Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รส.21-60 คู่มือราชการสนาม ว่าด้วย ทัศนสัญญาณและเสียงสัญญาณ

รส.21-60 คู่มือราชการสนาม ว่าด้วย ทัศนสัญญาณและเสียงสัญญาณ

Published by art-weerasak, 2023-01-06 16:38:41

Description: รส.21-60 คู่มือราชการสนาม ว่าด้วย ทัศนสัญญาณและเสียงสัญญาณ

Search

Read the Text Version

ตอนที่ ๔ พลสุ ัญญาณ ๑๐. กลา่ วท่ัวไป ( รูปท่ี ๖๔-๗๓ ) ก. ในตอนนี้ได้กล่าวถึงวิธีการติดต่อสื่อสารด้วยพลุสัญญาณ มีภาพแสดงประกอบ ข้อจำกัดในการใช้ พลุสัญญาณมีอยู่ว่าต้องกำหนดการใช้ไว้โดยแน่นอน หรือสัญญาณนั้น ๆ ต้องมีการเตรียมการล่วงหน้า สัญญาณเหล่านี้ได้กำหนดบังคับไว้ในระดับกองทัพ, กองทัพน้อย, กองพล, กองพลน้อย, กรม, กองพัน ลงมา จนถึงระดับกองรอ้ ย และภายใต้สภาวะการณ์ท่ีแน่นอน โดยปกตคิ วามหมายเบื้องตน้ จะกำหนดไวใ้ นคำแนะนำ ปฏบิ ตั กิ ารสอื่ สาร ข. พลุสัญญาณเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดแสงและควันอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างรวมกัน อาจจะเป็น ชนิดดาวเดียวมรี ม่ หรือดาวหลายดวงไม่มีร่ม และพรอ้ มด้วย หรือปราศจากดนิ ส่องวิถดี ้วยก็ได้ ๑๑. คำจำกัดความ \"พลสุ ญั ญาณ\" ในทีน่ หี่ มายถงึ พลสุ ัญญาณที่ไช้สำหรบั ใหส้ ญั ญาณเทา่ น้ัน ความหมายอย่างแทจ้ ริง ของ Pyrotechnics น้นั \"ศิลป์ของไฟ\" ดงั น้นั พลุสญั ญาณ คือ สิ่งทก่ี ่อให้เกิดการลุกไหม้ เครื่องกลไกและ เคร่ืองกำเนดิ ควันเคมี , สัญญาณไฟฟ้า เป็นเพยี งยุทธภัณฑ์เทา่ น้นั หาใช่พลสุ ญั ญาณหรอื ไม่ กระสุนส่องแสง กระสนุ ควันสีและส่องวถิ ี เป็นพลสุ ญั ญาณอยา่ งแท้จรงิ แต่พราะวา่ ส่ิงเหล่าน้นั มีความเก่ียวเนือ่ งกันอยา่ งใกลช้ ิด กับกระสุนปนื ใหญ่จงึ ไดก้ ลา่ วไว้ใน คท. ๔ - ๑๙๐๐ รายละเอียดของลูกระเบิดขวา้ งและยิง ก. ดาวเดียว ข. เป็นชอ่ รปู ที่ ๖๔ ผลของการสอ่ งสว่างแต่ละชนิด ก. ดาวเดียว ข. เป็นช่อ

๔๘ ค. ดาวคู่ ง. ดาวคู่ส่องวิถี (ส่องวถิ กี ่อนแล้วจึงมีดาวค๋)ู รูปท่ี ๖๔ ผลของการส่องสวา่ งแตล่ ะชนิด ค. ดาวคู่ ง. ดาวคสู่ อ่ งวถิ ี (สอ่ งวิถีก่อนแลว้ จึงมดี าวคู๋) ชนดิ ควันจากปนื เลก็ ได้กลา่ วไว้ใน รส. ๒๓ - ๒๐ ในเรอ่ื งเก่ยี วกบั ความร้ทู ่ัวไปและทางเทคนิคของ พลสุ ัญญาณทางทหาร มีอยู่ใน คท. ๙-๑๓๗๐-๒๐๐ ๑๒. คณุ ลักษณะ ก. พลุสญั ญาณทจี่ ่ายใหไ้ ปน้ัน มักจะเปน็ พลุสัญญาณทง้ั นัด ซงึ่ หมายถงึ ว่ามีส่วนต่าง ๆ ท้งั หมดที่ จำเป็นสำหรับใช้งาน ๑) สารประกอบท่ีใช้ออกซเิ จนเพ่ือให้เกิดการลกุ ไหม้ ๒) เชอ้ื เพลิง ๓) ตัวยดึ และกนั นำ้ ๔) ตัวใหแ้ สงสี ข. ในบางกรณวี ัตถุอย่างหน่ึงอาจทำหน้าทด่ี งั กล่าวมาแล้วขา้ งตน้ หลายอย่างด้วยกัน ๑๓. สญั ญาณควนั อาจใช้ควันส่งสัญญาณได้ทั้งทางพื้นดินและพื้นดินสู่อากาศ ควันขาวและควันสี สามารถใช้ เพอื่ ความมุ่งหมายอันนี้ได้ โดยทำการยงิ กระสนุ จากเครื่องยงิ ลูกระเบิดจากปืนเล็ก จากเครอ่ื งยิงลูกระเบิดหรือ จากปืนใหญ่ ลูกระเบิดขว้างควัน ออกแบบสำหรับให้ทหารใช้เป็นบุคคล เราสามารถเห็นสัญญาณควันได้ ในระยะไกลๆ ในเมื่อฉากหลังของภูมิประเทศตรงกันข้ามมีสีตัดกัน สัญญาณควันไม่เหมาะในการส่งข่าว

๔๙ แตเ่ รานำไปใช้สำหรับการติดต่อส่ือสาร โดยเตรยี มสญั ญาณน้นั ๆ ไวล้ ว่ งหน้า ระหวา่ งหน่วยเล็กๆ กับเคร่ืองบิน ฝ่ายข้าศึกอาจตรวจการณ์พบสัญญาณควันได้ ด้วยเหตุนี้สมควรพิจารณาปกปิดความลับ โดยไม่เปิดเผยที่ตั้ง ที่ม่ันหรือความมุ่งหมาย สำหรับรายละเอียดที่พอเปรียบเทียบในการใช้ควันด้วยเครื่องยิงลูกระเบิด และปนื ใหญน่ ัน้ ดใู น รส. ๖-๒๐ ๑๔. ลูกระเบดิ ขว้างควนั ก. ลกู ระเบดิ ขว้างควนั HC ชนิดน้ี เป็นลูกระเบิดเพลิงชนิดหนึ่ง ใช้เป็นเครอื่ งหมายสัญญาณ และ ทำฉากควัน เมื่อลูกระเบิดนี้ถูกจุดจะทำให้เกิดควันสีขาวทึบ ควันนี้ไม่เป็นอันตรายแก่หน่วยทหารเมื่อหายใจ เอาควันเข้าไปเพียงบาง ๆ และในระยะเวลาอันสน้ั ข. ลูกระเบิดขว้างควันสีมีลักษณะเช่นเดียวกันกับลูกระเบิดขว้างควันขาว เอช.ชี. ลำตัวลูกระเบิด มีแถบสีเหลืองคาด แต่ตัวทาสีแสดงสีของควันที่บรรจุอยู่ ภายในบรรจุสารผสมสีชนิดลุกไหม้ทำให้เกิดสีต่างๆ ได้หลายสี แต่ในบัจุบันนี้มีมาตรฐานอยู่เพียง ๔ สีเท่านั้น คือ สีแดง , สีเขียว , สีม่วง, และสีเหลือง เป็นลูก ระเบดิ ชนิดลกุ ไหมใ้ ชช้ นวนจุด ค. ลูกระเบิดขว้างควันฟอสฟอรัสขาว ถึงแม้ว่าในขัน้ ต้นในการใช้จะก่อให้เกิดการลุกไหม้เผาผลาญได้ แลว้ ยงั อาจใชส้ ำหรับทำฉากควนั กำบงั ไดด้ ว้ ย หรือชต้ี ำแหนง่ เป้าหมาย เป็นลกู ระเบดิ ชนิดระเบิดพร้อมด้วย ชนวนระเบิด ส่วนท้ายของลูกระเบิดขว้าง M34 ฟอสฟอรัสขาวอาจจะมีหางนำทิศสำหรับใช้เช่นเดียวกับลูก ระเบิดยิงจากปืนเล็ก ประกอบเข้ากับหางนำทศิ M1A1 หรือ M1A2 ลูกระเบิด M15 ฟอสฟอรัสชาว ไม่มีขีด ความสามารถอันน้ี ๑๕. ลกู ระเบดิ ยิงจากปนื เลก็ และพลุสัญญาณพ้นื ดิน กลา่ วทวั่ ไป โดยทวั่ ไปเราใชพ้ ลสุ ญั ญาณสำหรับส่งสัญญาณดว้ ยการใชย้ ิงดว้ ยเคร่อื งยิงลูกระเบิดจากปืนเลก็ และ พลุสัญญาณพนื้ ดินมากท่สี ุด เคร่ืองมือ รปู ที่ ๖๕ ลข. ควัน HC M8

๕๐ รูปที่ ๖๖ ลข. ควนั ฟอสฟอรัสขาว M15 รูปที่ ๖๗ ลข. ควนั ฟอสฟอรสั ขาว M34

๕๑ ของท้ังสองอยา่ งน้ีมลี กั ษณะเหมอื นกันมาก ความแตกต่างที่สำคัญทสี่ ดุ ก็คือว่าลูกระเบิดยิงจากปืนเล็ก มหี ัวกลม และพลุสัญญาณพ้ืนดินมรี ูปเป็นทรงกระบอก, ท้ังสองอยา่ งอาจทำการยิงจากเคร่อื งยงิ ลูกระเบิดจาก ปืนเล็ก ๑๖. ลกู ระเบิดควันยิงจากปืนเลก็ ก. ลูกระเบิดควันฟอสฟอรัสขาวยิงจากปืนเล็ก ชนวนที่ติดตั้งไว้เป็นชนวนกระทบแตก ในเมื่อกระทบ กับเป้าหมายหรือบนพื้นดิน เมื่อลูกระเบิดแตกออกระกระจายฟอสฟอรัสขาวออกโดยรอบตัว ส่วนที่น้อยที่สดุ ครอบคลุมพื้นทเี่ ส้นผา่ ศูนย์กลาง ๒๐ เมตร และทำให้เกิดควันขาวทึบ ลกู ระเบิดควนั ฟอสฟอรสั ขาวยิงจากปืน เลก็ ก็เหมือนกันกับ ลข. ควนั ฟอสฟอรสั ขาว มีความมุ่งหมายอยู่ ๔ อย่าง ซ่งึ อาจใช้สำหรับเผาผลาญและการ สญู เสยี กับสำหรับใหอ้ าณัติสญั ญาณและทำฉากกำบัง ข. ลข. ควนั สี ใช้สำหรับใหอ้ าณตั สิ ญั ญาณโดยเฉพาะ เปน็ แบบชนวนกระทบแตก และมอี ยู่ ๔ สี คอื สแี ดง, สเี หลือง , สีม่วง , และสีเขียว ค. ลูกระเบิดยิงจากปืนเล็กควันสีทางยาว ลูกระเบิดนี้คล้ายกับลูกระเบิดยิงจากปืนเล็กควนั สี แต่ไม่ใช้ ชนวนกระทบแตกและสลักนิรภัยลูกระเบิดนี้ถูกจุดด้วยประกายเพลิงของดินส่งกระสุนที่ปากลำกล้องปืน จะ เริ่มปล่อยควันออกเป็นควันทางยาว ในเม่ือลูกระเบดิ หลดุ ออกจากเครื่องยงิ ไปแล้วประมาณ ๕๐ ฟุต และควัน จะออกแล่นเป็นทางยาวไปอย่างน้อยที่สุด ๑๒ วินาที ( ประมาณ ๒๕๐ ฟุต ) ลกู ระเบดิ น้มี สี ีแดง , สีเหลอื ง , สี มว่ ง และสเี ขยี ว ๑๗. พลุสัญญาณพืน้ ดนิ ก. พลสุ ัญญาณพื้นดนิ อาจจะให้แสงหรอื ควนั อยา่ งใดอย่างหนึง่ ตอ่ ไปนี้เป็นรายการของพลุสญั ญาณ พ้นื ดินทีม่ ีอยู่ ๑) พลุสัญญาณพื้นดนิ รม่ ขาว ๒) พลุสัญญาณพน้ื ดนิ ชอ่ ขาว ๓) พลุสัญญาณพนื้ ดนิ รม่ เขยี ว ๔) พลุสัญญาณพืน้ ดนิ ช่อเขียว ๕) พลุสญั ญาณพืน้ ดิน ร่มเหลือง ๖) พลสุ ญั ญาณพ้นื ดิน ช่อเหลือง ๗) พลุสัญญาณพนื้ ดนิ ร่มแดง ๘) พลสุ ญั ญาณพ้ืนดิน ชอ่ แดง ๔) พลุสัญญาณพืน้ ดนิ ควนั แดง ๑๐) พลสุ ัญญาณพ้ืนดนิ ควันเหลือง ๑๑) พลสุ ัญญาณพนื้ ดิน ควนั เขยี ว ข. กำหนดชนิดพลุสัญญาณพื้นดิน โดยมีเครื่องหมายที่หีบห่อและที่ตัวพลุเพิ่มเติมจากเครื่องหมาย ตามปกติ กับมีสีแสดงสีของแสงหรือควันที่เกิดจากพลุชนิดนั้น ๆ และมีอักษรย่อแสดงแบบของพลุเป็นรปู นูน

๕๒ เพือ่ ให้กำหนดชนดิ ไดใ้ นที่มดื สว่ นบนท้งั หมดของพลุสญั ญาณพ้ืนดนิ ทาสีและมีเคร่ืองหมาย พลุสัญญาณพ้ืนดิน ชนิดควนั มแี ถบสี แสดงสีของควนั ไว้ทีป่ ลายดา้ นใดด้านหนึง่ โดยรอบ กว้าง ๑/๒ นว้ิ ๑๘. พลุลญั ญาณพ้ืนดินแบบจรวดชนิดมือจับ ก. ตอ่ ไปน้ีเป็นแบบของจรวดสญั ญาณท่มี ีอยู่ ๑) ช่อเขยี ว ๒) ช่อแดง ๓) รม่ ขาว ๔) แดงทางยาว ข. พลุสัญญาณเหล่านี้มีส่วนประกอบพร้อมอยู่ในตัว ครีบหางนำทิศพลุสัญญาณพื้นดิน พลุสัญญาณ แต่ละอันประกอบด้วยกระบอกสามอันรวมศูนย์เดียวกัน กระบอกชั้นนอกสำหรับบรรจุพลุ ชั้นต่อไป เป็น กระบอก เคร่ืองยิงและชน้ั ในกระบอกเคร่ืองยงิ เป็นกระบอกครบี หางนำทิศ ซึ่งบรรจุดินส่งจราด และช้ันส่วน ของสญั ญาณพร้อมด้วยร่มหรือช่อ ต่อไปเป็นการเตรยี มพลสุ ำหรับทำการยิง ถอดฝาครอบออกจากหัวกระบอก เครื่องยิง แล้วนำไปสวมที่ท้ายกระบอกเครื่องยิง (จอกกระทบแตก) ยิงพลุสัญญาณ โดยการใช้มือข้างหนึ่งถือ พลุไวใ้ นทางด่ิง และพรอ้ มกนั น้ันก็ใช้มืออีกข้างหน่ึงกระแทกฝาครอบ (ทท่ี า้ ยกระบอกเครื่องยิง) ในระหว่างทำ การยิง ถือพลุสัญญาณด้วยแขนทั้งสองเหยียดตรงและเหนือระดับสายตาเล็กน้อย เมื่อทำการยิงขึ้นไป กระบอกครีบหางนำทิศจะแล่นขึ้นไปสูงประมาณ ๗๕๐ ฟุต พร้อมกับชิ้นส่วนของสัญญาณจะถูกขับออกและ เผาไหม้จาก ๔ ถึง ๓๖ วินาที ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชนิดของสัญญาณที่ใช้ (เป็นช่อหรือเป็นร่ม) พลุสัญญาณทั้งกล่อง ยาว ๑๐ ๕/๘ นว้ิ มเี สน้ ผา่ ศูนยก์ ลางยาว ๑ ๓/๔ นวิ้ และมีน้ำหนกั ๑.๒๙ ปอนด์

๕๓ ๑๙. เครอ่ื งยิงลกู ระเบดิ จากปืนเล็ก ก. เครื่องยิงลูกระเบิดจากปืนเล็ก M7 M7A1 M7A2 และ M7A3 ซึ่งใช้สำหรับยิงลูกระเบิดยิงจาก ปืนเล็กและพลุสัญญาณพื้นดินจาก ปลยบ.M1 ทั้งสองอย่าง เครื่องยิงนี้จะสวมติดอยู่ที่ปลายปากลำกล้องปืน เครอ่ื งยิงทงั้ ๔ แบบน้ี ทตี่ วั เครอ่ื งยิงทำแว่นแวน่ หลาย ๆ แวน่ สำหรบั ใชย้ ิงลกู ระเบดิ ในเม่ือทำการยงิ ด้วยมุมยิง สูงในระยะต่าง ๆ กัน ที่ตอนปากกระบอกเครื่องยิงมีขดแหนบยึดถูกระเบิด สำหรับยึดลูกระเบิดให้ติดกับ กระบอกเครือ่ งยิงตามแวน่ ต่าง ๆ เพอ่ื จัดระยะยิง เครื่องยงิ ลูกระเบดิ จากปนื เลก็ แบบ M7A3 มวี งแวน่ เครื่องยิง และร่องเกลียวเพิ่มอีก ๓ แว่น คือหมายเลข 2A, 3A, และ 4A ซึ่งโดยปกติจะพบว่าตัวเครื่องยิงอื่น ๆ มีเพียง ๖ แว่น วงแว่นที่เพิ่มเหล่านี้ใช้ในเมื่อทำการยิงลูกระเบิดจากปืนเล็กชนิดใหม่กว่า ซึ่งมีท่อหางนำทิศที่ยาวกว่า เครื่องยิง M7A2 ซึ่งไม่ได้แสดงไว้ในที่นี้ รูปร่างเหมือนกันกับ M7A3 แต่สั้นกว่าประมาณ ๑ ๑/๒นิ้ว และไม่มี แว่นจดั ระยะยิงหมายเลข 2A , 3A และ 4A ตามทก่ี ล่าวมาแลว้ รปู ที่ ๗๐ เครื่องยิงลกู ระเบิดจากปนื เลก็

๕๔ ข. เครอ่ื งยิงลูกระเบิด M76 ใชส้ ำหรับทำการยิงลูกระเบดิ จาก ปลยบ.M14 เครอ่ื งยงิ ลกู ระเบิด M76 กม็ รี ปู ร่างเหมือนกนั กับเคร่อื งยงิ M7A3 ซง่ึ ใช้ยิงดว้ ย ปลยบ.M1 เว้นแตว่ า่ มกี ารแก้ไขแหนบยึดลกู ระเบิดใหด้ ขี ้นึ และไมม่ ีแผน่ เหล็กยึดเครื่องยิงและแหนบปล่อยให้เคร่ืองยิ่งสะทอ้ นถอยหลงั เป็นอสิ ระจากปืน ขอ้ ควรระวัง เมื่อลูกระเบิดยิงจากเคร่ืองยิง M76 ดิ้นระบายแก๊ซของจุกเกลียวฝาบีดหัวกระบอกสบู ท่ี ปลยบ.M14 ตอ้ งหมุนกลับไปอย่ใู นทา่ ปิด การเตรยี มการสำหรบั ทำการยิง จงนำวธี ตี อ่ ไปนไี้ ปใช้สำหรับลูกระเบิดและพลุสัญญาณพ้นื ดินต่างๆ ก. เปิดกลอ่ งแลว้ นำลกู ระเบดิ หรอื พลุออกมา ข. ตรวจสอบวา่ ใช้งานได้ ค. ถอดจุกไม้ค๊อร์กแล้วนำลกู ระเบดิ หรือพลุไปติดที่เคร่ืองยิ่ง ง. ถ้างวดงานของลกู ระเบิดหรอื พลสุ ญั ญาณยงั ใหม่ จะเหน็ วา่ กระสนุ แยกเกบ็ ไว้ต่างหาก กระสุนท่ีงวดงานเกา่ กว่าจะพบกระสุนท่ีหางลกู ระเบิดภายใต้จุกไม้ค๊อร์ก จ. ถา้ ลูกระเบดิ หรือพลทุ ่ีไม่ยิง ใหน้ ำกลับไปไวท้ ี่เดมิ และไม่ต้องหอ่ รูปที่ ๗๑ กระสุนใชใ้ นการยิงลูกระเบดิ จากปืนเล็กและพลุสญั ญาณพนื้ ดิน ขนาด ๓๐ M3 ๒๑. ข้อระมัดระวงั และการรักษา ก. ดินส่งกระสุนสำหรับลกู ระเบดิ จากปืนเล็ก โดยปกติไม่ใชก้ ระสุนซ้อมรบหรอื กระสุนจรงิ ในการขบั ดันลกู ระเบิดจากปนื เลก็ หรอื พลสุ ัญญาณพนื้ ดนิ เราใช้กระสุนยิงลูกระเบิดจากปืนเลก็ ขนาด .๓๐ นว้ิ M3 ใช้ กบั ปลยบ.M88 และกระสนุ ยิงถกู ระเบิดขนาก ๗.๖๒ มม.ใชก้ บั ปลยบ. M14 ข. ข้อควรระวงั เป็นพเิ ศษสำหรับการยิงพลุสญั ญาณพน้ื ดนิ ๑) เมื่อทำการยิงด้วยมุมยิงสูงโดยวีธีเล็งสำรอง ใช้ท่านั่งคุกเข่ายงิ หรือท่านั่งราบยิง ได้กล่าว ไว้ใน รส. ๒๓-๓๐ ขอ้ ๔๙ ๒) เมื่อทำการยิงด้วยมุมยิงต่ำโดยวิธีเล็งตรง ท่านอาจทำการยิง ปลยบ. จากไหล่ในท่ายืนยิง หรือน่ังคุกเข่ายงิ ไดก้ ล่าวไวใ้ น รส. ๒๓-๓๐ ขอ้ ๓๘ ข. และ ค. ๓) ให้ก้มศีรษะลง และไม่ต้องเฝ้าดูในขณะที่พลุสัญญาณกำลังพุ่งขึ้น เพราะว่ามันอาจเกิด \"การพน่ มาขา้ งหลงั \" จากดนิ ส่งกระสุนได้

