แผนการจัดประสบการณ์ วนั ท่ี 3 หน่วย ดนิ หิน ทราย ชั้นอนุบาลปีท่ี 3 จดุ ประสงคก์ าร สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมินพัฒนาการ เรยี นรู้ ประสบการณส์ าคัญ สาระท่ีควรเรยี นรู้ 1. กจิ กรรมพนื้ ฐาน ให้เดก็ เคล่อื นไหวร่างกายไปทว่ั 1. เครือ่ งให้จังหวะ สงั เกต กจิ กรรม การแสดงท่าทาง / เคล่ือนไหวและ (2) การแสดง บริเวณอยา่ งอิสระตามจงั หวะ เมอ่ื ไดย้ ินสญั ญาณ 2. เพลง ระบา้ จงั หวะ ความคดิ สร้างสรรค์ เคลอ่ื นไหวประกอบเพลง แสดงทา่ ทาง/ ผา่ น “หยดุ “ ให้หยุดเคล่อื นไหวในทา่ น้ันทนั ที เตา่ ทอง จังหวะ และดนตรี เคล่ือนไหว ส่ือวัสดุตา่ งๆผา่ น ประกอบเพลง ภาษาทา่ ทางการ 2. เดก็ ท้าทา่ ทางตามจินตนาการประกอบเพลง ระบ้า จงั หวะ และดนตรี เคลอ่ื นไหว ได้ (1) การฟังเพลง เต่าทอง การร้องเพลง และ การแสดงปฏกิ ริ ิยา 3. เด็กปฏบิ ตั ิตามขอ้ 2 ซ้า 2 - 3 ครัง้ โต้ตอบเสียงดนตรี (3) การเคลอื่ นไหว แตใ่ หเ้ ด็กคดิ คา้ บรรยาย ตามเสยี งเพลง/ดนตรี กจิ กรรมเสรมิ (1) การสังเกต 1. ประโยชน์ของดนิ หนิ 1. เดก็ และครรู ่วมกันร้องเพลง “คนสรา้ งบ้าน” 1. ร้องเพลง “คน สังเกต ประสบการณ์ เลา่ เป็นเร่ืองราว ลกั ษณะ ทราย 2. เดก็ และครรู ่วมกันสนทนาถงึ ประโยชน์ของดนิ หิน สร้างบ้าน” การเล่าเปน็ เร่ืองราว เกีย่ วกบั ประโยชน์ ของดิน หิน ทราย ส่วนประกอบ 2. สิ่งประดษิ ฐท์ ีไ่ ดจ้ าก ทราย โดยให้เด็กออกมาเลา่ หลังจากไปสอบถาม 2. ของจรงิ หรอื ภาพ เก่ียวกับประโยชน์ของดนิ ต่อเนื่องได้ การเปล่ียนแปลง ดนิ หิน ทราย ผปู้ กครอง สิ่งประดษิ ฐ์ท่ไี ดจ้ าก หนิ ทราย และความสัมพันธ์ - เด็กไดไ้ ปถามคณุ พ่อแมม่ าว่า ประโยชน์ของดิน หนิ ดนิ หนิ ทราย ของสิ่งตา่ ง ๆโดยใช้ ทราย มอี ะไรบา้ ง ครูจดบันทึกค้าตอบเดก็ บน 3. ค้าคลอ้ งจอง ประสาทสัมผัสอย่าง กระดานหรือกระดาษบรู๊ฟ ประโยชนข์ องดิน หนิ เหมาะสม - นอกจากนี้ เดก็ ๆ คิดว่าเราสามารถนา้ ดิน หิน ทราย (8) การนบั และแสดง ทราย มาทา้ อะไรไดอ้ กี ครูจดบนั ทกึ คา้ ตอบเด็ก
จา้ นวนของสง่ิ ตา่ ง ๆ 3. ครรู วบรวมคา้ ตอบของเด็กทไ่ี ดม้ าอ่านใหเ้ ดก็ ฟงั ในชีวติ ประจ้าวัน อกี ครัง้ (5) การพดู กับผอู้ น่ื 4. ครูน้าของจรงิ หรอื ภาพส่งิ ประดิษฐท์ ี่ไดจ้ ากดิน หนิ เกย่ี วกับ ทราย มาสนทนากบั เด็ก เชน่ กระถางตน้ ไม้ ครกหิน ประสบการณข์ อง แกว้ น้า นาฬิกาทราย เป็นตน้ พร้อมท้ังนับจ้านวน ตนเองหรอื พดู เลา่ ส่งิ ของพร้อมกัน เร่ืองราวเก่ยี วกบั 5. เดก็ และครูรว่ มกนั สนทนาเกี่ยวกบั สิ่งประดษิ ฐ์ที่ได้ ตนเอง จากดิน หิน ทราย “สิง่ ทเี่ ดก็ ๆ เหน็ คืออะไร ท้ามาจากอะไร” “แล้วนอกจากส่ิงเหลา่ นี้ มีอะไรอกี ทีท่ า้ มาจากดนิ หิน ทราย”ครจู ดบันทึก 6. เดก็ และครูรว่ มกนั สรุปถงึ ประโยชน์ของดนิ หนิ ทราย เช่น - ดนิ ใชป้ ลกู พืช เป็นท่อี ยู่อาศยั ของสัตวต์ ่าง ๆ ท้า เครอ่ื งป้ันดินเผา เป็นเสน้ ทางคมนาคมทางบก - หนิ และทราย ใชส้ รา้ งถนน ก่อสรา้ งที่อยู่อาศยั และท้าของใชต้ า่ ง ๆ 7. เดก็ และครูร่วมทอ่ งค้าคลอ้ งจองประโยชน์ของดนิ หิน ทราย
จดุ ประสงคก์ าร สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมิน พฒั นาการ เรียนรู้ ประสบการณ์สาคญั สาระท่ีควรเรยี นรู้ สงั เกต กิจกรรมศลิ ปะ (5) การทา้ กจิ กรรมศลิ ปะตา่ ง ๆ 1. ครเู ตรยี มอปุ กรณก์ ิจกรรม 1. ดนิ เหนยี ว การสร้าง สรา้ งสรรค์ (3) การป้ัน 2 กิจกรรมไดแ้ ก่วาดภาพ 2. สีเทียน ผลงานศิลปะเพ่อื ส่ือสารความคดิ สร้างผลงาน (3) การทา้ งานศลิ ปะทีน่ ้าวัสดหุ รือสงิ่ ของเคร่ืองใชท้ ่ใี ช้ สง่ิ ประดิษฐ์ทท่ี า้ มาจาก ดิน หนิ 3. กระดาษ ความรสู้ กึ ของ ตนเองต่อผอู้ ่นื ศิลปะเพอ่ื สื่อสาร แลว้ มาใชซ้ า้ หรอื แปรรูปแลว้ นา้ กลับมาใชใ้ หม่ ทราย , ปั้นดินเหนียวเป็น ความคดิ สงิ่ ประดษิ ฐ์ใหม่ ความรสู้ ึกของ 2. ครแู นะน้ากจิ กรรมใหม่ “ปั้น ตนเองต่อผอู้ ื่นได้ ดินเหนียวเป็นสิ่งประดิษฐ์”คือ การปั้นดินเหนียวเป็นสิ่งของต่าง ๆ ตามจินตนาการเช่น ครก แจกัน 3. เด็กเลอื กท้ากิจกรรม 1 - 2 กจิ กรรม 4. เดก็ รว่ มกนั เก็บอุปกรณ์ และ สง่ ผลงานพรอ้ มเล่าผลงาน กิจกรรมเลน่ ตาม (1) การเลน่ อสิ ระ 1. เด็กเลือกกจิ กรรมเสรีตามมมุ - มมุ สงั เกต การเลน่ และ มุม (2) การเล่นรายบุคคล กลุ่มยอ่ ย และกล่มุ ใหญ่ ประสบการณ์ตามความสนใจ ประสบการณ์ใน เลน่ และปฏบิ ัติ (3) การเลน่ ตามมมุ ประสบการณ์/มมุ เลน่ ต่าง ๆ ปฏบิ ัตติ ่อผูอ้ ่นื อย่างน้อย ๔ มมุ เชน่ หอ้ งเรยี น อยา่ งปลอดภัย ต่อผู้อน่ื อยา่ ง (1) การเลน่ เคร่ืองเล่นสมั ผสั และการสรา้ งสง่ิ ตา่ ง ๆ - มุมธรรมชาติศกึ ษา (ดิน หิน - มุมเล่นน้า – ปลอดภัย จากแทง่ ไม้ บล็อก ทราย) เล่นทราย - มมุ หนงั สอื - มุมก่อสร้าง - มมุ บล็อก
จุดประสงคก์ าร สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ พฒั นาการ เรียนรู้ ประสบการณ์สาคญั สาระทคี่ วรเรียนรู้ - มุมเกมการศึกษา สังเกต - บทบาทสมมติ การเล่นและปฏิบตั ติ ่อผูอ้ ืน่ - มมุ เลน่ นา้ – เลน่ ทราย อย่างปลอดภัย - มมุ ก่อสร้าง โดยครูคอยช่วยเหลือหรือใหค้ า้ แนะนา้ วธิ ีการเล่น กับผู้อน่ื และการเล่นอย่างปลอดภัย 2. เม่อื หมดเวลาเด็กเกบ็ ของเขา้ ทใี่ หเ้ รียบรอ้ ย กจิ กรรมกลางแจง้ (2) การเล่นและ 1. ครแู นะน้าข้อตกลงในการเล่นเกมก่อกองทราย 1. ทราย เล่นและปฏบิ ตั ิ ทา้ งานรว่ มกบั ผู้อนื่ พรอ้ มท้งั แนะนา้ วธิ กี ารเล่นคือแบง่ กลุ่มเลน่ เกมขน 2. มือเด็ก ทรายด้วยมือตนเองแลว้ ช่วยกันกอ่ กองทรายตาม ต่อผู้อืน่ อย่าง (2) การเลน่ รายบคุ คล กา้ หนดเวลาอยา่ งปลอดภัย กลุ่มย่อย และกลุม่ 2. เด็กเลน่ เกมกอ่ กองทรายโดยมีครูดแู ลอย่าง ปลอดภยั ได้ ใหญ่ ใกลช้ ิด 3. เมอื่ ครใู ห้สญั ญาณหมดเวลาเด็กเข้าแถวและทา้ ความสะอาดรา่ งกาย
จดุ ประสงคก์ าร สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ พัฒนาการ เรยี นรู้ ประสบการณส์ าคญั สาระท่คี วรเรียนรู้ กจิ กรรมเกม (5) การคัดแยก การจ้าแนกและจัดกล่มุ 1. ครแู นะน้าเกมภาพตัดตอ่ ดินหินทราย 1. เกมภาพตัดต่อดินหิน สงั เกต รายละเอยี ดภาพดินหิน การศึกษา การจัดกลมุ่ และ ทรายจากภาพตดั ตอ่ 2. แบง่ เดก็ เป็น 6 กลุ่มโดยใหเ้ ด็กเลอื กหัวหน้า ทราย การเลน่ เกมภาพตัดต่อ จ้าแนกและจัดกล่มุ การจา้ แนกสงิ่ ตา่ ง ๆ กลุ่มออกมารบั เกมทเ่ี คยเล่นแล้วและเกมภาพตัด 2. เกมท่เี คยเล่นแล้ว ดินหนิ ทราย รายละเอยี ดภาพ ตามลกั ษณะและ ต่อดินหนิ ทราย ดนิ หนิ ทรายได้ รปู รา่ ง รูปทรง 3. เด็กเลน่ เกมโดยให้เด็กสงั เกตจา้ แนกและจดั กล่มุ รายละเอียดภาพดินหินทรายโดยหมุนเวียน สลบั เปลี่ยนกันในแตล่ ะกล่มุ โดยทกุ กลมุ่ ได้เล่นเกม ภาพตัดตอ่ ดนิ หินทราย 4. ครใู หส้ ัญญาณหมดเวลา เดก็ เกบ็ เกมการศึกษา
แผนการจดั ประสบการณ์ วันท่ี 4 หนว่ ย ดนิ หิน ทราย ชั้นอนบุ าลปีท่ี 3 จดุ ประสงค์ สาระการเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ประสบการณ์ สาระที่ควร กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมินผล กิจกรรม เคลอ่ื นไหวและ สาคญั เรียนรู้ 1. กิจกรรมพื้นฐาน ให้เดก็ เคลอื่ นไหวร่างกายไปทั่วบรเิ วณอย่างอสิ ระตาม 1 .เครื่องให้ สงั เกต จงั หวะ จังหวะ เมือ่ ได้ยนิ สัญญาณ “หยดุ “ ให้หยุดเคลอ่ื นไหวในทา่ นนั้ ทันที จงั หวะ การแสดง แสดงทา่ ทาง / (1) การฟงั เพลง 2. เด็กและครรู ว่ มกันรอ้ งเพลง ทะเลแสนงามพร้อมทง้ั ทา้ ทา่ ทางประกอบ 2. เพลง ท่าทาง / เคล่ือนไหว เพลง เม่ือได้ยนิ สัญญาณ “หยดุ ”ใหห้ ยุดเคล่อื นไหวในทา่ น้นั ทนั ทีปฏบิ ัติ ทะเลแสนงาม เคลอื่ นไหว ประกอบเพลง การร้องเพลง กจิ กรรมซ้าอีกครัง้ ประกอบเพลง ทะเลแสนงามได้ 3. ปฏบิ ตั ติ ามข้อ 2 ซ้า 2 - 3 คร้ัง 1. แบบ เดนิ วง่ิ และการแสดง บันทึก กจิ กรรมเสรมิ 1. เดก็ และครูร่วมกันสร้างข้อตกลงในการออกไปสา้ รวจ ดนิ หิน ทราย สิง่ ที่พบในดิน สงั เกต ประสบการณ์ ปฏิกริ ยิ าโต้ตอบ 2. แบง่ กลุ่มเดก็ ไปสา้ รวจดิน หนิ ทราย บรเิ วณนอกหอ้ งเรียนโดยให้เดก็ หิน ทราย 1. ความ 1. มีความ ส้ารวจ สงั เกตว่ามีอะไรอยู่ใน ดิน หนิ ทรายบา้ ง ไดแ้ ก่สิง่ มีชวี ิตที่อยู่ดิน 2. กระ กระตือรอื รน้ ใน กระตอื รือร้นใน เสียงดนตรี หนิ ทราย ดาษบรฟู๊ / การรว่ มกจิ กรรม การส้ารวจสิ่งมชี วี ิต 3. ครแู จกแบบบนั ทึกให้แต่ละกลุม่ ไปบนั ทึกสิ่งที่กลุม่ ตนเองพบโดยการ กระดาน ตง้ั แต่ต้นจนจบ ทีอ่ ยูใ่ นดินตงั้ แต่ต้น (3) การ วาดภาพสิง่ ท่ีพบ 2. การทา้ งานท่ี จนจบ ได้รับมอบหมาย 2. ทา้ งานทีไ่ ด้รบั เคลือ่ นไหวตาม ส่ิงทีพ่ บในดิน หนิ ทราย จนส้าเรจ็ ด้วย มอบหมายจน ดนิ หิน ทราย ตนเอง สา้ เร็จดว้ ยตนเอง เสยี งเพลง/ดนตรี 4. เด็กแตล่ ะกล่มุ ออกมานา้ เสนอส่งิ ท่ีกล่มุ ตนเองไดพ้ บจากการสา้ รวจ (3) การให้ความ การส้ารวจ ครจู ดบันทึกของแตล่ ะกลมุ่ ลงกระดาษบรู๊ฟ/กระดาน ร่วมมอื ใน สิ่งมชี วี ติ ทอี่ ยู่ดิน 5. เด็กและครูรว่ มกนั สรุปวา่ มีสิง่ มชี ีวติ อะไรบ้างที่อยู่ดิน หิน ทราย โดย การปฏบิ ัติ หิน ทราย และ กจิ กรรมตา่ ง ๆ สิ่งไม่มชี วี ติ ท่ีอยู่ (4) การพูด แสดงความ ดนิ หนิ ทราย คิดเหน็ ความรู้สกึ และ ความต้องการ (6) การพดู อธิบายเกยี่ วกับ สงิ่ ของ เหตกุ ารณแ์ ละ ความสมั พนั ธ์
จุดประสงค์ สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมินผล การเรียนรู้ ประสบการณ์ สาระที่ควร ครใู ห้ความรูเ้ พ่ิมเติมกบั เดก็ สาคญั เรยี นรู้ ของสงิ่ ตา่ ง ๆ (3) สืบเสาะหา ความรเู้ พ่อื คน้ หาค้าตอบ ของขอ้ สงสัย ตา่ ง ๆ กิจกรรมศิลปะ (5) การท้า 1. ครูเตรียมอุปกรณ์กิจกรรม 2 กจิ กรรมได้แก่ ฉกี ตัดปะกระดาษ 1. สเี ทียน สังเกต นติ ยสาร หนงั สือพมิ พ์ ,วาดภาพบนกระดาษทราย 2. กระดาษ การสร้าง สร้างสรรค์ กจิ กรรมศลิ ปะ 2. ครูแนะนา้ กจิ กรรมใหม่ “วาดภาพบนกระดาษทราย”คือการวาด ทราย ลวดลายลงบนกระดาษทรายดว้ ยสเี ทียนใหส้ รา้ งสรรค์อยา่ งอสิ ระ แลว้ จดั 3. กรรไกร ผลงานศิลปะ สรา้ งผลงานศิลปะ ตา่ ง ๆ แสดงผลงาน 4. กระดาษสี เพ่ือสอ่ื สาร 3. เดก็ เลือกท้ากิจกรรม 1 - 2 กจิ กรรม 5. กระดาษ ความคิด เพื่อสื่อสาร (5) การหยบิ จบั 4. เด็กรว่ มกนั เกบ็ อปุ กรณ์ และสง่ ผลงานพร้อมเลา่ ผลงาน นิตยสาร ความรู้สกึ ของ หนังสือพมิ พ์ ตนเองต่อผอู้ ื่น ความคดิ ความรสู้ กึ การตดั ของตนเองต่อผู้อืน่ (3) การท้างาน ได้ ศลิ ปะท่นี ้าวัสดุ หรอื ส่งิ ของ เคร่ืองใชท้ ใ่ี ช้ แล้ว มาใช้ซ้า หรอื แปรรปู แลว้ นา้ กลับมาใช้ ใหม่
