๒2๔๒4324 การวัดและประเมินผล สิง่ ทตี่ ้องการวดั /ประเมนิ วิธกี าร เคร่ืองมือทใี่ ช้ เกณฑ์ ดา นความรู คาถาม ตอบคาถามซักถามได้ ๑. นกั เรยี นมีความรูความ ใช้คาถาม เขา ใจเกย่ี วกับการพดู โนมนา ว ๒. อธบิ ายหลักการพูดใน โอกาสตาง ๆ (การพดู โนม ใช้คาถาม คาถาม ตอบคาถามซักถามได้ นา ว) ไดถกู ตอง ๓. อธบิ ายขอ ควรปฏิบตั ิใน การพูดในโอกาสตา ง ๆ (การ ใช้คาถาม คาถาม ตอบคาถามซักถามได้ พูดโนม นาว) ไดถ ูกตอ ง ดา้ นทักษะ/กระบวนการ สงั เกตการณพ์ ูด แบบประเมินการพูด ผลจากการสงั เกต ๑. พูดในโอกาสต่างๆ พูดโน้มนา้ ว พูดโนม้ น้าว พฤติกรรมการพดู รายบุคคลรอ้ ยละ ๘๐ (พูดโนม้ น้าว) ตามหวั ขอ้ ท่ี ขึ้นไปถือวา่ ผ่านเกณฑ์ กาหนดให้ได้ถกู ต้องและ สรา้ งสรรค์ ดา้ นคณุ ลักษณะ สงั เกตคุณลักษณะ แบบสงั เกต ได้ผลจากการสังเกต ๑. มวี นิ ยั คณุ ลักษณะ คุณลักษณะแตล่ ะข้อ ๒. ใฝเ่ รยี นรู้ อันพึงประสงค์ ไม่ต่ากวา่ ระดบั ๒ ๓. มงุ่ มั่นในการทางาน
๒๔๓23435 ๙. บนั ทกึ ผลหลังสอน ผลการเรียนรู้ ............................................................................................................................. ...................................... ปญั หาและอปุ สรรค ................................................................................................................................................................... ขอ้ เสนอแนะและแนวทางแกไ้ ข ............................................................................................................... .................................................... ลงชื่อ ......................................ผู้สอน (.......................................................) วนั ท่ี..........เดอื น..........พ.ศ............. ๑๐. ความคดิ เหน็ /ข้อเสนอแนะของผบู้ รหิ ารหรอื ผทู้ ี่ไดร้ บั มอบหมาย ....................................................................................................................... ............................................ ลงชอ่ื ......................................ผู้ตรวจ (.......................................................) วนั ท่ี..........เดอื น..........พ.ศ.............
๒2๔๔4346 ใบความรู้ เรือ่ ง การพูดในโอกาสต่างๆ (การพดู โนม้ น้าว) หน่วยท่ี ๓ แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๕ เรอ่ื ง การพดู สรุปใจความสาคัญจากเร่อื งที่ฟงั และดู รายวิชาภาษาไทย ภาคเรยี นที่ ๑ ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ ๒ การพดู โน้มน้าวใจ หมายถึง การพูดเชิญชวน เกลีย้ กล่อม ชกั จูงใหผ้ ู้ฟังเกดิ ความเชื่อถือ ศรัทธา มีความคดิ เห็นคลอ้ ยตาม และปฏิบัติตาม เชน่ การพดู โฆษณา การพูดหาเสียง การพูดเชิญชวนให้ปฏิบตั ติ าม การพูดชักจงู ให้ เปล่ียนแปลงทศั นคติ การพดู ปลกุ เรา้ ใหา้ ใเหกดิ้ ปเฏกกิ ดิ ริ ปยิ ฏาตกิ า่ิรงยิ ๆาต่ าง ๆ ผูพดู ทีด่ ยี อ มจะพดู โนมนาวใจใหผูฟง เปลีย่ นแปลงทัศนคติและความเชือ่ ไปในทางทีด่ ีอันจะเปนประโยชน แกตนเองและสังคม โดยการใชค วามสามารถในการพูดช้แี นะใหผูฟงเหน็ ส่ิงดีงาม ตระหนกั ถึงคณุ คา ของสง่ิ นัน้ และชวยกันรักษาสง่ิ ทดี่ ีงามนัน้ ไว เชน พูดเชญิ ชวนใหรกั ภาษาไทย ใชภ าษาไทยใหถกู ตอ ง พดู ใหหันมานยิ มรับ ประทานอาหารไทยแทนอาหารฟาสตฟูดของตา งชาติ พดู แนะนาํ ใหเหน็ ความสาํ คัญของ การเกณฑทหารเพือ่ รบั ใชช าติ การพูดโนมนา วใจใหผฟู ง เช่อื ถือหรอื กระทาํ ตามนน้ั ควรจะตอ งเปนไปโดยความสมคั รใจหรอื ความยนิ ยอม พรอมใจ ของผฟู ง มิใชก ารบีบบังคับหรือการใชอบุ ายอยางอนื่ เชน แจกเงินใหรางวัลหรือ การขม ขู ท้ังนเี้ พราะ ความเช่ือทถ่ี ูกบงั คบั ใหเ ชือ่ หรือทําตามน้ัน เปน ความเชอ่ื ท่ีอยูไดไ มน าน ยอมสลายหายไป เมอ่ื ขาดแรงจงู ใจ การ พูดโนมนา วใจทด่ี แี ละมีประสิทธิภาพ จงึ ไมค วรบังคบั แตจะตองพดู ใหผ ูฟ งตระหนกั ถงึ ความเปน จรงิ แลวเกิด ความเชอื่ ถือทจ่ี ะกระทาํ ตามดว ยความสมคั รใจ กลวิธีการโนม นา วใจ ๑. แสดงใหเ ห็นความหนักแนนของเหตุผล การแสดงเหตผุ ลเปนสว นหน่ึงในการจูงใจ ซงึ่ สามารถดึงดดู ความสนใจ ทาํ ใหเ กิดความเชื่อถือและคลอ ยตามได การใหเหตผุ ลจะตองสมเหตสุ มผล ๒.เราใหเกิดความรสู กึ หรืออารมณร วมกนั บุคคลทม่ี คี วามรสู กึ หรือมีอารมณร ว มกนั เปน แรงผลกั ดัน สาํ คญั ของมนุษยท จ่ี ะนาํ ไปสูเปา หมายหรือประสบผลสําเร็จรว มกัน ๓. แสดงใหเ หน็ ถึงความนา เช่ือถือของผโู นมนาวใจ บุคลกิ ภาพหรือชอื่ เสียงของผูพดู เปนเครือ่ งมือหนึ่ง ที่ ทําใหการโนม นาวใจสมั ฤทธิผล ๔. เสนอแนะเพือ่ โนม นา วใจ การโนม นาวใจโดยการเสนอแนะเปน การเปด โอกาสใหผูฟ ง ผอู าน ใชค วาม คิดกอ นทจี่ ะเชื่อถือหรอื กระทําตาม ภาษาเพ่ือการโนมนาวใจ ผโู นมนา วใจควรใชภ าษาที่มนี ำ้ เสียงในเชงิ เสนอแนะ ขอรอง วิงวอน เรา ใจ โดยคํานึงถงึ จังหวะ และความ นมุ นวล ผูพดู ตองหาวธิ โี นมนาวใจคนฟงใหเอนเอยี งมาฝา ยตน ใหผฟู ง เกดิ ศรทั ธา ไมค วรใชค ําพดู และ นำ้ เสยี งเดด็ ขาด แข็งกระดาง หรอื กลา วตรงไปตรงมาในเชงิ ตําหนิ ไมควรใชนำ้ เสยี งในลักษณะของคาํ สั่งหรอื การแสดง อํานาจซึ่งจะกระทบกระเทือนใจผรู ับสาร ทําใหก ารโนมนา วใจไมบ รรลผุ ลตามตองการ
237 วิธีการพูดโน้มน้าวใจ การพูดโน้มน้าวใจก็เหมือนกับการพดู ในทชี่ ุมชนประเภทอนื่ ๆ นนั่ คอื จะตอ้ งมี การเตรยี มตัวและมีการดำ�เนนิ การตา่ ง ๆ ให้พร้อมดังน้ี ๑) ก�ำ หนดจดุ มุ่งหมายในการพดู ให้ชัดเจน นกั เรยี นจะต้องก�ำ หนดจดุ มงุ่ หมายใหช้ เี้ ฉพาะวา่ ใน การพูด คร้ังน้ตี ้องการให้ผู้ฟงั เกดิ การเปลยี่ นแปลงอะไร หรือต้องการเชญิ ชวนให้ผ้ฟู ังกระทำ�การอยา่ งใด เพอ่ื จะไดเ้ ตรยี ม เนื้อหาและวธิ กี ารพดู ใหส้ อดคลอ้ งกบั ความต้องการนัน้ ๒) การจดั ลำ�ดบั เนื้อหาทจี่ ะพดู เน้ือหาสาระทจี่ ะพดู นี้ ควรจะจดั วางให้เปน็ ระบบและเรยี งล�ำ ดับขัน้ ตอน เช่นเดียวกบั วธิ กี ารพดู แบบอื่น ๆ แต่มีความพเิ ศษ คือ - บทน�ำ พดู ในลักษณะของการเรียกร้องและดงึ ดดู ความสนใจ เช่น “ท่านผ้มู เี กียรติค่ะ ดฉิ นั วา่ ดนิ ท่ีขาดป่า ฟา้ ทขี่ าดฝน คนท่ขี าดใจ มคี วามหมายฉันใดการทีม่ นษุ ย์ ขาดปา่ ไมก้ ็มคี วามหมายฉนั นน้ั ป่าไมจ้ ึงเปน็ หวั ใจของมนุษย์ แต่ทว่าวนั นม้ี นุษย์กำ�ลัง ทำ�ลายหัวใจน้นั นี่เราจะ ฆ่าตนเองใชห่ รอื ไม่” - เนื้อเรื่อง เป็นส่วนสำ�คัญที่สุด นักเรียนควรเลือกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับชีวิตความเป็นอยู่หรือเป็น ประโยชนข์ องผฟู้ งั ไมค่ วรนำ�เร่อื งไกลตัวมาพดู โน้มน้าวใจ เพราะอยู่หา่ งจาก ความสนใจยิง่ ถ้าเป็นเร่อื งท่กี ำ�ลงั เปน็ ปญั หารว่ มกนั ของคนในสงั คม จะยง่ิ กระตนุ้ ผฟู้ งั ไดม้ าก การพดู โนม้ นา้ วใจนน้ั ควรเรม่ิ จากการสรา้ งความสนใจ ทำ�ให้เห็นวา่ เป็นความจำ�เปน็ แลว้ ให้ ขอ้ แนะนำ�ท่มี องเห็นไดช้ ัดเจน สามารถปฏบิ ตั ติ ามได้ แล้วจบลงด้วยการ ขอร้องวิงวอนหรอื เชญิ ชวนใหก้ ระท�ำ ตาม - บทสรุป เป็นการพูดปิดทา้ ยทเ่ี นน้ ย�้ำ ใหผ้ ูฟ้ ังเปลย่ี นความเชือ่ เปลย่ี นทศั นคติ โดยต้องไม่ หลงประเดน็ ทเี่ รากำ�หนดไว้อาจจะจบด้วยค�ำ ประพันธห์ รอื วาทะคำ�คมท่กี นิ ใจตราตรงึ ในใจของ ผฟู้ งั เชน่ “ป่าไมค้ อื ชีวติ โปรด อย่าคดิ ท�ำ ลาย มาเถอะคะ่ มาชว่ ยกันคนละไมค้ นละมือ ท�ำ ลายธรรมชาติ หันหน้ามาชว่ ยรกั ษาผืนดิน น�้ำ และปา่ ไม้ เพือ่ เปน็ สมบัติสว่ นกลางท่ีทุกชีวิต จะไดพ้ ึง่ พิงต่อไป วันน้ี ดิฉนั ไดเ้ ร่มิ ลงมือปลกู ปา่ แลว้ ท่านละ่ คะ่ เริ่มต้นหรือ ยงั ” ๓) วิธีการพูด นกั เรยี นควรแสดงความกระตือรือรน้ ในการพดู พดู อยา่ งคลอ่ งแคล่ว ไมต่ ดิ ขดั เน้นเสียงให้ หนกั แนน่ จริงจัง และใชก้ ารพดู ในทำ�นองเชิญชวนหรอื วิงวอนให้ปฏิบัตติ ามมากกวา่ การบงั คับและการใช้สหี น้า สายตา ทา่ ทางทจี่ รงิ จงั และมเี หตผุ ลทจ่ี ะสามารถจูงใจผูฟ้ งั ให้เช่อื ถือคล้อยตามไดด้ ี การใช้วจิ ารณญาณในการรบั สารโนม้ น้าวใจ ๑. การวเิ คราะหผ์ อู้ า่ น ผเู้ ขยี นจะตอ้ งวเิ คราะหผ์ ู้อา่ นวา่ มลี ักษณะอย่างไร เช่น เพศ วยั การศึกษา อาชพี ฐานะทางเศรษฐกิจ ฐานะทางสงั คม และค่านิยม เป็นตน้ การวเิ คราะหผ์ ้อู า่ นจะชว่ ย ใหผ้ ูเ้ ขยี นสามารถก�ำ หนด เน้ือหาและกลวิธกี ารนาเสนอได้อย่างเหมาะสม ๒. การใช้หลักจิตวิทยา ผู้เขียนจะตอ้ งอาศยั หลักจิตวิทยาในการเขยี นโน้มนา้ วใจเปน็ อยา่ งมาก เนอื่ งจาก ผเู้ ขยี นต้องทำ�ความเขา้ ใจธรรมชาติ ความสนใจ และความตอ้ งการของผอู้ ่านว่าน่าจะเปน็ ไปในทศิ ทางใด แล้วจงึ นำ�มาเป็นประโยชน์ในการเขยี นโน้มน้าวใจตอ่ ไป
๒2๔2๖3486 แถบข้อความ เรอ่ื ง การพูดในโอกาสตา่ งๆ (การพูดโนม้ น้าว) หน่วยที่ ๓ แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี ๕ เร่ือง การพดู สรปุ ใจความสาคญั จากเรือ่ งทฟ่ี ังและดู รายวิชาภาษาไทย ภาคเรยี นที่ ๑ ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ ๒ การใช NGV จะประหยดั เชื้อเพลิงไดมากกวา LPG ประมาณ ๒๕% และ เน่ืองจาก NGV มีความดันสงู อปุ กรณก ารติดตั้งจึงตองเปน ไปตามมาตรฐานทก่ี ําหนด แต ทัง้ น้ี NGV มคี วามปลอดภยั มากกวา LPG เนือ่ งจาก LPG เปนแกส ท่หี นักกวาอากาศจึงมี การสะสม และลุกไหมไดง า ย โคลนทะเลสาบเดดซนี าเขา้ จากประเทศจอร์แดน อุดมไปดว้ ยแรธ่ าตตุ า่ งๆ ช่วยในการ ฟื้นบารงุ และใหค้ วามชุ่มชื่นแกผ่ วิ ช่วยผลัดผิวเกา่ ใหผ้ ิวใหมแ่ ลดกู ระจา่ งใส ทงั้ ยังเป็นสครบั อ่อนๆ ชว่ ยให้ผิวพรรณสะอาดไมร่ ะคายเคืองผิว สามารถนามาพอกและสครบั ผวิ และใช้หมกั ผมได้
