93 ๙๓ ๕๖ หนง่ึ ในส่ี (อีกค ร้ัง) หลายป กี อ่ นห ลวงปไู่ ดป้ รารภธ รรมก บั ข า้ พเจา้ ในเรอ่ื งข องเปา้ ห มาย ชีวิตท่ีแต่ละคนเกิดมาอย่างน้อยก็ควรให้เข้าถึงความเป็นพระโสดาบัน ทา่ นไดป้ รารภไว้วา่ “ข้านั่งดูดยา มองดูซองยาแล้วต้ังปัญหาถามตัวเองว่า เรานี่ ปฏิบัติได้หน่ึงในส่ีของพระพุทธศาสนาแล้วหรือยัง? ถ้าซองยานี้แบ่ง ออกเป็นส่ีส่วน เรานี่ยังไม่ได้หนึ่งในส่ี มันจวนเจียนจะได้แล้วก็คลาย เหมือนเรามัดเชือกจนเกือบจะแน่นได้ท่ีแล้วเราปล่อย มันก็คลายออก เรานีย่ งั ไมเ่ ชอื่ จรงิ ถ้าเชือ่ จ ริงต ้องได้ห นง่ึ ในสีแ่ ลว้ ” อีกครั้งหนึ่งหลวงปู่ได้ปรารภกับข้าพเจ้าอีกในเร่ืองเดียวกัน แต่ คราวนี้ท่านบอกว่า “ข้าน่ังมองดูกระจกหน้าต่างที่หอสวดมนต์ กระจกมันมีสี่มุม เปรียบการป ฏบิ ัติของเรานี่ ถา้ ม ันได้สกั มุมห นงึ่ กเ็ห็นจะดี” หลวงปู่ได้เฉลยปริศนาธรรมเรื่องน้ีให้ข้าพเจ้าฟังว่า ท่ีว่าหนึ่งในสี่ นนั้ ห มายถึงก ารปฏบิ ัติธ รรมเพือ่ ให้บรรลุมรรคผลในพระพุทธศ าสนาซ ึง่ แบง่ เป็น luangpordu.com
๙๔ 94 โสดาป ัตติมรรค โสดาป ัตตผิ ล สกทิ าคาม มิ รรค สกทิ าคาม ิผล อน าคามิมรรค อนาคาม ผิ ล อรห ตั ต มรรค อรหัตต ผ ล อย่างน อ้ ยเราเกิดม าชาตินไี้ด้พบพ ทุ ธศ าสนาเปรยี บเหมอื นสมบัติ ลำ้ คา่ แ ลว้ ก ค็ วรป ฏบิ ตั ติ ามค ำส อนท า่ นใหเ้ ขา้ ถ งึ ค วามพ น้ ท กุ ข์ อยา่ งน อ้ ย ทส่ี ดุ คือโสดาป ัตติผลเพราะค นท่ีเข้าถึงความเป็นพ ระโสดาบันแลว้ ห าก ยังไม่บรรลุพระนิพพานในชาติน้ีชาติต่อไปก็จะไม่เกิดในภพภูมิท่ีต่ำกว่า มนษุ ยอ์ นั ไดแ้ ก่ สัตว์นรกเปรตอสุรก ายสัตวเ์ ดรจั ฉานอ ีก ข้าพเจ้าเชื่อว่าการท่ีหลวงปู่เปรียบธรรมในเร่ืองนี้กับซองบุหรี่บ้าง หรือแผ่นกระจกบ้างเพราะต้องการให้เราหม่ันนึกคิดพิจารณาในเรื่องนี้ บอ่ ยๆ ว ตั ถรุ ปู ท รงส เ่ี หลย่ี มเปน็ รปู ท รงว ตั ถทุ เ่ี ราส ามารถพ บไดบ้ อ่ ยท ส่ี ดุ ใน ชวี ติ ป ระจำว นั ม อี ยรู่ อบต วั เราต ลอดเวลาต งั้ แ ตว่ นั เกดิ ก ระทง่ั ว นั ต ายม อี ยู่ ทวั่ ไปไดแ้ ก่เตียงนอนน าฬิกาปลกุ หนงั สือรปู ภาพร ถยนต์โตะ๊ ท ำงาน โทรทศั น์ หน้าตา่ งประตูแ ละอ น่ื ๆอ กี มากมายจนกระทั่งส ิง่ สดุ ท้ายที่อ ยู่ ใกล้ตัวเราค ือโลงศพ หากผ ใู้ ดเหน็ ว า่ ธ รรมเรอื่ งห นงึ่ ในส ข่ี องห ลวงปเู่ ปน็ ธ รรมส ำคญั แ ลว้ ขา้ พเจา้ เชอื่ เหลอื เกนิ ว า่ ผนู้ นั้ จ ะเปน็ ผ ไู้ มม่ กี เิ ลสในไมช่ า้ น ้ี จ งึ ข อฝ ากธ รรมะ จากห ลวงปู่ให้เรานำไปพจิ ารณาด ้วย luangpordu.com
95 ๙๕ ๕๗ ว ิธคี ลายกลุ้ม ค วามก ลมุ้ เปน็ บ อ่ เกดิ ข องค วามเครยี ดค วามเครยี ดก เ็ ปน็ ท ม่ี าข อง ความกลุ้มเช่นกัน หลายคนคงเห็นด้วยกับข้าพเจ้าว่า เมืองไทยน้ีดีกว่า เมอื งฝ รงั่ เวลาท เี่ ราม เี รอ่ื งก ลมุ้ อ กก ลมุ้ ใจในต า่ งป ระเทศส งิ่ ท นี่ ยิ มก นั ม าก คอื ไปห าห มอร ักษาโรคจิตกลุ้มใจท กี ็ไปเอากล้มุ ออกโดยนง่ั ร ะบายความ ทุกข์ระบายปญั หาให้จติ แพทย์ฟังเสร็จแล้วจ ่ายเงนิ ใหห้ มอเป็นค่าน ่ังฟ งั เฮ้อ! คนเรานก่ี แ็ ปลกดนี ะ เอากลมุ้ ออกอยา่ งเดยี วไมพ่ อเงนิ ในกระเปา๋ ออกไปด ว้ ย เท่าท่ีสังเกตดู ฝร่ังไปหาจิตแพทย์กันเป็นเรื่องปกติ แต่ระยะหลัง ในเมืองไทยเราคนไข้โรคจติ น ับวันจ ะมมี ากขนึ้ ทุกที คนไทยไม่นิยมไปห า จติ แพทยเ์ หมอื นฝ รง่ั แ ตจ่ ะไปห าจ ติ แพทยก์ ต็ อ่ เมอ่ื ท นไมไ่ หวแ ลว้ จ รงิ ๆค อื ใกลจ้ ะบ า้ แ ลว้ น นั่ เองค นไทยโชคด กี วา่ ฝ รงั่ ต รงท มี่ วี ดั แ ทนค ลนี คิ จ ติ แพทย์ มีพระนี่ละ่ ดกี วา่ ดว้ ยเพราะไม่ต ้องเสียตงั ค์ แถมไปห าหลวงปไู่ ด้ทำบญุ ได้ ฟังธรรมะจากท่าน กลางวันยังได้ทานอาหารบุฟเฟ่ต์หลังจากหลวงปู่ฉัน เสรจ็ บ างค รง้ั สมยั ท ขี่ า้ พเจา้ ย งั เรยี นห นงั สอื อ ยู่ ห ากเดนิ ท างม าถ งึ ว ดั ต อน เยน็ ทา่ นจ ะม ขี นมฝ อยทองท องห ยบิ ท องห ยอดผ ลไมป้ ระเภทส ม้ ก ลว้ ย luangpordu.com
๙๖ 96 บางทีโชคด กี ม็ แี อปเป้ลิ ใหไ้ ด้ท านอิ่มท อ้ งด ้วย มีเรอ่ื งเลา่ ว า่ มีโยมค นหน่ึงเกิดกลุม้ อ กกลุม้ ใจในช วี ติ ท่แี สนสบั สน วุ่นวายของตนโดยไม่รู้ว่าจะแก้ไขอย่างไร จึงได้ไปกราบขอให้หลวงพ่อ พุทธทาสช ่วยคลายทุกข์ให้ หลวงพอ่ ถามว่า“ มนั ก ลมุ้ ม ากหรือโยม” “มากค รบั ท ่านสมองแทบจ ะระเบิดเลยแ น่นอ ย่ใู นอกไปหมด” “เอางี้ โยมออกไปยืนที่กลางแจ้ง สูดลมหายใจเข้าปอดแรงๆ สามครง้ั แลว้ ตะโกนให้ดังท ี่สุดว า่ ก กู ลมุ้ จ รงิ โวย้ กกู ลมุ้ จรงิ โว้ยกูก ลุ้ม จริงโวย้ ” โยมผู้นั้นออกไปทำตามที่หลวงพ่อแนะนำแล้วกลับเข้ามาหาท่าน ดว้ ยใบหนา้ ที่ผ่อนคลาย “เปน็ ไง” ห ลวงพ่อถาม “รสู้ กึ ส บายขนึ้ แ ลว้ ครับ”เขาตอบ “เออเอากลุม้ อ อกแ ล้วน ่ี”ทา่ นกล่าวยิ้มๆแ ล้วไมพ่ ูดอะไรอ กี ข้าพเจ้าเคยเห็นคนท่ีไปหาหลวงปู่ดู่หลายรายมีความกลุ้ม มี ความเครียด เสร็จแล้วเม่ือมาถึงวัด น่ังอยู่ต่อหน้าท่าน หลายคนเล่าให้ ข้าพเจา้ ฟังว ่า ไม่รวู้ ่าไอ้เจา้ ตวั กลุม้ ตวั เครียดมนั พ ากันหายไปไหนหมดม ี แต่ความเบาสบายกายส บายใจอ ยากอ ยู่ต รงห น้าห ลวงปูน่ านๆ บางค น ขอเพียงไดน้ ัง่ เฉยๆก ม็ ี ทุกวันนี้ หลวงปู่จากพวกเราไปแล้ว แต่เป็นการจากเพียงรูปกาย luangpordu.com
97 ๙๗ ธรรมที่ท่านเคยสอนไว้มิได้สูญหายไปด้วยเลย หากเรามีความกลุ้มอก กลมุ้ ใจไมว่ า่ เรอ่ื งใดโดยเฉพาะเรอ่ื งป ญั หาเศรษฐกจิ ย คุ ป จั จบุ นั ป ญั หาเรอ่ื ง สุขภาพปญั หาเรอื่ งค รอบครัว ป ญั หาเร่ืองงานปัญหาอ ะไรก็แล้วแ ต่ ข้าพเจ้าขอแนะนำวธิ ีค ลายเครียดท่ีดีท ส่ี ดุ ว ธิ หี น่ึงค อื ให้หาม ุมส งบ ในบ้านข องท า่ น ห รอื จ ะเป็นห อ้ งพ ระก็ยิ่งดี ขอใหท้ า่ นน ่ังที่หน้าพ ระพทุ ธ รปู หรือรูปห ลวงปู่ดู่ จะล ืมตาหลบั ตาก ต็ ามแต่อัธยาศัยค รับสดู ล มหายใจ ลึกๆ พอสบายดีแล้วก็พูดระบายความในใจให้ท่านฟังความกลุ้มความ เครยี ดจะลดล งได้ เหมือนคนที่ทานอาหารมากเกินไปจนมีแก๊สอยู่เต็มท้อง อึดอัด ไปหมด หากได้ด่ืมน้ำขิงร้อนหรือทานยาขับลมเสียบ้างคงจะดี เมื่อกาย สบายใจสบาย สมองก็จะปลอดโปร่งแจ่มใสสบายกายสบายใจ และ สามารถมองเห็นห นทางแก้ไขปัญหาได้ดขี ึน้ เราเคยร ู้สกึ อ ยา่ งน ้กี ันบ า้ งไหมถ า้ ถ ามข ้าพเจ้ากต็ ้องข อตอบอ ยา่ ง มนั่ ใจว่า “เคยครับ” ข า้ พเจา้ เชอื่ ว า่ ห ลวงปทู่ า่ นเมตตาค อยเปน็ ก ำลงั ใจแ ละใหค้ วามช ว่ ย เหลือเราเสมอขอใหเ้ ราตัง้ ใจแก้ปัญหาด ว้ ยสจุ ริตว ธิ ี ไมม่ ีปญั หาใดในโลก ทม่ี นุษย์กอ่ ข้นึ แ ล้วมนษุ ยจ์ ะไมส่ ามารถแ ก้ไข ได้ข า้ พเจ้าเชื่ออยา่ งน ี้จริงๆ luangpordu.com
๙๘ 98 ๕ ๘ อะไรได้ อะไรเสยี คงไมม่ ใีครปฏิเสธได้ว ่าในชวี ติ คนเราน ้นั ต้องประสบค วามสูญเสยี ทุกคนบ างคนส ญู เสียคนร ักพอ่ แม่ ลกู เมยี ญ าติ เพอื่ นอ นั เปน็ เหตแุ หง่ ความก ระทบก ระเทอื นท างจ ิตใจที่ส ำคญั ย ิ่งก ารส ญู เสียเงนิ ท องข ้าวข อง ทรพั ยส์ มบตั ิ ก เ็ ปน็ ตน้ เหตหุ นงึ่ ข องค วามท กุ ขโ์ ทมนสั อ นั ใหญห่ ลวงข องอ กี หล ายๆคนของท ี่เคยมเีคยได้ กลบั เป็นของทไี่มม่ ีไม่ได้ ค นท เี่คยร กั ตอ้ ง พลดั พ รากจากไกลกนั ก ารค า้ ทีเ่ คยม ีกำไรก ลบั กลายเป็นขาดทนุ เสียห าย จนทำใจใหย้ อมรับได้ย าก หากยังจำกันได้ พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ท่ีพระราชทานเนอ่ื งในโอกาสว นั เฉลิมพ ระชนมพรรษา เมอ่ื ป ี ๒๕๓๔ ม ี ความตอนหนง่ึ ว า่ “การขาดทนุ ข องเราเปน็ การไดก้ ำไรข องเรา(Ourlossisour gain.)”ซ่ึงท า่ นไดอ้ ธิบายว่า“ ถ า้ เราท ำอ ะไรท ีเ่ ป็นการกระทำแ ลว้ เราก ็ เสียแต่ในทีส่ ุดก็ไอท้ เี่ ราเสยี นนั้ มนั เป็นการไดเ้ พราะวา่ ท างออ้ มได้” เป็นพระราชดำรัสที่มีค วามไพเราะลกึ ซึ้งกนิ ใจย ่งิ นัก สำหรบั น กั ป ฏบิ ตั แิ ลว้ ถ า้ เราพ รอ้ มท จ่ี ะเรยี นรู้ ท กุ ส ง่ิ ท กุ อ ยา่ งท ผี่ า่ น luangpordu.com
99 ๙๙ เขา้ ม าในช วี ติ ก จ็ ะเปน็ ค รขู องเรา ไมว่ า่ จ ะเปน็ การก ระทำท ถ่ี กู ต อ้ งห รอื ก าร กระทำท ผ่ี ดิ พลาดส่ิงทไ่ี ดม้ าสง่ิ ท่ีเสยี ไป ความทรงจ ำอนั ส วยงามหรอื ไม่ งามส่งิ ท ย่ี งั มีชีวิตอ ยูห่ รือส้นิ ไปแ ล้วก็ตาม เสยี งข องหลวงปแู่ วว่ ม าในความคดิ ค ำนงึ ของขา้ พเจา้ ทนั ที “ ถ กู เปน็ ค รู ผ ดิ ก เ็ ปน็ ค ร”ู แ ตผ่ ดิ เปน็ ค รทู ด่ี กี วา่ เพราะท ำใหเ้ ราไมป่ ระมาทใหผ้ ดิ ว นั น ี้ เปน็ ถ ูกข องว ันหนา้ ใหส้ ่ิงท เ่ี สียไปคอื ส ง่ิ ทีไ่ดม้ าอ ย่างท ีใ่ นหลวงท่าน*... ได้ม อบไว้ใหพ้ วกเรา luangpordu.com
๑๐๐ 100 ๕๙ ความสำเรจ็ “...เม่อื ประสบความส ำเรจ็ สงิ่ แ รกก็คือดใี จจ นลืมตัวแ ละโงล่ งใน บางอ ย่างส ำหรบั จะป ระมาทห รือส ะเพรา่ ในอ นาคตความส ำเรจ็ เปน็ ครู ท่ีดีน้อยกว่าความไม่สำเร็จ แต่มีเสน่ห์จนคนท่ัวไปเกลียดความไม่สำเร็จ เมอ่ื ไมป่ ระสบค วามส ำเรจ็ เราจ ะไดอ้ ะไรท ม่ี คี า่ ม ากก วา่ เมอ่ื ป ระสบค วาม สำเรจ็ ไปเสยี อ กี แ ตค่ นท วั่ ไปม องในแ งล่ บเหน็ เปน็ ค วามเสยี ห ายแ ละเกดิ ทกุ ข์ใหมเ่ พ่มิ ขน้ึ อกี เปน็ โชคร ้ายไปเสียโนน่ ถา้ ต อ้ นรบั ค วามไมส่ ำเรจ็ อ ยา่ งถ กู ต อ้ งม นั จ ะม อบค วามรทู้ จี่ ะท ำให้ ประสบค วามส ำเร็จถ ึงทส่ี ดุ ในก าลข ้างห นา้ จนก ลายเป็นผ้ทู ำอะไรส ำเร็จ ไปหมด...” สว่ นห นง่ึ ข องข อ้ เขยี นป ชู นยี บ คุ คล“ ท า่ นพ ทุ ธท าส” ซ งึ่ แ สดงไวใ้ น หอ้ งน ทิ รรศการเกยี่ วก บั “ ช วี ติ ผ ลงานท า่ นพ ทุ ธท าส” ณ อ าคารค ณะธ รรม ทานท ต่ี งั้ อ ยหู่ นา้ ป ระตดู า้ นท ศิ ใตข้ องวดั ธ ารน ำ้ ไหลห รอื เปน็ ท รี่ จู้ กั ม กั ค นุ้ ในนาม“ส วนโมกขพ ลาร าม”แ ห่งต ำบลพ มุ เรียงอ ำเภอไชยาจงั หวดั สรุ าษฎรธ์ านี luangpordu.com
101 ๑๐๑ ม พี ระส ตู รท พ่ี ระพทุ ธเจา้ แ สดงแ กอ่ นาถบ ณิ ฑกิ เศรษฐใี นเรอื่ งค วาม ปรารถนาข องม นษุ ยท์ จ่ี ะทำให้สำเร็จสมหวังไดย้ าก๔ป ระการค อื ขอใหส้ มบตั จิ งเกิดม ีแ กเ่ราในท างทีช่ อบ ขอย ศจ งม แี ก่เราและญ าตพิ นี่ อ้ ง ขอให้เราเปน็ ผูม้ ีอายยุ นื นาน เมื่อตายจ ากโลกนีไ้ปข อใหเ้ราไดไ้ ปเกิดในส วรรค์ ความป รารถนาท ง้ั ๔ ข อ้ ท ก่ี ลา่ วม าน ้ี จ ะส มหวงั ไดม้ ใิ ชด่ ว้ ยเหตเุ พยี ง ปรารถนาอ้อนวอนมิได้ทำอะไรเลยหรือทำอะไรท่ีไม่ตรงเหตุ ผลย่อมไม่ บงั เกิดค วามส ำเรจ็ ในช ีวิตย อ่ มเกิดจากการว างแผนทดี่ ี มิใชท่ ำเหตเุ พียง เลก็ น้อยแตห่ วังผ ลไว้ส วยหรู ถ้าเข้าใจว่า ไม่มีอะไรที่มีค่าแล้วได้มาง่าย ๆ ก็จะไม่หมดกำลังใจ อยากได้ผลอย่างไร ควรสร้างเหตุให้เกิดผลอย่างนั้นด้วยความอุตสาหะ พยายามอ ยา่ งเต็มท่ี ในโลกนี้...ไมม่ อี ะไรฟ รีครับ! luangpordu.com
๑๐๒ 102 ๖ ๐ อ ารมณ์ขนั ข องหลวงปู่ ญาติโยมคณะหน่งึ เป็นกล่มุ ท่ีชอบแสวงหาพระหาเจ้า หลวงปู่ หลวงพอ่ องคไ์ หนทว่ี า่ ด งั วา่ ดี มคี นข น้ึ ก นั มากโยมค ณะน จ้ี ะพาก นั ไปก ราบ ไหว้ ไปท ำบญุ กนั และก เ็ ปน็ ธรรมดาทห่ี ลายค นทน่ี บั ถอื ห ลวงปดู่ ู่ ในฐ านะท่ี เปน็ เกจอิ าจารยด์ งั ค ดิ วา่ ท า่ นคงใหห้ วยเบอรเ์ หมอื นอยา่ งอาจารยบ์ างอ งค์ เมอื่ ส บโอกาสโยมค นห นงึ่ ก เ็ ขา้ ม ากราบเรยี นข อห วยจ ากห ลวงปู่ ใน วนั น นั้ เผอิญข า้ พเจา้ ได้ม โีอกาสม ากราบนมัสการห ลวงปู่อยูด่ ้วยห ลวงปู่ มองหน้าโยมคนน้ัน พร้อมกับช้ีมือไปที่ปฏิทินรายเดือนที่มีรูปในหลวง แบบท ธี่ นาคารท งั้ ห ลายช อบแ จกซ งึ่ ต ดิ อ ยขู่ า้ งฝ าท ดี่ า้ นห ลงั ท า่ นแ ลว้ ท า่ น ก็วา่ “นน่ั แ หละแ กไปสลับเลขเอาเองมีเลขร างวัลค รบท กุ ต วั ข้าใหต้ ้งั แต่รางวัลท ่ีหนึง่ ย ันเลขท้ายสองต วั เลยถา้ ไมถ่ ูกใหม้ าด่าขา้ ได”้ ข้าพเจ้าขำจนแทบกลิ้ง แต่โยมท่ีขอหวยจากหลวงปู่คงขำไม่ออก และคงเขด็ ไมก่ ลา้ ข อห วยจากห ลวงปไู่ ปอกี น าน หลังจากท่ีโยมคนน้ันกลับไปแล้ว หลวงปู่ได้ให้โอวาทกับศิษย์ที่ เหลอื และข า้ พเจ้าว า่ “คนเราน ่กี แ็ ปลกใหธ้ รรมะของดีไม่เอาจะเอาแต่ห วยเบอร.์ .” luangpordu.com
103 ๑๐๓ ๖๑ ข องหาย าก เมอื่ วันท ี่ ๘ พฤศจิกายนพ.ศ.๒๕๓๐มเี ร่อื งป ระทับใจที่ขา้ พเจ้า ต้องบันทึกไว้เร่ืองหนึ่ง คือวันท่ีข้าพเจ้าได้รับตะกรุดของหลวงปู่ หรือที่ เรยี กกันในหมลู่ ูกศ ษิ ยข์ องท า่ นว ่า“ตะกรุดมหาจกั รพรรด”์ิ เร่ืองมีอ ยวู่ า่ วนั น น้ั ม คี นม ากราบน มสั การห ลวงปจู่ ำนวนม ากห ลงั จ ากท ข่ี า้ พเจา้ ไดก้ ราบห ลวงปแู่ ละข อโอกาสห ลกี ม าน งั่ ภ าวนาท หี่ อส วดม นต์ ส กั ค รใู่ หญ่ กอ่ นท จ่ี ะเลกิ ภ าวนาจๆู่ ก ม็ นี มิ ติ เปน็ อ งคห์ ลวงปดู่ ลู่ อยเดน่ พ รอ้ มร ศั มกี าย สวา่ งไสวอ ยเู่ บอ้ื งหนา้ ขา้ พเจา้ แ ละม เี สยี งท า่ นบอกข า้ พเจา้ ว า่ “ขา้ ใหแ้ ก” ในขณะน น้ั ข ้าพเจ้าไมไ่ ดน้ กึ แปลความห มายน ิมิตเป็นอ่ืนใดเข้าใจ เพียงว่าท่านคงให้ธรรมะกับเรา ข้าพเจ้าบังเกิดความปีติมาก หลังจาก เลกิ ภ าวนาแ ลว้ ข า้ พเจา้ ไดเ้ ดนิ ไปห ลงั ว ดั เพอื่ ไปน มสั การห ลวงน า้ ส ายห ยดุ ระหวา่ งท างผ า่ นก ฏุ ขิ องห ลวงพ อี่ งคห์ นง่ึ ซ งึ่ เปน็ พ ระภ กิ ษทุ ขี่ า้ พเจา้ เคยเหน็ ท่านอยู่ที่วัดสะแกหลายปี แต่ไม่เคยได้สนทนาอะไรเป็นกิจจะลักษณะ กับท่านมาก่อนเลยประการหน่ึง และไม่เคยเอ่ยปากขออะไรจากท่าน อีกประการหน่ึง แต่วันน้ันนับเป็นเหตุการณ์ประหลาดอัศจรรย์สำหรับ ข้าพเจา้ ท่ีห ลวงพเ่ี กดิ นึกเมตตาขา้ พเจา้ อย่างกะทนั หันท ่านบอกข า้ พเจา้ luangpordu.com
๑๐๔ 104 ว่า เด๋ียวก่อน จากน้ันท่านกลับเข้าไปในกุฏิช่ัวอึดใจ ท่านออกมาพร้อม กบั พระผงแบบหยดน ้ำร ปู พระพทุ ธเจา้ และร ูปห ลวงปู่ด ู่ ๒-๓ อ งค์ แ ละ ตะกรุดขนาดเล็กกระทัดรัดของหลวงปู่ยื่นให้ข้าพเจ้าและบอกว่า “ของ หลวงปู่ เก็บเอาไวใ้ช้” เป็นที่แปลกใจย่ิงสำหรับข้าพเจ้าท่ีเหตุการณ์เกิดข้ึนภายหลังจาก ที่ข้าพเจา้ ได้นิมติ ว า่ ได้ร ับ“ อ ะไร”จ ากหลวงปู่เมื่อหา้ น าทที ่ีผา่ นม า ข้าพเจา้ ได้มาเรียนเร่อื งน้ีถ วายใหห้ ลวงป่ฟู งั ทา่ นย งั ได้ใหโ้ อวาทข า้ พเจ้าอ ีกว่า... “...ท ว่ี ่าข ้าใหแ้ กนน้ั ข า้ ใหพ้ ทุ ธงั ธัมมงั สังฆงัส่วนเครือ่ งราง ของขลังภายนอกนั้นหาไม่ยาก พระพุทธัง ธัมมัง สังฆัง หายากกว่า แ กไปต รองดใูห้ดเี ถอะ” luangpordu.com
105 ๑๐๕ ๖ ๒ ค นหายาก ในพระพุทธศ าสนาไดพูดถ ึงบ คุ คลห าไดยากในโลกนม้ี ี ๒ ป ระเภท คอื บ พุ การี และบุคคลผูมกี ตัญ กู ตเวที บ พุ การี ห มายถ งึ บ คุ คลผ ทู ำอ ปุ ก าระ กอ นห รอื ค อื ผ มู พี ระคณุ น น่ั เอง ไดแ ก พระพทุ ธเจาค รูอ าจ ารย ม ารดาบ ิดาและพ ระม หาก ษตั รยิ ท ท่ี รง ทศพธิ ราชธรรมในท่นี จ้ี ะขอพ ดู ถ ึงพอแมข องเรา ในมงคลสูตรไดกลาวไวตอนหนึ่งวา มาตาปตุอุปฏฐานัง เอตัมมัง คะละมตุ ต ะมงั การบำรงุ ม ารดาและบดิ าเปน มงคลสงู สดุ ในช วี ติ อยา งหนง่ึ ม ผี กู ลา ววา “ ว นั แ ม” ส ำหรบั ล กู ห ลายๆ ค นม วี นั เดยี วในห นง่ึ ป แ ต สำหรบั แ มแ ลว “ ว ันล กู ” ม ีอยทู ุกว ัน ความขอนี้เปนจริงอยางที่ไมมีใครอาจปฏิเสธได โดยทั่วไปแลว ความร ักทแ่ี มม ีตอ ล กู นัน้ ยอมม มี าก กวา ความรักท ี่ลกู มตี อแม ในบทสวด เทวต าทิสสทักขิณานุโมท นา ไดกลาวเปรยี บไววา “...มาต าป ุตต ังว ะโอระสงั เทวะต านุกัมปโต...” คำแ ปลตอนหนง่ึ ของบ ทสวดม คี วามว่า “...บัณฑิตชาติอยู่ในสถานท่ีใด พึงเชิญท่านท่ีมีศีลสำรวมระวัง luangpordu.com
๑๐๖ 106 ประพฤตพิ รหมจ รรยใ์ นท น่ี น้ั เทวดาเหลา่ ใดม ใี นท น่ี น้ั ควรอ ทุ ศิ ท กั ษณิ าทาน เพื่อท า่ นเหลา่ น ้นั ด้วย เทวดาท ไ่ี ด้บชู าแ ล้วน ับถือแ ลว้ ท ่านย่อมบูชาบ้าง ย่อมน บั ถือบา้ งท า่ นย ่อมอนุเคราะห์เขาประหนง่ึ มารดาอ นุเคราะห์บ ุตร ผู้เกิดจากอก ผู้ที่ได้อาศัยเทวดาอนุเคราะห์แล้ว ย่อมมีแต่ความเจริญ ทุกเม่อื ” มารดาบิดาเป็นพระพรหมของลูก เป็นครูอาจารย์คนแรกของลูก และเปน็ เทวดาองคแ์ รกข องลกู จงึ เปน็ ผู้ควรรับการสักการะบ ชู าจากลกู พระพทุ ธเจา้ ไดส้ อนไว้ใน“ มาตาปิตคุ ณุ ส ตู ร”วา่ บตุ รไมอ่ าจต อบแทนค ณุ แ กม่ ารดาบ ดิ าน นั้ ใหส้ นิ้ ส ดุ ไดโ้ ดยป ระการ ใดๆ ด ว้ ยอ ปุ การะอ นั เปน็ โลกยี ะ แ มจ้ ะท ำใหท้ า่ นท งั้ ส องน ง่ั อ ยบู่ นบ า่ ข วา บนบ่าซ้ายของลูก ลูกปรนนิบัติดูแลท่านตลอดหน่ึงร้อยปี ก็ไม่สามารถ ตอบแทนบุญคุณท่านได้ ส่วนบุตรคนใดทำให้มารดาบิดาผู้ไม่มีศรัทธา ให้ตั้งอยู่ในศ รัทธาทำให้มารดาบดิ าผ้ไูมม่ ศี ีลให้ตั้งอ ยใู่ นศ ีลท ำให้ม ารดา บดิ าผ มู้ ีค วามต ระหน่ถี ่เี หนียวให้ต้ังอ ยใู่ นจ าคะทำใหม้ ารดาบ ิดาผมู้ คี วาม หลงใหต้ ง้ั อ ยใู่ นป ญั ญาส มั มาท ฏิ ฐิ บ ตุ รน นั้ จ งึ จ ะไดช้ อ่ื ว า่ ไดท้ ำการต อบแทน บญุ คณุ ของมารดาบิดาอ ยา่ งเตม็ ท ่ี ลกู ท ไี่ มม่ คี วามฉ ลาดย อ่ มไมเ่ หน็ ค ณุ คา่ ค วามรกั ข องพ อ่ แ มท่ มี่ ตี อ่ ล กู ลกู ที่มีความฉ ลาดย่อมเห็นค ณุ คา่ ของส งิ่ เหลา่ นต้ี ั้งแ ต่พ่อแ มย่ ังมชี วี ิตอยู่ วันน .้ี ..เราไดท้ ำส่งิ ดีๆใหพ้ ่อก บั แม.่ ..แ ล้วหรอื ยัง luangpordu.com
107 ๑๐๗ ๖ ๓ ด้วยร ักจ ากศิษย์ ...หลวงปู่ครับ ถ้าหากหมุนเข็มนาฬิกาให้เดินย้อนกลับได้ ผมขอ หมนุ ก ลบั ไปเปน็ ป ี พ .ศ .๒ ๕๒๕ป ที พี่ วกเราไดเ้ รม่ิ ม ากร าบห ลวงปู่ ร อยย มิ้ และภาพอากัปกิริยาของหลวงปู่เม่ือคราวที่สอนพวกเรา หลวงปู่หัวเราะ และเอาม อื ต บท หี่ นา้ ต กั พ วกเราย งั จ ำไดด้ ี พ วกเราย งั จ ำได้ แ ละจ ะพ ยายาม ทำตามท่หี ลวงปสู่ อนไม่ให้ถอยหลังไม่ให้หลวงปูต่ อ้ งผิดหวังครบั ...ห ลวงปขู่ าห ลวงปเู่ คยบ อกว า่ ป ฏบิ ตั มิ ากๆเถอะจ ะด ี ส มบตั นิ อก กายไม่จรี ังก ินเขา้ ไปเดี๋ยวก ข็ อ้ี อกม าเสอ้ื ผา้ ส วยๆหาม าแ ต่งเดี๋ยวก็ต้อง ทง้ิ เงนิ ต อนต ายญ าตเิ อาใสป่ ากส ปั เหรอ่ ก เ็ อาไปซ อื้ เหลา้ เสอ้ื ผา้ ก ถ็ อดอ อก เหลือแตต่ วั เปล่าใหเ้ ขาเอาไปเผา...ท่แี ท้เราไมม่ อี ะไรสกั อ ยา่ ง ...ห ลวงปเู่ จา้ ค ะห นรู ตู้ วั ด วี า่ ใจต วั เองถ า้ เผลอม นั ก จ็ ะล งต ำ่ อ ยรู่ ำ่ ไป ถ้าไม่มีหลวงปู่คอยเป็นกำลังใจ ขอหลวงปู่อยู่เป็นก ำลังใจให้หนูตลอดไป นะคะ ...ห ลวงป คู่ รบั ไดเ้ จอะเจอห ลวงป ใู่ นช วี ติ น ผ้ี มถ อื เปน็ บ ญุ ห ลายพ ระ ทา่ นว า่ ป ชู าจ ะป ชู นยี านงั เอตมั มงั คะล ะม ตุ ต ะมงั ก ารบ ชู าบ คุ คลท ค่ี วร บชู าเป็นม งคลสงู สุดข องช ีวติ luangpordu.com
๑๐๘ 108 ...ไดม้ าเจอหลวงป ู่ ผมถือวา่ ไมเ่สียช าติเกดิ แ ล้วครับ หลวงปคู่ รบั ...ใครจ ะค ดิ ว า่ ห ลวงปดู่ กู่ บั ห ลวงป ทู่ วดเปน็ อ งคเ์ ดยี วกนั หรอื ไม่ผมไม่ส นใจห รอกค รบั ห ากห ลวงปเู่ ปน็ ห ลวงป ทู่ วดจ รงิ ๆ ผ มถ อื วา่ พ วกเราโชคด ที สี่ ดุ ค รบั ความท ห่ี ลวงป.ู่ ..เปน็ ห ลวงปดู่ …ู่ อ ยา่ งเดยี วก ท็ ำใหผ้ มรกั แ ละเคารพห ลวงปู่ จนเตม็ ล น้ ห วั ใจไม่มีอ ะไรจะทำให้เต็มไปกวา่ น้ีอีกแ ลว้ ครับ luangpordu.com
109 ๑๐๙ ๖ ๔ ด้วยรักจากห ลวงปู่ เมอ่ื ค รง้ั ท ห่ี ลวงปอู่ าพาธในช ว่ ง๒ -๓ ป ี ก อ่ นท ท่ี า่ นจ ะจ ากพ วกเราไป คุณธรรมอันโดดเด่นคือ ความอดทนและความเมตตาของท่านย่ิงชัดเจน ในความรูส้ ึกของข า้ พเจ้า บ่อยครั้งท่ีศิษย์จอมขี้แยอย่างข้าพเจ้า ไม่สามารถที่จะกลั้นน้ำตา ไวไ้ ดใ้ นค วามค ดิ ค ำนงึ ว า่ ไอค้ วามข เ้ี กยี จค วามไมเ่ อาไหนไมเ่ อาถ า่ นข องเรา ทำให้ท่านต้องทนน่ังแบกธาตุขันธ์ท่ีเจ็บป่วยสอนศิษย์โง่ๆ อย่างเรา ทั้ง อบรมก็แลว้ พร่ำส อนก ็แ ลว้ ว า่ ก ล่าวตกั เตือนก แ็ ลว้ ศ ษิ ยจ์ อมข ีเ้ กียจก็ยัง ไม่สามารถเอาต ัวเองเปน็ ท ีพ่ งึ่ ได้ สรีระของห ลวงปเู่ ปล่ยี นแปลงผ า่ ยผ อม และซบู ซดี ลงแ ตต่ รงกนั ขา้ มก บั ก ำลงั ใจข องท า่ นท เี่ ออ่ ล น้ ด ว้ ยค วามร กั แ ละห ว่ งใยศ ษิ ย์ ทก่ี ลบั เพมิ่ ทวีคณู ขน้ึ ในหัวใจของท่านจ นยากท่ีศิษยท์ กุ ชีวิตจะป ฏิเสธได้ในความร กั และปรารถนาดขี องท่าน ในโลกของข้าพเจ้า ความรักของหลวงปู่ยิ่งใหญ่อย่างย่ิง แต่ส่ิงที่ สำคญั ยิ่งกวา่ ค อื ท่านส อนให้ศษิ ย์ทง้ั หลายรูจ้ ักว ิธีทีจ่ ะห ยิบย ่ืนความร กั ... ความป รารถนาด.ี ..ให้กบั ค นรอบข า้ งดงั ท ่ีท า่ นไดป้ ฏิบตั ิเปน็ แบบอ ย่างได้ luangpordu.com
๑๑๐ 110 อยา่ งเหมาะสมและกลมกลืน...อ ย่างส มำ่ เสมอและยาวนานและยืนยัน คำพดู ข องท่านท ีว่ ่า... “แกคิดถงึ ข้าข า้ ก็คิดถงึ แก แกไมค่ ดิ ถึงข ้าข า้ ก ย็ งั ค ิดถงึ แก” luangpordu.com
111 ๑๑๑ ๖ ๕ จ้ิงจกทัก พูดถึงเร่ืองลางสังหรณ์แล้ว คนโบราณเช่ือปรากฏการณ์ต่างๆ ที่ ผดิ ไปจากช วี ติ ป ระจำวันอยา่ งเช่นก ารเขมน่ ตาอ าการกระตุกท่ีเปลือก ตาการจ ามห รอื การท่จี งิ้ จกตกใส่ มีงูห รอื สตั ว์บางอ ย่างเข้าบ า้ นถือเป็น ส่ิงบอกเหตุเช่นกัน คนสมัยก่อนเช่ือเร่ืองจ้ิงจกทักอยู่มาก เวลาสั่งสอน หรือห้ามปรามใครไม่ฟังแล้วมักพูดว่า แม้จ้ิงจกทักโบราณยังเชื่อ คนทัก ทำไมไมเ่ ช่อื หลวงปู่เคยบอกใหศ้ ษิ ย์ฟังว่าถา้ ข า้ ไปหาพวกแกให้ฟงั เสียงจ ิ้งจก ใหด้ ี มีศษิ ยผ์ หู้ นง่ึ ถ ามว ่าท ำไมต้องเป็นจงิ้ จกค ะท ่านตอบว่า ลองนึกดูว่าหากแกส วดมนตไ์ หว้พ ระอยทู่ ี่บ้านจู่ๆขา้ ก ็ม าทีบ่ ้าน แกจ ะเป็นย งั ไง ก็ชอ็ คซเิ จา้ ค ะศ ิษยต์ อบ ก็นัน่ น ะ่ ซิห ลวงปู่ตอบและย ิม้ เกลอื่ นดว้ ยเมตตา เป็นบ ทสรปุ แ ทน คำตอบ ผู้หลักผู้ใหญ่ที่มีประสบการณ์ผ่านร้อนผ่านหนาว ท่านมักมีความ ปรารถนาดีเมื่อเห็นผู้น้อยจะคิด จะพูด จะทำในสิ่งที่ไม่ควร ท่านจึง luangpordu.com
๑๑๒ 112 เตือนหรือปรามไว้ลว่ งหนา้ เปน็ ทำนองกนั ไว้ดีกวา่ แก้ หลายคนท่ยี งั ไมม่ ี ประสบการณ์ท่ีเกิดข้นึ กับตนเอง บางคร้งั อาจไม่แน่ใจว่าเสียงจ้งิ จกน้ีใช่ หลวงปเู่ ตอื นหรอื ไม่ หากยงั มคี วามตง้ั ใจทจ่ี ะทำดจี รงิ กจ็ ะพบวา่ หลวงปจู่ ะ เตอื นผา่ นจ ง้ิ จกซ ำ้ แลว้ ซำ้ อกี จ นผนู้ น้ั เกดิ ความมน่ั ใจด ว้ ยต นเองม ติ อ้ งไปซกั ถามผ ใู้ ดเสยี งจ ง้ิ จกม หี ลายล กั ษณะแ ตกต า่ งก นั เชน่ เสยี งดงั ๆส น้ั ๆ เสยี งพ อ ใหไ้ ดย้ นิ ใหร้ ตู้ วั ห รอื เสยี งท กั ใหไ้ ดย้ นิ พ รอ้ มกนั หลายคน ความหมายก แ็ ตก ตา่ งก นั ไปเชน่ เปน็ การดุ เปน็ การบอกก ลา่ วหรอื เปน็ การเตอื นใหร้ ะวงั ตวั เร่ืองท่ีข้าพเจ้าประสบกับตัวเองคือ คร้ังหน่ึงท่ีข้าพเจ้าขับรถยนต์ จะเดนิ ท างไปต า่ งจ งั หวดั ข ณะจ ะอ อกจ ากบ า้ นก ไ็ ดย้ นิ เสยี งจ ง้ิ จกท กั แ ละ เหตกุ ารณใ์ นว นั น นั้ ค อื ม รี ถม อเตอรไ์ ซคม์ าเฉย่ี วช นร ถเรอื่ งร าวท ศ่ี ษิ ยผ์ อู้ นื่ เลา่ ใหฟ้ งั ก ม็ ี เชน่ เกอื บท กุ ค รงั้ ท ส่ี วดม นตห์ นา้ ห ง้ิ พ ระก อ่ นอ อกจ ากบ า้ นไป ทำงานก็จะไดย้ ินเสียงจ งิ้ จกท กั ออกม าจากห ้ิงพระซ ง่ึ ศ ิษย์ท่านนั้นก ร็ สู้ กึ อนุ่ ใจเหมอื นท า่ นรบั รดู้ ว้ ยท กุ ค รง้ั ศ ษิ ยอ์ กี ท า่ นเลา่ ว า่ ในย ามค บั ขนั ข องช วี ติ ครงั้ ห นง่ึ ไดน้ กึ ถงึ ห ลวงปแู่ ละข อใหท้ า่ นช ว่ ยเหลอื จ ากน นั้ เขาก ไ็ ดย้ นิ เสยี ง จงิ้ จกทกั โดยทบ่ี ริเวณน น้ั ไม่เหน็ ตัวจ งิ้ จกเลยส ดุ ท้ายปญั หาแ ละอ ุปสรรค ของเขาก ส็ ามารถผ า่ นไปไดด้ ว้ ยด ี ห ลวงปเู่ คยฝ ากข อ้ คดิ แ กข่ า้ พเจา้ ในเรอ่ื ง นไ้ี วว้ า่ ค นโบราณเขาว า่ ห ากจ งิ้ จกท กั จ ะไปไหนม าไหนก ต็ อ้ งเตรยี มเครอ่ื ง ใหค้ รบหากไม่ร บก็อาจต้องสู้ แ กว่าจ ริงไหม จากนไี้ปเราค งจะเง่ียห ฟู งั เสียงจ ิ้งจกทักกันม ากขนึ้ แ ล้วล ะ่ จุ.๊ ..จ .ุ๊.. จุ๊... luangpordu.com
113 ๑๑๓ ๖ ๖ ห ลวงป่กู บั ศษิ ยใ์หม่ ห ลวงปดู่ ู่ พ รหมป ญั โญท า่ นเปน็ พ ระท ม่ี คี วามเมตตาเปน็ ห ว่ งเปน็ ใย แกศ่ ษิ ยแ์ ละผ ทู้ ร่ี ะลกึ ถ งึ ท า่ นท กุ ค นอ ยา่ งท ไี่ มต่ อ้ งส งสยั ม เี รอ่ื งเลา่ ม ากมาย เกี่ยวกับความรักความเมตตาอาทรของท่านที่มีต่อศิษย์ หน่ึงในหลายๆ เหตุการณ์น้นั ก ค็ ือเรือ่ งข องพระเพอ่ื นสหธรรมิกของข้าพเจา้ ในปีพ .ศ .๒๕๓๒ระหว่างชว่ งเทศกาลเข้าพ รรษาพ ระนวกะจ าก วดั บ วรน เิ วศว หิ ารจ ำนวน๓ รปู ไดเ้ ดนิ ท างจ ากก รงุ เทพฯเพอื่ ม าน มสั การ หลวงปู่ดู่ทวี่ ัดส ะแกทั้งส ามองค์ต่างม คี วามตั้งใจต รงกนั ว ่าจะนำด อกไม้ ธูปเทียน มาถวายตัวเป็นศิษย์ของหลวงปู่เพ่ือกราบนมัสการ และถวาย ตวั เปน็ ศษิ ยเ์ พื่อขอเรียนพ ระกรรมฐาน คร้ันกำหนดวันได้เรียบร้อยตรงกันดีแล้ว ก็ออกเดินทางโดยไม่มี โอกาสได้กราบเรียนให้หลวงปู่ทราบล่วงหน้าก่อน เม่ือเดินทางมาถึง ที่หมายคือวัดสะแกก็เป็นช่วงเวลาใกล้เพลแล้วที่บริเวณปากทางเข้าวัด ต่างองค์ต่างปรึกษาหารือกันว่า จะไปกราบหลวงปู่ก่อนดีหรือจะแวะฉัน เพลก่อนดีถา้ หากแวะฉ ันเพลกอ่ นก ็จะต ิดเวลาท ่หี ลวงป่พู กั ห ลังเวลาเพล จะทำให้หลวงปู่มเี วลาพ กั ผ อ่ นน ้อยลงต ้องเสยี เวลามาน ัง่ รบั แขกแต่หาก luangpordu.com
๑๑๔ 114 ไปก ราบน มสั การท า่ นเลยท งั้ ส ามอ งคต์ า่ งก ม็ กี งั วลว า่ แ ลว้ จ ะไดฉ้ นั เพลก นั หรือไม่ ในท ส่ี ดุ ก ต็ ดั สนิ ใจว า่ ไมไ่ ดฉ้ นั ก ไ็ มเ่ ปน็ ไรไปก ราบห ลวงปใู่ หส้ มค วาม ตง้ั ใจก อ่ นด กี วา่ ค รนั้ พ อเดนิ เขา้ ป ระตวู ดั ไดป้ ระมาณส กั ร อ้ ยเมตรก ม็ ศี ษิ ย์ ฆราวาสข องห ลวงปคู่ นห นง่ึ ต รงเขา้ ม าห าแ ลว้ บ อกว า่ “ ห ลวงปนู่ มิ นตใ์ หฉ้ นั เพลทนี่ ี่ ทา่ นไมต่ อ้ งกงั วลหลวงป่ใู หเ้ ด็กจ ัดอาหารให้แลว้ ” ทุกองค์ต่างแปลกใจ เหมือนกับหลวงปู่จะรู้ล่วงหน้าว่า จะมีพระ เดินท างม าห าจงึ ใหล้ ูกศ ิษย์จดั เตรียมอ าหารไว้ถวายพระด ้วย จากนั้นพระทั้งสามองค์ได้ข้ึนมาที่หอสวดมนต์บริเวณตรงข้ามกุฏิ ของหลวงปู่กม้ ลงกราบพ ระ๓ครัง้ แ ล้วห ันม าทางหลวงปู่ยกมอื ไหวท้ ่าน จากร ะยะไกลก อ่ นท จี่ ะเขา้ ม ากร าบท า่ นแ ตจ่ ะน งั่ พ บั เพยี บก ย็ งั ไมก่ ลา้ น งั่ ไดแ้ ต่น ่ังค กุ เขา่ อ ยู่ตา่ งองค์ต่างกย็ ังนัง่ กระสบั ก ระส ่ายด ว้ ยคดิ กงั วลกันว ่า คงต อ้ งอ าบตั หิ ากต อ้ งน งั่ ฉ นั โดยไมม่ อี าสนะในท เี่ ดยี วก บั ท นี่ ง่ั ข องฆ ราวาส เพราะตามพระวินัยแล้ว ภิกษุจะไม่นั่งเสมอหรือร่วมอาสนะเดียวกับ อนปุ สมั บ นั ซ ง่ึ ห มายถ งึ ผ ทู้ ย่ี งั ไมไ่ ดอ้ ปุ สมบทไดแ้ ก่ ค ฤหสั ถ์ และส ามเณร หรอื ผู้ท่ีไมใ่ ชภ่ กิ ษหุ รือภิกษุณ ี สักครหู่ นงึ่ ฆราวาสคนเดิมกเ็ ขา้ ม าบอ กว่า “หลวงปูท่ ่านถามว ่าธ รรมยุตินีต้ อ้ งม ีอาสนะใช่หรือไม่ ท่านใหจ้ ดั เตรียมอาสนะม าให้แลว้ ” ท้ังสามองค์จึงได้อาสนะมาปูน่ังฉันจนเรียบร้อย ไม่ต้องอาบัติ luangpordu.com
115 ๑๑๕ น้ีเป็นอัศจรรย์เหมือนหลวงปู่สามารถรู้วาระจิตของพระท้งั สามเป็นคร้งั ทส่ี องเมอ่ื ฉ นั เสรจ็ จ งึ ไดม้ ากร าบน มสั การท า่ นไดแ้ ตน่ ง่ั ข า้ งล า่ งไมก่ ลา้ น ง่ั เสมอก บั ท า่ นห ลวงปทู่ ่านไดเ้ มตตาเป็นท่ีสุดโดยเรียกใหพ้ ระใหม่นัง่ ข า้ ง บนเสมอกบั ท า่ นแ ละบอกว่า“ เราลูกพ ระพทุ ธเจ้าเหมอื นก นั ” จากน้ันทั้งสามองค์ต่างถวายตัวเป็นศิษย์ หลวงปู่ท่านกล่าว อนโุ มทนาแ ลว้ แ นะนำใหไ้ ปเรยี นพ ระกรร มฐ านก บั พ ระส ายห ยดุ ภ รู ทิ ตั โต ที่กฏุ หิ ลังวดั luangpordu.com
๑๑๖ 116 ๖๗ ค าถาของห ลวงปู่ ท่านท่ีเคยมีโอกาสไปเยือนเจดีย์พิพิธภัณฑ์ของท่านพระอาจารย์ จวน กุลเชษโฐ ณ วัดเจติยาคิรีวิหาร จังหวัดหนองคาย จะสังเกตบาน ประตไู มป้ ระดแู่ ผน่ เดยี วแ กะส ลกั ด ว้ ยล ายท เ่ี รยี บงา่ ยป ดิ ท องแ ละก ระจกส ี เพอ่ื ร กั ษาเนอ้ื ไม้ ก ลางป ระตดู า้ นในส ลกั เปน็ ร ปู น กย งู ซ ง่ึ เปน็ ส ญั ญล กั ษณ์ หมายถงึ ค าถายงู ทองข องท า่ นพระอ าจารย์ม่ันภ ูริท ตั ตมหาเถระท่ีศษิ ย์ ของท่านทุกองค์ต่างให้ความเคารพและระลึกถึงโดยสวดสาธยายเป็น ประจำว า่ “...นะโมวมิ ตุ ตานังน ะโมว ิมุตติย า” คืนวันหน่ึงข้าพเจ้าได้มีโอกาสกราบนมัสการเรียนถามหลวงปู่ดู่ว่า “ลูกศิษย์ท่านพระอาจารย์ม่ัน มีคาถายูงทองเป็นเคร่ืองระลึกถึงครูบา- อาจารย์ แล้วลูกศิษย์ของหลวงปู่ควรใช้คาถาบทใดเป็นเครื่องระลึกถึง พระคณุ ข องครูบาอาจารยบ์ ้าง” หลวงปไู่ ดว้ สิ ชั นาโดยใหข้ า้ พเจา้ ไปเปดิ ด ู “อณุ หสิ สะ วชิ ะยะส ตู ร” ใน หนงั สอื มตุ โตทยั ซ งึ่ เปน็ ค ำส อนข องท า่ นพ ระอ าจารยม์ น่ั ภ รู ทิ ตั ต มห าเถระ (รวบรวมแ ละเรยี บเรยี งโดยพระอ าจารย์วริ ิยังค์ สริ นิ ธโรวดั ธรรมมงคล) luangpordu.com
117 ๑๑๗ พ ระส ตู รน มี้ คี วามไพเราะท งั้ อ รรถแ ละพ ยญั ชนะท คี่ วรศ กึ ษาจ ดจำ และทำความเข้าใจให้แยบคายโดยยิ่ง ท่านได้กล่าวไว้ว่า “ผู้ใดมาถึง พระพทุ ธเจ้าพ ระธรรมพระสงฆ์ เปน็ ส รณะท ่ีพ่งึ แ ลว้ ผนู้ ้นั ย ่อมชนะได้ ซึ่งความร อ้ น” อณุ หิสส ะค ือค วามรอ้ นอ ันเกิดแ กต่ นมที ้ังภายในและภ ายนอก ภายนอกมีเสือส างค า่ งแ ดงภ ตู ผปี ีศาจเปน็ ต้นภ ายในค ือก เิ ลส วชิ ะยะคอื ความชนะผ ู้ทมี่ าน้อมเอาสรณะทัง้ ส ามนี้เปน็ ท ี่พึ่งแ ลว้ ยอ่ มจ ะช นะค วามรอ้ นเหลา่ น น้ั ไปไดห้ มดท กุ อ ยา่ งท เ่ี รยี กว า่ อ ณุ หสิ สะว ชิ ยั อ ณุ หิสสะ วิชะโยธมั โม พระธรรมเป็นข องย ่ิงในโลกทงั้ สาม โลเกอะนุต ตะโร สามารถช นะซง่ึ ค วามร อ้ นอกร ้อนใจ อันเกดิ แ ต่ภยั ต ่างๆ ปะรวิ ัชเชร าชะ ทนั เฑ จะเว้นห่างจากอ ันตรายท้ังห ลายค อื พยัคเฆนาเควีเสภูเต อาชญาข องพ ระร าชาเสือส างน าค ยาพิษภ ตู ผปี ีศาจ อะกาละมะระเณนะจ ะ หากย งั ไมถ่ งึ ค ราวถ งึ ก าลท จ่ี กั ต ายแลว้ สัพพสั สะมามะระณา ก็จ กั พน้ ไปไดจ้ ากค วามต าย มุตโต ดว้ ยอ ำนาจพระพทุ ธพ ระธ รรม พระสงฆ์ ทีต่ นน้อม เอาเปน็ ส รณะทีพ่ ง่ึ ทน่ี บั ถอื น้ัน ความข้อน้ีมีพระบาลีสาธกดังจะยกมาอ้างอิง ในสมัยเม่ือสมเด็จ luangpordu.com
๑๑๘ 118 พระผมู้ พี ระภาคเจา้ ประทบั อยรู่ าวปา่ มหาว นั ใกลก้ รงุ กบ ลิ พสั ด์ พ รอ้ มดว้ ย พระอ รห นั ต ห์ นมุ่ ๕ ๐๐รปู เทวดาท ง้ั ห ลายพ าก นั ม าด แู ลว้ ก ลา่ วค าถาข น้ึ ว า่ เยเกจิพ ทุ ธังส ะระณงั บุคคลบางพวก หรือบุคคลใดๆ คตาเสนะ เตคมสิ สันต ิ มาถึงพระพุทธเจ้าเป็นสรณะที่ อป ายภมู ิ ป ะ หายะม านสุ งั พึ่งแล้วบุคคลเหล่านั้นย่อมไม่ไป เทหงั เทว ะกายงั สอู่ บายภมู ิ ทงั้ ๔ มี น รกเปน็ ตน้ ปะรปิ ูเรสสนั ติ เมอื่ ล ะร า่ งกายอ นั เปน็ ข องม นษุ ย์ น้ีแล้วจักไปเป็นหมู่แห่งเทพยดา ทั้งหลายดังนี้ สรณะท้ัง ๓ คือพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ มิได้เสื่อมสูญ อันตรธานไปไหน ยังปรากฏอยู่แก่ผู้ปฏิบัติเข้าถึงอยู่เสมอ ผู้ใดมายึดถือ เป็นทพี่ งึ่ ข องตนแ ล้วผู้นั้นจ ะอยู่ในก ลางป า่ ห รือเรอื นว่างก็ตามส รณะทง้ั สามปรากฏแก่เขาอ ย่ทู กุ เมื่อจ ึงว า่ เปน็ ท่ีพงึ่ แ ก่บคุ คลจ รงิ เมื่อป ฏิบัติตาม สรณะทั้งสามจริงๆ แล้ว จะคลาดแคล้วจากภัยท้ังหลาย อันก่อให้เกิด ความร อ้ นอกร้อนใจได้แน่นอนท ีเดียว สมดังท ่หี ลวงปู่ดทู่ ่านพ ร่ำย้ำเตอื น ศิษย์อยู่เสมอว่า “พุทธงั ธัมมังส ังฆังใครเช่อื จริงท ำจ ริงกจ็ ะเจอของจริง” luangpordu.com
119 ๑๑๙ ๖๘ อย่าใหใ้ จเหมอื น... ในห นงั สอื งานพ ระราชทานเพลงิ ศ พข องห ลวงป ขู่ าวอ น าลโยแ หง่ วัดถ้ำกลองเพล จังหวัดอุดรธานี ซ่ึงเขียนโดยท่านพระอาจารย์มหาบัว ญาณสัมปันโน ได้เล่าถึงคราวที่หลวงปู่ขาวเกิดความสงสัยในการปฏิบัติ และได้เรียนถ ามหลวงป ู่มั่นว า่ “ ในค รง้ั พ ทุ ธก าลต ามป ระวตั วิ า่ ม ผี สู้ ำเรจ็ ม รรคผลน พิ พานม ากแ ละ รวดเรว็ ก วา่ ส มยั น ี้ ซ งึ่ ไมค่ อ่ ยม ผี ใู้ ดส ำเรจ็ ก นั แ มไ้ มม่ ากเหมอื นค รงั้ โนน้ ห าก มีการสำเรจ็ ได้กร็ ้สู กึ จ ะช้าก วา่ ก นั มาก” หลวงป มู่ ัน่ ท า่ นตอบว่า“กเิ ลสข องคนในพทุ ธสมยั มีความเบาบาง มากก วา่ ในส มยั ป จั จบุ นั แ มก้ ารอ บรมก ง็ า่ ยผ ดิ ก บั ส มยั น อี้ ยมู่ ากป ระกอบ กบั ผ สู้ ง่ั ส อนในส มยั น นั้ ก เ็ ปน็ ผ รู้ ยู้ ง่ิ เหน็ จ รงิ เปน็ ส ว่ นม ากม พี ระศ าสดาเปน็ พระประมุขประธานแห่งพระสาวก ในการประกาศสอนธรรมแก่หมู่ชน การสอนจึงไม่ค่อยผิดพลาดคลาดเคลื่อนจากความจริง ทรงถอดออกมา จากพระทัยท่ีบริสุทธ์ิล้วนๆ หยิบย่ืนให้ผู้ฟังอย่างสดๆ ร้อนๆ ไม่มีธรรม แปลกป ลอมเคลือบแฝงอ อกม าด ้วยเลย ผู้ฟังก็เป็นผู้มุ่งต่อความจริงอย่างเต็มใจซึ่งเป็นความเหมาะสมท้ัง luangpordu.com
๑๒๐ 120 สองฝ่าย ผลท่ีปรากฏเป็นข้ันๆ ตามความคาดหมายของผู้มุ่งความจริง จงึ ไมม่ ปี ญั หาท ค่ี วรข ดั แ ยง้ ไดว้ า่ สมยั น นั้ ค นส ำเรจ็ ม รรคผลก นั ท ลี ะม ากๆ จากการแสดงธ รรมแต่ละครั้งข องพระศาสดาและพระส าวก ส่วนสมยั น้ไี มค่ ่อยม ีใครสำเรจ็ ได้ ค ล้ายกับค นไมใ่ ชค่ น ธรรมไมใ่ ช่ ธรรมผ ลจ ึงไมม่ ีค วามจ ริงค นก ็คอื ค นธรรมก ็คือธ รรมอยู่น ่ันเองแต่ค น ไม่สนใจธ รรม ธรรมก เ็ ข้าไม่ถ งึ ใจ จ งึ กลายเป็นว า่ คนก ส็ ักว่าคน ธ รรมก ็ สักว่าธรรม ไม่อาจยังประโยชน์ให้สำเร็จได้ แม้คนจะมีจำนวนมากและ แสดงใหฟ้ ังทง้ั พ ระไตรป ิฎกจึงเป็นเหมือนเทน ำ้ ใสห่ ลงั หมามันสลัดออก เกลี้ยงไม่มีเหลือ ธรรมจึงไม่มีความหมายในใจของคน เหมือนน้ำไม่มี ความห มายบ นหลังห มา ฉ ะนั้น” ข้าพเจา้ อ ดน กึ ถ ามตวั เองไมไ่ ด้ว่า... “แลว้ เราล ่ะเวลานี้ ใจเราเป็นเหมือนหลังห มาหรอื เปล่า” luangpordu.com
121 ๑๒๑ ๖ ๙ วตั ถุส มบัติ ธรรมส มบตั ิ ท่ามกลางความหลากหลายของอารมณ์ ความรู้สึกนึกคิด และ กระแสแ หง่ ค วามแ สวงหาใจท กุ ด วงท ม่ี คี วามเรา่ รอ้ นวนุ่ วายส บั สนเปา้ หมาย คอื เพอ่ื ใหไ้ ดส้ ง่ิ ท ตี่ อ้ งการม าแ ตเ่ มอ่ื ไดส้ งิ่ ท คี่ ดิ ว า่ ต อ้ งการม าแ ลว้ ก ด็ เู หมอื น ว่าย่ิงแสวงหา ก็ยิ่งต้องดิ้นรนมากขึ้น สิ่งท่ีได้มาน้ันมีสุขน้อยมีทุกข์มาก หากจ ะม สี ขุ บ า้ งก เ็ ปน็ เพยี งส ขุ เลก็ น อ้ ยในเบอ้ื งต น้ แ ตใ่ นท สี่ ดุ ก ก็ ลบั ก ลาย เป็นทุกข์อ ีกเปน็ อย่างนซ้ี ้ำแ ลว้ ซ ำ้ เล่าอารมณต์ า่ งๆเหล่าน ี้ ไมเ่ พียงพ อที่ จะใหเ้ กดิ ค วามช มุ่ ฉ ำ่ เยน็ ใจอ บอนุ่ ไดย้ าวนานห ากแ ตเ่ ปน็ อ ารมณท์ ค่ี า้ งใจ อยตู่ ลอดเวลาท ำใหอ้ ยากด น้ิ รนแ สวงหาส ง่ิ ใหมม่ าท ดแทนอ ยเู่ สมอน เ้ี ปน็ ธรรมดาข อง...วตั ถุส มบตั ิ ส่วน...ธรรมสมบัติ นั้น จะยังความชุ่มช่ืน เพียงพอให้เกิดข้ึนแก่ จิตใจได้ม ีลกั ษณะเปน็ ค วามสขุ ท่ไี มก่ ลับก ลายมาเปน็ ความท กุ ขอ์ กี ว ตั ถุ สมบัติยิ่งใช้นับวันยิ่งหมดไป ต้องขวนขวายแสวงหาเพิ่มเติมด้วยความ กังวลใจ ธรรมสมบัติยิ่งใช้นับวันยิ่งเจริญงอกงามขึ้น ก่อให้เกิดความสุข สงบเย็นใจแ ก่ตนแ ละคนรอบข้าง คงไมม่ ีใครท ี่ไดร้ ู้จักหลวงปู่ปฏิเสธว่าหลวงปทู่ า่ นเป็นแ บบอยา่ งท ่ี luangpordu.com
๑๒๒ 122 ดีของบุคคลที่ใช้ธรรมสมบัติ ยังความสงบเย็นให้แก่ใจทุกดวงท่ีได้เข้ามา ใกล้ชดิ ท า่ นไม่เฉพาะคนหรือส ัตว์แ ต่รวมไปถึงเหล่าเทพยดาแ ละอมนุษย์ ทง้ั ห ลายท ศ่ี ษิ ยข์ องห ลวงปหู่ ลายค นต า่ งม ปี ระสบการณอ์ นั เปน็ ป จั จตั ต งั และสามารถเปน็ ป ระจักษ์พยานไดอ้ ย่างดี หลวงปเู่คยบ อกขา้ พเจ้าวา่ “ คนท ำ(ภาวนา)เป็นน่ี ใครๆก ็รกั ไม่เฉพาะค นหรอื สัตวท์ รี่ ัก แมแ้ ตเ่ทวดาเขาก ็อ นโุ มทนาด ว้ ย” luangpordu.com
123 ๑๒๓ ๗ ๐ ท ำไมหลวงป.ู่.. สมัยท่ีพระพุทธเจ้าประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปลงอายุสังขาร แล้วนั้น ได้ทรงปรารภเร่ืองพระติสสะเถระในคราวที่พระองค์จวนจะ ปรนิ พิ พานม คี วามตอนหนง่ึ ทท่ี า่ นพ ระอ าจารยม์ หาบวั ญ าณสมั ปนั โนได้ นำมาถ า่ ยทอดอบรมศิษย์ไว้ในหนังสอื “ ค วามร ักเสมอตนไมม่ ”ี ความว่า “ก่อนจะปรินิพพาน จากวันปลงพระชนม์ไปถึงวันเพ็ญเดือนหก พระสงฆ์ยุ่งกันใหญ่ พอปลงพระชนม์ว่าจะปรินิพพาน ยุ่งกัน เกาะกัน เป็นฝูงๆ ว่างั้นเลย อย่าว่าเป็นคณะๆ เลย เป็นฝูงๆ คือจิตใจมันยุ่ง แต่ภายนอก มีพระติสสะองค์เดียวไม่ยุ่งกับใคร เข้าอยู่ในป่าตลอดทั้ง วันท้ังคืน แล้วพระบ้าเหล่านี้หาว่าพระติสสะไม่มีความจงรักภักดีต่อ พระพทุ ธเจา้ พ ระพทุ ธเจา้ จ ะป รนิ พิ พานพ ระต สิ ส ะไมเ่ หน็ ม าป รารภอ ะไร เลยอ ยแู่ ตใ่ นป า่ จ งึ พ าก นั เขา้ ฟ อ้ งพ ระพทุ ธเจา้ ว า่ พ ระต สิ ส ะไมม่ คี วามห วงั ด ี ในพระพุทธเจ้าไมม่ ีค วามเย่ือใยในพระพุทธเจ้าห ลกี ไปอย่แู ตอ่ งค์เดียว พระองค์เป็นผู้ทรงเหตุผลอยู่แล้ว จึงรับสั่งเรียกพระติสสะมา เข้าเฝ้าท่ามกลางสงฆ์ ไหนวา่ อยา่ งไรพระตสิ สะ เวลาน้พี วกบา้ น้ี ถา้ เปน็ หลวงตาบัวจะพูดอย่างน้นั เวลาน้ีพวกบ้าน่นั ว่าเธอไม่มีความจงรักภักดี luangpordu.com
๑๒๔ 124 ตอ่ เราตถาคตเธอไปแอบอ ยคู่ นเดยี วท ง้ั วนั ท ง้ั ค นื ไมเ่ ขา้ ม าเกย่ี วขอ้ งม ว่ั สมุ กบั ห มเู่ พอ่ื นเลยว า่ อยา่ งไรพระตสิ ส ะ “ขา้ พ ระองคม์ คี วามจ งรกั ภ กั ดตี อ่ พ ระองคส์ ดุ ห วั ใจ”น นั่ เวลาต อบ “ท่ีข้าพระองค์ไม่ได้มาเก่ียวข้องกับหมู่เพ่ือน ก็เพราะเห็นว่าเวลาของ พระองค์นั้นกำหนดไว้เรียบร้อยแล้ว จากวันนี้ถึงวันน้ันจะปรินิพพาน ข้าพระองค์จึงรีบเร่งขวนขวายให้ได้บรรลุธรรมในเวลาท่ีพระองค์ยังทรง พระชนมอ์ ยู่ ข า้ พ ระองคต์ อ้ งรบี เรง่ ข วนขวายท างด า้ นจ ติ ใจไมไ่ ดเ้ กย่ี วขอ้ ง กับใครเลยทั้งว ันท ั้งคนื ” พระพุทธองค์ ตรัสว่า เอ้อถูกตอ้ งแ ล้วต สิ ส ะสาธๆุ ถ กู ต อ้ งแ ล้ว จากนน้ั กย็ กข น้ึ เปน็ ภ าษติ ว่า “ผ ใู้ ดป ฏบิ ตั ธิ รรมส มควรแ กธ่ รรม ผนู้ นั้ ช อื่ ว า่ บ ชู าเราต ถาคต...” คำว่าปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรมน้ี ทำให้ข้าพเจ้านึกถึงครั้งที่มีเพื่อน ผู้หน่ึงมาปรารภให้ฟังเกี่ยวกับการภาวนาของตนว่า “ไม่ก้าวหน้าเลย ทำไมห ลวงปู่ไมม่ าสอนผ มทำไมหลวงปไู่ ม่ช่วยทำไมห ลวงปู่...” หลวงปดู่ ไู่ ดเ้ คยใหก้ ำลงั ใจในก ารปฏบิ ตั แิ กข่ า้ พเจา้ วา่ “ ห มน่ั ท ำเขา้ ไว้ พ ระท า่ นค อยจะช ว่ ยเราอยแู่ ลว้ เราไดช้ ว่ ยเหลอื ตวั เองกอ่ นห รอื ยงั ” ขา้ พเจา้ จ งึ ต อบเพอ่ื นผ นู้ น้ั ก ลบั ไปว า่ อ ยา่ ม วั แ ตถ่ ามว า่ ท ำไมห ลวงปู่ ...ท ำไมหลวงปู่...แต่ควรถามตัวเราเองวา่ “ท ำไมเราไมท่ ำตวั ให้ส มกับที่ท ่านสอนล ่ะ เราป ฏบิ ัติธรรมสมควรแกธ่ รรมแล้วห รือยงั ” luangpordu.com
125 ๑๒๕ ถ้าเราปฏิบัติธรรมส มควรแ ก่ธรรมแ ล้ว ไดเ้ ตรยี มใจข องเราให้เป็น ภาชนะอย่างดีสำหรับรองรับธรรม สามารถเก็บรักษาธรรมมิให้ตกหล่น สูญหายไปได้ข า้ พเจ้าเช่ือเหลือเกนิ ว่า... พระพทุ ธเจ้าและหลวงปไู่ มท่ ิ้งเราแน่นอน luangpordu.com
๑๒๖ 126 ๗๑ “ งาน”ของหลวงปู่ ทุกชีวิตยอ่ มม งี านเพราะงานเป็นส ่วนหน่งึ ของชีวติ บ างทีเราอ าจ ลมื ไปว า่ งานข องช วี ติ ท เ่ี ราท ำอ ยดู่ แี ลว้ พ อแลว้ แ ตย่ งั ม งี านอ นื่ ท น่ี อกเหนอื จากหน้าท่ีการงานหรืองานประจำท่ีเราทำอยู่ ท่านพุทธทาสภิกขุเคยให้ โอวาทตอนหนึง่ ว า่ “.....ให้เอางานในความหมายของคนท่ัวไปเป็นงานอดิเรก เอางานค อื ก ารป ฏบิ ตั ธิ รรมเปน็ งานห ลกั ข องช วี ติ เปน็ การงานท แี่ ทจ้ รงิ ของช วี ิต” ถ้าเราเข้าใจในความหมายนี้ ชีวิตจะสดใสข้ึน ปลอดโปร่งใจข้ึน ความกังวลความกลัดกลุ้มจะลดลง ความโลภความโกรธความหลงจะ ลดล งห ากได้ฝกึ สังเกตความค ดิ แ ละความร สู้ ึกของตนเองน เี่ ป็นงานของ ชวี ิตอีกระดับห นงึ่ ท ่คี วรทำความเขา้ ใจและปฏบิ ตั ใิ หถ้ ูกต อ้ งหลวงปูด่ มู่ ัก จะใชค้ ำศ พั ทท์ วี่ า่ ใหไ้ ป“ ท ำงาน” ก บั ล กู ศ ษิ ย์ ซ งึ่ ห มายถ งึ ใหไ้ ป“ ภ าวนา” หรืออีกนัยหน่ึง “งาน” ในความหมายของท่าน ก็คือ “งานร้ือวัฏฏะ” นั่นเอง ท่านเคยบอกข า้ พเจา้ ว่า luangpordu.com
127 ๑๒๗ “ทุกอย่างที่เราทำวันนี้ เพื่อเอาไว้กินวันข้างหน้า พอตายแล้ว โลกเขาขนเอาบ าปก ันไปแ ต่เราจะข นเอาบ ุญเอาน ิพพานไป” ในค รง้ั พ ทุ ธก าลพ ระพทุ ธเจา้ ไดต้ รสั ก บั พ ระอ านนทแ์ ละพ ระอ รห นั ต ์ ทง้ั หลายว า่ “ด กู อ่ นภ กิ ษทุ ง้ั ห ลายบ คุ คลผ จู้ ะไปส สู่ คุ ตไิ ดน้ นั้ น อ้ ยม ากเทา่ กบั โคส องเขาเทา่ นนั้ ผ ทู้ จี่ ะต กอ ยใู่ นห ว้ งข องอ บายภ มู นิ นั้ ม เี ทา่ ก นั ก บั ข นโค ทั้งตัว” อนั ท ีจ่ รงิ มนษุ ยแ์ ตล่ ะค นอยใู่ นโลกน ีช้ ่ัวระยะเวลาส ัน้ เหลอื เกินถา้ เทียบกบั อ ายุของโลกห รืออ ายุของจ ักรวาล ถูกของห ลวงปเู่ ป็นท่สี ุด... เวลาไมก่ ป่ี บี นโลกใบน ี้ เราย งั เตรยี มอ ะไรก นั ต งั้ ม ากมายข วนขวาย หาซ อ้ื บ า้ นซ อื้ ท ดี่ นิ ซ อ้ื รถยนต์ ห าเงนิ เกบ็ เงนิ ฝ ากธ นาคารแ สวงหาส มบตั ิ พสั ถานจปิ าถะแ ละย งั ต อ้ งแ สวงห าไวเ้ ผอื่ ล กู เมยี บ างค นถ งึ ร นุ่ ห ลานก ย็ งั กินไมห่ มดเลยท เี ดยี วท กุ ช ีวิตส้ินสดุ ท่ี“ ตาย”คำเดยี วเสมอก นั ห มดเรา พร้อมสำหรับว นั น้ันหรอื ย งั มาท ำงานถวายหลวงป่กู นั เถอะ luangpordu.com
๑๒๘ 128 ๗๒ ขอเพียงค วามรูส้ กึ นักปฏิบัติภาวนาหลายท่านชอบติดอยู่กับการทำสมาธิแบบสงบ ไม่ชอบที่จะใช้ปัญญาพิจารณาเรื่องราวต่างๆ ให้เห็นเหตุและผล ให้ลง หลกั ค วามจรงิ หากจะถามว า่ พจิ ารณาอย่างไร? ครั้งหน่ึง หลวงปู่เคยยกตัวอย่างให้ข้าพเจ้าฟังว่า หากใจเราว่าง จากการพิจารณาเร่ืองเกี่ยวกับความจริงของชีวิตแล้ว เร่ืองท่ีควรสนใจ ศกึ ษาน อ้ มนำม าพ จิ ารณาใหม้ ากอ กี เรอื่ งห นง่ึ ค อื พ ทุ ธป ระวตั ิ ป ระวตั ขิ อง ครูบาอาจารย์องค์ต่างๆ ได้แก่ ท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ท่าน พระอ าจารยม์ หาบ ัวญาณส มั ป นั โนเปน็ ต้น การพจิ ารณาน ้ันขอให้เทยี บเคียงค วามร ู้สึกว ่าเรามีความรู้ความ เข้าใจในเร่ืองที่ศึกษามากขึ้นเพียงใด เช่น ในช่วงปีแรกที่เราได้รู้จักท่าน พระอาจารย์มหาบัว ญาณสัมปันโน เรามีความรู้สึกเคารพเล่ือมใสท่าน อยา่ งไรต อ่ ม าเราไดไ้ ปอ ยปู่ ฏบิ ตั ภิ าวนาท วี่ ดั ข องท า่ นไดเ้ หน็ ข อ้ ว ตั รป ฏบิ ตั ิ ต่างๆของทา่ นได้เห็นสาธารณประโยชน์หลายอย่างทที่ ่านพาท ำค วาม รู้สึกเคารพเล่ือมใสศรัทธาของเราย่อมมีมากขึ้นฉันใด การศึกษาพุทธ- ประวัตกิ ฉ็ ันน ้ัน luangpordu.com
129 ๑๒๙ ในระยะแ รกข องก ารศ กึ ษา...เราอ าจจ ะย งั ไมม่ คี วามเคารพเลอ่ื มใส ในพ ระพทุ ธเจา้ ม ากน กั แ ตเ่ มอื่ เราไดป้ ฏบิ ตั ภิ าวนาม ากข นึ้ ไดพ้ จิ ารณาม าก ขนึ้ ก ารไดอ้ า่ นเรอื่ งข องเจา้ ช ายส ทิ ธตั ถ ะจ ะไมเ่ ปน็ เพยี งก ารอ า่ นเรอ่ื งร าว ของเจ้าชายท ี่ละทงิ้ ป ราสาทราชวงั ท้ิงพ ระชายาพระโอรสเหมอื นสมัย เราเป็นเด็กที่เพิ่งเริ่มศึกษาพุทธประวัติหากแต่เราจะสามารถเข้าใจความ รู้สึกของเจ้าชายสิทธัตถะ ในแต่ละเหตุการณ์ของพุทธประวัติได้อย่างดี จากศรัทธาธรรมดาท่ีเคยมีในใจ จะเริ่มก่อตัวมั่นคงยิ่งขึ้น จนกลายเป็น ตถาคตโพธิสัทธาค อื ค วามเช่ือในปัญญาต รัสรขู้ องพระพทุ ธเจ้าเมือ่ นนั้ ความปีติ อิ่มเอิบ และสงบเย็นจะปรากฏข้ึนในใจ ใจกับธรรมท่ีเคยแยก เป็นคนละส่วนกัน จะกลายเป็นใจกับธรรมที่ผสมผสานเป็นอันหน่ึงอัน เดยี วกัน การฟังเทศน์จากครูอาจารย์ท่ีเคยฟังผ่านเพียงโสตวิญญาณ จะ กลายเปน็ การฟ งั ธ รรมท ก่ี ารฟ งั น น้ั ส มั ผสั ล งส มู่ โนว ญิ ญาณส ามารถเขา้ ถ งึ ความร้สู ึกข องใจอย่างแทจ้ รงิ luangpordu.com
๑๓๐ 130 ๗๓ ป าฏิหารยิ ์ ขา้ พเจา้ ข ออ นญุ าตเขยี นเรอื่ งน ้ี เพอ่ื ท ที่ า่ นผ อู้ า่ นจ ะไดม้ คี วามเขา้ ใจ ในวิธีการสอนของหลวงปู่ดู่มากย่ิงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของ “ปาฏิหาริย์” ที่คนส่วนใหญ่เข้าใจกันแต่เพียงความหมายของ “อิทธิ- ปาฏิหาริย์” และเหมารวมว่าเป็นสิ่งเดียวกัน ซ่ึงเป็นความเข้าใจที่ไม่ ถูกต้อง เท่าท่ีข้าพเจ้าได้ยินได้ฟังจากเพื่อนหมู่คณะและท่ีประสบด้วย ตนเอง จึงเชื่อเหลือเกินว่าศิษย์หลวงปู่หลายๆ ท่านเคยมีประสบการณ์ และเหน็ ช ดั ด ว้ ยต นเองม าแ ลว้ ในพ ระพทุ ธศ าสนาน ้ี พ ระพทุ ธเจา้ ท า่ นส อน เรือ่ งป าฏหิ ารยิ ์ไว้มี๓ อยา่ งคอื ๑.อ ทิ ธปิ าฏหิ ารยิ ์ ค อื ป าฏหิ ารยิ ใ์ นเรอ่ื งก ารแ สดงฤ ทธิ์ แ สดงค วาม เป็นผวู้ เิ ศษดลบนั ดาลส ่งิ ต า่ งๆเหาะเหนิ เดินอ ากาศน ริ มิตก ายใหเ้ ปน็ หลายค นได้ม ีห ูทพิ ย์ ต าท ิพย์เปน็ ต้น ๒ .อ าเทศน าปาฏิหารยิ ์ คอื การทายใจท ายค วามร้สู ึกในใจทาย ความคดิ ข องผ ้ถู กู ส อนได้ ๓.อนสุ าส นปี าฏิหาริย์ คอื คำส อนท่แี สดงความจริงให้ผ้ฟู ังร แู้ ละ เข้าใจมองเหน็ ความเปน็ จ ริงข องโลกใหผ้ ู้ฟงั ได้ป ฏบิ ตั ติ ามอ ย่างนี้ล ะเวน้ luangpordu.com
131 ๑๓๑ การป ฏบิ ตั อิ ยา่ งน นั้ แ ละย งั ส ามารถน ำไปป ระพฤตปิ ฏบิ ตั ติ ามจ นรเู้ หน็ ได้ ผลจรงิ ดว้ ยต นเอง ปาฏิหาริย์ทั้ง ๓ อย่างน้ี พระพุทธเจ้าไม่ทรงสรรเสริญ ๒ อย่าง แรกคืออ ทิ ธปิ าฏิหาริย์ แ ละอ าเทศนาปาฏิหาริย์ ห ากแสดงเพยี งอยา่ ง ใดอ ยา่ งห นง่ึ แ ละไมน่ ำไปส อู่ นสุ าสนปี าฏหิ ารยิ ซ์ ง่ึ เปน็ ป าฏหิ ารยิ ท์ พ่ี ระองค์ ทรงสรรเสรญิ ม ากท ี่สดุ ใน เกว ฏั ฏสตู ร ไดเ้ ล่าถงึ ค ร้ังพ ทุ ธกาลมีชาวบ้านท ่เี มืองน าล ันทา ชื่อ เกวัฏฏะ ได้กราบทูลพระพุทธเจ้า ขออนุญาตให้พระภิกษุรูปหนึ่ง กระทำอิทธิปาฏิหาริย์ เพ่ือให้ชาวเมืองนาลันทาเลื่อมใสในพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าทรงตอบเกวัฏฏะสรุปได้ความว่า ทรงรังเกียจปาฏิหาริย์ ประเภทฤทธ์ิ เน่อื งจากปาฏหิ ารยิ ์ป ระเภทฤทธ์ิ แม้จะมฤี ทธ์มิ ากมายแ ต่ ก็ไม่อาจทำให้ผู้ถูกสอนรู้ความจริงในส่ิงท้ังหลาย ไม่สามารถแก้ข้อสงสัย ในใจตนได้ เมื่อแสดงแล้วผู้ได้พบเห็นหรือได้ยินได้ฟังก็จะงง ดูเหมือน ผทู้ แี่ สดงจะเกง่ ฝา่ ยเดยี ว ในขณะทผ่ี ถู้ กู ส อนก ย็ งั ม คี วามไมร่ อู้ ยเู่ หมอื นเดมิ สว่ นอนสุ าสนปี าฏหิ ารยิ ์นนั้ จ ะท ำใหผ้ ฟู้ งั เกดิ ป ญั ญาไดร้ คู้ วามจ รงิ ไมต่ อ้ ง มัวพ ่งึ พาผู้ที่แสดงปาฏหิ ารยิ ์แตจ่ ะส ามารถพ ่ึงพาตนเองได้ เหตุผลอีกประการหน่ึง คือหากชาวพุทธมัวแต่ยกย่องผู้มีอิทธิ- ปาฏิหาริย์แล้วอาจทำให้เสียหลักศาสนาได้ เน่ืองจากพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ แต่ไม่มีอิทธิปาฏิหาริย์ซ่ึงมีอยู่เป็นจำนวนมาก จะไม่ได้รับ การบำรุงจากชาวบ้าน แต่ผู้ท่ีไม่มีคุณธรรมเป็นสาระแก่นสาร หากแต่มี luangpordu.com
๑๓๒ 132 อิทธิปาฏิหาริย์ จะม ผี ้คู นศ รัทธาใหค้ วามเคารพน บั ถอื แ ทน อย่างไรก็ตามพระพุทธเจ้าก็มิได้ทรงละการทำฤทธ์ิและดักทายใจ ถ้าเราได้ศึกษาพุทธประวัติในบทสวดพาหุงฯ จะพบว่าพระองค์ทรงใช้ ฤทธปิ์ ราบเชน่ เรอ่ื งพระองคลุ มิ าลหรอื ท รงใชฤ้ ทธปิ์ ราบฤ ทธิ์ เช่นเรอ่ื ง ปราบพ ญานาคท ชี่ ือ่ นนั โทป นันทะห รอื เร่อื งป ราบทฏิ ฐิ ทา้ วพกาพรหม เม่ือปราบเสร็จก็เข้าสู่อนุศาสนีปาฏิหาริย์ คือ ทรงแสดงคำสอนที่ทำให้ เห็นหลักความเป็นจริงซ่ึงเมื่อผู้ใดปฏิบัติตามก็ย่อมจะพบความจริงแห่ง ความพ้นทกุ ข์ หลวงปดู่ ทู่ า่ นก ไ็ ดด้ ำเนนิ ต ามพ ทุ ธว ธิ กี ารส อนน เ้ี ชน่ ก นั ข า้ พเจา้ แ ละ เพือ่ นห มคู่ ณะห ลายท า่ นข อเป็นป ระจักษ์พยานในร ะยะแ รกทข่ี ้าพเจ้าได้ มาว ดั ส ะแกแ ละพ บก บั เหตกุ ารณต์ า่ งๆท เ่ี รยี กก นั ว า่ “ ป าฏหิ ารยิ ”์ อ นั เกย่ี ว เน่ืองกับหลวงปู่ดู่นี้ ข้าพเจ้ารู้สึกแปลกใจและงุนงงกับเร่ืองราวท่ีเกิดขึ้น ต่อมาเมื่อได้ศึกษาคำสอนของครูบาอาจารย์มากขึ้น จึงเร่ิมมีความเข้าใจ ท่ีถกู และเรมิ่ ร วู้ า่ หลวงปูต่ อ้ งการจะส อนอะไรก บั เรา การเรียนธ รรมะการฟ ังธ รรมะของผู้เรม่ิ ส นใจศ กึ ษาหลายๆท า่ น เปรยี บเสมอื นก ารก นิ ย าข มห ลวงปจู่ งึ ไดใ้ ชก้ ศุ โลบายน ำเอา“ ป าฏหิ ารยิ ”์ ทง้ั สามอ ยา่ งม าใชก้ ับศิษย์ประกอบก ันจ งึ สำเร็จประโยชน์ดว้ ยดี เหมอื นก บั ท า่ นใหเ้ ราท านย าข มท เี่ คลอื บด ว้ ยข นมห วานเอาไว้ เมอ่ื ทกุ ค นต ระหนกั แ ละเขา้ ใจในค ณุ ป ระโยชนข์ องย าข มด แี ลว้ ข นมห วานน นั้ ก็จะหมดความห มายไป luangpordu.com
133 ๑๓๓ ๗ ๔ เร่อื งบังเอญิ ท่ีไมบ่ งั เอญิ ในช วี ติ ข องเราท กุ ๆ ค นค งเคยไดผ้ า่ นเหตกุ ารณต์ า่ งๆห ลากห ลาย รสแ ละในบ รรดาเหตกุ ารณห์ ลายเรอ่ื งท ผี่ า่ นไปน น้ั ค งม บี างเรอ่ื งท เ่ี ราเคย มีความร ู้สึกว ่า...ชา่ งบ งั เอิญเสียจ รงิ ๆ คำวา่ “บ ังเอญิ ”นสี้ ำหรบั น ักปฏิบัติภาวนาแล้วด เู หมือนจะข ดั กบั “หลักค วามจรงิ ”ตามค ำส อนข องพ ระพทุ ธเจา้ ข องเราดงั เรือ่ งทข่ี า้ พเจา้ ขอยกมาเปน็ ตัวอยา่ งน ้ี ภายหลังที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ และได้แสดงธรรมโปรดฤๅษีท้ัง ๕ หรอื ป ญั จวคั คยี ์ จ นไดบ้ รรลธุ รรมเปน็ พระอรห นั ต แ์ ลว้ ว นั ห นง่ึ พ ระอสั ส ชิ หน่ึงในปัญจวัคคีย์ได้เข้าไปบิณฑบาตในเมือง ยังมีปริพาชกหรือนักบวช นอกพ ุทธศาสนาร ปู ห น่งึ ช ือ่ อ ุปต สิ สะเดินม าพบพ ระอ สั ส ชิเขา้ ได้แลเหน็ ทา่ ทางอันส งบนา่ เลือ่ มใสจ ึงเข้าไปถามท่านว ่า “ใครเปน็ ศ าสดาของทา่ นศ าสดาของท ่านส อนว า่ อย่างไร” พระอัสสชิตอ บว า่ “เยธัมม าเหตุปัปภะวาเตสงั เหตุ ต ถาคะโตเตสัญจะโยนิโรโธ จะ เอวงั วาที ม หาสะมะโณ” luangpordu.com
๑๓๔ 134 แปลไดค้ วามว่า“ ธ รรมท ้ังหลายเกิดจ ากเหตุถ า้ ตอ้ งการด ับตอ้ ง ดับเหตุก่อนพ ระพทุ ธอ งคท์ รงสอนอ ย่างน ี้” อปุ ต สิ ส ะเมอื่ ไดย้ ินค ำต อบก ็เกดิ ความแจง้ ในจ ติ จ นได้บรรลุธรรม เบื้องต้นในที่น้ันเอง และขอเข้าบวชกับพระพุทธเจ้าต่อมาท่านได้บรรลุ ธรรมเปน็ พ ระอ รห นั ต ์ เปน็ พ ระอ คั รส าวกเบอ้ื งข วาท เี่ รารจู้ กั ก นั ในน ามของ พระส าร ีบ ุตรนั่นเอง พระพทุ ธศ าสนาเปน็ ศ าสนาท ว่ี า่ ด ว้ ยเหตกุ บั ผ ลผ ลย อ่ มเกดิ แ ตเ่ หตุ เทา่ นน้ั จะเกิดข ้นึ ลอยๆไม่ได้ หลวงปูเ่ คยบ อกขา้ พเจ้าว า่ “ถ้าเรามีญาณหย่ังรู้ ทุกส่ิงทุกอย่างท่ีเกิดในชีวิตเรา ไม่มีเร่ือง บงั เอิญเลย” ผู้ปฏิบัติภาวนาต้องให้ความสำคัญท่ีเหตุ มากกว่าให้ความสำคัญ ที่ผลจึงข อใหต้ งั้ ใจสร้างแต่เหตุทด่ี ๆี เพอ่ื ผ ลท ดี่ ีในวนั พรงุ่ น ้ี และตอ่ ๆไป luangpordu.com
135 ๑๓๕ ๗ ๕ คลืน่ ก ระทบฝงั่ ข้าพเจ้าขอเล่าเหตุการณ์หนึ่งซึ่งเกิดขึ้นเม่ือต้นปี ๒๕๔๐ มาน้ี ท่ีข้าพเจ้าเชื่อว่าหลวงปู่ดู่ท่านเมตตามาโปรด โดยเฉลยปัญหาข้อขัดข้อง ใจในก ารป ฏบิ ตั ิธรรมข องข ้าพเจ้า เรื่องม อี ยวู่ า่ ในร ะหวา่ งน ั้นข้าพเจา้ มีข้อขัดขอ้ งในการป ฏบิ ัตวิ ่าจะ มีอุบายวิธีอย่างไรจึงจะสามารถควบคุมอารมณ์ ควบคุมจิตใจของเราให้ เป็นไปในท างทีเ่ ราตอ้ งการได้ในค นื น้ันขณะทีข่ า้ พเจ้าเดินจ งกรมภาวนา เม่ือใจเกิดความสงบดีแล้ว ข้าพเจ้ารู้สึกเหมือนได้ยินเสียงหลวงปู่ดู่บอก ข้าพเจ้าว่า คำตอบที่ข้าพเจ้าต้องการน้ันอยู่ในหนังสือ “อุปลมณี” ซึ่ง เปน็ ห นงั สอื เรอ่ื งราวช วี ติ แ ละก ารป ฏบิ ตั ธิ รรมต ลอดจ นรวมธ รรมะ คำส อน ของท า่ นพ ระโพธญิ าณเถระห รอื ห ลวงปชู่ าส ภุ ทั โทว ดั ห นองป า่ พ งอ ำเภอ วารินชำราบจังหวดั อบุ ลราชธานีขา้ พเจ้าจึงเดินไปท ีต่ ูห้ นงั สือและหยิบ เอาหนังสืออุปลมณีมาพลิกดู เป็นท่ีอัศจรรย์สำหรับข้าพเจ้าว่า หนังสือ อุปล มณี ซง่ึ เปน็ ห นังสอื เล่มโตม ีค วามห นาถงึ ๕๘๕ห นา้ ข ้าพเจา้ พ ลกิ ดูเพยี งส องสามหน้าก บ็ ังเกดิ ความปตี ขิ นลกุ ขนช นั เนอ่ื งจากไดพ้ บกบั เรอ่ื งท่ี ตอ้ งการในหน้า๒๗๖ม ใีจความวา่ luangpordu.com
๑๓๖ 136 “ธรรมอ ุปมา” การอุปมาเป็นวิธีการสอนธรรมะที่ดูเหมือนหลวงปู่ชอบมากท่ีสุด และเปน็ ว ธิ ที ที่ า่ นถ นดั ม ากท ส่ี ดุ ด ว้ ยท า่ นย กเอาธ รรมชาตริ อบด า้ นเขา้ ก บั สภาวะเขา้ ก บั ป ญั หาถ กู ก บั จ รติ น สิ ยั ข องค นน น้ั อ ปุ มาอ ปุ ไมยป ระกอบก าร สอนธ รรมะจ งึ ท ำใหผ้ ฟู้ งั เกดิ ภ าพพจนต์ ามไปด ว้ ยท ำใหผ้ ฟู้ งั ส ามารถม อง ปัญหาได้อย่างทะลุปรุโปร่ง หมดความสงสัยในหลักธรรมที่นำมาแสดง ตัวอย่างก ารอุปมาของหลวงปู่ ไดแ้ ก่ “การทำกรรมฐาน ทำเหมือนระฆังใบนี้ ระฆังน้ีตั้งไว้เฉยๆ เสียง ไม่มีนะ สงบ สงบจากเสียง เมื่อมีเหตุกระทบข้ึนมา (หลวงปู่ตีระฆังดัง ๑ ที)เหน็ ไหมเสยี งม ันเกิดข นึ้ มานักป ฏิบัติเป็นค นม กั น้อยอยา่ งน้ันเม่ือ มีปัญหาเกดิ ข นึ้ มาแ ก้ไขทนั ท ่วงที เลยชนะดว้ ยป ญั ญาของเราแ ก้ป ญั หา แล้วก็สงบตัวข องเราเหมือนระฆังน้ี” “ เหมอื นก บั ค ลนื่ ในท ะเลท กี่ ระทบฝ งั่ เมอื่ ข นึ้ ม าถ งึ แ คฝ่ งั่ ม นั ก ส็ ลาย เท่านั้น คลื่นใหม่มาก็ต่อไปอีก มันจะเลยฝ่ังไปไม่ได้ อารมณ์มันจะเลย ความรู้ของเราไปไม่ได้เหมือนกันเร่ืองอนิจจังทุกขังอนัตตา จะพบกัน ท่ีตรงนั้น มันจะแตกร้าวอยู่ที่ตรงนั้น มันจะหายก็อยู่ตรงนั้น เห็นว่า อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา คือ ฝั่งทะเลอารมณ์ท้ังหลายผ่านเข้ามาเหมือน คลนื่ ทะเล” ขณะน นั้ เปน็ เวลาด กึ ม ากแ ลว้ ข า้ พเจา้ ค ดิ ว า่ ส มควรแ กเ่ วลาพ กั ผ อ่ น จงึ ไดข้ น้ึ ม าท ห่ี อ้ งนอนท ต่ี หู้ วั เตยี งม หี นงั สอื อ ยหู่ ลายเลม่ แ ตเ่ หมอื นมสี ง่ิ ใด luangpordu.com
137 ๑๓๗ ดลใจใหข้ า้ พเจา้ หยบิ ห นงั สอื เลม่ ห นง่ึ ข น้ึ มาชอ่ื “ พทุ ธทาสสวนโมกขพ ลาราม กำลงั แหง่ การหลดุ พ น้ ”เป็นห นงั สือข นาดพ อๆกับอปุ ลมณี ซ่งึ รวมค ำสอน ของท่านพทุ ธทาสภ ิกขุไวม้ เี นื้อหา๓๕๖ห นา้ แ ละมคี วามห นาถ งึ ห นง่ึ นิว้ ขา้ พเจา้ เปดิ หนังสอื พลิกดู๒-๓ หน้าก ็บังเกิดความป ีตจิ นข นลุกข นช นั อกี ค รง้ั เนอ่ื งจากไดพ้ บก บั ธ รรมอ ปุ มาในเรอื่ งค ลน่ื ก ระทบฝ ง่ั ซ ง่ึ เปน็ เรอ่ื ง เดยี วกันอกี ค ดั ลอกจ ากเทปบนั ทึกเสยี งท่านพทุ ธท าสภกิ ขุซง่ึ อย่ใู นห น้า ๑๔๖ม ใีจความว า่ “หลกั ปฏิบตั เิ กย่ี วก ับพลังงานท างเพศ” มันเป็นไปโดยอัตโนมัติ ไม่ได้มีแผนการคือ เราทำงานท่ีเราชอบ หามรุ่งหามค ่ำแล้วพ ลงั งานท เ่ี หลือท ีร่ ุนแรงท างน ้ันมนั ก็ลดมนั ก็ห มดไป แรงกระตุ้นอยากมีชื่อเสียง อยากให้มีประโยชน์แก่ผู้อ่ืนท่ีเขาคอยรอผล งานข องเราอ ันน ม้ี ันม มี ากก วา่ น กี่ เ็ลยท ำเสยี จนห มดแรงพอเพลยี ก็หลับ ไปพ อตื่นขึ้นม ากท็ ำอกี ไม่มโีอกาสใช้แ รงไปทางเพศต รงก ันข ้ามเราไม่ได้ เจตนาโดยตรงมันเปน็ ไปเอง เหตุการณม์ ันบังคับให้เป็นไปเองค อื เราห า อะไรทำให้มันงว่ นอ ยูก่ บั งาน พอใจในงานเป็นสุขในงานม ันก ็ซบั บลเี มท (sublimate หมายถึง กลั่นกรอง ทำให้บริสุทธิ์ - ผู้เขียน) ของมันเอง เอาแรงทางเพศมาใช้ทางสติปัญญา เอาแรงงานกิเลสมาใช้เป็นเร่ืองของ สตปิ ัญญาต อ้ งม งี านอนั หนึง่ ซ ่งึ พ อใจห ลงใหลขนาดเป็นน างฟา้ เหมอื น กบั เรยี นพ ระไตรป ิฎกต อ้ งห ลงใหลขนาดนางฟา้ ค วามร ้สู กึ ท างเพศม ันก็ ตอ้ งเกิดแต่วา่ ความร ู้สกึ ท างน ้ี (ความคิดท ่จี ะเปน็ ป ระโยชนแ์ กส่ ่วนร วม) luangpordu.com
๑๓๘ 138 เหมอื นก บั ส ง่ิ ต า้ นทานเชน่ ว า่ ค ลน่ื ก บั ฝ ง่ั ค ลน่ื ม นั ก แ็ รงเหมอื นก นั แ ตว่ า่ ฝง่ั มนั แขง็ แ รงพ อจ ะร บั (ห ัวเราะ) ถาม -ว ิกฤตแบบจ วนเจยี นจ ะไปไม่ไปต ัดสนิ ใจอ ยา่ งไร น่ันมันเร่ืองคิดฝัน เวลามันช่วยได้หรือว่าไม่รู้ไม่ชี้ (หัวเราะ) มัน ชว่ ยได้ มันเหมือนกบั คลื่นก ระทบฝ งั่ พอพ้นส มยั พ ้นเวลามนั ก็ไมร่ ้หู าย ไปไหนแ ตส่ รปุ แลว้ ม ันต้องทำงานพอถึงเวลาเข้ามันต อ้ งท ำงานม นั รกั งานอยู่ไปทำงานเสยี ค วามค ิดฝ ันน น่ั ก ็ค ่อยๆ ซ าไปๆมนั ไปสนกุ ในงาน ข้าพเจ้าได้มาพิจารณาแล้ว เห็นว่าเร่ืองนี้เป็นอุปมาธรรมที่มี ประโยชน์มากหากไมบ่ ันทึกไวเ้ ปน็ หลักฐานก ็เกรงว า่ ตนเองจะห ลงลมื ใน ภายห ลงั แ ละจ ะไมเ่ กดิ ประโยชน์อะไรห ากไมน่ อ้ มนำม าพ จิ ารณาบอ่ ยๆ เรื่องค ล่ืนกระทบฝ ั่งนี้จ งึ ก ลายเปน็ เรอ่ื งบ ังเอิญที่ไมบ่ งั เอญิ ท ขี่ ้าพเจา้ ได้ “ประสบ”อ ีกเร่อื งห นง่ึ luangpordu.com
139 ๑๓๙ ๗๖ ห ลวงปบู่ อกข อ้ สอบ ในราวป ีพ.ศ .๒ ๕๒๗-๒ ๕๒๘สมัยทีข่ า้ พเจ้ายังเปน็ น ักศกึ ษาอ ยู่ ท่ีคณะพาณชิ ย ศ าสตร์และการบัญชี ม หาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ ห ลวงปดู่ ู่ ท่านเคยบอกข้อสอบให้ข้าพเจ้าทราบล่วงหน้าและช่วยเหลือข้าพเจ้าใน การทำขอ้ สอบเท่าท ่ีข้าพเจา้ จำความได้ถ ึง๕ว ชิ าด ว้ ยกนั ข้าพเจ้าจะขอเล่าเฉพาะวันท่ีหลวงปู่บอกข้อสอบ วิชาท่ีอาจารย์ ฉายศ ิลป์เชย่ี วชาญพ ิพัฒน์ เปน็ ผ ู้สอนค ือ ว ชิ าแ รงงานสมั พนั ธ์คนื วนั น้นั เวลาป ระมาณ๓ ท มุ่ ก อ่ นว นั ส อบ๑ ว นั ข า้ พเจา้ น ง่ั อ า่ นต ำราแ ละท บทวน ความรู้ที่อาจารย์ได้สอนมาตลอดเทอม ขณะที่ข้าพเจ้ากำลังมีสมาธิกับ ตำราท่ีอยู่เบื้องหน้า ข้าพเจ้ารู้สึกเย็นวาบขึ้นที่ใจพร้อมกับมีเสียงบอก ข้าพเจ้าว่า“พระธาตุหลวงปู่ทวดเสด็จ” ข้าพเจ้าหันหลังกลับไปมองท่ี โตะ๊ หมูบ่ ูชาในห ้องทนั ทแี ละเกดิ ความสงสัยว ่าพระธ าตเุ สดจ็ ม าแล้วท า่ น อยู่ทไ่ี หนล ่ะ...อ ย่ทู ีก่ ระถางธ ูปเสียงต อบข ้าพเจ้า ข า้ พเจา้ ห ยดุ อ า่ นห นงั สอื เดนิ ต รงม ายงั โตะ๊ ห มบู่ ชู าส ายตาห ยดุ อ ยู่ ที่กระถางธูปใบน้อย...แล้วข้าพเจ้าจะทราบได้อย่างไรล่ะ ว่าอันไหนเป็น เม็ดก รวดเม็ดทรายอ ันไหนเป็นพ ระธ าตุ แ ตแ่ ลว้ ขา้ พเจ้าก ็ม องเห็นองค์ luangpordu.com
๑๔๐ 140 พระธาตสุ นี ำ้ ตาลเกือบดำมีสัณฐานคอ่ นข า้ งก ลมขนาดเลก็ มากเหมอื น ไขป่ ลาข้าพเจา้ จึงแยกออกม าจากกระถางธูปเพื่อนำม าบ ูชา จากน น้ั ข า้ พเจา้ ไดม้ าน ง่ั อ า่ นห นงั สอื ต อ่ ส กั ค รกู่ ม็ คี วามร สู้ กึ เหมอื น มีคนบอกให้ข้าพเจ้าเขียนจดหมายวิจารณ์การสอนของอาจารย์ผู้สอน ข้าพเจ้าก เ็ ลยนึกส นกุ ข้ึนมาน ัง่ เขียนจดหมายอยา่ งเอาจริงเอาจ ังแทนที่ จะน งั่ อ า่ นห นงั สอื เขยี นเสรจ็ ก พ็ บั ใสซ่ องต งั้ ใจไวว้ า่ ว นั ร งุ่ ข นึ้ เมอื่ ส อบเสรจ็ จะน ำไปมอบใหอ้ าจารย์ท ่หี ้องพกั ข องท่าน วันรุ่งขึ้นเป็นวันสอบ เมื่อข้าพเจ้าได้เห็นข้อสอบซ่ึงเป็นข้อสอบ บรรยายเสยี ส ว่ นใหญ่ขา้ พเจา้ ต อ้ งแ ปลกใจท ห่ี นง่ึ ในข อ้ สอบบ รรยายข อ้ ใหญ่ น้นั ใหว้ ิจารณ์การเรยี นก ารส อนข องอาจารยฯ์ ในตอนแรกข้าพเจ้าก็ไม่ค่อยจะแน่ใจตนเองเท่าใดนัก ว่าเราคิด เอาเองหรอื เปล่าเปน็ เรื่องบ ังเอญิ ห รอื ไม่ เรอ่ื งพ ระธ าตเุ สดจ็ ห ลวงปบู่ อกข อ้ สอบข า้ พเจา้ เชอ่ื ว า่ ห ากเปน็ ค น อื่นก็คงไม่แน่ใจตนเองเหมือนกัน แต่ในท่ีสุดก็มีเรื่องที่ยืนยันให้ข้าพเจ้า แนใ่ จว า่ เปน็ เรอ่ื งจ รงิ เพราะเหตกุ ารณเ์ กดิ ซ ำ้ รอยเดมิ ห ากเปน็ เรอื่ งบ งั เอญิ คงไม่สามารถเกิดเร่ืองทำนองเดียวกันได้หลายครั้ง หลวงปู่บอกข้อสอบ ขา้ พเจา้ อกี เปน็ ครง้ั ท ี่๒ค ร้งั ท ่ี๓และครั้งท ่ี๔ตา่ งก รรมต่างว าระกัน จนผลการสอบข องข ้าพเจา้ อ อกม าได้เกรดเอห ลายวิชา ข้าพเจ้าได้พิจารณาดูแล้ว คิดว่าเรื่องนี้หลวงปู่ต้องการสอนอะไร บางอย่างให้แก่ข้าพเจ้า คงมิใช่เพียงแค่การบอกข้อสอบและก็คงมิใช่เอา luangpordu.com
141 ๑๔๑ ไว้ใหข้ ้าพเจ้าน ำมาเล่าให้หมูค่ ณะฟงั เท่านนั้ ปริศนาธรรมจากนิมิตคร้ังนี้ จะจริงหรือเท็จประการใด พระธาตุ เสด็จม าจ ริงหรือไม่ หรอื ห ลวงปู่บ อกข อ้ สอบจ ริงหรอื ไม่ ส ำหรบั ขา้ พเจ้า แล้วถือว่าเป็นปาฏิหาริย์ที่หลวงปู่เมตตาให้บทเรียนบทต่อมากับข้าพเจ้า เป็นบทเรียนที่นำไปสู่ อนุสาสนีปาฏิหาริย์ ให้ข้าพเจ้าได้มีความเข้าใจ ในธรรมมากข ้นึ และเปน็ ส มั มาทิฏฐิ มากขึ้นในเวลาต่อม า luangpordu.com
๑๔๒ 142 ๗๗ ตวั ป ระมาท หลังจากที่หลวงปู่ได้บอกข้อสอบให้ข้าพเจ้าทราบครั้งแรกแล้ว ท่านก็ได้ชว่ ยขา้ พเจ้าท ำข อ้ สอบอกี เปน็ คร้ังท ่ี ๒ท ่ที ่านช่วยเหลอื ข ้าพเจ้า คราวนี้เป็นวิชา พบ. ๒๘๓ วิชาการบริหารงานผลิตซ่ึงมีอาจารย์ผู้สอน หลายท่านข้อสอบมีหลายลักษณะทั้งบรรยายเติมคำ ให้กากบาทหน้า ข้อทถี่ กู ต ้องท ่ีสดุ ฯลฯ ห ลวงปดู่ ทู่ า่ นเคยส อนว ธิ ที ำข อ้ สอบแ บบป รนยั (ใหก้ ากบาทห นา้ ข อ้ ทถ่ี กู ต อ้ งท ส่ี ดุ )ใหข้ า้ พเจา้ ว า่ เวลาท เ่ี ราไมแ่ นใ่ จแ ทนทเ่ี ราจ ะเดาส มุ่ ห รอื ท ี่ เรยี กว า่ ก าส ง่ เดชเราจ ะไมท่ ำอ ยา่ งน น้ั ห ลวงปทู่ า่ นส อนใหข้ า้ พเจา้ ห ลบั ตา และนกึ ถึงหลวงปทู่ วด(หลวงปู่ทวดเหยยี บน้ำท ะเลจ ืด)แ ลว้ กร าบเรยี น ถามท า่ น ขณะท่ีอยู่ในห้องสอบ เมื่อข้าพเจ้าทำข้อสอบเสร็จ แต่เวลายัง ไม่หมด และยังมีข้อสอบประเภทกากบาทเหลืออีกประมาณ ๑๐ ข้อท่ี ขา้ พเจา้ ไมแ่ นใ่ จข า้ พเจา้ ไมร่ อช า้ น กึ ถงึ ท ห่ี ลวงปสู่ อนท นั ที ค อ่ ยๆ พ จิ ารณา ทีละข้อห ากขอ้ ใดถกู ต้องเมอ่ื ข า้ พเจา้ เอาป ากกาจ ิม้ ไปท ี่ตวั เลือกจ ะเกดิ เป็นแสงสว่างข ึน้ ทันทีแ ตถ่ ้าไมถ่ กู ต้องก ็จะม ดื แ ละไมม่ ีแ สงส ว่าง luangpordu.com
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256