๕๕ ๔) ในการฝกึ ควรระวงั เมอื่ ทำการยงิ พลุ อย่าใหต้ วั ลูกระเบดิ ท่ยี ิงแล้วตกถูกทหารฝ่ายเดียวกัน หนว่ ยทหารทร่ี ว่ มในการฝึกควรจะตอ้ งสวมหมวกเหล็ก หรือนำมาตรการในการป้องกนั อน่ื ๆ อยา่ งใดอย่างหนึ่ง มาใช้ เพอ่ื หลีกเลย่ี งจากการทป่ี ลอกพลุสญั ญาณตกถูก ๕) การหยิบยกพุลสัญญาณพื้นดิน ต้องทำด้วยความระมัดระวัง ไม่ให้ส่วนหางได้รับความ กระทบกระเทือนเสียหาย ห้ามใช้ลูกระเบิดหรอื พลุท่บี ุบ โคง้ งอ หรอื ทอ่ นำทศิ ท่ีมีรปู ร่างผิดไป ๖) ต้องเป็นที่มั่นใจได้ว่าท่อนำทิศสะอาดและลูกระเบิดหรือพลุสัญญาณหมุนได้คล่องบน เครื่องยิง ๗) อย่าสวมพลุสัญญาณทั้งไว้กับเครื่องยิง จนกว่าจะถึงเวลาใช้พลุสัญญาณนัน้ อย่าถอดจุก ไมค้ ๊อร์กจากหางลูกระเบิดจนกว่าจะถึงเวลาสวมพลุสญั ญาณกับเคร่ืองยิง ๒๒ . พลุสญั ญาณยงิ จากปนื ยงิ พลุ และเคร่อื งยงิ พลุ ก. พลุสัญญาณเบบนี้เป็นแบบเก่าซึ่งมีมาแต่ตั้งเดิม มีความมุ่งหมายใช้สำหรับให้อาณัติสัญญาณ ระหวา่ งเครื่องบินไปยังเคร่ืองบินหรือเคร่ืองบินไปยังพื้นดิน อย่างไรก็ดี จากการทดลองมาแล้วปรากฏว่าทหาร บนภาคพนื้ ดนิ ใช้พลุชนิดนี้ได้ดเี ช่นเดียวกนั เพราะว่าเป็นเครอื่ งยงิ ท่ีเบาและกระทดั รัด ข. พลุสัญญาณเครื่องบิน (ข้อ ๒๓) ก่อให้เกิดประกายและเสียงทำด้วยอลูมิเนียมรีดเป็นชั้นเดียวกนั มีขอบคัดปลอกใช้ยิงจากปืนยิงพลุ ANM8 และเครื่องยิงพลุ M9 เครื่องยิงพลุสัญญาณ M1A1 ใช้เป็นเครื่องยิง สญั ญาณกำหนดด้วยสูงกระสนุ แตก M27 เครื่องยิงเหลา่ นีแ้ ละการปฏบิ ัติ ได้กลา่ วไวใ้ น คท.๙-๑๒๙๐ ๒๓. พลสุ ญั ญาณเคร่ืองบิน ก. พลุสัญญาณเครื่องบิน แบบที่ใช้กันอยู่ในบัจจุบันนี้เป็นอลูมิเนียมช้ันเดียวมีขอบคัดปลอก แบบเก่า ซึ่งยังคงใช้อยู่ ตัวทำด้วยอลูมิเนียมหรือกระดาษ หัวทำด้วยทองเหลือง รูปร่างเหมือนกระสุนปืนลูกซองขนาด ใหญ่ ลูกพลุมีแบบดาวเดยี ว ดาวคู่ และดาวคู่ส่องวิถี พลุสัญญาณเหล่าน้ีในเวลากลางคืนอาจจะเห็นได้ไกลถงึ ๕ ไมล์ และ ๒-๓ ไมลใ์ นระหว่างเวลากลางวัน ข. พลุสัญญาณชนิดดาวเดี่ยวมีแถบสีกว้าง ๑/๒ นิ้ว ๑ แถบ คาดโดยรอบปลอกกระสุนซึ่งใช้สี เหมอื นกับสีของดาว พลุสัญญาณชนดิ ดาวคมู่ แี ถบสีกว้าง ๑/๔ นิว้ ๒ แถบ แสดงสขี องดาวแตล่ ะดวงตามลำดับ พลุสัญญาณดาวคู่ส่องวีถี มีแถบสีกว้าง ๑/๔ นิ้ว ๑ แถบ ตามสีของส่องวิถีและแถบสีกว้าง ๑/๒ นิ้ว ๒ แถบ แสดงสีของดาว ค. ข้อควรระวงั เพิ่มเติมในการหยบิ ยกขนยา้ ย มีดงั ตอ่ ไปน้ี ๑) จะต้องระวังปอ้ งกันไมใ่ ห้กระทบกระแทกชนวน เพราะอาจทำให้ดินส่งกระสุนขับวัตถุส่อง แสงซ่ึงติดไฟ ออกจากปลอก ๒) พลสุ ัญญาณทีห่ บี เปดิ แล้ว จะตอ้ งตรวจดปู ลอกก่อนนำไปไช้ ถ้าปลอกบุบมีรอยแตก หลวม คลอน ผิดรูปรา่ งห้ามนำไปใช้

๕๖ ๓) ในการยงิ พลุสัญญาณจากอากาศ ควรหาทางระวงั ปอ้ งกันและแก้ปญั หาไว้ในเม่ือพลุหมด กำลงั ปลอกกระสนุ ตกลงในหนว่ ยทหารฝ่ายเดยี วกนั ๒๔. พลลุ ญั ญาณแบบทำให้เกดิ ประกายแสงและเสยี ง ก. พลุสญั ญาณนีม้ ีรปู รา่ งเหมือนกนั กับพลุสัญญาณเคร่ืองบิน มคี วามมงุ่ หมายสำหรับใหก้ รรมการใช้ ในระหวา่ งการฝึกการยิงของปืนใหญ่ดว้ ยกระสุนปนื ใหญ่เทียมแตกอากาศ ข. ข้อควรระวงั อย่างกวา้ ง ๆ ในการนำพลุสญั ญาณไปใช้มีดังตอ่ ไปนี้ รูปที่ ๗๒ เคร่ืองหมายแสดงพลสุ ญั ญาณทีใ่ ช้กับเครอื่ งยงิ พลุ

๕๗ ๑.) เมื่อทำการยิงข้ามศีรษะของหน่วยทหาร ต้องตั้งมุมสูงที่กระบอกหรือเครื่องยิงไม่ต่ำกว่า ๔๕ องศา ซึง่ จะประกันได้ว่าการระเบิดของพลุจะอยสู่ ูงในเกณฑ์นริ ภัย (เมือ่ ตงั้ มุมสูง ๔๕ องศา พลุจะระเบิด ออกที่ความสงู ประมาณ ๑๐๐ ฟุต) ๒.) ชแ้ี จงไม่ให้ทหารหันหนา้ ไปยงั ตำบลระเบิด ๓) ชี้แจงใหท้ หารทอ่ี ยนู่ อกท่ีกำบงั ทราบวา่ ตอ้ งสวมหมวกเหล็ก ๒๔. พลุสญั ญาณพนื้ ดินชนิดกำหนดดว้ ยความสูงกระสนุ แตก ก. พลุสญั ญาณชนิดนี้มีความม่งุ หมายในการใช้ และการยิง ผิดกันกบั พลสุ ญั ญาณพน้ื ดนิ อืน่ ๆ และ คล้ายคลงึ กนั กับพลุสญั ญาณ เครือ่ งบนิ ยิงจากเครื่องยิงพลสุ ัญญาณพ้นื ดิน M1A1 และใช้สำหรบั การฝกึ ของ ปืนใหญ่สนามเพยี งอย่างเดียวเทา่ นั้น พลนุ พ้ี ่นกอ้ นควันออกมาในระยะสูงสดุ ประมาณ ๖๕๐ ฟตุ รูปท่ี ๗๓ สญั ญาณพ้นื ดนิ ชนดิ กำหนดดว้ ยความสูงกระสนุ แตก ข. ข้อควรระวังเพิ่มเติม นอกจากข้อควรระวังของพลุสัญญาณอื่น ๆ ตามข้อ ๒๑ แล้ว ในการฝึกผู้ยิง ตอ้ งระวังตลอดเวลาให้ทกุ สว่ นของร่างกายอยตู่ ำ่ กว่าปากกระบอกเคร่ืองยิง เมือ่ ทำการยิงพลสุ ัญญาณนี้

ตอนท่ี ๕ สญั ญาณอากาศ/พ้นื ดนิ ๒๖. ระบบแผน่ ผ้าสญั ญาณ กล่าวโดยท่วั ไป ระบบแผ่นผ้าสัญญาณ เป็นวิธีเบื้องต้นที่ซึ่งหน่วยทหารทางภาคพื้นดิน อาจจะทำการติดต่อกับ เครือ่ งบินในขนั้ ที่จำกดั โดยปูแผน่ ผา้ สญั ญาณบนพื้นดิน ๒๗. ขนาดของแผ่นผา้ สัญญาณ แผน่ ผา้ สญั ญาณ ควรจะมีขนาดพอเพียงเพื่อท่จี ะมองเหน็ จากทางอากาศได้ง่าย และควรจะต้องมีสีตัด กนั ในระหวา่ งเครื่องหมายกับฉากหลังซึ่งต้องอยู่ในพน้ื ท่ีโล่งแจ้ง แผน่ ผ้าสญั ญาณอย่างน้อยทสี่ ุดควรมีขนาดยาว ๖ ฟตุ และกว้าง ๒ ฟตุ ในเมอื่ เราไม่ไดเ้ ตรียมแผน่ ผ้าสัญญาณเอาไว้กอ่ นอาจกระทำไดโ้ ดย ก. ใช้แถบผา้ หรือวตั ถทุ อี่ อ่ นตัวท่ีคลา้ ยคลึงกัน อย่างใดอย่างหน่งึ ก็ได้ ข. วางท่อนไม้ กอ้ นหนิ หรือวัตถุอื่น ๆ บนพน้ื ดนิ ค. เขียนสัญญาณบนหมิ ะ พื้นดิน หรือทราย ๒๘. ลานปูแผ่นผ้าสัญญาณ ปราบพน้ื ทใ่ี ห้ราบเรยี บ ถากถางพน้ื ดินหยอ่ มหน่ึง ประมาณ ๔๐ - ๑๓๐ ฟตุ ในพ้ืนท่นี ้ีควรเลือกพ้ืนท่ีๆ ดีที่สุด เพื่อเป็นลานปูแผ่นผ้าสัญญาณ มีความพอเพียงสำหรับแสดงข่าวสารและเครื่องหมายพิเศษ ให้ผู้ตรวจ การณท์ างอากาศสามารถอ่านขา่ วและปฏิบัติการ ทงิ้ ข่าว ตกข่าว ไดอ้ ย่างพอเพียง ๒๙. เคร่อื งหมายกำกบั ความมุ่งหมายในการใช้เครื่องหมายกำกับ (รูปที่ ๗๔) เพื่อบอกผู้ตรวจการณ์ให้ทราบว่าการปูนั้นอ่าน เปน็ ตัวอักษร (รปู ท่ี ๗๖) เปน็ จำนวนเลข (รูปที่ ๗๗) หรือเป็นประมวล (รปู ที่ ๗๘) ๓๐. เครื่องหมายกำกับการอ่าน (เครื่องหมาย \"พร้อมแลว้ อา่ นได\"้ ) ก. เครื่องหมายกำกับการอ่าน เปน็ แผ่นผา้ สญั ญาณผนื เด่ียว ปูอยู่กึง่ กลางต้งั ได้ฉากกบั แผ่นผา้ หลัก (รปู ที่ ๗๔) เปน็ แผน่ ผ้าสญั ญาณแผน่ สดุ ท้ายทจี่ ะปู และเป็นแผน่ แรกทจี่ ะเก็บในเม่ือจะเปล่ียนหรือยา้ ย ข. เม่อื ใชโ้ ดยไม่มีเครื่องหมายกำกับอยา่ งอน่ื หมายความวา่ \"จงอ่านเป็นประมวล\" (รูปที่ ๗๕) ค. ในประการอืน่ ๆ หมายความว่า \"ด้านบนของจำนวนเลขแผ่นผ้าหรอื หมู่คำ\" และการปู \"พร้อมแลว้ อา่ นได\"้ ๓๑. เครอื่ งหมายกำกับอักษร เมอื่ ปูเหนือเคร่อื งหมาย \"กำกับการอา่ น\" หมายความว่า \"จงอ่านเป็นตัวอกั ษร\" (รูปท่ี ๗๖)