๒๔๗24379 ใบความรู้ เรื่อง เมอื่ แพะกลายเปน็ สุนัข หน่วยท่ี ๓ แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๕ เรื่อง การพดู สรปุ ใจความสาคัญจากเรอ่ื งที่ฟังและดู รายวิชาภาษาไทย ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ ๒ เมอื่ แพะกลายเปน็ สนุ ขั “ในการรบั สาร ไมว่ า่ จะฟังหรอื อ่าน ผรู้ บั สารต้องพจิ ารณาใหร้ อบคอบก่อนวา่ ขอ้ ความทฟ่ี ังหรืออา่ นนน้ั สมเหตสุ มผลหรือไม่ เม่อื มผี ู้โน้มน้าวหรอื ชักชวนใหท้ าส่ิงใดหรือไม่ให้ทาส่งิ ใด จะตอ้ งรู้จักวิธหี ลีกเล่ียงปฏเิ สธ เมือ่ พบว่าการโน้มน้าวใจนนั้ ไม่ถูกต้อง” เมอื่ แพะกลายเปน็ สุนขั ใจหน่ึงก็อยากจะซ้ือ ใจหนึ่งก็เสียดายเงิน คาราพึงของใครคนหน่ึง ขณะท่ีเดินดูสินค้าอาจทาให้รู้สึก เหมอื นกบั ว่าคนเรานน้ั มีสองใจ แทท้ ีจ่ รงิ ใจ ในท่นี ี้คือความคิด คนเราคดิ ได้หลายอย่าง ถึงได้มสี านวนว่า หลาย ใจ ข้ึนมา คนที่เปล่ียนใจคือคนที่เปล่ียนความคิด ซึ่งไม่ใช่เรื่องเสียหาย ถ้าเปล่ียนแล้วดีขึ้น แต่ถ้าเปล่ียนบอ่ ยๆๆ จนไม่อยู่กับร่องกับรอย กค็ งไมม่ ที างรูว้ ่าเปลี่ยนแล้วจะดีหรือไมด่ ี กลายเป็นคน ใจโลเล เหมอื นไม้หลักปักเลน เอนไปมา คนทีเ่ ชื่อคนอื่นง่ายๆๆโโดดยยไมย่ ั้งคดิ ท่านว่าเป็นคน ใจเบา ราวกับ พกนนุ่ ถ้าเชื่องา่ ย ยนิ ยอมงา่ ยๆๆใใหห้ เขาหลอกไปในทางมิดีมิร้าย คงต้องเรียกว่า ใจง่าย ส่วนคนท่ีไม่เชื่อใครงา่ ยยๆ ท่านว่าเป็นคน ใจหนักแน่น เหมือนพกหนิ ทเี ดยี ว แต่ก็ยงั ไม่แน่นัก ถงึ จะใจหนกั แน่นเหมือนดังที่หม่อมเจ้าอิศรญาณทรงนิพนธ์ไว้ในสุภาษิต อิศรญาณ ว่า อันเสาหินแปดศอกตอกเป็นหลัก แต่วรรคต่อมาท่านว่า ไปมาผลักบ่อยเข้าเสายังไหว ส่ิงที่ผลกั มานั้น ก็คือส่ิงท่ีเร้าหรือโน้มน้าวใจให้เห็นประโยชน์ท่ีน่าจะได้รับ ถ้าได้ยินหน่ึงครั้งสองคร้ังก็ยังมีใจหนักแน่น อยู่ได้แต่ถ้ามากรอกหูซ้าแล้วซ้าเล่า ก็คงไหวไปมาแรงชักจูง การโฆษณาสินค้า ที่เซ้าซ้ีเราอยู่ทุกวันนี้ก็ใช่หลัก เดียวกันมนุษย์มีความต้องการขั้นพ้ืนฐานที่ผลักดันให้คิด เช่ือ และทาสิ่งต่างๆ ตามความต้องการความหิว ผลักดันให้มนุษย์ออกไปแสวงหาอาหาร ความต้องการ อยู่เป็นหมู่คณะผลักดันให้มนุษย์ทาตัวให้เหมือนคน อ่ืนๆๆ เป็นต้น คาชักชวนด้วยการโนม้ น้าวใจ ว่าถ้าทาเช่นน้ันเช่นนีแ้ ล้ว จะได้ประโยชนห์ รอื ไม่เสียประโยชน์จึง กระทบใจมนษุ ยไ์ ด้ดี ชายหกคนในนิทานเร่ือง หน่ึงในปัญจตันตระเห็นทีจะรู้หลักน้ีดี จึงโน้มน้าวใจพราหมณ์ผู้หนึ่งหลงเชือ่ ว่ากาลังแบกสุนัข นิทานเล่าว่าพราหมณ์จะทาพิธีบูชายัญจึงไปหาซ้ือแพะมาตัวหนึ่ง ขณะที่แบกแพะกลับบ้าน ชายหกคนเห็นเข้าก็คิดจะหลอกเอาแพะจากพราหมณ์ คนแรกยืนดักหน้าพราหมณ์แล้วทักว่าจะแบกสุนัขไป ไหนพราหมณ์นกึ ขันตอบวา่ สุนขั ท่ไี หนกัน แพะแท้ๆๆเดินต่อไปอีกไมก่ ี่ก้าว ชายคนที่สองก็เขา้ มาทักดว้ ยคาถาม คลา้ายยๆ กัน พราหมณ์ไม่ขัน และยังตอบเหมือนเดมิ ไปอกี หนอ่ ยพบชายคนท่ีสาม ถามอีกแล้ว คราวนพ้ี ราหมณ์ ชักลังเลวางแพะลงดูให้แน่อีกที คร้ันเห็นว่ายังเป็นแพะตัวเดิมที่ซื้อมาก็แบกขึ้นบ่าเดินต่อไป สักพักชายคนท่ีสี่ เดินเข้ามาหาถามว่า จะเอาสุนัขไปทาอะไร พราหมณ์ตอบว่าน่ีมันแพะนะจะเอาไปบูชายัญ ชายคนนั้นหัวเราะ แล้วยืนยันว่าเห็นๆอยู่ ว่าเป็นสุนัขแท้ๆ พราหมณ์ไม่ค่อยสบายใจเดินต่อมาพบชายคนท่ีห้า และต่อมาอีกก็พบ ชายคนที่หกทักถามเหมือนกันอีกแล้ว หรือว่าแพะตัวน้ีจะเป็นปีศาจ ถึงได้กลายร่างเป็นสุนัขให้ใครเห็นได้ ถ้า เราขืนแบกมันต่อไป กว่าจะถึงบ้าน มันก็คงแผลงฤทธ์ิ ทาร้ายเราแน่ๆคิดแล้วพราหมณ์ก็โยนแพะท้ิงแลว้ ว่ิง
ว่ากาลังแบกสุนัข นิทานเล่าว่าพราหมณ์จะทาพิธีบูชายัญจึงไปหาซ้ือแพะมาตัวหน่ึง ขณะท่ีแบกแพะกลับบ้าน ไชหานยพหรกาคหนมเณห็นน์ เกึ ขข้านั กต็คอิดบจวะ่าหลสอนุ กัขเทอไ่ี าหแนพกะันจาแกพพะรแาทหๆ้ มเณด์ินคตน่อแไรปกอยีกืนไมดก่ัก่ีกห้านว้าชพารยาคหนมทณี่ส์แอลง้วกทเ็ ขัก้าวม่าาจทะกั แดบ้วกยสคุนา๒ัขถ๔ไา2ป๘ม40 คลา้ ยๆ กนั พราหมณ์ไม่ขนั และยังตอบเหมือนเดมิ ไปอีกหน่อยพบชายคนที่สาม ถามอีกแล้ว คราวนพี้ ราหมณ์ ชักลังเลวางแพะลงดูให้แน่อีกที ครั้นเห็นว่ายังเป็นแพะตัวเดิมที่ซ้ือมาก็แบกข้ึนบ่าเดินต่อไป สักพักชายคนที่ส่ี ตเแเปดลัวินลเ้วปี่ยเขลนื ้า่าคยมกวันาลาหวมับ่าาคเบถหิด้าน็ ็นแนมๆลวชะอ่าอาเยยจปยู่ ะวลทเ่ายี้ังอเหนปาสกก็นุนาคสรันขุนกไจัขปรึงแะทจทับา้ๆาอๆแะคพพไือะรรคาไพปหิดรเวมชา่าณือหส์ดไมิ่งมทกณ่คินี่แ์ต่อบกอยักนบสมวบวิธา่าาีไกนยมาี่มใรจชันขเ่แแดอพพินงะชะตาน่อแยะมลทจาะั้งะพเหลเบอิกกชาแคไาบนปยกบคคตนูชือ่อาทโไยนี่หปัญ้ม้าแนแชต้าลา่เวปยะใ็นตคจ่อนพกมานรราาั้นโอหหนีกมัว้มกณเ๒นร็พ2๔์ใ้าาบห๘วะ4้ 8 ใชจาทยี่แคฝนงทเจ่ีหตกนทาักไถมา่ดมี ชเหักมจือูงในหก้เันขาอทีกาแเลพ้วื่อปหระือโวย่าชแนพ์ขะอตงัวตนนี้จฝะ่าเยปเ็นดปียีศวาจจึงเถปึง็นไดก้ากรลชาักยจรูง่าทงเาปน็นอสงุนเดัขียใวหก้ใับครกเาหร็นโฆไดษ้ณถา้ ชเรวานขเืนชแื่อบคกนมทัน่ีจตะ่อตไปกเปกว็น่าเหจะยถื่อึงขบอ้างนกามรันโนก้ม็คนงแ้าผวใลจงใฤนทลธัก์ิ ษณทท�ำะรานา้รี้ไย้าดเย้งรเ่ารยแาๆนแก่นๆ็ค่ๆือคดิ\"คแนลท้วพ่ีขารดาหวิจมาณรก์ณ็โญยนาแณพ\"ะหทล้ิงักแลค้ววา่ิงม เตชัวื่อเปในลก่าากลลาับมบส้าูตนรจชึงาสยอทน้ังไหว้ขก้อคหนนจึง่ จว่าับแ“พอะยไ่าปถเือชโือดดยกตินรึกตันาวมิธีอกากรขารอ\"งซชึ่งาสยมทเด้ังห็จกพคระนมคหือาโสนม้มณนะ้าเวจใ้าจกพรรมาพหรมะณย์ใาหว้ ชเปิรลญ่ียานณควโารมรคสิดทแรลงะอเธปิบลาีย่ ยนไกว้วาร่ากรหะมทาายคถือึง\"คกิดาวร่าไสด่ิง้ฟทังี่แเรบ่ือกงมใาดไเมรใื่อชง่แหพนะ่ึงทแ่ีผลู้ใะดเลผิกู้หแนบ่ึงกพตูด่อแไลป้วแยตัง่เปไม็น่ทกราารบโนว่้มาเนปา้ ็นว อใจยท่า่ีแงไฝรงเแจต่คนิดาเไหม็่ดนีวช่าักถจ้าูงใเรหา้เขถาือทอายเ่าพง่ือนปี้จระะดโีกยวช่าน์ขแอลง้วตเชน่ือฝถ่ายือเตดาียมวคจวึงาเมปค็นิดกเาหร็นชนักั้นจงู อทยา่านงอนงี้เรดียยี กววก่าับกถาือรโโดฆยษตณรึกา ตชาวมนอเชา่ือกาครน”ท่ีจะตกเป็นเหย่ือของการโน้มน้าวใจในลักษณะนี้ได้ง่ายๆก็คือ \"คนที่ขาดวิจารณญาณ\" หลักความ เช่ือในกาลามสูตรจึงสอนไว้ข้อหน่ึงว่า “อย่าถือโดยตรึกตามอาการ\"ซึ่งสมเด็จพระมหาสมณะเจ้ากรมพระยาว ชิรญาณวโรรสทรงอธิบายไว้ว่า หมายถึง\"การได้ฟังเรื่องใดเร่ืองหน่ึงที่ผู้ใดผู้หน่ึงพูดแล้ว ยังไม่ทราบว่าเป็น อย่างไร แต่คิดเห็นว่า ถ้าเราถืออย่างนี้จะดีกว่า แล้วเช่ือถือตามความคิดเห็นน้ัน อย่างน้ีเรียกว่า ถือโดยตรึก ตามอาการ”
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๖ เรอ่ื ง การพูดในโอกาสต่างๆ (การพดู โนม้ น้าว) หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๓ เรอ่ื ง พาทีท่วั ถนิ่ เวลา ๑ ชวั่ โมง กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย รายวิชาภาษาไทย ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๒ ขอบเขตเนอื้ หา กิจกรรมการเรยี นรู้ สือ่ /แหลง่ เรยี นรู้ ๑. หลกั การการพดู ในโอกาสต่างๆ ข้นั นา ๑. หนังสอื เรยี นรายวชิ าภาษาไทย ๒. การพูดโน้มน้าว ๑. นกั เรยี นและครูรว่ มกันทบทวนความรู้ โดยครซู ักถาม ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี ๒ - หลักการพูดโน้มนา้ ว นักเรยี นถงึ ความรูเ้ ร่ืองการพูดในโอกาสตา่ งๆๆ(การพูดโน้มน้าว) ท่ี ๒. สลากหัวขอ้ การพูดโนม้ นา้ ว - ขั้นตอนการพดู โนม้ น้าว ใหน้ ักเรยี นกลับไปศึกษาจากชั่วโมงที่ผา่ นมา ๓. ตัวอยา่ งการโน้มน้าว ๓. ลกั ษณะการพูดโน้มนา้ วทีด่ ี ขน้ั สอน จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ๑. นักเรยี นและครอู ภปิ รายเรือ่ งการพูดในโอกาสตา่ งๆๆ(การพูด ภาระงาน/ช้นิ งาน ดา้ นความรู้ โนมนา ว) พดู ในโอกาสต่างๆๆ(การพดู โน้มน้าว) ๑. มคี วามร้คู วามเขา้ ใจเก่ยี วกับการพดู โน้มน้าว - การพูดโนม้ นา้ วใจ ๒. อธิบายหลกั การพดู ในโอกาสตาง ๆ (การพูด - หลักการพูดโนม้ น้าวใจ (โกนามรนพาดู วโน)ไม้ดนถา้กู วต)อไงดถ้ ูกตอ้ ง - กลวิธกี ารโน้มน้าวใจ ๓. อธบิ ายข้อควรปฏบิ ัตใิ นการพูดในโอกาสตา่ งๆๆ ๒. นักเรยี นดูตวั อย่างบทพูดโนม้ น้าว ในหัวข้อต่างๆๆ (การพูดโโนน้มม้ นนา้ า้ วว))ไดได้ถ้ถกู ูกตต้อ้องง ๓. นักเรยี นเขา้ รว่ มกจิ กรรม การพดู โน้มน้าว เป็นกลมุ่ โดย ด้านทกั ษะและกระบวนการ แบง่ กล่มุ ๔ กลุม่ ใหน้ ักเรียนแตล่ ะกลมุ่ จบั สลากเลือกหวั ข้อ ๑. พูดในโอกาสตา่ งๆๆ(พดู โนม้ นา้ ว) ตามหัวข้อที่ ตอ่ ไปนี้ นาไปคดิ หาวิธีโน้มน้าวใจ แลว้ พูดนาเสนอหนา้ ชน้ั เรียน กาหนดใหไ้ ด้ถกู ต้องและสร้างสรรค์ ดา้ นคุณลักษณะ - ใชข้ องไทย ซ้ือของไทย ชาติไทยเจรญิ ๑. มีวินัย - รักสงิ่ ใดไมส่ าคัญเทา่ รักชาติ ๒. ใฝเ่ รียนรู้ - หญงิ ไทยต้องรกั นวลสงวนตวั ๓. มงุ่ มัน่ ในการทางาน - ผลประโยชนส์ ว่ นรวมตอ้ งมาก่อนสว่ นตน ๒๔๙2419
หน่วยการเรียนรูท้ ่ี ๓ แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๖ เร่ือง การพูดในโอกาสตา่ งๆ (การพูดโนม้ น้าว) เวลา ๑ ช่วั โมง กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย เร่อื ง พาทีทั่วถิน่ ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี ๒ รายวิชาภาษาไทย - เดก็ ไทยรว่ มใจต้านยาเสพติด - สขุ ภาพดีไมม่ ขี ายอยากไดต้ ้องทาเอง ๔. เมื่อแต่ละกลุ่มนาเสนอเสร็จส้ินเรียบร้อยดีแล้ว ให้นักเรียน แต่ละคนเลือกหัวข้อดังกล่าวท่ีตนเองสนใจ แล้วเขียนบทพูดโน้ม นา้ วใจในหวั ขอ้ นน้ั แล้วให้นกั เรยี นไปพูดโนม้ นา้ วกับครูนอกเวลา เพื่อเกบ็ คะแนน ขัน้ สรุป ๑. นักเรียนตอบคาถามว่า นักเรียนมีกลวิธีในการพูดชักชวน เพ่ือนใหท้ าสง่ิ ตา่ ง ๆ อย่างไร ๒. นกั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ เรอื่ ง การพดู โนม้ น้าว “การพูดโน้มนา้ วเป็นการส่งสารใหผ้ ฟู้ งั มีความคิดเห็นและรู้สกึ คล้อยตามผู้พดู ดังน้นั ผูพ้ ูดจึงตอ้ งมีคุณธรรม โนม้ น้าวใจอยา่ ง สมเหตสุ มผล จรงิ ใจ ผู้พูดจงึ จะประสบความสาเรจ็ ในการพูดและ เป็นประโยชน์ทงั้ ตอ่ ผู้พูดและผูฟ้ งั ” 242 ๒๕2๐5
