กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับงานจราจร

๔๔ ¤Ø³ÊÁºμÑ Ô¢Í§¼ÙŒ»ÃÐʧ¤¢ÍãºÍ¹ØÞÒμ¢Ñº¢Õè มาตรา ๔๖ พระราชบญั ญตั ริ ถยนต บญั ญตั วิ า ผขู อใบอนญุ าตขบั รถตามมาตรา ๔๓ (๑) ตอ งมีคณุ สมบตั ิและไมมลี กั ษณะตอ งหาม ดงั ตอไปนี้ (๑) มีอายุไมตํ่ากวาสิบแปดปบริบูรณ แตถาเปนผูขอใบอนุญาตขับรถจักรยานยนต ชั่วคราว สําหรับรถจักรยานยนตความจุกระบอกสูบขนาดไมเกินหนึ่งรอยสิบลูกบาศกเซนติเมตร ตองมอี ายุไมต ํ่ากวาสิบหาปบรบิ รู ณ (๒) มีความรูและความสามารถในการขับรถ (๓) มีความรูในขอบังคับการเดินรถตามพระราชบัญญัติน้ีและตามกฎหมายวาดวย การจราจรทางบก ในมาตรา ๔๖ น้ี เปนการกําหนดคุณสมบัติของผูที่จะขอใบอนุญาตขับรถยนต สว นบคุ คล รถยนตส ามลอ สว นบคุ คล หรอื รถจกั รยานยนตช ว่ั คราว ตามมาตรา ๔๓ (๑) โดยกาํ หนดอายวุ า จะตอ งมอี ายไุ มต ่ํากวา ๑๘ ปบ รบิ รู ณน น้ั แสดงวา รฐั ยอ มเหน็ วา บคุ คลทม่ี อี ายตุ าํ่ กวา ๑๘ ปบ รบิ รู ณน น้ั ยงั ไมม วี ฒุ ภิ าวะมากพอทจี่ ะควบคมุ ยานพาหนะและขบั ขยี่ านพาหนะอยา งปลอดภยั ได และยงั กําหนด ใหบุคคลผูที่จะขอใบอนุญาตขับข่ีจะตองมีความรูความสามารถในการขับรถ และมีความรูในขอบังคับ การเดนิ รถ โดยผขู อใบอนุญาตขับขีจ่ ะตองผานการอบรมกฎหมายจราจร และผานการทดสอบความรู ในการขบั ขีแ่ ละกฎหมายจราจรท่ีเกี่ยวของในขัน้ ตอนการสอบใบขับข่ี นอกจากบุคคลท่ีขอใบอนุญาตขับข่ีจะตองมีคุณสมบัติครบถวนตามท่ีบัญญัติไว ขา งตนแลว บุคคลผขู อใบอนญุ าตขบั ขี่จะตองไมมีลกั ษณะตองหาม ตามทีต่ ามในมาตรา ๔๖ (๑)–(๘) พระราชบัญญัติรถยนต พ.ศ. ๒๕๒๒ ซ่ึงไดบัญญัติไววา ผูขอใบอนุญาตขับข่ีตามมาตรา ๔๓ (๑) จะตอ งไมม ีลักษณะตอ งหา มดังตอ ไปนี้ (๑) มีอายุไมต่าํ กวาสิบแปดปบริบูรณ แตถาเปนผูขอใบอนุญาตขับรถจักรยานยนต สวนบุคคลช่ัวคราว สําหรับรถจักรยานยนตที่มีขนาดความจุของกระบอกสูบรวมกันไมเกินที่กําหนด ในกฎกระทรวง ตอ งมอี ายุไมต า่ํ กวา สบิ หาปบรบิ รู ณ (๒) มคี วามรูและความสามารถในการขบั รถ (๓) มีความรูในขอ บงั คบั การเดนิ รถตามพระราชบัญญัติน้ี และตามกฎหมายวา ดวย การจราจรทางบก (๔) ไมเ ปนผมู รี า งกายพกิ ารจนเปน ทเ่ี หน็ ไดวา ไมสามารถขบั รถได (๕) ไมม โี รคประจําตวั ทผ่ี ปู ระกอบวชิ าชพี เวชกรรมเหน็ วา อาจเปน อนั ตรายขณะขบั รถ (๖) ไมเ ปน บคุ คลวกิ ลจรติ หรือจิตฟน เฟอน (๗) ไมมใี บอนุญาตขับรถชนิดเดียวกันอยูแ ลว (๘) ไมเ ปน ผูอยูในระหวางถกู ยดึ หรอื เพกิ ถอนใบอนุญาตขบั รถ

๔๕ ¡ÒâÍÁÕãºÍ¹ØÞÒμ¢ºÑ ¢Õè มาตรา ๔๕ พระราชบัญญัติรถยนต พ.ศ. ๒๕๒๒ บัญญัติวา ผูใดประสงคจะขอ ใบอนญุ าตขับรถ ตอ งเปนผมู ีคณุ สมบตั แิ ละไมม ลี กั ษณะตองหา มตามพระราชบัญญตั ิน้ี และยน่ื คาํ ขอ ตอนายทะเบยี นแหงทองท่ที ี่ตามที่มีภมู ลิ ําเนาหรอื มีถ่ินที่อย”ู การขอมีใบอนุญาตขับข่ีจึงตองทําการย่ืนคําขอตอนายทะเบียนแหงทองที่ ซ่ึงนายทะเบียนตามมาตรา ๔ พระราชบัญญัติรถยนตมีความหมายวา ขาราชการซึ่งรัฐมนตรีวาการ กระทรวงคมนาคม แตงต้ังใหเปนนายทะเบียน การออกใบอนุญาตขับข่ีน้ันจึงเปนอํานาจของ กรมการขนสง ทางบก กระทรวงคมนาคม โดยกําหนดใหห ากผใู ดประสงคจ ะขอใบอนญุ าตขบั รถกส็ ามารถ ขอใบอนุญาตไดท่ีสํานักงานขนสงจังหวัด ไดทุกจังหวัด เนื่องจากกรมการขนสงทางบกไดมีการแบง สวนราชการเปนสํานักงานขนสงสวนภูมิภาค ๑๒ ภูมิภาค และแบงสวนราชการเปนสาํ นักงานขนสง จงั หวดั มีนายทะเบยี นประจาํ อยทู กุ จังหวดั ÊÃØ» การขอมีใบอนุญาตขับขี่น้ันนอกจากจะตองยื่นคาํ ขอตอนายทะเบียนแลว ผยู น่ื คําขอยงั จะตอ งมคี ณุ สมบตั คิ รบถว น ไมม ลี กั ษณะตอ งหา มตามพระราชบญั ญตั ริ ถยนต พ.ศ. ๒๕๒๒ และตองมีการทดสอบความรูความสามารถในการขับรถตามกฎหมายจราจรเสียกอน นายทะเบียน จึงจะสามารถออกใบอนุญาตขับข่ีใหไดซึ่งกรมการขนสงทางบก ไดแบงการทดสอบการขับรถยนต และรถจักรยานยนตเปน ๓ ข้ันตอน คือ ๑) การทดสอบสมรรถภาพของรางกาย ๒) การทดสอบ ขอเขยี น และ ๓) การทดสอบขบั รถ ÍÒÂ¢Ø Í§ãºÍ¹ØÞÒμ¢ºÑ ¢èÕ พ.ร.บ.รถยนต (ฉบบั ท่ี ๑๒) พ.ศ. ๒๕๔๖ มผี ลใชต งั้ แต ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๔๖ เปน ตน ไป ไดกาํ หนดอายขุ องใบอนุญาตขับขไ่ี วในมาตรา ๔๔ ดังน้ี ๑) ยกเลกิ การออกใบอนญุ าตขบั รถตลอดชพี เวน แตผ ไู ดร บั อยกู อ นแลว สามารถใช ตอ ไปได ๒) กาํ หนดใบอนญุ าตขบั รถชัว่ คราว มีอายุ ๒ ป ๓) กาํ หนดใหใบอนุญาตขับรถดังตอไปน้ี มีอายุ ๕ ป นับแตวันออกใบอนุญาต ขบั รถ คอื ๓.๑) ใบอนุญาตขบั รถยนตสว นบุคคล ๓.๒) ใบอนุญาตขับรถยนตส ามลอสวนบคุ คล ๓.๓) ใบอนุญาตขับรถจกั รยานยนต ๓.๔) ใบอนญุ าตขับรถบดถนน ๓.๕) ใบอนญุ าตขบั รถแทรกเตอร ๓.๖) ใบอนญุ าตขับรถชนิดอนื่ ตามมาตรา ๔๓ (๙)

๔๖ ๔) กาํ หนดใหใ บอนญุ าตขบั รถยนตส าธารณะ และใบอนญุ าตขบั รถสามลอ สาธารณะ มอี ายุ ๓ ป นบั แตว นั ออกใบอนญุ าต และลดอายขุ องผรู บั ใบอนญุ าตจากเดมิ อายไุ มต ่ํากวา ๒๕ ปบ รบิ รู ณ เปน อายไุ มตํา่ กวา ๒๒ ปบ รบิ รู ณ ๕) กาํ หนดใหวันครบกาํ หนดใบอนญุ าต ซ่งึ ไมต รงกับวนั ครบรอบวนั เกิดของผูไ ดรบั ใบอนุญาตขับรถ ใหขยายตอไปจนถงึ วันครบรอบวนั เกดิ ของผูไ ดร ับใบอนญุ าตขบั รถในปน นั้ หรือในป ถดั ไปแลว แตก รณี โดยใหถ อื วา วนั ครบรอบวนั เกดิ เปน วนั ทใี่ บอนญุ าตขบั รถครบกาํ หนดอายุ สว นกรณี ที่ผไู ดรบั ใบอนุญาตขบั รถเกิดในวนั ท่ี ๒๙ กมุ ภาพนั ธ และในปที่ใบอนุญาตขับรถครบกําหนดอายุ ไมม ี วันท่ี ๒๙ กุมภาพันธ ใหถ อื เอาวันที่ ๒๘ กุมภาพนั ธ เปนวนั ครบรอบวันเกดิ การขอตออายุใบอนุญาตขับรถ และการอนุญาต ใหเปนไปตามหลักเกณฑ วิธีการ และเงือ่ นไขทก่ี าํ หนดในกฎกระทรวง ¡Ã³¼Õ ¢ŒÙ ºÑ ö໹š ªÒÇμÒ‹ §´ÒŒ Ç พระราชบญั ญตั ริ ถยนต พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๔๒ วรรค ๒ ไดก าํ หนดไวว า ในกรณี ท่ีผูขับรถเปนคนตางดาวซ่ึงไดรับอนุญาตใหอยูในราชอาณาจักรเปนการช่ัวคราวตามกฎหมายวาดวย คนเขา เมอื ง ผขู บั รถซง่ึ เปน คนตา งดา วนนั้ จะใชใ บอนญุ าตขบั รถตามมาตรา ๔๒ ทวิ ขบั รถในราชอาณาจกั ร ก็ได และในกรณีนี้จะตองมีใบอนุญาตขับรถดังกลาวพรอมดวยเอกสารตามท่ีระบุไวในอนุสัญญาและ หรอื ความตกลงทม่ี อี ยรู ะหวา งรฐั บาลไทยกบั รฐั บาลของประเทศนนั้ ๆ เพอ่ื แสดงตอ เจา พนกั งานไดท นั ที มาตรา ๔๒ ทวิ ในกรณีที่มีความตกลงระหวางรัฐบาลไทยและรัฐบาลตางประเทศ วาดวยการยอมรับใบอนุญาตขับรถภายในประเทศซ่ึงกันและกัน คนตางดาวซึ่งไดรับอนุญาตใหอยู ในราชอาณาจักรเปนการช่ัวคราวตามกฎหมายวาดวยคนเขาเมือง และมีใบอนุญาตขับรถท่ีออก โดยพนักงานเจาหนาท่ีหรือสมาคมยานยนตท่ีไดรับอนุญาตจากรัฐบาลของประเทศท่ีมีความตกลง ดังกลาวกับรัฐบาลไทย อาจใชใบอนุญาตขับรถของประเทศน้ันขับรถในราชอาณาจักรไดตามประเภท และชนิดของรถท่ีระบุไวในใบอนุญาตขับรถน้ัน แตตองปฏิบัติตามอนุสัญญาและหรือความตกลง ที่มีอยูระหวางรัฐบาลไทยกับรัฐบาลของประเทศนั้นๆ และตามบทบัญญัติทั้งหลายในสวนที่เก่ียวกับ หนาทขี่ องผขู ับรถตามพระราชบัญญัตนิ ้ี อํา¹Ò¨¢Í§à¨ÒŒ ¾¹Ñ¡§Ò¹¨ÃҨà มาตรา ๔๒ พระราชบัญญัติรถยนต พ.ศ. ๒๕๒๒ บัญญัติวา “ผูขับรถตองไดรับ ใบอนุญาตขับรถ และตองมีใบอนุญาตขับรถและสําเนาภาพถายใบคูมือจดทะเบียนรถในขณะขับ หรอื ควบคมุ ผฝู ก หดั ขับรถเพื่อแสดงตอ เจาพนกั งานไดท นั ที เวน แตผฝู กหัดขับรถยนตต ามมาตรา ๕๗” มาตรา ๖๔ ผใู ดขบั รถโดยไมไ ดร บั ใบอนญุ าตขบั รถ ตอ งระวางโทษจาํ คกุ ไมเ กนิ หนง่ึ เดอื น หรือปรบั ไมเกนิ หน่ึงพันบาท หรือท้ังจําท้งั ปรบั มาตรา ๖๕ ผใู ดขบั รถเมอื่ ใบอนญุ าตขบั รถสน้ิ อายหุ รอื ระหวา งถกู เพกิ ถอนใบอนญุ าต ขบั รถหรอื ถูกยดึ ใบอนญุ าตขับรถ ตอ งระวางโทษปรับไมเกนิ สองพนั บาท

๔๗ มาตรา ๖๖ ผูใดขับรถโดยไมแสดงใบอนุญาตขับรถ และสําเนาภาพถายใบคูมือ จดทะเบยี นรถตามมาตรา ๔๒ ตอ งระวางโทษปรบั ไมเกนิ หนึง่ พันบาท บทบัญญตั ิทเ่ี ก่ยี วกบั ใบอนญุ าตขับรถ μÒÁ ¾.Ã.º.¢¹Ê§‹ ·Ò§º¡ òõòò μÒÁ ¾.Ã.º.¢¹Ê‹§·Ò§º¡ òõòò ไดบัญญัติขอกําหนดท่ีเกี่ยวของกับผูขับรถไว ในหมวด ๗ ผปู ระจํารถ มดี ังนี้ มาตรา ๙๒ ผปู ระจํารถ ไดแ ก (๑) ผขู ับรถ (๒) ผเู ก็บคาโดยสาร (๓) นายตรวจ (๔) ผูบ รกิ ารตามทก่ี ําหนดในกฎกระทรวง มาตรา ๙๔ ใบอนุญาตสําหรบั ผปู ระจาํ รถ มี ๔ ประเภท คือ (ñ) ãºÍ¹ØÞÒμ໹š ¼ÙŒ¢ºÑ ö (๒) ใบอนญุ าตเปนผูเก็บคา โดยสาร (๓) ใบอนญุ าตเปนนายตรวจ (๔) ใบอนญุ าตเปน ผบู รกิ าร ใบอนุญาตแตละประเภทจะใชสับเปล่ียนกันไมได เวนแตใบอนุญาตประเภทที่ (๑) ใบอนญุ าตเปนผูข ับรถ ประเภทท่ี (๓) ใบอนญุ าตเปนนายตรวจ และประเภทที่ (๔) ใบอนุญาตเปน ผบู รกิ าร ใชเปน ใบอนุญาตประเภทที่ (๒) ใบอนุญาตเปน ผเู ก็บคา โดยสาร ได ãºÍ¹ØÞÒμ໚¹¼ÙŒ¢ÑºÃ¶áμ‹ÅЪ¹Ô´ ẋ§μÒÁ»ÃÐàÀ·¡Òâ¹Ê‹§¢Í§Ã¶Í͡໚¹ ò »ÃÐàÀ· ä´áŒ ¡‹ - ประเภทสวนบุคคล สาํ หรับขับรถที่ใชในการขนสงสวนบุคคล (รถที่มีแผนปาย ทะเบียนรถ พนื้ สีขาว ตวั เลขและตัวอักษรสีดาํ ) - ประเภททกุ ประเภท สาํ หรบั ขบั รถไดท กุ ประเภทการขนสง (รถทม่ี แี ผน ปา ยทะเบยี นรถ พ้นื สขี าว ตวั เลขและตัวอกั ษรสดี ําและรถที่มแี ผนปา ยทะเบยี นรถพืน้ สีเหลอื ง ตวั เลขและตัวอกั ษรสีดํา) »ÃÐàÀ·¢Í§ãºÍ¹ØÞÒμ¢ÑºÃ¶ มาตรา ๙๕ (๒๒) ใบอนุญาตเปน ผูข ับรถ มดี งั น้ี ชนดิ ทห่ี นงึ่ ใบอนญุ าตเปน ผขู บั รถสาํ หรบั รถทม่ี นี ํ้าหนกั รถและน้ําหนกั บรรทกุ รวมกนั ไมเกนิ สามพันหารอ ยกโิ ลกรัมทีม่ ไิ ดใ ชขนสงผูโดยสาร หรือสาํ หรับรถขนสงผโู ดยสารไมเ กินย่สี บิ คน - รถเกง รถตู รถกระบะทวั่ ๆ ไป ชนดิ ทส่ี อง ใบอนญุ าตเปน ผขู บั รถสาํ หรบั รถทม่ี นี ้าํ หนกั รถและน้ําหนกั บรรทกุ รวมกนั เกินกวาสามพนั หา รอยกโิ ลกรมั ทีม่ ิไดใ ชข นสง ผูโดยสาร หรอื สาํ หรบั รถขนสงผูโดยสารเกินยส่ี ิบคน - ขบั รถโดยสาร รถบรรทกุ รถ ๖ ลอ ๑๐ ลอ แบงเปน สว นบุคคล และทกุ ประเภท สวนบุคคลปา ยขาว ทุกประเภท ขบั รถสาธารณะปา ยเหลืองได ชนิดท่ีสาม ใบอนุญาตเปนผูขับรถซึ่งโดยสภาพใชสาํ หรับลากจูงรถอื่นหรือลอเลื่อน ทบี่ รรทกุ ส่งิ ใดๆ บนลอ เลือ่ นนั้น - ขบั รถโดยสาร ลากจูง แบงเปน สวนบคุ คลและทกุ ประเภทเหมือนกับชนดิ ท่ี ๒ ชนิดที่สี่ ใบอนุญาตเปนผูขับรถสาํ หรับรถที่ใชขนสงวัตถุอันตรายตามประเภท หรอื ชนดิ และลักษณะการบรรทุกตามที่อธิบดกี ําหนดโดยประกาศในราชกจิ จานเุ บกษา

๔๘ - ขนกาซ สารเคมี สังเกตจากรถจะระบุวาวัตถุอันตราย มีสัญลักษณและเลข สหประชาชาติกํากบั และอน่ื ๆ) ตามทกี่ รมการขนสง ทางบกกาํ หนด ใบอนุญาตแตละชนดิ ใชส ับเปลยี่ นกันไมได เวนแตใบอนญุ าตชนิดที่สอง ชนิดทส่ี าม และชนิดท่ีสี่ใชเปนใบอนุญาตชนิดที่หน่ึงได ใบอนุญาตชนิดที่สามและชนิดท่ีสี่ใชเปนใบอนุญาต ชนิดทีส่ องได และใบอนุญาตชนดิ ทสี่ ่ีใชเปน ใบอนุญาตชนิดทส่ี ามได ÊÃØ»¡ÒÃ㪌ãºÍ¹ÞØ Òμ¢ÑºÃ¶·Õè㪌᷹¡¹Ñ ä´Œã¹áμÅ‹ Ъ¹Ô´ - ชนิดท่ี ๓ ใชแทนชนดิ ท่ี ๒ ได แตใ ชแ ทนชนดิ ที่ ๔ ไมไ ด - ชนดิ ท่ี ๒ ไมสามารถใชแ ทนชนิดท่ี ๓ และ ๔ ได - ผจู ะทาํ บตั รอนุญาตชนิดที่ ๔ จะตอ งไดช นดิ ท่ี ๓ มากอ น - ใบอนุญาตชนดิ ที่ ๒, ๓, ๔ ใชแ ทนชนดิ ที่ ๑ (รถเกง รถตู รถกระบะทัว่ ไป) ไดต าม ประเภท (สวนบุคคล, สาธารณะ ถามีชนิดที่ ๒, ๓ ทุกประเภทก็ขบั แท็กซ่ไี ดด ว ย) - ใบอนุญาตเปนผูขับรถทุกประเภทตามกฎหมายวาดวยการขนสงทางบกสามารถ ใชแทนใบอนุญาตขับรถยนตสวนบุคคลและใบอนุญาตขับรถยนตสาธารณะตามกฎหมายวาดวย รถยนตได - ใบอนุญาตเปนผูขับรถสวนบุคคลตามกฎหมายวาดวยการขนสงทางบก สามารถ ใชแ ทนใบอนญุ าตขบั รถยนตสวนบคุ คลตามกฎหมายวา ดวยรถยนตไ ด ÍÒÂ¢Ø Í§¼Ù¢Œ ÍÃºÑ ãºÍ¹ÞØ Òμ໹š ¼Œ»Ù ÃÐจาํ ö ๑. ใบอนญุ าตเปน ผขู บั รถสว นบคุ คลชนดิ ท่ี ๑ ตอ งมอี ายไุ มต า่ํ กวา ๑๘ ป สว นบคุ คล ชนดิ ท่ี ๒ และชนดิ ท่ี ๓ ตองมอี ายไุ มตํ่ากวา ๒๐ ป สวนบุคคลชนิดท่ี ๔ ตอ งมีอายไุ มตํ่ากวา ๒๕ ป ทุกประเภทชนดิ ที่ ๑, ชนิดที่ ๒, ชนิดที่ ๓ และชนดิ ที่ ๔ ตอ งมีอายุไมตํ่ากวา ๒๕ ป ๒. ใบอนุญาตเปน ผเู ก็บคา โดยสาร ตอ งมอี ายไุ มต่ํากวา ๑๕ ป ๓. ใบอนญุ าตเปนผูบริการ ตองมีอายุไมต่ํากวา ๑๕ ป

๔๙ º··èÕ ó á¹Ç·Ò§»¯ÔºÑμÔ㹡Òúѧ¤ºÑ 㪡Œ ®ËÁÒ¨ÃҨà ó.ñ ¡ÒÃᨌ§¢ŒÍ¡Å‹ÒÇËÒ áÅСÒÃÍÍ¡ãºÊ§èÑ ¨ÃҨà บทบาทและอํานาจหนาท่ีของเจาหนาที่ตํารวจจราจร มีความเก่ียวของกับงานดานการ จราจร ทั้งในดา นการจดั การจราจร การบังคบั ใชก ฎหมาย การรกั ษาความปลอดภยั ทางถนน และงาน ดา นอน่ื ๆ ทเี่ กยี่ วขอ ง หากตาํ รวจจราจรไดป ฏบิ ตั หิ นา ทภ่ี ายในกรอบระเบยี บตามทกี่ ฎหมายกาํ หนดไว ยอ มเปน เกราะกาํ บงั ตวั ผปู ฏบิ ตั งิ านไดเ ปน อยา งดี แตห ากปฏบิ ตั หิ นา ทโี่ ดยไมย ดึ ถอื ระเบยี บแบบแผน ทกี่ าํ หนดไวแ ลว อาจถกู ประชาชนรอ งเรยี นหรอื ถกู สงั คมตาํ หนทิ าํ ใหส ง ผลกระทบตอ ภาพพจนต อ องคก ร ตาํ รวจ รวมทงั้ อาจถกู ดาํ เนนิ คดที างวนิ ยั จากหนว ยงานอกี ดว ย การไดศ กึ ษาหาความรตู ามอาํ นาจหนา ที่ ของตนเอง และฝก ฝนปฏบิ ตั ติ นตามยทุ ธวธิ ตี าํ รวจใหม คี วามชาํ นาญ จงึ เปน แนวทางในการปฏบิ ตั งิ าน และสรา งความม่ันใจใหแ กผูปฏิบตั งิ าน ในอนั ท่ีจะปฏบิ ตั หิ นาที่ใหบรรลุประสงคอ ยา งมปี ระสทิ ธิภาพ เมอื่ เหน็ วา ผขู บั ขหี่ รอื บคุ คลใดในรถไดฝ า ฝน หรอื ไมป ฏบิ ตั ติ ามบทแหง พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ หรือกฎหมายอันเกีย่ วกับรถน้นั เชน พ.ร.บ.รถยนต พ.ศ. ๒๕๒๒ พ.ร.บ.ขนสงทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ เจา พนกั งานจราจรหรอื พนกั งานเจา หนา ทที่ พี่ บการกระทาํ ความผดิ ÁอÕ าํ ¹Ò¨àÃÂÕ ¡ã˼Œ ¢ŒÙ ºÑ ¢èÕ Ë嫯 ̦เพ่ือดาํ เนนิ การตามกฎหมายตอ ไป (มาตรา ๑๔๒) กรณเี ชน นี้ เจาพนักงานจราจรหรอื พนกั งาน เจา หนา ทม่ี อี าํ นาจเรยี กใหผ ขู บั ขหี่ ยดุ รถและใชอ าํ นาจตามมาตรา ๑๔๐ กลา วคอื อาจวา กลา วตกั เตอื น หรอื ออกใบสง่ั เจาพนักงานจราจรได ñ) ¡ÒÃá¹Ðนาํ μÑÇ การปฏบิ ตั หิ นา ทข่ี องตาํ รวจจราจรในการบงั คบั ใชก ฎหมายตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.๒๕๒๒ หรอื กฎหมายอน่ื ๆ กบั ประชาชนทก่ี ระทาํ ผดิ กฎหมายนน้ั ในบางครงั้ ยอ มทาํ ใหป ระชาชน เกิดความไมพอใจในการปฏิบัติหนาที่ดังกลาว ดังน้ันเจาหนาที่ตํารวจจราจรจึงจําเปนจะตองมีความ อดทนอดกล้ันตอสิ่งท่ีไดรับจากประชาชน ระมัดระวังในการใชเสียง สําเนียง และถอยคําที่ไมสุภาพ พรอมอธบิ ายขอ กลา วหาตามกฎหมาย และเหตผุ ลในการบงั คบั ใชก ฎหมาย ใชจิตวิทยาเลอื กคําพูดที่ เขาใจงาย ไมใสอารมณ ไมทําใหค นถกู ตกั เตือน อบั อาย เพอ่ื ใหประชาชนตระหนักและยอมรับในการ กระทําผดิ กฎหมายจราจร ò) ¡ÒÃà¢ÒŒ ËÒ¼ŒÙ¶Ù¡¨Ñº¡ØÁ áÅСÒÃᨧŒ ¢ŒÍ¡Å‹ÒÇËÒ การเขียนใบสั่งในการออกใบส่ังตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ จะตองถือปฏิบัติตามขั้นตอนการบังคับใชกฎหมายในการจับกุม และการสอบสวนคดีความผิด เกี่ยวกับการจราจรโดยเครง ครดั ซ่ึงสามารถสรปุ เปน ขน้ั ตอนในการปฏิบตั ิ ดังตอ ไปน้ี ๒.๑) ผจู บั กมุ ตอ งอยใู นจดุ หรอื ตาํ แหนง ทเ่ี ปด เผย เหน็ ไดช ดั เจนไมแ อบแฝงซอ นเรน การแสดงตัวตองแสดงตัวอยางเปดเผยใหประชาชนเห็นเดนชัด การดักจับโดยอําพรางหรือซุมดักจับ ใหเลกิ โดยเดด็ ขาด

๕๐ ๒.๒) การเรยี กหรอื หยดุ รถเพอ่ื จบั ใหใ ชส ญั ญาณนกหวดี หรอื สญั ญาณมอื ดว ยทา ทาง ท่ถี ูกตองและสุภาพ พรอมทั้งชีน้ าํ ใหห ยุดรถในลกั ษณะทีป่ ลอดภัย ไมกีดขวางการจราจร ๒.๓) การเขาหาผูถูกจับกุม ใหเขาหาทางดานผูถูกจับกุมน่ังอยู แสดงการทักทาย ดวยทาวันทยหัตถ พรอมกับใชวาจาท่ีสุภาพวา สวัสดีครับ แลวช้ีแจงเหตุผลของการเรียกรถใหหยุด พรอมแจงขอกลาวหา (ที่ชัดเจน) จากนั้นจึงสามารถขอตรวจสอบใบอนุญาตขับขี่รถได หามยึด กุญแจรถ โดยไมมีเหตุอันสมควรและหามใชมือหรือวัตถุส่ิงของที่ถืออยู เชน วิทยุสื่อสารหรือ เสาอากาศทบุ รถ หรอื เคาะรถของผถู กู จบั กมุ โดยเดด็ ขาด ทงั้ นี้ การจบั กมุ ตอ งไมเ ปน ลกั ษณะการจอ งจบั ผดิ หรือหวังผลประโยชนต อบแทน ควรจบั กุมในขอหาทมี่ ีผฝู า ฝนไดกระทาํ ชัดแจง แลว ไมเปน การเรียกรถ เพอ่ื ท่ีจะหาความผดิ จบั กุม และการจบั กมุ ตองกระทาํ อยางเสมอภาคกนั ๒.๔) การพดู คยุ หรอื ชแ้ี จง ใหใชคาํ สุภาพ หามใชคําพูดวา “ลือ้ อว้ั มึง กู ฯลฯ” หรือคาํ พูดทไ่ี มสุภาพอยา งเดด็ ขาด พึงระมัดระวงั กิรยิ าท่ีไมม ีมารยาท ๒.๕) การเขยี นใบสั่งตองดําเนนิ การโดยไมช กั ชา เปด เผย ชดั เจน ถูกตอง เรยี บรอย มอบใหก ับผถู ูกจับกุมไป ณ จดุ ทจ่ี บั กุมน้ัน เมอ่ื เสร็จแลวควรทําความเคารพดว ยทาวันทยหัตถอ กี ครั้ง ๒.๖) หามนําผูถกู จบั กุมเขาไปในตยู ามหรือตูควบคมุ สญั ญาณไฟจราจร เพ่ือพูดคุย หรอื เขยี นใบสงั่ โดยเด็ดขาด เพราะจะทาํ ใหผ ูพบเห็นเกดิ ภาพพจนทีไ่ มดีงามตอตาํ รวจจราจร รีบเขยี น ใบส่งั แจงขอหาใหช ัดเจน มอบใหผูข ับข่โี ดยเร็ว แลวทาํ ความเคารพดว ยทา วนั ทยหัตถ พรอ มกับกลา ว คาํ วา “ขอบคุณครบั หรอื ขอโทษครับ” อกี ครงั้ ๒.๗) การวากลาวตักเตือนตาม พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ น้ัน สามารถกระทาํ ไดด ว ยกริ ยิ าวาจาทส่ี ภุ าพ หา มใชถ อ ยคาํ ในลกั ษณะตอ รอง เชน “จะเอาอยา งไร จะเสยี คาปรบั ที่โรงพักหรือเสยี คา ปรบั ท่นี ่ี” อันเปนการแสดงเจตนาที่ไมบ รสิ ุทธิ์ ๒.๘) ใหผูออกใบส่ังหรือผูท่ีไดรับมอบหมาย บันทึกขอมูลใบสั่งลงในระบบบริหาร จัดการใบส่ังจราจร (PTM) ทุกฉบับตามท่ีกําหนดใหเสร็จสิ้นโดยดวนภายใน ๒ วัน นับแตวันท่ีออก ใบส่ัง เพ่ือมิใหสงผลกระทบตอระบบการรับชําระเงินคาปรับทางชองทางอิเล็กทรอนิกสของผูท่ีไดรับ ใบสง่ั (ตามหนงั สอื ตร. ท่ี ๐๐๐๗.๓๔/๖๔๐ ลง ๗ ม.ี ค. ๒๕๖๑) *ศกึ ษาเพมิ่ เติม ó) û٠ẺãºÊ§Ñè ¨ÃҨà ตามปกติเม่ือเจาพนักงานตํารวจพบการกระทําความผิดที่มีโทษทางอาญาจะตองมี การจบั กมุ ตวั ผกู ระทาํ ความผดิ นาํ สง พนกั งานสอบสวนเพอ่ื ดาํ เนนิ คดกี บั ผกู ระทาํ ความผดิ ตามประมวล กฎหมายวธิ ีพจิ ารณาความอาญา แตในพระราชบัญญตั ิจราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ ไดกําหนดวธิ ีการ ดําเนินคดีอาญารูปแบบพิเศษแทนการจับกุมตัวผูกระทําความผิด โดยกําหนดใหออกเปนหนังสือ * หมายเหตุ : ศกึ ษาเพิ่มเตมิ จาก http://youtu.be/dYj-๑GQe๒๙๘ เร่อื งการเตรยี มพรอ มเพอื่ เขาใชง านระบบ PTM

๕๑ สั่งการของเจาพนักงานจราจร (ใบสงั่ ) ใหกับผกู ระทําความผิดกฎหมายจราจรทางบก เพ่ือใหผ กู ระทํา ความผิดนําหนงั สือฉบับดงั กลาวเพอ่ื ไปดําเนนิ การชําระคา ปรบั รูปแบบใบสั่งและใบรับแทนใบอนุญาตขับขี่ เปนไปตามขอกําหนดของเจาพนักงาน จราจรท่ัวราชอาณาจักร เร่ือง กําหนดแบบใบสั่งของเจาพนักงานจราจรหรือพนักงานเจาหนาท่ี และ ใบรบั แทนใบอนญุ าตขบั ขี่ ฉบบั ที่ ๓ พ.ศ. ๒๕๕๙ และ (ฉบบั ที่ ๔) ป ๒๕๖๐ ซงึ่ ไดก าํ หนดรปู แบบใบสงั่ ไว ๓ แบบ คือ โดยใบส่งั แตล ะแบบมรี ายละเอียดดังตอ ไปนี้ Ẻ·Õè ñ ใบส่ังของเจาพนักงานจราจรและใบรับแทนใบอนุญาตขับข่ี มีขนาด ความกวา ง ๑๔.๕ เซนติเมตร ยาว ๒๗ เซนตเิ มตร ใหมชี ุดละ ๔ แผน มสี ีและวตั ถุประสงคสาํ หรับ การใชงานแตกตา งกันไป ดงั น้ี (ก) แผนทห่ี น่ึง เปนสีขาว ใชส ําหรับใหก ับผขู บั ขหี่ รือติดไวที่รถ (ข) แผน ทส่ี อง เปน สเี หลอื ง ใชส ําหรบั สง ใหห นว ยทม่ี อี ํานาจหนา ทเี่ ปรยี บเทยี บปรบั คดจี ราจร เพอื่ ทําการบนั ทกึ ขอ มลู ใบสงั่ ในเครอื่ งคอมพวิ เตอรข องระบบสารสนเทศกลางทเี่ ชอ่ื มโยงขอ มลู ของสํานกั งานตาํ รวจแหง ชาติ (ค) แผนท่สี าม เปน สีชมพู ใชส าํ หรับมอบใหพนักงานสอบสวน (ง) แผนท่ีสี่ เปนสีฟา ใชสําหรับเปนสําเนาคูฉบับเก็บไวเปนหลักฐานสําหรับผูออก ใบส่ัง

๕๒ (ดานหนา) ประทับตราหนวยงานท่อี อก ใบส่งั ดว ยหมกึ /ชาดสีแดง ใบสั่งเจาพนักงานจราจร เลขทใี่ บสั่ง Traffic Ticket issued by Traffic Officer Traffic Ticket No. เลมท่ี เลขท่ี Book No. No. ดวยผูขบั ขี่(Driver's Name) : ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..………………........... เลขประจําตวั ประชาชน(ID No) / เลขท่ีหนังสอื เดนิ ทาง(Passport No.) : ........................................................................................................................................................ ใบอนญุ าตขบั ข่ีเลขท่ี/ฉบบั ที่ ...................................................................... วนั อนุญาต ...................................................................................................................... Driver's License No./Book No : ……………………………………………………. Date of Issue : …………………………………………………………………………………………………. ใบขับขี่ รถจักรยานยนต รถสามลอ รถยนต รถขนสง รถอ่นื ๆ…………....…….. Driver's License of Motorcycle Tricycle Automobile Truck Others ชนดิ ช่ัวคราว ตลอดชีพ สาธารณะ สว นบุคคล ชนิดที่....... ทกุ ประเภท ชนิดที่......... ระหวางประเทศ Type: Temporary Lifetime Public Private No. All types no. International ออกใหโ ดยนายทะเบยี น กรุงเทพมหานคร สาขาจังหวัด สาขา Issued by the Registrarof Bangkok Branch : .......................................Province : ........................................ Branch : .............…………….. ไดขบั ขี่ รถจักรยานยนต รถยนตน่ังสว นบุคคล รถประเภทอื่น รถขนสง Driver of : Motorcycle Private Car Other Vehicle Truck ยห่ี อ ...................................................... หมายเลขทะเบียนรถ………………………………….. กรุงเทพมหานคร จงั หวัด Marque : .............................................. License Plate no: ......................................... Bangkok Province……………………………….………… ปายทะเบียนสี ขาว เหลือง เขียว แดง ฟา อื่นๆ License Plate Color: White Yellow Green Red Blue Others……………..…………… กระทําผดิ ฐาน / Committing the following offenses: ๑. ขบั รถ ฝาฝนสัญญาณไฟจราจรสีแดง ฝา ฝนเครอื่ งหมายบนพ้นื ทาง ฝาฝนเครื่องหมายจราจรหาม…………..…. Driving through a red light in violationofsymbolsmarkedonroadsurface in violation of traffic sign prohibiting……. ในลักษณะกีดขวางการจราจร ไมใกลข อบทางเดินรถดา นซาย แซงเมอ่ื เขาที่คบั ขัน in a mannerof traffic obstruction not adjacentto the outermost left-hand side laneOvertaking another vehicle when entering congestedarea ๒. หยดุ รถ ในลกั ษณะกีดขวางการจราจร ในเขตหามหยุด รอสัญญาณลา้ํ แนว Stop in a mannerof traffic obstruction in the non-stop zone Beyond the stop line when waiting for the traf ic light ๓. จอดรถไว ในลักษณะกีดขวางการจราจร บนทางเทา ในเขตหามจอด......................................... Parking in a manner of traffic obstruction on the footpath in the forbidden Zone…..................... ไมช ิดขอบทางดานซาย ไมขนานชดิ ขอบทาง ซอนคัน Not adjacentto theleft-sidecurb Notparallelandadjacent tothe curb Double parking ๔. อืน่ ๆ(Other) :................………………………………………………………………………………………………………………………………….........................................................................…… เหตเุ กดิ ที่ ตรอก/ซอย(Place of incident/Alley) ……………………..………………………….………………………………..ถนน(Road) ………………………................................................... ตาํ บล/แขวง (Sub-district) …………………………….………………………อําเภอ/เขต(District) ……………………….…………………………จังหวัด (Province)….......................................... เม่อื วนั ท่ี(Date)…....................เดือน(Month)…..................................................................พ.ศ.(Year)…..........................เวลา(at)…..........................น.(hrs.) หนว ยงานผอู อกใบสั่ง: ................................................................................................................................................................................................. Traffic Ticket Issuing Unit ทอี่ ย:ู ………………………………………………………………………………………………………………………………..….……………….……………….…..............……..……....... Address โทร : ...............................................................................................................................................................................................................………...... Tel. จํานวนคา ปรับตามเกณฑที่ผบู ัญชาการตํารวจแหงชาติกําหนด จํานวน ............... บาท The amount of fine is ……………………..Baht in accordance with regulation determined by Commissioner General of Royal Thai Police. อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๑๔๐ วรรคส่ีและมาตรา ๑๔๑ แหง พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ ซ่ึงแกไขเพิ่มเติมโดยพ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบับที่ ๑๒) พ.ศ. ๒๕๖๒ ใหผูขับขี่เจาของรถหรือผูครอบครองรถ ที่ไดร บั ใบสั่ง ไปชาํ ระคาปรับภายใน ๗ วนั นับแตวันทีไ่ ดรับใบส่ังดวยวิธีการอยางหน่ึงอยางใดตามท่ีระบุไวดานหลังใบสั่งน้ี By virtue of Section 140, paragraph 4 and Section 141 of Road Traffic Act B.E.2522 (1979) as amended by Road Traffic Act (No.12) B.E.2562 (2019), the driver, owner, or possessor of the vehicle who has received the traffic ticket shall pay a fine within 7 days upon receipt of the traffic ticket through any methods specified at the back of this traffic ticket. ลงชอื่ (Signed) …………………………………………………………………ผูออกใบส่ัง (Traffic Ticket Issuing Officer) รหัส (Code) .............................................. ยศ(Rank) ………………….ช่ือ(First Name) ..........................................................ชื่อสกุล(Last Name) ………………..................................................…………………

๕๓ (ดานหลัง) วธิ กี ารชาํ ระคา ปรับ (How to Pay) ผไู ดรับใบสั่งอาจเลือกชําระคาปรับดวยวิธีการอยางหนึ่งอยางใด ดังตอไปนี้ Persons receiving the traffic ticket may choose to do any of the following choices: ๑. ชําระคาปรับตามจํานวนที่ระบุไวในใบสั่ง หรือตามจํานวนที่พนักงานสอบสวนเปรียบเทียบ ณ สถานีตํารวจหรือหนวยงานที่ออกใบส่ัง หรือสถานีตํารวจ ทกุ ทองท่ีท่ัวราชอาณาจักร 1. Pay a fine in the amount and within the due date specified on the ticket at the police station or the agency issuing the ticket. ๒.ชําระคาปรับตามจํานวนท่ีระบุไวในใบสั่ง โดยการสงธนาณัติหรือตั๋วแลกเงินของธนาคารโดยทางไปรษณียลงทะเบียน สั่งจายใหแกผูบัญชาการตํารวจแหงชาติ พรอมดวยสําเนาใบสั่ง และสงไปยังสถานท่ีภายในระยะเวลาท่ีกําหนดไวในใบสั่ง ทั้งน้ี สําหรับการชําระคาปรับทางไปรษณียจะมีผลสมบูรณตอเมื่อไดมีการ เรียกเก็บเงินแลว และหนวยงานที่ไดรับคาปรับจะสงใบเสร็จรับเงินใหผูรับทางไปรษณีย 2. Pay a fine in the amount specified on the ticket by sending money order or bill of exchange payable, enclose with a copy of the ticket via registered mail addressing the Commissioner General of Royal Thai Police, to the location specified on the ticket within the due date. Hence, the payment status will remain pending until the transaction has been processed by a bank and the receipt has been issued and sent to the receiver by mail. ๓. ชําระคาปรับตามจํานวนและภายในระยะเวลาท่ีระบุไวในใบสั่งโดยวิธีการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส บัตรเครดิต หรือวิธีการอ่ืน โดยผาน ธนาคารหรือหนวยบริการ ชําระเงิน อาทิ ATM, INTERNET BANKING หรือหนวยบริการรับชําระเงินที่มีเครื่องหมาย PTM ท้ังนี้สามารถชําระคาปรับไดภายหลังสองวันทําการนับจากวันที่ ไดร ับใบสั่งโดยเอกสารหรือรายงานอิเล็กทรอนิกสท่ีธนาคารหรือหนวยบริการรับชําระเงินออกให ถอื วา เปนหลักฐานในการรับเงินคาปรับ 3. Pay a fine in the amount and within given period of time specified on the ticket by electronic transaction, credit card, or other methods through a bank, ATM, INTERNET BANKING, or payment service provider where the “PTM” logo is displayed. Hence, the fine can be paid within 2 days after receiving the ticket. Document, or electronic report issued by the bank or payment service provider is considered as evidence of payment. คาํ เตอื น (Warning) ๑. เมื่อเจาพนักงานจราจรไดติด ผูก หรือแสดงใบสั่งไวท่ีรถแลว ใหถือวาเจาของรถหรือผูครอบครองรถ ไดรับใบสั่งเม่ือพนกําหนดสิบหาวันนับแตวันดังกลาวและ ใหสันนิษฐานวาเจาของรถหรือผูครอบครองรถนั้นเปนผูกระทําความผิดตามที่ระบุในใบสั่ง เวนแตจะไดแจงตอพนักงานสอบสวนภายในสามสิบวันนับแตวันที่ไดรับใบสั่ง วาผูอ่ืนเปนผูขับขี่และผูน้ันยอมรับวาตนเปนผูขับข่ี หรือในกรณีท่ีไมมีผูใดยอมรับวาเปนผูขับขี่ เจาของรถหรือผูครอบครองรถซ่ึงไมใชนิติบุคคลจะตองแสดงหลักฐาน ใหพนักงานสอบสวนเชื่อไดวาตนเองมิไดเปนผูขับขี่นั้นตามมาตรา ๑๔๐/๑แหง พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ ซ่ึงแกไขเพ่ิมเติมโดยพ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบับที่ ๑๒) พ.ศ. ๒๕๖๒ 1. When the traffic officer has attached, tied, presented the ticket at a vehicle, or sent it by mail, it is considered that the owner or possessor of vehicle has received the ticket after 15 days since the above mentioned date, moreover, they are considered as offender regarding charges specified on such ticket unless they notifytoinquiry officer within 30 days since receiving the ticket thatanother person drivesavehideandsuch person admit it. If no one does,the owner or possessor of vehicle who are not a juristic person shall present evidences to the inquiry officer to proof that they are not a driver according to Section 140/1of Road Traffic Act B.E.2522 (1979)as amended by Road Traffic Act (No.12) B.E.2562 (2019). ๒. กรณีเจาของรถหรือผูครอบครองรถท่ีไดรับใบส่ังตามมาตรา ๑๔๐ วรรคสองแหง พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ ซึ่งแกไขเพิ่มเติมโดยพ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบับท่ี ๑๒) พ.ศ. ๒๕๖๒ เปนนิติบุคคล ใหผูแทนของนิติบุคคลนั้นมีหนาท่ีแจงช่ือ ท่ีอยู พรอมท้ังหลักฐานอ่ืนใดตอพนักงานสอบสวนที่แสดงวาผูใดเปนผู ขับขี่ในขณะท่ี พบการกระทําความผิดตามที่ระบุไวในใบส่ังภายในสามสิบวันนับแตวันท่ีไดรับใบสั่ง หากผูแทนของนิติบุคคลไมแจงภายในกําหนดระยะเวลาดังกลาว นิติบุคคลนั้น ตองระวางโทษปรับในอัตราหาเทาของโทษปรับสูงสุดที่บัญญัติไวสําหรับความผิดนั้นตามมาตรา ๑๖๐ จัตวาแหง พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ ซ่งึ แกไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบบั ที่ ๑๒) พ.ศ. ๒๕๖๒ 2. If the owner or possessor of vehicle receiving the traffic ticket according to Section 140 paragraph 2of Road Traffic Act B.E.2522 (1979) as amended by Road Traffic Act ( No. 1 2 ) B. E. 2 5 6 2 ( 2 0 1 9 ) is a juristic person, the representative of juristic person has a responsibility to notify name, addressandevidencespresentingthatwhoever is a driver of vehicle at the scene to inquiry officer within 30 days since receiving the ticket. If the representative does not notify within that period, such juristic person shall be fined five times of the maximum rate as prescribed for that offence according to Section 160 quarterof Road Traffic Act B.E.2522 (1979)asamended by Road Traffic Act (No.12) B.E.2562 (2019). ๓. เมื่อผูไดรับใบส่ังชําระคาปรับครบถวนถูกตองแลวคดีเปนอันเลิกกัน และผูขับขี่ตองถูกตัดคะแนนความประพฤติในการขับรถตามหลักเกณฑ วิธีการ และ เงื่อนไขท่ีผูบัญชาการตํารวจแหงชาติและอธิบดีกรมการขนสงทางบกรวมกันกําหนด 3. Once the person receiving the traffic ticket pays a fine, the case will be dismissedand the demerit point shall be deducted in accordance with regulation, procedure, and condition determined by Commissioner General of Royal Thai Police and Director-General of Land Transportation. ๔. การไมชําระคาปรับตามใบสั่งภายในระยะเวลาที่กําหนด โดยไมมีเหตุอันสมควร เปนความผิดตามมาตรา ๑๕๕ แหง พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ ตองระวางโทษปรับไมเกิน ๑,๐๐๐ บาท 4. Violation of not paying a finewithin given period of time and without reasonablecauseis prohibited according toSection 155of Road Traffic Act B.E.2522 (1979), and violator shall be fined not exceeding 1,000 baht. μÑÇÍ‹ҧãºÊѧè Ẻ·èÕ ñ

๕๔ Ẻ·èÕ ó ใบส่ังของเจาพนกั งานจราจรและพนักงานเจา หนา ที่Ẻʧ‹ ·Ò§ä»ÃɳÂÕ  ใบสั่ง ๑ ชุดมีเพียงใบเดียว มีขอความทางดานหนาและดานหลัง สําหรับการออกใบส่ัง แบบสง ทางไปรษณยี ไปใหผกู ระทาํ ความผดิ น้นั มี ๒ กรณคี อื ¡Ã³Õ·Õè˹Öè§ เมื่อการกระทําความผิดกฎหมายจราจรท่ีเจาพนักงานจราจรพบดวยμ¹àͧ áμä‹ ÁÊ‹ ÒÁÒöÍÍ¡ãºÊ§èÑ ä´Œ ตวั อยา งเชน กาํ ลงั อาํ นวยการจราจรในสภาพถนนทมี่ กี ารจราจรหนาแนน แตมีผูฝาฝนกฎหมายจราจร ถาเรียกรถคันดังกลาวเพื่อออกใบส่ังอาจทําใหการจราจรติดขัด ก็ใชวิธี ถายภาพผูกระทําความผิดดวยกลองท่ีลงทะเบียนเปนของราชการ เพื่อออกใบสั่งทางไปรษณียใหกับ ผูกระทําความผดิ ¡Ã³Õ·èÕÊͧ เมื่อการกระทําความผิดกฎหมายจราจรที่เจาพนักงานจราจรพบ โดยการใช เคร่อื งอปุ กรณใ ด ๆ (มาตรา ๑๔๐) ตวั อยา งเชน เคร่ืองตรวจวดั ความเร็วรถ และเครือ่ งตรวจการฝา ฝน สัญญาณไฟจราจร เครื่องดังกลาวก็จะบันทึกภาพถายแลวสงใบส่ัง พรอมดวยหลักฐานคือ ภาพถาย ไปยงั ผูขบั ข่หี รอื ผูครอบครองรถ ¡Ã³Õ·ÕèÊÒÁ เมื่อการกระทําผิดกฎหมายจราจรพบโดยวิธีอื่นใด (พ.ร.บ.จราจรทางบก ฉบบั ท่ี ๑๒ พ.ศ. ๒๕๖๒) เพอ่ื ใหเ จา พนกั งานจราจรสามารถออกใบสง่ั ได นอกจากพบการกระทาํ ความผดิ ซง่ึ หนา กบั การใชอุปกรณตรวจจบั เชน กรณพี บการกระทาํ ความผิดผา นสอื่ สามารถออกใบสง่ั ได

๕๕ (ดา นหนา ) ประทับตราหนว ยงานที่ออก เลขทใี่ บส่ัง Traffic ticket no. ใบสงั่ ดวยหมึก/ชาดสแี ดง คา ปรบั ตามเกณฑทผี่ ูบ ญั ชาการ ตาํ รวจแหงชาติกาํ หนด ใบสั่งเจา พนักงานจราจร Amount of fine Traffic Ticket issued by Traffic Officer ชาํ ระคา ปรับภายในวนั ท่ี Due date ช่ือผูขบั ข่ี เจาของ หรอื ผูครอบครอง: .................................................................................................. คะแนนความประพฤตใิ นการขับรถ Name of driver, owner or possessor of vehicle ที่ถกู ตัดคร้ังน้ี เลขประจําตัวประชาชน/ เลขท่ีหนังสอื เดินทาง :….............................................................................……… Current demerit points Identification No. / Passport No. สถานะใบอนญุ าตขบั ข่ี ท่ีอย:ู ……………………………………………………………………………………………………………..…......…….... Status of driver's license Address ขอมลู รถ: ………………………………………………………………………….. ประเภท: ………………………………………………………..……………………..… หนวยงานผอู อกใบสั่ง:............................................................................................................. VehicleInformation: Type: Unit issuing traffic ticket ยี่หอ :………………………………………………………………………….. หมายเลขทะเบยี นรถ : …………………………………………………….….......... ทอี่ ย:ู ……………………………………………………….……………….……………….…..............……….......... Marque:LicensePlateNo.: Address จังหวดั :………………………...................................................... ส:ี ……………………………………………….................................................... โทร : …………...............................................................................................................………...... Province :color: Tel. ขอ หา:……………………..………………………………………………………………………...……………….............… พยานหลกั ฐาน Charge …………………………………………………………………………………………….……………….........……. Evidence ……………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………………………………………………………………….. เหตเุ กดิ ที่ : …………………………....…………..……………………………...................................................….... Place of incident เมอ่ื วันท่ี (Date).............เดอื น (Month).......……………...…..........................พ.ศ.(Year).................... เวลา (at) ......................น. (hrs.)รายละเอียด / พฤติการณในคดี(Details of the incident )………. ...............................................................................................................................……………...…........ ...............................................................................................................................………….....…......... .....................................................................................................................................……………...….. ....................................................................................................................................……………...…... ความเรว็ ทีก่ ฎหมายกําหนด.......................กม./ชม. ความเร็วที่ตรวจจบั ............................กม./ชม. Speed limit enforcement.................................KMH, Vehicle speed detection.........................................KMH ชอ งทางเดินรถที่ ........................................................................................................................... Number of the lane................................................................................................................... อาศยั อํานาจตามความในมาตรา ๑๔๐ วรรคส่ีและมาตรา ๑๔๑ แหง พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ ซึ่งแกไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ.จราจรทางบก(ฉบับที่ ๑๒) พ.ศ. ๒๕๖๒ ใหผูขับขี่เจาของรถหรอื ผูครอบครองรถ ท่ีไดรบั ใบส่ัง ไปชําระคาปรับภายใน ระยะเวลาท่ีระบุไวในใบส่ังดวยวิธีการอยางหนึ่งอยางใดตามท่ีระบุไวดา นหลังใบสั่งน้ี By virtue of Section 140, paragraph 4 and Section 141 of Road Traffic Act B.E.2522 ( 1979) as amended by Road Traffic Act (No.12) B.E.2562 (2019), the driver, owner, or possessor of the vehicle who has received the traffic ticket shall pay a fine within the prescribed period of time through any methods specified at the back of this traffic ticket. โปรดอา นคําเตอื นและวธิ กี ารชําระคา ปรบั ดานหลัง (Please read the warning and how to pay a fine at the back of traffic ticket) ผูออกใบสั่ง (Officer issuing traffic ticket) ช่อื : .................................................................................................. รหัส: .................................. NameCode ช่อื ผไู ดรับใบสัง่ : ............................................................................................................................. Receiver’s name ที่อยผู ูไดรบั ใบส่ัง : .......................................................................................................................... Receiver’s address

๕๖ (ดานหลัง) วธิ กี ารชาํ ระคา ปรบั (How to Pay) ผไู ดร ับใบสั่งอาจเลือกชําระคาปรับดวยวิธีการอยางหนึ่งอยางใด ดังตอ ไปนี้ Persons receiving the traffic ticket may choose to do any of the following choices: Persons receiving the traffic ticket may choose to do any of the followi ๑. ชําระคาปรบั ตามจาํ นวนที่ระบุไวใ นใบส่ัง หรอื ตามจาํ นวนทีพ่ นักงานสอบสวนเปรียบเทียบ ณ สถานตี ํารวจหรือหนวยงานที่ออกใบส่ัง หรอื สถานีตาํ รวจทกุ ทอ งทที่ ั่วราชอาณาจักร 1. Pay a fine in the amount and within the due date specified on the ticket at the police station or the agency issuing the ticket. ๒.ชําระคาปรับตามจาํ นวนท่ีระบุไวใ นใบสงั่ โดยการสงธนาณัติหรอื ตวั๋ แลกเงินของธนาคารโดยทางไปรษณียลงทะเบียน สั่งจายใหแกผบู ัญชาการตาํ รวจแหงชาตพิ รอมดวยสําเนาใบส่ัง และสงไปยังสถานทภี่ ายในระยะเวลาที่กาํ หนดไวในใบส่ัง ทัง้ นี้ สาํ หรบั การชาํ ระคาปรับทางไปรษณียจะมีผลสมบูรณตอเมื่อไดมีการเรียกเก็บเงินแลว และหนวยงานท่ีไดรับคาปรับจะสงใบเสร็จรับเงินใหผูรับทางไปรษณีย 2. Pay a fine in the amount specified on the ticket by sending money order or bill of exchange payable, enclose with a copy of the ticket via registered mail addressing the Commissioner General of Royal Thai Police, to the location specified on the ticket within the due date. Hence, the payment status will remain pending until the transaction has been processed by a bank and the receipt has been issued and sent to the receiver by mail. ๓. ชําระคาปรับตามจํานวนและภายในระยะเวลาที่ระบุไวในใบส่ังโดยวิธีการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส บัตรเครดติ หรอื วิธีการอ่ืน โดยผาน ธนาคารหรือหนวยบริการชําระเงิน อาทิ ATM, INTERNET BANKING หรือหนวยบริการรับชําระเงินท่ีมีเครอื่ งหมาย PTM ทงั้ นส้ี ามารถชําระคาปรบั ไดภายหลังสองวันทาํ การนับจากวนั ทีไ่ ดรับใบส่ังโดยเอกสารหรือรายงานอิเล็กทรอนกิ สที่ธนาคารหรือหนว ยบริการรับชําระเงนิ ออกให ถือวา เปนหลกั ฐานในการรับเงินคา ปรับ 3. Pay a fine in the amount and within given period of time specified on the ticket by electronic transaction, credit card, or other methods through a bank, ATM, INTERNET BANKING, orpayment service provider where the “ PTM” logo is displayed. Hence, the fine can be paid within 2 days after receiving the ticket. Document, or electronic report issued by the bank or payment service provider is considered as evidence of payment. คําเตอื น (Warning) ๑. เม่ือเจาของรถหรือผูครอบครองรถ ไดรับใบส่ังทางไปรษณียแลว ใหถือวาไดรับใบสั่งเมื่อพนกําหนดสิบหาวันนับแตวนั ดังกลาว และใหสันนิษฐานวาเจาของรถหรือผูครอบครองรถน้ันเปนผูกระทําความ ผิดตามท่ีระบุในใบส่ัง เวนแตจะไดแจงตอ พนักงานสอบสวนภายในสามสิบวันนับแตวันท่ีไดรับใบส่ังวาผูอ่ืนเปนผูขับขี่และผูนั้นยอมรับวาตนเปนผูขับขี่ หรือในกรณีที่ไมมีผูใดยอมรับวาเปนผูขับข่ี เจาของรถหรือผูครอบครองรถซ่ึงไมใชนิติบุคคลจะตองแสดงหลักฐานใหพนักงานสอบสวน เช่ือไดวาตนเองมิไดเปนผูขับข่ีนั้นตามมาตรา ๑๔๐/๑แหง พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ ซึง่ แกไขเพม่ิ เติมโดยพ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบบั ที่ ๑๒) พ.ศ. ๒๕๖๒ 1. When the traffic officer has attached, tied, presented the ticket at a vehicle, or sent it by mail, it is considered that the owner or possessor of vehicle has received the ticket after 15 days since the above mentioned date, moreover, they are considered as offender regarding charges specified on such ticket unless they notify to inquiry officer within 30 days since receiving the ticket that another person drives savehideand such person admitIf no one does, the owner or possessor of vehicle who are not a juristic person shall present evidences to the inquiry officer to proof that they are not a driver according to Section 140/1of Road Traffic Act B.E.2522 (1979)as amended by Road Traffic Act (No.12) B.E.2562 (2019). ๒. กรณีเจาของรถหรือผูครอบครองรถที่ไดรับใบส่ังตามมาตรา ๑๔๐ วรรคสอง แหง พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ ซึ่งแกไขเพิ่มเติมโดยพ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบับที่ ๑๒) พ.ศ. ๒๕๖๒เปนนิติบุคคล ใหผูแทนของนิติบุคคลน้ันมีหนาท่ีแจงชื่อ ท่ีอยู พรอมทั้งหลักฐานอ่ืนใดตอพนักงานสอบสวนที่แสดงวาผูใดเปนผูขบั ขใ่ี นขณะที่พบการกระทําความผดิ ตามท่ีระบไุ วใ นใบสั่งภายในสามสบิ วนั นับแตวันที่ไดรบั ใบสง่ั หากผูแทนของนิตบิ ุคคลไมแ จง ภายในกําหนดระยะเวลาดังกลาว นิติบุคคลนั้นตอง ระวางโทษปรับในอัตราหาเทาของโทษปรับสูงสุดที่บัญญัติไวสาํ หรับความผิดนั้น ตามมาตรา ๑๖๐ จัตวาแหง พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ ซ่ึงแกไ ขเพ่ิมเตมิ โดยพ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบบั ท่ี ๑๒) พ.ศ. ๒๕๖๒ 2. If the owner or possessor of vehicle receiving the traffic ticket according to Section 140, paragraph 2 of Road Traffic Act B.E.2522 (1979)as amended by Road Traffic Act (No.12) B.E.2562 (2019)is a juristic person, the representative of juristic person has a responsibility to notify name, address,andevidencespresentingthatwhoever is a driver of vehicle at the scene to inquiry officer within 30 days since receiving the ticket. If the representative does not notify within that period, such juristic person shall be fined five times of the maximum rate as prescribed for that offence according to Section 160 quarterof Road Traffic Act B.E.2522 (1979) asamended by Road Traffic Act (No.12) B.E.2562 (2019). ๓. เม่ือผูไดรับใบส่ังชําระคาปรับครบถวนถูกตองแลวคดีเปนอันเลิกกัน และผูขับขี่ตองถูกตัดคะแนนความประพฤติในการขับรถตามหลักเกณฑ วิธีการ และเงื่อนไขท่ีผูบัญชาการตํารวจแหงชาติและอธิบดีกรมการขนสงทางบกรวมกันกําหนด 3. Once the person receiving the traffic ticket pays a fine, the case will be dismissedand the demerit point shall be deducted in accordance with regulation, procedure, and condition determined by Commissioner General of Royal Thai Police and Director-General of Land Transportation. ๔. การไมชําระคาปรับตามใบส่ังภายในระยะเวลาท่ีกาํ หนด โดยไมมีเหตุอันสมควร เปนความผิดตามมาตรา ๑๕๕ แหง พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ ซ่ึงแกไ ขเพมิ่ เติมโดยพ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบบั ที่ ๑๒) พ.ศ. ๒๕๖๒ตองระวางโทษปรับไม เกิน ๑,๐๐๐ บาท 4. Violation of not paying a finewithin given period of time and without reasonablecauseis prohibited according to Section 155of Road Traffic Act B.E.2522 (1979) and violator shall be fined not exceeding 1,000 baht

๕๗ ใบส่ังทตี่ าํ รวจจราจรใชส ําหรับออกใหกบั ผกู ระทาํ ความผดิ กฎหมายจราจรนน้ั มเี พยี ง ๓ รูปแบบขางตนเทาน้ัน ใบสั่งที่แตกตางจากขอกําหนดเจาพนักงานจราจรยอมเปนใบสั่งท่ีไมชอบดวย กฎหมาย เนื่องจากในปจจุบันสํานักงานตํารวจแหงชาติมีงบประมาณในการจัดซ้ือใบส่ังไมเพียงพอ ตอการออกใบส่ังผูกระทําความผิด ทําใหตํารวจจราจรตามพื้นที่ตาง ๆ ทําบันทึกยึดรถ หรือ บันทึกจับกุม แบบขนาดเล็กมาใชแทนใบสั่ง ตํารวจจราจรท่ีนําใบสั่งท่ีไมใช ๓ รูปแบบขางตนมาใช ÍÒ¨Á¤Õ ÇÒÁ¼´Ô °Ò¹»¯ºÔ μÑ ËÔ ¹ÒŒ ·âèÕ ´ÂÁªÔ ͺ䴌 à¾ÃÒÐÁÒμÃÒ ñôð ÇÃä·ÒŒ ¢ͧ¡®ËÁÒ¨ÃҨ÷ҧº¡ ºÞÑ ÞμÑ äÔ ÇÇŒ Ò‹ ãºÊ§èÑ áÅÐãºÃºÑ á·¹ãºÍ¹ÞØ Òμ¢ºÑ ¢Õè ãËทŒ าํ μÒÁẺ·àÕè ¨ÒŒ ¾¹¡Ñ §Ò¹¨ÃÒ¨Ãกาํ ˹´ ¨Ðä» กํา˹´¢é¹Ö ÁÒàͧäÁä‹ ´Œ ô) ¡ÒáÃÍ¡¢ÍŒ ÁÅÙ áÅТ͌ à·¨ç ¨Ã§Ô ã¹ãºÊÑè§ ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๑๔๐ ไดกําหนดการออกใบส่ังไว ซึง่ มรี ายละเอียด ดังน้ี ๑) ผูมีอาํ นาจออกใบสั่ง คือ เจาพนักงานจราจร หรือหัวหนาเจาพนักงานจราจร (ตาํ รวจจราจร) ดังนน้ั ตํารวจสายงานอน่ื หรอื อาสาจราจร ไมมีอาํ นาจออกใบสงั่ ๒) การทจ่ี ะออกใบสงั่ ไดน น้ั เจา พนกั งานจราจร หรอื หวั หนา เจา พนกั งานจราจร (ตาํ รวจ จราจร) ตอ งพบการกระทําความผดิ ดว ยตนเอง (ความผดิ ซง่ึ หนา ) หรอื พบการกระทาํ ความผดิ โดยการใช เครอื่ งอุปกรณใ ด ๆ (ความผิดซึง่ หนาโดยการใชเ ครอื่ งอปุ กรณใดๆ) หรอื โดยวิธีการอื่นใด ๓) ความผดิ ทจ่ี ะออกใบสงั่ ไดต อ งเปน ความผดิ ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ และกฎหมายอันเกย่ี วกับรถนนั้ ๆ ซ่งึ มดี งั นี้ คอื พระราชบญั ญัตริ ถยนต พ.ศ. ๒๕๒๒ พระราชบัญญัติ การขนสง ทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ พระราชบญั ญตั คิ มุ ครองผปู ระสบภยั ทางรถ พ.ศ. ๒๕๓๕ และประกาศ คณะปฏวิ ตั ิฉบับท่ี ๑๖ (พ.ศ. ๒๕๑๔) ๔) เมื่อพบการกระทําความผิดที่สามารถออกใบสั่งได เจาพนักงานจราจร หรอื หวั หนา เจา พนกั งานจราจร (ตาํ รวจจราจร) เลอื กปฏบิ ตั ไิ ด ๒ อยา ง คอื ออกใบสงั่ ผขู บั ขี่ หรอื วา กลา ว ตักเตือนผูข ับขี่ เทาน้นั ๕) ในกรณที ไ่ี มพ บตวั ผขู ับขี่ ใหต ิดหรือผกู ใบสัง่ ไวทีร่ ถทผ่ี ูขบั ข่เี ห็นไดงาย ๖) ถา ไมสามารถตดิ หรอื ผกู ใบสง่ั ไวท ี่รถไดไ มวาดวยเหตใุ ด ใหส งใบส่ังพรอ มพยาน หลกั ฐานโดยทางไปรษณยี ล งทะเบยี นตอบรบั ไปยงั ภมู ลิ าํ เนาของเจา ของรถหรอื ผคู รอบครองรถภายใน ระยะเวลา ๓๐ วัน นับแตวันท่ีเจาพนักงานจราจรพบการกระทําความผิด และใหถือวาเจาของรถ หรอื ผคู รอบครองรถไดรับใบสง่ั น้ันเมอ่ื พน กําหนด ๓๐ วันนับแตว ันสง ÅѡɳТͧãºÊ§èÑ ตามขอ กําหนดของเจา พนกั งานจราจรทั่วราชอาณาจกั ร ไดกําหนดไว ๒ สวน คอื ในสวนของใบสง่ั และ ใบรับแทนใบอนญุ าตขบั ข่ี

๕๘ (ดานหนา) ประทบั ตราหนว ยงานทอี่ อก ใบสง่ั ดวยหมกึ /ชาดสีแดง ใบส่ังเจาพนักงานจราจร เลขทใ่ี บส่งั Traffic Ticket issued by Traffic Officer Traffic Ticket No. เลมที่ เลขที่ Book No. No. ดวยผขู บั ข่ี(Driver's Name) : ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..………………........... เลขประจําตวั ประชาชน(ID No) / เลขท่ีหนังสือเดนิ ทาง(Passport No.) : ........................................................................................................................................................ ใบอนุญาตขบั ขี่เลขที/่ ฉบับท่ี ...................................................................... วันอนญุ าต ...................................................................................................................... Driver's License No./Book No : ……………………………………………………. Date of Issue : …………………………………………………………………………………………………. ใบขับข่ี รถจักรยานยนต รถสามลอ รถยนต รถขนสง รถอื่นๆ…………....…….. Driver's License of Motorcycle Tricycle Automobile Truck Others ชนิด ชั่วคราว ตลอดชีพ สาธารณะ สวนบุคคล ชนดิ ที่....... ทุกประเภท ชนิดที่......... ระหวางประเทศ Type: Temporary Lifetime Public Private No. All types no. International ออกใหโดยนายทะเบียน กรุงเทพมหานคร สาขาจังหวัด สาขา Issued by the Registrarof Bangkok Branch : .......................................Province : ........................................ Branch : .............…………….. ไดขบั ขี่ รถจักรยานยนต รถยนตนั่งสว นบุคคล รถประเภทอ่นื รถขนสง Driver of : Motorcycle Private Car Other Vehicle Truck ยหี่ อ ...................................................... หมายเลขทะเบยี นรถ………………………………….. กรุงเทพมหานคร จงั หวัด Marque : .............................................. License Plate no: ......................................... Bangkok Province……………………………….………… ปา ยทะเบยี นสี ขาว เหลือง เขียว แดง ฟา อนื่ ๆ License Plate Color: White Yellow Green Red Blue Others……………..…………… กระทําผดิ ฐาน / Committing the following offenses: ๑. ขบั รถ ฝา ฝนสัญญาณไฟจราจรสีแดง ฝาฝนเครือ่ งหมายบนพนื้ ทาง ฝา ฝนเครอ่ื งหมายจราจรหาม…………..…. Driving through a red light in violationofsymbolsmarkedonroadsurface in violation of traffic sign prohibiting……. ในลักษณะกีดขวางการจราจร ไมใ กลขอบทางเดินรถดา นซาย แซงเมอ่ื เขาที่คับขัน in a mannerof traffic obstruction not adjacentto the outermost left-hand side laneOvertaking another vehicle when entering congestedarea ๒. หยุดรถ ในลกั ษณะกีดขวางการจราจร ในเขตหา มหยดุ รอสัญญาณล้ําแนว Stop in a mannerof traffic obstruction in the non-stop zone Beyond the stop line when waiting for the traf ic light ๓. จอดรถไว ในลกั ษณะกดี ขวางการจราจร บนทางเทา ในเขตหา มจอด......................................... Parking in a manner of traffic obstruction on the footpath in the forbidden Zone…..................... ใบสัง่ ไมช ิดขอบทางดานซาย ไมขนานชิดขอบทาง ซอนคัน Not adjacentto theleft-sidecurb Notparallelandadjacent tothe curb Double parking ๔. อืน่ ๆ(Other) :................………………………………………………………………………………………………………………………………….........................................................................…… เหตุเกดิ ที่ ตรอก/ซอย(Place of incident/Alley) ……………………..………………………….………………………………..ถนน(Road) ………………………................................................... ตําบล/แขวง (Sub-district) …………………………….………………………อําเภอ/เขต(District) ……………………….…………………………จังหวัด (Province)….......................................... เม่อื วนั ที่(Date)…....................เดือน(Month)…..................................................................พ.ศ.(Year)…..........................เวลา(at)…..........................น.(hrs.) หนว ยงานผูออกใบส่ัง: ................................................................................................................................................................................................. Traffic Ticket Issuing Unit ทอี่ ยู:………………………………………………………………………………………………………………………………..….……………….……………….…..............……..……....... Address โทร : ...............................................................................................................................................................................................................………...... Tel. จาํ นวนคาปรับตามเกณฑที่ผบู ัญชาการตํารวจแหงชาติกาํ หนด จํานวน ............... บาท The amount of fine is ……………………..Baht in accordance with regulation determined by Commissioner General of Royal Thai Police. อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๑๔๐ วรรคส่ีและมาตรา ๑๔๑ แหง พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ ซ่ึงแกไขเพิ่มเติมโดยพ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบับที่ ๑๒) พ.ศ. ๒๕๖๒ ใหผูขับข่ีเจาของรถหรือผูครอบครองรถ ทไี่ ดร บั ใบสัง่ ไปชําระคาปรับภายใน ๗ วันนับแตวันท่ีไดรับใบสั่งดวยวิธีการอยางหน่ึงอยางใดตามท่ีระบุไวดานหลังใบส่ังน้ี By virtue of Section 140, paragraph 4 and Section 141 of Road Traffic Act B.E.2522 (1979) as amended by Road Traffic Act (No.12) B.E.2562 (2019), the driver, owner, or possessor of the vehicle who has received the traffic ticket shall pay a fine within 7 days upon receipt of the traffic ticket through any methods specified at the back of this traffic ticket. ลงชอื่ (Signed) …………………………………………………………………ผูออกใบสั่ง (Traffic Ticket Issuing Officer) รหัส (Code) .............................................. ยศ(Rank) ………………….ช่ือ(First Name) ..........................................................ชือ่ สกุล(Last Name) ………………..................................................…………………

๕๙ á¹Ç·Ò§ã¹¡ÒáÃÍ¡¢ÍŒ ÁÙÅã¹ãºÊè§Ñ เพอ่ื ใหก ารบงั คบั ใชก ฎหมายเปน ไปดว ยความเรยี บรอ ยและเพอ่ื ประโยชนใ นการประมวล ทางคอมพิวเตอร ผูออกใบสั่งจะตองคํานึงถึงการกรอกขอมูล และขอเท็จจริงในใบสั่งใหถูกตอง ครบถว น สมบรู ณ ชดั เจน การออกใบสงั่ จะตอ งเขยี นดว ยลายมอื ทอ่ี า นออกไดง า ย และใชต วั เลขอารบกิ ในการเขยี นขอ ความเพอ่ื อา นงา ยและเปน สากล ควรใชเ ปน ปากกาลกู ลน่ื ทส่ี ามารถเนน กดทบั ขอ ความ ลงในสําเนาใบส่งั เน่อื งจากใบส่งั บนั ทกึ รายการในสว นบนของใบสง่ั และลงลายมือช่อื ของเจาพนักงานจราจรท่อี อกใบสัง่ การบันทกึ ขอ มลู ลงในสว นของใบสัง่ แยกการบันทกึ เปนสวนๆ ดงั ตอไปน้ี ñ) ¡ÒáÃÍ¡»ÃÐàÀ·¢Í§Ã¶·¾èÕ ºã¹¡ÒáÃÐทาํ ¤ÇÒÁ¼´Ô ใหบ นั ทกึ ประเภทรถ ยห่ี อ รถ หมายเลขทะเบยี น และสปี า ยทะเบยี นรถทกี่ ระทาํ ความผดิ โดยใชเ ครอื่ งหมายถกู กาลงในชอ งสเี่ หลย่ี ม ขนาดเลก็ หนา ประเภทของรถ ซ่งึ ในแบบใบสัง่ แบง ออกเปน ๔ ประเภทคือ (๑) รถจกั รยานยนต ไดแ ก รถจกั รยานยนตท จ่ี ดทะเบยี นตามพระราชบญั ญตั ริ ถยนต พ.ศ. ๒๕๒๒ (๒) รถยนตน่ังสวนบุคคล ไดแก รถยนตน่ังสวนบุคคลที่จดทะเบียนตามพระราช บัญญตั ริ ถยนต พ.ศ. ๒๕๒๒ (๓) รถประเภทอ่ืน ไดแก รถทมี่ ิไดถ กู บงั คบั ใชต ามพระราชบญั ญัติการขนสงทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ และมิไดเปนรถจักรยานยนตและรถยนตนั่งสวนบุคคล เชน รถยนตบรรทุกสวนบุคคล ซึง่ ไมไดป ระกอบการขนสง สวนบคุ คลตามกฎหมายวา ดว ยการขนสง ทางบก (๔) รถขนสง ไดแก รถท่ีถูกบังคับใชตามพระราชบัญญัติการขนสงทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ เชน รถโดยสารประจาํ ทาง รถโดยสารไมป ระจาํ ทาง รถโดยสารสว นบคุ คล รถบรรทกุ ประจาํ ทาง รถบรรทกุ ไมประจําทาง และรถบรรทกุ สวนบคุ คล เปน ตน ¢ŒÍÊѧà¡μ การสังเกตวารถใดที่ถูกบังคับใชตามพระราชบัญญัติการขนสงทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ ก็คอื การสงั เกตจากแผนปา ยทะเบยี นรถ ซึ่งใชตัวเลข ๒ ตัว เปนเลขรหัสแสดงประเภท การขนสง แลว ตามดว ยตวั เลขอกี ๔ ตวั ซง่ึ เลขรหสั ๒ ตวั ทใ่ี ชแ สดงประเภทการขนสง มหี ลกั การใชด งั น.้ี - ๑. รถโดยสารประจําทาง ใชห มายเลขตง้ั แต ๑๐ ถึง ๑๙ ๒. รถขนาดเลก็ ใชห มายเลขต้ังแต ๒๐ ถึง ๒๙ ๓. รถโดยสารไมประจําทาง ใชห มายเลขตง้ั แต ๓๐ ถงึ ๓๙ ๔. รถโดยสารสวนบุคคล ใชห มายเลขตั้งแต ๔๐ ถงึ ๔๙ ๕. รถบรรทกุ ไมประจาํ ทาง ใชห มายเลขตัง้ แต ๖๐ ถงึ ๖๙ และ ๗๐ ถงึ ๗๙ ๖. รถบรรทกุ สว นบคุ คล ใชหมายเลขตั้งแต ๕๐ ถึง ๕๙ และ ๘๐ ถงึ ๙๙ ในการกรอกประเภทของรถจะตองà¢Õ¹ÂèÕˌͧ͢öลงในแบบใบส่ังดวยทุกครั้ง เพอ่ื ความชัดเจนและถกู ตอ ง

๖๐ ¡ÒáÃÍ¡ËÁÒÂàÅ¢·ÐàºÂÕ ¹Ã¶ ตอ งเขยี นหมวดอักษรและหมายเลขของทะเบียนรถ ใหชัดเจน ในชองส่ีเหลี่ยมขนาดเล็กในแบบใบส่ัง และใหระบุดวยวาเปนแผนปายทะเบียนจังหวัดใด โดยใชเ ครอ่ื งหมายถกู กาลงในชอ งกรงุ เทพมหานครหรอื ชอ งจงั หวดั สาํ หรบั ชอ งจงั หวดั ใหเ ขยี นเพมิ่ เตมิ ดวยวาเปนจังหวัดใด นอกจากน้ันใหระบุสีของแผนปายทะเบียนรถดวย โดยในแบบใบสั่งมีชองให กาเคร่ืองหมายถูกระบุสีของแผนปายทะเบียนไวใหแลวสําหรับสีขาว เหลือง เขียว แดง และฟา หากไมใชส ีดงั กลาวใหกรอกในชองอน่ื ๆ ไดขับขี่ รถจักรยานยนต รถยนตนั่งสว นบุคคล รถประเภทอื่น รถขนสง Driver of : Motorcycle Private Car Other Vehicle Truck ยห่ี อ ...................................................... หมายเลขทะเบยี นรถ………………………………….. กรุงเทพมหานคร จังหวัด Marque : .............................................. License Plate no: ......................................... Bangkok Province……………………………….………… ปา ยทะเบียนสี ขาว เหลือง เขียว แดง ฟา อ่นื ๆ License Plate Color: White Yellow Green Red Blue Others……………..…………… ¢ŒÍÊѧà¡μ หมายเลขทะเบียนรถยนตการบันทึกตองเขียนดวยลายมือท่ีสามารถ อา นไดงา ย เพอ่ื สะดวกดําเนนิ การตามกฎหมายในสว นที่เก่ียวของตอ ไป ò) ¡Òúѹ·Ö¡°Ò¹¤ÇÒÁ¼Ô´Å§ã¹ãºÊèѧ ในแบบใบส่ังมีขอหาหรือฐานความผิดที่มัก พบบอยพิมพไวใหแลว ผูออกใบส่ังสามารถใชเคร่ืองหมายถูกขีดลงหนาขอหาหรือฐานความผิดท่ีพบ ไดทันที หากพบวากระทําความผิดหลายขอหาก็สามารถขีดเครื่องหมายถูกไดเทาจํานวนขอหาท่ีพบ ไมไ ดพ มิ พใ นแบบฟอรม ใบสง่ั ใหก รอกลงในชอ งอนื่ ๆ โดยใชข อ หาหรอื ฐานความผดิ ทรี่ ะบไุ วใ นกฎหมาย เชน พระราชบัญญตั จิ ราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒, พระราชบญั ญตั ิรถยนต พ.ศ. ๒๕๒๒ และพระราช บัญญัติการขนสงทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ เปนตน หรือตามขอกําหนดสํานักงานตํารวจแหงชาติ เร่ือง การชาํ ระคา ปรบั การชาํ ระคา ปรบั ทางไปรษณยี  และวธิ กี ารทางธรุ กรรมทางอเิ ลก็ ทรอนกิ ส บตั รเครดติ หรอื วธิ อี น่ื โดยผา นทางธนาคารหรอื หนว ยบรกิ ารรบั ชาํ ระเงนิ หรอื สถานตี าํ รวจไดท กุ สถานแี ละกาํ หนด จํานวนคาปรับตามท่ีเปรียบเทียบ สําหรับความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ พ.ศ. ๒๕๕๙ ËŒÒÁ ÁãÔ ª‹Ãк¢Ø ÍŒ ËÒËÃ×Í°Ò¹¤ÇÒÁ¼´Ô ´ŒÇ¶͌ Âคํา¢Í§μ¹àͧ ในใบสั่งจะกําหนดฐานความผิดไว ๓ ประเภทเก่ียวกับการขับรถ การหยุดรถ และ การจอดรถ มี ๑๕ ฐานความผิด เพื่อสะดวกในการออกใบสั่งโดยเจาพนักงานจราจรที่ออกใบสั่ง ขดี ตามชอ งสเ่ี หลยี่ มตามฐานความผดิ แตถ า ผขู บั ขกี่ ระทําความผดิ ไดก ระทาํ ความผดิ ในฐานความผดิ อน่ื กบ็ ันทึกฐานความผดิ ลงใน ขอ ๔ กระทําความผดิ ฐานอนื่ ๆ

๖๑ กระทําผดิ ฐาน / Committing the following offenses: ๑. ขบั รถ ฝาฝนสญั ญาณไฟจราจรสีแดง ฝา ฝนเครอ่ื งหมายบนพนื้ ทาง ฝาฝนเครือ่ งหมายจราจรหา ม…………..…. Driving through a red light in violationofsymbolsmarkedonroadsurface in violation of traffic sign prohibiting……. ในลักษณะกีดขวางการจราจร ไมใกลข อบทางเดินรถดานซา ย แซงเมือ่ เขาที่คับขัน in a mannerof traffic obstruction not adjacentto the outermost left-hand side laneOvertaking another vehicle when entering congestedarea ๒. หยุดรถ ในลักษณะกีดขวางการจราจร ในเขตหา มหยดุ รอสัญญาณล้าํ แนว Stop in a mannerof traffic obstruction in the non-stop zone Beyond the stop line when waiting for the traf ic light ๓. จอดรถไว ในลกั ษณะกดี ขวางการจราจร บนทางเทา ในเขตหา มจอด......................................... Parking in a manner of traffic obstruction on the footpath in the forbidden Zone…..................... ไมช ิดขอบทางดานซาย ไมข นานชดิ ขอบทาง ซอนคัน Not adjacentto theleft-sidecurb Notparallelandadjacent tothe curb Double parking ๔. อืน่ ๆ(Other) :................………………………………………………………………………………………………………………………………….........................................................................…… ¢ŒÍÊѧà¡μ การบันทึกฐานความผิดไมตองมีการแจงถึงมาตราที่กระทาํ ความผิด เพราะไมไ ดม ีกฎหมายกาํ หนดไว ó) ¡ÒáÃÍ¡ ʶҹ·Õèà¡Ô´àËμØ áÅÐÇѹàÇÅÒà¡Ô´àËμØ การกรอกสถานท่ีเกิดเหตุใหลง รายละเอยี ดใหค รบในชอ งตรอก/ซอย, ถนน, ตาํ บล/แขวง, อาํ เภอ/เขต, จงั หวดั ทเี่ กดิ เหตุ และกรอกวนั , เวลา เกิดเหตุใหถูกตอง เพ่ือประโยชนในช้ันสอบสวนและการกรอกบันทึกเปรียบเทียบ (ใบเหลือง) เพือ่ สงพนักงานอยั การตอ ไป đĀêđč ÖĉéìęĊêøĂÖàĂ÷   ëîî  êĞćïúĒ×üÜ 1MBDFPGJODJEFOU\"MMFZ 3PBE 4VCEJTUSJDU ĂDćĞisđtõriĂctđ×..ê.................................................................................  BÖaøčÜnđgìkóoökĀćîÙø  PÝĆÜroĀvüiéĆnce ....................................................... DđöaęĂČ tüeĆî:ì..Ċę .............................. MđéoĂČ nîth .....................................óYeýar .................................đaütú.ć....................... hîrs. ę ęę ę ô) ¡Òú¹Ñ ·¡Ö ʶҹ·ชÕè าํ ÃФҋ »ÃºÑ ¡ºÑ จาํ ¹Ç¹¤Ò‹ »ÃºÑ ·μÕè ÍŒ §ชาํ ÃÐμÒÁ¢ÍŒ กาํ ˹´สาํ ¹¡Ñ §Ò¹ ตําÃǨáË‹§ªÒμÔ ใหผูออกใบส่ังกรอกสถานท่ีใหผูขับข่ีหรือเจาของรถไปรายงานตัวชําระคาปรับ ตอ พนกั งานสอบสวนใหช ดั เจนวา ใหไ ปรายงานตวั ทสี่ ถานตี าํ รวจใดหรอื สถานทอ่ี น่ื ซง่ึ ไมใ ชส ถานตี าํ รวจ เชน ทที่ าํ การไปรษณยี  ธนาคารฯ และเพอ่ื อาํ นวยความสะดวกแกป ระชาชน ¤ÇÃãªàŒ »¹š μÃÒÂÒ§»ÃзºÑ ªè×ÍʶҹÕตําÃǨáÅÐËÁÒÂàÅ¢â·ÃÈѾ·ไปดวย เพ่ือประชาชนจะไดอานออกหรือหากไปไมถูกจะได โทรศพั ทสอบถามได นอกจากน้ี สถานที่ชําระคาปรบั บางแหงเปดทกุ วันไมเวน วันหยดุ บางแหง เปด ทาํ การเฉพาะวนั เวลาราชการ ดงั นน้ั จงึ ควรระบเุ วลาทาํ การของสถานทช่ี าํ ระคา ปรบั ดว ยวา เปด ทาํ การ ตง้ั แตเ วลาใดถงึ เวลาใด และเปด ทาํ การทกุ วนั หรอื เปด เฉพาะวนั เวลาราชการ โดยอาจจะทาํ เปน ตรายาง ประทับใหชดั เจน เพ่ือมใิ หป ระชาชนเสียเวลาหากมาผิดเวลา

๖๒ จํานวนคาปรับตามเกณฑที่ผูบัญชาการตํารวจแหงชาติกําหนด จํานวน ............... บาท The amount of fine is ……………………..Baht in accordance with regulation determined by Commissioner General of Royal Thai Police. อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๑๔๐ วรรคส่ีและมาตรา ๑๔๑ แหง พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ ซ่ึงแกไขเพิ่มเติมโดยพ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบับท่ี ๑๒) พ.ศ. ๒๕๖๒ ใหผูขับข่ีเจาของรถหรือผูครอบครองรถ ท่ไี ดรบั ใบส่งั ไปชําระคาปรับภายใน ๗ วันนับแตวันทไ่ี ดรับใบส่ังดวยวิธีการอยางหน่ึงอยางใดตามท่ีระบุไวดานหลังใบสั่งน้ี By virtue of Section 140, paragraph 4 and Section 141 of Road Traffic Act B.E.2522 (1979) as amended by Road Traffic Act (No.12) B.E.2562 (2019), the driver, owner, or possessor of the vehicle who has received the traffic ticket shall pay a fine within 7 days upon receipt of the traffic ticket through any methods specified at the back of this traffic ticket. ¢ŒÍÊѧà¡μ การบันทกึ อัตราคาปรบั ที่ตองชําระ ตอ งเปนไปตามขอ กาํ หนดสาํ นกั งาน ตาํ รวจแหงชาติ และฐานความผิดท่ีสํานักงานตาํ รวจแหงชาติกาํ หนดมีเฉพาะฐานความผิดตาม พระราชบญั ญตั จิ ราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ เทา นนั้ ดงั นน้ั ¶ÒŒ ÍÍ¡ãºÊ§èÑ ã¹°Ò¹¤ÇÒÁ¼´Ô μÒÁ¡®ËÁÒÂ͹è× ¡çäÁμ‹ ÍŒ §ºÑ¹·¡Ö ÍÑμÃÒ¤‹Ò»ÃѺ·μèÕ ŒÍ§ชาํ ÃÐŧã¹ãºÊèѧáμÍ‹ ÂÒ‹ §ã´ õ) ¡ÒÃŧÅÒÂÁÍ× ªèÍ× ÂÈ ªÍè× Ê¡ÅØ áÅÐÃËÑÊ ¼ŒÙÍÍ¡ãºÊѧè ลงชื่อ (Signed) …………………………………………………………………ผูออกใบสั่ง (Traffic Ticket Issuing Officer) รหัส (Code) .............................................. ยศ(Rank) ………………….ช่ือ(First Name) ..........................................................ช่อื สกุล(Last Name) ………………..................................................………………… ¢ÍŒ 椄 à¡μ ถา เจา พนกั งานเจา หนา ที่ (ตาํ รวจจราจร) เปน ผอู อกใบสง่ั ตอ งลงลายมอื ชอ่ื ในสว นของลงชอ่ื ผอู อกใบสง่ั ¨ÐãËËŒ ÇÑ Ë¹ÒŒ à¨ÒŒ ¾¹¡Ñ §Ò¹¨ÃҨà (¼ºÙŒ §Ñ ¤ºÑ ¡ÒÃตําÃǨÀ¸Ù è§Ñ ËÇ´Ñ ) ŧÅÒÂÁÍ× ªÍ×è ËÃ×Í»ÃзºÑ μÃÒÅÒÂÁÍ× ªÍè× äÁä‹ ´Œ à¾ÃÒШÐ໚¹¡ÒÃÍÍ¡ãºÊÑ§è ·èÕäÁª‹ ͺ´ÇŒ ¡®ËÁÒ ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก ฉบบั ที่ ๑๒ พ.ศ. ๒๕๖๒ ไดก ําหนดไมใ หเ จา พนกั งานจราจร เรียกเก็บใบอนุญาตขับขี่อีกตอไปแลว แตรายละเอียดขอมูลของใบอนุญาตขับขี่ยังจาํ เปนตองกรอก ขอมูลใหครบถวน และไมตองลงลายมือช่ือเจาพนักงานจราจรในสวนทายของใบแทนใบอนุญาตขับข่ี ซ่ึงใบสง่ั เจาพนักงานจราจรจะมกี ารเปล่ียนรปู แบบใหเ หมาะสมตามกฎหมายจราจรใหม ¢ŒÍÁÙÅãºÍ¹ØÞÒμ¢ºÑ ¢·èÕ èÕμŒÍ§¡ÃÍ¡ ๑) ช่ือผูขับข่ี เลขบัตรประชาชน และเลขประจําตัวในใบอนุญาตขับขี่ (หากมี) ใหเขียนใหช ดั เจน ๒) ใบอนญุ าตขบั ขเ่ี ลขท/ี่ ฉบบั ที่ และวนั อนญุ าต ใบอนญุ าตขบั รถตามพระราชบญั ญตั ิ รถยนตฯ จะระบุเลขที่ในใบอนุญาตขับรถ เชน ใบอนุญาตขับรถยนตสวนบุคคลชั่วคราว หรอื ตลอดชพี สว นใบอนญุ าตผขู บั รถตามพระราชบญั ญตั กิ ารขนสง ทางบกฯ จะระบฉุ บบั ทใี่ นใบอนญุ าต ขับรถ สาํ หรับวันอนุญาตใหดูไดในใบอนุญาตขับรถดังกลาว และใหผูออกใบสั่งใชความระมัดระวัง ไมใ หเขียนสลบั กับผูขบั ขคี่ นั อนื่

๖๓ ¢ÍŒ 椄 à¡μ พระราชบญั ญตั จิ ราจรทางบกฯ ใชค าํ วา ใบอนญุ าตขบั ข่ี แตพ ระราชบญั ญตั ิ รถยนตฯ หรือพระราชบัญญตั ิการขนสงทางบกฯ ใชคาํ วา ใบอนุญาตขับรถ ๓) ระบใุ หช ดั เจนวา ใบอนญุ าตขบั ขอี่ อกโดยนายทะเบยี นจงั หวดั ใด สาขาใด เนอ่ื งจาก ในกรงุ เทพมหานครและบางจงั หวัดมสี าํ นักงานขนสง หลายสาขา ๔) ใหระบุวาใบขบั ข่เี ปน ใบขบั ขีข่ องรถใด เชน รถจกั รยานยนต รถสามลอ รถยนต รถขนสง หรือรถอืน่ ๆ ๕) ใหระบุวา ใบขับขเ่ี ปนชนิดใด เชน ชวั่ คราว ตลอดชพี สาธารณะ บุคคล หรอื ทุกประเภท หรอื ตางประเทศ ๖) เมื่อกรอกรายละเอียดครบถวนแลว ใหผูออกใบส่ัง ลงลายมือช่ือ พรอมระบุ ยศ ชอื่ สกลุ และกรอกรหสั ของผอู อกใบสงั่ เพอ่ื ประโยชนใ นการตดิ ตามตวั ผอู อกใบสง่ั หากมคี วามจําเปน ภายหลัง ดว ยผขู ับข่ี(Driver's Name) : ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..………………........... เลขประจาํ ตวั ประชาชน(ID No) / เลขที่หนงั สอื เดินทาง(Passport No.) : ........................................................................................................................................................ ใบอนุญาตขับข่ีเลขท/ี่ ฉบับท่ี ...................................................................... วนั อนุญาต ...................................................................................................................... Driver's License No./Book No : ……………………………………………………. Date of Issue : …………………………………………………………………………………………………. ใบขับข่ี รถจักรยานยนต รถสามลอ รถยนต รถขนสง รถอนื่ ๆ…………....…….. Driver's License of Motorcycle Tricycle Automobile Truck Others ชนดิ ชั่วคราว ตลอดชีพ สาธารณะ สวนบุคคล ชนดิ ท่ี....... ทุกประเภท ชนิดที่......... ระหวา งประเทศ Type: Temporary Lifetime Public Private No. All types no. International ออกใหโดยนายทะเบยี น กรุงเทพมหานคร สาขาจังหวัด สาขา Issued by the Registrarof Bangkok Branch : .......................................Province : ........................................ Branch : .............……………..

๖๔ ÷) ÅѡɳТͧ¢ÍŒ ÁÅÙ ´ÒŒ ¹ËÅѧãºÊè§Ñ (ดา นหลัง) วธิ กี ารชําระคา ปรบั (How to Pay) ผูไดร บั ใบส่ังอาจเลือกชําระคาปรับดวยวิธีการอยางหน่ึงอยางใด ดงั ตอไปนี้ Persons receiving the traffic ticket may choose to do any of the following choices: ๑. ชําระคาปรับตามจํานวนท่ีระบุไวในใบสั่ง หรือตามจํานวนท่ีพนักงานสอบสวนเปรียบเทียบ ณ สถานีตํารวจหรือหนวยงานที่ออกใบส่ัง หรือสถานีตํารวจ ทกุ ทอ งท่ีทั่วราชอาณาจักร 1. Pay a fine in the amount and within the due date specified on the ticket at the police station or the agency issuing the ticket. ๒.ชําระคาปรับตามจํานวนที่ระบุไวในใบส่ัง โดยการสงธนาณัติหรือต๋ัวแลกเงินของธนาคารโดยทางไปรษณียลงทะเบียน สั่งจายใหแกผูบัญชาการตํารวจแหงชาติ พรอมดวยสําเนาใบสั่ง และสงไปยังสถานที่ภายในระยะเวลาท่ีกําหนดไวในใบส่ัง ท้ังน้ี สําหรับการชําระคาปรับทางไปรษณียจะมีผลสมบูรณตอเมื่อไดมีการ เรียกเก็บเงินแลว และหนวยงานท่ีไดรับคาปรับจะสงใบเสร็จรับเงินใหผูรับทางไปรษณีย 2. Pay a fine in the amount specified on the ticket by sending money order or bill of exchange payable, enclose with a copy of the ticket via registered mail addressing the Commissioner General of Royal Thai Police, to the location specified on the ticket within the due date. Hence, the payment status will remain pending until the transaction has been processed by a bank and the receipt has been issued and sent to the receiver by mail. ๓. ชําระคาปรับตามจํานวนและภายในระยะเวลาที่ระบุไวในใบสั่งโดยวิธีการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส บัตรเครดิต หรือวิธีการอื่น โดยผาน ธนาคารหรือหนวยบริการ ชําระเงิน อาทิ ATM, INTERNET BANKING หรือหนวยบริการรับชําระเงินที่มีเคร่ืองหมาย PTM ท้ังน้ีสามารถชําระคาปรับไดภายหลังสองวันทําการนับจากวันท่ี ไดร ับใบสั่งโดยเอกสารหรือรายงานอิเล็กทรอนิกสท่ีธนาคารหรือหนวยบริการรับชําระเงินออกให ถือวาเปนหลักฐานในการรับเงินคาปรับ 3. Pay a fine in the amount and within given period of time specified on the ticket by electronic transaction, credit card, or other methods through a bank, ATM, INTERNET BANKING, or payment service provider where the “PTM” logo is displayed. Hence, the fine can be paid within 2 days after receiving the ticket. Document, or electronic report issued by the bank or payment service provider is considered as evidence of payment. คาํ เตอื น (Warning) ๑. เมื่อเจาพนักงานจราจรไดติด ผูก หรือแสดงใบส่ังไวที่รถแลว ใหถือวาเจาของรถหรือผูครอบครองรถ ไดรับใบส่ังเมื่อพนกําหนดสิบหาวันนับแตวันดังกลาวและ ใหสันนิษฐานวาเจาของรถหรือผูครอบครองรถน้ันเปนผูกระทําความผิดตามที่ระบุในใบสั่ง เวนแตจะไดแจงตอพนักงานสอบสวนภายในสามสิบวันนับแตวันที่ไดรับใบส่ัง วาผูอ่ืนเปนผูขับขี่และผูนั้นยอมรับวาตนเปนผูขับขี่ หรือในกรณีท่ีไมมีผูใดยอมรับวาเปนผูขับข่ี เจาของรถหรือผูครอบครองรถซ่ึงไมใชนิติบุคคลจะตองแสดงหลักฐาน ใหพนักงานสอบสวนเชื่อไดวาตนเองมิไดเปนผูขับขี่นั้นตามมาตรา ๑๔๐/๑แหง พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ ซึ่งแกไขเพิ่มเติมโดยพ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบับที่ ๑๒) พ.ศ. ๒๕๖๒ 1. When the traffic officer has attached, tied, presented the ticket at a vehicle, or sent it by mail, it is considered that the owner or possessor of vehicle has received the ticket after 15 days since the above mentioned date, moreover, they are considered as offender regarding charges specified on such ticket unless they notifytoinquiry officer within 30 days since receiving the ticket thatanother person drivesavehideandsuch person admit it. If no one does,the owner or possessor of vehicle who are not a juristic person shall present evidences to the inquiry officer to proof that they are not a driver according to Section 140/1of Road Traffic Act B.E.2522 (1979)as amended by Road Traffic Act (No.12) B.E.2562 (2019). ๒. กรณีเจาของรถหรือผูครอบครองรถที่ไดรับใบส่ังตามมาตรา ๑๔๐ วรรคสองแหง พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ ซึ่งแกไขเพิ่มเติมโดยพ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบับท่ี ๑๒) พ.ศ. ๒๕๖๒ เปนนิติบุคคล ใหผูแทนของนิติบุคคลนั้นมีหนาที่แจงชื่อ ที่อยู พรอมท้ังหลักฐานอื่นใดตอพนักงานสอบสวนท่ีแสดงวาผูใดเปนผู ขับข่ีในขณะท่ี พบการกระทําความผิดตามท่ีระบุไวในใบส่ังภายในสามสิบวันนับแตวันท่ีไดรับใบสั่ง หากผูแทนของนิติบุคคลไมแจงภายในกําหนดระยะเวลาดังกลาว นิติบุคคลนั้น ตองระวางโทษปรับในอัตราหาเทาของโทษปรับสูงสุดที่บัญญัติไวสําหรับความผิดนั้นตามมาตรา ๑๖๐ จัตวาแหง พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ ซงึ่ แกไขเพิม่ เตมิ โดย พ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบับท่ี ๑๒) พ.ศ. ๒๕๖๒ 2. If the owner or possessor of vehicle receiving the traffic ticket according to Section 140 paragraph 2of Road Traffic Act B.E.2522 (1979) as amended by Road Traffic Act ( No. 1 2 ) B. E. 2 5 6 2 ( 2 0 1 9 ) is a juristic person, the representative of juristic person has a responsibility to notify name, addressandevidencespresentingthatwhoever is a driver of vehicle at the scene to inquiry officer within 30 days since receiving the ticket. If the representative does not notify within that period, such juristic person shall be fined five times of the maximum rate as prescribed for that offence according to Section 160 quarterof Road Traffic Act B.E.2522 (1979)asamended by Road Traffic Act (No.12) B.E.2562 (2019). ๓. เมื่อผูไดรับใบส่ังชําระคาปรับครบถวนถูกตองแลวคดีเปนอันเลิกกัน และผูขับข่ีตองถูกตัดคะแนนความประพฤติในการขับรถตามหลักเกณฑ วิธีการ และ เงอ่ื นไขท่ีผูบัญชาการตํารวจแหงชาติและอธิบดีกรมการขนสงทางบกรวมกันกําหนด 3. Once the person receiving the traffic ticket pays a fine, the case will be dismissedand the demerit point shall be deducted in accordance with regulation, procedure, and condition determined by Commissioner General of Royal Thai Police and Director-General of Land Transportation. ๔. การไมชําระคาปรับตามใบสั่งภายในระยะเวลาที่กําหนด โดยไมมีเหตุอันสมควร เปนความผิดตามมาตรา ๑๕๕ แหง พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ ตองระวางโทษปรับไมเกิน ๑,๐๐๐ บาท 4. Violation of not paying a finewithin given period of time and without reasonablecauseis prohibited according toSection 155of Road Traffic Act B.E.2522 (1979), and violator shall be fined not exceeding 1,000 baht. ÊÇ‹ ¹áá ໹š Ç¸Ô ¡Õ ÒÃชาํ ÃФҋ »ÃºÑ ตามกฎหมายจราจรทางบกไดก าํ หนดวธิ ชี าํ ระคา ปรบั ไวใ น มาตรา ๑๔๐ ซง่ึ มอี ยู ๓ ชอ งทาง คือ ชาํ ระคาปรับสถานท่รี ะบุไวในใบส่งั ชําระคาปรบั ทางธนาณัติ หรอื ตวั๋ แลกเงนิ ของธนาคารโดยทางไปรษณยี ล งทะเบยี น และชาํ ระคา ปรบั โดยธรุ กรรมทางอเิ ลก็ ทรอนกิ ส บัตรเครดิต หรือโดยวิธีอื่นๆ โดยผานธนาคาร เอทีเอ็ม อินเตอรเน็ตแบงคก้ิง หรือสถานีตํารวจ ไดท กุ สถานี เปนตน

๖๕ วธิ กี ารชําระคา ปรบั (How to Pay) ผูไ ดร บั ใบส่ังอาจเลือกชําระคาปรับดวยวิธีการอยางหนึ่งอยางใด ดังตอไปนี้ Persons receiving the traffic ticket may choose to do any of the following choices: ๑. ชําระคาปรับตามจํานวนที่ระบุไวในใบส่ัง หรือตามจํานวนท่ีพนักงานสอบสวนเปรียบเทียบ ณ สถานีตํารวจหรือหนวยงานที่ออกใบส่ัง หรือสถานีตํารวจ ทกุ ทองที่ท่ัวราชอาณาจักร 1. Pay a fine in the amount and within the due date specified on the ticket at the police station or the agency issuing the ticket. ๒.ชําระคาปรับตามจํานวนท่ีระบุไวในใบส่ัง โดยการสงธนาณัติหรือตั๋วแลกเงินของธนาคารโดยทางไปรษณียลงทะเบียน ส่ังจายใหแกผูบัญชาการตํารวจแหงชาติ พรอมดวยสําเนาใบสั่ง และสงไปยังสถานที่ภายในระยะเวลาที่กําหนดไวในใบส่ัง ท้ังน้ี สําหรับการชําระคาปรับทางไปรษณียจะมีผลสมบูรณตอเมื่อไดมีการ เรียกเก็บเงินแลว และหนวยงานท่ีไดรับคาปรับจะสงใบเสร็จรับเงินใหผูรับทางไปรษณีย 2. Pay a fine in the amount specified on the ticket by sending money order or bill of exchange payable, enclose with a copy of the ticket via registered mail addressing the Commissioner General of Royal Thai Police, to the location specified on the ticket within the due date. Hence, the payment status will remain pending until the transaction has been processed by a bank and the receipt has been issued and sent to the receiver by mail. ๓. ชําระคาปรับตามจํานวนและภายในระยะเวลาท่ีระบุไวในใบสั่งโดยวิธีการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส บัตรเครดิต หรือวิธีการอ่ืน โดยผาน ธนาคารหรือหนวยบริการ ชําระเงิน อาทิ ATM, INTERNET BANKING หรือหนวยบริการรับชําระเงินที่มีเคร่ืองหมาย PTM ทั้งน้ีสามารถชําระคาปรับไดภายหลังสองวันทําการนับจากวันที่ ไดร บั ใบสั่งโดยเอกสารหรือรายงานอิเล็กทรอนิกสที่ธนาคารหรือหนวยบริการรับชําระเงินออกให ถอื วาเปนหลักฐานในการรับเงินคาปรับ 3. Pay a fine in the amount and within given period of time specified on the ticket by electronic transaction, credit card, or other methods through a bank, ATM, INTERNET BANKING, or payment service provider where the “PTM” logo is displayed. Hence, the fine can be paid within 2 days after receiving the ticket. Document, or electronic report issued by the bank or payment service provider is considered as evidence of payment. ¢ŒÍÊѧà¡μ การชําระคาปรับโดยวิธีการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส บัตรเครดิต หรือ วธิ กี ารอนื่ โดยผา นธนาคารหรอื หนว ยบรกิ ารรบั ชาํ ระเงนิ โดยตาํ รวจจราจรกต็ อ งแจง ผไู ดร บั ใบสงั่ ดว ยวา สามารถชาํ ระดว ยวิธดี งั กลา วได หรอื ใหใชว ิธชี าํ ระท่ีสถานีตาํ รวจทอ่ี อกใบสั่งหรอื ชําระทางไปรษณยี 

๖๖ ÊÇ‹ ¹·ÊèÕ Í§ คาํ àμÍ× ¹ เปน การแจง ใหผ ไู ดร บั ใบสงั่ ไปชําระคา ปรบั ภายในระยะเวลาทก่ี ฎหมาย กําหนดเพอ่ื ใหค ดอี าญาเลิกกนั มิเชน นัน้ จะมคี วามผดิ ตามกฎหมาย และอาจถูกยดึ ใบอนุญาตขบั ขี่ได และแจงเตือนเจาพนักงานจราจรหรือหัวหนาเจาพนักงานจราจร (ตํารวจจราจร) กรณีมีการเรียกเก็บ ใบอนญุ าตขบั ข่ี ตองนําไปสงสถานีตํารวจท่อี อกใบส่ังภายใน ๘ ชัว่ โมง นบั แตเวลาทอ่ี อกใบสั่ง คาํ เตอื น (Warning) ๑. เมื่อเจาพนักงานจราจรไดติด ผูก หรือแสดงใบส่ังไวท่ีรถแลว ใหถือวาเจาของรถหรือผูครอบครองรถ ไดรับใบส่ังเมื่อพนกําหนดสิบหาวันนับแตวันดังกลาวและ ใหสันนิษฐานวาเจาของรถหรือผูครอบครองรถน้ันเปนผูกระทําความผิดตามท่ีระบุในใบสั่ง เวนแตจะไดแจงตอพนักงานสอบสวนภายในสามสิบวันนับแตวันที่ไดรับใบส่ัง วาผูอื่นเปนผูขับข่ีและผูนั้นยอมรับวาตนเปนผูขับขี่ หรือในกรณีที่ไมมีผูใดยอมรับวาเปนผูขับข่ี เจาของรถหรือผูครอบครองรถซ่ึงไมใชนิติบุคคลจะตองแสดงหลักฐาน ใหพนักงานสอบสวนเชื่อไดวาตนเองมิไดเปนผูขับขี่นั้นตามมาตรา ๑๔๐/๑แหง พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ ซ่ึงแกไขเพิ่มเติมโดยพ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบับท่ี ๑๒) พ.ศ. ๒๕๖๒ 1. When the traffic officer has attached, tied, presented the ticket at a vehicle, or sent it by mail, it is considered that the owner or possessor of vehicle has received the ticket after 15 days since the above mentioned date, moreover, they are considered as offender regarding charges specified on such ticket unless they notifytoinquiry officer within 30 days since receiving the ticket thatanother person drivesavehideandsuch person admit it. If no one does,the owner or possessor of vehicle who are not a juristic person shall present evidences to the inquiry officer to proof that they are not a driver according to Section 140/1of Road Traffic Act B.E.2522 (1979)as amended by Road Traffic Act (No.12) B.E.2562 (2019). ๒. กรณีเจาของรถหรือผูครอบครองรถที่ไดรับใบส่ังตามมาตรา ๑๔๐ วรรคสองแหง พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ ซ่ึงแกไขเพ่ิมเติมโดยพ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบับที่ ๑๒) พ.ศ. ๒๕๖๒ เปนนิติบุคคล ใหผูแทนของนิติบุคคลนั้นมีหนาท่ีแจงช่ือ ท่ีอยู พรอมท้ังหลักฐานอ่ืนใดตอพนักงานสอบสวนท่ีแสดงวาผูใดเปนผู ขับข่ีในขณะท่ี พบการกระทําความผิดตามท่ีระบุไวในใบสั่งภายในสามสิบวันนับแตวันท่ีไดรับใบสั่ง หากผูแทนของนิติบุคคลไมแจงภายในกําหนดระยะเวลาดังกลาว นิติบุคคลนั้น ตองระวางโทษปรับในอัตราหาเทาของโทษปรับสูงสุดที่บัญญัติไวสําหรับความผิดนั้นตามมาตรา ๑๖๐ จัตวาแหง พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ ซ่งึ แกไขเพ่มิ เตมิ โดย พ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบบั ที่ ๑๒) พ.ศ. ๒๕๖๒ 2. If the owner or possessor of vehicle receiving the traffic ticket according to Section 140 paragraph 2of Road Traffic Act B.E.2522 (1979) as amended by Road Traffic Act ( No. 1 2 ) B. E. 2 5 6 2 ( 2 0 1 9 ) is a juristic person, the representative of juristic person has a responsibility to notify name, addressandevidencespresentingthatwhoever is a driver of vehicle at the scene to inquiry officer within 30 days since receiving the ticket. If the representative does not notify within that period, such juristic person shall be fined five times of the maximum rate as prescribed for that offence according to Section 160 quarterof Road Traffic Act B.E.2522 (1979)asamended by Road Traffic Act (No.12) B.E.2562 (2019). ๓. เมื่อผูไดรับใบส่ังชําระคาปรับครบถวนถูกตองแลวคดีเปนอันเลิกกัน และผูขับข่ีตองถูกตัดคะแนนความประพฤติในการขับรถตามหลักเกณฑ วิธีการ และ เงื่อนไขที่ผูบัญชาการตํารวจแหงชาติและอธิบดีกรมการขนสงทางบกรวมกันกําหนด 3. Once the person receiving the traffic ticket pays a fine, the case will be dismissedand the demerit point shall be deducted in accordance with regulation, procedure, and condition determined by Commissioner General of Royal Thai Police and Director-General of Land Transportation. ๔. การไมชําระคาปรับตามใบสั่งภายในระยะเวลาที่กําหนด โดยไมมีเหตุอันสมควร เปนความผิดตามมาตรา ๑๕๕ แหง พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ ตองระวางโทษปรับไมเกิน ๑,๐๐๐ บาท 4. Violation of not paying a finewithin given period of time and without reasonablecauseis prohibited according toSection 155of Road Traffic Act B.E.2522 (1979), and violator shall be fined not exceeding 1,000 baht.

๖๗ เล่ม ๑๓๗ ตอนพเิ ศษ ๒๗๗ ง ราชกหิจนจ้าานุเ๑บ๔กษา ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๓ ประกาศสาํ นักงานตํารวจแหง ชาติ เรอื่ ง วธิ ีการและสถานท่ีในการชําระคา ปรบั ตามพระราชบญั ญตั จิ ราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ พ.ศ. ๒๕๖๓ โดยท่ีเปนการสมควรกําหนดวิธีการและสถานที่ในการชําระคาปรับสําหรับผูขับข่ี เจาของรถ หรือผูครอบครองรถ ท่ีฝาฝนหรือไมปฏิบัติตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ หรือกฎหมายอน่ื อันเกย่ี วกับรถและการใชทาง และเจา พนักงานจราจรไดอ อกใบสัง่ ใหแกผขู บั ข่นี ้ัน อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๑๔๑ แหงพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ ซึ่งแกไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบญั ญัตจิ ราจรทางบก (ฉบับที่ ๑๒) พ.ศ. ๒๕๖๒ ผูบัญชาการตํารวจแหงชาติ จึงกาํ หนดวิธกี ารและสถานที่ในการชําระคาปรบั ไว ดังตอ ไปน้ี ขอ ๑ ประกาศน้ีเรียกวา “ประกาศสํานักงานตํารวจแหงชาติ เร่ือง วิธีการและสถานท่ี ในการชําระคาปรบั ตามพระราชบญั ญตั ิจราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ พ.ศ. ๒๕๖๓” ขอ ๒ ประกาศนใ้ี หใชบ ังคบั ตง้ั แตว ันถดั จากวนั ประกาศในราชกจิ จานเุ บกษาเปนตน ไป ขอ ๓ ใหยกเลิก (๑) ระเบียบสํานักงานตํารวจแหงชาติ วาดวยวิธีการชําระคาปรับทางไปรษณียลงทะเบียน และการสง ใบอนญุ าตขบั ขี่คนื ใหแกผไู ดร ับใบสงั่ พ.ศ. 2546 (๒) ขอกําหนดสํานักงานตาํ รวจแหงชาติ เร่ือง การชําระคาปรับ การชําระคาปรับทางไปรษณยี  และวิธีการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส บัตรเครดิตหรือวิธีการอ่ืน โดยผานธนาคารหรือหนวยบริการ รับชําระเงิน และกําหนดจํานวนคาปรับตามที่เปรียบเทียบสําหรับความผิดตามพระราชบัญญัติ จราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ พ.ศ. ๒๕๕๙ ในสวนที่เกย่ี วขอ งกับ การชําระคาปรบั การชําระคา ปรับ ทางไปรษณีย และวิธีการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกสบัตรเครดิตหรือวิธีการอื่น โดยผานธนาคาร หรอื หนว ยบรกิ ารรบั ชําระเงนิ (๓) ขอกําหนดสํานกั งานตํารวจแหง ชาติ เรอ่ื ง สถานทีใ่ นการชําระคา ปรับโดยวิธกี ารธรุ กรรม ทางอิเล็กทรอนิกส บัตรเครดิต หรือวิธีการอื่น ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ พ.ศ. ๒๕๕๙ ขอ ๔ ผูขับขี่ เจาของรถหรือผูครอบครองรถซ่งึ ไดร ับใบส่งั ตามมาตรา ๑๔๐ ตองชาํ ระคาปรบั ภายในเวลาทกี่ าํ หนดไวในใบส่ังดวยวิธีการและสถานท่อี ยางหน่งึ อยา งใด ดังตอ ไปน้ี (๑) ชาํ ระคา ปรับทส่ี ถานตี าํ รวจหรอื หนว ยงานทอี่ อกใบส่ัง โดยใหชําระตามจํานวนท่กี าํ หนดไว ในใบสง่ั หรือตามจํานวนท่พี นักงานสอบสวนเปรียบเทยี บ (๒) ชําระคาปรบั ท่สี ถานตี ํารวจอน่ื ๆ นอกเหนือจาก (๑) ไดท ัว่ ราชอาณาจักร

๖๘ เล่ม ๑๓๗ ตอนพเิ ศษ ๒๗๗ ง ราชกหจิ นจ้าานเุ๑บ๕กษา ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๓ (๓) ชําระคาปรับโดยการสงธนาณัติหรือการสงต๋ัวแลกเงินของธนาคาร ตามจํานวนที่ระบุไว ในใบสั่งทางไปรษณียลงทะเบียนส่ังจายแกผูบัญชาการตํารวจแหงชาติ พรอมดวยสําเนาใบส่ังไปยัง ผูบังคับการตํารวจจราจร หัวหนาสถานีตํารวจ หรือหัวหนาหนวยงานท่ีมีระดับต้ังแตสารวัตรข้ึนไป แลว แตก รณี ตามขอมลู ที่ระบุไวในใบส่ัง (๔) ชําระคาปรับโดยวิธีการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส บัตรเครดิต หรือวิธีการอ่ืน ตามจาํ นวนที่ระบไุ วในใบสั่ง ณ สถานท่ี ดงั ตอ ไปนี้ (ก) ธนาคาร (ข) เครื่องรบั จา ยเงินอัตโนมัติ (ATM) (ค) หนวยบริการรบั ชําระเงิน (ง) สถานทหี่ รือวิธกี ารอนื่ ใดทีส่ ามารถเขาถงึ การทาํ ธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนิกสได ขอ ๕ หากเปนกรณีที่ใบสั่งไมไดระบุจํานวนคาปรับไว การชําระคาปรับตามขอ ๔ (๓) (๔) ใหช ําระคา ปรบั สําหรับขอ หาน้นั ตามที่ผบู ญั ชาการตํารวจแหง ชาติประกาศกาํ หนด ขอ ๖ เมื่อไดชําระคาปรับตามวิธีการ และขั้นตอน ที่กําหนดในประกาศน้ีแลว ใหคดี เปนอันเลกิ กัน ประกาศ ณ วนั ท่ี 30 ตลุ าคม พ.ศ. ๒๕๖3 พลตาํ รวจเอก สวุ ฒั น แจง ยอดสขุ ผูบัญชาการตํารวจแหง ชาติ

๖๙ ËÁÒÂàËμØ รูปแบบใบส่ังดังกลาวขางตน จะมีการเปล่ียนแปลงรูปแบบใหสอดคลองกับ พ.ร.บ.จราจรทางบก ฉบับที่ ๑๒ พ.ศ. ๒๕๖๒ ตอ ไป ó.ò ¾ÃÐÃÒªºÞÑ ÞμÑ ¨Ô ÃҨ÷ҧº¡ ¾.È. òõöó ÁÒμÃÒ õù àÃÍ×è § ¡ÒÃà¤ÅÍè× ¹ÂÒŒ Âö áÅСÒÃãªàŒ ¤Ã×Íè §Á×ͺѧ¤ºÑ äÁã‹ ËŒà¤ÅèÍ× ¹ÂÒŒ Âö ¾ÃÐÃÒªºÞÑ ÞÑμÔ¡ÒèÃҨ÷ҧº¡ ¾.È. òõöó ÁÒμÃÒ ñôð, ñôð/ñ, ñôð/ò อํา¹Ò¨¢Í§ËÇÑ Ë¹ŒÒ਌Ҿ¹¡Ñ §Ò¹¨ÃÒ¨ÃËÃÍ× à¨ŒÒ¾¹Ñ¡§Ò¹¨ÃҨà 㹡ÒÃÇ‹Ò¡ÅÒ‹ ÇμÑ¡àμ×͹ ËÃ×ÍÍÍ¡ãºÊÑè§ãËŒ¼¢ŒÙ Ѻ¢èÕ (ÁÒμÃÒ ñôð) “มาตรา ๑๔๐ เม่ือปรากฏแกเจาพนักงานจราจร ไมวาพบดวยตนเอง หรือโดยการใช เครอ่ื งอปุ กรณห รอื โดยวธิ กี ารอน่ื ใดวา ผขู บั ขผ่ี ใู ดฝา ฝน หรอื ไมป ฏบิ ตั ติ ามบทบญั ญตั แิ หง พระราชบญั ญตั นิ ี้ หรอื ตามกฎหมายอน่ื อนั เกย่ี วกบั รถหรอื การใชท าง ทเ่ี ปน ความผดิ ทม่ี โี ทษปรบั สถานเดยี ว หรอื มโี ทษจําคกุ ไมเกินหน่ึงเดือนและมีโทษปรับ เจาพนักงานจราจรจะวากลาวตักเตือนหรือออกใบส่ังใหผูขับข่ีผูนั้น ชําระคา ปรับตามทเี่ ปรียบเทยี บกไ็ ด ในกรณเี จา พนกั งานจราจรทอี่ อกใบสั่งไมพ บตวั ผูขบั ข่ี ใหต ิด ผูก หรอื แสดงใบสง่ั ไวท่ีรถ ทผี่ ขู บั ขสี่ ามารถเหน็ ไดง า ย หากไมส ามารถตดิ ผกู หรอื แสดงใบสงั่ ไวท ร่ี ถไดไ มว า ดว ยเหตใุ ด ใหส ง ใบสงั่ พรอมดวยพยานหลักฐานโดยทางไปรษณียลงทะเบียนตอบรับไปยังภูมิลําเนาของเจาของรถหรือ ผูครอบครองรถ เพื่อใหชําระคาปรับภายในระยะเวลาท่ีกําหนดในใบส่ังนั้น ทั้งนี้ ตามระเบียบ ท่ผี บู ญั ชาการตาํ รวจแหงชาตกิ ําหนด ใหนําความในวรรคสองมาใชบังคับกับกรณีท่ีเจาพนักงานจราจรพบการกระทําความผิด ตามพระราชบญั ญตั นิ หี้ รอื ตามกฎหมายอน่ื อนั เกยี่ วกบั รถหรอื การใชท าง แตไ มอ าจทราบตวั ผขู บั ขดี่ ว ย โดยอนโุ ลม เกณฑการกาํ หนดจาํ นวนคาปรับตามที่เปรียบเทียบและแบบของใบส่ังตามวรรคหนึ่ง ใหเปนไปตามทผี่ ูบัญชาการตํารวจแหงชาตปิ ระกาศกาํ หนด” มาตรา ๑๑ ใหเ พมิ่ ความตอ ไปนเี้ ปน มาตรา ๑๔๐/๑ มาตรา ๑๔๐/๒ และมาตรา ๑๔๐/๓ แหงพระราชบญั ญตั จิ ราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ “มาตรา ๑๔๐/๑ เม่ือเจาพนักงานจราจรไดติด ผูก หรือแสดงใบสั่งไวท่ีรถหรือสงใบสั่ง ไปรษณียต ามมาตรา ๑๔๐ วรรคสองและวรรคสาม แลว ใหถ ือวา เจาของรถหรอื ผคู รอบครองรถไดรับ ใบสั่งเม่ือพนกําหนดสิบหาวันนับแตวันที่ไดติด ผูก หรือแสดงใบสั่งไวท่ีรถหรือสงใบสั่งทางไปรษณีย ดังกลาว เวนแตจะมีการพิสูจนไดวาไมมีการไดรับหรือไดรับหลังจากวันน้ัน เมื่อเจาของรถหรือ ผคู รอบครองรถไดร บั ใบสง่ั ดงั กลา วแลว ใหส นั นษิ ฐานวา เจา ของรถหรอื ผคู รอบครองรถนน้ั เปน ผกู ระทํา ความผดิ ตามทรี่ ะบใุ นใบสง่ั เวน แตเ จา ของรถหรอื ผคู รอบครองรถจะไดแ จง ตอ พนกั งานสอบสวนภายใน

๗๐ สามสบิ วนั นบั แตว นั ทไี่ ดร บั ใบสง่ั วา ผอู น่ื เปน ผขู บั ขแ่ี ละผนู น้ั ยอมรบั วา ตนเปน ผขู บั ขี่ หรอื ในกรณที ไ่ี มม ผี ใู ด ยอมรบั วา เปน ผขู บั ข่ี เจา ของรถหรอื ผคู รอบครองรถซงึ่ ไมใ ชน ติ บิ คุ คลจะตอ งแสดงหลกั ฐานใหพ นกั งาน สอบสวนเชอื่ ไดว าตนเองมไิ ดเปนผขู ับขี่นน้ั มาตรา ๑๔๐/๒ ในกรณที ่เี จา พนกั งานจราจรไดว า กลา วตกั เตอื นหรือออกใบส่ังใหผูข ับขี่ ผูใดตามมาตรา ๑๔๐ แลว หากเจา พนักงานจราจรเหน็ วาผูข ับขผ่ี ูน้นั อยูในสภาพทีห่ ากใหขบั รถตอ ไป อาจเปน อนั ตรายตอ ชวี ติ รา งกาย หรอื ทรพั ยส นิ ของตนเองหรอื ผอู นื่ ใหเ จา พนกั งานจราจรมอี าํ นาจยดึ ใบอนญุ าตขบั ขข่ี องผขู บั ขดี่ งั กลา ว หรอื บนั ทกึ การยดึ ใบอนญุ าตขบั ขด่ี ว ยวธิ กี ารทางขอ มลู อเิ ลก็ ทรอนกิ ส หรือระงับการใชรถเปนการช่ัวคราวเพื่อมิใหผูนั้นขับรถ และใหเจาพนักงานจราจรคืนใบอนุญาตขับขี่ หรือยกเลิกการบันทึกการยึดใบอนุญาตขับขี่ดวยวิธีการทางขอมูลอิเล็กทรอนิกสหรือยอมใหผูขับข่ี ขับรถได เม่ือผูขับขี่นั้นอยูในสภาพที่สามารถขับรถตอไปไดหรือเม่ือเจาพนักงานจราจรแนใจวาผูขับข่ี จะไมขับรถในขณะที่อยูในสภาพดังกลาว ทั้งนี้ ตามระเบียบที่ผูบัญชาการตาํ รวจแหงชาติและอธิบดี กรมการขนสงทางบกรว มกันกาํ หนด มาตรา ๑๔๐/๒ ในกรณีที่เจาพนักงานจราจรพบวาผูขับขี่ผูใดเปนผูขาดคุณสมบัติหรือ มีลักษณะตองหามในการไดรับใบอนุญาตขับข่ี ใหเจาพนักงานจราจรมีอาํ นาจยึดใบอนุญาตขับขี่หรือ บันทึกการยึดใบอนุญาตขับข่ีดวยวิธีการทางขอมูลอิเล็กทรอนิกสของผูขับขี่ผูนั้น โดยแจงการสั่งยึด ใบอนุญาตขับขี่พรอมดวยเหตุผลในการส่ังยึดใบอนุญาตขับขี่ใหผูขับขี่ดังกลาวทราบ พรอมท้ังมอบ หลักฐานการสั่งยดึ ใบอนุญาตขบั ขนี่ ้นั ใหแ กผูขบั ข่ีไวเ ปนหลกั ฐาน มาตรา ๑๔๐/๓ ในกรณีท่ีเจาพนักงานจราจรพบวาผูขับขี่ผูใดเปนผูขาดคุณสมบัติ หรือมีลักษณะตองหามในการไดรับใบอนุญาตขับข่ี ใหเจาพนักงานจราจรมีอํานาจยึดใบอนุญาตขับขี่ หรอื บนั ทกึ การยดึ ใบอนญุ าตขบั ขด่ี ว ยวธิ กี ารทางขอ มลู อเิ ลก็ ทรอนกิ สข องผขู บั ขผ่ี นู นั้ โดยแจง การสงั่ ยดึ ใบอนุญาตขับขี่พรอมดวยเหตุผลในการสั่งยึดใบอนุญาตขับขี่ใหผูขับข่ีดังกลาวทราบ พรอมทั้ง มอบหลักฐานการส่งั ยึดใบอนุญาตขบั ขี่นนั้ ใหแ กผ ขู บั ข่ไี วเปน หลักฐาน ในกรณีท่ีเจาพนักงานจราจรยึดใบอนุญาตขับขี่ตามวรรคหน่ึง ใหจัดทาํ บันทึกการยึด ใบอนุญาตขับข่ี และใหสงบันทึกนั้นพรอมดวยใบอนุญาตขับข่ีของบุคคลดังกลาวไปยังนายทะเบียน ตามกฎหมายวาดวยรถยนตหรือกฎหมายวาดวยการขนสงทางบก เพื่อใหนายทะเบียนดําเนินการ ตามกฎหมายตอ ไป ตามบทบญั ญตั ิในมาตรา ๑๔๐ นี้ กําหนดใหห ัวหนา เจา พนักงานจราจรหรอื เจาพนกั งาน จราจรปฏิบัติเม่ือพบวา ผูขับข่ีผูใดฝาฝนหรือไมปฏิบัติตามบทแหงพระราชบัญญัติน้ี หรือกฎหมาย อนั เกย่ี วกับรถนนั้ ๆ (หมายถึงกฎหมายอ่นื ๆ ทบี่ ัญญัติถึงรถทจ่ี ะนํามาใชใ นทาง เชน พระราชบัญญัติ รถยนต พระราชบัญญตั ขิ นสงทางบก พระราชบัญญัติทางหลวง พระราชบัญญตั ิคุม ครองผูประสบภยั จากรถ เปนตน) โดยใหอํานาจหัวหนา เจาพนักงานจราจรหรือเจาพนกั งานจราจรใชด ุลพินิจในการทจี่ ะ ดําเนินการบงั คับใชกฎหมาย

๗๑ ñ) ¡Òû¯ÔºÑμÔ㹡ÒÃà¤Åè×͹ŒÒÂöáÅСÒÃ㪌à¤Ã×èͧÁ×ͺѧ¤ÑºäÁ‹ãËŒà¤Åè×͹ŒÒÂö μÒÁ¾ÃÐÃÒªºÑÞÞμÑ ¡Ô ÒèÃҨ÷ҧº¡ ¾.È. òõöò ÁÒμÃÒ õù ไดใหผูที่รับมอบหมายจากเจาพนักงานจราจรหรือหัวหนาเจาพนักงานจราจร ซึ่งÍҨ໚¹ÀÒ¤àÍ¡ª¹ มีอาํ นาจในการเคลื่อนยายรถท่ีหยุดหรือจอดอยูภายใตการควบคุมของ เจา พนกั งานจราจรหรอื พนกั งานเจา หนา ทต่ี ามหลกั เกณฑแ ละวธิ กี ารทผี่ บู ญั ชาการตาํ รวจแหง ชาตกิ าํ หนด (อยูระหวา งดําเนินการ) ในสว นนี้จึงขอนาํ เสนอตามหลักเกณฑและระเบยี บปฏบิ ตั ฉิ บบั ที่ยังคงใชอยู มาตรา ๕๙๒๕ หวั หนา เจาพนกั งานจราจร* หรอื เจา พนักงานจราจร* มอี าํ นาจสัง่ ให ผูข บั ข่ีเคลื่อนยา ยรถท่หี ยดุ หรือจอดอยอู ันเปน การฝา ฝนบทแหงพระราชบัญญตั ินไ้ี ด หัวหนาเจาพนักงานจราจร* หรือเจาพนักงานจราจร* หรือผูท่ีไดรับมอบหมายจาก หวั หนา เจา พนกั งานจราจร* หรอื เจา พนกั งานจราจร* ภายใตก ารควบคมุ ดแู ลของบคุ คลดงั กลา วมอี ํานาจ เคล่ือนยายรถท่ีหยุดหรือจอดอยูอันเปนการฝาฝนบทบัญญัติแหงพระราชบัญญัตินี้ หรือใชเคร่ืองมือ บงั คบั ไมใ หเคลือ่ นยายรถดงั กลา วไดต ามหลักเกณฑและวธิ กี ารทผ่ี บู ัญชาการตํารวจแหงชาติกาํ หนด๒๖ การเคลอ่ื นยา ยรถหรอื ใชเ ครอื่ งมอื บงั คบั ใหร ถทห่ี ยดุ หรอื จอดอยไู มใ หเ คลอื่ นยา ยได ตามวรรคสอง หวั หนา เจา พนกั งานจราจร* หรอื เจา พนกั งานจราจร* หรอื ผทู ไี่ ดร บั มอบหมายจากหวั หนา เจาพนักงานจราจร* หรือเจาพนักงานจราจร* ไมตองรับผิดสําหรับความเสียหายใด ๆ ที่เกิดข้ึนจาก การปฏบิ ตั ติ ามมาตราน้ี เวน แตค วามเสยี หายนน้ั จะเกดิ ขนึ้ จากการกระทําโดยจงใจหรอื ประมาทเลนิ เลอ ๒๗ เจาของรถหรือผูขับขี่ตองชําระคาใชจายในการที่รถถูกเคลื่อนยายหรือการใช เครอ่ื งมอื บงั คบั ไมใ หเ คลอ่ื นยา ย ตลอดจนคา ดแู ลรกั ษารถระหวา งทอี่ ยใู นความครอบครองของหวั หนา เจา พนกั งานจราจร* หรือเจา พนกั งานจราจร* หรือผทู ่ไี ดรับมอบหมายจากหวั หนา เจาพนักงานจราจร* หรอื เจา พนกั งานจราจร* ทงั้ นี้ ตามอัตราท่ีกาํ หนดในกฎกระทรวง๒๘ เงนิ ทไ่ี ดจ ากเจา ของรถหรอื ผขู บั ขซี่ งึ่ ชําระตามวรรคสี่ เปน รายไดท ไี่ มต อ งนาํ สง กระทรวง การคลงั และใหน ํามาเปน คา ใชจ า ยในการปฏบิ ตั กิ ารตามมาตรานต้ี ามระเบยี บทผ่ี บู ญั ชาการตาํ รวจแหง ชาติ กําหนด ในกรณที เ่ี จา ของรถหรอื ผขู บั ขไ่ี มช ําระคา ใชจ า ยและคา ดแู ลรกั ษาตามวรรคส่ี หวั หนา เจา พนกั งานจราจร* หรอื เจา พนกั งานจราจร* มอี ํานาจยดึ หนว งรถนนั้ ไวไ ดจ นกวา จะไดร บั ชาํ ระคา ใชจ า ย และคา ดแู ลรกั ษาดงั กลา ว โดยในระหวา งทย่ี ดึ หนว งนนั้ ใหค ํานวณคา ดแู ลรกั ษาเปน รายวนั ถา พน กาํ หนด ๒๕ มาตรา ๕๙ แกไ ขเพ่ิมเตมิ โดยพระราชบัญญตั ิจราจรทางบก (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๓๕ ๒๖ มาตรา ๕๙ วรรคสอง แกไขเพิ่มเตมิ โดยคําสงั่ หวั หนา คณะรักษาความสงบแหงชาติ ที่ ๑๔/๒๕๖๐ เร่อื ง มาตรการ เพม่ิ ประสทิ ธภิ าพการบังคับใชกฎหมายวาดวยการจราจรทางบก ๒๗ มาตรา ๕๙ วรรคสาม แกไขเพมิ่ เติมโดยคาํ สัง่ หัวหนาคณะรกั ษาความสงบแหง ชาติ ที่ ๑๔/๒๕๖๐ เรื่อง มาตรการ เพ่ิมประสิทธิภาพการบงั คบั ใชก ฎหมายวาดวยการจราจรทางบก ๒๘ มาตรา ๕๙ วรรคสี่ แกไขเพ่ิมเติมโดยคาํ ส่ังหัวหนาคณะรักษาความสงบแหงชาติ ที่ ๑๔/๒๕๖๐ เร่ือง มาตรการ เพิม่ ประสทิ ธิภาพการบงั คับใชก ฎหมายวาดวยการจราจรทางบก

๗๒ สามเดอื นแลว เจา ของรถหรอื ผขู บั ขยี่ งั ไมช าํ ระคา ใชจ า ยและคา ดแู ลรกั ษาดงั กลา ว ใหห วั หนา เจา พนกั งาน จราจร* หรอื เจา พนกั งานจราจร* มอี ํานาจนํารถนนั้ ออกขายทอดตลาดได เงนิ ทไ่ี ดจ ากการขายทอดตลาด เม่ือไดหักคาใชจายในการขายทอดตลาด คาใชจายและคาดูแลรักษาท่ีคางชาํ ระแลวเหลือเงินเทาใด ใหค นื แกเ จา ของหรอื ผูมสี ิทธทิ ีแ่ ทจรงิ ตอไป (ไมปฏิบัติตามคาํ ส่ังตามมาตรา ๕๙ วรรคหนึ่ง หรือขัดขวางการดาํ เนินการตาม มาตรา ๕๙ วรรคสอง มโี ทษจาํ คุกไมเกิน ๓ เดอื น หรอื ปรบั ไมเ กนิ ๕,๐๐๐ บาท หรอื ท้งั จาํ ทง้ั ปรับ ตามมาตรา ๑๕๙ วรรคหนึ่ง) (ทําใหเสียหาย ทําลาย ทาํ ใหเสื่อมคาหรือทาํ ใหไรประโยชนซ่ึงเคร่ืองมือบังคับรถ หรือเคลอ่ื นยายรถทไี่ ดใชเ ครอื่ งมือบงั คบั รถโดยไมไ ดรบั อนุญาต มีโทษจําคกุ ไมเ กนิ ๓ เดอื น หรือปรับ ไมเ กิน ๕,๐๐๐ บาท หรือทง้ั จําทง้ั ปรบั ตามมาตรา ๑๕๙ วรรคสอง) ความผิดตามมาตรานี้ ไมส ามารถเปรียบเทยี บปรบั ได ËÅ¡Ñ à¡³±ã¹¡ÒÃà¤Å×Íè ¹ÂŒÒÂö การเคลอื่ นยา ยรถไปดูแลรักษาใหป ฏิบัตดิ งั นี้ ๑) เมอ่ื เจา พนกั งานจราจรหรอื หวั หนา เจา พนกั งานจราจรทพ่ี บรถทหี่ ยดุ หรอื จอดอยู อนั เปน การฝา ฝน กฎหมายวา ดว ยจราจรทางบก และจําเปน จะตอ งเคลอื่ นยา ยรถ ใหเ จา พนกั งานจราจร หรือพนักงานเจาหนาที่ออกหนังสือคําสั่งของพนักงานจราจร สั่งใหผูขับขี่ไปรายงานตัวยังสถานที่ จอดรถกลาง โดยหนังสือดังกลาวใหใสถุงพลาสติกผูกติดกับกานใบปดน้ําฝนดานหนา แลวจึงทําการ เคลอื่ นยายรถไปยังสถานท่จี อดรถกลาง ๒) หามมิใหเจาพนักงานจราจร หรือหัวหนาเจาพนักงานจราจร ผูเคล่ือนยายรถ ปลอยรถคืนใหกับเจาของรถ หรือผขู ับข่ไี ปโดยพลการในระหวา งทางเปน อันขาด ๓) รถที่นําเขาแตละคันใหลงรายงานประจาํ วัน ปรากฏรายละเอียดเก่ียวกับรถ ไดแก ลักษณะรถ หมายเลขทะเบียนรถ ประเภทรถ ชอื่ ชนดิ รถ (แบบ/รนุ /ปท่ผี ลติ ) สี (ถามีหลายสี ใหลงรายละเอียดใหชัดเจน) และรายละเอียดอื่นๆ ท่ีจําเปนเพื่อบงช้ีลักษณะของรถ ฐานความผิด วนั เวลาท่เี กดิ เหตุ ผูจ บั กมุ วันเวลาทนี่ าํ รถเขา ๔) เมื่อเจาของรถหรือผูขับขี่ รายงานตัวและชาํ ระคาปรับ คาเคล่ือนยายรถ และคา ดูแลรักษา ใหพ นักงานสอบสวนเวรส่ังคนื รถใหก ับเจาของรถหรอื ผูขบั ขีไ่ ป

๗๓ á¹Ç·Ò§»¯ÔºÑμÔ㹡ÒÃà¤Å×è͹ŒÒÂö ËÅѡࡳ±áÅÐá¹Ç·Ò§¡Òû¯ÔºÑμÔ㹡ÒÃà¤Åè×͹ŒÒÂöáÅСÒÃ㪌à¤Ã×èͧÁ×ͺѧ¤Ñº äÁã‹ ËàŒ ¤Å×è͹ÂÒŒ Âö เพอื่ ใหพ นกั งานเจา หนา ทหี่ รอื ตาํ รวจทปี่ ฏบิ ตั หิ นา ทคี่ วบคมุ การจราจรไดถ อื ปฏบิ ตั ใิ หเ กดิ ความเรยี บรอ ย และเปน ไปตามเจตนารมณข องกฎหมาย เนอื่ งจากรถทถี่ กู เคลอื่ นยา ยหรอื ใชเ ครอื่ งมอื บังคับไมใหเคล่ือนยายรถมีมูลคาสูง ดังน้ัน หนวยงานท่ีมีหนาที่บังคับใชกฎหมายดังกลาว เชน กองบังคับการตํารวจจราจร กองบังคับการตาํ รวจนครบาล ๑ – ๙ และตาํ รวจภูธรจังหวัด เปนตน จะตอ งดําเนนิ การดว ยความระมดั ระวงั ไมป ระมาทเลนิ เลอ นอกจากนไ้ี ดม แี นวทางปฏบิ ตั ซิ งึ่ ไดร วบรวม จากประสบการณใ นการปฏบิ ตั หิ นา ทข่ี องเจา หนา ทตี่ าํ รวจจราจรทผี่ า นมา เพอ่ื ความสะดวกในการปฏบิ ตั ิ หนาท่ีมากย่งิ ขึ้นและมิใหม ีขอผดิ พลาด ñ. ËÅѡࡳ±ã ¹¡ÒÃà¤Å×è͹ŒÒÂö การเคลอ่ื นยายรถไปดแู ลรักษาใหป ฏิบัติดงั นี้ ๑.๑ เมื่อพนักงานตํารวจจราจรหรือหัวหนาเจาพนักงานจราจรพบรถท่ีหยุดหรือ จอดอยอู นั เปน การฝา ฝน กฎหมายวา ดว ยจราจรทางบกและจาํ เปน จะตอ งเคลอื่ นยา ยรถ ใหเ จา พนกั งาน จราจรหรอื หวั หนา เจา พนกั งานจราจรออกหนงั สอื คาํ สง่ั ของเจา พนกั งานจราจรสงั่ ใหผ ขู บั ขไี่ ปรายงานตวั ยังสถานท่ีจอดรถกลางโดยหนังสือดังกลาว ใหใสถุงพลาสติกผูกติดกับกานใบปดน้ําฝนดานหนา แลวจงึ ทําการเคลอ่ื นยา ยรถไปยงั สถานทีจ่ อดรถกลาง ๑.๒ หามมิใหเจาพนักงานจราจรหรือหัวหนาเจาพนักงานจราจรผูเคล่ือนยายรถ ปลอ ยรถคนื ใหก ับเจา ของรถหรอื ผขู ับขีไ่ ปโดยพลการในระหวา งทางเปนอันขาด ๑.๓ รถทน่ี ําเขา แตล ะคนั ใหร ายงานประจําวนั ปรากฏรายละเอยี ดเกย่ี วกบั รถ ไดแ ก ลักษณะรถ หมายเลขทะเบียนรถ ประเภทรถ ช่ือ ชนิดรถ (แบบ/รุน/ปท่ีผลิต) สี (ถามีหลายสีใหลง รายละเอียดใหชัดเจน) และรายละเอียดอ่ืนๆ ทจี่ ําเปน เพอื่ บงชี้ลักษณะของรถ ฐานความผิด วนั เวลา และสถานท่ีเกดิ เหตุ ผูจบั กุม วนั เวลา ท่ีนํารถเขา ๑.๔ เมื่อเจาของรถหรือผูขับข่ีรายงานตัวและชาํ ระคาปรับ คาเคลื่อนยายรถ และคาบํารงุ รกั ษาใหพนักงานสอบสวนเวรสั่งคนื รถใหเ จาของรถหรือผขู บั ข่ี ò. á¹Ç·Ò§¡Òû¯ºÔ μÑ ãÔ ¹¡ÒÃà¤Åè×͹ÂÒŒ Âö ๒.๑ เมอ่ื เจา พนกั งานจราจรหรอื หวั หนา เจา พนกั งานจราจรพบเหน็ การกระทําความผดิ ควรทาํ การถา ยภาพรถทก่ี ระทาํ ผดิ ไวใ หเ หน็ ลกั ษณะการกระทําผดิ ไดช ดั เจน เนอื่ งจากปจ จบุ นั เจา ของรถ หรือผูขับขี่มักอางวาไมไดกระทําผิด หรือโตแยงกรณีกลาวหาวาเจาหนาท่ีกระทําการละเวนไมจับกุม คันอื่นๆ ที่อยูใกลเคียงและภาพถายยังสามารถใชยืนยันความเสียหายท่ีเกิดขึ้นกอนท่ีเจาหนาท่ี จะดาํ เนนิ การเคลือ่ นยายรถไดอีกสว นหนึ่งดวย

๗๔ ๒.๒ เมอื่ ดําเนนิ การบนั ทกึ ภาพไวแ ลว ใหเ จา พนกั งานจราจรหรอื หวั หนา เจา พนกั งาน จราจรออกหนังสือคําส่ังของเจาพนักงานจราจรส่ังใหผูขับขี่ไปรายงานตัวยังสถานที่จอดรถกลาง โดยหนังสือดังกลาวใหใสถุงพลาสติกผูกติดไวกับกานใบปดน้ําฝนดานหนาและใหม่ันคงเพื่อปองกัน การสูญหาย ภาพเจา พนกั งานจราจรหรอื หวั หนา เจา พนกั งานจราจรออกหนงั สอื คาํ สง่ั ใสถ งุ พลาสตกิ ผกู ตดิ ไวก บั กา น ใบปดนํา้ ฝนดานหนา รถ

๗๕ ๒.๓ การเคลื่อนยายรถควรใชรถสาํ หรับการเคล่ือนยายใหเหมาะสมกับประเภทรถ ทจ่ี ะเคลอื่ นยา ย เนอื่ งจากปจ จบุ นั รถสว นมากเปน ระบบเกยี รอ ตั โนมตั ิ ซงึ่ อาจตอ งใชร ถในการเคลอ่ื นยา ย แบบยกไปทั้งคัน เพื่อปองกันความเสียหายท่ีจะเกิดกับรถที่ถูกเคล่ือนยาย การเบิกเงินเก่ียวกับการ เคล่ือนยายรถใหเปนไปตามระเบียบ หลังจากน้ันจึงเคล่ือนยายรถไปเก็บยังสถานที่จอดรถที่กาํ หนด และเม่ือนํารถไปจอดเก็บไวแลว ตองลงรายงานประจาํ วันไวเปนหลักฐาน เพื่อความสะดวกในการ ควบคมุ และคนื รถใหแ กผขู บั ข่ี ó. ËÅ¡Ñ à¡³±¡ ÒÃ㪌à¤Ãè×ͧÁÍ× ºÑ§¤ºÑ äÁ‹ãËàŒ ¤ÅÍ×è ¹ÂÒŒ Âö การใชเครอื่ งมอื บังคับใหรถทหี่ ยุดหรอื จอดอยูไ มใ หเคลอ่ื นยา ยใหปฏิบัติดังน้ี ๓.๑ เมอื่ เจา พนกั งานจราจรหรอื หวั หนา เจา พนกั งานจราจรพบรถทหี่ ยดุ หรอื จอดอยู อนั เปน การฝา ฝน กฎหมายวา ดว ยจราจรทางบก ซง่ึ จะตอ งใชเ ครอ่ื งมอื บงั คบั รถไมใ หเ คลอื่ นยา ยโดยไม ทาํ ใหก ดี ขวางการจราจรใหอ อกหนงั สอื คาํ สง่ั ของเจา พนกั งานจราจรสง่ั ใหผ ขู บั ขไ่ี ปรายงานตวั ยงั สถานท่ี จอดรถที่กําหนด หนังสือคําสั่งของพนักงานจราจรหรือพนักงานเจาหนาท่ีดังกลาวใหใสถุงพลาสติก ผกู ตดิ กบั กา นใบปดนํา้ ฝนดานหนารถตรงหนาผขู ับข่ี ๓.๒ การบังคับรถไมใหเคลื่อนยายใหใชเคร่ืองมือบังคับลอรถพรอมกุญแจบังคับ ลอใดลอ หนึ่งของรถ ๓.๓ ตดิ แผนปา ย (สต๊ิกเกอร) สีเหลืองอกั ษรสีดํา ขนาดยาว ๑๒ นว้ิ กวาง ๘ นว้ิ ตามทา ยระเบียบน้ี ไวท ีก่ ระจกหนารถดา นผูขับข่ี ๓.๔ หามมิใหเจาพนักงานจราจรหรือหัวหนาเจาพนักงานจราจรปลดเครื่องมือ บังคบั รถคนื รถใหแกเจา ของรถหรอื ผขู บั ขี่ไปโดยพลการเปน อนั ขาด ๓.๕ เมอื่ เจา ของรถหรอื ผขู บั ขรี่ ายงานตวั และชําระคา ปรบั พรอ มกบั คา ใชเ ครอ่ื งมอื บงั คบั รถแลว ใหเ จา พนกั งานจราจรหรอื หัวหนาเจา พนักงานจราจรปลดเคร่ืองมือบงั คบั รถคนื รถใหแก เจาของรถหรือผูขับข่ีไปกอนคืนรถใหเจาพนักงานจราจรหรือหัวหนาเจาพนักงานจราจรดังกลาว ตรวจสอบวา เจา ของรถหรอื ผขู บั ข่ีไดช าํ ระคา ปรับ และคา ใชเ ครือ่ งมอื บงั คบั รถไวถ กู ตอ งแลว ๓.๖ รถใดทถี่ กู ใชเ ครอื่ งมอื บงั คบั รถไมใ หเ คลอ่ื นยา ยแลว หากจําเปน ตอ งเคลอื่ นยา ย ใหเ จา พนกั งานจราจรหรอื หวั หนา เจา พนกั งานจราจรเคลอื่ นยา ยรถนน้ั ไปไวใ นสถานทจี่ อดรถทกี่ าํ หนด ภายใน ๒๔ ชว่ั โมง เวน แตเ จา ของรถหรอื ผขู บั ขไี่ ดช ําระคา ปรบั และคา ใชเ ครอ่ื งมอื บงั คบั รถเสรจ็ สน้ิ กอ น จะทําการเคล่ือนยา ยรถน้ัน ô. á¹Ç·Ò§¡Òû¯ºÔ μÑ ãÔ ¹¡ÒÃãªàŒ ¤Ãè×ͧÁ×ͺ§Ñ ¤ÑºäÁã‹ ËàŒ ¤ÅèÍ× ¹ÂÒŒ Âö ๔.๑ เครอ่ื งมอื บงั คบั ไมใ หเ คลอ่ื นยา ยรถนน้ั ไมไ ดม กี ําหนดไวช ดั เจน แตเ จา พนกั งาน จราจรหรอื หวั หนา เจา พนกั งานจราจรควรใชเ ครอ่ื งมอื ฯ ตามแบบทสี่ ํานกั งานตํารวจแหง ชาตกิ ําหนด หรอื ควรนําเคร่ืองมือฯ ที่ไดจากการรับมอบไปข้ึนทะเบียนพัสดุครุภัณฑของหลวงใหเรียบรอยเพ่ืองาย ตอการควบคุม กรณีสูญหายหรือถูกเจาของรถหรือผูขับข่ีทําลายหรือเอาไปดวย สามารถดําเนินการ แจง ความดาํ เนินคดไี ด

๗๖ ๔.๑.๑ สาํ นกั งานตาํ รวจแหง ชาตไิ ดก าํ หนดคณุ ลกั ษณะเฉพาะสาํ หรบั อปุ กรณ บังคับไมใ หเ คลื่อนยา ยรถไวเ มื่อวันที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๔๒ ดังนี้ ๑) ฐานเปนเหลก็ ขอออยมเี สน ผา นศนู ยกลาง ๓/๔ นิว้ ดดั โคง งอ เปน รูปตัวเจ ท้ัง ๒ ดาน โดย (๑) ดา นแกนยาว ๔๐ + ๑ เซนติเมตร (๒) ดานฐานยาว ๒๗ + ๑ เซนตเิ มตร (๓) ดานพับงอตงั้ ฉากขึ้นยาว ๑๒ + ๑ เซนตเิ มตร ๒) มีเหล็กขอออยขนาดเดียวกับขอ ๑) ดัดโคงงอ เปนรูปมุมฉาก แลว เชื่อมตดิ กบั เหลก็ ขอ ออยในขอ ๑) ทีด่ านบน ๓) ท่ีดานฐานของเหล็กขอออยมีแผนเหล็กเช่ือมเปนรูปมุมฉาก ความหนาแผน เหล็กไมนอยกวา ๔ มลิ ลเิ มตร กวางดา นละ ๕ + ๐.๕ เซนติเมตร ยาว ๑๘ + ๐.๕ เซนตเิ มตร เชือ่ มตดิ อยูระหวา งกลางดานฐานเพื่อเปน ตัวบังคับลอ ๔) มีเหล็กแผนวงกลมความหนาไมนอยกวา ๑ มิลลิเมตร เสนผา ศูนยกลาง ๒๔.๕ + ๐.๕ เซนติเมตร เชื่อมติดกับเหล็กขอออยตามขอ ๑.๑ และ ๑.๒ ที่ยอดบน ดา นใน สวนดานนอกมีปลอกเหลก็ เสน ผา ศนู ยก ลาง ๑ น้วิ จาํ นวน ๒ ปลอก กวางปลอกละ ๕ + ๐.๕ เซนตเิ มตร เช่ือมติดอยูท ดี่ า นบนและดา นลาง ท่ปี ลอกเหล็กดานลางเจาะรทู ะลถุ งึ กนั ๑ รู ขนาดเสน ผาศนู ยก ลาง ๓/๘ นิ้ว ๕) มีแกนเหล็กดดั เสนผา ศนู ยกลาง ๓/๔ นิว้ ดัดโคงงอเปน รูปตัวเจ เชน เดยี วกบั เหลก็ ขอ ออ ย ยาว ๕๕ + ๑ เซนตเิ มตร ปลายเจาะรขู นาดเสน ผา ศนู ยก ลาง ๓/๘ นวิ้ จาํ นวน ๘ รู ระยะหาง ๓ + ๐.๒๕ เซนตเิ มตร สามารถเสียบเขากับปลอกทัง้ สองปลอกได Ẻà¤ÃèÍ× §ÁÍ× º§Ñ ¤ºÑ äÁ‹ãËŒà¤ÅÍ×è ¹ÂÒŒ Âö¢Í§สํา¹¡Ñ §Ò¹ตําÃǨáË‹§ªÒμÔ

๗๗ ÀÒ¾μÑÇÍÂÒ‹ §à¤ÃÍè× §Á×ͺѧ¤ÑºäÁã‹ ËàŒ ¤Å×è͹ŒÒÂö ÀÒ¾´ŒÒ¹ËÅ§Ñ ÀÒ¾´ŒÒ¹¢ÒŒ § ÀÒ¾´ÒŒ ¹Ë¹ÒŒ ÀÒ¾´ŒÒ¹¢ŒÒ§

๗๘ ๔.๑.๒ เครื่องมือบังคับไมใหเคลื่อนยายรถท่ีไมไดจัดซื้อโดยสวนราชการ ของสํานักงานตํารวจแหงชาติ เชน เจาหนาท่ีตํารวจจัดหามาเองหรือมีผูนํามามอบหรือบริจาค ใหกับทางราชการ ใหดําเนินการข้ึนบัญชีเปนพัสดุหรือทะเบียนทรัพยสินของทางราชการใหเรียบรอย เสยี กอ น การขนึ้ บญั ชดี งั กลา วใหป ฏบิ ตั ติ ามระเบยี บสาํ นกั นายกรฐั มนตรวี า ดว ยการพสั ดุ พ.ศ. ๒๕๓๕ ขอ ๑๕๒ ดงั น้ี ๑) ลงบัญชีหรือทะเบียนเพื่อควบคุมพัสดุแลวแตกรณี แยกเปน ชนิด และแสดงรายการตามตัวอยา งที่ กวพ. กําหนด โดยใหม ีหลักฐานการรับเขาบัญชหี รือทะเบยี น ไวป ระกอบรายการดวย ๒) เกบ็ รกั ษาพสั ดใุ หเ ปน ระเบยี บเรยี บรอ ย ปลอดภยั และใหค รบถว น ถกู ตอ งตรงตามบญั ชหี รือทะเบียน การรับเงินหรือทรัพยสินที่มีผูบริจาคใหทางราชการใหถือปฏิบัติตาม หลักเกณฑในระเบียบกระทรวงการคลังวาดวยการรับเงินหรือทรัพยสินท่ีมีผูบริจาคใหทางราชการ พ.ศ. ๒๕๒๖ หมวด ๑ การรับเงินหรือทรัพยสิน ประกอบกับหัวหนาหนวยงานท่ีรับบริจาคเงิน หรอื ทรพั ยส นิ หรอื สง่ิ ของจะตอ งปฏบิ ตั ติ ามระเบยี บสาํ นกั งานตาํ รวจแหง ชาติ วา ดว ยประมวลระเบยี บการ ตํารวจไมเกย่ี วกบั คดี ลักษณะที่ ๓๖ (เดิม) การเงินและการบญั ชี (ฉบบั ที่ ๗) พ.ศ. ๒๕๕๑ บทท่ี ๒๓ เรอ่ื งการรบั มอบ การจา ยเงนิ และการตอบขอบใจ หรอื อนโุ มทนาการบรจิ าคเงนิ หรอื ทรพั ยส นิ หรอื สง่ิ ของ ÀÒ¾μÇÑ Í‹ҧà¤Ãè×ͧÁÍ× º§Ñ ¤ÑºÅŒÍẺ͹×è æ (·ÕèÁͺᡋ·Ò§ÃÒª¡ÒÃ)

๗๙ ๔.๒ เมอื่ เจา พนกั งานจราจรหรอื หวั หนา เจา พนกั งานจราจรพบผขู บั ขหี่ ยดุ หรอื จอดรถ โดยผิดกฎหมายตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๕๕ และมาตรา ๕๗ เจาพนักงานจราจรหรือหัวหนาเจาพนักงานจราจรมีอาํ นาจที่จะใชเครื่องมือบังคับไมใหเคล่ือนยายรถ โดยกอ นทจี่ ะทําการใชเ ครอื่ งมอื ควรถา ยภาพรถทก่ี ระทําความผดิ ไว ทงั้ น้ี เพอื่ ปอ งกนั การโตแ ยง ของเจา ของรถ หรอื ผขู บั ขี่ หลงั จากนน้ั จงึ ใชเ ครอ่ื งมอื บงั คบั ลอ ไวท ล่ี อ หนา ดา นผขู บั ข่ี เพอ่ื ใหผ ขู บั ขสี่ ามารถสงั เกตเหน็ ไดง า ย และไมเคลื่อนยายรถ ซ่ึงหากผูขับขี่เคลื่อนยายรถโดยไมเห็นวามีการใชเคร่ืองมือบังคับลออาจจะ ทําใหเกดิ ความเสยี หายได ÀÒ¾μÑÇÍ‹ҧ¡ÒÃ㪌à¤ÃÍè× §ÁÍ× ºÑ§¤ÑºÅŒÍ´ÒŒ ¹¢ÇÒ ๔.๓ หลงั จากนนั้ ใหเ จา พนกั งานจราจรหรอื หวั หนา เจา พนกั งานจราจรออกหนงั สอื คําสง่ั ของพนกั งานจราจรหรอื หวั หนา เจา พนกั งานจราจรดงั กลา ว ใสถ งุ พลาสตกิ ผกู ตดิ กบั กา นใบปด นํ้าฝน ดา นหนา รถตรงหนาผขู ับข่ี เพ่ือปอ งกนั ใบสัง่ ปลวิ หลุดหาย พรอมทง้ั ตดิ แผน ปา ย (สต๊กิ เกอร) สีเหลือง อกั ษรสดี าํ ขนาดยาว ๑๒ นวิ้ กวา ง ๘ นวิ้ ไวท ก่ี ระจกหนา รถดา นผขู บั ขเ่ี พอื่ ใหผ ขู บั ขไ่ี ดม องเหน็ และไม เคลื่อนยา ยรถออกไปปอ งกันความเสยี หายกับตัวรถ

๘๐ ẺἹ‹ »‡Ò (ÊμêÔ¡à¡ÍÏ) μÒÁÃÐàºÂÕ º¡ÃÁตาํ ÃǨ ÂÒÇ ñò ¹ÔéÇ ¡ÇŒÒ§ ø ¹ÇéÔ μÑÇÍ‹ҧ¡ÒÃμ´Ô Êμ¡êÔ à¡ÍÏáÅÐ˹§Ñ ÊÍ× คาํ Êèѧ

๘๑ ๔.๔ สาํ หรับหนังสือคาํ ส่ังของเจาพนักงานจราจรหรือหัวหนาเจาพนักงานจราจร ควรประทับตรายางขอความแจงใหทราบวาเปนหนังสือคําสั่งประเภทที่มีการใชเครื่องมือบังคับลอ เพอ่ื ใหพ นกั งานสอบสวน หรอื เจา หนา ทท่ี ท่ี ําการเปรยี บเทยี บปรบั ทราบและดาํ เนนิ การในสว นทเ่ี กย่ี วขอ ง ไดอ ยา งถูกตอง ๔.๕ กรณีผูขับขี่หรือเจาของรถหรือบุคคลใดไดถอดหรือทาํ ลายหรือเอาเคร่ืองมือ บงั คบั ไมใ หเ คลอื่ นยา ยรถไปโดยทย่ี งั ไมช ําระคา ปรบั และคา ใชจ า ยในการบงั คบั ลอ ใหเ จา พนกั งานจราจร หรอื หวั หนา เจา พนกั งานจราจรแจง ความรอ งทกุ ขต อ พนกั งานสอบสวนทอ งทเ่ี กดิ เหตเุ พอ่ื ดาํ เนนิ คดกี บั ผูกระทําความผิดตามแตลักษณะความผิด

๘๒ ÀÒ¾μÇÑ ÍÂÒ‹ §ÅѡɳСÒÃË嫯 ËÃÍ× ¨Í´Ã¶â´Â¼´Ô ¡®ËÁÒ μÒÁ¾ÃÐÃÒªºÑÞÞÑμÔ¨ÃҨ÷ҧº¡ ¾.È. òõòò (๑) บนทางเทา (๒) บนสะพานหรอื อโุ มงค (๓) ในทางรว มทางแยกหรอื ในระยะสิบเมตร (๔) ในทางขา ม หรอื ในระยะสามเมตร จากทางรว มทางแยก จากทางขาม

๘๓ ò) ¡ÒÃÃ´Ñ ÃÒ‹ §¡Ò´nj Âà¢Áç ¢Ñ´¹ÃÔ ÀÂÑ มาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใชกฎหมายวาดวยการจราจร ตามคําสั่ง หัวหนาคณะรักษาความสงบแหงชาติ ท่ี ๑๔/๒๕๖๐ วันที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๖๐ ขอ ๒ ยกเลิก มาตรา ๑๒๓ พระราชบัญญตั ิจราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ โดยใชข อ ความนีแ้ ทน ความวา “ผูขับขี่ตองรัดรางกายดวยเข็มขัดนิรภัยไวกับท่ีนั่งในขณะขับข่ี และตองจัดให คนโดยสารรถยนตรัดรางกายไวกับที่นั่งเข็มขัดนิรภัยขณะโดยสารรถยนต และคนโดยสารรถยนต ดงั กลาวตอ งรัดรางกายดวยเขม็ ขัดนริ ภยั ไวก บั ที่นั่งในขณะโดยสารรถยนตด วย” การคาดเข็มขัดนิรภัย มีความสัมพันธกับความรุนแรงที่ไดรับจากการเกิดอุบัติเหตุ การคาดเข็มขัดนิรภัยสามารถลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บถึงตายสูงสุด ถึง ๕๐% สําหรับคนขับ และคนน่งั ตอนหนาสงู สุด ถงึ ๗๕% สาํ หรับคนโดยสารท่นี ง่ั ตอนหลงั ¢ÍŒ กํา˹´สาํ ¹¡Ñ §Ò¹ตาํ ÃǨáË‹§ªÒμÔ ñ. ¢ÍŒ กาํ ˹´สาํ ¹¡Ñ §Ò¹ตาํ ÃǨá˧‹ ªÒμÔ àÃÍ×è § กาํ ˹´»ÃÐàÀ·áÅЪ¹´Ô ¢Í§Ã¶Â¹μ Å¡Ñ É³ÐáÅÐÇ¸Ô Õ¡ÒÃ㪌à¢çÁ¢´Ñ ¹ÃÔ ÀÂÑ ออกขอ กําหนดไว ดงั ตอไปนี้ ขอ ๑ ใหยกเลิกขอกําหนดกรมตํารวจ เรื่อง กําหนดประเภทและชนิดของ รถยนต ลักษณะและวิธกี ารใชเขม็ ขดั นริ ภัย ลงวนั ท่ี ๖ ตลุ าคม ๒๕๔๐ ขอ ๒ ใหผูขับข่ีรถยนตและคนโดยสารรถยนตรัดรางกายไวกับที่นั่งซ่ึงติดตั้ง เขม็ ขัดนริ ภยั ตามประกาศกรมการขนสง ทางบก เรื่อง หลกั เกณฑก ารติดต้ังและคณุ สมบตั ิของเข็มขัด นริ ภยั สาํ หรบั รถตามกฎหมายวา ดว ยรถยนต พ.ศ. ๒๕๕๕ ลงวนั ที่ ๑๐ กมุ ภาพนั ธ ๒๕๕๕ และประกาศ กรมการขนสง ทางบก เรอ่ื ง กาํ หนดแบบเขม็ ขดั นริ ภยั และประเภทของรถตามกฎหมายวา ดว ยการขนสง ทางบกท่ตี อ งจดั ใหม เี ขม็ ขดั นริ ภัย พ.ศ. ๒๕๕๕ ลงวนั ท่ี ๑๔ ธันวาคม ๒๕๕๕ ขอ ๓ ประเภทและชนิดของรถยนตท ี่ตอ งใชเ ข็มขดั นริ ภัยตามขอ ๒ ไดแก (๑) ประเภทและชนดิ ของรถยนตต ามกฎหมายวาดวยรถยนต ไดแ ก (ก) รถยนตน ่ังสวนบุคคลไมเกินเจด็ คน (ข) รถยนตรับจางระหวา งจงั หวดั (ค) รถยนตร บั จา งบรรทุกคนโดยสารไมเ กนิ เจด็ คน (ง) รถยนตบ ริการ (จ) รถยนตนง่ั สว นบุคคลเกนิ เจ็ดคนแตไมเ กินสิบสองคน (ฉ) รถยนตบรรทกุ สวนบคุ คล (ช) รถยนตส ลี่ อ เลก็ รับจา ง (๒) ประเภทและชนดิ ของรถยนตต ามกฎหมายวา ดว ยการขนสง ทางบก (ก) รถทใ่ี ชใ นการขนสง ผโู ดยสารทม่ี จี าํ นวนทน่ี ง่ั ไมเ กนิ ๒๐ ทน่ี งั่ (เฉพาะรถตโู ดยสาร) ในประเภทการขนสง ประจาํ ทาง การขนสง ไมป ระจาํ ทาง และการขนสง สว นบคุ คล

๘๔ (ข) รถทใ่ี ชใ นการขนสง ผโู ดยสารทม่ี จี าํ นวนทน่ี งั่ ไมเ กนิ ๒๐ ทน่ี ง่ั (ลักษณะอ่ืนท่ีมิใชรถตูโดยสาร) และรถที่ใชในการขนสงผูโดยสารที่มีจํานวนที่นั่งเกินกวา ๒๐ ที่นั่ง ในประเภทการขนสง ประจาํ ทาง หมวด ๒ และหมวด ๓ การขนสง ไมป ระจาํ ทาง และการขนสง สว นบคุ คล (ค) รถทใี่ ชใ นการขนสง สตั วห รอื สง่ิ ของ ทกุ ประเภทของการขนสง (ง) รถทใ่ี ชในการขนสง ในประเภทการขนสงโดยรถขนาดเลก็ ขอ ๔ การใชเข็มขัดนิรภัยตามขอ ๓ ใหเปนไปตามเง่ือนไขและวิธีการ ดังตอ ไปนี้ (๑) รถตามขอ ๓ (๑) (ก) (ข) (ค) และ (ง) ที่จดทะเบียนไวตั้งแต วนั ที่ ๑ มกราคม ๒๕๓๑ เปนตน ไป รถตามขอ ๓ (๑) (ช) และรถยนตสวนบุคคลทเ่ี ปล่ียนประเภท มาจากรถยนตสล่ี อ เลก็ รบั จางที่จดทะเบยี นไวตัง้ แตว ันที่ ๑ เมษายน ๒๕๕๕ เปน ตน ไป ผูขบั ข่ีรถยนต และคนโดยสารที่น่ังตอนหนา ตองรัดรางกายดวยเขม็ ขดั นิรภัย (๒) รถตามขอ ๓ (๑) (ก) (ข) (ค) และ (ง) ทจี่ ดทะเบยี นไวต้งั แตวันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๔ เปนตนไป ผูขับข่รี ถยนตแ ละคนโดยสารทกุ ที่น่ัง ตองรดั รางกายดว ยเขม็ ขดั นิรภยั (๓) รถตามขอ ๓ (๑) (จ) และ (ฉ) ทจ่ี ดทะเบยี นไวต ง้ั แตว นั ท่ี ๑ มกราคม ๒๕๓๗ เปน ตนไป ผูข ับข่รี ถยนตแ ละคนโดยสารทีน่ ่ังตอนหนา ตอ งรดั รา งกายดว ยเข็มขัดนริ ภัย (๔) รถตามขอ ๓ (๑) (จ) ที่ผลิตหรือนําเขาต้ังแตวันท่ี ๑ เมษายน ๒๕๕๕ เปนตน ไป ผูข บั ข่ีรถยนตแ ละคนโดยสารทุกที่น่ัง ตองรัดรางกายดวยเข็มขดั นิรภยั เวนแตเ ปน รถยนตล ักษณะน่งั สองแถว ใหผูขับขแี่ ละคนโดยสารทนี่ ั่งตอนหนา ตอ งรัดรา งกายดว ยเข็มขดั นิรภยั (๕) รถตามขอ ๓ (๒) (ก) และ (ข) ผูขับข่ีรถยนตและคนโดยสาร ทกุ ทน่ี ่ังตอ งรัดรางกายดว ยเขม็ ขัดนริ ภัย (๖) รถตามขอ ๓ (๒) (ค) ทีผ่ ลิต ประกอบ นําเขา หรอื จดทะเบียน ต้ังแตว ันท่ี ๑ เมษายน ๒๕๕๕ เปนตน ไป ผขู ับขร่ี ถยนตแ ละคนโดยสารทุกทนี่ ่ัง ตองรัดรา งกายดว ย เขม็ ขัดนริ ภัย (๗) รถตามขอ ๓ (๒) (ง) ทจี่ ดทะเบยี นไวต งั้ แตว นั ที่ ๑ มกราคม ๒๕๓๗ ผขู ับข่ีรถยนตและคนโดยสารที่นั่งตอนหนา ตองรดั รา งกายดว ยเข็มขดั นิรภยั ความในวรรคหนึ่ง (๕) (๖) และ (๗) ไมใหใชบังคับกับท่ีนั่งตําแหนงอ่ืนท่ีไมใชที่น่ัง ผขู บั รถและทน่ี งั่ ผโู ดยสารตอนหนา ทม่ี กี ารจดั การทน่ี ง่ั ตามความยาวของรถซงึ่ ไมม กี ารตดิ ตงั้ เขม็ ขดั นริ ภยั เมอ่ื ผขู บั ขร่ี ถยนตแ ละคนโดยสารตามวรรคหนง่ึ ขน้ึ นง่ั ประจาํ ทน่ี ง่ั ของตนแลว ตอ งรดั รางกายดว ยเขม็ ขดั นิรภยั โดยใชสายรดั รางกายยึดเขา กบั ทีน่ ่งั ของตนและตองไมใหสายรัดหลดุ ออกได การปลดเข็มขดั นริ ภัยตอ งกระทําไดโดยงาย

๘๕ เลม ๑๓๐ ตอนพิเศษ ๑๔ ง หนา ๒๓ ๓๐ มกราคม ๒๕๕๖ ราชกจิ จานุเบกษา »ÃСÒÈ¡ÃÁ¡Òâ¹Ê§‹ ·Ò§º¡ àÃ×èͧ กาํ ˹´áººà¢çÁ¢Ñ´¹ÃÔ ÀÑÂáÅлÃÐàÀ·¢Í§Ã¶ μÒÁ¡®ËÁÒÂÇ‹Ò´ÇŒ ¡Òâ¹Ê§‹ ·Ò§º¡·ÕèμŒÍ§¨´Ñ ãËŒÁàÕ ¢Áç ¢´Ñ ¹ÔÃÀÑ ¾.È. òõõõ ตามทก่ี รมการขนสงทางบกไดอ อกประกาศ เรือ่ ง กําหนดแบบเขม็ ขัดนริ ภยั และประเภท ของรถ ตามกฎหมายวาดวยการขนสงทางบกที่ตองจัดใหมีเข็มขัดนิรภัย พ.ศ. ๒๕๕๕ ลงวันท่ี ๑๐ กมุ ภาพันธ ๒๕๕๕ ไวแ ลว น้นั โดยทเ่ี ปน การสมควรกาํ หนดประเภทของรถตามกฎหมายวา ดว ยการขนสง ทางบกทต่ี อ งตดิ ตงั้ เข็มขัดนิรภัยเปนการเพิ่มเติม อาศัยอํานาจตามความในขอ ๑ (๒) (ณ) และขอ ๑๕ (๒) (ฌ) ของ กฎกระทรวง ฉบับท่ี ๙ (พ.ศ. ๒๕๒๔) ออกตามความในพระราชบญั ญตั กิ ารขนสงทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ ซงึ่ แกไ ขเพมิ่ เตมิ โดยกฎกระทรวง ฉบบั ที่ ๖๐ (พ.ศ. ๒๕๕๒) ออกตามความในพระราชบญั ญตั กิ ารขนสง ทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ อธิบดกี รมการขนสงทางบกออกประกาศไว ดังตอ ไปน้ี ขอ ๑ ใหยกเลิกประกาศกรมการขนสงทางบก เร่ือง กําหนดแบบเข็มขัดนิรภัยและ ประเภทของรถตามกฎหมายวาดว ยการขนสง ทางบกท่ีตอ งจดั ใหมีเขม็ ขดั นิรภยั พ.ศ. ๒๕๕๕ ลงวนั ที่ ๑๐ กมุ ภาพันธ ๒๕๕๕ ขอ ๒ เข็มขดั นริ ภัยสําหรับรถใหม ี ๒ แบบ ดังนี้ (๑) แบบรัดหนาตกั และรั้งพาดไหล หรือเข็มขัดนิรภยั แบบ ๓ จดุ (Lap and diagonal belt or three - point belt) (๒) แบบรดั หนา ตกั หรือเข็มขดั นริ ภัยแบบ ๒ จดุ (Lap belt or two - point belt) ขอ ๓ รถทใ่ี ชใ นการขนสง ผโู ดยสารทม่ี จี าํ นวนทน่ี ง่ั ไมเ กนิ ๒๐ ทน่ี ง่ั (เฉพาะรถตโู ดยสาร) ในประเภทการขนสงประจําทาง การขนสงไมประจําทาง และการขนสงสวนบุคคล และรถที่ใชในการ ขนสงสัตวหรือส่ิงของทุกประเภทการขนสง ท่ีผลิต ประกอบ นําเขา หรือจดทะเบียนตั้งแตวันที่ ๑ เมษายน ๒๕๕๕ ตองติดตั้งเข็มขดั นิรภัย ดังน้ี (๑) แบบรดั หนา ตกั และรงั้ พาดไหล สาํ หรบั ทน่ี ง่ั ผขู บั รถและทนี่ งั่ ตอนเดยี วกบั ผขู บั รถทอ่ี ยู ดา นริมสุด (๒) แบบรดั หนา ตักและรง้ั พาดไหล หรือแบบรดั หนา ตัก สําหรบั ที่นง่ั อ่นื นอกจาก (๑)

๘๖ เลม ๑๓๐ ตอนพิเศษ ๑๔ ง หนา ๒๓ ๓๐ มกราคม ๒๕๕๖ ราชกจิ จานุเบกษา ขอ ๔ รถทใ่ี ชใ นการขนสง ผโู ดยสารทม่ี จี าํ นวนทนี่ งั่ ไมเ กนิ ๒๐ ทน่ี ง่ั (เฉพาะรถตโู ดยสาร) ในประเภทการขนสงประจําทาง การขนสงไมประจําทาง และการขนสงสวนบุคคล ที่ผลิต ประกอบ นําเขา หรอื จดทะเบียนไวก อนวนั ท่ี ๑ เมษายน ๒๕๕๕ ตอ งตดิ ตัง้ เขม็ ขัดนริ ภัยใหเ ปน ไปตามทก่ี ําหนด ไวในขอ ๓ ใหแ ลวเสรจ็ กอ นวันท่ี ๑ มกราคม ๒๕๕๖ ขอ ๕ รถท่ีใชใ นการขนสง ผโู ดยสารท่มี จี ํานวนทน่ี ง่ั ไมเ กิน ๒๐ ท่นี ั่ง (ลกั ษณะอน่ื ท่ีมใิ ช รถตูโ ดยสาร) และรถท่ใี ชในการขนสงผูโดยสารท่มี จี าํ นวนทนี่ ่งั เกนิ กวา ๒๐ ทีน่ ง่ั ในประเภทการขนสง ประจาํ ทางหมวด ๒ และหมวด ๓ การขนสง ไมป ระจาํ ทาง และการขนสง สว นบคุ คล ทจี่ ดทะเบยี นตง้ั แต วันท่ี ๑ เมษายน ๒๕๕๖ เปนตนไป ตองตดิ ตง้ั เขม็ ขดั นริ ภัย ดงั น้ี (๑) แบบรดั หนา ตักและร้งั พาดไหล สําหรบั ทนี่ ง่ั ผูข ับรถ (๒) แบบรัดหนาตกั และรั้งพาดไหล หรอื แบบรดั หนา ตัก สําหรับที่น่ังอ่นื นอกจาก (๑) ขอ ๖ รถทใ่ี ชในการขนสงผูโดยสารทมี่ ีจํานวนทีน่ ่ังไมเกนิ ๒๐ ทน่ี งั่ (ลักษณะอนื่ ทีม่ ใิ ช รถตูโดยสาร) และรถท่ใี ชใ นการขนสง ผูโดยสารท่มี จี ํานวนท่ีน่ังเกินกวา ๒๐ ทน่ี ง่ั ในประเภทการขนสง ประจาํ ทางหมวด ๒ และหมวด ๓ การขนสงไมป ระจําทาง และการขนสง สวนบุคคล ทีจ่ ดทะเบียนไว กอนวันที่ ๑ เมษายน ๒๕๕๖ ตองตดิ ต้ังเข็มขัดนิรภัยใหเ ปนไปตามที่กําหนดไวใ นขอ ๕ ใหแลว เสรจ็ กอ นวนั ที่ ๑ เมษายน ๒๕๕๗ ขอ ๗ รถท่ีใชในการขนสง ในประเภทการขนสงโดยรถขนาดเล็ก ที่จดทะเบียนตั้งแต วันท่ี ๑ มกราคม ๒๕๓๗ เปน ตนไป ตองตดิ ตง้ั เข็มขัดนิรภัย ดงั นี้ (๑) แบบรัดหนาตักและร้ังพาดไหล สําหรับท่ีนั่งผูขับรถและท่ีน่ังตอนเดียวกับผูขับรถ ที่อยูดา นรมิ สดุ (๒) แบบรดั หนา ตกั สาํ หรบั ทน่ี ง่ั ตอนกลางระหวา งทน่ี งั่ ผขู บั รถและทน่ี ง่ั ตอนเดยี วกบั ผขู บั รถ ท่ีอยูด านรมิ สดุ ขอ ๘ รถตามขอ ๓ ขอ ๔ ขอ ๕ และขอ ๖ ทม่ี ีการจัดวางทีน่ งั่ ตามความยาวของรถ ท่ีนั่งน้ันจะติดต้ังเข็มขัดนิรภัยหรือไมก็ได ทั้งน้ี ตองอยูภายใตบังคับประกาศกรมการขนสงทางบก เรือ่ งแบบและการจัดวางทีน่ ง่ั ผโู ดยสารของรถทใ่ี ชใ นการขนสงผูโดยสารและรถขนาดเล็ก ขอ ๙ ประกาศน้ใี หใชบงั คับต้ังแตว ันท่ี ๑ มกราคม ๒๕๕๖ เปนตน ไป ประกาศ ณ วนั ที่ ๑๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ สมชัย ศริ ิวฒั นโชค อธิบดกี รมการขนสง ทางบก

๘๗ ó) ¡ÒÃดําà¹¹Ô ¡Òà ¡Ã³Õ¼¢ÙŒ ºÑ ¢èËÕ ÃÍ× à¨ŒÒ¢Í§Ã¶ä´ŒÃºÑ ãºÊ§èÑ “ÁÒμÃÒ ñôñ/ñ ในกรณีที่ผูขับขี่หรือเจาของรถซึ่งไดรับใบสั่งไมปฏิบัติตาม มาตรา ๑๔๑ ใหเจา พนกั งานจราจรและนายทะเบียนตามกฎหมายวา ดว ยรถยนตหรอื กฎหมายวา ดวย การขนสงทางบกมีหนาทแ่ี ละอํานาจ ดงั ตอไปน้ี (๑) ใหพ นกั งานเจา หนา ทตี่ าํ แหนง ตง้ั แตส ารวตั รขนึ้ ไปมหี นงั สอื แจง การไมป ฏบิ ตั ติ าม ใบสง่ั และจาํ นวนคา ปรบั ทคี่ า งชาํ ระใหผ ขู บั ขหี่ รอื เจา ของรถทราบภายในสบิ หา วนั นบั แตว นั ทคี่ รบกาํ หนด ชาํ ระคา ปรบั ตามท่ีระบุในใบสงั่ และใหผ ูข บั ข่หี รอื เจา ของรถทาํ การชาํ ระคา ปรบั ทค่ี า งชําระดว ยวิธกี าร อยางใดอยางหนึ่ง ตามมาตรา ๑๔๑ ภายในสบิ หาวนั นบั แตว นั ท่ไี ดร บั แจง การแจงตามวรรคหน่ึง ใหทาํ เปนหนังสือสงทางไปรษณียลงทะเบียนตอบรับ ใหผ ขู บั ขห่ี รอื เจา ของรถ แลว แตก รณี ณ ภมู ลิ าํ เนาของผนู นั้ ทง้ั น้ี ตามแบบทผี่ บู ญั ชาการตาํ รวจแหง ชาติ กําหนดและใหถ ือวา ผขู ับขีห่ รอื เจา ของรถไดร ับแจงเม่ือพน กาํ หนดสบิ หาวนั นับแตว ันทส่ี ง (๒) ในกรณที ผ่ี ขู บั ขหี่ รอื เจา ของรถคนั ใดไมช าํ ระคา ปรบั ตาม (๑) ใหด าํ เนนิ การ ดงั ตอ ไปนี้ (ก) ใหพนกั งานเจา หนา ท่ีแจงจาํ นวนคา ปรับที่คางชําระพรอมหลักฐานตาม (๑) ไปยังนายทะเบียน และใหนายทะเบียนตรวจสอบขอมูลและแจงใหผูมาติดตอขอชําระภาษีประจําป สําหรับรถคันน้ันทราบ เพ่ือไปชําระคาปรับที่คางชําระภายในสามสิบวันนับแตวันท่ีไดรับแจง ถาผูมา ติดตอขอชําระภาษีประจําปเปนเพียงตัวแทนเจาของรถ ใหผูมาติดตอแจงใหเจาของรถทราบเพ่ือไป ชาํ ระคา ปรบั ภายในระยะเวลาดงั กลา ว ในการนี้ ใหน ายทะเบยี นรบั ชาํ ระภาษปี ระจาํ ปส าํ หรบั รถคนั นนั้ ไว โดยออกหลักฐานช่ัวคราวแทนการออกเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีประจําปใหเจาของรถ หรือตัวแทนเจา ของรถแทน หลักฐานชั่วคราวตามวรรคหน่ึงใหใชแทนเคร่ืองหมายแสดงการเสียภาษี ประจําป โดยใหม อี ายุสามสบิ วนั นับแตว นั ที่นายทะเบียนไดอ อกให (ข) ในกรณีที่เจาของรถไดชําระคาปรับที่คางชําระครบถวนภายในระยะเวลา ตามทก่ี าํ หนดใน (ก) ใหเ จา ของรถหรอื ตวั แทนเจา ของรถนาํ หลกั ฐานแสดงการชาํ ระคา ปรบั ทไี่ ดร บั จาก พนกั งานเจา หนา ทม่ี าแสดงตอ นายทะเบยี นเพอ่ื ใหอ อกเครอ่ื งหมายแสดงการเสยี ภาษปี ระจาํ ปส าํ หรบั คันนนั้ (ค) ในกรณที เ่ี จา ของรถหรอื ตวั แทนเจา ของรถทไ่ี ดร บั หนงั สอื แจง ตาม (ก) ประสงค จะชาํ ระคา ปรบั ในวนั ทม่ี าตดิ ตอ ขอชาํ ระภาษปี ระจาํ ป ใหน ายทะเบยี นมอี าํ นาจรบั ชาํ ระคา ปรบั ตามจาํ นวน ที่คางชําระแทนได โดยใหนายทะเบียนรับชําระภาษีประจําปสําหรับรถคันน้ันและออกเคร่ืองหมาย แสดงการเสยี ภาษีประจําปใหเจาของรถหรอื ตัวแทนเจา ของรถ (ง) ในกรณีท่ีเจาของรถไมชําระคาปรับที่คางชําระหรือชําระไมครบถวนภายใน ระยะเวลาท่ีกําหนดใน (ก) ใหเจาพนักงานจราจรแจงนายทะเบียนใหงดการออกเคร่ืองหมายแสดง การเสยี ภาษีประจาํ ปสาํ หรับรถคนั นน้ั และแจงใหพ นกั งานสอบสวนดาํ เนินการตามหนา ทแ่ี ละอาํ นาจ ตอไป

๘๘ ในกรณที ผี่ ขู บั ขหี่ รอื เจา ของรถผใู ดเหน็ วา ตนมไิ ดฝ า ฝน หรอื ไมป ฏบิ ตั ติ ามบทบญั ญตั ิ แหงพระราชบัญญัติน้ีหรือกฎหมายอ่ืนอันเก่ียวกับรถนั้น ใหทําหนังสือโตแยงขอกลาวหาน้ันภายใน สิบหาวันนับแตวันท่ีไดรับแจงจากนายทะเบียนตาม (ก) สงไปยังสถานที่ที่ระบุไวในใบสั่งหรือสถานที่ ทผี่ บู ญั ชาการตาํ รวจแหง ชาตกิ าํ หนดโดยประกาศในราชกจิ จานเุ บกษา ทงั้ น้ี การทาํ หนงั สอื โตแ ยง ใหใ ช วธิ ีสงทางไปรษณียต อบรบั หรือสาํ นกั งานตํารวจแหงชาติจะกําหนดวธิ ีการอื่นใดดว ยก็ได เมอื่ เจา พนกั งานจราจรไดร บั หนงั สอื โตแ ยง ตามวรรคสอง หากเจา พนกั งานจราจร ยังคงยืนยันและเห็นสมควรดําเนินคดีตอผูขับข่ีหรือเจาของรถผูน้ันใหสงเร่ืองไปยังพนักงานสอบสวน เพื่อดําเนินการฟองตอ ศาลตอไป แลวแจง ผลใหผ ขู บั ข่ีหรอื เจาของรถทราบ เมอื่ ไดม กี ารชาํ ระคา ปรบั ครบถว นถกู ตอ งแลว ใหค ดเี ปน อนั เลกิ กนั และในกรณที ม่ี กี ารเรยี ก เก็บใบอนุญาตขับขี่ไว ใหผูขับข่ีนําหลักฐานการชําระคาปรับไปขอรับใบอนุญาตขับข่ีคืนจากพนักงาน เจา หนา ท่ผี เู รียกเก็บ ทัง้ นี้ ในระหวา งท่ยี ังไมไ ดร ับใบอนญุ าตขับขี่คนื ใหถ ือวาหลกั ฐานแสดงการชําระ คา ปรับเปนใบแทนใบอนุญาตขับข่มี ีกาํ หนดสบิ วนั นบั แตว ันทช่ี าํ ระคาปรับ การรบั ชาํ ระและการนาํ สง เงนิ คา ปรบั ใหเ ปน ไปตามหลกั เกณฑท สี่ าํ นกั งานตาํ รวจแหง ชาติ และกรมการขนสงทางบกกาํ หนด เงนิ ทไี่ ดร บั ตามวรรคหนง่ึ (๒) (ก) ใหอ ธบิ ดกี รมการขนสง ทางบกหรอื ผทู ไี่ ดร บั มอบหมายหกั ไว เปนคาใชจายในการจัดเก็บหรือคาใชจายในการดําเนินงานในอัตรารอยละหาของจํานวนเงินท่ีไดรับ โดยใหนําไปใชจายไดเชนเดียวกับเงินงบประมาณตามระเบียบท่ีอธิบดีกรมการขนสงทางบกกําหนด สวนเงนิ ทเี่ หลอื ใหนําสง สํานักงานตาํ รวจแหง ชาติ การดําเนินการใด ๆ ของพนักงานเจาหนาท่ีและนายทะเบียนตามมาตราน้ี สามารถใช วิธีการทางอิเล็กทรอนิกส หรือวิธีการอื่นใดตามที่สํานักงานตํารวจแหงชาติและกรมการขนสงทางบก กาํ หนด

๘๙ ò. ¢ÍŒ กาํ ˹´สาํ ¹¡Ñ §Ò¹ตาํ ÃǨá˧‹ ªÒμÔ àÃÍ×è § กาํ ˹´áººË¹§Ñ ÊÍ× á¨§Œ ã˼Œ ¢ŒÙ ºÑ ¢Õè à¨ÒŒ ¢Í§Ã¶ ËÃ×ͼ¤ÙŒ Ãͺ¤Ãͧö·ÃÒº¡ÒÃäÁ»‹ ¯ÔºμÑ ÔμÒÁãºÊÑ§è ·ÍèÕ Í¡ãËŒ áÅÐจํา¹Ç¹à§¹Ô ¤‹Ò»ÃѺ·ÕèμŒÍ§ชําÃÐ แบบหนังสือแจงใหผ ขู บั ข่ี เจา ของรถ หรือผูค รอบครองรถทราบการไมปฏบิ ตั ติ ามใบสั่งที่ออกให และจํานวนเงนิ คาปรบั ทีต่ อ งชําระ

๙๐ ÊÃØ» ¢Ñé¹μ͹¡ÒÃดาํ à¹¹Ô ¡Òà ¡Ã³Õ¼¢ÙŒ ºÑ ¢èËÕ Ã×Íà¨ÒŒ ¢Í§Ã¶ä´ŒÃºÑ ãºÊèѧ ¡ÒÃดาํ à¹¹Ô ¡ÒÃμÒÁ Á.ôô ¡Ã³Õ¼ÙŒ¢ºÑ ¢ÕËè ÃÍ× à¨ŒÒ¢Í§Ã¶ä´ŒÃѺãºÊѧè มาชําระคาปรับตามใบสง่ั ไมม าชาํ ระคาปรับตามกาํ หนดใบสั่ง ขอชาํ ระภาษีประจําป พนกั งานเจา หนา ท่ีระดบั สว. ขึ้นไป ทาํ หนังสือสง ไปรษณยี  ลงทะเบยี นตอบรับ นายทะเบยี น แจงใหผขู ับขีห่ รือเจาของรถที่ไดร ับใบสงั่ ออกเครือ่ งหมายแสดง มาชาํ ระภายใน ๑๕ วนั นบั ต้ังแตไดรับแจง การเสยี ภาษปี ระจําป มาชาํ ระภายใน ๑๕ วนั ไมม าชําระภายใน ๑๕ วัน ขอชําระภาษีประจําป พนกั งานเจาหนา ที่แจงจํานวน พรอมหคลาักปฐราับนทไปี่คยาังงนชําารยะทะเบยี น นายทะเบยี น เมอ่ื มผี ูม าขอชําระภาษปี ระจําป ออกเคร่อื งหมายแสดง ใหนายทะเบยี นรับชําระภาษีประจาํ ป การเสยี ภาษปี ระจาํ ป โดยออกหลักฐานช่วั คราวแทน (ปา ยวงกลมช่วั คราว) มีอายุ ๓๐ วนั นับวนั ทนี่ ายทะเบยี นออกให) แลว ใหนายทะเบียนตรวจสอบขอมูล และแจงใหผูท มี่ าตดิ ตอ ไปชาํ ระคาปรบั ภายใน ๓๐ วัน นับแตวันทไี่ ดร บั แจง มาชาํ ระภายใน ๓๐ วัน ไมมาชําระภายใน ๓๐ วนั ผูขับขี่หรือเจาของรถ เห็นวาตนมิไดฝาฝน (นายทะเบยี นมอี ํานาจรับชาํ ระคา ปรบั ) หรอื ไมป ฏิบตั ิตามบทบญั ญัติแหง พ.ร.บ. นี้ หรอื กฎหมายอน่ื อนั เกย่ี วกบั รถ ใหท าํ หนงั สอื นําหลกั ฐานการชําระคาปรับ พนกั งานเจาหนาท่ี โตแ ยง ขอ กลา วหานนั้ ภายใน ๑๕ วนั นบั แต มาแสดงตอนายทะเบียน แจงนายทะเบยี นใหง ดการ วันที่ไดร ับแจงจากนายทะเบยี น ออกเครือ่ งหมายแสดง เมื่อพนักงานเจาหนาที่หรือพนักงานจราจร นายทะเบียน การเสยี ภาษปี ระจําป (ตวั จรงิ ) ไดรับหนังสือโตแยงแลว ยังคงยืนยันและ ออกเครอ่ื งหมายแสดง และแจง พนกั งานสอบสวน เห็นสมควรดาํ เนินคดี ใหสงเร่ืองไปยัง การเสยี ภาษีประจาํ ป (ตัวจริง) ให พนกั งานสอบสวนเพอ่ื ดาํ เนนิ การฟอ งตอ ศาล ดําเนนิ การตามหนา ที่ ตอไป แลวแจงผลใหผูขับข่ีหรือเจาของรถ และอาํ นาจ ทราบตอ ไป

๙๑ ó.ó ÊÃØ»á¹Ç·Ò§¡Òû¯ºÔ μÑ ¤Ô ÇÒÁ¼´Ô ¡®ËÁÒ¨ÃҨà á¹Ç·Ò§¡ÒêéáÕ ¨§ ¡Òû¯ºÔ ÑμÔ ¤ÇÒÁ¼´Ô μÒÁ¡®ËÁÒ¨ÃҨà ¡Ã³μÕ ÃǨ¾º¤ÇÒÁ¼´Ô ¼μŒÙ ŒÍ§ËÒÃºÑ ¼Ô´/ÂÔ¹ÂÍÁ»ÃѺ ¼ÙŒμÍŒ §ËÒÃѺ¼Ô´/áμ¢‹ Ñ´¤íÒÊèѧ ➧➧ ¼ŒÙμÍŒ §ËÒ»¯Ôàʸ/ÍÒŒ §Ç‹Òμ§Ñé ´Ò‹ ¹ äÁ‹ãˤŒ ÇÒÁÃÇ‹ ÁÁÍ× äÁ‹ªÍº ËÃÍ× ¨ºÑ äÁª‹ ͺ ● àÁè×;º¡ÒáÃÐทํา¼Ô´ อาศัย อํานาจตาม ¾.Ã.º.¨ÃÒ¨ÃÏ Á.ñôð ● เมื่อพบการกระทาํ ผิด อาศัย ● เม่ือพบการกระทําผิด อาศัย Ç‹Ò¡Å‹ÒÇ ÍÍ¡ãºÊѧè ãËชŒ าํ ÃФҋ »ÃºÑ อํานาจตาม พ.ร.บ.จราจรฯ มาตรา ๑๔๐ อํานาจตาม พ.ร.บ.จราจรฯ มาตรา วา กลา ว ออกใบสัง่ ใหชําระคาปรบั ๑๔๐ วากลาว ออกใบสั่งใหชาํ ระ ● ¡Ã³äÕ Áª‹ íÒÃФҋ »ÃºÑ ใหอ าํ นาจ คาปรับ áμ¼‹ ŒÙμŒÍ§ËÒ»¯àÔ Ê¸ ÍÒŒ §ÇÒ‹ ออกใบสง่ั แลว เรยี กเกบ็ ใบอนญุ าตขบั ข่ี ● กรณีไมช าํ ระคา ปรบั ใหอาํ นาจ ตาํ ÃǨทํา¼´Ô ¡®ËÁÒÂäÁÁ‹ Õอํา¹Ò¨ แทน ๗ วนั ออกใบสง่ั แลว เรยี กเกบ็ ใบอนญุ าตขบั ข่ี แทน ๗ วัน ● àºÍé× §μ¹Œ ãËÍŒ ¸ºÔ Ò ¤ÇÒÁªÍº ● àÁè×ÍÁÒชําÃФ‹Ò»ÃѺà»ÃÕºà·Õº ¢Í§¡ÒÃμÑ駴‹Ò¹ หากไมใหความ »ÃºÑ คดเี ลกิ กนั ตอ งคนื ใบอนญุ าตขบั ข่ี ¼ŒÙμŒÍ§ËÒäÁã‹ Ë㌠º¢ºÑ ¢Õè/ รว มมอื และปฏเิ สธ อา งวา ดา นไมช อบ äÁ‹»¯ÔºμÑ μÔ ÒÁ¤Òí ÊÑ§è »ÃÐà´ç¹à¾èÔÁàμÔÁ ● ãËÊŒ ͺ¶ÒÁ ªÍ×è ·ÍÕè ÂÙ‹ áÅÇŒ ᨧŒ ● ».ÍÒÞÒ Á.óöø Á¤Õ ÇÒÁ¼´Ô °Ò¹ ¤ÇÒÁ¼Ô´μÒÁ¡®ËÁÒÂãËŒà¢Ò·ÃÒº ● ตํารวจทางหลวงมอี ํานาจตงั้ ดา น ¢Ñ´คําÊèѧ਌Ҿ¹Ñ¡§Ò¹«Öè§ÊÑ觡ÒÃμÒÁ หรือไม สามารถดาํ เนินการได ตาม ¡®ËÁÒ (â·Éจาํ ¤¡Ø ñð Ç¹Ñ »ÃºÑ äÁà‹ ¡¹Ô ● ᨧŒ ãË·Œ ÃÒºÇÒ‹ μÍŒ §Ê§‹ ËÅ¡Ñ °Ò¹ พ.ร.บ.ทางหลวง, พ.ร.บ.จราจร และ õ,ððð ºÒ·) ทํา˹ѧÊ×Íᨌ§¤ÇÒÁμ‹Í¾¹Ñ¡§Ò¹ กฎหมาย ป.วิ.อาญา โดยไดรับการ ÊͺÊǹ ÍÍ¡ËÁÒÂàÃÂÕ ¡ ËÁÒ¨Ѻ อนุญาตถูกตอ งจากผูบ งั คับบัญชา ● ¾.Ã.º.¨ÃҨ÷ҧº¡ ¢Ñ´คําʧèÑ Ê‹§สาํ ¹Ç¹¿‡Í§ÈÒÅ ãËŒÈÒÅμÑ´ÊÔ¹ à¨ÒŒ ¾¹¡Ñ §Ò¹¨ÃҨà ÁÒμÃÒ ñõð »ÃºÑ μ‹Íä» ● ตาํ รวจตองแสดงใบอนุญาต หมายเหตุ ËÒ¡äÁ‹ÂÍÁºÍ¡ªè×Í·ÕèÍÂÙ‹ ตั้งดานหรือไม ตํารวจไมตองแสดง ¡áç ¨§Œ ¢ÍŒ ¡ÅÒ‹ ÇËÒ μÒÁ ».ÍÒÞÒ óö÷ ใบอนญุ าตตง้ั ดา น เนอื่ งจากไมม กี ฎหมาย à¾Í×è นาํ ʧ‹ ¾§Ê.ä´·Œ ¹Ñ ·Õ ระบุใหตาํ รวจตองแสดงใบอนุญาต ตั้งดาน และกฎหมายไมใหอํานาจ ᨌ§Ê·Ô ¸Ô ¢ŒÍËÒ/¨ºÑ ¡ÁØ Ê‹§ ¾§Ê. ÍíÒ¹Ò¨¡ÒäǺ¤ØÁμÑÇ ประชาชนขอดใู บอนญุ าต แตป ระชาชน สามารถตรวจสอบได ถายคลิปได ● ᨧŒ Ê·Ô ¸μÔ ÒÁ ».ÇÔ ÍÒÞÒ คอื ● ໹š ¤ÇÒÁ¼´Ô ÅËâØ ·É ÁÍÕ íÒ¹Ò¨ หากเห็นวาดานไมถูกตอง ก็สามารถ มีสิทธิใหการหรือไมใหการ ถาใหการ ¤Çº¤ÁØ äÁà‹ ¡¹Ô ¡ÇÒ‹ ¾Äμ¡Ô ÒóᏠ˧‹ ¤´Õ รอ งเรียน รอ งทุกขตอ พงส.ได จะใชเปนพยานหลักฐานชั้นศาล ● ตองควบคุมเทาที่จะสอบถาม ● ตํารวจ พกปน ตองมีใบอนญุ าต ➧พบและปรึกษาทนายและแจงใหญาติ ชอื่ ท่อี ยู วาเปนใคร อยทู ไี่ หน หรือไม ไมตอง เนื่องจากเปนขอ ● พยายามหลกี เลยี่ งการใชเ ครอ่ื ง ยกเวน ทางกฎหมายในการปฏบิ ตั หิ นา ที่ ทราบในการจบั กมุ (พ.ร.บ.อาวธุ ปน มาตรา ๘) ● ᨌ§¢ŒÍ¡Å‹ÒÇËÒ ».ÍÒÞÒ พนั ธนาการ ● แตถาหากขัดขืน ไมใหความ ● หลักการ คือ เนนรัฐศาลคู ÁÒμÃÒ óöø ¢Ñ´คาํ ÊÑè§à¨ŒÒ¾¹Ñ¡§Ò¹, นติ ศิ าสตร พดู คยุ กบั ประชาชนดว ยวาจา ¾.Ã.º.¨ÃҨà ñõð áÅФÇÒÁ¼Ô´à´ÁÔ รวมมือ อาจเกิดอันตรายแกผูอ่ืน ไพเราะ ชแี้ จงตามขนั้ ตอนของกฎหมาย હ‹ ¢ºÑ öàÃçÇ ใหใ ชเครอ่ื งพนั ธนาการได หากจับกุมไมไดทันที สามารถปลอย ไปกอน แลวให สว.ส.ทล.ทําหนังสือ ● ทาํ ºÑ¹·Ö¡¨Ñº¡ØÁ ¤Çº¤ØÁμÑÇÊ‹§ ● ถาขัดขนื จะผดิ ฐาน ขัดขวาง รองทกุ ขดาํ เนนิ คดี ¾¹¡Ñ §Ò¹ÊͺÊǹ การจบั กุม ป.อาญา ๑๓๘ อีกฐาน

๙๒

๙๓ º··èÕ ô ¡Òúѧ¤ºÑ 㪡Œ ®ËÁÒÂà¾Í×è ¡ÒûÅÍ´ÀÂÑ ·Ò§¶¹¹ ô.ñ ¤ÇÒÁà¢ÒŒ ã¨àºÍé× §μŒ¹à¡ÕÂè Ç¡ºÑ ÍغμÑ àÔ ËμØ·Ò§¶¹¹ การเสยี ชวี ติ จากอบุ ตั เิ หตทุ างถนน เปน สาเหตหุ ลกั ของการตายของประชากรไทย จากการ ประเมนิ การแกป ญ หาอบุ ตั เิ หตบุ นทอ งถนนของประเทศไทยซง่ึ องคก ารอนามยั โลก (WHO) ไดจ ดั การ ประเมนิ พบวา การลดความเรว็ การลดการดมื่ แลว ขับ การใชห มวกนิรภยั กับรถจกั รยานยนต การคาด เข็มขัดนิรภัย ซึ่งเปนปญหาหลักที่ทําใหเกิดอุบัติเหตุทางถนน การประเมินการแกปญหาอุบัติเหตุ บนทองถนนในประเทศไทยพบวาสอบตกทุกมาตรการ การดําเนินการลดปญหาอุบัติเหตุทางถนน ในหลายประเทศแถบยุโรปท่ีประสบความสําเร็จ เริ่มดวยใหความสําคัญกับการบังคับใชกฎหมาย อยา งจรงิ จงั เนอื่ งจากในอดตี เคยประสบปญ หาการเสยี ชวี ติ จากอบุ ตั เิ หตุ และการไมป ฏบิ ตั ติ ามกฎจราจร อยา งจรงิ จงั ขณะทต่ี าํ รวจจราจรกม็ นี อ ย อปุ กรณม จี าํ กดั และไมไ ดถ กู บรหิ ารจดั การอยา งมปี ระสทิ ธภิ าพ จนปจจุบันสามารถลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุไดรอยละ ๕๐ หลักของการบังคับใชกฎหมายในยุโรป โดยเร่ิมจาก ๑) จํากัดความเร็ว ๒) คาดเข็มขัดนิรภัย ๓) การฝาฝนกฎจราจรเกี่ยวกับการใหทาง ๔) บังคับใชกฎหมายดื่มแลวขับ และ ๕) ตรวจวัดสมรรถนะความพรอมของผูขับข่ี โดยกฎหมาย ไมไดมีเปาหมายเพ่ือเพิ่มจํานวนใบสั่ง คนหา ผูกระทําผิด แตเพ่ือปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผูขับขี่ ใหตระหนักถึงความปลอดภัยในการขับขี่และมีความรับผิดชอบตอสังคมรวมกัน (Thailand Road Acident Research Center, ๒๐๐๕) ñ. ÊÒàËμØ¡ÒÃà¡Ô´ÍغμÑ ÀÔ ÂÑ ¨Ò¡¡ÒèÃҨà เกิดจากสาเหตุ ๒ ประการ คือ ๑) ความบกพรอ งของคน หรอื ผใู ชท าง ซง่ึ ทาํ ใหเ กดิ อบุ ตั ภิ ยั ถงึ รอ ยละ ๘๕ โดยพบวา ๑.๑) ผูขับขี่ เปนสาเหตุของการเกิดอุบัติภัยท่ีสําคัญท่ีสุด และมีปญหาในการ แกไขพฤติกรรมใหปลอดภัยไดยากมาก สาเหตุสวนใหญเกิดจากการไมปฏิบัติตามกฎจราจร ขับขี่ ดว ยความประมาท ขาดความระมดั ระวงั ขาดความชาํ นาญในการขบั ขี่ มคี วามผดิ ปกตทิ างดา นรา งกาย และจติ ใจ ขาดความรใู นเรือ่ งกฎแหงความปลอดภยั เมาสรุ า และเสพยาบา เปน ตน ๑.๒) คนโดยสารและคนเดนิ เทา ไมปฏิบัติตามกฎจราจร ขาดความระมัดระวัง ไมขามถนนตรงทางขาม หรือสะพานลอย ไมขามถนนเม่ือรถติดไฟแดง หอยโหนหรือยื่นสวนหนึ่ง สว นใดของรางกายออกนอกตัวรถ ๒) สิง่ แวดลอ มท่ไี มป ลอดภัย ซงึ่ เปนสาเหตกุ ารเกิดอบุ ัติภยั รอยละ ๑๕ สาเหตจุ าก สงิ่ แวดลอ มทไ่ี มป ลอดภยั ไดแ ก สภาพของถนนชาํ รดุ บกพรอ ง สภาพของถนนไมม มี าตรฐาน สภาพดนิ ฟา อากาศมที ศั นวสิ ยั ไมด ี กฎระเบยี บของการจราจรทใ่ี ชอ ยไู มช ดั เจน และไมเ หมาะสมกบั สภาพสงั คมปจ จบุ นั