Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 64-08-18-คู่มือครูวิทยาศาสตร์ ม2-3

64-08-18-คู่มือครูวิทยาศาสตร์ ม2-3

Published by elibraryraja33, 2021-08-18 04:03:20

Description: 64-08-18-คู่มือครูวิทยาศาสตร์ ม2-3

Search

Read the Text Version

793 776 แบบบันทึกการประเมินผู้เรยี น ด้านความรู้ แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 7 เรือ่ ง ไพธอนเบื้องต้น หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 เร่ือง นักออกแบบระบบ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ วิชา เทคโนโลยี ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 2 รายการประเมิน เลขท่ี ชื่อ-สกลุ การเขียนโปรแกรมภาษา คาสั่งแสดงผลและรบั คา่ ไพธอนเบ้อื งตน้ 1 2 3 4 5 เกณฑ์การให้คะแนน ลงช่ือ...................................................ผปู้ ระเมิน 4 คะแนน ระดับ 4 ดีมาก (………….…………………………………….) 3 คะแนน ระดับ 3 ดี ครผู ู้สอน 2 คะแนน ระดับ 2 พอใช้ 1 คะแนน ระดับ 1 ปรบั ปรงุ *เกณฑ์การผา่ น ระดบั 2 ขึ้นไป

794 777 แบบบนั ทึกการประเมินผูเ้ รยี น ด้านทักษะและกระบวนการ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 7 เรอ่ื ง ไพธอนเบ้อื งต้น หน่วยการเรยี นรู้ที่ 2 เรื่อง นักออกแบบระบบ กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ วิชา เทคโนโลยี ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 2 เลขที่ ชอื่ -สกุล รายการประเมิน การเขยี นโปรแกรมคานวณทางคณติ ศาสตร์ 1 2 และวทิ ยาศาสตร์ 3 4 ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมนิ 5 (………….…………………………………….) ครผู สู้ อน เกณฑ์การให้คะแนน 4 คะแนน ระดับ 4 ดมี าก 3 คะแนน ระดับ 3 ดี 2 คะแนน ระดับ 2 พอใช้ 1 คะแนน ระดับ 1 ปรับปรงุ *เกณฑ์การผา่ น ระดับ 2 ข้นึ ไป

795 778 แบบบนั ทกึ การประเมินผู้เรียน ดา้ นคุณลักษณะ แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี 7 เร่อื ง ไพธอนเบื้องต้น หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 2 เร่อื ง นักออกแบบระบบ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์ วชิ า เทคโนโลยี ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 2 เลขที่ ชอ่ื -สกลุ รายการประเมนิ การแก้ไขปัญหาอย่างเปน็ มีความรับผดิ ชอบ ซ่ือสัตย์และ 1 2 ระบบ มุ่งมั่นในการทางานเป็นทีม 3 4 5 เกณฑ์การให้คะแนน ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิ 4 คะแนน ระดับ 4 ดีมาก (………….…………………………………….) 3 คะแนน ระดับ 3 ดี ครผู ้สู อน 2 คะแนน ระดับ 2 พอใช้ 1 คะแนน ระดับ 1 ปรบั ปรงุ *เกณฑ์การผ่าน ระดบั 2 ขึน้ ไป

796 หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 2 แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 8 เรื่อง การทา้ ซ้าและตดั สนิ ใจ ด เวลา 2 ชั่วโมง กลุม่ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ เรือ่ ง นักออกแบบระบบ ชันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2 รายวชิ า เทคโนโลยี ขอบเขตเนอื หา สื่อ/แหลง่ เรียนรู้ 1. คำสง่ั เลอื กทำ กิจกรรมการเรียนรู้ - python.nattapon.com 2. คำสง่ั ทำซำ ขนั นา้ - เว็บไซต์ repl.it - ใบควำมรทู้ ่ี 8.1 เร่อื ง คำส่งั เลือกทำ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. นักเรียนรว่ มกนั ทบทวนหลักกำรเขียนโปรแกรมภำษำ - ใบควำมรทู้ ี่ 8.2 เร่ือง คำสัง่ วนซำ ด้านความรู้ ไพธอนในกำรเรยี นชว่ั โมงที่ผำ่ นมำ ภาระงาน/ชนิ งาน - ใบงำนท่ี 8.1 เร่ืองกำรเขยี นคำสั่งเลอื กทำและ 1. เข้ำใจกระบวนกำรตัดสินใจและกำรทำงำนซำ 2. นักเรียนรว่ มกันอภิปรำยระบบปิด-เปิดไฟอตั โนมัตติ ำมระดับ วนซำ ของระบบคอมพิวเตอร์ แสงว่ำมีกำรทำงำนอย่ำงไร หมายเหตุ ขนั สอน สถำนท่ี : ห้องคอมพวิ เตอร์ 2. ออกแบบอัลกอรทิ ึมสำหรับกำรตดั สินใจและ กำรทำซำได้ 1. ครอู ธบิ ำยสรปุ หลกั กำรทำงำนของระบบปิดเปิดไฟอัตโนมตั ิ ด้านทกั ษะและกระบวนการ ตำมระดับแสง โดยมีคำส่งั กำรทำงำนทสี่ ำคัญคือคำสั่งตัดสินใจ 1. เขียนโปรแกรมทีม่ ีกำรตัดสินใจได้ 2. นักเรียนศกึ ษำใบควำมรู้ท่ี 8.1 เรอ่ื ง คำส่งั เลือกทำ 2. เขยี นโปรแกรมที่มกี ำรทำงำนซำได้ 3. ครูสำธติ กำรใช้คำสงั่ เลือกทำในกำรเขียนโปรแกรม เช่น โปรแกรมตรวจสอบเลขค/ู่ เลขค่ี โปรแกรมตรวจสอบเลขจำนวนเตม็ บวก/ลบ/ศนู ย์ และโปรแกรมตัดเกรด เป็นต้น 4. นักเรยี นทดลองเขียนโปรแกรมโดยใชค้ ำส่งั เลือกทำดว้ ยตนเอง เปน็ เวลำ 10 นำที 779

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 2 แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 8 เรือ่ ง การท้าซ้าและตดั สนิ ใจ ด 797 กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ เรอื่ ง นักออกแบบระบบ รายวชิ า เทคโนโลยี เวลา 2 ชั่วโมง ด้านคุณลักษณะ ชนั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 2 1. กำรแก้ไขปัญหำอยำ่ งเป็นระบบ 5. นกั เรียนศึกษำใบควำมรู้ท่ี 8.1 เรอื่ ง คำสง่ั วนซำ 2. มีควำมรบั ผดิ ชอบ 6. ครสู ำธติ กำรใช้คำส่งั วนซำในกำรเขียนโปรแกรม เช่น โปรแกรม 3. ซ่ือสตั ย์ แสดงชื่อตนเอง 10 ครงั โปรแกรมสตู รคูณ หรือโปรแกรมหำคำ่ 4. ม่งุ มน่ั ในกำรทำงำนเป็นทมี ผลรวมของชดุ ตัวเลข เป็นต้น 7. นักเรยี นทดลองเขียนโปรแกรมโดยใช้คำส่ังวนซำด้วยตนเอง เปน็ เวลำ 10 นำที 8. นกั เรยี นทำใบงำนท่ี 8.1 เร่อื งกำรเขยี นคำส่ังเลือกทำและวนซำ ขันสรปุ 1. ครแู ละนักเรียนร่วมกนั สรุปเนอื หำร่วมกัน 2. นกั เรยี นสรปุ และบันทึกเนือหำกำรเรยี นรู้ที่สำคัญลงในสมดุ เรียน 780