๒๕๑24531 การวัดและประเมนิ ผล สงิ่ ทต่ี ้องการวัด/ประเมิน วิธกี าร เคร่ืองมอื ท่ีใช้ เกณฑ์ ดา้ นความรู้ คาถาม ตอบคาถามซักถามได้ ๑๑..นนักักเรเรยี ยีนนมมคี คีวาวมารมู้ครวู้คาวมาม ใช้คาถาม เขเขา้ า้ใจใจเกเก่ยี ว่ียกวบักกับากราพรูดพดู โโนน้ม้มนน้า้าวว ๒๒. อ. ธอิบธาบิ ยาหยลหกัลกักากราพรดูพดู ใน ใช้คาถาม คาถาม ตอบคาถามซักถามได้ ใโนอโกอากสาตส่าตง่างๆๆ ((กกาารรพพูดูดโนโนม้ ม้นน้าว้า)วไ)ดได้ถถ้กู ูกตตอ้ ง้อง ๓๓. อ. ธอบิธบิายาขยอ้ขค้อวครวปรฏปบิฏัตบิ ิ ัตใิ น ใช้คาถาม คาถาม ตอบคาถามซักถามได้ ใกนากราพรูดพใดู นใโนอโกอากสาตส่าตงา่ ๆงๆๆ ((กกาารรพพูดูดโนโนม้ ้มนน้าวา้ )วไ)ดไถ้ ดูกถ้ ตูก้อตงอ้ ง ด้านทกั ษะ/กระบวนการ ๑. พดู ในโอกาสตางๆ สังเกตการณพ์ ูด แบบประเมินการพูด ผลจากการสังเกต (พูดโนม นาว) ตามหวั ขอ ท่ี พูดโน้มนา้ ว พูดโนม้ นา้ ว พฤติกรรมการพดู กาํ หนดใหไ ดถูกตอ งและ รายบุคคลร้อยละ ๘๐ สรา งสรรค ข้นึ ไปถือว่าผา่ นเกณฑ์ ด้านคุณลักษณะ สังเกตคณุ ลักษณะ แบบสังเกต ไดผ้ ลจากการสังเกต ๑. มีวนิ ยั คณุ ลักษณะ คุณลกั ษณะแตล่ ะข้อ ๒. ใฝเ่ รียนรู้ อนั พึงประสงค์ ไม่ตา่ กว่าระดบั ๒ ๓. ม่งุ มั่นในการทางาน
๒2๕๒5424 ๙. บนั ทกึ ผลหลังสอน ผลการเรียนรู้ ............................................................................................................................. ...................................... ปญั หาและอปุ สรรค ................................................................................................................................................................... ขอ้ เสนอแนะและแนวทางแกไ้ ข ............................................................................................................... .................................................... ลงชื่อ ......................................ผู้สอน (.......................................................) วนั ท่ี..........เดอื น..........พ.ศ............. ๑๐. ความคดิ เหน็ /ข้อเสนอแนะของผบู้ รหิ ารหรอื ผทู้ ี่ไดร้ บั มอบหมาย ....................................................................................................................... ............................................ ลงชอ่ื ......................................ผู้ตรวจ (.......................................................) วนั ท่ี..........เดอื น..........พ.ศ.............
๒๕๓25435 ใบความรเู้ รอื่ ง ตวั อยา่ งการใช้ภาษา หนว่ ยที่ ๓ แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ ๖ เรอ่ื ง การพดู สรุปใจความสาคัญจากเรอ่ื งที่ฟังและดู รายวิชาภาษาไทย ภาคเรยี นท่ี ๑ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๒ ตัวอยา่ งการใชภ้ าษาเชงิ เสนอแนะ พวกเธอควรกินผลไมแ้ ละดืม่ นา้ มากๆๆถ้าถอ้ายอายกาใกหใผ้หวิ้ผพวิ พรรรณรณผ่อผง่อใงสใส ตวั อย่างการใชภ้ าษาเชิงขอร้อง โรงเรียนของเรามีช่ือเสียงได้ ส่วนหน่ึงเกิดจากนักเรียนถ้านักเรียนพยายามทาโครงงานวิทยาศาสตร์ คร้ังนใ้ี จดีจนชนะการประกวด โรงเรยี นของเราก็จะได้ช่ือเสียงมากทเี ดยี ว ตัวอย่างการใช้ภาษาเชงิ วิงวอน ลูกชายของผมมีเลือด AB เนกาทีฟซ่ึงเป็นเลือดหายากต้องผ่าตัดเอาเนื้องอกออกโดยด่วน แต่สภากาชาดมีเลอื ดกลุม่ นี้สารองไวไ้ ม่พอ ขอทา่ นทม่ี เี ลอื ดกลุ่มน้ี โปรดช่วยชีวิตลูกชายผมด้วย ผมมลี ูกชาย เพียงคนเดียว เขาเป็นลมหายใจของผมขอความกรุณาติดต่อโรงพยาบาลจุฬาฯ โดยด่วน หรือติดต่อผมโดย ตรงทหี่ มายเลข ๐๘๑-๑๘๒๔๓๒ ตวั อย่างการใชภ้ าษาเชิงเรา้ ใจ ถ้าพวกเธอไม่ลงแข่งโต้วาทีครั้งน้ี คงไม่มีใครกล้าลงแข่งแทนหรอก กลัวว่าถ้าแพ้แลว้ จะถูกประณาม ว่าไมเ่ กง่ จรงิ แลว้ ยงั จะไปแขง่ อกี แตถ่ ้าพวกเธอลงแข่ง เราเชอื่ วา่ ต้องได้ชยั ชนะกลบั มาแนๆ่ ๆ
๒2๕๔5446 สลากหวั ขอ้ การพูดในโอกาสตา่ งๆๆ((กกาารรพพดู ดู โโนน้มม้ นน้า้าวว)) หน่วยท่ี ๓ แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๖ เร่ือง การพดู สรปุ ใจความสาคัญจากเรือ่ งทีฟ่ ังและดู รายวิชาภาษาไทย ภาคเรยี นที่ ๑ ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี ๒ ใช้ของไทย ซอ้ื ของไทย ชาตไิ ทยเจรญิ รกั ส่ิงใดไมส่ าคญั เท่ารกั ชาติ หญิงไทยต้องรักนวลสงวนตวั ผลประโยชน์ส่วนรวมตอ้ งมากอ่ นสว่ นตน เด็กไทยร่วมใจตา้ นยาเสพติด สขุ ภาพดไี มม่ ีขายอยากได้ต้องทาเอง
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๓ แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๗ เรอ่ื ง การพดู ในโอกาสต่างๆ (การพดู อวยพร) เวลา ๑ ช่ัวโมง กลุม่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรอ่ื ง พาทีทว่ั ถน่ิ ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี ๒ รายวิชาภาษาไทย ขอบเขตเนอื้ หา กิจกรรมการเรียนรู้ ส่ือ/แหลง่ เรยี นรู้ ๑. การพดู อวยพรในโอกาสต่างๆๆ ขน้ั นา ๑. หนงั สือเรียนรายวิชาภาษาไทย - หลกั การ ๑. นักเรียนอ่านแถบข้อความ แล้วสนทนาถึงลักษณะของข้อความว่าเป็น ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ ๒ - ข้นั ตอนการพดู อวยพร ลกั ษณะใด ๒. สลากหวั ข้อการพดู อวยพร “คิดดี พดู ดี ทาดี ๓. แถบข้อความ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ เป็นศรี เปน็ พร สงู สุด ๔. ตวั อย่างการพดู อวยพร ดา้ นความรู้ ไมม่ ี พรเทพ พรมนษุ ย์ ๕.ใบความรเู้ รือ่ ง การพูดในโอกาสต่างๆ เปรยี บประดุจ ความดี ท่ที าเอง” (การพูดอวยพร) ๑. มีความรูค้ วามเขขา้ ้าใใจจใในนหหลลักกั กกาารรพพูดดู ออววยยพพรร สมเด็จพระญาณสงั วร สมเด็จพระสงั ฆราชสกลมหาสังฆปรณิ ายก ๒. อธบิ ายหลักการพดู อวยพรได้ ขนั้ สอน ๓. อธบิ ายขอ้ ควรปฏิบัติในการพูดอวยพรได้ ด้าน ภาระงาน/ช้นิ งาน ดท้ากั นษทะแกั ลษะะกแรละะบกวรนะกบาวรนการ ๑. สมมตเิ หตุการณว์ า่ วนั นี้เป็นวนั คล้ายวนั เกดิ ของเพื่อนนักเรยี นรว่ มชัน้ เรียน พูดในโอกาสตา่ งๆๆ(ก(พารูดพอูดวอยวพยรพ) ร) ๑. พดู ในโอกาสตา่ งๆๆ((พพดู ู อวยพร) ตามหัวข้อท่ี สุ่มนักเรียน ๒-๓ คน กล่าวคาอวยพร วันคล้ายวันเกิดของเพื่อน และร่วมกัน กาหนดใหไ้ ดถ้ กู ต้องและสรา้ งสรรค์ แสดงความคดิ เหน็ ถึงขอ้ ความข้างต้น ด้านคุณลักษณะ ๒. นักเรียนและครูอภิปรายเรื่อง การพูดในโอกาสต่างๆๆ(ก(พาูดรพอูวดยอพวยรพ) ร) ใน ๑. มวี นิ ัย ปในรกะเรดะน็ เดต็น่อตไป่อนไป้ี น้ี ๒. ใฝเ่ รยี นรู้ - ความหมาย ๓. มุ่งมนั่ ในการทางาน - โอกาสในการพดู อวยพร ๔. มีจติ สาธารณะ - หลักการพูดอวยพร - การตอบคาอวยพร - ข้อควรปฏิบัตใิ นการพูดอวยพร 247 2๒๕5๕5
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี ๓ แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๗ เร่อื ง การพดู ในโอกาสต่างๆ (การพดู อวยพร) เวลา ๑ ชั่วโมง กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง พาทีทวั่ ถิ่น ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๒ รายวชิ าภาษาไทย กิจกรรมการเรยี นรู้ ขน้ั สอน ๓. นักเรียนศึกษาตัวอยางบทพูดการกลาวอวยพรในโอกาสตางๆ เชน วันคลาย วันเกิด งานมงคลสมรส งานขึ้นบานใหม งานอุปสมบท งานเลี้ยงสง แลว รวมกัน แสดงความรู พรอมจดบนั ทึกลงสมุด ๔. นักเรียนแบงกลุม ๔ กลุม ศึกษาใบความรูเร่ืองการพูดโอกาสตาง ๆ (การ พูดอวยพร) สงตัวแทนออกมาจับสลากสถานการณในการกลาวคําอวยพร โดย ครูสมมติเหตุการณใหนักเรียนแตละกลุมวาหากนักเรียนมีโอกาสรวมงานแลว ตองเปนผูกลาวคําอวยพร นักเรียนจะมีขั้นตอนการพูดและการใชคําพูดอยาง ไร ใหเหมาะสมกับโอกาสนนั้ ๆ ขั้นสรุป ๑. นกั เรยี นและครูร่วมกนั สรุปความรู้ 248 ๒2๕๖56
๒๕๗25479 การวัดและประเมินผล ส่ิงท่ีต้องการวดั /ประเมิน วิธกี าร เครอ่ื งมือทีใ่ ช้ เกณฑ์ ด้านความรู้ ใช้คาถาม คาถาม ตอบคาถามซักถามได้ ๑. อธบิ ายหลกั การพูดใน ใช้คาถาม โอกาสตา่ งๆๆ คาถาม ตอบคาถามซักถามได้ (การพูดอวยพร) ได้ สังเกตการพดู อวยพร ๒. อธบิ ายขอ้ ควรปฏบิ ตั ิ แบบประเมินการพูด ผลจากการสงั เกต ในการพูดในโอกาสต่าง ๆ อวยพร พฤติกรรมการพดู (การพูดอวยพร) ได้ รายบุคคลรอ้ ยละ ๘๐ ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ ขึน้ ไปถือวา่ ผ่านเกณฑ์ ๑. พดู ในโอกาสตา่ งๆๆ(พูด (อพวูดยอพวรย)พตรา)มตหาัวมขหอ้ วั ทขี่ อ้ กาหนดใหไ้ ด้ถกู ต้องและ สรา้ งสรรค์ ดา้ นคณุ ลกั ษณะ สังเกตคุณลักษณะ แบบสงั เกต ได้ผลจากการสังเกต ๑. มวี นิ ยั คุณลักษณะ คณุ ลกั ษณะแต่ละข้อ ๒. ใฝ่เรียนรู้ อนั พงึ ประสงค์ ไม่ตา่ กวา่ ระดับ ๒ ๓. มุ่งม่ันในการทางาน ๔. มจี ติ สาธารณะ
๒2๕2๘5580 ๙. บนั ทกึ ผลหลังสอน ผลการเรยี นรู้ ............................................................................................................................. ...................................... ปัญหาและอปุ สรรค ................................................................................................................................................................... ขอ้ เสนอแนะและแนวทางแกไ้ ข ............................................................................................................... .................................................... ลงช่อื ......................................ผ้สู อน (.......................................................) วนั ที่..........เดือน..........พ.ศ............. ๑๐. ความคิดเหน็ /ขอ้ เสนอแนะของผูบ้ รหิ ารหรอื ผูท้ ่ีไดร้ บั มอบหมาย ......................................................................................................................... .......................................... ลงชื่อ ......................................ผูต้ รวจ (.......................................................) วนั ท่ี..........เดือน..........พ.ศ.............
๒๕๙2519 ใบความรู้ แถบข้อความ เรื่อง การพดู ในโอกาสตา่ งๆๆ(การพดู อวยพร) หน่วยท่ี ๓ แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ ๗ เร่ือง การพูดสรุปใจความสาคญั จากเรื่องทฟ่ี ังและดู รายวิชาภาษาไทย ภาคเรยี นที่ ๑ ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ ๒ “คดิ ดี พูดดี ทาดี เปน็ ศรี เป็นพดู สูงสดุ ไม่มี พรเทพ พรมนุษย์ เปรียบประดุจ ความดี ท่ีทาเอง” สมเด็จพระญาณสงั วร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก
๒2๖2๐5620 ใบความรู้ เรอื่ ง การพูดในโอกาสต่างๆๆ((กกาารรพพูดูดออววยยพพรร))หนว่ ยที่ ๓ แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี ๗ เรือ่ ง การพดู สรปุ ใจความสาคัญจากเรอ่ื งท่ฟี ังและดู รายวชิ าภาษาไทย ภาคเรยี นที่ ๑ ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ ๒ การพูดอวยพร การกลา่ วอวยพร เปน็ การแสดงความยินดีในโอกาสต่างๆๆ เชน่ งานวนั เกิด งานมงคลสมรส งานข้นึ บ้านใหม่ งานปีใหม่ งานฉลองการเล่ือนยศ มหี ลักการพูดดังน้ี ๑. กล่าวแสดงความยินดที ่ีได้รบั เกยี รติให้ขนึ้ มากล่าวอวยพร ๒. กล่าวถึงความสัมพนั ธ์ของผพู้ ูดตอ่ เจ้าภาพ ๓. กลา่ วถึงคณุ ความดีและเกียรตคิ ุณหรือผลงานเด่นๆๆขขอองงเเจจ้า้าภภาาพพ ๔. กล่าวอวยพรขอให้เจ้าภาพมอี ายยุ ืนยาวนานมีความสุขความเจริญกา้ วหนา้ ย่ิงๆๆขขนึ้ นึ้ ไปไป ตัวอยา่ ง การอวยพรวันคล้ายวันเกิด “สวสั ดคี ะ ทานผมู เี กียรติทุกทา น ดิฉันรูสึกยนิ ดีเปนอยางย่ิงท่ไี ดร บั เกยี รติมากลาวอวยพรคุณยาใจ แมวาคณุ ยาใจจะมีอายุครบ ๕๐ ปบ ริบูรณแลว แตค วามขยันของทานมไิ ดลดลง สขุ ภาพของทานก็ยัง แขง็ แรงยังสามา รถทํางานรว มกบั ดฉิ ันไดอกี นาน คณุ ยาใจเปนคนที่ทํางานไดดีมาก มนษุ ยสัมพันธด ีเปนเลศิ ไม เลอื กท่ีรักมกั ที่ชงั และในโอกาสน้ดี ฉิ ันขออาราธนาคณุ พระศรรี ัตนตรัยและสิ่งศักดิส์ ทิ ธิท์ ้งั หลายจงปกปก คุม ครองใหคณุ ยาใจ ปราศจาก โรคภัยท้ังปวงมคี วามกาวหนาในการทาํ งาน มอี ายุยืนยายวตลอด ไปเทอญ สวัสดคี ะ” การกลา่ วตอบคาอวยพร มวี ธิ กี ารพดู ดงั นี้ ๑. ขอบคณุ ผทู มี่ ารวมงานทกุ คนและซาบซึ้งท่ีไดใหเ กยี รตมิ าในงานคร้งั น้ี และขอบคณุ ผูท ม่ี ีสว นรวม ใน การจดั งาน ๒. พดู แสดงความจริงใจต่อคาอวยพรท่ีได้ ๓. กลา่ วขอใหร้ ่วมสนกุ ในงานต่อไป ตัวอย่าง การตอบคาอวยพรวนั คล้ายวันเกิด “กระผมขอขอบพระคณุ ทกุ ทานท่ไี ดใ หเกียรติมารว มงานแสดงความยนิ ดกี ับกระผมในวันนี้ พรใดทีท่ าน มอบใหผ ม ผมขอนอ มรบั ไวและขอสัญญาวา ผมจะทาํ ตามคาํ แนะนาํ ของทุกทานดวยครับ ถามีสิ่งใดท่บี กพรอง ในงานนี้ ผมขออภยั มา ณ ทน่ี ดี้ วย สวสั ดีครบั ”
๒๖๑225631 สลากหัวขอ้ เร่อื ง ในการพูดในโอกาสต่างๆๆ((กกาารรพพดู ดู ออววยยพพรร))หนว่ ยท่ี ๓ แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๗ เรอื่ ง การพูดสรุปใจความสาคญั จากเร่ืองที่ฟังและดู รายวิชาภาษาไทย ภาคเรยี นท่ี ๑ ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๒ การพดู อวยพรในโอกาสวนั คลา้ ยวนั เกิด การพดู อวยพรในงานข้ึนปีใหม่ การพดู อวยพรงานขึน้ บ้านใหม่ การพูดอวยพรงานมงคลสมรส การพดู อวยพรเลื่อนรับตาแหนง่ ใหม่
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี ๓ แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๘ เร่ือง พดู ในโอกาสตา่ งๆ (การพดู โฆษณา) เวลา ๑ ชั่วโมง กล่มุ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย เรอ่ื ง พาทีทัว่ ถิ่น ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ ๒ รายวิชาภาษาไทย ขอบเขตเนอ้ื หา กจิ กรรมการเรยี นรู้ ส่อื /แหล่งเรยี นรู้ ๑. การพดู โฆษณา ขน้ั นา ๑. หนงั สือเรียนรายวชิ าภาษาไทย - หลกั การพดู โฆษณา ๑. นกั เรยี นร่วมกนั แสดงความคิดเห็น โดยครถู ามนกั เรยี น ดังนี้ ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๒ - ข้นั ตอนการพดู โฆษณา ในปัจจุบันมีโฆษณาสินค้าหรือบริการใดบ้างท่ีนักเรียนให้ความ ๒. ผลิตภณั ฑ์ ๕ ชน้ิ ๒. ลกั ษณะการพดู โฆษณาทด่ี ี สนใจและช่นื ชอบมากท่ีสุดเพราะเหตุใด ๓. โฆษณาสนิ คา้ (ท่ีถูกต้อง/ไม่ถูกต้อง) จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๒. นักเรียนดูตัวอย่างภาพการโฆษณาสินค้าที่ครูบันทึกไว้ จากน้ัน ด้านความรู้ ร่วมสนทนาตอบข้อซกั ถาม ภาระงาน/ชน้ิ งาน ๑. มคี วามรู้ความเขา้ ใจเกี่ยวกับหลกั การพดู ข้ันสอน ๑. พดู โฆษณา โฆษณา ๑. นักเรยี นศกึ ษาเนอื้ หาเรื่อง การพูดโฆษณา ๒. ป้ายโฆษณา ๒. อธิบายหลักการพดู โฆษณาได้ถกู ต้อง - ความหมายของการพูดโฆษณา ด้านทักษะและกระบวนการ - หลักการพดู โฆษณา ๑. พดู โฆษณาได้อยา่ งสรา้ งสรรค์ ๒. นกั เรียนดตู วั อย่างการพดู โฆษณา ที่ถกู ตอ้ งและไมถ่ กู ตอ้ ง ด้านคณุ ลักษณะ ๓. นักเรยี นเตรยี มการพูดโฆษณาสินค้าโดยตอบคาถาม ๑. มวี ินยั - นักเรียนเคยใช้สินค้าหรือบริการใดแล้วประทับใจ ในคุณภาพ ๒. ใฝเ่ รยี นรู้ บ้าง ๓. มุ่งมนั่ ในการทางาน - สนิ ค้าและบริการน้นั มจี ุดเดน่ อย่างไร ๔. นักเรียนศกึ ษาผลิตภณั ฑ์ ๕ ช้ิน เช่น กระปอ๋ งแปง้ กลอ่ งสบู่ กล่องยาสีฟัน ซองขนม เป็นต้น แล้วเลือกผลิตภัณฑ์ท่ีนักเรียนสนใจ จากท่ีครูนามา โดยจะให้เวลานักเรียนฝึกพูดโฆษณา ให้นักเรียนคิดบท พดู โฆษณาเป็นเวลา ๕ นาที ๒๖2๒6524
พดู โฆษณาเป็นเวลา ๕ นาที ๒๖๒ ๒๖๓255 หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี ๓ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ ๘ เรือ่ ง พดู ในโอกาสตา่ งๆ (การพดู โฆษณา) เวลา ๑ ช่วั โมง กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรอื่ ง พาทีทวั่ ถน่ิ ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี ๒ หน่วยการเรียนรูท้ ี่ ๓ รายวิชาภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เวลา ๑ ช่วั โมง ขนั้ สอน ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๒ แเขผน้นันอ้ื๕๑สกห..ราาสุปรน่มุจักตัดเเสัวกรนแีายทอรนแเนรแนนยี ละกันะเเนรรคทู้ีย้อื รี่นหูรอ๘า่วใรอเมหากรเ้กยสื่อรมบัวรื่องาชิุนปงพพาักคดูพาภเโวรทดูาฆยีาใษีทษนมนัว่าณเรโไถพอู้ทเาน่ิ่ิมรกหย่ืเอานตสง้าิมตกช่าาั้นงรเๆรพยี ูด(นกใานโรดโพยอคดู กรโาฆูอสธษติบณ่าาายง) (ขโภขเกนฆนั้ั้นาาอื้๒๕ษยสสรหณ..ใพอรานสนปุานูดมุ่ชัสกโตุฆมินเเรสัวษชคียนแนณ้านทอขขาสแนออ)รนงนงจ้าตะกัตางนเเัวกสนรเเกรอยีือ้ อรางนหงครอาเเ์ผพรใอแหลีย่ือกลงก้นใมา้ชวับใานน้ปจนพผัดชรกัูดละ่วัทเโกรโิตฆามยีอภปษงนบัณ้าทณเกยพ่ีฑาา๑โ่ิมห์ขรฆเเอนษตรง้ายีิมณตชนัาวั้นใเนเอพรชงียรว่ัจน้อโามมกโงทดวถั้ยงัสัดคคดไิดรปุเหอูบธลทิบือพาใูชดย้ ๑. นักเรียนและครูร่วมสรุปความรู้เร่ืองการพูดในโอกาสต่าง (การพดู โฆษณา) จากการเรยี นในชั่วโมงที่ ๑ ๒. นักเรียนสร้างสรรค์ผลงานผลิตภัณฑ์ของตัวเองจากวัสดุเหลือใช้ ภายในชุมชนของตัวเอง แล้วจัดทาป้ายโฆษณา พร้อมทั้งคิดบทพูด โฆษณาสินคา้ ของตนเอง เพื่อใช้ประกอบการเรียนในช่วั โมงถัดไป
๒๖2๔5646 การวดั และประเมนิ ผล สิง่ ที่ต้องการวัด/ประเมิน วธิ กี าร เครือ่ งมือที่ใช้ เกณฑ์ ด้านความรู้ ใชค้ าถาม คาถาม ตอบคาถามซักถามได้ ๑. อธบิ ายหลักการพดู โฆษณาไดถ้ ูกต้อง ดา้ นทักษะ/กระบวนการ สงั เกตการพดู โฆษณา แบบประเมนิ การพดู ผลจากการสงั เกต ๑. พูดโฆษณาได้อย่าง โฆษณา พฤติกรรมการพดู สร้างสรรค์ รายบคุ คลรอ้ ยละ ๘๐ ขึน้ ไปถือว่าผา่ นเกณฑ์ ดา้ นคุณลกั ษณะ สังเกตคุณลักษณะ แบบสังเกต ไดผ้ ลจากการสงั เกต ๑. มีวินัย คุณลักษณะ คุณลกั ษณะแต่ละข้อ ๒. ใฝเ่ รียนรู้ อนั พงึ ประสงค์ ไมต่ า่ กว่าระดบั ๒ ๓. มงุ่ มั่นในการทางาน
๒๖๕25675 ๙. บนั ทึกผลหลงั สอน ผลการเรียนรู้ ............................................................................................................................. ...................................... ปัญหาและอปุ สรรค ................................................................................................................................................................... ข้อเสนอแนะและแนวทางแก้ไข ............................................................................................................... .................................................... ลงชอ่ื ......................................ผสู้ อน (.......................................................) วันที่..........เดือน..........พ.ศ............. ๑๐. ความคิดเหน็ /ข้อเสนอแนะของผู้บรหิ ารหรอื ผทู้ ี่ไดร้ บั มอบหมาย ............................................................................................................................................. ...................... ลงช่ือ ......................................ผตู้ รวจ (................................ .......................) วนั ท.่ี .........เดือน..........พ.ศ.............