จุดประสงค์การ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ พัฒนาการ เรยี นรู้ สังเกต ประสบการณ์สาคัญ สาระที่ควรเรียนรู้ 1. เด็กเลอื กกิจกรรมเสรตี ามมุมประสบการณต์ าม - มุมประสบการณใ์ น กิจกรรมเลน่ ตาม การเล่นและปฏิบัติต่อ มุม (1) การเลน่ อิสระ ความสนใจ อย่างนอ้ ย ๔ มมุ เช่น ห้องเรียน ผู้อืน่ อย่างปลอดภัย (2) การเลน่ รายบคุ คล เลน่ และปฏิบตั ิ กลุ่มยอ่ ย และกลุ่ม - มุมธรรมชาติศกึ ษา (ดิน หนิ ทราย ) สังเกต ใหญ่ การเล่นและปฏิบัติต่อ ตอ่ ผอู้ ืน่ อย่าง (3) การเลน่ ตามมุม - มุมหนงั สือ - มมุ บล็อก ผอู้ ืน่ อย่างปลอดภัย ประสบการณ/์ มุมเลน่ ปลอดภัย ต่าง ๆ - มมุ เกมการศกึ ษา - บทบาทสมมติ (1) การเล่นเครือ่ งเล่น สัมผัสและการสร้างสง่ิ - มมุ เครือ่ งเล่นสัมผัส ตา่ ง ๆจากแท่งไม้ บลอ็ ก โดยครูคอยชว่ ยเหลอื หรอื ใหค้ า้ แนะน้าวิธีการเลน่ กับผอู้ ื่นและการเล่นอย่างปลอดภัย 2. เม่ือหมดเวลาเด็กเกบ็ ของเขา้ ทีใ่ ห้เรยี บร้อย กิจกรรมกลางแจ้ง (2) การเลน่ และ 1. ครแู นะนา้ ข้อตกลงในการเลน่ เกมโบวล์ ่ิงกอ้ น 1. ลกู เทนนิส เล่นและปฏบิ ตั ิ ทา้ งานรว่ มกบั ผอู้ ื่น หินคอื ใช้กอ้ นหนิ ขนาดเทา่ กันมาวางเวน้ ระยะ 2. ก้อนหิน ตามจุดวงกลมแล้วใช้ลูกเทนนิสโยนใหถ้ ูกกอ้ นหิน ต่อผอู้ ่ืนอย่าง (2) การเลน่ รายบคุ คล โดยให้กอ้ นหนิ ออกจากวงกลมท่วี างได้ นับแตม้ กลุม่ ย่อย และกลุม่ จากกอ้ นหินทอ่ี อกนอกวงกลม ปลอดภัย ใหญ่ 2. เด็กเลือกเล่นเกมโบวล์ ิง่ ตามกลุ่มโดยมีครูดูแล อยา่ งใกลช้ ดิ 3. เมือ่ ครใู ห้สัญญาณหมดเวลาเดก็ เก็บอุปกรณ์ เดก็ เข้าแถวและทา้ ความสะอาดร่างกาย
จุดประสงค์การ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมินพฒั นาการ เรยี นรู้ ประสบการณ์สาคญั สาระที่ควรเรยี นรู้ สังเกต การจา้ แนกและจดั กลุ่ม กจิ กรรมเกม (5) การคดั แยก การจา้ แนกดิน หิน 1. ครแู นะนา้ เกมโดมิโน ดนิ หนิ ทรายโดยให้เด็ก 1. เกมโดมิโน ดิน หิน รายละเอยี ดภาพดินหิน จ้าแนกและจัดกลุ่มรายละเอียดภาพดินหินทราย ทราย ทราย การศึกษา การจา้ แนกสงิ่ ต่าง ๆ ทรายจากเกมโดมิโน 2. แบง่ เดก็ เป็น 6 กลุม่ โดยให้เด็กเลือกหัวหน้า 2. เกมท่เี คยเล่นแลว้ กลุม่ ออกมารบั เกมโดมโิ น ดิน หนิ ทราย จา้ แนกและจดั ตามลักษณะ 3. เด็กเล่นเกมโดยหมุนเวยี นสลับเปลย่ี นกันในแต่ ละกลมุ่ โดยทกุ กลุม่ ไดเ้ ล่นเกมโดมโิ น ดิน หนิ กลมุ่ รายละเอยี ด (13) การเรียงล้าดบั ทราย 4. ครใู ห้สญั ญาณหมดเวลา เดก็ เกบ็ เกมการศกึ ษา ภาพดินหินทรายได้ ส่ิงตา่ ง ๆตามลกั ษณะ
แผนการจดั ประสบการณ์ วันท่ี 5 หน่วย ดิน หนิ ทราย ช้ันอนบุ าลปที ี่ 3 จุดประสงค์ สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ ผล การเรียนรู้ ประสบการณ์ สาระทค่ี วร สาคัญ เรียนรู้ กจิ กรรม (1) การ 1. กจิ กรรมพื้นฐาน ให้เดก็ เคลอ่ื นไหวรา่ งกายไปทัว่ บริเวณอย่างอสิ ระ 1. เครอื่ งให้ สังเกต เคล่อื นไหวและ เคลื่อนไหวอยู่ ตามจังหวะ เม่ือไดย้ นิ สญั ญาณ “หยุด “ ใหห้ ยุดเคลอ่ื นไหวในทา่ นัน้ จังหวะ การแสดงทา่ ทาง จังหวะ กบั ที่ ทันที 2. วทิ ยุเทป เคลอ่ื นไหวประกอบ แสดงทา่ ทาง / (2) การ 2. ครแู จกริบบน้ิ หลากสีให้เดก็ คนละ 1 เสน้ 3. ริบบิน้ สี เพลง โดยใช้ริบบิน้ เคล่ือนไหว เคล่ือนไหว 2. ครูเปดิ เพลงจากวิทยเุ ทป เด็กทา้ ทา่ ทางประกอบเพลงและ ประกอบเพลง เคลือ่ นที่ ประกอบอปุ กรณอ์ ยา่ งอสิ ระ เมอ่ื ครปู ิดเพลงให้เดก็ หยดุ ในท่านน้ั ทันที จังหวะ และดนตรี 3. เดก็ ปฏิบัติตามขอ้ 2 ซา้ 2 - 3 ครงั้ ได้ กจิ กรรมเสริม (16) การ การปฏิบัตติ นใน 1. ครู น้า ภาพปริศนาได้แก่ ภาพ ภเู ขาที่เห็นหิน ทะเลทีเ่ ห็นทราย 1. ภาพปรศิ นา สงั เกต ประสบการณ์ อธิบายเช่ือมโยง การดแู ลรักษา และป่าท่ีเห็นพน้ื ดิน มาใหเ้ ดก็ ๆ ดู แลว้ ชว่ ยกันทายภาพ 1. บอกวิธกี ารดแู ล สาเหตุและผลท่ี ธรรมชาตริ อบตวั 2. ครูสนทนาถงึ แหลง่ ก้าเนดิ ของ ดิน หิน ทราย ได้แก่ ภาพ ภเู ขา 1. การบอกวธิ ีการ รกั ษาธรรมชาติ เกดิ ขน้ึ ใน ทเี่ หน็ หนิ ทะเลท่ี ดูแลรักษาธรรมชาติ เหน็ คณุ ค่าดิน - เดก็ ๆ สามารถพบ ดนิ หิน และทรายได้ทไี่ หนบ้าง เห็นทราย และป่า รอบตัว เหน็ คุณคา่ รอบตวั เหน็ คุณค่า เหตุการณ์หรือ หนิ ทรายอยูไ่ ด้ - เด็กๆ คดิ วา่ ดิน หิน และทราย มแี หลง่ กา้ เนิดมาจากที่ใด ดนิ หนิ ทรายอยไู่ ด้ การกระท้า นาน ๆ ทเ่ี ห็นพ้ืนดนิ ดิน หนิ ทรายอยไู่ ด้ นาน ๆ (5) การพูดกับ - ถา้ เราใช้ ดิน หนิ ทราย กนั มาก ๆ โดยไมร่ ู้จักการประหยัดและดแู ล 2. กระดาษ นาน ๆ 2. ใช้สง่ิ ของ รกั ษาจะเกดิ อะไรขึ้น 3. สีเทยี น 2. การใชส้ ง่ิ ของ ผ้อู น่ื เกี่ยวกปั ระ 3. แบ่งกลุม่ เดก็ ให้ช่วยกนั คิดวา่ เราจะมีวิธใี ดบ้างที่จะท้าใหด้ ิน หิน เครื่องใชอ้ ย่าง เคร่ืองใช้อย่าง สบการณข์ อง ประหยัดและ ตนเองหรือพูด ทรายอย่ไู ดน้ าน ๆ ครแู จกกระดาษใหแ้ ต่ละกลมุ่ ชว่ ยกนั วาดภาพสิง่ ที่ ประหยัดและ พอเพียงดว้ ยตนเอง เลา่ เรือ่ งราว คดิ พอเพียง 4. แตล่ ะกลุ่มน้าเสนอผลงานเล่าใหเ้ ด็กกลุ่มอื่นฟัง ครูชว่ ยเพม่ิ เติม เกยี่ วกบั ตนเอง ความรู้ในการดแู ลรักษาธรรมชาตริ อบตัว เห็นคุณคา่ ดนิ หิน ทรายให้ อยูไ่ ด้นาน ๆ
จดุ ประสงค์ สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ ผล การเรียนรู้ ประสบการณ์ สาระท่ีควร สังเกต สาคญั เรียนรู้ การสรา้ งผลงาน (6) การพดู ศิลปะเพอื่ สื่อสาร ความคิด ความรูส้ กึ อธิบายเกยี่ วกับ ของตนเองต่อผูอ้ ่ืน ส่ิงของ เหตกุ ารณ์ และ ความสัมพันธ์ ของสิง่ ตา่ ง ๆ กจิ กรรมศลิ ปะ (5) การทา้ 1. ครูเตรียมอปุ กรณ์กจิ กรรม 2 กิจกรรมไดแ้ ก่ ปั้นดินสร้างสรรค์ , 1. สีนา้ สร้างสรรค์ กิจกรรมศลิ ปะ ก้อนหนิ สรา้ งสรรค์ 2. ก้อนหิน สร้างผลงาน ตา่ ง ๆ 2. ครแู นะนา้ กจิ กรรมใหม่ “ก้อนหินสร้างสรรค์”คือการวาดลวดลาย 3. พกู่ นั ศิลปะเพื่อสื่อสาร (3) การปัน้ ลงบนก้อนหินดว้ ยสีน้าแล้วน้ากระดาษและวัสดุเหลอื ใชต้ า่ ง ๆมา 4. ดินเหนียว ความคิด ความร้สู กึ (3) การทา้ งาน ตกแต่งให้เป็นช้นิ งานใหม่อย่างสรา้ งสรรค์ แลว้ จดั แสดงผลงาน 5. วัสดเุ หลือใช้ ของตนเองต่อผ้อู ่ืน ศิลปะท่ีน้าวสั ดุ 3. เด็กเลอื กทา้ กจิ กรรม 1 - 2 กิจกรรม เชน่ ไมจ้ ้ิมฟัน ได้ หรือสิ่งของ 4. เดก็ รว่ มกันเกบ็ อุปกรณ์ และสง่ ผลงานพร้อมเล่าผลงาน หลอดกาแฟ เคร่ืองใชท้ ใ่ี ช้ กระดาษ แลว้ มาใชซ้ ้า หรอื แปรรปู แลว้ นา้ กลับมาใช้ ใหม่ (2) การใช้วัสดุ และส่ิงของ เครอ่ื งใช้อย่าง คุ้มค่า
จดุ ประสงค์การ สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมินพัฒนาการ เรยี นรู้ - มุมประสบการณ์ใน สังเกต ประสบการณ์สาคัญ สาระทีค่ วรเรียนรู้ 1. เด็กเลือกกจิ กรรมเสรตี ามมมุ ประสบการณต์ าม ห้องเรียน กจิ กรรมเลน่ ตาม (1) การเล่นอสิ ระ การเลน่ และปฏิบัตติ อ่ มุม (2) การเลน่ รายบุคคล ความสนใจ อยา่ งน้อย ๔ มมุ เช่น 1. กอ้ นหิน ผู้อนื่ อยา่ งปลอดภัย กลุม่ ยอ่ ย และกลุม่ 2. นกหวีด เล่นและปฏบิ ัติ ใหญ่ - มุมธรรมชาติศึกษา (ดิน หนิ ทราย) สงั เกต ตอ่ ผ้อู ่นื อย่าง (3) การเลน่ ตามมมุ การเล่นและปฏบิ ัติต่อ ปลอดภัย ประสบการณ/์ มมุ เล่น - มมุ หนงั สอื - มุมบล็อก ผ้อู ่นื อยา่ งปลอดภยั ต่าง ๆ กิจกรรมกลางแจ้ง (1) การเลน่ เครอ่ื งเล่น - มุมเกมการศึกษา - บทบาทสมมติ เล่นและปฏบิ ตั ิ สมั ผัสและการสรา้ งส่ิง ต่าง ๆจากแทง่ ไม้ - มมุ เคร่ืองเลน่ สัมผสั ต่อผ้อู นื่ อย่าง บลอ็ ก ปลอดภยั โดยครูคอยช่วยเหลือหรือให้คา้ แนะน้าวิธีการเลน่ กับ (2) การเลน่ และ ความปลอดภัยในการ ท้างานรว่ มกบั ผอู้ น่ื เล่น ผอู้ นื่ และการเล่นอย่างปลอดภัย (2) การเล่นรายบคุ คล กล่มุ ยอ่ ย และกล่มุ 2. เมื่อหมดเวลาเดก็ เก็บของเขา้ ท่ใี ห้เรยี บร้อย ใหญ่ 1. ครูแนะน้าขอ้ ตกลงในการเลน่ เกมทอย เสน้ วธิ ีการเล่นทอยเส้นคือผู้เลน่ ยนื จรดเท้าอยเู่ ส้น แรก ห้ามล้าเสน้ ออกไป แล้วใช้แขนเหวยี่ งกอ้ นหนิ ใน มือออกไป ใหต้ ก หรอื ทบั เสน้ ท่สี อง เม่อื ทอยครบทุก คน ใหเ้ ปรยี บเทียบ กอ้ นหนิ ของใครใกลเ้ สน้ ทส่ี ุดเป็น ผู้ชนะ จากนัน้ ผชู้ นะจะยืนทต่ี ้าแหน่งกอ้ นหนิ ของ ตัวเอง แล้วใช้กอ้ นหินของตวั เองเอ้อื ม หรือปาไปให้ โดนตัวอ่นื ท่อี ยูห่ า่ งเส้นในลา้ ดบั ถัดไป 2. เด็กเลอื กเล่นเกมทอยเส้นโดยครคู อยช่วยเหลือ หรอื ใหค้ ้าแนะนา้ วธิ กี ารเลน่ กับผู้อนื่ และการเล่น อยา่ งปลอดภยั 3. เมอ่ื ครใู ห้สญั ญาณหมดเวลาเด็กเข้าแถวและทา้ ความสะอาดร่างกาย
จุดประสงค์การ สาระการเรียนรู้ เรียนรู้ ประสบการณ์สาคญั สาระทีค่ วร กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมินพฒั นาการ เรยี นรู้ 1. ครแู นะนา้ เกมเรียงลา้ ดับภาพเหตกุ ารณ์การปนั้ โอ่ง 1. เกมเรยี งล้าดบั ภาพ สังเกต กิจกรรมเกม (5) การคดั แยก การเรยี งล้าดบั 2. แบง่ เด็กเป็น 6 กลมุ่ โดยใหเ้ ด็กเลอื กหวั หนา้ กลุ่ม เหตกุ ารณ์การปัน้ โอง่ การเล่นเกมเรียงลา้ ดบั ออกมารับเกมทเ่ี คยเลน่ แลว้ และเกมเรยี งลา้ ดับภาพ 2. เกมที่เคยเลน่ แล้ว ภาพเหตุการณ์การปั้นโอง่ การศึกษา การจ้าแนกส่ิงตา่ ง ๆ เหตกุ ารณ์อยา่ ง เหตกุ ารณ์การปัน้ โอง่ 3. เด็กเล่นเกมโดยหมนุ เวียนสลับเปล่ียนกนั ในแตล่ ะกล่มุ เล่นเกมเรยี งล้าดบั ตามลักษณะ น้อย 5 ลา้ ดับ โดยทกุ กลุ่มได้เลน่ เกมเรียงล้าดบั ภาพเหตุการณ์การป้ัน โอง่ ภาพเหตุการณ์การ (13) การเรยี งลา้ ดับ 4. ครูใหส้ ัญญาณหมดเวลา เดก็ เก็บเกมการศกึ ษา ปน้ั โอง่ ได้ สิ่งตา่ ง ๆตามลกั ษณะ
1. เลข 2. ท่ี 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10. ชอื่ -สกลุ 1. การเลน่ อยา่ งปลอดภยั ด้วยตนเอง ดา้ น ร่างกาย 2. การว่ิงหลบหลกี สง่ิ กดี ขวาง ดา้ นอารมณแ์ ละจติ ใจ แบบสงั เกตพฤติกรรมเด็ก หน่วยการจดั ประสบการณท์ ี่ 16 ดนิ หิน ทราย ชนั้ อนุบาลปที ่ี 3 3. การพูดแสดงออกต่อหนา้ กลุ่มหรอื ประเมนิ พฒั นาการ หอ้ งเรยี นอยา่ งเหมาะสมบางสถานการณ์ ดา้ นสังคม 4. การสร้างผลงานศลิ ปะเพื่อสอื่ สาร ความคิด ความรู้สกึ ของตนเองต่อผู้อืน่ ด้านสติปญั ญา 5. การแสดงทา่ ทาง / เคลื่อนไหวประกอบ เพลง จังหวะ และดนตรี 6. การท้างานท่ีได้รับมอบหมายจนสา้ เร็จ ด้วยตนเองได้ 7. การใช้สงิ่ ของเครอ่ื งใชอ้ ยา่ งประหยัดและ พอเพียงด้วยตนเอง 8. การดแู ลรกั ษาธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ้ ม ด้วยตนเอง 9. การเล่าเปน็ เร่อื งราวตอ่ เนอ่ื ง 10. การพูดอธิบายเกีย่ วกับลกั ษณะของดนิ หนิ ทราย 11. การบอกลกั ษณะส่วนประกอบของ ดนิ หิน ทราย จากการสังเกตโดยใช้ประสาทสัมผัส 12. การอธิบายความแตกตา่ งและความ เหมือน ของดินหินทรายโดยใช้ลกั ษณะที่ สังเกตพบ 2 ลักษณะขนึ้ ไป 13. การจา้ แนกและจดั กลุ่มรายละเอียด ภาพดนิ หินทราย 14. การเรยี งลา้ ดับขนาดภาพกอ้ นหินจาก เล็ก-ใหญ่, ใหญ่-เล็ก 15. การคาดคะเนสิ่งทอ่ี าจจะเกดิ ขึ้น และมี สว่ นรว่ มในการลงความเหน็ จากขอ้ มูลอยา่ ง มีเหตผุ ล 16. การมคี วามกระตือรือร้นในการรว่ ม กจิ กรรมต้งั แตต่ ้นจนจบ 17. การคน้ หาคา้ ตอบข้อสงสัยลักษณะของ ดนิ หนิ ทรายตามวธิ ีการของตนเอง หมายเหตุ
1. เลข 2. ที่ 3. 4. ช่อื -สกลุ 5. 6. 7. 8. 9. 10. คาอธิบาย ระดบั ๓ ดี ครูสงั เกตพฤตกิ รรมเดก็ รายบุคคล จดบันทึกสรปุ เปน็ รายสปั ดาห์ระบุระดับคุณภาพเป็น ๓ ระดบั คือ 1. การเลน่ อยา่ งปลอดภยั ด้วยตนเอง ด้าน รา่ งกาย 2. การว่ิงหลบหลกี สง่ิ กดี ขวาง ระดับ ๒ พอใช้ ดา้ นอารมณแ์ ละจิตใจ 3. การพูดแสดงออกต่อหนา้ กลุ่มหรอื หอ้ งเรยี นอยา่ งเหมาะสมบางสถานการณ์ ด้านสังคม 4. การสร้างผลงานศลิ ปะเพื่อสอื่ สาร ระดับ ๑ ควรสง่ เสริม ความคิด ความรู้สกึ ของตนเองต่อผู้อืน่ ประเมนิ พัฒนาการ 5. การแสดงทา่ ทาง / เคลื่อนไหวประกอบ ดา้ นสตปิ ัญญา เพลง จังหวะ และดนตรี 6. การท้างานท่ีได้รับมอบหมายจนสา้ เร็จ ด้วยตนเองได้ 7. การใช้สงิ่ ของเครอ่ื งใชอ้ ยา่ งประหยัดและ พอเพียงด้วยตนเอง 8. การดแู ลรกั ษาธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ้ ม ด้วยตนเอง 9. การเล่าเปน็ เร่อื งราวตอ่ เนอ่ื ง 10. การพูดอธิบายเกีย่ วกับลกั ษณะของดนิ หนิ ทราย 11. การบอกลกั ษณะส่วนประกอบของ ดนิ หิน ทราย จากการสังเกตโดยใช้ประสาทสัมผัส 12. การอธิบายความแตกตา่ งและความ เหมือน ของดินหินทรายโดยใช้ลกั ษณะที่ สังเกตพบ 2 ลักษณะขนึ้ ไป 13. การจา้ แนกและจดั กลุ่มรายละเอียด ภาพดนิ หินทราย 14. การเรยี งลา้ ดับขนาดภาพกอ้ นหินจาก เล็ก-ใหญ่, ใหญ่-เล็ก 15. การคาดคะเนสิ่งทอ่ี าจจะเกดิ ขึ้น และมี สว่ นรว่ มในการลงความเหน็ จากขอ้ มูลอยา่ ง มีเหตผุ ล 16. การมคี วามกระตือรือร้นในการรว่ ม กจิ กรรมต้งั แตต่ ้นจนจบ 17. การคน้ หาคา้ ตอบข้อสงสัยลักษณะของ ดนิ หนิ ทรายตามวธิ ีการของตนเอง หมายเหตุ
การวเิ คราะหโ์ ครงสรา้ งหนว่ ยการจัดประสบการณ์ ตามหลักสูตรการศกึ ษาปฐมวัย พุทธศกั ราช ๒๕๖๐ หนว่ ยที่ ๑๗ สัตวน์ ่ารัก ชนั้ อนบุ าลปที ่ี 1 – 3 ภาคเรยี นท่ี 1 รายการ อนบุ าลปีท่ี๑ อนบุ าลปที ๒ี่ อนบุ าลปีท๓่ี สาระทค่ี วรเรียนรู้ สัตวป์ ีก ๑. ลักษณะของสตั วป์ ีก สัตว์น้า สัตวเ์ ล้ียง ๒. สัตวป์ กี และแมลงทีพ่ บบ่อย ๒.๑ ไก่ ๑. ลกั ษณะของสตั ว์นา้ ๑. ลักษณะของสัตวเ์ ลย้ี ง ๒.๒ นก ๒.๓ ผีเสื้อ ๒. ประเภทของสัตว์ สัตวแ์ ต่ละชนิดมรี ูปร่าง ลักษณะ ๒. ประเภทของสตั ว์ สัตว์แต่ละชนดิ มรี ูปร่าง ๒.๔ แมลงปอ ๓. การจับคู่ภาพเหมอื น และขนาดแตกตา่ งกัน ลักษณะ และขนาดแตกต่างกัน ๓. สัตว์แต่ละชนิดมีธรรมชาติความเปน็ อยทู่ ีแ่ ตกตา่ ง ๓. อาหาร ทอ่ี ยู่ของสตั ว์ และชว่ งอายุของสัตว์ กนั ๔. การป้องกนั อันตรายและความปลอดภยั จากสตั ว์ ๔. การปอ้ งกันอนั ตรายและความปลอดภัยจากสัตว์ ๕. ประโยชน์ของสตั ว์ตอ่ มนุษย์ ๕. ความเมตตากรุณา ตอ่ สตั ว์ ๖. ความเมตตากรณุ า ตอ่ สัตว์ ๖. การสงั เกต จับคู่เปรยี บเทยี บ จาแนก ๗. การจับคู่ภาพเหมอื น เกมโดมโิ น การจับคภู่ าพ จดั กลุ่มสตั ว์ กบั สญั ลกั ษณ์ การจบั คู่ภาพกับจานวน มาตรฐาน มฐ 1 ตบช. 1.3 (1.3.1) มฐ 1 ตบช. 1.3 (1.3.1) มฐ 1 ตบช. 1.3 (1.3.1) ตวั บ่งชี้ มฐ.2 ตบช. 2.1 (2.1.๓) มฐ 2 ตบช. 2.1 (2.1.๓) มฐ 2 ตบช. 2.1 (2.1.๓) สภาพที่พึงประสงค์ ตบช. 2.2 (2.2.๓) ตบช. 2.2 (2.2.๑) ตบช. 2.2 (2.2.๑) มฐ.๔ ตบช ๔.๑ (๔.๑.๑) มฐ ๓ ตบช ๓.๒ (๓.๒.๒) มฐ ๓ ตบช ๓.๒ (๓.๒.๒) มฐ ๔ ตบช ๔.๑ (๔.๑.๓) มฐ ๔ ตบช ๔.๑ (๔.๑.๑) ตบช ๔.๑ (๔.๑.๓) มฐ 5 ตบช 5.๒ (5.๒.๑) มฐ 5 ตบช 5.๒ (5.๒.๑) มฐ 5 ตบช 5.๒ (5.๒.1) มฐ 6 ตบช. 6.2 (6.๓.๑) มฐ 6 ตบช. 6.2 (6.๓.๑) มฐ 7 ตบช 7.๑ (7.๑.๑) มฐ 7 ตบช 7.๑ (7.๑.๑) มฐ 6 ตบช. 6.2 (6.2.๑) มฐ ๘ ตบช ๘.๓ (๘.๓.๒) มฐ ๘ ตบช ๘.๓ (๘.๓.๒) มฐ 9 ตบช. 9.1 (9.1.๒) มฐ 9 ตบช. 9.1 (9.1.๒) มฐ ๘ ตบช ๘.๓ (๘.๓.๒) มฐ 9 ตบช. 9.1 (9.1.1) ตบช. 9.๒ (9.๒.๑) ตบช. 9.๒ (9.๒.๑) ตบช. 9.๒ (9.๒.1)
มฐ 1๐ ตบช. 10.1(10.1.๒) มฐ 10 ตบช. 10.1(10.1.๒) มฐ 10 ตบช. 10.1(10.1.๒) ตบช. 10.1(10.1.๓) ตบช. 10.1(10.1.๓) มฐ ๑๒ ตบช. ๑๒.๒(๑๒.๒.๑) ประสบการณ์สาคัญ รา่ งกาย รา่ งกาย รา่ งกาย ๑.๑.๑ (๑) การเคลือ่ นไหวอยูก่ ับที่ 1.1.1 (2) การเคลอื่ นไหวเคลอื่ นท่ี ๑.๑.๑ (๑) การเคลื่อนไหวอยกู่ ับที่ (๒) การเคลือ่ นไหวเคลอ่ื นที่ 1.1.2 (2) การเขียนภาพและการ (๒) การเคล่ือนไหวเคล่ือนที่ (๓) การเคลื่อนไหวพร้อมอปุ กรณ์ (๔)การเคลื่อนไหวท่ใี ชก้ ารประสานสมั พนั ธ์ เลน่ กบั สี (๓) การเคล่ือนไหวพร้อมอุปกรณ์ ของการใช้กลา้ มเน้ือใหญ่ในการจบั การโยน (๕) การเล่นเคร่อื งเลน่ สนามอย่างอสิ ระ (3) การป้นั (๔) การเคล่อื นไหวท่ใี ช้การประสานสมั พันธ์ ๑.๑.๒ (๒) การเขยี นภาพและการเล่นกับสี (๓) การป้ัน (5) การฉกี ปะ ของการใช้กล้ามเน้ือใหญ่ในการจบั การโยน (๔)การประดษิ ฐส์ ิ่งตา่ งๆด้วยเศษวสั ดุ (๕) การหยิบจับ การใชก้ รรไกร การฉกี ๑.๑.๔ (๓) การเล่นเครือ่ งเลน่ อยา่ ง (๕) การเลน่ เคร่อื งเลน่ สนามอย่างอสิ ระ การตดั การปะ และรอ้ ยวสั ดุ ๑.๑.๔ (๑) การปฏิบัตติ นให้ปลอดภยั ใน ปลอดภัย ๑.๑.๒ (๒) การเขยี นภาพและการเล่นกบั สี ชีวิตประจาวัน (๓) การเล่นเครื่องเลน่ อย่างปลอดภยั (๓) การป้ัน ๑.๒.๒ (๑) การเล่นอสิ ระ (๓) การเล่นตามมุมประสบการณ์ (๔) การประดษิ ฐ์สง่ิ ตา่ งๆดว้ ยเศษวสั ดุ (๔) การเล่นนอกห้องเรียน (๕) การหยิบจับ การใชก้ รรไกร การฉีก การตัด การปะ และรอ้ ยวัสดุ ๑.๑.๔ (๑) การปฏบิ ัติตนใหป้ ลอดภัยใน ชวี ติ ประจาวนั (๓) การเล่นเครอื่ งเลน่ อยา่ งปลอดภัย ๑.๑.๕ (๑) การเคล่อื นไหวโดยควบคมุ ตนเองไปใน ทศิ ทาง ระดับ และพื้นท่ี (๒) การเคลือ่ นไหวข้ามส่งิ กีดขวาง ๑.๒.๒ (๑) การเล่นอิสระ (๓) การเลน่ ตามมมุ ประสบการณ์ (๔) การเล่นนอกห้องเรียน
อารมณ์ อารมณ์ อารมณ์ 1.2.4 (๒)การเล่นบทบาทสมมติ (ท่าทางสัตว์) ๑.๒.๓ (๒) การฟงั นทิ านเก่ยี วกับคุณธรรม จรยิ ธรรม ๑.๒.๓ (๒) การฟังนทิ านเกีย่ วกบั คณุ ธรรม (5) การทางานศลิ ปะ ๑.๒.๔ (๑) การพูดสะทอ้ นความรสู้ ึกของตนเองและ จรยิ ธรรม สงั คม ผูอ้ ่ืน ๑.๒.๔ (๑) การพูดสะท้อนความรู้สึกของตนเองและ ๑.๒.๑ (๓) การเคลือ่ นไหวตาม เสียงเพลงและดนตรี (๒) การเลน่ บทบาทสมมติ ผูอ้ ืน่ 1.๒.3 (๒) การฟังนทิ านเกี่ยวกบั คณุ ธรรม จริยธรรม (๓) การเคลื่อนไหวตามเสียงเพลง/ดนตรี (๓) การเคลื่อนไหวตามเสียงเพลง/ดนตรี 1.3.4 (2) การปฏบิ ัตติ นเปน็ สมาชกิ ทีด่ ขี องห้องเรียน (๔) การเล่นบทบาทสมมติ (๔) การเลน่ บทบาทสมมติ (๕) การทางานศลิ ปะ ๑.๓.๒ (๓) การทางานศลิ ปะท่นี าวัสดุ หรือสิ่งของเครอ่ื งใช้ท่ใี ช้แลว้ มาใช้ซ้าหรแื ปรรูปใหม่ (๕) การเลี้ยงสตั ว์ สังคม สงั คม ๑.๒.๒ (๒) การเล่นรายบุคคล ๑.๒.๒ (๑) การเล่นอสิ ระ กลุม่ ย่อย กลุ่มใหญ่ (๒) การเล่นรายบคุ คล กลุ่มยอ่ ย กลุม่ ใหญ่ (๓) การเลน่ ตามมุมประสบการณ์ (๓) การเล่นตามมมุ ประสบการณ์ (๔) การเลน่ นอกหอ้ งเรียน ๑.๓.๒ (๑) การมสี ว่ นรว่ มรบั ผิดชอบดแู ลรักษา ๑.๓.๒ (๑) การมสี ว่ นรว่ มรบั ผดิ ชอบดูแลรกั ษา ส่งิ แวดลอ้ มภายในและภายนอกและภายนอก สงิ่ แวดลอ้ มภายในและภายนอกและภายนอก ห้องเรยี น ห้องเรียน (๒) การใช้วัสดแุ ละสงิ่ ของเครอ่ื งใชอ้ ยา่ งคุ้มค่า (๒) การใชว้ สั ดแุ ละสิ่งของเครือ่ งใช้อยา่ ง (๕) การเล้ยี งสัตว์ คมุ้ ค่า ๑.๓.๓ (๑) การเลน่ บทบาทสมมติ การปฏบิ ัติตนใน (๓) การทางานศิลปะท่นี าวสั ดุ ความเป็นไทย หรอื สง่ิ ของเคร่อื งใชท้ ใี่ ช้แลว้ มาใชซ้ า้ หรอื แปรรปู (๕) การละเล่นพืน้ บ้านของไทย ใหม่ ๑.๓.๔ (๒) การปฏิบัตติ นเป็นสมาชกิ ทดี่ ีของหอ้ งเรยี น (๕) การเลยี้ งสัตว์ (๓) การให้ความรว่ มมือในการปฏบิ ัตกิ จิ กรรม ๑.๓.๓ (๑) การเล่นบทบาทสมมติ การปฏิบัติตนใน ตา่ งๆ ความเปน็ ไทย
(๕) การละเล่นพ้นื บ้านของไทย ๑.๓.๔ (๒) การปฏิบตั ติ นเป็นสมาชกิ ทีด่ ขี อง หอ้ งเรียน (๓) การใหค้ วามร่วมมอื ในการปฏิบัติ กจิ กรรมต่างๆ สติปัญญา สติปัญญา สตปิ ัญญา 1.4.1 (2) การฟงั และปฏิบัติตาม คาแนะนา ๑.๔.๑ (๒) การฟังและปฏิบตั ิตามคาแนะนา 1.4.1(๒) การฟงั และปฏบิ ัตติ ามคาแนะนา (๕) การพดู เร่ืองราว (๓) การฟังเพลง นทิ าน หรือเรื่องราวต่าง ๆ (๓) การฟังเพลง นิทาน หรือเรอ่ื งราวต่าง ๆ เก่ยี วกบั ตนเอง (๔) การพูดแสดงความคิดเหน็ ความรูส้ กึ และ (๔) การพดู แสดงความคิดเห็นความรู้สกึ และ (8) การรอจงั หวะท่ี เหมาะสมในการพดู ความตอ้ งการ ความตอ้ งการ (12) การเหน็ แบบอย่าง (๕) การพดู กับผู้อืน่ เกีย่ วกบั ประสบการณ์ของ (๕) การพดู กบั ผอู้ น่ื เก่ียวกับประสบการณ์ ของการอา่ นทถ่ี ูกตอ้ ง 1.4.2 (1) การสังเกตลกั ษณะสิง่ ตนเอง หรือพูดเล่าเรื่องราวเกยี่ วกบั ตนเอง ของตนเอง หรือพูดเลา่ เร่อื งราวเกย่ี วกบั ตนเอง ตา่ งๆโดยใชป้ ระสาทสัมผัสอยา่ ง เหมาะสม (๑๐) การอ่านอย่างอสิ ระตามลาพังการอ่าน (๑๐) การอ่านอย่างอสิ ระตามลาพงั การอ่าน (๕) การคดั แยก การจัด รว่ มกนั การอ่านโดยมผี ู้ชีแ้ นะ รว่ มกนั การอ่านโดยมีผู้ชี้แนะ กลมุ่ และการจาแนกสง่ิ ตา่ งๆ ตาม ลกั ษณะและรูปรา่ ง รูปทรง (๑๒) การเห็นแบบอย่างของการอ่านทถ่ี กู ตอ้ ง (๑๓) การสังเกตทศิ ทางการอ่านตัวอกั ษร คา (๑๓) การเปรียบเทยี บสิ่ง (๑๓) การสังเกตทิศทางการอ่านตัวอกั ษร คา และข้อความ ตา่ งๆตามลักษณะ ขนาดใหญ-่ เล็ก ความสงู - ตา่ และขอ้ ความ (๑๔) การอา่ นและชีข้ ้อความโดยกวาด (๑๔) การอา่ นและชขี้ อ้ ความโดยกวาดสายตา สายตาตามบรรทัดจากซา้ ยไปขวา จากบนลงล่าง ตามบรรทัดจากซ้ายไปขวา จากบนลงล่าง (๑๗) การคาดเดา คาวลีหรือประโยคจาก (๑๗) การคาดเดา คาวลีหรอื ประโยคจากนิทาน นทิ าน 1.4.2 (๑) การสงั เกตลักษณะ สว่ นประกอบ 1.4.2 (๑) การสงั เกตลกั ษณะส่วนประกอบ การเปลยี่ นแปลงและความสมั พนั ธข์ องส่งิ ต่างๆโดยใช้ การเปลย่ี นแปลงและความสัมพนั ธ์ของสิ่งต่างๆโดย ประสาทสัมผัสอย่างเหมาะสม ใชป้ ระสาทสมั ผสั อย่างเหมาะสม (๕) การคดั แยก การจดั กลุ่มและการจาแนก (๕) การคัดแยก การจัดกลุ่มและการจาแนก สิ่งตา่ งๆ ตามลักษณะและรปู ร่าง รปู ทรง ส่ิงตา่ งๆ ตามลักษณะและรูปรา่ ง รปู ทรง
(๖) การตอ่ ของชนิ้ เล็กเตมิ ในชนิ้ ใหญใ่ ห้ (๖) การตอ่ ของชิน้ เล็กเติมในชิน้ ใหญใ่ ห้ สมบรู ณ์และการแยกช้ินสว่ น สมบูรณ์ (๘) การนับและแสดงจานวนของส่ิงต่าง ๆ (๘) การนบั และแสดงจานวนของสงิ่ ต่าง ๆ ในชวี ติ ประจาวัน ในชีวิตประจาวัน (๑๓) การจับคู่ การเปรยี บเทียบและการ (๑๓) การจบั คู่ การเปรียบเทยี บและ เรยี งลาดบั สงิ่ ตา่ ง ๆ ตามลกั ษณะความยาว/ความสงู การเรียงลาดับสิ่งตา่ งๆตามลกั ษณะ ความยาว ความสูง นา้ หนัก ปริมาตร คณิตศาสตร์ ๑. การนับ ๑. การนับ 1.4.4 (๑) การสารวจสง่ิ ต่าง ๆ และแหลง่ เรยี นรู้ วิทยาศาสตร์ รอบตัว ๑.๑ การนบั ปากเปลา่ 1 – 5 ๑.๑ การนับปากเปล่า 1 – ๑๐ (๒) การต้งั คาถามในเรอื่ งทีส่ นใจ ๑.๒ การนับและแสดงจานวน ๓ ๑.๒ การนบั และแสดงจานวน ๑ - ๕ ๑. การนับ ๓. การเปรยี บเทียบขนาดใหญ่-เลก็ ๒. เปรยี บเทยี บ จาแนกจดั กลุม่ สตั ว์ ๑.๑ การนับปากเปลา่ 1 – ๒๐ ๑.๒ การนับและแสดงจานวน ๑ - ๙ ๑. ทกั ษะการสงั เกต ๑. ทกั ษะการสังเกต ๒. ทักษะการเปรยี บเทยี บ ๒. การสา้ รวจ ๒. เปรยี บเทยี บ จาแนกจดั กลุม่ สัตว์ ๑. ทกั ษะการสังเกต ๒. การสา้ รวจ พฒั นาการทางภาษา ๑. การฟังและปฏบิ ตั ติ าม ๑ การฟงั และปฏิบตั ติ ามคา้ แนะน้า ๑. การฟงั และปฏิบตั ิตามคา้ แนะน้า และการรู้หนงั สือ ค้าแนะน้า ๒. การฟังเพลงนิทานค้าคลอ้ งจอง ๒. การอ่านหนงั สอื ภาพ นิทาน ๒. การคาดคะเน เรื่องจากปกหนงั สือ ๓. การอ่านหนังสือภาพ ๓. การเห็นแบบอย่างการอ่านที่ถูกต้อง ๓. การอ่านหนงั สอื ภาพ นทิ าน ๔. การพดู เรื่องราวเก่ียวกบั ตนเอง ๔. การรอจงั หวะท่ีเหมาะสมในการพดู ๔. การเหน็ แบบอยา่ งการอา่ นทถี่ ูกต้อง ๕ รจู้ ักสว่ นประกอบหนังสอื ปกหน้า ปกใน ชื่อผู้แต่ง ๕. การรอจงั หวะท่ีเหมาะสมในการพดู ผู้วาดภาพ เนือ้ เรอ่ื ง ๖. รจู้ กั ส่วนประกอบหนังสือ ปกหนา้ ปกใน ช่อื ผู้ ๖. การเตมิ คาดว้ ยปากเปลา่ เม่อื อ่านถึงคาท่พี บบ่อย แต่ง ผ้วู าดภาพ เน้อื เรอื่ ง ๗. การเห็นแบบอย่างการเขียนทถี่ ูกตอ้ ง ๗. การเติมคาดว้ ยปากเปลา่ เมอ่ื อ่านถงึ คาที่พบบอ่ ย ๘. การเห็นแบบอยา่ งการเขียนทีถ่ กู ต้อง
