเช่าซ้ือท่ีคา้ งชาํ ระจนถึงวนั เลิกสัญญาได”้ แต่ต่อมาไดม้ ีแนวคาํ พิพากษาของศาลวินิจฉยั วา่ ผูใ้ ห้เช่าซ้ือจะเรียกเอาเงินที่คา้ งชาํ ระอีกไมไ่ ด้ คงมีสิทธิเรียกคา่ ใชท้ รัพยต์ ลอดเวลาที่ผเู้ ช่าซ้ือยงั ครอบครองทรัพยส์ ินอยู่ และเรียกค่าเสียหายหากทรัพยส์ ินที่เช่าซ้ือเสียหายเพราะเหตุอื่นนอกเหนือไปจากการใชท้ รัพยโ์ ดยชอบ คาพพิ ากษาศาลฎกี าท่ี 1195/2511 (ญ) สัญญาเช่าซ้ือขอ้ 6 กาํ หนดไวว้ า่ ถา้ จาํ เลยผูเ้ ช่าซ้ือผิดนดั โจทกผ์ ูใ้ ห้เช่าซ้ือเขา้ ครอบครองรถและเลิกสัญญาได้ เงินที่ส่งชาํ ระมาแลว้ ยอมให้โจทก์ริบ ค่าเช่าท่ียงั คา้ งอยูจ่ ะชาํ ระให้จนครบ ส่วนค่าเสียหายจาํ เลยยอมรับผิดชอบ รถท่ีคืนจาํ เลยยินยอมให้โจทก์จาํ หน่ายหากไดร้ าคาไม่ครบถว้ น จาํ เลยตอ้ งชดใชเ้ งินที่ขาด ความตอนทา้ ยที่เกี่ยวกบั การให้จาํ หน่ายรถน้ัน เป็ นวิธีการกาํ หนดและชดใช้ค่าเสียหายอย่างหน่ึง ซ่ึงเมื่อจาํ หน่ายรถ จะทราบจาํ นวนค่าเสียหายที่แน่นอน แมย้ งั ไม่จาํ หน่ายรถ โจทกก์ ็มีสิทธิเรียกค่าเสียหายซ่ึงจาํ เลยตอ้ งรับผิดอยแู่ ลว้ โดยพิสูจน์ไดจ้ ากพยานหลกั ฐาน กรณีจาํ เลยผูเ้ ช่าซ้ือผิดนดั ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 574 มิไดบ้ ญั ญตั ิให้สิทธิโจทก์โดยแจง้ ชดั นอกเหนือไปจากการกลบั เขา้ ครองทรัพยส์ ินและริบเงินท่ีจาํ เลยส่งแลว้ ถ้าโจทก์ยงั มีสิทธิเรียกเงินค่าเช่าซ้ือท่ีคา้ งชาํ ระจนเต็มจาํ นวนดว้ ย ก็ไม่มีเหตุที่กฎหมายจะบญั ญตั ิไว้เพียงใหร้ ิบเงินท่ีส่งใชแ้ ลว้ ก่อนเลิกสญั ญา 128 อา้ งแลว้ , เชิงอรรถที่ 105, น.305.
209 แมจ้ าํ เลยจะผดิ นดั หากโจทกเ์ รียกร้องเงินค่าเช่าซ้ือที่คา้ งชาํ ระ โจทกย์ อ่ มมีสิทธิไดร้ ับเพียงค่าเสียหาย ซ่ึงตามปกติคือดอกเบ้ีย เวน้ แต่จะพิสูจน์ความเสียหายอยา่ งอื่นไดอ้ ีกดว้ ย ไม่ใช่โจทก์เรียกร้องไดท้ ้งั เงินค่าเช่าซ้ือเตม็ จาํ นวน แลว้ ยงั เอารถกลบั คืนท้งั คนั เป็นสองตอ่ เมื่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 574 มิได้บญั ญตั ิไว้ ยอ่ มแสดงวา่ กฎหมายประสงคป์ ล่อยใหค้ วามรับผดิ ของจาํ เลยอยภู่ ายใตบ้ ทบญั ญตั ิในเรื่องหน้ีโดยทวั่ ไป กล่าวคือ โจทก์มีสิทธิไดร้ ับค่าสินไหมทดแทน เพราะจาํ เลยไม่ชาํ ระหน้ี จนเป็นเหตุใหโ้ จทกบ์ อกเลิกสญั ญา เมื่อโจทกบ์ อกเลิกสญั ญาเช่าซ้ือแลว้ คาํ มนั่ จะขายท่ีโจทกใ์ ห้ไวย้ อ่ มสิ้นไป โจทกจ์ ะเรียกค่าเช่าซ้ือที่คา้ งชาํ ระเต็มจาํ นวนดุจเป็ นค่าตอบแทนการโอนกรรมสิทธ์ิในรถเสมือนราคาไม่ได้ คงมีสิทธิเรียกได้เพียงค่าท่ีจาํ เลยไดใ้ ช้รถของโจทก์มาตลอดระยะเวลาที่จาํ เลยยงั ครอบครองรถของโจทกอ์ ยเู่ ทา่ น้นั หากรถที่คืนมาเสียหาย ซ่ึงจาํ เลยจะตอ้ งรับผิดนอกเหนือจากการใชร้ ถโดยชอบ โจทก์ก็มีสิทธิเรียกค่าสินไหมทดแทนเพอ่ื เหตุน้นั ได้ สัญญาเช่าซ้ือขอ้ 6 ท่ีว่า ใหโ้ จทกม์ ีสิทธิไดร้ ับเงินที่ยงั คา้ งส่งเตม็ จาํ นวนท้งั ใหจ้ าํ เลยรับผิดในความเสียหายเนื่องจากเลิกสัญญาดว้ ยน้นั เป็นขอ้ สัญญาที่ระบุความรับผดิ ในการท่ีจาํ เลยไม่ชาํ ระหน้ีไวล้ ่วงหนา้ ไม่ใช่ขอ้ สญั ญาท่ีกาํ หนดค่าเช่าตามปกติ หรือค่าใชท้ รัพยโ์ ดยแทแ้ ต่รวมราคาขายรถไวส้ ่วนหน่ึงด้วย ข้อตกลงเช่นน้ีจึงไม่ใช่ข้อตกลงเป็ นข้อกาํ หนดค่าตอบแทนการใช้ทรัพย์ไว้ล่วงหน้า แต่มีลกั ษณะเป็ นการกาํ หนดเบ้ียปรับถา้ หากกาํ หนดไวส้ ูงเกินส่วน ศาลอาจลดลงเป็ นจาํ นวนท่ีพอสมควรได้ คาพพิ ากษาศาลฎกี าท่ี 601/2513 กรณีเม่ือมีการผิดสัญญาเช่าซ้ือ ผูใ้ ห้เช่าซ้ือมีสิทธิเพียงริบค่าเช่าซ้ือที่รับไวก้ บั เรียกร้องทรัพยท์ ี่เช่าซ้ือคืนเท่าน้นั จะเรียกค่าเช่าซ้ือท่ีคา้ งชาํ ระอีกดว้ ยมิได้ จะเรียกไดอ้ ีกก็แต่เพียงเป็ นค่าเสียหายที่ผูเ้ ช่าซ้ือได้ใช้ทรัพยข์ องผูใ้ ห้เช่าซ้ืออยู่ตลอดเวลาที่ผูเ้ ช่าซ้ือครอบครองทรัพยท์ ี่เช่าซ้ืออยูต่ ามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 391 วรรคสาม กบัค่าเสียหายเพราะเหตุอื่นอนั ผูเ้ ช่าซ้ือตอ้ งรับผิดชอบนอกเหนือไปจากค่าเสียหายอนั เกิดแต่การใช้ทรัพยน์ ้นั โดยชอบ ตามประมวลกฎหมายแพง่ และพาณิชยม์ าตรา 562 เท่าน้นั คาพิพากษาศาลฎกี าที่ 985/2532 ในกรณีที่มีการเลิกสัญญาเช่าซ้ือเพราะผเู้ ช่าซ้ือผิดนดั ไม่ชาํ ระค่าเช่าซ้ือน้นั ผใู้ หเ้ ช่าซ้ือมีสิทธิเขา้ ครอบครองรถยนตค์ นั ที่เช่าซ้ือ ริบเงินคา่ เช่าซ้ือที่ส่งแลว้ และมีสิทธิเรียกค่าใชท้ รัพยต์ ลอดเวลาท่ีผเู้ ช่าซ้ือครอบครองทรัพยอ์ ยูภ่ ายหลงั จากการเลิกสัญญาตามนยัแห่งประมวลกฎหมายแพง่ และพาณิชย์ มาตรา 391 วรรคสามและถา้ ทรัพยส์ ินที่คืนมาเสียหาย ผเู้ ช่าซ้ือต้องรับผิดนอกเหนือไปจากความเสียหายอนั เกิดจากการใช้ทรัพยโ์ ดยชอบ และตอ้ งรับผิดสาํ หรับคา่ ใชจ้ ่ายในการติดตามเอารถยนตท์ ่ีเช่าซ้ือคืนมาใหแ้ ก่ผใู้ หเ้ ช่าซ้ือดว้ ย