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๓ แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๙ เร่ือง พดู ในโอกาสต่างๆๆ((กกาารรพพดู ูดโโฆฆษษณณาา)) เวลา ๑ ช่วั โมง กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรอ่ื ง พาทีทั่วถ่นิ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๒ ขอบเขตเน้อื หา รายวิชาภาษาไทย ๑. การพดู โฆษณา ข้ันนา สือ่ /แหลง่ เรยี นรู้ - หลักการพดู โฆษณา ๑. นักเรียนและครูร่วมกันทบทวนความรู้และติดตามภาระงาน การ ๑. หนงั สือเรยี นรายวิชาภาษาไทย - ขนั้ ตอนการพูดโฆษณา เขียนบทโฆษณา และแผ่นโฆษณา จากคาบเรยี นที่ผ่านมา ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี ๒ ข้ันสอน ๒. สินคา้ โฆษณา ๒. ลักษณะการพูดโฆษณาท่ดี ี ๑. นักเรียนนาเสนองานพูดโฆษณาสินค้าหรือบริการหน้าช้ันเรียน จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ โดยสมมุติชอ่ื สินคา้ หรือบรกิ ารเอง ภาระงาน/ชิน้ งาน ดา้ นความรู้ ๒. นักเรียนและครูร่วมกันแสดงความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ เก่ียวกับ พดู ในโอกาสต่างๆ (การพูดโฆษณา) การใชภ้ าษา และรปู แบบแผน่ โฆษณาของเพ่ือนทอ่ี อกมานาเสนอ ๑. มีความรูค้ วามเข้าใจเกยี่ วกับหลกั การ ขน้ั สรปุ พดู โฆษณา ๑. นกั เรยี นและครรู ว่ มสรปุ ความรเู้ ร่อื ง การพดู โฆษณา การพูดโฆษณาเป็นการพูดโน้มน้าวรูปแบบหน่ึง เป็นการส่งสารให้ ๒. อธิบายหลกั การพดู โฆษณาได้ถูกต้อง ผู้ฟังมีความคิดเห็นและรู้สกึ คล้อยตามผพู้ ูด ดังนั้นผู้พูดจึงต้องมีคุณธรรม ดา้ นทักษะและกระบวนการ รับรู้ความต้องการพื้นฐานของผู้ฟัง และรู้จักวิธีการพูดโฆษณาให้ เหมาะสมตามลักษณะของสินค้าหรือบริการ และสอดคล้องกับ ๑. พดู โฆษณาได้อย่างสร้างสรรค์ กลุ่มเปา้ หมาย การพดู จึงจะประสบผลสาเร็จ ด้านคุณลักษณะ ๑. มวี นิ ัย ๒. ใฝเ่ รยี นรู้ ๓. มงุ่ ม่นั ในการทางาน ๒๖22๖5686
๒๖๗26579 การวดั และประเมนิ ผล สิง่ ที่ต้องการวัด/ประเมิน วธิ กี าร เครือ่ งมือที่ใช้ เกณฑ์ ด้านความรู้ ใชค้ าถาม คาถาม ตอบคาถามซักถามได้ ๑. อธบิ ายหลักการพดู โฆษณาไดถ้ ูกต้อง ดา้ นทักษะ/กระบวนการ สงั เกตการพดู โฆษณา แบบประเมนิ การพดู ผลจากการสงั เกต ๑. พูดโฆษณาได้อย่าง โฆษณา พฤติกรรมการพดู สร้างสรรค์ รายบคุ คลรอ้ ยละ ๘๐ ขึน้ ไปถือว่าผา่ นเกณฑ์ ดา้ นคุณลกั ษณะ สังเกตคุณลักษณะ แบบสังเกต ไดผ้ ลจากการสงั เกต ๑. มีวินัย คุณลักษณะ คุณลกั ษณะแต่ละข้อ ๒. ใฝเ่ รียนรู้ อนั พงึ ประสงค์ ไมต่ า่ กว่าระดบั ๒ ๓. มงุ่ มั่นในการทางาน
๒๖22๘6680 ๙. บนั ทกึ ผลหลงั สอน ผลการเรยี นรู้ ............................................................................................................................. ...................................... ปัญหาและอปุ สรรค ................................................................................................................................................................... ข้อเสนอแนะและแนวทางแกไ้ ข ............................................................................................................................. ...................................... ลงชอื่ ......................................ผสู้ อน (.......................................................) วันท.่ี .........เดือน..........พ.ศ............. ๑๐. ความคดิ เหน็ /ขอ้ เสนอแนะของผูบ้ ริหารหรือผูท้ ี่ได้รับมอบหมาย .................................................................................................................................................. ................. ลงชอ่ื ......................................ผู้ตรวจ (.......................................................) วันท.่ี .........เดือน..........พ.ศ.............
หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี ๓ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๑๐ เรอ่ื ง โคลงภาพพระราชพงศาวดาร เวลา ๑ ชว่ั โมง กล่มุ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย เร่ือง พาทที ่ัวถน่ิ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ ๒ รายวิชาภาษาไทย ขอบเขตเนื้อหา กิจกรรมการเรียนรู้ ส่อื /แหลง่ เรียนรู้ โคลงภาพพระราชพงศาวดาร ขัน้ นา ๑. หนังสอื แบบเรยี นรายวชิ าภาษาไทย ชน้ั - ประวัติและทมี่ า ๑. นกั เรยี นแสดงความคดิ เหน็ โดยถามนกั เรียนวา่ มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๒ - ผปู้ ระพนั ธ์ - นกั เรียนเคยได้ยินหรอื ร้จู กั พระราชพงศาวดารหรือไม่ ๒. ภาพโคลงภาพพระราชพงศาวดาร - พระราชพงศาวดารคืออะไร มีเนอ้ื หาเกีย่ วกบั อะไร ๓. ใบความรู้ เรอื่ ง โคลงภาพพระราช จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ - นกั เรยี นรู้จักวีรบรุ ษุ และวีรสตรีไทยทา่ นใดบา้ ง พงศาวดาร ด้านความรู้ ๒. นักเรียนดูภาพโคลงภาพพระราชพงศาวดารภาพต่างๆๆ ซ่ึงภาพดังกล่าวเป็นภาพท่ีใช้ประกอบพระราชพงศาวดารซึ่ง ภาระงาน/ชนิ้ งาน ๑. มคี วามรู้ความเข้าใจเกีย่ วกับประวัตศิ าสตร์ นบั เปน็ หลกั ฐานทางประวัติศาสตร์ บันทกึ ความรจู้ ากเรอื่ ง ความเป็นมาของเรื่องโคลงภาพพระราช ขั้นสอน พงศาวดาร ๑. นักเรียนศึกษาเน้ือหา (โคลงภาพพระราชพงศาวดาร) - โคลงภาพพระราชพงศาวดารท่ีนามาให้นักเรียนได้เรียน ๒. อธบิ ายถึงท่ีมา วัตถุประสงค์ ลักษณะการ มกี ่เี รื่อง อะไรบ้าง (๒ เร่ือง คือ โคลงพระสรุ ิโยทยั ขาดคอช้าง และ ประพนั ธข์ องวรรณคดี เรือ่ งโคลงภาพพระราช โคลงพนั ท้ายนรสิงห์ถวายชวี ิต) พงศาวดารได้ถูกต้อง - รูปท่ี ๑๐ เป็นเรื่องเกี่ยวกับใคร และมีวีรกรรมอะไรที่สาคัญ ดา้ นทักษะและกระบวนการ (สมเด็จพระสุริโยทัยทรงสละพระชนม์ชีพเพื่อช่วยสมเด็จ พระ ๑. สรุปเน้ือหารายละเอียดของวรรณคดี เรอ่ื ง โคลงภาพพระราชพงศาวดารได้ถูกต้อง พมหระามจักหราพจักรรดพิ)รรดิ ๒๖๙ 2619
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี ๓ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๑๐ เร่อื ง โคลงภาพพระราชพงศาวดาร เวลา ๑ ชว่ั โมง กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย เรื่อง พาทีท่ัวถิน่ ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี ๒ ด้านคุณลกั ษณะ รายวชิ าภาษาไทย ๑. มวี ินยั กิจกรรมการเรียนรู้ ๒. ใฝเ่ รียนรู้ ขั้นสอน ๓. มุ่งมนั่ ในการทางาน - รูปท่ี ๕๖ เป็นเรื่องเก่ียวกับใคร และมีวีรกรรมอะไรที่สาคัญ (พันท้ายนรสิงห์ยอมสละชีวิตเพื่อรักษาประเพณีและพระเกียรติ แห่งพระมหากษัตรยิ ์) ๒. นกั เรยี นศึกษาใบความรู้เร่ือง โคลงภาพพระราชพงศาวดารที่ ต้องศึกษา เพ่ือให้นักเรยี นได้รู้จักเกย่ี วกับความเป็นมา ประวัติผู้ แผตแู้ ง่ตง่ ลักษณะการประพันธ์ของเรื่อง และเน้ือหาโดยสังเขป (โคลง ภาพพระราชพงศาวดาร) แลว้ บันทึกความรู้ท่ไี ด้จากการศกึ ษาลง ในสมดุ ของแต่ละคน ขั้นสรุป ๑. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปสาระสาคัญของเร่ืองโคลงภาพ พระราชพงศาวดาร ครูอธิบายเพิ่มเติม และตอบข้อซักถามของ นกั เรียน 262 ๒๗2๐70
๒๗๑27631 การวดั และประเมินผล สิ่งที่ต้องการวัด/ประเมนิ วธิ กี าร เครอื่ งมอื ทใี่ ช้ เกณฑ์ ด้านความรู้ คาถาม ตอบคาถามซักถามได้ ๑. อธบิ ายถึงท่ีมา ใช้คาถาม วตั ถปุ ระสงค์ ลกั ษณะการ ประพนั ธข์ องวรรณคดี เร่อื ง โคลงภาพพระราชพงศาวดาร ไดถ้ ูกตอ้ ง ด้านทกั ษะ/กระบวนการ ๑. สรปุ เน้ือหารายละเอยี ดของ ใชค้ าถาม คาถาม ผลจากการสงั เกต วรรณคดี เร่อื ง โคลงภาพพระ แบบสังเกต พฤติกรรมรายบคุ คล ราชพงศาวดารได้ถูกตอ้ ง คุณลักษณะ ร้อยละ ๘๐ ขึน้ ไปถอื วา่ อันพงึ ประสงค์ ผ่านเกณฑ์ ด้านคุณลกั ษณะ สงั เกตคณุ ลักษณะ ได้ผลจากการสงั เกต ๑. มวี ินัย คณุ ลักษณะแต่ละข้อ ๒. ใฝเ่ รยี นรู้ ไมต่ า่ กวา่ ระดับ ๒ ๓. มงุ่ ม่ันในการทางาน
๒2๗2๒7624 ๙. บันทกึ ผลหลงั สอน ผลการเรยี นรู้ ............................................................................................................................. ...................................... ปญั หาและอปุ สรรค ............................................................................................................................................................... .... ข้อเสนอแนะและแนวทางแก้ไข ............................................................................................... .................................................................... ลงชื่อ ......................................ผสู้ อน (.......................................................) วันท่ี..........เดือน..........พ.ศ............. ๑๐. ความคิดเห็น/ขอ้ เสนอแนะของผู้บริหารหรือผู้ท่ีได้รบั มอบหมาย ............................................................................................................................. ...................................... ลงชื่อ ......................................ผูต้ รวจ (.......................................................) วันท.่ี .........เดือน..........พ.ศ.............