หน่วยการจัดประสบการณ์ สัปดาหท์ ่ี ๑๗ หนว่ ย สตั ว์น่ารัก ช้ันอนุบาลปที ี่ ๓ แนวคิด เดก็ ควรมคี วามรูพ้ น้ื ฐานเกี่ยวกบั สิง่ มีชีวิตรอบตัวโดยเฉพาะสตั ว์ประเภทประเภทตา่ งๆ เชน่ สตั ว์ปกี สตั วน์ ้า สัตว์บก สัตวเ์ ลย้ี ง สตั ว์เลยี้ งมหี ลายชนดิ ทง้ั สตั วน์ า้ เชน่ ปลา สัตว์บกเช่นสุนัข แมว สตั วป์ กี เช่น นก ไก่ สัตว์แต่ละชนิดมีรูปรา่ ง ลักษณะ และขนาดแตกตา่ งกนั ยอ่ มมีธรรมชาติความเป็นอยทู่ ่ี แตกต่างกัน เด็กตอ้ งรวู้ ธิ ีปอ้ งกนั อนั ตรายและความปลอดภยั จากสัตว์เลยี้ ง มคี วามเมตตากรณุ าตอ่ สตั ว์ และเรยี นรู้ประโยชน์ของสัตว์เลย้ี ง มาตรฐานหลักสูตรปฐมวยั จดุ ประสงค์ สาระการเรียนรู้ มาตรฐาน ตัวบง่ ช้ี สภาพที่พงึ ประสงค์ ประสบการณ์สาคญั สาระทค่ี วรเรยี นรู้ มาตรฐานท่ี ๑ ๑.๓ รกั ษาความ ๑.๓.๑ เลน่ และ ๑. เลน่ และ ๑.๑.๔ การรักษาความปลอดภัย ความรพู้ ้นื ฐานเกีย่ วกับหนังสือ ปฏบิ ัติตอ่ ผู้อืน่ อย่างปลอดภยั (๓) การเลน่ เครื่องเล่นอย่าง รา่ งกายเจริญเตบิ โตตาม ปลอดภยั ของตนเองและ ปฏิบัตติ ่อผู้อ่ืนอยา่ ง ปลอดภัย และตวั หนงั สือ นทิ านเรื่อง ตวั ๒. เคล่อื นไหวรา่ งกายใน ๑.๒.๒ การเล่น วยั และมสี ุขนิสยั ทด่ี ี ผอู้ นื่ ปลอดภัย กจิ กรรมตา่ งๆอยา่ ง (๑) การเล่นอสิ ระ อะไรกาลงั มา คล่องแคล่วประสานสัมพนั ธ์ (๓) การเล่นตามมุมประสบการณ์ มาตรฐานท่ี ๒ ๒.๑ เคลอื่ นไหวรา่ งกาย ๒.๑.๓ วิง่ หลบหลีกส่งิ กีด และทรงตวั ได้ (๔) การเล่นนอกห้องเรยี น ๑. ลกั ษณะของสตั วเ์ ล้ียง กลา้ มเนอ้ื ใหญ่และ อย่างคลอ่ งแคล่วประสาน ขวางได้อย่างคลอ่ งแคล่ว ๑.๑.๑ การใชก้ ล้ามเนอ้ื ใหญ่ กลา้ มเนื้อเลก็ แขง็ แรง สมั พันธ์และทรงตัวได้ (๑) การเคลื่อนไหวอยู่กบั ที่ ๒. ประเภท รูปร่าง ลักษณะ ใชไ้ ดอ้ ยา่ งคลอ่ งแคลว่ (๒) การเคลือ่ นไหวเคลอ่ื นท่ี และประสานสมั พนั ธก์ ัน (๓) การเคลื่อนไหวพรอ้ มอปุ กรณ์ ขนาด ของสัตว์ที่แตกต่างกนั (๔) การเคลอ่ื นไหวทใี่ ช้การประสาน สัมพันธ์ของการใช้กลา้ มเนอื้ ใหญ่ใน ๓. การปอ้ งกนั อันตรายและ การจับ การโยน (๕) การเลน่ เครื่องเล่นสนามอยา่ ง ความปลอดภยั จากสัตว์ ๔. ประโยชน์ของสตั ว์ต่อมนษุ ย์ ๕. ความเมตตากรณุ า ต่อสตั ว์ ๖. อาหารสัตวเ์ ลย้ี ง ๗. การจับคูภ่ าพเหมือน เกมโดมิโน การจับค่ภู าพและ สญั ลักษณ์ การจับค่ภู าพกับ จานวน อสิ ระ
มาตรฐานหลกั สูตรปฐมวยั จดุ ประสงค์ สาระการเรียนรู้ ประสบการณส์ าคัญ มาตรฐาน ตัวบ่งชี้ สภาพทพี่ งึ ประสงค์ ๑.๑.๕ การตระหนกั ร้เู กยี่ วกบั สาระท่ีควรเรยี นรู้ รา่ งกายตนเอง (๑) การเคลอื่ นไหวโดยควบคมุ ตนเองไปในทิศทาง ระดบั และพน้ื ที่ (๒) การเคล่อื นไหวขา้ มสงิ่ กดี ขวาง ๑.๓.๓ การปฏบิ ตั ติ ามวัฒนธรรม ทอ้ งถนิ่ และความเปน็ ไทย (๑) การเลน่ บทบาทสมมติ การ ปฏบิ ตั ิตนในความเปน็ ไทย (๕) การละเลน่ พืน้ บา้ นของไทย ๒.๒ ใชม้ อื - ตาประสาน ๒.๒.๑ ใชก้ รรไกรตดั ๓. ทากจิ กรรมศลิ ปะ จาก ๑.๑.๒ การใช้กล้ามเนอ้ื เลก็ สัมพนั ธก์ ัน กระดาษตามแนวเส้นโคง้ ได้ กระดาษ ดินและเศษวัสดุได้ (๒) การเขียนภาพและการเล่นกบั สี (๓) การป้ัน (๔) การประดษิ ฐ์สง่ิ ต่างๆดว้ ยเศษ วสั ดุ (๕) การหยิบจบั การใช้กรรไกร การ ฉีก การตดั การปะ และ รอ้ ย วสั ดุ
มาตรฐานหลักสูตรปฐมวยั จดุ ประสงค์ สาระการเรยี นรู้ มาตรฐาน ตวั บง่ ชี้ สภาพทพ่ี งึ ประสงค์ ประสบการณ์สาคญั สาระท่คี วรเรยี นรู้ มาตรฐานที่ 3 ๓.๒ มคี วามรสู้ ึกท่ีดีตอ่ ๓.๒.๒ แสดงความพอใจใน ๔. แสดงอารมณ์ความรสู้ ึกของ ๑.๒.๔ การแสดงออกทางอารมณ์ มสี ขุ ภาพจิตดีและมี ความสุข ตนเองและผอู้ นื่ ผลงานและความสามารถ ตนไดเ้ หมาะสมตาม (๑) การพดู สะทอ้ นความรูส้ กึ ของ ของตนเองและผ้อู ่นื สถานการณ์และบอกอารมณ์ ตนเองและผูอ้ ่ืน แกผ่ อู้ ่ืนได้ (๒) การเล่นบทบาทสมมติ (๓) การเคลือ่ นไหวตามเสียงเพลง/ ดนตรี (๕) การทางานศิลปะ มาตรฐานท่ี ๔ ๔.๑ สนใจมคี วามสขุ และ 4.1.3 สนใจมคี วามสุข ๕.รว่ มกจิ กรรมการเคลอ่ื นไหว ๑.๒.๔ การแสดงออกทางอารมณ์ แสดงทา่ ทาง เคลอ่ื นไหว ประกอบเพลงจังหวะและ (๓) การเคล่ือนไหวตามเสียงเพลง ชน่ื ชมและแสดงออกทาง แสดงออกผา่ นงานศลิ ปะ ประกอบเพลงจังหวะและ ดนตรีได้ และดนตรี ดนตรี (๔) การเล่นบทบาทสมมติ ศิลปะ ดนตรแี ละการ ดนตรี และการเคลอ่ื นไหว เคลื่อนไหว มาตรฐานท่ี ๕ ๕.๒ มคี วามเมตตากรุณามี ๕.๒.๑ แสดงความรักเพ่ือน ๖. แสดงความรักตอ่ ผอู้ ืน่ และมี ๑.๓.๒ การดแู ลรักษาธรรมชาตแิ ละ มคี ณุ ธรรมจรยิ ธรรมและ นา้ ใจและชว่ ยเหลือแบง่ ปัน และมีเมตตาสัตว์เลย้ี ง เมตตาตอ่ สัตวอ์ ย่างเหมาะสม ส่ิงแวดลอ้ ม จิตใจท่ีดีงาม (๓) การทางานศลิ ปะทน่ี าวัสดุ หรอื สิ่งของเคร่ืองใช้ท่ใี ชแ้ ลว้ มาใช้ ซา้ หรือแปรรูปใหม่ (๕) การเลยี้ งสตั ว์
มาตรฐานหลักสตู รปฐมวยั จดุ ประสงค์ สาระการเรียนรู้ มาตรฐาน ตัวบง่ ชี้ สภาพท่พี งึ ประสงค์ ประสบการณส์ าคัญ สาระทคี่ วรเรียนรู้ มาตรฐานที่ ๖ ๖.๓ ประหยัดและพอเพยี ง ๖.๓.๑ ใชส้ ่ิงของเคร่ืองใช้ ๗. ใช้สง่ิ ของเครอ่ื งใชอ้ ยา่ ง ๑.๓.๒ (๒) การใช้วสั ดแุ ละสงิ่ ของ มที ักษะชีวิตและปรชั ญา อยา่ งประหยัดและพอเพียง ประหยัดและพอเพียงด้วย เครอื่ งใช้อย่างคมุ้ ค่า ของเศรษฐกจิ พอเพียง ดว้ ยตนเอง ตนเองได้อยา่ งเหมาะสม มาตรฐานท่ี ๗ ๗.๑ ดูแลรกั ษาธรรมชาติ ๗.๑.๑ มีส่วนร่วมดแู ลรกั ษา ๘. มสี ว่ นรว่ มดูแลรกั ษา ๑.๓.๒ การดูแลรักษาธรรมชาติและ รักธรรมชาตสิ ่ิงแวดลอ้ ม และสงิ่ แวดล้อม ธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม ธรรมชาติและสงิ่ แวดลอ้ มดว้ ย สง่ แวดลอ้ ม วฒั นธรรมและความเป็น ด้วยตนเอง ตนเอง (๑) การมีสว่ นรว่ มรับผดิ ชอบดูแล ไทย รกั ษาสิ่งแวดลอ้ มภายในและ ภายนอกและภายนอกห้องเรียน (๕) การเล้ียงสตั ว์ มาตรฐานที่ ๘ ๘.๓ ปฏิบัตติ นเบ้ืองตนใน ๘.๓.๒ ปฏิบตั ติ นเปน็ ผนู้ า ๙. ปฏิบตั ติ นเปน็ ผ้นู าและ ๑.๓.๔ การมีปฏิสมั พนั ธ์ มีวินัย อยรู่ ว่ มกบั ผู้อืน่ ไดอ้ ยา่ งมี การเปน็ สมาชิกทดี่ ขี อง และผู้ตามไดเ้ หมาะสมกับ ผ้ตู ามในกิจกรรมเคล่ือนไหว มสี ว่ นรว่ มและบทบาทสมาชิกของ ความสขุ และปฏิบตั ิตน สังคม สถานการณ์ และจงั หวะได้ด้วยตนเอง สังคม เปน็ สมาชิกท่ดี ีของสงั คม (๒) การปฏิบตั ติ นเป็นสมาชิกท่ีดีของ ในระบอบประชาธปิ ไตย หอ้ งเรยี น อนั มพี ระมหากษัตรยิ ์ (๓) การให้ความร่วมมือในการปฏิบตั ิ ทรงเป็นประมขุ กจิ กรรมต่างๆ
มาตรฐานหลกั สูตรปฐมวยั จุดประสงค์ สาระการเรียนรู้ มาตรฐาน ตวั บง่ ชี้ สภาพท่ีพงึ ประสงค์ ๑๐. เล่าเป็นเร่อื งราวไดอ้ ย่าง ประสบการณ์สาคญั สาระทคี่ วรเรียนรู้ มาตรฐานท่ี ๙ ตอ่ เน่ืองใหผ้ ้อู น่ื เข้าใจได้ ใช้ภาษาสอื่ สารได้ ๙.๑ สนทนาโต้ตอบ ๙.๑.๒ เลา่ เปน็ เรื่องราวตอ่ เน่อื ง ๑๑. อ่านภาพสญั ลกั ษณค์ า ๑.๔.๑ การใช้ภาษา(๒) การฟงั และ เหมาะสมกบั วัย ด้วยการช้หี รอื กวาดตามอง และเล่าเรอื่ งให้ผูอ้ ืน่ ได้ จดุ เริ่มต้นหรอื จุดจบของ ปฏิบตั ิตามคาแนะนา ข้อความได้ เข้าใจ ๙.๒.๑ อ่านภาพสญั ลกั ษณ์คา (๓) การฟงั เพลง นิทาน ๙.๒ อา่ น เขยี น ภาพ ด้วยการช้หี รอื กวาดตามอง คาคลอ้ งจองหรือเร่อื งราวตา่ ง ๆ และสญั ลกั ษณไ์ ด้ จุดเริ่มตน้ หรอื จุดจบของ (๔) การพูดแสดงความคดิ ข้อความ ความรสู้ กึ ความตอ้ งการ (๕) การพดู กบั ผู้อ่ืนเกี่ยวกับ ประสบการณข์ องตนเอง หรอื พดู เลา่ เรอื่ งราวเกีย่ วกบั ตนเอง (๑๐) การอา่ นหนงั สอื ภาพและ นทิ านหลากหลายประเภทรูปแบบ (๑๑) การอา่ นอย่างอสิ ระตามลาพัง การอ่านรว่ มกัน การอ่านโดยมีผู้ ช้ีแนะ (๑๒) การเหน็ แบบอยา่ งของการ อา่ นท่ีถกู ต้อง (๑๓) การสังเกตทศิ ทางการอา่ น ตัวอักษร คา และข้อความ (๑๔) การอา่ นและชข้ี อ้ ความโดย กวาดสายตาตามบรรทดั จากซา้ ยไป ขวา จากบนลงลา่ ง
มาตรฐานท่ี ๑๐ ๑๐.๑ มีความสามารถ ๑๐.๑.๑ บอกลักษณะ ๑๒.บอกลักษณะสตั วท์ ่ีมี (๑๗) การคาดเดา คาวลหี รือ มคี วามสามารถในการ ในการคิดรวบยอด ส่วนประกอบ กาเปลีย่ นแปลง ความสมั พันธ์กันจากการ ประโยคจากนทิ าน คิดทเี่ ปน็ พนื้ ฐานในการ หรือความสัมพันธ์ของส่ิงต่างๆ สังเกตได้ เรยี นรู้ จากการสังเกตโดยใช้ประสาท ๑.๔.๒ การคดิ รวบยอด การคดิ เชิง สมั ผัส (๑๒) การจับคู่ การ เหตผุ ล การตดั สินใจและแกป้ ญั หา มาตรฐานท่ี 12 เปรยี บเทยี บ รปู รา่ งลกั ษณะ (๑)การสงั เกตลกั ษณะส่วนประกอบ มเี จตคติท่ีดตี ่อ ๑๐.๑.๒ จับคแู่ ลเปรียบเทียบ ตา่ ง ๆ การเปล่ียนแปลงและความสัมพันธ์ การเรียนรูแ้ ละ ความแตกตา่ งและความเหมือน ๑๔.จาแนกและจดั กลุ่ม ของส่ิงต่างๆโดยใช้ประสาทสมั ผัส มีความสามารถใน สง่ิ ตา่ ง ๆ โดยใชล้ ักษณะท่ีสงั เกต สัตว์เลย้ี งได้ อยา่ งเหมาะสม การแสวงหาความรูไ้ ด้ พบสองลกั ษณะขึ้นไป (๘) การนบั และแสดงจานวนของสิง่ ๑๐.๑.๓ จาแนกและจดั กลมุ่ สง่ิ ตา่ ง ๆ ในชวี ติ ประจาวนั ตา่ งๆโดยใชต้ งั้ แต่สองลกั ษณะ (๑๓) การจับคู่ การเปรียบเทยี บ ข้ึนไปเปน็ เกณฑ์ และการเรยี งลาดบั สิ่งต่าง ๆ ตาม ลกั ษณะความยาว/ความสูง (๕)การคดั แยก การจดั กลมุ่ และการ จาแนกส่ิงตา่ งๆ ตามลกั ษณะและ รูปรา่ ง รูปทรง 12.2 มีความ สามารถ 12.2.๑ คน้ หาคาตอบขอ้ สงสยั ๑๕. ค้นหาคาตอบขอ้ สงสยั 1.4.4 เจตคติท่ดี ีต่อการเรยี นรแู้ ละ ในการแสวงหาความรู้ ต่าง ๆ โดยใชว้ ิธีที่หลากหลาย ต่าง ๆ โดยใชว้ ธิ ีทหี่ ลากหลาย การแสวงหาความรู้ ดว้ ยตนเอง (๑) การสารวจสง่ิ ต่าง ๆ และแหลง่ ดว้ ยตนเอง เรยี นรูร้ อบตัว (๒) การตงั้ คาถามในเรือ่ งทีส่ นใจ
การวางแผนกจิ กรรมรายหน่วยการจดั ประสบการณ์ ชนั้ อนุบาลปีท่ี ๓ หนว่ ยสตั ว์น่ารกั กจิ กรรม วันท่ี เคล่ือนไหวและ เสริมประสบการณ์ ศลิ ปะสรา้ งสรรค์ เล่นตามมุม กลางแจง้ เกมการศึกษา จังหวะ พัฒนาการทางภาษาและการรู้หนังสือ ๑. ปั้นดินเหนียวเป็น มมุ หนังสอื แนะนา เลน่ เครอื่ งเลน่ สนาม เกมภาพตดั ต่อนทิ านตัว ๑. การเคล่ือนไหว ๑. คาดคะเนจากปกนทิ านเร่ือง ตวั อะไร สตั วต์ ่างๆ หนังสือนทิ านเร่ืองตวั อะไรกาลงั มา ๒. การวาดภาพ อะไรกาลังมาและ เคลอื่ นที่ประกอบ กาลงั มา ระบายสี หนงั สอื เกยี่ วกับสตั ว์ ๒. ประเภท รูปร่างลักษณะของสตั ว์เลี้ยง สีนา้ อยา่ งอิสระ เลีย้ ง เพลง สัตว์เล้ยี ง ๓. การนับ การจาแนกและเปรียบเทียบ ๑-๙ 1 ๒. การเคล่ือนไหว พฒั นาการทางภาษาและการรู้หนงั สือ ๑. การวาดภาพ มมุ สร้างสรรค์ จดั วาง เล่นนา้ เลน่ ทราย เกมโดมโิ นภาพเหมือนสตั ว์ เล้ียงภาพหลัก ๕ ภาพ รา่ งกายไปในทิศทาง ๑. แนะนาองค์ประกอบของหนังสือและ ระบายสี สนี า้ อยา่ ง อุปกรณ์ สตั ว์จาลอง 2 ระดบั และพนื้ ท่ี ฝกึ การตั้งคาถาม จากนทิ านเรื่อง ตัวอะไร อสิ ระ ตา่ งๆ อยา่ งอิสระ กาลังมา ๒. ป้นั แปง้ ขา้ วเหนยี ว ๒. อาหารสตั ว์เลย้ี ง เปน็ อาหารสัตว์ ๓. การเคลือ่ นไหว พัฒนาการทางภาษาและการรู้หนังสือ ๑. การวาดภาพ มุมบทบาทสมมติ จดั เกมรับสง่ ลูกลงิ ชิง เกมจาแนกสตั ว์เลย้ี งชนิด ระบายสี สนี ้า วางห่นุ น้วิ มือ บอล ต่างๆ เคลือ่ นท่ีเชิง ๑. กิจกรรมอ่านรว่ มกันและเติมคาปาก อยา่ งอสิ ระ หวั สัตว์ต่างๆ ๒. การประดิษฐ์สตั ว์ 3 สรา้ งสรรคป์ ระกอบ เปลา่ จากหนังสือนทิ านเรื่อง ตวั อะไร จากวัสดุเหลอื ใช้ อปุ กรณ์ ช้นิ พลาสติก กาลงั มา สร้างสรรค์ ๒. การปอ้ งกนั อันตรายและความ ปลอดภยั จากสตั ว์
๔. การเคลอื่ นไหว พฒั นาการทางภาษาและการรู้หนังสอื ๑. การทาหุ่นถงุ มือจาก มุมประสบการณ์ อย่าง การละเลน่ พ้ืนบา้ น เกมจับคู่ภาพกับสญั ลักษณ์ เคลอื่ นท่เี ลยี นแบบ ๑. กิจกรรมการอา่ นร่วมกนั และการปิดคา วสั ดเุ หลอื ใช้เป็นหนา้ น้อย ๔ มมุ วงิ่ กระสอบ (บัตรคา) พรอ้ มบตั ร 4 ท่าทางสัตวต์ ่างๆที่มี ให้เดก็ ทายจากนทิ านเร่อื ง ตวั อะไรกาลงั สัตว์ ตรวจสอบ ในนิทาน ตัวอะไร มา กาลงั มา ๕. ความเมตตากรุณาตอ่ สัตว์ การเคล่อื นไหว พัฒนาการทางภาษาและการรู้หนังสอื ๑. การทาสวนสัตว์ มุมประสบการณ์ อย่าง เกมเลน่ สรา้ งบ้านให้ เกมจบั คู่ภาพสัตวเ์ ลย้ี งกับ เคล่อื นทแี่ สดงท่าทาง ๑. กจิ กรรมการอ่านรว่ มกนั และ จาลองดว้ ยผลงานท้งั นอ้ ย ๔ มุม หมา จานวน ๑ - ๙ เป็นผนู้ า และผตู้ าม อาสาสมคั รเดก็ อ่านคาจากนิทานเรอื่ ง ตวั สปั ดาห์ 5 อะไรกาลังมา ๒. นาเสนอผลงาน ๒. ประโยชนข์ องสัตวต์ ่อมนุษย์ ศลิ ปะสรา้ งสรรค์ท้ัง ๓. การนบั การจาแนกและเปรียบเทยี บ สปั ดาห์ ๑-๙
ผังความคิดแผนการจัดประสบการณ์ หนว่ ยสัตว์นา่ รกั ชั้นอนบุ าลปีท่ี ๓ ๑. กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ ๒. กิจกรรมเสริมประสบการณ์ ๓. กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ ๑. การเคลอื่ นไหวเคล่อื นทปี่ ระกอบเพลง สัตว์เลยี้ ง ๑. พัฒนาการทางภาษาและการรูห้ นงั สอื ๑. ปนั้ ดนิ เหนยี วเปน็ สัตว์ตา่ งๆ ๒. การเคลือ่ นไหวร่างกายไปในทิศทาง ระดบั และ นิทานเรอื่ ง ตัวอะไรกาลังมา ๒. การวาดภาพ ระบายสนี ้าอสิ ระ พนื้ ท่ีอย่างอิสระ ๑. ลักษณะของสตั วเ์ ลีย้ ง ๓. ป้นั แปง้ ขา้ วเหนียวเปน็ อาหารสตั ว์ ๓. การเคลอ่ื นไหวเคลอื่ นทีเ่ ชงิ สร้างสรรคป์ ระกอบ ๒. ประเภท รูปรา่ งลักษณะ และขนาดของสัตวท์ ่แี ตกต่างกัน ๔. การประดษิ ฐ์สตั วจ์ ากวสั ดเุ หลอื ใช้ อุปกรณ์ ชิน้ พลาสติกสร้างสรรค์ ๓. การปอ้ งกนั อันตรายและความปลอดภยั จากสตั ว์ ๕. การทาหนุ่ ถุงมอื จากวัสดเุ หลือใช้ ๔. การเคล่ือนไหวเคลื่อนที่เลยี นแบบทา่ ทางสตั ว์ ๔. ประโยชนข์ องสตั ว์ตอ่ มนุษย์ ๖. การทาสวนสัตว์จาลองดว้ ยผลงานทัง้ ตา่ งๆทีม่ ีในนิทานเร่อื ง ตวั อะไรกาลังมา ๕. ความเมตตากรณุ า ตอ่ สัตว์ สัปดาห์ ๕. การเคลือ่ นไหวเคลื่อนทแ่ี สดงทา่ ทางเป็นผ้นู า ๖. อาหารสตั ว์เล้ยี ง และผู้ตาม ๗. การนบั การจาแนกและเปรยี บเทยี บ ๑ - ๙ ๔. กจิ กรรมเล่นตามมมุ หน่วย ๖. กจิ กรรมเกมการศึกษา สัตว์น่ารกั ๑. มมุ หนังสือ แนะนาหนังสือและหนงั สือเกีย่ วกับสตั ว์ ๑. เกมภาพตดั ตอ่ นทิ านตวั อะไรกาลังมา เล้ยี งตัวอะไรกาลังมา ๕. กิจกรรมกลางแจง้ ๒. เกมโดมโิ นภาพเหมอื นสัตว์เล้ียงภาพหลกั ๕ ภาพ ๒. มุมสรา้ งสรรค์ จดั วางอปุ กรณ์เกยี่ วกบั การฉีกตัดปะ ๓. เกมจาแนกสัตวเ์ ล้ียงชนดิ ตา่ งๆ ๓. มมุ บล็อก ๑. การเลน่ เครือ่ งเลน่ สนาม ๔. เกมจับคภู่ าพกบั สัญลกั ษณ์(บัตรคา) พร้อมบัตร ๔. มมุ บทบาทสมมติ จัดวางห่นุ น้วิ มือหวั สตั ว์ตา่ งๆ ๒. การเล่นนา้ – เล่นทราย ตรวจสอบ ๓. เกมรบั สง่ ลกู ลงิ ชิงบอล ๕. เกมจับคู่ภาพสตั ว์เลี้ยงกับจานวน ๑ - ๙ ๔. การละเล่นเของไทย วิ่งกระสอบ ๕. การเลน่ สรา้ งบา้ นใหส้ นุ ัข ๕
แผนการจดั ประสบการณร์ ายวนั วันที่ 1 หน่วยท่ี ๑๗ สัตว์น่ารกั ชน้ั อนุบาลปีที่ ๓ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมินพัฒนาการ ประสบการณส์ าคญั สาระที่ควรเรียนรู้ กิจกรรมการเคล่อื นไหว สังเกต และจังหวะ (๑) การเคลอื่ นไหวอยู่ 1. แนะนาเพลงสตั ว์เลยี้ ง โดยรอ้ งให้เด็กฟัง 1 ๑.เครื่องเคาะจงั หวะ การเล่นอย่างปลอดภัย ร่วมกิจกรรมการ เมอ่ื มผี ูช้ แี้ นะ เคล่อื นไหวประกอบ กับที่ รอบ ๒.เพลงสตั ว์เลี้ยง เพลง สัตว์เลีย้ งอยา่ งมี (๒) การเคล่อื นไหว 2. เด็กร้องตามทีละบทอกี หนึ่งรอบ ความสขุ เคลื่อนท่ี 3. เดก็ ร้องเพลงพร้อมครู (๓) การเคลอื่ นไหวตาม 4. ให้เด็กทาทา่ ประกอบเพลงสตั ว์เลี้ยง อยา่ ง เสยี งเพลง/ดนตรี อิสระ 5. เม่อื ไดย้ ินสญั ญาณหยุดในทา่ น้ัน แลว้ พดู ชื่อ สัตว์คนละ ๑ ชอ่ื ๖. ทาเช่นนีอ้ ีก 4 - 5 คร้ัง กิจกรรมเสริม (๒) ฟงั และปฏบิ ัติตาม ๑. ความรพู้ นื้ ฐาน ๑. พัฒนาการทางภาษาและการรู้หนงั สอื จาก นิทานเร่อื งตวั อะไร สงั เกต ประสบการณ์ คาแนะนา การอา่ นภาพและพดู อ่านภาพและพดู (๑๐) การอ่านหนงั สอื เก่ียวกบั หนังสือและ นิทานเรอื่ งตวั อะไรกาลงั มา กาลงั มา เร่ืองราวด้วยภาษาของ เร่ืองราวดว้ ยภาษาของ ภาพ ตนให้ผอู้ น่ื เข้าใจ ตนใหผ้ ู้อ่นื เขา้ ใจได้ (๑๒) การเหน็ แบบอยา่ ง ตวั หนงั สอื นิทานเรอ่ื ง 1.๑ นาหนงั สือนทิ านเรอื่ งตัวอะไรกาลังมา ของการอ่านท่ีถกู ตอ้ ง (๔) การพูดแสดง ตัวอะไรกาลังมา มาให้เด็กดหู น้าปกหนงั สอื ความคดิ ความรสู้ ึก ความตอ้ งการ ๒. ประเภท รูปรา่ ง ๑.๒ ให้เด็กคาดคะเน เรื่องจากปกวา่ เปน็ เร่อื ง ลกั ษณะของสตั ว์เลีย้ ง ๓.การนบั การจาแนก เก่ยี วอะไร และเปรียบเทียบ ๑-๙ ๑.๓ จดบันทึกชอ่ื เดก็ พร้อมขอ้ ความทเ่ี ด็ก คาดคะเน ๑.๔ ครูอ่านหนังสือ นทิ านเรอ่ื งตวั อะไรกาลงั มา จนจบ โดยชี้คาตรงกับเสียงอ่าน ๑.๕ ครูอ่านข้อความทเี่ ด็กคาดคะเนไว้และถาม ความเหน็ เรื่องชอื่ ของนิทานอีกคร้ังหนง่ึ
จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมินพฒั นาการ ประสบการณ์สาคญั สาระท่คี วรเรยี นรู้ ๑.๖ สนทนาซักถามเดก็ สบื เนอื่ งจากนทิ าน ใน สงั เกต นทิ านเป็นเรอ่ื งเก่ียวกับอะไร เดก็ รจู้ กั สตั ว์ การ ปนั้ สตั วน์ า้ จาก ดิน ตวั ไหนบา้ ง นับจานวนสตั วจ์ ากปกนิทาน เหนียว ๒. ครสู นทนาเรือ่ งสัตว์เลีย้ งจากนิทาน ใครเลี้ยงสัตว์อะไรบ้าง สงั เกต ๓. สนทนาเร่อื งสัตว์แตล่ ะชนิดเคลอ่ื นท่ีอยา่ งไร การใช้สง่ิ ของเคร่ืองใช้ อย่างประหยัดและ กจิ กรรมศลิ ปะ (๓) การป้นั การปน้ั ดนิ เหนยี วเปน็ สัตวต์ ่างๆ ๑. ดนิ เหนียว พอเพียงเมือ่ มผี ูช้ แ้ี นะได้ ๑. นาดนิ เหนียวมาให้เดก็ ทดลองจับ บบี คลึง ปน้ั ๒. แผน่ รองป้ัน อยา่ งเหมาะสม สรา้ งสรรค์ (๕) การทางานศิลปะ ทุบดินใหน้ ่ิม ๒. ครสู าธิตการปัน้ สัตว์เลยี้ งจากดินเหนียว ป้นั สตั ว์ด้วย ดนิ เหนยี ว ๓. เด็กป้ันสัตว์นา้ ตามความสนใจ ๔. ทาเสร็จนาเสนอผลงานทีส่ าเร็จ ได้ กิจกรรมเลน่ ตามมมุ (๓) การเลน่ ตามมมุ มุมประสบการณค์ วรมอี ย่างนอ้ ย ๔ มุม อปุ กรณ์มุม ๑. ใช้ส่ิงของเครอื่ งใช้ ประสบการณ์ เดก็ เลือกกจิ กรรมตามมมุ ประสบการณ์ตามความ ประสบการณ์ใน อยา่ งประหยดั และ (๒) การใช้วัสดแุ ละส่งิ ของ สนใจ ได้แก่ ห้องเรียน พอเพียงเมื่อมีผู้ช้ีแนะ เครื่องใช้อยา่ งคมุ้ คา่ 1.๑ มุมหนังสอื แนะนาหนงั สือนทิ านเรือ่ งตวั อะไร ไดอ้ ย่างเหมาะสม กาลงั มาและหนังสอื เกีย่ วกับสตั ว์เลยี้ ง ๑.๒ มมุ สรา้ งสรรค์ จัดวางอุปกรณ์ สัตวจ์ าลองต่างๆ ๑.๓ มมุ บล็อก ๑.๔ มมุ วทิ ยาศาสตร์ 2. เมือ่ หมดเวลาเดก็ เก็บของเขา้ ทีใ่ หเ้ รยี บร้อย
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมินพฒั นาการ ประสบการณ์สาคญั สาระทีค่ วรเรยี นรู้ 1. เด็กเลือกเล่นอปุ กรณใ์ นสนามเดก็ เล่นตามความ สนามเดก็ เล่นของ สงั เกต กจิ กรรมกลางแจ้ง ((๒) การเลน่ รายบุคคล สนใจอย่างอิสระ โรงเรียน เล่นและทากจิ กรรมใน 2. เม่ือหมดเวลา ช่วยกนั เกบ็ ทาความสะอาดสนาม สนามเด็กเล่นอยา่ ง ๑. เล่นและทากิจกรรม กลุม่ ย่อย กลุ่มใหญ่ ลา้ งมือ กลบั เขา้ ห้องเรียน ปลอดภัยด้วยตนเอง ในสนามเดก็ เลน่ อยา่ ง (๔) การเล่นนอกหอ้ งเรียน ปลอดภยั ด้วยตนเอง (๕) การเล่นเครอื่ งเลน่ สนามอย่างอิสระ เกมการศึกษา (๑ )การสงั เกตลกั ษณะ เกมภาพตัดต่อนทิ าน 1. แนะนาเกมภาพตดั ต่อนทิ านตัวอะไรกาลังมา 1. เกมภาพตัดตอ่ สงั เกต ๑๒. บอกลักษณะสตั ว์ สว่ นประกอบและ ตัวอะไรกาลงั มา 2. แบ่งเดก็ เป็นกลุ่ม 2 - 3 คน ตามความสมัครใจ นิทานตวั อะไรกาลัง การเล่นเกมภาพตัดตอ่ ความสัมพนั ธ์ของส่ิงต่างๆ มา นิทานตวั อะไรกาลงั มา ทม่ี คี วามสัมพนั ธ์กนั โดยใชป้ ระสาทสัมผสั อยา่ ง มอบเกมใหมใ่ ห้เด็ก 1 กลุ่ม กลมุ่ อ่ืน ๆ เล่นเกมที่มี 2. เกมชุดเดิมในมุม เหมาะสม อยูแ่ ล้ว เกมการศกึ ษา จากการสังเกตได้ (๖) การตอ่ ของชนิ้ เลก็ เติม 3. หมุนเวยี นการเลน่ จนหมดเวลา ในช้ินใหญใ่ ห้สมบูรณ์ 4. เด็กเก็บเกมภาพศึกษาเขา้ ทีเ่ ดิม
แผนการจัดประสบการณร์ ายวนั วันที่ ๒ หนว่ ยที่ ๑๗ สัตวน์ ่ารกั ชั้นอนบุ าลปีที่ ๓ จุดประสงค์การ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ พฒั นาการ เครือ่ งเคาะจงั หวะ เรยี นรู้ ประสบการณ์สาคญั สาระทค่ี วรเรียนรู้ 1. การเคล่ือนไหวเคล่อื นที่ไปในทศิ ทาง ระดับและ สงั เกต พ้นื ที่ ตามสัญญาณหรือคาสั่งตามทไ่ี ด้ตกลงกอ่ นเรม่ิ นิทานเรือ่ ง ตวั อะไร การรว่ มกิจกรรมการ กจิ กรรมเคลือ่ นไหว (๑) การเคลือ่ นไหวอยูก่ บั กิจกรรม เชน่ ใหเ้ ด็กเคลื่อนท่ีไปรอบๆ ห้องดว้ ย กาลังมา เคลอ่ื นไหวรา่ งกายไปใน กริ ิยาท่าทางตา่ ง ๆ ไดย้ นิ สญั ญาณหยุดให้หยดุ ใน ทิศทาง ระดับ และพ้นื ท่ี และจงั หวะ ท่ี ท่านัน้ แล้วบอกว่าตนเองเคลอื่ นท่ดี ้วยท่าทางอะไร ได้อยา่ งมีความสุข รว่ มกิจกรรมการ (๒) การเคลอื่ นไหว 2. เร่มิ สญั ญาณใหมใ่ หเ้ ปลย่ี นทา่ ทาง ทาเช่นน้ี สงั เกต การอา่ นภาพและพูด เคลื่อนไหวร่างกายไป เคล่อื นที่ 4 - 5 ครั้งหรอื จนกวา่ จะครบกาหนดเวลา เรื่องราวด้วยภาษาของ ในทิศทาง ระดับ และ (๑) การเคลอ่ื นไหวโดย ๑.ความรู้พื้นฐานเกยี่ วกับหนงั สือและตวั หนังสือ ตนให้ผูอ้ น่ื เขา้ ใจ พ้ืนที่ อยา่ งมีความสขุ ควบคมุ ตนเองไปใน 1.๑. เดก็ อ่านหนงั สือนิทานเร่อื ง ตัวอะไรกาลงั มา พร้อมกันจนจบ ๑ รอบ ทศิ ทาง ระดบั และพืน้ ที่ ๑.๒ ครูแนะนาส่วนประกอบหนังสอื ทีละหนา้ ไดแ้ ก่ ปกหน้า ปกใน ชื่อผแู้ ตง่ ผวู้ าดภาพ กิจกรรมเสรมิ (๑๐) การอา่ นหนังสอื ๑. ความรพู้ ื้นฐาน เนื้อเร่อื ง ประสบการณ์ ภาพ นิทาน เกยี่ วกบั หนงั สอื และ ๑.๓ ครชู ักชวนให้เดก็ ต้ังคาถามเกี่ยวกบั นิทานทอ่ี ่าน อา่ นภาพและพดู (๑๒) การเห็นแบบอยา่ ง ตัวหนังสอื นิทาน สัตว์เล้ยี งแต่ละชนดิ เหมือนกนั หรอื ตา่ งกันอยา่ งไร เรอื่ งราวดว้ ยภาษา การอา่ นท่ีถูกตอ้ ง เรอื่ ง ตัวอะไรกาลัง และเปิดโอกาสให้เพือ่ นในหอ้ งชว่ ยกนั ตอบคาถาม ของตนใหผ้ ้อู นื่ เข้าใจ (๕) การเลีย้ งสตั ว์ มา ๒.สรปุ ร่วมกนั สตั ว์แต่ละชนดิ มคี วามเหมอื นความ ได้ ๒. อาหารสตั ว์เลีย้ ง ตา่ งกนั
จดุ ประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ พัฒนาการ กิจกรรมศลิ ปะ ประสบการณ์สาคญั สาระทค่ี วรเรียนรู้ ๑. สนี ้า สงั เกต สร้างสรรค์ (๒) การเขียนภาพและ เด็กเลือกกิจกรรมคนละ ๑กิจกรรมและเลือก ๒. สีเทยี น การทาภาพศลิ ปะ ทาภาพศิลปะ จาก นิว้ การเลน่ กับสี อปุ กรณข์ องแต่ละกจิ กรรม น่ังตามโตะ๊ ท่จี ัดไว้ ๓. กระดาษ จากน้วิ มอื มือได้ (๕) การหยบิ จับ การใช้ ๓-๔ คนอย่างอิสระ ๔. จานสี กรรไกร การฉีกการตดั ๑.วาดภาพ ระบายสีด้วยสีเทียน ๕. แก้วนา้ สงั เกต กจิ กรรมเล่นตามมมุ การปะ การพับกระดาษ การใช้สิ่งของเครือ่ งใช้ ใช้สง่ิ ของเคร่อื งใชอ้ ยา่ ง (๑) การพดู สะทอ้ น ๒.พมิ พภ์ าพจากน้ิวมอื ๑. มุมประสบการณ์ใน อย่างประหยดั และ ประหยัดและพอเพียง ความรู้สกึ ของตนเองและ ๒.๑ ครูสาธติ การผสมสีที่จะใช้พมิ พภ์ าพ หอ้ งเรยี น พอเพียงเมอ่ื มผี ู้ชี้แนะได้ เม่ือมผี ชู้ แี้ นะไดอ้ ย่าง ผอู้ ่ืน ๒.๒ ใชน้ วิ้ หวั แมม่ อื และนิว้ ชีเ้ ป็นแบบพมิ พ์ พิมพ์ที อยา่ งเหมาะสม เหมาะสม (๕) การทากิจกรรม ศลิ ปะ ละนว้ิ ๒.๓ ใชป้ ลายนวิ้ แตะสเี บาๆ นามาพิมพบ์ น (๓) การเลน่ ตามมมุ ประสบการณ์ กระดาษขนาด A๔ ตามความคดิ ตนเอง (๒) การใชว้ สั ดุและ ๓. ถามเด็กว่าตัดสินใจเลอื กกิจกรรมอยา่ งไร สงิ่ ของเครือ่ งใชอ้ ยา่ ง ๔. ทาเสรจ็ นาเสนอผลงานทสี่ าเร็จ ค้มุ คา่ เดก็ เลอื กกจิ กรรมตามมมุ ประสบการณต์ ามความ สนใจ ไดแ้ ก่ 1.๑ มมุ หนังสือ วางหนงั สอื นิทานเรือ่ งตัวอะไร กาลังมาและหนงั สอื เก่ยี วกบั สตั ว์เลยี้ ง ๑.๒ มมุ สรา้ งสรรค์ จดั วางอปุ กรณ์ สัตวจ์ าลอง ต่างๆ ๑.๓ มุมบล็อก ๑.๔ มมุ วทิ ยาศาสตร์ 2. เม่อื หมดเวลาเด็กเกบ็ ของเข้าทใ่ี ห้เรียบร้อย
จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมินพฒั นาการ ประสบการณส์ าคัญ สาระท่ีควรเรียนรู้ สังเกต การเลน่ และทากจิ กรรม กจิ กรรมกลางแจ้ง (๔) การเลน่ นอก การเลน่ น้า -เล่นทราย ๑. อุปกรณ์เล่นน้า การเล่นน้า - เลน่ ทราย อยา่ งปลอดภยั ดว้ ย เลน่ และทากิจกรรม ห้องเรียน 1. นาเดก็ ไปเลน่ ทรายท่กี ระบะทราย บรเิ วณเล่นนา้ ๒. อปุ กรณ์เล่นทราย ตนเอง การเลน่ นา้ -เลน่ ทราย (๒) การปฏิบัติตนเป็น ใช้กะละมังใหญใ่ สน่ า้ ๓. พลาสตกิ กนั เปอื้ น สังเกต อย่างปลอดภัยด้วย สมาชกิ ที่ดีของห้องเรยี น การเลน่ เกมโดมโิ น ตนเอง (๑) การช่วยเหลือตนเอง - ให้เด็กเป็นผู้นาสิ่งของไปฝังซ่อนเพื่อให้เพ่อื นหา ภาพเหมอื นสตั วเ์ ลย้ี ง ในกจิ วัตรประจาวนั ภาพหลกั ๕ ภาพ เช่น เปลือกหอย รปู จาลองกระดูกสตั ว์ - เล่นทรายกับอุปกรณ์แบบพิมพ์ขนม ประดษิ ฐ์เป็น รูปตา่ งๆ - การก่อทรายเปน็ รูปทรง อย่างอสิ ระ ๒.นาวสั ดุ อปุ กรณ์ท่ใี ช้ในการเลน่ นา้ ให้เดก็ ทดลองเลน่ และสังเกตการจม-ลอยและการเปลีย่ นลักษณะ เช่น กาบมะพรา้ ว เม่ือถูกนา้ จะเปลย่ี นสี ๓. เม่อื หมดเวลาเด็กทาความสะอาดลานทราย และ ตนเอง เกมการศึกษา (๑)การสังเกตลักษณะ การเลน่ โดมโิ น 1. แนะนาเกมโดมิโนภาพเหมือนสตั วเ์ ล้ยี งภาพหลกั เกมโดมโิ นภาพเหมอื น เกมโดมโิ นภาพเหมอื น ส่วนประกอบ การ ภาพเหมอื นสตั ว์ ๕ ภาพ สัตวเ์ ลยี้ งภาพหลกั ๕ สตั วเ์ ล้ียงภาพหลัก ๕ เปลี่ยนแปลงและ เลี้ยงภาพหลัก ๕ 2. แบง่ เด็กเป็นกลุ่ม 2 - 3 คน ตามความสมัครใจ ภาพ ภาพ ความสัมพันธข์ องส่งิ ตา่ งๆ ภาพ มอบเกมใหมใ่ ห้เด็ก 1 กลมุ่ กลมุ่ อ่นื ๆ เล่นเกมทีม่ อี ยู่ โดยใช้ประสาทสมั ผสั แล้ว อยา่ งเหมาะสม 3. หมุนเวียนการเล่นจนหมดเวลา 4. เด็กเก็บเกมการศึกษาเข้าท่เี ดิม
แผนการจดั ประสบการณร์ ายวนั วันที่ ๓ หน่วยท่ี ๑๗ สตั ว์นา่ รัก ชน้ั อนุบาลปที ่ี ๓ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมินพฒั นาการ ประสบการณ์สาคญั สาระทค่ี วรเรียนรู้ ๑. เครอ่ื งเคาะจังหวะ 1. ใหเ้ ด็กเคลื่อนไหวเชงิ สรา้ งสรรค์ประกอบ ๒. ห่วงโซ่พลาสตกิ สงั เกต กจิ กรรมเคลือ่ นไหว (2) การเคลื่อนไหว อปุ กรณ์ หว่ งโซ่พลาสติก ยาวประมาณ ๔ การเคลอ่ื นไหวรา่ งกาย เซนติเมตร โดยให้เด็กคดิ ท่าทางเคลือ่ นไหวข้ึนเอง นทิ านเรอ่ื ง ตวั อะไร ในกจิ กรรมต่างๆอย่าง และจังหวะ พร้อมวสั ดุอปุ กรณ์ ไดย้ ินสญั ญาณหยุด ใหจ้ บั กลุ่มรวมกนั เรมิ่ จาก กาลังมา คลอ่ งแคลว่ ประสาน จบั คู่ กลุ่มเล็ก กล่มุ ใหญ่ นาโซม่ าตอ่ กัน และเลา่ ๒. แถบประโยค สมั พันธแ์ ละทรงตัว ๑.เคลอ่ื นไหวรา่ งกายใน ให้เพ่อื นฟงั ว่าเป็นรปู อะไร ๒. เปลี่ยนกล่มุ และรูปทรงทกุ ครั้งที่เร่มิ ต้น สงั เกต กจิ กรรมตา่ งๆอยา่ ง เคล่อื นไหวใหม่ ๑. การเล่าเรอ่ื งเปน็ 3. เคลือ่ นไหวอกี 2 - 3 ครั้ง กาหนดตามความ ประโยคอย่างต่อเน่ืองให้ คลอ่ งแคล่วประสาน สนใจและเวลา ผอู้ ่ืนเขา้ ใจ ๑. พฒั นาการทางภาษาและการรู้หนงั สอื ๒. การอ่านภาพและพดู สมั พันธ์และทรงตวั ได้ ๑.๑. เดก็ และครอู า่ นหนงั สอื นิทานเร่ือง ตวั อะไร ข้อความดว้ ยภาษาของ กาลังมา พรอ้ มกันจนจบ ฝกึ เตมิ คาด้วยปากเปล่า ตน ๒.แสดงอารมณ์ เม่อื อ่านถึงคาท่พี บบ่อย ๑.๒ ทากจิ กรรมเติมตัวอกั ษรในคาทพ่ี บบอ่ ย เช่น ความร้สู ึกของตนได้ ตวั อะไ – กาลัง - า(ตวั อะไรกาลงั มา) ๑.๓ สนทนากบั เดก็ ว่าในนทิ านมีสัตวอ์ ะไรบ้างท่มี ี เหมาะสมตาม อันตราย เราต้องปอ้ งกันอยา่ งไร ๑.๔ เดก็ เคยได้รับอนั ตรายจากสัตวไ์ หม เราจะ สถานการณ์ ปอ้ งกนั อยา่ งไร ช่วยกนั เสนอแนะวธิ ีป้องกัน กิจกรรมเสริม (๒) การฟังและปฏบิ ตั ิ ๑. ความร้พู น้ื ฐาน ประสบการณ์ เกีย่ วกับหนงั สือและ ๑. เลา่ เรื่องเป็น ตามคาแนะนา ตวั หนงั สือ นทิ านเร่ือง ประโยคอยา่ งตอ่ เน่อื ง ตวั อะไรกาลงั มา ให้ผ้อู ่นื เขา้ ใจได้ (๔) การพดู แสดง ๒. การปอ้ งกนั อันตราย ๒. อา่ นภาพและพูด ความคดิ ความรู้สกึ และความปลอดภยั จาก ข้อความด้วยภาษาของ ความต้องการ สตั ว์ ตนได้ (๕) การเล้ยี งสตั ว์ (๑๐) การอ่านหนงั สือ ภาพและนทิ าน หลากหลายประเภท รปู แบบ
กิจกรรมศลิ ปะ (๑๒) การเห็น ๑. การวาดภาพ ระบายสี สีนา้ อย่างอสิ ระ ๑. สนี า้ สังเกต สรา้ งสรรค์ แบบอยา่ งของการอ่าน ๒. สีเทยี น ความสนใจและ สนใจและแสดงออก ที่ถูกต้อง ๒. การประดิษฐ์สัตวจ์ ากวสั ดเุ หลอื ใช้ ๓. กระดาษ โปสเตอรส์ ี แสดงออกทางศลิ ปะ ทางศลิ ปะ (๒) การเขยี นภาพและ ๓. เด็กเลอื กกจิ กรรมคนละ ๑ กิจกรรมและเลอื ก ๔. จานสี อุปกรณข์ องแต่ละกิจกรรม นงั่ ตามโตะ๊ ที่จัดไว้ ๕. แกว้ นา้ การเล่นกบั สี ๓ - ๔ คนอย่างอสิ ระ ๓. ถามเดก็ เวลาเลอื กกจิ กรรมคิดตดั สนิ ใจอยา่ งไร (๕) การหยิบจับ การใช้ ๔. ทาเสรจ็ นาเสนอผลงานที่สาเรจ็ กรรไกร การฉกี การตดั การปะ กจิ กรรม (๓) การเลน่ ตามมุม เด็กเลอื กกจิ กรรมตามมมุ ประสบการณ์ตามความ ๑. มมุ ประสบการณใ์ น สงั เกต การเลือกเลน่ ในมุม เลน่ ตามมมุ ประสบการณ์ สนใจ ไดแ้ ก่ ห้องเรยี น ประสบการณท์ ีต่ นสนใจ ใช้ส่งิ ของเคร่ืองใชอ้ ย่าง (๑) การช่วยเหลือ 1.๑ มุมหนังสือ วางหนงั สอื นทิ านเรอื่ ง ตัวอะไร ๒. หนงั สือนิทานเร่อื ง ประหยดั และพอเพยี ง ตนเองในกิจวตั ร กาลงั มา ตัวอะไรกาลังมา เม่อื มีผชู้ ้ีแนะไดอ้ ย่าง ประจาวัน และหนังสือเกีย่ วกบั สัตว์เล้ียง เหมาะสม ๑.๒ มุมสร้างสรรค์ จดั วางอุปกรณ์ สตั ว์จาลอง ต่างๆ ๑.๓ มุมบทบาทสมมติ จัดวางหุ่นถุงมือหัวสัตว์ ต่างๆ ๑.๔ มมุ วิทยาศาสตร์ 2. เมื่อหมดเวลาเดก็ เกบ็ ของเข้าทใี่ ห้เรยี บรอ้ ย
จุดประสงค์การ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ พฒั นาการ เรยี นรู้ ประสบการณส์ าคัญ สาระทค่ี วรเรียนรู้ สงั เกต การเล่นเกมรบั สง่ ลูกลิง กจิ กรรมกลางแจ้ง (๓) การเล่นเครือ่ งเลน่ ๑. ครูสาธิต การเลน่ เกมรับสง่ ลกู ลิงชิงบอล ๑.อปุ กรณล์ ูกบอล ชงิ บอล และบอกถึงกติกาการเลน่ เคลื่อนไหวร่างกายใน อย่างปลอดภัย ๒. เมอ่ื เด็กเลน่ ครบทกุ คนแลว้ ให้เล่นอิสระใน สนามเด็กเลน่ ตอ่ ไป กจิ กรรมตา่ งๆอย่าง (๒) การเล่นรายบุคคล ๓.เลน่ เสรจ็ แล้วเก็บอุปกรณ์ทาความสะอาด และทา ความสะอาดตนเอง คลอ่ งแคลว่ ประสาน กลุ่มยอ่ ย กลุม่ ใหญ่ สัมพนั ธแ์ ละทรงตวั ได้ (๑) การช่วยเหลอื ตนเองในกจิ วัตร ประจาวนั เกมการศึกษา (๑๒) การจบั คู่ การ การจาแนกส่ิงตา่ งๆ ๑. ครูสาธติ การเลน่ เกมจาแนกสัตว์เลย้ี งชนดิ ต่างๆ ๑. เกมจาแนกสตั วเ์ ลีย้ ง สังเกต การเล่นเกมจาแนกสตั ว์ จาแนกและจดั กล่มุ เปรียบเทียบและ 2. แบง่ กลมุ่ เดก็ เลน่ เกมท่ีเคยเลน่ มาแล้ว หมุนเวยี น ชนดิ ต่างๆ กนั ๒. เกมทีเ่ คยเลน่ มาแลว้ เล้ยี งชนดิ ตา่ งๆ สตั ว์เลยี้ งได้ รปู รา่ งลกั ษณะต่าง ๆ 3. หมดเวลาเดก็ เก็บของเลน่ เข้าที่
แผนการจดั ประสบการณ์รายวัน วนั ท่ี ๔ หน่วยท่ี ๑๗ สัตว์นา่ รัก ชนั้ อนบุ าลปที ่ี ๓ จุดประสงคก์ าร สาระการเรียนรู้ การประเมิน เรียนรู้ พัฒนาการ ประสบการณ์ สาระท่ีควร กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื กิจกรรมเคลอื่ นไหว เครื่องเคาะ สงั เกต และจงั หวะ สาคัญ เรยี นรู้ จังหวะ การเคลอ่ื นไหว เคล่ือนไหวร่างกายใน รา่ งกายในกิจกรรม กจิ กรรมตา่ งๆอย่าง (๑) การ การเคลื่อนไหว ๑. กจิ กรรมการเคลอื่ นไหวเคล่ือนทเี่ ลยี นแบบท่าทางสัตวต์ า่ งๆทีม่ ใี นหนงั สอื ๑.นิทานเร่อื ง ต่างๆอย่าง คลอ่ งแคลว่ ประสาน เคลื่อนไหว ตัวอะไรกาลังมา คลอ่ งแคลว่ ประสาน สมั พันธแ์ ละทรงตัวได้ เคลอื่ นท่ี เคลื่อนท่ี นทิ านเรือ่ ง ตัวอะไรกาลงั มา ๒. กระดาษปิดคา สมั พันธแ์ ละทรงตัว กจิ กรรมเสรมิ เลยี นแบบ ๒. เด็กเคล่อื นไหวตามจังหวะเม่อื ได้ยินสญั ญาณหยดุ ให้หยดุ ในท่านน้ั ทันที สงั เกต ประสบการณ์ ๑. การเลา่ เร่อื งเปน็ ๑. เล่าเรื่องเป็น ทา่ ทางสัตว์ พดู ว่าเปน็ สตั ว์ชนดิ ใด ให้จับกล่มุ เดียวกนั ประโยคอย่าง ประโยคอยา่ งตอ่ เนือ่ ง ตา่ งๆทมี่ ีใน 2. เรม่ิ ใหม่อีก 2 - 3 ครัง้ ดคู วามคิดและการแสดงออกของเดก็ กาหนด ต่อเนอื่ งให้ผอู้ น่ื ให้ผู้อื่นเขา้ ใจได้ นทิ านเร่อื ง ตามความสนใจ เข้าใจ ๒. แสดงความรกั ตอ่ ๒. การแสดงความ ผ้อู ืน่ และมเี มตตาต่อ ตวั อะไรกาลัง รักตอ่ ผอู้ ืน่ และมี สัตว์อยา่ งเหมาะสม เมตตาต่อสตั ว์อยา่ ง ๓.มสี ่วนร่วมดแู ล มา เหมาะสม รักษาธรรมชาติและ ๓. การมสี ่วนร่วม สิ่งแวดล้อมด้วย (๒) ฟังและปฏบิ ัติ ๑. ความรู้ ๑. พฒั นาการทางภาษาและการรู้หนังสอื ดูแลรกั ษาธรรมชาติ ตนเอง และสิง่ แวดลอ้ มด้วย ตาม พน้ื ฐาน ๑.๑ เด็กและครอู ่านนทิ านเร่ือง ตวั อะไรกาลงั มา ตนเอง (๑) การมสี ่วน รว่ มรับผิดชอบ เกี่ยวกับ พร้อมกนั จนจบ๑รอบ ดแู ลรักษา สงิ่ แวดลอ้ ม หนงั สือและ ๑.๒ อ่านพรอ้ มกนั อกี คร้งั โดยครใู ช้กระดาษปิดคาให้เดก็ ทาย เมอื่ อ่าน คา (๑๐) การอ่าน ทที่ ายแล้ว ให้เดก็ เปิดดูวา่ ถูกต้องหรอื ไม่เพ่ือฝึกการสงั เกตคา ตวั หนังสอื หนังสือภาพและ ๑.๓ ใหเ้ ดก็ เลือกปิดคาเองและให้เพื่อนทายบ้าง นิทานเรอื่ ง ตัว ๑.๔ สนทนากบั เดก็ ตอ่ เน่อื งจากนิทานด้วยการใช้คาถามเช่นถ้าตัดต้นไม้ นิทานหลากหลาย หมดสตั ว์จะเปน็ อยา่ งไร อะไรกาลงั มา ๑.๕ เดก็ จะมีวธิ ชี ว่ ยเหลือสัตว์อย่างไร ประเภทรปู แบบ ๑.๖ ใครเลย้ี งสัตว์เลี้ยงไวบ้ ้าง เล้ยี งอย่างไร ๕. ความ ๑.๗ ร่วมกันสรุป (๕) การเลย้ี งสตั ว์ เมตตากรุณา ต่อสัตว์
กจิ กรรมศิลปะ (๕) การทางาน ๑. การฉกี ตัด ปะ ภาพสตั ว์ ๑. กระดาษขาว สังเกต A4 ทากิจกรรมศิลปะ สร้างสรรค์ ศลิ ปะ ๒. ปน้ั รูปสตั ว์ นามาจัดเป็นสวนสัตว์ ๒. กระดาษ จาก กระดาษ ดนิ ๓. เด็กเลือกกจิ กรรมคนละ ๑กิจกรรมและเลอื กอุปกรณข์ องแตล่ ะกจิ กรรม โปสเตอรส์ ี และเศษวสั ดไุ ด้ ทากิจกรรมศิลปะ น่ังตามโตะ๊ ทจ่ี ัดไว้ ๓ - ๔ คนอย่างอสิ ระ มุมประสบการณ์ สังเกต จาก กระดาษ ดินและ ๓. ถามเดก็ เวลาเลือกกจิ กรรมคดิ ตัดสินใจอยา่ งไร ในหอ้ งเรยี น การเลือกเล่นในมุม ๔. ทาเสรจ็ นาเสนอผลงานที่สาเรจ็ ประสบการณ์ท่ตี น เศษวสั ดไุ ด้ เดก็ เลอื กกิจกรรมตามมุมประสบการณ์ตามความสนใจ ไดแ้ ก่ การละเล่น สนใจ พ้ืนบ้าน วงิ่ กจิ กรรมเล่นตามมมุ (๓) การเลน่ ตาม 1.๑ มุมหนังสือ ครูนาหนังสือนทิ านเรอื่ ง ตวั อะไรกาลงั มาและหนังสอื กระสอบ สังเกต ใช้สิง่ ของเครอ่ื งใช้ มุมประสบการณ์ การว่ิงกระสอบ ได้ อย่างประหยัดและ (๑) การชว่ ยเหลอื เก่ียวกับสัตว์เล้ยี งมาไวใ้ นมมุ หนังสือ เกมจับคูภ่ าพกบั อยา่ งปลอดภัย พอเพยี งเม่อื มีผชู้ ้ีแนะ ตนเองในกจิ วตั ร สัญลกั ษณ(์ บัตร ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ประจาวนั ๑.๒ มุมสร้างสรรค์ จัดวางอปุ กรณ์ สตั วจ์ าลองต่างๆ คา) พรอ้ มบตั ร สังเกต ตรวจสอ การเลน่ เกมจบั คู่ กจิ กรรมกลางแจง้ (๕) การละเลน่ ๑.๓ มุมบทบาทสมมติ จดั วางหนุ่ ถุงมือหัวสัตว์ตา่ งๆ ภาพสัตว์เลย้ี งกบั บตั รคาพรอ้ มบัตร เคลอ่ื นไหวร่างกายใน พืน้ บ้านของไทย ๑.๔ มุมวทิ ยาศาสตร์ ตรวจสอบ กจิ กรรมต่างๆอยา่ ง 2. เมอ่ื หมดเวลาเด็กเกบ็ ของเข้าท่ีใหเ้ รียบรอ้ ย ๑. ครูสาธิต การละเลน่ พนื้ บา้ น วิ่งกระสอบ คลอ่ งแคล่วประสาน และบอกถงึ กตกิ าการเล่น 2. เมื่อเดก็ เล่นครบทุกคนใหเ้ ลน่ อิสระในสนามเดก็ เลน่ สมั พันธ์และทรงตัวได้ ๓. เลน่ เสรจ็ แล้วเกบ็ อปุ กรณ์ทาความสะอาด และทาความสะอาดตนเอง เกมการศกึ ษา (๑๒) การจบั คู่ การจบั คภู่ าพ ๑. ครูสาธติ การเล่นเกมจบั คู่ภาพกับสัญลกั ษณ์(บัตรคา) พรอ้ มบตั รตรวจสอบ เกมจบั คู่ภาพกับ การเปรยี บเทยี บ กับสัญลกั ษณ์ สัญลกั ษณ์(บตั รคา) และเรียงลาดบั สงิ่ (บัตรคา) 2. เม่ือเด็กเล่นครบทุกคนใหเ้ ลน่ อสิ ระในสนามเด็กเลน่ พร้อมบัตรตรวจสอบ ต่าง ๆ 3. หมดเวลาเด็กเกบ็ ของเลน่ เขา้ ที่ พร้อมบัตร ตรวจสอบ
แผนการจัดประสบการณร์ ายวัน วันที่ ๕ หนว่ ยท่ี ๑๗ สตั ว์น่ารกั ชั้นอนุบาลปีที่ ๓ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ พัฒนาการ ประสบการณ์สาคัญ สาระทค่ี วรเรยี นรู้ เครอ่ื งเคาะจังหวะ 1. การเคลือ่ นไหว การปฏบิ ตั ติ ามคาสั่งและ สงั เกต กิจกรรมเคลอื่ นไหว (๑) การเคล่ือนไหว ขอ้ ตกลง การเป็นผู้นา ผตู้ าม การปฏิบัตติ นเป็นผนู้ า 2. ใหเ้ ด็กคิดทา่ ทางตนเองตามจินตนาการ และผ้ตู ามในกิจกรรม และจงั หวะ เคลือ่ นที่ สร้างสรรคแ์ ละให้เพ่ือนปฏบิ ัตติ าม เคลอื่ นไหวและจังหวะได้ 3. เปล่ียนผูน้ าไปเรือ่ ย ๆผ้นู าต้องคิดทา่ ทางแปลก ด้วยตนเอง ปฏบิ ัตติ นเป็นผูน้ าและ (๓) การใหค้ วามร่วมมือ ใหม่ไม่ซา้ ผอู้ นื่ จนหมดเวลา สงั เกต ผู้ตามในกิจกรรม ในการปฏบิ ัติกิจกรรม ๑. การฟังผู้อน่ื พูดจนจบ และสนทนาโต้ตอบ เคลอ่ื นไหวและจังหวะ ตา่ งๆ เกย่ี วกบั เรอ่ื งทฟี่ งั ๒. การมีสว่ นร่วมดแู ล ได้ด้วยตนเอง รกั ษาธรรมชาตแิ ละ ส่ิงแวดล้อมดว้ ยตนเอง กิจกรรมเสรมิ (๒) ฟงั และปฏิบัติ ๑ .ความรู้พน้ื ฐาน ๑. พฒั นาการทางภาษาและการรู้หนงั สือ นทิ านเร่ือง ตวั อะไร กาลงั มา ประสบการณ์ คาแนะนา เกีย่ วกบั หนงั สอื และ ๑.๑ เดก็ และครอู า่ นนิทานเรอ่ื ง ตวั อะไรกาลังมา ๑. ฟังผูอ้ ืน่ พูดจนจบ (๑) การมีส่วนร่วม ตวั หนังสือ นทิ าน พร้อมกนั จนจบ๑รอบ และพูดโตต้ อบเกย่ี วกบั รบั ผิดชอบดแู ลรักษา เร่ือง ตวั อะไรกาลงั ๑.๒ ให้เดก็ อาสาออกมาอา่ นพรอ้ มชข้ี ้อความ ให้ เพ่อื นอ่านไปพรอ้ มกนั เร่ืองที่ฟงั ได้ สิง่ แวดล้อม มา ๑.๓ สนทนาเรอ่ื งจากนิทานมีสัตว์เล้ยี งกีช่ นดิ ชนดิ ละก่ีตวั ๒. มีส่วนรว่ มดูแลรักษา ๒. ประโยชนข์ อง ๓. สตั ว์เล้ียงมีประโยชน์กบั เด็กหรอื ไม่ ธรรมชาติและ สัตว์ตอ่ มนษุ ย์ ๔. ชว่ ยกนั แสดงความคิดเห็นประโยชน์ของสัตว์ สิง่ แวดล้อมด้วยตนเอง ๓. การนบั เลยี้ ง การจาแนกและ เปรียบเทยี บ ๑ - ๙
จุดประสงค์การ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมินพฒั นาการ เรียนรู้ ประสบการณส์ าคัญ สาระท่ีควรเรยี นรู้ ๑. พบั หุน่ สวมหวั จากวัสดุเหลอื ใช้เป็นรปู สัตว์ ๒. ปั้นดินน้ามันเป็นสัตว์ต่างๆ กจิ กรรมศลิ ปะ (๕) การทางานศิลปะ ๑. พับหนุ่ สวมหัว ๓. เดก็ เลือกกิจกรรมคนละ ๑กิจกรรมและเลอื ก ๑. กระดาษใชแ้ ล้ว สังเกต อุปกรณ์ของแต่ละกจิ กรรม นงั่ ตามโตะ๊ ที่จัดไว้ สร้างสรรค์ (๓) การปนั้ จากวัสดุเหลือใชเ้ ป็น ๓ - ๔ คนอย่างอิสระ นติ ยสารต่างๆ การทากจิ กรรมศลิ ปะ ๓. ทากจิ กรรมศิลปะ (๔) การประดษิ ฐส์ ่ิงต่างๆ รปู สตั ว์ ๓. ถามเด็กเวลาเลอื กกจิ กรรมคดิ ตัดสนิ ใจอยา่ งไร จาก กระดาษ ดนิ ด้วยเศษวสั ดุ ๒. ปั้นดินน้ามันเป็น ๔. ทาเสร็จนาเสนอผลงานท่ีสาเรจ็ ๒. กระดาษโฆษณาต่างๆ จาก กระดาษ ดนิ และ และเศษวัสดุได้ (๕) การหยิบจบั การใช้ สตั ว์ต่างๆ กรรไกร การฉกี การตัด เด็กเลือกกิจกรรมตามมุมประสบการณต์ ามความ ดินน้ามนั เศษวสั ดุ สนใจ ได้แก่ การปะ 1.๑ มมุ หนังสอื วางหนงั สือนทิ านเร่อื ง ตวั อะไร กิจกรรมเล่นตามมุม (๓) การเลน่ ตามมมุ กาลงั มาและหนังสือเกย่ี วกบั สัตว์เลีย้ ง มุมประสบการณ์ใน สงั เกต ใช้สงิ่ ของเครอื่ งใช้ ประสบการณ์ หอ้ งเรียน การเลน่ และใช้อุปกรณ์ อย่างประหยัดและ (๑) การช่วยเหลือตนเอง ๑.๒ มุมสรา้ งสรรค์ จัดวางอปุ กรณ์ สัตว์จาลอง ในมมุ ประสบการณ์ ๑.๓ มมุ บทบาทสมมติ จดั วางหนุ่ ถงุ มอื หัวสัตว์ พอเพียงเมอ่ื มีผ้ชู แ้ี นะ ในกิจวัตรประจาวนั ๑.๔ มมุ วทิ ยาศาสตร์ ได้อยา่ งเหมาะสม 2. เมอ่ื หมดเวลาเด็กเก็บของเข้าทใี่ ห้เรยี บร้อย ๑. ครูสาธติ การเล่นเกมสรา้ งบ้านใหส้ ุนขั กิจกรรมกลางแจ้ง (๒) การเคลื่อนไหวอย่กู ับที่ และบอกถึงกตกิ าการเล่น ไมบ้ ลอ็ กขนาดต่างๆ สังเกต เคล่ือนไหวรา่ งกาย 2. เมื่อเด็กเล่นครบทุกคนใหเ้ ล่นอิสระในสนามเด็ก การเคล่อื นไหวร่างกาย ในกจิ กรรมตา่ งๆ เล่น ในกจิ กรรมตา่ งๆอยา่ ง อยา่ งคล่องแคล่ว ๓. เลน่ เสร็จแล้วเกบ็ อุปกรณ์ทาความสะอาด และ คลอ่ งแคล่วประสาน ประสานสมั พนั ธแ์ ละ ทาความสะอาดตนเอง สมั พนั ธแ์ ละทรงตัว ทรงตัวได้
จดุ ประสงค์การ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ พัฒนาการ ประสบการณ์สาคญั สาระท่คี วรเรียนรู้ เรียนรู้ (๕) การคัดแยก การจัด การเล่นจับคูภ่ าพ ๑. ครสู าธติ การเล่นเกมจับคู่ภาพสัตว์เล้ียงกบั จานวน เกมจบั คภู่ าพสตั ว์ สงั เกต กล่มุ และการจาแนกสิ่ง สตั วเ์ ลีย้ งกับ ๑–9 เลีย้ งกับจานวน การเลน่ เกมจับคภู่ าพ เกมการศึกษา ต่างๆ ตามลกั ษณะและ จานวน ๑ - ๙ 2. แบง่ กลมุ่ เด็กเลน่ เกมที่เคยเล่นมาแลว้ หมนุ เวยี นกัน ๑-๙ สตั ว์เลยี้ งกบั เกมจบั คู่ภาพสตั ว์ รูปร่าง รปู ทรง 3. หมดเวลาเดก็ เกบ็ ของเล่นเขา้ ที่ จานวน ๑ - ๙ เลย้ี งกับจานวน ๑-๙
เลขท่ี ชื่อ-สกลุ 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10. ๑. การเลน่ ทากิจกรรมอยา่ งปลอดภยั ด้วย ด้านร่างกาย ต๒น. เกอางรเคลือ่ นไหวรา่ งกายในกิจกรรมต่างๆ อย่างคลอ่ งแคลว่ ประสานสัมพันธแ์ ละทรงตวั ด้านอารมณ์ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมเดก็ หน่วยการจัดประสบการณ์ที่ ๑๗ สัตวน์ ่ารัก ช้นั อนบุ าลปที ี่ 3 ๓. การทากจิ กรรมศิลปะ จาก กระดาษ ดนิ ประเมนิ พัฒนาการ และ เศษวสั ดุ ด้านสงั คม ๔. การแสดงอารมณ์ความรสู้ กึ ของตนได้ ดา้ นสตปิ ัญญา เหมาะสมตามสถานการณ์และบอกอารมณ์แก่ ผู้อ๕ื่น. การร่วมกจิ กรรมการเคล่ือนไหวประกอบ เพลงจังหวะและดนตรี ๖. การแสดงความรกั ตอ่ ผอู้ ืน่ และมเี มตตาต่อ สตั วอ์ ยา่ งเหมาะสม ๗. การใช้สิ่งของเคร่อื งใช้อยา่ งประหยดั และ พอเพียงดว้ ยตนเองไดอ้ ย่างเหมาะสม ๘. การมสี ว่ นรว่ มดูแลรักษาธรรมชาติและสง่ิ ๘. มีส่วนร่วมดูแลรักษาธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดลอ้ ม ดว้ ยตนเองแวดลอ้ มด้วยตนเอง ๙. การปฏบิ ตั ิตนเป็นผูน้ าและผูต้ ามในกิจกรรม เคลื่อนไหวและจังหวะได้ดว้ ยตนเอง ๑๐. การเล่าเป็นเรอื่ งราวไดอ้ ย่างต่อเนอ่ื งให้ ผอู้ น่ื เข้าใจ ๑๑. การอ่านภาพสัญลกั ษณค์ าดว้ ยการช้ีหรอื กวาดตามองจดุ เร่มิ ต้นหรือจดุ จบของขอ้ ความ ๑๒. การบอกลกั ษณะสัตว์เล้ยี งท่มี ีความสัมพันธ์ กับจานวนจากการสงั เกต ๑๓. การจับคู่ การเปรียบเทียบรูปรา่ งและ ลักษณะต่าง ๆ ๑๔. การจาแนกและจดั กลุ่มสตั ว์เลย้ี ง ๑๕. การค้นหาคาตอบข้อสงสัยต่าง ๆ โดยใช้ วธิ ีที่หลากหลายดว้ ยตนเอง หมาย เหตุ
เลขท่ี ชือ่ -สกลุ ๑. การเลน่ ทากิจกรรมอยา่ งปลอดภยั ด้วย ด้านรา่ งกาย ต๒น. เกอางรเคลือ่ นไหวรา่ งกายในกิจกรรมต่างๆ 1. อย่างคลอ่ งแคลว่ ประสานสัมพันธแ์ ละทรงตวั ด้านอารมณ์ 2. 3. ๓. การทากจิ กรรมศิลปะ จาก กระดาษ ดนิ ประเมนิ พัฒนาการ 4. และ เศษวสั ดุ ดา้ นสงั คม 5. 6. ๔. การแสดงอารมณค์ วามรสู้ กึ ของตนได้ 7. เหมาะสมตามสถานการณ์และบอกอารมณ์แก่ 8. ผู้อ๕ื่น. การร่วมกจิ กรรมการเคล่ือนไหวประกอบ 9. เพลงจังหวะและดนตรี 10. ๖. การแสดงความรกั ตอ่ ผอู้ ืน่ และมเี มตตาต่อ คาอธิบาย ครูสงั เกตพฤติกรรมเด็กรายบคุ คล จดบนั ทึกสรปุ เป็นรายสปั ดาห์ระบรุ ะดับคุณภาพเปน็ 3 ระดับ คอืสตั วอ์ ยา่ งเหมาะสม ระดบั 3 ดี ระดบั 2 ปานกลาง ระดับ 1 ตอ้ งสง่ เสรมิ ๗. การใช้สิ่งของเคร่อื งใช้อยา่ งประหยดั และ พอเพียงดว้ ยตนเองไดอ้ ย่างเหมาะสม ดา้ นสตปิ ญั ญา ๘. การมสี ว่ นรว่ มดูแลรักษาธรรมชาติและสง่ิ ๘. มีส่วนร่วมดูแลรักษาธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดลอ้ ม ดว้ ยตนเองแวดลอ้ มด้วยตนเอง ๙. การปฏบิ ตั ิตนเป็นผูน้ าและผูต้ ามในกิจกรรม เคลื่อนไหวและจังหวะได้ดว้ ยตนเอง ๑๐. การเล่าเปน็ เรอื่ งราวไดอ้ ย่างต่อเนอ่ื งให้ ผอู้ น่ื เข้าใจ ๑๑. การอ่านภาพสัญลกั ษณค์ าดว้ ยการช้ีหรอื กวาดตามองจดุ เร่มิ ตน้ หรือจดุ จบของขอ้ ความ ๑๒. การบอกลักษณะสัตว์เล้ยี งท่มี ีความสัมพันธ์ กับจานวนจากการสงั เกต ๑๓. การจับคู่ การเปรียบเทียบรูปรา่ งและ ลักษณะต่าง ๆ ๑๔. การจาแนกและจดั กลุ่มสตั ว์เลย้ี ง ๑๕. การค้นหาคาตอบข้อสงสัยต่าง ๆ โดยใช้ วธิ ีที่หลากหลายดว้ ยตนเอง หมาย เหตุ
การวิเคราะหโ์ ครงสร้างหนว่ ยการจดั ประสบการณต์ ามหลกั สูตรการศึกษาปฐมวยั พทุ ธศักราช ๒๕๖๐ หน่วยท่ี 18 คมนาคม ช้นั อนุบาลปที ี่ 1 – 3 ภาคเรียนที่ 1 รายการ อนุบาลปีที่ 1 อนบุ าลปีที่ 2 อนบุ าลปีท่ี 3 สาระท่คี วรเรียนรู้ 1. ความหมายของการคมนาคม 1. ความส้าคัญของยานพาหนะ 1. ความหมายและประโยชน์ของยานพาหนะ 2. การเดินทางทางบก 2. ยานพาหนะทางบก 2. การปฏิบตั ิตนเมื่อเดนิ ทางด้วยรถและรถไฟ มาตรฐาน 3. การเดินทางทางน้า 3. ยานพาหนะทางน้า 3. การปฏิบัติตนเมื่อเดนิ ทางทางน้า ตัวบง่ ชี้ 4. การเดนิ ทางทางอากาศ 4. ยานพาหนะทางอากาศ 4. การปฎิบัติตนเม่ือขนึ้ สะพานลอย สภาพที่พึงประสงค์ 5. ขอ้ ควรปฎิบัตติ นในการข้ามถนน 5. การปฎบิ ัติตนตามกฎจราจร 5. การปฎบิ ัตติ นเมอ่ื ข้ามทางมา้ ลาย มฐ 1 ตบช 1.3 (1.3.1) มฐ 2 ตบช 2.1 (2.1.3) มฐ 1 ตบช 1.3 (1.3.1) ประสบการณส์ าคญั มฐ 3 ตบช 3.2 (3.2.1) มฐ 2 ตบช 2.1 (2.1.3) มฐ 4 ตบช 4.1 (4.1.1)(4.1.3) ตบช 2.2 (2.2.1) มฐ 6 ตบช 6.2 (6.2.1) มฐ 3 ตบช 3.2 (3.2.1) ตบช 2.2. (2.2.1) มฐ 4 ตบช 4.1 (4.1.1) (4.1.3) มฐ 4 ตบช 4.1 (4.1.3) มฐ 8 ตบช 8.2 (8.2.1) มฐ 6 ตบช 6.1 (6.2.1) มฐ 9 ตบช 9.1 (9.1.1) มฐ 6 ตบช 6.2 (6.2.1) มฐ 8 ตบช 8.2.1 มฐ 10 ตบช 10.1 (10.1.1) มฐ 8 ตบช 8.3 (8.3.2) มฐ 9 ตบช 9.1 (9.1.1) มฐ 11 ตบช 11.2 (11.2.1) มฐ 9 ตบช 9.1 (9.1.2) มฐ 10 ตบช 10.1 (10.1.2) (10.1.3) มฐ 10 ตบช 10.1(10.1.2) (10.1.3) มฐ 11 ตบช 11.1 (11.1.1) ตบช 10.2 (10.2.2) ร่างกาย ๑.๑.๑ การใช้กลา้ มเน้อื ใหญ่ ร่างกาย รา่ งกาย (๑) การเคลอ่ื นไหวอยู่กับท่ี ๑.๑.๑ การใชก้ ล้ามเน้ือใหญ่ (๒) การเคล่ือนไหวเคล่ือนท่ี 1.1.1 การใช้กลา้ มเนือ้ ใหญ่ (๑) การเคลอ่ื นไหวอยกู่ ับที่ (๓) การเคลอ่ื นไหวท่ีใช้การประสานสมั พนั ธ์ของ การใช้กลา้ มเนอ้ื ใหญ่ในการขว้าง การจบั การโยน (1) การเคลอื่ นไหวอยู่ กับท่ี (๒) การเคล่ือนไหวเคล่อื นท่ี การเตะ (๓) การเคล่อื นไหวทใ่ี ชก้ ารประสาน (2) การเคล่ือนไหว เคล่ือนที่ 1.1.2 การใชก้ ลา้ มเนอื้ เล็ก สัมพนั ธ์ของกล้ามเน้อื ใหญ่ในการ (1) การเลน่ เครือ่ งเลน่ สัมผสั และการสร้าง ขว้าง การจบั การโยน การเตะ ๑.๑.๒ การใชก้ ล้ามเนือ้ เลก็ จากแทง่ ไม้ บล็อก 1
รายการ อนบุ าลปีที่ 1 อนบุ าลปีท่ี 2 อนุบาลปที ี่ 3 (2) การเขยี นภาพ (๓) การปัน้ ๑.๑.๒ การใชก้ ลา้ มเนอ้ื เลก็ (3) การปน้ั (๔) การประดษิ ฐส์ งิ่ ต่างๆดว้ ยวัสดุ (๓) การปัน้ (4) การหยิบจับ การฉกี การปะ (๕) การหยิบจบั การใช้กรรไกร การตดั (๕) การใช้กรรไกร การฉกี การตดั การปะ การร้อยวสั ดุ การร้อยวัสดุ อารมณ์ อารมณ์ ๑.๒.๑ (๑). การเคล่ือนไหวตามเสยี งเพลงดนตรี 1.2.1 สุนทรียภาพ ดนตรี ๑.๒.๑ สุนทรยี ภาพ ดนตรี อารมณ์ (1) การฟังเพลง การร้องเพลง และการ (๑) การฟงั เพลง การร้องเพลง และการ ๑.๒.๑ สนุ ทรยี ภาพ ดนตรี แสดงปฎกิ ริยาโต้ตอบเสียงดนตรี แสดงปฎิกรยิ าโต้ตอบเสียงดนตรี (๑). การเคลือ่ นไหวตามเสียงเพลงดนตรี (5) การท้ากิจกรรมศลิ ปะต่างๆ (๕) การท้ากจิ กรรมศลิ ปะต่างๆ 1.2.2 การเลน่ สงั คม (1) การเลน่ กลมุ่ ยอ่ ย กลุม่ ใหญ่ สงั คม ๑.๓.๔ การมปี ฏสิ มั พันธ์ มวี ินยั มสี ่วนร่วมและ (3) การเล่นตามมุมประสบการณ์ ๑.๓.๔ (๓) การใหค้ วามร่วมมือในการปฏบิ ตั ิ บทบาทสมาชกิ ของสังคม (4) การเล่นนอกห้องเรยี น กิจกรรมตา่ งๆ (๔) การดแู ลห้องเรยี นรว่ มกนั 1.2.4 การแสดงออกทางอารมณ์ ๑.๓.๕ การเลน่ และทา้ งานแบบมีรว่ มมือและร่วมใจ (1) การพดู สะทอ้ นความร้สู ึกของตนเอง (๑) การร่วมสนทนาและแลกเปลีย่ นความคดิ เห็น และผ้อู ื่น (๒) การเลน่ หรือทา้ กจิ กรรมร่วมกับเพอื่ น สงั คม 1.3.4 การมปี ฎิสมั พนั ธ์ มวี ินยั มีส่วนร่วม และบทบาทสมาชกิ ของสังคม (2) การปฏบิ ตั ิตนเป็นสมาชกิ ที่ดีของ ห้องเรียน 1.3.5 การเลน่ และท้างานแบบรว่ มมือ รว่ มใจ (1) การรว่ มสนทนาและแลกเปลี่ยนความ 2
รายการ คิดเหน็ อนุบาลปที ่ี 1 อนุบาลปที ี่ 2 อนบุ าลปีท่ี 3 คณิตศาสตร์ (2) การเลน่ และท้างานรว่ มกับผ้อู นื่ สตปิ ัญญา สตปิ ัญญา สตปิ ัญญา ๑.๔.๑ การใชภ้ าษา ๑.๔.๑ การใช้ภาษา 1.4.1 การใชภ้ าษา (๓) การฟังเพลง คา้ คล้องจอง หรอื เรื่องราว (๓). การฟังเพลง คา้ คลอ้ งจอง หรอื เรือ่ งราวต่างๆ (1) การฟังนิทาน เพลง ค้าคล้องจองหรือ ต่างๆ (๖) การพดู อธิบายเกีย่ วกับความสมั พนั ธข์ องสิ่ง เรอ่ื งราวตา่ งๆ (๖) การพดู อธบิ ายเกีย่ วกบั ความสมั พันธ์ ตา่ งๆ (4) การพูดแสดงความคดิ ความรสู้ ึกและ ระหวา่ งยานพาหนะกับวธิ ีการเดนิ ทาง (๑๒). การเห็นแบบอยา่ งของการเขยี นท่ถี ูกตอ้ ง ความต้องการ ๑.๔.๒ การคิดรวบยอด การคดิ เชิงเหตุผล (๒๐) การเขยี นร่วมกนั ตามโอกาสและเขียนอสิ ระ (10) การอ่านหนังสอื ภาพ นิทาน การตดั สนิ ใจและแกป้ ญั หา ๑.๔.๒ การคิดรวบยอด การคดิ เชงิ เหตผุ ล 1.4.2 การคิดรวบยอด การคดิ เชงิ เหตผุ ล (๕) การคดั แยก การจัดกลุ่ม การจา้ แนกสงิ่ การตัดสนิ ใจและแกป้ ญั หา การตดั สนิ ใจและแก้ปัญหา ต่างๆตามลักษณะและรปู รา่ ง รูปทรง (๑) การสงั เกตลกั ษณะ สว่ นประกอบ (๑๓) การจบั คู่ การเปรียบเทยี บ และการ (1) การสงั เกตลกั ษณะของส่งิ ตา่ งๆ โดยใช้ เรียงลา้ ดับจ้านวนของสง่ิ ตา่ งๆ การเปลีย่ นแปลงและความสัมพันธ์ของส่ิงต่างๆ (๑๗) การคาดคะเนสิ่งทีเ่ กิดขนึ้ อย่างมีเหตผุ ล โดยใช้ประสาทสมั ผัสอยา่ งเหมาะสม ประสาทสัมผัสอย่างเหมาะสม (๕) การคัดแยก การจดั กลุ่ม จ้าแนกยานพาหนะ (3) การบอกและแสดงต้าแหนง่ ทิศทาง (๑๘) การมสี ว่ นรว่ มในการลงความเห็นจาก ตามวธิ กี ารเดินทางแบบตา่ งๆ และระยะทางของส่งิ ตา่ งๆ ขอ้ มลู อย่างมีเหตผุ ล (๑๖) การอธบิ ายเชอ่ื มโยงสาเหตแุ ละผลทีเ่ กิดข้ึน (5) การคดั แยก การจดั กล่มุ และ ๑.๔.๓ จินตนาการและความคิดสรา้ งสรรค์ ในเหตกุ ารณ์หรอื การกระทา้ การจา้ แนกส่ิงตา่ งๆตามลักษณะและ (๑) การรบั รู้และแสดงความคดิ ความรูส้ กึ (๑๘) การมสี ่วนรว่ มในการลงความเหน็ จากขอ้ มลู รูปรา่ ง และ รปู ทรง ผ่านส่อื วัสดุ ของเล่นและชิน้ งาน อย่างมเี หตุผล (6) การตอ่ ช้นิ เลก็ เติมในช้นิ ใหญใ่ ห้ (๒) การแสดงความคดิ สรา้ งสรรคผ์ ่านภาษา ๑.๔.๓ จนิ ตนาการและความคดิ สร้างสรรค์ สมบรู ณ์ (๑) การรบั รู้และแสดงความคดิ ความรสู้ กึ ผา่ นสอ่ื (8) การนบั และแสดงจา้ นวนของสิ่งต่างๆ ท่าทาง การเคลือ่ นไหว และศลิ ปะ วสั ดุ ของเล่น และชิน้ งาน ในชีวติ ประจ้าวนั 1. การนบั ปากเปล่า 1 – 5 1. การนบั ปากเปล่า 1 – 10 1. การนบั ปากเปล่า 1 – 20 2. นับและแสดงจ้านวน 3 2. การนบั และแสดงจา้ นวน 1 - 5 2. การนบั และแสดงจา้ นวน 10 3. เปรยี บเทียบใกล้-ไกล 3. จ้าแนก จัดกลุม่ 3. จา้ แนก จัดกลมุ่ 3
รายการ อนบุ าลปีที่ 1 อนบุ าลปีท่ี 2 อนุบาลปที ี่ 3 วิทยาศาสตร์ 1.ทกั ษะการสงั เกตโดยใชป้ ระสาทสมั ผสั 4. ต้าแหนง่ ทิศทาง 4. ตา้ แหน่ง ทศิ ทาง ระยะทาง พฒั นาการทางภาษา ท้งั 5 1. ทักษะการสงั เกตลักษณะ ส่วนประกอบ และการรู้หนงั สอื 2. ทกั ษะการคัดแยกจดั กล่มุ การจ้าแนก 1. ทกั ษะการสังเกตโดยใช้ประสาทสมั ผัส การเปลย่ี นแปลงและความสัมพนั ธ์ของสงิ่ ตา่ งๆ ส่งิ ตา่ งๆตามลักษณะ ทง้ั 5 โดยใช้ประสาทสัมผัสอย่างเหมาะสม 2. ทักษะการคดั แยกจัดกลุ่ม การจ้าแนกสง่ิ 2. ทักษะการคัดแยกจดั กลุ่ม การจ้าแนกสง่ิ ต่างๆ 1. การฟงั และปฏบิ ตั ติ ามคา้ แนะน้า ต่างๆตามลกั ษณะและรูปรา่ ง รูปทรง ตามลักษณะ 2. การฟงั เพลง นิทาน คา้ คล้องจอง 3. การคาดคะเนสง่ิ ที่เกดิ ขึน้ อยา่ งมเี หตผุ ล 3. การอธิบายเช่ือมโยงสาเหตแุ ละผลทเ่ี กิดข้ึนใน 3. การพดู แสดงความคิด ความรสู้ ึกและ 4. การมีส่วนรว่ มในการลงความเหน็ จาก เหตกุ ารณ์หรอื การกระทา้ ความตอ้ งการ ขอ้ มลู อยา่ งมเี หตผุ ล 4. การมีส่วนร่วมในการลงความเหน็ จากขอ้ มูล 4. การอ่านหนงั สือภาพ อยา่ งมีเหตผุ ล 1. การฟงั เพลง ค้าคล้องจอง หรือ เรื่องราวต่างๆ 1. การฟังและปฏบิ ตั ิตามคา้ แนะนา้ 2. การฟงั เพลง ค้าคลอ้ งจอง หรอื เรอื่ งราว 2. การพูดอธิบายเกย่ี วกบั ความสัมพันธข์ องส่ิง ต่างๆ ตา่ งๆ 3. การพดู อธบิ ายเก่ียวกบั ส่ิงของ เหตุการณ์ 3. การเห็นแบบอยา่ งของการเขยี นท่ีถูกต้อง และความสมั พนั ธข์ องสิ่งต่างๆ 4. การเขยี นร่วมกันตามโอกาสและเขียนอสิ ระ 4
แนวคดิ การวเิ คราะหโ์ ครงสร้างหน่วยการจัดประสบการณ์ ตามหลักสตู รการศกึ ษาปฐมวัย พ.ศ. ๒๕๖๐ หน่วยท่ี ๑๘ คมนาคม ชัน้ อนบุ าลปีที่ ๓ การคมนาคมเปน็ การเดินทาง ติดต่อ ขนส่งจากท่หี นึง่ ไปยงั อกี ท่ีหนง่ึ โดยเลอื กเดินทางให้เหมาะสมกับสถานการณไ์ ด้ ๓ ทางประกอบด้วย ทางบก ทางน้า ทางอากาศ โดยอาศยั ยานพาหนะในการเดินทางเพอื่ ความสะดวกรวดเร็วและเพื่อความปลอดภยั ในการเดนิ ทางจะตอ้ งปฏิบัติตามกฎจราจรและรวู้ ิธีดแู ลตนเองให้ปลอดภยั ในการเดินทาง มาตรฐานหลกั สูตรปฐมวัย สาระการเรยี นรู้ มาตรฐาน ตัวบ่งช้ี สภาพที่พงึ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ประสบการณส์ าคญั สาระทค่ี วรเรียนรู้ ประสงค์ มาตรฐานท่ี ๑ ๑.๓ รกั ษาความ ๑.๓.๑ เลน่ ทา้ ๑. เล่น ท้ากจิ กรรมและ ๑.๑.๑ การใช้กล้ามเนอ้ื ใหญ่ เร่อื งราวเก่ยี วกับตัวเดก็ กิจกรรมและปฏิบตั ิ ปฏบิ ตั ิต่อผู้อื่นอย่าง (๑) การเคลื่อนไหวอยกู่ ับท่ี ๑. การปฏิบัติตนใหม้ คี วาม ร่างกายเจริญเติบโตตาม ปลอดภยั ของตนเอง ตอ่ ผู้อนื่ อย่าง ปลอดภัยได้ (๒) การเคลื่อนไหวเคลอ่ื นท่ี ปลอดภัยในการเดนิ ทาง ปลอดภยั (๓) การเคลอ่ื นไหวทใี่ ชก้ าร เร่ืองราวเก่ียวกบั สิ่งตา่ งๆ วยั และมสี ขุ นสิ ยั ทด่ี ี และผอู้ นื่ ๒. ว่งิ หลบหลกี ส่ิงกีดขวาง ประสานสมั พันธ์ของการใช้ รอบตัวเดก็ ๒.๑.๓ ว่งิ หลบหลีก ได้อย่างคลอ่ งแคลว่ ได้ กล้ามเน้ือใหญ่ในการขวา้ ง ๒. การใชย้ านพาหนะ มาตรฐานท่ี ๒ ๒.๑ เคล่ือนไหว สิง่ กดี ขวางได้อย่าง การจับ การโยน การเตะ การคมนาคมอย่างปลอดภัย กล้ามเนอ้ื ใหญ่และ ร่างกายอยา่ ง คลอ่ งแคล่ว ๓. การเลอื กใช้ยานพาหนะให้ กล้ามเน้อื เลก็ แขง็ แรง คล่องแคล่วประสาน เหมาะสมกับวิธีการเดนิ ทาง ใช้ไดอ้ ยา่ งคล่องแคล่ว สัมพนั ธแ์ ละทรงตัวได้ และประสานสมั พนั ธ์กนั ๒.๒ ใชม้ อื – ตา ๒.๒.๑ ใช้กรรไกร ๓. ใชก้ รรไกรตดั กระดาษ ๑.๑.๒ การใชก้ ล้ามเน้อื เลก็ ประสานสมั พันธก์ ัน ตดั กระดาษตาม ตามแนวเส้นโคง้ ได้ (๓) การปัน้ แนวเสน้ โค้งได้ (๕) การใชก้ รรไกร การฉีก 5
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 565
- 566
- 567
- 568
- 569
- 570
- 571
- 572
- 573
- 574
- 575
- 576
- 577
- 578
- 579
- 580
- 581
- 582
- 583
- 584
- 585
- 586
- 587
- 588
- 589
- 590
- 591
- 592
- 593
- 594
- 595
- 596
- 597
- 598
- 599
- 600
- 601
- 602
- 603
- 604
- 605
- 606
- 607
- 608
- 609
- 610
- 611
- 612
- 613
- 614
- 615
- 616
- 617
- 618
- 619
- 620
- 621
- 622
- 623
- 624
- 625
- 626
- 627
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 600
- 601 - 627
Pages: