3. โครงสร้ำงของกำรบริหำรลกู เสือแห่งชำติ 101 โครงสร้ำงคณะลกู เสือแห่งชำติ กรรมการผ้ทู รงคณุ วฒุ ิ พระประมขุ คณะลกู เสือแหง่ ชาติ สภาลกู เสอื ไทย ผ้ตู รวจการลกู เสอื คณะกรรมการบริหารลกู เสอื แหง่ ชาติ คณะกรรมการลกู เสอื จงั หวดั คณะกรรมการลกู เสอื เขตพนื ้ ท่กี ารศกึ ษา สานกั งานลกู เสอื แหง่ ชาติ สานกั งานลกู เสอื จงั หวดั สานกั งานลกู เสอื เขตพนื ้ ท่กี ารศกึ ษา สถานศกึ ษา สถานศกึ ษา สถานศกึ ษา สโมสรลกู เสอื สโมสรลกู เสอื สโมสรลกู เสอื กำรบริหำรงำนของคณะลูกเสือแห่งชำติ สภำลกู เสือไทย ตามพระราชบญั ญตั ิลูกเสือ พ.ศ.2551 (2551) กาหนดใหส้ ภาลูกเสือไทยประกอบดว้ ย (1) นายกรัฐมนตรี เป็นสภานายก (2) รองนายกรัฐมนตรี เป็นอุปนายก (3) กรรมการโดยตาแหน่ง ไดแ้ ก่ รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงศึกษาธิการ รัฐมนตรีวา่ การ กระทรวงกลาโหม รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทย ปลดั สานกั นายกรัฐมนตรี ปลดั กระทรวง ศึกษาธิการ ปลดั กระทรวงกลาโหม ปลดั กระทรวงมหาดไทย ปลดั กระทรวงการพฒั นาสังคมและ ความมนั่ คงของมนุษย์ ผบู้ ญั ชาการทหารสูงสุด ผบู้ ญั ชาการทหารบก ผบู้ ญั ชาการทหารเรือ ผบู้ ญั ชาการทหารอากาศ ผบู้ ญั ชาการตารวจแห่งชาติ เลขาธิการสภาการศึกษา เลขาธิการ คณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา เลขาธิการ คณะกรรมการการอาชีวศึกษา เลขาธิการสภากาชาดไทย อธิบดีกรมการปกครอง
102 อธิบดีกรมการปกครองทอ้ งถิ่น ผวู้ า่ ราชการกรุงเทพมหานคร ผวู้ า่ ราชการจงั หวดั และผอู้ านวยการ ศูนยป์ ฏิบตั ิการลูกเสือชาวบา้ น (4) กรรมการผทู้ รงคุณวฒุ ิจานวนไม่เกินแปดสิบคนซ่ึงทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ แต่งต้งั ตามพระราชอธั ยาศยั ใหเ้ ลขาธิการสานกั งานลูกเสือแห่งชาติ เป็นกรรมการและเลขานุการ รองเลขาธิการและ ผชู้ ่วยเลขาธิการสานกั งานลูกเสือแห่งชาติ เป็นผชู้ ่วยเลขานุการ สภาลูกเสือไทยอาจมีสภานายกกิตติมศกั ด์ิ อุปนายกกิตติมศกั ด์ิ และกรรมการกิตติมศกั ด์ิ ซ่ึงจะไดท้ รงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ แต่งต้งั สภาลูกเสือไทยมีอานาจหนา้ ท่ีดงั ต่อไปน้ี (1) วางนโยบายเพอ่ื ความมนั่ คงและความเจริญกา้ วหนา้ ของคณะลูกเสือแห่งชาติ (2) ใหค้ าแนะนาในการปฏิบตั ิงานของคณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ (3) พจิ ารณารายงานประจาปี ของคณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ คณะกรรมกำรบริหำรลกู เสือแห่งชำติ คณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติซ่ึงเป็ นองคก์ รบริหารของคณะลูกเสือแห่งชาติ ประกอบดว้ ย (1) รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานกรรมการ (2) กรรมการโดยตาแหน่งไดแ้ ก่ ปลดั กระทรวงศึกษาธิการและปลดั กระทรวงมหาดไทย เป็นรองประธานกรรมการ เลขาธิการสภาการศึกษา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เลขาธิการ สภากาชาดไทย อธิบดีกรมการปกครอง อธิบดีกรมการปกครองทอ้ งถิ่น ผวู้ า่ ราชการ กรุงเทพมหานคร ผวู้ า่ ราชการจงั หวดั และผอู้ านวยการศูนยป์ ฏิบตั ิการลูกเสือชาวบา้ น (3) กรรมการผทู้ รงคุณวฒุ ิจานวนไม่เกินสิบหา้ คน ซ่ึงสภานายกสภาลูกเสือไทยแตง่ ต้งั โดยคาแนะนาของกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติตาม(1) และ(2) ซ่ึงในจานวนน้ีตอ้ งมาจาก ภาคเอกชนไม่นอ้ ยกวา่ ก่ึงหน่ึง ใหเ้ ลขาธิการสานกั งานลูกเสือแห่งชาติ เป็นกรรมการเลขานุการ รองเลขาธิการและผชู้ ่วย เลขาธิการสานกั งานลูกเสือแห่งชาติ เป็นผชู้ ่วยเลขานุการ กรรมการผทู้ รงคุณวฒุ ิตาม (3) มีวาระการดารงตาแหน่งคราวละส่ีปี และอาจไดร้ ับแต่งต้งั อีก ได้ แต่จะแตง่ ต้งั ติดต่อกนั เกินสองวาระมิได้ ในกรณีท่ีกรรมการตามวรรคหน่ึงพน้ จากตาแหน่งก่อนครบวาระ ใหด้ าเนินการแต่งต้งั กรรมการใหม่ภายในเกา้ สิบวนั นบั แต่วนั ท่ีกรรมการพน้ จากตาแหน่ง และใหผ้ ซู้ ่ึงไดร้ ับแต่งต้งั อยใู่ น ตาแหน่งเพียงเท่าวาระที่เหลืออยขู่ องผซู้ ่ึงตนแทน แตถ่ า้ วาระการดารงตาแหน่งเหลืออยนู่ อ้ ยกวา่ หน่ึง ร้อยแปดสิบวนั จะไม่ดาเนินการแตง่ ต้งั แทนก็ได้
103 คณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติมีอานาจหนา้ ที่ ดงั ต่อไปน้ี (1) ดาเนินการตามวตั ถุประสงคข์ องคณะลูกเสือแห่งชาติและตามนโยบายของ สภาลูกเสือไทย (2) ส่งเสริมความสมั พนั ธ์กบั คณะลูกเสือนานาชาติ (3) สนบั สนุนและส่งเสริมใหม้ ีการพฒั นาบุคลากรทางการลูกเสือ (4) สนบั สนุนใหม้ ีการจดั กิจกรรมอยา่ งตอ่ เน่ือง (5) จดั การทรัพยส์ ินของสานกั งานลูกเสือแห่งชาติ (6) ใหค้ วามเห็นชอบในการลงทุนเพอ่ื ประโยชน์ของสานกั งานลูกเสือแห่งชาติ (7) ออกขอ้ บงั คบั ของคณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติตามที่ระบุไวใ้ นพระราชบญั ญตั ิ น้ีโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา (8) วางระเบียบและแนวทางปฏิบตั ิเกี่ยวกบั กิจการลูกเสือ (9) จดั ทารายงานประจาปี เสนอสภาลูกเสือไทยพิจารณาตามมาตรา 12(3) (10) แตง่ ต้งั ที่ปรึกษาคณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ (11) แต่งต้งั คณะอนุกรรมการเพ่ือพิจารณาหรือปฏิบตั ิการตามที่คณะกรรมการบริหาร ลูกเสือแห่งชาติมอบหมาย (12) กากบั ดูแล สนบั สนุนและส่งเสริมกิจการลูกเสือชาวบา้ น (13) จดั ต้งั ตาแหน่งกิตติมศกั ด์ิ และตาแหน่งอื่นใดที่มิไดร้ ะบุไวพ้ ระราชบญั ญตั ิ (14) ปฏิบตั ิการอ่ืนใดตามท่ีกฎหมายกาหนดใหเ้ ป็ นอานาจหนา้ ท่ีของคณะกรรมการบริหาร ลูกเสือแห่งชาติหรือตามที่คณะรัฐมนตรีมอบหมาย สำนักงำนลกู เสือแห่งชำติ สานกั งานลูกเสือแห่งชาติเป็นหน่วยงานของรัฐที่ไม่เป็นส่วนราชการหรือรัฐวสิ าหกิจตาม กฎหมายวา่ ดว้ ยวธิ ีการงบประมาณหรือกฎหมายอื่น สานกั งานลูกเสือแห่งชาติมีฐานะเป็นนิติบุคคล และอยใู่ นกากบั ของกระทรวงศึกษาธิการ การแบง่ ส่วนงานภายในของสานกั งานลูกเสือแห่งชาติใหเ้ ป็นไปตามขอ้ บงั คบั คณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ ในการดาเนินการของสานกั งานลูกเสือแห่งชาติใหร้ ัฐมนตรีแต่งต้งั รองปลดั กระทรวง ศึกษาธิการคนหน่ึงทาหนา้ ที่เลขาธิการสานกั งานลูกเสือแห่งชาติ และแต่งต้งั ผบู้ ริหารระดบั สูงอื่นใน กระทรวงศึกษาธิการทาหนา้ ท่ีรองเลขาธิการและผชู้ ่วยเลขาธิการตามจานวนที่เหมาะสม โดยการ เสนอของเลขาธิการสานกั งานลูกเสือแห่งชาติ
104 สานกั งานลูกเสือแห่งชาติมีอานาจหนา้ ท่ีดาเนินการตามวตั ถุประสงคข์ องคณะลูกเสือ แห่งชาติและตามนโยบายของสภาลูกเสือไทยรวมท้งั มีอานาจหนา้ ท่ีดงั ต่อไปน้ี (1) ถือกรรมสิทธ์ิหรือสิทธิครอบครองในทรัพยส์ ินของคณะลูกเสือแห่งชาติหรือดาเนินการใดๆ เกี่ยวกบั ทรัพยส์ ิน (2) ทานิติกรรมสญั ญาหรือขอ้ ตกลงอ่ืน (3) รับผดิ ชอบการดาเนินงานของคณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ (4) ควบคุมดูแลกิจการลูกเสือใหเ้ ป็นไปตามกฎหมาย ขอ้ บงั คบั และระเบียบของทางราชการ และคณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ รวมท้งั ถูกตอ้ งตามแบบธรรมเนียมของลูกเสือ (5) จดั ใหม้ ีการฝึกอบรมหรือการชุมนุมลูกเสือ ผบู้ งั คบั บญั ชาลูกเสือและเจา้ หนา้ ที่ลูกเสือ (6) จดั ทารายงานประจาปี พร้อมงบดุลเสนอคณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ (7) จดั ใหม้ ีทะเบียนและสถิติต่างๆเก่ียวกบั ลูกเสือ (8) ประสานและส่งเสริมสานกั งานลูกเสือจงั หวดั และสานกั งานลูกเสือเขตพ้ืนท่ีการศึกษา (9) ปฏิบตั ิหนา้ ท่ีตามที่กาหนดไวใ้ นขอ้ บงั คบั และตามมติของคณะกรรมการบริหารลูกเสือ แห่งชาติ คณะกรรมกำรลกู เสือจังหวดั และสำนักงำนลกู เสือจังหวดั ในแต่ละจงั หวดั ใหจ้ ดั ระเบียบการปกครองลูกเสือตามเขตจงั หวดั สาหรับการจดั ระเบียบการปกครองลูกเสือในกรุงเทพมหานครและองคก์ รปกครองส่วน ทอ้ งถ่ินท่ีมีกฎหมายจดั ต้งั เป็ นรูปแบบพเิ ศษใหเ้ ป็นไปตามท่ีกาหนดไวใ้ นกฎกระทรวงโดยมี คณะกรรมการลูกเสือจงั หวดั ประกอบดว้ ย (1) ผวู้ า่ ราชการจงั หวดั เป็นประธานกรรมการ (2) กรรมการโดยตาแหน่ง ไดแ้ ก่ รองผูว้ า่ ราชการจงั หวดั เป็นรองประธานกรรมการ ปลดั จงั หวดั นายกเหล่ากาชาดจงั หวดั ผบู้ งั คบั การตารวจภูธรจงั หวดั นายกองคก์ ารส่วนบริหาร จงั หวดั นายอาเภอ นายกเทศมนตรี นายกสมาคมการศึกษาเอกชนจงั หวดั และผอู้ านวยการ สานกั งานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา (3) กรรมการประเภทผแู้ ทนจานวนหา้ คน ไดแ้ ก่ ผแู้ ทนสถาบนั อุดมศึกษา ผแู้ ทนสถานศึกษา อาชีวศึกษา ผแู้ ทนค่ายลูกเสือจงั หวดั แทนสมาคมหรือสโมสรลูกเสือ และผแู้ ทนจากลูกเสือชาวบา้ น ซ่ึงเลือกกนั เองกลุ่มละหน่ึงคน (4) กรรมการผทู้ รงคุณวฒุ ิจานวนไม่เกินสิบคน ซ่ึงประธานกรรมการแต่งต้งั โดยคานานาของ กรรมการลูกเสือจงั หวดั ตาม(2)และ(3) ในจานวนน้ีจะตอ้ งแต่งต้งั จากภาคเอกชนไม่นอ้ ยกวา่ ก่ึงหน่ึง ใหผ้ อู้ านวยการสานกั งานเขตพ้ืนการศึกษาเขต 1 เป็นกรรมการและเลขานุการ ใหผ้ อู้ านวยการศูนยก์ ารศึกษานอกโรงเรียนจงั หวดั เป็นกรรมการและผูช้ ่วยเลขานุการ
105 หลกั เกณฑแ์ ละวธิ ีการในการเลือกกรรมการตาม (3) ใหเ้ ป็นไปตามขอ้ บงั คบั คณะกรรมการ บริหารลูกเสือแห่งชาติ คณะกรรมการลูกเสือจงั หวดั มีอานาจหนา้ ท่ีภายในเขตจงั หวดั ดงั ต่อไปน้ี (1) ควบคุมดูแลกิจการลูกเสือใหเ้ ป็นไปตามกฎหมาย ขอ้ บงั คบั และระเบียบของทางราชการ และคณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ (2) ส่งเสริมและสนบั สนุนความมน่ั คงและความเจริญกา้ วหนา้ ของกิจการลูกเสือ (3) สนบั สนุนและส่งเสริมใหม้ ีการพฒั นาบุคลากรทางการลูกเสือ (4) ควบคุมดูแลทรัพยส์ ินในกิจการลูกเสือจงั หวดั (5) พจิ ารณาคาขอการจดั ต้งั ค่ายลูกเสือตามมาตรา 32 (6) พิจารณารายงานประจาปี ของสานกั งานลูกเสือจงั หวดั (7) ใหค้ วามเห็นชอบแผนปฏิบตั ิการประจาปี (8) ใหค้ าแนะนาผอู้ านวยการลูกเสือเขตพ้ืนที่การศึกษาในการปฏิบตั ิงานลูกเสือ (9) จดั ใหม้ ีทะเบียนและสถิติต่างๆเก่ียวกบั การดาเนินกิจการลูกเสือ (10) ออกระเบียบปฏิบตั ิเกี่ยวกบั กิจการลูกเสือ เพ่ือความเหมาะสมแก่การปกครองในจงั หวดั ซ่ึงจะตอ้ งไม่ขดั แยง้ กบั กฎหมาย ขอ้ บงั คบั และระเบียบของทางราชการและคณะกรรมการบริหาร ลูกเสือแห่งชาติ (11) จดั ทารายงานประจาปี และรายงานท่ีเก่ียวขอ้ งกบั กิจการลูกเสือในจงั หวดั เสนอต่อคณะ กรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ (12) แต่งต้งั คณะอนุกรรมการเพอ่ื ดาเนินการอยา่ งหน่ึงอยา่ งใด ตามท่ีคณะกรรมการลูกเสือ จงั หวดั มอบหมาย (13) ปฏิบตั ิงานอื่นตามที่คณะกรรมการลูกเสือจงั หวดั มอบหมาย ใหม้ ีสานกั งานลูกเสือจงั หวดั อยใู่ นสานกั งานเขตพ้ืนที่การศึกษาเขต 1 โดยมีผอู้ านวยการ สานกั งานเขตพ้ืนที่การศึกษาเขต 1 เป็ นหวั หนา้ สานกั งานลูกเสือจงั หวดั บงั คบั บญั ชาและรับผดิ ชอบ การดาเนินงานของสานกั งานลูกเสือจงั หวดั และใหผ้ อู้ านวยการศูนยก์ ารศึกษานอกโรงเรียนจงั หวดั เป็นผชู้ ่วยหวั หนา้ สานกั งานลูกเสือจงั หวดั คณะกรรมกำรลกู เสือเขตพืน้ ทก่ี ำรศึกษำ สานกั งานลูกเสือเขตพ้นื ท่ีการศึกษา มีคณะกรรมการลูกเสือเขตพ้ืนท่ีการศึกษา ประกอบดว้ ย (1) ผอู้ านวยการสานกั งานเขตพ้ืนที่การศึกษา เป็นประธนกรรมการ (2) กรรมการโดยตาแหน่ง ไดแ้ ก่ ผกู้ ากบั การสถานีตารวจภูธรของทุกอาเภอในเขตพ้นื ท่ี การศึกษา หรือผกู้ ากบั การสถานีตารวจนครบาลของทุกสถานีในเขตพ้ืนท่ีการศึกษาของ กรุงเทพมหานคร
106 (3) กรรมการประเภทผแู้ ทนไดแ้ ก่ ผแู้ ทนองคก์ ารปกครองส่วนทอ้ งถ่ิน ผแู้ ทนสถานศึกษาใน สังกดั เขตพ้นื ท่ีการศึกษา ผแู้ ทนสถานศึกษาเอกชน ผแู้ ทนสถานศึกษาอาชีวศึกษา ผแู้ ทน สถาบนั อุดมศึกษา ผแู้ ทนศูนยบ์ ริการการศึกษานอกโรงเรียนอาเภอ ผแู้ ทนคา่ ยลูกเสือ และ ผแู้ ทนสมาคมหรือสโมสรลูกเสือ ซ่ึงเลือกกนั เองกลุ่มละหน่ึงคน (4) กรรมการผทู้ รงคุณวุฒิจานวนไม่เกินเจด็ คน ซ่ึงประธานกรรมการแตง่ ต้งั โดยคาแนะนาของ กรรมการตาม (2)และ(3) ในจานวนน้ีจะตอ้ งแต่งต้งั จากภาคเอกชนไมน่ อ้ ยกวา่ ก่ึงหน่ึง ใหร้ องผอู้ านวยการสานกั งานเขตพ้ืนที่การศึกษาที่ไดร้ ับมอบหมายเป็นกรรมการและเลขานุการ และใหผ้ อู้ านวยการสานกั งานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาแต่งต้งั ขา้ ราชการในสานกั งานเขตพ้นื ท่ีการศึกษาอีก ไมเ่ กินสองคนเป็ นผชู้ ่วยเลขานุการ หลกั เกณฑแ์ ละวธิ ีการในการเลือกกรรมการตาม (3) ใหเ้ ป็นไปตามขอ้ บงั คบั คณะกรรมการ บริหารลูกเสือแห่งชาติ คณะกรรมการลูกเสือเขตพ้นื ที่การศึกษามีอานาจหนา้ ท่ีภายในเขตพ้นื ท่ีการศึกษา ดงั ตอ่ ไปน้ี (1) ควบคุมดูแลกิจการลูกเสือให้เป็นไปตามกฎหมาย ขอ้ บงั คบั และระเบียบของทางราชการ และคณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ (2) ส่งเสริมและสนบั สนุนความมนั่ คงและความเจริญกา้ วหนา้ ของกิจการลูกเสือ (3) ส่งเสริมและสนบั สนุนใหม้ ีการจดั กิจกรรมลูกเสือท้งั ในและนอกสถานศึกษา (4) ควบคุมดูแลทรัพยส์ ินในกิจการของลูกเสือเขตพ้นื ท่ีการศึกษา (5) พจิ ารณารายงานประจาปี ของสานกั งานลูกเสือเขตพ้นื ท่ีการศึกษาและรายงานให้ คณะกรรมการลูกเสือจงั หวดั ทราบ (6) ใหค้ วามเห็นชอบในแผนปฏิบตั ิการประจาปี (7) ใหค้ าแนะนาแก่ผูอ้ านวยการสถานศึกษาในการปฏิบตั ิงานหรือจดั กิจกรรมลูกเสือ (8) จดั ใหม้ ีทะเบียนและสถิติตา่ งๆเก่ียวกบั ลูกเสือ (9) กากบั ดูแล สนบั สนุนและส่งเสริมกิจการลูกเสือชาวบา้ นในเขตพ้นื ท่ีการศึกษา (10) ออกระเบียบปฏิบตั ิเก่ียวกบั กิจการลูกเสือ เพอ่ื ความเหมาะสมแก่การปกครองในเขตพ้ืนท่ี การศึกษา ซ่ึงจะตอ้ งไม่ขดั แยง้ กบั กฎหมาย ขอ้ บงั คบั และระเบียบของทางราชการและ คณะกรรมการบิหารลูกเสือแห่งชาติ สานกั งานลูกเสือเขตพ้นื ท่ีการศึกษาอยใู่ นสานกั งานเขตพ้นื ท่ีการศึกษาน้นั โดยมีผอู้ านวยการ สานกั งานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาเป็นหวั หนา้ สานกั งานลูกเสือเขตพ้ืนท่ีการศึกษา บงั คบั บญั ชาและ รับผดิ ชอบการดาเนินงานของสานกั งานลูกเสือเขตพ้นื ที่การศึกษา และใหร้ องผอู้ านวยการสานกั งาน เขตพ้นื การศึกษาซ่ึงผอู้ านวยการสานกั งานเขตพ้ืนท่ีการศึกษามอบหมาย เป็นผชู้ ่วยหวั หนา้ สานกั งาน ลูกเสือเขตพ้ืนท่ีการศึกษา
107 มำตรำทสี่ ำคญั ของพระรำชบัญญตั ลิ กู เสือ พ.ศ.2551 มาตรา 4 ในพระราชบญั ญตั ิน้ี “ลูกเสือ” หมายความวา่ เดก็ และเยาวชนท้งั ชายและหญิง ที่สมคั รเขา้ เป็ นลูกเสือท้งั ใน สถานศึกษาและนอกสถานศกึ ษา ส่วนลูกเสือที่เป็นหญิงใหเ้ รียกวา่ “เนตรนารี” “บุคลากรทางการลูกเสือ” หมายความวา่ ผูบ้ งั คบั บญั ชาลูกเสือ ผตู้ รวจการลูกเสือ กรรมการลูกเสือ อาสาสมคั รลูกเสือ และเจา้ หนา้ ท่ีลูกเสือ “รัฐมนตรี” หมายความวา่ รัฐมนตรีผรู้ ักษาการตามพระราชบญั ญตั ิน้ี มาตรา 6 ใหม้ ีคณะลูกเสือแห่งชาติ ประกอบดว้ ย บรรดาลูกเสือท้งั ปวงและบุคลากรทางการ ลูกเสือ มาตรา 7 พระมหากษตั ริยท์ รงเป็ นพระประมุขของคณะลูกเสือแห่งชาติ มาตรา 8 คณะลูกเสือแห่งชาติ มีวตั ถุประสงคเ์ พ่อื พฒั นาลูกเสือท้งั ทางกาย สติปัญญา จิตใจและ ศีลธรรม ใหเ้ ป็นพลเมืองดี มีความรับผดิ ชอบ และช่วยสร้างสรรคส์ ังคมใหเ้ กิดความสามคั คี และมี ความเจริญกา้ วหนา้ ท้งั น้ีเพอ่ื ความสงบสุข และความมน่ั คงของประเทศชาติตามแนวทางดงั ตอ่ ไปน้ี (1) ใหม้ ีนิสัยในการสังเกต จดจา เชื่อฟัง และพ่งึ ตนเอง (2) ใหซ้ ื่อสัตยส์ ุจริต มีระเบียบวินยั และเห็นอกเห็นใจผอู้ ื่น (3) ใหร้ ู้จกั บาเพญ็ ตนเพื่อสาธารณประโยชน์ (4) ใหร้ ู้จกั ทาการฝีมือ และฝึกฝนใหท้ ากิจกรรมต่างๆ ตามความเหมาะสม (5) ใหร้ ู้จกั รักษาและส่งเสริมจารีตประเพณี วฒั นธรรมและความมน่ั คงของประเทศชาติ มาตรา 9 ใหก้ ระทรวงศึกษาธิการมีหนา้ ท่ีส่งเสริมและสนบั สนุนงานของคณะลูกเสือแห่งชาติ เพ่อื ใหบ้ รรลุวตั ถุประสงคข์ องคณะลูกเสือแห่งชาติ รวมท้งั ส่งเสริมและสนบั สนุนการดาเนินงานของ สานกั งานลูกเสือแห่งชาติ สานกั งานลูกเสือจงั หวดั สานกั งานลูกเสือเจตพ้ืนท่ีการศึกษา สถานศึกษา และหน่วยงานอ่ืนท่ีเกี่ยวขอ้ ง เพื่อใหก้ ารจดั กิจกรรมลูกเสือเป็นไปอยา่ งทว่ั ถึงและมีประสิทธิภาพ มาตรา 18 ใหม้ ีสานกั งานลูกเสือแห่งชาติเป็นหน่วยงานของรัฐท่ีไมเ่ ป็ นส่วนราชการหรือ รัฐวสิ าหกิจตามกฎหมายวา่ ดว้ ยวธิ ีการงบประมาณหรือกฎหมายอื่น ใหส้ านกั งานลูกเสือแห่งชาติมีฐานะเป็ นนิติบุคคลและอยใู่ นกากบั ของกระทรวงศึกษาธิการ การจดั แบง่ ส่วนงานภายในของสานกั งานลูกเสือแห่งชาติใหเ้ ป็นไปตามขอ้ บงั คบั คณะกรรมการ บริหารลูกเสือแห่งชาติ มาตรา 19 เพื่อประโยชน์ในการดาเนินการของสานกั งานลูกเสือแห่งชาติ ใหร้ ัฐมนตรีแต่งต้งั รองปลดั กระทรวงศึกษาธิการคนหน่ึงทาหนา้ ที่เลขาธิการสานกั งานลูกเสือแห่งชาติ และแตง่ ต้งั ผบู้ ริหารระดบั สูงอ่ืนในกระทรวงศึกษาธิการทาหนา้ ท่ีรองเลขาธิการและผชู้ ่วยเลขาธิการตามจานวน ที่เหมาะสมโดยการเสนอของเลขาธิการสานกั งานลูกเสือแห่งชาติ
108 การปฏิบตั ิหนา้ ที่ของขา้ ราชการกระทรวงศึกษาธิการตามวรรคหน่ึง ใหถ้ ือเป็นการปฏิบตั ิ ราชการดว้ ย เอกสำรอ้ำงองิ สานกั งานเลขานุการนายกรัฐมนตรี.(2551). พระราชบญั ญตั ิลูกเสือ พ.ศ.2551. ราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 125 ตอนที่ 42 ก. หนา้ 92-115. 4 มีนาคม 2551
เร่ือง คำปฏญิ ำณและกฎของลูกเสือ 109 บทเรียนท่ี 6 เวลำ 60 นำที ขอบข่ำยวชิ ำ 1. ความสาคญั ของคาปฏิญาณและกฎของลูกเสือ 2. การแปลความหมายคาปฏิญาณและกฎของลูกเสือ 3. กิจกรรมเหมาะสมจะทาใหล้ ูกเสือสามญั รุ่นใหญ่เขา้ ใจในเรื่องคาปฏิญาณและกฎของลูกเสือ ยง่ิ ๆข้ึน 4. วธิ ีการท่ีจะช่วยลูกเสือสามญั รุ่นใหญป่ ฏิบตั ิตามคาปฏิญาณและกฎของลูกเสือเป็นรายบุคคล จุดหมำย เพื่อใหผ้ เู้ ขา้ รับการฝึกอบรมมีความรู้ ความเขา้ ใจ ยอมรับคาปฏิญาณและกฎของลูกเสือ ตลอดจนแปลความหมายคาปฏิญาณและกฎของลูกเสือสามญั รุ่นใหญ่ สามารถนาไปใชก้ บั ลูกเสือได้ วตั ถุประสงค์ เม่ือจบบทเรียนน้ีแลว้ ผเู้ ขา้ รับการฝึกอบรมควรจะมีความสามารถ 1. อธิบายถึงความสาคญั ของคาปฏิญาณและกฎของลูกเสือได้ 2. แปลความหมายคาปฏิญาณและกฎของลูกเสือสามญั รุ่นใหญไ่ ดถ้ ูกตอ้ ง 3. ระบุกิจกรรมที่จะช่วยใหล้ ูกเสือสามญั รุ่นใหญ่เขา้ ใจเร่ืองคาปฏิญาณและกฎของลูกเสือได้ 4. บอกวธิ ีการที่จะช่วยลูกเสือสามญั รุ่นใหญ่ปฏิบตั ิตามคาปฏิญาณและกฎของลูกเสือเป็นรายบุคคลได้ วธิ ีสอน / กจิ กรรม 1. บรรยายและช้ีแจงวตั ถุประสงค์ 20 นาที 2. แบง่ กลุ่มปฏิบตั ิงาน 20 นาที 3. นาเสนอในที่ประชุมหมูล่ ะ 3 นาที รวม 15 นาที 4. สรุป 5 นาที ส่ือกำรสอน - แผนภูมิ คาปฏิญาณและกฎของลูกเสือ และคติพจน์ กำรประเมินผล 1. สังเกตความสนใจ ต้งั ใจในการอภิปรายกลุ่ม 2. ดูผลงานของหมูท่ ี่นาเสนอ
110 เนื้อหำวชิ ำ ความสนใจและความต้งั ใจ – การเขา้ ร่วมกิจกรรม โดยการซกั ถามคาปฏิญาณของลูกเสือและ คติพจน์ผลของการรายงาน 1. ควำมสำคัญของคำปฏญิ ำณและกฎของลูกเสือ ส่ิงที่เป็นปัจจยั สาคญั อยา่ งยงิ่ ทาใหข้ บวนการลูกเสือไดว้ ฒั นาถาวรกา้ วหนา้ กวา่ ขบวนการ เยาวชนอื่น ๆ กค็ ือ คาปฏิญาณและกฎของลูกเสือ ซ่ึงคาปฏิญาณและกฎของลูกเสือ มีความสาคญั ดงั น้ี 1. คาปฏิญาณและกฎของลูกเสือเป็นหลกั การสาคญั ประการหน่ึงของหมู่ลูกเสือ ลูกเสือทุก คนจะตอ้ งยอมรับและปฏิบตั ิตามคาปฏิญาณและกฎของลูกเสือ นอกจากน้นั ประเทศท่ีสมคั รเขา้ เป็ น สมาชิกของสมชั ชาลูกเสือโลก กจ็ ะตอ้ งกาหนดใหม้ ีคาปฏิญาณและกฎของลูกเสือสาหรับลูกเสือของ ตน โดยอนุโลมตามหลกั การท่ีกาหนดไวใ้ นธรรมนูญของสมชั ชาลูกเสือโลก ท้งั น้ี ทาใหส้ อดคลอ้ ง กบั หลกั การท่ีวา่ ลูกเสือทุกคนทวั่ โลกเป็นพี่นอ้ งกนั 2. คาปฏิญาณของลูกเสือสารอง 2 ขอ้ และกฎของลูกเสือสารอง 2 ขอ้ แสดงออกซ่ึง อุดมการณ์อยา่ งเดียวกบั คาปฏิญาณและกฎของลูกเสืออื่น ๆ แต่ใชภ้ าษาง่าย ๆ ซ่ึงเด็กในวยั ลูกเสือ สารองพอจะเขา้ ใจได้ กฎของลูกเสือท่ีวา่ ลูกเสือสารองทาตามลูกเสือรุ่นพี่และลูกเสือสารองไมท่ าใจ ตามตนเองน้นั เป็ นเร่ืองง่าย ๆ แตไ่ มใ่ ช่ไร้สาระ ความจริงกฎของลูกเสือสารองเป็นเร่ืองสาคญั มาก และถา้ เดก็ เขา้ ใจโดยถ่องแทแ้ ลว้ กจ็ ะซึมซาบไปในจิตของเดก็ ตลอดชีวติ ของเขา 3. นอกจากลูกเสือสารอง ลูกเสือทุกประเภทตลอดจนลูกเสือชาวบา้ นและเจา้ หนา้ ท่ีลูกเสือ ทุกคนจะตอ้ งจาคาปฏิญาณ 3 ขอ้ และกฎของลูกเสือ 10 ขอ้ ตามท่ีคณะลูกเสือแห่งชาติกาหนดไวใ้ ห้ ทุกตวั อกั ษร กบั จะตอ้ งพยายามอยา่ งดีที่สุดท่ีจะตอ้ งปฏิบตั ิตามคาปฏิญาณของกฎลูกเสือใน ชีวติ ประจาวนั 4. ในระหวา่ งอยคู่ า่ ยพกั แรมของลูกเสือ และในระหวา่ งการฝึ กอบรมผบู้ งั คบั บญั ชาลูกเสือ ทุกคร้ังจะมีประกาศวา่ กฎของลูกเสือคือกฎของค่ายน้ี ซ่ึงกเ็ ป็นขอ้ ความส้ัน ๆ แตไ่ ดผ้ ลดีพอสมควร 5. ในคาปฏิญาณและกฎของลูกเสือไม่มีคาวา่ “อยา่ ” หรือ “ตอ้ ง” คือไมม่ ีการ “หา้ ม” หรือ “บงั คบั ” แตเ่ ป็ นคาปฏิญาณหรือคามนั่ สัญญาท่ีลูกเสือและผบู้ งั คบั บญั ชาลูกเสือไดก้ ล่าวรับรองดว้ ย เกียรติของตนเองและดว้ ยความสมคั รใจ ส่วนกฎของลูกเสือไดก้ าหนดไวก้ ลาง ๆ เพื่อใหล้ ูกเสือถือ เป็นหลกั ปฏิบตั ิในชีวติ ประจาวนั และโดยเฉพาะผบู้ งั คบั บญั ชาลูกเสือจะตอ้ งเคร่งครัดในการปฏิบตั ิ ตามกฎลูกเสือเป็นพเิ ศษ เพอ่ื บาเพญ็ ตนใหเ้ ป็นตวั อยา่ งท่ีดีแก่ลูกเสือโดยทวั่ ไป 6. คาปฏิญาณและกฎของลูกเสือทุกขอ้ สอดคลอ้ งกบั หลกั ศีลธรรมของศาสนาทุกศาสนา 7. คาปฏิญาณและกฎของลูกเสือทาใหล้ ูกเสือมีความจงรักภกั ดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษตั ริย์ รู้จกั บาเพญ็ ตนใหเ้ ป็ นประโยชนแ์ ละช่วยเหลือผอู้ ื่น
111 8. หลกั สาคญั ประการหน่ึงของลูกเสือชาวบา้ น คือ การยึดถือและปฏิบตั ิตามคาปฏิญาณ และกฎของลูกเสือ ดงั น้นั จึงอาจกล่าวไดว้ า่ ลูกเสือชาวบา้ นกเ็ ป็นกาลงั สาคญั อีกส่วนหน่ึงในการสร้าง ความมนั่ ใจใหแ้ ก่ประเทศชาติดว้ ยเช่นกนั 9. เจา้ หนา้ ที่ลูกเสือจะตอ้ งเขา้ ใจความหมายของคาปฏิญาณและกฎของลูกเสืออยา่ งชดั เจน กบั ท้งั จะตอ้ งสามารถทาการฝึกอบรมลูกเสือให้เขา้ ใจในความสาคญั ของคาปฏิญาณและกฎของ ลูกเสือดว้ ยวธิ ีการต่างๆ ที่เหมาะสมแก่วยั ของเด็ก 2. กำรแปลควำมหมำยคำปฏญิ ำณและกฎลกู เสือสำมัญรุ่นใหญ่ คำปฏิญำณของลูกเสือ คาวา่ “ปฏญิ ำณ” ตามพจนานุมกรมฉบบั ราชบณั ฑิตยสถาน แปลวา่ “การใหค้ ามนั่ สญั ญา โดยสุจริตใจ” กำรกล่ำวคำปฏิญำณของลกู เสือ ลูกเสือตอ้ งกล่าวคาปฏิญาณออกมาดว้ ยเสียงที่หนกั แน่น และชดั ถอ้ ยชดั คา ดงั น้ี ดว้ ยเกียรติของขา้ ขา้ สญั ญาวา่ ขอ้ 1 ขา้ จะจงรักภกั ดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษตั ริย์ ขอ้ 2 ขา้ จะช่วยเหลือผอู้ ่ืนทุกเม่ือ ขอ้ 3 ขา้ จะปฏิบตั ิตามกฎของลูกเสือ กำรแปลควำมหมำยคำปฏิญำณของลูกเสือ จำกคำปฏิญำณข้อที่ 1 หมำยถึง บทบาทที่ลูกเสือพงึ มีตอ่ ชาติ ศาสนา และพระมหากษตั ริย์ ดงั ตอ่ ไปน้ี 1. หน้ำทต่ี ่อชำติ ชาติไทย คือ แผน่ ดินและน่านน้าที่รวมกนั เรียกวา่ ประเทศไทย ประกอบดว้ ยประชาชน พลเมืองท่ีรวมกนั เรียกวา่ คนไทย ธงชาติเป็นเครื่องหมายแทนชาติ ฉะน้นั ธงชาติเป็ นสิ่งท่ีควรแก่การเคารพเป็นหนา้ ท่ีของ ลูกเสือทุกคนจะตอ้ งแสดงความเคารพในโอกาสที่ชกั ธงข้ึนสู่ยอดเสา และเวลาชกั ธงลงจากยอดเสา พธิ ีชกั ธงชาติข้ึนสู่เสาหรือชกั ธงลงจากเสาน้ี เป็นพธิ ีสาคญั อยา่ งหน่ึงของลูกเสือ ซ่ึงจะตอ้ ง กระทาดว้ ยความเป็นระเบียบเรียบร้อย ผทู้ ี่ไดร้ ับมอบหมายใหช้ กั ธงควรถือวา่ เป็นเกียรติที่ไดร้ ับ มอบหมายใหท้ างานน้ี และจะตอ้ งระมดั ระวงั ไมใ่ หส้ ่วนหน่ึงส่วนใดของธงสมั ผสั กบั พ้นื ดินเป็ นอนั ขาด ลูกเสือไม่ควรกระทาการใด ๆ ในอนั จะนาซ่ึงความเส่ือมเสียเกียรติของธงชาติ เช่น นาผนื ธง ไปถูพ้ืน เช็ดส่ิงของหรือเหยียบย่าและกองวางแทบเทา้
112 ธงชาติไทยเรียกวา่ ธงไตรรงค์ แปลวา่ ธงสามสี ลูกเสือควรจะทราบดว้ ยวา่ แต่ละสีมี ความหมายอยา่ งไร สญั ลกั ษณ์อีกอยา่ งหน่ึงของธงชาติไทย คือ เพลงชาติ ลูกเสือและผบู้ งั คบั บญั ชาลูกเสือทุก คนจะตอ้ งสามารถร้องเพลงชาติไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง บทเพลงที่ส่งเสริมความรักชาติบา้ นเมืองของเรามีอยหู่ ลายเพลง เช่น “เพลงบทรักชาติ บา้ นเมือง” “เพลงสยามมานุสติ” และ “เพลงไทยรวมกาลงั ต้งั มน่ั ” ซ่ึงเป็นพระราชนิพนธ์ของ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกลา้ เจา้ อยหู่ วั นอกจากน้ีก็มีเพลงของหลวงวจิ ิตรวาทการ ซ่ึงไดร้ ับความ นิยมอยา่ งแพร่หลาย เช่น “เพลงแหลมทอง” “เพลงรักเมืองไทย” และเพลง “เดิน , เดิน, เดิน” เป็ นตน้ 2. หน้ำทต่ี ่อศำสนำ ลูกเสือจะนบั ถือศาสนาใด ๆ กไ็ ด้ เพราะทุกศาสนากม็ ีความมุง่ หมายอยา่ งเดียวกนั คือสอนให้ บุคคลเป็นคนดี ไดแ้ ก่การละเวน้ ความชวั่ กระทาแตค่ วามดีและทาใจใหผ้ อ่ งใสบริสุทธ์ิ ผบู้ งั คบั บญั ชาลูกเสือพงึ ส่งเสริมใหเ้ ดก็ ปฏิบตั ิตามหลกั พิธีการของศาสนาท่ีเดก็ นบั ถือ ทุกคร้ังท่ีมีการฝึกอบรม จะตอ้ งทาพิธีเปิ ดประชุมกอง ภายหลงั ท่ีไดก้ ระทาพิธีชกั ธงข้ึนสู่ ยอดเสาแลว้ ควรมีการสวดมนตแ์ ละสงบน่ิงเพื่อระลึกถึงและขอความคุม้ ครองจากสิ่งศกั ด์ิสิทธ์ิ ท้งั หลายโดยเฉพาะดวงวิญญาณของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกลา้ เจา้ อยหู่ วั องคพ์ ระผพู้ ระราชทาน กาเนิดลูกเสือไทย อน่ึง ควรส่งเสริมใหเ้ ดก็ มีส่วนร่วมในพธิ ีกรรมทางศาสนา และรู้จกั สวดมนตไ์ หวพ้ ระก่อน นอนเป็ นประจาทุกคืน ตวั อยา่ งในการปฏิบตั ิตนของผบู้ งั คบั บญั ชาลูกเสือเป็ นเรื่องสาคญั มาก เจตคติในการสวด มนตไ์ หวพ้ ระ กิริยามารยาท ความเมตตาปรานี และความซ่ือสัตยส์ ุจริตของผบู้ งั คบั บญั ชาลูกเสือที่ แสดงออกมาในการติดต่อกบั ผอู้ ื่นยอ่ มเป็นที่ประทบั ใจ ทาใหล้ ูกเสือจดจาเป็นตวั อยา่ งและประพฤติ เป็ นนิสัยต่อไป 3. หน้ำทตี่ ่อพระมหำกษัตริย์ ผกู้ ากบั ลูกเสือพึงหาวธิ ีการต่างๆ ที่จะทาใหล้ ูกเสือสนใจในพระราชกรณียก์ ิจของ พระมหากษตั ริย์ โดยเนน้ ถึงเวลาที่พระองคท์ รงอุทิศใหแ้ ก่บา้ นเมือง และเสด็จพระราชดาเนินไปทรง เยยี่ มเยยี นประชาชนในทอ้ งถ่ินต่าง ๆ ทว่ั ราชอาณาจกั ร พระมหากษตั ริยท์ รงเป็นพระประมุขของชาติ เป็นที่รวมแห่งความเคารพสกั การะและความ สามคั คีของคนไทยท้งั ชาติ นอกจากน้นั พระองคย์ งั ทรงเป็นพระประมุขของคณะลูกเสือแห่งชาติดว้ ย จากคาปฏิญาณขอ้ ท่ี 2 หมายถึง การบาเพญ็ ประโยชน์ต่อผอู้ ่ืนเป็ นหลกั สาคญั ประการหน่ึง ของลูกเสือและเป็นสิ่งหน่ึงท่ีทาใหก้ ารลูกเสือมีช่ือเสียง ไดร้ ับการยกยอ่ งจากประชาชนโดยทวั่ ไป
113 แหล่งหรือโอกาสที่ลูกเสือจะบาเพญ็ ประโยชนน์ ้นั ควรเร่ิมจากส่ิงท่ีใกลต้ วั เด็กก่อนแลว้ ขยาย ออกไปตามวยั และความสามารถของเดก็ กล่าวคือ 1) บ้ำนของลกู เสือ ควรส่งเสริมใหเ้ ด็กทางานบา้ น หรือบาเพญ็ ระโยชนต์ ่อครอบครัวเพ่ือ เป็นการเพาะนิสยั ที่ดีใหแ้ ก่เด็ก นอกจากน้นั ควรมีวธิ ีการตรวจสอบวา่ เด็กไดบ้ าเพญ็ ประโยชน์ต่อ ครอบครัว หรือทางานในบา้ นประการใดหรือไม่ เช่น เม่ือมีการประชุมกองประจาสปั ดาห์ ผบู้ งั คบั บญั ชาอาจใหล้ ูกเสือแสดงออก คือ เล่าใหฟ้ ังวา่ ในสัปดาห์ที่แลว้ หรือเมื่อวานน้ีเขาไดท้ างาน บา้ นอะไรบา้ ง 2) โรงเรียนทตี่ ้ังกองลูกเสือ ผบู้ งั คบั บญั ชาลูกเสือควรส่งเสริมใหเ้ ดก็ ไดท้ างานเป็นประโยชน์ ตอ่ เพ่ือน ๆ ต่อห้องเรียนและต่อโรงเรียนใหม้ ากท่ีสุด โดยสอนใหล้ ูกเสือตระหนกั วา่ งานเป็นสิ่งที่มี เกียรติ งานเทา่ น้นั เป็นเคร่ืองวดั คุณค่าของคน การส่งเสริมใหล้ ูกเสือทางานเป็นหมู่ เป็ นคณะ รับผดิ ชอบร่วมกนั ดีกวา่ การทางานเป็ น รายบุคคล การต้งั กรรมการหรือมอบหมายใหล้ ูกเสือดาเนินงานในโรงเรียนเป็ นชุด ๆ เป็นวธิ ีการที่ดี ท่ีสุด ก่อนท่ีจะใหล้ ูกเสือทางาน ควรพดู ใหล้ ูกเสือเขา้ ใจงานอนั เป็นหนา้ ที่ท่ีจะตอ้ งกระทาและเห็น คุณประโยชน์ของการทางานน้นั ๆ เรียกวา่ “ปฐมนิเทศ” และหลงั ท่ีลูกเสือไดท้ างานเสร็จแลว้ ควรมี การพูดโนม้ นา้ วใหล้ ูกเสือไดม้ องเห็นคุณคา่ ของการทางาน เรียกวา่ “ปัจฉิมนิเทศ” ท้งั น้ีเพือ่ เป็นการ สร้างความเขา้ ใจอนั ถูกตอ้ งส่งเสริมความคิดและสร้างเจตคติท่ีดีใหแ้ ก่ลูกเสือ 3) บริเวณใกล้ชิดกบั โรงเรียนหรือทตี่ ้ังกองลกู เสือ กองลูกเสือของเราส่วนใหญ่อยใู่ น โรงเรียนและโรงเรียนที่มีกองลูกเสือหลายแห่งอยใู่ นบริเวณวดั หรือใกลช้ ิดกบั วดั ในกรณีน้ีควรถือ เป็นกิจวตั รใหล้ ูกเสือบาเพญ็ ประโยชนใ์ นบริเวณวดั อยสู่ ม่าเสมอ ไมใ่ ช่นาน ๆ ทาคร้ังหน่ึง แตค่ วร ใหเ้ ด็กทาเป็นประจา โดยเฉพาะในเร่ืองความสะอาดและความสวยงามของสถานท่ี นอกจากน้นั ควร มองไกลออกไปถึงบริเวณใกลช้ ิดกบั โรงเรียนหรือท่ีต้งั กองลูกเสือดว้ ย ท้งั ดา้ นหนา้ ดา้ นขา้ งและ ดา้ นหลงั โรงเรียน ถา้ มีงานส่ิงใดที่ลูกเสืออาจบาเพญ็ ประโยชน์ได้ ก็ควรส่งเสริมใหล้ ูกเสือกระทา เช่น ช่วยบารุงรักษาตน้ ไมร้ ิมถนนท่ีเทศบาลไดป้ ลูกไว้ เป็นตน้ เร่ืองการบาเพญ็ ประโยชนใ์ นบา้ น บาเพญ็ ประโยชน์ต่อสถานที่ใกลเ้ คียงท้งั 3 ประการน้ี เป็นเพียงงานเร่ิมตน้ สาหรับการบาเพญ็ ประโยชน์ของลูกเสือ ตอ้ งสอนและฝึกอบรมลูกเสือ ใหท้ าใน แหล่งเหล่าน้ีใหเ้ ป็ นกิจวตั รเสียก่อนแลว้ จึงค่อยๆ คิดกา้ วไปบาเพญ็ ประโยชนอ์ ยา่ งอ่ืนท่ีไกลออกไป 4) กำรป้องกันอบุ ัตเิ หตุ การช่วยเหลือผปู้ ระสบอุบตั ิเหตุ ควรเริ่มดว้ ยการสอนใหเ้ ด็กเขา้ ใจ วา่ ลูกเสือเป็นพลเมืองดี และหนา้ ท่ีของพลเมืองดีอยา่ งหน่ึง คือ มีความสามารถและเต็มใจที่จะ ช่วยเหลือผอู้ ื่น ในระยะแรกเด็กอาจจะทาตามผใู้ หญบ่ อก แต่เราควรพยายามฝึกอบรมเดก็ ใหร้ ู้จกั บาเพญ็ ประโยชน์
114 สูงข้ึนไปอีกข้นั หน่ึง คือให้รู้จกั บาเพญ็ ประโยชน์แมจ้ ะไมม่ ีผอู้ ื่นเห็นหรือบอกใหท้ า เช่น เก็บกระป๋ อง เปล่า หรือเคร่ืองเล่นจากบนั ได เพื่อไม่ใหผ้ อู้ ื่นสะดุดลม้ ลง หรือการเก็บเศษแกว้ ที่ตกอยขู่ า้ งถนน หรือในสนาม เพอื่ ไม่ใหผ้ อู้ ื่นเป็นอนั ตรายเหล่าน้ีเท่ากบั เป็นบทเรียนช้นั ตน้ และเม่ือเด็กมีอายมุ ากข้ึน ก็จะมีนิสยั และความสามารถบาเพญ็ ประโยชนต์ ่อผอู้ ่ืนตลอดจนชุมชนไดอ้ ยา่ งกวา้ งขวางยงิ่ ข้ึน การช่วยเหลือผปู้ ระสบอุบตั ิเหตุท่ีลูกเสือสามารถทาไดด้ ี และไดร้ ับความเชื่อถือจากประชาชน คือช่วยดูแลส่ิงของท่ีประสบอคั คีภยั ไดข้ นยา้ ยออกมากองไวน้ อกบา้ นเพ่ือหนีไป อน่ึง เพ่ือใหล้ ูกเสือสามารถทาหนา้ ที่ช่วยเหลือผปู้ ระสบอุบตั ิเหตุในกรณีตา่ ง ๆ ขอ้ บงั คบั คณะลูกเสือแห่งชาติไดก้ าหนดวชิ าพเิ ศษไวส้ าหรับฝึกอบรมลูกเสือ โดยเพิ่มหลกั เกณฑแ์ ละความรู้ ใหส้ ูงข้ึนตามวยั ของเดก็ เช่น ข้อ 161 วชิ ำปฐมพยำบำลสำหรับลกู เสือสำรอง ไดก้ าหนดหลกั เกณฑไ์ วด้ งั น้ี 1) เขา้ ใจความหมายของการปฐมพยาบาล และความจาเป็นท่ีจะตอ้ งขอความช่วยเหลือจาก ผใู้ หญ่ 2) รู้วธิ ีแตง่ บาดแผลท่ีถูกของมีคมบาดเลก็ นอ้ ย แผลถลอก และรู้ความสาคญั ในการรักษา ความสะอาดบาดแผล 3) สามารถใชผ้ า้ พนั แผลชนิดมว้ น พนั แผลที่มือ หวั เข่า และทาผา้ คลอ้ งแขน 4) รู้สาเหตุและวธิ ีป้องกนั การถูกไฟหรือน้าร้อนลวก รู้วธิ ีดบั ไฟไหมเ้ ส้ือผา้ ที่กาลงั สวมอยู่ และรู้วธิ ีรักษาบาดแผลถูกไฟหรือน้าร้อนลวกอยา่ งง่าย ๆ ข้อ 183 วธิ ีช่วยผ้ปู ระสบภัยเบื้องต้นสำหรับลูกเสือสำมญั ไดก้ าหนดหลกั เกณฑไ์ วด้ งั น้ี 1) สาธิตในน้าถึงวธิ ีช่วยคนตกน้า 1วธิ ีและวธิ ีแกไ้ ขตนเองใหพ้ น้ อนั ตรายจากการ เขา้ ช่วย 1 วธิ ี 2) สาธิตวธิ ีผายปอด 3) วา่ ยน้าแบบนอนหงายระยะทางไมน่ อ้ ยกวา่ 45 เมตรโดยมีเส้ือเชิ้ตและกางเกงขาส้นั สวมอยู่ 4) โยนเชือกช่วยชีวติ ขนาด 15 เมตร ใหต้ กระหวา่ งหลกั สองหลกั ซ่ึงปักห่างกนั 1.20 เมตร และอยหู่ ่างจากผโู้ ยน 10 เมตร 5) แสดงวธิ ีช่วยชีวติ ในกรณีตอ่ ไปน้ี - ไฟไหมบ้ า้ นมีคนเจบ็ สิ้นสติอยบู่ นเรือน - รถยนตป์ ระสบอุบตั ิเหตุไฟไหมห้ รือไม่มีไฟไหม้ - คนติดบนสายไฟฟ้า
115 ข้อ 225 วธิ ีช่วยผู้ประสบภยั สำหรับลกู เสือสำมัญรุ่นใหญ่ ไดก้ าหนดหลกั เกณฑไ์ วด้ งั น้ี 1) สาธิตวธิ ีช่วยผปู้ ระสบภยั ในน้า 4 วธิ ีท่ีหน่ึง คือ ผเู้ ขา้ ช่วยเป็นผจู้ บั ผปู้ ระสบภยั ฝ่ ายเดียว และอีก 3 วธิ ี คือวธิ ีแกไ้ ขตนเองใหพ้ น้ อนั ตรายจากการเขา้ ช่วยผปู้ ระสบภยั โดยผปู้ ระสบภยั มีขนาด เดียวกนั กบั ผเู้ ขา้ ช่วย และทุกวธิ ีสามารถพาผปู้ ระสบภยั ไปไดเ้ ป็นระยะทางไมน่ อ้ ยกวา่ 13 เมตร 2) ดาน้าลึกอยา่ งนอ้ ย 1.50 เมตร แลว้ นาหิน อิฐ หรือเหลก็ ข้ึนมาดว้ ย โดยวตั ถุเหล่าน้นั มี น้าหนกั ไม่นอ้ ยกวา่ 2 กิโลกรัม ในการดาน้าทุก 3 คร้ัง 3) วา่ ยน้าระยะทาง 45 เมตร โดยมีเคร่ืองแตง่ กาย (กางเกงขายาวและเส้ือเชิ้ต) แลว้ ถอด เคร่ืองแตง่ กายออกก่อนที่จะวา่ ยถึงฝั่ง 4) โยนเชือกช่วยชีวติ ไปยงั วตั ถุที่กาหนดให้ ซ่ึงอยหู่ ่างจากผโู้ ยน 15 เมตร ใหเ้ ชือกตกห่าง จากวตั ถุน้นั ไมเ่ กิน 1 เมตร ตวั ผโู้ ยนอยเู่ หนือน้าเพยี งเอว 5) นาเพอื่ นลูกเสือไปช่วยผปู้ ระสบอุบตั ิเหตุตามท่ีกาหนดไวใ้ นวชิ าช่วยประสบภยั เบ้ืองตน้ 6) สาธิตวธิ ีผายปอดตามแบบฮอลเกอร์ นิลเสน และฮิลเวสเตอร์ ใชห้ ุ่นสาธิตวธิ ีผายปอด ตามแบบปากตอ่ ปาก (หา้ มสาธิตกบั คน) 5) กำรช่วยเหลืองำนส่วนรวมและงำนกำรกุศล กองลูกเสือมกั ไดร้ ับคาขอร้องใหช้ ่วยเหลือ งานส่วนรวมและงานการกุศลเนือง ๆ ท้งั น้ีเพราะลูกเสือมีระเบียบวนิ ยั และเตม็ ใจที่จะบาเพญ็ ประโยชนเ์ พื่อชุมชน นอกจากน้นั ประชาชนก็นิยมยกยอ่ งการปฏิบตั ิงานของลูกเสือและใหค้ วาม ร่วมมือเป็นอยา่ งดี การบาเพญ็ ประโยชนข์ องลูกเสือในเร่ืองน้ีจึงมีประโยชน์มาก อน่ึง สมควรกล่าวดว้ ยวา่ งานบาเพญ็ ประโยชน์ส่วนรวมซ่ึงลูกเสือสามารถทาไดด้ ีและไดร้ ับ ความนิยมจากประชาชนมาก คือ การควบคุมจราจร ภายหลงั ที่ไดร้ ับการอบรมจากเจา้ หนา้ ที่ฝ่ าย จราจรของกรมตารวจมาแลว้ จำกคำปฏิญำณข้อ 3 ลูกเสือจะปฏบิ ัติตำมกฎของลกู เสือ ซ่ึงมีอยู่ 10 ขอ้ ดงั น้ี ขอ้ 1 ลูกเสือมีเกียรติเชื่อถือได้ ขอ้ 2 ลูกเสือมีความจงรักภกั ดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษตั ริย์ และซื่อตรงต่อผมู้ ีพระคุณ ขอ้ 3 ลูกเสือมีหนา้ ที่กระทาตนใหเ้ ป็ นประโยชนแ์ ละช่วยเหลือผอู้ ่ืน ขอ้ 4 ลูกเสือเป็นมิตรของคนทุกคน และเป็นพ่นี อ้ งกบั ลูกเสืออ่ืนทว่ั โลก ขอ้ 5 ลูกเสือเป็นผสู้ ุภาพเรียบร้อย ขอ้ 6 ลูกเสือมีความเมตตากรุณาต่อสัตว์ ขอ้ 7 ลูกเสือเช่ือฟังคาสัง่ ของบิดามารดา และผบู้ งั คบั บญั ชาดว้ ยความเคารพ ขอ้ 8 ลูกเสือมีใจร่าเริง และไมย่ อ่ ทอ้ ต่อความยากลาบาก ขอ้ 9 ลูกเสือเป็นผมู้ ธั ยสั ถ์ ขอ้ 10 ลูกเสือประพฤติชอบดว้ ยกาย วาจา ใจ
116 กฎลูกเสือขอ้ 10 น้ี ไดด้ ดั แปลงมาจากกฎของลูกเสือขอ้ 10 ตามธรรมนูญของสมชั ชา ลูกเสือโลกท่ีวา่ “ลูกเสือเป็นผสู้ ะอาดในทางความคิด วาจา และการกระทา” แตค่ ณะลูกเสือแห่งชาติ เห็นวา่ ถา้ แปลออกมาตรง ๆ เช่นน้นั ไมค่ ่อยจะเหมาะสมกบั ความคิดและความรู้สึกทางฝ่ ายไทยนกั จึงไดด้ ดั แปลงเสียใหม่วา่ “ขอ้ 10 ลูกเสือประพฤติชอบดว้ ยกาย วาจา ใจ” ซ่ึงตรงกบั กศุ ลกรรม บท 10 คือ กายกรรม 3 อยา่ ง 1) เวน้ จากการฆ่าสตั ว์ ปาณาติปาตา เวรมณี 2) เวน้ จาการลกั ขโมย อทินนาทานา เวรมณี 3) เวน้ จากประพฤติผดิ ในกาม กาเมสุมิจฉาจารา เวรมณี วจีกรรม 4 อยา่ ง 1) เวน้ จากการพูดเท็จ มุสาวาทา เวรมณี 2) เวน้ จากการพดู ส่อเสียด ปิ สุณาย วาจาย เวรมณี 3) เวน้ จากพูดคาหยาบ ผรุสาย วาจาย เวรมณี 4) เวน้ จากพูดเพอ้ เจอ้ สัมผปั ปลาปา เวรมณี มโนกรรม 3 อยา่ ง 1) ไม่อยากไดข้ องเขา อนภิชฒา 2) ไมพ่ ยาบาทปองร้ายเขา อพยาบาท 3) เห็นชอบตามคลองธรรม สัมมาทิฏฐิ กำรแปลควำมหมำยกฎของลูกเสือ กฎของลูกเสือคือขอ้ กาหนดเพ่ือกาหนดใหล้ ูกเสือนาไป ประพฤติปฏิบตั ิสร้างนิสยั ท่ีดีสมเป็นพลเมืองดีของชาติต่อไป จำกกฎลูกเสือข้อ 1 ลูกเสือมเี กยี รตเิ ช่ือถือได้ ลูกเสือที่แทจ้ ริงถือวา่ เกียรติของเขาสาคญั กวา่ ส่ิงใด เกียรติของเขาเป็นสิ่งศกั ด์ิสิทธ์ิคนท่ีรู้จกั รักษาเกียรติเป็นผเุ้ ช่ือถือไดเ้ สมอ เขาจะไมก่ ระทาสิ่งใดๆ ท่ีเสียเกียรติ เช่น พูดเท็จกบั ผบู้ งั คบั บญั ชา หรือผอู้ ยใู่ ตบ้ งั คบั บญั ชาของเขา และเขาจะทาตวั ใหเ้ ป็ นที่นบั ถือของคนทว่ั ไปในฐานะท่ีเป็นลูกเสือ ท่านตอ้ งไม่ยอมใหส้ ิ่งยวั่ ยวนใจไม่วา่ จะลึกลบั หรือรุนแรงเพยี งไรมาชกั จูงใหท้ ่านกระทาการใด ๆ ที่ ไม่สุจริตหรือเป็นที่น่าสงสยั ท่านจะไม่ละเมิดคามนั่ สัญญาเป็นอนั ขาด
117 จำกกฎลกู เสือข้อ 2 ลูกเสือมคี วำมจงรักภกั ดีต่อชำติ ศำสนำ พระมหำกษตั ริย์ และซ่ือตรงต่อผู้มี พระคุณ ในฐานะเป็นพลเมืองดี ทา่ นจะตอ้ งระลึกเสมอวา่ ทา่ นเป็ นคนหน่ึงในคณะหรือเป็ นอิฐกอ้ น หน่ึงในกาแพง ท่านจะตอ้ งทาหนา้ ท่ีของทา่ นใหด้ ีท่ีสุด และซ่ือตรงกบั ผมู้ ีส่วนเก่ียวขอ้ งกบั ทา่ น เช่น พอ่ แม่ พ่ี นอ้ งทา่ นจะตอ้ งไมท่ าลายเกียรติของทา่ นดว้ ยการเล่นไมซ่ ่ือ นอกจากน้นั ท่านตอ้ งไม่ทา ใหผ้ ทู้ ี่ไวว้ างใจท่านไม่วา่ ชายหรือหญิงตอ้ งผดิ หวงั บรรพบุรุษของท่าน ไดท้ างานดว้ ยความเขม้ แขง็ รบดว้ ยความทรหด และตายดว้ ยความองอาจเพ่ือรักษาบา้ นเมืองไวใ้ หท้ ่าน ขออยา่ ให้บรรพบุรุษของ ทา่ นมองมาจากสวรรค์ และเห็นท่านเที่ยวเตร่เอามือใส่กระเป๋ าโดยไมไ่ ดท้ าประโยชน์อะไรเพื่อ บา้ นเมืองเลย จำกกฎลูกเสือข้อ 3 ลูกเสือมหี น้ำทก่ี ระทำตนให้เป็ นประโยชน์และช่วยเหลือผ้อู ่ืน ลูกเสือจะพยายามใหค้ วามเมตตากรุณาเพอ่ื บาเพญ็ ประโยชนต์ ่อประชาชนอยเู่ สมอความ คิดเห็นของเขามีวา่ ทุกคนตอ้ งตาย แตท่ ่านควรจะทาใจของท่านวา่ ก่อนเวลาจากโลกน้ีไปตามวถิ ีทาง ของธรรมชาติ ทา่ นควรจะทาความดีบา้ ง ฉะน้นั จงทาทนั ที เพราะท่านไมร่ ู้เลยวา่ เม่ือใดทา่ นจะตอ้ ง ล่วงลบั ไป จำกกฎขอลูกเสือข้อ 4 ลูกเสือเป็ นมิตรของคนทุกคนและเป็ นพน่ี ้องกบั ลกู เสืออ่ืนทวั่ โลก ในฐานะท่ีเป็นลูกเสือ ท่านจะตอ้ งยอมรับรู้วา่ คนอ่ืนเป็นเพอื่ นมนุษย์ และทา่ นตอ้ งไมร่ ังเกียจ ความแตกตา่ งในเรื่องของความคิด วรรณะ ศาสนา หรือชาติบา้ นเมือง ท่านตอ้ งขจดั อคติของทา่ น และมองหาจุดดีของคนอื่น ส่วนจุดชว่ั น้นั คนโง่ก็ยอ่ มวจิ ารณ์ได้ ถา้ ท่านแสดงไมตรีจิตตอ่ คนชาติอื่น ได้ เช่นน้นั ก็นบั วา่ ทา่ นไดช้ ่วยก่อใหเ้ กิดสนั ติภาพ และไมตรีจิตระหวา่ งประเทศ และมวลมนุษยช์ าติ ได้ จำกกฎลูกเสือข้อ 5 ลูกเสือเป็ นผู้สุภำพเรียบร้อย ในฐานะที่ท่านเป็ นลูกเสือ ท่านจะตอ้ งสุภาพและคานึงถึงผหู้ ญิง คนแก่เดก็ และบุคคลทว่ั ๆ ไป แตย่ งิ่ กวา่ น้นั ท่านจะตอ้ งสุภาพตอ่ ฝ่ ายตรงขา้ มกบั ทา่ นดว้ ย รวมความวา่ ทา่ นจะตอ้ งเป็น สุภาพบุรุษ สุภาพบุรุษ คือ ผูป้ ฏิบตั ิตามกฎแห่งการบาเพญ็ ประโยชน์ของลูกเสือ จำกกฎลกู เสือข้อ 6 ลูกเสือมีควำมเมตตำกรุณำต่อสัตว์ สตั วท์ ้งั หลายมีความรักและหวงแหนชีวิตของตนยงิ่ กวา่ ส่ิงใด ตา่ งก็ดิ้นรนต่อสู้เพอ่ื ใหม้ ีชีวติ อยรู่ อดปลอดภยั จากอนั ตราย ทุกชีวติ ปรารถนาความสุข ความรัก ความอบอุ่น และการช่วยเหลือ เก้ือกูล แตเ่ กลียดกลวั และหวาดระแวงต่อการล่วงเกินเบียดเบียนและทาร้าย ภารกิจอนั สาคญั ของลูกเสือ คือการช่วยเหลือผูอ้ ื่นใหพ้ น้ จากความทุกขแ์ ละบริการแก่ผูอ้ ่ืน ใหไ้ ดร้ ับความสุข ดงั น้นั ลูกเสือทุกคนจึงควรจะเป็ นผทู้ ี่มีความรักและความเมตตากรุณาต่อสตั วด์ ว้ ย
118 จำกกฎลกู เสือข้อ 7 ลกู เสือเชื่อฟังคำส่ังของบดิ ำมำรดำและผ้บู งั คับบัญชำด้วยควำมเคำรพ ในฐานะท่ีเป็นลูกเสือ ท่านยอ่ มบงั คบั ตนเองและเตม็ ใจเช่ือฟังคาส่ังสอนของพอ่ แม่ ครู อาจารย์ นายหมู่ และผกู้ ากบั ลูกเสือ โดยชอบดว้ ยเหตุผลไมม่ ีการโตแ้ ยง้ ชุมชนท่ีมีวนิ ยั เป็นชุมชนที่ มีความสุขที่สุด แต่วนิ ยั ตอ้ งเกิดมาจากภายใน มิใช่ถูกบงั คบั จากภายนอก ดงั น้นั ควรปฏิบตั ิตนเป็ น ตวั อยา่ งที่ดีแก่ผอู้ ่ืนจึงเป็นส่ิงท่ีมีคุณคา่ มาก จำกกฎลูกเสือข้อ 8 ลูกเสือมใี จร่ำเริงและไม่ย่อท้อต่อควำมยำกลำบำก ในฐานะที่เป็นลูกเสือ คนอ่ืน ๆ จะคอยมองดูทา่ นและคิดอยเู่ สมอวา่ ทา่ นคงจะไม่หวั เสีย และจะยนื หยดั ต่อสู้ดว้ ยความเขม้ แขง็ และร่าเริงอดทนในเมื่อมีเหตุการณ์ฉุกเฉินเกิดข้ึน จำกกฎลูกเสือข้อ 9 ลกู เสือเป็ นผ้มู ัธยสั ถ์ ในฐานะท่านเป็ นลูกเสือ ท่านจะมองไปขา้ งหนา้ และจะไม่ยอมเสียเวลาหรือเสียเงินสาหรับ ความสุขสาราญในปัจจุบนั แต่จะใชโ้ อกาสน้นั เพ่ือใหไ้ ดบ้ รรลุความสาเร็จในหนา้ ท่ีที่ท่านกระทา ท้งั น้ี เพอ่ื วา่ จะไดไ้ มต่ อ้ งเป็นภาระแก่ผอู้ ื่นแตก่ ลบั จะเป็ นการช่วยเหลือผอู้ ่ืนไดอ้ ีกดว้ ย จำกกฎลกู เสือข้อ 10 ลูกเสือประพฤติชอบด้วยกำย วำจำ ใจ ในฐานะท่ีทา่ นเป็ นลูกเสือ ท่านตอ้ งมีใจสะอาดคิดแต่เรื่องที่เป็นมงคล สามารถควบคุมสติ และจิตใจของตนเองไม่ใหฟ้ ุ้งซ่านในรูป รส กล่ิน เสียง สมั ผสั และของมึนเมาจนเกินกวา่ เหตุท่าน ตอ้ งเป็ นตวั ของตวั เองและเป็ นตวั อยา่ งที่ดีแก่ผอู้ ่ืนในทุกสิ่งทุกอยา่ งที่ทา่ นคิด พูด และการทา โดยเฉพาะท่านควรมีสมั มาอาชีวะ คือมีอาชีพท่ีสุจริตเพื่อความสุขของตนเองและสังคม คตพิ จน์ของลูกเสือสำมัญรุ่นใหญ่ “มองไกล” คติพจน์ คือ “ขอ้ ความส้ัน ๆ ที่มีความหมายกระตุน้ เตือนใจใหล้ ูกเสือระลึกถึงหนา้ ท่ีจะตอ้ ง กระทาอนั เป็ นแบบอยา่ งท่ีดี” มองไกล หมายถึง การมองการไกล กล่าวคือ ก่อนจะพดู หรือทาอะไรใหค้ ิดอยา่ งรอบคอบ และละเอียดถี่ถว้ นถึงผลท่ีจะตามมาเสียก่อน สรุปส้นั ๆ ไดว้ า่ “คิดใหด้ ีก่อนท่ีจะพูดจะทา” น้นั เอง
119 ตัวอย่ำงงำนกำรประชุมกล่มุ ให้เวลำ 20 นำที 1. อภิปรายความหมายของคาปฏิญาณของลูกเสือท้งั 3 ขอ้ และกิจกรรมที่ใชป้ ฏิบตั ิเพ่ือ เกิดผลตามคาปฏิญาณน้นั 2. อภิปรายความหมายของกฎลูกเสือสามญั รุ่นใหญ่ ขอ้ 1,2,3 พร้อมท้งั กิจกรรมที่ใช้ ปฏิบตั ิ ใหเ้ กิดผลตามกฎท้งั 3 ขอ้ ท่ีใหท้ า 3. อภิปรายความหมายของกฎลูกเสือสามญั รุ่นใหญ่ ขอ้ 4,5,6 พร้อมท้งั กิจกรรมท่ีใชป้ ฏิบตั ิ เพ่ือเกิดผลตามกฎท้งั 3 ขอ้ ท่ีใหท้ า 4. อภิปรายความหมายของกฎลูกเสือสามญั รุ่นใหญ่ ขอ้ 7,8,9 พร้อมกิจกรรมท่ีใชป้ ฏิบตั ิเพ่อื เกิดผลตามกฎท้งั 3 ขอ้ ท่ีใหท้ า 5. วธิ ีการท่ีจะช่วยลูกเสือสามญั รุ่นใหญ่ปฏิบตั ิตามคาปฏิญาณและกฎของลูกเสือเป็ น รายบุคคล มีอยา่ งไรบา้ ง หมำยเหตุ เสร็จแลว้ ใหแ้ ตล่ ะหมูม่ ารายงานในที่ประชุมใหญ่ หมูล่ ะ 3 นาที เอกสำรอ้ำงองิ : สานกั งานคณะกรรมการลูกเสือแห่งชาติ. คู่มือกำรฝึ กอบรมวชิ ำผู้กำกับลกู เสือสำมัญ รุ่นใหญ่ ข้ันควำมรู้เบื้องต้น. กรุงเทพฯ , 2539.
