251 ผมู้ คี ณุ สมบตั พิ รอ้ มจะบรรลมุ รรคผล ยอ่ มเหน็ ความตดิ ใจในสมั ผสั กระทบทัง้ ๖ ชอ่ งทาง โดยความเป็นเคร่ืองรอ้ ยรัด สมควรละเสยี เพราะ เม่อื ละได้กเ็ หมือนทำ� ลายโซแ่ ห่งความหลงผดิ สำ� เร็จ ขันธ์ ๕ ยอ่ มปรากฏ ในการรบั รไู้ มต่ ่างกับกอ้ นเสลดในปากทีค่ วรถม่ ท้ิง ไม่นา่ เสียดาย ไม่น่า หวงไวส้ กั นิดเดยี ว ผู้ใกล้บรรลุมรรคผลย่อมเห็นตามจริงว่า ‘เหตุให้เกิดทุกข์เป็นสิ่ง ควรละใหส้ ้นิ ’ ๓ ความดบั ทกุ ข์ ความดับทุกข์คือการสละคืนความอยากเสพผัสสะได้อย่างสิ้นเชิง เพราะหลังจากสละคืนความอยากได้หมดจด ก็เท่ากับดับเหตุแห่งความ ดิ้นรนกระวนกระวายไดส้ นทิ ขันธ์ ๕ น้ัน ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพแสนดีน่าเพลิดเพลินเพียงใด อยา่ งไรกเ็ ปน็ มหนั ตทกุ ขโ์ ดยตวั ของมนั เองเสมอ ดงั ทผี่ ใู้ กลบ้ รรลมุ รรคผล เหน็ ตามจริงอยแู่ ล้ว ส่วนการสงบจากขันธ์ ๕ นัน้ แมจ้ ะยังไมป่ ระจกั ษ์ ดว้ ยใจว่าเป็นเชน่ ไร ผูใ้ กล้บรรลุมรรคผลกย็ อ่ มมคี วามเขา้ ใจตรงตามจริง ว่าน่นั แหละบรมสขุ เปรียบเหมอื นเหน็ ว่าไฟรอ้ น แม้ไฟยังลุกโพลงอยกู่ ็ ย่อมเข้าใจวา่ สงบจากไฟเสยี ได้ส้นิ เชงิ จงึ ช่ือวา่ เยน็ สนทิ ผู้มีคุณสมบัติพร้อมจะบรรลุมรรคผล ย่อมไม่ผูกพันกับผัสสะใดๆ แมร้ สสขุ อนั นา่ พศิ วงของสมาธิ ใจสละคนื หมด ไมเ่ อาความรสู้ กึ นกึ คดิ ไม่ เอาตวั ตน มีแต่มงุ่ จะทำ� ทส่ี ดุ ทกุ ข์ท่าเดียว และเขายอ่ มถึงซง่ึ ความส�ำเรจ็ โดยไมเ่ นนิ่ ชา้ ทะลขุ นั ธ์ ๕ ออกไปเหน็ ดว้ ยจติ อนั เปน็ ฌานวา่ ความดบั ทกุ ข์ เป็นเช่นไร howfarbooks.com
252 ผู้ใกล้บรรลุมรรคผลย่อมเห็นตามจริงว่า ‘ความดับทุกข์เป็นส่ิงที่ ควรประจกั ษ์ใหแ้ จ่มแจ้ง’ ๔ ขอ้ ปฏบิ ตั ใิ หถ้ งึ ความดบั ทกุ ข์ ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์คือการด�ำเนินชีวิตเย่ียงอริยบุคคลผู้ บรรลุมรรคผล เมื่อรูค้ วามจรงิ อย่างอริยะ คดิ อยา่ งอรยิ ะ พดู อยา่ งอรยิ ะ กระท�ำอย่างอริยะ มีสติรู้อย่างอริยะ และจิตต้ังมั่นเป็นสมาธิอย่างอริยะ วนั หน่ึงยอ่ มกลายเป็นอริยะ ดงั นนั้ ถ้าเราสงสยั ว่าทำ� ไมเจริญสติแลว้ สติ ไมเ่ จรญิ หรอื สตเิ จรญิ แตไ่ มบ่ รรลมุ รรคผลเสยี ที กส็ มควรใชข้ อ้ ปฏบิ ตั ขิ อง เหล่าอรยิ ะเป็นเกณฑใ์ นการส�ำรวจตรวจตราว่า วิธีดำ� เนนิ ชีวิตของเราเข้า ‘ทางตรง’ แล้วหรอื ยัง จิตอันใกล้ความบริสุทธ์ิสะอาดน่ันเองคือทางอริยะ และหนทาง ดำ� เนินชีวติ เยยี่ งอรยิ ะ กป็ ระกอบด้วยองค์ ๘ ประการดังนี้ .๑. รู้ความจรงิ อยา่ งอริยะ คือ ร้วู ่าอะไรคือทุกข์ รวู้ ่าอะไรคือเหตุ แหง่ ทกุ ข์ รวู้ า่ อะไรคอื ความดบั ทกุ ข์ และรวู้ า่ การดำ� เนนิ ชวี ติ อยา่ งไรจงึ ดบั ทุกข์ได้ ผู้รู้ความจริงอย่างอริยะได้ชื่อว่าเป็นสัมมาทิฏฐิ ซ่ึงอาจหมายถึง สมั มาทฏิ ฐริ ะดบั รบั ฟงั แลว้ จดจำ� หรอื สมั มาทฏิ ฐริ ะดบั การตรกึ นกึ ใหเ้ ขา้ ใจ ตลอดจนเกิดสมั มาทฏิ ฐิบริบรู ณ์ด้วยการเจริญสติแลว้ บรรลมุ รรคผล .๒. คดิ อยา่ งอริยะ คือ คดิ ออกจากกาม คิดอภัยไม่พยาบาท และ คดิ หลกี เลย่ี งการเบยี ดเบยี นใดๆ เพราะกาม พยาบาท และการเบยี ดเบยี น น้นั เป็นเปลอื กหนาห่อหุ้มจติ ใหม้ ืดมนอยู่ เม่ือมดื อยู่ความจรงิ ใดๆย่อม ไมป่ รากฏให้เห็น เสียดาย... คนตายไม่ได้อ่าน
253 .๓. พูดอย่างอริยะ คือ การเว้นจากการพูดเท็จอันเป็นเหตุให้จิต บดิ เบี้ยว เว้นจากการพูดส่อเสียดอันเป็นเหตุให้จิตเรา่ รอ้ น เว้นจากการ พดู หยาบคายอนั เปน็ เหตใุ หจ้ ติ สกปรก และเวน้ จากการพดู เพอ้ เจอ้ อนั เปน็ เหตใุ หจ้ ติ พรา่ มวั กลา่ วโดยสรปุ คอื การพดู ไมด่ เี ปน็ เหตใุ หไ้ มอ่ าจมองเหน็ อะไรตามจริง ถา้ งดเวน้ เสยี ไดจ้ ึงคอ่ ยเห็นตามจริงได้ .๔. กระทำ� อย่างอรยิ ะ คอื ท�ำตนเปน็ ความปลอดภัย เวน้ จากการ ฆา่ สัตว์ เวน้ จากการขโมย เว้นจากการประพฤติผิดในกาม อนั ลว้ นเป็น บาปท่ีพอกหนาแล้วกลายเป็นความโง่เขลา เมื่อเห็นบาปเป็นของดีย่อม ได้ชื่อว่าเห็นผิดเป็นชอบ คนเราย่อมไมอ่ าจเหน็ ความจรงิ ทงั้ ทีย่ งั เห็นผิด เปน็ ชอบอยู่ .๕. เล้ยี งชพี อย่างอรยิ ะ คือ หากินด้วยความสุจรติ ถา้ เป็นพระ ตอ้ งรกั ษาวนิ ยั สงฆแ์ ละเพยี รเพอ่ื ทำ� มรรคผลนพิ พานใหแ้ จง้ ตามกตกิ าการ บวช ถา้ เปน็ ชาวบ้านต้องทำ� อาชพี ท่ีไม่ผิดกฎหมายและศลี ธรรม .๖. เพียรอย่างอริยะ คอื ตัดใจละบาปอกศุ ลทง้ั ปวงจนเหอื ดแหง้ ไปจนหมด กบั ทั้งขวนขวายเพิ่มบญุ กุศลท้งั หลายจนบรบิ ูรณเ์ ต็มที่ เช่น มี นำ้� ใจสละใหท้ านคนและสตั วเ์ พอื่ ทำ� ลายความตระหนี่ เปน็ ตน้ ไมม่ วั หลง ประมาทวา่ เราดแี ลว้ ไม่ตอ้ งเพม่ิ ความดีแลว้ .๗. มสี ตริ ะลกึ รอู้ ยา่ งอรยิ ะ คอื มคี วามรสู้ กึ ตวั อยู่ รสู้ กึ ถงึ กาย เวทนา จติ และธรรม โดยความเปน็ ของไมเ่ ทย่ี ง ไมน่ า่ ยดึ ซงึ่ รอู้ ยา่ งนเ้ี หน็ อยา่ ง นี้ ในที่สุดใจย่อมกระจ่างแจ้งแทงตลอด เห็นความไม่น่ายึดไม่น่าเอา สามารถก�ำจัดความอยาก ละความเศรา้ โศกเสียได้ .๘. มสี มาธติ งั้ ม่ันอย่างอริยะ คอื การมจี ติ เบาว่อง เป็นอิสระอย่าง ยงั่ ยนื เพราะเปน็ ผสู้ งดั จากกาม สงดั จากบาปอกศุ ล จติ ตง้ั รอู้ ยใู่ นขอบเขต กายใจคงเส้นคงวา กระทั่งเกิดปีติสุขอันวิเวก แล้วพัฒนาขึ้นไปถึงการมี howfarbooks.com
254 อเุ บกขาอนั เปน็ เหตใุ หส้ ตบิ รสิ ทุ ธิ์ จติ เหมอื นปรากฏเปน็ อกี ภาวะหนง่ึ แยก ออกมาต้ังมั่นเป็นต่างหากจากกาย เป็นต่างหากจากความรู้สึกนึกคิด สว่างจ้าด้วยปัญญา มีหน้าที่อย่างเดียวคือรู้เห็นว่าอะไรๆผ่านเข้ามาใน กายใจนี้ ก็ล้วนดับหายไปจากกายใจน้ี จติ จงึ ไมร่ ู้สึกวา่ มีสว่ นได้ส่วนเสีย กับกายใจใดๆ ผ้ใู กลบ้ รรลมุ รรคผลย่อมเห็นตามจรงิ วา่ ‘ขอ้ ปฏิบัตใิ หถ้ ึงความดับ ทุกขท์ ั้ง ๘ ประการควรเจริญให้มาก’ เมอื่ เอากายใจเปน็ ทต่ี งั้ แหง่ ความจรงิ เราจะพบวา่ นอกจากทกุ ขแ์ ลว้ ไมม่ อี ะไรเกดิ มา นอกจากทกุ ขแ์ ลว้ ไมม่ อี ะไรดบั ไป ทกุ ขท์ งั้ หลายลว้ นเปน็ เท็จด้วยอาการเลอะเลือนไป เมื่อสงบจากทุกข์ได้เฉพาะตน จึงช่ือว่าเข้า ถึงของจรงิ อันเป็นบรมสขุ ตั้งมั่นถาวรไมก่ ลบั กลายเปน็ อนื่ อีก! เสยี ดาย... คนตายไมไ่ ดอ้ ่าน
255 สง่ ทา้ ย เรือ่ งน่าเสยี ดายในชวี ติ มหี ลายเรอ่ื ง แตเ่ รื่องน่าเสียดายท่สี ุดในชีวติ มีอยู่ ๔ เร่ือง เรือ่ งแรก นา่ เสยี ดายถ้ากอ่ นตายไมไ่ ด้ศึกษาพุทธพจน์ เรื่องทส่ี อง นา่ เสียดายถ้าศกึ ษาพทุ ธพจน์แลว้ ไมเ่ ล่ือมใส เร่ืองท่ีสาม น่าเสยี ดายถ้าเลอ่ื มใสพุทธพจนแ์ ลว้ ไม่ปฏบิ ตั ิตาม เรอ่ื งสุดทา้ ย น่าเสียดายถา้ ปฏิบัติตามพทุ ธพจนแ์ ต่ไมต่ ่อเนอื่ ง howfarbooks.com
บคุ คลหรือองคก์ รใดสนใจสง่ั ซ้อื หนงั สอื เลม่ น้จี �ำ นวนมาก โปรดตดิ ตอ่ บรษิ ทั ซพี ี ออลล์ จำ�กัด (มหาชน) เลขท่ี ๑ อาคารสวิ ะดล ชน้ั ๔ ถนนคอนแวนต์ สีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ ๑๐๕๐๐ ติดตอ่ ฝา่ ยบริการลกู คา้ พิเศษ โทรศัพท์ ๐๘-๓๖๘๘-๕๐๔๖ “รว่ มแสดงความคดิ เห็นได้ที่ [email protected]” www.BookSmile.co.th
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257