798 781 การวดั และประเมินผล สิ่งทต่ี ้องการวัด วธิ ีการ เครอื่ งมอื ท่ีใช้ เกณฑ์ 1. ด้านความรู้ (K) 1. เขำ้ ใจกระบวนกำร ใบงำนที่ 8.1 เร่อื ง - แบบประเมินกำรคิด - นักเรียนทกุ คนผ่ำน ตัดสินใจและกำรทำงำนซำ กำรเขยี นคำสง่ั เลอื ก วจิ ำรณญำณ เกณฑ์ไม่ต่ำกวำ่ รอ้ ย ของระบบคอมพิวเตอร์ ทำและวนซำ - แบบสังเกตพฤตกิ รรม ละ 80 2. ออกแบบอัลกอริทึม - แบบประเมินกำรคดิ นักเรียนทกุ คนผำ่ น สำหรับกำรตัดสนิ ใจและกำร วเิ ครำะห์ เกณฑ์ไม่ต่ำกว่ำรอ้ ย ทำซำได้ - แบบประเมินผงั มโนทัศน์ ละ 80 - แบบประเมินกำรทำงำนกลุ่ม 2. ด้านทักษะกระบวนการ (P) - สังเกตพฤติกรรม - แบบประเมนิ ผลดำ้ น - นักเรียนทกุ คนผ่ำน 1. ทักษะในกำรทำงำน กำรเรียนรขู้ อง รว่ มกนั นักเรียน กระบวนกำรเรียนร้เู ทียบกับ เกณฑ์ไม่ต่ำกว่ำรอ้ ย 2. ทกั ษะกำรคิดวเิ ครำะห์ 3. ทกั ษะกำรส่ือสำร - สังเกตพฤติกรรม เกณฑ์ ละ 80 4. ทกั ษะกำรคดิ ไชอยำ่ งมี ของนักเรยี น วจิ ำรณญำณ - แบบประเมนิ ผล - นกั เรียนทกุ คนผ่ำน 5. ทักษะควำมคิด ดำ้ นคุณลกั ษณะอันพึง เกณฑ์ไมต่ ่ำกว่ำรอ้ ย สรำ้ งสรรค์ ประสงคเ์ ทยี บกบั เกณฑ์ ละ 80 3. ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พึง ประสงค์ (A) 1. ซ่ือสัตยส์ จุ ริต 2. มวี นิ ยั 3. ใฝ่เรยี นรู้ 4. มงุ่ มนั่ ในกำรทำงำน

799 782 8. บันทกึ ผลหลังสอน ผลกำรเรยี นรู้ ............................................................................................................................. ................................................ ปญั หำและอปุ สรรค ............................................................................................................................. ............................................. ขอ้ เสนอแนะและแนวทำงแกไ้ ข ........................................................................................................................................................................... ลงชือ่ ......................................ผ้สู อน (.......................................................) วันที.่ .....เดอื น...............................พ.ศ............. 9. ความคิดเหน็ /ข้อเสนอแนะของผู้บรหิ ารหรือผู้ทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย .................................................................................................................................................................. ......... ลงช่อื ......................................ผู้ตรวจ (.......................................................) วนั ท.ี่ .....เดือน...............................พ.ศ.............

800 783 ใบความรู้ 8.1 เรือ่ ง ค้าสง่ั เลือกทา้ คำสัง่ If – Else เปน็ โครงสร้ำงกำรทำงำนท่สี ัง่ ให้โปรแกรมตดั สนิ ใจตำมเงอ่ื นไขที่กำหนด ให้นักเรยี นศกึ ษำตัวอย่ำงโปรแกรมตรวจสอบค่ำมำกกวำ่ ต่อไปนี number1 = int(input(“Please input bumber 1 : ”)) #รบั ค่ำตวั เลขจำนวนเต็มมำเก็บไว้ที่ number1 number2 = int(input(“Please input bumber 2 : ”)) #รบั คำ่ ตวั เลขจำนวนเต็มมำเกบ็ ไว้ที่ number2 if(number1 > number2): #ใช้คำส่ัง if เพื่อตรวจสอบตัวเลข print(\"Maximum is \",number1) #แสดงผล หำกเงอื่ นไขเป็นจริง ผงั งาน START รับคา่ number1 รบั ค่า number2 number1> เท็จ number2 จริง แสดงคา่ number1 END ผลลพั ธ์ Please input number 1 : 50 Please input number 2 : 20 Maximum is 50

801 784 จำกตัวอย่ำงโปรแกรมด้ำนบน สรุปได้ว่ำโครงสร้ำงของคำส่ัง If มดี งั นี if( เงอื่ นไข ) : < คำสง่ั เม่ือเงือ่ นไขเปน็ จรงิ > หำกนักเรียนสังเกตตวั อย่ำงโปรแกรมด้ำนบน นักเรียนจะพบว่ำโปรแกรมสำมำรถตรวจสอบได้แค่ค่ำท่ีมำกกว่ำ เท่ำนัน แต่ไม่สำมำรถตรวจสอบค่ำน้อยกว่ำได้ ดังนันหำกนักเรียนต้องกำรตรวจสอบค่ำที่มำกกว่ำและคำ่ ที่น้อย number1 = int(input(“Please input bumber 1 : ”)) #รับค่ำตัวเลขจำนวนเตม็ มำเกบ็ ไว้ท่ี number1 number2 = int(input(“Please input bumber 2 : ”)) #รับคำ่ ตวั เลขจำนวนเตม็ มำเก็บไว้ท่ี number2 if(number1 > number2): #ใช้คำส่ัง if เพอื่ ตรวจสอบตวั เลข #แสดงผล หำกเงือ่ นไขเปน็ จรงิ print(\"Maximum is \",number1) #คำส่ัง else หมำยถึง อนื่ ๆ เมอื่ เง่อื นไขเปน็ เท็จ else : #แสดงผล หำกเงือ่ นไขเป็นเทจ็ print(\"Maximum is \",number2) กวำ่ นกั เรยี นสำมำรถใชค้ ำสัง่ else มำชว่ ยดังนี จำกโปรแกรมดำ้ นบน หำกนกั เรยี นสังเกตเงือ่ นไขกำรตรวจสอบเลขมำกกว่ำ น้อยกว่ำ อย่ำงถถี่ ้วนแล้ว นักเรียนจะเหน็ วำ่ เงื่อนไขท่กี ำหนดยังไมค่ รอบคลมุ ทุกเงื่อนไข เนื่องจำก นักเรียนจะเห็นว่ำโปรแกรมมีกำรตรวจสอบค่ำ number1 > number2 ซ่ึงหำกเงื่อนไขเป็นจริงจะ แสดงผลคำว่ำ Maximum is number1 แต่หำกเงื่อนไขเป็นเท็จจะแสดงผลคำว่ำ Maximum is number2 ซ่ึงไม่จรงิ เสมอไป เพรำะยังมีเงือ่ นไข number1 = number2 ท่ียงั ไมไ่ ดร้ บั กำรตรวจสอบ ดงั นันหำกจะเขยี นโปรแกรมนใี ห้สมบูรณ์ จะสำมำรถเขยี นไดด้ งั นี number1 = int(input(“Please input bumber 1 : ”)) #รับค่ำตวั เลขจำนวนเต็มมำเกบ็ ไวท้ ่ี number1 number2 = int(input(“Please input bumber 2 : ”)) #รับค่ำตวั เลขจำนวนเตม็ มำเกบ็ ไว้ที่ number2 if(number1 > number2): #ใชค้ ำส่ัง if เพอ่ื ตรวจสอบตัวเลข #แสดงผล หำกเง่อื นไขเป็นจริง print(\"Maximum is \",number1) #ใช้คำส่งั elif เพือ่ ตรวจสอบเงอ่ื นไขท่ี 2 elif(number1 < number2): #แสดงผล หำกเง่อื นไขเป็นจริง #เงื่อนไขอื่นๆ หรือเงื่อนไขสดุ ทำ้ ยที่เป็นไปได้ print(\"Maximum is \",number2) #แสดงผลเมือ่ เงื่อนไขสุดทำ้ ยเป็นจรงิ else: print(number1,\" = \",number2)

