อนกุ รรมการกฎหมายไดเ้ สนอหลกั การใหส้ มชั ชา ๔. การใหบ้ รกิ ารดา้ นส่ือผสม (Mul- จะใชห้ ลักการ TOA (Time of Arrival) ซ่ึงคอื ๑๔ - ๑๕ ใหญร่ บั รองเมอ่ื ๑๒ พฤศจิกายน ค.ศ. ๑๙๗๔ timedia) ทมี่ ที งั้ ภาพ เสยี งและการสอื่ สารแบบ เวลาท่ีสัญญาณคล่ืนวิทยุใช้ในเดินทางจาก ปฏิญญานี้มีที่มาจากการที่ได้เร่ิมมีการทดลอง สองทางเชน่ การประชุมทางไกลในรปู แบบวิดีโอ ดาวเทยี มนา� รอ่ งมาถึงผใู้ ช ้ แสดงดงั รปู ท ่ี ๑ แพร่สัญญาณในบางประเทศและคาดว่าจะมีการ (Video Conference) ทง้ั การประชุมแบบจดุ ต่อ ใหบ้ รกิ ารในเชิงพาณชิ ย์ในเวลาอันใกล้ ซ่ึงการให้ จดุ หรือการประชมุ แบบหลายจดุ การประยกุ ตใ์ ช้ ดาวเทยี มสอ่ื สารในวงโคจรคา้ งฟา้ เมอื่ หมดอายุ บริการเช่นนี้มีผลกระทบอย่างยิ่งต่อการเมือง ส�าหรับการเรียนการสอนทางไกล (Distance การใชง้ านอาจเนอ่ื งจากระบบภายในดาวเทยี มเสยี เศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรมระหว่างประเทศ Learning) ชว่ ยเพ่ิมโอกาสการเรยี นรู้ไปสูบ่ ริเวณ หายหรือเนื่องจากก๊าซท่ีใช้ผลักดันดาวเทียมให้ ทหี่ า่ งไกล รปู แบบของระบบฝกึ อบรมทางไกลผา่ น รกั ษาวงโคจรทต่ี า� แหนง่ เดมิ หมดลง จะตอ้ งสรา้ ง ๒. การใหบ้ รกิ ารระบบโทรศพั ท ์ (Te- ดาวเทียม ที่มีระบบสื่อสารโต้ตอบผ่าน ดาวเทยี มขน้ึ ไปทดแทนและใหบ้ รกิ ารทตี่ า� แหนง่ นน้ั lephony) มีการใชด้ าวเทียมเป็ น อินเตอรเ์ นต็ ช่วยแกป้ ญั หาลูกคา้ และสนับสนุน สหภาพโทรคมนาคมระหวา่ งประเทศไดก้ า� หนดให้ ตวั กลางในการส่งสญั ญาณมือถือ สินคา้ ได้ จะตอ้ งผลกั ดนั ดาวเทยี มทหี่ มดอายโุ ดยใชก้ ารขบั ระหว่างสถานีฐาน (Base station) ดนั ครง้ั สดุ ทา้ ยไปอยหู่ า่ งจากวงโคจรเดมิ สงู ขนึ้ ไปอกี เช่น การให้บรกิ ารโทรศพั ท์ในพ้นื ทห่ี า่ งไกลซึ่งไม่ การใชป้ ระโยชนด์ าวเทยี มสอ่ื สารอกี ประเภท ๓๐๐-๔๐๐ กโิ ลเมตรเหนอื วงโคจรคา้ งฟา้ เรยี กวง สามารถเดินสายโทรศัพท์ไปได้ การบริการ หนึ่งแม้จะไม่ใช่การส่ือสารโดยตรงแต่มีการส่ง โคจรบรเิ วณนวี้ า่ วงโคจรปา่ ชา้ (Graveyard orbit) โทรศัพท์ผ่านดาวเทียม ได้แก่โทรศัพท์ทางไกล ขอ้ มลู ลงมาจากดาวเทยี มเหมอื นการกระจายเสยี ง และมขี อ้ แนะนา� ใหผ้ ลกั ดนั ดาวเทยี มกลบั ลงมายงั ชนบท และโทรทศั น ์ คอื การระบตุ า� แหนง่ บนโลก โดยการ พ้ืนโลกภายในเวลา ๒๕ ปี ซึ่งการผลักดันน้ี ใชง้ านดาวเทยี มเพอ่ื ระบตุ า� แหนง่ บนโลกนเ้ี รยี กวา่ ดาวเทยี มจะเสยี ดสกี บั อากาศในชน้ั บรรยากาศและ ๓. การใหบ้ ริการดา้ นขอ้ มูล (Data) ระบบนา� รอ่ งบนโลกดว้ ยดาวเทยี ม (Global Navi- ลุกไหม้หมดไปก่อนที่จะตกถึงพื้นและสร้างความ gation Satellite Systems, GNSS) สามารถทา� ให้ เสียหายให้แก่บนพื้นโลก ส�าหรับดาวเทียมที่อยู่ แ ล ะ อิ น เ ท อ ร เ์ น็ ต ( I n t e r n e t ) ทราบต�าแหน่งบนโลกที่แม่นย�าก็สามารถน�าไป ในวงโคจรอนื่ ทอี่ ยตู่ า�่ กวา่ วงโคจรคา้ งฟา้ เมอ่ื หมด ดาวเทียมสื่อสารท่ีเป็นการติดต่อแบบสองทางมี พนื้ ทใี่ หบ้ รเิ วณกวา้ งจงึ ถกู นา� มาใชเ้ ปน็ ตวั กลางใน ประยุกต์ใช้ในกิจการขนส่ง แผนที่ การเกษตร อายแุ ลว้ ยงั ไมม่ ขี อ้ บงั คบั ระหวา่ งประเทศวา่ จะตอ้ ง การส่งข้อมูลระหว่างชุมสาย (HUB) ที่อยู่ใน ประมง โทรศพั ทเ์ คลอื่ นทป่ี จั จบุ นั กม็ เี ครอ่ื งรบั GPS ดา� เนินการอยา่ งใด แต่นอกจากดาวเทียมท่หี มด บริเวณห่างไกล บริการน้ีมีผู้ใช้บริการอย่างแพร่ อยภู่ ายในชว่ ยใหส้ ามารถบอกตา� แหนง่ ของเครอื่ ง อายุดังกล่าวแล้ว ยังมีช้ินส่วนของวัตถุอวกาศที่ หลาย เชน่ อนิ เทอรเ์ น็ตสา� หรับหมู่บา้ นชายขอบ รบั โทรศพั ทไ์ ด ้ ระบบนา� รอ่ งบนโลกดว้ ยดาวเทยี ม มนุษย์สร้างข้ึนเช่น จรวดส่งดาวเทียม สถานี การสื่อสารข้อมูลผ่านดาวเทียมยังถูกน�ามาเป็น ประกอบดว้ ย ๓ สว่ น คอื ดาวเทยี ม สถานคี วบคมุ อวกาศทห่ี มดอาย ุ ยงั โคจรอยรู่ อบโลก จะเรยี กสงิ่ ระบบส�ารองการส่ือสารด้วยสาย ในกรณีที่สาย และเครอื่ งรบั สญั ญาณจากดาวเทยี ม ดาวเทยี มไม่ เหลา่ น้ีว่า “ขยะอวกาศ” (Space debris) วัตถุ สื่อสารข้อมูลมีปัญหาหรือถูกท�าลายเม่ือเกิด ไดบ้ อกตา� แหนง่ ของเครอื่ งรบั บนโลกแตใ่ ชค้ ลน่ื วทิ ยุ เหล่าน้ีมีความเร็วสูงมากจึงจะสามารถโคจรอยู่ ภัยพิบัติ การเชื่อมต่อข้อมูลของบริษัทแม่ผ่าน ทส่ี ง่ สญั ญาณออกมาโดยดาวเทยี มนา� รอ่ ง และ ผู้ รอบโลกได้ท�าให้เป็นอันตรายต่อดาวเทียมหรือ ดาวเทยี ม ไปยงั บรษิ ทั ลกู ในบรเิ วณทห่ี า่ งไกลหรอื ใชเ้ องจา� เปน็ ทจี่ ะตอ้ งมเี ครอ่ื งรบั สญั ญาณคลน่ื วทิ ยุ มนุษย์อวกาศได้ ปัญหาของขยะอวกาศท่ีจะสร้าง ดังกล่าว การระบุต�าแหน่งของผู้ใช้ของทุกระบบ ความเสียหายมีแนวโน้มที่มากย่ิงข้ึน เนื่องจาก ในต่างประเทศ วัตถุอวกาศท้ังหลายท่ีส่งไปหลายปีก่อนก็เริ่ม ทยอยหมดอายุและแต่ละประเทศก็เร่งสร้าง ดาวเทียมขึ้นมาใช้งาน ยิ่งท�าให้เกิดวัตถุอวกาศ มากขึ้น ยังไม่มีวิธีการก�าจัดขยะอวกาศได้ เน่ืองจากค่าใช้จ่ายท่ีสูงจึงเป็นเรื่องที่หลาย ประเทศก�าลังให้ความสนใจในการป้องกัน อันตรายจากขยะอวกาศและความเสียหายท่ีจะ บท ีท่๕ ประเภทของเทคโนโล ียการ ืสอ่สาร เกดิ ขนึ้ ปจั จบุ นั ประเทศตา่ ง ๆ เชน่ สหรฐั อเมรกิ า และสหภาพยุโรปได้มีความร่วมมือกันติดตาม วัตถุอวกาศที่มีขนาดใหญ่กว่า ๑๐ เซนติเมตรซ่ึง มกี วา่ ๕๐,๐๐๐ ชน้ิ เพอ่ื เตรยี มการปอ้ งกนั ความ เสียหายอันอาจเกิดต่อดาวเทียมหรือตกลงมายัง โลกได ้ ภาพที่ ๑ แสดงการทํางานระบบนําร่องบนโลกดว้ ยดาวเทียม
๕๕ ยุค ๑G ระบบแอนาลอ็ ก ยุคแอนาล็อกเซลลูล่า (Analog AMPS (American Mobile Phone cellular): มาตรฐานโทรศพั ท ์ เคลอื่ นท่ียุคท่ี ๑ (๑G) ปรมิ าณและ System) ระบบทม่ี กี ารออกแบบและพฒั นาใชใ้ น ความตอ้ งการใชง้ านโทรศพั ท ์ กลุ่มประเทศสแกนดิเนเวีย ใช้งานในย่านความถี่ เคลื่อนที่ในมาตรฐานโทรศพั ท ์ ๔๕๐ MHz เคลอื่ นท่ี ๑G ทว่ ั โลกโดยรวมไม่สูง มากนกั ส่วนหน่ึงนอกจากเรื่อง TACS (Total Access Communica- ของมาตรฐานท่ีมีอยู่หลากหลาย แลว้ เทคโนโลยีโทรศพั ทเ์ คลื่อนที่ tion System) ระบบทม่ี กี ารออกแบบและพฒั นา ๑G กย็ งั มีขอ้ ดอ้ ยในหลาย ๆ ดา้ น ใช้ในประเทศอังกฤษ ใช้งานในย่านความถี่ ๙๐๐ MHz ท้ังด้านการรักษาคุณภาพของการสื่อสารที่ไม่ สามารถท�าได้ดีนักท�าให้เกิดปัญหาสายหลุดบ่อย ในประเทศไทยมีการเปิดให้บริการโทรศัพท์ ความเสย่ี งตอ่ การถกู ลกั ลอบดกั ฟงั สญั ญาณและการ เคลอื่ นท ่ี ๑G มาตรฐาน NMT ใชค้ วามถย่ี า่ น ๔๗๐ ลักลอบส�าเนาเลขหมายโทรศัพท์เคล่ือนท่ีไปใช้ใน และ ๙๐๐ เมกะเฮริ ตซ ์ และมาตรฐาน AMPS ยา่ น โทรศพั ทเ์ ครอ่ื งอนื่ ซงึ่ สง่ิ เหลา่ นเี้ กดิ ขนึ้ เนอื่ งจากรปู ความถ ่ี ๘๐๐ เมกะเฮริ ตซ์ แบบการส่ือสารระหว่างเครือข่ายและเคร่อื งลูกข่าย โทรศพั ทเ์ คลอ่ื นทท่ี เ่ี ปน็ แบบแอนะลอ็ ก องคก์ ารโทรศัพท์แหง่ ประเทศไทย (ในปจั จุบนั คือ บริษัท ทีโอท ี จา� กัด (มหาชน)) เปิดให้บริการ การสอ่ื สารในยคุ แอนาลอ็ กเซลลลู า่ ใชม้ าตรฐาน โทรศัพท์เคลื่อนท่ี “เซลลูลาร์ ๔๗๐” (Cellular โทรศัพท์เคลื่อนที่ยุคที่ ๑ หรือ ๑G เป็นการใช้ ๔๗๐) ซงึ่ เปน็ โทรศพั ทเ์ คลอื่ นทอี่ ตั โนมตั ริ ะบบแรก เทคโนโลยสี อื่ สารสามารถสง่ ผา่ นขอ้ มลู ดว้ ยระบบแอ ด้วยโครงขา่ ยระบบ NMT (Nordic Mobile Tech- นาลอ็ ก (Analog) เปน็ การสอื่ สารโดยใชส้ ญั ญาณ nology) ในย่านความถ ่ี ๔๗๐ MHz ต้ังแต่ปี พ.ศ. วทิ ยใุ นการสง่ คลน่ื เสยี งเทา่ นนั้ ไมร่ องรบั การสง่ ผา่ น ๒๕๑๙ โดยในระยะแรกนนั้ เครอื่ งโทรศพั ทเ์ คลอื่ นที่ ขอ้ มลู ใด ๆ ทงั้ สนิ้ ในลกั ษณะคลา้ ยคลงึ กบั การรบั เปน็ แบบกระเปา๋ หวิ้ ทม่ี ขี นาดใหญ ่ นา้� หนกั มาก และ สง่ สญั ญาณวทิ ยใุ นการเชอ่ื มตอ่ ระหวา่ งเครอื ขา่ ยและ ราคาสูง อกี ทงั้ สามารถใช้ไดเ้ ฉพาะในเขตกรงุ เทพฯ เครื่องลูกข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่รูปแบบการใช้งาน และปรมิ ณฑลเทา่ นน้ั คล่ืนความถ่ีวิทยุนั้นเป็นไปแบบหนึ่งความถี่ต่อหน่ึง ชอ่ งสญั ญาณ (Frequency Division Duplex) มกี าร เซลลูลาร์ ๔๗๐ (Cellular 470) ซ่ึงเป็น แยกช่องสัญญาณความถ่ีออกเป็นคู่ โดยคู่หนึ่งใช้ โทรศพั ทเ์ คลอ่ื นทอ่ี ตั โนมตั ริ ะบบแรก ดว้ ยโครงขา่ ย สา� หรบั รองรบั การสอื่ สารในทศิ ทาง Downlink และ ระบบ NMT (Nordic Mobile Technology) ในย่าน Uplink ของแตล่ ะชอ่ งสญั ญาณ ชอ่ งสญั ญาณหนง่ึ ชอ่ ง ความถ ี่ 470 เมกะเฮริ ตซ์ เปน็ โทรศัพทม์ ีกา� ลงั ส่ง แทนการสนทนาของผบู้ รโิ ภคหนง่ึ คน เทคโนโลยใี น สงู และมีรัศมีการติดต่อกวา้ งไกลสงู สุด เนอื่ งจาก ยคุ ๑G ยงั ไมม่ มี าตรฐานกลางสา� หรบั โทรศพั ทเ์ คลอื่ น มสี ถานโี ครงขา่ ยตดิ ตง้ั ครอบคลมุ ถนนสายหลกั และ ทใี่ ดๆ หากแตเ่ ปน็ ความพยายามของผผู้ ลติ ในแตล่ ะ พน้ื ทตี่ า่ ง ๆ ทว่ั ประเทศ เสยี งทถ่ี กู ถา่ ยทอดสญั ญาณ ประเทศทผ่ี ลติ อปุ กรณเ์ ครอื ขา่ ยและเครอ่ื งลกู ขา่ ยมา ผา่ นระบบเซลลลู าร ์ ๔๗๐ จงึ มคี วามคมชดั ตอ่ เนอ่ื ง ใชเ้ ปน็ เอกเทศของตนเอง ทา� ใหไ้ มส่ ามารถนา� เครอื่ ง ตลอดระยะการเดนิ ทาง แมใ้ นทอ้ งทท่ี รุ กนั ดาร แนว ลกู ขา่ ยโทรศพั ทเ์ คลอื่ นทจ่ี ากเครอื ขา่ ยผใู้ หบ้ รกิ ารทใี่ ช้ NMT (Nordic Mobile Telephone) ชายแดน หรือทะเลฝั่งอ่าวไทยและทะเลอันดามัน มาตรฐานทางเทคนคิ ตา่ งกนั มาใชข้ า้ มกนั ได ้ ตวั อยา่ ง ระบบทมี่ กี ารออกแบบและพฒั นาใชใ้ นกลมุ่ ประเทศ บางส่วน แตร่ ะบบเซลลลู าร์ ๔๗๐ กไ็ มไ่ ด้รับความ ระบบเครอื ขา่ ยโทรศพั ทเ์ คลอื่ นทแี่ บบ ๑G กไ็ ดแ้ ก่ สแกนดเิ นเวยี ใชง้ านในยา่ นความถ ่ี ๔๕๐ MHz นยิ มมากนัก เนอื่ งจากเครอ่ื งโทรศัพทห์ ายากและมี ราคาสงู อกี ทงั้ โทรศพั ทเ์ คลอื่ นทร่ี ะบบอนื่ ของเอกชน กส็ ะดวกกวา่ มีตวั เลอื กมากและมีราคถกู กว่า
๕๖ ยุค 2G ระบบ GSM ๑๔ - ๑๕ การส่ือสารในยุคดิจิทลั เซลลูล่า (Digital cellular) ใชม้ าตรฐาน โทรศพั ทเ์ คล่ือนที่ยุคที่ ๒ หรือ ๒ G เป็ นการนําเทคโนโลยีแทน สญั ญาณเสี ยงและสญั ญาณ สื่ อสารระหว่างเครือข่ายและ เครื่องลูกข่ายสถานีฐานมาเขา้ รหสั เป็ นสญั ญาณดิจิทลั ทําให ้ สามารถยกระดบั การควบคุม คุณภาพของสญั ญาณเสียง เขา้ รหสั ป้องกนั การดกั ฟังและการ ลกั ลอบสําเนาเลขหมายโทรศพั ท ์ และยังเป็นการเร่ิมต้นยุคของการส่ือสาร ไมส่ ามารถใช้โทรศัพท์ขา้ มเครอื ขา่ ยได้ คุณภาพ บท ีท่๕ ประเภทของเทคโนโล ียการ ืสอ่สาร ข้อมูลแบบง่ายๆ ด้วยการส่ือสารข้อมูลแบบ เสยี งและสญั ญาณขอ้ มลู ทไี่ ดม้ คี ณุ ภาพดกี วา่ แบบ (SMS) Short Message Service และการใช้ จีเอสเอม็ จนกระทั่งมาตรฐาน ๓ G จึงมสี ัดส่วน โทรศพั ทเ์ คลอ่ื นทเี่ ปน็ อปุ กรณร์ บั สง่ สญั ญาณแบบ ในการตลาดท่ลี ดลง โมเดม็ (Modem)ดว้ ยอตั ราเรว็ สงู สดุ ๙.๖ กโิ ลบติ ต่อวินาที โดยมีมาตรฐานเครือข่ายโทรศัพท์ เคล่ือนที่จเี อสเอม็ (GSM: Global System for Mobile Communication) ซงึ่ ไดร้ บั การคดิ คน้ โดย หนว่ ยงาน ETSI (European Telecommunication Standards Institute) จากสหภาพยุโรป ในชว่ ง ป ี พ.ศ. ๒๕๓๕ ใชร้ ปู แบบการสอ่ื สารแบบ TDMA (Time Division Multiple Access) ซง่ึ กา� หนดให้ ความถี่หน่ึงชุดสามารถรองรับการสนทนาได้ พรอ้ ม ๆ กันสงู สุดถึง ๘ คูส่ ายโดยใชก้ ารจดั สรร แบง่ ช่วงเวลาในการส่อื สาร เป็นมาตรฐานหลกั ท่ี มีการใช้งานทั่วโลก และเป็นมาตรฐานเดียวร่วม กันส�าหรับผู้ให้บริการทุกเครือข่ายก่อให้เกิดการ ขยายตัวในการใช้งานคร้ังส�าคัญ ท้ังในแง่ของ ปริมาณการใช้งานและจ�านวนผู้ใช้งานทั่วโลก ผู้ ใช้บริการน�าเครื่องลูกข่ายข้ามไปใช้งานระหว่าง เครือข่าย GSM ด้วยกันได้ ซึ่งเรียกขีดความ Division Multiple Access) ท่ีได้รับการผลักดนั สามารถนี้วา่ IR (International Roaming) โดยบรษิ ทั Qualcomm Inc. สหรฐั อเมรกิ า นิยม ใช้ในอเมริกาและเกาหลีใต้ และต่อมาได้รับการ นอกจากมาตรฐาน GSM แล้ว ในยุคของ ขยายขีดความสามารถให้เป็นมาตรฐานโทรศัพท์ โทรศพั ท์เคลอื่ นที่ ๒G ก็มมี าตรฐานทางเทคนคิ เคล่ือนท่ีที่มีส่วนแบ่งการตลาดท่ัวโลกรองลงมา ท่ีส�าคัญ อันได้แก่ มาตรฐาน CDMA (Code เป็นอันดับที่สองจากมาตรฐานจีเอสเอ็ม แต่ผู้ใช้
๕๗ ยุค ๒.๕G เทคโนโลยี GPRS ภาพที่ ๑ แผนผงั แสดงระบบเทคโนโลยี ระบบสญั ญาณแบบ ๒.๕G ตน้ ยุคโมบายอินเทอรเ์ น็ต (First การสื่อสารอินเทอร์เน็ตผ่านเครือข่ายโทรศัพท์ ระดับ ๒๐๐-๓๐๐ Kbps เป็นระบบอนิ เทอรเ์ นต็ ไร้ Era of Mobile Internet) ไดแ้ ก่ เคลอ่ื นท่ี (Mobile Internet) และเป็นยุคเดียวกัน สาย ๒.๗๕ G ในเครอื ขา่ ยโทรศพั ท ์ คลา้ ยกบั ระบบ มาตรฐานโทรศพั ทเ์ คล่ือนท่ียุค กับที่ผู้ผลิตหลายๆ รายทั่วโลกเปิดตัวโทรศัพท์ GPRS แตม่ คี วามเรว็ ทสี่ งู กวา่ คอื ทป่ี ระมาณ ๓๐๐๐ ที่ ๒.๕ (๒.๕ G) และมาตรฐาน เคล่อื นที่แบบ Smart Phone ก่อให้เกิดปริมาณการ KB ในปจั จบุ นั มที กุ พน้ื ทขี่ องประเทศ เปน็ เทคโนโลยี โทรศพั ทเ์ คลื่อ น ที่ ยุ คที่ ๒. ๗๕ ใช้งานข้อมูลขนาดมหาศาล ในการรบั - สง่ ข้อมูลด้วยเครอื ข่ายไรส้ าย โดยมี ความเรว็ ในการรบั ส่งขอ้ มูลทค่ี วามเรว็ ๒๓๖ Kbps (๒.๗๕G) จพี ีอารเ์ อส หรอื General Packet ซึ่งสงู กว่าการสง่ ด้วยเครอื ขา่ ย GPRS ถงึ ๕ เท่า Radio Services (GPRS) คอื ระบบบรกิ าร ช่วยให้คุณได้รับประโยชน์จากการส่ง - รับข้อมูล เสริมที่รองรับการรับส่งข้อมูลที่เป็นที่นิยมในอดีต (Applications/Contents) บนโทรศัพท์ มือถือได้ มาตรฐานโทรศัพทเ์ คลือ่ นที่ยคุ ท ่ี ๒.๕(๒.๕G) ก่อนที่อินเตอร์เน็ตความเรว็ สงู จะเขา้ มาแทนท ี่ โดย มากกว่าและรวดเร็วกว่า ท้ังการเข้า WAP และ มาตรฐาน GSM ได้รบั การพฒั นาขีดความสามารถ จีพีอาร์เอส จะส่งสัญญาณผ่านเครือข่ายโทรศัพท์ WEB รบั ส่ง MMS, Video/Audio Streaming และ ให้รองรับการสื่อสารข้อมูลท่ีมีอัตราเร็วสูงข้ึน โดย เคลอื่ นทใี่ นรปู แบบ Packet มนั สามารถรบั สง่ ขอ้ มลู Interactive Gaming และเป็นก้าวส�าคัญเพ่ือการ ขยายขีดความสามารถในการสื่อสารภายใต้ หรือข้อความ ได้ดีกว่าการส่งด้วยระบบ ซีเอสดี กา้ วเขา้ ส ู่ ยคุ ๓G มาตรฐาน GPRS (Generic Packet Radio Service) ในยุค ๒.๕G ซ่ึงรองรับการส่ือสารข้อมูลระหว่าง (CSD : Circuit Switched Data) ทใี่ ชค้ ลนื่ สญั ญาณ เครือข่ายกับเคร่ืองลูกข่ายโทรศัพท์เคลื่อนท่ีด้วย แบบเดียวกับคล่ืนของโทรศัพท์มือถือที่มีความเร็ว ซีดีเอ็มเอ หรือ Code Division อัตราเร็วสูงสดุ ทางทฤษฎเี ท่ากบั ๑๑๙ กโิ ลบติ ตอ่ น้อยกวา่ มาก Multiple Access (CDMA) คือ เทคโนโลยีการส่ือสารไร้สายด้วยระบบดิจิตอล ได้ วินาที ซ่งึ ในยุค ๒.๕G นั้นจะเปน็ ยุคทเ่ี ร่มิ มกี ารใช้ บริการในสว่ นของข้อมลู มากข้ึน การรับส่งขอ้ ความ เอดจ ์หรอื Enhanced Data rates รับการคิดค้นและพัฒนาโดยบริษัท Qualcomm พฒั นาจาก SMS มาเป็น MMS ซง่ึ เปน็ จดุ เร่มิ ตน้ for Global Evolution (EDGE) คอื วธิ ี เปน็ การสื่อสารกันด้วยสญั ญาณทเ่ี ข้ารหัสไวแ้ ลว้ มี ของการผลักดันทางการตลาดให้มีการพัฒนา การสือ่ สารระบบสู่โลกอนิ เทอรเ์ นต็ เปน็ เทคโนโลยี เพียงเคร่ืองส่งและเคร่ืองรับเท่าน้ัน ท่ีจะสามารถ อุปกรณ์เคร่ืองลูกข่ายโทรศัพท์เคล่ือนท่ียุคใหม่ ท่ี ตามมาตรฐานโลกที่ก�าหนดโดย ITU (Interna- ถอดรหสั สัญญาณดังกลา่ วได ้ มหี นา้ จอสี มีกลอ้ งถา่ ยภาพ และมหี นว่ ยประมวล tional Telecommunications Union) จะมีความเร็ว ผลท่ีมีศักยภาพสูงขึ้น เป็นการเร่ิมต้นเปิดยุคของ มากกวา่ GPRS ถึง ๔ เทา่ โดยมคี วามเร็วอยใู่ น
๕๘ ยุค ๒.๗๕ สนองปรมิ าณการใชง้ านของโทรศพั ทเ์ คลอ่ื นทรี่ นุ่ ๑๔ - ๑๕ เทคโนโลยี GPRS ใหม่ๆ ท่ีขยายตัวข้ึนอย่างรวดเร็ว ดังนั้นผู้ให้ บรกิ ารโทรศพั ทเ์ คลอื่ นทจ่ี งึ ตอ้ งสรรหาเทคโนโลยี สื่อสารชนิดใหม่เพิ่มเติมเพ่ือรองรับปริมาณการ สื่อสารด้วยข้อมลู ท่ีเพ่มิ มากขนึ้ ภาพที่ ๑ โทรศทั พเ์ คลอื่ นทที่ รี่ องรบั ระบบ 2.75 G มาตรฐานโทรศพั ทเ์ คลื่อนที่ยุค ตอ่ มาในยคุ ๒.๗๕ G เปน็ ยคุ ทมี่ กี ารพฒั นาตอ่ เน่ืองจากอุปกรณ์ที่มีการติดต้ังใช้งานมีการ บท ีท่๕ ประเภทของเทคโนโล ียการ ืสอ่สาร ท่ี ๒.๗๕G เกิดขึน้ มาจากความ เนื่องมาจากมาตรฐาน GPRS แต่มีการพัฒนา ท�างานแบบ Time Division Multiple Access พยายามพฒั นาเครือข่าย ๒ G ความเร็วในการรับส่งข้อมูลเพ่ิมสูงข้ึน เรียก (TDMA) ซง่ึ เปน็ เทคโนโลยเี กา่ ตอ้ งจดั สรรวงจรให้ เดิม ไม่วา่ จะเป็ นมาตรฐาน GSM เทคโนโลยนี ี้ว่า EDGE (Enhanced Data rate กบั ผใู้ ชง้ านตายตวั ไมส่ ามารถนา� ทรพั ยากรเครอื ขา่ ย หรือ CDMA ใหเ้ กิดประโยชน์ for GPRS Evolution) ซึ่งสามารถรองรับการ มาใชง้ านไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ เมอื่ มกี ารพฒั นา สูงสุ ด สามารถรองรบั ความ สอ่ื สารขอ้ มลู มากกวา่ GPRS ประมาณ ๓ เทา่ เทคโนโลย ี GPRS และ EDGE ซงึ่ ถอื เปน็ การเสรมิ ตอ้ งการใชก้ ารสื่อสารขอ้ มูล ซง่ึ ดว้ ยอตั ราเรว็ สูงสดุ ทางทฤษฏเี ทา่ กับ ๓๘๔ กโิ ล เทคโนโลยสี อ่ื สารขอ้ มลู แบบ Packet Switching ที่ ๒.๕ G และ ๒.๗๕ G เป็ นชอ่ื เรยี ก บิตต่อวนิ าที มคี วามยดื หยนุ่ ในการสอ่ื สารขอ้ มลู แบบ Non-Voice อย่างไม่เป็ นทางการ แต่เพ่ือให ้ แตเ่ ทคโนโลยที งั้ ๒ ประเภทนกี้ ถ็ อื วา่ เปน็ การตอ่ ย เห็นภาพว่าเป็ นเทคโนโลยีที่มา การใหบ้ รกิ ารมาตรฐานโทรศพั ทเ์ คลอื่ นท ่ี ๒G อดบนเครอื ขา่ ยแบบเดมิ ทม่ี กี ารทา� งานแบบ TDMA กอ่ นเทคโนโลยี ๓ G ในประเทศไทยโดยใช้เทคโนโลยี GSM บนย่าน ทา� ใหผ้ ใู้ หบ้ รกิ ารเครอื ขา่ ยมขี อ้ จา� กดั ในการจดั สรร ความถี่ ๙๐๐ เมกะเฮิรตซ์ และ ๑,๘๐๐ ทรพั ยากรเครอื ขา่ ย ทา� ใหไ้ มส่ ามารถใหบ้ รกิ ารขอ้ มลู เมกะเฮิรตซ์น้ัน ไม่สามารถรองรับการใช้งานรับ ไดอ้ ยา่ งเตม็ รปู แบบ เนอื่ งจากจะทา� ใหเ้ กดิ ผลรบกวน สง่ ขอ้ มลู จา� นวนมากๆได ้ และเพอ่ื ใหส้ ามารถตอบ ตอ่ จา� นวนวงจรสอื่ สารแบบ Voice มากจนเกนิ ไป ไม่มีผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนท่ีใดๆ สามารถใหบ้ รกิ าร GPRS และ EDGE ดว้ ยอตั ราเรว็ สูงสุดได้ เน่ืองจากต้องแบ่งช่องสัญญาณส�าหรับ ใหก้ ารบรกิ ารแบบเสยี ง อยา่ งไรกต็ าม การสอ่ื สาร ขอ้ มลู ดว้ ยเทคโนโลย ี GPRS และ EDGE ยงั ถอื วา่ ชา้ มากเมอื่ เทยี บความเรว็ ในการรบั สง่ ขอ้ มลู ดว้ ยบร อดแบรนดผ์ า่ นคสู่ าย เชน่ เทคโนโลยกี ารสอื่ สาร ขอ้ มลู ความเรว็ สงู ผา่ นสายโทรศพั ท ์ DSL (Digital Subscriber Line) ภาพที่ ๒ การส่ือสารขอ้ มูลความเรว็ สูงผา่ นสาย โทรศพั ท ์
๕๙ ยุค ๓ G
๑๔ - ๑๕ ยุคสื่อประสมเซลลลู า่ (Multimedia cellular): มาตรฐานโทรศพั ทเ์ คลอ่ื นที่ยุคท่ี ๓ (๓G) เป็ นมาตรฐาน ท่ีไดร้ บั การออกแบบโดย หน่วยงาน ๓ GPP และเริ่มมีการเปิ ดใหบ้ ริการในเชงิ พาณิชยม์ าตงั้ แต่ พ.ศ. ๒๕๔๕ โดยไดร้ บั การออกแบบมาใหใ้ ชก้ ารส่ือสารแบบ CDMA หรอื การกระจายขอ้ มูลของผูใ้ ชบ้ รกิ ารทุก คนบนชอ่ งสญั ญาณความถี่วิทยุแต่ละชอ่ ง มีมาตรฐานโทรศพั ทเ์ คลอ่ื นท่ีหลกั ที่ใชง้ านในเชงิ พาณิชยค์ ือ WCDMA (Wideband CDMA) ซง่ึ ในระยะแรกมาตรฐาน WCDMA รองรบั การส่ือสารไดด้ ว้ ยอตั ราเรว็ สูงสุดเพียง ๓๘๔ กโิ ลบิตต่อวินาที ทงั้ ในทิศทางการสื่อสาร Downlink และ Uplink ต่อมาหน่วยงาน ๓GPP ก็ได้มีการเพิ่ม บิตต่อวินาที (Kbps) เมื่อใช้ในรถท่ีก�าลังว่ิง เปน็ ยคุ กอ่ นๆ จะตอ้ งเสยี ขา้ บรกิ ารตง้ั แตห่ นา้ เขา้ ศักยภาพของมาตรฐาน WCDMA ไปเป็น นอกจากน้ีจะต้องสามารถในการใช้โครงข่ายได้ สรู่ ะบบของเครอื ขา่ ย) หากจะเปรยี บเทยี บ เครอื มาตรฐานส่วนขยาย เรียกชื่อว่า HSPA (High ทว่ั โลก (Global Roaming) โดยผบู้ รโิ ภคสามารถ ขา่ ย ๒ G กบั ๓ G ดว้ ยเทคโนโลย ี ๓ G มชี อ่ ง Speed Packet Access) โดยมีจุดมุ่งหมายใน น�าโทรศัพท์เคล่ือนท่ีไปใช้ได้ทั่วโลก นอกจากน้ี สัญญาณความที่ และความจุในการรับส่งข้อมูล พัฒนาทั้งอุปกรณ์เครือข่ายและข้อก�าหนดของ จะต้องสนับสนุนการให้บริการท่ีไม่ขาดตอน มากวา่ ทา� ใหก้ ารรบั สง่ ขอ้ มลู ของแอพพลเิ คชนั เปน็ เครื่องลูกข่ายโทรศัพท์เคล่ือนท่ี ให้รองรับการ (Seamless Delivery Service) ซ่ึงผู้บริโภค ไปอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ ทง้ั บรกิ ารขอ้ มลู และระบบ สื่อสารด้วยอัตราเรว็ ท่เี พ่มิ สูงมากข้นึ อย่างไรกด็ ี สามารถใช้งานโทรศัพท์เคล่ือนท่ีโดยไม่รู้สึกถึง เสยี งทชี่ ดั เจน และสารมารถใชบ้ รกิ ารมลั ตมิ เี ดยี สหภาพโทรคมนาคมระหวา่ งประเทศ หรอื ITU การเปล่ียนสถานีฐาน หรือ Cell Site เตม็ ประสทิ ธภิ าพ ไดก้ า� หนดคล่นื ความถยี่ ่าน ๒,๑๐๐ เมกะเฮิรตซ์ ป ร ะ โ ย ช น์ข อ ง เ ท ค โ น โ ล ยี ๓ G (MHz) เปน็ คลนื่ ความถม่ี าตรฐานในการเชอื่ มตอ่ จุดเด่นที่ชัดเจนที่สุดของเทคโนโลยี ๓G คือ เทคโนโลยี ๓ G ช่วยให้ชีวิตประจ�าวันได้รับการ บท ีท่๕ ประเภทของเทคโนโล ียการ ืสอ่สาร ที่ใช้ตรงกันทุกประเทศ ท�าให้โทรศัพท์เคลื่อนท่ี การเพ่ิมความเร็วในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตไร้ บริการข้อมูลท่ีสะดวก และรวดเร็ว ซ่ึงมักคุ้นเคย ทั้งหมดที่ผลิตออกมาจะรองรับคลื่น ๒,๑๐๐ สาย เช่น ช่วยให้ผู้ใช้บริการสามารถรับส่งไฟล์ ในรูปแบบของ Wireless Broadband, Vidio Call เมกะเฮิรตซ์ เป็นหลัก และมีความถ่ีย่านอ่ืน ๆ ท่ีมีขนาดใหญ่ หรือการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร รับ หรือ การใช้บริการข้อมูลในรูปแบบต่าง ๆ แต่ เชน่ ๘๕๐ เมกะเฮริ ตซ์ และ ๙๐๐ เมกะเฮริ ตซ ์ ชมคลิปวิดีโอ หรือการถ่ายทอดรายการสด การ ส�าหรับการใช้ประโยชน์ในเชิงลึกแล้ว ทั้งด้าน เป็นทางเลือก ฟังเพลงจากสถานีวิทยุเกือบทุกที่ในโลก ได้ง่าย การศึกษา การสารธารณะสุข ธุรกิจ ฯลฯ ช่วย สะดวก รวดเร็ว และที่ส�าคัญไปกว่านั้นคือการ ให้ย่นระยะเวลาในการส่ือสาร ลดภาระค่าใช้จ่าย โทรศพั ทเ์ คล่ือนท่ียุคท่ีสาม หรือ ให้บริการ ๓G จะช่วยลดช่องว่างในการเข้าถึง เชน่ คา่ เดนิ ทางเมอ่ื ตอ้ งการเดนิ ทางมาประชมุ ดงั อินเทอร์เน็ตในพื้นที่ชนบทห่างไกล และพ้ืนท่ีที่ น้ัน เทคโนโลยี ๓ G ช่วยให้เกิดความใกล้ชิด Third Generation of Mobile มีข้อจ�ากัดในการเช่ือมต่ออินเทอร์เน็ตแบบมี ระหวา่ งบคุ คลไดม้ ากขนึ้ ยกตวั อยา่ งเชน่ ในวงการ สาย ท�าให้เกิดนวัตกรรมทางด้านโทรคมนาคม แพทย ์ อปุ กรณ ์ Telehealth เปน็ อปุ กรณท์ ว่ี ดั คา่ Telephone หรือท่ีหลายๆ คนเรียกว่า ๓G เกิดบริการใหม่ๆ ท่ีมีความหลากหลาย และ ตา่ ง ๆ ขอววี่ การแลว้ จะสง่ ขอ้ มลู แบบเรยี วไทม ์ เ ป ็ น ก ลุ ่ ม ข อ ง เ ท ค โ น โ ล ยี ส่ื อ ส า ร ที่ ส ห ภ า พ สะดวกสบายมากข้ึน ก่อให้เกิดการหลอมรวม (Real Time) กลบั ไปยงั แพทย ์ เพอื่ ตรวจการรกั ษา โทรคมนาคมระหว่างประเทศ (International กันทางเทคโนโลยี (Convergence of Tech- เบอ้ื งตน้ ผา่ น Video Conference ทา� ให้เกิดการ Telecommunication Union - ITU) ไดก้ า� หนด nology) ท้ังด้านคอมพิวเตอร์ ด้านส่ือสาร บริการทางการแพทย์ในรูปแบบใหม่ ที่รวดเร็ว มาตรฐานโทรคมนาคมแบบเคลื่อนที่ ที่เรียกว่า โทรคมนาคม และด้านสารสนเทศต่าง ๆ เกิด และประหยดั สง่ ผลใหผ้ ปู้ ว่ ยหรอื คนไข ้ ไดร้ บั การ มาตรฐาน International Mobile Telecommuni- สิ่งอ�านวยความสะดวกแก่ผู้บริโภคมากมาย รกั ษาอย่างทนั ทว่ งท ี ในปจั จุบนั มแี นวโนม้ วา่ ใน cations-๒๐๐๐ หรือ IMT-๒๐๐๐ ซึ่งกรอบ ท�าให้ผู้ใช้บริการมีควาสะดวกสบาย คล่องตัว กลุ่มของสารธารณสขุ ของชุมชนหา่ งไกล รวมไป นโยบายเกย่ี วกบั IMT-๒๐๐๐ นน้ั เปน็ บรกิ ารทาง ในการใช้งาน และสามารถได้รับบริการทุกท่ีทุก ถงึ กลมุ่ ประชากรทม่ี คี วามตอ้ งการ หรอื ขอ้ จา� กดั ดา้ นโทรคมนาคมทสี่ ามารถใหบ้ รกิ ารทหี่ ลอมรวม เวลา หนั มาใชบ้ รกิ ารคลนิ กิ หรอื แพทยอ์ อนไลนก์ นั มาก กนั ไดอ้ ยา่ งหลากหลาย การพฒั นาเทคโนโลย ี ๓G เกดิ ขน้ึ ในชว่ งป ี พ.ศ.๒๕๔๔ เปน็ ตน้ มา ซงึ่ ปจั จบุ นั ขน้ึ และอาจนา� ไปสกู่ ารแทนทขี่ องการรกั ษาในรปู มวี ธิ แี ละเทคนคิ ในการรบั -สง่ ขอ้ มลู ทก่ี า้ วหนา้ มาก แบบเดิมท่ีต้องเดินทางไกล ๆ ไปยังชุมชมใหญ ่ หรือตัวเมืองหลัก ขน้ึ มกี ารใหบ้ รกิ ารอนิ เทอรเ์ นต็ ดว้ ยความเรว็ และ คณุ สมบตั ขิ อง ๓ G คอื มกี ารเชอ่ื มตอ่ กบั การรักษาความปลอดภัยที่สูงขึ้นตามมาตรฐาน เครอื ขา่ ยระบบอยตู่ ลอดเวลา ทอ่ี ปุ กรณท์ า� งานอย่ ู สากล ในเรื่องของการถ่ายโอนข้อมูลต�่าสุด ๒ และไมจ่ า� เปน็ ตอ้ งเขา้ สรู่ ะบบดว้ ยตวั เองทกุ ครง้ั เมอื่ เมกะบิตต่อวนิ าท ี (Mbps) สา� หรับผูใ้ ชง้ านท่ีอยู่ ต้องการใช้บริการรับส่งข้อมูล แต่จะมีค่าบริการ กบั ท่ี หรอื ในขณะเดนิ และมคี วามเร็ว ๓๘๔ กโิ ล เมอ่ื ผใู้ ชเ้ รยี กใชข้ อ้ มลู ผา่ นเครอื ขา่ ยเทา่ นนั้ (หาก
๖๐ ยุค ๔G LTE มาตรฐานโทรศพั ทเ์ คลอื่ นทย่ี คุ ท่ี ๔ หรือ ๔G ไดถ้ ูกกาํ หนดมาตรฐาน ขึน้ ครงั้ แรกเมื่อปี ๒๕๕๑ โดย International Telecommuni- cations Union-Radio commu- nications sector (ITU-R) โดย เรยี กขอ้ กาํ หนดนีว้ า่ The Interna- tional Mobile Telecommunica- tions Advanced specification (IMT-Advanced) ซ่ึงไดก้ ําหนด ความเร็วของระบบ ๔G ไวท้ ี่ ๑ Gbps แต่ดว้ ยขีดจํากดั ทางดา้ น เทคโนโลยีและความพรอ้ มของ ผูใ้ หบ้ ริการ จงึ ทาํ ใหร้ ะบบ ๔G ใน ปัจจุบนั ยงั ไม่สามารถทําความ เรว็ ในการรบั -ส่งขอ้ มูลไดส้ ูงตาม ขอ้ กาํ หนด เทคโนโลยีโทรศพั ทเ์ คล่ือนท่ียุคท่ี ๔ หรอื เทคโนโลยี Long Term Evolu- tion (LTE) เป็นเทคโนโลยีส่ือสารไร้สายความเร็วสูง ท่ีพัฒนา ข้ึนเพื่อช่วยลดข้อจ�ากัดของการรับส่งข้อมูลท่ีใช้กัน อยู่ในปัจจุบัน ให้มีความสามารถในการรับส่งข้อมูล ด้วยความเร็วสูงถึง ๑๐๐ Mbps และจะช่วยลด ความล่าช้าในการรับส่งข้อมูลโดยรวม (Latency) ลงอย่างมาก ท�าให้การส่ือสารจากเดิม ด้วยภาพ และข้อความ เปลี่ยนไปเป็นรูปแบบของวีดีโอ และ ภาพ ๓ มิติได้อย่างสมบูรณ์แบบ นอกจากนี้ LTE ยั ง ถื อ เ ป ็ น ร ะ บ บ ท่ี ร อ ง รั บ ก า ร ห ล อ ม ร ว ม ท า ง เทคโนโลยี ท้ังเทคโนโลยีในอดีตและเทคโนโลยี แห่งอนาคตท่ีมุ่งเข้าสู่โลก IP ในรูปแบบ Pack- et-Based ด้วยกัน และเป็นเทคโนโลยีสื่อสารยุค ใหม่ที่พัฒนามาเพ่ือความต้องการของมนุษย์ซึ่งมี การรับส่งข้อมูลท่ีมีความเร็วสูง มีความสามารถใน การติดต่อส่ือสารได้ทั้งภาพและเสียงตลอดจน ข้อความภาพ โทรศัพท์เคล่ือนท่ีที่รองรับเทคโนโลย ี
๑๔ - ๑๕ ภาพท่ี ๑ ภาพแสดงความแตกต่างระหว่างเครือข่ายสญั ญาณ 3G และ 4G LTE จะมีความสามารถและสมรรถนะสูงมาก ใน อุปกรณ์สื่อสารท่ีสามารถรองรับใช้งาน LTE LAN (hot spot) และเครือข่ายแบบ Cell หรือ ระดับท่ีสามารถชมภาพวิดิโอถ่ายยทอดสดได้ ได้ คล้ายคลึงกับอุปกรณ์ท่ีใช้บนเครือข่าย ๓G แบบสถานีฐาน (base-station) ด้วยภาพและเสียงท่ีมีคุณภาพสูง เช่น สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ท เป็นต้น การ ๔. ต้องการ Bandwidth ที่กว้างข้ึนและ พัฒนาเทคโนโลยี LTE ก็เป็นผลมาจากจุดอ่อนข ต้องการให้เป็นเครือข่ายแบบ Digital มาตรฐานโทรศัพท์เคล่ือนที่ ๔ G ถือเป็น อง ๓ G และเพื่อต้องการหลุดออกจากข้อจ�ากัด มาตรฐานสื่อสารไร้สายความเร็วสูงชนิดพิเศษ และปัญหาของ ๓G LTE เปน็ เทคโนโลยที สี่ ามารถตอบสนองตอ่ การพัฒนาต่อยอดจากมาตรฐาน IMT-๒๐๐๐ ความต้องการของตลาด โดยการใช้เทคนิคอัน โดย ๔G LTE ถือเป็นพัฒนาการอีกข้ันต่อจาก ซ่งึ แรงจงู ใจในการพฒั นาเทคโนโลยี ก้าวหน้าอย่าง OFDMA/SC-FDMA บน Air ๓ G ซึ่งเป็นการเติมเต็มเทคโนโลยี ๓ G ไม่ได้ ๔G LTE มีดงั ตอ่ ไปนี ้ บท ีท่๕ ประเภทของเทคโนโล ียการ ืสอ่สาร Interface, ความยดื หยนุ่ ในการใชค้ ลน่ื ความถ ่ี เชน่ ๑. แม้ว่ามีความพยายามที่จะท�าให้ ๓G เป็น ขนาดช่องสัญญาณท่ีหลากหลาย ตั้งแต่ ๑.๔ เป็นการเข้ามาแทนที่แต่อย่างใด โทรศัพท์เคล่ือนที่ท่ีสามารถ Roaming ข้ามโครง เมกะเฮริ ตซ ์ ไปจนถงึ ๒๐ เมกะเฮริ ตซ ์ รวมทงั้ การ การพัฒนาเทคโนโลยี LTE เป็นการพัฒนา ข่ายทุกประเภทได้ท่ัวโลก แต่ด้วยมาตรฐานที่ซับ ใช ้ TD-LTE สา� หรบั unpaired spectrum, และ เพ่ือรองรับการส่ือสารส่ือประสม (Multimedia) ซ้อนของ ๓G ก็ยังคงมีปัญหาอยู่บ้างในการเช่ือม เทคนิคพิเศษอ่ืน ๆ เช่น MIMO และ การใช ้ ท่ีมีความเร็วการส่งข้อมูลที่สูงกว่า ๓ G เช่น การ โยงและท�างานร่วมกันระหว่างเครือข่าย modulation ทส่ี งู ขน้ึ เปน็ ตน้ การเตบิ โตของตลาด ให้บริการข่าวสารข้อมูลเพ่ือการศึกษา การซ้ือ ๒. ผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนท่ี ของ บรอดแบรนดไ์ รส้ ายทส่ี งู ขนึ้ อยา่ งมนี ยั สา� คญั ขายสินค้าผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่และสามารถหัก ต้องการให้รูปแบบการแปลงคลื่นความถ่ีวิทยุมี ทา� ใหน้ กั พฒั นาเทคโนโลยดี า้ นน ้ี ตอ้ งทา� งานแขง่ ค่าใช้จ่ายผ่านบัญชี เงินในธนาคารได้ทันที (Mo- ประสิทธิภาพมากข้ึน เพิ่มขีดความสามารถใน กบั เวลาตอ่ ไป เพอื่ ใหท้ นั กบั ความตอ้ งการและความ bile Commerce) วิดีโอแบบภาพเคล่ือนไหวท่ี การรับ-ส่งข้อมูลความเร็วสูงมากๆ ซ่ึงไม่ คาดหวังที่เพิ่มข้ึนของผู้คนจา� นวนมาก จนกลาย เต็มรูปแบบ (Full-motion Video) หรือการ สามารถท�าได้ในโครงสร้างของเครือข่าย ๓G เปน็ เทคโนโลยแี หง่ อนาคต คอื LTE-Advanced ประชุมทางโทรศัพท์เคลื่อนท่ี (Mobile telecon- ๓. มีต้องการเครือข่ายแบบผสมผสานท่ี หรอื LTE-A สามารถใช้งานเครือข่ายได้ทั้งแบบ Wireless ferencing)
๖๑ ยุค ๕G ๕G คือ เทคโนโลยีการส่ือสาร เจนเนอเรชนั ที่ ๕ (5th Generation of Cellular Mobile Communication) ปัจจบุ นั ไดม้ ีขอ้ กาํ หนดออกมาเกอื บสมบรู ณแ์ ลว้ และเตรยี มจะประกาศใชใ้ นชว่ งปี ค.ศ. ๒๐๒๐ ปัจจบุ นั จะไดเ้ หน็ การเตรยี มพรอ้ มของแตล่ ะเครอื ขา่ ยทว่ ั โลกพฒั นาตนเองใหร้ องรบั การมาของ ๕G การบรกิ ารของเทคโนโลยี สื่อสารในอนาคต อย่างเช่น ๕G ท่ีมาพรอ้ มมิติใหม่ๆ มีแนวคิดในเรอ่ื ง “ทุกสรรพส่ิงเชอื่ มผ่านอนิ เตอรเ์ น็ต” หรอื “Internet of Things (IoT)”
๑๔ - ๑๕ ซงึ่ มมี ิตกิ ารพิจารณาบรกิ าร ๕G ใน ๓ มติ ิ ครอบคลมุ หลายยา่ นความถ ่ี ไดแ้ ก ่ ความถใ่ี นยา่ น การใช้ความถีร่ ่วมกัน (Spectrum Sharing) ได้ ดังนน้ั ในความถ่ที ีต่ �่ากว่า ๖ GHz ในบางยา่ นคลืน่ กล่าวคือมิติแรกเป็นเรื่องความเร็วในหนึ่งตาราง ตง้ั แต ่ ๔๐๐ MHz จนถงึ ยา่ น ๓๐๐ GHz การ จะไมส่ ามารถใชค้ วามถร่ี ว่ มกนั ได ้ (Shared Spec- trum) เน่ืองจากมีการจัดสรรความถ่ีท่ีมีลักษณะ กิโลเมตร มิติท่ีสองในเร่ืองของความหน่วง(De- แบง่ ความถีจ่ ะแบง่ ความถอี่ อกเป็นสองกลุ่ม โดย เปน็ สิทธเิ ฉพาะตวั (Exclusive Use) lay) และมิติที่สามคือจ�านวนการเช่ือมโยงจาก ก�าหนดให้ความถ ี่ ๖ GHz เป็นเส้นแบ่งความถี่ สา� หรบั ประเทศไทย กสทช. มคี วามตน่ื ตวั ใน บท ีท่๕ ประเภทของเทคโนโล ียการ ืสอ่สาร เรอื่ งของเทคโนโลยมี าตรฐาน ๕G และมกี ารเตรี สถานฐี านในหนึ่งตารางกิโลเมตร ระหว่างความถ่ีที่รองรับบริการ ๕G โดยการให้ ยมความพร้อมในเร่ืองดังกล่าวไว้เบื้องต้น คือ การเตรียมจัดสรรคล่ืนความถี่แบบไม่ต้องท�าการ บรกิ าร ๕G หลัก (Core service หรอื ๕G Pri- ประมลู เพอื่ ใหค้ นไทยไดใ้ ชง้ าน ๕G ไดใ้ นราคาตา่� และกา� หนดให้อุปกรณท์ ี่จะใช้เทคโนโลย ี ๕G ได ้ บริการของ ๕G แบ่งออกเป็ นสอง mary) จะใชค้ วามถใี่ นย่านที่ตา่� กวา่ ๖ GHz และ ต้องเป็นไปตามมาตรฐานโลก คือ สหภาพ โทรคมนาคมระหวา่ งประเทศ ITU (Internation- ส่วนคอื ความถีใ่ นย่านท่ีสูงกว่า ๖ GHz จะใชเ้ พอื่ รองรบั al Telecommunication Union) ๑. บริการ ๕G Core Services หมายถึง ในการให้บรกิ าร ๕G Supplement service ใน บรกิ ารท่มี ีอยูใ่ น ๔G, ๓G, ๒G และ ๑G ดว้ ย ปจั จบุ นั พบวา่ มปี รมิ าณการใชง้ านคลนื่ ความถท่ี ใี่ น นน้ั หมายความวา่ ผ้ใู ช้บรกิ ารไม่ตอ้ งมีการลงทุน ย่านต่�ากวา่ ๖ GHz ลงมา มปี ริมาณการใช้งาน ใหม่ถา้ ยังมีความต้องการใชบ้ รกิ ารเดมิ อย่างหนาแน่น ดงั น้ันการหาเทคโนโลยใี หม ่ เพอื่ ๒. บริการ ๕G Supplement Services เปน็ ใช้งานกับความถี่ในย่านท่ีสูงกว่า ซ่ึงเป็นย่าน บริการท่ีสร้างข้ึนมาใหม่ในเทคโนโลยีของ ๕G ความถี่ท่ีไม่ได้มีการใช้งานมากนัก มาเป็นทาง การแบ่งบริการ ๕G ออกเป็นสองส่วนน้ันจะมี เลอื กในการใหบ้ รกิ ารเพม่ิ เตมิ โดยคลน่ื ความถใ่ี น ความสา� คญั ตอ่ การบรหิ ารคลนื่ ความถเี่ พอ่ื รองรบั ยา่ นทส่ี งู กวา่ ๖ GHz จะมขี อ้ เดน่ คอื มคี ลนื่ ความถ่ี การให้บริการ ๕G ความถ่ีที่น�ามาใช้จะกว้าง ทวี่ ่างเปน็ จ�านวนมาก และมีความเป็นไปไดท้ ่ีจะมี
๖๒ เคเบิลโคแอกเชียล เคเบิลโคแอกเชียลถูกคิดค้นและจดสิทธิบัตร (Coaxial Cable) เป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. ๒๔๒๓ โดยวิศวกรไฟฟ้า ชาวอังกฤษช่อื Oliver Heaviside ตอ่ มาในปี พ.ศ. เคเบิลโคแอกเชียล (Coaxial Cable) หรอื สายโคแอกซ ์ (Coax Wire) ๒๔๗๙ เคเบิลโคแอกเชียลได้ถูกน�ามาใช้เป็นครั้ง เป็ นสายนาํ สญั ญาณไฟฟ้าทีม่ ีโลหะเป็ นตวั นาํ ไฟฟ้าอยใู่ นแนวแกนกลาง แรกกับระบบโทรทัศน์วงจรปิดในการสื่อสัญญาณ ตวั นาํ นีจ้ ะถูกห่อหุม้ ดว้ ยฉนวนโดยรอบ ท่ีผิวดา้ นนอกของฉนวนนีจ้ ะถูก ระหวา่ งเมอื งเบอรล์ นิ กบั เมอื งไลปซ์ กิ ในชว่ งของการ ห่อหุม้ ดว้ ยแผ่นตวั นาํ ท่ีเป็ นโลหะบางหรืออาจเป็ นเสน้ ใยตวั นาํ ท่ีถกั เป็ น แข่งขันกีฬาโอลิมปิกในประเทศเยอรมัน เคเบิลโค เปี ยหรือตาข่ายอีกชนั้ หน่ึง จากนนั้ จะมีฉนวนห่อหุม้ โครงสรา้ งทงั้ หมด แอกเชยี ลไดถ้ กู ตดิ ตง้ั สา� หรบั การใชง้ านเชงิ พาณชิ ย์ อกี ชนั้ ทาํ หนา้ ทป่ี ้องกนั สายสญั ญาณ ดงั รปู ท่ี ๑ ตวั นาํ ไฟฟ้าในแนวแกน ขึ้นเป็นคร้ังแรกโดยบริษัท AT&T ในประเทศ กลางทําหนา้ ท่ีส่ือสญั ญาณไฟฟ้าในขณะท่ีตวั นําตาข่ายทําหนา้ ท่ีเป็ น สหรัฐอเมริกาในปี พ.ศ. ๒๔๘๔ ซง่ึ ระบบสายสง่ สายดนิ เคเบลิ โคแอกเชียลถกู ใชใ้ นการนาํ สญั ญาณส่ือสารคอมพิวเตอร ์ สญั ญาณนสี้ ามารถสอื่ สญั ญาณโทรศพั ทไ์ ดพ้ รอ้ มกนั ในยุคแรก รวมทงั้ การนาํ สญั ญาณคลน่ื วิทยุไปยงั สายอากาศ เนื่องจาก มากถงึ ๔๘๐ คสู่ ายในเวลาเดยี วกนั หลงั จากนนั้ ได้ สามารถส่งสญั ญาณความถ่ีสูงไดเ้ ป็ นระยะทางไกล และตวั นําไฟฟ้า มีการน�าเคเบิลโคแอกเชียลมาใช้เชื่อมโยงระบบ ตาข่ายชนั้ นอกท่ีห่อหุม้ ตวั นาํ แกน จะทาํ หนา้ ที่ป้องกนั สญั ญาณรบกวน สื่อสารระยะไกลมากขึ้น และในปี พ.ศ. ๒๔๙๙ ทางไฟฟ้าไดเ้ ป็ นอย่างดี อีกทงั้ ยงั ช่วยป้องกนั ไม่ใหส้ ญั ญาณท่ีส่งใน โครงการสื่อสารระหว่างประเทศผ่านมหาสมุทร ตวั นาํ แกนกลางแพรก่ ระจายสญั ญาณออกไปสู่ภายนอก แอตแลนติกช่อื TAT-1 (Transatlantic No. 1) ได้ มีการน�าเคเบิลโคแอกเชียลมาใช้ในระบบเคเบิลใต้ นา�้ เปน็ ครั้งแรก ประเภทของเคเบิลโคแอกเชียล เคเบลิ โคแอกเชยี ลมหี ลายประเภทขนึ้ อยกู่ บั ราย ละเอยี ดในสว่ นประกอบของโครงสรา้ งทอี่ อกแบบขนึ้ ตามวตั ถปุ ระสงคก์ ารใชง้ านทแ่ี ตกตา่ งกนั เชน่ Hard line, RG-#, Triaxial cable, Twin-axial cable,
รูปที่ ๑ โครงสรา้ งของเคเบิลโคแอกเชียล ๑๔ - ๑๕ รูปท่ี ๒ ตวั อย่างโอแอกเชียลเคเบิลบางประเภท Rigid line, Semi-rigid ฯลฯ ท�าให้เคเบลิ โคแอก บท ีท่๕ ประเภทของเทคโนโล ียการ ืสอ่สาร เชียลแต่ละประเภทมีคุณสมบัติต่าง ๆ ท่ีไม่เท่า Hard line กนั เชน่ ค่าความต้านทานหรอื อิมพแิ ดนซ์ (โดย Triaxial cable ทัว่ ไปมีทัง้ ค่า ๕๐ และ ๗๕ โอหม์ ) ค่าการลด Twin-axial cable ทอนสญั ญาณทค่ี วามถใี่ ชง้ าน และระยะทางสงู สดุ Rigid line cable ในการสื่อสัญญาณ ฯลฯ Semi-rigid cable ประเภทของเคเบลิ โคแอกเชยี ลทคี่ นสว่ นใหญ่ คุ้นเคยคอื แบบ RG-# หรอื RG-#/U (เชน่ RG- รูปที่ ๓ ตวั อย่างโอแอกเชียลเคเบิลแบบต่าง ๆ ของประเภท RG# 6/U, RG-58, RG-174/U) ซ่งึ เปน็ ช่อื ทก่ี �าเนิดมา รวมถึง RG-6/U ที่มกั นิยมใชก้ บั สญั ญาณโทรทศั นห์ รือโทรทศั น ์ จากมาตรฐานทางทหาร โดยคา� วา่ RG ยอ่ มาจาก ดาวเทียม ค�าวา่ Radio Guide และ U หมายถงึ Universal ตวั อยา่ งเชน่ RG-6/U เปน็ สายเคเบิลโคแอกเชยี RG-58 C/U ลที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ ๖-๗ RG-59 B/U เซนติเมตร มคี ่าอิมพิแดนซ์ ๗๕ โอหม์ เหมาะ RG-62 A/U ส�าหรับการใช้งานกับสัญญาณโทรทัศน์หรือ โทรทศั นด์ าวเทยี ม เป็นตน้ RG-6/U RG-11/U การใชง้ านเคเบิลโคแอกเชียล แมว้ า่ โครงสรา้ งของเคเบลิ โคแอกเชยี ลจะชว่ ย ใหส้ ามารถสอ่ื สญั ญาณความถส่ี งู ไดด้ ี และยงั เคย ใชเ้ ป็นสายเคเบิลใต้นา�้ เชอ่ื มโยงระหว่างประเทศ แต่ปัจจุบันเคเบิลโคแอกเชียลไม่เหมาะกับการ สื่อสารระยะทางไกลเน่ืองจากไม่สามารถรองรับ ปริมาณข้อมูลท่ีเพ่ิมขึ้นมหาศาลได้ จึงมีการน�า เทคโนโลยีเคเบิลใยน�าแสงมาใช้แทน อีกทั้งการ ออกแบบเคเบิลโคแอกเชียลให้ส่งเป็นระยะทาง ไกลมาก จะทา� ใหโ้ ครงสรา้ งของสายเคเบลิ มขี นาด ใหญ่ และขาดความยืดหยุ่นในการติดต้ังใช้งาน เมื่อเทยี บกบั สายเคเบิลแบบใหม่ ๆ อย่างไรก็ตาม เคเบิลโคแอกเชียลนิยมใช้ใน การสอ่ื สัญญาณคล่นื วิทยหุ รือ RF (Radio Fre- quency) สญั ญาณโทรทัศน์ เคเบลิ ทีวี โทรทัศน์ วงจรปิด สญั ญาณไมโครเวฟ และในระบบเครอื ข่ายท้องถิ่นหรอื LAN (Local Area Network) ของเครือ่ งคอมพิวเตอร ์ ท่ีมีระยะทางไม่ไกลมาก
๖๓ เคเบิลโมเดม็ (Cable Modem) เคเบิลโมเดม็ (Cable Modem) เป็ นอุปกรณท์ ี่ไดร้ บั การพฒั นาขึน้ เพื่อใชก้ บั ระบบการใหบ้ ริการเคเบิลทีวี (CATV) เพื่อช่วยใหเ้ ครื่องคอมพิวเตอรใ์ นบา้ นของผูใ้ ชบ้ ริการสามารถใชง้ านอินเทอรเ์ น็ตผ่านสายเคเบิล ทีวีได ้ ขณะเดียวกนั ผูใ้ ชบ้ ริการกย็ งั สามารถรบั ชมโทรทศั นผ์ ่านระบบของผูใ้ หบ้ ริการในเวลาเดียวกนั ไดโ้ ดย สญั ญาณไม่รบกวนกนั
๑๔ - ๑๕ เคเบิลโมเด็มเป็นการผสมค�าสองค�าคือค�าว่า เคเบิล (Cable) และคา� ว่าโมเดม็ (Modem) ซึ่ง ค�าวา่ เคเบิลหมายถงึ สายสัญญาณ ซงึ่ ในที่นก้ี ็คอื สายเคเบิลทีวี ส่วนค�าว่าโมเด็มมีท่ีมาจากค�าว่า มอดเู ลชนั่ (Modulation) / ดมี อดเู ลชนั่ (Demod- ulation) มอดูเลช่นั เป็นวิธีการผสมข้อมูลที่ ตอ้ งการสอื่ สารเขา้ กบั สญั ญาณความถคี่ า่ หนง่ึ เพอ่ื ท�าให้สามารถส่งสัญญาณที่มีข้อมูลร่วมอยู่ไปได้ ไกล ข้อมูลที่ต้องการส่ือสารในกรณีนี้ กับ สั ญ ญ า ณ ค อ ม พิ ว เ ต อ ร ์ ที่ เ ดิ น ท า ง ใ น ร ะ บ บ อนิ เทอรเ์ นต็ จะเปน็ สญั ญาณดจิ ทิ ลั ทมี่ สี ถานะเปน็ ๐ หรอื ๑ (อาจเทียบเทา่ กบั สญั ญาณทมี่ ีแรงดนั ไฟฟา้ เปน็ ๐ โวลต ์ หรอื ๕ โวลต)์ กระบวนการ ภาพที่ ๑ การใชเ้ คเบิลโมเดม็ เพื่อแยกสญั ญาณ มอดเู ลชน่ั นช้ี ว่ ยใหส้ ามารถสง่ ขอ้ มลู ดว้ ยความเรว็ อินเทอรเ์ น็ตออกจากระบบเคเบิลทีวี สูง และส่งข้อมูลได้ระยะทางทไ่ี กลขึน้ มาก อีกท้งั ยังช่วยให้สามารถส่งข้อมูลได้หลายช่องสัญญาณ และเพมิ่ อปุ กรณ์เคเบิลโมเด็มข้นึ มาเพือ่ ท�าหน้าท่ี ทงั้ นค้ี วามเรว็ ในการทา� งานของเคเบลิ โมเดม็ แตล่ ะ รวมกนั เมอื่ สญั ญาณขอ้ มลู ทถี่ กู ผสมกบั คลนื่ พาห์ เฉพาะสัญญาณอินเทอร์เน็ต แล้วส่งไปยัง รนุ่ จะขนึ้ อยกู่ บั ความสามารถในการใหบ้ รกิ ารของ เดนิ ทางไปถงึ ปลายทางทตี่ อ้ งการ ขอ้ มลู เดมิ จะถกู คอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อ่ืน ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ ผปู้ ระกอบการ และความตอ้ งการในการรบั ขอ้ มลู แยกออกจากคลื่นพาห์เพื่อน�าไปใช้ต่อไป ระบบอนิ เทอรเ์ นต็ เชน่ ระบบ LAN (Local Area ของผู้ใช้บรกิ าร กระบวนการหลังนเ้ี รยี กวา่ การดมี อดูเลชัน Internet) แบบอีเธอร์เน็ต (Ethernet) ภายใน ท่พี ักหรือสา� นักงานของผใู้ ช้บรกิ าร เป็นต้น เคเบิลโมเด็มท่ีท�าหน้าที่แยกสัญญาณ ในยุคท่ีระบบการให้บริการเคเบิลทีวีเริ่มเป็น อินเทอร์เน็ตออกจากสายเคเบิลทีวี แล้วส่งไปยัง ที่นิยม ผู้ให้บริการหรือผู้ประกอบการจะท�าการ ระบบเคเบิลทีวีในยุคแรกจะใช้เคเบิลโคแอก เครื่องคอมพิวเตอร์โดยตรง เพ่ือช่วยให้ เช่ือมโยงเคเบิลโคแอกเชียลจากส�านักงานไปยัง เชยี ลเปน็ สายสญั ญาณเชอื่ มโยงระหวา่ งตน้ ทางไป คอมพวิ เตอรส์ ามารถใชง้ านเชื่อมตอ่ อินเทอร์เนต็ บา้ นผูใ้ ช้ ซ่งึ ในทีน่ ้ีจะหมายถงึ ระบบเคเบลิ ทวี ที ใี่ ช้ ยงั ปลายทาง ปจั จบุ นั ไดม้ กี ารนา� เสน้ ใยนา� แสงเขา้ ได้ อย่างไรกต็ าม หากมคี อมพิวเตอรม์ ากกวา่ ๑ เทคโนโลยกี ารสอ่ื สารผา่ นสายเทา่ นนั้ ไมร่ วมการ มาใชแ้ ทนเคเบลิ โคแอกเชยี ลในบางสว่ นของระบบ เคร่ือง หรอื มกี ารเช่อื มโยงคอมพวิ เตอร์หลาย ๆ ให้บริการผ่านสัญญาณดาวเทียม โดยในเขต โครงข่ายเคเบิลทีวี เนื่องจากข้อดีของเส้นใยน�า เครอื่ งเปน็ เครอื ขา่ ย อาจตอ้ งมอี ปุ กรณอ์ น่ื เพมิ่ เตมิ ชุมชนหน่ึงอาจจะมีผู้ใช้บริการเป็นจ�านวนมาก แสงเองท่ีสามารถรองรับปริมาณข้อมูลที่มากข้ึน เช่น ฮบั (Hub) หรือ เราเตอร์ (Router) เสรมิ ทา� ใหเ้ กดิ การเชอื่ มโยงเปน็ โครงขา่ ยของระบบสาย กว่าเดมิ อกี ทัง้ มีสัญญาณรบกวนน้อยมาก ระบบ เขา้ ไปเพ่อื เพิ่มประสิทธภิ าพ โดยฮบั (Hub) ท�า บท ีท่๕ ประเภทของเทคโนโล ียการ ืสอ่สาร เคเบิล และท�าให้ผู้ประกอบการหรือผู้ให้บริการ โครงข่ายสายส่งของเคเบิลทีวีแบบน้ีเรียกว่าเป็น หน้าท่ีกระจายสัญญาณไปยังคอมพิวเตอร์ทุก ต้องแข่งขันกันด้วยการเพ่ิมช่องทีวีเพ่ือดึงดูดใจผู้ “ระบบไฮบรดิ (Hybrid)” คือ มีการผสมระหว่าง เครอ่ื งทใ่ี ช้งาน ในขณะท่ีเราเตอร์ (Router) ท�า ใชบ้ ริการ เคเบลิ โคแอกเชยี ลกบั เคเบลิ เสน้ ใยนา� แสงรว่ มกนั หน้าท่ีเชื่อมต่อเส้นทางเดินข้อมูลไปยังเคร่ือง ในระบบ เม่อื ระบบโครงข่ายสายส่งเปลยี่ นไป จงึ คอมพิวเตอรท์ ี่ต้องการในเครือขา่ ย เมื่อระบบอินเทอร์เน็ตเร่ิมเป็นท่ีนิยมแพร่ ต้องมีการพัฒนาเคเบิลโมเด็มให้รองรับความเร็ว หลายไปยังประชาชนท่วั ไป ท�าใหผ้ ู้ใชบ้ รกิ ารตาม ทเี่ พ่ิมขึ้น ในการให้บรกิ ารด้วยความเร็วในการสง่ บ้านเรือนมีจ�านวนเพ่ิมมากข้ึนอย่างรวดเร็ว ข้อมลู จากผู้ประกอบการไปยงั ผูใ้ ช้บริการเรยี กว่า วศิ วกรจงึ มแี นวความคดิ ทจ่ี ะใชป้ ระโยชนจ์ ากโครง ดาวนส์ ตรมี (Downstream) ซงึ่ สามารถสง่ ขอ้ มลู ข่ายส่ือสารของระบบเคเบิลทีวีเดิมในการส่ือ ไดด้ ว้ ยความเรว็ สงู ถงึ หลายรอ้ ยเมกะบติ ตอ่ วนิ าที สัญญาณอินเทอร์เน็ตเพ่ิมเข้าไปร่วมกับสัญญาณ (Mb/s) ในขณะท่คี วามเรว็ ในการสง่ ข้อมูลจากผู้ โทรทัศน์ที่มีอยู่เดิม เพราะเคเบิลโคแอกเชียล ใช้บริการไปยังผู้ประกอบการเรียกว่า อัปสตรีม สามารถรองรับปริมาณข้อมูลทั้งสองประเภทใน (Upstream) อาจมคี า่ เรมิ่ ตน้ ทต่ี า่� กวา่ เมกะบติ ตอ่ การสือ่ สัญญาณได้ในระยะทางทไ่ี มไ่ กลมากนัก วนิ าทไี ปจนถงึ ความเรว็ รว่ มรอ้ ยเมกะบติ ตอ่ วนิ าที
๖๔ เคเบิลโคแอกเชียล (Coaxial Cable) ดีเอสแอล (DSL) หรอื Digital Subscriber Line เป็ นอปุ กรณท์ ่ีมีหลกั การทาํ งานเช่นเดียวกบั เคเบิลโมเดม็ (Cable Modem) ดีเอสแอลจงึ เป็ นโมเดม็ ประเภทหน่ึงท่ีไดร้ บั การออกแบบพฒั นาสําหรบั ใชโ้ ทรศพั ทก์ บั คู่ สายโทรศพั ทท์ ่ีเป็ นสายทองแดงธรรมดา เพ่ือช่วยใหเ้ คร่ืองคอมพิวเตอรใ์ นบา้ นของผูใ้ ชส้ ามารถใชง้ าน อนิ เทอรเ์ น็ตได ้ ดงั แสดงในรปู ท่ี ๑ อย่างไรกต็ าม เน่ืองจากสายทองแดงท่เี ป็ นสายโทรศพั ทเ์ ดิมแบบสายคู่ ตีเกลียว (Twisted-pair) สามารถรองรบั ความเรว็ ในการส่ือสารขอ้ มูลไดน้ อ้ ยมากเมอื่ เปรยี บเทียบกบั เคเบิล โคแอกเชียลหรอื เคเบิลเสน้ ใยนาํ แสง ทาํ ใหเ้ ทคโนโลยีภายในอปุ กรณ ์ DSL มีความแตกต่างจากเคเบิลโมเดม็ แมว้ า่ จะมีหลกั การทาํ งานในทาํ นองเดียวกนั กต็ าม
๑๔ - ๑๕ ภาพที่ ๑ การใชโ้ มเดม็ แบบดีเอสแอลเพื่อแยก สญั ญาณอินเทอรเ์ น็ตไปยงั คอมพิวเตอร ์ เมื่อเทคโนโลยีการส่ือสารพัฒนามากข้ึนจน ท่ีเป็นสายโทรศัพท์เดิม โดยอุปกรณ์ที่ติดตั้งใน ไปยงั เพอ่ื นหรอื คสู่ นทนามากกวา่ ดงั นน้ั ความเรว็ ทา� ใหเ้ ครอ่ื งคอมพวิ เตอรต์ น้ ทางสามารถตดิ ตอ่ กบั บา้ นของผู้ใช้บริการจะเรียกว่า ดเี อสแอลโมเดม็ ในการรับส่งข้อมูลแบบดาวน์สตรีม จึงไม่เท่ากับ เครอ่ื งคอมพวิ เตอรห์ รอื เครอ่ื งเซริ ฟ์ เวอร ์ (Server) อยา่ งไรกต็ าม ดเี อสแอลโมเดม็ มขี อ้ ดอ้ ยตรงท ี่ ไม่ (มากกวา่ ) อปั สตรมี ทา� ใหเ้ กดิ เปน็ คา� วา่ “Asym- ใด ๆ ไดต้ ลอด ๒๔ ชว่ั โมงผา่ นสายโทรศพั ท ์ ไดอลั สามารถให้บริการเป็นระยะทางไกลมากได้ metric” ซึ่งหมายถงึ “ไม่สมมาตร” ความเร็วใน โมเดม็ จงึ ถกู พฒั นามาเปน็ ดเี อสแอลโมเดม็ (DSL เนอ่ื งจากความเรว็ ในการสอื่ สญั ญาณจะมคี า่ ลดลง การสง่ ขอ้ มลู ของ ADSL แบบดาวน์สตรมี โดย Modem) เพ่ือให้รองรับการสื่อสารข้อมูลด้วย เมอื่ ระยะทางเพมิ่ ขนึ้ ผใู้ ชบ้ รกิ ารดเี อสแอลจงึ ควร ทั่วไปอยทู่ ่ปี ระมาณ ๗๘๐ กิโลบติ ตอ่ วนิ าที แต่ก็ ความเรว็ ทสี่ งู ขนึ้ บนอนิ เทอรเ์ นต็ ได ้ โดยดเี อสแอล อยใู่ นระยะหา่ งจากผใู้ หบ้ รกิ ารเพยี งไมก่ ก่ี โิ ลเมตร สามารถเพ่มิ ความเรว็ ได้สูงสดุ ถงึ ๖.๑ เมกะบิต โมเด็มมีกระบวนการท�างานเหมือนเคเบิลโมเด็ม เทา่ นนั้ นอกจากน้ีการตดิ ตงั้ ดเี อสแอลโมเดม็ ผู้ ตอ่ วนิ าท ี ในขณะความเรว็ สงู สดุ ของการสง่ ขอ้ มลู โดยส่งข้อมูลดิจิทัลของคอมพิวเตอร์ไปในช่อง ใช้อาจทา� เองไม่ได ้ ถา้ ไมม่ คี วามรทู้ างเทคนิค แบบเรยี กวา่ อปั สตรมี อย่ทู ป่ี ระมาณ ๖๔๐ กิโล สัญญาณหน่ึง ในขณะเดียวกันก็ท�าการแบ่งช่อง บิตตอ่ วนิ าท ี สัญญาณไว้ใช้ส�าหรับการสื่อสารสัญญาณเสียงที่ ประเภทของดีเอสแอลและการใชง้ าน เป็นสัญญาณแบบแอนะล็อกแยกออกจากช่อง การใหบ้ รกิ ารเทคโนโลยดี เี อสแอลมหี ลายประเภท ๒.SDSL (Symmetric Digital Sub- สัญญาณข้อมูล ท�าให้สามารถส่ือสารข้อมูล คอมพิวเตอร์และสนทนาผ่านโทรศัพท์ได้ในขณะ ๑.ADSL (Asymmetric Digital scriber Line) เปน็ เทคโนโลยีดีเอสแอลท่ีมี บท ีท่๕ ประเภทของเทคโนโล ียการ ืสอ่สาร เดยี วกนั อกี ท้ังยังสามารถใช้งานส่ือสารขอ้ มลู ได้ ความเรว็ ในการรบั สง่ ดาวนส์ ตรมี เทา่ กบั อปั สตรมี ตลอดเวลาโดยไม่ต้องมีการเรียกสายเหมือนการ Subscriber Line) เปน็ เทคโนโลย ี ดเี อส อยา่ งไรกต็ าม ผปู้ ระกอบการสว่ นใหญเ่ รม่ิ เปลย่ี น โทรศัพทอ์ ีกด้วย แอลทีม่ ีการใช้งานตามบ้านเรือนและ จากเทคโนโลยดี เี อสแอลมาเปน็ เทคโนโลยสี อ่ื สาร องคก์ รธรุ กจิ ขนาดยอ่ มอยา่ งแพรห่ ลาย แนวความ เชงิ แสง โดยเริม่ ทยอยตดิ ต้งั เคเบลิ เสน้ ใยนา� แสง ต่อมาในช่วงกลางทศวรรษ ๑๙๙๐ (พ.ศ. คิดของ ADSL มาจากการคาดคะเนว่าการส่ง เข้าไปในเขตชุมชนที่พักอาศัยมากขึ้น เนื่องจาก ๒๕๓๓-พ.ศ. ๒๕๔๒) การให้บรกิ ารเพลง วดิ โี อ ข้อมูลจากเซิร์ฟเวอร์ไปยังผู้ใช้หรือดาวน์สตรีม เทคโนโลยีเส้นใยน�าแสงมีราคาถูกลง ท�าให้ผู้ เอกสาร และภาพขนาดใหญ่ รวมท้ังสื่อต่าง ๆ (Downstream) จะมขี นาดทใ่ี หญก่ วา่ การรบั ขอ้ มลู ประกอบการสามารถให้บริการอินเทอร์เน็ตผ่าน แบบออนไลน์เริ่มเป็นท่ีนิยมมากข้ึนอย่างรวดเร็ว จากผู้ใช้หรือท่ีเรียกว่า อัปสตรีม (Upstream) เคเบลิ เสน้ ใยน�าแสงเพมิ่ ขึน้ เนอ่ื งจากธรรมชาตขิ องผใู้ ชม้ กั ตอ้ งการดาวนโ์ หลด กอปรกับการเปล่ียนสายสื่อสารจากสายทองแดง รปู ภาพ ภาพเคลอื่ นไหว วดิ โี อ สญั ญาณถา่ ยทอด เป็นเส้นใยน�าแสงมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก ท�าให้ สด เกมออนไลน ์ ภาพ ๓ มติ ิ หรอื ไฟลข์ นาดใหญ ่ เทคโนโลยีดีเอสแอลเป็นท่ีสนใจและได้รับการ จากเซิร์ฟเวอร์มากกว่าท่ีจะส่งไฟล์ข้อมูลขนาด พฒั นาข้ึนมาใหม่ เพ่ือใหบ้ รกิ ารสอื่ ตา่ ง ๆ ผ่าน ใหญ่ข้ึนไปยังเซิร์ฟเวอร์ ท้ังนี้ผูใ้ ชม้ ักสง่ ไฟล์ขนาด ระบบอนิ เทอรเ์ นต็ ความเรว็ สงู บนโครงขา่ ยสอ่ื สาร เลก็ เชน่ อเี มล ขอ้ ความ หรือรูปภาพขนาดเลก็
๖๕ เคเบิลเสน้ ใยนาํ แสง (Optical fiber cable) บตี อ่ กโิ ลเมตร (dB/km) และยงั สามารถรองรบั การ ส่ือสารข้อมูลที่ความเร็วระดับเทอราบิตต่อวินาท ี (Tb/s) เนอ่ื งจากวสั ดทุ ใ่ี ชท้ า� เสน้ ใยนา� แสงมกั เปน็ แกว้ และมี ขนาดเล็กมาก การโค้งงอเพียงเล็กน้อยอาจท�าให้ เสน้ ใยนา� แสงหกั ได ้ จงึ ตอ้ งมโี คด๊ ตง้ิ (Coating) ทเี่ ปน็ วสั ดปุ ระเภทโพลเิ มอรเ์ คลอื บผวิ เสน้ ใยนา� แสงโดยรอบ เพอ่ื ชว่ ยใหเ้ สน้ ใยนา� แสงมคี วามแขง็ แรงสามารถโคง้ งอ ไดโ้ ดยไมแ่ ตกหกั เคเบิลเสน้ ใยนาํ แสง (Optical fiber cable) เป็ นสายส่งสญั ญาณท่ีมี ขนาดเสน้ ผ่านศนู ยก์ ลางของคอร์ของเส้นใยน�า เสน้ ใยนําแสงหน่ึงเสน้ หรือหลายเสน้ รวมกนั อยู่ภายใน เสน้ ใยนําแสง แสงเปน็ ตวั กา� หนดชนดิ ของเสน้ ใยนา� แสง โดยทว่ั ไป (Optical fiber) เป็ นท่อนําสญั ญาณแสงขนาดเลก็ ที่ทําจากตวั กลาง ถา้ เสน้ ผา่ นศนู ยก์ ลางของคอรม์ คี า่ เทา่ กบั หรอื นอ้ ยกวา่ โปรง่ แสง เช่น แกว้ หรือพลาสติก เสน้ ใยนําแสงท่ีใชใ้ นระบบสื่อสาร ๑๕ ไมโครเมตร มกั จะเปน็ เสน้ ใยนา� แสงชนดิ โหมด มีขนาดเล็กประมาณเท่าเสน้ ผมคือ ๑๒๕ ไมโครเมตร (หรือ ๐.๑๒๕ เดยี่ ว (Single Mode) แตถ่ า้ เสน้ ผา่ นศนู ยก์ ลางของ มิลลิเมตร) คอรม์ ากกวา่ ๑๕ ไมโครเมตร มกั จะเปน็ เสน้ ใยนา� แสง ชนดิ หลายโหมด (Multimode) ทงั้ น ้ี ในระบบสอื่ สาร วสั ดทุ ใ่ี ชใ้ นการนา� แสงมกั ทา� มาจากแกว้ จงึ มกั เรยี กเสน้ ใยนา� แสง ระยะทางไกล จะนยิ มใชเ้ สน้ ใยนา� แสงชนดิ โหมดเดย่ี ว ว่าเส้นใยแก้ว เสน้ ใยนา� แสงประกอบดว้ ยวสั ดุโปรง่ แสงสองชัน้ ช้นั ใน เนอ่ื งจากมคี ณุ สมบตั ทิ สี่ ามารถสง่ ขอ้ มลู ทม่ี คี วามเรว็ เรยี กวา่ แกนหรอื คอร ์ (Core) อยใู่ นแนวแกนกลาง และมวี สั ดโุ ปรง่ แสง สงู มากได ้ เชน่ ความเรว็ ระดบั กกิ ะบติ ตอ่ วนิ าท ี (Gb/s) ชน้ั นอกหอ่ ห้มุ ล้อมรอบติดกนั เรยี กว่าแคลดดง้ิ (Cladding) ดังแสดง หรอื เทอราบติ ตอ่ วนิ าท ี (Tb/s) ในขณะทเี่ สน้ ใยนา� แสง ในรปู ท ี่ ๑ ชนดิ โหมดรว่ มมกั นยิ มใชใ้ นระบบสอ่ื สารระยะทางใกล ้ ๆ หรือใช้ในการส่งสัญญาณควบคุมในระบบ อตุ สาหกรรม เนอ่ื งจากสามารถสอื่ สญั ญาณขอ้ มลู ดว้ ย ความเรว็ ไดต้ า�่ กวา่ ชนดิ โหมดเดย่ี ว เคเบิลเส้นใยน�าแสงมีลักษณะภายนอกคล้าย เคเบลิ ทวั่ ๆ ไป แตเ่ นอ่ื งจากเสน้ ใยนา� แสงทบี่ รรจุ โคด๊ ติง้ (Coating) แกน หรอื คอร ์ จะมคี า่ ดรรชนหี กั เหของแสงสงู กวา่ แคลดดง้ิ เพอื่ คอร ์ (Core) ท�าให้เกิดปรากฏการณ์ทางฟิสิกส์ท่ีเรียกว่าการสะท้อนกลับหมดหรือ TIR (Total Internal Reflection) ทา� ใหเ้ มอ่ื สง่ แสงเขา้ สปู่ ลายดา้ นหนงึ่ แคลดดงิ ้ (Cladding) ของเสน้ ใยนา� แสง แสงจะเดนิ ทางไปยงั ปลายทางอกี ดา้ นหนงึ่ ไดโ้ ดยแสง จะถกู จา� กดั ใหเ้ ดนิ ทางอยเู่ ฉพาะภายในสว่ นของคอรเ์ ทา่ นน้ั โดยมแี คลด (เสน้ ผา่ นศูนยก์ ลาง 0.12 มิลลเิ มตร) ดงิ้ ทา� หนา้ ทเ่ี สมอื นเปน็ ผนงั กนั้ แสงไมใ่ หแ้ สงทะลผุ า่ นออกนอกคอร ์ กา� ลงั แสงสว่ นใหญจ่ งึ เดนิ ทางไปยงั ปลายทางได ้ สง่ ผลใหเ้ สน้ ใยนา� แสงมคี า่ ภาพที่ ๑ โครงสรา้ งของเสน้ ใยแกว้ หรือเสน้ ใยนําแสง (Optical Fiber) การลดทอนสญั ญาณ (Attenuation) ตา�่ มากประมาณนอ้ ยกวา่ ๐.๓ ดี
แจค็ เกต็ ผนงั กนั ความชืน้ เทปกนั นาํ ้ เสน้ ใยนาํ แสง ๑๔ - ๑๕ เชอื กฉีกสาย ส่วนสรา้ งความแขง็ แรง ท่อตนั เทียม ท่อหลวม ตวั รบั แรงดงึ ภาพท่ี ๒ ตวั อยา่ งโครงสรา้ งของเคเบลิ เสน้ ใยนาํ แสงทม่ี สี ว่ นประกอบพืน้ ฐาน ภายในสายเคเบิลไม่เหนียวและแข็งแรงเหมือน ทง้ั หลาย เปน็ ตน้ โดยสขี องเปลอื กหมุ้ ภายนอก ทศั นยี ภาพทด่ี ี ทา� ใหบ้ างคนจงึ เรยี กสายเคเบลิ แบบ ตัวน�าโลหะในสายไฟ เคเบิลเส้นใยน�าแสงจึงมี สามารถระบชุ นดิ ของเสน้ ใยนา� แสงภายในได ้ เชน่ นวี้ า่ แบบใตด้ นิ (Underground Cables) โครงสรา้ งภายในทซ่ี บั ซอ้ นกวา่ เพราะตอ้ งหอ่ หมุ้ สีเหลืองหมายถึงเคเบิลเส้นใยน�าแสงชนิดโหมด ๒.๓ เคเบลิ ใตน้ า้� (Submarine Cables) สว่ น เสน้ ใยนา� แสงดว้ ยวสั ดหุ ลายชนั้ เพอ่ื ใหเ้ หมาะสมกบั เดย่ี ว ในขณะทสี่ สี ม้ หมายถงึ เคเบลิ เสน้ ใยนา� แสง มากใช้ส�าหรับการส่ือสารข้อมูลระหว่างภูมิภาค การน�าไปใช้งานในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน ชนดิ หลายโหมด ใหญๆ่ หรอื ระหวา่ งประเทศ ท่จี �าเปน็ ตอ้ งติดต้ัง เนื่องจากเคเบิลเส้นใยน�าแสงหน่ึงเส้นภายในอาจ ในแนวทางผ่านใต้แม่น�้า ทะเล หรือมหาสมุทร ประกอบดว้ ยเสน้ ใยนา� แสงเปน็ จ�านวนมากตั้งแต่ ๒. เคเบิลภายนอกอาคาร (Outdoor สายเคเบิลชนิดน้ีมักประกอบด้วยโครงสร้างของ หลายร้อยเส้นถึงกว่าหน่ึงพันเส้น จึงต้องมีการ Cables) ท่อหลวมหลาย ๆ ท่อ รวมกันอยู่ในสายเคเบิล เคลอื บสที แ่ี ตกตา่ งกนั ลงไปบนโคด๊ ตง้ิ เพอ่ื ใชเ้ ปน็ ถูกออกแบบส�าหรับใช้นอกอาคารหรือกลาง เสน้ เดยี วกนั สายเคเบลิ อาจมจี า� นวนเสน้ ใยนา� แสง สญั ลกั ษณใ์ นการระบกุ ารใชง้ านของเสน้ ใยนา� แสง แจง้ โครงสรา้ งภายในของสายเคเบลิ แบบนม้ี กั เปน็ มากตัง้ แต่หลักรอ้ ยถงึ หลักพนั เส้น ท�าใหม้ ีขนาด แต่ละเส้น (สี) เส้นใยน�าแสงที่ใช้ในการส่ือสาร แบบทอ่ หลวม (Loose Buffer) หลายทอ่ (Tube) เส้นผ่านศูนย์กลางค่อนข้างใหญ่กว่าสายเคเบิล เมอื่ เคลอื บสบี นโคด๊ ตงิ้ แลว้ มกั จะมขี นาดเสน้ ผา่ น ประกอบเขา้ ดว้ ยกนั รว่ มกบั ตวั รบั แรงดงึ (Strength ประเภทอื่น แต่ก็ไม่ถือว่าใหญ่มากเมื่อเทียบกับ ศนู ยก์ ลางทปี่ ระมาณ ๒๕๐ ไมโครเมตร ตวั อยา่ ง Member) เพอ่ื ชว่ ยใหเ้ คเบลิ สามารถรบั แรงดงึ ได้ สายเคเบลิ ทองแดงทวั่ ไป สายเคเบลิ ประเภทนอี้ าจ โครงสร้างของเคเบิลเส้นใยน�าแสงแสดงดัง มากขณะตดิ ตง้ั และใชง้ าน ในแตล่ ะทอ่ อาจมเี สน้ ใย มีลักษณะเป็นแบบลูกผสมหรือไฮบริดร่วมกับ นา� แสงอยปู่ ระมาณ ๒-๒๔ เสน้ และเมอื่ รวมกนั ตัวนา� ทองแดง สา� หรับส่งกา� ลงั ไฟฟา้ ไปพรอ้ มกนั ภาพท ี่ ๒ ทั้งสายเคเบิลอาจมีจ�านวนเส้นใยน�าแสงมากถึง หลกั รอ้ ยหรอื หลกั พนั เสน้ เปลอื กหมุ้ ภายนอกของ ประเภทและการใชง้ าน เคเบลิ ภายนอกอาคารตอ้ งมคี วามทนทานตอ่ การ โครงสร้างของสายเคเบิลใต้น�้าจึงมีความซับซ้อน เปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมได้สูง เคเบิล กว่าสายเคเบิลชนิดอ่ืน เพราะต้องทนต่อแรงกด การจ�าแนกเคเบิลเส้นใยน�าแสงตามประเภท ของน้�ามากๆ ได้เป็นเวลานาน อีกท้ังต้องมีส่วน การใช้งานสามารถแบ่งออกไดเ้ ป็นดังนี้ ประกอบท่ีป้องกันการรั่วซึมของน�้าได้เป็นอย่างดี ๑. เคเบิลภายในอาคาร (Indoor ภายนอกอาคารอาจจ�าแนกออกเป็นชนิดต่าง ๆ อีกด้วย บท ีท่๕ ประเภทของเทคโนโล ียการ ืสอ่สาร ตามลกั ษณะการใชง้ าน เชน่ Cables) ๒.๑ เคเบลิ แบบแขวนอากาศ (Aerial Cables) เคเบิลเส้นใยน�าแสงบางประเภทท่ีใช้ใน นยิ มใชใ้ นการแขวนโยงระหวา่ งเสา หากโครงสรา้ ง ประเทศไทยจะต้องเป็นไปตามมาตรฐาน ถกู ออกแบบสา� หรบั ใชภ้ ายในอาคาร โดยทวั่ ไปมกั มรี ปู รา่ งในภาคตดั ขวางคลา้ ยรปู เลขแปด จงึ มชี อื่ ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) ตัวอย่างเช่น มขี นาดเลก็ และมจี า� นวนของเสน้ ใยนา� แสงภายใน เรียกว่าแบบฟิกเกอร์เอท (Figure-8 Cable) เคเบิลแบบแขวนอากาศต้องเป็นไปตาม มอก. สายเคเบลิ ไมม่ ากตงั้ แตห่ นงึ่ เสน้ จนถงึ หลายสบิ เสน้ ส�าหรับเคเบิลแบบแขวนอากาศที่นิยมใช้ในเมือง ๒๑๖๖ เคเบิลแบบฝังโดยตรงหรือแบบร้อยท่อ โครงสรา้ งภายในมกั เปน็ แบบทอ่ แนน่ (Tight Buf- ไทยเป็นแบบท่ีไม่มีโลหะตัวน�าหรือเป็นฉนวน ตอ้ งเปน็ ไปตาม มอก.๒๑๖๕ และเคเบลิ ใตน้ า� ตอ้ ง fer) หรือแบบผสมระหว่างท่อแน่นกับท่อหลวม ทงั้ หมดมชี อ่ื เรยี กวา่ ADSS (All Dielectric Self เปน็ ไปตาม มอก.๒๑๖๗ (Loose Buffer) และมกั จะไมม่ สี ว่ นประกอบของ Support) โลหะอยเู่ ลย เปลอื กหมุ้ ภายนอกของเสน้ ใยนา� แสง ๒.๒ เคเบลิ แบบฝงั โดยตรง (Direct Buried อาจท�ามาจากวัสดุท่ีมีความยืดหยุ่นพอประมาณ Cable) หรอื แบบรอ้ ยทอ่ (Duct Cable) สา� หรบั การ เคเบลิ เสน้ ใยนา� แสงภายในอาคารนยิ มใชก้ บั งานท่ี ติดต้ังใต้ดินเพื่อสร้างความเป็นระเบียบและ เกี่ยวกับระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ท้องถิ่นหรือ แลน (LAN) และ อุปกรณ์ประเภทเครื่องมือวัด
๖๖ การส่ือสารเชงิ แสง (Optical communication)
๑๔ - ๑๕ การส่ือสารเชงิ แสง (Optical communication) เป็ นระบบสื่อสารที่ใชแ้ สงเป็ นพาหนะนาํ ขอ้ มูลเดินทาง จากตน้ ทางไปยงั ปลายทาง หรอื เรียกวา่ ใชแ้ สงเป็ นคลน่ื พาห ์ (Carrier) โดยทว่ ั ไปขอ้ มูลตน้ ทางจะเป็ น สญั ญาณไฟฟ้าของขอ้ มูลแอนะลอ็ กที่เป็ นเสียง ภาพ หรอื ขอ้ มูลดิจทิ ลั ขอ้ มูลท่ีตอ้ งการสื่อสารนีจ้ ะถูก ผสมเขา้ กบั แสงที่เป็ นคลนื่ พาหด์ ว้ ยกระบวนการมอดูเลชน่ ั (Modulation) แสงที่บรรจุข้อมูลแล้วน้ีจะถูกส่งไปยังปลาย (Werts) เส้นใยน�าแสงในยุคแรกที่ผลิตขึ้นมีค่า รับแสงหรอื โฟโตดเี ทคเตอร์ (Photodetector) มี ทางผ่านอากาศหรือผ่านเส้นใยน�าแสงก็ได้ หาก การลดทอนสัญญาณสูงมากถึง ๑,๐๐๐ ดีบีต่อ ขนาดเล็ก เหมาะกับการน�ามาใช้งานร่วมกับ สง่ ผา่ นอากาศถอื วา่ เปน็ ระบบสอื่ สารเชงิ แสงแบบ กิโลเมตร(dB/km) ท�าให้ยังไม่เป็นท่ีสนใจใน เส้นใยน�าแสงได้อย่างเหมาะสม อีกทั้งการตอบ ไรส้ าย แตถ่ า้ สง่ ผา่ นเสน้ ใยนา� แสงจะเรยี กวา่ ระบบ การนา� มาใชเ้ ปน็ สายสง่ สญั ญาณเชน่ เดยี วกบั สาย สนองต่อการเปล่ียนสัญญาณไฟฟา้ เปน็ สญั ญาณ สื่อสารผา่ นสาย หรือระบบสื่อสารผา่ นเส้นใยน�า ไฟทองแดง อกี ทงั้ ยงั มปี ัญหาการเชอ่ื มตอ่ เสน้ ใย แสงทเ่ี รว็ เหมาะกบั การสอ่ื สารขอ้ มลู ทมี่ คี วามเรว็ แสง เมอ่ื แสงทบี่ รรจขุ อ้ มลู เดนิ ทางไปยงั ปลายทาง น�าแสงที่ท�าให้เกิดการสูญเสียสัญญาณสูง ในปี สงู มากได ้ ทา� ใหป้ จั จบุ นั โครงขา่ ยสอื่ สารผา่ นเสน้ ใย จะผา่ นกระบวนการดีมอดูเลต (Demodulation) พ.ศ. ๒๕๑๓ (ค.ศ. ๑๙๗๐) บริษัทคอร์นนิ่ง น�าแสงถือเป็นโครงข่ายหลักที่ส�าคัญท่ีรองรับ เพอ่ื แยกข้อมูลตน้ ทางออกจากแสง และท�าขอ้ มลู (Corning) ของอเมริกา ได้ประสบผลส�าเร็จใน ปรมิ าณขอ้ มลู จา� นวนมากในยคุ ของอนิ เทอรเ์ นต็ ได้ ใหเ้ ปน็ สญั ญาณไฟฟา้ ทม่ี ลี กั ษณะเหมอื นสญั ญาณ การผลิตเส้นใยน�าแสงจากเนื้อแก้วบริสุทธ์ิ ท่ี เป็นอย่างดี จนท�าให้ศาสตราจารย์ชาลส์เคา ต้นทางสา� หรบั นา� ไปใชง้ านต่อไป สามารถน�ามาใช้ในการสื่อสารข้อมูลเชิงพาณิชย์ (Charles Kao) ไดร้ บั รางวลั โนเบลสาขาฟสิ กิ สใ์ น ไดเ้ ปน็ รายแรกของโลก เสน้ ใยนา� แสงทผี่ ลติ ขนึ้ ใน ป ี พ.ศ. ๒๕๕๒ ในฐานะทมี่ เี ปน็ ผบู้ กุ เบกิ ผลงาน ข้อดีของระบบสื่อสารเชิงแสงผ่านเส้นใยน�า ขณะน้นั มีคา่ การลดทอนสัญญาณสูงถงึ ๒๐ ดบี ี วจิ ยั ทที่ า� ใหเ้ กดิ ระบบสอ่ื สารผา่ นเสน้ ใยนา� แสง แสงคอื มคี า่ การลดทอนสญั ญาณตา�่ ทา� ใหส้ ามารถ ตอ่ กโิ ลเมตร (dB/km) และอกี ไมก่ ปี่ ตี อ่ มา เสน้ ใย ส่งข้อมูลไปได้ไกลมาก (อาจมากถึงหลายร้อย น�าแสงได้ถูกพัฒนาให้มีค่าการลดทอนสัญญาณ ระบบสอ่ื สารเชงิ แสงผา่ นเสน้ ใยนา� แสงถกู นา� กโิ ลเมตร) อีกทงั้ ยังรองรบั ปริมาณข้อมลู จา� นวน แสงท่ีต�่าลงเหลือเพียง ๕ ดีบีต่อกิโลเมตร เช่น มาใชเ้ ปน็ เครอื ขา่ ยสอ่ื สารขอ้ มลู ขนาดใหญ ่ (Back- มาก ๆ ได้ โดยเส้นใยน�าแสงหน่ึงเส้นสามารถ เดยี วกบั เทคโนโลยกี ารเชอื่ มตอ่ เสน้ ใยนา� แสงทถี่ กู bone) ที่เชื่อมโยงทุกพ้ืนที่ภายในประเทศไทย รองรบั การสอื่ สารขอ้ มลู ทคี่ วามเรว็ ระดบั เทอราบติ พัฒนาให้ดีข้ึน จนท�าให้ค่าการสูญเสียสัญญาณ ในลษั ณะของโครงขา่ ยหลกั (Core network) อกี ต่อวินาที (Tb/s) และถ้าการเช่ือมโยงระหว่าง ของจุดเชื่อมต่อมีค่าลดลงอย่างมาก (นอ้ ยกว่า ๑ ทงั้ ยงั ใชเ้ ปน็ เสน้ ทางเดนิ ขอ้ มลู ไปยงั ประเทศตา่ ง ๆ สถานีเป็นเคเบิลเส้นใยน�าแสงท่ีประกอบด้วย ดีบี) จึงท�าให้เส้นใยน�าแสงเริ่มเป็นที่สนใจอย่าง ทั่วโลกอีกด้วย ปัจจุบันประเทศไทยมีโครงข่าย เสน้ ใยนา� แสงมากกวา่ หนงึ่ เสน้ กย็ ง่ิ เพมิ่ ความเรว็ แพร่หลายมากขน้ึ นบั แตน่ ั้นเป็นต้นมา จนกระท่ัง สอื่ สารผา่ นเสน้ ใยนา� แสงเปน็ จา� นวนมาก ตวั อยา่ ง ในการสือ่ สญั ญาณได้มากขน้ึ อกี เป็นทวคี ณู ปัจจุบันเส้นใยน�าแสงมีค่าการลดทอนสัญญาณท่ี เช่น โครงการเน็ตประชารัฐของรัฐบาลในช่วงปี ต่�ามากโดยมีค่าน้อยกว่า ๐.๓ ดีบีต่อกิโลเมตร พ.ศ. ๒๕๖๐ มกี ารใชเ้ คเบลิ เสน้ ใยนา� แสงตอ่ เชอ่ื ม ระบบส่ือสารผ่านเส้นใยน�าแสงเริ่มเป็นที่ เมอื่ ใชง้ านกบั แสงอนิ ฟราเรดทม่ี คี วามยาวคลนื่ ใน โยงไปยงั หมบู่ า้ นตา่ ง ๆ ทย่ี งั ขาดโอกาสในการเขา้ สนใจ เมื่อมีการท�าวิจัยและน�าเสนอรูปแบบและ ชว่ ง ๑.๓ ไมโครเมตร และ ๑.๕๕ ไมโครเมตร ถงึ อนิ เทอรเ์ นต็ ทวั่ ประเทศรว่ ม ๒๔,๗๐๐ หมบู่ า้ น หลักการของเสน้ ใยน�าแสงที่มโี ครงสรา้ งประกอบ เทคโนโลยีของเส้นใยน�าแสงเริ่มมีบทบาทในการ และกา� ลงั มกี ารขยายไปยงั จดุ ตา่ ง ๆ เพมิ่ เตมิ ใน ดว้ ยเนอ้ื แกว้ สองชน้ั ทเี่ รยี กวา่ คอร ์ (core) และแค ส่ือสารข้อมูลอย่างมาก เนื่องจากเทคโนโลยีของ เฟสตอ่ ๆ มา เชน่ โรงเรียน โรงพยาบาล เปน็ ตน้ บท ีท่๕ ประเภทของเทคโนโล ียการ ืสอ่สาร ลดดง้ิ (cladding) ขนึ้ ในชว่ งป ี พ.ศ.๒๕๐๙ (ค.ศ. สารก่งึ ตวั น�า (Semi-conductor) ท�าใหก้ ารผลิต ๑๙๖๖) โดยบทความของ เคา (Kao) กบั ฮอก แหลง่ กา� เนดิ แสง เชน่ แอลอดี ี (LED) และเลเซอร์ เกอรแ์ ฮม (Hockerham) และบทความของ เวิรต์ ไดโอด (Laser Diode) รวมท้ังการผลติ อุปกรณ์ ภาพที่ ๑ ระบบการสื่อสารดว้ ยเสน้ ใยนําแสง
๖๗ โทรเลข (Telegraph) โทรเลข (Telegraph) คือ ระบบโทรคมนาคมที่ใชอ้ ปุ กรณท์ างไฟฟ้าส่ง ในป ี พ.ศ. ๒๓๙๔ ได้มีการเช่อื มตอ่ ผ่านสาย ขอ้ ความจากทห่ี น่งึ ไปยงั อกี ทห่ี น่งึ โดยอาศยั สายตวั นาํ ทโ่ี ยงตดิ ตอ่ ถงึ กนั เคเบลิ ใตท้ ะเลจากเมอื งโดเวอร ์ (Dover) ไปยงั เมอื ง แลใชอ้ าํ นาจแม่เหลก็ ไฟฟ้า การเรม่ิ ตน้ ใหบ้ รกิ ารโทรเลข เชงิ พาณิชยน์ นั้ คาเลส ์ (Calais) ประเทศฝรง่ั เศส และเชอ่ื มตอ่ เครอื เกิดขนึ ้ ณ ประเทศองั กฤษในปี พ.ศ. ๒๓๘๒ โดย วิลเลียม คุก (William ขา่ ยสายเคเบลิ ใตน้ า�้ ขา้ มมหาสมทุ รแอตแลนตกิ เพอ่ื Cooke) และ ชารล์ สี ์ วีทสโตน (Charles Wheatstone) จากนนั้ แซม เชอื่ มโยงทวีปยโุ รป กับสหรฐั อเมริกา มวล ฟิ นลี บรซี มอรส์ (Samuel finley Breeze Morse) ไดค้ ิดคน้ รหสั ที่ใชใ้ นการสื่อสารขนึ ้ ในปี พ.ศ. ๒๓๘๗ โดยมีการเรียกชอื่ รหสั ดงั กลา่ ว ในช่วงเดอื นสงิ หาคมปพี .ศ. ๒๔๐๐ และเมือ่ วา่ รหสั มอรส์ มาถงึ ปพี .ศ. ๒๔๐๔ หน่วยงานรว่ มระหว่างภาครัฐ และเอกชน ได้ด�าเนินกิจการการวางสายเคเบิล
กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๒๖) ได้มีประกาศให้ พ.ศ. ๒๕๒๐ กรมไปรษณีย์โทรเลขได้โอน ๑๔ - ๑๕ สาธารณชนทวั่ ไปสามารถใช้โทรเลขได้ ในปีพ.ศ. สว่ นปฏบิ ตั กิ ารใหบ้ รกิ ารโทรคมนาคมของประเทศ ๒๔๕๕ กรมไปรษณีย์โทรเลขได้ประกาศให้ใช้ รวมถงึ บรกิ ารโทรเลขไปอยใู่ นความรบั ผดิ ชอบของ รหสั สญั ญาณภาษาไทยในการรบั ส่งโทรเลขขน้ึ การสื่อสารแห่งประเทศไทย (กสท.) ซึ่งเป็น ในปีตอ่ มา พระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกลา้ เจ้าอยู่ รัฐวิสาหกิจตั้งข้ึนใหม่ สังกัดกระทรวงคมนาคม หัว รัชกาลที่ ๖ ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ให้ เป็นผลให้การให้บริการโทรเลขขยายตัวออกไป กระทรวงทหารเรือจัดตั้งสถานีวิทยุโทรเลขถาวร อย่างกว้างขวางและรวดเร็วด้วยการน�าระบบ ข้ึน ๒ สถาน ี ทต่ี �าบลศาลาแดง พระนคร และอกี ส่ือสารทางดาวเทียม ระบบเคเบิลใต้น�้า และ แห่งหน่งึ ทจี่ ังหวัดสงขลา อปุ กรณ์โทรคมนาคมท่ีทันสมัยมาใช้งานเพิม่ เตมิ อยา่ งไรกต็ ามเนอ่ื งจากเทคโนโลยดี า้ นการสอื่ สาร ภาพที่ ๑ แบบจาํ ลองของเครื่องโทรเลข ที่มอรส์ มี ก า ร พั ฒ น า อ ย ่ า ง ต ่ อ เ นื่ อ ง จ น เ กิ ด บ ริ ก า ร ใชส้ ่งโทรเลข เม่ือ ๒๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๓๘๗ โทรคมนาคมต่าง ๆ ที่มีประสิทธิภาพ สะดวก รวดเรว็ ทา� ใหป้ ระชาชนสามารถตดิ ตอ่ สอ่ื สารกนั โทรเลขในโครงการตอ่ ๆ มาอกี โดยไดว้ างสาย ไดส้ ะดวก คลอ่ งตวั และมคี วามเปน็ สว่ นตวั มากขน้ึ กระจายไปทกุ ภมู ภิ าคทว่ั โลกเปน็ ระยะทางรวมถงึ เช่น โทรศัพท์มือถือ อินเทอร์เน็ต และอีเมล ๑๘,๐๐๐ กิโลเมตร เชื่อมตอ่ ทกุ หวั เมอื งหลักริม บริการโทรเลขจึงถูกลดความส�าคัญและส่งผลให้ ชายฝั่งทะเล กอปรกับการัฒนาการส่งสัญญาณ ยอดผู้ใช้บริการลดลง จากเดิมที่บริการโทรเลข ด้วยคล่นื วิทย ุ จึงเรียกวา่ วทิ ยุโทรเลข ท�าให้ไม่ ภาพที่ ๓ ตึกที่ทําการโทรเลขแห่งแรกของ เคยไดร้ ับความนยิ มสูงสุดในเดอื น มีนาคม พ.ศ. ต้องประสบปัญหาการพาดสายอีกต่อไป ประเทศไทย ในกระทรวงกลาโหม ดา้ นมุมวงั ๒๕๓๘ ซ่ึงมียอดผู้ใช้บริการโทรเลขขาเข้าสูงถึง สราญรมย ์ (พ.ศ. ๒๔๑๘) ๔๘๗,๙๘๔ ฉบบั และขาออกอกี กวา่ ๕๐๐,๐๐๐ ฉบับ ก็กลับเหลือยอดผู้ใช้บริการโทรเลขเพียง พ.ศ. ๒๔๙๖ ได้มีการประดิษฐ์คิดค้นเคร่ือง เดอื นละประมาณ ๑๐๐ ฉบบั คดิ เปน็ รายไดเ้ พยี ง ๕,๐๐๐ บาทต่อเดือนเท่านั้น โทรพิมพ์ภาษาไทยจนสา� เรจ็ พ.ศ. ๒๕๐๐ กรมไปรษณยี โ์ ทรเลข เริ่มส่ัง สรา้ งเครอื่ งโทรพมิ พไ์ ทยจากประเทศญปี่ นุ่ เขา้ มา ใชง้ านรบั สง่ โทรเลขเปน็ รนุ่ แรกระหวา่ งกรงุ เทพฯ- นครสวรรค์ กรุงเทพฯ-อตุ รดิตถ์-เชียงใหม่ ซง่ึ ต่อ มาได้ขยายการรับส่งโทรเลขโดยใช้เคร่ือง โทรพมิ พอ์ อกไปท่วั ประเทศ ภาพที่ ๒ การใชง้ านโทรเลข การรบั สญั ญาณ ภาพที่ ๕ เครื่องโทรพิมพส์ ําหรบั ส่งโทรเลข บท ีท่๕ ประเภทของเทคโนโล ียการ ืสอ่สาร โทรเลขมอรส์ ดว้ ยแถบ เม่ือมีการส่งสญั ญาณ เรว็ เกิน ๓๕ คํา พนกั งานตอ้ งใชว้ ิธีขีดเสน้ นอกจากนั้นการซื้อหาอุปกรณ์ระบบสื่อ สญั ญาณลงบนแถบกอ่ น แลว้ จงึ พิมพข์ อ้ ความ สญั ญาณ อปุ กรณเ์ ครอื่ งรบั สง่ โทรเลขและอปุ กรณ์ จากแถบนนั้ ดว้ ยเครื่องพิมพด์ ีด ที่เกี่ยวข้องในระบบการให้บริการหลายอย่างไม่ สามารถจัดซือ้ หรือ จดั หาอะไหล่มาซอ่ มบ�ารุงได้ ส�าหรับในประเทศไทยนั้นกิจการโทรเลขได้ อกี เนอ่ื งจากเปน็ อปุ กรณก์ ารสอื่ สารทล่ี า้ สมยั และ เริ่มตน้ ขึ้นอยา่ งเปน็ ทางการในปีพ.ศ. ๒๔๑๘ ซงึ่ บางชน้ิ ไดย้ กเลกิ การผลติ ไป สดุ ทา้ ยการใหบ้ รกิ าร ต ร ง กั บ รั ช ส มั ย ข อ ง พ ร ะ บ า ท ส ม เ ด็ จ พ ร ะ โทรเลขในประเทศไทยจึงได้ยุตลิ ง โดยวันท่ี ๓๐ จุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลท่ี ๕ เมื่อรัฐบาล ภาพที่ ๔ เคร่ืองโทรพิมพภ์ าษาไทย และภาษา เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๑ รวมระยะเวลากว่า ๑๓๓ ไทยมอบหมายให้กรมกลาโหมสร้างทางสาย องั กฤษเคร่ืองแรก ประดิษฐโ์ ดย ดร. สมาน ปใี นการให้บรกิ ารวทิ ยโุ ทรเลข โทรเลขสายแรกจากกรุงเทพฯ ไปปากน�้า บุณยรตั พนั ธ์ จ.สมุทรปราการ และวางสายเคเบิลโทรเลขใต้นา�้ ต่อออกไปถงึ กระโจมไฟ นอกสนั ดอนปากแม่นา้� พ.ศ. ๒๕๐๔ อุปกรณ์โทรเลขต่าง ๆ ได้ เจ้าพระยา รวมระยะทางยาว ๔๕ กิโลเมตรเพ่อื ด�าเนินการติดตั้ง และเปิดใช้งานรับส่งโทรเลข ทางราชการใชส้ ง่ ขา่ วเกย่ี วกบั การผา่ นเขา้ ออกของ ติดต่อกับต่างประเทศด้วยวงจร HF 1 ARQ เรือกลไฟ จากน้นั ในวันที่ ๒๖ กรกฎาคม พ.ศ. เปน็ ตน้ มา โดยเรม่ิ ทา� การตดิ ตอ่ กบั ประเทศญปี่ นุ่ ๒๔๒๖ (ในบางแหลง่ ทม่ี าก็ระบุวา่ เป็นวนั ท่ี ๑๖ เป็นวงจรแรกและไดเ้ ปิดเพิม่ ข้นึ ในเวลาตอ่ มา
๖๘ โทรศพั ท ์ (Telephone) โทรศพั ท ์ตรงกบั คําภาษากรีกว่า Telephone โดย Tele แปลวา่ ทางไกล และ Phone แปลวา่ การสนทนา เมอื่ แปลรวมกนั แลว้ กห็ มายถงึ การสนทนา กนั หรอื การสง่ เสยี งจากจดุ หนง่ึ ไปยงั จดุ หนง่ึ ในระยะทางไกล ภาพที่ ๑ อเลก็ ซานเดอร ์ เกรแฮม เบลล ์ ภาพที่ ๒ โทรศพั ทข์ อง อเลก็ ซานเดอร ์ เกรแฮม เบลล ์ ที่ไดร้ บั สิทธิบตั ร เม่ือ ๗ มีนาคมพ.ศ. ๒๔๑๙ แสดงส่วนต่าง ๆ ของโทรศพั ทท์ ่ีเขาประดิษฐ ์ ผู้ประดิษฐ์โทรศัพท์ได้ส�าเร็จเป็นคนแรก คือ อเลก็ ซานเดอร ์ เกรแฮม เบลล ์ (Alexander Graham Bell) ชาวอเมริกนั ในป ี พ.ศ. ๒๔๑๙ ประกอบดว้ ย ตวั ส่ง (Transmitter) คือส่วนสา� หรับพดู และตวั รับ (Receiver) คือส่วนส�าหรับฟัง ซึ่งมีโครงสร้าง เหมือนล�าโพงในปัจจุบัน มีแผ่นไดอะแฟรม (Dia- phragm) ติดอยู่กับขดลวดซึ่งอยู่ใกล้กับแม่เหล็ก ถาวร เม่อื มีเสยี งมากระทบ แผ่นไดอะแฟรมกจ็ ะส่ัน ทา� ใหข้ ดลวดสนั่ หรอื เคลอ่ื นทตี่ ดั สนามแมเ่ หลก็ เกดิ กระแสไฟฟ้าข้ึนมาในขดลวด กระแสไฟฟ้าน้ีจะว่ิง ตามสายไฟถงึ หฟู งั ซึ่งส่วนส�าหรบั ฟงั ก็มโี ครงสร้าง เหมือนกับสว่ นส�าหรบั พูด เมื่อกระแสไฟฟา้ มาถึงก็ จะทา� ใหเ้ กดิ สนามแมเ่ หลก็ ขน้ึ รอบๆขดลวดของหฟู งั สนามแมเ่ หลก็ นจ้ี ะไปผลกั หรอื ดดู กบั สนามแมเ่ หลก็ ถาวรของหูฟงั แตเ่ นือ่ งจากแมเ่ หล็กถาวรทีห่ ฟู งั นน้ั ไมส่ ามารถเคลอ่ื นทไี่ ด ้ ขดลวดและแผน่ ไดอะแฟรม จึงเป็นฝ่ายถูกผลักหรือดูดให้เคลื่อนท่ี การท่ี ไดอะแฟรมเคลอื่ นท ี่ จงึ เปน็ การตอี ากาศตามจงั หวะ ของกระแสไฟฟ้าที่ส่งมา ท�าให้เกิดเป็นเสียงข้ึนมา
ในอากาศ เบลล์ได้น�าโทรศัพท์เข้าประกวดสิ่ง ๑๔ - ๑๕ ประดิษฐ์ใหม่ และได้รับรางวัลสิ่งประดิษฐ์ยอด เย่ยี มทเ่ี มอื งฟิลลาเดลเฟยี การใชโ้ ทรศพั ทใ์ นประเทศไทย ภาพที่ ๔ การติดตงั้ เคร่ืองชุมสายโทรศพั ทร์ ะบบ ภาพที่ ๖ โทรศพั ทพ์ ืน้ ฐานท่วั ไปในปัจจุบนั ไฟกลางที่ชุมสายวดั เลียบ ประมาณ พ.ศ. ๒๔๖๕ กิจการโทรศัพท์ในประเทศไทยมีจุดเริ่มต้นมา ประเทศไทย เป็นรัฐวิสาหกิจ สังกัดกระทรวง ต้ังแต่ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า คมนาคม โดยแยกกองชา่ งโทรศพั ท ์ ออกจากกรม เจา้ อยหู่ วั รชั กาลท ี่ ๕ โดยในป ี พ.ศ. ๒๔๒๔ โดย ไปรษณยี โ์ ทรเลข มาต้ังเป็นรฐั วิสาหกจิ ใช้ชือ่ ว่า สมเด็จพระราชปิตุลาบรมพงศาภิมุข เจ้าฟ้า “องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย” สังกัด ภาณุรังษีสว่างวงศ ์ เจ้ากรมกลาโหม ณ ขณะน้นั กระทรวงคมนาคม ให้บริการทั้งโทรศัพท์ ทรงนา� เครอื่ งโทรศพั ทม์ าทดลองตดิ ตง้ั ทก่ี รงุ เทพฯ สาธารณะและโทรศัพท์ประจ�าที่(โทรศัพท์บ้าน) เครอื่ งหนงึ่ และทป่ี ากนา้� จงั หวดั สมทุ รปราการอกี ทง้ั ในกรงุ เทพ และตา่ งจงั หวดั จนเปน็ ทแี่ พรห่ ลาย เคร่ืองหนึ่ง โดยอาศัยสายโทรเลขระหว่าง มาจนถึงปัจจบุ ัน กรงุ เทพฯ กับปากนา้� ซึง่ กรมกลาโหมไดส้ รา้ งไว ้ ตั้งแตป่ ี พ.ศ. ๒๔๑๘ โดยมวี ตั ถุประสงค์เพ่ือแจง้ ข่าวเรือกลไฟเข้า-ออกที่ปากน�้าสมุทรปราการให้ กรงุ เทพฯ รบั ทราบ โดยป ี พ.ศ. ๒๕๖๐ มีการใชง้ านเลขหมาย ภาพท่ี ๕ ชุมสายโทรศพั ท ์ ในปี พ.ศ. ๒๕๐๗ ส�าหรับโทรศัพท์ประจ�าท่ี (Fixed-line) ใน ที่ใชพ้ นกั งานต่อคู่สายใหแ้ บบแมนนวล ประเทศไทย ประมาณ ๒.๙๑ ลา้ นเลขหมาย จาก (Manual) บริษทั ผู้ให้บริการ (Operator) จา� นวน ๒ ราย ภาพที่ ๓ โทรศพั ทร์ ะบบแม็กนิโต แรก ต่อมาปรับปรุงเป็นโทรศัพท์อัตโนมัติชนิด คือ บริษัท ทีโอท ี จา� กัด (มหาชน) (TOT) และ หยอดเหรยี ญ โดยขยายการติดต้งั ณ ท่ที า� การ บริษัท ทร ู คอรป์ อเรชั่น จา� กดั (มหาชน) (True ไปรษณีย์โทรเลขทุกแห่งในกรุงเทพฯ ท�าให้คน Corp) อยา่ งไรกต็ ามบรกิ ารโทรศพั ทป์ ระจา� ทข่ี อง ไทยมีโอกาสใช้บริการโทรศัพท์สาธารณะเป็น ประเทศไทย มีจ�านวนผู้ใช้บริการลดลงอย่างต่อ คร้ังแรก เนื่องในช่วงหลายปีท่ีผ่านมา เนื่องมาจากความ นยิ มบรกิ ารโทรศพั ทเ์ คลอ่ื นทเี่ ขา้ มาทดแทน และ ในปี พ.ศ. ๒๔๒๙ กรมโทรเลขได้รับโอน จากนน้ั ในวนั ท ี่ ๒๖ กนั ยายน พ.ศ. ๒๔๘๐ได้ บริการ VoIP ท่สี ามารถให้ความคุ้มคา่ ดา้ นราคา กิจการโทรศัพท์จากกรมกลาโหมมาด�าเนินการ มีการเปิดใช้ชุมสายอัตโนมัติที่ผู้เช่าใช้สามารถ แก่ผู้บริโภคได้มากกว่าบริการโทรศัพท์พ้ืนฐาน และขยายกิจการต่อไป ประชาชนท่ัวไปเริ่มมี หมุนตวั เลขบนหนา้ ปัด ตดิ ต่อถงึ กนั ไดเ้ องโดยไม่ แบบเดมิ นอกจากน ี้ ความนิยมของสมารท์ โฟน โอกาสได้ใช้โทรศัพท์เป็นคร้ังแรก โดยเป็นโทร ตอ้ งผ่านพนักงานตอ่ สาย ทใ่ี ชก้ บั บรกิ ารโทรศพั ทเ์ คลอื่ นทบี่ นเครอื ขา่ ย ๓G และ ๔G ย่ิงเป็นปจั จัยสา� คญั ทเ่ี ร่งทา� ใหแ้ นวโนม้ ศัพท์ระบบแมก็ นิโต (Magneto System) หรอื ระบบแบตเตอร่ีไฟประจ�าเครือ่ ง (Local Battery ในวันท่ี ๒๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๙๗ การใช้งานลดลงเร็วข้นึ บท ีท่๕ ประเภทของเทคโนโล ียการ ืสอ่สาร หรอื LB) ซง่ึ ทา� หนา้ ทป่ี อ้ นกระแสไฟฟา้ ใหก้ บั สว่ น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ส�าหรับพูด เม่ือจะใช้โทรศัพท์ ผู้ใช้ต้องหมุนแม็ ทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ตรา กนิโตท่ีติดอยู่กับตัวเคร่ืองเพ่ือส่งสัญญาณไปยัง พระราชบัญญัติจัดตั้ง องค์การโทรศัพท์แห่ง ส่วนกลางที่มพี นกั งานตอ่ สายโทรศพั ท์ให้ ในป ี พ.ศ. ๒๔๕๐ มชี มุ สายโทรศพั ทแ์ หง่ แรก ในประเทศไทย ณ ส�านักงานโทรศัพทก์ ลาง (วดั เลยี บ) เปน็ โทรศพั ทต์ ดิ ตงั้ เครอ่ื งระบบ “แบตเตอรี่ ไฟกลาง” ใชพ้ นักงานตอ่ สาย (Central Battery: CB) เป็นชุมสายกึ่งอัตโนมัติ ต่อจากน้ัน พ.ศ. ๒๔๕๔ มีการติดตั้งโทรศัพท์สาธารณะ ณ ท่ที า� การโทรศัพท์กลาง ถนนจกั รเพชร เปน็ แห่ง ภาพที่ ๗ จาํ นวนเลขหมายโทรศพั ทป์ ระจาํ ท่ีในแต่ละปี
๖๙ เครือข่ายส่วนบุคคล (PAN : Personal Area Network)
เครือข่ายส่วนบุคคล (PAN : Personal ภาพที่ ๑ เครือข่ายส่วนบุคคล ๑๔ - ๑๕ Area Network) เป็ นเครอื ข่ายคอมพิวเตอร ์ หรือแพน สําหรบั การเช่ือมต่อที่อยู่ในระยะไม่เกิน ๑๐ บท ีท่๕ ประเภทของเทคโนโล ียการ ืสอ่สาร เมตร โดยมีจุดประสงคห์ ลกั เพื่อแลกเปล่ียน องคน์ ไี้ ดป้ กครองประเทศเดนมารก์ และนอรเ์ วยใ์ นยคุ ของไวกงิ้ และ หรอื โอนถา่ ยขอ้ มูลระหวา่ งอปุ กรณเ์ ครอ่ื งใช ้ ต้องการรวมประเทศให้เป็นหนึ่งเดียว เปรียบเสมือนกับการเชื่อม ส่วนบุคคล เช่น โทรศพั ทเ์ คลอื่ นที่ แทบ็ เลต็ โยงคอมพวิ เตอรแ์ ละอปุ กรณส์ ่ือสารตา่ งๆเข้าดว้ ยกัน คอมพิ วเตอร ์ ฯลฯ (ดงั แสดงตวั อย่างใน หลงั จากนนั้ กไ็ ดม้ กี ารปรบั ปรงุ เทคโนโลยนี เี้ รอื่ ยมาจนในปพี .ศ. ภาพที่ ๑) ยกตวั อย่างเช่น การเช่ือมต่อ ๒๕๖๑ ไดม้ ี Bluetooth ๔.๐ คอื เทคโนโลยที พ่ี ฒั นาขน้ึ โดยมแี นวคดิ คอมพิวเตอรเ์ พื่อส่งขอ้ มูลพิมพเ์ อกสารไป ในดา้ นของการประหยัดพลงั งานแทน จงึ ได้ออกมาเปน็ Bluetooth ยงั เครื่องพิมพ์ การเชื่อมต่อคอมพิวเตอร ์ Low Energy หรือทร่ี จู้ กั กนั ว่า Bluetooth LE หรือ BLE กบั พีดีเอ (PDA: Personal Digital Assis- นอกจากบลูทูธแล้ว ในปัจจุบันมีมาตรฐานท่ีได้รับความนิยม tant) เพื่อแลกเปลี่ยนขอ้ มูล หรือการเชอื่ ม มากขน้ึ นนั่ คอื ซกิ บ ี (Zigbee) โดยไดร้ บั การพฒั นาขน้ึ เพอ่ื ใหใ้ ชไ้ ด้ ต่อกลอ้ งดิจิทลั เพื่อส่งขอ้ มูลภาพเขา้ เคร่ือง กบั อปุ กรณท์ ไี่ มซ่ า�้ ซอ้ นและใชง้ า่ ยกวา่ บลทู ธู ตวั อยา่ งการใชซ้ กิ บ ี ก็ คอมพิวเตอร ์ การเชอื่ มต่อระหวา่ งโทรศพั ท ์ คอื การควบคุมสวติ ช์ไฟฟ้าในบ้านเพ่ือควบคมุ การใช้พลงั งาน การ แบบสมารท์ เพื่อส่งขอ้ มูลถึงกนั โดยไม่ตอ้ ง ควบคมุ สญั ญาณจราจร การใชก้ บั เครอ่ื งมอื ในงานอตุ สาหกรรม และ ใชอ้ ินเทอรเ์ น็ต หรือการเช่ือมต่อโทรศพั ท ์ งานด้านการแพทย์ ซิกบีใช้คลื่นวิทยุความถี่ ๒.๔ GHz เหมือ เคลอื่ นท่ีกบั หูฟังและไมโครโฟนแบบไรส้ าย นกับบลูทูธแต่บางประเทศอาจจะใช้คล่ืนความถ่ีอื่น และมีอัตรา ความเร็วในการส่งขอ้ มลู ระหวา่ ง ๒๐ kbit/s จนถงึ ๒๕๐ kbit/s ซิ เทคโนโลยีท่ีนาํ มาใช ้ กบกี �าหนดขึน้ ตามมาตรฐานสากลคอื IEEE 802.15.4 และไดร้ บั การยอมรบั มาตง้ั แตป่ ีพ.ศ. ๒๕๔๗ การส่ือสารระหว่างอุปกรณ์ในแพนนั้นนิยมใช้เทคโนโลยีเครือ เครือข่ายส่วนบุคคล (PAN) ท�าให้การสื่อสารสะดวกและ ขา่ ยแบบไรส้ ายเพอื่ ใหเ้ กิดความสะดวกแก่ผู้ใช้ โดยบลทู ธู (Blue- รวดเร็วย่ิงข้ึน เนื่องจากมอี ัตราการรบั สง่ ข้อมูลท่รี วดเรว็ มาก และ tooth) เป็นเกณฑ์วิธี หรือโพรโทคอล (protocol) ใช้คล่ืนวิทยุ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆของตนเองเข้าด้วยกัน ความถ่ี ๒.๔GHz ค�าว่า Bluetooth เป็นช่ือรหัสโครงการพัฒนา โดยที่ไม่ต้องเช่ือมต่อกับอินเทอร์เน็ต แต่อุปกรณ์ที่ต้องการเช่ือม เทคโนโลยีสื่อสารระยะใกล้ซึ่งมีบริษัท อีริคสัน ไอบีเอ็ม อินเทล โยงกันจะต้องอยู่ในบริเวณใกล้กัน และเพ่ิมจากเครือข่ายไร้สาย โนเกยี และโตชิบา ร่วมกนั ด�าเนนิ การต้ังแตป่ ีพ.ศ. ๒๕๓๗ โดยจดั เครอื ขา่ ยสว่ นบคุ คลอาจจะถกู โจมตจี ากผไู้ มป่ ระสงคด์ ไี ดง้ า่ ย ดงั นนั้ ตงั้ เปน็ คณะกรรมการ ช่อื Bluetooth Special Interest Group ผ้ใู ช้ต้องก�าหนดรหัสผา่ นในการเขา้ ถงึ เครอื ข่าย โดยผู้ใช้ควรตง้ั คา่ (Bluetooth SIG) และ ไดป้ ระกาศใช ้ Bluetooth ๑.๐ ในปีพ.ศ. รหสั ใหย้ ากตอ่ การคาดเดา และควรเปลยี่ นแปลงรหสั ผา่ นเปน็ ประจา� ๒๕๔๒ โดยคา� วา่ Bluetooth มาจากค�าวา่ Blátönn ในภาษาของ นอรส์ (Norse) หรือ Blåtand ในภาษาของชาวเดนิช (Denish) ซึง่ เป็นช่ือของกษัตรยิ ์ Harald ที่หน่งึ ของประเทศเดนมาร์ก มชี อ่ื เตม็ วา่ “Harald Bluetooth” (ภาษาเดนมารก์ Harald Blåtand) กษตั รยิ ์ ภาพท่ี ๒
๗๐ เครอื ขา่ ยเฉพาะที่ การเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่าง ๆ (LAN : Local Area เข้าด้วยกันเป็นเครือข่ายน้ันมีสองวิธี คือ แบบใช้ Network) สายส่อื สาร (Wired network) และ แบบไรส้ าย (Wireless network) วธิ กี ารเชอ่ื มตอ่ กนั โดยใชส้ าย เครอื ข่ายเฉพาะที่ (LAN : Local Area Network) หรอื เครอื ข่ายเฉพาะ สอื่ สารน้ัน อาจจะใชส้ ายทองแดง หรือ สายใยแกว้ ท่ี เป็ นเครอื ข่ายคอมพิวเตอรท์ ี่เชอ่ื มโยงคอมพิวเตอรแ์ ละอปุ กรณต์ ่าง นา� แสง (Optical fiber cable) ก็ได้ แลนแบบไร้ ๆ เขา้ ดว้ ยกนั โดยคอมพิวเตอรแ์ ละอปุ กรณเ์ หลา่ นนั้ ติดบรเิ วณที่ไม่ห่าง สายนั้นนิยมใช้มาตรฐาน IEEE ๘๐๒.๑๑ ทีร่ จู้ กั ไกลกนั มาก เช่น ภายในบา้ น ภายในอาคารเดียวกนั หรอื ระหวา่ งอาคาร กันดีในชื่อไวไฟ (Wi-Fi) เครือข่ายไร้สายนี้มี ในบริเวณขา้ งเคียง จุดประสงคข์ องแลนมกั ใชเ้ พ่ือติดต่อส่ือสารกนั ความเรว็ ในการสอ่ื สารต้ังแตป่ ระมาณ ๑๑ Mbps ในกลุ่มเลก็ ๆ หรือองคก์ รเดียวกนั ตลอดจนเพื่อใชท้ รพั ยากรต่าง ๆ (Megabits per second หรอื ๑,๐๐๐,๐๐๐ บิต รว่ มกนั ตวั อย่าง เช่น การเชอ่ื มต่อคอมพิวเตอรภ์ ายในหอ้ งปฏบิ ตั ิการ ต่อวินาที หรือประมาณ ๖๐,๐๐๐ ตัวอักษรต่อ คอมพิวเตอร ์ การเชอ่ื มต่อคอมพิวเตอร ์ และอุปกรณต์ ่าง ๆ ภายใน วนิ าที) ไปถงึ ๑,๐๐๐ Mbps. สว่ นแลนแบบใช้สาย สํานกั งาน เป็ นตน้ น้นั นิยมใช้มาตรฐาน IEEE ๘๐๒.๓ ทเ่ี รยี กกนั ว่า อีเทอร์เน็ต (Ethernet) และมีความเร็วในการ สอ่ื สารตง้ั แต ่ ๑๐๐ Mbps ไปจนถงึ ๑ Gbps (Giga- bits per second หรอื หนง่ึ พนั ลา้ นบติ ตอ่ วนิ าท)ี ใน ภาพรวมแลว้ แลนแบบใชส้ ายจงึ มสี มรรถนะสงู กวา่ แลนแบบไรส้ าย
การเช่ือมต่อคอมพิวเตอร์เข้าด้วยกันเป็น เครือข่ายแบบวงแหวน (Ring To- ๑๔ - ๑๕ แลนน้ันแบ่งตามลักษณะการเช่ือมต่อได้ 2 pology) เปน็ การเชอื่ มตอ่ แตล่ ะสถานเี ขา้ ดว้ ย ลักษณะ คือ เครือข่ายแบบเพียร์ทูเพียร์ (Peer กันแบบวงแหวน ดังแสดงในภาพท ่ี ๒ การเชื่อม to Peer) เป็นเครือข่ายขนาดเล็กที่เหมาะ ต่อรูปแบบนี้ข้อมูลจะถูกส่งต่อไปในทิศทาง ส�าหรับการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ต่�ากว่า ๑๐ เดียวกันจน สถานีท่ีอยู่บนสายสื่อสารน้ีเม่ือได้รับ เคร่ือง และทุกเคร่ืองต้องสามารถประมวล ข้อมูลก็จะพิจารณาว่าเป็นข้อมูลของตนหรือไม ่ ข้อมูลได้ โดยเครือข่ายลักษณะน้ีจะไม่ค�านึงถึง ถ้าใช่ก็รับไว้ ถ้าไม่ใช่ก็จะส่งข้อมูลนั้นต่อไป การ ความปลอดภัยด้านข้อมูลมากนัก ส่วนอีก เช่ือมต่อรูปแบบนี้สามารถรองรับสถานีได้เป็น ลักษณะการเชื่อมต่อ คือเครือข่ายแบบไคลเอน จ�านวนมาก แต่มีข้อเสียคือสถานีต้องรอจนถึง ต์/เซิร์ฟเวอร์ (Client/Server) เป็นเครือข่ายที่ รอบของตนเองก่อนจึงสามารถส่งข้อมูลได้ ภาพที่ ๓ รูปร่างเครือข่ายแบบดาว ใช้วิธีการประมวลผลจากศูนย์กลางหรือเครื่อง เซิร์ฟเวอร์เป็นหลัก เครือข่ายลักษณะนี้มีการ ท�างานเป็นระบบมากกว่าเครือข่ายแบบเพียร์ทู เครอื ข่ายแบบเมซ (Mesh Topolo- เพียร์ จึงสามารถดูแลรักษาความปลอดภัยของ gy) การเชอื่ มตอ่ รปู แบบนน้ี ยิ มสรา้ งบนเครอื ขา่ ย แบบไร้สาย โดยมีอปุ กรณ์จัดเสน้ ทาง (Router) ข้อมูลได้มากกว่า ท�าหน้าที่สร้างเส้นทางระหว่างสถานีแต่ละคู่ให้ นอกจากนี้การเชื่อมต่อแลนอาจแบ่งได้ตาม สามารถสอื่ สารกันได้ ดังแสดงในภาพท ี่ ๔ การ รูปร่างเครือข่าย (Network Topology) ซ่ึงเป็น เชื่อมต่อรูปแบบน้ีเป็นท่ีนิยมมากในปัจจุบัน ลักษณะทางกายภาพของการเช่ือมต่อ แบ่งได้ เน่ืองจากมีประสิทธิภาพสูงมาก โดยหากมีเส้น เป็น ๔ รูปแบบ ได้แก่ ทางของการเชอื่ มตอ่ ของสถานคี ใู่ ดคหู่ นง่ึ ขาดจาก กนั อปุ กรณจ์ ดั เสน้ ทางจะเชอื่ มตอ่ เสน้ ทางใหมไ่ ป เครอื ข่ายแบบบสั (Bus Topology) ยังจุดหมายปลายทางโดยอัตโนมัติท�าให้การ เป็นการเช่ือมต่อคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่าง ๆ ตดิ ตอ่ สอ่ื สารระหวา่ งคนู่ นั้ ยงั สามารถตดิ ตอ่ กนั ได้ เป็นเครือข่ายโดยใช้สายสื่อสารหลักเพียงสาย ภาพที่ ๒ รูปร่างเครือข่ายแบบวงแหวน ในอนาคต แลนส�าหรับใช้ในบ้านเรอื นจะมีความ เดียวที่เรียกว่า บัส (bus) ดังแสดงตัวอย่างใน ส�าคัญและได้รับความนิยมมากขึ้น ทั้งนี้เป็น ภาพที่ ๑ คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ เพราะอปุ กรณเ์ ครือ่ งใช้ต่าง ๆ ในบา้ นจะสามารถ เครอื ขา่ ยแบบดาว (Star Topology) สอ่ื สารกนั ไดโ้ ดยเทคโนโลยอี นิ เทอรเ์ นต็ ของสรรพ จุดเช่ือมต่อเรียกว่าสถานี (Node) และแต่ละ เป็นการเชื่อมต่อทุกสถานีในเครือข่ายกับหน่วย สิ่ง (Internet of Things) จะทา� ให ้ โทรทศั น์ สถานีเชื่อมต่อกันด้วยสายส่ือสารหลักเพ่ือให้ สลับสายกลาง เช่น ฮับ (Hub) หรือสวิตช์ เครอื่ งเสยี ง ตเู้ ยน็ กานา�้ รอ้ น เตาไมโครเวฟ กลอ้ ง สื่อสารข้อมูลกัน สามารถส่งสัญญาณไปใน (Switch) ดงั แสดงในภาพท ่ี ๓ โดยหน่วยสลบั วิดิทัศน์ เคร่ืองปรับอากาศ เครื่องตรวจจับ ทิศทางใดก็ได้ ดังนั้นจึงมีปัญหาคือแต่ละสถานี สายกลางจะรบั ขอ้ มูลจากสถานใี นเครือข่าย แลว้ สัญญาณบกุ รกุ ประตู หนา้ ต่างท่ีติดตง้ั อุปกรณ์ อ า จ ส ่ ง ข ้ อ มู ล เ ข ้ า ไ ป ใ น ส า ย ส่ื อ ส า ร ใ น เ ว ล า พจิ ารณาเพ่ือส่งข้อมูลไปยังสถานีเปา้ หมาย การ รับส่งข้อมลู จะทา� ใหส้ ง่ ข้อมูลถงึ กันได ้ เปน็ ตน้ เดียวกันซึ่งจะท�าให้สัญญาณข้อมูลชนกัน และ เชอื่ มตอ่ เครอื ขา่ ยดาวนหี้ ากมสี ถานใี ดเสยี หายจน หากเกิดความเสียหายขึ้นกับบัสเพียงจุดเดียวก็ ท�างานไม่ได้ หรือสายท่ีเช่ือมต่อระหว่างหน่วย จะส่งผลให้ทุกอุปกรณ์ไม่สามารถสื่อสารถึงกัน สลบั สายกลาง (ฮบั หรอื สวติ ช)์ กบั สถานใี ดชา� รดุ ได้เลย จากปัญหาข้างต้นท�าให้การเชื่อมต่อรูป ก็จะไม่กระทบต่อการเช่ือมต่อของสถานีอื่น แบบน้ีไม่เป็นท่ีนิยมในปัจจุบัน โดยสถานีอ่ืน ๆ ในเครือข่ายสามารถส่งข้อมูล ถงึ กนั ไดต้ ามเดมิ แตห่ ากหนว่ ยสลบั สายกลางเสยี บท ีท่๕ ประเภทของเทคโนโล ียการ ืสอ่สาร หายจะส่งผลให้ทุกสถานีในเครือข่ายไม่สามารถ สง่ ขอ้ มลู ถงึ กนั ได ้ ขอ้ ดอี กี ประการหนง่ึ คอื การเพมิ่ สถานีใหม่เข้ามาในเครือข่ายรูปแบบนี้ท�าได้อย่าง สะดวก เพียงเชือ่ มตอ่ สายสือ่ สารจากหนว่ ยสลับ สายกลางไปสถานนี นั้ ไดเ้ ลยโดยทไ่ี มต่ อ้ งหยดุ การ เชื่อมต่อของสถานีอื่นในเครือข่ายท�าให้การเช่ือม ต่อแบบดาวเปน็ ท่นี ิยมใช้ในปัจจบุ นั ภาพที่ ๔ รูปร่างเครือข่ายแบบเมซ ภาพที่ ๑ รูปร่างเครือข่ายแบบบสั
๗๑ แมน (MAN : Metropolitan Area Network) แมน หรอื เครอื ขา่ ยระดบั เมอื ง เป็ น เครอื ข่ายที่ใชก้ ารเชอื่ มต่อระหวา่ ง แลนทอี่ ยหู่ ่างไกลกนั เชน่ การเชอื่ ม ต่อเครือข่ายระหว่างสํานกั งาน การเชื่อมต่อท่ีอยู่ระหว่างช่วงตึก หรือเคเบิลทีวีท่ีเชื่อมต่อระหว่าง สถานีส่งสญั ญาณไปยงั บา้ นพกั อาศยั เป็ นตน้ เครอื ขา่ ยระดบั เมอื ง อาจเป็ นแบบใชส้ ายส่ือสาร โดย เชื่อมต่อดว้ ยสายใยแกว้ นําแสง (Optical fiber cable) หรือบาง ครงั้ อาจเป็ นแบบไรส้ าย โดยใช ้ คลน่ื ไมโครเวฟเชอื่ มต่อ ดงั แสดง ในภาพท่ี ๑ ด้านเทคโนโลยีการส่ือสารไรส้ ายท่นี �ามาใชก้ ับ แมนได้มีการพัฒนา WiMAX (Worldwide Interoperability for Microwave Access) เพื่อใช้ เป็นมาตรฐานในการเช่ือมต่อแมนแบบไร้สาย ได้ ผา่ นการรบั รองมาตรฐาน IEEE 802.16 มคี วามเรว็ สงู กวา่ ๗๒ megabits/sec และสามารถสง่ สญั ญาณ ไปยังเคร่ืองของผู้รับ ผ่านคล่ืนไมโครเวฟได้โดยไม่ ตอ้ งอาศัยสายใยแกว้ นา� แสง การประยกุ ตใ์ ชแ้ มนโดยทวั่ ไปจะเนน้ การใชง้ าน ภายในองค์กร ท่ีมีสาขาหรือส�านักงานกระจายอยู่ ภาพที่ ๑ เครือข่ายระดบั เมือง หรือแมน ท่ัวไปเป็นบริเวณกวา้ งทีจ่ ะตอ้ งท�ารว่ มกนั ระหวา่ ง ส�านักงานใหญ่กับส�านักงานสาขา เช่น การตรวจ ประกอบทีส่ า� คัญในการด�าเนินงาน เม่ือธุรกิจขยาย เครือข่ายนน้ั มีราคาสงู ซง่ึ ระยะห่างในการเชอ่ื มต่อ สอบยอดเงนิ ในบญั ชเี งนิ ฝากของลกู คา้ ณ สา� นกั งาน ตวั ทา� ใหเ้ กดิ สา� นกั งานใหม ่ ๆ กระจายตวั กนั ออกไป เครอื ข่ายอาจเปลี่ยนแปลงไดโ้ ดยข้นึ อย่กู บั สาขา หรอื เครอื่ งรบั จา่ ยเงินอตั โนมตั ิ (Automatic ทกุ สา� นกั งานทอี่ ยหู่ า่ งไกลกนั ยงั สามารถสง่ ขอ้ มลู ถงึ เทคโนโลยีท่ีน�ามาประยุกต์ใช้ อีกทั้งจ�าเป็นต้องใช้ Teller Machine) ผ่านเครือข่ายมายังสา� นักงาน กนั ได้อยา่ งรวดเรว็ ผา่ นการเชื่อมตอ่ ดว้ ยแมน เพ่ิม ซอฟต์แวร์ระดับสูงเข้ามาช่วยในการจัดการ เพื่อ ใหญ่ และส่งข้อมลู กลับ งานประยุกตล์ ักษณะนีย้ งั ประสทิ ธภิ าพในการทา� งานใหก้ บั พนกั งาน และสรา้ ง ให้การใช้งานเครอื ขา่ ยมคี วามปลอดภัยและมีความ ตอ้ งใช้เทคโนโลยรี ะดับสูง เช่น การใชซ้ อฟตแ์ วร์ที่ ความพึงพอใจให้กับผู้บริหาร นอกจากนี้ในสถาน น่าเช่ือถือ ดังน้ันบางองค์กรเมื่อต้องการเช่ือมต่อ เช่ือถือได้ (Trusted software) การเข้ารหัส ศกึ ษากน็ า� ไปประยกุ ตใ์ ชเ้ พอื่ อา� นวยความสะดวกใน เครอื ขา่ ยระหวา่ งแลนทอ่ี ยหู่ า่ งไกลกนั จงึ อาจนา� แวน (Encryption) หรือ การวิเคราะห์ข้อมูล (Data การจัดการข้อมูลผู้เรียน ผู้สอน หรือช่วยให้การ เข้ามาประยกุ ตใ์ ชเ้ พอ่ื ให้เกิดความค้มุ คา่ ในการ analytics) เปน็ ต้น สอื่ สารระหวา่ งผเู้ รยี นกบั ผสู้ อนสะดวกมากยง่ิ ขน้ึ ซง่ึ ลงทุน เนื่องจากแวนเป็นเครือข่ายบริเวณกว้างซึ่ง เปน็ การเพิ่มศกั ยภาพทางการเรียนรูอ้ ีกด้วย สามารถเชอ่ื มตอ่ ระหวา่ งแลนทอี่ ยไู่ กลกนั มากขน้ึ ซง่ึ ประโยชนแ์ ละการใชง้ านในอนาคต จะกลา่ วถึงในหวั ข้อถัดไป แมนชว่ ยอา� นวยความสะดวกในการสอื่ สารให้ อยา่ งไรกต็ ามการประยกุ ตใ์ ช้แมนมีข้อจ�ากัด กับองค์กรธุรกิจต่าง ๆ เน่ืองจากข้อมูลเป็นองค์ ด้านค่าใช้จ่าย เนื่องจากอุปกรณ์ท่ีใช้ในการติดต้ัง
๗๒ แวน ๑๔ - ๑๕ (WAN : Wide Area Network) แวน หรอื เครอื ข่ายบรเิ วณกวา้ ง เป็ นเครอื ข่ายที่ใชเ้ ชอ่ื มโยงกบั เครอื ข่ายอนื่ ท่ีอยู่ไกลกนั มาก เช่น เครอื ข่ายระหวา่ งจงั หวดั หรอื ระหวา่ ง ภาคในประเทศ รวมถงึ เครอื ข่ายระหวา่ งประเทศ การใช้อินเทอร์เนต็ ในระยะแรกนัน้ สว่ นมาก เนน้ ไปทกี่ ารรบั และสง่ ขอ้ มลู หรอื คน้ หาขอ้ มลู ใน เคร่ืองของผู้ใช้ในอีกเครือข่ายหนึ่ง หลังจากนั้น ทิม เบอรเนอรส์ ลี (Tim Berners-Lee) นัก วทิ ยาศาสตรช์ าวองั กฤษซง่ึ ทา� งานอยทู่ หี่ อ้ งปฏบิ ตั ิ การเซริ น์ (CERN = European Organization for Nuclear Research) ในประเทศสวติ เซอรแ์ ลนด์ ไดพ้ ฒั นาเวลิ ด์ ไวด์ เว็บ (World Wide Web : WWW) ข้นึ เพื่อใช้งานบนอินเทอร์เนต็ ในป ี ค.ศ. ๑๙๘๙ ประโยชนแ์ ละการใชง้ านในอนาคต ดังแสดงในภาพท ี่ ๑ แวนท�าให้ผูค้ นท่ีอย่หู า่ ง ใชจ้ า่ ยในดา้ นอปุ กรณเ์ ชอ่ื มตอ่ และสายสอ่ื สาร แต่ ปัจจุบันแวนเข้ามามีบทบาทในการด�าเนิน ไกลกนั คนละประเทศสามารถตดิ ตอ่ สอ่ื สารกนั ได้ กเ็ ปน็ โพรโทคอลทไี่ มเ่ หมาะสมในการรบั สง่ ขอ้ มลู ชีวิตมากข้ึน การค้นหาข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ต อย่างสะดวก บริษัทที่มีส�านักงานอยู่ในหลายๆ ประเภทเสียงหรือภาพเคลื่อนไหว เน่ืองจาก หรือใช้โทรศัพท์เคลื่อนท่ีในการสื่อสาร ค้นหา ประเทศสามารถรบั สง่ ขอ้ มลู กนั ไดท้ นั ท ี และทา� ให้ การหน่วง (Delay) ของโพรโทคอลประเภทน้ี ข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ต ถือเป็นการส่ือสารผ่าน เกดิ การพัฒนาในดา้ นธรุ กจิ อยา่ งตอ่ เน่ือง จะทา� ใหข้ าดความตอ่ เนอ่ื งของขอ้ มลู ตวั อยา่ งการ เครือข่ายบรเิ วณกวา้ งหรอื แวน หน่วยงานภาครฐั ประวตั คิ วามเป็ นมา รบั สง่ ขอ้ มลู ประเภทเสยี งหรอื ภาพเคลอื่ นไหว เชน่ ก็น�าแวนมาประยุกต์ใช้ ได้แก่ ระบบทะเบียน การประชุมทางวิดีทัศน์ (Videoconference) ราษฎร์ซ่ึงส�านักบริหารการทะเบียน กระทรวง ครสิ ต์ทศวรรษ ๑๙๗๐ คอมพิวเตอรข์ นาด เปน็ การประชมุ ทผี่ เู้ ขา้ รว่ มประชมุ อยตู่ า่ งกนั คนละ มหาดไทยเป็นผู้ดูแล ระบบนี้ใช้ส�าหรับจัดเก็บ ใหญท่ ใี่ ชก้ นั ในวงการธรุ กจิ มกั จะเรยี กวา่ เมนเฟรม สถานที่และจะต้องส่อื สารข้อมลู กนั ทัง้ ภาพและ ข้อมลู เกยี่ วกบั ประชาชนไทยทกุ คนเอาไว้ในฐาน คอมพิวเตอร์ (Mainframe computer) การเชอ่ื ม เสยี ง หากเกดิ การหน่วงก็จะทา� ใหก้ ารสอ่ื สารนน้ั ขอ้ มลู ต้งั แตเ่ กดิ จนกระท่งั ตาย ขอ้ มูลท่ีเก็บไวน้ ้ีมี ต่อระหว่างเมนเฟรมคอมพิวเตอร์ หรือเครื่อง ไม่ราบรน่ื ขอ้ มลู ทส่ี ื่อสารอาจไมค่ รบถ้วนและกอ่ ประโยชน์หลายด้าน เช่น การจัดท�ารายช่ือผู้มี คอมพวิ เตอรอ์ น่ื ๆ ทม่ี ขี นาดเลก็ กวา่ ทต่ี ง้ั อยใู่ นอกี ใหเ้ กดิ ผลเสยี ได้ เมืองหนง่ึ จะต้องอาศยั สายเคเบลิ ของผู้ใหบ้ ริการ สิทธ์ิลงคะแนนเลือกต้ัง และการยืนยันความ แท้จริงของข้อมูลในการสมัครงาน และระบบ บท ีท่๕ ประเภทของเทคโนโล ียการ ืส่อสาร ทางโทรศัพทเ์ ปน็ ตัวกลาง โดยใชเ้ กณฑว์ ิธ ี หรือ การปรับปรุงส�าคัญระยะต่อมาคือการใช ้ บริหารการเงินภาครัฐ หรือ Government โพรโทคอล (protocol) ทีใ่ ชใ้ นการเชื่อมต่อ คือ อินเทอร์เน็ตโปรโตคอล (Internet Protocol : Financial Management Information System เอ็กซ์.๒๕ (X.25) ท่ีสหภาพโทรคมนาคม IP) ซง่ึ เปน็ โพรโทคอลในการสอ่ื สารขา้ มเครอื ขา่ ย (GFMIS) ระบบน้ีใช้ส�าหรับการก�าหนดราย นานาชาติ (International Telecommunication คอมพวิ เตอร ์ และเปน็ เทคโนโลยพี นื้ ฐานของการ ละเอยี ดงบประมาณของแตล่ ะหนว่ ยงาน และการ Union) กา� หนดข้นึ ตัวอยา่ งการเชือ่ มตอ่ น ี้ เชน่ เกดิ อนิ เทอรเ์ นต็ แนวคดิ นท้ี า� ใหส้ ามารถสง่ ขอ้ มลู ท�าฎีกาขอเบิกจ่ายเงินเมื่อถึงก�าหนด ตลอดจน ธนาคารสามารถสรา้ งเครอื ขา่ ยเพอ่ื เชอ่ื มเมนเฟรม ข้ามเครือข่ายได้ (Internetworking) ท�าให้เกิด การใช้ในการเกบ็ ทะเบียนครภุ ัณฑ์และทรัพยส์ ิน คอมพวิ เตอรข์ องตนเองไปยงั สา� นกั งานสาขา และ การเปลย่ี นแปลงอยา่ งกว้างขวางในการใชเ้ ครอื ของหนว่ ยงานดว้ ย สว่ นการใชแ้ วนในภาคเอกชน ไปยังเครื่องรับจ่ายเงินอัตโนมัติ หรือเอทีเอ็ม ขา่ ยคอมพวิ เตอร ์ เพราะผใู้ ชค้ อมพวิ เตอรใ์ นเครอื ได้แก่ ธนาคารออนไลน์ หรือร้านค้าออนไลน ์ (Automatic Teller Machine) ข่ายหนึ่งสามารถท�างานร่วมกับผู้ใช้ในอีกเครือ เปน็ ตน้ ขา่ ยหนงึ่ ได ้ โดยการกา� หนดตา� แหนง่ ทอ่ี ยขู่ องผใู้ ช้ ตน้ ครสิ ตท์ ศวรรษ 1990 มกี ารพฒั นาโพรโท อินเทอร์เนต็ โปรโตคอล หรือ ไอพแี อสเดรส (IP คอลทเี่ รียกว่า “เฟรมรีเลย์ (Frame Relay)” ขนึ้ address) ของแตล่ ะเครอื ขา่ ยใหเ้ ปน็ แบบเดยี วกนั มาจาก X.25 โดยเฟรมรีเลยช่วยให้การรับส่ง ตา� แหนง่ ทอี่ ยู่นี้ว่า IP Address ขอ้ มลู ในเครอื ขา่ ยนน้ั รวดเรว็ ยง่ิ ขน้ึ และชว่ ยลดคา่
๗๓ อินเทอรเ์ น็ตเกตเวย ์ (Internet Gateway) เกตเวย ์ (Gateway) หมายถึง จุดต่อเชอ่ื มของเครือข่ายทาํ หนา้ ท่ีเป็ นทางเขา้ สู่ระบบเครือข่ายต่าง ๆ บน เครือข่ายอินเทอรเ์ น็ต สําหรบั ในความหมายของเราทเ์ ตอร ์ (Router) คือ ถนนหรือชอ่ งทางการเชือ่ มต่อ สําหรบั ระบบเครือข่ายประกอบดว้ ยสถานีของเกตเวย ์ สถานีของโฮสเครื่องคอมพิวเตอรข์ องผูใ้ ชใ้ นเครือ ข่าย และคอมพิวเตอรท์ ่เี ครอ่ื งแม่ข่ายมีฐานะเป็ น โหนดแบบโฮส (หมายถงึ จดุ เชอ่ื มต่อหรอื สถานี เช่น เครอ่ื ง คอมพิวเตอรใ์ นแตล่ ะเครอ่ื ง อปุ กรณโ์ ทรศพั ทเ์ คลอ่ื นท่ี เป็ นตน้ ) ส่วนเครอ่ื งคอมพิวเตอรท์ ค่ี วบคมุ การจราจร ภายในเครอื ข่าย หรอื ผูใ้ หบ้ รกิ ารอนิ เทอรเ์ น็ต คือ โหนดแบบเกตเวย ์
ลกั ษณะการทาํ งานของเกตเวย ์ ใหญ่ท่ีสุดในประเทศไทย โดยแบ่งการเชื่อมต่อโครงข่ายออกเป็น ๒ ๑๔ - ๑๕ ประเภท คือ เกตเวยเ์ ป็นอปุ กรณ์ฮารด์ แวร์ทีเ่ ช่อื มต่อเครือข่ายต่างประเภทเข้า ๑. Transit International Internet Network เป็นการ บท ีท่๕ ประเภทของเทคโนโล ียการ ืส่อสาร ดว้ ยกนั เชน่ การใชเ้ กตเวยใ์ นการเชอื่ มตอ่ เครอื ขา่ ย ทเี่ ปน็ คอมพวิ เตอร์ เชื่อมตอ่ กบั Backbone เพือ่ แลกเปลี่ยนข้อมลู ในประเทศต่าง ๆ เชน่ ประเภทส่วนบุคคล (Personal Computer: PC) เขา้ กบั คอมพวิ เตอร์ อเมริกา ยุโรป เอเชยี แปซิฟกิ ด้วยความเรว็ สงู ถึง ๑๐ Gbps1 (กกิ ะ ประเภทแมคอนิ ทอช (MAC) เปน็ ตน้ ซงึ่ เกตเวยเ์ ปน็ อปุ กรณท์ ม่ี คี วาม บิตวินาที) เพื่อใช้เป็นเส้นทางผ่านไปยังเครือข่ายปลายทางประเทศ สามารถสงู ในการเชอ่ื มตอ่ เครอื ขา่ ยตา่ ง ๆ เขา้ ดว้ ยกนั โดยสามารถเชอื่ ม ต่าง ๆ ท่ัวโลก ตอ่ ขา่ ยงานบรเิ วณระยะไกล (Local Area Network หรอื LAN หลาย ๆ เครอื ขา่ ยทใ่ี ชโ้ ปรโตคอลตา่ งกนั และใชส้ ง่ ขอ้ มลู ตา่ งชนดิ กนั ไดอ้ ยา่ งไมม่ ี ๒. Peer-to-Peer International Internet Network ขีดจา� กดั ตัวอยา่ ง เชน่ การเชือ่ มต่ออีเทอร์เนต็ (Ethernet LAN) ที่ ใชส้ ายสง่ แบบ UTP เขา้ กบั เครอื ขา่ ยแบบวงแหวน(Token Ring LAN) เปน็ การเชอื่ มต่อกับ Internet Exchange ของประเทศตา่ ง ๆ โดยตรง จึงเปรยี บได้วา่ เกตเวยก์ ็เป็นเหมือนนักแปลภาษาทที่ า� ใหเ้ ครือขา่ ยที่ใช้ ด้วยเส้นทางท่ีส้ันท่ีสุด เพ่ือแลกเปล่ียนข้อมูลท้องถิ่นของประเทศไทย โปรโตคอลต่างชนิดกนั สามารถส่ือสารกันได ้ หากโปรโตคอลทใ่ี ชร้ บั ส่ง กับขอ้ มูลทอ้ งถ่ินของประเทศนนั้ ๆ โดยมผี ู้ให้บริการ Internet ในตา่ ง ข้อมูลของเครือข่ายทั้งสองไม่เหมือนกัน เกตเวย์จะท�าหน้าที่แปลง ประเทศเช่ือมตอ่ แบบ Peering มากกวา่ ๒๕ รายท่วั โลก รวมทง้ั ผ้ใู ห้ โปรโตคอลให้ตรงกับปลายทางและเหมาะสมกับอุปกรณ ์ ท่ีแตล่ ะเครอื บริการ Content ช้ันนา� ต่าง ๆ เช่น Google, Microsoft เปน็ ต้น ขา่ ยใชง้ านอยไู่ ดด้ ว้ ย อปุ กรณเ์ กตเวยจ์ งึ มรี าคาแพง และขน้ั ตอนในการ ตดิ ตง้ั จะซบั ซ้อนท่สี ดุ ในบรรดาอปุ กรณ์เครือขา่ ยทั้งหมด การนาํ ไปใช ้ CAT Thailand Internet Gateway :THIX ตัวเกตเวย์สามารถสร้างตาราง ซึ่งสามารถบอกได้ว่าเครื่อง เซิร์ฟเวอร์ไหนอยู่ภายใต้เกตเวย์ตัวใด และจะสามารถปรับปรุงข้อมูล ในประเทศไทย บริการของ CAT Thailand Internet Gateway: ตามเวลาท่ีตัง้ เอาไว ้ ดังนี้ CAT THIX เป็นผู้บริการเกตเวย์ ท�าหน้าที่เช่ือมต่อไปยังเครือข่าย อินเทอรเ์ น็ตทอี่ ยใู่ นต่างประเทศผา่ นวงจรเคเบิลใต้น้า� ระหวา่ งประเทศ การใชใ้ นระบบครวั เรือน: Smart Home/Smart ของบริษทั CAT Telecom ไปยงั ผู้ทใ่ี ห้บริการเครอื ข่ายอินเทอร์เน็ตท่ี คลอบคลมุ พื้นทที่ ัว่ โลก ดว้ ยปรมิ าณแบนด์วิดช ์ (Bandwidth) ขนาด System มฟี งั กช์ นั ของการรบั ขอ้ มูลจากอปุ กรณเ์ ซนเซอร ์ ไปยงั ตวั Smart Center แล้วส่งต่อไปยังอุปกรณ์ท่ีเกี่ยวข้องด้วยสื่อสัญญาณไร้ ภาพที่ ๓ ภาพแสดงการเชื่อมต่อ Internet Gateway สายภายในบรเิ วณเดยี วกนั หรอื เชอื่ มตอ่ ดว้ ยสญั ญาณอนิ เทอรเ์ นต็ ผา่ น ของบริษทั CAT Internet Gateway ไปยงั อปุ กรณท์ เ่ี กย่ี วขอ้ งระยะไกล ซง่ึ สามารถบนั ทกึ ความเคลอ่ื นไหวการทา� งานของอุปกรณ์ วเิ คราะห/์ ประมวลผล หรอื แจง้ เตอื นให้ทราบลว่ งหนา้ หรอื แจง้ เตอื นเมือ่ เกดิ เหต ุ รวมไปถงึ การให้ ข้อมูลแนะนา� ในกจิ กรรมท่ีเก่ียวขอ้ ง แอปพลเิ คชนั ในภาคธรุ กจิ : Business Application สามารถติดตอ่ ผ่านอนิ เทอร์เน็ตได้ทั้งการรับ-ส่งขอ้ มลู การสอ่ื สารทาง เสยี งหรอื VoIP การตดิ ตอ่ ดว้ ยภาพและเสยี งพรอ้ ม ๆ กนั อกี สว่ นหนง่ึ คอื การตดิ ตอ่ กบั ลกู คา้ เพอื่ เปน็ ชอ่ งทางใหล้ กู คา้ เขา้ ถงึ และการใหบ้ รกิ าร กบั ลกู คา้ ซึง่ แอปพลิเคชันเหลา่ น้ี สามารถเกบ็ บนั ทกึ ขอ้ มูลการใช้งาน บนโลกอนิ เทอรเ์ นต็ ของลกู คา้ ทเ่ี กดิ ขนึ้ ได ้ หรอื ทเี่ รยี กวา่ Big Data แอป พลิเคชันจะนา� ขอ้ มูลมาวิเคราะห/์ ประมวลผล และจัดการสิ่งต่าง ๆ ให้ ตอบสนองความตอ้ งการของลูกคา้ ต่อไปได้ การนําไปใชเ้ พ่ื อความบนั เทิง: Entertainment Application ให้บริการ Content จะส่งขอ้ มูล เน้ือหา ภาพและ เสยี งผา่ นอนิ เทอรเ์ นต็ ไปไวย้ งั เซริ ฟ์ เวอร ์ โดยผเู้ ขา้ ชมไมว่ า่ จะอยทู่ ใี่ ดของ โลกก็สามารถดูผ่านแอปพลเิ คชนั ซึ่งเดนิ ทางผ่าน Internet Gateway ไปยงั เซิรฟ์ เวอรด์ ังกลา่ วไดพ้ ร้อม ๆ กันเปน็ จา� นวนมาก รวมไปถึงแอป พลิเคชัน เกมออนไลนต์ ่าง ๆ ท่ีสามารถเลน่ ได้ เสมอื นผู้เลน่ ไดเ้ ขา้ ไป อยู่ในเกมจริง ๆ แม้ในความเป็นจริงผู้เล่นจะอยู่ในคนละสถานท่ีหรือ คนละประเทศกต็ าม ๑. กสท. โทรคมนาคม, CAT THIX (Thailand Internet Gateway), เขา้ ถึงเม่ือ ๒ ธนั วาคม ๒๕๖๑, เขา้ ถึงจาก http://www.cattelecom. net/cat-thix/index.aspx
๗๔ เกณฑว์ ิธี (Protocol) เกณฑว์ ธิ ี๑ หรอื โปรโตคอล (Proto- col) เปรียบเหมือนกบั ภาษาสากล ของคอมพิวเตอร ์ซง่ึ โปรโตคอลจะ ทาํ ใหก้ ารสื่อสารและตดิ ตอ่ ระหวา่ ง คอมพิวเตอรแ์ ตล่ ะเครอื่ งเชอ่ื มโยง กนั ได ้ ไม่ว่าเคร่ืองคอมพิวเตอรท์ ่ี เชอื่ มถงึ กนั จะเป็ นคอมพิวเตอรร์ นุ่ เดยี วกนั หรอื ไม่ หากไม่มีโปรโตคอล ก า ร สื่ อ ส า ร บ น เ ค รื อ ข่ า ย ก็ จ ะ ไ ม่ สามารถเกิดขนึ ้ ได ้ และตรวจสอบ ขอ้ ผิดพลาดของการส่งและรบั ขอ้ มูล และแสดงผลการรบั ส่ง ขอ้ มูลเมื่อส่งและรบั กนั ระหว่าง เครอ่ื งสองเครอื่ ง การเช่ือมโยงเลเยอร์เป็นต่�าสุดชั้นในอินเทอร์ เน็ตโพรโทคอล เป็นกลุ่มวิธีการและการส่ือสารท่ี ดา� เนนิ การบนการเชอ่ื มโยงโฮสตเ์ ชอ่ื มตอ่ ทางกายภาพ กับเท่าน้ัน การเชื่อมโยงประกอบเครือข่ายทาง กายภาพ และทางตรรกะทีใ่ ชใ้ นการเชอื่ มตอ่ โฮสต์ หรอื โหนดในเครอื ข่ายและการเชื่อมโยงโพรโทคอล เป็นชดุ ของวิธีการและมาตรฐานที่ใช้งานระหว่าง โหนติดเครือข่ายของท้องถ่ินเท่าน้ัน เครือข่ายจุด หรอื การเชอ่ื มต่อเครอื ข่ายบริเวณกว้าง ตวั อย่างของโปรโตคอล (Protocol) ๑. โปรโตคอล HTTP หรอื Hypertext Transfer Protocol จะใชเ้ มอื่ เรยี กโปรแกรมบราวเซอร ์ (Bฺ rowser) เชน่ Microsoft Edge, Google Chorm, Firefox,Baidu เ ป ็ น ต ้ น จ ะ เ รี ย ก ดู ข ้ อ มู ล ห รื อ เ ว็ บ เ พ จ ๒. โปรโตคอล TCP หรือ Transfer Control Protocol คอื การตดิ ตอ่ ระหวา่ งบราวเซอรก์ บั เซริ ฟ์ เวอร ์ ตอ้ ง เปิดช่องสื่อสารระหว่างกัน ช่องทางการส่ือสาร ทั้ ง ส อ ง ข ้ า ง มี ช ่ อ ง ห ม า ย เ ล ข ก� า กั บ เ รี ย ก วา่ พอร์ต (Port) ซ่ึงได้รับการก�ากับดูแลด้วยโปรโต- ภาพท่ี ๑ ลาํดบั ชน้ั ของระบบInternet protocol suite (อินเทอรเ์ น็ตโพรโตคอลซวีท)
๑๔ - ๑๕ ภาพท่ี ๒ Simple Mail Transfer Protocol ให้อยู่ในรูปแพ็คเก็ตระดับ TCP และเปิดพอร์ตให้ระหว่างเคร่ือง บท ีท่๕ ประเภทของเทคโนโล ียการ ืส่อสาร เช่ือมโยงถึงกัน การเช่ือมระหว่างพอร์ตใช้วิธีน�าข้อมูลใส่ในแพ็ค- คอลหน่ึงที่มี ช่ือว่า TCP (Transfer Control Protocol) เกต็ IP แลว้ สง่ ดว้ ยโปรโตคอล IP ตอ่ ไป ทา� ใหเ้ ครื่องเซิรฟ์ เวอร ์ สามารถใหบ้ ริการเคร่อื งไคลแอนตไ์ ด้หลาย เครอ่ื งพร้อมกนั ปจั จบุ นั มโี ปรโตคอลในระดบั ประยกุ ตใ์ ชง้ านมากมาย ผพู้ ฒั นา จะก�าหนดข้ึนมา และถ้ายอมรับใช้งานอย่างกว้างขวางก็จะเป็น ๓ . อิ น เ ท อ ร ์เ น็ ต โ ป ร โ ต ค อ ล ห รื อ ไ อ พี มาตรฐาน นอกจากโปรโตคอลทกี่ ลา่ วมาขา้ งตน้ แลว้ ยงั มโี ปรโตคอล ตา่ ง ๆ อกี มากมาย เชน่ การโอนยา้ ยแฟม้ ระหวา่ งกนั ใชโ้ ปรโตคอล (Internet Protocol: IP) เปน็ ตวั กา� หนดแอดเดรสของ ชอื่ FTP หรอื File Transfer Protocol การโอนยา้ ยขา่ วสารระหวา่ ง คอมพวิ เตอรท์ เี่ รยี กวา่ เลขทอ่ี ยไู่ อพ ี (IP Address) อกี ตอ่ หนงึ่ การ กันก็ใช้โปรโตคอลช่ือ NNP หรือ Network News Transfer ทคี่ อมพวิ เตอรเ์ ครอ่ื งหนง่ึ สง่ ขอ้ มลู ไปยงั อกี เครอื่ งหนงี่ ไดถ้ กู ตอ้ ง เปน็ Protocol ปจั จบุ นั มกี ารประยกุ ตท์ างดา้ นมลั ตมิ เี ดยี มากขน้ึ จงึ มกี าร เพราะมโี ปรโตคอลทใี่ ชใ้ นการหาตา� แหนง่ ในกรณนี ใี้ ชอ้ นิ เทอรเ์ นต็ กา� หนดโปรโตคอล สา� หรบั การประยกุ ตน์ น้ั ๆ เชน่ การสง่ สญั ญาณ โปรโตคอล หรือท่ีเรยี กว่า IP (Internet Protocol) สว่ น IP มกี า เสยี งการสง่ วดี โี อ การทา� วดี โี อ คอนเฟอเรนซ ์ การสรา้ งอนิ เทอรเ์ นต็ รก�าหนดแอดเดรสของคอมพิวเตอร์ท่ีเรียกว่า เลขท่ีอยู่ไอพี (IP โฟน เปน็ ตน้ และยงั มโี ปรโตคอลทส่ี า� คญั สา� หรบั การสอบถามขอ้ มลู Address) ขา่ วสารระหวา่ งกนั ซงึ่ เปน็ โปรโตคอลทม่ี ปี ระโยชนม์ าก โปรโตคอล นม้ี ชี ือ่ ว่า ICMP หรอื Internet Control Message Protocol เช่น ๔ . โ ป รโ ต ค อ ล S M I P ห รื อ S i m p l e M a i l ถ้าต้องการรู้ว่าอุปกรณ์นี้ยังเช่ือมต่ออยู่ในเครืองข่ายหรือไม่ ก็ ใช ้ ICMP ตรวจสอบไดเ้ ชน่ กนั จะเหน็ ไดว้ า่ การใชเ้ ครอื ขา่ ยทไ่ี ดผ้ ล Transfer Protocol คอื การรบั สง่ จดหมายอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ ดใี นทกุ วันนี้ เปน็ ผลมาจากการพฒั นาโปรโตคอลต่าง ๆ ขึ้น และ บนเครือข่าย ผู้เขียนจดหมายจะใช้โปรแกรมเอดิเตอร ์ การใชง้ านอยา่ งใดอยา่ งหน่ึงจ�าเปน็ ตอ้ งผ่านการใช้งานโปรโตคอล (Editor) เพ่ือเขียนจดหมาย เม่ือเขียนเสร็จแล้วมีการจ่าหน้าถึง ตา่ ง ๆ หลายโปรโตคอลท�างานร่วมกัน แอดเดรสปลายทาง ขอ้ ความหรอื จดหมายฉบบั นนั้ จะรบั สง่ กนั ดว้ ย โปรแกรมรับส่งเมล์ท่ีใช้โปรโตคอล SMTP หรือ Simple Mail ๑. รงุ่ กานต ์ มูสโกภาส, ผิดๆ ถูกๆ ใชศ้ พั ทค์ อมพิวเตอร,์ Transfer Protocol (คือ โปรโตคอล ท่ีใช้ในการรับส่งจดหมาย เขา้ ถึงเม่ือ ๑๒ ธนั วาคม ๒๕๖๑ เชา้ ถึงจาก https://www.ku.ac. อิเล็กทรอนิกส์บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต) การรับส่งใน th/e-magazine/january47/it/com.html ระดับ SMTP จะก�าหนดให้เครื่องใดเครื่องหนึ่ง เป็นตัวเช่ือมกับ เคร่ืองอื่น ในฐานะท่ีเป็นตัวแลกเปล่ียนจดหมาย เรียกว่า Mail Exchange ตัวแลกเปล่ียนจดหมายจะตรวจสอบแอดเดรสของ จดหมาย และน�าส่งจนถึงปลายทางผู้รับ เช่นเดียวกับการ ประยุกต์อ่ืน การรับส่งจดหมายระหว่างเครื่องจะเปล่ียนจดหมาย
๗๕ ระบบ ไอพี แอดเดรส IP Address เปน็ ส่งิ ทท่ี ุกคนควรที่จะรจู้ ัก และทา� ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั (IP Address) IP Address ใหม้ ากยง่ิ ขน้ึ หลกั ใหญใ่ จความในการตงั้ เลข IP Address และเปน็ หลกั ทส่ี า� คัญไมว่ ่าระบบ Network น้ันจะเล็กหรือใหญ่กต็ าม คือตอ้ งไมต่ งั้ เลข IP Address ใหซ้ า้� กนั อย่างเดด็ ขาด ไอพี แอดเดรส (IP Address)หรอื Internet Protocol Ad- ความสาํ คญั ของ IP ADDRESS dress คือ หมายเลขท่ีระบุเพ่ือแยกแยะความแตกต่างของ เคร่อื งคอมพิวเตอร ์และอปุ กรณใ์ นเครอื ขา่ ยตา่ ง ๆ ท่มี ีการ เนือ่ งจากหมายเลข IP Address (ไอพีแอดเดรส) มคี วามสา� คัญ เช่อื มต่อในเครือข่ายเดียวกนั หรือจะเป็ นการเช่อื มต่อนอก ในการเช่ือมตอ่ ระบบเครือข่ายภายในหรอื เครือขา่ ยอนิ เทอร์เน็ตทใ่ี ช้ เครอื ข่ายกไ็ ด ้ ไอพี แอดเดรส เปรยี บไดด้ งั เลขท่ีบา้ นในการ กนั ทกุ วันน ้ี เพ่ือใหง้ า่ ยแกก่ ารตรวจสอบเหมายเลขของเครื่อง สา� หรับ ตงั้IP Address ท่จี ะตงั้ไม่ซาํ ้กนั ไม่ได ้เพราะถา้ ซาํ ้กนั จะทาํ ให ้ ผู้ดูแลระบบในแต่ละองค์กร ผู้มีส่วนเก่ียวข้องกับระบบเครือข่าย เกิดความสบั สนในการติดต่อส่ือสารภายในเครือข่าย จึง (Computer Network) หรือผทู้ มี่ คี วามสนใจอยากจะทราบ หรือตรวจ ตอ้ งมีหน่วยงานท่ีออกมากาํ หนดเร่ืองของการตงั้ค่า IP สอบเลข IP (Check IP Address) ตรวจสอบความเรว็ อินเตอรเ์ นต็ Address ขนึ ้มา (Speed Test ADSL) ตรวจสอบหมายเลขไอพ ี Public IP Address ปจั จบุ ันที่ก�าลงั ใชง้ านอยวู่ า่ เป็นหมายเลข ไอพแี อดเดรส คอื เลข IP หน่วยงานน้ีคือ องค์การก�าหนดหมายเลข Address อะไร อินเทอร์เน็ต (Internet Assigned Numbers Authority : IANA) ทา� หนา้ ท่ีจดั สรร IP Address การแบง่ Class ของเครอื ขา่ ย IP Address ทั่วโลก และให้หน่วยงานทะเบียนอินเทอร์เน็ต ประจา� ภมู ภิ าค (Regional Internet registry: RIR) IP Address แบ่งออกเป็น ๒ ส่วน คือ ส่วนที่บ่งบอกว่าเป็น ท�าหนา้ ทีจ่ ัดสรรกลุ่มเลขท่อี ยู่ IP Address ส�าหรบั หมายเลขเครือข่ายและหมายเลขเคร่ืองคอมพิวเตอร์ ซึ่งค่าของ IP ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตและหน่วยงานอ่ืน ๆ ที่ Address จะมกี ารก�าหนดคา่ ของ IP Address เปน็ ไบต์ (Byte) และ เกี่ยวข้องอีกทีหนึ่ง ก�าหนดค่าด้วยเลขฐานสิบ ตัวอย่างเช่น IP Address 202.28.8.1 เปน็ ต้น เลข IP Address ในปจั จบุ นั นมี้ อี ย ู่ ๒ แบบดว้ ย กันคอื IPv4 และ IPv6 ซ่งึ IP Address IPv4 น้ี IP Address สามารถแบง่ ออกเป็ นระดบั ชนั้ (Class) ถอื กา� เนดิ มาก่อนเปน็ แบบ ตัวเลข ๓๒ บิต ซ่งึ ใน ปัจจุบันก็ยังมีใช้งานอยู่แต่เน่ืองจากการใช้งาน ตา่ ง ๆ ๕ ระดบั คือ Class A, B, C, D และ E ซ่งึ ในแต่ละ Class อินเทอรเ์ นต็ ในปัจจุบนั ในเติบโตอย่างรวดเร็วท�าให้ จะมี หมายเลข IP จะมีทง้ั หมด ๓๒ บติ โดยแบง่ ออกเปน็ ๔ ฟิลด์ ตอ้ งมกี ารคดิ คน้ เลข IP Address ข้นึ มารองรบั น้นั แตล่ ะฟลิ ดจ์ ะม ี ๘ บติ เปน็ การกา� หนดหมายเลขของเคร่อื งเครอื ข่าย ก็คอื IPv6 ใช้ตวั เลข ๑๒๘ บิต พฒั นาข้นึ ใน ค.ศ. และหมายเลขของเครอื่ งคอมพวิ เตอร ์ รายละเอยี ดของแตล่ ะ Class มี ๑๙๙๕ และไดท้ า� ให้เป็นมาตรฐานใน อารเ์ อฟซ๑ี ดังน้ี ๒๔๖๐ เม่อื ค.ศ. ๑๙๙๘ ประโยชนข์ อง IP Address ในระบบ Network IP Address มีประโยชน์ ในระบบ Network อยา่ งมาก ดังที่เกรน่ิ ไปแลว้ ใน ขา้ งต้นว่า IP Address มคี วามสา� คัญมากในระบบ เครือขา่ ย เพราะเลข IP Address เปน็ เลขเฉพาะ อปุ กรณอ์ เิ ล็กทรอนิกส์ ซึ่งแตล่ ะเครือ่ งจะมเี ลข IP Address ที่ไม่เหมอื นกัน เพ่อื ไมใ่ หเ้ กิดความความ สบั สนในการติดต่อสื่อสารภายในเครอื ขา่ ย และยัง ชว่ ยใหผ้ ดู้ แู ลระบบเครอื ขา่ ย สามารถออกแบบสรา้ ง และควบคมุ การท�างานของเครือขา่ ยได้งา่ ยและไม่ สับสน
๑. Class A: หมายเลขของ IP Address เริม่ ต้ังแต ่ 1.0.0.0- แต่หมายเลข IP ด้านบนน้ีก็ยังถูกแบ่งออกเป็น ๑๔ - ๑๕ 127.255.255.255 ซ่ึงเหมาะสมส�าหรับเครือข่ายท่ีมีขนาดใหญ่ อกี ๒ ประเภทคือ IP ส่วนตัว (Private IP) และ เน่ืองจากสามารถรองรบั จะมเี ครอื ขา่ ยได ้ ๑๒๖ เน็ตเวิรค์ และใน IP สาธารณะ (Publish IP) โดย IP ส่วนตวั มไี ว้ แตล่ ะเครอื ข่ายสามารถมเี คร่ืองคอมพวิ เตอร์ได้ประมาณ ๑๖ ลา้ น ส�าหรบั ใชง้ านภายในองค์กรเทา่ นั้น ได้แก่ เคร่ือง ตัวอย่างเช่น ค่า IP Address ของ Class A เป็น 110.250.12.13 หมายถงึ เครอื ขา่ ย 110 หมายเลขเครอื่ ง 250.12.13 ๑. ไอพีส่วนตวั คลาส A ๒. Class B: หมายเลขของ IP Address เรมิ่ ต้งั แต ่ 128.0.0.0- เรม่ิ ตง้ั แต่ 10.0.0.0 ถึง 10.255.255.255 191.255.255.255 จะมีเครือขา่ ยขนาด ๑๖๓๘๔ เน็ตเวิรค์ และ เริ่มตง้ั แต ่ 255.0.0.0 ข้ึนไป จ�านวนเคร่ืองลกู ข่ายในเครือข่ายได้ ๖๔,๕๑๖ เครอ่ื ง ตวั อย่างเช่น ค่า IP Address ของ Class B เปน็ 150.150.15.15 หมายถึง เครือ ๒. ไอพีส่วนตวั คลาส B ข่าย 150.150 หมายเลขเครอ่ื ง 15.15 เริ่มต้ังแต่ 172.16.0.0 ถึง 172.31.255.255 ๓. Class C: หมายเลขของ IP Address เร่ิมตง้ั แต ่ 192.0.0.0- เรมิ่ ต้งั แต ่ 255.240.0.0 ข้ึนไป 223.255.255.255 จะมีจ�านวนเครือข่ายขนาด 2M+ เน็ตเวิร์ค และเคร่อื งลูกขา่ ยในแต่ละเครอื ข่ายได ้ ๒๕๔ เคร่ือง ตัวอย่างเชน่ ๓. ไอพีส่วนตวั คลาส C ค่า IP Address ของ Class C เป็น 222.200.100.15 หมายถึง หมายเลขเครอื ข่าย 222.200.100 หมายเลขเครอื่ ง 15 เรม่ิ ตงั้ แต ่ 192.168.0.0 ถงึ 192.168.255.255 เริ่มตง้ั แต ่ 255.255.0.0 ข้ึนไป โดยไอพีข้างต้น ๔. Class D: เป็นการส�ารองหมายเลข IP Address ช่วง ทก่ี ลา่ วมาน ้ี ถกู กา� หนดใหไ้ มส่ ามารถนา� ไปใชง้ าน 224.0.0.0-239.255.255.255 สา� หรบั การสง่ ขอ้ มลู แบบ Multicast บนเครอื ข่ายสาธารณะไดส้ �าหรบั IP สาธารณะมี ซง่ึ จะไมม่ กี ารแจกจ่ายใชง้ านท่วั ไปส�าหรบั บุคคลท่วั ไป ไว้ส�าหรับให้แต่ละองค์กร หรือแต่ละบุคคลใช้ใน การเชอื่ มตอ่ ระบบเครอื ขา่ ยเขา้ หากนั จากชว่ งของ ๕. Class E: เป็นการส�ารองหมายเลข IP Address ช่วง IPv4 ตง้ั แต ่ 1.1.1.1 ถงึ 255.255.255.255 ถา้ 240.0.0.0-255.255.255.255 ส�าหรับการทดสอบ และพฒั นา คอมพิวเตอร์ ๑ เครื่อง ใช้หนึ่งหมายเลข เช่น เครอ่ื งทีห่ น่งึ ใช้ 1.1.1.1 เคร่ืองทส่ี องใช ้ 1.1.1.2 ก็ จะประมาณได้ว่า มคี อมพิวเตอรท์ เี่ ช่ือมโยงอยใู่ น บท ีท่๕ ประเภทของเทคโนโล ียการ ืส่อสาร ระบบเครือข่ายไดท้ ้ังหมดประมาณ ๒๓๒ เครอื่ ง ซ่ึงเป็นตัวเลขท่ีเยอะมาก แต่ก็ยังเยอะไม่พอ เพราะว่า IPv4 ทีแ่ จกจ่ายใหเ้ ครือ่ งคอมพิวเตอร์ ทั่วโลกได้ก�าลังจะหมดลงไปแล้ว อีกไม่นาน อปุ กรณไ์ ฟฟา้ หรอื อปุ กรณส์ อื่ สารทกุ ประเภททจ่ี ะ ออกวางจา� หนา่ ยจะม ี IP Address ตดิ มาดว้ ยจาก โรงงาน หน่วยงานท่ีจดั สรร IP Address ใหใ้ น แถบ Asia Pacific คือ APNIC ผู้ให้บริการ อนิ เทอร์เน็ตหรอื ISP จะขอ IP จาก APNIC แล้ วน�ามาแจกจ่ายใหแ้ ก่ลกู ค้าของ ISP นน้ั ๆ อีก ต่อไป ๑. RFC : Request for Comments เป็ นเอกสารทาง ดา้ นเทคนิคหรือบนั ทึกท่ีเก่ียวของกบั การทํางานของ ระบบอินเตอรเ์น็ตเช่น Protocol, Procedure, Program หรือบนั ทึกการประชุม ซ่งึ บางส่วนจะไดร้ บั การคดั เลือกเป็ นมาตรฐานอินเตอรเ์น็ต
๗๖ เซริ ฟ์ เวอร ์ (Server) เซิรฟ์ เวอร ์ (Server) คือ เคร่อื งคอมพิวเตอรเ์ คร่อื งหลกั ในระบบเครอื ข่าย (network) หน่ึง ๆ ทาํ หนา้ ท่ีเป็ น ตวั ควบคุม หรอื ใหบ้ รกิ ารกบั คอมพิวเตอรเ์ คร่อื งอ่นื ท่ีเชอ่ื มต่อในเครอื ข่ายเดียวกนั ทงั้นีค้อมพิวเตอรเ์ คร่อื ง นีม้ีหนา้ ท่จี ดั การดแู ลวา่ คอมพิวเตอรเ์ คร่อื งใดขอใชอ้ ปุ กรณอ์ ะไร โปรแกรมอะไร แฟม้ ขอ้ มูลใด เพ่ือจะไดจ้ ดั การ ส่งต่อไปใหใ้ นขณะเดียวกนั คอมพิวเตอรน์ ีจ้ะเป็ นท่ีเกบ็ ขอ้ มูลและโปรแกรมท่ีคอมพิวเตอรอ์ ่ืน ๆ ในเครอื ข่าย สามารถเรยี กใชไ้ ดต้ ลอดเวลา โดยเคร่อื งเซิรฟ์ เวอรจ์ ะแบ่งเป็ น ๒ แบบ ดงั นี ้
๑. แบบ Rack จะมลี กั ษณะเปน็ กลอ่ งสเ่ี หลยี่ ม ๑๔ - ๑๕ ยาว วางซ้อนกนั ไดจ้ ึงลดพน้ื ทใี่ นการตดิ ตั้ง ทา� ให้ ประหยดั พนื้ ทข่ี องศนู ยข์ อ้ มลู หลกั (data center) ๒. แบบ Tower จะมีลักษณเหมือนกับ คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะทั่วไปที่ใช้ในบ้าน แต่จะมี ขนาดใหญ่กว่าแบบ Rack ส้ินเปลืองพ้นื ท่กี ารตดิ ตัง้ มากกวา่ แต่งา่ ยตอ่ การบ�ารุงรักษาและมรี าคา ถูกกวา่ ระบบปฏบิ ตั กิ ารทใี่ ชใ้ นเซริ ฟ์ เวอรม์ ี ๓ ระบบ ดังนี้ ๑. ลนี ุกซ ์(Linux) เปน็ ระบบปฏบิ ตั กิ ารแบบ เปดิ ซึง่ สามารถใชง้ านโดยไมเ่ สยี คา่ ใช้จ่าย มนี ัก พฒั นาอยทู่ วั่ โลก ซง่ึ ในชว่ งแรก ลนี กุ ซ ์ Linux เปน็ ภาพท่ี ๒ ระบบ Dos เพียงเคอร์เนิล (Kernel) หรือแก่นของระบบ ปฏบิ ตั ิการ ซงึ่ จะเปน็ ส่วนทอี่ ยรู่ ะดับลา่ งสุด และ การปอ้ นคา� สงั่ ทลี ะบรรทดั เพอ่ื ใหก้ ารใชง้ าน DOS บริการของเซิรฟ์ เวอร์นั้นมีหลากหลายดว้ ยกัน ใกลช้ ดิ กบั ฮารด์ แวรม์ ากทสี่ ดุ มหี นา้ ทหี่ ลกั ในการ ทา� ไดง้ า่ ยขนึ้ แต ่ Windows ไมใ่ ชร่ ะบบปฏบิ ตั กิ าร โดยสามารถยกตวั อย่างการท�างานได้ดงั ตอ่ ไปนี้ ติดต่อกับฮาร์ดแวร์ (Hardware) และจัดสรร จรงิ ๆ เน่อื งจากทา� งานอย่ภู ายใต้การควบคุมของ ทรพั ยากรของระบบ (Resources Management) DOS อีกท ี กลา่ วคอื จะต้องมกี ารตดิ ต้งั กอ่ นท่ีจะ ๑. Web server มหี น้าท่ีใหบ้ รกิ ารด้านการ เทา่ นน้ั ตอ่ มาไดม้ กี ารปรบั แตง่ และเพมิ่ ซอฟตแ์ วร์ ติดต้ังระบบปฏิบัติการ Windows และผู้ใช้จะ จัดการเว็บไซต์ (World Wide Web: WWW) พื้นฐานต่าง ๆ เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน เช่น สามารถเรียกใช้ค�าสง่ั ตา่ ง ๆ ทีม่ อี ยู่ใน DOS ได้ โดยโปรแกรมท่นี ิยมใช้เป็น Web server จะเป็น เพม่ิ ส่วนตดิ ตอ่ ผูใ้ ช ้ (Interface User) โปรแกรม โดยผ่านทาง Windows ซงึ่ จะงา่ ยกว่ามาก Apache web server หรือ IIS webserver จัดการไฟล์ โปรแกรมส�าหรับดูหนัง ฟังเพลง ๓. Unix ซ่ึงถือก�าเนิดที่สถาบัน Bell Labs ๒. Mail server มหี นา้ ทใี่ หบ้ ริการดา้ นการ โปรแกรมเว็บเบราวเ์ ซอร ์ เปน็ ต้น วตั ถปุ ระสงค์หลกั ทพี่ ฒั นาข้ึนมาเพื่อเป็นรปู แบบ รับส่งอีเมล์ ซ่ึงมีโปรแกรมหลากหลาย เช่น ๒. วนิ โดวส ์ (Windows) พัฒนาข้นึ โดย ส�าหรบั การเขียนซอฟแวรเ์ พื่อใชท้ า� งานในระบบ Postfix, Qmail บริษทั ไมโครซอฟต ์ เนอ่ื งจากความยากในการใช้ อน่ื ๆ แตล่ ะระบบกม็ กี ารขยายขอบเขตออกไปจน ๓. DNS server มีหน้าท่ีให้บริการด้านโด งานระบบ Dos กลา่ วคอื จะตอ้ งพมิ พข์ อ้ ความเพอ่ื ในที่สุดกลายเป็นระบบปฏิบัติการ โดยลักษณะ เมนเนม ที่จะค่อยเปลี่ยนช่อื เวบ็ ไซตท์ ต่ี อ้ งการให้ ป้อนค�าสั่งให้แก่คอมพิวเตอร์เพ่ือใช้งานต่าง ๆ ของ Unix คือใชง้ านดว้ ย ข้อความและเก็บข้อมลู เป็น IP Address โปรแกรมทน่ี ิยมใชค้ อื bind9 ท�าให้มกี ารพฒั นาซอฟต์แวร์ที่เรยี กวา่ Windows เป็นล�าดบั ชัน้ มีเครอื่ งมือในการออกคา� สงั่ การใช้ ทมี่ ลี กั ษณะเป็น GUI (Graphic-User Interface) งาน และสามารถทา� งานรวมกนั ๔. Database server มีหน้าท่ีให้บริการ ด้านการจัดการดูแลข้อมูลต่าง ๆภายในเว็บไซต์ ทนี่ า� รปู แบบของสญั ลกั ษณภ์ าพกราฟกิ เขา้ มาแทน ภาพท่ี ๒ ระบบปฏบิ ตั ิการณ ์ Linux หรือโปรแกรมส�าเร็จรปู ต่าง ๆ โปรแกรมทม่ี กี าร ใช้งานส่วนใหญ่จะเป็น MySQL, PostgreSQL, บท ีท่๕ ประเภทของเทคโนโล ียการ ืส่อสาร DB2 โดยประโยชน์หลัก ๆ ของเซิร์ฟเวอรน์ ั้นเป็น เคร่อื งคอมพิวเตอร์ทีค่ อยให้บริการกบั ผ้ใู ช้งาน ผา่ นเครอื ขา่ ยอนิ เทอรเ์ นต็ หรอื เครอื ขา่ ยภายใน ท่ี เข้ามาขอใช้บริการทุกที่ทุกเวลา โดยใช้งาน ทรพั ยากรรว่ มกันอย่างมปี ระสิทธภิ าพสูงสุด
๗๗ โฮสต ์ (Host) ภาพท่ี ๒ แสดง Host หรือ เคร่ืองคอมพิวเตอรต์ วั หลกั ในเครือข่าย ประเภทของโฮสตต์ ิง้ เวบ็ โฮสตงิ้ มหี ลายประเภท สา� หรบั ทพ่ี บไดบ้ อ่ ย ได้แก่ ๑. Shared Hosting คือการแบ่งพ้ืนท่ีใน เครอ่ื งเซฟิ เวอรม์ าใหเ้ ชา่ ซงึ่ ไมส่ ามารถรไู้ ดว้ า่ ขอ้ มลู ถกู แชรไ์ ปยงั ทใี่ ดบา้ ง บางครงั้ มกี ารระบจุ ากผใู้ ชง้ าน ว่า สามารถใช้พ้ืนทีไ่ ดเ้ ท่าไร มขี อ้ ด ี คือ ราคาไมส่ ูง และมีข้อจ�ากัด เช่น เว็บไซต์อาจดาว์นโหลดได้ช้า กวา่ โฮสตต์ ง้ิ ประเภทอน่ื มกั ประสบปญั หาการแยง่ พนื้ ทีใ่ ชง้ าน และไม่มีการปรับตง้ั ค่าใหเ้ ลือกมากนกั โฮสต ์(Host) คอื เคร่อื งคอมพิวเตอรเ์ คร่อื งหลกั ในเครอื ขา่ ย ท่ที าํ หนา้ ท่ี ๒. VPS หรอื Virtual Private Server ควบคุมคอมพิวเตอรเ์ คร่ืองอ่ืน ๆ ในเครือข่ายนนั้ทงั้หมด เป็ นท่ีเกบ็ เปน็ บรกิ าร Web Hosting อกี รปู แบบหนง่ึ ทนี่ า่ สนใจ โปรแกรมและขอ้ มูลพืน้ฐานท่ีคอมพิวเตอรใ์ นเครือข่ายจะเรียกใชไ้ ดใ้ น และมปี ระสทิ ธภิ าพสงู เมอื่ เทยี บกบั Shared Hosting เร่อื งการส่ือสาร ทวั่ ๆ ไป มลี กั ษณะของการเปน็ พน้ื ทขี่ นาดใหญ ่ กอ่ น ท่ีจะแบ่งออกแยกย่อย ขึ้นอยู่กับสัดส่วนของผู้ใช้ Web Hosting เป็นการจัดสรรพื้นท่ีให้กับ บคุ คลทไี่ มต่ อ้ งใชเ้ ครอื่ งมอื พเิ ศษใด ๆ และมกี ารเขา้ เชน่ การแบง่ พนื้ ทใี่ นเครอื่ งเซฟิ เวอร ์ เชน่ CPU หรอื เว็บไซต์ท่ีอยู่ในเครื่องแม่ข่ายคอมพิวเตอร์เชื่อมต่อ ชมน้อย สามารถหาไดง้ ่าย มักเปน็ Web hosting RAM ออกเป็นส่วน ๆ แล้วจึงติดตง้ั IP Address กับอินเทอร์เน็ตตลอด ๒๔ ช่ัวโมง เครื่องแม่ข่าย ทไ่ี มเ่ สยี คา่ ใชจ้ า่ ย แตม่ ขี อ้ บกพรอ่ ง คอื มกั จะบงั คบั จากนัน้ จงึ จะสามารถใชง้ านรว่ มกบั ซอฟแวร์ เป็นเคร่ืองคอมพิวเตอร์ท่ีมีประสิทธิภาพ มี ให้มีการโฆษณาลงในเว็บไซต์ หรือบางคร้ังจะม ี ฮาร์ดดิสก์ขนาดใหญ่ มีการจัดระเบียบของฮาร์ด หน้าต่างโฆษณาปรากฏข้ึนมาด้วย และอาจถูก ๓. Dedicated Server เป็นเซฟิ เวอรท์ ่ี ผู้ ไดร์ฟ แบ่งเป็นพื้นที่ให้เช่าส�าหรับผู้ที่ต้องการเป็น ยกเลิกบรกิ ารพ้นื ที่ไม่มีค่าใช้จ่ายได้ หรอื เสนอทาง บรกิ ารจะมอบเซฟิ เวอรแ์ กผ่ ใู้ ชเ้ พยี งรายเดยี ว ซงึ่ จะ เจา้ ของเวบ็ ไซตใ์ นโลกอินเทอรเ์ น็ต แตล่ ะเครือ่ งแม่ เลอื กใหจ้ า่ ยเพอื่ เอาโฆษณาออก บรกิ ารไมเ่ สยี คา่ ใช้ มคี วามเสถยี รและมคี วามปลอดภยั สงู และสามารถ ข่ายแต่ละเคร่ือง จะมีตัวเลข IP (Internet จา่ ยอกี ชอ่ งทางจะจดั สรรอยใู่ นเวบ็ ไซตใ์ หเ้ ป็นสว่ น รองรับการเข้ามาใช้งานในหน้าเว็บเดียวกันได้เป็น Protocol) ทไ่ี มซ่ า�้ กนั เปรยี บไดก้ บั เครอ่ื งแมข่ า่ ยเปน็ ขยายของเวบ็ ของเครอื่ งแมข่ า่ ย ตวั อยา่ งเชน่ www. จ�านวนมาก อพารต์ เมนต์ทม่ี เี ลขทีห่ อ้ งไม่ซ้�ากนั แตล่ ะหอ้ งเช่าก็ thewebhost.com/yourwebsite หากตอ้ งการทอี่ ยู่ คอื เว็บไซต์ แตล่ ะเว็บ และแต่ละอาคารอพารท์ เมน้ เช่น www.yourwebsite.com จะตอ้ งจ่ายเงินเพอื่ ๔. Reseller Hosting เป็นการท่ีให้ผู้ใช้ บริการรับเช่าเซิฟเวอร์แล้วจึงน�ามาแบ่งจ�าหน่าย ก็จะแสดงต�าแหน่งท่ีอย่ตู ามอาคารน้ัน ๆ ลงทะเบียนชอ่ื โดเมนเอง พนื้ ทใี่ นนามของผใู้ ชบ้ รกิ าร ซง่ึ เปน็ การบรกิ ารทค่ี รบ เมอ่ื เชา่ พนื้ ท่ีบนเครื่องแม่ขา่ ยแล้วนน่ั หมายถงึ การเลือก Host เพ่ือท�าเว็บ ต้องค�านึงถึงข้อ วงจร คอื การใหเ้ ช่าพนื้ ท ี่ และการออกแบบ แต่ผู้ ผ้ทู เ่ี ช่ามพี น้ื ท่ีบนอนิ เทอร์เนต็ ดังนั้นสามารถติดตอ่ กา� หนดเกย่ี วกบั เนอ้ื หาบนเวบ็ ไซต ์ หรอื ภาษาสครปิ ท์ ใช้บรกิ ารจ�าเปน็ ตอ้ งคดิ ค่าใช้จา่ ยเพื่อใหเ้ ป็นทพ่ี อใจ ผู้อื่นโดยใช้ที่อยู่ (ที่อยู่เว็บไซต์) ซ่ึงเป็นที่อยู่ของ ดงั น้นั ผเู้ ช่าควรศกึ ษาโยบายของ Hosting กอ่ นการ แก่ลูกค้ารายอื่น ๆ และจ�าเป็นต้องค�านึงถึงการ เคร่อื งแมข่ ่าย ราคาการเช่า Web hosting จะแตก ตัดสินใจ เพอื่ ดวู ่าเว็บทจี่ ะเปดิ ให้บรกิ ารน้ัน ไมข่ ดั บรกิ ารหลังการขาย ตา่ งกนั ตงั้ แตไ่ มเ่ สยี คา่ ใชจ้ า่ ยไปจนถงึ หลายพนั บาท ต่อนโยบายของ Hosting นนั้ กอ่ น ต่อปีขึ้นอยู่กับความต้องการ ส�าหรับเว็บไซต์ส่วน
๗๘ โดเมนเนม (Domain ๑๔ - ๑๕ Name) และดีเอน็ เอส เซริ ฟ์ เวอร ์ (DNS Server) * .gov คือ องค์กรของรัฐบาล * .mil คือ องค์กรทางทหาร ๒. โดนเมนเนม 3 ระดบั ประกอบ ดว้ ย www . ชื่อโดเมน . ประเภทของโดเมน . ประเทศ เชน่ www.prnu.ac.th, www.nectec. or.th, www.google.co.th ประเภทขององคก์ รท่พี บบอ่ ยคอื * .co คือ บรษิ ทั หรือ องค์กรพาณิชย์ * .ac คือ สถาบันการศกึ ษา * .go คอื องคก์ รของรฐั บาล * .net คอื องค์กรท่ีใหบ้ รกิ ารเครอื ขา่ ย * .or คอื องค์กรเอกชนท่ีไมแ่ สวงผลกา� ไร ตวั ย่อของประเทศท่ีตงั้ขององคก์ ร * .th คอื ประเทศไทย * .cn คือ ประเทศจีน * .us คือ ประเทศอเมรกิ า * .jp คือ ประเทศญ่ปี ุ่น * .es คือ ประเทศสเปน โดเมนเนม ถอื เปน็ สง่ิ สา� คญั ลา� ดบั แรกสา� หรบั เวบ็ ไซต ์ การตงั้ ชอื่ โดเมนเนมควรเปน็ ชอื่ ทเ่ี ฉพาะ เจาะจง และควรเปน็ ที่จดจา� ไดง้ า่ ย จะทา� ให้กลมุ่ เป้าหมายสนใจและจดจ�าชื่อน้ัน ๆ ส่งผลให้ เว็บไซต์น้ันเป็นที่นิยมมากข้ึน ตัวอย่างที่มัก โดเมนเนม หมายถงึ ชอ่ื เวบ็ ไซต ์ โดเมนเนม มีด็อท (dot : . ) อยู่หลาย พบเห็นได้บ่อย เช่น เครื่องมือค้นหา (Search บท ีท่๕ ประเภทของเทคโนโล ียการ ืส่อสาร ช่อื บลอ็ ก ซ่งึ เป็ นช่อื ท่ีตงั้ขนึ ้เพ่ือ ประเภทแตท่ นี่ ยิ มมากทสี่ ดุ นน้ั กค็ อื .com เพราะเปน็ Engine) Google ซง่ึ เปน็ เวบ็ ไซตท์ ค่ี นนยิ มมากใน ใหจ้ ดจําและนําไปใชง้ านไดง้ ่าย ดอ็ ทในยคุ แรก ๆ ทเี่ รม่ิ ใชก้ นั และงา่ ยตอ่ การจดจา� ปจั จบุ ัน เพราะทา� ใหส้ ามารถทา� ดชั นขี องเวบ็ ไซต์ ต่าง ๆ ได้โดยไมต่ อ้ งจดจา� ชือ่ เวบ็ ไซต์อ่ืน ๆ ทงั้ในการเขา้ ชมผ่านบราวเซอร ์ ประเภทของโดเมนเนม หลงั จากจดโดนเมนเนมเปน็ ทีเ่ รียบร้อยแล้ว ของผูใ้ ชท้ ่วั ไป รวมไปถึงผูด้ ูแล ส่ิงสา� คัญลา� ดับถัดมานั้นกค็ ือ โฮสตงิ้ (Hosting) ระบบโดเมนเนมซีสเทม (Domain แบง่ ไดเ้ ป็น ๒ ประเภท ได้แก่ หรอื ทเี่ ก็บขอ้ มูลเว็บไซต์น้ันเอง ซ่ึงโฮสต้ิงแต่ละที่ name system) ท่ีสามารถแกไ้ ข จะม ี DNS หรอื Name Server ท่ที างผูใ้ ห้บรกิ าร ไอพีแอดเดรสของช่อื โดเมนเนม ๑. โดนเมนเนม 2 ระดบั ประกอบ โฮสตงิ้ จะเปน็ คนกา� หนดและแจง้ ใหท้ ราบเพอ่ื เอา นนั้ ๆ ไดท้ นั ที โดยท่ีผูใ้ ชท้ ่วั ไปไม่ ด้วย www . ช่ือโดเมน . ประเภทของ ไปใส่ให้โดเมน จาํ เป็ นตอ้ งทราบ หรอื จดจาํ ไอพี โดเมน เชน่ www.nbtc.go.th ประเภทของโดเมน คอื ประเภทขององค์กรทพี่ บบอ่ ย มีดงั ต่อไปนี้ * .com คอื บริษัท หรือ องค์กรพาณิชย์ แอดเดรสท่ีมีการเปล่ียนแปลง * .org คอื องคก์ รเอกชนที่ไม่แสวงผลก�าไร และเครอ่ื งคอมพิวเตอรท์ ท่ี าํ หนา้ ท่ี * .net คือ องคก์ รทเ่ี ปน็ เกตเวย ์ หรอื จดุ เชอื่ ม ตอ่ เครอื ขา่ ย เผยแพร่เวบ็ ไซต ์ จะมีโดเมนเนม * .edu คอื สถาบันการศกึ ษา เฉพาะไมซ่ าํ ้กบั ใคร
๗๙ HTML, Java, PHP, ASP HTML (HyperText Markup Language) คือ ภาษาคอมพิวเตอรท์ ่ี ออกแบบมา เพ่ือใชใ้ นการเขยี นเวบ็ เพจ ถกู เรยี กดผู า่ นเวบ็ บราวเซอร ์เร่มิ พฒั นาโดย ทิม เบอรเ์ นอรส ์ ลี (Tim Berners Lee) ในปีค.ศ. ๑๙๙๐ เป็ นภาษามาตรฐานสากล ท่มี ีลกั ษณะของโคด้ กลา่ วคอื จะเป็ นไฟลท์ ่ีเกบ็ ขอ้ มูลท่ีเป็ นตวั อกั ษร ในมาตรฐานของรหสั แอสกี (ASCII Code) โดยเขี ยนอยู่ในรปู แบบของเอกสารขอ้ ความ จงึ สามารถกา� หนดรปู แบบและโครงสรา้ งไดง้ า่ ย น�าเสนอข้อมูลแบบผสมผสานในการส่ือสารแบบ World-Wide-Web :WWW (Web) ซง่ึ เปน็ การเชอื่ ม ตอ่ เครอื ขา่ ยของเครอื่ งคอมพวิ เตอรท์ ว่ั โลก (Internet) รปู แบบหนง่ึ ขอ้ มลู ในรปู แบบตา่ ง ๆ ไมว่ า่ จะเป็น ข้อความ รปู ภาพ เสียง ภาพเคลื่อนไหว หรืออ่ืน ๆ จะถกู เชอ่ื มโยงเขา้ หากนั ดว้ ยชดุ คา� สงั่ ตา่ ง ๆ เพอื่ ให้ แสดงผลออกมาคลา้ ยกบั สงิ่ พมิ พ ์ สไลด ์ หรอื แบบ มลั ตมิ เี ดยี ซง่ึ เปน็ ภาษาคอมพวิ เตอรร์ ปู แบบหนง่ึ ท่ี มีโครงสร้างการเขียนโดยอาศัยตัวก�ากับ (Tag) ควบคุมการแสดงผลข้อความ รูปภาพหรือวัตถุอื่น ๆ ผา่ นโปรแกรมบราวเซอร ์ แตล่ ะ Tag อาจจะมี ส่วนขยายท่ีเรียกว่า Attribute ส�าหรับระบุหรือ ควบคมุ การแสดงผลของเว็บไดด้ ว้ ย HTML ๕ คอื ภาษามารก์ อพั ที่ใชส้ า� หรบั เขยี นเวบ็ ไซต ์ ซง่ึ HTML ๕ นเ้ี ปน็ ภาษาทถ่ี กู พฒั นา ต่อมาจากภาษา HTML และพัฒนาข้ึนมาโดย WHATWG (The Web Hypertext Application Technology Working Group) โดยได้มีการปรบั เพ่มิ Feature หลากหลายเพอ่ื ใหผ้ ู้พัฒนาสามารถ ใช้งานได้ง่ายมากย่ิงข้ึน โดยเว็บไซต์ท่ีสร้างจาก ภาษา HTML ๕ สามารถแสดงผลได้ทุก เว็บ บราวเซอร ์ อีกทงั้ มีการสนับสนนุ สอ่ื ต่าง ๆ เชน่ ภาพ เสียง วดิ โี อ หรอื สือ่ มลั ติมเี ดยี ต่าง ๆ โดยไม่ ต้องใช ้ โปรแกรม Flash เป็นส่วนขยายเพ่อื เปดิ ใช้ งาน ประกอบกบั HTML ๕ เปน็ ภาษาสคริปต์ใหม่ ท่สี นั้ กวา่ HTML ในรปู แบบเดิม
Java หรอื Java programming language คอื ๑๔ - ๑๕ ภาษาโปรแกรมเชิงวตั ถ ุ พฒั นาโดยคณะวศิ วกรของ เจมส ์ กอสลงิ ท่ี บรษิ ทั ซนั ไมโครซสิ เตม็ ส ์ ภาษานม้ี จี ดุ ประสงคเ์ พอื่ ใชแ้ ทนภาษาซพี ลสั พลสั C++ โดยรปู แบบทเี่ พิม่ เตมิ ข้นึ คลา้ ยกบั ภาษาอ็อบเจกต์ทฟี ซ ี (Objective-C) เดมิ เรยี กว่า ภาษาโอก๊ (Oak) ซงึ่ ต้ังช่ือตามต้นโอ๊ก ใกล้ทีท่ า� งานของ เจมส ์ กอสลงิ ต่อมาเปลยี่ นช่อื เป็น จาวา ซ่งึ เป็น ชอ่ื กาแฟแทน จดุ เดน่ ของภาษา Java อยทู่ ผ่ี เู้ ขยี นโปรแกรมสามารถ ใช้หลักการของ Object-Oriented Programming มาพัฒนา โปรแกรมของตนดว้ ย Java ได ้ ภาษา Java เป็นภาษาส�าหรับเขียนโปรแกรมท่ีสนบั สนนุ การเขยี น โปรแกรมเชิงวัตถุ ( OOP : Object-Oriented Programming) โปรแกรมทเ่ี ขยี นขน้ึ ถกู สรา้ งภายในคลาส ดงั นน้ั คลาสคอื ทเี่ กบ็ เมท อด (Method) หรือพฤตกิ รรม (Behavior) ซง่ึ มีสถานะ (State) และรปู พรรณ (Identity) ประจ�าพฤติกรรม (Behavior) ภาพท่ี ๒ ภาพท่ี ๔ บท ีท่๕ ประเภทของเทคโนโล ียการ ืส่อสาร PHP (Personal Hypertext Processor) คือ OS หรอื Risc OS อยา่ งดปี ระสทิ ธภิ าพเนอ่ื งมาจาก PHP เปน็ สรปิ ต์ ภาษาท่นี ยิ มในการนา� มาใชเ้ ขยี นสคริปต์ Server Side Script และ ทตี่ อ้ งทา� งานบนเซริ ฟ์ เวอรด์ งั นนั้ คอมพวิ เตอรท์ ใ่ี ชส้ า� หรบั เรยี กคา� สง่ั เปน็ Open Source ทพี่ ฒั นาขนึ้ จากพ้ืนฐานของภาษาโปรแกรมมงิ่ PHP จงึ จา� เปน็ ตอ้ งตดิ ตง้ั โปรแกรมประเภทเวบ็ เซริ ฟ์ เวอรไ์ วด้ ว้ ยเพอื่ ชนดิ อ่ืน ๆ เช่น C, C++ และ Perl ทา� ให้มีลักษณะเดน่ ของภาษา ใหส้ ามารถประมวลผล PHP ได้ ตน้ แบบแตล่ ะชนดิ รวมกนั อย ู่ ผใู้ ชท้ วั่ ไปสามารถ Download Source Code ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายจุดประสงค์ที่ส�าคัญของภาษา PHP ASP (Active Server Page) เปน็ เทคโนโลยที ่ที า� งาน คอื การช่วยให้นกั พฒั นาเวบ็ เพจสามารถเขยี นเว็บเพจทีเ่ ปน็ แบบ ทางฝง่ั ดา้ นเซริ ฟ์ เวอร ์ ทถ่ี กู ออกแบบมาใหง้ า่ ยตอ่ การพฒั นาแอพพลิ พลวตั ิ (Dynamic) ได้อยา่ งรวดเร็ว กอปรกับความสามารถท�างาน เคช่ันผ่านเวบ็ เซิรฟ์ เวอร์ส�าหรบั นักพฒั นาเวบ็ ไซต์ การใชง้ าน ASP ได้ในระบบปฏบิ ตั กิ ารทีต่ ่างชนดิ กัน เชน่ Unix, Windows, Mac, สามารถกระทา� ไดโ้ ดยเขยี นคา� สง่ั หรอื สครปิ ตต์ า่ ง ๆ ในรปู ของเทก็ ซ์ ไฟลธ์ รรมดาทั่ว ๆ ไป แลว้ นา� มาเกบ็ ไวท้ ีเ่ ซริ ์ฟเวอร ์ เมือ่ มีการเรียก ภาพท่ี ๓ ใชง้ านจากบราวเซอร์ ไฟล์เอกสาร ASP กจ็ ะถูกแปลโดย Server Interpreter แลว้ สง่ ผลทไ่ี ดส้ ง่ กลบั ไปเปน็ ภาษา HTML ใหบ้ ราวเซอร์ ที่เรียกดังกลา่ ว เน่ืองจาก ASP สามารถรองรบั ไดห้ ลายภาษา เชน่ VBScript Jscript Perl และภาษาสครปิ ต์อน่ื ๆ ดงั น้นั นกั พัฒนาเว็บไซต์จงึ ไม่มคี วามจ�าเป็นตอ้ งมีความร้หู รือตอ้ งศึกษาในทุกภาษาเนอ่ื งจาก ASP ไดถ้ กู ออกแบบมาใหข้ น้ึ กบั ความรขู้ องนกั พฒั นาเวบ็ ไซตน์ น่ั เอง การทา� งานของโปรแกรม ASP นน้ั จะทา� งานอยทู่ ฝี่ ง่ั ของ Server เท่าน้ันจึงเรียกว่าเป็นการท�างานแบบ Server Side ซ่ึงจากการ ท�างานทางฝ่ัง Server ของ ASP น้นั ทา� ให้ Web Browser ของ ฝั่ง Client จะท�าหน้าท่ีเพียงรับผลลัพธ์ที่ได้จากการท�างานทางฝั่ง Server เท่านั้น
๘๐ Open Source (Linux) ภาพท่ี ๒ ระบบปฏบิ ตั ิการ Linux ความสมั พันธข์ องโปรแกรมในการท�างาน เชน่ ถ้า ติดต้ังโปรแกรม Linux จะท�าการตรวจสอบว่า โปรแกรมน้นั มีการเรียกใชง้ านโปรแกรมอื่นทา� งาน ด้วยหรือไม่ นอกจากนี้ถ้าท�าการติดต้ังหรือลบ โปรแกรมออกจากระบบ ไม่จ�าเป็นต้องเปิดเคร่ือง ใหม่ สามารถทา� งานต่อไปไดท้ ันที ๓. สนบั สนุนฮารด์ แวรท์ งั้เกา่ และใหม่ เทคโนโลยีของอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์มีการเปลย่ี น แปลงไปอยา่ งรวดเรว็ ระบบปฏบิ ตั กิ ารโดยสว่ นใหญ่ มกั จะออกมาเพอ่ื รองรบั ประสทิ ธภิ าพการทา� งานของ ฮาร์ดแวร์ที่พัฒนาข้ึน จนท�าให้บางคร้ังต้องการ อัพเกรดเคร่ืองตาม แต่ส�าหรับ Linux จะยังคง สนบั สนนุ ฮาร์ดแวร์เกา่ ใหส้ ามารถใช้งานได ้ โดยจะ เพม่ิ สว่ นของการสนบั สนุนฮาร์ดแวรต์ ัวใหม่ลงไป เทา่ นั้น ท�าให้ไม่จ�าเปน็ ตอ้ งเปลย่ี นฮารด์ แวร์ซ่ึงช่วย ประหยัดค่าใชจ้ า่ ยลงไปได้มาก ๔ . L i n u x ก บั ร ะ บ บ เ ค รื อ ข่ า ย ลีนุกซ์สามารถใช้เป็นเซิร์ฟเวอร์ในระบบเครือ ขา่ ยรว่ มกบั เครอ่ื งไคลเอนท ์ (Client) ซงึ่ ตดิ ตงั้ ระบบ ปฏิบัติการอื่นได้ นอกจากนี้ Linux ยังสนับสนุน ลีนุกซ ์ (Linux) คือ ระบบปฏิบตั ิการหน่ึงมีความคลา้ ยคลึงกบั ระบบ โปรโตคอลในการทา� งานกบั ระบบเครอื ขา่ ยมากมาย ปฏบิ ตั ิการ Dos ของ Microsoft Windows หรอื ยูนิค (Unix) โดยเป็ น อยา่ งเชน่ TCP/IP , DNS , FTP ระบบปฏิบตั ิการท่ีสามารถประยุกตก์ ารใชง้ านไดใ้ นหลายโปรแกรมใน ปัจจุบันมีการน�าระบบปฏิบัติการลีนุกซ์ไป กลุ่มของ GNU (GNU’s Not UNIX) ประกอบกบั ลนี ุกซเ์ ป็ นระบบปฏบิ ตั ิ ประยกุ ตเ์ ปน็ ระบบปฏบิ ตั กิ ารสา� หรบั งานดา้ นตา่ ง ๆ การท่ีไม่มีค่าใชจ้ า่ ย จงึ เป็ นท่ีนิยมในกลุ่มผูพ้ ฒั นาซอฟแวร ์ เช่นงานด้านการค�านวณทางวิทยาศาสตร์ใช้เป็น ผเู้ ริ่มพฒั นาลนิ กุ ซ ์ คอื ลินุส โตรว์ ัลดส์ (Linus ไมม่ คี า่ ใชจ้ า่ ยนนั้ อกี เหตผุ ลหนงึ่ มาจาก การทา� งาน สถานีงาน สถานบี รกิ าร อนิ เทอรเ์ นต็ อินทราเนต็ Torvalds) โดยแรกเร่ิม ริชาร์ด สตอลแมน ของระบบปฏบิ ตั กิ ารที่มปี ระสทิ ธิภาพสงู เชน่ หรือใช้ใน การเรียนการสอนและการท�าวิจัยทาง คอมพวิ เตอรใ์ ชพ้ ัฒนาโปรแกรมเนือ่ งจาก มเี คร่อื ง (Richard Stallman) ไดก้ ่อต้งั โครงการกะน ู ขึ้นใน มือทห่ี ลากหลาย เชน่ โปรแกรมภาษาซี(C) ซพี ลสั ป ี พ.ศ. ๒๕๒๖ จุดม่งุ หมายโครงการคือ ต้องการ ๑.ความปลอดภยั ในการใชง้ าน พลัส (C++) ปาสคาล (Pascal) ฟอร์แทรน พฒั นาระบบปฏบิ ตั กิ ารคลา้ ยยนู กิ ซท์ เ่ี ปน็ ซอฟตแ์ วร์ ลีนุกซ์ จะมีการตรวจสอบโดยผู้ใช้ต้องท�าการ เสรีทั้งระบบ ในปีพ.ศ. ๒๕๓๓ โครงการกะนูมี ป้อนชื่อและรหัสผ่าน เพื่อแสดงสิทธิในการใช้งาน (Fortran) ลิสป์ (Lisp) โปรล็อก(Prolog) เอดา สว่ นโปรแกรมทจ่ี า� เปน็ สา� หรบั ระบบปฏบิ ตั กิ ารเกอื บ (หรอื ท่ีเรยี กวา่ การ Log in) ให้ถูกตอ้ งจึงจะเขา้ ใช้ (ADA) มีภาษาสคริปต์ เชน่ เชลล์ (Shell) บาสช์ เชลล์ (Bash Shell) ซีเชลล ์ (C Shell) คอร์นเชลล์ ครบทง้ั หมด ไดแ้ ก ่ คลงั โปรแกรม (Libraries) คอม งาน ลีนุกซ์ ได้ (Korn Shell) เพริ ล์ (Perl) พายตนั (python) TCL/ ไพเลอร ์ (Compiler) โปรแกรมแกไ้ ขขอ้ ความ (Text TK นอกจากนี้ยังมีโปรแกรมประยุกต์ในสาขาต่าง Editor) และเปลอื กระบบยนู ิกซ ์ (Shell) ซงึ่ ขาดแต่ ๒.เสถยี รภาพในการทาํ งาน เพราะมีเสถียรภาพในการท�างานสูง ปัญหา ๆ อีกมากมาย โดยข้อมูลของโปรแกรมเหล่านี้ได้ เพียงเคอรเ์ นล (Kernel) เท่าน้นั ระบบล่มในระหว่างท�างานจะไม่ค่อยมีให้พบ โดย รวบรวมไวท้ ่ี Linux Software Map (LSM) นอกจากความนยิ มในระบบปฏบิ ตั กิ ารลนี กุ ซ ์ ที่ ความสามารถพเิ ศษของลีนกุ ซ์ อยู่ท่กี ารตรวจสอบ
2 Server will generate a cookie on the recipient of a valid user-id and password Submit User-id 1 and Password ๑๔ - ๑๕ ๘๑ คุกกี ้ Web Browser 3 Server sends cookie (Cookies) to web browser 5 Web page Request (request, cookie) 6 If cookie matched, send response web page appended with new cookie. 74 Web Server Store the cookie in 6 Server matches cookie received cookie database. with the stored one’s. ภาพท่ี ๑ Cookie Repository การนาํ ไปใช ้ ๑. คุกกีเ้พ่ือการทาํ งาน คุกก้ีเหลา่ น้ีมคี วามจา� เปน็ สา� หรบั การทา� งานของแพลตฟอรม์ 1 ยกตวั อย่าง เชน่ คุกกี ้(Cookie) เป็ นไฟลข์ อ้ มูลขนาดเลก็ ซ่งึ คกุ กที้ ช่ี ว่ ยใหผ้ ใู้ ชง้ านสามารถเขา้ สรู่ ะบบบญั ชผี ใู้ ช ้ ชว่ ยใหผ้ ใู้ ชง้ านสามารถดา� เนนิ การ ถูกเกบ็ ไวท้ ่ีเวบ็ บราวเซอร ์ (Web browser) ส่ังซ้ือสินค้าบนแพลตฟอร์มได้อย่างเสร็จสมบูรณ์ คุกก้ีที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถใช้ ฟงั ก์ชันตา่ ง ๆ บนแพลตฟอรม์ ได้ หากปดิ การใช้งานคกุ กี้ประเภทน ้ี ผู้ใชง้ านเหล่าน้ี ของคอมพิ วเตอรห์ รืออุปกรณเ์ คล่ือนท่ี อาจไม่สามารถใชง้ านแพลตฟอรม์ ไดอ้ ย่างเตม็ ที่ เป็ นขอ้ มูลชนิดต่าง ๆ เช่น ขอ้ มูลการเขา้ ถงึ เว็บไซต ์ หรือขอ้ มูลส่วนตวั ท่ีไดม้ ีการลง ๒. คุกกีเ้พ่ือการวิเคราะห/์ แสดงผลการทาํ งาน คกุ กเ้ี หลา่ นชี้ ว่ ยใหส้ ามารถนบั จา� นวนผเู้ ขา้ ชมและดวู ธิ กี ารทผ่ี เู้ ขา้ ชมยา้ ยไปใชง้ าน ทะเบียนกบั เวบ็ ไซตน์ นั้ ๆ ส่วนตา่ ง ๆ ของแพลตฟอร์ม เช่น การใช้ Google Analytics ในการรวบรวมและ ดงั นนั้ เวบ็ ที่มกี ารบันทึกขอ้ มูลหรือมกี ารลงทะเบียน ถา้ เข้าไป วิเคราะห์ข้อมูล เพื่อใช้ในการปรับปรุงวิธีการท�างานของแพลตฟอร์ม และพัฒนา ยงั เวบ็ ไซต์นน้ั ๆ อีก ผใู้ ช้จะสามารถเขา้ ถึงเว็บไซต์โดยไม่ตอ้ งเข้าสู่ ประสบการณ์ของผู้ใช้ให้ดีย่ิงขึ้น คุกก้ีประเภทน้ีจะไม่สามารถระบุตัวตนหรือข้อมูล ระบบอีกครง้ั เน่ืองจากเว็บไซตน์ น้ั ๆ ได้เขา้ มาอ่านไฟล์ คกุ ก ี้ ท่ไี ด้ สว่ นตัวได ้ ดังน้นั ความเป็นสว่ นตวั จะได้รบั การคุ้มครองเปน็ อย่างดี บนั ทึกไว ้ แต่มีขอ้ เสีย คอื โปรแกรมจ�าพวกสปายแวร์ (Spyware) สามารถลกั ลอบเกบ็ ขอ้ มลู และอาจสง่ จดหมายขยะ หรอื หนา้ ตา่ ง ๓. คุกกีเ้พ่ือใหไ้ ดร้ บั ประสบการณท์ ่ีดีขนึ ้ เวบ็ ไซตอ์ ตั โนมตั เิ กย่ี วกบั สนิ คา้ หรอื แนบมาดว้ ย ในปจั จบุ นั เวบ็ ไชต์ คกุ ก้ีเหล่าน้ถี กู ใชเ้ พอ่ื ให้แพลตฟอรม์ จดจา� ผใู้ ชง้ านได้เม่อื กลบั มาใชง้ าน ท่ีน่าเช่ือถือ จะมีการเข้ารหัสข้อมูลในคุกกี้ท�าให้ไม่ต้องกังกลเร่ือง แพลตฟอร์ม คกุ กเ้ี หล่านชี้ ว่ ยปรบั เปลย่ี นเน้อื หาให้เหมาะกบั ผู้ใชง้ าน ทักทายด้วยชื่อ ของผใู้ ช้งาน และจดจ�าการตั้งคา่ การใชง้ านของผใู้ ช้งาน สปายแวร ์ โดยคุกก ี้ แบง่ ออกเปน็ ๒ ประเภทคอื ๑. คุกกขี ้องบุคคลท่ีหน่ึง คือ คกุ กี้ทีเ่ ว็บไซต์ของผใู้ ช้งาน ๔. คุกกีเ้พ่ือการโฆษณา เป็นผสู้ รา้ งขนึ้ เว็บไซต์จะแสดงอยใู่ นแถบทอ่ี ยเู่ วบ็ คุกกี้เหล่านี้บันทึกการเข้าชมเว็บไซต์ของผู้ใช้งาน หน้าเว็บไซต์ท่ีผู้ใช้งานเข้าชม และวธี กี ารใช้แพลตฟอรม์ ของผูใ้ ช้งาน จะมกี ารใชข้ ้อมูลนีเ้ พ่อื ทา� ให้โฆษณาของท่ี ๒. คุกกขี ้องบุคคลท่ีสาม คอื คกุ กี้ทีเ่ ว็บไซต์อื่น ๆ เป็นผู้ แสดงในแพลตฟอรม์ อนื่ (โดยผใู้ หบ้ รกิ ารโฆษณาบคุ คลทสี่ าม) มคี วามสอดคลอ้ งกบั บท ีท่๕ ประเภทของเทคโนโล ียการ ืส่อสาร สร้างข้ึน เวบ็ ไซตเ์ หลา่ น้ีเปน็ เจา้ ของเน้อื หาบางอย่าง เชน่ โฆษณา ผใู้ ช้งานมากขน้ึ และอาจแบ่งปัญขอ้ มลู น้กี ับบคุ คลทีส่ ามเพือ่ วตั ถปุ ระสงคน์ ี้ ตัวอยา่ ง หรอื รูปภาพท่ผี ใู้ ชง้ านเห็นในหนา้ เวบ็ ทเ่ี ขา้ ชม เช่น การแสดงโฆษณาที่เก่ียวข้องให้แก่ผู้ใช้งานโดยอ้างอิงจากประวัติการเข้าชม แพลตฟอรม์ คกุ กปี้ ระเภทนจี้ ะไมส่ ามารถระบตุ วั ตนหรอื ขอ้ มลู สว่ นตวั ได ้ ดงั นน้ั ความ เป็นส่วนตวั ของผใู้ ช้งานจะได้รบั การคมุ้ ครองเป็นอยา่ งดี ไฟล์คุกกี้เป็นไฟล์ท่ีมีประโยชน์ต่อการใช้งาน แต่ก็สามารถส่ง ผลเสยี ตอ่ ผใู้ ช้งานไดเ้ ช่นกนั การไมก่ า� จดั ไฟล์คกุ ก้ี อาจเกดิ ความ วิธีการจดั การ คุกกี ้ เสีย่ งต่อการเข้าถงึ ข้อมูลสา� คัญ เชน่ ชอ่ื บัญชีผู้ใชง้ านและรหสั ผา่ น แมว้ า่ เวบ็ บราวเซอร ์ (Web Browsers) สว่ นมากจะไดร้ บั การตง้ั ไวใ้ หย้ อมรบั คกุ ก้ี สปายแวร์อาจท�าการลักลอบเก็บข้อมูลไปใช้ในทางอ่ืนก่อให้เกิด โดยอตั โนมตั ิ เปลย่ี นแปลงการตงั้ คา่ เพอ่ื สกดั กน้ั คกุ ก ี้ หรอื แจง้ เตอื นเมอ่ื มกี ารสง่ คกุ กี้ ความเสยี หายตอ่ บคุ คลผเู้ ปน็ เจา้ ของบญั ชนี น้ั ๆ ได ้ ทง้ั นผ้ี ใู้ หบ้ รกิ าร เขา้ มาทอ่ี ปุ กรณข์ องผใู้ ชง้ าน การปฏเิ สธ ยอมรบั หรอื เอาคกุ กจ้ี ากไซตอ์ อกไปในเวลา เว็บไซตก์ ม็ กี ารออกนโยบาย เพื่อป้องกนั เพอ่ื ความโปรง่ ใสและน่า ใดกไ็ ด ้ ผใู้ ชค้ วรศกึ ษาการกา� หนดการใชง้ านคกุ กข้ี องผใู้ ชง้ านโดยดจู าก การตงั้ คา่ ของ เชอ่ื ถือ เช่น Apple หรอื Linkedin ท่ีมนี โยบายในการก�าจดั ไฟล์ เว็บบราวเซอร์ ทัง้ นหี้ ากปดิ การใช้งานคุกกี้ หรอื เอาคกุ กอ้ี อกไป คุณลกั ษณะของบาง คกุ ก้ี อตั โนมตั เิ ปน็ รายเดอื น หรอื รายปอี ยา่ งไรกต็ ามกค็ วรลบคกุ กี้ อยา่ งไซตอ์ าจจะไมท่ า� งานตามวตั ถปุ ระสงคท์ กี่ า� หนดไว ้ เชน่ ไมส่ ามารถเขา้ เยย่ี มพน้ื ท่ี ผ่านทางเว็บเบราว์เซอร์ด้วย ไม่ควรปล่อยให้คุกก้ีท�าการสุ่มบัญชี บางส่วนของไซต์ หรือไมไ่ ดร้ บั ขอ้ มูลทจ่ี ัดใหเ้ ป็นการเฉพาะตวั ออนไลนข์ องผใู้ ชง้ าน
๘๒ ขนั้ ตอนวธิ ี (Algorithm) ขนั้ตอนวธิ ี (Algorithm) คอื กระบวนการรการแกป้ ญั หาท่เี ป็ นการอธิบายขนั้ตอนออกมาอยา่ งชดั เจน เป็ นตน้ วา่ นาํ เขา้ ตวั แปรอะไร แลว้ จะตอ้ งแสดงออกมาในรปู แบบของผลลพั ธใ์ ดบา้ ง การบวนการดงั กลา่ วเป็ นกระ บวนการท่ีตอ้ งแสดงขนั้วิธีอย่างละเอียด การนาํ ขนั้ตอนวิธีไปแกป้ ัญหาไม่ไดเ้ ป็ นการกาํ หนดรูปแบบการแก ้ ปัญหาเฉพาะกบั การเขยี นโปรแกรมคอมพิวเตอรเ์ พียงอยา่ งเดยี ว แตย่ งั สามารถนาํ ไปใชง้ านในองคก์ รระดบั ต่าง ๆ ดว้ ย เร่มิ ต้น Snort Sensor Honeyd อา่ นค่าไฟล์Config ตรวจสอบไฟล์ Yes อา่ นคา่ Rule Config อ่านคา่ Signature ตง้ั ค่า Windows No ตรวจสอบการ Yes ต้งั ค่า Port ตรวจสอบข้อมลู No ตง้ั ค่า Port Yes ตามกฎ Rule ตรวจสอบการ Yes ตัง้ คา่ IP Address No ตรวจสอบข้อมลู No No ตง้ั คา่ IP Address ตาม Signature จำลองเครอื ขา่ ย Yes เกบ็ Log และ Alert เสมอื น ลงใน Database แจง้ เตอื นผ่านโปรแกรม Snort แสดงผลการตรวจจับ ผ่านหนา้ เว็บไซด์ ส้นิ สุด
๑๔ - ๑๕ ตัวอย่าง ขั้นตอนวิธี (Algorithm) ในชีวิต ประจ�าวัน ได้แก่ หนังสือการปรุงอาหาร แบบ แปลนการประกอบหุน่ ยนต์ คมู่ ือการลดนา้� หนกั หนังสอื คู่มอื ชีวติ เปน็ ต้น ซง่ึ ตวั อยา่ งเหล่านีล้ ว้ น เปน็ รปู แบบทมี่ ขี น้ั ตอนตามลา� ดบั หน้าหลงั มกี าร ก�าหนดว่าตอ้ งท�าอะไรกอ่ น อะไรหลัง แตส่ า� หรบั คอมพวิ เตอร์ หรอื การออกแบบแอพลเิ คชนั หรือ แพลทฟอรม์ ตา่ ง ๆ กค็ งนกึ ถงึ การเขยี นโปรแกรม ตัวอย่างการเขียนขั้นตอนวิธี เช่น การเขียน แผนผัง เชน่ โฟลวชาร์ต (Flowchart) การเขียน ซโู ดโคด้ (pesudoCode) โฟลวชารต์ (Flowchart) คือการเขียน การเขียนขนั้ตอนวิธีหรอื ตอนไมด่ อี าจจะทา� ใหก้ ารประมวลผลผดิ พลาดได้ บท ีท่๕ ประเภทของเทคโนโล ียการ ืส่อสาร ข้ันตอนวิธีรูปแบบหน่ึง โดยแสดงออกมาเป็น (Algorithm) ท่ีดี หรือท่มี กั เรยี กว่าการตดิ บคั (Bug) แผนภาพ ให้ความหมายโดยใช้สัญลักษณ์แทน เช่น ๑. เป็ นกระบวนวธิ ีการท่สี รา้ งขนึ ้ ๔. กระบวนวธิ ีการตอ้ งใหผ้ ลลพั ธ ์ สี่เหล่ียมขนมเปียกปูน หมายถึง การรับข้อมูล จากกฎเกณฑ ์ ตามท่กี าํ หนดในปญั หา หรอื การแสดงผล สีเ่ หล่ียมคางหม ู หมายถึง การรบั ข้อมูลจาก เนื่องจากอัลกอริทึมจัดเป็นรูปแบบหนึ่งของ การออกแบบขั้นตอนวิธี หากขั้นตอนวิธีดัง แปน้ พมิ พ ์ การแก้ปัญหา ดังน้ันต้องมีกฎเกณฑ์ที่ใช้ในการ กล่าวสามารถแก้ไขปัญหาได้ แต่เกิดความ สีเ่ หลีย่ มผนื ผ้า หมายถึง การค�านวณ สร้างกระบวนวิธกี ารเหลา่ นนั้ ซงึ่ อาจจะอยู่ในรปู คลาดเคล่ือน เช่น ให้ผลลัพธ์ไม่ตรงกับความ สเ่ี หลยี่ มขา้ วหลามตดั หมายถงึ การเปรยี บเทยี บ แบบประโยคภาษา รูปแบบสัญลักษณ์ หรือรูป เป็นจริง แม้ว่าจะแก้ไขปัญหาได้ แต่ถือว่าเป็น วงกลม หมายถงึ จดุ เชื่อมต่อ แบบรหสั จา� ลองกไ็ ด ้ ข้ันตอนวิธีที่ไม่ควรน�าไปใช้งาน ลูกศร หมายถงึ ทศิ ทาง ๒. ตอ้ งไม่คลมุ เครอื ๕.ตอ้ งมีจดุ สุดทา้ ยของการทาํ งาน ซูโดโคด้ (Pesudocode) คือ การเขยี น ข้ันตอนวิธีด้วยการใชป้ ระโยคสน้ั ๆ ภาษาองั กฤษ ต้องเป็นส่ิงที่เข้าใจตรงกัน ไม่ควรใช้ค�าที่มี คุณสมบัติอีกข้อหน่ึงท่ีส�าคัญคืออัลกอริทึม ทสี่ อื่ ความหมายงา่ ยๆ อา่ นแลว้ เขา้ ใจไดท้ นั ท ี เชน่ หลายความหมายเพราะอาจกอ่ ให้เกดิ การสับสน ต้องมีจุดสุดท้ายของการท�างาน เน่ืองจาก การแสดงข้ันตอนแต่ละขั้นตอนจะต้องอธิบาย เคร่ืองคอมพิวเตอร์ไม่สามารถประมวลผลไป START ให้ส้ันกระทัดรดั และชัดเจน โดยคา่ ของการน�า เร่ือย ๆ (infinite) ต้องมีจุดสุดท้ายของการ READ X ขอ้ มลู เขา้ ในแตล่ ะขน้ั ตอนจะตอ้ งนา� ไปประมวลผล ท�างานเช่น การบวกเลขจ�านวนเต็มคร้ังละหน่ึง READ Y เพือ่ ส่งผลทา� ใหเ้ กดิ ค่าของผลลัพธ์ท่เี หมอื นกนั ค่าไปเรื่อย ๆ ในท่ีนี้จะไม่เป็นอัลกอริทึม COMPUTE SUM = X + Y เน่ืองจากไม่ได้ บอกจุดสุดท้ายของตัวเลข PRINT SUM ๓. ตอ้ งมีลาํ ดบั ขนั้ตอนท่ชี ดั เจน จ�านวนเต็ม ดังน้ันจึงเป็นข้ันตอนการท�างานที่ STOP ไม่มีจุดส้ินสุด การเรมิ่ ตน้ ทา� งานแตล่ ะขน้ั ตอนมกี ารรบั และ จากข้างต้นจะได้ความหมายว่า เริ่มต้น สง่ ขอ้ มลู ตอ่ เนอ่ื งกนั ไปจนสน้ิ สดุ การทา� งาน ถา้ ขนั้ กระบวนการ ด้วยการอ่านค่า X เปน็ ล�าดบั แรก จากนนั้ อา่ นคา่ Y แล้วจึงนา� ค่าตวั แปรทัง้ สองมา รวมกัน จากนน้ั แสดงผลลัพธท์ ่ีเกดิ จากค่ารวม น้ัน จึงเปน็ อันเสร็จสน้ิ กระบวนการ
๘๓ เอนโคด้ /ดีโคด้ /เอน็ ครปิ ช่นั ๒. ทําใหข้ อ้ มูลสามารถตรวจสอบ Encode/Decode/ Encryption คุณภาพขอ้ มูล (Integrity) ผู้รับ (Receiver) ได้รับข้อมูลท่ีถูกต้องตามท่ีผู้ส่ง ในนิยามของวทิ ยาการการเขา้ รหสั (Encode) เรยี กขอ้ ความ (Message) (Sender) ส่งมาให้ โดยข้อมูลจะต้องไม่มีการ หรอื ขอ้ มลู (Data) ใด ๆ วา่ ขอ้ ความตน้ ฉบบั (Plaintext) เรยี กกระบวนการ สญู หายหรือถกู เปลีย่ นแปลงแก้ไข ท่ีแปลงขอ้ ความตน้ ฉบบั ใหอ้ ยู่ในรูปแบบท่ีมีการปกปิ ดซ่อนเรน้ เนือ้หา (Content) วา่ การเขา้ รหสั ลบั (Encryption) สําหรบั ขอ้ ความหรอื ขอ้ มูล ๓. ทาํ ใหส้ ามารถพิสูจนต์ วั ตนของผสู ้ ง่ ท่ีผ่านการเขา้ รหสั ลบั มาแลว้ เรยี กวา่ “ขอ้ ความรหสั (Ciphertext)” ข อ้ มู ล ไ ด ้ ( A u t h e n t i c a t i o n / Nonrepudiation) สามารถตรวจสอบไดว้ า่ ใครคอื ผสู้ ง่ ขอ้ มลู เพอ่ื ปอ้ งกนั การแอบอา้ งได ้ เพราะผู้ สง่ แตล่ ะคนมกี ญุ แจสา� หรบั การเขา้ รหสั ไมเ่ หมอื นกนั ขอ้ กาํ หนดทว่ั ไปของระบบการเขา้ รหสั ระบบการเขา้ รหสั ลบั ใด ๆ ตอ้ งมคี ณุ สมบตั เิ ปน็ ไปตาม ข้อก�าหนดท่ัวไป ของระบบการเข้ารหัสลับ ๓ ขอ้ เพ่อื เปน็ ที่ยอมรบั ในการนา� ไปใชง้ านในทาง ปฏบิ ตั ิ ๑. อลั กอรทิ มึ ทใ่ี ชใ้ นการเขา้ และถอดรหสั ลบั ตอ้ ง มปี ระสทิ ธภิ าพในทกุ ๆ รปู แบบของกญุ แจ ทเี่ ปน็ ไป ได ้ เชน่ ถา้ กญุ แจทใ่ี ชใ้ นการเขา้ และถอดรหสั ลบั มี ขนาด ๘ บติ จา� นวนรปู แบบของกญุ แจ ทเ่ี ปน็ ไปได้ ทง้ั หมดจะเทา่ กบั ๒๘ หรอื ๒๕๖ รปู แบบ ในการใช้ งานอัลกอริทึมในระบบการเข้ารหัสลับ ไม่ว่าจะใช้ กุญแจรูปแบบใดระดับความปลอดภัยของข้อความ รหัสที่ได้จากการใช้กุญแจ รูปแบบน้ันต้องคงท่ีไม่ เปลยี่ นแปลงเมือ่ เทียบกบั ระดบั ความปลอดภยั ของ ขอ้ ความรหสั ทไี่ ดจ้ ากการใชก้ ญุ แจ รปู แบบอน่ื ๆ ๒. ระบบตอ้ งมคี วามงา่ ยตอ่ การนา� ไปใชง้ าน ขอ้ ก�าหนดนี้บ่งช้ีถึงความสามัญ (Simple) ในการ ค�านวณหากุญแจ โดยวิธีการแปลงแบบผกผันได้ (Invertible Transformation) ซง่ึ จะมปี ระโยชนเ์ มอื่ นา� มาใชใ้ นกระบวนการถอดรหสั ลบั นอกจากนคี้ วาม หมายของขอ้ กา� หนดนย้ี งั ครอบคลมุ ไปถงึ ระยะเวลาที่ ใชใ้ นการเขา้ และถอดรหสั ลบั กลา่ วคอื อลั กอรทิ มึ ท่ี ใชใ้ นการเขา้ และถอดรหสั ลบั ไมค่ วรมคี วามซบั ซอ้ น และใชเ้ วลาในการประมวลผลมากเกนิ ไป เนอ่ื งจาก ในทางปฏบิ ตั ผิ ใู้ ชง้ านมกั ทา� การเขา้ และถอดรหสั ลบั ขอ้ มลู ในเวลาทท่ี า� การสง่ หรอื รบั ขอ้ มลู นนั้ ๆ สง่ ผลให้ ระบบทม่ี คี วามซบั ซอ้ นสงู จะทา� ใหม้ กี ารตดิ ตอ่ สอ่ื สาร แบบเวลาจรงิ (Real-Time Communication) ไมไ่ ด้ และเรยี กกระบวนการทแ่ี ปลงข้อความรหสั ให้ ประโยชน์ของการเข้ารหัส ๓ ประการ กลบั ไปอยูใ่ นรูปแบบของข้อความต้นฉบับวา่ “การ ประกอบด้วย ๓. ความปลอดภยั ของระบบควรขน้ึ อยกู่ บั การ ถอดรหสั ลับ (Decryption)” โดยปกตกิ ารเขา้ และ เปน็ ความลบั ของกญุ แจ เทา่ นนั้ ไมข่ นึ้ กบั การเปน็ ถอดรหัสลบั จะใช้กุญแจ (Key) และวธิ กี ารเขา้ รหสั ๑. ทําใหข้ อ้ มูลเป็ นความลบั ความลบั ของอลั กอรทิ มึ ทใ่ี ชใ้ นการเขา้ และถอดรหสั (Coding) ในลักษณะท่ีว่าการถอดรหัสลับจะท�า (Confidentiality) ปอ้ งกนั ไม่ใหผ้ ทู้ ่ไี ม่มสี ทิ ธ์ิ ลับ ข้อก�าหนดนี้บ่งช้ีว่าระบบการเข้ารหัสลับท่ีดีไม่ สา� เรจ็ ไดด้ ว้ ยกญุ แจ ทเ่ี หมาะสมเทา่ นนั้ แผนผงั การ ในการเขา้ ถงึ ขอ้ มลู สามารถเขา้ ถงึ ขอ้ มลู ได ้ แมว้ า่ จะ ควรเกดิ จดุ ออ่ น เพยี งเพราะวา่ ผโู้ จมตรี แู้ ละเขา้ ใจถงึ ไดช้ ดุ ขอ้ มลู ไปแลว้ แตก่ ไ็ มส่ ามารถถอดรหสั ได ้ เพราะ วธิ กี ารหรอื อลั กอรทิ มึ ทใ่ี ชใ้ นการเขา้ และถอดรหสั ลบั เขา้ และถอดรหัสลบั แสดงไวใ้ นภาพท ี่ ๑ ไมม่ กี ญุ แจ
๘๔ ขนาดของขอ้ มูล ๑๔ - ๑๕ ขอ้ มูลเป็ นองคป์ ระกอบท่ีสําคญั อย่างหน่ึงในระบบคอมพิวเตอร ์ เ ป็ น ส่ิ ง ท่ี ต อ้ ง ป้ อ น เ ข า้ ไ ป ใ น คอมพิวเตอร ์พรอ้ มกบั โปรแกรม ท่ีนกั คอมพิวเตอรเ์ ขียนขึน้เพ่ื อ ผลิตผลลพั ธท์ ่ีตอ้ งการออกมา ข อ้ มู ล ท่ี ส า ม า ร ถ นํ า ม า ใ ช ก้ บั คอมพิวเตอรม์ ี ๕ ประเภท คือ ขอ้ มูลตวั เลข (Numeric Data) ขอ้ มูลตวั อกั ษร (Text Data) ขอ้ มูลเสียง (Audio Data) ขอ้ มูล ภาพ (Images Data) และขอ้ มูล ภาพเคล่อื นไหว (Video Data) ในการนา� ขอ้ มลู ไปใช ้ มรี ะดบั โครงสรา้ งของขอ้ มลู ดงั นี้ โครงสรา้ งขอ้ มูล ความหมาย ในการพิจารณาว่าข้อมูลใดมีขนาดมากน้อย (Data Structure) เพียงไรจะมีหน่วยในการวัดขนาดของข้อมูล เช่น ข้อมลู ทมี่ ขี นาดเล็กท่สี ดุ เป็นข้อมูลท่ีเครือ่ งคอมพวิ เตอร์สามารถเขา้ ใจ ๘ Bit(บติ ) = ๑ Byte (ไบต)์ บิต (Bit) และนา� ไปใช้งานได ้ ซ่งึ ได้แก ่ เลข 0 หรอื เลข 1 เทา่ น้นั ๑,๐๒๔ Byte = ๑ KB (กโิ ลไบต)์ ๑,๐๒๔ KB = ๑ MB (เมกกะไบต)์ ไบต ์ (Byte) หรอื ตวั เลข หรือ ตวั อกั ษร หรือ สญั ลกั ษณพ์ ิเศษ ๑ ตัวเชน่ 0, 1, …, 9, ๑,๐๒๔ MB = ๑ GB (กกิ ะไบต)์ บท ีท่๕ ประเภทของเทคโนโล ียการ ืส่อสาร อกั ขระ (Character) A, B, …, Z และเคร่อื งหมายต่าง ๆ ซงึ่ ๑ ไบต์จะเท่ากับ ๑ บติ หรอื ๑,๐๒๔ GB = ๑ TB (เทระไบต)์ ตัวอักขระ ๑ ตวั เป็นต้น ฟิ ลด ์ (Field) นอกจากนย้ี งั มหี นว่ ยอนื่ ๆ อกี ทมี่ คี า่ ความจุ ไบต ์ หรอื อักขระตั้งแต่ ๑ ตวั ขน้ึ ไปรวมกันเป็นฟลิ ด ์ เชน่ เลขประจา� ขนาดใหญก่ วา่ เชน่ เพตะไบต ์ เทา่ กบั พหคุ ณู คอื ตัว ชอื่ พนักงาน เป็นตน้ ๑๐ ยกกา� ลงั ๑๕ กบิ ไิ บต ์ เทา่ กบั พหคุ ณู คอื ๒ ยกกา� ลงั ๑๐ เปน็ ตน้ ฟลิ ดต์ ้งั แต่ ๑ ฟลิ ด์ ขึ้นไป ท่ีมคี วามสมั พนั ธ์เกี่ยวข้องรวมกันเป็น เรคคอรด์ (Record) เรคคอร์ด เชน่ ชื่อ นามสกุล เลขประจา� ตวั ยอดขาย ข้อมลู ของ พนกั งาน ๑ คน เปน็ ๑ เรคคอร์ด ไฟล ์ (Files) หรอื แฟม้ เรคคอร์ดหลาย ๆ เรคคอร์ดรวมกนั ซ่ึงเป็นเรอ่ื งเดยี วกนั เชน่ ข้อมูล ขอ้ มูล ของประวัติพนักงานแต่ละคนรวมกันทั้งหมดเป็นไฟล์หรอื แฟม้ ข้อมลู เก่ยี วกับประวัตพิ นักงานของบริษทั เป็นต้น ฟิลดต์ ัง้ แต่ ๑ ฟลิ ด์ ข้ึนไป ทีม่ ีความสัมพันธ์เกย่ี วข้องรวมกนั เป็น ฐานขอ้ มูล (Database) เรคคอรด์ เชน่ ชอื่ นามสกุล เลขประจา� ตัว ยอดขาย ขอ้ มลู ของ พนักงาน ๑ คน เปน็ ๑ เรคคอรด์
๘๕ Dial-Up Connection ๑. เคร่อื งคอมพิวเตอร ์ เปน็ อปุ กรณส์ า� หรบั ใชใ้ นการสง่ และรบั ข้อมูล ๒. เวบ็ บราวเซอร ์ เปน็ โปรแกรมทใี่ ชใ้ นการดงึ ขอ้ มูลมาจาเว็บเซิร์ฟเวอร์ ซ่งึ จัดเก็บอย่ใู นรูปแบบที่ เรียกว่า HTML (Hyper Text Markup Language) และแปลความหมายของรปู แบบขอ้ มลู ทีไ่ ด้กา� หนดเอาไวเ้ พือ่ นา� เสนอแกผ่ ใู้ ช้ ๓ . ห ม า ย เ ล ข โ ท ร ศ พั ท ์ แ ล ะ ส า ย โทรศพั ท ์ เพื่อเป็นส่ือกลางในการส่งข้อมูล ข่าวสาร โดยผู้ใช้ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการโทรศัพท์ เพยี ง ๓ บาทตอ่ ครงั้ ของการเชือ่ มต่อ ๔. โมเดม็ เป็นอุปกรณ์ส�าหรับแปลงสัญญาณ ข้อมูลของคอมพิวเตอร์ซ่ึงอยู่ในรูปแบบดิจิทัล (Digital) ให้เป็นสัญญาณข้อมูลรูปแบบแอนะล็อก (analog) และเมื่อเปน็ ผสู้ ง่ จะแปลงสญั ญาณข้อมลู รปู แบบแอนะล็อกให้เปน็ ดิจิทัล ๕. บริการชุดอินเทอรเ์ น็ตจากผูใ้ ช ้ บริการอินเทอรเ์ น็ต (ISP) ซึ่งเปิดโอกาส ใหผ้ ู้ใชบ้ รกิ ารสามารถเลือกขอเปน็ สมาชิกเป็นราย เดือน รายปี หรืออาจเป็นการซ้ือชุดอินเทอร์เน็ต แบบส�าเรจ็ รปู โดยคดิ คา่ ใชบ้ รกิ ารเป็นหนว่ ยช่ัวโมง ในอดีต การใชง้ าน Dial – Up ท่ีมีความเรว็ ในการ รบั สง่ ข้อมูลเพยี ง ๕๖ กโิ ลไบต์ ถอื เป็นเร่อื งที่ต้อง จ�ายอม ส�าหรับในประเทศไทย การเชื่อมต่อ อนิ เทอรเ์ น็ตผ่านสายโทรศพั ท ์ จะคิดคา่ ใช้จ่ายนาที ละ ๓ บาท ตอ่ การเชอ่ื มตอ่ ๑ ครงั้ และตดั ทกุ ๆ ๒- ๔ ชวั่ โมง จงึ ไมค่ อ่ ยเปน็ ทน่ี ยิ มในการใชง้ าน แมว้ า่ จะมคี า่ ใชจ้ า่ ยตา่� ในการตดิ ตง้ั แตก่ ม็ รี าคาสงู สา� หรบั Dial Up คือ การเชอ่ื มต่ออนิ เทอรเ์ น็ตใรรปู แบบช่วั คราวหรอื บางเวลา การเสยี คา่ บรกิ าร ทา� ใหไ้ มเ่ ปน็ ทนี่ ยิ มไปในทส่ี ดุ อยา่ ง โดยใชเ้ คร่อื งคอมพิวเตอรบ์ ุคคลกบั สายโทรศพั ทบ์ า้ นท่เี ป็ นสายตรงต่อ ในประเทศออสเตรเลยี ไดม้ กี ารประกาศยตุ กิ ารให้ เชอ่ื มเขา้ กบั โมเดม็ (Modem) ผูใ้ ชบ้ รกิ ารอนิ เทอรเ์ น็ตตอ้ งทาํ การตดิ ต่อ บรกิ าร ในเดอื นธนั วาคม ปพี .ศ. ๒๕๕๘ เนอ่ื งจาก การใหบ้ รกิ ารอนิ เทอรเ์ นต็ แบบ Dial-up ไมร่ องรบั การ กบั ผูใ้ หบ้ รกิ ารเช่อื มต่ออนิ เทอรเ์ น็ตผ่านหมายเลขโทรศพั ทบ์ า้ น บรกิ ารขอ้ มลู และความสามารถใหม ่ ๆ ได้ โดยผใู้ หบ้ รกิ ารเชอื่ มตอ่ อนิ เทอรเ์ นต็ จะกา� หนด ชื่อผใู้ ช ้ (Username) และรหสั ผา่ น (Password) มาให้เพื่อเข้าใช้บริการอินเทอร์เน็ต เหมาะส�าหรับ Dial-up Internet หนว่ ยงานทมี่ งี บประมาณจา� กดั เนอื่ งจากมคี า่ ใชจ้ า่ ย ต่�า เพราะอุปกรณม์ รี าคาถูก ติดต้ังงา่ ย ไม่ตอ้ งมีผู้ เช่ียวชาญมาคอยดูแลรักษาระบบ แต่การติดต่อ ประเภทน้ีจะมีการรับส่งข้อมูลในอัตราท่ีต�่า คือไม่ เกนิ ๕๖ กิโลไบต์ต่อวินาท ี (Kb/s) การเช่อื มต่อแบบ Dial up ภาพท่ี ๑ การเช่อื มต่อแบบ Dial-up Connection การเช่ือมต่อแบบหมุนโทรศัพท์ (Dial-Up Connection) ซง่ึ เปน็ การเชอ่ื มตอ่ แบบชวั่ คราวหรือ เฉพาะบางเวลา ตามที่ผู้ใช้ต้องการ ผ่านสาย โทรศพั ท ์ โดยมอี ปุ กรณท์ จ่ี า� เปน็ ในการเชอื่ มตอ่ ดงั นี้
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257