๒๗๓227635 ใบความรู้ เรอื่ ง โคลงภาพพระราชพงศาวดาร หนว่ ยท่ี ๓ แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี ๑๐ เรอื่ ง โคลงภาพพระราชพงศาวดาร รายวิชาภาษาไทย ภาคเรยี นท่ี ๑ ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่๒ ภาพท่ี ๑๐ พระสุรโิ ยทัยขาดคอชา้ ง ผู้แต่ง พระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยหู่ ัว ทมี่ าของเรอื่ ง คัดมาจากหนังสือโคลงภาพพระราชพงศาวดารเป็นโคลงบรรยายภาพที่ ๑๐ แผ่นดินสมเด็จ พระ พมหระามจักหราพจักรรดพแิ รลรดะโแิ คลละงโบครลรงยบารยรภยาพยภทา่ี ๕พ๖ที่ ๕แ๖ผน่ แดผิน่ สดมนิ เสดมจ็ เพดรจ็ ะพเจระา้ เสจ้าอื เสอื จุดมุง่ หมายในการแตง่ เพื่อสดุดีวีรกรรมของสมเดจ็ พระสุรโิ ยทัยที่มีความรัก และความเสียสละพระชนม์ชีพ ช่วยปกป้องพระ พสวราะมสีจวามกขีจ้าศกึกขา้ใหศ้รึกอใหดร้พอรดะพชนระมช์ นีพมช์ ีพ ลักษณะคาประพนั ธ์ เปน็ โคลงสสี่ ุภาพ เนอ้ื เรอื่ งยอ่ พระเจาบุเรงนอง กษัตริยพ มา ยกกองทพั ประชดิ ตดิ เมอื ง สมเด็จพระมหาจักรพรรดจิ งึ ยกพลออกไป ออก อสอูรกบสรู้มบเดส็จมพเดรจ็ะพสรุ ะโิ ยสทรุ โิยั ยพทรยั ะพมรเะหมสเทีหรสงที เรคงรเ่อืคงรอพ่ื งชิ พัยชิ สยั งสคงรคารมาทมรทงรชงาชงา้ โงดโดยเยสเสดด็จจ็ดดว ว้ยยเมอ่ื ชา งพระทีน่ ่งั ของพระมหาจ-ักร จพกั รรรพดริไรปดปไิ ประปจรันะจหนันหา นแาล้ แะลชะนชกนบั กชบั าชงา้ทงรทงรขงอขงอพงพระรเะจเาจแา้ แปปรรททัพพั หหนนา า้ ชางของพระมหาจกั รพรรดเิ สยี ทกี ลบั หลงั วิ่งเตลิด พระเจาแปรกข็ บั ชางตาม พระสุริโยทยั ทรงไสชา งเขา ขดั ขวาง พระเจา แปรจงึ ใชพระแสแงสขงอของ้างวาฟวฟนั นพพระระสสรุ รุิโยโิ ยททัยยั สน้ิ พระชนมอ ยูบนคอชา งนัน่ เอง ขอ คดิ ทีจ่ ากเรือ่ ง ๑. ตอ้ งมคี วามกตัญญตู ่อผมู้ ีพระคณุ ๒. รู้จักเสียสละชีวติ เพื่อปกป้องประเทศชาตจิ ากข้าศกึ ศตั รู เพ่ือให้ได้มาเพอ่ื ความเปน็ ไทยตลอดไป ๓. ปลกู จิตสานกึ ใหเ้ ยาวชนไทยเห็นคุณค่าของความเสียสละของวีรชนไทย
๒2๗2๔7646 ภาพที่ ๕๖ พันท้ายนรสิงหถ์ วายชีวติ ผูแ้ ตง่ พระเจ้าบรมวงศเ์ ธอ กรมพระนราธิปประพันธพ์ งศ์ ทมี่ าของเร่อื ง คดั จากหนงั สอื โคลงภาพพระราชพงศาวดารพระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกล้าเจ้าอย่หู ัว จุดมุงหมายในการแตง่ เพ่ือสดุดีวีรกรรมของพันท้ายนรสิงห์ท่ียอมเสียสละชีวิตของตนเองเพ่ือรักษาพระราชกาหนดท่ีมีมา ทกุ สมยั มิใชเ่ ส่อื มเสยี และสญู หายไป เพราะตนเพยี งคนเดยี ว ลักษณะคาประพนั ธ์ เปน็ โคลงส่ีสุภาพ เนื้อเรอ่ื งยอ่ เม่ือสมเด็จพระเจ้าเสือประพาสปากน้า ได้ประทับเรือ่ เอกชัยเขา้ มาถึงต�ำ าบบลลโโคคกกขขาามมลลำ�าคคลลอองงลลกั ักษษณณะะ คดเคี้ยวนายทา้ ยเรือดว้ ยความลาบาก ทาใหโ้ ขนเรือหัก พันทา้ ยนรสิงหจ์ ึงรบั ผิดชอบขอให้พระเจา้ เสือประหาร ชีวิตตน เพื่อเอาโขนเรือและศรี ษะมาเซ่นสรวงทาศาลตามประเพณี สมเดจ็ พระเจา้ เสือพระราชทานโทษให้ แต่ ทรงโปรดให้ปั้นรูปพันท้ายนรสิงห์ข้ึนมาฟันคอรูปแทน พันท้ายนรสิงห์ไม่ยอม กราบทูลรบเร้าให้พระเจ้าเสือ ประหารชีวิตตนให้ได้ พระเจ้าเสอื ก็ต้ออ้ตง้อจงำ�จพาพระรทะทัยสัยงัสเังพเชพฌชฌฆาฆตาปตรปะรหะาหราชรวี ชติ ีวิต พนั ทา้ ยนรสิงห์ แล้วให้นาศีรษะ ของพันทา้ ยนรสงิ ห์กับโขนเรือเซน่ ไว้ทศี่ าล เพ่อื เป็นทเี่ ตือนใจคนทั่วไป ขอ้ คิดทไี่ ดร้ บั การเร่ือง ๑ มคี วามกตัญญตู อ่ ผ้มู ีพระคุณ ๒ ร้จู ักเสยี สละชวี ิตเพื่อปกป้องพระราชกาหนดให้คงอยตู่ ลอดไป ๓ ปลกู จิตสานึกใหเ้ ยาวช์ นไทยเห็นคณุ คา่ เสียสละของวรี ะชนไทย
๒๗๕27675 ใบความรู้ รูปภาพประกอบ เร่อื ง โคลงภาพพระราชพงศาวดาร หนว่ ยที่ ๓ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี ๑๐ เร่อื ง โคลงภาพพระราชพงศาวดาร รายวิชาภาษาไทย ภาคเรียนที่ ๑ ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี๒ ภาพที่ ๑๐ พระสรุ โิ ยทัยขาดคอชา้ ง ภาพที่ ๕๖ พันทา้ ยนรสิงหถ์ วายชีวติ
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๑๑ เร่อื ง โคลงภาพพระราชพงศาวดาร ภาพท่ี ๑๐ พระสุริโยทัยขาดคอช้าง หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๓ เรื่อง พาทที ่ัวถนิ่ เวลา ๑ ชว่ั โมง กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย รายวชิ าภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี ๒ ขอบเขตเนื้อหา กจิ กรรมการเรียนรู้ สอื่ /แหล่งเรยี นรู้ โคลงภาพพระราชพงศาวดาร ภาพพระสรุ ิโยทยั ขัน้ นา ๑.หนงั สือแบบเรียนรายวิชาภาษาไทย ขาดคอชา้ ง ๑. นักเรียนดูภาพการทายุทธหัตถีของพระสุริโยทัย แล้วตอบ ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่๒ จุดประสงค์การเรียนรู้ คาถาม ๒.รปู ภาพ ดา้ นความรู้ - บุคคลท่ีในภาพเป็นใครและกาลงั ทาสง่ิ ใด ๓.ใบความรู้ เรอ่ื งบทประพันธ์ โคลงภาพ ๑. มีความรคู้ วามเข้าใจเกี่ยวกบั สาระสาคญั ของ ๒. นักเรยี นตอบคาถาม ทว่ี ่า พระราชพงศาวดาร ภาพพระสรุ โิ ยทัยขาด เรอ่ื ง โคลงภาพพระราชพงศาวดาร - นกั เรยี นร้หู รือไมว่ ่าพระสุริโยทยั คือใคร คอช้าง ๒. อธบิ ายรายละเอยี ดจากการอ่านโคลงภาพ (พระสุริโยทยั หรือสมเด็จพระศรีสุริโยทยั วีรสตรไี ทยสมัยอยุธยา ๔. ใบงาน เร่อื ง โคลงภาพพระราช พระราชพงศาวดารภาพพระสุรโิ ยทยั ขาดคอช้างได้ เปน็ อคั รมเหสีในสมเด็จพระมหาจกั รพรรดิพระมหากษัตรยิ ์องค์ที่ พงศาวดาร ภาพท่ี ๑๐ พระสุรโิ ยทัย ถกู ต้อง ๑๕ ของกรุงศรีอยุธยาแห่งราชวงศ์สพุ รรณภูมิ) ขาดคอชา้ ง ๓. รู้ความหมายของคาศัพท์ ขั้นสอน ดา้ นทกั ษะและกระบวนการ ๑. นักเรยี นศกึ ษาเรื่อง โคลงประกอบภาพที่ ๑๐ ภาพพระ ภาระงาน/ชน้ิ งาน ๑. จับใจความสาคญั สาระสาคญั เหตุการณ์ สุริโยทัยขาดคอช้าง โดยครูอธิบายว่า ภาพดังกล่าวเป็นเพียงส่วน ตอบคาถามจากใบงาน เรอ่ื งโคลงภาพ หน่ึงของเหตุการณ์ มีคาบรรยายภาพประกอบ (ภาพท่ีได้รางวัล มี พระราชพงศาวดาร ภาพที่ ๑๐ ของเรื่อง จากการอ่านโคลงภาพพระราช ท้ังหมด ๑๘ อันดับ โดยโคลงภาพที่นักเรียนจะได้เรียนน้ีเป็นโคลง พระสุรโิ ยทยั ขาดคอชา้ ง พงศาวดารภาพพระสรุ โิ ยทยั ขาดคอชา้ งได้ ภาพที่ได้รับรางวัลท่ี ๓ ผู้เขียนภาพ คือ สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ ดา้ นคุณลกั ษณะ เจา้ ฟา้ กรมขนุ นริศรานุวดั ติวงศ์ ภายหลังดารงพระยศเป็นสมเดจ็ ๑. รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ พระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ซึ่งภาพน้ีได้ ๒. มวี นิ ยั รางวลั ลกู ปืน ๑ ลกู เงนิ ๑ ช่งั ๓๐ บาท) ๓. ใฝ่เรียนรู้ ๒๗2๖6786
แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ ๑๑ เร่อื ง โคลงภาพพระราชพงศาวดาร ภาพที่ ๑๐ พระสุริโยทัยขาดคอช้าง เวลา ๑ ช่วั โมง หน่วยการเรียนร้ทู ่ี ๓ เร่ือง พาทที ั่วถ่นิ ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ ๒ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย รายวิชาภาษาไทย ๔. มุง่ มั่นในการทางาน ๒. นักเรียนเรียนรู้ความหมายศัพท์ยากจากเร่ือง โคลงภาพพระ ๕. มีจติ สาธารณะ ราชพงศาวดาร ภาพท่ี ๑๐ พระสุรโิ ยทยั ขาดคอช้าง ๓. นักเรยี นแบ่งกล่มุ เป็น ๔ กลุ่ม ศึกษาเน้อื เร่ืองจากหนงั สอื แบบเรยี นรายวชิ าภาษาไทยชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ ๒ ๔. ถอดคาประพันธ์ โคลงภาพพระราชพงศาวดาร ภาพที่ ๑๐ พระสุรโิ ยทยั ขาดคอช้าง กลมุ่ ละ ๑ บท จนครบทกุ บทแล้วออกมา อธบิ ายใหเ้ พ่ือนๆ ฟงั หน้าชัน้ เรยี น โดยครูซกั ถามและอธบิ ายเน้อื หา เพิม่ เติม ๕. นกั เรยี นทาใบงาน เรอ่ื ง โคลงภาพพระราชพงศาวดาร ภาพท่ี ๑๐ พระสรุ ิโยทยั ขาดคอชา้ ง เพื่อประเมินผลการเรยี น ข้นั สรุป ๑. นักเรียนสรปุ เน้ือหาของเรอื่ งโคลงภาพพระราชพงศาวดาร ภาพ ท่ี ๑๐ พระสุรโิ ยทยั ขาดคอชาง โดยจบั ใจความสาํ คัญ สรปุ เน้อื หา ลาํ ดับเหตกุ ารณของเร่ือง 269 ๒๗๗277
๒2๗2๘7780 การวัดและประเมินผล สง่ิ ทีต่ ้องการวดั /ประเมิน วิธกี าร เครื่องมือท่ใี ช้ เกณฑ์ ดา้ นความรู้ คาถาม ตอบคาถามซักถามได้ ๑. นักเรยี นมคี วามรู้ความ ใชค้ าถาม เข้าใจเกย่ี วกับสาระสาคัญ คาถาม ตอบคาถามซักถามได้ ของเร่ือง โคลงภาพพระราช พงศาวดาร คาถาม ตอบคาถามซักถามได้ ๒. อธิบายรายละเอียดจาก ใช้คาถาม เกณฑ์การประเมิน ผลจากการสงั เกต การอา่ นโคลงภาพพระราช ใบงาน เรื่อง โคลง พฤติกรรมการพูด พงศาวดารภาพพระสรุ ิโยทัย ภาพพระราช รายบุคคลรอ้ ยละ ๘๐ ขาดคอช้างได้ถูกต้อง พงศาวดาร ภาพท่ี ข้ึนไปถือว่าผ่านเกณฑ์ ๓. รคู้ วามหมายของคาศัพท์ ใชค้ าถาม ๑๐ พระสุริโยทยั ดา้ นทักษะ/กระบวนการ ขาดคอชา้ ง ไดผ้ ลจากการสงั เกต ๑. จบั ใจความสาคญั ใบงาน เรื่อง โคลงภาพ แบบสังเกต คณุ ลกั ษณะแต่ละขอ้ สาระสาคัญ เหตุการณข์ อง พระราชพงศาวดาร คุณลกั ษณะ ไมต่ า่ กว่าระดับ ๒ เร่อื ง จากการอ่านโคลงภาพ ภาพท่ี ๑๐ อันพึงประสงค์ พระราชพงศาวดารภาพพระ พระสุรโิ ยทัย พสุระโิ ยสทรุ โิัยยขทายั ดขคาอดชคา้องชไา้ ดง้ถไดูกถ้ ตกู ้อตงอ้ ง ขาดคอช้าง ด้านคณุ ลักษณะ สงั เกตคณุ ลักษณะ ๑. รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ๒. มีวินยั ๓. ใฝ่เรยี นรู้ ๔. มงุ่ มนั่ ในการทางาน ๕. มีจิตสาธารณะ
๒๗๙2719 ๙. บนั ทกึ ผลหลังสอน ผลการเรยี นรู้ ............................................................................................................................. ...................................... ปัญหาและอปุ สรรค ................................................................................................................................................................... ข้อเสนอแนะและแนวทางแกไ้ ข ............................................................................................................... .................................................... ลงช่อื ......................................ผสู้ อน (.......................................................) วนั ที่..........เดือน..........พ.ศ............. ๑๐. ความคดิ เห็น/ขอ้ เสนอแนะของผูบ้ รหิ ารหรอื ผูท้ ่ีไดร้ บั มอบหมาย ........................................................................................................................... ........................................ ลงชื่อ ......................................ผูต้ รวจ (.......................................................) วนั ท่ี..........เดือน..........พ.ศ.............