๕๙ ๓๒. เครื่องหมายกำกับจำนวนเลข เมื่อปูเหนือเครื่องหมาย \"กำกับการอ่าน\" (รูปที่ ๗๔) ก็หมายความว่า \"จงอ่านเป็นจำนวนเลข\" (รูปท่ี ๗๗) ๓๓. เครือ่ งหมายกำกบั ประมวล (รูปท่ี ๗๘) ก. เม่อื ปูเหนอื เครือ่ งหมาย \"กำกับการอ่าน\" กห็ มายความว่า \"จงอา่ นจดุ และขดี เป็นประมวล\" ข. เมื่อสง่ สญั ญาณตวั อักษรเป็นประมวล เราแทน จดุ โดยให้แผ่นผ้าสัญญาณตงั้ ไดฉ้ ากกบั เคร่ืองหมาย \"กำกบั การอา่ น\" และแทน ขีด โดยใหแ้ ผ่นผา้ สญั ญาณขนานกบั เครอ่ื งหมาย \"กำกับการอา่ น\" (รปู ที่ ๗๔) รปู ที่ ๗๔ เคร่ืองหมายกำกบั แผ่นผา้

๖๐ รปู ท่ี ๗๕ การใช้ประมวลแผ่นผ้าสญั ญาณ การปูน้ีเป็นการส่งสัญญาณแรกของข่าวประเภทรอ้ งขอ เลข ๔ และ ๐ แสดงจำนวนเลข ๔๐ ใน ประมวลแผน่ ผ้าสญั ญาณ ๓๔. ระเบียบปฏิบัติ ก. แผ่นผ้าตั้งฉากอันหนึ่งในหมายเลขแต่ละตัว และในเครื่องหมาย \"จงอ่านเป็นตัวอักษร\" และ \"จงอ่านเป็นตัวเลข\" นั้น ใช้เป็นแผ่นผ้าหลัก ตั้งอยู่ประมาณกึ่งกลางของเครื่องหมาย \"กำกับการอ่าน\" การปใู ห้ปูแผน่ ผ้าหลกั กอ่ น แลว้ คงไว้ในที่เดมิ ตลอดเวลาที่การส่งสญั ญาณด้วยแผน่ ผา้ ยงั คงดำเนนิ อยู่ ข. เมื่อจะส่งตัวเลข (หรือเคร่ืองหมาย) ๑ ตัว ให้ปูแผ่นผ้าหลัก ๑ แผ่น แต่ถ้าจะส่งตัวเลข (หรอื เครอ่ื งหมาย) ๒ ตวั ให้ปูแผ่นผ้าหลกั ๒ แผ่น ในแนวเดียวกนั โดยใหแ้ ผน่ หนง่ึ อยเู่ หนอื อีกแผน่ หน่ึง ค. การติดต่อสื่อสารด้วยแผ่นผ้า ในขั้นแรกเริ่มต้นด้วยการปูแผ่นผา้ หลัก ๒ แผ่น เอาแผ่นหนึ่งปูเหนอื อกี แผน่ หนึง่ เมอื่ เราปูเคร่อื งหมาย \"กำกับการอ่าน\" เข้าไป ดว้ ยกห็ มายความวา่ \"มีขา่ วถงึ ท่าน\" น่ีเป็นการปฏิบตั ิ โดยปกติ อยา่ งไรกด็ ี การส่งขา่ วยังคงดำเนินต่อไป โดยไม่ต้องมีสงิ่ ท่กี ล่าวมาแล้วขา้ งต้นนั้นเลย ซ่งึ ใชว้ ิธีดึงดูด ให้เครอื่ งบนิ เกดิ ความสนใจในเมือ่ ไมไ่ ดเ้ ตรียมการไว้ก่อน

๖๑ ง. เมอื่ เปลีย่ นจำนวนเลขเปน็ จำนวนอื่น วิธีทส่ี ะดวกและรวดเร็วท่ีสุดคือ โดยการเล่ือนตำแหน่งแผ่นผ้า เพ่ิมแผ่นผ้า หรือเก็บแผ่นผ้าอื่นๆนอกจากแผ่นผ้าหลัก แผ่นผ้าเครื่องหมาย \"กำกับการอ่าน\" ให้เก็บเป็นแผ่น แรกในเมอ่ื เปล่ียน และปูเป็นแผ่นสดุ ท้าย ในเมื่อการปูแผน่ ผา้ ใหม่พร้อมทจ่ี ะให้อ่านแลว้ แผน่ ผ้าที่เหลือทั้งหมด ทีไ่ มใ่ ช้ให้เกบ็ ให้พน้ สายตา ๓๕. การเว้นชอ่ งว่างระหว่างแผ่นผา้ สญั ญาณ ก. การเวน้ ช่องวา่ งระหวา่ งแผ่นผ้าสัญญาณ ตามท่ีแสดงในภาพนั้น เป็นการเวน้ ช่องว่างตามปกติ มีผล สมความมุ่งหมายและรวดเร็วมากที่สุด ที่จะกล่าวต่อไปน้ีเป็นการเว้นช่องว่างในระยะที่ชิดกันมาก ซึ่งอาจจะ เกดิ ขนึ้ ได้ รูปท่ี ๗๖ การใช้ตวั อักษร การส่งตัวอักษร ปูเครื่องหมายกำกับอักษรตรงกลาง ให้อยู่เหนือเครื่องหมายกำกับการอ่านขึ้นไป ระยะครงึ่ ชว่ งความยาวของแผน่ ผ้า เลขท่ี ๔ ที่เหน็ อยูน่ ีห้ มายถงึ ตวั อักษร ลำดับท่ี ๔ คือ ตัว ง. ข. เมื่อใดก็ตาม ถ้ามีโอกาสจะกระทำได้แล้ว ใหใ้ ชเ้ ว้นช่องว่างสองช่วงความยาวของแผ่นผ้า อย่างไรก็ดี ถ้าพื้นที่จำกัด เช่น ถนน อาจต้องลดขนาดลง แต่ไม่เปลี่ยนแปลงแบบเบื้องต้น ด้วยเหตุนี้การเว้นช่องว่าง

๖๒ ระหว่างแผ่นผ้าหลัก อาจลดลงเหลือ ๑ ช่วง ความยาวของแผ่นผ้า (อย่างน้อยที่สุด) และครึ่งช่วง ความยาวของแผ่นผา้ ระหวา่ งแผน่ ผ้าเลข ๒, ๓ และ ๔ เลข ๗ อาจใชแ้ ผน่ ผ้า ๒ แผน่ ปูแทน ๓ แผ่นได้ หมายเหตุ ส่ง ๒ ตวั เลข ใน ๑ สัญญาณ ส่ง ๓ ตวั เลข ใน ๑ สญั ญาณ หรอื ๒ ตอนสัญญาณ สง่ ๔ ตัวเลข ใน ๒ สญั ญาณ รปู ท่ี ๗๗ การใช้ตวั เลข สง่ ตวั เลข (พิกัด. จำนวน ฯลฯ) ปูเครื่องหมายกำกับจำนวนเลขตรงก่ึงกลาง เหนือเครื่องหมายกำกับการอา่ นข้ึนไประยะครึ่งช่วงความ ยาวของแผ่นผ้า เครื่องหมายกำกับจำนวนเลข ทำขึ้นด้วยแผ่นผ้า ๓ แผ่น แบบรูปตัว \"วาย\" ซึ่งหมายความว่า \"จงอา่ นเป็นตัวเลข\"

๖๓ รูปที่ ๗๘ ประมวล หมายเหตุ ๑. รปู เครื่องหมายกำกบั ประมวล \"เหนือเครื่องหมาย\" กำกบั การอ่าน \"หา่ งกนั ระยะครึ่งชว่ ง ความยาวของแผ่นผ้า และอยู่ในแนวเดียวกันกับตวั เลขหลกั หมายความวา่ \"จงอ่านจุดและ ขีดเป็นประมวล\" ๒. เม่ือทำการส่งตัวอกั ษรในประมวล เราแทนจุดโดยให้แผน่ ผ้าสญั ญาณตั้งไดฉ้ ากกับเคร่ืองหมาย \"กำกบั การอ่าน\" และแทนขีด โดยใหแ้ ผ่นผ้าสญั ญาณขนานกบั เคร่ืองหมาย \"กำกบั การอา่ น\" ๓. จงสง่ อกั ษรท่รี วมกันมากกว่า ๒ ตวั ในหมู่ ๔. ใช้เคร่ืองหมายเว้นวรรค (หมายเลข ๑๕ ในประมวลแผ่นผ้าสัญญาณ) เพ่ือแยกหมูข่ อง เครือ่ งหมายหรือตัวอักษร หลงั จากสง่ ไปแล้วชุดหนงึ่ ๆ

๖๔ ตวั อักษรในภาพ ก -- แผ่นผา้ หลกั ข -- ระยะครึง่ ช่วงความยาวของแผน่ ผา้ ค -- ระยะหน่งึ ช่วงความยาวของแผ่นผา้ รปู ท่ี ๗๙ ประมวลแผน่ ผ้าตวั เลข

๖๕ หมายเหตุ ระหวา่ งแผ่นผ้า มีระยะหา่ ง ๑ ชว่ งความยาวของแผ่นผา้ ตลอดทุกแผน่ ในเม่ือมที ่พี อ รปู ที่ ๘๐ ประมวลแผ่นผา้ สญั ญาณอักษรสากล

๖๖ ๓๖. ประมวลแผน่ ผ้าสัญญาณ ประมวลแผน่ ผ้าสัญญาณข้างล่างนี้เป็นประมวลท่เี ตรยี มไว้ ซง่ึ อาจใชก้ ับระบบแผ่นผ้าสัญญาณระหว่าง อากาศ/พื้นดิน ในการติดต่อกับเครื่องบิน สำหรับประมวลแผ่นผ้าสัญญาณนี้นั้น อยู่ในคำแนะนำปฏิบัติการ สอ่ื สารของหน่วย (นปส.) ก. ข่าวทจ่ี ำเปน็ ในการรบ ๐. ทา่ นอาจรอ่ นลงทน่ี ี่ ๑. เรากำลงั เข้าตี ๒. อย่ารอ่ นลงหรืออยา่ ทิ้งขา่ วที่น่ี ๓. ร้องขออาหาร ๔. รอ้ งขอน้ำ ๕. ร้องขอกระสนุ ปืนเลก็ ...................... . นัด.......มม. ๖. ร้องขอเวชภัณฑ์ ๗. รอ้ งขอน้ำมันเบนซนิ ........................แกลลอน ๘. ยึดที่หมายไดแ้ ล้ว ๙. ร้องขอปืนใหญ่ และหรอื การโจมตีทางอากาศทีพ่ ิกัด...... ข. ข่าวการปฏิบัติของฝ่ายเดียวกนั ØØ ข้าพเจา้ กำลงั อยทู่ น่ี ี่ Ø๑ การเข้าตขี องเราลม้ เหลว Ø๒ เราเข้าที่แลว้ และพร้อมท่ีจะออกตี Ø๓. เรากำลงั เขา้ ประจำท่ีมนั ตงั้ รับท่ีน่ี Ø๔. ถกู ตรงึ ด้วยเครื่องกีดขวางรถถงั ในทศิ ทางทแี่ สดงไว้ Ø๕ ทหารของเราอยูท่ ี่...........(บอกพิกดั ) Ø๖ เราถกู ลอ้ ม Ø๗ เรากำลังถอนตัว Ø๘ เราต้ังใจจะเคลื่อนย้าย (ทิศทางหรือพิกัดของท่ตี ้ังใหม่อาจจะแสดงไว)้ Ø๙ เรากำลังยา้ ยที่บงั คับการ (อาจบอกพิกดั ของทีต่ งั้ ใหม)่ ค. คำยอ่ ตามระเบียบ (เครอ่ื งหมายรบั สง่ ข่าว) ๑Ø. จงคอย (อาจบอกตัวเลขเปน็ นาที) ๑๑. ขา้ พเจา้ มีข่าวสำหรบั ท่าน ๑๒. รับข่าวแลว้ ๑๓. จงทวนขา่ ว

๖๗ ๑๔. ยกเลิกการปูคร้งั สุดท้าย ๑๕. เครื่องหมายเว้นวรรค ๑๖. ไม่มีข่าวอีก ๑๗. ไม่ หรอื ปฏเิ สธ ๑๘. ใช่ หรอื ยืนยัน ๑๙. พรงุ่ นก้ี ลบั มา ง. การติดต่อ ๒Ø. ข้าพเจา้ ยังไม่ได้รบั สัญญาณของทา่ น ๒๑. สญั ญาณของท่านอ่อน ๒๒. วิทยไุ ม่พร้อม หรือใชไ้ มไ่ ด้ ๒๓. ไมเ่ ขา้ ใจข่าวของทา่ น ๒๔. ทา่ นกำลงั รับสญั ญาณของขา้ พเจ้าหรือ ? ๒๕ ขา้ พเจา้ ไมม่ วี ธิ ีการติดต่อส่อื สารอนื่ ๆ ๒๖ จงใช้ทัศนสัญญาณ ๒๗ ขา่ วเป็นทเี่ ข้าใจแลว้ ๒๘. ขา้ พเจ้ากำลงั ต้องการทราบความถี่คลื่นวทิ ยุ สำหรบั การตดิ ต่อครั้งตอ่ ไป ๒๙ * จ. การตรวจการณ์ปนื ใหญ่ ๓Ø. ยงั ไมพ่ ร้อมท่ีจะยิง ๓๑. พรอ้ มทจ่ี ะยิงไปยังเป้าหมาย ๓๒. ไม่อาจยงิ ไปยังเป้าหมายได้ ๓๓. โปรดสอบหลักฐานแผนที่ ๓๔. ข้าพเจ้าไม่ต้องการท่านอีก ๓๕ * * ความหมาย อาจจะกำหนดขึ้นโดยหน่วยทใี่ ช้ ฉ. เรอ่ื งทั่วไป ๓๖. ขา้ พเจา้ ทราบตำแหน่งที่อย่ขู องข้าพเจา้ ๓๗. ข้าพเจา้ กำลังบา่ ยหนา้ สู่ฝ่ังตามทิศทางท่ีแสดง ๓๘. ข้าพเจ้ากำลังไปท่เี ก็บนำ้ หรือท่เี ก็บอาหาร ตามท่ที ่านบอก และจะอยทู่ ี่น่นั ๓๙. ทง้ั หมดเรยี บรอ้ ย……. ไม่รอ้ งขอความชว่ ยเหลือ

๖๘ ช. การรอ้ งขอพเิ ศษ ๔Ø. รอ้ งขอ (บอกโดยตัวอักษรหรอื ตวั เลข) ตัวเลขอาจจะแสดงจำนวนหบี ห่อทีต่ ้องการให้ทง้ิ ๔๑. ร้องขอกำลังเพิ่มเติม ๔๒. ร้องขอกระสนุ เคร่ืองยงิ ลูกระเบิด ๔๓ ร้องขอกระสุนต่อสยู้ านเกราะ ๔๔. รอ้ งขอกระสุนปืนใหญ่ ๔๕. รอ้ งขอคำแนะนำเพ่มิ เติม ๔๖. ร้องขอที่อยู่ของข้าพเจา้ ๔๗. รอ้ งขอรองเท้าและเสอ้ื ผ้า ๔๘ ร้องขอการชว่ ยเหลือทางการแพทย์ ๔๙ * ซ. ข่าวกรองการปฏบิ ัติของขา้ ศกึ ๕Ø. ขา้ ศึกกำลงั เขา้ ตี ๕๑. ข้าศกึ ยึดลานบินอยู่ *๕๒. ขา้ ศึกอยู่ที่ ............................... (บอกพิกดั แผนที)่ ๕๓ การเข้าตขี องข้าศึกเจาะแนวได้ ๕๔ การเข้าตขี องข้าศึกล้มเหลว ๕๕ ขา้ ศกึ เตรยี มการเข้าตี ๕๖ ไดร้ ับรายงานวา่ เครอ่ื งบินข้าศึกกำลงั ใกลเ้ ขา้ มา **๕๗ ขา้ ศกึ รวมกำลงั กนั อยู่ ในทิศทางที่แสดง **๕๘ อาวธุ อัตโนมัตขิ องข้าศึก อยู่ในทิศทางทแี่ สดง **๕๙ ปนื ใหญ่ข้าศกึ อยใู่ นทศิ ทางท่แี สดง ด. คำแนะนำตอ่ เครอ่ื งบนิ ๖Ø. ปฏบิ ัตกิ ารลาดตระเวนในทิศทางที่แสดงใหเ้ ป็นผลสำเรจ็ ๖๑. ตอ่ ไปนี้เป็นทิศทางตามเข็มทิศ (อักษรหรือภาพแสดง) **๖๒. ตอ้ งการไดร้ ับการสนบั สนนุ จากทางอากาศโดยตรง **๖๓. เป้าหมายทีน่ ำสนใจ อยใู่ นทิศทางท่แี สดง ๖๔. ถ้าท่านมองเห็นกำลังฝ่ายเราทิศทางใด จงบินเป็นวงกลมและบนิ ไปทางน้ัน ๖๕. จงรายงานทีอ่ ยขู่ องข้าพเจ้าไปยงั ทบี่ ังคับการ ๖๖. จงบอกท่เี กบ็ อาหารที่อยู่ใกล้ทีส่ ุด บินเป็นวงกลมและบินไปทางทิศนัน้ ๖๗. จงบอกท่เี กบ็ น้ำท่ีอยู่ใกล้ทส่ี ุด บนิ เป็นวงกลมและบินไปทางทิศนั้น ๖๘. อย่าโจมตี

๖๙ ๖๙ * * ความหมาย อาจกำหนดโดยหน่วยทใ่ี ช้ ** ความหมาย อาจสง่ ข่าวโดยมตี วั เลขหลกั รอ้ ยเมตรแสดงประกอบดว้ ย ๓๗. ความหมายซึ่งกำหนดไว้ล่วงหน้า ใน นปส. ของหนว่ ยจะกำหนดประมวลแผ่นผ้าสัญญาณขึ้น โดยเฉพาะแต่ละชนิด การรับ การตอบรับ และการระบุชนิด โดยปกติความหมายต่าง ๆ เหล่านี้จะใช้คู่มือน้ีเป็นหลัก พร้อมด้วยการอธิบายอย่างละเอียด โดยเฉพาะเป็นเร่อื ง ๆ ไป ๓๘. การทราบความหมาย และการตอบรบั จากเครอ่ื งบนิ ก. เครื่องบินจะแสดงความเข้าใจ การติดต่อ จากพื้นดิน ด้วยการโคลงปีกไปมา โดยการทำแสงวาบ สีเขียวดว้ ยไฟสญั ญาณ หรือด้วยสญั ญาณนัดหมายอยา่ งใดอยา่ งหน่งึ (รูปที่ ๘๑) ข. เครอ่ื งบินจะแสดงความไม่เขา้ ใจ การตดิ ตอ่ จากทางพน้ื ดินด้วยการตวี งเลย้ี วขวาเป็นมมุ ๓๖๐ องศา โดยการทำแสงวาบสแี ดงด้วยไฟสญั ญาณ หรอื ด้วยสัญญาณนัดหมายอย่างใดอย่างหน่งึ (รูปที่ ๘๑) ค. เมอื่ อา่ นขา่ วดว้ ยการปูแผ่นผ้าแล้วแต่ละครัง้ จะตอ้ งแสดงการตอบรบั เสมอ ง. เครอ่ื งบินจะตอ้ งขอให้หน่วยแสดงประมวลหมายหน่วย โดยสญั ญาณนัดหมาย จ. ไมว่ า่ กรณใี ด ๆ หน่วยจะไมแ่ สดงประมวลหมายหนว่ ยเป็นอนั ขาด จนกว่าจะพิสจู นว์ ่าเครื่องบินเป็น ฝา่ ยเดยี วกนั ๓๙. สญั ญาณแสงฝ่ายเดียวกนั จากพื้นดินสู่อากาศ หนว่ ยทหารพน้ื ดินแสดงตนว่าเป็นทหารฝ่ายเดียวกันกับเจา้ หนา้ ทเ่ี คร่ืองบิน โดยใชเ้ คร่ืองหมายแผ่นผ้า VS ๑๗/GVX หรือด้วยวิธีทำนองเดียวกัน แผ่นผ้าเครื่องหมายนี้ปูบนหลังคายานยนต์รบ เพื่อแสดงว่าเป็น ยานพาหนะฝ่ายเดียวกันไปให้ผู้ตรวจการณ์ทางอากาศทราบ ทั้งยังใช้ปูที่พื้นดินแนวหน้าแสดงว่าเป็นฝ่าย เดียวกันด้วย หรอื หน่วยทหารทำการลงรบเดินดิน ฯลฯ สีและแบบจะกำหนดไวใ้ น นปส. และ นปส. ของหน่วย ก. โคลงปีก – รบั ขา่ วแล้วและเขา้ ใจ ข. เล้ียวขวา – รบั ขา่ วแลว้ แตไ่ ม่เข้าใจ รูปท่ี ๘๑ เครื่องบินแสดงการตอบรับ

๗๐ รปู ที่ ๘๒ ทิศทางลม รปู ท่ี ๘๓ จงตกขา่ วทีน่ ่ี ทิศทางลมตามที่แสดงไว้ รูปท่ี ๘๔ ขา่ วท่ีท้ิงลงมาหาไม่พบ ๔๐. เครอ่ื งหมายพเิ ศษ ก. ทิศทางลม เคร่ืองหมายรูปตัว T นใ้ี ช้แสดงทศิ ทางลมใหเ้ ครื่องบินทำการบินเข้าไปหาลม (รูปท่ี ๘๒) ข. ตกข่าว เครื่องหมายเลข 8 (H ) พร้อมด้วยรูปตัว T แสดงทิศทางลมอยู่ข้างล่างตรงกึ่งกลาง หมายความวา่ \"จงตกข่าวทน่ี ี่ ทศิ ทางลมตามที่ไดแ้ สดงไว้\" อยา่ เอาแผน่ ผ้าผืนขวางของตวั H (8) ใสเ่ ข้าท่ี จนกวา่ พรอ้ มท่จี ะใหต้ กขา่ วได้ (แผ่นผา้ ผนื ขวางของตัว H เป็นเคร่อื งหมาย\"พร้อมแล้ว\") ท่ตี ง้ั ของเสาตกข่าว แสดงไว้ใน รูปที่ ๘๓ โดยปกติทต่ี ้ังของเสาแตล่ ะต้น หา่ งกันหน่ึงช่วงความยาวของแผ่นผ้า จากมมุ แผ่นผ้าท่ีใกล้ท่ีสุดตามท่ี แสดงไว้ด้วยเส้นนำทาง ตวั อกั ษรในภาพ ก – แผน่ ผ้าหลกั รปู ท่ี ๘๕ เครอื่ งบินข้าศกึ อยูใ่ กล้

๗๑ ตวั อักษรในภาพ ค - - ระยะหนงึ่ ชว่ งความยาวของแผ่นผ้า รูปท่ี ๘๖ เครือ่ งช้ีทิศทาง ค. ขา่ วท่ีทิง้ ลงมาหาไม่พบ เมอื่ ข่าวที่ทง้ิ ลงมาหาไมพ่ บ ใหป้ เู ครอื่ งหมายตามที่แสดงในรปู ที่ ๘๔ ในพืน้ ทท่ี ี่ทงิ้ ของ ง. เครอื่ งบินขา้ ศกึ อยูใ่ กล้ (รูปท่ี ๘๕) ปแู ผ่นผา้ สองแผ่นตดั กันเป็นมุมฉากกบั แผ่นที่สาม และทแ่ี กนด้าน ใดด้านหนึ่งของแผ่นผ้าหลักที่แสดงไว้ว่า \"เครื่องบินข้าศึกอยู่ใกล้\" เครื่องหมายพิเศษนี้ ย่อมมีความหมายเสมอ แม้ว่าส่วนอนื่ ๆ ของทป่ี ูไว้ ยังคงเหลืออยใู่ นท่ีเดิม จ. เครื่องชี้ทิศทาง (รูปที่ ๘๖) ทำลูกศรด้วยแผ่นผ้าไม่น้อยกว่าสี่แผ่น ความหมาย \"ในทิศทางนี้\" เครื่องหมายนี้ใช้แสดงอยู่แล้วในตัวหรือจะประกอบกับการวางเครื่องหมายแบบอื่นๆเพื่อให้ มีความหมาย สมบูรณย์ ่งิ ขนึ้ ก็ได้ ฉ. การทำเครื่องหมายเขตท้ิงของ ทำเครื่องหมายเขตทิ้งของโดยการปูรูปตัว T ซึ่งเครื่องบินจะเริ่มท้ิง ของเมื่อบินอยู่เหนือรูปตัว T แผ่นผ้าผืนไกลจะช่วยให้นักบินทำการแก้ไขความคลาดเคลื่อน ที่เกิดจากลม ระหว่างบินเข้ามาในระยะใกล้ และแผ่นผ้าทางปีกซึ่งห่างออกมาจากรูปตัว T ทางด้านซ้าย (ของนักบิน) ก็ไกล พอเพือ่ ทจี่ ะเห็นไดง้ ่ายจากที่นงั่ นักบิน เมอ่ื เครอ่ื งบินบินเหนอื รปู ตัว T ใหป้ ูรปู ตัว T ตามระยะคลาดเคลื่อนของ ร่มสำหรับวิธีคำนวณที่ตั้งที่แน่นอนของรูปตัว T นั้นดู รส.๕๗-๓๘ ข้อ ๔๕ ข. อาจใช้ประมวลตัวอักษรหรือ ตัวเลข เพือ่ แสดงเขตทง้ิ ของตามความเหมาะสม ถา้ ใชป้ ระมวลตวั อกั ษรหรือตัวเลขแลว้ ให้ดูตามทแ่ี สดงไว้ (รูปที่ ๘๗)

๗๒ รูปท่ี ๘๗ การทำเครื่องหมายเชตทิง้ ของ ช. การทำเคร่ืองหมายเขตขึ้นลงเครอ่ื งบนิ ปีกตดิ การวางเครื่องหมายเขตขึ้นลงของเครื่องบินปีกติดนั้นให้ปูแผ่นผ้าที่มุมซ้ายและขวาของทางวิ่งและที่ ระยะ ๑/๓ และ ๒/๓ บนขอบทางวิ่งด้านซ้าย ให้ปูแผ่นผ้าสีแดงสองผืนปิดมุมทางด้านซ้ายของทางวิ่ง เพ่ือ แสดงว่าสุดทางว่ิง ถ้าใช้ประมวลตัวอักษรหรือตัวเลข ปูกึ่งกลางทางด้านข้างของทางวิ่งห่างออกไป ๗๐ เมตร ทางด้านที่ใกล้ที่สุดซึ่งเครื่องบินเข้ามา ถ้าทางวิ่งอยู่แนวเดียวกันกับทิศทางเข้ามาของเครื่องบิน ปูประมวล ตวั อกั ษรหรือตัวเลขทางดา้ นขา้ งแบบการจราจร (รูปท่ี ๘๘)

๗๓ รปู ท่ี ๘๘ การทำเคร่ืองหมายเขตข้นึ ลงของเครื่องบนิ ปีกตดิ

๗๔ รปู ท่ี ๘๙ การทำเคร่ืองหมายเขตข้นึ ลงของเครื่องบนิ ปีกหมุน

๗๕ ตอ้ งการหมอชว่ ยดว่ น ท้ังหมดเรียบร้อย อย่าคอย ใช้ในเม่ือชวี ิตอยู๋ในระหว่างเส่ียง โบกแขนขา้ งหนง่ึ เหนือศรีษะ เพยี งอย่างเดียวเทา่ นนั้ นอนเหยียดตรง นอนเหยยี ดตรง อาจกระทำตอ่ ไปได้ในระยะสั้น คอย – ถา้ ทำได้ ตอ้ งการเครอ่ื งจกั รหรือชนิ้ ส่วน-ทำถ่วงเวลา ยกแขนขา้ งหน่งึ ให้ได้ระดับไหล่ ยกแขนท้ังสองไปทางขา้ งใหไ้ ด้ระดบั ไหล่ ร่อนลงทน่ี ี้ อย่ารอ่ นลงทน่ี ้ี ยกแขนท้ังสองไปขา้ งหน้าได้ระดบั น่งั พับขา ยกแขนทั้งสองเหนือศรีษะโบกผ่านหนา้ และหนั ไปในทศิ ทใ่ี ห้ทำการร่อนลง-ทำซ้ำ รปู ที่ ๙๐ ทศั นสัญญาณฉุกเฉินจากพื้นดินสู่อากาศ

๗๖ ใชท้ ัง้ ขา่ ว ทำท่าพงุ่ ไปข้างหน้า เจา้ หน้าทร่ี ับรองของเรากำลังปฏิบตั กิ าร วางอุง้ มือท้งั สองเหนือหูท้ังสอง การปฏเิ สธ (ไม)่ การยนื ยัน (ใช่) รับไปด้วย โบกผา้ ขาวในทางระดับ โบกผา้ ขาวในทางด่ิง เราสละเครื่องบินเหยยี ดแขนทง้ั สองตั้งตรง รูปที่ ๙๐ ทศั นสญั ญาณฉุกเฉินจากพ้นื ดินสู่อากาศ (ต่อ)

๗๗ การยนื ยัน (ใช่) การปฏเิ สธ (ไม่) ลดหัวเครือ่ งบนิ ขนึ้ ลงหลายๆ ครงั้ เครอื่ งบนิ ส่ายหาง รูปที่ ๙๐ ทศั นสญั ญาณฉุกเฉนิ จากพ้นื ดนิ สูอ่ ากาศ (ตอ่ ) วธิ ีใช้ ถ้าต้องลงในกรณีฉุกเฉิน และสามารถทำให้นักบินของเครื่องบินช่วย เกิดความสนใจได้แล้ว ทำสัญญาณตามภาพข้างบนนั้นอาจใช้ติดต่อส่งข่าวกับนักบินได้ ในขณะที่เครื่องบินช่วยทำการบินเป็นวงกลมเหนือที่ อยู่ของทา่ น เม่ือทำทำสญั ญาณให้ยนื ในท่ีโลง่ เพ่อื ให้แน่ใจว่าฉากหลังตามที่มองเหน็ จากทางอากาศนั้น จะไม่ก่อให้เกิด ความสบั สน ทา่ สญั ญาณแต่ละท่าใหท้ ำช้า ๆ และทำซำ้ จนกวา่ ตัวทา่ นจะแนใ่ จวา่ นกั บนิ มีความเข้าใจ ซ. การทำเคร่ืองหมายเขตขึ้นลงเครอ่ื งบินปีกหมุน พน้ื ที่บินข้ึนลงของเครื่องบินปีกหมุน อาจใช้เคร่อื งหมายเช่นทแ่ี สดงไว้ในรูปที่ ๘๙ แผน่ ผ้าตา่ ง ๆ ตอ้ ง ตรงึ ใหแ้ นน่ ปอ้ งกนั ลมดูดขนึ้ จากใบพดั เคร่ืองบนิ ลาดตระเวนและเตรยี มพ้นื ที่ขน้ึ ลงในขนาดเสน้ ผา่ ศนู ย์กลาง ๕๐ เมตร ไปทางซ้ายของจุดแตะพนื้ แตล่ ะจดุ ๔๑. ทศั นสญั ญาณฉุกเฉนิ ทัศนสัญญาณฉุกเฉินสัญญาณเหล่านี้ อาจใช้ติดต่อกับเครื่องบินช่วย การส่งสัญญาณยืนในที่ราบโล่ง เห็นได้ง่ายจากเครื่องบิน ให้ทำการเคลื่อนไหวของท่าสัญญาณแต่ละท่า จนเสร็จ และทำซ้ำจนกว่าจะแน่ใจว่า นักบินมคี วามเขา้ ใจ (รปู ที่ ๙o) ๔๒. ประมวลแผ่นผ้าสญั ญาณฉุกเฉินจากพ้นื ดินสอู่ ากาศ ก. ประมวลข้างล่างนี้ สำหรับใช้ในเวลาฉุกเฉินเมื่อเครื่องบินตก หรือโดดร่มชูชีพในดินแดนไกล ๆ และต้องการขอความช่วยเหลือทางยาหรืออาหาร หรือผู้ซึ่งอยู่ในพื้นที่อันห่างไกล และมีความจำเป็นต้องการ ทราบเร่ืองราวเกี่ยวกับการใช้ยารักษาโรค หรือทิศทางที่จะนำไปสู่ความช่วยเหลือ อย่าใช้เครื่องหมาย \"กำกับ การอา่ น\" พร้อมกับประมวลนี้

๗๘ ข. เคร่อื งหมายสำหรบั ใชใ้ นประมวลนี้ อาจทำจากแถบผา้ ยาวๆผา้ ร่ม ท่อนไม้ ก้อนหนิ หรือทำเป็นรอย ไว้ในหิมะ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเตรียมการจัดทำให้มีสีตัดกันระหว่างเครื่องหมายกับฉากหลัง ถ้าสามารถทำได้ ทำเครื่องหมายให้มีความยาว ๘ ฟุต หรือมากกว่า และเว้นชอ่ งวา่ งแต่ละชิน้ ๑๐ ฟุต ในการปูเครือ่ งหมายต้อง ระวังให้ที่ปูแน่นอน หลีกเล่ียงการปะปนกับเครื่องหมายอื่น ๆ การใช้เครื่องหมายเหลา่ นีม้ ีข้อควรระวังเพิ่มเติม คือ พยายามปฏิบัตทิ ุกวถิ ที างท่ีจะกอ่ ให้เกดิ ความสนใจดว้ ยการใช้วิทยุ พลสุ ่องแสง ควัน หรือวธิ ีการอื่น ๆ ทกุ สิ่งทุกอย่างเรียบร้อย ................................................................................................................. ไม.่ .............................................................................................................................. ....................... ใช่............................................................................................................................... ....................... ไม่เข้าใจ.............................................................................................................................. .............. ตอ้ งการช่างเครอื่ ง... ......................................................................................................................... ต้องการหมอ บาดเจ็บสาหัส.. .......................................................................................................... ต้องการเวชภัณฑ์.............................................................................................................................. ไมส่ ามารถไปต่อไปได้ ...................................................................................................................... ตอ้ งการอาหารและน้ำ ..................................................................................................................... ต้องการอาวุธและกระสนุ ................................................................................................................. ต้องการแผนทแ่ี ละเข็มทศิ ................................................................................................................ ต้องการโคมสญั ญาณแบตเตอรี่พรอ้ ม และวทิ ยุ .............................................................................. จงแสดงทศิ ทางที่จะให้ไป................................................................................................................. กำลังไปทางน้ี ............................................................................................................................. ...... ข้าพเจา้ พยายามจะบนิ ................................................................................................................... เครือ่ งบนิ เสยี หายมาก... .................................................................................................................. ร่อนลงทีน่ ี่อาจปลอดภยั .. ................................................................................................................. ตอ้ งการนำ้ มันเช้ือเพลิงและน้ำมนั เครอ่ื ง......................................................................................... การปฏิบตั กิ ารสำเร็จสมบูรณ.์ . ........................................................................................................ เราพบกำลงั ทหารท้งั หมด ................................................................................................................ เราพบกำลงั ทหารเพยี งบางสว่ น ...................................................................................................... เราไม่สามารถตดิ ต่อ กำลังกลบั ไปฐาน............................................................................................. มแี บง่ เป็นสองพวก กำลงั ปฏบิ ัตกิ าร ในทิศทางทแี่ สดง................................................................................................................ ไดร้ บั ขา่ ววา่ เคร่ืองบิน ไปทางทิศทางน้ี ................................................................................................................. ไมพ่ บจะค้นหาตอ่ ไป........................................................................................................................

ตอนที่ ๖ ธงสญั ญาณ ๔๓. ธงเดีย่ ว (รูปที่ ๙๑ และ ๙๒) วิธีนสี้ ง่ ขา่ วได้ช้ากวา่ ธงคู่ใช้ธงมอื อย่างไรก็ตามผ้สู ่งอาจดัดแปลงเคร่ืองมือสำหรับส่งข่าวจากส่ิงใดๆ ที่ มอี ยู่ก็ได้ วธิ นี ้ใี ชป้ ระมวลสัญญาณมอร์สสากล ก. คำแนะนำ ในการสง่ ข่าวด้วยธงเด่ียวน้นั จำเป็นต้องทราบทิศทางทผี่ ู้ส่งจะต้องหันหน้าไป เมื่อทราบ แลว้ เช่นนี้ ข้อดีของธงเดี่ยวอยู่ที่วา่ ผสู้ ง่ อาจจะอย่ใู นทีก่ ำบงั ไดอ้ ย่างเต็มที่ ข. การส่ง ในการส่งด้วยธงเดียวนั้น การเคลื่อนไหวอยูใ่ นส่วนโค้ง ๙๐ องศา ถ้าไปทางขวาของผู้ส่งใช้ แทนจุด และการเคลื่อนไหวในทำนองเดียวกันไปทางช้ายใช้แทนขีด ควรจะโบกธงให้เคลื่อนไหวไปมาเป็นรูป เลขแปดอารบิคทางนอนอยู่เสมอ เพื่อช่วยให้ธงคลี่ได้เต็มที่ อักษรมอร์สทั้งหมดให้เริ่มต้นจากตำแหน่งแนวด่ิง เหนือศีรษะของผู้ส่ง จุดและขีดของแต่ละตัวอักษร, ตัวเลขหรือสัญญาณพิเศษ ให้โบกไปอย่างรวดเร็วโดยไม่ ต้องหยุดเว้นจังหวะระหว่างส่วนต่าง ๆ การหยุดเว้นจังหวะนั้นก็ คือตำแหน่งแนวดิ่งระหว่างแต่ละตัวอักษร, ตัวเลข หรอื สญั ญาณพเิ ศษนน่ั เอง ค. สญั ญาณเตรียมตวั สญั ญาณเตรยี มตัวให้โบกธงเป็นรูปเลขแปดอารบกิ ทางนอนเหนือศีรษะ ให้เป็น มุมฉากกับทศิ ทางสง่ ขา่ ว ง. สัญญาณเก็บธง ให้ใช้สัญญาณนี้สำหรับคั่นคำต่าง ๆ หมู่ประมวล, สัญญาณตามระเบียบการ, นามเรยี กขาน หรอื หมู่คำสง่ มอบข่าวและอักษรทผ่ี สมกนั ในทำนองน้ี สัญญาณนก้ี ระทำโดยโบกธงไปเป็นส่วน โคง้ ๑๓๕ องศา เริ่มตน้ จากตำแหน่งแนวดิ่งลงไปข้างหน้าในแนวทางส่ง ถ้าพนกั งานทั้งสองมองเห็นกันก็อาจ ตอบรับแต่ละคำ หรือแต่ละหมู่คำได้ด้วยการโบกธงหรือโบกมือ ส่วนในกรณีอื่นๆ นั้น ให้ส่งข่าวไปจนจบ จนกระทัง่ ไดร้ ับตอบ ROGER หรอื คำขอให้ส่งซ้ำ ถา้ ทำได้ ๔๔. ธงคู่ ก. เครื่องมือธงคู่ชนิดมาตรฐานนั้น ประกอบขึ้นด้วยธงมือ ๒ ธง โดยทั่วไปเป็นส่ีเหลี่ยมจัตุรัสชนาด ๑๕ นิ้ว ถึง ๑๘ นิ้ว ติดกับด้ามธง ซึ่งมีขนาดยาวประมาณ ๒๒ นิ้ว ธงสำหรับส่งสัญญาณนั้นถ้าอาจจะทำข้ึน เองได้ ถ้าเครื่องมอื มาตรฐานไม่มี

๘๐ ตวั อักษร รปู ที่ ๙๒ ประมวลสัญญาณมอร์สสากล

๘๑ ตวั เลข รปู ที่ ๙๒ ประมวลสญั ญาณมอรส์ สากล (ตอ่ ) A1 B2 C3 D4 รูปที่ ๙๓ อกั ษรสญั ญาณธงคู่ภาษาองั กฤษ

๘๒ E5 F6 G7 H8 I9 J0 รปู ท่ี ๙๓ อักษรสญั ญาณธงคู่ภาษาองั กฤษ (ต่อ)

๘๓ KL MN OP QR รูปท่ี ๙๓ อกั ษรสญั ญาณธงคู่ภาษาองั กฤษ (ตอ่ )

๘๔ ST UV WX รูปท่ี ๙๓ อกั ษรสญั ญาณธงคู่ภาษาองั กฤษ (ตอ่ )

๘๕ YZ ERROR SIGN FRONT ขา้ งหนา้ FIGURES ATTENTION ตัวเลข เตรียมตัว รปู ท่ี ๙๓ อกั ษรสัญญาณธงคู่ภาษาองั กฤษ (ต่อ)

๘๖ ข. ในการส่งธงคู่ทั้งหมด ทำโดยการใช้ตัวอักษรสากล และสัญญาณนัดหมายพิเศษ ตัวอักษรธงคู่ มาตรฐานนน้ั ไดแ้ สดงไวใ้ นรูปท่ี ๙๓ แลว้ ค. (๑) ในการเลอื กทสี่ ำหรบั ส่งขา่ วด้วยธงคูน่ นั้ จะต้องระมดั ระวังเพอ่ื ให้ไดฉ้ ากหลังที่ดี (๒) ต้องจัดรูปตัวอักษรให้อยูใ่ นพืน้ เดียวกับไหลท่ ัง้ สองของผู้ส่ง พร้อมทั้งให้ด้ามธงเหยียดตรงและ ให้นิว้ ชี้แนบไปตามดา้ มธง เมอื่ อยใู่ นทำเก็บธง (การเริม่ ต้น) จะต้องใหธ้ งไขว้กันอยขู่ ้างหนา้ ลำตัวของผสู้ ง่ (๓) ต้องหยุดเว้นจังหวะให้เห็นชดั ระหวา่ งตัวอักษรแต่ละตัวตามอัตราเร็วของการส่ง เมื่อส่งคำย่อ ตามระเบียบการ, สัญญาณปฏิบัติการ และคำย่อจะต้องหยุดเว้นจังหวะระหว่างตัวอักษรให้นานเป็น ๒ เท่า เม่อื จะส่งข้อความข่าวเข้าประมวล ก็ควรจะหยดุ เว้นจงั หวะระหว่างตัวอกั ษรใหน้ านเป็น ๒ เท่าด้วย (๔) เมื่อส่งจบแต่ละคำ, หมู่คำ, คำย่อตามระเบียบการหรือสัญญาณปฏิบัติการแล้ว จะต้องลด แขนลงอยู่ในท่าเก็บธง ถ้าต้องส่งอักษรซ้ำกันสองตัวและต้องลดแขนลงอยู่ในท่าเก็บธงภายหลังที่ได้ส่งอักษร ตัวแรกแล้ว จึงส่งอกั ษรตัวที่สองโดยไมต่ ้องหยุดเว้นจงั หวะ ง. สัญญาณเก็บธง แสดงทิศทางของการส่ง และในการส่งตัวอักษรนั้น ต้องหันหน้าไปทางสถานีที่ จ่าหนา้ ถงึ จ. (๑) คำย่อตามระเบียบการท่ีใช้อยู่ในคู่มือนี้ คือ ตัวหนังสือหรือตัวอักษรตัวหนึ่งหรือหลายตัว หรือ ทั้งสองอย่างผสมกันก็ได้ ท่ีใช้เพื่ออำนวยความสะดวกในการสื่อสาร สำหรับนำคำส่ัง, คำแนะนำ, คำขอและ ข่าวสารทเี่ ก่ียวกับการสื่อสาร ในรูปท่ีย่อสัน้ เป็นมาตรฐาน และจำเป็นตอ้ งใช้อย่เู สมอ - คำย่อตามระเบียบการท่ีประกอบดว้ ย ๒ หรือ ๓ ตัวอกั ษร ท่มี ีจำนวนมาก ให้สง่ เป็นหมูค่ ำ ยกตัวอย่าง เชน่ IMI, BT, AS (๒) สัญญาณปฏิบตั กิ าร ให้สง่ เป็นหมู่คำ เช่น QUS, ZJE ฉ. ตัวเลขต่าง ๆ ที่มีอยู่ในส่วนประกอบทั้งหมดของข่าวที่ส่งด้วยธงคู่นั้น จะต้องจดเป็นตัวหนังสือ ถ้าประสงค์ก็จะให้จดเป็นตัวเลขจะต้องนำหน้าและตามด้วย \"เครื่องหมายแสดงตัวเลข\" ทั้งนี้เว้นแต่ในหัวข่าว และท้ายข่าวซงึ่ จะจดธงตวั เลขลงไว้เปน็ ตัวเลขเสมอ ช. อักษรพเิ ศษที่ใชอ้ ยูใ่ นธงคู่มือดังต่อไปนี้ (๑) สัญญาณตอบ ใช้สำหรับตอบการเรียก ถ้าจำเป็นก็อาจใช้นามเรียกขานนำหน้าสัญญาณตอบ เพ่อื ให้ทราบนามสถานท่ีตอบ (๒) สญั ญาณเตรียมตวั ใช้สำหรับการเรยี กขานชน้ั ตน้ ด้วยธงคู่ และเพื่อจะทำการสื่อสารดว้ ย (๓) สัญญาณบอกทิศทาง ใช้ตอ่ จากสัญญาณเตรียมตัว เพอ่ื แสดงทศิ ทางการสง่ (๔) สัญญาณเก็บธง ใช้นำหน้าและตามหลังแต่ละนามเรียกขาน, คำ, หมู่ประมวล, สัญญาณ ปฏบิ ัติการและคำย่อตามระเบียบการ (๕) สัญญาณตัวเลข ใช้นำหน้าและตามหลังแต่ละหมู่ตัวเลข หรือหมู่คำท่ีผสมด้วยตัวอักษร และตัวเลขในขอ้ ความขา่ ว ซ่งึ จะต้องจดและนบั เป็นหมู่คำหมู่เดียวทีป่ ระกอบด้วยตวั อักษรและตัวเลข (๖) สัญญาณแยก สญั ญาณแยกสำหรับธงคู่นีเ้ ป็นอกั ษรพเิ ศษ สง่ ดว้ ยตวั อกั ษร II เป็นหมู่คำหนงึ่

๘๗ (๗) สัญญาณย้ายที่สง่ สถานีรับใช้สญั ญาณนีส้ ำหรับสั่งการให้ผู้ส่งข่าวยา้ ยท่ีไปยังตำบลที่ส่งได้ดกี ว่า ซง่ึ มีดงั น้ี คือ MD - ย้ายลงไปที่ตำ่ ML - ย้ายไปทางซ้ายของทา่ นเมื่อหันหนา้ เขา้ หาขา้ พเจา้ MR - อ้ายไปทางขวาของท่านเมอื่ หนั หนา้ เข้าหาขา้ พเจา้ MU - ยา้ ยขน้ึ ไปขา้ งบน ซ. การเรียกด้วยธงคู่ กระทำได้ด้วยการส่งนามเรียกขานของสถานีที่ถูกเรียก หรือถ้าทำได้ก็ให้ส่ง สญั ญาณเตรียมตวั ไปก่อน จะตอบนามเรยี กขานโดยการทำสญั ญาณการตอบรับ ญ. สถานีรับจะต้องยอมให้สถานีส่งทำการส่งข่าวจนเสร็จเสียก่อน จึงจะขอให้ส่งซ้ำได้ จะต้องขอให้ สง่ ซำ้ ก่อนการตอบรับเสมอ ด. การตอบรับขา่ วทีส่ ง่ ทางธงคู่ ใหส้ ง่ เครื่องหมาย R ดว้ ยธงคู่ ต. เมื่อจำเป็นต้องมีการส่งต่อ สถานีส่งต่อจะต้องพยายามส่งข่าวผ่านไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ และในการเริ่มสง่ ตอ่ ไมต่ อ้ งรอให้สถานีส่งทเี่ ป็นผูใ้ ห้ขา่ วนน้ั สง่ เสร็จเสียก่อน

ตอนท่ี ๗ สัญญาณพเิ ศษ ๔๔. ท่าสัญญาณของเจ้าหนา้ ท่ีสำรวจ อย่านำท่าสญั ญาณของเจา้ หน้าที่สำรวจนไี้ ปใชป้ ะปนกบั ทำสัญญาณในข้อ ๓ ถงึ ข้อ ๖ ท่าสญั ญาณ เหล่าน้ใี ช้กนั มากท่สี ดุ ในการติดตอ่ กนั ก. โบกแขนทั้งสอง-ถูกต้อง ยกแขนทง้ั สองในระดับ-นิ่ง ข. เคลื่อนไปทางขวา (หรือซา้ ย) รปู ที่ ๙๔ ท่าสัญญาณของเจ้าหนา้ ทสี่ ำรวจ ระหว่างคนเครื่องมือหรือผู้ตรวจการณ์กับคนปกั หลักเลง็ ภาพในรูปท่ี ๙๔ แสดงถึงการใช้ประมวลสัญญาณ สากล สำหรบั ภาพทำสญั ญาณนัน้ ไดแ้ สดงไวแ้ ล้วโดยชัดเจนถึงทำทางและการเคล่ือนไหวของแขนทั้งสอง

๘๙ ค. เล็งกลบั หลงั ง. อย่ใู นเส้นแบ่ง หรอื น่ีเป็นจุดศนู ยก์ ลาง รูปที่ ๙๔ (ตอ่ )

๙๐ จ. ปักหลักเลง็ ทางขวา (หรอื ซ้าย) ฉ. ทีต่ ัง้ หัวเล้ียว (ทางแยก) รูปท่ี ๙๔ (ตอ่ )

๙๑ ช. หัวเลย้ี ว (ทางแยก) ซ. โบกหลกั เล็ง รปู ท่ี ๙๔ (ตอ่ ) ซ. โบกหลกั เล็ง รูปท่ี ๔๙ ( ต่อ )

๙๒ ญ. หันหนา้ ไปทางหลกั เล็ง ด. หมุนหลักเล็ง รปู ที่ ๔๙ ( ตอ่ )

๙๓ ต. ถอนหลกั เลง็ ถ. เคลือ่ นมาข้างหนา้ ถ. เคลอื่ นมาข้างหนา้ ท. ถอยหลัง รปู ท่ี ๙๔ (ตอ่ )

๙๔ ขน้ึ ลง น. ขึ้น (หรอื ลง) บ. หยิบเครื่องมือขึ้น รปู ท่ี ๙๔ (ต่อ)

๙๕ ป. เข้ามา รปู ท่ี ๙๔ (ต่อ) ๔๖. ทา่ สัญญาณในการวางสายโทรศัพท์ ภาพในรูปท่ี ๙๕ น้นั ครอบคลมุ ถงึ ระบบสัญญาณสำหรบั ใชโ้ ดยชุดวางสาย เพ่อื อำนวยการปฏิบัตขิ อง เคร่อื งยกเสา, กวา้ น, รถบรรทกุ และการวางสาย ๔๗. ท่าสญั ญาณเครื่องบนิ ภาพทำสัญญาณในรูปที่ ๙๖ ถงึ ๑๓๙ นนั้ เจา้ หนา้ ทที่ างพืน้ ดนิ และทางอากาศเป็นผู้ใช้ เพอื่ ควบคุม และช้ีทิศทางในการปฏิบัตกิ ารของเครื่องบนิ ก. คนธงและผใู้ หส้ ัญญาณ ( ผใู้ ห้สญั ญาณเคร่ืองบินแทก็ ซี่ ) เม่ือมีความต้องการ คนธงจะยนื อยู่ในที่ โล่งแจ้ง ในเวลาทเ่ี ครือ่ งบนิ ใกล้เขา้ มาจะเห็นไดช้ ัด คนธงจะเป็นผู้ชี้ทางใหน้ ักบินไปยังผู้ให้สัญญาณ ผซู้ ่ึงจะ แสดงตวั วา่ เขาพร้อมแลว้ ทจี่ ะเปน็ คนนำทาง ข. ที่อยขู่ องผู้ใหส้ ัญญาณ (๑) ทอ่ี ยขู่ องผูใ้ หส้ ัญญาณสำหรบั เครื่องบินปีกติดน้ัน จะอย่ใู นแนวที่เหยยี ดตรงไปขา้ งหน้าของ ปลายปกี โดยปกติเป็นมมุ ๔๕ องศา จากนักบนิ ยืนในท่ซี งึ่ ตาของนักบนิ สามารถมองเห็นได้ (๒) ท่อี ยู่ของผู้ให้สญั ญาณ สำหรับเคร่อื งบินปีกหมุนนัน้ อยู่ทางด้านขวาประมาณ ๔๕ องศาจาก นักบิน อย่ใู นที่ซ่ึงตาของนกั บนิ สามารถมองเห็นได้

๙๖ ก. ตรงไป ข.ตรงไปชา้ ๆ ค. ถอยหลัง ง. ถอยหลงั ชา้ ๆ รปู ที่ ๙๕ ท่าสญั ญาณในการวงาสายโทรศพั ท์