802 785 หรอื หำกจำกแสดงผลค่ำทน่ี อ้ ยกวำ่ ดว้ ย ก็สำมำรถเพม่ิ คำสง่ั ได้ ดงั นี number1 = int(input(“Please input bumber 1 : ”)) #รบั คำ่ ตัวเลขจำนวนเตม็ มำเก็บไวท้ ่ี number1 number2 = int(input(“Please input bumber 2 : ”)) #รับคำ่ ตวั เลขจำนวนเต็มมำเกบ็ ไวท้ ี่ number2 if(number1 > number2): #ใช้คำสั่ง if เพื่อตรวจสอบตัวเลข print(\"Maximum is \",number1) #แสดงผล หำกเงอื่ นไขเปน็ จรงิ print(“Minimum is ”,number2) elif(number1 < number2): #ใชค้ ำสั่ง elif เพือ่ ตรวจสอบเง่ือนไขที่ 2 print(\"Maximum is \",number2) #แสดงผล หำกเงื่อนไขเปน็ จริง print(“Minimum is ”,number1) else: #เงือ่ นไขอ่นื ๆ หรือเงื่อนไขสดุ ทำ้ ยท่ีเปน็ ไปได้ สรปุ ไดว้ ำ่ โคpรriงnสtร(nำ้ งuคmวbบeคrุม1ห,\"ร=ือค\"ำ,nสu่งั mIfb-Eelrs2e) มีโครงสรำ้ ง ดังนี #แสดงผลเม่ือเงื่อนไขสดุ ท้ำยเปน็ จรงิ 1. กรณมี ี 2 เงือ่ นไข if( เง่อื นไข ) : < คำสงั่ เมื่อเงื่อนไขเปน็ จริง > else : < คำส่งั เมอื่ เงื่อนไขเปน็ จรงิ > 2. กรณีมมี ำกกว่ำ 2 เงอ่ื นไข if( เง่ือนไข ) : < คำสั่ง เมอ่ื เงอ่ื นไขเป็นจรงิ > elif( เงื่อนไข ) : < คำสัง่ เมอ่ื เง่อื นไขเป็นจริง > .. elif( เงือ่ นไข ) : < คำส่งั เมือ่ เงอ่ื นไขเปน็ จรงิ > else : < คำสั่ง เมื่อเง่ือนไขเปน็ จริง >

786

787

788

789

807 790 ใบงานที่ 8.1 เรอ่ื งการเขยี นค้าสง่ั เลือกทา้ และวนซ้า 1. จงเขยี นโปรแกรมตำมขอ้ กำหนดต่อไปนี โปรแกรมคำนวณภำษี รับคำ่ เงินได้เขำ้ ส่โู ปรแกรม 1 ค่ำ แลว้ คำนวณหำค่ำภำษีตำมเกณฑด์ งั นี หำกเงินได้ นอ้ ยกวำ่ 50,000 ไมเ่ สยี ภำษี หำกเงินไดร้ ะหวำ่ ง 50,000 – 100,000 เสียภำษี 5% หำกเงนิ ไดร้ ะหว่ำง 100,001 – 500,000 เสียภำษี 10% หำกเงนิ ไดม้ ำกกว่ำ 500,000 เสียภำษี 15% โดยมผี ลลพั ธท์ ีต่ ้องกำรดงั นี ตัวอยำ่ งท่ี 1 ตวั อยำ่ งท่ี 2 ตัวอยำ่ งที่ 3 Input salary : 30000 Input salary : 70000 Input salary : -70000 You not pay. Tax = 3500 Input Error 2. จงเขียนโปรแกรมแสดงชื่อตนเอง 10 ครงั คา้ สัง่ while ค้าสั่ง for ………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………. 3. จงเขียนโปรแกรมรับค่ำตวั เลขจำนวนเต็ม 1 จำนวน แล้วให้โปรแกรมแสดงชอื่ ของตนเองตำมจำนวนที่รับเข้ำ ไป คา้ สั่ง for คา้ ส่ัง while ………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………….

808 791 4. จงใชค้ ำสั่ง for และ while เขียนโปรแกรมรบั คำ่ ตวั เลข 10 ครงั แลว้ หำผลรวมของตวั เลขออกมำ ค้าสง่ั for ค้าสัง่ while ………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………. 5. จงใช้คำสัง่ for และ while เขยี นโปรแกรมรบั ค่ำตัวเลขจำนวนเตม็ 1 จำนวน แลว้ ใหโ้ ปรแกรมทำงำนซำเพื่อ รับค่ำตัวเลขตำมจำนวนครงั ท่รี ับเลขนันเขำ้ ไป แล้วหำผลรวมของตวั เลขออกมำ ค้าสั่ง for ค้าสั่ง while ………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………….

809 792 เฉลยใบงานที่ 8.1 เรื่องการเขียนคา้ สงั่ เลอื กทา้ และวนซ้า 1. จงเขยี นโปรแกรมตำมข้อกำหนดต่อไปนี โปรแกรมคำนวณภำษี รบั คำ่ เงนิ ไดเ้ ข้ำสโู่ ปรแกรม 1 คำ่ แลว้ คำนวณหำค่ำภำษีตำมเกณฑด์ ังนี หำกเงนิ ได้ น้อยกวำ่ 50,000 ไม่เสียภำษี หำกเงนิ ได้ระหว่ำง 50,000 – 100,000 เสยี ภำษี 5% หำกเงินได้ระหวำ่ ง 100,001 – 500,000 เสยี ภำษี 10% หำกเงนิ ไดม้ ำกกวำ่ 500,000 เสียภำษี 15% โดยมีผลลพั ธท์ ีต่ ้องกำรดังนี ตวั อย่ำงท่ี 1 ตวั อย่ำงท่ี 2 ตวั อย่ำงที่ 3 Input salary : 30000 Input salary : 70000 Input salary : -70000 You not pay. Tax = 3500 Input Error

810 793 2. จงเขียนโปรแกรมแสดงช่ือตนเอง 10 ครัง คา้ ส่ัง while i=1 คา้ ส่งั for while(i<=10): for i in range(10): print(“my name”) print(“my name”) i++ 3. จงเขียนโปรแกรมรับค่ำตัวเลขจำนวนเตม็ 1 จำนวน แลว้ ใหโ้ ปรแกรมแสดงชอื่ ของตนเองตำมจำนวนทรี่ ับเข้ำ ไป คา้ สั่ง for ค้าส่งั while n = int(input()) n = int(input()) for i in range(n): i=1 print(“my name”) while(i<=n): print(“my name”) i++ 4. จงใชค้ ำสงั่ for และ while เขยี นโปรแกรมรับค่ำตวั เลข 10 ครงั แลว้ หำผลรวมของตัวเลขออกมำ ค้าส่งั for ค้าส่งั while sum = 0 sum = 0 for i in range(10): i=1 n = int(input()) while(i<=10): sum = sum + n n = int(input()) print(sum) sum = sum + n i++ print(sum) 5. จงใชค้ ำส่ัง for และ while เขียนโปรแกรมรบั คำ่ ตัวเลขจำนวนเต็ม 1 จำนวน แล้วให้โปรแกรมทำงำนซำเพื่อรบั ค่ำ ตัวเลขตำมจำนวนครงั ทรี่ บั เลขนนั เข้ำไป แล้วหำผลรวมของตวั เลขออกมำ ค้าส่ัง for ค้าสง่ั while n = int(input()) n = int(input()) sum = 0 sum = 0 for i in range(n): i=1 x = int(input()) while(i<=n):

811 794 คา้ สง่ั for ค้าส่งั while sum = sum + x x = int(input()) print(sum) sum = sum + x i++ print(sum)

812 795 แบบบันทกึ การประเมนิ ผเู้ รียน ดา้ นความรู้ แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 8 เรือ่ ง การท้าซา้ และตดั สนิ ใจ หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 2 เร่อื ง นักออกแบบระบบ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ วชิ า เทคโนโลยี ชนั มัธยมศึกษาปีที่ 2 รายการประเมนิ เลขที่ ช่อื -สกุล เข้ำใจกระบวนกำร ออกแบบอลั กอริทึ ตดั สนิ ใจและกำรทำงำน สำหรับกำรตัดสินใจ ซำของระบบคอมพวิ เตอร์ และกำรทำซำได้ 1 2 3 4 5 เกณฑ์กำรให้คะแนน ลงชอ่ื ...................................................ผ้ปู ระเมิน 4 คะแนน ระดับ 4 ดีมำก (………….…………………………………….) 3 คะแนน ระดับ 3 ดี ครผู สู้ อน 2 คะแนน ระดับ 2 พอใช้ 1 คะแนน ระดับ 1 ปรบั ปรงุ *เกณฑ์กำรผ่ำน ระดับ 2 ขนึ ไป

813 796 แบบบนั ทกึ การประเมนิ ผ้เู รียน ดา้ นทักษะและกระบวนการ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 8 เรือ่ ง การท้าซา้ และตดั สนิ ใจ หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 เรอ่ื ง นักออกแบบระบบ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์ วชิ า เทคโนโลยี ชนั มัธยมศึกษาปีท่ี 2 รายการประเมิน เลขที่ ชื่อ-สกุล เขียนโปรแกรมท่ีมกี ำรตัดสนิ ใจได้ เขยี นโปรแกรมที่มกี ำรทำงำนซำได้ 1 ลงช่ือ...................................................ผู้ประเมิน 2 (………….…………………………………….) 3 ครผู ้สู อน 4 5 เกณฑ์กำรให้คะแนน 4 คะแนน ระดับ 4 ดมี ำก 3 คะแนน ระดับ 3 ดี 2 คะแนน ระดับ 2 พอใช้ 1 คะแนน ระดับ 1 ปรับปรงุ *เกณฑ์กำรผ่ำน ระดับ 2 ขนึ ไป

814 797 แบบบนั ทึกการประเมินผ้เู รยี น ดา้ นคุณลกั ษณะ แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ 8 เร่อื ง การท้าซา้ และตดั สนิ ใจ หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 2 เร่ือง นกั ออกแบบระบบ กลุม่ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ วิชา เทคโนโลยี ชันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 2 รายการประเมนิ เลขท่ี ชอ่ื -สกุล กำรแก้ไขปญั หำอย่ำง มมคี วำามรบั ผิดชชออบบ 1 เปน็ ระบบ ซ่ือซสื่อัตสยัตแ์ ยลแ์ ะลมะุง่มม่งุ นั่ม่ันในในกำร 2 3 กาทรำทง�ำำงนาเนปเน็ปทน็ ทีมมี 4 5 เกณฑ์กำรให้คะแนน ลงชอื่ ...................................................ผปู้ ระเมิน 4 คะแนน ระดับ 4 ดมี ำก (………….…………………………………….) 3 คะแนน ระดับ 3 ดี ครูผสู้ อน 2 คะแนน ระดับ 2 พอใช้ 1 คะแนน ระดับ 1 ปรับปรุง *เกณฑ์กำรผ่ำน ระดับ 2 ขนึ ไป

815 หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 2 แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 9 เร่อื ง นกั ออกแบบระบบ ด เวลา 2 ช่วั โมง กลุม่ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี 2 ขอบเขตเน้อื หา เรือ่ ง นักออกแบบระบบ รายวิชา เทคโนโลยี 1. การสร้างฟงั กช์ ันในภาษาไพธอน 2. การเรียกใชฟ้ ังกช์ นั กจิ กรรมการเรยี นรู้ สือ่ /แหลง่ เรยี นรู้ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ข้นั นา - เว็บไซต์เพ่ือนการเรียนรู้การเขยี นโปรแกรมด้วย ด้านความรู้ 1. นกั เรยี นร่วมกันทบทวนหลักการเขยี นโปรแกรมภาษาไพ ภาษาไพธอน ตามลิงค์ python.nattapon.com 1. บอกวิธีการสรา้ งฟงั กช์ นั ในภาษาไพธอนไดอ้ ยา่ ง ถูกต้อง ธอนในการตดั สนิ ใจและท้าซ้า - เวบ็ ไซตก์ ารสรา้ งฟงั ก์ชนั ในภาษาไพธอน ตามลงิ ค์ 2. อธิบายวิธกี ารเรียกใชฟ้ งั ก์ชนั ในภาษาไพธอนได้ 2. ครูยกตวั อย่างโปรแกรมที่มกี ารท้างานซับซอ้ น และมีหลาย http://marcuscode.com/lang/python/functi ดา้ นทกั ษะและกระบวนการ 1. เขยี นโปรแกรมเพอ่ื สรา้ งและเรียกใช้ฟงั กช์ ันใน งาน ons ภาษาไพธอนได้ 3. นกั เรียนร่วมกนั อภปิ รายวา่ จะมวี ธิ ีการเขยี นค้าสั่งหรอื มี - เวบ็ ไซต์ repl.it ด้านคุณลักษณะ 1. การแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ หลักการอยา่ งไรในการพฒั นาโปรแกรมขนาดใหญท่ ม่ี ีหลาย - ใบความรู้ 9.1 เรอื่ ง ฟังกช์ ัน 2. มคี วามรับผดิ ชอบ 3. ซื่อสตั ย์ หน้าท่ีหรอื มีการทา้ งานหลายๆ อย่าง ภาระงาน/ช้ินงาน ขัน้ สอน - ใบงานที่ 9.1 เร่ือง การเขียนโปรแกรมโดยใช้ 1. ครอู ธบิ ายประโยชน์ของการเขียนโปรแกรมแบบฟงั ก์ชัน ฟงั ก์ชัน และวิธกี ารเขียนโปรแกรมแบบฟงั กช์ นั ดว้ ยภาษาไพธอน หมายเหตุ 2. ครูสาธิตวธิ กี ารเขียนโปรแกรมแบบฟงั ก์ชนั และใหน้ ักเรียน สถานท่ี : ห้องคอมพิวเตอร์ ปฏบิ ัติตาม 3. นักเรยี นศกึ ษาใบความรู้ที่ 9.1 เรอ่ื งฟังกช์ ัน และทดลอง เขยี นโปรแกรมด้วยตนเอง 4. ครูให้นักเรียนท้าใบงานที่ 9.1 เรอื่ ง การเขียนโปรแกรมโดย 798

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 2 แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 9 เร่อื ง นกั ออกแบบระบบ ด 816 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์ เร่อื ง นกั ออกแบบระบบ รายวชิ า เทคโนโลยี เวลา 2 ช่วั โมง 4. ม่งุ มั่นในการท้างานเป็นทีม ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2 ใช้ฟงั ก์ชัน ขน้ั สรุป 1. ครูและนักเรยี นร่วมกนั สรุปเนอื หาร่วมกนั 2. นกั เรียนสรุปและบันทกึ เนือหาการเรยี นรู้ท่สี า้ คญั ลงในสมุด เรียน 799

817 800 การวดั และประเมินผล วธิ ีการ เครอื่ งมือทีใ่ ช้ เกณฑ์ สิง่ ท่ีต้องการวัด - นักเรยี นทุกคนผ่าน - สังเกตพฤติกรรม - แบบประเมินการคิด เกณฑ์ไม่ต่้ากว่าร้อย 1. ด้านความรู้ (K) ของนักเรียน วจิ ารณญาณ ละ 80 1. บอกวิธกี ารสร้างฟังก์ชนั ใน - แบบสงั เกตพฤติกรรม ภาษาไพธอนได้อยา่ งถกู ต้อง - แบบประเมินการคิด - นกั เรียนทุกคนผ่าน 2. อธิบายวิธีการเรียกใช้ วเิ คราะห์ เกณฑ์ไม่ต้่ากว่ารอ้ ย ฟังก์ชันในภาษาไพธอนได้ - แบบประเมินผงั มโนทัศน์ ละ 80 - แบบประเมนิ การทา้ งาน 2. ด้านทักษะกระบวนการ (P) กล่มุ - นกั เรยี นทกุ คนผา่ น 1. เขยี นโปรแกรมเพอ่ื สร้าง - ใบงานที่ 9.1 เกณฑ์ไมต่ ่้ากว่ารอ้ ย - แบบประเมนิ ผลด้าน ละ 80 และเรยี กใช้ฟงั กช์ นั ในภาษาไพ เรื่อง การเขยี น กระบวนการเรียนรู้เทียบ ธอนได้ โปรแกรมโดยใช้ กับเกณฑ์ ฟังก์ชัน - แบบประเมินผล ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ 3. ดา้ นคณุ ลกั ษณะ (A) ประสงค์เทยี บกับเกณฑ์ 1. การแก้ไขปัญหาอย่างเป็น - สงั เกตพฤติกรรม ระบบ ของนักเรียน 2. มคี วามรบั ผดิ ชอบ ซอ่ื สัตยแ์ ละมุ่งมัน่ ในการ ทา้ งานเป็นทีม

818 801 8. บันทกึ ผลหลังสอน ผลการเรียนรู้ ............................................................................................................................. ................................................ ปัญหาและอุปสรรค .................................................................................................................................................................... ...... ข้อเสนอแนะและแนวทางแกไ้ ข ............................................................................................. .............................................................................. ลงชอ่ื ......................................ผูส้ อน (.......................................................) วันท่ี......เดือน...............................พ.ศ............. 9. ความคดิ เหน็ /ข้อเสนอแนะของผู้บริหารหรอื ผู้ทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย ........................................................................................................................................................................... ลงชอ่ื ......................................ผตู้ รวจ (.......................................................) วนั ที.่ .....เดือน...............................พ.ศ.............

819 802 ใบงานท่ี 9.1 เรอื่ ง การเขยี นโปรแกรมโดยใชฟ้ ังก์ชัน 1) จงเขียนโปรแกรมแบบฟงั ก์ชนั ตามข้อกา้ หนดต่อไปนี 1. สรา้ งฟงั ก์ชนั เพ่ือค้านวณหาพืนท่ผี วิ ทงั หมดของทรงกระบอก (ไมม่ ีพารามเิ ตอร์และไม่รเี ทิร์นคา่ ) 2. สร้างฟงั ก์ชันเพื่อค้านวณหาพืนทผ่ี วิ ของทรงกลม โดยให้มีการสง่ คา่ พารามเิ ตอร์จากโปรแกรมหลกั 3. สรา้ งฟังกช์ นั เพื่อค้านวณหาพนื ทผ่ี วิ ของสี่เหลย่ี มจตั รุ ัส(ลูกบาศก)์ โดยใหม้ ีการส่งคา่ พารามเิ ตอร์ จากโปรแกรมหลกั และรเี ทริ ์นค่ากลบั มายังโปรแกรมหลัก 4. สร้างเมนใู หผ้ ู้ใชเ้ ลือกวา่ ต้องการคา้ นวณฟังก์ชันใด โดยเม่ือกด 0 ใหอ้ อกจากโปรแกรม และ ตรวจสอบ error เม่ือกดเลขไมถ่ ูกต้อง

820 803 เฉลยใบงานท่ี 9.1 เร่อื ง การเขียนโปรแกรมโดยใชฟ้ งั ก์ชัน 1) จงเขียนโปรแกรมแบบฟังก์ชันตามข้อก้าหนดต่อไปนี 1. สร้างฟงั ก์ชนั เพื่อค้านวณหาพืนทีผ่ วิ ทงั หมดของทรงกระบอก (ไมม่ ีพารามิเตอร์และไม่รเี ทิร์นค่า) 2. สร้างฟังกช์ นั เพื่อค้านวณหาพนื ที่ผวิ ของทรงกลม โดยให้มกี ารส่งค่าพารามเิ ตอร์จากโปรแกรมหลกั 3. สรา้ งฟงั ก์ชนั เพื่อค้านวณหาพืนทผี่ วิ ของส่ีเหลีย่ มจัตรุ สั (ลูกบาศก)์ โดยให้มีการส่งค่าพารามิเตอร์ จากโปรแกรมหลักและรีเทิรน์ ค่ากลับมายังโปรแกรมหลกั 4. สร้างเมนใู ห้ผู้ใชเ้ ลือกว่าต้องการคา้ นวณฟงั ก์ชันใด โดยเมื่อกด 0 ใหอ้ อกจากโปรแกรม และ ตรวจสอบ error เมื่อกดเลขไม่ถูกต้อง

821 804 แบบบนั ทึกการประเมินผู้เรยี น ดา้ นความรู้ แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 9 เร่อื ง นักออกแบบระบบ หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 2 เร่อื ง นักออกแบบระบบ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์ วชิ า เทคโนโลยี ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 2 รายการประเมิน เลขท่ี ชอ่ื -สกลุ บอกวิธีการสรา้ ง อธิบายวธิ ีการเรียกใช้ ฟงั ก์ชนั ในภาษาไพธอน ฟังกช์ ันในภาษาไพธอนได้ ไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง 1 2 3 4 5 เกณฑ์การให้คะแนน ลงชอื่ ...................................................ผปู้ ระเมิน 4 คะแนน ระดับ 4 ดมี าก (………….…………………………………….) 3 คะแนน ระดับ 3 ดี ครูผูส้ อน 2 คะแนน ระดับ 2 พอใช้ 1 คะแนน ระดับ 1 ปรบั ปรุง *เกณฑ์การผา่ น ระดบั 2 ขึนไป

822 805 แบบบนั ทกึ การประเมนิ ผเู้ รยี น ด้านทักษะและกระบวนการ แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ 9 เรื่อง นักออกแบบระบบ หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 2 เรอ่ื ง นักออกแบบระบบ กล่มุ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ วชิ า เทคโนโลยี ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 เลขที่ ชื่อ-สกลุ รายการประเมิน เขยี นโปรแกรมเพือ่ สร้างและเรียกใช้ 1 2 ฟังกช์ ันในภาษาไพธทออนนไไดด้ ้ 3 4 ลงช่ือ...................................................ผ้ปู ระเมิน 5 (………….…………………………………….) ครผู สู้ อน เกณฑ์การให้คะแนน 4 คะแนน ระดับ 4 ดีมาก 3 คะแนน ระดับ 3 ดี 2 คะแนน ระดับ 2 พอใช้ 1 คะแนน ระดับ 1 ปรบั ปรงุ *เกณฑ์การผ่าน ระดบั 2 ขนึ ไป

823 806 แบบบนั ทกึ การประเมินผเู้ รียน ด้านคุณลักษณะ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 9 เรื่อง นกั ออกแบบระบบ หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรอื่ ง นักออกแบบระบบ กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ วชิ า เทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 2 เลขท่ี ชอ่ื -สกลุ รายการประเมนิ การแก้ไขปญั หาอย่างเป็น มคี วามรบั ผดิ ชอบ ซ่ือสตั ยแ์ ละ 1 2 ระบบ มงุ่ มน่ั ในการทา้ งานเป็นทีม 3 4 5 เกณฑ์การให้คะแนน ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน 4 คะแนน ระดับ 4 ดมี าก (………….…………………………………….) 3 คะแนน ระดับ 3 ดี ครผู สู้ อน 2 คะแนน ระดับ 2 พอใช้ 1 คะแนน ระดับ 1 ปรับปรงุ *เกณฑ์การผ่าน ระดับ 2 ขนึ ไป

824 แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 10 เร่ือง การคดิ เชิงคานวณ ด หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 2 เรอ่ื ง นกั ออกแบบระบบ เวลา 2 ชั่วโมง กลุม่ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์ รายวชิ า เทคโนโลยี ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ 2 ขอบเขตเนอ้ื หา กิจกรรมการเรียนรู้ สอื่ /แหลง่ เรียนรู้ 1. แนวคดิ เชิงคำนวณ ขนั้ นา - เว็บไซต์เขยี นโปรแกรมบอร์ด micro:bit 2. กำรแกป้ ัญหำโดยใช้แนวคดิ เชงิ คำนวณ 1. ครูทบทวนควำมรู้เดิมในชวั่ โมงทแี่ ล้วเกี่ยวกบั องคป์ ระกอบ https://makecode.microbit.org/ และหลักกำรทำงำนของระบบคอมพวิ เตอร์ เว็บไซต์ตัวอยำ่ งโครงงำนโดยใช้บอรด์ micro:bit จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 2. ครูนำเขำ้ สูบ่ ทเรียน เรื่อง กำรเกษตรยคุ ใหม่ สมำร์ทฟำร์ม https://makecode.microbit.org/projects/soil- ด้านความรู้ (Smart Farm) moisture 1. อธบิ ำยแกนำรวแกนารวคดิ เชงิ คำนวณ เชน่ กำรแยกยอ่ ย ขน้ั สอน - ใบควำมรู้ 10.1 เรอื่ ง ควำมหมำยของแนวคดิ เชงิ ปัญหำ กำรสรำ้ งรูปแบบ กำรคิดเชิงนำมธรรม 1. อธิบำยกแำนรวแกนาวรคดิ เชงิ คำนวณ เชน่ กำรแยกย่อยปญั หำ คำนวณ กำรลำดบั ข้ันตอนในกำรแก้ปัญหำได้ กำรสรำ้ งรูปแบบ กำรคดิ เชงิ นำมธรรม กำรลำดบั ข้ันตอนในกำร - คลปิ วดี โี อ ตัวอย่ำงโครงงำนวดั ควำมชืน้ ในดิน จำก 2. สำมำรถใช้แนวคดิ เชงิ คำนวณ ในกำรแก้ไขปัญหำ กแากร้ปแัญก้ปหญัำหตาำมตใาบมคใบวคำวมารมู้ 1รู้01.01.1เรเ่ือรื่องงคคววำามมหหมมำายยขขอองแนวคิดเชชงิ ิง ลิ้งค์ ได้อย่ำงถูกตอ้ งและเหมำะสม คำ�ำนนววณณใในนกกาำรรใชใชใ้ น้ในชวีชติวี ปติ รปะรจะำ�จวำันวนั https://www.youtube.com/watch?v=S8Npp ดา้ นทกั ษะและกระบวนการ 2. ครแู ละนักเรียนร่วมกันอภปิ รำยลงใน ใบงำนที่ 10.1 เรอ่ื ง VT_paw 1. กระบวนกำรวิทยำศำสตร์ สำนตอ่ งำนท่ีพ่อทำ ระบบสมำรท์ ฟำรม์ (Smart Farm) https://www.youtube.com/watch?v=HpX1m 2. กระบวนกำรสบื ค้นข้อมูล 3. ครูตน้ ทำงสำธติ กำรใชอ้ อกแบบและทดลองกำรวดั ควำมชนื้ DEw1gk 3. ทกั ษะกำรคิด กำรส่ือสำร ในดนิ โดยประยุกตใ์ ช้ อปุ กรณ์ micro bit ตวั อย่ำงจำกเวบ็ ไซต์ - กำรเชื่อมต่ออปุ กรณ์อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ micro bit 4. ทกั ษะกำรแกป้ ัญหำ ICT https://makecode.microbit.org/projects/soil-moisture https://makecode.microbit.org/projects/plan 807

825 หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 2 แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 10 เรือ่ ง การคิดเชิงคานวณ ด เวลา 2 ช่วั โมง กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์ เรอ่ื ง นกั ออกแบบระบบ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2 รายวิชา เทคโนโลยี ดา้ นคุณลักษณะ t-watering 1. ซื่อสัตย์สจุ รติ และ - https://makecode.microbit.org/projects/servo- 2. มวี ินัย https://www.youtube.com/watch?v=S8NppVT_paw calibrator 3. ใฝ่เรยี นรู้ - https://makecode.microbit.org/projects/soil- 4. มงุ่ มัน่ ในกำรทำงำน 4. ออกแบบลำดับขั้นตอนกำรคิด ระบบกำรรดน้ำอัตโนมตั ิ moisture ด้วยกำรวำดภำพและกำรเขยี นควำมเรียง ใบงำนท่ี 10.2 เรอ่ื ง ภาระงาน/ช้ินงาน ระบบกำรรดนำ้ อตั โนมัติ - ใบงำนที่ 10.1 เรอ่ื ง สำนต่องำนท่ีพอ่ ทำ ระบบ ข้นั สรุป สมำรท์ ฟำร์ม (Smart Farm) - ใบงำนท่ี 10.2 เรือ่ ง ระบบกำรรดน้ำอตั โนมัติ 1. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั สรปุ เน้ือหำร่วมกนั 2. นกั เรยี นสรปุ และบนั ทึกเนอื้ หำกำรเรยี นรู้ท่สี ำคญั ลงใน สมดุ เรียน 808

826 809 การวดั และประเมินผล สง่ิ ที่ต้องการวัด/ประเมนิ วิธกี าร เครื่องมอื ที่ใช้ เกณฑ์ ดา้ นความรู้ ทำงำนใบงำนที่ 10.1 ใบงำนท่ี 10.1 เร่อื ง สำน ผำ่ นเกณฑ์รอ้ ยละ 80 1. อธิบำยกแำนรวแกนารวคิดเชิง เรื่อง สำนตอ่ งำนที่พอ่ ทำ ต่องำนท่ีพ่อทำ ระบบ คำนวณ เช่น กำรแยกย่อยปัญหำ ระบบสมำร์ทฟำร์ม สมำรท์ ฟำร์ม (Smart กำรสรำ้ งรูปแบบ กำรคิดเชงิ (Smart Farm) Farm) นำมธรรม กำรลำดับขัน้ ตอนในกำร ทำใบงำนที่ 10.2 เรือ่ ง ใบงำนที่ 10.2 เร่ือง ระบบ แก้ปัญหำได้ ระบบกำรรดน้ำอตั โนมตั ิ กำรรดนำ้ อตั โนมัติ 2. สำมำรถใช้แนวคิดเชิงคำนวณ ในกำรแกไ้ ขปัญหำได้อยำ่ งถูกต้อง และเหมำะสม ดา้ นทักษะและกระบวนการ กำรตอบคำถำม แบบบันทกึ พฤติกรรมกำร ผำ่ นเกณฑร์ ้อยละ 80 1. กระบวนกำรวทิ ยำศำสตร์ กเราียรนเรยี น 2. กระบวนกำรสบื ค้นข้อมูล 3. ทกั ษะกำรคิด กำรสื่อสำร 4. ทักษะกำรแกป้ ัญหำ ICT ดา้ นคณุ ลกั ษณะ สงั เกตกำรณ์ทำงำนกลมุ่ แบบสงั เกตกำรณท์ ำงำน ผ่ำนเกณฑร์ ้อยละ 80 1. ซอ่ื สัตย์สจุ รติ กลมุ่ 2. มีวนิ ัย 3. ใฝ่เรียนรู้ 4. มงุ่ ม่ันในกำรทำงำน

827 810 8. บนั ทกึ ผลหลงั สอน ผลกำรเรียนรู้ ............................................................................................................................. ................................................ ปญั หำและอุปสรรค .................................................................................................................................................................... ...... ข้อเสนอแนะและแนวทำงแกไ้ ข ............................................................................................................................. .............................................. ลงชอื่ ......................................ผ้สู อน (.......................................................) วนั ที่......เดอื น...............................พ.ศ............. 9. ความคดิ เหน็ /ขอ้ เสนอแนะของผบู้ ริหารหรอื ผู้ท่ไี ด้รับมอบหมาย ............................................................................................................................. .............................................. ลงช่ือ ......................................ผู้ตรวจ (.......................................................) วันท่.ี .....เดอื น...............................พ.ศ.............

828 811 การเตรียมการของครูต้นทาง “กจิ กรรมสาธติ การใชอ้ อกแบบและทดลองการวัดความชืน้ ในดิน โดยประยกุ ตใ์ ช้ อุปกรณ์ micro: bit” อปุ กรณ์ที่ต้องเตรยี ม 1. บอร์ด micro : bit พร้อมแบตเตอร่ี 2. ตะปูขนำด 5 – 6 นิ้ว จำนวน 2 ตวั 3. สำยไฟพรอ้ มหวั หนบี แบบปำกจระเข้ 2 เสน้ 4. กระถำงตน้ ไมข้ นำดเล็กพร้อมดนิ 2 กระถำง ข้ันเตรียมการ 1. ครูต้นทำงเตรียมดินใส่กระถำงทัง้ 2 กระถำง โดยใสต่ น้ ไมเ้ ล็กๆ ไว้ในกระถำงท่ี 1 สว่ นกระถำงที่ 2 ใส่ดนิ เพียงอย่ำงเดยี ว 2. ครตู ้นทำงเตรียมโคด้ micro : bit ดงั น้ี Blocks JavaScript radio.setTransmitSerialNumber(true) radio.setGroup(4) led.setBrightness(64) let reading = 0 basic.forever(() => { pins.analogWritePin(AnalogPin.P1, 1023) reading = pins.analogReadPin(AnalogPin.P0) radio.sendNumber(reading / 4); pins.analogWritePin(AnalogPin.P1, 0) led.plotBarGraph( reading, 1023 ) if (input.buttonIsPressed(Button.A)) { basic.showNumber(reading) } basic.pause(5000); })

829 812 3. ต่อตะปูตัวที่ 1 เขำ้ กับ Pin 3V ด้วยสำยไฟพร้อมหัวหนีบแบบปำกจระเข้ แลว้ นำไปเสียบลงดนิ ใน กระถำง 4. ต่อตะปูตวั ท่ี 2 เขำ้ กับ Pin 0 ดว้ ยสำยไฟพร้อมหัวหนบี แบบปำกจระเข้ แลว้ นำไปเสียบลงดนิ ใน กระถำงเดียวกัน นาเข้าขอ้ มูล (Input) รปู แบบการเชอ่ื มตอ่ แสดงผลหรอื การส่งั งาน กระบวนการ (Process) (Output)

830 813 ใบความรทู้ ่ี 10.1 แนวคิดเชงิ คานวณ แนวคดิ เชิงคานวณ (Computational Thinking) ไม่ใช่กำรคิดเหมือนหนุ่ ยนต์หรือกำรเขยี น โปรแกรมโดยผู้เชีย่ วชำญ แต่เปน็ ทกั ษะท่ีมงุ่ เน้นกำรคิดเชิงตรรกะ คือสำมำรถอธบิ ำยกำรคดิ เชิงคำนวณอยำ่ ง เปน็ ระบบ หรือเปน็ กำรแกไ้ ขปัญหำอยำ่ งเป็นลำดบั ข้นั ตอน โดยกำรเขำ้ ใจปัญหำและวธิ กี ำรในกำรแกไ้ ขปัญหำ อย่ำงเปน็ ระบบ เพื่อให้ไดม้ ำซึ่งวธิ ีกำรแกไ้ ขปัญหำที่ทัง้ มนุษยแ์ ละคอมพิวเตอร์สำมำรถเข้ำใจรว่ มกันได้ กำรคิดเชิงคำนวณอย่ำงเปน็ ระบบน้นั ไม่ได้เป็นกระบวนกำรทำงควำมคิดสำหรับนกั วิทยำศำสตรห์ รอื นักพัฒนำโปรแกรมเท่ำนั้น แต่สำมำรถประยุกต์ใช้กับกำรทำงำนของบุคคลทั่วไป โดยนำแนวคดิ เชงิ คำนวณไป ประยกุ ต์ใชใ้ นชวี ิตประจำวนั ไดท้ ัง้ สนิ้ ทำใหส้ ำมำรถแก้ไขปัญหำตำ่ ง ๆ ได้อยำ่ งมปี ระสิทธภิ ำพ ยิ่งไปกว่ำนน้ั ยงั สำมำรถแก้ไขปัญหำได้อย่ำงไร้ขีดจำกดั อกี ดว้ ย จงึ จำเป็นต้องเรียนรวู้ ำ่ เรำจะส่ังใหซ้ ูเปอร์คอมพิวเตอร์ทำงำน ด้วยแนวคิดเชิงคำนวณอย่ำงเปน็ ระบบได้อย่ำงไร เพ่ือสำมำรถสรำ้ งวิธีกำรแก้ไขปัญหำและใชง้ ำนคอมพวิ เตอร์ ใหแ้ กไ้ ขปัญหำได้เตม็ ศกั ยภำพ “ตะวัน” เปน็ ชำยวัยทำงำนที่ขยนั ขันแข็งและพยำยำมทำทุกอย่ำงเพื่อเปน็ พลเมืองดีต่อสังคม แต่วนั นี้ตะวนั ประสบปญั หำ โดยรถยนตข์ องตะวนั ไมส่ ำมำรถเคลือ่ นที่ได้ เน่ืองจำกเกิดปัญหำ 2 ประกำร ไดแ้ ก่ • รถยนต์ยำงแบน • รถยนต์ว่งิ ไมไ่ ด้เพรำะนำ้ มนั หมด เมื่อตะวันต้องกำรใช้แนวคดิ เชิงคำนวณแก้ไขปญั หำท่เี กิดขึ้น ตะวันจะสำมำรถแก้ไขปัญหำได้อยำ่ งไร กำรแยก ย่อยปญั หำ กำรแยกแยะปญั หำ โดยตะวนั สำมำรถแยกแยะปัญหำได้เป็น 2 ประเดน็ ได้แก่ • ยำงรถแบน • นำ้ มนั รถหมด

831 814 การจดจารปู แบบ กำรเข้ำใจรูปแบบ ตะวนั ควรต้องจัดกำรกบั ยำงรถก่อนเตมิ น้ำมนั เนอื่ งจำกน้ำมนั ทีเ่ หลอื อยู่ไม่ มำกพอท่ีตะวนั จะขบั รถยนต์ไปถึงสถำนีบริกำรนำ้ มนั ดังนั้นตะวนั ควรมุ่งแก้ไขปญั หำยำงรถแบนก่อน สรา้ งแนวคดิ เชิงนามธรรม หำแนวคิดรวบยอดของแต่ละปญั หำยอ่ ย เปน็ กำรมุ่งเน้นควำมสำคญั ของปัญหำโดยไมส่ นใจ รำยละเอยี ดที่ไมจ่ ำเป็นกำรคิดรวบยอดของปญั หำดังกลำ่ วจะได้วำ่ ตะวนั ต้องทำกำรเปล่ียนยำงรถยนต์ ออกแบบขน้ั ตอนการแก้ปญั หา เมอ่ื ตะวันตอ้ งกำรเปล่ยี นยำงรถยนตต์ ะวันจะตอ้ งออกแบบลำดับขัน้ ตอนในกำรเปลีย่ นยำงดงั นี้ • หมุนบล็อกเพื่อคลำยนอต • ใชแ้ มแ่ รงยกรถข้ึนและถอดนอตออก • ถอดลอ้ ออก เปล่ียนล้ออะไหลแ่ ทนท่ี • ใส่นอตแลว้ ปลอ่ ยแม่แรง • ขันนอตใหแ้ น่น

ระบบสมารต์ ฟารม์ 815

ระบบสมารต์ ฟารม์ 816

834 817 ใบงานที่ 10.2 เรอื่ งระบบการรดนา้ อัตโนมัติ อธิบำยลำดับขัน้ กำรทำงำนเชิงระบบ นำเขำ้ ข้อมลู (Input) กระบวนกำร (Process) แสดงผลหรอื กำรสง่ั งำน (Output)

835 818 เฉลยใบงานท่ี 10.2 เรอ่ื งระบบการรดนา้ อัตโนมัติ วดั ความช้ืน ป้ัม๊ น้าํ MCU อธบิ ำยลำดบั ข้นั กำรทำงำนเชิงระบบ นำเข้ำข้อมลู (Input) กระบวนกำร (Process) แสดงผลหรือกำรสัง่ งำน (Output) ระดบั ควำมชน้ื ในดนิ พจิ ำรณำควำมชืน้ ในดนิ วำ่ นอ้ ยกว่ำ ถ้ำควำมชื้นนอ้ ยกว่ำที่กำหนด สัง่ ใหป้ ม้ั๊ ทก่ี ำหนดหรือไม่ น้ำทำงำน

836 819 ความเรียงอธบิ ายลาดบั ข้ันการทางานของระบบรดน้าอตั โนมัติ ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. ............................................................................................ ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................ แผนผงั ควำมคิด ระบบกำรรดนำ้ อตั โนมัติ เริ่มต้น ส้ินสุด

837 820 แบบบันทึกการประเมินผเู้ รยี น ดา้ นความรู้ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 10 เรอ่ื ง การคดิ เชิงคานวณ หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 เร่ือง การคดิ เชงิ คานวณ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์ วชิ า เทคโนโลยี ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 2 รายการประเมิน ออธธบิ บิ ำายยกกำารรแแนนววคิดเชงิ ค�ำำนนววณณเชเชน่ น่ สำมำรถใชแ้ นวคิดเชิง เลขที่ ชื่อ-สกลุ การกแำยรกแย่อกยป่อัญยปหัญา กหาำรสกรำา้รงสรรูปำ้ แงบบ คำนวณ ในกำรแก้ไข รปู แบบกกาำรครคิดิดเชเงิชนิงานมำธมรธรรมรม กำร ปัญหำได้อย่ำงถูกต้องและ กลาำรดลบั�ำ ดขับ้นั ขตนั้ อตนอในนใกนำกราแรกแ้ปกป้ญั ัญหหำไาดได้ ้ เหมำะสม 1 2 3 4 5 เกณฑ์กำรให้คะแนน ลงชอ่ื ...................................................ผู้ประเมนิ 4 คะแนน ระดับ 4 ดีมำก (………….…………………………………….) 3 คะแนน ระดับ 3 ดี ครูผู้สอน 2 คะแนน ระดับ 2 พอใช้ 1 คะแนน ระดับ 1 ปรบั ปรงุ *เกณฑ์กำรผ่ำน ระดับ 2 ขึ้นไป

838 821 แบบบันทกึ การประเมนิ ผเู้ รียน ดา้ นทกั ษะและกระบวนการ แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ 10 เรอื่ ง การคดิ เชิงคานวณ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 เรอ่ื ง การคดิ เชงิ คานวณ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ วชิ า เทคโนโลยี ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 2 เลขท่ี ชอ่ื -สกลุ รายการประเมนิ ทกั ทษักะษกะำร กาแรกแป้ กญั ้ปัญหำหา 1 กระบวนกำร กระบวนกำร ทักทษักะษกะำร 2 วิทยำศำสตร์ สบื คน้ ข้อมูล คกดิ ารกคำิดร ICT 3 4 กาสรือ่ สสอ่ื ำสราร 5 ลงชื่อ...................................................ผ้ปู ระเมนิ เกณฑ์กำรให้คะแนน (………….…………………………………….) 4 คะแนน ระดับ 4 ดมี ำก ครูผสู้ อน 3 คะแนน ระดับ 3 ดี 2 คะแนน ระดับ 2 พอใช้ 1 คะแนน ระดับ 1 ปรบั ปรงุ *เกณฑ์กำรผำ่ น ระดบั 2 ข้ึนไป

839 822 แบบบันทึกการประเมินผเู้ รยี น ดา้ นคณุ ลักษณะ แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 10 เรื่อง การคิดเชงิ คานวณ หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 2 เรือ่ ง การคดิ เชงิ คานวณ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์ วิชา เทคโนโลยี ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 2 รายการประเมนิ เลขที่ ช่ือ-สกลุ ซื่อสตั ย์สจุ ริต มวี นิ ยั ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมม่งุ ั่นมใน่ั นใกนำร กาทรำทง�ำ ำงนาน 1 2 3 4 5 เกณฑ์กำรให้คะแนน ลงชื่อ...................................................ผูป้ ระเมิน 4 คะแนน ระดับ 4 ดมี ำก (………….…………………………………….) 3 คะแนน ระดับ 3 ดี ครผู ู้สอน 2 คะแนน ระดับ 2 พอใช้ 1 คะแนน ระดับ 1 ปรับปรุง *เกณฑ์กำรผำ่ น ระดบั 2 ขนึ้ ไป

840 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 11 เรอื่ ง รู้จกั ไมโครบตทิ ด เวลา 2 ช่วั โมง กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ เร่ือง นกั ออกแบบระบบ ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 2 ขอบเขตเนื้อหา รายวชิ า เทคโนโลยี สือ่ /แหลง่ เรยี นรู้ 1. ไมโครบิท กจิ กรรมการเรยี นรู้ - เวบ็ ไซต์เขยี นโปรแกรมบอร์ด micro:bit 2. การเขียนคาสง่ั ควบคุมไมโครบทิ ข้ันนา https://makecode.microbit.org/ -เว็บไซต์ตวั อยา่ งโครงงานโดยใช้บอรด์ micro:bit จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. นักเรยี นรว่ มกนั แสดงความคดิ เหน็ เก่ียวกับไมโครคอนโทรลเลอรท์ ี่ https://makecode.microbit.org/projects/soil- ด้านความรู้ เคยได้ยินหรือรู้จัก และคุณสมบตั ิสาคญั ของไมโครคอนโทรลเลอรน์ ้นั moisture - คู่มือการใช้ micro:bit จากลิง้ ค์ 1. บอกหลกั การทางานของไมโครบตทิ ได้ 2. ครยู กตัวอย่าง Microbit และการนา Microbit ไปประยกุ ตใ์ ชง้ าน https://inex.co.th/store/manual/microbit- 2. เขา้ ใจกระบวนการทางานของไมโครบิทต ขั้นสอน EdKitBeta-s.pdf ดา้ นทักษะและกระบวนการ - ใบความร้ทู ่ี 11.1 เรือ่ ง การใชง้ านไมโครบิทต 1. เขียนโปรแกรมควบคมุ ไมโครบทิตได้ 1. ครใู ห้นักเรียนเขา้ เว็บไซต์ https://makecode.microbit.org และ เบอ้ื งตน้ อย่างถูกต้อง ทดลองใชง้ านดว้ ยตนเอง เปน็ เวลา 10 นาที - คลปิ วดี โี อ ตวั อย่างโครงงานวดั ความชน้ื ในดิน จาก ล้ิงค์ ดา้ นคุณลกั ษณะ 2. นกั เรียนรว่ มกันสรุปและนาเสนอองค์ความรู้ท่ไี ดจ้ ากการทดลองใช้ https://www.youtube.com/watch?v=S8Npp 1. การแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ งาน VT_paw 2. มคี วามรบั ผดิ ชอบ ซ่ือสัตยแ์ ละมุ่งม่นั ใน https://www.youtube.com/watch?v=HpX1m 3. ครูสาธิตการเขียนคาส่ังบน micro:bit เพ่อื แสดงผลข้อมูล และการ DEw1gk การทางานเปน็ ทีม ควบคมุ อุปกรณ์ - การเช่ือมต่ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ micro bit 4. นกั เรยี นศึกษาใบความรู้ท่ี 11.1 เรอื่ ง การใชง้ านไมโครบทิ เบือ้ งตน้ 5. นักเรยี นทดลองเขียนคาสง่ั บน micro:bit ดว้ ยตนเอง 6. นนกั กั เเรรียยี นนแแบบง่ ก่งกลุม่ และทท�ำาใใบบงงาานนทที่ 1ี่ 11.1.1โปโปรแรกแรกมรลมูกลเูกต๋าเต๋า 7. แตล่ ะกลุ่มนาเสนอผลงานของตนเอง 823

841 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ 11 เรอ่ื ง รู้จกั ไมโครบติท ด เวลา 2 ช่วั โมง กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ เรื่อง นกั ออกแบบระบบ ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 2 รายวชิ า เทคโนโลยี https://makecode.microbit.org/projects/plan ขัน้ สรุป t-watering 1. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สรุปเน้ือหาร่วมกนั - https://makecode.microbit.org/projects/servo- 2. นักเรียนสรุปและบันทึกเนื้อหาการเรียนรทู้ ่ีสาคัญลงในสมดุ เรยี น calibrator - https://makecode.microbit.org/projects/soil- moisture ภาระงาน/ชนิ้ งาน - ใบงานที่ 11.1 โปรแกรมลูกเตา๋ - ใบงานที่ 11.2 โปรแกรมควบคุมผา่ นสวิตซแ์ ละ การใช้ Extension 824

842 825 การวัดและประเมนิ ผล ส่งิ ท่ตี ้องการวัด วิธีการ เคร่ืองมือท่ีใช้ เกณฑ์ - นกั เรยี นทกุ คน 1. ดา้ นความรู้ (K) - แบบประเมนิ การคดิ ผา่ นเกณฑ์ไมต่ า่ วิจารณญาณ กวา่ รอ้ ยละ 80 1. บอกหลกั การทางานของ - สังเกตพฤติกรรมการ - แบบสังเกตพฤติกรรม - แบบประเมนิ การคดิ วิเคราะห์ - นักเรยี นทกุ คน ไมโครบิทตได้ เรยี นรขู้ องนักเรียน - แบบประเมินผังมโนทัศน์ ผ่านเกณฑ์ไม่ต่า - แบบประเมินการทางานกลุ่ม กว่ารอ้ ยละ 80 2. เขา้ ใจกระบวนการ - แบบประเมินผลด้าน - นักเรียนทุกคน ทางานของไมโครบทิต กระบวนการเรียนรเู้ ทยี บกับ ผา่ นเกณฑ์ไม่ต่า เกณฑ์ กว่าร้อยละ 80 2. ด้านทักษะกระบวนการ 1. ใบงานท่ี 11.1 (P) โปรแกรมลกู เต๋า - แบบประเมินผล 2. ใบงานที่ 11.2 ด้านคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. เขียนโปรแกรมควบคมุ โปรแกรมควบคุมผ่าน เทยี บกบั เกณฑ์ ไมโครบิทตไดอ้ ย่างถูกต้อง สวติ ซแ์ ละการใช้ Extension 3. ด้านคณุ ลักษณะ (A) 1. การแก้ไขปัญหาอย่าง - สังเกตพฤติกรรมของ นกั เรียน เป็นระบบ 2. มีความรับผิดชอบ ซื่อสตั ยแ์ ละมงุ่ ม่ันในการ ทางานเปน็ ทีม


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook