คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3 1 คู่มอื ครู แผนการจดั การเรียนรู้ กล่มุ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ประวตั ศิ าสตร์ ป. 3 ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี 3 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพนื้ ฐาน พุทธศักราช 2551 ออกแบบการเรียนรู้โดยใช้มาตรฐานการเรียนรู้ และตัวชี้วดั ช้ันปี เป็ นเป้ าหมาย ออกแบบการจดั การเรียนรู้โดยเน้นนักเรียนเป็ นศูนย์กลาง ใช้แนวคดิ Backward Design ผสมผสานกบั แนวคดิ ทฤษฎกี ารเรียนรู้ต่าง ๆ อย่างหลากหลาย ออกแบบการเรียนรู้เพอื่ พฒั นาสมรรถนะสําคญั ของนักเรียนในการสื่อสาร การคดิ การแก้ปัญหา การใช้ทกั ษะชีวติ และการใช้เทคโนโลยี แบ่งแผนการจดั การเรียนรู้เป็ นรายชั่วโมง สะดวกในการใช้ มอี งค์ประกอบครบถ้วนตามแนวทางการจดั ทาํ แผนการจดั การเรียนรู้ของสถานศึกษา นําไปพฒั นาเป็ นผลงานทางวชิ าการเพอื่ เลอื่ นวิทยฐานะได้
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3 2 คู่มอื ครู แผนการจดั การเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ประวตั ศิ าสตร์ ป. 3 ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี 3 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพืน้ ฐาน พุทธศักราช 2551 สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย ห้ามละเมิด ทาํ ซา้ํ ดัดแปลง และเผยแพร่ ส่วนใดส่วนหน่ึง เว้นแต่จะได้รับอนุญาต ผู้เรียบเรียง สุเทพ จิตรชื่น กศ.บ., กศ.ม. บุญรตั น์ รอดตา ศษ.บ. นฤชภรณ์ กมลนฤเมธ ศศ.บ. บรรณาธิการ สุระ ดามาพงษ์ กศ.บ., กศ.ม. สมพร อ่อนนอ้ ม พธ.บ. (เกียรตินิยม), นศ.บ. ISBN 978–974–18–6038–8 พมิ พ์ที่ บริษทั โรงพมิ พ์วฒั นาพานิช จํากดั นายเริงชยั จงพิพฒั นสุข กรรมการผจู้ ดั การ สื่อการเรียนรู้ ป. 1–ป .6 (ช้ันละ 1 เล่ม) ตวั ชี้วดั ช้ันปี ตามหลกั สูตรแกนกลางฯ 2551 • หนังสือเรียน (ศธ. อนุญาต) • แบบฝึ กทกั ษะ • ฉบับสมบูรณ์แบบ • แผนฯ (CD) • หนงั สือเรียน • แบบฝึ กทกั ษะ • ฉบบั สมบูรณ์แบบ • แผนฯ (CD) ภาษาไทย ป. ๑–๖ เล่ม ๑–๒ ………………………..……...สุระ ดามาพงษ์ และคณะ • หนงั สือเรียน • แบบฝึ กทกั ษะ • ฉบบั สมบูรณ์แบบ • แผนฯ (CD) คณิตศาสตร์ ป. 1–6 เล่ม 1–2……………………….ประทุมพร ศรีวฒั นกลู และคณะ • หนงั สือเรียน • แบบฝึ กทกั ษะ • ฉบบั สมบรู ณ์แบบ • แผนฯ (CD) วทิ ยาศาสตร์ ป. 1–6 ………………………...…......... .ดร.บญั ชา แสนทวี และคณะ • หนงั สือเรียน • แบบฝึ กทกั ษะ • ฉบบั สมบูรณ์แบบ • แผนฯ (CD) สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ป. 1–6 ………..….......สุเทพ จิตรช่ืน และคณะ • หนงั สือเรียน • แบบฝึ กทกั ษะ • ฉบบั สมบรู ณ์แบบ • แผนฯ (CD) สุขศึกษาและพลศึกษา ป. 1–6 …..………....…......... .ผศ.เชาวลติ ภมู ิภาค และคณะ • หนงั สือเรียน • แบบฝึ กทกั ษะ • ฉบบั สมบรู ณ์แบบ • แผนฯ (CD) ศิลปะ ป. 1–6 …..…........….……………...….....……….. ทวศี กั ด์ิ จริงกิจ และคณะ • หนงั สือเรียน • แบบฝึ กทกั ษะ • ฉบบั สมบูรณ์แบบ • แผนฯ (CD) การงานอาชีพและเทคโนโลยี ป. 1–6 …….…………………. อรุณี ลิมศิริ และคณะ • หนงั สือเรียน • แบบฝึ กทกั ษะ • ฉบบั สมบรู ณ์แบบ • แผนฯ (CD) เทคโนโลยสี ารสนเทศ ป. 1–6 …..….....……...ดร.ศรีไพร ศกั ด์ิรุ่งพงศากลุ และคณะ • หนงั สือเรียน • แบบฝึ กทกั ษะ • แผนฯ (CD) ประวตั ิศาสตร์ ป. 1–6 …..…………………………….……...……....... รศ. ดร.ไพฑรู ย์ มีกศุ ล และคณะ • หนงั สือเรียน • แบบฝึ กทกั ษะ • แผนฯ (CD) พระพทุ ธศาสนา ป. 1–6 ……………………………………..…. รศ. ดร.จรัส พยคั ฆราชศกั ด์ิ และคณะ • หนงั สือเรียน รายวชิ าเพิ่มเติม • แผนฯ (CD) อาเซียนศึกษา ป. 1–6 ………………………………...................................... สมพร ออ่ นนอ้ ม และคณะ • หนงั สือเรียน รายวชิ าเพิ่มเติม • แผนฯ (CD) หน้าท่ีพลเมือง 1–6 ป. 1–6 ………………………………...............................สมพร อ่อนนอ้ ม และคณะ • หนงั สือเรียน • แบบฝึ กหดั • แผนฯ ซีดี Tops ป.1–6 ....................................................................................................Rebecca York Hanlon และคณะ • หนงั สือเรียน • แบบฝึ กหดั • แผนฯ ซีดี Gogo Loves English ป. 1–6 ................................................................................... Stanton Procter และคณะ สื่อการเรียนรู้ ฉบบั สมบูรณ์แบบ • แผนฯ (CD) ภาษาอังกฤษ ป. 1–6............................................................................ดร.ประไพพรรณ เอมชู และคณะ สื่อการเรียนรู้ ฉบบั สมบูรณ์แบบ หลกั การใช้ภาษาไทย ป. ๑–๖...................................................................................................สุระ ดามาพงษ์ และคณะ ส่ือการเรียนรู้ ฉบบั สมบรู ณ์แบบ เศรษฐกจิ พอเพยี ง ป. 1–6................................................................................................ พิษณุ เพชรพชั รกลุ และคณะ ส่ือการเรียนรู้ ฉบบั สมบรู ณ์แบบ คุณธรรมนําความรู้ ป. 1–6....................................................................................................... สุเทพ จิตรช่ืน และคณะ กจิ กรรม ลูกเสือ–เนตรนารี ฉบบั สมบรู ณ์แบบ ป. 1–6........................................................................................................ดร.อาํ นาจ ช่างเรียน และคณะ กจิ กรรม ยุวกาชาด ฉบบั สมบรู ณ์แบบ ป. 1–6.....................................................................................................................ดร.อาํ นาจ ช่างเรียน และคณะ
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3 3 คาํ นํา คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ศิ าสตร์ ป.3 เล่มน้ีเป็นส่ือการเรียนรู้ท่ีจดั ทาํ ข้ึนเพ่ือใชเ้ ป็น แนวทางในการจดั การเรียนรู้โดยยดึ หลกั การออกแบบการจดั การเรียนรู้ตามแนวคดิ Backward Design ทีเ่ น้นผ้เู รียนเป็ นศูนย์กลาง (Child–centered) ตามหลกั การยดึ ผ้เู รียนเป็ นสําคญั ส่งเสริมใหน้ กั เรียนมีส่วน ร่วมในกิจกรรมและกระบวนการเรียนรู้ สามารถสร้างองคค์ วามรู้ไดด้ ว้ ยตนเอง ท้งั เป็นรายบุคคลและราย กลุ่ม บทบาทของครูมีหนา้ ท่ีเอ้ืออาํ นวยความสะดวกใหน้ กั เรียนประสบผลสาํ เร็จ โดยสร้างสถานการณ์ การเรียนรู้ท้งั ในหอ้ งเรียนและนอกหอ้ งเรียน ทาํ ใหน้ กั เรียนสามารถเชื่อมโยงความรู้ในกลุ่มสาระการ เรียนรู้ อ่ืน ๆ ไดใ้ นเชิงบรู ณาการดว้ ยวธิ ีการท่ีหลากหลาย เนน้ กระบวนการคิดวิเคราะห์ สงั เคราะห์ และสรุป ความรู้ดว้ ยตนเอง ทาํ ใหน้ กั เรียนไดร้ ับการพฒั นาท้งั ดา้ นความรู้ ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ และดา้ น คุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมที่ดี นาํ ไปสู่การอยรู่ ่วมกนั ในสงั คมอยา่ งสนั ติสุข การจดั ทาํ คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์เลม่ น้ีไดจ้ ดั ทาํ ตามหลกั สูตรแกนกลาง การศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ซ่ึงครอบคลุมสาระการเรียนรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม สาระที่ 4 ประวตั ิศาสตร์ ภายในเล่มไดน้ าํ เสนอแผนการจดั การเรียนรู้เป็นรายชว่ั โมงตามหน่วยการเรียนรู้ เพ่อื ใหค้ รูนาํ ไปใชใ้ นการจดั การเรียนรู้ไดส้ ะดวกยงิ่ ข้ึน นอกจากน้ีแต่ละหน่วยการเรียนรู้ยงั มีการวดั และ ประเมินผลการเรียนรู้ท้งั 3 ดา้ น ไดแ้ ก่ ดา้ นความรู้ ดา้ นคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยม และดา้ นทกั ษะ/ กระบวนการ ทาํ ใหท้ ราบผลการเรียนรู้แต่ละหน่วยการเรียนรู้ของนกั เรียนไดท้ นั ที คมู่ ือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ศิ าสตร์ ป. 3 เล่มน้ีนาํ เสนอเน้ือหาแบ่งเป็น 3 ตอน คือ ตอนท่ี 1 คาํ ชี้แจงการจัดแผนการจัดการเรียนรู้ ประกอบดว้ ยแนวทางการใชแ้ ผนการจดั การเรียนรู้ สญั ลกั ษณ์ลกั ษณะกิจกรรมการเรียนรู้ การออกแบบการจดั การเรียนรู้ตามแนวคิด Backward Design เทคนิคและวธิ ีการจดั การเรียนรู้–การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ ตารางวิเคราะห์มาตรฐานการเรียนรู้ และตวั ช้ีวดั ช้นั ปี กบั สาระการเรียนรู้ในหน่วยการเรียนรู้ คาํ อธิบายรายวชิ า โครงสร้างรายวิชา และ โครงสร้างเวลาเรียนรายวชิ าพ้ืนฐาน ประวตั ิศาสตร์ ป. 3 ตอนที่ 2 แผนการจัดการเรียนรู้ ไดเ้ สนอแนะแนวทางการจดั การเรียนรู้แต่ละหน่วยการเรียนรู้ใน หนงั สือเรียน รายวชิ าพ้นื ฐาน แบ่งเป็นแผนยอ่ ยรายชว่ั โมง ซ่ึงแผนการจดั การเรียนรู้แต่ละแผนมี องคป์ ระกอบครบถว้ นตามแนวทางการจดั ทาํ แผนการจดั การเรียนรู้ของสถานศึกษา ตอนท่ี 3 อกสาร/ความรู้เสริมสําหรับครู ประกอบดว้ ยแบบทดสอบต่าง ๆ และความรู้เสริมสาํ หรับ ครู ซ่ึงบนั ทึกลงในแผน่ ซีดี (CD) เพอื่ อาํ นวยความสะดวกใหค้ รูใชใ้ นการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ศิ าสตร์ ป. 3 เล่มน้ีไดอ้ อกแบบการจดั การเรียนรู้ดว้ ยเทคนิค และวิธีการสอนอยา่ งหลากหลาย หวงั วา่ จะเป็นประโยชนต์ ่อการนาํ ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นการจดั การเรียนรู้ให้ เหมาะสมกบั สภาพแวดลอ้ มของนกั เรียนต่อไป คณะผู้จดั ทาํ
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3 4 สารบญั ตอนท่ี 1 คาํ ชี้แจงการจดั แผนการจดั การเรียนรู้ ........................................................................ 1 1. แนวทางการใชแ้ ผนการจดั การเรียนรู้ .................................................................... … 2 2. สญั ลกั ษณ์ลกั ษณะกิจกรรมการเรียนรู้............................................................................ 5 3. การออกแบบการจดั การเรียนรู้ตามแนวคิด Backward Design .................................. 6 4. เทคนิคและวิธีการจดั การเรียนรู้–การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ .... 19 5. ตารางวิเคราะห์สาระ มาตรฐานการเรียนรู้ และตวั ช้ีวดั ช้นั ปี กบั หน่วยการเรียนรู้............... 22 6. คาํ อธิบายรายวิชาพ้นื ฐาน ประวตั ิศาสตร์ ป. 3 ...................................................................... 24 7. โครงสร้างรายวิชา รายวชิ าพ้ืนฐาน ประวตั ิศาสตร์ ป..3 ....................................................... 25 8. โครงสร้างเวลาเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน ประวตั ิศาสตร์ ป. 3 .................................................... 26 ตอนที่ 2 แผนการจัดการเรียนรู้ ............................................................................................... 33 แผนปฐมนิเทศ ปฐมนิเทศและขอ้ ตกลงในการเรียนรายวิชาพ้นื ฐาน ประวตั ิศาสตร์ ป. 3 34 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ศักราชและการเทยี บศักราช ................................................................... 39 ผงั มโนทศั นเ์ ป้ าหมายการเรียนรู้และขอบข่ายภาระงาน/ชิ้นงาน ......................................................... 39 ผงั การออกแบบการจดั การเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 ...................................................................... 40 แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 1 ศักราชในปฏิทิน ............................................................................ 46 แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 2 การเทียบศักราช ............................................................................ 46 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 ประวตั ขิ องโรงเรียนและชุมชน .............................................................. 50 ผงั มโนทศั นเ์ ป้ าหมายการเรียนรู้และขอบข่ายภาระงาน/ชิ้นงาน ......................................................... 50 ผงั การออกแบบการจดั การเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 ...................................................................... 51 แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 3 การศึกษาประวตั ขิ องโรงเรียน ...................................................... 53 แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 4 การศึกษาประวตั ขิ องชุมชน ......................................................... 57 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 การต้งั ถนิ่ ฐานและพฒั นาการของชุมชน ............................................... 61 ผงั มโนทศั นเ์ ป้ าหมายการเรียนรู้และขอบข่ายภาระงาน/ชิ้นงาน....................................................... 61 ผงั การออกแบบการจดั การเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ....................................................................... 62 แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 5 ปัจจัยท่ีมอี ทิ ธิพลต่อการต้งั ถ่นิ ฐานของชุมชน ............................... 64 แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 6 ปัจจัยที่มอี ทิ ธิพลต่อพฒั นาการของชุมชน .................................... 68
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3 5 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 วฒั นธรรมของชุมชน ............................................................................ 72 ผงั มโนทศั นเ์ ป้ าหมายการเรียนรู้และขอบข่ายภาระงาน/ชิ้นงาน ......................................................... 72 ผงั การออกแบบการจดั การเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 ....................................................................... 73 แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 7 ประเภทของวฒั นธรรม ................................................................. 75 แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 8 ปัจจัยท่ีมอี ทิ ธิพลต่อการสร้างสรรค์วฒั นธรรมของชุมชน ........... 78 แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 9 วฒั นธรรมของชุมชนของเรากบั ชุมชนอนื่ .................................... 82 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 ผู้สถาปนาอาณาจกั รไทย ........................................................................ 87 ผงั มโนทศั นเ์ ป้ าหมายการเรียนรู้และขอบข่ายภาระงาน/ชิ้นงาน ......................................................... 87 ผงั การออกแบบการจดั การเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 ....................................................................... 88 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 10 พ่อขุนศรีอนิ ทราทติ ย์ .................................................................. 91 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 11 สมเดจ็ พระรามาธิบดที ่ี 1 (พระเจ้าอู่ทอง) ................................... 95 แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 12 สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ................................................... 99 แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 13 พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟ้ าจุฬาโลกมหาราช .................... 102 หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัวและสมเดจ็ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ............................................................................... 106 ผงั มโนทศั นเ์ ป้ าหมายการเรียนรู้และขอบข่ายภาระงาน/ชิ้นงาน ........................................................ 106 ผงั การออกแบบการจดั การเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ท่ี 6 ..................................................................... 107 แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 14 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมพิ ลอดุลยเดช ......................... 110 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 15 สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ .................................. 115 หน่วยการเรียนรู้ที่ 7 วรี กรรมของบรรพบุรุษไทย ................................................................ 120 ผงั มโนทศั นเ์ ป้ าหมายการเรียนรู้และขอบข่ายภาระงาน/ชิ้นงาน ....................................................... 120 ผงั การออกแบบการจดั การเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ที่ 7 ..................................................................... 121 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 16 สมเดจ็ พระนเรศวรมหาราช ...................................................... 124 แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 17 พระยาพชิ ัยดาบหัก .................................................................... 128 แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 18 ท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร ................................................. 131 แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 19 ชาวบ้านบางระจนั ...................................................................... 135 ตอนท่ี 3 เอกสาร/ความรู้เสริมสําหรับครู.................................................................................. 138 ตอนที่ 3.1 มาตรฐานการเรียนรู้ ตวั ชี้วดั ช้ันปี และสาระการเรียนรู้ ..................................................... 139 ตอนท่ี 3.2 โครงงานและแฟ้ มสะสมผลงาน ........................................................................................ 142
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3 6 ตอนที่ 3.3 ผงั การออกแบบการจัดการเรียนรู้และรูปแบบแผนการจัดการเรียนรู้รายช่ัวโมง ................ 147 ตอนท่ี 3.4 แบบทดสอบก่อนเรียนและหลงั เรียน ประจําหน่วยการเรียนรู้ .......................................... 149 ตอนท่ี 3.5 แบบทดสอบกลางปี ........................................................................................................... 177 ตอนที่ 3.5 แบบทดสอบปลายปี ........................................................................................................... 182 ตอนท่ี 3.6 ใบงาน แบบบนั ทกึ และแบบประเมนิ ................................................................................ 188
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3 1 ตอนที่ 1 คาํ ชี้แจงการจดั แผนการจัดการเรียนรู้ สาระท่ี 4 ประวตั ิศาสตร์ กล่มุ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3 2 1. แนวทางการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ศิ าสตร์ ป. 3 เล่มน้ีจดั ทาํ ข้ึนเพ่ือเป็นแนวทางใหค้ รูใช้ ประกอบการจดั การเรียนรู้ประวตั ิศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี 3 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษา ข้นั พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ซ่ึงแบ่งหน่วยการเรียนรู้สาํ หรับจดั ทาํ แผนการจดั การเรียนรู้รายชวั่ โมง ใน คูม่ ือครู แผนการจดั การเรียนรู้เล่มน้ีแบ่งเน้ือหาออกเป็น 7 หน่วย สามารถใชค้ วบคู่กบั หนงั สือเรียน รายวชิ าพ้นื ฐาน ประวตั ิศาสตร์ ป. 3 และแบบฝึกทกั ษะ รายวชิ าพ้ืนฐาน ประวตั ิศาสตร์ ป. 3 ประกอบดว้ ย หน่วยการเรียนรู้ ดงั น้ี หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ศกั ราชและการเทียบศกั ราช หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 ประวตั ิของโรงเรียนและชุมชน หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 การต้งั ถ่ินฐานและพฒั นาการของชุมชน หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 วฒั นธรรมของชุมชน หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 ผสู้ ถาปนาอาณาจกั รไทย หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั และสมเดจ็ พระนางเจา้ ฯ พระบรมราชินีนาถ หน่วยการเรียนรู้ท่ี 7 วีรกรรมของบรรพบุรุษไทย คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้เล่มน้ีไดน้ าํ เสนอรายละเอียดไวค้ รบถว้ นตามแนวทางการจดั ทาํ แผนการจดั การเรียนรู้ นอกจากน้ียงั ไดอ้ อกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ใหน้ กั เรียนไดพ้ ฒั นาองคค์ วามรู้ สมรรถนะสาํ คญั และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงคไ์ วอ้ ยา่ งครบถว้ นตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษา ข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ครูควรศึกษาคู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้น้ีใหล้ ะเอียดเพอ่ื ปรับใชใ้ ห้ สอดคลอ้ งกบั สภาพแวดลอ้ ม สถานการณ์ และสภาพของนกั เรียน ในแต่ละหน่วยการเรียนรู้จะแบ่งแผนการจดั การเรียนรู้ออกเป็นรายชวั่ โมง ซ่ึงมีจาํ นวนมากนอ้ ย ไม่เท่ากนั ข้ึนอยกู่ บั ความยาวของเน้ือหาสาระ และในแตล่ ะหน่วยการเรียนรู้มีองคป์ ระกอบดงั น้ี 1. ผงั มโนทัศน์เป้ าหมายการเรียนรู้และขอบข่ายภาระงาน/ชิ้นงาน แสดงขอบข่ายเน้ือหาการจดั การ เรียนรู้ที่ครอบคลุมความรู้ คุณธรรม จริยธรรม และค่านิยม ทกั ษะ/กระบวนการ และภาระงาน/ช้ินงาน 2. ผงั การออกแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคดิ Backward Design (Backward Design Template) เป็นกรอบแนวคิดในการจดั การเรียนรู้ของแตล่ ะหน่วยการเรียนรู้ แบ่งเป็น 3 ข้นั ไดแ้ ก่ ข้นั ท่ี 1 ผลลพั ธ์ปลายทางที่ตอ้ งการใหเ้ กิดข้ึนกบั นกั เรียน ข้ันท่ี 2 ภาระงานและการประเมินผลการเรียนรู้ซ่ึงเป็นหลกั ฐานท่ีแสดงวา่ นกั เรียนมีผลการ เรียนรู้ตามที่กาํ หนดไวอ้ ยา่ งแทจ้ ริง ข้ันท่ี 3 แผนการจดั การเรียนรู้ จะระบุวา่ ในหน่วยการเรียนรู้น้ีแบ่งเป็นแผนการจดั การเรียนรู้ ก่ีแผน และแต่ละแผนใชเ้ วลาในการจดั กิจกรรมก่ีชวั่ โมง 3. แผนการจัดการเรียนรู้รายชั่วโมง เป็นแผนการจดั การเรียนรู้ตามกรอบแนวคิดการออกแบบ การจดั การเรียนรู้ตามแนวคิด Backward Design ประกอบดว้ ย
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3 3 3.1 ชื่อแผนการจัดการเรียนรู้ ประกอบดว้ ยลาํ ดบั ท่ีของแผน ช่ือแผน และเวลาเรียน เช่น แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 1 เร่ือง ศกั ราชในปฏิทิน เวลา 2 ชวั่ โมง 3.2 สาระสําคญั เป็นความคิดรวบยอดของเน้ือหาท่ีนาํ มาจดั การเรียนรู้ในแต่ละแผนการจดั การ เรียนรู้ 3.3 ตวั ชี้วดั ช้ันปี เป็นตวั ช้ีวดั ที่ใชต้ รวจสอบนกั เรียนหลงั จากเรียนจบเน้ือหาท่ีนาํ เสนอในแต่ละ แผนการจดั การเรียนรู้น้นั ๆ ซ่ึงสอดคลอ้ งกบั มาตรฐานการเรียนรู้ของหลกั สูตร 3.4 จุดประสงค์การเรียนรู้ เป็นส่วนท่ีบอกจุดมุ่งหมายที่ตอ้ งการใหเ้ กิดข้ึนแก่นกั เรียนภาย หลงั จากเรียนจบในแตล่ ะแผน ท้งั ในดา้ นความรู้ (K) ดา้ นคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยม (A) และดา้ น ทกั ษะ/กระบวนการ (P) ซ่ึงสอดคลอ้ งสมั พนั ธ์กบั ตวั ช้ีวดั ช้นั ปี และเน้ือหาในแผนการจดั การเรียนรู้น้นั ๆ 3.5 การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ เป็นการตรวจสอบผลการจดั การเรียนรู้วา่ หลงั จากจดั การ เรียนรู้ในแต่ละแผนการจดั การเรียนรู้แลว้ นกั เรียนมีพฒั นาการ มีผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนตามเป้ าหมาย ท่ีคาดหวงั ไวห้ รือไม่ และมีส่ิงท่ีจะตอ้ งไดร้ ับการพฒั นา ปรับปรุง ส่งเสริมในดา้ นใดบา้ ง ดงั น้นั ในแต่ละ แผนการจดั การเรียนรู้จึงไดอ้ อกแบบวธิ ีการและเคร่ืองมือในการวดั และประเมินผลการเรียนรู้ดา้ นต่าง ๆ ของนกั เรียนไวอ้ ยา่ งหลากหลาย เช่น การทาํ แบบทดสอบ การตอบคาํ ถามส้นั ๆ การตรวจผลงาน การ สงั เกตพฤติกรรมท้งั ที่เป็นรายบุคคลและกลุ่ม โดยเนน้ การปฏิบตั ิใหส้ อดคลอ้ งและเหมาะสมกบั ตวั ช้ีวดั และมาตรฐานการเรียนรู้ วธิ ีการและเครื่องมือในการวดั และประเมินผลการเรียนรู้เหลา่ น้ีครูสามารถนาํ ไปใชป้ ระเมิน นกั เรียนได้ ท้งั ในระหวา่ งการจดั การเรียนรู้และการทาํ กิจกรรมต่าง ๆ ตลอดจนการนาํ ความรู้ไปใชใ้ น ชีวิตประจาํ วนั 3.6 สาระการเรียนรู้ เป็นหวั เรื่องยอ่ ยที่นาํ มาจดั การเรียนรู้ในแต่ละแผนการจดั การเรียนรู้ ซ่ึง สอดคลอ้ งกบั สาระการเรียนรู้แกนกลาง 3.7 แนวทางบูรณาการ เป็นการเสนอแนวทางการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ในเรื่องท่ีเรียนรู้ของแต่ ละแผนใหเ้ ชื่อมโยงสมั พนั ธก์ บั กลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น ๆ ไดแ้ ก่ ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สุข ศึกษาและพลศึกษา ศิลปะ การงานอาชีพและเทคโนโลยี และภาษาต่างประเทศ เพอื่ ใหก้ ารเรียนรู้ สอดคลอ้ งและครอบคลุมสถานการณ์จริง 3.8 กระบวนการจัดการเรียนรู้ เป็นการเสนอแนวทางการจดั กิจกรรมการเรียนรู้เน้ือหาในแต่ละ เรื่อง โดยใชแ้ นวคิดและทฤษฎีการเรียนรู้ต่าง ๆ ตามความเหมาะสม ท้งั น้ีเพ่ือใหค้ รูนาํ ไปใชป้ ระโยชน์ ในการวางแผนการจดั การเรียนรู้ไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ ซ่ึงกระบวนการจดั การเรียนรู้ประกอบดว้ ย 5 ข้นั ไดแ้ ก่ ข้นั ท่ี 1 นาํ เขา้ สู่บทเรียน ข้นั ที่ 2 กิจกรรมการเรียนรู้ ข้นั ท่ี 3 ฝึกฝนผเู้ รียน ข้นั ท่ี 4 นาํ ไปใช้ ข้นั ที่ 5 สรุป
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3 4 3.9 กจิ กรรมเสนอแนะ เป็นกิจกรรมเสนอแนะสาํ หรับใหน้ กั เรียนไดพ้ ฒั นาเพิม่ เติมในดา้ น ตา่ ง ๆ นอกเหนือจากที่ไดจ้ ดั การเรียนรู้มาแลว้ ในชวั่ โมงเรียน กิจกรรมเสนอแนะมี 2 ลกั ษณะ คือ กิจกรรม สาํ หรับผทู้ ี่มีความสามารถพิเศษและตอ้ งการศึกษาคน้ ควา้ เน้ือหาน้นั ๆ ใหล้ ึกซ้ึงกวา้ งขวางยิง่ ข้ึน และ กิจกรรมสาํ หรับการเรียนรู้ใหค้ รบตามเป้ าหมาย ซ่ึงมีลกั ษณะเป็นการซ่อมเสริม 3.10 ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ เป็นรายชื่อสื่อการเรียนรู้ทุกประเภทที่ใชใ้ นการจดั การเรียนรู้ ซ่ึงมี ท้งั สื่อธรรมชาติ สื่อสิ่งพิมพ์ ส่ือเทคโนโลยี และสื่อบุคคล เช่น หนงั สือ เอกสารความรู้ รูปภาพ เครือข่าย อินเทอร์เน็ต วีดิทศั น์ ปราชญช์ าวบา้ น 3.11 บนั ทกึ หลงั การจัดการเรียนรู้ เป็นส่วนท่ีใหค้ รูบนั ทึกผลการจดั การเรียนรู้วา่ ประสบ ความสาํ เร็จหรือไม่ มีปัญหาหรืออุปสรรคอะไรเกิดข้ึนบา้ ง ไดแ้ กไ้ ขปัญหาและอุปสรรคน้นั อยา่ งไร ส่ิงที่ ไม่ไดป้ ฏิบตั ิตามแผนมีอะไรบา้ ง และขอ้ เสนอแนะสาํ หรับการปรับปรุงแผนการจดั การเรียนรู้คร้ังต่อไป นอกจากน้ียงั อาํ นวยความสะดวกใหค้ รู โดยจดั ทาํ เอกสารและความรู้เสริมสาํ หรับครูบนั ทึกลงใน แผน่ ซีดี (CD) ประกอบดว้ ย 1.มาตรฐานการเรียนรู้ ตวั ชี้วดั ช้ันปี และสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลุ่มสงั คมศึกษา ศาสนา และ วฒั นธรรม ป. 3 สาระท่ี 4 ประวตั ิศาสตร์ (ประวตั ิศาสตร์ ป. 3) 2.โครงงาน (Project Work) และแฟ้ มสะสมผลงาน (Portfolio) 3. ผงั การออกแบบการจดั การเรียนรู้และรูปแบบแผนการจดั การเรียนรู้รายชั่วโมง ซ่ึงออกแบบ ตามแนวคิด Backward Design 4. แบบทดสอบก่อนเรียนและหลงั เรียนประจําหน่วยการเรียนรู้ เป็นแบบทดสอบเพอื่ ใชว้ ดั และ ประเมินผลนกั เรียนก่อนการจดั การเรียนรู้และหลงั การจดั การเรียนรู้ 5. แบบทดสอบกลางภาค เป็นแบบทดสอบเพ่อื ใชว้ ดั และประเมินผลการเรียนรู้กลางปี 3 ดา้ น ไดแ้ ก่ 5.1 ดา้ นความรู้ มีแบบทดสอบท้งั ท่ีเป็นแบบปรนยั และแบบอตั นยั 5.2 ดา้ นคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยม เป็นตารางประเมิน 5.3 ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ เป็นตารางประเมิน 6. แบบทดสอบปลายปี เป็นแบบทดสอบเพ่อื ใชว้ ดั และประเมินผลการเรียนรู้ปลายปี 3 ดา้ น ไดแ้ ก่ 6.1 ดา้ นความรู้ มีแบบทดสอบท้งั ท่ีเป็นแบบปรนยั และแบบอตั นยั 6.2 ดา้ นคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยม เป็นตารางประเมิน 6.3 ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ เป็นตารางประเมิน 6. ใบงาน แบบบันทกึ และแบบประเมนิ ครูควรศึกษาแผนการจดั การเรียนรู้เพ่อื เตรียมการสอนอยา่ งมีประสิทธิภาพ จดั กิจกรรมใหน้ กั เรียน ไดพ้ ฒั นาครบทุกสมรรถนะสาํ คญั ท่ีกาํ หนดไวใ้ นหลกั สูตร กล่าวคือ สมรรถนะในการส่ือสาร การคิด การ แกป้ ัญหา การใชท้ กั ษะชีวติ และการใชเ้ ทคโนโลยี รวมถึงคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคต์ ามหลกั สูตร และ กิจกรรมเสนอแนะเพือ่ การเรียนรู้เพม่ิ เติมใหเ้ ตม็ ตามศกั ยภาพของนกั เรียนแต่ละคน ซ่ึงไดก้ าํ หนดไวใ้ น แผนการจดั การเรียนรู้น้ีแลว้
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3 5 นอกจากน้ีครูสามารถปรับปรุงแผนการจดั การเรียนรู้ใหส้ อดคลอ้ งกบั สภาพความพร้อมของ นกั เรียนและสถานการณ์เฉพาะหนา้ ได้ ซ่ึงจะใชเ้ ป็นผลงานทางวชิ าการเพอ่ื เลื่อนวิทยฐานะได้ แผนการ จดั การเรียนรู้น้ีไดอ้ าํ นวยความสะดวกใหค้ รู โดยไดพ้ มิ พโ์ ครงสร้างแผนการจดั การเรียนรู้ท่ีออกแบบ การจดั การเรียนรู้ตามแนวคิด Backward Design ใหค้ รูเพ่ิมเติมเฉพาะส่วนท่ีครูปรับปรุงเองไวด้ ว้ ยแลว้ 2. สัญลกั ษณ์ลกั ษณะกจิ กรรมการเรียนรู้ คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ชุดน้ีสามารถใชค้ ู่กบั แบบฝึกทกั ษะ รายวิชาพ้ืนฐาน ประวตั ิศาสตร์ ซ่ึงทุกเล่มไดก้ าํ หนดสญั ลกั ษณ์กาํ กบั กิจกรรมการเรียนรู้ไวท้ ุกกิจกรรมเพ่ือช่วยใหค้ รูและ นกั เรียนทราบลกั ษณะของกิจกรรมน้นั ๆ เพอื่ การจดั กิจกรรมใหบ้ รรลุเป้ าหมายสญั ลกั ษณ์ลกั ษณะ กิจกรรมการเรียนรู้มีดงั น้ี โครงงาน เป็นกิจกรรมที่มุ่งพฒั นาการคิด การวางแผน และการแกป้ ัญหา การพฒั นากระบวนการคดิ เป็นกิจกรรมใหน้ กั เรียนทาํ เพ่อื พฒั นากระบวนการคิดดา้ นต่าง ๆ การประยุกต์ใช้ในชีวติ ประจาํ วัน เป็นกิจกรรมใหน้ กั เรียนนาํ ความรู้และทกั ษะไปประยกุ ตใ์ ช้ ในชีวติ ประจาํ วนั ใหเ้ กิดประโยชนส์ ูงสุด การทาํ ประโยชน์ให้สังคม เป็นกิจกรรมใหน้ กั เรียนปฏิบตั ิในการทาํ ประโยชน์เพ่ือสงั คมเพอื่ การอยรู่ ่วมกนั ในสงั คมอยา่ งมีความสุข การปฏิบัตจิ ริง/ฝึ กทักษะ เป็นกิจกรรมใหน้ กั เรียนไดป้ ฏิบตั ิจริงหรือฝึกปฏิบตั ิเพื่อใหเ้ กิด ทกั ษะอนั จะช่วยใหก้ ารเรียนรู้เป็นไปตามเป้ าหมายอยา่ งสมบรู ณ์และติดตวั ที่คงทน การศึกษาค้นคว้า/สืบค้น เป็นกิจกรรมใหน้ กั เรียนศึกษาคน้ ควา้ หรือสืบคน้ ขอ้ มูลจากแหล่ง การเรียนรู้ต่าง ๆ เพ่ือสร้างองคค์ วามรู้ดว้ ยตนเองจนเกิดเป็นนิสยั การสํารวจ เป็นกิจกรรมใหน้ กั เรียนสาํ รวจ รวบรวมขอ้ มูลเพื่อนาํ มาศึกษาวเิ คราะห์ หาเหตุ หาผล ฝึกความเป็นผรู้ อบคอบ การสังเกต เป็นกิจกรรมใหน้ กั เรียนรู้จกั สงั เกตส่ิงท่ีตอ้ งการเรียนรู้จนสร้างองคค์ วามรู้ไดอ้ ยา่ ง เป็ นระบบและมีเหตุผล ทกั ษะการพดู เป็นกิจกรรมใหน้ กั เรียนไดพ้ ฒั นาทกั ษะการพดู ประเภทต่าง ๆ ทักษะการเขียน เป็นกิจกรรมใหน้ กั เรียนไดพ้ ฒั นาทกั ษะการเขียนประเภทต่าง ๆ
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3 6 กจิ กรรมสําหรับกลุ่มพเิ ศษ เป็นกิจกรรมสาํ หรับใหน้ กั เรียนใชพ้ ฒั นาการเรียนรู้เพ่ิมเติม เพื่อ การพฒั นาใหเ้ ตม็ ตามศกั ยภาพ กจิ กรรมสําหรับซ่อมเสริม เป็นกิจกรรมสาํ หรับใหน้ กั เรียนใชเ้ รียนซ่อมเสริมเพือ่ ใหเ้ กิดการ เรียนรู้ตามตวั ช้ีวดั 3. การออกแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคดิ Backward Design การจดั การเรียนรู้หรือการสอนเป็นงานที่ครูทุกคนตอ้ งใชก้ ลวิธีต่าง ๆ มากมายเพอ่ื ใหน้ กั เรียนสนใจ ท่ีจะเรียนรู้และเกิดผลตามท่ีครูคาดหวงั การจดั การเรียนรู้จดั เป็นศาสตร์ที่ตอ้ งใชค้ วามรู้ความสามารถ ตลอดจนประสบการณ์อยา่ งมาก ครูบางคนอาจจะละเลยเร่ืองของการออกแบบการจดั การเรียนรู้หรือการ ออกแบบการสอน ซ่ึงเป็นงานท่ีครูจะตอ้ งทาํ ก่อนการเขียนแผนการจดั การเรียนรู้ การออกแบบการจดั การ เรียนรู้ทาํ อยา่ งไร ทาํ ไมจึงตอ้ งออกแบบการจดั การเรียนรู้ ครูทุกคนผา่ นการศึกษาและไดเ้ รียนรู้เกี่ยวกบั การออกแบบการจดั การเรียนรู้มาแลว้ ในอดีตการออกแบบการจดั การเรียนรู้จะเร่ิมตน้ จากการกาํ หนด จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ การวางแผนการจดั การเรียนรู้ การดาํ เนินการจดั การเรียนรู้ และการวดั และ ประเมินผลการเรียนรู้ ปัจจุบนั การเรียนรู้ไดม้ ีการเปล่ียนแปลงไปตามสภาพแวดลอ้ ม เศรษฐกิจ และสงั คม รวมท้งั การเปล่ียนแปลงดา้ นวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยที ี่เขา้ มามีบทบาทต่อการเรียนรู้ของนกั เรียน ซ่ึง นกั เรียนสามารถเรียนรู้ไดจ้ ากส่ือและแหลง่ การเรียนรู้ต่าง ๆ ท่ีมีอยรู่ อบตวั ดงั น้นั การออกแบบการจดั การ เรียนรู้จึงเป็นกระบวนการสาํ คญั ที่ครูจาํ เป็นตอ้ งดาํ เนินการใหเ้ หมาะสมกบั ศกั ยภาพของนกั เรียนแต่ละ บุคคล แกรนต์ วิกกินส์ (Grant Wiggins) และเจย์ แมกไท (Jay McTighe) นกั การศึกษาชาวอเมริกนั ได้ เสนอแนวคิดเก่ียวกบั การออกแบบการจดั การเรียนรู้ ซ่ึงเรียกวา่ Backward Design อนั เป็นการออกแบบ การจดั การเรียนรู้ที่ครูจะตอ้ งกาํ หนดผลลพั ธป์ ลายทางที่ตอ้ งการใหเ้ กิดข้ึนกบั นกั เรียนก่อน โดยท้งั สองให้ ช่ือวา่ ความเขา้ ใจที่คงทน (Enduring Understanding) เมื่อกาํ หนดความเขา้ ใจท่ีคงทนไดแ้ ลว้ ครูจะตอ้ ง บอกใหไ้ ดว้ า่ ความเขา้ ใจท่ีคงทนของนกั เรียนน้ีเกิดจากอะไร นกั เรียนจะตอ้ งมีหรือแสดงพฤติกรรม อะไรบา้ ง ครูมีหรือใชว้ ธิ ีการวดั อะไรบา้ งที่จะบอกวา่ นกั เรียนมีหรือแสดงพฤติกรรมเหล่าน้นั แลว้ จากน้นั ครูจึงนึกถึงวิธีการจดั การเรียนรู้ที่จะทาํ ใหน้ กั เรียนเกิดความเขา้ ใจท่ีคงทนต่อไป แนวคดิ Backward Design Backward Design เป็นการออกแบบการจดั การเรียนรู้ที่ใชผ้ ลลพั ธ์ปลายทางเป็นหลกั ซ่ึงผลลพั ธ์ ปลายทางน้ีจะเกิดข้ึนกบั นกั เรียนกต็ ่อเม่ือจบหน่วยการเรียนรู้ ท้งั น้ีครูจะตอ้ งออกแบบการจดั การเรียนรู้ โดยใชก้ รอบความคิดท่ีเป็นเหตุเป็นผล มีความสมั พนั ธก์ นั จากน้นั จึงจะลงมือเขียนแผนการจดั การเรียนรู้ ขยายรายละเอียดเพ่ิมเติมใหม้ ีคุณภาพและประสิทธิภาพต่อไป กรอบความคิดหลกั ของการออกแบบการจดั การเรียนรู้ตามแนวคิด Backward Design มีข้นั ตอน หลกั ท่ีสาํ คญั 3 ข้นั ตอน คือ ข้นั ท่ี 1 กาํ หนดผลลพั ธป์ ลายทางที่ตอ้ งการใหเ้ กิดข้ึนกบั นกั เรียน
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3 7 ข้นั ท่ี 2 กาํ หนดภาระงานและการประเมินผลการเรียนรู้ซ่ึงเป็นหลกั ฐานที่แสดงวา่ นกั เรียน มีผลการเรียนรู้ตามท่ีกาํ หนดไวอ้ ยา่ งแทจ้ ริง ข้นั ท่ี 3 วางแผนการจดั การเรียนรู้ ข้นั ท่ี 1 กาํ หนดผลลพั ธ์ปลายทางท่ีต้องการให้เกดิ ขนึ้ กบั นักเรียน ก่อนที่จะกาํ หนดผลลพั ธ์ปลายทางท่ีตอ้ งการใหเ้ กิดข้ึนกบั นกั เรียนน้นั ครูควรตอบคาํ ถามสาํ คญั ต่อไปน้ี 1. นกั เรียนควรจะมีความรู้ ความเขา้ ใจ และสามารถทาํ ส่ิงใดไดบ้ า้ ง 2. เน้ือหาสาระใดบา้ งที่มีความสาํ คญั ต่อการสร้างความเขา้ ใจของนกั เรียน และความเขา้ ใจที่คงทน (Enduring Understanding) ท่ีครูตอ้ งการจดั การเรียนรู้ใหแ้ ก่นกั เรียนมีอะไรบา้ ง เมื่อจะตอบคาํ ถามสาํ คญั ดงั กล่าวขา้ งตน้ ใหค้ รูนึกถึงเป้ าหมายของการศึกษา มาตรฐานการเรียนรู้ ดา้ นเน้ือหาระดบั ชาติท่ีปรากฏอยใู่ นหลกั สูตรรวมท้งั มาตรฐานการเรียนรู้ระดบั เขตพ้ืนที่การศึกษาหรือ ทอ้ งถ่ิน การทบทวนความคาดหวงั ของหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน เน่ืองจากมาตรฐานแต่ละ ระดบั จะมีความสมั พนั ธก์ บั เน้ือหาสาระต่าง ๆ ซ่ึงมีความแตกต่างลดหลน่ั กนั ไป ดว้ ยเหตุน้ีข้นั ที่ 1 ของ Backward Design ครูจึงตอ้ งจดั ลาํ ดบั ความสาํ คญั และเลือกผลลพั ธ์ปลายทางของนกั เรียน ซ่ึงเป็นผลการ เรียนรู้ท่ีเกิดจากความเขา้ ใจที่คงทนต่อไป ความเข้าใจทค่ี งทนของนักเรียน ความเขา้ ใจที่คงทนคืออะไร ความเขา้ ใจท่ีคงทนเป็นความรู้ที่ลึกซ้ึง ไดแ้ ก่ ความคิดรวบยอด ความสมั พนั ธ์ และหลกั การของเน้ือหาและวิชาที่นกั เรียนเรียนรู้ หรือกล่าวอีกนยั หน่ึง คือ เป็นความรู้ที่อิง เน้ือหา ความรู้น้ีเกิดจากการสะสมขอ้ มูลต่าง ๆ ของนกั เรียนและเป็นองคค์ วามรู้ที่นกั เรียนสร้างข้ึนดว้ ย ตนเอง การเขียนความเข้าใจทค่ี งทนในการออกแบบการจดั การเรียนรู้ ถา้ ความเขา้ ใจท่ีคงทนหมายถึงสาระสาํ คญั ของส่ิงที่จะเรียนรู้แลว้ ครูควรจะรู้วา่ สาระสาํ คญั หมายถึง อะไร คาํ วา่ สาระสาํ คญั มาจากคาํ วา่ Concept ซ่ึงนกั การศึกษาของไทยแปลเป็นภาษาไทยวา่ สาระสาํ คญั ความคิดรวบยอด มโนทศั น์ มโนมติ และสงั กปั ซ่ึงการเขียนแผนการจดั การเรียนรู้นิยมใชค้ าํ วา่ สาระสาํ คญั สาระสาํ คญั เป็นขอ้ ความที่แสดงแก่นหรือเป้ าหมายเก่ียวกบั เรื่องใดเรื่องหน่ึง เพอ่ื ใหไ้ ดข้ อ้ สรุปรวม และขอ้ แตกต่างเก่ียวกบั เรื่องใดเร่ืองหน่ึง โดยอาจครอบคลุมขอ้ เทจ็ จริง กฎ ทฤษฎี ประเดน็ และการสรุป สาระสาํ คญั และขอ้ ความท่ีมีลกั ษณะรวบยอดอยา่ งอ่ืน ประเภทของสาระสําคญั 1. ระดบั กวา้ ง (Broad Concept) 2. ระดบั การนาํ ไปใช้ (Operative Concept หรือ Functional Concept) ตัวอย่างสาระสาํ คัญระดับกว้าง ยคุ สมยั ทางประวตั ิศาสตร์ไทยแบ่งออกเป็นหลายยคุ สมยั ตัวอย่างสาระสาํ คัญระดับการนาํ ไปใช้
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3 8 - ยคุ สมยั ทางประวตั ิศาสตร์ไทยแบ่งออกไดเ้ ป็น 2 สมยั คือ สมยั ก่อนประวตั ิศาสตร์และสมยั ประวตั ิศาสตร์ แนวทางการเขยี นสาระสําคญั 1. ใหเ้ ขียนสาระสาํ คญั ของทุกเร่ือง โดยแยกเป็นขอ้ ๆ (จาํ นวนขอ้ ของสาระสาํ คญั จะเท่ากบั จาํ นวน เรื่อง) 2. การเขียนสาระสาํ คญั ท่ีดีควรเป็นสาระสาํ คญั ระดบั การนาํ ไปใช้ 3. สาระสาํ คญั ตอ้ งครอบคลุมประเดน็ สาํ คญั ครบถว้ น เพราะหากขาดส่วนใดไปแลว้ จะทาํ ให้ นกั เรียนรับสาระสาํ คญั ที่ผิดไปทนั ที 4. การเขียนสาระสาํ คญั ท่ีจะใหค้ รอบคลุมประเดน็ สาํ คญั วธิ ีการหน่ึง คือ การเขียนแผนผงั สาระสาํ คญั ตัวอย่างการเขียนแผนผงั สาระสาํ คัญ ยงั ไม่มีการใชต้ วั อกั ษร บนั ทึกบอกเล่าเร่ืองราว สมยั ก่อน ประวตั ิศาสตร์ การศึกษาเรื่องราวอาศยั หลกั ฐานทางโบราณคดี ยุคสมยั ทาง ประวตั ศิ าสตร์ไทย มีการใชต้ วั อกั ษรบนั ทึก บอกเลา่ เรื่องราว สมยั ประวตั ิศาสตร์ การศึกษาเรื่องราวอาศยั หลกั ฐานท่ีเป็นลายลกั ษณ์ อกั ษรเป็ นหลกั สาระสาํ คัญของประโยชน์ของการแบ่งยคุ สมยั ทางประวตั ิศาสตร์ไทย: ยคุ สมยั ทางประวตั ิศาสตร์ ไทยแบ่งออกไดเ้ ป็น 2 สมยั คือ สมยั ก่อนประวตั ิศาสตร์และสมยั ประวตั ิศาสตร์ โดยใชช้ ่วงเวลาท่ีมีการใช้ ตวั อกั ษรบนั ทึกบอกเล่าเรื่องราวเป็นเกณฑ์
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3 9 5. การเขียนสาระสาํ คญั เก่ียวกบั เรื่องใดควรเขียนลกั ษณะเด่นที่มองเห็นไดห้ รือนึกไดอ้ อกมาเป็นขอ้ ๆ แลว้ จาํ แนกลกั ษณะเหล่าน้นั เป็นลกั ษณะจาํ เพาะและลกั ษณะประกอบ 6. การเขียนขอ้ ความที่เป็นสาระสาํ คญั ควรใชภ้ าษาที่มีการขดั เกลาอยา่ งดี เล่ียงคาํ ที่มีความหมาย กาํ กวมหรือฟ่ ุมเฟื อย ตวั อย่างการเขียนสาระสําคญั เรื่อง หลกั ฐานช้ันต้น หลกั ฐานช้ันต้น ลกั ษณะจาํ เพาะ ลกั ษณะประกอบ เป็นลายลกั ษณ์อกั ษร บนั ทึกไวโ้ ดย ผเู้ กี่ยวขอ้ ง ในเหตุการณ์น้นั ๆ บนั ทึกไวโ้ ดยผรู้ ู้เห็น – เหตุการณ์ดว้ ยตนเอง เป็นสิ่งท่ีมนุษยโ์ บราณ – สร้างไวห้ รือทิ้งไว้ สาระสาํ คัญของหลกั ฐานชั้นต้น: หลกั ฐานช้นั ตน้ คือ หลกั ฐานท่ีบนั ทึกไวโ้ ดยผเู้ กี่ยวขอ้ งใน เหตุการณ์หรือรู้เห็นเหตุการณ์น้นั ๆ ดว้ ยตนเอง ซ่ึงอาจเป็นลายลกั ษณ์อกั ษรหรือเป็นส่ิงที่มนุษยโ์ บราณ สร้างไวห้ รือทิ้งไวก้ ไ็ ด้ ข้นั ที่ 2 กาํ หนดภาระงานและการประเมนิ ผลการเรียนรู้ซ่ึงเป็ นหลกั ฐานทแ่ี สดงว่านักเรียนมผี ลการ เรียนรู้ตามทกี่ าํ หนดไว้อย่างแท้จริง เม่ือครูกาํ หนดผลลพั ธ์ปลายทางท่ีตอ้ งการใหเ้ กิดข้ึนกบั นกั เรียนแลว้ ก่อนท่ีจะดาํ เนินการข้นั ต่อไป ขอใหค้ รูตอบคาํ ถามสาํ คญั ต่อไปน้ี - นกั เรียนมีพฤติกรรมหรือแสดงออกในลกั ษณะใดจึงทาํ ใหค้ รูทราบวา่ นกั เรียนบรรลุผลลพั ธ์ ปลายทางตามท่ีกาํ หนดไวแ้ ลว้ - ครูมีหลกั ฐานหรือใชว้ ธิ ีการใดที่สามารถระบุไดว้ า่ นกั เรียนมีพฤติกรรมหรือแสดงออกตาม ผลลพั ธ์ปลายทางที่กาํ หนดไว้ การออกแบบการจดั การเรียนรู้ตามแนวคิด Backward Design เนน้ ใหค้ รูรวบรวมหลกั ฐานการวดั และประเมินผลการเรียนรู้ท่ีจาํ เป็นและมีหลกั ฐานเพียงพอท่ีจะกล่าวไดว้ า่ การจดั การเรียนรู้ทาํ ใหน้ กั เรียน เกิดผลสมั ฤทธ์ิแลว้ ไม่ใช่เรียนแค่ใหจ้ บตามหลกั สูตรหรือเรียนตามชุดของกิจกรรมการเรียนรู้ท่ีครูกาํ หนด ไวเ้ ท่าน้นั วิธีการของ Backward Design ตอ้ งการกระตุน้ ใหค้ รูคิดล่วงหนา้ วา่ ครูควรจะกาํ หนดและ รวบรวมหลกั ฐานเชิงประจกั ษอ์ ะไรบา้ งก่อนที่จะออกแบบหน่วยการเรียนรู้ โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ หลกั ฐาน ดงั กล่าวควรจะเป็นหลกั ฐานที่สามารถใชเ้ ป็นขอ้ มลู ยอ้ นกลบั ท่ีมีประโยชน์สาํ หรับนกั เรียนและครูไดเ้ ป็น อยา่ งดี นอกจากน้ีครูควรใชว้ ิธีการวดั และประเมินแบบต่อเน่ืองอยา่ งไม่เป็นทางการและเป็นทางการ
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3 10 ตลอดระยะเวลาท่ีครูจดั กิจกรรมการเรียนรู้ใหแ้ ก่นกั เรียน ซ่ึงสอดคลอ้ งกบั แนวคิดท่ีตอ้ งการใหค้ รูทาํ การ วดั และประเมินผลการเรียนรู้ระหวา่ งการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ท่ีเรียกวา่ สอนไปวัดผลไป จึงกล่าวไดว้ า่ ข้นั น้ีครูควรนึกถึงพฤติกรรมหรือการแสดงออกของนกั เรียน โดยพิจารณาจากผลงาน หรือชิ้นงานท่ีเป็นหลกั ฐานเชิงประจกั ษ์ ซ่ึงแสดงใหเ้ ห็นวา่ นกั เรียนเกิดผลลพั ธ์ปลายทางตามเกณฑท์ ่ี กาํ หนดไวแ้ ลว้ และเกณฑท์ ี่ใชป้ ระเมินควรเป็นเกณฑค์ ุณภาพในรูปของมิติคุณภาพ (Rubrics) อยา่ งไรก็ ตาม ครูอาจจะมีหลกั ฐานหรือใชว้ ิธีการอ่ืน ๆ เช่น การทดสอบก่อนและหลงั เรียน การสมั ภาษณ์ การศึกษา คน้ ควา้ การฝึ กปฏิบตั ิขณะเรียนรู้ประกอบดว้ ยกไ็ ด้ หลงั จากท่ีครูไดก้ าํ หนดผลลพั ธป์ ลายทางที่ตอ้ งการใหเ้ กิดข้ึนกบั นกั เรียนแลว้ ครูควรกาํ หนดภาระ งานและวธิ ีการประเมินผลการเรียนรู้ ซ่ึงเป็นหลกั ฐานที่แสดงวา่ นกั เรียนมีผลการเรียนรู้ตามผลลพั ธ์ ปลายทางที่กาํ หนดไวแ้ ลว้ ภาระงาน หมายถึง งานหรือกิจกรรมท่ีกาํ หนดใหน้ กั เรียนปฏิบตั ิ เพือ่ ใหบ้ รรลุตามจุดประสงค์ การเรียนรู้/ตวั ช้ีวดั ช้นั ปี /มาตรฐานการเรียนรู้ที่กาํ หนดไว้ ลกั ษณะสาํ คญั ของงานจะตอ้ งเป็นงานที่ สอดคลอ้ งกบั ชีวิตจริงในชีวติ ประจาํ วนั เป็นเหตุการณ์จริงมากกวา่ กิจกรรมท่ีจาํ ลองข้ึนเพอ่ื ใชใ้ นการ ทดสอบ ซ่ึงเรียกวา่ งานที่ปฏิบตั ิเป็นงานท่ีมีความหมายต่อผเู้ รียน (Meaningful Task) นอกจากน้ีงาน และกิจกรรมจะตอ้ งมีขอบเขตที่ชดั เจน สอดคลอ้ งกบั จุดประสงคก์ ารเรียนรู้/ตวั ช้ีวดั ช้นั ปี /มาตรฐาน การเรียนรู้ท่ีตอ้ งการใหเ้ กิดข้ึนกบั นกั เรียน ท้งั น้ี เม่ือไดภ้ าระงานครบถว้ นตามท่ีตอ้ งการแลว้ ครูจะตอ้ งนึกถึงวธิ ีการและเคร่ืองมือที่จะใชว้ ดั และประเมินผลการเรียนรู้ของนกั เรียนซ่ึงมีอยมู่ ากมายหลายประเภท ครูจะตอ้ งเลือกใหเ้ หมาะสมกบั ภาระงานท่ีนกั เรียนปฏิบตั ิ ตวั อยา่ งภาระงาน/ชิ้นงานเร่ือง การศึกษาประวตั ิของโรงเรียน รวมท้งั การกาํ หนดวธิ ีการวดั และ ประเมินผลการเรียนรู้ของนกั เรียนดงั ตาราง
ตวั อย่าง ภาระงาน/ชิ้นงาน แผนการจดั การ สาระท่ี 4 ประวตั ศิ าสตร์ มาตรฐาน ส 4.1 เขา้ ใจความหมาย ความสาํ คญั ของเวลาและยคุ สมยั ทางประวตั ิศาสตร์ ส ตวั ชี้วดั ช้ันปี สาระการเรียนรู้ ภาระงาน/ชิ้นงาน วธิ ีการ การวดั แ เค แสดงลาํ ดบั การศึกษา 1. การสาํ รวจ 1. อภิปราย 1. แบ เหตุการณ์สาํ คญั ประวตั ิของ หลกั ฐานที่ใชใ้ น 2. สาํ รวจ ตร ของโรงเรี ยน โรงเรี ยน การศึกษาประวตั ิ 3. ตรวจผลงาน ผล และชุมชน โดย ของโรงเรี ยน 4. ประเมิน 2. แบ ระบุหลกั ฐาน 2. การนาํ เสนอผล พฤติกรรม ปร และแหล่งขอ้ มูล การสาํ รวจ ในการ พฤ ท่ีเกี่ยวขอ้ ง 3. การเขียนเส้นเวลา ทาํ งาน ใน (ส 4.1 ป. 3/2) ทาํ
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3 11 รเรียนรู้ท่ี 3 การศึกษาประวตั ขิ องโรงเรียน สามารถใชว้ ิธีการทางประวตั ิศาสตร์วิเคราะห์เหตุการณ์ต่าง ๆ อยา่ งเป็ นระบบ และประเมินผล เกณฑ์ กจิ กรรมการเรียนรู้ ส่ือการเรียนรู้ ครื่องมอื บบ 1. เกณฑค์ ุณภาพ 1. ดูภาพกิจกรรมของ 1. แบบทดสอบ รวจสอบ 4 ระดบั โรงเรี ยนและ ก่อนเรี ยน ลงาน 2. เกณฑค์ ุณภาพ อภิปรายถึงเหตุการณ์ 2. ภาพกิจกรรม บบ 4 ระดบั ในภาพ ของโรงเรี ยน ระเมิน 3. เกณฑค์ ุณภาพ 2. สาํ รวจหลกั ฐานท่ีใช้ 3. แบบประเมิน ฤติกรรม 4 ระดบั ในการศึกษาประวตั ิ พฤติกรรมใน นการ ของโรงเรี ยน การทาํ งานเป็ น างาน 3. นาํ เสนอผลการ รายบุคคล สาํ รวจหนา้ ช้นั เรี ยน 4. หนงั สือเรี ยน 4. เขียนเสน้ เวลาแสดง รายวชิ าพ้นื ฐาน เหตุการณ์สาํ คญั ของ ประวตั ิศาสตร์ โรงเรี ยน ป. 3 5. แบบฝึ กทกั ษะ รายวิชาพ้ืนฐาน
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3 12 ประวตั ิศาสตร์ ป. 3 6. คู่มือการสอน 7. สื่อการเรียนรู้ PowerPoint รายวชิ าพ้นื ฐาน ประวตั ิศาสตร์ ป. 3
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3 13 การสร้างความเข้าใจทค่ี งทน ความเขา้ ใจที่คงทนจะเกิดข้ึนได้ นกั เรียนจะตอ้ งมีความสามารถ 6 ประการ ไดแ้ ก่ 1. การอธิบาย ชี้แจง เป็นความสามารถที่นกั เรียนแสดงออกโดยการอธิบายหรือช้ีแจงในสิ่งที่เรียนรู้ ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง สอดคลอ้ ง มีเหตุมีผล และเป็นระบบ 2. การแปลความและตคี วาม เป็นความสามารถท่ีนกั เรียนแสดงออกโดยการแปลความและตีความ ไดอ้ ยา่ งมีความหมาย ตรงประเดน็ กระจ่างชดั และทะลุปรุโปร่ง 3. การประยุกต์ ดดั แปลง และนําไปใช้ เป็นความสามารถที่นกั เรียนแสดงออกโดยการนาํ สิ่งท่ีได้ เรียนรู้ไปสู่การปฏิบตั ิไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิผล มีประสิทธิภาพ และคลอ่ งแคลว่ 4. การมมี ุมมองที่หลากหลาย เป็นความสามารถท่ีนกั เรียนแสดงออกโดยการมีมุมมองที่น่าเชื่อถือ เป็นไปได้ มีความลึกซ้ึง แจ่มชดั และแปลกใหม่ 5. การให้ความสําคญั และใส่ใจในความรู้สึกของผ้อู นื่ เป็นความสามารถที่นกั เรียนแสดงออกโดย การมีความละเอียดรอบคอบ เปิ ดเผย รับฟังความคิดเห็นของผอู้ ่ืน ระมดั ระวงั ที่จะไมใ่ หเ้ กิดความ กระทบกระเทือนต่อผอู้ ่ืน 6. การรู้จกั ตนเอง เป็นความสามารถที่นกั เรียนแสดงออกโดยการมีความตระหนกั รู้ สามารถ ประมวลผลขอ้ มูลจากแหล่งขอ้ มูลที่หลากหลาย ปรับตวั ได้ รู้จกั ใคร่ครวญ และมีความเฉลียวฉลาด นอกจากน้ี หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ไดก้ าํ หนดสมรรถนะสาํ คญั ของนกั เรียนหลงั จากสาํ เร็จการศึกษาตามหลกั สูตรไว้ 5 ประการ ดงั น้ี 1. ความสามารถในการส่ือสาร เป็นความสามารถในการรับและส่งสาร มีวฒั นธรรมในการใชภ้ าษา ถ่ายทอดความคิด ความรู้ ความเขา้ ใจ ความรู้สึก และทศั นะของตนเอง เพื่อแลกเปลี่ยนขอ้ มูลข่าวสารและ ประสบการณ์ อนั จะเป็นประโยชน์ต่อการพฒั นาตนเองและสงั คม รวมท้งั การเจรจาต่อรองเพื่อขจดั และ ลดปัญหาความขดั แยง้ ต่าง ๆ การเลือกรับหรือไม่รับขอ้ มลู ข่าวสารดว้ ยหลกั เหตุผลและความถูกตอ้ ง ตลอดจนการเลือกใชว้ ิธีการส่ือสารที่มีประสิทธิภาพ โดยคาํ นึงถึงผลกระทบที่มีต่อตนเองและสงั คม 2. ความสามารถในการคดิ เป็นความสามารถในการคิดวเิ คราะห์ การคิดสงั เคราะห์ การคิดอยา่ ง สร้างสรรค์ การคิดอยา่ งมีวิจารณญาณ และการคิดอยา่ งเป็นระบบ เพ่อื นาํ ไปสู่การสร้างองคค์ วามรู้หรือ สารสนเทศเพอื่ การตดั สินใจเก่ียวกบั ตนเองและสงั คมไดอ้ ยา่ งเหมาะสม 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา เป็นความสามารถในการแกป้ ัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ที่เผชิญได้ อยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสมบนพ้ืนฐานของหลกั เหตุผล คุณธรรม และขอ้ มลู สารสนเทศ เขา้ ใจความสมั พนั ธ์ และการเปล่ียนแปลงของเหตุการณ์ต่าง ๆ ในสงั คม แสวงหาความรู้ ประยกุ ตค์ วามรู้มาใชใ้ นการป้ องกนั และแกไ้ ขปัญหา และมีการตดั สินใจท่ีมีประสิทธิภาพโดยคาํ นึงถึงผลกระทบท่ีเกิดข้ึนต่อตนเอง สงั คม และสิ่งแวดลอ้ ม
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3 14 4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ เป็นความสามารถในการนาํ กระบวนการต่าง ๆ ไปใชใ้ นการ ดาํ เนินชีวิตประจาํ วนั การเรียนรู้ดว้ ยตนเอง การเรียนรู้อยา่ งต่อเนื่อง การทาํ งาน และการอยรู่ ่วมกนั ใน สงั คม ดว้ ยการสร้างเสริมความสมั พนั ธอ์ นั ดีระหวา่ งบุคคล การจดั การปัญหาและความขดั แยง้ ต่าง ๆ อยา่ งเหมาะสม การปรับตวั ใหท้ นั กบั การเปล่ียนแปลงของสงั คมและสภาพแวดลอ้ ม และการรู้จกั หลีกเล่ียงพฤติกรรมท่ีไม่พึงประสงคซ์ ่ึงจะส่งผลกระทบต่อตนเองและผอู้ ื่น 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เป็นความสามารถในการเลือกและใชเ้ ทคโนโลยดี า้ นต่าง ๆ มีทกั ษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพอ่ื การพฒั นาตนเองและสงั คมในดา้ นการเรียนรู้ การส่ือสาร การ ทาํ งาน การแกป้ ัญหาอยา่ งสร้างสรรค์ ถกู ตอ้ ง เหมาะสม และมีคุณธรรม นอกจากสมรรถนะสาํ คญั ของนกั เรียนหลงั จากสาํ เร็จการศึกษาตามหลกั สูตรที่กล่าวแลว้ ขา้ งตน้ หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ไดก้ าํ หนดคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคเ์ พือ่ ให้ สามารถอยรู่ ่วมกบั ผอู้ ื่นในสงั คมไดอ้ ยา่ งมีความสุขในฐานะเป็นพลเมืองไทยและพลโลก ดงั น้ี 1. รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ 2. ซื่อสตั ยส์ ุจริต 3. มีวนิ ยั 4. ใฝ่ เรียนรู้ 5. อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง 6. มุ่งมนั่ ในการทาํ งาน 7. รักความเป็นไทย 8. มีจิตสาธารณะ ดงั น้นั การกาํ หนดภาระงานใหน้ กั เรียนปฏิบตั ิ รวมท้งั การเลือกวิธีการและเคร่ืองมือประเมินผล การเรียนรู้น้นั ครูควรคาํ นึงถึงความสามารถของนกั เรียน 6 ประการตามแนวคิด Backward Design สมรรถนะสาํ คญั และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงคข์ องนกั เรียนหลงั จากสาํ เร็จการศึกษาตามหลกั สูตรที่ได้ กล่าวไวข้ า้ งตน้ เพ่ือใหภ้ าระงาน วิธีการ และเครื่องมือวดั และประเมินผลการเรียนรู้ครอบคลุมสิ่งที่ สะทอ้ นผลลพั ธ์ปลายทางที่ตอ้ งการใหเ้ กิดข้ึนกบั นกั เรียนอยา่ งแทจ้ ริง นอกจากน้ี การออกแบบการจดั การเรียนรู้ตามแนวคิด Backward design ในข้นั ที่ 2 น้ี ครูจะตอ้ ง คาํ นึงถึงภาระงาน วธิ ีการ เคร่ืองมือวดั และประเมินผลการเรียนรู้ที่มีความเที่ยงตรง ความเชื่อถือได้ มี ประสิทธิภาพ ตรงกบั สภาพจริง มีความยดื หยนุ่ และสร้างความสบายใจแก่นกั เรียนเป็นสาํ คญั ข้นั ท่ี 3 วางแผนการจัดการเรียนรู้ เมื่อครูมีความรู้ความเขา้ ใจท่ีชดั เจนเกี่ยวกบั การกาํ หนดผลลพั ธป์ ลายทางท่ีตอ้ งการใหเ้ กิดข้ึนกบั นกั เรียน รวมท้งั กาํ หนดภาระงานและการประเมินผลการเรียนรู้ซ่ึงเป็นหลกั ฐานที่แสดงวา่ นกั เรียนเกิด การเรียนรู้ตามท่ีกาํ หนดไวอ้ ยา่ งแทจ้ ริงแลว้ ข้นั ต่อไปครูควรนึกถึงกิจกรรมการเรียนรู้ต่าง ๆ ท่ีจะจดั ใหแ้ ก่ นกั เรียน การท่ีครูจะนึกถึงกิจกรรมต่าง ๆ ที่จะจดั ใหน้ กั เรียนไดน้ ้นั ครูควรตอบคาํ ถามสาํ คญั ต่อไปน้ี
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3 15 - ถา้ ครูตอ้ งการจะจดั การเรียนรู้ใหน้ กั เรียนเกิดความรู้เก่ียวกบั ขอ้ เทจ็ จริง ความคิดรวบยอด หลกั การ และทกั ษะกระบวนการต่าง ๆ ท่ีจาํ เป็นสาํ หรับนกั เรียน ซ่ึงจะทาํ ใหน้ กั เรียนเกิดผลลพั ธ์ปลายทาง ตามท่ีกาํ หนดไว้ รวมท้งั เกิดเป็นความเขา้ ใจที่คงทนต่อไปน้นั ครูสามารถใชว้ ิธีการง่าย ๆ อะไรบา้ ง - กิจกรรมการเรียนรู้ท่ีจะช่วยเป็นส่ือนาํ ใหน้ กั เรียนเกิดความรู้และทกั ษะที่จาํ เป็นมีอะไรบา้ ง - ส่ือและแหล่งการเรียนรู้ที่เหมาะสมและดีท่ีสุด ซ่ึงจะทาํ ใหน้ กั เรียนบรรลุตามมาตรฐาน ของหลกั สูตรมีอะไรบา้ ง - กิจกรรมการเรียนรู้ต่าง ๆ ท่ีกาํ หนดไวค้ วรจดั กิจกรรมใดก่อนและควรจดั กิจกรรมใดหลงั - กิจกรรมต่าง ๆ ออกแบบไวเ้ พ่อื ตอบสนองความแตกต่างระหวา่ งบุคคลของนกั เรียนหรือไม่ เพราะเหตุใด การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ต่าง ๆ เพอ่ื ใหน้ กั เรียนเกิดผลลพั ธป์ ลายทางตามแนวคิด Backward Design น้นั วกิ กินส์และแมกไทไดเ้ สนอแนะใหค้ รูเขียนแผนการจดั การเรียนรู้โดยใชแ้ นวคิดของ WHERETO (ไปที่ไหน) ซ่ึงมีรายละเอียดดงั น้ี W แทน กิจกรรมการเรียนรู้ท่ีจดั ใหน้ ้นั จะตอ้ งช่วยใหน้ กั เรียนรู้วา่ หน่วยการเรียนรู้น้ีจะดาํ เนินไปใน ทิศทางใด (Where) และส่ิงที่คาดหวงั คืออะไร (What) มีอะไรบา้ ง ช่วยใหค้ รูทราบวา่ นกั เรียนมีความรู้ พ้ืนฐานและความสนใจอะไรบา้ ง H แทน กิจกรรมการเรียนรู้ควรดึงดูดความสนใจของนกั เรียนทุกคน (Hook) ทาํ ใหน้ กั เรียนเกิด ความสนใจในส่ิงท่ีจะเรียนรู้ (Hold) และใชส้ ่ิงท่ีนกั เรียนสนใจเป็นแนวทางในการจดั การเรียนรู้ E แทน กิจกรรมการเรียนรู้ควรส่งเสริมและจดั ให้ (Equip) นกั เรียนไดม้ ีประสบการณ์ (Experience) ในแนวคิดหลกั /ความคิดรวบยอด และสาํ รวจ รวมท้งั วนิ ิจฉยั (Explore) ในประเด็นต่าง ๆ ที่น่าสนใจ R แทน กิจกรรมการเรียนรู้ควรเปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียนไดค้ ิดทบทวน (Rethink) ปรับ (Revise) ความ เขา้ ใจในความรู้และงานท่ีปฏิบตั ิ E แทน กิจกรรมการเรียนรู้ควรเปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียนไดป้ ระเมิน (Evaluate) ผลงานและสิ่งที่ เก่ียวขอ้ งกบั การเรียนรู้ T แทน กิจกรรมการเรียนรู้ควรออกแบบ (Tailored) สาํ หรับนกั เรียนเป็นรายบุคคลเพอื่ ให้ สอดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการ ความสนใจ และความสามารถที่แตกต่างกนั ของนกั เรียน O แทน การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ต่าง ๆ ใหเ้ ป็นระบบ (Organized) ตามลาํ ดบั การเรียนรู้ของ นกั เรียน และกระตุน้ ใหน้ กั เรียนมีส่วนร่วมในการสร้างองคค์ วามรู้ต้งั แต่เร่ิมแรกและตลอดไป ท้งั น้ีเพื่อ การเรียนรู้ที่มีประสิทธิผล อยา่ งไรกต็ าม มีขอ้ สงั เกตวา่ การวางแผนการจดั การเรียนรู้ที่มีการกาํ หนดวธิ ีการจดั การเรียนรู้ การลาํ ดบั บทเรียน รวมท้งั สื่อและแหล่งการเรียนรู้ที่เฉพาะเจาะจงน้นั จะประสบผลสาํ เร็จได้ ก็ต่อเมื่อครู ไดม้ ีการกาํ หนดผลลพั ธป์ ลายทาง หลกั ฐานและวิธีการวดั และประเมินผลท่ีแสดงวา่ นกั เรียนมีผลการ เรียนรู้ตามที่กาํ หนดไวอ้ ยา่ งแทจ้ ริงแลว้ การจดั กิจกรรมการเรียนรู้เป็นเพยี งสื่อท่ีจะนาํ ไปสู่เป้ าหมาย
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3 16 ความสาํ เร็จที่ตอ้ งการเท่าน้นั ดว้ ยเหตุน้ีถา้ ครูมีเป้ าหมายท่ีชดั เจนกจ็ ะช่วยทาํ ใหก้ ารวางแผนการจดั การ เรียนรู้และการจดั กิจกรรมการเรียนรู้สามารถทาํ ใหน้ กั เรียนเกิดผลสมั ฤทธ์ิตามท่ีกาํ หนดไวไ้ ด้ โดยสรุปจึงกล่าวไดว้ า่ ข้นั น้ีเป็นการคน้ หาส่ือการเรียนรู้ แหล่งการเรียนรู้ และกิจกรรมการเรียนรู้ ท่ีสอดคลอ้ งเหมาะสมกบั นกั เรียน กิจกรรมท่ีกาํ หนดข้ึนควรเป็นกิจกรรมที่จะส่งเสริมใหน้ กั เรียนสามารถ สร้างและสรุปเป็นความคิดรวบยอดและหลกั การที่สาํ คญั ของสาระท่ีเรียนรู้ ก่อใหเ้ กิดความเขา้ ใจท่ีคงทน รวมท้งั ความรู้สึกและค่านิยมที่ดีไปพร้อม ๆ กบั ทกั ษะความชาํ นาญ
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3 17 ผงั การออกแบบการจัดการเรียนรู้ (Backward Design Template) หน่วยการเรียนรู้ท่ี ข้ันท่ี 1 ผลลพั ธ์ปลายทางที่ต้องการให้เกดิ ขึน้ กบั นักเรียน ตวั ชี้วดั ช้ันปี ความเข้าใจทค่ี งทนของนักเรียน คาํ ถามสําคญั ท่ที ําให้เกดิ ความเข้าใจที่คงทน นักเรียนจะเข้าใจว่า… 1. 1. 2. . 2. ทักษะ/ความสามารถของนักเรียนที่นําไปสู่ความเข้าใจ ความรู้ของนักเรียนทีน่ ําไปสู่ความเข้าใจที่คงทน ท่ีคงทน นักเรียนจะสามารถ... นักเรียนจะรู้ว่า… 1. 1. 2.. 2.. ข้นั ที่ 2 ภาระงานและการประเมนิ ผลการเรียนรู้ซึ่งเป็ นหลกั ฐานท่แี สดงว่านักเรียนมผี ลการเรียนรู้ ตามท่ีกาํ หนดไว้อย่างแท้จริง 1. ภาระงานท่ีนักเรียนต้องปฏิบัติ 1.1. 1.2 2. วธิ ีการและเครื่องมอื ประเมนิ ผลการเรียนรู้ 2.2 เคร่ืองมือประเมินผลการเรียนรู้ 2.1 วิธีการประเมินผลการเรียนรู้ 1) 2) 1) 2) 3. สิ่งทม่ี ุ่งประเมนิ 3.1. 3.2 3.3 ข้ันที่ 3 แผนการจัดการเรียนรู้
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3 18 รูปแบบแผนการจดั การเรียนรู้รายช่ัวโมง รูปแบบแผนการจดั การเรียนรู้รายชวั่ โมงจากการออกแบบการจดั การเรียนรู้ตามแนวคิดBackward Design เขียนโดยใชร้ ูปแบบของแผนการจดั การเรียนรู้แบบเรียงหวั ขอ้ ซ่ึงมีรายละเอียดดงั น้ี ชื่อแผน... (ระบุลาํ ดบั ที่และช่ือของแผนการจดั การเรียนรู้) ช่ือเร่ือง... (ระบุช่ือเรื่องท่ีจะทาํ การจดั การเรียนรู้) สาระท่ี... (ระบุสาระที่ใชจ้ ดั การเรียนรู้) เวลา... (ระบุระยะเวลาท่ีใชใ้ นการจดั การเรียนรู้ต่อ 1 แผน) ช้ัน... (ระบุช้นั ท่ีจดั การเรียนรู้) หน่วยการเรียนรู้ท่ี... (ระบุลาํ ดบั ท่ีและช่ือของหน่วยการเรียนรู้) สาระสําคญั ... (เขียนความคิดรวบยอดหรือมโนทศั นข์ องหวั เรื่องที่จะจดั การเรียนรู้) ตวั ชี้วดั ช้ันปี ... (ระบุตวั ช้ีวดั ช้นั ปี ท่ีใชเ้ ป็นเป้ าหมายของแผนการจดั การเรียนรู้) จุดประสงค์การเรียนรู้... (กาํ หนดใหส้ อดคลอ้ งกบั สมรรถนะสาํ คญั และคุณลกั ษณะอนั พึง ประสงคข์ องนกั เรียนหลงั จากสาํ เร็จการศึกษาตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ซ่ึงประกอบดว้ ยดา้ นความรู้ (Knowledge: K) ดา้ นคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยม (Affective: A) และดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (Performance: P)) การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้... (ระบุวธิ ีการและเคร่ืองมือวดั และประเมินผลการเรียนรู้ท่ี สอดคลอ้ งกบั จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ท้งั 3 ดา้ น) สาระการเรียนรู้... (ระบุสาระและเน้ือหาท่ีใชจ้ ดั การเรียนรู้ อาจเขียนเฉพาะหวั เรื่องกไ็ ด)้ แนวทางบูรณาการ... (เสนอแนะและระบุกิจกรรมของกลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืนที่บูรณาการร่วมกนั ) กระบวนการจัดการเรียนรู้... (กาํ หนดใหส้ อดคลอ้ งกบั ธรรมชาติของกลุ่มสาระการเรียนรู้และ การบรู ณาการขา้ มกลุ่มสาระการเรียนรู้) กจิ กรรมเสนอแนะ... (ระบุรายละเอียดของกิจกรรมท่ีนกั เรียนควรปฏิบตั ิเพิ่มเติม) ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้... (ระบุสื่อ อุปกรณ์ และแหล่งเรียนรู้ที่ใชใ้ นการจดั การเรียนรู้) บนั ทึกหลงั การจัดการเรียนรู้... (ระบุรายละเอียดของผลการจดั การเรียนรู้ตามแผนที่ กาํ หนดไว้ อาจนาํ เสนอขอ้ เด่นและขอ้ ดอ้ ยใหเ้ ป็นขอ้ มลู ท่ีสามารถใชเ้ ป็นส่วนหน่ึงของการทาํ วจิ ยั ในช้นั เรียนได)้ ในส่วนของการเขียนการจดั กิจกรรมการเรียนรู้น้นั ใหค้ รูท่ีเขียนแผนการจดั การเรียนรู้นาํ ข้นั ตอน หลกั ของเทคนิคและวธิ ีการของการจดั การเรียนรู้ท่ีเนน้ ผเู้ รียนเป็นสาํ คญั เช่น การเรียนแบบแกป้ ัญหา การศึกษาเป็นรายบุคคล การอภิปรายกลุ่มยอ่ ย/กลุ่มใหญ่ การฝึกปฏิบตั ิการ การสืบคน้ ขอ้ มลู ฯลฯ มาเขียน ในข้นั สอน โดยใหค้ าํ นึงถึงธรรมชาติของกลุ่มสาระการเรียนรู้ การใชแ้ นวคิดของการออกแบบการจดั การเรียนรู้ตามแนวคิด Backward Design จะช่วยใหค้ รู มีความมน่ั ใจในการจดั การเรียนรู้และใชแ้ ผนการจดั การเรียนรู้ของ ในการจดั การเรียนรู้ได้
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3 19 อยา่ งมีประสิทธิภาพต่อไป 4. เทคนิคและวธิ ีการจดั การเรียนรู้–การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ ประวตั ศิ าสตร์ พระราชบญั ญตั ิการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และที่แกไ้ ขเพิ่มเติม (ฉบบั ที่ 3) พ.ศ. 2553 มาตรา 24 (2) และ (3) ไดร้ ะบุแนวทางการจดั การเรียนรู้ โดยเนน้ การฝึกทกั ษะกระบวนการคิด การฝึ กทกั ษะการ แสวงหาความรู้ดว้ ยตนเองจากแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย การฝึกปฏิบตั ิจริง และการประยกุ ตใ์ ชค้ วามรู้เพือ่ การป้ องกนั และแกป้ ัญหา ดงั น้นั เพอ่ื ใหก้ ารจดั การเรียนรู้สอดคลอ้ งกบั นโยบายดงั กล่าวน้ี การจดั ทาํ แผนการจดั การเรียนรู้ในคู่มอื ครู แผนการจัดการเรียนรู้ ประวตั ศิ าสตร์ ป. 3 เล่มน้ีจึงยดึ แนวทางการ จดั การเรียนรู้ท่ีเนน้ ผเู้ รียนเป็นศนู ยก์ ลาง (Child-centered) เนน้ การเรียนรู้จากการปฏิบตั ิจริง และเนน้ การ เรียนรู้แบบบูรณาการท่ีผสมผสานเช่ือมโยงสาระการเรียนรู้ต่าง ๆ กบั หวั ขอ้ เร่ืองหรือประเด็นท่ีสอดคลอ้ ง กบั ชีวติ จริง เพื่อใหน้ กั เรียนเกิดการพฒั นาในองคร์ วม เป็นธรรมชาติ สอดคลอ้ งกบั สภาพและปัญหาที่เกิด ในวถิ ีชีวิตของนกั เรียน แนวทางการจดั การเรียนรู้ที่เนน้ ผเู้ รียนเป็นศูนยก์ ลาง ไดเ้ ปล่ียนแปลงบทบาทของครูจากการเป็น ผชู้ ้ีนาํ หรือถ่ายทอดความรู้ ไปเป็นผชู้ ่วยเหลือ อาํ นวยความสะดวก และส่งเสริมสนบั สนุนนกั เรียนโดยใช้ วิธีการต่าง ๆ อยา่ งหลากหลายรูปแบบ เพอ่ื ใหน้ กั เรียนเกิดการสร้างสรรคค์ วามรู้และนาํ ความรู้ไปใชอ้ ยา่ ง มีประสิทธิภาพ คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3 เล่มน้ีจึงไดน้ าํ เสนอทฤษฎีและเทคนิค วธิ ีการเรียนการสอนมาเป็นแนวทางในการจดั การเรียนรู้ ดงั น้ี 1. การจัดการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็ นฐาน (Brain- Based Learning–BBL) เป็นวธิ ีการจดั การเรียนรู้ ท่ีอิงผลการวจิ ยั ทางประสาทวิทยา ซ่ึงไดเ้ สนอแนะไวว้ า่ ตามธรรมชาติน้นั สมองเรียนรู้ไดอ้ ยา่ งไร โดยได้ กล่าวถึงโครงสร้างท่ีแทจ้ ริงของสมองและการทาํ งานของสมองมนุษยท์ ี่มีการแปรเปล่ียนไปตามข้นั ของ การพฒั นา ซ่ึงสามารถนาํ มาใชเ้ ป็นกรอบแนวคิดของการสร้างสรรคก์ ารจดั การเรียนรู้ไดอ้ ยา่ งมี ประสิทธิภาพ 2. การจัดการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็ นฐาน (Problem- Based Learning–PBL) เป็นวธิ ีการจดั การ เรียนรู้ท่ีใชป้ ัญหาท่ีเกิดข้ึนเป็นจุดเร่ิมตน้ และเป็นตวั กระตุน้ ใหเ้ กิดกระบวนการเรียนรู้ โดยใหน้ กั เรียน ร่วมกนั แกป้ ัญหาภายใตก้ ารแนะนาํ ของครู ใหน้ กั เรียนช่วยกนั ต้งั คาํ ถามและช่วยกนั คน้ หาคาํ ตอบ โดยอาจ ใชค้ วามรู้เดิมมาแกป้ ัญหา หรือศึกษาคน้ ควา้ เพ่มิ เติมสาํ หรับการแกป้ ัญหา นาํ ขอ้ มลู ที่ไดจ้ ากการคน้ ควา้ มา สรุปเป็นขอ้ มลู ในการแกป้ ัญหา แลว้ ช่วยกนั ประเมินการแกป้ ัญหาเพือ่ ใชใ้ นการแกป้ ัญหาคร้ังต่อไป 3. การจัดการเรียนรู้แบบพหุปัญญา (Multiple Intelligences) เป็นการพฒั นาองคร์ วมของนกั เรียน ท้งั สมองดา้ นซา้ ยและสมองดา้ นขวา บนพ้นื ฐานความสามารถและสติปัญญาท่ีแตกต่างกนั ของแต่ละ บุคคล มุ่งหมายจะใหผ้ เู้ รียนสามารถแกป้ ัญหาหรือสร้างสรรคส์ ่ิงต่าง ๆ ภายใตค้ วามหลากหลายของ วฒั นธรรมหรือสภาพแวดลอ้ ม
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3 20 4. การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมอื (Cooperative Learning) เป็นการจดั จดั สถานการณ์และ บรรยากาศใหน้ กั เรียนเกิดการเรียนรู้ร่วมกนั ฝึ กใหน้ กั เรียนท่ีมีลกั ษณะแตกต่างกนั ท้งั สติปัญญาและความ ถนดั ร่วมกนั ทาํ งานเป็นกลุ่ม และร่วมกนั ศึกษาคน้ ควา้ 5. การจัดการเรียนรู้แบบใช้หมวกความคดิ 6 ใบ (Six Thinking Hats) ใหน้ กั เรียนฝึกต้งั คาํ ถามและ ตอบคาํ ถามท่ีใชค้ วามคิดในลกั ษณะต่าง ๆ โดยสามารถอธิบายเหตุผลประกอบ หรือวิเคราะห์วิจารณ์ได้ 6. การจัดการเรียนรู้สืบสวนสอบสวน (Inquiry Process) เป็นการฝึกใหน้ กั เรียนคน้ หาความรู้ดว้ ย ตนเอง เพื่ออธิบายส่ิงต่าง ๆ อยา่ งเป็นระบบ มีหลกั เกณฑ์ โดยนกั เรียนจะตอ้ งใชค้ วามสามารถของตนเอง คิดคน้ สืบเสาะ แกป้ ัญหาหรือคิดประดิษฐส์ ิ่งใหม่ดว้ ยตนเอง 7. การจัดการเรียนรู้แบบกระบวนการแก้ปัญหา (Problem Solving) เป็นการฝึกใหน้ กั เรียนเรียนรู้ จากการแกป้ ัญหาท่ีเกิดข้ึน โดยการทาํ ความเขา้ ใจปัญหา วางแผนแกป้ ัญหา ดาํ เนินการแกป้ ัญหา และ ตรวจสอบหรือมองยอ้ นกลบั 8. การจดั การเรียนรู้แบบโครงงาน (Project Work) เป็นวธิ ีการจดั การเรียนรู้รูปแบบหน่ึงท่ีส่งเสริม ใหน้ กั เรียนเรียนรู้ดว้ ยตนเองจากการลงมือปฏิบตั ิ โดยใชก้ ระบวนการแสวงหาความรู้หรือคน้ ควา้ หา คาํ ตอบในสิ่งที่นกั เรียนอยากรู้หรือสงสยั ดว้ ยวิธีการต่าง ๆ อยา่ งหลากหลาย 9. การจัดการเรียนรู้ท่ีเน้นการปฏิบัติ (Active Learning ใหน้ กั เรียนไดท้ ดลองทาํ ดว้ ยตนเอง เพ่ือจะ ไดเ้ รียนรู้ข้นั ตอนของงานและรู้จกั วิธีแกป้ ัญหาในการทาํ งาน 10. การจดั การเรียนรู้แบบสร้างผงั ความคิด (Concept Mapping) เป็นการสอนดว้ ยการจดั กลุ่ม ความคิดรวบยอด เพื่อใหเ้ ห็นความสมั พนั ธ์กนั ระหวา่ งความคิดหลกั และความคิดรองลงไป โดยนาํ เสนอ เป็ นภาพหรื อเป็ นผงั 11. การจัดการเรียนรู้จากประสบการณ์ (Experience Learning) เป็นการจดั กิจกรรมหรือจดั ประสบการณ์ใหน้ กั เรียนเกิดการเรียนรู้จากการปฏิบตั ิ แลว้ กระตุน้ ใหน้ กั เรียนพฒั นาทกั ษะใหม่ ๆ เจตคติ ใหม่ ๆ หรือวิธีการคิดใหม่ ๆ 12. การเรียนรู้โดยการแสดงบทบาทสมมุติ (Role Playing) เป็นการจดั กิจกรรมท่ีใหน้ กั เรียนได้ แสดงบทบาทในสถานการณ์ท่ีสมมุติข้ึน โดยอาจกาํ หนดใหแ้ สดงบทบาทสมมุติท่ีเป็นพฤติกรรมของ บุคคลอ่ืน หรือแสดงพฤติกรรมในบทบาทของตนเองในสถานการณ์ต่าง ๆ 13. การเรียนรู้จากเกมจําลองสถานการณ์ (Simulation Gaming) เป็นวธิ ีการจดั การเรียนรู้ท่ีคลา้ ย กบั การแสดงบทบาทสมมุติ แต่เป็นการใหเ้ ล่นเกมจาํ ลองสถานการณ์ โดยครูนาํ สถานการณ์จริงมาจาํ ลอง ไวใ้ นหอ้ งเรียน โดยการกาํ หนดกฎ กติกา และเงื่อนไขสาํ หรับเกมน้นั ๆ แลว้ ใหผ้ เู้ รียนไปเล่นเกมหรือ กิจกรรมในสถานการณ์จาํ ลองน้นั 14. การจัดการเรียนรู้แบบกลบั ด้านช้ันเรียน (Flipped Classroom) เป็นกระบวนการจดั การเรียนรู้ ตามแนวคิดวา่ เรียนที่บา้ น ทาํ การบา้ นที่โรงเรียน เป็นการกลบั มุมมองจากการใหบ้ ทบาทและความสาํ คญั ที่ครูไปใหค้ วามสาํ คญั ต่อการเรียนรู้ของนกั เรียน จากเดิมสิ่งที่ทาํ ในช้นั เรียนนาํ ไปทาํ ที่บา้ น และนาํ สิ่งท่ี
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3 21 มอบหมายใหท้ าํ ท่ีบา้ นมาทาํ ในช้นั เรียน โดยครูคอยใหค้ าํ แนะนาํ ช่วยเหลือ และตอบขอ้ สงสยั ในระหวา่ ง การทาํ งาน/กิจกรรมของนกั เรียน เพอื่ ใหเ้ กิดการเรียนรู้อยา่ งมีประสิทธิภาพ การจดั การเรียนรู้ตอ้ งจดั ควบคู่การวดั และการประเมินผลตามภาระงาน/ชิ้นงานที่สอดคลอ้ งกบั ตวั ช้ีวดั แผนการจดั การเรียนรู้น้ีไดเ้ สนอการวดั และประเมินผลครบท้งั 3 ดา้ น คือ ดา้ นความรู้ ดา้ น คุณธรรม จริยธรรม และค่านิยม และดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ เนน้ วธิ ีการวดั ท่ีหลากหลายตามสถานการณ์ จริง การดูร่องรอยต่าง ๆ ควบคู่ไปกบั การดูกระบวนการทาํ งาน และผลผลิตของงาน โดยออกแบบการ ประเมินก่อนเรียน ระหวา่ งเรียน หลงั เรียน และแบบทดสอบประจาํ หน่วยการเรียนรู้ พร้อมแบบฟอร์ม และเกณฑก์ ารประเมิน เพอ่ื อาํ นวยความสะดวกใหค้ รูไวพ้ ร้อม ท้งั น้ีครูอาจเพมิ่ เติมโดยการออกแบบการ วดั และประเมินดว้ ยมิติคุณภาพ (Rubrics)
5. ตารางวเิ คราะห์มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วดั ช้ันปี กบั สาร หน่ วยการเรี ยนร้ ู ที่ โครงสร้ างเนือ้ หา 1 ศักราชและการเทยี บศักราช 1. ศกั ราชในปฏิทิน 2. การเทียบศกั ราช 2 ประวตั ิของโรงเรียนและชุมชน 1. การศึกษาประวตั ิของโรงเรี ยน 2. การศึกษาประวตั ิของชุมชน 3 การต้งั ถิ่นฐานและพฒั นาการของชุมชน 1. ปัจจยั ท่ีมีผลต่อการต้งั ถิ่นฐานของชุมชน 2. ปัจจยั ท่ีมีอิทธิพลต่อพฒั นาการของชุมชน 4 วฒั นธรรมของชุมชน 1. ประเภทของวฒั นธรรม 2. ปัจจยั ที่มีอิทธิพลต่อการสร้างสรรคว์ ฒั นธรรมของชุมชน 3. วฒั นธรรมของชุมชนของเราและชุมชนอ่ืน
คู่มือครู แผนการจดั การเรี ยนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3 22 ระการเรี ยนร้ ู ในหน่ วยการเรี ยนร้ ู ความสอดคล้องกบั สาระ มาตรฐาน และตวั ชี้วดั ช้ันปี สาระที่ 4 มฐ.ส 4.1 มฐ.ส 4.2 มฐ.ส 4.3 1212312 3
หน่ วยการเรี ยนร้ ู ท่ี โครงสร้ างเนือ้ หา 5 ผู้สถาปนาอาณาจักรไทย 1. พอ่ ขนุ ศรี อินทราทิตย์ 2. สมเดจ็ พระรามาธิบดีท่ี 1 (พระเจา้ อู่ทอง) 3. สมเดจ็ พระเจา้ ตากสินมหาราช 4. พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟ้ าจุฬาโลกมหาราช 6 พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัวและสมเดจ็ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ 1. พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ภูมิพลอดุลยเดช 2. สมเดจ็ พระนางเจา้ สิริ กิต์ ิ พระบรมราชินีนาถ 7 วรี กรรมของบรรพบุรุษไทย 1. สมเดจ็ พระนเรศวรมหาราช 2. พระยาพชิ ยั ดาบหกั 3. ทา้ วเทพกระษตั รี ทา้ วศรี สุนทร 4. ชาวบา้ นบางระจนั
คู่มือครู แผนการจดั การเรี ยนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3 23 ความสอดคล้องกบั สาระ มาตรฐาน และตวั ชี้วดั ช้ันปี สาระท่ี 4 มฐ.ส 4.1 มฐ.ส 4.2 มฐ.ส 4.3 1212312 3
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3 24 6. คาํ อธิบายรายวชิ าพนื้ ฐาน ประวตั ศิ าสตร์ ป. 3 ส 13101 ประวตั ิศาสตร์ รายวชิ าพนื้ ฐาน กล่มุ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี 3 40 ชั่วโมง ศึกษาความหมายและที่มาของศกั ราชท่ีปรากฏในปฏิทิน ไดแ้ ก่ พทุ ธศกั ราช คริสตศ์ กั ราช (ถา้ เป็น ชาวมุสลิม ใหศ้ ึกษาฮิจเราะหศ์ กั ราชดว้ ย) วิธีการเทียบคริสตศ์ กั ราชกบั พทุ ธศกั ราช และศกั ราชในการ บนั ทึกเหตุการณ์สาํ คญั ที่เกี่ยวขอ้ งกบั ตนเองและครอบครัว เช่น ปี เกิดของผเู้ รียน เหตุการณ์สาํ คญั ของ ตนเองและครอบครัว โดยใชท้ กั ษะการเปรียบเทียบ การคาํ นวณ การเช่ือมโยง การอธิบาย เพอ่ื ใหม้ ี พ้นื ฐานในการศึกษาเอกสารที่แสดงเหตุการณ์ตามกาลเวลา สามารถเรียงลาํ ดบั เหตุการณ์ไดถ้ ูกตอ้ งวา่ เหตุการณ์ใดเกิดก่อน เหตุการณ์ใดเกิดหลงั อนั เป็นทกั ษะท่ีจาํ เป็นในการศึกษาประวตั ิศาสตร์ รู้จกั สืบคน้ เหตุการณ์สาํ คญั ของโรงเรียนและชุมชนโดยใชห้ ลกั ฐานและแหล่งขอ้ มูลท่ีเกี่ยวขอ้ ง เช่น รูปภาพ แผนผงั โรงเรียน แผนท่ีชุมชน หอ้ งสมุดโรงเรียน แหล่งโบราณคดีประวตั ิศาสตร์ใน ทอ้ งถิ่น สามารถใชเ้ สน้ เวลา (Timeline) แสดงลาํ ดบั เหตุการณ์สาํ คญั ที่เกิดข้ึนในโรงเรียนและชุมชน โดยใชท้ กั ษะการสาํ รวจ การสงั เกต การสอบถาม การอา่ น การฟัง การเล่าเรื่อง การสรุปความ เพอ่ื ฝึก ทกั ษะพ้ืนฐานของวิธีการทางประวตั ิศาสตร์ในการสืบคน้ เร่ืองราวรอบตวั อยา่ งง่าย ๆ โดยใชห้ ลกั ฐาน และแหล่งขอ้ มูลที่เกี่ยวขอ้ ง สามารถนาํ เสนอเร่ืองราวที่คน้ พบไดต้ ามลาํ ดบั เวลา ศึกษาปัจจยั ท่ีมีอิทธิพลต่อการต้งั ถ่ินฐานและพฒั นาการชุมชน รวมท้งั ปัจจยั ท่ีทาํ ใหเ้ กิด วฒั นธรรมและประเพณีในชุมชน ซ่ึงประกอบดว้ ย ปัจจยั ภมู ิศาสตร์ (ภมู ิประเทศ ภูมิอากาศ ทรัพยากร) และปัจจยั ทางสงั คม (ความเจริญทางเทคโนโลยี เช้ือชาติ ศาสนา ความเช่ือ การคมนาคม ความปลอดภยั ) ศึกษาและเปรียบเทียบความเหมือนและความแตกต่างของลกั ษณะสาํ คญั ของขนบธรรมเนียมประเพณี และวฒั นธรรมของชุมชนตนเอง และชุมชนใกลเ้ คียง เช่น ในเรื่องความเช่ือและการนบั ถือศาสนา อาหาร ภาษาถ่ิน การแต่งกาย โดยใชท้ กั ษะการอ่าน การสอบถาม การสังเกต การสาํ รวจ การฟัง การ สรุปความ เพื่อใหเ้ กิดความเขา้ ใจและภมู ิใจในชุมชนของตนเอง ยอมรับความแตกต่างทางวฒั นธรรม เขา้ ใจพฒั นาการของชุมชน สามารถดาํ เนินชีวิตอยรู่ ่วมกนั ในสงั คมไดอ้ ยา่ งสนั ติสุข ร่วมอนุรักษส์ ืบสาน ขนบธรรมเนียมประเพณีและวฒั นธรรมไทย ศึกษาพระราชประวตั ิและพระราชกรณียกิจโดยสงั เขปของพระมหากษตั ริยผ์ สู้ ถาปนาอาณาจกั ร ไทย ประกอบดว้ ย สุโขทยั อยธุ ยา ธนบุรี และรัตนโกสินทร์ ตามลาํ ดบั ไดแ้ ก่ พอ่ ขนุ ศรีอินทราทิตย์ สมเดจ็ พระรามาธิบดีท่ี 1 (พระเจา้ อ่ทู อง) สมเดจ็ พระเจา้ ตากสินมหาราช และ พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟ้ าจุฬาโลกมหาราช ศึกษาพระราชประวตั ิและพระราชกรณียกิจ ของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ภมู ิพลอดุลยเดช และสมเดจ็ พระนางเจา้ สิริกิต์ิ พระบรม-
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3 25 ราชินีนาถ โดยสงั เขป ศึกษาและเล่าวีรกรรมของบรรพบุรุษไทยที่มีส่วนปกป้ องประเทศชาติไดอ้ ยา่ ง น่าสนใจ เช่น สมเดจ็ พระนเรศวรมหาราช สมเดจ็ พระเจา้ ตากสินมหาราช ทา้ วเทพกษตั รี–ทา้ วศรีสุนทร ชาวบา้ นบางระจนั พระยาพชิ ยั ดาบหกั ทา้ วสุรนารี โดยใชท้ กั ษะการอา่ น และสอบถาม การฟัง การสรุปความ การเขียน การเลา่ เรื่อง เพอ่ื ใหเ้ ขา้ ใจความเป็นชาติไทย เกิดความรัก ความภูมิใจ และเห็นแบบอยา่ งการเสียสละเพ่ือชาติ และธาํ รงความ เป็ นไทย 7. โครงสร้างรายวชิ า รายวชิ าพนื้ ฐาน ประวตั ศิ าสตร์ ป. 3 ส 13101 ประวตั ศิ าสตร์ รายวชิ าพนื้ ฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ระดบั ช้ันประถมศึกษาปี ที่ 3 40 ช่ัวโมง หน่วยการ ช่ือหน่วยการเรียนรู้ มฐ./ตวั ชี้วดั เวลา (ชั่วโมง) นํา้ หนัก เรียนรู้ท่ี คะแนน (100) 1 ศกั ราชและการเทียบศกั ราช ส 4.1 ป. 3/1 48 2 ประวตั ิของโรงเรียนและชุมชน ส 4.1 ป. 3/1 6 15 3 การต้งั ถ่ินฐานและพฒั นาการ ส 4.2 ป. 3/1 48 ของชุมชน 4 วฒั นธรรมของชุมชน ส 4.2 ป. 3/2, ป. 3/3 6 25 5 ผสู้ ถาปนาอาณาจกั รไทย ส 4.3 ป. 3/1 9 28 6 พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ส 4.3 ป. 3/2 48 และสมเดจ็ นางเจา้ พระ- พระบรมราชินีนาถ 7 วรี กรรมของบรรพบุรุษไทย ส 4.3 ป. 3/3 48 หมายเหต:ุ ส 13101 ประวตั ิศาสตร์ ป. 3 จดั เวลาเรียนใหน้ กั เรียนไดเ้ รียนตลอดปี (หรือภาคเรียน) เท่ากบั 40 ชว่ั โมง การจดั ทาํ โครงสร้างเวลาเรียนไดก้ าํ หนดเวลาเรียนไว้ 40 ชวั่ โมง เวลาปฐมนิเทศ 1 ชวั่ โมง เวลาในการทดสอบกลางปี (กลางภาค) 1 ชวั่ โมง และเวลาในการทดสอบปลายปี (ปลายภาค) 1 ชวั่ โมง
8. โครงสร้ างเวลาเรียน รายวชิ าพนื้ ฐาน ประวัติศาสตร์ ป. 3 หน่ วยการเรี ยนร้ ู ท่ี แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี แผนปฐมนิเทศ ช ใ หน่วยท่ี 1 ศกั ราชและการเทียบศกั ราช แผนที่ 1 ศกั ราชในปฏิทิน ช (2 แผน) (2 ชวั่ โมง) ช แผนที่ 2 การเทียบศกั ราช (2 ชว่ั โมง) ช ค ค ช ฮ ฮ
คู่มือครู แผนการจดั การเรี ยนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3 26 ชั่วโมงท่ี หมายเหตุ ชวั่ โมงที่ 1 ปฐมนิเทศและขอ้ ตกลง ในการเรี ยน ชว่ั โมงที่ 2 ศกั ราชในปฏิทิน 1. ศกั ราชในปฏิทิน 1.1 พทุ ธศกั ราช ชวั่ โมงท่ี 3 ศกั ราชในปฏิทิน (ต่อ) 1.2 คริ สตศ์ กั ราช 1.3 ฮิจเราะห์ศกั ราช ชวั่ โมงท่ี 4 การเทียบพทุ ธศกั ราชกบั คริ สตศ์ กั ราช 2. การเทียบศกั ราช 2.1 การเทียบพทุ ธศกั ราชกบั คริ สตศ์ กั ราช ชว่ั โมงท่ี 5 การเทียบพทุ ธศกั ราชกบั ฮิจเราะห์ศกั ราช 2.2 การเทียบพทุ ธศกั ราชกบั ฮิจเราะห์ศกั ราช
หน่ วยการเรี ยนร้ ู ท่ี แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ช หน่วยการเรี ยนรู้ท่ี 2 ประวตั ิของโรงเรี ยน แผนท่ี 3 การศึกษาประวตั ิของโรงเรี ยน โ และชุมชน (3 ชวั่ โมง) (2 แผน) โ ช แผนท่ี 4 การศึกษาประวตั ิของชุมชน ข (3 ชว่ั โมง) ส ม ช บ เ ข ช เ
คู่มือครู แผนการจดั การเรี ยนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3 27 ช่ัวโมงท่ี หมายเหตุ ชวั่ โมงท่ี 6–7 หลกั ฐานที่ใหข้ อ้ มลู เก่ียวกบั โรงเรี ยน 1. การศึกษาประวตั ิของโรงเรี ยน 1.1 หลกั ฐานท่ีใหข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั โรงเรี ยน ชว่ั โมงที่ 8 เสน้ เวลาและตวั อยา่ งประวตั ิ ของโรงเรี ยน 1.2 การใชเ้ สน้ เวลาลาํ ดบั เหตุการณ์ สาํ คญั ในโรงเรี ยน 1.3 ตวั อยา่ งประวตั ิโรงเรี ยน มหรรณพ์ ชวั่ โมงท่ี 9–10 การศึกษาประวตั ิชุมชนและ บอกแหลง่ รวบรวมหลกั ฐานและขอ้ มลู เก่ียวกบั ชุมชน 2. การศึกษาประวตั ิของชุมชน 2.1 แหล่งรวบรวมหลกั ฐานและ ขอ้ มูลเก่ียวกบั ชุมชน ชวั่ โมงท่ี 11 การใชเ้ สน้ เวลาลาํ ดบั เหตุการณ์สาํ คญั ในชุมชน 2.2 การใชเ้ สน้ เวลาลาํ ดบั เหตุการณ์
หน่ วยการเรี ยนร้ ู ท่ี แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ส ช หน่วยท่ี 3 การต้งั ถิ่นฐานและพฒั นาการ แผนท่ี 5 ปัจจยั ท่ีมีอิทธิพลต่อการต้งั ถ่ินฐาน ของชุมชน ของชุมชน ข (2 แผน) (2 ชวั่ โมง) ช แผนท่ี 6 ปัจจยั ที่มีอิทธิพลต่อพฒั นาการ ช ของชุมชน ท (2 ชวั่ โมง) ช หน่วยการเรี ยนรู้ท่ี 4 วฒั นธรรมของชุมชน แผนท่ี 7 ประเภทของวฒั นธรรม ช (3 แผน) (2 ชว่ั โมง) ช แผนท่ี 8 ปัจจยั ท่ีมีอbทธิพลต่อการ อ สร้างสรรคว์ ฒั นธรรมของชุมชน ข (2 ชว่ั โมง)
คู่มือครู แผนการจดั การเรี ยนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3 28 ช่ัวโมงท่ี หมายเหตุ สาํ คญั ในชุมชน ชว่ั โมงที่ 12 ปัจจยั ทางภมู ิศาสตร์ 1. ปัจจยั ที่มีอิทธิพลต่อการต้งั ถิ่นฐาน ของชุมชน 1.1 ปัจจยั ทางภมู ิศาสตร์ ชวั่ โมงที่ 13 ปัจจยั ทางสงั คม 1.2 ปัจจยั ทางสงั คม ชว่ั โมงท่ี 14–15 ปัจจยั ทางภมู ิศาสตร์ปัจจยั ทางสงั คม 2. ปัจจยั ท่ีมีอิทธิพลต่อพฒั นาการของ ชุมชน 2.1 ปัจจยั ทางภมู ิศาสตร์ 2.2 ปัจจยั ทางสงั คม ชวั่ โมงที่ 16–17 ประเภทของวฒั นธรรม 1. ประเภทของวฒั นธรรม ชว่ั โมงท่ี 18 ปัจจยั ทางภมู ิศาสตร์ท่ีมี อิทธิพลต่อการสร้างสรรคว์ ฒั นธรรม ของชุมชน 2. ปัจจยั ท่ีมีอิทธิพลต่อการสร้างสรรค์
หน่ วยการเรี ยนร้ ู ที่ แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ว หน่วยการเรี ยนรู้ท่ี 5 ผสู้ ถาปนาอาณาจกั ร แผนท่ี 9 วฒั นธรรมของชุมชนของเรากบั ช ไทย ชุมชนอื่น ก (4 แผน) (2 ชวั่ โมง) ช แผนที่ 10 พอ่ ขนุ ศรี อินทราทิตย์ ช (2ชว่ั โมง) ช แผนที่ 11 สมเดจ็ พระรามาธิบดี ช ช ช ช ข ช พ ช
คู่มือครู แผนการจดั การเรี ยนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3 29 ช่ัวโมงท่ี หมายเหตุ วฒั นธรรมของชุมชน ปรับเปล่ียนชวั่ โมงทดสอบตามความเหมาะสม 2.1 ปัจจยั ทางภมู ิศาสตร์ ชว่ั โมงที่ 19 ปัจจยั ทางสงั คมท่ีมีอิทธิพลต่อ การสร้างสรรคว์ ฒั นธรรมของชุมชน 2.2 ปัจจยั ทางสงั คม ชวั่ โมงท่ี 20 วฒั นธรรมของชุมชนเรากบั ชุมชนอื่น 3. วฒั นธรรมของชุมชนของเรากบั ชุมชนอ่ืน ชว่ั โมงท่ี 21 วฒั นธรรมของชุมชนเรากบั ชุมชนอื่น (ต่อ) 3. วฒั นธรรมของชุมชนเรากบั ชุมชนอ่ืน ชว่ั โมงที่ 22 การทดสอบกลางปี ชว่ั โมงที่ 23 พระราชประวตั ิพอ่ ขนุ ศรี อินทราทิตย์ 1. พอ่ ขนุ ศรี อินทราทิตย์ ชวั่ โมงท่ี 24 พระราชกรณียกิจของ พอ่ ขนุ ศรี อินทราทิตย์ 1. พอ่ ขนุ ศรี อินทราทิตย์ ชว่ั โมงที่ 25 พระราชประวตั ิของสมเดจ็
หน่ วยการเรี ยนร้ ู ท่ี แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ท่ี 1 (พระเจา้ อู่ทอง) (2 ชวั่ โมง) พ แผนท่ี 12 สมเดจ็ พระเจา้ ตากสินมหาราช ( (2 ชว่ั โมง) ช พ แผนท่ี 13 พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟ้ า จุฬาโลกมหาราช ( (3 ชว่ั โมง) ช พ ช พ ช พ ม จ ช ข
คู่มือครู แผนการจดั การเรี ยนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3 30 ชั่วโมงท่ี หมายเหตุ พระรามาธิบดีท่ี 1 2. สมเดจ็ พระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจา้ อ่ทู อง) ชว่ั โมงท่ี 26 พระราชกรณียกิจของสมเดจ็ พระรามาธิบดีท่ี 1 (พระเจา้ อู่ทอง) 2. สมเดจ็ พระรามาธิบดีท่ี 1 (พระเจา้ อ่ทู อง) ชว่ั โมงที่ 27 พระราชประวตั ิของสมเดจ็ พระเจา้ ตากสินมหาราช 3. สมเด็จพระเจา้ ตากสินมหาราช ชว่ั โมงที่ 28 พระราชกรณียกิจของสมเด็จ พระเจา้ ตากสินมหาราช (ต่อ) 3. สมเด็จพระเจา้ ตากสินมหาราช ชวั่ โมงที่ 29 พระราชประวตั ิของ พระบาทสมเด็จพระพทุ ธยอดฟ้ าจุฬาโลก มหาราช 4. พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟ้ า จุฬาโลกมหาราช ชวั่ โมงท่ี 30 พระราชกรณียกิจ ของพระบาทสมเดจ็ พระพุทธยอดฟ้ า
หน่ วยการเรี ยนร้ ู ท่ี แผนการจดั การเรียนรู้ที่ จ หน่วยการเรี ยนรู้ท่ี 6 พระบาทสมเด็จพระ แผนที่ 14 พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ภมู ิ จ เจา้ อยหู่ วั และสมเด็จพระนางเจา้ ฯ พลอดุลยเดช ช พระบรมราชินีนาถ (2 ชว่ั โมง) พ (2 แผน) ม จ ช พ อ ภ ช พ อ ภ
คู่มือครู แผนการจดั การเรี ยนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3 31 ชั่วโมงท่ี หมายเหตุ จุฬาโลกมหาราช (ต่อ) 4. พระบาทสมเด็จพระพทุ ธยอดฟ้ า จุฬาโลกมหาราช ชว่ั โมงที่ 31 พระราชกรณียกิจของ พระบาทสมเด็จพรพทุ ธยอดฟ้ าจุฬาโลก มหาราช (ต่อ) 4. พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้ า จุฬาโลกมหาราช ชวั่ โมงท่ี 32 พระราชประวตั ิของ พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั ภมู ิพล อดุลยเดช 1. พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั ภมู ิพลอดุลยเดช ชว่ั โมงท่ี 33 พระราชกรณียกิจของ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ภูมิพล อดุลยเดช 2. พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ภมู ิพลอดุลยเดช
หน่ วยการเรี ยนร้ ู ท่ี แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ช แผนที่ 15 สมเดจ็ พระนางเจา้ ฯ พ หน่วยท่ี 7 วรี กรรมของบรรพบุรุ ษ พระบรมราชินีนาถ (4 แผน) (2 ชว่ั โมง) พ ช แผนท่ี 16 สมเดจ็ พระนเรศวรมหาราช พ (1 ชวั่ โมง) แผนท่ี 17 พระยาพชิ ยั ดาบหกั พ (1 ชว่ั โมง) ช แผนท่ี 18 ทา้ วเทพกระษตั รี ทา้ วศรี สุนทร ช (1 ชวั่ โมง) แผนท่ี ชาวบา้ นบางระจนั ช (1 ชวั่ โมง) ท ช ช
คู่มือครู แผนการจดั การเรี ยนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3 32 ชั่วโมงที่ หมายเหตุ ชวั่ โมงที่ 34 พระราชประวตั ิของสมเดจ็ พระนางเจา้ ฯ พระบรมราชินีนาถ 2. สมเดจ็ พระนางเจา้ ฯ พระบรมราชินีนาถ ชว่ั โมงที่ 35 พระราชกรณียกิจของสมเดจ็ พระนางเจา้ ฯ พระบรมราชินีนาถ 2. สมเด็จพระนางเจา้ ฯ พระบรมราชินีนาถ ชว่ั โมงที่ 36 สมเด็จพระนเรศวรมหาราช 1. สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ชวั่ โมงที่ 37 พระยาพิชยั ดาบหกั 2. พระยาพิชยั ดาบหกั ชว่ั โมงที่ 38 ทา้ วเทพกระกษตั รี ทา้ วศรี สุนทร 3. ทา้ วเทพกระกษตั รี ทา้ วศรี สุนทร ชวั่ โมงที่ 39 ชาวบา้ นบางระจนั 4. ชาวบา้ นบางระจนั ชว่ั โมงท่ี 40 การทดสอบปลายปี
คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3 33 ตอนท่ี 2 แผนการจดั การเรียนรู้ สาระที่ 4 ประวตั ิศาสตร์ กล่มุ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231