210 อยา่ งไรก็ตาม ถา้ หากวา่ สัญญาเช่าซ้ือมีขอ้ ตกลงวา่ เม่ือสัญญาเช่าซ้ือสิ้นสุดลง ผูเ้ ช่าซ้ือตอ้ งชาํ ระค่าเช่าซ้ือท่ีคา้ งอยู่ท้งั หมด ขอ้ ตกลงน้ีใช้บงั คบั ได้ แต่ศาลฎีกาถือว่าเป็ นการกาํ หนดเบ้ียปรับหากสูงเกินไปศาลชอบท่ีจะลดลงได้ คาพิพากษาศาลฎีกาท่ี 511/2512 ขอ้ ตกลงในสัญญาเช่าซ้ือที่วา่ ยอมใหผ้ ูใ้ ห้เช่าซ้ือริบเงินท่ีคา้ งชาํ ระก็เทา่ กบั กาํ หนดเงินเบ้ียปรับหรือค่าเสียหายไวล้ ่วงหนา้ หากเบ้ียปรับท่ีริบน้นั สูงเกินส่วนก็ชอบท่ีจะลดลงเป็นจาํ นวนพอสมควรแก่ความเป็นธรรมได้ คาพิพากษาศาลฎีกาท่ี 4127/2532 ขอ้ สัญญาเช่าซ้ือซ่ึงมีขอ้ ความวา่ ถา้ ผูใ้ ห้เช่าซ้ือบอกเลิกสัญญาเช่าซ้ือหรือยึดทรัพยท์ ี่เช่าซ้ือคืน ผเู้ ช่าซ้ือยงั ตอ้ งรับผิดชดใช้เงินค่าเช่าซ้ือทุกงวดที่คา้ งชาํ ระพร้อมเบ้ียปรับร้อยละ 20 ของเงินดงั กล่าวน้นั เป็ นขอ้ กาํ หนดการชาํ ระค่าเช่าซ้ือระหวา่ งที่ยงั มิไดม้ ีการเลิกสัญญากนั พร้อมท้งั เบ้ียปรับกรณีผิดนดั ไม่ชาํ ระค่าเช่าซ้ือ มิใช่เป็ นเรื่องเกี่ยวกบั ความสงบเรียบร้อยของประชาชน ดงั น้นั เม่ือมีการเลิกสัญญากนั ผูเ้ ช่าซ้ือจึงมีหนา้ ท่ีชาํ ระค่าเช่าซ้ือก่อนเลิกสัญญาท้งั หมด ส่วนเบ้ียปรับสูงเกินส่วนศาลฎีกาใหล้ ดลงเป็นดอกเบ้ียร้อยละเจด็ คร่ึงตอ่ ปี คาพิพากษาศาลฎีกาที่ 5022/2540 ค่าเสียหายท่ีสัญญาเช่าซ้ือระบุว่า \"เมื่อสัญญาเช่าซ้ือสิ้นสุดลงเพราะผเู้ ช่าซ้ือผดิ นดั นอกจากยอมใหร้ ิบเงินท่ีชาํ ระไปแลว้ ยงั ตอ้ งชาํ ระค่าเช่าซ้ือที่คา้ งชาํ ระท้งั หมดดว้ ยน้นั \" เป็ นการกาํ หนดค่าเสียหายวิธีหน่ึงมีลกั ษณะเป็ นเบ้ียปรับ และไม่ขดั ต่อกฎหมายหรือความสงบเรียบร้อยของประชาชน สญั ญาเช่าซ้ือจึงไมเ่ ป็นโมฆะ ข้อสังเกต คา่ เช่าซ้ือท่ีคา้ งชาํ ระไมร่ วมถึงคา่ เช่าซ้ือท่ียงั ไมถ่ ึงกาํ หนดชาํ ระ ในขณะเม่ือเลิกสัญญา คาพพิ ากษาศาลฎกี าท่ี 859/2524 สัญญาเช่าซ้ือมีวา่ ในกรณีท่ีสัญญาน้ีตอ้ งสิ้นสุดลงผูเ้ ช่าซ้ือจะตอ้ งชาํ ระเงินค่าเช่าซ้ือท่ีคา้ งอยูท่ ้งั หมดให้ผใู้ ห้เช่าซ้ือจนครบ คาํ วา่ ค่าเช่าซ้ือท่ีคา้ งชาํ ระคือค่าเช่าซ้ือซ่ึงถึงกาํ หนดชาํ ระแลว้ ก่อนวนั ท่ีสัญญาเช่าซ้ือน้นั ตอ้ งสิ้นสุดลงและผเู้ ช่าซ้ือยงั ไม่ไดช้ าํ ระเท่าน้นัหาหมายถึงค่าเช่าซ้ือท้งั หมดทุกงวด รวมท้งั ค่าเช่าซ้ืองวดท่ีล่วงเลยกาํ หนดชาํ ระแลว้ แต่ผเู้ ช่าซ้ือยงัมิไดช้ าํ ระและค่าเช่าซ้ือท่ียงั ไม่ถึงกาํ หนดชาํ ระไม่ เพราะเม่ือสญั ญาเช่าซ้ือสิ้นสุดลงแลว้ ผเู้ ช่าซ้ือก็ไม่มีหนา้ ที่ตอ้ งชาํ ระค่าเช่าซ้ือสาํ หรับงวดตอ่ ไปอีก ผลประการทส่ี อง คือ มาตรา 574 กาํ หนดให้ผใู้ ห้เช่าซ้ือซ่ึงเป็ นเจา้ ของทรัพยส์ ินชอบท่ีจะกลบั เขา้ ครองทรัพยส์ ินท่ีใหเ้ ช่าซ้ือได้ ถา้ ผูเ้ ช่าซ้ือไม่คืนทรัพยส์ ินที่เช่าซ้ือให้แก่ผใู้ หเ้ ช่าซ้ือเม่ือสัญญาเช่าซ้ือระงบั ผูเ้ ช่าซ้ือก็ตอ้ งรับผดิ ชดใชค้ า่ เสียหายใหแ้ ก่ผใู้ หเ้ ช่าซ้ือ คาพิพากษาศาลฎีกาที่ 7812/2540 เม่ือสัญญาเช่าซ้ือระงบั จาํ เลยท่ี 1 ซ่ึงเป็ นผูเ้ ช่าซ้ือ มีหนา้ ท่ีตอ้ งส่งมอบรถยนตท์ ่ีเช่าซ้ือไปคืนแก่โจทก์ การท่ีจาํ เลยที่ 1 เพิกเฉย ไม่ส่งมอบรถคืน มีผลทาํใหโ้ จทกข์ าดประโยชน์ท่ีจะใชร้ ถน้นั จาํ เลยที่ 1 จึงตอ้ งชดใชค้ ่าเสียหายใหแ้ ก่โจทก์
211 คาพพิ ากษาศาลฎกี าที่ 550/2543 จาํ เลยท่ี 1 ไมส่ ่งมอบรถยนตท์ ่ีเช่าซ้ือคืนโจทก์ภายหลงั เมื่อโจทก์บอกเลิกสัญญา ความเสียหายจึงเกิดข้ึนแก่โจทก์ตลอดเวลาจนกว่าจาํ เลยท่ี 1 จะส่งมอบรถยนตค์ ืนโจทกห์ รือชดใชร้ าคา การที่ศาลอุทธรณ์ไม่กาํ หนดค่าเสียหายเป็ นค่าขาดประโยชน์ใหแ้ ก่โจทกน์ บั ถดั จากวนั ฟ้องไปจนกวา่ จาํ เลยที่ 1 จะส่งมอบรถยนตค์ ืนหรือชดใชร้ าคาจึงไม่ชอบโดยค่าเสียหายน้ีควรกาํ หนดระยะเวลาที่จาํ เลยท้งั สองต้องรับผิดไวด้ ้วยเพราะรถยนต์ที่เช่าซ้ือย่อมเส่ือมสภาพไปตามปกติของการใชท้ ้งั โจทกเ์ องก็ควรรีบเร่งในการบงั คบั คดี มิใช่มุ่งแต่จะบงั คบั เอาค่าเสียหายแก่จาํ เลยท้งั สองแต่ฝ่ ายเดียวโดยไม่มีเวลาสิ้นสุด 6.3.4 ทรัพย์สินทเ่ี ช่าซื้อสูญหายท้งั หมด สัญญาเช่าซ้ือก็เช่นเดียวกบั สัญญาเช่าทรัพยใ์ นขอ้ ที่ว่า หากทรัพยส์ ินที่เช่าซ้ือสูญหายไปท้งั หมด สญั ญาเช่าซ้ือเป็นอนั ระงบั ไป เพราะขาดวตั ถุแห่งหน้ี คาพพิ ากษาศาลฎีกาที่ 304/2522 จาํ เลยเช่าซ้ือรถยนตไ์ ปจากโจทก์ไดจ้ อดรถยนตท์ ่ีเช่าซ้ือไวท้ ี่ถนน แลว้ ถูกคนร้ายลกั ไปเมื่อถนนดงั กล่าวเป็ นท่ีจอดรถไดแ้ ละมีรถยนตค์ นั อื่นจอดอยู่หลายคนั ดงั น้ีจะเรียกวา่ จาํ เลยประมาทเลินเล่อไม่ไดเ้ มื่อรถดงั กล่าวถูกขโมยลกั ไปสัญญาเช่าซ้ือยอ่ มระงบัตามประมวลกฎหมายแพง่ และพาณิชย์ มาตรา 572 ประกอบดว้ ยมาตรา 567 จาํ เลยไม่ตอ้ งชาํ ระเงินค่าเช่าซ้ือหรือค่าเสียหายต้งั แต่งวดท่ีรถหายเป็นตน้ ไป โดยปกติแลว้ เมื่อทรัพย์สินท่ีเช่าซ้ือสูญหายไปท้งั หมด สัญญาเช่าซ้ือก็ยอ่ มระงบั และผเู้ ช่าซ้ือก็ไมต่ อ้ งชาํ ระค่าเช่าซ้ือต่อไป และถา้ ชาํ ระไปแลว้ ล่วงหนา้ ก็เรียกคืนได้ และในกรณีที่ทรัพยส์ ินสูญหายไปเพราะเหตุสุดวิสัย ผูเ้ ช่าซ้ือก็ไม่ตอ้ งรับผิดชอบชดใช้ราคา อยา่ งไรก็ตาม ในทางปฏิบตั ิปรากฏวา่ มีขอ้ ตกลงให้ผูเ้ ช่าซ้ือยงั คงตอ้ งรับผิดใชร้ าคาค่าเช่าซ้ือ หรือใชร้ าคาทรัพย์ ซ่ึงขอ้ ตกลงน้ีศาลฎีกาตดั สินวา่ ใชบ้ งั คบั ได้ คาพิพากษาศาลฎีกาที่ 979/2517 ขอ้ ความในสัญญามีวา่ 'แมส้ ัญญาฉบบั น้ีจะตอ้ งผา่ นการโอน การต่ออายุ หรือการเปล่ียนมืออยา่ งใด ๆ หรือตวั ยานยนต์อนั เป็ นวตั ถุแห่งสัญญาตอ้ งประสบความสูญเสีย เสียหายหรือยอ่ ยยบั ประการใดผซู้ ้ือกห็ าหลุดพน้ จากหนา้ ที่รับผดิ ตามสัญญาน้ีแต่อยา่ งใดไม่' ขอ้ ความในสัญญาดงั กล่าวมีความหมายว่า ผูซ้ ้ือจะตอ้ งรับผิดใช้ราคาให้แก่ผูข้ าย ไม่ว่ารถยนต์จะสูญหายไปดว้ ยเหตุใด ๆ ก็ตามจึงรวมถึงการสูญหายไปเพราะเหตุสุดวิสัยดว้ ย (ประชุมใหญค่ ร้ังท่ี 4,6/2517) ข้อสังเกต ในสัญญาเช่าทรัพยส์ ินน้นั หากปรากฏวา่ ผูเ้ ช่าตาย สัญญาเช่าย่อมระงบั ไป เพราะการเช่าเป็ นเร่ื องเฉพาะตัวของผู้เช่า สิทธิการเช่าไม่ตกทอดไปยังทายาท แต่ในสัญญาเช่าซ้ือน้ันวตั ถุประสงคแ์ ห่งสัญญามิไดอ้ ยูท่ ่ีเฉพาะการใชห้ รือการไดร้ ับประโยชน์ในทรัพยส์ ินที่เช่าเท่าน้นั ผู้เช่าเม่ือจา่ ยเงินค่าเช่าซ้ือครบถว้ นแลว้ กต็ อ้ งการไดร้ ับโอนกรรมสิทธ์ิในทรัพยส์ ินที่เช่าดว้ ย และสิทธิ
212น้ีไม่ใช่สิทธิเฉพาะตวั ดงั น้นั เม่ือผเู้ ช่าซ้ือตาย สัญญาเช่าซ้ือไม่ระงบั ทายาทของผูเ้ ช่าซ้ือจึงสืบสิทธิของผเู้ ช่าซ้ือได้ คาพิพากษาศาลฎีกาท่ี 2578 -2579/2515 สัญญาเช่าซ้ือมิใช่เป็ นสัญญาเช่าธรรมดา แต่มีคาํ มน่ั วา่ จะขายทรัพยโ์ ดยมีเง่ือนไขการชาํ ระเงินกนั เป็นคร้ังคราวรวมอยดู่ ว้ ย ถา้ ผเู้ ช่าซ้ือชาํ ระเงินแก่ผูใ้ ห้เช่าซ้ือครบถ้วนตามเง่ือนไข ก็ไดก้ รรมสิทธ์ิในทรัพยส์ ินน้ัน ซ่ึงสิทธิที่จะได้กรรมสิทธ์ิในทรัพยส์ ินน้ี มิใช่สิทธิเฉพาะตวั สญั ญาเช่าซ้ือจึงมีผลท่ีอาจสืบสิทธิกนั ได้ เม่ือผูเ้ ช่าซ้ือตาย ทายาทจึงสืบสิทธิของผเู้ ช่าซ้ือได้ (คาํ พพิ ากษาศาลฎีกาท่ี 1366/2516 ตดั สินทาํ นองเดียวกนั )
213คาถามท้ายบทคาถาม นายปกรณ์ประกอบอาชีพนาํ รถยนตอ์ อกใหเ้ ช่าในจงั หวดั เชียงราย นายปกรณ์ทาํ สัญญาเช่าซ้ือรถยนต์ ราคา 800,000 บาท กบั บริษทั นาวา จาํ กดั โดยถูกตอ้ งตามกฎหมาย และมีขอ้ ตกลงกนัวา่ กาํ หนดชาํ ระราคาคา่ เช่าซ้ือรถยนตเ์ ป็นงวดรายเดือน โดยแบง่ ชาํ ระเป็น 12 งวด เม่ือผูเ้ ช่าซ้ือชาํ ระค่าเช่าซ้ือครบตามสัญญา ใหก้ รรมสิทธ์ิในรถยนต์ตกแก่ผูเ้ ช่าซ้ือทนั ที หากผเู้ ช่าซ้ือผิดนดั เพียงงวดเดียว ผใู้ หเ้ ช่าซ้ือมีสิทธิบอกเลิกสญั ญาได้ หลงั จากชาํ ระค่างวดรถยนต์มาแลว้ 3 งวด นายปกรณ์ประสบปัญหาทางธุรกิจและขาดสภาพคล่องทางการเงิน จึงเกรงวา่ ตนจะไม่มีเงินพอชาํ ระคา่ เช่าซ้ือ นายปกรณ์จึงบอกเลิกสัญญาเช่าซ้ือรถยนตต์ อ่ บริษทั นาวา จาํ กดั ต่อมา เมื่อถึงกาํ หนดชาํ ระค่าเช่าซ้ืองวดที่ 4 นายปกรณ์ไม่ชาํ ระค่าเช่าซ้ือรถยนต์ บริษทั นาวา จาํ กดั จึงบอกเลิกสญั ญาเช่าซ้ือรถยนต์ ต่อนายปกรณ์ เช่นกนั นายปกรณ์ทราบแลว้ กลบั น่ิงเฉยไม่ส่งมอบรถยนตค์ ืนแก่บริษทั นาวา จาํ กดั แต่กลบั ยงั คงนาํ รถยนตอ์ อกให้เช่าตามปกติ ดงั น้ี ให้นักศึกษาวินิจฉัยว่า การบอกเลิกสัญญาเช่าซ้ือรถยนต์ของนายปกรณ์ และของบริษทั นาวา จาํ กดั มีผลทางกฎหมายเป็ นอยา่ งไร และบริษทั นาวา จาํ กดั จะริบเงินค่างวดท่ี 1 ถึง 3และเรียกให้นายปกรณ์ชาํ ระค่าเช่าซ้ืองวดท่ี 4 และค่าขาดประโยชน์ในการใช้รถยนต์ไดห้ รือไม่คาตอบ การบอกเลิกสญั ญาเช่าซ้ือโดยผูเ้ ช่าซ้ือ ผูเ้ ช่าซ้ือตอ้ งบอกเลิกสัญญาและส่งมอบทรัพยส์ ินที่เช่าซ้ือกลบั คืนใหแ้ ก่ผใู้ หเ้ ช่าซ้ือ ตามมาตรา 573 หากผเู้ ช่าซ้ือบอกเลิกสญั ญาแต่ไมส่ ่งมอบทรัพยส์ ินคืน จะทาํ ใหก้ ารบอกเลิกสัญญาไม่ชอบดว้ ยกฎหมาย สัญญายงั ไม่เลิกกนั สัญญาเช่าซ้ือยงั คงมีผลบงั คบั ต่อไป (เทียบคาํ พิพากษาฎีกาที่ 3149/2539) แต่เม่ือปรากฏวา่ ผูเ้ ช่าซ้ือผดิ นดั ไม่ชาํ ระค่าเช่าซ้ืองวดที่ 4 ซ่ึงคู่สัญญาได้มีข้อตกลงว่า หากผิดนัดเพียงงวดเดียวให้ผูใ้ ห้เช่าซ้ือบอกเลิกสัญญาได้ถึงแมข้ อ้ ตกลงดงั กล่าวตามอุทาหรณ์จะแตกต่างกบั บทบญั ญตั ิ มาตรา 574 ก็สามารถใชบ้ งั คบั ได้เพราะบทบญั ญตั ิ มาตรา 574 ไม่ใช่กฎหมายเก่ียวด้วยความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอนั ดีของประชาชน สญั ญาขอ้ น้ีจึงสามารถบงั คบั ได้ (เทียบคาํ พพิ ากษาฎีกาท่ี 3842/2526) การบอกเลิกสัญญาโดยผูใ้ ห้เช่าซ้ือ ตามมาตรา 574 เมื่อผูใ้ ห้เช่าซ้ือบอกเลิกสัญญาเช่าซ้ือรถยนตแ์ ลว้ สัญญาเช่าซ้ือเลิกกนั คูส่ ัญญาตอ้ งกลบั คืนสู่ฐานะดงั ที่เป็ นอยูเ่ ดิม ซ่ึงผูใ้ หเ้ ช่าซ้ือมีสิทธิริบค่าเช่าซ้ือท่ีชาํ ระมาแลว้ และกลบั เขา้ ครอบครองทรัพยท์ ่ีใหเ้ ช่าซ้ือเท่าน้นั ตามมาตรา 574 แต่จะเรียกค่าเช่าซ้ือที่คา้ งชาํ ระไม่ได้ แต่เม่ือทรัพยท์ ่ีเช่าซ้ือยงั อยูใ่ นความครอบครองของผูเ้ ช่าซ้ือ ผูใ้ ห้เช่าซ้ือมีสิทธิเรียกค่าใชท้ รัพยต์ ลอดเวลาที่ผูเ้ ช่าซ้ือครอบครองทรัพยท์ ่ีเช่าอยู่ (เทียบคาํ พิพากษาฎีกาที่ 5861/2545)
214คาถาม นายเก่งไดท้ าํ สัญญาเช่าซ้ือเป็ นหนงั สือให้นายนดั เช่าซ้ือรถยนตข์ องตน ในราคา 500,000บาท โดยท้งั คูต่ กลงใหน้ ายนดั ชาํ ระค่าเช่าซ้ือเป็ นจาํ นวน 48 งวด ชาํ ระทุกวนั ท่ี 1 ของเดือน ผา่ นไป2 ปี ในระหวา่ งท่ีนายนดั ยงั ชาํ ระค่าเช่าซ้ือยงั ไม่เสร็จสิ้น นายนดั ไดน้ าํ รถยนตค์ นั ดงั กล่าวไปขายต่อใหน้ ายกอ้ ง ในราคา 300,000 บาท โดยท้งั คู่ตกลงใหน้ ายกอ้ งผอ่ นชาํ ระค่ารถยนตแ์ ก่นายนดั จาํ นวน24 งวด ชาํ ระทุกวนั ท่ี 15 ของเดือน และเมื่อนายก้องผ่อนชาํ ระเสร็จสิ้นแล้วนายนัดตกลงจะให้กรรมสิทธ์ิโอนไปเป็ นของนายกอ้ งต่อไป ต่อมานายกอ้ งไดน้ าํ รถยนตค์ นั ดงั กล่าวไปซ่อมและทาํ สีใหม่ เสียค่าใช้จ่ายท้งั สิ้น 40,000 บาท ผา่ นไป 1 ปี ปรากฏวา่ นายนดั ผิดนดั ไม่ชาํ ระค่าเช่าซ้ือให้แก่นายเก่งเป็ นจาํ นวน 3 งวดติดต่อกนั นายเก่งจึงบอกเลิกสัญญาเช่าซ้ือกบั นายนดั และเขา้ ยึดรถยนต์คืนจากนายกอ้ ง เช่นน้ี ใหว้ นิ ิจฉยั วา่ ก. นายเก่งมีสิทธิบอกเลิกสัญญาเช่าซ้ือกบั นายนดั และเขา้ ยึดรถยนต์คืนจากนายกอ้ งได้หรือไม่ เพราะเหตุใด ข. นายกอ้ งสามารถเรียกเงินค่าผอ่ นชาํ ระรถยนตท์ ่ีตนไดจ้ ่ายไปแลว้ และค่าซ่อมรถและทาํสีใหม่จาํ นวน 40,000 บาท คืนจากนายนดั ไดห้ รือไม่ เพราะเหตุใดคาตอบ ก. การที่นายนดั ผเู้ ช่าซ้ือผิดนดั ไม่ชาํ ระค่าเช่าซ้ือให้แก่นายเก่งเป็ นจาํ นวน 3 งวดติดต่อกนัถือว่าผูเ้ ช่าซ้ือผิดนัดไม่ใช้เงินค่าเช่าซ้ือ 2 คราวติดๆ กนั นายเก่งผูใ้ ห้เช่าซ้ือย่อมมีสิทธิบอกเลิกสัญญาเช่าซ้ือกบั นายนดั และชอบท่ีจะกลบั เขา้ ครอบครองรถยนต์ โดยการเขา้ ยึดรถยนตค์ ืนจากนายกอ้ งในฐานะที่ตนเป็นเจา้ ของกรรมสิทธ์ิได้ ตามมาตรา 574 วรรคแรก ข. เมื่อนายเก่งเจา้ ของรถยนตไ์ ดม้ ายดึ รถคืนจากนายกอ้ งเพราะนายเก่งมีสิทธิดีกวา่ ในฐานะเจา้ ของกรรมสิทธ์ิ จึงเป็นกรณีนายกอ้ งผซู้ ้ือถูกรอนสิทธิเพราะความผดิ ของนายนดั ผูข้ าย นายนดั จึงตอ้ งรับผดิ ตามมาตรา 475 ซ่ึงนายกอ้ งมีสิทธิเรียกเงินคา่ ผอ่ นชาํ ระรถยนตท์ ่ีตนไดจ้ ่ายไปแลว้ และค่าซ่อมรถและทาํ สีใหม่จาํ นวน 40,000 บาท อนั เป็ นค่าเสียหายท่ีนายกอ้ งไดร้ ับอนั เน่ืองมาจากการถูกรอนสิทธิคืนจากนายนดั ได้ (เทียบคาํ พิพากษาศาลฎีกาที่ 3220/2516 และ 932/2518)
215บรรณานุกรมกุศล บุญยืน, คาอธิบาย สรุปประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยซื้อขาย ขายฝาก เช่าทรัพย์ เช่าซื้อ ประกนั ภัย, 2530 (กรุงเทพฯ : กรุงสยามการพิมพ)์ .ประพนธ์ ศาตะมาน และไพจิตร ปุญญพนั ธุ์, คาอธิบายประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ลกั ษณะ ซื้อขาย, พิมพค์ ร้ังที่ 13, 2545 (กรุงเทพฯ : สาํ นกั พิมพน์ ิติบรรณการ).ไผทชิต เอกจริยกร, คาอธิบายซื้อขาย แลกเปลี่ยน ให้, พิมพค์ ร้ังที่ 5, 2552 (กรุงเทพฯ : บริษทั สาํ นกั พมิ พว์ ญิ ํูชน จาํ กดั ).______________, คาอธิบายเช่าทรัพย์ เช่าซื้อ, พมิ พค์ ร้ังที่ 14, 2552 (กรุงเทพฯ : บริษทั สํานกั พิมพ์ วญิ ํูชน จาํ กดั ).ไพจิตร ปุญญพันธุ์, คาอธิบายประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยขายฝาก กฎหมาย เปรียบเทยี บ : องั กฤษ, ฝรั่งเศส, เยอรมัน, ญป่ี ่ ุน, พิมพค์ ร้ังท่ี 4, 2548 (กรุงเทพฯ : สํานกั พิมพ์ นิติธรรม).มานะ พิทยากรณ์, คาบรรยายประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ลักษณะเช่าทรัพย์ เช่าซื้อ จ้าง แรงงาน จ้างทาของและรับขน, 2531 (กรุงเทพฯ : บริษทั พบั ลิคบิสเนสพริ้นท์ จาํ กดั ).วษิ ณุ เครืองาม, คาํ อธิบายประมวลกฎหมายแพง่ และพาณิชย์ ซ้ือขาย แลกเปล่ียน ให,้ พิมพค์ ร้ังท่ี 10, 2549 (กรุงเทพฯ : สาํ นกั พิมพน์ ิติบรรณการ).ศนนั ทก์ รณ์ (จาํ ปี ) โสตถิพนั ธุ์, คาอธิบายซื้อขาย แลกเปลี่ยน ให้, พิมพค์ ร้ังท่ี 4, 2550 (กรุงเทพฯ : บริษทั สาํ นกั พมิ พว์ ญิ ํูชน จาํ กดั )._______________________, คาํ อธิบายเช่าทรัพย์- เช่าซ้ือ พร้อมคาํ อธิบายในส่วนของ พระราชบญั ญตั ิวา่ ดว้ ยขอ้ สัญญาที่ไม่เป็นธรรม 2540 และกฎหมายใหม่ท่ีเก่ียวขอ้ ง, พิมพค์ ร้ัง ท่ี 3, 2549 (กรุงเทพฯ : บริษทั สาํ นกั พมิ พว์ ญิ ํูชน จาํ กดั ).สุธีร์ ศุภนิตย,์ วิจิตรา วิเชียรชม และไผทชิต เอกจริยกร, คาบรรยายประมวลกฎหมายแพ่งและ พาณิชย์ลักษณะเช่าทรัพย์ เช่าซื้อ จ้างแรงงาน จ้างทาของ รับขน ยืม ฝากทรัพย์ บรรพ 3 มาตรา 537-679, 2549 (กรุงเทพฯ : โรงพมิ พเ์ ดือนตุลา).อาํ นคั ฆ์ คลา้ ยสังข์, คาอธิบายประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ว่าด้วยเช่าทรัพย์-เช่าซื้อ, 2533 (กรุงเทพฯ : โรงพมิ พม์ หาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์).
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215