เร่ือง เกมลกู เสือสำมัญรุ่นใหญ่ 120 บทเรียนท่ี 7 เวลำ 30 นำที ขอบข่ำยวชิ ำ 1. ความหมาย และความมุง่ หมายการสอนเกม 2. ประเภทของเกม 3. วธิ ีการสอนเกมและหลกั ในการสอนเกม จุดหมำย ผบู้ งั คบั บญั ชาลูกเสือ มีความรู้ความเขา้ ใจในหลกั การจดั เกมลูกเสือ สามญั รุ่นใหญ่ และ นาไปปฏิบตั ิได้ วตั ถุประสงค์ เมื่อจบบทเรียนน้ีแลว้ ผเู้ ขา้ รับการฝึกอบรมควรจะสามารถ 1. อธิบายถึงความหมาย ความสาคญั ของการสอนเกมและประเภทของเกมได้ 2. รู้จกั เลือกเกมสอนใหเ้ หมาะสมกบั วยั ของลูกเสือสามญั รุ่นใหญไ่ ด้ 3. บอกข้นั ตอนและวธิ ีการสอนเกมที่ถูกตอ้ งได้ 4. นาไปใชฝ้ ึกอบรมในกองลูกเสือโรงเรียนได้ วธิ ีสอน / กจิ กรรม 1. แนวการจดั กิจกรรมการสอน นาสู่บทเรียน 3 นาที บรรยาย 10 นาที เล่นเกม 12 นาที สรุป 5 นาที 2. กิจกรรมของผเู้ ขา้ รับการฝึ กอบรม เล่นเกม 2 เกม ประเภทเบด็ เตลด็ 1 เกม และเกมตอ่ สู้ 1 เกม ส่ือ กำรสอน 1. แผน่ ใส 2. อุปกรณ์การเล่นตามชนิดของเกม 3. หนงั สือคู่มือการเล่นเกม กำรประเมินผล 1. สงั เกตการเล่นเกม 2. ความร่วมมือ
121 เนื้อหำวชิ ำ 1. ควำมหมำยเกม หมายถึงกิจกรรมอยา่ งหน่ึง เป็ นการเล่นที่ง่าย ๆ มีกฎกติกาไมม่ ากนกั โดยให้ ผเู้ ล่นไดเ้ กิดความสนุกสนาน ออกกาลงั กายและเป็นการเพ่ิมทกั ษะตา่ ง ๆ ไดเ้ ป็นอยา่ งดีอีกทางหน่ึง 2. ควำมมุ่งหมำยของกำรสอนเกม 1) เพือ่ สนองความตอ้ งการตามธรรมชาติของเดก็ เพราะเด็กมกั ไมช่ อบอยนู่ ่ิง ๆ ชอบการ เคล่ือนไหว เปลี่ยนแปลงอิริยาบถต่าง ๆ และมีความตอ้ งการที่จะแสดงออก 2) เพือ่ ฝึกพ้ืนฐานเบ้ืองตน้ ของการเคล่ือนไหวของอวยั วะส่วนต่าง ๆ ของร่างกายใหม้ ี ความสมั พนั ธ์กนั 3) เพอ่ื ส่งเสริมใหม้ ีการพฒั นาทางดา้ นร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และสติปัญญา และ เป็นผนู้ าท่ีดี 4) เพ่อื ปลูกฝังความมีน้าใจเป็นนกั กีฬา รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภยั รู้จกั เคารพในกฎกติกาซ่ึงจะนา ไปใชไ้ ดใ้ นชีวติ ประจาวนั และอนาคต 5. เพอื่ ใหไ้ ดร้ ับความสนุกสนาน และเป็นการออกกาลงั กายเพ่ือสร้างความแขง็ แรงใหก้ บั ลูกเสือ 3. ประเภทของเกม 1) เกมเบด็ เตลด็ หรือเกมทวั่ ๆ ไป (Low Organization Games or General Games) เป็นการ เล่นที่ใหเ้ กิดความสนุกสนานเพลิดเพลิน ใชเ้ ล่นท้งั กอง หรือเล่นทวั่ ๆ ไป ทุกคนเขา้ ร่วมได้ ไมม่ ุ่งหวงั ในผลแพช้ นะ และแขง่ ขนั เป็ นหมูไ่ ม่มีกฎกติกามากนกั เป็นเกมสร้างทกั ษะในดา้ นการเคลื่อนไหว ส่วนตา่ ง ๆ ของร่างกาย 2) การเล่นเป็นนิยายหรือการเลียนแบบ (Story Play and Mimetic Games) คือ การเล่นโดย ผนู้ าเล่านิยายหรือนิทานแลว้ ผเู้ ล่นแสดงท่าทางประกอบตามตวั ละครในเน้ือเร่ืองเพื่อใหเ้ กิด จินตนาการ 3) เกมฝึกประสาท (Sense Training Games) เป็นการเล่นเกมท่ีตอ้ งอาศยั ระบบประสาท กลา้ มเน้ือความคิด การตดั สินใจท่ีรวดเร็วเพ่ือปฏิบตั ิตามคาสงั่ ที่ผนู้ าเกมสง่ั เพ่อื ฝึกการตดั สินใจใน การแกไ้ ขปัญหาเฉพาะหนา้ อยา่ งรวดเร็วได้ 4) เกมหนี – ไล่จบั (Hunting Games) เป็นเกมการเล่นท่ีตอ้ งอาศยั กาลงั ความแขง็ แรง ความ รวดเร็วในการหนีหรือไล่จบั เพ่ือฝึกความแขง็ แรงของกลา้ มเน้ือ ระบบหายใจ 5) เกมการเล่นแข่งขนั เป็ นรายบุคคล (Individual Contest) เป็นเกมการเล่นที่เป็นการแข่งขนั เพอ่ื ใหเ้ กิดผลหาผชู้ นะเพียงผูเ้ ดียว โดยอาศยั ความรวดเร็ววอ่ งไว ความฉลาดไหวพริบ ความแขง็ แรง สามารถแพช้ นะกนั ไดใ้ นเวลาอนั ส้ัน แตไ่ มเ่ นน้ การต่อสู้ที่จริงจงั
122 6) เกมแขง่ ขนั เป็นหมู่ (Team Games) คือ การแขง่ ขนั ท่ีแบ่งกนั เป็นหมูห่ รือพวก ขณะ แข่งขนั ทุกคนตอ้ งใหค้ วามร่วมมือกบั หมูค่ ณะของตนมีความพร้อมเพรียงเป็ นอนั หน่ึงอนั เดียวกนั เป็น เกมท่ีฝึกใหท้ ุกคนมีความสามคั คีกนั เพ่อื จะไดป้ ระสบความสาเร็จในชยั ชนะ 7) เกมการแขง่ ขนั แบบผลดั (Replay Games) คือ เกมการเล่นท่ีแบง่ ออกเป็นหมู่หรือทีม ต้งั แต่ 2 คน ข้ึนไป โดยการผลดั เปลี่ยนกนั การแขง่ ขนั จะมีผลชนะเม่ือทีมใดรวมคะแนนไดม้ ากกวา่ หรือผลดั กนั วงิ่ ไล่ จนฝ่ ายหน่ึงแตะอีกฝ่ ายหน่ึงไดเ้ ป็นเกมที่มุ่งใหเ้ กิดความสัมพนั ธ์กนั ในหมู่คณะ 8. เกมทดสอบสมรรถภาพ (Test Games) หมายถึง เกมการแข่งขนั ท่ีมุ่งฝึกฝนความ แขง็ แกร่งของร่างกายและอวยั วะส่วนตา่ ง ๆ ใหท้ างานไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ หรืออาจจะทดสอบ ทกั ษะตา่ ง ๆ ที่เรียนมาแลว้ วา่ มีความรู้ตามหลกั สูตรเพียงใด 9.เกมการเล่นประกอบเพลง (Motion Song and Singing Games) หมายถึง เกมการเล่นที่ใช้ เพลงเป็นส่ือ เพื่อประกอบการเคลื่อนไหวของร่างกาย ทาใหเ้ กิดความสนุกสนานและเกิดการ เคลื่อนไหวอวยั วะส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย 10. เกมเงียบ (Quiet Games) หมายถึง เกมการเล่นประกอบท่าทางโดยไม่ใชเ้ สียง เป็นการฝึก ทา่ ลอ้ เลียนและฝึกการสังเกตจดจา 11. การเล่นในท่ีกวา้ ง (Wide Games) หมายถึง การเล่นท่ีตอ้ งอาศยั ความสามารถเฉพาะตวั การสงั เกต ความเฉลียวฉลาดและไหวพริบเพ่ือคน้ หาจุดหมายที่ต้งั ไวใ้ หพ้ บ 12. เกมการต่อสู้ (Combattive Games) เป็นเกมการเล่นท่ีสนองตอบความตอ้ งการของลูกเสือ สามญั รุ่นใหญไ่ ดด้ ีที่สุด เนื่องจากเด็กวยั น้ีตามพฒั นาการเป็นวยั ที่ชอบโออ้ วดความแข็งแรง ชอบการ เล่นที่สนุกสนานต่ืนเตน้ ผจญภยั ชอบการต่อสู้ เกมการตอ่ สู้จึงเป็นเกมท่ีตอบสนองเด็กวยั น้ีไดด้ ีที่สุด เป็นเกมการเล่นท่ีฝึกฝนใหใ้ ชค้ วามคิด พละกาลงั และนากลยทุ ธ์ต่าง ๆ มาใชโ้ ดยปฏิบตั ิตามกฎกติกา อยา่ งเคร่งครัด เสริมสร้างความแขง็ แกร่ง ความทนทานต่อการเหน็ดเหน่ือยไดเ้ ป็นอยา่ งดี 4. วธิ ีสอนเกม ผนู้ าเกมหรือผสู้ อนเกม ควรมีข้นั ตอนการสอนดงั น้ี ข้นั ตอนที่ 1 อธิบายวธิ ีเล่น (Explanation) ผสู้ อนจะตอ้ งบอกช่ือเกม วธิ ีการเล่นของเกม กฎ กติกาใหผ้ เู้ ล่นเขา้ ใจโดยพดู ภาษาง่าย ๆ แต่ชดั ถอ้ ยชดั คา อยา่ ชา้ หรือเร็วเกินไป และผสู้ อนจะตอ้ งยนื อยใู่ นจุดท่ีผูเ้ ล่นเห็นไดอ้ ยา่ งชดั เจน เพอื่ ใหผ้ เู้ ล่นไดเ้ ขา้ ใจภายในระยะเวลาอนั ส้นั ข้นั ตอนที่ 2 สาธิตการเล่น (Demonstration) เม่ือผสู้ อนไดอ้ ธิบายข้นั ตอนท่ี 1 แลว้ ตอ้ งสาธิต การเล่นใหผ้ เู้ ล่นเห็นเป็นตวั อยา่ งดว้ ยเพ่ือใหผ้ เู้ ล่นทุกคนมีความเขา้ ใจการเล่น กฎ กติกาตรงกนั ควร ทาใหด้ ูอยา่ งชา้ ๆ พร้อมอธิบายไปดว้ ย ข้นั ตอนที่ 3 การใหเ้ ล่น (Participation) เมื่อผเู้ ล่นเขา้ ใจวธิ ีการเล่นแลว้ ใหเ้ ล่นทนั ที โดย ผสู้ อนจะตอ้ งคอยเอาใจใส่ควบคุม ดูแล และกระตุน้ ใหท้ ุกคนไดเ้ ขา้ ร่วมอยา่ งทวั่ ถึง การเล่นตอ้ งใหม้ ี ระยะเวลาที่สมควรไมม่ ากหรือนอ้ ยเกินไป
123 ข้นั ตอนที่ 4 การประเมินผล (Evaluation) ในการเล่นเกมแตล่ ะประเภท จะมีจุดมุ่งหมายอยู่ เสมอจึงตอ้ งมีการประเมินผลแบบส้ัน ๆ เพอ่ื ใหผ้ ูร้ ่วมเล่นทุกคนทราบวา่ ทุกคนเกิดความรู้ ความเขา้ ใจ วธิ ีการเล่น กฎกติกาและเกิดทกั ษะตามจุดมุ่งหมายหรือไม่ แตก่ ารเล่นบางประเภทอาจจะไม่ตอ้ ง ประเมินผลเลยกไ็ ด้ เพราะมีจุดมุง่ หมายเพ่ือใหเ้ กิดความสนุกสนานเทา่ น้นั 5. หลกั ในกำรสอนเกม การสอนเกมน้นั บางคร้ังผเู้ ขา้ ร่วมเล่นอาจจะสนุกสนานเตม็ ที่บางคร้ังอาจจะมี การเล่นท่ีไม่บรรลุจุดหมายเลยกไ็ ด้ ท้งั น้ีเกิดจากผสู้ อนหรือผนู้ าเกมไม่มีหลกั ในการสอน ผสู้ อนหรือ ผนู้ าเกม ควรจะคานึงถึงหลกั การสอนดงั ตอ่ ไปน้ี 1) ผสู้ อนจะตอ้ งเตรียมเกมใหพ้ อเพยี ง เหมาะสมกบั เวลาที่กาหนดไว้ และมีการยดื หยนุ่ ได้ ตามสมควร 2) ผสู้ อนตอ้ งจดั เตรียมอุปกรณ์ เครื่องอานวยความสะดวกตา่ ง ๆไวใ้ หพ้ ร้อมก่อนที่จะเล่น 3. ตอ้ งใหท้ ุกคนไดเ้ ขา้ ร่วมอยา่ งทงั่ ถึง 4) ตอ้ งคานึงถึงความปลอดภยั เสมอ 5) การเล่นแตล่ ะคร้ัง แตล่ ะเกมอยา่ ใหม้ ากหรือนอ้ ยเกินไป 6) ผสู้ อนตอ้ งหาเกมใหม่ ๆ แปลก ๆ มาสอนอยเู่ สมอ 7) ในการเล่นตอ้ งใหอ้ ิสระผเู้ ล่นอยา่ งเตม็ ที่แต่อยใู่ นกฎ กติกาของเกมน้นั ๆ (อยา่ ใหส้ ัญญาณหยดุ การเล่นมาก) 8) ผสู้ อนควรใหก้ าลงั ใจผแู้ พ้ หรือผกู้ ระทาผดิ กติกาหา้ มการใชค้ าตาหนิติเตียน ดุวา่ แตใ่ ช้ การแนะนาแทน 9) ตอ้ งจดั เกมเล่นใหเ้ หมาะสมกบั เพศ วยั เวลา สถานท่ี และขนบธรรมเนียมประเพณีของ แตล่ ะทอ้ งถ่ิน 10) ผสู้ อนควรเขา้ ร่วมสนุกกบั การเล่นร่วมดว้ ยในบางคร้ังเพ่ือใหเ้ กิดความเป็นกนั เองมากข้ึน 11) ผสู้ อนเกมควรเป็ นผทู้ ่ีมีอารมณ์ขนั และสามารถแกป้ ัญหาเฉพาะหนา้ ไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว เมื่อมีปัญหาการเล่นเกิดข้ึน
124 เกมลูกเสือสำมญั รุ่นใหญ่ เอกสำรประกอบ ธรรมชาติของสิ่งมีชีวติ ไม่วา่ มนุษยห์ รือสัตวก์ ็ตาม มกั จะไม่ชอบอยนู่ ่ิงจะตอ้ งมีการ เคลื่อนไหวอวยั วะส่วนตา่ ง ๆ อยตู่ ลอดเวลา แมแ้ ตม่ นุษยซ์ ่ึงยงั อยใู่ นครรภก์ ็ตอ้ งมีการเคลื่อนไหวโดย การดิ้น เพ่ือเป็ นการเปล่ียนแปลงอิริยาบถท่ีเป็นไปตามลกั ษณะของสรีระศาสตร์ เราจะเห็นไดว้ า่ เด็ก ที่เกิดมาใหมจ่ ะมีการพฒั นาข้ึนเร่ือย ๆ เร่ิมต้งั แต่ร้องให้ กระดิกขา แขน นิ้ว ของตนเอง นอนหงาย นอนตะแคง นอนคว่า นอนคืบ คุกเข่า คลาน ยนื เดิน วง่ิ กระโดด เม่ือเจริญเติบโตข้ึนกม็ ีการ เคลื่อนไหวโดยการ ผลกั ดนั ดึง เหวยี่ ง ทุม่ ขวา้ ง ปา เตะ ต่อย โหน ซ่ึงเกิดจากธรรมชาติท้งั สิ้น เพื่อใหส้ ิ่งท่ีเกิดข้ึนโดยธรรมชาติน้นั มีการพฒั นาเปล่ียนแปลงอยา่ งมีทกั ษะ มีสมรรถภาพท่ีดี และเป็น การส่งเสริมใหม้ ีการเคลื่อนไหวที่ถูกตอ้ งในเบ้ืองตน้ ตลอดจนช่วยพฒั นาทางดา้ นร่างกาย จิตใจ สงั คม สติปัญญา และสุขภาพจิตท่ีดี เกมการส่งเล่นจึงเป็ นส่ิงที่ช่วยส่งเสริมการพฒั นาการตาม ธรรมชาติของเดก็ ไดเ้ ป็นอยา่ งดี ตวั อย่ำงของกำรเล่นเกมแต่ละประเภท 1. เกมเบด็ เตลด็ หรือเกมทว่ั ไป ชื่อเกม เกมคนเลยี้ งแกะ อปุ กรณ์ วธิ ีสอน อธิบายวธิ ีเล่น พิธีกรใหห้ มู่ลูกเสือส่งตวั แทนออกมาหมู่ละ 5 คน และคลานรอบ ๆ กองไฟ ส่งเสียงร้องเลียนแบบเสียงแพะ (แบ ๆ ๆ ๆ) พธิ ีกรยนื อยตู่ รงกลางฝงู แกะ เพ่ือทอดสายตามองไปยงั กลุ่มใดใหก้ ลุ่มน้นั หมอบและน่ิงถา้ กลุ่มใดหมอบและน่ิงไมท่ นั ถือวา่ กลุ่มน้นั ตายถูกลงโทษหรือถูก หมาป่ ากินน้นั เอง 2. เกมกำรต่อสู้ ช่ือเกม ผลกั ดว้ ยมือ อปุ กรณ์ วธิ ีสอน 1) อธิบายวธิ ีเล่น ใหท้ ้งั สองฝ่ ายยนื หนั หนา้ เขา้ หากนั ใหย้ กขาซา้ ยไปขา้ งหลงั แลว้ ใชม้ อื ซา้ ย จบั ขอ้ เทา้ ไวโ้ ดยยนื ขาเดียว การตอ่ สู้จะใชม้ ือท่ีเหลือพยายามผลกั ดนั ดึง กด เหวย่ี ง ใหค้ ูเ่ สียหลกั โดยท่ีคนท้งั สองไม่ตอ้ งขยบั ตวั
125 กติกาการเล่น (1) ใครเสียหลกั หรือลม้ ถือวา่ แพ้ (2) ถา้ ผใู้ ดขอ้ เทา้ หลุดจากมือถือวา่ แพ้ (3) การแพช้ นะใหท้ าการต่อสู้แบบแพค้ ดั ออกเหลือผชู้ นะเพยี งคนเดียว 2) การสาธิต จดั ผูเ้ ล่นออกมา 2 คน เพ่อื สาธิตใหท้ ุกคนไดด้ ู 3) การใหเ้ ล่นเม่ือทุกคนเขา้ ใจวธิ ีการเล่นแลว้ ให้เริ่มเล่นทนั ทีโดยใหเ้ ล่นคร้ังละ 4 คู่ 4) เมื่อจบเกมใหท้ าการประเมินผลใหท้ ุกคนไดท้ ราบ 3 เกมคนเลยี้ งแกะ พธิ ีกรใหห้ มูล่ ูกเสือส่งตวั แทนออกมาหมู่ละ 5 คน และคลานรอบ ๆ กองไฟ ส่งเสียงร้อง เลียนแบบเสียงแพะ (แบ ๆ ๆ ๆ) พธิ ีกรยนื อยตู่ รงกลางฝงู แกะ เพอ่ื ทอดสายตามองไปยงั กลุ่มใด ให้ กลุ่มน้นั หมอบและน่ิง ถา้ กลุ่มใดหมอบและนิ่งไม่ทนั ถือวา่ กลุ่มน้นั ตาย ถูกลงโทษหรือถูกหมาป่ า กินน้นั เอง ประโยชน์ของกำรเล่นเกม 1. ทาใหม้ ีความสนุกสนาน ร่าเริง 2. ทาใหม้ ีความแขง็ แรง สุขภาพสมบูรณ์ 3. ทาใหม้ ีระเบียบวนิ ยั 4. ทาใหม้ ีความอดทน รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภยั 5. ทาใหเ้ กิดความกระตือรืนร้น 6. ทาใหเ้ กิดความเป็ นผนู้ า 7. ทาใหเ้ กิดความสามคั คีในหมู่คณะ วธิ ีกำรเล่นเกม 1. บอกช่ือเกม 2. บอกวธิ ีเล่นเกม 3. บอกกติกาการเล่นเกม 4. สาธิตการเล่นเกม 5. ควบคุมดูแลอยา่ งใกลช้ ิด 6. เมื่อเลิกเล่นเกมบอกขอ้ บกพร่อง,แนะนาแกไ้ ข 7. กล่าวคาชมเชย
เรื่อง วนิ ัย ควำมเป็ นระเบียบเรียบร้อย และสัญญำณต่ำง ๆ 126 บทเรียนท่ี 8 เวลำ 75 นำที ขอบข่ำยวชิ ำ 1. ความหมายของระเบียบวนิ ยั ท่ีใชใ้ นการฝึกอบรมลูกเสือ 2. การแตง่ เคร่ืองแบบลูกเสือไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและโอกาสในการแต่งเคร่ืองแบบลูกเสือ 3. การใชแ้ ละปฏิบตั ิตามสญั ญาณมือและสัญญาณนกหวดี จุดหมำย ผกู้ ากบั ลูกเสือสามญั รุ่นใหญ่มีความรู้ความเขา้ ใจในเร่ืองวินยั ความเป็นระเบียบเรียบร้อย และสัญญาณต่าง ๆ และสามารถนาไปใชไ้ ด้ วตั ถุประสงค์ เมื่อจบบทเรียนน้ีแลว้ ผเู้ ขา้ รับการฝึกอบรมควรจะสามารถ 1. บรรยายความสาคญั ของวนิ ยั ลูกเสือได้ 2. อธิบายและแต่งเคร่ืองแบบไดถ้ ูกตอ้ งตามโอกาสท่ีเหมาะสม 3.ใชส้ ญั ญาณมือเรียกแถวสากลและสญั ญาณนกหวดี ไดถ้ ูกตอ้ ง วธิ ีสอน / กจิ กรรม 1. บรรยายประกอบการสาธิต 2. การฝึกใหป้ ฏิบตั ิ 3. หรือชมวดี ีโอ หรือภาพยนตร์ (ถา้ มี) สื่อกำรสอน 1. แผนภูมิ 2. สื่อประกอบคาบรรยาย 3. วดี ีโอ หรือภาพยนตร์ (ถา้ มี) 4. เครื่องหมายต่าง ๆ 5. เอกสารประกอบ
127 เนื้อหำวชิ ำ ประเทศชาติที่เจริญรุ่งเรือง และสามารถพฒั นาใหก้ า้ วหนา้ ไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว ลว้ นแต่พลเมือง ของประเทศน้นั ไดร้ ับการฝึกอบรมให้เป็นผมู้ ีระเบียบวนิ ยั มีความรับผดิ ชอบต่อสังคมและ ประเทศชาติ สาหรับประเทศไทย จากประวตั ิศาสตร์เป็ นท่ีประจกั ษว์ า่ การกอบกอู้ ิสรภาพของ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช และสมเด็จพระเจา้ ตากสินมหาราชน้นั เพราะความมีวนิ ยั ท่ีดีของ บรรพบุรุษไทยยคุ น้นั พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ภูมิพลมหาราช ไดท้ รงมีพระบรมราโชวาทเก่ียวกบั เร่ืองวนิ ยั ไว้ หลายประการในโอกาสต่างๆ กนั วา่ “สามคั คี มีวนิ ยั คือปัจจยั สร้างชาติ” “ระเบียบวนิ ยั ดี เป็นส่ิงช้ีความเจริญ” “ถา้ ต้งั ใจศึกษาฝึกหดั ตนตามระเบียบวนิ ยั และแบบธรรมเนียมของลูกเสือใหแ้ น่วแน่ต่อไปก็ จะมีความรู้ ความดีความเจริญอยา่ งเตม็ ที่ และสามารถที่จะคุม้ ครองรักษาประเทศชาติไวไ้ ดอ้ ยา่ ง แน่นอน” “หลกั การและจรรยาของลูกเสือน้นั เมื่อไดฝ้ ึกหดั อบรมใหถ้ ูกตอ้ งครบถว้ นโดยบริสุทธ์ิแลว้ ยอ่ มจะทาใหบ้ ุคคลมีจิตใจที่พร้อมเพรียง มุ่งดีมุ่งเจริญต่อกนั ยงิ่ ข้ึน และเขม้ แขง็ เช่ือมน่ั ในความดีงาม มากข้ึน ท้งั มีระเบียบวนิ ยั ท่ีดี มีความเขา้ ใจอนั ถูกตอ้ งในเร่ืองประโยชนส์ ่วนรวมและประเทศชาติ ทา ใหส้ ามารถเป็นที่พ่ึงของตนเองและของผอู้ ่ืนไดใ้ นที่สุด” “วนิ ยั ” ตามพจนานุกรม ฉบบั ราชบณั ฑิตยสถาน พ.ศ.2525 วา่ “การอยใู่ นระเบียบแบบแผน และขอ้ บงั คบั ขอ้ ปฏิบตั ิ” “วนิ ยั ” ไมใ่ ช่เป็นเรื่องของทหารหรือตารวจเท่าน้นั เป็นเร่ืองของทุกคนในชาติไม่วา่ จะอยใู่ น ฐานะตาแหน่งหนา้ ที่การงานใด ๆ ในหน่วยราชการ องคก์ าร หา้ งร้าน แมแ้ ตง่ านส่วนตวั ยอ่ มตอ้ งการ ไดผ้ มู้ ีระเบียบวนิ ยั เขา้ มาร่วมดว้ ยกนั ท้งั น้นั
วนิ ัย ควำมเป็ นระเบยี บเรียบร้อย และสัญญำณต่ำง ๆ 128 เอกสำรประกอบ(1) วนิ ัยมคี วำมจำเป็ นอย่ำงไร ลูกเสือที่มีระเบียบวนิ ยั เช่ือฟังปฏิบตั ิตามคาส่ังผบู้ งั คบั บญั ชายอ่ มท่ีจะเป็ นพลเมืองดีใน อนาคต ลูกเสือท่ีไดร้ ับการฝึ กอบรมอยา่ งดีสามารถเป็นผูน้ าได้ การไดร้ ับการฝึกฝนใหเ้ ป็นคนท่ีรักษา สัตย์ ประพฤติตนตามกฎกติกา เป็นคนมีน้าใจ เมตตาอารี เสียสละ พฤติกรรมเหล่าน้ียอ่ มติดตวั เป็น นิสยั วนิ ยั เป็นสิ่งจาเป็นมากในกองลูกเสือ คนที่มีคุณภาพคือคนท่ีไดร้ ับการฝึกฝนใหม้ ีระเบียบวนิ ยั ทาตนเป็ นผใู้ ตบ้ งั คบั บญั ชาที่ดี หรือทาตนเป็นผบู้ งั คบั บญั ชาท่ีดีเป็นแบบอยา่ งแก่ผอู้ ื่น การลูกเสือจึง มุง่ พฒั นาลูกเสือใหเ้ ป็ นผมู้ ีวนิ ยั เตรียมพร้อมการเป็นพลเมืองท่ีมีคุณภาพต้งั แต่วยั เดก็ เม่ือเติบใหญจ่ ะ ไดเ้ ป็นกาลงั สาคญั ช่วยพฒั นาประเทศชาติให้เจริญรุ่งเรืองสืบไป ควำมหมำยของคำว่ำ “วนิ ัย” วนิ ัย หมายถึง เคร่ืองควบคุมความประพฤติหรือพฤติกรรมของคนใหป้ ระพฤติปฏิบตั ิตาม แบบแผนของสงั คม เพ่ือการอยรู่ ่วมกนั อยา่ งปกติสุข เครื่องมือควบคุมพฤติกรรมของคนไดแ้ ก่ ประกาศ ขอ้ ตกลง กติกา คาสั่ง ระเบียบปฏิบตั ิ กฎเกณฑ์ ขอ้ บงั คบั และกฎหมาย หรือส่ิงที่ทาใหค้ นใน สงั คมประพฤติ ปฏิบตั ิตามที่เป็นมาตรฐานเดียวกนั วนิ ัยมี 2 ประกำร คือ ก. วนิ ัยภำยนอก หมายถึงการปฏิบตั ิตนในขอบเขตของระเบียบ กฎเกณฑ์ กติกาสงั คม ซ่ึงใน การฝึกอบรมตอ้ งเขม้ งวดตามลกั ษณะหรือกิจกรรมแต่ละประเภท เพ่ือท่ีจะใหป้ ฏิบตั ิตนจนเกิด ลกั ษณะนิสัย เช่น การแต่งกาย การแสดงมารยาทในสงั คม กฎการอยคู่ ่าย การทาความเคารพ เป็นตน้ วนิ ยั ภายนอกไมย่ ง่ั ยนื ข้ึนอยกู่ บั กฎเกณฑ์ ขอ้ บงั คบั หากผูร้ ักษากติกา กฎเกณฑไ์ มเ่ ขม้ งวดผปู้ ฏิบตั ิก็จะ ละเลยวางเฉยไมป่ ฏิบตั ิ หรือเมื่อไม่มีผใู้ ดรู้เห็นกไ็ มป่ ฏิบตั ิ ข. วนิ ัยภำยใน เป็นวนิ ยั ท่ีเกิดข้ึนในตนเองเป็นความสามารถของบุคคลในการควบคุม อารมณ์และพฤติกรรมของตนเองใหเ้ ป็นไปตามที่ตนเองมุง่ หวงั โดยเกิดจากความรู้สึกสานึกท่ีเห็น คุณคา่ ในการประพฤติปฏิบตั ิดว้ ยตนเอง มิไดเ้ กิดจากอิทธิพลภายนอก เช่น กฎเกณฑ์ ขอ้ บงั คบั ต่างๆ การฝึกอบรมจึงตอ้ งเนน้ การสร้างวนิ ยั ภายในตนเอง ดว้ ยการกวดขนั การประพฤติปฏิบตั ิอยา่ งจริงจงั และตอ่ เน่ือง วนิ ยั ภายในเป็นส่ิงที่ตอ้ งการใหม้ ีอยใู่ นทุกตวั คน ลูกเสือทุกนายตอ้ งไดร้ ับการฝึกใหเ้ กิด สานึกมีวนิ ยั ในตนเอง วนิ ยั ท่ีดีเกิดจากความรัก ความเลื่อมใสศรัทธา เด็ก ๆ ยอ่ มเชื่อฟังและเคารพเลื่อมใสผทู้ ่ีฉลาด กวา่ ตน มีอายมุ ากกวา่ ตน รูปร่างใหญก่ วา่ ตน ผกู้ ากบั ลูกเสือจึงเป็ นบุคคลสาคญั ในการสร้างเสริมให้ ลูกเสือเป็นผมู้ ีวนิ ยั ผกู้ ากบั ลูกเสือจึงตอ้ งวางตวั ใหด้ ีที่สุด มีบุคลิกภาพที่น่านบั ถือ ยมิ้ แยม้ แจ่มใส พดู จาชดั ถอ้ ยชดั คาเด็กกจ็ ะเกิดความสนใจรักใคร่นบั ถือนิยมชมชอบและเล่ือมใสศรัทธา เด็กกจ็ ะให้
129 ความร่วมมือในอนั ที่จะปฏิบตั ิตามกฎเกณฑต์ า่ ง ๆ ซ่ึงผลที่สุดการปฏิบตั ิตามคาสงั่ หรือปฏิบตั ิตวั ให้ อยใู่ นระเบียบวนิ ยั ของลูกเสือก็จะดูเป็นของง่ายและผกู้ ากบั ลูกเสือก็ควรจะกวดขนั ในเร่ืองวินยั และ กำรเช่ือฟังปฏิบตั ิตำมคำสั่งดว้ ยควำมรวดเร็ว และเคร่งครัดแมใ้ นเรื่องเล็ก ๆ นอ้ ย กไ็ ม่ควรปล่อยเลยไป กองลูกเสือใดมีระเบียบวินยั ที่ดีแลว้ กองลูกเสือน้นั ก็จะมีควำมสุข ประสบผลสำเร็จในกิจกำร ตำ่ ง ๆ ไดโ้ ดยง่ำยสิ่งท่ีจะช่วยทำใหล้ ูกเสือไดม้ ีระเบียบวนิ ยั ท่ีดีไดแ้ ก่ 1. กำรใชค้ ำส่ังใหป้ ฏิบตั ิอยำ่ งง่ำยๆ เป็นคำสั่งตรงๆ มีจุดหมำยที่แน่นอน ไม่ใช่คำสงั่ ที่เกิดจำก กำรขม่ ขู่ 2. พธิ ีกำรตำ่ ง ๆ เพรำะในพธิ ีกำรตำ่ ง ๆ ทำใหล้ ูกเสืออยใู่ นอำกำรสำรวม 3. กำรตรวจในกำรเปิ ดประชุมกองและปิ ดประชุมกอง หรือกำรตรวจกำรอยคู่ ่ำยพกั แรมใน ตอนเชำ้ เป็นกำรช่วยใหล้ ูกเสือไดร้ ักษำมำตรฐำนและระเบียบวนิ ยั ของกองลูกเสือใหม้ ีระดบั ดีข้ึน 4. เครื่องแบบมีควำมหมำยสำหรับช่ือเสียงของขบวนกำรลูกเสือ บุคคลภำยนอกเขำจะมอง และตดั สินเรำดว้ ยส่ิงที่เขำเห็นเท่ำน้นั ผแู้ ตง่ เคร่ืองแบบจะตอ้ งสำรวมกิริยำวำจำ ไม่กระทำกำรใดท่ีจะ ทำใหเ้ ส่ือมเสีย 5. กำรอยคู่ ำ่ ยพกั แรมตอ้ งทำงำนร่วมกนั อยำ่ งมีประสิทธิภำพ 6. กำรเดินทำงไกล ไดร้ ับควำมเหน็ดเหนื่อย ตอ้ งอดทน เห็นใจซ่ึงกนั และกนั 7. ระเบียบแถว เป็นวธิ ีกำรฝึ กท่ีจะตอ้ งใหป้ ฏิบตั ิตำมคำบอกคำส่ัง 8. สิ่งแวดลอ้ ม ท่ีมองเห็นเป็ นแบบอยำ่ งท่ีจะกระทำตำม 9. ตวั อยำ่ งที่ดีของผกู้ ำกบั เป็ นเรื่องที่สำคญั ที่สุดที่ลูกเสือจะเกิดศรัทธำยดึ ถือเป็ นแบบอยำ่ ง เครื่องแบบ องคป์ ระกอบสำคญั อยำ่ งหน่ึงของกำรลูกเสือ คือเครื่องแบบมีควำมสำคญั ท่ีจะใหร้ ู้กนั ภำยใน ของขบวนกำรลูกเสือและบุคคลภำยนอกโดยทวั่ ไป เป็นส่วนหน่ึงที่จะส่งเสริมใหเ้ กิดวินยั ที่ดีได้ เครื่องแบบลูกเสือไทยมีควำมหมำยและสำคญั กวำ่ ลูกเสือประเทศอ่ืนๆ ดว้ ยเหตุวำ่ เคร่ืองแบบไดร้ ับ พระรำชทำนจำกพระบำทสมเด็จพระมงกุฎเกลำ้ เจำ้ อยหู่ วั มีพระรำชดำริออกแบบนำมำใช้ และเป็น เคร่ืองทรงขององคพ์ ระมหำกษตั ริยม์ ำทุกรัชกำลจนถึงปัจจุบนั ส่วนประกอบของเคร่ืองแบบลูกเสือไทย จำแนกออกไดเ้ ป็ น 4 กลุ่ม กลุ่มท่ี 1 องคพ์ ระประมุขคณะลูกเสือแห่งชำติ และพระบรมวงศำนุวงศ์ กลุ่มท่ี 2 ผบู้ งั คบั บญั ชำลูกเสือประเภทต่ำง ๆ รวมท้งั ลูกเสือเหล่ำสมุทรและเหล่ำอำกำศ กลุ่มท่ี 3 ผบู้ งั คบั บญั ชำลูกเสือประเภทต่ำง ๆ รวมท้งั ลูกเสือเหล่ำสมุทรและเหล่ำอำกำศ กลุ่มที่ 4 นำยหมู่ รองนำยหมู่ และลูกเสือ 1.1 เครื่องแบบแต่ละกลุ่มมีท้งั ชำยและหญิง ท้งั ทวั่ ไปและเครื่องแบบพเิ ศษ ประกอบดว้ ย 1) หมวก 2) เส้ือ
130 3) กางเกง, กระโปรง 4) ผา้ ผกู คอ 5) เขม็ ขดั 6) ถุงเทา้ 7) รองเทา้ 1.2 เคร่ืองแบบและเครื่องหมายประกอบเคร่ืองแบบลูกเสือ สาหรับพระประมุขของคณะ ลูกเสือแห่งชาติ 1.3 เครื่องหมายประกอบเคร่ืองแบบผบู้ งั คบั บญั ชา ผตู้ รวจการลูกเสือและเจา้ หนา้ ท่ีลูกเสือ 1) เคร่ืองหมายจงั หวดั 2) สายนกหวดี หรือสายบีด 3) เครื่องหมายตาแหน่ง 4) เคร่ืองหมายรูปตราคณะลูกเสือแห่งชาติ 5) เครื่องหมายสังกดั 6) เครื่องหมายวชิ าผกู้ ากบั ลูกเสือเบ้ืองตน้ 7) เคร่ืองหมายวชิ าผกู้ ากบั ลูกเสือข้นั วดู แบดจ์ 1.4 เคร่ืองหมายประกอบเคร่ืองแบบผบู้ งั คบั บญั ชาและลูกเสือหน่วยพเิ ศษ 1) กองลูกเสือสามญั วชิราวธุ วทิ ยาลยั 2) กองลูกเสือสามญั ที่ 1 พระปฐมวทิ ยาลยั ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกลา้ เจา้ อยูห่ วั 3) หน่วยสวสั ดิภาพนกั เรียน
วนิ ัย ควำมเป็ นระเบยี บเรียบร้อยและสัญญำณต่ำง ๆ 131 เอกสำรประกอบ (2) สัญญำณมือรูปแถวต่ำง ๆ การใชส้ ญั ญาณมือเรียกแถวในรูปแบบต่าง ๆ น้นั ก่อนจะเรียกแถวผบู้ งั คบั บญั ชาหรือผเู้ รียก จะตอ้ งหาที่ให้เหมาะสมเสียก่อนและยนื ตรงแลว้ จึงเรียก “กอง” (ถา้ เป็นลูกเสือสารองเรียก “แพค็ ”) พร้อมท้งั ใหส้ ัญญาณมือทนั ทีในการฝึกตามบทเรียนต่อไปน้ีสมมติมีลูกเสือ 6 หมู่ เพ่ือสะดวกแก่การ ทาความเขา้ ใจ ตามหนงั สือคู่มือการฝึกระเบียบแถวของสานกั งานคณะกรรมการบริหารลูกเสือ แห่งชาติ ดงั น้ี 1. หน้ำกระดำนแถวเดียว ผเู้ รียกยนื อยใู่ นท่าตรง มือแบท้งั สองขา้ ง เหยยี ดตรงเสมอแนวไหล่ หนั ฝ่ ามือไปขา้ งหนา้ แลว้ เรียก “กอง” ใหร้ องนายหมู่ ๆ ท่ี 3 และนายหมู่ ๆ ท่ี 4 ระยะเคียง 1 กา้ ว เป็นหลกั อยหู่ นา้ ห่างจาก ผเู้ รียกประมาณ 6 กา้ ว หมู่ต่อ ๆ ไปคือ หมูท่ ี่ 1 และหมูท่ ี่ 2 อยทู่ างซา้ ยมือของผเู้ รียก ลูกเสือทุกคน สะบดั หนา้ ไปทางซา้ ย ถือรองนายหมูท่ ี่ 3 เป็นหลกั จดั แถวหนา้ กระดานชาเลืองดูอกคนท่ี 3 เป็นหลกั หมูท่ ่ี 5 และหมูท่ ี่ 6 อยทู่ ำงขวำมือผเู้ รียก ลูกเสือทุกคนสะบดั หนำ้ ไปทำงขวำ ถือนำยหมู่ท่ี 4 เป็น หลกั จดั แถวหนำ้ กระดำนชำเลืองดูอกคนที่ 3 เป็นหลกั กำรเขำ้ แถว ใหล้ ูกเสือทุกคน (เวน้ คนอยซู่ ำ้ ยสุดของแถว) ยกมือซำ้ ยข้ึนเทำ้ สะโพกใหฝ้ ่ ำมือ พกั อยบู่ นสะโพก นิ้วมือเหยยี ดชิดแลว้ ช้ีลงพ้ืน นิ้วกลำงอยปู่ ระมำณแนวตะเขบ็ กำงเกง ศอกอยเู่ สมอ แนวลำตวั กำรจดั แถวใหแ้ ขนขวำจดปลำยศอกซำ้ ย เป็นกำรจดั ระยะเคียงระหวำ่ งบุคคล ผเู้ รียกตรวจ กำรจดั แถวแลว้ ส่ัง “น่ิง” ลูกเสือทุกคนลดแขนลงพร้อมกบั สะบดั หนำ้ กลบั มำอยใู่ นทา่ ตรงและน่ิง 2. แถวตอน ผเู้ รียกยนื อยใู่ นทา่ ตรง มือแบท้งั สองขา้ งเหยยี ดตรงไปขา้ งหนา้ ขนานกบั พ้นื หนั ฝ่ ามือเขา้ หา กนั และขนานกนั เรียก “กอง” ใหล้ ูกเสือทุกหมูม่ าเขา้ แถวหนา้ ผเู้ รียก นายหมู่อยหู่ นา้ ลูกหมูเ่ รียงกนั ต่อไป ใหน้ ายหมู่ๆ ท่ี 3 และนายหมูท่ ี่ 4 เป็นหมู่หลกั อยตู่ รงหนา้ ผเู้ รียก ห่างจากผเู้ รียกประมาณ 6 กา้ ว หมูต่ ่อ ๆ ไป คือ หมู่ที่ 3 เป็นหลกั หมูท่ ี่ 5 และหมูท่ ี่ 6 อยทู่ างขวามือของผเู้ รียก นายหมูส่ ะบดั หนา้ ไปทางขวา ถือนายหมู่ท่ี 4 เป็นหลกั นอกน้นั ลูกเสือทุกคนจดั ใหร้ ะยะตอ่ ระหวา่ งบุคคลของแต่ ละหมูป่ ระมาณ 1 ช่วงแขน หรือประมำณ 1 กำ้ ว และใหต้ รงคอคนหนำ้ กำรเขำ้ แถว ใหล้ ูกเสือทุกคน (เวน้ คนอยซู่ ำ้ ยสุดของแถว) ยกมือซำ้ ยข้ึนเทำ้ สะโพก (เหมือน ดงั หนำ้ กระดำนแถวเดี่ยว) เป็นกำรจดั ระยะเคียงระหวำ่ งบุคคล ผเู้ รียกแถวตรวจกำรจดั แถวแลว้ สง่ั “น่ิง”) ลูกเสือทุกคนลดแขนลงพร้อมกบั สะบดั หนำ้ มำอยใู่ นท่ำตรงและนิ่ง
132 3. แถวหน้ำกระดำนตอนหมู่ปิ ดระยะ ผเู้ รียกยนื อยใู่ นท่าตรง มือกาท้งั สองขา้ ง เหยยี ดตรงไปขา้ งหนา้ ขนานกบั พ้นื งอขอ้ ศอกข้ึน เป็นมุมฉาก หนั หนา้ มือเขา้ หากนั แลว้ เรียก “กอง” ใหล้ ูกเสือหมูท่ ่ี 1 มาเขา้ แถวหนา้ ผเู้ รียกนายหมู่อยู่ ขวามือ ลูกหมู่อยซู่ า้ ยมือเขา้ แถวเป็นแถวหนา้ กระดาน โดยใหก้ ่ึงกลางของหมู่อยตู่ รงหนา้ ผเู้ รียกห่าง จากผเู้ รียกประมาณ 6 กา้ ว หมู่ต่อไปเขา้ แถวหนา้ กระดานเช่นกนั แตอ่ ยตู่ อ่ หลงั จากหมู่แรก ตามลาดบั ระยะต่อระหวา่ งหมู่ห่างประมาณ 1 ช่วงแขนหรือประมาณ 1 กา้ ว การเขา้ แถวใหล้ ูกเสือทุกคน (เวน้ คนอยซู่ า้ ยสุดของแถว) ยกมือซา้ ยข้ึนเทา้ สะโพก สะบดั หนา้ ไปทางขวาเป็นการจดั ระยะเคียงระหวา่ งบุคคล ผเู้ รียกสัง่ “ตรง” “จดั แถว” แลว้ สั่ง “น่ิง” ลูกเสือ ทุกคนลดแขนลงพร้อมกบั สะบดั หนา้ มาอยทู่ ่าตรงและน่ิง 4. แถวหน้ำกระดำนตอนหมู่เปิ ดระยะ ผเู้ รียกยนื อยใู่ นท่าตรง มือกาท้งั สองขา้ ง งอขอ้ ศอกเป็นมุมฉาก แขนท่อนบนแบะออกเป็น แนวเดียวกบั ไหล่ หนั หนา้ แขนไปขา้ งหนา้ เรียก “กอง” ใหล้ ูกเสือทุกคนมาเขา้ แถวเหมือนแถวหนา้ กระดานตอนหมู่ปิ ดระยะ แต่ระยะต่อของทุกหมูข่ ยายออกไปทางดา้ นหลงั ห่างประมาณ 3 ช่วงแขน หรือประมาณ 3 กา้ ว การจดั แถวและการส่ัง “น่ิง” ปฏิบตั ิเหมือนแถวหนา้ กระดานตอนหมูป่ ิ ดระยะ 5. แถวครึ่งวงกลมหรือรูปเกือกม้ำ ผเู้ รียกยนื อยใู่ นทา่ ตรง มือแบ ท้งั สองขา้ งเหยยี ดตรงลงขา้ งล่าง ควา่ ฝ่ ามือเขา้ หาตวั โบกผา่ น ลาตวั ประสานกนั ดา้ นหนา้ ชา้ ๆ เป็นรูปคร่ึงวงกลม เรียก “กอง” ใหล้ ูกเสือหมูท่ ี่ 1 ยนื ดา้ นซา้ ยมือของ ผเู้ รียกโดยนายหมู่ท่ี 1 ยนื อยแู่ นวเดียวกบั ผเู้ รียก ห่างจากผเู้ รียกพอสมควรกบั แถวที่จะทาเป็นรูปคร่ึง วงกลม หมู่ที่ 2 และหมูต่ อ่ ๆ ไป อยดู่ า้ นซา้ ยมือของหมู่แรกตามลาดบั จนคนสุดทา้ ยของหมูส่ ุดทา้ ย หรือรองนายหมูข่ องหมู่สุดทา้ ยยนื อยเู่ ป็นเส้นตรงเดียวกนั กบั ผเู้ รียก และนายหมูๆ่ แรก ถือผเู้ รียกเป็ น จุดศูนยก์ ลาง ระยะเคียงระหวา่ งบุคคล ระหวา่ งหมูแ่ ละการตรวจแถวสั่ง “นิ่ง” ปฏิบตั ิเหมือนหนา้ กระดานแถวเดียว 6. แถววงกลม ผเู้ รียกยนื อยใู่ นทา่ ตรง มือแบท้งั สองขา้ ง เหยยี ดตรงลงขา้ งล่าง ควา่ ฝ่ ามือเขา้ หาตวั โบก ผา่ นลาตวั ประสานกนั จากดา้ นหนา้ ถึงดา้ นหลงั ชา้ ๆ เป็นรูปวงกลม เรียก “กอง” ใหห้ มูท่ ี่ 1 ยนื เคียง ขา้ งทางซา้ ยมือของผเู้ รียก โดยนายหมู่ท่ี 1 วงิ่ มายนื เคียงขา้ งทางซา้ ยมือของผเู้ รียก ระยะเคียงห่างจาก ผเู้ รียก 1 ฝ่ ามือ หมู่ท่ี 2 และหมู่ต่อ ๆ ไป อยดู่ า้ นซา้ ยมือของหมู่ท่ี 1 ไปตามลาดบั จนถึงรองนายหมู่ สุดทา้ ยจะมายนื เคียงทางขวามือของผเู้ รียก ระยะเคียงประมาณ 1 ฝ่ ามือ ระยะเคียงระหวา่ งบุคคล ระหวา่ งหมู่และการตรวจแถวส่งั “น่ิง” เหมือนหนา้ กระดาน แถวเดียว
133 7. แถวรัศมหี รือล้อเกวียน ผเู้ รียกยนื อยใู่ นท่าตรง มือขวาแบควา่ กางนิ้วออกทุกนิ้ว ชูแขนไปขา้ งหนา้ ทามุมประมาณ 45 องศา ใหม้ องเห็นได้ แลว้ เรียก “กอง” ใหล้ ูกเสือทุกหมู่มาเขา้ แถวเป็นรูปแถวตอนหนา้ ผเู้ รียก ห่าง จากผเู้ รียกประมาณ 6 กา้ ว เป็นรูปรัศมี โดยให้หมูท่ ี่ 1 อยดู่ า้ นหนา้ ทางซา้ ยมือผเู้ รียกประมาณ 45 องศา หมู่ท่ี 2 และหมู่ต่อ ๆ ไป ไปอยดู่ า้ นซา้ ยมือของหมูท่ ี่ 1 ตามลาดบั ถือผเู้ รียกเป็นจุดศูนยก์ ลาง ระยะห่างของแตล่ ะคนในหมู่ห่างกนั 1 หน่ึงช่วงแขน ระยะเคียงระหวา่ งนายหมู่ตอ่ นายหมู่ห่าง พอสมควร และนายหมู่ ๆ สุดทา้ ยจะอยดู่ า้ นหนา้ ขวามือของผเู้ รียกประมาณ 45 องศา 8. แถวสี่เหลีย่ มเปิ ด ผเู้ รียกยนื อยใู่ นท่าตรง งอขอ้ ศอกท้งั สองขา้ งข้ึน แบฝ่ ามือหงายไปขา้ งหนา้ ใหฝ้ ่ ามือขวาทบั หลงั มือซา้ ยเสมอระดบั ตา แลว้ เรียก “กอง” ใหล้ ูกเสือหมู่ที่ 1 มาเขา้ แถวหนา้ กระดานทางซา้ ยมือของ ผเู้ รียก ใหน้ ายหมู่อยเู่ สมอผเู้ รียก ติดตามดว้ ยหมู่ที่ 2 ส่วนหมู่ที่ 3 และหมู่ที่ 4 ใหม้ าเขา้ แถวหนา้ กระดานตรงหนา้ ผเู้ รียกใหต้ ่อจากหมูท่ ี่ 6 ตามลาดบั โดยใหร้ ะยะเคียงระหวา่ งหมูท่ ี่ 3 และหมู่ท่ี 4 อยู่ ตรงกบั ผเู้ รียก ทามุมฉากกบั แถวหมู่ที่ 1 และหมู่ที่ 2 และหมู่ที่ 4 และหมูท่ ี่ 6 เขา้ แถวหนา้ กระดานทาง ขวามือผเู้ รียก โดยตอ่ จากหมู่ที่ 4 ตามลาดบั และใหห้ มูท่ ี่ 5 และหมูท่ ่ี 6 เป็นแถวหนา้ กระดานเป็ นมุม ฉากกบั แถวของหมูท่ ี่ 3 และหมู่ที่ 4 และรองนายหมู่ที่ 6 อยเู่ สมอกบั ผเู้ รียก ทุกหมู่หนั หนา้ เขา้ หากนั การเขา้ แถว การจดั ระยะเคียงและการตรวจการจดั แถวแลว้ สง่ั “นิ่ง” เหมือนหนา้ กระดาน แถวเด่ียว 9. หมู่แถวตอนเรียงสอง ผเู้ รียกยนื อยใู่ นท่าตรง ชูแขนท้งั สองขา้ งไปขา้ งหนา้ เหยยี ดตรงเสมอไหล่ หนั หลงั มือเขา้ มา หากนั ทาชา้ ๆ แลว้ เรียก “กอง” ใหล้ ูกเสือหมูท่ ี่ 1 และหมู่ที่ 4 เป็นหลกั วง่ิ มาเขา้ แถวตอนตรงหนา้ ผเู้ รียกและใหน้ ายหมู่ท้งั สองเป็นหลกั อยหู่ ่างจากผเู้ รียกประมาณ 6 กา้ ว ใหห้ มูท่ ี่ 2 และหมู่ที่ 3 มา เขา้ แถวตอน ต่อจากหมูท่ ่ี 1 ตามลาดบั และหมู่ที่ 5 และหมูท่ ่ี 6 มาเขา้ แถวตอนตอ่ จากหมูท่ ่ี 4 ตามลาดบั การเขา้ แถว ใหจ้ ดั ระยะเคียงระหวา่ งหมู่ห่างประมาณ 3 ช่วงแขน หรือประมาณ 3 กา้ ว ระยะ ระหวา่ งบุคคลในหมู่ห่าง 1 ช่วงแขน ระยะระหวา่ งหมู่ใหเ้ วน้ ระยะพองาม คือ ใหเ้ กินกวา่ 1 ช่วง แขนบา้ งเลก็ นอ้ ย แตล่ ะแถวใหจ้ ดั แถวตรงคอคนหนา้ ผเู้ รียกแถวตรวจการจดั แถวแลว้ สั่ง “นิ่ง” กำรใช้สัญญำณมือสั่งแถว “ตรง” “นิ่ง” หรือ “พกั ” ก. ผกู้ ากบั ลูกเสือ อาจใชค้ าสั่งดว้ ยวาจาหรือดว้ ยท่าทางก็ได้ คือ ใชแ้ ขนขวา มือกากระตุก หรือสปริงแขนเขา้ หาตวั โดยใหก้ ามืออยเู่ สมอหวั เขม็ ขดั แทนคาสัง่ “ตรง” หรือ “น่ิง”
134 มือกา สลดั หรือสปริงแขนขวาออกไปจากลาตวั ทางขวา แทนคาส่งั “ตามระเบียบ พกั ” เพื่อใหเ้ กิดความพร้อมเพรียงและมีระเบียบ ก่อนจะใชส้ ัญญาณมือสงั่ แถว ควรใชเ้ สียงเรียกเตือนดว้ ย คาวา่ “กอง” (ถา้ เป็นลูกเสือสารองเรียก “แพค็ ” ) แลว้ จึงใชส้ ัญญาณมือสั่งแถว หมำยเหตุ 1. การสงั่ แถว “แยก” เม่ือจบการฝึกตอนหน่ึง เพ่อื จะไปฝึ กตอ่ ในวชิ าอื่น หรือเพื่อยา้ ย สถานที่ฝึกใหส้ ่ังลูกเสืออยใู่ น “ทา่ ตรง” ก่อนแลง้ สง่ั วา่ “กอง…แยก” เมื่อลูกเสือไดร้ ับคาสงั่ ใหท้ ุกคน ทาขวาหนั เดินแยกออกไปทางขวามือของตนตามลาพงั 2. เม่ือเสร็จสิ้นการอบรมในวนั น้นั ๆ แลว้ ใหส้ ่งั ลูกเสืออยใู่ นทา่ ตรงก่อนแลว้ ส่งั “กอง , เลิก” เม่ือลูกเสือไดร้ ับคาสัง่ ใหท้ ุกคนทา วนั ทยหตั ถห์ รือทา“วนั ทยาวธุ ” ตามลาพงั ตนเอง และกล่าวถอ้ ยคา วา่ ” ขอบคุณครับ /ค่ะ” แลว้ เอามือลงและทาขวาหนั เดินไปทางขวามือของตนเอง สัญญำณนกหวดี สาหรับการฝึกประจาวนั หรือในโอกาสที่ผบู้ งั คบั บญั ชาอยูห่ ่างไกลลูกเสือ ใชส้ ัญญาณ ประเภทอื่นไมส่ ะดวกก็ใชส้ ญั ญาณนกหวดี คือ 1. เป่ ายาว 1 คร้ัง () หมายความวา่ “เงียบ, หยดุ , คอย ฟังคาสง่ั ” 2. เป่ ายาวติดกนั ( ) หมายความวา่ “ทาต่อไป, เดิน ต่อไป” 3. เป่ าส้ันติด ๆ กนั ( ) หมายความวา่ “รวมกอง” 4. เป่ าส้ันยาวสลบั กนั ( ) หมายความวา่ เกิดเหตุ “เตรียมพร้อม” 5. เป่ าสามคร้ัง ยาวหน่ึงคร้ัง ( ) หมายความวา่ “เรียกนายหมู่ มาที่น่ี” 6. เป่ ายาวสามคร้ัง ส้ันหน่ึงคร้ัง ( ) หมายความวา่ “ชกั ธงลง” หมำยเหตุ 1. ก่อนใหส้ ญั ญาณ (2 – 6) แตล่ ะคร้ังน้นั ใหใ้ ชส้ ัญญาณ (1) ก่อนเสมอไป เพื่อเป็นการ เตือนใหร้ ู้วา่ จะใชส้ ัญญาณอะไร 2. การใชส้ ัญญาณก่ีคร้ัง ข้ึนอยทู่ ี่รับคาสง่ั ไดย้ นิ และปฏิบตั ิแลว้ ก็หยดุ ใหส้ ัญญาณได้
เรื่อง เงื่อนลกู เสือสำมัญรุ่นใหญ่ 135 บทเรียนท่ี 9 เวลำ 60 นำที ขอบข่ำยวชิ ำ 1. เง่ือนกบั ชีวติ ประจาวนั ของลูกเสือ 2. การผกู เงื่อนต่าง ๆ การเรียกชื่อ และประโยชนข์ องเงื่อน 3. การเกบ็ เชือกขนาดต่าง ๆ จุดหมำย ส่งเสริมใหผ้ บู้ งั คบั บญั ชาลูกเสือ มีความรู้ ความเขา้ ใจ และทกั ษะการใชเ้ งื่อน วตั ถุประสงค์ เมื่อจบบทเรียนน้ีแลว้ ผเู้ ขา้ รับการฝึกอบรมควรจะสามารถ 1. ผกู และเรียกช่ือเงื่อนของลูกเสือสามญั รุ่นใหญไ่ ดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง 2. บอกประโยชน์ของเงื่อนต่าง ๆ ได้ 3. อธิบายการเกบ็ เชือกขนาดตา่ ง ๆ ไดอ้ ยา่ งมีระเบียบ 4. นาไปใชฝ้ ึกอบรมในกองลูกเสือโรงเรียนได้ วธิ ีสอน / กจิ กรรม 5 นาที 1. บรรยาย 40 นาที 2. แบ่งกลุ่มไปศึกษาวธิ ีการผกู เงื่อน 15 นาที 3. รวมทดลองผกู เง่ือนและสาธิตวธิ ีการเกบ็ เชือกขนาดต่าง ๆ ส่ือกำรสอน 1. แผนภูมิแสดงข้นั ตอนการผกู เงื่อน 2. แผงเง่ือนสาธิต 3. เชือกชนิดตา่ ง ๆ 4. เอกสารประกอบ กำรประเมินผล 1. สงั เกต 2. สอบถาม 3. ทกั ษะพสิ ัย
136 เนื้อหำวชิ ำ เงื่อนกบั ลกู เสือ เง่ือนเป็นวชิ าทกั ษะและประสบการณ์ข้นั พ้ืนฐานของลูกเสือท่ีจะนาไปสู่กิจกรรมบุกเบิก เพื่อ สร้างสิ่งตา่ ง ๆ ใหเ้ กิดความมนั่ คงแขง็ แรง และใชป้ ระโยชน์ไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ ในทางตรงขา้ ม หากลูกเสือไมม่ ีทกั ษะในการผกู เง่ือนหรือผกู เงื่อนไมถ่ ูกตอ้ งแลว้ การสร้างเพงิ พกั การสร้างสะพาน การสร้างหอคอยระวงั เหตุ และอ่ืน ๆ จะประสบความลม้ เหลว ฉะน้นั ผกู้ ากบั ลูกเสือเองจึงตอ้ งหา โอกาสไดศ้ ึกษาเก่ียวกบั การผกู เงื่อนให้เกิดความชานาญอยา่ งแทจ้ ริง เง่ือนที่กาหนดไวใ้ นข้นั น้ี มีดงั ต่อไปน้ี - ตะกรุดเบด็ พิรอด ขดั สมาธิ ผกู ร่น - ผกู กะหวดั ไม้ บ่วงสายธนู ผกู ร้ัง - ผกู ประมง ผกู ซุง ปมตาไก่ - ห่วงสวมผา้ ผกู คอ (woggle) กำรผกู เงื่อน เง่ือนดงั กล่าวแต่ละเง่ือนมีวธิ ีผกู และใชป้ ระโยชน์ตา่ ง ๆ กนั เพือ่ เป็นการง่ายต่อการฝึก จึงไดจ้ ดั แบ่งการผกู เงื่อนออกเป็ นตามลกั ษณะการผกู ดงั น้ี 1. เงื่อนประเภท Hitch เป็นเง่ือนที่ใชผ้ กู เสาหลกั เสา และวตั ถุอื่น ๆ เพอื่ การโยง ยึด เช่น เงื่อนตะกรุดเบด็ (Clove Hitch) เง่ือนกระหวดั ไม้ (Roundturn- Two Hitch) 2. เงื่อนประเภท Bend เป็นเงื่อนท่ีใชเ้ ชือก 2 เส้น มาต่อกนั หรือผกู กบั ห่วง เช่น เงื่อนขดั สมาธิ (Sheet Bend) 3. เง่ือนประเภท Knot เป็นเง่ือนท่ีใชเ้ ชือกเส้นเดียวกนั ผกู หรือต่อกนั เช่น เงื่อนพิรอด (Reef Knot) ข้นั ตอนในกำรฝึ ก 1. ทาตวั อยา่ งการผกู เงื่อนเป็ นข้นั ตอนขนาดใหญ่ ไวป้ ระกอบการสอน 2. แยกผฝู้ ึกออกเป็ นกลุ่มนอ้ ยเหมาะกบั เวลา 3. ใชเ้ ชือกเส้นใหญ่ เพอ่ื ใหเ้ ห็นไดโ้ ดยง่าย 4. ใหท้ ุกคนมีเชือกเป็ นของตนเอง 5. ถา้ ต่อเชือก 2 เส้น ควรใชส้ ีตา่ งกนั 6. บอกช่ือ ประโยชน์ วธิ ีผกู 7. ทาใหด้ ูชา้ ๆ ทีละข้นั ตอน 8. ใหท้ าตาม (ผสู้ าธิตควรหนั หนา้ ไปในทางทิศทางเดียวกนั กบั ผฝู้ ึก) 9. ซอ้ มทวนหลาย ๆ คร้ันจนจาได้
137 10. ใหล้ งมือทาเอง ข้อสำคญั กำรผูกเง่ือน 1. ถูกตอ้ ง 2. ใชถ้ ูก (ใชเ้ หมาะสมกบั งาน) 3. แน่น แขง็ แรง (มีประสิทธิภาพในการใชง้ าน) 4. ผกู เร็ว (เรียบร้อย) 5. สวยงาม 6. แกง้ ่าย ประโยชน์ของกำรผกู เงื่อน 1. ตะกรุดเบ็ด ประโยชน์ 1) ใชผ้ กู กบั เสากลมหรือเหลี่ยมไม่ไหร้ ูดออกไดง้ ่าย 2) ใชท้ าบนั ไดเชือก บนั ไดลิง 3) ใชใ้ นการผกู เชือกกระหวดั ไม้ 4) ใชป้ ระกอบการผกู แน่น ( Lashing ) เช่น ผกู ประกบ ผกู กากบาท 2. เงื่อนพิรอด ประโยชน์ 1) ใชต้ ่อเชือก 2 เส้น มีขนาดเทา่ กนั ใหม้ ีความยาวท่ีตอ้ งการ 2) ใชผ้ กู โบว์ ผกู ชายผา้ พนั แผล เชือกผกู รองเทา้ 3) ผกู ชายผา้ ทาสลิงคลอ้ งคอ ในการปฐมพยาบาล 3. เงื่อนขดั สมาธิ ประโยชน์ 1) ต่อเชือกดา้ ยใหม้ ีขนาดไล่เลี่ยกนั (เชือกเส้นใหญ่ทาเป็ นบว่ ง เส้นเลก็ เป็ นเส้น สอด) 2) ใชผ้ กู ของที่เป็นห่วง เช่น ห่วงธง ปากรอก 4. เง่ือนผกู กระหวดั ไม้ ประโยชน์ 1) ใชใ้ นการผกู รอก 2) ใชผ้ กู กบั หลกั 3) ใชผ้ กู เรือนแพ เพราะเป็นเงื่อนผกู ง่าย และแกง้ ่าย
138 5. เง่ือนบ่วงสายธนู ประโยชน์ 1) ใชท้ าบ่วงคลอ้ งเสาหรือหลกั เรือแพ 2) ใชใ้ นการกภู้ ยั แทนเง่ือนเกา้ อ้ี โดยหยอ่ นคนข้ึนลงในท่ีสูง 3) ใชท้ าห่วงต่อเชือก 4) เป็นเง่ือนที่ไม่รูดเขา้ ไปรัดส่ิงท่ีผกู 6. ผกู ร้ัง ประโยชน์ 1) ปรับเลื่อนใหต้ ึงและหยอ่ นได้ 2) ใชผ้ กู เสาเตน็ ท์ 3) ใชย้ ดึ ร้ังตน้ ไม้ 7. เง่ือนผกู ร่น ประโยชน์ 1) ทบร่นเชือกในส่วนที่ชารุดโดยไม่ตอ้ งตดั 2) ทบเชือกใหส้ ้ันหรือยาวตามตอ้ งการ 8. เง่ือนผกู ประมง ประโยชน์ ใชย้ ดึ ต่อเชือกเล็กท่ีมีขนาดเท่ากนั 9. เง่ือนผกู ซุง ประโยชน์ 1) ผกู สิ่งที่มีความยาว 2) ผกู ซุงสาหรับชกั ลาก 3)ผกู แลว้ ยดึ ดึงยง่ิ แน่น 10. เง่ือนปมตาไก่ ประโยชน์ ใชร้ ้อยรู (ตาไก่) ของเตนท์ เพ่อื ยดึ เตน็ ทก์ บั สมอบก 11. ห่วงสวมผา้ ผกู คอหรือห่วงกิลเวลล์ (woggle) ประโยชน์ ใชเ้ ป็นห่วงสวมผา้ ผกู คอของผบู้ งั คบั บญั ชาลูกเสือที่ผา่ นการฝึกอบรมวชิ ากากบั ลูกเสือ ข้นั ความรู้เบ้ืองตน้ ทุกประเภท
139 กำรรักษำและกำรเกบ็ เชือก เชือกที่ใชก้ นั อยใู่ นปัจจุบนั น้ีมีหลายชนิดดว้ ยกนั เช่น เชือกมนิลา เชือกป่ าน เชือกไนล่อน เชือกดา้ ย และเชือกลวด เป็ นตน้ และเชือกในแตล่ ะชนิดนาไปใชใ้ นงานตา่ งกนั ท้งั น้ี เพราะ คุณลกั ษณะของเชือกถา้ จะกล่าวแลว้ เราสามารถแบง่ คุณลกั ษณะของเชือกออกไดเ้ ป็น 2 ประเภท คือ 1. ประเภทที่ทามาจากพชื เช่น เชือกมนิลา เชือกป่ าน เชือกกาบมะพร้าว และเชือกปอ หวาย กาบตน้ กลว้ ย เถาวลั ย์ เป็นตน้ 2. ประเภทท่ีทามาจากใยสังเคราะห์ (สารสังเคราะห์ทางเคมี) เช่น เชือกไนล่อน เชือกเทอรีนลีน (ใชช้ กั เรือโบต๊ ) เชือกร่ม ยางเทียม เป็ นตน้ 3. ประเภทท่ีทามาจากโลหะ เช่น เชือกลวด ลวดทองแดง ลวดอะลูมิเนียม เป็นตน้ กำรเกบ็ เชือก ควรเก็บเชือกไวเ้ ป็ นระเบียบเรียบร้อย นอกจากเกิดความสวยงามแลว้ เราสามารถจะหยบิ ใช้ งานไดส้ ะดวกรวดเร็ว และถา้ เกบ็ แยกขนาดไดจ้ ะเป็ นการยงิ่ ดี การเกบ็ เชือกในท่ีน้ีแยกกล่าวได้ 2 อยา่ งคือ 1. การเกบ็ เชือกเลก็ ซ่ึงเชือกชนิดน้ีสามารถนาติดตวั มาไปได้ โดยใชว้ ธิ ีการกระทบเชือก 2. การเก็บเชือกใหญ่ ที่สามารถนาติดตวั ไปไดห้ รือเก็บไวโ้ รงพสั ดุเราควรใชว้ ธิ ี - ทาเป็นวงกลม - ทาเป็นทบตามยาว - ทาเป็นทบตามยาวระหวา่ งหลกั - แขวนให้โปร่ง กำรรักษำเชือก เชือกจะใชไ้ ดน้ านหรือไม่เพียงใด ข้ึนอยกู่ บั การบารุงรักษาของผกู้ ากบั ลูกเสือที่จะตอ้ งรู้และ รับผดิ ชอบ คือ 1. เชือกเมื่อถูกน้าตอ้ งตากใหแ้ หง้ สนิทก่อนนาไปเก็บ และวธิ ีที่ดีที่สุดคือการตากแดด 2. ตรวจสอบอายกุ ารใชง้ านของเส้นเชือก 3. รู้จกั วธิ ีเกบ็ ตลอดจนการพกพา เพอ่ื จะใชง้ านในโอกาสตอ่ ไป 4. การบารุงรักษาเชือกโดยวธิ ีแทงเชือก
140 เร่ือง กำรผจญภยั บทเรียนท่ี 10 เวลำ 120 นำที ขอบข่ำยวชิ ำ 1. จุดมุ่งหมาย หลกั การ และวธิ ีการจดั กิจกรรมผจญภยั 2. ปฏิบตั ิกิจกรรมผจญภยั จุดหมำย ใหผ้ เู้ ขา้ รับการฝึกอบรม มีความรู้ ทกั ษะในการผจญภยั และสามารถนาไปใชใ้ นกองลูกเสือ วตั ถุประสงค์ เม่ือจบบทเรียนน้ีแลว้ ผเู้ ขา้ รับการฝึกอบรมควรจะสามารถ 1.บรรยายจุดมุ่งหมายหลกั การและวธิ ีการในการจดั กิจกรรมผจญภยั สาหรับลูกเสือสามญั รุ่นใหญไ่ ด้ 2. ปฏิบตั ิกิจกรรมผจญภยั ไดอ้ ยา่ งปลอดภยั 3. จดั กิจกรรมผจญภยั สาหรับลูกเสือสามญั รุ่นใหญใ่ นโรงเรียนไดอ้ ยา่ งเหมาะสม วธิ ีสอน/กจิ กรรม 1. บรรยาย จุดมุง่ หมาย หลกั การ และวธิ ีการจดั กิจกรรมผจญภยั 10 นาที 2. ฝึกเขียนคาสัง่ การผจญภยั และอภิปรายกลุ่ม 20 นาที 3. รายงาน 10 นาที 4. ปฏิบตั ิกิจกรรมผจญภยั 70 นาที 5. สรุปผลจากการปฏิบตั ิกิจกรรมผจญภยั 10 นาที ส่ือกำรสอน 1. เอกสารประกอบการบรรยาย จุดมุ่งหมาย หลกั การและวธิ ีการจดั กิจกรรมผจญภยั 2. ตวั อยา่ งคาสัง่ การผจญภยั เพื่อใชเ้ ป็นตวั อยา่ งประกอบการฝึกเขียนคาสงั่ การผจญภยั 3. ใบงานอภิปรายกลุ่ม 4. ตวั อยา่ งตารางการให้คะแนนการปฏิบตั ิกิจกรรมผจญภยั ภำคปฏิบตั ิ 1. ใหผ้ เู้ ขา้ รับการฝึ กอบรมไปร่วมกนั อภิปรายวา่ จากตวั อยา่ งคาส่งั การผจญภยั ที่แจกใหน้ ้นั แต่ละคาสง่ั มุ่งพฒั นาลูกเสือในเร่ืองอะไรบา้ ง 2. ใหผ้ เู้ ขา้ ร่วมฝึกอบรม ฝึกเขียนคาสั่งการผจญภยั หมู่ละ 1 คาสั่ง โดยมีจุดมุง่ หมายใน การพฒั นาลูกเสือในเรื่องตา่ ง ๆ กนั 3. ใหผ้ เู้ ขา้ รับการฝึกอบรมปฏิบตั ิกิจกรรมผจญภยั ไม่นอ้ ยกวา่ 5 ฐาน และไม่เกิน 10 ฐาน กำรประเมินผล 1. การสังเกต 2. ผลสมั ฤทธ์ิการร่วมกิจกรรมผจญภยั ไดอ้ ยา่ งปลอดภยั
141 ภำคผนวก 1. ตวั อยา่ งคาสง่ั การผจญภยั ที่จะแจกใหผ้ เู้ ขา้ ร่วมรับการฝึ กเป็นตวั อยา่ งประกอบการฝึ กเขียน คาส่งั ตวั อย่ำงที่ 1 ฐานท่ี....................................................กางเตน็ ท์ สมมุติวา่ ท่านนาหมู่ของทา่ นไปเดินทางไกลและพกั แรมในป่ าท่ีมีอนั ตราย ซ่ึงอาจเกิดข้ึนจาก สตั ว์ เมื่อเดินทางไปถึงเป็ นเวลาค่ามืดพอดี ใหห้ มูข่ องท่านร่วมกนั วางแผนในการกางเตน็ ทพ์ กั แรม แบบสองคนต่อหน่ึงหลงั ใหแ้ ลว้ เสร็จภายใน 10 นาที และตอ้ งปลอดภยั จาการรบกวนของสัตวป์ ่ าดว้ ย ตวั อย่ำงท่ี2 ฐำนท่ี.......................................................หนีนำ้ สมมุติวา่ ทา่ นนาหมู่ของทา่ นไปพกั แรมในป่ าแห่งในหน่ึงในคืนน้นั ฝนไดต้ กลงมาอยา่ งหนกั น้าป่ าไหลบ่ามาอยา่ งรวดเร็ว จาเป็นตอ้ งละทิง้ สัมภาระท่ีนามาท้งั หมด แลว้ หนีน้าข้ึนไปอยบู่ นตน้ ไม้ อยา่ งรวดเร็ว โดยนาอาหารและน้าข้ึนไปดว้ ยใหเ้ สร็จภายใน 10 นาที ตวั อย่ำงท่ี 3 ฐำนที่..................................................ข้ำมเหว สมมุติวา่ ท่านนาหมู่ของทา่ นมาถึงเหวแห่งหน่ึงซ่ึงชนั และน่ากลวั มาก และตอ้ งเดินทางขา้ ม เหวแห่งน้ีไปยงั ฝั่งตรงขา้ มดว้ ยสะพานเชือกสองเส้นท่ีมีผูส้ ร้างไวแ้ ลว้ ทีละคนใหเ้ สร็จสิ้นภายใน 10 นาที ตวั อย่ำงที่4 ฐำนที่.............................................ฝ่ ำดงระเบดิ สมมุติวา่ ทา่ นนาหมู่ของท่านมาถึงสถานที่แห่งหน่ึงซ่ึงมีกบั ระเบิดฝังอยทู่ ว่ั ไป ทา่ นตอ้ งนาหมู่ ของท่านเดินฝ่ าดงระเบิดน้ีไปตามเสาตอหมอ้ ท่ีชาวบา้ นปักไว้ โดยไมใ่ หเ้ กิดอนั ตราย และใหเ้ สร็จสิ้น ภายใน 10 นาที ตวั อย่ำงที่ 5 ฐำนที่.................................................ลอดถำ้ สมมุติวา่ หมูข่ องท่านเดินมาทางถึงสถานที่แห่งหน่ึงที่มีลวดหนามกีดขวางอยหู่ นาแน่น ไม่ สามารถผา่ นไปได้ มีทางเดียวที่จะไปได้ คือลอดถ้าน้ี ใหท้ ่านนาหมูท่ ่านลอดถ้าน้ีไปอยา่ งรวดเร็วและ ระมดั ระวงั ใหเ้ สร็จสิ้นภายใน 10 นาที
142 ตัวอย่ำง 6 ฐำนที่..............................................ข้ำมลำธำร สมมุติวา่ ท่านนาหมู่ของทา่ นเดินทางมาถึงลาธารแคบ ๆ แห่งหน่ึง แตม่ ีน้าลึกมากใหท้ ่านนา หมู่ของท่านขา้ มลาธารไปอีกฟากหน่ึง โดยวธิ ีโหนเชือกท่ีผกู ติดอยกู่ บั ตน้ ไมร้ ิมลาธารขา้ มไปใหเ้ สร็จ สิ้นภายใน 10 นาที 2. งำนในหมู่ (10 นำท)ี 1. ใหห้ มูข่ องทา่ นร่วมกนั อภิปรายวา่ จากคาสงั่ การผจญภยั ท่ีแจกให้ (อยา่ งนอ้ ยหมูล่ ะ 5 คาสงั่ ) แต่ละคาสัง่ มีจุดหมายในการพฒั นาลูกเสือในเรื่องใดบา้ ง 2. ใหห้ มูข่ องทา่ นร่วมกนั จดั ทาคาสัง่ การผจญภยั ท่ีไมซ่ ้ากบั ตวั อยา่ งมาหมูล่ ะหน่ึงคาส่งั โดยมีจุดหมายท่ีจะพฒั นาลูกเสือในเร่ืองต่อไปน้ี หมูท่ ่ี 1 พฒั นาลกั ษณะผนู้ า หมูท่ ่ี 2 พฒั นาการตดั สินใจ หมู่ท่ี 3 ทดสอบดา้ นกาลงั ใจ หมูท่ ่ี 4 ทดสอบการทรงตวั หมู่ท่ี 5 ทดสอบกาลงั กาย แลว้ ส่งตวั แทนรายงานในท่ีประชุมหมู่ละ 2 นาที 3. แบบให้คะแนนกำรปฏิบตั ิกจิ กรรมผจญภัย แบบให้คะแนนกำรปฏบิ ตั กิ จิ กรรมผจญภยั กำรฝึ กอบรมวชิ ำผู้กำกบั ลกู เสือสำมญั รุ่นใหญ่ ข้นั ควำมรู้เบื้องต้น ชื่อหมู่ ผนู้ า ระบบหมู่ ความสาเร็จ ทกั ษะพิสยั รวม หมายเหตุ 5 คะแนน 5 คะแนน 5 คะแนน 5 คะแนน 20 คะแนน ลงชื่อ.........................................................ผปู้ ระจาฐาน
143 หมำยเหตุ ขอ้ ควรคานึง ผบู้ รรยายควรสรุปใหผ้ เู้ ขา้ รับการฝึกอบรมทราบวา่ กิจกรรมที่ไดป้ ฏิบตั ิไปแลว้ น้นั เป็ น เพยี งส่วนหน่ึงเทา่ น้นั การท่ีจะนาไปใชฝ้ ึกอบรมลูกเสือในโรงเรียนจะตอ้ งคานึงถึงความปลอดภยั เป็น สาคญั นอกจากน้นั ทุกคนตอ้ งถามตวั เองวา่ กิจกรรมผจญภยั จดั ข้ึนน้นั มีวตั ถุประสงคอ์ ะไร คร้ังน้ีจะ ประเมินผลสัมฤทธ์ิอะไรแค่ไหน ทกั ษะที่ลูกเสือไดร้ ับจะนาไปใชใ้ นโอกาสใดอยา่ งไร
กำรผจญภัย 144 เอกสำรประกอบ กำรผจญภัย 1. จุดมุ่งหมายของวชิ าผจญภยั เพ่ือพฒั นาลกั ษณะการเป็ นผนู้ า การตดั สินใจทดสอบการทรงตวั ทดสอบกาลงั ใจและสมรรถภาพทางร่างกาย รวมท้งั พฒั นาคุณภาพและจริยธรรมของลูกเสือสามญั รุ่นใหญ่ 2. หลกั การจดั กิจกรรมผจญภยั เบ้ืองตน้ 2.1 ควรจดั ใหท้ า้ ทายความสามารถของลูกเสือ 2.2 ในแตล่ ะฐานควรกาหนดจุดมุง่ หมายเฉพาะใหช้ ดั เจนวา่ จะพฒั นาลูกเสือในเร่ืองใด 2.3 คานึงถึงความปลอดภยั ใหม้ ากที่สุด ตอ้ งตรวจสอบและดูแลอยา่ งใกลช้ ิดในขณะท่ี ลูกเสือปฏิบตั ิกิจกรรม 2.4 ควรปล่อยใหห้ มู่ลูกเสือปฏิบตั ิกิจกรรมโดยอิสระและใหค้ าแนะนาเทา่ ที่จาเป็น ใน ขณะเดียวกนั ผบู้ งั คบั บญั ชาที่ประจาฐานตา่ ง ๆ ควรสังเกตพฤติกรรมของลูกเสือเป็นรายบุคคลอยา่ ง ใกลช้ ิด 2.5 กิจกรรมผจญภยั ที่ดีควรใชเ้ ป็นเครื่องมือในการพฒั นาลกั ษณะนิสยั ของเด็กได้ มิใช่ เป็ นการทรมานลูกเสือ 2.6 คาสัง่ การผจญภยั ทุกคาสง่ั ตอ้ งชดั เจน กะทดั รัด เขา้ ใจง่าย และควรกาชบั ใหล้ ูกเสือ ปฏิบตั ิตามคาส่งั โดยเคร่งครัด 2.7 ในบางกรณีที่ผบู้ งั คบั บญั ชาลูกเสือเห็นสมควร อาจเปล่ียนนายหมู่ลุกเสือทุกคร้ังที่ เปล่ียนฐานก็ไดเ้ พ่ือฝึกการเป็ นผนู้ าของลูกเสือ 3. วธิ ีจดั กิจกรรมผจญภยั การจดั กิจกรรมผจญภยั ใหแ้ ก่ลูกเสือสามญั รุ่นใหญ่ อาจจดั ไดห้ ลาย วธิ ีตามความเหมาะสมของสภาพทอ้ งถ่ิน ต่อไปน้ีเป็ นเพียงขอ้ เสนอแนะบางประการเกี่ยวกบั วธิ ีจดั กิจกรรมผจญภยั ผบู้ งั คบั บญั ชาลูกเสืออาจดดั แปลงไดต้ ามความเหมาะสม แต่จดั เป็นไปตามจุดหมาย และหลกั การของการจดั กิจกรรมผจญภยั ดงั กล่าวแลว้ คือ 3.1 การจดั ระบบฐาน ลูกเสือจะเขา้ ปฏิบตั ิกิจกรรมตามฐานต่าง ๆ ท่ีจดั เตรียมไว้ ตามลาดบั จนครบทุกหมู่ทุกฐาน 3.2 ผจญภยั ไปตามระยะทางที่ลูกเสือเดินทางไกลไปอยคู่ า่ ยพกั แรม 3.3 ผจญภยั ในท่ีกวา้ ง วิธีน้ีผบู้ งั คบั บญั ชาลูกเสือจะจดั สถานีผจญภยั ได้ โดยไมใ่ หเ้ กิด อนั ตราย และใหเ้ สร็จสิ้นภายในเวลา 10 นาที
เร่ือง หลกั สูตรและวชิ ำพิเศษลูกเสือสำมญั รุ่นใหญ่ 145 บทเรียนที่ 11 เวลำ 45 นำที ขอบข่ำยวชิ ำ 1. หลกั สูตร เคร่ืองหมายลูกเสือโลก 2. หลกั สูตร เครื่องหมายลูกเสือช้นั พิเศษและเคร่ืองหมายลูกเสือหลวง 3. หลกั สูตร เคร่ืองหมายวชิ าพเิ ศษ 76 วชิ า 4. หลกั สูตร เคร่ืองหมายสายยงยศ เครื่องหมายชาวเรือ เคร่ืองหมายการบิน เคร่ืองหมาย ผฝู้ ึกสอน และกิจกรรมลูกเสือสามญั รุ่นใหญ่ 5. กิจกรรมลูกเสือสามญั รุ่นใหญเ่ พื่อเสริมสร้างทกั ษะชีวติ จุดหมำย เพอ่ื ใหผ้ เู้ ขา้ รับการฝึกอบรมมีความรู้ความเขา้ ใจหลกั สูตรเคร่ืองหมายลูกเสือโลก เครื่องหมายลูกเสือช้นั พเิ ศษ เคร่ืองหมายลูกเสือหลวง เคร่ืองหมายวชิ าพิเศษของลูกเสือสามญั รุ่น ใหญ่ และกิจกรรมลูกเสือสามญั รุ่นใหญ่เพ่อื เสริมสร้างทกั ษะชีวติ วตั ถุประสงค์ เม่ือจบบทเรียนน้ีแลว้ ผเู้ ขา้ รับการฝึกอบรมควรจะสามารถ 1. บรรยายไดว้ า่ หลกั สูตรลูกเสือสามญั รุ่นใหญ่มีรายวชิ าและกิจกรรมอะไรบา้ ง 2. อธิบายไดว้ า่ กิจกรรมหลกั สูตรลูกเสือสามญั รุ่นใหญเ่ พ่ือเสริมสร้างทกั ษะชีวติ ในแต่ละช้นั ปี มุง่ เนน้ ทกั ษะชีวติ ดา้ นใดบา้ ง วธิ ีสอน/กจิ กรรม 1. บรรยายโดยใช้ สื่อประกอบการบรรยาย (Power Point) 20 นาที หรือแผนภูมิประกอบ เร่ือง 1) หลกั สูตรเคร่ืองหมายลูกเสือโลก 2) หลกั สูตรเครื่องหมายลูกเสือช้นั พเิ ศษ และเครื่องหมายลูกเสือหลวง 3) หลกั สูตรเคร่ืองหมายวชิ าพเิ ศษ 76 วชิ า 4) หลกั สูตรเครื่องหมายสายยงยศ 5) กิจกรรมลูกเสือสามญั รุ่นใหญ่ 2. ศึกษาและวเิ คราะห์กิจกรรมเสริมสร้างทกั ษะชีวติ ตามหลกั สูตรช้นั ปี จากคูม่ ือการจดั กิจกรรม ลูกเสือสามญั รุ่นใหญ่เพื่อเสริมสร้างทกั ษะชีวติ 20 นาที 3. สรุป 5 นาที
146 สื่อกำรสอน 1. ส่ือประกอบการบรรยายประเภทภาพเลื่อนอิเลก็ ทรอนิคส์ (Power Point) หรือแผนภูมิ 2. เอกสารประกอบการเรียน เรื่องหลกั สูตรลูกเสือสามญั รุ่นใหญ่ 3. คู่มือการจดั กิจกรรมลูกเสือสามญั รุ่นใหญ่เพื่อเสริมสร้างทกั ษะชีวติ 4. ตวั อยา่ งเคร่ืองหมายวชิ าพเิ ศษ เคร่ืองหมายลูกเสือโลก เคร่ืองหมายลูกเสือช้นั พิเศษ เครื่องหมายลูกเสือหลวง 5. ขอ้ บงั คบั คณะลูกเสือแห่งชาติ วา่ ดว้ ยการปกครอง หลกั สูตรและวชิ าพเิ ศษลูกเสือสามญั รุ่นใหญ่ (ฉบบั ท่ี 14) พ.ศ. 2528 6. ใบกิจกรรม กำรประเมินผล 1. สงั เกตความสนใจ ความต้งั ใจในการฟังบรรยาย 2. ซกั ถาม เนื้อหำ กระทรวงศึกษาธิการกาหนดใหจ้ ดั การสอนหลกั สูตรลูกเสือสามญั รุ่นใหญ่ในช้นั มธั ยมศึกษา ปี ท่ี 1 – 3 ดงั น้นั บทเรียนน้ีจะมุง่ เนน้ ใหน้ าไปใชใ้ นกองลูกเสือของโรงเรียนสาหรับกองลูกเสือนอก โรงเรียนน้นั ผกู้ ากบั เลือกสอนดว้ ยหลกั สูตรที่ตอบสนองความตอ้ งการของผเู้ รียนเพื่อเสริมสร้าง ทกั ษะชีวติ ใหเ้ หมาะสมกบั ความตอ้ งการของเด็กและให้คานึงถึงสถานการณ์ความเปลี่ยนแปลงของ บา้ นเมือง ชุมชน สภาพทางภูมิศาสตร์รอบ ๆ กองลูกเสือดว้ ย ผทู้ ่ีเขา้ เป็นลูกเสือสามญั รุ่นใหญเ่ ร่ิมแรกน้นั ผกู้ ากบั จะตอ้ งสอนวชิ าเคร่ืองหมายลูกเสือโลก ก่อนท้งั น้ีไม่ควรจะเกินเวลา 6 เดือน เมื่อเดก็ สอบไดเ้ คร่ืองหมายลูกเสือโลกแลว้ ใหด้ าเนินการทาพิธี เขา้ ประจากองจึงจะถือวา่ เป็นลูกสามญั รุ่นใหญ่โดยสมบูรณ์ พธิ ีเขา้ ประจากองน้นั เป็นพธิ ีการอนั มีเกียรติจะมีการประดบั อินทรธนูใหฝ้ ึกลูกเสือและเด็กก็ จะมีประสิทธิประดบั เคร่ืองหมายลูกเสือโลกที่ก่ึงกลางกระเป๋ าเส้ือดา้ นซา้ ย การเรียน การสอน การฝึกอบรมตามหลกั สูตรเครื่องหมายลูกเสือโลกน้ีเป็นหนา้ ที่ของ ผกู้ ากบั รองผกู้ ากบั และผสู้ อนอ่ืน (บุคคลอื่นท่ีมิไดเ้ ป็นผกู้ ากบั รองผกู้ ากบั ในกองของเขา อาจเป็ นครู อาจารย์ หรือผบู้ งั คบั บญั ชาลูกเสือกองอ่ืนก็ได)้ แต่การสอนน้นั เป็ นหนา้ ท่ีของโรงเรียนสถานศึกษา หรือสโมสรลูกเสือ ที่จะตอ้ งแต่ต้งั กรรมการสอบข้ึนมาคณะหน่ึง เมื่อสอบเสร็จใหร้ ายงานไปยงั ผอู้ านวยการเขตพ้ืนท่ีการมธั ยมศึกษาหรือการประถมศึกษา ผอู้ านวยการลูกเสือจงั หวดั หรือ เลขาธิการคณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ แลว้ แตก่ รณีเพื่อพจิ ารณา ผลการสอบและอนุมตั ิให้ ประดบั เคร่ืองหมายลูกเสือโลก
147 การรายงานผลจะตอ้ งแนบบญั ชีรายชื่อผผู้ า่ นการสอบพร้อมท้งั ตวั อยา่ งขอ้ สอบ (คาถาม) ไป ดว้ ย 1. หลกั สูตรเครื่องหมำยลูกเสือโลก เคร่ืองหมายลูกเสือโลก เป็นรูปวงกลม ขนาดเส้นผา่ ศูนยก์ ลาง 4.3 เซนติเมตร มีตรา เคร่ืองหมายเฟอร์ – เดอร์ – รีส์ ลอ้ มรอบดว้ ยเชือกสีขาวเป็นเงื่อนพิรอดอยเู่ บ้ืองล่าง มีหวั ขอ้ รายวชิ า ดงั น้ี ลำดบั ที่ เรื่อง จำนวนคำบทคี่ วรสอน 1 ความเขา้ ใจเร่ืองราวของกิจการลูกเสือ 3 2 ระเบียบแถว 3 3 คาปฏิญาณ กฎ คติพจน์ 2 4 กางและร้ือเต็นทท์ ี่พกั แรม 2 5 สาธิตการบรรจุเคร่ืองหลงั 1 6 ก่อไฟกลางแจง้ และปรุงอาหาร 1 7 แผนท่ี – เขม็ ทิศ 2 8 เงื่อนเบ้ืองตน้ 10 เง่ือน 2 9 การปฐมพยาบาล 1 10 ความปลอดภยั เกี่ยวกบั กิจกรรมลูกเสือ 1 11 ทบทวนและสอบ 2 หมำยเหตุ เพ่ือส่งเสริมใหเ้ ดก็ ไดเ้ ป็นลูกเสือสามญั รุ่นใหญ่โดยสมบูรณ์ จึงควรเร่งรัดใหจ้ บภายใน 6 เดือน (ภาคเรียนที่ 1) ซ่ึงจะเป็ นไปตามขอ้ บงั คบั คณะลูกเสือแห่งชาติ วา่ ดว้ ยการปกครองหลกั สูตร และวชิ าพิเศษ ลูกเสือสามญั รุ่นใหญ่ (ฉบบั ท่ี 14) พ.ศ. 2528 กองลูกเสือในโรงเรียนเม่ือถึงภาคเรียนท่ี 2 ของปี ท่ี 1 (ช้นั ม.1) ควรเลือกวชิ าพเิ ศษมาสอน อีก2 – 3 วชิ า และวชิ าพิเศษที่จะสอนน้นั ควรสอดคลอ้ งใกลเ้ คียงกบั หลกั สูตรวชิ าลูกเสือช้นั พเิ ศษหรือ วชิ าเครื่องหมายสายยงยศ เช่น 1) นกั ดาราศาสตร์ 2) นกั อุตุนิยมวทิ ยา 3) การจดั คา่ ยพกั แรม 4) ผพู้ ทิ กั ษป์ ่ า 5) นกั เดินทางไกล 6) หวั หนา้ คนครัว
148 7) นกั บุกเบิก 8) นกั สะกดรอย 9) นกั ธรรมชาติวทิ ยา 2. เครื่องหมำยสำยยงยศลกู เสือสำมัญรุ่นใหญ่ ลูกเสือท่ีจะประดบั สายยงยศได้ จะตอ้ ง 1) สอบไดเ้ ครื่องหมายลูกเสือโลกมาแลว้ 2) สอบไดว้ ชิ าพิเศษ “นกั ผจญภยั ” 3) สอบไดว้ ชิ าพิเศษอ่ืนที่กล่าวแลว้ อยา่ งนอ้ ย 2 วชิ า 4) ตอ้ งถกั สายยงยศ (สายหนงั ) ไดด้ ว้ ยตนเอง ข้อสังเกต ในภาคเรียนที่ 2 ของปี ท่ี 1 (ช้นั ม.1) อาจมุง่ จดั ใหล้ ูกเสือไดร้ ับสายยงยศไดโ้ ดยเพ่มิ วชิ านกั ผจญภยั ข้ึนอีก 1 วชิ า 3. วชิ ำเคร่ืองหมำยลูกเสือช้ันพเิ ศษและเครื่องหมำยลูกเสือหลวง ท้งั สองเคร่ืองหมายน้ี มีวิชาพ้นื ฐาน 8 วชิ าเหมือนกนั แตม่ าตรฐานตา่ งระดบั กนั โดยเครื่องหมาย ลูกเสือหลวงมีมาตรฐานสูงกวา่ มีวชิ าดงั น้ี 1) หนา้ ท่ีพลเมือง 2) สิ่งแวดลอ้ ม 3) การเดินทางสารวจ 4) การแสดงออกทางศิลปะ 5) สมรรถภาพทางกาย 6) อุดมคติ 7) กิจกรรมท่ีสนใจเป็นพิเศษ 8) บริการ เกณฑ์ทจี่ ะได้รับเครื่องหมำยลกู เสือช้ันพเิ ศษ 1) ไดร้ ับเครื่องหมายลูกเสือโลกแลว้ 2) สอบวชิ าพ้นื ฐานได้ 5 วชิ า โดยจะตอ้ งไดว้ ชิ าการเดินทางสารวจและวชิ าการรวมอยดู่ ว้ ย 3) ผา่ นการฝึกอบรมวชิ าความคิดริเร่ิม ซ่ึงตอ้ งเดินทางไกลไปพกั แรม ณ ทอ้ งถิ่นท่ีลูกเสือไม่ เคยไป โดยไปพกั แรม 1 คืน กบั เพ่ือนอีก 3 คน (รวมเป็ นชุดละ 4 คน) การเดินทางไกลท่ีกล่าวน้ี ตอ้ งมีระยะทางอยา่ งนอ้ ย 8 กิโลเมตร ผา่ นเหตุการณ์สมมุติอยา่ งนอ้ ย 5 อยา่ ง เช่น ช่วยเหลือผปู้ ระสบภยั การใชเ้ ขม็ ทิศ การแปลรหสั เหตุฉุกเฉินทางน้า ฯลฯ และสถานการณ์ ดงั กล่าว ใหเ้ วน้ ระยะห่างกนั พอควร
149 4) ผกู้ ากบั และคณะกรรมการดาเนินงานกอง (นายหมู่ รองนายหมูท่ ุกคน) เห็นวา่ เป็นผทู้ ่ี เหมาะสม 5) ตอ้ งไดร้ ับอนุมตั ิจากผอู้ านวยการลูกเสือจงั หวดั หรือเลขาธิการคณะกรรมการบริหาร ลูกเสือแห่งชาติแลว้ แต่กรณี หมายความวา่ การเรียนการสอน การฝึกอบรมน้นั ผกู้ ากบั ดาเนินการ แต่ การสอบจะตอ้ งแตง่ ต้งั คณะกรรมการ การรายงานผล การขออนุมตั ิ จะตอ้ งผา่ นความเห็นชอบของผู้ กากบั และคณะกรรมการดาเนินงานกองก่อนไม่เหมือนเคร่ืองหมายลูกเสือโลก ลูกเสือสามญั รุ่นใหญ่ ปี ที่ 2 (ม.2) ควรจดั สอนใหไ้ ดร้ ับเครื่องหมายดงั กล่าว และควรจดั สอนวชิ าพิเศษ “นกั ผจญภยั ” ไป พร้อมกนั กบั การฝึกอบรมความคิดริเร่ิม เพราะหลกั สูตรคลา้ ยกนั มาก เม่ือลูกเสือ ไดร้ ับเคร่ืองหมาย ลูกเสือช้นั พเิ ศษ ก็จะไดป้ ระดบั สายยงยศไปดว้ ย เกณฑ์ทจี่ ะได้รับเคร่ืองหมำยลกู เสือหลวง 1) ไดร้ ับเครื่องหมายลูกเสือช้นั พเิ ศษมาแลว้ 2) สอบไดว้ ชิ าพ้นื ฐาน 3 วชิ า ซ่ึงไม่ซ้า วชิ าในเคร่ืองหมายช้นั พเิ ศษท่ีไดไ้ วแ้ ลว้ (นบั ตอ่ จาก 5 วชิ าที่ไดไ้ วแ้ ลว้ ) และ 3 วชิ าน้ีตอ้ งอยใู่ นเกณฑร์ ะดบั ลูกเสือหลวง 3) วชิ าบริการและวชิ าอื่น ๆ 3 วชิ า จะตอ้ งสอบใหไ้ ดร้ ะดบั ลูกเสือหลวง 4) ผา่ นการฝึกอบรมวชิ าการเป็ นผนู้ าตามหลกั สูตร 5) ผกู้ ากบั และคณะกรรมการการดาเนินงานกองเห็นวา่ เป็ นผทู้ ี่ปฏิบตั ิตนเป็ นตวั อยา่ งท่ีดี ตามวธิ ีการของลูกเสือ 6) ผอู้ านวยการลูกเสือจงั หวดั หรือเลขาธิการคณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติแลว้ แต่ กรณีแต่งต้งั บุคคลท่ีเหมาะสมสมั ภาษณ์ เมื่อเห็นสมควร จะรายงานต่อไปตามลาดบั จนถึง คณะกรรมการการบริหารลูกเสือแห่งชาติแลว้ ประธานคณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ (รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงศึกษาธิการ) เป็นผลู้ งนามในประกาศนียบตั ร แสดงวา่ เป็ นผไู้ ดร้ ับ เคร่ืองหมายลูกเสือหลวง 4. วชิ ำพเิ ศษลกู เสือสำมัญใหญ่ 76 วชิ ำ 1. นกั ผจญภยั 2. นกั ดาราศาสตร์ 3. นกั อุตุนิยมวทิ ยา 4. ผจู้ ดั การค่ายพกั แรม 5. ผพู้ ิทกั ษป์ ่ า 6. นกั เดินทางไกล 7. หวั หนา้ คนครัว 8. นกั บุกเบิก 9. นกั สะกดรอย 10. นกั ธรรมชาติวทิ ยา 11. การสื่อสารดว้ ยยานพาหนะ 12. นกั ดบั เพลิง 13. นกั สญั ญาณ 14. นกั สารพดั ช่าง 15. นกั โบราณคดี 16. นกั สะสม 17. นกั ดนตรี 18. นกั ถ่ายภาพ
150 19. นกั กีฬา 20. นกั กรีฑา 21. นกั พิมพด์ ีด 22. นกั แสดงการบนั เทิง 23. นกั ยงิ ปื น 24. ล่าม 25. หนา้ ท่ีพลเมือง 26. มคั คุเทศก์ 27. บรรณารักษ์ 28. เลขานุการ 29. พลาธิการ 30. ผชู้ ่วยการจราจร 31. ช่างเขียน 32. ช่างไฟฟ้า 33. ช่างวทิ ยุ 34. ช่างแผนที่ 35. ช่างเครื่องยนต์ 36. ช่างอิเลก็ ทรอนิกส์ 37. การหามิตร 38. การฝี มือ 39. การช่วยผปู้ ระสบภยั 40. การสาธารณสุข 41. การพยาบาล 42. การพูดในท่ีสาธารณะ 43. การอนุรักษธ์ รรมชาติ 44. กาประชาสมั พนั ธ์ 45. การสงั คมสงเคราะห์ 46. การพฒั นาชุมชน 47. ชาวประมง 48. ตน้ เด่น 49. ผนู้ าร่อง 50. นกั แลน่ เรือใบ 51. นกั วา่ ยน้า 52. นกั พายเรือ 53. นกั กรรเชียงเรือ 54. กลาสีเรือ 55. ควบคุมการจราจรทางน้า 56. การป้องกนั ความเสียหายและดบั เพลิง 57. การเรือ ไหมบ้ นเรือ 59. เครื่องหมายชาวเรือ 58. การดารงชีพในทะเล 61. นกั เคร่ืองหมายชาวเรือ 60. เครื่องหมายเชิดชูเกียรติลูกเสือ 63. ยามอากาศ เหล่าสมุทร 65. การควบคุมจราจรทางอากาศ 62. ช่างอากาศ 67. การฝึ กเป็นผนู้ า 64. การควบคุมจราจรทางอากาศ 69. การขนส่งทางอากาศ เบ้ืองตน้ 71. เสนารักษ์ 66. การช่วยเหลือผปู้ ระสบภยั และดบั เพลิง 73. นกั ไต่หนา้ ผา อากาศยาน 75. เครื่องหมายเชิดชูเกียรติเหลา่ อากาศ 68. นกั ปฏิบตั ิการทางจิตวิทยา (ปจว.) 70. แผนที่ทหารและเขม็ ทิศ 72. การดารงชีวติ ในถิ่นทุรกนั ดาร 74. เคร่ืองหมายการบิน 76. เคร่ืองหมายผฝู้ ึ กสอน การสอบวชิ าพิเศษลูกเสือท้งั หมดน้ี จะตอ้ งต้งั คณะกรรมการสอบและรายงานทุกกรณี
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293