147 ตื่นเตน้ เม่ือไปเป็นลูกเสือสามญั ภายหลงั ท่ีขดเชือกแลว้ ใหเ้ หลือเชือกไวว้ งหน่ึง แลว้ ใชเ้ ชือกท่ีเหลือน้นั พนั ไปรอบ ๆ ขดเชือกท้งั หมด แล้วสอดวงเชือกด้วยวิธีน้ีเราสามารถแขวนขดเชือกที่ขมวดไวก้ ับ ตะขอได้ เราจะเท่านิทานส้ัน ๆ เคร่ืองกระต่ายที่ออกมาจากโพรง ฯลฯ ผูก้ ากบั ลูกเสือของท่านอาจจะ ไมเ่ ห็นดว้ ยแตบ่ างคร้ังการเล่านิทานเป็นการช่วยส่งเสริมความจาของลูกเสือสารองไดบ้ า้ ง จุดประสงค์ ของการผูกเง่ือนก็คือตอ้ งปลูกฝังความทรงจาไวใ้ นหัวใจของเด็ก ส่วนนิทานเรื่องกระต่ายก็อาจจะ หลงลืมไปในไม่ชา้ เมื่อได้เรียนรู้เก่ียวกับเร่ืองเง่ือนแล้ว ควรให้มีการเล่นเกมผูกเง่ือนเพื่อก่อให้เกิดความ สนุกสนานและเป็นการย้าใหร้ ู้จกั ใชเ้ ง่ือนอยา่ งถูกตอ้ ง ปฏทิ นิ กำรสอนผกู เงื่อน เดือนมกรำคม ยงั อยูใ่ นช่วงฤดูหนาวและถือเป็ นฤดูท่ีควรจะเรียนเกี่ยวกบั วิชาการฝี มือ ลูกเสือสารองที่จะ สอนเพ่ือขอรับเคร่ืองหมายดาวดวงท่ี 3 จะตอ้ งเรียนการผกู เงื่อนบ่วงสายธนูและการผกู เง่ือนกระหวดั ไม้ ผูก้ ากบั อาจจะสอนลูกเสือให้รู้จกั ทาลอ้ เล่ือน มีคนโดยสาร แลว้ กาหนดใหม้ ีคนลากลอ้ เล่ือน เชือก ที่จะผูกในการลากล้อเล่ือนน้ันตอ้ งผูกทางด้านหน้า และเงื่อนท่ีเหมาะท่ีสุดท่ีจะใช้คือเงื่อนท้งั สอง เง่ือนดงั ท่ีไดก้ ล่าวมาแลว้ โดยวธิ ีน้ี ผกู้ ากบั ลูกเสือจะสอนใหเ้ ด็กเล่นเกมลากรถแข่งขนั กนั นอกจากจะสอนใหเ้ ด็กรู้จกั ทาการฝี มือแลว้ ยงั เป็ นการสอนใหเ้ ดก็ มีความชานาญในการผกู เง่ือนกระหวดั ไม้ และเง่ือนบ่วงสายธนู ดว้ ย เดือนกมุ ภำพนั ธ์ อาจแต่งเร่ืองข้ึน โดยยกเอาสถานการณ์ต่าง ๆ ข้ึนมาให้เด็กคิด และถามลูกเสือสารองแต่ละ คนเกี่ยวกบั เร่ืองอะไรที่เขาควรจะใชใ้ นสถานการณ์เช่นน้นั ตวั อยา่ งเช่น คุณพอ่ ตอ้ งการเชือกเส้นยาว เส้นหน่ึง แต่เชือกที่เขามีอยูน่ นั่ เป็ นเชือกเส้นส้ัน ๆ จะทาอย่างไร (เง่ือนพิรอดหรือขดั สมาธิ) ชายคน หน่ึงซ่ึงนงั่ อยใู่ นเรือแจวตอ้ งการผกู เรือของเขาไวก้ บั เสาจะใชเ้ งื่อนอะไร (เง่ือนกระหวดั ไม)้ เดือนมีนำคม เป็ นเดือนท่ีมีลมวา่ วพดั ผา่ นมา เด็กจะชอบเล่นวา่ ว จะใชอ้ ะไรทาสายวา่ ว จะผูกวา่ วดว้ ยเงื่อน อะไร หรือใหล้ ูกเสือสารองจบั คู่กนั ใชผ้ า้ ผกู คอลูกเสือผกู ขาดา้ นในของท้งั สองคนเขา้ ดว้ ยกนั แลว้ ผกู แขนดา้ นในท้งั สองขา้ งติดกนั โดยใชแ้ ขนดา้ นนอกตามคาส่งั ของผกู้ ากบั ลูกเสือ แลว้ วงิ่ แข่งกนั เรียกวา่ วง่ิ สามขา เขาจะใชเ้ ง่ือนอะไร (เง่ือนพริ อด)
148 อาจจดั ใหม้ ีการประชุมกองคร้ังพิเศษ (Special Pack Meeting) เป็นการทบทวนก่อนปิ ดเทอม ก็ได้ เดือนมถิ ุนำยน กีฬากลางแจ้ง แบ่งลูกเสือออกเป็ น 2 กลุ่ม จดั ให้ลูกเสือคร่ึงหน่ึง เป็ นคาวบอยและอีก คร่ึงหน่ึงเป็ นมา้ ป่ าคอยหลบหรือซ่อนตวั ไม่ให้ฝ่ ายตรงขา้ มเห็น แจกเชือกขนาดยาวให้ลูกเสือที่เป็ น คาวบอย และบอกใหเ้ ขาจบั มา้ ป่ าเม่ือเขาพบ ฝ่ ายมา้ ป่ าไม่อยากใหถ้ ูกจบั จะวิ่งหาท่ีซ่อน มา้ ท่ีถูกจบั ได้ จะถูกผกู เอวไวด้ ว้ ยเง่ือนบ่วงสายธนูติดกบั หลกั ดว้ ยเง่ือนกระหวดั ไม้ วธิ ีตดั สินตอ้ งแน่ใจวา่ เง่ือนท่ีผูก น้นั ถูกตอ้ งท้งั สองที่ แลว้ นาไปผูกรวมไวท้ ่ีชายผา้ แบรงเกตดว้ ยเงื่อนขดั สมาธิ สมมติวา่ เป็ นหลงั คาที่ พกั หรือคอกมา้ เดือนกรกฎำคม เป็นฤดูฝน จะมีน้าหลาก เป็นฤดูที่เด็กชอบไปเล่นน้าตามหว้ ยหนองคลองบึง โดยเฉพาะเด็กท่ี อยู่ตามชนบทเม่ือลูกเสือว่ายน้าเธอจะตอ้ งมีความแน่ใจวา่ เธอสามารถผูกเงื่อนบ่วงสายธนูไดอ้ ย่าง แม่นยา โดยเฉพาะเม่ือลูกเสือสารองไปประสบเด็กจะจมน้าตาย ถ้าเธอช่วยชีวิตเขาไวไ้ ด้เธอจะได้ เหรียญลูกเสือสรรเสริญ บางคร้ังเราจาเป็ นตอ้ งต่อเชือกหลาย ๆ เส้น หลาย ๆ ขนาด ให้เป็ นเส้นเดียวกนั เพื่อใช้ตาก เส้ือผา้ และผา้ เช็ดตวั จะตอ้ งผูกดว้ ยเง่ือนขดั สมาธิ และเราสามารถผูกเชือกติดไวก้ บั หลกั หรือตน้ ไม้ ดว้ ยเง่ือนกระหวดั ไม้ เดือนสิงหำคม เม่ือลูกเสือสารองไปอยคู่ ่ายพกั แรม (Cub Camp) หรือไปพกั ผอ่ นในวนั หยดุ (Pack Holiday) ทุก ๆ คน ตอ้ งทางาน ผูท้ ี่ออกไปเก็บไมฟ้ ื นอาจใช้เง่ือนกระหวดั ไมม้ ดั แขนงไมฟ้ ื นเหล่าน้ันเขา้ ไว้ ด้วยกัน และสามารถนาเอากลับมายงั ท่ีพกั ได้อย่างปลอดภยั ท้ังยงั มีเวลาเหลือพอท่ีเล่นเกมโดย วธิ ีการใชเ้ งื่อนกระหวดั ไม้ และเง่ือนบ่วงสายธนูเราสามารถที่จะผูกเงื่อนท้งั สองแลว้ แขวนไวใ้ ตต้ น้ ไม้ ได้ เราหวงั ไวเ้ สมอว่าอุบตั ิเหตุจะไม่เกิดข้ึน และทางที่ดีถา้ เราจะเตรียมไวด้ ว้ ยการหัดผูกเงื่อนพิรอด อนั เป็นเง่ือนท่ีใชอ้ ยปู่ ระจาในการปฐมพยาบาล กจ็ ะเป็นการดี เดือนพฤศจิกำยน การประมง (Fishing) เง่ือนท่ีมีประโยชน์และชาวประมงทุกคนควรจะรู้คือ The half blood knot ซ่ึงสามารถใชผ้ กู คอเบด็ ตอ่ กบั เชือกไนลอนได้
149 ลูกเสือสารองผเู้ ป็ นชาวประมงจะตอ้ งมีความเขา้ ใจและสารถแสดงถึงวธิ ีซ่อมคนั เบด็ ดว้ ยการ ใชเ้ ชือกขนาดเลก็ พนั รอบ ๆ คนั เบด็ ตรงท่ีแตกหรือหกั ได้ เดือนธันวำคม การผูกหีบห่อตามคาขอร้องจากท่ีทาการไปรษณีย์ ผูท้ างานเกี่ยวข้องกับหีบห่อท้ังหลาย จะตอ้ งรู้จกั ผูกหีบห่อเหล่าน้นั ให้แน่นและปลอดภยั ดงั น้นั จึงควรถือโอกาส หรือเวลาท่ีจะเรียนรู้ถึง วธิ ีการผกู แบบใหมซ่ ่ึงทา่ นจะตอ้ งนาไปใชใ้ นวนั ข้ึนปี ใหม่
เร่ือง กำรชุมนุมรอบกองไฟ 150 บทเรียนท่ี 8 เวลำ 45 นำที 1. ขอบข่ำยวชิ ำ ความมุ่งหมายของการชุมนุมรอบกองไฟ เอกลกั ษณ์การชุมนุมรอบกองไฟของลูกเสือไทย เปิ ดโอกาสใหล้ ูกเสือสารองไดแ้ สดงออกอยา่ งสนุกสนาน ส่งเสริมการทางานในระบบกลุ่ม และวธิ ีจดั สถานที่ชุมนุมรอบกองไฟ 2. วตั ถุประสงค์ เมื่อจบบทเรียนน้ีแลว้ ผเู้ ขา้ รับการฝึกอบรมควรจะสามารถ 1 อธิบายความมุง่ หมายและดาเนินการจดั ชุมนุมรอบกองไฟได้ 2 ปฏิบตั ิหนา้ ท่ีเป็นพธิ ีกรในการชุมนุมรอบกองไฟไดด้ ีพอสมควร 3 ทาหนา้ ที่ประธานการชุมนุมรอบกองไฟไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง 3. วธิ ีสอน/กจิ กรรม 1 บรรยายประกอบการสาธิต 2 ใหผ้ เู้ ขา้ รับการฝึกอบรมมีส่วนร่วมดว้ ย 4. ส่ือกำรสอน 1 แผนภูมิ หรือแผน่ โปร่งใส หรือภาพสไลด์ 2 กองไฟจาลอง 3 พวงมาลยั /พมุ่ สลากจาลอง 5. เนื้อหำวชิ ำ จากประสบการณ์ในชีวติ ทหารของ ลอร์ด เบเดน – โพเอลล์ ท่ีไดพ้ บเห็นการพกั แรมคืนของ พอ่ คา้ ซ่ึงเดินทางรอนแรมไปต่างเมืองและวธิ ีการของชาวพ้ืนเมือง ซ่ึงมีการชุมนุมกนั ในยามค่าคืน เป็นการพกั ผอ่ น สนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ปรึกษาหารือกนั ท้งั มีการร่วมสนุกสนานดว้ ยการ ร้องเพลงและแสดง กิจกรรมตา่ ง ๆ เป็นการผอ่ นคลายอารมณ์และบรรเทาความเหนื่อยลา้ มาจากกลางวนั จึงไดน้ าวธิ ีการน้ี มาทดลองใชใ้ นการนาเดก็ ซ่ึงอาจเรียกวา่ เป็นลูกเสือรุ่นแรกของโลกไปอยคู่ า่ ยพกั แรม ที่เกาะ บราวน์ซี ประเทศองั กฤษในปี ค.ศ. 1907 (พ.ศ. 2450) โดยใหล้ ูกเสือมาชุมนุมพร้อมกนั รอบกองไฟในตอน กลางคืนและใชเ้ วลาน้นั ฝึกอบรม ประกอบการเล่านิทานและมีการร่วมแสดงใหเ้ กิดความสนุกสนาน ไดผ้ ลเป็นอยา่ งดี จึงไดน้ ามาใหเ้ ป็นวธิ ีการฝึกอบรมลูกเสืออยา่ งหน่ึงสืบต่อมาจนถึงปัจจุบนั น้ีการ
151 ชุมนุมรอบกองไฟในภาษาองั กฤษ เรียกวา่ CAMP FIRE เดิมมกั เรียกกนั ในภาษาไทยวา่ การเล่นหรือ การแสดงรอบกองไฟ เป็ นเพียงส่วนหน่ึงของการชุมนุมรอบกองไฟเท่าน้นั
กำรชุมนุมรอบกองไฟ 152 เอกสำรประกอบ 1. ควำมมุ่งหมำยของกำรชุมนุมรอบกองไฟ การชุมนุมรอบกองไฟมีความมุ่งหมายสาคญั อยู่ 5 ประการ เพ่ือ (1) เป็นการฝึกอบรมตอนกลางคืน ดงั ที่ ลอร์ด เบเดน – โพเอลล์ (บี.พ.ี ) ในการฝึกอบรมเด็ก ท่ีไปอยคู่ า่ ยพกั แรม ณ เกาะบราวนซ์ ี (2) ใหล้ ูกเสือไดร้ ้องเพลงร่วมกนั หรือแสดงกิริยาอาการอยา่ งเดียวกนั เป็ นการปลุกใจหรือ เปล่ียนอารมณ์ใหเ้ กิดความสนุกสนานเบิกบานใจ ผอ่ นคลายความเคร่งเครียดใหบ้ รรเทาเบาบางลง (3) ใหล้ ูกเสือแตล่ ะคนมีโอกาสแสดงออกในที่ชุมนุมโดยไมเ่ กอ้ เขินกระดากอาย เป็ นการ ส่งเสริมความสามคั คีของหมู่ใหท้ ุกคน รู้จกั ทางานร่วมกบั ผอู้ ่ืนและทาใหร้ ู้ความสามารถของแตล่ ะคน ไดด้ ี (4) ใช้เป็ นโอกาสสาหรับประกอบพิธีสาคญั บางกรณี เช่น แนะนาบุคคลสาคญั ในกิจการ ลูกเสือ เช่น แนะนาผูม้ ีเกียรติสาคญั ท่ีมาเยี่ยม การมอบเคร่ืองหมายวูดแบดจ์ เครื่องหมายตอบแทน เขม็ สมนาคุณ หรือประกาศนียบตั รต่าง ๆ เป็นตน้ (5) เพื่อเป็ นการประชาสัมพนั ธ์ และส่งเสริมกิจการลูกเสือ โดยเชิญบุคคลสาคญั ในทอ้ งถ่ิน ตลอดจนประชาชนทว่ั ไป 2. สถำนทใ่ี ช้ชุมนุมรอบกองไฟ ค่ายลูกเสือทุกแห่งควรมีบริเวณสาหรับการชุมนุมรอบกองไฟไวโ้ ดยเฉพาะอยทู่ ่ีมุมหน่ึงของ ค่าย มีตน้ ไมเ้ ป็นฉากหลงั ไมใ่ ชป้ ระโยชน์อยา่ งอื่นในตอนกลางวนั และควรอยหู่ ่างจากท่ีพกั พอสมควรไม่ไกลเกินไป เพ่ือมิตอ้ งเสียเวลาและเกิดความยงุ่ ยากเม่ือลูกเสือตอ้ งเดินจากท่ีพกั ไปยงั บริเวณการชุมนุมรอบกองไฟและตอ้ งเดินกลบั เม่ือการชุมนุมเลิกแลว้ ส่วนบริเวณการชุมนุมรอบกอง ไฟควรมีตน้ ไมเ้ ป็ นฉากหลงั น้นั จะทาให้บรรยากาศดีข้ึน และจะทาให้การร้องเพลงไดผ้ ลดีกวา่ ที่โล่งแจง้ อน่ึง ในการเลือกสถานที่สาหรับการชุมนุมรอบกองไฟน้ี ถา้ สามารถหาท่ีเป็นแอ่งใหล้ ูกเสือมี ท่ีนงั่ อยเู่ หนือกองไฟเล็กนอ้ ยจะดีมาก เช่น ในบริเวณที่มีเนิน อาจจดั ทาบริเวณการแสดงและกองไฟ อยตู่ อนล่าง ส่วนลูกเสือใหน้ ง่ั อยบู่ นเนิน หรือจดั ทาบริเวณการแสดงและกองไฟใหอ้ ยูบ่ นเกาะมีคูน้า ลอ้ มรอบ ผชู้ มนงั่ อยูร่ ิมคูน้าอีกดา้ นหน่ึง สะพานขา้ มคูทาดว้ ยไมแ้ บบสะพานชวั่ คราว ปรากฏวา่ สถานที่ชุมนุมรอบกองไฟเช่นวา่ ใชก้ ารไดด้ ีอยา่ งยง่ิ การชุมนุมรอบกองไฟน้ีถา้ ไม่สะดวก เช่น ฝนตก หรือมีเหตุอ่ืน จะจดั ภายในอาคารและใช้ กองไฟที่ใหแ้ สงสวา่ งอยา่ งอื่นแทนได้
153 3. กำรเตรียมก่อนเร่ิมชุมนุมรอบกองไฟ (1) คณะผใู้ หก้ ารฝึกอบรมจะตอ้ งปรึกษาหารือกนั เพือ่ กาหนดวา่ ในการชุมนุมรอบกองไฟ น้นั จะมี กิจกรรมอะไรบา้ ง จะใหห้ มู่ใด ทาหนา้ ที่บริการ ใหผ้ ใู้ ดเป็ นพธิ ีกร และจะเชิญผใู้ ดเป็นประธาน ซ่ึง ควรเป็ นผทู้ ี่มีความรู้ความเขา้ ใจข้นั ตอนการชุมนุมรอบกองไฟดีพอสมควร หรือพธิ ีกรจะตอ้ งซกั ซอ้ ม การท่ีประธานจะตอ้ งปฏิบตั ิตามข้นั ตอนต่าง ๆ เสียก่อน ถา้ เป็นการอยคู่ า่ ยพกั แรมของลูกเสือตาม ธรรมดา โดยปรกติผกู้ ากบั ลูกเสือท่ีพาลูกเสือไปอยคู่ า่ ยพกั แรมนน่ั เองจะทาหนา้ ท่ีประธาน และให้ รองผกู้ ากบั ลูกเสือหรือลูกเสือคนใดคนหน่ึงท่ีมีความสามารถทาหนา้ ท่ีพิธีกร (2) พธิ ีกร คือ ผนู้ าในการชุมนุมรอบกองไฟ มีหนา้ ท่ี 2.1 นดั หมาย - ประธาน ข้นั ตอนที่จะตอ้ งปฏิบตั ิ - ผรู้ ่วมแสดง ข้นั ตอนการปฏิบตั ิ การแตง่ เพลงประจาหมู่ การส่งเรื่องท่ีจะแสดง เวลาท่ีมาพร้อม เวลาที่ใชใ้ นการแสดง การแตง่ กายตามเน้ือเร่ือง การรายงานเม่ือ เริ่มแสดง, การกล่าวชมเชย การตอบรับคาชมเชย การกล่าวเม่ือมีผมู้ าเยยี่ ม ขอ้ หา้ มในเน้ือเรื่องท่ีจะแสดง - หมูบ่ ริการให้จดั สถานที่ กองไฟ จดั ทาพวงมาลยั ทาพุม่ ฉลาก และคนถือขบวน แห่ การช่วยเหลือพธิ ีกร การทาความสะอาดสถานที่เมื่อเลิกการแสดง 2.2 ช้ีแจงลาดบั การชุมนุม ซกั ซอ้ ม ขอ้ ปฏิบตั ิ ขอ้ หา้ ม 2.3 ประกาศชื่อผทู้ ่ีจะมาเป็นประธานและผตู้ ิดตาม 2.4 เชิญประธานและผตู้ ิดตามเขา้ สู่ที่ชุมนุม 2.5 ควบคุมและดาเนินการใหถ้ ูกตอ้ งโดยใหผ้ เู้ ขา้ ร่วมชุมนุมไดร้ ับความสนุกสนาน 2.6 เลือกเพลงที่จะนามาใชใ้ หเ้ หมาะสมกบั ผเู้ ขา้ รับการฝึกอบรม 2.7 รักษาเวลาโดยเคร่งครัด 4. กำรจัดกองไฟ กองไฟจะเป็นกองไฟท่ีก่อดว้ ยไมจ้ ริง โดยก่อเป็นแบบผสม (คอกหมู + พีระมิด) หรือจะใช้ ไฟใหแ้ สงสวา่ งอยา่ งอื่น ๆ แทนก็ได้ ถา้ เป็นกองไฟจริงจะตอ้ งมีผรู้ ับผดิ ชอบซ่ึงโดยปกติจะมอบให้ หมู่บริการใน วนั น้นั ทาหนา้ ที่น้ีมีหนา้ ที่ก่อไฟใหเ้ รียบร้อยก่อนทาพธิ ีเปิ ด คือ จุดแลว้ ใหไ้ ฟติดและจะตอ้ งคอยดูแล กองไฟใหต้ ิดอยูต่ ลอดเวลา ในการน้ีจะตอ้ งเตรียมฟื นอะไหล่และน้าสารองไว้ คือ ถา้ ไฟชกั มอดลง จะตอ้ งเติมฟื น ลงไป และถา้ ไฟลุกลามมากหรือกระเด็นออกจากกองไฟ ก็ตอ้ งพรมน้าลงไป
154 ในปัจจุบนั นโยบายของรัฐบาลใหอ้ นุรักษป์ ่ าไมแ้ ละส่ิงแวดลอ้ มจึงควรละเวน้ การก่อไฟดว้ ย ไมจ้ ริง เมื่อเลิกการชุมนุมรอบกองไฟ ผมู้ ีหนา้ ที่รับผดิ ชอบจะตอ้ งออกจากบริเวณไปอยา่ งเงียบ ๆ พร้อมกบั ลูกเสืออื่นภายหลงั อีกสกั ครู่จะตอ้ งหวนกลบั มาท่ีบริเวณการชุมนุมรอบกองไฟอีกคร้ังหน่ึง ไม่ใหม้ ีเศษไมห้ รือ เถา้ ถ่านเหลืออยเู่ ลย เร่ืองการทาความสะอาดบริเวณการชุมนุมรอบกองไฟน้ี อยา่ ถือวา่ เป็นเรื่องเลก็ นอ้ ย ตอ้ งถือวา่ เป็นบทเรียนอนั สาคญั ในการฝึกอบรมลูกเสือดว้ ย 5. กำรจัดทน่ี ั่งรอบกองไฟให้จัดเปน นรูปวงกลมหรือเกือกม้ำ การจดั ที่นงั่ รอบกองไฟใหจ้ ดั เป็นรูปวงกลมหรือเกือกมา้ ใหก้ องไฟอยตู่ รงกลางมีท่ีนง่ั พิเศษ สาหรับประธานและผรู้ ับเชิญ ต้งั อยใู่ นทิศทางเหนือลม ที่นงั่ ของประธานเป็ นท่ีนงั่ เด่ียว ใหต้ ้งั ล้าหนา้ กวา่ แถวของผตู้ ิดตามและผรู้ ่วมชมการแสดงและใหม้ ีโตะ๊ วางพุม่ สลากไวต้ รงหนา้ ส่วนลูกเสือ โดยปรกติใหน้ ง่ั ตามหมู่ ณ สถานท่ีท่ีไดก้ าหนดไว้ 6. พธิ ีเปิ ดกำรชุมนุมรอบกองไฟ มีข้นั ตอนการปฏิบตั ิดงั น้ี 6.1 เม่ือผรู้ ่วมแสดงแต่งกายตามเน้ือเร่ืองท่ีจะแสดงเขา้ นง่ั ท่ีเรียงลาดบั หมู่ จากทางดา้ นซา้ ย ของประธาน ไปทางขวา มาก่อนเวลาที่กาหนดไว้ ประมาณ 8 – 10 นาที 6.2 พธิ ีกร ช้ีแจงซกั ซอ้ มการปฏิบตั ิแลว้ แจง้ ชื่อ และตาแหน่งหนา้ ที่การงานหรือตาแหน่งทาง ลูกเสือของผเู้ ป็ นประธานในพิธีและผตู้ ิดตามใหท้ ราบทวั่ กนั 6.3 ผมู้ ีหนา้ ท่ีของหมู่บริการจุดไฟ 6.4 พิธีกร ออกไปเชิญประธาน ซ่ึงมารอคอยอยกู่ ่อนแลว้ ใกลบ้ ริเวณชุมนุมรอบกองไฟ 6.5 เม่ือประธานเดินเขา้ มาในบริเวณพิธี พิธีกร ส่งั “แพค็ ตรง” ทุกคนลุกข้ึนยนื ตรง 6.6 ประธานรับการเคารพแลว้ เดินตรงไปท่ีต้งั กองไฟ ยนื อยรู่ ะยะห่างพอสมควร ยกมือขวา แสดงรหสั ของลูกเสือชูสูงข้ึนไปขา้ งหนา้ ทามุมกบั ไหล่ประมาณ 45 องศา 6.7 ผตู้ ิดตามประธานและผมู้ าร่วมชุมนุมเดินตามประธานเขา้ มา ใหเ้ ดินไปยืนอยู่ ณ ที่ตนจะนง่ั 6.8 ประธานกล่าวเปิ ดดว้ ยขอ้ ความท่ีเป็ นมงคลและจบลงดว้ ยถอ้ ยคาวา่ “ขา้ พเจา้ ขอเปิ ดการ ชุมนุมรอบกองไฟ ณ บดั น้ี” 6.9 ทุกคนผรู้ ่วมในที่ชุมชนกล่าวพร้อมกนั วา่ “ฟ่ ู” 3 คร้ัง ในกรณีใชไ้ ฟอยา่ งอื่นแทน อาจงด กล่าวคาน้ีได้ 6.10พธิ ีกร นาร้องเพลง 1 หรือ 2 เพลง ควรเป็นเพลงปลุกใจ เพลงเป็นคติ ซ่ึงมีทานองเร่งเร้า ใหเ้ กิดการต่ืนตวั หรือเพลงประจาสถาบนั และเป็นเพลงท่ีผรู้ ่วมชุมนุมท้งั หมด หรือส่วน ใหญ่ร้องได้
155 6.11 จบเพลงแลว้ ประธานเดินกลบั ไปนงั่ ยงั ท่ีนงั่ ซ่ึงจดั ไว้ ผตู้ ิดตามนงั่ ลง ณ ที่นงั่ ของตน 6.12 พิธีกร สัง่ ลูกเสือ “นงั่ ” 6.13 พิธีกร สง่ั ใหผ้ ถู้ ือพวงมาลยั และพุม่ ฉลากมาต้งั ขบวนอยดู่ า้ ยขวามือของประธาน โดยมี สมาชิกของหมู่เขา้ แถวต่อทา้ ยอยภู่ ายในวงท่ีนงั่ และ / หรือใหส้ มาชิกของหมูอ่ ่ืน ๆ เขา้ ร่วมขบวนดว้ ย ตามความเหมาะสมก็ได้ 6.14 หมู่บริการ 1 คนนาโห่ 3 คร้ัง 6.15 พิธีกรนาร้องเพลง ขบวนเร่ิมออกเดินผา่ นหนา้ ประธานเวยี นรอบกองไฟ (เวยี นนขวา) เพอื่ ความสนุกสนานขณะเดินไปก็ราและร้องเพลงดว้ ยก็จะเป็นการดี เมื่อครบ 3 รอบ ผถู้ ือพวงมาลยั และถือพุม่ สลากหยดุ ยนื ตรงหนา้ ประธานบุคคลอื่นๆ ในขบวนให้ กลบั ไปนง่ั ที่ของตนเรียบร้อย ผถู้ ือพวงมาลยั และพมุ่ สลากทาความเคารพประธาน พร้อมกนั จากน้นั ผถู้ ือพวงมาลยั ส่งพวงมาลยั ใหป้ ระธานก่อน ผถู้ ือพมุ่ สลากส่งให้ ภายหลงั เสร็จแลว้ ทาความเคารพพร้อมกนั แลว้ กลบั เขา้ ท่ีนง่ั ของตน 7. กำหนดกำร 7.1 พิธีกร อาจใหม้ ีการสนุกสนานจากการร้องเพลง หรือการร้องประกอบการราเป็นการ สร้างบรรยากาศที่ดีก็ได้ โดยคานึงถึงเวลาที่เหมาะสม 7.2 พธิ ีกร เชิญใหป้ ระธานจบั สลาก รับสลากจากประธานอ่านใหท้ ราบวา่ หมู่ใดจะตอ้ งแสดง 7.3 ใหน้ ายหมูส่ ่ังสมาชิกในหมู่ใหเ้ คารพผูเ้ ป็นประธาน “หมู่สี.....ตรง” นายหมู่เพียงผเู้ ดียว ทาวนั ทยหตั ถ์ เอามือลง แลว้ สัง่ “พกั ” ทุกคนร่วมกนั ร้องเพลงประจาหมู่ 2 จบ เร่ิมการ แสดง 7.4 ผแู้ สดงหนั หนา้ ใหป้ ระธานเป็นผชู้ ม ใชเ้ วลาแสดงประมาณ 8 – 10 นาที 7.5 จบการแสดง ทุกคนกลบั ไปยนื ณ ท่ีนงั่ ของตน นายหมู่ส่งั “หมู่สี.... ตรง” นายหมูเ่ พียง ผเู้ ดียว ทาวนั ทยหตั ถ์ เอามือลง แลว้ ส่งั “นง่ั ” ทุกคนนง่ั ลง 7.6 พิธีกร จะกล่าวขอใหผ้ หู้ น่ึงผใู้ ดในหมู่อื่น ๆ เป็ นผนู้ ากล่าวชมเชยตามแบบของลูกเสือ ใหแ้ ก่หมู่ที่แสดง ผนู้ ากล่าวชมเชยจะเชิญชวนใหห้ มู่อ่ืน ๆ ลุกข้ึนยนื แลว้ กล่าวคาชมเชย ดงั ตวั อยา่ ง เช่น “พี่ นอ้ งผบู้ งั คบั บญั ชาลูกเสือโปรดยนื ข้ึนแลว้ กล่าวคาชมเชยใหแ้ ก่หมู่ 1 สามคร้ังดว้ ยคาวา่ “ยอดเยย่ี ม” จากน้นั ใหส้ ญั ญาณดว้ ยการนบั ดว้ ยการแสดงกิริยาประกอบ โดยกา้ วเทา้ ซา้ ยออกไปขา้ งหนา้ ประมาณ คร่ึงกา้ วแลว้ ใชม้ ือขวากายกข้ึนไวบ้ ริเวณหวั ใจของตนเอง แลว้ กล่าวคาชมเชยตามท่ีนดั หมายไวแ้ ลว้ พร้อมกบั ส่งมือขวาที่กาไวไ้ ปยงั หมู่ที่ที่จะชมเชยใหพ้ ร้อมกบั แบมือออก รวม 3 คร้ัง เสร็จแลว้ นงั่ ลง ทุกคนในหมูท่ ่ีไดร้ ับการชมเชย ลุกข้ึนยนื ใชแ้ ขนขวาซอ้ นอยบู่ นแขนซา้ ย ซ่ึงยกข้ึนมาอยู่ เสมออก พร้อมกบั คากล่าวส้ัน ๆ เช่น “ขอบคุณ, ครับ” พร้อมกบั นอ้ มตวั ลง 1 คร้ัง
156 7.7 พธิ ีกร ดาเนินการเช่นเดียวกนั น้ีไปจนครบทุกหมู่ เมื่อจบการแสดงของแต่ละหมู่ ก่อนที่ จะเริ่มการแสดงของหมูต่ ่อไป อาจมีการแนะนาบทเรียนหรือประกอบพิธีหรือมีกิจกรรม อื่น หรือร้องเพลงเพ่อื เปลี่ยนอิริยาบถสลบั เป็นคร้ังคราวตามเวลาท่ีเหมาะสม 8. กำรเปลย่ี นอริ ิยำบถของผ้เู ข้ำชุมนุม ในการชุมนุมรอบกองไฟ การเปล่ียนอิริยาบถของผเู้ ขา้ ชุมนุมใหส้ นุกสนานร่าเริงเป็นเรื่อง สาคญั ผเู้ ขา้ ชุมนุมอาจจะรู้สึกเบ่ือและง่วงเหงาหาวนอน การเปล่ียนอิริยาบถของผเู้ ขา้ ชุมนุมน้ีอาจทา ไดห้ ลายวธิ ี และเป็นหนา้ ที่ของพิธีกรที่จะตอ้ งเป็ นผนู้ า หรือมอบหมายใหผ้ รู้ ู้คนใดคนหน่ึงเป็นผนู้ า เช่น นาให้ร้องเพลง ราวง นาใหแ้ สดงกิริยาอาการต่าง ๆ ท่ีขบขนั หรือ ปลุกใหเ้ กิดความสนุกสนาน ต่ืนตา ต่ืนใจ ดว้ ยวธิ ีการต่าง ๆ ท่ีเห็นวา่ เหมาะสมกบั ผเู้ ขา้ รับการฝึกอบรมและเหมาะสมกบั เวลา 9. พธิ ีปิ ด 9.1 เมื่อจบการแสดงของทุกหมู่แลว้ พธิ ีกรจะใหม้ ีการร้องเพลงทานองชา้ โดยไมใ่ ชเ้ ครื่อง ดนตรีใด ๆ ประกอบ อาจเป็นเพลงที่เป็ นคติ หรือสร้างสรรค์ เหมาะสมกบั ผรู้ ่วมชุมนุม ท้งั น้ีควรเป็นเพลงท่ีส่วนใหญ่หรือท้งั หมดไดร้ ่วมร้องดว้ ย 9.2 พิธีกรจะเชิญประธานกล่าวปิ ด 9.3 ประธานไปยนื ในท่ีเหมาะสม กล่าวเร่ืองส้ันอนั เป็นประโยชนใ์ นเร่ืองใด ๆ ที่เห็นวา่ เหมาะสม และจบลงดว้ ยคาวา่ “ขา้ พเจา้ ขอปิ ดการชุมนุมรอบกองไฟ ณ บดั น้ี” ใชเ้ วลา ประมาณ 5-10 นาที 9.4 พธิ ีกร ใหท้ ุกคนลอ้ มวง โดยใหแ้ ขนขวาซอ้ นบนแขนซา้ ยของตนเอง และใชม้ ือขวา มือซา้ ยจบั คนขา้ งเคียงร่วมกนั ร้องเพลงสามคั คีชุมนุม พร้อมกบั โยกตวั ไปทางขวา และซา้ ย ชา้ ๆ จนจบเพลง 9.5 ผแู้ ทนหมู่บริการ นาสวดมนตอ์ ยา่ งยาว จบแลว้ ใหส้ ่ังใหท้ ุกคนหนั หนา้ ไปยงั ทิศท่ี พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั ประทบั อยใู่ นขณะน้นั ถา้ หากพระองคม์ ิไดป้ ระทบั อยใู่ น ประเทศไทย ใหห้ นั หนา้ ไปยงั พระบรมมหาราชวงั กรุงเทพมหานคร สงั่ “แพค็ ตรง-ถวายคานบั ” แลว้ นาร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี จนจบ 9.6 พิธีกร นดั หมาย นอกเหนือจากขอ้ กาหนดการชุมนุม อาจใหพ้ ิธีกรประจาวนั เป็นผนู้ ดั หมาย 9.7 ทุกคนแยกยา้ ยกนั กลบั ทีพ่ กั อยา่ งสงบ ส่วนหมู่/กลุ่มทที่ าหนา้ ท่ีเป็นหมูบ่ ริการกลบั มา ทาความสะอาดใหเ้ รียบร้อย 10. หมำยเหตุ 10.1 เพลงประจาหมูท่ ี่ใชร้ ้องใหม้ ีเน้ือร้องระบุชื่อหมู่ มีสาระ ปลุกใจ เป็นคติ 10.2 เรื่องที่จะแสดง ควรเป็ นเร่ืองเป็ นคติเตือนใจ ประวตั ิศาสตร์ ปลุกใจใหร้ ักชาติ ส่งเสริม ขนบธรรมเนียมประเพณี, สนุกสนาน
157 10.3 ไม่ควรแสดงเรื่องไร้สาระ เสียดสีบุคคล เร่ืองการเมือง ผสี าง ลามก อนาจาร ลอ้ เลียน ศาสนา 10.4 หา้ มใชอ้ าวธุ จริงหรือของมีคมมาประกอบการแสดง 10.5 หา้ มสูบบุหร่ีในขณะนงั่ อยใู่ นบริเวณชุมนุม 10.6 หา้ มดื่มของเมา รวมท้งั นามาใชป้ ระกอบการแสดง 10.7 ไมค่ วรแตะตอ้ งหรือนาส่ิงของขา้ มกองไฟหรือใชก้ องไฟประกอบการแสดงท่ีไมเ่ หมาะสม 10.8 หา้ มเชิญหรือนาประธาน และผตู้ ิดตามเขา้ ร่วมแสดงกบั หมูท่ ี่แสดงดว้ ยเป็นอนั ขาด
เรื่อง ประวตั ิและกจิ กำรลกู เสือโลก 158 บทเรียนที่ 9 เวลำ 45 นำที ขอบข่ำยวชิ ำ 1.1 ประวตั ิของ ลอร์ด เบเดน-โพเอลล์ ผใู้ หก้ าเนิดกิจการลูกเสือโลก โดยสังเขป 1.2 ประวตั ิกิจการลูกเสือโลก โดยสงั เขป 1.3 โครงสร้างขององคก์ ารลูกเสือโลก โดยสงั เขป วตั ถุประสงค์ เม่ือจบบทเรียนแลว้ ผเู้ ขา้ รับการฝึกอบรมควรจะสามารถ 2.1 บรรยายประวตั ิของการลูกเสือโลกและการขยายตวั ของกิจการลูกเสือโลกในระยะแรกได้ 2.2 อธิบายโครงสร้างการบริหารงานองคก์ ารลูกเสือโลกได้ วธิ ีสอน/กจิ กรรม 3.1 เอกสารประกอบเรื่อง การลูกเสือโลก 3.2 แผน่ ใส 3.3 สไลด์ หรือ วีดิโอเทป เร่ืองการลูกเสือโลก (การประชุมสมชั ชาลูกเสือโลก การชุมนุมลูกเสือ ฯลฯ) เนื้อหำวชิ ำ ประวตั ิและกิจการขององคก์ ารลูกเสือโลก 1. กำเนิดกำรของลูกเสือและกำรขยำยตัวของกจิ กำรลกู เสือ ในระยะแรก Robert Stephenson Smyth Baden-Powell เป็นช่ือเตม็ ของ บี-พี ผใู้ หก้ าเนิดลูกเสือโลก เกิดเม่ือ 22 กุมภาพนั ธ์ ปี ค.ศ. 1857 (พ.ศ. 2400) บิดาช่ือ เอช.จี เบเดนโพเอลส์ เป็น ศาสตราจารยใ์ นมหาวทิ ยาลยั Oxford เป็นนกั วทิ ยาศาสตร์ สนใจในธรรมชาติศึกษามาก ครอบครัวมิสู้จะร่ารวยนกั บิดาตายเมื่อ บี-พี อายไุ ด้ 3 ขวบ บี-พี ถนดั ในการวาดเขียน สามารถใชม้ ือซา้ ยขวาไดถ้ นดั ท้งั สองมือเทา่ ๆ กนั เพ่อื จะทาใหเ้ พ่ือนสนุกสนาน ขบขนั เขามกั ทาเสียงนกหรือเสียงสัตวร์ ้องใหเ้ พ่ือนๆ ฟัง ชีวติ ในวยั เรียน บี-พี มิไดเ้ ป็นนกั เรียนหรือนกั กีฬาท่ีดีเด่นนกั แต่เมื่อเขา้ ร่วมในกิจกรรมใดๆ ของโรงเรียน แลว้ มกั จะทาอยา่ งเอาจริงเอาจงั
159 บี-พี เป็นคนร่างเลก็ แตร่ ่างกายแขง็ แรง สุขภาพดี ใกลโ้ รงเรียนมีป่ าอยแู่ ห่งหน่ึง นกั เรียนถูกหา้ มมิใหเ้ ขา้ ไปเที่ยวเล่นในป่ าน้ี แตป่ ่ าน้ียว่ั ยวนใจ นกั เรียนท่ีชอบผจญภยั ใหเ้ ขา้ ไปเที่ยวเล่นมาก บี-พี แอบหนีไปเท่ียวในป่ าน้ีบ่อยๆ จบั กระต่ายมาทา เป็นอาหาร โดยใชไ้ ฟมิใหเ้ กิดควนั เพื่อปิ ดครูมิใหร้ ู้ บี-พี เรียนรู้การใชม้ ีดและขวาน และวธิ ีการเคล่ือนไหวในป่ าโดยมีเสียงสตั วป์ ่ าเป็นที่ดึงดูดใจ ของ บี-พี มาก เขามกั ซุ่มตวั อยนู่ านๆ เพอ่ื ศึกษาธรรมชาติของสัตวเ์ หล่าน้นั นี่คือ กิจกรรมของลูกเสือกาลงั ถือกาเนิดข้ึน เมื่ออายุ 19 ปี บี-พี ยงั ไมแ่ น่ใจวา่ เขาตอ้ งการชีวติ เป็ นอะไรดี เขาชอบเดินทางไปตา่ งประเทศ แต่มารดาของเขาอยากใหไ้ ปเรียนที่มหาวทิ ยาลบั Oxford เช่นเดียวกบั พ่ีชายอีก 2 คน แตเ่ ม่ือจบ โรงเรียนมธั ยมแลว้ เขากลบั ไปสอบไล่เขา้ เป็นนกั เรียนโรงเรียนนายร้อยในกองทพั บก เพราะไดเ้ ห็น ประกาศติดไวต้ ามขา้ งถนนเขาสอบไล่ไดด้ ีมาก จนเป็ นที่แปลกในของตวั เขาเองและคนอื่นที่รู้จกั เขา เขาไดร้ ับการยกเวน้ มิตอ้ งเขา้ รับการฝึกอบรมตามข้นั ตอนธรรมดาของนกั เรียนนายร้อยทหารบกท่ี Sandhurst และไดร้ ับการบรรจุเขา้ เป็นนายทหารในกองร้อยท่ี 13 ในประเทศอินเดีย ในปี ค.ศ. 1876 เขาลงเรือเดินทางไปอินเดีย ปฏิบตั ิหนา้ ท่ีอยา่ งขยนั ขนั แขง็ ในปี ค.ศ. 1884 ไดร้ ับคาสง่ั ใหก้ ลบั องั กฤษ บี-พี รู้สึกวา่ ชีวติ ในกรมกองทหารน่าเบื่อหน่าย ในปี ค.ศ. 1887 ลุงของ บี-พี ช่ือ General Sir Henry Smyth ไดร้ ับคาสงั่ จากกองทพั บกไป ประจาที่ Cape Town ในแอฟริกาใต้ ไดน้ า บี-พี ไปเป็นนายทหารคนสนิท ความยงุ่ ยากไดเ้ กิดข้ึนกบั พวก Zulu บี-พี ไดเ้ ขา้ ร่วมกบั กองกาลงั ทหารองั กฤษลอ้ มจบั หวั หนา้ เผา่ Zulu ช่ือ Dinizulu ได้ ในโอกาสน้นั บี-พี ไดร้ ับลูกปัดสายคลอ้ งคอ (necklace) จากหวั หนา้ เผา่ Zulu หลายปี ต่อมา บี-พี จึงไดม้ อบสร้อยคลอ้ งคอน้ีใหแ้ ก่ Gilwell Park ซ่ึงเป็นเคร่ืองหมายวดู แบดจ์ ต่อมาจนถึงปัจจุบนั น้ี ปี 1895 บี-พี ไดร้ ับมอบใหเ้ ดินทางไปยงั เมือง Ashanti ในแอฟริกาตะวนั ตก เพื่อปราบ King Prempeh ในการเดินทางไปที่เมือง Ashanti คร้ังน้ีไดม้ ีสิ่งเกี่ยวขอ้ งกบั กิจการลูกเสือ ซ่ึงควรจะนามา กล่าวอยู่ 3 ประการ กล่าวคือ 1. หมวกปี ก ในเมือง Ashanti บี-พี ไดส้ วมหมวกปี ก หรือหมวกคาวบอยเป็ นคร้ังแรก และได้ สวมเป็นประจาอยตู่ ลอดเวลา เพราะเหตุน้ีชาวเมืองจึงเรียก บี-พี วา่ “Kantankye” คนหมวกใหญ่ หรือ คนหมวกปี กกวา้ ง 2. ไม้พลอง บี-พี สงั เกตเห็นวา่ หวั หนา้ วศิ วกรที่ควบคุมการทาถนน และสร้างท่ีพกั จากฝั่ง แอฟริกาตะวนั ตกไปยงั เมืองหลวงของ Ashante น้นั มกั ถือไมพ้ ลองยาว มีเคร่ืองหมายแบ่งเป็นฟุตและ นิ้ว บี-พี อธิบายวา่ ไมพ้ ลองน้นั มีประโยชนม์ าก ใชเ้ ป็ นถ่อค้ายนั เวลาขา้ มทอ้ งร่องใชว้ ดั ความลึกของ บึงน้ากไ็ ด้ ใชเ้ ป็นเครื่องวดั ส่วนสูงก็ได้
160 3. กำรจับมือซ้ำย บี-พี ไดร้ ับความรู้ดว้ ยวา่ การจบั มือซา้ ยน้นั ชาวเมือง Ashanti ถือวา่ เป็น เครื่ องหมายแห่งความเป็ นมิตร บี-พี กลบั องั กฤษพร้อมดว้ ยชื่อเสียงดียงิ่ ข้ึน และไดเ้ ลื่อนยศทางทหารดว้ ย ในปี 1897 เขาได้ เดินทางกลบั ไปอินเดียอีก ปี ค.ศ. 1899 บี-พี ไดร้ ับอนุญาตใหล้ าพกั และเดินทางกลบั องั กฤษ เมื่อไปถึงองั กฤษเขามี หนงั สือเล่มหน่ึงชื่อ Aids to Scouting “ส่ิงสนบั สนุนกิจการสอดแนม” ซ่ึงเขาไดเ้ ขียนขณะท่ีพกั ผอ่ น ในแควน้ Kashmir หนงั สือเล่มน้ีวา่ ดว้ ยวธิ ีการสอดแนมสาหรับทหาร บี-พี ต้งั ใจจะใหห้ นงั สือเล่มน้ี เป็นคูม่ ือของทหาร อาจใชไ้ ดท้ ุกเหล่าแตห่ นงั สือน้ีกลบั ไปท่ีสนใจของเยาวชนวยั รุ่นดว้ ย ซ่ึงจะเป็น Boy Scouts “เด็กชายผสู้ อดแนม” ตอ่ ไป กำรไปแอฟริกำใต้ South Africa บี-พี ไปอยทู่ ่ีประเทศองั กฤษไดไ้ มน่ านนกั สงครามไดเ้ กิดข้ึนในแอฟริกาใต้ ระหวา่ งองั กฤษ กบั พวก Boers ( Boers คือ พวก Ducth ท่ีไดอ้ พยพไปต้งั ถิ่นฐานอยใู่ นแอฟริกาใต้ ) บี-พี ไดร้ ับคาส่ังใหเ้ ดินทางไปแอฟริกาใตใ้ ห้จดั ต้งั กองทหารข้ึน เพื่อป้องกนั ดินแดนเหนือ และดา้ นตะวนั ออกเฉียงเหนือ บี-พี ไปถึงเมือง Cape Town เดือนกรกฎาคม 1899 สงครำมเมือง Mafeking เดือนตุลาคม 1899 ไดม้ ีการประกาศสงครามระหวา่ งองั กฤษกบั พวก Boers ของฮอลนั ดา Boers มีทหาร 9,000 คน เดินทพั เขา้ บุกเมือง Mafeking เพราะคิดวา่ อยใู่ นท่ีราบอาจบุกไดง้ ่าย และไม่มี การป้องกนั ท่ีเขม้ แขง็ บี-พี มีทหารประมาณ 1,000 คน ไมม่ ีประสบการณ์ในการทาสงครามมาก่อน มีพลเมืองใน Mafekingประมาณ 8,000 คน แตพ่ ลเมืองไม่ร่วมมือในการทาสงครามดว้ ยปื นใหญ่ กระสุนก็ลา้ สมยั ฝ่ ายพวก Boers มีอาวธุ ท่ีทนั สมยั ทำไมเมือง Mafeking จึงปะทะข้ำศึกได้ถึง 7 เดือน คาตอบมีอยา่ งเดียว คือ บี-พี เป็นผรู้ อบรู้ มิในร่าเริง ไมย่ อ่ ทอ้ ต่อความยากลาบาก พวก Boers ไม่รู้วา่ บี-พี คิดจะทาอะไรต่อไป พวก Boers ตอ้ งคาดคะเนอยตู่ ลอดเวลา บี-พี ไมไ่ ดน้ ง่ั อยเู่ ฉยๆ บี-พี รู้ดีวา่ การป้องกนั ท่ีดีคือการรุก บี-พี รู้ดว้ ยวา่ ถา้ ใหท้ ุกคนมีงานทา ขวญั ของเขาจะดี เม่ือผจญขา้ ศึก แผนการยทุ ธ์บางอยา่ งของ บี-พี เป็นแผนหลอกลวง เช่น ฝังทุน่ ระเบิดหลอกรอบเมือง Mafeking ประดิษฐไ์ ฟฉายเคล่ือนที่ดว้ ยแกส๊ Accetylene ทาใหพ้ วก Boers คิดวา่ ในเมือง Mafeking มี ไฟฉายรอบเมืองทาลวดหนามปลอมลอ้ มเมือง โดยใหท้ หารทาท่าเดินขา้ มโดยกา้ วสูงๆ หลอกๆ พวก Boers นึกวา่ มีลวดหนามรอบเมือง Mafeking ทุกคืน บี-พี ออกจากเขตเมืองเพอื่ ดูวา่ ปื นขา้ ศึกอยทู่ ่ีไหน พวก Boers เคลื่อนเขา้ มาใกลเ้ มือง หรือไม่ บี-พี ไมไ่ ดน้ อนตอนกลางคืนแต่เขานอนตอนกลางวนั แทน
161 วนั คืนผา่ นไป สถานการณ์ภายในเมืองคบั ขนั มากข้ึน อาหารเริ่มขาดแคลนมากข้ึนทุกวนั มา้ ลาถูกฆา่ กินเป็นอาหารไปมาก แนวรบขยายตวั กวา้ งออกไป ทหารตายมากข้ึน พลรบลดจานวน นอ้ ยลง หน่วยสอดแนมของเมือง Mafeking คณะเสนาธิการของ บี-พี คิดจะใชเ้ ด็กหนุ่มชาวเมืองให้เป็ นผสู้ ื่อขา่ ว ทาหนา้ ท่ีบุรุษพยาบาล จึงหาเครื่องแบบสีกากี และหมวกปี กกวา้ ง (หมวกคาวบอย) พบั ปี กใหเ้ ขาและมอบใหเ้ ด็กหนุ่มคน หน่ึงช่ือ Good Year เป็นผนู้ า ตอนแรกเดก็ หนุ่มเหล่าน้ีใชล้ าเป็นพาหนะ แตต่ ่อมาลาถูกฆ่ากินเป็นอาหารหมด เด็กหนุ่มจึง ไดใ้ ชจ้ กั รยานแทน สมรรถภาพ ความกลา้ หาญ จิตใจท่ีร่าเริงของเดก็ หนุ่มเหล่าน้ีประทบั ใจ บี-พี มาก วนั หน่ึงเมื่อเดก็ หนุ่มคนหน่ึงขบั ขี่จกั รยานฝ่ ากระสุนขา้ ศึกซ่ึงกาลงั ยงิ ต่อสู้กนั เขา้ มาหา บี-พี บี-พี พดู กบั เดก็ คนน้นั วา่ ถา้ เธอขบั ขี่จกั รยานเช่นน้ีในขณะที่มีการยงิ ตอ่ สู้กนั เธอจะถูกยงิ ตายสกั วนั หน่ึง เดก็ หนุ่มตอบวา่ “ผมถีบรถเร็วมากครับ เขาคงยงิ ไม่ถูก” ในที่สุดขา่ วท่ีวา่ กองทหารองั กฤษมาช่วยก็มาถึง เม่ือวนั ท่ี 16 พฤษภาคม 1900 กองทหารช่วย กม็ าถึง เมือง Mafeking ไดย้ นื หยดั ต่อสู้พวก Boers ถึง 217 วนั ขา่ วน้ีไดแ้ พร่ไปถึงเมืองลอนดอน ชาวองั กฤษดีใจมาก บี-พี ไดก้ ลายเป็นวรี บุรุษไปโดยฉบั พลนั กำรลกู เสือสำหรับเดนกชำย (Scouting for Boys) บี-พี กลบั ถึงองั กฤษ เขาแปลกใจท่ีไดเ้ ห็นหนงั สือคูม่ ือทหาร Aids to Scouting มาใชฝ้ ึกอบรม เด็กชายในโรงเรียน และในสโมสรเยาวชนตา่ งๆ เพือ่ นๆ ไดแ้ นะนาให้ บี-พี เขียนหนงั สือน้ีเสียใหม่ เพื่อใชอ้ บรมเยาวชน บี-พี จึงนาเด็ก จานวน 20 คน ซ่ึงเป็นบุตรของเพอื่ นบา้ ง และเป็นเดก็ จากสโมสรเยาวชนบา้ ง นาเด็กเหล่าน้ีไปอยคู่ ่าย ที่เกาะ Brown Sea Island ในอ่าว Poole ในปลายเดือนกรกฎาคม 1907 ถึงตน้ เดือนสิงหาคม 1907 (31 ก.ค. – 9 ส.ค. ) บี-พี แบง่ เด็ก 20 คน เป็น 4 หมู่ เรียกช่ือวา่ Wolves. Curlew Bulls และ Ravans น้ีเป็นกอง ลูกเสือสามญั กองแรกที่เกิดข้ึน ภายหลงั การนาเด็กหนุ่มไปอยคู่ า่ ยที่เกาะ Brown Sea แลว้ บี-พี ไดเ้ ขียนหนงั สือ Scouting for Boys จนแลว้ เสร็จ ไดพ้ ิมพเ์ ป็ น 6 ตอน พิมพอ์ อกจาหน่ายห่างกนั ทุก 2 สัปดาห์ ราคาเล่มละ 4 เพนนี เล่มแรกออกจาหน่ายในเดือนมกราคม 1908 จาหน่ายไดด้ ีมาก เยาวชนอา่ นกนั มาแลว้ รวมกนั ต้งั เป็น หมูข่ ้ึน แลว้ ไปชกั ชวนผใู้ หญ่ที่เขาเห็นวา่ เหมาะสมที่จะเป็ นผนู้ าเขาได้ มาเป็นผนู้ าหรือผกู้ ากบั กิจการลูกเสือใหม่น้ีไดก้ ระจายและมีจานวนทวมี ากข้ึนอยา่ งรวดเร็ว กิจการลูกเสือขยายไป นอกจากองั กฤษ และประเทศในเครือจกั รภพ Chile เป็นประเทศแรกที่รับเอากิจการลูกเสือไปต้งั ข้ึน ใน ค.ศ. 1909
162 ปี ค.ศ. 1910-อเมริกา โดย Mr.William D.Boyce นกั หนงั สือพมิ พช์ าวอเมริกนั ปี ค.ศ. 1911- ไทยคริสตลั พาเลซ Crystal Palace ปี ค.ศ. 1909 ลูกเสือในราชอาณาจกั รมาชุมนุม (Rally) กนั เป็นคร้ังแรกจานวนนบั หมื่นคน บี-พี ไปร่วมชุมนุมดว้ ย เด็กหญิงกลุ่มหน่ึงสวมหมวกลูกเสือ เช่นเด็กชาย เด็กหญิงเหล่าน้นั อธิบายตอ่ บี-พี วา่ เขาตอ้ งการเป็นลูกเสือ เช่นพีช่ ายของเขา ปี ค.ศ. 1916 ไดจ้ ดั ต้งั ลูกเสือสารองข้ึน Cub Scouts ปี ค.ศ. 1918 ไดจ้ ดั ต้งั ลูกเสือวสิ ามญั Royer Scouts กจิ กำรเนตรนำรี Girl Guide กิจการเนตรนารี Girl Guide จึงไดเ้ กิดข้ึนในปี น้ี (1916) First Jamboree ปี ค.ศ. 1914-1918 เป็นปี ระหวา่ งสงครามโลกคร้ังที่ 1 ปี ค.ศ. 1920 ไดม้ ีการชุมนุม (Jamboree) คร้ังแรกท่ี Olympia กรุงลอนดอน ประเทศองั กฤษ มี ลูกเสือมาชุมนุม 30,000 คน จาก 21 ประเทศ ในการประชุมคร้ังน้ี บี-พี ไดร้ ับการประกาศแตง่ ต้งั จากคณะลูกเสือที่ไปชุมนุมใหเ้ ป็ นประมุข ลูกเสือโลก Chief Scout of the World คณะผู้กากับลูกเสือมีมติว่าจะมีการประชุมกันทุก 2 ปี และจัดต้ังสานักงานข้ึนเรียกว่า International Bureau บี-พี ถึงแก่อนิจกรรมที่ประเทศเคนยา ค.ศ. 1940 ในทวปี แอฟริกาหลุมฝังศพอยูท่ ่ีเมืองไนเยอ รีประเทศเคนยา และไดเ้ ขียนสาส์นฉบบั สุดทา้ ย ถึงลูกเสือ ดงั มีขอ้ ความสาคญั ดงั น้ี 1. จงทาตนเองใหม้ ีอนามยั ดีและแขง็ แรงในขณะที่เป็นเดก็ 2. จงมีความพอใจในสิ่งท่ีเธอมีอยู่ และทาสิ่งน้นั ใหด้ ีท่ีสุด 3. จงมองเร่ืองราวตา่ งๆ ในแง่ดี แทนที่จะมองในแง่ร้าย 4. ทางอนั แทจ้ ริงที่จะหาความสุขคือ โดยการใหค้ วามสุขแก่ผอู้ ื่น 5. จงพยายามปล่อยอะไรทิง้ ไวใ้ นโลกน้ีใหด้ ีกวา่ ที่เธอไดพ้ บ 6. จงยดึ มน่ั ในคาปฏิญาณของลูกเสือของเธอไวเ้ สมอ 2. กจิ กำรองค์กำรลกู เสือโลก การลูกเสือโลกเป็ นขบวนทางการศึกษาสาหรับเยาวชน มีวตั ถุประสงคท์ ่ีจะสร้างบุคลิกภาพ และพฒั นาการทางดา้ นสังคม เป็ นองคก์ ารอาสาสมคั ร ไมเ่ ก่ียวขอ้ งกบั การเมือง เปิ ดโอกาสสาหรับคน ทวั่ ไป โดยข้ึนอยบู่ นพ้ืนฐานดงั น้ี ปฏิบตั ิตามหลกั การสาคญั ของการลูกเสือท่ีไดก้ าหนดข้ึนโดยผูใ้ ห้กาเนิดลูกเสือโลกและยึด มน่ั ตามคาสอนของศาสนาที่ตนเคารพนบั ถือ
163 มีความจงรักภกั ดีต่อชาติบา้ นเมือง ช่วยสร้างเสริมสนั ติภาพความเขา้ ใจอนั ดีและใหค้ วาม ร่วมมือ มีความรับผิดชอบในการพฒั นาตนเอง เขา้ ร่วมในการพฒั นาสังคมดว้ ยการยกยอ่ งและเคารพ ในเกียรติของบุคคลอ่ืน และเพ่อื ความเป็นอนั หน่ึงอนั เดียวกนั ทว่ั โลก เป็นวธิ ีการพฒั นาเยาวชนให้เป็นพลเมืองดี มีความรับผดิ ชอบบนพ้นื ฐานคาปฏิญาณตามกฎ ของลูกเสือเรียนรู้โดยการกระทาวธิ ีการระบบหมู่ พฒั นาความกา้ วหนา้ ของบุคคลโดยใชห้ ลกั สูตรและ วชิ าพิเศษลูกเสือ และกิจกรรมกลางแจง้ องค์การลูกเสือโลก คือ องค์การนานาชาติ ท่ีมิใช่องค์การของรัฐบาลใด มีองค์ประกอบที่ สาคญั 3 ประการ คือ สมชั ชาลูกเสือโลก คณะกรรมการลูกเสือโลก และสานกั งานลูกเสือโลก 1. สมัชชำลกู เสือโลก (World Scout Conference) สมชั ชาลูกเสือโลกคือท่ีประชุมของผแู้ ทนคณะลูกเสือประเทศต่างๆ ทว่ั โลก เร่ิมมีการประชุม กนั เป็นคร้ังแรกเม่ือปี 1920 ( พ.ศ. 2463 ) และหลงั จากน้นั โดยปกติการประชุมทุกๆ 2 ปี ต้งั แต่คร้ังท่ี 1 ถึงคร้ังท่ี 32 และจะเปลี่ยนเป็นการประชุมสมชั ชาลูกเสือโลกแลว้ มีดงั น้ี 1. คร้ังที่ 1 พ.ศ. 2463 ประเทศองั กฤษ 2. คร้ังที่ 2 พ.ศ. 2465 ประเทศฝร่ังเศส 3. คร้ังที่ 3 พ.ศ. 2467 ประเทศเดนมาร์ก 4. คร้ังท่ี 4 พ.ศ. 2469 ประเทศสวสิ เซอร์แลนด์ 5. คร้ังท่ี 5 พ.ศ. 2472 ประเทศองั กฤษ 6. คร้ังที่ 6 พ.ศ. 2474 ประเทศออสเตรีย 7. คร้ังที่ 7 พ.ศ. 2476 ประเทศฮงั การี 8. คร้ังที่ 8 พ.ศ. 2478 ประเทศสวเี ดน 9. คร้ังที่ 9 พ.ศ. 2480 ประเทศเนเธอร์แลนด์ 10. คร้ังท่ี 10 พ.ศ. 2482 ประเทศสกอตแลนด์ 11. คร้ังท่ี 11 พ.ศ. 2490 ประเทศฝรั่งเศส 12. คร้ังที่ 12 พ.ศ. 2492 ประเทศนอร์เวย์ 13. คร้ังท่ี 13 พ.ศ. 2494 ประเทศออสเตรีย 14. คร้ังท่ี 14 พ.ศ. 2496 ประเทศลิคเทน่ สไตน์ 15. คร้ังท่ี 15 พ.ศ. 2498 ประเทศแคนาดา 16. คร้ังท่ี 16 พ.ศ. 2500 ประเทศองั กฤษ 17. คร้ังท่ี 17 พ.ศ. 2502 ประเทศอินเดีย 18. คร้ังที่ 18 พ.ศ. 2504 ประเทศโปรตุเกส 19. คร้ังที่ 19 พ.ศ. 2506 ประเทศกรีซ
164 20. คร้ังท่ี 20 พ.ศ. 2508 ประเทศเมก็ ซิโก 21. คร้ังที่ 21 พ.ศ. 2510 ประเทศสหรัฐอเมริกา 22. คร้ังท่ี 22 พ.ศ. 2512 ประเทศฟิ นแลนด์ 23. คร้ังท่ี 23 พ.ศ. 2514 ประเทศญี่ป่ ุน 24. คร้ังท่ี 24 พ.ศ. 2516 ประเทศเคนยา 25. คร้ังที่ 25 พ.ศ. 2518 ประเทศเดนมาร์ก 26. คร้ังที่ 26 พ.ศ. 2520 ประเทศแคนาดา 27. คร้ังท่ี 27 พ.ศ. 2522 ประเทศองั กฤษ 28. คร้ังที่ 28 พ.ศ. 2524 ประเทศเซเนกลั 29. คร้ังท่ี 29 พ.ศ. 2526 ประเทศสหรัฐอเมริกา 30. คร้ังที่ 30 พ.ศ. 2528 ประเทศเยอรมนีตะวนั ตก 31. คร้ังท่ี 31 พ.ศ. 2531 ประเทศออสเตรเลีย 32. คร้ังท่ี 32 พ.ศ. 2533 ประเทศฝร่ังเศส 33. คร้ังที่ 33 พ.ศ. 2536 ประเทศไทย (เร่ิมตน้ การประชุม 3 ปี ต่อคร้ัง) 34. คร้ังท่ี 34 พ.ศ. 2539 ประเทศนอร์เวย์ 35. คร้ังท่ี 35 พ.ศ. 2542 ประเทศแอฟริกาใต้ 36. คร้ังท่ี 36 พ.ศ. 2545 ประเทศกรีซ 37. คร้ังที่ 37 พ.ศ. 2548 ประเทศตูนีเซีย 38. คร้ังที่ 38 พ.ศ. 2551 ประเทศเกาหลีใต้ 39. คร้ังที่ 39 พ.ศ. 2554 ประเทศบราซิล 40. คร้ังที่ 40 พ.ศ. 2557 ประเทศสโลวาเนีย 2. คณะกรรมกำรลูกเสือโลก มหี น้ำที่โดยย่อดงั นี้ 2.1 ส่งเสริมกิจการลูกเสือทวั่ โลก 2.2 แตง่ ต้งั เลขาธิการ และรองเลขาธิการของสานกั งานลูกเสือโลก 2.3 ควบคุมการปฏิบตั ิงานของสานกั งานลูกเสือโลก 2.4 จดั หาเงินทุนสาหรับส่งเสริมกิจการลูกเสือโลก 2.5 พิจารณาให้เครื่องหมายลูกเสือสดุดี Bronze Wolf ของคณะลูกเสือโลกแก่ผูท้ ่ีไดม้ ีส่วน ช่วยเหลือกิจการลูกเสืออยา่ งดีเด่น คนไทย 9 คนที่รับเคร่ืองหมายลูกเสือสดุดีบรอนซ์วลู ฟ์ (Bronze Wolf) 1971 นายอภยั จนั ทวมิ ล ลาดบั ที่ 60 1976 นายจิตร ทงั สุบุตร ลาดบั ที่ 107
165 1980 นายกอง วสิ ุทธารมณ์ ลาดบั ที่ 142 1984 นายเพทาย อมาตยกลุ ลาดบั ท่ี 173 1990 นายแพทยบ์ ุญสม มาร์ติน ลาดบั ที่ 209 1997 นางสุมน สมสาร ลาดบั ที่ 216 1998 นายสุธรรม พนั ธุ์ศกั ด์ิ ลาดบั ท่ี 266 2006 พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ภูมิพลอดุลยเดช ลาดบั ท่ี 311 2008 นายแพทยย์ งยทุ ธ วชั รดุล ลาดบั ที่ 318 คนไทยสองทา่ นท่ีเคยไดร้ ับเลือกเป็นกรรมการลูกเสือโลก คือ นายอภยั จนั ทวมิ ล (1965-1971) นายแพทยบ์ ุญสม มาร์ติน (1981-1987) 3. สำนักงำนลกู เสือโลก (World Jamboree ) 1920 ต้งั ข้ึนท่ีกรุงลอนดอน เรียกวา่ International Bureau 1958 ยา้ ยไปอยทู่ ่ีกรุงออตตาวา ประเทศแคนาดา 1961 เปลี่ยนชื่อเป็น World Bureau ในการประชุมสมชั ชาคร้ังท่ี 18 ท่ีกรุงลิสลอน ประเทศโปรตุเกส 1968 ยา้ ยไปอยทู่ ่ีเมืองเจนีวา ประเทศสวติ เซอร์แลนด์ สานกั งานลูกเสือโลกมีเลขาธิการเป็นผบู้ งั คบั บญั ชา และมีเจา้ หนา้ ที่ประมาณ 40 คน เป็ น ผชู้ ่วย นอกจากน้ียงั มีสานกั งานสาขาอีก 6 เขต คือ เขต อินเตอร์-อเมริกา ต้งั อยทู่ ี่ ซานโฮเซ ประเทศ คอสตาริกา้ เขต เอเชีย-แปซิฟิ ก ต้งั อยทู่ ่ี มะนิลา ประเทศ ฟิ ลิปปิ นส์ เขต อาหรับ ต้งั อยทู่ ี่ ไคโร ประเทศ อียปิ ต์ เขต ยโุ รป ต้งั อยทู่ ี่ เจนีวา ประเทศ สวติ เซอร์แลนด์ เขต แอฟริกา ต้งั อยทู่ ่ี ไนโรบี ประเทศ เคนยา เขต ยเู รเซีย ต้งั อยทู่ ี่ ยลั ตา-เกอร์ชฟั ประเทศ ยเู ครนและมอสโก ประเทศรัสเซีย สานกั งานลูกเสือมีหนา้ ที่โดยยอ่ ดงั น้ี 3.1 ดาเนินการตามมติของสมชั ชาและคณะกรรมการลูกเสือโลก 3.2 ติดตอ่ กบั ประเทศสมาชิกและองคก์ ารที่เก่ียวขอ้ ง 3.3 ประสานงาน 3.4 ส่งเสริมกิจการลูกเสือโดยทวั่ ไป
166 4. กำรชุมนุมลูกเสือโลก (World Jamboree) คือการจดั ใหล้ ูกเสือประเทศตา่ งๆ ทวั่ โลก ไปอยคู่ า่ ยพกั แรม ณ สถานที่ที่กาหนดใหแ้ ละให้ ลูกเสือท่ีไปร่วมการชุมนุมไดม้ ีโอกาสประกอบกิจกรรมตา่ งๆ ตามที่กาหนดไว้ การชุมนุมลูกเสือโลกคร้ังแรกจดั ข้ึนท่ีประเทศองั กฤษ ในปี ค.ศ. 1920 (พ.ศ. 2463) หลงั จาก น้นั โดยปกติท่ีมีการชุมนุมลูกเสือโลกทุกๆ 4 ปี คร้ังท่ี 1 ปี ค.ศ. 1920 (2463) Olympia, London องั กฤษ คร้ังท่ี 2 ปี ค.ศ. 1924 (2467) Ermelunedn, Copenhagen เดนมาร์ก คร้ังท่ี 3 ปี ค.ศ. 1929 (2472) Arrowe Park องั กฤษ คร้ังท่ี 4 ปี ค.ศ. 1933 (2476) Godollo ฮงั การี คร้ังท่ี 5 ปี ค.ศ. 1937 (2480) Vegelengzang เนเธอร์แลนด์ คร้ังท่ี 6 ปี ค.ศ. 1947 (2490) Moisson ฝร่ังเศส คร้ังท่ี 7 ปี ค.ศ. 1951 (2449) Bad Ischl ออสเตรีย คร้ังท่ี 8 ปี ค.ศ. 1955 (2498) Niagarg-on-Lake แคนนาดา คร้ังท่ี 9 ปี ค.ศ. 1957 (2500) Sutton Coldfield องั กฤษ คร้ังท่ี 10 ปี ค.ศ. 1959 (2502) Makiling Park ฟิ ลิปปิ นส์ คร้ังท่ี 11 ปี ค.ศ. 1963 (2506) Marathon กรีซ คร้ังที่ 12 ปี ค.ศ. 1967 (2511) Farragut State Park สหรัฐอเมริกา คร้ังที่ 13 ปี ค.ศ. 1971(2514) Asagiri Hights ญี่ป่ ุน คร้ังที่ 14 ปี ค.ศ. 1975 (2518) Lillehammor นอร์เวย์ คร้ังที่ 15 ปี ค.ศ. 1983 (2526) Calgary,Alberta แคนนาดา คร้ังที่ 16 ปี ค.ศ. 1988 (2531) Cataract Scout Park ออสเตรเลีย คร้ังท่ี 17 ปี ค.ศ. 1955 (2498) New Seoul Wales เกาหลี คร้ังท่ี 18 ปี ค.ศ. 1995 (2538) Dronten เนเธอร์แลนด์ คร้ังที่ 19 ปี ค.ศ. 1999 (2542) Picarguin ชิลี คร้ังที่ 20 ปี ค.ศ. 2003 (2546) สตั หีบ ชลบุรี ไทย คร้ังที่ 21 ปี ค.ศ. 2007 (2550) Hylands Park Chelmsford องั กฤษ คร้ังท่ี 22 ปี ค.ศ. 2011 (2554) Kristianstad สวเี ดน คร้ังที่ 23 ปี ค.ศ. 2015 (2558) Yamaguchi ญ่ีป่ ุน 5. กำรประชุมสมัชชำลกู เสือเขตเอเชีย – แปซิฟิ ก (Asia – Pacific Scout Conference) เดิมเรียกวา่ Far East Scout Conference คร้ังแรกเมื่อปี 1958หลงั จากน้นั มีการประชุมทก 2ปี ในปี ไมม่ ีการประชุมสมชั ชาลูกเสือโลก ตอ่ มาในปี 1970 ไดม้ ีการเปลี่ยนช่ือเป็น Asia – Pacific Scout Conference
167 เดิมกรรมการลูกเสือเขตเอเชีย – แปซิฟิ ก มี 8 คน อยใู่ นตาแหน่งคราวละ 4 ปี และเลือกกนั เอง เป็นประธานทุกๆ 2 ปี ท่ีมีการประชุมสมชั ชาเขต กรรมการ 4 คน จะออกจากตาแหน่งตามวาระและมี การเลือกต้งั กรรมการแทนผูท้ ่ีออกตามวาระหรือลาออก หรือถึงกรรม คนไทยทเี่ คยเปน นกรรมกำรลกู เสือเขตฯ (1960 – 1964) นายแพทยแ์ สง สุทธิพงศ์ (1964 – 1968) นายอภยั จนั ทวมิ ล (ไดร้ ับเลือกเป็นประธานกรรมการฯ) (1972 – 1976) นายจิตร ทงั สุบุตร (1976 – 1980) นายเทพาย อมาตยกุล (1980 – 1982) นายแพทยบ์ ุญสม มาร์ติน (1982 – 1964) พลโทเยยี่ ม อินทรกาแหง (1960 – 1964) นายสาอาง พว่ งบุตร (1960 – 1964) นายอาณฐั ชยั รัตตกุล ทปี่ ระชุมสมัชชำลกู เสือเขตฯ เปน นผ้พู จิ ำรณำกำหนดสถำนทป่ี ระชุมล่วงหน้ำตำมคำเชิญของ ประเทศเจ้ำของบ้ำน คร้ังท่ี 1 ปี ค.ศ. 1985 (พ.ศ. 2501) ประเทศฟิ ลิปปิ นส์ คร้ังที่ 2 ปี ค.ศ. 1960 (พ.ศ. 2503) ประเทศพมา่ คร้ังท่ี 3 ปี ค.ศ. 1962 (พ.ศ. 2505) ประเทศไทย คร้ังท่ี 4 ปี ค.ศ. 1964 (พ.ศ. 2507) ประเทศมาเลเซีย คร้ังท่ี 5 ปี ค.ศ. 1966 (พ.ศ. 2509) ประเทศจีนไตห้ วนั คร้ังที่ 6 ปี ค.ศ. 1968 (พ.ศ. 2511) ประเทศเกาหลีใต้ คร้ังท่ี 7 ปี ค.ศ. 1970 (พ.ศ. 2513) ประเทศนิวซีแลนด์ คร้ังท่ี 8 ปี ค.ศ. 1972 (พ.ศ. 2515) ประเทศฟิ ลิปปิ นส์ คร้ังท่ี 9 ปี ค.ศ. 1974 (พ.ศ. 2517) ประเทศสิงคโปร์ คร้ังที่ 10 ปี ค.ศ. 1976 (พ.ศ. 2519) ประเทศอิหร่าน คร้ังท่ี 11 ปี ค.ศ. 1978 (พ.ศ. 2521) ประเทศฮ่องกง คร้ังท่ี 12 ปี ค.ศ. 1980 (พ.ศ. 2523) ประเทศออสเตรเลีย คร้ังท่ี 13 ปี ค.ศ. 1982 (พ.ศ. 2525) ประเทศอินโดนีเซีย คร้ังที่ 14 ปี ค.ศ. 1984 (พ.ศ. 2527) ประเทศนิวซีแลนด์ คร้ังที่ 15 ปี ค.ศ. 1986 (พ.ศ. 2529) ประเทศไทย
คร้ังท่ี 16 ปี ค.ศ. 1989 (พ.ศ. 2532) 168 คร้ังท่ี 17 ปี ค.ศ. 1992 (พ.ศ. 2535) ประเทศจีนไตห้ วนั (เริ่มตน้ การประชุม 3 ปี ตอ่ คร้ัง) ประเทศอินโดนีเซีย เม่ือการประชุมกรรมการลูกเสือเขตเอเชีย – แปซิฟิ ก คร้ังที่ 12 ปี 1980 (พ.ศ. 2523) ท่ี ประเทศออสเตรเลียไดม้ ีมติใหเ้ ปล่ียนแปลงจานวนกรรมการลูกเสือเขตเป็น 10 คน อยใู่ นตาแหน่ง คราวละ 6 ปี จะออกในสมยั ประชุมคร้ังละ 5 คน และมีการเลือกกรรมการลูกเสือเขตใหมอ่ ีก 5 คน เขา้ มาแทนที่ และมีประชุมไดม้ ีมติใหเ้ ปล่ียนแปลงวาระการประชุมสมชั ชาลูกเสือเอเชีย – แอฟริกา 2 ปี ตอ่ คร้ัง เป็น 3 ปี ต่อคร้ัง เริ่มต้งั แตก่ ารประชุมคร้ังที่ 16 ปี 1989 (พ.ศ.2532) ที่ประเทศจีนไตห้ วนั 6. ค่ำบำรุงประจำปี จ่ำยให้สำนักงำนลูกเสือ คานวณจากจานวนลูกเสือและเจา้ ท่ีลูกเสือและเจา้ หนา้ ท่ีลูกเสือในเครื่องแบบในอตั ราคนละ 0.46 สวสิ ส์ฟรังค์ (ประมาณ 5 บาท) ในปี พ.ศ. 2526 ประเทศไทยจ่ายเงินค่าบารุงประจาปี ใหส้ านกั งานลูกเสือโลกเป็นเงิน 1,087,512.20 บาท (97,625 สวสิ ส์ฟรังค)์ ตามเอกสารของสานกั งานลูกเสือโลก เม่ือ 8 สิงหาคม 1975 (พ.ศ.2518) ไทยมีลูกเสือและ เจา้ หนา้ ท่ีลูกเสือรวม 534,695 คน เป็นอนั ดบั 5 ของโลก แตต่ ามรายงานการลูกเสือประจาปี 2518 เรามีลูกเสือท้งั 4 ประเภท 887,550 คน ผบู้ งั คบั บญั ชา 53,145 คน รวม 940,695 คน การจ่ายเงินคา่ บารุงประจาปี ใหส้ านกั งานลูกเสือโลก จึงเป็ นภาระท่ีหนกั มาก กำรประเมนิ ผล - การสังเกตพฤติกรรม - การซกั ถามความรู้ - ใชแ้ บบสอบถาม
เร่ือง ประวตั ิและโครงสร้ำงของกำรลกู เสือไทย 169 บทเรียนท่ี 10 เวลำ 45 นำที ขอบข่ำยวชิ ำ อธิบายถึงการก่อต้งั กิจการลูกเสือไทย การดาเนินการแต่ละสมยั การเปลี่ยนแปลง การพฒั นา และโครงสร้างของการบริหารของคณะลูกเสือแห่งชาติ วตั ถุประสงค์ เมื่อจบบทเรียนน้ีแลว้ ผเู้ ขา้ รับการอบรมควรจะสามารถ 1 บรรยายประวตั ิความเป็นมาของกิจการลูกเสือไทยโดยสงั เขปได้ 2 อธิบายโครงสร้างการบริหารลูกเสือแห่งชาติได้ วธิ ีสอน/กจิ กรรม 1 บรรยาย หรือ 2 บรรยายประกอบภาพยนตร์ วดี ีโอ หรือแผน่ สไลด์ สื่อกำรสอน 1. แผนภูมิ 2. แผน่ โปรงใส หรือ 3. แผน่ สไลด์ ภาพยนตร์ วดี ีโอ เนื้อหำวชิ ำ 1.พระรำชประวตั สิ ังเขปของพระบำทสมเดจน พระมงกฎุ เกล้ำเจ้ำอย่หู วั พระบาทสมเด็จพระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั ทรงเป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเดจ็ พระ จุลจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั และสมเดจ็ พระศรีพชั รินทราบรมราชินีนาถ (สมเด็จพระนางเจา้ สาวภาผอ่ งศรี) ทรงพระราชสมภพเม่ือวนั เสาร์ท่ี 1 มกราคม พ.ศ. 2423 ไดร้ ับพระราชทานพระนามวา่ สมเด็จฟ้า วชิราวธุ เม่ือทรงพระเยาวไ์ ดศ้ ึกษาวชิ าหนงั สือไทยกบั พระยาศรีสุนทรโวหาร เพง่ิ ไดพ้ ระชนมายไุ ด้ 13 พรรษา เสด็จทรงไดศ้ ึกษา ณ ประเทศองั กฤษ ในสาขาประวตั ิศาสตร์ รัฐศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ วรรณคดี ที่มหาวทิ ยาลยั ออ๊ กซ์ฟอร์ด และวชิ าทหารบกที่โรงเรียนแซนด์เฮสตร์ วม 9 ปี
170 พระองคไ์ ดเ้ สร็จเถลิงถวลั ราชสมบตั ิจากสมเดจ็ พระบรมชนกนาถ เม่ือวนั ที่ 23 ตุลาคม 2453 ขณะน้นั มีพระชนมายไุ ด้ 31 พรรษา ตลอดรัชสมยั ของพระองคไ์ ดท้ รงประกอบพระราชกรณียกิจทานุบารุง ประเทศชาติในดา้ นการปกครอง การทหาร การศึกษา การสาธารณสุข การคมนาคม การศาสนา โดยเฉพาะทางวรรณคดีทรงพระราชนิพนธ์ท้งั ร้อยแกว้ ร้อยกรอง ประมาณ 200 เรื่อง ดว้ ยพระปรีชา สามารถของพระองค์ ประชาชนจึงถวายพระสมญาแด่พระองคว์ า่ “พระมหาธีรราชเจา้ ” ทรงอยใู่ นราช สมบตั ิเพียง 16 ปี เสดจ็ สวรรคตเมื่อ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2468 พระชนมายุ 46 พรรษา แต่เน่ืองดว้ ย พระราชกรณีกิจของพระองค์ ทาใหเ้ กิดคุณประโยชนแ์ ก่บา้ นเมืองอยา่ งใหญห่ ลวง รัฐบาลกบั ประชาชนจึงร่วมใจกนั สร้างพระบรมรูปของพระองคป์ ระดิษฐานไวท้ ่ีสวนลุมพนิ ี และคณะลูกเสือ แห่งชาติ ร่วมดว้ ยคณะลูกเสือทว่ั ราชอาณาจกั ร ไดส้ ร้างพระบรมรูปของพระองคป์ ระดิษฐานไวค้ ่าย ลูกเสือวชิราวธุ อาเภอศรีราชา จงั หวดั ชลบุรี ในระยะที่มีการก่อต้งั ลูกเสือข้ึนในโลกน้นั ประเทศไทยตรงกบั รัชสมยั ของพระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั รัชกาลท่ี 6 สถานการณ์ของโลกในขณะน้นั กาลงั ทวคี วามคบั ขนั อิทธิพลของ วฒั นธรรมตะวนั ตกเริ่มไหลเขา้ สู่เมืองไทย พร้อมกบั การแพร่ระบาดของระบอบมหาชนรัฐ และภยั ของชาติไทยก็คือการถูกรุกเงียบ แตด่ ว้ ยพระปรีชาญาณของสมเดจ็ พระมหาธีรราชเจา้ พระองคท์ รง เล็งเห็นการณ์ไกล จึงทรงมีพระราชดาริวา่ การลูกเสือสืบเนื่องมาแต่งานปลุกชาติทางตรงน้นั หากได้ นามาปรับปรุงใหเ้ หมาะสมกบั เด็กไทยจะเป็นคุณประโยชนอ์ นั ใหญห่ ลวงแก่ชาติบา้ นเมือง ทรงมนั่ พระราชหฤทยั เป็นอยา่ งยง่ิ พร้อมท้งั ทรงประกอบดว้ ยความกลา้ หาญฝ่ าอุปสรรคท้งั ปวง เป็นตน้ วา่ คา ตาหนิติเตียนอนั เกิดจากประชาชนที่ยงั ไม่เขา้ ใจวตั ถุประสงคแ์ ละกิจการลูกเสือดีพอ ทาใหอ้ ุปสรรค เกิดข้ึนจากที่ไดเ้ ห็นชดั ดงั เช่นผปู้ กครองเดก็ โดยมากไม่ใคร่เตม็ ใจยนิ ยอมใหเ้ ด็กของตนสมคั รเขา้ เป็น ลูกเสือ โดยเขา้ ใจไปวา่ การลูกเสือก็คือการเป็นทหารนนั่ เองประกอบท้งั การลูกเสือตอ้ งเป็นการ เสียสละดว้ ยความเตม็ ใจ จึงเป็นการลาบากอยมู่ ากในข้นั แรกพระองคไ์ ดด้ าเนินกศุ โลบาย โดยไดท้ รง พระอุตสาหะจดั ต้งั “กองเสือป่ า” ข้ึนก่อน เมื่อวนั ที่ 1 พฤษภาคม 2454 ทรงฝึกพวกผใู้ หญ่ (ส่วนใหญ่ เป็นพวกขา้ ราชการ) เรียกวา่ พวกพอ่ เสือ ดว้ ยพระองคเ์ อง โปรดเกลา้ ฯ ใหม้ ีการซอ้ มรบและฝึกซอ้ ม กลยทุ ธต่างๆ ที่พระองคไ์ ดอ้ บรมมา ท้งั น้ีเป็ นการปลูกฝังความนิยมใหป้ ระชาชนชาวไทยรู้จกั คุณค่า แห่งทหาร ดว้ ยทรงเลง็ เห็นวา่ ประเทศจะดารงอิสรภาพอยูไ่ ดด้ ว้ ยประชาชนท้งั หลายรักประเทศ ต่อมา ไดท้ รงพระดาริวา่ กองเสือป่ าไดต้ ้งั ข้ึนเป็ นหลกั ฐานแลว้ พอท่ีจะหวงั ไดว้ า่ จะเป็นผลดี แตผ่ ทู้ ี่จะเป็น เสือป่ าน้นั ตอ้ งนบั วา่ เป็ นผใู้ หญแ่ ลว้ ฝ่ ายเด็กผชู้ ายท่ียงั อยใู่ นวยั เดก็ ก็เป็นผทู้ ่ีสมควรไดร้ ับการฝึกฝน ท้งั ในส่วนร่างกายและจิตใจ ใหม้ ีความรู้ทางเสือป่ า เพื่อวา่ โตข้ึนจะไดร้ ู้จกั หนา้ ที่ผชู้ ายไทยทุกคนควร ประพฤติใหเ้ ป็นประโยชน์แก่บา้ นเมืองอนั เป็ นบา้ นเกิดเมืองนอนของตอน และการฝึกฝนปลุกใจให้ คิดถูกเช่นน้ี ตอ้ งรับฝึกฝนเสียต้งั แต่เยาว์ เปรียบเหมือนยงั ออ่ น จะตดั ใหเ้ ป็นรูปอยา่ งไรกเ็ ป็นได้ โดยง่ายและงดงาม แตถ่ า้ รอไวแ้ ก่เสียแลว้ เม่ือจะดดั ก็ตอ้ งเขา้ ไฟ และมกั จะหกั จะมิไดใ้ นขณะท่ีดดั ดงั น้ีฉนั ใดสันดานคนกฉ็ นั น้นั เม่ือมีพระราชดาริดงั น้ีแลว้ จึงโปรดเกลา้ ฯ ใหม้ ีกาหนดขอ้ บงั คบั
171 ลกั ษณะปกครองลูกเสือข้ึนไว้ เม่ือวนั ที่ 1 กรกฎาคม 2454 พระราชประสงคท์ ่ีไดค้ ิดจดั ใหม้ ีลูกเสือน้นั กโ็ ดยปรารถนาที่จะใหเ้ ด็กไทยศึกษาและจดจาขอ้ สาคญั 3 ประการ คือ 1. ความจงรักภกั ดีต่อผทู้ รงดารงรัฐสีมาอาณาจกั รโดยตอ้ งตามนิติธรรมประเพณี 2. ความรักชาติบา้ นเมือง และนบั ถือพระศาสนา 3. ความสามคั คีในคณะ และไม่ทาลายซ่ึงกนั และกนั ซ่ึงท้งั 3 ประการน้ีเป็นรากฐานแห่งความมน่ั คงท่ีจะนาให้ชาติดารงอยเู่ ป็นไทยไดส้ มนาม กองลูกเสือของประเทศไทยที่ต้งั ข้ึน นบั ไดว้ า่ เป็นลาดบั ที่ 3 ของประเทศที่มีการลูกเสือใน โลก และกองลูกเสือคนแรกและกองลูกเสือกองแรกต้งั ข้ึนท่ีโรงเรียนมหาดเล็กหลวง (โรงเรียน วชิราวธุ วทิ ยาลยั ในปัจจุบนั ) ลูกเสือคนแรกคือ นายชพั น์ บุนนาค นกั เรียนมหาดเล็กหลวง ซ่ึงถือวา่ ได้ แต่งเคร่ืองแบบลูกเสือคนเป็ นแรก และเป็นผทู้ ี่ไดก้ ล่าวคาปฏิญาณชองลูกเสือเป็ นคนแรก นายชพั น์ บุนนาค นกั เรียนมหาดเล็กหลวง ซ่ึงพระองคท์ ่านไดม้ ีพระราชโองการวา่ “อา้ ยชพั น์ เอง็ เป็นลูกเสือ แลว้ ” ต่อมากิจการลูกเสือก็ไดแ้ พร่หลายไปยงั ทอ้ งถ่ินตา่ งๆ ในประเทศไทย 2.ประวตั ิกำรลกู เสือไทย อาจแบ่งออกไดเ้ ป็น 5 ยคุ ดงั น้ี 1. ยุคก่อต้งั (พ.ศ. 2454 – 2468) กิจการลูกเสือยคุ ก่อต้งั เจริญรุ่งเรืองอยา่ งมาก เพระพระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั ดาเนินการดว้ ยพระองคเ์ อง ทรงตราระเบียบขอ้ บงั คบั ลกั ษณะปกครอง ทรงฝึกอบรมสัง่ สอนดว้ ย พระองคท์ รงพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณแก่คณะลูกเสือแห่งชาติ 1. ทรงต้งั สภากรรมการกลางจดั การลูกเสือแห่งชาติ และพระองคท์ รงดารงตาแหน่ง สภานายก สมเด็จกรมพระยาดารงราชานุภาพ เสนาบดีกระทรวงมหาดไทย เป็นอุปนายก ตอ่ มาสมเดจ็ กรมพระยาดารงราชานุภาพทรงลาออก จึงไดโ้ ปรดเกลา้ ฯ แตง่ ต้งั เจา้ พระยาพระเสดจ็ สุเรนทราธิบดี (ม.ร.ว. เปี ย มาลากลุ ) เสนาบดี กระทรวงธรรมการ เป็นอุปนายก ในน้นั มีสมเด็จเจา้ พระยาพระเสดจ็ สุ เรนทราธิบดีป่ วยหนกั ลาออกจากราชการ จึงโปรดเกลา้ ฯ แต่งต้งั พระยาไพศาลศิลปะศาสตร์ (ช่ือ ศยา มานนท)์ ปลดั ทูลฉลองกระทรวงธรรมการ เป็ นอุปนายก แทน 2. พ.ศ. 2457 พระราชทานเหรียญราชนิยมใหแ้ ก่ลูกเสือโท ฝ้าย บุญเล้ียง ซ่ึงไดช้ ่วยชายชรา กบั เดก็ หญิงในกรณีเรือโดยการอปั ปางกลางทะเลบริเวณเกาะสีชงั ใหร้ อดพน้ จากความตาย ต่อมา ไดร้ ับราชการเป็ นครู มีบรรดาศกั ด์ิเป็นขนุ วรศาสน์ดรุณกิจ 3. พ.ศ. 2458 ทรงต้งั โรงเรียนผกู้ ากบั ลูกเสือ ในพระบรมราชูปถมั ภข์ ้ึนท่ี สโมสรเสือป่ า บริเวณเขาดินวนา 4. พ.ศ. 2465 สมคั รเป็นสมาชิกริเริ่มก่อต้งั สมชั ชาลูกเสือโลก ซ่ึงมีท้งั สิ้น 31 ประเทศ
172 2. ยคุ ส่งเสริม (พ.ศ. 2468 – 2482) เริ่มต้งั แต่แผน่ ดินพระบาทสมเด็จพระปกเกลา้ เจา้ อยหู่ วั รัชกาลท่ี 7 จนถึงตน้ สงครามโลก คร้ัง ท่ี 2 เม่ือปี พ.ศ. 2482 ยคุ น้ีอาจแบ่งออกไดเ้ ป็น 2 ตอน คือ (ก) รัชกาลพระบาทสมเด็จพระปกเกลา้ ฯ ก่อนเปลี่ยนแปลงการปกครอง (พ.ศ. 2468 -2475) ระยะน้ีพระบาทสมเด็จพระปกเกลา้ ฯ ทรงดารงตาแหน่งสภานายกสภากรรมการกลางจดั การลูกเสือ แห่งชาติ และพระองคเ์ จา้ ธานีววิ ตั ิ ทรงดารงตาแหน่งอุปนายกสภาฯ พ.ศ. 2470 มีการชุมนุมลูกเสือแห่งชาติ คร้ังที่ 1 ณ พระราชอุทยานสราญรมย์ จงั หวดั พระนคร มี ลูกเสือและผบู้ งั คบั บญั ชาลูกเสือเขา้ ร่วมชุมนุม จานวน 1,836 คน พ.ศ. 2472 ส่งผแู้ ทนไปร่วมการชุมนุมลูกเสือโลก คร้ังที่ 3 ณ ประเทศองั กฤษ โดยมี นายนาค เทพ หสั ดินเป็นหวั หนา้ คณะ พ.ศ. 2473 มีการชุมนุมลูกเสือแห่งชาติ คร้ังที่ 2 ณ พระราชอุทยานราญรมย์ จงั หวดั พระนคร มีลูกเสือ และผบู้ งั คบั บญั ชาลูกเสือเขา้ ร่วมชุมนุม 1,955 คน และมีผแู้ ทนคณะลูกเสือญี่ป่ ุนเขา้ ร่วมประชุมดว้ ย 22 คน พ.ศ. 2474 ต้งั โรงเรียนผกู้ ากบั ลูกเสือข้ึนใหม่ ณ พระรามราชนิเวศน์ (พระราชวงั บา้ นปื น) จงั หวดั เพชรบุรี โดยมีมหาอามาตยต์ รี พระยาสุรพนั เสนีย์ เป็นผอู้ านวยการ ในปี เดียวกนั น้ี ไดส้ ่งผแู้ ทนไป ร่วมการชุมนุมลูกเสือโรเวอร์คร้ังแรกแห่งโลก ณ เมืองคานดอสเตก็ ประเทศสวสิ เซอร์แลนด์ โดยมี นายอภยั จนั ทวมิ ล เป็นหวั หนา้ คณะ (ข) รัชกาลพระบาทสมเดจ็ สมเด็จประปกเกลา้ เจา้ อยหู่ วั ก่อนทรงสละราชสมบตั ิ (พ.ศ. 2477 ) และรัชกาลสมเด็จพระเจา้ อยูห่ วั อานนั ทมหิดล จนถึงตน้ สงครามโลก คร้ังที่ 2 (พ.ศ. 2477 – 2482) ระยะน้ีพระเจา้ อยหู่ วั ทรงตาแหน่งสภานายก สภากรรมการกลางจดั การลูกเสือแห่งชาติ และนาวาเอก หลวงศุภชลาศยั รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ และอธิบดีกรมพลศึกษา ดารงตาแหน่ง อุปนายกสภาฯ พ.ศ. 2476 ส่งผแู้ ทนไปร่วมการชุมนุมลูกเสือโลก คร้ังที่ 4 ณ ประเทศฮงั การี โดยมีนายอภยั จนั ทวมิ ล เป็นหวั หนา้ คณะ พ.ศ. 2478 ส่งผแู้ ทนไปร่วมการชุมนุมลูกเสือวสิ ามญั คร้ังท่ี 2 ณ ประเทศสวเี ดน โดยมี นายกอง วสิ ุท ธารมณ์ เป็นหวั หนา้ คณะ
173 พ.ศ. 2480 ส่งผแู้ ทนไปร่วมการชุมนุมลูกเสือโลก คร้ังท่ี 5 ณ ประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยมีนายวทิ ย์ ศิวศรียานนท์ เป็นหวั หนา้ คณะ พ.ศ. 2482 ประกาศใชพ้ ระราชบญั ญตั ิลูกเสือ พ.ศ. 2482 กาหนดใหม้ ีการจดั ต้งั ลูกเสือสมุทรเสนาข้ึน เป็ นคร้ ังแรกในประเทศไทย 3. ยุคประคับประคอง (พ.ศ. 2482 – 2489) ยคุ น้ีเป็นตอนปลายของรัชกาลสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั อานนั ทมหิดล (พ.ศ. 2477 – 2478) และ อยใู่ นระหวา่ งสงครามโลก คร้ังท่ี 2 (พ.ศ. 2482 – 2489) ระยะน้ีการลูกเสือในประเทศไทยไดซ้ บเซาลงไปบา้ ง เน่ืองจากประเทศไทยไดอ้ ยใู่ นภาวะ สงคราม และในปี พ.ศ. 2486 ไดม้ ีพระราชบญั ญตั ิยวุ ชนแห่งชาติ จดั ต้งั องคก์ ารยวุ ชนแห่งชาติ มีการ จดั ต้งั หน่วยยวุ ชนทหาร ซ่ึงมีการฝึกการใชอ้ าวธุ แบบทหาร และไดร้ ับการสนบั สนุนอยา่ งแขง็ แรงจาก รัฐบาลในสมยั น้นั ส่วนกิจการของลูกเสือกย็ งั คงดาเนินการอยแู่ ละในบางจงั หวดั กม็ ีการส่งเสริม กิจการลูกเสืออยา่ งเขม้ แขง็ เช่น จงั หวดั สกลนคร และจงั หวดั อุบลราชธานี กไ็ ดจ้ ดั ให้มีการชุมนุม ลูกเสือข้ึนในระยะน้ี 4. ยุคก้ำวหน้ำ (พ.ศ. 2489 – 2514) เริ่มตน้ ด้วยรัชกาลพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และอาจแบ่งออกได้เป็ น 2 ระยะ คือ (ก) ระยะเริ่มก้ำวหน้ำ (พ.ศ. 2489 – 2503) พ.ศ. 2490 - มีราชบญั ญตั ิยกเลิกพระราชบญั ญตั ิยวุ ชนแห่งชาติ พุทธศกั ราช 2480 พ.ศ. 2496 - เร่ิมดาเนินการสร้างคา่ ยลูกเสือวชิราวธุ โดยใชง้ บประมาณแผน่ ดิน จดั ซ้ือที่ดิน บริเวณหลงั เขาซากแขก ตาบลบางพระ อาเภอศรีราชา จงั หวดั ชลบุรี เน้ือที่ 88 ไร่ 58 ตารางวา ราคา 304,000 บาท พ.ศ. 2497 - มีการชุมนุมลูกเสือแห่งชาติ คร้ังท่ี 3 ณ สนามกีฬาแห่งชาติ จงั หวดั พระนคร มี ลูกเสือและ ผบู้ งั คบั ลูกเสือร่วมชุมนุม 5,155 คน พ.ศ. 2500 - ส่งผแู้ ทนจากประเทศไทยไปร่วมการชุมนุมลูกเสือโลก คร้ังท่ี 9 ณ ประเทศองั กฤษ เพ่ือเฉลิมฉลองอายคุ รบ 100 ปี ของลอร์ดเบเดน โพเอลล์ โดยมีนายสวา่ ง วจิ กั ขณะ เป็นหวั หนา้ คณะ
174 พ.ศ. 2501 - ทาการฝึกอบรมวชิ าผกู้ ากบั ลูกเสือสารอง ข้นั ความรู้เบ้ืองตน้ คร้ังแรก ตามหลกั สูตร ของกิลเวลลป์ าร์ค ท่ีพระตาหนกั อ่างศิลา จงั หวดั ชลบุรี ถือกาเนิดกิจการลูกเสือสารองคร้ังแรกจดั ต้งั กองลูกเสือสารองกองแรกในประเทศไทย เมื่อวนั ท่ี 5 สิงหาคม 2501 - ส่งผแู้ ทนไปร่วมประชุมสมชั ชาลูกเสือภาคตะวนั ออกไกล คร้ังที่ 1 ณ เมืองบาเกียว ประเทศฟิ ลิปปิ นส์ โดยมีนายสวา่ ง วจิ กั ขณะ เป็นหวั หนา้ คณะ พ.ศ. 2502 - ส่งผูแ้ ทนไปร่วมการชุมนุมลูกเสือโลก คร้ังที่ 10 ณ ประเทศฟิ ลิปปิ นส์ นายอดุล สุวรรณบล เป็นหวั หนา้ คณะ พ.ศ. 2503 - เปิ ดการฝึกอบรมวชิ าผกู้ ากบั ลูกเสือสารอง ข้นั วดู แบตจ์ คร้ังท่ี 1 ณ คา่ ยพระ ตาหนกั อ่างศิลา จงั หวดั ชลบุรี - ส่งผแู้ ทนไปร่วมการประชุมสมชั ชาลูกเสือภาคตะวนั ออกไกล คร้ังที่ 2 ณ กรุงแรงกนู ประเทศพม่า โดยมีนายแพทยแ์ สง สุทธิพงษ์ เป็นหวั หนา้ - นายแพทยแ์ สง สุทธิพงษ์ ไดร้ ับเลือกเป็ นกรรมการลูกเสือ ภาคตะวนั ออกไกล เป็น เวลา 4 ปี (พ.ศ.2503 – 2507) (ข) ระยะก้ำวหน้ำ (พ.ศ. 2504 – 2514) โดยเหตุที่คณะลูกเสือแห่งชาติ จะมีอายคุ รบ 40 ปี ในปี พ.ศ. 2504 และผทู้ ี่ไดไ้ ปร่วมการ ประชุมสมชั ชาลูกเสือภาคตะวนั ออกไกล คร้ังท่ี 2 ในประเทศพมา่ เมื่อปี พ.ศ. 2503 กไ็ ดเ้ ห็นวา่ กิจการ ลูกเสือประเทศพม่ากาลงั วางแผนขยายกิจการลูกเสือเป็ นการใหญ่ ท้งั ในปี พ.ศ. 2504 ก็จะมีการ ประชุมสมชั ชา ลูกเสือภาคตะวนั ออกไกล คร้ังที่ 3 ในกรุงเทพฯ ดงั น้นั ผทู้ ี่ส่วนรับผดิ ชอบในกิจการลูกเสือจึงได้ พร้อมใจกนั วางแผนปรับปรุงงานลูกเสือ ซ่ึงไดร้ ับการสนบั สนุนจากรัฐบาลและทุกฝ่ ายเป็นอยา่ งดี ดงั น้นั จึงอาจเรียกไดว้ า่ ระยะน้ีเป็นระยะกา้ วหนา้ ของการลูกเสือในประเทศไทย กล่าวคือ พ.ศ. 2504 - เปิ ดการฝึกอบรมวชิ าผกู้ ากบั ลูกเสือสามญั ข้นั วดู แบดจ์ คร้ังท่ี 1 ณ ค่ายลูกเสือวชิราวธุ - จอมพลสฤษด์ิ ธนะรัชต์ นายกรัฐมนตรี วางศิลาฤกษ์ ศาลาวชิราวธุ จงั หวดั พระนคร เมื่อ วนั ที่ 1 กรกฎาคม 2504 เพอ่ื ใชเ้ ป็นสานกั งานเลขาธิการ ที่พกั ของลูกเสือและร้านลูกเสือ - มีการชุมนุมลูกเสือแห่งชาติ คร้ังท่ี 4 ณ สวนลุมพนิ ี จงั หวดั พระนคร มีลูกเสือและ ผบู้ งั คบั บญั ชาลูกเสือเขา้ ร่วมชุมนุม 5,539 คน กบั มีลูกเสือต่างประเทศเขา้ ร่วมชุมนุมดว้ ย 10 ประเทศ จานวน 348 คน พ.ศ. 2505 - เปิ ดการฝึกอบรมวชิ าผกู้ ากบั ลูกเสือ ข้นั ผใู้ หก้ ารฝึกอบรม คร้ังที่ 9 ของภาคตะวนั ออกไกล ( 9th Far East Training the Team Course) ณ ค่ายลูกเสือวชิราวธุ - พลเอกถนอม กิตติขจร รองนายกรัฐมนตรี เป็ นประธานในพิธีเปิ ดคา่ ยลูกเสือวชิราวธุ เมื่อวนั ท่ี 17 มีนาคม 2503 ค่าก่อสร้างรวมเป็นเงิน 4,300,000 บาท
175 - พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั ภูมิพลอดุลยเดช ทรงประกอบพธิ ีเปิ ดศาลาวชิราวุธ เมื่อวนั ที่ 1 กรกฎาคม 2505 ค่าก่อสร้างรวมเป็นเงิน 1,820,000 บาท - มีการประชุมสมชั ชาลูกเสือภาคตะวนั ออกไกล คร้ังท่ี 3 ศาลาสันติธรรม จงั หวดั พระนคร ระหวา่ งวนั ท่ี 5 – 12 ธนั วาคม 2505 พ.ศ. 2506 - ถือกาเนิดกิจการลูกเสือวสิ ามญั Rover Scouts เป็นคร้ังแรกในประเทศไทย - เปิ ดการฝึกอบรมวชิ าผกู้ ากบั ลูกเสือ ข้นั ผใู้ หก้ ารฝึกอบรม คร้ังที่ 11 ของภาคตะวนั ออกไกล (11th east Training the Term Course”) ณ คา่ ยลูกเสือวชิราวธุ โดยมีนายจอห์น เธอแมน ผบู้ งั คบั การ ค่ายฝึกอบรมกิลเวลลป์ าร์ค มาเป็นผอู้ านวยการฝึกอบรม ดว้ ยตนเอง ระหวา่ งวนั ที่ 21 – 25 พฤษภาคม 2506 - เปิ ดการฝึกอบรมวชิ าผกู้ ากบั ลูกเสือวสิ ามญั ข้นั วดู แบดจ์ คร้ังที่ 1 ณ คา่ ยลูกเสือ วชิราวธุ -สมเดจ็ พระเจา้ ภคินีเธอ เจา้ ฟ้าเพชรรัตน์ราชสุดาสิริโสภา พนั ณวดี ทรงบริจาคเป็ นคา่ ก่อสร้างส่วนพระองคเ์ ป็นเงิน 150,000 บาท - ส่งผแู้ ทนไปร่วมการชุมนุมลูกเสือโลก คร้ังที่ 11 ณ ประเทศกรีซ โดยมี นายเพทาย อมาตยกลุ เป็นหวั หนา้ คณะ พ.ศ. 2507 - ประกาศใชพ้ ระราชบญั ญตั ิลูกเสือ พ.ศ. 2507 (ดูรายละเอียดในเร่ืองโครงสร้างของลูกเสือไทย) -ไดร้ ับงบประมาณ 2,055,000 บาท เพ่ือจดั ซ้ือที่ดินขยายบริเวณคา่ ยลูกเสือวชิราวธุ อีก 306 ไร่ 14 ตารางวา รวมเป็นเน้ือที่คา่ ยลูกเสือวชิราวธุ 394 ไร่ 3 งาน 77 ตารางวา พ.ศ. 2508 - ประชุมสภาลูกเสือแห่งชาติ คร้ังที่ 1 ณ ศาลาสันติธรรม จงั หวดั พระนคร ระหวา่ งวนั ที่ 1 – 3 กรกฎาคม 2508 - จดทะเบียนกองลูกเสือสามญั เหล่าสมุทรกองแรก ณ โรงเรียนสัตหีบ เมื่อวนั ท่ี 7 ธนั วาคม 2508 - มีการชุมนุมลูกเสือแห่งชาติ คร้ังที่ 5 ณ ค่ายลูกเสือวชิราวธุ พ.ศ. 2509 - คณะลูกเสือไทยบริจาคเงินสร้างพุทธศาลา ณ กิลเวลลป์ าร์ค ประเทศองั กฤษ ซ่ึงต่อมา ไดม้ ี พิธีเปิ ดเมื่อวนั ที่ 8 กนั ยายน 2511 - จดทะเบียนกองลูกเสือสามญั เหล่าอากาศกองแรก ณ ศูนยพ์ ฒั นาเครื่องบินเล็ก เมื่อ วนั ที่ 10 พฤศจิกายน 2509 พ.ศ. 2510 - เร่ิมจดั สร้างและประกอบพธิ ีเปิ ดคา่ ยลูกเสือประจาจงั หวดั และอาเภอต่างๆโดย สานกั งานสลากกินแบง่ ฯ ใหเ้ งินอุดหนุนจงั หวดั ละ 100,000 บาท - มีการส่งผแู้ ทนไปร่วมการชุมนุมลูกเสือโลก คร้ังที่ 12 ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา โดย มี นายปัญญา สมบูรณ์ศิลป์ เป็นหวั หนา้
176 พ.ศ. 2511 - พิธีเปิ ดสระวา่ ยน้า “ชาติตระการโกศล” ที่ค่ายลูกเสือวชิราวธุ เม่ือวนั ท่ี 10 พฤษภาคม 2511 สระวา่ ยน้าสร้างดว้ ยเงินบริจาคของสานกั งานสลากกินแบง่ ฯ เป็นเงิน 495,400 บาท พ.ศ. 2512 - มีการชุมนุมแห่งชาติ คร้ังท่ี 6 ณ คา่ ยลูกเสือวชิราวธุ มีการซ้ือท่ีดินเพื่อขยายบริเวณ คา่ ยลูกเสือวชิราวธุ คร้ังท่ี 2 เน้ือท่ี 40 ไร่ 3 งาน 24 ตารางวา ดว้ ยเงินสานกั งานสลากกินแบง่ ฯ 236,010.73 บาท รวมเป็ นเน้ือท่ีคา่ ยลูกเสือวชิราวธุ ท้งั หมด 435 ไร่ 3 งาน 1 ตารางวา พ.ศ. 2514 - มีการชุมนุมลูกเสือแห่งชาติ คร้ังท่ี 7 ณ ค่ายลูกเสือวชิราวธุ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลอง คณะลูกเสือไทย มีอายคุ รบ 60 ปี - เปิ ดการฝึกอบรมวชิ าผกู้ ากบั ลูกเสือ ข้นั ผใู้ หก้ ารฝึกอบรมแห่งชาติ คร้ังท่ี 1 National Trainers’ Coures ณ ค่ายลูกเสือวชิราวธุ 5. ยคุ ถงึ ประชำชน (พ.ศ. 2514 – ปัจจุบนั ) ที่เรียกวา่ ยคุ น้ีเป็ นยคุ ถึงประชาชนน้นั เน่ืองดว้ ยปี 2514 เป็นปี ท่ีมีการฝึกอบรมลูกเสือชาวบา้ น เป็นคร้ังแรกประวตั ิเร่ืองลูกเสือชาวบา้ นอาจสรุปไดโ้ ดยยอ่ ดงั น้ี ในปี พ.ศ. 2514 กองกากบั การตารวจตระเวนชายแดน เขต 4 และสานกั งานศึกษาธิการ 9 จงั หวดั อุดรธานี ไดร้ ่วมมือจดั ใหม้ ีการทดลองฝึกอบรมชาวบา้ น อายตุ ้งั แต่ 15 ปี ข้ึนไป จานวน 115 คน เป็นเวลา 5 วนั ท่ีบา้ นเหล่ากอหก ตาบลแสงพา ก่ิงอาเภอนาแหว้ อาเภอด่านซา้ ย จงั หวดั เลย โดย ใชว้ ธิ ีฝึกอบรมแบบลูกเสือ และใหผ้ เู้ ขา้ รับการฝึกอบรมทุกคนเรียนรู้และปฏิบตั ิตามคาปฏิญาณและ กฎของลูกเสือ แต่ใชห้ ลกั สูตรพิเศษ และเรียกการฝึกอบรมน้ีวา่ การฝึกอบรมลูกเสือชาวบา้ น ปรากฏวา่ การทดลองคร้ังน้ีไดผ้ ลดีมาก เพราะเป็ นการก่อใหเ้ กิดความสามคั คีในหมู่ประชาชน ยดึ มน่ั ในความรักชาติบา้ นเมือง ศาสนา ประเพณีอนั ดีงาม ตลอดจนความมีระเบียบวนิ ยั ความเสยสละ ประโยชน์ส่วนตน และการบาเพญ็ ประโยชน์เพ่ือส่วนรวม กบั ท้งั เป็นการช่วยพฒั นาชุมชน ทาให้ ประชาชนรู้สึกสนุกสนานร่าเริง และเขา้ กบั เจา้ หนา้ ท่ีของรัฐบาลไดด้ ียงิ่ ข้ึนดว้ ย ต่อมาไดม้ ีการฝึกอบรมลูกเสือชาวบา้ นข้ึนตามตาบลต่างๆ ในจงั หวดั เลย หนองคาย อุดรธานี นครพนม ร้อยเอด็ อุบลราชธานี ปราจีนบุรี พทั ลุง และไดม้ ีการปรับปรุงแกไ้ ขหลกั สูตร ตลอดจน วธิ ีการฝึกอบรมลูกเสือชาวบา้ นใหด้ ียง่ิ ข้ึนเป็ นลาดบั มา ซ่ึงปรากฏวา่ การฝึกอบรมลูกเสือชาวบา้ น ไดผ้ ลดีมาก และอยใู่ นความนิยมของประชาชนตลอดมา ในปี พ.ศ. 2515 พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ไดเ้ สด็จไปทอดพระเนตรการฝึกอบรมลูกเสือ ชาวบา้ น ที่กองกากบั การตารวจตระเวนชายแดน เขต 4 จงั หวดั อุดรธานี ทรงเป็ นท่ีพอพระราชหฤทยั และทรงรับกิจการลูกเสือชาวบา้ นไวใ้ นพระบรมราชูปถมั ภ์ กบั ไดท้ รงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ พระราชทานผา้ ผกู คอลูกเสือชาวบา้ น พร้อมดว้ ยห่วงสวมผา้ ผกู คอแก่ประชาชน ผสู้ าเร็จการ ฝึกอบรมลูกเสือชาวบา้ นทุกคน นอกจากน้นั ยงั ไดท้ รงพระราชทานพระราชทรัพย์ ส่วนพระองคเ์ ป็น
177 ทุนในการริเริ่มดาเนินการน้ีเป็นเงิน 100,000 บาท ใหก้ องกากบั การตารวจตระเวนชายแดน เขต 3, 4 รับไปดาเนินการ และมีพระราชประสงคใ์ หก้ ารฝึกอบรมลูกเสือชาวบา้ นแพร่หลายไปทุกจงั หวดั ในวนั ที่ 4 กรกฎาคม 2518 สภาลูกเสือแห่งชาติพิจารณาเห็นวา่ กิจการลูกเสือชาวบา้ นเป็ น ประโยชน์แก่บา้ นเมืองและการพฒั นาชุมชน จึงไดต้ กลงกบั กิจการลูกเสือชาวบา้ นเขา้ เป็นเขา้ เป็ นส่วน หน่ึงของคณะลูกเสือแห่งชาติ และในวนั เดียวกนั น้นั รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงศึกษาธิการ ซ่ึงเป็ น ประธานคณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ ไดอ้ อกคาสั่งแต่งต้งั ใหผ้ วู้ า่ ราชการจงั หวดั ซ่ึงเป็น ผอู้ านวยการลูกเสือจงั หวดั ซ่ึงเป็นผอู้ านวยการลูกเสือจงั หวดั เป็นผอู้ านวยการลูกเสือชาวบา้ น จงั หวดั โดยตาแหน่ง กบั ใหม้ ีอานาจแตง่ ต้งั เจา้ หนา้ ที่ตามสมควร ปรากฏวา่ ในปี 2518 ไดม้ ีการฝึกอบรมลูกเสือชาวบา้ นครบทุกจงั หวดั สมกบั พระราชประสงค์ แลว้ นบั จานวนรุ่นถึงปลายเดือนตุลาคม 2518 ได้ 1,736 รุ่น มีผเู้ ขา้ รับการฝึกอบรมลูกเสือชาวบา้ น แลว้ ท้งั สิ้น จานวน 460,436 คน และยงั มีการเปิ ดการฝึกอบรมลูกเสือชาวบา้ นเพมิ่ ข้ึนเป็นเน่ืองๆ นอกจากกิจการลูกเสือชาวบา้ น เหตุการณ์สาคญั เก่ียวกบั การลูกเสือท่ีเกิดข้ึนในระยะน้ี คือ พ.ศ. 2514 – มีการส่งผแู้ ทนไปร่วมการชุมนุมลูกเสือโลก คร้ังท่ี 13 ณ ประเทศญี่ป่ ุน โดยมี นายสวา่ ง วจิ กั ขณะ เป็นหวั หนา้ คณะ พ.ศ. 2515 – มีการสัมมนาเจา้ หนา้ ที่ลูกเสือระจาสานกั งาน National Headquarter Semenar ณ คา่ ยลูกเสือวชิราวธุ พ.ศ. 2516 - กระทรวงศึกษาธิการมีคาสัง่ ลงวนั ที่ 4 เมษายน 2516 ใหว้ ชิ าลูกเสือเขา้ อยใู่ นหลกั สูตร ของโรงเรียน - พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ทรงประกอบพิธีเปิ ดพระบรมรูปพระบาทสมเดจ็ พระ มงกุฎเกลา้ เจา้ อยหู่ วั ณ บริเวณดา้ นหนา้ ค่ายลูกเสือวชิราวุธ ในวนั ท่ี 23 พฤศจิกายน 2516 และทรง ประกอบพธิ ีเปิ ดการชุมนุมลูกเสือ แห่งชาติ คร้ังที่ 8 ณ ค่ายลูกเสือวชิราวธุ ระหวา่ งวนั ที่ลูกเสือและ ผบู้ งั คบั บญั ชาลูกเสือร่วมชุมนุมจากต่างประเทศ รวม 256 คน พ.ศ. 2518 ส่งผแู้ ทนไปร่วมชุมนุมลูกเสือโลก คร้ังที่ 14 ณ ประเทศ นอร์เว พ.ศ. 2519 ส่งผแู้ ทนไปร่วมการประชุมสมชั ชาลูกเสือ เขตเอเชียแปซิฟิ ก คร้ังที่ 10 ณ กรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน โดยมีนายแพทยบ์ ุญสม มาร์ติน เป็นหวั หนา้ คณะ นายจิตร ทงั สุบุตร ไดร้ ับ Bronza Wolf จากกรรมการลูกเสือโลก นายแพทยบ์ ุญสม มาร์ติน ไดร้ ับเลือกเป็นกรรมการลูกเสือเอเชียแปซิฟิ ก เป็นเวลา 4 ปี (2519 – 2523)
178 คณะลูกเสือแห่งชาติ ซ้ือท่ีดินขยายคา่ ยลูกเสือวชิราวธุ คร้ังท่ี 3 เน้ือที่ 33 ไร่ 2 งาน 82 ตารางวา เป็นเงิน 505,575 บาท ทอดกฐินคณะลูกเสือแห่งชาติ คร้ังท่ี 6 ณ วดั ตะเคียน จงั หวดั อ่างทอง จดั ต้งั สมาคมสโมสรลูกเสือวสิ ามญั แห่งประเทศไทย เม่ือวนั ที่ 12 เมษายน 2519 พ.ศ. 2520 ชุมนุมลูกเสือแห่งชาติ คร้ังท่ี 9 ณ คา่ ยลูกเสือวชิราวธุ ส่งผแู้ ทนไปร่วมการประชุมสมชั ชาลูกเสือโลก คร้ังท่ี 26 ณ เมืองมอนทรีออล ประเทศ แคนาดาโดยมีนายอภยั จนั ทวมิ ล เป็นหวั หนา้ คณะ ทอดกฐินคณะลูกเสือแห่งชาติ คร้ังท่ี 7 ณ วดั บา้ นหลวง จงั หวดั นครปฐม มีการชุมนุมลูกเสือวสิ ามญั คร้ังที่ 4 ณ จงั หวดั ขอนแก่น พ.ศ. 2521 ส่งผแู้ ทนไปร่วมการประชุมลูกเสือเอเชียแปซิฟิ ก ท่ีฮอ่ งกงโดยมีพลโทเยยี่ ม อินทรกาแหง เป็นหวั หนา้ คณะ คณะลูกเสือแห่งชาติ ซ้ือที่ดินขยายคา่ ยลูกเสือวชิราวธุ คร้ังท่ี 4 เน้ือที่ 28 ไร่ 2 งาน 89 ตารางวา เป็นเงิน 831,562.50 บาท รวมเน้ือทีท้งั หมดของค่ายลูกเสือวชิราวธุ ในปี 2522 มี 498 ไร่ 67 ตารางวา ค่าซ้ือท่ีดินรวม 5 คร้ัง เป็นเงิน 3,952,148.23 บาท ทอดกฐินคณะลูกเสือแห่งชาติ คร้ังท่ี 8 ณ วดั นาควชิ ยั จงั หวดั มหาสารคาม พ.ศ. 2522 ส่งผแู้ ทนไปร่วมการประชุมสมชั ชาลูกเสือโลก คร้ังที่ 27 ณ เมืองเบอมิงแฮม ประเทศ องั กฤษ โดยมีนายแพทยบ์ ุญสม มาร์ติน เป็ นหวั หนา้ คณะ นายสุทศั น์ เมาลีกลุ ไดร้ ับแต่งต้งั เป็ นผตู้ รวจการลูกเสือฝ่ ายประสานงาน ประจาสานกั งาน ลูกเสือโลกเขตเอเชียแปซิฟิ ก ต้งั แต่วนั ที่ 2 มกราคม ถึง 31 ธนั วาคม 2522 ทอดกฐินคณะลูกเสือแห่งชาติ คร้ังท่ี 9 ณ วดั บางกุง้ จงั หวดั สมุทรสงคราม มีงานชุมนุมลูกเสือวสิ ามญั คร้ังที่ 5 ณ จงั หวดั เชียงใหม่ พ.ศ. 2523 ส่งผแู้ ทนไปร่วมการประชุมสมชั ชาลูกเสือเขตเอเชียแปซิฟิ ก คร้ังที่ 14 ท่ีเมืองเมลเบอร์น ประเทศออสเตรเลียโดยมีนายแพทยบ์ ุญสม มาร์ตินเป็นหวั หนา้ คณะ พลโทเยย่ี ม อินทรกาแหง ไดร้ ับเลือกเป็ นกรรมการลูกเสือเขตเอเชียแปซิฟิ ก เป็นเวลา 2 ปี (2523-2525) นายกอง วสิ ุทธารมณ์ ไดร้ ับ Bronze Wolf จากกรรมการลูกเสือโลก
179 มีการชุมนุมลูกเสือแห่งชาติ คร้ังท่ี 10 ระหวา่ งวนั ท่ี 28 ธนั วาคม 2523 - 3 มกราคม 2524 เพ่อื เป็ นการเฉลิมฉลองวนั พระบรมราชสมภพครบ 100 ปี ของพระบาสมเด็จพระมงกุฎเกลา้ เจา้ อยหู่ วั ทอดกฐินคณะลูกเสือแห่งชาติ คร้ังที่ 10 ณ วดั อมั พา จงั หวดั ชยั ภูมิ พ.ศ. 2524 ส่งผแู้ ทนไปรวมประชุมสมชั ชาลูกเสือโลก คร้ังท่ี 28 ณ กรุงดาคาร์ ประเทศเซเนกลั นายแพทยบ์ ุญสม มาร์ติน ไดร้ ับเลือกเป็ นกรรมการลูกเสือโลก เป็นเวลา 6 ปี (224-2530) ประกาศใชแ้ ผนการฝึกอบรมลูกเสือเหล่าสมุทร (ฉบบั ท่ี 11) พ.ศ. 2524 และแผนการ ฝึกอบรมลูกเสือเหล่าอากาศ (ฉบบั ท่ี 12) พ.ศ. 2524 มีการสัมนานานาชาติ วา่ ดว้ ยการลูกเสือสาหรับเด็กพกิ าร ณ เมืองฮ่องกง และคณะลูกเสือ ไทยไดส้ ่งผแู้ ทนไปร่วมประชุมดว้ ย โดยมี ดร.สาอาง พว่ งบุตรเป็ นหวั หนา้ คณะ ทอดกฐินคณะลูกเสือแห่งชาติคร้ังท่ี 11 ณ วดั แกว้ โพธาราม จงั หวดั กระบ่ี มีงานชุมนุมลูกเสือสามญั แห่งชาติ คร้ังที่ 6 ณ คา่ ยสุรนารี จงั หวดั นครราชสีมา ระหวา่ งวนั ท่ี 15-19 ตุลาคม 2524 พ.ศ. 2525 มีการชุมนุมผบู้ งั คบั บญั ชาลูกเสือแห่งชาติ คร้ังท่ี 1 ระหวา่ งวนั ที่ 1- 22 กุมภาพนั ธ์ 2525 ณ ค่ายลูกเสือวชิราวธุ จงั หวดั ชลบุรี ส่งผแู้ ทนไปร่วมการประชุมสมชั ชาลูกเสือเขตเอเชียแปซิฟิ ก คร้ังท่ี 15 กรุงจาร์กาตา้ ประเทศ อินโดเซียโดยมีนายสาอาง พว่ งบุตร เลขาธิการคณะกรรมการลูกเสือแห่งชาติ เป็นหวั หนา้ คณะ นายสาอาง พว่ งบุตร ไดร้ ับเลือกเป็นกรรมการลูกเสือเขตเอเชียแปฟิ ก เป็นเวลา 4 ปี (2525- 2529) ประกาศใชข้ อ้ บงั คบั คณะลูกเสือแห่งชาติวา่ ดว้ ยการปกครอง หลกั สูตรและวชิ าพิเศษลูกเสือ สามญั (ฉบบั ท่ี 13)พ.ศ. 2515 มีการฝีกอบรมวชิ าผกู้ ากบั ลูกเสือ ข้นั หวั หนา้ ผใู้ หก้ ารฝึกอบรม (แอล.ที.ซี) คร้ังที่ 7 ระหวา่ ง วนั ท่ี 6-12 สิงหาคม 2525 ณ ค่ายลูกเสือวชิราวธุ ทอดกฐินคณะลูกเสือแห่งชาติ คร้ังที่ 12 ณ วดั คูหาภิมุข อาเภอเมืองยะลา จงั หวดั ยะลา มีการชุมนุมผบู้ งั คบั บญั ชาลูกเสือวสิ ามญั คร้ังท่ี 1 ณ ค่ายพระแทน่ ดงรัง อาเภอท่ามะกา จงั หวดั กาญจนบุรี พ.ศ. 2526 ส่งผแู้ ทนไปร่วมการประชุมสมชั ชาลูกเสือโลกคร้ังท่ี 29 ณ เมืองเดียร์บอม รัฐมิซิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกาโดยมีนายสาอาง พว่ งบุตร เลขาธิการฯ เป็ นหวั หนา้ คณะ
180 มีการชุมนุมลูกเสือสามญั ร่นใหญแ่ ห่งชาติ คร้ังที่ 7 ณ ค่ายมฤคทายวนั อาเภอชะอา จงั หวดั เพชรบุรี ระหวา่ งวนั ท่ี 1-5 พฤศจิกายน 2526 มีการฝึกอบรมข้นั หวั หนา้ ใหก้ ารฝึกอบรม (แอล.ที.ซี) คร้ังที่ 8 ระหวา่ งวนั ท่ี 20-26 พฤษภาคม 2526 ณ ค่ายลูกเสือวชิราวธุ พ.ศ. 2527 ประชุมสมั มนาลูกเสือโลกเขตเอเชียแปซิฟิ ก วา่ ดว้ ยการประชาสมั พนั ธ์คร้ังท่ี 3 และการ ประชุมเชิงวชิ าการลูกเสือนานาชาติ วา่ ดว้ ยการฝึกอบรมลูกเสือและผบู้ งั คบั บญั ชาลูกเสือ ระหวา่ ง วนั ท่ี 26-30 มิถุนายน 2527 ส่งคณะผแู้ ทนลูกเสือไทยเขา้ ร่วมการชุมนุมลูกเสือโลก คร้ังที่ 15 ณ ประเทศแคนาดา ส่งผแู้ ทนลูกเสือไทยเขา้ ร่วมงานชุมนุมลูกเสือพกิ าร ท่ีกรุงโตเกียว ประเทศญ่ีป่ ุน ส่งผแู้ ทนลูกเสือเขา้ ร่วมงานชุมนุมลูกเสืออิสลาม ณ ประเทศลิเบีย ส่งคณะผแู้ ทนลูกเสือไทยไปร่วมประชุมสมชั ชาลูกเสือโลก ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา ส่งผแู้ ทนลูกเสือไทยเขา้ ประชุมคณะทางานของสานกั งานลูกเสือโลกเขตเอเชียแปซิฟิ ก ณ ประเทศฟิ ลิปปิ นส์ ส่งผแู้ ทนเขา้ ร่วมสัมมนาการใชย้ าเสพยต์ ิดในทางท่ีผดิ ณ ประเทศสิงคโปร์ ส่งผแู้ ทนคณะลูกเสือไทยไปร่วงงานฉลองครบรอบ 100 ปี ของสมาคมลูกเสือแอฟริกาใต้ ณ เมืองมาฟอีคิง จดั ส่งคณะผบู้ งั คบั บญั ชาลูกเสือเขา้ ร่วมงานชุมนุมลูกเสือวสิ ามญั แห่งชาติเกาหลี ระหวา่ งวนั ท่ี 6-13 สิงหาคม 2527 ณ ประเทศเกาหลีใต้ ศจ.นพ.บุญสม มาร์ติน กรรมการลูกเสือโลก เดินทางไปร่วมการประชุมคณะกรรมการ ลูกเสือโลก ระหวา่ งวนั ที่ 29-30 กนั ยายน 2527 ณ ประเทศสวติ เซอร์แลนด์ พ.ศ. 2528 จดั งานชุมนุมลูกเสือโลกเขตเอเชียแปซิฟิ ก คร้ังที่ 9 และงานชุมนุมลูกเสือแห่งชาติ คร้ังท่ี 11 ระหวา่ งวนั ท่ี 21-27 พฤศจิกายน 2528 ณ ค่ายลูกเสือวชิราวธุ อาเภอศ่รีราชา จงั หวดั ชลบุรี ส่งคณะผแู้ ทนลูกเสือไทยเขา้ ร่วมการประชุมสมชั ชาลูกเสือโลก คร้ังท่ี 30 ระหวา่ งวนั ที่ 15- 19 กรกฎาคม 2528 ณ สหพนั ธ์สาธารฯรัฐเยอรมนั จดั การประชุมสัมมนาเดียวกบั การฝึกอบรมผบู้ งั คบั บญั ชาลูกเสือเขตเอเชียแปซิฟิ ก ระหวา่ ง วนั ที่ 19-20 พฤศจิกายน 2528 ณ โรงแรมซีววิ เมืองพทั ยา จงั หวดั ชลบุรี พ.ศ. 2529 จดั การประชุมสมชั ชาลูกเสือเขตเอเชียแปซิฟิ ก คร้ังที่ 15 ระหวา่ งวนั ท่ี 21-26 พฤศจิกายน 2529 ณ โรงแรมแกรนดพ์ าเลซ เมืองพทั ยา จงั หวดั ชลบุรี
181 พ.ศ.2530 จดั โครงการกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติถวายลน้ เกลา้ ฯ ร.9 โดยปลูกตน้ สักจานวน 100,000 ตน้ ทุกเขตการศึกษา จดั สร้างพระบรมอนุสาวรีย์ รัชกาลที่ 6 ณ คา่ ยหลวงบา้ นไร่ อาเภอโพธาราม จงั หวดั ราชบุรี จดั ส่งผแู้ ทนคณะลูกเสือไทยเขา้ ร่วมชุมนุมลูกเสือโลก คร้ังท่ี 16 ณ ประเทศออสเตรเลีย จดั ทาพระราชบญั ญตั ิลูกเสือ (ฉบบั ที่ 4)พ.ศ. 2530 ซ่ึงพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั ไดท้ รง ปรมาภิไธยแลว้ เม่ือวนั ที่ 28 พฤศจิกายน 2530
3.โครงสร้ำงกำรบริหำรลกู เสือแห่งชำติ 182 โครงสร้ำงคณะลกู เสือแห่งชำติ กรรมกำรผ้ทู รงคณุ วฒุ ิ พระประมขุ คณะลกู เสือแหง่ ชำติ สภำลกู เสอื ไทย ผ้ตู รวจกำรลกู เสอื คณะกรรมกำรบริหำรลกู เสอื แหง่ ชำติ คณะกรรมกำรลกู เสอื จงั หวดั คณะกรรมกำรลกู เสอื เขตพนื ้ ท่กี ำรศกึ ษำ สำนกั งำนลกู เสอื แหง่ ชำติ สำนกั งำนลกู เสอื จงั หวดั สำนกั งำนลกู เสอื เขตพนื ้ ทก่ี ำรศกึ ษำ สถำนศกึ ษำ สถำนศกึ ษำ สถำนศกึ ษำ สโมสรลกู เสอื สโมสรลกู เสอื สโมสรลกู เสอื กำรบริหำรงำนของคณะลูกเสือแห่งชำติ สภำลกู เสือไทย ตามพระราชบญั ญตั ิลูกเสือ พ.ศ.2551 (2551) กาหนดใหส้ ภาลูกเสือไทยประกอบดว้ ย (1) นายกรัฐมนตรี เป็นสภานายก (2) รองนายกรัฐมนตรี เป็นอุปนายก (3) กรรมการโดยตาแหน่ง ไดแ้ ก่ รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงศึกษาธิการ รัฐมนตรีวา่ การ กระทรวงกลาโหม รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทย ปลดั สานกั นายกรัฐมนตรี ปลดั กระทรวง ศึกษาธิการ ปลดั กระทรวงกลาโหม ปลดั กระทรวงมหาดไทย ปลดั กระทรวงการพฒั นาสังคมและ ความมนั่ คงของมนุษย์ ผบู้ ญั ชาการทหารสูงสุด ผบู้ ญั ชาการทหารบก ผบู้ ญั ชาการทหารเรือ ผบู้ ญั ชาการทหารอากาศ ผูบ้ ญั ชาการตารวจแห่งชาติ เลขาธิการสภาการศึกษา เลขาธิการ คณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา เลขาธิการ คณะกรรมการการอาชีวศึกษา เลขาธิการสภากาชาดไทย อธิบดีกรมการปกครอง
183 อธิบดีกรมการปกครองทอ้ งถ่ิน ผวู้ า่ ราชการกรุงเทพมหานคร ผวู้ า่ ราชการจงั หวดั และผอู้ านวยการ ศูนยป์ ฏิบตั ิการลูกเสือชาวบา้ น (4) กรรมการผทู้ รงคุณวฒุ ิจานวนไม่เกินแปดสิบคนซ่ึงทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ แตง่ ต้งั ตามพระราชอธั ยาศยั ใหเ้ ลขาธิการสานกั งานลูกเสือแห่งชาติ เป็นกรรมการและเลขานุการ รองเลขาธิการและ ผชู้ ่วยเลขาธิการสานกั งานลูกเสือแห่งชาติ เป็นผชู้ ่วยเลขานุการ สภาลูกเสือไทยอาจมีสภานายกกิตติมศกั ด์ิ อุปนายกกิตติมศกั ด์ิ และกรรมการกิตติมศกั ด์ิ ซ่ึงจะไดท้ รงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ แตง่ ต้งั สภาลูกเสือไทยมีอานาจหนา้ ที่ดงั ต่อไปน้ี (1) วางนโยบายเพ่ือความมน่ั คงและความเจริญกา้ วหนา้ ของคณะลูกเสือแห่งชาติ (2) ใหค้ าแนะนาในการปฏิบตั ิงานของคณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ (3) พจิ ารณารายงานประจาปี ของคณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ คณะกรรมกำรบริหำรลกู เสือแห่งชำติ คณะกรรมการบริ หารลูกเสื อแห่ งชาติซ่ึ งเป็ นองค์กรบริ หารของคณะลูกเสื อแห่ งชาติ ประกอบดว้ ย (1) รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานกรรมการ (2) กรรมการโดยตาแหน่งไดแ้ ก่ ปลดั กระทรวงศึกษาธิการและปลดั กระทรวงมหาดไทย เป็ นรองประธานกรรมการ เลขาธิการสภาการศึกษา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เลขาธิการ สภากาชาดไทย อธิบดีกรมการปกครอง อธิบดีกรมการปกครองท้องถิ่น ผู้ว่าราชการ กรุงเทพมหานคร ผวู้ า่ ราชการจงั หวดั และผอู้ านวยการศูนยป์ ฏิบตั ิการลูกเสือชาวบา้ น (3) กรรมการผทู้ รงคุณวุฒิจานวนไม่เกินสิบห้าคน ซ่ึงสภานายกสภาลูกเสือไทยแต่งต้งั โดยคาแนะนาของกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติตาม(1) และ(2) ซ่ึงในจานวนน้ีต้องมาจาก ภาคเอกชนไมน่ อ้ ยกวา่ ก่ึงหน่ึง ให้เลขาธิการสานกั งานลูกเสือแห่งชาติ เป็ นกรรมการเลขานุการ รองเลขาธิการและผชู้ ่วย เลขาธิการสานกั งานลูกเสือแห่งชาติ เป็นผชู้ ่วยเลขานุการ กรรมการผทู้ รงคุณวฒุ ิตาม (3) มีวาระการดารงตาแหน่งคราวละสี่ปี และอาจไดร้ ับแต่งต้งั อีก ได้ แต่จะแต่งต้งั ติดต่อกนั เกินสองวาระมิได้ ในกรณีที่กรรมการตามวรรคหน่ึงพน้ จากตาแหน่งก่อนครบวาระ ให้ดาเนินการแต่งต้งั กรรมการใหม่ภายในเกา้ สิบวนั นบั แต่วนั ที่กรรมการพน้ จากตาแหน่ง และให้ผซู้ ่ึงไดร้ ับแต่งต้งั อยูใ่ น ตาแหน่งเพียงเท่าวาระท่ีเหลืออยขู่ องผูซ้ ่ึงตนแทน แต่ถา้ วาระการดารงตาแหน่งเหลืออยนู่ อ้ ยกวา่ หน่ึง ร้อยแปดสิบวนั จะไม่ดาเนินการแตง่ ต้งั แทนก็ได้
184 คณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติมีอานาจหนา้ ท่ี ดงั ต่อไปน้ี (1) ดาเนินการตามวตั ถุประสงคข์ องคณะลูกเสือแห่งชาติและตามนโยบายของ สภาลูกเสือไทย (2) ส่งเสริมความสมั พนั ธ์กบั คณะลูกเสือนานาชาติ (3) สนบั สนุนและส่งเสริมใหม้ ีการพฒั นาบุคลากรทางการลูกเสือ (4) สนบั สนุนใหม้ ีการจดั กิจกรรมอยา่ งตอ่ เนื่อง (5) จดั การทรัพยส์ ินของสานกั งานลูกเสือแห่งชาติ (6) ใหค้ วามเห็นชอบในการลงทุนเพือ่ ประโยชนข์ องสานกั งานลูกเสือแห่งชาติ (7) ออกขอ้ บงั คบั ของคณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติตามที่ระบุไวใ้ นพระราชบญั ญตั ิ น้ีโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา (8) วางระเบียบและแนวทางปฏิบตั ิเก่ียวกบั กิจการลูกเสือ (9) จดั ทารายงานประจาปี เสนอสภาลูกเสือไทยพจิ ารณาตามมาตรา 12(3) (10) แต่งต้งั ที่ปรึกษาคณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ (11) แต่งต้งั คณะอนุกรรมการเพอ่ื พิจารณาหรือปฏิบตั ิการตามที่คณะกรรมการบริหารลูกเสือ แห่งชาติมอบหมาย (12) กากบั ดูแล สนบั สนุนและส่งเสริมกิจการลูกเสือชาวบา้ น (13) จดั ต้งั ตาแหน่งกิตติมศกั ด์ิ และตาแหน่งอื่นใดท่ีมิไดร้ ะบุไวพ้ ระราชบญั ญตั ิ (14) ปฏิบตั ิการอื่นใดตามท่ีกฎหมายกาหนดใหเ้ ป็ นอานาจหนา้ ท่ีของคณะกรรมการบริหาร ลูกเสือแห่งชาติหรือตามที่คณะรัฐมนตรีมอบหมาย สำนักงำนลูกเสือแห่งชำติ สานักงานลูกเสือแห่งชาติเป็ นหน่วยงานของรัฐที่ไม่เป็ นส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจตาม กฎหมายวา่ ดว้ ยวิธีการงบประมาณหรือกฎหมายอื่น สานกั งานลูกเสือแห่งชาติมีฐานะเป็ นนิติบุคคล และอยใู่ นกากบั ของกระทรวงศึกษาธิการ การแบ่งส่ วนงานภายในของสานักงานลูกเสื อแห่ งชาติให้เป็ นไปตามข้อบังคับ คณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ ในการดาเนินการของสานักงานลูกเสือแห่งชาติให้รัฐมนตรีแต่งต้งั รองปลัดกระทรวง ศึกษาธิการคนหน่ึงทาหนา้ ที่เลขาธิการสานกั งานลูกเสือแห่งชาติ และแต่งต้งั ผูบ้ ริหารระดบั สูงอ่ืนใน กระทรวงศึกษาธิการทาหน้าท่ีรองเลขาธิการและผูช้ ่วยเลขาธิการตามจานวนท่ีเหมาะสม โดยการ เสนอของเลขาธิการสานกั งานลูกเสือแห่งชาติ สานักงานลูกเสือแห่งชาติมีอานาจหน้าท่ีดาเนินการตามวตั ถุประสงค์ของคณะลูกเสือ แห่งชาติและตามนโยบายของสภาลูกเสือไทยรวมท้งั มีอานาจหนา้ ที่ดงั ตอ่ ไปน้ี
185 (1) ถือกรรมสิทธ์ิหรือสิทธิครอบครองในทรัพยส์ ินของคณะลูกเสือแห่งชาติหรือดาเนินการ ใดๆ เกี่ยวกบั ทรัพยส์ ิน (2) ทานิติกรรมสัญญาหรือขอ้ ตกลงอ่ืน (3) รับผดิ ชอบการดาเนินงานของคณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ (4) ควบคุมดูแลกิจการลูกเสือให้เป็ นไปตามกฎหมาย ขอ้ บงั คบั และระเบียบของทางราชการ และคณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ รวมท้งั ถูกตอ้ งตามแบบธรรมเนียมของลูกเสือ (5) จดั ใหม้ ีการฝึกอบรมหรือการชุมนุมลูกเสือ ผบู้ งั คบั บญั ชาลูกเสือและเจา้ หนา้ ท่ีลูกเสือ (6) จดั ทารายงานประจาปี พร้อมงบดุลเสนอคณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ (7) จดั ใหม้ ีทะเบียนและสถิติตา่ งๆเก่ียวกบั ลูกเสือ (8) ประสานและส่งเสริมสานกั งานลูกเสือจงั หวดั และสานกั งานลูกเสือเขตพ้นื ที่การศึกษา (9) ปฏิบตั ิหน้าท่ีตามท่ีกาหนดไวใ้ นขอ้ บงั คบั และตามมติของคณะกรรมการบริหารลูกเสือ แห่งชาติ คณะกรรมกำรลกู เสือจังหวดั และสำนักงำนลกู เสือจังหวดั ในแต่ละจงั หวดั ใหจ้ ดั ระเบียบการปกครองลูกเสือตามเขตจงั หวดั สาหรับการจดั ระเบียบการปกครองลูกเสือในกรุงเทพมหานครและองค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่นท่ีมีกฎหมายจัดต้ังเป็ นรูปแบบพิเศษให้เป็ นไปตามท่ีกาหนดไวใ้ นกฎกระทรวงโดยมี คณะกรรมการลูกเสือจงั หวดั ประกอบดว้ ย (1) ผวู้ า่ ราชการจงั หวดั เป็นประธานกรรมการ (2) กรรมการโดยตาแหน่ง ไดแ้ ก่ รองผวู้ า่ ราชการจงั หวดั เป็นรองประธานกรรมการ ปลดั จงั หวดั นายกเหล่ากาชาดจงั หวดั ผบู้ งั คบั การตารวจภูธรจงั หวดั นายกองคก์ ารส่วนบริหาร จงั หวดั นายอาเภอ นายกเทศมนตรี นายกสมาคมการศึกษาเอกชนจงั หวดั และผอู้ านวยการ สานกั งานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา (3) กรรมการประเภทผแู้ ทนจานวนหา้ คน ไดแ้ ก่ ผแู้ ทนสถาบนั อุดมศึกษา ผแู้ ทนสถานศึกษา อาชีวศึกษา ผแู้ ทนค่ายลูกเสือจงั หวดั แทนสมาคมหรือสโมสรลูกเสือ และผแู้ ทนจากลูกเสือชาวบา้ น ซ่ึงเลือกกนั เองกลุ่มละหน่ึงคน (4) กรรมการผทู้ รงคุณวฒุ ิจานวนไม่เกินสิบคน ซ่ึงประธานกรรมการแตง่ ต้งั โดยคานานาของ กรรมการลูกเสือจงั หวดั ตาม(2)และ(3) ในจานวนน้ีจะตอ้ งแต่งต้งั จากภาคเอกชนไมน่ อ้ ยกวา่ ก่ึงหน่ึง ใหผ้ อู้ านวยการสานกั งานเขตพ้ืนการศึกษาเขต 1 เป็นกรรมการและเลขานุการ ใหผ้ อู้ านวยการศูนยก์ ารศึกษานอกโรงเรียนจงั หวดั เป็นกรรมการและผชู้ ่วยเลขานุการ หลกั เกณฑแ์ ละวธิ ีการในการเลือกกรรมการตาม (3) ใหเ้ ป็นไปตามขอ้ บงั คบั คณะกรรมการ บริหารลูกเสือแห่งชาติ
186 คณะกรรมการลูกเสือจงั หวดั มีอานาจหนา้ ท่ีภายในเขตจงั หวดั ดงั ต่อไปน้ี (1) ควบคุมดูแลกิจการลูกเสือใหเ้ ป็นไปตามกฎหมาย ขอ้ บงั คบั และระเบียบของทางราชการ และคณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ (2) ส่งเสริมและสนบั สนุนความมนั่ คงและความเจริญกา้ วหนา้ ของกิจการลูกเสือ (3) สนบั สนุนและส่งเสริมใหม้ ีการพฒั นาบุคลากรทางการลูกเสือ (4) ควบคุมดูแลทรัพยส์ ินในกิจการลูกเสือจงั หวดั (5) พิจารณาคาขอการจดั ต้งั คา่ ยลูกเสือตามมาตรา 32 (6) พจิ ารณารายงานประจาปี ของสานกั งานลูกเสือจงั หวดั (7) ใหค้ วามเห็นชอบแผนปฏิบตั ิการประจาปี (8) ใหค้ าแนะนาผอู้ านวยการลูกเสือเขตพ้ืนท่ีการศึกษาในการปฏิบตั ิงานลูกเสือ (9) จดั ใหม้ ีทะเบียนและสถิติตา่ งๆเกี่ยวกบั การดาเนินกิจการลูกเสือ (10) ออกระเบียบปฏิบตั ิเกี่ยวกบั กิจการลูกเสือ เพื่อความเหมาะสมแก่การปกครองในจงั หวดั ซ่ึงจะตอ้ งไม่ขดั แยง้ กบั กฎหมาย ขอ้ บงั คบั และระเบียบของทางราชการและคณะกรรมการบริหาร ลูกเสือแห่งชาติ (11) จดั ทารายงานประจาปี และรายงานท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั กิจการลูกเสือในจงั หวดั เสนอต่อคณะ กรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ (12) แตง่ ต้งั คณะอนุกรรมการเพือ่ ดาเนินการอยา่ งหน่ึงอยา่ งใด ตามที่คณะกรรมการลูกเสือ จงั หวดั มอบหมาย (13) ปฏิบตั ิงานอื่นตามท่ีคณะกรรมการลูกเสือจงั หวดั มอบหมาย ใหม้ ีสานกั งานลูกเสือจงั หวดั อยใู่ นสานกั งานเขตพ้ืนที่การศึกษาเขต 1 โดยมีผอู้ านวยการ สานกั งานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาเขต 1 เป็ นหวั หนา้ สานกั งานลูกเสือจงั หวดั บงั คบั บญั ชาและรับผดิ ชอบ การดาเนินงานของสานกั งานลูกเสือจงั หวดั และใหผ้ อู้ านวยการศูนยก์ ารศึกษานอกโรงเรียนจงั หวดั เป็นผชู้ ่วยหวั หนา้ สานกั งานลูกเสือจงั หวดั คณะกรรมกำรลกู เสือเขตพืน้ ทก่ี ำรศึกษำ สานกั งานลูกเสือเขตพ้ืนที่การศึกษา มีคณะกรรมการลูกเสือเขตพ้ืนที่การศึกษา ประกอบดว้ ย (1) ผอู้ านวยการสานกั งานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา เป็นประธนกรรมการ (2) กรรมการโดยตาแหน่ง ไดแ้ ก่ ผกู้ ากบั การสถานีตารวจภูธรของทุกอาเภอในเขตพ้ืนที่ การศึกษา หรือผกู้ ากบั การสถานีตารวจนครบาลของทุกสถานีในเขตพ้ืนที่การศึกษาของ กรุงเทพมหานคร (3) กรรมการประเภทผแู้ ทนไดแ้ ก่ ผแู้ ทนองคก์ ารปกครองส่วนทอ้ งถ่ิน ผแู้ ทนสถานศึกษาใน สงั กดั เขตพ้ืนท่ีการศึกษา ผแู้ ทนสถานศึกษาเอกชน ผแู้ ทนสถานศึกษาอาชีวศึกษา ผแู้ ทน
187 สถาบนั อุดมศึกษา ผแู้ ทนศูนยบ์ ริการการศึกษานอกโรงเรียนอาเภอ ผแู้ ทนค่ายลูกเสือ และ ผแู้ ทนสมาคมหรือสโมสรลูกเสือ ซ่ึงเลือกกนั เองกลุ่มละหน่ึงคน (4) กรรมการผทู้ รงคุณวฒุ ิจานวนไมเ่ กินเจด็ คน ซ่ึงประธานกรรมการแต่งต้งั โดยคาแนะนา ของกรรมการตาม (2)และ(3) ในจานวนน้ีจะตอ้ งแตง่ ต้งั จากภาคเอกชนไม่นอ้ ยกวา่ ก่ึงหน่ึง ใหร้ องผอู้ านวยการสานกั งานเขตพ้ืนที่การศึกษาที่ไดร้ ับมอบหมายเป็นกรรมการและเลขานุการ และใหผ้ อู้ านวยการสานกั งานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาแตง่ ต้งั ขา้ ราชการในสานกั งานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาอีก ไม่เกินสองคนเป็ นผชู้ ่วยเลขานุการ หลกั เกณฑแ์ ละวธิ ีการในการเลือกกรรมการตาม (3) ใหเ้ ป็นไปตามขอ้ บงั คบั คณะกรรมการ บริหารลูกเสือแห่งชาติ คณะกรรมการลูกเสือเขตพ้ืนที่การศึกษามีอานาจหนา้ ที่ภายในเขตพ้ืนที่การศึกษา ดงั ต่อไปน้ี (1) ควบคุมดูแลกิจการลูกเสือใหเ้ ป็นไปตามกฎหมาย ขอ้ บงั คบั และระเบียบของทางราชการ และคณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ (2) ส่งเสริมและสนบั สนุนความมนั่ คงและความเจริญกา้ วหนา้ ของกิจการลูกเสือ (3) ส่งเสริมและสนบั สนุนใหม้ ีการจดั กิจกรรมลูกเสือท้งั ในและนอกสถานศึกษา (4) ควบคุมดูแลทรัพยส์ ินในกิจการของลูกเสือเขตพ้ืนท่ีการศึกษา (5) พจิ ารณารายงานประจาปี ของสานกั งานลูกเสือเขตพ้นื ที่การศึกษาและรายงานให้ คณะกรรมการลูกเสือจงั หวดั ทราบ (6) ใหค้ วามเห็นชอบในแผนปฏิบตั ิการประจาปี (7) ใหค้ าแนะนาแก่ผอู้ านวยการสถานศึกษาในการปฏิบตั ิงานหรือจดั กิจกรรมลูกเสือ (8) จดั ใหม้ ีทะเบียนและสถิติตา่ งๆเกี่ยวกบั ลูกเสือ (9) กากบั ดูแล สนบั สนุนและส่งเสริมกิจการลูกเสือชาวบา้ นในเขตพ้ืนที่การศึกษา (10) ออกระเบียบปฏิบตั ิเก่ียวกบั กิจการลูกเสือ เพื่อความเหมาะสมแก่การปกครองในเขตพ้นื ท่ี การศึกษา ซ่ึงจะตอ้ งไม่ขดั แยง้ กบั กฎหมาย ขอ้ บงั คบั และระเบียบของทางราชการและ คณะกรรมการบิหารลูกเสือแห่งชาติ สานกั งานลูกเสือเขตพ้ืนที่การศึกษาอยใู่ นสานกั งานเขตพ้ืนที่การศึกษาน้นั โดยมีผอู้ านวยการ สานกั งานเขตพ้นื ท่ีการศึกษาเป็นหวั หนา้ สานกั งานลูกเสือเขตพ้ืนที่การศึกษา บงั คบั บญั ชาและ รับผดิ ชอบการดาเนินงานของสานกั งานลูกเสือเขตพ้นื ท่ีการศึกษา และใหร้ องผูอ้ านวยการสานกั งาน เขตพ้ืนการศึกษาซ่ึงผอู้ านวยการสานกั งานเขตพ้ืนที่การศึกษามอบหมาย เป็นผชู้ ่วยหวั หนา้ สานกั งาน ลูกเสือเขตพ้ืนท่ีการศึกษา
188 มำตรำทสี่ ำคัญของพระรำชบัญญตั ลิ กู เสือ พ.ศ.2551 มาตรา 4 ในพระราชบญั ญตั ิน้ี “ลูกเสือ” หมายความวา่ เดก็ และเยาวชนท้งั ชายและหญิง ที่สมคั รเขา้ เป็ นลูกเสือท้งั ใน สถานศึกษาและนอกสถานศกึ ษา ส่วนลูกเสือที่เป็นหญิงใหเ้ รียกวา่ “เนตรนารี” “บุคลากรทางการลูกเสือ” หมายความวา่ ผูบ้ งั คบั บญั ชาลูกเสือ ผตู้ รวจการลูกเสือ กรรมการลูกเสือ อาสาสมคั รลูกเสือ และเจา้ หนา้ ท่ีลูกเสือ “รัฐมนตรี” หมายความวา่ รัฐมนตรีผรู้ ักษาการตามพระราชบญั ญตั ิน้ี มาตรา 6 ใหม้ ีคณะลูกเสือแห่งชาติ ประกอบดว้ ย บรรดาลูกเสือท้งั ปวงและบุคลากรทางการ ลูกเสือ มาตรา 7 พระมหากษตั ริยท์ รงเป็ นพระประมุขของคณะลูกเสือแห่งชาติ มาตรา 8 คณะลูกเสือแห่งชาติ มีวตั ถุประสงคเ์ พื่อพฒั นาลูกเสือท้งั ทางกาย สติปัญญา จิตใจและ ศีลธรรม ใหเ้ ป็นพลเมืองดี มีความรับผดิ ชอบ และช่วยสร้างสรรคส์ ังคมใหเ้ กิดความสามคั คี และมี ความเจริญกา้ วหนา้ ท้งั น้ีเพื่อความสงบสุข และความมน่ั คงของประเทศชาติตามแนวทางดงั ตอ่ ไปน้ี (1) ใหม้ ีนิสยั ในการสงั เกต จดจา เช่ือฟัง และพ่งึ ตนเอง (2) ใหซ้ ่ือสัตยส์ ุจริต มีระเบียบวนิ ยั และเห็นอกเห็นใจผอู้ ่ืน (3) ใหร้ ู้จกั บาเพญ็ ตนเพอ่ื สาธารณประโยชน์ (4) ใหร้ ู้จกั ทาการฝีมือ และฝึกฝนใหท้ ากิจกรรมตา่ งๆ ตามความเหมาะสม (5) ใหร้ ู้จกั รักษาและส่งเสริมจารีตประเพณี วฒั นธรรมและความมนั่ คงของประเทศชาติ มาตรา 9 ใหก้ ระทรวงศึกษาธิการมีหนา้ ที่ส่งเสริมและสนบั สนุนงานของคณะลูกเสือแห่งชาติ เพ่อื ใหบ้ รรลุวตั ถุประสงคข์ องคณะลูกเสือแห่งชาติ รวมท้งั ส่งเสริมและสนบั สนุนการดาเนินงานของ สานกั งานลูกเสือแห่งชาติ สานกั งานลูกเสือจงั หวดั สานกั งานลูกเสือเจตพ้ืนที่การศึกษา สถานศึกษา และหน่วยงานอ่ืนท่ีเกี่ยวขอ้ ง เพือ่ ใหก้ ารจดั กิจกรรมลูกเสือเป็นไปอยา่ งทวั่ ถึงและมีประสิทธิภาพ มาตรา 18 ใหม้ ีสานกั งานลูกเสือแห่งชาติเป็นหน่วยงานของรัฐท่ีไม่เป็ นส่วนราชการหรือ รัฐวสิ าหกิจตามกฎหมายวา่ ดว้ ยวธิ ีการงบประมาณหรือกฎหมายอื่น ใหส้ านกั งานลูกเสือแห่งชาติมีฐานะเป็ นนิติบุคคลและอยใู่ นกากบั ของกระทรวงศึกษาธิการ การจดั แบ่งส่วนงานภายในของสานกั งานลูกเสือแห่งชาติใหเ้ ป็นไปตามขอ้ บงั คบั คณะกรรมการ บริหารลูกเสือแห่งชาติ มาตรา 19 เพ่ือประโยชน์ในการดาเนินการของสานกั งานลูกเสือแห่งชาติ ใหร้ ัฐมนตรีแตง่ ต้งั รองปลดั กระทรวงศึกษาธิการคนหน่ึงทาหนา้ ที่เลขาธิการสานกั งานลูกเสือแห่งชาติ และแตง่ ต้งั ผบู้ ริหารระดบั สูงอ่ืนในกระทรวงศึกษาธิการทาหนา้ ที่รองเลขาธิการและผชู้ ่วยเลขาธิการตามจานวน ท่ีเหมาะสมโดยการเสนอของเลขาธิการสานกั งานลูกเสือแห่งชาติ
189 การปฏิบตั ิหนา้ ท่ีของขา้ ราชการกระทรวงศึกษาธิการตามวรรคหน่ึง ใหถ้ ือเป็นการปฏิบตั ิ ราชการดว้ ย เอกสำรอ้ำงองิ สานกั งานเลขานุการนายกรัฐมนตรี.(2551). พระราชบญั ญตั ิลูกเสือ พ.ศ.2551. ราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 125 ตอนที่ 42 ก. หนา้ 92-115. 4 มีนาคม 2551
ชื่อวชิ ำ กำรวำงแผนกำหนดกำรฝึ กอบรม 190 บทเรียนท่ี 11 เวลำ 90 นำที ขอบข่ำยรำยวชิ ำ 1. ความหมายประโยชน์และประเภทของการวางแผน 2. ข้นั ตอนการวางแผน 3. ขอ้ ควรคานึงในการวางแผนกาหนดการฝึกอบรมลูกเสือสารอง 4. ตวั อยา่ งการวางแผนระยะยาว ระยะส้นั และการประชุมกองลูกเสือสารอง จุดหมำย เพือ่ ใหผ้ กู้ ากบั ลูกเสือสารองไดม้ ีความรู้ ความเขา้ ใจในการวางแผน ในการฝึกอบรมได้ อยา่ งถูกตอ้ ง วตั ถุประสงค์ เมื่อจบบทเรียนน้ีแลว้ ผูร้ ับการฝึกควรจะสามารถ 1. บอกความหมายประโยชน์และประเภทของการวางแผนได้ 2. ช้ีแจงข้นั ตอนการวางแผนได้ 3. อธิบายถึงขอ้ ควรคานึงในการวางแผนได้ 4. ร่วมกบั ผกู้ ากบั ลูกเสืออ่ืนทาการวางแผนการฝึกอบรมลูกเสือสารองระยะยาว ระยะส้นั ได้ 5. ประเมินผลการวางแผนระยะส้นั วธิ ีสอน/กจิ กรรม 5 นาที 1. นาเขา้ สู่บทเรียน 10 นาที 2. อธิบายความหมายประเภท ข้นั ตอน และขอ้ คานึงในการวางแผน 20 นาที 3. มอบงานการวางแผนระยะยาวใหแ้ ต่ละหมูท่ า 10 นาที 4. เสนอผลงานการวางแผนระยะยาว 30 นาที 5. มอบงานการวางแผนระยะส้นั การประชุมกอง 10 นาที 6. รายงานผลการวางแผนระยะส้นั 5 นาที 7. ซกั ถาม และประเมินผล
191 ส่ือกำรสอน 1. แผนภูมิ แผน่ โปร่งใส เครื่องฉายภาพขา้ มศีรษะ เคร่ืองเขียน 2. เอกสารตวั อยา่ งการวางแผนระยะยาว และระยะส้นั และการประชุมกอง 3. กระดาษวาดเขียน สีเมจิก ไมบ้ รรทดั 4. กระดานดา ชอลก์ กำรประเมินผล 1. สังเกตพฤติกรรม 2. ดูจากผลงานท่ีมอบใหท้ า 3. ซกั ถาม เนื้อหำวชิ ำ การวางแผนคืออะไร? การวางแผนคือการเตรียมข้นั ตอนและวธิ ีการในการทางานไวก้ ่อน ล่วงหนา้ ก่อนท่ีเวลาของการทางานจริงน้นั จะมาถึง ทาไมถึงตอ้ งวางแผน? ท่ีตอ้ งวางแผนกเ็ พ่ือที่จะช่วยใหก้ ารทางานน้นั มีข้นั การทางานท่ีจะ ช่วยใหง้ านน้นั สาเร็จตามความตอ้ งการหรือวตั ถุประสงคท์ ่ีวางไว้ โดยการใชเ้ วลา กาลงั คน และ ทรัพยากรต่างๆ ใหไ้ ดป้ ระโยชน์และประหยดั ท่ีสุด จะเอาอะไรมาวางแผนในการฝึกอบรมหรือสอนลูกเสือสารอง? เอาวชิ าที่กาหนดไวใ้ น หลกั สูตรของลูกเสือวชิ าพิเศษ กิจกรรมตา่ งๆ ที่จะช่วยให้ลูกเสือสารองเกิดความสนุกสนานและเป็น ประโยชน์ต่อส่วนรวม และกิจกรรมพิเศษท่ีผกู้ ากบั ลูกเสือสารองตอ้ งการใหม้ ี ประโยชนข์ องวางแผน 1. เพอ่ื กาหนดวตั ถุประสงค์ 2. เพ่อื กาหนดเน้ือหา 3. เพอ่ื กาหนดเวลา 4. เพ่ือกาหนดวสั ดุอุปกรณ์ 5. เพือ่ กาหนด บุคลากรผรู้ ับผดิ ชอบ 6. เพอื่ กาหนดวธิ ีการสอน 7. เพื่อกาหนดการประเมินผล
192 ข้นั ท่ี 1 พจิ ารณางาน - เราตอ้ งการให้เกิดอะไร - วตั ถุประสงคข์ องบทเรียนคืออะไร - ตอ้ งทาอะไร? ใครทา? ทาอยา่ งไร? ท่ีไหน? เม่ือไร? ข้นั ท่ี 2 พิจารณาส่ิงที่อานวยความสะดวก - เวลา อุปกรณ์ สถานท่ี - บุคลากรท่ีมีทกั ษะ ข้นั ที่ 3 พจิ ารณาวธิ ีดาเนินงานอ่ืนๆ ไวด้ ว้ ย เนื่องจาก - ความคิดคร้ังแรกมิใช่สิ่งที่ถูกตอ้ งและดีเสมอไป - อาจมีอุปสรรคในการดาเนินงาน เช่น ฝนตก แดดจดั มาก และปัญหาอื่นๆ ท่ี อาจเกิดข้ึนภายหลงั ข้นั ที่4 การตดั สินใจ - อธิบายการวางแผนใหผ้ ูเ้ ก่ียวขอ้ งทราบและมีการลงมติ ข้นั ท่ี 5 บนั ทึกผลงานข้นั สุดทา้ ย - ประชุมอธิบายใหผ้ เู้ ก่ียวขอ้ งทราบอีกคร้ัง และมีความมน่ั ใจวา่ ทุกคนมีความ เขา้ ใจดี ข้นั ท่ี 6 เร่ิมปฏิบตั ิงานตามแผนงานน้นั ข้นั ท่ี 7 ประเมินผล - ติดตามผลในการปฏิบตั ิงาน และปรับปรุงขอ้ ท่ีบกพร่องต่อไป ขอ้ ควรคานึงในการวางแผนกาหนดการฝึกอบรมลูกเสือสารอง ในวางแผนกาหนดการฝึกอบรมลูกเสือสารองน้นั ผกู้ ากบั ลูกเสือตอ้ งคานึงถึงสิ่งต่อไปน้ี 1. วนั สาคญั ทางลูกเสือ เช่น - วนั ท่ี 1 กรกฎาคม วนั คลา้ ยวนั สถาปนาคณะลูกเสือแห่งชาติ - วนั ท่ี 25 พฤศจิกายน วนั คลา้ ยวนั สวรรคตของรัชกาลท่ี 6 2. พธิ ีการทางลูกเสือ - พิธีเขา้ ประจากองลูกเสือสารอง - พธิ ีประดบั ดาวดวงท่ี 1,2,3 - พธิ ีส่งลูกเสือสารองไปเป็นลูกเสือสามญั 3. วนั หยดุ ราชการประจาปี 4. วนั สอบวชิ าพิเศษลูกเสือสารอง/เคร่ืองหมายลูกเสือสัมพนั ธ์ 5. วนั เปิ ดภาคเรียน
193 อน่ึง ในกรณีที่ผเู้ ขา้ รับการอบรมเป็นครูสอนกิจกรรมลูกเสือโดยตรง การจดั ทากาหนด การฝึกอบรมหรือกาหนดการสอน ควรคานึงถึงเร่ืองต่อไปน้ีเพิ่มเติมดว้ ย 1. การศึกษาจุดมุง่ หมายของหลกั สูตร 2. จุดประสงค์ และเน้ือหา 3. ศึกษาจิตวทิ ยาการเรียนรู้แตล่ ะระดบั 4. จดั แบง่ เน้ือหา คาบเวลา ใหเ้ หมาะสมต่อเนื่อง 5. กิจกรรมลูกเสือสารองเป็ นกิจกรรมสร้างนิสัยซ่ึงเป็นกิจกรรมหน่ึงในโครงสร้างของ หลกั สูตรกิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน ไดก้ าหนดให้เรียนกิจกรรมลูกเสือ-เนตรนารี หรือยวุ กาชาด หรือผบู้ าเพญ็ ประโยชน์ เป็นกิจกรรมท่ีเนน้ กระบวนการปฏิบตั ิจริงในกิจกรรม พฒั นาผเู้ รียน หมำยเหตุ การจดั กิจกรรมลูกเสือ ควรจดั คร้ังละ 60 นาที
194 ตัวอย่ำง การจดั ทากาหนดการฝึกอบรมลูกเสือสารอง หลกั สูตรเตรียมลูกเสือสารองระยะส้นั เป็นรายเดือนภาค และระยะยาวโดยการวางแผนตลอดปี การศึกษา ว.ด.ป. ปฐมนิเทศ จานวนคาบ ผสู้ อน หมายเหตุ 11 มิ.ย. 35 - ช้ีแจงการเรียน 3 อ.นนั ทา ดูรายละเอียดจาก ตามหลกั สูตร คู่มือการจดั กิจกรรม เตรียมลูกเสือ อ.วาสนา จดั กิจกรรมลูกเสือ- เนตรนารีช้นั ป.1-ป.3 สารอง (ลูกเสือสารอง)ของ กรมวชิ าการ 18 มิ.ย. 35 1. ประวตั ิเริ่ม 3 อ.รุ่งเรือง 25 ม.ย. 35 กิจการลูกเสือ 3 สารอง 2. ประโยชน์ ของการเป็ น ลูกเสือสารอง 3. เคร่ืองแบบ และ เคร่ืองหมาย ประกอบ เครื่องแบบ ลูกเสือสารอง มีความรู้เก่ียวกบั นิยายเร่ืองเมาคลี ฯลฯ ในสอนและสอบวชิ าเศษลูกเสือสารอง หากมีเวลาเรียนไม่พอผกู้ ากบั ลูกเสือสารองอาจจดั ให้ มีการอยคู่ ่ายพกั แรม แบบ Day Camp ไมม่ ีการคา้ งคืนในช่วงวนั หยดุ เพ่ือทาการสอนและสอบวชิ า พิเศษสารองใหเ้ สร็จสิ้นภายในวนั เดียวกไ็ ด้
195 กำรบันทกึ กำรประชุมกอง บนั ทึกการประชุมกอง เปรียบเสมือนบนั ทึกการสอน คือมีรายละเอียดวา่ จะสอนอะไร ลาดบั ข้นั ตอนในการสอนอยา่ งไร ซ่ึงเป็นการเตรียมการสอนล่วงหนา้ ตวั อย่ำงกำรประชุมกองลกู เสือสำรอง การประชุมกองคร้ังท่ี 2 เวลา 60 นาที วนั ที่สอน 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2547 วตั ถุประสงค์ 1. บอกประวตั ิธงชาติได้ 2. บอกลกั ษณะ ส่วนประกอบ และความหมายของธงชาติได้ กจิ กรรม 1. พธิ ีเปิ ดประชุมกอง (แกรนดฮ์ าวล์ ชกั ธง สวดมนต์ สงบนิ่ง ตรวจ แยก) 10 นาที 2. เกม-เพลงไตรรงคธ์ งไทย 10 นาที 3. การสอนตามเน้ือหา 20 นาที 3.1 ผกู้ ากบั เล่าประวตั ิความเป็ นมาของธงชาติไทย โดยใชธ้ งจริงหรือภาพประกอบ 3.2 สนทนาเก่ียวกบั ลกั ษณะ ส่วนประกอบ และความหมายของธงชาติไทย 3.3 ผกู้ ากบั อธิบายและสาธิตวธิ ีชกั ธงชาติข้ึนสู่ยอดเสา พร้อมกนั ใหล้ ูกเสือแสดง ความเคารพ และร้องเพลงชาติ 4. ผกู้ ากบั เล่าเรื่องส้นั ท่ีเป็นประโยชน์ 10 นาที 5. พธิ ีปิ ดประชุมกอง (นดั หมาย ตรวจเครื่องแบบ แกรนฮาวล์ ชกั ธง เลิก) 10 นาที การวดั ผลและประเมินผลการเรียน และการติดตามผลของกิจกรรมลูกเสือ การวดั ผลและการประเมินผล ตลอดจนการติดตามผลเพ่ือพฒั นาการเรียนการสอน และการจดั ใหผ้ เู้ รียนไดเ้ รียนและเลื่อนช้นั ตามความสามารถของผเู้ รียนเป็นหนา้ ท่ีของผู้ กากบั ลูกเสือไดท้ ดสอบเป็นระยะหรือทดสอบเมื่อจบแตล่ ะบทเรียน เช่น วดั ผลจากการสังเกต – ความสนใจและความเขา้ ใจ – การเขา้ ร่วมกิจกรรม การซกั ถาม หรือสมั ภาษณ์ การทดสอบ การปฏิบตั ิจริง ท้งั น้ีใหเ้ ป็นไปตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ วา่ ดว้ ยการประเมินผลการเรียน
196 ตัวอย่ำงงำนทใี่ ห้ทำ 1. ใหก้ ลุ่มของทา่ นวางแผนการฝึกอบรมรายภาคเรียน หลกั สูตร ดาวดวงที่ 1 มีเวลาเรียน ภาคละ 40 คาบ สอนสปั ดาห์ละ 3 คาบ ก่อนทาแผนการฝึ กอบรมควรคานึงถึงสิ่งต่อไปน้ี 1. วนั สาคญั ทางลูกเสือ 2. พิธีการทางลูกเสือ 3. วนั หยดุ ราชการประจาปี 4. วนั สอบปลายภาคเรียน 5. วนั สอบพเิ ศษลูกเสือสารอง 6. วนั เปิ ดภาคเรียน 7. จุดประสงค์ และเน้ือหา 8. แบง่ เน้ือหา คาบเวลา ใหเ้ หมาะสมและตอ่ เนื่อง - ดูขอ้ บงั คบั คณะลูกเสือแห่งชาติ วา่ ดว้ ยการปกครอง หลกั สูตร และวชิ าพิเศษ ลูกเสือสารองประกอบ - เขียนลงในแผนภูมิ
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283