หน้า 251 รายวิชาเพิม่ เตมิ ว32287 การออกแบบและเทคโนโลยี 2 กลุ่มสาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 20 ชั่วโมง จํานวน 0.5 หน่วยกิต ----------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษา และวิเคราะห์สถานการณ์ หรือความต้องการที่คํานึงถึงผู้ใช้ด้วยการคิดเชิงออกแบบและค วามรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และศาสตร์อื่น ๆ เพื่อทําความเข้าใจปัญหาอย่างลึกซึ้ง และรอบด้าน เพื่อพัฒนาวิธีการแก้ปัญหาที่ตรงความต้องการ พัฒนาโครงงานเพื่อแก้ปัญหาจากสถานการณ์ที่ตนเอง สนใจโดยใช้กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม ศึกษาการพัฒนาผลงาน การสร้างประโยชน์จากผลงาน และการค้มุ ครองทรัพยส์ นิ ทางปญั ญา เพื่อนําความรู้ไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาหรือสร้างประโยชน์จากผลงานของตนเอง และเผยแพร่ ประชาสัมพนั ธ์ผลงานของตนเองให้เปน็ ท่รี ูจ้ กั และก่อใหเ้ กดิ ประโยชน์ ผลการเรียนรู้ 1. สามารถวิเคราะห์สถานการณห์ รือความตอ้ งการท่ีคํานงึ ถึงผใู้ ช้ดว้ ยการคิดเชิงออกแบบได้ 2. สามารถพัฒนาวธิ กี ารแก้ปัญหาทตี่ รงความต้องการได้ 3. สามารถพฒั นาโครงงานเพอ่ื แกป้ ญั หาจากสถานการณ์ทต่ี นเองสนใจโดยใชก้ ระบวนการ ออกแบบเชงิ วศิ วกรรม 4. สามารถศึกษาการพฒั นาผลงาน การสร้างประโยชน์จากผลงาน และการคุม้ ครองทรัพย์สินทาง ปญั ญาเพอ่ื นาํ ความรไู้ ปประยกุ ตใ์ ช้ 5. เผยแพร่ประชาสัมพันธผ์ ลงานของตนเองให้เป็นท่ีรจู้ กั และกอ่ ให้เกดิ ประโยชน์ รวมทั้งหมด 5 ผลการเรียนรู้ หลักสตู รกลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี : โรงเรียนหารเทารังสีประชาสรรค์
หนา้ 252 รายวิชาเพมิ่ เติม ว32289 เทคโนโลยี (วทิ ยาการคาํ นวณ) 2 กล่มุ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 40 ชัว่ โมง จํานวน 1.0 หนว่ ยกติ ----------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาหลักการของวิทยาการข้อมูลและหลักการคิดเชิงออกแบบ เพื่อเพ่ิมมูลค่าให้บริการหรือ ผลิตภัณฑ์ วิธีการเก็บข้อมูลและเตรียมข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูล การประมวลผลข้อมูล เคร่ืองมือทาง เทคโนโลยีสารสนเทศที่ใช้ในการประมวลผลข้อมูล การจัดเก็บข้อมูล การนําเสนอข้อมูล การแปลงข้อมูล ใหเ้ ป็นภาพการเลือกใช้ขอ้ มลู จากฐานข้อมลู ขนาดใหญ่ การใช้ประโยชน์จากข้อมลู และตัวอย่างกรณีศกึ ษา ผลการเรยี นรู้ 1. สามารถวิเคราะหห์ ลกั การของวิทยาการขอ้ มูลและหลักการคิดเชิงออกแบบเพ่ือเพมิ่ มูลค่า ใหบ้ รกิ ารหรือผลิตภัณฑ์ได้ 2. สามารถทาํ การเก็บขอ้ มลู และเตรยี มข้อมลู การวิเคราะห์ขอ้ มลู การประมวลผลขอ้ มลู ได้ 3. สามารถนาํ เสนอขอ้ มลู การแปลงขอ้ มลู ใหเ้ ป็นภาพการเลือกใช้ข้อมลู จากฐานขอ้ มูลขนาด ใหญ่ รวมทง้ั หมด 3 ผลการเรยี นรู้ หลักสูตรกลุม่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี : โรงเรียนหารเทารงั สปี ระชาสรรค์
หนา้ 253 รายวชิ าเพ่มิ เตมิ ว33290 เทคโนโลยี (วทิ ยาการคํานวณ) 3 กลุ่มสาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 40 ชวั่ โมง จํานวน 1.0 หน่วยกติ ----------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาการใช้เทคโนโลยีในการนําเสนอและแบ่งปันข้อมูลอย่างปลอดภัยและมีจริยธรรม การสร้าง ช้ินงานและ เผยแพร่ผ่านส่ือต่างๆ ท่ีคํานึงถึงจริยธรรม ลิขสิทธ์ิทรัพย์สินทางปัญญาและกฎหมาย หลักการ ของปัญญาประดิษฐ์ และเทคโนโลยีในอนาคต กรณีศึกษาเก่ียวกับนวัตกรรมหรือเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับ ชีวิตประจําวัน อาชีพที่เก่ียวข้องกับงานทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ตัวอย่างผลกระทบของเทคโนโลยี สารสนเทศ ผลการเรียนรู้ 1. สามารถใชเ้ ทคโนโลยีในการนําเสนอและแบง่ ปนั ขอ้ มลู อยา่ งปลอดภยั และมีจริยธรรมได้ 2. สามารถสรา้ งชิน้ งานและ เผยแพร่ผ่านสือ่ ตา่ ง ๆ ท่คี าํ นึงถึงจรยิ ธรรม ลิขสทิ ธิท์ รัพย์สินทาง ปญั ญาและกฎหมายได้ 3. สามารถอธบิ ายหลกั การของปญั ญาประดษิ ฐ์ และเทคโนโลยใี นอนาคต กรณศี ึกษาเกีย่ วกบั นวัตกรรมหรือเทคโนโลยีที่เกย่ี วขอ้ งกับชีวติ ประจาํ วัน อาชพี ที่เก่ยี วข้องกบั งานทางดา้ น เทคโนโลยีสารสนเทศได้ 4. สามารถยกตวั อยา่ งตวั อย่างผลกระทบของเทคโนโลยสี ารสนเทศได้ รวมท้งั หมด 4 ผลการเรียนรู้ หลักสูตรกลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี : โรงเรยี นหารเทารังสีประชาสรรค์
หนา้ 254 ว31247 ชวี วิทยาเสริมทักษะความรู้ (สายศลิ ป์-ทวั่ ไป) รายวิชาเพิม่ เติม กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 40 ชัว่ โมง จาํ นวน 1.0 หนว่ ยกิต ----------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาการค้นหาความรู้ทางด้านชีววิทยาของเซลล์ ลักษณะทางสรีรวิทยาของเซลล์ องค์ประกอบ ของเซลล์ ปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม การแบ่งเซลล์และการตายของเซลล์ จุลินทรีย์ส่ิงมีชีวิตท่ีมีขนาดเล็ก ได้แก่ แบคทีเรีย อาร์เคีย ไวรัส เช้ือราและยีสต์ เซลล์พืช โครงสร้าง การเจริญเติบโต การสืบพันธุ์ ความ หลากหลายของพืช ฮอร์โมนพืชและการเคล่ือนไหวของพืช ระบบในร่างกายมนุษย์ หน้าที่และความสัมพันธ์ ของระบบอวัยวะ ระบบประสาท ระบบภูมิคุ้มกัน ระบบต่อมไร้ท่อ ระบบหายใจ ระบบไหลเวียนโลหิต ระบบขับถ่ายและระบบย่อยอาหาร ยีน พันธุกรรมและการผันแปรของส่ิงมีชีวิต ในการศึกษาวิจัยสมัยใหม่ มีเครื่องมือท่ีสําคัญในการศึกษาหน้าท่ีของยีน ความสัมพันธ์ทางพันธุกรรมในส่ิงมีชีวิต ข้อมูลทางพันธุกรรม ความหลากหลายและการจัดจําแนกส่ิงมีชีวิต วิวัฒนาการของส่ิงมีชีวิต ความแปรผัน การสืบพันธ์ุและ การคัดเลือกระบบนิเวศ การกระจายและความหนาแน่นของสิ่งมีชีวิตรวมท้ังความสัมพันธ์ระหว่างส่ิงมีชีวิต กับสิ่งแวดลอ้ ม แนวทางในการป้องกันและแก้ไขปัญหา วางแผนและดําเนินการเฝ้าระวัง อนุรกั ษ์และพัฒนา สิ่งแวดลอ้ มและทรัพยากรธรรมชาติ โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสบื ค้นข้อมูล การสังเกต การวิเคราะห์ เปรียบเทียบ อธิบาย อภิปรายและสรุป เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจ มที ักษะปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์รวมท้ังทักษะกระบวนการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 ในด้านการใช้เทคโนโลยี สารสนเทศ ด้านการคิดและการแก้ปัญหา ด้านการสื่อสาร สามารถส่ือสารสิ่งที่เรียนรู้และนําความรู้ไปใช้ ในชีวิตของตน มีจิตวทิ ยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คณุ ธรรมและค่านยิ มที่เหมาะสม ผลการเรยี นรู้ 1. ศึกษา ค้นคว้าและอภปิ รายเก่ียวกับชีววิทยาของเซลล์ ลักษณะทางสรีรวทิ ยาของเซลลอ์ งค์ประกอบ ของเซลล์ ปฏิสมั พันธก์ บั สิง่ แวดลอ้ ม การแบ่งเซลล์และการตายของเซลล์ 2. ศกึ ษา ค้นควา้ อธบิ าย พร้อมทงั้ บอกประโยชน์และโทษของจุลนิ ทรียส์ ่งิ มชี วี ิตทีม่ ขี นาดเลก็ ไดแ้ ก่ แบคทเี รยี อาร์เคีย ไวรัส เชือ้ รา และยสี ต์ 3. ศึกษา คน้ ควา้ อธบิ ายและสรปุ เก่ียวกับเซลลพ์ ืช โครงสรา้ ง การเจริญเตบิ โต การสบื พนั ธ์ุ ความหลากหลายของพชื ฮอร์โมนพชื และการเคลื่อนไหวของพืช 4. ศึกษา คน้ คว้า อธิบายและสรุปเกี่ยวกบั ระบบในรา่ งกายมนษุ ย์ หน้าที่และความสัมพนั ธ์ของ ระบบอวยั วะ ระบบประสาท ระบบภูมคิ ุ้มกนั ระบบตอ่ มไรท้ อ่ ระบบหายใจ ระบบขบั ถา่ ย ระบบไหลเวียนโลหติ และระบบยอ่ ยอาหาร 5. ศึกษา ค้นคว้า อภิปรายและสรปุ เกี่ยวกับยนี พนั ธกุ รรมและการผันแปรของส่ิงมชี ีวิตใน การศึกษาวิจยั สมัยใหม่ มเี คร่ืองมือท่สี ําคญั ในการศกึ ษาหนา้ ท่ขี องยีน ความสมั พนั ธท์ าง พันธกุ รรมในสิ่งมีชีวติ ข้อมลู ทางพนั ธุกรรม 6. สํารวจ ตรวจสอบความหลากหลายในบริเวณโรงเรยี นและการจดั จาํ แนกส่ิงมีชวี ิต 7. ศกึ ษา ค้นควา้ อภปิ รายและสรปุ เก่ยี วกับวิวฒั นาการของสง่ิ มชี ีวิต ความแปรผนั การสืบพันธุ์ และการคดั เลอื ก หลักสูตรกลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี : โรงเรยี นหารเทารงั สปี ระชาสรรค์
หนา้ 255 8. สํารวจ ตรวจสอบ อภปิ รายและสรปุ ระบบนิเวศ การกระจายและความหนาแน่นของ สิ่งมีชีวิต รวมทง้ั ความสัมพันธ์ระหว่างสง่ิ มีชีวติ กบั ส่ิงแวดล้อม แนวทางในการป้องกนั และแกไ้ ข ปญั หาวางแผนและดาํ เนินการเฝา้ ระวงั อนุรกั ษ์และพฒั นาส่งิ แวดลอ้ มและทรพั ยากรธรรมชาติ รวมทงั้ หมด 8 ผลการเรียนรู้ หลักสูตรกลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี : โรงเรยี นหารเทารังสีประชาสรรค์
หนา้ 256 รายวิชาเพม่ิ เติม ว31248 นิติวิทยาศาสตร์ (สายศิลป์-ทัว่ ไป) กล่มุ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ มัธยมศึกษาปที ี่ 4 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 40 ชัว่ โมง จํานวน 1.0 หนว่ ยกิต ----------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาลายพิมพ์น้ิวมือ การวิเคราะห์รูปแบบและทิศทางของ หยดเลือดรอยเครื่องมือและรอยประทับ อาวธุปืนและเครื่องกระสุน วัตถุระเบิด เพลิงไหม้และการวางเพลิง การใช้หลักการทางด้านเคมีและพิษ วิทยาสําหรับการ ประยุกต์ใช้ทางนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งประกอบด้วยการเก็บตัวอย่าง การเตรียมตัวอย่าง วิธีวิเคราะห์ตัวอย่าง ความรู้พ้ืนฐานของการตรวจสถานท่ีเกิดเหตุ การเข้าและการป้องกันสถานที่เกิดเหตุ การถ่ายภาพสถานท่ีเกิดเหตุ และการจัดทําทะเบียนวัตถุพยาน การนําหลักทางชีววิทยามาประยุกต์เพ่ือให้ เกิดประโยชน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ กระบวนการยุติธรรมทางแพ่ง กระบวนการยุติธรรมทางอาญา หลัก กฎหมายทวั่ ไปในการดาํ เนินคดีอาญา การสืบสวนและสอบสวนคดอี าญา ผลการเรียนรู้ 1. อธิบายหลักการวิเคราะหร์ ปู แบบของหยดเลือด ลายพิมพ์นว้ิ มอื รอยประทบั อาวุธปืนและ เครื่องกระสนุ ได้ 2. อธบิ ายหลักการทางดา้ นเคมแี ละพิษวทิ ยาได้ 3. มคี วามรูพ้ ้นื ฐานในการตรวจสถานทีเ่ กิดเหตไุ ด้ 4. สามารถนาํ องคค์ วามรู้ทางชวี วทิ ยามาประยุกตก์ ับนิตวิ ทิ ยาศาสตร์ได้ 5. มีความเขา้ ใจในกระบวนการยุตธิ รรมทางเเพง่ กระบวนการทางอาญาได้ รวมท้ังหมด 5 ผลการเรยี นรู้ หลกั สูตรกลุม่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี : โรงเรียนหารเทารงั สปี ระชาสรรค์
หน้า 257 ว31284 วิทยาการคอมพวิ เตอร์ 1 (สายศลิ ป์-ทว่ั ไป) รายวิชาเพิ่มเติม กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 40 ชว่ั โมง จาํ นวน 1.0 หน่วยกติ ----------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาและทําความเข้าใจระบบการทํางานและองค์ประกอบของคอมพิวเตอร์ เพ่ือจะได้เลือกใช้ คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ต่อพ่วง ฮาร์ดแวร์ ซอฟแวร์ได้เหมาะสมกับงานและใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถเขียนโปรแกรมภาษาเพ่ือนํามาใช้ในการพัฒนางานได้ สามารถติดต่อสื่อสาร ถ่ายโอน ค้นหาข้อมูล ผา่ นทางเครอื ข่ายคอมพิวเตอรแ์ ละอินเตอร์เน็ตได้อยา่ งมีจติ สาํ นกึ และมีความรบั ผิดชอบต่อสงั คม โดยใช้กระบวนการทํางาน กระบวนการปฏบิ ัติ กระบวนการคิดวิเคราะห์ เพ่ือให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจและเห็นคุณค่าของเทคโนโลยี สามารถใช้เทคโนโลยีสารสนเทศได้เหมาะสมและเกิดประโยชน์ สงู สุดในชีวติ ประจําวัน ผลการเรียนรู้ 1. หลกั การทาํ งานและการเลอื กใชค้ อมพิวเตอร์ 2. ซอฟตแ์ วรค์ อมพิวเตอร์และการเลอื กใชใ้ หเ้ หมาะสมกับงาน 3. การสื่อสารขอ้ มลู สาํ หรบั เครือข่ายคอมพวิ เตอร์ รวมทั้งหมด 3 ผลการเรยี นรู้ หลกั สูตรกลุม่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี : โรงเรียนหารเทารงั สีประชาสรรค์
หน้า 258 ว32285 วทิ ยาการคอมพวิ เตอร์ 2 (สายศิลป์-ท่วั ไป) รายวิชาเพม่ิ เตมิ กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 5 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 40 ช่ัวโมง จํานวน 1.0 หน่วยกติ ----------------------------------------------------------------------------------------------- ค้นคว้า หาข้อมูลจากแหล่งเรียนรู้ต่างๆ ตลอดจนทําการสืบค้นข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต อันจะนํา ไปสู่การระบุเร่ือง หัวข้อหรือปัญหาสําหรับการจัดทําโครงงานคอมพิวเตอร์ ค้นคว้าเอกสารทางด้านทฤษฎี และเทคนิคการปฏิบตั ิการเกย่ี วกับการทําโครงงานทีจ่ ะรวบรวมข้อมูลเบอ้ื งต้น ศึกษาความหมาย วิธีการ ประเภท ข้ันตอนการทํา การออกแบบ การวางแผน เขียนและนําเสนอ เค้าโครง เทคนิคการนําเสนอโครงงาน การเผยแพร่ผลงาน จัดทําโครงงานตามข้ันตอนการเขียนรายงาน และนาํ เสนอโครงงานได้ โดยใช้เทคโนโลยไี ปใชใ้ นการทําโครงงาน เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจและทักษะในการจัดทําโครงงานคอมพิวเตอร์ ตลอดจนการนําเสนอ และเผยแพรผ่ ลงาน และสามารถนําความรแู้ ละผลงานโครงการไปประยกุ ตใ์ ช้ในชวี ติ ประจาํ วนั ได้ ผลการเรียนรู้ 1. สามารถแก้ปญั หาดว้ ยกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ 2. พัฒนาโครงงานคอมพวิ เตอร์ได้ 3. มีความรู้ในการตดิ ต่อส่ือสาร คน้ หาข้อมูลผา่ นอินเทอร์เน็ต 4. ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศนาํ เสนองานในรูปแบบที่เหมาะสม ตรงตามวัตถปุ ระสงค์ของงาน 5. ใชค้ อมพิวเตอร์ช่วยสร้างช้ินงานหรือโครงงานอย่างมีจติ สํานกึ และความรบั ผดิ ชอบ รวมทง้ั หมด 5 ผลการเรียนรู้ หลักสตู รกลุม่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี : โรงเรยี นหารเทารงั สีประชาสรรค์
หน้า 259 รายวิชาเพมิ่ เตมิ ว32227 เคมีเสรมิ ทกั ษะความรู้ (สายศิลป์-ท่ัวไป) กลุ่มสาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 5 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 40 ช่ัวโมง จาํ นวน 1.0 หนว่ ยกิต ----------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษา วิเคราะห์ การทดลองของนักวทิ ยาศาสตร์เกี่ยวข้องกับแบบจําลองอะตอม สมบตั ิบางประการ ของโปรตอน นิวตรอนและอิเล็กตรอน สัญลักษณ์นิวเคลียสเลขอะตอม เลขมวล ความหมายของไอโซโทป การจัดเรียงอิเล็กตรอนในระดับพลังงานหลักและระดับพลังงานย่อยออร์บิทัลเวเลนซ์อิเล็กตรอนวิวัฒนาการ ทองตารางธาตุ การระบุหมู่และคาบของธาตุในตารางธาตุ การจัดกลุ่มในตารางธาตุตามสมบัติบางประการ แนวโน้มขนาดอะตอม พลังงานไอออไนเซชัน อิเล็กโทรเนกาติวิตีและสัมพรรคภาพอิเล็กตรอนของธาตุ เ รนเททีฟหรือธาตุหมู่หลักตามหมู่และตามคาบ ขนาดของอะตอม จุดเดือด จุดหลอมเหลว ความหนาแน่น ของธาตุ สีของธาตุโลหะในกลุ่มธาตุเรพรีเซนเททีฟและธาตุทรานซิชัน ความไวในการเกิดปฏิกิริยากับนํ้า ของโลหะในกลุ่มธาตุแทรนซชิ ันและกลุ่มธาตุธาตุเรพรีเซนเททฟี หรือธาตุหมู่หลัก ธาตุกัมมันตรังสี ไอโซโทป กัมมันตรังสี รังสีแอลฟา รังสีเบต้าและรังสีแกมมา สมการนิวเคลียส คร่ึงชีวิตของไอโซโทปกัมมันตภาพรังสี อันตรายและประโยชน์ของไอโซโทปกมั มันตภาพรังสี การนําธาตุมาใช้ประโยชน์ตามสมบัติของธาตุ ผลกระทบ ต่อส่ิงมชี ีวิตและส่งิ แวดล้อมจากการนาํ ธาตมุ าใช้ประโยชน์ โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต การวิเคราะห์ เปรียบเทียบ อธิบาย อภิปรายและสรุป เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจ มที ักษะปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์รวมท้ังทักษะกระบวนการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 ในด้านการใช้เทคโนโลยี สารสนเทศ ด้านการคิดและการแก้ปัญหา ด้านการส่ือสาร สามารถส่ือสารสิ่งที่เรียนรู้และนําความรู้ไปใช้ ในชวี ิตของตน มจี ติ วทิ ยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรมและคา่ นยิ มท่ีเหมาะสม ผลการเรยี นรู้ 1. สมมติฐานการทดลอง การทดลองหรือผลการทดลองทเ่ี ป็นประจักษ์พยานในการเสนอ แบบจําลองอะตอมของนักวิทยาศาสตร์และอธิบายวิวัฒนาการของแบบจําลองอะตอม 2. เขียนสญั ลักษณน์ วิ เคลยี สของธาตแุ ละระบจุ ํานวนโปรตอนนิวตรอนและอิเล็กตรอนของ อะตอมจากสญั ลักษณน์ วิ เคลยี สรวมทง้ั บอกความหมายของไอโซโทป 3. อธิบายและเขยี นการจัดเรียงอเิ ล็กตรอนในระดับพลงั งานหลกั และระดับพลงั งานย่อยเมอื่ ทราบ เลขอะตอมของธาตุ 4. ระบุหมู่ ภาพความเป็นโลหะอโลหะและกงึ่ โลหะของธาตเุ รพรเี ซนเททีฟ ธาตแุ ทรนซิชนั ใน ตารางธาตุ 5. วเิ คราะห์และออกแนวโนม้ สมบตั ขิ องธาตุ เรพรเี ซนเททีฟ ตามหมแู่ ละตามคาบ 6. บอกสมบัตขิ องโลหะทรานซชิ นั และเปรยี บเทียบสมบัติซบั โลหะในกลุ่มธาตุ เรพรีเซนเททีฟ 7. อธิบายสมบตั ิและจํานวนครง่ึ ชีวติ ของไอโซโทปกัมมันตภาพรังสี 8. สบื คน้ ข้อมูลและยกตวั อย่างการสมั ภาษณม์ าใช้ประโยชน์ รวมท้งั ผลกระทบต่อส่ิงมีชวี ิตและ ส่งิ แวดลอ้ ม รวมทัง้ หมด 8 ผลการเรียนรู้ หลักสตู รกลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี : โรงเรยี นหารเทารงั สีประชาสรรค์
หนา้ 260 รายวิชาเพ่ิมเติม ว32228 เคมสี บื สวน (สายศิลป์-ท่วั ไป) กลุม่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 40 ชั่วโมง จาํ นวน 1.0 หนว่ ยกิต ----------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษา เก่ียวกับการเปล่ียนแปลงของสารเมื่อเกิดปฏิกิริยาเคมี การคํานวณอัตราการเกิดปฏิกิริยา เคมีแนวคิดเก่ียวกับการเกิดปฏิกิริยาเคมีทฤษฎีการชน พลังงานก่อกัมมันต์ปัจจัยท่ีมีผลต่ออัตราการเกิด ปฏิกิริยาเคมี ปฏิกิริยาผันกลับได้ภาวะสมดุลและสมดุลพลวัตการเปล่ียนแปลงความเข้มข้นของสารและ อัตราการเกิดปฏิกิริยาของระบบเมื่อเข้าสู่ภาวะสมดุล ความหมายของพอลิเมอร์และมอนอเมอร์ ปฏิกิริยา การเกิดพอลิเมอร์แบบเติมและแบบควบแน่น โครงสร้างของพอลิเมอร์ ความสัมพันธ์ระหว่างโครงสร้างกับ สมบัติของพอลิเมอร์และการนําไปใช้ประโยชน์ พอลิเมอร์เทอร์มอพลาสติก พอลเิ มอร์เทอร์มอเซตประโยชน์ ของพลาสติกและผลิตภัณฑย์ าง การปรับเปล่ียนโครงสร้างและการสังเคราะห์พอลิเมอร์ ผลกระทบจากการใช้ และการกําจดั ผลติ ภณั ฑ์พอลิเมอร์และแนวทางแกไ้ ข โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต การวิเคราะห์ เปรียบเทียบ อธิบาย อภิปรายและสรุป เพ่ือให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจ มที ักษะปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์รวมทั้งทักษะกระบวนการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 ในด้านการใช้เทคโนโลยี สารสนเทศ ด้านการคิดและการแก้ปัญหา ด้านการส่ือสาร สามารถสื่อสารส่ิงที่เรียนรู้และนําความรู้ไปใช้ ในชวี ติ ของตน มจี ิตวทิ ยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรมและค่านยิ มทเ่ี หมาะสม ผลการเรียนรู้ 1. ทดลอง และเขยี นกราฟการเพมิ่ ขึน้ หรอื ลดลงของสารทท่ี าํ การวัดในปฏิกริ ิยา 2. คํานวณอตั ราการเกิดปฏิกริ ยิ าเคมี และเขียนกราฟการลดลงหรอื เพ่ิมขึน้ ของสารท่ไี ม่ไดว้ ัดใน ปฏกิ ิรยิ า 3. เขยี นแผนภาพและอธิบายทิศทางการชนกันของอนุภาคและพลังงานทสี่ ่งผลต่ออตั ราการเกดิ ปฏิกิริยาเคมี 4. ทดลองและอธบิ ายผลของความเข้มข้น พื้นทผ่ี วิ ของสารต้นั ตน้ อุณหภูมิ และตวั เร่งปฏกิ ริ ิยาท่ี มีตอ่ อัตราการเกิดปฏิกริ ยิ าเคมี 5. เปรียบเทยี บอัตราการเกดิ ปฏิกิรยิ าเม่อื มกี ารเปล่ียนแปลงความเข้มขน้ พืน้ ทผี่ ิวของสารตั้นตน้ อุณหภมู ิ และตัวเร่งปฏิกริ ิยา 6. ยกตัวอย่างและอธบิ ายปัจจัยที่มผี ลต่ออัตราการเกิดปฏกิ ิรยิ าเคมีในชีวติ ประจาํ วันหรืออุตสาหกรรม 7. เขียนสมการเคมีและอธบิ ายการเกดิ ปฏกิ ิริยาเอสเทอรฟิ เิ คชัน ปฏกิ ริ ยิ าการสังเคราะหเ์ อไมด์ ปฏกิ ริ ยิ าไฮโดรลซิ ิส และปฏิกริ ิยาสะปอนนฟิ ิเคชัน 8. ทดสอบปฏิกริ ิยาเอสเทอรฟิ ิเคชนั ปฏิกริ ยิ าไฮโดรลิซิส และปฏิกริ ิยาสะปอนนิฟิเคชัน 9. สบื ค้นขอ้ มูล และนาํ เสนอตัวอยา่ งการนาํ สารประกอบอนิ ทรยี ์ไปใช้ประโยชนใ์ นชวี ิตประจําวัน และอุตสาหกรรม 10. ระบุประเภทของปฏิกริ ิยาการเกดิ พอลเิ มอร์จากโครงสรา้ งของมอนอเมอร์หรือพอลเิ มอร์ 11. วิเคราะห์และอธบิ ายความสมั พันธ์ระหวา่ งโครงสร้างกบั สมบัตขิ องพอลิเมอร์ รวมทงั้ การนาํ ไปใช้ประโยชน์ หลักสตู รกลุม่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี : โรงเรยี นหารเทารงั สีประชาสรรค์
หน้า 261 12. ทดสอบและระบปุ ระเภทของพลาสตกิ และผลติ ภณั ฑ์ยาง รวมท้ังการนาํ ไปใช้ประโยชน์ 13. อธิบายผลของการปรบั เปล่ยี นโครงสร้างและการสังเคราะหพ์ อลิเมอรท์ ่ีมตี อ่ สมบัติของ พอลเิ มอร์ 14. สืบคน้ ขอ้ มลู และนาํ เสนอตวั อย่างผลกระทบจากการใชแ้ ละการกําจัดผลติ ภณั ฑ์พอลิเมอรแ์ ละ แนวทางแก้ไข รวมท้ังหมด 14 ผลการเรียนรู้ หลักสตู รกล่มุ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี : โรงเรียนหารเทารังสปี ระชาสรรค์
หนา้ 262 รายวชิ าเพ่มิ เติม ว33207 ฟิสิกสเ์ สริมทกั ษะความรู้ (สายศิลป-์ ท่ัวไป) กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี 6 ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 40 ชั่วโมง จาํ นวน 1.0 หนว่ ยกติ ----------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาธรรมชาติของวิชาฟิสิกส์ ปริมาณกายภาพและหน่วย การบอกตําแหน่งของวัตถุ ความสัมพันธ์ ระหว่างปริมาณต่างๆ ท่ีเก่ียวข้องกับการเคล่ือนทแี่ นวตรงด้วยความเร่งคงตัว แรงและผลของแรงที่มีต่อสภาพ การเคล่ือนท่ีของวัตถุ กฎการเคลื่อนท่ีของนิวตัน กฎแรงดึงดูดระหว่างมวลและแรงเสียดทาน การเคล่ือนท่ี แบบโพรเจกไทล์การเคลื่อนท่ีแบบวงกลม และการเคลื่อนที่แบบฮาร์มอนิกอย่างง่าย ศึกษาหลักการของ กลศาสตร์ในเรื่อง งาน พลังงาน ความสัมพันธ์ระหว่างงานและพลังงานจลน์ กฎการอนุรักษ์พลังงาน กําลัง เครื่องกลอย่างง่ายและประสทิ ธิภาพของเคร่ืองกล โมเมนตัม การชนกันของวัตถุและกฎการอนุรักษ์โมเมนตัม โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์การสืบค้นข้อมูล การสํารวจตรวจสอบ เพื่อให้เกิดความรู้ ความเขา้ ใจ ความคิด มีความสามารถในการส่ือสารสิ่งที่เรียนรู้ การตัดสินใจ การนําความรู้ไปใช้ในชีวิตประจําวัน มีจิต วิทยาศาสตร์ จรยิ ธรรมคุณธรรมและค่านยิ มทเ่ี หมาะสม ผลการเรียนรู้ 1. อธบิ ายเกีย่ วกับธรรมชาตขิ องวชิ าฟสิ กิ ส์ ปรมิ าณกายภาพและหน่วยในระบบเอสไอ 2. อธบิ ายเกยี่ วกับการเคลอ่ื นท่แี นวตรงและปรมิ าณทีเ่ กยี่ วขอ้ ง 3. อธิบายความสัมพันธร์ ะหว่างการกระจดั ความเร็วและความเร่งของการเคล่ือนท่ขี องวตั ถใุ น แนวตรงทม่ี คี วามเร่งคงตัว 4. อธิบายแรงและหาแรงลัพธ์ของแรงหลายแรง 5. อธิบายกฎการเคล่อื นที่ของนวิ ตันและใชก้ ฎการเคล่ือนที่ของนิวตนั อธบิ ายการเคลอื่ นท่ีของวตั ถุ 6. อธบิ ายกฎแรงดงึ ดูดระหว่างมวล 7. อธิบายแรงเสียดทานระหว่างผวิ สมั ผสั ของวตั ถคุ หู่ นึ่ง 8. วเิ คราะห์และอธบิ ายการเคลื่อนทแ่ี บบโพรเจกไทล์ 9. วิเคราะห์และอธิบายการเคลอ่ื นท่แี บบวงกลม 10. วเิ คราะห์และอธิบายการเคลื่อนที่แบบฮาร์มอนกิ อย่างง่าย 11. อธิบายงานและวเิ คราะห์งานของแรงต่าง ๆ 12. อธิบายพลงั งาน พลงั งานจลน์ พลังงานศักย์ และความสมั พนั ธร์ ะหว่างงานและพลังงาน 13. อธิบายและใช้กฎการอนุรักษพ์ ลงั งานกลวิเคราะหก์ ารเคลื่อนท่ีในสถานการณต์ ่างๆ 14. อธิบายการทํางานของเคร่อื งกลอย่างงา่ ย 15. อธิบายโมเมนตัม และความสัมพันธ์ระหว่างแรงและโมเมนตัมทเ่ี ปลยี่ นไป 16. อธบิ ายการชนของวัตถุ กฎการอนุรักษ์โมเมนตัม และวิเคราะหก์ ารชนกันของวตั ถุ รวมทง้ั หมด 16 ผลการเรยี นรู้ หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี : โรงเรยี นหารเทารงั สปี ระชาสรรค์
หน้า 263 รายวชิ าเพ่มิ เตมิ ว33208 ฟิสกิ สเ์ คร่ืองกล (สายศลิ ป์-ทว่ั ไป) กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 40 ชั่วโมง จาํ นวน 1.0 หนว่ ยกิต ----------------------------------------------------------------------------------------------- ศึกษาหลักการของกลศาสตร์ในเรื่องสมดุลกลและเงื่อนไขที่ทําให้วัตถุ หรือระบบอยู่ในสมดุลกล ศูนย์กลางมวลของวัตถุ และผลของศูนย์ถ่วงท่ีมีต่อเสถียรภาพของวัตถุ งาน พลังงาน ความสัมพันธ์ระหว่าง งานและพลังงานจลน์ ความสัมพันธ์ระหว่างงานกับพลังงานศักย์โน้มถ่วง และความสัมพันธ์ระหว่างขนาด ของแรงที่ใช้ดึงสปริงกับระยะที่สปริงยืดออก แรงอนุรักษ์ กฎการอนุรักษ์พลังงาน กําลัง เคร่ืองกลอย่างง่าย ประสิทธิภาพและการได้เปรียบเชิงกลของเครื่องกลอย่างง่ายบางชนิด การเคล่ือนท่ีแบบโพรเจกไทล์และ การเคลื่อนทแี่ บบวงกลมในระนาบระดบั โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต การวิเคราะห์ เปรียบเทียบ อธิบาย อภิปรายและสรุป เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจ มที ักษะปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์รวมท้ังทักษะกระบวนการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 ในด้านการใช้เทคโนโลยี สารสนเทศ ด้านการคิดและการแก้ปัญหา ด้านการสื่อสาร สามารถส่ือสารสิ่งที่เรียนรู้และนําความรู้ไปใช้ ในชีวติ ของตน มจี ิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรมและค่านิยมทเ่ี หมาะสม ผลการเรยี นรู้ 1. อธิบายสมดลุ กลของวัตถโุ มเมนตแ์ ละผลรวมของโมเมนต์ทีม่ ตี ่อการหมนุ แรงคูค่ วบและผลของ แรงค่คู วบท่ีมีตอ่ สมดุลของวตั ถุ เขียนแผนภาพวัตถอุ สิ ระเมือ่ วัตถุอยู่ในสมดลุ กลท่เี กีย่ วขอ้ งรวม ทงั้ ทดลองและอธบิ ายสมดลุ ของแรงสามแรง 2. สงั เกตและอธิบายสภาพการเคลอ่ื นทข่ี องวตั ถุ เมอ่ื แรงที่กระทาํ ตอ่ วัตถผุ า่ นศนู ย์กลางมวลของ วตั ถุและของศนู ยถ์ ่วงที่มีตอ่ เสถียรภาพของวัตถุ 3. อธิบายและคํานวณพลงั งานจลน์ พลังงานศกั ย์ พลงั งานกล ความสมั พันธร์ ะหว่างงานกบั พลงั งานจลน์ ความสมั พันธร์ ะหว่างงานกบั พลังงานศักยโ์ น้มถ่วง ความสมั พนั ธ์ระหว่างนาดของ แรงทีใ่ ชด้ งึ สปรงิ กับระยะท่สี ปรงิ ยดื ออกและความสมั พนั ธร์ ะหว่างงานกบั พลังงานศกั ย์ยืดหยุ่น รวมทงั้ อธิบายความสัมพันธ์ระหว่างงานของแรงลัพธแ์ ละพลงั งานจลน์ 4. อธิบายกฎการอนรุ ักษพ์ ลังงานกล รวมทงั้ วเิ คราะหแ์ ละคํานวณปรมิ าณตา่ งๆ ทเ่ี ก่ยี วข้องกับ การเคล่อื นที่ของวตั ถใุ นสถานการณต์ า่ ง ๆ โดยใชก้ ฎการอนรุ ักษพ์ ลงั งานกล 5. อธบิ ายการทาํ งาน ประสทิ ธิภาพและการได้เปรียบเชงิ กลอย่างงา่ ยบางชนิด โดยใชค้ วามรู้เรือ่ ง งานและสมดลุ กล 6. ทดลอง อธิบายปรมิ าณต่างๆ เกยี่ วข้องกบั การเคลอ่ื นที่แบบโพรเจกไทล์และทดลองการเคล่ือน ทีแ่ บบโพรเจกไทล์ รวมทัง้ หมด 6 ผลการเรียนรู้ หลกั สูตรกลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี : โรงเรยี นหารเทารังสปี ระชาสรรค์
อภธิ านศัพท์ หนา้ 264 ศัพท์ทเ่ี กยี่ วขอ้ งกับตัวชว้ี ดั กลุม่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ ความหมาย ระบคุ าํ ถาม ประเดน็ หรอื ท่ี ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ สถานการณท์ ่ีเป็นขอ้ สงสัยเพ่ือนํา 1. กําหนดปญั หา define problem ไปสู่การแกป้ ญั หาหรอื อภปิ ราย รว่ มกัน 2. แกป้ ญั หา solve problem หาคําตอบของปัญหาที่ยังไม่รู้ วธิ กี ารมากอ่ น ทัง้ ปัญหาที่เกี่ยวข้อง 3. เขียนแผนผงั /วาดภาพ construct diagram/ กบั วิทยาศาสตร์ โดยตรงและปญั หา 4. คาดคะเน illustrate ในชีวิตประจําวนั โดยใชเ้ ทคนิคและ predict วธิ กี ารตา่ ง ๆ นาํ เสนอข้อมูลหรือผลการสํารวจ 5. คาํ นวณ calculate ตรวจสอบด้วยแผนผงั กราฟหรอื ภาพวาด 6. จาํ แนก classify คาดการณผ์ ลท่จี ะเกดิ ข้ึนในอนาคต 7. ตั้งคําถาม ask question โดยอาศยั ขอ้ มลู ท่สี ังเกตไดแ้ ละ ประสบการณ์ทม่ี ี 8. ทดลอง conduct/experiment หาผลลัพธ์จากข้อมูล โดยใช้ หลักการ ทฤษฎีหรือวิธกี ารทาง 9. นาํ เสนอ present คณติ ศาสตร์ จัดกลุม่ ของสงิ่ ต่าง ๆ โดยอาศัย ลกั ษณะท่ีเหมอื นกันเป็นเกณฑ์ พดู หรือเขียนประโยค หรือวลี เพื่อให้ได้มาซ่ึงการคน้ หาคําตอบ ท่ีต้องการ ปฏิบัตกิ ารเพ่ือหาคาํ ตอบของคํา ถาม หรือปัญหาในการทดลอง โดย ตง้ั สมมติฐานเพ่อื เปน็ แนวทางใน การกําหนดตัวแปรและวางแผนดํา เนินการเพอื่ ตรวจสอบสมมติฐาน แสดงขอ้ มูล เร่อื งราว หรือความคดิ เพื่อให้ผ้อู ่นื รบั ร้หู รือพิจารณา หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี : โรงเรยี นหารเทารังสีประชาสรรค์
ท่ี ภาษาไทย ภาษาองั กฤษ หนา้ 265 10. บรรยาย describe ความหมาย 11. บอก tell ให้รายละเอียดของเหตกุ ารณห์ รือ 12. บนั ทกึ record ปรากฏการณ์ท่ีเกิดขึ้นใหผ้ ูอ้ ื่นไดร้ บั 13. เปรียบเทียบ compare รู้ดว้ ยการบอกหรอื เขยี น 14. แปลความหมาย interpret ใหข้ อ้ มูล ข้อเท็จจริง แกผ่ ู้อน่ื ด้วย 15. ยกตวั อยา่ ง give examples การพดู หรือเขยี น 16. ระบุ identify เขียนข้อมูลท่ีได้จากการสังเกต 17. เลอื กใช้ select เพ่ือชว่ ยจาํ หรือเพอ่ื เปน็ หลกั ฐาน 18. วดั measure บอกความเหมือน ละ/หรอื ความ 19. วิเคราะห์ analyze แตกตา่ ง ของส่ิงทีเ่ ทยี บเคียงกัน 20. สรา้ งแบบจาํ ลอง construct model แสดงความหมายของข้อมูลจาก หลักฐานท่ีปรากฏเพือ่ ลงขอ้ สรปุ 21. สังเกต observe ให้ข้อมูลเหตุการณ์หรอื สถานการณ์ เพ่อื แสดงความเขา้ ใจในส่ิงทีไ่ ด้ 22. สํารวจ explore เรียนรู้ ชี้บอกส่ิงต่าง ๆ โดยใชข้ ้อมลู ประกอบอยา่ งเพยี งพอ พจิ ารณา และตัดสนิ ใจนําวสั ดุ ส่งิ ของ อปุ กรณห์ รอื วิธีการมาใช้ ได้อยา่ งเหมาะสม หาขนาด หรือปริมาณของสิง่ ต่างๆ โดยใช้เครือ่ งมอื ทเี่ หมาะสม แยกแยะ จดั ระบบ เปรยี บเทยี บ จดั ลําดับ จดั จาํ แนกหรอื เช่อื มโยง ข้อมลู นําเสนอแนวคดิ หรอื เหตกุ ารณ์ ในรูปของแผนภาพ ชิ้นงาน สมการ ขอ้ ความ คาํ พูดและ/หรือใช้แบบ จําลองเพือ่ อธบิ าย ความคดิ วตั ถุ หรอื เหตกุ ารณต์ า่ ง ๆ หาขอ้ มูลดว้ ยการใช้ประสาทสัมผัส ท้งั ห้า ทเ่ี หมาะสมตามขอ้ เทจ็ จริงท่ี ปรากฏ โดยไม่ใชป้ ระสบการณเ์ ดิม ของผู้สงั เกต หาข้อมลู เกย่ี วกบั ส่ิงต่าง ๆโดยใช้วธี ี การและเทคนคิ ทเ่ี หมาะสม เพอื่ นาํ ขอ้ มลู มาใช้ตามวตั ถปุ ระสงคท์ ่ีกาํ หนดไว้ หลักสตู รกล่มุ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี : โรงเรียนหารเทารงั สปี ระชาสรรค์
ที่ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ หน้า 266 23. สบื คน้ ขอ้ มลู search ความหมาย 24. สื่อสาร communicate หาข้อมูลหรือข้อสนเทศท่ีมีผู้รวบรวม 25. อธิบาย explain ไวแ้ ล้วจากแหล่งตา่ งๆมาใช้ประโยชน์ 26. อภิปราย discuss นาํ เสนอ และแลกเปล่ยี นความคิด ข้อมลู หรือผลจากการสํารวจ 27. ออกแบบการทดลอง design experiment ตรวจสอบด้วยวธิ ีทีเ่ หมาะสม กลา่ วถงึ เร่ืองราวต่าง ๆ อย่างมี เหตผุ ล และมขี อ้ มลู หรือประจกั ษ์ พยานอ้างองิ แสดงความคดิ เห็นตอ่ ประเดน็ หรือ คาํ ถามอย่างมเี หตุผลโดยอาศัย ความรู้และประสบการณข์ อง ผอู้ ภิปรายและขอ้ มูลประกอบ กาํ หนด และวางแผนวิธกี ารทดลอง ใหส้ อดคลอ้ งกบั สมมติฐานและตัว แปรตา่ ง ๆรวมท้ังการบันทกึ ขอ้ มลู หลักสตู รกลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี : โรงเรยี นหารเทารังสปี ระชาสรรค์
ศพั ทท์ ี่เกี่ยวขอ้ งกับตัวชวี้ ดั สาระเทคโนโลยี หนา้ 267 ความหมาย ท่ี ภาษาไทย ภาษาองั กฤษ การนําส่อื หรอื ขอ้ มลู ท่ีเปน็ ลิขสทิ ธิ์ 1 การใช้ลิขสิทธ์ขิ องผอู้ ืน่ fair use ของผู้อนื่ ไปใชโ้ ดยชอบดว้ ยกฎหมาย ภายใต้เง่ือนไขบางประการ เช่น โดยชอบธรรม 1) นาํ ไปใชใ้ นการศึกษาหรือการค้า 2) งานนน้ั เปน็ งานวิชาการหรอื 2 การตรวจและแกไ้ ข debugging บันเทิง ขอ้ ผดิ พลาด data processing 3) คดั ลอกเพียงส่วนนอ้ ยหรือ คัดลอกจํานวนมาก 3 การประมวลผลข้อมูล 4) ทําให้เจ้าของเสยี ผลประโยชน์ ทางการเงนิ มากน้อยเพียงใด 4 การรวบรวมข้อมลู data collection กระบวนการในการคน้ หาขอ้ 5. ข้อมูลปฐมภมู ิ primary data ผิดพลาดของโปรแกรม เพ่ือแกไ้ ข ให้ทาํ งานไดถ้ ูกต้อง 6. เทคโนโลยี technology การดําเนนิ การตา่ ง ๆ กบั ข้อมูล เพอื่ ใหไ้ ด้ผลลัพธ์ที่มคี วามหมาย 7. แนวคิดเชิงคํานวณ computational และมปี ระโยชนต์ ่อการนาํ ไปใชง้ าน thinking มากยงิ่ ขนึ้ กระบวนการในการรวบรวมขอ้ มลู ที่ 8. แนวคิดเชงิ นามธรรม abstraction เกีย่ วขอ้ งจากแหลง่ ขอ้ มูลตา่ ง ๆ ขอ้ มลู ทีร่ วบรวมโดยตรงจากแหล่ง ข้อมูลข้ันต้นโดยอาจใช้วธิ ีการสงั เกต การทดลอง การสาํ รวจ การสัมภาษณ์ ส่งิ ทม่ี นุษย์สรา้ งหรอื พฒั นาข้นึ ซงึ่ อาจเป็นได้ทัง้ ชิน้ งาน หรือวธิ กี าร เพือ่ ใชแ้ กป้ ัญหาสนองความต้องการ หรอื เพมิ่ ความสามารถในการทํา งานของมนุษย์ กระบวนการในการแกป้ ญั หา การคิดวิเคราะหอ์ ย่างมเี หตผุ ล เป็นข้ันตอน เพอ่ื หาวิธกี ารแก้ ปัญหาในรูปแบบที่สามารถนาํ ไป ประมวลผลได้ การพิจารณารายละเอยี ดทส่ี ําคญั ของปัญหา แยกแยะสาระสําคัญ ออกจากสว่ นท่ไี ม่สาํ คญั หลกั สตู รกลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี : โรงเรียนหารเทารงั สปี ระชาสรรค์
ท่ี ภาษาไทย ภาษาองั กฤษ หน้า 268 9. ระบบทางเทคโนโลยี technological system ความหมาย กลุ่มของสว่ นต่าง ๆ ตั้งแต่สองสว่ น 10. เหตผุ ลเชงิ ตรรกะ logical reasoning ขึ้นไป ประกอบเขา้ ด้วยกัน และทํา 11. เหตผุ ลวบิ ตั ิ logical fallacy งานรว่ มกนั เพอ่ื ใหบ้ รรลวุ ตั ถุ 12. อตั ลกั ษณ์ Identity ประสงค์ โดยในการทาํ งานของ 13. อัลกอรทิ มึ algorithm ระบบทางเทคโนโลยีจะประกอบไป 14 แอปพลิเคชนั software application ด้วย ตัวปอ้ น (input)กระบวนการ (process) และผลผลติ (output) ที่สมั พันธก์ ัน นอกจากนี้ระบบทาง เทคโนโลยี อาจมขี ้อมลู ยอ้ นกลับ (feedback) เพือ่ ใช้ปรับปรุง การทํางานได้ตามวัตถุประสงค์ การใช้เหตผุ ล กฎ กฎเกณฑห์ รือ เงื่อนไขท่ีเก่ียวข้อง เพื่อแก้ปญั หาได้ ครอบคลมุ ทุกกรณี การใช้เหตุผลท่ีผดิ พลาดไม่อยบู่ น พน้ื ฐานของความจริง ไม่มํีน้าหนัก สมเหตสุ มผลมาสนับสนุน หรือ ชี้นาํ ข้อสรุปทผ่ี ิดใหด้ ูนา่ เชอ่ื ถือ ลกั ษณะเฉพาะหรือข้อมลู สาํ คญั ทบ่ี ง่ บอกถงึ ความเปน็ ตัวตนของ บคุ คลหรือส่ิงใดสิง่ หนง่ึ เช่น ชอื่ บัญชผี ใู้ ชใ้ บหน้า ลายน้วิ มอื ขั้นตอนในการแกป้ ญั หาหรือ การทาํ งาน โดยมีลาํ ดบั ของคาํ ส่ัง หรือวิธีการทช่ี ดั เจนทค่ี อมพวิ เตอร์ สามารถปฏิบัตติ ามได้ ซอฟตแ์ วรป์ ระยกุ ตท์ ี่ทาํ งานบน คอมพิวเตอร์สมารต์ โฟน แทบ็ เลต็ หรอื อปุ กรณเ์ ทคโนโลยอี ่ืน ๆ หลกั สูตรกลุม่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี : โรงเรียนหารเทารงั สปี ระชาสรรค์
หนา้ 269 คณะกรรมการจดั ทาํ หลักสตู รกลุ่มสาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (ฉบับปรับปรุงพุทธศกั ราช 2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พนื้ ฐานพทุ ธศักราช 2551 (ฉบบั ปรับปรงุ พทุ ธศักราช 2560) คณะท่ปี รกึ ษา ผอู้ าํ นวยการโรงเรียนหารเทารังสีประชาสรรค์ นางสาวนันทรตั น์ ไพรัตน์ หัวหนา้ งานฝา่ ยวิชาการ โรงเรียนหารเทารงั สีประชาสรรค์ นางซบุ ัยด๊ะ ธนไพศาลศิลป์ หวั หน้างานหลกั สูตร โรงเรยี นหารเทารงั สปี ระชาสรรค์ นางเยาวลกั ษณ์ บญุ ยัง คณะผู้จัดทาํ ประธานกรรมการ 1. นายสรายุทธ หมัดหละ รองประธานกรรมการ 2. นางกาญจนา คงศรีปาน กรรมการ 3. นางมาลี เพชรตบี กรรมการ 4. นายวเิ ชียร เพชรคง กรรมการ 5. นางสุกลั ยา เกษตรกาลาม์ กรรมการ 6. นางสาวนฐั มน ทองคํา กรรมการ 7. นางสาวอาํ พร สวุ รรณโล กรรมการ 8. นางวารณุ ี รอเกต กรรมการ 9. นางสาวชชั พร แหละหมี กรรมการ 10. นายซุลกฟิ รี การี กรรมการ 11. นายอาสฮารยี ์ บากา กรรมการ 12. นางสาววรัญญา แกว้ ล่องลอย กรรมการ 13. นายชวัลวทิ ย์ พิณเขียว กรรมการ 14. นางสาววาสนา ชัยพรหม กรรมการ 15. นายวีรัช เพ็ชรนุ่น กรรมการและเลขานุการ 16. นางสาํ รวย สุวรรณโณ หลักสตู รกลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี : โรงเรียนหารเทารงั สีประชาสรรค์
หน้า 270 หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนหารเทารังสีประชาสรรค์ พุทธศักราช 2564 ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พ้นื ฐานพทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบับปรบั ปรงุ พทุ ธศกั ราช 2560) กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี สํานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษามัธยมศึกษาพทั ลงุ สาํ นักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร หลกั สตู รกลุม่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี : โรงเรียนหารเทารังสีประชาสรรค์
หน้า 271 คาํ อนมุ ัติและความเห็นชอบ หลักสูตรกลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี โรงเรียนหารเทารงั สปี ระชาสรรค์ คณะกรรมการสถานศึกษาขน้ั พ้ืนฐานโรงเรียนหารเทารังสีประชาสรรค์ อําเภอปากพะยูน จังหวัดพัทลุง ได้พิจารณาหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ พุทธศักราช 2560 ตามแนวหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาข้ันพ้ืนฐานพุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุงพุทธศักราช 2560) มีความเห็นชอบอนุมัติให้ใช้ หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการจัดการเรียนรู้ในสถานศึกษาโรงเรียนหาร เทารงั สปี ระชาสรรค์ ตั้งแต่ ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2564 เป็นต้นไป ลงชื่อ ( นายสาโรจน์ สามารถ) ประธานคณะกรรมการสถานศึกษาขน้ั พื้นฐาน โรงเรยี นหารเทารังสปี ระชาสรรค์ หลกั สตู รกลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี : โรงเรียนหารเทารงั สีประชาสรรค์
หนา้ 272 คาํ นํา กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้จัดทําหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ฉบับน้ี ซึ่งเป็นเอกสารประกอบหลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนหารเทารังสี ประชาสรรค์ พุทธศักราช 2564 ตามแนวหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 เพ่ือเป็นเป้าหมายในการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนและกระบวนการจัดการเรียนรู้ เพ่ือเป็นกรอบและทิศทาง ในการจัดการเรียนการสอนให้ตรงตามมาตรฐาน ตัวช้ีวัดและสาระการเรียนรู้ ของกลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยพิจารณาตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช 2560) ในกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยมอบหมายให้ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ดําเนินการปรับปรุง ซึ่งยังคงหลักการและ โครงสร้างเดิมของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 แต่มุ่งเน้นการปรบั ปรุงเนื้อหา ให้มีความทันสมัย ทันต่อการเปล่ียนแปลงและความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาการต่างๆ คํานึงถึงการส่งเสริม ให้ผู้เรยี นมีทกั ษะท่จี าํ เปน็ สาํ หรับการเรยี นร้ใู นศตวรรษที่ 21 โรงเรียนหารเทารังสีประชาสรรค์ได้จัดการเรียนรู้ โดยมีหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี โดยมุ่งหวังให้ผู้เรียนสามารถนําความรู้ไปใช้ในการดํารงชีวิตหรือศึกษาต่อในวิชาชีพท่ีต้อง ใช้วิทยาศาสตร์ได้ โดยจัดเรียงลําดับความยากง่ายของเน้ือหาและละสาระในแต่ละระดับชั้นให้มีความ เชื่อมโยงความรู้กับกระบวนการเรียนรู้และการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ท่ีส่งเสริมให้ผู้เรียนพัฒนาความคิด ทั้งความคิดเป็นเหตุเป็นผล คิดสร้างสรรค์ คิดวิเคราะห์วิจารณ์ มีทักษะที่สําคัญ ท้ังทักษะกระบวนการทาง วิทยาศาสตร์ในการค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ สามารถตัดสินใจโดยใช้ข้อมูลหลากหลายและประจักษ์ พยานที่ตรวจสอบได้ เน้นการเช่ือมโยงความรู้กับกระบวนการ มีทักษะสําคัญในการค้นคว้าและสร้างองค์ ความรู้ โดยใช้กระบวนการในการสืบเสาะหาความรู้และการแก้ปัญหาที่หลากหลาย ให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมใน การเรยี นรทู้ ุกขนั้ ตอน มกี ารทํากิจกรรมดว้ ยการลงมอื ปฏิบตั จิ รงิ ขอขอบคุณ นางสาวนันทรัตน์ ไพรัตน์ ตําแหน่ง ผู้อํานวยการโรงเรียนหารเทารังสีประชาสรรค์ และคณะครูกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทุกคนที่มีส่วนเก่ียวข้องในการจัดทําหลักสูตร ฉบับน้ีให้สําเร็จลุล่วงด้วยดี และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า หลักสูตรฉบับนี้จะเป็นประโยชน์สําหรับสถานศึกษา และบุคลากรทางการศึกษา นําไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณธรรม จริยธรรม และอยู่ร่วมกับ ผู้อ่นื ได้อยา่ งมีความสขุ ตอ่ ไป นายสรายุทธ หมดั หละ หัวหนา้ กลุม่ สาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 1พฤษภาคม 2564 หลักสตู รกลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี : โรงเรยี นหารเทารงั สีประชาสรรค์
สารบัญ หนา้ 273 เร่ือง หนา้ คําอนุมัติและความเหน็ ชอบของคณะกรรมการสถานศกึ ษาข้ันพื้นฐาน คาํ นาํ 1 สารบญั 1 วสิ ยั ทศั นโ์ รงเรยี นหารเทารังสปี ระชาสรรค์ 1 สมรรถนะสาํ คัญของผ้เู รยี น 1 คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 2 ค่านิยมคนไทย 12 ประการ 2 หลักสูตรกลุม่ สาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตร์ 3 4 ทาํ ไมต้องเรียนวทิ ยาศาสตร์ 6 เรยี นรู้อะไรในวิทยาศาสตร์ 14 สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ 14 คุณภาพผู้เรยี น 22 ตวั ช้วี ัดและสาระการเรยี นรตู้ อนตน้ 37 สาระที่ 1 วิทยาศาสตร์ชีวภาพ 45 สาระท่ี 2 วทิ ยาศาสตร์กายภาพ 52 สาระท่ี 3 วทิ ยาศาสตร์โลกและอวกาศ 52 สาระที่ 4 เทคโนโลยี 56 ตัวช้วี ัดและสาระการเรียนรตู้ อนปลาย 65 สาระท่ี 1 วิทยาศาสตร์ชีวภาพ 73 สาระที่ 2 วทิ ยาศาสตรก์ ายภาพ 77 สาระที่ 3 วิทยาศาสตรโ์ ลกและอวกาศ 78 สาระท่ี 4 เทคโนโลยี 80 วทิ ยาศาสตรเ์ พม่ิ เติม 83 สาระวิทยาศาสตร์เพิ่มเตมิ 83 คุณภาพผเู้ รียน 109 ผลการเรยี นรสู้ าระการเรียนรูเ้ พมิ่ เติม 122 สาระชวี วืยา 146 สาระเคมี 159 สาระฟสิ ิกส์ 161 สาระโลก ดาราศาสตร์และอวกาศ โครงสรา้ งหลักสตู รกลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน้ ห้องเรียน SMTE โครงสร้างหลักสตู รกลุม่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดับมธั ยมศึกษาตอนต้น (ห้องเรียน ม.1/2 และ ม.1/3 เน้นวทิ ย์-คณิต) หลักสตู รกลุม่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี : โรงเรียนหารเทารังสีประชาสรรค์
สารบัญ (ต่อ) หนา้ 274 เรื่อง หน้า โครงสรา้ งหลกั สตู รกลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 163 ระดบั มัธยมศึกษาตอนตน้ (ห้องเรยี น ม.1/4 - ม.1/6 ไมเ่ น้นวทิ ย์-คณิต) 165 คาํ อธบิ ายรายวชิ าระดับมัธยมศกึ ษาตอนต้น รายวิชาพนื้ ฐาน 177 คาํ อธบิ ายรายวิชาระดับมธั ยมศึกษาตอนตน้ รายวิชาเพมิ่ เติม 197 โครงสร้างหลักสตู รกลุม่ สาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย 201 (แผนการเรยี นวิทยาศาสตร์-คณติ ศาสตร์) 207 คําอธบิ ายรายวิชาระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย รายวชิ าพน้ื ฐาน 263 คําอธิบายรายวชิ าระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย รายวชิ าเพม่ิ เติม 268 อภิธานศัพท์ คณะผจู้ ัดทาํ หลกั สูตรกลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี : โรงเรยี นหารเทารังสปี ระชาสรรค์
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274