138 การวเิ คราะหข์ า่ ว 1. ขา่ วนม้ี สี าระสำคัญเกี่ยวกับสถานการณ์บ้านเมืองของประเทศในเรอ่ื งใดบา้ ง ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. ............................................................................................ ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. 2.ข้อดีของกจิ กรรมหรือสถานการณใ์ นขา่ วคอื อะไร และมผี ลดีตอ่ สงั คมและประเทศชาติอยา่ งไร ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. ............................................................................................ ............................................................................................................................. ................................................ 3.ขอ้ เสยี ของกจิ กรรมหรือสถานการณ์ในขา่ วคืออะไร และมีผลเสียต่อสังคมและประเทศชาตอิ ยา่ งไร ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. 4.มแี นวทางแก้ไขปรบั ปรงุ หรือพฒั นาการดำเนินกิจกรรมหรอื สถานการณด์ งั กลา่ วอยา่ งไรบา้ ง อธบิ าย ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................................................................. . ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ................................................................................................................................................................... ...........
139 แบบประเมิน การนำเสนอผลงาน ชัน้ /ห้อง…………………………………………………… เรอ่ื ง ………………………………………………………………. คำช้แี จง : ใหผ้ สู้ อนสงั เกตพฤติกรรมการทำงาน การปฏิบัติงานของนักเรียนว่ามีการปฏิบัตหิ รือไม่ ถ้ามกี าร ปฏิบัติตามรายการท่กี ำหนดข้อใด ใหข้ ดี / ถ้าไมม่ ใี ห้เว้นว่าง เลขที่ มีการวางแผนการทำงาน รวม สรุป ชื่อ-สกุล มีความพ ้รอมในการนำเสนอ และ ความน่าสนใจในการนำเสนอ การ มีความคิดส ้รางสรรค์ ประเมิน ประโยชน์-ความถูก ้ตองของงาน ลงชือ่ .....................................................ผ้ปู ระเมนิ ................ /................ /................ เกณฑ์การประเมิน นักเรยี นมกี ารปฏิบตั ิ 3 รายการขนึ้ ไป ถอื วา่ ผ่านเกณฑก์ ารประเมิน ระดับคะแนน ผา่ น 3 รายการ = 1 คะแนน ผา่ น 4 รายการ = 2 คะแนน ผ่าน 5 รายการ = 3 คะแนน
140 แบบประเมิน คุณลักษณะที่พงึ ประสงค์ ชน้ั /หอ้ ง…………………………………………………… เรื่อง ………………………………………………………………………… คำช้แี จง : ให้ผู้สอนสงั เกตพฤติกรรมการทำงาน การปฏบิ ตั ิงานของนักเรียนว่ามีการปฏิบัติหรือไม่ ถ้ามีการ ปฏบิ ัติตามรายการทก่ี ำหนดข้อใด ใหข้ ดี / ถา้ ไมม่ ีใหเ้ วน้ วา่ ง เลขที่ ชอื่ -สกุล คุณธรรม จรยิ ธรรม และค่านยิ ม รวม สรุปและ มีวนิ ยั ใฝเ่ รียนรู้ มงุ่ ม่ันใน การ การทำงาน ประเมิน ลงชือ่ .....................................................ผ้ปู ระเมิน ................ /................ /................ เกณฑ์การประเมิน นกั เรยี นมกี ารปฏบิ ตั ิ 3 รายการขึน้ ไป ถือวา่ ผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ ระดบั คะแนน ผ่าน 1 รายการ = 1 คะแนน ผ่าน 2 รายการ = 2 คะแนน ผ่าน 3 รายการ = 3 คะแนน
141 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 เร่ือง การเลือกรบั ขอ้ มูลขา่ วสารเก่ยี วกับการเมอื งการปกครองของไทยในสังคมปจั จุบัน รหัสวิชา ส 22104 ชือ่ รายวชิ า สงั คมศึกษา กลุ่มสาระการเรยี นรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม สาระการเรียนรทู้ ี่ 2 หน้าที่พลเมอื ง วฒั นธรรม และการดำเนนิ ชวี ิตในสงั คม หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เหตกุ ารณก์ ารเปล่ยี นแปลงสำคญั ของระบอบการปกครองไทย เวลา 1 ชั่วโมง ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 ผสู้ อน นางสาวนลิ บุ ล ศิลปธนู ………………………………………………………………………………………………………………………………………………..... 1.มาตรฐานการเรียนรู้ช่วงชั้น ส 2.2 เข้าใจระบบการเมืองการปกครองในสังคมปัจจุบัน ยึดมั่น ศรัทธาและธำรงรักษาไว้ซึ่งการ ปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมพี ระมหากษัตรยิ ์ทรงเป็นประมุข 2.ตัวชว้ี ัด ม.2/2 วเิ คราะห์ข้อมูล ขา่ วสารทางการเมือง การปกครองท่มี ีผลกระทบต่อสังคมไทยสมัยปัจจบุ ัน 3.จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1.วเิ คราะห์ข้อมลู ขา่ วสารทางการเมอื งการปกครองไดอ้ ย่างถูกต้อง 4.สาระสำคญั การรับข้อมูลข่าวสารทางการเมืองการปกครองนั้น จะต้องมีหลักการในการวิเคราะห์ข้อมูลอย่างมี เหตผุ ล 5.สาระการเรยี นรู้ 1.เหตกุ ารณแ์ ละการเปล่ยี นแปลงสำคัญของระบอบการปกครองไทย 6.กระบวนการจดั การเรียนรู้ วธิ ีสอนโดยการจัดการเรยี นรแู้ บบรว่ มมอื : เทคนคิ เล่าเรอ่ื งรอบวง ขั้นนำเข้าส่บู ทเรียน 1.นักเรียนแต่ละกลุ่มผลัดกันเล่าข่าวท่ีเกี่ยวกับการเมืองการปกครองไทยในปัจจุบันท่ีนักเรียนสนใจ โดยผลดั กันเลา่ ประเด็นสำคญั ที่สนใจ พร้อมอธิบายเหตุผล 2.ครูให้นักเรยี นชว่ ยกันแสดงความคิดเห็นถงึ ขอ้ คิดสำคญั ท่ีได้จากข่าว 3.ครูอธิบายความรู้เก่ียวกับการเลือกรับข้อมูลข่าวสารเก่ียวกับการเมืองการปกครองของไทยในสังคม ปจั จบุ ัน
142 ข้ันสอน 4.นักเรียนแต่ละกลุ่ม (กลมุ่ เดิมจากแผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1) ร่วมกันศึกษาความรู้เร่ือง การเลือกรับ ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการเมืองการปกครองของไทยในสังคมปัจจุบนั จากหนังสอื เรียน หนังสือค้นควา้ เพิ่มเติม ห้องสมุด และแหลง่ ขอ้ มูลสารสนเทศ 5.นกั เรยี นแตล่ ะกล่มุ นำความรูท้ ่ีได้มาผลัดกันเล่าทีละคนแบบเลา่ เร่ืองรอบวง 6.สมาชกิ ในกลมุ่ ชว่ ยกันเลือกขา่ ว มากลมุ่ ละ 1 ข่าว แล้วชว่ ยกันวิเคราะห์ตามหวั ข้อท่ีกำหนดให้ในใบ งานท่ี 3.3 เร่อื ง การเลือกรบั ข้อมลู ข่าวสาร 7.นักเรียนแต่ละกลุ่มแสดงความคิดเห็นร่วมกันและตอบคำถามตามหัวข้อที่กำหนดในใบงานท่ี 3.3 โดยตา่ งคนตา่ งรับฟังความคดิ เห็นซงึ่ กนั และกัน และสรปุ ดว้ ยเหตผุ ล 8.นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มออกมานำเสนอผลงานในใบงานที่ 3.3 หนา้ ชนั้ เรยี นดว้ ยวิธีการจับสลาก 9.นกั เรียนกลุม่ ผ้ฟู ังผลัดกนั ใหข้ อ้ เสนอแนะเพิม่ เติม ครชู ว่ ยตรวจสอบความถูกต้อง ดังนี้ - กลมุ่ หมายเลข 1 นำเสนอผลงาน กลมุ่ หมายเลข 2 เสนอแนะ - กลมุ่ หมายเลข 2 นำเสนอผลงาน กลุม่ หมายเลข 3 เสนอแนะ - กลุ่มหมายเลข 3 นำเสนอผลงาน กลุ่มหมายเลข 4 เสนอแนะ - กลมุ่ หมายเลข 4 นำเสนอผลงาน กลมุ่ หมายเลข 5 เสนอแนะ - กลมุ่ หมายเลข 5 นำเสนอผลงาน กลุม่ หมายเลข 1 เสนอแนะ ขน้ั สรุป 10.ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เกี่ยวกับการเลือกรับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการเมืองการ ปกครองของไทยในสงั คมปัจจบุ นั ครมู อบหมายให้นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ ร่วมกนั จัดทำป้ายนิเทศ เร่ือง เหตกุ ารณ์และการ เปลี่ยนแปลงสำคัญของระบอบการปกครองไทย โดยใหค้ รอบคลุมประเดน็ ตามท่กี ำหนด ดังน้ี 1.สาเหตุของการเกิดเหตกุ ารณ์และการเปลยี่ นแปลงสำคัญของระบอบการปกครองไทย 2.วธิ กี ารดำเนนิ การท่ีสง่ ผลต่อการเกิดเหตุการณ์และการเปลยี่ นแปลงระบอบการปกครอง ไทย 3.ผลของการเกิดเหตุการณ์และการเปลย่ี นแปลงระบอบการปกครองไทย 4.ข้อดแี ละข้อเสยี ของการเกดิ เหตกุ ารณแ์ ละการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองไทย
143 7.สอื่ /แหล่งการเรยี นรู้ 1.หนังสือเรยี นหนา้ ทพี ลเมือง วฒั นธรรม และการดำเนนิ ชวี ิตในสังคม ม.2 2.ใบงานที่ 3.3 การเลอื กรบั ขอ้ มลู ข่าวสาร 8.สมรรถนะท่สี ำคัญ 1.ความสามารถในการสอื่ สาร (การสอื่ ความหมายและอธบิ ายให้ผูอ้ นื่ เขา้ ใจ) 2.ความสามารถในการผลติ (ทักษะการคดิ วเิ คราะห์ คอื สามารถแยกแยะ เขา้ ใจเน้อื หาที่เรยี นได)้ 3.ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ ( สามารถนำความรู้ทีไ่ ด้รบั ไปปรับใช้ในชวี ิตประจำวันและใช้ชีวิต ร่วมกบั ผู้อน่ื ไดอ้ ยา่ งสงบสขุ ) 9.คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1.มีวนิ ยั 2.ใฝ่เรียนรู้ 3.มุ่งม่ันในการทำงาน 10.ภาระงาน/ชน้ิ งาน 1.ใบงานท่ี 3.3 เรอื่ ง การเลือกรบั ข้อมลู ข่าวสาร 11.การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ วิธกี าร เครื่องมอื เกณฑ์ ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ ตรวจใบงานที่ 3.3 ใบงานที่ 3.3 ประเมนิ การนำเสนอผลงาน แบบประเมินการนำเสนอผลงาน ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบคุ คล แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงาน ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ รายบคุ คล สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่ แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สังเกตความมีวินัย ใฝ่เรยี นรู้ และมุ่งม่ันใน แบบประเมินคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ การทำงาน รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบหลังเรยี น หน่วยการ แบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยการเรียนรู้ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ เรียนรู้ท่ี 3 ท่ี 3 ตรวจปา้ ยนิเทศ เร่อื ง เหตุการณ์และการ แบบประเมนิ ป้ายนเิ ทศ เร่ือง เหตกุ ารณ์ เปลีย่ นแปลงสำคญั ของระบอบการ และการเปล่ียนแปลงสำคัญของระบอบ ปกครองไทย การปกครองไทย
144 12. บันทกึ ผลหลงั การจดั การเรียนรู้ 1. ความสำเร็จในการจัดการเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… แนวทางการพัฒนา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ปัญหา/อุปสรรคในการจดั การเรยี นรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… แนวทางแก้ไข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. ส่งิ ทไี่ ม่ได้ปฏิบตั ติ ามแผน ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… เหตุผล ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. การปรับปรุงแผนการจดั การเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ.................................................................. (ผู้สอน) ………………........./............................./..............................
145 12. บันทึกผลหลังการจดั การเรียนรู้ 1. ความสำเรจ็ ในการจดั การเรยี นรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… แนวทางการพฒั นา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ปัญหา/อุปสรรคในการจดั การเรยี นรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… แนวทางแก้ไข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. สง่ิ ทไ่ี มไ่ ด้ปฏบิ ัติตามแผน ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… เหตุผล ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. การปรับปรงุ แผนการจัดการเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ.................................................................. (ผสู้ อน) ………………........./............................./..............................
13. ปัญหา/ส่ิงทตี่ อ้ งพฒั นา/วธิ กี ารแกไ้ ข พัฒนา เพ่ือนำไปสู่การวิจัยในชั้นเรยี น 146 ผลการแกไ้ ข/พฒั นา ปญั หา/ส่ิงทพี่ ฒั นา สาเหตุของปญั หา วธิ กี ารแกไ้ ข/พัฒนา 14. ข้อเสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื ……………………………………………………………….…… (นายจริ พล ลิวา) หัวหน้ากล่มุ สาระสงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม วันท่ี……….. เดือน ……………………………… พ.ศ. ……………… 15. ข้อเสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชือ่ ………………………………………………………………………………… (นางกญั ญารัตน์ สาระพันธ์) หวั หน้ากลุ่มงานบรหิ ารวชิ าการ วันที่……….. เดอื น ……………………………… พ.ศ. ………………
147 16. ข้อเสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื ………………………………………………………………………………… (นางจิราพร รตั นกุล) ผู้อำนวยการโรงเรียนสตรีปากพนงั วนั ท่ี……….. เดอื น ……………………………… พ.ศ. ………………
ใบงานท่ี 3.3 เรือ่ ง การเลอื กรบั ข้อมลู ข่าวสาร 148 คำชแี้ จง ให้นกั เรียนเลือกข่าวเกย่ี วกบั การเมืองการปกครองของไทยในปัจจุบนั ท่นี ักเรยี น สนใจ มากลุม่ ละ1 ข่าว แล้วนำมาวิเคราะห์และตอบคำถามตอ่ ไปนี้ ภาพข่าว ชอื่ ข่าว......................................................................................................... ชื่อหนังสอื พิมพ์ทสี่ ืบค้น.............................................................. วัน/เดือน/ปี.......................................................................
149 1.ข่าวน้มี ปี ระเด็นสำคัญกปี่ ระเดน็ อะไรบ้าง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2.ประเดน็ สำคญั ของขา่ วประเด็นใดนา่ เช่อื ถือ จงอธบิ ายเหตุผล ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3.ข้อความใดของข่าวท่ีเป็นประโยชน์ตอ่ นักเรยี น อธิบายเหตผุ ล ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4.ขอ้ ความใดของข่าวที่เป็นประโยชน์ต่อสงั คมและประเทศชาติ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 5.ข้อความใดของข่าวไมน่ ่าเชื่อถือ อธบิ ายเหตุผล ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 6.ข้อความใดของข่าวมีผลกระทบหรอื ผลเสยี ต่อสงั คมและประเทศชาติ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
150 7.ให้นักเรยี นเรยี บเรียงข้อความในข่าวท่เี ปน็ สาระสำคัญท่ีถูกต้องและเหมาะสม ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
151 แบบประเมนิ แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่ ครัง้ ท่ี ………… เรื่อง ................................................................ รหัสวิชา .......................... ภาคเรยี นที่…....ปกี ารศกึ ษา………… ช้นั ................ โรงเรยี น ........................................ ลำดับ ช่อื -สกลุ ความ การแสดง การรับฟงั การตง้ั ใจ การร่วม รวม ท่ี ร่วมมอื ความ ความ ทำงาน ปรบั ปรงุ 20 คดิ เหน็ คดิ เห็น ผลงาน คะแนน 1 2 43214321432143214321 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ลงชอื่ .....................................................ผ้ปู ระเมิน ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤติกรรมอย่างสมำ่ เสมอ ................ /................ /................ ปฏิบัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยคร้งั ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมบางครง้ั ให้ 4 คะแนน ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมนอ้ ยครัง้ ให้ 3 คะแนน ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ ระดบั คุณภาพ ดีมาก ชว่ งคะแนน ดี 18 – 20 พอใช้ 14 – 17 ปรับปรงุ 10 – 13 ตำ่ กวา่ 10
152 แบบประเมิน การนำเสนอผลงาน ชัน้ /ห้อง…………………………………………………… เรอ่ื ง ………………………………………………………………. คำช้แี จง : ใหผ้ สู้ อนสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงาน การปฏิบัติงานของนักเรียนว่ามีการปฏิบัตหิ รือไม่ ถ้ามกี าร ปฏิบัติตามรายการท่กี ำหนดขอ้ ใด ให้ขดี / ถ้าไมม่ ใี ห้เว้นว่าง เลขที่ มีการวางแผนการทำงาน รวม สรุป ช่อื -สกุล มีความพ ้รอมในการนำเสนอ และ ความน่าสนใจในการนำเสนอ การ มีความคิดส ้รางสรรค์ ประเมิน ประโยชน์-ความถูก ้ตองของงาน ลงชือ่ .....................................................ผ้ปู ระเมนิ ................ /................ /................ เกณฑ์การประเมิน นักเรยี นมกี ารปฏบิ ตั ิ 3 รายการขนึ้ ไป ถอื วา่ ผ่านเกณฑก์ ารประเมิน ระดับคะแนน ผา่ น 3 รายการ = 1 คะแนน ผา่ น 4 รายการ = 2 คะแนน ผ่าน 5 รายการ = 3 คะแนน
153 แบบประเมิน คุณลักษณะที่พงึ ประสงค์ ชน้ั /หอ้ ง…………………………………………………… เรื่อง ………………………………………………………………………… คำช้แี จง : ให้ผู้สอนสงั เกตพฤติกรรมการทำงาน การปฏบิ ตั ิงานของนักเรียนว่ามีการปฏิบัติหรือไม่ ถ้ามีการ ปฏบิ ัติตามรายการทก่ี ำหนดข้อใด ใหข้ ดี / ถา้ ไมม่ ีใหเ้ วน้ วา่ ง เลขที่ ชอื่ -สกุล คุณธรรม จรยิ ธรรม และค่านยิ ม รวม สรุปและ มีวนิ ยั ใฝเ่ รียนรู้ มงุ่ ม่ันใน การ การทำงาน ประเมิน ลงชือ่ .....................................................ผ้ปู ระเมิน ................ /................ /................ เกณฑ์การประเมิน นกั เรยี นมกี ารปฏบิ ตั ิ 3 รายการขึน้ ไป ถือวา่ ผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ ระดบั คะแนน ผ่าน 1 รายการ = 1 คะแนน ผ่าน 2 รายการ = 2 คะแนน ผ่าน 3 รายการ = 3 คะแนน
154 แบบประเมิน การนำเสนอผลงาน ชน้ั /ห้อง…………………………………………………… เร่ือง ………………………………………………………………. คำชแี้ จง : ใหผ้ สู้ อนสังเกตพฤติกรรมการทำงาน การปฏิบตั งิ านของนกั เรียนวา่ มีการปฏบิ ัติหรอื ไม่ ถา้ มีการ ปฏบิ ตั ิตามรายการท่ีกำหนดข้อใด ให้ขีด / ถ้าไม่มีให้เวน้ ว่าง ลำดบั ที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน 4321 1 เนอื้ หาละเอยี ดชดั เจน 2 ความถูกต้องของเน้ือหา 3 ภาษาท่ใี ช้เข้าใจง่าย 4 ประโยชน์ท่ไี ดจ้ ากการนำเสนอ 5 วธิ กี ารนำเสนอผลงาน รวม ลงชอ่ื .................................................... ผปู้ ระเมิน ................ /................ /................ เกณฑ์การใหค้ ะแนน ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 4 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมมขี ้อบกพร่องบางสว่ น ให้ 3 คะแนน ผลงานหรือพฤตกิ รรมมีข้อบกพร่องเป็นสว่ นใหญ่ ให้ 2 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมมขี ้อบกพรอ่ งมาก ให้ 1 คะแนน
155 แบบทดสอบกอ่ นเรยี น หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เหตกุ ารณเ์ ปลี่ยนแปลงสำคญั ของระบอบการปกครองไทย วชิ า สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม รหสั วิชา ส 22104 ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 2 ………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. คำชแี้ จง แบบทดสอบนเี้ ป็นแบบปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ คะแนนเต็ม 30 คะแนน เวลา 40 นาที ใหน้ กั เรียนทำเครื่องหมาย x ทับข้อท่ีถูกท่สี ุดเพยี งข้อเดยี ว 1.คณะผู้ก่อการ ในเหตุการณ์การเปลี่ยนแปลงการ 4.รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจกั รสยาม พุทธศักราช ปกครอง ในวันที่ 24 มิถนุ ายน พ.ศ.2475 คือบคุ คล 2475 ประกาศใชเ้ มื่อไร กลุ่มใด ก.24 มถิ ุนายน พ.ศ. 2475 ก.คณะนายทหาร ข.28 มถิ นุ ายน พ.ศ. 2475 ข.คณะราษฎร ค.10 ธนั วาคม พ.ศ. 2475 ค.นิสติ /นกั ศึกษา ง.24 ธนั วาคม พ.ศ. 2475 ง.คณะปฎิรปู บา้ นเมือง 5.คณะราษฎรประกอบดว้ ยบุคคลกลมุ่ ใด 2.ข้อใด ไมใ่ ช่ สาเหตขุ องการเปลี่ยนแปลงการ ก.ทหารบก ตำรวจ และพลเรอื น ปกครองในวนั ท่ี 24 มิถนุ ายน พ.ศ. 2475 ข.ทหารบก ทหารเรือ และพลเรือน ก.ความเสื่อมของระบอบ ค.ทหารบก ทหารเรือ ตำรวจ สมบรู ณาญาสทิ ธริ าชย์ ง.ทหารเรือ ตำรวจ และขา้ ราชการ ข.ความเคล่ือนไหวของบรรดาสือ่ มวลชน 6.ข้อใด ไม่ใช่ ผลของการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ค.การใช้อำนาจเผดจ็ การปกครองของ ในวนั ท่ี 24 มถิ ุนายน พ.ศ. 2475 จอมพลถนอม กติ ติขจร ก.เปลย่ี นแปลงผู้ถอื อำนาจสูงสดุ จาก ง.การที่ชนรุ่นใหมไ่ ดไ้ ปรับการศกึ ษาจาก พระมหากษัตรยิ ์มาส่ปู ระชาชน ประเทศตะวันตก ข.ส้ินสุดการปกครองระบอบประชาธิปไตย 3.“คณะราษฎร” ประกาศโครงการทำนุบำรุงสร้าง อย่างสมบูรณ์ ประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้า ด้วยหลัก 6 ประการ ค.มีรฐั ธรรมนูญเป็นกฎหมายสงู สดุ ในการ ขอ้ ความดังกล่าวสอดคล้องกับขอ้ ใด ปกครองของประเทศ ก.นโยบาย ง.เกิดสถาบนั นติ บิ ัญญัติ บริหาร ข.หลักการ และตุลาการ ค.กฎหมาย ง.รฐั ธรรมนูญ
156 7.ขอ้ ใด ไมใ่ ช่ นโยบายหลัก 6 ประการของ 12.เหตุการณว์ ันมหาวปิ โยค เกิดขึ้นในวันใด คณะราษฎร ก.14 ตุลาคม พ.ศ. 2514 ก.หลกั เสรภี าพ ข.14 ตลุ าคม พ.ศ. 2515 ข.หลกั ภราดรภาพ ค.14 ตุลาคม พ.ศ. 2516 ค.หลกั เศรษฐกจิ ง.14 ตุลาคม พ.ศ. 2524 ง.หลักความสงบ 13. เหตกุ ารณว์ ันมหาวิปโยคเปน็ การประทว้ งรฐั บาล 8.นายกรัฐมนตรีคนแรกของไทย คือใคร จากกลมุ่ บุคคลใด ก.จอมพล ป. พบิ ลู สงคราม ก.นักเรียน และนิสติ นักศึกษา ข.นายสัญญา ธรรมศักดิ์ ข.ทหาร ตำรวจ และนิสิตนักศกึ ษา ค.พระยามโนปกรณ์นิตธิ าดา ค.ตำรวจ และนิสติ นักศึกษา ง.พลเอกสุจนิ ดา คราประยูร ง.ประชาชน และนสิ ิตนกั ศึกษา 9.นายกรฐั มนตรที ีด่ ำรงตำแหน่งระหว่างเกิด 14. เพราะเหตุใด จึงกล่าวกันว่า “รัฐธรรมนูญแห่ง เหตกุ ารณ์ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2516 คือใคร ราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2517” ถือเป็น ก.จอมพล ป. พบิ ลู สงคราม รัฐธรรมนูญท่ีมีความเป็นประชาธิปไตยมากท่ีสุด ข.จอมพล สฤษดิ์ ธนะรชั ต์ ก .มี ก า ร ต ร ว จ ส อ บ ก า ร ใ ช้ อ ำ น า จ รั ฐ โ ด ย ค.จอมพล ถนอม กิตติขจร ประชาชน ง.พลเอก เปรม ติณสรู านนท์ ข.มีประชาชนจำนวนมากมีส่วนในการร่าง 10.เหตผุ ลแรกท่ีประชาชน นสิ ติ นกั ศกึ ษา และ รัฐธรรมนญู อาจารย์ ชมุ นมุ ประท้วงในเหตกุ ารณ์ 14 ตลุ าคม ค.บุคคลทุกฝ่ายได้ลงประชามติและรัฐบาล 2516 คืออะไร มาจากความตอ้ งการของประชาชน ก.เรยี กรอ้ งความเปน็ ธรรมทางสงั คม ง.เปิดโอกาสในการมีส่วนร่วมในการบริหาร ข.เรยี กร้องรฐั ธรรมนูญ บ้านเมือง มีการควบคุมตรวจสอบ และถ่วงดุลอำนาจ ค.เรยี กร้องใหม้ กี ารเลือกตงั้ ระหวา่ งฝ่ายนิติบญั ญัติและฝ่ายบริหาร ง.เรียกรอ้ งให้รฐั บาลลาออก 15.เหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 ยุตลิ งอยา่ งไร 11.รัฐบาลเผด็จการทหารตอบโต้การชุมนุมของ ก.นิสิต นกั ศกึ ษายอมรับเง่ือนไขของรัฐบาล ประชาชนในเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 อย่างไร ข.รัฐบาลยอมรบั เงือ่ นไขของนิสิต นกั ศึกษา ก.ปราบปรามอย่างรุนแรง จนมผี ูเ้ สยี ชวี ติ นบั ค.นิสิต นักศึกษา ประชาชนถูกปราบปราม รอ้ ย อย่างราบเรียบ ข.ปิดล้อมและยดึ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ง.พระมหากษัตริย์มีพระราชดำรัสให้ทุกฝ่าย ค.จบั กมุ และดำเนินคดีต่อแกนนำผชู้ ุมนมุ ยุตคิ วามรุนแรง ประท้วง ง.ประกาศยบุ ศูนย์กลางนสิ ิตนกั ศึกษาแหง่ ประเทศไทย
157 16.เหตุการณ์วันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2519 เกิดขึ้นใน 20.เหตกุ ารณว์ ันมหาวปิ โยค และเหตกุ ารณพ์ ฤษภา สมัยรฐั บาลใด ทมิฬ แสดงถึงสงิ่ สำคัญในข้อใด ก.ม.ร.ว เสนยี ์ ปราโมช ก.คนไทยขาดความสามคั คีปรองดอง และ ข.นายสัญญา ธรรมศกั ด์ิ ตอ้ งการรวมพลงั จากทุกฝ่าย ค.จอมพล ถนอม กิตตขิ จร ข.นิสติ นักศึกษา มคี วามม่งุ มน่ั ในการ ง.พลเอก เปรม ติณสรู านนท์ ปรบั ปรงุ เปลี่ยนแปลงการปกครอง 17.เหตุการณ์การสลายการชุมนุมในมหาวิทยาลัย ค.ประชาชนตอ้ งการให้ประเทศไทยปกครอง ธรรมศาสตร์ และบริเวณท้องสนามหลวง เมื่อวันท่ี 6 ด้วยระบอบประชาธิปไตยอย่างแทจ้ ริง ตลุ าคม พ.ศ. 2519 นอกจากจะทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว ง.ทหารและประชาชน มีวตั ถุประสงค์ในการ ยังมผี ลอยา่ งไรตอ่ ผู้นำกระบวนการ มีส่วนร่วมในการปกครองระบอบประชาธิปไตย ก.ประชาชนชาวไทยเกิดความหวาดกลวั เช่นเดยี วกัน ข.นิสิตนักศึกษา และประชาชนมีความ 21. รสช. ยอ่ มาจากอะไร แตกแยกกันเปน็ หลายฝา่ ย ก.คณะรักษาความสงบแหง่ ชาติ ค.ทหาร และตำรวจมีอำนาจมากในการ ข.คณะรักษาความสงบเรียบรอ้ ยแห่งชาติ ปกครองบา้ นเมือง ทำใหเ้ กิดความวนุ่ วาย ค.คณะรกั ษาความสงบและความมนั่ คง ง.นิสิตนักศึกษา หนีการปราบปรามเข้าป่า แหง่ ชาติ เพอื่ รวมตวั กับพรรคคอมมิวนสิ ต์แห่งประเทศไทย ง.คณะรักษาความม่ันคงและความเรียบรอ้ ย 18.เหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ซึ่งยตุ ลิ งวันที่ 20 แห่งชาติ พฤษภาคม พ.ศ. 2535 น้ัน มีผลให้นายกรฐั มนตรีคน 22.หวั หนา้ คณะ รสช. ทำการรฐั ประหารรฐั บาลของ ใดลาออกจากตำแหนง่ พลเอกชาตชิ าย ชณุ หะวณั เม่ือวันใด ก.พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ก.21 กุมภาพนั ธ์ 2535 ข.พลเอกชาตชิ าย ชณุ หะวนั ข.22 กุมภาพันธ์ 2535 ค.พลเอกสจุ ินดา คราประยูร ค.23 กุมภาพนั ธ์ 2535 ง.จอมพลถนอม กติ ตขิ จร ง.24 กุมภาพันธ์ 2535 19.ลักษณะสำคัญของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักร 23.เหตุผลสำคัญทสี่ ุดท่คี ณะ รสช. กลา่ วอ้างในการ พทุ ธศักราช 2540 สอดคล้องกบั ขอ้ ใด ทำรัฐประหารยดึ อำนาจรัฐบาลของพลเอก ก.การกระจายอำนาจสทู่ อ้ งถ่ิน ชาตชิ าย ชณุ หะวณั ข.การรวมอำนาจการปกครองอยใู่ น ก.ทุจรติ คอรัปชั่น สว่ นกลาง ข.ขาดความจงรักภักดี ค.การกระจายอำนาจการปกครองลงไปสู่ ค.ขาดประสิทธิภาพในการบริหารประเทศ สว่ นภูมิภาค ง.แทรกแซงองคก์ รทหาร ง.รัฐมอี ำนาจในทางการเมอื งการปกครอง อยา่ งเตม็ ท่ี
158 24.“รฐั ธรรมนญู ฉบับประชาชน” หมายถงึ 28. ข้อใด ไม่ใช่ สาเหตุของการยึดอำนาจการ รฐั ธรรมนญู ใด ปกครองของรัฐบาลพันตำรวจโท ดร.ทักษณิ ชนิ วัตร ก.รัฐธรรมนญู แห่งราชอาณาจักรไทย ก.รัฐบาลได้ก่อให้เกิดความขดั แยง้ ของ พทุ ธศักราช 2517 ประชาชน แบ่งเปน็ ฝักเปน็ ฝ่าย ทำลายความสามคั คี ของคนในชาติ ข.รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พทุ ธศักราช 2534 ข.รัฐบาลบรหิ ารประเทศทส่ี ่อไปในทาง ทจุ ริต ค.รฐั ธรรมนญู แห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศกั ราช 2540 ค.รัฐบาลมพี ฤติกรรมแทรกแซงการทำงาน ขององค์กรอสิ ระตามรัฐธรรมนญู ง.รฐั ธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 ง.รฐั บาลหันไปใช้อำนาจเผดจ็ การในการ 25.ข้อใด ไม่ใช่ สาเหตุของการชุมนมุ ประทว้ งใน ปกครองประเทศ เหตุการณ์พฤษภาทมิฬ 29.ขอ้ ใดอธบิ ายการเมืองในสมัยประชาธิปไตยได้ ถูกต้อง ก.เรยี กร้องใหน้ ายกรัฐมนตรลี าออก ข.เรยี กรอ้ งให้มีการแก้ไขรฐั ธรรมนญู ก.การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองมาจากทหาร ค.เรียกร้องให้มกี ารยบุ สภาเพ่ือจดั การ ข.รฐั บาลเปลีย่ นแปลงดว้ ยการครบวาระ เลอื กตัง้ ใหม่ ค.ประชาชนประท้วงจนรัฐบาลตอ้ งลาออก ง.เรยี กรอ้ งใหน้ ายกรัฐมนตรีมาจากการ ง.นานาชาตไิ ม่ยอมรบั รัฐบาลใหม่ เลือกตั้ง 30.รฐั ธรรมนญู ฉบับแรกของไทย คอื ขอ้ ใด 26. เหตุการณ์ที่คณะปฎิรปู การปกครองในระบอบ ก.รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักสยาม ประชาธปิ ไตย อนั มีพระหากษตั รยิ ท์ รงเป็นประมุข พ.ศ. 2475 (คปค.) ทำการยึดอำนาจการปกครองจาก พันตำรวจ ข.รฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจักรไทย โท ดร.ทักษณิ ชนิ วตั ร นั้น ตรงกับวันใด พ.ศ. 2515 ก.17 กนั ยายน 2549 ค.รัฐธรรมนญู แห่งราชอาณาจักรไทย ข.18 กนั ยายน 2549 พ.ศ. 2517 ค.19 กันยายน 2549 ง.พระราชบญั ญัติธรรมนญู การปกครอง ง.20 กันยายน 2549 แผน่ ดนิ สยามช่ัวคราว 27. บคุ คลใดเปน็ หวั หนา้ คณะนายทหารทำการเข้า ยดึ อำนาจการปกครองของรัฐบาลพันตำรวจโท ดร. ทกั ษิณ ชนิ วัตร ก.พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ข.พลเอกชาตชิ าย ชณุ หะวนั ค.พลเอกสุจนิ ดา คราประยูร ง.พลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน
159 เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 3 เรื่อง เหตุการณ์เปลี่ยนแปลงสำคัญของระบอบการปกครองไทย 1. ข 2. ค 3. ก 4. ค 5. ข 6. ข 7. ข 8. ค 9. ค 10. ข 11. ก 12. ค 13. ง 14. ง 15. ข 16. ก 17. ง 18. ค 19. ก 20. ค 21. ข 22. ค 23. ก 24. ค 25. ค 26. ค 27. ง 28. ง 29. ข 30. ง
160 หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 4
161 แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 1 เร่ือง ความหมาย ความสำคญั และบทบาทของสถาบันทางสังคม รหสั วชิ า ส 22104 ชื่อรายวชิ า สังคมศกึ ษา กลุม่ สาระการเรยี นรู้ สังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม สาระการเรยี นร้ทู ่ี 2 หนา้ ทีพ่ ลเมอื ง วัฒนธรรม และการดำเนินชวี ิตในสงั คม หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 4 สถาบันทางสังคม เวลา 2 ช่ัวโมง ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 2 ภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศึกษา 2564 ผู้สอน นางสาวนลิ บุ ล ศลิ ปธนู ………………………………………………………………………………………………………………………………………………..... 1.มาตรฐานการเรียนรู้ช่วงชัน้ ส 2.1 เขา้ ใจและปฏบิ ัติตนตามหน้าท่ีของการเป็นพลเมืองดี มีค่านิยมที่ดงี ามและธำรงรักษาประเพณี และวัฒนธรรมไทย ดำรงชวี ติ อยูร่ ว่ มกันในสังคมไทยและสังคมโลกอยา่ งสนั ติสุข 2.ตัวช้ีวดั ม.2/3 วเิ คราะหบ์ ทบาท ความสำคัญ และความสัมพนั ธข์ องสถาบนั ทางสงั คม 3.จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1.วเิ คราะห์บทบาทและความสำคัญของสถาบนั ทางสังคมได้ 4.สาระสำคัญ สถาบันทางสังคม เป็นองค์ประกอบของโครงสร้างทางสังคม ซึ่งแต่ละสถาบันมีความสำคัญต่อวิถีการ ดำเนินชวี ิตของสมาชกิ ในสงั คม 5.สาระการเรยี นรู้ บทบาทและความสำคัญของสถาบันทางสังคม เช่น สถาบันครอบครัว สถาบันการศึกษา สถาบัน ศาสนา สถาบนั เศรษฐกิจ สถาบนั ทางการเมืองการปกครอง 6.กระบวนการจัดการเรียนรู้ วิธสี อนแบบ สืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E) ครูใหน้ ักเรียนทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี น-หลังเรยี น หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 4 เรอื่ ง สถาบันทางสงั คม ชวั่ โมงท่ี 1 ขน้ั ที่ 1 กระตุ้นความสนใจ 1.ครูให้นักเรียนดูภาพกิจกรรมท่ีเก่ียวกับสถาบันทางสังคม แล้วให้นักเรียนวิเคราะห์ภาพ และตอบ คำถามต่อไปน้ี - กจิ กรรมในภาพแตล่ ะภาพ มีผลดีอยา่ งไร
162 - กิจกรรมดังกลา่ วแสดงถึงบทบาทหนา้ ท่ีของสถาบันทางสังคมใดบ้าง 2.ครูอธบิ ายเช่ือมโยงให้นักเรียนเข้าใจว่า กิจกรรมดงั กล่าวเปน็ บทบาทของสถาบันทางสังคมท่ีมีผลต่อ การพฒั นาคณุ ภาพชีวิตของบุคคลในสังคม ขนั้ ท่ี 2 สำรวจค้นหา 3.ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 6 คน ตามความสมัครใจแล้วให้สมาชิกในกลุ่มร่วมกันศึกษาความรู้ เร่ือง ความหมายและความสำคัญของสถาบันทางสังคม และบทบาทของสถาบันทางสังคมจากหนังสือเรียน หนังสอื คน้ คว้าเพิ่มเตมิ หอ้ งสมดุ และแหลง่ ข้อมูลสารสนเทศ ตามประเด็นทีก่ ำหนด ดงั นี้ 1) ความหมายและความสำคญั ของสถาบันทางสังคม 2) สถาบนั ครอบครัว 3) สถาบันการศึกษา 4) สถาบนั ศาสนา 5) สถาบันเศรษฐกจิ 6) สถาบันการเมอื งการปกครอง 7 )สถาบันนันทนาการ 8) สถาบันสอื่ สารมวลชน ข้ันท่ี 3 อธิบายความรู้ 4.สมาชิกแต่ละกลุ่มแบ่งหน้าที่กันทำใบงานที่ 4.1 เร่ือง สถาบันทางสังคม โดยรับผิดชอบคนละ 1-2 สถาบัน 5.สมาชกิ แตล่ ะคนผลัดกันอธบิ ายความรู้ในสถาบันท่ีตนรบั ผดิ ชอบ 6.สมาชกิ ทกุ คนในกลมุ่ ช่วยกนั ตรวจสอบความถูกต้องของคำตอบในใบงานท่ี 4.1 7.ตัวแทนกลุ่มนำเสนอผลงานในใบงานท่ี 4.1 กลุ่มละ 1 หัวข้อ และให้กลุ่มอ่ืนเสนอแนะเพิ่มเติมใน สว่ นทีแ่ ตกตา่ งครูตรวจสอบความถกู ต้อง 8.ครมู อบหมายใหน้ กั เรียนแตล่ ะคนหาขา่ วเกีย่ วกับบทบาทสำคัญของสถาบันทางสังคมไทย ชั่วโมงที่ 2 ขน้ั ที่ 4 ขยายความเข้าใจ 9.ครูให้นักเรียนนำข่าวท่ีแสดงถึงบทบาทสำคัญของสถาบันทางสังคมไทย มาวิเคราะห์ แล้วตอบ คำถามในใบงานที่ 4.2 เรอ่ื ง บทบาทของสถาบนั ทางสังคมไทย 10.ตวั แทนกลมุ่ นำเสนอผลงานในใบงานท่ี 4.2 หนา้ ช้ันเรยี น ครูให้ข้อเสนอแนะเพ่มิ เติม ขัน้ ที่ 5 ตรวจสอบผล 11.ครูตรวจสอบความรู้ความเขา้ ใจของนักเรยี นจากการทำใบงานท่ี 4.1-4.2
163 7.ส่ือ/แหล่งการเรยี นรู้ 1.หนงั สือเรียนหน้าที่พลเมอื ง วฒั นธรรม และการดำเนินชีวติ ในสงั คม ม.2 2. ใบงานท่ี 4.1 เรอื่ ง เรื่อง สถาบันทางสงั คม 3. เฉลยใบงานที่ 4.1 เรอ่ื ง เรอื่ ง สถาบันทางสังคม 4. ใบงานที่ 4.2 เรือ่ ง บทบาทของสถาบนั ทางสงั คมไทย 5. เฉลยใบงานท่ี 4.2 เร่ือง บทบาทของสถาบันทางสงั คมไทย 8.สมรรถนะท่สี ำคัญ 1.ความสามารถในการส่อื สาร 2.ความสามารถในการคิด -ทกั ษะการวเิ คราะห์ 3.ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ 9.คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 1.มวี ินยั 2.ใฝเ่ รยี นรู้ 3.มงุ่ ม่ันในการทำงาน 10.ภาระงาน/ชน้ิ งาน 1.ใบงานที่ 4.1 เรอ่ื ง สถาบนั ทางสังคม 2.ใบงานที่ 4.2 เรื่องบทบาทของสถาบันทางสงั คมไทย
164 11.การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ วิธีการ เคร่ืองมือ เกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หน่วย แบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 4 (ประเมนิ ตามสภาพจรงิ ) การเรยี นรทู้ ่ี 4 ตรวจใบงานท่ี 4.1 ใบงานท่ี 4.1 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ ตรวจใบงานที่ 4.2 ใบงานที่ 4.2 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ตรวจแบบบันทกึ การอ่าน แบบบนั ทกึ การอ่าน ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ ประเมินการนำเสนอผลงาน แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบคุ คล แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานรายบคุ คล ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่ แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สังเกตความมีวินยั ใฝเ่ รียนรู้ และมุง่ ม่ัน แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ ในการทำงาน
165 12. บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้ 1. ความสำเร็จในการจดั การเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… แนวทางการพฒั นา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ปัญหา/อุปสรรคในการจดั การเรยี นรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… แนวทางแก้ไข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. ส่งิ ทีไ่ ม่ไดป้ ฏิบตั ิตามแผน ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… เหตุผล ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. การปรบั ปรุงแผนการจัดการเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ .................................................................. (ผสู้ อน) ………………........./............................./..............................
13. ปัญหา/ส่ิงทตี่ อ้ งพฒั นา/วธิ กี ารแกไ้ ข พัฒนา เพ่ือนำไปสู่การวิจัยในชั้นเรยี น 166 ผลการแกไ้ ข/พฒั นา ปญั หา/ส่ิงทพี่ ฒั นา สาเหตุของปญั หา วธิ กี ารแกไ้ ข/พัฒนา 14. ข้อเสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื ……………………………………………………………….…… (นายจริ พล ลิวา) หัวหน้ากล่มุ สาระสงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม วันท่ี……….. เดือน ……………………………… พ.ศ. ……………… 15. ข้อเสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชือ่ ………………………………………………………………………………… (นางกญั ญารัตน์ สาระพันธ์) หวั หน้ากลุ่มงานบรหิ ารวชิ าการ วันที่……….. เดอื น ……………………………… พ.ศ. ………………
167 16. ข้อเสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื ………………………………………………………………………………… (นางจิราพร รตั นกุล) ผู้อำนวยการโรงเรียนสตรีปากพนงั วนั ท่ี……….. เดอื น ……………………………… พ.ศ. ………………
168 บัตรภาพ ภาพพระกำลังแสดงธรรมเทศนา ภาพผู้ประกาศของสถานีโทรทัศน์ ภาพพ่อแม่สอนหนังสือลกู ภาพพอ่ แมล่ ูกช่วยกนั ซอ่ มแซมบา้ น ภาพคนชมคอนเสริ ต์ ภาพการประชมุ สภา
169 ใบงานท่ี 4.1 เร่อื ง สถาบนั ทางสงั คม คำชแี้ จง ให้นกั เรียนอธบิ ายลกั ษณะสำคญั และบทบาทของสถาบนั ทางสังคมตามที่กำหนดลงในตาราง ลำดับ ลักษณะสำคญั บทบาท ท่ี สถาบนั 1 สถาบันครอบครัว 2 สถาบันการศึกษา 3 สถาบันศาสนา
ลำดับ สถาบนั ลักษณะสำคญั 170 ที่ บทบาท 4 สถาบนั เศรษฐกจิ สถาบนั การเมืองการ 5 ปกครอง 6 สถาบนั นันทนาการ 7 สถาบันส่ือสารมวลชน
ใบงานที่ 4.1 171 เรือ่ ง สถาบนั ทางสงั คม เฉลย คำชี้แจง ใหน้ กั เรยี นอธิบายลักษณะสำคัญ และบทบาทของสถาบนั ทางสังคมตามที่กำหนดลงในตาราง ลำดับ สถาบนั ลกั ษณะสำคัญ บทบาท ที่ เป็นแบบแผนพฤติกรรมของคนทตี่ ดิ ต่อ เปน็ แบบแผนพฤติกรรมของคนที่ 1 สถาบนั ครอบครัว เก่ียวข้องกันในเรื่องเกี่ยวกับครอบครัว ติดตอ่ เก่ียวขอ้ งกันในเร่ือง และเครือญาติ สมาชิกในครอบครัวมี เก่ยี วกับครอบครัวและ เครอื ญาติ ความสัมพันธ์กันทางสายโลหติ สมาชิกในครอบครัวมี ความสัมพันธก์ ันทางสายโลหิต เปน็ แบบแผนการคดิ การกระทำที่ ส่งเสรมิ ให้สมาชิกในสังคมเกดิ เก่ียวขอ้ งกับการใหก้ ารศึกษาแก่ ความเจริญงอกงามในดา้ นตา่ งๆ 2 สถาบนั การศึกษา สมาชิกในสงั คม ครอบคลุมในเร่อื งที่ นำความรูท้ ี่ไดร้ บั ไปประกอบ เก่ยี วกบั การเรียนการสอน การ อาชพี และพัฒนาอาชพี สง่ เสรมิ ฝกึ อบรมในด้านตา่ งๆ ประกอบด้วย ใหบ้ ุคคลเป็นคนดี มีศีลธรรม องค์กรตา่ งๆ แบบเป็นทางการ และ ไม่เปน็ ทางการ เปน็ แบบแผนการคดิ การกระทำที่ เปน็ ศนู ยร์ วมความศรัทธา กำหนดแนวทางการปฏบิ ัติของสมาชิก ควบคุม มาตรฐานความประพฤติ 3 สถาบันศาสนา ในสงั คมสถาบันศาสนามรี ปู แบบสำคัญ ของสมาชิกในสังคนอกเหนือจาก คอื หลักคำสอน พิธกี รรม สัญลกั ษณ์ การควบคุบโดยกฎหมาย แห่งศาสนา สิ่งสักการบูชาหลกั ความ เชือ่ หรอื หลกั ธรรม นักบวชศาสนกิ ชน
172 ลำดบั สถาบนั ลักษณะสำคญั บทบาท ที่ เปน็ แบบแผนการคดิ การกระทำที่ สรา้ งแบบแผนและเกณฑ์ในการ เกี่ยวกบั เรือ่ งการผลติ สินคา้ และบริการ ผลติ สินคา้ ให้ไดม้ าตรฐานกำหนด 4 สถาบนั เศรษฐกิจ การแลกเปลีย่ นจำหน่ายแจกจ่ายสนิ ค้า กลไกราคาทเ่ี หมาะสม กระจาย และการให้บริการต่างๆ สินค้าและบรกิ ารแก่สังคม 5 สถาบนั การเมืองการ เป็นแบบแผนการคดิ การกระทำท่ี สร้างความม่นั คงใหแ้ กส่ งั คมรักษา ปกครอง กำหนดระบบอำนาจในการจัดระเบยี บ ความปลอดภยั แก่ประเทศชาติ ภายในสังคมและอำนาจในการปอ้ งกัน และให้บริการสาธารณะตา่ งๆ อันเปน็ บ่อนทำลายความมัน่ คงจาก สงั คมหรือภายนอก การทำให้คนในสงั คมใชเ้ วลาวา่ ง 6 สถาบนั นนั ทนาการ เปน็ แบบแผนการคดิ การกระทำท่ี ให้เปน็ ประโยชนใ์ นการสรา้ งสรรค์ เกี่ยวข้องกบั การพกั ผ่อนหย่อนใจของ ผอ่ นคลายความตึงเครยี ด เพ่ิมพูน สมาชกิ ในสงั คม สถาบนั นันทนาการ ทำ สขุ ภาพท่ดี ี ตลอดจนสนองความ ให้เกิดการสร้างสรรคผ์ ลงานการแสดง ต้องการทางสงั คมในรปู แบบ ละคร ดนตรี กีฬ ความบันเทิงต่างๆ การสง่ ข่าวสาร นำเสนอความ เป็นแบบแผนการคดิ การกระทำใน คิดเหน็ ของประชาชนออกไปสู่ เรือ่ งการติดตอ่ หรือสง่ ขา่ วสารขอ้ มลู สาธารณชน เพ่อื ให้รบั รขู้ ่าวสาร 7 สถาบันสื่อสารมวลชน ประสบการณ์ บทบาทของสงั คมในด้าน ทนั กบั ความเปลย่ี นแปลงของ ตา่ งๆ ไปสปู่ ระชาชน รวมทงั้ ให้ความรู้ สงั คม และความเพลิดเพลินแก่บุคคลในสงั คม ถ่ายทอดวฒั นธรรม ให้ความ บันเทิงช่วยพฒั นาคุณภาพชวี ติ
173 ใบงานที่ 4.2 เร่อื ง บทบาทของสถาบันทางสงั คมไทย คำชแ้ี จง ให้นกั เรียนนำข่าวมาวิเคราะห์เกี่ยวกับบทบาทสำคัญของสถาบันทางสังคมไทย โดยตอบ คำถามตามทีก่ ำหนด ภาพขา่ ว ชื่อขา่ ว......................................................................................................... ช่ือหนังสือพิมพ์ทส่ี ืบคน้ .............................................................. วนั /เดอื น/ปี.......................................................................
174 1.ข่าวนี้ แสดงถงึ บทบาทของสถาบนั ทางสังคมใด .................................................................................................................................................................... .......... ......................................................................................................................... ..................................................... ............................................................................................................................. ................................................. .......................................................................................................................................................... .................... 2.การกระทำของบุคคลหรอื องคก์ รในขา่ วน้ัน มีผลดตี ่อบุคคล หรือชมุ ชน หรือประเทศชาตอิ ยา่ งไร .................................................................................................................................................... .......................... ......................................................................................................... ..................................................................... ............................................................................................................................. ................................................. .......................................................................................................................................... .................................... ............................................................................................... ............................................................................... ............................................................................................................................. ................................................. 3.ขา่ วนี้ แสดงถงึ ความร่วมมอื ของสถาบนั ทางสงั คมสถาบนั ใดบ้าง จงยกตวั อย่างประกอบ ............................................................................................................................. ................................................. ................................................................................................................................... ........................................... .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. .................................................
175 แบบประเมนิ แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่ ครัง้ ท่ี ………… เรื่อง ................................................................ รหัสวิชา .......................... ภาคเรยี นที่…....ปกี ารศกึ ษา………… ช้นั ................ โรงเรยี น ........................................ ลำดับ ช่อื -สกลุ ความ การแสดง การรับฟงั การตง้ั ใจ การร่วม รวม ท่ี ร่วมมอื ความ ความ ทำงาน ปรบั ปรงุ 20 คดิ เหน็ คดิ เห็น ผลงาน คะแนน 1 2 43214321432143214321 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ลงชอื่ .....................................................ผ้ปู ระเมิน ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤติกรรมอย่างสมำ่ เสมอ ................ /................ /................ ปฏิบัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยคร้งั ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมบางครง้ั ให้ 4 คะแนน ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมนอ้ ยครัง้ ให้ 3 คะแนน ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ ระดบั คุณภาพ ดีมาก ชว่ งคะแนน ดี 18 – 20 พอใช้ 14 – 17 ปรับปรงุ 10 – 13 ตำ่ กวา่ 10
176 แบบประเมิน การนำเสนอผลงาน ชัน้ /ห้อง…………………………………………………… เรอ่ื ง ………………………………………………………………. คำช้แี จง : ใหผ้ สู้ อนสงั เกตพฤติกรรมการทำงาน การปฏิบัติงานของนักเรียนว่ามีการปฏิบัตหิ รือไม่ ถ้ามกี าร ปฏิบัติตามรายการท่กี ำหนดข้อใด ใหข้ ดี / ถ้าไมม่ ใี ห้เว้นว่าง เลขที่ มีการวางแผนการทำงาน รวม สรุป ชื่อ-สกุล มีความพ ้รอมในการนำเสนอ และ ความน่าสนใจในการนำเสนอ การ มีความคิดส ้รางสรรค์ ประเมิน ประโยชน์-ความถูก ้ตองของงาน ลงชือ่ .....................................................ผ้ปู ระเมนิ ................ /................ /................ เกณฑ์การประเมิน นักเรยี นมกี ารปฏิบตั ิ 3 รายการขนึ้ ไป ถอื วา่ ผ่านเกณฑก์ ารประเมิน ระดับคะแนน ผา่ น 3 รายการ = 1 คะแนน ผา่ น 4 รายการ = 2 คะแนน ผ่าน 5 รายการ = 3 คะแนน
177 แบบประเมิน คุณลักษณะที่พงึ ประสงค์ ชน้ั /หอ้ ง…………………………………………………… เรื่อง ………………………………………………………………………… คำช้แี จง : ให้ผู้สอนสงั เกตพฤติกรรมการทำงาน การปฏบิ ตั ิงานของนักเรียนว่ามีการปฏิบัติหรือไม่ ถ้ามีการ ปฏบิ ัติตามรายการทก่ี ำหนดข้อใด ใหข้ ดี / ถา้ ไมม่ ีใหเ้ วน้ วา่ ง เลขที่ ชอื่ -สกุล คุณธรรม จรยิ ธรรม และค่านยิ ม รวม สรุปและ มีวนิ ยั ใฝเ่ รียนรู้ มงุ่ ม่ันใน การ การทำงาน ประเมิน ลงชือ่ .....................................................ผ้ปู ระเมิน ................ /................ /................ เกณฑ์การประเมิน นกั เรยี นมกี ารปฏบิ ตั ิ 3 รายการขึน้ ไป ถือวา่ ผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ ระดบั คะแนน ผ่าน 1 รายการ = 1 คะแนน ผ่าน 2 รายการ = 2 คะแนน ผ่าน 3 รายการ = 3 คะแนน
178 แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 2 เร่ือง ความสัมพันธข์ องสถาบันทางสงั คม รหสั วิชา ส 22104 ชือ่ รายวิชา สงั คมศกึ ษา กลุม่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม สาระการเรยี นรูท้ ี่ 2 หน้าทีพ่ ลเมอื ง วฒั นธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 4 สถาบนั ทางสงั คม เวลา 1 ช่ัวโมง ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศึกษา 2564 ผ้สู อน นางสาวนลิ ุบล ศลิ ปธนู ………………………………………………………………………………………………………………………………………………..... 1.มาตรฐานการเรยี นรชู้ ่วงชัน้ ส 2.1 เข้าใจและปฏิบัติตนตามหน้าท่ีของการเป็นพลเมืองดี มีค่านิยมท่ีดีงามและธำรงรักษาประเพณี และวฒั นธรรมไทย ดำรงชวี ติ อย่รู ่วมกันในสงั คมไทยและสังคมโลกอย่างสนั ตสิ ุข 2.ตวั ชว้ี ดั ม.2/3 วิเคราะหบ์ ทบาท ความสำคญั และความสมั พันธข์ องสถาบันทางสังคม 3.จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1.วเิ คราะหค์ วามสมั พนั ธข์ องสถาบันทางสงั คมได้ 4.สาระสำคัญ สถาบันทางสังคม เป็นองค์ประกอบของโครงสร้างทางสังคม ซ่ึงแต่ละสถาบันมีความสำคัญต่อวิถีการ ดำเนินชวี ิตของสมาชกิ ในสังคม 5.สาระการเรยี นรู้ ความสัมพันธข์ องสถาบันทางสังคม เช่น สถาบันครอบครัว สถาบนั การศกึ ษา สถาบันศาสนา สถาบัน เศรษฐกิจ สถาบันทางการเมอื งการปกครอง 6.กระบวนการจัดการเรยี นรู้ ใช้รแู บบการสอนโดยเน้นกระบวนการการเรียนรู้ความเข้าใจ ขั้นที่ 1 สงั เกต ตระหนัก 1.ครูให้นักเรียนช่วยกันยกตัวอย่างบทบาทหน้าที่ของสถาบันทางสังคมท่ีมีการกระทำท่ีแสดงถึงความ รว่ มมอื กนั พฒั นาคณุ ภาพชีวติ ของสมาชกิ ในสังคม 2.สมาชิกแต่ละกลุ่ม (กลุ่มเดิมจากแผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ 1) ร่วมกันศกึ ษาความรู้เร่อื ง ความสัมพันธ์ ของสถาบนั ทางสังคม จากหนงั สือเรยี น หนังสอื คน้ คว้าเพ่มิ เติม หอ้ งสมดุ และแหล่งขอ้ มูลสารสนเทศ
179 3.ครอู ธิบายความสมั พันธ์ของสถาบันทางสังคม ในหัวขอ้ 1)ความสัมพันธ์ทางตรง 2)ความสมั พันธ์ทางอ้อม 4.ครูมอบหมายให้สมาชิกแต่ละกลุ่มร่วมกันวิเคราะห์ภาพใน ใบงานท่ี 4.3 เรื่อง ความสัมพันธ์ของ สถาบันทางสังคม ขน้ั ท่ี 2 วางแผนปฏบิ ตั ิ 5.สมาชิกแตล่ ะกลุ่มแบง่ หน้าท่ีกนั วิเคราะห์ลกั ษณะสำคัญของภาพและบรรยายใต้ภาพที่อยูใ่ นใบงานที่ 4.3 คนละ 2 ภาพ ขน้ั ที่ 3 ลงมือปฏบิ ตั ิ 6.สมาชกิ แต่ละคนในกลุ่มบรรยายภาพตามทีต่ นได้รับมอบหมาย 7.สมาชกิ แตล่ ะคนผลัดกันอธบิ ายผลงานของตนใหส้ มาชกิ คนอืน่ ในกลมุ่ ฟัง ขัน้ ที่ 4 พัฒนาความรู้ ความเข้าใจ 8.สมาชิกแต่ละกลุ่มร่วมกันสรุปคำบรรยายภาพ และร่วมกันสรุปความสัมพันธ์ของสถาบันทางสังคม แล้วใหแ้ ต่ละกล่มุ ผลดั กนั นำเสนอผลงานหนา้ ชน้ั เรียน ครตู รวจสอบความถกู ต้อง ขน้ั ท่ี 5 9.นกั เรียนรว่ มกันสรุปความรเู้ ก่ยี วกบั ความสมั พนั ธข์ องสถาบันทางสังคม 10.ครูมอบหมายให้นักเรยี นแต่ละกลุ่มช่วยกันหาข่าวเกย่ี วกับบทบาทสำคัญของสถาบันทางสังคมไทย เพือ่ ทำกจิ กรรมชัว่ โมงตอ่ ไป 7.สอื่ /แหลง่ การเรียนรู้ 1.หนังสือเรียนหน้าทพี ลเมอื ง วฒั นธรรม และการดำเนนิ ชวี ติ ในสงั คม ม.2 8.สมรรถนะทส่ี ำคัญ 1.ความสามารถในการสือ่ สาร 2.ความสามารถในการคิด -ทักษะการวิเคราะห์ 3.ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต 9.คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ 1.มวี ินยั 2.ใฝ่เรียนรู้ 3.มุง่ มนั่ ในการทำงาน
10.ภาระงาน/ช้ินงาน 180 1.ใบงานที่ 4.3 เรื่อง ความสัมพนั ธ์ของสถาบนั ทางสงั คม เกณฑ์ 11.การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ เครื่องมอื รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ วิธีการ ใบงานที่ 4.3 ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ ตรวจใบงานท่ี 4.3 ตรวจแบบบันทกึ การอา่ น แบบบนั ทกึ การอ่าน ประเมนิ การนำเสนอผลงาน แบบประเมินการนำเสนอผลงาน ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกล่มุ แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สังเกตความมวี นิ ัย ใฝ่เรียนรู้ และ มุ่งมัน่ ในการทำงาน
181 12. บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้ 1. ความสำเร็จในการจดั การเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… แนวทางการพฒั นา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ปัญหา/อุปสรรคในการจดั การเรยี นรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… แนวทางแก้ไข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. ส่งิ ทีไ่ ม่ไดป้ ฏิบตั ิตามแผน ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… เหตุผล ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. การปรบั ปรุงแผนการจัดการเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ .................................................................. (ผสู้ อน) ………………........./............................./..............................
13. ปัญหา/ส่ิงทตี่ อ้ งพฒั นา/วธิ กี ารแกไ้ ข พัฒนา เพื่อนำไปสู่การวิจัยในชั้นเรยี น 182 ผลการแกไ้ ข/พฒั นา ปญั หา/ส่ิงทพี่ ฒั นา สาเหตุของปญั หา วธิ กี ารแกไ้ ข/พัฒนา 14. ข้อเสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื ……………………………………………………………….…… (นายจริ พล ลิวา) หัวหน้ากล่มุ สาระสงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม วันที่……….. เดือน ……………………………… พ.ศ. ……………… 15. ข้อเสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชือ่ ………………………………………………………………………………… (นางกญั ญารัตน์ สาระพันธ์) หวั หน้ากลุ่มงานบรหิ ารวชิ าการ วันที่……….. เดอื น ……………………………… พ.ศ. ………………
183 16. ข้อเสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอ่ื ………………………………………………………………………………… (นางจิราพร รตั นกุล) ผู้อำนวยการโรงเรียนสตรีปากพนงั วนั ท่ี……….. เดอื น ……………………………… พ.ศ. ………………
ใบงานท่ี 184 4.3 เรอ่ื ง ความสมั พันธข์ องสถาบนั ทางสังคม คำช้แี จง ใหน้ ักเรียนวเิ คราะหภ์ าพ แลว้ บรรยายสรุปเกย่ี วกับความสมั พนั ธ์ของสถาบันทางสังคมจากข้อมูล ใน ภาพ 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8.
185 9. 10. 11. 12. 13. 14. คำบรรยำยควำมสมั พนั ธ์ของสถำบนั ทำงสงั คม ..................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................
ใบงานที่ 186เฉลย 4.3 เรื่อง ความสมั พันธ์ของสถาบนั ทางสงั คม คำช้ีแจง ให้นกั เรยี นวิเคราะห์ภาพ แล้วบรรยายสรุปเกี่ยวกบั ความสมั พันธข์ องสถาบนั ทางสงั คมจากข้อมลู ใน ภาพ 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8.
187 9. 10. 11. 12. 13. 14. คำบรรยำยควำมสัมพนั ธข์ องสถำบนั ทำงสังคม ..................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317