๒2๘2๐7820 ใบความรู้ ศพั ท์ยาก เร่ือง โคลงภาพพระราชพงศาวดาร ภาพพระสรุ โิ ยทัยขาดคอชา้ ง หนว่ ยที่ ๓ แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๑๑ เร่ือง โคลงภาพพระราชพงศาวดาร ภาพพระสรุ ิโยทยั ขาดคอชา้ ง รายวิชาภาษาไทย ภาคเรียนที่ ๑ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ รามญั = มอญ พยุหแสนยา = หมู่เสนา ม่าน = พมา่ เผ้าภวู ดล = เผา้ คือ ส่วนท่ีสูงที่สุดของศรี ษะ ภวู ดล คือ แผน่ ดนิ นกิ ร = หมู่ , พวก สมร = การรบ การสงคราม เคร่อื งยุทธพิชยั = เคร่ืองแต่งกายท่ีแตง่ ออกรบ เถลงิ = ขน้ึ ใชก้ บั สงิ่ สาคญั เชน่ เถลงิ ถวลั ยราชสมบัติ คว้าง = เคลื่อนลอยไปอยา่ งรวดเรว็ ไคล = เข้าขบวน ประจัญ = ปะทะตอ่ สู้ สาร = ชา้ งใหญ่ เตลง = คือ ตะเลง เปน็ ชื่อท่ีใช้เรียกชนชาตมิ อญ พงศาวดารไทยมัก ดสั กร มนสั เรยี กกองทพั พม่าวา่ กองทัพตะเลง เน่อื งจากพมา่ เกณฑ์ ขุนมอญ เอาพวกมอญผู้ตกอยใู่ นปกครองมาเป็นไพร่พลในการรบเป็น หรุบ จานวนมาก = ขา้ ศึก = หวั ใจ = ในทีน่ คี้ ือ พระเจ้าแปรซ่งึ เปน็ ผปู้ กครองเมอื งแปร ยกกองทัพมา = อาการสิง่ ของทีร่ ่วงลงมาพรู เรยี กว่า รว่ งหรบุ
๒๘๑27831 ใบความรู้ บทประพันธ์ เร่อื ง โคลงภาพพระราชพงศาวดาร ภาพพระสรุ ิโยทยั ขาดคอช้าง หนว่ ยท่ี ๓ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑๑ เรอ่ื ง โคลงภาพพระราชพงศาวดาร ภาพพระสุรโิ ยทัยขาดคอช้าง รายวชิ าภาษาไทย ภาคเรียนท่ี ๑ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๒ บงั อรอัครเรศผู้ พสิ มยั ทา่ นนา นามพระสรุ โิ ยทยั ออกอา้ ง ทรงเครอื่ งยุทธพิไชย เช่นอุป ราชแฮ เถลงิ คชาธารควา้ ง ควบเข้าขบวนไคล พลไกรกองน่าเร้า โรมรัน กันเฮย ชา้ งพระเจ้าแปรประจญั คชไท้ สารทรงซวดเซผัน หลงั แล่น เตลดิ แฮ เตลงขบั คชไล่ใกล้ หวิดท้ายคชาธาร นงคราญองค์เอกแกว้ กระษัตรยี ์ มานมนัสกัตเวที ยิง่ ล้า เกรงพระราชสามี มลายพระ ชนมเ์ ฮย ขบั คเชนทรเขน่ ค้า สะอกึ สู้ดสั กร ขนุ มอญรอ่ นง้าวฟาด ฉาดฉะ ขาดแลง่ ตราบอุระ หรบุ ด้ิน โอรสรีบกันพระ ศพสู่ นครแฮ สูญชีพไปส่ ูญส้นิ พจนผ์ สู้ รรเสรญิ
๒2๘๒8724 ใบงาน เรื่อง โคลงภาพพระราชพงศาวดาร ภาพพระสุรโิ ยทัยขาดคอชา้ ง หนว่ ยที่ ๓ แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๑๑ เรอื่ ง โคลงภาพพระราชพงศาวดาร ภาพพระสุรโิ ยทัยขาดคอช้าง รายวิชาภาษาไทย ภาคเรียนที่ ๑ ช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี๒ คาสงั่ ใหน้ ักเรียนสรปุ ใจความสาคัญโคลงภาพพระราชพงศาวดาร ภาพพระสรุ ิโยทัยขาดคอชา้ ง บังอรอัครเรศผู้ พสิ มัย ท่านนา นามพระสรุ โิ ยทัย ออกอา้ ง ทรงเคร่ืองยทุ ธพิไชย เช่นอุป ราชแฮ เถลิงคชาธารควา้ ง ควบเขา้ ขบวนไคล ความว่า ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. ...................................................................... พลไกรกองนา่ เรา้ โรมรนั กนั เฮย ช้างพระเจ้าแปรประจญั คชไท้ สารทรงซวดเซผัน หลงั แลน่ เตลิดแฮ เตลงขบั คชไลใ่ กล้ หวิดท้ายคชาธาร ความว่า ............................................................................................................................................................................. . ............................................................................................................................. ........................... นงคราญองค์เอกแกว้ กระษัตรยี ์ มานมนสั กัตเวที ยง่ิ ลา้ เกรงพระราชสามี มลายพระ ชนมเ์ ฮย ขบั คเชนทรเขน่ คา้ สะอึกส้ดู ัสกร ความวา่ ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. ...................................................................... ขนุ มอญรอ่ นงา้ วฟาด ฉาดฉะ ขาดแลง่ ตราบอุระ หรุบดน้ิ โอรสรีบกนั พระ ศพสู่ นครแฮ สูญชพี ไป่สูญสิ้น พจนผ์ ูส้ รรเสรญิ ความว่า .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ...........................
๒๘๓28735 เฉลยใบงาน เรอ่ื ง โคลงภาพพระราชพงศาวดาร ภาพพระสุริโยทัยขาดคอชา้ ง หนว่ ยที่ ๓ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ ๑๑ เร่ือง โคลงภาพพระราชพงศาวดาร ภาพพระสุริโยทยั ขาดคอช้าง รายวิชาภาษาไทย ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๒ คาสั่ง ใหน้ ักเรยี นสรุปใจความสาคัญโคลงภาพพระราชพงศาวดาร ภาพพระสรุ ิโยทัยขาดคอช้าง บังอรอัครเรศผู้ พสิ มยั ท่านนา นามพระสุรโิ ยทยั ออกอา้ ง ทรงเครื่องยุทธพิไชย เชน่ อุป ราชแฮ เถลิงคชาธารคว้าง ควบเขา้ ขบวนไคล ความวา่ สมเด็จพระสุรโิ ยทัย ไดแ้ ตง่ องค์ทรงเคร่ืองเยี่ยงชาย เปน็ ชุดออกศึกเชน่ มหาอปุ ราช แล้วทรงชา้ งเข้า รว่ มรบ พลไกรกองน่าเรา้ โรมรัน กนั เฮย ช้างพระเจา้ แปรประจญั คชไท้ สารทรงซวดเซผนั หลังแลน่ เตลิดแฮ เตลงขับคชไล่ใกล้ หวิดท้ายคชาธาร ความวา่ กองทัพหน้าของทั้งสองฝ่ายต่อสกู้ ัน ชา้ งทรงของพระเจา้ แปรไดช้ นชา้ งกบั พระมหาจักรพรรดิ พระ พมหระามจหักราพจกัรรดพิเรสรยี ดทเิ สเี พียลทย่ีเพงพลย่ีลง้าพลระํา้ พเจร้าะแเปจ้ารแปร นงคราญองค์เอกแกว้ กระษัตรยี ์ มานมนัสกตั เวที ยิ่งลา้ เกรงพระราชสามี มลายพระ ชนม์เฮย ขบั คเชนทรเข่นค้า สะอกึ สดู้ สั กร ความวา่ สมเด็จพระสรุ ิโยทัยเกรงว่าพระสวามจี ะส้ินพระชนม์ จึงไดไ้ สชา้ งเขา้ ขวางพระเจ้าแปรและสู้กบั พระ พเจรา้ ะแเปจา้รแปทรน ขุนมอญรอ่ นง้าวฟาด ฉาดฉะ ขาดแลง่ ตราบอรุ ะ หรบุ ด้นิ โอรสรบี กันพระ ศพสู่ นครแฮ สญู ชพี ไปส่ ูญส้ิน พจนผ์ ู้สรรเสรญิ ความว่า พระเจา้ แปรได้เอาง้าวฟนั สมเดจ็ พระสรุ ิโยทัยขาดสะพายแลง่ สิ้นพระชนมบ์ นคอชา้ ง สองพระโอรสได้ กันพระศพแล้วนาเข้าสู่พระนคร เหลือแต่คาสรรเสรญิ ไว้
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี ๑๒ เร่ือง คุณคา่ และขอ้ คิดของโคลงภาพพระราชพงศาวดาร ภาพพระสรุ โิ ยทยั ขาดคอช้าง หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๓ เรื่อง พาทีท่ัวถ่ิน เวลา ๑ ช่ัวโมง กล่มุ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย รายวิชาภาษาไทย ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๒ ขอบเขตเนอื้ หา กิจกรรมการเรียนรู้ ส่ือ/แหลง เรยี นรู ๑. คณุ คา่ โคลงภาพพระราชพงศาวดาร ขั้นนา ๑. หนังสือแบบเรียนรายวชิ าภาษาไทย ๑. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั อภปิ รายในหัวขอ้ ต่อไปน้ี ช้นั มัธยมศึกษาปท่ี ๒ ภาพพระสรุ ิโยทยั ขาดคอช้าง - สมเดจ็ พระสรุ โิ ยทยั คือใคร และมีบทบาทสาคัญอย่างไรในการส้รู บ ๒. ใบความรู้ เรอื่ ง ลีลาวรรณคดไี ทย ๒. ข้อคิดโคลงภาพพระราชพงศาวดาร ครัง้ นีอ้ ย่างไร ๓. สลากแบง่ กลุ่ม - ขับคเชนทรเ์ ช่นค้า สะอกึ สู้ดสั กร ตามความเข้าใจของนกั เรยี น ภาพพระสรุ ิโยทัยขาดคอชา้ ง ข้อความนีม้ ีความหมายว่าอย่างไร ภาระงาน/ช้ินงาน จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ - เหตใุ ดสมเดจ็ พระสุริโยทยั จงึ ตัดสินพระทัยขับชา้ งเขา้ ตอ่ สู้กับข้าศึก การพูดอวยพรในโอกาสต่างๆ ด้านความรู้ และผลที่ตามมาเปน็ อย่างไร ข้ันสอน ๑. มีความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับหลกั ๑. นักเรียนแบง่ กลุ่ม ๔ กลมุ่ ศึกษาใบความรู้ เรื่องลลี าวรรณคดีไทย หลกั การพจิ ารณาคุณคา่ ของวรรณคดแี ละ แล้วสนทนากบั นกั เรยี นในประเดน็ ต่อไปนี้ วรรณกรรม - คุณค่าด้านวรรณศลิ ป์มีลักษณะอยา่ งไร (การใชภ้ าษาท่ีทาให้ ผอู้ ่านได้รบั รสทางภาษา) ๒. อธบิ ายหลกั การพิจารณาคุณคา่ ของ - คณุ ค่าด้านแนวคดิ มลี ักษณะอยา่ งไร (มีการสอดแทรก วรรณคดแี ละวรรณกรรมได้ คณุ ธรรม จรยิ ธรรมให้ผอู้ า่ นนาไปประยุกต์ใชใ้ นชวี ิตจริง ด้านทกั ษะและกระบวนการ ๑. วเิ คราะห์คุณค่าของโคลงภาพพระราช พงศาวดารภาพพระสุริโยทยั ขาดคอช้างได้ - คุณค่าด้านเน้ือหามลี ักษณะอย่างไร (ใหน้ ักเรียนศึกษาจาก ใบความรู้ เรือ่ ง ลลี าวรรณคดีไทย) - คุณคา่ ด้านสงั คมมลี ักษณะอย่างไร (สง่ิ ท่ีทาใหผ้ อู้ า่ นเขา้ ใจสภาพ ความเป็นอยู่ของสงั คมในยุคน้ัน) 287๒๘46๔
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี ๓ แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ ๑๒ เรอื่ ง คุณคา่ และข้อคดิ ของโคลงภาพพระราชพงศาวดาร ภาพพระสุริโยทัยขาดคอช้าง เวลา ๑ ช่ัวโมง เรอ่ื ง พาทที ัว่ ถ่นิ ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี ๒ กล่มุ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย รายวชิ าภาษาไทย ๒. สงั เคราะห์สรุปความรู้และข้อคิดจากโคลง กจิ กรรมการเรยี นรู้ ภาพพระราชพงศาวดารภาพ ขัน้ สอน พระสรุ โิ ยทยั ขาดคอช้างได้ ด้านคุณลกั ษณะ ๒. นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ศึกษาการพิจารณาคุณคา่ ของวรรณคดี โดยสง่ ตัวแทนออกมาจับฉลากหัวข้อเพื่อทากิจกรรม ประเด็นตอ่ ไปนี้ ๑. รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ กล่มุ ที่ ๑ อธิบายคุณค่าด้านเนื้อหาของโคลงพระสรุ ิโยทัยขาดคอช้าง ๒. มีวนิ ัย กลมุ่ ที่ ๒ อธบิ ายคุณค่าด้านวรรณศลิ ปข์ องโคลงพระสุริโยทัยขาดคอชา้ ง ๓. ใฝเ่ รียนรู้ กลมุ่ ที่ ๓ อธิบายคุณคา่ ด้านสังคมของโคลงพระสรุ โิ ยทัยขาดคอช้าง ๔. มงุ่ มัน่ ในการทางาน กลมุ่ ท่ี ๔ สรุปความรู้และข้อคิดจากโคลงพระสรุ ิโยทัยขาดคอช้าง ๕. มีจิตสาธารณะ ๓. นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ ส่งตัวแทนออกมานาเสนอหน้าชนั้ เรยี น ทกุ คน ร่วมกันตรวจสอบความถกู ต้องและแสดงความคิดเหน็ ครอู ธิบายเนอ้ื หา เพมิ่ เติมให้สมบรู ณ์ ๔. นักเรียนรว่ มกันแสดงความคดิ เห็น รว่ มกนั สนทนา โดยถามนกั เรยี น วา่ การอธิบายเหตุการณป์ ระวตั ิศาสตร์โดยแตง่ เป็นโคลงสั้น ๆ ช่วยให้ นกั เรยี นเขา้ ใจเร่ืองราวได้ดีหรือไม่ เพราะเหตุใด ขัน้ สรปุ ๑. นักเรยี นและครูร่วมกันสรปุ ความรู้ ดงั น้ี การอ่านมคี วามสาคัญและจะเกิดประโยชนเ์ ม่ือผู้อา่ นสามารถ ประเมินคุณคา่ หรือแนวคิดท่ีไดจ้ ากการอา่ นวรรณคดโี คลงภาพพระราช พงศาวดาร ภาพพระสุรโิ ยทัยขาดคอชา้ ง และนาไปใชใ้ นการดาเนินชีวติ ๒2๘78๕75
278๒๘86๖ การวัดและประเมินผล สิ่งทตี่ ้องการวัด/ประเมนิ วธิ ีการ เครอ่ื งมือทใ่ี ช้ เกณฑ์ ดา้ นความรู้ ใชค้ าถาม คาถาม ตอบคาถามซักถามได้ ๑. มคี วามรูค้ วามเข้าใจ ใช้คาถาม เกยี่ วกับหลกั หลกั การ ใช้คาถาม คาถาม ตอบคาถามซักถามได้ พิจารณาคุณค่าของวรรณคดี ใช้คาถาม และวรรณกรรม คาถาม ผลจากการสังเกต ๒. อธิบายหลักการพิจารณา สังเกตคุณลักษณะ พฤติกรรมรายบคุ คลร้อย คุณคา่ ของวรรณคดแี ละ ละ ๘๐ ขึ้นไปถือว่า วรรณกรรมได้ ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ คาถาม ผา่ นเกณฑ์ ๑. วเิ คราะห์คุณค่าของโคลง ภาพพระราชพงศาวดารภาพ แบบสงั เกต ได้ผลจากการสงั เกต พระสุริโยทัยขาดคอช้างได้ คณุ ลกั ษณะ คณุ ลกั ษณะแต่ละข้อ ๒. สังเคราะหส์ รุปความรู้และ อนั พงึ ประสงค์ ไมต่ ่ากว่าระดับ ๒ ขอ้ คิดจากโคลงภาพพระราช พงศาวดารภาพพระสรุ โิ ยทัย ขาดคอช้างได้ ดา้ นคุณลักษณะ ๑. รกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ๒. มีวนิ ยั ๓. ใฝ่เรียนรู้ ๔. มุ่งมั่นในการทางาน ๕. มีจิตสาธารณะ
๒2๘87๗79 ๙. บันทกึ ผลหลงั สอน ผลการเรยี นรู้ ............................................................................................................................. ............................................ ปัญหาและอปุ สรรค ...................................................................................................................................................... ................... ข้อเสนอแนะและแนวทางแกไ้ ข ......................................................................................................................................................................... ลงชื่อ ......................................ผู้สอน (.......................................................) วนั ท่ี..........เดอื น..........พ.ศ............. ๑๐. ความคิดเห็น/ขอ้ เสนอแนะของผบู้ รหิ ารหรอื ผ้ทู ี่ไดร้ บั มอบหมาย ...................................................................................... ................................................................................... ลงช่ือ ......................................ผตู้ รวจ (.......................................................) วนั ท่.ี .........เดอื น..........พ.ศ.............
228๒8๘80๘ ใบความรู้ เรอื่ ง ลลี าวรรณคดีไทย หนว่ ยท่ี ๓ แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๑๒ เรอ่ื ง โคลงภาพพระราชพงศาวดาร รายวชิ าภาษาไทย ภาคเรยี นท่ี ๑ ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ ๒ วรรณกรรมและวรรณคดี วรรณกรรม คือ งานเขียนทุกชนิดที่เขียนหรือแต่งขึ้นจากความรู้สึกและความนึกคิดของมนุษย์ โดยใช้ ภาษาเป็นสอ่ื หรอื อาจจะเป็นเรอ่ื งเล่ากไ็ ด้ วรรณคดี คือ หนังสือที่ได้รับการยกย่องว่าแต่งดี เป็นผลงานท่ีมีคุณค่าควรแก่การศึกษา มีการถ่ายทอด สืบต่อกันมาเป็นเวลานาน โดยใช้ศิลปะและวรรณศิลป์ในการแต่ง การจาแนกวรรณคดี อาจจาแนกวรรณคดี ออกเป็น ๒ ประเภท ได้แก่ ๑. วรรณคดีมุขปาฐะ เป็นเร่ืองที่ถ่ายทอดสืบต่อกันมาแบบปากต่อปาก ไม่มีการบันทึกไว้ เช่น เพลงพ้ืนบา้ น เพลงกลอ่ มเดก็ นิทานชาวบ้าน บทร้องเล่น เปน็ ต้น ๒. วรรณคดีลายลักษณ์ เป็นเร่ืองที่จดบันทึกไว้ในต้นฉบับสมุดไทย ต้นฉบับใบลาน หรือมีการพิมพ์ เผยแพร่ เชน่ ไตรภูมิพระร่วง ลิลติ ตะเลงพา่ ย อเิ หนา เป็นตน้ ศิลปะการประพันธใ์ นวรรณคดีไทย การสรา้ งสรรค์วรรณคดผี ูป้ ระพนั ธ์จะตอ้ งคานึงถงึ “วรรณศิลป์” คอื ใหง้ านนั้นมีความงาม ความไพเราะ และความหมายเป็นท่ีจับใจของผู้อ่าน ดังนั้น กวีจะต้องคิดกลวิธีการประพันธ์ให้งานนั้นออกมา อย่างเหมาะสม เพื่อส่ือท้ังความหมายและความ ไพเราะงดงามด้วยกลวิธีการประพันธ์ที่สาคัญที่จะต้องนามาใช้ คอื การเล่นเสยี ง การเลน่ คา และการใชภ้ าพพจน์ การเล่นเสยี ง การเล่นเสียง คือ การสรรคาให้มีเสียงสัมผสั เป็นพิเศษกว่าปกติ เพ่ือให้เกิดทานองเสียงท่ีไพเราะน่าฟัง มี ทั้งการ เลน่ เสยี งพยญั ชนะ เสยี งสระ และเสียงวรรณยุกต์ ดังน้ี ๑. การเล่นเสียงพยัญชนะ คือ การใช้คาท่ีมีเสียงพยัญชนะเสียงเดียวกันหลายพยางค์ติด ๆ กันไปในคา ประพนั ธ์ เช่น มวล-มิตร , ปลาบ-ปล้มื , ล้า-ลกึ -เหลือ-หลาย เปน็ ต้น ๒. การเล่นเสียงสระ คือ การใช้คาคล้องจองท่ีมีเสียงสระเดียวกัน ถ้ามีตัวสะกดก็ต้องเป็นตัวสะกดใน มาตรา เดียวกนั เช่น สุข-รกุ , ใจ-ไป, สามารถ-ยุรยาตร ๓. การเล่นเสียงวรรณยุกต์ คือ การใช้คาที่ไล่ระดับเสียง ๒ หรือ ๓ ระดับเป็นชุดๆ ไป เช่น ซอน-ซ่อน- ซอ้ น , เสือ –สื่อ-เส้อื เป็นตน้ การเล่นคา การเลน่ คา คอื การสรรคามาเรยี งร้อยในคาประพนั ธ์ โดยใชค้ าที่มเี สยี งเดยี วกนั ในความหมายตา่ ง ๆ มาพรรณนาเปน็ วิธกี ารเล่นคา ทาให้ไพเราะน่าฟังย่ิงข้ึน อาจชว่ ยสร้างอารมณข์ นั บันเทงิ ใจให้ผอู้ ่านและผู้ฟัง
๒2๘8๙19 โวหารภาพพจน์ ภาพพจน์ คือ การสร้างมโนภาพให้เกิดข้ึนโดยอาศัยถ้อยคาสานวนโวหาร หรืออาจจะกล่าวง่ายๆ ว่า ภาพพจน์ คือ สานวนโวหารที่กวีใช้เพ่ือสร้างภาพในจติ ของผู้อ่านให้กระจ่างชดั ตรงกับภาพในใจของผู้เขียนเอง โดยกวไี ม่กล่าวอย่างตรงไปตรงมา การใช้ภาพพจน์ในการแต่งทาให้ผู้อ่านได้ร่วมเข้าใจ และรูส้ ึกเขา้ ถงึ อารมณ์ย่ิงข้ึน ตามท่ผี ูแ้ ต่งต้องการ โวหารภาพพจน์มีหลายชนดิ และมีช่ือเรยี กดังนี้ ๑. อปุ มา ภาพพจน์แบบอุปมา หมายถึง การเปรียบเทียบส่ิงที่เหมือนกันหรือคล้ายกัน นามาเปรียบเทียบกัน เรียก โดยท่ัวไปว่า “เปรียบเหมือน” ได้แก่ การนาส่ิงท่ีเคยรู้จักกันมาแล้วอย่างดีมาเปรียบเทียบกับส่ิงอ่ืนท่ียังไม่เป็นที่ รู้จัก เพื่อชักโยงความคิดของผู้อ่านให้นึกเห็นภาพได้ดียิ่งข้ึน การใช้ภาพพจน์ลักษณะนี้จะมีคาเชื่อม เช่น “เหมือน ดงั ดุจ ปาน ราวกับ” เชน่ ทนตแ์ ดงดง่ั แสงทบั ทมิ เพรศิ พรมิ้ เพรารบั กบั ขนง (อเิ หนา) ๒. อปุ ลกั ษณ์ ภาพพจน์แบบอุปลักษณ์ หมายถึง การเปรียบเทียบโดยนัย ท่ีเรียกว่า “เปรียบเป็น” ซึ่งเป็นการเปรียบ เทยี บโดยไม่ใช้คาเช่ือมเหมือนการสรา้ งภาพพจน์แบบอุปมา มักมีคาว่า เป็น คือ เมอื่ จะเปรียบเทียบสิ่งใดส่ิงหนึ่งก็ จะนาลกั ษณะเด่นของสิ่งน้ันมากลา่ วโอนไปใช้กับอีกสิ่งหนง่ึ เช่น ลกู คอื ดวงตาของพ่อแม่ , เดก็ ไทยคือหวั ใจของชาติ ๓. บคุ คลวัต หรือบุคคลสมมติ เดิมเรียกว่า บุคลาธิษฐาน เป็นการกล่าวถึงสิ่งที่ไม่มีชีวิต ไม่มีวิญญาณให้เสมือนเป็น สิ่งมีชีวิต โดยสมมติให้กิริยาอาการเหมือนคน ทาให้ผู้รับสารมองเห็นภาพเหล่าน้ันเคล่ือนไหว หรือทากิริยา อาการ มีอารมณ์และความร้สู กึ เหมอื นคน เชน่ ผีเสอ้ื กระซบิ กระซาบกับดอกไม้, เสยี งซากอิฐปนู สะอนื้ ๔. สัทพจน์ สัทพจน์ คือ ภาพพจน์แบบเลียนเสียงธรรมชาติ เป็นกลวิธีการประพันธ์อย่างหนึ่งท่ีถ่ายเสียงต่างๆ ที่มิใช่ คาพูดเช่น เสียงสัตว์ร้อง เสียงคนร้อง เสียงดนตรี ฯลฯ ไว้ในบทประพันธ์เพื่อให้ผู้อ่านเกิดความรู้สึกว่า ได้ยินเสยี ง น้ันๆ ตามเนือ้ ความไปด้วย เช่น ครืนครนื ใชฟ่ า้ รอ้ ง เรยี มครวญ หึ่งหงึ่ ใชล่ มหวน พี่ไห้ (ตานานศรปี ราชญ์ พระยาพระปริยตั ิธรรมธาดา) ๕. อตพิ จน์ คือ การกล่าวเกินจริง เพื่อสร้างความรู้สึกมากกว่าเหตุผล มักเปรียบเทียบในเร่ืองปริมาณว่ามีมาก เหลือเกิน มีเจตนาเน้นข้อความที่กล่าวน้ันให้มีน้าหนักย่ิงข้ึน เช่น ร้อนตับแตก, คอแห้งเป็นผง, รักคุณเท่าฟ้า, มา รอต้ังโกฎปิ ีแล้ว, ใจดเี ป็นบา้ , อกไหมไ้ สข้ ม , เหน่อื ยสายตวั แทบขาด หมายเหตุ:ใบความรูน้ รี้ วบรวมขอ้ มูลเพือ่ ใช้สาหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี ๒
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ ๑๓ เรือ่ ง โคลงภาพพระราชพงศาวดาร ภาพพนั ทา้ ยนรสิงหถ์ วายชีวติ หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๓ เรือ่ ง พาทีท่วั ถิ่น เวลา ๑ ช่ัวโมง กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย รายวิชาภาษาไทย ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ ๒ ขอบเขตเนอื้ หา กจิ กรรมการเรยี นรู้ ส่อื /แหล่งเรียนรู้ โคลงภาพพระราชพงศาวดาร ข้ันนา ๑. หนงั สือแบบเรยี นรายวชิ าภาษาไทย ๑. นักเรียนฟังเพลง ศาลพันท้ายน รสิงห์ สมุทรสาคร ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี๒ ภาพพันท้ายนรสิงห์ถวายชวี ิต แล้วร่วมกันสนทนาถึงเนื้อหาของเพลง ว่ากล่าวถึงใคร ทาอะไร ๒. เพลงศาลพันทา้ ย จุดประสงค์การเรยี นรู้ ท่ไี หน อยา่ งไร ๓. ภาพประกอบโคลง ดา้ นความรู้ ๒. นักเรียนศึกษาภาพประกอบโคลงเรื่อง พันท้ายนรสิงห์ถวาย ๔. ใบความรู้ ศัพทย์ าก ชีวิต และภาพศาลพันท้ายนรสิงห์ นักเรียนดู แล้วสนทนาซักถาม ๕. ใบงาน เรื่อง โคลงภาพพระราช ๑. มคี วามรคู้ วามเข้าใจโคลง ว่าเปน็ ภาพของใคร สองภาพน้ีมคี วามเกย่ี วขอ้ งกนั อยา่ งไร พงศาวดาร ภาพท่ี ๕๖ พันท้ายนรสงิ ห์ พนั ทา้ ยนรสงิ หถ์ วายชวี ิต ขนั้ สอน ถวายชีวิต ๑. นักเรียนเรียนรู้ความหมายศัพท์ยากจากเรื่อง โคลงภาพพระ ๒. อธบิ ายรายละเอียดจากการอ่านโคลง ราชพงศาวดาร ภาพที่ ๕๖ ภาพพันทา้ ยนรสงิ ห์ถวายชวี ติ ภาระงาน/ช้ินงาน พนั ท้ายนรสงิ หถ์ วายชีวิตได้ ๒. นักเรียนศึกษาเนื้อหา สรุปรายละเอียดเหตุการณ์ของเร่ือง บนั ทึกใบความรลู้ งสมดุ ดา้ นทกั ษะและกระบวนการ โคลงภาพพระราชพงศาวดาร ภาพท่ี ๕๖ ภาพพันท้ายนรสิงห์ถวาย ชวี ติ ๑. จบั ใจความสาคัญ สาระสาคญั เหตุการณข์ อง ๓. จากการสรุปเน้ือหาของเร่ือง ครูให้นักเรียนที่ได้รับเลือกเป็น เรื่อง จากการอา่ นโคลงพันท้ายนรสิงหถ์ วายชวี ติ ได้ ตวั แทนนกั เรียนออกมาทากจิ กรรม ดงั นี้ ด้านคณุ ลักษณะ ขัน้ สอน - นักเรียนคนท่ี๑ อธิบายรายละเอียดของเหตุการณ์ในโคลง ๑. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ พนั ท้ายนรสงิ ห์ถวายชวี ิต ๒. มีวนิ ยั ๓. ใฝ่เรยี นรู้ ๔. มงุ่ มั่นในการทางาน ๕. มมี ารยาทในการอ่าน ๒2๙2๐8920
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี ๓ แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ ๑๓ เรือ่ ง โคลงภาพพระราชพงศาวดาร ภาพพนั ทา้ ยนรสิงห์ถวายชีวติ เรอ่ื ง พาทีทั่วถิ่น เวลา ๑ ช่วั โมง กล่มุ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย รายวชิ าภาษาไทย ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี ๒ - นักเรียนคนท่ี ๒ เขียนโคลงส่ีสุภาพบาทที่เป็นใจความ สาคญั ของแตล่ ะบท ขนั้ สอน - นักเรียนคนที่๓ สรุปความจากโคลงพันท้ายนรสิงห์ ถวายชีวติ - นักเรียนคนที่ ๔ แสดงความคิดเห็นว่านักเรียนจะแสดง ความจงรกั ภักดีตอ่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอย่หู ัวได้อย่างไรบ้าง ๔. นักเรียนและครูอภิปรายเน้ือหาเพ่ิมเติม (โคลงภาพพระราช พงศาวดาร ภาพท่ี ๕๖ ภาพพันท้ายนรสิงห์ถวายชีวิต) แล้วให้ นกั เรยี นบันทกึ ลงสมดุ ๕. นักเรยี นทาใบงาน เรอ่ื ง โคลงภาพพระราชพงศาวดาร ภาพที่ ๕๖ พันท้ายนรสิงห์ถวายชีวิต เพ่ือประเมินผลการเรียนรู้ของ นกั เรยี น ขั้นสรุป ๑. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปความรู้ โคลงภาพพระราช พงศาวดารภาพ พันท้ายนรสิงหถ์ วายชีวติ 283๒๙๑ 291
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436